เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 298 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน 16. สังเกตการณ์ แบ่งนิวเคลียส แบบไมโทซิส และแบบไมโอซิส จากตัวอย่าง ภายใต้กล้อง จุลทรรศน์พร้อม ทั้งอธิบาย และ เปรียบเทียบการ แบ่งนิวเคลียส แบบไมโทซิส และแบบไมโอซิส เซลล์ของสิ่งมีชีวิตมีการแบ่ง นิวเคลียสเกิดขึ้นใน 2 ลักษณะคือ การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส ซึ่งเป็นวิธีการแบ่งที่ทำให้จำนวน โครโมโซมภายในนิวเคลียสเท่าเดิม มักเป็นการแบ่งของเซลล์ร่างกาย และการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโอซิส ซึ่งเป็นการแบ่งที่ลดจำนวน โครโมโซมลงครึ่งหนึ่งเพื่อสร้าง เซลล์สืบพันธุ์ใช้ในการสืบพันธุ์ แบบอาศัยเพศ การแบ่งนิวเคลียส แบบไมโทซิสก่อให้เกิดวัฏจักรเซลล์ 17. อธิบาย เปรียบเทียบ และ สรุปขั้นตอนการ หายใจระดับ เซลล์ในภาวะที่มี ออกซิเจน เพียงพอ เซลล์ต้องการพลังงานเพื่อนำาไปใช้ ในกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งพลังงาน ที่เซลล์ต้องการนำาไปใช้นี้ อยู่ในรูป ของสารพลังงานสูงที่ได้จากการ สลายอาหารผ่านกระบวนการ หายใจระดับเซลล์ สอบปลายภาค 1 20 รวม 60 100
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 299 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพิ่มเติม ว30242 ชีววิทยา 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับโครโมโซม และสารพันธุกรรม โครงสร้างของ DNA การจำลอง DNA การควบคุมลักษณะ ทางพันธุกรรมของ DNA มิวเทชัน และการเกิดมิวเทชัน ศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การศึกษา พันธุกรรมของเมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์ เมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน ศึกษาเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ พันธุวิศวกรรม และการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA และการหาลำดับนิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ และเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอกับความปลอดภัยทางชีวภาพ และชีวจริยธรรม ศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการ หลักฐาน และข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต พันธุศาสตร์ ประชากร ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล และกำเนิดสปีชีส์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ข้อ 1 สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติ และหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้าง และองค์ประกอบทางเคมีของ DNA และสรุปการจำลอง DNA ข้อ 2 อธิบาย และระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน และหน้าที่ของ DNA และ RNA แต่ละ ชนิดในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน ข้อ 3 สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีน และระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน รวมทั้งยกตัวอย่างโรค และกลุ่มอาการที่เป็นผลของการเกิดมิวเทชัน ข้อ 4 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และสรุปผลการทดลองของเมนเดล ข้อ 5 สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และเชื่อมโยงกับ ความรู้เรื่องพันธุศาสตร์เมนเดล ข้อ 6 อธิบาย และสรุปกฎแห่งการแยก และกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดลนี้ ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม และใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์ และจีโนไทป์ แบบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 300 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ข้อ 7 สืบข้อข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วน ขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล ข้อ 8 สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง และ ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง ข้อ 9 อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยีน บนออโตโซม และยีนบนโครโมโซมเพศ ข้อ 10 อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ ข้อ 11 สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ใช้ทั้งในด้าน สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงด้านชีวจริยธรรม ข้อ 12 สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุน และข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต ข้อ 13 อธิบาย และเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฏี เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของชาลส์ ดาร์วิน ข้อ 14 ระบุสาระสำคัญ และอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี – ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถี่ของแอลลีล และจีโนไทป์ของประชากร โดยใช้หลักของฮาร์ดี – ไวน์เบิร์ก ข้อ 15 สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายกระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งหมด 15 ข้อ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 301 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว30242 รายวิชาชีววิทยา 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 โครโมโซมและสาร พันธุกรรม 1. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติ และหน้าที่ของ สารพันธุกรรม โครงสร้าง และ องค์ประกอบ ทางเคมีของ DNA และสรุป การจำลอง DNA โครโมโซมของสิ่งมีชีวิตแต่ละสปีชีส์ มีจำนวนคงที่ โครโมโซม ประกอบด้วย DNA และโปรตีน 16 15 1.2 สารพันธุกรรม 1. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติ และหน้าที่ของ สารพันธุกรรม โครงสร้าง และ องค์ประกอบ ทางเคมีของ DNA และสรุป การจำลอง DNA DNA เป็นสารพันธุกรรม ส่วนของ DNA ที่ควบคุมลักษณะทาง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า ยีน และสารพันธุกรรมทั้งหมดที่อยู่ใน สิ่งมีชีวิต เรียกว่า จีโนม DNA เป็น พอลินิวคลีโอไทด์2 สายบิดเป็น เกลียวเวียนขวา แต่ละสายเกิดจาก นิวคลีโอไทด์ต่อกันเป็นสายยาว นิวคลีโอไทด์ประกอบด้วยน้ำตาล ดีออกซีไรโบส หมู่ฟอสเฟต และ ไนโตรจีนัสเบส ซึ่ง DNA แต่ละ โมเลกุลมีจำนวนและลำดับของ นิวคลีโอไทด์ที่แตกต่างกัน
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 302 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 2. อธิบาย และ ระบุขั้นตอนใน กระบวนการ สังเคราะห์ โปรตีน และ หน้าที่ของ DNA และ RNA แต่ละชนิดใน กระบวนการ สังเคราะห์ โปรตีน DNA สามารถจำลองตัวเองขึ้นได้ ใหม่โดยมีโครงสร้างทางเคมีและ ลำดับของนิวคลีโอไทด์เหมือนเดิม DNA ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีน โดยถ่ายทอดรหัสพันธุกรรม ให้แก่mRNA เพื่อกำหนดลำดับของ กรดแอมิโนในโมเลกุลของโปรตีน โปรตีนเกี่ยวข้องกับการแสดง ลักษณะทางพันธุกรรม เช่นเอนไซม์ ที่ทำงานในกระบวนการเมแทบอลิ ซึมที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต 3. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการ เกิดมิวเทชัน ระดับยีน และ ระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิด มิวเทชัน รวมทั้ง ยกตัวอย่างโรค และกลุ่มอาการ ที่เป็นผลของ การเกิดมิวเท ชัน มิวเทชันเป็นการเปลี่ยนแปลงของ ลำดับหรือจำนวนนิวคลีโอไทด์ใน DNA ซึ่งอาจนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำ งานของโปรตีนซึ่งเกิดได้ทั้งใน ระดับยีนและระดับโครโมโซม มิวเทชันสามารถเกิดได้ทั้งเซลล์ ร่างกายและเซลล์สืบพันธุ์ซึ่งมิวเท ชันที่เกิดในเซลล์สืบพันธุ์สามารถ ถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้จึงอาจ ก่อให้เกิดลักษณะใหม่ในสิ่งมีชีวิต ลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิมโดย การใช้รังสีและสารเคมีต่าง ๆ 2 การศึกษาพันธุกรรม ของเมนเดล 4. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ สรุปผล สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมี ลักษณะเฉพาะซึ่งสามารถถ่ายทอด จากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งได้ 16 15
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 303 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน การทดลองของ เมนเดล เมนเดลศึกษาการถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรมโดยการผสมพันธุ์ 5. สรุป ความสัมพันธ์ ระหว่างสาร พันธุกรรม แอล ลีล โปรตีน ลักษณะทาง พันธุกรรม และ เชื่อมโยงกับ ความรู้เรื่อง พันธุศาสตร์เมน เดล กฎการแยกมีใจความว่าแอลลีล ที่อยู่เป็นคู่จะแยกออกจากกัน ใน ระหว่างการสร้างเซลล์สืบพันธุ์โดย เซลล์สืบพันธุ์แต่ละเซลล์จะมีเพียง แอลลีลใดแอลลีลหนึ่งกฎการ รวมกลุ่มอย่างอิสระมีใจความว่า หลังจากคู่ของแอลลีลแยกออกจาก กัน แต่ละแอลลีลจะจัดกลุ่มอย่าง อิสระกับแอลลีลอื่นๆ ที่แยกออกจาก คู่เช่นกันในการเข้าไปอยู่ในเซลล์ สืบพันธุ์ 6. อธิบาย และ สรุปกฎแห่งการ แยก และกฎ แห่งการ รวมกลุ่มอย่าง อิสระ และนำ กฎของเมนเดล นี้ ไป อธิบายการ ถ่ายทอด ลักษณะทาง พันธุกรรม และ ใช้ในการ คำนวณโอกาส ในการเกิด ฟีโนไทป์ และจี โนไทป์ - กฎแห่งการแยก (Law of segregation) กล่าวไว้ว่า ยีนใน สิ่งมีชีวิตจะอยู่เป็นคู่เมื่อมีการสร้าง เซลล์สืบพันธุ์ ยีนเหล่านี้จะแยกออก จากกันอย่างอิสระไปสู่เซลล์สืบพันธุ์ แต่ละเซลล์ - กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ (Law of independent assortment) กล่าวไว้ว่า ยีนที่อยู่ใน เซลล์สืบพันธุ์จะมารวมกันอย่าง อิสระเมื่อมีการปฏิสนธิ ทำให้ยีน ดังกล่าวถูกถ่ายทอดไปยังรุ่นถัดไปได้ ซึ่งการถ่ายทอดลักษณะดังกล่าวจะ ถูกถ่ายทอดไปยังโครโมโซมร่างกาย หรือโครโมโซมเพศ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 304 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 7. สืบข้อข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และ สรุปเกี่ยวกับ การถ่ายทอด ลักษณะทาง พันธุกรรมที่เป็น ส่วนขยายของ พันธุศาสตร์ เมนเดล - การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมบางลักษณะให้อัตราส่วน ที่แตกต่างจากผลการศึกษาของ เมน เดลเรียกลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะ ทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของ พันธุศาสตร์เมนเดล เช่น ความเด่น ไม่สมบูรณ์ความเด่นร่วม มัลติเพิล แอลลีล ลักษณะควบคุมด้วยยีน หลายคู่ การถ่ายทอดยีน บน โครโมโซมเพศ 8. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และ เปรียบเทียบ ลักษณะทาง พันธุกรรมที่มี การแปรผันไม่ ต่อเนื่อง และ ลักษณะทาง พันธุกรรมที่มี การแปรผัน ต่อเนื่อง - การแปรผันลักษณะทางพันธุกรรม ที่ต่อเนื่อง เป็นลักษณะทาง พันธุกรรมที่ไม่สามารถแยกความ แตกต่างได้อย่างชัดเจน มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ความแตกต่างของลักษณะจะปรากฏ เป็นลำดับต่อเนื่องกัน ทำให้ยากต่อ การจัดหมวดหมู่และอัตราส่วนจะ แยกอย่างเด็ดขาดได้ยาก มักถูก ควบคุมโดยยีนหลายคู่ >แปรผันได้ ง่ายเมื่อได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม สามารถวัดขนาดและปริมาณได้ ตัวอย่าง เช่น ในคน – สีผิวปกติ / ความสูง / น้ำหนัก / โครงร่าง / ระดับสติปัญญา ฯลฯ ในสัตว์และพืช – ขนาดของ ร่างกาย เซลล์แบบไมโอซิสอาจทำให้ยีนบน โครโมโซมเดียวกันแยกจาก กันได้ ส่งผลให้รูปแบบของเซลล์สืบพันธุ์ที่ ได้
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 305 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 9. อธิบายการ ถ่ายทอดยีนบน โครโมโซม และ ยกตัวอย่าง ลักษณะทาง พันธุกรรมที่ ควบคุมด้วยยีน บนออโตโซม และยีนบน โครโมโซมเพศ - เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ยีนบน โครโมโซมเดียวกันที่อยู่ใกล้กันมักจะ ถูกถ่ายทอดไปด้วยกัน แต่การเกิดค รอสซิงโอเวอร์ในการแบ่ง เซลล์แบบไมโอซิสอาจทำให้ยีนบน โครโมโซมเดียวกันแยกจาก กันได้ ส่งผลให้รูปแบบของเซลล์สืบพันธุ์ ที่ ได้แตกต่างไปจากกรณีที่ไม่เกิด ครอสซิงโอเวอร์ สอบกลางภาคเรียน 1 20 3 เทคโนโลยีทางดีเอ็น เอ 10. อธิบาย หลักการสร้าง สิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมโดย ใช้ดีเอ็นเอ รีคอมบิแนนท์ การเพิ่มจำ นวนของ DNA ที่เหมือน ๆ กันนั้นเรียกว่า การโคลนดีเอ็นเอ และถ้า DNA บริเวณ ดังกล่าวเป็น ยีนเรียกว่า การโคลนยีน การเพิ่มจำ นวน DNA อาจทำ ได้โดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรีย และเทคนิคพอลิเมอเรสเชนรีแอกชัน หรือ PCR 10. อธิบาย หลักการสร้าง สิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมโดย ใช้ดีเอ็นเอ รีคอมบิแนนท์ การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของ แบคทีเรียเพื่อสร้างดีเอ็นเอรีคอม บิแนนท์อาจทำ ได้โดยใช้เอนไซม์ตัด จำเพาะตัดสาย DNA ที่มียีนที่ ต้องการและตัดพลาสมิดที่จุดตัด จำเพาะ เมื่อตัดสาย DNA ต่าง โมเลกุลกันด้วยเอนไซม์ตัดจำเพาะ ชนิดเดียวกันปลายสาย DNA จะมี ลำดับเบสที่เข้าคู่กันได้และ เชื่อมต่อ กันได้ด้วยเอนไซม์ดีเอ็นเอไลเกสทำ ให้ได้เป็นดีเอ็นเอ รีคอมบิแนนท์จากนั้นถ่ายดีเอ็นเอ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 306 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ สามารถนำ ไปประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์ ใน การวินัจฉัยโรค และใช้ในการสร้าง ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม การประยุกต์ในด้านการเกษตร ในการสร้างพืชหรือสัตว์ที่มีสมบัติ ตามต้องการ รวมทั้งประยุกต์ใช้ใน รีคอมบิแนนท์เข้าสู่เซลล์เจ้าบ้านเพื่อ เพิ่มจำนวนการเพิ่มจำ นวน DNA ด้วย 11. สืบค้น ข้อมูล ยกตัวอย่าง และ อภิปรายการนำ เทคโนโลยีทางดี เอ็นเอไป ประยุกต์ใช้ทั้ง ในด้าน สิ่งแวดล้อม นิติ วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และ อุตสาหกรรม และข้อควร คำนึงถึงด้าน ชีวจริยธรรม - ผลิตภัณฑ์DNA ที่ได้จาก PCR สามารถตรวจสอบผลการเพิ่ม ปริมาณ DNA และหาขนาดของ โมเลกุล DNA ด้วยวิธีเจลอิเล็กโทร ฟอรีซิส ซึ่งเป็นเทคนิคการแยก โมเลกุล DNA ที่มีขนาดแตกต่างกัน ในสนามไฟฟ้าผ่านตัวกลางที่เป็นวุ้น แล้วเปรียบเทียบกับการ เคลื่อนที่ของโมเลกุลดีเอ็นเอ มาตรฐานที่ทราบขนาด และสามารถ วิเคราะห์หาลำดับ นิวคลีโอไทด์ด้วยเครื่องหาลำดับ - ด้านอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม ในด้านนิติวิทยาศาสตร์สามารถ ใช้ลายพิมพ์ดีเอ็นเอในการพิสูจน์ ตัวบุคคลและหาความสัมพันธ์ นิวคลีโอไทด์แบบอัตโนมัติ ทางสายเลือดอย่างไรก็ตามการใช้ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอต้องคำ นึงถึงความปลอดภัยทางชีวภาพและ ชีวจริยธรรม
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 307 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 4 วิวัฒนาการ 12. สืบค้น ข้อมูล และ อธิบาย เกี่ยวกับ หลักฐานที่ สนับสนุน และข้อมูลที่ใช้ อธิบายการ เกิด วิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต หลักฐานที่บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตมี วิวัฒนาการศึกษาได้จาก ซากดึก ดำบรรพ์กายวิภาคเปรียบเทียบ วิทยาเอ็มบริโอ ชีววิทยาโมเลกุล และการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิต ทางภูมิศาสตร์เป็นต้น วิวัฒนาการโดยอาศัยกฎการใช้และ ไม่ใช้และกฎการถ่ายทอดลักษณะ ที่เกิดขึ้นมาใหม่ ส่วนดาร์วินเสนอ แนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีการคัดเลือก โดยธรรมชาติ 12 10 13. อธิบาย และ เปรียบเทียบ แนวคิด เกี่ยวกับ วิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต ของฌอง ลามาร์ก และ ทฤษฏี เกี่ยวกับ วิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิต ของชาลส์ ดาร์วิน แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตที่สำคัญ ได้แก่ แนวคิดของ ชองลามาร์ก และ ชาลส์ดาร์วิน โดยลามาร์กเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ 14. ระบุ สาระสำคัญ และอธิบาย - ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ ความรู้ทางพันธุศาสตร์ประชากร
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 308 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน เงื่อนไขของ ภาวะสมดุล ของฮาร์ดี – ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้ เกิดการ เปลี่ยนแปลง ความถี่ของ แอลลีลใน ประชากร พร้อมทั้ง คำนวณหา ความถี่ของ แอลลีล และ จีโนไทป์ของ ประชากรโดย ใช้หลักของ ฮาร์ดี – ไวน์ เบิร์ก ในการอธิบายการเกิดวิวัฒนาการ ของสิ่งมีชีวิตและปัจจัยที่ทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงความถี่แอลลีลใน ประชากร ได้แก่ เจเนติกดริฟท์ แบบสุ่มการถ่ายเทยีนการผสมแบบ ไม่สุ่ม มิวเทชัน และการคัดเลือก โดยธรรมชาติ 15. สืบค้น ข้อมูล อภิปราย และ อธิบาย กระบวนการ เกิดสปีชีส์ใหม่ ของสิ่งมีชีวิต - สิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่เป็นผลมาจาก การแยกกันทางการสืบพันธุ์ซึ่งมี2 แนวทาง คือ กำเนิดสปีชีส์แบบ แอลโลพาทริก และกำเนิดสปีชีส์ แบบซิมพาทริก สอบปลายภาค 1 20 รวม 60 100
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 309 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพิ่มเติม ว30243 ชีววิทยา 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตแบบสลับของพืชดอก กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียและการปฏิสนธิ ของพืชดอก การเกิด และโครงสร้างของเมล็ดและผล ศึกษาชนิดและลักษณะของเนื้อเยื่อพืช โครงสร้างภายในของ ราก ลำต้น และใบของพืช ศึกษาการแลกเปลี่ยนแก๊ส และการคายน้ำของพืช กลไกการลำเลียงน้ำ ธาตุอาหาร และอาหารในพืช ศึกษาการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเกี่ยวกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 การตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C3 พืช C4 และพืช CAM ปัจจัยที่มี ผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช รวมทั้งศึกษาสภาพพักตัวของเมล็ด และปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด สิ่ง เร้าภายใน และภายนอก ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช และการนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ข้อ 1 อธิบายวัฏจักรชีวิตแบบสลับของพืชดอก ข้อ 2 อธิบาย และเปรียบเทียบกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ และเพศเมียของพืชดอก และอธิบาย การปฏิสนธิของพืชดอก ข้อ 3 อธิบายการเกิดเมล็ด และการเกิดผลของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดและผล และยกตัวอย่างการใช้ ประโยชน์จากโครงสร้างต่าง ๆ ของเมล็ดและผล ข้อ 4 อธิบายเกี่ยวกับชนิดและลักษณะของเนื้อเยื่อพืช และเขียนแผนผังเพื่อสรุปชนิดของเนื้อเยื่อพืช ข้อ 5 สังเกต อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยว และรากพืชใบเลี้ยงคู่จาก การ ตัดตามขวาง
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 310 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ข้อ 6 สังเกต อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว และลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่ จากการตัดตามขวาง ข้อ 7 สังเกต และอธิบายโครงสร้างภายในของใบพืชจากการตัดตามขวาง ข้อ 8 สืบค้นข้อมูล สังเกต และอธิบายการแลกเปลี่ยนแก๊ส และการคายน้ำของพืช ข้อ 9 สืบค้นข้อมูล และอธิบายกลไกการลำเลียงน้ำ และธาตุอาหารของพืช ข้อ 10 สืบค้นข้อมูล อธิบายความสำคัญของธาตุอาหาร และยกตัวอย่างธาตุอาหารที่สำคัญที่มีผลต่อการ เจริญเติบโตของพืช ข้อ 11 อธิบายกลไกการลำเยงอาหารในพืช ข้อ 12 สืบค้นข้อมูล และสรุปการศึกษาที่ได้จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเกี่ยวกับ กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ข้อ 13 อธิบายขั้นตอนที่เกิดขึ้นในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 ข้อ 14 เปรียบเทียบกลไกการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C3 พืช C4 และพืช CAM ข้อ 15 สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปปัจจัยความเข้มของแสง ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ และอุณหภูมิ ที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช ข้อ 16. ทดลอง และอธิบายเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด สภาพพักตัวของเมล็ด และ บอกแนวทางในการแก้สภาพพักตัวของเมล็ด ข้อ 17. สืบค้นข้อมูล อธิบายบทบาท และหน้าที่ของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทิลีน และ กรดแอบไซซิก และอภิปรายเกี่ยวกับการนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ข้อ 18. สืบค้นข้อมูล ทดลอง และอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งเร้าภายนอกที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งหมด 18 ข้อ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 311 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว30243 รายวิชาชีววิทยา 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 การสืบพันธุ์ของพืช ดอก 2. อธิบาย และ เปรียบเทียบ กระบวนการ สร้างเซลล์ สืบพันธุ์เพศผู้ และเพศเมีย ของพืชดอก และอธิบาย การปฏิสนธิ ของพืชดอก ดอกโดยทั่วไปมีส่วนประกอบ 4 ชั้น คือ ชั้นกลีบเลี้ยง ชั้นกลีบดอก ชั้นเกสรเพศผู้และชั้นเกสรเพศเมีย อาจจำาแนกประเภทของดอกได้ โดยใช้เกณฑ์ที่เป็นส่วนประกอบ ของดอกตำาแหน่งรังไข่ หรือ จำนวนดอกที่อยู่บนก้านดอก ส่วนประกอบของดอกที่เกี่ยวข้อง กับการสืบพันธุ์โดยตรง คือชั้นเกสร เพศผู้ และชั้นเกสรเพศเมีย ซึ่ง จำนวนรังไข่เกี่ยวข้องกับการเจริญ เป็นผลชนิดต่าง ๆ 10 10 1. อธิบาย วัฏจักรชีวิต แบบสลับของ พืชดอก พืชดอกมีวัฏจักรชีวิตแบบสลับ ประกอบด้วยสปอโรไฟต์และ แกมีโทไฟต์ซึ่งสปอโรไฟต์เป็น ระยะที่สร้างสปอร์ คือ ไมโครสปอร์ และเมกะสปอร์ที่อาจสร้างในดอก เดียวกันหรือต่างดอกหรือต่างต้น ไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์แบ่งเซลล์ แบบไมโอซิสได้ไมโครสปอร์ จากนั้นไมโครสปอร์จะแบ่งเซลล์ แบบไมโทซิส และพัฒนาไปเป็น แกมีโทไฟต์เพศผู้ ซึ่งทำหน้าที่สร้าง เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ ส่วนเมกะสปอร์ มาเทอร์เซลล์แบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิสได้เมกะสปอร์ จากนั้น
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 312 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน เมกะสปอร์จะแบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิส และพัฒนาไปเป็น แกมีโทไฟต์เพศเมียซึ่งทำหน้าที่ สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เมื่อมี การปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ และเพศเมียจะได้ไซโกต 2. อธิบาย และ เปรียบเทียบ กระบวนการ สร้างเซลล์ สืบพันธุ์เพศผู้ และเพศเมีย ของพืชดอก และอธิบาย การปฏิสนธิ ของพืชดอก การปฏสินธิของพืชดอกเป็นการ ปฏิสนธิโดยคู่หนึ่งเป็นการรวม กันของสเปริม์เซลล์กับเซลล์ไข่ได้ เป็นไซโกตซึ่งจะเจริญและพัฒนาไป เป็นเอ็มบริโออีกคู่หนึ่งเป็นการ รวมกันของสเปิร์ม เซลล์อีกเซลล์ หนึ่งกับโพลาร์นิวคลีไอ ได้เป็น เอนโดสเปิร์มนิวเคลียสซึ่งจะเจริญ และพัฒนาต่อไปเป็น เอนโดสเปิร์ม 3. อธิบายการ เกิดเมล็ด และ การเกิดผล ของพืชดอก โครงสร้างของ เมล็ดและผล และ ยกตัวอย่าง การใช้ ประโยชน์จาก โครงสร้างต่าง ของพืช ภายหลังการปฏิสนธิรังไข่จะมีการ เจริญและพัฒนาไปเป็นผลและ ออวุลจะมีการเจริญและ พัฒนาไป เป็นเมล็ด โครงสร้างของผล ประกอบด้วยผนังผล และเมล็ด ส่วนโครงสร้างของเมล็ดประกอบ ด้วยเปลือกเมล็ดเอมบริโอและ เอนโดสเปริ์ม โครงสร้างแต่ละส่วน ของผลและเมล็ดมีประโยชน์ต่อพืช และต่อสิ่งมีชีวิตอื่นซึ่งมนุษย์ใช้ ประโยชน์จากโครงสร้างของผล และเมล็ดในด้านต่าง ๆ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 313 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน 2 โครงสร้างและการ เจริญเติบโตของพืช ดอก 4. อธิบาย เกี่ยวกับชนิด และลักษณะ ของเนื้อเยื่อ พืช และเขียน แผนผังเพื่อ สรุปชนิดของ เนื้อเยื่อพืช พืชดอกมีเนื้อเยื่อประกอบด้วย เนื้อเยื่อเจริญ และเนื้อเยื่อถาวร เนื้อเยื่อเจริญประกอบด้วยกลุ่ม เซลล์ที่สามารถแบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิส มีการเติบโตขยายขนาด และเปลี่ยนแปลงเพื่อไปทำหน้าที่ เฉพาะ ส่วนเนื้อเยื่อถาวรเป็นกลุ่ม เซลล์ที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนื้อเยื่อ เจริญ แบ่งได้เป็น 3 ระบบ คือ ระบบเนื้อเยื่อผิว ระบบเนื้อเยื่อพื้น ระบบเนื้อเยื่อท่อลำเลียง ซึ่งทำ หน้าที่ต่างกัน ทั้งเนื้อเยื่อเจริญและ เนื้อเยื่อถาวรจะมีลักษณะ และ หน้าที่เฉพาะของเนื้อเยื่อแต่ละชนิด 17 10 5. สังเกต อธิบาย และ เปรียบเทียบ โครงสร้าง ภายในของ รากพืชใบ เลี้ยงเดี่ยว และรากพืชใบ เลี้ยงคู่จากการ ตัดตามขวาง ราก คือ ส่วนแกนของพืชที่ทั่วไป เจริญอยู่ใต้ระดับผิวดิน ทำหน้าที่ ยึดหรือค้ำาจุนให้พืชเจริญเติบโตอยู่ กับที่ได้ และยังมีหน้าที่สำคัญใน การดูดน้ำและธาตุอาหารในดิน เพื่อส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช โครงสร้างภายในของรากระยะการ เติบโตปฐมภูมิ เมื่อตัดตามขวางจะ เห็นโครงสร้างแบ่งเป็น 3 ชั้น เรียง จากด้านนอกเข้าไป คือ เอพิเดอร์ มิส คอร์เทกซ์ และสตีล ในระยะ การเติบโตทุกติยภูมิของราก เอพิเดอร์มิสอาจจะถูกแทนที่ด้วย เพริเดิร์ม
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 314 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน 6. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทียบ โครงสร้างภายใน ของลำต้นพืชใบ เลี้ยงเดี่ยว และลำ ต้นพืชใบเลี้ยงคู่จาก การตัดตามขวาง ลำต้น คือ ส่วนแกนของพืชที่ โดยทั่วไปเจริญอยู่เหนือระดับผิว ดินถัดขึ้นมาจากรากทำหน้าที่ สร้างใบและชูใบ ลำเลียงน้ำ ธาตุ อาหารและอาหารที่พืชสร้างขึ้น ส่งไปยังส่วนต่าง ๆ โครงสร้าง ภายในของลำต้นระยะดาร เติบโตปฐมภูมิ เมื่อตัดตามขวาง จะเห็นโครงสร้างแบ่งเป็น 3 ชั้น เรียงจากด้านนอกเข้าไป คือ เอพิเดอร์มิส คอร์เทกซ์ และสตีล ลำต้นในระยะการเติบโตทุติยภูมิ จะมีเส้นรอบวงเพิ่มขึ้น และมี โครงสร้างแตกต่างจากเดิม เนื่องจากมีการสร้างเพริเดิร์ม และเนื้อเยื่อท่อลำเลียงเพิ่มขึ้น 7. สังเกต และ อธิบายโครงสร้าง ภายในของใบพืช จากการตัดตาม ขวาง ใบมีหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง แลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำ ใบ ของพืชดอกประกอบด้วย ก้าน ใบ แผ่นใบ เส้นกลางใบ และเส้น ใบ พืชบางชนิดอาจไม่มีก้านใบ ที่โคนก้านใบอาจพบหรือไม่พบหู ใบ โครงสร้างภายในของใบตัด ตามขวาง ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ เอพิเดอร์มิส มีโซฟิลล์ และ วาสคิวลาร์บันเดิล 3 สอบกลางภาค 1 20 3 การลำเลียงของพืช 9. สืบค้นข้อมูล และอธิบายกลไก การเคลื่อนที่ของน้ำในพืชเป็นไป ตามความแตกต่างของชลศักดิ์ 7 10
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 315 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน การลำเลียงน้ำ และ ธาตุอาหารของพืช จากดินทางเซลล์ขนรากแล้ว ลำเลียงผ่านชั้นคอร์เทกซ์เข้าสู่ ไซเล็มในชั้นสตีล ซึ่งเป็นการ ลำเลียงน้ำในแนวระนาบ และ ลำเลียงไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืชใน แนวดิ่งทางไซเล็ม ในภาวะปกติ การลำเลียงน้ำจากรากสู่ยอดของ พืชอาศัยแรงดึงจากการคายน้ำ ร่วมกับแรงโคฮีชัน แรงแอดฮีชัน แต่ในภาวะที่บรรยากาศมีความชื้น สัมพัทธ์สูงมากจนไม่สามารถเกิด การคายน้ำได้ตามปกติและมี ปริมาณน้ำในดินมากเพียงพอ การลำเลียงน้ำาจะอาศัยความดัน ราก ซึ่งอาจทำาให้เกิด ปรากฏการณ์กัตเตชัน 8. สืบค้นข้อมูล สังเกต และอธิบาย การแลกเปลี่ยน แก๊ส และการคาย น้ำของพืช พืชมีการแลกเปลี่ยนแก๊สและ การคายน้ำาผ่านทางปากใบเป็น ส่วนใหญ่ ปากใบพบได้ที่ใบ และ ลำต้นอ่อน เมื่อความชื้นสัมพัทธ์ ในอากาศภายนอกต่ำกว่า ความชื้นสัมพัทธ์ภายในใบ ทำให้ ไอน้ำภายในใบแพร่ออกมาทางรู ปากใบ เรียกว่า การคายน้ำ โดย มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการคาย น้ำของพืช เช่น ความชื้นสัมพัทธ์ ลม อุณหภูมิ ปริมาณน้ำในดิน ความเข้มแสง 3.3 การลำเลียงธาตุ อาหาร 9. สืบค้นข้อมูล และอธิบายกลไก พืชแต่ละชนิดต้องการธาตุ อาหาร ที่ต่างกันทั้งชนิด และ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 316 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน การลำเลียงน้ำ และ ธาตุอาหารของพืช ปริมาณ พืชได้รับธาตุอาหารจาก ดินผ่านทางรากแล้วเคลื่อนที่ไป ยังส่วนต่าง ๆ ของพืชพร้อมกับการลำเลียงน้ำ ในไซเล็ม ความรู้เกี่ยวกับสมบัติ ของธาตุอาหารที่มีผลต่อการ เจริญเติบโตของพืชสามารถ นำมาใช้ประโยชน์ในการปลูกพืช ในสารละลายธาตุอาหาร 4 การสังเคราะห์ด้วย แสง 12. สืบค้นข้อมูล และสรุปการศึกษา ที่ได้จากการทดลอง ของ นักวิทยาศาสตร์ใน อดีตเกี่ยวกับ กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง นักวิทยาศาสตร์ในอดีตได้มี การศึกษาเกี่ยวกับการสังเคราะห์ ด้วยแสงจนสรุปได้ว่า CO2 และ น้ำ เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการ สังเคราะห์ด้วยแสงได้ผลิตภัณฑ์ คือ O2 และน้ำตาล บริเวณที่เกิด การสังเคราะห์ด้วยแสงภายใน เซลล์พืชอยู่ที่คลอโรพลาสต์ โดย ใน คลอโรพลาต์มีโครงสร้างสำคัญ คือ ไทลาคอยด์ที่มีสารสีเป็น ตัวรับพลังงานแสง และสโตรมา ซึ่งมี เอนไซม์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อ ปฏิกิริยาต่าง ๆ ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง 14 10 13. อธิบายขั้นตอน ที่เกิดขึ้นใน กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง ของพืช C3 กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ปฏิกิริยาแสงและการตรึง คาร์บอน โดยปฏิกิริยาแสงจะเปลี่ยน พลังงานแสงให้เป็นพลังงานเคมี ในรูปของ โมเลกุล ATP NADH
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 317 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน 14. เปรียบเทียบ กลไกการตรึง คาร์บอนไดออกไซด์ ในพืช C3 พืช C4 และพืช CAM โฟโตเรสไพเรชันเป็นกระบวนการ ที่พืชตรึง O2 โดยเอนไซม์รูบิสโก ซึ่งจะทำให้พืชสร้างน้ำตาลจาก วัฏจักรคัลวินได้ลดลง และมีการใช้ ATP ด้วย โฟโตเรสไพเรชันพบมาก ในพืช C3 แต่พืชบางชนิด เช่น พืช C4 และพืช CAM มีกลไกในการ เพิ่มความเข้มข้นของ CO2 ทำ ให้โฟโตเรสไพเรชันเกิดขึ้นได้น้อย มากหรือไม่เกิดขึ้นเลย โดยพืช C4 จะตรึงคาร์บอน 2 ครั้ง ซึ่งการตรึง แต่ละครั้งจะเกิดที่เซลล์ต่างชนิด กัน ส่วนพืช CAM จะตรึงคาร์บอน 2 ครั้ง เช่นกัน โดยทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นในเซลล์เดียวกันแต่เกิดต่าง ช่วงเวลา 15. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุป ปัจจัยความเข้มของ แสง ความเข้มข้น ของ คาร์บอนไดออกไซด์ และอุณหภูมิ ที่มี ผลต่อการ สังเคราะห์ด้วยแสง ของพืช ความเข้มแสง ความเข้มข้นของ CO2 อุณหภูมิปริมาณน้ำ และ ธาตุอาหารเป็นปัจจัยที่มีผลต่อ อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงของ พืชซึ่งเมื่อพืชได้รับปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้อย่างเหมาะสมจะส่งผล ให้มี การเจริญเติบโตได้ดี 16. ทดลอง และ อธิบายเกี่ยวกับ ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผล ปัจจัยของสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อ อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงซึ่ง ทำให้อัตราการสังเคราะห์ด้วย
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 318 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ต่อการงอกของ เมล็ด สภาพพัก ตัวของเมล็ด และ บอกแนวทางใน การแก้สภาพ พักตัวของเมล็ด แสงไม่อยู่ในระดับสูงสุด เรียก ปัจจัยนั้นว่าเป็นปัจจัยจำกัด หาก ปัจจัยจำกัดนั้นมีปริมาณมากขึ้นจน เพียงพอจะไม่ใช่ปัจจัยจำกัดอีก ต่อไป แต่อาจมีปัจจัยอื่นที่ กลายเป็นปัจจัยจำกัดที่มีผลต่อ อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง 5 การควบคมุการ เจริญเติบโตและการ ตอบสนองของพืช 17. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย บทบาท และ หน้าที่ของออก ซิน ไซโทไคนิน จิบ เบอเรลลิน เอ ทิลีน และ กรดแอบไซซิก และอภิปราย เกี่ยวกับการ นำไปใช้ ประโยชน์ทาง การเกษตร ในวัฏจักรชีวิตของพืช ตั้งแต่เมล็ดมี การงอกเป็นต้นพืช จนกระทั่งออก ดอก ติดผล พบว่า พืชมีการ เจริญเติบโต และมีการ เปลี่ยนแปลงสภาพทางสรีรวิทยา ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการ ตอบสนองของพืชต่อปัจจัย ภายนอก เช่น น้ำหรือความชื้น แก๊สออกซิเจน อุณหภูมิ และแสง ซึ่งจะส่งผลต่อไปปัจจัยภายใน เช่น ฮอร์โมนพืชกลุ่มต่าง ๆ คือ ออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทิลีน และกรดแอบไซซิก พืชจะสร้าง ฮอร์โมนเหล่านี้ในปริมาณน้อย และทำงานในระดับความเข้มข้นต่ำ โดยฮอร์โมนต่าง ๆ มีการทำงาน ร่วมกันในสัดส่วนที่เหมาะสมในแต่ ละช่วงการเจริญเติบโตซึ่งสามารถ กระตุ้น ยับยั้ง หรือทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงสภาพทางสรีรวิทยา ของพืชให้เป็นไปตามธรรมชาติ 3
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 319 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน นอกจากฮอร์โมนพืชที่พืชสร้างขึ้น ตามธรรมชาติแล้ว มนุษย์ยัง สามารถสังเคราะห์สารสังเคราะห์ ที่มีสมบัติคล้ายฮอร์โมนพืช เพื่อ ประโยชน์ในทางเกษตรอีกด้วย 16. ทดลอง และอธิบาย เกี่ยวกับปัจจัย ต่าง ๆ ที่มีผล ต่อการงอกของ เมล็ด สภาพพัก ตัวของเมล็ด และ บอกแนวทางใน การแก้สภาพ พักตัวของเมล็ด เมล็ดพืชส่วนใหญ่ที่มีสภาพเมล็ด สมบูรณ์และได้รับปัจจัยภายนอก เช่น น้ำหรือความชื้น แก๊ส ออกซิเจน อุณหภูมิ แสง แต่เมล็ด ก็ยังไม่สามารถงอกได้ หรืออาจงอก ช้า เพราะเมล็ดพืชอยู่ในสภาพพัก ตัว 18. สืบค้น ข้อมูล ทดลอง และอภิปราย เกี่ยวกับสิ่งเร้า ภายนอกที่มีผล ต่อการ เจริญเติบโต ของพืช พืชที่มีการตอบสนองต่อ สิ่งแวดล้อมภายนอกในรูปของการ เคลื่อนไหว เช่น แสง แรงโน้มถ่วง ของโลก สารเคมี การสัมผัส โดย การตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้า อาจเกิดในรูปแบบทรอพิซึมหรือ แนสติกมูฟเมนต์ นอกจากนี้พืชยังมี การตอบสนองแบบนูเทชันที่ไม่ได้ ถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าภายนอก แต่ เป็นผลมาจากธรรรมชาติของพืช ที่ควบคุมโดยพันธุกรรม
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 320 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 18. สืบค้น ข้อมูล ทดลอง และอภิปราย เกี่ยวกับสิ่งเร้า ภายนอกที่มี ผลต่อการ เจริญเติบโต ของพืช พืชมีการตอบสนองต่อภาวะเครียด เนื่องจากได้รับปัจจัยภายนอกมาก หรือน้อยเกินไป เช่น ภาวะเครียด จากน้ำาท่วม ความแห้งแล้ง ความ ร้อน อุณหภูมิต่ำ ความเค็ม การถูก สัตว์กัดกิน หรือการเข้าทำาลาย ของจุลินทรีย์พืชจะมีวิธีการ ตอบสนองต่อภาวะเครียดต่าง ๆ เพื่อให้สามารถมีชีวิต อยู่รอดต่อไป ได้ สอบปลายภาค 1 20 รวม 60 100
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 321 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพิ่มเติม ว30244 ชีววิทยา 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารของสัตว์ ระบบย่อยอาหารของมนุษย์ ระบบหายใจ การแลกเปลี่ยนแก๊ส ของสัตว์ อวัยวะและโครงสร้างในระบบหายใจของมนุษย์ การแลกเปลี่ยนแก๊ส และการลำเลียงแก๊ส การหายใจ ระบบหมุนเวียนเลือด และระบบน้ำเหลือง การลำเลียงสารในร่างกายของสัตว์ การลำเลียงสาร ในร่างกายของ มนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกัน กลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม การสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติของ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบขับถ่าย การขับถ่ายของสัตว์ การขับถ่ายของมนุษย์ การทำงานของหน่วยไต ไตกับการรักษา ดุลยภาพของน้ำ และสารต่าง ๆ ในร่างกาย และความผิดปกติของระบบขับถ่าย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ข้อ 1 สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ไม่มีทางเดิน อาหาร สัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์ และสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ ข้อ 2 สังเกต อธิบาย การกินอาหารของไฮดรา และพลานาเรีย ข้อ 3 อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหารภายใน ระบบย่อยอาหารของมนุษย์ ข้อ 4 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง ปลา กบ และนก ข้อ 5 สังเกต และอธิบายโครงสร้างของปอดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ข้อ 6 สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สและกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส ของมนุษย์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 322 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ข้อ 7 อธิบายการทำงานของปอด และทดลองวัดปริมาตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์ ข้อ 8 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด และระบบหมุนเวียนเลือด แบบปิด ข้อ 9 สังเกต และอธิบายทิศทางการไหลของเลือดและการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และ สรุปความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลือดกับความเร็วในการไหลของเลือด ข้อ 10 อธิบายโครงสร้าง และการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ ข้อ 11 สังเกตและอธิบายโครงสร้างหัวใจของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ทิศทางการไหลของเลือดผ่านหัวใจ ของมนุษย์ และเขียนแผนผังสรุปการหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ ข้อ 12 สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลต และ พลาสมา ข้อ 13 อธิบายหมู่เลือดและหลักการให้และรับเลือดในหมู่เลือดระบบ ABO และหมู่เลือดระบบ Rh ข้อ 14 อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าที่ของน้ำเหลือง รวมทั้งโครงสร้าง และหน้าที่ของ หลอดน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลือง ข้อ 15 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ และแบบจำเพาะ ข้อ 16 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบการสร้างภูมิคุ้มกันก่อเอง และภูมิคุ้มกันรับมา ข้อ 17 สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ การสร้างภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง ข้อ 18 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้าง และหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง ข้อ 19 อธิบายโครงสร้าง และหน้าที่ของไต และโครงสร้างที่ใช้ลำเลียงปัสสาวะออกจากร่างกาย ข้อ 20 อธิบายกลไกการทำงานของหน่วยไตในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย และเขียนแผนผังสรุป ขั้นตอนการกำจัดของเสียออกจากร่างกายโดยหน่วยไต ข้อ 21 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างเกี่ยวกับความผิดปกติของไตอันเนื่องมาจากโรคต่าง ๆ รวมทั้งหมด 21 ข้อ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 323 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว30244 รายวิชาชีววิทยา 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 ระบบย่อยอาหาร 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ โครงสร้างและ กระบวนการย่อย อาหารของสัตว์ ไม่มีทางเดิน อาหาร สัตว์ที่มี ทางเดินอาหาร แบบไม่สมบูรณ์ และสัตว์ที่มี ทางเดินอาหาร แบบสมบูรณ์ อาหารที่สัตว์กินเข้าไปจะถูกย่อยให้ มีโมเลกุลขนาดเล็กที่เซลล์นำไปใช้ ได้สัตว์มีโครงสร้างและ กระบวนการในการย่อยอาหาร แตกต่างกันแบ่งเป็นสัตว์ที่ไม่มี ทางเดินอาหารสัตว์ที่มีทางเดิน อาหารแบบไม่สมบูรณ์และสัตว์ที่มี ทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ การย่อยอาหารมีทั้งการย่อย ภายนอกเซลล์และการย่อยภายใน เซลล์ 12 15 3. อธิบาย เกี่ยวกับ โครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการ ย่อยอาหาร และ การดูดซึม สารอาหาร มนุษย์มีทางเดินอาหาร ประกอบด้วย ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ ใหญ่และทวารหนัก กระบวนการ เปลี่ยนแปลงอาหารประกอบด้วย การกินการย่อยซึ่งมีการย่อยเชิงกล และการย่อยทางเคมีการย่อย
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 324 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ภายในระบบย่อย อาหารของมนุษย์ เกิดขึ้นที่ปาก กระเพาะอาหาร และ ลำไส้เล็ก การดูดซึมซึ่งส่วนใหญ่ เกิดขึ้น ที่ลำ ไส้เล็ก และการถ่าย อุจจาระ 2 ระบบหายใจ 4. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบ โครงสร้างที่ทำ หน้าที่แลกเปลี่ยน แก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง ปลา กบ และนก สัตว์แต่ละชนิดมีโครงสร้างที่ใช้ใน การแลกเปลี่ยนแก๊สแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของ โครงสร้างของร่างกาย สภาพแวดล้อมที่สัตว์อาศัยอยู่ และ ปริมาณแก๊สออกซิเจน (O2 ) ที่สัตว์ ต้องการ เพื่อนำ ไปใช้ใน กระบวนการเมแทบอลิซึมและเกิด แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์(CO2 ) ที่ต้องกำจัดออกจากร่างกาย 13 10 6. สืบค้นข้อมูล และอธิบาย โครงสร้างที่ใช้ใน การแลกเปลี่ยน แก๊สและ กระบวนการ แลกเปลี่ยนแก๊ส ของมนุษย์ ทางเดินหายใจของมนุษย์ ประกอบด้วย รูจมูก โพรงจมูก คอหอย กล่องเสียง ท่อลม หลอดลม หลอดลมฝอย และถุงลม ในปอดโดยปอดเป็นบริเวณที่มี การแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างถุงลม กับหลอด เลือดฝอย และบริเวณ เซลล์ของเนื้อเยื่อต่างๆ มีการ แลกเปลี่ยนแก๊สโดยการแพร่ผ่าน
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 325 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 7. อธิบายการ ทำงานของปอด และทดลองวัด ปริมาตรของ อากาศในการ หายใจออกของ มนุษย์ หลอดเลือดฝอย เช่นกัน ซึ่งO2 และ CO2 จะถูกลำ เลียงโดยระบบ หมุนเวียนเลือด นอกจากนี้การทำ งานของระบบหายใจ ยังเกี่ยวข้อง กับการรักษาดุลยภาพของกรด – เบสของเลือด 8. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบ ระบบหมุนเวียน เลือดแบบเปิด และระบบ หมุนเวียนเลือด แบบปิด การหายใจปกติของมนุษย์เกิดจาก การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศ ภายในปอดโดยการทำงานร่วมกัน ของกล้ามเนื้อกะบังลมและ กล้ามเนื้อระหว่างกระดูกซี่โครง และควบคุมโดยสมองส่วนพอนส์ และเมดัลลาออบลองกาตา ระบบ หายใจมีความสำคัญต่อการ ดำรงชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดความ ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ ดังนั้นจึงควรมีการดูแลรักษาระบบ หายใจให้ทำงานเป็นปกติ สอบกลางภาค 1 20 3 ระบบหมุนเวียน เลือดและระบบ น้ำเหลือง 9. สังเกต และ อธิบายทิศ ทางการไหลของ เลือดและ สิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน จะมีการแลกเปลี่ยนสารระหว่าง เซลล์กับสิ่งแวดล้อมโดยตรง 11 10
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 326 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน การเคลื่อนที่ของ เซลล์เม็ดเลือดใน หางปลา และ สรุป ความสัมพันธ์ ระหว่างขนาด ของหลอดเลือด กับความเร็วใน การไหลของเลือด ซับซ้อนจะมีระบบหมุนเวียนเลือด ทำหน้าที่ลำเลียงสารไปยังส่วน ต่าง ๆ ของร่างกายระบบหมุนเวียน เลือดมี2 แบบ คือ ระบบ หมุนเวียนเลือดแบบเปิด พบใน สัตว์จำพวกหอย แมลง กุ้ง ส่วน ระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิดพบ ในไส้เดือนดิน สัตว์มีกระดูกสันหลัง รวมทั้งมนุษย์ 10. อธิบาย โครงสร้าง และ การทำงานของ หัวใจและหลอด เลือดในมนุษย์ 11. สืบค้นข้อมูล ระบุความ แตกต่างของ เซลล์เม็ดเลือด แดง เซลล์เม็ด เลือดขาว เพลต เลต และพลาสมา ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ ประกอบด้วย หัวใจ หลอดเลือด และเลือด หัวใจทำ หน้าที่รับ และ สูบฉีดเลือดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ขณะที่กล้ามเนื้อหัวใจ หดตัวและคลายตัวทำ ให้เกิด ความดันในหลอดเลือดและชีพจร ความดันเลือดและชีพจรมี ความสัมพันธ์กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณ ไขมันในหลอดเลือด กิจกรรมของร่างกาย อายุและเพศ เลือดของมนุษย์จำแนกตามหมู่ เลือดระบบ ABO ได้เป็นเลือดหมู่ A B AB และ O และสามารถ จำแนกตามระบบ Rh ได้เป็นเลือด หมู่ Rh+ และ Rh ตามชนิดของ แอนติเจนที่ผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 327 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 13. อธิบายหมู่ เลือดและ หลักการให้และ รับเลือดในหมู่ เลือดระบบ ABO และหมู่เลือด ระบบ Rh เลือดของมนุษย์จำแนกตามหมู่ เลือดระบบ ABO ได้เป็นเลือดหมู่ A B AB และ O และสามารถ จำแนกตามระบบ Rh ได้เป็นเลือด หมู่ Rh+ และ Rh ตามชนิดของ แอนติเจนที่ผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง หมู่เลือดมีความสำคัญต่อการให้ และการรับเลือดผู้ให้และผู้รับเลือด ควรมีเลือดหมู่เดียวกันจึงจะ ปลอดภัยที่สุด 14. อธิบาย และ สรุปเกี่ยวกับ ส่วนประกอบ และหน้าที่ของ น้ำเหลือง รวมทั้ง โครงสร้าง และ หน้าที่ของหลอด น้ำเหลือง และ ต่อมน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองประกอบด้วย น้ำเหลือง หลอดน้ำเหลือง และ ต่อมน้ำเหลือง โดยน้ำเหลืองจะถูก ลำเลียงผ่านหลอดน้ำ เหลืองฝอย และหลอดน้ำเหลือง ผ่านต่อมน้ำ เหลืองซึ่งเป็นบริเวณที่มีการ 4 ระบบภูมิคุ้มกัน 15. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบ กลไกการ เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะมีกลไกการต่อต้านหรือ ทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำ เพาะและแบบจำเพาะกลไกการ 13 10
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 328 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ต่อต้านหรือทำลาย สิ่งแปลกปลอม แบบไม่จำเพาะ และแบบจำเพาะ ต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอม แบบไม่จำเพาะประกอบด้วย การต่อต้านหรือทำ ลายสิ่ง แปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่เนื้อเยื่อ ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่มากับน้ำ เหลือง จึงพบเซลล์เม็ดเลือดขาว จำนวนมากในต่อมน้ำ เหลือง จากนั้น น้ำเหลืองจะถูกลำเลียงกลับเข้าสู่ ระบบหมุนเวียนเลือดและการต่อต้าน หรือทำลาย สิ่งแปลกปลอม ที่เข้าสู่เนื้อเยื่อแล้ว โดยการทำ งานของฟาโกไซต์และการ อักเสบ 16. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบการ สร้างภูมิคุ้มกันก่อ เอง และภูมิคุ้มกัน รับมา การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับ ร่างกายมี2 แบบคือ ภูมิคุ้มกัน รับมา และภูมิคุ้มกันก่อเอง โดยภูมิคุ้มกันรับมาเป็นวิธีที่ ร่างกายได้รับแอนติบอดีที่มี ความจำเพาะต่อแอนติเจนซึ่ง สามารถทำงานได้ทันทีแต่อยู่ใน ร่างกายไม่นานส่วนภูมิคุ้มกันก่อเอง 17. สืบค้นข้อมูล และอธิบาย เกี่ยวกับความ ผิดปกติของระบบ ภูมิคุ้มกันที่ทำ ส่วนกลไกการต่อต้านหรือทำลาย สิ่งแปลกปลอมแบบจำเพาะเป็น แอนติบอดีหรือกระตุ้นเซลล์ทีที่มี ความจำเพาะต่อแอนติเจนนั้น ซึ่งใช้เวลานานกว่าภูมิคุ้มกันรับมา แต่ภูมิคุ้มกันก่อเองจะอยู่ในร่างกาย
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 329 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ การสร้างภูมิ ต้านทานต่อ เนื้อเยื่อตนเอง ได้นานเนื่องจากมีการสร้างเซลล์ ความจำด้วย 5 ระบบขับถ่าย 18. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบ โครงสร้าง และ หน้าที่ในการกำจัด ของเสียออกจาก ร่างกายของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลง และสัตว์มีกระดูก สันหลัง สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีโครงสร้างหรือ อวัยวะสำหรับกำจัดของเสีย แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการ และสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่เช่น ฟองน้ำ และไฮดรามีการแพร่ของ เสียผ่านเยื่อหุ้มเซลล์พลานาเรียมี โพรโทเนฟริเดียม ไส้เดือนดินมีเม ทาเนฟริเดียม แมลงมีมัลพิเกียน ทิวบูล 9 10 19. อธิบาย โครงสร้าง และ หน้าที่ของไต และ โครงสร้างที่ใช้ ลำเลียงปัสสาวะ ออกจากร่างกาย สัตว์มีกระดูกสันหลังและ มนุษย์มี ไตเป็นอวัยวะในระบบขับถ่ายที่ทำ หน้าที่กำจัดของเสียและรักษาดุลย ภาพของน้ำ และสาร ต่างๆ ในร่างกาย
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 330 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 20. อธิบาย กลไกการ ทำงานของ หน่วยไตใน การกำจัดของ เสียออกจาก ร่างกาย และ เขียนแผนผัง สรุปขั้นตอน การกำจัดของ เสียออกจาก ร่างกายโดย หน่วยไต ไตของมนุษย์ประกอบด้วยหน่วยไต ที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียที่มี ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบโดย ผ่านกลไกการสร้างปัสสาวะซึ่งมี 3 ขั้นตอน คือ การกรอง การดูด กลับ และการหลั่ง ไตยังทำหน้าที่รักษาดุลยภาพของ น้ำดุลยภาพของกรด-เบสในเลือด และดุลยภาพของแร่ธาตุ ในร่างกายอีกด้วย 21. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และ ยกตัวอย่าง เกี่ยวกับความ ผิดปกติของไต อัน เนื่องมาจาก โรคต่าง ๆ ความผิดปกติที่เกิดกับไตของมนุษย์ เช่น โรคนิ่ว ภาวะไตวายเฉียบพลัน โรคไตเรื้อรัง รวมทั้ง โรคที่เกิดกับ ทางเดินปัสสาวะ หากไม่ป้องกัน หรือรักษาย่อมส่งผลกระทบต่อ การทำงานของไต สอบปลายภาค 1 30 รวม 60 100
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 331 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพิ่มเติม ว30245 ชีววิทยา 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับการรับรู้ และการตอบสนองของสัตว์โครงสร้าง และการทำงานของเซลล์ประสาทศูนย์ ควบคุมระบบประสาทของมนุษย์ การทำงานของระบบประสาท อวัยวะรับความรู้สึก การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต เซลล์เดียว สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์มีกระดูกสันหลัง รวมทั้งการเคลื่อนที่ของมนุษย์ ศึกษาระบบต่อมไร้ท่อ การทำงานร่วมกันของระบบต่อมไร้ท่อ และระบบประสาท ฮอร์โมน และการทำงานของฮอร์โมน การรักษาสมดุล ของฮอร์โมน การสืบพันธุ์ของสัตว์ และมนุษย์ การเจริญเติบโตของสัตว์ การศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ กลไกการเกิดพฤติกรรม ประเภทพฤติกรรมของสัตว์ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรม และวิวัฒนาการของระบบ ประสาท และการสื่อสารระหว่างสัตว์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้ง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ข้อ 1 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบประสาทของไฮดรา พลานา เรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง ข้อ 2 อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้าง และหน้าที่ของเซลล์ประสาท ข้อ 3 อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไกการ ถ่ายทอดกระแสประสาท ข้อ 4 อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลาง และระบบประสาทรอบนอก ข้อ 5 สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้าง และหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมอง ส่วนหลัง และไขสันหลัง
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 332 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ข้อ 6 สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทำงานของระบบประสาทโซมาติก และ ระบบประสาทอัตโนวัติ ข้อ 7 สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้าง และหน้าที่ของตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์ ยกตัวอย่าง โรค ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และบอกแนวทางในการดูแลป้องกัน และรักษา ข้อ 8 สังเกต และอธิบายการหาตำแหน่งของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผัสของผิวหนัง ข้อ 9 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ ของแมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไส้เดือนดิน แมลง ปลา และนก ข้อ 10 สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้าง และหน้าที่ของกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการ เคลื่อนไหว และการเคลื่อนที่ของมนุษย์ ข้อ 11 สังเกต และอธิบายการทำงานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทำงานของกล้ามเนื้อโครร่างที่ เกี่ยวข้อง กับการเคลื่อนไหว และการเคลื่อนที่ของมนุษย์ ข้อ 12 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนผังสรุปหน้าที่ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อ และเนื้อเยื่อที่สร้าง ฮอร์โมน ข้อ 13 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ และการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ในสัตว์ ข้อ 14 สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย และระบบสืบพันธุ์ เพศหญิง ข้อ 15 อธิบายกระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ และการปฏิสนธิในมนุษย์ ข้อ 16 อธิบายการเจริญเติบโตระยะเอ็มบริโอ และระยะหลังเอ็มบริโอของกบ ไก่ และมนุษย์ ข้อ 17 สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิด และพฤติกรรม ที่เกิดจากการเรียนรู้ของสัตว์ ข้อ 18 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของระบบ ประสาท ข้อ 19 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสื่อสารระหว่างสัตว์ที่ทำให้สัตว์แสดงพฤติกรรม รวมทั้งหมด 19 ข้อ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 333 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย โครงสร้างรายวิชา ว30245 รายวิชาชีววิทยา 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต สัดส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 ระบบประสาทและ อวัยวะรับความรู้สึก 1. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบ โครงสร้าง และหน้าที่ ของระบบ ประสาทของ ไฮดรา พลานา เรีย ไส้เดือน ดิน กุ้ง หอย แมลง และ สัตว์มีกระดูก สันหลัง สัตว์รับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ เพราะมีระบบประสาท การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ แต่ละกลุ่มขึ้นอยู่กับการพัฒนาของ ระบบประสาท เช่น สัตว์ไม่มี กระดูกสันหลังบางชนิดมีร่างแห ประสาท บางชนิดมีปมประสาท และเส้นประสาทขนาดใหญ่ ขณะที่ สัตว์มีกระดูกสันหลังและมนุษย์มี สมอง ไขสันหลัง เส้นประสาท และ ปมประสาท 16 15 2. อธิบาย เกี่ยวกับ โครงสร้าง และหน้าที่ ของเซลล์ ประสาท โครงสร้างของระบบประสาท ประกอบด้วยเนื้อเยื่อประสาท โดยมีเซลล์ประสาทเป็นหน่วยการ ทำ งาน และมีเซลล์เกลียทำ หน้าที่ ค้ำ จุนและสนับสนุนการทำ งานของเซลล์ประสาท เซลล์ ประสาท ประกอบด้วยตัวเซลล์และ เส้นใยประสาทที่แบ่งได้2 ชนิด คือ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 334 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน เดนไดรต์และแอกซอน โดยแอก ซอน อาจมีหรือไม่มีเยื่อไมอีลินหุ้ม เซลล์ประสาทยังจำแนกได้ตามจำ นวนเส้นใยประสาท หรือหน้าที่ของ เซลล์ประสาท 3. อธิบาย เกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลง ของศักย์ไฟฟ้า ที่เยื่อหุ้มเซลล์ ของเซลล์ ประสาท และ กลไกการ ถ่ายทอด กระแส ประสาท 4. อธิบาย และสรุป เกี่ยวกับ โครงสร้างของ ระบบ ประสาท ส่วนกลาง และระบบ ศูนย์ควบคุมระบบประสาทในสัตว์ มีกระดูกสันหลังและมนุษย์เกิดจาก การทำ งานของระบบ ประสาท ส่วนกลางและระบบประสาทรอบ นอก ระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลัง ใน มนุษย์สมองมีการพัฒนาโดย แบ่งเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนแม้จะมี หน้าที่ต่างกันแต่ทำ งานสัมพันธ์กัน ส่วนไขสันหลังทำ หน้าที่ ประมวลผลการตอบสนองต่าง ๆ เช่น การเกิดรีเฟล็กซ์และการ ถ่ายทอดกระแส ประสาทระหว่าง ไขสันหลังกับสมอง ทั้งสมองและไข สันหลังจะมีเส้นประสาทสมองและ เส้นประสาท ไขสันหลังเชื่อมโยง ระหว่างหน่วยรับความรู้สึกกับ หน่วยปฏิบัติงาน ส่วนระบบ ประสาทรอบนอก แบ่งได้เป็น
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 335 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน ประสาทรอบ นอก ระบบประสาทโซมาติกควบคุม หน่วยปฏิบัติงานที่บังคับได้และ ระบบประสาทอัตโนวัติควบคุม หน่วยปฏิบัติงานที่บังคับไม่ได้ 6. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และ ยกตัวอย่าง การทำงาน ของระบบ ประสาท โซมาติก และ ระบบ ประสาท อัตโนวัติ เมื่อเซลล์ประสาทถูกกระตุ้นถึง ระดับเทรสโฮลด์จะเกิดกระแส ประสาทหรือแอกชันโพเทนเชียล โดยเกิดการเปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้า เยื่อเซลล์บริเวณแอกซอน มีการ เคลื่อนที่เข้าและออกของไอออน บางชนิดผ่านช่องไอออนที่มีประตู ทำ ให้ศักย์ไฟฟ้าเยื่อเซลล์ภายใน เซลล์สูงกว่าภายนอกเซลล์และลด ต่ำ ลงอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ระยะ พัก กระแสประสาทจะเกิดขึ้น ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนถึงปลายแอก ซอน แอกซอนที่มีเยื่อไมอีลินหุ้มจะ มีการนำ กระแสประสาทได้เร็วกว่า ที่ไม่มีเยื่อไมอีลินหุ้ม กระแส ประสาท สามารถถ่ายทอดไปยัง เซลล์ประสาทหรือเซลล์อื่น ๆ ได้ โดยผ่านไซแนปส์ 7. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย โครงสร้าง และหน้าที่ อวัยวะรับความรู้สึกของมนุษย์ ได้แก่ ตา หูจมูก ลิ้น และผิวหนัง มีหน่วยรับความรู้สึก เมื่อมีสิ่ง เร้า มากระตุ้นจะส่งกระแสประสาทไป
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 336 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน ของตา หู จมูก ลิ้น และ ผิวหนังของ มนุษย์ ยกตัวอย่าง โรค ต่าง ๆ ที่ เกี่ยวข้อง และ บอกแนวทาง ในการดูแล ป้องกัน และ รักษา ยังระบบประสาทส่วนกลางเพื่อ ประมวลผลและแปลความหมาย เป็นการรับรู้ต่อสิ่งเร้าทำ ให้เกิด การตอบสนองได้อย่างเหมาะสม 2 การเคลื่อนที่ของ สิ่งมีชีวิต 9. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และ เปรียบเทียบ โครงสร้าง และหน้าที่ ของอวัยวะที่ เกี่ยวข้องกับ การเคลื่อนที่ ของ แมงกะพรุน หมึก ดาว สิ่งมีชีวิตมีโครงร่างช่วยค้ำ จุน ร่างกายให้คงรูปและช่วยในการ เคลื่อนที่ สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวบาง ชนิดมีไซโทสเกเลตอนช่วยในการ เคลื่อนที่เช่น การไหลของไซ โทพลาซึมเป็นเท้าเทียมของอะมีบา การ พัดโบกแฟลเจลลัมของ ยูกลีนา การพัดโบกซิเลียของ พารามีเซียม ส่วนสิ่งมีชีวิตหลาย เซลล์ที่ไม่มีกระดูก สันหลังบาง ชนิดมีไฮโดรสเตติกสเกเลตอนช่วย ในการ 8 10
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 337 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน ทะเล ไส้เดือน ดิน แมลง ปลา และนก เคลื่อนที่ เช่น แมงกะพรุนอาศัย การหดตัวของ เนื้อเยื่อขอบกระดิ่ง และแรงดันน้ำ หมึกใช้กล้ามเนื้อ บริเวณลำ ตัวและแรงดันน้ำ ดาว ทะเลเคลื่อนที่โดย อาศัยแรงดันน้ำ และระบบท่อน้ำ ภายในร่างกาย ไส้เดือนดินใช้เดือยและการทำ งาน ของกล้ามเนื้อ ผนังลำ ตัวสองชุด ทำ งานในสภาวะตรงกันข้าม แมลง เคลื่อนที่โดยอาศัยกล้ามเนื้อ ยึดติดกับโครงร่างแข็ง ภายนอก กล้ามเนื้อสองชุดทำ งานในสภาวะ ตรงกันข้ามทั้งที่ขาและที่ปีก 10. สืบค้น ข้อมูล และ อธิบาย โครงสร้าง และหน้าที่ ของกระดูก และกล้ามเนื้อ ที่เกี่ยวข้องกับ การ เคลื่อนไหว และการ เคลื่อนที่ของ มนุษย์ มนุษย์เคลื่อนที่โดยอาศัยการทำ งานของโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยทำ งานร่วมกับระบบ ประสาท เช่นเดียวกับสัตว์มีกระดูกสันหลัง ชนิดอื่น กระดูกบริเวณข้อต่อ เชื่อมต่อกันด้วยเอ็นยึดข้อ กล้ามเนื้อโครงร่างยึดติดกับกระดูก การที่กล้ามเนื้อ 2 ชุดทำ งาน ร่วมกันในสภาวะตรงกันข้ามทำ ให้เกิด การเคลื่อนไหว การหดตัว ของกล้ามเนื้อโครงร่างเกิดจากการ เลื่อนของแอกทินเข้าหากันตรง
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 338 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน สอบกลางภาค 1 20 3 ระบบต่อมไร้ท่อ 12. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และเขียน แผนผังสรุป หน้าที่ของ ฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อ และเนื้อเยื่อที่ สร้างฮอร์โมน ระบบต่อมไร้ท่อมีการทำ งาน ร่วมกันกับระบบประสาทเพื่อ ควบคุมการทำ งานของระบบ ต่าง ๆ ในร่างกาย ระบบประสาทมี สารสื่อประสาทเป็นตัวกลางในการ ถ่ายทอดกระแสประสาทไปยัง เซลล์เป้าหมายโดยตรง ในขณะที่ ระบบต่อมไร้ท่อจะมีฮอร์โมนซึ่ง ลำเลียงผ่านระบบหมุนเวียนเลือด ไปยังเซลล์เป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่อยู่ ไกลออกไปและมีตัวรับที่จำเพาะต่อ ฮอร์โมน 12 10 12. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และเขียน แผนผังสรุป หน้าที่ของ ฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อ และเนื้อเยื่อที่ สร้างฮอร์โมน มนุษย์และสัตว์มีกระดูกสันหลังมี ต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อทำ หน้าที่ ผลิตฮอร์โมน กระจายอยู่ใน ตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เช่น ต่อมใต้สมอง ตับอ่อน ต่อมหมวก ไต ต่อมไทรอยด์ ต่อมพารา ไทรอยด์อวัยวะสืบพันธุ์ ต่อมไพเนียล เนื้อเยื่อของกระเพาะ อาหาร ลำ ไส้เล็กส่วนดูโอดินัม ไทมัส รก และไต โดยสร้างและ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 339 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน หลั่งฮอร์โมนซึ่งอาจเป็นสาร ประเภทเพปไทด์หรือโปรตีน เอมีน หรือสเตอรอยด์ 12. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และเขียน แผนผังสรุป หน้าที่ของ ฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อ และเนื้อเยื่อที่ สร้างฮอร์โมน ฮอร์โมนมีหลายชนิด ทำหน้าที่ แตกต่างกันและควบคุมการทำงาน ของร่างกาย เช่น เมแทบอลิซึม การย่อยอาหาร การควบคุมดุลย ภาพของสารในเลือด การสืบพันธุ์ การเจริญเติบโต จึงอาจแบ่ง ฮอร์โมน ออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้ ฮอร์โมนที่ควบคุมการสร้างและ หลั่งฮอร์โมนชนิดอื่น ฮอร์โมนที่ ควบคุมและ เกี่ยวข้องกับเมแทบอ ลิซึม ฮอร์โมนที่ควบคุมการสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนที่ ควบคุม การรักษาดุลยภาพของน้ำ และแร่ธาตุ และฮอร์โมนที่ทำ หน้าที่อื่นๆ นอกจากนี้สัตว์ยังมี ฟีโรโมนซึ่ง ผลิตจากต่อมมีท่อของ สัตว์ซึ่งส่งผลต่อสัตว์ตัวอื่นที่เป็น สปีชีส์เดียวกัน 12. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และเขียน แผนผังสรุป หน้าที่ของ การรักษาสมดุลของฮอร์โมน เป็น การควบคุมการหลั่งฮอร์โมนของ ต่อมไร้ท่อ โดยปริมาณของ
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 340 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน ฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อ และเนื้อเยื่อที่ สร้างฮอร์โมน ฮอร์โมนเอง ระดับสารเคมีอื่น ๆ ในเลือด และระบบประสาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิธีการควบคุมแบบ ป้อนกลับ ซึ่งมี 2 แบบ คือแบบ ป้อนกลับยับยั้ง และแบบป้อนกลับ กระตุ้น 4 ระบบสืบพันธุ์และการ เจริญเติบโต 13. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และ ยกตัวอย่าง การสืบพันธุ์ แบบไม่อาศัย เพศ และการ สืบพันธุ์แบบ อาศัยเพศ ในสัตว์ การสืบพันธุ์เป็นลักษณะเฉพาะของ สิ่งมีชีวิต เป็นความสามารถใน การให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตใหม่ จาก สิ่งมีชีวิตเดิมเพื่อดำรงพันธุ์ไว้การ สืบพันธุ์ของสัตว์มีแบบไม่อาศัยเพศ และแบบอาศัยเพศการสืบพันธุ์ แบบไม่อาศัยเพศเป็นการสืบพันธุ์ ที่ไม่มีการรวมของเซลล์สืบพันธุ์เช่น การแตกหน่อ การแบ่ง แยกตัว และการงอกใหม่ ส่วนการสืบพันธุ์ แบบอาศัยเพศเป็นการสืบพันธุ์ที่มี การรวมนิวเคลียสของ เซลล์ สืบพันธุ์ซึ่งมีทั้งการปฏิสนธิ ภายนอกและการปฏิสนธิภายใน สัตว์บางชนิดมี2 เพศในตัวเดียวกัน แต่การผสมพันธุ์ส่วนใหญ่จะผสม ข้ามตัว 16 15
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 341 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน 14. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย โครงสร้าง และหน้าที่ ของอวัยวะใน ระบบสืบพันธุ์ เพศชาย และ ระบบสืบพันธุ์ เพศหญิง 15. อธิบาย การ เจริญเติบโต ระยะ เอ็มบริโอ และ ระยะหลัง เอ็มบริโอของ กบ ไก่ และ มนุษย์ อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศชาย ประกอบด้วยอัณฑะทำหน้าที่สร้าง สเปิร์มและฮอร์โมนเพศชาย และ มีโครงสร้างอื่น ๆ ที่ทำ หน้าที่ลำ เลียงสเปิร์ม สร้างน้ำเลี้ยงอสุจิและ สารหล่อลื่นท่อปัสสาวะ โดยอัณฑะ ประกอบด้วยหลอดสร้างอสุจิที่ ภายในมีสเปอร์มาโทโกเนียมที่เป็น เซลล์ตั้งต้นของกระบวนการสร้าง สเปิร์ม ซึ่งจะมีการแบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิสได้สเปอร์มาโทโกเนียมจำ นวนมาก แล้วมีส่วนหนึ่งพัฒนา เป็นสเปอร์มาโทไซต์ระยะแรก โดยสเปอร์มาโทไซต์ระยะแรกจะ แบ่งเซลล์แบบไมโอซิส I ได้เป็น สเปอร์มาโทไซต์ระยะที่สองที่จะ แบ่งเซลล์แบบไมโอซิส II ได้สเปอร์ มาทิดตามลำดับ จากนั้นพัฒนา เป็นสเปิร์ม อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ประกอบด้วย รังไข่ ท่อนำไข่ มดลูก และช่องคลอด รังไข่ทำ หน้าที่ สร้างเซลล์ไข่และฮอร์โมนเพศหญิง กระบวนการสร้างเซลล์ไข่เริ่มจาก โอโอโกเนียมแบ่งเซลล์แบบ ไมโท ซิสและไมโอซิส I และจะหยุดอยู่ที่
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 342 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน ระยะโพรเฟส I ได้เป็นโอโอไซต์ ระยะแรก เมื่อเข้าสู่วัย เจริญพันธุ์ จึงแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส I ต่อและ ตามด้วยไมโอซิส II 16. อธิบาย การ เจริญเติบโต ระยะ เอ็มบริโอ และ ระยะหลัง เอ็มบริโอของ กบ ไก่ และ มนุษย์ การเจริญเติบโตของสัตว์เช่น กบ ไก่ และมนุษย์มีแบบแผนคล้ายกัน เริ่มต้นด้วยการแบ่งเซลล์ของไซโกต การจัดเรียงตัวของกลุ่มเซลล์ของ เอ็มบริโอเป็น 3 ชั้น คือ เอ็กโทเดิร์ม เมโซเดิร์ม และ เอนโดเดิร์ม การเกิดอวัยวะ โดยมี การเพิ่มจำ นวน ขยายขนาด และ การเปลี่ยนสภาพของเซลล์ พัฒนาการของอวัยวะต่าง ๆ จะทำ ให้มีรูปร่างและโครงสร้างที่แน่นอน ในสัตว์แต่ละสปีชีส์ การเจริญเติบโต ของเอ็มบริโอมนุษย์จะมีขั้นตอนคล้าย กับการเจริญเติบโตของสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยน้ำ นม อื่นๆ โดยเอ็มบริโอจะฝัง ตัวที่ผนังมดลูกและมีการแลกเปลี่ยน สารระหว่างแม่กับลูกผ่านทางรกและ สายสะดือ เมื่อครบกำ หนดจะคลอด เป็นทารก โดยสัตว์จะมีการเติบโต ของร่างกายจนเป็นตัวเต็มวัยที่ สมบูรณ์และมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงระยะหนึ่งจะชะลอการเติบโต
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 343 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 5 พฤติกรรมของสัตว์ 17. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และ ยกตัวอย่าง พฤติกรรมที่ เป็นมาแต่ กำเนิด และ พฤติกรรม ที่เกิดจากการ เรียนรู้ของ สัตว์ พฤติกรรม คือ ปฏิกิริยาที่สิ่งมีชีวิต แสดงเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มา กระตุ้น ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ รอดได้โดยพันธุกรรมและ สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการแสดง พฤติกรรม การศึกษาพฤติกรรม ของสัตว์อาจศึกษาได้2 แนวทาง คือ แนวพรอกซิเมตคอส แนวอัลทิเมตคอส 6 10 17. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และ ยกตัวอย่าง พฤติกรรมที่ เป็นมาแต่ กำเนิด และ พฤติกรรม ที่เกิดจากการ เรียนรู้ของ สัตว์ กลไกการแสดงออกของพฤติกรรม และสิ่งเร้าที่ทำ ให้เกิดพฤติกรรม รวมถึงพัฒนาการของพฤติกรรมที่ เกิดขึ้น และการศึกษาพฤติกรรม ในแนวอัลทิเมตคอส เป็นการศึกษา ผลของพฤติกรรมที่สัตว์แสดงออก ต่อการปรับตัวในสิ่งแวดล้อมที่ แตกต่างกัน ตลอดจนวิวัฒนาการ ของพฤติกรรมนั้นๆ เมื่อเทียบกับ สัตว์กลุ่มที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กัน 17. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย พฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำ เนิดเป็น พฤติกรรมที่แสดงออกมาโดย
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 344 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น่ำหนัก คะแนน เปรียบเทียบ และ ยกตัวอย่าง พฤติกรรมที่ เป็นมาแต่ กำเนิด และ พฤติกรรม ที่เกิดจากการ เรียนรู้ของ สัตว์ ไม่ต้องได้รับการฝึกฝน สามารถ ถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม เช่น ฟิกซ์แอกชันแพทเทิร์น โอเรียนเทชัน รีเฟล็กซ์และรีเฟล็กซ์ ต่อเนื่อง พฤติกรรมที่เกิดจากการ เรียนรู้เป็นพฤติกรรมที่อาศัย ประสบการณ์จึงจะแสดงพฤติกรรม ได้อย่างเหมาะสม แบ่งได้เป็น แฮบิชูเอชัน การฝังใจ การเชื่อมโยง (การมีเงื่อนไขและการลองผิดลอง ถูก) และการใช้เหตุผล 18. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และ ยกตัวอย่าง ความสัมพันธ์ ระหว่าง พฤติกรรมกับ วิวัฒนาการ ของระบบ ประสาท ระดับการแสดงพฤติกรรมที่สัตว์แต่ ละชนิดแสดงออกจะแตกต่างกันซึ่ง มีความสัมพันธ์กับ วิวัฒนาการของ ระบบประสาทที่แตกต่างกัน และ มนุษย์สามารถแสดงพฤติกรรมการ ใช้เหตุผลได้ดีที่สุด 5.5 การสื่อสารระหว่างสัตว์ 19. สืบค้น ข้อมูล อธิบาย และ การสื่อสารในสัตว์เป็นพฤติกรรม เพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจตรงกัน
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 345 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ยกตัวอย่าง การสื่อสาร ระหว่างสัตว์ที่ ทำให้สัตว์ แสดง พฤติกรรม ซึ่งมีหลายวิธีเช่น การสื่อสารด้วย เสียง การสื่อสารด้วยท่าทาง การสื่อสารด้วยการสัมผัส และ การสื่อสารด้วยสารเคมี(ฟีโรโมน) สอบปลายภาค 1 20 รวม 60 100
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 346 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาเพิ่มเติม ว30246 ชีววิทยา 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง (3 ชั่วโมง/สัปดาห์) จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดเซลล์เริ่มแรก ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตกลุ่ม โพรแคริโอต ได้แก่ แบคทีเรีย อาร์เคีย และกลุ่มยูแคริโอต ได้แก่ โพรทิสต์ พืช ฟังไจ สัตว์ ศึกษาการจำแนก สิ่งมีชีวิต การตั้งชื่อ และการระบุชื่อวิทยาศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิต ในระบบนิเวศ ความหลากหลายของระบบนิเวศ และกระบวนการที่สำคัญในระบบนิเวศ เช่น วัฏจักรสาร และ การถ่ายทอดพลังงานในสิ่งมีชีวิต ศึกษาเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของประชากร การเติบโตของประชากร และ ประชากรมนุษย์ในแง่ของโครงสร้างอายุของประชากร และอัตราส่วนระหว่างเพศ ศึกษาเกี่ยวกับประเภทของ ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งทรัพยากรน้ำ ดิน อากาศ ป่าไม้ และสัตว์ป่า รวมทั้งปัญหา และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมชนิดพันธุ์ ต่างถิ่นที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้ง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ข้อ 1 อภิปรายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และความเชื่อมโยงระหว่างความหลากหลาย ทางพันธุกรรม ความหลากหลายของสปีชีส์ และความหลากหลายของระบบนิเวศ ข้อ 2 อธิบายการเกิดเซลล์เริ่มแรก และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ข้อ 3 อธิบายลักษณะสำคัญ และยกตัวอย่างสิ่งมีชีวิตกลุ่มแบคทีเรีย สิ่งมีชีวิตกลุ่มโพรทิสต์ สิ่งมีชีวิตกลุ่ม พืช สิ่งมีชีวิตกลุ่มฟังไจ และสิ่งมีชีวิตกลุ่มสัตว์ ข้อ 4 อธิบาย และยกตัวอย่างการจำแนกสิ่งมีชีวิตจากหมวดหมู่ใหญ่จนถึงหมวดหมู่ย่อย และวิธีการเขียน ชื่อวิทยาศาสตร์ในลำดับขั้นสปีชีส์
เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนนครไทย พุทธศักราช 2565 347 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนนครไทย ข้อ 5 สร้างไดโคโทมัสคีย์เพื่อใช้ในการระบุสิ่งมีชีวิตหรือตัวอย่างที่กำหนด ข้อ 6 วิเคราะห์ อธิบาย และยกตัวอย่างกระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ข้อ 7 อธิบาย ยกตัวอย่างการเกิดไบโอแมกนิฟิเคชัน และบอกแนวทางในการลดการเกิด ไบโอแมกนิฟิเคชัน ข้อ 8 สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพ เพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวัฏจักร ฟอสฟอรัส ข้อ 9 สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอธิบายลักษณะของไบโอมที่กระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ บนโลก ข้อ 10 สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง อธิบาย และเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิและ การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบทุติยภูมิ ข้อ 11 สืบค้นข้อมูล อธิบาย ยกตัวอย่าง และสรุปเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมีชีวิต บางชนิด ข้อ 12 สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเซียล และการเพิ่มของประชากรแบบลอจิสติก ข้อ 13 อธิบาย และยกตัวอย่างปัจจัยที่ควบคุมการเติบโตของประชากร ข้อ 14 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาการขาดแคลนน้ำ การเกิดมลพิษทางน้ำ และผลกระทบที่มี ต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเสนอแนวทางการวางแผนการจัดการน้ำ และการแก้ไขปัญหา ข้อ 15 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรดิน และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์ และ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ข้อ 16 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหามลพิษอากาศ และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ข้อ 17 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา ผลกระทบที่เกิดจากการทำลายป่าไม้ รวมทั้งเสนอแนวทางใน การป้องกันการทำลายป่าไม้ และการอนุรักษ์ป่าไม้ ข้อ 18 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา ผลกระทบที่ทำให้สัตว์ป่ามีจำนวนลดลง และแนวทางในการ อนุรักษ์สัตว์ป่า รวมทั้งหมด 18 ข้อ