The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือนวดไทย 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chanthirajimah, 2021-06-21 02:13:41

หนังสือนวดไทย 2

หนังสือนวดไทย 2

240

7. การนวดแก้สะบักจม

สาเหตุ
1. เกิดจากทางานหนกั แบกหรอื หามของหนักเกินไป
2. เกิดจากการนั่งทางานในท่าทไี่ ม่เหมาะสม คอื หลังไมต่ รง และก้มคอมาก
3. เกดิ จากการนอนในท่าท่ีไม่เหมาะสม
4. เกดิ จากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ

อาการ
ปวดกล้ามเน้ือท่ีอยู่ระหว่างกระดูกสันหลังและสะบัก ยกแขนไม่สะดวก ก้มหรือเงยคอได้ไม่

เต็มที่ หันซ้ายหรือขวา หรือเวลายกของ ก็ปวดเสียวลงมาที่ข้างสะบัก นอนตะแคงข้างท่ีปวดได้ไม่
สะดวก ถา้ เปน็ น้อยๆ อาจปวดตอื้ ๆ นา่ ราคาญ ถา้ ปล่อยไว้นานๆ จะปวดหลงั และเอวได้
หมายเหตุ

ถ้ามอี าการสะบกั จมรว่ มกบั มีอาการปวดแขนและไหล่ ใหน้ วดส่วนแขนและไหล่ก่อน
การนวดแกส้ ะบกั จม

แนวข้างสะบัก

จุดตรงโคง้

จุดตรงรอ่ ง
จุดตรงโค้ง ระหวา่ งคอกับบ่าคอ่ นมาทางดา้ นหน้า
จุดตรงรอ่ ง ระหวา่ งกระดูกซโ่ี ครงซท่ี ่ี 1 และ 2

241

ท่านวดและวิธีการนวด

ทา่ นวด
ผู้ถูกนวด น่ังขัดสมาธิ
ผู้นวด นั่งคกุ เข่า หรอื ยืนด้านขา้ งเย้ืองมาทาง

ดา้ นหลงั ของผู้ถูกนวด

การนวดแก้สะบกั จม
ใช้นว้ิ หัวแมม่ อื กดจุดแนวข้างสะบกั กดแล้วผอ่ นแรงขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับดนั ไปทางแนวกระดกู
สนั หลัง

ใช้นวิ้ หวั แมม่ อื กดจดุ ระหว่างซี่โครง 1 และ 2
ใชน้ ิ้วหวั แม่มอื กดจดุ ตรงโค้งระหว่างคอกับบา่ คอ่ นมาทางด้านหนา้

242

8. การนวดแก้จกุ เสยี ด

สาเหตุ
เกิดจาการกินอาหารไม่เป็นเวลา กินอาหารย่อยยากหรืออาหารที่ทาให้แก๊สในกระเพาะได้ง่าย

เชน่ ถ่ัวงอก ถั่วลิสง อาหารรสจัด หรอื เกิดจากคลายเครียด
อาการ

มีอาการจุกเสียดตรงบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นป่ีบริเวณชายโครง ใต้สะบักและหน้าอก หายใจ
ขัด ถ้าเรอจะรู้สึกสบายขึน้ เบอ่ื อาหาร ทอ้ งผกู
ขอ้ เสนอแนะ

1. กนิ ยาขบั ลมหรอื ด่มื นา้ ขิง
2. กินอาหารย่อยง่าย
3. ออกกาลงั กายเพ่ือให้กล้ามเน้ือไดเ้ คล่อื นไหว
4. หลีกเลยี่ งความเยน็ ในบรเิ วณทม่ี ีอาการ ใชน้ า้ รอ้ น
การนวดแกจ้ ุกเสียด

แนวหลงั 1 และแนวหน้าท้อง
แนวหลงั 1
แนวหน้าทอ้ ง เรมิ่ จากใตช้ าย

โครง 2 นิว้ มอื ลงไปตามยาว 4

แนว

แนวขาดา้ นนอก

แนวขาดา้ นนอก 2 ชว่ งหนา้ แข้ง

ทา่ นวดและวธิ ีการนวด จุดใตส้ ะบา้ หัวเขา่ 4 นิว้ มือ

จุดใตส้ ะบา้

ท่านวด
ผถู้ กู นวด นอนหงาย หรือ ตะแคง

ผูน้ วด น่งั คุกเข่าด้านหลัง หรือ

ด้านหลังของผู้ถูกนวด

243

ใช้น้วิ หวั แม่มือซ้อนกนั กดจุดแนวขาดา้ นนอก 5 โดยเนน้ กดจดุ ใตส้ ะบ้า 4 นิว้ มือ (ผู้ถูกนวด)
ใชน้ ิ้วหัวแม่มอื ซ้อนกัน กดจุดแนวหลงั 4 ท้งั สองข้าง

ใช้ปลายน้ิวมอื ทั้งสซ่ี ้อนกัน กดแนวหนา้ ทอ้ ง 4 แนว (เริ่มจากใต้ชายโครง)

ใช้ฝาุ มือซ้อนกันกดจดุ ตรงสะดือ

244

9. การนวดแก้ทอ้ งผูก

สาเหตุ
1. กินอาหารท่ีมกี ากนอ้ ย หรืออาหารท่มี รี สฝาด และด่ืมน้านอ้ ย
2. กนิ ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ท้องเสีย ยาคุมกาเนิด
3. ขาดการออกกาลังกาย อารมณเ์ ครยี ด วิตกกังวล
4. มอี ปุ นสิ ัยถ่ายไมเ่ ป็นเวลา กลั้นอุจจาระเปน็ ประจา

อาการ
ถ่ายอุจจาระแข็งหรือไม่ถ่ายอุจจาระนานหลายวัน (เว้นระยะนานกว่าที่เคยเป็นอยู่ตามปกติ

นิสยั ) หรือถา่ ยลาบาก ถา่ ยเป็นกอ้ นแข็งคล้ายข้ีแพะ เป็นพรรดึก อึดอัดในท้อง ผายลมบ่อย จุกเสียดใน
ทอ้ ง รอ้ นใน ปากเป็นแผล ลิ้นเป็นฝาู หายใจมีกลนิ่ เหมน็ เป็นสวิ ฝี เป็นริดสดี วงทวารหนัก
การตรวจรา่ งกาย

ให้ผู้ถูกนอนหงายเหยียดขาตรง ผู้นวดเอามือคลาท้องผู้ถูกนวด บริเวณใต้สะดือ ประมาณ 4
นิ้วมือ เย้อื งออกมาทางซ้าย 2 น้ิวมอื คลาหากอ้ นแข็งเป็นลาของกอ้ นอจุ จาระ
ข้อแนะนา

1. กินอาหารที่มีกากมากๆ เช่น ผกั ผลไม้
2. ฝึกการขบั ถ่ายให้เป็นมากเวลาเป็นประจาทุกวนั
3. ดม่ื นา้ สะอาดวันละมากๆ อยา่ งน้อยวันละ ๖-๘ แกว้
4. ออกกาลงั กายสมา่ เสมอ
การนวดแกท้ อ้ งผูก

แนวขา้ งกระดูกกระเบนเหน็บ แนวลาไส้ใหญว่ น
จากขวาไปซ้าย (จุดก้นกบ)

จุดกน้ กบ

จุดเหนอื ข้างสะดือและใต้ขา้ งสะดอื อยูเ่ หนือและใต้สะดือ

4 น้วิ มือ และหา่ งจากแนวกลางลาตัว 3 นว้ิ มอื แนวลาไสใ้ หญ่

(แนวลาไสใ้ หญ่ )

245

ทา่ นวดและวิธีการนวด

แนวขา้ งกระดูกกระเบนเหน็บ
แนวลาไส้ใหญ่วนจากขวาไปซา้ ย (จุดก้นกบ)

ท่านวด
ผู้ถกู นวด นอนตะแคง
ผ้นู วด น่งั คกุ เข่าดา้ นหลังของผู้ถูกนวด

การนวดแนวขา้ งกระดูกกระเบนเหน็บ
ใชน้ วิ้ หวั แม่มอื กดจดุ แนวข้างกระเบนเหน็บ

ใชน้ ิ้วหัวแม่มือ กดจดุ ก้นกบ โดยกดแล้วดนั เขา้ ไปท่ีกระดูกก้นกบนง่ิ ไวป้ ระมาณ 10 วนิ าที
คอ่ ยๆ ผอ่ นออก กดประมาณ 3 คร้งั

246

จุดเหนือขา้ งสะดอื และใตข้ า้ งสะดอื อยู่เหนือและใต้สะดือ 4 นวิ้ มือ
และหา่ งจากแนวกลางลาตัว 3 นว้ิ มือ

ท่านวด
ผู้ถูกนวด นอนหงาย ตั้งเขา่ ข้ึน
ผนู้ วด นง่ั คกุ เข่าข้างผ้ถู กู นวด

การนวดเหนือข้างสะดอื และใต้สะดือ
ใชฝ่ าุ มอื ซ้อนกนั กดโกยท้อง เคลือ่ นท่ีไปรอบๆ บริเวณทอ้ งตามแนวลาไสใ้ หญ่ ทาสกั 3-5 รอบ
(ตามเข็มนาฬิกา)

247

ให้ผถู้ ูกนวดนอนชันเข่า ใชน้ ิ้วหวั แมม่ อื ท้ังสองขา้ ง กดจุดเหนือขา้ งสะดอื พร้อมๆ กัน

ให้ผู้ถกู นวดนอนชันเข่า ใช้นิ้วหวั แม่มอื ท้ังสองข้าง กดจุดใต้สะดอื พรอ้ มๆ กัน

248

10. การนวดปอ้ งกันการปวดประจาเดือน

สาเหตุ
เกดิ จากการท่ีระดูมาไมป่ กติ มคี วามเครียดวติ กกังวล สุขภาพร่างกายไม่แขง็ แรง

อาการ
มอี าการปวดหน่วงบรเิ วณท้องนอ้ ย ปวดหลัง ปวดบริเวณหนา้ ขา กระเบนเหน็บ ทางทีมีอาการ

ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ใจคอหงดุ หงิดรว่ มด้วย
ขอ้ แนะนา

กอ่ นประจาเดือนมาประมาณ 7 วัน และหลังประจาเดือน 7 วัน ควรจะนวดเพ่ือลดอาการปวด
ประจาเดือน ใชน้ ้าร้อนประคบที่ปวด นอนพกั และดืม่ น้าอุ่น
ขอ้ หา้ ม

ไมค่ วรนวดท้อง ในกรณปี ระจาเดอื นไม่มาตามกาหนด หรอื กอ่ นและหลังประจาเดอื น 2-3 วนั
ท่าบรหิ าร

1. ยืนตรงยกแขนขนึ้ โน้มตัวลงใหป้ ลายน้ิวมอื แตะปลายเท้า แล้วยกแขนขึ้นตรงๆ แอ่นตัวไป
ด้านหลงั ใหม้ ากทสี่ ุด

2. เอามือจับเอวท้ัง 2 ขา้ ง ขาเหยยี ดตรง กางขาออกเล็กนอ้ ย บิดเอวไปทลี ะขา้ ง ซ้าย-ขวา
การนวดปอ้ งกนั การปวดประจาเดอื น

ด้านหลงั แนวขาดา้ นหลัง 1 แนวตน้ ขาด้านหลงั 1 แนวหลัง 1
ด้านหนา้ แนวตน้ ขาด้านหนา้ 1 แนวเชิงกราน จดุ เหนือหวั เหนา่ (ตา่ จากสะดือ 4 น้วิ มือผูถ้ กู นวด)

249

ท่านวดและวธิ ีการนวด

แนวตน้ ขาด้านหน้า
แนวขาด้านหลัง 1
แนวหลัง 1
แนวเชงิ กราน
จดุ เหนอื หวั เหน่า ตา่ จากสะดือ 4 น้วิ มอื ผู้ถูกดนวด

ท่านวด
ผ้ถู ูกนวด นอนหงาย นอนตะแคง และนอนควา่

แลว้ แต่กรณี

ผู้นวด นง่ั คกุ เข่าข้างผถู้ กู นวด

การนวดปอ้ งกนั การปวดประจาเดอื น
ใชฝ้ ุามอื ซ้อนกัน กดแนวต้นขาด้านหนา้

ใช้นว้ิ หัวแม่มือซ้อนกนั กดแนวขาดา้ นหลัง 1 เริม่ จากเอ็นร้อยหวายข้นึ ไปถงึ ใต้แก้มก้น

250

ใช้นิ้วหวั แมม่ ือซ้อนกนั กดแนวหลัง 1

ใชป้ ลายน้ิวมอื ซอ้ นกนั กดแนวเชิงกราน ขา้ งละ 3 จุด กดเนน้ เข้าหากระดกู เชิงกรานจดุ ละ
ประมาณ 10 วินาที และนวดประมาณ 3 รอบ (นวดท่ีละข้าง)

ใชน้ ิ้วหวั แมม่ ือ กดจดุ เหนือหัวเหน่า (อยตู่ ่ากว่าจากสะดือประมาณ 4 นิว้ มอื ) โดยกดนง่ิ 10
วนิ าที

251

11. การนวดป้องกนั ตะคริว

สาเหตุ
1. เลือดไปเลย้ี งกลา้ เนื้อสว่ นนนั้ ไม่พอ
2. กลา้ มเน้ือส่วนน้ันทางานมาก
3. ภาวะเสียน้าในรา่ งกายมาก
4. พฤติกรรมบางอยา่ ง เช่น ใสร่ องเท้าสน้ สงู

อาการ
กล้ามเน้ือส่วนท่ีเป็นตะคริวจะแข็งเกร็ง ใช้มือคลาดูจะรู้สึกแข็งเป็นก้อน ถ้าขยับจะย่ิงแข็งและ

ปวดมากข้นึ ทาให้มอี าการปวดกล้ามเน้อื ตามมา พบบอ่ ยตามบริเวณน่อง น้ิวมือ นิ้วเท้า และพบมากใน
นกั กฬี า กรรมกร หญงิ มีครรภ์
ขอ้ แนะนา

1. ถา้ เปน็ ตะคริวขณะเข้านอนกลางคนื บ่อยๆ ควรใหด้ ื่มนมและนอนยกขาสงู ประมาณ 4 นว้ิ
2. ถา้ เปน็ ตะคริวจากท้องเสยี อาเจยี น เหง่อื อกมาก ควรให้ดื่มนา้ เกลือ
3. ถา้ เปน็ ๆ หายๆ บอ่ ย โดยเฉพาะเปน็ ขณะเดนิ นานๆ หรอื ยนื นานๆ ควรแนะนาให้ไป
โรงพยาบาล เพ่ือตรวจหาสาเหตุการนวดปูองกนั ตะคริว
การนวดป้องกนั ตะคริว

แนวขาดา้ นนอก 2, 3 และด้านหลงั
แนวขาดา้ นนอก 2 ช่วงหน้าแข้ง เน้นจดุ ใตส้ ะบา้ 4 น้ิวมือ
แนวขาดา้ นนอก 3 ช่วงหน้าแขง้
แนวขาดา้ นหลงั 1 ชว่ งนอ่ ง เนน้ จุดกลางนอ่ ง

252

ท่านวดและวิธีการนวด
ทา่ นวด
ผถู้ ูกนวด นอนหงาย
ผู้นวด นง่ั คุกเขา่ ข้างขาผถู้ ูกนวด

การนวดป้องกนั ตะคริว
ใช้มือข้างหนงึ่ จบั เหนอื เข่ามืออกี ข้างจับส้นเท้า ยกและดันปลายเท้าข้นึ

ใช้นิ้วหัวแมม่ ือซ้อนกนั กดแนวขาด้านนอก 2 และกดเน้นจุดใตส้ ะบา้ 4 นิว้ มือ
ใชห้ วั แม่มอื ซ้อนกนั กดแนวขาด้านนอก 3

253

ผูน้ วดนั่งปลายเท้าของผูถ้ ูกนวดผู้นวดใช้ปลายนิ้วมอื ทั้งสองข้างสาวตามแนวขาด้านหลัง 1 โดย
เนน้ จุดกลางน่อง

254

12. การนวดแกข้ อ้ เทา้ แพลง (ด้านนอก)

(ขอ้ เท้าแพลงในหา้ มนวด)

สาเหตุ
เกิดจากเอ็น พังผิด หรือกล้ามที่ยึดรอบๆ ข้อถูกยืดออก (ข้อเคล็ด) หรือมีอาการฉีดขาด (ข้อ

แพลง) เพราะหกล้ม ขอ้ บดิ ถกู กระแทรกหรอื ยกของหนกั มกั เป็นทีข่ ้อเทา้
อาการ

หลงั ข้อเท้าแพลงทนั ที จะมีอาการปวดเจบ็ ทขี่ ้อ เจ็บมากเวลาเคลอื่ นไหวข้อหรือใช้น้ิวกด ต่อมา
จะปวด แดง และรอ้ น
ขอ้ แนะนา

1. หลังการบาดเจ็บ ควรประคบด้วยน้าแข็ง หรือแช่ในน้าเย็น เพื่อให้เลือดหยุดไหลข้างใน ลด
อาการบวมและปวด ทาประมาณ 3 ครงั้ ในช่วง 24 ช่วั โมงแรก แล้วเอาผา้ พันยึดพันรอบข้อเท้า พักการ
ใช้ขอ้ นัน้ และใหย้ กข้อสูงเวลาน่ังหรือนอน

2. หลังจาก 24-48 ชั่วโมงแล้ว ควรประคบด้วยน้าร้อน หรือแช่ในน้าอุ่นครั้งละ 15-30 นาที
วนั ละ 2-3 ครงั้ อาจใช้ยาหมอ่ งทาถูหนวด และนวดบริเวณสันหน้าแข้ง และบริเวณน่องใช้ผ้าพันยึดพัน
พอแนน่ และยกข้อทีแ่ พลงใหส้ งู แล้วคอ่ ยๆ เคลอื่ นไหวบรหิ ารข้อ ให้คืนสสู่ ภาพเดิม

3. ถา้ อาการไมด่ ีข้ึนหรือสงสัยว่ากระดกู หัก หรอื ข้อเท้าแพลงดา้ นในควรสง่ โรงพยาบาล
การนวดแก้ขอ้ เท้าแพลง
***ภาพแสดงขาซา้ ย : ข้อเท้าแพลงนอก (ข้อเทา้ แพลงในห้ามนวด)

แนวขาด้านนอก 1, 2, 3 และแนวดา้ นหลัง 1, 2
แนวขานอก 1 ชว่ งหน้าแขง้
แนวขานอก 2 ช่วงหนา้ แข้ง
แนวขานอก 3 ช่วงหนา้ แข้ง
แนวขาด้านหลัง 1 และ 2 ชว่ งน่อง

ท่านวดและวธิ กี ารนวด 255

ทา่ นวด
ผู้ถกู นวด นอนหงาย หรือตะแคง แลว้ แตก่ รณี
ผู้นวด น่งั คกุ เขา่ ดา้ นข้างขาของผถู้ กู นวด

การนวดแกข้ ้อเท้าแพลง
ใชน้ ิ้วหวั แม่มอื ซ้อนกนั กดแนวขาดา้ นนอก 1 ชว่ งหน้าแข้ง

ใชน้ ้ิวหวั แม่มือซ้อนกัน กดแนวขาดา้ นนอก 2 ช่วงหนา้ แขง้
ใชน้ ้วิ หวั แม่มือซ้อนกนั กดแนวขาด้านนอก 3 ชว่ งหน้าแข้ง

256

ใช้นว้ิ หัวแมม่ อื ซ้อนกัน กดแนวขาด้านหลัง 1 ช่วงนอ่ ง
ใชน้ ิว้ หวั แม่มอื ซ้อนกัน กดแนวขาดา้ นหลงั 2 ชว่ งน่อง
กดจุดหน้าข้อเทา้

หัวแม่มอื กดจดุ เจบ็ ทีข่ ้อเท้าเบาๆ แลว้ ใชม้ อื อีกขา้ ง จบั เท้าหมุนขอ้ เท้า

257

บรรณานกุ รม

ยงศักด์ิ ตนั ตปิ ิฎก. ตาราการนวดไทย เลม่ 1. พมิ พ์คร้งั ที่ 3. มลู นิธสิ าธารณสุขกับการพฒั นา. 2550

258

บทที่ 5

การนวดไทยบาบดั แบบราชสานัก

วัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความหมาย อาการของโรคต่างๆได้
2. อธิบายขนั้ ตอนการตรวจร่างกาย ก่อนและหลงั การนวดรกั ษาโรคได้
3. อธบิ ายข้นั ตอนการนวดรักษาโรคตา่ งๆ และให้คาแนะนาทีเ่ หมาะสมได้

หวั เรื่อง
การนวดรกั ษากลุม่ โรคลมปลายปัตคาด
การนวดรกั ษากลมุ่ โรคลาบอง
การนวดรกั ษากลมุ่ โรคลมจับโปง
การนวดรกั ษากลมุ่ โรคหวั ไหล่ตดิ
การนวดรกั ษาโรคลมปะกงั
การนวดรกั ษาโรคคอตกหมอน
การนวดรกั ษาโรคตะคริวน่อง
การนวดรกั ษากลมุ่ โรคข้อเทา้ แพลง
การนวดรักษากลุ่มโรคอมั พฤกษ์ อมั พาต
การนวดรักษากลุ่มโรคสนั นิบาต
การนวดรักษากลมุ่ โรคยอกหลงั
การนวดรักษากลมุ่ โรคลมปราบ
การนวดรักษากลุ่มโรคมดลกู เคลื่อน
การนวดรักษาโรคดานเลือด
การนวดรักษาโรคดานลม
การนวดรกั ษาโรคขอ้ สะโพกเบ่ยี ง
การนวดรกั ษาโรคนวิ้ มือซน้ นวิ้ เทา้ ซน้
การนวดรกั ษาโรคพรายเลือด พรายย้า

259

การนวดไทยบาบดั แบบราชสานัก

สตู รการรักษา ในสายราชสานกั มี 5 สตู ร คอื
1. สตู รจิว๋ คอื การดงึ ดัด ยดื เส้นเอน็ ข้อต่อ หวังผลเฉพาะที่ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
2. สูตรเล็ก คือ การนวดให้เลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงเฉพาะที่ เป็นการแสดงอานุภาพของพลังใน

การนวด ให้มปี ระสิทธภิ าพในการนวดมากขนึ้ มีผลประมาณ 70-80%
3. สูตรกลาง เป็นการตกแต่งเส้น เอาจุดรองเข้ามาเสริมในสูตรเล็ก เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพข้ึน

ประมาณ 80-90% การรักษาจะตอ้ งพิจารณาอาการผปู้ ุวยและโรคเปน็ สาคัญ บางโรครักษาเฉพาะข้างท่ี
เป็นเทา่ นัน้ บางโรคทาใหเ้ กิดอาการทง้ั 2 ขา้ ง จาเป็นต้องรักษาข้างท่ีเป็นประมาณ 70-80% และข้างท่ี
มอี าการนอ้ ยกว่าประมาณ 20-30%

4. สูตรใหญ่ นวดจุดท่ีผู้ปุวยมีปัญหามาหาหมอ เช่น โรคลาบอง จะปวดไปหมดพร้อมๆกัน
หลายๆขอ้ การรกั ษาตอ้ งแก้สาเหตุของโรค และแกต้ ามจุดต่างๆ ด้วย

5. นวดเพื่อสขุ ภาพ คอื การนวดทงั้ ตวั เพอื่ ทางเลือดทางลม แต่เนน้ จดุ ทีเ่ ป็น

ขัน้ ตอนในการนวดบาบัดโรค ประกอบด้วย
1. การซักประวัติ เพ่ือให้ได้ขอ้ มูลต่างๆ
2. การตรวจรา่ งกายก่อนการนวด เพอื่ วินิจฉยั โรคและเพือ่ เปน็ เกณฑใ์ นการประเมนิ ผลการนวด
3. การนวดรกั ษา ใช้สูตรการรกั ษาต่างๆ
4. การตรวจร่างกายหลงั นวด เพอ่ื เปรียบเทียบกบั กอ่ นนวดวา่ ไดผ้ ลเปน็ อยา่ งไร
5. การให้คาแนะนาหลงั การนวด เพื่อให้ผูป้ ุวยไปปฏบิ ัตจิ ะได้เสรมิ ทาใหผ้ ลการรักษาดียิ่งขึน้

เนื้อหาเก่ยี วกบั การนวดบาบดั โรคในแตล่ ะโรค ประกอบดว้ ย
- สาเหตุ เป็นสาเหตขุ องการเกดิ โรค
- อาการ เป็นอาการแสดงของโรค
- วธิ ตี รวจ เป็นวธิ กี ารตรวจเพอ่ื ประเมนิ โรค และวนิ จิ ฉัยโรคกอ่ นการรักษา
- สตู รการรกั ษา เป็นสตู รกลางทีใ่ ช้ในการนวดทางราชสานกั
- คาแนะนา เปน็ คาแนะนาในการปฏบิ ัตติ วั หลงั การรกั ษา

260

1. กลมุ่ โรคลมปลายปัตคาด (Musculotendinous Strain / Back Pain /
Myofascial pain syndrome)

เป็นโรคลมชนิดหน่ึงเกิดจากการแข็งตัวของเลือด สามารถเป็นได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น
กล้ามเนอื้ เสน้ เอน็ เย่ือหุ้มกระดกู ริมหัวตอ่ กระดกู ยกเวน้ ตวั กระดูก
ลักษณะอาการ

มอี าการปวดเสียว อาจมีบวม แข็งเป็นก้อน เป็นลา หรือไม่บวมก็ได้ ไม่มีความร้อน หรืออาจมี
ความร้อนไดเ้ ลก็ นอ้ ย
การตรวจวนิ ิจฉยั

ตามอาการและตาแหน่งทโ่ี รคเกดิ
หลักการรักษา

ทาให้กล้ามเนื้อคลายตัว เพื่อให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นดีขึ้น โดยการนวดพื้นฐานและนวด
สัญญาณ 1-5 แลว้ แต่กรณีของโรคทีเ่ กดิ
คาแนะนา

1. งดอาหารแสลง เช่น
- ข้าวเหนียว ทาใหเ้ ลือดตกตะกอน
- หน่อไม้ มีสารผลึกรปู เขม็ (Calcium oxalate) ทาให้แคลเซยี มไอออนตกตะกอน
- เหล้า เบยี ร์ ทาใหเ้ ลือดเกิดภาวะเป็นกรด เมอื่ ผา่ นข้อจะกัดข้อต่อ
- เครอ่ื งในสัตว์ มกี รดยรู ิกสูง ทาให้ตกผลกึ ยเู รีย
- ยาแก้ปวด ชว่ ยระงับความปวด ทาใหผ้ ู้ปวุ ยใชง้ านอวัยวะทมี่ ีปัญหาหนักเกนิ กาลงั

2. ประคบความรอ้ นชน้ื ความรอ้ นทาให้กล้ามเน้ือคลายตวั และเลอื ดมาเล้ยี งมากข้นึ
3. ท่าบริหาร โดยยืดกล้ามเนื้อมัดที่มีปัญหา ทาให้กล้ามเน้ือคลายตัวจากการหดเกร็งและเพ่ิม
ความแขง็ แรงให้กับกล้ามเนือ้
4. ห้ามบิด ดัด สลัด ข้อต่อที่มีปัญหา เพราะอาจทาให้ข้อต่อเคล่ือน หรือมีการฉีกขาดของ
เนอื้ เย่อื
โรคลมปลายปัตคาดทพ่ี บบ่อยๆ
- ลมปลายปตั คาดสญั ญาณ 1 และ 3 หลัง
- ลมปลายปัตคาดสัญญาณ 4 และ 5 หลงั
- ลมปลายปัตคาดบ่า และเสน้ โคง้ คอ
- ลมปลายปัตคาดขอ้ ศอก
- ลมปลายปัตคาดขอ้ มอื และน้ิวมอื
- ลมปลายปตั คาดข้อเทา้ และสน้ เท้า
โรคลมปลายปัตคาด พบไดต้ ามอวยั วะต่างๆ เรยี กชื่อโรคทเี่ กิดตามตาแหน่ง ดงั ตอ่ ไปนี้

261

1.1 ลมปลายปตั คาดสญั ญาณ 1 หลงั
(Myofascial pain syndrome of LS-S1 paraspinal muscle /

Back Pain / Lower Back Pain)

สาเหตุ
1. เกดิ จากท่าทางอิริยาบถไม่ถูกต้อง เช่น การนัง่ การยืน
2. การใช้งานมากเกินกาลงั
3. การนอนทนี่ อนนมุ่ หรือแข็งเกินไป
4. ความเครียดทางจติ ใจ ทาใหก้ ล้ามเนื้อหลงั เกร็ง
5. อุบตั เิ หตุ เช่น หกลม้ กระทบกระแทกบริเวณหลัง
6. เกดิ จากความเสือ่ มของกระดูกสนั หลงั

อาการ
ปวดหลัง บริเวณบ้นั เอวหรอื กระเบนเหน็บ อาจพบปวดเสียวร้าวชาไปท่ีสะโพก ก้นย้อย ต้นขา

ลงมาถึงหัวเข่า เวลาเดนิ เขา่ เปล้ีย เข่าทรุด เขา่ ไมม่ กี าลัง ปวดใตห้ ัวเขา่ กไ็ ด้ แตอ่ าการปวดจะไมเ่ ลยเขา่
วิธีตรวจ

1. วดั ส้นเทา้ ขา้ งทเี่ ป็นจะส้นั
2. งอพับเขา่ เป็นเลข 4 เวลากดไมล่ งพนื้ จะต้านมือ
3. ดูแนวกระดูกสันหลังวา่ มคี ด ทรดุ เอยี งหรอื ไม่
4. ดอู ุณหภมู ิความร้อน-เยน็
5. ตรวจหาจดุ เจ็บ ดูความแขง็ เกรง็ ของกล้ามเนือ้ หลงั พบจดุ เจบ็ ตรงสัญญาณ 1 หลัง
สตู รการรักษา
1. นวดพน้ื ฐานขา ข้างที่เปน็ เปดิ ประตูลม
2. นวดสัญญาณ 1, 2, 3 หลงั เน้นสัญญาณ 1
3. นวดสญั ญาณ 1, 2, 3 ขาดา้ นนอก เนน้ สัญญาณ 3
4. นวดสัญญาณ 1, 2 ขาดา้ นใน เน้นสญั ญาณ 2
5. ตรวจหลังการรกั ษา
คาแนะนา
1. ประคบความร้อนช้นื ทหี่ ลัง สะโพก ขาด้านในและนอก
2. หา้ มบดิ ดัด สลัดขา และหลังท่รี ุนแรง
3. หลกี เล่ยี งอาหารและพฤติกรรมที่ทาให้เกิดโรค เช่น ยนื นานๆ เดนิ นานๆ ยกของหนัก
4. พักผ่อนใหเ้ พียงพอ
5. ทา่ บรหิ าร

- ทา่ ยนื เขยง่ ปลายเท้า
- ทา่ เกร็งกล้ามเนื้อหนา้ ท้อง ยกศรี ษะมองปลายเท้า หรอื ทา่ เกรง็ กลา้ มเนือ้ หลัง บดิ ตวั
6. นวดอาทติ ย์ละ 1-2 ครั้ง

262

1.2 ลมปลายปัตคาดสญั ญาณ 3 หลงั
(Myofascial pain syndrome of L3 paraspinal muscle /

Herniated intervertebral disk / Lower Back Pain)

สาเหตุ
1. เกดิ จากท่าทางอริ ิยาบถไมถ่ ูกต้อง เช่น การนง่ั การยืน
2. การใชง้ านมากเกินกาลัง
3. การนอนท่นี อนนุ่ม หรือแข็งเกินไป
4. ความเครยี ดทางจิตใจ ทาใหก้ ล้ามเนือ้ หลงั เกรง็
5. อุบตั เิ หตุ เชน่ หกลม้ กระทบกระแทกบริเวณหลัง
6. เกิดจากความเส่ือมของกระดกู สันหลัง

อาการ
ปวดหลงั รา้ วชามาทขี่ า ปลนี อ่ ง ฝุาเท้า น้ิวเท้า โดยเฉพาะน้ิวโปงู เทา้ จะไมม่ ีแรง ทาให้ขาไมม่ ีแรง

วธิ ีตรวจ
1. วัดสน้ เทา้ ข้างทเ่ี ป็นจะยาว
2. งอพับเข่าเป็นเลข 4 เวลากดขาสามารถลงได้ตดิ พืน้
3. ดูแนวกระดูกสันหลังวา่ มคี ด ทรดุ เอยี ง หรือไม่
4. ดูอณุ หภมู คิ วามร้อน-เย็นหรือไม่
5. ตรวจหาจุดเจ็บ ดูความแขง็ เกร็งของกลา้ มเน้ือหลงั พบจุดเจบ็ แข็งเกร็งบริเวณสญั ญาณ 3 หลงั

สตู รการรักษา
1. นวดพ้นื ฐานขา ขา้ งที่เป็น เปิดประตลู ม
2. นวดสญั ญาณ 1, 2, 3 หลัง เน้นสญั ญาณ 3
3. นวดสัญญาณ 1, 2, 3 ขาดา้ นนอก เนน้ สัญญาณ 2
4. นวดสัญญาณ 1, 2 ขาด้านใน เน้นสัญญาณ 1
5. ตรวจหลงั การรักษา

คาแนะนา
1. ประคบความร้อนชืน้ ทห่ี ลัง สะโพก ขาดา้ นในและนอก
2. หา้ มบิด ดัด สลดั ขาและหลงั ที่รนุ แรง
3. หลีกเลยี่ งอาหารและพฤติกรรมที่ทาให้ปวดหลงั เช่น ยนื นานๆ การยกของหนกั
4. พักผ่อนให้เพยี งพอ
5. ทา่ บริหาร
- ท่ายืนเขยง่ ปลายเท้าข้างเดียว
- ทา่ เกรง็ กล้ามเนื้อหน้าท้อง ยกศีรษะมองปลายเทา้
- ท่าเกรง็ กลา้ มเน้ือหลงั บิดตวั
6. นวดอาทติ ยล์ ะ 1-2 คร้ัง

263

1.3 ลมปลายปัตคาดสญั ญาณ 4 หลัง
(Myofascial pain syndrome of T1 paraspinal muscle /

Muscle Strain as Trapezius / Upper Back Pain)

มกั เกดิ รว่ มกบั สัญญาณ 5 หลงั หรือไหลต่ ิดหรอื ร่วมกนั ท้งั หมด
สาเหตุ

เกิดจากการแข็งตัวของเลือดบริเวณบ่าและสัญญาณ 4 หลัง เนื่องจากท่าทางในการทางาน
อิริยาบถต่างๆ ไม่ถูกต้อง ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ อุบัติเหตุ มีการกระทบกระแทกและความ
เสื่อมของกระดกู คอ
อาการ

ปวดตึง คอ กล้ามเน้ือบ่าและสะบัก อาจพบอาการปวด ร้าวชาลงแขนด้านนอกและปลายน้ิว
ดา้ นน้ิวนางและนว้ิ กอ้ ยปวดต้นคอ คอแข็ง หัวไหล่ ปวดร้าวลงแขนท่อนล่างไปถึงน้ิวหัวแม่มือ และน้ิวชี้
หายใจขดั หายใจไมเ่ ต็มอม่ิ
วิธตี รวจ

1. ก้มหน้าคางชดิ อก ดูกล้ามเนอื้ บา่ ตน้ คอ มีอาการแขง็ เกร็ง
2. เงยหน้ามองเพดาน สงั เกตดูโหนกแก้ม ขา้ งทเ่ี ป็นสูงหรือต่า

- ถ้าโหนกแก้มข้างท่ีเป็นสูง แสดงว่าหินปูนเกาะ ให้นวดเน้นสัญญาณ 4 และ 5
ดา้ นบน

- ถ้าโหนกแก้มข้างท่ีเป็นต่า แสดงว่าหมอนรองกระดูกทรุดตัว ให้นวดเน้นสัญญาณ 4
และ 5 ด้านลา่ ง
3. เอยี งหูชดิ ไหล่ซา้ ย-ขวา ข้างทเ่ี ปน็ จะไม่ไดอ้ งศา
4. หันศีรษะไปทางซ้าย-ขวา ข้างท่ีเป็นจะหันได้น้อย หันไม่ได้องศา มีอาการปวดตึงกล้ามเน้ือ
คอ และบา่ ชาออกน้ิวโปงู และน้วิ ช้ี
5. สงั เกตดูแนวกระดกู ตน้ คอ ว่ามีความผดิ ปกตหิ รือไม่ ตรงหรือคด เปรยี บเทียบระดับสะบักทั้ง
2 ข้าง
6. กดคลากล้ามเน้อื ทงั้ 2 ข้าง หาจุดเจบ็
สตู รการรกั ษา
1. นวดพืน้ ฐานบา่ ข้างทีเ่ ป็น
2. นวดสญั ญาณ 4, 5 หลงั เน้นสญั ญาณ 4
3. นวดสัญญาณ 4 หัวไหล่
4. ตรวจหลงั การรักษา
หมายเหตุ ถา้ มีหินปนู เกาะ ต้องนวดด้วยความระมดั ระวัง ขอ้ ต่อกระดูกมปี ัญหา
คาแนะนา
1. ประคบความรอ้ นช้นื 15-20 นาที เชา้ -เยน็
2. งดอาหารแสลง

264

3. ห้ามบิด ดัด สลัดแขน คอ
4. พักผอ่ นให้เพียงพอ
5. หลีกเลีย่ งพฤติกรรมที่ทาใหเ้ กดิ อาการปวด
6. ไมน่ อนทบั ไหลข่ ้างทีเ่ ปน็
7. บรหิ ารกล้ามเนอ้ื ไหล่

- ก้ม-เงย ศีรษะ ท่ามือประสานกดบนศีรษะ กดลง บีบศอกเข้า แหงนหน้าเอามือ
ประคอง ชอ้ นใต้คางดันขึ้นใหต้ ึง ตน้ คอเงยมองเพดาน ทา 3 ชดุ

- หนั หน้าซา้ ยใช้มือขวาชว่ ยดนั หันหนา้ ขวาใชม้ ือซ้ายชว่ ยดัน ใหส้ ดุ จนตึง ทา 3 ชุด
- ท่าโหนรถเมล์ เกรง็ กล้ามเนือ้ ต้นคอ บา่ สลับกนั 5 ชุด
- ทา่ แกว่งแขน ชแู ขนแนบศรี ษะ แล้วท้ิงแขนให้ผา่ นลาตวั ไปดา้ นหลงั 10-20 ครัง้
8. นดั นวดอาทิตละ 2 ครัง้ ถา้ เป็นลาบองร่วมดว้ ย นวดวันเว้นวัน

1.4 ลมปลายปัตคาดสญั ญาณ 5 หลัง
(Myofascial pain syndrome of C7 paraspinal muscle /

Tension Headache / Upper Back Pain)

มกั เกดิ รว่ มกับสญั ญาณ 4 หลงั และลมปลายปัตคาดโค้งคอ หรือไหลต่ ดิ อาจเปน็ รว่ มกนั ทั้งหมดก็ได้
สาเหตุ

เกิดจากการแข็งตัวของเลือดบริเวณบ่าและสัญญาณ 5 หลัง เน่ืองจากท่าทางในการทางาน
อิริยาบถต่างๆไม่ถูกต้อง ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ อุบัติเหตุ มีการกระทบกระแทก และความ
เสอ่ื มของกระดกู คอ กระดกู ทรดุ กระดูกงอก หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อน
อาการ

ปวดกล้ามเนื้อบ่า ปวดร้าวลงสะบักด้านใน ปวดต้นคอ อาจพบร้าวชาออกแขนด้านใน มึนงง
เวยี นศรี ษะ ปวดศรี ษะ ปวดหลังและด้านขา้ งตน้ คอ ร้าวขึ้นกกหู ขมับ ปวดกระบอกตา ปวดร้าวไปกลาง
ศีรษะจากทา้ ยทอยไปทัว่ ศีรษะออกตามองไมช่ ัด ขลี้ ืม
วธิ ตี รวจ

1. ก้มหนา้ คางชิดอก ดูกลา้ มเนื้อบ่า ต้นคอ มอี าการแข็งเกรง็
2. เงยหนา้ มองเพดาน สังเกตดูโหนกแกม้ ข้างทเี่ ปน็ สูงหรอื ตา่

- ถ้าโหนกแก้มข้างท่ีเป็นสูง แสดงว่าหินปูนเกาะให้นวดเน้นสัญญาณ 5 และ 4
ด้านบน

- ถ้าโหนกแก้มข้างที่เป็นต่า แสดงว่าหมอนรองกระดูกทรุดตัว ให้นวดเน้นสัญญาณ 5
และ 4 ดา้ นลา่ ง
3. เอียงหูชิดไหลซ่ ้าย-ขวา ข้างทเี่ ป็นจะไมไ่ ด้องศา

265

4. หันศีรษะไปทางซ้าย-ขวา ข้างที่เป็นจะหันได้น้อย หันไม่ได้องศา มีอาการปวดตึงกล้ามเน้ือ
คอ และบ่า ชาออกนิ้วโปงู และนิว้ ช้ี

5. สงั เกตดแู นวกระดกู ต้นคอ ว่ามคี วามผิดปกตหิ รือไม่ ตรงหรือคด เปรียบเทยี บระดับสะบักท้ัง
2 ขา้ ง

6. กดคลากลา้ มเนื้อทง้ั 2 ข้าง พบจดุ เจบ็
สตู รการรกั ษา

1. นวดพนื้ ฐานบา่ ข้างทเี่ ปน็
2. นวดสญั ญาณ 4, 5 หลัง เน้นสัญญาณ 5
3. นวดสญั ญาณ 4 หัวไหล่
4. ตรวจหลงั นวด
คาแนะนา
1. ประคบความร้อนช้นื 15-20 นาที เช้า-เย็น
2. งดอาหารแสลง
3. ห้ามบิด ดัด สลดั แขน คอ
4. พักผ่อนใหเ้ พยี งพอ
5. หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมท่ีทาให้เกดิ อาการปวด
6. ไมน่ อนทับไหล่ข้างทีเ่ ป็น
7.บริหารกล้ามเน้อื ไหล่

- ก้ม-เงย ศีรษะ ท่ามือประสานกดบนศีรษะ กดลง บีบศอกเข้า แหงนหน้าเอามือ
ประคอง ชอ้ นใต้คางดันขึ้นใหต้ ึง ต้นคอเงยมองเพดาน ทา 3 ชุด

- หนั หนา้ ซา้ ยใช้มือขวาช่วยดนั หนั หน้าขวาใช้มอื ซ้ายชว่ ยดัน ให้สุดจนตึง ทา 3 ชุด
- ท่าโหนรถเมล์ เกรง็ กลา้ มเนือ้ ตน้ คอ สลบั กนั 5 ชดุ
- ทา่ แกว่งแขน ชแู ขนแนบศรี ษะ แลว้ ทิง้ แขนให้ผ่านลาตัวไปดา้ นหลงั 10-20 ครง้ั
8. นัดนวดอาทติ ย์ละ 2 คร้งั ถา้ เป็นลาบองร่วมดว้ ย ใหน้ วดวนั เวน้ วนั

1.5 ลมปลายปัตคาดเส้นโคง้ คอ
(Cervicalgia / Neck sprain)

สาเหตุ
1. เกิดจากท่าทางอริ ิยาบถไมถ่ ูกต้อง เช่น นงั่ คอเอียง คอไม่ตรง
2. ความเครียดของกลา้ มเน้ือต้นคอ
3. ความเส่ือมของกระดูกตน้ คอ

266

อาการ
คอแข็ง ทรงศีรษะไม่อยู่ กล้ามเน้ือต้นคอไม่มีกาลัง ก้ม-เงย หรือเอียงคอ มีอาการตึง ปวดต้น

คอ ปวดศรี ษะ ปวดกระบอกตา ตากระตุก หูอื้อ อาจพบขัดยอกที่ข้อต่อหัวไหล่ หรือโรคหัวไหล่ติดร่วม
ดว้ ย ปวดชาตน้ แขน ชาปลายน้วิ
วิธตี รวจ

1. กม้ หน้าคางชิดอกไมไ่ ดอ้ งศา
2. หาตาแหน่งท่เี จ็บ ดูกล้ามบ่า โคง้ คอ แขง็ เปน็ ลา บวม
3. สังเกตดูแนวกระดกู ตน้ คอและหวั ดมุ ไหล่
4. เงยหน้าไม่ได้องศา เนื่องจากกล้ามเน้ือคอเกร็ง ให้ตรวจกระดูกคอร่วมด้วย อาจพบร่วมกับ
โรคสญั ญาณ 4, 5 หลงั
5. เอียงหชู ดิ ไหล่ เพ่ือดอู งศาและความตึงตวั ของกล้ามเนื้อ
สูตรการรกั ษา
1. นวดพ้ืนฐานบ่าข้างท่เี ป็น
2. นวดสัญญาณ 4, 5 หลัง
3. นวดเส้นโค้งคอ
4. นวดหวั ไหล่สญั ญาณ 4
คาแนะนา
1. ประคบความร้อน เช้า-เยน็ ประมาณ 10-15 นาที
2. งดอาหารแสลง เช่น ข้าวเหนยี ว หน่อไม้ เครอ่ื งในสตั ว์ เหลา้ -เบยี ร์ และยาแก้ปวด
3. ห้าม บิด ดดั สลัดคอ ท่ีรนุ แรง และหลีกเลีย่ งสาเหตทุ ่ที าใหม้ ีอาการปวด
4. ท่าบรหิ าร

- ทา่ ดงึ แขนชูแขน 3 จงั หวะ
- ท่ากม้ -เงยศรี ษะ
- ท่าเอยี งหูชดิ ไหลซ่ า้ ย-ขวา

1.6 ลมปลายปตั คาดขอ้ มอื
(Carpal Tunnel Syndrome; CTS)

สาเหตุ
1. เกิดจากการแขง็ ตัวของเลอื ด การคัง่ การอน้ั ของเลอื ดทบี่ ริเวณข้อมือ
2. บรเิ วณข้อมือมีพังผืดรัด เป็นเหตุทาให้รัดเส้นประสาทที่ข้อมือ ที่ทาหน้าท่ีเหยียดนิ้วมือและ

ขอ้ มือ มีการทางานทีผ่ ดิ ปกติไปจากเดิม
3. เกิดจากการทางานใชข้ ้อมอื มากเกินไป
4. เกิดจากอบุ ัติเหตบุ รเิ วณขอ้ มอื
5. เกิดจากความเสอ่ื มของกระดกู ข้อมือ

267

อาการ
มีอาการปวด ตึง และร้าวชาบริเวณข้อมือ ฝุามือ น้ิว และน้ิวมือไม่มีกาลัง อาจปวดบวม

บรเิ วณฝาุ มือและนิ้วมือร่วมด้วย มีอาการปวดชาตอนกลางคืน ทาให้ต้องต่ืนกลางดึก ปวดตอนตื่นนอน
ตอนเช้า ตอนสายๆ ขยับมอื แล้วอาการดขี ึ้น และขณะหยบิ ของหลน่ ไมร่ ูต้ ัว
วิธตี รวจ

1. ดูสีผิว การบวม ลีบของกล้ามเนื้อ เปรียบเทียบความร้อน เย็นของมือทั้ง 2 ข้าง กดหาจุด
เจบ็ ท่บี รเิ วณขอ้ มอื และนิว้ มอื

2. เขยื้อน โดยการหมนุ ขอ้ มอื ขา้ งทเี่ ปน็ จะฝืด
3. ดอู งศา ให้กระดกข้อมอื ขึน้ ลง เปรียบเทียบกนั ทั้ง 2 ขา้ ง โดยดูจากด้านขา้ ง
4. ทดสอบกาลงั ให้บบี น้ิวมือผนู้ วดพรอ้ มกนั สกั พกั หน่ึง มือทบี่ บี จะคลายออก
5. ทดสอบกาลังข้อนิ้ว ให้ผู้ปุวยคีบนิ้วทีละ 2 นิ้ว เช่น นิ้วโปูงกับน้ิวชี้ นิ้วโปูงกับน้ิวกลาง
นิ้วโปูงกับนิ้วนาง ทดสอบพร้อมกัน 2 ข้าง โดยบีบท่ีน้ิวผู้นวดขณะคีบ ให้ผู้นวดพยายามดึงน้ิวมือท่ีถูก
คีบออก
สูตรการรักษา
1. นวดพ้นื ฐานแขนดา้ นใน
2. นวดสญั ญาณ 1-5 แขนดา้ นใน เน้นสญั ญาณ 4, 5 และสัญญาณแยกขอ้ มอื
3. นวดพื้นฐานแขนดา้ นนอก
4. ตรวจหลงั การรกั ษา

ภาพแสดง การเขย้อื นดงึ ยืดข้อมือ
คาแนะนา

1. ประคบความร้อนสมุนไพร เชา้ -เยน็ ประมาณ 10-15 นาที
2. งดอาหารแสลง ข้าวเหนยี ว หน่อไม้ เคร่อื งในสตั ว์ ของหมกั ดอง เหล้าเบียร์ ยาแกป้ วด
3. หา้ ม บิด ดัด สลดั แขน
4. หา้ มนอนทบั ขอ้ มือขา้ งท่ีเจบ็ และห้ามหิ้วของหนัก
5. ทา่ บริหาร ดึงแขนทา้ วแขน 3 จังหวะ กระดกข้อมอื ขึน้ -ลง
6. นวดอาทติ ย์ละ 1-2 คร้ัง

268

1.7 ลมปลายปัตคาดขอ้ ศอก
(Lateral epicondylitis / Tennis elbow)

สาเหตุ
1. จากการอุบัติเหตุ บริเวณข้อศอกถูกกระทบกระแทก เช่น นักกีฬาเทนนิส แบดมินตัน

(สะบัดขอ้ มือในทา่ กามอื และกระดกข้อมือข้ึน)
2. มีพังผดื รดั บริเวณขอ้ ศอก
3. ใช้งานข้อศอกนานหรือมากเกินไป เช่น ห้ิวของหนักเป็นเวลานานๆ แม่ค้าส้มตา แม่ครัว

ชา่ งเย็บเส้อื ผ้า คนขบั รถ
4. เกดิ จากการแขง็ ตัวของเลอื ด การคั่งการอัน้ ของเลอื ดท่บี รเิ วณข้อศอก
5. ความเสอ่ื มของกระดกู ข้อศอก มหี ินปนู เกาะ

อาการ
บวมอักเสบท่ีข้อศอก ปวดข้อศอก โดยเฉพาะตอนคว่ามือ และหงายมือ ร้าวไปที่หัวไหล่

ปวดรา้ วไปตามดา้ นหลงั ของแขนทอ่ นลา่ งลงไปจนถึงหลังมอื ข้อมือ และนิ้วมือ อาจทาให้ปวดศีรษะข้าง
เดียวกับท่ีมีอาการ อาจพบเจ็บปวดและอ่อนแรง เมื่อมีการกามืออย่างแรงอาจทาให้มีอาการน้ิวมือแข็ง
บางครั้งมีอาการชาบริเวณมือ และแขนท่อนล่าง ซ่ึงจะพบจุดเจ็บชัดเจน แต่ก็ต้องพิจารณาว่าอาจจะมี
การเจบ็ จากสาเหตุอื่นดว้ ยกไ็ ด้
วิธีตรวจ

1. ดูลกั ษณะบรเิ วณข้อศอก (โดยให้ผู้ปุวยงอศอกเล็กนอ้ ย) ตรวจดใู นเร่อื ง
- สผี ิว (แดง เขียว หรอื คล้า)
- การบวม ลีบ (เปน็ นานๆ กลา้ มเน้ือมักจะลีบ)
- ความร้อน
- หาจดุ เจ็บ กดหาจดุ เจบ็ จะพบจุดเจ็บชดั เจน

2. ดูองศา ประคองศอกให้งอเล็กน้อย ให้กามือแล้วทาท่าคว่ามือ หงายมือ จะเจ็บท่ีศอก ทา
ไม่ไดอ้ งศา

3. ทดสอบกาลัง ให้ผู้นวดประคองศอก และประสานมือกับมือผู้ปุวยในท่าเช็คแฮนด์ แล้วให้
ออกแรงต้านในทา่ ควา่ มอื หงายมือ ผปู้ วุ ยจะเจบ็ ตา้ นแรงได้ไมเ่ ต็มท่ี

4. ทดสอบกาลงั ขอ้ นิ้ว ดูว่ากลา้ มเนือ้ มัดไหนเจ็บ โดยใหผ้ ปู้ วุ ยคบี มอื ผู้นวด โดยใช้นิ้วทลี ะ 2 น้ิว
คือ นวิ้ โปงู กบั น้วิ ช้ี น้ิวโปงู กับน้วิ กลาง นว้ิ โปูงกับน้วิ นาง นิ้วโปงู กบั น้วิ ก้อย มักจะเจ็บทีน่ ว้ิ ชก้ี ับนว้ิ กลาง

โรคลมปลายปัตคาดข้อศอก ถ้ามีอาการกล้ามเน้ือลีบ กล้ามเนื้อจะลีบบริเวณข้อศอก แต่ถ้า
กลา้ มเนือ้ ลบี ตรงนว้ิ มือ จะมีพยาธิสภาพเกย่ี วกบั กระดกู คอ หรือสัญญาณ 4 คอ
สตู รการรักษา

1. นวดพน้ื ฐานแขนดา้ นใน
2. นวดสญั ญาณ 1-5 แขนดา้ นใน เนน้ สญั ญาณ 2, 3

269

3. นวดพนื้ ฐานแขนดา้ นนอก
4. นวดสัญญาณ 1-5 แขนดา้ นนอก เน้นสัญญาณ 3, 4 เขยือ้ นเอน็ พังผดื บริเวณขอ้ ศอก
5. ตรวจหลังการรกั ษา

ภาพแสดง การเขยอ้ื นพังพดื ขอ้ ศอก
คาแนะนา

1. ประคบความร้อนสมุนไพร 10-15 นาที เช้า-เยน็
2. พักการใชง้ าน และ หา้ มห้วิ ของหนกั
3. งดอาหารแสลง ข้าวเหนียว หนอ่ ไม้ เครอ่ื งในสัตว์ ของหมกั ดอง เหล้าเบยี ร์ ยาแก้ปวด
4. ห้าม บิด ดดั สลัด แขน และ ห้ามนอนทบั ขอ้ ศอก ข้างทีเ่ ป็น
5. ท่าบริหารแขน

- ดงึ แขน 3 จังหวะ
- เทา้ แขน 3 จังหวะ

1.8 ลมปลายปัตคาดส้นเทา้
(Plantar fasciitis / Plantar fascial fibromatosis)

สาเหตุ
1. เกิดจากการไหลเวียนโลหติ บริเวณสน้ เท้า มกี ารแข็งตัวของเลือด มีการคั่งการอั้นของเลือด
2. บริเวณสน้ เทา้ มพี งั ผืด ซ่ึงเปน็ สาเหตุไปรัดเสน้ ประสาทที่บริเวณส้นเท้า
3. เกิดจากการใช้เทา้ มาก เชน่ เดนิ มาก
4. เกิดจากการอกั เสบของสน้ เทา้ เช่นการเล่นกฬี า กระโดดจากที่สูง
5. เกิดจากความเลอ่ื มของกระดูกสน้ เท้า

อาการ
ปวดส้นเท้าโดยเฉพาะเวลาต่ืนนอนตอนเช้า เวลาเดินเจ็บบริเวณส้นเท้า ถ้าเป็นรุนแรงจะเจ็บ

ส้นเทา้ ตลอดเวลา เดินกะเพลก บางครัง้ ปวดรา้ วไปท่ีขอบเท้าและเอน็ รอ้ ยหวาย

270

วิธีตรวจ
1. วดั ส้นเท้าทั้ง 2 ขา้ ง พบขา้ งทีเ่ ป็นจะสนั้
2. กระดกปลายเทา้ ขน้ึ -ลง ไม่ได้องศา
3. ทดสอบกาลงั โดยออกแรงถบี เท้า ข้างที่เป็นจะมกี าลงั น้อย
4. คลาจุดเจบ็ และตาแหน่งท่กี ดเจ็บจะเป็นกอ้ นแขง็

สตู รการรักษา
1. นวดพนื้ ฐานขา เปิดประตูลม
2. นวดเนน้ ข้อเทา้
3. นวดพน้ื ฐานขาด้านนอก
4. นวดสญั ญาณ 1-5 ขาด้านนอก เน้นสญั ญาณ 5
5. นวดพืน้ ฐานขาด้านใน
6. นวดสญั ญาณ 1-5 ขาดา้ นใน เนน้ สัญญาณ 2-5
7. นวดเดินเส้นที่เกย่ี วขอ้ งและรอบจดุ เจ็บ
6. ตรวจหลังการรักษา

คาแนะนา
1. ประคบความร้อน เช่น ใช้ใบพลับพลึงปิ้งไฟให้ร้อนพอประมาณแล้วน้ามาหุ้มส้นเท้าข้างที่

เจ็บ หรอื ใชห้ วั ไชโปฺวเผาไฟแล้วเหยียบ เปน็ ต้น
2. งดอาหารแสลง ขา้ วเหนยี ว หนอ่ ไม้ เครอ่ื งในสตั ว์ ของหมกั ดอง เหล้าเบียร์ ยาแก้ปวด
3. ทาใหเ้ ท้าอบอุ่น ไม่ให้ถกู ความเยน็
4. ทา่ บรหิ าร ยืนเขย่งปลายเทา้ 5 คร้งั ทาเช้า-เย็น หรอื ท่าอืน่ ๆ ตามความเหมาะสม

1.9 ลมปลายปตั คาดขอ้ นิ้วมือ / น้ิวไกปนื
(Trigger finger)

สาเหตุ
1. ใช้งานหนักเป็นประจา เชน่ การตาสม้ ตา การห้วิ ของหนกั เป็นประจา เป็นการอกั เสบของข้อ

น้ิวโดยตรง
2. ความเสือ่ มของร่างกาย ไขมันฝุามือหายไปหรือฝุอตัวลง เอ็นเกิดพังผืด เส้นเอ็นถูกพังผืดรัด

เห็นเอน็ เป็นลา ความเสือ่ มมักพบในผู้หญงิ มากกว่าผูช้ าย มักเป็นทีละนิ้ว
3. ในเดก็ มกั เกดิ จากการเจริญของปลอกเอ็น และเอ็นไม่สมั พนั ธ์กัน ชอบดดู นวิ้
อาการ แบง่ เปน็ 3 ระยะ คือ
- ระยะที่ 1 มีการอักเสบท่ีโคนข้อนิ้ว ข้อต่อจะมีอาการเหยียดฝืด ตึงมือ จากปลอกหรือข้อ

เคลือบเอน็ อักเสบ
- ระยะท่ี 2 กา เหยียดจะมีเสยี งดงั

271

- ระยะท่ี 3 นิ้วแข็ง งอไม่เข้า เหยียดไม่ตรง ฝุามือแห้ง เอ็นลอยขึ้นเห็นแข็งเป็นลา เป็นทีละ
หลายน้ิว

ถา้ เป็นนว้ิ โปงู จบั นิ้วโปูงลงไม่ได้ ไมม่ ีแรง คล้ายเอน็ โคนมืออักเสบ คือนิ้วโปูงจะไม่มีแรง บีบนิ้ว
ไมค่ ่อยได้
วธิ ีตรวจ

1. ดูการลบี ของมอื (ไขมนั จะแหง้ ไป) ดูสี ความร้อน
2. ตรวจหาจุดเจ็บ
3. คลาบรเิ วณโคนน้ิว ถา้ เป็นจะพบจะงอย เปน็ กอ้ นโปนขึ้นมา
4. ดูองศาของการเคลอ่ื นไหว โดยให้กามือ เหยียดนิว้
5. ทดสอบแรงกา และแรงเหยียด
สูตรการรักษา
มีวิธกี ารรกั ษาหลายสตู ร ดังน้ี

1. สตู รรักษาน้วิ ไกปืนน้วิ โปูง
2. สูตรรกั ษานิว้ ไกอกั เสบ
3. สูตรรกั ษานว้ิ ไกเรอื้ รงั
สูตรรักษานวิ้ ไกปนื นิ้วโป้ง
1. นวดพ้ืนฐานแขนดา้ นในสัญญาณ 1-5 เนน้ สัญญาณ 4, 5
2. แยกข้อมือ 5 จุด และจุดใจกลางฝุามือนวดรอบจุดโคนข้อน้ิวท่ีเป็น 5 จุด (ภาพ) กดดันเข้า
หาเดือย 3 รอบ
3. นวดพ้นื ฐานแขนด้านนอก 2 รอบ
4. ตรวจหลงั การรักษา
สูตรรกั ษานิ้วไกปนื อักเสบ
1. นวดพื้นฐานแขนดา้ นใน สัญญาณ 1-5
2. แยกขอ้ มอื 5 จดุ และจุดใจกลางฝุามือ
3. นวดพ้นื ฐานแขนด้านนอก
4. ตรวจหลงั การรักษา
ถ้านวดแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือมีปัญหานิ้วค้าง ดัดดังแก๊กเล็กน้อย (หรือไม่ดังแต่ติดค้าง) ให้ค่อยๆ
นวดตรงจุดเจ็บท่ีโคนขอ้ นิ้วและ 5 จุดข้อน้ิวมือที่เริ่มติดนั้น

ภาพแสดง 5 จดุ ข้อน้วิ มือ ขอ้ ทโี่ คนขอ้ น้ิว (ก) ข้อนว้ิ ท่ี 2 (ข)

272

สูตรรกั ษานว้ิ ไกปืนเร้ือรัง
1. นวดพื้นฐานแขนดา้ นในสัญญาณ 1-5 (2 รอบ)
2. แยกขอ้ มอื 5 จุด และจุดใจกลางฝุามือนวดรอบจุดโคนข้อน้ิวที่เป็น กดดันเข้าหาเดือย นวด
5 จุดขอ้ นิ้วมอื ท่ีเร่มิ ติด
3. ดึง ยืด ข้อโคนนิว้ (มือหนง่ึ จับฝาุ มือ อีกมอื จบั บรเิ วณข้อนิ้วมือ แลว้ ดงึ ยดื ขอ้ นิ้วมือตรงๆ)
4. นวดพ้นื ฐานแขนดา้ นนอก 2 รอบ
5. ตรวจหลงั การรักษา
คาแนะนา
1. ประคบความรอ้ นช้ืน
2. งดอาหารแสลง
3. บรหิ ารให้กามอื เหยยี ดนว้ิ
4. นวดอาทิตย์ละ 1 -2 ครั้ง

2. กลมุ่ โรคลาบอง (Low back pain with inflammation)

ลาบอง เป็นโรคในตระกูลของลมชนิดหนึ่ง เกิดจากอาหารและอากาศ ทาให้เลือดตกตะกอน
ตามข้อกระดูก ทาให้ข้อต่ออักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน มีน้าในข้อ มักเกิดเป็นกับหัวข้อต่อกระดูก
เทา่ น้นั เปน็ ได้กบั ทุกหวั ข้อต่อของร่างกาย ถา้ อกั เสบมีไข้ เรียกว่า ไข้ลาบอง จะกาเริบตอนปลายฝนต้น
หนาวการนวดต้องทาดว้ ยความประณีต คือ ค่อยๆ กด ค่อยๆ ปล่อย นวดเพ่ือช่วยกระตุ้นการไหลเวียน
ของเลือด กระจายของเสยี ในขอ้ ใหไ้ หลเวยี นออกมา
ลักษณะอาการ

หัวข้อต่อกระดูกในตาแหน่งท่ีลมลาบองนี้ไปเกาะจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อน ปรากฏให้
เหน็ ลักษณะอาการทั่วไปจะคล้ายกบั ลมจบั โปง ถ้าเกิดทีข่ อ้ เข่าและขอ้ เทา้ จะเป็นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง
ของข้อเท่าน้ัน ถ้ามีอาการปวดมากคนไข้อาจมีอาการจับไข้ร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่า ไข้ลมลาบอง และ
ลกั ษณะอาการบวมจะมีน้าชนิดข้นๆ เป็นเมอื กเกาะอยตู่ ามตาแหน่งข้อท่บี วมน้นั
การตรวจวินิจฉัย

ตามอาการและตาแหนง่ ทโี่ รคเกดิ
หลักการรกั ษา

โดยการนวดเน้นตามสญั ญาณทล่ี มลาบองนีไ้ ปเกาะ และตอ้ งพยายามนวดเอาส่วนอ่ืนไปช่วยใน
ข้อที่เกิดโรคลมลาบองนั้น เพื่อให้ความร้อนและพิษอักเสบในข้อนั้นกระจายไปตามการไหลผ่านของ
เลือด หลักในการรักษานั้นให้นวดแก้ด้วยการเน้นแม่สัญญาณ 5 ส่วนอื่นที่เก่ียวข้องกับหัวต่อกระดูกที่
เปน็ นนั้ ๆ มาชว่ ยตามความจาเปน็
คาแนะนา

1. ประคบความร้อนชื้น

273

2. งดอาหารแสลง
3. ห้ามบดิ ดดั ตวั สลัดตามส่วนของข้อตอ่ ทเ่ี ปน็ นัน้
4. ให้นอนหลบั พกั ผอ่ นให้มากๆ และท่ากายบริหาร
หมายเหตุ การรักษาโรคลมลาบองของข้อเข่าและขอ้ เท้า ใช้หลักการรักษาด้วยแม่สัญญาณและ
ลูกสญั ญาณและสญั ญาณอืน่ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ เข่าและข้อเทา้ มารักษา เพื่อใหค้ วามรอ้ นและพษิ อักเสบ

2.1 ลาบองสัญญาณ 1 หลงั
(Low back pain with inflammation)

สาเหตุ
1. การทางานหนกั เกินกาลัง
2. ความเส่ือมของกระดกู สันหลงั และการใชง้ านหนักเกนิ ไป กระดูกงอกเบียดตามเสน้
3. อุบัติเหตุบริเวณหลัง เช่น การเอ้ียวตัวผิด เอ้ียวตัวยกของหนัก เคยตกจากท่ีสูง มีแนว

กระดูกผิดรูป กระดูกทับเสน้
4. เกิดจากอิรยิ าบถไมถ่ ูกตอ้ ง เชน่ การนงั่
5. ความเครยี ดทางจิตใจ ทาใหก้ ลา้ มเนอ้ื หลงั เกร็ง
6. ความเสอื่ มของกระดกู สนั หลงั

อาการ
ปวด บวม แดง รอ้ น บรเิ วณหลงั และมอี าการปวดเสยี วรา้ วชาไปที่สะโพก ก้นย้อย ต้นขา และ

ใตเ้ ขา่ แตไ่ มต่ ่ากว่าหวั เข่า เวลาเดินเข่าเปลยี้ ไม่มีกาลงั มีความรอ้ นตรงสญั ญาณ 1 หลงั
วิธีตรวจ

1. วัดเสน้ เท้า ข้างท่ีเปน็ จะสน้ั
2. งอพับขาเลข 4 กดเข่าไม่ลงพน้ื จะตา้ นมอื (ใหก้ ดขา้ งดกี อ่ นเพือ่ เปรยี บเทียบ)
3. ตรวจหาจดุ เจบ็ มจี ุดเจบ็ ท่ีชดั เจน บริเวณสัญญาณ 1
4. สัมผัสผวิ หนงั มคี วามรอ้ น และบวมจากการอักเสบ
5. ทาปูน พบวา่ ปนู ไมแ่ หง้ จะเยิม้ บรเิ วณสัญญาณ 1 หลัง
สูตรการรกั ษา
1. นวดพนื้ ฐานขา ขา้ งที่เป็น เปิดประตลู ม
2. นวดหลงั สญั ญาณ 1, 2, 3 เนน้ สญั ญาณ 1
3. นวดสญั ญาณ 1, 2, 3 ขาดา้ นนอก เนน้ สญั ญาณ 3
4. นวดสัญญาณ 1, 2 ขาด้านใน เนน้ สัญญาณ 2
5. นวดพนื้ ฐานทอ้ ง ทา่ แหวก กับ ทา่ นาบ
6. นวดสัญญาณ 1-5 ท้อง
7. ตรวจหลงั การรกั ษา

274

คาแนะนา
1. ประคบความร้อนชื้น เชา้ -เยน็ ประมาณ 30 นาที ในการประคบคอ่ ยๆ แตะอัง ถ้าขยับตัวไม่

ไหว อาจใชผ้ า้ ขนหนชู บุ นา้ รอ้ นหมาดๆ วางบนกระเป฻านา้ ร้อน แลว้ นอนทับ
2. งดอาหารแสลง เชน่ ขา้ วเหนยี ว หนอ่ ไม้ เครือ่ งในสตั ว์ ของหมักดอง เหลา้ เบยี ร์ ยาแกป้ วด
3. ห้ามบิด ดัด หลงั และสลัดขา ทร่ี ุนแรง
4. ใหน้ อนหลบั พักผ่อนใหม้ ากๆ
5. หลกี เลี่ยงสาเหตุทที่ าให้ปวดหลงั เชน่ การยนื นานๆ การยกของหนักๆ
6. อาการดีขึ้นทาทา่ บรหิ าร (ถา้ อักเสบมากไมท่ า)
- เกร็งกลา้ มเน้อื หน้าท้อง ท่ายกศีรษะมองปลายเท้า
- เกร็งกล้ามเนอื้ หลัง ท่าบิดตัว
- น่ังยองๆ 90 องศา
- ยืนเขย่งปลายเท้าขา้ งเดียว
7. นัดนวดวนั เว้นวัน อาการดขี นึ้ นวดอาทิตยล์ ะ 1-2 ครั้ง

2.2 ลาบองสัญญาณ 3 หลงั
(Low back pain with inflammation)

สาเหตุ
1. การทางานหนกั เกนิ กาลงั
2. ความเส่ือมของกระดกู สนั หลงั และการใชง้ านหนกั เกินไป กระดกู งอกเบยี ดตามเส้น
3. อุบัติเหตุบริเวณหลัง เช่น การเอี้ยวตัวผิด เอ้ียวตัวยกของหนัก เคยตกจากที่สูง มีแนว

กระดกู ผิดรูป กระดูกทับเสน้
4. เกิดจากอิริยาบถไมถ่ กู ต้อง เช่น การน่งั
5. ความเครยี ดทางจติ ใจ ทาใหก้ ล้ามเนอื้ หลงั เกร็ง
6. ความเส่อื มของกระดูกสันหลัง

อาการ
ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณหลัง และปวดร้าวชามาท่ีขา ปลีน่อง ฝุาเท้า น้ิวเท้า บางรายปวด

มาก เดินไมไ่ ด้
วธิ ตี รวจ

1. วดั เส้นเท้า ขา้ งทีเ่ ปน็ จะยาว
2. งอพับขาเลข 4 กดเขา่ ลงพืน้ ได้ไมต่ า้ นมือ (ให้กดข้างดีก่อนเพื่อเปรียบเทยี บ)
3. ตรวจหาจดุ เจ็บ มีจุดเจ็บที่ชัดเจน
4. สมั ผัสผิวหนัง มคี วามรอ้ น และบวมจากการอักเสบ
5. ทาปนู พบว่าปนู ไมแ่ หง้ จะเย้ิมบริเวณสัญญาณ 3 หลัง

275

สูตรการรักษา
ถา้ ปวดมากให้นอนหนุนหมอนสงู หรือหนุนใต้เข่า ขณะนวด
1. นวดพ้ืนฐานขา ขา้ งทเ่ี ป็น เปดิ ประตลู ม
2. นวดสัญญาณ 1, 2, 3 หลัง เนน้ สัญญาณ 3
3. นวดสญั ญาณ 1, 2, 3 ขาดา้ นนอก เน้นสัญญาณ 2
4. นวดสญั ญาณ 1, 2 ขาดา้ นใน เนน้ สญั ญาณ 1
5. นวดพ้นื ฐานทอ้ ง ทา่ แหวก กบั ท่านาบ
6. นวดสญั ญาณ 1-5 ท้อง
7. ตรวจหลังการนวด

คาแนะนา
1. ประคบความร้อนชื้น เช้า-เย็น ประมาณ 30 นาที ในการประคบค่อยๆ แตะอัง ถ้าขยับตัว

ไม่ไหวอาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้าร้อนหมาดๆ วางบนกระเป฻าน้าร้อน แล้วนอนทับ ข้อดี คือ ร่างกายไม่ต้อง
เคลอื่ นไหวมาก

2. งดอาหารแสลง เชน่ ขา้ วเหนียว หนอ่ ไม้ เครอื่ งในสตั ว์ ของหมกั ดอง เหล้าเบยี ร์ ยาแกป้ วด
3. ห้ามบิด ดดั หลงั และสลดั ขา ทีร่ ุนแรง
4. ให้นอนหลบั พักผ่อนให้มากๆ
5. หลีกเลี่ยงสาเหตุทท่ี าให้ปวดหลัง เชน่ การยนื นานๆ การยกของหนกั ๆ
6. อาการดีขน้ึ ทาท่าบรหิ าร (ถ้าอักเสบมากไม่ทา)

- เกร็งกลา้ มเนือ้ หน้าทอ้ ง ท่ายกศีรษะมองปลายเท้า
- เกรง็ กล้ามเนอ้ื หลัง ท่าบดิ ตัว
- น่ังยองๆ 90 องศา
- ยนื เขยง่ ปลายเท้าข้างเดียว
7. นดั นวดวนั เวน้ วนั อาการดีขึน้ นวดอาทิตยล์ ะ 1-2 ครง้ั

3. กลมุ่ โรคลมจบั โปง

เป็นโรคในตระกูลลมชนิดหน่ึงที่เกิดจากอาหาร อากาศ น้า และเป็นเฉพาะข้อเข่ากับข้อเท้า

เท่านัน้ ลมจับโปง มี 2 ชนดิ ไดแ้ ก่

1. ลมจับโปงน้า 2. ลมจบั โปงแห้ง

ลักษณะอาการ
1. ลมจับโปงน้า อาการปวดมาก บวม แดง ร้อน และมีน้าในข้อ ขณะท่ีบวมและอักเสบจะมี

ความร้อนข้ึนเสมอ สามารถทาให้เป็นไข้ได้ เรียก ไข้จับโปง ไข้มักจับเป็นบางเวลา พบกาเริบในฤดูฝน

ซ่งึ อากาศมกั จะรอ้ นอบอ้าว และมหี นาวเจือปนมา

276

2. ลมจบั โปงแหง้ อาการบวม มคี วามรอ้ นไม่มากนัก บางครั้งมีแดงเล็กน้อย แต่จะมีสภาวะหัว
เขา่ ติด เข่าโก่ง สะบา้ เจ่า อาการปวดนอ้ ยกวา่ ลมจับโปงน้า และมนี ้าในขอ้ เล็กน้อย
การตรวจวนิ ิจฉยั

1. ดลู ักษณะของขอ้ เขา่ หรือข้อเท้าที่เป็น
2. ตรวจองศาและขอ้ เขา่ หรอื ขอ้ เทา้ ที่เป็น
3. ใชว้ ธิ ีทาปนู ทดสอบ
หลกั การรักษา
หลักการรักษานนั้ ให้นวดแก้ด้วยแม่สัญญาณ 5 และลูกสัญญาณในตาแหน่งของข้อเข่า หรือข้อ
เท้าท่ีเป็นน้ัน และให้ใช้สัญญาณ 5 ส่วนอ่ืนท่ีเก่ียวข้องกับข้อเข่า หรือข้อเท้าที่เป็นนั้นมาช่วยด้วยตาม
ความจาเป็น เพ่ือใหค้ วามร้อนและพษิ อกั เสบในข้อนนั้ กระจายไปตามการไหลเวียนของเลอื ด
คาแนะนา
1. ประคบความร้อนช้นื ถา้ บวมให้ประคบเย็น
2. งดอาหารแสลง ขา้ วเหนียว เครือ่ งในสัตว์ หนอ่ ไมข้ องหมักดอง เหล้าเบยี ร์ ยาแก้ปวด
3. ไม่บิด ดดั สลัด ขา
4. พกั การใชง้ าน
5. ถา้ อ้วนมากควรลดนา้ หนกั ตัว
6. หลีกเล่ยี งพฤตกิ รรม ทา่ ทางทที่ าให้โรคหายชา้ เชน่ น่งั พับเพยี บ น่ังยอ่ งๆ ข้นึ บันได
7. บริหารข้อเข่า กระดกข้อเท้าข้ึนลง 5 คร้ัง เช้า เย็น แล้วเพ่ิมขึ้นเม่ืออาการดีขึ้น โดยเพิ่มท่า
เขยง่ เทา้ ข้างเดียว และท่านง่ั ยอ่ งๆ 90 องศา
8. นวดวนั เว้นวนั เม่อื อาการดีขน้ึ นวดอาทติ ย์ละ 2 ครั้ง

3.1 จบั โปงนา้ เข่า
(Acute knee pain / Arthritis)

สาเหตุ
เกิดจากอาหาร อากาศ พฤติกรรม ท่าทางใช้งานเข่ามากเกินไป เช่น นักกีฬาวิ่ง เดินยืนตลอด

วนั พอ่ ค้า พนักงานขายของ การอักเสบของเข่าจากอบุ ตั ิเหตเุ ข่าเสื่อมตามอายุขยั น้าหนักตวั มาก
อาการ

มีอาการปวดบวมแดงร้อนที่เข่ามากและเป็นท้ังข้อเข่า มีน้าในเข่า อาการจะกาเริบช่วงปลาย
ฝน ต้นหนาวเดินกะเพลกลงน้าหนกั ไมไ่ ด้เต็มที่บางคนอาจมีอาการไข้ เรียก ไขล้ มจับโปง
วิธตี รวจ

1. วดั สน้ เทา้ ขา้ งท่เี ปน็ จะสั้น เนอ่ื งจากกลา้ มเน้อื มอี าการเกร็งตัว
2. วดั ความโก่งของเขา่ ขณะดนั ปลายเทา้ กระดกข้นึ ใหเ้ อามือสอดใตเ้ ข่า จะรอดผ่านไปได้
3. คลาข้อเขา่ พบ บวม แดง ร้อนมาก
4. เขย้อื นขอ้ เข่า

277

5. ดูองศาข้อเข่า
- คลอนสะบ้า (ถา้ สะบ้าติดรกั ษาไมห่ าย)
- วัดองศา ส้นเทา้ ชิด กน้ ยอ้ ยไม่ไดอ้ งศา คนปกติสน้ เท้าชดิ กน้ ย้อยได้
- พับเข่าเป็นเลข 4 ให้ส้นเท้าแตะ หัวตะคากจะไม่ได้องศาคนปกติส้นเท้าแตะหัว

ตะคากไดพ้ ับเข่าเป็นเลข 4 กดเข่าดูการตา้ นมอื
6. ทาปูนทดสอบ ปนู จะเยิ้ม
สตู รการรักษา
1. นวดพื้นฐานขา เปดิ ประตูลม
2. นวดสัญญาณ 1-3 เข่า
3. นวดสญั ญาณ 1-4 ขาด้านนอก เนน้ สัญญาณ 4
4. นวดสญั ญาณ 1-4 ขาด้านใน เนน้ สัญญาณ 3 และ 4
5. อาจใช้ยาดูดพษิ ความรอ้ นร่วมด้วย เช่น ยาพอกเข่า
6. ตรวจหลงั การรกั ษา
คาแนะนา
1. ประคบความรอ้ นชืน้ เช้า-เย็น ประมาณ 10-15 นาที ถ้าบวมให้ประคบเย็น
2. งดอาหารแสลงมาก ขา้ วเหนยี ว เครือ่ งในสตั ว์ หนอ่ ไม้ของหมกั ดอง เหล้าเบียร์ ยาแกป้ วด
3. พักการใชง้ าน และหา้ มบิด ดดั สลัด ขา
4. ถา้ อว้ นมากควรลดนา้ หนักตัว
5. หลกี เล่ยี งพฤตกิ รรม ทา่ ทางท่ีทาให้โรคหายชา้ เชน่ น่งั พบั เพียบ น่ังย่องๆ ข้ึนบนั ได
6. บริหารข้อเข่า กระดกข้อเท้าขึ้นลง 5 คร้ัง เช้า เย็น แล้วเพ่ิมขึ้นเมื่ออาการดีขึ้น โดยเพ่ิมท่า
เขย่งเท้าขา้ งเดยี ว และทา่ นัง่ ยองๆ 90 องศา
7. นวดวนั เวน้ วนั เมื่ออาการดีข้นึ นวดอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

3.2 จบั โปงแห้งเข่า
(Chronic knee pain / primary gonarthrosis)

สาเหตุ
เกิดจากการอักเสบของข้อเข่าเร้ือรัง การเสื่อมของข้อเข่า น้าหนักตัวมาก และจากโรคลม

จับโปงน้า จับโปงแห้งเข่ามักเป็นหลังจากรักษาจับโปงน้าเข่าไม่หาย นานเข้าก็จะกลายเป็นจับโปงแห้ง
คือ มีอาการสะบ้าเจ่า ทาให้สะบ้ายึดติดไม่ไหวคลอน มีหินปูนเกาะ การนวดรักษาจะตอบสนองไม่ดี
จบั โปงแหง้ มโี อกาสพบผู้ปวุ ยเป็นทง้ั 2 ขา
อาการ

มีอาการปวด บวม แดงร้อนท่ีเข่าเพียงเล็กน้อย แต่จะมีสภาวะเข่าติด ขาโก่ง สะบ้าเจ่า นั่ง
ยองๆ ไม่ได้ ขณะเดิน ในเข่าจะมีเสียงดังกร๊อบแกร๊บ อาการปวดมากเวลาเปลี่ยนอิริยาบถและก้าวขึ้น
บนั ได

278

วิธีตรวจ
1. วดั สน้ เทา้ ข้างที่เปน็ พบว่าส้ัน
2. วดั ความโก่งของเข่า ขณะดนั ปลายเท้ากระดกข้ึน ให้เอามือสอดใต้เขา่ จะผ่านรอดไปได้
3. ดูสภาพทั่วไป เช่น สผี ิว ความรอ้ น หาจุดเจ็บ ไมม่ ีอาการบวม
4. เขยอ้ื นข้อเขา่
5. ดอู งศาข้อเข่า
- คลอนสะบ้า (ถา้ สะบา้ ตดิ รักษาไม่หาย)
- วดั องศา ส้นเท้าชดิ กน้ ยอ้ ยไมไ่ ดอ้ งศา คนปกตสิ ้นเทา้ ชิดก้นย้อยได้
- พับเข่าเป็นเลข 4 ให้ส้นเท้าแตะ หัวตะคากจะไม่ได้องศา คนปกติส้นเท้าแตะหัว

ตะคากได้พับเข่าเป็นเลข 4 กดเขา่ ดูการตา้ นมอื
6. ทาปูนทดสอบ ปนู จะไม่แห้ง

สตู รการรักษา
1. นวดพ้นื ฐานขา เปดิ ประตลู ม
2. นวดสัญญาณ 1-3 เขา่
3. นวดสญั ญาณ 1-4 ขาดา้ นนอก เนน้ สญั ญาณ 4 เขย้อื นขอ้ เขา่
4. นวดสญั ญาณ 1-4 ขาดา้ นใน เนน้ สัญญาณ 3, 4 เขยือ้ นข้อเข่า
5. ตรวจหลงั การรักษา

คาแนะนา
1. ประคบความรอ้ นช้นื ถา้ บวมใหป้ ระคบเยน็
2. งดอาหารแสลงมาก ข้าวเหนยี ว เครือ่ งในสตั ว์ หนอ่ ไม้ของหมักดอง เหลา้ เบียร์ ยาแก้ปวด
3. ไมบ่ ิด ดดั สลัด ขา
4. พกั การใช้งาน
5. ถา้ อ้วนมาก ควรลดน้าหนกั ตวั
6. หลกี เล่ียงพฤตกิ รรม ท่าทางที่ทาให้โรคหายชา้ เช่น น่ังพับเพยี บ นั่งยอ่ งๆ ขน้ึ บันได
7. บริหารขอ้ เข่า กระดกขอ้ เท้าขึ้นลง 5 ครั้ง เช้า เย็น แล้วเพิ่มข้ึนเม่ืออาการดีข้ึน ท่าเขย่าเท้า

ขา้ งเดียว และท่าน่งั ย่องๆ 90 องศา
8. นวดวนั เว้นวนั เมือ่ อาการดขี ึน้ นวดอาทติ ย์ละ 2 ครัง้

3.3 จับโปงขอ้ เทา้
(Osteoarthritis ankle)

สาเหตุ
เกิดจากลมจับโปง ซึ่งเกิดจาก อาหาร อากาศ และน้าหรือการอักเสบ รวมท้ังการเส่ือมของข้อ

เทา้ และอบุ ัติเหตุ เช่น ขอ้ เท้าแพลงบ่อยๆ นานๆ

279

อาการ มี 2 ชนดิ
1. จับโปงน้าท่ีข้อเท้า มีอาการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน อาจมีไข้ มีน้าชนิดใสในข้อ
(อักเสบมไี ขม้ ากๆ ใช้ยาแปะ ลดความร้อน และการอักเสบ)
2. จับโปงแหง้ ท่ีข้อเทา้ เป็นจับโปงน้าเร้ือรัง จะมีอาการปวด บวม แดง ร้อนเล็กน้อย บริเวณ
ข้อเท้า อาจพบมีความพิการของข้อให้เห็น ข้อเท้าเคลื่อนไหวลาบากหรือข้อเท้าติด เคลื่อนไหวไม่ได้
และมีเสียงดงั เวลาเดนิ
วิธีตรวจ
1.ดูสภาพท่ัวไป สีผิว ความร้อน จุดเจ็บ รูปร่างบวมของตาตุ่มใน และนอก การติด การผิดรูป
ของขอ้ เทา้ ร่วมด้วย
2. ดูองศาการเคล่อื นไหวของข้อเท้า โดยกระดกข้อเท้าขึ้นลง แต่อาจไม่ได้องศา เพราะมีหินปูน
เกาะ
3. วัดสน้ เท้า ขา้ งที่เปน็ จะยาว
4. ทดสอบแรงถีบขอ้ เทา้ ดูอาการเจ็บ เสยี ว
5. ทดสอบทาปนู ถา้ ไมแ่ นใ่ จ (ถา้ ปนู แหง้ เป็นวณั โรค ไม่นวด)
สตู รการรักษา
1. นวดพน้ื ฐานขา เปดิ ประตูลม
2. เน้นขอ้ เทา้
3. นวดสัญญาณ 1-5 ขาด้านนอก เนน้ สัญญาณ 5
4. นวดสัญญาณ 1-5 ขาด้านใน เน้นสญั ญาณ 5
5. นวดรอบตาแหนง่ จดุ เจบ็
6. ตรวจหลงั การรักษา
เทคนคิ นวดรอบตาต่มุ
น้วิ โปงู ช้เี ขา้ หาตาตมุ่ กดเขา้ หาตาต่มุ วนซ้ายหรือวนขวากไ็ ด้ ทางใดทางหน่ึง วนคร่ึงล่าง ใช้มือ
ล่างเป็นหลกั วนครง่ึ บน แบ่งจุดรอบตาตุม่ เปน็ 8 จดุ (ภาพ)
(มือบน คือ มือดา้ นอยูใ่ กลศ้ ีรษะผู้ปวุ ย มอื ลา่ ง คือ มอื ด้านอยูใ่ กล้เทา้ ของผู้ปุวย)

ภาพแสดง แนวนวดรอบตาตุ่มใน (ก) และตาตุ่มนอก (ข)

280

คาแนะนา
1. ประคบความร้อนช้นื ถา้ บวมมากให้ประคบเยน็
2. งดอาหารแสลงมาก ข้าวเหนียว เครอื่ งในสตั ว์ หน่อไมข้ องหมกั ดอง เหล้า เบยี ร์ ยาแก้ปวด
3. ห้ามบดิ ดัด สลัด ขอ้ เท้า
4. แปะยาดดู ความร้อน (กรณโี รคจบั โปงน้าข้อเทา้ )
5. บริหารยืนเขยง่ ปลายเทา้ ถา้ อักเสบมากให้กระดกข้อเทา้ ขึ้นลง
6. จบั โปงน้านวดวนั เวน้ วนั จบั โปงแห้งนวดอาทิตยล์ ะ 1-2 คร้งั

4. กลมุ่ โรคหัวไหล่ตดิ (Adhesive capsulitis of shoulder)

โบราณกล่าววา่ หวั ไหล่ติดเกดิ จากลมลาบอง (อกั เสบเฉยี บพลนั ) และลมปลายปัตคาด (เร้อื รงั )
โดยโรคหวั ไหลต่ ิด สามารถแบง่ ตามระยะเวลาท่ีเปน็ ได้ 2 ประเภท คือ

4.1 หวั ไหล่ตดิ เฉยี บพลัน
(Rotator cuff tendonitis / Pericapsular bursitis)

สาเหตุ
1. อบุ ตั ิเหตุ ทาใหเ้ นือ้ เยือ่ ฉกี ขาด เช่น ใชแ้ ขนเหนีย่ วรงั้ กระชาก กระแทกบริเวณไหล่กะทนั หนั
2. การใชข้ ้อไหลท่ างานมากเกินไป เช่น การเขยี นหนังสือ พนักงานขับรถ
3. การไมไ่ ดใ้ ชข้ ้อไหล่ ในระยะเวลานาน ทาให้หนิ ปูนเกาะ หรอื ตกตะกอนในข้อ
4. เกดิ จากกลา้ มเน้ือบรเิ วณไหล่ แขน สะบกั อกั เสบ
5. เกดิ จากการตดิ ขดั การอ้นั ลมของกระแสประสาทสญั ญาณ 4-5 หลงั
6. ความเสือ่ มของร่างกาย มพี ังผดื ยึดเนอ้ื เยือ่

อาการ
1. ปวดเจบ็ เสยี วในหวั ไหล่ เคลอื่ นไหวแขนไม่ไดอ้ งศา
2. มีอาการปวด บวม แดง ร้อน อักเสบ ยกแขนขึ้นไม่ได้ ถ้ายกแขนได้สูงกว่า 90 องศา รักษา

ไดง้ ่าย ถา้ ยกได้ตา่ กว่า 90 องศา รักษายาก
3. ยกแขนชิดหูไม่ได้ ไหล่ติดยกแขนไม่ได้ เอามือล้วงกระเป฻าหลังไม่ได้ มือท้าวสะเอวไม่ได้ มือ

ไพล่หลังไม่ได้
วิธตี รวจ

1. ยกแขนชดิ หู ทาไมไ่ ด้ ถา้ ยกแขนชดิ หูได้โดยใช้มืออีกข้างช่วยยก แสดงว่าไม่ใช่โรคหัวไหล่ติด
บง่ บอกถงึ ปัญหาท่สี ญั ญาณ 4 หลงั หรือโรคหัวใจ

2. มอื ท้าวสะเอว ข้างทเ่ี ปน็ ทา้ วสะเอวไมไ่ ดอ้ งศา ไหลข่ ้างเจบ็ จะลู่ไปขา้ งหลงั
3. มอื ไพลห่ ลังทาได้ไมถ่ ึงสะบัก
4. เขยือ้ นขอ้ ต่อหัวไหล่ เพื่อตรวจดนู ้าในขอ้ ดูความเส่ือมของข้อ

281

5. บดิ ปลายแขนเขา้ -ออก เพอ่ื หาจดุ เจบ็

- ถ้าบิดแขนผู้ปวุ ยเข้าข้างใน แล้วเจ็บทหี่ วั ไหล่ แสดงว่ามีปัญหาทด่ี า้ นหลังของหัวไหล่

- ถา้ บิดแขนผ้ปู ุวยออก แลว้ เจ็บทีห่ ัวไหล่ แสดงว่ามปี ญั หาทีด่ า้ นหน้าของหัวไหล่

สตู รการรกั ษา
1. นวดพ้นื ฐานบา่ (ข้างท่ีเปน็ )

2. นวดสญั ญาณ 1-5 หวั ไหล่ เนน้ สญั ญาณ 1, 5

3. นวดพื้นฐานหลัง

4. นวดพน้ื ฐานแขนดา้ นนอก

5. นวดพื้นฐานแขนดา้ นใน

6. ตรวจหลงั การรกั ษา

หมายเหตุ หวั ไหลต่ ดิ เฉยี บพลนั มจี ุดเจ็บมาก เมอ่ื โดนแล้วเจ็บ การรกั ษาตอ้ งนวดแบบนุม่ นวล

คาแนะนา
1. ประคบความรอ้ นดว้ ยลูกประคบสมุนไพร 10-15 นาที วนั ละ 2 ครั้ง เชา้ -เยน็

2. งดอาหารแสลง เชน่ ข้าวเหนียว หน่อไม้ เครื่องในสตั ว์ ของหมกั ดอง เหล้าเบยี ร์ ยาแกป้ วด

3. ห้ามบิด ดดั สลัด แขน

4. หา้ มนอนทับไหล่ข้างเจ็บ

5. บริหารกล้ามเน้ือไหล่

- นว้ิ ไตส่ ะบกั ขา้ งเจ็บ - น้วิ ไตส่ ะบักขา้ งดี

- พนมมือยกขา้ มศรี ษะ - ดึงแขน 3 จังหวะ

- เท้าแขน 3 จงั หวะ - นอนคว่าหน้า หว้ิ ของหนกั แกวง่ แขน

6. นวดวนั เว้นวัน หรอื อาทติ ย์ละ 2 ครัง้

4.2 หัวไหลต่ ิดเรอ้ื รงั
(Frozen shoulder / Adhesive capsulitis)

สาเหตุ
1. ความเส่อื มของรา่ งกาย

2. ไม่คอ่ ยไดใ้ ช้งาน ข้อไหล่ แขน มือ ในระยะเวลานาน

3. ถกู กดจากเส้นประสาทตน้ คอ

4. มีพังผดื ยดึ เนื้อเยอื่ หรอื หนิ ปูนตกตะกอนในข้อ

5. มีอาการหวั ไหล่ตดิ เฉียบพลัน และไมร่ กั ษาใหห้ ายหรอื ไม่สนใจจะรักษา เป็นมานานเกนิ 6 เดอื น

อาการ
1. ปวดเจ็บ เสียวในหัวไหล่ เคลอื่ นไหวแขนไม่ไดอ้ งศา

2. ยกแขนชดิ หไู มไ่ ด้ ยกแขนไม่ได้ มอื ล้วงกระเป฻าหลังไม่ได้ มอื ทา้ วสะเอวไม่ได้ มือไพล่หลงั ไมไ่ ด้

282

วธิ ีตรวจ
1. ยกแขนชดิ หทู าไม่ได้
2. มอื ท้าวสะเอว ข้างที่เปน็ ทา้ วสะเอวไม่ได้องศา
3. มอื ไพลห่ ลังทาไดไ้ ม่ถึงสะบัก
4. เขยื้อนข้อตอ่ หวั ไหล่ เพ่อื ตรวจดูน้าในขอ้ ดคู วามเส่อื มของขอ้
5. บิดปลายแขนเข้า-ออก เพ่อื หาจดุ เจ็บ
- ถา้ บดิ แขนผปู้ วุ ยเขา้ ข้างใน แลว้ เจบ็ ทห่ี วั ไหล่ แสดงว่ามปี ญั หาทด่ี า้ นหลงั ของหัวไหล่
- ถ้าบิดแขนผู้ปวุ ยออก แลว้ เจ็บทีห่ วั ไหล่ แสดงวา่ มีปัญหาท่ีด้านหน้าของหวั ไหล่

สูตรการรกั ษา
1. นวดพ้นื ฐานบา่ ขา้ งท่เี ป็น
2. นวดสัญญาณ 1-5 หัวไหล่ เนน้ สญั ญาณ 1, 5 และเขยอ้ื นหัวไหล่
3. นวดพนื้ ฐานหลัง
4. นวดพ้ืนฐานแขนด้านนอก
5. นวดพ้นื ฐานแขนดา้ นใน
6. ตรวจหลังนวด
เทคนิคเขย้ือนไหล่ กดสัญญาณ 1 ไหล่น่ิงๆ แล้วค่อยๆ ยกแขนผู้ปุวยยืดขึ้นเหนือศีรษะ พร้อม

กับบิดแขนเข้าใน ให้ฝุามือของผู้ปุวยมีทิศทางหันไปทางด้านหลังของผู้ปุวย และให้แขนชิดศีรษะ
ดา้ นข้างผู้ปวุ ยให้มากท่ีสดุ โดยผ้นู วดใช้ข้อศอกชว่ ยดันใหแ้ ขนผปู้ วุ ยยืดตึง (ดังรูป ก.)

เทคนิคเขยื้อนไหล่เพม่ิ องศา กดสญั ญาณ 5 ไหลน่ ง่ิ ๆ แล้วผ้นู วดยืดตัวยกก้นขึ้น พร้อมดันศอก
ผู้ปุวยให้สูงขึ้น อาจให้แขนผู้ปุวยพาดหัวไหล่ผู้นวดแทนการงอข้อศอกแบบแรก จะทาให้เขย้ือนหัวไหล่
ไดม้ ากขน้ึ (ดังรูป ข.)

การคลายกล้ามเน้ือ ให้หมุนไหลโ่ ย่งๆ เหมือนทา่ ตรวจเขยอื้ นหัวไหล่

กข
ภาพแสดง จุดนวดและทา่ นวดการเขยื้อนไหล่ (ก) และทา่ เขยื้อนไหลเ่ พ่ิมองศา (ข)
คาแนะนา
1. ประคบความร้อนด้วยลกู ประคบสมนุ ไพร 10-15 นาที วนั ละ 2 ครง้ั เช้า-เย็น
2. งดอาหารแสลง ข้าวเหนยี ว หนอ่ ไม้ เครื่องในสตั ว์ ของหมกั ดอง เหล้าเบียร์ ยาแก้ปวด

283

3. หา้ มบดิ ดัด สลดั คอ แขน - นิว้ ไต่สะบักขา้ งดี
4. ห้ามนอนทับไหล่ข้างเจบ็ - ดึงแขน 3 จังหวะ
5. บริหารกลา้ มเนือ้ ไหล่ - นอนคว่าหนา้ หิ้วของหนกั แกว่งแขน

- นวิ้ ไต่สะบักข้างเจ็บ
- พนมมือยกขา้ มศีรษะ
- เท้าแขน 3 จงั หวะ
6. นวดวนั เว้นวัน หรอื อาทิตย์ละ 2 ครง้ั

5. โรคลมปะกงั
(Tension headache / Migraine)

ลมปะกัง หรือ ลมตะกงั (ไมเกรน) เทยี บตามเสน้ สิบตรงกับอาการที่เกิดในเส้นอิทาและปิงคลา
มี 2 ชนดิ คือ

1. ชนิดอาเจยี น (ปวดศรี ษะ มีอาเจียนร่วมด้วย)

2. ชนดิ ไม่อาเจียน (ปวดศรี ษะอยา่ งเดียว)

สาเหตุ
โบราณกลา่ วว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอาหาร อากาศ ความเครียด ทาให้ปวดศีรษะ/อาเจียน

(ชนิดอาเจยี น โบราณวา่ น้าเลย้ี งข้ึนสมองแล้วไม่กลบั ลงมา ส่วนแผนปัจจุบัน เกิดจากหลอดเลือดแดงใน
สมองหดตวั และขยายตัวผิดจังหวะ หดตัวนานเกินไป ทาให้ขาดเลือดไปเล้ียงสมอง และขยายตัวอย่าง
รวดเรว็ ไปกดดันสมอง ทาให้ปวดหัวตามการเตน้ ของหวั ใจ)

อาการ
ปวดศีรษะ ปวดขมับ ปวดเบ้าตา หรือปวดกระบอกตา ปวดแบบตุ๊บๆ หรืออาจปวดแบบต้ือๆ

เปน็ ข้างเดียว หรือสลับข้างกันในแต่ละคร้ัง และอาจเป็นท้ังสองข้างก็ได้ ทาให้หน้าแดง ตาพร่า ตาลาย
เห็นแสงระยิบระยับ มักจะมีอาการเป็นช่ัวโมง หรือต้ังแต่เช้าถึงเที่ยง บางคร้ังพบว่าปวดตลอดวัน และ
อาจพบอาการอ่ืนรว่ มด้วย เช่น

- ปวดศรี ษะ มคี วามดันโลหิตสูง (แกไ้ ขอาการความดันโลหติ สูงใหล้ ดลงกอ่ น)
- ปวดศีรษะ มีไข้ (ถา้ ปวดศรี ษะมไี ขส้ ูง ใหแ้ กไ้ ขอาการไข้สูงก่อน)
- ปวดศรี ษะ มีอาเจียน (ซึ่งไมใ่ ชจ่ ากระบบสมองท่ีอาเจยี นมีลกั ษณะพ่งุ )

วิธีตรวจ
1. ซักประวัติ
2. ตรวจร่างกาย กอ่ นและหลงั การรักษา ดงั นี้
- ดลู ักษณะทั่วไปบรเิ วณกระดกู คอสัญญาณ 5 หลงั
- คลากล้ามเน้ือบ่า กลา้ มเนือ้ โค้งคอ จะแขง็ เป็นลา

284

- ดอู งศาการกม้ หน้า เงยหนา้
- ดูองศาการเอียงหชู ิดไหล่ซา้ ย ขวา
สูตรการรักษา
ชนิดไม่อาเจยี น หรือ ปวดหวั อยา่ งเดยี ว
1. นวดพน้ื ฐานบา่ ขา้ งทีเ่ ปน็
2. นวดบังคบั สญั ญาณ 5 หลัง ข้างทเี่ ป็น
3. นวดสัญญาณ 1 หรือ 2 และ 5 ศีรษะดา้ นหลงั
4. นวดสญั ญาณ 4 หวั ไหล่ ข้างท่ีเปน็
5. ตรวจหลงั การรักษา
ชนดิ อาเจยี น (ปวดศีรษะ มอี าเจยี นรว่ มด้วย)
1. นวดพื้นฐานบา่ ทัง้ 2 ขา้ ง
2. นวดบงั คับสัญญาณ 5 หลงั เน้นขา้ งท่ีเป็น
3. นวดพน้ื ฐานโค้งคอ ทั้ง 2 ข้าง
4. นวดสัญญาณ 4 หวั ไหล่ ทัง้ 2 ข้าง
5. นวดสญั ญาณ 1-5 ศีรษะด้านหลงั
6. กดบงั คับจุดจอมประสาท
7. นวดสัญญาณ 1-5 ศีรษะดา้ นหนา้
8. นอนหงาย เปดิ ประตลู มขา ท้ัง 2 ข้าง
9. นวดพ้ืนฐานหลงั ข้นึ -ลง
10. นวดสญั ญาณ 1, 2, 3 หลัง
11. นวดสญั ญาณ 1, 2, 3 ขาด้านนอก
12. นวดสญั ญาณ 1, 2 ขาดา้ นใน
13. นวดพืน้ ฐานท้อง ทา่ แหวก-นาบ
14. นวดสญั ญาณ 1-5 ท้อง
15. ตรวจหลงั การรกั ษา
คาแนะนา
1. ประคบนา้ ร้อน บรเิ วณบ่า ตน้ คอ โคง้ คอ
2. ท่าบรหิ าร ท่าดึงแขน ชูแขน (โหนรถเมล์) 3 จงั หวะ ทา 3 ครงั้ (เช้า-เย็น) ทกุ วัน
3. งดอาหารแสลง และอาหารพวกเนยแขง็ ไอศกรมี กาแฟ เนื้อสัตวแ์ ช่แข็ง (ของเย็น)

***หมายเหตุ ลมปะกงั หรอื ลมตะกัง เปน็ ความผดิ ปกตขิ องเสน้ อทิ า หรอื ปิงคลา
วเิ คราะห์ว่าเปน็ โรคเดียวกันกับไมเกรนในปจั จบุ นั
บางตาราวา่ เป็นสว่ นหนึ่งของไมเกรนเท่านั้น

285

6. โรคคอตกหมอน
(Sprain and strain of neck / Muscle strain)

เป็นลักษณะอาการเฉียบพลัน เกิดกับกล้ามเน้ือคอ โค้งคอ และบ่า กล้ามเนื้อจึงเกิดการแข็ง
เกรง็ เพ่อื ปูองกนั ตนเอง เรียกว่า ภาวะคอตกหมอน
สาเหตุ

1. เกิดจากอิรยิ าบถไม่ถูกต้อง คือ อยู่ในท่าเดียวซ้านานๆ คอไม่อยู่ในลักษณะสมดุล กล้ามเน้ือ
คอเกิดอาการเกร็ง เคล็ดขัด ยอก พบเป็นตอนต่ืนนอน น่ังก้มหน้าทางาน หรือการนอนผิดท่า คือ นอน
ไม่อยู่ในองศา นอนหมอนสูงทาให้เอ็นและเน้ือเย่ือหดตัวเป็นเวลานานในขณะหลับ จะมีอาการเมื่อต่ืน
หรอื นอนตะแคงไม่มีหมอนหนุนทาให้เสียสมดุลของบ่า ไหล่ หรือน่ังหลับสัปปะหงก ทาให้กล้ามเนื้อยืด
และอักเสบ

2. ความลา้ ของกล้ามเนื้อจากการทางานนานๆ
3. เกิดจากกล้ามเนื้อคอไม่แข็งแรง และไม่เตรียมความพร้อมเม่ือถูกใช้งานกะทันหัน มีการหัน
หนา้ เรว็ และแรงเกนิ ไป กลา้ มเนือ้ หดตัวไมท่ นั
4. เกิดจากอุบัติเหตุ ถูกดึง ถูกกระชาก เกิดการเคล่ือนของหมอนรองกระดูกต้นคอเล็กน้อย
เคลื่อนมาชิดเส้นประสาท แต่ไม่กดทับเส้นประสาท เช่น รถชน มีการยืดของเอ็นข้อต่อกระดูกคอ หรือ
การเคล่ือนของหมอนรองกระดูกคอเล็กน้อย
อาการ
มีอาการปวดเมอ่ื ยท่ีตน้ คอ บางรายคอแข็ง เวลาหันหน้าต้องหันไปท้ังตัวและรู้สึกปวดร้าวท่ีต้น
คอ กล้ามเนื้อบริเวณบ่า คอ ตึงแข็งเกร็ง มักมีอาการข้างเคียง คือปวดศีรษะร่วมด้วย เวลาเงยและก้ม
หน้ามีอาการขัดและเสียวร้าว ยอกหน้าอกร้าวมาที่สะบัก ปีกสะบัก โรคนี้ไม่ร้าวชามาแขน ถ้าเป็นซ้าๆ
จะกลายเป็นโรคลมปลายปัตคาดสัญญาณ 4 หรือ 5 หลัง ในทางกลับกันคนที่เป็นโรคลมปลายปัตคาด
สญั ญาณ 4 หรือ 5 หลงั มกั เป็นโรคคอตกหมอนบอ่ ย
วิธตี รวจ
1. กม้ หนา้ เงยหนา้ ไม่ไดอ้ งศา
2. หันซ้าย หรอื ขวา ขา้ งท่ีเปน็ จะหนั ไมไ่ ด้หรอื ไม่ได้องศา
3. ตรวจกลา้ มเนอ้ื บ่า คอ และดูการแข็งเกร็งเปน็ ลา ตึงบวม และมีความร้อนร่วมด้วย แต่ถ้าไม่
รนุ แรงอาจไม่มีความร้อน
สตู รการรกั ษา
1. นวดพน้ื ฐานบา่ ข้างทเ่ี ป็น
2. นวดสัญญาณ 4 และ 5 หลัง เนน้ สญั ญาณ 4 และ 5 ด้านบน
3. นวดจดุ ฐานคอ และโคง้ คอ
4. นวดสญั ญาณ 4 หัวไหล่
5. ตรวจหลงั การรักษา

286

คาแนะนา
1. ใช้ผา้ ชุบน้าร้อนประคบ 10-15 นาที เชา้ เย็น
2. นอนหลับพักผ่อนใหเ้ พยี งพอ
3. ไม่นอนหนุนหมอนสงู
4. กรณีเป็นเรื้อรัง งดอาหารแสลง เช่น ข้าวเหนียว หน่อไม้ เครื่องในสัตว์ ของหมักดอง เหล้า

เบียร์
5. เม่ือหายดแี ล้ว ให้บริหารรา่ งกาย ในท่าต่อไปน้ี
- กม้ หน้า เงยหนา้
- หันทางซ้าย ทางขวา
- เกรง็ กล้ามเน้อื คอ ทา่ โหนรถเมล์
- ท่าแกวง่ แขน โดยชแู ขนขนึ้ แนบศีรษะ แล้วปล่อยท้ิงแขนใหผ้ า่ นลาตวั ไป
6. รกั ษาคร้ังเดยี วไม่หาย ใหน้ วดวันเว้นวัน

7. ตะคริวน่อง
(Muscle cramps / Cramp and spasm / Calf Cramp)

ตะคริว เกดิ จากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบางมัดหรือหลายๆ มัด โดยท่ีสมองไม่ได้ส่ังการ และ
ตะคริวนอ่ งจะพบมากท่ีสุด
สาเหตุ

1. ร่างกายขาดนา้ เกลอื แร่ และแคลเซียม พบในพวกนักกฬี า หรอื เกิดจากท้องเสีย
2. เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี เช่น อากาศเย็น โดนแอร์ หรือพัดลมเปุาเป็นเวลานาน ๆ
หรือรดั น่องไวน้ าน
3. คนทีก่ ล้ามเน้อื ไมแ่ ข็งแรง แลว้ ถูกใช้งานหนักและกะทันหนั
4. นั่งหรือยืนในท่าท่ีเลือดไหลเวียนไม่สะดวกนานๆ หรือนอนยกเท้าสูงและถูกความเย็น ใส่
รองเท้าสน้ สงู
5. ในคนชรา นอนนาน ไมเ่ คลือ่ นไหว พนั ผ้ารัดเข่าหรอื ขา
6. เกิดจากอาการเกร็งตวั ของกล้ามเนือ้ ลาย โดยสมองไม่สามารถควบคมุ ได้
7. ภาวะเครยี ดจากระบบสมอง (มีอาการเวลาเคลิม้ ๆ จะกระตกุ )
8. คนสูงอายุ ผปู้ ุวยเบาหวาน ความดันโลหิตสงู ไขมันในเลือดสูงมีโอกาสเป็นตะครวิ บ่อย
อาการ
ปวดกลา้ มเนอื้ น่องจะแข็งเปน็ ก้อน เป็นลา ปวดบริเวณน่องเหมือนถูกทุบหรือถูกขยุ้มอย่างแรง
ปลายเทา้ จะเหยยี ดตรง กระดกข้ึนลงไม่ได้ การเคลื่อนไหวขา หัวเข่าและข้อเท้า ไม่สะดวกหรือทาไม่ได้
เลย ถา้ เป็นบอ่ ยๆ ตะคริวหายแลว้ อาการปวดกย็ ังอยู่

287

วิธตี รวจ
1. ดูลักษณะท่ัวๆไปของกลา้ มเนอ้ื นอ่ ง แขง็ เปน็ ลาเปน็ กอ้ นหรอื ไม่
2. ดูลกั ษณะการเหยียดปลายเทา้ จะพบว่าอยู่ในลกั ษณะเหยยี ดตรง
3. ดอู งศาเข่า และขอ้ เท้า ขอ้ เข่าเหยยี ดหรอื ไม่

สตู รการรักษา
1. นวดพ้ืนฐานขา เปิดประตูลม และเน้นข้อเท้าข้างท่ีเป็น (ค่อยๆ นวดมิฉะนั้นจะเป็นการ

กระตุ้นให้เกิดตะคริว)
2. นวดพน้ื ฐานขาด้านนอก และสญั ญาณ 1-5 ขาดา้ นนอก
3. นวดพนื้ ฐานขาดา้ นใน และสญั ญาณ 1-5 ขาดา้ นใน
4. นวดแนวเสน้ กึ่งกลางนอ่ ง
5. ตรวจหลังการรกั ษา
หมายเหตุ ถ้าหากพบขณะกาลังเป็นตะคริว ใหก้ ารรกั ษา โดยกระดกขอ้ เทา้ ขน้ึ ลง ดังนี้
- ผู้ปุวยนอนหงาย มือหน่ึงจับข้อเท้า อีกมือดันฝุาเท้าให้กระดกข้ึนตรง แล้วกระดกลงตาม

ธรรมชาติ
- กรณเี จบ็ มากใหน้ อนตะแคงขา้ งดี ตะโพกงอแทนนอนหงาย จะลดความตงึ ลง
- ถ้าเป็นนักกีฬา ให้นอนหงาย ยกขาข้ึนตรงๆ ดันข้อเท้ากระดกขึ้นได้เลย เพราะกล้ามเนื้อ

แข็งแรงหลงั แกต้ ะครวิ แล้วนวดต่อดังน้ี (เพ่อื ปูองกนั การเปน็ ซ้า)

ภาพแสดง แนวนวดเดินเสน้ จากจดุ ใต้ข้อพบั เขา่ ลงมาถึงเอ็นรอ้ ยหวาย
คาแนะนา

1. ใช้น้ามนั ถนู วดกล้ามเนอ้ื บริเวณทเ่ี ปน็ ตะคริวกอ่ นนอนทุกวัน
2. แกไ้ ขสาเหตุทที่ าใหเ้ กิดโรค แนะนาใหร้ ับประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชนโ์ ดยเฉพาะแคลเซยี ม
3. งดอาหารแสลงที่ขบั ปัสสาวะ และทที่ าใหเ้ ลอื ดไหลเวยี นไม่ดี
4. หลกี เล่ียงความเยน็ ทาให้กลา้ มเนือ้ บริเวณนัน้ อบอุ่น
5. บริหารร่างกายเป็นประจา เพื่อแก้อาการตะคริว ทาได้ท้ังขณะเป็นหรือใช้เป็นท่าบริหาร
ทุกวัน ตวั อยา่ งเช่น

288

- เหยียดปลายเทา้ ตรง กระดกข้ึน-ลงชา้ ๆ
- มือเกาะผนัง ขาข้างดีอยู่หน้า ขาท่ีเป็นตะคริวอยู่ด้านหลัง ย่อขาหน้า ขาหลังตรง
และตงึ สน้ เทา้ ตดิ พน้ื
6. เป็นบอ่ ยๆ ให้นวดอาทิตย์ละ 2-3 ครัง้

8. กลมุ่ โรคขอ้ เท้าแพลง (Ankle sprain / Enthesopathy)

เกิดจากอุบตั เิ หตุ ตาแหนง่ ทพ่ี บมี 3 ตาแหน่ง
1. ด้านหนา้ ขอ้ เทา้ พบในลักษณะท่หี กลม้ แลว้ พับไปดา้ นหลงั
2. ดา้ นนอกขอ้ เท้า พบตาตมุ่ ด้านนอกดา้ นน้วิ ก้อย
3. ดา้ นตาตมุ่ ดา้ นใน พบไมบ่ อ่ ยแตร่ นุ แรง
ลักษณะอาการ
อาการปวด บวม สามารถแบ่งได้ 3 ระดบั
ระดบั ที่ 1 กลา้ มเนื้อพลิก เอน็ ขอ้ ต่อยดื เอ็นพลกิ มักจะหายภายใน 7 วนั
ระดับที่ 2 มีการฉีกขาดของเอ็นเนื้อเย่ือข้อเท้าทั้ง 7 ชิ้น อาจจะเคล่ือน ลักษณะเด่น มีบวม
แดง ห้อเลือด เปน็ ทันทหี ลงั จากข้อเทา้ พลิก
ระดับท่ี 3 มักจะพบข้อเท้าแพลงด้านใน มีกระดูกหักร่วมด้วย ยืนรับน้าหนักตัวเองไม่ได้ มีห้อ
เลือด และมีรอยกระดูกหักชดั เจน (ต้องสง่ ต่อโรงพยาบาล)

8.1 ข้อเท้าแพลงระดับ 1 (ด้านหน้า)
(Mild Syndesmosis Sprain)

สาเหตุ
เกดิ จากอบุ ัตเิ หตุบรเิ วณด้านหนา้ ข้อเทา้ พบในลกั ษณะที่หกล้ม แล้วพับไปดา้ นหลงั

อาการ
ปวดขัดในข้อ ข้อไม่บวม หรือบวมบริเวณข้อเท้าด้านหน้า อาจพบกระดูกขบกันเล็กน้อยร่วม

ด้วย ทาให้เดนิ ไม่ถนดั อาการมักจะหายเองภายใน 7 วนั แตจ่ ะเกดิ สภาวะข้อหลวมตามมาได้
วิธตี รวจ

1. ดูลกั ษณะการเดนิ
2. ตรวจตาแหนง่ โรค ดูจดุ เจบ็ รอยบวม
3. ให้ผ้ปู วุ ยยนื เขยง่ ปลายเท้า ถา้ ยนื ได้แสดงวา่ ข้อเอน็ ไม่เคลอ่ื น
4. ดอู งศาข้อเท้า กระดกขอ้ เทา้ ขนึ้ -ลง เปรยี บเทยี บ
5. ทดสอบกาลัง ให้ออกแรงถบี ปลายเทา้

289

สูตรการรักษา
1. นวดพื้นฐานขา เปิดประตลู ม เนน้ ขอ้ เท้า
2. นวดสัญญาณ 1-5 ขาด้านนอก (นวดแบบเดนิ เสน้ พืน้ ฐาน)
3. นวดสญั ญาณ 1-5 ขาด้านใน เนน้ สัญญาณ 5
4. ตรวจหลังการรักษา
หมายเหตุ : ใหต้ รวจชีพจรตรงสญั ญาณ 5 ถา้ สญั ญาณเตน้ ไมช่ ดั เจน ให้คัดเส้น เพ่ือตรวจดูการ

เต้นของสญั ญาณ เป็นการประเมินผลการรักษาดว้ ย
คาแนะนา

1. ประคบความร้อนช้นื 10-15 นาที ด้วยสมุนไพร
2. หา้ มบิด ดัดสลัดขา
3. พกั การเดิน
4. บรหิ ารข้อเท้า

- ยืนเขย่งปลายเทา้ 5 คร้ัง
- วิง่ ยา่ เทา้ 3 จังหวะ ทาเชา้ -เย็น
5. นวดคร้ังเดยี ว ถา้ ไมห่ ายใหน้ วดวันเวน้ วนั

ภาพแสดง ทา่ การนวดคัดเส้นท่ีขอ้ เทา้

8.2 ข้อเทา้ แพลงระดบั 2 (ดา้ นหนา้ )
(Moderate Syndesmosis Sprain)

สาเหตุ
เกดิ จากอบุ ัติเหตุ

อาการ
อาการเกิดจากล้มพับ ข้อเท้าพลิกไปด้านหลัง มีอาการปวด บวม แดง ช้า ร้อนมีรอยเขียวคล้า

ปรากฏใหเ้ หน็


Click to View FlipBook Version