The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aoy50411462, 2023-06-10 08:45:47

หลักสูตร์วิทยาศาสตร์ 2565

ปก คำนำ สารบัญ_merged (3)

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 48 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.6 9. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์การ เกิด ลมสุริยะ พายุสุริยะ และสืบค้น ข้อมูล วิเคราะห์นำเสนอปรากฏการณ์หรือ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับผลของลมสุริยะ และพายุสุริยะ ที่มีต่อโลก รวมทั้งประเทศ ไทย • ความส่องสว่างของดาวฤกษ์เป็นพลังงานจาก ดาวฤกษ์ที่ ปลดปล่อยออกมาในเวลา 1 วินาทีต่อ หน่วยพื้นที่ ณ ตำแหน่งของผู้สังเกต แต่เนื่องจาก ตาของมนุษย์ไม่ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ความส่องสว่างที่มีค่าน้อย ๆ จึงกำหนดค่าการ เปรียบเทียบความส่องสว่างของดาวฤกษ์ ด้วยค่า โชติมาตร ซึ่งเป็นการแสดงระดับความส่องสว่าง ของดาวฤกษ์ ณ ตำแหน่งของผู้สังเกต • สีของดาวฤกษ์สัมพันธ์กับอุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของ ดาว ฤกษ์ ซึ่งนักดาราศาสตร์ใช้สเปกตรัมในการจำแนกชนิด ของดาว ฤกษ์ • มวลของดาวฤกษ์ขึ้นอยู่กับมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิด ดาว ฤกษ์ที่มีมวลมากจะผลิตและใช้พลังงานมาก จึงมีอายุสั้น กว่าดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย • ดาวฤกษ์มีการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันการวิวัฒนาการ และจุด จบของดาวฤกษ์ขึ้นอยู่กับมวลตั้งต้นของดาวฤกษ์ ส่วนใหญ่เทียบ กับจำนวนเท่าของมวลดวงอาทิตย์ • ระบบสุริยะเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มฝุ่น และแก๊สที่ เรียกว่า เนบิวลาสุริยะ โดยฝุ่นและแก๊ส ประมาณร้อยละ 99.8 ของมวล ได้รวมตัวเป็น ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นก้อนแก๊ส ร้อน หรือ พลาสมา สสารส่วนที่เหลือรวมตัวเป็นดาว เคราะห์และ บริวารอื่น ๆ ของดวงอาทิตย์• ปฏิกิริยาเทอร์ มอนิวเคลียร์ เป็นปฏิกิริยาหลักของ กระบวนการสร้าง พลังงานของดาวฤกษ์ที่แก่น ของดาวฤกษ์ ทำให้เกิดการ หลอมนิวเคลียสของ ไฮโดรเจนเป็นนิวเคลียสฮีเลียมแล้ว ก่อให้เกิด พลังงานอย่างต่อเนื่อง


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 49 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.6 9. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์การ เกิด ลมสุริยะ พายุสุริยะ และสืบค้น ข้อมูล วิเคราะห์นำเสนอปรากฏการณ์ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับผลของลม สุริยะ และพายุสุริยะ ที่มีต่อโลก รวมทั้ง ประเทศไทย • สีของดาวฤกษ์สัมพันธ์กับอุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของ ดาว ฤกษ์ ซึ่งนักดาราศาสตร์ใช้สเปกตรัมในการจำแนกชนิด ของดาว ฤกษ์ • มวลของดาวฤกษ์ขึ้นอยู่กับมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิด ดาว ฤกษ์ที่มีมวลมากจะผลิตและใช้พลังงานมาก จึงมีอายุสั้นกว่า ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย • ดาวฤกษ์มีการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันการวิวัฒนาการและ จุด จบของดาวฤกษ์ขึ้นอยู่กับมวลตั้งต้นของดาวฤกษ์ ส่วน ใหญ่เทียบ กับจำนวนเท่าของมวลดวงอาทิตย์ • ระบบสุริยะเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มฝุ่น และแก๊สที่ เรียกว่า เนบิวลาสุริยะ โดยฝุ่นและแก๊ส ประมาณร้อยละ 99.8 ของมวล ได้รวมตัวเป็น ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นก้อนแก๊สร้อน หรือ พลาสมา สสารส่วนที่เหลือรวมตัวเป็นดาวเคราะห์และ บริวารอื่น ๆ ของดวงอาทิตย์• ปฏิกิริยาเทอร์มอนิวเคลียร์ เป็นปฏิกิริยาหลักของ กระบวนการสร้างพลังงานของดาว ฤกษ์ที่แก่น ของดาวฤกษ์ ทำให้เกิดการหลอมนิวเคลียสของ ไฮโดรเจนเป็นนิวเคลียสฮีเลียมแล้วก่อให้เกิด พลังงานอย่าง ต่อเนื่อง • ความส่องสว่างของดาวฤกษ์เป็นพลังงานจาก ดาวฤกษ์ที่ ปลดปล่อยออกมาในเวลา 1 วินาทีต่อ หน่วยพื้นที่ ณ ตำแหน่งของผู้สังเกต แต่เนื่องจาก ตาของมนุษย์ไม่ตอบสนอง ต่อการเปลี่ยนแปลง ความส่องสว่างที่มีค่าน้อย ๆ จึง กำหนดค่าการ เปรียบเทียบความส่องสว่างของดาวฤกษ์ด้วย ค่า โชติมาตร ซึ่งเป็นการแสดงระดับความส่องสว่าง ของดาว ฤกษ์ ณ ตำแหน่งของผู้สังเกต • สีของดาวฤกษ์สัมพันธ์กับอุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของ ดาว ฤกษ์ ซึ่งนักดาราศาสตร์ใช้สเปกตรัมในการจำแนกชนิด ของดาว ฤกษ์


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 50 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • มวลของดาวฤกษ์ขึ้นอยู่กับมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิด ดาว ฤกษ์ที่มีมวลมากจะผลิตและใช้พลังงานมาก จึงมีอายุสั้นกว่า ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย • ดาวฤกษ์มีการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันการวิวัฒนาการและ จุด จบของดาวฤกษ์ขึ้นอยู่กับมวลตั้งต้นของดาวฤกษ์ ส่วน ใหญ่เทียบ กับจำนวนเท่าของมวลดวงอาทิตย์ • ระบบสุริยะเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มฝุ่น และแก๊สที่ เรียกว่า เนบิวลาสุริยะ โดยฝุ่นและแก๊ส ประมาณร้อยละ 99.8 ของมวล ได้รวมตัวเป็น ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นก้อนแก๊สร้อน หรือ พลาสมา สสารส่วนที่เหลือรวมตัวเป็นดาวเคราะห์และ บริวารอื่น ๆ ของดวงอาทิตย์ดังนั้นจึงแบ่งเขต บริวารของ ดวงอาทิตย์ตามลักษณะการเกิด และองค์ประกอบ ได้แก่ ดาวเคราะห์ชั้นใน ดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์ชั้นนอก และ ดงดาวหาง • โลกเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่มีสิ่งมีชีวิต เพราะโคจร รอบดวงอาทิตย์ในระยะทางที่เหมาะสม อยู่ในเขตที่เอื้อต่อ การมีสิ่งมีชีวิต มีอุณหภูมิเหมาะสมและสามารถเกิดน้ำที่ ยังคงสถานะเป็น ของเหลวได้ ปัจจุบันมีการค้นพบดาว เคราะห์ที่อยู่นอกระบบสุริยะจำนวนมาก และมีดาวเคราะห์ บางดวงที่อยู่ในเขตที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต คล้ายโลก • ดวงอาทิตย์มีโครงสร้างภายในแบ่งเป็นแก่น เขตการแผ่รังสี และเขตการพาความร้อน และมีชั้นบรรยากาศอยู่เหนือเขต พาความร้อน ซึ่งแบ่ง เป็น 3 ชั้น คือ ชั้นโฟโตสเฟียร์ ชั้นโคร โมสเฟียร์และคอโรนา ในชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์มี ปรากฏการณ์สำคัญ เช่น จุดมืดดวงอาทิตย์การลุกจ้า ที่ทำให้ เกิดลมสุริยะ และพายุสุริยะ ซึ่งส่งผลต่อโลก


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 51 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • ลมสุริยะ เกิดจากการแพร่กระจายของอนุภาค จากชั้นคอโร นาออกสู่อวกาศตลอดเวลา อนุภาค ที่หลุดออกสู่อวกาศเป็น อนุภาคที่มีประจุลมสุริยะส่งผลทำให้เกิดหางของดาวหางที่ เรืองแสง และชี้ไปทางทิศตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์และเกิด ปรากฏการณ์แสงเหนือ แสงใต้• พายุสุริยะ เกิดจากการ ปลดปล่อยอนุภาคมีประจุ พลังงานสูงจำนวนมหาศาล มักเกิด บ่อยครั้งในช่วงที่มีการลุกจ้า และในช่วงที่มีจุดมืดดวงอาทิตย์ จำนวนมาก และในบางครั้งมีการพ่นก้อนมวลคอโรนา พายุ สุริยะอาจส่งผลต่อ สนามแม่เหล็กโลก จึงอาจรบกวนระบบ การ ส่งกระแสไฟฟ้าและการสื่อสารรวมทั้งอาจส่งผล ต่อ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ของดาวเทียม นอกจากนั้นมักทำให้เกิด ปรากฏการณ์แสงเหนือ แสงใต้ที่สังเกตได้ชัดเจน • มนุษย์ใช้เทคโนโลยีอวกาศในการศึกษา เพื่อขยาย ขอบเขต ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และในขณะ เดียวกันมนุษย์ได้นำ เทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น วัสดุ ศาสตร์ อาหาร การแพทย์ • นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างกล้องโทรทรรศน์เพื่อศึกษา แหล่งกำเนิดของรังสีหรืออนุภาคในอวกาศ ในช่วง ความยาว คลื่นต่าง ๆ ได้แก่ คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ อินฟราเรด แสง อัลตราไวโอเลต และรังสีเอ็กซ์ • ยานอวกาศ คือ ยานพาหนะที่นำมนุษย์หรือ อุปกรณ์ทาง ดาราศาสตร์ขึ้นไปสู่อวกาศ เพื่อ สำรวจหรือเดินทางไปยังดาว ดวงอื่น ส่วนสถานีอวกาศ คือ ห้องปฏิบัติการลอยฟ้า ที่โคจรรอบโลกใช้ในการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในสาขา ต่าง ๆ ในสภาพไร้น้ำหนัก


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 52 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.6 10. สืบค้นข้อมูล อธิบายการสำรวจ อวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความ ยาว คลื่นต่าง ๆ ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานี อวกาศ และนำเสนอ แนวคิดการนำความรู้ ทางด้าน เทคโนโลยีอวกาศมาประยุกต์ใช้ ใน ชีวิตประจำวัน หรือในอนาคต • ดาวเทียม คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการสำรวจวัตถุท้องฟ้า และ นำมาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น การสื่อสาร โทรคมนาคม การระบุตำแหน่งบนโลก การสำรวจ ทรัพยากรธรรมชาติ อุตุนิยมวิทยา โดยดาวเทียม มีหลาย ประเภทสามารถแบ่งได้ตามเกณฑ์วงโคจรและการใช้งาน สาระที่3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลก และ บนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลง ลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการแบ่งชั้น บรรยากาศ และเปรียบเทียบประโยชน์ของ บรรยากาศ แต่ละชั้น 2. อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ จาก ข้อมูล ที่รวบรวมได้ 3. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดพายุ ฝนฟ้า คะนอง และพายุหมุนเขตร้อน และผลที่มี ต่อ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง นำเสนอแนว ทางการ ปฏิบัติตนให้ เหมาะสมและปลอดภัย • โลกมีบรรยากาศห่อหุ้ม นักวิทยาศาสตร์ใช้สมบัติและ องค์ประกอบของบรรยากาศในการแบ่งบรรยากาศ ของโลก ออกเป็นชั้น ซึ่งแบ่งได้หลายรูปแบบ ตามเกณฑ์ที่แตกต่าง กัน โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์ใช้เกณฑ์การเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิตามความสูง แบ่งบรรยากาศได้เป็น 5 ชั้น ได้แก่ ชั้นโทรโพสเฟียร์ชั้นสตราโตสเฟียร์ ชั้นมีโซสเฟียร์ ชั้นเทอร์ โมสเฟียร์และชั้นเอกโซสเฟียร์ • บรรยากาศแต่ละชั้นมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต แตกต่างกัน โดยชั้นโทรโพสเฟียร์มีปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศที่สำคัญ ต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต ชั้นสตราโตสเฟียร์ช่วย ดูดกลืนรังสีอัลตราไวโอเลต จากดวงอาทิตย์ไม่ให้มายังโลก มากเกินไป ชั้นมีโซสเฟียร์ช่วยชะลอวัตถุนอกโลกที่ผ่านเข้า มา ให้เกิดการเผาไหม้กลายเป็นวัตถุขนาดเล็ก ลดโอกาสที่ จะทำความเสียหายแก่สิ่งมีชีวิตบนโลก ชั้นเทอร์โมสเฟียร์


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 53 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 4. อธิบายการพยากรณ์อากาศ และ พยากรณ์อากาศอย่างง่ายจากข้อมูลที่ รวบรวมได้ 5. ตระหนักถึงคุณค่าของการพยากรณ์ อากาศ โดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตน และ การใช้ประโยชน์จากคำพยากรณ์ อากาศ 6. อธิบายสถานการณ์และผลกระทบการ เปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศโลกจากข้อมูลที่ รวบรวมได้ 7. ตระหนักถึงผลกระทบของการ เปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศโลกโดยนำเสนอ แนวทางการ ปฏิบัติตน ภายใต้การ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก สามารถสะท้อนคลื่นวิทยุ และ ชั้นเอกโซสเฟียร์เหมาะ สำหรับการโคจรของ ดาวเทียมรอบโลกในระดับต่ำ • ลมฟ้าอากาศ เป็นสภาวะของอากาศในเวลาหนึ่ง ของ พื้นที่หนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบลมฟ้าอากาศ ได้แก่อุณหภูมิอากาศ ความกด อากาศ ลม ความชื้น เมฆ และหยาดน้ำฟ้า โดยหยาดน้ำฟ้า ที่พบบ่อย ในประเทศไทยได้แก่ ฝนองค์ประกอบ ลมฟ้า อากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขึ้นอยู่กับปัจจัย ต่าง ๆ เช่น ปริมาณรังสีจากดวงอาทิตย์และ ลักษณะพื้นผิวโลกส่งผลต่อ อุณหภูมิอากาศ อุณหภูมิอากาศและปริมาณไอน้ำส่งผลต่อ อุณหภูมิอากาศและปริมาณไอน้ำ ต่อ ความชื้น ความกดอากาศส่งผลต่อลม ความชื้น และลม ส่งผลต่อเมฆ • พายุฝนฟ้าคะนอง เกิดจากการที่อากาศที่มีอุณหภูมิและ ความชื้นสูงเคลื่อนที่ขึ้นสู่ระดับ ความสูง ที่มีอุณหภูมิต่ำลง จนกระทั่งไอน้ำ ในอากาศเกิดการควบแน่นเป็นละอองน้ำ และ เกิดต่อเนื่องเป็นเมฆขนาดใหญ่ พายุฝนฟ้าคะนอง ทำ ให้เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ซึ่งอาจ ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน • พายุหมุนเขตร้อนเกิดเหนือมหาสมุทรหรือทะเล ที่น้ำมี อุณหภูมิสูงตั้งแต่ 26-27 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ทำให้อากาศ ที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง บริเวณนั้นเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่าง รวดเร็วเป็น บริเวณกว้าง อากาศจากบริเวณอื่นเคลื่อนเข้า มา แทนที่และพัดเวียนเข้าหาศูนย์กลางของพายุยิ่งใกล้ ศูนย์กลาง อากาศจะเคลื่อนที่พัดเวียน เกือบเป็นวงกลมและ มีอัตราเร็วสูงที่สุด


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 54 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง พายุหมุน เขตร้อนทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง ฝนตกหนัก ซึ่ง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงควรปฏิตน ให้ปลอดภัยโดยติดตามข่าวสาร การพยากรณ์อากาศ และ ไม่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ ที่เสี่ยงภัย • การพยากรณ์อากาศเป็นการคาดการณ์ลมฟ้าอากาศ ที่จะ เกิดขึ้นในอนาคต โดยมีการตรวจวัด องค์ประกอบลมฟ้า อากาศ การสื่อสารแลกเปลี่ยน ข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้า อากาศระหว่างพื้นที่การวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างคำ พยากรณ์อากาศ • การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกก่อให้เกิดผล กระทบต่อ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น การหลอมเหลวของน้ำแข็งขั้ว โลก การเพิ่มขึ้น ของระดับทะเล การเปลี่ยนแปลงวัฏจักร น้ำ การเกิดโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ และการเกิด ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น มนุษย์จึงควร เรียนรู้แนวทางการ ปฏิบัติตนภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ทั้งแนวทางการ ปฏิบัติตนให้เหมาะสม และแนวทางการลดกิจกรรมที่ส่งผล ต่อการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ม.2 1. เปรียบเทียบกระบวนการเกิด สมบัติ และการใช้ประโยชน์ รวมทั้งอธิบาย ผลกระทบจาก การใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำ บรรพ์ จากข้อมูลที่ รวบรวมได้ • เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์เกิดจากการเปลี่ยนแปลง สภาพ ของซากสิ่งมีชีวิตในอดีต โดยกระบวนการทางเคมีและ ธรณีวิทยา เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ได้แก่ ถ่านหิน หิน น้ำมัน และปิโตรเลียม ซึ่งเกิดจากวัตถุต้นกำเนิด และ สภาพแวดล้อมการเกิดที่แตกต่างกัน


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 55 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.2 2. แสดงความตระหนักถึงผลจากการใช้ เชื้อเพลิง ซากดึกดำบรรพ์ โดยนำเสนอแนว ทางการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ 3. เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของ พลังงาน ทดแทนแต่ละประเภทจากการ รวบรวม ข้อมูล และนำเสนอแนวทางการใช้ พลังงาน ทดแทน ที่เหมาะสมในท้องถิ่น 4. สร้างแบบจำลองที่อธิบายโครงสร้าง ภายในโลก ตามองค์ประกอบทางเคมีจาก ข้อมูลที่ รวบรวมได้ ทำ ให้ได้ชนิดของเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ที่มีลักษณะ สมบัติ และการนำไปใช้ประโยชน์แตกต่างกัน สำหรับ ปิโตรเลียมจะต้องมีการผ่านการกลั่นลำดับส่วนก่อนการใช้ งาน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ เชื้อเพลิง ซากดึกดำบรรพ์เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป เนื่องจาก ต้องใช้เวลานานหลายล้านปีจึงจะเกิดขึ้นใหม่ได้ • การเผาไหม้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ในกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์จะทำให้เกิดมลพิษทางอากาศซึ่งส่งผลกระทบ ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมนอกจากนี้แก๊สบางชนิดที่เกิด จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ เช่น แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์และไนตรัสออกไซด์ ยังเป็นแก๊สเรือน กระจกซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก รุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ โดย คำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น เลือกใช้พลังงานทดแทน หรือเลือกใช้เทคโนโลยีที่ลดการ ใช้ เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ • เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์เป็นแหล่งพลังงาน ที่สำคัญใน กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ เนื่องจาก เชื้อเพลิงซากดึกดำ บรรพ์มีปริมาณจำกัดและ มักเพิ่มมลภาวะในบรรยากาศ มากขึ้น จึงมีการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น เช่น พลังงาน แสงอาทิตย์พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวมวล พลังงานคลื่น พลังงานความร้อนใต้พิภพพลังงานไฮโดรเจน ซึ่งพลังงาน ทดแทนแต่ละชนิดจะมีข้อดีและข้อจำกัดที่ แตกต่างกัน • โครงสร้างภายในโลกแบ่งออกเป็นชั้นตามองค์ประกอบ ทางเคมี ได้แก่ เปลือกโลก ซึ่งอยู่นอกสุด ประกอบด้วย สารประกอบของซิลิกอนและอะลูมิเนียมเป็นหลัก เนื้อโลก คือส่วนที่อยู่ใต้เปลือกโลกลงไปจนถึงแก่นโลก มี


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 56 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 5. อธิบายกระบวนการผุพังอยู่กับที่ การ กร่อน และการสะสมตัวของตะกอนจาก แบบจำลอง รวมทั้งยกตัวอย่างผลของ กระบวนการ ดังกล่าว ที่ทำให้ผิวโลกเกิด การเปลี่ยนแปลง 6. อธิบายลักษณะของชั้นหน้าตัดดินและ กระบวนการ เกิดดิน จากแบบจำลอง รวมทั้งระบุ ปัจจัย ที่ทำให้ดินมีลักษณะและ สมบัติแตกต่าง กัน 7. ตรวจวัดสมบัติบางประการของดิน โดย ใช้เครื่องมือ ที่เหมาะสมและนำเสนอแนว ทางการใช้ประโยชน์ดินจากข้อมูลสมบัติ ของดิน องค์ประกอบหลักเป็นสารประกอบของซิลิกอน แมกนีเซียม และเหล็ก และแก่นโลกคือส่วนที่อยู่ใจกลาง ของโลก มี องค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนิกเกิล ซึ่งแต่ละชั้นมี ลักษณะแตกต่างกัน • การผุพังอยู่กับที่ การกร่อน และการสะสมตัวของ ตะกอน เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ที่ทำ ให้ผิว โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นภูมิลักษณ์แบบต่าง ๆ โดยมี ปัจจัยสำคัญ คือน้ำ ลม ธารน้ำแข็ง แรงโน้มถ่วงของ โลก สิ่งมีชีวิตสภาพอากาศ และปฏิกิริยาเคมี • การผุพังอยู่กับที่ คือ การที่หินผุพังทำลายลง ด้วย กระบวนการต่าง ๆ ได้แก่ ลมฟ้าอากาศกับ น้ำฝน และ รวมทั้งการกระทำของต้นไม้กับ แบคทีเรีย ตลอดจนการ แตกตัวทางกลศาสตร์ซึ่งมีการเพิ่มและลดอุณหภูมิสลับกัน เป็นต้น • การกร่อน คือ กระบวนการหนึ่งหรือหลาย กระบวนการ ที่ทำให้สารเปลือกโลกหลุดไป ละลายไปหรือกร่อนไปโดยมี ตัวนำพาธรรมชาติคือ ลม น้ำ และธารน้ำแข็ง ร่วมกับ ปัจจัยอื่น ได้แก่ ลมฟ้าอากาศ สารละลาย การครูดถูการนำพา ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการพังทลายเป็นกลุ่ม ก้อน เช่น แผ่นดินถล่ม ภูเขาไฟระเบิด • การสะสมตัวของตะกอน คือ การสะสมตัวของ วัตถุจาก การนำพาของน้ำ ลม หรือธารน้ำแข็ง • ดินเกิดจากหินที่ผุพังตามธรรมชาติผสมคลุกเคล้า กับ ตัวนำพาธรรมชาติคือ ลม น้ำ และธารน้ำแข็ง ร่วมกับ ปัจจัยอื่น


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 57 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 8. อธิบายปัจจัยและกระบวนการเกิดแหล่ง น้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดิน จาก แบบจำลอง ได้แก่ ลมฟ้าอากาศ สารละลาย การครูดถูการนำพา ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการพังทลายเป็นกลุ่ม ก้อน เช่น แผ่นดินถล่ม ภูเขาไฟระเบิด • การสะสมตัวของตะกอน คือ การสะสมตัวของ วัตถุจาก การนำพาของน้ำ ลม หรือธารน้ำแข็ง • ดินเกิดจากหินที่ผุพังตามธรรมชาติผสมคลุกเคล้า กับ อินทรียวัตถุที่ได้จากการเน่าเปื่อยของซากพืช ซากสัตว์ทับ ถมเป็นชั้น ๆ บนผิวโลก ชั้นดิน แบ่งออกเป็นหลายชั้น ขนานหรือเกือบขนาน ไปกับผิวหน้าดิน แต่ละชั้นมีลักษณะ แตกต่างกัน เนื่องจากสมบัติทางกายภาพ เคมี ชีวภาพ และ ลักษณะอื่น ๆเช่น สีโครงสร้าง เนื้อดิน การยึดตัว ความเป็น กรด-เบส สามารถสังเกตได้จากการ สำรวจภาคสนาม การ เรียกชื่อชั้นดินหลักจะใช้อักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ ได้แก่ O, A, E, B, C, R • ชั้นหน้าตัดดิน เป็นชั้นดินที่มีลักษณะปรากฏให้เห็น เรียงลำดับเป็นชั้นจากชั้นบนสุดถึงชั้นล่างสุด • ปัจจัยที่ทำให้ดินแต่ละท้องถิ่นมีลักษณะและสมบัติ แตกต่างกัน ได้แก่ วัตถุต้นกำเนิดดิน ภูมิอากาศ สิ่งมีชีวิตใน ดิน สภาพภูมิประเทศ และระยะเวลา ในการเกิดดิน • สมบัติบางประการของดิน เช่น เนื้อดิน ความชื้นดิน ค่า ความเป็นกรด-เบส ธาตุอาหารในดิน สามารถ นำไปใช้ใน การตัดสินใจถึงแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยอาจ นำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรหรืออื่น ๆ ซึ่งดินที่ไม่ เหมาะสม ต่อการทำการเกษตร เช่น ดินจืด ดินเปรี้ยว ดิน เค็ม และดินดาน อาจเกิดจากสภาพดินตามธรรมชาติหรือ การใช้ประโยชน์จะต้องปรับปรุงให้มีสภาพเหมาะสม เพื่อ นำไปใช้ประโยชน์


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 58 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.2 9. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการใช้น้ำ และ นำเสนอ แนวทางการใช้น้ำอย่างยั่งยืนใน ท้องถิ่น ของ ตนเอง 10. สร้างแบบจำลองที่อธิบายกระบวนการ เกิด และผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะ ชายฝั่ง ดินถล่ม หลุมยุบ แผ่นดินทรุด • แหล่งน้ำผิวดินเกิดจากน้ำฝนที่ตกลงบนพื้นโลก ไหลจากที่ สูงลงสู่ที่ต่ำด้วยแรงโน้มถ่วง การไหล ของน้ำทำให้พื้นโลก เกิดการกัดเซาะเป็นร่องน้ำ เช่น ลำธาร คลอง และแม่น้ำ ซึ่งร่องน้ำจะมีขนาด และรูปร่างแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ ปริมาณน้ำฝน ระยะเวลาในการกัดเซาะ ชนิดดินและหิน และ ลักษณะภูมิประเทศ เช่น ความลาดชัน ความสูง ต่ำ ของพื้นที่ เมื่อน้ำไหลไปยังบริเวณที่เป็นแอ่ง จะเกิดการ สะสมตัวเป็นแหล่งน้ำ เช่น บึง ทะเลสาบ ทะเล และ มหาสมุทร • แหล่งน้ำใต้ดินเกิดจากการซึมของน้ำผิวดินลงไป สะสมตัว ใต้พื้นโลก ซึ่งแบ่งเป็นน้ำในดินและ น้ำบาดาล น้ำในดินเป็น น้ำที่อยู่ร่วมกับอากาศ ตามช่องว่างระหว่างเม็ดดิน ส่วนน้ำ บาดาล เป็นน้ำที่ไหลซึมลึกลงไปและถูกกักเก็บไว้ในชั้นหิน หรือชั้นดิน จนอิ่มตัวไปด้วยน้ำ • แหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดินถูกนำมาใช้ในกิจกรรม ต่าง ๆ ของมนุษย์ ส่งผลต่อการจัดการการใช้ประโยชน์น้ำ และคุณภาพของแหล่งน้ำเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวน ประชากรการใช้ประโยชน์พื้นที่ในด้านต่าง ๆ เช่นภาค เกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำฝนใน พื้นที่ ลุ่มน้ำและแหล่งน้ำผิวดินไม่เพียงพอสำหรับกิจกรรม ของ มนุษย์ น้ำจากแหล่งน้ำใต้ดินจึงถูกนำมาใช้มากขึ้น ส่งผลให้ ปริมาณน้ำใต้ดินลดลงมาก จึงต้องมีการจัดการใช้น้ำอย่าง เหมาะสมและยั่งยืน ซึ่งอาจทำได้โดยการจัดหาแหล่งน้ำ เพื่อให้มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต การจัดสรร และการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์และฟื้นฟู แหล่งน้ำ การป้องกันและแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 59 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.2 10. สร้างแบบจำลองที่อธิบายกระบวนการ เกิด และผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะ ชายฝั่ง ดินถล่ม หลุมยุบ แผ่นดินทรุด • น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม หลุมยุบ แผ่นดิน ทรุด มีกระบวนการเกิดและผลกระทบ ที่แตกต่างกัน ซึ่ง อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง แก่ชีวิต และทรัพย์สิน • น้ำท่วม เกิดจากพื้นที่หนึ่งได้รับปริมาณน้ำเกินกว่า ที่จะ กักเก็บได้ ทำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ โดยขึ้นอยู่กับปริมาณ น้ำและสภาพทางธรณีวิทยาของพื้นที่ • การกัดเซาะชายฝั่ง เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลง ของชายฝั่งทะเลที่เกิดขึ้น ตลอดเวลาจากการ กัดเซาะของคลื่นหรือลม ทำให้ตะกอน จากที่หนึ่ง ไปตกทับถมในอีกบริเวณหนึ่ง แนวของชายฝั่ง เดิม จึงเปลี่ยนแปลงไป บริเวณที่มีตะกอนเคลื่อน เข้ามา น้อยกว่าปริมาณที่ตะกอนเคลื่อนออกไป ถือว่าเป็นบริเวณที่ มีการกัดเซาะชายฝัง •ดินถล่ม เป็นการเคลื่อนที่ของมวลดินหรือหิน จำนวนมาก ลงตามลาดเขา เนื่องจากแรงโน้มถ่วง ของโลกเป็นหลักซึ่ง เกิดจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ความลาดชันของพื้นที่ สภาพ ธรณีวิทยา ปริมาณ น้ำฝน พืชปกคลุมดิน และการใช้ ประโยชน์พื้นที่ • หลุมยุบ คือ แอ่งหรือหลุมบนแผ่นดินขนาดต่าง ๆ ที่อาจ เกิดจากการถล่มของโพรงถ้ำหินปูน เกลือหินใต้ดิน หรือเกิด จากน้ำพัดพาตะกอน ลงไปในโพรงถ้ำหรือธารน้ำใต้ดิน • แผ่นดินทรุดเกิดจากการยุบตัวของชั้นดิน หรือ หินร่วน เมื่อมวลของแข็งหรือของเหลวปริมาณมาก ที่รองรับอยู่ใต้ ชั้นดินบริเวณนั้นถูกเคลื่อนย้ายออก ไปโดยธรรมชาติหรือ โดยการกระทำของมนุษย์ ม.3 - - ม.4 - -


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 60 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.5 - - ม.6 1.อธิบายการแบ่งชั้นและสมบัติของ โครงสร้างโลกพร้อมยกตัวอย่างข้อมูลที่ สนับสนุน 2.อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่ สนับสนุน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี 3. ระบุสาเหตุ และอธิบายรูปแบบแนว รอยต่อ ของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการ เคลื่อนที่ของ แผ่นธรณี พร้อมยกตัวอย่าง หลักฐาน ทางธรณีวิทยาที่พบ 4. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟ ระเบิด รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบ และ นำเสนอแนวทางการเฝ้า ระวังและการ ปฏิบัติตน ให้ปลอดภัย • การศึกษาโครงสร้างโลกใช้ข้อมูลหลายด้าน เช่น องค์ประกอบทางเคมีของหินและแร่ องค์ประกอบทางเคมี ของอุกกาบาต ข้อมูลคลื่นไหวสะเทือนที่เคลื่อนที่ผ่านโลก จึงสามารถแบ่งชั้นโครงสร้างโลก ได้ 2 แบบ คือ โครงสร้าง โลกตามองค์ประกอบทางเคมี แบ่งได้เป็น 3 ชั้น ได้แก่ เปลือกโลกเนื้อโลก และแก่นโลก และโครงสร้างโลกตาม สมบัติเชิงกล แบ่งได้เป็น 5 ชั้น ได้แก่ ธรณีภาคฐานธรณี ภาค มัชฌิมภาค แก่นโลกชั้นนอกและแก่นโลกชั้นใน • แผ่นธรณีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบของธรณีภาคการ เปลี่ยนแปลงขนาดและตำแหน่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีดังกล่าวอธิบายได้ตามทฤษฎี ธรณีแปรสัณฐาน ซึ่งมีรากฐานมาจากทฤษฎีทวีปเลื่อนและ ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทร โดยมีหลักฐานที่สนับสนุน ได้แก่ รูปร่างของขอบทวีปที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ความ คล้ายคลึงกันของกลุ่มหินและแนวเทือกเขาซากดึก ดำบรรพ์ ร่องรอยการเคลื่อนที่ของตะกอนธารน้ำแข็ง ภาวะแม่เหล็ก โลกบรรพกาลอายุหินของพื้นมหาสมุทร รวมทั้งการค้นพบ สันเขากลางสมุทร และร่องลึกก้นสมุทร • การพาความร้อนของแมกมาภายในโลก ทำให้เกิดการ เคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจพบ หลักฐานทางธรณีวิทยา ได้แก่ ธรณีสัณฐาน และธรณีโครงสร้าง บริเวณแนวรอยต่อของ แผ่นธรณี เช่น ร่องลึกก้นสมุทร หมู่เกาะภูเขาไฟ รูปโค้ง แนวภูเขาไฟ แนวเทือกเขา หุบเขาทรุด และสันเขากลาง สมุทรรอยเลื่อน


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 61 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.6 5. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาด และ ความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทั้ง สืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบ และ นำเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการ ปฏิบัติตน ให้ปลอดภัย 6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดและผล จากสึนามิรวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบ และนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง และ การ ปฏิบัติตนให้ปลอดภัย 7. อธิบายปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการได้รับ พลังงาน จากดวงอาทิตย์แตกต่างกันในแต่ ละ บริเวณ ของโลก นอกจากนี้ยังพบการเกิดธรณีพิบัติภัยที่บริเวณแนวรอยต่อ ของแผ่นธรณี เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ซึ่ง หลักฐานดังกล่าวสัมพันธ์กับรูปแบบ การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปได้ว่า แนวรอยต่อของแผ่นธรณีมี 3 รูปแบบ ได้แก่ แนวแผ่นธรณี แยกตัว แนวแผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน แนวแผ่นธรณีเคลื่อนที่ ผ่านกัน ในแนวราบ • ภูเขาไฟระเบิด เกิดจากการแทรกดันของแมกมา ขึ้นมา ตามส่วนเปราะบาง หรือรอยแตกบนเปลือกโลก มักพบ หนาแน่นบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นธรณีทำให้บริเวณ ดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ผลจาก การระเบิดของภูเขาไฟมี ทั้งประโยชน์และโทษ จึงต้องศึกษาแนวทางในการเฝ้าระวัง และ การปฏิบัติตนให้ปลอดภัย • แผ่นดินไหวเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ของ เปลือกโลกในรูปของคลื่นไหวสะเทือน แผ่นดินไหวมีขนาด และความรุนแรงแตกต่างกัน มักเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของ แผ่นธรณี และพื้นที่ ภายใต้อิทธิพลของการเคลื่อนของแผ่น ธรณีทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว ซึ่ง ส่งผลให้สิ่งก่อสร้างเสียหาย เกิดอันตราย ต่อชีวิตและ ทรัพย์สิน จึงต้องศึกษาแนวทาง ในการเฝ้าระวัง และการ ปฏิบัติตนให้ปลอดภัย • สึนามิ คือ คลื่นน้ำที่เกิดจากการแทนที่มวลน้ำในปริมาณ มหาศาล ส่วนมากจะเกิดในทะเลหรือมหาสมุทร โดยคลื่น มี ลักษณะเฉพาะ คือความยาวคลื่นมากและเคลื่อนที่ด้วย ความเร็วสูงเมื่ออยู่กลางมหาสมุทรจะมีความสูงคลื่นน้อย และอาจเพิ่มความสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อคลื่นเคลื่อนที่ ผ่านบริเวณน้ำตื้น จึงทำให้พื้นที่บริเวณชายฝั่งบางบริเวณ


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 62 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.6 8. อธิบายการหมุนเวียนของอากาศ ที่เป็น ผลมาจากความแตกต่างของความกด อากาศ 9. อธิบายทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ ที่ เป็น ผลมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก 10. อธิบายการหมุนเวียนของอากาศตาม เขต ละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ 11. อธิบายปัจจัยที่ทำให้เกิดการหมุนเวียน ของน้ำผิวหน้าในมหาสมุทร และรูปแบบ การหมุนเวียนของน้ำผิวหน้าในมหาสมุทร 12. อธิบายผลของการหมุนเวียนของอากาศ และน้ำผิวหน้าในมหาสมุทรที่มีต่อลักษณะ ภูมิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดล้อม 13. อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศของโลก พร้อมทั้งนำเสนอแนว ปฏิบัติเพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ ที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิก่อให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์และ สิ่งก่อสร้างในบริเวณชายหาดนั้น จึงต้องศึกษาแนวทาง ใน การเฝ้าระวัง และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย • พื้นผิวโลกแต่ละบริเวณได้รับพลังงานจาก ดวงอาทิตย์ใน ปริมาณที่แตกต่างกัน เนื่องจาก ปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น สัณฐานและ การเอียงของแกนโลก ลักษณะของพื้นผิว ละอองลอย และเมฆ ทำให้แต่ละบริเวณบนโลก มีอุณหภูมิ ไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีความกดอากาศแตกต่างกัน และเกิดการถ่ายโอนพลังงานระหว่างกัน • การหมุนเวียนของอากาศเกิดขึ้นจากความ กดอากาศที่ แตกต่างกันระหว่างสองบริเวณ โดยอากาศเคลื่อนที่จาก บริเวณที่มีความกด อากาศสูงไปยังบริเวณที่มีความกด อากาศต่ำ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจน ในการเคลื่อนที่ของอากาศ ในแนวราบ และเมื่อพิจารณาการเคลื่อนที่ของ อากาศใน แนวดิ่งจะพบว่าอากาศเหนือบริเวณ ความกดอากาศต่ำจะมี การยกตัวขึ้นขณะที่อากาศเหนือบริเวณความกดอากาศสูง จะจมตัวลง โดยการเคลื่อนที่ของอากาศทั้งในแนวราบและ แนวดิ่งนี้ ทำให้เกิดเป็นการหมุนเวียนของอากาศ • การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดแรงคอริออลิส ส่งผลให้ทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศเบนไป โดยอากาศ ที่เคลื่อนที่ในบริเวณซีกโลกเหนือ จะเบนไปทางขวาจาก ทิศทางเดิมส่วนบริเวณซีกโลกใต้จะเบนไปทางซ้ายจาก ทิศทางเดิม • โลกมีความกดอากาศแตกต่างกันในแต่ละบริเวณ รวมทั้ง อิทธิพลจากการหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้อากาศในแต่ ละซีกโลกเกิดการหมุนเวียนของอากาศตาม เขตละติจูด แบ่งออกเป็น 3 แถบโดยแต่ละแถบมีภูมิอากาศแตกต่างกัน


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 63 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 14. แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศ ที่สำคัญจากแผนที่อากาศ และนำข้อมูล สารสนเทศต่าง ๆ มาวางแผนการ ดำเนิน ชีวิต ให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ ละซีกโลกเกิดการหมุนเวียนของอากาศตาม เขตละติจูด แบ่งออกเป็น 3 แถบโดยแต่ละแถบมีภูมิอากาศแตกต่างกัน ได้แก่การหมุนเวียนแถบขั้วโลกมีภูมิอากาศแบบหนาวเย็น การหมุนเวียนแถบละติจูด กลางมีภูมิอากาศแบบอบอุ่น และการหมุนเวียนแถบเขตร้อนมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น • นอกจากนี้บริเวณรอยต่อของการหมุนเวียนอากาศแต่ละ แถบละติจูด จะมีลักษณะลมฟ้าอากาศ ที่แตกต่างกัน เช่น บริเวณใกล้ศูนย์สูตรมีปริมาณ หยาดน้ำฟ้าเฉลี่ยสูงกว่า บริเวณอื่นบริเวณละติจูด 30 องศา มีอากาศแห้งแล้ง ส่วน บริเวณละติจูด 60 องศา อากาศมีความแปรปรวนสูง • การหมุนเวียนของกระแสน้ำผิวหน้าในมหาสมุทรได้รับ อิทธิพลจากการหมุนเวียนของอากาศในแต่ละแถบละติจูด เป็นปัจจัยหลักทำให้บริเวณซีกโลกเหนือมีการหมุนเวียน ของ กระแสน้ำผิวหน้าในทิศทางตามเข็มนาฬิกา และทวน เข็ม นาฬิกาในซีกโลกใต้ ซึ่งกระแสน้ำผิวหน้าในมหาสมุทร มีทั้งกระแสน้ำอุ่น และกระแสน้ำเย็น • การหมุนเวียนอากาศและน้ำในมหาสมุทรส่งผลต่อ ภูมิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมที่ทำให้บางประเทศในทวีปยุโรป ไม่ หนาวเย็นเกินไป และเมื่อการหมุนเวียนอากาศและน้ำ ใน มหาสมุทรแปรปรวน ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพลม ฟ้า อากาศ เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา ซึ่งเกิด จาก ความแปรปรวนของลมค้าและส่งผลต่อประเทศที่อยู่ บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 64 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • โลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ โดยปริมาณพลังงาน เฉลี่ยที่โลกได้รับเท่ากับพลังงานเฉลี่ยที่โลกปลดปล่อยกลับ สู่อวกาศ ทำให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก ส่งผลให้ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในแต่ละปีค่อนข้างคงที่และมี ลักษณะภูมิอากาศที่ไม่เปลี่ยนแปลง หากสมดุลพลังงาน ของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของ โลกและภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากปัจจัย หลายประการทั้งปัจจัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและการ กระทำของมนุษย์ เช่นแก๊สเรือนกระจก ลักษณะผิวโลก และละอองลอย • มนุษย์มีส่วนช่วยในการชะลอการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ โลกได้โดยการลดกิจกรรมที่ทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลง สมดุลพลังงาน เช่น ลดการ ปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก และละอองลอย • แผนที่อากาศผิวพื้นแสดงข้อมูลการตรวจอากาศ ใน รูปแบบสัญลักษณ์หรือตัวเลข เช่น บริเวณ ความกดอากาศ สูง หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุหมุนเขตร้อน ร่องความ กดอากาศต่ำ การแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศ ทำให้ทราบลักษณะลมฟ้าอากาศ ณ บริเวณหนึ่ง • การแปล ความหมายสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนแผนที่ อากาศ ร่วมกับ ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประยุกต์เกี่ยวกับ การพยากรณ์อากาศ เรดาร์ตรวจอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม สามารถ นำมาวางแผนการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับ สภาพลมฟ้าอากาศ เช่น การเลือกช่วงเวลา ในการ เพาะปลูกให้สอดคล้องกับฤดูกาล การเตรียมพร้อมรับมือ สภาพอากาศแปรปรวน


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 65 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา งานอย่างมี ความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึง ผลกระทบต่อชีวิตสังคมและสิ่งแวดล้อม ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิต ประจำวันและวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการในชีวิต ประจำวันรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิด ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา • เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาซึ่งอาจเป็นได้ ทั้งชิ้นงานหรือวิธีการ เพื่อใช้แก้ปัญหาสนองความต้องการ หรือเพิ่มความสามารถในการทำงานของมนุษย์ • ระบบทางเทคโนโลยี เป็นกลุ่มของส่วนต่างๆตั้งแต่สอง ส่วนขึ้นไปประกอบเข้าด้วยกันและทำงานร่วมกันเพื่อให้ บรรลุวัตถุประสงค์ในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยี จะประกอบไปด้วยตัวป้อน(input) กระบวนการ(process) และผลผลิต(output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากระบบทาง เทคโนโลยีอาจมีข้อมูลย้อนกลับ(feedback)เพื่อใช้ปรับปรุง การทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งการวิเคราะห์ระบบทาง เทคโนโลยีช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบและการทำงานของ เทคโนโลยี รวมถึงสามารถปรับปรุงให้เทคโนโลยีทำงานได้ ตามต้องการ • เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่จนถึง ปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาหลายด้าน เช่นปัญหา ความต้องการความก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆเศรษฐกิจ สังคม • ปัญหาหรือความต้องการในชีวิตประจำวันพบได้จากหลาย บริบทขึ้นกับสถานการณ์ที่ประสบเช่น การเกษตร การ อาหาร • การแก้ปัญหาจำเป็นต้องสืบค้น รวบรวมข้อมความรู้จาก ศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องการออกแบบแนวทางการ แก้ปัญหา


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 66 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อจำเป็น นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้วางแผนและ ดำเนินการแก้ปัญหา 4. ทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งหาแนวทางการแก้ไขและ นำเสนอผลการแก้ปัญหา 5. ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าหรืออิเล็กทเพื่อแก้ปัญหาได้อย่าง ถูกต้องและปลอดภัย • การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่ จำเป็น โดยคำนึงถึงเงื่อนไข และทรัพยากรที่มีอยู่ช่วยให้ได้ แนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสม • การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูล ที่จำเป็น โดยคำนึงถึงเงื่อนไข และทรัพยากรที่มีอยู่ช่วยให้ ได้แนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้หลากหลายวิธี เช่นการร่างภาพการเขียนแผนภาพการเขียนผังงาน • การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงานก่อน ดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้ทำงานสำเร็จได้ตาม เป้าหมายและลดข้อผิดพลาดของการทำงานที่อาจเกิดขึ้น • การทดสอบ และประเมินผลเป็นการตรวจสอบ ชิ้นงานหรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้วัตถุประสงค์ ภายใต้กรอบของปัญหา เพื่อหาข้อบกพร่อง และดำเนินการ ปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้ำเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพื่อให้ผู้อื่น เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการและชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้ ซึ่ง สามารถทดสอบได้หลายวิธีเช่นการเขียนรายงาน การทำ แผ่นนำเสนอผลงาน การจัดนิทรรศการ การนำเสนอผ่าน สื่อออนไลน์ • วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับลักษณะของงาน • การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก อิเล็กทรอนิกส์ LED เช่น บัซเซอร์ มอเตอร์ วงจรไฟฟ้า • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธี การมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และ ปลอดภัย รวมทั้ง รู้จักเก็บรักษา


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 67 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.2 1. คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น โดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีโดย คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อม 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการในชุมชน ท้องถิ่นสรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกัน 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อจำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มนำเสนอแนว ทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าวางแผนขั้นตอน การทำงานและดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็น ขั้นตอน 4. ทดสอบ ประเมินผล และอธิบายปัญหาหรือ ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ภายใต้กรอบพร้อมทั้งหา แนวทางการปรับปรุงและนำเสนอผลการ แก้ปัญหา 5. ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และ ปลอดภัย • สาเหตุหรือปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความก้าวหน้าศาสตร์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ทำให้ เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา • เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีผลกระทบต่อชีวิตสังคมและ สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน จึงต้องเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะสม • ปัญหาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถิ่นมีหลาย อย่างขึ้นกับบริบทหรือสถานการณ์ที่ประสบ เช่น ด้าน พลังงาน สิ่งแวดล้อม การเกษตร การอาหาร • การระบุปัญหาจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์สถานการณ์ของ ปัญหาเพื่อสรุปกรอบของปัญหาแล้วดำเนินการสืบค้น รวบรวมข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อ นำไปสู่การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา • การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่ จำเป็น โดยคำนึงถึงเงื่อนไขและทรัพยากรเช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เครื่องมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้หลากหลายวิธี เช่น การร่างภาพ การเขียน แผนภาพ การเขียนผังงาน • การกำหนดขั้นตอนระยะเวลาในการทำงานก่อนดำเนิน การแก้ปัญหาจะช่วยให้การทำงานสำเร็จได้ตามเป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการทำงานที่อาจเกิดขึ้น • การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงาน หรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์ภายใต้ กรอบของปัญหาเพื่อหาข้อบกพร่องและดำเนินการ ปรับปรุงให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพื่อให้ผู้อื่น เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการและชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้ ซึ่ง


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 68 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สามารถทำหลายวิธี เช่น การเขียนรายงาน การทำแผ่น นำเสนอผลงาน การจัดนิทรรศการ • วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับลักษณะของงาน • การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก อิเล็กทรอนิกส์ LEDเช่นมอเตอร์ บัซเซอร์ รอก ล้อ เพลา • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือพัฒนา วิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกให้ถูกต้อง เหมาะสม และ ปลอดภัย รวมทั้งเก็บรักษา ม.3 1. วิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ของเทคโนโลยี กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาวิทยาศาสตร์ หรือ คณิตศาสตร์ เพื่อ แนวทางการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมหรือ ท้องถิ่น เพื่อพัฒนางานอาชีพของปัญหา รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง กับปัญหา โดยคำนึงถึง ความถูกต้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อจำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีนำเสนอแนว ทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจเทคนิคหรือ วิธีการที่หลากหลายวางแผนขั้นตอนการทำงาน และดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ และให้เหตุผล • ปัญหาหรือความต้องการอาจพบได้ในงานอาชีพของชุมชน หรือท้องถิ่น ซึ่งอาจมีหลายด้าน ด้านการเกษตร อาหาร พลังงาน การขนส่ง • การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาช่วยให้เข้าใจเงื่อนไขและ กรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากนั้นดำเนินการสืบค้น รวบรวม ข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่ การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา • การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่ จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทางเงื่อนไขและทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลาข้อมูลและสารสนเทศ ดุวัสเครื่องมือและ อุปกรณ์ช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้หลากหลายวิธี เช่นการร่างภาพการเขียนแผนภาพการเขียนผังงาน • เทคนิคหรือวิธีการในการนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหามี หลากหลาย เช่น การใช้แผนภูมิตาราง ภาพเคลื่อนไหว


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 69 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขกรอบเงื่อนไข พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและ นำเสนอผลการแก้ปัญหา 5. ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องกับ ลักษณะของงาน และปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน • การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงานก่อน ดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทำงานสำเร็จได้ตาม เป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการทำงานที่อาจเกิดขึ้น • การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือ วิธีการว่า สามารถแก้ปัญหาได้วัตถุประสงค์ภายใต้กรอบของ ปัญหา เพื่อหาข้อบกพร่อง และดำเนินการปรับปรุง โดยอาจ ทดสอบซ้ำเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพื่อให้ผู้อื่น เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการและชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้ ซึ่ง สามารถทหลายวิธี เช่น เขียนรายงานกานำเสนอผลงาน การจัดนิทรรศการ การนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ • วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น โลหะ พลาสติก เซรามิก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน • การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก อิเล็กทรอนิกส์ LED เช่นLDR มอเตอร์ เฟือง คาน รอก ล้อ เพลา • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการ มีหลายประเภท ต้องเลือกให้ถูกต้อง เหมาะสม และ ปลอดภัย รวมทั้งรู้เก็บรักษา


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 70 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4 1. วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผล กระทจะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการเทคโนโลยี 2. ระบุปัญหาหรือความต้องการที่มีผลต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแที่เกี่ยวข้องกับ ปัญหาที่มีความเพื่อสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคใน การแก้ปัญหาโดยคำนึงถึงความถูกต้องด้าน ทรัพยากรปัญญา 3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเครา เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอนำเสนอแนว ทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจเทคนิคหรือ วิธีการที่หลากหลาย โดยใช้ช่วยในการออกแบบ วางแผนขั้นตอนการทำงานและดำเนิน การแก้ปัญหา 4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผล ของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขกรอบเงื่อนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและนำเสนอผล การแก้ปัญหา พร้อมทั้งเสนอแนวทางการ พัฒนาต่อยอด 5. ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ เครื่องมือ กลไกไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีที่ ซับซ้อนในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน ได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย • ปัญหาหรือความต้องการที่มีผลกระทบต่อสังคมเช่น ปัญหาด้านการเกษตร อาหาร พลังงานการขนส่ง สุขภาพ และการแพทย์การบริการซึ่งแต่ละด้านอาจมีได้หลากหลาย ปัญหา • การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาโดยอาจใช้เทคโนโลยีหรือ วิธีการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ช่วยให้เงื่อนไขและกรอบของ ปัญหาได้ชัดเจน จากนั้นดำเนินการสืบค้น รวบรวมข้อมูล ความรู้จาก ศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การออกแนวทางการ แก้ปัญหา • การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่ จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญาเงื่อนไขและ ทรัพยากรเช่น งบประมาณ เวลาข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เครื่องมือและช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้หลากหลายวิธี เช่นการร่างภาพการเขียนแผนภาพการเขียนผังงาน • ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนำเสนอมีหลากหลาย ชนิดจึงต้องเลือกใช้ให้เหมา • การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงานก่อน ดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทำงานสำเร็จได้ตาม เป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการทำงานที่อาจเกิดขึ้น • การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือ วิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้วัตถุประสงค์ภายใต้กรอบของ ปัญหา เพื่อหา ข้อบกพร่องและดำเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้ำ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 71 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพื่อให้ผู้อื่น เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการและชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้ ซึ่ง สามารถทำได้หลายวิธี เช่นการทำแผ่นนำเสนอผลงาน การ จัดนิทรรศการ การนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ หรือการ นำเสนอต่อภาคธุรกิจ เพื่อการพัฒนาสู่งานอาชีพ • วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้สังเคราะห์ โลหะ จึงต้องมีการวิเคราะห์สเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ ลักษณะของงาน • การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์LDR เช่นsensor เฟือง รอก คาน วงจร สำเร็จรูป • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือพัฒนา วิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา ม.5 1. ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ ต่าง ๆรวมทั้งทรัพยากรในการทำโครงงาน แก้ปัญหรือพัฒนางาน • การทำโครงงาน เป็นการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะ จากศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งทรัพยากรในการสร้างหรือพัฒนา ชิ้นงานหรือวิธีการ แก้ปัญหาหรืออำนวยความสะดวกใน การทำงาน • การทำโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยีสามารถ ดำเนินการได้ โดยเริ่มจาก การสำรวจสถานการณ์ปัญหาที่ สนใจ เพื่อกำหนดหัวข้อโครงงาน แล้วรวบรวมข้อมูลและ แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาออกแบบแนวทางการ แก้ปัญหา วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมินผลปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงา นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ม.6 - -


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 72 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย สาระที่4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพรู้เท่าทันและมีจริยธรรม ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดนามธรรม เพื่อแก้ปัญหาหรืออธิบายกทำงานที่พบในชีวิต จริง 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อ แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ 3. รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผลนำเสนอข้อมูล และสารสนเทศ ตาม วัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการ อินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น สื่อ และแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและข้อตกลง • ตัวอย่างปัญหา เช่น ต้องการปูหญ้าในสนามตามพื้นที่ที่ กำหนด โดยหญ้าหนึ่งผืน50 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร จะใช้หญ้าทั้งหมดกี่ผืน • การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวเงื่อนไข วนซ้ำ • การออกแบบอัลกอริทึม เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างง่าย อาจใช้แนวคิดเชิงนามธรรมในการ ออกแบบ เพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ • การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมScratchเช่น • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมสมการการเคลื่อนที่ โปรแกรมคำนวณหาพื้นที่โปรแกรมคำนวณดัชนีมวลกาย • การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล จะทำได้สารสนเทศเพื่อใช้ใน การแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ • การประมวลผลเป็นการกระทำกับข้อมูล เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ มีความหมายและมีประโยชน์การนำไปใช้งาน สามารถทำได้ หลายวิธี เช่นคำนวณอัตราส่วน คำนวณค่าเฉลี่ย • การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอิทอร์เน็ตที่หลากหลายใน การรวบรวม ประมวลผลสร้างทางเลือก ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ แม่น


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 73 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • ตัวอย่างปัญหา เน้นการบูรณาการกับวิชาอื่นๆ เช่น ต้มไข่ ให้ตรงกับพฤติกรรมการบิโภค ค่าดัชนีมวลกายของคนใน ท้องถิ่นการสร้างกราฟ • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่นการปกป้อง ความเป็นส่วนตัวและอัตลักษณ์ • การจัดการอัตลักษณ์การตั้งรหัสผ่านเช่นการปกป้อง ข้อมูลส่วนตัว •การพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหา เช่น ละเมิดความ เป็นส่วนตัวผู้อื่น อนาจาร วิจ ผู้อื่นอย่างหยาบคาย • ข้อตกลง ข้อกำหนดในการใช้สื่อหรือแหล่งข ต่าง ๆ เช่น Creative commons ม.2 1.ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดคำนวณใน การแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในจริง 2.ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะและ ฟังก์ชันในการแก้ปัญหา 3. อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำของ ระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญองต้น 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยความ รับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ ผลงาน • แนวคิดเชิงคำนวณ • การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ • ตัวอย่างปัญหา เช่น การเข้าแถวตามลำดับความสูงให้เร็ว ที่สุด จัดเรียงเสื้อให้หาไ • ตัวดำเนินการบูลีน • ฟังก์ชัน • การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตรรกะและ ฟังก์ชัน • การออกแบบอัลกอริทึม เพื่อแก้ปัญหาอาจใช้แนวคิดเชิง คำนวณในการออกแบบ เพื่อให้การแก้ปัญหามี ประสิทธิภาพ • การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้แก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ •ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมScratch,เช่น python,java, c


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 74 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.2 • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตัดเกรดหาคำตอบ ทั้งหมดของอสมการหลายตัวแปร • องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ • เทคโนโลยีการสื่อสาร • การประยุกต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องต้น • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดยเลือกแนวทาง ปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมือนแจ้งรายงานผู้เกี่ยวข้อง ป้องกันการเข้าม ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ไม่ตอบโต้ ไม่เผยแพร่ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิด เช่น ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ • การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลง • การกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูล • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดยเลือกแนวทาง ปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหแจ้งรายงานผู้เกี่ยวข้อง ป้องกัน การเข้าม ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ไม่ตอบโต้ ไม่เผยแพรj • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิด เช่น ตระหนักถึงผลกระทบในการเผยแพร่ • การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลง • การกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูล ม.3 1. พัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการวิชาอื่น อย่างสร้างสรรค์ 2. รวบรวมข้อมูลประมวลผล ประเมินผล นำเสนอ • ขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน • Internet of Things (IoT) • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันScratch, python, java, c, AppInventor


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 75 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงโดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ต หลากหลาย 3. ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลวิเคราะห์ สื่อและผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิดการใช้ งานอย่างรู้เท่าทัน 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมี ความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตามฎหมาย เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสิทธิ์โดยชอบธรรม • ตัวอย่างแอปพลิเคชัน เช่น โปรแกรมแปลงสกุลเงิน โปรแกรมผันเสียงวรรณยุกต์ โปรแกรมจำลองการแบ่งเซลล์ ระบบรดน้ำอัตโนมัติ • การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ ประมวลผล สร้างทางเลือกจะทำให้ได้สารสนเทศเพื่อใช้ใน การแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ • การประมวลผลเป็นการกระทำกับข้อมูล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ที่มีความหมายและมีประโยชน์ต่อกนำไปใช้งาน • การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย ในการรวบรวม ประมวลผลสร้างทางเลือก ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้ แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่น • ตัวอย่างปัญหา เช่น การเลือกโปรโมชันโทรศัพท์ให้เหมาะ กับพฤติกรรมการใช้งาน สินค้าเกษตรกรที่ต้องการและ สามารถปลูกได้ในสภาพดินของท้องถิ่น • การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล • การสืบค้น หาแหล่งต้นตอของข้อมูล • เหตุผลวิบัติ(logical fallacy) • ผลกระทบจากข่าวสารที่ผิดพลาด • การรู้เท่าทันสื่อ เช่น การวิเคราะห์ของข้อมูลและผู้ให้ ข้อมูลตีความ แยกสาระของสื่อ เลือกแนวปฏิบัติได้อย่าง เหมเมื่อพบข้อมูลต่าง ๆ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น การทำ ธุรกรรมออนไลน์ การซื้อสินค้าซื้อซอฟต์แวร์ ค่าบริการ สมาชิก ซื้อไอเทม


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 76 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิด เช่น ไม่ สร้างข่าวลวง ไม่แชร์ข้อมูลโดยไมข้อเท็จจริง • กฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ • การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม(fairuse) ม.4 1. ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพัฒนา โครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอย่าง สร้างสรรค์ และเชื่อมโยง • การพัฒนาโครงงาน • การนำแนวคิดเชิงคำนวณไปพัฒนาโครงงานที่เกี่ยวกับ ชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการอาหาร การเกษตร การตลาด การค้าขาย การทำธุรกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม • ตัวอย่างโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ ระบบอัตโนมัติ ควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเส้นการขนส่งผลผลิตระบบ แนะนำการใช้งานห้องสมุดที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้และ เชื่อมต่อกัน ม.5 1. รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้าน วิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัลเทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหาหรือเพิ่มให้กับ บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้อย่างสร้างสรรค์ • การนำความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์สื่อดิจิทัล และ เทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้แก้ปัญหากับชีวิตจริง • การเพิ่มมูลค่าให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ • การเก็บข้อมูลและการจัดเตรียมข้อมูลให้พกับการ ประมวลผล • การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ • การเลือกใช้แหล่งข้อมูลdataเช่น.go.th,wolfram alpha, OECD.org, ตลาดหลักทรัพยากร,world economic forum • คุณค่าของข้อมูลและกรณีศึกษา • กรณีศึกษาและวิธีการแก้ปัญหา • ตัวอย่างปัญหา เช่น


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 77 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดความสามารถตรงตาม ความต้องการผู้ใช้ในแต่ละประเภท - การกำหนดตำแหน่งป้ายรถเมล์เพื่อลดเวลาเดินทางและ ปัญหาการจราจร - สำรวจความต้องการรับประทานอาหารในชุมชน และ เลือกขายอาหารที่จะได้กำไร - ออกแบบรายการอาหาร 7 วัน สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ม.6 1. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและ แบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยและวิเคราะห์การ เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อการ ดำเนินชีวิต อาชีพและวัฒนธรรม • การนำเสนอและแบ่งปันข้อมูล เช่น การเขียนบล็อก อัปโหลดวิดีโอภาพอินโฟกราฟิก • การนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย เช่น ระมัดระวังผลกระทบที่ตามมา เมื่อมีกแบ่งปันข้อมูลหรือ เผยแพร่ข้อมูล ไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น • จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ • เทคโนโลยีเกิดใหม่ แนวโน้มในอนาคตการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี • นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ ชีวิตประจำวัน • อาชีพเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ • ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 78 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม สาระชีววิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์สาร ที่เป็น องค์ประกอบ ของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์โครงสร้างและ หน้าที่ของเซลล์การลำเลียงสาร เข้าและออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์และการหายใจระดับเซลล์ 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติและหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ความหลากหลาย ทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การลำเลียง ของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการตอบสนอง ของพืช รวมทั้งนำ ความรู้ไป ใช้ประโยชน์ 4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์การหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสารและ การ หมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์และการ เจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรม ของสัตว์รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 5. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียน สารในระบบ นิเวศ ความ หลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบ การเพิ่มของ ประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและ ผลกระทบที่เกิดจากการใช้ประโยชน์และแนวทางการ แก้ไขปัญหา สาระเคมี 1. เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุสมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมีปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมีอัตราการเกิด ปฏิกิริยาเคมีสมดุล ในปฏิกิริยาเคมีสมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนำ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 3. เข้าใจหลักการทำปฏิบัติการเคมีการวัดปริมาณสาร หน่วยวัดและการเปลี่ยนหน่วย การคำนวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะ ในการอธิบาย ปรากฏการณ์ ในชีวิตประจำวันและการแก้ปัญหาทางเคมี


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 79 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย สาระฟิสิกส์ 1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวัตถุงานและกฎการ อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัม และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่น เสียงและ การได้ยิน ปรากฏการณ์ที่ เกี่ยวข้องกับเสียง แสงและการเห็น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสง รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 3. เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และกฎ ของ โอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานทดแทน เป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำกับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำ แม่เหล็กไฟฟ้าและกฎ ของฟา ราเดย์ไฟฟ้ากระแสสลับ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและการสื่อสาร รวมทั้ง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุ และมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุง และหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติและสมการแบร์นูลลีกฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติและพลังงานใน ระบบ ทฤษฎีอะตอม ของโบร์ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะ ของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสีแรงนิวเคลียร์ปฏิกิริยา นิวเคลียร์พลังงานนิวเคลียร์ฟิสิกส์อนุภาค รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ คุณภาพผู้เรียน(วิทยาศาสตร์เพิ่มเติม) ผู้เรียนที่เรียนครบทุกผลการเรียนรู้มีคุณภาพดังนี้ ❖ เข้าใจวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต สารที่เป็น องค์ประกอบ ของ สิ่งมีชีวิต และปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ การใช้กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าที่ของเซลล์การ ลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์การแบ่งเซลล์และการหายใจระดับเซลล์ ❖ เข้าใจหลักการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต การถ่ายทอดยีน บนออโตโซมและ โครโมโซมเพศ โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของดีเอ็นเอ การจำลองดีเอ็นเอ กระบวนการสังเคราะห์ โปรตีน การเกิดมิวเทชันในสิ่งมีชีวิต หลักการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานและข้อมูลที่ ใช้ ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เงื่อนไขของภาวะสมดุลของ ฮาร์ดี- ไวน์เบิร์ก กระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ ของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ลักษณะ สำคัญของสิ่งมีชีวิต กลุ่มแบคทีเรีย โพรทิสต์พืช ฟังไจ และสัตว์การจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ และวิธีการ เขียน ชื่อวิทยาศาสตร์ ❖ เข้าใจโครงสร้างและส่วนประกอบของพืชทั้งราก ลำต้น และใบ การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ การ ลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร การลำเลียงอาหาร การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์และ การปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดผลและเมล็ด บทบาทของสาร ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และการ ประยุกต์ใช้และการตอบสนองของพืช


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 80 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ❖ เข้าใจกลไกการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต โครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการ ต่าง ๆ ของ สัตว์และ มนุษย์ได้แก่ การย่อยอาหาร การแลกเปลี่ยนแก๊ส การเคลื่อนที่ การกำจัดของเสีย ออกจากร่างกาย ของสิ่งมีชีวิต ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์การทำงาน ของระบบประสาทและ อวัยวะรับ ความรู้สึก ระบบสืบพันธุ์ การปฏิสนธิ การเจริญเติบโต ฮอร์โมน และพฤติกรรมของสัตว์ ❖ เข้าใจกระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลาย ของไบ โอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลง จำนวนประชากรมนุษย์ใน ระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับโลก แนวทางการป้องกันและแก้ไข ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ❖ เข้าใจการศึกษาโครงสร้างอะตอมของนักวิทยาศาสตร์ การจัดเรียงอิเล็กตรอน ในอะตอม สมบัติบาง ประการของธาตุและการจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ พันธะเคมีสมบัติของสารที่มีความสัมพันธ์กับพันธะเคมีกฎต่าง ๆ ของแก๊ส และสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของ สารประกอบ อินทรีย์และประเภทและสมบัติของพอลิ เมอร์ ❖ เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมีการคำนวณปริมาณสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีและปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกิริยา เคมีและปัจจัยที่มีผล ต่อสมดุลเคมี ทฤษฎีกรด-เบส สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส สารละลายบัฟเฟอร์ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์ เคมีไฟฟ้า ❖ เข้าใจข้อปฏิบัติเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำปฏิบัติการเคมีการเลือกใช้อุปกรณ์หรือ เครื่องมือในการทำปฏิบัติการ หน่วยวัดและการเปลี่ยนหน่วยวัดด้วยการ ใช้แฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย การคำนวณ เกี่ยวกับมวลอะตอม มวลโมเลกุล และมวลสูตร ความสัมพันธ์ของโมล จำนวน อนุภาค มวล และปริมาตรของแก๊ส ที่ STP การคำนวณสูตรอย่างง่ายและสูตร โมเลกุลของสาร ความเข้มข้น ของสารละลาย การเตรียมสารละลาย และการบูรณาการความรู้และ ทักษะในการอธิบายปรากฏการณ์ใน ชีวิตประจำวันและการแก้ปัญหาทางเคมี ❖ เข้าใจธรรมชาติของฟิสิกส์กระบวนการวัด ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณที่เกี่ยวข้อง กับการเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ในแนวตรง แรงลัพธ์กฎการเคลื่อนที่ แรงเสียดทาน กฎความโน้มถ่วง สากล สนามโน้มถ่วง งาน กฎ การอนุรักษ์พลังงานกล สมดุลกลของวัตถุ เครื่องกลอย่างง่าย โมเมนตัมและการดล กฎ การอนุรักษ์โมเมนตัม การ ชน และการเคลื่อนที่ในแนวโค้ง ❖ เข้าใจการเคลื่อนที่แบบคลื่น ปรากฏการณ์คลื่น การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบนและการแทรก สอด หลักการของฮอยเกนส์การเคลื่อนที่ของคลื่นเสียง ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับเสียง ความเข้มเสียงและระดับ เสียง การได้ยิน ภาพที่เกิดจากกระจกเงาและเลนส์ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับแสงและการมองเห็นแสงสี ❖ เข้าใจสนามไฟฟ้า แรงไฟฟ้า กฎของคูลอมบ์ศักย์ไฟฟ้า ตัวเก็บประจุตัวต้านทาน และกฎของโอห์ม พลังงานไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีด้าน พลังงาน สนามแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กกับกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำแม่เหล็ก ไฟฟ้า ไฟฟ้า กระแสสลับ คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า และประโยชน์ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 81 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ❖ เข้าใจผลของความร้อนต่อสสาร สภาพยืดหยุ่น ความดันในของไหล แรงพยุง ของไหลอุดมคติทฤษฎี จลน์ของแก๊ส แนวคิดควอนตัมของพลังงาน ทฤษฎีอะตอมของโบร์ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่น และอนุภาค การสลายของนิวเคลียสกัมมันตรังสีกัมมันตภาพ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงาน นิวเคลียร์ความสัมพันธ์ ระหว่างมวลและพลังงาน แรงภายในนิวเคลียส และการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาค ❖ ระบุปัญหา ตั้งคำถามที่จะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวแปรต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือก ตรวจสอบสมมติฐานที่ เป็นไป ได้ ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทาง วิทยาศาสตร์ที่แสดงให้ เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่าง ครอบคลุมและเชื่อถือได้สร้าง สมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบ เพื่อนำไปสู่การสำรวจ ตรวจสอบ ออกแบบวิธีการสำรวจ ตรวจสอบตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม มีหลักฐานเชิง ประจักษ์ เลือกวัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการ ในการสำรวจตรวจสอบอย่างถูกต้อง ทั้งในเชิงปริมาณและ คุณภาพ และบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบอย่างเป็น ระบบ ❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุป เพื่อตรวจสอบกับ สมมติฐานที่ตั้งไว้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำ ข้อมูลและ นำเสนอข้อมูลด้วย เทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้จากผลการสำรวจ ตรวจสอบ โดยการพูด เขียน จัดแสดงหรือใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจ โดยมีหลักฐาน อ้างอิงหรือมีทฤษฎีรองรับ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ในการสืบเสาะ หาความรู้โดยใช้ เครื่องมือ และวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทาง วิทยาศาสตร์อาจมีการ เปลี่ยนแปลงได้ ❖ แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้ทำงานร่วมกับ ผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์แสดงความคิดเห็นโดยมีข้อมูลอ้างอิงและเหตุผลประกอบ เกี่ยวกับผลของ การพัฒนาและการ ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม และยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น ❖ เข้าใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และการ พัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ผลของ เทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และ สิ่งแวดล้อม ❖ ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และการ ประกอบอาชีพ แสดงความ ชื่นชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานที่เป็นผลมาจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่นและ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงาน หรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 82 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ❖ แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแลทรัพยากร ธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมของ ท้องถิ่น รายวิชาที่เปิด รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ม.1-ม.3 ว 21101 วิทยาศาสตร์ 1 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 21102 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 21103 วิทยาศาสตร์ 2 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 21104 วิทยาการคำนวณ 1 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 22101 วิทยาศาสตร์ 3 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 22102 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 22103 วิทยาศาสตร์ 4 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 22104 วิทยาการคำนวณ 2 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 23101 วิทยาศาสตร์ 5 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 23102 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 23103 วิทยาศาสตร์ 6 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 23104 วิทยาการคำนวณ 3 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษา ม.1-ม.3 ว20205 โครงงานวิทยาศาสตร์ 1 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว20206 โครงงานวิทยาศาสตร์ 2 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 20281 หุ่นยนต์พื้นฐาน 1 จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 20282 หุ่นยนต์พื้นฐาน 2 จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 20283 การออกแบบกราฟิกเบื้องต้น จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 20284 การสร้างเกมเบื้องต้น จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 83 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ว 20285 โครงงานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 20286 การผลิตสื่อมัลติมิเดีย จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต รายวิชาพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ม.4-ม.6 ว 31101 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 31102 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 31103 วิทยาการคำนวณ 1 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 32101 วิทยาศาสตร์กายภาพ 1(เคมี) จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 32102 วิทยาศาสตร์กายภาพ 2(ฟิสิกส์) จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 32102 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 32104 วิทยาการคำนวณ 2 จำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต ว 33101 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษา ม.4-ม.6 ว 30201 ฟิสิกส์ 1 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30202 ฟิสิกส์ 2 จำนวนชั่วโมง 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกิต ว 30203 ฟิสิกส์ 3 จำนวนชั่วโมง 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกิต ว 30204 ฟิสิกส์ 4 จำนวนชั่วโมง 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกิต ว 30205 ฟิสิกส์ 5 จำนวนชั่วโมง 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกิต ว 30206 ฟิสิกส์ 6 จำนวนชั่วโมง 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกิต ว 30221 เคมี 1 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30222 เคมี 2 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30223 เคมี 3 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30224 เคมี 4 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30225 เคมี 5 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30226 เคมี 6 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30241 ชีววิทยา 1 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30242 ชีววิทยา 2 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30243 ชีววิทยา 3 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30244 ชีววิทยา 4 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30245 ชีววิทยา 5 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30246 ชีววิทยา 6 จำนวนชั่วโมง 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต ว 30281 การออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 84 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ว 30282 การเขียนโปรแกรม Python จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30283 โครงงานคอมพิวเตอร์ จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30284 โปรแกรมกราฟฟิก จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30285 การเขียนโปรแกรมภาษาซี จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30286 การตัดต่อสื่อมัลติมีเดีย จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30287 การออกแบบกราฟิค จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30288 การสร้างเว็ปไซต์ จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30289 การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 30290 การเขียนโปรแกรม จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 33205 การควบคุมหุ่นยนต์เบื้องต้น 1 จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ว 33206 การควบคุมหุ่นยนต์เบื้องต้น 2 จำนวนชั่วโมง 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 85 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชาและโครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน ว21101 วิทยาศาสตร์1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ความสำคัญและความหมายของรู้วิทยาศาสตร์ กระบวนการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม การจำแนกและองค์ประกอบของสารบริสุทธิ์ การศึกษาเซลล์ โครงสร้างและหน้าที่ของส่วนประกอบภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตด้วยกล้องจุลทรรศน์ การลำเลียงสาร เข้าออกเซลล์ด้วยวิธีการแพร่และออสโมซิส การดำรงชีวิตของพืช การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศของพืช การขยายพันธุ์พืชดอก การสังเคราะห์ด้วยแสง การลำเลียงน้ำ ธาตุอาหารและอาหารของพืช โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ตัวชี้วัด ว 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11, ม.1/12, ม.1/13, ม.1/14, ม.1/15, ม.1/16, ม.1/17, ม.1/18 ว 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8 รวมทั้งหมด 26 ตัวชี้วัด


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 86 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว 21101 วิทยาศาสตร์ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 ลำดับ ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 เรียนรู้วิทยาศาสตร์ อย่างไร (6) - - ความสำคัญและความหมายของ วิทยาศาสตร์ - กระบวนการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ - ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1 2 3 5 2 สมบัติของสาร บริสุทธิ์ (12) ว 2.1 ม.1/4 ม.1/5,ม.1/6 - จุดเดือดของสารบริสุทธิ์และสารผสม - จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และ สารผสม - ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และ สารผสม - ประเภทของพลาสติก 3 3 4 2 13 3 การจำแนกและ องค์ประกอบของ สารบริสุทธิ์(10) ว 2.1 ม.1/7 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/1, ม.1/2,ม. 1/3 ม.1/1, ม.1/2,ม. 1/3 - การจำแนกประเภทสารบริสุทธ์ - ธาตุและสารประกอบ - โครงสร้างอะตอม - การจำแนกธาตุและการใช้ประโยชน์ - การนำธาตุไปใช้มีผลอย่างไรบ้าง 2 2 2 2 2 12 กลางภาค 1 20 4 หน่วยพื้นฐาน ของสิ่งมีชีวิต (12) ว 1.2 ม.1/1,ม.1/2 ม.1/3,ม.1/4 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/5 - โลกใต้กล้องจุลทรรศน์ - โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ - ระบบของสิ่งมีชีวิต - การแพร่ - การออสโมซิส 3 3 2 2 2 13


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 87 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ลำดับ ที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 5 การดำรงชีวิต ของพืช (17) ว 1.2 ม.1/11 ม.1/12 , ม.1/13 ม.1/16,ม.1/17, ม.1/18 ม.1/6 ม.1/7, ม.1/8 ม.1/9, ม.1/10 ม.1/14, ม.1/15 - การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัย เพศของพืชดอก - การขยายพันธุ์พืช - ปัจจัยการสังเคราะห์ด้วยแสง - ผลผลิตของการสังเคราะห์ด้วยแสง - ธาตุอาหารของพืช ผลผลิตของพืช - การลำเลียงในพืช 4 2 4 2 2 3 17 สอบปลายภาคเรียน 2 20 รวมตลอดภาคเรียน 60 100


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 88 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน ว 21102 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง (1 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาอธิบายความหมายของเทคโนโลยี วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ของ เทคโนโลยี การทำงานของระบบทางเทคโนโลยี ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากร โดย วิเคราะห์ เปรียบเทียบและเลือกข้อมูลที่จำเป็นเพื่อออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันในด้าน การเกษตร และ อาหาร และสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดการนำแนวคิดเชิงนามธรรมและขั้นตอนการแก้ปัญหาไปประยุกต์ใช้ในการเขียน โปรแกรม หรือการแก้ปัญหา ในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูลและสร้างทางเลือกในการตัดสินใจได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และตระหนักถึงการใช้งาน เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการ เรียนรู้ และไม่สร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ว4.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 รวม 5 ตัวชี้วัด


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 89 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว 21102 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง (1 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 0.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 หน่วย ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) (20) น้ำหนัก คะแนน (100) 1 เทคโนโลยีรอบตัว ว4.1 ม.1/1 เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือพัฒนาขึ้น ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง ชิ้นงานหรือวิธีการ เพื่อใช้แก้ปัญหา สนองความต้องการหรือเพิ่ม ความสามารถในการทำงานของ มนุษย์ 2 5 2 การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี ว4.1 ม.1/2 เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลาย ด้าน เช่น ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม 2 5 3 ระบบทาง เทคโนโลยี ว4.1 ม.1/2 ระบบทางเทคโนโลยี เป็นกลุ่มของ ส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไป ประกอบเข้าด้วยกันและทำงาน ร่วมกันเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค ์ โดยในการทำงานของระบบทาง เทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตัว ป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ระบบทาง เทคโนโลยีอาจมีข้อมูลย้อนกลับ 2 10


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 90 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วย ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) (20) น้ำหนัก คะแนน (100) (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการ ทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งการ วิเคราะห์ระบบทางเทคโนโลยีช่วย ให้เข้าใจองค์ประกอบและการ ทำงานของเทคโนโลยี รวมถึง สามารถ ปรับปรุงให้เทคโนโลยี ทำงานได้ตามต้องการ 4 วัสดุและเครื่องมือ ช่างพื้นฐาน ว4.1 ม.1/5 การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับ งานจะต้องใช้ความรู้เรื่องสมบัติ ของวัสดุและในการลงมือสร้าง ชิ้นงานต้องเลือกใช้อุปกรณ์ หรือ เครื่องมืออย่างเหมาะสมกับ ประเภทของวัสดุ ใช้อย่างถูกต้อง และคำนึงถึงความปลอดภัยในการ ใช้งาน 2 10 สอบกลางภาคเรียน 1 20 5 กลไกไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ เบื้องต้น ว4.1 ม.1/5 ความรู้เกี่ยวกับกลไก ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ สามารถประยุกต์ใช้ เพื่อการสร้างชิ้นงานที่ตอบสนอง ความต้องการของเราได้ 2 10 6 กระบวนการ ออกแบบเชิง วิศวกรรม ว4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4 การแก้ปัญหาตามกระบวนการ ออกแบบเชิง วิศวกรรมประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ ระบุปัญหารวบรวม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา วางแผน 4 10


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 91 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วย ที่ ชื่อ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ/ ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) (20) น้ำหนัก คะแนน (100) และดำเนินการแก้ปัญหาทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการ แก้ปัญหาหรือชิ้นงาน และนำเสนอ วิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา หรือชิ้นงาน 7 กรณีศึกษาการ ทำงานตาม กระบวนการ ออกแบบเชิง วิศวกรรม ว4.1 ม.1/1 , ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4 ประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหา หรือพัฒนางานตามกระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม 6 10 สอบปลายภาคเรียน 1 20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 92 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน ว21103 วิทยาศาสตร์2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับพลังงานความร้อน แบบจำลองอนุภาคของสสารในแต่ละสถานะ ความร้อนกับการเปลี่ยน อุณหภูมิของสสาร ความร้อนกับการขยายตัวหรือหดตัวของสสาร ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร ค่าความร้อนจำเพาะของสารเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การถ่ายโอนความร้อนการถ่ายโอนความร้อน ของของแข็ง ของเหลว แก๊สและการถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลางสมดุลความร้อน ลมฟ้าอากาศรอบตัว บรรยากาศของเรา อุณหภูมิอากาศ ความกดอากาศและลม แรงกระทำต่อวัตถุของอากาศ การเคลื่อนที่ของลม ความชื้น ปัจจัยที่มีผลต่อความชื้นสัมพัทธ์ เมฆและฝน การพยากรณ์อากาศ ประโยชน์ของคำพยากรณ์อากาศ มนุษย์และการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ พายุ และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอากาศโลก โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การสังเกตการสืบค้นข้อมูล การทดลอง การลงความเห็นจากข้อมูล การสื่อความหมายข้อมูล การจำแนกประเภทการตีความหมายข้อมูลและการลง ข้อสรุป การวิเคราะห์ การอธิบายและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ พร้อมทั้ง มีความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ การมีวินัย การสร้างสรรค์ มุ่งมั่นในการทำงาน อยู่อย่างพอเพียง มีจิตวิทยาศาสตร์ มี เจตคติต่อวิทยาศาสตร์ มีจิตสาธารณะ รักความเป็นไทย และมีค่านิยมที่เหมาะสม ตัวชี้วัด ว 2.1 ม.1/9, ม.1/10 ว 2.2 ม.1/1 ว 2.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7 ว 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7 รวมทั้งหมด 17 ตัวชี้วัด


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 93 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว 21103 วิทยาศาสตร์2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 ลำดับ ที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 พลังงานความร้อน 24 25 1.1 เรื่อง พลังงาน ความร้อน ว 2.1 ม.1/9 -สสารทุกชนิดประกอบด้วยอนุภาคซึ่งอาจ เป็นอะตอม โมเลกุล หรือไอออน โดย สสารชนิดเดียวกันที่มีสถานะของแข็ง ของเหลว แก๊ส จะมีการจัดเรียงอนุภาค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค การ เคลื่อนที่ของอนุภาคแตกต่างกัน 2 1.2 เรื่อง แบบจำลอง อนุภาคของสสาร ในแต่ละสถานะ ว 2.1 ม.1/9 ว 2.1 ม.1/10 - สสารทุกชนิดประกอบด้วยอนุภาคซึ่งอาจ เป็นอะตอม โมเลกุล หรือไอออน โดย สสารชนิดเดียวกันที่มีสถานะของแข็ง ของเหลว แก๊ส จะมีการจัดเรียงอนุภาค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค การ เคลื่อนที่ของอนุภาคแตกต่างกัน 2 1.3 เรื่อง ความร้อนกับ การเปลี่ยนอุณหภูมิ ของสสาร ว 2.3 ม.1/1 ว 2.3 ม.1/2 -ความร้อนทำให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิ เมื่อ สสารได้รับความร้อนอาจทำให้สสารมี อุณหภูมิเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้ามเมื่อ สสารสูญเสียความร้อนอาจทำให้สสารมี อุณหภูมิลดลง 2 1.4 เรื่อง ความร้อนกับ การขยายตัวหรือ หดตัวของสสาร ว 2.3 ม.1/3 ว 2.3 ม.1/4 -สสารได้รับความร้อน สสารจะขยายตัว เนื่องจากความร้อนทำให้อนุภาคเคลื่อนที่ เร็วขึ้นและระยะห่างระหว่างอนุภาคมาก ขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อสสารสูญเสียความ 2


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 94 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ลำดับ ที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ร้อน สสารจะหดตัว เนื่องจากความร้อนทำ ให้อนุภาคเคลื่อนที่ช้าลงและระยะห่าง ระหว่างอนุภาคลดลง 1.5 เรื่อง ความร้อนกับ การเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร ว 2.3 ม.1/3 ว 2.3 ม.1/4 -ความร้อนอาจทำให้สสารเปลี่ยนสถานะ เมื่อสสารได้รับความร้อน อนุภาคจะ เคลื่อนที่เร็วขึ้นและเคลื่อนที่ออกห่างกัน มากขึ้น แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคจะ ลดลง จนสสารเปลี่ยนสถานะ 2 1.6 เรื่องค่าความร้อน จำเพาะของสาร เกี่ยวข้องกับ สิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อม ว 2.3 ม.1/1 ว 2.3 ม.1/2 - ความร้อนจำเพาะของสาร คือ ปริมาณ ความร้อนที่ทำให้สารมวล 1 กรัมมี อุณหภูมิเปลี่ยนไป 1 องศาเซลเซียส 2 1.7 เรื่องการถ่ายโอน ความร้อน ว 2.3 ม.1/6 ว 2.3 ม.1/5 - ความร้อนถ่ายโอนจากบริเวณที่มี อุณหภูมิสูงไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ 2 1.8 เรื่องการถ่ายโอน ความร้อนของ ของแข็ง ว 2.3 ม.1/6 ว 2.3 ม.1/5 - การถ่ายโอนความร้อนโดยการสั่นของ อนุภาค ความร้อนจะถ่ายโอนจากบริเวณที่ อยู่ใกล้แหล่งพลังงานความร้อนไปยัง บริเวณที่ห่างออกไปการนำความร้อนเกิด ขึ้นกับสสารได้ทุกสถานะ สสารแต่ละชนิด จะนำความร้อนได้แตกต่างกัน 2 1.9 เรื่องการถ่ายโอน ความร้อนของ ของเหลวและแก๊ส ว 2.3 ม.1/6 ว 2.3 ม.1/5 -การพาความร้อนเกิดขึ้นกับสสารที่เป็น ของเหลวและแก๊ส ตัวกลางจะพาความ ร้อนไปพร้อมกับ การเคลื่อนที่ของอนุภาค ของตัวกลาง และความรู้เกี่ยวกับการพา 2


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 95 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ลำดับ ที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ความร้อนสามารถนำไปใช้อธิบาย ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ได้ 1.10 เรื่องการถ่ายโอน ความร้อนโดย ไม่ อาศัยตัวกลาง ว 2.3 ม.1/6 ว 2.3 ม.1/5 -การแผ่รังสีความร้อนเป็นการถ่ายโอน ความร้อนโดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางที่เป็น อนุภาคของสสาร แต่ความร้อนถ่ายโอน โดยแผ่รังสีอินฟราเรดซึ่งเป็นคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า 2 1.11 เรื่องสมดุล ความร้อน ว 2.3 ม.1/6 ว 2.3 ม.1/5 - ความร้อนถ่ายโอนจากสสารที่มีอุณหภูมิ สูงกว่า ไปยังสสารที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า จนกระทั่งอุณหภูมิของสสารทั้งสองเท่ากัน สภาพที่สสารทั้งสองมีอุณหภูมิ เท่ากัน เรียกว่า สมดุลความร้อน 2 1.12 เรื่องสร้างตู้ขนส่ง สินค้ากันความร้อน ได้อย่างไร ว 2.3 ม.1/7 - ความรู้เกี่ยวกับการถ่ายโอนความร้อน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิต ประจำวันหรือใช้ในการอธิบาย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติได้ 2 2 กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ 30 25 2.1 เรื่องลมฟ้าอากาศ รอบตัว ว 3.2 ม.1/1 -มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ภายใต้บรรยากาศชั้น โทรโพสเฟียร์ซึ่งเกิดสภาพลมฟ้าอากาศ ต่าง ๆ เช่น ลม เมฆ ฝน ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ 2 2.2 เรื่องบรรยากาศ ของเรา ว 3.2 ม.1/1 -บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกแบ่งเป็น 5 ชั้น ได้แก่ ชั้นโทรโพสเฟียร์ชั้นสตราโตส เฟียร์ ชั้นมีโซสเฟียร์ ชั้นเทอร์โมสเฟียร์ และชั้นเอกโซสเฟียร์ บรรยากาศแต่ละชั้น 2


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 96 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ลำดับ ที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน เกิดปรากฏการณ์และส่งผลต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน 2.3 เรื่องอุณหภูมิ อากาศ ว 3.2 ม.1/2 -อุณหภูมิอากาศในรอบวันมีการ เปลี่ยนแปลงในแบบรูปเดียวกัน โดย อุณหภูมิอากาศในช่วงเช้าจะมีค่าต่ำ และ ค่อย ๆ สูงขึ้นจนกระทั่งมีค่าสูงที่สุดในช่วง บ่าย จากนั้นจะค่อย ๆ ลดต่ำลง จนต่ำ ที่สุดในช่วงเวลาเช้ามืด 2 2.3 เรื่องความกด อากาศและลม ว 3.2 ม.1/2 -ความดันอากาศเปลี่ยนแปลงได้โดยมี ปัจจัยสำคัญคือระดับความสูงของพื้นที่ และอุณหภูมิของอากาศ พื้นที่ที่มีระดับ ความสูงมาก ความดันอากาศมีค่าต่ำ ส่วน พื้นที่ที่มีความสูงน้อย ความดันอากาศจะมี ค่าสูง 2 2.4 เรื่องแรงกระทำ ต่อวัตถุของอากาศ ว 3.2 ม.1/2 -อากาศมีแรงกระทำต่อวัตถุทุกทิศทุกทาง 2 2.5 เรื่องการเคลื่อนที่ ของลม ว 3.2 ม.1/2 -ความดันอากาศระหว่างบริเวณ 2 บริเวณ มีค่ามากกว่า อากาศจะเคลื่อนที่จาก บริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่งได้เร็วกว่า และระยะทางระหว่างบริเวณที่มีความดัน อากาศแตกต่างกันนั้นมีค่ามากกว่า อากาศ จะเคลื่อนที่จากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณ หนึ่งได้ช้ากว่า 2 2.6 เรื่องความชื้น ว 3.2 ม.1/2 -ไอน้ำในอากาศทำให้อากาศมีความชื้น 2


เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 97 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ลำดับ ที่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 2.7 เรื่องปัจจัยที่มีผล ต่อความชื้นสัมพัทธ์ ว 3.2 ม.1/2 ว 2.2 ม.1/1 -ปัจจัยที่มีผลต่อค่าความชื้นสัมพัทธ์คือ อุณหภูมิอากาศ และลักษณะทางกายภาพ ของพื้นที่ 2 2.8 เรื่องเมฆและฝน ว 3.2 ม.1/4 -เมฆมีหลายลักษณะ จัดประเภทเมฆ โดย ใช้ลักษณะและความสูงเป็นเกณฑ์ เมฆและ ฝนมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับ ปริมาณไอ น้ำในอากาศและสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ ส่งผลต่อปริมาณไอน้ำ ในอากาศ อุณหภูมิ อากาศ ฤดูและ ลม 2 2.9 เรื่องการพยากรณ์ อากาศ ว 3.2 ม.1/4 -การพยากรณ์อากาศมีขั้นตอนคร่าว ๆ คือ การตรวจอากาศเพื่อรวบรวมข้อมูล องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ 2 2.10 เรื่อง ประโยชน์คำ พยากรณ์อากาศ ว 3.2 ม.1/4 ว 3.2 ม.1/5 - คำพยากรณ์อากาศมีประโยชน์ในการวาง แผนการดำรงชีวิต เพื่อให้ดำรงชีวิตได้ อย่างสะดวก ปลอดภัย การพยากรณ์ อากาศที่แม่นยำ อาศัยข้อมูลองค์ประกอบ ของลมฟ้าอากาศที่ครอบคลุม และความรู้ พื้นฐานเพื่อการวิเคราะห์แปลผล 2 2.11 เรื่องมนุษย์และการ เปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศ ว 3.2 ม.1/3 -ลมฟ้าอากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตลอดเวลาเมื่อองค์ประกอบของลมฟ้า อากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปบางครั้งการ เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศจะเกิดอย่าง รุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมอย่างมาก 2


Click to View FlipBook Version