Carrots Shop A Shop B
Strawberries Price Price
Milk 30p 40p
Apples £1.20 £1.10
70p 80p
80p 70p
จากน+นั นกั เรียนอ่านประโยค 1-5 แลว้ ตอบวา่ ประโยคดงั กล่าวถูกหรือผดิ ถา้ ถูกตอบ true ถา้ ผดิ
ตอบ false จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยค 1-5 พร้อมๆ กนั ทีละขอ้ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
1 true 2 true 3 false 4 false 5 true
นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม (กลุ่ม A, B, C) ครูแจกกระดาษ A4 ใหก้ ลุ่มละ 1 แผน่ วาดรูป
สิ:งของดงั น+ี 1) T-shirt 2) skirt 3) shoes แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มกาํ หนดราคาสินคา้ เป็นค่าเงินปอนดก์ บั
เพนซ์ จากน+นั นาํ มาติด เพื:อเปรียบเทียบราคาสินคา้ แลว้ บอกวา่ กลุ่มใดราคาถูกหรือแพงกวา่ กนั เช่น
กลุ่ม A ขายเส+ือ T-shirt ราคา 62p แต่กลุ่ม B ขาย 50p และกลุ่ม C ขาย 90p ใหน้ กั เรียนพดู เป็น
ภาษาองั กฤษ จะไดว้ า่
The T-shirts in shop B are cheap.
The T-shirts in shops A and C are expensive. เป็นตน้
ó กจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่มทาํ งาน กลุ่มละ 3 คน อ่านคาํ ใบท้ :ีกาํ หนดให้ แลว้ นาํ คาํ ตอบไปเติมลงในตาราง
ปริศนาอกั ษรไขว้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 28 ข้อ 1 Complete the crossword. จากน+นั จึงช่วยกนั เฉลย
คาํ ตอบ
Across: 1 expensive 4 tall 6 pears
Down: 2 between 3 pound 5 near 7 biscuits 8 pence
2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือน ดูรูปเงินต่างๆ ในแบบฝึ กหัด หน้า 28 ข้อ 2 Look and match. แลว้ เลือก
คาํ ตอบจาํ นวนเงินทางดา้ นซา้ ยมือ มาเขียนเติมใตภ้ าพใหถ้ ูกตอ้ ง จากน+นั ครูสุ่มนกั เรียน 8 คู่
ใหเ้ ฉลยคาํ ตอบ ขอ้ ละ 1 คู่
144
A £5.25 C 25 pence E £10.10
B 30 pence D £10 F 50 pence
3. นกั เรียนจบั คู่จาํ นวนเงินท:ีเป็นตวั เลข กบั ที:เป็นตวั หนงั สือ ในแบบฝึ กหัด หน้า 29 ข้อ 3 Read and
match. ใหถ้ ูกตอ้ ง
1d 3a 5b 7c
2f 4g 6h 8e
4. นกั เรียนดูภาพสิ:งของต่างๆ ในแบบฝึ กหัด หน้า 29 ข้อ 4 Listen and write ‘cheap’ or ‘expensive’.
แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกครูวา่ สิ:งของท:ีนกั เรียนเห็นคืออะไรบา้ ง
Teacher: What pictures do you see on page 29?
Students: Television, T-shirt, bike (bicycle), football, bread, chicken,
chocolate and skateboard.
Teacher: Good!
ครูเปิ ด CD/track 46 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง แลว้ เขียน cheap หรือ expensive ใตภ้ าพส:ิงของหรือ
อาหารใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบบนกระดาน
A: T-shirt, £40 B: That’s expensive.
A: A ball, £1.15 B: That’s expensive.
A: Bread, 35 pence B: That’s cheap.
A: A skateboard, £35.50 B: That’s expensive.
A: Chocolate, £8 B: That’s cheap.
A: Bike, £245 B: That’s expensive.
A: Television, £900 B: That’s expensive.
A: Chicken, £2.50 B: That’s cheap.
1 expensive 3 expensive 5 cheap 7 cheap
2 expensive 4 expensive 6 cheap 8 expensive
145
5. ครูอาจมอบหมายกิจกรรมเพิ:มเติม ใหน้ กั เรียนไปสาํ รวจราคาสินคา้ จริงๆ ในทอ้ งตลาดมาคนละ 5
ชนิด แลว้ วาดรูปและเขียนคาํ ศพั ทแ์ ละราคาใส่กระดาษ A4 พร้อมท+งั ตกแต่งใหส้ วยงาม โดยเขียน
สถานท:ีที:ไปสาํ รวจราคามาดว้ ย เม:ือครูตรวจเสร็จแลว้ นาํ ผลงานของนกั เรียนไปติดท:ีบอร์ดหนา้
ช+นั เรียน
6. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระดมความคิดเห็นเกี:ยวกบั ประโยชนข์ องการสาํ รวจราคาสินคา้ ก่อนท:ีจะซ+ือวา่
มีอะไรบา้ ง เช่น ไดซ้ +ือสินคา้ ท:ีมีราคาประหยดั มีคุณภาพกวา่ เพราะบางร้านอาจนาํ ของเก่าที:เกบ็ ไว้
นานแลว้ มาขาย ของหมดอายุ ต+งั ราคาสูงเกินไป เป็นตน้ ดงั น+นั การสาํ รวจราคาสินคา้ ก่อนซ+ือ
โดยเฉพาะสินคา้ ชิ+นใหญ่ที:มีราคาแพงมาก จะช่วยทาํ ใหป้ ระหยดั เงินและไดข้ องที:มีคุณภาพใชง้ าน
ไดน้ าน
6.2 ช*ัวโมงท*ี 7-8
ó กจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทบทวนคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั อาหาร โดยใหน้ กั เรียนเล่นเกม Memory (จบั คู่บตั รภาพ กบั บตั รคาํ ศพั ท)์
บนกระดาน โดยครูใหเ้ วลานกั เรียน 1 นาที จดจาํ ตาํ แหน่งของบตั รภาพและบตั รคาํ บนกระดาน เมื:อ
หมดเวลาแลว้ ครูพลิกบตั รคาํ และบตั รภาพ และใหน้ กั เรียนพดู จบั คู่บตั รคาํ และบตั รภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
12 3 4 5
A ภาพขนมปัง ภาพ ภาพข้าว ภาพแครอต ภาพซุป
สตรอว์เบอร์รี
B soup bread strawberries rice carrots
2. ครูทดสอบความสามารถในการจาํ แนกเงินของประเทศองั กฤษ โดยการชูธนบตั ร และเหรียญจริง
แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุจาํ นวน
3. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทเรียนน+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี:ยวกบั การสนทนาเกี:ยวกบั การซ+ือ-ขายสินคา้
และเขียนบรรยายร้านคา้
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูทบทวนหลกั การใช้ This, That, These, Those บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจดลงในสมุด
This = น+ี ใชก้ บั ส:ิงที:อยใู่ กลต้ วั และเป็นสิ:งเดียว/คนเดียว
That = น+นั ใชก้ บั สิ:งท:ีอยไู่ กลตวั และเป็นส:ิงเดียว/คนเดียว
These = เหล่าน+ี ใชก้ บั ส:ิงที:อยใู่ กลต้ วั และมีมากกวา่ หน:ึง
Those = เหล่าน+นั ใชก้ บั ส:ิงที:อยไู่ กลตวั และมีมากกวา่ หน:ึง
146
ส:ิงเดียว ใกล้ ไกล
This That
มากกวา่ หน:ึง These Those
เช่น This milk is cheap.
These strawberries are expensive.
That is a white cat. Those cars are black.
2. ครูทบทวนเก:ียวกบั prepositions แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านประโยค 1-4 ในหนังสือเรียน หน้า 38 ข้อ 5
Read and circle the correct words. และดูรูปภาพ เพื:อเลือก preposition ที:ถูกตอ้ ง
1 next to 2 between 3 next to 4 between
จากน+นั ครูถามคาํ ถามเกี:ยวกบั ราคาผลไมใ้ นภาพ ใหน้ กั เรียนตอบ ดงั น+ี
1) How much do the apples cost? (£1.00)
2) How much do the oranges cost? (80p)
3) How much do the pears cost? (80p)
4) How much do the bananas cost? (£1.80)
5) How much do the strawberries cost? (£1.25)
3. ครูทบทวนการถามคาํ ถาม โดยใชโ้ ครงสร้าง Have you got any ….? และ How much do they cost?/
How much does it cost? จากน+นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนฝึกพดู ถาม-ตอบเหมือนดงั ตวั อยา่ งใน
หนังสือเรียน หน้า 38 ข้อ 6 Ask and answer.
A: Can I buy …..?
B: Yes, you can.
A: How much does it cost?/How much do they cost?
B: ............................
ครูใหน้ กั เรียน 2-3 คู่ ออกมาสนทนาถาม-ตอบใหเ้ พ:ือนๆ ดูหนา้ ช+นั เรียน
147
4. นกั เรียนดูรูปภาพที:กาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 39 ข้อ 7 Look, read and correct. แลว้ อ่าน
เน+ือเร:ืองที:กาํ หนดให้ ครูบอกนกั เรียนวา่ ในเน+ือเรื:องมีอยู่ 1 ประโยคที:มีความหมายไม่สมั พนั ธ์กบั
ภาพ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาวา่ ประโยคน+นั คือประโยคใด และแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งดว้ ย เสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
ประโยคท:ีผดิ คือ The pears are next to the oranges.
ประโยคที:ถูก คือ The pears are next to the bananas.
5. ครูใหน้ กั เรียนสมมติวา่ ตนเองเป็นเจา้ ของร้านคา้ 1 แห่ง แลว้ วาดภาพร้านคา้ ของตนเองและเขียน
บรรยายวา่ อะไรอยทู่ ี:ไหน ราคาเท่าไร ในกระดาษ A4 ที:ครูแจก แลว้ ใหน้ กั เรียนตกแต่งผลงานของ
ตนเองใหส้ วยงาม จากน+นั ครูนาํ ผลงานของนกั เรียนมาติดบอร์ดหนา้ ช+นั เรียน ในการเขียนครูบอก
นกั เรียนวา่ ใหเ้ ร:ิมตน้ ประโยคดว้ ยคาํ ที:กาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 39 ข้อ 8 Draw your shop
and write.
ตวั อย่าง Hello. Can I help you?
There are oranges between pears and bananas.
The bananas are next to the oranges.
The pears are next to the bananas.
An orange costs 40p. A pear costs 80p.
A banana costs 10p. It’s very cheap.
ó กจิ กรรมรวบยอด
1. ครูอธิบายวา่ Anna เพิ:งจะกลบั จากตลาด ส:ิงที: Anna ซ+ือมาน+นั อยบู่ นโตะ๊ ใหน้ กั เรียนวาดรูปส:ิงของที:
Anna ซ+ือมาลงในแบบฝึ กหัด หน้า 30 ข้อ 5 Read and draw. โดยใชข้ อ้ มูลจากเน+ือเร:ืองที:กาํ หนด
มีเคก้ อยรู่ ะหวา่ งนมและกลว้ ย
มีสม้ อยใู่ กลๆ้ กบั กลว้ ย
2. นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดให้ ซ:ึงอยดู่ า้ นล่างของบทสนทนา ในแบบฝึ กหัด หน้า 30 ข้อ 6
Complete the dialogue. Use the sentences in the box. แลว้ นาํ มาเติมลงในบทสนทนาใหถ้ ูกตอ้ ง
จากน+นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื:อนออกมาพดู บทสนทนาดงั กล่าวหนา้ ช+นั เรียนทีละคู่
148
A: Good afternoon.
B: Good afternoon.
A: Can I buy a pear?
B: Yes, you can.
A: How much do they cost?
B: Thirty-five pence.
3. นกั เรียนอ่านเน+ือเรื:องส+นั ๆ ในแบบฝึ กหัด หน้า 31 ข้อ 7 Read and then write the names. แลว้
ช่วยกนั เติมชื:อบุคคลลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
Anna = hamburgers Ben = fish
Harry = salad Mark = chicken
May = pizza
4. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เรียงคาํ ท:ีใหไ้ ว้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 31 ข้อ 8 Put the words in
correct order. ใหเ้ ป็นประโยคที:ถูกตอ้ ง ครูแจกกระดาษใหแ้ ต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 แผน่ สาํ หรับเขียน
คาํ ตอบ พร้อมกบั วาดรูปประกอบ เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาํ มาเสนอผลงานหนา้ ช+นั เรียน
ทีละกลุ่ม ครูนาํ ผลงานของนกั เรียนไปติดบอร์ด
This is my fruit stall. There are lots of fruit. The apples are between
the pears and the strawberries. It costs 45 pence each. The oranges
are next to the bananas. They cost one pound a kilo.
6.3 ชั*วโมงที* 9-10
ó กจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทบทวนเน+ือหาในบทเรียนที:ผา่ นมา
2. ครูชูภาพรถเขน็ ของหา้ งสรรพสินคา้ แลว้ บอกนกั เรียนวา่ วนั น+ีนกั เรียนจะไดท้ บทวนเก:ียวกบั เร:ือง
ราคาสินคา้ และการอ่านและพดู ถาม-ตอบขอ้ มูลใน Food pyramid
149
ó กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า 40 ข้อ 1 Rearrange the dialogue. เม:ือ
นกั เรียนอ่านจบแลว้ ครูอธิบายวา่ ประโยคเหล่าน+ีเป็นบทสนทนาที:ยงั ไม่ไดเ้ รียงลาํ ดบั การถาม-ตอบ
ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือน ช่วยกนั เรียงประโยคเหล่าน+ีใหเ้ ป็นบทสนทนาที:ถูกตอ้ ง โดยทาํ ลงในสมุด
7, 4, 5, 1, 8, 3, 2, 6
A: Is there any bread in the fridge?
B: Yes, there is some.
A: Are there any eggs?
B: No, there aren’t any. But there’s some cheese.
A: Er...I don’t like cheese.
B: Do you like chicken?
A: Yes, I do.
B: There’s some chicken on the table.
ครูเฉลยคาํ ตอบ โดยอ่านประโยคท:ี 1 แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบวา่ ประโยคต่อไปคือประโยคใด
จนจบบทสนทนา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนคู่เดิมฝึกพดู บทสนทนาดงั กล่าว
2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนถาม-ตอบเกี:ยวกบั สินคา้ ในภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 40 ข้อ 2 Ask and
answer. Use the words in the box. โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคที:กาํ หนดให้ และใหน้ กั เรียนคนหน:ึง
เป็นคนขาย อีกคนหน:ึงเป็นคนซ+ือ แต่ละคู่เลือกสินคา้ เพียง 1 ชนิดในการสนทนา เม:ือฝึกซอ้ ม
เรียบร้อยแลว้ ใหแ้ ต่ละคู่ออกมานาํ เสนอหนา้ ช+นั เรียน
A: Can I help you?
B: Are there any carrots in the fridge?
A: Yes, they are some.
B: Is there any bread in the fridge?
A: No, there isn’t any.
3. นกั เรียนอ่านชื:อสินคา้ และราคาที:กาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 41 ข้อ 3 Read and answer.
พร้อมกนั จากน+นั ใหน้ กั เรียนดูใบสง:ั สินคา้ A และ B วา่ มีสินคา้ ใดถูกสงั: ไปบา้ ง และจาํ นวนเท่าใด
ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คนช่วยกนั คาํ นวณราคาสินคา้ ในใบสงั: สินคา้ A กลุ่มใดคาํ นวณไดเ้ ร็ว
ท:ีสุด และถูกตอ้ งจะเป็นผชู้ นะ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนคาํ นวณราคาสินคา้ ในใบสงั: สินคา้ B
Order A: 9.25 Order B: 9.05
150
จากน+นั ครูแจกกระดาษใบสง:ั สินคา้ ที:มีช:ือสินคา้ ดงั กล่าวใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ ใหน้ กั เรียนทุกคน
สง:ั สินคา้ อะไร และจาํ นวนเท่าใดกไ็ ด้ เม:ือเขียนสงั: สินคา้ เรียบร้อยแลว้ ครูรวบรวมกระดาษสง:ั สินคา้
ทุกใบ จากน+นั แจกคืนใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ ซ:ึงนกั เรียนจะตอ้ งไม่ไดข้ องตนเอง จากน+นั ใหท้ ุกคน
ดูใบสง:ั สินคา้ ท:ีตนเองได้ แลว้ คิดราคา โดยราคาของสินคา้ ใหด้ ูจากในหนงั สือเรียน หนา้ 41 ขอ้ 3
4. นกั เรียนดูรูปภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 42 ข้อ 4 Read the advertisement and answer the questions.
แลว้ ตอบคาํ ถามท:ีกาํ หนดใหล้ งในสมุด
1 Smile Milk. 4 Yes, it is.
2 Every morning and every night. 5 30 p.
3 Yes, he does.
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ สง:ั Now draw and write an advertisement for your bread. You can
use some of the words in the box. พร้อมๆ กนั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ สมมติวา่ นกั เรียนเป็น
เจา้ ของร้านทาํ ขนมปัง นกั เรียนจะเขียนโฆษณาขนมปังของนกั เรียนอยา่ งไร ครูอาจแจกกระดาษ A4
ใหก้ บั นกั เรียน คนละ 1 แผน่ เพื:อทาํ โฆษณาสินคา้ ครูใหน้ กั เรียนใชค้ าํ ถาม 5 ขอ้ ดา้ นบน เป็น
แนวทางในการเขียนโฆษณา
ó กจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนเติมคาํ ลงในช่องวา่ งในบทสนทนาที:กาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 32 ข้อ 1 Complete the
dialogue. จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน ใหพ้ ดู บทสนทนาท:ีเติมคาํ สมบูรณ์แลว้ หนา้ ช+นั เรียน
Bill: Have you got a Star Flyers computer games?
You: Yes, I have. Here it is.
Bill: How much does it cost?
You: It costs fourteen pounds each.
Bill: OK. I’ll take it.
You: Here you are.
Bill: Thank you.
You: You’re welcome.
1 have 3 cost 5 Thank
2 does 4 costs 6 welcome
151
2. ครูแจกกระดาษท:ีมีรูปสามเหลี:ยมพีระมิด ดงั ตวั อยา่ ง
1 day a week
2 days a week
everyday
aweek
จากน+นั ใหน้ กั เรียนดูรูปภาพในสามเหลี:ยมพีระมิด ในแบบฝึ กหัด หน้า 32 ข้อ 2 Look, read and
circle true or false. แลว้ เขียนคาํ ศพั ทล์ งในสามเหล:ียมของตนเอง แลว้ ใหน้ กั เรียนตกแต่งให้
สวยงาม และนาํ ไปติดบอร์ดหนา้ ช+นั เรียน
1 day a week = cake, candies, oil
2 days a week = fish, chicken, egg, milk, cheese
everyday = rice, carrots, apples, bananas, bread, oranges
นกั เรียนอ่านประโยค 1-5 แลว้ พิจารณาวา่ ประโยคดงั กล่าวถูกหรือผดิ ถา้ ถูก วงกลม true ถา้ ผดิ
วงกลม false เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน แลว้ ถาม
คาํ ถามนกั เรียน ดงั น+ี
Teacher: Can you eat cake everyday?
Students: No, I can’t. I can eat cake 1 day a week.
Teacher: Can you eat bread everyday?
Students: Yes, I can.
Teacher: Can you eat fruit everyday?
Students: Yes, I can.
Teacher: Can you eat cheese 1 day a week?
Students: No, I can’t. I can eat cheese 2 days a week.
Teacher: Can you eat fish 2 days a week?
Students: Yes, I can.
1 false 2 true 3 true 4 false 5 true
152
3. นกั เรียนดูภาพเคก้ ท:ีกาํ หนดให้ 3 แบบ ในแบบฝึ กหัด หน้า 33 ข้อ 3 Choose two pictures and
complete. แลว้ เขียนเกี:ยวกบั เคก้ แบบที:ตนเองชอบ ตามโครงสร้างประโยคท:ีกาํ หนดให้ เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ใหอ้ อกมาอ่านงานเขียนของตนเอง
My favourite cake is the strawberry sweet cake because I like
strawberries. It costs £8. It is expensive. I don’t like the chocolate
dream cake because I don’t like chocolate. It costs £5.75. It is
expensive.
6.4 ช*ัวโมงที* 11-13
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม เล่มเกม Spelling Bee (แข่งขนั สะกดคาํ ) เพ:ือทบทวนคาํ ศพั ทท์ ี:เรียน
มาแลว้ โดยการใหแ้ ต่ละทีมผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมาทีมละ 1 คน ใหแ้ ข่งกนั สะกดคาํ ศพั ทท์ :ีครูบอก
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ในบทเรียนน+ี ใหน้ กั เรียนทราบวา่ วนั น+ีนกั เรียนจะไดท้ าํ โปสเตอร์
พีระมิดอาหาร (Food pyramid)
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนอ่านวธิ ีการทาํ โปสเตอร์ตามครู ในหนังสือเรียน หน้า 43 หัวข้อ Project time
2. ครูบอกอุปกรณ์ท:ีนกั เรียนจาํ เป็นตอ้ งใชใ้ นการทาํ งาน ดงั น+ี รูปภาพของอาหาร กรรไกร กาว
กระดาษการ์ด
3. ครูอธิบายเก:ียวกบั การทาํ พีระมิดอาหารวา่ อาหารท:ีอยสู่ ่วนบนสุดของพีระมิด จะเป็นอาหารที:
ประกอบไปดว้ ยไขมนั (fat) คาร์โบไฮเดรต (carbohydrates) และน+าํ ตาลสูง อยา่ งเช่น เคก้
ขนมหวานต่างๆ ซ:ึงการกินอาหารประเภทน+ีมากๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพ จึงไม่ควรรับประทานมากเกิน
กวา่ 1 คร+ังต่อสปั ดาห์ ส่วนอาหารประเภทผกั ผลไม้ ขา้ ว ธญั พืช (cereals) ถว:ั ต่างๆ เป็นอาหารที:มี
ประโยชนจ์ ึงควรรับประทานทุกวนั
153
4. ครูใหน้ กั เรียนทาํ โปสเตอร์อาหาร โดยมีวธิ ีการดงั น+ี
1) วาดรูปสามเหลี:ยมในกระดาษการ์ดท:ีเตรียมมา แลว้ แบ่งออกเป็นสามส่วน
2) แบ่งดา้ นหลงั ออกเป็นสามส่วนเช่นกนั และเขียนประโยคเหล่าน+ีลงไป
1 day a week
2 days a week
everyday
aweek
3) ติดรูปภาพอาหารใหถ้ ูกช่องของสามเหลี:ยมที:แบ่งไว้ เช่น
biscuit cake 1 day a week
2 days a week eggs chicken everyday
fruits bread rice aweek
5. เมื:อนกั เรียนทาํ ผลงานเสร็จแลว้ ครูรวบรวมงานของนกั เรียนไปตรวจ แลว้ นาํ ไปติดบอร์ดหนา้ ช+นั
154
ó กจิ กรรมรวบยอด
1. ครูอ่านออกเสียงเน+ือเพลง To the market ในหนังสือเรียน หน้า 44 ข้อ 1 Sing along. ใหน้ กั เรียน
ออกเสียงตาม จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 47 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ และฝึกร้องเพลงตาม เสร็จแลว้ ครู
แบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ใหฝ้ ึกร้องเพลงและคิดท่าทางประกอบ จากน+นั จึงใหแ้ ต่ละกลุ่ม
ออกมานาํ เสนอหนา้ ช+นั เรียน
To the market
Sunday morning is market day.
I go to the market for
One fish, for two fish,
And bring them back home to eat.
Sunday morning is market day.
I go to the market for
Three eggs, for four eggs,
And bring them back home to eat.
Sunday morning is market day.
I go to the market for
Five pears, for six pears,
And bring them back home to eat.
Sunday morning is market day.
I go to the market for
Seven cakes, for eight cakes,
And bring them back home to eat.
Sunday morning is market day.
I go to the market for
Some rice, for some rice,
And bring them back home to eat.
Sunday morning was market day.
I bought a lot of food, but
Ate it all at once.
Now I’ve got a stomachache.
155
2. นกั เรียนเล่นเกม Food Trivia (อาหาร 3 เหล:ียม) ซ:ึงมีตารางสาํ เร็จรูปพร้อมใหน้ กั เรียนเล่นใน
หนังสือเรียน หน้า 45 ข้อ 2 Play ‘Food Trivia’. โดยมีวธิ ีการเล่นดงั น+ี
1) ครูแบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ใหน้ กั เรียนเตรียมเหรียญบาทข+ึนมา
1 เหรียญ
2) ครูแจกตวั เดิน (วงกลมเลก็ ๆ) ใหแ้ ต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 3 อนั 3 สี
3) นกั เรียนโยนเหรียญ ถา้ เหรียญออกหวั ใหน้ กั เรียนเดินตวั เดินไป 1 ช่อง แต่ถา้ ออกกอ้ ย
ใหเ้ ดินไป 2 ช่อง
4) ถา้ ตวั เดินหยดุ อยทู่ :ีช่องใด ใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ถามและตอบใหถ้ ูกตอ้ ง
- How many pence are there in a pound? (100 pence)
- It’s long and orange. It’s a vegetable. What is it? (a carrot)
- Name four fruits. (bananas, oranges, strawberries, apples)
- What do you eat in the morning? (sandwiches, milk)
- When do you have lunch? (12 o’clock)
- What is your favourite vegetable? (student’s answers)
- What is your favourite fruit? (student’s answers)
- Are carrots fruits or vegetables? (vegetables)
- Say the price: £1.60, 50p, £1.20. (one pound sixty, fifty
pence, one pound twenty)
- Are strawberries fruits or vegetables? (fruits)
- What do you eat in the evening? (eggs, meat)
- It’s white. You can drink it. (milk)
- It’s a long, yellow fruit. (banana)
You take the skin off before you eat it.
What is it?
3. ครูใหน้ กั เรียนรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั อาหารใน Unit 4 น+ี ลงในสมุดคาํ ศพั ทข์ องตนเอง Your word
book แลว้ นาํ มาส่งครู โดยใหค้ ดั คาํ ศพั ทต์ วั บรรจง วาดรูปประกอบ พร้อมท+งั เขียนคาํ แปล
156
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการทาํ โปสเตอร์พรี ะมิดอาหาร
- ประเมินการสาํ รวจราคาสินคา้
- ประเมินการร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
- ประเมินสมุดคาํ ศพั ท์ Your word book
8. สื*อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ และแถบประโยค
5. แผน่ ป้าย Audio Script
6. ภาพสิ:งของท:ีมีป้ายบอกราคา
157
แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา
วชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน ช8ันประถมศึกษาปี ที* 4
Lesson …………………………………..
คาํ ชี8แจง ใหค้ รูผสู้ อนสงั เกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงใน
ตารางใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง
ออกเ ีสยง สะกดคํา และบอก สรุปผล
ความหมายคําศัพท์เ ี8กยวกับอาหารได้ การประเมนิ
พูดสนทนาเ ี8กยวกับการ @ืซอ-ขาย
เลขที& ช&ือ-สกลุ อาหารได้ รวม
ใช้ some/any, there is/are, have คะแนน
got/has got ได้ ูถกต้อง ผา่ น ไม่
ัฟงและ ่อานจับใจความได้ ผา่ น
ออกเ ีสยงคําศัพท์ ี8ท @ึขนต้นด้วย c ได้
ลงชื:อ…………….……………………..ผปู้ ระเมิน
การประเมนิ : นกั เรียนท:ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข+ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)
158
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 4 Wild animals
รหัสวชิ า/ช*ือรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
ช8ัน ประถมศึกษาปี ท:ี 4 เวลาเรียน 13 ชว:ั โมง ภาคเรียนท_ี* ___________
ผู้สอน _______________________________ โรงเรียน___________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี8วดั
สาระที* 1 ภาษาเพื*อการส*ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื*องทฟี* ังและอ่านจากส*ือประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช+ีวดั 2. อ่านออกเสียงคาํ สะกดคาํ อ่านกลุ่มคาํ ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะ
ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
3. เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรือเครื:องหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความส+นั ๆ ท:ีฟังหรืออ่าน
4. ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส*ือสารทางภาษาในการแลกเปลย*ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช+ีวดั 4. พดู /เขียนเพื:อขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง เพ:ือน และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื*องต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ตวั ช+ีวดั 1. พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง และเร:ืองใกลต้ วั
สาระที* 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช+ีวดั 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที:เหมาะกบั วยั
สาระที* 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื*น
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช*ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ*ืน และเป็ นพืน8 ฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช+ีวดั 1. คน้ ควา้ รวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื:น และนาํ เสนอดว้ ยการพดู /
การเขียน
159
สาระท*ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท8งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช+ีวดั 1. ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื*องมือพืน8 ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลย*ี นเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตวั ช+ีวดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั สตั วป์ ่ าและแหล่งท:ีอยอู่ าศยั โครงสร้างประโยค Present Simple Tense
คาํ ถามแบบ Wh-questions ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถใชภ้ าษาองั กฤษในการพดู ขอและใหข้ อ้ มูล เขียน e-mail และ
เขียนบรรยายส+นั ๆ เก:ียวกบั สตั วป์ ่ าได้ ซ:ึงเป็นการใชภ้ าษาเพื:อการส:ือสารในชีวติ ประจาํ วนั และยงั นาํ ไป
บูรณาการร่วมกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ:ืน
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- Pronunciation: long vowel /í:/
- กลุ่มคาํ ประโยคเดี:ยว และความหมาย เกี:ยวกบั สตั วป์ ่ า
- ประโยค บทสนทนา เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั สิ:งใกลต้ วั
เช่น What does it eat? It eats meat.
Where do they live? They live in the mountains.
When do they sleep? They sleep during the day.
- ประโยคและขอ้ ความท:ีใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั สตั ว์
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- การรวบรวมและการนาํ เสนอคาํ ศพั ทท์ :ีเก:ียวขอ้ งกบั สตั วแ์ ละแหล่งที:อยอู่ าศยั ของสตั ว์
(กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์)
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเก:ียวขอ้ งใกลต้ วั จากสื:อและ
แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
- การเปรียบเทียบข+นั กวา่
- Present Simple Tense
160
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส*ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มุ่งมนั: ในการทาํ งาน
- ซื:อสตั ยส์ ุจริต
6. ชิ8นงาน/ภาระงาน
- การทาํ รูปสตั วจ์ ากกระดาษและพดู นาํ เสนอ
- การอ่านเน+ือเรื:องและตอบคาํ ถาม
- งานเขียน e-mail ถึงเพ:ือนและพดู นาํ เสนอ
- งานเขียนเก:ียวกบั สถานที:ที:ชอบ
- การทาํ แผน่ พบั เกี:ยวกบั สถานท:ีท:ีชอบ
- การรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book
7. การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการทาํ รูปสตั วจ์ ากกระดาษและพดู นาํ เสนอ
- ประเมินการอ่านเน+ือเร:ืองและตอบคาํ ถาม
161
- ประเมินงานเขียน e-mail ถึงเพ:ือนและพดู นาํ เสนอ
- ประเมินงานเขียนเกี:ยวกบั สถานท:ีที:ชอบ
- ประเมินการทาํ แผน่ พบั เก:ียวกบั สถานที:ที:ชอบ
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพร้อมน+ี
- กิจกรรมนาํ สู่การเรียน
- กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้
- กิจกรรมรวบยอด
9. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
162
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 4 Wild animals (Lesson 1)
1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั สตั วป์ ่ า โครงสร้างประโยค Present Simple Tense คาํ ถามแบบ
Wh-questions ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถใชภ้ าษาองั กฤษในการพดู ขอและใหข้ อ้ มูล เขียนบรรยายส+นั ๆ และ
เปรียบเทียบเก:ียวกบั สตั วป์ ่ าได้ ซ:ึงเป็นการใชภ้ าษาเพื:อการส:ือสารในชีวติ ประจาํ วนั และยงั นาํ ไปบูรณาการ
ร่วมกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื:น
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคาํ และระบุภาพ/บอกความหมายคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั สตั วป์ ่ าได้ (ต 1.1/3)
- ออกเสียงคาํ ศพั ทท์ :ีมีเสียง /í:/ ได้ (ต 1.1/2)
- ฟังและอ่านจบั ใจความได้ (ต 1.1/4)
- พดู และเขียนเปรียบเทียบข+นั กวา่ ได้ (ต 1.1/3)
- เขียนบรรยายง่ายๆ เก:ียวกบั สตั วป์ ่ าได้ (ต 1.3/1, ต 4.1/1)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั สตั วป์ ่ าได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ ูกตอ้ ง (ต 1.2/4, ต 1.3/1)
- เล่นเกมภาษาองั กฤษได้ (ต 2.1/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- Pronunciation: long vowel /í:/
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมาย เก:ียวกบั สตั วป์ ่ า
- ประโยค บทสนทนา เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั สิ:งใกลต้ วั
เช่น What does it eat? It eats meat.
- ประโยคและขอ้ ความท:ีใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั สตั ว์
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม
163
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การเปรียบเทียบข+นั กวา่
- Present Simple Tense
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส*ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝ่ เรียนรู้
- ซ:ือสตั ยส์ ุจริต
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ช*ัวโมงท*ี 1-2
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูถามนกั เรียนเป็นภาษาไทยวา่ นกั เรียนรู้จกั “สตั วป์ ่ า” หรือไม่ จากน+นั ครูอธิบายคาํ วา่ “สตั วป์ ่ า”
กบั “สตั วเ์ ล+ียง” ใหน้ กั เรียนฟัง
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกชื:อสตั วป์ ่ าที:นกั เรียนรู้จกั เป็นภาษาองั กฤษ ดงั น+ี
Teacher: Can you tell me the names of wild animals?
Student: Tiger, snake, giraffe, elephant, lion, zebra, etc.
3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 46 ข้อ 1 What can you see? ครูชูบตั รภาพรูปสตั วป์ ่ าแต่ละชนิด
แลว้ ใหน้ กั เรียนช+ีภาพในหนงั สือเรียนที:ตรงกบั บตั รภาพน+นั ๆ แลว้ ครูถามนกั เรียนวา่
Teacher: What’s this? (ชูบตั รภาพ)
Students: (ช+ีภาพในหนงั สือเรียน) It’s a/an ________.
4. ครูนาํ บตั รภาพติดไวบ้ นกระดาน และวางบตั รคาํ ไวต้ ามมุมต่างๆ ของหอ้ ง จากน+นั ใหน้ กั เรียนเล่น
เกมจบั คู่บตั รภาพและบตั รคาํ โดยแบ่งนกั เรียนในหอ้ งเป็น 2 ทีม แลว้ ส่งตวั แทนมาทีมละ 1 คน
ช่วยกนั หาบตั รคาํ ท:ีตรงกบั บตั รภาพที:ครูติดไวบ้ นกระดานใหถ้ ูกตอ้ ง ตวั แทนทีมใดที:หาเจอแลว้
ใหร้ ีบวงิ: ออกมาหนา้ หอ้ ง พร้อมกบั แสดงบตั รคาํ ใหค้ รูดู และตอบคาํ ถาม ดงั น+ี
164
Teacher: What’s this?
Students: It’s a/an _______.
Teacher: Can you spell that, please?
Students: (ใหน้ กั เรียนสะกดตวั อกั ษร)
ครูติดบตั รภาพสตั วช์ นิดอื:นอีก 4-5 ชนิด และใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนคนใหม่ออกมาทาํ กิจกรรม
5. นกั เรียนอ่านคาํ ศพั ท์ 5 คาํ ท:ีกาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 46 ข้อ 2 Read, look and find. พร้อมๆ
กนั แลว้ ช่วยกนั หาภาพของคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีในภาพ ขอ้ 1 จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ใหล้ ุกข+ึน
ทีละคน แลว้ ช+ีภาพใหเ้ พ:ือนๆ คนอื:นดู
6. นกั เรียนดูภาพสตั วต์ ่างๆ ในแบบฝึ กหัด หน้า 34 ข้อ 1 Look and label. แลว้ อ่านออกเสียงคาํ ศพั ทใ์ น
กรอบตามครู จากน+นั ครูใหเ้ วลานกั เรียน 2 นาที ในการนาํ คาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ี เติมลงในรูปภาพที:สมั พนั ธ์
กนั จากน+นั ครูเฉลยคาํ ตอบ โดยช+ีไปที:สตั วแ์ ต่ละตวั ในรูปภาพและถามคาํ ถามนกั เรียน ดงั น+ี
Teacher: What is this?
Students: It’s a/an (ช:ือสตั ว)์ .
Teacher: Student A, how do you spell it?
Student A: (สะกดคาํ ศพั ท)์
1 bat 5 snake
2 rhino 6 crocodile
3 dolphin 7 tiger
4 bear 8 elephant
7. ครูเปิ ด CD/track 50 ใหน้ กั เรียนฟังคาํ ถาม 2 คร+ัง จากน+นั ใหน้ กั เรียนวงกลมเลือกคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งใน
แบบฝึ กหัด หน้า 34 ข้อ 2 Look at the picture. Listen and circle the answers. เม:ือนกั เรียนทาํ เสร็จ
แลว้ ครูเปิ ด CD โดยหยดุ CD เมื:อจบคาํ ถามแต่ละขอ้ แลว้ ถามนกั เรียนในหอ้ งวา่ ใครตอบขอ้ a และ
ใครตอบขอ้ b บา้ ง (ใหย้ กมือข+ึน) จากน+นั ครูจึงเฉลยคาํ ตอบ ครูทาํ กิจกรรมเช่นน+ีกบั คาํ ถามขอ้ ที:เหลือ
165
1 Is there a dog?
2 Is there a tiger?
3 Is there an elephant?
4 Is there a ladybird?
5 Is there a monkey?
6 Is there a dolphin?
1 b No, there isn’t.
2 a Yes, there is.
3 a Yes, there is.
4 b No, there isn’t.
5 a Yes, there is.
6 a Yes, there is.
เม:ือทาํ กิจกรรมเสร็จแลว้ ครูทบทวนเก:ียวกบั การใช้ there is/there are และยกตวั อยา่ งประโยคให้
นกั เรียนเขา้ ใจชดั เจนยงิ: ข+ึน
8. ครูบอกนกั เรียนวา่ ใน Unit 4 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนเก:ียวกบั เรื:องสตั วป์ ่ า (Wild animals) คาํ นาม
พหูพจน์ (plural), article (a, an), การใชป้ ระโยคเปรียบเทียบข+นั กวา่ (Comparative degree)
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนดูภาพและคาํ ศพั ทใ์ น Word box ในหนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
แลว้ อ่านออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ีละคาํ ตามครู ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีในภาษาไทย
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 48 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง คร+ังแรกใหน้ กั เรียนฟังและช+ีนิ+วที:ภาพตามไปดว้ ย
คร+ังที: 2 ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทต์ าม CD
eagle, bear, bat, crocodile, snake, tiger, zebra, rhino, elephant, ants,
dolphin, leaves
2. นกั เรียนดูภาพ A-H ในหนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 2 Listen and number. แลว้ ครูถามวา่ เป็นสตั วช์ นิดใด
166
Teacher: What animals do you see in picture A?
Students: Bats. etc.
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนเขียนตวั อกั ษร A-H ลงในสมุด ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังประโยค 8
ประโยค ซ:ึงบรรยายสตั วแ์ ต่ละตวั ในภาพ A-H รอบแรกใหน้ กั เรียนฟังจบั ใจความเพียงอยา่ งเดียว
รอบท:ีสอง ใหน้ กั เรียนเรียงลาํ ดบั รูปภาพ A-H ตามที:ไดย้ นิ จาก CD โดยใหเ้ ขียนหมายเลขหลงั
ตวั อกั ษร A-H ในสมุด เมื:อนกั เรียนเขา้ ใจวธิ ีการแลว้ ครูเปิ ด CD/track 49 ใหน้ กั เรียนฟัง
1 An elephant is very big.
2 An eagle can fly.
3 A snake hasn’t got any legs.
4 Tigers eat other animals.
5 Dolphins can swim.
6 Bats eat insects.
7 Zebras eat grass.
8 Crocodiles have got a big mouth.
A6 C2 E5 G3
B8 D1 F7 H4
Background Information
รู้หรือไม่ โลมาไม่ใช่ปลา แต่เป็นสตั วเ์ ล+ียงลูกดว้ ยนม
โลมามีหวั ใจ 4 หอ้ ง ปลามีหวั ใจ 2 หอ้ ง
โลมาหายใจดว้ ยปอด ปลาส่วนใหญ่หายใจดว้ ยเหงือก
โลมาเป็นสตั วเ์ ลือดอุ่น ปลาเป็นสตั วเ์ ลือดเยน็
โลมาออกลูกเป็ นตวั ปลาออกลูกเป็ นไข่
โลมาเป็นสตั วเ์ ลAียงลูกดว้ ยนม ปลาตวั อ่อนจะกินไข่แดงจากไข่เป็นอาหาร
โลมาไม่มีเกลด็ ไม่มีเมือก ปลาส่วนใหญ่มีเกลด็ และมีเมือก
โลมาหางจะโบกขAึนโบกลงในการวา่ ย ปลาหางจะโบกซา้ ยและขวา
ทมี> า: http://www.oasisseaworld.net/aboutdolphins.html
167
3. ครูอธิบายการใช้ Articles (a, an) วา่ ‘a’ และ ‘an’ มีความหมายวา่ “หน:ึง” ใชน้ าํ หนา้ คาํ นาม
เอกพจน์ ซ:ึง a (อ่านวา่ อะ) จะใชน้ าํ หนา้ คาํ นามเอกพจนท์ ี:ข+ึนตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ เช่น
A boy A cat
A tree A van etc.
ส่วน an (อ่านวา่ แอน็ ) จะใชน้ าํ หนา้ คาํ นามเอกพจนท์ ี:ข+ึนตน้ ดว้ ยสระ (a, e, i, o, u) เช่น
An elephant An ant
An orange An umbrella etc.
เม:ืออธิบายหลกั การใช้ a/an แลว้ ครูเลือกคาํ นามจากในหนงั สือเรียน หนา้ 47 ประมาณ 8 คาํ
แลว้ เขียนลงบนกระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ คาํ นามดงั กล่าวใช้ a หรือ an นาํ หนา้ เมื:อ
เฉลยเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนจดวธิ ีการใช้ a และ an ส+นั ๆ พร้อมคาํ ศพั ทบ์ นกระดานลงสมุดของตนเอง
(an) eagle (an) elephant
(a) bat (a) crocodile
(an) ant (a) dolphin
(a) snake (a) zebra
ครูอาจสุ่มเรียกนกั เรียนในหอ้ งลุกข+ึนยนื ทีละคน และบอกคาํ นามท:ีใช้ a และ an นาํ หนา้ อยา่ งละ
หน:ึงคาํ เพ:ือตรวจสอบวา่ นกั เรียนเขา้ ใจวธิ ีการใช้ a และ an
4. ครูเขียนประโยคเปรียบเทียบข+นั กวา่ ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปกฎเกณฑ์
โครงสร้าง คาํ นาม 1 + v. to be + adj. เติม er + than + คาํ นาม 2
เช่น A bear is bigger than a monkey.
My sister is shorter than me.
Those girls are older than these girl.
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนลองฝึกแต่งประโยคเปรียบเทียบมาคนละ 2 ประโยค โดยใหน้ กั เรียน
เปรียบเทียบเกี:ยวกบั เพ:ือนๆ ของนกั เรียน หรือสิ:งของต่างๆ ที:อยใู่ นหอ้ งเรียน โดยครูกาํ หนด
adjectives ใหบ้ นกระดาน ดงั น+ี tall, short, slow, fast, fat, thin, old, young, big, small, long
ครูอธิบายความหมายของคาํ ศพั ทท์ ี:นกั เรียนไม่เขา้ ใจ แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่งประโยคลงในสมุด
เมื:อนกั เรียนทาํ งานเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน ใหอ้ ่านประโยคของตนเองใหเ้ พ:ือนๆ ฟัง
จากน+นั ใหร้ วบรวมสมุดมาส่งครู เพื:อใหค้ รูนาํ ไปตรวจในเวลาวา่ ง
เช่น Noi is older than Din. Kim is taller than Pang.
Jan is fatter than Nid. A ruler is longer than a pencil.
A book is bigger than an eraser.
168
Background Information
กฎการเติม er หลงั adjectives ในการเปรียบเทียบข+นั กวา่ (ในบทเรียนน+ี)
• คาํ คุณศพั ท์ (adjectives)โดยทว:ั ไป เติม er ทา้ ยคาํ ไดเ้ ลย
เช่น short shorter
cheap cheaper
A blue shirt is cheaper than a red shirt.
เส+ือเชิ+ตสีฟ้าถูกกวา่ เส+ือเชิ+ตสีแดง
• คาํ คุณศพั ทท์ :ีลงทา้ ยดว้ ย e ใหเ้ ติม r ทา้ ย e ไดเ้ ลย
เช่น wide wider
• คาํ คุณศพั ทท์ ี:ลงทา้ ยดว้ ย y และ y อยหู่ ลงั พยญั ชนะ ใหเ้ ปล:ียน y เป็น i แลว้ เติม er
เช่น busy busier
easy easier
• คาํ คุณศพั ทท์ ี:ออกเสียงส+นั พยางคเ์ ดียว มีสระและตวั สะกดตวั เดียว ใหเ้ พิ:มพยญั ชนะ
ตวั สุดทา้ ย 1 ตวั แลว้ จึงเติม er
เช่น hot hotter (สระ 1 ตวั คือ o และตวั สะกด 1 ตวั คือ t)
big bigger (สระ 1 ตวั คือ i และตวั สะกด 1 ตวั คือ g)
5. นกั เรียนอ่านประโยค 1-5 ในหนังสือเรียน หน้า 47 ข้อ 3 Listen and write. แลว้ ครูเปิ ด CD/track 51
ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง เพื:อใหน้ กั เรียนเติมคาํ ศพั ทใ์ นช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง โดยทาํ ลงในสมุด เสร็จแลว้ ครู
เปิ ด CD อีกคร+ัง โดยหยดุ CD เมื:อจบแต่ละประโยค เพื:อเฉลยคาํ ตอบ
1 An eagle is bigger than a bat.
2 A snake is smaller than a crocodile.
3 A bear is bigger than a monkey.
4 A zebra is smaller than a rhino.
5 An elephant is slower than a zebra.
169
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ช่วยกนั คิดชื:อสตั วช์ นิดต่างๆ ตามลาํ ดบั ตวั อกั ษร A-Z โดยครู
อนุญาตใหน้ กั เรียนใชพ้ จนานุกรมได้ ครูเขียนเฉพาะอกั ษรนาํ A-Z บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั บอกคาํ ศพั ท์ ครูเขียนคาํ ศพั ทท์ :ีนกั เรียนบอกบนกระดาน ถา้ เป็นคาํ ศพั ทท์ :ีเรียนมาแลว้ ให้
นกั เรียนสะกดคาํ ศพั ทด์ ว้ ย
A - ant, ass (ลา) N - nightingale (นกไนติงเกล)
B - bird, bear, bat, bee, butterfly O - owl, ox (ววั ตวั ผ)ู้ , oyster (หอย)
buffalo ostrich (นกกระจอกเทศ)
C - cat, crab, crocodile, chicken P - pig, panda, parrot
D - duck, dog, donkey, dolphin, Q - quail (นกกระทา)
R - rat, rabbit, rhino (แรด)
deer S - sheep, snake, spider, shark,
E - elephant, eagle
F - fish, frog, fox (หมาป่ า) skunk, seal (แมวน+าํ ), seahorse
G - giraffe, goat, gorilla, goose T - toad, tortoise (เต่า), tiger, turkey
H - hippopotamus, hen, hamster, horse U - unicorn (มา้ มีเขาในเทพนิยาย)
I - insect, iguana (อิกวั น่า) V - viper (งูพิษ), vulture (แร้ง)
J - jaguar (เสือจากวั ร์), W - whale (ปลาวาฬ), wolf
jellyfish (แมงกะพรุน) (หมาป่ า), worm (หนอน)
K - koala, kangaroo (จิงโจ)้ X-
L - lion, lamb (แกะ), lobster (กงุ้ มงั กร) Y - yak (ตวั จามรี)
M - mouse, monkey, mosquito (ยงุ ) Z - zebra (มา้ ลาย)
นกั เรียนบนั ทึกคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีลงในสมุดของตนเอง จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดวา่ คาํ ศพั ท์
เก:ียวกบั สตั วเ์ หล่าน+ี คาํ ศพั ทใ์ นหมวดตวั อกั ษรใดบา้ งท:ีเม:ือเป็นคาํ นามเอกพจน์ แลว้ ตอ้ งใช้ an
นาํ หนา้ เม:ือนกั เรียนตอบวา่ หมวด a, e, i, o, u ครูอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟัง แลว้ ให้
นกั เรียนอ่านตาม โดยมี an นาํ หนา้ เช่น
Teacher: ant
Students: an ant
Teacher: ass
Students: an ass
170
Teacher: elephant
Students: an elephant
เมื:อถึงตวั อกั ษร U ครูอธิบายเพิ:มเติมวา่ Unicorn อ่านออกเสียงวา่ ย-ู นิ-คอน ตวั U ออกเสียงเหมือน
เสียงพยญั ชนะ จึงใช้ a นาํ หนา้ เช่น a unicorn แต่คาํ วา่ Umbrella ตวั อกั ษร U ออกเสียงเป็นสระ จะ
ใช้ an นาํ หนา้ ตามปกติ เช่น an umbrella
Background Information
‘mouse’ และ ‘rat’ แตกต่างกนั อย่างไร
‘mouse’ กบั ‘rat’ ในความหมายวา่ ‘หนู’ มีความหมายไม่แตกต่างกนั มากนกั แต่จะ
ต่างกนั ในแง่ของความรู้สึกมากกวา่ คือ mouse จะเป็นหนูตวั เลก็ น่ารัก แต่ rat จะ
เป็นหนูตวั ใหญ่ สกปรก ถา้ เป็นเชิงสาํ นวน rat จะใชเ้ รียกคนข+ีโกง จอมโกหก
คนทรยศ
ทมี> า: http://www.andrewbiggs.com/columns/column-257.htm
2. นกั เรียนเล่นเกม Who am I? โดยฟังคาํ ใบ้ ซ:ึงบอกลกั ษณะของสตั วแ์ ต่ละชนิด แลว้ ช่วยกนั ทายวา่
เป็นสตั วช์ นิดใด
1) I have got a long body. I haven’t got any legs. I haven’t got any hands.
(Snake)
But I can move very fast. Who am I?
2) I live in the caves/mountains. I sleep during the day. I look like a rat
but I have got 2 wings. I can fly. I eat fruits. Who am I? (Bat)
3) I have got 4 legs. I have got 2 big ears. I have got small eyes. I have got
(Elephant)
a long tail. I have got a long nose. I am big. Who am I?
4) I have got 4 legs. I have got small ears and eyes. I live in the mountains.
(Bear)
I eat honey but sometimes I eat fish. Who am I?
3. นกั เรียนเล่นเกม Body language (ใบค้ าํ จากภาษากาย) โดยครูนาํ บตั รคาํ หรือบตั รภาพมา 7-8 ใบ
ใหต้ วั แทนนกั เรียนมาเลือกบตั รคาํ หรือบตั รภาพคนละ 1 ใบ ตวั แทนคนไหนไดค้ าํ หรือภาพอะไร
ใหพ้ ยายามใบค้ าํ ศพั ทด์ ว้ ยมือหรือร่างกาย หา้ มใชค้ าํ พดู เดด็ ขาด เมื:อแต่ละคนใบค้ าํ เสร็จ ครูถาม
นกั เรียนทุกคนวา่
Teacher: What’s this? (ตวั แทนนกั เรียนทาํ ท่าทางของหมี)
Students: It’s a monkey.
171
Teacher: Yes or no?
ตวั แทนนักเรียน: No.
ถา้ เพื:อนๆ ยงั ทายไม่ถูก ใหต้ วั แทนนกั เรียนทาํ ท่าของลกั ษณะสตั วต์ วั น+นั ข+นั ต่อไปหรือจะหาท่าทาง
ภาษามือใหม่ๆ กไ็ ด้
4. ครูช+ีที:ภาพสตั วใ์ นแบบฝึ กหัด หน้า 35 ข้อ 1 Look and unscramble the words. แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบ
เป็นภาษาไทยวา่ ภาพแต่ละภาพคือสตั วช์ นิดใด จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนเรียงตวั อกั ษรใตภ้ าพใหเ้ ป็น
คาํ ศพั ทท์ :ีถูกตอ้ ง
snake elephant
tiger dolphin
eagle zebra
5. นกั เรียนจบั คู่ อ่านคาํ บรรยายลกั ษณะของสตั วใ์ นแบบฝึ กหัด หน้า 35 ข้อ 2 What animal is it? Read
and guess. แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ช่วยกนั เดาวา่ คือสตั วช์ นิดใด นกั เรียนคู่ใดทาํ เสร็จก่อน ใหย้ กมือ
ข+ึน เพื:อใหค้ รูเดินไปตรวจ ถา้ ถูกตอ้ งทุกขอ้ ครูมีรางวลั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ ให้
1 monkey 3 zebra 5 giraffe
2 snake 4 tiger
6. นกั เรียนอ่านประโยคท:ีกาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 35 ข้อ 3 Complete the sentences. Use the
words in the box. แลว้ ใหน้ กั เรียนนาํ คาํ ศพั ทใ์ นกรอบที:อยทู่ างดา้ นขวามือมาเติมลงในช่องวา่ ง
ใหถ้ ูกตอ้ ง
1 bigger 3 taller
2 smaller 4 shorter
7. นกั เรียนเล่นเกม My favourite animal โดยครูเขียนชื:อสตั วต์ ่างๆ ใส่กระดาษแขง็ จาํ นวน 8 แผน่
แผน่ ละ 1 ชื:อ แลว้ แจกนกั เรียน 8 คน โดยไม่ใหน้ กั เรียนคนอ:ืนๆ ทราบ บตั รคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ี ไดแ้ ก่
butterfly elephant giraffe koala panda
zebra
rabbit dolphin
172
เมื:อครูใหส้ ญั ญาณ (เป่ านกหวดี ) นกั เรียนท+งั 8 คน ชูบตั รคาํ ข+ึน นกั เรียนในหอ้ งคนอ:ืนๆ เลือกสตั ว์
ท:ีตนชอบ 1 ชนิด แลว้ วง:ิ ไปเขา้ กลุ่มตามบตั รคาํ น+นั แลว้ นงั: ลงเพื:อแสดงวา่ ไดก้ ลุ่มแลว้ นกั เรียน
แต่ละกลุ่มช่วยกนั แต่งประโยคอยา่ งนอ้ ย 4 ประโยค จากน+นั ตวั แทนของกลุ่มลุกข+ึนยนื เพ:ือ
นาํ เสนอ
e.g. A dolphin is in the water. It is not a fish.
It is grey. It is smart.
It is smaller than a whale. หรือ
An elephant is a big animal.
It is grey. It has got 4 legs. It has got a long nose.
It has got big ears. It is very strong.
6.2 ช*ัวโมงท*ี 3-4
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทบทวนคาํ ศพั ทท์ ี:ผา่ นมาดว้ ยบตั รภาพและบตั รคาํ
2. นกั เรียนเขียนคาํ ตามคาํ บอก (Dictation) คาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั สตั วท์ :ีนกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ ใน Unit 4
โดยครูย+าํ ใหน้ กั เรียนทาํ งานดว้ ยตนเองและมีความซื:อสตั ย์ ไม่ลอกผอู้ :ืน
3. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในชว:ั โมงต่อไปน+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี:ยวกบั สตั วป์ ่ า และการเปลี:ยนคาํ นาม
เอกพจนใ์ หเ้ ป็นพหูพจน์
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูแนะนาํ คาํ ศพั ทใ์ หม่ในหนังสือเรียน หน้า 48 ข้อ 4 Listen and draw lines to match the animals
with the food they eat. จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 52 ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนา 2 คร+ัง แลว้ ตอบ
คาํ ถามบนกระดานใหถ้ ูกตอ้ ง
Question 1: What animals eat fish?
(Dolphins, eagles, crocodiles and bears.)
Question 2: What animals eat meat?
(Tigers and crocodiles.)
Question 3: What animals eat leaves?
(Elephants, rhinos and bears.)
Question 4: What animals eat honey?
(Bears.)
173
A: Can you tell us what these animals eat? What animals eat all these fish?
B: The fish is for different animals. The dolphins, the bears and the eagles
all eat fish. Oh, and the crocodiles.
A: Is this meat for the tigers?
B: Yes, for the tigers and the crocodiles too.
A: The plants are for the little animals, right?
B: Oh, no – they are for the elephants, rhinos and bears.
A: And the honey!
B: It’s for the bears.
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนกาเครื:องหมาย üหนา้ ขอ้ ที:ถูกตอ้ ง และกา Ï หนา้ ขอ้ ที:ไม่ถูกตอ้ ง
จากประโยคท:ีครูให้ ต่อไปน+ี
Ï 1. The tigers eat honey.
ü 2. The bears eat fish.
Ï 3. The rhinos eat meat.
Ï 4. The crocodiles eat leaves.
ü 5. The rhinos and bears eat leaves.
ü 6. The dolphins, crocodiles and eagles eat fish.
Ï 7. The dolphins eat meat.
ü 8. The bears eat honey.
ü 9. The eagles eat fish.
Ï 10. The tigers eat fish.
2. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 48 ข้อ 5 Point, ask and answer. แลว้ อ่านออกเสียงคาํ ศพั ทต์ ามครู
2 รอบ จากน+นั ครูช+ีไปที:รูปทีละรูป แลว้ ถามคาํ ถาม ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
Teacher: What’s this?
Students: It’s a tiger.
Teacher: What does it eat?
174
Students: It eats meat.
เมื:อครูถามนกั เรียนครบทุกภาพแลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนและผลดั กนั ถาม-ตอบเหมือน
ดงั ตวั อยา่ ง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกบทสนทนาลงสมุด และนาํ มาส่งครูทา้ ยชว:ั โมง ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 6 คน ใหต้ อบคาํ ถามครู ดงั น+ี
Teacher: What’s this? (รูปโลมา)
Student 1: It’s a dolphin.
Teacher: What does it eat?
Student 1: It eats fish.
Teacher: What’s this? (รูปชา้ ง)
Student 2: It’s an elephant.
Teacher: What does it eat?
Student 2: It eats leaves.
Teacher: What’s this? (รูปนกอินทรี)
Student 3: It’s an eagle.
Teacher: What does it eat?
Student 3: It eats fish.
Teacher: What’s this? (รูปแรด)
Student 4: It’s a rhino.
Teacher: What does it eat?
Student 4: It eats leaves.
Teacher: What’s this? (รูปจระเข)้
Student 5: It’s a crocodile.
Teacher: What does it eat?
Student 5: It eats meat and fish.
Teacher: What’s this? (รูปหมี)
Student 6: It’s a bear.
Teacher: What does it eat?
175
Student 6: It eats fish, honey and leaves.
ครูอาจถามคาํ ถามเพิ:มเติม เพื:อใหน้ กั เรียนไดน้ าํ ความรู้รอบตวั มาใช้ โดยครูอนุญาตใหน้ กั เรียนพดู
ภาษาไทยได้ ในกรณีท:ีจาํ เป็น ดงั น+ี
Teacher: What do elephants in Thailand eat?
Students: Bananas, pineapples (สบั ปะรด), corns (ขา้ วโพด), sugar cane
(ออ้ ย), etc.
Teacher: What do crocodiles in Thailand eat?
Students: Chickens, fish, etc.
3. ครูอธิบายเร:ืองคาํ นามเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural)
Singular noun คือ คาํ นามเอกพจน์ เป็นคาํ นามท:ีมีจาํ นวนเพียงหน:ึง โดยปกติจะมี a
หรือ an นาํ หนา้ เช่น
a boat an elephant a snake
Plural noun คือ คาํ นามพหูพจน์ ซ:ึงเป็นคาํ นามที:มีจาํ นวนมากกวา่ หน:ึงข+ึนไป โดยมี
ต+งั แต่ 2 จาํ นวนเป็นตน้ ไป คาํ นามพหูพจนจ์ ะเติม -s หรือ -es ทา้ ยคาํ นามน+นั ๆ และจะ
ไม่มี a หรือ an นาํ หนา้ คาํ นาม เช่น
tigers snakes crocodiles
จากน+นั ครูเขียนคาํ นามท+งั ในรูปเอกพจน์ และพหูพจนบ์ นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปกฎ
ในการเปลี:ยนคาํ นามเอกพจนใ์ หเ้ ป็นพหูพจน์ เสร็จแลว้ ครูเขียนคาํ นามเอกพจนบ์ นกระดาน 7-10 คาํ
ใหน้ กั เรียนเปลี:ยนคาํ นามเอกพจนเ์ หล่าน+ีใหเ้ ป็นพหูพจน์ เช่น
a watch watches
a woman women
a fish fish
a bear bears
a crocodile crocodiles
a tomato tomatoes
a dolphin dolphins
a monkey monkeys
a lady ladies
an elephant elephants
176
Background Information
หลกั ในการเปลี:ยนคาํ นามเอกพจนใ์ หเ้ ป็นพหูพจน์ ที:จาํ เป็นตอ้ งใชใ้ นบทเรียน มีดงั น+ี
1) โดยทวั: ไปแลว้ คาํ นามสามารถเติม -s ทา้ ยคาํ นามน+นั ๆ ไดเ้ ลย
เช่น a book books
a car cars
2) คาํ นามคาํ ใดที:ลงทา้ ยดว้ ย s, sh, ss, ch, x, z ใหเ้ ติม es
เช่น a glass glasses
a fox foxes
3) คาํ นามท:ีลงทา้ ยดว้ ย o ใหเ้ ติม es
เช่น a mango mangoes
a buffalo buffaloes
ยกเวน้ หนา้ o เป็นสระ (a, e, i, o, u) ใหเ้ ติม s
เช่น a radio radios
a piano pianos
4) คาํ นามท:ีลงทา้ ยดว้ ย y ใหเ้ ปล:ียน y เป็น i แลว้ เติม es
เช่น a baby babies
a family families
แต่ถา้ หนา้ y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ใหเ้ ติม s
เช่น a boy boys
a day days
5) คาํ นามคาํ ใดท:ีลงทา้ ยดว้ ย f หรือ fe ใหเ้ ปลี:ยน f หรือ fe เป็น v
ก่อนแลว้ จึงเติม es
เช่น a leaf leaves
6) คาํ นามบางคาํ เปลี:ยนรูปคาํ ไปจากเดิม
เช่น a man men
7) คาํ นามบางคาํ ไม่เปลี:ยนรูป
เช่น a fish fish
177
4. นกั เรียนฝึกทกั ษะการอ่าน โดยอ่านเน+ือเรื:องที:กาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 6 Read and
answer the questions. โดยก่อนอ่านครูใหน้ กั เรียนดูรูปภาพและช:ือเรื:อง แลว้ ลองเดาวา่ เน+ือเร:ืองท:ีจะ
อ่านเป็นเร:ืองเก:ียวกบั อะไร เมื:อไดค้ าํ ตอบวา่ เก:ียวกบั ยรี าฟ (giraffe) แลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ถาม
5 ขอ้ ที:ใหม้ าพร้อมๆ กนั จากน+นั ใหเ้ วลานกั เรียน 3 นาทีในการอ่านและตอบคาํ ถามดงั กล่าวลงใน
สมุด (Individual work) เมื:อครบกาํ หนดเวลาแลว้ ครูใหน้ กั เรียนสลบั สมุดกนั ตรวจ จากน+นั ให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ พร้อมท+งั ระบุดว้ ยวา่ เจอคาํ ตอบจากส่วนใดของบทอ่าน เสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนอ่านเน+ือเร:ืองตามครูทีละประโยค
1 It is brown and has got dark brown spots.
2 It eats leaves from trees and drinks water every two days.
3 It has got short hair.
4 It has got four stomachs.
5 It has got seven bones.
Background Information
ทาํ ไม stomach เมื*อเป็ นพหูพจน์จงึ เตมิ –s ไม่ใช่ es
โดยทวั: ไปถา้ คาํ นามท:ีมีตวั สะกดลงทา้ ยดว้ ย s, ss, sh, ch, x และ z เมื:อเปลี:ยนเป็น
พหูพจนใ์ หเ้ ติม es ที:ทา้ ยคาํ น+นั เช่น
church - churches = โบสถ์
dish - dishes = จาน
fox - foxes = สุนขั จิ+งจอก
glass - glasses = แกว้
match - matches = ไมข้ ีดไฟ
ข้อยกเว้น
คาํ วา่ stomach ถึงแมจ้ ะลงทา้ ยดว้ ย ch แต่เม:ือเปลี:ยนเป็นพหูพจน์ ใหเ้ ติม –s หลงั คาํ
ไม่ใช่ –es เน:ืองจากอยใู่ นขอ้ ยกเวน้ ท:ีวา่ ถา้ คาํ นามมีตวั สะกดลงทา้ ยดว้ ย ch
แต่ ch น+นั ออกเสียงเป็น /k/ ใหเ้ ติม s ไดเ้ ลย เช่น
stomach - stomachs = ทอ้ ง กระเพาะ
epoch - epochs = ยคุ
monarch - monarchs = พระมหากษตั ริย์
ทมี> า: http://www.konmun.com/Article/3-Regular-Verbs-id7393.aspx
178
5. นกั เรียนอ่านคาํ สง:ั ในหนังสือเรียน หน้า 49 ข้อ 7 Draw and write about your favourite animal.
พร้อมๆ กนั ครูใหเ้ วลานกั เรียนในการวาดรูปและเขียนบรรยายเกี:ยวกบั สตั วท์ :ีตนเองชอบ 1 ชนิด
ลงในสมุด อยา่ งนอ้ ย 5 ประโยค (งานเดี:ยว)
6. ครูเขียนตวั อกั ษร ‘ea’ บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนลองเดาวา่ น่าจะออกเสียงวา่ อะไร เม:ือไดค้ าํ ตอบ
วา่ ‘อี’ แลว้ ครูเขียนคาํ วา่ tea, sea, read และ meat บนกระดาน จากน+นั ครูอ่านออกเสียงคาํ ศพั ท์ แลว้
ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม เพื:อฝึกการออกเสียง /í:/
7. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 49 Listen and say. แลว้ อ่านประโยคที:กาํ หนดใหพ้ ร้อมๆ กนั
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 53 ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านประโยคในหนงั สือเรียนตาม 5-6 คร+ัง จน
นกั เรียนสามารถอ่านไดค้ ล่อง จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 7-8 คน ใหล้ ุกข+ึนยนื แลว้ อ่านประโยคน+ีให้
ครูฟังทีละคน
He reads and eats meat.
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็นกลุ่มละ 3-4 คน ครูแจกกระดาษสี 4 สี ไดแ้ ก่ สีแดง เหลือง น+าํ เงิน
และขาว กลุ่มละ 4 แผน่ (สีละ 1 แผน่ ) พร้อมท+งั แจกกระดาษแขง็ 1 แผน่ เพื:อรองรูปภาพ
ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ฉีก ติด ปะ กระดาษสีท+งั 4 สี ใหเ้ ป็นรูปสตั ว์ 1 ชนิด เม:ือเสร็จแลว้
ใหน้ กั เรียนโชวร์ ูปภาพที:ประดิษฐพ์ ร้อมกบั พดู แนะนาํ ตามประโยคต่อไปน+ี
Good morning. This is our wild animal. It’s a (สตั ว)์ . It eats (อาหารท:ีกิน).
It’s a big/small animal. A/An (สตั ว)์ is bigger/smaller than (สตั วอ์ ีกหน:ึงชนิด).
2. นกั เรียนดูรูปภาพที:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 36 ข้อ 4 Match the animals with the food they
eat. แลว้ ครูถามคาํ ถามนกั เรียนทีละขอ้ ดงั น+ี
Teacher: What does a dolphin eat?
Students: It eats fish.
Teacher: What does an elephant eat?
Students: It eats leaves from trees.
Teacher: What does an eagle eat?
Students: It eats fish.
Teacher: What does a bear eat?
Students: It eats fish.
Teacher: What does a bat eat?
179
Students: It eats insects.
Teacher: What does a snake eat?
Students: It eats frogs.
จากน+นั นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ฝึกพดู ถาม-ตอบ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ใหย้ นื ข+ึนและพดู ถาม-ตอบ
ใหเ้ พื:อนๆ ดู
1A 2B 3A 4A 5C 6D
3. ครูใหน้ กั เรียนทาํ งานเดี:ยว (Individual work) เขียนตอบคาํ ถามที:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 36
ข้อ 5 Answer the questions.
1 They eat meat. 4 They eat fish and honey.
2 They eat leaves from trees. 5 Bats eat insects.
3 They eat fish.
4. ครูเขียนคาํ ศพั ท์ 3 คาํ ไดแ้ ก่ jungles, mountains และ deserts บนกระดาน และสอนการออกเสียง
จากน+นั ใหน้ กั เรียนดูคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีในแบบฝึ กหัด หน้า 37 ข้อ 6 Look at the pictures and classify
the animals. และอธิบายวา่ คาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีคือแหล่งที:อยอู่ าศยั ของสตั ว์ จากน+นั ครูใหเ้ วลานกั เรียนดู
รูปสตั วท์ ี:ใหม้ า แลว้ ช่วยกนั บอกช:ือของสตั วเ์ หล่าน+ี ต่อมาครูใหน้ กั เรียนเขียนคาํ ตอบลงในสมุดวา่
สตั วใ์ นภาพแต่ละภาพอาศยั อยทู่ ี:ใด (jungles, mountains หรือ deserts) เม:ือนกั เรียนทาํ เสร็จแลว้
ครูสุ่มถามคาํ ถามนกั เรียน 6 คน วา่ สตั วท์ ี:นกั เรียนเห็นในรูป คือสตั วอ์ ะไร และอาศยั อยทู่ :ีใด
ถา้ นกั เรียนตอบผดิ ครูใหน้ กั เรียนตอบใหม่จนกวา่ จะถูกตอ้ ง เช่น
Teacher: What animal is it? (ภาพชา้ ง)
Students: It is an elephant.
Teacher: Where does it live?
Students: It lives in the jungle.
Jungles = elephant, tiger
Mountains = bat, bear
Deserts = snake, camel
180
5. นกั เรียนอ่านเน+ือเรื:องในแบบฝึ กหัด หน้า 37 ข้อ 7 Read and complete. Use the words in the box.
แลว้ นาํ คาํ ศพั ทท์ :ีกาํ หนดใหใ้ นกรอบไปเติมคาํ ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง โดยก่อนทาํ ครูอธิบายให้
นกั เรียนฟังวา่ เน+ือเร:ืองที:จะอ่านเป็นเรื:องเก:ียวกบั การเปรียบเทียบระหวา่ งชา้ งกบั ยรี าฟ เมื:อนกั เรียน
ทาํ เสร็จแลว้ ครูอ่านเน+ือเร:ืองทีละประโยค โดยเมื:อถึงช่องวา่ งท:ีจะใหเ้ ติมคาํ ครูใหน้ กั เรียนแข่งขนั
กนั ยกมือข+ึน เพ:ือเติมคาํ ในช่องวา่ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านเน+ือเรื:องตามครูทีละประโยค
1 bigger 3 big 5 brown
2 grey 4 taller 6 long
6. ครูทบทวนการออกเสียง /í:/ และอธิบายเพ:ิมเติมเก:ียวกบั การออกเสียง /I/ วา่ เสียง /I/ จะออกเสียงส+นั
กวา่ เสียง /í:/ จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ศพั ทท์ ี:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 37 Listen: eat, it.
Listen, circle and say. ตามครูทีละคาํ เม:ือนกั เรียนเขา้ ใจความแตกต่างของท+งั 2 เสียงแลว้
ครูเปิ ด CD/track 54 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ และใหน้ กั เรียนวงกลมคาํ ศพั ทท์ :ีไดย้ นิ จาก CD
rid hit meal
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการทาํ รูปสตั วจ์ ากกระดาษและพดู นาํ เสนอ
181
8. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
182
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 4 Wild animals (Lesson 2)
1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั สตั วป์ ่ าและแหล่งที:อยอู่ าศยั โครงสร้างประโยค Present Simple Tense
คาํ ถามแบบ Wh-questions ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถใชภ้ าษาองั กฤษในการพดู ขอและใหข้ อ้ มูล เขียน e-mail และ
เขียนบรรยายส+นั ๆ เก:ียวกบั สตั วป์ ่ าได้ ซ:ึงเป็นการใชภ้ าษาเพ:ือการสื:อสารในชีวติ ประจาํ วนั และยงั นาํ ไป
บูรณาการร่วมกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ:ืน
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคาํ ระบุภาพ/บอกความหมาย และรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั สตั วป์ ่ าและ
แหล่งที:อยอู่ าศยั ได้ (ต 1.1/2, ต 3.1/1, ต 4.2/1)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั สตั วป์ ่ า โดยใช้ Wh-questions ได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- ฟังและอ่านจบั ใจความได้ (ต 1.1/4)
- พดู และเขียนบรรยายส+นั ๆ เกี:ยวกบั สตั วป์ ่ าได้ (ต 1.3/1)
- อ่านและเขียน e-mail ถึงเพ:ือนได้ (ต 1.3/1)
- เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษได้ (ต 2.1/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมาย เกี:ยวกบั แหล่งที:อยอู่ าศยั ของสตั ว์
- ประโยค บทสนทนา เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ส:ิงใกลต้ วั
เช่น What do they eat? They eat meat.
Where do they live? They live in the mountains.
When do they sleep? They sleep during the day.
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั สตั ว์
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- การรวบรวมและการนาํ เสนอคาํ ศพั ทท์ ี:เกี:ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ:ืน (วทิ ยาศาสตร์)
183
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งใกลต้ วั จากส:ือและ
แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
- Present Simple Tense
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ซ:ือสตั ยส์ ุจริต
- มุ่งมน:ั ในการทาํ งาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ช*ัวโมงท*ี 5-6
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. นกั เรียนเล่นเกม Memory game เพ:ือทบทวนคาํ ศพั ทใ์ น Unit 4 Lesson 1 โดยใหค้ รูเรียงบตั รภาพบน
กระดานแถว A และบตั รคาํ บนกระดานแถว B ดงั ตวั อยา่ ง แลว้ ใหเ้ วลานกั เรียนในการจาํ ประมาณ
30 วนิ าที จากน+นั ครูคว:าํ บตั รภาพบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่บตั รภาพกบั บตั รคาํ ใหต้ รงกนั
1 2 3 45 (บตั รภาพ)
A ภาพชา้ ง
ภาพงู ภาพนก ภาพลิง ภาพหมี
อนิ ทรี
B monkey eagle elephant bear snake (บตั รคาํ )
ตวั อย่าง Student 1: A3 ภาพนกอินทรี คู่กบั B2 eagle
2. ครูแสดงบตั รภาพเกี:ยวกบั สตั ว์ ประมาณ 2-3 ภาพ แลว้ ถามนกั เรียนเก:ียวกบั สตั วใ์ นภาพวา่ คืออะไร
และกินอะไรเป็นอาหาร เช่น
184
Teacher: What’s this?
Students: It’s a/an ( สตั ว์ ).
Teacher: What does it eat?
Students: It eats _________.
3. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เรียงบตั รคาํ ใหเ้ ป็นประโยคให้
ถูกตอ้ ง เช่น
is a turtle than a rabbit slower .
= A turtle is slower than a rabbit.
4. ครูบอกนกั เรียนวา่ ใน Unit 4 Lesson 2 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนเก:ียวกบั สตั วป์ ่ าเพิ:มเติม และการใช้
Nouns (Singular/Plural), Verb to do และ Wh-questions
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูนาํ บตั รภาพ อูฐ หญา้ แม่น+าํ ป่ า ทะเล ภูเขา ทะเลทราย มาติดบนกระดานทีละภาพ จากน+นั
ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Hangman โดยผเู้ ล่นจะตอ้ งเดาตวั อกั ษรทีละตวั ใหถ้ ูกตอ้ ง ถา้ เดาผดิ ครูจะ
ลากเสน้ คนถูกแขวนคอทีละเสน้ ทีมใดท:ีถูกแขวนคอก่อน จะถือวา่ แพ้
2. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 50 ข้อ 1 Listen, point and repeat. แลว้ ครูช+ีท:ีภาพทีละภาพ และให้
นกั เรียนบอกเป็นภาษาไทยวา่ คือรูปอะไร จากน+นั ครูอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ีละคาํ และใหน้ กั เรียนช+ี
รูปภาพในหนงั สือเรียน พร้อมออกเสียงตามครู จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 55 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง
และออกเสียงตาม CD ไปดว้ ย
camel grass river jungle
sea desert mountains
4. นกั เรียนเขียนตวั อกั ษร A-G ลงในสมุด จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ A-G ในหนังสือเรียน หน้า 50
ข้อ 2 Listen and number. โดยครูช+ีที:ภาพทีละภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คือภาพอะไร ครูอธิบายวา่ ให้
นกั เรียนเรียงลาํ ดบั ภาพเหล่าน+ีตามท:ีไดย้ นิ จาก CD เม:ือนกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูเปิ ด CD/track 56 ให้
นกั เรียนฟัง 2 คร+ัง โดยใหน้ กั เรียนเขียนคาํ ตอบหลงั ตวั อกั ษร A-G ในสมุดของตนเอง จากน+นั ครูเปิ ด
CD อีกคร+ัง โดยหยดุ CD หลงั จบแต่ละประโยค แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุวา่ ตรงกบั ภาพใด
185
1 Snakes live in the desert.
2 Zebras eat grass.
3 Fish are in the river.
4 Bears live in the mountains.
5 Dolphins are in the sea.
6 Thousands of animals live in the jungle.
7 I like camels.
A7 D6 G5
B2 E1
C3 F4
4. นกั เรียนเล่นเกมจบั คู่คาํ ศพั ท์ โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั จบั คู่
บตั รคาํ ภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษ กลุ่มใดจบั คู่ไดถ้ ูกตอ้ งและเร็วท:ีสุดถือวา่ เป็นผชู้ นะ
desert = ทะเลทราย river = แม่น+าํ
mountain = ภูเขา jungle = ป่ า
sea = ทะเล grass = หญา้
camel = อูฐ bear = หมี
eagle = นกอินทรี elephant = ชา้ ง
ant = มด bat = คา้ งคาว
snake = งู dolphin = โลมา
5. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 50 ข้อ 3 Where do animals live? Listen and draw lines to match
the animals with where they live. ครูทบทวนคาํ ศพั ทใ์ หน้ กั เรียน จากน+นั ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนา
ใน CD/track 58 จาํ นวน 2 รอบ พร้อมตอบคาํ ถามวา่ สตั วท์ :ีนกั เรียนเห็นในภาพอาศยั อยทู่ :ีใด โดย
เขียนตอบลงในสมุดของตนเอง จากน+นั ครูเปิ ด CD อีก 1 รอบ พร้อมเฉลยคาํ ตอบ
186
A: Can you tell me about Africa?
B: Africa has got deserts, jungles, the sea, rivers, and mountains.
In the deserts there are thousands of snakes and camels.
A: What about the mountains?
B: In the mountains there are bears, eagles, butterflies, bats and
thousands of ants. Oh, and snakes, too.
A: And what about the rivers and the jungles?
B: Hmmm ….., there are crocodiles in the river. In the jungle you can see
rhinos, elephants, tigers, monkeys and snakes.
A: Yes, thank you. And, Mr. Whites, what is your favourite habitat?
B: The sea. I love the sea! I love dolphins.
A: Thank you, Mr. Whites.
A - Bears live in the mountains.
B - Rhinos live in the jungles.
C - Elephants live in the jungles.
D - Crocodiles live in the rivers.
E - Camels live in the desert.
F - Dolphins live in the sea.
G - Bats live in the mountains.
ครูถามคาํ ถามนกั เรียน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ เช่น
Teacher: Where do the bears live?
Students: They live in the mountains.
Teacher: Where do the rhinos live?
Students: They live in the jungles.
etc.
6. ครูชูบตั รภาพท:ีเป็นตอนกลางวนั และกลางคืนพร้อมออกเสียงคาํ ศพั ท์
day = กลางวนั night = กลางคืน
ครูหยบิ บตั รภาพคนและนกฮูก แลว้ ถามคาํ ถามเป็นภาษาองั กฤษ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
187
Teacher: When do people sleep?
Students: Night.
Teacher: That’s correct. We sleep at night.
ครูเขียนคาํ วา่ at night บนกระดาน
Teacher: When do owls sleep?
Students: Day.
Teacher: The owls sleep during the day.
ครูเขียนคาํ วา่ during the day (ระหวา่ งวนั ) บนกระดาน
จากน+นั ใหน้ กั เรียนลองเดาวา่ สตั วใ์ นภาพ A-G ในหนังสือเรียน หน้า 51 ข้อ 4 When do the animals
sleep? Listen and draw lines to match the animals with the times when they sleep. นอนหลบั ใน
ช่วงเวลาใด กลางคืน หรือ กลางวนั เม:ือนกั เรียนเดาคาํ ตอบเรียบร้อยแลว้ ครูเปิ ด CD/track 59 ให้
นกั เรียนฟัง 2 รอบ
A: Look at these animals. They live in different places. Some live in the jungle
and some in the mountains. But when do they sleep?
B: Elephants sleep at night. They sleep for around 4 hours a day.
A: Yes, but some animals find something to eat at night. They sleep during the
day. These animals are tigers and lions. They sleep 18-20 hours a day.
B: Bears and bats sleep during the day too. How about zebras and eagles?
When do they sleep, at night or during the day?
A: Zebras and eagles sleep at night.
เม:ือฟัง CD จบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแกไ้ ขคาํ ตอบที:ตนเองเดาไว้ ใหถ้ ูกตอ้ งตามที:ไดย้ นิ จาก CD
จากน+นั ครูถามคาํ ถาม เพื:อใหน้ กั เรียนตอบ ดงั น+ี
Teacher: What animals sleep at night?
Students: Elephants, zebras and eagles.
Teacher: Very good. Elephants, zebras and eagles sleep at night.
And what animals sleep during the day?
Students: Tigers, lions, bears and bats.
Teacher: Good. Tigers, lions, bears and bats sleep during the day.
188
A Elephants – at night
B Bears
C Lions – during the day
D Zebras – during the day
E Bats – at night
F Tigers – during the day
G Eagles – during the day
– at night
7. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 51 ข้อ 5 Look and say. Then write in your notebook. โดยให้
นกั เรียนดูรูปและแต่งประโยคตามโครงสร้างท:ีกาํ หนดใหล้ งในสมุด ครูเขียนประโยคตวั อยา่ งให้
นกั เรียนดูบนกระดาน เช่น It’s a bear. It lives in the mountain. It eats honey. It sleeps during the day.
It’s a bear. It lives in the mountain. It eats honey. It sleeps during the day.
It’s an eagle. It lives in the mountain. It eats fish. It sleeps at night.
It’s a camel. It lives in the desert. It eats grass. It sleeps during the day.
It’s a bat. It lives in the mountain. It eats insects. It sleeps during the day.
8. ครูสอนการใช้ Verb to do ร่วมกบั คาํ กริยาและคาํ สรรพนาม ในโครงสร้างของ Present Simple
Tense ดงั น+ี
V. to do Pronouns
Do I
you
Does we
they
คาํ นามเป็นพหูพจน์
he
she
it
คาํ นามเป็นเอกพจน์
189
ถา้ Verb to do เป็นคาํ กริยาแท้ จะมีความหมายวา่ “ทาํ ” แต่ถา้ เป็นคาํ กริยาช่วย Verb to do จะ
ไม่มีความหมาย แต่จะเขา้ มาช่วยทาํ ใหป้ ระโยคบอกเล่าเป็นประโยคปฏิเสธหรือคาํ ถาม ในกรณีท:ี
ประโยคน+นั ไม่มีกริยาช่วยตวั อื:น
ตัวอย่าง Does he go to school? Yes, he does./No, he doesn’t.
(Does เป็นกริยาช่วย เม:ือใช้ does แลว้ กริยาแทไ้ ม่ตอ้ งเติม s/es)
โครงสร้างประโยค ในกรณีที: Verb to do เป็นคาํ กริยาช่วย
ปฏเิ สธ โครงสร้าง ประธาน + do/does + not + กริยาแทไ้ ม่เติม s/es
+ กรรม หรือส่วนขยาย.
เช่น She does not go to school.
They do not go to school.
คาํ ถาม โครงสร้าง Do/Does + ประธาน + กริยาแทท้ :ีไม่เติม s/es
+ กรรมหรือส่วนขยาย ?
เช่น Does she go to school?
Do they go to school?
ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม และแจกบตั รคาํ ใหก้ ลุ่มละ 1 ชุด ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเรียง
บตั รคาํ ที:ไดร้ ับใหเ้ ป็นประโยค โดยครูอธิบายวา่ แต่ละกลุ่มจะไดป้ ระโยคท:ีไม่ซ+าํ กนั เม:ือกลุ่มใดเรียง
บตั รคาํ เสร็จ ใหเ้ ชิญครูมาตรวจเพ:ือใหค้ ะแนน เสร็จแลว้ ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มเวยี นบตั รคาํ ใหก้ ลุ่มถดั ไป
(เวยี นไปทางขวาหรือตามลาํ ดบั หมายเลขกลุ่ม) ซ:ึงแต่ละกลุ่มจะไดเ้ รียงบตั รคาํ 5 คร+ัง โดยมีรูป
ประโยคท:ีจะใหน้ กั เรียนเรียง ดงั ต่อไปน+ี
1) What does it eat? 4) They do not live in the sea.
2) When do animals sleep? 5) It does not sleep at night.
3) Where do bears live?
ครูคน้ ควา้ หาแบบฝึกหดั Present Simple Tense ในรูปประโยคคาํ ถาม และปฏิเสธที:เหมาะสมกบั
นกั เรียน แลว้ จดั พิมพเ์ ป็นใบงานเสริมเพ:ิมเติมใหก้ บั นกั เรียน และมอบหมายใหน้ กั เรียนไปทาํ มา
เป็นการบา้ น
190
óกจิ กรรมรวบยอด
1. ครูเขียนคาํ ศพั ท์ 7 คาํ พร้อมหมายเลขบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านพร้อมๆ กนั จากน+นั ให้
นกั เรียนในหอ้ งนบั เลข 1-7 ต่อกนั ไปเรื:อยๆ จนนกั เรียนทุกคนไดห้ มายเลข ครูใหน้ กั เรียนที:ได้
หมายเลขตรงกบั คาํ ศพั ทค์ าํ ใด ใหน้ าํ คาํ ศพั ทค์ าํ น+นั มาแต่งประโยค 1 ประโยค
day night jungle mountain eat sleep live
123 4 567
ตัวอย่าง นกั เรียนท:ีไดห้ มายเลข 3 จะตอ้ งแต่งประโยคท:ีมีคาํ วา่ jungle เช่น
Elephants live in the jungle.
2. นกั เรียนดูรูปภาพในแบบฝึ กหัด หน้า 38 ข้อ 1 Write the words. แลว้ เขียนคาํ ศพั ทใ์ หต้ รงกบั รูปภาพ
1 sea 3 jungle 5 desert
2 grass 4 river 6 mountain
3. นกั เรียนอ่านประโยคท:ีกาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 38 ข้อ 2 Listen and write. ในใจ จากน+นั ครูติด
บตั รคาํ ต่อไปน+ีบนกระดาน mountains, camel, desert, jungle, river, sea แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ศพั ท์
พร้อมๆ กนั ตามครู เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD/track 57 ใหน้ กั เรียนฟังและเติมคาํ ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง
โดยใชค้ าํ ศพั ทใ์ นบตั รคาํ
1 There are snakes in the desert.
2 Crocodiles and fish live in the river.
3 Some animals live in the mountains.
4 Dolphins live in the sea.
5 Thousands of animals live in the jungle.
6 A camel has got long legs.
4. นกั เรียนดูภาพในแบบฝึ กหัด หน้า 39 ข้อ 3 Look and write the answers. Where do they live?
แลว้ ตอบคาํ ถามลงในสมุดของตนเอง
191
1 The tigers live in the jungle.
2 The elephants live in the jungle.
3 The crocodiles live in the river.
4 The eagles live in the mountains.
5 The bats live in the mountains.
6 The camels live in the desert.
5. นกั เรียนดูรูปภาพในแบบฝึ กหัด หน้า 39 ข้อ 4 Look and write the answers. When do they sleep?
แลว้ ตอบคาํ ถามลงในสมุดของตนเอง
1 The bears sleep during the day.
2 The bats sleep during the day.
3 The elephants sleep at night.
4 The tigers sleep during the day.
5 The eagles sleep at night.
6.2 ช*ัวโมงที* 7-8
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทดสอบคาํ ศพั ทข์ องนกั เรียน โดยพดู บอกขอ้ มูลเกี:ยวกบั สตั วง์ ่ายๆ และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
ดงั น+ี
1) ____ ____ b ____ ____ t (ครูพดู วา่ “It likes carrots.”) rabbit
2) ____ ____ m ____ ____ (ครูพดู วา่ “It lives in the desert.”) camel
3) ____ ____ ____ ____ e (ครูพดู วา่ “It flies very high. It eats fish.”) eagle
4) ____ ____ ____ r (ครูพดู วา่ “It eats honey.”) bear
5) ___ ___ e ___ ___ ___ ___ t (ครูพดู วา่ “It is the biggest animal on land.”) elephant
6) ____ n ____ ____ ____ (ครูพดู วา่ “It has got a long body. It has no legs.”)
snake
7) ____ ____ b ____ ____ (ครูพดู วา่ “It has got black and white stripes.”) zebra
8) ____ a ____ (ครูพดู วา่ “It can fly. It sleeps during the day.”) bat
192
2. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทเรียนต่อไปน+ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เก:ียวกบั ชีวติ ของสตั วต์ ่อ การใช้ Present
Simple Tense และคาํ ถามแบบ Wh-questions ซ:ึงเป็นคาํ ถามเพื:อถามเก:ียวกบั รายละเอียด เช่น อะไร
ท:ีไหน เมื:อไร อยา่ งไร
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูทบทวนโครงสร้างประโยคบอกเล่าของ Present Simple Tense และใหท้ าํ แบบฝึกหดั ง่ายๆ เพื:อ
ทบทวนร่วมกนั ดงั น+ี
ประโยคบอกเล่า Present Simple Tense
ประธานเอกพจน์ + กริยาช่องที: 1 เติม s/es เช่น A monkey eats bananas.
ประธานพหูพจน์ และ I/You + กริยาช่องที: 1 เช่น Tigers live in the jungle.
ครูเขียนประโยคบนกระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทาํ
จงเปลยี> นคาํ กริยาในวงเลบ็ ต่อไปนีNให้ถูกต้อง
1) I (read) _________ a book. (read)
2) They (speak) _________ very fast. (speak)
3) My father (go) _________ to the hospital. (goes)
4) Mary (buy) _________ the pencils. (buys)
5) He (watch) _________ television. (watches)
6) You (come) _________ to school everyday. (come)
7) The girls (wear) ________ skirts. (wear)
8) Somdej (speak) ________ English very well. (speaks)
2. ครูทบทวนเก:ียวกบั การใช้ Verb to do ในประโยคปฏิเสธและคาํ ถาม (Present Simple Tense)
จากน+นั ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังเพิ:มเติมวา่ เมื:อใช้ Verb to do เขา้ มาช่วยในการทาํ ใหเ้ ป็นประโยค
ปฏิเสธและคาํ ถามแลว้ แมป้ ระธานของประโยคจะเป็นเอกพจน์ กริยากไ็ ม่ตอ้ งเติม s/es เช่น
บอกเล่า
A bear eats honey.
ปฏเิ สธ A bear does not eat honey. (กริยาไม่เติม s)
คาํ ถาม Does a bear eat honey? (กริยาไม่เติม s)
โดยคาํ ถามท:ีข+ึนตน้ ดว้ ย Verb to do น+นั เป็นคาํ ถามท:ีเรียกวา่ Yes-No questions คือเม:ือตอบคาํ ถาม
เหล่าน+ี จะตอ้ งตอบวา่ Yes หรือ No เท่าน+นั
3. ครูอ่านประโยคคาํ ถามและใหน้ กั เรียนอ่านประโยคคาํ ตอบในหนังสือเรียน หน้า 52 ข้อ 6 Point, ask
and answer. แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คาํ ถามท+งั 3 ประโยคที:ครูอ่านมีอะไรที:เหมือนกนั
193