The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by แก้มป่อง แก้มหอม, 2022-09-16 00:32:52

หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย

หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย

๒๑๒

โบราณและยุคกลางได้
2.สามารถวเิ คราะหเ์ หตุและผลกระทบ ของลัทธจิ ักรวรรดินยิ มที่กอ่ ให้เกิดการขดั แยง้ ของชาติ

มหาอานาจตะวนั ตก จนนามาซง่ึ สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ได้
3.มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ถงึ สาเหตขุ องสงครามโลกครง้ั ท่ี 1 และ 2 ได้
4.สามารถวิเคราะหเ์ หตุผล และผลกระทบของสงครามเยน็ ทีม่ ตี ่อสถานการณ์โลกปัจจบุ นั ได้
5.มีความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับความสาคญั และความจาเปน็ ของความรว่ มมือระดับภมู ิภาคในด้าน

การเมอื งและเศรษฐกิจ
6.มีความร้คู วามเข้าใจ สภาพปัญหา ของโลกในปัจจุบนั และความจาเป็นตอ้ งเร่งแกป้ ัญหา

๒๑๓

คาอธบิ ายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษา

และพลศกึ ษา

คาอธิบายรายวชิ า
พ21101 สุขศกึ ษา 1
รายวิชาพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศกึ ษา วิเคราะห์ ปฏิบัติ อธิบาย เก่ยี วกบั ความสาคญั ของระบบประสาทและระบบต่อมไร้ ทอ่ ที่มผี ลต่อ
สุขภาพการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของวัยรุ่น วิธดี แู ลรกั ษาระบบประสาทและ ระบบตอ่ มไรท้ อ่ ภาวการณ์

๒๑๔

เจรญิ เตบิ โตทางรา่ งกายของตนเองกบั เกณฑ์มาตรฐาน แสวงหา แนวทางในการพฒั นาตนเองให้เจรญิ เตบิ โตสมวัย
วิธกี ารปรบั ตัวต่อการเปลีย่ นแปลงทางรา่ งกาย จิตใจอารมณแ์ ละพัฒนาการทางเพศอยา่ งเหมาะสม มีทกั ษะการ
ปฏเิ สธเพ่อื ปอ้ งกันตนเองจากการ ถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ โดยใชก้ ระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสร้างความ
ตระหนัก การสร้างเจตคติ การ สารวจตรวจสอบ การสงั เกต การสบื ค้นข้อมลู การอภปิ ราย สรปุ เพื่อใหเ้ กดิ
ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิด สือ่ สารสง่ิ ทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นจนเปน็
สุขนิสัย มีจริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตัวชี้วัด
พ 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
พ 2.1 ม.1/1, ม.1/2
รวมทัง้ หมด 6 ตวั ชีว้ ัด

๒๑๕

คาอธบิ ายรายวิชา
พ21102 สขุ ศึกษา 2
รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วิเคราะห์ สังเกต ปฏบิ ัติ อภปิ ราย เกย่ี วกบั เร่อื ง การเลือกกินอาหารท่ีเหมาะสมกบั วัย ปญั หาที่
เกดิ จากภาวะโภชนาการท่มี ีผลกระทบต่อสขุ ภาพ การควบคมุ นา้ หนักของตนเองใหอ้ ยู่ ในเกณฑ์มาตรฐาน การ
สร้างเสริมและปรับปรงุ สมรรถภาพทางกายตามผลการทดสอบ การปฐมพยาบาลและเคล่อื นย้ายผู้ปว่ ยอย่าง
ปลอดภัย ลักษณะอาการของผตู้ ิดสารเสพตดิ และการป้องกัน การติดสารเสพติด ความสมั พันธข์ องการใช้สารเสพ
ตดิ กบั การเกิดโรคและอุบัติเหตุ วธิ กี ารชักชวน ผอู้ ่ืนให้ลด ละเลิกสารเสพติดโดยใช้ทักษะต่าง ๆ โดยใช้
กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสร้างความตระหนกั การสรา้ งเจตคติ การ สารวจตรวจสอบ การสังเกต การ
สบื คน้ ข้อมลู การอภปิ ราย สรุป เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความคิด สื่อสารสงิ่ ท่เี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการ
ตดั สินใจ เลือกแนวทางปฏบิ ัตอิ ยา่ งมีเหตุผล นาความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ มจี รยิ ธรรม คณุ ธรรมและ ค่านยิ ม
ทีเ่ หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตัวชี้วัด
พ 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
พ 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
รวมทงั้ หมด 8 ตวั ชว้ี ัด

๒๑๖

คาอธบิ ายรายวิชา
พ22101 สขุ ศึกษา 3
รายวชิ าพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

ศกึ ษา วิเคราะห์ สงั เกต ปฏิบตั ิ อภิปราย เกยี่ วกับเรอื่ ง การเปล่ียนแปลง ปจั จัยทีม่ ี ผลกระทบต่อการ
เจรญิ เติบโตและพฒั นาการทางด้านรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาใน วัยรุ่น ปัจจยั ที่มีอทิ ธิพลต่อเจต
คติในเร่อื งเพศ ปญั หาและผลกระทบท่ีเกิดจากการมเี พศสัมพันธ์ใน วัยเรียน วธิ ปี อ้ งกนั ตนเองและหลกี เลีย่ งจาก
โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ เอดส์ และการตัง้ ครรภ์โดย ไมพ่ งึ ประสงค์ ความสาคญั ของความเสมอภาคทางเพศและ
วางตัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสรา้ งความตระหนัก การแก้ปัญหา การสรา้ ง
เจตคติ การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย สรุป เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ
ความคิด ส่อื สารสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ เลือกแนวทางปฏบิ ัติอย่างมเี หตผุ ล นาความร้ไู ปใชใ้ น
ชวี ิตประจาวันได้ มีจรยิ ธรรม คุณธรรมและ คา่ นยิ มท่เี หมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหสั ตัวชี้วัด
พ 1.1 ม.2/1,ม.2/2
พ 2.1 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4
รวมทง้ั หมด 6 ตัวชว้ี ดั

๒๑๗

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ22102 สุขศึกษา 4
รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา วิเคราะห์ สังเกต ปฏบิ ัติ อภิปราย เกยี่ วกบั เรื่องการเลอื กใช้บริการทางสุขภาพอยา่ ง มีเหตผุ ล ผล
ของการใชเ้ ทคโนโลยีทม่ี ีต่อสุขภาพ ความเจริญกา้ วหน้าทางการแพทย์ทีม่ ผี ลต่อ สขุ ภาพ ความสมั พันธข์ องภาวะ
สมดุลระหวา่ งสุขภาพกาย และสุขภาพจติ ลกั ษณะอาการเบ้ืองตน้ ของผ้มู ปี ัญหาสุขภาพจิต การเสนอแนะวธิ กี าร
ปฏิบตั ิตนเพอื่ จดั การกบั อารมณแ์ ละความเครยี ด การ พฒั นาสมรรถภาพทางกายตนเองให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ี
กาหนด ปจั จัยและแหลง่ ช่วยเหลือฟนื้ ฟู ผูต้ ิดสารเสพติด การหลีกเลยี่ งพฤติกรรมเส่ยี งและสถานการณ์เส่ียง มี
ทักษะชวี ิตในการป้องกนั ตนเอง และหลกี เลยี่ งสถานการณ์คับขันท่ีอาจนาไปสู่อันตราย โดยใชก้ ระบวนการความรู้
ความเข้าใจ การสร้างความตระหนัก การแก้ปัญหา การสรา้ ง เจตคติ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสบื คน้
ขอ้ มูล การอภิปราย สรุป เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ ส่ือสารสง่ิ ทเี่ รยี นรู้ มคี วามสามารถในการ
ตัดสินใจ เลือกแนวทางปฏบิ ตั ิอยา่ งมเี หตุผล นาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ มจี รยิ ธรรม คุณธรรมและ คา่ นยิ ม
ที่เหมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ชี้วัด
พ 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7
พ 5.1 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3
รวมท้ังหมด 10 ตัวชว้ี ัด

๒๑๘

คาอธิบายรายวิชา
พ23101 สุขศกึ ษา 5
รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ สงั เกต ปฏิบตั ิ อภิปราย เกยี่ วกบั การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ร่างกาย จิตใจ
อารมณ์สงั คมและสตปิ ญั ญาแต่ละช่วงของชวี ิต อทิ ธิพลและความคาดหวังของสังคม ต่อการเปล่ยี นแปลงของวยั รุ่น
สื่อโฆษณาทมี่ อี ิทธิพลต่อการเจรญิ เตบิ โตของวยั รนุ่ อนามยั แมแ่ ละเดก็ การวางแผนครอบครัวและวธิ ีการปฏิบตั ิ
ตนทีเ่ หมาะสม ปัจจยั ท่มี ผี ลกระทบตอ่ การต้ังครรภ์ สาเหตุและเสนอแนวทางการป้องกัน แกไ้ ขความขดั แยง้ ใน
ครอบครวั โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเขา้ ใจ การสร้างความตระหนกั การแกป้ ัญหา การสรา้ ง เจตคติ การ
สารวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบค้นข้อมูล การอภปิ ราย สรุป เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ส่ือสาร
สิ่งทเี่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจเลือกแนวทางปฏบิ ตั อิ ยา่ งมีเหตผุ ล นาความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้
มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่ือสัตยส์ จุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตวั ชี้วัด
พ 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
พ 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
รวมท้ังหมด 6 ตวั ชีว้ ัด

๒๑๙

คาอธิบายรายวชิ า
พ23102 สุขศึกษา 6
รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ สังเกต ปฏิบตั ิ อภิปราย เก่ียวกบั วธิ ีการกาหนดรายการอาหารทเ่ี หมาะสมกบั วยั ต่าง ๆ
โดยคานึงถึงความประหยดั และคณุ ค่าทางโภชนาการ แนวทางการป้องกันโรคท่เี ปน็ สาเหตุสาคญั ของการเจบ็ ปว่ ย
และการตายของคนไทย การรวบรวมขอ้ มูล และเสนอแนวทางแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน การวางแผนและจดั
เวลาในการออกกาลงั กาย การพักผ่อนและการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ทดสอบสมรรถภาพทางกายและ
พัฒนาไดต้ ามความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ปจั จัยเสีย่ งและพฤติกรรมเสยี่ งทมี่ ีผลตอ่ สขุ ภาพและแนวทางป้องกนั
การหลีกเลย่ี งการใช้ความรนุ แรงและชกั ชวนเพ่อื นใหห้ ลีกเลย่ี งการใช้ความรนุ แรงในการแกป้ ัญหา การวิเคราะห์
อิทธิพลของสอ่ื ต่อพฤติกรรมสขุ ภาพและความรนุ แรง การวิเคราะหค์ วามสมั พันธ์ของการดมื่ เครือ่ งด่ืมทีม่ ี
แอลกอฮอลต์ อ่ สุขภาพและการเกดิ อบุ ัตเิ หตุ การแสดงวิธีการชว่ ยฟ้นื คืนชีพอย่างถกู วธิ ี โดยใชก้ ระบวนการความรู้
ความเขา้ ใจ การสรา้ งความตระหนกั การแกป้ ัญหา การสร้าง เจตคติ การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การสบื คน้
ข้อมูล การอภิปราย สรปุ เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความคดิ สอ่ื สารสิ่งท่เี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการ
ตัดสินใจเลือกแนวทางปฏบิ ตั อิ ย่างมีเหตุผล นาความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ มจี รยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มที่
เหมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สตั ย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหสั ตัวชี้วดั
พ 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
พ 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
รวมทงั้ หมด 10 ตวั ช้ีวัด

๒๒๐

คาอธบิ ายรายวิชา
พ21103 พลศกึ ษา 1 (ยดื หยนุ่ )
รายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษา ปฏบิ ัติ วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธบิ าย เกยี่ วกับ กิจกรรมนนั ทนาการ หลักการเคลื่อนไหวรา่ งกาย
การเล่นเกม การออกกาลังกายดว้ ยด้วยการเลน่ กฬี า ยืดหยนุ่ ในเรอ่ื ง ทกั ษะพื้นฐานการเลน่ กฎ กติกา ข้อตกลงใน
การเล่น วธิ กี ารเลน่ ตามขัน้ ตอน และอื่นอยา่ งถกู ตอ้ ง ปลอดภัยและสนุกสนาน พรอ้ มกบั ใหเ้ รียนรู้การป้องกนั
การแกไ้ ข การเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพและประโยชน์ท่ไี ดร้ บั จากการออกกาลงั กายและการออกกาลงั กายเปน็ ประจา

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบตั ิ การสร้างความตระหนกั การแกป้ ญั หาการสร้างเจตคติ
การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบคน้ ข้อมูล การอภิปราย สรุป เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และเหน็
คณุ ค่าของสุขภาพ สมรรถภาพ สวัสดภิ าพของตนเองของผู้อ่นื และของสงั คม สามารถออกกาลังกายและเลน่ กฬี า
ตามความถนัด และความสนใจเพื่อนาไปใช้ออกกาลังกายในชวี ติ ประจาวันและเผยแพร่ความรู้ใหก้ ับผอู้ ืน่ ได้ มี
จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสตั ยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ชี้วดั
พ 3.1 ม. 1/1, ม.1/2 ม. 1/3
พ 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวมทงั้ หมด 9 ตัวชี้วดั

๒๒๑

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ21104 พลศกึ ษา 2 (ฟุตซอล)
รายวิชาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา ปฏบิ ตั ิ วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธิบาย เก่ยี วกับ กจิ กรรมการบริหารรา่ งกาย กจิ กรรมนันทนาการ หลักการ
เคล่ือนไหวรา่ งกาย การเลน่ เกม การออกกาลังกายดว้ ยการเลน่ กีฬา ฟุตซอล ในเรอ่ื ง การส่งลูก การรับลกู การ
เลี้ยงลกู การยิงประตู การเป็นผู้รกั ษาประตู วธิ กี ารเลน่ ในตาแหนง่ ตา่ งๆ ทัง้ ในขณะเปน็ ผู้เลน่ ฝ่ายรับและฝ่ายรุก
การเลน่ เป็นทมี และอนื่ ๆ อย่างถกู ต้อง ปลอดภยั และสนุกสนาน พร้อมกับให้เรยี นรกู้ ารปอ้ งกัน การแกไ้ ข การ
เสริมสรา้ งสุขภาพและประโยชนท์ ่ีได้รบั จากการออกกาลังกายและการออกกาลังกายเป็นประจา

โดยใชก้ ระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติ การสร้างความตระหนกั การแก้ปญั หา การสรา้ งเจต
คติ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบค้นข้อมลู การอภปิ ราย สรุป เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ และเห็น
คุณค่าของสุขภาพ สมรรถภาพ สวสั ดภิ าพของตนเองของผ้อู ่นื และของสงั คม สามารถออกกาลังกายและเล่นกีฬา
ตามความถนดั และความสนใจ เพอื่ นาไปใช้ออกกาลงั กายในชวี ิตประจาวันและเผยแพร่ความรู้ให้กับผอู้ น่ื ได้ มี
จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลุเป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตัวชี้วัด
พ 3.1 ม. 1/1, ม.1/2 ม. 1/3
พ 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวมทั้งหมด 9 ตวั ชว้ี ดั

๒๒๒

คาอธิบายรายวชิ า
พ22103 พลศกึ ษา 3 (กระบี)่
รายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษา ปฏบิ ัติ วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย เกี่ยวกับบรหิ ารรา่ งกาย หลกั การเคล่ือนไหวร่างกาย การ
เล่นเกม การออกกาลังกายด้วยกจิ กรรมกระบี่กระบอง ในเร่ือง การถวายบังคม การข้ึนพรหมกระบ่ี การราไมร้ า
การต่อสู้ การปอ้ งกนั ตวั การหลบหลกี และอ่นื อยา่ งถูกตอ้ ง ปลอดภยั และสนุกสนาน พรอ้ มกับให้เหมาะสมกับ
ตนเอง นาหลกั การ ความรแู้ ละทกั ษะในการเคลือ่ นไหวกิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและการเล่นกีฬาไปใช้สร้าง
เสริมสขุ ภาพอยา่ งตอ่ เน่อื งเป็นระบบ ทกั ษะพืน้ ฐานการเลน่ กฎ กติกา ขอ้ ตกลงในการเลน่ วธิ กี ารเลน่ ตาม
ขัน้ ตอน การรกุ และการปอ้ งกนั การเลน่ เป็นทีมและอ่นื อย่างถกู ต้อง มีมารยาทในการเล่นและการดูกฬี าด้วย
ความมนี า้ ใจเป็นนกั กฬี า มคี วามปลอดภัยและสนุกสนานเรยี นรกู้ ารปอ้ งกนั การแกไ้ ข
การเสรมิ สรา้ งสุขภาพและประโยชนท์ ไี่ ด้รับจากการออกกาลังกายและการออกกาลงั กายเป็นประจา
โดยใชก้ ระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏบิ ัติ การสร้างความตระหนกั การแก้ปัญหา การสรา้ งเจต
คติ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสบื คน้ ข้อมูล การอภิปราย สรุป เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ และเหน็
คุณค่าของสขุ ภาพ สมรรถภาพ สวัสดิภาพของตนเอง ของผอู้ น่ื และของสงั คม สามารถออกกาลังกายและเล่นกีฬา
ตามความถนดั และความสนใจเพอ่ื นาไปใชอ้ อกกาลงั กายในชีวติ ประจาวันและเผยแพร่ความรใู้ หก้ ับผอู้ ่นื ได้ มี
จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม

๒๒๓

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหัสตัวช้ีวดั
พ 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
พ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
รวมท้งั หมด 9 ตัวชว้ี ัด

คาอธิบายรายวิชา
พ22104 พลศึกษา 4 (กรีฑา)
รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 2เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา ปฏบิ ตั ิ วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย เกีย่ วกบั การปฏิบัตติ นเก่ยี วกับทักษะกลไกและทักษะการ
เคลื่อนไหวในการเล่นกฬี าจากแหล่งข้อมลู ทหี่ ลากหลายมาสรปุ เปน็ วธิ ที เ่ี หมาะสมในบริบทของตนเอง เลน่ กฬี าไทย
และกฬี าสากลทง้ั ประเภทบุคคลและประเภททมี อย่างละ 1 ชนิด เปรียบเทียบประสทิ ธิภาพของรูปแบบการ
เคลื่อนไหวทีส่ ง่ ผลต่อการเลน่ กฬี าและกจิ กรรมในชีวติ ประจาวัน ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม
และนาความรูแ้ ละหลักการทีไ่ ด้ไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งเป็นระบบ อธบิ ายสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางกาย
จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญาทเี่ กิดจากการออกกาลงั กายและเลน่ กฬี าเป็นประจาจนเป็นวิถชี วี ิต เลอื กเข้า
ร่วมกจิ กรรมการออกกาลงั กายเล่นกีฬาตามความถนดั และความสนใจพรอ้ มทงั้ วเิ คราะห์ความแตกต่างระหว่าง
บุคคลเพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง มีวินยั ปฏิบัติตามกฎ กตกิ า และข้อตกลงตามกิจกรรมทเ่ี ลอื ก วาง

๒๒๔

แผนการรกุ และการป้องกนั ในการเล่นกฬี าที่เลอื กและนาไปใช้ในการเล่นอยา่ งเหมาะสม นาผลการปฏิบัตใิ นการ
เลน่ กีฬามาสรุปเป็นวิธีที่เหมาะสมกบั ตนเองด้วยความม่งุ มั่น การออกกาลังกายดว้ ยการเลน่ กีฬากรีฑา ในเร่ือง
ทกั ษะกรีฑาประเภทลู่และประเภทลาน การเลน่ เป็นทีมและอื่นอยา่ งถกู ตอ้ ง ปลอดภยั และสนกุ สนาน พร้อมกับให้
เรียนรกู้ ารปอ้ งกนั การแก้ไข การเสริมสร้างสุขภาพและประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จากการออกกาลังกายและการออกกาลัง
กายเปน็ ประจา

โดยใชก้ ระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบตั ิ การสรา้ งความตระหนัก การแกป้ ญั หา การสร้างเจต
คติ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบคน้ ข้อมูล การอภปิ ราย สรปุ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และเหน็
คณุ ค่าของสขุ ภาพ สมรรถภาพ สวสั ดิภาพของตนเองของผูอ้ นื่ และของสงั คม สามารถออกกาลังกายและเล่นกฬี า
ตามความถนดั และความสนใจเพอ่ื นาไปใชอ้ อกกาลังกายในชวี ิตประจาวันและเผยแพรค่ วามร้ใู ห้กับผู้อื่นได้ มี
จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สตั ยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ช้ีวัด
พ 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
พ 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
รวมทง้ั หมด 9 ตัวชีว้ ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ2103 พลศกึ ษา 5 (มวยไทย)
รายวิชาพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา อธิบาย มีสว่ นร่วมและปฏิบัติ ในกจิ กรรมกายบริหารการออกกาลังกายด้วยกฬี ามวยไทย ในเรอื่ ง
การใชศ้ ิลปะการตอ่ สู้แบบมวยไทย การใชห้ มดั การใช้เทา้ เตะ การใช้เขา่ การใช้ศอก และการใช้ทกุ สว่ นของ

๒๒๕

ร่างกายในการต่อสู้ ทง้ั ในขณะเปน็ ผ้เู ลน่ ฝา่ ยรับและฝา่ ยรกุ การเลน่ และอนื่ ๆ อยา่ งถูกตอ้ ง ปลอดภยั และ
สนกุ สนาน พรอ้ มกบั ให้เรยี นรู้การป้องกัน การแก้ไข การเสริมสรา้ งสขุ ภาพ

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสรา้ งความตระหนกั การแก้ปัญหา การปฏบิ ตั ิ การสร้างเจต
คติ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสบื ค้นข้อมูล การอภปิ ราย สรุป เพื่อให้รหู้ ลักและวธิ กี ารออกกาลงั กายที่
ถกู ต้อง มที กั ษะ มีสมรรถภาพทางกายและทางจติ มรี ะเบยี บวนิ ัย เหน็ คณุ ค่าและนาไปปฏบิ ตั ิในชวี ติ ประจาวนั

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล
รหสั ตวั ช้ีวัด
พ 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
พ 3.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
รวมทง้ั หมด 8 ตัวช้ีวัด
.

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ23104 พลศกึ ษา 6 (ฟุตบอล)

๒๒๖

รายวิชาพน้ื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา ปฏบิ ตั ิ วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธบิ าย เก่ยี วกบั กิจกรรมการบริหารร่างกาย กิจกรรมนนั ทนาการ
หลกั การเคล่ือนไหวร่างกาย การเล่นเกม การออกกาลังกายด้วยการเล่นกฬี า ฟุตบอล ในเร่อื งการสง่ ลกู การรับลกู
การเลย้ี งลกู การยิงประตู การเปน็ ผู้รกั ษาประตู วิธกี ารเลน่ ในตาแหนง่ ต่างๆ ทง้ั ในขณะเป็นผู้เล่นฝา่ ยรับและฝ่าย
รกุ การเลน่ เป็นทมี และอน่ื ๆ อยา่ งถกู ต้อง ปลอดภัย และสนุกสนาน พร้อมกบั ให้เรียนรูก้ ารป้องกนั การแก้ไข การ
เสริมสร้างสุขภาพและประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการออกกาลังกายและการออกกาลังกายเป็นประจา

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติ การสรา้ งความตระหนกั การแก้ปญั หา การสร้างเจต
คติ การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การสบื ค้นข้อมลู การอภปิ ราย สรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และเหน็
คุณค่าของสขุ ภาพ สมรรถภาพ สวสั ดภิ าพของตนเองของผู้อ่นื และของสังคม สามารถออกกาลงั กายและเล่นกฬี า
ตามความถนดั และความสนใจ เพ่อื นาไปใชอ้ อกกาลงั กายในชีวติ ประจาวันและเผยแพร่ความร้ใู หก้ ับผอู้ ื่นได้ มี
จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสตั ยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตวั ช้ีวัด
พ 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
พ 3.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
รวมทงั้ หมด 8 ตวั ช้ีวัด

๒๒๗

คาอธิบายรายวิชา
พ31101 สขุ ศึกษา
รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

เพือ่ พฒั นาผเู้ รยี นให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ มที ักษะและเจตคตทิ ่ดี ี เกี่ยวกบั กระบวนการสร้างเสริมและ
ดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบอวยั วะต่าง ๆ การวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและบคุ คลในครอบครวั
อทิ ธพิ ลของครอบครัว เพอ่ื น สังคม และวฒั นธรรมที่มีตอ่ พฤติกรรมทางเพศและการดาเนินชีวติ ค่านยิ มในเรอ่ื ง
เพศตามวัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมอ่นื ๆ แนวทางในการเลอื กใช้ทักษะต่าง ๆในการปอ้ งกนั ลดความขดั แยง้
และเสนอแนวทางแก้ไข และสามารถวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกยี่ วกับการเคลือ่ นไหวรปู แบบตา่ ง ๆ ในการเล่น
กฬี า การบรหิ ารร่างกาย การออกกาลงั กาย การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายโดยใช้กระบวนการคิด การสืบเสาะ
หาความรู้ การสารวจข้อมลู การสบื ค้นข้อมลู การอภปิ ราย การวเิ คราะห์ การฝึกทักษะ การตดั สินใจแก้ปัญหา
การเสนอแนวทาง การสรปุ ความสาคัญ และการทางานร่วมกับผอู้ ืน่ อยา่ งมคี วามสุข เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ทกั ษะและ
เจตคตใิ นการสรา้ งเสรมิ สุขภาพพลานามยั ของตนเอง และผู้อื่นการปอ้ งกันและปฏิบตั ิตอ่ ส่งิ ตา่ ง ๆ ท่ีมีผลตอ่
สขุ ภาพอย่างถูกวิธีและทักษะในการดาเนนิ ชวี ติ มีความเข้าใจ เห็นคณุ คา่ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีคา่ นิยมที่
เหมาะสม สามารถนาความรู้ไปใช้ประโยชนต์ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชวี ิตประจา

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตัวช้ีวัด
พ 1.1 ม. 4/1, ม.4/2
พ 2.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4
พ 4.1 ม.4/5
รวมทงั้ หมด 7 ตัวชี้วัด

๒๒๘

คาอธิบายรายวชิ า
พ31102 สุขศกึ ษา
รายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

เพ่ือพัฒนาผ้เู รยี นให้มีความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะและเจตคตทิ ดี่ ี เกี่ยวกับการเสริมสร้างสขุ ภาพการ
ป้องกันโรค บทบาทและความรับผดิ ชอบของบคุ คลที่มีตอ่ การสร้างเสรมิ สุขภาพและการปอ้ งกันโรคในชุมชน
อทิ ธพิ ลของสอ่ื โฆษณาเกย่ี วกับสุขภาพ สิทธขิ นั้ พื้นฐานของผูบ้ ริโภคและกฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การคมุ้ ครอง
ผบู้ รโิ ภค การวางแผนการพฒั นาสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก การจัดกิจกรรมป้องกันความเสยี่ ง
ตอ่ การใชย้ า สารเสพตดิ และความรุนแรง ปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ สุขภาพหรือความรนุ แรงของคนไทยและเสนอแนวทาง
ป้องกนั ทกั ษะการตัดสินใจแกป้ ัญหาในสถานการณ์ที่เส่ยี งต่อสุขภาพและความรนุ แรง และวิธีการชว่ ยฟนื้ คืนชีพ
อยา่ งถูกวธิ ี และสามารถวเิ คราะหค์ วามคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเคลอ่ื นไหวรูปแบบต่าง ๆ ในการเล่นกฬี า การ
บรหิ ารร่างกาย การออกกาลงั กาย การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย

โดยใชก้ ระบวนการคดิ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจขอ้ มลู การสืบค้นข้อมูล การอภปิ ราย การ
วเิ คราะห์ การฝึกทักษะ การตัดสินใจแก้ปญั หา การเสนอแนวทาง การสรปุ ความสาคญั และการทางานรว่ มกับ
ผอู้ ่นื อย่างมคี วามสุขเพอื่ ให้เกิดความรู้ ทักษะและเจตคติในการสร้างเสริมสุขภาพพลานามยั ของตนเอง และผูอ้ นื่
การปอ้ งกนั และปฏบิ ัติต่อสง่ิ ตา่ ง ๆ ท่มี ีผลต่อสขุ ภาพอยา่ งถูกวิธแี ละทักษะในการดาเนินชีวติ มีความเขา้ ใจ เห็น
คณุ ค่า มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และมีค่านิยมท่ีเหมาะสม สามารถนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงในชวี ติ ประจาวนั ได้

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสัตยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

๒๒๙

รหสั ตัวชี้วัด
พ 2.1 ม.4/3, ม.4/4
พ 4.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 ม.4/7
พ 5.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5 ม.4/6 ม.4/7
รวมทง้ั หมด 16 ตวั ชว้ี ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ32101 สขุ ศึกษา
รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา ความรู้และบทบาทหน้าท่ีของกระบวนการสรา้ งเสริมและดารงประสทิ ธภิ าพการทางานของ
ระบบยอ่ ยอาหาร ระบบขับถา่ ย ระบบหายใจ และระบบไหลเวยี นโลหติ การสร้างเสริมสุขภาพ ของตนเองและ
ครอบครัว การเลือกบรโิ ภค สทิ ธิพ้นื ฐานของผู้บริโภคและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกบั การค้มุ ครองผบู้ รโิ ภค

วิเคราะหอ์ ทิ ธพิ ลของครอบครวั เพื่อน สังคม และวัฒนธรรมท่ีมีผลต่อพฤติกรรมทางเพศและการดาเนนิ
ชีวิต ค่านิยมในเร่ืองเพศตามวฒั นธรรมไทยและวฒั นธรรมอนื่ ๆ เลือกใช้ทกั ษะทเี่ หมาะสมในการป้องกนั ลด
ความขัดแย้ง และแกป้ ัญหาเร่ืองเพศและครอบครัว สาเหตแุ ละผลของความขัดแย้งท่ีอาจเกิดขึ้นระหว่างนักเรียน
หรอื เยาวชนในชมุ ชน และเสนอแนวทางแกไ้ ขปญั หา โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏบิ ตั ิ การวเิ คราะห์
สรปุ ผล การทางานรว่ มกบั ผ้อู ื่นอยา่ งมคี วามสขุ มีความสามารถสืบคน้ ข้อมูล อภปิ รายเพ่ือให้เกดิ ความร้คู วาม
เข้าใจ ความตระหนัก ทกั ษะและเจตคติ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ทกั ษะการแก้ปัญหา มีคณุ ธรรม
จรยิ ธรรม ค่านยิ มทีเ่ หมาะสม สามารถดาเนินชวี ิตในสังคมได้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยา่ งมี
ความสขุ ตามตวั ชวี้ ัดต่อไปน้ี

๒๓๐

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหัสตวั ช้ีวัด
พ 1.1 ม.5/1, ม.5/2
พ 2.1 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3
พ 4.1 ม.5/3 ม.5/5
รวมทัง้ หมด 7 ตัวชีว้ ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ32102 สขุ ศึกษา
รายวชิ าพ้นื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา วเิ คราะห์ วางแผน บทบาทและความรบั ผดิ ชอบของบคุ ลที่มีตอ่ การสร้างเสรมิ สุขภาพและการ
ป้องกนั โรคในชมุ ชน อทิ ธพิ ลของสอื่ โฆษณาเกีย่ วกับสุขภาพ เพือ่ หาสาเหตุและแนวทางการปอ้ งกนั การเจ็บปว่ ย
และการตายของคนไทย วางแผนและปฏิบัตติ ามแผนการพัฒนาสุขภาพของตนเองและครอบครัว มสี ว่ นรว่ มใน
การส่งเสริมและพฒั นาสขุ ภาพของบุคคลในชุมชน วางแผนพฒั นาสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก

ศกึ ษา วิเคราะห์ มีสว่ นร่วมในการปอ้ งกนั ความเส่ยี งต่อการใช้ยา การใช้สารเสพติดและความรุนแรง
เพอ่ื สุขภาพของตนเอง ครอบครัวและสงั คม ผลกระทบที่เกดิ จากการครอบครอง การใช้ และการจาหน่ายสาร
เสพติด โทษทางกฎหมายทเ่ี กดิ จากการครอบครอง การใช้ และการจาหน่ายสารเสพตดิ ปัจจัยท่ีมีผลตอ่ สุขภาพ
หรือความรุนแรงของคนไทย และเสนอแนวทางป้องกนั ทักษะการตดั สินใจแกป้ ญั หาในสถานการณท์ เี่ สย่ี งต่อ
สุขภาพและความรนุ แรง การวางแผน กาหนดแนวทางลดอบุ ัตเิ หตุ และสรา้ งเสริมความปลอดภยั ในชุมชน มี
ส่วนร่วมในการสร้างเสริมความปลอดภัยในชุมชน แสดงวธิ กี ารชว่ ยฟ้นื คืนชีพอยา่ งถกู วธิ ี

๒๓๑

โดยใช้กระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ สรปุ ผล การทางานร่วมกับผู้อ่นื
อยา่ งมีความสขุ มีความสามารถในการสบื คน้ ขอ้ มูล อภิปราย เพอ่ื ให้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจ ความตระหนกั
ทักษะและเจตคติ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ทักษะการแกป้ ัญหา มีคุณธรรมจริยธรรม คา่ นิยมท่ี
เหมาะสม สามารถดาเนินชีวิตในสังคมได้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอย่างมีความสุขตามตัวช้วี ดั
ตอ่ ไปน้ี

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหัสตัวชี้วดั
พ 4.1 ม.5/1, ม.5/2 ม.5/4 ม.5/6 ม.5/7
พ 5.1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.5/5 ม.5/6 ม.5/7
รวมทั้งหมด11 ตัวชี้วัด

คาอธิบายรายวิชา
พ33101 สขุ ศึกษา
รายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายเก่ียวกบั ความสาคญั ในการทางานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และ
ระบบต่อมไรท้ ่อ ปจั จัยเสี่ยงของสังคมท่มี ีต่อการมีเพศสมั พนั ธ์แนวทางการจดั กจิ กรรมเพื่อป้องกนั ปัจจยั เส่ียงเรือ่ ง
เพศในโรงเรียนและชมุ ชน รปู แบบและขอบเขตของความสมั พันธแ์ บบครู่ ัก แนวทางแก้ไขและทกั ษะที่เหมาะสม
ในการปอ้ งกนั ลดความขัดแย้งและยงั แกป้ ญั หาเร่ืองเพศและครอบครวั ปญั หาด้านสุขภาพมีส่วนรว่ มในการ
สง่ เสริมและพฒั นาสขุ ภาพของบคุ คลในชุมชนดว้ ย

๒๓๒

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สืบค้นขอ้ มูล วเิ คราะหแ์ ละอภิปราย เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความ
เขา้ ใจ เห็นคุณค่าของระบบประสาท ระบบสบื พันธ์ุ ระบบตอ่ มไรท้ อ่ และการเสีย่ งตอ่ การมเี พศสมั พนั ธ์ มี
ทักษะในการดาเนินชวี ิต ลดความขัดแยง้ เหน็ คุณคา่ ในการสร้างเสริมสขุ ภาพและการดารงสุขภาพอย่างยง่ั ยืน
เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ทกั ษะและเจตคติในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพพลานามัยของตนเองและผอู้ นื่ การป้องกนั และปฏบิ ตั ิ
ตอ่ สิ่งตา่ ง ๆ ที่มีผลตอ่ สุขภาพอยา่ งถกู วธิ แี ละทักษะในการดาเนินชวี ติ มคี วามเข้าใจ เหน็ คุณค่า มีคุณธรรม
จรยิ ธรรมและมีค่านยิ มที่เหมาะสม สามารถนาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ไดต้ ามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
รหัสตวั ช้ีวัด
พ 1.1 ม.6/1
พ 2.1 ม.6/1, ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4
พ 4.1 ม.6/1, ม.6/6
รวมทงั้ หมด 7 ตวั ช้ีวดั

คาอธิบายรายวชิ า
พ33102 สุขศกึ ษา
รายวชิ าพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

๒๓๓

ศึกษา วเิ คราะห์ วางแผน การเลือกบริโภค สิทธิพ้นื ฐานของผ้บู รโิ ภคและกฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
กับการคมุ้ ครองผ้บู ริโภค สาเหตุและแนวทางการป้องกนั การเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย วางแผนพฒั นา
สมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก ศึกษา วเิ คราะห์ มสี ว่ นรว่ มในการป้องกนั ความเส่ยี งต่อการใช้ยา
การใชส้ ารเสพติดและความรนุ แรง เพ่อื สุขภาพของตนเอง ครอบครวั และสงั คม ผลกระทบท่ีเกิดจากการ
ครอบครอง การใช้ และการจาหน่ายสารเสพติด โทษทางกฎหมายที่เกดิ จากการครอบครอง การใช้ และการ
จาหน่ายสารเสพตดิ ปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ สขุ ภาพหรือความรนุ แรงของคนไทย และเสนอแนวทางป้องกนั ทกั ษะการ
ตดั สินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีเสี่ยงต่อสขุ ภาพและความรนุ แรง การวางแผน กาหนดแนวทางลดอุบัตเิ หตุ
และสร้างเสรมิ ความปลอดภยั ในชุมชน มีสว่ นร่วมในการสร้างเสรมิ ความปลอดภัยในชุมชน แสดงวิธกี ารชว่ ยฟ้ืน
คนื ชพี อยา่ งถูกวธิ ี วิเคราะหค์ วามคิดรวบยอดเกีย่ วกับการเคลอื่ นไหวรปู แบบตา่ ง ๆ ในการเลน่ กีฬา แสดงการ
เคล่อื นไหวไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ สรปุ ผล
การทางานร่วมกับผู้อนื่ อยา่ งมคี วามสุข มคี วามสามารถในการสบื ค้นข้อมูล อภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความ
เขา้ ใจ ความตระหนัก ทักษะและเจตคติ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ทกั ษะการแกป้ ัญหา มีคณุ ธรรม
จริยธรรม คา่ นิยมท่ีเหมาะสม สามารถดาเนนิ ชีวิตในสงั คมได้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอย่างมี
ความสุขตามตวั ช้วี ัดต่อไปนี้
รหสั ตวั ชี้วดั
พ 4.1 ม.6/1 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/6 ม.6/7
พ 5.1 ม.6/2 ม.6/3 ม.6/4 ม.6/7
รวมทัง้ หมด 9 ตัวช้วี ัด

๒๓๔

คาอธบิ ายรายวิชา
พ20210 พลศกึ ษา (เปตอง)
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 และ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
ศกึ ษาการวเิ คราะหค์ วามคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั การเคล่ือนไหวรปู แบบต่าง ๆ ในการเลน่ กฬี าการบรหิ าร
ร่างกาย การออกกาลังกาย การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย ความรูเ้ กี่ยวกับกีฬาเปตองการสรา้ งความคนุ้ เคย
กับลูกเปตอง การเล่นลูกเลียด การเล่นลกู โด่ง การตีลูก การแขง่ ขนั ประเภทบุคคล กติกาการแข่งขันและการ
ตัดสนิ มมี ารยาทในการเป็นผูเ้ ลน่ และผชู้ มทด่ี ี มนี ้าใจนักกฬี า เหน็ คุณค่า และการเขา้ ร่วมแขง่ ขนั กีฬาเปตองอย่าง
สนกุ สนานและมคี วามสขุ ศกึ ษาการละเลน่ ของเด็กในชมุ ชน
เพือ่ พัฒนาใหผ้ ู้เรียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทักษะในการเล่นกฬี าเปตองและการละเลน่ ของเดก็
ในชมุ ชน โดยใช้กระบวนการคิด การสบื เสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การวเิ คราะห์ การฝึกทกั ษะการออก
กาลงั กาย การแสดงความสามารถทางกฬี า การแสดงออกถึงมารยาทในการเล่นและดูกฬี า การมนี า้ ใจเปน็
นกั กฬี า เห็นคณุ คา่ ของการออกกาลงั กาย การเข้าร่วมกจิ กรรมทางกายและการเลน่ กฬี าอย่างมีความสุข นาหลกั
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บรู ณาการหลกั คิดและทักษะชวี ติ ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั สามารถอยใู่ นสงั คมได้อยา่ ง
มีความสขุ

ผลการเรียนรู้
1. มีความรู้และเข้าใจเรือ่ งประวัตคิ วามเป็นมาของกฬี าเปตอง
2. รู้ เขา้ ใจ และปฏบิ ัตติ ามกฎ กตกิ าและการตัดสินของกีฬาเปตอง
3. มที ักษะพน้ื ฐานในการเล่นและการเคลอ่ื นไหวในกีฬาเปตอง
4. รู้ขัน้ ตอนและสามารถปฏบิ ัตเิ ม่อื เป็นฝ่ายรุกได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
5. รู้ขน้ั ตอนและสามารถปฏบิ ัติเม่อื เป็นฝ่ายรับไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
6. เห็นความสาคญั ของการอบอนุ่ ร่างกาย และสามารถปฏิบตั ไิ ดอ้ ย่างถกู ต้อง
7. รแู้ ละเข้าใจสมรรถภาพของกลา้ มเนือ้ และสามารถบริหารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

รวมทัง้ หมด7ผลการเรียนรู้

๒๓๕

คาอธิบายรายวิชา
พ20210 พลศกึ ษา (เทเบลิ เทนนิส)
รายวิชาเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษา ปฏบิ ัติ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธบิ าย เกยี่ วกับ กิจกรรมการบรหิ ารร่างกาย กิจกรรมนนั ทนาการ
หลกั การเคล่อื นไหวร่างกาย การเล่นเกม การออกกาลงั กายดว้ ยการเล่นกีฬา เทเบลิ เทนนสิ ในเรอื่ ง ทกั ษะพืน้ ฐาน
การเลน่ กฎ กติกา ข้อตกลงในการเล่น วิธีการเล่น ตามขนั้ ตอน และอนื่ อย่างถกู ต้อง ปลอดภัยและสนุกสนาน
พร้อมกับให้เรียนร้กู ารปอ้ งกนั การแกไ้ ข การเสรมิ สร้างสุขภาพและประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการออกกาลงั กายและ
การออกกาลงั กายเปน็ ประจา
โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏบิ ัติ การสรา้ งความตระหนัก การแก้ปญั หาการสร้างเจตคติ
การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การสืบคน้ ขอ้ มูล การอภิปราย สรปุ เพื่อให้ เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และเหน็
คณุ ค่าของสขุ ภาพ สมรรถภาพ สวสั ดภิ าพของตนเองของผูอ้ ื่น และของสังคม สามารถออกกาลงั กายและเล่นกีฬา
ตามความถนดั และความสนใจเพ่อื นาไปใช้ออกกาลงั กายในชีวติ ประจาวนั และเผยแพร่ความรู้ให้กับผ้อู น่ื ได้ มี
จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. มีความร้แู ละเข้าใจเรื่องประวตั ิความเปน็ มาของกฬี าเทเบิลเทนนิส
2. รู้ เข้าใจ และปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ าและการตดั สินของกีฬาเทเบิลเทนนสิ
3. มีทกั ษะพืน้ ฐานในการเล่นและการเคลอ่ื นไหวในกฬี าเทเบิลเทนนสิ
4. รูข้ น้ั ตอนและสามารถปฏบิ ัติเม่ือเปน็ ฝ่ายรกุ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
5. รู้ขัน้ ตอนและสามารถปฏิบัตเิ ม่ือเปน็ ฝ่ายรับได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
6. เหน็ ความสาคญั ของการอบอ่นุ รา่ งกาย และสามารถปฏิบตั ไิ ด้อย่างถูกต้อง
7. ร้แู ละเขา้ ใจสมรรถภาพของกลา้ มเนือ้ และสามารถบริหารไดอ้ ย่างถกู ต้อง

รวมท้งั หมด7ผลการเรยี นรู้

๒๓๖

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ31201 พลศึกษา (วอลเลย์บอล)
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ
ศึกษา อธบิ าย มสี ว่ นร่วมและปฏบิ ัติในกิจกรรมกายบรหิ ารการออกกาลังกายด้วยกิจกรรมวอลเลย์บอลใน
เรื่องการสง่ ลูก การรบั ลกู การตัง้ ลกู การตบลกู วิธีการเลน่ ในตาแหน่งต่างๆ ทง้ั ในขณะเปน็ ผู้เลน่ ฝา่ ยสง่ ลกู และ
ฝา่ ยรบั ลูก การเลน่ เป็นทมี และอ่นื ๆ อย่างถกู ต้อง ปลอดภัยและสนุกสนาน พรอ้ มกับให้เรยี นรกู้ ารป้องกนั การ
แก้ไข การเสริมสร้างสุขภาพ
โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสร้างความตระหนัก การแกป้ ัญหา การสรา้ ง
เจตคติ การสารวจตรวจสอบ การสงั เกต การสืบค้นข้อมูล การอภปิ ราย สรุป เพอ่ื ให้รู้หลกั และวิธกี ารออกกาลงั
กายทถี่ ูกต้อง มีทักษะ มสี มรรถภาพทางกายและทางจติ มีระเบียบวนิ ยั เหน็ คณุ คา่ และนาไปปฏิบัติใน
ชวี ิตประจาวัน
จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. สามารถอธบิ ายประวัตคิ วามเป็นมา ประโยชน์และวิธีการดแู ลรักษาอุปกรณ์กีฬาวอลเลย์บอลได้
2. มีทักษะในการเคลอื่ นไหวและเลน่ ลกู พนื้ ฐานในกฬี าวอลเลย์บอลได้
3. มีทกั ษะในการเสิรฟ์ ลกู วอลเลย์บอลแบบต่างๆ
4. มีทักษะในการกระโดดตบลูกวอลเลยบ์ อลแบบต่างๆ

๒๓๗

5. มที กั ษะในการสกดั ก้ันลูกวอลเลย์บอล
6. มที ักษะในการเลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อลเปน็ ทีม
7. รู้ เข้าใจ และสามารถอธิบายกติกาการแข่งขันวอลเลย์บอลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
8. รู้ เขา้ ใจ และสามารถอธิบายวิธปี ระเมนิ สมรรถภาพทางกายได้อยา่ งถูกตอ้ ง

รวมทัง้ หมด8ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ า
พ31202 พลศึกษา (แชรบ์ อล)
รายวชิ าเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา อธบิ าย มีสว่ นร่วมและปฏบิ ัติในกิจกรรมกายบริหารการออกกาลังกายด้วยกิจกรรม แชร์บอลใน
เรอ่ื งทกั ษะการเคลื่อนไหวด้วยรปู แบบตา่ งๆ การรับ-ส่งลกู การยิงประตู การเป็นผู้รกั ษาประตู วธิ กี ารเลน่ ใน
ตาแหน่งต่างๆ ทั้งในขณะเปน็ ผเู้ ล่นฝ่ายรบั และฝา่ ยรุกการเลน่ เปน็ ทมี และอน่ื ๆ อยา่ งถูกต้อง ปลอดภยั และ
สนกุ สนาน พรอ้ มกับให้เรียนรู้การปอ้ งกนั การแก้ไข การเสริมสรา้ งสุขภาพ

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสร้างความตระหนัก การปฏบิ ตั ิ การอภิปราย สรุป เพื่อใหร้ ู้
หลกั และวิธีการออกกาลงั กายท่ีถกู ตอ้ ง มีทักษะ มสี มรรถภาพทางกายและทางจติ มรี ะเบยี บวินยั เหน็ คณุ คา่ และ
นาไปปฏิบตั ิในชีวติ ประจาวนั

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตยส์ จุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. สามารถอธบิ ายประวตั คิ วามเป็นมา ประโยชนแ์ ละวธิ ีการดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์กฬี าแชรบ์ อลได้

๒๓๘

2. สามารถปฏิบัติการบริหารร่างกายที่ถูกตอ้ งได้
3. มที กั ษะในการเคลือ่ นไหวในกฬี าแชรบ์ อล
4. มีทักษะในการเลน่ กฬี าแชร์บอล และสามารถปฏบิ ตั ิได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
5. รขู้ ัน้ ตอนและสามารถปฏิบัติเมอ่ื เป็นฝ่ายรุกได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
6. รู้ขัน้ ตอนและสามารถปฏบิ ัตเิ ม่อื เปน็ ฝ่ายรับไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
7. รู้ เข้าใจ และสามารถอธบิ ายถงึ กติกาการแข่งขันกีฬาแชร์บอลได้
8. รู้ เข้าใจ และสมารถปฏิบัติวิธีการเล่นเปน็ ทมี ได้
9.รู้ เข้าใจและสามารถปฏิบัติวิธีการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้

รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ า
พ32201 พลศึกษา (ตะกรอ้ )
รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา อธิบาย มสี ว่ นร่วมและปฏบิ ัตใิ นกจิ กรรมกายบรหิ ารการออกกาลงั กายด้วยการเลน่ กีฬาตะกรอ้ ใน
เรือ่ งการเคล่ือนไหว การเดาะลูกดว้ ยขา้ งเท้าด้านใน เข่า ศีรษะและหลงั เท้า การเตะลกู ด้วยข้างเท้าดา้ นใน ลกู หลงั
เท้า การเสิร์ฟลกู การรบั ลูก การสง่ ลูก วธิ ีการเลน่ ตะกร้อ การแขง่ ขนั และอน่ื ๆอยา่ งถูกต้องปลอดภยั และ
สนุกสนาน พร้อมกบั ให้เรียนร้กู ารปอ้ งกัน การแก้ไข การเสริมสรา้ งสขุ ภาพ

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสร้างความตระหนกั การปฏบิ ตั ิ การอภปิ ราย สรปุ เพอ่ื ใหร้ ู้
หลกั และวิธีการออกกาลังกายท่ีถกู ต้อง มีทกั ษะ มีสมรรถภาพทางกายและทางจิต มีระเบียบวนิ ัย เห็นคุณค่าและ
นาไปปฏิบัติในชีวิตประจาวัน

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

๒๓๙

ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล
ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรู้และเข้าใจเรื่องประวัตคิ วามเป็นมาของกีฬาเซปกั ตะกรอ้
2. รู้ เข้าใจ และปฏบิ ัตติ ามกฎ กตกิ าและการตดั สินของกฬี าเซปักตะกรอ้
3. มีทักษะพน้ื ฐานในการเลน่ และการเคลอ่ื นไหวในกีฬาเซปกั ตะกรอ้
4. รู้ขั้นตอนและสามารถปฏบิ ัติเมอื่ เป็นฝ่ายรุกได้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
5. รู้ขนั้ ตอนและสามารถปฏิบัตเิ ม่ือเปน็ ฝ่ายรับไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
6. เห็นความสาคัญของการอบอนุ่ ร่างกาย และสามารถปฏิบตั ไิ ด้อย่างถูกตอ้ ง
7. รู้และเขา้ ใจสมรรถภาพของกล้ามเนอื้ และสามารถบริหารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
รวมทง้ั หมด7ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชา
พ32202 พลศึกษา (แบดมินตนั )
รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ
ศกึ ษา อธบิ าย มสี ่วนร่วมและปฏิบัติในกิจกรรมกายบริหารการออกกาลังกายดว้ ยกจิ กรรมแบดมนิ ตนั ใน
เร่อื งการจบั ไม้ การตลี ูกหนา้ มอื การตีลูกหลังมือ การตลี ูกตบ การตีลูกหยอด การเสริ ์ฟลกู การรบั ลูก การส่งลูก

๒๔๐

วิธกี ารเลน่ แบดมนิ ตนั การแขง่ ขนั และอื่นๆอยา่ งถกู ต้อง ปลอดภัยและสนุกสนาน พร้อมกับใหเ้ รียนรู้การปอ้ งกนั
การแก้ไข การเสรมิ สร้างสุขภาพ

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การสร้างความตระหนัก การปฏิบตั ิ การอภิปราย สรปุ เพอ่ื ใหร้ ู้
หลักและวิธีการออกกาลังกายท่ีถูกตอ้ ง มที กั ษะ มีสมรรถภาพทางกายและทางจติ มรี ะเบียบวินยั เหน็ คณุ คา่ และ
นาไปปฏิบตั ิในชวี ติ ประจาวัน

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. มคี วามรู้และเขา้ ใจเรื่องประวัติความเป็นมาของกีฬาแบดมินตัน
2. รู้ เขา้ ใจ และปฏิบัตติ ามกฎ กตกิ าและการตัดสินของกีฬาแบดมินตนั
3. มที กั ษะพืน้ ฐานในการเล่นและการเคล่ือนไหวในกฬี าแบดมินตนั
4. รขู้ ั้นตอนและสามารถปฏิบัตเิ มือ่ เป็นฝ่ายรกุ ได้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
5. ร้ขู ัน้ ตอนและสามารถปฏิบัตเิ ม่อื เปน็ ฝ่ายรบั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
6. เห็นความสาคัญของการอบอุ่นร่างกาย และสามารถปฏิบตั ิได้อย่างถูกตอ้ ง
7. ร้แู ละเข้าใจสมรรถภาพของกลา้ มเน้อื และสามารถบรหิ ารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

รวมท้ังหมด7ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชา
พ33201 พลศึกษา (บาสเกตบอล)
รายวชิ าเพ่มิ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

๒๔๑

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศึกษา ปฏบิ ตั ิ วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ อธบิ าย เก่ียวกับ กจิ กรรมการบรหิ ารร่างกาย กจิ กรรมนันทนาการ
หลักการเคล่อื นไหวร่างกาย การเลน่ เกม การออกกาลงั กายดว้ ยการเลน่ กีฬา บาสเกตบอล ในเรือ่ ง ทักษะพน้ื ฐาน
การเลน่ กฎ กตกิ า ข้อตกลงในการเล่น วธิ ีการเล่น ตามขั้นตอน การรกุ และการป้องกนั การเล่นเป็นทมี และอืน่
อย่างถกู ตอ้ ง ปลอดภยั และสนุกสนาน พร้อมกบั ใหเ้ รียนรกู้ ารป้องกัน การแกไ้ ข การเสรมิ สร้างสุขภาพและ
ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากการออกกาลงั กายและการออกกาลังกายเป็นประจา
โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติ การสร้างความตระหนัก การแก้ปัญหา
การสรา้ งเจตคติ การสารวจตรวจสอบ การสังเกต การสบื คน้ ข้อมลู การอภปิ ราย สรปุ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความ
เขา้ ใจ และเหน็ คุณค่าของสขุ ภาพ สมรรถภาพ สวัสดิภาพของตนเององผอู้ ่ืน และของสงั คม สามารถออกกาลังกาย
และเลน่ กฬี าตามความถนัด และความสนใจเพื่อนาไปใช้ออกกาลังกายในชีวิตประจาวนั และเผยแพร่ความรใู้ ห้กับ
ผูอ้ นื่ ได้ มจี รยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม
จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสตั ยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. มคี วามรแู้ ละเข้าใจเรอ่ื งประวัติความเปน็ มาของกฬี าบาสเกตบอล
2. รู้ เข้าใจ และปฏิบตั ิตามกฎ กติกาและการตัดสินของกีฬาบาสเกตบอล
3. มีทักษะพ้นื ฐานในการเลน่ และการเคลอ่ื นไหวในกฬี าบาสเกตบอล
4. รขู้ นั้ ตอนและสามารถปฏบิ ัติเมอื่ เปน็ ฝ่ายรกุ ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม
5. รู้ขนั้ ตอนและสามารถปฏิบัตเิ ม่อื เป็นฝ่ายรบั ได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
6. เหน็ ความสาคัญของการอบอนุ่ ร่างกาย และสามารถปฏบิ ตั ิได้อย่างถกู ตอ้ ง
7. รแู้ ละเขา้ ใจสมรรถภาพของกล้ามเนือ้ และสามารถบรหิ ารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

รวมทงั้ หมด7ผลการเรียนรู้

๒๔๒

คาอธิบายรายวิชา
พ33202 พลศึกษา (ลลี าศ)
รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุม่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา อธิบาย มสี ่วนร่วมและปฏิบตั ิในกิจกรรมกายบรหิ ารการออกกาลงั กายด้วยกิจกรรม ลีลาศในเรอ่ื ง
การเตน้ ในจงั หวะบกี ิน จงั หวะชะชะชา่ จงั หวะรมุ บา้ จงั หวะตะลุง วิธกี ารเต้นในจังหวะต่างๆ อยา่ งถกู ตอ้ ง
ปลอดภัยและสนกุ สนาน พรอ้ มกับให้เรียนรูก้ ารป้องกัน การแกไ้ ข การเสรมิ สร้างสขุ ภาพ

โดยใช้กระบวนการความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติ สรปุ เพอื่ ใหร้ หู้ ลักและวธิ กี ารออกกาลังกายทถี่ กู ต้อง มี
ทกั ษะ มสี มรรถภาพทางกายและทางจติ มีระเบียบวินยั เหน็ คุณค่าและนาไปฏบิ ตั ใิ นชีวติ ประจาวัน

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่อื สตั ยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. มคี วามรู้และเขา้ ใจเรื่องประวัติความเปน็ มาของกีฬาลีลาศ
2. รู้ เขา้ ใจ และปฏบิ ัตติ ามกฎ กตกิ าและการตดั สินของกฬี าลลี าศ
3. มที กั ษะพนื้ ฐานในการเล่นและการเคล่อื นไหวในกฬี าลลี าศ
4. รขู้ ้ันตอนและสามารถปฏบิ ัติตามจงั หวะตา่ งๆได้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
5. เห็นความสาคญั ของการอบอุ่นรา่ งกาย และสามารถปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
6. ร้แู ละเขา้ ใจสมรรถภาพของกล้ามเนื้อและสามารถบรหิ ารไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

รวมท้งั หมด6ผลการเรยี นรู้

๒๔๓

คาอธบิ ายรายวิชา
กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ

๒๔๔

คาอธบิ ายรายวิชา

ศ21101 ทศั นศิลป์ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ชน้ั

มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความรูเ้ ก่ยี วกับการบรรยายความแตกต่างและความคลา้ ยคลึงกันของงานทศั นศลิ ป์ และ

ส่ิงแวดล้อมโดยใช้ความรู้เร่ืองทัศนธาตุระบุและบรรยายหลักการออกแบบงานทัศนศิลป์โดยเน้นความเป็น

เอกภาพความกลมกลืนและความสมดุล ประเมินงานทศั นศลิ ป์และบรรยายถงึ วธิ ีการปรบั ปรุงงานของตนเอง และ

ผู้อ่ืนโดยใชเ้ กณฑท์ ีก่ าหนดใหร้ ะบแุ ละบรรยายเกยี่ วกับลกั ษณะรูปแบบงานทัศนศิลป์ของชาติ และ

ของท้องถิ่นตนเองจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ระบุและเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย

เปรยี บเทียบความแตกต่างของจดุ ประสงค์ในการสร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ของวัฒนธรรมไทยและสากล

วาดภาพทศั นียภาพแสดงให้เห็นระยะไกลใกล้เป็น 3 มิติ รวบรวมงานปั้นหรือสื่อผสมมาสร้างเปน็ เรื่องราว 3 มิติ

โดยเนน้ ความเปน็ เอกภาพความกลมกลืนและการส่อื ถึงเรื่องราวของงานออกแบบ รูปภาพ สญั ลักษณ์หรือกราฟิก

อ่ืน ๆ ในการนาเสนอความคิดและข้อมูลเพื่อให้เกิดความสามารถในการบรรยายระบุประเมินงาน เปรียบเทียบ

วาดภาพรวบรวมงานออกแบบผลงานด้านทศั นศลิ ป์ เหน็ คุณค่างานทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สึกความคิดตอ่ งาน

ศลิ ปะอย่างอิสระชื่นชมและ ประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิ

ปัญญาทอ้ งถิ่นภมู ิปญั ญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซ่อื สตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย

ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

๒๔๕

รหสั ตัวช้ีวัด ศ1.1ม.1/1 ศ1.1ม.1/2 ศ1.1ม.1/3 ศ1.1ม.1/4 ศ1.1ม.1/5 ศ1.1ม.1/6
ศ1.2ม.2/1 ศ1.1ม.1/2 ศ1.1ม.1/3
รวม 9 ตวั ช้ีวดั

คาอธิบายรายวิชา

ศ21102 ดนตรีและนาฏศิลป์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาความรู้เกยี่ วกบั การเปรียบเทยี บเสียงรอ้ งและเสียงของเครือ่ งดนตรที ีม่ าจากวัฒนธรรม

ทต่ี ่างกนั จดั ประเภท ของวงดนตรไี ทยและวงดนตรสี ากล มาจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ เปรยี บเทียบอารมณ์ความรูส้ ึก

ในการฟังดนตรแี ต่ละประเภท ใช้เกณฑ์สาหรับประเมินคณุ ภาพงานดนตรหี รือเพลงทฟี่ งั

อธบิ ายบทบาทความสัมพนั ธแ์ ละอทิ ธิพลของดนตรที ีม่ ีตอ่ สังคมไทย ระบุความหลากหลายขององค์ประกอบดนตรี

ในวัฒนธรรมต่างกัน อธิบายอิทธิพลของนักแสดงช่ือดังท่ีมีผลต่อการโน้มน้าวอารมณ์หรือความคิดของผู้ชม ใช้

นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครในการแสดง ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์

พ้ืนบ้าน ละครไทยและละครพ้ืนบ้าน บรรยายประเภทของละครไทยในแต่ละยุคสมัย ใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ท่ี

กาหนดให้ในการพิจารณาคุณภาพการแสดงท่ีชมโดยเน้นเรื่องการใช้เสียงการแสดงท่าและการเคล่ือนไหว อ่าน

เขยี น รอ้ งโน้ตไทย-สากล รอ้ งเพลงและใชเ้ ครื่องดนตรบี รรเลงประกอบร้องเพลงด้วยบทเพลงทีห่ ลากหลายรปู แบบ

นาเสนอตัวอย่างเพลงที่ตนเองชื่นชอบและอภปิ รายลักษณะเด่นท่ีทาใหง้ านน้ันน่าชน่ื ชม ใช้และบารงุ รักษาเครื่อง

ดนตรีอย่างระมัดระวังและรับผิดชอบ ใช้ทักษะการทางานเป็นกลุ่มในกระบวนการผลิตการแสดง แสดงความ

คดิ เห็นทมี่ ีตอ่ อารมณ์ของบทเพลงที่มีความเร็วของจงั หวะและความดังเบาแตกตา่ งกันเพื่อให้เกิดความสามารถใน

๒๔๖

การเปรียบเทยี บจัดประเภท ใช้เกณฑ์อธบิ าย ระบุการแสดงท่า อ่านเขียน ร้อง นาเสนออภปิ ราย ฝกึ ทักษะ แสดง
ความคิดเห็นเก่ียวกับดนตรีและนาฏศิลป์ วิจารณ์คุณค่าดนตรีถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระชื่น
ชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน เห็นคุณคา่ ของดนตรีทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ภมู ิปญั ญา
ไทยและสากลวิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดอย่างอิสระชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั เหน็ คุณค่าของนาฏศลิ ป์ที่เป็นมาดกทางวฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสัตย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหัสตวั ช้ีวดั ศ2.1ม.1/1 ศ3.1ม.1/2 ศ2.1ม.1/3 ศ2.1ม.1/4 ศ2.1ม.1/5 ศ2.1ม.1/6 ศ2.1ม.1/7ศ2.2ม.1/2
ศ2.2ม.1/2 ศ3.1ม.1/1 ศ3.1ม.1/2 ศ3.1ม.1/3 ศ3.1ม.1/4 ศ3.1ม.1/5 ศ3.2ม.1/1ศ3.2ม.1/2

รวม 18 ตวั ช้วี ัด

คาอธบิ ายรายวิชา

ศ22101 ทัศนศลิ ป์ กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความรเู้ กย่ี วกบั การอภปิ รายเกยี่ วกับทศั นธาตุในดา้ นรปู แบบและแนวคิดของงานทัศนศิลป์

ท่ีเลือกมาอภิปรายเก่ียวกับทัศนธาตุในด้านรูปแบบและแนวคิดของงานทัศนศิลป์ท่ีเลือกมาระบุ และบรรยาย

เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ท่ีสะท้อนถึงงานทัศนศิลป์ในปัจจุบัน บรรยายถึงการเปล่ียนแปลง ของงานทัศนศิลป์

ของไทยในแต่ละยุคสมัยโดยเน้นถึงแนวคิดและเนื้อหาของงานวาดภาพด้วยเทคนิคที่ หลากหลายในการส่ือ

ความหมายและเรื่องราวต่าง ๆ สร้างเกณฑ์ในการประเมินและวิจารณ์งานทัศนศิลป์ เพอ่ื ให้เกิดความสามารถใน

การอภิปรายระบุบรรยายวาดภาพ ประเมินวิจารณ์เก่ียวกับงาน ด้านทัศนศิลป์ เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์

๒๔๗

ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระช่ืนชมและ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน เห็นคุณค่างาน
ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมภมู ิปญั ญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหัสตัวชว้ี ัด ศ1.1ม.2/1 ศ1.1ม.2/2 ศ1.1ม2/3 ศ1.1ม.2/4 ศ1.2ม.2/1 ศ1.2ม.2/2

รวม 6 ตวั ชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวชิ า ศ22102 ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๒๔๘

ศกึ ษาความรู้เกีย่ วกบั การเปรยี บเทียบการใชอ้ งค์ประกอบดนตรีท่มี าจากวฒั นธรรมตา่ งกนั อ่าน เขยี น ร้อง
โน้ตไทยและโน้ตสากลท่ีมีเคร่ืองหมายแปลงเสียง ระบุปัจจัยสาคัญท่ีมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ งานดนตรีร้อง
เพลงและเล่นดนตรีเดี่ยวและรวมวง บรรยายอารมณ์ของเพลงและความรู้สึกท่ีมีต่อบทเพลงท่ีฟัง ประเมิน
พฒั นาการทกั ษะทางดนตรขี องตนเองหลังจากการฝกึ ปฏิบตั ิ ระบุงานอาชพี ตา่ ง ๆท่ีเก่ยี วข้องกับดนตรีและบทบาท
ของดนตรีในธรุ กจิ บันเทงิ บรรยายบทบาทและอิทธพิ ลของดนตรใี นวัฒนธรรมของประเทศตา่ ง ๆ บรรยายอทิ ธพิ ล
ของวัฒนธรรมและเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ท่ีมีต่อรูปแบบของดนตรีในประเทศไทย อธิบายการบูรณาการ
ศิลปะแขนงอื่น ๆ กับการแสดงสร้างสรรค์การแสดงโดยใช้องค์ประกอบนาฏศิลป์และการละคร วิเคราะห์การ
แสดงของตนเองและผู้อ่ืนโดยใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครท่ีเหมาะสม เสนอข้อคิดเห็นในการปรับปรุง
การแสดงเชอ่ื มโยงการเรียนรู้ระหว่างนาฏศลิ ป์และการละครกับสาระการเรียนรู้อืน่ ๆ เปรยี บเทียบลกั ษณะเฉพาะ
ของการแสดงนาฎศิลป์จากวัฒนธรรมต่าง ๆ ระบุหรอื แสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้านละครไทยละครพื้นบ้าน
หรือมหรสพอ่ืนท่ีเคยนิยมกันในอดีต อธิบายอิทธิพลของวัฒนธรรมท่ีมีผลต่อเนื้อหาของละครเพ่ือให้เกิด
ความสามารถในการเปรียบเทยี บการอ่าน การเขยี น การร้อง ระบบุ รรยายประเมิน อธบิ ายสร้างสรรค์ วิเคราะห์
เสนอข้อคิดเห็นเช่ือมโยงผลงานด้านดนตรีและนาฏศิลป์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับดนตรีเสียงขับร้องตนเองมี
ส่วนร่วมกบั กิจกรรมดนตรีในชีวิตประจาวัน มีความชื่นชมและเหน็ คณุ ค่าความสาคัญ ประโยชน์ของดนตรีต่อการ
ดาเนินชวี ิตของคนในท้องถ่นิ แสดงออกถึงความช่ืนชมและภาคภูมิใจในการละเลน่ พ้ืนบ้านและเชื่อมโยงส่ิงท่ีพบ
เหน็ ในการละเล่นพน้ื บา้ นกบั การดารงชวี ิตของคนไทย

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ช้ีวดั ศ2.1ม.2/1 ศ2.1ม.2/2 ศ2.1ม.2/3 ศ2.1ม.2/4 ศ2.1ม.2/5 ศ2.1ม.2/6 ศ2.1ม.2/7 ศ
2.2ม.2/1 ศ2.2ม.2/2 ศ3.1ม.2/1 ศ3.1ม.2/2 ศ3.1ม.2/3 ศ3.1ม.2/4 ศ3.1ม.2/5 ศ3.2ม.2/1
ศ3.2ม.2/2 ศ3.2ม.2/3

รวม 17 ตัวช้ีวัด

๒๔๙

คาอธบิ ายรายวิชา

ศ23101 ทศั นศลิ ป์ กล่มุ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ

ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความรู้เก่ียวกับสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ท่ีเลือกมาโดยใช้ความรู้เรื่องทัศนธาตุ และหลักการ

ออกแบบ ระบแุ ละบรรยายเทคนคิ วิธีการของศิลปนิ ในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ วิเคราะหแ์ ละ บรรยาวิธกี ารใชท้ ัศน

ธาตุและหลักการออกแบบในการสร้างงานทัศนศิลป์ของตนเองให้มีคณุ ภาพวิเคราะห์และอภิปรายรูปแบบเนอื้ หา

และคุณค่าในงานทัศนศิลปข์ องตนเองและผู้อน่ื หรือของศิลปิน ระบุอาชพี ที่เกยี่ วข้องกับงานทัศนศิลป์และทักษะ

จาเป็นในการประกอบอาชีพน้ัน ๆ ศึกษาและอภิปรายเก่ียวกับงานทัศนศิลป์ท่ีสะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรม

เปรียบเทียบความแตกต่างของงานทัศนศิลป์ในแต่ละยุคสมัย ของวัฒนธรรมไทยและสากล มีทกั ษะในการสร้าง

งานทัศนศิลป์อย่างน้อย 3 ประเภท สร้างงานทัศนศิลป์ ท้ัง 2 มิติและ 3 มิติเพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์และ

จนิ ตนาการ สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์ สอ่ื ความหมายเป็น เร่ืองราวโดยประยุกต์ใช้ทศั นธาตุและหลักการออกแบบ

สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ เพื่อบรรยายเหตุการณ์ ต่าง ๆ โดยใช้เทคนิคท่ีหลากหลายเลือกงานทัศนศิลป์โดยใช้

เกณฑ์ที่กาหนดขึ้นอย่างเหมาะสมและนาไปจัด นิทรรศการเพื่อให้เกิดความสามารถในการบรรยาย, ออกแบบ,

ระบุ, วิเคราะห์, อภิปราย, ศึกษา เปรียบเทียบ,สร้างสรรค์งาน,เลือกงานที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและทัศนศิลป์

เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้ใน

ชีวติ ประจาวนั และเห็นคุณคา่ งานทัศนศิลปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรมภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซ่อื สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย

ของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหัสตวั ชี้วัด ศ1.1ม.3/1 ศ1.1ม.3/6 ศ1.2ม.3/1 ศ1.1ม.3/2 ศ1.1ม.3/7 ศ1.2ม.3/2 ศ1.1ม.3/3 ศ1.1ม.

3/8 ศ1.1ม.3/4 ศ1.1ม.3/9 ศ1.1ม.3/5 ศ1.1ม.3/10 ศ1.1ม.3/11

รวม 13 ตวั ชีว้ ัด

๒๕๐

คาอธิบายรายวิชา

ศ23102 ดนตรีและนาฏศลิ ป์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความรู้เก่ียวกับแหล่งกาเนิดเสียง คุณสมบัติของเสียง บทบาทหน้าที่ความหมาย ความสาคัญของ

บทเพลงใกลต้ ัวทไ่ี ด้ยินประวัติดนตรีในยุคสมัยต่าง ๆ การแต่งบทกลอน ร้องเพลงเคาะจังหวะเคล่ือนไหวร่างกาย

ให้สอดคล้องกับบทเพลง อา่ น เขยี นและใช้สญั ลกั ษณแ์ ทนเสยี งและเคาะจังหวะ อิทธิพลของดนตรีตอ่ บคุ คล ต่อ

สังคม ต่อการแสดงออกในการขับร้องและศิลปะแขนงอื่น ๆ การประพันธ์เพลงในอัตราจังหวะ 2/4 และ 4/4

องค์ประกอบของบทละคร องค์ประกอบของนาฏศิลป์ ภาษาท่ารูปแบบ การแสดงความสาคัญบทบาทของ

นาฏศิลป์และการละครในชีวติ ประจาวนั การละเล่นของเด็กไทยนาฏศิลป์ทอ้ งถิน่ ลักษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของ

นาฏศิลป์ไทย สร้างสรรค์การเคล่ือนไหวรูปแบบต่าง ๆ แสดงท่าทางประกอบจังหวะตามรูปแบบของนาฏศิลป์

ออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์และเคร่ืองแต่งกาย เพ่ือการแสดงนาฏศิลป์ อธิบายความสาคัญและบทบาท

นาฏศิลป์และการละครในชีวิตประจาวัน สามารถจาแนกอธิบาย บอก ท่องบทกลอน ร้องเพลงเคาะจังหวะ

เกยี่ วกับดนตรีได้ และสามารถ สร้างสรรค์ ออกแบบแสดงออกเคล่ือนไหวรา่ งกายใช้สัญลกั ษณ์ บอกองค์ประกอบ

ภาษาท่ารปู แบบความสาคัญบทบาทลักษณะเดน่ ของนาฏศิลป์ไทยไดแ้ สดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับดนตรีเสียงขับรอ้ ง

ตนเองมีสว่ นร่วมกับกิจกรรมดนตรใี นชีวติ ประจาวัน มีความชน่ื ชมและเห็นคุณค่าความสาคัญประโยชน์ของดนตรี

ตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ของคนในทอ้ งถิ่นแสดงออกถึงความชืน่ ชมและภาคภมู ิใจในการละเล่นพ้ืนบ้านและเชอื่ มโยงสง่ิ ท่ี

พบเห็นในการละเลน่ พน้ื บ้านกับการดารงชีวติ ของคนไทย

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซ่อื สตั ย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย

ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ช้วี ดั ศ2.1ม.3/1, ศ2.1ม3/2, ศ2.1ม.3/3, ศ2.1ม.3/4, ศ2.1ม.3/5, ศ2.1ม.3/6,

ศ2.1ม.3/7 ศ2.2ม.3/1, ศ2.2ม.3/2 ศ3.1ม.3/1, ศ3.1ม3/2, ศ3./ม.3/3, ศ3.1ม.3/4,
ศ3.1ม.3/5, ศ3.1ม.3/6, ศ3.1ม.3/7 , ศ3.2ม.3/1, ศ3.2ม.3/2, ศ3.2ม.3/3

รวม 19 ตัวชีว้ ัด

๒๕๑

คาอธิบายรายวชิ า

ศ 20210 เส้นสายลายไทย กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาเร่ืองความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของทัศนธาตุและส่ิงแวดล้อม หลักการออกแบบงาน

ทศั นศิลป์ โดยเน้นทางทัศนธาตุความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน หลักการวาดภาพแสดงทัศนียภาพมีความรู้

ความเข้าใจในเรื่องของทฤษฎีสีทางศิลปะมีความรัก ความภาคภูมิใจในการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการศึกษา

บรรยาย กระบวนการปฏิบตั ิในการวาดภาพทางทัศนธาตุแสดงให้เห็นระยะไกลใกล้ กระบวนการเปรียบเทียบ

ความแตกต่างของจุดประสงค์ในการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของวัฒนธรรมไทยละสากล เพ่ือให้เกิด

ความสามารถในการคิด เป็นการสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิด

อย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ

เกี่ยวกับตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ความสามารถในการแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและ

อปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้อย่างถกู ต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ

ความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ

ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการตัดสนิ ใจที่มีประสิทธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่เี กดิ ขึ้น ต่อตนเอง สังคมและ

ส่ิงแวดลอ้ ม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซ่อื สตั ยส์ จุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย

ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ตัวชีว้ ัด
1. อธบิ ายความหมายและขอบข่ายของศิลปะได้

๒๕๒

2. มคี วามเข้าใจสามารถแยกแยะประเภทสาขาของศลิ ปะได้
3. มีความเข้าใจเรือ่ งทฤษฎีสี
4. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในเรือ่ งองค์ประกอบศลิ ป์
5. มีความรู้ความเข้าใจ เรือ่ งการออกแบบ เขียนแบบเบ้อื งตน้

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศ 20210 ปฏิบัตเิ คร่อื งดนตรี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาเนื้อหาสาระขลุ่ยรีคอร์เดอร์และประเภทของขลุ่ยรีคอร์เดอร์ การจับและวิธีการเป่าขลุ่ยรีคอร์

เดอร์ ตาแหน่งของระดบั เสียงตา่ ง ๆ ในขลุ่ยรีคอร์เดอร์ การปฏิบตั ิเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ตามตาแหน่งเสียงระดับ

ต่าง ๆ ทกั ษะทางดนตรีที่ตอ้ งการเน้น การฟัง การอา่ นโน้ต การเปา่ ขลุ่ยรคี อร์เดอร์ คุณลักษณะท่ีต้องการเน้น

ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความม่ันใจในการปฏิบัติเป่าขลุ่ยรีคอร์เดอร์ในระดับเสียงต่าง ๆ ของมือบน

และล่าง ความกระตือรือรน้ ในการเรียนและปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ความรับผดิ ชอบในการเรียนและปฏบิ ตั กิ จิ กรรม การ

นาความร้ไู ปใช้ในการเรยี นและชีวติ ประจาวัน ยอมรับ ยกยอ่ งผู้ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมได้ถกู ตอ้ ง ความขยนั หม่นั เพยี ร

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซอ่ื สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลุเป้าหมาย

ของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

ตัวชวี้ ัด
1. นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกับส่วนประกอบของขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์

๒๕๓

2. นักเรยี นอธบิ ายวิธกี ารเปา่ ขล่ยุ รีคอรเ์ ดอรไ์ ด้
3. นกั เรียนปฏิบัตแิ ละอธิบายวธิ ีการจบั ขลุย่ รีคอรเ์ ดอร์ได้ถูกตอ้ ง
4. นกั เรยี นปฏบิ ตั เิ ป่าขลยุ่ รคี อร์เดอร์ในตาแหน่งเสียงต่าง ๆ ของมือบนได้
5. นกั เรยี นปฏบิ ตั ิเปา่ ขลุ่ยรคี อร์เดอรใ์ นตาแหน่งเสียงต่าง ๆ ของมอื ลา่ งได้
6. นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจวิธีการดแู ลและเกบ็ รักษาขลยุ่ รคี อรเ์ ดอร์
7. ชื่นชม ยกย่องผลงานการเปา่ ขลยุ่ รีคอรเ์ ดอรใ์ นตาแหนง่ เสยี งต่าง ๆ ได้ ตลอดทั้ง
เห็นคณุ ค่า ความสาคัญของการเรียนรู้การเป่าขลุ่ยรคี อรเ์ ดอร์ในตาแหน่งเสยี งต่าง ๆ สามารถ
นาไปใชด้ ว้ ยความรู้และความเขา้ ใจ

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศ 31101 ทศั นศลิ ป์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาความรูใ้ นเรื่องวิเคราะห์การใชท้ ัศนธาตุและหลักการออกแบบในการส่ือความหมาย ในรปู แบบต่าง

ๆ บรรยายจุดประสงค์และเนื้อหาของงานทัศนศิลป์ โดยใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป์ วิเคราะห์และ เปรียบเทียบงาน

ทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตก เปรยี บเทยี บรูปแบบของบทเพลงและ วงดนตรีแต่ละประเภท

วิเคราะห์รูปแบบของดนตรีไทยและดนตรีสากลในยุคสมัยต่าง ๆ มีทักษะในการ แสดงหลากหลายรูปแบบ

สร้างสรรคล์ ะครส้ันในรูปแบบท่ีชื่นชอบ เปรียบเทียบการนาการแสดงไปใช้ใน โอกาสต่าง ๆ โดยการใช้กิจกรรม

การคิดวิเคราะห์ การออกแบบ การบรรยาย การเปรียบเทยี บฝกึ ทักษะสร้างสรรคผ์ ลงานดา้ นทัศนศิลป์ ดนตรแี ละ

นาฏศลิ ป์ เหน็ คณุ ค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรูส้ ึกความคิดตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอิสระช่นื ชมและ ประยกุ ต์ใช้

ในชีวิตประจาวันเห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถ่นิ ภูมิปญั ญาไทยและสากล

๒๕๔

เห็นคณุ ค่าดนตรถี ่ายทอดความรู้สึกความคิดตอ่ ดนตรอี ยา่ งอิสระชื่นชมและประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เห็นคุณค่า
ของดนตรีท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล เห็นคุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอด
ความรู้สึกความคิดอย่างอิสระช่ืนชมและประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจาวันเห็นคุณค่าชองนาฎศิลป์ท่ีเป็นมรดกทาง
วฒั นธรรมภูมปิ ัญญาท้องถิ่น ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ชีว้ ัด ศ1.1ม.4/1 ศ1.1ม.4/2 ศ1.2ม.4/1 ศ2.1ม.4/1 ศ2.2ม.4/1

ศ3.1ม.4/1 ศ3.2ม.4/2 ศ3.2ม.4/1

รวม 8 ตัวชว้ี ัด

คาอธบิ ายรายวิชา

ศ 31102 ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาความรู้เก่ียวกับวิเคราะหก์ ารเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และเทคนิคของศิลปินในการแสดงออก ทาง
ทศั นศิลป์ มีทกั ษะและเทคนิคในการใช้วัสดุอปุ กรณ์และกระบวนการที่สงู ขึ้นในการสร้างงาน ทัศนศิลป์ จาแนก
ประเภทและรูปแบบของดนตรีท้ังไทยและสากล อธิบายเหตุผลที่คนต่างวัฒนธรรม สร้างสรรค์ผลงานดนตรี

๒๕๕

แตกต่างกันใช้ความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่และหมู่ วิเคราะห์สถานะ ทางสังคมของนักดนตรีใน
วัฒนธรรมต่าง ๆ อธิบายความสาคัญและบทบาทของนาฏศิลป์และการละครใน ชีวิตประจาวันเพื่อให้เกิด
ความสามารถในการวิเคราะห์ การแสดงออกฝกึ ทักษะสร้างงานจาแนกอธิบายสร้างสรรค์ วิเคราะห์ผลงานด้าน
ทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ
ชน่ื ชมและประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั เห็นคุณค่างานทศั นศิลป์ทีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิ
ปญั ญาไทยและสากล เห็นคุณคา่ ดนตรีถ่ายทอดความรู้สึกความคิดตอ่ ดนตรีอย่างอิสระช่ืนชมและประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวันเห็นคุณค่าของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล เห็น
คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดอย่างอิสระช่ืนชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันเห็นคุณค่าของ
นาฎศิลปท์ ี่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ภมู ิปัญญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

รหัสตวั ชีว้ ดั ศ1.1ม.4/3 ศ1.1ม.4/4 ศ2.1ม.4/2 ศ2.1ม.4/3 ศ2.2ม.4/2 ศ3.1ม.4/3 ศ

3.2ม.4/2

รวม 7 ตวั ชวี้ ดั

คาอธบิ ายรายวิชา

๒๕๖

ศ 32101 ทัศนศิลป์ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ

ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความรู้เกย่ี วกับสร้างสรรคง์ านทัศนศิลปด์ ว้ ยเทคโนโลยตี า่ ง ๆ โดยเน้นหลกั การออกแบบและ

การจัดองค์ประกอบศิลป์ การออกแบบทัศนศิลป์ได้เหมาะสมกับโอกาสและสถานท่ี ระบุงานทัศนศิลป์ของ

ศิลปินท่ีมีช่ือเสียงและบรรยายผลตอบรับของสังคม อ่าน เขียน โน้ตดนตรีไทยและสากลในอัตราจังหวะ ต่าง ๆ

เปรียบเทยี บลักษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ วิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และการละครวิเคราะห์ แก่น

ของการแสดงนาฏศิลป์และการละครท่ีต้องการสอ่ื ความหมายในการแสดง อภิปรายบทบาท ของบุคคลสาคัญใน

วงการนาฏศิลป์และการละครของประเทศไทยในยุคสมัยต่างๆเพื่อให้เกิดความสามารถในการสร้างสรรค์ การ

ออกแบบระบุ อ่าน เขียน เปรียบเทียบ วิจารณ์ วิเคราะห์ อภิปรายผลงานด้านทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์

เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่าย ทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะ อย่างอิสระช่ืนชมและ ประยุกต์ใช้ใน

ชวี ิตประจาวันเหน็ คณุ ค่างานทัศนศิลป์ทีเ่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรมภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภูมปิ ัญญาไทยและสากล

เห็นคุณค่าดนตรีถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระช่ืนชมและ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันเห็น

คุณค่าของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถ่ินภูมิปัญญาไทยและสากล เห็นคุณค่านาฏศิลป์

ถา่ ยทอดความรสู้ ึกความคิดอย่างอสิ ระชน่ื ชมและประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั เห็นคุณค่าของนาฎศิลป์ทเ่ี ป็นมรดก

ทางวฒั นธรรมภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ภูมิปญั ญาไทยและ สากล

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซื่อสัตยส์ จุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้าหมาย

ของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหสั ตัวชี้วดั ศ1.1ม.5/5 ศ1.1ม.5/6 ศ1.2ม.5/2 ศ2.1ม.5/4 ศ2.1ม.5/5 ศ2.2ม.5/3 ศ3.1ม.

5/4

รวม 7 ตวั ช้ีวัด

๒๕๗

คาอธิบายรายวิชา

ศ 32102 ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาวิธีการวิเคราะห์และอธิบายจุดมุ่งหมายของศิลปิน ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและ

เน้ือหา เพ่ือสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ วิธีการนาดนตรีไปประยุกต์ใช้ในงานอื่น ร้องเพลง หรือเล่นดนตรีเดี่ยวและ

รวมวงโดยเน้นเทคนิคการแสดงออกและคุณภาพของการแสดงปฏิบัติการประเมินและวิจารณ์ทัศนศิลป์ จัดทา

แฟ้มสะสมงานทัศนศิลป์ เปรียบเทยี บอารมณแ์ ละความรู้สกึ ที่ได้รับจากงานดนตรีทมี่ าจากวัฒนธรรมต่างกัน ร้อง

เพลง หรือเลน่ ดนตรีเด่ียวและรวมวงโดยเน้นเทคนิคการแสดงออกและคุณภาพของการแสดง จัดชดุ การแสดงใน

วนั สาคัญของโรงเรียน พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมิน ในการประเมินการแสดง มีความสามารถในการส่ือสาร

การคดิ การแกป้ ัญหา การใช้ทักษะชีวิตและการใช้เทคโนโลยเี พอื่ ให้มีความรู้ ความเข้าใจในการสรา้ งสรรค์ผลงาน

ด้านทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ โดยคานึงถงึ ความมีระเบียบวินยั ในการปฏิบัติงาน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝ่รู้

ใฝ่เรยี น อยู่อย่างพอเพียงมคี วามซ่ือสตั ยส์ จุ รติ มุ่งมันในการทางาน มีจิตสาธารณะ ต่อการสร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์

ดนตรีและนาฏศิลป์ เหน็ คุณค่าและรักความเป็นไทย

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซือ่ สัตยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมาย

ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ชี้วัด ศ1.1ม.5/7 ศ1.1ม.5/8 ศ1.1ม.5/9 ศ2.1ม.5/5 ศ2.1ม.5/8 ศ3.1ม.5/7 ศ3.1ม.

5/8

รวม 7 ตวั ชวี้ ดั

๒๕๘

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศ 33101 ทศั นศิลป์ กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความร้เู กย่ี วกับสร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ไทย-สากล โดยศึกษาจากแนวคิดและวิธีการสรา้ ง งานของ

ศิลปินท่ีตนชื่นชอบวาดภาพระบายสเี ปน็ ภาพลอ้ เลียนหรอื ภาพการ์ตูนเพื่อแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับสภาพสังคม

ในปัจจุบัน นาดนตรีไปประยุกต์ใช้ในงานอื่น ๆ วิเคราะห์ท่าทางและการเคลื่อนไหว ของผู้คนในชีวิตประจาวัน

และนามาประยุกต์ใช้ในการแสดงนาเสนอแนวคิดในการอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทย เพื่อให้เกิดความสามารถในการ

สร้างสรรค์ วาดภาพแสดงความคิดเห็นวิเคราะห์ นาเสนอแนวคิดผลงานด้านทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์

เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะ อย่างอิสระชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน

ชีวิตประจาวันเห็นคุณค่าดนตรีถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน

ชีวิตประจาวันเห็นคุณค่านาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิดอย่างอิสระช่ืนชมและประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวัน

เหน็ คุณค่าของนาฎศลิ ปท์ ีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรมภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและสากล

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซ่ือสตั ย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้าหมาย

ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหสั ตัวชี้วัด ศ1.1ม.6/10 ศ1.1ม.6/11 ศ2.1ม.6/8 ศ3.1ม.6/8 ศ3.2ม.6/4

รวม 5 ตัวช้วี ัด

๒๕๙

คาอธิบายรายวชิ า

ศ 33102 ดนตรีและนาฏศิลป์ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาความรู้เกี่ยวกับการจัดกลุ่มงานทัศนศิลป์เพื่อสะท้อนพัฒนาการและความก้าวหน้าของตนเอง
อภิปราย เกยี่ วกับอิทธพิ ลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศท่ีมผี ลตอ่ งานทัศนศิลปใ์ นสงั คม เปรียบเทียบ
อารมณ์และความร้สู ึกที่ได้รับจากงานดนตรที ่มี าจากวัฒนธรรมต่างกัน นาเสนอแนวทางในการส่งเสริมและอนุรกั ษ์
ดนตรีในฐานะมรดกของชาติพัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินการแสดงเพ่ือให้เกิดความสา มารถในการจัดกลุ่ม
อภิปรายเปรียบเทียบนาเสนอพัฒนาผลงานด้านทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์
ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระชื่นชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันเห็นคุณค่างาน
ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล เห็นคุณค่าดนตรีถ่ายทอด
ความรูส้ กึ ความคิดตอ่ ดนตรีอยา่ งอสิ ระชน่ื ชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั เห็นคณุ ค่าของดนตรีท่เี ปน็ มรดกทาง
วัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถนิ่ ภูมิปญั ญาไทยและสากล คุณค่านาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ อย่างอิสระช่ืน
ชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพ่ือบรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รหสั ตวั ชี้วัด ศ1.1ม.6/9 ศ1.2ม.6/2 ศ2.1ม.6/7 ศ2.2ม.6/5 ศ3.1ม.6/9

๒๖๐

รวม 5 ตวั ชี้วดั

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศ31203 ทกั ษะการขบั ร้องเพลง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาทฤษฎีพ้ืนฐานการขบั ร้อง ความหมายของการขับรอ้ ง ประวัติความเป็นมา อวัยวะที่เก่ียวข้องกับ

การหายใจ ตลอดจนภาษามือ แฮนด์ซาย (สัญลักษณ์มือ) และฝึกทักษะปฏิบัติ การฝึกลมหายใจ การออกเสียง

พร้อมกบั แบบฝึกหดั เพลงขับร้องประสานเสียงประเภทเพลงราวด์ หรือ แคนนอน อย่างง่ายโดยเนน้ กระบวนการ

ทกั ษะปฏบิ ตั ิการขบั ร้องประสานเสียง ซ่งึ ใชข้ ้อมลู จากการฝกึ ปฏบิ ัติในชัน้ เรยี น และเพ่ิมเตมิ จากแหล่งเรยี นรู้ต่างๆ

ฝึกทกั ษะปฏิบัติการขับร้องประสานเสียงอยางเป็นขั้นตอน เข้าใจกระบวนการทกั ษะการ ฝกึ ปฏิบตั ิทเ่ี หมาะสม

มีความคดิ สรา้ งสรรค์ด้วยสติปัญญาอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมคี วามเป็นเลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง

สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

ความซ่ือสัตยส์ ุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลเุ ปา้ หมาย

ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

๒๖๑

ตัวช้ีวัด
1. บอกความหมายของการขบั ร้อง
2. เลา่ ประวัติความเป็นมาของการขับร้อง
3. ระบอุ วัยวะทเี่ กย่ี วข้องกบั การหายใจ
4. อธิบายภาษามือ แฮนด์ซาย (สัญลกั ษณ์มือ)
5. ปฏบิ ตั ิทกั ษะ การฝึกลมหายใจ
6. ปฏบิ ัติทกั ษะ การออกเสียง
7. ขบั ร้องเพลงแบบฝึกหัด ขบั ร้องประสานเสยี งประเภทเพลง ราวด์ หรือ แคนนอน ได้อย่าง
ชัดเจน และไพเราะ

คาอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ

ศ 31202 ขบั รอ้ งประสานสียง 1 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาทฤษฎพี ื้นฐานการขับรอ้ งประสานเสียง ประเภทของการขับรอ้ ง การแบ่งระดับเสียงในการขบั ร้อง

ประสานเสียง ทักษะการเก็บลมหายใจ ท่าทางการยืน (POSTURE) ขณะขับร้อง ท่าทางการน่ังร้องพร้อมกับ

แบบฝกึ หดั เพลงขบั รอ้ งประสานเสียง ประเภทเพลง ราวด์ หรอื แคนนอน ประสานเสียง 2 แนว อยา่ งงา่ ย

โดยเน้นกระบวนการทกั ษะปฏบิ ัติการขบั ร้องประสานเสียง ซ่ึงใชข้ ้อมูลจากการฝกึ ปฏิบตั ิในชั้นเรยี น และเพ่มิ เติม

จากแหลง่ เรียนรูต้ า่ งๆ ฝึกทักษะปฏิบตั ิการขับร้องประสานเสียงอยางเป็นขั้นตอน เขา้ ใจกระบวนการทักษะการฝึก

ปฏิบตั ทิ ี่เหมาะสม โดยการและสั่งสมประสบการณค์ วามรู้อย่างมคี ณุ ภาพ ่


Click to View FlipBook Version