ฐานสมรรถนะ
ประกาศโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย
เร่อื ง ให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ น้อย
พุทธศกั ราช ๒๕๖๕
*************************************
เพื่อให้การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หมวด ๔ มาตรา ๒๙
ที่กำหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีหน้าที่จัดทำสาระของหลักสูตรเพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดี
ของชาติการดำรงชีวิต และการประกอบอาชพี ตลอดจนเพ่ือการศึกษาตอ่ ในสว่ นที่เกยี่ วกบั สภาพของปัญหาใน
ชุมชนและสงั คมและประเทศชาติ สอดคลอ้ งกับพระราชบัญญัติพน้ื ทนี่ วัตกรรมการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๒ หมวด ๓
การบรหิ ารพ้ืนทีน่ วัตกรรมการศึกษา มาตรา ๒0(๔) , มาตรา ๒๕
อาศัยตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๒ หมวด ๓ มาตรา ๒๕ , มาตรา ๒๖
การบริหารพื้นทีน่ วตั กรรมการศกึ ษา และระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ว่าด้วยคณะกรรมการบริหารหลักสตู ร
และงานวชิ าการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พ.ศ.๒๕๔๔
ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช ๒๕๖๕ ได้รับความ
เห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2565 จึงประกาศให้ใช้
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ น้อย พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ต้ังแต่บัดนีเ้ ปน็ ต้นไป
ประกาศ ณ วนั ที่ 18 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565
ลงช่อื ลงชอื่
( นายเสถียร ธะนนั ต์ ) (นายณรงค์ ลมุ มา)
ประธานกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ น้อย
หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา ก
คำนำ
พระราชบญั ญตั ิพ้นื ท่นี วตั กรรมการศึกษา พ.ศ.2562 ไดจ้ ัดตัง้ ขึน้ โดยมีวัตถุประสงค์ คอื (1) คดิ ค้นและ
พัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนรวมทั้งเพื่อ
ดำเนินการให้ มีการขยายผลไปใชใ้ นสถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐานอืน่ (2) ลดความเหล่อื มลำ้ ในการศกึ ษา (3) กระจาย
อำนาจใหม้ ีอิสระ แกห่ นว่ ยงานทางการศึกษาและสถานศึกษานำร่องในพื้นทน่ี วัตกรรมการศึกษาเพ่ือเพิ่มความ
คล่องตัวในการบริหาร และจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น (4) สร้างและพัฒนากลไกใน
การจัดการศึกษาร่วมกัน ระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นท่ี
นวตั กรรมการศกึ ษา
คณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศรายชื่อสถานศึกษา
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย เป็นสถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ รุ่นที่ 1 ซึ่งตาม
พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562 มาตรา 25 วรรคหนึ่ง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พ้นื ฐานท่ีไดร้ ับการปรับเพื่อนำไปใช้ตามมาตรา 20 (4) ต้องครอบคลมุ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ และมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วย
การศึกษา แห่งชาติโดยต้องจัดสาระการเรียนรู้รายวิชาให้หลากหลายและสอดคล้องกับความสามารถ ความ
ถนัดหรือความ สนใจของผู้เรียน และสภาพภูมสิ ังคม รวมทัง้ มีกระบวนการเรยี นรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning)
ในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับ
ประถมศึกษา ได้นำผลลัพธ์การเรียนรู้ ตาม (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .... ระดับ
ประถมศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบสำคญั ท่ีสร้างการเปล่ียนแปลง คือ “สมรรถนะหลัก” เป็นสมรรถนะทีต่ อ้ งการ
พัฒนาบุคคลในฐานะมนุษย์และพลเมืองที่เข้มแข็ง ที่รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก และภายในตน
เรียนรู้และเติบโต ร่วมสร้างสรรค์การทำงาน การใช้ชีวิตอย่างเห็นคุณค่า และภาคภูมิใจในความเป็นไทยบน
พื้นฐานความเข้าใจความแตกต่างและหลากหลายในสังคม รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลด้านต่างๆ
ประกอบด้วย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่และยุทธศาสตร์ชาติมาใช้เป็นหลักในการพัฒนา
หลักสูตรของโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย โดยวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน เช่น สภาพบริบทของชุมชน
ความหลากหลายทาง พหุวัฒนธรรม อัตลักษณ์เชิงพื้นที่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแนวนโยบายต่าง ๆ
ตลอดจนมวลประสบการณ์ของครูและ บุคลากรที่ได้เข้ารบั การอบรม ประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ าร ตามที่องค์กรและ
หน่วยงานการศึกษาอื่นได้จัดการอบรม สัมมนาและการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อนำความรู้มาใช้ในการจัดทำ
หลกั สตู รสถานศึกษาของโรงเรียนในคร้ังนี้
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา
เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นในด้านสมรรถนะ กระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) กระบวนการในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ต่าง ๆ โดยเน้น ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 และผ่านนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ภายใต้
“ MAEKADNOI MODEL : แมแ่ กด้ น้อย สืบฮีตสานฮอย ตามรอยวฒั นธรรม นำสูส่ ัมมาชพี ” โดยใช้แหล่ง
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา ข
เรียนรูใ้ นชมุ ชนเปน็ ฐาน เพอ่ื พฒั นาผู้เรียนได้ สรา้ งสรรคผ์ ลงาน นำไปส่สู มรรถนะของผูเ้ รียน ในขณะเดียวกันก็
ได้มุง่ เนน้ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ดำรงความเปน็ ไทย วนิ ยั ในตนเอง และคา่ นิยมท่พี งึ ประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนได้
นำความรู้และประสบการณ์ใน การเรียนไปใช้ใน การศึกษาต่อและประกอบอาชีพตามความถนัด สามารถใช้
เทคโนโลยีและสารสนเทศอย่างกว้างขวาง ส่งเสริม ทักษะชีวิต การคิดวิเคราะห์คิดสังเคราะห์ การใช้
วจิ ารณญาณ วิสยั ทัศน์ มีความคดิ สร้างสรรค์ มีจติ สำนึกในการอนรุ ักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อมเพ่ือการดำรงชีพ
ในสงั คมอยา่ งเปน็ สุข
โรงเรียนวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แม่แกด้ น้อย พทุ ธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา ค
สารบญั
เร่อื ง หน้า
ประกาศ ก
คำนำ ข
สารบญั ง
สว่ นที่ 1 ข้อมูลท่ัวไป 1
1
1.1 ชอ่ื หลักสตู ร 1
1.2 ผู้เสนอหลกั สตู ร 1
1.3 คณะท่ีปรึกษา 2
1.4 ข้อมูลทัว่ ไป 8
ส่วนที่ 2 ท่ีมา เหตผุ ล และวิสยั ทัศน์ของผบู้ ริหาร ในการพัฒนาของหลกั สตู รสถานศกึ ษา
ฐานสมรรถนะ 8
2.1 ความสำคญั ของการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ 10
2.2 วสิ ัยทัศน์ของผู้บริหารทีม่ ีต่อหลักสูตรฐานสมรรถนะ 11
สว่ นที่ 3 ข้อมูลพื้นฐานในการจัดทำหลักสตู ร 11
3.1 ขอ้ มลู เก่ยี วกบั บรบิ ทของโรงเรยี น 14
3.2 ขอ้ มลู บริบทระดบั ชมุ ชน ท้องถิน่ 19
3.3 ขอ้ มูลบริบทระดับพนื้ ที่ จังหวดั 22
3.4 ขอ้ มลู บริบทระดบั ชาต/ิ ประเทศ และโลก 27
ส่วนที่ 4 องค์ประกอบของหลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ น้อย 27
4.1 แบบแผนของหลกั สตู รฐานสมรรถนะ 29
• นวัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ 32
MAEKADNOI สบื ฮีตสานฮอย ตามรอยวฒั นธรรม นำสู่สมั มาชีพ 33
46
4.2 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรยี น 47
4.3 สมรรถนะหลกั สมรรถนะย่อยและระดับสมรรถนะของผเู้ รยี นในแตล่ ะช่วงวยั 48
4.4 ขอบข่ายกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 49
4.5 โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษา
• โครงสร้างเวลาเรียนระดบั ประถมศกึ ษา
• โครงสรา้ งเวลาเรียนชัน้ ปี
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ น้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา ง
สารบัญ (ตอ่ ) หน้า
57
เรอื่ ง 58
4.6 คำอธิบายรายวิชา 59
o กลุ่มสาระการเรยี นรู้รายวิชาหลกั 74
- ภาษาไทย 89
- คณิตศาสตร์ 103
- ภาษาองั กฤษ 104
o กลมุ่ สาระการเรยี นรู้บรู ณาการ 117
- การสร้างเสริมสนุ ทรยี ภาพ 128
- สขุ ภาพและการเสริมสรา้ งสุขภาวะ 144
- วถิ ชี ุมชนทอ้ งถ่ินของเรา 157
- วทิ ยาศาสตรก์ ับภมู ิปญั ญาในท้องถนิ่ 162
- การจัดการในครัวเรอื น 172
- ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร 182
- เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั 195
4.7 การจัดการเรยี นการสอนฐานสมรรถนะ 219
4.8 การวัดและประเมนิ ผลฐานสมรรถนะ 223
4.8.1 การกำหนดเกณฑ์การวัดผลและมาตรวัดการประเมินสมรรถนะ 224
4.8.2 ประเภทการประเมินสมรรถนะ 226
4.8.3 เกณฑ์การจบการศึกษา 227
4.8.4 การรายงานผลการพัฒนาและการเล่อื นชนั้ 237
4.9 การบริหารจัดการหลักสตู ร 237
239
สว่ นท่ี 5 การพฒั นาบุคลากร 240
แผนการพฒั นาบุคลากร
244
ภาคผนวก 247
1. คำส่ังแตง่ ตง้ั คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อย 248
พทุ ธศักราช 2565
2. รายงานการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและเครอื ข่ายผ้ปู กครอง
3. รายงานการวิพากษ์หลักสูตรฐานสมรรถนะ
4. การวิเคราะห์โครงสรา้ งรายวชิ าฐานสมรรถนะ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1-6
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา จ
สว่ นที่ 1
ข้อมลู ทัว่ ไป
1. ข้อมูลพืน้ ฐานของสถานศกึ ษา
1.1 ชือ่ หลักสูตร : หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ กด้ น้อย พุทธศักราช 2565
ระดับประถมศึกษา
1.2 ผู้เสนอหลกั สูตร : นายณรงค์ ลุมมา ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแมแ่ กด้ น้อย
1.3 คณะทปี่ รึกษา :
1.3.1 คณะทป่ี รกึ ษาดา้ นการออกแบบกจิ กรรมฐานสมรรถนะ
นายรชั ภูมิ สมสมยั ศึกษานเิ ทศก์ชำนาญการพเิ ศษ
นางสาววนจิ ชต์ า โชตวิ ิศิษฐ์กลุ ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ
นางสาวชนกิ านต์ เรือนแกว้ ศึกษานเิ ทศกช์ ำนาญการพิเศษ
1.3.2 คณะท่ีปรกึ ษาด้านการสรา้ งและพัฒนาหลกั สตู รฐานสมรรถนะ
ผชู้ ่วยศาสตราจารยอ์ รทัย อินตา หัวหนา้ ภาควิชาหลักสตู รและการสอน
คณะครศุ าสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชียงใหม่
ดร.จุฑามาศ หนนุ ชาติ อาจารย์ประจำภาควิชาหลักสูตรและการสอน
คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลยั ราชภัฏเชียงใหม่
นางสาวอังคณา ลังกาวงศ์ อาจารย์ประจำภาควชิ าหลกั สูตรและการสอน
คณะครุศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
1.3.3 คณะท่ีปรกึ ษาดา้ นการนำหลกั สูตรไปใช้ในสถานศึกษา
ดร.ปาริชาติ เภสชั ชา ศกึ ษานิเทศก์เช่ียวชาญ
ผูอ้ ำนวยการกล่มุ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผล
การจัดการศึกษา
ดร.จันทกานต์ สทิ ธริ าช ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพิเศษ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 1
1.4 ขอ้ มูลท่ัวไป
1.4.1 ประวตั ิความเป็นมาของโรงเรียน
❖ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ตั้งอยู่เลขที่359 หมู่ที่5 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย
จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ 50210 โทรศัพท์ 053 – 492002 โทรสาร 053 – 492002
E-mail : [email protected] website : www.maekednoi.co.th สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2
❖ เปิดสอนตั้งแตร่ ะดบั ปฐมวยั ถึงระดบั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
❖ เขตพ้ืนท่ีบรกิ าร 4 หมบู่ ้าน ได้แก่ หมูท่ ่ี 5, 10, 13 ตำบลปา่ ไผ่ และหมูท่ ี่ 1 ตำบลสันทรายหลวง
❖ ประวตั โิ รงเรียนโดยย่อ
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ตั้งอยู่เลขที่ 359 หมู่ที่ 5 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อต้ัง
เมื่อ พุทธศักราช 2481 โดยนายเครือวัลย์ สุวรรณสิงห์ นายอำเภอสันทรายเป็นผู้จัดตั้ง และนายอินทร์ จาร
สิงห์ เสมียนศึกษาธิการอำเภอเป็นผู้แทนทำพิธีเปิดป้าย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พุทธศักราช 2481 โดยมี
นายชุ่ม ศรบี านเรอื ง ดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย
ผูบ้ ริหารคนปจั จุบัน คอื นายณรงค์ ลมุ มา วฒุ กิ ารศึกษาสงู สดุ ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขา
การบรหิ ารการศกึ ษา ดำรงตำแหนง่ ท่สี ถานศกึ ษานี้ตงั้ แต่ 27ธนั วาคม 2556 ถึงปจั จุบนั เป็นเวลา 8 ปี 2 เดือน
แผนทโี่ รงเรียน
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 2
1.4.2 ข้อมูลบุคลากรของสถานศึกษา
จำนวนบุคลากร
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยมีข้าราชการครูและบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนทั้งส้ิน
จำนวน 62 คน ประกอบดว้ ย
❖ ผู้อำนวยการโรงเรียน นายณรงค์ ลุมมา วุฒิการศึกษาสูงสุด ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาการบรหิ ารการศึกษา ดำรงตำแหน่งทโ่ี รงเรยี นตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2556 โทร. 084-3788410
❖ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี น นางสาวปรียาภัทร์ บรุ มยช์ ัยสนิ วฒุ กิ ารศกึ ษาสูงสุด ศึกษาศาสตร
มหาบณั ฑิต สาขาการบริหารการศึกษา ดำรงตำแหน่งทโี่ รงเรยี นต้งั แต่ 1 ตลุ าคม 2563
❖ รองผู้อำนวยการโรงเรียน นายกติ ติชัย โสภณอมั พรนนท์ วุฒกิ ารศกึ ษาสูงสุด ศึกษาศาสตร
มหาบณั ฑิต สาขาการบรหิ ารการศึกษา ดำรงตำแหน่งท่ีโรงเรียนต้ังแต่ 15 ธันวาคม 2563
❖ ครปู ระจำการ ขา้ ราชการครู จำนวน 47 คน
❖ ครจู ้างสอนรายเดือน จำนวน 7 คน
❖ เจา้ หน้าทีธ่ รุ การ จำนวน 1 คน
❖ เจ้าหน้าทอ่ี ื่นๆ ครูพเ่ี ล้ียงเด็กพิเศษ จำนวน 1 คน
บคุ ลากรของสถานศกึ ษาจำแนกออกเป็นสว่ น ๆ ดงั น้ี
ตารางที่ 1 จำนวนบคุ ลากรจำแนกตามตำแหน่ง เพศ ระดบั การศกึ ษา อายุ และประสบการณ์สอน
ประเภท เพศ ระดบั การศกึ ษา อายเุ ฉลยี่ ประสบการณ์ในตำแหนง่
บคุ ลากร
ชาย หญงิ ตำ่ กวา่ ป.ตรี สูงกว่า นอ้ ยกวา่ 30 – 50 มากกวา่ น้อยกว่า 11–20 มากกว่า
ผู้อำนวยการ 1- ป.ตรี ป.ตรี 30 ปี 50 ปี 10 ปี 20 ปี
--1 --1 - -1
รอง 1 1 - - 2 - 2 - 2 - -
ผอู้ ำนวยการ
ครู 8 39 - 24 23 4 33 10 25 10 12
ประจำการ
ครูอัตราจ้าง 1 5 2 3 - 3 4 - 7 - -
เจ้าหน้าท่ี - 3 - 3 - - 3 - 3 - -
อ่นื ๆ
รวม 11 48 2 30 26 7 42 11 37 10 13
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 3
ตารางท่ี 2 วุฒิการศกึ ษาสงู สุดของบุคลากร ม.6 ม.3 ต่ำกวา่ ม. รวม
- 3
วฒุ ิการศึกษา ปริญญา ปริญญา ปริญญา
เอก โท ตรี 2 - 59
จำนวน (คน) 1 26 30
1.4.3 ขอ้ มลู นักเรียน
จำนวนนกั เรียนปกี ารศึกษา 2564 รวม 1,134 คน (ข้อมูล 10 พ.ย.2564)
จำนวน จำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด จำนวน
ห้องเรียน เดก็ พิเศษ
ชัน้ (นร. + เรียนรวม + เดก็ พิเศษ) ชาย หญงิ
2
ชั้นอนุบาลปที ี่ 2 2 ชาย หญงิ รวม
ชั้นอนุบาลปที ่ี 3 4
4 28 37 65
รวม 4
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4 30 29 59
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 4
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 4 58 66 124
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 4
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 24 64 49 113
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 3
3 56 53 109
รวม 3
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 9 76 63 139
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 37
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 72 71 143
รวม 78 52 130
รวมท้ังหมด
53 56 109
399 344 743
51 41 92
49 40 95
36 44 80
136 131 267
593 541 1134
หลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 4
1.4.4 ขอ้ มูลดา้ นอาคารสถานที่
โรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ น้อย มีอาคารเรียนและอาคารประกอบ ดังนี้
1. อาคารเรียนและอาคารประกอบ ได้แก่
1.1 อาคารเรยี น จำนวน 6 อาคาร ไดแ้ ก่
อาคาร 1 : อาคารรฐั ประสาท 1 : ห้องเรยี น ป.4 จำนวน 4 ห้อง, หอ้ งการศกึ ษาพเิ ศษ 1 หอ้ ง
ห้องการศึกษาพิเศษ 1 ห้อง ห้องดนตรี-นาฎศิลป์ 1 หอ้ ง, ห้องภาษาจนี 1 หอ้ ง,
ห้องคหกรรม 1 ห้อง )
อาคาร 2 : อาคารกาญจนาภิเษก : หอ้ งผบู้ ริหาร 3 ห้อง หอ้ งธุรการ 1ห้อง, ห้องประชุม 2 หอ้ ง
ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ 2 หอ้ ง, ห้อง ช้ัน ม.2 จำนวน 2 ห้อง )
อาคาร 3 : อาคารเรยี นสรา้ งใหม่ 2 ช้ัน
อาคาร 4 : อาคารรัฐประสาท 1 : อาคารเรยี นอนุบาล 2-3 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1
(หอ้ งเรยี นอนุบาล 2 – 3 พร้อมสนามเด็กเล่น จำนวน 4 ห้องเรียน
และ ป.1 จำนวน 4 หอ้ งเรยี น)
อาคาร 5 : อาคารสมโภช 700 ปี : (ห้องเรยี น ป.2 - ป.3 จำนวน 8 หอ้ ง)
อาคาร 6 : อาคารเฉลมิ พระเกยี รติ : (ห้องเรียน ป.5 ,ป.6 , ม.1-3, หอ้ งวิทยาศาสตร์ 1 ห้อง
หอ้ งภาษาจีน 1 หอ้ ง , หอ้ งประชมุ อาคารเฉลิมพระเกยี รติ 1 หอ้ งใหญ)่
1.2 อาคารประกอบ จำนวน 3 หลัง ไดแ้ ก่
โรงอาหาร : โรงอาหารสำหรบั นร.ช้ัน อนุบาล – ป.6 : จำนวน 1 หลงั
หอ้ งอาหาร : สำหรับคณะครู 1 หลัง และห้องสหกรณ์ร้านค้าโรงเรยี น
อาคารดนตรี- นาฎศิลป์ : จำนวน 1 หลัง
1.3 หอ้ งธนาคารโรงเรยี น : จำนวน 1 หลงั
2. หอ้ งเรยี นทงั้ หมดจำนวน 37 หอ้ ง แบง่ เป็น
2.1 ช้ัน อนุบาล 2 – 3 จำนวน 4 ห้อง
2.2 ชัน้ ป.1 – ป.6 จำนวน 24 ห้อง
2.3 ชน้ั ม.1 - ม.3 จำนวน 9 ห้อง
3. สว้ ม 3 หลงั : จำนวน 22 ท่นี ัง่
4. บ้านพักครู : จำนวน 2 หลัง
5. สนามวอลเล่ย์ สนามบาส สนามตระกรอ้ : จำนวน 3 สนาม
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 5
1.4.5 ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่
1. ห้องสมุดโรงเรยี น : จำนวน 1 หอ้ ง
2. ห้องปฏิบตั กิ าร และห้องเรียนรู้อืน่ ๆ
ห้องวิทยาศาสตร์ : จำนวน 1 ห้อง
หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ : จำนวน 2 หอ้ ง
หอ้ งภาษาจีน : จำนวน 2 ห้อง
หอ้ งปฏบิ ัติการนาฏศิลป์ : จำนวน 1 ห้อง
หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารดนตรี : จำนวน 1 หอ้ ง
หอ้ งพยาบาล : จำนวน 1 ห้อง
ห้องสหกรณร์ ้านคา้ : จำนวน 1 ห้อง
ห้องเรยี นพเิ ศษเรยี นร่วม : จำนวน 1 หอ้ ง
ห้องพละศึกษา : จำนวน 1 ห้อง
หอ้ งประชาสัมพนั ธ์ : จำนวน 1 ห้อง
3. คอมพวิ เตอร์PC ใชเ้ พ่ือการเรยี นการสอน : จำนวน 2 ห้อง
แผนผังโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อย
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ กด้ นอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 6
1.4.6 ขอ้ มลู แหล่งเรยี นรู้ สถิตกิ ารใช้
ตลอดปีการศึกษา
แหลง่ เรียนร้ภู ายในโรงเรยี น ตลอดปีการศึกษา
ชอื่ แหล่งเรียนรู้ ตลอดปีการศึกษา
ตลอดปกี ารศึกษา
1. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ตลอดปกี ารศกึ ษา
2. ห้องวิทยาศาสตร์ ตลอดปกี ารศกึ ษา
3. ห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ ตลอดปกี ารศกึ ษา
4. หอ้ งภาษาจีน ตลอดปีการศกึ ษา
5. ห้องปฏิบัตกิ ารนาฏศิลป์ ตลอดปีการศกึ ษา
6. หอ้ งปฏบิ ัติการดนตรี ตลอดปีการศึกษา
7. ห้องพยาบาล ตลอดปีการศกึ ษา
8. หอ้ งสหกรณ์รา้ นค้า ตลอดปกี ารศึกษา
9. ห้องเรยี นพเิ ศษเรียนรว่ ม ตลอดปีการศึกษา
10. หอ้ งพละศึกษา
11. ห้องประชุม 1-2 ห้องประชมุ อาคารเฉลิมพระเกยี รติ สถิตกิ ารใช้
12. ห้องประชาสมั พนั ธ์ ตลอดปีการศึกษา
13. เรอื นเพาะชำไฮโดรโปนิกส์ ตลอดปกี ารศกึ ษา
ตลอดปีการศึกษา
แหล่งเรียนรภู้ ายนอกโรงเรยี น
ชอื่ แหล่งเรยี นรู้
1. วดั แม่แกด้ น้อย
2. อุทธยาน นรก-สวรรค์
3. มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แกด้ นอ้ ย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 7
ส่วนที่ 2
ทม่ี า เหตุผล และวิสัยทัศนข์ องผูบ้ รหิ าร
ในการพัฒนาของหลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะ
2.1 ความสำคัญของการจัดทำหลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะ
ตลอดระยะเวลาท่ผี ่านมา การศึกษาของประเทศไทยนน้ั ต้องเผชญิ กบั วิกฤตทางการศึกษาหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการศึกษาที่ไม่ทั่วถึงและไม่สอดคล้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มีจำนวน
ผู้เรียนที่ตกหล่นจากระบบการศึกษาค่อนข้างมาก ใช้วิธีการจัดการศึกษาที่ล้าสมัย รวมถึงมีการตื่นตัวของ
กระแสการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษที่ 21 ส่ิงเหล่าน้สี ่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาของประเทศไทย ทำให้เกิด
ปญั หาความดอ้ ยคุณภาพของผเู้ รียน เมือ่ เทียบกับการจัดการศึกษาของประเทศชนั้ นำอืน่ ๆ ปญั หาของผู้เรียนท่ี
เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ปัญหาในเรื่องของการประยุกต์ใช้ เพราะระบบการศึกษาของโรงเรียนยังคงยึดติดกับ
วิธีการสอนแบบเดิม ๆ ทำให้ผู้เรียนถูกปลูกฝังด้วยการเรียนรู้แบบท่องจำเพื่อนำไปสอบ มากกว่าที่จะเรียนรู้
เพอ่ื ให้เกิดการคิดวเิ คราะห์และสังเคราะห์ และมุง่ สร้างองคค์ วามรใู้ ห้เกิดขน้ึ ได้ดว้ ยตวั เอง ซงึ่ สง่ิ เหล่านี้ส่งผลให้
ผเู้ รยี นส่วนใหญ่ไม่สามารถนำความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและคุณลักษณะต่างๆ ทต่ี นเรียนรู้มาไปประยุกต์ใช้ให้
เกิดประโยชน์กับตัวเองและสังคมได้ กล่าวคือ เด็กไทยนั้นมีสมรรถนะที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นเรื่องที่
เสยี เปรยี บอย่างมากในการแข่งขันกบั นานาประเทศ
จากสาเหตุดังกล่าว ทำให้ทางภาครัฐจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนรู้เสียใหม่ โดยเปลี่ยน
จุดเน้น จากที่เคยเป็นหลักสูตรที่เน้นเนื้อหา (content - based) คือ เน้นเนื้อหาวิชา มีมาตรฐานและตัวชี้วัด
จำนวนมาก เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ (competency - based) คือ มุ่งพัฒนาพฤติกรรมที่ผู้เรียนโดยตรง
ยึดความสามารถที่ผู้เรียนพึงปฏิบัติได้เป็นหลัก เพื่อเป็นหลักประกันวา่ ผู้เรียนจะมีทักษะและความสามารถใน
ด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เมื่อผ่านการเรียนรู้ แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาได้กำหนดให้ หลักสูตรฐาน
สมรรถนะนนั้ เป็นแนวทางในการปฏิรูป หลกั สตู รและการจดั การเรียนการสอน เพอื่ มุ่งให้เกิดการตอบสนองต่อ
การเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 โดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะหลักที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
การแก้ปญั หา และการดำรงชวี ติ
พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 25 ได้ระบุว่า หลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐานที่ปรับนี้จะต้องครอบคลุมสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ
มาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ โดย
ต้องจดั การเรียนรูร้ ายวชิ าให้หลากหลายและสอดคล้องกับความสามารถ ความถนดั หรือความสนใจของผู้เรียน
และสภาพภูมิสังคม ในมาตรา 25 วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีที่โรงเรียนนำร่องต้องปรับปรุงหลักสูตรเพิ่มเติม
จาก หลักสูตรตามมาตรา 20 (4) ต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและ
คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ นั่นแสดงว่าโรงเรียนนำร่อง สามารถใช้หลักสูตรที่มีการปรับและคณะกรรมการ
ขับเคลื่อนฯ ให้ความเห็นชอบแล้วไปใช้ได้ เมื่อหลักสูตรได้รับการปรับใช้แล้ว ก็ทำให้โรงเรียนสามารถจัดซ้ือ
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 8
จัดหาสื่อการเรียนรู้ได้อย่างอิสระตามมาตรา 35 ได้ พื้นที่ที่ได้เริ่มต้นด้วยการจัดทำหลักสูตรของโรงเรียนนำ
ร่องสามารถนำกรอบหลักสูตร ของพืน้ ท่ีไปใช้ในการจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษาได้อยา่ งราบรืน่ คล่องตัว มีการ
ขับเคล่อื นอย่างเป็นระบบสคู่ รแู ละผู้เรียน
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา
ฉบับนี้ นับเป็นหลักสูตรที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน และส่งเสริมให้ผู้เรียนมี
สมรรถนะทีเ่ หมาะสมกับโลกในยุคสมยั ใหมท่ ี่มีการเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเรว็ และมีการแข่งขนั กันสูงขึ้น ซึ่งเป็น
หลักสูตรที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Learner Centric) โดยคำนึงถึงความสนใจ ความถนัด ความพร้อม
ความสามารถ ซึ่งในกระบวนการการจัดทำหลักสูตรฉบับบนี้ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยได้วิเคราะห์ สังเคราะห์
สภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียน รวมทั้งความเหมาะสมกับบริบท วิถีชีวิต ภูมิสังคม ชาติพันธุ์ และ
วัฒนธรรม มาเชื่อมโยงกับชีวิตจริง (real life) ของผู้เรียน โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีสมรรถนะหลัก 6 ด้าน
ประกอบด้วย 1) การจัดการตนเอง 2) การคิดขนั้ สูง 3) การส่อื สาร 4) การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม 5) การเป็น
พลเมืองที่เข้มแข็ง และ 6) การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน มีความสามารถในการนำความรู้
ทักษะ เจตคติและคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตจริง มิได้มุ่งเรื่องความรู้หรือ
เนือ้ หาวิชาทอ่ี าจมีการเปล่ียนแปลงได้ตามกาลเวลา ยึดสมรรถนะหลกั ที่จำเปน็ ตอ่ การใช้ชีวิตเป็นหลกั ในการจัด
การศึกษา ผ่านนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ภายใต้ “ MAEKADNOI MODEL : แม่แก้ดน้อย สืบฮีตสานฮอย
ตามรอยวัฒนธรรม นำสู่สัมมาชีพ ” โดยมกี ารกำหนดเกณฑ์ความสามารถที่ต้องการใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติได้ในแต่
ละระดับการศึกษา ความสามารถจะถูกกำหนดให้มีความต่อเนื่องกัน โดยใช้ความสามารถที่มีในแต่ละระดับ
เป็นฐาน สำหรับเพิ่มพูน ความสามารถในระดับต่อไป เป็นหลักสูตรฐานปฏิบัติ/ทักษะ (Action/Skill-
Oriented) ไม่ใช่หลักสูตรฐานความรู้ (Knowledge-Oriented) เป็นหลักสูตรที่มุ่งสู่การทำได้ (Able To Do)
ไม่ใช่หลักสูตรที่มุ่งสู่การรู้ (Able To Know) เป็นหลักสูตรที่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรม การกระทำ การ
ปฏิบัติ ของผู้เรียน มิใช่เพียงการมีความรู้เท่านั้น แต่ต้องสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ เจตคติ และ
คุณลักษณะต่าง ๆ ในการปฏิบัติตนและปฏิบัติงานต่าง ๆ ได้ เป็นหลักสูตรบูรณาการที่ส่งเสริมการใช้ความรู้
ข้ามศาสตร์ (Multidisciplinary) ก่อให้เกิดการเรียนรู้แบบองค์รวม (Holistic) และเป็นหลักสูตรที่ยืดหยุ่น
สามารถ ปรับเปลี่ยนสมรรถนะได้ ตามความต้องการของผู้เรียน ครู สังคม และโลก (Adaptive to the
changing needs)
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 9
2.2 วิสยั ทัศน์ของผ้บู ริหารที่มีต่อหลกั สตู รฐานสมรรถนะ
สมรรถนะเป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจาก ความรู้ ทักษะและ คุณลักษณะ การมีเพียงความรู้และทักษะ
นั้นยังไม่ถือเป็นสมรรถนะ จนกว่าจะสามารถนำความรู้ และทักษะนั้นมาประยุกต์ใช้กับงาน ทำงานให้เกิดผล
ลัพธ์ที่ดีอย่างชัดเจน ประสบความสำเร็จ ในการปฏิบัติงานสูงกว่ามาตรฐาน จึงจะถือเป็นสมรรถนะ ถือได้ว่า
สมรรถนะ เปน็ พฤตกิ รรมเชิงคุณลกั ษณะสว่ นบุคคลและความสามารถทแ่ี สดงออกให้เห็นถงึ การการประยุกต์ใช้
ความรู้ ทักษะรวมทั้งพฤติกรรมการทำงานในบทบาทและสถานการณต์ ่าง ๆ ท่ีทำให้ประสบความสำเร็จ ในการ
ปฏิบัติงานได้อย่างโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ของผู้เรียน โดยมีพื้นฐาน มาจากความรู้ ทักษะ
ความสามารถ และคุณลกั ษณะสว่ นบุคคล
หลักสูตรมีความสำคัญในฐานะเป็นเครื่องชี้แนะแนวทางให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง กับการจัด
การศึกษาเพื่อให้บรรลุตามจุดหมายที่กำหนดไว้ในหลักสูตร หรืออาจกล่าวได้ว่า หลักสูตร เปรียบเหมือนเข็ม
ทิศที่เป็นตัวกำหนดในเรื่องการจัดการเรียนการสอนว่าจะไปในทิศทางใด ในแต่ละสถานศึกษามีความแตกต่าง
กัน สถานที่แห่งใดจึงจะเหมาะสมที่จะทำให้ผู้เรียนเป็นไปตามแนวทางที่กำหนดได้มากที่สุด หรือตรงตาม
เปา้ ประสงคท์ ่ีกำหนดไว้
สถานศกึ ษามภี ารกิจหลักในการจัดการศึกษาให้ผ้เู รียนได้มีพัฒนาการอย่างเต็มตามศักยภาพ ได้จัดทำ
หลักสูตรสถานศึกษาที่ครอบคลมุ และเชือ่ มโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน 2551 ตามที่กระทรวง
ประกาศใช้ และสอดคล้องกับหลักสูตรท้องถิ่นทีเ่ ขตพื้นทีก่ ารศึกษากำหนด ตลอดจน ข้อมูลจากการวิเคราะห์
สภาพปัญหา จุดเน้น ความต้องการของสถานศึกษาและความต้องการของผู้เรียน และทุกองค์ประกอบของ
หลักสูตร เชื่อมโยงกับมาตรฐานการเรยี นรู้ การจัดหลักสูตรสถานศึกษาจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายท่ี
คาดหวังได้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมรับผิดชอบและร่วมกันทำงานอย่างเป็นระบบและต่อเน่ื องในการ
วางแผนดำเนินงาน การส่งเสรมิ สนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพฒั นานักเรียนไปสู่คุณภาพ
ตามมาตรฐาน การเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้
วสิ ยั ทัศนข์ องหลกั สูตรฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ นอ้ ย มุ่งพัฒนาผู้เรยี นรอบด้านเต็มตามศกั ยภาพ
ใหม้ ีสมรรถนะหลัก ความรู้ ทักษะ และเจตคติ เพือ่ เปน็ ผู้ร่วมเรียนรู้ ผ้รู ว่ มสรา้ งสรรค์นวตั กรรม
และเปน็ พลเมืองทเ่ี ข้มแขง็ ผา่ นการสบื สานวัฒนธรรมนำสู่การสรา้ งอาชพี
ภายใต้การมสี ว่ นรว่ มของทุกภาคสว่ น
หลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แม่แกด้ น้อย พุทธศักราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 10
สว่ นท่ี 3
ข้อมลู พน้ื ฐานในการจัดทำหลักสตู ร
3.1 ข้อมูลเก่ยี วกบั บริบทของโรงเรียน
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยตั้ง อยู่เลขที่ 359 หมู่ 5 ถนนสันทราย-พร้าว ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย
จังหวัดเชียงใหม่ 50210 โทร 053-492002 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึง
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีเขตพื้นที่บริการ คือ หมู่ 5 บ้านแม่แก้ดน้อย, หมู่ 10 บ้านหนองโบสถ หมู่ 13
บ้านสหกรณ์นิคมทรายแก้วพฒั นา ตำบลป่าไผ่ และหมู่ 1 บ้านทงุ่ ยาว ตำบลสนั ทรายหลวง
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ก่อตั้งขึ้นตั้งขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2481 โดยนายเครือวัลย์ สุวรรณสิงห์
นายอำเภอสันทรายเป็นผู้จัดตั้ง นายอินทร์ จารสิงห์ เสมียนแผนกศึกษาธิการอำเภอสันทราย เป็นผู้แทน
ทางราชการ มาทำพิธเี ปิดป้ายโรงเรยี นเมื่อวนั ท่ี 16 พฤษภาคม พุทธศกั ราช 2481 มีนายชุ่ม ศรบี านเรอื ง ดำรง
ตำแหน่งครใู หญ่ เรมิ่ แรกอาศยั ศาลาบาตรวดั แม่แกด้ น้อยเป็นสถานศึกษาเล่าเรยี น ตอ่ มาเมือ่ พุทธศกั ราช 2492
จึงได้ย้ายมาอยู่ ณ ที่ปัจจุบนั โรงเรียนมีเนื้อที่ 5 ไร่เศษ นายหมื่น เคหา ซึ่งดำรงตำแหน่งครูใหญใ่ นขณะนั้นได้
สร้างอาคารเรียนแบบ ป.2 ขึ้นในที่ดินแห่งนี้ โดยได้เงินงบประมาณจากทางราชการ 7,300 บาท ราษฎร
บรจิ าคสมทบ 20,930 บาท ทำพิธีเปดิ ปา้ ยอาคารเรียน เมอ่ื วนั ที่ 5 พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช 2495 ผบู้ รหิ ารคน
ปจั จุบนั คือ นายณรงค์ ลุมมา วฒุ กิ ารศึกษาสูงสุด ศกึ ษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา การบรหิ ารการศึกษา ดำรง
ตำแหน่งทสี่ ถานศกึ ษานี้ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2556 ถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 8 ปี 2 เดอื น
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 11
สภาพปัญหาและความตอ้ งการของผูเ้ รียนและโรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย
ในการวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียนและโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ตลอดจนการ
รับฟังความคิดเห็นจากจากการประชุมปรึกษาหารือจากคณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง
ผู้ใหญ่บ้าน และทางวัด เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งได้ข้อมูลในการขับเคลื่อนการพัฒน าหลักสูตรฐาน
สมรรถนะของโรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย ดงั รายละเอียดต่อไปนี้
1.2.1 เมือ่ การจัดทำหลักสตู รสำเรจ็ แล้วใหเ้ ชญิ คณะครทู ุกคนท่ีอยูโ่ รงเรียนวัดแมแ่ ก้ดน้อยได้ร่วม
ปรึกษาหาแนวทางในการรว่ มปฏิบตั ิจดั การเรยี นการสอนในหลักสตู รฐานสมรรถนะของโรงเรียน
1.2.2 ให้กำหนดเป้าหมายในการจัดทำหลักสูตรให้มีตัววัดผลที่ครอบคลุมชัดเจนและสามารถ
ติดตามผลของผู้เรียนได้
1.2.3 เน้นการจัดการเรียนการสอนในด้านภาษาต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาษาต่างประเทศ ภาษาจีน
ภาษาคำเมือง โดยจุดประกายเน้นให้ผู้เรียนในช่วงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ให้มีความกล้าแสดงออกใน
ด้านการส่ือสาร
1.2.4 แนะนำใหผ้ ู้เรยี นได้เลือกกจิ กรรมที่ตนเองสนใจตามความสมัครใจโดยไม่มกี ารบังคบั
1.2.5 จดั ให้มีศูนยฝ์ ึกในสถานศกึ ษาและใหน้ ำแหล่งเรียนรขู้ องชุมชนมาใช้ประโยชน์ให้มากทีส่ ุด
1.2.6 แนะนำให้มีการเชิญวทิ ยากร ผ้มู คี วามรู้ ปราชญ์ชาวบา้ นมาเพิม่ เตมิ ใหค้ วามรู้
1.2.7 ต้องการให้ตัวผู้เรียนได้ประสบผลสำเร็จในการดำเนนิ ชีวิตในปัจจุบันและเป็นพลเมืองที่ดี
ของสังคมและประเทศ
1.2.8 เนน้ ผ้เู รียนใหฝ้ กึ มารยาทและความออ่ นน้อมถ่อมตน
1.2.9 ความสามารถทางงานด้านฝีมือไม่ว่าจะเป็นงานใบตอง งานแกะสลักเพราะจะสามารถทำ
ให้เด็กนำไปใชป้ ระกอบอาชพี ได้
1.2.10 นำบริบทภายในชุมชนมาใช้กับผเู้ รียนใหม้ ากข้ึน
นอกจากนี้ในที่ประชมุ ได้มีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงในอำเภอ
สันทราย ดังน้ี
1. บ้านโปง หมู่ 6 ตำบลป่าไผ่ ได้รับยกย่องให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ /เป็นหมู่บ้าน
สัมมาชีพชุมชน/เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ตามโครงการหมู่บ้านสานพลังประชารัฐ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งมี
โครงการพฒั นาบ้านโปง อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ซ่ึงเป็นพ้ืนท่อี นรุ ักษ์ปา่ ไม้ต้นนำ้ และเป็นปา่ สงวนแห่งชาติ
คนในชุมชนมีวิถีชีวิตที่รักป่าไม้ มีกลุ่มดูแลรักป่า พร้อมได้จัดตั้งเป็นชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านโปง มี
วัตถุประสงค์ เพื่อให้สมาชิกมีความรู้เรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ความภาคภูมิใจในถิ่นที่อยู่อาศัย วัฒนธรรม
และสิ่งแวดล้อม โดยไม่ทำลายป่าและรักษาไว้ จึงเป็นศักยภาพที่สำคัญของหมู่บ้านโปง หมู่ที่ 6 ตำบลป่าไผ่
อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้บ้านโปง ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทาง “โคก
หนองนาป่าไผ่ โมเดล” มีฐานการเรียนรู้ในพื้นที่ 13 ฐาน ได้แก่ การทำนา เลี้ยงวัว เลี้ยงเป็ดไข่ เลี้ยงปลา การ
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 12
เพาะชำ การทำปุ๋ยหมัก ยาฆา่ แมลง การปลูกมะนาว การปลกู ผกั การเพาะเหด็ การขยายเมลด็ พันธุ์/กล้าพันธ์ุ
และระบบนำ้ เกษตร
2. บ้านเมืองขอน หมู่ที่ 1 ตำบลป่าไผ่ เป็นหมู่บ้านที่เป็นชุมชนกึ่งเมือง บ้านเมืองขอนเป็นหมู่บ้าน
เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ปี 2556 มีพื้นที่สาธารณะค่อนข้างจำกัด ปัจจุบันได้รับการอนุเคราะห์พื้นที่ในการ
ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในหม่บู า้ นจากเจ้าอาวาสวัดเมืองขอน มศี นู ยฝ์ ึกสัมมาชีพเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับถ่ายทอด
การฝึกอาชีพพร้อมจุดเรียนรู้ในหมบู่ ้าน จำนวน 10 จดุ จุดเรียนรู้ทโ่ี ดดเดน่ คอื การเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อทำปุ๋ย
จากมลู ไสเ้ ดอื น
3. บ้านหม้อ ชุมชนสามัคคี แหล่งข้าวพันธ์ุดี วิถีพอเพียง ชื่อเสียงอนุรักษ์กบ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กมี
พื้นที่ประมาณ 700 ไร่ ร้อยละ 50 เป็นพื้นที่นาที่ทำการเกษตรปลูกขา้ วเป็นหลัก ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ , สันปา่
ตอง , ปทุมแม่โจ้ 2 และข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุหลักเพื่อส่งต่อ ด้วยแหล่งน้ำมีใช้ตลอดปี
จากโครงการชลประทานแม่แฝกแม่งัด บ้านหม้อเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของจังหวัดเชียงใหม่
และการเป็นหมู่บ้านหมู่บ้านสารสนเทศชุมชนดีเด่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและคุณภาพชีวิต ระดับเขต
ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ปี 2561 ทั้งนี้เนื่องด้วยหมู่บ้านมีการอนุรักษ์กบและมีครัวเรือน
ต้นแบบ 3 ระดับ พร้อมทั้งมสี ถานเี รียนร้ใู นหมู่บา้ น จำนวน 18 จุด จงึ เปน็ ท่มี าของโครงการและรางวลั ท่ีได้รบั
4. ศูนย์เรียนรู้ “โคกหนองนา โมเดล” บ้านท่ายาว หมู่ที่ 11 ตำบลป่าไผ่ มีกิจกรรมจดั ทำแผนพัฒนา
ชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ณ พื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหมป่ ระยุกต์ สู่ “โคกหนองนา
โมเดล” บ้านทา่ ยาว หม่ทู ี่ 11 ตำบลปา่ ไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เนน้ การเรยี นรูจ้ ากการปฏิบัติของ
ครัวเรือนต้นแบบเรียนรู้ดว้ ยประสบการณจ์ ริง เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ในพ้ืนที่/ ครัวเรือนของตนเอง ซึ่งมี
ฐานการเรียนร้ใู นพ้ืนท่ี จำนวน 3 ฐาน ได้แก่ การทำปยุ๋ หมัก การทำ key hole garden และการปลูกผัก
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 13
แหล่งเรยี นรภู้ ายนอกโรงเรยี น
1. วัดศรีดอนชยั ปา่ ตงึ งาม (วดั แม่แก้ดน้อย )
2. มหาวิทยาลัยแมโ่ จ้
3. สถานวี ิทยุ ม.ก.เชยี งใหม่
4. รา้ นสภุ าพขา้ วแตนบ้านปา่ ตอง
5. หมู่ที่1 บ้านเมืองขอนเศรษฐกิจชุมชน
6. หมู่ 12 บา้ นหม้อแหล่งเรียนรู้เกย่ี วกบั การทำขนมอบ
7. หม1ู่ 5 บา้ นเกษตรพัฒนาแหล่งเรยี นรูก้ ารอนุรักษว์ ัฒนธรรมของชนเผา่ ชาติพนั ธุ์
ช่ือภูมปิ ัญญา/ปราชญ์ชาวบ้าน
1. ผู้ใหญบ่ ้านพวงเพชร บุญชุ่มใจ ชมุ ชนบา้ นเมอื งขอน ศนู ยเ์ รยี นรทู้ โี่ ดดเด่นจะเป็นการเล้ียงไสเ้ ดอื น
2. ดร.ประกจิ เสาร์แก้ว ชุมชนบ้านโปง การท่องเท่ียวเชิงนเิ วศ หมู่บา้ นท่องเที่ยว/มีครัวเรือนต้นแบบ
ทเ่ี ป็น โคก หนอง นา โมเดล
3. ผใู้ หญ่บ้าน ชวรยิ า ศรวี ชิ ัย ชมุ ชนบา้ นทา่ ยาว โครงการ โคก หนองนา โมเดล
4. ผู้ใหญบ่ ้าน นติ ยา วริ ิยา ชมุ ชนบา้ นหมอ้ การอนุรกั ษ์กบ/อนรุ กั ษ์พนั ธข์ุ ้าวพชื เมือง
3.2 ข้อมลู บรบิ ทระดับชุมชน ทอ้ งถ่นิ
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ได้ตั้งอยู่ในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งอำเภอสันทราย เป็นอำเภอ
หนึ่งในเขตปริมณฑลของนครเชียงใหม่ ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นอำเภอที่มีความเจริญรองจากนคร
เชียงใหม่ จนปัจจุบันอำเภอสันทราย มีสถานะอำเภอขนาดใหญ่ มี จำนวนประชากรเป็นอันดับ 2 ของจังหวัด
เชียงใหม่ รองจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ มีสถานประกอบการมาก และการขยายตัวของชุมชนเมืองแม่โจ้ทำให้
อำเภอสันทราย มีความพร้อมทุกๆ ด้าน ทั้งสถานศึกษา สถาน ประกอบการ โรงงาน บ้านจัดสรร จากการ
เตบิ โตอยา่ งตอ่ เนื่อง อำเภอสันทราย ถูกกำหนดบทบาทให้เป็น อำเภอทร่ี องรบั ในดา้ นแหลง่ ที่อยู่อาศัยท่ีสำคัญ
ของจังหวัดเชียงใหม่
ท่ีต้ังและอาณาเขต อำเภอสันทรายมอี าณาเขตติดตอ่ กบั อำเภอใกลเ้ คียง ดงั น้ี
• ทิศเหนอื ตดิ ต่อกับ อำเภอแม่แตง
• ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกบั อำเภอดอยสะเกด็
• ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กับ อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสนั กำแพง และ อำเภอเมืองเชียงใหม่
• ทศิ ตะวันตก ตดิ ตอ่ กับ อำเภอเมอื งเชยี งใหม่และ อำเภอแมร่ ิม
อำเภอสนั ทราย มีพ้ืนที่ 285.02 ตร.กม. ประกอบด้วย 12 ตำบล 125 หม่บู า้ น ในพื้นที่เป็นแบบกึ่ง
เมืองและกึ่งชนบท มีประชากร 128,724 คน และมีประชากรแฝงในพื้นที่ราว 84,000 คน เป็นที่ตั้งของ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้และหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ซึ่งประเด็นความเจริญและความเป็นอยู่ของผู้คนมีผลต่อการ
ทำงานและดแู ลดา้ นสขุ ภาพ ของประชาชนในพนื้ ท่ี
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 14
ลักษณะภูมปิ ระเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลาดเอียงขึ้น มีภูเขาอยู่ด้านทิศเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทางทิศ
เหนอื และตะวันออกเหมาะกับการปลูกพชื ไรส่ ่วนทิศตะวันออกและทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ปลูกขา้ วไดด้ ี
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยได้รับความร่วมมือ และสนับสนุนจากผู้ปกครองชุมชน และองค์กรต่างๆ ทั้ง
ภาครัฐ และเอกชน ในด้านต่าง ๆ ได้รับความรู้จากปราชญชาวบ้าน แหล่งเรียนรูในชุมชน คณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้น พื้นฐาน เครือข่ายผู้ปกครอง และผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนของบุตร
หลาน โรงเรียน ครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง มีคุณวุฒิทางการศึกษา สามารถเรียนรู้และพัฒนารวมกันเพื่อปรับปรุง
การเรียนการสอนไดเ้ ป็น อยา่ งดี
ด้านศาสนา
ประชาชน ร้อยละ 99 นับถือศาสนาพุทธ ที่เหลือร้อยละ 1 นับถือศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์
ประเพณีที่ถอื ปฏิบตั มิ ักเกี่ยวกับคตคิ วามเช่อื ทางศาสนา เช่น ประเพณลี อยกระทง เทศกาลสงกรานต์ฯลฯ
อาชพี หลกั
ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตชลประทานแม่แฝก
และชลประทานแม่กวง ส่วนที่เหลือ ประกอบอาชีพรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมและประกอบอาชีพอิสระ
เชน่ ตัดเย็บเส้ือผา้ เลย้ี งสตั ว์มกี ารสง่ เสรมิ อาชพี ในชมุ ชนทุกหมบู่ า้ นตำบล ฯลฯ
ทรัพยากรทางดา้ นการดแู ลสุขภาพ
1. โรงพยาบาลของรัฐ จำนวน 1 แห่ง (โรงพยาบาลสนั ทราย)
2. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตำบล จำนวน 13 แหง่
3. สถานอี นามยั จำนวน 1 แหง่ (บา้ นสนั นาเมง็ )
4. ศูนยส์ ุขภาพชมุ ชน จำนวน 1 แห่ง (ตำบลหนองหาร)
โดยมีการจดั โซนพน้ื ที่ในการดูแลด้านสุขภาพในพน้ื ที่ เป็น 4 โซน ประกอบดว้ ย โซนเหนือ โซนกลาง
โซนใต้และโซนตะวันออก
โซนเหนือ ประกอบด้วยตำบลแม่แฝกและตำบลแม่แฝกใหม่ ในพน้ื ทยี่ ังอุดมด้วย ทรัพยากรธรรมชาติ
มีเขตอนุรักษ์ป่าไม้ท่ีให้ชาวบ้านมี ส่วนร่วมในการดแู ล นอกจากน้ันในพื้นท่ียังมคี วาม ได้เปรียบทางทุนสังคมท่ี
มีชุมชนท่ีเข้มแข็งอยู่แบบเครอื ญาติมีการจัดการดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม มีแหล่งเกษตรที่อดุ ม สมบูรณ์เกิดเปน็ ชุมชน
เกษตรอินทรีย์บริโภคในชุมชน แหล่งเรียนรู้ใน พื้นที่ประกอบด้วยหมู่บ้านเศรษฐกิจ พอเพียง หมู่บ้านต้นแบบ
ลดภาวะโลกร้อน กองทุน สวัสดิการชุมชน หมู่บ้านเขียวขจีจากการเป็นพื้น ที่ดิน ดำน้ำชุ่มทำให้เกิดการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจ ปัจจุบัน คน ในชุมชนขายที่ดินมีนายทุนทำโรงงานในชุมชน มี แหล่งน้ำเสีย มลภาวะ
คนออกไปทำงานนอกบ้าน งาน งานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข รับจ้าง มุ่งหารายได้เป็นหลักทำงานใน
โรงงาน ไม่มีเวลาให้ครอบครัวหรือมีเวลาน้อย สัมพันธภาพใน ครอบครัวมีน้อย มีการแข่งขันนําลูกหลานเข้า
สถาบันการศึกษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ในชุมชนมีร้านสะดวกซื้อ มี อาหารสำเร็จรูป อาหารมีสารปนเปื้อนสารเคมี
อาหารขยะมีมาก การจราจรคบั คัง่ ทำใหเ้ กิดอุบัติเหตุมาก การสร้างโรงงานและสถานประกอบการในพ้นื ท่ี เช่น
หลักสูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 15
โรงงานสุรา โรงงานอาหารแช่เย็น โรงงานทำผักกาด ดองกระป๋อง โรงงานผลไม้ แช่อิ่มขนาดใหญ่ โรงงานทำ
เครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โซนนี้จึงมีทั้งประชากร ดั้งเดิมและประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ ใน 2
ตำบลนี้ CUP สันทรายได้ส่งแพทย์เวชศาสตร์ ครอบครัวไปประจำที่ รพ.สต.บ้านร่มหลวง มีเครือข่ายสถาน
บริการคือ รพ.สต.บ้านหนองมะจับและรพ.สต. บ้านเจดีย์แม่ครัวมีการบริการการดูแลสุขภาพกลุ่มปกติ กลุ่ม
เสี่ยง กลุ่มป่วยโดยเน้นพฤติกรรมการกินที่ ถูกต้องใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสาน ตำบลแม่แฝกและตำบล
แม่แฝกใหมม่ ีอตั ราป่วยดว้ ยโรคไม่ติดต่อโรค ความดนั โลหิตสูงและโรคเบาหวานอยใู่ นอนั ดบั ต้น ๆ ของอำเภอ
โซนกลาง มีตำบลป่าไผ่ตำบลหนองหารและตำบลหนองจ๊อม บริบทชุมชนในโซนนี้มีความ
หลากหลายในพน้ื ที่ เปรียบเสมอื นการแบ่งพน้ื ที่เปน็ 3 วงกลมโอบล้อมกนั 3 ชนั้ ชัน้ ในสุดเปน็ สังคมเมือง ช้ันที่
2 เปน็ สงั คมก่งึ เมอื งกง่ึ ชนบทและช้ันที่ 3 เปน็ สงั คมชนบท เปน็ ท่ตี ้งั ศูนยร์ าชการระดับอำเภอ จงั หวดั ภาคและ
ประเทศ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยแม่โจ้โรงเรียนศรีสังวาล (รับเด็กพิการอยู่ประจำ) ศูนย์วิจัย ยาสูบ
ศูนย์วิจัยประมง มีโรงงานเบทาโกร และมีสถานบันเทิงหลายรูปแบบ แต่เดิมประชาชนมีวิถีการดำเนิน ชีวิต
แบบชนบท อาชพี ส่วนใหญจ่ ะรบั จา้ ง และทำสวน ปจั จุบนั โซนนี้มปี ระชากรอยู่หนาแน่น แหล่งพาณิชย์ ร้านค้า
แหล่งรวมเศรษฐกิจและอบายมุข ทั้ง ตำบลหนองหารและตำบลป่าไผ่เกิดความ เปลี่ยนแปลงมีความเจริญ
ทางด้านโครงสร้างใน พื้นที่เมืองเกิดอย่างรวดเร็วทั้งหอพักและบ้าน จัดสรรประมาณกว่า 300 แห่งประชากร
แฝง ทั้งนักศึกษาและแรงงานรับจ้าง แรงงานต่าง ด้าว หลั่งไหลเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ตำบลหนอง หารมี
อุตสาหกรรมท้องถิ่น ทางด้านหัตถกรรม พื้นบ้านมีการแกะสลักไม้ของชุมชนในหมู่บ้าน ทั้งยังมีอุตสาหกรรม
เครื่องปั้นดินเผาเป็น อุตสาหกรรมขนาดเล็กซึ่งเป็นการสร้างรายได้ ภายในเขตชุมชน ประชาชนในพื้นที่ส่วน
ใหญ่ จะประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นอาชีพ หลัก นอกจากนี้ก็มีอาชีพ รับ จ้างทั่วไป ประชากรต่างถิ่นได้
เคลือ่ นยา้ ยเขา้ มาอาศยั อยู่ ในพ้ืนที่เพ่ือเขา้ มาทำมาหากินในขณะท่คี นใน พืน้ ที่บางสว่ นกอ็ อกไปนอกชุมชนเพ่ือ
ทำมาหา กินเช่นกัน (ซึ่งเป็นมุมมองที่น่าสนใจในเรื่อง ของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม) นอกจากนั้นการ
เปลี่ยนแปลงของสังคมปัจจุบันตามกระแส การมีแหล่งธุรกิจ หรือเศรษฐกิจในชุมชน (สนามกอล์ฟ) ก็เป็นจุด
เปลี่ยนของรูปแบบการดำเนนิ ชีวิตของคนบางสว่ น การมีคน ชนเผ่า และต่างด้าวอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในชุมชนหลายรูปแบบเช่น การสร้างรายได้ในพื้นที่ การเกิดระบาดของโรค
ไข้เลือดออก ค่านิยมเกิดการเลียนแบบการใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อ ของประชาชน วัฒนธรรมประเพณีเดิมที่ถูกลืม
การเมืองการปกครองมีทั้งการผูกขาด และการหมุนเวียนกัน เข้ามาดำเนินการ เช่น การคัดเลือกผู้ใหญ่บ้าน
การเลือกประธานกลุ่ม กลมุ่ ผู้สงู อายุกลุ่มเยาวชน กลมุ่ อสม. กลุม่ แกนนําตา่ งๆ ได้เขา้ ร่วมวางแผน และประชุม
หารือเพื่อลดความขัดแย้ง ในระดับท้องถิ่นขึ้นอยู่กับ เทศบาลเมืองแม่โจ้เทศบาลตำบลหนองหาร เทศบาล
ตำบลป่าไผ่และเทศบาลตำบลหนองจอ๊ ม การเมือง ค่อนข้างจะเข้ามามีอทิ ธิพลในการดำเนินชวี ิตของประชาชน
ในพื้นที่ยังมีแหล่งเรียนรู้และเครือข่ายการ ทำงานด้านสุขภาพประกอบด้วยศูนย์ฟื้นฟูผู้พิการวัดห้วยเกี๋ยง
หมู่บ้านจัดการขยะ ชมรมสมุนไพรในวัด ใน 2 ตำบลนอกจากเป็นที่ตั้งของรพ.สันทรายแล้ว CUP สันทรายได้
ดำเนินการบริหารจัดการโดยจัดตั้งศูนย์ สุขภาพชุมชนตำบลหนองหารและส่งแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
ประจำที่รพ.สต.บ้านหนองไคร้เพื่อให้ความ สะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่และส่งเสริมการทำงานเชิงรุก
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 16
จดั ระบบขอ้ มลู โรคเร้ือรัง บรกิ ารเชิงรกุ สู่ชมุ ชน เชื่อมเครอื ข่ายชมุ ชนในการบริการ เติมเต็มแนวคิดการทำงาน
ปฐมภูมชิ มุ ชนเขตของรพ.สนั ทรายและมี เครือข่ายสถานบรกิ ารรพ.สต.บา้ นป่าเหมือด/รพ.สต.บ้านศรีบุญเรือง
โซนใต้ เป็นพืน้ ท่ตี ดิ ต่อกับอำเภอเมืองประกอบดว้ ย ตำบลสนั ทรายหลวง ตำบลสนั ทราย น้อย ตำบล
สันพระเนตรและตำบลสันนาเม็ง พื้นที่นี้เป็นโครงการบ้านจัดสรรถึงร้อยละ 55 ของพื้นที่ มีแรงงานต่างด้าว
อาศยั ในพ้ืนที่คิดเปน็ ร้อยละ 20 ของประชากรท้งั หมด บรบิ ทจึงเป็นสงั คม กึง่ เมืองก่ึง ชนบทและสังคมเมืองทำ
ให้ประชาชนมีวิถีชีวิตความเร่งรีบพฤติกรรมการบริโภคและแหล่งอาหารที่ไม่สามารถ เลือกได้เดิมวิถีชีวิตเป็น
ชนบทอาชพี สว่ นใหญ่เปน็ เกษตรกรรมและค้าขาย ต่อมาเมือ่ ความเจรญิ แผ่ขยายมาก ข้ึน และขยายเขตออกมา
สู่รอบ ๆ เขต เมือง จึงทำให้วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนไป อาชีพเกษตรกรรมลดลงไปเรื่อย ๆ ที่ดิน ทำมาหากิน
กลายเป็นทอี่ ยู่อาศัย เป็น อาคารพาณชิ ย์ หอพกั อพารท์เมน้ ท์ บา้ นเชา่ บ้านจดั สรร ตลาดและรา้ นค้า ปจั จุบัน
ยังคงเหลือหมู่บ้านที่มีวิถีชีวิต ดั้งเดิมอยู่ส่วนน้อย วิถีชีวิตผู้คนส่วนใหญ่ มีแต่ความเร่งรีบ เข้าไปทำงาน ไป
ค้าขาย ในเมือง ในต่างพื้นที่คงเหลือแต่กลุ่ม ผู้สูงอายุเฝ้าบ้าน ปัจจุบันส่วนใหญ่ กลายเป็นครอบครัวเดี่ยว อีก
ทั้งมีผู้คน ต่างถิ่น ต่างด้าว ชนชาติพันธ์ เข้ามา อาศัยอยู่ปะปนจนทำให้ความสัมพันธ์ ความผูกพัน ในชุมชน
เปลย่ี นแปลงไป ทำ ให้พน้ื ท่ีเหล่านีเ้ กิดอัตราปว่ ยดว้ ยโรค เรอ้ื รงั ความดนั โลหิตสูงเบาหวานด้วย อัตราที่สูงและ
ตามมาด้วยโรคหลอด เลือดในสมองที่เกิดความสูญเสียอยา่ ง มาก ต่อคุณภาพชีวิตทีเ่ หลืออยู่ ในความยากของ
พื้นที่ก็ยังมีสิ่งดีที่เป็นโอกาสมีเทศบาลขนาดใหญ่และภาคี องค์กรต่างๆมีศักยภาพทั้งชมรมจิตอาสา ชมรม
ผู้สูงอายุกลุ่มอสม.และทรัพยากรจำนวนมาก ในโซนนี้สถานี อนามัยตำบลสันนาเม็งได้ถ่ายโอนขึ้นกับเทศบาล
สันนาเม็ง แต่ระบบการทำงานของสถานีอนามัยยังคงดำเนินการร่วมกันเหมือนเดิม ในจุดนี้ทางCUPสันทราย
ได้ส่งแพทย์ประจำที่รพ.สต.บ้านท่อเพื่อรองรับการ บริการประชาชนในโซนใต้ลดภาระการเดินทางไปรพ.สัน
ทราย จัดแพทย์หมุนเวียนปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และมีรพ.สต.ประจำทุกตำบลเพื่อทำให้เกิดการทำงาน
รว่ มกนั จนเกดิ เป็นเจา้ ของด้านสุขภาพและเกิด ประโยชนต์ ่อประชาชนในเขตพน้ื ท่ี
โซนตะวันออก ประกอบตำบลสนั ป่าเปา ตำบลหนองแหย่งและตำบลเมืองเล็น โซนน้เี ป็นพ้ืนราบเขต
ชนบท เป็นชมุ ชนเครือญาติมีวัฒนธรรมประเพณเี ป็นทยี่ ึดโยงของชมุ ชน มพี พิ ิธภัณฑโ์ บราณวัด ร้องเม็ง อาชีพ
ส่วนใหญ่ทำนาทำสวนแบบเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านในพื้นที่ดั้งเดิมมีศักยภาพในการบริหารจัดการ เป็น
ชุมชนเล็กๆ ที่ยังไม่ถูกสังคมเมืองกลืน มีการช่วยเหลือเกื้อกุลซึ่ง กันและกัน มีการใช้วัฒนธรรมเป็นตัวนําใน
การทำกิจกรรม รว่ มกนั อย่างมคี วามสุข เช่น งานปอย งานบญุ ตา่ ง ๆ ชาวบา้ นจะ มาชว่ ยเหลือกันในชุมนมีการ
จัดตั้งองค์กรต่าง ๆ ภายในชุมชน โดยการแต่งตั้งจากชาวบ้าน เช่น กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเยาวชน กลุ่มผู้สูงอายุ
เป็นต้น จากต้นทุนทางสังคมดังกล่าวพื้นที่นี้มี แหล่งเรียนรู้เช่นหมู่บ้านสุขภาพพอเพียง โรงเรียนนวัตกรรม
ชมุ ชน กลุ่มมผี ูน้ ําท่มี คี วามสามารถมีความพร้อมเปน็ จติ อาสา ในการทำงาน โดยรวมพน้ื ที่อำเภอสันทรายมีร้าน
ขายยา ทงั้ หมด 37 รา้ น คลนิ ิกแพทยแ์ ผนปัจจุบัน 45 แหง่ ร้านขายของชํา 450 ร้าน ตลาดสด 7 แห่ง โรงงาน
นำ้ ดม่ื 39 โรงงาน สถานประกอบการตา่ งๆ 145 แห่ง แนวโน้มด้านสุขภาพมที ้งั โรคตดิ ต่อคอื ไข้เลือดออก วัณ
โรคมือเท้าปาก โรคไม่ติดต่อประกอบดว้ ยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ปัญหาทางสังคมมีท้ัง
เรอื่ งยาเสพติด เอดสพ์ ฤตกิ รรมเบย่ี งเบนของวยั รุ่นวัยเรยี น
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 17
3.3 ข้อมูลบรบิ ทระดบั พื้นที่ จังหวัด
3.3.1 ขอ้ มลู บรบิ ทระดับเขตพ้นื ท่ีการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้น ตาม
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน มีภารกิจหลักในด้านการส่งเสริม สนับสนุนและบริหารจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในพื้นที่รับผิดชอบ 5
อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง อำเภอสันทราย อำเภอสะเมงิ และอำเภอพร้าว
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ได้ทบทวนแผนพัฒนาการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พ.ศ. 2563 - 2565 โดยทบทวนเป้าประสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์ ตวั ชว้ี ดั ค่าเปา้ หมาย แนวทางการพัฒนาของ
แต่ละประเด็นกลยุทธ์และการวิเคราะห์กำหนดโครงการที่สอดคล้องกับ Value Chain ในแผนแม่บทย่อย
เชื่อมโยงกับแผนระดับที่ 1 แผนระดับที่ 2 แผนระดับที่ 3 และนโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา ตาม
หลักการความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (XYZ) เพื่อให้แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. 2563 - 2565 และ
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต
2 มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แหง่ ชาติ นโยบายของคณะรฐั มนตรี ตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
วสิ ัยทศั น์ (Vision)
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เป็นองค์กรคุณภาพ ผู้เรียนเป็นคนดี
คนเก่ง มีคณุ ภาพ พร้อมสำหรบั วิถชี วี ิตในศตวรรษท่ี 21 บนความเป็นไทย
พันธกิจ (Mission)
พันธกิจที่ 1 จัดการศึกษาเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม ความเป็นไทย และ
เสริมสรา้ งความม่นั คงของสถาบนั หลักของชาติและการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข
พันธกิจท่ี 2 พฒั นาผูเ้ รยี นใหม้ ีความสามารถความเปน็ เลิศทางวชิ าการเพ่ือสร้างขีดความสามารถ
ในการแข่งขัน
พันธกิจที่ 3 พัฒนาศักยภาพและคุณภาพผู้เรียนให้มีความก้าวหน้าตามหลักสูตรมีผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนเพิม่ ข้ึนและมีทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ในศตวรรษท่ี 21
พันธกิจที่ 4 สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำให้ประชากรวัยเรียนทุกคนได้รับ
บริการทางการศึกษาอยา่ งท่ัวถงึ และเทา่ เทียม
พนั ธกจิ ที่ 5 พฒั นาผบู้ รหิ าร ครู และบุคลากรทางการศกึ ษาใหเ้ ปน็ มืออาชีพ
พันธกิจท่ี 6 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 18
พนั ธกจิ ท่ี 7 พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาให้เป็นองค์กรคุณภาพ และส่งเสริมการมีส่วน
รว่ มของทกุ ภาคสว่ นในการจดั การศึกษา
เป้าหมาย (Goal)
1. ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มท่ีดงี าม มคี วามเปน็ ไทย รักและยึดมัน่ ในสถาบันหลักของ
ชาติ และการปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข
2. ผู้เรียนมคี วามสามารถความเปน็ เลศิ ทางวิชาการเพ่อื สร้างขีดความสามารถในการแขง่ ขนั
3. ผเู้ รยี นมคี วามก้าวหน้าตามหลกั สตู รเพมิ่ ขึน้ และมีทักษะท่ีจำเป็นในศตวรรษที่ 21
4. ประชากรวัยเรียนทกุ คนเขา้ ถึงโอกาสทางการเรียนรู้ทเี่ สมอภาคและเทา่ เทียมกนั ภารกิจ
5. ผู้เรียนได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
6. ครู บคุ ลากรทางการศึกษาได้รบั การพัฒนาใหเ้ ป็นครยู ุคใหม่ที่มีความรู้ ทักษะ และสมรรถนะ
ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ทขี่ องตนอย่างต่อเนื่อง
7. สำนักงานเขตพน้ื การศกึ ษาและสถานศกึ ษามีคุณภาพมาตรฐาน เปน็ ท่ยี อมรบั และเช่ือมั่นของ
ชมุ ชนและสงั คม
3.3.2 ข้อมลู บริบทระดับจงั หวัด
แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2565 -2569)
ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ช่วง 5 ปี
(พ.ศ.2565 - 2569) ตามพระราชบญั ญตั ิพ้ืนทน่ี วัตกรรมการศึกษา พทุ ธศกั ราช 2562 และคำแถลงเจตนารมณ์
(Mission Statement) เจตนารมณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ มุ่งมั่นริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมการจัดการศึกษา
ตลอดชีวิต ที่มีความสุขสำหรับบุคคลทุกช่วงวัย บนหลักการจังหวัดการศึกษา-สถานศึกษาจัดการตนเอง ตาม
เจตนารมณ์แห่งพระราชบญั ญัติพนื้ ทน่ี วตั กรรมการศึกษา พุทธศกั ราช 2562 ภายใต้วิสยั ทศั น์ “เชียงใหม่...นคร
แหง่ ชีวติ และความมงั่ ค่ัง”
แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2565 -2569)
จัดทำโดยกระบวนการวางแผนยุทธศาสตร์เชิงอนาคต (The Future of Strategic Planning) โดยใช้การวิจัย
เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) เป็นฐาน ประกอบด้วย 1)
สถานการณ์ปัจจุบัน และแนวโน้มความท้าทายในอนาคต 2) ทิศทางการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาจังหวัด
เชียงใหม่ 3) ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย 4 ประเด็น
ยุทธศาสตร์ 12 ยุทธศาสตร์ และ 4) ปัจจัยแห่งความสำเร็จและกลไกการบริหารยุทธศาสตร์ ทั้งนี้เน้นให้
ความสำคัญพร้อมคำนึงถึงปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินการจัดทำแผน
ยุทธศาสตร์การขับเคล่อื นพ้นื ท่ีนวตั กรรมการศกึ ษาจังหวดั เชียงใหม่ (พ.ศ. 2565 -2569)
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 19
จากแนวโน้มความทา้ ทายและคำแถลงเจตนารมณ์ (Mission Statement) จงึ กำหนดทิศทางการ
พัฒนา ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ตามแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรม
การศึกษาจังหวัดเชยี งใหม่ ดังนี้
วิสัยทศั น์ (Vision)
เชียงใหม.่ ..นครแหง่ นวัตกรรมการเรยี นรู้ตลอดชีวติ ทม่ี คี วามสุข
พันธกิจ (Mission)
พนั ธกจิ ท่ี 1 สร้างความเสมอภาคการศกึ ษาตลอดชวี ติ
พนั ธกจิ ที่ 2 พัฒนาคณุ ภาพการศึกษาเชงิ สมรรถนะแหง่ อนาคต
พนั ธกิจท่ี 3 เรง่ พฒั นานวตั กรรมและองคค์ วามรูก้ ารจดั การเรียนรู้ทไี่ ร้ขดี จำกัด
พันธกจิ ที่ 4 ยกระดบั ขดี สมรรถนะการบรหิ ารจดั การเรียนรเู้ ชงิ พนื้ ท่ี
เป้าประสงค์ (Goals)
เป้าประสงค์ที่ 1 ผู้เรียนเข้าถึงสิทธิโอกาสทางการศึกษาตลอดชีวิตที่เสมอภาคตาม
ความต้องการของปัจเจกชน เทา่ ทนั ตอ่ การเปลี่ยนแปลง และไดร้ ับการรบั รองตามคณุ ภาพทางการศึกษา
เป้าประสงคท์ ี่ 2 ผู้เรียนได้รบั การพัฒนาศักยภาพแบบองค์รวม มีทกั ษะชีวิต ทกั ษะวชิ าการ และ
ทักษะอาชีพ เต็มตามศกั ยภาพแหง่ ตน
เป้าประสงค์ที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่มีนวัตกรรม และองค์ความรู้ใหม่ที่เหมาะสมต่อการขับเคลื่อน
พื้นทนี่ วัตกรรมการศกึ ษา
เปา้ ประสงคท์ ี่ 4 หนว่ ยงานทางการศึกษาและสถานศกึ ษา เป็นองค์กรสมรรถะสงู เชงิ นวัตกรรม มี
ศักยภาพ สง่ มอบบริการสาธารณะ (PSA) ทดี่ ีต่อชุมชนสาธารณะ
ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาให้บรรลุเจตนารมณ์ (Mission Statement)
และทิศทางการพฒั นา ประกอบด้วย 4 ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ 12 ยุทธศาสตรด์ ้านการพฒั นา ดงั นี้
ประเด็นยุทธศาสตร์ ด้านความเสมอภาคการศกึ ษาตลอดชีวิต
ยุทธศาสตรท์ ่ี 1 สร้างความเสมอภาค ลดความเหล่ือมล้ำ การเขา้ ถึงโอกาสทางการศึกษา
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 จดั ระบบคุ้มครองสิทธขิ น้ั พนื้ ฐาน การให้คำปรกึ ษา ช่วยเหลอื และการสง่ ตอ่ ผเู้ รยี น
ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3 ลงทุนด้านโครงสร้างพน้ื ฐาน และจัดระบบนิเวศการศึกษาที่เอือ้ ตอ่ การเรยี นรไู้ ร้ขีดจำกัด
ประเด็นยทุ ธศาสตร์ ดา้ นคุณภาพการศึกษาเชิงสมรรถนะ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 พฒั นาระบบการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ ทีไ่ ร้ขดี จำกดั ทม่ี ีความสุขสำหรับบคุ คลทุกชว่ งวัย
ยุทธศาสตร์ที่ 5 จัดพฒั นาและขยายผลการใช้หลกั สูตรสมรรถะเชงิ อนาคต
ยุทธศาสตร์ท่ี 6 พัฒนาระบบประกนั คณุ ภาพเชงิ บูรณาการแบบองค์รวม
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ ด้านนวตั กรรมการศึกษา
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 7 เร่งสรา้ งและพัฒนานวตั กรรมการบรหิ ารจัดการเรียนรทู้ ่ีตอบสนองความต้องการ
ระดับปัจเจกชนและชุมชนสาธารณะ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 20
ยุทธศาสตร์ที่ 8 สร้างและพัฒนาระบบงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา รองรับการ
บริหารจดั การเชงิ พ้ืนที่
ประเด็นยุทธศาสตร์ ดา้ นสมรรถนะการบรหิ ารจดั การเชิงพืน้ ท่ี
ยทุ ธศาสตร์ที่ 9 ปรับระบบการบรหิ ารงานบุคคลเชิงสมรรถนะบนหลักการบริหารงานบุคคลและ
ระบบค่าตอบแทนเดยี วกัน
ยุทธศาสตร์ที่ 10 เปิดเวทีและสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการ
บริหารจัดการศกึ ษา บนหลกั การภาคีการศึกษาเชยี งใหม่
ยุทธศาสตร์ที่ 11 ยกขีดสมรรถนะการบริหารจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ บนหลักการ “จังหวัด
การศึกษา-สถานศึกษาจัดการตนเอง”
ยุทธศาสตร์ที่ 12 สร้างระบบเฝ้าระวังการบริหารจัดการศึกษา และการสะท้อนผลการพัฒนาท่ี
ย่ังยืน
การนำยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ (Strategic Implementation) มุ่งการสร้างความพร้อมเชิง
ยุทธศาสตร์ การมอบหมายกระจายความรับผิดชอบขับเคลื่อน (Empowerment) ในฐานะหุ้นส่วนบริหาร
จัดการ (Partnership) และการน้อมนำหลักการทรงงานเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ (Key Success Factor :
KSF) พร้อมกลไกกำกบั ติดตามและเฝ้าระวังทางยุทธศาสตร์ (Strategic Warning Sign System) ดังแผนภูมิ
กลไกการขับเคลอ่ื นพน้ื ทนี่ วัตกรรมการศึกษาจงั หวัดเชยี งใหม่
การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต้องสร้างกลไกอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ โดยเน้นมิติ
การบริหารจัดการคนเป็นปัจจัยสำคัญ ที่สร้างความตระหนักร่วม ความรู้รักสามัคคีและการกระจาย
ความรบั ผิดชอบ โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา "ระเบิดจากข้างใน : เข้าใจ - เข้าถงึ - พัฒนา" ดังนี้
หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 21
Agenda ข้อแถลงเจตนารมณ์ สิ่งทจ่ี ะช่วยใหเ้ หน็ ถงึ ทิศทางและภาพรวมของการประชุม
เพ่ือให้ผู้เขา้ ร่วมประชุมไดเ้ ตรยี มตัวลว่ งหน้า
Empowering กระบวนการทางสังคม ที่ส่งเสริมให้บุคคล องค์กร และชุมชน มีความเป็น
ตัวของตัวเอง สามารถควบคุมตนเอง มีความสามารถในการเลือก และกำหนดอนาคตของตนเอง ชุมชน และ
สังคมได้
Blueprint for Change ข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงการจัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงให้
มุ่งเน้น การบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็น
ประชาชนผู้รบั บริการ ขา้ ราชการ พนักงาน หรือสงั คมสว่ นรวม
OD ; Innovative Organization การพัฒนาองค์กร (Organization Development : OD)
จะดำเนินการทั้งระบบ เพื่อเป็นพื้นฐานการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ
ประกอบด้วย
1. RE-Culture การปรบั เปลย่ี นวฒั นธรรมองคก์ รสู่ องคก์ รคณุ ภาพโดยการสร้าง ค่านิยมร่วม
Re-culture วัฒนธรรมการทำงานร่วมกันเปน็ ทีมเชิงสร้างสรรค์
2. Re-Engineering การปรับระบบบริหารจัดการ โดย Re-think, Re-design, Re-tool
นำไปสขู่ ้อเสนอการเปลยี่ นแปลง (Blueprint for Change) เพอ่ื การพฒั นาสมรรถนะบคุ ลากร การสรา้ งองค์กร
แหง่ นวัตกรรมและองคก์ รท่มี ีสมรรถนะสูง (High Performance Organization : HPO)
3. Partnership การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรภายนอก จะเป็นการระดม
ทรพั ยากร องคค์ วามรู้ นวตั กรรมใหม่ เพอื่ เสริมจดุ แขง็ -ลดจุดอ่อนขององค์กร
QM (Quality Management) การบริหารคุณภาพการจัดการระบบคุณภาพโดยทุกคนท่ี
เก่ยี วข้องทง้ั ภายในและภายนอกองคก์ ารรับผดิ ชอบตอ่ งานทีต่ นเองกระทำอย่างเต็มที่
QC (Quality Control) การควบคุมคุณภาพโดยกระบวนการควบคุมคุณภาพภายใน
ทกุ ขัน้ ตอนใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานท่ีกำหนด
Public Report การรายงานสาธารณะ เป็นการรายงานผลต่อสาธารณะ คณะกรรมการบริหาร
และรายงานผลการประกันคุณภาพ (SAR) เป็นการรายงานตามแบบแผนราชการและการประกันคุณภาพ
ภายในของหนว่ ยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา
3.4 ข้อมูลบริบทระดบั ชาติ/ประเทศ และโลก
3.4.1 ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561 - 2580)
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 เป็นแผนการพัฒนาประเทศ ที่กำหนดกรอบและแนว
ทางการพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องทำตาม เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่ว่า”ประเทศ
ไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง” หรอื เปน็ คตพิ จนป์ ระจำชาติวา่ “มนั่ คง มง่ั คั่ง ยัง่ ยืน” เพ่อื สนองตอบต่อผลประโยชนแ์ ห่งชาติ โดยที่
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 22
รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 กำหนดให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายการ
พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆให้สอดคล้องและ
บูรณาการกัน เพื่อให้เกิดพลังผลกั ดันรว่ มกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
เป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องนำไปสู่การ
ปฏิบัติเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว
ด้วยการพฒั นาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง” เพือ่ ความสุขของคนไทยทุกคน
วสิ ัยทศั น์
“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” และเป็นคติพจน์ประจำชาตวิ ่า “มั่นคง ม่งั คง่ั ย่งั ยืน”
เปา้ หมาย
1. ความม่นั คง
1.1 การมีความมน่ั คงปลอดภยั จากภัยและการเปลี่ยนแปลงท้ังภายในประเทศและภายนอกประเทศ
ในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคงในทุกมิติทั้งมิติ
เศรษฐกจิ สงั คม สงิ่ แวดล้อม และการเมอื ง
1.2 ประเทศมคี วามม่ันคงในเอกราช และอธปิ ไตยมีสถาบันชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ท่ีเข้มแข็ง
เป็นศูนยก์ ลางและท่ียดึ เหนีย่ วจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความมั่นคง เปน็ กลไกท่ีนำไปสู่การบริหาร
ประเทศท่ีต่อเน่อื งและโปร่งใสตามหลักธรรมาภบิ าล
1.3 สังคมมีความปรองดองและความสามัคคีสามารถผนึกกำลังเพื่อพัฒนาประเทศชุมชนมีความ
เขม้ แข็ง ครอบครวั มคี วามอบอุน่
1.4 ประชาชนมีความมน่ั คงในชีวิต มงี านและรายได้ทมี่ ่ันคงพอเพยี งกับการดำรงชวี ติ มีที่อยู่อาศัยและ
ความปลอดภยั ในชวี ิตทรพั ย์สนิ
1.5 ฐานทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม มีความมัน่ คงของอาหาร พลังงาน และนำ้
2. ความม่งั คง่ั
2.1 ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ยกระดับเป็นประเทศในกลุ่มรายได้สูง
ความเหลื่อมลำ้ ของการพฒั นาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชนจ์ ากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันมากข้ึน
2.2 เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูง สามารถสร้างรายได้ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจดุ สำคัญของการเชื่อมโยงในภูมภิ าค ท้งั การคมนาคมขนส่ง
การผลิตการค้าการลงทุนและการทำธุรกิจมีบทบาทสำคัญในระดับภูมิภาคและระดับโล กเกิดสายสัมพันธ์ทาง
เศรษฐกจิ และการคา้ อยา่ งมีพลงั
2.3 ความสมบูรณใ์ นทนุ ทจ่ี ะสามารถสรา้ งการพฒั นาคนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ทนุ มนุษย์ทุนทางปัญญา
ทนุ ทางการเงิน ทนุ ทเ่ี ปน็ เคร่ืองมือเครือ่ งจกั ร ทนุ ทางสังคมและทนุ ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 23
3. ความย่ังยนื
3.1 การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดีไม่สร้างมลภาวะต่อ
สิง่ แวดลอ้ มจนเกนิ ความสามารถในการรองรบั และเยยี วยาของระบบนเิ วศน์
3.2 การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก
ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมีความ
รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม มคี วามเอ้อื อาทร เสยี สละเพ่ือผลประโยชนส์ ว่ นรวม
3.3 ประชาชนทุกภาคสว่ นในสงั คมยึดถือและปฏิบัตติ ามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
3.4.2 แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579)
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579) เพื่อใช้
เปน็ แผนยทุ ธศาสตรร์ ะยะยาวสำหรับหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษาของประเทศได้นำไปใช้เปน็ กรอบ และ
แนวทางการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้สำหรับพลเมืองทกุ ช่วงวัยต้ังแต่แรกเกดิ จนตลอดชวี ติ โดยจุดมุ่งหมาย
ทส่ี ำคัญของแผน คอื การม่งุ เน้นการประกันโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาและการศึกษาเพ่ือการมี
งานทำ และสรา้ งงานได้ภายใต้บรบิ ทเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศ และของโลกท่ีขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรม
และความคิดสรา้ งสรรค์รวมท้ังความเป็นพลวัตร เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดกั ประเทศที่มีรายได้
ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579) ได้กำหนด
สาระสำคัญสำหรับบรรลุเปา้ หมายของการพัฒนาการศึกษาใน 5 ประการ ไดแ้ ก่
1) การเขา้ ถึงโอกาสทางการศึกษา (Access)
2) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity)
3) คุณภาพการศกึ ษา (Quality)
4) ประสทิ ธภิ าพ(Efficiency) และ
5) ตอบโจทยบ์ ริบททีเ่ ปลยี่ นแปลง (Relevancy) ในระยะ 15 ปีขา้ งหน้า ดังนี้
วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่าง
เป็นสขุ สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21
วัตถปุ ระสงค์
1. เพื่อพฒั นาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มคี ุณภาพและมปี ระสิทธภิ าพ
2. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดีมีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับ
บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติและยุทธศาสตรช์ าติ
3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณธรรมจริยธรรม รู้จักสามัคคีและ
ร่วมมือผนึกกำลงั มุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยง่ั ยนื ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 24
4. เพื่อนำประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำ
ภายในประเทศลดลง และได้วางเป้าหมายไว้ 2 ด้าน คือ เป้าหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) และ
เป้าหมายของการจัดการศึกษา (Aspirations)
เป้าหมายด้านผู้เรียน (Learner Aspirations) โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณลักษณะ
และทักษะ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ประกอบดว้ ย ทกั ษะและคณุ ลกั ษณะต่อไปนี้
3Rs ไดแ้ ก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคดิ เลขเป็น (Arithmetic)
8Cs ได้แก่ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical
Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะ
ด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross – cultural Understanding) ทักษะด้านความ
ร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการ
สื่อสาร สารสนเทศ และการรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะ
ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ
และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) และความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม
(Compassion)
เป้าหมายของการจดั การศกึ ษา (Aspirations) 5 ด้าน ประกอบด้วย
1) ประชากรทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐานอย่างทั่วถึง (Access) เด็ก
ปฐมวัยมพี ัฒนาการสมวยั ประชากรทกุ คนมโี อกาสได้รับบริการทางการศกึ ษาต้ังแต่ปฐมวัยถงึ มัธยมศึกษาตอน
ปลาย หรือเทียบเท่าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงานได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้
ความสามารถ และสมรรถนะที่ตอบสนองความต้องการของตลาดงานและการพัฒนาประเทศ ประชากรสูงวยั
ไดเ้ รียนรู้ ฝึกฝนเพอ่ื พฒั นาความรู้ความสามารถ และทักษะเพื่อการทำงานหรือการมีชวี ิตหลังวัยทำงานอย่างมี
คุณค่าและเปน็ สขุ
2) ผเู้ รียนทกุ กลุ่มเป้าหมายได้รับบริการทางการศึกษาอยา่ งเสมอภาคและเท่าเทียม (Equity)
ผู้เรียนทุกกลมุ่ เป้าหมาย ท้ังกลุ่มปกติ ผมู้ ีความสามารถพิเศษ ผมู้ คี วามบกพร่องดา้ นต่างๆ ผ้พู ิการ ผดู้ อ้ ยโอกาส
และผู้มีภูมหิ ลังทางสังคมหรือฐานะทางเศรษฐกจิ ที่แตกตา่ งกันได้รับโอกาสและการบรกิ ารทางการศกึ ษาอย่าง
เสมอภาคและเท่าเทยี ม
3) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุขีดความสามารถและเต็มตาม
ศักยภาพ (Quality) ประชาชนทกุ คนมีโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพือ่ พัฒนาคณุ ลักษณะ
ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะของแต่ละบคุ คลให้ไปได้ไกลท่ีสุดเทา่ ที่ศักยภาพและความสามารถ
ของแต่ละบคุ คลพึงมี ภายใตร้ ะบบเศรษฐกจิ สังคมฐานความรู้ สงั คมแหง่ ปัญญา และการสรา้ งสภาพแวดล้อมที่
เอื้อต่อการเรียนรู้ ที่ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรมและสามารถ
ดำรงชวี ติ ไดอ้ ย่างเป็นสุขตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 25
4) ระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาผู้เรียนอย่างทั่วถึงและมี
คุณภาพ และการลงทุนทางการศึกษาที่คุ้มค่าและบรรลุเป้าหมาย (Efficiency) หน่วยงาน สถานศึกษาและ
สถาบันการศึกษาทุกแห่งสามารถบริหารและจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณภาพและมาตรฐาน
ระดับสากล จัดให้มีระบบการจัดสรรและใช้ทรัพยากรทางการศึกษาที่ก่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผู้เรียน
แต่ละคนให้บรรลุศักยภาพและขีดความสามารถของตน และส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมที่มี
ศกั ยภาพและความพร้อมเขา้ มามีสว่ นร่วมในการระดมทนุ และร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายเพ่ือการศึกษา โดยเฉพาะ
สถานประกอบการ สถาบันและองค์กรต่างๆ ในสังคม และผู้เรียน ผ่านมาตรการทางการเงินและการคลังท่ี
เหมาะสม
5) ระบบการศึกษาท่ีสนองตอบและก้าวทันการเปล่ียนแปลงของโลกท่ีเปน็ พลวัตและบริบทที่
เปล่ยี นแปลง (Relevancy) ระบบการศกึ ษาทม่ี ีคุณภาพและมาตรฐาน สนองตอบและกา้ วทันการเปลี่ยนแปลง
ของโลกศตวรรษที่ 21 สามารถพัฒนาทักษะ คุณลักษณะและสมรรถนะในการทำงานของกำลังคนในประเทศ
ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน สังคม และประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และ
ยุทธศาสตรป์ ระเทศไทย 4.0 ท่ีจะนำประเทศไทยก้าวขา้ มกับดักประเทศท่ีมีรายไดป้ านกลางสู่การเป็นประเทศ
ท่พี ัฒนาแล้ว ดว้ ยการศกึ ษาที่สร้างความมัน่ คงในชวี ติ ของประชาชนสังคมและประเทศชาติ และการสร้างเสริม
การเตบิ โตทเ่ี ป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา 26
ส่วนท่ี 4
องคป์ ระกอบของหลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะ
โรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย
4.1 แบบแผนของหลักสตู รฐานสมรรถนะ
⍟ วสิ ยั ทศั น์ของหลักสูตร
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย มุ่งพัฒนาผู้เรียนรอบด้านเต็มตามศักยภาพ
ให้มีสมรรถนะหลกั ความรู้ ทักษะ และเจตคติ เพือ่ เป็นผู้รว่ มเรียนรู้ ผรู้ ว่ มสรา้ งสรรค์นวัตกรรม และเป็นพลเมืองท่ี
เข้มแข็ง ผ่านการสบื สานวัฒนธรรมนำสกู่ ารสร้างอาชีพ ภายใต้การมสี ่วนร่วมของทุกภาคสว่ น
⍟ หลกั การของหลักสตู ร
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา
มีหลักการทส่ี ำคัญ ดังนี้
1. เป็นหลักสูตรที่มีเป้าหมายในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนที่เหมาะสมตามช่วงวัย
เน้นการพัฒนาผู้เรียนรายบุคคล (Personalization) อย่างเป็นองค์รวม (Holistic Development)
เพอ่ื การเป็นเจา้ ของการเรยี นร้แู ละพฒั นาตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง (Life-Long Learning)
2. เป็นหลักสูตรที่เชื่อมโยงระหว่างสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะในการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้
(Learning Outcome) เพื่อการพฒั นาผเู้ รียนใหส้ ามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ และการทำงาน
3. เป็นหลักสูตรที่จัดสภาพแวดล้อมและเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathway) ที่หลากหลาย
และระบบสนับสนุนการเรยี นรู้ทส่ี อดคล้องกบั พหปุ ัญญาและธรรมชาติของผ้เู รียน
4. เป็นหลักสูตรที่มีกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การใช้สื่อและสถานการณ์
การเรียนรู้ร่วมสมัย มีความหลากหลายและยืดหยุ่นตามความสนใจ ความถนัดของผู้เรียน
(Differentiated Instruction) บริบท จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา และชุมชนแวดลอ้ ม
5. เป็นหลักสูตรที่มุ่งใช้การประเมินเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้และสะท้อนสมรรถนะของผู้เรียน
ตามเกณฑ์การปฏิบัติ (Performance) ที่เป็นธรรมเชื่อถือได้ เอื้อต่อการถ่ายโยงการเรียนรู้และพัฒนาในระดับ
ทส่ี งู ข้นึ ตามระดบั ความสามารถ
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 27
⍟ จุดมุ่งหมายของหลักสตู ร
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา
มีจุดหมายเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะและเจตคติที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต
และมคี วามสามารถ ดังนี้
1. รู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น จัดการอารมณ์และความเครียด ปัญหาและภาวะวิกฤต
สามารถฟน้ื คืนสู่สภาวะสมดลุ (Resilience) และมสี ุขภาวะและมสี ัมพันธภาพทดี่ ีกับผู้อืน่
2. มีทักษะการคิดขั้นสูงอย่างมีคุณธรรมมีความสามารถในการนำและกำกับการเรียนรู้ของตนเอง
อย่างมเี ปา้ หมาย
3. ส่ือสารอยา่ งฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มีพลงั ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม
4. จัดระบบและกระบวนการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย มีความเป็นผู้ประกอบการ
ภาวะผนู้ ำ และจัดการความขดั แย้งภายใต้สถานการณ์ทมี่ คี วามซบั ซ้อน
5. ปฏบิ ัติตนอย่างรบั ผิดชอบ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก
6. เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกและจักรวาลเข้าถึงและรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี
เพอื่ การดำรงชวี ติ และอยู่ร่วมกบั ธรรมชาติอย่างย่งั ยืน
⍟ ปรัชญาการศกึ ษา (Philosophy)
“ผู้เรียนแต่ละคนมีศักยภาพและความสนใจที่แตกต่างกัน การเรียนการสอนจะตองสงเสริมใหผู้เรียน
ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพสูงสุดของแต่ละบุคคล โดยการเรียนรูจากสถานการณจริงเพื่อเสริมสร้างปัญญา
สามารถนาํ ความรูไปใชแกไขปญหาได้อยา่ งสร้างสรรค มีทักษะชีวิตทเี่ หมาะสมสำหรบั การใชชีวิตในอนาคต”
⍟ แนวคิดการจดั การศกึ ษาของโรงเรียน (School concept)
MAEKADNOI
สบื ฮตี สานฮอย ตามรอยวัฒนธรรม นำส่สู ัมมาชีพ
⍟ วสิ ยั ทัศน์โรงเรียนวดั แม่แก้ดน้อย (Vision)
“ภายในปีการศึกษา 2567 โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย มุ่งพัฒนาผู้เรียนเต็มตามศักยภาพ ครูมี
มาตรฐานวชิ าชีพ โดยยดึ หลกั การบริหารจัดการตามหลกั ธรรมาภบิ าล ภายใตก้ ารมสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น”
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ นอ้ ย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 28
นวตั กรรมการจัดการเรียนรู้
MAEKADNOI สืบฮีตสานฮอย ตามรอยวัฒนธรรม นำสสู่ ัมมาชีพ
“MAEKADNOI สืบฮีตสานฮอย ตามรอยวัฒนธรรม นำสู่สัมมาชีพ Model” หมายถึง นวัตกรรมการ
จัดการเรียนรู้ของโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยในการขับเคลื่อนหลักสูตรฐานสมรรถนะให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
โดยรูปภาพโมเดลการขับเคล่ือนหลักสตู รฐานสมรรถนะของโรงเรียนวัดแม่แกด้ น้อย ได้แนวคดิ มาจาก “หลุก”
(ในภาษาเหนือ) หรือ “กังหันวิดน้ำ” ทั้งนี้เนื่องด้วยโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยมีแนวทางการจัดกิจกรรม
เสริมสมรรถนะที่อยู่บนพน้ื ฐานบรบิ ทท้องถ่ินของตนเองที่อย่ใู นชุมชนแห่งวฒั นธรรมล้านนาและตง้ั อยใู่ นอำเภอ
แห่งการเกษตร ซ่งึ โมเดลน้ีมอี งคป์ ระกอบในการขบั เคล่ือนเพ่ือส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะท้ัง 6 ด้าน ได้แก่
การจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การสื่อสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และ
การอยู่ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละวิทยาการอย่างยงั่ ยนื ดงั นี้
M – Moral : มุ่งปลูกฝังผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม รู้แยกแยะ ผิดชอบ ชั่วดี มุ่งส่งเสริมให้มี
จิตอาสาและมารยาทดี
A – Active Communication : มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาไทย ภาษาเหนือ ในการ
ส่อื สารได้อย่างถกู ตอ้ ง สอดคลอ้ งขนบธรรมเนียม วถิ ีลา้ นนาและเหมาะสมตามกาลเทศะ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 29
E – Environment : มุ่งปลูกฝังและส่งเสริมให้ผู้เรียนรัก หวงแหนและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
ส่งิ แวดล้อม ขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ
K – Knowledge : มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอง ชุมชนท้องถิ่นได้อย่าง
น่าเช่อื ถอื และสามารถสร้างองคค์ วามรู้สู่การพฒั นาตนเอง
A – Awareness : ม่งุ ส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นเกิดการตระหนักหรือรับรู้สิ่งท่ีเกดิ ขนึ้ ภายในตัวตนและเข้าใจ
อารมณ์ ความรู้สึก หรอื แรงจูงใจของตวั เองเพื่อกำหนดเป้าหมายของชวี ิต
D – Design & Do : ม่งุ ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถสร้างสรรค์ส่ิงใหม่ หรอื ปรับปรุงดัดแปลงส่ิงท่ีมีอยู่
ให้ดีขึ้น หรือมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิม ด้วยการถ่ายทอดรูปแบบจากความคิดออกมาเป็นผลงานโดยใช้
วัฒนธรรมท้องถนิ่ เปน็ ฐานความรู้
N – Need to learn : มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สำรวจ รู้จัก และค้นพบตนเอง สามารถวางแผน
ตัดสนิ ใจเลอื กเสน้ ทางการศึกษาและการประกอบอาชีพในอนาคต
O – Occupation : มุ่งส่งเสริมทักษะและสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพที่สอดคล้องกับตนเองและ
แนวโน้มตลาดงานในอนาคต
I – Innovator : มุ่งส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนักประดิษฐ์ ที่คิดสร้างสรรค์จัดทำสิ่งต่างๆ ที่
เกิดจากความต้องการใช้งานเพ่ืออำนวยความสะดวกสบายในชีวติ ประจำวนั และใช้ประโยชนข์ องคนในสังคม
ท้ังนไี้ ด้ให้คำจำกดั ความบนพื้นฐานของบริบทของสถานศึกษาและการกระบวนการขบั เคลื่อน ดังนี้
1. แหล่งน้ำและองค์ประกอบของภาพด้านซ้าย หมายถึง ชุมชนท้องถิ่นของตนเอง ความแตกต่าง
ทางดา้ นวัฒนธรรม บรบิ ท สภาพและชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องผู้เรยี น ตลอดจนศักยภาพพนื้ ฐานของผู้เรยี น
2. ตัวโมเดล ประกอบดว้ ยรายละเอียด คือ
2.1 ฐาน หมายถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและเครือข่ายความร่วมมือที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริมใน
การขบั เคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ อนั ประกอบดว้ ย ครู ผปู้ กครอง ภาคีเครอื ขา่ ย และหนว่ ยงานตา่ งๆ
2.2 แกนหมุนวงรอบท่ี 1 หมายถึง แนวทางหรือเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ชี ว่ ยส่งเสริม
ให้การขับเคลื่อนประสบผลสำเร็จ คือ การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning อันประกอบด้วย การจัดการ
เรียนรู้สะเต็มศึกษา (STEM Education) การเรียนรู้แบบ BBL (Brain Based Learning : BBL) การสอนแบบ
โครงงาน (Project Based Learning : PBL) การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) และ
การสอนทเ่ี น้นทกั ษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning : TBL)
2.3 ฟนั เฟ่ืองวงรอบที่ 2 หมายถงึ กิจกรรมส่งเสริมสมรรถนะของผูเ้ รียนในแตล่ ะระดบั ชัน้ ดังนี้
2.3.1 M – Moral กิจกรรม 5 ห้องชีวติ เนรมิตนิสัย ชั้นชน้ั อนุบาล-ประถมศึกษาปที ี่ 1
2.3.2 A – Active Communication กจิ กรรมหนูนอ้ ยนกั เลา่ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2
2.3.3 E – Environment กจิ กรรมหนนู ้อยนกั อนุรกั ษ์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
2.3.4 K – Knowledge กจิ กรรม 5 รู้ เพอ่ื ชีวิตมีสขุ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 30
2.3.5 A – Awareness กจิ กรรม 5 อาชีพพารวย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5
2.3.6 D – Design & Do กิจกรรม 5 นักสรา้ งสรรคส์ คู่ วามสำเรจ็ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6
2.3.7 N – Need to learn กิจกรรมส่งเสริมความรู้พน้ื ฐานทางอาชพี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
2.3.8 O – Occupation กิจกรรมส่งเสรมิ สมรรถนะทางอาชพี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
2.3.9 I – Innovator กิจกรรมนกั นวตั กรทางอาชพี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
2.4 สายน้ำ หมายถึง สมรรถนะทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การสื่อสาร
การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยนื
ที่จะเกิดขนึ้ กบั ผู้เรยี นในแต่ละระดบั ชัน้ หลังจากได้รบั การเรยี นรู้ผา่ นกิจกรรมส่งเสรมิ สมรรถนะของผูเ้ รยี นในแต่
ละระดับชั้น และสายน้ำที่เป็นผลผลิตสดุ ทา้ ย คือ ผู้เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ที่เป็นนักนวัตกรทางอาชีพ โดย
เกดิ สมรรถนะครบทงั้ 6 ดา้ น (เมอื่ ผเู้ รียนจบแต่ละช่วงช้นั จะเกดิ สมรรถนะครบทงั้ 6 ดา้ น)
3. แหล่งน้ำและองค์ประกอบของภาพด้านขวา หมายถึง สังคมโลกกว้าง สภาพแวดล้อมที่ผู้เรียน
จะต้องประสบพบเจอในอนาคต ตลอดจนอาชพี ในสงั คมหรือการทำงานทผี่ ู้เรยี นจะต้องใช้ความรู้ความชำนาญ
ตามสายอาชีพท่ีผ้เู รียนมคี วามช่นื ชอบ เกดิ ความถนัด และตอ้ งใชส้ มรรถนะในการดำเนนิ ชวี ิตในอนาคต
⍟ พนั ธกิจ (Mission)
1. พัฒนาผ้เู รยี นให้มีผลสัมฤทธ์ทิ างวชิ าการสูงขึ้นและมที ักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21
2. พัฒนาอาคารสถานที่ ห้องปฏิบตั ิการ และสภาพแวดล้อมของโรงเรยี นให้เอื้อต่อการเรียนรู้
3. ส่งเสรมิ การจัดการศึกษาให้กับผูเ้ รยี นทุกคนอยา่ งเสมอภาคและเท่าเทยี มกนั
4. สง่ เสรมิ ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาได้รบั การพฒั นาสู่มาตรฐานวิชาชีพ
5. พัฒนาสถานศึกษาให้มีระบบการบริหารจัดการทีด่ ีตามหลกั ธรรมาภิบาล เปน็ ทยี่ อมรบั ของชมุ ชน
สงั คม และทุกภาคสว่ นเขา้ มามีสว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษา
⍟ เป้าประสงค์ (Goal)
1. ผูเ้ รียนมผี ลสัมฤทธ์ทิ างวิชาการสูงขึ้นและมที ักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
2. มอี าคารสถานที่ หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร และสภาพแวดลอ้ มของโรงเรยี นทีเ่ ออื้ ต่อการเรยี นรู้
3. ผเู้ รยี นทุกคน ได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกนั
4. ครูและบุคลากรทางการศึกษามคี วามรู้ ความสามารถ มีคณุ ภาพตามมาตรฐานวชิ าชพี
5. สถานศกึ ษามรี ะบบการบริหารจัดการทดี่ ตี ามหลักธรรมาภบิ าล เปน็ ท่ยี อมรับของชุมชนสังคม และ
ทกุ ภาคส่วนได้เข้ามามสี ว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ น้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 31
4.2 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้เรยี น
⍟ การกำหนดคุณลกั ษณะของผู้เรียนอนั เปน็ เปา้ หมายของหลกั สูตร
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา
ระดับประถมศึกษา มงุ่ พฒั นาผู้เรยี นให้มีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพอ่ื ให้สามารถอย่รู ว่ มกับผู้อื่นในสังคมได้
อย่างมคี วามสุข ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีทัศนคติ
ที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ เคารพสถาบัน
พระมหากษัตริย์ และยึดม่ันในวถิ ชี วี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมขุ
2) ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรง ตามความ
เป็นจริงต่อตนเองและผู้อื่นทั้งทางกาย วาจาและใจ ยึดหลักความจริงและความถูกต้องในการดำเนินชีวิต
มคี วามละอายและเกรงกลัวตอ่ การกระทำผดิ
3) มีวินัย เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์และระเบียบ ข้อบังคับ
ทง้ั ของตนเอง ครอบครวั โรงเรยี นและสังคมเป็นปกติวสิ ยั และไมล่ ะเมิดสิทธิของผูอ้ ่นื
4) อยู่อย่างพอเพียง เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล
รอบคอบ มีคุณธรรม อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ
มีการวางแผนป้องกันความเส่ียงและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง มีภูมิคุ้มกันในบุคคลท่ีดแี ละปรับตวั เพื่ออยู่ใน
สังคม ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
5) มีจิตสาธารณะ เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์
ทกี่ ่อให้เกดิ ประโยชน์แก่ผอู้ ื่น ชุมชน และสังคม ดว้ ยความเต็มใจและกระตือรอื รน้ โดยไม่หวังผลตอบแทน
6) อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีจิตสำนึก ตระหนักถึงคุณค่าและ
ความสำคัญของวฒั นธรรมท้องถ่ิน พ้นื บา้ นล้านนา มีส่วนรว่ มในการสบื ทอด เผยแพรแ่ ละรว่ มกิจกรรมสำคัญๆ
ของชมุ ชน
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ นอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 32
4.3 สมรรถนะหลกั สมรรถนะย่อยและระดับสมรรถนะของผเู้ รียนในแต่ละชว่ งวัย
สมรรถนะหลักของโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย หมายถึง สมรรถนะท่ีกำหนดให้เป็นพื้นฐานที่นักเรียน
โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อยทุกคน ตอ้ งได้รบั การพฒั นาให้เป็นความสามารถติดตวั เม่ือจบการศึกษา มีลักษณะเป็น
สมรรถนะขา้ มสาระการเรียนร้หู รือคร่อมวิชา สามารถพฒั นาให้เกิดขนึ้ แก่ผูเ้ รียนได้ในสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่
หลากหลาย โดยกำหนดสมรรถนะหลัก 6 ด้าน เพือ่ เปน็ เปา้ หมายการพัฒนาผ้เู รยี น ดงั น้ี
1. การจัดการตนเอง
2. การคดิ ขัน้ สูง
3. การสอ่ื สาร
4. การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม
5. การเป็นพลเมืองทเี่ ขม้ แขง็
6. การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาติ และวิทยาการอย่างย่ังยนื
1. สมรรถนะการจดั การตนเอง (Self-Management: SM)
นิยาม
การรู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น การพัฒนาปัญญาภายใน ตั้งเป้าหมายในชีวิต และกำกับ
ตนเองในการเรียนรู้และใช้ชีวิต การจัดการอารมณ์และความเครียด รวมถึงการจัดการปัญหาและภาวะวิกฤต
สามารถฟื้นคืนสู่สภาวะสมดุล (Resilience) เพื่อไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายในชีวิต มีสุขภาวะท่ีดีและมี
สัมพนั ธภาพกบั ผ้อู ่ืนได้ดี
องค์ประกอบ
1. การเห็นคณุ ค่าในตนเอง หมายถึงการรู้จัก รัก เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จุดเด่น ข้อจำกัด ความสนใจ
ความสามารถ ความถนัด และภาคภูมิใจในตนเอง มั่นใจในตนเอง เห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติและเคารพสิทธิ
ตนเองและผู้อื่น มคี วามรับผดิ ชอบในตนเอง
2. การมีเป้าหมายในชีวิต หมายถึงการตั้งเป้าหมายในชีวิต มีวินัยในตนเอง สามารถบริหารจัดการ
เวลาทรพั ยากร สามารถพึง่ พาและกำกบั ตนเองให้ไปส่เู ปา้ หมายในชวี ติ และมสี ขุ ภาวะทด่ี ี
3. การจัดการอารมณ์และความเครียด หมายถึงการรับรู้ เข้าใจ รู้เท่าทัน อารมณ์ ความรู้สึก
ความคิดและความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตนเอง เข้าใจสาเหตุและสามารถจัดการอารมณ์
ความรสู้ กึ และความคดิ ของตนเอง
4. การจัดการปัญหาและภาวะวิกฤต หมายถึงการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัญหาและ
ภาวะวกิ ฤต สามารถฟ้ืนคืนสู่สภาวะสมดลุ ได้ สามารถเตรียมการ ปอ้ งกนั และแก้ไข เพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภัย
ในชีวติ และทรัพยส์ นิ
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 33
ระดบั สมรรถนะการจดั การตนเอง
ระดบั การพฒั นา ระดับความสามารถ
ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6
1 รจู้ ักตนเอง (Knowing Self) ทางดา้ นกายภาพ ความชอบ ความสนใจ จัดการชีวิตประจำวนั
ของตนเอง รบั รู้และจดั การอารมณแ์ ละความรสู้ ึกพ้นื ฐาน ปฏบิ ตั ิตนตามบรรทัดฐานทางสงั คม เร่ิมตน้
ภายใตก้ ารดูแลของผู้อน่ื
2 รูจ้ ักตนเองในจุดเดน่ จดุ ควรพัฒนา มีวินัยในการดูแลจดั การชีวิตประจำวนั ของตนเอง รบั รู้และ กำลัง
จดั การอารมณแ์ ละความรสู้ กึ พ้นื ฐาน รถู้ ูกผิดในการปฏิบตั ติ นตามบรรทดั ฐานทางสังคมภายใต้ พฒั นา
การดูแลของผู้อื่น ตระหนกั รู้ในสถานการณท์ ี่เปน็ ปญั หาในชีวติ ประจำวนั
3 รู้จักความสามารถของตนเอง มีวินัยในการดูแลจัดการชีวิตประจำวันของตนเอง รับรู้และ
จัดการอารมณ์และความเครียด แยกแยะสิ่งถกู ผดิ หลีกเลีย่ งการนำพาตวั เองเขา้ ไปสูภ่ าวะเสยี่ ง สามารถ เรม่ิ ต้น
ตามคำแนะนำ อดทนต่อปัญหาในชวี ิตประจำวันและการเรียน
4 รู้จักความสามารถของตนเอง มีวินัยในการดูแลจัดการชีวิตประจำวันของตนเอง รับรู้และ เหนือ กำลัง
จัดการอารมณ์และความเครียด ตระหนักรู้ผิดชอบชั่วดี จัดการปัญหาชีวิตประจำวัน และการ ความ พฒั นา
เรยี นตามคำแนะนำ พรอ้ มเผชิญและยอมรับปัญหาท่เี กิดข้นึ คาดหวงั
5 มีมโนทัศน์เกี่ยวกับตัวเอง (Self Concept) ที่ถูกต้อง สามารถตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะจัดการ สามารถ
สิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตและการเรียนของตนเอง รับรู้และจัดการอารมณ์และความเครียด
ละเวน้ การกระทำทไี่ มค่ วรทำ รู้ทันการเปลีย่ นแปลงท่เี กดิ ข้นึ จดั การปัญหาชีวติ ประจำวัน และ
การเรยี นตามคำแนะนำ
6 มีความมนั่ ใจและภาคภมู ใิ จในตนเอง (Self Esteem) สามารถตดั สินใจและวางแผนเก่ยี วกบั เหนอื
ความ
ชีวติ และการเรียนของตนเอง มวี นิ ยั และจูงใจตนเองให้ไปสูเ่ ปา้ หมาย รับรู้และจดั การอารมณ์
และความเครียด มจี ดุ ยนื และความเชอื่ ของตวั เอง ปรับตวั รบั การเปล่ยี นแปลงที่เกดิ ข้ึน คาดหวัง
และสามารถฟ้ืนคืนจากสภาพปัญหาเมอ่ื เผชญิ ภาวะวกิ ฤตตามคำแนะนำ
หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศกึ ษา 34
2. สมรรถนะการคดิ ข้นั สงู (Higher Order Thinking: HOT)
นยิ าม
สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีวิจารญาณบนหลักเหตุผลอย่างรอบด้าน โดยใช้
คุณธรรมกำกับการตัดสินใจได้อย่างมีวิจารณญาณ มีความสามารถคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลด้วยความเข้าใจถงึ
ความเชื่อมโยงของสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระบบ ใช้จินตนาการและความรู้สร้างทางเลือกใหม่ เพื่อ
แก้ปญั หาทซ่ี บั ซ้อนได้อยา่ งมีเปา้ หมาย
องคป์ ระกอบ
1. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking: HOT-CTC) หมายถึง กระบวนการคิดท่ี
พิจารณาไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล มีจุดประสงค์เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดควรเชื่อหรือควรกระทำ โดยมีหลักฐาน
สนบั สนนุ ซึง่ เปน็ ผลมาจากการตีความ ประเมนิ วเิ คราะห์ สรุปความ และอธิบายตามหลักฐาน แนวคิด วิธีการ
กฎเกณฑ์ หรือบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่รวบรวมหรือข้อมูลจากการสังเกต ประสบการณ์ การใช้เหตุผล
การสะท้อนคิด การสื่อสาร และการโต้แย้ง นําไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลด้านอื่น ๆ เช่น ความเหมาะสม ตาม
หลักกฎหมาย ศีลธรรม คณุ ธรรม คา่ นยิ ม ความเชือ่ และบรรทดั ฐานทางสังคมและวัฒนธรรม
2. การคิดเชงิ ระบบ (System Thinking: HOT-STM) หมายถึง กระบวนการคดิ ท่มี องเหน็ ภาพรวม
โครงสร้างท้งั หมดท่เี ช่ือมโยงสัมพันธ์กันเปน็ หนึ่งเดยี วกันอย่างเปน็ ระบบ ภายใตบ้ รบิ ท/ปจั จัยของส่ิงแวดล้อมท่ี
เกิดสถานการณ์นั้น ๆ โดยมองสถานการณ์ให้ลึกลงไปกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นแบบแผนหรือรูปแบบที่
เกิดขึ้น เห็นรากเหง้าของสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น ๆ จนเกิดความเข้าใจ
อย่างลึกซ้งึ ในสถานการณ์นัน้ นําไปสกู่ ารออกแบบระบบ เปรยี บเทียบแบบจำลองความคิด ทำนายผลลัพธ์ของ
การแทรกแซงระบบ และประเมนิ ระบบได้
3. การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking: HOT-CRT) หมายถึง กระบวนการคิดที่หลากหลาย
ริเริ่ม ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดความคิด เพื่อการแก้ปัญหาหรือสร้างทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ
การสร้างความก้าวหน้าในความรู้ หรือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยจินตนาการและทกั ษะพื้นฐาน
ด้านการคิดริเริ่ม คิดคล่อง คิดยืดหยุ่น คิดละเอียดลออ คิดหลากหลาย คิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ เพื่อให้ได้
สิ่งใหม่ที่ดีกว่า แตกต่างไปจากเดิม มีประโยชน์ และมีคุณค่าต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคมมากกว่าเดิม ซึ่งสิ่งใหม่
ในที่นี้อาจเป็นการปรับหรือประยุกต์สิ่งเดิมให้อยู่ในรูปแบบใหม่ หรือเป็นการต่อยอดจากสิ่งเดิม หรือเป็นการ
รเิ ริ่มส่ิงใหม่ขนึ้ มาท้งั หมด
4. การคิดแก้ปัญหา (Problem Solving Thinking: HOT-PRB) หมายถึง กระบวนการคิดที่ใช้ใน
การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกำหนดปัญหา เข้าใจเหตุและผลของปัญหา วางแผนการ
แกป้ ญั หาโดยรวบรวมข้อมลู เพ่ือแก้ปญั หา ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาท่ีหลากหลาย และเลือกวิธกี ารแก้ปัญหาท่ี
หลกั สตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศึกษา 35
ดีที่สุด ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามแผนที่วางไว้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน เก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมิน
และตรวจสอบผลของการแก้ปัญหา ปรับปรงุ จนปญั หาได้รบั การแก้ไข
ระดับสมรรถนะการคิดขนั้ สูง
ระดับการพฒั นา ระดบั ความสามารถ
ระดบั คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6
1 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวสถานการณ์ หรื อ
ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน สังเกต จำแนก สำรวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรอื ทรัพยากร เร่ิมต้น
สรุปข้อมลู และเสนอแนวทางแก้ปญั หาอย่างง่ายได้ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้
อย่างอิสระ ตลอดจนสามารถผลิตผลงานอยา่ งง่ายโดยอาศยั ตน้ แบบ
2 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือ
ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน สังเกต จำแนก หรือระบุความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ กำลงั
ปรากฏการณห์ รือสถานการณน์ นั้ ๆ ได้ สามารถสำรวจ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู หรอื ทรพั ยากร พฒั นา
สรุปข้อมูล และเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ พร้อมแสดงเหตุผลและประเมินความ
เหมาะสมของคำตอบ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้อย่างคล่องแคล่ว หลาย
ประเภทและหลายทิศทาง ตลอดจนสามารถผลติ ผลงานอย่างง่ายโดยอาศัยต้นแบบ
3 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรื อ
ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน สังเกต จำแนก หรือระบุความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ
ปรากฏการณห์ รือสถานการณน์ น้ั ๆ ได้ สามารถสำรวจ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู หรือทรัพยากร สามารถ เรมิ่ ต้น
แปลความหมายข้อมูลด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และสรุปข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบ ประเมิน
ตัดสินใจ หรือเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ พร้อมแสดงเหตุผล โดยคำนึงถึงความ
เหมาะสมของการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้อย่าง
คล่องแคล่ว หลากหลาย โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซำ้ ใคร ตลอดจนสามารถผลิตผลงาน
ตามจินตนาการโดยอาศยั ต้นแบบ
4 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือ
ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวันโดยละเอียด ระบุความสัมพันธ์ของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ
ปรากฏการณ์หรือสถานการณ์นั้น ๆ ได้ สามารถวางแผนและดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เหนอื กำลงั
เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล แปลความหมายข้อมูลด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และสรุป ความ พฒั นา
ข้อมูล พร้อมทั้งประเมินความถูกต้องและข้อจำกัดของข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบ ประเมิน คาดหวงั
ตัดสินใจ หรือเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้
อย่างคล่องแคล่ว หลากหลาย โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซำ้ ใคร หรือพัฒนาต่อยอดจาก
ของเดิม
5 ตั้งคำถามหรอื ระบปุ ัญหาทีซ่ บั ซ้อน จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ สถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ใน สามารถ
ชีวิตประจำวันโดยละเอียด สามารถวางแผนและดำเนินการการสำรวจตรวจสอบ เลือกวิธกี าร
เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูล เพื่อสร้างข้อสรุปที่แม่นยำและ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 36
ระดบั การพัฒนา ระดบั ความสามารถ
ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6
น่าเชื่อถือ พร้อมนำเสนอและเปรียบเทียบข้อสรุปที่เหมือนหรือแตกต่างกับข้อสรุปของตน เหนือ
สามารถพัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการ โดยใช้ความคิดที่แปลกใหม่ ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อ ความ
ยอดจากของเดมิ วเิ คราะห์องค์ประกอบของช้ินงานหรือวิธีการเพอื่ สรา้ งแบบจำลองอยา่ งงา่ ย คาดหวงั
6 ตั้งคำถามหรือระบุปัญหาหรอื สถานการณ์ที่ซับซ้อน จากการสังเกตส่ิงต่าง ๆ สถานการณห์ รอื
ปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวัน ระบุสาเหตุของปัญหา แยกปัญหาเป็นปัญหาย่อย ๆ สามารถ
วางแผนและดำเนินการการสำรวจตรวจสอบ เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล เปรียบเทียบ
แหล่งข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูล ลงข้อสรุปได้อย่าง
ถูกต้อง นำเสนอข้อสรุปรวมทั้งเปรียบเทียบและประเมินข้อสรุปท่ีแตกต่างหรือตรงกันข้ามกบั
ข้อสรุปของตน และสามารถปรับปรุงข้อสรุปของตนตามข้อมูลและหลักฐานใหม่สร้าง
แบบจำลองเพ่ือแสดงโครงสร้างของปญั หาหรือสถานการณ์ได้ พัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการโดยใช้
ความคิดทีแ่ ปลกใหมท่ ีไ่ มซ่ ำ้ ใคร หรอื พัฒนาต่อยอดจากของเดมิ ให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริง
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 37
3. สมรรถนะการสอ่ื สาร (Communication: CM)
นยิ าม
มีความสามารถรับรู้ รับฟัง ตีความ และส่งสารดว้ ยภาษาต่าง ๆ ทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา โดยใช้
กระบวนการคิด ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ ความเข้าใจ ในระบบคุณค่า การแก้ปัญหาร่วมกันผ่านกลวิธีการ
สื่อสาร อย่างฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มพี ลงั โดยคำนงึ ถึงความรับผิดชอบต่อสงั คม
องค์ประกอบ
1. การรับสารอย่างมีสติและถอดรหัสเพื่อให้เกิดความเข้าใจ หมายถึง การรับสารด้วยความใส่ใจ
ผ่านประสาทสัมผัสในการรับสาร ตลอดจนสามารถตีความสารที่ส่งมาได้ทั้งความคิด ความรู้สึก เจตนา
ตลอดจนสามารถตคี วามสารและสามารถนำสารมาใช้พัฒนาตนเองและสังคม
2. การรบั ส่งสารบนพืน้ ฐานความเข้าใจและความเคารพในความคดิ เห็นและวัฒนธรรม ท่แี ตกต่าง
หมายถึง การรับส่งสารด้วยวิธีการที่หลากหลาย ทั้งการเจรจาต่อรอง หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล สารสนเทศ องค์
ความรู้ ประสบการณ์ ผ่านช่องทางหรือสื่อที่มีความหลากหลาย ทั้งสื่อบุคคล สื่อธรรมชาติ สื่อ สิ่งพิมพ์สื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ และสื่อระคน โดยปราศจากความขัดแย้งตา่ ง ๆ และรู้เท่าทัน บนพื้นฐานความเข้าใจใน บริบท
สังคมทีม่ ีความคิดและวัฒนธรรมที่แตกตา่ ง ทัง้ ในระดับชุมชน ชาติ และสากล
3. การเลือกใช้กลวิธีการสื่อสารอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อบรรลุ
วัตถปุ ระสงคใ์ นการสอื่ สาร หมายถึง การเลือกใชว้ ิธกี ารสอื่ สารในลกั ษณะต่าง ๆ ทั้งวัจนภาษาและอวจั นภาษา
ตลอดจนการสื่อความหมายผ่านสือ่ ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสือ่ สาร โดยมีความรับผิดชอบ
ตอ่ ผลท่จี ะเกดิ ข้ึนในสังคมและวัฒนธรรมทีแ่ ตกตา่ งท้ังในระดับชุมชน ชาติ และสากล
หลักสตู รสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 38
ระดับสมรรถนะการสอ่ื สาร
ระดบั การพฒั นา ระดับความสามารถ
ระดบั คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6
1 ใช้ประสาทสัมผัสในการรับและส่งสารอย่างตั้งใจ เข้าใจความแตกต่างทางกายภาพที่มีผลต่อ
การสื่อสาร ใช้สื่อ ภาพ เสียง คำพูด ท่าทาง สัญลักษณ์ใกล้ตัว และผลงานอย่างง่าย ๆ ในการ เร่มิ ต้น
สอ่ื สารแบบตรงไปตรงมา
2 รับและส่งสารอย่างตั้งใจโดยใช้ประสาทสัมผัส เข้าใจนัยตรง บอกข้อมูลและความรู้สึกที่มีต่อ
สารในสถานการณ์ใกล้ตัวแบบตรงไปตรงมา โดยเลือกและผลิตสื่อที่เหมาะสมกับบุคคลผ่าน กำลัง
การเคลอื่ นไหว ท่าทาง เสียง ภาษา ภาพ สัญลกั ษณ์ และผลงานแบบงา่ ย ๆ พร้อมท้ังคำนึงถึง พฒั นา
ประโยชนแ์ ละโทษของการสอ่ื สารที่มผี ลกระทบต่อตนเอง
3 รับและส่งสารทเี่ ปน็ ข้อมูล ขอ้ เท็จจรงิ และความรูส้ ึกทมี่ รี ายละเอียดมากข้ึนในสถานการณ์ใกล้
ตัว มีความอดทนในการรับสารแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสื่อสาร โดยตระหนักถึงความ
แตกต่างระหว่างตนเองกับบุคคลใกล้ตัว คำนึงถึงประโยชน์และโทษของสื่อที่มีต่อตนเอง สามารถ เร่มิ ตน้
สามารถสือ่ สารเรอ่ื งราวใกลต้ วั ท้ังท่ีเป็นภาษา ภาพ เสียง สัญลกั ษณ์ ท่าทาง การแสดงออกทาง
ศลิ ปะอย่างงา่ ย โดยเลอื กและผลิตสื่อให้เหมาะกบั บคุ คล และกาลเทศะ
4 รบั และสง่ สารที่เกย่ี วขอ้ งกบั สถานการณท์ ใี่ กล้ตัว จบั ประเด็นสำคญั หรอื วัตถปุ ระสงค์ของผู้ส่ง
สารได้ อธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการรับสารประเภทต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อนมากข้ึน
มีความอดทนในการรับและส่งสาร ใช้สื่อที่มีความหลากหลายขึ้น เข้าใจผลกระทบของสื่อที่มี เหนือ กำลัง
ต่อตนเอง มีจุดมุ่งหมาย และกลวิธีในการสื่อสารและการผลิตสือ่ เพื่อสือ่ สาระท่ีเป็นประโยชน์ ความ พัฒนา
ต่อตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม คาดหวัง
5 รับและส่งสารที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในชุมชน สังคม อย่างมีสติ จับประเด็นสำคัญ ข้อคิด สามารถ
ท้งั เชงิ บวกและลบทีไ่ ดร้ ับตามวตั ถปุ ระสงคข์ องผสู้ ่งสาร แลกเปลยี่ นประสบการณ์อย่างมีสตกิ ับ
บุคคลที่หลากหลายขึ้น ในสถานการณ์ที่มีความซบั ซ้อน ทั้งโลกจริงและโลกเสมือน มีมารยาท
และจริยธรรมในการสื่อสาร เลือกใช้กลวิธีในการผลิตสื่อและสื่อสารที่เหมาะสม และเกิด
ประโยชนต์ ่อตนเองและต่อกลมุ่ ตามจุดมุ่งหมายทก่ี ำหนดไว
6 รับและส่งสารผ่านสื่อที่หลากหลายโดยปราศจากอคติ สรุปประเด็น ตีความ และประเมิน
คุณค่า ในมิติความจริง(ข้อมูลข่าวสาร) ความดี (แก่นแนวคิด) และความงาม (อารมณ์
สุนทรียะ) แบบง่ายได้ สื่อสารอย่างสร้างสรรค์เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยคำนึงถึง เหนอื
ผลกระทบของการสอ่ื สาร รู้ผลกระทบของสื่อ ประเมินคุณคา่ และจริยธรรมในการสื่อสาร ผ่าน ความ
สื่อประเภทต่าง ๆ มีจุดมุ่งหมายในการสื่อสาร การผลิตสื่อ และออกแบบการสื่อสาร เพื่อให้ คาดหวงั
เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง ต่อกลุ่ม และตอ่ สังคม
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ น้อย พุทธศักราช 2565 ระดับประถมศึกษา 39
4. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม (Teamwork and Collaboration: TC)
นิยาม
สามารถจัดระบบและกระบวนการทำงาน กิจการ และการประกอบการใด ๆ ทั้งของตนเอง และ
ร่วมกับผ้อู ่นื โดยใชก้ ารรวมพลงั ทำงานเป็นทมี มีแผน ขั้นตอน ใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ ตามเป้าหมาย มีภาวะผนู้ ำ มี
ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการประสานความคิดเห็นที่แตกต่างสู่การตัดสินใจและแก้ปัญหาเป็นทีม อย่าง
รับผดิ ชอบรว่ มกนั สรา้ งความสัมพนั ธท์ ดี่ ีและจดั การความขัดแย้งภายใตส้ ถานการณท์ ี่ยุ่งยาก
องคป์ ระกอบ
1. เปน็ สมาชิกทีมทีด่ แี ละมีภาวะผูน้ ำ มที กั ษะการทำงานเป็นทมี รบั ผิดชอบในบทบาทหนา้ ที่ของตน
และของทีม มีความยืดหยุน่ ในการทำงานร่วมกับกลุ่มคนทีแ่ ตกต่าง นำจุดเด่นของตนและสมาชิกมาใช้ ในการ
ทำงานให้บรรลุเป้าหมาย สะท้อนการทำงานของตนเองและทีม ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของทีม สร้างแรง
บันดาลใจในการพัฒนาตนเอง ให้เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจ ประสานความร่วมมือภายในทีม และระหว่างทีม
สร้างค่านิยมใหม่ในการทำงานร่วมกัน และการพัฒนาทีมที่เข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบผู้สร้าง การ
เปล่ียนแปลง
2. กระบวนการทำงานแบบร่วมมือรวมพลังอย่างเป็นระบบ สามารถจัดระบบการทำงาน กิจการ
และการประกอบการใด ๆ ทั้งของตนเอง และร่วมกับผู้อื่น ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย แผนการทำงาน ขั้นตอน
และกระบวนการทำงานเปน็ ทีม เห็นภาพความสำเรจ็ ของทีม คำนึงถงึ ประโยชนข์ องทีมก่อนประโยชน์ ส่วนตน
แบ่งบทบาทหน้าที่ให้เหมาะสมกับศักยภาพของสมาชิก รับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ด้วยความใส่ใจ มีความ
พยายามในการทำงานและสนับสนุนช่วยเหลือให้เกิดความสำเร็จ เคารพ รับฟัง แลกเปลี่ยน และ ประสาน
ความคิดเห็นที่แตกต่าง ประยุกต์ใช้ทักษะการคิดขั้นสูงในการตัดสินใจเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ ประเมินและ
ปรับปรุงกระบวนการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ร่วมรับผิด และ
รบั ผิดชอบต่อผลการตดั สนิ ใจของทีม เห็นคุณค่าของการทำงานแบบร่วมมอื รวมพลัง
3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการจัดการความขัดแย้ง มีทัศนคติเชิงบวกในการทำงานร่วมกับ ผู้อื่น
เห็นคุณค่าของสัมพันธภาพที่ดี สร้างและรักษาความสัมพันธอ์ ันดีในทีม ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ปฏิบัติ
ต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ เห็นอกเห็นใจในฐานะที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน เคารพและเห็นประโยชน์ของ ความ
แตกตา่ งหลากหลาย มีทักษะและใชว้ ิธีการปอ้ งกนั และจัดการความขัดแยง้ ไดอ้ ย่างเป็นระบบ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 40
ระดบั สมรรถนะการรวมพลงั เปน็ ทีม
ระดับการพฒั นา ระดบั ความสามารถ
ระดบั คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6
1 รับรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง มุ่งมั่นทำงานและทำกิจกรรมของตนเองและร่วมกับผู้อื่นได้
สำเร็จตามข้อตกลง กฎ กติกา และแสดงออกอย่างเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ ตามคำ เริม่ ต้น
ชแี้ นะ
2 รู้และรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ของตนเอง มีความมัน่ ใจในการทำงานตามขัน้ ตอนต่าง ๆ ให้
สำเรจ็ ตามคำแนะนำ และปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า ของทีม เมอื่ ไดร้ บั การชแี้ นะเพื่อสนับสนุนการ กำลัง
ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นให้บรรลุผลสำเร็จ สามารถรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นและตอบสนองต่อ พฒั นา
สถานการณ์ต่าง ๆ ตามคำแนะนำ
3 มีความรับผิดชอบและใช้จุดเด่นในการทำงานให้สำเร็จ รักการทำงาน เป็นสมาชิกทีมที่มีส่วน
ร่วมในการตัดสนิ ใจ การกำหนดเปา้ หมาย การสร้างขอ้ ตกลงและการทำงานของทีม แสดงออก
ถึงความเขา้ ใจตอ่ เพอ่ื นในทมี ด้วยความเป็นมิตรตามคำแนะนำ สามารถ เร่มิ ตน้
4 เปน็ สมาชกิ ทมี ท่รี บั ผดิ ชอบตอ่ บทบาทและงานตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย จัดระบบความคดิ ก่อนลง เหนือ กำลงั
มือทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นและปฏิบัติงานจนสำเร็จ รวมทั้งการช่วยเหลือเพื่อนในทีม โดย ความ พัฒนา
ปฏบิ ตั ิต่อผอู้ ่ืนอย่างเปน็ มติ ร คาดหวงั
5 เปน็ สมาชกิ ทรี่ ิเรม่ิ กำหนดเป้าหมาย วิธกี ารทำงานทัง้ ของตนเองและทีม ใช้ความคดิ สร้างสรรค์ สามารถ
ในการวางแผนการทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นและปฏิบัติงานจนสำเร็จ วิเคราะห์และสะท้อน
การทำงาน แสดงความคิดเหน็ และสนับสนุนการทำงานของสมาชกิ ในทีมให้บรรลุเปา้ หมาย
6 เป็นผู้นำตนเองมีส่วนร่วมในการตดั สินใจและการทำงานเพ่ือใหบ้ รรลุเปา้ หมายของตนเองและ เหนือ
ความ
ทีม จัดระบบความคิดและการทำงาน สะท้อนผลการทำงานโดยตระหนักถึงเป้าหมายและ
สัมพันธภาพเชิงบวกของทมี คาดหวงั
หลกั สูตรสถานศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 41
5. สมรรถนะการเปน็ พลเมืองท่เี ข้มแข็ง (Active Citizen: AC)
นยิ าม
การปฏิบัติตนอย่างรับผิดชอบในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก รู้เคารพสิทธิเสรีภาพของตนเอง และ
ผู้อื่น เคารพในกฎกติกาและกฎหมาย มีส่วนร่วมทางสังคมอย่างมีวิจารณญาณ อยู่ร่วมกับผู้อื่นท่ามกลาง
ความหลากหลาย เห็นคุณค่าของศักดิ์ศรีความเป็นมนษุ ย์ มีบทบาทในการตัดสินใจและสร้างการเปลี่ยนแปลง
ทางสงั คม โดยยดึ ม่ันในความเท่าเทียมเป็นธรรม ค่านิยมประชาธปิ ไตย และสันติวิธี
องคป์ ระกอบ
1. พลเมอื งรู้เคารพสิทธเิ คารพสทิ ธเิ สรีภาพของผู้อ่ืน ตระหนักในสิทธิเสรีภาพของตนเอง ช่วยเหลือ
ให้เกียรติ และเหน็ อกเห็นใจผอู้ ืน่ บนพ้นื ฐานของการพ่งึ พาอาศัยกนั โดยปราศจากอคติ ไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ เพ่ือการ
อยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ติ
2. พลเมืองรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา ข้อตกลง กฎหมาย อย่างถูกต้อง
และเหมาะสม รบั ผิดชอบบทบาทหน้าทต่ี นเองในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก
3. พลเมืองมีส่วนร่วมอย่างมีวิจารณญาณ ตดิ ตามสถานการณ์และประเด็นปัญหาของสังคม อย่างมี
วจิ ารณญาณ มสี ่วนรว่ มทางสังคมดว้ ยจติ สาธารณะและสำนึกสากล
4. พลเมืองผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง มีความกระตือรือร้นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ทาง
สังคม บนพืน้ ฐานของความเท่าเทียมเป็นธรรม ค่านยิ มประชาธปิ ไตย และสันติวธิ ี
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย พุทธศักราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 42
ระดับสมรรถนะการเป็นพลเมืองท่ีเขม้ แขง็
ระดบั การพัฒนา ระดับความสามารถ
ระดับ คำบรรยายระดบั ป.1-3 ป.4-6
1 เข้าใจผลกระทบของการกระทำอะไรที่ตามใจตนเอง รับผิดชอบและปฏิบัติตนตามคำแนะนำ เริม่ ต้น
อย่างเหมาะสม มสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมสว่ นรวมและแจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเม่ือพบปัญหาในช้นั เรยี น
2 มีความสามารถในการยับย้ังชั่งใจ เคารพสทิ ธเิ สรีภาพของผูอ้ ่ืน รู้จักปฏิเสธ ช่วยเหลือผูอ้ ่นื เม่อื
ได้รบั การรอ้ งขอ รับผิดชอบและปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสมตามบทบาทหน้าท่ขี องตนเอง มีส่วน กำลัง
ร่วมในกิจกรรมส่วนรวมต่าง ๆ ที่โรงเรียนจัดขึ้นหรือครูมอบหมายและแจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบ พัฒนา
ปัญหาหรือความขดั แยง้ ในชน้ั เรียน
3 อิสระที่จะคิดและแสดงออกที่รับผิดชอบและไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เคารพสิทธิเสรีภาพของ
ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น รับผิดชอบและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
เคารพต่อสถาบันหลักของชาติ ติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว เพื่อน สามารถ เรม่ิ ต้น
ร่วมชัน้ เรียน มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่วนรวมตา่ ง ๆ ในระดับช้ันเรียนหรอื โรงเรียน แก้ไขปัญหา
ความขดั แย้งในช้ันเรียนอยา่ งมเี หตผุ ล
4 อดทนอดกลั้นในความคิดเห็นและการแสดงออกที่แตกต่าง ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย
ช่วยเหลือและแบ่งปันกับผู้อื่น รับผิดชอบและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ใน
ฐานะพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ เคารพต่อสถาบนั เหนอื กำลงั
หลักของชาติ ตดิ ตามและตรวจสอบขอ้ มลู ขา่ วสาร เข้าร่วมกจิ กรรมและร่วมเปน็ อาสาสมัครใน ความ พฒั นา
กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ ระดบั โรงเรยี นและชมุ ชน หาทางออกร่วมกันกับผู้เกย่ี วข้องในการ คาดหวัง
แกป้ ญั หา หรอื ความขดั แย้งอย่างมีเหตุผล
5 รู้จักและปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง และผู้อื่น ยอมรับและเคารพ ความแตกต่าง สามารถ
หลากหลาย พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือและแบ่งปนั กับผู้อื่น รับผิดชอบและปฏิบัติ
ตนอย่างเหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ในฐานะพลเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพต่อสถาบันหลักของชาติ ติดตามและตรวจสอบข้อมูล
ข่าวสาร เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมเป็นอาสาสมัคร ในกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ระดับ
โรงเรียนและชุมชน หาทางออกร่วมกันกับผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการ
ปรกึ ษาหารอื ตามวิถีประชาธปิ ไตย
6 รู้จักและปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนเอง และผู้อื่น พยายามที่จะเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือ เหนือ
ความ
ผู้อื่น เคารพและปฏิบัติตนตามกฎ กติกาทางสังคม มีความรับผิดชอบต่อผลการกระทำตาม
บทบาทหนา้ ท่ีพลเมืองประชาธิปไตย ติดตามและประเมนิ ความถกู ตอ้ งและนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มลู คาดหวงั
ริเริ่มและมีส่วนร่วมทางสังคมในประเด็นที่สนใจระดับท้องถิ่นและประเทศ ด้วยจิตสาธารณะ
กระตือรือร้นในการหาทางออกและร่วมสร้างการเปล่ียนแปลงร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นปัญหา
โดยคำนึงถึงความเท่าเทียมเป็นธรรมด้วยสันติวิธีและวิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเปน็ ประมขุ
หลักสตู รสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แม่แก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 ระดบั ประถมศึกษา 43
6. สมรรถนะการอยรู่ ่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างย่ังยนื
(Sustainable coexistence with living in the harmony of nature and science)
นยิ าม
มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกและเอกภพและความสัมพันธ์ของคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์และธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ใช้และรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี มีความอยากรู้ อยากเห็น
ช่างสังเกต เห็นคุณค่า สามารถแก้ปัญหา หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมได้เพื่อการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับ
ธรรมชาติ อยา่ งยั่งยนื
องค์ประกอบ
1. การเข้าใจปรากฏการณท์ ่ีเกิดข้ึนบนโลกและในเอกภพ สืบเสาะ ทำความเขา้ ใจขอ้ เท็จจรงิ สาเหตุ
กระบวนการ และผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กิดขนึ้ บนโลก และในเอกภพ
2. การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการอยู่ร่วมกนั กับธรรมชาติอย่าง
ยั่งยืน มองเห็นปัญหา เชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยเี พ่อื แกป้ ญั หา หรือสรา้ งสรรค์นวตั กรรม เพอื่ การดำรงชวี ติ และอย่รู ่วมกับธรรมชาตอิ ยา่ งย่ังยืน
3. การสร้าง ใช้ และรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี สร้างและใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างสรรค์ รเู้ ท่าทนั มคี วามฉลาดทางดิจิทัล คำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ ส่ิงแวดล้อม และสงั คม
4. การมีคุณลักษณะทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สำหรับการเข้าใจระบบธรรมชาติและการ
อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกต เข้าใจระบบธรรมชาติ เห็นคุณค่าของคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ เพ่อื การดำรงชวี ติ และอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยัง่ ยืน
ระดบั สมรรถนะการอยูร่ ว่ มกนั กบั ธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน
ระดับการพัฒนา ระดบั ความสามารถ
ระดับ คำบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6
1 ช่างสงสัย มีจินตนาการ สังเกต ซักถาม เก็บรวบรวมข้อมลู อย่างกระตือรอื ร้น บอกข้อเท็จจรงิ เริม่ ตน้
ลงความเห็น จากการสังเกต จำแนกความแตกต่างของข้อมูล นำเสนอข้อมูลในรูปแบบท่ี
เหมาะสม และอธิบายสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตนเองและสิ่งรอบตัว ทำกิจกรรม กิจวัตร
ต่างๆ และแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ/ หรือเทคโนโลยี ใช้
เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและเหมาะสม มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัว ใช้สิ่งของ
อยา่ งประหยัด
2 ช่างสงสัย กระตือรือร้นในการตั้งคำถามและรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย อ่าน
ขอ้ มลู และลงขอ้ สรุปเพอื่ อธิบายสาเหตขุ องสถานการณใ์ กลต้ ัวจากความสมั พนั ธ์ของหลักฐานที่ กำลัง
รวบรวมได้ แก้ปญั หาจากสถานการณ์ใกล้ตวั หรือสง่ิ แวดล้อมโดยใช้ความรู้คณติ ศาสตร์ พัฒนา
หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แกด้ น้อย พุทธศกั ราช 2565 ระดับประถมศกึ ษา 44