The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by niramonchaiwong9, 2022-09-25 21:49:13

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2

คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิ่งมีชีวติ

คาถามของนักเรยี นทีต่ ้ังตามความอยากรูข้ องตนเอง

 211







สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 สิง่ มชี ีวิต

แนวการประเมินการเรียนรู้

การประเมินการเรียนรขู้ องนักเรยี นทาได้ ดงั นี้
1. ประเมนิ ความรเู้ ดิมจากการอภิปรายในชนั้ เรียน
2. ประเมนิ การเรียนรู้จากคาตอบของนักเรยี นระหวา่ งการจดั การเรียนรแู้ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม
3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากิจกรรมของนักเรียน

การประเมินจากการทากจิ กรรมท่ี 1.1 ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของพืชมอี ะไรบ้าง

ระดบั คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้

รหัส สิ่งทีป่ ระเมนิ ระดับ
คะแนน
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
S1 การสังเกต
S8 การลงความเห็นจากขอ้ มลู
S13 การตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
C2 การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ
C4 การสอ่ื สาร
C5 ความร่วมมือ

รวมคะแนน

212 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 5 สิ่งมชี ีวิต

ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดับความสามารถของนกั เรียน

โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดังนี้

ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1)
ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (2)

S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท

รายละเอยี ด สัมผัสเกบ็ รายละเอียด สัมผัสเกบ็ รายละเอยี ด สัมผัสเกบ็ รายละเอยี ด

เก่ียวกับลักษณะ ขอ้ มูลเกี่ยวกับลักษณะ ข้อมูลเก่ยี วกับลักษณะ ขอ้ มูลเกยี่ วกับลกั ษณะ

ต่าง ๆ ของพืช ตา่ ง ๆ ของพชื ได้ด้วย ต่าง ๆ ของพืชได้ จาก ต่าง ๆ ของพชื ไดเ้ พยี ง

ตนเอง โดยไม่เพ่ิม การช้ีแนะของครูหรือ บางสว่ น แมว้ า่ จะได้

ความคดิ เหน็ ผูอ้ น่ื หรอื มกี ารเพ่ิมเตมิ รับคาช้ีแนะจากครหู รือ

ความคิดเหน็ ผอู้ ื่น

S8 การลงความเห็น การลงความเหน็ สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็

จากขอ้ มูล จากข้อมลู ว่าพชื มี จากข้อมลู ได้อย่าง ข้อมลู ไดอ้ ย่างถูกต้องโดย จากข้อมูลได้วา่ พืชมี

การถ่ายทอด ถกู ต้องดว้ ยตนเองว่า อาศยั การชแี้ นะของครู ลกั ษณะตา่ ง ๆ ท่สี งั เกต

ลกั ษณะทาง พชื มีการถ่ายทอด หรอื ผู้อนื่ วา่ พชื มีการ ได้ แต่ไมส่ ามารถลง
พนั ธุกรรมจากร่นุ ลกั ษณะทางพันธุกรรม ถา่ ยทอดลักษณะทาง ความเห็นไดว้ ่าพืชมีการ

พ่อแม่ไปสรู่ นุ่ ลูก จากรุ่นพ่อแม่ไปส่รู ุ่น พนั ธกุ รรมจากรุ่นพ่อแม่ ถ่ายทอดลกั ษณะต่าง ๆ

เชน่ ลกั ษณะ ลูกเช่น ลักษณะลาต้น ไปสรู่ ุ่นลูก เชน่ ลกั ษณะ เหลา่ นน้ั จากรนุ่ พ่อแม่

ลาตน้ รปู รา่ งของ รูปร่างของใบ เสน้ ใบ ลาต้น รปู ร่างของใบ ไปสู่รุ่นลูก แม้ว่าจะได้

ใบ เส้นใบและ และลายบนใบ รูปร่าง เสน้ ใบและลายบนใบ รับคาชแ้ี นะจากครูหรือ

ลายบนใบ รูปรา่ ง ของดอก สดี อก รูปร่างของดอก สดี อก ผอู้ ่ืน

ของดอก สดี อก ลกั ษณะของกลีบดอก ลักษณะของกลีบดอก

ลกั ษณะของ

กลีบดอก

S13 การตีความหมาย การตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย

ขอ้ มลู และลงข้อสรุป ข้อมลู และลง ข้อมูลและลงข้อสรปุ ข้อมลู และลงข้อสรุปจาก ข้อมลู และลงข้อสรุป

ข้อสรุปจากการ จากการสงั เกตและการ การสังเกตและการ จากการสงั เกตและการ

สังเกตและการ วเิ คราะห์ได้ถูกต้องด้วย วเิ คราะห์ได้ถูกต้องโดย วิเคราะห์ลักษณะทาง

วิเคราะห์ไดว้ ่า ตนเองว่าลักษณะทาง อาศัยการการชแ้ี นะของ พนั ธกุ รรมของพืชได้

ลักษณะทาง พนั ธุกรรมของพืชเปน็ ครหู รอื ผู้อ่นื ว่าลักษณะ เพยี งบางส่วนว่าพืชมี

พนั ธุกรรมของพชื ลกั ษณะที่มีการ ทางพันธกุ รรมของพืช การถา่ ยทอดลักษณะ

เปน็ ลักษณะท่ีมี ถา่ ยทอดจากรนุ่ พ่อแม่ เป็นลักษณะทม่ี ีการ ต่าง ๆ เหลา่ นั้นจากรนุ่

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 213

คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิง่ มีชีวิต

ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (2) พ่อแม่ไปสู่รนุ่ ลกู แมว้ ่า
จะไดร้ ับคาชแ้ี นะจาก
การถ่ายทอดจาก ไปสู่รุ่นลกู เชน่ ถา่ ยทอดจากรนุ่ พอ่ แม่ ครหู รอื ผู้อน่ื

รุน่ พอ่ แมไ่ ปสรู่ นุ่ ลักษณะลาตน้ รปู ร่าง ไปสูร่ นุ่ ลูก เชน่ ลกั ษณะ

ลกู เช่น ลกั ษณะ ของใบ เสน้ ใบและลาย ลาต้น รูปร่างของใบ

ลาตน้ รูปร่างของ บนใบ รูปร่างของดอก เส้นใบและลายบนใบ

ใบ เสน้ ใบและ สดี อก ลกั ษณะของ รปู ร่างของดอก สดี อก

ลายบนใบ รปู ร่าง กลบี ดอก ลักษณะของกลีบดอก

ของดอก สีดอก

ลักษณะของ

กลบี ดอก

214 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สิ่งมชี ีวิต

ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดบั ความสามารถของนกั เรยี น
โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมิน ดังนี้

ทักษะแห่งศตวรรษท่ี รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ

21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)

C2 การคดิ อยา่ งมี การบอกเหตุผล สามารถบอกเหตุผล สามารถบอกเหตุผล สามารถจัดกลุ่มตน้ พืชรุ่น

วิจารณาญาณ และตัดสินใจ และตดั สินใจจดั กลมุ่ และตดั สนิ ใจจัดกลมุ่ ลูกกับต้นพืชรุ่นพ่อแม่ได้

จดั กลุ่มต้นพืช ต้นพืชรุน่ ลกู กับตน้ ตน้ พชื รนุ่ ลูกกบั ต้นพืช แต่ไมส่ ามารถบอกเหตุผล

รุ่นลูกกับต้นพืช พืชรนุ่ พอ่ แม่ได้ รนุ่ พอ่ แม่ได้ถกู ต้องโดย ในการจัดกลุม่ ได้แมว้ า่ จะได้

รุ่นพ่อแม่ ถูกต้องดว้ ยตนเอง ต้องอาศัยการชีแ้ นะ รบั คาช้แี นะจากครูหรอื

จากครหู รือผู้อน่ื ผูอ้ นื่

C4 การสือ่ สาร การนาเสนอ สามารถนาเสนอขอ้ มลู สามารถนาเสนอข้อมูล สามารถนาเสนอขอ้ มูลจาก

ข้อมูลจากการ จากการสังเกต และ จากการสงั เกต และการ การสงั เกต และการ

สังเกต และการ การวิเคราะห์ จบั คู่ วเิ คราะห์ จบั คตู่ น้ พชื รนุ่ วิเคราะห์ จบั คูต่ น้ พืชรนุ่ ลกู

วเิ คราะห์จับคตู่ ้น ต้นพืชร่นุ ลกู กบั ตน้ พืช ลกู กบั ตน้ พชื รุ่นพ่อแม่ กับต้นพืชรนุ่ พ่อแม่ ใหผ้ อู้ นื่

พชื รุน่ ลูกกบั รุ่นพอ่ แม่ ใหผ้ ู้อนื่ ให้ผอู้ นื่ เข้าใจไดถ้ ูกต้อง เข้าใจได้เพียงบางสว่ น

ต้นพืชรุ่นพ่อแม่ เข้าใจได้ถูกต้องด้วย จากการชี้แนะของครู แมว้ ่าจะได้รับคาชีแ้ นะจาก

ใหผ้ ้อู น่ื เข้าใจ ตนเอง หรือผอู้ ่ืน ครหู รอื ผ้อู ื่น

C5 ความร่วมมอื การทางาน สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานรว่ มกับ สามารถทางานรว่ มกับผ้อู ่นื

รว่ มกบั ผอู้ ื่น และ ผู้อนื่ และแสดงความ ผูอ้ ่ืนและแสดงความ ไดบ้ ้าง แต่ไม่คอ่ ยแสดง

การแสดงความ คิดเห็น ในการสงั เกต คดิ เห็น ในการสงั เกต ความคิดเห็นเก่ียวกับการ

คิดเหน็ ในการ การวิเคราะหจ์ บั คู่ การวิเคราะห์จบั คตู่ น้ พืช วเิ คราะห์จับค่ตู ้นพืชรุ่นลกู

สงั เกต การ ต้นพืชร่นุ ลูกกบั ตน้ พืช ร่นุ ลูกกบั ต้นพืชร่นุ พ่อ กับตน้ พชื รุ่นพ่อแม่ รวมท้งั

วิเคราะห์จบั คู่ตน้ รุ่นพอ่ แม่รวมทง้ั แม่รวมทง้ั ยอมรับความ ไมแ่ สดงความสนใจต่อความ

พืชรุ่นลูกกบั ยอมรบั ความคิดเหน็ คิดเห็นของผู้อนื่ ใน คิดเห็นของผอู้ ่ืน ท้ังนี้ต้อง

ตน้ พชื รุ่นพ่อแม่ ของผู้อนื่ ตงั้ แตเ่ ริ่มต้น บางชว่ งเวลาท่ที า อาศัยการกระตุ้นจากครู

รวมท้งั ยอมรบั จนสาเรจ็ กจิ กรรม หรือผู้อนื่

ความคิดเห็นของ

ผอู้ ื่น

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 215

คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 5 สิ่งมชี ีวติ

กิจกรรมท่ี 1.2 ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสตั ว์มีอะไรบ้าง

กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้สังเกตลักษณะต่าง ๆ ของ
สัตว์ในกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งได้พยากรณ์ลักษณะของลูกสัตว์
จากข้อมูลลักษณะของพ่อและแม่ และอธิบายลักษณะทาง
พนั ธกุ รรมของสัตว์

เวลา 2 ชว่ั โมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

สังเกต วเิ คราะห์ และอธบิ ายลกั ษณะทางพันธุกรรม
ของสตั ว์ทมี่ ีการถ่ายทอดจากรนุ่ พ่อแม่สู่รุ่นลูก

วัสดุ อปุ กรณส์ าหรบั ทากจิ กรรม 1 ชุด
1 กล่อง
สิ่งทค่ี รูต้องเตรยี ม/กลุ่ม
1. บตั รภาพครอบครัวของสตั ว์
2. สไี ม้

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต
S6 การจัดกระทาและสอ่ื ความหมายข้อมูล
S7 การพยากรณ์
S8 การลงความเห็นจากข้อมูล
S13 การตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ส่อื การเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้

C2 การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 1. หนงั สอื เรยี น ป.5 เล่ม 2 หน้า 83-85
C4 การส่ือสาร 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.5 เล่ม 2 หนา้ 72-75
C5 ความร่วมมือ

216 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 ส่งิ มีชีวติ

แนวการจัดการเรียนรู้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม
ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละคนจับบัตรคา เป็นสาคัญ และยังไม่เฉลยคาตอบ
ช่ือสัตว์ท่ีครูเตรียมไว้ ซ่ึงมีช่ือสัตว์ต่าง ๆ ครบทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มปลา ใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนให้
กลุ่มสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่มสัตว์เล้ือยคลาน กลุ่มสัตว์ปีก นักเรียนไปหาคาตอบท่ีถูกต้องจาก
และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านม ให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาช่ือสัตว์ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในบทเรยี นน้ี
จากบัตรคาที่ได้รับและไปรวมกลุ่มกับเพื่อนท่ีได้ชื่อสัตว์ในกลุ่มเดียวกัน
จากน้ันให้แต่ละกลุ่มเลือกสัตว์ในกลุ่ม 1 ชนิด และบอกลักษณะของสัตว์ ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม
ชนดิ นนั้ จากนน้ั ใช้แนวคาถามในการอภิปรายดังต่อไปน้ี
1.1 ลักษณะต่าง ๆ ของสัตว์ชนิดน้ีได้มาจากไหน (ลักษณะต่าง ๆ ของสัตว์ ค รู ส า ม า ร ถ ด า ว น์ โ ห ล ด บั ต ร
ชนดิ ไดร้ บั การถา่ ยทอดมาจากพอ่ และแม)่ ภ า พ ค ร อ บ ค รั ว ข อ ง สั ต ว์ ไ ด้ โ ด ย
1.2 ลักษณะทางพันธุกรรมของสัตว์ชนิดนี้มีอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตาม สแกน QR Code ในหนังสือเรียน
ความเข้าใจของตนเอง) หน้า 83 นามาพิมพ์สี และจัดเป็น
ชุดบัตรภาพ เพื่อให้นักเรียนแต่ละ
2. ครูเช่ือมโยงความรู้เดิมของนักเรียนไปสู่กิจกรรมท่ี 1.2 โดยชักชวนให้ กลุม่ ใชส้ าหรบั ทากิจกรรม
นักเรียนค้นหาคาตอบว่าสัตว์ในกลุ่มต่าง ๆ มีลักษณะใดบ้างที่เป็นลักษณะ
ทางพนั ธุกรรม

3. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น แล้วร่วมกันอภิปรายเพ่ือ
ตรวจสอบความเขา้ ใจจุดประสงคใ์ นการทากจิ กรรม โดยใช้คาถามดังน้ี
3.1 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (ลักษณะทางพันธุกรรมของ
สัตว์)
3.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นร้เู รือ่ งนี้ดว้ ยวิธใี ด (สังเกต และวิเคราะห์)
3.3 เมอ่ื เรยี นแลว้ นักเรยี นจะทาอะไรได้ (อธิบายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของ
สัตว์ได)้

4. นกั เรยี นบนั ทึกจุดประสงค์ลงในแบบบันทึกกจิ กรรม หนา้ 72 และ อา่ นส่ิงที่
ตอ้ งใช้ในการทากจิ กรรม

5. นักเรียนอ่านทาอย่างไรทีละข้อ ครูฝึกทักษะการอ่านโดยใช้วิธีฝึกอ่านที่
เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากน้ันครูตรวจสอบความเข้าใจ
เกี่ยวกับขั้นตอนการทากิจกรรม จนนักเรียนเข้าใจลาดับการทากิจกรรม
โดยใช้คาถามดงั นี้
5.1 นักเรียนต้องทาส่ิงใดเป็นอันดับแรก (สังเกต และเปรียบเทียบลักษณะ
ของพอ่ แม่ กับลูกของปลา กบ งู และเป็ดในบัตรภาพ)
5.2 นักเรียนเปรียบเทียบลักษณะของสัตว์ในแต่ละครอบครัวอย่างไร
(เปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกต่างของลกู กบั พ่อและแม่)

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 217

คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สง่ิ มีชีวติ

5.3 นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับเร่ืองอะไร (อภิปรายเก่ียวกับลักษณะ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ
ทางพันธกุ รรมของสตั ว์) ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21

5.4 นักเรียนจะต้องสงั เกตสตั วช์ นิดใด (กระต่าย) ทน่ี กั เรยี นจะได้ฝึกจากการทากิจกรรม
5.5 นักเรียนต้องสังเกตลักษณะใดของกระต่าย (นักเรียนตอบตามความ
S1 สังเกตลักษณะของสตั ว์
เข้าใจของตนเอง) S8 อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะทาง
5.6 เม่ือนักเรียนสังเกตลักษณะต่าง ๆ ของกระต่ายเพศผู้และเพศเมียแล้ว พนั ธุกรรมของสตั ว์
S6 วาดรูปลกู กระต่าย
ต้องทาอะไรต่อ (พยากรณ์ลักษณะของลูกกระต่ายท่ีเกิดจากการผสมพันธุ์ S7 พยากรณล์ กั ษณะของลกู กระต่าย
ของกระตา่ ย 2 ตัวนี้) C4, C5 เปรียบเทียบลักษณะของ
5.7 นักเรียนพยากรณ์ลักษณะของลูกกระต่ายได้อย่างไร เพราะเหตุใด พ่อ แม่ ลูกสัตว์และนาเสนอรูป
(พยากรณจ์ ากข้อมลู ท่ีได้จากการสังเกตลักษณะของกระตา่ ยเพศผู้และ ลูกกระต่ายทีว่ าด
กระตา่ ยเพศเมีย เพราะลกั ษณะของพ่อและแมจ่ ะถ่ายทอดไปสู่ลกู )
5.8 นักเรียนบันทึกลักษณะของลูกกระต่ายท่ีได้จากการพยากรณ์อย่างไร ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบ
(บันทกึ โดยการวาดรปู ) คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว
5.9 นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับเรื่องอะไร (อภิปรายเก่ียวกับลักษณะ คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน
ทางพันธกุ รรมของกระตา่ ย) คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง
6. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ให้ครูแจกบัตรภาพ อดทน และรับฟังแนวความคิด
ครอบครัวสัตว์ใหก้ ับนักเรยี นและใหน้ ักเรยี นเรมิ่ ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอน ของนักเรียน
7. หลงั จากทากิจกรรมแล้ว ครูนาอภิปรายผลการทากจิ กรรม โดยใชค้ าถาม
ดังน้ี
7.1 จากบตั รภาพนักเรียนได้สังเกตสตั ว์ชนดิ ใดบ้าง (ปลา กบ งู เปด็ )
7.2 นักเรียนสังเกตลักษณะใดของสัตว์ (นักเรียนตอบตามลักษณะท่ีสังเกต
จรงิ เช่น ลักษณะของปาก หวั ผวิ หนงั เส้นขน เกลด็ ปกี ตีน ขา หาง)
7.3 ลูกสัตว์แต่ละชนิดมีลักษณะเป็นอย่างไร เม่ือเปรียบเทียบกับลักษณะ
ของพ่อแม่ ยกตัวอย่าง (ลูกของสัตว์จะมีบางลักษณะเหมือนพ่อ
บางลักษณะเหมือนแม่ บางลักษณะเหมือนท้ังพ่อและแม่ บางลักษณะ
แตกต่างจากท้ังพ่อและแม่ เช่น ปลามีลักษณะลาตัวเหมือนทั้งพ่อและ
แม่ แต่มีสีเกล็ดของลาตัวเหมือนเฉพาะพ่อ ลวดลายของครีบและหาง
แตกตา่ งจากทงั้ พอ่ และแม)่
7.4 ลักษณะใดของสัตว์ที่เป็นลักษณะทางพันธุกรรม เพราะเหตุใด
(ลักษณะทางพันธุกรรมของสัตว์มีหลายลกั ษณะ เช่น ลักษณะของสีตา
สีขน เกล็ด ผิวหนัง ลักษณะของร่างกาย ใบหน้า ใบหู ปาก หาง ตีน
ปีก ครีบ)

218 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 ส่ิงมชี ีวิต

7.5 ลักษณะของลูกกระต่ายท่ีนักเรียนวาดไว้เป็นอย่างไร (นักเรียนตอบ การเตรยี มตวั ล่วงหน้าสาหรับครู
ตามข้อมูลลูกกระต่ายทวี่ าดไว้) เพือ่ จัดการเรียนรใู้ นครง้ั ถัดไป

7.6 ลักษณะของลูกกระต่ายเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับลักษณะของ ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้ทา
พ่อแม่ (นักเรียนตอบตามข้อมูลลูกกระต่ายที่วาดไว้ และผลการ กิจกรรมท่ี 1.3 ลักษณะทางพันธุกรรม
เปรยี บเทียบกับลกั ษณะของพอ่ แม่) ข อ ง ค น ใ น ค ร อ บ ค รั ว เ ป็ น อ ย่ า ง ไ ร
ครเู ตรียมการดงั นี้
7.7 นักเรียนคิดว่าลักษณะใดของกระต่ายท่ีเป็นลักษณะทางพันธุกรรม 1. เตรียมภาพตัวอย่างครอบครัวท่ี
เพราะเหตุใด (ลักษณะของสีตา สีขน ใบหน้า ใบหู ปาก หาง ตีน ขน
และความยาวของขน เพราะลักษณะเหล่านี้ของลูกเป็นลักษณะ ส า ม า ร ถ สั ง เ ก ต ลั ก ษ ณ ะ ที่ มี ค ว า ม
เหมอื นกบั พ่อแม่ หรอื เหมอื นเฉพาะพ่อ เหมือนเฉพาะแม่ แสดงว่าเป็น คล้ายคลึงกันได้อย่างชัดเจนมาให้
ลกั ษณะทีไ่ ดร้ ับการถา่ ยทอดมาจากพ่อและแม่) นักเรียนสังเกตในการสารวจความรู้
เดิม เช่น ครอบครัวของบุคคลท่ีเปน็
8. ร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าสัตว์มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ท่รี จู้ กั ของคนทวั่ ไป
จากสตั ว์รุ่นพ่อแม่ไปสู่รุ่นลกู ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสัตว์มีหลายลักษณะ 2. ครูอาจให้นักเรียนสารวจลักษณะ
เช่น ลักษณะของสีตา สีขน สีผิว เกล็ด ผิวหนัง ร่างกาย ใบหน้า ใบหู ปาก ต่าง ๆ ของคนในครอบครัวมาก่อน
หาง ตนี ปีก ครีบ ขน และความยาวของขน ซงึ่ ลักษณะเหลา่ นี้บางอยา่ งอาจ ถึงเวลาเรยี น
เหมือนพ่อ เหมือนแม่ เหมือนทั้งพ่อและแม่ หรือแตกต่างจากท้ังพ่อและแม่
(S13)

9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคาถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คาถาม
เพ่มิ เตมิ ในการอภิปรายเพ่อื ใหไ้ ด้แนวคาตอบท่ีถกู ต้อง

10. นักเรียนอ่าน สิ่งที่ได้เรียนรู้ และเปรียบเทียบกับข้อสรุปท่ีได้จากการ
อภิปราย

11. ครูกระตุ้นใหน้ ักเรียนฝึกต้ังคาถามเกีย่ วกบั เร่ืองท่สี งสัยหรืออยากรู้เพิ่มเติม
ใน อยากรู้อีกว่า จากน้ันครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอคาถามของ
ตนเองหน้าช้ันเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับคาถามที่
นาเสนอ

12. ครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขั้นตอนใดบา้ ง
แล้วบันทกึ ลงในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 75

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 219

บัตรภาพครอบค ัรวของ ัสต ์ว คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 สง่ิ มีชีวิต

ครอบค ัรว พ่อ แ ่ม ูลก ทม่ี าของบตั รภาพ
ปลา 1. พ่อกบ www.pixabay.com/Filip Kruchlik, แม่กบ www.pixabay.com/Zdeněk Chalupský
กบ ลกู กบ www.pixabay.com/Nathalie DB
ูง 2. งู สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย
เ ็ปด 3. พ่อเป็ด www.pixabay.com/Anna-f
แมเ่ ป็ด www.pixabay.com/1239652
ลูกเปด็ www.pixabay.com/Karsten Paulick

220 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สิ่งมีชีวติ

แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม

สงั เกต วเิ คราะห์ และอธิบายลกั ษณะทางพันธุกรรมของสัตวท์ ่ีมีการ
ถ่ายทอดจากรุ่นพ่อแมส่ ู่รุน่ ลูก

หางและเกล็ดท่ี ไม่มี ลกั ษณะของ ไมม่ ี
ลาตวั มีสสี ม้ รา่ งกาย เกลด็
ครบี หาง

ไมม่ ี ไมม่ ี ลักษณะของ ไมม่ ี
ไม่มี ไมม่ ี รา่ งกาย ผิวหนังลื่น
ชน้ื มีสเี ขยี วและมี
เส้นสดี าขา้ งลาตัว
ไปถึงจมูก

ลกั ษณะของ สีของเกล็ด
รา่ งกายและเกลด็ แตกตา่ งจากพ่อ
และแมเ่ ล็กน้อย

สีขนที่ปีกบางส่วน สขี นส่วนใหญส่ ี ลกั ษณะของ ไม่มี
สเี ขียวเหมือนพ่อ นา้ ตาลเหมือนแม่ ร่างกาย มขี น
ตีนมพี ังผืด
ปากแบน

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 221

ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 สิ่งมชี ีวิต

ลกั ษณะของสตี า สีขน สีผิว เกลด็ ผิวหนัง ร่างกาย ใบหน้า ใบหู ปาก หาง ตีน ปีก
ครบี ขนและความยาวของขน

ดา สน้ั ดา หูต้งั หางกลม หัวกลม หนา้ แหลม
ขาว สน้ั
ปลายหแู หลม มหี นวด

แดง หตู ้งั ไมเ่ ห็นหาง หัวกลม หน้าแหลม

ปลายหแู หลม มหี นวด

ลักษณะของลูกกระต่ายขึน้ อย่กู ับการพยากรณ์ของนกั เรยี น

222 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 5 สง่ิ มชี ีวติ

ลกั ษณะของสตี า สีขน สีผิว เกลด็ ผวิ หนงั รา่ งกาย ใบหนา้ ใบหู ปาก หาง ตนี ปกี ครบี
ขนและความยาวของขน เป็นลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม เพราะเปน็ ลกั ษณะที่มกี ารถ่ายทอด
จากพอ่ แมไ่ ปสรู่ ่นุ ลกู สังเกตได้จากลูกจะมลี ักษณะเหล่านีเ้ หมือนพ่อ เหมือนแม่ หรือ
เหมอื นท้ังพ่อและแม่ หรืออาจมลี กั ษณะท่ีคล้ายคลึงแตไ่ ม่เหมอื นพ่อแม่

พยากรณจ์ ากข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการสังเกตลักษณะของกระต่ายเพศผแู้ ละกระตา่ ยเพศเมีย
เพราะลักษณะของลูกเป็นลกั ษณะทไี่ ดร้ บั การถ่ายทอดมาจากพ่อแม่

นกั เรียนตอบตามข้อมูลของลูกกระตา่ ยทนี่ กั เรียนวาดไว้ และผลการเปรียบเทียบ
ลักษณะของพ่อแม่ ซง่ึ อาจมีบางลักษณะเหมือนพอ่ บางลกั ษณะเหมอื นแม่
บางลกั ษณะเหมือนทัง้ พ่อและแม่ บางลักษณะแตกต่างจากท้ังพ่อและแม่ เพราะ
ลกั ษณะของลูกกระต่ายจะข้ึนอยูก่ ับลักษณะของพอ่ และแม่

สตั ว์ในครอบครัวเดียวกนั ลูกจะมีลักษณะบางลกั ษณะท่ีเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ หรือ
เหมือนท้ังพ่อและแม่ เช่น ลักษณะของสีตา สีขน สผี ิว เกล็ด ผิวหนงั ร่างกาย ใบหน้า
ใบหู ปาก หาง ตีน ปีก ครีบ ขนและความยาวของขน เราสามารถพยากรณ์ลกั ษณะ
ของลูกได้จากลกั ษณะของพ่อและแม่

ลักษณะทางพันธกุ รรมของสัตว์เป็นลักษณะทม่ี ีการถา่ ยทอดจากรุ่นพ่อแม่ไปสู่รนุ่ ลูก
ซึง่ มีหลายลักษณะ เช่น ลักษณะของสีตา สีขน สีผิว เกล็ด ผวิ หนัง ร่างกาย ใบหน้า
ใบหู ปาก หาง ตีน ปกี ครีบ ขนและความยาวของขน

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 223

คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 5 สงิ่ มชี ีวติ

คาถามของนักเรยี นทตี่ ้ังตามความอยากร้ขู องตนเอง









224 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 ส่ิงมีชีวิต

แนวการประเมินการเรียนรู้

การประเมนิ การเรียนร้ขู องนักเรยี นทาได้ ดงั น้ี
1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภิปรายในชน้ั เรยี น
2. ประเมนิ การเรยี นร้จู ากคาตอบของนกั เรียนระหว่างการจดั การเรยี นร้แู ละจากแบบบนั ทึกกิจกรรม
3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรมของนกั เรียน

การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 1.2 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสตั ว์มอี ะไรบ้าง

ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ
3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้

รหสั สิ่งทป่ี ระเมนิ ระดับ
คะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสงั เกต
S6 การจัดกระทาและสอื่ ความหมายขอ้ มูล
S7 การพยากรณ์
S8 การลงความเหน็ จากข้อมลู
S13 การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงข้อสรุป
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
C4 การสอื่ สาร
C5 ความรว่ มมือ

รวมคะแนน

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 225

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 5 สง่ิ มีชีวิต

ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตามระดบั ความสามารถของนักเรียน

โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมนิ ดังนี้

ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรุง (1)
ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (2)

S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาทสัมผัส

รายละเอียดเกี่ยวกับ สมั ผสั เก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด เก็บรายละเอียดข้อมลู

ลกั ษณะตา่ ง ๆ ของ ข้อมูลเกยี่ วกบั ลักษณะ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลักษณะ เกย่ี วกับลักษณะต่าง ๆ

สัตวใ์ นกล่มุ ตา่ ง ๆ ต่าง ๆ ของสตั ว์ในกลุ่ม ตา่ ง ๆ ของสตั วใ์ นกลมุ่ ของสตั ว์ในกลุม่ ตา่ ง ๆ ได้

ตา่ ง ๆ ได้ ด้วยตนเอง ต่าง ๆ ได้ จากการ เพียงบางสว่ น แมว้ า่ จะได้

โดยไมเ่ พิ่มเติมความ ชี้แนะของครูหรือผู้อืน่ รับคาชแี้ นะจากครูหรอื

คิดเหน็ หรือมีการเพ่ิมเติมความ ผูอ้ ่นื

คดิ เหน็

S6 การจัดกระทา การนาข้อมูลท่ีได้จาก สามารถนาข้อมูลท่ีได้ สามารถนาข้อมลู ที่ได้ สามารถนาข้อมูลที่ไดจ้ าก

และสื่อความหมาย การพยากรณล์ กั ษณะ จากการพยากรณ์ จากการพยากรณ์ การพยากรณล์ กั ษณะของ
ขอ้ มลู ลูกกระต่ายมาวาดรปู ได้
ของลกู กระต่ายมา ลกั ษณะของลูก ลักษณะของลูกกระตา่ ย แตไ่ มส่ ามารถสื่อให้ผอู้ ่นื
เข้าใจลักษณะของลกู
วาดรปู รวมทั้งสือ่ ให้ กระต่ายมาวาดรูป มาวาดรปู รวมทง้ั สือ่ ให้ กระตา่ ย ไดอ้ ยา่ งชดั เจน
ผอู้ ื่นเข้าใจลกั ษณะ แมว้ า่ จะได้รบั คาชแี้ นะจาก
รวมทั้งส่อื ใหผ้ อู้ ่ืนเข้าใจ ผอู้ น่ื เขา้ ใจลักษณะของ

ลกั ษณะของลกู ลกู กระต่ายได้อย่าง
ของลูกกระต่าย กระตา่ ยได้อย่างชัดเจน ชัดเจน จากการชแ้ี นะ

ดว้ ยตนเอง ของครหู รอื ผูอ้ ่ืน ครหู รอื ผู้อ่นื

S7 การพยากรณ์ การคาดการณ์ สามารถคาดการณ์ สามารถคาดการณ์ สามารถคาดการณ์

ลกั ษณะของลกู ลักษณะของลูกกระต่าย ลักษณะของลูกกระต่าย ลกั ษณะของลูกกระต่ายได้

กระตา่ ย โดยลกู ได้อย่างสมเหตสุ มผล ได้อย่างสมเหตสุ มผลโดย โดยอาศยั ข้อมลู ท่ีไม่

กระต่ายจะมลี ักษณะ ดว้ ยตนเอง โดยลูก อาศยั การชีแ้ นะจากครู สมเหตุสมผล ไมไ่ ด้ใช้

บางอยา่ งเหมือนพ่อ กระต่ายจะมลี ักษณะ หรอื ผู้อ่นื โดยลูกกระต่าย ขอ้ มูลจากการสงั เกต

เหมือนแม่ เหมอื นท้ัง บางอย่างเหมือนพ่อ จะมีลกั ษณะบางอยา่ ง ลกั ษณะของครอบครัวสตั ว์

พอ่ และแม่ หรือ เหมือนแม่ เหมือนท้ัง เหมือนพ่อ เหมือนแม่ อ่ืน ๆ

แตกต่างจากทั้งพ่อ พ่อและแม่ หรือ เหมือนทั้งพ่อและแม่

และแม่ แตกตา่ งจากท้ังพ่อและ หรอื แตกต่างจากทั้งพ่อ

แม่ โดยอาศยั ความรู้ และแม่ โดยอาศัยความรู้

จากการสงั เกตลักษณะ จากการสงั เกตลักษณะ

ของครอบครวั สัตว์อ่นื ๆ ของครอบครวั สัตวอ์ ่ืน ๆ

226 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 5 สิง่ มีชีวิต

ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร์ สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเห็นจาก
จากข้อมลู ได้อย่าง พอใช้ (2) ข้อมลู ได้วา่ สตั ว์มีลักษณะ
S8 การลงความเห็น การลงความเห็น ถูกต้องและชดั เจนด้วย สามารถลงความเห็นจาก ตา่ ง ๆ ทส่ี ังเกตได้ แต่ไม่
ตนเองว่าสัตว์มกี าร ข้อมูลไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง สามารถลงความเห็นไดว้ ่า
จากข้อมลู จากข้อมลู ว่าสตั วม์ ี ถา่ ยทอดลักษณะทาง และชดั เจน โดยอาศัย สตั ว์มกี ารถ่ายทอด
พนั ธุกรรม จากรุน่ พอ่ การชแ้ี นะของครหู รือ ลกั ษณะต่าง ๆ เหล่าน้นั
การถา่ ยทอด แมไ่ ปสู่รุ่นลกู เชน่ ผอู้ ื่นว่าสตั ว์มกี าร จากรนุ่ พ่อแม่ไปสูร่ นุ่ ลกู
ลกั ษณะของสตี า สีขน ถา่ ยทอดลกั ษณะทาง แม้ว่าจะไดร้ บั คาช้แี นะจาก
ลกั ษณะทาง สผี วิ เกล็ด ผวิ หนัง พนั ธุกรรม จากรุ่นพอ่ แม่ ครูหรอื ผู้อ่ืน
ร่างกาย ใบหน้า ใบหู ไปสรู่ ่นุ ลกู เช่น ลกั ษณะ
พันธุกรรมจากรนุ่ ปาก หาง ตีน ปกี ครีบ ของสตี า สีขน สผี วิ
ขนและความยาวของ เกล็ด ผิวหนงั ร่างกาย
พอ่ แมไ่ ปสู่รุ่นลูกเชน่ ขน ใบหน้า ใบหู ปาก หาง
ตนี ปกี ครบี ขนและ
ลกั ษณะของสตี า สี ความยาวของขน

ขน สผี วิ เกล็ด

ผวิ หนัง รา่ งกาย

ใบหนา้ ใบหู ปาก

หาง ตีน ปีก ครบี

ขนและความยาว

ของขน

S13 การตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย
การตคี วามหมาย ขอ้ มูลและลงข้อสรปุ จาก
ข้อมลู และลงข้อสรุป ขอ้ มลู และลงข้อสรปุ ขอ้ มลู และลงข้อสรุปได้ ขอ้ มูลและลงข้อสรปุ ได้ การสังเกตและและการ
พยากรณ์ลกั ษณะทาง
จากการสงั เกตและ ด้วยตนเองจากการ โดยอาศัยการช้ีแนะของ พนั ธุกรรมของสตั วไ์ ด้เพียง
บางสว่ น และลงข้อสรุป
การพยากรณ์ได้ว่า สงั เกตและการ ครูหรือผ้อู นื่ จากการ เรื่องการถ่ายทอดลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรมของสตั ว์ได้
ลกั ษณะทาง พยากรณ์ได้ว่า สงั เกตและการพยากรณ์ ไมส่ มบรู ณ์แมว้ ่าจะได้รบั
คาชแี้ นะจากครูหรือผู้อ่ืน
พนั ธุกรรมของสัตว์ ลักษณะทางพนั ธุกรรม ไดว้ ่า ลักษณะทาง

เปน็ ลักษณะทม่ี ีการ ของสัตวเ์ ปน็ ลกั ษณะที่ พันธกุ รรมของสตั ว์เปน็

ถ่ายทอดจากร่นุ พ่อ มกี ารถา่ ยทอดจากรุ่น ลักษณะทีม่ ีการถา่ ยทอด

แม่ไปสูร่ ุ่นลกู เช่น พอ่ แมไ่ ปสรู่ ุน่ ลกู เชน่ จากรุน่ พ่อแม่ไปสรู่ ุ่นลูก

ลกั ษณะของสีตา ลกั ษณะของสีตา สีขน เชน่ ลักษณะของสีตา

สขี น สผี ิว เกลด็ สีผิว เกล็ด ผิวหนงั สีขน สผี ิว เกล็ด ผิวหนัง

ผิวหนัง รา่ งกาย ร่างกาย ใบหน้า ใบหู ร่างกาย ใบหนา้ ใบหู

ใบหนา้ ใบหู ปาก ปาก หาง ตนี ปกี ครีบ ปาก หาง ตีน ปกี ครบี

หาง ตนี ปีก ครบี ขน ขนและความยาวของ ขนและความยาวของขน

และความยาวของขน ขน

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 227

คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สงิ่ มชี ีวิต

ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนักเรยี น
โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ดังน้ี

ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ระดับความสามารถ
ศตวรรษที่ 21
C4 การสื่อสาร ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1)

C5 ความร่วมมือ การนาเสนอข้อมูล สามารถนาเสนอข้อมูลจาก สามารถนาเสนอข้อมูลจาก สามารถนาเสนอข้อมลู

จากการสงั เกต และ การสังเกต และ การสงั เกต และเปรียบเทียบ จากการสงั เกต และ

เปรียบเทยี บลักษณะ เปรยี บเทยี บลกั ษณะของ ลักษณะของสัตวใ์ น เปรยี บเทยี บลักษณะของ

ของสัตวใ์ นครอบครัว สัตว์ในครอบครวั เดยี วกนั ครอบครัวเดียวกนั และผล สัตวใ์ นครอบครวั เดยี วกัน

เดยี วกนั และผลการ และผลการพยากรณ์ การพยากรณล์ กั ษณะของ และผลการพยากรณ์

พยากรณล์ ักษณะ ลักษณะของลูกกระตา่ ย ลกู กระต่าย ใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจได้ ลักษณะของลูกกระตา่ ย

ของลกู กระตา่ ยให้ ให้ผอู้ ่นื เข้าใจได้อยา่ ง อย่างถูกต้อง จากการชแี้ นะ ให้ผูอ้ ่นื เขา้ ใจไดเ้ พยี ง

ผอู้ ่นื เขา้ ใจ ถูกต้องด้วยตนเอง ของครหู รือผ้อู นื่ บางส่วน แมว้ า่ จะได้

รับคาชแี้ นะจากครูหรือ

ผู้อ่นื

การทางานรว่ มกับ สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานรว่ มกับผู้อื่น สามารถทางานรว่ มกบั

ผู้อนื่ และการแสดง ผอู้ นื่ และแสดงความ และแสดงความคดิ เหน็ ใน ผู้อน่ื และแสดงความ

ความคดิ เห็น ในการ คิดเหน็ ในการสังเกต และ การสังเกต และเปรยี บเทียบ คิดเหน็ เป็นบางชว่ งเวลา

สงั เกต และ เปรยี บเทยี บลกั ษณะของ ลักษณะของสัตว์ใน ของการทากจิ กรรม แต่

เปรียบเทยี บลกั ษณะ สัตว์ในครอบครวั เดียวกัน ครอบครัวเดยี วกัน รวมทั้ง ไมแ่ สดงความสนใจต่อ

ของสตั วใ์ นครอบครัว ท้งั ยอมรับความคิดเหน็ ยอมรบั ความคิดเหน็ ของ ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ท้ัง

เดยี วกนั รวมทัง้ ของผู้อ่ืนตั้งแตเ่ ร่ิมต้นจน ผู้อ่นื ในบางช่วงเวลาทที่ า ตอ้ งอาศยั การกระตุน้

ยอมรับความคิดเห็น สาเรจ็ กิจกรรม จากครูหรอื ผู้อ่ืน

ของผู้อื่น

228 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 สิ่งมชี ีวิต

กจิ กรรมท่ี 1.3 ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของคนในครอบครัวเปน็ อยา่ งไร

กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้สังเกตลักษณะต่าง ๆ ของ สือ่ การเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้ หนา้ 86-89
ตนเองและคนในครอบครัว และอธิบายลักษณะทาง หน้า 76-79
พันธุกรรมของมนษุ ย์ 1. หนงั สอื เรียน ป.5 เล่ม 2
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.5 เลม่ 2
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

สารวจ และเปรียบเทียบลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของ
คนในครอบครวั

วัสดุ อุปกรณ์สาหรับทากจิ กรรม

-

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต
S8 การลงความเห็นจากข้อมูล
S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ

ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

C4 การส่อื สาร

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 229

คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สิ่งมชี ีวติ

แนวการจดั การเรยี นรู้ ในการตรวจสอบความรู้
เดิม ครูเพียงรับฟังเหตุผลของ
1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์ โดยให้ นักเรียนเป็นสาคัญและยังไม่
นักเรียนสังเกต และจับคู่พ่อกับลูก หรือแม่กับลูก ของตัวอย่างครอบครัว เฉลยคาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน
ประมาณ 2-3 ครอบครัว โดยใช้ตัวอย่างครอบครัวท่ีสามารถสงั เกตลกั ษณะ แ ต่ ชั ก ช ว น ใ ห้ นั ก เ รี ย น ไ ป ห า
ท่ีมีความคล้ายคลึงกันได้อย่างชัดเจน ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายผล คาตอบท่ีถูกต้องจากกิจกรรม
จากการจับคโู่ ดยใชแ้ นวคาถามดังต่อไปน้ี ตา่ ง ๆ ในบทเรียนนี้
1.1 นักเรียนจับคู่พ่อกับลูก หรือแม่กับลูกได้อย่างไร (สังเกตจากลักษณะที่
เหมอื นหรือคลา้ ยคลึงกนั ) ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบ
1.2 นักเรียนสังเกตลักษณะใดบ้าง (นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกตจริง เช่น คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว
รูปหนา้ ดวงตา จมูก ลักษณะเสน้ ผม สีผวิ ) คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน
1.3 ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์มีอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความ คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง
เขา้ ใจของตนเอง) อดทน และรับฟังแนวความคิด
ของนักเรียน
2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนไปสู่กิจกรรมที่ 1.3 โดยชักชวนให้
นักเรยี นค้นหาคาตอบวา่ นกั เรียนมลี ักษณะใดเหมือนกับคนในครอบครัวบ้าง
และลักษณะทางพันธกุ รรมของมนุษย์มีอะไรบา้ ง

3. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และ ทาเป็นคิดเป็น แล้วร่วมกันอภิปราย
เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจจดุ ประสงคใ์ นการทากิจกรรม โดยใชค้ าถามดงั นี้
3.1 กิจกรรมนน้ี กั เรยี นจะได้เรียนเร่ืองอะไร (ลักษณะทางพันธุกรรมของคน
ในครอบครัว)
3.2 นกั เรียนจะไดเ้ รียนรูเ้ รื่องนด้ี ว้ ยวิธีใด (สังเกต และเปรียบเทยี บ)
3.3 เมื่อเรยี นแลว้ นกั เรยี นจะทาอะไรได้ (อธบิ ายลักษณะทางพนั ธุกรรมของ
คนในครอบครวั ได)้

4. นักเรยี นบันทกึ จุดประสงคล์ งในแบบบันทกึ กจิ กรรม หน้า 76
5. นักเรียนอา่ น ทาอยา่ งไร แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายเพ่อื สรุปลาดับข้ันตอนการทา

กิจกรรมตามความเขา้ ใจ โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี
5.1 นักเรียนต้องสังเกตใครบ้าง (สังเกตลักษณะของตนเอง พ่อ แม่ ปู่ ย่า

ตา และยาย)
5.2 นักเรียนต้องสังเกตลักษณะอะไรบ้าง (ลักษณะต่ิงหู ช้ันของหนังตา

ลักย้ิม การเวียนของขวัญ การห่อลิ้น เชิงผมที่หน้าผาก และลักษณะ
อื่น ๆ ทสี่ นใจ)
5.3 ลักษณะอ่ืน ๆ ท่ีนักเรียนสนใจจะสังเกตเพิ่มเติมมีอีกหรือไม่ อะไรบ้าง
(นักเรียนตอบตามความสนใจ)

230 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 ส่ิงมชี ีวติ

5.4 เม่ือนักเรียนสังเกตลักษณะต่าง ๆ ของคนในครอบครัวแล้วนักเรียน ข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
ต้องนาผลการสังเกตมาทาอย่างไรต่อไป (เปรียบเทียบลักษณะน้ัน ๆ
ของตนเองกบั คนในครอบครวั ) 1. ครูควรมอบหมายให้นักเรี ยน
สังเกตลักษณะทางพันธุกรรมของ
5.5 เม่ือนาลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัวมาเปรียบเทียบแล้ว ตนเองและคนในครอบครัวโดย
นกั เรยี นตอ้ งทาอะไรตอ่ ไป (นาเสนอผลการเปรยี บเทยี บ) บันทึกลงในตารางในแบบบันทึก
กิจกรรม หน้า 76-77 มาล่วงหนา้
5.6 นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับเร่ืองอะไร (อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะ กอ่ นถงึ ชวั่ โมงเรียน
ทางพนั ธกุ รรมของมนษุ ย์)
2. ในกรณีท่ีนักเรียนไม่สามารถ
6. ครูให้นักเรียนสังเกตลักษณะต่าง ๆ ที่ปรากฏของมนุษย์จากภาพใน ส า ร ว จ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ค น ใ น
หนังสือเรียน หน้า 86-87 ก่อนไปสังเกตลักษณะของคนในครอบครัวเพื่อให้ ครอบครัวได้ครบ ให้นักเรียน
นกั เรียนสามารถสังเกต และระบุลักษณะตา่ ง ๆ ของคนในครอบครวั ได้อย่าง สั ง เ ก ต ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง บุ ค ค ล ใ น
ถกู ตอ้ ง ครอบครัวเท่าท่ีทาได้ แล้วใช้
ขอ้ มูลทไ่ี ดใ้ นการเปรียบเทียบ
7. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว ครูให้นักเรียนเร่ิม
ปฏบิ ัติตามข้ันตอน 3. หลังจากที่สุ่มนักเรียนนาเสนอ
แ ล้ ว ถ้ า มี ก ร ณี ท่ี ข้ อ มู ล ข อ ง
8. หลงั จากทากจิ กรรมแล้ว นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายผลการทากิจกรรม ครูอาจ นักเรียนในห้องเรียนไม่ครบ ใหค้ รู
สุ่มนักเรียนนาเสนอ โดยครูจดบันทึกจานวนคนในครอบครัวที่มีลักษณะ ใช้ข้อมูลและภ าพ ลักษณะที่
เหมอื นกนั ลงในตารางท่คี รูเขียนบนกระดาน และใช้คาถามดงั นี้ ปรากฏของคนในครอบครัวของ
8.1 ถ้าเปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับพ่อและแม่ มีลักษณะใดบ้างที่ ตัวอย่างครอบครัวมาใช้ในการ
เหมือนเฉพาะพ่อ เหมอื นเฉพาะแม่ เหมอื นท้งั พ่อและแม่ และแตกต่าง อภปิ ราย
จากทงั้ พ่อและแม่ (นักเรียนตอบจากข้อมลู ทีบ่ นั ทกึ ไว้ในตาราง)
8.2 ลักษณะใดของตนเองที่ไม่เหมือนท้ังพ่อและแม่ แต่เหมือนบุคคลอื่นใน ถ้านักเรียนไม่สามารถตอบ
ครอบครวั คอื เหมือนใคร (นักเรียนตอบจากข้อมลู ทบ่ี นั ทึกไว้ในตาราง) คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว
8.3 ลักษณะของตนเองท่ีไม่เหมือนท้ังพ่อและแม่ จัดเป็นลักษณะทาง คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียน
พันธุกรรมหรือไม่ อย่างไร (จัดเป็นลักษณะทางพันธุกรรม เพราะเม่ือ คิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่าง
สังเกตไปในรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย จะมีลักษณะนั้นปรากฏอยู่ ลักษณะน้ัน อดทน และรับฟังแนวความคิด
ของลกู ท่ีไมเ่ หมือนทง้ั พ่อและแม่ อาจจะเหมือนปู่ ย่า ตา หรอื ยายก็ได้ ของนกั เรยี น
จงึ จดั เปน็ ลกั ษณะทางพันธุกรรม)
8.4 ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์มีลักษณะใดบ้าง (ลักษณะทาง
พันธุกรรมของมนุษย์ เช่น ลักษณะติ่งหู ชั้นของหนังตา ลักยิ้ม
การเวียนของขวัญ การห่อล้ิน เชิงผมที่หน้าผาก และลักษณะอื่น ๆ ท่ี
นักเรยี นสังเกตเพิม่ เติม)

9. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเร่ืองลักษณะท่ีปรากฏของลูกซึ่งแตกต่างจากทั้งพ่อและ
แม่ว่าลักษณะของลูกท่ีแตกต่างจากพ่อและแม่น้ัน เป็นลักษณะท่ีรุ่นปู่ย่า
หรือตายาย ถ่ายทอดมาสู่พ่อหรือแม่ แต่แฝงไว้ไม่ปรากฏในรุ่นพ่อแม่ เม่ือ

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 231

คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สิ่งมชี ีวิต

รุ่นพ่อแม่มีลูกจะถ่ายทอดลักษณะน้ันให้ปรากฏในรุ่นลูกได้ นอกจากน้ี ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ
ครูอาจเน้นย้าให้นักเรียนเข้าใจวา่ ลกั ษณะทางพันธกุ รรมจะเปน็ ลักษณะท่ี ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
มีมาตั้งแต่เกิด แต่ลักษณะที่เกิดจากการฝึกฝนและลักษณะที่ปรับเปล่ียน
หลังจากทเี่ กดิ มา ไมจ่ ัดเป็นลักษณะทางพันธกุ รรม ซึ่งลกั ษณะบางลกั ษณะ ทนี่ ักเรยี นจะไดฝ้ กึ จากการทากิจกรรม
เช่น การห่อล้ินได้ ถ้าห่อล้ินได้ต้ังแต่เกิดจัดเป็นลักษณะทางพันธุกรรม แต่
ถ้าสามารถห่อลิ้นได้จากการฝึกฝน การห่อลิ้นได้น้ีไม่จัดเป็นลักษณะทาง S1 สงั เกตลกั ษณะของตนเองและคนใน
พันธกุ รรม ครอบครัว
10. ร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่ามนุษย์มีการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรมจากรุ่นพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูก ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์ S8, C4 อภิปรายเกี่ยวกับลักษณะทาง
มีหลายลักษณะ เช่น ลักษณะต่ิงหู ชั้นของหนังตา ลักย้ิม การเวียน พันธุกรรมของมนุษย์
ของขวญั การห่อลน้ิ เชิงผมท่หี นา้ ผาก และลกั ษณะอื่น ๆ ท่ีนักเรียนสังเกต
เพิ่มเติม ซึ่งลักษณะเหล่านี้บางอย่างอาจเหมือนพ่อ เหมือนแม่ เหมือนทั้ง C4 นาเสนอเปรียบเทียบคาตอบ
พ่อและแม่ หรือแตกต่างจากทั้งพ่อและแม่ แต่เหมือนปู่ ย่า ตา หรือยาย
(S13) การเตรียมตวั ล่วงหน้าสาหรบั ครู
11. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบคาถามใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้ เพือ่ จัดการเรียนรใู้ นครง้ั ถดั ไป
คาถามเพ่ิมเติมเพ่อื ให้ได้แนวคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง
12. นักเรียนอ่าน สิ่งท่ีได้เรียนรู้ และเปรียบเทียบกับข้อสรุปท่ีได้จากการ ในคร้ังถัดไป นักเรียนจะได้เรียน
อภปิ ราย บ ท ที่ 2 ส่ิ ง มี ชี วิ ต กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม
13. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกต้ังคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีสงสัยหรืออยากรู้ ครเู ตรยี มสอื่ การสอนดงั น้ี
เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า ครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอคาถามของ 1. รูปหรือวีดิทัศน์เก่ียวกับสิ่งมีชีวิตใน
ตนเองหน้าชั้นเรียน จากน้ันร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับคาถามท่ีเพ่ือน
นาเสนอ แหล่งที่อยู่ 1 แหล่ง เช่น รูปหรือ
14. ครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วีดิทัศน์ใต้ท้องทะเลที่มีปลาขนาด
วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในข้ันตอนใด ต่าง ๆ ปะการัง หรือสัตว์น้าอื่น ๆ
แลว้ บนั ทึกลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรมหน้า 79 เพ่ือใช้ในการนาเข้าสู่บทเรียน
15. นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเรื่องนี้ ในหนังสือเรียน หน้า 90 ครูนา 2. วีดิทัศน์เรื่องหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่
อภิปรายเพื่อนาไปสู่ข้อสรุปเก่ียวกับส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในเรื่องน้ี จากนั้นครู แสดงการดักจับแมลงเพ่ือให้นักเรียน
กระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเน้ือเร่ือง ซ่ึงเป็นคาถามเพื่อ ดปู ระกอบการอา่ น
เช่ือมโยงไปสู่การเรียนเน้ือหาในบทถัดไป ดังนี้ “รู้หรือไม่ว่าลักษณะของ
สิ่งมีชีวิตท่ีได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษมาจนถึงรุ่นปัจจุบันมีความ
เหมาะสมกับการดารงชีวิตในแหล่งท่ีอยู่หรือไม่ อย่างไร” นักเรียน
สามารถตอบตามความเข้าใจของตนเอง ซึ่งนักเรียนจะหาคาตอบได้จาก
การเรียนในบทตอ่ ไป

232 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 5 สง่ิ มชี ีวิต
ลกั ษณะที่ปรากฏของบคุ คลในครอบครัว

บคุ คลในครอบครวั จากซ้ายไปขวา ไดแ้ ก่ ยาย แม่ ลกู พ่อ ย่า ปู่

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 233

คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 5 สง่ิ มชี ีวติ

ปู่ ยา่

ตา ยาย

234 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยที่ 5 สง่ิ มชี ีวติ

ลกู

พอ่ แม่

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 235

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยท่ี 5 สงิ่ มชี ีวิต

ปู่ ยา่

ตา ยาย

236 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิง่ มชี ีวิต

ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว แ ่ม ูลก

ตาราง ภาพลักษณะทาง ัพนธุกรรมของพ่อ แ ่ม ลูก สังเกต ่พอ

ลักษณะ ี่ท ่ติง ูห ชั้นของ
ห ันงตา
ัลก ้ิยม

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 237

ภาพลักษณะของคนในครอบครัว คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สง่ิ มีชีวติแ ่ม ูลก

238 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีัสงเกต พ่อ
ลักษณะ ี่ท การเวียน การ ่หอ ้ลิน
ของขวัญ เชิงผม ่ีท
หน้าผาก

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิง่ มชี ีวิต

ตาราง ัลกษณะทาง ัพนธุกรรมของคนในครอบครัว ปู่ ่ยา ภาพลักษณะของคนในครอบครัว
ย่า

ู่ป

ลักษณะ ่ีทสังเกต ต่ิง ูห ช้ันของห ันงตา
ัลก ิย้ม

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 239

ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สง่ิ มีชีวติ
ย่า
240 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ปู่

ลักษณะ ่ีท ัสงเกต การ ่หอ ิ้ลน
การเวียนของขวัญ เชิงผมที่หน้าผาก

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิง่ มชี ีวิต

ตาราง ัลกษณะทาง ัพนธุกรรมของคนในครอบค ัรว ตา ยาย ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว
ยาย

ตา

ัลกษณะ ่ีทสังเกต ่ิตง ูห ชั้นของห ันงตา
ัลกย้ิม

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 241

คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สิง่ มีชีวิต

ภาพ ัลกษณะของคนในครอบครัว
ยาย

ปู่

ลักษณะ ่ีท ัสงเกต การ ่หอ ้ิลน
การเวียนของขวัญ เชิงผม ี่ทหน้าผาก

ทมี่ าของบัตรภาพ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คุณนจุ รนิ ทร์ ศรีเจริญ

242

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยที่ 5 สง่ิ มีชีวิต

แนวคาตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม

สารวจ และเปรียบเทยี บลกั ษณะทางพันธกุ รรมของคนในครอบครวั

ผลการบนั ทึกขนึ้ อยู่กบั ลักษณะ
ทางพันธกุ รรมของนกั เรยี นและ
คนในครอบครวั เชน่

   พ่อ ปู่ ยา่
  ยาย

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 243

คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สง่ิ มีชีวติ

244 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สงิ่ มชี ีวติ

คาตอบขึ้นอยู่กับลักษณะทางพนั ธุกรรมของนักเรยี นและพอ่ แม่ เช่น มตี ิ่งหเู หมือนพ่อ
มีเชิงผมท่ีหน้าผากเหมือนแม่ การเวียนของขวัญเหมือนทง้ั พ่อและแม่ เพราะได้รับการ
ถา่ ยทอดลักษณะเหล่านม้ี าจากพอ่ และแม่

คาตอบขึ้นอยู่กับลักษณะทางพันธกุ รรมของนกั เรยี นและพ่อ แม่ เชน่ นกั เรยี นมลี ักยิ้ม
เหมอื นกับปู่ แต่พ่อและแมไ่ มม่ ีลักย้ิม

ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนษุ ยม์ ีหลายลกั ษณะ เช่น ลักษณะติง่ หู ชั้นของหนังตา
ลกั ยิม้ การเวยี นของขวญั การห่อลิ้น เชงิ ผมท่ีหน้าผาก รู้ไดว้ า่ เปน็ ลกั ษณะทาง
พนั ธุกรรมเพราะคนในครอบครัวเดยี วกนั มีการถา่ ยทอดลักษณะเหล่านี้จากรนุ่ สรู่ นุ่

จากการสังเกตลักษณะต่าง ๆ ของคนในครอบครวั เช่น ลักษณะติ่งหู ชั้นของหนังตา
ลักย้มิ การเวียนของขวัญ การหอ่ ลิน้ เชิงผมที่หน้าผาก เมือ่ เปรียบเทยี บกบั ตนเอง
พบว่าตนเองมลี กั ษณะบางอยา่ งเหมือนพอ่ บางอยา่ งเหมือนแม่ บางอย่างเหมือนทงั้ พ่อ
และแม่ บางอยา่ งไม่เหมือนท้ังพ่อและแม่ แตเ่ หมือนปู่ ย่า ตา หรือยาย

ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมมนุษย์เป็นลักษณะทม่ี ีการถ่ายทอดจากรุน่ พอ่ แม่ไปสู่รนุ่ ลกู ซึ่งมี
หลายลักษณะ เชน่ ลักษณะตง่ิ หู ช้นั ของหนงั ตา ลกั ย้มิ การเวียนของขวัญ การห่อล้ิน
เชงิ ผมที่หนา้ ผาก

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 245

คูม่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สิง่ มีชีวติ

คาถามของนักเรียนทตี่ ั้งตามความอยากรขู้ องตนเอง

 

 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

246

คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยที่ 5 ส่ิงมีชีวิต

แนวการประเมินการเรียนรู้

การประเมินการเรยี นรู้ของนกั เรียนทาได้ ดงั น้ี
1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภิปรายในช้ันเรียน
2. ประเมนิ การเรียนร้จู ากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรยี นรแู้ ละจากแบบบนั ทึกกจิ กรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรียน

การประเมนิ จากการทากิจกรรมท่ี 1.3

ลักษณะทางพันธกุ รรมของคนในครอบครัวเป็นอยา่ งไร

ระดบั คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้

รหสั ส่งิ ท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
S1 การสังเกต
S8 การลงความเห็นจากข้อมลู
S13 การตีความหมายขอ้ มลู และลงข้อสรุป
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
C4 การส่ือสาร

รวมคะแนน

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 247

คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 5 สงิ่ มีชีวติ

ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรียน

โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ ดงั นี้

ทักษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ
ทางวิทยาศาสตร์
ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1)

S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสัมผัส สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท

รายละเอยี ดเก่ยี วกบั เก็บรายละเอียดข้อมลู สมั ผสั เก็บรายละเอยี ด สัมผสั เก็บรายละเอยี ด

ลักษณะต่าง ๆ ของคน เกย่ี วกับลกั ษณะตา่ ง ๆ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ลักษณะ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลักษณะ

ในครอบครวั ของคนในครอบครวั ได้ ต่าง ๆ ของคนใน ตา่ ง ๆ ของคนใน

ดว้ ยตนเอง โดยไมเ่ พิ่มเติม ครอบครัวไดจ้ ากการ ครอบครัวได้เพยี ง

ความคิดเหน็ ชี้แนะของครูหรือผูอ้ ืน่ บางสว่ น แมว้ ่าจะได้

หรอื มีการเพิ่มความ รบั คาชแี้ นะจากครหู รอื

คดิ เหน็ ผอู้ ่ืน

S8 การลงความเหน็ การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเห็น

จากข้อมลู ข้อมูลว่ามนุษย์มีการ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและ จากข้อมลู ได้อย่าง จากข้อมลู ได้ว่ามนษุ ย์มี

ถ่ายทอดลกั ษณะทาง ชดั เจนดว้ ยตนเองวา่ มนุษย์ ถูกต้องและชดั เจน โดย ลักษณะตา่ ง ๆ ท่สี งั เกต

พนั ธกุ รรมจากรุน่ พ่อ มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทาง อาศยั การช้แี นะของครู ได้ แต่ไม่สามารถลง

แม่ไปสรู่ นุ่ ลูก เช่น พันธุกรรมจากรนุ่ พ่อแม่ หรอื ผอู้ ื่นได้วา่ มนุษยม์ ี ความเหน็ ไดว้ า่ มนุษย์มี

ลักษณะติ่งหู ชนั้ ของ ไปส่รู ่นุ ลูก เชน่ ลักษณะ การถ่ายทอดลกั ษณะ การถา่ ยทอดลกั ษณะ

หนังตา ลักยิม้ ต่ิงหู ชน้ั ของหนังตา ลักย้ิม ทางพนั ธกุ รรมจากร่นุ ต่าง ๆ เหล่านั้นจากรุ่น

การเวียนของขวญั การเวยี นของขวญั การห่อ พ่อแมไ่ ปสรู่ นุ่ ลกู เชน่ พอ่ แมไ่ ปสู่ร่นุ ลูก แม้ว่า

การหอ่ ลิ้น เชงิ ผมที่ ล้นิ เชงิ ผมท่ีหนา้ ผาก ลกั ษณะต่งิ หู ช้นั ของ จะได้รับคาชี้แนะจาก

หน้าผาก หนังตา ลกั ยิ้ม การ ครหู รอื ผอู้ น่ื

เวียนของขวญั การห่อ

ล้ิน เชงิ ผมที่หน้าผาก

S13 การ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมาย

ตีความหมายข้อมลู ข้อมลู และลงข้อสรปุ ขอ้ มลู และลงข้อสรุปจาก ขอ้ มลู จากการสังเกต ขอ้ มูลและลงข้อสรปุ

และลงข้อสรุป จากการสงั เกตและ การสงั เกตและ และเปรยี บเทยี บไดโ้ ดย จากการสงั เกตและและ

เปรยี บเทียบไดว้ ่า เปรียบเทียบไดด้ ว้ ยตนเอง อาศยั การชี้แนะของครู เปรยี บเทียบลกั ษณะ

ลักษณะทางพนั ธกุ รรม ว่า ลกั ษณะทางพันธกุ รรม หรือผู้อืน่ ได้วา่ ลักษณะ ทางพนั ธกุ รรมของ

ของมนุษย์เปน็ ลักษณะ ของมนุษย์เปน็ ลักษณะท่มี ี ทางพนั ธุกรรมของ มนุษย์ไดเ้ พยี งบางส่วน

ทม่ี ีการถ่ายทอดจาก การถา่ ยทอดจากร่นุ พ่อแม่ มนษุ ย์เปน็ ลกั ษณะทมี่ ี และลงข้อสรปุ เรือ่ งการ

รุ่นพ่อแมไ่ ปสรู่ ุ่นลูก ไปสู่รุ่นลูก เช่น ลักษณะ การถา่ ยทอดจาก ถา่ ยทอดลกั ษณะทาง

เชน่ ลักษณะติ่งหู ชัน้ ติง่ หู ชน้ั ของหนังตา ลกั ยิ้ม รนุ่ พอ่ แมไ่ ปสูร่ ุ่นลูก พนั ธุกรรมของมนษุ ย์ได้

248 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 ส่ิงมชี ีวติ

ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ
ทางวิทยาศาสตร์
ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1)
การเวยี นของขวัญ
ของหนงั ตา ลกั ยิ้ม การห่อลิน้ เชงิ ผมท่ี เช่น ลกั ษณะติ่งหู ช้นั ไม่สมบรู ณ์แม้ว่าจะได้
หน้าผาก
การเวยี นของขวญั ของหนังตา ลักยิม้ การ รับคาชแี้ นะจากครหู รอื

การหอ่ ลนิ้ เชงิ ผมที่ เวยี นของขวญั การห่อ ผู้อื่น

หน้าผาก ล้นิ เชงิ ผมทหี่ น้าผาก

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 249

คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิ่งมชี ีวติ

ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดงั นี้

ทักษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรุง (1)
ศตวรรษท่ี 21 พอใช้ (2)

C4 การส่อื สาร การนาเสนอข้อมูล สามารถนาเสนอข้อมลู สามารถนาเสนอขอ้ มูลจาก สามารถนาเสนอขอ้ มลู

จากการสงั เกต และ จากการสงั เกต และ การสังเกต และเปรยี บเทียบ จากการสังเกต และ

เปรยี บเทียบ เปรยี บเทียบลกั ษณะของ ลักษณะของตนเองกบั คนใน เปรียบเทียบลักษณะ

ลกั ษณะของตนเอง ตนเองกับคนในครอบครัว ครอบครวั ใหผ้ ้อู ่ืนเขา้ ใจได้ ของตนเองกบั คนใน

กบั คนในครอบครวั ให้ผ้อู ื่นเขา้ ใจไดถ้ ูกต้อง ถูกต้อง จากการชีแ้ นะของครู ครอบครัว ใหผ้ ูอ้ ่นื เข้าใจ

ให้ผ้อู ่ืนเขา้ ใจ ดว้ ยตนเอง หรอื ผ้อู ืน่ ไดเ้ พยี งบางส่วน แม้วา่

จะไดร้ ับคาชแี้ นะจากครู

หรอื ผอู้ ืน่

250 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 ส่งิ มีชีวติ

กิจกรรมท้ายบทท่ี 1 ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของส่ิงมชี ีวติ (1 ชว่ั โมง) เปลี่ยนรูปเป็นหน้าหนังสือเรียน ป. 2

1. ครูให้นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทน้ี ในแบบบันทึก
กิจกรรม หน้า 80

2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ
แผนภาพในหวั ขอ้ รอู้ ะไรในบทนี้ ในหนังสอื เรยี น หน้า 91

3. นักเรียนกลับไปตรวจสอบคาตอบของตนเองในสารวจความรูก้ ่อนเรียน ใน
แบบบันทึกกิจกรรม หน้า 64-65 อีกคร้ัง ถ้าคาตอบของนักเรียนไม่ถูกต้อง
ให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่าน้ัน แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจแก้ไขคาตอบ
ด้วยปากกาท่ีมีสีต่างจากเดิม นอกจากน้ีครูอาจนาคาถามในรูปนาบทใน
หนังสอื เรยี น หน้า 76 มาร่วมกนั อภปิ รายเพื่อตอบคาถามอีกคร้ัง ดังนี้
“รู้หรือไม่ว่า เพราะเหตุใดลูกจึงมีลักษณะบางอย่างเหมือนพ่อและแม่ และ
ลกู จะมลี ักษณะทแ่ี ตกต่างจากพ่อและแม่ไดห้ รือไม่” ครแู ละนกั เรียนร่วมกัน
อภิปรายแนวทางการตอบคาถาม เช่น ลกู มลี ักษณะบางอยา่ งเหมือนพ่อและ
แม่ เพราะได้รับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมมาจากพ่อและแม่ผ่าน
การสืบพันธุ์ และลูกอาจมีลักษณะที่แตกต่างจากพ่อและแม่ได้ โดยอาจมี
ลักษณะที่เกิดจากการผสมกันระหว่างลักษณะของทั้งพ่อและแม่ หรือเป็น
ลักษณะทไ่ี ม่ปรากฏในรุ่นพ่อแม่ แต่ปรากฏในร่นุ ปู่ ย่า ตา หรอื ยาย

4. นักเรียนทา แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 1 ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต
จากน้ันนาเสนอคาตอบหน้าช้ันเรียน ถ้าคาตอบยังไม่ถูกต้องครูควรนา
อภิปรายหรือให้สถานการณ์เพ่ิมเติมเพ่ือแก้ไขแนวคิดท่ีคลาดเคลื่อนให้
ถูกตอ้ ง

5. นักเรียนร่วมกันทากิจกรรม ร่วมคิด ร่วมทา โดยร่วมกันคิดแบบสีของดอก
แพงพวยท่ีต้องการ สืบค้นวิธีการผสมพันธ์ุแพงพวย และวางแผนการผลิต
ตน้ แพงพวยท่ีมสี ีดอกตามตอ้ งการจากต้นแพงพวยทีม่ อี ยู่

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 251

คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สงิ่ มีชีวิต

สรุปผลการเรยี นร้ขู องตนเอง

รูปหรอื ข้อความสรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรู้จากบทน้ีตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น

252 สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สิง่ มีชีวติ

แนวคาตอบในแบบฝึกหัดท้ายบท

คาตอบของนกั เรียนข้ึนอยู่กับการวิเคราะหแ์ ละใหเ้ หตุผลของนักเรียน เชน่ แม่ของ
ลกู ม้าตวั น้ี น่าจะมขี นสแี ดงเข้ม สีดา หรือสแี ดงเทา เพราะว่าลูกม้ามขี นสแี ดง
ผสมเทาอ่อน ๆ ซงึ่ แตกตา่ งจากพ่อม้า แสดงว่าลักษณะสขี นของลกู ม้าเหมือนแม่
หรือ ลักษณะท่ีมาจากทัง้ พ่อและแม่

ตน้ เทยี นทีม่ ีลกั ษณะดอกดังรูป
น่าจะเกิดจากต้นพอ่ แมท่ ่ีมลี ักษณะ
ดอกดงั รูปท้ังคู่ หรือ เกิดจากตน้ พ่อ
ตน้ แม่ ต้นใดต้นหนงึ่ มดี อกสีขาว
อกี ตน้ มีดอกสแี ดง เพราะต้นเทยี น
ในรปู มีกลีบดอกท้ังสีขาวและสแี ดง

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 253

คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หน่วยที่ 5 สงิ่ มชี ีวติ

ตน้ ลูกของตน้ เทียนทีม่ ดี อกสีขาวสลบั แดง กับดอกสขี าว นา่ จะมีทง้ั ตน้ ที่มีดอกสีขาว
และดอกสีขาวสลับแดง เพราะตน้ ลูกจะได้รบั การถา่ ยทอดลักษณะจากพ่อและแม่
ทาใหต้ น้ ลูกมลี ักษณะท่เี หมือนพ่อ เหมือนแม่ เหมอื นท้งั พ่อและแม่ หรอื แตกต่างจาก
ท้งั พ่อและแมไ่ ด้
เปน็ ไปได้ทคี่ รอบครัวนีพ้ ่อจะไมม่ ลี กั ยมิ้ เพราะมีลกู ท่ีไม่มีลกั ยม้ิ ซ่งึ จะเปน็ ลกั ษณะ
ทีเ่ หมือนพอ่

254 สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 สิง่ มีชีวิต

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 255

คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หนว่ ยท่ี 5 ส่ิงมชี ีวิต

บทท่ี 2 สง่ิ มชี วี ิตกบั ส่งิ แวดลอ้ ม

จุดประสงค์การเรยี นร้ปู ระจาบท

เมอื่ เรียนจบบทน้ี นกั เรียนสามารถ
1. บรรยายโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่
เหมาะสมกบั การดารงชวี ติ ในแหลง่ ท่อี ยูต่ ่าง ๆ
2. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
ในแหลง่ ทอ่ี ยู่
3. อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างส่ิงมชี วี ิตกับสิง่ ไม่มีชีวิต
ในแหลง่ ที่อยู่
4. เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าที่ของสิ่งมีชีวิต
ในโซ่อาหาร
5. บอกแนวทางและร่วมกนั ดแู ลรกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม

เวลา 10 ช่ัวโมง

แนวคดิ สาคญั บทนี้มอี ะไร

สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่ตามท่ีต่าง ๆ ซึ่งอาจ เรื่องที่ 1 โครงสรา้ งและลักษณะของสง่ิ มชี วี ิตในแหลง่ ที่อยู่
มีส่ิงแวดล้อมแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งมีชีวิตจึงต้องปรับตัวด้าน กิจกรรมท่ี 1 โครงสร้างและลักษณะของส่ิงมชี ีวิต
โครงสร้างและลักษณะของร่างกายให้เหมาะสมกับการ เหมาะสมกบั แหลง่ ท่ีอยู่อย่างไร
ดารงชีวติ ในแต่ละแหล่งท่ีอยู่ สงิ่ แวดลอ้ มในแตล่ ะแหล่งท่ีอยู่
ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตหลายชนิดท่ี เรื่องที่ 2 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ มีชวี ิตกับสง่ิ มีชีวิต
อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งท่ีอยู่หน่ึง ๆ นอกจากจะมีความสัมพันธ์ กิจกรรมที่ 2 ส่ิงมชี ีวติ มคี วามสมั พนั ธ์กับส่งิ มชี วี ิต
กับสิ่งมีชีวิตด้วยกันในด้านต่าง ๆ แล้ว ยังมีความสัมพันธ์กับ อยา่ งไร
สิ่งไม่มีชีวิตด้วย เราจึงควรตระหนักและช่วยกันดูแลรักษา
สิ่งแวดล้อมให้มีสภาพที่เหมาะสมกับการดารงชีวิตของ เรื่องที่ 3 ความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชีวติ กับสิง่ ไมม่ ีชวี ิต
สงิ่ มีชีวติ ตลอดไป กิจกรรมท่ี 3 สิ่งมชี วี ติ มคี วามสมั พันธ์กับสิ่งไม่มชี ีวิต
ในแหล่งท่ีอยู่อย่างไร
สื่อการเรียนรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้ หน้า 95ก-125
หนา้ 85-109
1. หนังสือเรยี น ป.5 เล่ม 2
2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.5 เลม่ 2

256 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยที่ 5 สิง่ มชี ีวติ

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21

รหสั ทกั ษะ กิจกรรมท่ี
123

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสงั เกต 

S2 การวดั

S3 การใชจ้ านวน

S4 การจาแนกประเภท

S5 การหาความสัมพนั ธร์ ะหว่าง

 สเปซกบั สเปซ

 สเปซกบั เวลา

S6 การจัดกระทาและสอ่ื ความหมายข้อมูล 

S7 การพยากรณ์

S8 การลงความเห็นจากข้อมูล 

S9 การตั้งสมมตฐิ าน

S10 การกาหนดนิยามเชงิ ปฏิบตั ิการ

S11 การกาหนดและควบคุมตวั แปร

S12 การทดลอง

S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป   

S14 การสร้างแบบจาลอง

ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21

C1 การสรา้ งสรรค์

C2 การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 

C3 การแก้ปัญหา

C4 การสื่อสาร 

C5 ความรว่ มมือ 

C6 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและ  
การสื่อสาร

หมายเหตุ: รหสั ทักษะท่ีปรากฏน้ี ใช้เฉพาะหนังสือคมู่ ือครเู ล่มนี้

สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 257

คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สง่ิ มีชีวติ

แนวคดิ คลาดเคล่ือน

แนวคดิ คลาดเคลื่อนที่อาจพบและแนวคิดที่ถกู ตอ้ งในบทที่ 2 ส่งิ มีชีวติ กับสิง่ แวดลอ้ ม มีดังตอ่ ไปนี้

แนวคิดคลาดเคล่ือน แนวคิดที่ถกู ต้อง

หนอกของอูฐใช้สาหรบั กกั เก็บนา้ (Kubiatko & Prokop, หนอกของอูฐใชส้ าหรับกักเก็บไขมนั เม่ือขาดแคลนอาหารอูฐจะ
2007) ดงึ ไขมนั ที่เก็บสะสมไวม้ าใช้ (Kubiatko & Prokop, 2007)

ถ้าครูพบว่ามีแนวคดิ คลาดเคลือ่ นใดทีย่ ังไม่ไดแ้ กไ้ ขจากการทากิจกรรมการเรยี นรู้ ครูควรจดั การเรียนรูเ้ พิ่มเติมเพอื่ แก้ไข
ต่อไปได้

258 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เลม่ 2 | หนว่ ยที่ 5 สิง่ มชี ีวิต

บทนี้เริม่ ตน้ อย่างไร (1 ชั่วโมง) ในการตรวจสอบความรู้เดิม
ครูเพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียน
1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเก่ียวกับสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยให้นักเรียน เป็นสาคัญและยังไม่เฉลยคาตอบ
สงั เกตรปู หรือดวู ีดิทัศน์เกี่ยวกบั ส่ิงมชี ีวติ ที่อาศัยอยู่ในแหล่งท่ีอยู่ 1 แหล่ง ใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่ชักชวนให้
ซึ่งมีความยาวประมาณ 2-3 นาที เช่น ในทะเลที่มีปลาขนาดเล็กและ นักเรียนไปหาคาตอบท่ีถูกต้องจาก
ขนาดใหญ่ กงุ้ ปะการงั ฯลฯ แลว้ ใช้คาถาม ดังนี้ กิจกรรมตา่ ง ๆ ในบทเรยี นนี้
1.1 สถานที่ในรูปนี้คือท่ีใด (นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง เช่น
ในทะเล)
1.2 รปู นี้มีส่ิงมชี วี ิตอะไรบ้าง (นักเรยี นตอบตามท่ีสังเกตได้ เชน่ ปลา กุ้ง
ปะการัง ฯลฯ)
1.3 รูปน้ีมีสิ่งไม่มีชีวิตอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามที่สังเกตได้ เช่น น้า
ก้อนหนิ ฯลฯ)
1.4 ส่ิงมีชีวิตท่ีอยู่ในน้ามีโครงสร้างและลักษณะอย่างไรบ้าง (นักเรียน
ตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ ปลามคี รีบ กงุ้ มีขา)
1.5 โครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตเหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่น้ี
อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ครีบปลา
ชว่ ยให้ปลาวา่ ยนา้ ได)้
1.6 นักเรียนคิดว่าส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ ในแหล่งที่อยู่น้ีจะมีความสัมพันธ์กัน
หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น
ส่ิงมีชีวิตในแหล่งท่ีอยู่น้ีมีความสัมพันธ์กัน เช่น ปลาใหญ่มี
ความสมั พนั ธ์กับปลาเลก็ ในด้านการกินกนั เป็นอาหาร)
1.7 สิ่งมีชีวิตเหล่าน้ีมีความสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชีวิตในแหล่งท่ีอยู่หรือไม่
อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ส่ิงมีชีวิตมี
ความสัมพันธ์กับส่ิงไม่มีชีวิต เช่น ปลามีความสัมพันธ์กับน้า โดยใช้น้า
เป็นทอ่ี ยู่อาศยั )
1.8 ถ้าแหล่งที่อยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อการดารงชีวิตของ
ส่งิ มีชีวิตเหล่านน้ั หรือไม่ อยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของ
ตนเอง เช่น ถ้าแหล่งท่ีอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อการ
ดารงชีวิตของส่ิงมีชีวิต โดยถ้าแหล่งน้ามีขยะหรือสารปนเป้ือน
สิง่ มีชวี ิตในแหลง่ ที่อยู่นั้นอาจจะกนิ ขยะหรือได้รับสารปนเป้ือนเข้าสู่
ร่างกาย ทาใหส้ งิ่ มชี ีวติ ตายได)้

2. ครูให้นักเรียนอ่านช่ือบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจาบทใน
หนังสอื เรียนหนา้ 95 จากนน้ั ครใู ชค้ าถามเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจดงั น้ี

สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 259

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.5 เล่ม 2 | หน่วยท่ี 5 สง่ิ มชี ีวิต

2.1 บทนจ้ี ะไดเ้ รยี นเรอื่ งอะไร (ส่ิงมชี วี ติ กับส่ิงแวดล้อม) ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ สาหรับครู
2.2 จากจุดประสงค์การเรยี นรู้ เมอ่ื เรยี นจบบทเรียนนักเรยี นสามารถทา
ค รู อ า จ น า วี ดิ ทั ศ น์ เ กี่ ย ว กั บ
อะไรไดบ้ ้าง หม้อข้าวหม้อแกงลิงและมีแมลงตกลงไป
(- บรรยายโครงสร้างและลักษณะของส่งิ มีชีวติ ในแหล่งที่อยตู่ ่าง ๆ ในกระเปาะ มาให้นักเรียนดูเป็นสื่อ
- อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งส่งิ มีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตและสิ่งมีชีวิตกบั ประกอบการอา่ นเนอ้ื เรื่อง เช่น วีดทิ ัศน์
ส่งิ ไม่มชี วี ิตในแหล่งที่อยู่ สารคดีหม้อข้าวหม้อแกงลิง (tropical
- เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าท่ีของสิง่ มีชวี ิตในโซอ่ าหาร pitcher plant)
- บอกแนวทางในการดูแลรักษาสิง่ แวดลอ้ ม)
3. นักเรียนอ่านชื่อบทและแนวคิดสาคัญ ในหนังสือเรียนหน้า 96 จากน้ัน หากนักเรียนไม่สามารถตอบ
ครูใช้คาถามว่า จากการอ่านแนวคิดสาคัญ นักเรียนคิดว่าจะได้เรียน ค า ถ า ม ห รื อ อ ภิ ป ร า ย ไ ด้ ต า ม
เกี่ยวกบั เรอ่ื งอะไรบา้ ง แนวคาตอบ ครูควรให้เวลา
(- การปรับตัวด้านโครงสร้างและลักษณะของร่างกายของสิ่งมีชีวิตให้ นั ก เ รี ย น คิ ด อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
เหมาะสมกับการดารงชีวิตในแตล่ ะแหลง่ ทีอ่ ยู่ รอคอยอย่างอดทน และรับฟัง
- ความสมั พันธ์ระหว่างสิง่ มชี วี ติ กบั ส่งิ มีชวี ิตในแหลง่ ท่ีอยู่ แนวความคิดของนกั เรียน
- ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มชี ีวติ กับสิ่งไม่มีชีวิตในแหล่งทีอ่ ยู่
- การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีสภาพเหมาะสมกับการดารงชีวิตของ
ส่ิงมชี ีวิต)
4. ครูชักชวนให้นักเรียนสังเกตรูปและอ่านเนื้อเร่ืองในหนังสือเรียนหน้า 96
โดยครูฝึกทกั ษะการอา่ นตามวิธกี ารอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของ
นกั เรยี น จากน้ันครูใชค้ าถามเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน ดังนี้
4.1 ส่ิงมีชวี ติ ทน่ี กั เรยี นเหน็ ในรูปมีอะไรบา้ ง (หม้อขา้ วหมอ้ แกงลงิ หญา้ )
4.2 แหล่งที่อยู่ของหม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นอย่างไร (แหล่งท่ีอยู่ของ
หมอ้ ข้าวหม้อแกงลงิ เป็นดนิ ซ่งึ ขาดธาตอุ าหารบางชนดิ )
4.3 หม้อข้าวหม้อแกงลิงมีโครงสร้างและลักษณะเป็นอย่างไร (ใบบางใบ
มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก ภายในมีการสร้างน้าย่อยเพ่ือย่อยแมลง
ทตี่ กลงไป)
4.4 โครงสร้างและลักษณะของหม้อข้าวหม้อแกงลิงเหมาะสมกับ
แหล่งที่อยู่อย่างไร (หม้อข้าวหม้อแกงลิงมีใบบางใบเป็นรูป
ทรงกระบอกคอยดักจับแมลงและภายในมีการสร้างน้าย่อยเพ่ือ
ย่อยแมลงท่ีตกลงไป ทาให้ได้ธาตุอาหารเพ่ิมขึ้น เหมาะสมกับ
แหลง่ ทอ่ี ยซู่ ่งึ เปน็ ดนิ ท่ขี าดธาตอุ าหารบางชนิด)
5. ครูชักชวนนักเรียนตอบคาถามเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมใน
สารวจความร้กู อ่ นเรียน

260 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version