The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนภาคเรียนที่2ปีการศึกษา2559

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chatreewr chatreewr, 2019-11-15 17:50:24

แผนการสอนภาคเรียนที่2ปีการศึกษา2559

แผนการสอนภาคเรียนที่2ปีการศึกษา2559

6

แบบบนั ทึกการวเิ คราะห์กจิ กรรมการจัดการเรียนรตู้ ามตวั ชวี้ ดั

สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์

วชิ าฟิสิกส์ 2 รหัสวชิ า ว 30202 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

ตวั ชี้วัด นกั เรียนทาอะไรได้ นกั เรยี นรูอ้ ะไร แนวการ แนวการวดั และ
ประเมินผล
6. อธบิ ายการชน จดั การเรียนรู้
ของวัตถุ กฎการ 1.แบบทดสอบก่อน
อนุรกั ษ์โมเมนตัม การชนกนั ของวตั ถุ จะมี ตงั้ คาถาม 1.การอธบิ ายพร้อม เรยี น
และวเิ คราะห์การชน ผลทาใหส้ ภาพการ ตง้ั สมมตฐิ าน และ แสดงวธิ ที าประกอบ 2.แบบทดสอบหลัง
กันของวัตถุ เคลื่อนทขี่ องวตั ถุ เรียน
เปล่ียนไป เปน็ ผลให้แต่ คานวณเกยี่ วกับการ ตัวอยา่ ง 3.การประเมนิ จาก
ละวัตถนุ ั้นมีการ ชนของวัตถุ กฎการ 2.ใบงาน สภาพการจดั การ
เปลยี่ นแปลงโมเมนตมั อนรุ กั ษ์โมเมนตัม 3.แบบฝกึ ทักษะ เรียนการสอนจรงิ
โดยใช้แบบวดั
เกดิ ข้ึน แต่เมือ่ คดิ ตาม และวเิ คราะห์การชน 4.ใบความรู้ พฤติกรรมนกั เรยี น
กฎการเคลอื่ นที่ขอ้ ท่ี 2 กันของวัตถุ 5.ใบกิจกรรม

และ 3 ของนิวตัน

ปรากฏวา่ เม่ือคิดทั้ง

ระบบท่ีมีการชนกนั

เกิดขน้ึ โมเมนตัมรวม

ของระบบก่อนชนจะ

เทา่ กบั โมเมนตัมรวม

ของระบบหลงั ชน ( กฎ

การอนรุ ักษโ์ มเมนตมั )

และสิ่งที่เกดิ ข้นึ ขณะ

วตั ถชุ นกนั จะทาใหเ้ กิด

การถ่ายทอดพลงั งาน

ใหแ้ กก่ ัน ผลคอื การ

เปล่ียนแปลงท่เี กดิ

ขึ้นกบั วตั ถุนัน้ ๆ และ

เมือ่ คิดพลงั งานรวมของ

ระบบ จะแยกไดเ้ ปน็ 2

กรณี คอื 1) พลังงาน

จลน์รวมของระบบไม่

เปลี่ยน เรียกการชนนนั้

วา่ เปน็ การชนกันแบบ

ยดื หย่นุ 2) พลังงาน

จลนร์ วมของระบบ

เปลี่ยนไป เรยี กการชน

น้นั ว่า เป็นการชนแบบ

ไมย่ ืดหยนุ่

7

แบบบันทึกการวเิ คราะห์กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามตัวชวี้ ดั

สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์

วิชาฟิสกิ ส์ 2 รหสั วชิ า ว 30202 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4

ตัวช้ีวัด นกั เรียนทาอะไรได้ นกั เรยี นร้อู ะไร แนวการ แนวการวดั และ
ประเมนิ ผล
7. อธิบายการ จัดการเรยี นรู้
เคล่ือนทแี่ บบหมุน 1.แบบทดสอบกอ่ น
และความสมั พันธ์ เม่อื มีแรงกระทาต่อ ต้ังคาถาม 1.การอธบิ ายพร้อม เรยี น
ของปริมาณท่ี 2.แบบทดสอบหลัง
เกยี่ วข้องกบั การ วัตถุแล้วแนวแรงที่ ตง้ั สมมตฐิ าน และ แสดงวธิ ีทาประกอบ เรยี น
หมนุ 3.การประเมนิ จาก
กระทานัน้ ไม่ผ่านจุด คานวณเกีย่ วกับการ ตัวอยา่ ง สภาพการจดั การ
เรียนการสอนจรงิ
ศนู ย์กลางมวล ผลจะ เคลอ่ื นทแี่ บบหมุน 2.ใบงาน โดยใช้แบบวดั
พฤติกรรมนักเรียน
ทาให้วตั ถุน้นั เกิดการ และความสมั พันธ์ 3.แบบฝกึ ทักษะ

เคลอื่ นที่แบบหมนุ ของปริมาณที่ 4.ใบความรู้

โดยจะมีอัตราเรว็ เก่ียวข้องกับการ 5.ใบกจิ กรรม

ของการหมุน ท่ี หมุน

เรยี กว่า อัตราเรว็

เชงิ มมุ และความเรว็

เชิงมมุ เกดิ ขนึ้ ขณะ

ความเรว็ เชงิ มุมของ

การหมนุ เปล่ยี นไป

แสดงว่ามีความเรง่

เชงิ มมุ เกดิ ขนึ้ ดว้ ย

8

แบบบันทึกการวเิ คราะห์กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ตามตัวช้วี ัด

สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์

วิชาฟิสิกส์ 2 รหัสวิชา ว 30202 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4

ตัวชี้วัด นกั เรยี นทาอะไรได้ นกั เรยี นรอู้ ะไร แนวการ แนวการวดั และ
ประเมินผล
8. อธบิ ายทอร์ก จดั การเรยี นรู้
โมเมนต์ความเฉื่อย 1.แบบทดสอบกอ่ น
และความสมั พนั ธ์ วตั ถจุ ะเกดิ การ ต้ังคาถาม 1.การอธิบายพร้อม เรยี น
ระหวา่ งทอร์กกับ 2.แบบทดสอบหลัง
โมเมนตค์ วามเฉื่อย เคล่อื นทแ่ี บบหมุนได้ ตง้ั สมมตฐิ าน และ แสดงวิธีทาประกอบ เรยี น
3.การประเมินจาก
นน้ั จะตอ้ งมแี รงมา คานวณเกยี่ วกบั ตัวอยา่ ง สภาพการจดั การ
เรยี นการสอนจริง
กระทาและแนวแรง ทอรก์ โมเมนต์ความ 2.ใบงาน โดยใช้แบบวัด
พฤติกรรมนักเรียน
จะตอ้ งมรี ะยะห่าง เฉ่อื ย และ 3.แบบฝกึ ทกั ษะ

จากจดุ ศนู ยก์ ลาง ความสมั พนั ธ์ 4.ใบความรู้

มวลหรอื จดุ หมนุ ระหว่างทอร์กกบั 5.ใบกจิ กรรม

วัตถุนัน้ ก็จะมีสภาพ โมเมนตค์ วามเฉื่อย

การเคลอ่ื นทีแ่ บบ

หมนุ ขนึ้ เราเรียก

สภาพน้ีวา่ โมเมนต์

ของแรง หรอื ทอร์ก

โดยจะเปน็ ปรมิ าณ

เวกเตอร์ หาขนาดได้

จากผลคูณของแรง

กบั ระยะห่างจาก

แนวแรวถงึ จดุ หมนุ

ในระยะตัง้ ฉากซ่งึ กัน

และกนั นอกจากนี้

เราจะสามารถจะทา

ให้วัตถเุ กิดการ

เปล่ยี นสภาพจากอยู่

นง่ิ และหมนุ อยู่แล้ว

ใหม้ กี ารหมนุ ที่

เปลยี่ นไป เราจะต้อง

พิจารณาถึง มวลของ

วตั ถุและตาแหน่งที่

กระทาต่อวตั ถุ โดย

ปรมิ าณทีเ่ ก่ยี วข้อง

ท้ังมวลและตาแหนง่

ท่กี ระทาน้เี รยี กวา่

โมเมนตข์ องความ

เฉ่ือย หรือสภาพตา้ น

การหมุนของวตั ถุ มี

หน่วยเป็น กโิ ลกรมั .

(เมตร)2

9

แบบบันทึกการวิเคราะหก์ ิจกรรมการจดั การเรยี นรูต้ ามตวั ชวี้ ัด

สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

วิชาฟิสกิ ส์ 2 รหสั วชิ า ว 30202 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4

ตัวชีว้ ัด นักเรียนทาอะไรได้ นกั เรยี นรู้อะไร แนวการ แนวการวัดและ
ประเมินผล
9. อธบิ ายโมเมนตัม จัดการเรียนรู้
เชิงมุม และกฎการ 1.แบบทดสอบกอ่ น
อนรุ กั ษโ์ มเมนตมั ขณะท่ีวัตถมุ ีการกลงิ้ ต้งั คาถาม 1.การอธบิ ายพร้อม เรยี น
เชิงมมุ 2.แบบทดสอบหลัง
แสดงวา่ วตั ถุน้ัน ตง้ั สมมตฐิ าน และ แสดงวิธีทาประกอบ เรยี น
3.การประเมนิ จาก
นอกจากจะมีการ คานวณเกย่ี วกับ ตัวอยา่ ง สภาพการจดั การ
เรียนการสอนจรงิ
เคล่อื นท่ีเชงิ เสน้ แล้ว โมเมนตัมเชิงมุม 2.ใบงาน โดยใช้แบบวดั
พฤติกรรมนักเรียน
ยังมกี ารเคลื่อนที่ และกฎการอนรุ กั ษ์ 3.แบบฝกึ ทกั ษะ

แบบหมุนดว้ ย ดังนัน้ โมเมนตมั เชงิ มมุ 4.ใบความรู้

พลังงานจลนข์ อง 5.ใบกจิ กรรม

วตั ถุที่เกิดจากการ

กลง้ิ จะต้องมที ้ัง

พลงั งานจลน์ของ

การเคลอ่ื นที่เชิงเส้น

และพลงั งจลน์ของ

การหมนุ ด้วย และ

พลงั งานจลน์ของ

การหมนุ นี้ จะข้นึ อยู่

กบั โมเมนต์ของความ

เฉ่อื ยและอตั ราเร็ว

เชิงมมุ ขณะน้นั โม

เมนตัมเชงิ มุม เป็น

ปริมาณเวกเตอร์ ท่ี

บอกให้ทราบสภาพ

การหมนุ ของวัตถุ

โดยขึ้นอยกู่ ับ

โมเมนต์ของความ

เฉื่อยและความเร็ว

เชิงมุมของวตั ถนุ น้ั

โมเมนตมั ของเชงิ มุม

ของวัตถนุ ้นั จะ

เปล่ยี นไปเมื่อมที อรก์

ท่ไี มเ่ ป็นศูนยม์ า

กระทาตอ่ วัตถุ และ

ถ้าโมเมนตัมเชงิ มมุ

ของวัตถุทง้ั ระบบ

คงท่แี สดงวา่ มีทอร์ก

ท่เี ปน็ ศูนยม์ ากระทา

ต่อวัตถุ

10

แบบบันทึกการวเิ คราะห์กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ตามตัวช้วี ดั

สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

วิชาฟิสกิ ส์ 2 รหสั วิชา ว 30202 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

ตวั ชี้วัด นกั เรียนทาอะไรได้ นักเรียนรู้อะไร แนวการ แนวการวดั และ
ประเมนิ ผล
10. อธบิ ายพลังงาน จดั การเรยี นรู้
จลน์ของการหมุน 1.แบบทดสอบกอ่ น
ของวัตถุทีม่ ีการ การทวี่ ตั ถสุ ามารถ ตัง้ คาถาม 1.การอธิบายพร้อม เรียน
เคลือ่ นที่แบบหมุน 2.แบบทดสอบหลัง
รกั ษาสภาพเดิมอยู่ ตง้ั สมมติฐาน และ แสดงวิธีทาประกอบ เรียน
3.การประเมินจาก
ได้โดยไม่มีการ คานวณเก่ยี วกบั ตัวอย่าง สภาพการจัดการ
เรียนการสอนจริง
เปลีย่ นแปลงเรยี กวา่ พลงั งานจลน์ของ 2.ใบงาน โดยใช้แบบวัด
พฤติกรรมนกั เรยี น
วัตถุมีสภาพสมดลุ การหมุนของวตั ถุท่มี ี 3.แบบฝึกทักษะ

ไมว่ ่าจะอย่นู ง่ิ หรอื การเคลื่อนทแ่ี บบ 4.ใบความรู้

กาลงั เคลอื่ นทด่ี ้วย หมนุ 5.ใบกจิ กรรม

ความเร็วคงท่ี แสดง

ว่าผลรวมของแรงที่

กระทาต่อวตั ถุมีค่า

เท่ากบั ศูนย์ และ

การสมดุลในลกั ษณะ

น้ีเรยี กวา่ สมดลุ

เนื่องจากแรง

11

แบบบันทึกการวเิ คราะห์กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ตามตัวชว้ี ดั

สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

วิชาฟสิ ิกส์ 2 รหสั วชิ า ว 30202 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

ตัวชว้ี ัด นกั เรยี นทาอะไรได้ นักเรียนร้อู ะไร แนวการ แนวการวัดและ
ประเมินผล
11. อธิบายสภาพ จัดการเรยี นรู้
สมดุลของวตั ถุ และ 1.แบบทดสอบกอ่ น
วเิ คราะหส์ ภาพ ความพยายามทีจ่ ะ ต้ังคาถาม 1.การอธบิ ายพร้อม เรียน
สมดลุ ตามเงื่อนไข 2.แบบทดสอบหลัง
ของสมดุล ทาให้วัตถุเกิดการ ตง้ั สมมตฐิ าน และ แสดงวิธที าประกอบ เรียน
3.การประเมนิ จาก
หมนุ เรยี กว่า คานวณเกีย่ วกับ ตวั อย่าง สภาพการจดั การ
เรยี นการสอนจรงิ
โมเมนต์ของแรงหรือ สมดลุ ของวัตถุ และ 2.ใบงาน โดยใช้แบบวัด
พฤติกรรมนกั เรียน
ทอรก์ ซึ่งเป็นผลจาก วเิ คราะหส์ ภาพ 3.แบบฝึกทักษะ

การออกแรง และ สมดลุ ตามเงื่อนไข 4.ใบความรู้

แนวแรงไมผ่ า่ นจดุ ของสมดลุ 5.ใบกิจกรรม

ศูนย์กลางมวลหรอื

จดุ หมนุ เม่ือวตั ถุ

เปลย่ี นสภาพการ

หมุนหรือสภาพอยู่

นิง่ ทาใหเ้ กิดการหมุน

แสดงวา่ โมเมนต์ของ

แรงหรือทอรก์ ไม่เปน็

ศูนย์ แต่ถ้าโมเมนต์

ของแรงหรอื ทอร์กมี

คา่ เป็นศนู ย์ ผลจะทา

ให้วตั ถอุ ย่นู งิ่ หรือไม่

เปล่ยี นสภาพการ

หมนุ หรอื หมนุ รอบ

แกนดว้ ยอตั ราเร็ว

เชิงมุมคงท่ี ซง่ึ

เรียกวา่ เกดิ สมดุล

เนอ่ื งจากโมเมนต์

ของแรงหรอื ทอรก์

12

แบบบันทกึ การวเิ คราะห์กจิ กรรมการจดั การเรียนรตู้ ามตวั ชวี้ ัด

สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

วชิ าฟิสกิ ส์ 2 รหสั วชิ า ว 30202 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

ตัวชว้ี ัด นักเรียนทาอะไรได้ นักเรยี นรู้อะไร แนวการ แนวการวัดและ
ประเมินผล
12. อธบิ ายผลของ จัดการเรียนรู้
แรงคคู่ วบ โมเมนต์ 1.แบบทดสอบก่อน
ของแรงคู่ควบท่ีมีต่อ เมอื่ วัตถใุ ดๆ ถกู แรง ตงั้ คาถาม 1.การอธิบายพร้อม เรยี น
สมดุลของวตั ถุ 2.แบบทดสอบหลัง
ภายนอกมากระทา ตง้ั สมมตฐิ าน และ แสดงวธิ ที าประกอบ เรยี น
3.การประเมนิ จาก
ผลทเ่ี กดิ กบั วตั ถนุ น้ั คานวณเกย่ี วกบั แรง ตวั อยา่ ง สภาพการจัดการ
เรยี นการสอนจริง
อาจจะไมเ่ ปล่ยี น คคู่ วบ โมเมนต์ของ 2.ใบงาน โดยใช้แบบวัด
พฤติกรรมนักเรียน
ตาแหน่ง แต่อาจจะ แรงค่คู วบท่ีมีตอ่ 3.แบบฝึกทกั ษะ

เปล่ยี นรูปรา่ ง สมดุลของวัตถุ 4.ใบความรู้

ดงั นน้ั การ 5.ใบกจิ กรรม

เปล่ยี นแปลงรูปร่าง

นนั้ ขนึ้ อย่กู ับ

คุณสมบตั เิ ฉพาะตวั

ของวตั ถนุ น้ั ๆ โดยท่ี

วัตถใุ ดๆ ทนต่อแรง

กระทาตอ่ พื้นที่(

ความเค้นมาก )ได้

มากๆ การ

เปล่ยี นแปลงจะ

เกดิ ขึน้ น้อย (

ความเครยี ดน้อย )

เราเรยี กวัตถุน้ัน มี

สภาพยดื หย่นุ ไดด้ ี (

ค่ามอดูลัสของยัง

สูง )

1

2

3

4

จากการวิเคราะห์ผ้เู รยี น ไดน้ าขอ้ มูลมาดาเนินการในการจัดการเรยี นการสอนโดยแบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่
ย่อยจานวน 6 กลุ่ม โดยจดั นักเรยี นทอี่ ยู่ในกลมุ่ เกง่ และกล่มุ ปานกลาง คละกัน ในจานวนเทา่ ๆกนั

5

6

7

8

จากการวิเคราะห์ผ้เู รยี น ไดน้ าขอ้ มูลมาดาเนินการในการจัดการเรยี นการสอนโดยแบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่
ย่อยจานวน 6 กลุ่ม โดยจดั นักเรยี นทอี่ ยู่ในกลมุ่ เกง่ และกล่มุ ปานกลาง คละกัน ในจานวนเทา่ ๆกนั

9

10

11

12

จากการวิเคราะห์ผูเ้ รยี น ได้นาขอ้ มลู มาดาเนนิ การในการจดั การเรยี นการสอนโดยแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็นกลมุ่
ยอ่ ยจานวน 6 กลุ่ม โดยจัดนกั เรยี นทอ่ี ยู่ในกลุ่มเกง่ และกลุ่มปานกลาง คละกนั ในจานวนเท่าๆกัน

13

14

15

16

จากการวิเคราะห์ผูเ้ รยี น ได้นาขอ้ มลู มาดาเนนิ การในการจดั การเรยี นการสอนโดยแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็นกลมุ่
ยอ่ ยจานวน 6 กลุ่ม โดยจัดนกั เรยี นทอ่ี ยู่ในกลุ่มเกง่ และกลุ่มปานกลาง คละกนั ในจานวนเท่าๆกัน

17

1

แบบบันทกึ การวเิ คราะหค์ วามสอดคล้องระหว่างตวั ชี้วดั รายวชิ ากบั จุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสิกส์ 2 รหสั วชิ า ว 30202 ชอ่ื ผูส้ อน นายชาตรี ศรีมว่ งวงค์

มาตรฐานที่ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรูร้ ายวิชา สอดคล้องกบั จดุ เนน้ การพัฒนา

คณุ ภาพผ้เู รียน

ว 5.1 1.สารวจตรวจสอบ อธบิ าย และคานวณ 1.การคิดวเิ คราะหข์ ั้นสงู

เก่ียวกับงานและกาลงั 2.แสวงหาความร้เู พื่อการแกป้ ัญหา

3.ทกั ษะการส่ือสารอยา่ งสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย

4.คณุ ลักษณะใฝ่เรียนรู้

ว 5.1 2.สารวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคานวณ 1.การคดิ วิเคราะห์ขั้นสูง

เกี่ยวกับพลังงาน ความสมั พันธ์ระหว่างงาน 2.แสวงหาความรู้เพ่ือการแกป้ ัญหา

และพลังงานจลน์ 3.ทักษะการสื่อสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวยั

4.คณุ ลักษณะใฝเ่ รยี นรู้

ว 5.1 3.สบื คน้ ขอ้ มลู ทดลอง และอธบิ ายเกี่ยวกบั 1.การคิดวิเคราะห์ขน้ั สงู

กฎการอนรุ ักษ์พลังงาน และรวม ไปถึงกฎการ 2.แสวงหาความรูเ้ พ่ือการแกป้ ัญหา

อนรุ ักษ์พลังงานรูปอน่ื 3.ทกั ษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามชว่ งวยั

4.คณุ ลักษณะใฝ่เรียนรู้

ว 5.1 4.สารวจตรวจสอบ อภิปราย และคานวณ 1.การคิดวเิ คราะหข์ น้ั สูง

เกย่ี วกบั โมเมนตัม และการเปลย่ี นแปลง 2.แสวงหาความรเู้ พื่อการแกป้ ัญหา

โมเมนตัม 3.ทกั ษะการส่ือสารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวัย

4.คณุ ลกั ษณะใฝ่เรียนรู้

ว 5.1 5.สารวจตรวจสอบ อธบิ าย และคานวณ 1.การคดิ วเิ คราะห์ขั้นสูง

เกี่ยวกบั งานและกาลัง 2.แสวงหาความรู้เพื่อการแกป้ ัญหา

3.ทักษะการส่ือสารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวยั

4.คุณลักษณะใฝเ่ รียนรู้

ว 5.1 6.สารวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคานวณ 1.การคดิ วเิ คราะหข์ ั้นสูง

เกยี่ วกบั การชน และกฎอนุรักษ์โมเมนตมั 2.แสวงหาความรเู้ พ่ือการแกป้ ัญหา

3.ทกั ษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั

4.คณุ ลกั ษณะใฝเ่ รยี นรู้

2

แบบบันทกึ การวิเคราะหค์ วามสอดคล้องระหวา่ งตัวชี้วัดรายวชิ ากับจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสิกส์ 2 รหัสวิชา ว 30202 ชอื่ ผู้สอน นายชาตรี ศรีมว่ งวงค์

มาตรฐานท่ี ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้รายวชิ า สอดคล้องกับจดุ เนน้ การพฒั นา

คุณภาพผเู้ รียน

ว 5.1 7.สารวจตรวจสอบอภปิ ราย และคานวณ 1.การคดิ วิเคราะห์ขั้นสูง

เกี่ยวกบั การเคลอ่ื นที่แบบหมุน และปริมาณท่ี 2.แสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา

เก่ียวข้อง 3.ทักษะการส่ือสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวัย

4.คุณลักษณะใฝเ่ รยี นรู้

ว 5.1 8.สารวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคานวณ 1.การคิดวเิ คราะหข์ ั้นสูง

เก่ียวกบั ทอรก์ การเคล่ือนท่แี บบหมุน และ 2.แสวงหาความรู้เพื่อการแกป้ ัญหา

โมเมนตค์ วามเฉ่ือย 3.ทกั ษะการส่ือสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวยั

4.คุณลักษณะใฝเ่ รยี นรู้

ว 5.1 9.สารวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคานวณ 1.การคิดวิเคราะหข์ น้ั สูง

เกี่ยวกับพลังงานจลนข์ องการหมนุ และ 2.แสวงหาความรเู้ พ่ือการแกป้ ัญหา

โมเมนตัมเชงิ มมุ 3.ทกั ษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย

4.คณุ ลกั ษณะใฝเ่ รียนรู้

ว 5.1 10.สารวจตรวจสอบ อภิปราย และคานวณ 1.การคดิ วิเคราะห์ขั้นสูง

เกย่ี วกับสภาพสมดลุ และเง่ือนไขของสมดลุ 2.แสวงหาความรู้เพ่ือการแก้ปัญหา

3.ทักษะการส่ือสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวัย

4.คณุ ลักษณะใฝ่เรียนรู้

ว 5.1 11.สารวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคานวณ 1.การคิดวิเคราะหข์ นั้ สงู

เกยี่ วกบั โมเมนต์ของแรงหรือทอร์ก และ 2.แสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา

โมเมนตข์ องแรงคู่ควบ 3.ทักษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรค์ตามช่วงวัย

4.คณุ ลักษณะใฝ่เรียนรู้

ว 5.1 12.สารวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคานวณ 1.การคิดวิเคราะห์ขนั้ สงู

เกี่ยวกับสภาพยืดหยุน่ 2.แสวงหาความรูเ้ พ่ือการแก้ปัญหา

3.ทกั ษะการส่ือสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวยั

4.คณุ ลกั ษณะใฝเ่ รียนรู้

3

1

แผนการบูรณาการหลักสูตรทอ้ งถน่ิ หลักสตู รอาเซยี น หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง*
กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 รหสั วิชา ว 30202 ชื่อผสู้ อน นายชาตรี ศรมี ว่ งวงค์

แผนการจดั การเรยี นรู้ / การบูรณาการ การบรู ณาการ การบูรณาการหลักปรัชญา
ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรท้องถ่นิ หลักสูตรอาเซียน เศรษฐกจิ พอเพียง
การทรงตวั ของรถบรรทกุ กบั -
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ปริมาณอ้อยท่ีบรรทุกใน -
10. สารวจตรวจสอบ ปรมิ าณท่ีแตกตา่ งกนั -
อภปิ ราย และคานวณ -
เกี่ยวกับสภาพสมดลุ และ การหาบของ -
เง่ือนไขของสมดลุ -
หนังสต๊กิ การใชพ้ ลงั งานอยา่ งคมุ้ ค่า
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 การใชพ้ ลังงานของประเทศ และพอประมาณ
11. สารวจตรวจสอบ แหล่งพลังงานความรอ้ นจาก ในภมู ภิ าคอาเซยี น โครงการพระราชดาริ
อภปิ ราย และคานวณ บอ่ นา้ พุร้อนพระร่วง อาเภอ ของเลน่ ในอาเซยี นที่ พลงั งานจากไบโอดีเซล
เกี่ยวกบั โมเมนต์ของแรงหรอื พรานกระต่ายจังหวดั เก่ยี วขอ้ งกบั พลงั งาน
ทอร์ก และโมเมนต์ของแรง กาแพงเพชร พลังงานทดแทน
คู่ควบ การละเลน่ ในจังหวดั แหลง่ พลังงานในภูมภิ าค
กาแพงเพชรที่เกย่ี วข้องกบั อาเซียน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 พลังงาน
12. สารวจตรวจสอบ
อภปิ ราย และคานวณ กระบวนการบรหิ ารพลงั งาน
เกี่ยวกบั สภาพยดื หยนุ่ ในโรงเรอื นเลีย้ งหมขู อง
หม่บู า้ นเลี้ยงหมูซีพี
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 ตาบลคณฑี จังหวดั
1. สารวจตรวจสอบ อธบิ าย กาแพงเพชร
และคานวณเกยี่ วกบั งานและ
กาลัง

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 5
2. สารวจตรวจสอบ
อภปิ ราย และคานวณ
เกย่ี วกบั พลงั งาน
ความสมั พันธ์ระหว่างงาน
และพลังงานจลน์

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6
3. สบื ค้นขอ้ มลู ทดลอง และ
อธิบายเก่ยี วกับกฎการ
อนุรักษ์พลงั งาน และรวม ไป
ถึงกฎการอนุรักษพ์ ลงั งานรปู
อ่นื

2

แผนการบรู ณาการหลักสูตรท้องถ่นิ หลักสูตรอาเซียน หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง*
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 รหัสวิชา ว 30202 ช่ือผู้สอน นายชาตรี ศรมี ว่ งวงค์

แผนการจดั การเรียนรู้ / การบูรณาการ การบูรณาการ การบูรณาการหลักปรชั ญา

ผลการเรียนรู้ หลักสูตรท้องถ่ิน หลกั สูตรอาเซียน เศรษฐกจิ พอเพียง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 กีฬาเปตอง การละเลน่ ของคนในอาเซียน -

4. สารวจตรวจสอบ

อภิปราย และคานวณ

เกยี่ วกบั โมเมนตัม และการ

เปลย่ี นแปลงโมเมนตัม

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8 กาลังเครื่องยนตข์ อง - การประหยดั พลงั งาน

5. สารวจตรวจสอบ อธิบาย เคร่อื งจักรกลการเกษตร

และคานวณเกยี่ วกบั งานและ

กาลัง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 การเกิดอบุ ตั เิ หตุรถชนใน การเกิดอุบตั ิเหตุทางรถใน ความไม่ประมาทในการใช้รถ

6. สารวจตรวจสอบ จงั หวดั กาแพงเพชร อาเซียน ใชถ้ นน

อภปิ ราย และคานวณ

เก่ยี วกบั การชน และกฎ

อนรุ ักษ์โมเมนตัม

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 10

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 11

หมายเหตุ สือ่ มลั ติมีเดีย และขอ้ มูลเกี่ยวกับการบรู ณาการสาหรับนักเรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ อยบู่ นเว็บไซต์ช่อื
http://gg.gg/chatreephysics

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง งานและพลงั งาน
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 รหสั วิชา ว30202

ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 1.5 หน่วย 15 ชั่วโมง
ผู้สอน นายชาตรี ศรีม่วงวงค์ โรงเรยี นวชั รวิทยา

1. ช่อื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง งานและพลังงาน
2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐาน ว 5.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างพลงั งานกบั การดารงชวี ิต การเปลยี่ นรปู พลงั งาน
ปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลงั งานต่อชีวติ และส่งิ แวดลอ้ ม มีกระบวน การสืบเสาะหา
ความรู้ ส่อื สารสิ่งที่เรยี นรแู้ ละนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้
การแก้ปญั หา รวู้ า่ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติท่ีเกดิ ขึ้นสว่ นใหญ่มีรูปแบบทแ่ี น่นอน สามารถอธบิ ายและ
ตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเครื่องมือทีม่ ีอย่ใู นชว่ งเวลาน้นั ๆ เข้าใจว่า วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ
สิ่งแวดล้อม มีความเกี่ยวข้องสมั พนั ธก์ นั
สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
สารวจตรวจสอบเกย่ี วกับงานซ่ึงขนึ้ อยู่กบั แรง การกระจัดและมุมระหว่างแรงกบั การกระจดั งานในหนึง่ หน่วย
เวลาเรียกวา่ กาลงั สารวจตรวจสอบเก่ยี วกบั งานทาให้พลงั งานจลน์หรอื พลงั งานศักยเ์ ปล่ยี นไป พลงั งานศักยท์ ่ี
กลา่ วนมี้ ีท้ัง พลงั งานศักย์ยดื หยนุ่ และพลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถ่วง

3. สาระการเรยี นรู้
- สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1.งาน
2.กาลัง
3.พลงั งาน
4.พลงั งานจลน์
5.ความสมั พันธ์ระหวา่ งงานและพลังงานจลน์
6.พลงั งานศักย์
7.กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน
8.เคร่อื งกลและประสทิ ธิภาพของเครือ่ งกล
- สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน
1. แหลง่ พลังงานความร้อนจากบอ่ น้าพรุ ้อนพระร่วง อาเภอพรานกระต่ายจงั หวดั กาแพงเพชร
2. การละเล่นในจังหวัดกาแพงเพชรทเ่ี กยี่ วข้องกับพลงั งาน
3.กระบวนการบรหิ ารพลังงานในโรงเรือนเลย้ี งหมูของหมู่บ้านเลย้ี งหมูซพี ี ตาบลคณฑี จังหวดั กาแพงเพชร
- สาระการเรียนรูเ้ ก่ียวกบั อาเซียน
1.การใช้พลังงานของประเทศในภมู ิภาคอาเซียน
2.ของเลน่ ในอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
3.แหล่งพลงั งานในภูมภิ าคอาเซียน

- สาระการเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง (ถ้าม)ี
1.การใช้พลังงานอยา่ งค้มุ ค่าและพอประมาณ
2.โครงการพระราชดารพิ ลงั งานจากไบโอดเี ซล
3.พลงั งานทดแทน

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2.ความสามารถในการคิด
3.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
จุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นด้านสมรรถนะ
1. ทักษะแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเองเพือ่ การแก้ปญั หา
2. ทักษะการคิดข้นั สงู
3. ทักษะการส่ือสารอย่างสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวัย

5.คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ (ตัง้ ใจเพียงพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้,แสวงหาความรู้รู้จากแหลง่ เรยี นรู้

ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี นด้วยการเลือกใชส้ อ่ื อย่างเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถ
นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้)

จุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี นด้านคุณลักษณะ
1.คณุ ลกั ษณะมงุ่ ม่นั ในการทางาน
2. คณุ ลักษณะใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน

6.ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด/ระหวา่ งเรียน)
1.ใบงานท่ี 1 เร่อื ง งานและกาลัง
2.ใบงานท่ี 2 เร่ือง พลังงานกล
3.ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง กฏอนรุ ักษ์พลงั งาน

7.การวดั และประเมินผล (รวบยอด/ระหว่างเรยี น)

เกณฑ์การประเมินช้นิ งาน

นา้ หนกั คะแนน ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ
(2) (1)
เกณฑ์ (4) (3)
ความถูกต้อง ความถกู ต้อง
ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง งาน ความถูกตอ้ ง ความถกู ต้อง รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป ไมถ่ ึงร้อยละ 60

และกาลัง รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป ความถกู ตอ้ ง ความถกู ต้อง
รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ไม่ถึงร้อยละ 60
ใบงานท่ี 2 เรื่อง ความถูกต้อง ความถูกตอ้ ง
ความถกู ต้อง ความถูกตอ้ ง
พลงั งานกล ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป ไม่ถงึ ร้อยละ 60

ใบงานที่ 3 เรอื่ ง ความถูกตอ้ ง ความถูกตอ้ ง

กฏอนรุ ักษ์พลังงาน ร้อยละ 80 ขึ้นไป รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป

8.กิจกรรมการเรียนรู้
1. การบรรยาย
2. ทาใบกิจกรรม แบบฝกึ ทักษะ แบบทดสอบ
3. ศกึ ษาจากเว็บไซต์ และ youtube
4. เว็บไซตก์ ารสอนฟสิ ิกสท์ ่ผี ลิตขน้ึ เอง ช่ือ http://gg.gg/chatree-teach

9.เวลาเรียน/จานวนชวั่ โมง

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื งงานและพลังงาน จานวน 15 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง งานและกาลงั จานวน 5 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง พลงั งานกล จานวน 5 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง กฏอนุรกั ษ์พลงั งาน จานวน 5 ช่ัวโมง

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ ง โมเมนตัมและการชน
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 รหัสวิชา ว30202

ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 1.5 หนว่ ย 15 ชว่ั โมง
ผู้สอน นายชาตรี ศรมี ่วงวงค์ โรงเรยี นวัชรวิทยา

1. ชอ่ื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง โมเมนตัมและการชน
2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั

สาระที่ 5 พลังงาน
มาตรฐาน ว 5.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างพลังงานกับการดารงชีวติ การเปลยี่ นรูปพลังงาน ปฏิสมั พันธ์
ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลงั งานต่อชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม มีกระบวน การสืบเสาะหาความรู้
สือ่ สารสิง่ ท่เี รยี นรแู้ ละนาความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
โมเมนตัม เปน็ ปริมาณทบ่ี อกใหท้ ราบสภาพการเคล่อื นทข่ี องวัตถุ โดยขึน้ อยูก่ ับมวลของวัตถแุ ละความเร็วของ
วตั ถุน้นั เปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ ดงั น้นั การเปลยี่ นขนาดหรือทศิ ของความเรว็ ก็จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ
วตั ถุ
3. สาระการเรยี นรู้
- สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. โมเมนตัม
2. การเปลยี่ นแปลงโมเมนตัม
3. การดล
4. แรงดล
5. การชน
6. กฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตมั
- สาระการเรียนรูท้ ้องถ่ิน (ถา้ ม)ี
1.กีฬาเปตอง
2.กาลงั เคร่อื งยนตข์ องเคร่อื งจักรกลการเกษตร
3.การเกดิ อบุ ัติเหตรุ ถชนในจงั หวดั กาแพงเพชร
- สาระการเรยี นรู้เก่ียวกับอาเซียน (ถา้ มี)
1.การละเล่นของคนในอาเซียน
2.การเกดิ อุบตั เิ หตุทางรถในอาเซียน
- สาระการเรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียง (ถา้ มี)
1.การประหยัดพลงั งาน
2.ความไมป่ ระมาทในการใชร้ ถใช้ถนน

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2.ความสามารถในการคิด
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
จดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นดา้ นสมรรถนะ
1. ทกั ษะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองเพ่ือการแก้ปัญหา
2. ทักษะการคิดขัน้ สงู
3. ทักษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรค์ตามช่วงวยั

5.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้ (ต้ังใจเพียงพยายามในการเรียน และเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้,แสวงหาความรรู้ ้จู ากแหล่งเรยี นรู้

ต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถ
นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้)

จุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นด้านคุณลกั ษณะ
1.คุณลักษณะมุ่งม่นั ในการทางาน
2. คุณลักษณะใฝร่ ้ใู ฝ่เรียน

6.ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด/ระหว่างเรียน)
1.ใบงานท่ี 4 เรอื่ ง โมเมนตัมและการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม
2.ใบงานที่ 5 เรอื่ ง การดลและแรงดล
3.ใบงานที่ 6 เรื่อง การชน และกฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตัม

7.การวดั และประเมินผล (รวบยอด/ระหว่างเรยี น)

เกณฑก์ ารประเมนิ ช้นิ งาน

น้าหนักคะแนน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
(2) (1)
เกณฑ์ (4) (3) ความถูกต้อง
ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป ความถกู ตอ้ ง
ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง โม ความถูกต้อง ความถูกต้อง ไม่ถึงร้อยละ 60
ความถกู ต้อง
เมนตมั และการ รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป ร้อยละ 70 ขึ้นไป รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป ความถกู ตอ้ ง
ไมถ่ งึ ร้อยละ 60
เปลีย่ นแปลงโมเมนตัม ความถูกตอ้ ง ความถูกตอ้ ง
รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป ไม่ถึงร้อยละ 60
ใบงานที่ 5 เร่อื ง การ ความถกู ต้อง ความถกู ตอ้ ง

ดลและแรงดล รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป ร้อยละ 70 ขึ้นไป

ใบงานท่ี 6 เร่ือง การ ความถูกต้อง ความถูกตอ้ ง

ชน และกฎการ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ร้อยละ 70 ข้นึ ไป

อนุรักษโ์ มเมนตัม

8.กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. การบรรยาย
2. ทาใบกจิ กรรม แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ
3. ศกึ ษาจากเว็บไซต์ และ youtube
4. เว็บไซต์การสอนฟสิ กิ สท์ ผ่ี ลิตขึ้นเอง ช่อื http://gg.gg/chatree-teach

9.เวลาเรยี น/จานวนชว่ั โมง จานวน 15 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื งโมเมนตมั และการชน จานวน 5 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง โมเมนตัมและการเปลย่ี นแปลงโมเมนตมั จานวน 5 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การดลและแรงดล จานวน 5 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง การชน และกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตัม

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การเคลื่อนที่แบบหมนุ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ าฟิสกิ ส์ 2 รหัสวิชา ว30202

ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรียน 1.5 หน่วย 15 ชั่วโมง
ผสู้ อน นายชาตรี ศรีม่วงวงค์ โรงเรียนวชั รวิทยา

1. ช่อื หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง การเคลื่อนท่แี บบหมุน
2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั

มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งพลังงานกบั การดารงชีวิต การเปลี่ยนรปู พลังงาน
ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลังงานตอ่ ชวี ิตและสิง่ แวดล้อม มกี ระบวน การสืบเสาะหา
ความรู้ สอื่ สารสิง่ ที่เรยี นรู้และนาความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้
การแกป้ ัญหา รูว้ ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติทเ่ี กิดขึน้ ส่วนใหญม่ รี ูปแบบท่ีแน่นอน สามารถอธบิ ายและ
ตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมือท่มี ีอยูใ่ นชว่ งเวลาน้ันๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ
ส่งิ แวดลอ้ ม มีความเก่ียวข้องสมั พันธก์ นั
สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
เม่อื มีแรงกระทาต่อวตั ถุแลว้ แนวแรงทกี่ ระทาน้นั ไมผ่ ่านจดุ ศนู ย์กลางมวล ผลจะทาให้วตั ถนุ น้ั เกดิ การเคลอื่ นท่ี
แบบหมุน โดยจะมีอัตราเรว็ ของการหมุน ท่เี รียกวา่ อัตราเรว็ เชงิ มมุ และความเร็วเชงิ มุมเกิดข้นึ ขณะความเร็ว
เชิงมมุ ของการหมนุ เปลี่ยนไป แสดงวา่ มีความเรง่ เชิงมุมเกิดขน้ึ ด้วย

3. สาระการเรยี นรู้
- สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. การเคล่ือนทีแ่ บบหมุน
2. อตั ราเรว็ เชิงมุม
3. ความเร็วเชงิ มมุ
4. ความเรง่ เชิงมุม
5. ทอรก์ กบั การเคล่ือนท่ีแบบหมุน
6. โมเมนตค์ วามเฉ่ือย
7. พลงั งานจลน์ของการหมนุ
8. โมเมนตมั เชงิ มมุ
- สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ (ถา้ ม)ี
1.ลกู ขา่ ง
2.จักรยานกบั การทรงตัว
3.แนวทางการใช้ประโยชน์จากพลังงานจากน้าตกในจังหวัดกาแพงเพชร
- สาระการเรยี นรู้เก่ียวกับอาเซียน (ถา้ ม)ี
1.ลกู ขา่ งอาเซียน
- สาระการเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง (ถ้ามี)
1.กงั หันชัยพัฒนา
2.เขือ่ นภูมิพล

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2.ความสามารถในการคิด
3.ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
จดุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี นด้านสมรรถนะ
1. ทกั ษะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองเพือ่ การแก้ปัญหา
2. ทักษะการคิดข้ันสูง
3. ทกั ษะการส่อื สารอย่างสร้างสรรคต์ ามช่วงวยั

5.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ (ตั้งใจเพยี งพยายามในการเรยี น และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้,แสวงหาความรู้รูจ้ ากแหลง่ เรียนรู้

ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลอื กใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถ
นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้)

จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี นดา้ นคุณลกั ษณะ
1.คณุ ลักษณะมุ่งมั่นในการทางาน
2. คณุ ลักษณะใฝ่รู้ใฝเ่ รียน

6.ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด/ระหว่างเรียน)
1.ใบงานที่ 7 เรื่อง การเคล่ือนทแ่ี บบหมุน และปรมิ าณทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
2.ใบงานท่ี 8 เรอื่ ง ทอร์ก การเคลื่อนทแ่ี บบหมุน และโมเมนตค์ วามเฉื่อย
3.ใบงานท่ี 9 เรือ่ ง พลงั งานจลน์ของการหมุน และโมเมนตัมเชงิ มมุ

7.การวดั และประเมินผล (รวบยอด/ระหวา่ งเรยี น)

เกณฑ์การประเมินชน้ิ งาน

น้าหนักคะแนน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
(2) (1)
เกณฑ์ (4) (3) ความถูกต้อง
รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป ความถกู ตอ้ ง
ใบงานที่ 7 เรื่อง การ ความถกู ต้อง ความถกู ต้อง ไม่ถงึ ร้อยละ 60
ความถกู ตอ้ ง
เคล่ือนทแ่ี บบหมุน และ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ร้อยละ 70 ขึน้ ไป รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป ความถูกต้อง
ปรมิ าณท่ีเกยี่ วขอ้ ง ไมถ่ ึงร้อยละ 60
ความถูกต้อง
ใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง ทอรก์ ความถูกต้อง ความถกู ตอ้ ง ร้อยละ 60 ขึ้นไป ความถกู ตอ้ ง
ไมถ่ งึ ร้อยละ 60
การเคล่ือนที่แบบหมนุ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป
และโมเมนต์ความเฉอื่ ย

ใบงานท่ี 9 เรื่อง พลงั งาน ความถกู ต้อง ความถกู ตอ้ ง
จลน์ของการหมนุ และ
โมเมนตัมเชงิ มุม รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป

8.กจิ กรรมการเรียนรู้
1. การบรรยาย
2. ทาใบกจิ กรรม แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ
3. ศึกษาจากเว็บไซต์ และ youtube
4. เวบ็ ไซตก์ ารสอนฟสิ ิกส์ที่ผลิตข้นึ เอง ชอ่ื http://gg.gg/chatree-teach

9.เวลาเรียน/จานวนช่ัวโมง

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง การเคล่อื นทแ่ี บบหมนุ จานวน 15 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง การเคล่ือนทแี่ บบหมนุ และปริมาณที่เกีย่ วข้อง จานวน 5 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง ทอร์ก การเคล่ือนท่แี บบหมนุ และโมเมนต์ความเฉื่อย จานวน 5 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 เรือ่ ง พลงั งานจลน์ของการหมนุ และโมเมนตมั เชงิ มุม จานวน 5 ชว่ั โมง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่อื ง สภาพสมดลุ และสภาพยืดหยุ่น
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสกิ ส์ 2 รหสั วิชา ว30202

ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลาเรียน 1.5 หน่วย 15 ชว่ั โมง
ผสู้ อน นายชาตรี ศรีม่วงวงค์ โรงเรียนวชั รวิทยา

1. ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง สภาพสมดลุ และสภาพยดื หยนุ่
2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ว 5.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งพลังงานกับการดารงชีวิต การเปลีย่ นรปู พลงั งาน ปฏสิ ัมพันธ์
ระหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลงั งานต่อชีวติ และสิง่ แวดล้อม มกี ระบวน การสบื เสาะหาความรู้
ส่อื สารสิง่ ทีเ่ รยี นรู้และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การ
แก้ปญั หา รวู้ า่ ปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขน้ึ สว่ นใหญม่ ีรปู แบบท่แี นน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้
ภายใตข้ ้อมลู และเครอ่ื งมือทีม่ ีอย่ใู นช่วงเวลานนั้ ๆ เขา้ ใจว่า วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มี
ความเก่ียวข้องสมั พันธก์ ัน
สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การทีว่ ตั ถุสามารถรกั ษาสภาพเดมิ อยูไ่ ดโ้ ดยไมม่ ีการเปลีย่ นแปลงเรยี กว่าวัตถมุ ีสภาพสมดลุ ไม่ว่าจะอยนู่ ง่ิ หรอื
กาลังเคลอื่ นทดี่ ว้ ยความเร็วคงที่ แสดงว่าผลรวมของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุมคี ่าเทา่ กบั ศูนย์ และการสมดุลใน
ลกั ษณะนี้เรียกว่า สมดลุ เน่ืองจากแรง
3. สาระการเรียนรู้
- สาระการเรียนรู้แกนกลาง

1. สมดลุ กล
2. สมดลุ เนือ่ งจากแรง
3. แรงขนานและแรงคู่ควบ
4. โมเมนตข์ องแรง และโมเมนต์ของแรงคู่ควบ
5. สมดุลเนอ่ื งจากโมเมนต์ของแรง หรอื ทอรก์
6. เสถยี รภาพของสมดุล
7. สภาพยืดหยนุ่
8. ความเค้นและความเครยี ด
9. มอดูลสั ของยัง
- สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น (ถา้ ม)ี
1.การทรงตวั ของรถบรรทุกกับปริมาณออ้ ยท่ีบรรทกุ
2.การหาบของ
3.หนังสต๊กิ
- สาระการเรียนรู้เกี่ยวกับอาเซียน (ถ้ามี)
1.
- สาระการเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง (ถา้ ม)ี
1.

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2.ความสามารถในการคิด
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
จุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นด้านสมรรถนะ
1. ทักษะแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเองเพอ่ื การแก้ปัญหา
2. ทักษะการคิดข้ันสงู
3. ทกั ษะการส่อื สารอย่างสร้างสรรคต์ ามช่วงวยั

5.คุณลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝเ่ รยี นรู้ (ตงั้ ใจเพยี งพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้,แสวงหาความรูร้ ้จู ากแหล่งเรียนรู้

ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใชส้ ่อื อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ความรู้ และสามารถ
นาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้)

จดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นดา้ นคณุ ลกั ษณะ
1.คุณลกั ษณะมุ่งมน่ั ในการทางาน
2. คณุ ลักษณะใฝร่ ูใ้ ฝเ่ รียน

6.ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด/ระหวา่ งเรียน)
1.ใบงานที่ 10 เร่อื ง สภาพสมดุล และเงือ่ นไขของสมดุล
2.ใบงานท่ี 11 เรื่อง โมเมนต์ของแรงหรือทอรก์ และโมเมนตข์ องแรงคู่ควบ
3.ใบงานท่ี 12 เรื่อง สภาพยืดหยุ่น

7.การวดั และประเมนิ ผล (รวบยอด/ระหว่างเรียน)

เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งาน

น้าหนักคะแนน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
(2) (1)
เกณฑ์ (4) (3) ความถกู ตอ้ ง
รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป ความถกู ต้อง
ใบงานที่ 10 เร่ือง สภาพ ความถูกต้อง ความถูกตอ้ ง ไม่ถงึ ร้อยละ 60
ความถูกตอ้ ง
สมดลุ และเง่อื นไขของ ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป ความถูกตอ้ ง
สมดลุ ไมถ่ ึงร้อยละ 60
ความถูกตอ้ ง
ใบงานท่ี 11 เร่ือง ความถกู ตอ้ ง ความถกู ตอ้ ง รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ความถกู ต้อง
ไมถ่ ึงร้อยละ 60
โมเมนต์ของแรงหรือ ร้อยละ 80 ขึน้ ไป ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป
ทอรก์ และโมเมนต์ของ

แรงค่คู วบ

ใบงานท่ี 12 เร่อื ง สภาพ ความถกู ต้อง ความถกู ตอ้ ง

ยืดหยุ่น รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป

8.กิจกรรมการเรียนรู้
1. การบรรยาย
2. ทาใบกจิ กรรม แบบฝกึ ทักษะ แบบทดสอบ
3. ศกึ ษาจากเว็บไซต์ และ youtube
4. เว็บไซต์การสอนฟสิ ิกสท์ ่ผี ลิตขึ้นเอง ชอื่ http://gg.gg/chatree-teach

9.เวลาเรียน/จานวนชว่ั โมง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอื่ ง สภาพสมดลุ และสภาพยืดหยุ่น จานวน 15 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 เรือ่ ง สภาพสมดุล และเงอ่ื นไขของสมดุล จานวน 5 ช่วั โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เรือ่ ง โมเมนตข์ องแรงหรอื ทอร์ก และโมเมนต์ของแรงคู่ควบ จานวน 5 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 เรอ่ื ง สภาพยดื หยุ่น จานวน 5 ชัว่ โมง

59

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1
กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชือ่ วิชา ฟสิ ิกส์ 2 รหัสวิชา ว30202

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 งานและพลังงาน เร่ืองที่ 1 งานและกาลัง

ช่ือแผน งานและกาลัง เวลา 5 ชัว่ โมง
ผูส้ อน นายชาตรี ศรีม่วงวงค์ โรงเรยี นวชั รวทิ ยา วนั ที่สอน 26 ตลุ าคม -4 พฤศจกิ ายน 2559

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
งานในทางฟิสกิ ส์ เป็นผลจากการออกแรงกระทาตอ่ วัตถุแล้วทาใหว้ ัตถุเคล่ือนที่ตามแนวแรง ดงั นน้ั

ขนาดของงานท่ีไดจ้ ะหาได้จากผลคูณระหว่างแรงที่กระทากับระยะที่วตั ถเุ คลอ่ื นที่ได้ (ระยะทางขนานกับแรง )
และเปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ มหี น่วยเป็น นวิ ตนั .เมตร ( N.m )หรือ จูล ( J )

กาลงั คอื อัตราการทางาน และเปน็ ปรมิ าณสเกลาร์ มหี นว่ ยเป็นวตั ต์ ( W )

2. มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งพลังงานกับการดารงชีวิต การเปลยี่ นรูปพลงั งาน

ปฏสิ ัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลังงานต่อชวี ิตและส่ิงแวดล้อม มกี ระบวน การสบื เสาะหา
ความรู้ สือ่ สารสิ่งทเี่ รยี นรู้และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
แก้ปญั หา ร้วู ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติทีเ่ กดิ ข้นึ สว่ นใหญม่ ีรูปแบบท่ีแนน่ อน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้
ภายใต้ขอ้ มูลและเครือ่ งมือทม่ี ีอยู่ในชว่ งเวลานนั้ ๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสิง่ แวดล้อม มี
ความเก่ยี วข้องสัมพันธก์ นั

3. ผลการเรียนรู้
สารวจตรวจสอบ อธบิ าย และคานวณเก่ียวกับงานและกาลงั

4. สาระการเรยี นรู้
-สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
1.งาน
2.กาลัง
-สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ
1.แหลง่ พลังงานความร้อนจากบ่อน้าพรุ อ้ นพระรว่ ง อาเภอพรานกระตา่ ยจังหวดั กาแพงเพชร
-สาระการเรยี นรเู้ กีย่ วกับอาเซียน
1.การใช้พลงั งานของประเทศในภมู ิภาคอาเซยี น
-สาระการเรียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง
1.การใช้พลังงานอย่างคุม้ ค่าและพอประมาณ

60

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2.ความสามารถในการคิด
3.ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
จดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นด้านสมรรถนะ
1. ทกั ษะแสวงหาความรูด้ ้วยตนเองเพื่อการแก้ปัญหา
2. ทกั ษะการคิดขั้นสูง
3. ทกั ษะการสอื่ สารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั

6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ใฝเุ รียนรู้ (ต้งั ใจเพียงพยายามในการเรยี น และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้,แสวงหาความร้รู ูจ้ ากแหลง่

เรยี นรตู้ ่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลือกใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และ
สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้)

จุดเนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียนด้านคุณลักษณะ
1.คณุ ลักษณะม่งุ มัน่ ในการทางาน
2. คุณลกั ษณะใฝรุ ูใ้ ฝเุ รยี น

7. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด/ระหว่างเรียน)
1.ใบงาน 1.1 – 1.3 (ระหว่างเรยี น)
2.แบบฝกึ ทักษะ 1 (ระหวา่ งเรยี น)
3.ใบกจิ กรรม 1 (ระหวา่ งเรยี น)
4.แบบทดสอบรายจุดประสงค์ท่ี 1 (รวบยอด)

61

8. การวัดและประเมนิ ผล

8.1 การประเมินระหวา่ งจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ชิ้นงาน/ภาระงาน วธิ ีการประเมนิ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
-
1.การวดั ผลคณุ ธรรม สงั เกตพฤตกิ รรม แบบวัดพฤติกรรม
-
จิตพิสยั นักเรยี น นกั เรียน
รอ้ ยละ 50 ขึ้นไป
2. การประเมินผลจาก ตรวจใบงาน 1.1 – 1.3 ใบงานท่ี 1.1-1.3 -
ระดับ 3 ขึ้นไป
สภาพจริง ร้อยละ 50 ขึ้นไป

ตรวจแบบฝกึ ทักษะ 1 แบบฝึกทกั ษะ 1

ตรวจสมดุ จด ใบกจิ กรรม 1

ตรวจใบกิจกรรม 1

3. การวดั ผลหลังเรียน ตรวจแบบทดสอบราย แบบทดสอบราย

จดุ ประสงคท์ ่ี 1 จดุ ประสงคท์ ่ี 1

8.2 การประเมินเมือ่ สน้ิ สดุ การเรยี นรู้

ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารประเมิน เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป
แบบทดสอบ ตรวจแบบทดสอบ

9. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั สรา้ งความสนใจ
1.1 ครูใหน้ กั เรียนดูคลิปเกย่ี วกบั การยกของ ช่ือ “มนษุ ย์ที่แขง็ แรงที่สุดในโลก” จากลงิ คใ์ น

เว็บไซต์ http://gg.gg/chatree-teach นกั เรยี นตอบข้อซักถามของครวู า่ “จะนิยามปริมาณใดทบี่ อกถึงการ
กระทาของบคุ คลในคลปิ ” ( ทิ้งช่วงให้นกั เรยี นคดิ ) แล้วนาไปสคู่ าตอบ คือ งาน หรือ Work

1.2 นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายในแต่ละกลุ่ม พร้อมท้ังบนั ทึกความเห็นของกลุม่ ในใบงาน 1.1
เฉพาะข้อ 1 และขอ้ 2 (เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้แสดงความคิดเหน็ โดยยงั ไม่เนน้ ถูกผิด)

1.3 ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นาเสนอความเห็นของกลมุ่ ( ของแต่ละคนในกล่มุ โดยตัวแทน
ของกลมุ่ และข้อสรุปของกลุ่ม )

1.4 นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายเก่ียวกบั เหตุทเี่ ด็กต้องร้องไห้ เมื่อยกวตั ถทุ ีต่ ้องการไป
ไม่ได้ ในแงข่ องวิชาฟิสิกส์ แล้วบนั ทกึ ลงในใบงาน 1.1

1.5 นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวนข้อสอบ 10 ขอ้
1.6 แจง้ ให้นกั เรยี นทราบวา่ จะได้ศึกษาเกยี่ วกับงาน และกาลัง
1.7 นักเรยี นศกึ ษาข้อมลู เพมิ่ เตมิ จากเว็บไซตก์ ารสอนฟิสิกส์ชือ่ http://gg.gg/chatree-teach
ขน้ั สารวจและคน้ หา
2.1นักเรยี นสบื ค้นข้อมลู เก่ยี วกับงาน จากใบความรู้ 1 พรอ้ มกบั ใบงาน 1.2 แลว้ สรุป
สาระสาคญั บนั ทึกลงในสมดุ จดบันทึกและตอบคาถาม
2.2 ส่มุ นกั เรยี น 1 กลมุ่ นาเสนอผลการสบื คน้ ข้อมูล

62

2.3 ครใู หน้ ักเรียนศึกษาเพิม่ เตมิ เก่ียวกบั การใช้พลงั งานของประเทศในภมู ภิ าคอาเซยี น และ
การใช้พลังงานการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและพอประมาณตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป
3.1 นักเรียนนาข้อมลู จากข้ันการสืบค้น ข้อมูล มาอภปิ รายร่วมกับครู
3.2 ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ เกย่ี วกับงาน เพื่อใหน้ กั เรยี นสรปุ สาระสาคัญลงในสมุดจดบนั ทึก

ขัน้ ขยายความรู้
4.1 นกั เรยี นสนทนาซกั ถามครูและตอบคาถามว่า “การท่เี ราจะรู้ว่า ใครจะมีกาลงั มากหรือน้อย

จะสงั เกตอย่างไร ” ( ทิ้งช่วงให้นกั เรียนคิด ) เพื่อนาไปสู่ เร่อื ง กาลงั
4.2 นักเรียนและครรู ว่ มกนั อภิปราย เกยี่ วกบั กาลงั และตัวอยา่ งการหากาลงั จากใบความรู้ 1
4.3 นักเรียนรว่ มกนั สบื คน้ แกป้ ญั หา ในใบงาน 1.3
4.4 นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทักษะ 1
4.5 ครแู นะนาใหน้ กั เรียนศึกษาข้อมลู เพิ่มเตมิ เกย่ี วกับแหล่งพลงั งานความร้อนจากบ่อน้าพุรอ้ น

พระรว่ ง อาเภอพรานกระตา่ ยจงั หวัดกาแพงเพชร การใช้พลงั งานของประเทศในภูมภิ าคอาเซยี น และการใช้
พลงั งานอย่างคุ้มค่าและพอประมาณตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากเว็บไซต์ http://gg.gg/chatree-
teach (บูรณาการ*)

ข้นั ประเมนิ
5.1 นกั เรียนเขียน Concept mapping เกยี่ วกบั งาน และกาลังในใบกจิ กรรม 1
5.2 นักเรียนนา Concept mapping อภิปรายแลกเปล่ียนกับเพ่ือนๆ และประเมินผลงาน

ใหก้ บั เพอื่ น
5.3 นักเรียนท่ีเป็นเจ้าของผลงาน Concept mapping ที่ได้รับการประเมินจากเพื่อนมา

อภปิ รายเกี่ยวกับ Concept ในงานนั้น โดยการสุม่ จากครู
5.4 นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น
5.5 นกั เรียนทีท่ าคะแนนไดไ้ ม่ถึงรอ้ ยละ 50 เขา้ ไปเรยี นรู้และฝึกทาแบบฝึกทักษะการแก้ปัญหา

โจทย์วิชาฟิสิกส์ออนไลน์ เรือ่ ง งานและกาลงั ได้ท่เี ว็บไซต์ http://gg.gg/chatree-teach

63

10. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื
1 ชดุ ใช้ขนั้ สรา้ งความสนใจ
รายการสือ่ 1 ชุด ใชข้ ้ันสร้างความสนใจ
1. แบบทดสอบก่อนเรียน 1 ชดุ ใชอ้ ธิบายและลงข้อสรุป ( ใช้ข้นั ประเมนิ )
2. ใบงาน 1.1 1 ชุด ใช้อธบิ ายและลงข้อสรุป
3. แบบฝึกทกั ษะ 1 1 ชดุ ใช้สารวจและค้นหา
4. ใบความรู้ 1 1 ชุด ใช้ขยายความรูแ้ ละลงข้อสรุป
5. ใบงาน 1.2 1 ชุด ใชข้ ้นั ประเมินและลงข้อสรุป
6. ใบงาน 1.3 1 ชุด ใชข้ นั้ ประเมิน
7. ใบกิจกรรม 1
8. แบบทดสอบหลังเรียน 1 ชุด ใช้พฒั นาการทักษะการคดิ ของนกั เรยี น

9.เกมสห์ มากฮอสออนไลน์ ท่ี 1 ชุด ใชป้ ระกอบทกุ ข้นั ตอนของการเรียนการสอน
http://software.thaiware.com/downloa
d.php?id=1204

10.เวบ็ ไซต์ http://gg.gg/chatree-teach

11. กจิ กรรมเสนอแนะ

กจิ กรรมเสริมทักษะหรอื ซ่อมเสริม

รายการ วิธีดาเนินกิจกรรม

1. ปรบั ปรงุ – แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผูเ้ รยี น 1. ครูควบคมุ ดแู ลให้อยู่ในกรอบระหวา่ งเรยี น

2. ครคู อยเสรมิ หรือแก้ไขเม่อื การอภปิ รายของนักเรยี น

ไมส่ มบูรณ์

3. ครชู ีแ้ จงขอ้ บกพร่องในการทากจิ กรรม

4. ครูเฉลยขอ้ สงสัย ทนี่ กั เรยี นทาไมไ่ ด้

5. สอนซ่อมเสริมนกั เรียนทีไ่ ม่ผ่านประเมินหลงั เรยี น

6. ให้นักเรียนฝึกเล่นเกมส์หมากฮอสเพ่ือฝึกกระบวนการ

คิด

2. สง่ เสรมิ ความร้คู วามสามารถของผเู้ รียน 1. ใหน้ ักเรยี นทาชน้ิ งาน 1 ชนิ้ งาน

นอกจากนน้ั ให้สืบค้นข้อมูลเพมิ่ เตมิ จาก www.wikipedia.org และเว็บไซต์ของฟิสิกส์ราชมงคล

http://www.rmutphysics.com

64

12.บนั ทึกผลหลังการสอน

12.1 หาความก้าวหน้าในการเรียนการสอน

จานวน คะแนนเตม็ คะแนนเฉลยี่ คะแนนเฉลย่ี คะแนนเฉลยี่ E1/E2 ความก้าว
ระหว่างเรยี น หลงั เรียน หน้าใน
นักเรยี น กอ่ นเรยี น การเรยี น
8.62 9.11 86.2/91.1
151 10 2.53 65.8

สตู ร ร้อยละความก้าวหน้าในการเรยี น = คะแนนหลงั เรยี น – คะแนนกอ่ นเรียน x 100
คะแนนเตม็

สตู ร หาประสิทธภิ าพของสื่อ = E1/ E2 (ตามเกณฑ์ 80/80)
E1 = ประสทิ ธิภาพของกระบวนการ (ทาแบบฝึก)
E2 = ประสิทธิภาพของผลลพั ธ์ (สอบหลงั เรียน)
ประสิทธภิ าพของกระบวนการ = คะแนนเฉลยี่ ระหวา่ งเรยี น x 100
คะแนนเต็ม

ประสทิ ธภิ าพของผลลัพธ์ = คะแนนเฉลย่ี หลังเรยี น x 100
คะแนนเตม็

12.2 สภาพของการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการ

จดั การเรียนรู้ เปน็ กิจกรรมที่เหมาะสมกับวยั ของผู้เรียนและเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ สามารถจดั กิจกรรม
การเรียนการสอน

 ไดต้ ามเวลาท่กี าหนดทกุ กิจกรรม
 ไมท่ นั ตามเวลาทีก่ าหนดในกจิ กรรมเนื่องจาก................................................................

............................................................................................................................. ........
12.3 การมีส่วนร่วมของนักเรียน การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนคร้ังนี้ นักเรียนทุกคนได้ร่วม

กจิ กรรมและเรียนรูอ้ ยา่ งมคี วามสขุ และมีขอ้ คน้ พบเพิ่มเติมคือ.....นักเรียนแสดงออกดว้ ยการมีสว่ นร่วมในการ

ตอบคาถาม.......
12.4 ความรู้ความเข้าใจของผเู้ รยี น กิจกรรมช่วยให้ผเู้ รยี นมีความรูค้ วามเข้าใจตรงตามสาระการ

เรียนรู้ เกดิ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์และมที ักษะกระบวนการตามที่จดุ ประสงค์กาหนด นอกจากนน้ั ยงั พบว่า

.......นักเรียนมคี วามเข้าใจในเนอ้ื หาท่ีเรียน ในระดบั ดี........
12.5 สือ่ การสอน ส่อื การเรียนการสอนที่กาหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ไดใ้ ช้สื่อหลายอยา่ ง เปน็ สื่อ

ท่ีเหมาะสมกบั วัยผเู้ รยี น สอดคล้องกบั เนื้อหา สามรถใชป้ ระกอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนได้อยา่ ง

เหมาะสม ช่วยใหผ้ เู้ รยี นเรียนรู้อย่างสนกุ สนานและเข้าใจบทเรียนไดเ้ รว็ ยงิ่ ขนึ้ และมีข้อคิดเหน็ เพิ่มเตมิ คือ
.....นักเรียนสนใจส่ือการสอนอย่างมาก.................

65

12.6 การวัดผลประเมินผล ในการจดั การเรียนการสอนคร้งั น้ี ครอบคลมุ พฤติกรรมตามจุดประสงค์
การเรยี นรทู้ ีก่ าหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมนิ ผลสรปุ ได้ ดงั นี้

ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (K)
นักเรียนทีผ่ า่ นจุดประสงคต์ ามเกณฑ์ จานวน..151...คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..100.....
นกั เรยี นท่ีไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์ จานวน....-......คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ...-....
และไดด้ าเนินการแก้ปัญหา คือ
 สอนเสรมิ  มอบงานใหท้ าเพ่ิมเตมิ ทารายงาน  อนื่ ๆ................
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
นกั เรียนทผี่ ่านทักษะกระบวนการตามเกณฑ์ จานวน..151...คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..100.....
นกั เรยี นที่ไมผ่ ่านทักษะกระบวนการตามเกณฑ์ จานวน....-......คน คิดเป็นร้อยละ...-....
และไดด้ าเนินการแก้ปัญหา คือ .......................-...........................................................
ด้านค่านิยม (A)
นกั เรยี นท่ีมีคา่ นยิ มตามเกณฑ์รอ้ ยละ จานวน..151...คน คดิ เป็นร้อยละ..100.....
นกั เรยี นท่ีต้องปรบั เปลย่ี นคา่ นิยม จานวน....-......คน คดิ เป็นรอ้ ยละ...-....
และไดด้ าเนนิ การปรับเปลีย่ นคา่ นิยม (แจงรายละเอียด ของการปรับเปลีย่ นค่านยิ ม
คอื ............-............................................................................................................................
12.7 การบูรณาการ ในการจัดการเรยี นการสอนไดบ้ ูรณาการการเรยี นรู้โดยบูรณราการภายในเน้อื หา
สาระของกลมุ่ วชิ าวิทยาศาสตร์ซึง่ เปน็ การบรู ณาการ(ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง / อาเซียน / โรงเรียน
สุจริต) เพอื่ ต้องการใหน้ กั เรยี นไดน้ าความรู้ท่ไี ด้ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั มที กั ษะชวี ิต ท่ีจะก้าวไปสูส่ งั คมภายนอก
ได้อยา่ งมีความรู้ท่เี ท่าทนั ในยุคปัจจุบัน โดยมีขอ้ คน้ พบเพิม่ เตมิ คือ...มีการบรู ณาการเก่ียวกบั อาเซียนในกิจกรรม
การเรยี นการสอนอย่างสม่าเสมอ......
12.8 นวัตกรรมทใ่ี ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน การจัดการเรยี นการสอนในครง้ั นไี้ ดจ้ ดั ทาส่ือการเรียน
การสอนทเ่ี ปน็ นวัตกรรม คือ ....เวบ็ ไซตก์ ารสอนฟสิ ิกส์ http://gg.gg/chatreephysics.....
ผลการใชน้ วตั กรรมพบวา่ ......นกั เรยี นสนใจส่อื การสอนเป็นอย่างดี......
12.9 วิจัยในช้นั เรยี น ผลจากการจดั การเรียนการสอน พบประเดน็ นา่ สนใจที่ควรดาเนนิ การศกึ ษา
ค้นควา้ เพ่ิมเตมิ ในรูปแบบการวจิ ัยในชั้นเรียนเก่ยี วกับการจัดการเรียนการสอนคือ..-..............................................
.................................................................................................................................................................................
12.10 ปญั หาและอุปสรรค ผลจากการจดั การเรียนการสอน พบประเดน็ ปัญหาและอุปสรรค
ดงั ต่อไปนี้..........นกั เรียนแก้สมการคณิตศาสตร์ในโจทย์วชิ าฟิสกิ ส์ไม่ค่อยได้.........
............................................................................................................................. ....................................................
12.11 แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
จากประเด็นปัญหาท่ีพบ สามารถวเิ คราะหแ์ นวทางเพือ่ แก้ปัญหา ดังนี้...ใหน้ กั เรียนฝกึ ทาโจทยแ์ บบ
ต่างๆทห่ี ลากหลาย......

ลงชอ่ื ..............................................ผู้สอน
(นายชาตรี ศรีม่วงวงค์)

66

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
.................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. .............................................................

ลงชอื่ ........................................................
(นายสรุ ะศกั ด์ิ ยอดหงษ์)

ตาแหนง่ หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
วันที่..........เดอื น..........................พ.ศ............

ข้อเสนอแนะของรองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
............................................................................................................................. .................................
.................................................................................................................................. ............................
...................................................................................................... ........................................................

ลงชือ่ ........................................................
(นายวเิ ชียร ยอดนิล)

ตาแหน่ง รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
วันท่ี..........เดือน..........................พ.ศ............
ขอ้ เสนอแนะของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................................................................... ...........
....................................................................................................................... .......................................
ลงช่อื ........................................................

(นางสิริวรรณ ตนั ตสิ นั ติสม)
ตาแหน่ง รองผู้อานวยการ รักษาการในตาแหน่ง

ผูอ้ านวยการโรงเรียนวัชรวิทยา
วันที่..........เดอื น..........................พ.ศ............

67

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 งานและพลงั งาน
เรื่องที่ 1 งานและกาลงั

วิชา ฟสิ ิกส์ 2 รหัสวิชา ว30202 ชัน้ ม.4 เวลา 5 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี น 1.5 หนว่ ย
อาจารยผ์ ู้สอนนายชาตรี ศรมี ว่ งวงค์


Click to View FlipBook Version