๓๑๒
ต 1.4 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
รวม 20 ตัวชี้วัด
คาอธบิ ายรายวชิ า
อ 32101 ภาษาอังกฤษ 3 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถอธบิ าย เขียนประโยค และข้อความ ใหส้ ัมพันธ์กับสอ่ื รูปแบบตา่ งๆ จับใจความสาคัญ วิเคราะห์
ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการฟงั และการอ่านเรื่อง พร้อมทัง้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่าง
ประกอบ สามารถเขียนและพูดแสดงความต้องการ การเสนอ การตอบรับการปฎิเสธ การให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณต์ ่างๆได้อย่างเหมาะสม สามารถนาเสนอข้อมูลโดยการพูด และเขียนสรุปใจความสาคัญท่ไี ด้จากการ
วเิ คราะห์เร่ือง กจิ กรรมข่าว เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ และสถานการณ์ได้ อธิบายหรอื อภิปรายวิถีชีวิต ความคิดความเรียง
และทม่ี าของขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจ้าของภาษาโดยการศึกษาค้นคว้าประเพณีต่างๆในทอ้ งถิ่นและวิถี
การใช้ชีวิตแบบพอเพยี งของชุมชนในท้องถ่ินสมุทรสงครามวิเคราะห์และอภิปรายความเหมอื นและความแตกตา่ ง
ระหวา่ ง วิถีชีวิต ความเช่ือและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทยและนาไปใช้อยา่ งมีเหตุผล ค้นควา้ สืบค้น
บันทึก สรปุ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ และ
นาเสนอด้วยการพูดและการเขียนภาษาต่างประเทศในการสืบค้น ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้
ข้อมูลต่างๆ จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพและบูรณาการตามหลักปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพียง
โดยใช้ทกั ษะ / กระบวนการพดู และการเขยี นให้มีความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ในการนา
กระบวนการตา่ งๆไปใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน
จากกระบวนการเรียนรู้ตา่ งๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเปน็ เลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลติ งานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สตั ยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4
ต 1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5
๓๑๓
ต 1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
รวม 21 ตัวชวี้ ัด
คาอธบิ ายรายวิชา
อ 32102 ภาษาอังกฤษ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถอธิบาย เขียนประโยค และข้อความ ให้สัมพันธ์กับส่ือรูปแบบต่างๆ จับใจความสาคัญ
วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและการอ่านเรื่อง พร้อมทั้งให้เหตุผลและ
ยกตวั อยา่ งประกอบ สามารถเขยี นเล่าเรอื่ งสถานทีส่ าคัญในท้องถ่นิ เชน่ อนุสาวรีย์
แฝดอินจันและพูดแสดงความต้องการ การเสนอ การ ตอบรบั การปฏิเสธ การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์
ตา่ งๆได้อยา่ งเหมาะสม สามารถนาเสนอข้อมลู โดยการพูด และเขียนสรุปใจความสาคัญทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะห์เรอื่ ง
กิจกรรมข่าว เหตุการณ์ต่างๆ และสถานการณ์ได้ อธิบายหรืออภิปรายวถิ ีชีวิต ความคิด ความเรียงและที่มาของ
ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของของภาษาวิเคราะห์และอภิปรายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่าง
วิถีชีวิต ความเชื่อและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทยและนาไปใช้อย่างมีเหตุผล ค้นคว้า สืบค้น บันทึก
สรปุ และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ และนาเสนอ
ด้วยการพูดและการเขียนภาษาต่างประเทศในการสืบค้น ค้นควา้ รวบรวม วเิ คราะห์ และสรุปความรู้ข้อมลู ตา่ งๆ
จากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพและบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
โดยใช้ทักษะ/ กระบวนการเขียนและการอา่ นให้มีความสามารถในการสือ่ สารโดยการเขยี นเพือ่
ถ่ายทอดความคิดและเป็นการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผดิ ชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย
๓๑๔
มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุ
เป้าหมายของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4
ต 1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5
ต 1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
รวม 21 ตวั ช้ีวัด
คาอธิบายรายวิชา
อ 33101 ภาษาองั กฤษ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าใจน้าเสียง ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู ออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง ถูกตอ้ งตามหลักการ
อ่าน อธิบายและเขยี นปฏิบตั ติ ามคาแนะนาในคู่มอื การใช้งานตา่ ง ๆ คาอธิบาย เขียนประโยคและขอ้ ความสมั พนั ธ์กบั ส่ือ
ทไ่ี ม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่าง ๆ ที่อ่าน จับใจความสาคญั วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก
การฟังและอ่านเร่ืองที่เป็นสารคดี และบันเทิงคดี สนทนา และเขียนโต้ตอบข้อมูลท่ีเก่ียวกับเร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัว
ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นท่ีอยู่ในความสนใจอย่างต่อเน่ือง เหมาะสม เลือกและใช้คาขอร้อง คาชี้แจง
คาอธิบาย และให้คาแนะนา พูดและเขยี นแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตอบรบั แลปฏเิ สธการใหค้ วาม
ช่วยเหลือในสถานการณ์จาลองและสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม พูดและเขียนนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
ประสบการณต์ ่าง ๆ พูดและเขียนสรปุ ใจความสาคัญ แกน่ สาระท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง กิจกรรม เหตุการณต์ ่าง ๆ ทั้ง
ในท้องถ่ิน สังคม และโลก เลือกใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิริยา ท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคลสามารถใช้ภาษาอังกฤษ
สนทนากับนักท่องเท่ียวที่ตลาดน้าอัมพวาได้อย่างเหมะสม เวลา โอกาส และสถานท่ีตามมารยาทของสังคม และ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าร่วม แนะนา และจัดกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม อธิบาย
เปรียบเทยี บความแตกต่างระหว่างโครงสรา้ งประโยค ข้อความ สานวน ของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า
บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และ
๓๑๕
นาเสนอด้วยการพดู และเขียนสามารถเผยแพร่ ประชาสมั พันธ์ข้อมลู ข่าวสารของโรงเรียนชุมชนและท้องถนิ่ ประเทศชาติ
เป็นภาษาอังกฤษได้ โดยมีการวัดผลและประเมินผลอย่างหลากหลายตามสภาพจริง และบูรณาการตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง
โดยใชท้ ักษะ / กระบวนการพดู การอ่านใหม้ ีความสามารถในการสอ่ื สารและใช้ภาษาในการถา่ ยทอดความคิด
เพอ่ื แลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสารและประสบการณอ์ นั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและสงั คม
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สตั ยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4
ต 1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม4-6/5
ต 1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
รวม 21 ตวั ช้ีวดั
คาอธิบายรายวิชา
อ 31102 ภาษาองั กฤษ 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาในคู่มอื การใชง้ านตา่ ง ๆ คาอธิบาย และคาบรรยายทีฟ่ ังและอา่ น อ่าน
ออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง ถูกต้องตามหลักการอ่าน อธิบายและเขยี นประโยคและ
ข้อความสัมพันธ์กับสื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ที่อ่าน จับใจความสาคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ
ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและอ่านเรื่องท่ีเป็นสารคดี และบันเทิงคดี สนทนา และเขียนโต้ตอบ
ข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจอย่างต่อเน่ือง
เหมาะสม เลือกและใช้คาขอร้อง คาช้ีแจง คาอธบิ าย และให้คาแนะนา พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอ
๓๑๖
และให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์จาลองและสถานการณ์จริงอย่าง
เหมาะสม พูดและเขียนนาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกับตนเองและสถานทีส่ าคญั ในทอ้ งถิ่นไดแ้ ก่วัดคา่ ยบางกุ้ง บ้านครเู อ้ือ
ประสบการณ์ต่าง ๆ พดู และเขยี นสรุปใจความสาคัญ แก่นสาระทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง กิจกรรม เหตุการณต์ ่าง
ๆ ท้ังในทอ้ งถนิ่ สังคม และโลก เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยา ทา่ ทางเหมาะกบั ระดับของบุคคล เวลา โอกาส
และสถานที่ตามมารยาทของสังคม และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เข้าร่วม แนะนา และจัดกิจกรรมทางภาษา
และวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม อธิบาย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สานวน
ของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ค้นคว้า บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เก่ียวข้องกับ
กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน จากแหล่งเรียนร้ตู า่ ง ๆ และนาเสนอด้วยการพดู และเขยี นสามารถเผยแพร่ ประชาสมั พันธ์
ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียนชุมชนและท้องถ่ินประเทศชาติเป็นภาษาอังกฤษได้ โดยมีการวัดผลและประเมินผล
อย่างหลากหลายตามสภาพจริง ครอบคลุมทักษะท้ัง 4 ด้าน รวมท้ังคุณธรรม จริยธรรมที่พึงประสงค์และบูรณา
การตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
โดยใช้ทักษะ /กระบวนการพูดและการเขียนให้มีความสามารถในการสื่อสารและการใช้ภาษาในการ
ถ่ายทอดความคิดเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและ
สังคมฝึกให้เกดิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ได้แก่ ใฝเ่ รยี นรู้มุง่ มนั่ ในการทางานและมีจิตสาธารณะ จากกระบวนการ
เรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกัน
รบั ผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มรี ะเบียบวินัย มีความซ่ือสัตย์สุจริต มี
จติ สาธารณะ ดารงชวี ติ บนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง หลีกเล่ยี งอบายมขุ เพ่ือบรรลุเป้าหมายของหลักสตู รโรงเรียน
มาตรฐานสากล
ตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4
ต 1.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม4-6/5
ต 1.3 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ต 2.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2
รวม 20 ตวั ชี้วดั
คาอธบิ ายรายวชิ า
อ 31201 ภาษาองั กฤษ เพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
๓๑๗
ใช้ภาษาในการสนทนาเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง บุคคล ตาแหน่งที่ตัง้ เหตกุ ารณ์ปัจจุบนั
อาชพี กจิ กรรมยามวา่ ง และการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จริงหรอื สถานการณจ์ าลองอย่างเหมาะสม จบั
ใจความสาคัญ วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟงั บทสนทนาและคาบรรยาย
ได้ถกู ตอ้ ง อธบิ าย เขียนข้อความและประโยคให้สัมพันธก์ บั สอื่ ที่ไม่ใช่ ความเรียงรูปแบบต่างๆ ท่ีฟงั และอ่าน
รวมทัง้ ระบุและเขยี นสื่อที่ไมใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ให้สมั พนั ธก์ ับประโยคและข้อความทีฟ่ ังหรืออ่านไดถ้ ูกต้อง
ปฏิบตั ิตามคาแนะนาในคมู่ อื การใช้งานต่างๆ คาชี้แจง คาอธบิ าย และคาบรรยายทีฟ่ งั และอ่านไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
เหมาะสม ระบุและอ่านออกเสียงคา ประโยค ข้อความไดถ้ กู ต้องตามหลกั การออกเสยี งภาษา
วเิ คราะห์ อภิปรายความเหมอื นและความแตกต่าง วิถีชวี ิต ความเชือ่ และวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ของไทย และนาไปใช้ได้อย่างมีเหตุผล คน้ คว้า สบื ค้น บันทกึ สรุป และแสวงหาความรู้เพือ่ เข้าสู่
สงั คมและอาชพี ท่เี กีย่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื การพูดสอื่ สาร ในการทางาน การสมคั รงานและการ
ประกอบอาชีพได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและนาเสนอดว้ ยการ
พูดและการเขียนไดอ้ ย่างเหมาะสม เลอื กใช้ภาษา น้าเสียง และกริ ิยาทา่ ทางได้เหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล
โอกาส และสถานท่ี ตามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
จากกระบวนการเรยี นรู้ตา่ งๆ ทาให้นกั เรยี นมีความเปน็ เลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคดิ ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. ใชภ้ าษาในการสนทนาเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง บคุ คล ตาแหน่งทีต่ ั้ง เหตกุ ารณป์ ัจจุบัน อาชีพ
กิจกรรมยามวา่ ง และการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณจ์ ริงหรอื สถานการณจ์ าลองอยา่ งเหมาะสม
2. จับใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็นจากการฟังบทสนทนาและคา
บรรยายไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ าย เขียนข้อความและประโยคให้สัมพันธ์กับสื่อท่ไี ม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบต่างๆ ที่ฟงั และอา่ น รวมทงั้
ระบุและเขยี นส่ือท่ีไม่ใชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ใหส้ ัมพันธ์กับประโยคและขอ้ ความทีฟ่ งั หรอื อ่านได้
ถกู ต้อง
4. ปฏิบัตติ ามคาแนะนาในคูม่ อื การใช้งานตา่ งๆ คาช้ีแจง คาอธิบาย และคาบรรยายที่ฟงั และอ่านได้อย่าง
ถกู ตอ้ งเหมาะสม
5. ระบุและอ่านออกเสียงคา ประโยค ข้อความไดถ้ กู ตอ้ งตามหลักการออกเสียงภาษา
6. วเิ คราะห์ อภปิ รายความเหมอื นและความแตกต่างวถิ ชี วี ติ ความเชอ่ื และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับ
ของไทย และนาไปใชไ้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล
7. ค้นคว้า สืบค้น บนั ทกึ สรุป และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ข้อมลู ท่เี กีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่
จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขียนได้อยา่ งเหมาะสม
๓๑๘
8. เลอื กใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิริยาท่าทางได้เหมาะสมกบั ระดบั ของบคุ คล โอกาส และสถานท่ี ตาม
มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
คาอธิบายรายวิชา
อ 31202 ภาษาองั กฤษ เพ่มิ เตมิ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
ใช้ประโยคความรวมและประโยคความซ้อนสอ่ื ความหมายตามบริบทต่างๆ ทงั้ ทเี่ ปน็ ทางการและไมเ่ ปน็
ทางการได้ถูกต้อง อธิบายและเขยี นขอ้ ความและประโยคใหส้ มั พนั ธ์กับส่ือทีไ่ ม่ใช่ความเรียงรปู แบบตา่ งๆ ท่ีอา่ นได้
เขียนข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เรอื่ งต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นทอ่ี ยูใ่ นความ
สนใจของสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม พดู และเขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทียบและแสดงความ
คดิ เหน็ เกีย่ วกับเรื่อง ประเดน็ ข่าว เหตกุ ารณ์ ที่ฟังและอา่ นไดอ้ ย่างเหมาะสม เขยี นบรรยายความร้สู ึกและแสดง
ความคดิ เห็นของตนเองเกีย่ วกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าวและเหตกุ ารณอ์ ย่างมเี หตุผลและ
สรา้ งสรรค์ เขยี นสรปุ ใจความสาคญั แก่นสาระทไี่ ด้จากการวิเคราะห์เรื่องกจิ กรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และ
สถานการณ์ตามความสนใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เลือกใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมกบั บุคคล กาลเทศะ มารยาททางสงั คม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาใช้ภาษาอังกฤษในการสบื ค้นข้อมูลจากส่อื และแหลง่ การเรยี นร้ตู า่ งๆ ตรวจสอบ
และแก้ไขการใช้ภาษาในงานเขยี นของตนเองและผู้อน่ื ตามรายการท่ีกาหนด และเขียนใหข้ อ้ คดิ เห็นประกอบได้
และสามารถบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สตั ย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรียนรู้
1. ใช้ประโยคความรวมและประโยคความซอ้ นสอ่ื ความหมายตามบริบทต่างๆ ทัง้ ท่ีเปน็ ทางการและไม่เปน็
ทางการได้ถูกตอ้ ง
2. อธบิ ายและเขยี นข้อความและประโยคให้สมั พนั ธ์กับสือ่ ท่ีไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ งๆ ทอ่ี า่ นได้
3. เขยี นขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นทอ่ี ยู่ใน
ความสนใจของสงั คมได้อย่างเหมาะสม
4. พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทยี บและแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเร่อื ง
ประเดน็ ขา่ ว เหตกุ ารณ์ ที่ฟังและอ่านไดอ้ ย่างเหมาะสม
5. เขยี นบรรยายความรสู้ ึกและแสดงความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกับเร่อื งต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ขา่ ว
และเหตกุ ารณ์อย่างมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์
๓๑๙
6. เขียนสรปุ ใจความสาคญั แกน่ สาระท่ไี ดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่อื งกจิ กรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และสถานการณ์
ตามความสนใจได้อยา่ งเหมาะสม
7. เลอื กใช้ภาษาไดเ้ หมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ มารยาททางสังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
8. ใช้ภาษาองั กฤษในการสืบค้นขอ้ มูลจากสื่อและแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ
9. ตรวจสอบและแก้ไขการใช้ภาษาในงานเขยี นของตนเองและผู้อน่ื ตามรายการท่กี าหนด และเขยี นให้
ขอ้ คิดเหน็ ประกอบได้
คาอธิบายรายวิชา
อ 32201 ภาษาองั กฤษ เพ่มิ เติม กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
ใชภ้ าษาในการสนทนาเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง บคุ คล เหตกุ ารณ์ และประเดน็ ท่ีอยใู่ น
ความสนใจของสงั คม ทิศทาง ที่ตัง้ ของสงิ่ ของและสถานท่ี และการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์จรงิ หรือ
สถานการณจ์ าลองอย่างเหมาะสม จับใจความสาคัญ วเิ คราะห์ความ สรุป/ตีความจากการฟังประโยค ขอ้ ความ
บทสนทนา และเร่ืองต่าง ๆ ได้ รวมท้งั พดู แสดงความรูส้ ึก อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับ
เรอ่ื งและเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ อย่างมเี หตผุ ล มีมารยาทสังคมในการเลอื กใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ าท่าทางในการพูด
และสนทนาไดอ้ ย่างเหมาะสมในระดบั ของบคุ คล โอกาส สถานที่ และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ได้รับการ
ส่งเสริมให้เป็นผ้ทู ม่ี ีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน และเหน็ คณุ ค่าของภาษาอังกฤษในการสบื ค้นขอ้ มูลจากสือ่
และแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เพื่อการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี มีความร้จู ัก เข้าใจ และภูมิใจในตนเอง เคารพสิทธิ
ของตนเองและผอู้ ืน่
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. พูดขอและใหข้ ้อมูล สนทนาโตต้ อบเกยี่ วกบั ขอ้ มูลสว่ นตวั รายละเอยี ดสิง่ ของ ขอรอ้ ง ขอความ
ชว่ ยเหลือ ขอคาแนะนาและบรรยายข้นั ตอนการใชเ้ ครื่องมอื ขอยืมให้ยืมสิ่งของ ขออนุญาต บอกเหตุผล/ข้ออ้าง/
ข้อแก้ตัว สถานการณต์ ่าง ๆ ในชวี ิตประจาวันได้ถูกตอ้ งและเหมาะสมกับสถานการณ์
2. เขา้ ใจ จับใจความสาคญั บอกรายละเอยี ด ปฏิบตั ติ ามคาส่ังและเขยี นบันทกึ ขอ้ มูลจากเรอื่ งหรอื บท
สนทนาทฟี่ ัง
๓๒๐
คาอธิบายรายวชิ า
อ 32202 ภาษาองั กฤษ เพิ่มเตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกาศและโฆษณาเกี่ยวกับการสมัครงาน แล้วตีความวิเคราะห์และสรุปใจความได้ใช้
ภาษาต่างประเทศเพ่ือขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับประวัตสิ ่วนตัวการสมคั รงานและอาชีพในสถานการณ์จาลอง การ
แสวงหาความรูเ้ พือ่ เข้าสสู่ ังคมและอาชีพ ทเ่ี กีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ การพดู ส่อื สาร ในการทางาน การ
สมัครงานและการประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
โดยใช้ทกั ษะ/กระบวนการอา่ นให้มีความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ เปน็ ความสามารถในการนา
กระบวนการต่างๆไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ประจาวัน
จากกระบวนการเรียนรู้ตา่ งๆ ทาให้นกั เรยี นมคี วามเปน็ เลศิ วิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลติ งานอยา่ ง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่ือสตั ย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. อา่ นประกาศและโฆษณาเก่ยี วกับการสมัครงานสามารถตีความวเิ คราะห์ และสรปุ ความ
2. พูดและใช้ภาษาเพ่อื ให้ข้อมลู เกย่ี วกับประวัตสิ ่วนตวั การสมคั รงานและอาชพี ต่างๆ
3. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการแสวงหาความร้เู พ่ือเขา้ สู่สังคมและอาชพี และบูรณาการ
กับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่ืน
4. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเฉพาะดา้ นเพอื่ ส่อื สารเกีย่ วกับอาชพี ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
5. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื ค้น คน้ ควา้ รวบรวม วิเคราะห์และสรปุ ความรู้ ข้อมูลต่างๆ
๓๒๑
จากส่อื และแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆในการศกึ ษาต่อประกอบ
คาอธบิ ายรายวชิ า
อ 33201 ภาษาองั กฤษ เพ่มิ ติม กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถอธิบาย เขยี นประโยค และขอ้ ความ ให้สมั พนั ธก์ ับส่ือรูปแบบต่างๆ จบั ใจความสาคัญ วิเคราะห์
ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟงั และการอา่ นเรื่อง พร้อมทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่าง
ประกอบ สามารถเขียนและพูดแสดงความต้องการ การเสนอ การตอบรับ การปฏิเสธ การให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณต์ ่างๆได้อย่างเหมาะสม สามารถนาเสนอข้อมูลโดยการพูด และเขียนสรุปใจความสาคัญท่ไี ด้จากการ
วเิ คราะห์เรื่อง กิจกรรมข่าว เหตุการณ์ต่างๆ และสถานการณ์ได้ อธิบายหรืออภิปรายวิถีชวี ิต ความคิดได้แก่การ
ทอดผ้าป่าทางน้า การตักบาตรทางน้า(ชุมชนอัมพวา) ความเรียงและที่มาของขนบธรรมเนียมและประเพณีของ
เจา้ ของของภาษาวิเคราะห์และอภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง วิถีชีวิต ความเชื่อและวฒั นธรรม
ของเจ้าของภาษากับของไทยและนาไปใช้อย่างมีเหตุผล ค้นคว้า สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขียน
ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรขู้ ้อมูลต่างๆ จากสอื่ และแหล่งเรียนรู้
ต่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพและบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๓๒๒
โดยใช้ทักษะ/ กระบวนการการพูดและการเขียนให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่าง
สรา้ งสรรค์และคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณเพอ่ื นาไปส่กู ารสร้างองคค์ วามรเู้ พื่อการตดั สนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสังคมได้
อยา่ งเหมาะสม
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายและเขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพันธ์กับสื่อทไ่ี มใ่ ช่ความเรียงรปู แบบต่างๆทีอ่ ่านรวมทั้งระบุ
และเขียนส่อื ทไ่ี ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆใหส้ ัมพนั ธก์ ับประโยค และขอ้ ความที่ฟงั และอา่ น
2. จบั ใจความสาคญั วิเคราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็นจากการฟงั
และอา่ นเรอ่ื งทเ่ี ป็นสารคดีและบนั เทงิ คดี พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตผุ ลและ ยกตวั อย่างประกอบ
3. พดู และเขียนแสดงความต้องการเสนอ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความ ชว่ ยเหลือใน
สถานการณ์จาลอง หรอื สถานการณจ์ รงิ อย่างเหมาะสม
4. อธบิ าย อภิปราย วถิ ีชวี ิต ความคิด ความเชือ่ และท่มี าของขนบธรรมเนยี มและประเพณีของเจา้ ของ
ภาษา
5. ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง สถานการณจ์ าลองทีเ่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา
ชมุ ชนและสงั คม
คาอธบิ ายรายวชิ า
อ 33202 ภาษาองั กฤษ เพิ่มเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าใจตีความ วิเคราะห์และหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ส่ือที่เป็นความเรียงในรูปแบบต่างๆที่ซับซ้อน
ส่ือสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยถ่ายโอนเป็นข้อความท่ีใช้ถ้อยคาของตนเองรวมทั้งเข้าใจความแตกต่าง
ระหว่างภาษาต่างประเทศกับภาษาไทยในเรื่องคา วลี สานวน ประโยค ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคมได้อย่างเหมาะสมและบูรณาการตาม
หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
๓๒๓
วเิ คราะห์ สังเคราะห์ พูด อภิปรายและเขียนแสดงความคิดเห็นต่อวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ ความ
เป็นอยู่ของเจ้าของภาษาประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้ภาษาต่างประเทศ ในการแสวงหาความรู้จากเน้ือหา
ภาษาต่างประเทศท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลท่ีหลากหลายใน
รูปแบบต่างๆ โดยการศึกษาค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ท้องถ่ินเช่นอุทยาน ร. ๒รวมท้ังการแสวงหา
ความรู้จากส่ือเทคโนโลยีตลอดจนใช้ภาษาต่างประเทศในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อ่ืน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ข่าวสาร ข้อมลู ของชมุ ชน ทอ้ งถิ่น ในการสร้างความรว่ มมอื เชงิ สรา้ งสรรค์ได้
นาเสนอความคิดเหน็ ความคิดรวบยอด ขอ้ มูล เรือ่ งราว ประสบการณ์ กจิ กรรม เหตกุ ารณห์ รือเรื่องทั่วไป
ดว้ ยวธิ กี ารทส่ี รา้ งสรรค์และมีประสิทธภิ าพ
โดยใช้ทักษะ /กระบวนการพูด การเขียนให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางานและการแก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมคี ุณธรรม
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่อื สัตยส์ จุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจความหมาย ประเภท และขอบเขตของโครงงานภาษาองั กฤษ
2. ปฏบิ ัติตามขน้ั ตอนในการทาโครงงานได้
3. สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู และนาขอ้ มลู ไปใชใ้ นการทาโครงงานได้
4. เข้าใจองค์ประกอบและรปู แบบของโครงงาน
5. สามารถจดั ทาโครงงานในรูปแบบภาษาองั กฤษได้
6. สามารถนาเสนอโครงงานในรปู แบบต่างๆได้
คาอธบิ ายรายวิชา
อ 31207 ภาษาอังกฤษ เพอื่ การสอื่ สาร กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
๓๒๔
ใชภ้ าษาในการสนทนาเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง บุคคล ตาแหนง่ ทต่ี ั้ง เหตกุ ารณป์ ัจจุบนั
อาชพี กิจกรรมยามวา่ ง และการใหค้ วามช่วยเหลือในสถานการณ์จริงหรอื สถานการณ์จาลองอยา่ งเหมาะสม จับ
ใจความสาคัญ วเิ คราะหค์ วาม สรุปความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็นจากการฟงั บทสนทนาและคาบรรยาย
ได้ถกู ตอ้ ง อธิบาย เขยี นข้อความและประโยคให้สัมพันธ์กบั สอ่ื ทีไ่ มใ่ ช่ ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่ฟงั และอ่าน
รวมท้ังระบุและเขยี นส่อื ท่ีไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ งๆ ให้สัมพันธ์กับประโยคและขอ้ ความท่ฟี งั หรอื อา่ นได้ถกู ตอ้ ง
ปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาในคู่มอื การใช้งานต่างๆ คาชีแ้ จง คาอธบิ าย และคาบรรยายทีฟ่ ังและอ่านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
เหมาะสม ระบุและอ่านออกเสียงคา ประโยค ข้อความไดถ้ ูกต้องตามหลกั การออกเสยี งภาษา
วิเคราะห์ อภิปรายความเหมอื นและความแตกตา่ ง วิถีชีวติ ความเช่อื และวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ของไทย และนาไปใช้ได้อย่างมีเหตผุ ล ค้นควา้ สบื ค้น บันทึก สรุป และแสวงหาความร้เู พ่ือเขา้ สู่
สงั คมและอาชีพ ท่เี ก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื การพดู ส่ือสาร ในการทางาน การสมัครงานและการ
ประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและนาเสนอด้วยการ
พูดและการเขียนไดอ้ ย่างเหมาะสม เลอื กใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิรยิ าท่าทางได้เหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล
โอกาส และสถานที่ ตามมารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคดิ ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สตั ยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. ใช้ภาษาในการสนทนาเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง บุคคล ตาแหน่งที่ตัง้ เหตุการณป์ ัจจุบนั อาชพี
กิจกรรมยามว่าง และการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองอย่างเหมาะสม
2. จับใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็นจากการฟังบทสนทนาและคา
บรรยายได้ถูกต้อง
3. อธบิ าย เขยี นขอ้ ความและประโยคให้สมั พนั ธก์ บั สือ่ ท่ีไม่ใช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ทีฟ่ งั และอ่าน รวมท้ัง
ระบแุ ละเขียนสอ่ื ท่ไี มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยคและข้อความทีฟ่ งั หรืออา่ นได้
ถกู ตอ้ ง
4. ปฏิบตั ติ ามคาแนะนาในคมู่ อื การใชง้ านตา่ งๆ คาช้ีแจง คาอธบิ าย และคาบรรยายทีฟ่ งั และอ่านได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสม
5. ระบแุ ละอา่ นออกเสยี งคา ประโยค ข้อความไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การออกเสียงภาษา
6. วิเคราะห์ อภิปรายความเหมอื นและความแตกตา่ งวถิ ีชวี ิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ
ของไทย และนาไปใช้ได้อยา่ งมีเหตผุ ล
7. คน้ ควา้ สืบคน้ บันทกึ สรปุ และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั ข้อมลู ที่เกีย่ วข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่
จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ และนาเสนอดว้ ยการพดู และการเขียนได้อยา่ งเหมาะสม
๓๒๕
8. เลือกใชภ้ าษา นา้ เสียง และกิริยาท่าทางไดเ้ หมาะสมกับระดบั ของบคุ คล โอกาส และสถานท่ี ตาม
มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
คาอธิบายรายวิชา
อ 31207 ภาษาอังกฤษ เพื่อการสอ่ื สาร กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
ใชป้ ระโยคความรวมและประโยคความซ้อนสือ่ ความหมายตามบรบิ ทต่างๆ ทัง้ ที่เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็
ทางการได้ถกู ต้อง อธบิ ายและเขยี นขอ้ ความและประโยคใหส้ มั พันธ์กับสือ่ ท่ีไมใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ทอี่ ่านได้
เขยี นขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ท่อี ยใู่ นความ
สนใจของสงั คมได้อย่างเหมาะสม พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทยี บและแสดงความ
คิดเหน็ เก่ยี วกบั เรอ่ื ง ประเดน็ ขา่ ว เหตกุ ารณ์ ที่ฟังและอ่านได้อย่างเหมาะสม เขียนบรรยายความร้สู ึกและแสดง
ความคดิ เหน็ ของตนเองเกยี่ วกับเรอ่ื งตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าวและเหตกุ ารณอ์ ยา่ งมีเหตุผลและ
สรา้ งสรรค์ เขยี นสรุปใจความสาคัญ แกน่ สาระทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะหเ์ ร่อื งกิจกรรม ขา่ ว เหตุการณ์ และ
สถานการณต์ ามความสนใจได้อย่างเหมาะสม เลือกใชภ้ าษาได้เหมาะสมกบั บุคคล กาลเทศะ มารยาททางสังคม
และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาใชภ้ าษาองั กฤษในการสืบค้นขอ้ มูลจากสอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ ตรวจสอบ
และแก้ไขการใชภ้ าษาในงานเขยี นของตนเองและผ้อู ่ืนตามรายการทกี่ าหนด และเขยี นใหข้ อ้ คดิ เห็นประกอบได้
และสามารถบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สตั ย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรียนรู้
1. ใชป้ ระโยคความรวมและประโยคความซ้อนสอื่ ความหมายตามบรบิ ทตา่ งๆ ทง้ั ทีเ่ ป็นทางการและไมเ่ ป็น
ทางการได้ถกู ตอ้ ง
2. อธบิ ายและเขยี นขอ้ ความและประโยคใหส้ ัมพันธ์กับส่อื ทไี่ ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ทีอ่ ่านได้
3. เขยี นขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง เรอื่ งต่างๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ทอ่ี ยใู่ น
ความสนใจของสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม
4. พดู และเขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรยี บเทียบและแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรื่อง
ประเด็นขา่ ว เหตกุ ารณ์ ท่ีฟังและอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
5. เขียนบรรยายความรู้สกึ และแสดงความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเรอ่ื งต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว
และเหตกุ ารณอ์ ยา่ งมีเหตุผลและสรา้ งสรรค์
๓๒๖
6. เขียนสรุปใจความสาคัญ แก่นสาระทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์เร่อื งกิจกรรม ข่าว เหตกุ ารณ์ และสถานการณ์
ตามความสนใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
7. เลือกใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ มารยาททางสงั คม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
8. ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้นข้อมลู จากสื่อและแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ
9. ตรวจสอบและแก้ไขการใช้ภาษาในงานเขียนของตนเองและผ้อู ่นื ตามรายการที่กาหนด และเขียนให้
ข้อคดิ เหน็ ประกอบได้
คาอธิบายรายวชิ า
อ 32207 ภาษาองั กฤษ เพอ่ื การสอ่ื สาร กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
ใช้ภาษาในการสนทนาเพื่อขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับตนเอง บุคคล เหตุการณ์ และประเด็นท่อี ยใู่ น
ความสนใจของสงั คม ทิศทาง ท่ีตั้งของส่งิ ของและสถานท่ี และการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์จริงหรือ
สถานการณจ์ าลองอย่างเหมาะสม จบั ใจความสาคัญ วิเคราะหค์ วาม สรุป/ตคี วามจากการฟงั ประโยค ข้อความ
บทสนทนา และเรอื่ งตา่ ง ๆ ได้ รวมทง้ั พดู แสดงความร้สู กึ อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั
เร่อื งและเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ อย่างมเี หตผุ ล มีมารยาทสงั คมในการเลือกใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางในการพดู
และสนทนาไดอ้ ยา่ งเหมาะสมในระดับของบุคคล โอกาส สถานที่ และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ได้รับการ
สง่ เสรมิ ใหเ้ ปน็ ผู้ทม่ี วี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน และเหน็ คณุ ค่าของภาษาองั กฤษในการสบื ค้นขอ้ มลู จากสอ่ื
และแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ เพอ่ื การศึกษาต่อและประกอบอาชพี มคี วามร้จู ัก เข้าใจ และภูมิใจในตนเอง เคารพสิทธิ
ของตนเองและผอู้ นื่
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล
ผลการเรียนรู้
1. พูดขอและใหข้ ้อมูล สนทนาโต้ตอบเกีย่ วกบั ข้อมลู ส่วนตวั รายละเอียดสงิ่ ของ ขอรอ้ ง ขอความ
ช่วยเหลอื ขอคาแนะนาและบรรยายขน้ั ตอนการใช้เครื่องมือ ขอยืมใหย้ มื สง่ิ ของ ขออนุญาต บอกเหตุผล/ขอ้ อา้ ง/
ข้อแกต้ วั สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันไดถ้ กู ต้องและเหมาะสมกบั สถานการณ์
2. เข้าใจ จับใจความสาคญั บอกรายละเอียด ปฏิบตั ติ ามคาส่งั และเขียนบันทกึ ข้อมูลจากเร่ืองหรือบทสนทนาทฟ่ี ัง
๓๒๗
คาอธบิ ายรายวิชา
อ 32208 ภาษาอังกฤษ เพือ่ การสื่อสาร กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
ช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกาศและโฆษณาเกี่ยวกับการสมัครงาน แล้วตีความวิเคราะห์และสรุปใจความได้ใช้
ภาษาต่างประเทศเพื่อขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกับประวัตสิ ่วนตัวการสมคั รงานและอาชีพในสถานการณ์จาลอง การ
แสวงหาความรเู้ พ่อื เข้าสสู่ ังคมและอาชพี ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื การพูดสอ่ื สาร ในการทางาน การ
สมคั รงานและการประกอบอาชีพได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
โดยใช้ทกั ษะ/กระบวนการอา่ นใหม้ คี วามสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ เปน็ ความสามารถในการนา
กระบวนการต่างๆไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน
จากกระบวนการเรียนรตู้ า่ งๆ ทาให้นกั เรียนมคี วามเปน็ เลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคดิ ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสัตยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. อ่านประกาศและโฆษณาเก่ยี วกับการสมัครงานสามารถตีความวิเคราะห์ และสรปุ ความ
2. พูดและใชภ้ าษาเพือ่ ให้ข้อมูล เก่ียวกบั ประวตั สิ ่วนตวั การสมคั รงานและอาชีพต่างๆ
3. ใช้ภาษาต่างประเทศในการแสวงหาความรเู้ พื่อเขา้ สู่สงั คมและอาชีพ และบูรณาการ
กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื
4. ใช้ภาษาต่างประเทศเฉพาะดา้ นเพ่ือส่อื สารเก่ยี วกบั อาชพี ไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
5. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น คน้ คว้า รวบรวม วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ ข้อมูลต่างๆ
๓๒๘
จากสือ่ และแหลง่ เรียนรูต้ า่ งๆในการศึกษาตอ่ ประกอบ
คาอธิบายรายวชิ า
อ 33207 ภาษาอังกฤษ เพอื่ การสอื่ สาร กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถอธิบาย เขยี นประโยค และขอ้ ความ ให้สมั พนั ธ์กับสือ่ รูปแบบต่างๆ จับใจความสาคัญ วเิ คราะห์
ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและการอ่านเรื่อง พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่าง
ประกอบ สามารถเขียนและพูดแสดงความต้องการ การเสนอ การตอบรับ การปฏิเสธ การให้ความช่วยเหลือใน
สถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม สามารถนาเสนอข้อมูลโดยการพูด และเขียนสรุปใจความสาคัญทไี่ ด้จากการ
วเิ คราะห์เรื่อง กิจกรรมข่าว เหตุการณ์ต่างๆ และสถานการณ์ได้ อธิบายหรืออภิปรายวิถีชีวิต ความคิดได้แก่การ
ทอดผ้าป่าทางน้า การตักบาตรทางน้า(ชุมชนอัมพวา) ความเรียงและท่ีมาของขนบธรรมเนียมและประเพณีของ
เจ้าของของภาษาวิเคราะห์และอภิปรายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ ง วถิ ชี ีวิต ความเช่อื และวฒั นธรรม
ของเจ้าของภาษากับของไทยและนาไปใช้อย่างมีเหตุผล ค้นคว้า สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกับข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขียน
ภาษาตา่ งประเทศในการสบื ค้น ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรขู้ ้อมูลต่างๆ จากส่อื และแหล่งเรยี นรู้
ต่างๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพและบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
๓๒๙
โดยใช้ทักษะ/ กระบวนการการพูดและการเขียนให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่าง
สรา้ งสรรค์และคิดอย่างมวี จิ ารณญาณเพื่อนาไปสกู่ ารสร้างองค์ความรู้เพื่อการตดั สินใจเก่ยี วกับตนเองและสงั คมได้
อย่างเหมาะสม
จากกระบวนการเรยี นรู้ตา่ งๆ ทาให้นักเรยี นมีความเปน็ เลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พันธ์กบั ส่อื ท่ไี มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆที่อ่านรวมท้งั ระบุ
และเขยี นสอื่ ท่ไี มใ่ ช่ความเรยี งรปู แบบต่างๆใหส้ มั พนั ธ์กบั ประโยค และข้อความท่ฟี ังและอา่ น
2. จับใจความสาคญั วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็นจากการฟงั
และอา่ นเรือ่ งทีเ่ ปน็ สารคดีและบนั เทงิ คดี พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและ ยกตวั อย่างประกอบ
3. พดู และเขียนแสดงความต้องการเสนอ ตอบรับ และปฏเิ สธการให้ความ ช่วยเหลือในสถานการณ์
จาลอง หรือสถานการณจ์ ริงอยา่ งเหมาะสม
4. อธิบาย อภิปราย วถิ ีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และทมี่ าของขนบธรรมเนียมและประเพณขี องเจา้ ของ
ภาษา
5. ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์จรงิ สถานการณจ์ าลองท่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน สถานศึกษา
ชุมชนและสงั คม
คาอธิบายรายวชิ า
อ 33208 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าใจตีความ วิเคราะห์และหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับสื่อที่เป็นความเรียงในรปู แบบต่างๆท่ีซับซ้อน
ส่ือส่ิงพิมพ์ หรือส่ืออิเล็กทรอนิกส์ โดยถ่ายโอนเป็นข้อความที่ใช้ถ้อยคาของตนเองรวมท้ังเข้าใจความแตกต่าง
ระหว่างภาษาต่างประเทศกับภาษาไทยในเรื่องคา วลี สานวน ประโยค ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคมได้อย่างเหมาะสมและบูรณาการตาม
หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
๓๓๐
วเิ คราะห์ สังเคราะห์ พูด อภิปรายและเขียนแสดงความคิดเห็นต่อวัฒนธรรมประเพณี ความเช่ือ ความ
เป็นอยู่ของเจ้าของภาษาประสบการณ์ท่ีได้รับจากการใช้ภาษาต่างประเทศในการแสวงหาความรู้จากเน้ือหา
ภาษาต่างประเทศท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนเพื่อขยายโลกทัศน์จากแหล่งข้อมูลท่ีหลากหลายใน
รูปแบบต่างๆ โดยการศึกษาค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นเช่นอุทยาน ร. ๒รวมทั้งการแสวงหา
ความรู้จากสื่อเทคโนโลยีตลอดจนใช้ภาษาต่างประเทศในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น เผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ข่าวสาร ขอ้ มูลของชุมชน ท้องถิน่ ในการสร้างความร่วมมือเชงิ สร้างสรรค์ได้
นาเสนอความคดิ เห็น ความคดิ รวบยอด ข้อมลู เรื่องราว ประสบการณ์ กจิ กรรม เหตกุ ารณห์ รอื เร่อื งท่ัวไป
ดว้ ยวธิ ีการทส่ี ร้างสรรคแ์ ละมปี ระสิทธิภาพ
โดยใช้ทักษะ /กระบวนการพูด การเขียนให้มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์และความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยีเพ่ือพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางานและการแก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่ือสตั ยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจความหมาย ประเภท และขอบเขตของโครงงานภาษาอังกฤษ
2. ปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนในการทาโครงงานได้
3. สามารถวเิ คราะห์ขอ้ มูล และนาข้อมูลไปใช้ในการทาโครงงานได้
4. เขา้ ใจองคป์ ระกอบและรูปแบบของโครงงาน
5. สามารถจดั ทาโครงงานในรูปแบบภาษาองั กฤษได้
6. สามารถนาเสนอโครงงานในรปู แบบตา่ งๆได้
คาอธบิ ายรายวิชา
วิชา เพ่มิ เติม ภาษาญีป่ นุ่ ( ญ 31201 ) กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
ช้ันมัธยมศึกษาปที ท่ี ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 1ชว่ั โมง / สัปดาห์ จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
๓๓๑
ฟัง พูด อ่านและเขยี นตัวอักษรฮิรางานะ คะตาคานะ อ่านเขียนและเขา้ ใจความหมายตวั อักษรคันจเิ บือ้ งต้น
เขยี นคา กลุม่ คา ประโยคและข้อความส้ัน ๆ บทสนทนา คาทักทาย การแนะนาตนเองและผ้อู ื่น การตอบรบั หรอื
ปฏิเสธ การแนะนาสถานที่ บอกความชอบไมช่ อบ อ่านข้อความทเ่ี ป็นความเรียงและไมเ่ ปน็ ความเรียง ตลอดจน
เข้าใจภาษาท่าทาง ในการสือ่ สารตามสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใชศ้ พั ท์สานวนท่ีใชใ้ นชวี ิตประจาวนั แลกเปลี่ยนนา
เสนอข้อมูลข่าวสารโดยใชร้ ูปประโยค ตามโครงสร้างไวยากรณ์พืน้ ฐานทเ่ี ป็นทางการ แสดงความคิดเหน็ ตอ่
ข้อความ ขอ้ มูลเก่ยี วกับเร่ืองทอี่ ยู่ในความสนใจในชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เหมาะสมกับ บุคคล
กาลเทศะ และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตยส์ จุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๓๒
ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้
รายวชิ า เพม่ิ เติม ภาษาญปี่ ่นุ รหัสวิชา ญ 31201 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1
ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ ที่คาดหวงั
1. อ่านเขยี นตัวอักษรฮริ างะนะ
2. อ่านเขียนตวั อกั ษรฮริ างะนะ(วรรคพิเศษ)
3. อ่านเขียนตวั อักษรฮิรางะนะ(เสยี งควบหรือเสียงเพย้ี น)
4. อ่านเขียนตัวอกั ษรคะตะคะนะ
5. อา่ นเขยี นตัวอักษรคะตะคะนะ(วรรคพเิ ศษ)
6. อา่ นเขยี นตวั อักษรคะตะคะนะ(เสยี งควบหรือเสยี งเพี้ยน)
7. การแนะนาตวั เอง
8. การถามเบอร์โทรศพั ท์ และการบอกเบอรโ์ ทรศพั ท์
9. การถามชนั้ ปีทเ่ี รียน
10. ถาม-ตอบที่อยูอ่ าศยั
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่อื สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๓๓
คาอธบิ ายรายวชิ า
วชิ า เพิ่มเติม ภาษาญีป่ ุน่ ( ญ 31202 ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีทท่ี ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2
เวลาเรียน 1ช่ัวโมง / สัปดาห์ จานวน 0.5 หนว่ ยกติ
ฟงั พูด อา่ นและเขยี นตวั อกั ษรฮิรางานะ คะตาคานะ อา่ นเขยี นและเขา้ ใจความหมายตวั อกั ษรคนั จิ
เบอ้ื งตน้ เขียนคา กลุ่มคา ประโยคและข้อความส้ัน ๆ บทสนทนา พดู ถงึ งานอดเิ รกของตนเองและงานอดเิ รกของ
เพ่ือนในหอ้ ง นบั เลขพนื้ ฐานเป็นภาษาญ่ีป่นุ ไดค้ ล่อง บอกเวลาเปน็ ภาษาญี่ปุ่นได้ พดู เร่ืองพี่น้อง รายวิชาเรยี น วัน
ทัง้ เจด็ ในหนึง่ สปั ดาห์ ตารางเรยี นในหน่งึ สัปดาห์ อ่านขอ้ ความทเ่ี ป็นความเรยี งและไมเ่ ป็นความเรยี ง ตลอดจน
เขา้ ใจภาษาท่าทาง ในการส่ือสารตามสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใชศ้ พั ท์สานวนท่ใี ชใ้ นชวี ิตประจาวัน แลกเปล่ียน
นาเสนอขอ้ มูลขา่ วสารโดยใช้รปู ประโยค ตามโครงสรา้ งไวยากรณพ์ ้ืนฐานทเี่ ป็นทางการ แสดงความคิดเหน็ ต่อ
ข้อความ ข้อมลู เก่ยี วกับเร่ืองทอ่ี ย่ใู นความสนใจในชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ เหมาะสมกับ บคุ คล
กาลเทศะ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล
๓๓๔
ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
รายวิชา เพม่ิ เตมิ ภาษาญป่ี ุน่ รหสั วชิ า ญ 31202 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2
ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ ทีค่ าดหวัง
1. บอกงานอดิเรก
2. นับเลขพนื้ ฐาน
3. บอกเวลา ชว่ งวันเวลา
4. พ่นี อ้ งในครอบครวั
5. วนั ตา่ งๆในหน่งึ สปั ดาห์
6. รายวชิ าเรียน และตารางเรียนในหนึง่ สัปดาห์
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สตั ย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
๓๓๕
คาอธบิ ายรายวิชา
วชิ า เพิม่ เตมิ ภาษาญี่ปนุ่ ( ญ 32201 ) กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกิต
ฟัง พดู อา่ น เขยี นเก่ียวกบั กฎระเบยี บ ข้อห้าม ขอ้ ควรปฏิบัติ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของสงั คม แสดงความ
คดิ เหน็ เก่ียวกบั ปัญหาสงั คม บอกเล่าเรื่องราวความคดิ ในอนาคตของตนเอง และผู้อ่นื เข้าใจน้าเสยี ง ความร้สู กึ
ของผพู้ ูดถ่ายทอดขอ้ มูล วิเคราะห์ ตคี วามสรปุ บทอ่านทซ่ี ับซอ้ น นาเสนอขอ้ มลู เรือ่ งราวและความคิดรวบยอด
เกี่ยวกบั ประสบการณ์เหตกุ ารณ์ทว่ั ไปแสดงความต้องการและความรสู้ ึกเก่ียวกบั เหตุการณท์ ้งั ในอดีต ปัจจุบันใน
อนาคต โดยใชเ้ ค้าโครงตามแนวความคิดของเจ้าของภาษาได้อย่างสรา้ งสรรค์และมปี ระสทิ ธิภาพ รวมทั้งใช้
ภาษาญ่ปี ่นุ ในการแสวงหาความรู้ทเ่ี กยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ื่นและเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
ของชมุ ชน ท้องถิน่ และสงั คมโลก
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๓๖
ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
รายวิชา เพิม่ เตมิ ภาษาญป่ี ุน่ รหสั วิชา ญ 32201 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1
ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้
1. ถามและตอบเกีย่ วกบั กฎระเบียบได้
2. ขออนญุ าตทาส่งิ หน่งึ สง่ิ ใดได้
3. บอกสงิ่ ทตี่ นอยากจะเป็นหรืออยากจะทาได้
4. บอกความตง้ั ใจทจ่ี ะทาได้
๓๓๗
5. อธบิ ายวธิ ีการใช้เครือ่ งใช้ต่าง ๆ ได้
6. ขอโทษในสิ่งทตี่ นทาผิดพลาดได้
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
คาอธบิ ายรายวิชา
วชิ า เพม่ิ เตมิ ภาษาญป่ี นุ่ ( ญ 32201 ) กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ีท่ ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกิต
๓๓๘
ฟงั พูด อ่าน เขยี นเก่ยี วกบั กฎระเบียบ ข้อหา้ ม ข้อควรปฏิบตั ิ กฎเกณฑ์ตา่ ง ๆ ของสังคม แสดงความ
คิดเหน็ เกี่ยวกบั ปัญหาสงั คม บอกเล่าเรอื่ งราวความคิดในอนาคตของตนเอง และผ้อู ่นื เขา้ ใจน้าเสยี ง ความรสู้ ึก
ของผู้พูดถา่ ยทอดข้อมลู วเิ คราะห์ ตีความสรปุ บทอ่านทซี่ ับซอ้ น นาเสนอข้อมูลเรอื่ งราวและความคิดรวบยอด
เกยี่ วกับประสบการณ์เหตุการณท์ ั่วไปแสดงความต้องการและความรูส้ กึ เกย่ี วกบั เหตกุ ารณ์ทงั้ ในอดีต ปัจจบุ ันใน
อนาคต โดยใชเ้ ค้าโครงตามแนวความคดิ ของเจ้าของภาษาได้อยา่ งสรา้ งสรรค์และมีประสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั ใช้
ภาษาญ่ีปนุ่ ในการแสวงหาความร้ทู ีเ่ กย่ี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ่นื และเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ ข้อมูลขา่ วสาร
ของชุมชน ทอ้ งถ่ินและสังคมโลก
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่อื สัตยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๓๙
ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
รายวิชา เพิม่ เตมิ ภาษาญป่ี นุ่ รหสั วิชา ญ 32202 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2
ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
1. ถามและตอบเกีย่ วกบั กฎระเบยี บได้
2. ขออนญุ าตทาส่งิ หนงึ่ ส่งิ ใดได้
3. บอกสง่ิ ที่ตนอยากจะเป็นหรอื อยากจะทาได้
4. บอกความตง้ั ใจท่ีจะทาได้
5. อธิบายวิธีการใชเ้ คร่อื งใช้ตา่ ง ๆ ได้
6. ขอโทษในส่งิ ทต่ี นทาผิดพลาดได้
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข
เพอื่ บรรลุเป้าหมายของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล
๓๔๐
คาอธบิ ายรายวชิ า
วชิ า เพิม่ เตมิ ภาษาญี่ปนุ่ ( ญ 33201 ) กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง / สปั ดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกติ
ฟัง พดู อา่ น เขยี นเก่ียวกบั กฎระเบยี บ ขอ้ ห้าม ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของสงั คม แสดงความ
คดิ เหน็ เก่ียวกบั ปัญหาสงั คม บอกเล่าเรื่องราวความคดิ ในอนาคตของตนเอง และผู้อ่นื เข้าใจน้าเสยี ง ความร้สู ึก
ของผพู้ ูดถ่ายทอดขอ้ มูล วิเคราะห์ ตคี วามสรปุ บทอ่านทซ่ี ับซอ้ น นาเสนอขอ้ มลู เรือ่ งราวและความคิดรวบยอด
เกี่ยวกบั ประสบการณ์เหตกุ ารณ์ทว่ั ไปแสดงความต้องการและความรสู้ ึกเกย่ี วกับเหตุการณท์ ้งั ในอดีต ปจั จุบนั ใน
อนาคต โดยใชเ้ ค้าโครงตามแนวความคดิ ของเจ้าของภาษาได้อย่างสร้างสรรคแ์ ละมปี ระสทิ ธิภาพ รวมทั้งใช้
ภาษาญ่ปี ่นุ ในการแสวงหาความรู้ทเ่ี กยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ ่นื และเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ ข้อมลู ขา่ วสาร
ของชมุ ชน ท้องถิน่ และสงั คมโลก
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๔๑
ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
รายวิชา เพิม่ เตมิ ภาษาญป่ี นุ่ รหสั วิชา ญ 33201 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1
ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
1. ถามและตอบเกีย่ วกบั กฎระเบยี บได้
2. ขออนญุ าตทาส่งิ หนงึ่ ส่งิ ใดได้
3. บอกสง่ิ ที่ตนอยากจะเป็นหรอื อยากจะทาได้
4. บอกความตง้ั ใจท่ีจะทาได้
5. อธิบายวิธีการใชเ้ คร่อื งใช้ตา่ ง ๆ ได้
6. ขอโทษในส่งิ ทต่ี นทาผิดพลาดได้
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข
เพอื่ บรรลุเป้าหมายของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๔๒
คาอธิบายรายวิชา
วชิ า เพิม่ เตมิ ภาษาญี่ปนุ่ ( ญ 33201 ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง / สปั ดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกติ
ฟัง พดู อา่ น เขยี นเก่ียวกบั กฎระเบียบ ขอ้ ห้าม ข้อควรปฏิบัติ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของสังคม แสดงความ
คดิ เหน็ เก่ียวกบั ปัญหาสงั คม บอกเล่าเรื่องราวความคิดในอนาคตของตนเอง และผู้อน่ื เข้าใจน้าเสียง ความรู้สกึ
ของผพู้ ูดถ่ายทอดขอ้ มูล วิเคราะห์ ตคี วามสรุปบทอ่านท่ซี บั ซอ้ น นาเสนอข้อมูลเร่ืองราวและความคิดรวบยอด
เกี่ยวกบั ประสบการณ์เหตกุ ารณ์ทว่ั ไปแสดงความตอ้ งการและความรู้สึกเก่ยี วกับเหตุการณ์ทัง้ ในอดีต ปัจจบุ ันใน
อนาคต โดยใชเ้ ค้าโครงตามแนวความคดิ ของเจา้ ของภาษาได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละมีประสทิ ธภิ าพ รวมท้ังใช้
ภาษาญ่ปี ่นุ ในการแสวงหาความรู้ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่ และเผยแพร่ประชาสมั พันธ์ ข้อมลู ข่าวสาร
ของชมุ ชน ท้องถิน่ และสงั คมโลก
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
๓๔๓
ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
รายวชิ า เพมิ่ เตมิ ภาษาญปี่ ุ่น รหัสวิชา ญ 33202 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2
ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้
1. ถามและตอบเก่ียวกบั กฎระเบยี บได้
2. ขออนุญาตทาสิง่ หน่ึงสงิ่ ใดได้
3. บอกส่งิ ทีต่ นอยากจะเป็นหรอื อยากจะทาได้
4. บอกความตั้งใจทีจ่ ะทาได้
5. อธบิ ายวิธกี ารใชเ้ ครื่องใช้ต่าง ๆ ได้
6. ขอโทษในสิง่ ที่ตนทาผดิ พลาดได้
๓๔๔
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
หลักสตู รกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
วสิ ยั ทศั น์
การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลท้ังด้าน
ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดม่ันในการปกครองตามระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ มีความรู้ และทักษะพื้นฐาน รวมทง้ั เจตคติท่ีจาเป็นต่อ
การศกึ ษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเนน้ ผ้เู รียนเป็นสาคญั บนพ้ืนฐานความเชอื่ วา่ ทุก
๓๔๕
คนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ เต็มตามศักยภาพ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวินยั มีความซ่ือสัตย์
สจุ ริต มีจติ สาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลยี่ งอบายมุข เพือ่ บรรลเุ ปา้ หมายของหลักสูตร
โรงเรยี นมาตรฐานสากล
หลักการ
การศึกษาขนั้ พนื้ ฐานมีหลกั การทสี่ าคญั ดังนี้
๑. เป็นหลักสตู รการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มจี ุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เปน็ เปา้ หมาย
สาหรบั พฒั นาเด็กและเยาวชนให้มคี วามรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพืน้ ฐาน ของความเป็นไทยควบคกู่ บั
ความเป็นสากล
๒. เปน็ หลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชนที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอยา่ งเสมอภาค และ
มคี ณุ ภาพ
๓. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอานาจ ให้สงั คมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้สอดคล้อง
กับสภาพและความตอ้ งการของท้องถ่ิน
๔. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสรา้ งยดื หย่นุ ทั้งดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลา และการจัด การ
เรียนรู้
๕. เปน็ หลักสูตรการศึกษาทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั
๖. เปน็ หลักสูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กล่มุ เป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์
จดุ หมาย
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน มุ่งพฒั นาผู้เรียนให้เปน็ คนดี มปี ญั ญา มคี วามสขุ มศี ักยภาพ ในการศกึ ษา
ตอ่ และประกอบอาชพี จงึ กาหนดเปน็ จุดหมายเพอ่ื ใหเ้ กิดกบั ผู้เรยี น เมอื่ จบการศึกษาข้ันพื้นฐาน ดังน้ี
๑. มีคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทพ่ี งึ ประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏบิ ตั ิตนตาม
หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
๒. มีความรู้ ความสามารถในการสอื่ สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที ักษะชีวิต
๓. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตที่ดี มีสุขนสิ ัย และรักการออกกาลงั กาย
๔. มีความรกั ชาติ มจี ิตสานกึ ในความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ยดึ ม่ันในวิถีชวี ิต และการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข
๕. มจี ติ สานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย การอนุรกั ษ์และพัฒนาสง่ิ แวดลอ้ ม มีจติ
สาธารณะทม่ี งุ่ ทาประโยชน์และสรา้ งสงิ่ ท่ีดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมคี วามสุข
๖. ดารงชีวติ บนพ้ืนฐานตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างมคี วามสุข
๓๔๖
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
การศึกษาขน้ั พ้ืนฐานม่งุ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ ดังน้ี
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เปน็ ความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ฒั นธรรม ในการใช้ภาษา
ถา่ ยทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสารและ
ประสบการณ์ อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทัง้ การเจรจาตอ่ รองเพอื่ ขจดั และลด
ปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลอื กรับหรือไมร่ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารด้วยหลกั เหตุผลและความถกู ตอ้ ง ตลอดจนการ
เลือกใช้วิธีการสอ่ื สาร ทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสงั คม
๒. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิดอยา่ ง
สรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพือ่ นาไปส่กู ารสรา้ งองคค์ วามรูห้ รอื สารสนเทศเพอ่ื
การตัดสนิ ใจเกีย่ วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ี
เผชิญได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสมั พันธ์
และการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปญั หา และมกี ารตัดสนิ ใจทม่ี ีประสทิ ธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบ ทเ่ี กดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการดาเนิน
ชวี ติ ประจาวนั การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรอู้ ยา่ งต่อเนือ่ ง การทางาน และการ อยู่ร่วมกนั ในสังคมด้วยการ
สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปญั หาและความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้
ทันกับการเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบ
ต่อตนเองและผูอ้ น่ื
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยี ดา้ นตา่ ง ๆ และ
มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอื่ การพฒั นาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรยี นรู้ การส่อื สาร การทางาน การ
แก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๓๔๗
การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน มงุ่ พฒั นาผเู้ รียนให้มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เพือ่ ให้สามารถ อยรู่ ว่ มกับผู้อื่น
ในสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มจี ิตสาธารณะ
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนไดพ้ ฒั นาตนเองตามศักยภาพ พฒั นาอย่างรอบดา้ น เพื่อความเป็น
มนุษย์ท่ีสมบรู ณ์ ทง้ั รา่ งกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสังคม เสริมสรา้ งให้เป็นผมู้ ีศีลธรรม จริยธรรม มรี ะเบียบ
วินยั ปลูกฝงั และสร้างจติ สานึกของการทาประโยชน์เพ่ือสงั คม สามารถจัดการตนเองได้ และอยรู่ ่วมกับผูอ้ น่ื อยา่ ง
มคี วามสขุ
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน แบ่งเปน็ ๓ ลกั ษณะ ดังนี้
๑. กิจกรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมท่สี ง่ เสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ร้จู กั ตนเอง รรู้ กั ษ์สงิ่ แวดล้อม สามารถคดิ ตัดสนิ ใจ คิด
แก้ปญั หา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชวี ติ ทัง้ ดา้ นการเรยี น และอาชพี สามารถปรบั ตนได้อยา่ ง
เหมาะสม นอกจากนี้ยงั ชว่ ยใหค้ รรู ู้จักและเขา้ ใจผเู้ รยี น ทงั้ ยังเปน็ กจิ กรรมทช่ี ่วยเหลอื และให้คาปรึกษาแก่
ผ้ปู กครองในการมีสว่ นรว่ มพัฒนาผ้เู รียน
๒. กจิ กรรมนักเรียน
เป็นกิจกรรมท่มี ุ่งพฒั นาความมีระเบยี บวนิ ยั ความเป็นผู้นาผูต้ ามท่ีดี ความรบั ผดิ ชอบ การ
ทางานรว่ มกนั การรู้จักแกป้ ญั หา การตัดสนิ ใจท่เี หมาะสม ความมีเหตผุ ล การชว่ ยเหลือแบง่ ปนั กนั เออื้ อาทร และ
สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผ้เู รียน ให้ได้ปฏิบตั ดิ ้วยตนเองในทุก
ข้ันตอน ไดแ้ ก่ การศกึ ษาวิเคราะหว์ างแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรงุ การทางาน เน้นการทางาน
ร่วมกันเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วุฒภิ าวะของผูเ้ รยี น บรบิ ทของสถานศึกษาและ
ท้องถนิ่ กิจกรรมนักเรยี นประกอบดว้ ย
๓๔๘
๒.๑ กจิ กรรมลกู เสอื เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร
๒.๒ กจิ กรรมชุมนมุ ชมรม
๒.๓ กจิ กรรมพฒั นาคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๓. กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ ให้ผ้เู รยี นบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชนต์ อ่ สังคม ชุมชน และทอ้ งถิน่ ตามความสนใจ
ในลักษณะอาสาสมัคร เพือ่ แสดงถึงความรับผิดชอบ ความดงี าม ความเสยี สละ ต่อสงั คม มจี ิต
สาธารณะ เช่น กจิ กรรมอาสาพฒั นาตา่ ง ๆ กิจกรรมสรา้ งสรรค์สงั คม
หลักสูตรกจิ กรรมแนะแนว
มาตรฐานกจิ กรรมแนะแนว
มาตรฐานท่ี ๑ : รู้ เขา้ ใจ และเห็นคุณค่าของตนเองและผ้อู ่ืน
มาตรฐานที่ ๒ : มคี วามสนใจ แสวงหา และใชข้ ้อมลู สารสนเทศ
มาตรฐานท่ี ๓ : มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ และแกไ้ ขปัญหาได้อยา่ งเหมาะสม
มาตรฐานที่ ๔ : มีความสามารถในการปรบั ตัว และการดารงชวี ติ อย่างมีความสขุ
มาตรฐานท่ี ๕ : มที ักษะในการจดั การ การทางาน มีเจตคติท่ดี ตี ่ออาชพี
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี ๑ : รู้ เข้าใจ และเหน็ คณุ คา่ ของตนเองและผู้อ่นื
มาตรฐานการเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ : รแู้ ละเข้าใจสาเหตุความต้องการและปญั หาของตนเอง
มาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่ ๑.๒ : แสวงหาเอกลักษณ์ทีเ่ ป็นแบบอยา่ งทีด่ ีและเหมาะสม กับตนเอง
มาตรฐานการเรยี นรทู้ ่ี ๑.๓ : รูแ้ ละเขา้ ใจความสนใจ ความถนดั ความสามารถดา้ นการเรียน
อาชพี บคุ ลิกภาพของตนเอง
มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ๑.๔ : รกั และนบั ถือตนเองและผ้อู ืน่
มาตรฐานการเรียนรูท้ ี่ ๑.๕ : พึง่ ตนเองได้
มาตรฐานการเรยี นรู้ที่ ๑.๖ : มีบคุ ลกิ ภาพทีด่ ี
มาตรฐานท่ี ๒ : มคี วามสนใจ แสวงหา และใชข้ ้อมลู สารสนเทศ
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ี ๒.๑ : สามารถค้นคว้ารวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู เฉพาะดา้ นจากแหล่งตา่ ง ๆ
ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย
มาตรฐานการเรียนร้ทู ี่ ๒.๒ : สามารถเลือกสรรและใช้ข้อมูลสารสนเทศให้เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเองและ
สังคม
มาตรฐานการเรยี นรู้ท่ี ๒.๓ : สามารถแสวงหาและใช้ขอ้ มูลสารสนเทศ
๓๔๙
มาตรฐานท่ี ๓ : มีความสามารถในการตดั สินใจ และแกไ้ ขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
มาตรฐานการเรยี นรูท้ ่ี ๓.๑ : สามารถตดั สนิ ใจและแก้ปัญหาของตนเอง รว่ มตดั สนิ ใจ แก้ปญั หา
เก่ียวกบั ครอบครวั และโรงเรยี น
มาตรฐานที่ ๔ : มีความสามารถในการปรบั ตวั และการดารงชีวิตอยา่ งมีความสขุ
มาตรฐานการเรยี นรูท้ ่ี ๔.๑ : เข้าใจและยอมรับความแตกต่างและความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ อย่างมเี หตุผล
มาตรฐานการเรยี นรูท้ ี่ ๔.๒ : สามารถส่ือสารความคิด ความรู้สกึ ให้ผู้อนื่ เข้าได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ
และบุคคล
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ี ๔.๓ : สามารถจัดการกบั อารมณ์และการแสดงออก อย่างเหมาะสมกับวยั และ
สถานการณ์
มาตรฐานการเรียนรทู้ ่ี ๔.๔ : ปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ี ๔.๕ : สามารถทาตามบทบาทในฐานะผ้นู าและผู้ตามที่ดี และอยูร่ ่วมกบั ผู้อ่ืนได้
อย่างมคี วามสขุ
มาตรฐานที่ ๕ : มที กั ษะในการจัดการ การทางาน มเี จตคตทิ ี่ดตี ่ออาชพี
มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ๕.๑ : มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการัดการและการทางาน
มาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่ ๕.๒ : มคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั โลกกว้างทางอาชพี มเี จตคติ ทด่ี ีและ
สามารถเลือกประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับตนเองได้
การจดั การเรยี นรู้
การจดั การเรยี นรู้เป็นกระบวนการสาคญั ในการนาหลักสตู รสกู่ ารปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น
เปา้ หมายสาหรบั พฒั นาเดก็ และเยาวชน
ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้
จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กาหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมท้ังปลูกฝัง
เสริมสรา้ งคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทกั ษะต่างๆ อันเปน็ สมรรถนะสาคญั ใหผ้ เู้ รียนบรรลุตามเปา้ หมาย
๑. หลกั การจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคัญ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี
ความสาคัญท่ีสุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจัดการเรยี นรูต้ อ้ งสง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี น สามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเตม็ ตามศักยภาพ คานงึ ถงึ ความ
แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลและพัฒนาการทางสมองเน้นใหค้ วามสาคัญทงั้ ความรู้ และคณุ ธรรม
๒. กระบวนการเรียนรู้
๓๕๐
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เป็น
เครื่องมือท่ีจะนาพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จาเป็นสาหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรแู้ บบบรู ณาการ กระบวนการสรา้ งความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการ
เผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทาจริง
กระบวนการจดั การ กระบวนการวจิ ยั กระบวนการเรยี นร้กู ารเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพัฒนาลกั ษณะนิสยั
กระบวนการเหล่าน้ีเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถช่วยใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สูตร ดงั นั้น ผ้สู อน จงึ จาเป็นต้องศกึ ษาทาความ
เขา้ ใจในกระบวนการเรียนรู้ตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรูไ้ ด้อย่างมปี ระสิทธิภาพ
๓. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสาคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ
จัดการเรียนรโู้ ดยเลือกใชว้ ิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพ่ือให้ผู้เรียนได้
พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพและบรรลตุ ามเป้าหมายทก่ี าหนด
๔. บทบาทของผู้สอนและผเู้ รยี น
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท
ดงั น้ี
๔.๑ บทบาทของผสู้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะหผ์ เู้ รียนเป็นรายบคุ คล แล้วนาข้อมูลมาใชใ้ นการวางแผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ี
ท้าทายความสามารถของผู้เรยี น
๒) กาหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่เป็น
ความคดิ รวบยอด หลกั การ และความสมั พันธ์ รวมทง้ั คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่าง บุคคลและ
พฒั นาการทางสมอง เพ่อื นาผเู้ รยี นไปสู่เป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และดแู ลช่วยเหลือผูเ้ รยี นให้เกิดการเรียนรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้ส่ือให้เหมาะสมกับกิจกรรม นาภูมิปัญญาท้องถ่ิน เทคโนโลยีที่
เหมาะสมมาประยกุ ต์ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน
๖) ประเมินความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี นดว้ ยวิธีการทีห่ ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติของวชิ า
และระดบั พัฒนาการของผเู้ รยี น
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใชใ้ นการซอ่ มเสรมิ และพัฒนาผู้เรียน รวมท้ังปรับปรุงการจัดการ
เรยี นการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผเู้ รียน
๑) กาหนดเปา้ หมาย วางแผน และรบั ผิดชอบการเรยี นรูข้ องตนเอง
๓๕๑
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ต้ังคาถาม คิดหา
คาตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวธิ ีการตา่ งๆ
๓) ลงมือปฏิบัตจิ ริง สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ดว้ ยตนเอง และนาความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ช้ในสถานการณต์ ่างๆ
๔) มปี ฏิสมั พันธ์ ทางาน ทากจิ กรรมรว่ มกบั กลมุ่ และครู
๕) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรยี นรขู้ องตนเองอย่างตอ่ เนอ่ื ง
ส่อื การเรียนรู้
สื่อการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสตู รไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ส่อื การเรยี นรมู้ หี ลากหลาย
ประเภท ทง้ั ส่ือธรรมชาติ สื่อสง่ิ พิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถ่ิน การเลือกใช้ส่ือ
ควรเลือกใหม้ ีความเหมาะสมกับระดบั พฒั นาการ และลลี าการเรียนรทู้ ี่หลากหลายของผเู้ รยี น
การจัดหาส่ือการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทาและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี
คุณภาพจากส่ือต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนามาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถส่งเสริมและส่ือสารให้
ผู้เรียนเกิดการเรยี นรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผูเ้ รียน เกิดการเรียนร้อู ย่างแท้จริง
สถานศึกษา เขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา หน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ควรดาเนินการดังน้ี
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์ส่ือการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ทมี่ ีประสิทธิภาพท้งั ในสถานศึกษาและในชุมชน เพือ่ การศึกษาคน้ ควา้ และการแลกเปล่ียนประสบการณ์
การเรยี นรู้ ระหว่างสถานศกึ ษา ท้องถิน่ ชุมชน สังคมโลก
๒. จัดทาและจัดหาสื่อการเรียนรู้สาหรับการศึกษาค้นคว้าของผูเ้ รยี น เสรมิ ความรู้ให้ผู้สอน รวมท้งั จัดหา
สง่ิ ทีม่ ีอยใู่ นท้องถ่ินมาประยกุ ตใ์ ชเ้ ปน็ สื่อการเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ
เรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลของผเู้ รียน
๔. ประเมนิ คณุ ภาพของสื่อการเรียนรทู้ เ่ี ลอื กใชอ้ ย่างเปน็ ระบบ
๕. ศกึ ษาค้นคว้า วจิ ัย เพอ่ื พฒั นาสอื่ การเรียนรูใ้ ห้สอดคล้องกบั กระบวนการเรียนร้ขู องผเู้ รยี น
๖. จัดให้มีการกากับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับส่ือและการใช้ส่ือ
การเรียนรูเ้ ปน็ ระยะๆ และสม่าเสมอ
ในการจัดทา การเลือกใช้ และการประเมนิ คุณภาพส่ือการเรียนรู้ทใ่ี ช้ในสถานศึกษา ควรคานงึ ถึงหลกั การ
สาคัญของส่ือการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการ
เรยี นรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามคี วามถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความม่ันคงของชาติ ไม่ขัดต่อ
ศีลธรรม มกี ารใชภ้ าษาทถ่ี กู ต้อง รูปแบบการนาเสนอทีเ่ ข้าใจง่าย และนา่ สนใจ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
๓๕๒
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รียนตอ้ งอย่บู นหลักการพืน้ ฐานสองประการ คือ การประเมินเพื่อ
พัฒนาผู้เรียนและเพ่ือตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสาเร็จน้ัน
ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะ
สาคัญ และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้เรยี นซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุก
ระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศท่ี
แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสาเรจ็ ทางการเรยี นของผเู้ รยี น ตลอดจนข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อการ
สง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนเกดิ การพัฒนาและเรยี นรอู้ ยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเปน็ ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับช้ันเรยี น ระดับสถานศึกษา ระดับ
เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา และระดบั ชาติ มีรายละเอียด ดงั นี้
๑. การประเมินระดับช้ันเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน
ดาเนนิ การเปน็ ปกติและสมา่ เสมอ ในการจัดการเรยี นการสอน ใช้เทคนคิ การประเมนิ อยา่ งหลากหลาย เช่น การ
ซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมนิ โครงงาน การประเมนิ ชนิ้ งาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ
ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน
ผู้ปกครองรว่ มประเมิน ในกรณที ีไ่ ม่ผ่านตวั ช้วี ัดให้มีการสอนซ่อมเสริม
การประเมินระดับช้ันเรียนเปน็ การตรวจสอบว่า ผู้เรียนมพี ัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อัน
เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีส่ิงท่ีจะต้องได้รับการพัฒนา
ปรบั ปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนยี้ ังเปน็ ข้อมูลให้ผ้สู อนใชป้ รับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดย
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัด
๒. การประเมนิ ระดบั สถานศกึ ษา เปน็ การประเมินทส่ี ถานศกึ ษาดาเนนิ การเพือ่ ตัดสินผล การเรียนของ
ผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากน้ีเพ่ือให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการ
เรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทัง้ สามารถนาผลการเรียนของผู้เรียนใน
สถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑร์ ะดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือ
การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทาแผนพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลก ารจัด
การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน
พืน้ ฐาน ผปู้ กครองและชุมชน
๓. การประเมินระดับเขตพน้ื ท่ีการศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรยี นในระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดาเนินการโดยประเมินคุณภาพ
ผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนดว้ ยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทาและดาเนนิ การโดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือดว้ ยความร่วมมือ
กบั หน่วยงานตน้ สังกัด ในการดาเนนิ การจัดสอบ นอกจากน้ยี งั ไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนขอ้ มูลจากการประเมิน
ระดบั สถานศึกษาในเขตพื้นท่กี ารศึกษา
๓๕๓
๔. การประเมินระดับชาติ เปน็ การประเมินคุณภาพผูเ้ รียนในระดับชาตติ ามมาตรฐานการเรียนรู้ตาม
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผูเ้ รียนทกุ คนท่ีเรียน ในชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ชน้ั
มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ เขา้ รบั การประเมนิ ผลจากการประเมินใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการเทยี บเคยี งคุณภาพการศึกษาใน
ระดับต่าง ๆ เพอื่ นาไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจดั การศึกษา ตลอดจนเป็นขอ้ มลู สนับสนนุ การ
ตัดสนิ ใจในระดับนโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข
สง่ เสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลท่ีจาแนกตาม
สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนท่ีมี
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า กลุ่มผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนท่ีปฏิเสธโรงเรียน กลุ่ม
ผเู้ รียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกจิ และสังคม กลุม่ พิการทางร่างกายและสตปิ ญั ญา เป็นตน้ ข้อมลู จากการประเมินจึง
เปน็ หวั ใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้รับการพัฒนาและ
ประสบความสาเร็จในการเรียน
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ
เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกาหนดของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน เพื่อให้บคุ ลากรท่เี กยี่ วขอ้ งทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน
เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรยี น
๑. การตัดสิน การใหร้ ะดับและการรายงานผลการเรยี น
๑.๑ การตัดสินผลการเรียน
ในการตัดสนิ ผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ การอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน คณุ ลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นนน้ั ผู้สอนต้องคานงึ ถึงการพฒั นาผเู้ รียนแตล่ ะคนเปน็ หลัก และตอ้ งเก็บ
ข้อมลู ของผู้เรยี นทุกด้านอยา่ งสมา่ เสมอและตอ่ เนอื่ งในแต่ละภาคเรียน รวมท้งั สอนซอ่ มเสรมิ ผเู้ รยี นให้พฒั นาจนเต็ม
ตามศกั ยภาพ
ระดบั มธั ยมศกึ ษา
(๑) ตดั สินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรยี นตอ้ งมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี นไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ
๘๐ ของเวลาเรียนทงั้ หมดในรายวิชาน้ัน ๆ
(๒) ผเู้ รียนต้องได้รบั การประเมนิ ทกุ ตัวชีว้ ัด และผ่านตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด
(๓) ผเู้ รยี นต้องไดร้ ับการตดั สินผลการเรียนทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนตอ้ งได้รับการประเมนิ และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด ใน
การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
การพจิ ารณาเลอ่ื นชัน้ ถา้ ผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพยี งเลก็ นอ้ ย และสถานศึกษาพิจารณาเหน็ ว่า
สามารถพฒั นาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดลุ พินจิ ของสถานศกึ ษาที่จะผ่อนผนั ใหเ้ ลอ่ื นช้นั ได้ แต่หากผเู้ รยี นไม่
๓๕๔
ผ่านรายวชิ าจานวนมาก และมแี นวโน้มวา่ จะเปน็ ปญั หาตอ่ การเรียนในระดบั ชัน้ ท่สี ูงข้นึ สถานศกึ ษาอาจตงั้
คณะกรรมการพิจารณาใหเ้ รียนซา้ ช้ันได้ ทั้งนใี้ หค้ านึงถึงวุฒภิ าวะและความรคู้ วามสามารถของผู้เรยี นเปน็ สาคัญ
๑.๒ การให้ระดบั ผลการเรยี น
ระดบั มัธยมศกึ ษา ในการตัดสนิ เพ่ือใหร้ ะดบั ผลการเรียนรายวชิ า ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการ
เรยี นเป็น ๘ ระดบั
การประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์นนั้ ใหร้ ะดับผล
การประเมินเป็น ดเี ยยี่ ม ดี และผ่าน
การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทงั้ เวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏบิ ัติกจิ กรรม
และผลงานของผู้เรยี น ตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด และใหผ้ ลการเข้าร่วมกจิ กรรมเป็นผ่าน และไม่ผ่าน
๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการส่ือสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการเรีย นรู้
ของผู้เรียน ซ่ึงสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทาเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ หรือ
อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ ๑ ครงั้
การรายงานผลการเรยี นสามารถรายงานเปน็ ระดับคณุ ภาพการปฏิบัติของผเู้ รยี นที่สะทอ้ นมาตรฐาน
การเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้
๒. เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา
เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา
หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๕๒ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดเกณฑ์สาหรับการจบการศึกษาเป็น ๒ ระดับ คือ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น และระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ดังน้ี
๒.๑ เกณฑ์การจบระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพ้นื ฐาน ๖๖ หนว่ ยกิต และรายวิชา
เพม่ิ เติม ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๑๕ หน่วยกิต
(๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน
๖๖ หน่วยกติ และรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ไมน่ ้อยกวา่ ๑๑ หนว่ ยกติ
(๓) ผู้เรยี นมีผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์
การประเมิน ดังนี้ ผา่ น , ดี และ ดเี ย่ียม
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ดังน้ี
ผ่าน , ดี และ ดเี ยยี่ ม
๓๕๕
(๕) ผู้เรียนเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นและมีผลการประเมนิ “ผ่าน” ทุกกิจกรรรม
๒.๒ เกณฑก์ ารจบระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพ่ิมเติม โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน ๔๑ หน่วยกิต และ
รายวิชาเพ่ิมเตมิ ไมน่ ้อยกว่า ๔๐ หน่วยกติ
(๒) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเปน็ รายวิชาพื้นฐาน
๔๑ หนว่ ยกิต และรายวิชาเพ่ิมเตมิ ไมน่ อ้ ยว่า ๓๖ หน่วยกิต
(๓) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์
การประเมิน ดังน้ี ผ่าน , ดี และ ดเี ย่ยี ม
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ดังนี้
ผา่ น , ดี และ ดเี ยี่ยม
(๕) ผเู้ รียนเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี นและมีผลการประเมนิ “ผา่ น” ทกุ กจิ กรรม
เอกสารหลักฐานการศึกษา
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา เป็นเอกสารสาคัญท่ีบันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศท่ีเก่ียวข้องกับ
พฒั นาการของผูเ้ รียนในด้านตา่ ง ๆ แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ดงั น้ี
๑. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของ
ผเู้ รยี นตามรายวิชา ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ อง
สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารน้ีให้
ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เม่ือผู้เรียนจบการศึกษาภาคบังคับ (ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓) จบการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (ช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖) หรือเมื่อลาออกจากสถานศกึ ษาในทุกกรณี
๑.๒ ประกาศนียบัตร เป็นเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพื่อรับรองศักด์ิและสิทธิ์ของผู้จบ
การศึกษา ท่ีสถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้จบการศึกษาข้ันพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
๑.๓ แบบรายงานผู้สาเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายช่ือและ
ขอ้ มูลของผจู้ บการศึกษาภาคบังคบั (ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓) จบการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน (ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖)
๒. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาที่สถานศกึ ษากาหนด
เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจดั ทาข้ึนเพือ่ บันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และขอ้ มลู สาคัญ เก่ียวกับผู้เรียน
เชน่ แบบรายงานประจาตวั นักเรยี น แบบบันทึกผลการเรียนประจารายวชิ า ระเบยี นสะสม ใบรับรองผลการเรียน
และ เอกสารอน่ื ๆ ตามวัตถปุ ระสงคข์ องการนาเอกสารไปใช้
การเทยี บโอนผลการเรียน
๓๕๖
สถานศกึ ษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณตี ่างๆไดแ้ ก่ การยา้ ยสถานศกึ ษา การเปลย่ี น
รูปแบบการศึกษา การยา้ ยหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ
และขอเข้าศกึ ษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยงั สามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณจ์ ากแหล่งการเรียนรู้
อน่ื ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบันการฝกึ อบรมอาชพี การจดั การศึกษาโดยครอบครวั
การเทยี บโอนผลการเรียนควรดาเนินการในช่วงกอ่ นเปิดภาคเรียนแรก หรอื ตน้ ภาคเรยี นแรก ท่ีสถานศึกษารบั ผู้
ขอเทียบโอนเปน็ ผู้เรียน ท้ังน้ี ผู้เรยี นที่ได้รบั การเทียบโอนผลการเรียนตอ้ งศึกษาต่อเน่อื งในสถานศกึ ษาทร่ี ับเทียบ
โอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรยี น โดยสถานศึกษาทีร่ ับผู้เรยี นจากการเทียบโอน ควรกาหนดรายวิชา/จานวนหนว่ ยกิต
ท่ีจะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม
การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดาเนนิ การได้ ดังนี้
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอ่ืนๆ ทใี่ ห้ขอ้ มลู แสดงความรู้ ความสามารถของผูเ้ รียน
๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนโดยการทดสอบด้วยวิธกี ารตา่ งๆ ทงั้ ภาคความรแู้ ละ
ภาคปฏบิ ตั ิ
๓. พจิ ารณาจากความสามารถและการปฏบิ ตั ใิ นสภาพจรงิ
การเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ัติ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร
การบริหารจดั การหลักสตู ร
ในระบบการศึกษาท่มี ีการกระจายอานาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรน้ัน
หน่วยงานตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วข้องในแตล่ ะระดับ ตง้ั แต่ระดบั ชาติ ระดับทอ้ งถิน่ จนถงึ ระดบั สถานศึกษา มีบทบาทหน้าท่ี
และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การดาเนินการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามีประสิทธิภาพ
สูงสุด อันจะสง่ ผลใหก้ ารพัฒนาคุณภาพผ้เู รียนบรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรูท้ ก่ี าหนดไวใ้ นระดับชาติ
ระดับท้องถ่นิ ได้แก่ สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษา หน่วยงานต้นสงั กัดอ่ืน ๆ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทใน
การขับเคล่ือนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางท่ีจะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานท่ี
กาหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถ่ิน เพื่อนาไปสู่การจัดทาหลักสูตรของ
สถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสาเร็จ โดยมีภารกิจสาคัญ
คือ กาหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถ่ินโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับส่ิงที่
เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถ่ิน ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถ่ิน
รวมทง้ั เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลกั สตู รดว้ ยการวิจัยและพฒั นา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ตดิ ตามผล
ประเมินผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผเู้ รียน
สถานศึกษามีหน้าที่สาคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดาเนินการใช้หลักสูตร
การเพม่ิ พูนคณุ ภาพการใช้หลกั สูตรด้วยการวิจยั และพัฒนา การปรบั ปรุงและพัฒนาหลกั สูตรจดั ทาระเบียบการวัด
และประเมินผล ในการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษาตอ้ งพจิ ารณาให้สอดคลอ้ ง กับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้น
๓๕๗
พนื้ ฐาน และรายละเอียดทเ่ี ขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา หรือหน่วยงาน สังกดั อ่ืนๆ ในระดบั ทอ้ งถิ่นได้จัดทาเพ่มิ เติม รวมทัง้
สถานศึกษาสามารถเพ่ิมเติมในส่วนท่ีเก่ียวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และความ
ต้องการของผเู้ รียน โดยทกุ ภาคส่วนเข้ามามสี ว่ นร่วมในการพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา
๓๕๘
เอกสารอา้ งองิ
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 2.
กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.
สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2553). แนวทางการจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ตามหลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. พมิ พค์ รง้ั ที่ 2. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.
_______ . (2553). แนวทางการบรหิ ารจดั การหลกั สูตร ตามหลักสตู ร
แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. พมิ พ์ครง้ั ที่ 2. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณ์
การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.
_______. (2557). แนวปฏบิ ตั ิการวัดผล และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตาม
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551. พมิ พค์ รัง้ ที่ 4. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์
ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั .
_______. (๒๕๖๐). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาะการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง
๒๕๖๐) . [ออนไลน์]. แหล่งทม่ี า http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=48 (26
กุมภาพนั ธ์ 25๖๑).
_______. (๒๕๖๐). ตัวชีว้ ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง กลุ่มสาะการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง
๒๕๖๐) . [ออนไลน์]. แหลง่ ทีม่ า http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=48 (26
กมุ ภาพนั ธ์ 25๖๑).
_______. (๒๕๖๐). ตัวชว้ี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภูมศิ าสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) .
[ออนไลน]์ . แหล่งทีม่ า http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=48 (26 กุมภาพนั ธ์ 25
๖๑
359