Mechanics of Materials 13-11
รปู ท่ี 13-8
พิจารณารปู ท่ี 13-8 เราจะเหน็ ไดจ ากรูปรางการโกง ตัวของเสาวา
1. สําหรับเสาทถี่ กู ยดึ โดยหมดุ ทั้งสองปลาย ดงั ทแ่ี สดงในรูปท่ี 13-8a Le = L
2. ในกรณีท่ีเสามีปลายหนง่ึ ถูกยดึ แนน และอกี ปลายหนึ่งเปนอสิ ระ ดังทแ่ี สดงในรูปท่ี 13-8b Le = 2L
3. ในกรณที ี่เสาถูกยดึ แนน ท้งั สองปลาย ดงั ท่แี สดงในรปู ที่ 13-8c Le = 0.5L
4. สาํ หรบั เสาทถ่ี กู ยึดแนนปลายหนงึ่ และอกี ปลายหนงึ่ เปนหมุด Le = 0.7L
ดังนนั้ Le จะขึ้นอยูกับความตานทานตอการหมุนท่ีจุดรองรับและความตานทานตอการเคลื่อนท่ีทางดานขางของเสา และ
เราจะเขยี นสมการของความยาวประสทิ ธิผลไดเปน
Le = KL (13-10)
โดยท่ี K เปน effective length factor และ L เปน ความยาวระหวางจุดรองรับของเสา ดังนั้น สมการของ Euler จะอยูใน
รปู
Pcr = π 2 EI (13-11)
( KL) 2
และหนวยแรงวกิ ฤติจะอยูในรปู
σ cr = π 2E (13-12)
(KL / r)2
โดยท่ี KL / r เปน อัตราสว นความชะลดู ประสทิ ธผิ ล (effective slenderness ratio) ของเสา
Mechanics of Materials 13-12
ตวั อยางที่ 13-3
เสาเหล็ก A36 มีหนาตดั W150 × 22 kg/m ( A = 2.86(10−3 ) m2 , I x = 12.1(10−6 ) m4 ,
I y = 3.87(10−6 ) m4 ) มคี วามยาว L =10 m ถูกรองรบั แบบยึดแนน ท่ปี ลายดานลา งและถูกรองรบั โดยหมุดทป่ี ลาย
ดานบน ดงั ทแ่ี สดงในรปู ที่ EX 13-3 ถา เสาถูกคํ้ายันในแนวแกน x − x ทรี่ ะยะ 6 m จากพน้ื จงหากําลงั รับแรงกดอัด
สงู สดุ ของเสา
รูปที่ Ex 13-3
Radius of gyration ของเสารอบแกน x − x และแกน y − y จะมีคา เทา กับ
rx = Ix = 12.1(10−6 ) = 0.06504 m
A 2.86(10−3 )
ry = Iy = 3.87(10−6 ) = 0.03679 m
A 2.86(10−3 )
จากรูป เราจะไดวา ชวงของเสาความยาว 10 m ซึ่งถูกรองรับแบบ pinned-fixed ในการตานทานตอการโกง
เดาะรอบแกน x − x ดังน้ัน อตั ราสวนความชลดู ประสทิ ธิผล (effective slenderness ratio) ของเสาจะมีคาเทากบั
KL = 0.7(10) = 107.6
r 0.06504
x
ชวงของเสาความยาว 6 m ซึ่งถูกรองรับแบบ pinned-fixed ในการตานทานตอการโกงเดาะรอบแกน y − y
ดงั นั้น อัตราสวนความชลดู ประสทิ ธผิ ล (effective slenderness ratio) ของเสาจะมีคา เทากับ
KL = 0.7(6) = 114.2
r 0.03679
y
ชวงของเสาความยาว 4 m ซ่งึ ถกู รองรบั แบบ pinned-pinned ในการตานทานตอการโกงเดาะรอบแกน y − y
ดังน้นั อตั ราสวนความชลดู ประสทิ ธิผล (effective slenderness ratio) ของเสาจะมคี า เทากับ
KL = 1.0(4) = 108.7
r 0.03679
y
Mechanics of Materials 13-13
เน่อื งจากอัตราสว นความชลดู ประสทิ ธผิ ลมีคา สูงสดุ 114.2 ดงั น้นั การโกง เดาะของเสาจะเกิดรอบแกน y − y
ในชวงของเสาทีม่ คี วามยาว 6 m และหนว ยแรงกดอดั สูงสดุ ของเสาจะมีคา เทากับ
σ cr = π 2E = π 2 (200)109 = 151.4 MPa
(114.2) 2
KL 2
r y
ซึง่ มคี านอยกวา yielding stress ของเหล็ก A36 σ y = 250 MPa ดังนนั้ การโกงเดาะจะเกิดกอนการวิบัตขิ องวัสดแุ ละ
กาํ ลังรับแรงกดอดั สูงสุดของเสาจะมีคาเทากบั
Pcr = σ cr A = 151.4(106 )2.86(10−3 ) = 433 kN Ans.
Mechanics of Materials 13-14
13.4 การออกแบบเสาทีถ่ ูกกระทาํ โดยแรงรวมศูนย (Design of Column for Concentric Loading)
สมการของ Euler เปนสมการท่ีข้นึ อยูกับสมมุติฐานตางๆ หลายขอดังที่ไดกลาวไปแลว ซ่ึงเสาท่ีอยูในสภาพความ
เปน จรงิ จะมลี ักษณะทแ่ี ตกตางจากสมมตุ ิฐานดังกลาว จากการทดสอบเสาท่ีมีคาอัตราสวนความชะลูดตางๆ พบวา ขอมูล
ท่ีไดจากการทดสอบมีคาตํ่ากวาทฤษฎีและมีการกระจายที่สูงมาก ดังที่แสดงในรูปที่ 13-9 ท้ังนี้เน่ืองมาจากสาเหตุหลาย
ประการเชน แรงกดอัดอาจจะไมตรงจุด centroid ของเสา, ขนาดของเสาและวัสดุมีความไมสมบูรณ, หนวยแรงคงคาง
(residual stresses), และการยึดร้ังปลายของเสา เปนตน ดังน้ัน สมการที่ใชในการออกแบบเสาจึงเปนสมการท่ีไดมาจาก
การทดสอบเสา
รูปที่ 13-9
Steel Columns
จากการทดสอบพบวา พฤติกรรมการวิบัติของเสาเหล็กจะถูกแบงออกตามอัตราสวนความชลูดของเสาไดเปน 3
แบบ ดังท่แี สดงในรูปท่ี 13-9 คือ เสายาว (long column), เสาสนั้ (short column), และ intermediate column โดยท่ี
เสายาวเปน เสาท่ีวิบัติแบบโกง เดาะทางดานขาง (lateral buckling) ในขณะที่หนวยแรงกดอัดที่เกิดขึ้นบนหนาตัด
ของเสามีคา นอยกวา proportional limit ตลอดหนา ตัดของเสา การวิบัติในลักษณะนจ้ี ะถกู เรยี กวา elastic buckling
เสาส้ันเปนเสาที่เกิดการวิบัติเมื่อหนวยแรงกดอัดที่เกิดข้ึนบนหนาตัดของเสามีคาเทากับ yielding stress ตลอด
หนาตัดของเสาและไมมีการโกงเดาะเกิดข้ึน ในทางปฏิบัติแลว เราแทบจะไมเห็นเสาชนิดน้ีเลยเน่ืองจากเปนเสาท่ีส้ันเกิน
กวาจะนาํ มาใชงานในโครงสรางไดจริง
Intermediate column เปนเสาท่ีเกิดการวิบัติเมื่อหนวยแรงกดอัดท่ีเกิดขึ้นบนบางสวนของหนาตัดของเสามีคา
เทากับ yielding stress ดังนั้น เสาชนิดนี้จะวิบัติโดยการ yielding และโกงเดาะในเวลาเดียวกัน การวิบัติในลักษณะนี้จะ
ถกู เรยี กวา inelastic buckling
ขอ กาํ หนดการออกแบบโดยใชหนวยแรงท่ยี อมให (ASD specification) ของ American Institute of Steel
Construction (AISC) ไดแ บงสมการในการออกแบบเสาเหลก็ ออกเปน 2 ชวงคือ ชวง elastic และชวง inelastic ดังทีแ่ สดง
ในรูปที่ 13-10 โดย ASD specification ไดกําหนดใหคาอตั ราสวนความชะลดู ทเ่ี สามีพฤติกรรมเปล่ยี นจาก elastic เปน
inelastic หรือ (KL / r)c จะหาไดโดยสมมุติให residual stresses ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในเสาเหล็กมคี า เฉล่ียเทา กบั ครึ่งหนึง่ ของ
Mechanics of Materials 13-15
yielding stress ของเหล็ก ดงั นน้ั ถา หนวยแรงกดอดั ที่คํานวณไดจ ากสมการของ Euler มคี ามากกวา คา สวนท่ีเหลอื อยูของ
กําลังของเหลก็ หรือ σ y / 2 แลว ผลรวมของคา หนว ยแรงกดอัดทงั้ หมดที่เกิดขึน้ พรอ มกนั ในเสาจะมคี ามากกวา σ y และ
จะทําใหส มการของ Euler ใชไ มไ ด ดงั นัน้ เราจะได
σy = π 2E
2 (KL / r)2
(KL / r)c = 2π 2 E (13-13)
σy
ในชวง elastic ซึ่งมีคา (KL / r)c < KL / r < 200 สมการที่ใชในการออกแบบเสาจะเปนสมการของ Euler
ท่ถี กู หารดวยสว นปลอดภัย ( factor of safety) เทากับ 23/12 หรือ
σ allow = 12π 2 E (13-14)
23(KL / r)2
ในชว ง inelastic ซึง่ มีคา 0 < KL < KL สมการทีจ่ ะใชในการออกแบบเสาจะอยใู นรูปสมการพาราโบลา
r r
c
[1 − 1 (KL / r)2 ]σ
2
(KL / r ) 2 y
c
σ allow = (13-15)
F.S.
เน่ืองจากคา ทีไ่ ดจากสมการนขี้ ึ้นอยูกับอัตราสว นความชะลดู ของเสา โดยที่สมการน้ีจะใหคาท่ีแนนอนมากขึ้นเมื่อ
อัตราสว นความชะลดู ของเสามีคานอ ยลง ดังนน้ั ASD specification จงึ กําหนดใหส มการของสวนปลอดภัยอยใู นรปู
F.S. = 5 + 3 (KL / r) − 1 (KL / r)3 (13-16)
3 8 (KL / r)c 8
( KL / r ) 3
c
จากสมการ เราจะเห็นวา F.S. = 5/3 ≈ 1.67 ที่ KL / r = 0 หรือเมอ่ื เสามีความยาวเปน ศนู ย และ F.S. = 23/12 ≈
1.92 ที่ KL / r = (KL / r)c หรอื เมอื่ เสามคี วามยาวเทา กับเสายาว
เม่ือนาํ สมการทัง้ สองมาเขยี นกราฟ เราจะได column design curve ของเสาเหล็ก ดังที่แสดงในรูปท่ี 3-10
รปู ท่ี 13-10
Mechanics of Materials 13-16
Aluminum Columns
สมการท่ีใชในการออกแบบเสา aluminum ไดถูกกําหนดไวใน Specifications for the Aluminum Association
ซง่ึ ประกอบดวยสมการสามสมการขึน้ อยูก ับอตั ราสวนความชะลูดของเสา และเน่ืองจาก aluminum มีคุณสมบัติที่แตกตาง
กันตามชนิดของ aluminum ดังนั้น สมการที่ใชก็จะข้ึนอยูกับชนิดของ aluminum ดวย ยกตัวอยางเชน aluminum alloy
2014-T6 ซง่ึ มกั จะใชในการกอ สรางจะมีสมการทใ่ี ชในการออกแบบอยูใ นรปู
σ =allow 195 MPa 0 ≤ KL ≤ 12 (13-17)
r (13-18)
(13-19)
σ allow = [214.5 − 70 KL ] MPa 12 < KL < 55
43 r r
σ allow = 378,000 MPa 55 ≤ KL
(KL / r)2 r
เมือ่ เรานาํ สมการท่ี 13-17 ถึง 13-19 มาเขียนกราฟ เราจะได column design curve ของเสา aluminum alloy
2014-T6 ดงั ทแี่ สดงในรปู ที่ 13-11 ขอใหส ังเกตดว ยวา สมการท่ี 13-19 จะอยใู นรูปของสมการของ Euler
รปู ที่ 13-11
Timber Columns
เสาไมมกั จะถูกออกแบบโดยใชส มการท่ีถูกกําหนดขึน้ มาโดย National Forest Products Association (NFPA)
ซึ่ง NFPA ไดแบงสมการดังกลาวออกเปน สามสมการสําหรับเสาส้นั , intermediate column, และเสายาวดังตอไปนี้
σ =allow 8.28 MPa 0 ≤ KL ≤ 11 (13-20)
d (13-21)
(13-22)
σ allow = 8.28[1 − 1 ( KL / d )2 ] MPa 11 < KL < 26
3 26.0 d
σ allow = 3730 MPa 26 < KL ≤ 50
(KL / d )2 d
สมการท่ี 13-20 ถึง 13-22 นี้เปนสมการทใี่ ชในการออกแบบเสาไมท่มี ีหนาตดั รปู สี่เหลี่ยมผนื ผา ซ่ึงมหี นาตดั
b X d เมื่อ d ≤ b และมคี า modulus of elasticity Ew = 12.5 GPa ขอใหสังเกตดวยวา สมการท่ี 13-22 เปน
สมการของ Euler ซง่ึ มีสว นความปลอดภัย F.S.= 3.0
Mechanics of Materials 13-17
รูปท่ี 13-12
Mechanics of Materials 13-18
ตัวอยา งท่ี 13-4
จงหากําลงั รบั แรงกดอดั สูงสดุ ทย่ี อมใหข องเสาในตัวอยางที่ 13-3 โดยใชสมการการออกแบบของ AISC
จากตวั อยา งท่ี 13-3 เราทราบมาแลว วา เสาเหล็ก A36 ดังกลา วมพี นื้ ที่หนาตดั A = 2.86(10−3 ) m2 และ
moment of inertia I x = 12.1(10−6 ) m4 , I y = 3.87(10−6 ) m4 นอกจากนน้ั แลว เสาจะเกิดการโกง เดาะรอบแกน
y − y ในชวงทเ่ี สามีความยาว 6 m และอตั ราสว นความชลดู ประสิทธผิ ล (effective slenderness ratio) ของเสาจะมคี า
เทากับ
KL = 0.7(6) = 114.2
r 0.03679
y
คาอัตราสวนความชลดู วกิ ฤติทแี่ บงพฤติกรรมของเสาแบบ inelastic ออกจากพฤติกรรมของเสาแบบ elastic จะ
หาไดจ ากสมการ
KL = 2π 2 E = 2π 2 (200)109 = 125.7
r σy 250(106 )
c
เนื่องจาก 0 < KL < KL ดังนนั้ สมการทีจ่ ะใชในการออกแบบเสาจะอยใู นรปู
r r c
[1 − 1 (KL / r)2 ]σ
2 (KL /
r ) 2 y
c
σ allow = 5
3 (KL / r) 1 (KL / r)3
3 + 8 (KL / r)c −8
( KL / r ) 3
c
[1 − 1 (114.2) 2 ]250
2 (125.7) 2
σ allow = 5 = 76.7 MPa
3 (114.2) 1 (114.2)3
3 + 8 (125.7) − 8 (125.7)3
และกําลังรบั แรงกดอดั สูงสุดทีย่ อมใหของเสาจะมคี า เทากับ
Pallow = σ allow A = 76.7(106 )2.86(10−3 ) = 219 kN Ans.
Mechanics of Materials 13-19
ตัวอยา งท่ี 13-5
จงทําการออกแบบเสาไม AB ดังท่ีแสดงในรูปที่ Ex 13-5 ซ่ึงถูกคํ้ายันที่ก่ึงกลางความสูงของเสาในแนวแกน
y − y โดยใชสมการของ National Forest Products Association (NFPA) กําหนดให w = 8 kN/m
รูปท่ี Ex 13-5
จากแผนภาพ free-body diagram ของคาน BC และสมการความสมดุลของ moment รอบจุด C เราจะหา
แรงปฏิกริ ยิ าของคานท่ีจุด B ซงึ่ เปนแรงกดอัดในแนวแกนของเสาไดเทา กบั
P = wL = 8(3) = 12 kN
2 2
Radius of gyration ของเสารอบแกน x − x และแกน y − y จะมีคาเทา กบั
rx = Ix = 2a(a)3 = a
A 12(a)2a 23
ry = Iy = a(2a)3 a
A 12(a)2a = 3
จากรูป เราจะไดวา ชวงของเสาความยาว 2 m ซึ่งถูกรองรับแบบ pinned-pinned ในการตานทานตอการโกง
เดาะรอบแกน y − y ดงั นนั้ อตั ราสวนความชลดู ประสทิ ธผิ ล (effective slenderness ratio) ของเสาจะมคี าเทา กับ
KL = 1.0(2) = 23
r a/ 3 a
y
ชวงของเสาความยาว 1m ซ่ึงถูกรองรับแบบ pinned-pinned ในการตานทานตอการโกงเดาะรอบแกน x − x
ดังน้นั อัตราสว นความชลดู ประสิทธิผล (effective slenderness ratio) ของเสาจะมคี า เทากบั
KL = 1.0(1) = 23
r a/2 3 a
x
ซ่ึงเราจะไดวา อัตราสวนความชลูดประสิทธิผลของเสารอบแกน x − x และรอบแกน y − y มีคาเทากันและเสาจะเกิด
การโกง เดาะรอบแกน x − x และ รอบแกน y − y พรอมกนั
เน่ืองจากเราไมทราบคาอัตราสวนความชลูดของเสา ดังนั้น เราจะเริ่มโดยการออกแบบเสาเปนเสาส้ันโดยสมมุติ
ให 0 ≤ KL ≤ 11 โดยที่ d เปน ขนาดความกวางที่นอ ยที่สดุ ของเสา ซงึ่ มคี าเทากับ a
d
P = 8.28 MPa
A
Mechanics of Materials 13-20
12000 = 8.28(106 )
a(2a)
a = 0.0269 m
ตรวจสอบคาอตั ราสว นความชลูดของเสา
KL = 1.0(2) = 74.3 > 11
d 0.0269
เนื่องจากคาความชลูดท่ีไดมีคามากกวา 11 มาก ดังนั้น เราจะทําการออกแบบเสาโดยสมมุติใหเสาเปนเสายาว
โดยท่ี 26 < KL ≤ 50
d
P = 3730 MPa
A (KL / d )2
12000 = 3730(106 )
a(2a) (1.0(2) / a)2
a = 0.0424 m
ตรวจสอบคาอัตราสว นความชลูดของเสา
KL = 1.0(2) = 47.2
d 0.0424
ดังน้ัน ขนาด a ของหนา ตัดเสาควรมคี าอยางนอ ย 43 mm Ans.
Mechanics of Materials 13-21
13.5 การออกแบบเสาที่ถกู กระทาํ โดยแรงเยื้องศนู ย (Design of Column for Eccentric Loading)
ในบางกรณี เสาจะถูกกระทําโดยแรงกดอัดในแนวแกน P ซ่ึงกระทําเย้ืองศูนย e จากจุด centroid ของหนาตัด
ของเสา ดังที่แสดงในรูปท่ี 13-13a ซึ่งจะทําใหเกิดแรงกดอัดในแนวแกน P และโมเมนตดัด M = Pe กระทําตอหนา
ตดั เสาในเวลาเดียวกัน โดยทว่ั ไปแลว เสาทีถ่ ูกกระทําโดยแรงเยื้องศูนยน้ีจะถกู ออกแบบไดส องวิธีดงั นี้
รูปที่ 13-13
1. Use of Available Column Formulas
วธิ ีการน้ีเปนวธิ ีการทีง่ า ยและใชไ ดด กี ับเสาส้ันและ intermediate column โดยท่ี
1. ใชสมการ axial stress σ = P / A และสมการ flexural formula σ = Mc / I หาการกระจายของหนวย
แรงบนหนาตดั ของเสา
2. จากหลักการ superposition (principle of superposition) เราจะไดวา การกระจายของหนวยแรงกดอัด
เน่ืองจากแรงกดอัดในแนวแกนและโมเมนตดัดจะมีลักษณะดังท่ีแสดงในรูปที่ 13-13b และคาสูงสุดของ
หนว ยแรงกดอัดจะหาไดจากสมการ
σ max = P + Mc (13-23)
A I
3. กาํ หนดใหหนวยแรง σ max ท่หี าไดใ นขอ ที่ 2 มีการกระจายอยางสม่าํ เสมอตลอดหนาตดั ของเสา
4. ทาํ การออกแบบเสาโดยใหหนวยแรง σ max นมี้ คี านอ ยกวา หนวยแรงท่ียอมให σ allow หรือ
σ max < σ allow
เราควรที่จะทราบไวดวยวา คาหนวยแรง σ allow ในกรณีน้ีจะหามาโดยใชคา slenderness ratio ที่มีคามากสุด
ของเสา โดยจะไมพิจารณาวาเสาถูกกระทําโดยโมเมนตดัดในทิศทางใด และถาเราพบวาคาหนวยแรง σ max > σ allow
แลว เราจะตองเพ่ิมพ้ืนท่ีหนาตัดของเสาใหใหญข้ึน แลวทําการคํานวณและเปรียบเทียบคาหนวยแรง σ max และ σ allow
จนไดค า หนว ยแรง σ max < σ allow
2. Interaction Formula
ในวธิ กี ารนี้ เราจะหาพ้นื ทหี่ นาตัดของเสาท่จี ะใชในการรองรบั แรงกดอัดในแนวแกนและโมเมนตดัดใหเปน อสิ ระ
ตอ กนั จากนน้ั เราจะหาคา ของพืน้ ทหี่ นา ตัดของเสาทง้ั หมดไดจากผลรวมของพื้นทห่ี นาตดั ของเสาทจ่ี ะใชใ นการรองรบั แรง
กดอัดในแนวแกนและพนื้ ที่หนาตัดของเสาที่จะใชในการรองรับโมเมนตด ดั
ถา ใหห นวยแรงกดอัดท่ียอมให (allowable compressive stress) ของเสาเปน (σ )a allow แลว พื้นที่หนาตัดของ
เสาใชในการรองรบั แรงกดอดั ในแนวแกน P จะหาไดจ ากสมการ
Mechanics of Materials 13-22
Aa = P
(σ a ) allow
ถา ใหห นว ยแรงกดอดั ทยี่ อมให (allowable bending stress) ของเสาเปน (σ b )allow แลว พื้นที่หนาตัดของเสาที่
ใชใ นการรองรบั โมเมนตด ดั M จะหาไดจากสมการ
I = Ab r 2 = Mc
(σ b )allow
Ab = Mc
r 2 (σ b ) allow
ดังนน้ั พน้ื ทีห่ นาตดั ทงั้ หมดของเสาใชใ นการรองรบั แรงกดอดั ในแนวแกน P และโมเมนตดดั M จะอยูใ นรูป
Aa + Ab ≤ A
P Mc ≤ A
(σ a ) allow + r 2 (σ b ) allow
P/ A + Mc / Ar 2 ≤1
(σ a ) allow (σ b )allow
σa + (σ σb ≤1 (13-24)
(σ a ) allow )b allow
เมื่อ
σa = P = axial stress เนอ่ื งจากแรงในแนวแกน
A
σb = Mc = bending stress เน่อื งจากโมเมนตด ดั
I
(σ a )allow = allowable axial stress ทร่ี ะบุอยใู นมาตรฐานการออกแบบดังท่ไี ดก ลา วไปแลว
(σ b )allow = allowable bending stress ท่รี ะบอุ ยใู นมาตรฐานการออกแบบดงั ทไี่ ดกลาวไปแลว
สมการที่ 13-24 จะถกู เรยี กวา interaction formula เนื่องจากวา แตล ะเทอมในสมการแสดงถงึ ผลของแรงกดอัด
ในแนวแกนและโมเมนตดัดที่กระทาํ รว มกัน
Mechanics of Materials 13-23
ตวั อยางท่ี 13-6
กาํ หนดใหเสาเหลก็ A36 W310 × 67 kg/m ดังทีแ่ สดงในรูปท่ี EX 13-6 มีคุณสมบตั ขิ องหนา ตดั เสาดังนี้ ความ
ลึก d = 0.306 m , L = 3.5 m , A = 8.53(10−3 ) m2 และ moment of inertia I x = 145(10−6 ) m4 ,
I y = 20.7(10−6 ) m4 และเหล็ก A36 มี Est = 200 GPa , σ y = 250 MPa , (σ a )allow = 125 MPa และ
(σ b )allow = 150 MPa
a.) จงหาคา ของแรงกดอัดในแนวแกน P เมือ่ e = 0.30 m โดยใชส มการของเสา
b.) จงหาคา ของแรงกดอัดในแนวแกน P เมอื่ e = 0.80 m โดยใช Interaction Formula
รูปท่ี EX 13-6
a.) หาคา ของแรงกดอดั ในแนวแกน P เมอื่ e = 0.30 m โดยใชสมการของเสา
เนื่องจากเสาถกู รองรับแบบ fixed-free ดงั นนั้ K = 2.0 และคา อตั ราสวนความชลดู สูงสดุ ของเสาจะมีคา
เทา กับ
KL = 2(3.5) = 142.1
r 20.7(10−6 )
8.53(10−3 )
คาอัตราสวนความชลูดวิกฤติที่แบงพฤติกรรมของเสาเหล็กแบบ inelastic ออกจากพฤติกรรมของเสาเหล็กแบบ
elastic จะหาไดจากสมการ
KL = 2π 2 E = 2π 2 (200)109 = 125.7
r σy 250(106 )
c
เนื่องจาก (KL / r)c < KL / r < 200 ดังนั้น เสาเปนเสายาวและหนวยแรงที่ยอมใหของเสาเหล็กจะมีคา
เทากบั
σ allow = 12π 2 E = 12π 2 (200)109 = 51.0 MPa
23(KL / r)2 23(142.1) 2
คา ของแรงกดอัดในแนวแกน P2 จะหาไดโดยการกาํ หนดใหค า σ max มกี ารกระจายอยา งสม่ําเสมอตลอดหนา
ตดั ของเสา โดยท่ี
Mechanics of Materials 13-24
σ max = P2 + ( P2 e)c ≤ σ allow
A Ix
P2 + [P2 (0.3)][0.306 / 2] = 51(106 )
8.53(10 −3 145(10−6 )
)
P2 = 51(106 ) = 117.6 kN Ans.
433.785
b.) คาของแรงกดอัดในแนวแกน P เม่ือ e = 0.80 m โดยใช Interaction Formula
จากสมการ Interaction Formula เราจะไดว า
σa + (σ σb ≤1
(σ a ) allow )b allow
โดยที่
σa = P2 = 117.23(10−6 )P2 MPa
8.53(10−3 )
σb = [P2 (0.80)](0.306 / 2) = 844.14(10−6 )P2 MPa
145(10−6 )
คา อตั ราสวนความชลูดของเสารอบแกน x − x จะมคี า เทากับ
KL = 2(3.5) = 53.7
r 145(10−6 )
8.53(10−3 )
เนือ่ งจาก 0< KL < KL ดงั น้ัน เสาเปนเสาส้นั และสมการทจ่ี ะใชในการหาหนวยแรงกดอดั ทีย่ อมใหของ
r r
c
เสาจะอยูใ นรูป
[1 − 1 (53.7) 2 ]250
2 (125.7) 2
σ allow = = 125.0 MPa
5 3 (53.7) 1 (53.7)3
3 + 8 (125.7) − 8 (125.7)3
ดังนัน้
117.23(10−6 )P2 + 844.14(10 −6 )P2 ≤1
125 150
P2 = 1 = 152.3 kN
6.566(10−6 )
ตรวจสอบการใชสมการ Interaction Formula
σa 117.23(10−6 )152.3(103 ) = 0.143 < 0.15 O.K.
(σ a ) allow = 125 Ans.
ดังนัน้ คา ของแรงกดอดั ในแนวแกน P2 มคี า เทา กับ 152.3 kN
Mechanics of Materials 13-25
แบบฝกหัดทา ยบทท่ี 13
13-1 ช้นิ สวนของเครอ่ื งจักรกลทาํ ดวยเหลก็ A36 ดังทแ่ี สดงในรปู ที่ Prob. 13-1 ถูกรองรบั โดยหมุด (pin) ที่ปลายทงั้ สอง
และถูกกระทาํ โดยแรงกดอัดในแนวแกน P = 18 kN จงหาขนาดเสน ผา ศนู ยกลางของช้ินสว นของเครือ่ งจักรกลที่ไมกอ
ใหเกิดการโกงเดาะ (buckling)
รปู ที่ Prob. 13-1
13-2 กาํ หนดใหเ สาเหล็ก A36 ยาว 5 m มีหนา ตดั ดังทีแ่ สดงในรูปท่ี Prob. 13-2 ถกู รองรบั แบบยึดแนนท่ปี ลายท้งั สอง
ดาน จงหาคาแรงวกิ ฤตขิ องเสา
รปู ที่ Prob. 13-2
13-3 กําหนดใหเสาเหล็ก A36 ยาว 5 m มีหนา ตดั ดงั ทแี่ สดงในรูปที่ Prob. 13-2 ถูกรองรับแบบยดึ แนน ทป่ี ลายดานหน่ึง
และโดยหมดุ (pin) ทป่ี ลายอกี ดา นหน่งึ จงหาคา แรงวิกฤติของเสา
รูปที่ Prob. 13-3
13-4 จงหาคา แรง P สงู สุดทสี่ ามารถกระทําตอ เครอื่ งมือกล ดงั ทแ่ี สดงในรปู ท่ี Prob. 13-4 ได โดยไมท าํ ใหแทง เหล็ก
( A36 ) AB ขนาดเสนผาศนู ยก ลาง 31mm เกิดการโกงเดาะ (buckling)
รปู ที่ Prob. 13-4
13-5 ชนิ้ สวนของโครงขอ หมนุ ดังที่แสดงในรปู ท่ี Prob. 13-5 ถกู สมมตุ ิใหเชือ่ มตอ กนั แบบหมุดท้ังสองปลาย ถาช้ินสว น
BD เปน ทอ เหลก็ A36 กลวงมเี สน ผา ศูนยก ลางภายนอก 50 mm และหนา 3.0 mm จงหาคา ของแรง P ที่
สามารถกระทําตอ โครงขอหมนุ ไดโ ดยที่ช้ินสว น BD ไมเกดิ การโกง เดาะ ใช factor of safety เทากบั 2.0
Mechanics of Materials 13-26
รูปที่ Prob. 13-5
13-6 จงตรวจสอบวาเสาเหลก็ ของ frame ดงั ที่แสดงในรูปที่ Prob. 13-6 สามารถรองรับน้ําหนกั บรรทกุ หรือไม เม่ือ factor
of safety เทา กบั 3.0 และ Est = 200 GPa , σ Y = 360 MPa
รปู ที่ Prob. 13-6
13-7 จงหาความยาวสูงสุดของเสาเหล็ก A36 หนา ตัด W250 ×18 ท่ีถกู รองรบั แบบยดึ แนนที่ปลายดา นหนึ่งและโดย
หมุด (pin) ทป่ี ลายอกี ดา นหนงึ่ และถูกกระทาํ โดยแรงในแนวแกน 125 kN โดยใชส มการของ AISC
13.8 จงหาขนาดหนา ตัดทีเ่ บาท่ีสุดของเสาเหลก็ A36 ยาว 4.0 m ทถ่ี กู รองรบั แบบหมุด (pin) ทปี่ ลายท้ังสองดา น และ
ถกู กระทําโดยแรงในแนวแกน 200 kN โดยใชส มการของ AISC
13.9 จงหาขนาดหนา ตดั ทีเ่ บาทีส่ ุดของเสาเหลก็ A36 ยาว 4.5 m ท่ีถกู รองรบั แบบยึดแนน (fixed) ทป่ี ลายทัง้ สองดา น
และถกู กระทาํ โดยแรงในแนวแกน 300 kN โดยใชสมการของ AISC
13-10 จงหาคา ของแรง P ที่ยอมใหกระทาํ ตอ ทอ aluminum alloy 2014-T6 หนา 12 mm ดงั ทแ่ี สดงในรปู ท่ี Prob. 13-
10 ซ่ึงถูกรองรบั แบบหมดุ (pin) ที่ปลายทั้งสองดา น
รูปที่ Prob. 13-10
Mechanics of Materials 13-27
13-11 จงหาออกแบบหาขนาดของแทง aluminum alloy 2014-T6 ดงั ทีแ่ สดงในรปู ท่ี Prob. 13-11 ซง่ึ ถูกรองรับแบบหมุด
(pin) ท่ีปลายทง้ั สองดา น
รูปที่ Prob. 13-11
13-12 จงหาออกแบบหาขนาดของเสาไมห นาตดั ส่ีเหล่ียมดา นเทา ดังท่แี สดงในรูปท่ี Prob. 13-12 ซ่ึงแบบยึดแนน ท่ปี ลาย
ดา นหนง่ึ และโดยหมุด (pin) ท่ีปลายอกี ดา นหนึ่งและถกู กระทาํ โดยแรงขนาด 100 kN
รปู ท่ี Prob. 13-12
13-13 เสาไม ดงั ท่แี สดงในรูปที่ Prob. 13-13 มีความยาว 5.0 m ถูกรองรับแบบหมุด (pin) ท่ปี ลายทง้ั สองดาน จงหาคา
ของแรงในแนวแกนทีย่ อมใหกระทําตอ เสา
รูปท่ี Prob. 13-13
Mechanics of Materials 13-28
13-14 เสาเหล็ก A36 หนาตดั W200 × 22 ดงั ทแี่ สดงในรูปท่ี Prob. 13-14 ถกู รองรบั แบบยึดแนนที่ปลายทงั้ สองดา น
และถูกกระทาํ โดยโมเมนต M = 20 kN - m จงหาคาของแรง P ที่ยอมใหก ระทําตอเสา ถา (σ b )allow = 165 MPa
รูปท่ี Prob. 13-14
13-15 เสาเหลก็ A36 หนาตัด W250 × 28 ดงั ทแ่ี สดงในรปู ที่ Prob. 13-15 ถูกรองรับแบบหมุด (pin) ทปี่ ลายทั้งสอง
ดาน จงหาคา ของแรงเยอ้ื งศูนย P ท่ยี อมใหกระทําตอเสา
รปู ที่ Prob. 13-15
หนงั สอื อา งองิ
1. Hibberler, R.C., “ Mechanics of materials,” 3rd Ed., Prentice-Hall, New Jersey, NY, 1997
2. Gere, J.M., “Mechanics of materials, “ 4th Ed., PWS Publishing, Boston, MA, 1997
3. Popov, E.P., “ Engineering Mechanics of Solids, “ International Ed., Prentice-Hall, New Jersey,
NY, 1999
4. Dowling, N.E., “ Mechanical Behavior of Materials, “ 2nd Ed., Prentice-Hall, New Jersey, NY, 1999
5. “ศัพทวิทยาการวิศวกรรมโยธา” คณะกรรมการวิชาการวิศวกรรมโยธา, วิศวกรรมสถานแหงประเทศไทย,
2540
A- 1
ภาคผนวกที่ 1
คณุ สมบตั ทิ างกลของวัสดชุ นิดตา งๆ ในทางวศิ วกรรม
U.S. Custom Units
Material γ E G Yield Strength, σy Ultimate Strength, σu ν α
Units
lb Msi Msi ksi ksi % Poisson’s 10-6
Aluminum alloys in3 ratio oF
2014-T6 Weight Modulus Shearing Tens. Comp. Shear Tens. Comp. Shear Elongation in 2 in. Coeff. of
6061-T6 density of Modulus specimen thermal
expansion
elasticity
0.101 10.6 3.9 60 60 25 68 68 42 10 0.35 12.8
0.098 10.0 3.7 37 37 19 42 42 27 12 0.35 13.1
Gray Cast iron
ASTM 20 0.260 10 3.9 - - - 26 97 - 0.6 0.28 6.7
Concrete (comp.)
Low strength 0.086 3.20 - - - 1.8 - - - - 0.15 6.0
High strength 0.086 4.20 - - - 5.5 - - - - 0.15 6.0
Brass 0.316 14.6 5.4 11.4 11.4 - 35 35 - 35 0.35 9.8
Bronze 0.319 15.0 5.6 50 50 - 95 95 - 20 0.34 9.6
Magnesium alloys 0.066 6.48 2.5 22 22 - 40 40 22 1 0.30 14.3
Plastics
Nylon 0.030 0.3-0.5 - - - - 6-12 - - 20-100 0.40 40-80
Polyethylene 0.031 0.1-0.2 - - - - 1-4 - - 15-300 0.40 80-160
FRP
30% glass 0.050 10.5 - - - - 13 19 - - 0.33 7.0
Rubber 0.033 0.1-0.6 0.03-0.2 0.2-1 - - 1-3 - - 95-800 0.45-0.5 70-110
Steel
A36 0.284 29.0 11.0 36.0 36.0 - 58 58 - 30 0.32 6.5
Stainless 304 0.284 28.0 11.0 30.0 30.0 - 75 75 - 40 0.27 9.6
Wood (bending)
Douglas Fir 0.017 1.75 - 5-8 8-12 - - -
- 6-9 8-14 - - -
Oak 0.021 1.70 - 6-9 8-14 - - -
Pine 0.019 1.90
Wood
(comp // to grain) 0.017 - - - 4-8 - - 6-10 - - --
Douglas Fir 0.021 - - --
Oak 0.019 - - - 4-6 - - 5-8 - - --
Pine
- - 4-8 - - 6-10 -
A- 2
Material γ EG S.I. Units % ν α
Units kN GPa GPa Elongation in 2 in.
m3 Yield Strength, σy Ultimate Strength, σu Poisson’s 10-6
Aluminum alloys Weight Modulus Shearing specimen ratio oC
2014-T6 density of Modulus MPa MPa Coeff. of
6061-T6 10 thermal
Gray Cast iron 27.9 elasticity Tens. Comp. Shear Tens. Comp. Shear 12 expansion
ASTM 20 27.1
Concrete (comp.) 73.1 27 414 414 172 469 469 290 0.6 0.35 23
Low strength 71.9 68.9 26 255 255 131 290 290 186 0.35 24
High strength -
Brass 23.8 67.0 27 - - - 179 669 - - 0.28 12
Bronze 23.8 35
Magnesium alloys 87.4 22.1 - - - 12 - - - 20 0.15 11
Plastics 88.3 29.0 - - - 38 - - - 1 0.15 11
Nylon 18.3 0.35 18
Polyethylene 101 37 70 70 - 241 241 - 20-100 0.34 17
FRP 8.6-11 103 38 15-300 0.30 26
30% glass 9.4-14 44.7 18 345 345 - 655 655 -
Rubber - 0.40 70-140
14.5 152 152 - 276 276 152 95-800 0.40 140-290
Steel 9-13
A36 2.1-3.4 - - - - 60 - - 30
Stainless 304 78.5 0.7-1.4 - - 40
Wood (bending) 78.6 - - - 7-28 -
Douglas Fir -
Oak 4.7-5.5 72.4 - -- - 90 131 - - 0.33 7.0
Pine 6.3-7.1 1-7 - - 7-20 - - - 0.45-0.5 130-200
Wood 5.5-6.3 0.0007- 0.0002-
(comp // to grain) 0.004 0.001 -
Douglas Fir 4.7-5.5 -
Oak 6.3-7.1 200 75 250 250 - 400 400 - - 0.32 12
Pine 5.5-6.3 193 75 207 207 - 517 517 - 0.27 17
11-13 - 30-50 50-80 --
11-12 - 40-60 50-100 --
11-14 - 40-60 50-100 --
-- - 30-50 - - 40-70 - --
-- - 30-40 - - 30-50 - --
-- - 30-50 - - 40-70 - --
A- 3
ภาคผนวกท่ี 2
พ้ืนทแ่ี ละ moment of inertia ของหนา ตัด
Area Moment of inertia
Ix = 1 bh 3
12
Iy = 1 hb 3
12
Rectangular area bh
1 bh Ix = 1 bh 3
2 36
Triangular area
1 h(a + b)
2
Trapezoidal area Ix = 1 πr 4
semicircle 8
Circular area πr 2
2 Iy = 1 πr 4
Semiparabolic area 8
Exparabolic area Ix = 1 πr 4
4
πr 2 Iy = 1 πr 4
4
2 Ix = 16 bh3
3 105
ab
Iy 2 hb3
= 15
1 Ix = 1 bh3
3 21
ab
Iy 1 hb3
= 5
A- 4
ภาคผนวกท่ี 3
คณุ สมบัติของหนาตดั เหลก็ มาตรฐาน
คุณสมบตั ิของหนา ตัดเหลก็ กลวงกลม
ช่อื ขนาด เสน ผาน ความหนา นาํ้ หนกั พ้นื ทห่ี นา ตดั Moment of Section Radius of
ศนู ยก ลาง ขวาง Inertia Modulus Gyration
15 ภายนอก (t) (w)
20 ( A) (Ix = Iy ) (Sx = S y ) (rx = ry )
25 (D) mm kg/m
32 mm cm 2 cm 4 cm 3 cm
40 2.0
50 21.3 2.3 0.95 1.21 0.57 0.54 0.69
65 26.9 2.6 1.40 1.78 1.36 1.01 0.87
80 33.7 2.6 1.99 2.54 3.09 1.84 1.10
100 42.4 2.9 2.55 3.25 6.46 3.05 1.41
48.3 2.9 3.25 4.14 10.70 4.43 1.61
125 60.3 3.2 4.11 5.23 21.59 7.16 2.03
76.1 3.2 5.75 7.33 48.78 12.82 2.58
150 88.9 3.6 6.76 8.62 79.21 17.82 3.03
114.3 4.5 9.83 12.52 191.98 33.59 3.92
175 4.0 12.19 15.52 234.32 41.00 3.89
139.7 5.0 13.39 17.05 392.86 56.24 4.80
200 4.5 17.30 21.19 480.70 68.81 4.75
165.1 6.0 17.82 22.70 732.57 88.74 5.68
225 5.0 25.05 30.00 950.68 115.16 5.45
193.7 6.0 23.27 29.64 1320.24 136.32 6.67
5.0 27.77 35.38 1559.74 161.05 6.64
219.1 6.0 26.40 33.63 1928.04 176.00 7.57
6.0 31.53 40.17 2281.96 208.30 7.54
244.5 8.0 35.29 44.96 3198.57 261.64 8.43
46.66 59.44 4160.46 340.32 8.37
A- 5
คุณสมบัติของหนา ตัดเหลก็ กลวงสเี่ หล่ียมจตุรัส
ช่ือขนาด ความหนา นา้ํ หนกั พน้ื ที่หนา ตัด Moment of Section Radius of
Inertia (I ) Modulus (S) Gyration (r)
25 × 25 (t) (w) ( A)
38× 38 cm 4 cm 3 cm
50× 50 mm kg/m cm 2
60× 60 1.28 1.02 0.34
75 × 75 1.6 1.12 1.432 4.92 2.59 1.47
90 × 90 1.6 1.78 2.264 11.71 4.68 1.96
100 × 100 1.6 2.38 3.032 15.86 6.34 1.93
125 × 125 2.3 3.34 4.252 20.68 6.89 2.37
150× 150 1.6 2.88 3.672 28.31 9.44 2.34
175× 175 2.3 4.06 5.172 57.10 15.23 2.95
200× 200 2.3 5.14 6.552 75.53 20.14 2.91
250× 250 3.2 7.01 8.927 100.79 22.40 3.56
300 × 300 2.3 6.23 7.932 134.51 29.89 3.52
3.2 8.51 10.847 139.73 27.95 3.97
2.3 6.95 8.852 187.28 37.46 3.93
3.2 9.52 12.127 375.64 60.10 4.95
3.2 12.03 15.327 457.23 73.16 4.91
4.0 14.87 18.948 982.12 130.95 5.89
5.0 22.26 28.356 1145.90 152.79 5.84
6.0 26.40 33.633 1590.86 181.81 6.91
5.0 26.18 33.356 1864.02 213.03 6.86
6.0 31.11 39.633 2832.74 283.27 7.88
6.0 36.82 45.633 3621.62 362.16 7.78
8.0 46.94 59.793 5671.99 453.76 9.92
6.0 45.24 57.633 7315.63 585.25 9.82
8.0 59.50 75.793 9963.65 664.24 11.96
6.0 54.66 69.633 12925.05 861.67 11.87
8.0 72.06 91.793
A- 6
คณุ สมบตั ขิ องหนา ตดั เหล็กกลวงสี่เหลยี่ มผนื ผา
ชือ่ ขนาด ความ น้าํ หนกั พืน้ ท่หี นา Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
หนา (w) ตัดขวาง (I) (S) (r)
(t) kg/m ( A) cm 4 cm 3 cm
Sx Sy rx ry
mm cm2 I x Iy
2.81 0.95 1.77 1.03
50×25 1.6 1.75 2.232 7.02 2.37 3.72 1.24 1.73 1.00
4.16 1.42 2.15 1.25
2.3 2.44 3.102 9.31 3.10 5.61 1.88 2.11 1.22
10.36 4.69 2.74 1.84
60×30 1.6 2.13 2.712 12.49 4.25 13.54 6.08 2.69 1.80
13.55 4.61 3.23 1.88
2.3 2.98 3.792 16.82 5.65 17.83 6.00 3.17 1.84
16.97 5.79 3.60 2.10
75×45 2.3 4.06 5.172 38.86 17.61 22.46 7.59 3.55 2.06
20.95 3.46 4.25 1.73
3.2 5.50 7.007 50.77 22.81 27.81 4.51 4.19 1.69
41.11 18.69 4.60 3.10
90×45 2.3 4.60 5.862 60.98 20.75 49.72 22.50 4.56 3.07
75.03 28.20 5.39 3.30
3.2 6.25 7.967 80.24 27.01 94.69 35.26 5.31 3.24
87.74 46.93 5.58 4.08
100×50 2.3 5.14 6.552 84.83 28.95 111.29 59.23 5.50 4.01
133.14 45.46 7.20 4.21
3.2 7.01 8.927 112.29 37.95 170.33 57.69 7.12 4.14
125×40 2.3 5.69 7.242 130.92 21.64
3.2 7.76 9.887 173.84 28.19
125×75 3.2 9.52 12.127 256.93 116.80
4.0 11.73 14.948 310.76 140.65
150×80 4.5 15.20 19.369 562.76 211.47
6.0 19.81 25.233 710.20 264.42
150×100 4.5 16.62 21.169 658.06 351.96
6.0 21.69 27.633 834.68 444.19
200×100 4.5 20.15 25.669 1331.44 454.64
6.0 26.40 33.633 1703.30 576.91
คุณสมบตั ิของหนา ตัดเหลก็ ฉากรูป
ช่อื ขนาด นาํ้ หนัก ความ รัศมี พ้ืนท่ีหนา ระยะหา งจาก
หนา สว นโคง ตดั ศูนยถวง
t r1 r2 A x y
kg/m mm mm mm cm2 cm cm
120×120 14.7 8 12 5 18.76 3.24 3.24
100×100 19.1 13 10 7 24.31 2.94 2.94
14.9 10 10 7 19.00 2.82 2.82
10.7 7 10 5 13.62 2.71 2.71
90×90 17.0 13 10 7 21.71 2.69 2.69
13.3 10 10 7 17.00 2.57 2.57
9.59 7 10 5 12.22 2.46 2.46
75×75 13.0 12 8.5 6 16.56 2.29 2.29
9.96 9 8.5 6 12.69 2.17 2.17
6.85 6 8.5 4 8.727 2.06 2.06
65×65 7.66 8 8.5 6 9.761 1.88 1.88
5.91 6 8.5 4 7.527 1.81 1.81
A- 7
ปตัว L แบบขาเทากันชนดิ รีดรอ น
Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
I x I y I z S x S y rx ry rz
cm4 cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm cm
258 258 106 29.5 29.5 3.71 3.71 2.38
220 220 91.1 31.1 31.1 3.00 3.00 1.94
175 175 72.0 24.4 24.4 3.04 3.04 1.95
129 129 53.2 17.7 17.7 3.08 3.08 1.98
156 156 65.3 24.8 24.8 2.68 2.68 1.73
125 125 51.7 19.5 19.5 2.71 2.71 1.74
93.0 93.0 28.3 14.2 14.2 2.76 2.76 1.77
81.9 81.9 34.5 15.7 15.7 2.22 2.22 1.44
64.4 64.4 26.7 12.1 12.1 2.25 2.25 1.45
46.1 46.1 19.0 8.47 8.47 2.30 2.30 1.48
36.8 36.8 15.3 7.96 7.96 1.94 1.94 1.25
29.4 29.4 12.2 6.26 6.26 1.98 1.98 1.27
คณุ สมบตั ขิ องหนาตดั เหลก็ ฉากรปู ตวั
ชอ่ื ขนาด น้าํ หนัก ความ รัศมี พ้ืนทห่ี ระยะหางจากศนู ย
หนา สวนโคง นา ตดั ถวง
50× 50
40 × 40 t r1 r2 Ax y
30 × 30 kg/m mm
25 × 25 mm mm cm2 cm cm
4.43 6
3.06 4 6.5 4.5 5.644 1.44 1.44
2.95 5 6.5 3 3.892 1.37 1.37
1.83 3 4.5 3 3.755 1.17 1.17
1.36 3 4.5 2 2.336 1.09 1.09
1.12 3 42 1.727 0.844 0.844
42 1.427 0.719 0.719
A- 8
ว L แบบขาเทา กนั ชนิดรีดรอ น (ตอ)
Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
I x I y I z S x S y rx ry rz
cm4 cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm cm
12.6 12.6 5.23 3.55 3.55 1.50 1.50 0.963
9.06 9.06 3.76 2.49 2.49 1.53 1.53 0.983
5.42 5.42 2.25 1.91 1.91 1.20 1.20 0.744
3.53 3.53 1.46 1.21 1.21 1.23 1.23 0.790
1.42 1.42 0.590 0.661 0.661 0.908 0.908 0.585
0.797 0.797 0.332 0.448 0.448 0.747 0.747 0.483
คุณสมบตั ิของหนาตดั เหลก็ ฉากรูปต
ชื่อขนาด น้ําหนัก tanα ความ รัศมี พื้นท่ีห ระยะหางจ
หนา สวนโคง นาตัด ศูนยถ ว ง
t r1 r2 A x
kg/m mm mm mm cm2 cm c
150×100 27.7 0.431 15 12 8.5 35.25 5.00 2
22.4 0.435 12 12 8.5 28.56 4.88 2
17.1 0.439 9 12 6 21.84 4.76 2
125×75 14.9 0.357 10 10 7 19.00 4.22 1
100×75 9.32 0.548 7 10 5 11.87 3.06 1
90×75 11.0 0.676 9 8.5 6 14.04 2.75 2
A- 9
ตวั L แบบขาไมเทา กันชนิดรีดรอ น
จาก Moment of Inertia Section Radius of Gyration
ง Modulus
y I x I y I z S x S y rx ry rz
cm cm4 cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm cm
2.53 782 276 161 78.2 37.0 4.71 2.80 2.14
2.41 642 228 132 63.4 30.1 4.74 2.83 2.15
2.30 502 181 104 49.1 23.5 4.79 2.88 2.18
1.75 299 80.8 49.0 36.1 14.1 3.96 2.06 1.61
1.83 118 56.9 30.8 17.0 10.0 3.15 2.19 1.61
2.00 109 68.1 34.1 17.4 12.4 2.78 2.20 1.56
คุณสมบัตขิ องหนาตัดเห
ชอื่ ขนาด นา้ํ หนกั ความหนา รัศมี พน้ื ทหี่ น ระย
สวนโคง าตดั
380 × 100 kg/m tw t f x
r1 r2 A cm
300 × 90 67.3 mm mm cm2
62.0 mm mm 2.5
250 × 90 54.5 13 20 85.71 2.3
200 × 90 48.6 13 16.5 24 12 78.96 2.4
200× 80 43.8 10.5 16 18 9 69.39 2.2
180× 75 38.1 12 16 18 9 61.9 2.3
40.2 10 15.5 19 9.5 55.74 2.2
34.6 9 13 19 9.5 48.57 2.4
30.3 11 14.5 14 7 51.17 2.4
24.6 9 13 17 8.5 44.07 2.7
21.4 8 13.5 14 7 38.65 2.2
7.5 11 14 7 31.33 2.1
7 10.5 12 6 27.20
11 5.5
A- 10
หล็กรางนํา้ ชนดิ รดี รอ น
ยะหา งจากศูนย Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ถวง
Ix Iy S x S y rx ry
xy
cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm
m cm
17,600 655 926 87.8 14.3 2.76
54 0 15,600 565
33 0 14,500 535 823 73.6 14.1 2.67
41 0 7,870 379
28 0 7,410 360 763 70.5 14.5 2.78
34 0 6,440 309
22 0 4,680 329 525 56.4 11.3 2.48
40 0 4,180 294
40 0 2,490 277 494 54.1 11.5 2.54
74 0 1,950 168
21 0 1,380 131 429 45.7 11.5 2.52
13 0
374 49.9 9.56 2.54
334 44.5 9.74 2.58
249 44.2 8.02 2.68
195 29.1 7.88 2.32
153 24.3 7.12 2.19
คุณสมบัตขิ องหนา ตดั เหล
ชอ่ื ขนาด น้ําหนัก ความหนา รศั มี พนื้ ทหี่ น ระย
สว นโคง าตดั
150 × 75 kg/m tw t f x
125 × 65 r1 r2 A cm
100 × 50 24.0 mm mm cm2
75× 40 18.6 mm mm 2.3
13.4 9 12.5 30.59 2.2
9.36 6.5 10 15 7.5 23.71 1.9
6.92 68 10 5 17.11 1.5
5 7.5 84 11.92 1.2
57 84 8.818
84
A- 11
ล็กรางนํ้าชนิดรดี รอน (ตอ)
ยะหา งจากศูนย Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ถวง
Ix Iy S x S y rx ry
xy cm4 cm4
cm3 cm3 cm cm
m cm 1,050 147
861 117 140 28.3 5.86 2.19
31 0 424 61.8
28 0 188 26.0 115 22.4 6.03 2.22
90 0 75.3 12.2
54 0 67.8 13.4 4.98 1.90
28 0
37.6 7.52 3.97 1.48
20.1 4.47 2.92 1.17
คุณสมบตั ิของหนาตดั เหล
ช่ือขนาด นาํ้ หนัก ความหนา รัศมี พ้ืนทห่ี นา ต
สวนโคง ด
d ×bf tw t f
r1 r2 A
600 × 190 kg/m mm mm
450 × 175 mm mm cm2
400 × 150 176 16 35
350 × 150 133 13 25 38 19 224.5
115 13 26 25 12.5 169.4
300× 150 91.7 11 20 27 13.5 146.1
95.8 12.5 25 19 9.5 116.8
72.0 10 18 27 13.5 122.1
87.2 12 24 17 8.5 91.73
58.5 9 15 25 12.5 111.1
97.88 11.5 22 13 6.5 74.58
83.47 10 18.5 23 11.5 14,700
61.58 8 13 19 9.5 12,700
12 6 9,480
A- 12
ลก็ รูปตัว I ชนิดรีดรอน
ตั Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
I x I y S x S y rx ry
cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm
130,000 3,540 4,330 373 24.1 3.97
98,400 2,460 3,280 259 24.1 3.81
48,800 2,020 2,170 231 18.3 3.72
39,200 1,510 1,740 173 18.3 3.60
31,700 1,240 1,580 165 16.1 3.18
24,100 864 1,200 115 16.2 3.07
22,400 1,180 1,280 158 14.2 3.26
15,200 702 870 93.5 14.3 3.07
14,700 1,080 978 143 12.2 3.09
12,700 886 849 118 12.3 3.26
9,480 588 632 78.4 12.4 3.32
คุณสมบตั ขิ องหนาตดั เหลก็ ร
ชื่อขนาด นา้ํ หนกั ความหนา รศั มี พ้ืนทหี่ นาต
สว นโคง ด
250× 125 kg/m tw tf
r1 r2 A
200 × 150 55.5 mm mm cm2
200 × 100 38.3 mm mm
50.4 10 19 70.73
26.0 7.5 12.5 21 10.5 48.79
9 16 12 6 64.16
7 10 15 7.5 33.06
10 5
A- 13
รูปตัว I ชนดิ รีดรอน (ตอ) Section Modulus Radius of Gyration
ตั Moment of Inertia
I x I y S x S y rx ry
cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm
7,310 538 858 86.0 10.2 2.76
5,180 337 414 53.9 10.3 2.63
4,460 753 446 100 8.34 3.43
2,170 138 217 27.7 8.11 2.05
คุณสมบัตขิ องหนา ตดั เหล
ช่อื ขนาด น้ําหนกั d bf ความหนา รัศมี พ้นื ท
สวนโคง
tw tf r c
kg/m mm mm mm mm mm 3
286 912 302 18 34 28 3
900×300 243 900 300 16 28 28
23 28 2
213 890 299 15
241 808 302 16 30 28 3
800×300 210 800 300 14 26 28 2
191 792 300 14 22 28 2
215 708 302 15 28 28 2
700×300 185 700 300 13 24 28 2
166 692 300 13 20 28 2
175 594 302 14 23 28 2
600×300 151 588 300 12 20 28 1
137 582 300 12 17 28 1
A- 14
ล็กรูปตัว W ชนิดรดี รอ น
ท่หี นาตั Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ด
Ix Iy Sx Sy rx ry
A
cm4 cm4 cm 3 cm 3 cm cm
cm2
498,000 15,700 10,900 1,040 37.0 6.56
364.0 411,000 12,600 9,140 843 36.4 6.39
309.8 345,000 10,300 7,760 688 35.7 6.16
270.9 339,000 13,800 8,400 915 33.2 6.70
307.6 292,000 11,700 7,290 782 33.0 6.62
267.4 254,000 9,930 6,410 662 32.3 6.39
243.4 237,000 12,900 6,700 853 29.4 6.86
273.6 201,000 10,800 5,760 722 29.3 6.78
235.5 172,000 9,020 4,980 602 28.6 6.53
211.5 137,000 10,600 4,620 701 24.9 6.90
222.4 118,000 9,020 4,020 601 24.8 6.85
192.5 103,000 7,670 3,530 511 24.3 6.63
174.5
คณุ สมบัติของหนาตดั เหลก็ ร
ช่อื ขนาด นํ้าหนกั d bf ความหนา รัศมี พ้นื ท
สว นโคง
tw tf r c
kg/m mm mm mm mm mm 1
1
134 612 202 13 23 22 1
600×200 120 606 201 12 20 22 1
17 22
106 600 200 11 15 22
94.6 596 199 10
500×300 128 488 300 11 18 26 1
114 482 300 11 15 26 1
103 506 201 11 19 20 1
500×200 89.6 500 200 10 16 20 1
79.5 496 199 9 14 20 1
450×300 124 440 300 11 18 24 1
106 434 299 10 15 24 1
450×200 76.0 450 200 9 14 18 9
66.2 446 199 8 12 18 8
605 498 432 45 70 22 7
400×400 415 458 417 30 50 22 5
283 428 407 20 35 22 3
232 414 405 18 28 22 2
A- 15
รูปตวั W ชนดิ รีดรอ น (ตอ )
ทห่ี นาตั Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ด
Ix Iy Sx Sy rx ry
A
cm4 cm4 cm3 cm 3 cm cm
cm2
103,000 3,180 3,380 314 24.6 4.31
107.7 90,400 2,720 2,980 271 24.3 4.22
152.5 77,600 2,280 2,590 228 24.0 4.12
134.4 68,700 1,980 2,310 199 23.9 4.05
120.5 71,000 8,110 2,910 7.04 2,910 541
163.5 60,400 6,760 2,500 6.82 2,500 451
145.5 56,500 2,580 2,230 237 20.7 4.43
131.3 47,800 2,140 1,910 214 20.5 4.33
114.2 41,900 1,840 1,690 185 20.3 4.27
101.3 56,100 8,110 2,550 541 18.9 7.18
157.4 46,800 6,690 2,160 448 18.6 7.04
135.0 33,500 1,870 1,490 187 18.6 4.40
96.76 28,700 1,580 1,290 159 18.5 4.33
84.30 298,000 94,400 12,000 4,370 19.7 11.1
770.1 187,000 60,500 8,170 2,900 18.8 10.7
528.6 119,000 39,400 5,570 1,930 18.2 10.4
360.7 92,800 31,000 4,480 1,530 17.7 10.2
295.4
คณุ สมบัติของหนา ตัดเหล็กร
ชื่อขนาด นา้ํ หนัก d bf ความหนา รัศมี พ้ืนท
สวนโคง
tw tf r c
kg/m mm mm mm mm mm 2
200 406 403 16 24 22 2
197 400 408 21 21 22
400×400 172 400 400 13 21 22 2
168 394 405 18 18 22 2
147 394 398 11 18 22 1
140 388 402 15 15 22 1
400×300 107 390 300 10 16 22 1
94.3 386 299 9 14 22 1
400×200 66.0 400 200 8 13 16 8
56.6 396 199 7 11 16 7
159 356 352 14 22 20 2
156 350 357 19 19 20 1
350×350 137 350 350 12 19 20 1
131 344 354 16 16 20 1
115 344 348 10 16 20 1
106 338 351 13 13 20 1
A- 16
รปู ตัว W ชนดิ รีดรอ น (ตอ )
ทห่ี นา ตั Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ด
Ix Iy Sx Sy rx ry
A
cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm
cm2
78,000 26,200 3,840 1,300 17.5 10.1
254.9 70,900 23,800 3,540 1,170 16.8 9.75
250.7 66,600 22,400 3,330 1,120 17.5 10.1
218.7 59,700 20,000 3,030 985 16.7 9.65
214.4 56,100 18,900 2,850 951 17.3 10.1
186.8 49,000 16,300 2,520 809 16.6 9.54
178.5 38,700 7,210 1,980 481 16.9 7.28
136.0 33,700 6,240 1,740 418 16.7 7.21
120.1 23,700 1,740 1,190 174 16.8 4.54
84.12 20,000 1,450 1,010 145 16.7 4.48
72.16 47,600 16,000 2,670 909 15.3 8.90
202.0 42,800 14,400 2,450 809 14.7 8.53
198.4 40,300 13,600 2,300 776 15.2 8.84
173.9 35,300 11,800 2,050 669 14.6 8.43
166.6 33,300 11,200 1,940 646 15.1 8.78
146.0 28,200 9,380 1,670 534 14.4 8.33
135.3
คุณสมบัตขิ องหนาตัดเหล็กร
ชือ่ ขนาด นํ้าหนัก d bf ความหนา รศั มี พื้นท
สวนโคง
tw tf r c
kg/m mm mm mm mm mm 1
350×250 79.7 340 250 9 14 20 8
69.2 336 249 8 12 20
350×175 49.6 350 175 7 11 14 6
41.4 346 174 6 9 14 5
106.0 304 301 11 17 18 1
106.0 300 305 15 15 18 1
300×300 94.0 300 300 10 15 18 1
87.0 298 299 9 14 18 1
84.5 294 302 12 12 18 1
300×200 65.4 298 201 9 14 18 8
56.8 294 200 8 12 18 7
300×150 36.7 300 150 6.5 9 13 4
30.2 298 149 5.5 8 13 4
82.2 250 255 14 14 16 1
250×250 72.4 250 250 9 14 16 9
66.5 248 249 8 13 16 8
64.4 244 252 11 11 16 8
A- 17
รูปตวั W ชนิดรดี รอน (ตอ )
ทีห่ นาตั Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ด
Ix Iy S x S y rx ry
A
cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm
cm2
21,700 3,650 1,280 292 14.6 6.00
101.5 18,500 3,090 1,100 248 14.5 5.92
88.15 13,600 984 775 112 14.7 3.95
63.14 11,100 792 641 91.0 14.5 3.86
52.68 23,400 7,730 1,540 514 13.2 7.57
134.8 21,500 7,100 1,440 466 12.6 7.26
134.8 20,400 6,750 1,360 450 13.1 7.51
119.8 18,800 6,240 1,270 417 13.0 7.51
110.8 16,900 5,520 1,150 365 12.5 7.16
107.7 13,300 1,900 893 189 12.6 4.77
83.4 11,300 1,600 771 160 12.5 4.71
72.4 7,210 508 481 67.7 12.4 3.29
46.8 6,320 442 424 59.3 12.4 3.29
40.8 11,500 3,880 919 304 10.5 6.09
104.7 10,800 3,650 867 292 10.8 6.29
92.18 9,930 3,350 801 269 10.8 6.29
84.70 8,790 2,940 720 233 10.3 5.98
82.06
คุณสมบัติของหนา ตดั เหลก็ ร
ช่อื ขนาด นํา้ หนัก d bf ความหนา รศั มี พนื้ ท
สวนโคง
tw tf r c
kg/m mm mm mm mm mm 5
250×175 44.1 244 175 7 11 16
250×125 29.6 250 125 6 9 12 3
25.7 248 124 5 8 12 3
65.7 208 202 10 16 13 8
200×200 56.2 200 204 12 12 13 7
49.9 200 200 8 12 13 6
200×150 30.6 194 150 6 9 13 3
200×100 21.3 200 100 5.5 8 11 2
18.2 198 99 4.5 7 11 2
175× 175 40.2 175 175 7.5 11 12 5
175× 125 23.3 169 125 5.5 8 12 2
175×90 18.1 175 90 5 8 9 2
150×150 31.5 150 150 7 10 11 4
150× 100 21.1 148 100 6 9 11 2
150×75 14.0 150 75 5 7 8 1
125×125 23.8 125 125 6.5 9 10 3
125×60 13.2 125 60 6 8 9 1
รปู ตวั W ชนดิ รดี รอน (ตอ) A- 18
ท่ีหนา ตั Moment of Inertia Section Modulus Radius of Gyration
ด
Ix Iy S x S y rx ry
A cm4 cm4 cm3 cm3 cm cm
cm2 6,120 984 502 113 10.4 4.18
4,050 294 324 47.0 10.4 2.79
56.24 3,540 255 285 41.1 10.4 2.79
37.66 6,530 2,200 628 218 8.83 5.13
32.68 4,980 1,700 498 167 8.35 4.88
83.69 4,720 1,600 472 160 8.62 5.02
71.53 2,690 507 277 67.6 8.30 3.61
63.53 1,840 134 184 26.8 8.24 2.22
39.01 1,580 114 160 23.0 8.26 2.21
27.16
23.18 2880 984 7.50 4.38 330 112
1530 261 7.18 2.97 181 41.8
51.21 1210 97.5 7.26 2.06 139 21.7
1640 563 6.39 3.75 219 75.1
29.65 1020 151 6.71 2.37 138 30.1
666 49.5 6.11 1.66 88.8 13.2
23.04 847 293 5.29 3.11 136 47.0
413 29.2 4.95 1.32 66.1 9.73
40.14
26.84
17.85
30.31
16.84