The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนชลประทานผาแตก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nus.bee, 2021-10-11 14:30:00

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนชลประทานผาแตก

แบบประเมินผลการเรยี นรู้ของนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/2
วชิ าวิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน เร่อื ง ระบบประสาท

ลำดับ ชือ่ -สกุล ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะ รวม ผลการประเมิน
3 3 3 9 ผ่าน ไมผ่ า่ น
1 เดก็ ชายกรชกร บุญชยั อาจ
2 เดก็ ชายเจตษพิ ัทธ์ เขตวัง
3 เดก็ ชายมนุเชษฐ์ บัวเยน็
4 เดก็ หญงิ ซาราห์ รุง่ อรณุ ฉาย
5 เด็กหญิงณฎั ฐณิชา คำมูล
6 เด็กหญงิ พรทิวา รัตนชมุ ภู
7 เด็กชายวันชนะ ทองใบ
8 เด็กชายจกั รนิ แซต่ งั้
9 เด็กชายชมุ พร เตชะพนาลยั
10 เดก็ ชายธนิน ทรายโชตชิ ลาลยั
11 เด็กชายวรโชติ สุดสายเขียว
12 เด็กหญิงวรนิ ทร ศรสี ำราญ
13 เดก็ ชายวริ ัตนพ์ งษ์ ธิดาชนาพร
14 เดก็ หญิงอายานี ศรไี สวบงกช
15 เดก็ ชายอสั ดงค์ แซ่ย่าง
16 เด็กหญงิ สุนิสา ชะสุวรรณ์
17 เด็กหญงิ ชนิดา มาแฮ
18 เดก็ ชายธนพัฒน์ คนหลวง
19 เดก็ หญงิ ณชิ า กติ ตยิ ังกุล
20 เดก็ ชายอดุ มศักด์ิ พงกาง
21 เดก็ หญงิ เบญจวรรณ บัวระวงค์

**หมายเหตุ ผ่านเกณฑ์คะแนนรวมไมต่ ่ำกว่า 5 คะแนน
ผ่าน……………………..คน
ไมผ่ ่าน………………….คน

ใบกจิ กรรมที่ 1.4 วิชาวิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 คะแนนท่ไี ด้

หนว่ ยที่ 1 ระบบตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ ใบกิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื ง ระบบหมนุ ประสาท

❖ การทดลอง : การทดลองรีเฟลก็ ซ์
ช่อื กลุ่ม……………………………………………….....
1. สมาชิกในกลุ่ม 1. ……………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………….
4. ……………………………………………………………………………………………………….
5. ……………………………………………………………………………………………………….

2. จดุ ประสงค์ : เพอ่ื ศึกษาเก่ียวกบั รีเฟลก็ ซ์เอกชนั ของรา่ งกาย
3. ข้นั ตอนการทดลอง

3.1 ใหน้ กั เรียนเลือกตัวแทนของแตล่ ะกล่มุ ออกมากลุ่มละ 3 คน และใหน้ ักเรยี นคนแรกนัง่ ตัวตรงมองไป
ขา้ งหน้า ให้เพ่ือนโบกมือผ่านลกู ตา อย่างรวดเร็ว แล้วบนั ทึกผลในตาราง

3.2 ให้นักเรียนคนที่สองนัง่ ห้อยเทา้ บนเกา้ อี้ ใหเ้ พ่ือนเคาะเบา ๆ บริเวณใต้หัวเข่า และบันทกึ ผลในตาราง
3.3 จากนนั้ ให้นักเรยี นคนทีส่ าม นำกอ้ นน้ำแข็งไปแตะที่แขนเพอ่ื น แล้วบันทึกผลในตาราง

ตารางบนั ทึกผล

พฤตกิ รรม การตอบโต้

1. คนแรกน่ังตัวตรงมองไปข้างหนา้ ให้เพ่ือนโบกมือ ………………………………………………………………
ผ่านลกู ตา อยา่ งรวดเรว็

2. คนทส่ี องน่งั ห้อยเท้าบนเกา้ อี้ ให้เพื่อนเคาะเบา ๆ ………………………………………………………………
บริเวณใต้หัวเข่า

3. นกั เรยี นคนทีส่ าม นำกอ้ นนำ้ แข็งไปแตะท่แี ขน ………………………………………………………………
เพือ่ น

จากการทดลอง………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบกจิ กรรมท่ี 1.4 วชิ าวิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 เฉลย

หนว่ ยที่ 1 ระบบต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ใบกจิ กรรมที่ 4 เรื่อง ระบบหมนุ ประสาท คะแนนทไี่ ด้

❖ การทดลอง : การทดลองรีเฟลก็ ซ์
ชื่อกลุ่ม……………………………………………….....
1. สมาชิกในกลุ่ม 1. ……………………………………………………………………………………………………….
2. ……………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………….
4. ……………………………………………………………………………………………………….
5. ……………………………………………………………………………………………………….

2. จุดประสงค์ : เพือ่ ศึกษาเก่ียวกับรเี ฟล็กซเ์ อกชันของรา่ งกาย
3. ขนั้ ตอนการทดลอง

3.1 ให้นักเรียนเลือกตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมากลุ่มละ 3 คน และให้นักเรียนคนแรกนั่งตัวตรงมองไป
ข้างหนา้ ให้เพอื่ นโบกมอื ผา่ นลกู ตา อยา่ งรวดเรว็ แลว้ บันทกึ ผลในตาราง

3.2 ใหน้ กั เรียนคนทีส่ องนง่ั หอ้ ยเท้าบนเก้าอี้ ใหเ้ พอ่ื นเคาะเบา ๆ บรเิ วณใต้หวั เข่า และบนั ทกึ ผลในตาราง
3.3 จากนน้ั ใหน้ กั เรียนคนท่สี าม นำก้อนนำ้ แข็งไปแตะทแี่ ขนเพื่อน แล้วบันทึกผลในตาราง

ตารางบนั ทกึ ผล

พฤติกรรม การตอบโต้

1. คนแรกนัง่ ตัวตรงมองไปข้างหน้า ใหเ้ พื่อนโบกมือ ………………………..กระพรบิ ตา……………………….
ผ่านลกู ตา อยา่ งรวดเร็ว

2. คนท่ีสองนัง่ ห้อยเท้าบนเก้าอี้ ใหเ้ พื่อนเคาะเบา ๆ …………..……....ขาจะกระตุกทันที………………..…
บรเิ วณใตห้ ัวเขา่

3. นกั เรยี นคนทีส่ าม นำก้อนนำ้ แขง็ ไปแตะที่แขน …………เพ่อื นจะดึงแขนออกจากน้ำแข็ง………….
เพ่อื น

จากการทดลองทำให้ร่างกายทราบว่ารีเฟล็กซ์เกดิ ขนึ้ โดยอัตโนมตั แิ ละหา้ มการตอบโต้ไม่ได้ และมักจะ
เกดิ ขึน้ เพอ่ื ป้องกนั ตวั เอง

กิจกรรมตรวจสอบการเรียนรทู้ ี่ 1.5

หน่วยท่ี 1 ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ ใบกจิ กรรมที่ 4 เรือ่ ง ระบบประสาท

อ้างอิง : หนังสอื วิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หนา้ 27
1. จากรูปจงบอกชอ่ื ส่วนประกอบของเซลลป์ ระสาท

………………1….1…ต…ำ…แ…ห…น…่ง …A…เร…ยี …ก…วา่ …เ…ด…นไ…ด…รต…์ …………………………………………………………………………………………………
………………1….2…ต…ำ…แ…ห…น…่ง …B…เร…ยี …กว…่า…ต…วั …เซ…ล…ล…์ …………………………………………………………………………………………………
………………1….3…ต…ำ…แ…ห…น…่ง …C…เร…ีย…ก…ว่า…แ…อ…ก…ซ…อน……………………………………………………………………………………………………
2. จงลำดับขน้ั ตอนในการทำงานของระบบประสาทเม่ือเกิดบาดแผลทีแ่ ขนสามารถตอบโต้สถานการณ์ได้อย่าง

ดงั น้ี
………………2…)…ห…น…ว่ ย…ร…ับ…คว…า…ม…รู้ส…กึ …ท…ีผ่ …ิวห…น…ัง…รู้ส…กึ …เจ…็บ……→……4…)…ข…อ้ ม…ลู …ถ…ูก…ส่ง…ไป…ย…ัง…ไข…ส…นั …ห…ลัง……แล…ะ…ไข…ส…ัน…ห…ล…ังส…่ง…ต…่อไ…ป…ย…ัง …
…ส…ม…อ…ง…ให…้ท…รา…บ…ว…่าเ…ก…ดิ อ…ะ…ไร…ข…้ึน…→………1…) ส…ม…อ…ง…รบั …ร…ขู้ …้อม…ูล…→………5…) …คำ…ส…ั่ง…จา…ก…ส…มอ…ง…ถ…ูกส…ง่ …ไป…ย…งั …กล…้า…ม…เน…้ือ…ท…ี่ม…ือแ…ล…ะ…ต…า…
…จ…า…ก…ไข…ส…ัน…ห…ล…ังไ…ป…ต…าม…เ…ซล…ล…์ป…ร…ะ…สา…ท…ส…ั่ง…กา…ร…→………3…) …สม…อ…ง…ต…ัด…สิน…ใ…จ…สั่…งก…า…รไ…ป…ต…าม…ไ…ข…ส…ันห…ล…ัง…ให…้ย…ก…ม…ือ…แ…ขน…ท…ี่ม…ี …
…บ…า…ด…แ…ผล…ข…ึ้น…ม…าด…ู …ยก…ม…อื …ซ…า้ ย…ไ…ปส…ัม…ผ…ัส…แผ…ล………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
เวลาทัง้ หมด 21 ชัว่ โมง
รายวิชาวิทยาศาสตร์ เวลา 1 คาบ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง ระบบต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ผู้สอน นางสาวนสุ รินทร์ อิน่ คำ
แผนท่ี 9 เรือ่ ง ระบบสืบพนั ธ์ุ
สอนวันที่ 5,7 กรกฎาคม 2564

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก

เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสตั ว์และมนษุ ยท์ ่ีทำงานสมั พนั ธก์ นั ความสมั พันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าท่ีของอวัยวะตา่ ง ๆ ของพชื ทีท่ ำงานสัมพนั ธก์ นั รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวชีว้ ัด
ม.2/12 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ของชายและเพศหญิงโดยใช้
แบบจำลอง
ม.2/13 อธิบายผลของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัย
หนมุ่ สาว
ม.2/14 ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่หนุ่มสาว โดยการดูแลรักษาร่างกายและจิตใจ
ของตนเองในช่วงทีม่ ีการเปลี่ยนแปลง
ม.2/15 อธิบายการตกไข่ การมีประจำเดอื น การปฏสิ นธิ และการพฒั นาของไซโกตจนคลอดเป็นทารก
ม.2/16 เลือกวธิ กี ารคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ท่ีกำหนด
ม.2/17 ตระหนักถึงผลกระทบของการตง้ั ครรภก์ ่อนวัยอนั ควร โดยการประพฤตติ นใหเ้ หมาะสม

สาระสำคัญ
มนุษย์มีระบบสืบพันธุ์ที่ประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เฉพาะ โดยรังไข่ในเพศหญิงจะทำหน้าท่ี

ผลิตเซลล์ไข่ ส่วนอัณฑะในเพศชายจะทำหน้าท่สี ร้างเซลลอ์ สจุ ิ

ฮอร์โมนเพศทำหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของลักษณะทางเพศที่แตกต่างกัน เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวจะมี
การสรา้ งเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิ การตกไข่ การมีรอบเดือน และถ้ามีการปฏิสนธิของเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิจะทำให้
เกดิ การตัง้ ครรภ์

การมีประจำเดือน มีความสัมพันธ์กับการตกไข่ โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ
หญงิ

เมื่อเพศหญิงมีการตกไข่และเซลล์ไข่ได้รับการปฏิสนธิกับเซลล์อสุจิจะทำให้ได้ไซโกต ไซโกตจะเจริญเป็น
เอ็มบริโอและฟีตัสจนกระทั่งคลอดเป็นทารก แต่ถ้าไม่มีการปฏิสนธิเซลล์ไข่จะสลายตัว ผนังด้านในมดลูกรวมทั้ง
หลอดเลือดจะสลายตวั และหลดุ ลอกออก เรียกว่า ประจำเดือน

การคุมกำเนิดเป็นวิธีป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ โดยป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้มีการฝังตัว
ของเอม็ บรโิ อ ซ่งึ มหี ลายวธิ ี เช่น การใช้ถงุ ยางอนามัย การกนิ ยาคมุ กำเนดิ
สาระการเรียนรู้

ระบบสืบพันธุ์ (reproductive system) เป็นระบบของอวยั วะในร่างกายสิ่งมีชวี ติ ซงึ่ ทำงานร่วมกันโดย
มีจุดประสงคเ์ พอ่ื การสืบพนั ธเ์ุ พมิ่ จำนวนส่งิ มีชีวิตใหม้ ากขึน้ ในระบบนี้จำเป็นต้องอาศัยสารตา่ ง ๆ

การสบื พันธุ์ของคนเปน็ การสบื พนั ธ์ุแบบอาศยั เพศ เพราะมกี ารผสมกันของเซลลส์ ืบพนั ธเ์ุ พศผู้ (เซลล์อสุจิ)
กับเซลลส์ ืบพนั ธเ์ุ พศเมยี (เซลล์ไข่) ระบบสืบพันธ์เุ พศชายประกอบดว้ ยส่วนตา่ งๆ ดงั นี้

รปู ภาพ ก อวยั วะในระบบสบื พันธเุ์ พศชาย
ทีม่ า : https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33937

• อวัยวะสืบพนั ธ์ุภายนอก ไดแ้ ก่ ถุงอัณฑะ องคชาติ

1. ถุงอัณฑะ (Scrotum) เป็นส่วนของผิวหนังที่ไม่มีไขมันใต้ผิวหนัง ยื่นลงมาจากหน้าท้อง มีกล้ามเนื้อ
เรียบปรากฏอยู่ มีกล้ามเนื้อที่ช่วยปรับอุณหภูมิของอัณฑะให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย ประมาณ 3-5 องศา
เซลเซยี ส

2. องคชาติ (Penis) ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของปัสสาวะ และเป็นอวัยวะในการร่วมเพศ องคชาติเป็น
เน้ือเยอื่ เก่ียวพันชนิดพเิ ศษ โดยปกติจะหดตัวอยู่ แต่ถา้ มคี วามรสู้ กึ ทางเพศ จะสามารถแข็งตัวได้

• อวัยวะสบื พนั ธ์ภุ ายใน ไดแ้ ก่ อัณฑะ ทอ่ และตอ่ มต่างๆ

1. อัณฑะ (Testis) เป็นอวัยวะสำคัญที่สุดในระบบสืบพันธุ์เพศชาย ทำหน้าที่สร้างอสุจิ และฮอร์โมนเพศ
ชาย อัณฑะมีลักษณะรูปไข่อยู่ในถุงอัณฑะ ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรน โดยมีท่อนำอสุจิ
ออกสภู่ ายนอก

2. หลอดเก็บอสุจิ (Epididymis) เป็นท่อขดไปมา วางตัวติดกับด้านหลังของอัณฑะ ประกอบด้วยส่วนหัว
สว่ นลำตวั และส่วนหาง หลอดเกบ็ อสจุ ิยาวประมาณ 4-6 เซนตเิ มตร ทำหน้าทเี่ ปน็ ท่เี กบ็ อสุจิท่สี รา้ งสมบรณู แ์ ล้ว

3. ท่อนำอสุจิ (Vas deferens) เป็นท่อต่อจากส่วนหางของหลอดเก็บอสุจิ ยาวประมาณ 1 นิ้ว ทำหน้าที่
นำอสุจิจากอัณฑะเข้าไปในชอ่ งท้อง

4. ถุงพักอสุจิ (Seminal vesicle) เป็นต่อมที่มีลักษณะเป็นถุงยาว 2 ถุง ยื่นออกจากท่อนำอสุจิ มีหน้าที่
สร้างนำ้ เลย้ี งอสจุ ิ (Seminal fluid) ในนำ้ เลี้ยงประกอบด้วยน้ำตาลฟรกุ โทส กับโปรตีนโกลบลู นิ

5. ท่อฉีดอสุจิ (Ejaculatory duct) เป็นท่อสั้นๆ เปิดเข้าสู่ท่อปัสสาวะตรงบริเวณต่อมลูกหมาก ยาว
ประมาณ 2 เซนตเิ มตร บางครง้ั เรียกวา่ หลอดฉดี นำ้ กาม ท่อนี้ทำหนา้ ที่บีบตัวเพอ่ื ขบั น้ำอสจุ ิ (Semen)

6. ต่อมลูกหมาก (Prostate gland) เป็นต่อมที่อยู่รอบท่ออสุจิ อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ ทำหน้าที่
สรา้ งน้ำกามซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำนม น้ำกามมฤี ทธเิ์ ป็นเบสเลก็ น้อย และมีกล่ินเฉพาะตัว

7. ต่อมกลั่นเมือก (Urethral gland) ได้แก่ ต่อมคาวเปอร์ (Cowper gland) อยู่ใต้ต่อมลูกหมาก ทำ
หน้าที่สรา้ งสารหลอ่ ลืน่ ทอ่ ปสั สาวะ มีฤทธเิ์ ป็นเบส

ในเพศชาย เมื่อเข้าสู่ระยะที่สืบพันธุ์ได้ จะมีการสร้างอสุจิได้เป็นจำนวนมาก และเป็นช่วงเวลานานกว่า
เพศหญิง คอื จนถึงอายุประมาณ 80-90 ปี แต่ในระยะหลงั ๆ น้ี อสจุ ทิ ีส่ รา้ งไดจ้ ะมีจำนวนน้อยลง

ปกติการหลั่งน้ำอสุจิในแต่ละครั้ง จะมีปริมาณประมาณ 3-5 มิลลิลิตร โดยมีอสุจิอยู่ประมาณ 300-400
ล้านตัว หากมีจำนวนอสุจิน้อยกว่านี้ อาจเป็นสาเหตุทำให้เป็นหมันได้ อสุจิเมื่อเข้าไปในช่องคลอดเพศหญิง จะมี

ชีวิตอยู่ได้ถึง 48 ชั่วโมง อสุจิสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็ว 3 มิลลิเมตรต่อนาที โดยการว่ายน้ำไป และจะ
เคลื่อนทีไ่ ปถึงทอ่ นำไข่ในเวลา 30-60 นาที

• อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก ได้แก่ คลิทอริส แคมใหญ่ แคมเล็ก เวสทิบุล เยื่อพรหมจารีย์ รวมทั้งต่อมสร้าง
นำ้ เมือกบรเิ วณชอ่ งคลอด

รูปภาพ ข อวยั วะในระบบสบื พนั ธเุ์ พศหญิง
ที่มา : https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33938
1. คลทิ อริส (Clitoris) เทียบได้กบั องคชาติในเพศชาย ประกอบดว้ ยเนื้อเยื่อทีท่ ำให้เกดิ การแขง็ ตัว โดยให้
เลอื ดมาคัง่
2. แคมใหญ่ (Labia Majora) เป็นปมุ่ นูนขนาดใหญ่ 2 อนั ซ่งึ ประกอบดว้ ย ต่อมน้ำมนั ไขมัน มขี นปกคลุม
อยูด่ า้ นบนของแคมใหญ่
3. แคมเลก็ (Labia Minora) มีลักษณะเปน็ เนื้อนม่ิ ของปุ่มนนู ของผิวหนังเหมือนกัน แต่ไม่มีไขมัน ไม่มีขน
ดา้ นหลังจะมารวมกนั เป็นฝีเย็บซึ่งจะฉีกขาดในตอนคลอด
4. เวสทิบุล (Vestibule) เปน็ สว่ นที่อยนู่ อกสดุ ของช่องคลอด จะมเี ยือ่ พรหมจารยี ์ (Hymen) ปิดอยู่ มชี อ่ ง
เปดิ ของทอ่ ปสั สาวะ และชอ่ งเปิดของช่องคลอดรวมอยู่
5. ต่อมสร้างน้ำเมือก (Vestibula Gland) อยทู่ ่ีบริเวณแคมเล็ก ทำหนา้ ท่สี รา้ งสารเมือก เพื่อการหลอ่ ล่ืน

• อวยั วะสืบพันธภ์ุ ายใน ไดแ้ ก่ รังไข่ มดลูก และช่องคลอด

1. รงั ไข่ (Ovary) เปน็ อวยั วะท่สี ำคัญทสี่ ุดในระบบสืบพนั ธ์เุ พศหญงิ มอี ยู่ 2 ข้างในชอ่ งท้องนอ้ ยยึดติดกับ
มดลูกโดยเอ็น ส่วนด้านนอกยึดติดกับลำตัว ภายในรังไข่จะพบไข่มากมายประมาณ 3-4 แสนใบ รังไข่ทำหน้าที่ 2
อยา่ ง คือ สร้างไข่ และสร้างฮอรโ์ มนเพศหญงิ

ไข่ใบที่สุกเต็มที่แล้ว จะหลุดออกมาจากรังไข่ เรียกว่า การตกไข่ (Ovulation) ซึ่งถูกควบคุมและ
กระตุ้นโดยฮอร์โมน LH และ FSH จากต่อมใต้สมอง รงั ไขจ่ ะสรา้ งฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน ในรอบ 28 วนั ไข่จะสุก
เพียงวันเดียว และระยะตกไข่จะมีเวลาประมาณ 14 วัน หากไข่ไม่ได้รับการผสมก็จะสลายไป และหลุดออกมาสู่
ภายนอกพร้อมๆ กับผนงั มดลูก เรียกวา่ ประจำเดอื น (Menstruation) ประจำเดอื นจะหมดเมื่ออายุประมาณ 45-
50 ปี

2. ท่อนำไข่ (Oviduct) เป็นท่อซึ่งด้านหนึ่งติดกับมดลูก อีกด้านหนึ่งอยู่ใกล้ๆ รังไข่ เป็นทางผ่านของไข่
และอสุจิ ซง่ึ จะพบกันประมาณ 1 ใน 3 ของท่อนำไข่

3. ช่องคลอด (Vagina) อยู่ระหว่างทวารหนกั กับปากท่อปัสสาวะ ผนังด้านในมีเยื่อเมือกบอุ ยู่ ยืดหดได้ดี
ที่ปากชอ่ งคลอดมกี ลา้ มเนื้อหรู ูดสามารถบังคับได้

4. มดลูก (Uterus) มีขนาดกว้าง 2 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว และหนา 1 นิ้ว อยู่ในช่องท้องน้อย ผนังยืดหดได้มาก
เป็นพเิ ศษ และขยายตวั ไดม้ ากในเวลาตั้งครรภ์ ในระยะคลอด ฮอรโ์ มนออกซิโทซินจะกระตุ้นให้กลา้ มเน้ือบริเวณนี้
หดตวั อยา่ งรุนแรง ทำใหค้ ลอดได้ง่ายข้ึน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
นักเรียนสามารถระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ของชาย โดยใช้
แบบจำลองได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นักเรียนสามารถอธบิ ายผลของฮอรโ์ มนเพศชายที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่
วยั หนมุ่
ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
นักเรียนมีความรับผดิ ชอบในภาระงานท่คี รูมอบหมาย และส่งงานไดใ้ นเวลาทก่ี ำหนด

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการสือ่ สาร

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมั่นต้ังใจทำงานด้วยความเพยี รพยายาม
4. มจี ิตสาธารณะ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 : ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (10 นาที)

1. ครนู ำเข้าส่บู ทเรียนด้วยเกม แปะตดิ รูปภาพอวยั วะเพศชาย ครใู หน้ ักเรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ
10 คน โดยมีรปู โครงรา่ งให้นักเรียนบนกระดาน จากนัน้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนนำชนิ้ สว่ นของอวยั วะตา่ ง ๆ มาติดต่อ
จากโครงร่างบนกระดานให้ครบถ้วน สมบรู ณ์ กลุ่มใดทใ่ี ชเ้ วลาน้อยทสี่ ดุ กล่มุ นัน้ เป็นผชู้ นะ

2. ครูใช้คำถามถามนกั เรียนว่า “จากรูปนักเรียนคิดว่าเป็นรูปอะไร” (แนวคำตอบ : อวัยวะเพศชาย) และ
ครถู ามนักเรียนวา่ “นกั เรียนคดิ วา่ วนั นี้ เราจะมาเรยี นเรอ่ื งอะไร” (แนวคำตอบ : ระบบสบื พนั ธ์ุ)
ขนั้ ท่ี 2 : ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) (25 นาท)ี

1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง “ระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย” แก่นักเรียน โดยใช้สื่อ Power point และ
หนังสอื วชิ าวิทยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หน้า 31-33

2. ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรม โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
3.1 ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลมุ่ ตามแถวทีน่ ่ังในหอ้ งเรยี น จากน้นั ครอู ธิบายข้นั ตอนการทำกจิ กรรม
3.2 ครูให้นักเรยี นส่งตัวแทนออกมาแถวละ 1 คน เพื่อใบ้ลักษณะเพศชายทีแ่ สดงออกมาเมือ่ เข้าวยั ร่นุ

เช่น เสียงทุ้ม ร่างกายสูงใหญ่ มีกล้ามเนื้อ อกกว้าง มีขนที่อวัยวะเพศ เป็นต้น โดยนักเรียนที่ใบ้ห้ามพูดใดๆทั้งส้นิ
แถวไหนตอบถกู กอ่ นกลุม่ นั้นได้รบั คะแนน 1 คะแนน

3.3 ครูให้นักเรียนเปลี่ยนเวียนใบ้ลักษณะไปจนครบ เมื่อสรุปคะแนนกลุ่มใดที่ได้คะแนนสูงทีส่ ดุ ได้รับ
รางวัลจากครู
ข้นั ท่ี 3 : อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (5 นาท)ี

1. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเนือ้ หาจากกิจกรรมเชื่อมโยงกับเน้ือหาในบทเรยี น
2. ครูสรุปเน้ือหาระบบสืบพนั ธ์เุ พศชายใหน้ กั เรยี นฟงั
3. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนได้ซักถามขอ้ สงสยั เพ่อื สะทอ้ นความคิดของนักเรยี น

ขนั้ ท่ี 4 : ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (5 นาท)ี
1. ครเู ปดิ คลปิ วดี ีโอ เรอ่ื ง “โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์” ให้นกั เรียนดู
(ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=4R2isQRX-MQ)
2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายและสรุปเกย่ี วกับโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์

ขนั้ ท่ี 5 : ข้ันประเมิน (Evaluation) (5 นาท)ี
ครูประเมินผลการเรียนรู้จากใบงานที่ 1.5, แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และแบบประเมิน

สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินจากแผนการเรยี นรู้ที่ 9

สอ่ื อปุ กรณก์ ารเรียนรู้ และแหลง่ การเรียนรู้
1) ส่อื Power point เรอื่ ง “ระบบสืบพนั ธ์ุของเพศชาย”
2) หนงั สือวิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หนา้ 31-33
3) อุปกรณต์ ่าง ๆ ไดแ้ ก่ บัตรคำลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงของเพศชายเมอื่ เขา้ สวู่ ยั รนุ่
4) คลิปวดิ ีโอ เรอื่ ง “โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์”
(ท่ีมา: https://www.youtube.com/watch?v=4R2isQRX-MQ)
5) ใบงานท่ี 1.5 ระบบสบื พนั ธ์ุของเพศชาย

การวดั และการประเมิน วิธกี ารวัด เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์ใชป้ ระเมนิ
ประเด็นการประเมนิ

ดา้ นความรู้ (K)

นกั เรยี นสามารถระบอุ วัยวะและ ตรวจจากใบงานท่ี 1.5 ใบงานท่ี 1.5 ร้อยละ 60
บรรยายหน้าทีข่ องอวยั วะในระบบ ผา่ นเกณฑ์
สบื พันธ์ขุ องชาย โดยใช้แบบจำลอง
ได้

ด้านทักษะ (P)

นักเรยี นสามารถอธิบายผลของ สังเกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ
ฮอร์โมนเพศชายท่ีควบคุมการ ทำงานกลุ่ม ทำงานกลุ่มจากผ้สู อน พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เปล่ยี นแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่
วยั หนมุ่

ด้านคุณลักษณะ (A)

นกั เรยี นมีความรบั ผดิ ชอบในภาระ 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ
รายบคุ คล พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
งานท่คี รูมอบหมาย และส่งงานได้ใน รายบุคคล 2. แบบบนั ทึกการส่งงาน

เวลาท่กี ำหนด 2. ใบงานที่ 1.5

เกณฑ์การประเมินด้านความรู้ (K)

ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

3 21 0
นักเรียนไมส่ ามารถ
นักเรียนสามารถระบุ นักเรียนสามารถระบุ นกั เรียนสามารถระบุ นกั เรียนสามารถระบุ ระบอุ วยั วะและ
บรรยายหนา้ ทข่ี อง
อวัยวะและบรรยาย อวัยวะและบรรยาย อวัยวะและบรรยาย อวัยวะและบรรยาย อวัยวะในระบบ
สบื พนั ธุ์ของชายโดย
หนา้ ท่ีของอวยั วะใน หน้าทขี่ องอวัยวะใน หน้าท่ีของอวัยวะใน หน้าท่ีของอวยั วะใน ใชแ้ บบจำลอง ในใบ
งานที่ 1.5 ได้ถูกต้อง
ระบบสืบพันธ์ุของชาย ระบบสืบพันธขุ์ อง ระบบสบื พนั ธุข์ อง ระบบสืบพันธ์ขุ อง

โดยใชแ้ บบจำลอง ชายโดยใช้ ชายโดยใช้ ชายโดยใช้

(3 คะแนน) แบบจำลอง ในใบ แบบจำลอง ในใบ แบบจำลอง ในใบ

งานที่ 1.5 (7-10 ขอ้ ) งานที่ 1.5 (4-6 ข้อ) งานที่ 1.5 (1-3 ข้อ)

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

3 ดี

2 พอใช้

0 - 1 ปรับปรงุ

เกณฑ์การประเมินดา้ นทกั ษะ (P)

ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคุณภาพ 0
21

นกั เรยี นสามารถ ได้คะแนนจากแบบ ไดค้ ะแนนจากแบบ ได้คะแนนจากแบบ ได้คะแนนจากแบบ

อธบิ ายผลของฮอร์โมน ประเมนิ การทำ ประเมินการทำ ประเมินการทำ ประเมนิ การทำ

เพศชายท่ีควบคมุ การ กจิ กรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลมุ่ 5-9 กิจกรรมกลมุ่ 1-4 กจิ กรรมกลุ่ม 0

เปล่ียนแปลงของ 10-15 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

ร่างกาย เม่ือเขา้ สู่วยั

หนมุ่

(3 คะแนน)

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ
3 ดี
2
พอใช้
0-1 ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ (A)

ประเด็นการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ

3 210

นกั เรยี นมีความ สง่ งานตรงตามที่ ส่งงานช้ากว่ากำหนด สง่ งานช้ากว่ากำหนด สง่ งานช้ากวา่ กำหนด

รับผดิ ชอบในภาระงาน กำหนด (อาทติ ย์ 1-2 วนั 3 วัน มากกว่า 3 วนั หรอื ไม่

ท่คี รูมอบหมาย และสง่ ถดั ไป) สง่

งานได้ในเวลาท่ีกำหนด

(3 คะแนน)

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

3 ดี
2 พอใช้
0 - 1 ปรับปรุง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9

เรอื่ ง ระบบสบื พนั ธุ์ ช้นั ม.2/ .

จำนวนนกั เรยี นท่มี าเรยี น.............................คน
จำนวนนกั เรยี นทีไ่ ม่มาเรยี น.........................คน
1. ผลการสอน

1.1 ผลการจดั การเรียนรใู้ นห้อง
นักเรียนร้อยละ............จากคนทมี่ าเรยี นท้งั หมด ใหค้ วามร่วมมอื ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน โดยสามารถ
.............................................................ได้

1.2 ผลการประเมนิ ตามแบบประเมนิ
-นักเรยี นจำนวน......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............ มผี ลการประเมนิ ดา้ น K ในระดับ …….......
-นักเรยี นจำนวน......... คน คิดเป็นรอ้ ยละ............. มีผลการประเมินดา้ น P ในระดับ ……......
-นักเรยี นจำนวน..........คน คิดเปน็ ร้อยละ.............. มผี ลการประเมนิ ดา้ น A ในระดบั …….....

12.2 ปัญหาท่พี บจากการสอนในคาบเรียน
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................................ ............
12.3 การแก้ไขปัญหาและอุปสรรค
........................................................................................... .........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
12.4 ผลการแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................................ ............
12.5 ข้อเสนอแนะในการสอนครัง้ ถดั ไป
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชอื่ .....................................................................
(นางสาวนสุ รนิ ทร์ อนิ่ คำ) .

นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู

ความคดิ เห็นของผ้พู ่เี ล้ยี ง

ได้ทำการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ว22101)
และมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เปน็ หนว่ ย/แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ดมี าก ดี พอใช้
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ได้นำเอาทักษะกระบวนการเรยี นรู้

ท่เี นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญใชใ้ นการสอนอย่างเหมาะสม
ทย่ี งั ไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ หน่วย/แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี นำไปใช้ในการสอนไดจ้ ริง

ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………….………….…………….……
….……………………………………………………………………………………………………………………….………….………………...........
.......................................................................................................................................................... ..........................
....................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .........................................................

(นางพชั รา ภริ ะกนั ทา) .

ครูพีเ่ ล้ยี ง .

................../................./..................

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

ชือ่ กลุ่ม……………………………………………….....
สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ……………………………………………………………………………………………………….

2. ……………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………….
4. ……………………………………………………………………………………………………….
5. ……………………………………………………………………………………………………….

คำชีแ้ จง : ให้นักเรียน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลา แลว้ ขีด / ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั

ระดับคะแนน

พฤตกิ รรมทีส่ ังเกต ระดับคุณภาพคะแนน
32 1

1. เริม่ ตน้ งานทไี่ ดร้ ับมอบหมายทนั ที

2. ทำกจิ กรรมด้วยความสนกุ สนานและเต็มใจ

3. มีสว่ นร่วมในการทำกิจกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ

4. มีเนอ้ื หาครบถ้วนสมบูรณ์ และมคี วามถกู ต้อง

5. ใชเ้ วลาในการทำงานตามเวลาท่กี ำหนด

รวม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

พฤติกรรมท่ที ำอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
คะแนน
พฤติกรรมทีท่ ำบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน

พฤติกรรมทท่ี ำบางคร้ัง ให้ 1

คณุ ภาพคะแนน = ดี
10 - 15 คะแนน = ปานกลาง
5 - 9 คะแนน = พอใช้
1 - 4 คะแนน

แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2/1
วชิ าวิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน เรือ่ ง ระบบสืบพันธุ์

ลำดับ ชือ่ -สกุล ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะ รวม ผลการประเมนิ
3 3 3 9 ผ่าน ไม่ผา่ น
1 เดก็ ชายเจษฎา อ่นิ แกว้
2 เด็กชายณัฐพงศ์ สมนา
3 เดก็ ชายสิทธกิ ร ชัยอาจ
4 เด็กชายอชิตะ เพ็ชรมาศ
5 เดก็ หญิงนิลาวัลย์ ศิริรวง
6 เด็กหญิงพัชรสดุ า บุญชัยอาจ
7 เด็กชายวรเชษฐ โพธิน์ ิล
8 เด็กชายดลุ ยวตั บรรพตผล
9 เดก็ ชายนพดล คมสูงเนิน
10 เด็กชายบวรภัค เทยี นหอม
11 เด็กหญิงวริ ากานต์ ธดิ าธนาพร
12 เดก็ หญงิ ลลี าวดี อาเซาะ
13 เดก็ ชายปญั ญา แซห่ าญ
14 เดก็ หญงิ จารวุ รรณ สาธิตบญุ
15 เด็กชายพทิ ักษ์ เลายะ
16 เด็กหญิงพรธิดา ปู่เหลก็
17 เดก็ หญงิ สนุ สิ า บงกชผ่องอำไพ
18 เด็กชายปณั ณวชิ ญ์ ทองใส
19 เด็กชายไพศาล กากลุ
20 เดก็ ชายภักดี แซ่มา้

**หมายเหตุ ผ่านเกณฑค์ ะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 5 คะแนน
ผ่าน……………………..คน
ไม่ผ่าน………………….คน

แบบประเมินผลการเรยี นรขู้ องนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2/2
วชิ าวิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน เรอื่ ง ระบบสืบพนั ธ์ุ

ลำดบั ชอื่ -สกุล ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะ รวม ผลการประเมนิ
3 3 3 9 ผา่ น ไมผ่ ่าน
1 เดก็ ชายเจตษิพทั ธ์ เขตวัง
2 เด็กชายมนุเชษฐ์ บวั เยน็
3 เดก็ หญิงซาราห์ รุง่ อรุณฉาย
4 เด็กหญงิ ณัฎฐณิชา คำมูล
5 เดก็ หญงิ พรทิวา รตั นชุมภู
6 เดก็ ชายวนั ชนะ ทองใบ
7 เด็กชายจักริน แซต่ ้งั
8 เด็กชายชมุ พร เตชะพนาลัย
9 เดก็ ชายธนิน ทรายโชตชิ ลาลยั
10 เด็กชายวรโชติ สุดสายเขียว
11 เด็กหญงิ วรนิ ทร ศรีสำราญ
12 เดก็ ชายวริ ัตน์พงษ์ ธดิ าชนาพร
13 เด็กหญิงอายานี ศรีไสวบงกช
14 เด็กชายอัสดงค์ แซ่ยา่ ง
15 เดก็ หญิงสุนิสา ชะสุวรรณ์
16 เดก็ หญงิ ชนดิ า มาแฮ
17 เด็กชายธนพฒั น์ คนหลวง
18 เดก็ หญงิ ณชิ า กติ ติยงั กลุ
19 เดก็ ชายอดุ มศักดิ์ พงกาง
20 เด็กหญงิ เบญจวรรณ บวั ระวงค์

**หมายเหตุ ผา่ นเกณฑ์คะแนนรวมไม่ต่ำกวา่ 5 คะแนน
ผา่ น……………………..คน
ไมผ่ ่าน………………….คน

ใบงานท่ี 1.5 วชิ าวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 คะแนนทไี่ ด้

หนว่ ยท่ี 1 ระบบตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ ใบงานที่ 5 เรื่อง ระบบสบื พันธ์ุของเพศชาย

จงตอบคำถามใหถ้ ูกต้อง
1. ใหน้ นักเรียน ระบสุ ่วนประกอบของเซลลอ์ สจุ ิ พรอ้ มบอกลักษณะและหน้าท่ีให้ถูกตอ้ ง

1. ส่วน……………………………………………………………………………………………………
ลักษณะ……………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………

2. ส่วน……………………………………………………………………………………………………
ลกั ษณะ……………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………

3. ส่วน……………………………………………………………………………………………………
ลักษณะ……………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………

2. เซลล์อสจุ ิ สร้างจากท่ีใด…………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ส่วนใด ท่ีสร้างอาหารเล้ียงเช้อื อสุจิ……………………………………………………………………………………………………………
4. ต่อมลกู หมาก มคี วามสำคัญอยา่ งไร………………………………………………………………………………………………………….
5. ตอ่ มคาวเปอร์ มคี วามสำคัญอย่างไร………………………………………………………………………………………………………….
6. ในการหลั่งน้ำอสุจิ 1 ครัง้ มขี องเหลวประมาณเท่าใด………………………………………………………………………………….

มีเซลลอ์ สจุ ิเฉลยี่ ประมาณก่ีตัว………………………………………………………………………………………………………………….
7. ชายท่ีเป็นหมัน จะมีอสจุ เิ ป็นอยา่ งไร…………………………………………………………………………………………………………
8. จงอธิบายถึงความสามารถในการเคล่ือนท่ี อายเุ ม่ืออยู่นอกร่างกาย และอายเุ ม่อื อยู่ในมดลกู เพศหญิง ของเซลล์
อสจุ ิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 1.5 วิชาวิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 เฉลย

คะแนนทไี่ ด้

หนว่ ยท่ี 1 ระบบต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ใบงานท่ี 5 เร่ือง ระบบสบื พนั ธุ์ของเพศชาย

จงตอบคำถามใหถ้ กู ต้อง
1. ใหน้ นักเรียน ระบุสว่ นประกอบของเซลล์อสุจิ พร้อมบอกลกั ษณะและหนา้ ท่ีให้ถกู ต้อง

1. ส่วน…ห…วั ………………………………………………………………………………………………
ลกั ษณะ…ม…ีน…ิวเ…ค…ลี…ยส…ท…ี่บ…ร…รจ…ุส…า…ร…พัน…ธ…ุก…ร…รม……ห…่อห…ุ้ม…ด…้ว…ย…ถ…ุงท…ี่เ…รีย…ก…ว…่า…อ…ะโ…ค…ร…โซ…ม
…(a…cr…o…so…m…e…)…แ…ละ…ภ…า…ย…ใน…ถ…ุงป…ร…ะ…กอ…บ…ด…ว้ …ยเ…อ…น…ไซ…ม…์ท…ี่จะ…ใ…ช้เ…จ…าะ…เย…่ือ…ห…้มุ …เซ…ล…ล…์ไข…่เพ…ศ
เ…ม…ยี …เม…่ือ…ม…กี …าร…ป…ฏ…ิส…นธ…ิ ………………………………………………………………………………

2. สว่ น…ล…ำ…ต…วั …………………………………………………………………………………………
ลักษณะ…ท…รง…ก…ร…ะบ…อ…ก…ย…าว……ม…ีไม…โ…ทร…ค…อ…น…เด…ร…ีย…ซึ่ง…เ…ป็…นแ…ห…ล…่ง…พ…ลั…งง…าน…ส…ำ…ห…ร…ับ…กา…ร
…เค…ล…อ่ื น…ท…โี่ …ดย…ก…า…รโ…บ…ก…พดั…ห…า…ง………………………………………………………………………

3. สว่ น…ห…า…ง……………………………………………………………………………………………
ลกั ษณะ…ป…ระ…ก…อ…ย…ด้ว…ย…แ…ฟ…ล…กเ…จ…ลล…ัม……(fl…a…ge…ll…u…m…)…ช…่วย…ก…า…รเ…ค…ลื่อ…น…ท…ี่ …โด…ย…ก…าร…พ…ัด
โ…บ…ก…ห…าง……………………………………………………………………………………………………

2. เซลล์อสจุ ิ สร้างจากที่ใด……อณั ฑะ…………………………………………………………………………………………………………..
3. ส่วนใด ทีส่ รา้ งอาหารเล้ยี งเชอ้ื อสุจิ……ตอ่ มสร้างน้ำเลี้ยงอสจุ ิ………………………………………………………………………
4. ต่อมลูกหมาก มีความสำคัญอยา่ งไร…..สร้างของเหลวที่มีฤทธิเ์ ป็นเบสอ่อนๆ เพื่อลดความเป็นกรดในชอ่ งคลอด
ของเพศหญิง………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ต่อมคาวเปอร์ มีความสำคญั อยา่ งไร……สร้างสารหลอ่ ลน่ื …………………………………………………………………………….
6. ในการหลง่ั น้ำอสุจิ 1 ครั้ง มีของเหลวประมาณเท่าใด…3-4 ลกู บาศก์เซนติเมตร…………………………………………….

มเี ซลล์อสจุ เิ ฉลย่ี ประมาณกต่ี วั ………300-500 ล้านตัว………………………………………………………………………………….
7. ชายที่เป็นหมัน จะมีอสุจิเป็นอย่างไร มีเซลล์น้อยกว่า 30 ล้านเซลล์ต่อลูกบาศก์เซนติเมตร หรือมีตัวผิดปกติ
มากกวา่ รอ้ ยละ 25……………………………………………………………………………………………………………………………………
8. จงอธบิ ายถงึ ความสามารถในการเคลื่อนท่ี อายุเมอ่ื อยู่นอกรา่ งกาย และอายเุ มื่ออยู่ในมดลูกเพศหญิง ของเซลล์
อสุจิ ความสามารถในการเคล่อื นที่ คอื 1-3 มลิ ลเิ มตรตอ่ นาที มีชีวิตอยภู่ ายนอก 2-3 ช่ัวโมง แต่มชี วี ติ ในมดลูกเพศ
หญิงประมาณ 24-48 ชวั่ โมง………………………………………………………………………………………………………………………..

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2
เวลาทง้ั หมด 21 ชวั่ โมง
รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ เวลา 2 คาบ
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง ระบบต่าง ๆ ของมนุษย์ ผ้สู อน นางสาวนุสรนิ ทร์ อน่ิ คำ
แผนท่ี 10 เรื่อง ระบบสืบพนั ธุ์
สอนวันท่ี 6,9 กรกฎาคม 2564

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออก

จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

ตวั ชีว้ ัด
ม.2/12 ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ของชายและเพศหญิงโดยใช้
แบบจำลอง
ม.2/13 อธิบายผลของฮอรโ์ มนเพศชายและเพศหญิงท่ีควบคุมการเปลีย่ นแปลงของร่างกาย เมื่อเข้าสู่
วัยหนมุ่ สาว
ม.2/14 ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่หนุ่มสาว โดยการดูแลรักษาร่างกายและ
จติ ใจของตนเองในชว่ งทม่ี กี ารเปลีย่ นแปลง
ม.2/15 อธิบายการตกไข่ การมีประจำเดือน การปฏิสนธิ และการพัฒนาของไซโกตจนคลอดเป็น
ทารก
ม.2/16 เลอื กวิธีการคุมกำเนดิ ท่ีเหมาะสมกับสถานการณท์ ่ีกำหนด
ม.2/17 ตระหนักถึงผลกระทบของการต้ังครรภก์ อ่ นวัยอันควร โดยการประพฤตติ นใหเ้ หมาะสม

สาระสำคัญ
มนษุ ยม์ ีระบบสืบพันธท์ุ ่ีประกอบดว้ ยอวัยวะต่าง ๆ ทที่ ำหน้าที่เฉพาะ โดยรังไขใ่ นเพศหญิงจะทำหน้าที่

ผลิตเซลล์ไข่ ส่วนอณั ฑะในเพศชายจะทำหนา้ ท่ีสร้างเซลล์อสจุ ิ

ฮอร์โมนเพศทำหน้าท่ีควบคุมการแสดงออกของลกั ษณะทางเพศทแ่ี ตกตา่ งกัน เมือ่ เข้าส่วู ัยหนุ่มสาวจะ
มีการสรา้ งเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิ การตกไข่ การมรี อบเดือน และถา้ มีการปฏสิ นธิของเซลล์ไขแ่ ละเซลล์อสุจิจะ
ทำใหเ้ กิดการตัง้ ครรภ์

การมีประจำเดือน มีความสัมพันธ์กับการตกไข่ โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
เพศหญิง

เมื่อเพศหญิงมีการตกไข่และเซลล์ไข่ได้รับการปฏิสนธิกับเซลล์อสุจิจะทำให้ได้ไซโกต ไซโกตจะเจริญ
เป็นเอ็มบริโอและฟีตัสจนกระทั่งคลอดเป็นทารก แต่ถ้าไม่มีการปฏิสนธิเซลล์ไข่จะสลายตัว ผนังด้านในมดลูก
รวมทงั้ หลอดเลือดจะสลายตัวและหลดุ ลอกออก เรียกว่า ประจำเดือน

การคมุ กำเนิดเปน็ วธิ ปี ้องกนั ไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ โดยป้องกนั ไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้มีการฝัง
ตวั ของเอ็มบริโอ ซึ่งมหี ลายวิธี เชน่ การใช้ถงุ ยางอนามยั การกินยาคมุ กำเนดิ
สาระการเรยี นรู้

ระบบสบื พันธุ์ (reproductive system) เปน็ ระบบของอวัยวะในร่างกายส่ิงมีชวี ิตซ่ึงทำงานร่วมกัน
โดยมจี ุดประสงค์เพือ่ การสืบพันธเุ์ พิม่ จำนวนสง่ิ มชี ีวติ ให้มากขน้ึ ในระบบนีจ้ ำเปน็ ต้องอาศัยสารตา่ ง ๆ

การสืบพันธุ์ของคนเปน็ การสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศ เพราะมีการผสมกันของเซลล์สบื พันธุ์เพศผู้ (เซลล์
อสจุ ิ) กับเซลล์สบื พันธุเ์ พศเมยี (เซลล์ไข)่ ระบบสบื พันธุ์เพศชายประกอบด้วยส่วนตา่ งๆ ดังน้ี

รูปภาพ ก อวัยวะในระบบสบื พนั ธ์ุเพศชาย
ทมี่ า : https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33937

• อวัยวะสืบพันธุภ์ ายนอก ไดแ้ ก่ ถุงอัณฑะ องคชาติ

1. ถุงอณั ฑะ (Scrotum) เป็นส่วนของผวิ หนังทีไ่ ม่มีไขมันใตผ้ วิ หนัง ยน่ื ลงมาจากหนา้ ท้อง มีกล้ามเนื้อ
เรียบปรากฏอยู่ มีกล้ามเนื้อทีช่ ่วยปรับอุณหภูมิของอัณฑะให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย ประมาณ 3-5 องศา
เซลเซียส

2. องคชาติ (Penis) ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของปัสสาวะ และเป็นอวัยวะในการร่วมเพศ องคชาติเป็น
เนือ้ เยอ่ื เกยี่ วพนั ชนิดพเิ ศษ โดยปกติจะหดตัวอยู่ แตถ่ ้ามคี วามรูส้ กึ ทางเพศ จะสามารถแขง็ ตัวได้

• อวัยวะสืบพนั ธ์ภุ ายใน ได้แก่ อัณฑะ ท่อและตอ่ มต่างๆ

1. อัณฑะ (Testis) เป็นอวัยวะสำคัญที่สุดในระบบสืบพันธุ์เพศชาย ทำหน้าที่สร้างอสุจิ และฮอร์โมน
เพศชาย อัณฑะมีลักษณะรูปไข่อยู่ในถุงอัณฑะ ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรน โดยมีท่อ
นำอสจุ อิ อกส่ภู ายนอก

2. หลอดเกบ็ อสุจิ (Epididymis) เปน็ ทอ่ ขดไปมา วางตวั ตดิ กบั ดา้ นหลงั ของอัณฑะ ประกอบด้วยส่วน
หัว ส่วนลำตัว และส่วนหาง หลอดเก็บอสุจิยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร ทำหน้าที่เป็นที่เก็บอสุจิที่สร้าง
สมบูรณ์แลว้

3. ท่อนำอสุจิ (Vas deferens) เป็นท่อต่อจากส่วนหางของหลอดเก็บอสุจิ ยาวประมาณ 1 นิ้ว ทำ
หน้าที่นำอสุจิจากอณั ฑะเขา้ ไปในชอ่ งท้อง

4. ถุงพักอสุจิ (Seminal vesicle) เป็นต่อมที่มีลักษณะเป็นถุงยาว 2 ถุง ยื่นออกจากท่อนำอสุจิ มี
หน้าที่สร้างนำ้ เล้ยี งอสจุ ิ (Seminal fluid) ในน้ำเลย้ี งประกอบดว้ ยน้ำตาลฟรกุ โทส กบั โปรตนี โกลบูลนิ

5. ท่อฉีดอสุจิ (Ejaculatory duct) เป็นท่อสั้นๆ เปิดเข้าสู่ท่อปัสสาวะตรงบริเวณต่อมลูกหมาก ยาว
ประมาณ 2 เซนติเมตร บางครง้ั เรียกว่า หลอดฉีดน้ำกาม ท่อน้ีทำหน้าทบ่ี ีบตัวเพอ่ื ขับนำ้ อสุจิ (Semen)

6. ต่อมลูกหมาก (Prostate gland) เป็นต่อมที่อยู่รอบท่ออสุจิ อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ ทำ
หน้าทีส่ รา้ งน้ำกามซึ่งมลี กั ษณะคลา้ ยน้ำนม นำ้ กามมฤี ทธิ์เป็นเบสเล็กน้อย และมกี ลิ่นเฉพาะตวั

7. ต่อมกลั่นเมือก (Urethral gland) ได้แก่ ต่อมคาวเปอร์ (Cowper gland) อยู่ใต้ต่อมลูกหมาก ทำ
หนา้ ที่สร้างสารหลอ่ ล่ืนทอ่ ปัสสาวะ มีฤทธิเ์ ป็นเบส

ในเพศชาย เมื่อเข้าสู่ระยะที่สืบพันธุ์ได้ จะมีการสร้างอสุจิได้เป็นจำนวนมาก และเป็นช่วงเวลานาน
กวา่ เพศหญงิ คอื จนถึงอายปุ ระมาณ 80-90 ปี แตใ่ นระยะหลังๆ นี้ อสจุ ิทสี่ รา้ งไดจ้ ะมจี ำนวนน้อยลง

ปกติการหลั่งน้ำอสุจิในแต่ละครั้ง จะมีปริมาณประมาณ 3-5 มิลลิลิตร โดยมีอสุจิอยู่ประมาณ 300-
400 ล้านตัว หากมีจำนวนอสุจิน้อยกว่านี้ อาจเป็นสาเหตุทำให้เป็นหมันได้ อสุจิเมื่อเข้าไปในช่องคลอดเพศ
หญงิ จะมีชวี ติ อยไู่ ด้ถึง 48 ชว่ั โมง อสจุ สิ ามารถเคลื่อนทไี่ ดด้ ว้ ยความเรว็ 3 มิลลิเมตรตอ่ นาที โดยการวา่ ยน้ำไป
และจะเคลื่อนที่ไปถึงทอ่ นำไขใ่ นเวลา 30-60 นาที

• อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก ได้แก่ คลิทอริส แคมใหญ่ แคมเล็ก เวสทิบุล เยื่อพรหมจารีย์ รวมทั้งต่อม
สรา้ งน้ำเมือกบรเิ วณชอ่ งคลอด

รูปภาพ ข อวยั วะในระบบสบื พันธ์ุเพศหญิง
ที่มา : https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33938

1. คลิทอริส (Clitoris) เทียบได้กับองคชาติในเพศชาย ประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดการแข็งตัว
โดยให้เลอื ดมาคง่ั

2. แคมใหญ่ (Labia Majora) เปน็ ปมุ่ นูนขนาดใหญ่ 2 อนั ซง่ึ ประกอบด้วย ตอ่ มน้ำมัน ไขมัน มีขนปก
คลมุ อยดู่ า้ นบนของแคมใหญ่

3. แคมเล็ก (Labia Minora) มลี กั ษณะเปน็ เนอื้ นิม่ ของปุ่มนนู ของผวิ หนังเหมอื นกัน แต่ไมม่ ไี ขมนั ไม่มี
ขน ดา้ นหลังจะมารวมกันเปน็ ฝีเย็บซง่ึ จะฉีกขาดในตอนคลอด

4. เวสทบิ ลุ (Vestibule) เปน็ ส่วนที่อยูน่ อกสดุ ของชอ่ งคลอด จะมเี ย่ือพรหมจารีย์ (Hymen) ปดิ อยู่ มี
ชอ่ งเปิดของทอ่ ปัสสาวะ และช่องเปิดของชอ่ งคลอดรวมอยู่

5. ตอ่ มสรา้ งนำ้ เมอื ก (Vestibula Gland) อยู่ท่บี ริเวณแคมเล็ก ทำหนา้ ที่สรา้ งสารเมือก เพ่ือการหล่อ
ล่ืน

• อวยั วะสบื พันธภุ์ ายใน ไดแ้ ก่ รงั ไข่ มดลูก และชอ่ งคลอด
1. รังไข่ (Ovary) เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง มีอยู่ 2 ข้างในช่องท้องน้อยยึด

ตดิ กับมดลูกโดยเอ็น สว่ นดา้ นนอกยึดตดิ กับลำตัว ภายในรงั ไขจ่ ะพบไข่มากมายประมาณ 3-4 แสนใบ รังไข่ทำ
หนา้ ท่ี 2 อย่าง คือ สรา้ งไข่ และสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญงิ

ไข่ใบที่สุกเต็มที่แล้ว จะหลุดออกมาจากรังไข่ เรียกว่า การตกไข่ (Ovulation) ซึ่งถูกควบคุมและ
กระตุ้นโดยฮอร์โมน LH และ FSH จากต่อมใต้สมอง รังไข่จะสร้างฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน ในรอบ 28 วัน ไข่
จะสุกเพียงวันเดียว และระยะตกไข่จะมีเวลาประมาณ 14 วัน หากไข่ไม่ได้รับการผสมก็จะสลายไป และหลุด

ออกมาสู่ภายนอกพร้อมๆ กับผนังมดลูก เรียกว่า ประจำเดือน (Menstruation) ประจำเดือนจะหมดเมื่ออายุ
ประมาณ 45-50 ปี

2. ท่อนำไข่ (Oviduct) เป็นท่อซึ่งด้านหนึ่งติดกับมดลูก อีกด้านหนึ่งอยู่ใกล้ๆ รังไข่ เป็นทางผ่านของ
ไขแ่ ละอสุจิ ซง่ึ จะพบกันประมาณ 1 ใน 3 ของท่อนำไข่

3. ช่องคลอด (Vagina) อยู่ระหว่างทวารหนัก กับปากท่อปัสสาวะ ผนังด้านในมีเยื่อเมือกบุอยู่ ยืดหด
ได้ดี ทปี่ ากช่องคลอดมีกลา้ มเน้อื หรู ดู สามารถบังคบั ได้

4. มดลูก (Uterus) มีขนาดกว้าง 2 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว และหนา 1 นิ้ว อยู่ในช่องท้องน้อย ผนังยืดหดได้
มากเปน็ พเิ ศษ และขยายตัวได้มากในเวลาตง้ั ครรภ์ ในระยะคลอด ฮอร์โมนออกซโิ ทซนิ จะกระตุ้นให้กล้ามเน้ือ
บริเวณนีห้ ดตัวอยา่ งรุนแรง ทำใหค้ ลอดไดง้ ่ายขึ้น

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนสามารถระบุอวยั วะและบรรยายหน้าที่ของอวยั วะในระบบสืบพันธ์ุของเพศหญงิ โดย
ใชแ้ บบจำลอง
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นักเรียนสามารถอธิบายผลของฮอร์โมนเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เม่ือ
เข้าสวู่ ยั สาว
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
1) ตระหนักถงึ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเม่ือเข้าสหู่ นมุ่ สาว โดยการดแู ลรักษาร่างกายและ
จติ ใจของตนเองในช่วงทีม่ กี ารเปล่ยี นแปลง
2) นกั เรียนมคี วามรับผิดชอบในภาระงานทค่ี รูมอบหมาย และสง่ งานได้ในเวลาท่กี ำหนด

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการส่อื สาร
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย
2. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ตง้ั ใจทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม
4. มจี ิตสาธารณะ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 : ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (10 นาท)ี

1. ครูนำเข้าสู่บทเรียนด้วยเกม แปะติดรูปภาพอวัยวะเพศหญิง ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กล่มุ ละ 10 คน โดยมรี ูปโครงรา่ งใหน้ ักเรียนบนกระดาน จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนนำชิ้นสว่ นของอวัยวะต่าง
ๆ มาตดิ ตอ่ จากโครงร่างบนกระดานให้ครบถว้ น สมบรู ณ์ กลมุ่ ใดท่ีใชเ้ วลานอ้ ยที่สดุ กลุม่ นั้นเปน็ ผู้ชนะ

2. ครูใช้คำถามถามนักเรียนว่า “จากรูปนักเรียนคิดวา่ เป็นรูปอะไร” (แนวคำตอบ : อวัยวะเพศหญิง)
และครูถามนักเรียนว่า “นกั เรียนคิดว่าวันน้ี เราจะมาเรยี นเรือ่ งอะไร” (แนวคำตอบ : ระบบสบื พันธ์ุ)
ข้นั ที่ 2 : ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (70 นาที)

1. ครใู หค้ วามรเู้ กย่ี วกับเรอื่ ง “ระบบสบื พันธ์ุของเพศหญงิ ” แกน่ ักเรียน โดยใช้ส่ือ Power point และ
หนงั สอื วิชาวิทยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หนา้ 34-36

2. ครูให้นักเรยี นทำกิจกรรม โดยมขี นั้ ตอนดังต่อไปน้ี
3.1 ครูให้นักเรียนแบง่ กลุ่มตามแถวทน่ี ่ังในห้องเรียน จากนั้นครอู ธบิ ายขนั้ ตอนการทำกิจกรรม
3.2 ครูให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาแถวละ 1 คน เพื่อใบ้ลักษณะเพศชายที่แสดงออกมาเมื่อเข้า

วัยรุ่น เช่น เสียงแหลม มีหน้าอก เห็นสะโพก มีขนที่อวัยวะเพศ เป็นต้น โดยนักเรียนที่ใบ้ห้ามพูดใดๆทั้งส้ิน
แถวไหนตอบถกู กอ่ นกลมุ่ นน้ั ไดร้ บั คะแนน 1 คะแนน

3.3 ครูให้นักเรียนเปลี่ยนเวียนใบ้ลักษณะไปจนครบ เมื่อสรุปคะแนนกลุ่มใดที่ได้คะแนนสูงที่สุด
ไดร้ ับรางวลั จากครู
ขน้ั ที่ 3 : อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (5 นาท)ี

1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเน้อื หาจากกจิ กรรมเช่ือมโยงกบั เนื้อหาในบทเรียน
2. ครสู รปุ เนอื้ หาระบบสบื พันธุ์เพศชายให้นักเรียนฟงั
3. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนได้ซักถามขอ้ สงสยั เพ่ือสะท้อนความคดิ ของนักเรียน
ขน้ั ท่ี 4 : ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
1. ครูเปดิ คลิปวดี ีโอ เรอ่ื ง “แอนเิ มชนั ตอน การคมุ กำเนดิ ” ให้นกั เรยี นดู

(ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=kr1vS2MkS3c)
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภปิ รายและสรุปเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์
ขัน้ ท่ี 5 : ขัน้ ประเมิน (Evaluation) (5 นาที)
ครูประเมินผลการเรียนรูจ้ ากกิจกรรมตรวจสอบการเรยี นรู้ที่ 1.7, แบบประเมินพฤติกรรมการทำงาน
กลุม่ และแบบประเมนิ สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมินจากแผนการเรียนรู้ที่ 10

สอื่ อุปกรณก์ ารเรยี นรู้ และแหลง่ การเรยี นรู้
1) ส่ือ Power point เรอ่ื ง “ระบบสบื พนั ธุข์ องเพศหญงิ ”
2) หนังสอื วิชาวิทยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หน้า 34-36
3) อุปกรณต์ ่าง ๆ ได้แก่ บตั รคำลักษณะการเปลี่ยนแปลงของเพศหญิงเมื่อเข้าสู่วยั รุน่

4) คลิปวดิ โี อ เรื่อง “แอนเิ มชนั ตอน การคมุ กำเนดิ ”
(ท่ีมา: https://www.youtube.com/watch?v=kr1vS2MkS3c

การวัดและการประเมนิ วธิ ีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑใ์ ชป้ ระเมนิ
ประเด็นการประเมิน

ด้านความรู้ (K)

นกั เรียนสามารถระบอุ วัยวะและ ตรวจจากกจิ กรรม กจิ กรรมตรวจสอบการ รอ้ ยละ 60
บรรยายหนา้ ทีข่ องอวัยวะในระบบ ตรวจสอบการเรียนรทู้ ่ี เรยี นรทู้ ี่ 1.7 ขอ้ 1 และ 2 ผา่ นเกณฑ์
สบื พนั ธุข์ องเพศหญิงโดยใช้ 1.7
แบบจำลอง

ด้านทักษะ (P)

นกั เรียนสามารถอธบิ ายผลของ สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคุณภาพ
ฮอรโ์ มนเพศหญิงที่ควบคุมการ ทำงานกลุม่ ทำงานกลุ่มจากผสู้ อน พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เปลี่ยนแปลงของรา่ งกาย เมื่อเขา้ สู่
วยั สาว

ดา้ นคุณลักษณะ (A)

1) นกั เรยี นตระหนกั ถึงการ ตรวจจากกิจกรรม กิจกรรมตรวจสอบการ ระดบั คุณภาพ
เปลย่ี นแปลงของรา่ งกายเมอื่ เขา้ สู่ ตรวจสอบการเรียนรูท้ ่ี เรียนรูท้ ี่ 1.7 ข้อ 3 และ 4 พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
หนมุ่ สาว โดยการดูแลรกั ษาร่างกาย 1.7
และจติ ใจของตนเองในช่วงท่ีมีการ
เปล่ียนแปลง

2) นกั เรยี นมีความรับผิดชอบใน 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ
รายบุคคล พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ภาระงานที่ครูมอบหมาย และส่งงาน รายบคุ คล 2. แบบบันทึกการส่งงาน

ได้ในเวลาทีก่ ำหนด 2. กิจกรรมตรวจสอบ

การเรยี นรทู้ ่ี 1.7

เกณฑ์การประเมนิ ด้านความรู้ (K)

ประเด็นการประเมนิ 3 ระดบั คุณภาพ 0
21 นกั เรยี นไมส่ ามารถ
นักเรียนสามารถระบุ นกั เรยี นสามารถระบุ นกั เรยี นสามารถระบุ นกั เรยี นสามารถระบุ ระบุอวัยวะและ
อวยั วะและบรรยาย อวยั วะและบรรยาย บรรยายหนา้ ทขี่ อง
อวยั วะและบรรยาย อวยั วะและบรรยาย หน้าที่ของอวยั วะใน หนา้ ทีข่ องอวัยวะใน อวัยวะในระบบ
ระบบสืบพันธ์ขุ อง ระบบสบื พนั ธข์ุ อง สืบพนั ธุข์ องเพศหญิง
หนา้ ทขี่ องอวยั วะใน หนา้ ท่ขี องอวยั วะใน เพศหญิงโดยใช้ เพศหญงิ โดยใช้ โดยใช้แบบจำลอง ใน
แบบจำลอง ใน แบบจำลอง ใน กิจกรรมตรวจสอบ
ระบบสบื พันธข์ุ องเพศ ระบบสืบพนั ธ์ุของ กิจกรรมตรวจสอบ กจิ กรรมตรวจสอบ การเรยี นรทู้ ่ี 1.7
การเรียนรทู้ ่ี 1.7 ( 4- การเรยี นรทู้ ี่ 1.7 (1-
หญงิ โดยใช้ เพศหญงิ โดยใช้ 6 ขอ้ ) 3 ขอ้ )

แบบจำลอง แบบจำลอง ใน

(3 คะแนน) กจิ กรรมตรวจสอบ

การเรียนรู้ท่ี 1.7 (7-

9 ข้อ)

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

3 ดี

2 พอใช้

0 - 1 ปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นทักษะ (P)

ประเดน็ การประเมิน 3 ระดบั คณุ ภาพ 0
21

นักเรียนสามารถ ไดค้ ะแนนจากแบบ ได้คะแนนจากแบบ ได้คะแนนจากแบบ ไดค้ ะแนนจากแบบ

อธบิ ายผลของฮอร์โมน ประเมินการทำ ประเมนิ การทำ ประเมินการทำ ประเมินการทำ

เพศหญงิ ท่คี วบคุมการ กจิ กรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลุม่ 5-9 กจิ กรรมกลมุ่ 1-4 กจิ กรรมกล่มุ 0

เปลี่ยนแปลงของ 10-15 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

รา่ งกาย เมื่อเขา้ สู่วยั

สาว

(3 คะแนน)

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ
3 ดี
2
พอใช้
0-1 ปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ (A)

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คุณภาพ

3 21 0
นกั เรยี นไมต่ ระหนัก
1) นกั เรียนตระหนกั ถึง นกั เรยี นตระหนักถงึ นักเรยี นตระหนักถึง นกั เรยี นตระหนักถึง ถึงการเปลี่ยนแปลง
ของรา่ งกายเม่ือเข้าสู่
การเปลีย่ นแปลงของ การเปล่ียนแปลงของ การเปล่ียนแปลงของ การเปลี่ยนแปลงของ หนมุ่ สาว โดยการ
ดูแลรกั ษารา่ งกาย
รา่ งกายเม่ือเข้าสู่หนุ่ม ร่างกายเมื่อเขา้ สหู่ นุ่ม รา่ งกายเมื่อเขา้ สหู่ นุ่ม ร่างกายเม่ือเขา้ สหู่ นุ่ม และจิตใจของตนเอง
ในชว่ งท่มี ีการ
สาว โดยการดูแลรกั ษา สาว โดยการดแู ลรกั ษา สาว โดยการดแู ลรกั ษา สาว โดยการดแู ลรักษา เปล่ยี นแปลง ใน
กจิ กรรมตรวจสอบ
รา่ งกายและจติ ใจของ รา่ งกายและจติ ใจของ รา่ งกายและจิตใจของ รา่ งกายและจิตใจของ การเรียนร้ทู ่ี 1.7
สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด
ตนเองในชว่ งที่มีการ ตนเองในช่วงท่มี ีการ ตนเองในชว่ งท่ีมีการ ตนเองในชว่ งท่ีมีการ มากกวา่ 3 วนั หรือไม่
สง่
เปล่ียนแปลง เปล่ียนแปลง ใน เปลย่ี นแปลง ใน เปลี่ยนแปลง ใน

(3 คะแนน) กิจกรรมตรวจสอบการ กิจกรรมตรวจสอบการ กจิ กรรมตรวจสอบการ

เรียนร้ทู ่ี 1.7 (1.5-2 เรียนรทู้ ี่ 1.7 (1 ข้อ) เรียนรทู้ ่ี 1.7 (0.5 ข้อ)

ข้อ)

2) นักเรยี นมีความ ส่งงานตรงตามที่ สง่ งานชา้ กว่ากำหนด สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด 3
1-2 วนั วัน
รับผดิ ชอบในภาระงาน กำหนด (อาทิตย์ถัดไป)

ทค่ี รูมอบหมาย และส่ง

งานได้ในเวลาที่กำหนด

(3 คะแนน)

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คณุ ภาพ

4 - 6 ดี
2 - 3 พอใช้
0 - 1 ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 10

เรอื่ ง ระบบสืบพนั ธ์ุ ช้นั ม.2/ .

จำนวนนกั เรียนทม่ี าเรยี น.............................คน
จำนวนนกั เรยี นที่ไม่มาเรยี น.........................คน
1. ผลการสอน

1.1 ผลการจดั การเรยี นรู้ในห้อง
นกั เรียนรอ้ ยละ............จากคนท่ีมาเรยี นทงั้ หมด ใหค้ วามร่วมมอื ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดย
สามารถ.............................................................ได้

1.2 ผลการประเมนิ ตามแบบประเมนิ
-นกั เรยี นจำนวน......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............ มีผลการประเมนิ ด้าน K ในระดับ …….......
-นักเรยี นจำนวน......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ............. มผี ลการประเมินด้าน P ในระดับ ……......
-นักเรียนจำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.............. มีผลการประเมนิ ดา้ น A ในระดับ …….....

12.2 ปัญหาท่ีพบจากการสอนในคาบเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................................... .........................
.......................................................................................................... ................................................................... .
12.3 การแก้ไขปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
12.4 ผลการแก้ไข
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ............
12.5 ข้อเสนอแนะในการสอนคร้งั ถดั ไป
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................

ลงชื่อ.....................................................................
(นางสาวนุสรนิ ทร์ อ่นิ คำ) .
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู

ความคิดเห็นของผู้พเี่ ล้ียง

ได้ทำการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ว
21101) และมคี วามคิดเห็นดังน้ี

1. เป็นหน่วย/แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ดมี าก ดี พอใช้
2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอาทกั ษะกระบวนการเรียนรู้

ท่ีเนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญใช้ในการสอนอยา่ งเหมาะสม
ทย่ี งั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป
3. เป็นหน่วย/แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ นำไปใชใ้ นการสอนไดจ้ ริง

ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………….………….……………
.……….……………………………………………………………………………………………………………………….………….……………
…............................................................................................................................ ...............................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................... ....

ลงชอ่ื .........................................................

(นางพชั รา ภริ ะกนั ทา) .

ครูพเ่ี ลยี้ ง .

................../................./..................

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

ชื่อกลุ่ม……………………………………………….....
สมาชกิ ในกลุ่ม 1. ……………………………………………………………………………………………………….

2. ……………………………………………………………………………………………………….
3. ……………………………………………………………………………………………………….
4. ……………………………………………………………………………………………………….
5. ……………………………………………………………………………………………………….
6. ……………………………………………………………………………………………………….
7. ……………………………………………………………………………………………………….

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลา แลว้ ขดี / ลงในชอ่ งทต่ี รงกับ

ระดบั คะแนน

พฤติกรรมท่ีสังเกต ระดบั คุณภาพคะแนน

32 1

1. เรม่ิ ตน้ งานทีไ่ ด้รับมอบหมายทนั ที

2. ทำกิจกรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเต็มใจ

3. มีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมอยา่ งสม่ำเสมอ

4. มีเนื้อหาครบถ้วนสมบรู ณ์ และมคี วามถกู ตอ้ ง

5. ใชเ้ วลาในการทำงานตามเวลาที่กำหนด

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมที่ทำอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
คะแนน
พฤติกรรมทท่ี ำบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน

พฤติกรรมท่ที ำบางครั้ง ให้ 1

คุณภาพคะแนน = ดี
10 - 15 คะแนน = ปานกลาง
5 - 9 คะแนน = พอใช้
1 - 4 คะแนน

แบบประเมินผลคณุ ลกั ษณะ (A) ของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2/1
วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เร่อื ง ระบบสบื พนั ธ์ุ

พฤตกิ รรมท่ี ผลการ
แสดงออก ประมาณ

ลำดบั ช่ือ-สกุล ตะห ันก ึถงความสำคัญ ระดบั คุณภาพ
่สงงานได้ในเวลาที่กำหนด ผ่าน ไม่ผ่าน

รวม

3 36

1 เดก็ ชายเจษฎา อิ่นแกว้
2 เด็กชายณฐั พงศ์ สมนา
3 เด็กชายสิทธกิ ร ชัยอาจ
4 เด็กชายอชติ ะ เพช็ รมาศ
5 เดก็ หญิงนลิ าวลั ย์ ศิริรวง
6 เดก็ หญิงพัชรสดุ า บญุ ชยั อาจ
7 เดก็ ชายวรเชษฐ โพธนิ์ ิล
8 เด็กชายดลุ ยวัต บรรพตผล
9 เดก็ ชายนพดล คมสงู เนิน
10 เด็กชายบวรภคั เทียนหอม
11 เด็กหญิงวริ ากานต์ ธดิ าธนาพร
12 เดก็ หญิงลีลาวดี อาเซาะ
13 เดก็ ชายปัญญา แซ่หาญ
14 เดก็ หญงิ จารวุ รรณ สาธิตบุญ
15 เด็กชายพิทกั ษ์ เลายะ
16 เด็กหญงิ พรธดิ า ป่เู หลก็
17 เด็กหญิงสนุ ิสา บงกชผ่องอำไพ
18 เด็กชายปณั ณวิชญ์ ทองใส
19 เด็กชายไพศาล กากุล
20 เด็กชายภักดี แซ่ม้า

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
คะแนน 4-6 คะแนน อยใู่ นระดบั 3 หมายถึง ดี
คะแนน 2-3 คะแนน อยใู่ นระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0-1 คะแนน อยใู่ นระดบั 1 หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ

*หมายเหตุ คะแนนอย่ใู นระดับ 2 ข้ึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์

แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2/1
วิชาวิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน เร่ือง ระบบสบื พนั ธุ์

ลำดับ ชื่อ-สกุล ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะ รวม ผลการประเมนิ

1 เดก็ ชายเจษฎา อนิ่ แก้ว 33 6 12 ผา่ น ไมผ่ า่ น
2 เด็กชายณัฐพงศ์ สมนา
3 เดก็ ชายสทิ ธกิ ร ชัยอาจ
4 เดก็ ชายอชิตะ เพช็ รมาศ
5 เดก็ หญิงนลิ าวลั ย์ ศิรริ วง
6 เดก็ หญิงพชั รสดุ า บุญชัยอาจ
7 เดก็ ชายวรเชษฐ โพธนิ์ ลิ
8 เดก็ ชายดุลยวัต บรรพตผล
9 เดก็ ชายนพดล คมสูงเนนิ
10 เด็กชายบวรภัค เทียนหอม
11 เดก็ หญงิ วิรากานต์ ธดิ าธนาพร
12 เดก็ หญิงลีลาวดี อาเซาะ
13 เดก็ ชายปญั ญา แซ่หาญ
14 เด็กหญิงจารุวรรณ สาธิตบุญ
15 เด็กชายพทิ กั ษ์ เลายะ
16 เด็กหญงิ พรธดิ า ปู่เหลก็
17 เด็กหญิงสุนิสา บงกชผ่องอำไพ
18 เด็กชายปัณณวชิ ญ์ ทองใส
19 เดก็ ชายไพศาล กากุล
20 เดก็ ชายภกั ดี แซ่ม้า

**หมายเหตุ ผ่านเกณฑ์คะแนนรวมไม่ตำ่ กว่า 8 คะแนน
ผา่ น……………………..คน
ไม่ผา่ น………………….คน

แบบประเมนิ ผลคุณลักษณะ (A) ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2/2
วชิ าวิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน เรอ่ื ง ระบบสืบพนั ธุ์

พฤตกิ รรมท่ี ผลการ
แสดงออก ประมาณ

ลำดับ ชื่อ-สกุล ตะห ันก ึถงความสำคัญ ระดับคุณภาพ
่สงงานได้ในเวลาที่กำหนด ผา่ น ไม่ผ่าน

รวม

3 36

1 เด็กชายเจตษิพทั ธ์ เขตวงั
2 เดก็ ชายมนเุ ชษฐ์ บัวเย็น
3 เดก็ หญงิ ซาราห์ รุง่ อรุณฉาย
4 เด็กหญงิ ณฎั ฐณชิ า คำมลู
5 เดก็ หญิงพรทวิ า รัตนชุมภู
6 เดก็ ชายวนั ชนะ ทองใบ
7 เด็กชายจกั รนิ แซต่ ้ัง
8 เด็กชายชุมพร เตชะพนาลัย
9 เด็กชายธนิน ทรายโชติชลาลัย
10 เดก็ ชายวรโชติ สดุ สายเขียว
11 เด็กหญงิ วรนิ ทร ศรสี ำราญ
12 เดก็ ชายวิรัตน์พงษ์ ธดิ าชนาพร
13 เดก็ หญิงอายานี ศรีไสวบงกช
14 เดก็ ชายอสั ดงค์ แซ่ยา่ ง
15 เด็กหญงิ สนุ ิสา ชะสวุ รรณ์
16 เดก็ หญงิ ชนิดา มาแฮ
17 เดก็ ชายธนพัฒน์ คนหลวง
18 เดก็ หญิงณชิ า กิตตยิ งั กลุ
19 เด็กชายอดุ มศักด์ิ พงกาง
20 เด็กหญงิ เบญจวรรณ บวั ระวงค์

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
คะแนน 4-6 คะแนน อยใู่ นระดบั 3 หมายถึง ดี
คะแนน 2-3 คะแนน อยใู่ นระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0-1 คะแนน อยใู่ นระดบั 1 หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ

*หมายเหตุ คะแนนอย่ใู นระดับ 2 ข้ึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์

แบบประเมินผลการเรียนรขู้ องนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2/2
วชิ าวิทยาศาสตร์พน้ื ฐาน เร่ือง ระบบสบื พันธุ์

ลำดบั ชือ่ -สกุล ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ รวม ผลการประเมิน

1 เด็กชายเจตษิพทั ธ์ เขตวงั 33 6 12 ผา่ น ไม่ผ่าน
2 เดก็ ชายมนเุ ชษฐ์ บวั เย็น
3 เด็กหญงิ ซาราห์ รงุ่ อรณุ ฉาย
4 เด็กหญงิ ณัฎฐณิชา คำมูล
5 เดก็ หญิงพรทิวา รัตนชุมภู
6 เดก็ ชายวันชนะ ทองใบ
7 เดก็ ชายจกั รนิ แซ่ต้ัง
8 เดก็ ชายชมุ พร เตชะพนาลยั
9 เด็กชายธนนิ ทรายโชติชลาลยั
10 เด็กชายวรโชติ สุดสายเขยี ว
11 เดก็ หญิงวรนิ ทร ศรสี ำราญ
12 เด็กชายวิรัตน์พงษ์ ธิดาชนาพร
13 เด็กหญงิ อายานี ศรีไสวบงกช
14 เดก็ ชายอัสดงค์ แซ่ยา่ ง
15 เดก็ หญงิ สนุ สิ า ชะสวุ รรณ์
16 เด็กหญิงชนิดา มาแฮ
17 เด็กชายธนพฒั น์ คนหลวง
18 เดก็ หญงิ ณิชา กิตติยังกุล
19 เดก็ ชายอุดมศกั ด์ิ พงกาง
20 เดก็ หญงิ เบญจวรรณ บวั ระวงค์

**หมายเหตุ ผา่ นเกณฑค์ ะแนนรวมไมต่ ่ำกวา่ 8 คะแนน
ผ่าน……………………..คน
ไม่ผา่ น………………….คน

กจิ กรรมตรวจสอบการเรยี นรู้ท่ี 1.7

หน่วยที่ 1 ระบบตา่ ง ๆ ของมนษุ ย์ กจิ กรรมตรวจสอบการเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง ระบบสืบพนั ธุ์

อ้างองิ : หนังสือวิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หน้า 36
1. จงบอกชือ่ ส่วนประกอบและหนา้ ท่ีของอวยั วะสบื พันธ์ุของเพศชายและเพศหญิง

…ร…ะ…บ…บ…สืบ…พ…ัน…ธ…์เุ พ…ศ…ช…าย…………………………………………………………………………………………………………………………

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข …1…ก…ระ…เ…พ…าะ…ป…ัส…สา…ว…ะ………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…2…ท…่อ…ป…ัส…สา…ว…ะ……………………………

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…3…อ…งค…ช…า…ต……………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…4…ถ…ุง…หมุ้…อ…ณั …ฑ…ะ……………………………

………………ห…ม…า…ยเลข 5 อัณฑะ หมายเลข 6 หลอดเกบ็ ตวั อสุจิ

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…7…ท…่อ…น…ำ้ อ…ส…จุ …ิ ………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…8…ต…่อ…ม…สร…า้ …งน…ำ้ …เม…ือ…ก…(…ต่อ…ม…ค…า…วเ…ป…อร)์

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…9…ต…อ่ …มล…กู …ห…ม…าก………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…0…ต…่อ…มส…ร…า้ ง…น…้ำ…เล…้ีย…งอ…ส…จุ …ิ …………

…ร…ะ…บ…บ…สบื…พ…นั …ธ…เุ์ พ…ศ…ห…ญ…งิ ………………………………………………………………………………………………………………………

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…1 …ท…่อน…ำ…ไข…่ …………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…2…ร…ังไ…ข่……………………………………

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…3 …ม…ดล…ูก………………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…4…ก…ระ…เ…พา…ะ…ป…สั …สา…ว…ะ…………………

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…5 …ท…่อป…สั…ส…า…วะ………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…6…ช…่อง…ค…ล…อ…ด……………………………

………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…7 …ล…ำไ…สใ้…ห…ญ…่ ………………………………………ห…ม…า…ยเ…ล…ข…1…8…ป…าก…ม…ด…ล…กู ……………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. เซลลไ์ ข่สามารถมองเหน็ ด้วยตาเปลา่ หรือไม่ และถ้าเซลล์ไข่ไมไ่ ดร้ บั การผสมกับอสจุ ิจะมีผลตอ่ ร่างกาย

อย่างไร

………………เ…ซล…ล…์ไ…ข่ส…า…ม…าร…ถ…ม…อง…เ…ห็น…ไ…ด…้ด…้วย…ต…า…เป…ล…่า…เพ…ร…า…ะม…ีข…น…า…ด…0….2…ม…ิล…ล…ิเม…ต…ร…ซ…ึ่ง…ให…ญ…่ก…ว…่าอ…ส…ุจ…ิท…ี่ม…อง…ไ…ม่เ…ห็น
…ถ…า้ …เซ…ล…ล…์ไข…่ไ…ม่ไ…ด…้รบั…ก…า…รผ…ส…ม…ห…ล…ัง…จา…ก…น…ัน้ …ป…ระ…ม…าณ……1…ว…นั …ห…ร…ือ…2…4…ช…ัว่ …โม…ง…ก…จ็ …ะส…ล…า…ยไ…ป…เ…น…้ือ…เย…่ือ…ผน…ัง…ม…ด…ลูก…ด…้าน
…ใ…น…แ…ละ…ห…ล…อ…ดเ…ล…อื ด…ก…็จ…ะ…สล…า…ย…ตัว…อ…อ…ก…มา…ท…า…งช…่อ…งค…ล…อ…ด…เ…รยี …ก…วา่……ป…ระ…จ…ำเ…ด…ือน………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. นางปิ่นต้องการมีบุตร แต่มีปัญหาในเรื่องท่อนำไข่ตีบตัน ทำให้ไข่ไม่สามารถเดินทางมาผสมกับตัวอสุจิได้

นางปน่ิ ควรแกป้ ัญหาอย่างไร
………………น…า…งป…น่ิ …ต…้อ…งก…า…รม…บี …ุต…ร…แ…ต…่ม…ีปญั……หา…เ…รือ่ …ง…ท…่อน…น…ำ…ไข…่ต…ีบ…ต…ัน…ท…ำ…ให…ไ้ ข…ไ่ …ม…่สา…ม…าร…ถ…เด…ิน…ท…า…งม…า…ผ…สม…ก…ับ…อ…ส…ุจิได้

…ว…ิธ…ีแ…ก…้ป…ัญ…ห…า …ค…ือ…ใ…ช้ว…ิธ…ีผ…ส…มเ…ท…ีย…ม…โ…ดย…น…ำ…ไข…่จ…า…ก…รัง…ไข…่ม…า…ผ…ส…มก…ับ…เ…ซล…ล…์อ…ส…ุจ…ิภ…าย…น…อ…ก…ร่า…ง…ก…าย……เม…ื่อ…ป…ฏ…ิส…น…ธิได้

…เ…อ…ม็ …บร…ิโ…อแ…ล…้ว…จงึ…ฉ…ดี …เข…า้ ไ…ป…ท…าง…ช…อ่ …งค…ล…อ…ดข…อ…ง…ฝา่…ย…ห…ญ…งิ ……………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. จากการแก้ปญั หาของนางปิ่น เรียกวิธีการน้ันวา่ อย่างไร

………………จ…า…กก…า…รแ…ก…ป้ …ัญ…ห…า…ขอ…ง…น…าง…ป…น่ิ …เร…ยี …กว…ธิ …ีก…าร…น…วี้ ่า……เด…็ก…ห…ลอ…ด…แ…ก…้ว ……………………………………………………..

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 11 ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
เวลาท้งั หมด 21 ชัว่ โมง
รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 คาบ
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่ือง ระบบต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ผูส้ อน นางสาวนุสรนิ ทร์ อนิ่ คำ
แผนท่ี 11 เร่ือง ระบบสืบพันธุ์ (2)
สอนวันที่ 14,16 กรกฎาคม 2564

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออก

จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

ตวั ชว้ี ัด
ม.2/16 เลอื กวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกบั สถานการณ์ท่ีกำหนด
ม.2/17 ตระหนักถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์กอ่ นวยั อนั ควร โดยการประพฤตติ นให้เหมาะสม

สาระสำคัญ
การคุมกำเนิดเปน็ วิธีป้องกนั ไม่ให้เกดิ การตั้งครรภ์ โดยปอ้ งกนั ไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้มีการฝัง

ตัวของเอ็มบรโิ อ ซง่ึ มหี ลายวิธี เชน่ การใชถ้ ุงยางอนามยั การกนิ ยาคมุ กำเนดิ

สาระการเรยี นรู้
• ความหมายของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หมายถึง สถานการณ์การตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ ที่ไม่ได้มีการวางแผนให้

เกิดขึ้น การไม่มีความรู้ในเรื่องเพศศึกษา หรือเข้าใจเกี่ยวกับคุมกำเนิดผิดวิธี การถูกข่มขืนจนตัง้ ครรภ์ เป็นต้น
ซ่งึ เปน็ การต้ังครรภ์ก่อนวัยและคลอดบุตรในชว่ งอายุ 10 – 19 ปี

• สาเหตุของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
1. ปัจจัยด้านพันธุกรรม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศที่ส่งสภาพร่างกายและจิตใจของ

วัยรุ่น ทำให้มีความสนใจเพศตรงข้ามมากขึ้น ประกอบกับความใคร่รู้ใคร่ลองในเรื่องเพศทำให้เกิดการมี
เพศสัมพนั ธโ์ ดยไม่ต้งั ใจเกดิ ข้นึ

2. การขาดความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั เรื่องเพศในวัยร่นุ และไม่รู้จักการปฏิเสธเม่ือถกู ขอมีเพศสัมพันธ์
ประกอบกบั ค่านิยมผดิ ๆ คิดว่าเรือ่ งการมีเพศสมั พันธเ์ ป็นเร่อื งธรรมชาติ

3. ความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว เนื่องจากวัยรุ่นขาดการดูแลเอาใจใส่และขาดความอบอุ่นจาก
พ่อแม่หรือคนในครอบครัว ทำให้วัยรุ่นขาดสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจและทำตามคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมของ
เพือ่ นหรือคนรกั

4. สภาพแวดลอ้ มที่เอ้อื อำนวยต่อการมีเพศสัมพันธ์ เช่น อยูใ่ นชมุ ชนเดียวกันกบั ผทู้ มี่ ีเพศสัมพันธ์ก่อน
วัยอันควร มีการเสพยาเสพติด ดื่มเครื่องด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ที่ทำให้ขาดสติได้ง่าย และอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
ระหวา่ งชายหญงิ ในทล่ี ับตาคน

5. การเลียนแบบพฤติกรรมตามกระแสตะวันตกในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ โดยได้รับอิทธิพลจากส่ือ
สามกตา่ ง ๆ และขาดการอบรมกล่อมเกลาจิตใจจากบุคคลในครอบครัว

6. ละเลยการคุมกำเนดิ หรอื ขาดความรดู้ า้ นการคุมกำเนดิ ท่ีถกู ต้อง

• ผลกระทบจากการต้งั ครรภ์กอ่ นวยั อนั ควร
1. ผลต่อสขุ ภาพร่างกาย
- วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์อาจละเลยการฝากครรภ์ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะ

โลหิตจาง และภาวะครรภเ์ ป็นพิษซ่ึงหากมีอาการแทรกซ้อนรนุ แรงอาจสง่ ผลใหม้ ารดาและบุตรเสยี ชีวติ ได้
- การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐาน

หรือเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพของทารก เช่น ร่างกายและสมองเจริญเติบโตผิดปกติ ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
ทำงานผดิ ปกติ ทำใหเ้ กิดโรคเบาหวานและโรคหวั ใจ

2. ผลต่อสุขภาพจิต เกิดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าหลังคลอดจากความเครียด ความรู้สึกหดหู่และ
โดดเดี่ยวระหวา่ งต้ังครรภห์ รอื หลังคลอด เน่อื งจากการต้งั ครรภ์ในวยั รนุ่ มีผลกระทบต่อการเรยี นทำใหอ้ าจไม่ได้
เรยี นตอ่ ครอบครัวไมย่ อมรับ ไมม่ ีรายได้เล้ียงดบู ตุ ร ส่งผลกระทบต่ออนาคตของวัยรุ่นและบุตรในระยะยาว

• การป้องกันปัญหาการตง้ั ครรภ์กอ่ นวัยอนั ควร
1. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากเกิดจากการถูกข่มขืนกระทำชำเราหรือใช้กำลัง

ขม่ ขู่บบี บงั คับ ควรแจ้งตำรวจและครอบครวั ผู้ใกล้ชดิ หรอื ใชบ้ รกิ ารปรกึ ษาทางโทรศพั ท์ของหน่วยงานในสังกัด
กรมสุขภาพจิต หมายเลข 0323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสายด่วนเรื่องเพศภาคีเครือข่ายของ สสส. หมายเลข
0663

2. การคมุ กำเนิดที่ถูกต้อง ช่วยปอ้ งกันการตั้งครรภ์ได้ ปจั จบุ ันมีการคุมกำเนดิ หลากหลาย เชน่ การใช้
ถุงยางอนามยั การรับประทานยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด การฝงั ยาคมุ กำเนิด การใช้แผน่ แปะคุมกำเนิด
หรือการใช้ห่วงอนามัย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน จึงควรศึกษาวิธีการคุมกำเนิดและปรึกษา
แพทย์หรือพยาบาลผมู้ คี วามรู้ดา้ นการคุมกำเนดิ

3. ครอบครวั ใหค้ วามอบอนุ่ การอบรมเล้ียงดูใหเ้ พศชายมคี วามเปน็ สุภาพบรุ ุษ ไมล่ ่วงเกินเพศตรงข้าม
เมอื่ ยงั ไมพ่ ร้อม ไมส่ ามารถเลยี้ งดู และรับผิดชอบครอบครวั ได้ วัยรนุ่ หญงิ ควรมคี วามรักนวลสงวนตวั ไม่ใจอ่อน

ยนิ ยอมให้มเี พศสัมพันธ์เมื่ออยู่ในวัยเรียน โดยยดึ หลกั ทางศาสนาและไม่ด่ืมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ หรือสารเสพ
ตดิ ซงึ่ ทำให้ขาดสตไิ ดง้ า่ ย

4. ทำกิจกรรมท่ีช่วยให้จิตใจแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง โดยไม่หมกมุ่นในเรื่องเพศ เช่น การออกกำลัง
กาย การเลน่ ดนตรี หรือกจิ กรรมต่าง ๆ ที่สนใจ

5. รณรงคแ์ ละให้ความรเู้ ยาวชนในการปฏบิ ตั ิตนให้ถูกตอ้ ง เพอื่ ป้องกนั การตงั้ ครรภ์กอ่ นวยั อนั ควร

• ความหมายการคุมกำเนิด
การคุมกำเนิด (birth control) หมายถึง เทคนิคหรือวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น โดย

ป้องกันไม่ให้เซลล์อสุจิของเพศชายมีโอกาสผสมกับเซลล์ไข่ของเพศหญิง หรือป้องกันการตกไข่และการฝังตัว
ของเอ็มบรโิ อ การคมุ กำเนิดแบ่งออกเปน็ 2 วิธี คอื การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวและการคมุ กำเนดิ แบบถาวร

1. การคมุ กำเนิดแบบชวั่ คราว
1.1 วิธีธรรมชาติ เป็นวิธีหาระยะที่ปลอดภัยในรอบประจำเดือน โดยการมีเพศสัมพันธ์เฉพาะใน

ชว่ งเวลาของรอบเดือนที่เซลลไ์ ข่และเซลล์อสุจิไม่มีโอกาสปปฏิสนธิได้ ซึง่ มี 2 ชว่ ง ได้แก่ ระยะเวลา 7 วันก่อน
มีประจำเดอื น และนับจากวนั แรกท่ีมปี ระจำเดือนไปอกี 7 วนั

1.2 การคมุ กำเนิดโดยใช้อปุ กรณ์
- ในเพศชายใช้ถุงยางอนามัย (condom) เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์อสุจิเข้าไปในชอ่ งคลอด และ

ชว่ ยปอ้ งกันโรคท่ีเกิดจากการมเี พศสมั พันธ์ เชน่ โรคเอดส์ โรคหนองใน โรคซฟิ ิลสิ
- ในเพศหญิงใช้ห่วงคุมกำเนิด (intrauterine device : IUD) เพื่อป้องกันไม่ให้เอ็มบริโอไปฝัง

ตวั ทผ่ี นงั มดลูก โดยแพทยจ์ ะเปน็ ผใู้ ส่เขา้ ไปในมดลูก
1.3 การคุมกำเนิดโดยใชส้ ารเคมหี รอื ฮอร์โมน ใชก้ บั เพศหญงิ โดยการรบั ประทานยาคุมกำเนิด การ

ฉีด หรือฝังใต้ผิวหนัง และแผ่นแปะคุมกำเนิด ซึ่งยาคุมกำเนิดจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิงที่จะ
ยับยัง้ ไม่ให้มีการตกไข่หรือทำให้สภาพของผนังมดลูกไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของเอ็มบรโิ อ

2. การคุมกำเนิดแบบถาวร เป็นวิธีการป้องกันการต้ังครรภ์ที่เหมาะสำหรับผู้ท่ีไม่ตอ้ งการจะมีบุตรอีก
เปน็ วธิ กี ารปอ้ งกนั การตั้งครรภ์จากการมีเพศสมั พันธ์ที่ให้ผลดีทีส่ ดุ ทำได้โดยการผา่ ตดั ทำหมนั

- ในเพศชาย แพทย์จะผูกและตัดหลอดนำอสุจิให้แยกจากกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์อสุจิเข้าผสม
กับเซลลไ์ ข่

- ในเพศหญิง แพทย์จะผูกและตัดหลอดนำอสุจิท่อนำไข่แต่ละข้างเพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์ไข่
เคลอื่ นท่ไี ปตามทอ่ นำไข่ จึงทำให้เซลล์อสุจิไมส่ ามารถเขา้ ผสมกบั เซลลไ์ ขไ่ ด้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนสามารถเลอื กวธิ ีการคมุ กำเนดิ ทีเ่ หมาะสมกับสถานการณท์ ี่กำหนด
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นักเรียนสามารถแก้ไขสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ได้อย่างเหมาะสม

ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
1) นักเรียนตระหนักถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยการประพฤติตนให้

เหมาะสม
2) นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบในภาระงานท่คี รมู อบหมาย และสง่ งานได้ในเวลาทก่ี ำหนด

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการสื่อสาร
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันตง้ั ใจทำงานด้วยความเพยี รพยายาม
4. มีจิตสาธารณะ

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 : ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) (10 นาที)

1. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรยี นด้วยเกม จบั ค่คู ำกับรปู ภาพ เชน่ คำวา่ ถุงยางอนามัยคู่กับรูปถุงยางอนามัย โดย
ครูให้นักเรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน มีรูปภาพและคำให้นักเรียนบนกระดานจำนวน 10 คู่
จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำคำและรูปภาพมาจับคู่กันบนกระดานให้ครบถ้วน สมบูรณ์ กลุ่มใดท่ีใช้เวลา
นอ้ ยที่สดุ กลมุ่ นนั้ เป็นผูช้ นะ

2. ครูใช้คำถามถามนักเรียนว่า “จากรูปภาพและคำที่นักเรียนจับคู่ คิดว่าวันน้ีเราจะมาเรียนเรื่อง
อะไร” (แนวคำตอบ : การต้งั ครรภก์ ่อนวัยอนั ควรและการคุมกำเนดิ )
ขนั้ ที่ 2 : ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) (80 นาท)ี

1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง “การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรและการคุมกำเนดิ ” แก่นักเรียน โดยใช้สื่อ
Power point และหนังสือวิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0) หนา้ 37-41

2. ครูเปดิ คลปิ วิดีโอ เร่ือง
2. ครูใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม โดยมีขั้นตอนดังต่อไปน้ี

3.1 ครใู ห้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ตามแถวท่นี ง่ั ในหอ้ งเรยี น จากนั้นครูอธบิ ายขั้นตอนการทำกิจกรรม
3.2 ครใู ห้นักเรียนส่งตวั แทนออกมาแถวละ 1 คน เพ่ือรบั โจทยส์ ถานการณส์ มมติจากครู

- ด.ญ.ไก่ ตอ้ งไปรว่ มงานสงั สรรคใ์ นกลมุ่ เพ่อื นผู้ชาย
- ด.ช.เดย์ ไปทำงานบา้ นแฟน โดยพอ่ แมฝ่ ่ายหญิงไมอ่ ยบู่ ้าน

- ด.ญ. ไข่ โดนแฟนขอมเี พศสัมพันธด์ ้วย อา้ งวา่ หากรักตอ้ งยอม
ท้งั 3 สถานการณ์น้ีนักเรียนควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไรเพื่อจะไม่ใหเ้ กิดการตัง้ ครรภ์ก่อนวยั อันควร
3.3 ครูให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ถึงแนวทางการป้องกันหรือข้อควรปฏิบัติต่อ
สถานการณส์ มมตนิ ี้
ข้ันที่ 3 : อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (20 นาที)
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายเนือ้ หาจากกิจกรรมเช่อื มโยงกบั เนื้อหาในบทเรียน
2. ครูสรุปเน้ือหาการตัง้ ครรภ์ก่อนวัยอันควรใหน้ กั เรยี นฟงั
3. ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรียนได้ซักถามขอ้ สงสยั เพ่อื สะทอ้ นความคดิ ของนักเรียน
ขั้นที่ 4 : ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) (30 นาที)
1. ครูเปิดคลิปวีดีโอ เรื่อง “โครงการหนังสั้นลดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เรื่อง "ตุ๊กตา " Short
Movie Full” ให้นักเรียนดู
(ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=uko9F_VyCiU)
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายและสรปุ เก่ยี วกับลดการต้ังครรภ์ก่อนวัยอนั ควร
ขน้ั ที่ 5 : ข้ันประเมิน (Evaluation) (10 นาที)
ครูประเมินผลการเรยี นรู้จากกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 1.8, แบบประเมินพฤติกรรมการทำงาน
กล่มุ และแบบประเมินสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ จากแผนการเรียนรู้ที่ 11

ส่อื อปุ กรณก์ ารเรยี นรู้ และแหลง่ การเรยี นรู้
1) สอื่ Power point เร่อื ง “การตง้ั ครรภก์ อ่ นวยั อันควรและการคุมกำเนดิ ”
2) หนงั สือวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ม.2 (MAC 4.0)
3) คลิปวดิ ีโอ “โครงการหนังส้นั ลดการตง้ั ครรภ์กอ่ นวยั อันควร เรอื่ ง "ตกุ๊ ตา " Short Movie Full”
(ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=uko9F_VyCiU)
4) กจิ กรรมตรวจสอบการเรียนรู้ท่ี 1.8

การวดั และการประเมิน วธิ กี ารวัด เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์ใช้ประเมิน
ประเดน็ การประเมนิ
ระดบั คุณภาพ
ดา้ นความรู้ (K) พอใช้ ผ่านเกณฑ์

นกั เรยี นสามารถเลือกวธิ กี าร ตรวจจากกิจกรรม กจิ กรรมตรวจสอบการ

คุมกำเนิดทเี่ หมาะสมกบั สถานการณ์ ตรวจสอบการเรียนรู้ท่ี เรียนรู้ท่ี 1.8 (ขอ้ 3-5)

ท่กี ำหนด 1.8

ดา้ นทกั ษะ (P)

นกั เรียนสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่ สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ
พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
กำหนดใหไ้ ด้อย่างเหมาะสม ทำงานกลุ่ม ทำงานกล่มุ จากผ้สู อน
ระดับคุณภาพ
ด้านคุณลักษณะ (A) พอใช้ ผ่านเกณฑ์

1) นกั เรยี นตระหนักถึงผลกระทบ ตรวจจากกจิ กรรม กจิ กรรมตรวจสอบการ ระดับคุณภาพ
พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ของการตงั้ ครรภ์ก่อนวัยอันควร โดย ตรวจสอบการเรียนรู้ที่ เรียนรู้ท่ี 1.8 (ข้อ 1-2)

การประพฤตติ นให้เหมาะสม 1.8

2) นกั เรยี นมีความรับผิดชอบใน 1. สงั เกตพฤติกรรม 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
รายบคุ คล
ภาระงานทค่ี รูมอบหมาย และส่งงาน รายบคุ คล 2. แบบบันทกึ การส่งงาน

ไดใ้ นเวลาทก่ี ำหนด 2. กจิ กรรมตรวจสอบ

การเรียนรู้ท่ี 1.8

เกณฑ์การประเมนิ ด้านความรู้ (K)

ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคณุ ภาพ 0
21

นักเรียนสามารถเลือก นกั เรยี นสามารถ นกั เรียนสามารถ นกั เรยี นสามารถ นักเรียนสามารถ

วธิ ีการคุมกำเนดิ ที่ เลอื กวธิ ีการ เลอื กวธิ ีการ เลอื กวธิ ีการ เลือกวธิ ีการคุมกำเนิด

เหมาะสมกับ คมุ กำเนิดท่ีเหมาะสม คมุ กำเนิดทเี่ หมาะสม คมุ กำเนิดทีเ่ หมาะสม ที่เหมาะสมกับ

สถานการณ์ท่ีกำหนด กบั สถานการณท์ ่ี กับสถานการณ์ที่ กบั สถานการณ์ที่ สถานการณ์ที่กำหนด

(3 คะแนน) กำหนดในกจิ กรรม กำหนดในกิจกรรม กำหนดในกจิ กรรม ในกิจกรรมตรวจสอบ

ตรวจสอบการเรยี นรู้ ตรวจสอบการเรยี นรู้ ตรวจสอบการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ท่ี 1.8 ได้

ที่ 1.8 ได้ทง้ั 3 ขอ้ ท่ี 1.8 ได้ 2 ข้อ ท่ี 1.8 ได้ 1 ข้อ

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

3 ดี

2 พอใช้

0 - 1 ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การประเมินด้านทกั ษะ (P)

ประเด็นการประเมิน 3 ระดับคณุ ภาพ 0
21

นกั เรียนสามารถแก้ไข ได้คะแนนจากแบบ ได้คะแนนจากแบบ ไดค้ ะแนนจากแบบ ไดค้ ะแนนจากแบบ

สถานการณ์ท่ี ประเมนิ การทำ ประเมินการทำ ประเมินการทำ ประเมนิ การทำ

กำหนดใหไ้ ดอ้ ย่าง กิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลมุ่ 5-9 กจิ กรรมกลมุ่ 1-4 กจิ กรรมกล่มุ 0

เหมาะสม 10-15 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน

(3 คะแนน)

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คณุ ภาพ

3 ดี
2 พอใช้
0 - 1 ปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมินดา้ นความรู้ (A)

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ

1) นกั เรียนตระหนักถึง 3 21 0
ผลกระทบของการ นกั เรียนไมต่ ระหนกั
ตงั้ ครรภ์กอ่ นวัยอนั ควร นกั เรียนตระหนักถึง นกั เรียนตระหนักถึง ถึงผลกระทบของการ
โดยการประพฤตติ นให้ ตัง้ ครรภ์ก่อนวัยอนั
เหมาะสม ผลกระทบของการ ผลกระทบของการ ควร โดยการ
(2 คะแนน) ประพฤติตนให้
ต้ังครรภก์ ่อนวัยอัน ตัง้ ครรภก์ ่อนวยั อนั เหมาะสมในกจิ กรรม
ตรวจสอบการเรียนรู้
ควร โดยการ ควร โดยการ ท่ี 1.8 ได้

ประพฤตติ นให้ ประพฤตติ นให้

เหมาะสมในกิจกรรม เหมาะสมในกิจกรรม

ตรวจสอบการเรยี นรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้

ที่ 1.8 ได้ทงั้ 2 ขอ้ ท่ี 1.8 ได้ 1 ข้อ

2) นกั เรียนมีความ ส่งงานตรงตามท่ี สง่ งานช้ากวา่ กำหนด ส่งงานช้ากวา่ กำหนด ส่งงานชา้ กว่ากำหนด
รับผิดชอบในภาระงาน กำหนด (อาทติ ย์
ทีค่ รูมอบหมาย และสง่ ถัดไป) 1-2 วัน 3 วัน มากกวา่ 3 วนั หรอื ไม่
งานไดใ้ นเวลาที่กำหนด
(3 คะแนน) ส่ง

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
4-5 ดี
2-3
0-1 พอใช้
ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11

เรือ่ ง ระบบสืบพันธุ์ (2) ชั้น ม.2/1 .

ผลการประเมนิ ตามแบบประเมนิ
-นักเรียนจำนวน......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............ มีผลการประเมนิ ดา้ น K ในระดับ …….......
-นักเรยี นจำนวน......... คน คิดเป็นร้อยละ............. มีผลการประเมินด้าน P ในระดบั ……......
-นกั เรยี นจำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ.............. มผี ลการประเมินด้าน A ในระดับ …….....

ปญั หาที่พบจากการสอนในคาบเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
.............................................................................................................. ................................................................
การแก้ไขปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ผลการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะในการสอนคร้ังถัดไป
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ .....................................................................
(นางสาวนสุ รินทร์ อน่ิ คำ) .

นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11

เรือ่ ง ระบบสืบพันธุ์ (2) ชั้น ม.2/2 .

ผลการประเมนิ ตามแบบประเมนิ
-นักเรียนจำนวน......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............ มีผลการประเมนิ ดา้ น K ในระดับ …….......
-นักเรยี นจำนวน......... คน คิดเป็นร้อยละ............. มีผลการประเมินด้าน P ในระดบั ……......
-นกั เรยี นจำนวน..........คน คิดเป็นร้อยละ.............. มผี ลการประเมินด้าน A ในระดับ …….....

ปญั หาที่พบจากการสอนในคาบเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
.............................................................................................................. ................................................................
การแก้ไขปัญหาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ผลการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะในการสอนคร้ังถัดไป
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ .....................................................................
(นางสาวนสุ รินทร์ อน่ิ คำ) .

นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู


Click to View FlipBook Version