The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by แก้มป่อง แก้มหอม, 2022-09-16 00:32:52

หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย

หลักสูตรโรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย

100

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
คาอธิบายรายวชิ า จานวน 1.0 หน่วยกติ

รหสั วชิ า ค31101 รายวชิ า คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระต่อไปน้ี
เซต เซตจากัดและเซตอนันต์ การเทา่ กันของเซต เอกภพสมั พทั ธ์ สับเซต และพาวเวอร์เซต แผนภาพ

ของเวนน์ – ออยเลอร์ การดาเนนิ การของเซต และจานวนสมาชกิ ของเซตจากัด
ตรรกศาสตรเ์ บอื้ งตน้ ประพจน์ การเชอื่ มประพจน์ การหาค่าความจรงิ ของประพจน์ การสร้างตาราง

คา่ ความจรงิ สจั นิรนั ดร์
โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นที่ใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้

ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการทีไ่ ด้ไปใชใ้ นการเรียนรสู้ ิง่ ตา่ ง ๆ และใช้ชวี ติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมท้งั เหน็ คุณค่าและมเี จตคติ
ที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชอ่ื มน่ั ในตนเอง เป็นเลิศวชิ าการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั รับผดิ ชอบตอ่ สงั คมโลกรัก
ความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุง่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มีความซือ่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวติ บน
พ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกี เล่ยี งอบายมุข เพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

การวดั ผลและประเมนิ ผล ใชว้ ิธีการหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกบั เน้อื หาเนอ้ื หา
และทักษะ / กระบวนการท่ีต้องการวัด

ตัวช้วี ัด
ค 1.1 ม.4/1

รวม 1 ตวั ชี้วัด

101

คาอธิบายรายวชิ า

รหัสวิชา ค31102 รายวชิ า คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระต่อไปนี้
ฟังก์ชนั ความสมั พนั ธ์ ผลคูณคาร์ทีเซียน ความสมั พันธ์ โดเมนและเรนจ์ของความสมั พันธ์

ตัวผกผันของความสมั พนั ธ์ ฟงั กช์ ัน ความหมายของฟงั ก์ชนั การดาเนินการของฟังก์ชนั ฟังก์ชนั ผกผัน และ
เทคนิคการเขยี นกราฟ

ฟงั ก์ชันเอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟงั ก์ชันลอการิทมึ เลขยกกาลังและสมบัติของเลขยกกาลงั รากท่ี n ใน
ระบบ
จานวนจรงิ และจานนจรงิ ในรูปกรณฑ์ เลขยกกาลงั ที่มเี ลขชีก้ าลังเปน็ จานวนตรรกยะ บทนยิ ามของฟงั ก์ชนั เอกซ์
โพเนนเชยี ล และกราฟของฟงั ก์ชันเอกซโ์ พเนนเชยี ล สมการเอกซโ์ พเนนเชียล บทนยิ ามของฟงั ก์ชนั ลอการิทึม
การหาคา่ ลอการทิ มึ การหาค่าลอการิทมึ ฐานสิบ การเปลี่ยนฐานลอการทิ ึม สมการลอการทิ มึ การประยกุ ตข์ อง
ฟังกช์ นั เอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟงั ก์ชนั ลอการิทึม

โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการทีไ่ ด้ไปใช้ในการเรยี นรูส้ ง่ิ ต่าง ๆ และใช้ชวี ิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณคา่ และมเี จตคติ
ที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชื่อม่นั ในตนเอง เป็นเลศิ วชิ าการ ล้าหน้าทางความคิด ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์ รว่ มกนั รับผิดชอบต่อสงั คมโลกรัก
ความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มีความซ่อื สัตย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวติ บน
พื้นฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง หลีกเล่ยี งอบายมขุ เพ่อื บรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

การวัดผลและประเมินผล ใชว้ ิธกี ารหลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ใหส้ อดคลอ้ งกับเน้ือหาเนอ้ื หา
และทักษะ / กระบวนการทต่ี อ้ งการวดั

ตัวชว้ี ัด
ค 1.2 ม.5/1

102

รวม 1 ตัวช้วี ัด
ผลการเรยี นรู้ (สาระจานวนและพชี คณติ ข้อ 3)

- แก้สมการเอกซโ์ พเนนเชยี ลและสมการลอการทิ มึ และนาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา

คาอธบิ ายรายวิชา กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
รหสั วชิ า ค32101 รายวิชา คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง

ศึกษา ฝกึ ทกั ษะ / กระบวนการในสาระตอ่ ไปน้ี
ลำดับและอนุกรม ความหมายของลำดับ การหาพจนท์ ัว่ ไปของลาดับ ลำดับเลขคณิต ลาดบั เรขาคณิต

ความหมายของอนกุ รม อนกุ รมเลขคณิต อนกุ รมเรขาคณิต ผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิต และอนกุ รม
เรขาคณิต

ความน่าจะเปน็ การทดลองสมุ่ แซมเปิลสเปซ เหตกุ ารณ์และเหตุการณ์อย่างงา่ ย ความ
นา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ ความนา่ จะเป็นและการนาไปใช้

หลักการนบั เบอ้ื งต้น วิธีเรียงสบั เปล่ียนและวิธีจดั หมู่ แผนภาพต้นไม้ แฟกทรอเรียล การเรยี งสบั เปล่ยี น
การจดั หมู่ ทฤษฎบี ททวนิ าม

โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริงทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการท่ไี ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้สง่ิ ตา่ ง ๆ และใชช้ ีวิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมท้ังเหน็ คุณค่าและมเี จตคติ
ที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชอื่ มน่ั ในตนเอง เปน็ เลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรัก
ความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มคี วามซอื่ สัตย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบน
พ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกี เลย่ี งอบายมขุ เพ่อื บรรลเุ ปา้ หมายของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

103

การวัดผลและประเมนิ ผล ใช้วธิ ีการหลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อดคล้องกับเนือ้ หาเนอ้ื หา
และทกั ษะ / กระบวนการท่ีต้องการวดั

ตวั ชว้ี ัด
ค 3.2 ม. 4/1 , ม.4/2
ค 1.2 ม.5/1 , ม.5/2

รวม 4 ตัวชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชา กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
จานวน 1.0 หน่วยกติ
รหสั วชิ า ค32102 รายวชิ า คณติ ศาสตร์พื้นฐาน
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะ / กระบวนการในสาระตอ่ ไปน้ี
เลขยกกาลัง รากที่ n ของจานนจริง เมอื่ n เปน็ จานวนนบั ที่มากกว่า 1 เลขยกกาลังท่มี เี ลขช้ีกาลงั เป็น

จานวนเตม็ และเลขยกกาลงั ท่มี ีเลขชี้กาลงั เปน็ ตรรกยะ
ระบบสมการเชงิ เส้นและเมทรกิ ซ์ ระบบสมการเชงิ เสน้ เมทริกซ์ อนิ เวอร์สการคูณของเมทริกซ์

การหาอนิ เวอรส์ การคูณของเมทรกิ ซ์ การใชเ้ มทริกซแ์ กร้ ะบบสมการเชงิ เส้น
โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้

ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการเรียนรู้ส่งิ ต่าง ๆ และใชช้ ีวติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณคา่ และมเี จตคติ
ที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เช่อื มนั่ ในตนเอง เปน็ เลศิ วิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ รว่ มกันรับผิดชอบต่อสงั คมโลกรัก

104

ความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มีความซื่อสัตย์สจุ ริต มีจติ สาธารณะ ดารงชีวติ บน
พน้ื ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลีกเลยี่ งอบายมุข เพ่ือบรรลเุ ป้าหมายของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

การวดั ผลและประเมนิ ผล ใชว้ ธิ กี ารหลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ให้สอดคล้องกบั เน้ือหาเนือ้ หา
และทักษะ / กระบวนการทต่ี ้องการวดั

ตัวชี้วัด
ค 1.1 ม. 5/1
รวม 1 ตวั ชี้วดั

ผลการเรียนรู้(สาระจานวนและพีชคณิต ข้อ 3)
1. เขา้ ใจความหมาย หาผลลพั ธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคณู เมทรกิ ซ์กับจานวนจรงิ การคณู

ระหวา่ งเมทริกซก์ ับเมทริกซ์และหาเมทริกซ์สลบั เปล่ียน หาดีเทอรม์ ิแนนตข์ องเมทรกิ ซ์ n×n เม่ือ n เปน็ จานวน
นบั ไมเ่ กนิ 3

2. หาเมทรกิ ซผ์ กผันของเมทรกิ ซ์ 2×2
3. แก้ระบบสมการเชิงเสน้ โดยใช้เมทรกิ ซ์ผกผนั และการดาเนนิ การตามแถว

คาอธบิ ายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
จานวน 1.0 หนว่ ยกิต
รหัสวชิ า ค33101 รายวชิ า คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระต่อไปนี้
สถิตแิ ละขอ้ มลู ตัวอยา่ งของกรณหี รอื ปญั หาทีต่ อ้ งใช้สถติ ิ ความหมายของสถติ ิ สถิติกับการตัดสินใจ

และการวางแผน ข้อมลู และการเกบ็ รวบรวมข้อมูล
การวิเคราะห์ขอ้ มลู เบ้อื งตน้ การแจกแจงความถี่ของขอ้ มูล การแจกแจงความถี่โดยใชก้ ราฟ การวดั

ตาแหนง่ ที่ของข้อมลู การวัดคา่ กลางของขอ้ มลู และการวัดการกระจายของขอ้ มลู

105

โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นที่ใก ล้ตัว ให้ผู้ เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการทีไ่ ด้ไปใช้ในการเรียนรสู้ ่งิ ต่าง ๆ และใช้ชวี ติ ประจาวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติ
ที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชื่อมัน่ ในตนเอง เปน็ เลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคดิ ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั รับผิดชอบต่อสงั คมโลกรัก
ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มีความซอ่ื สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวติ บน
พื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เล่ยี งอบายมขุ เพ่อื บรรลุเป้าหมายของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

การวดั ผลและประเมนิ ผล ใช้วิธกี ารหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เนือ้ หาเนือ้ หา
และทกั ษะ / กระบวนการทตี่ ้องการวดั

ตวั ชีว้ ัด
ค 3.1 ม. 6/1
รวม 1 ตัวช้ีวัด

คาอธิบายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
รหสั วชิ า ค33102 รายวิชา คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง

106

ศึกษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระตอ่ ไปนี้
เซต เซตจากัดและเซตอนันต์ การเท่ากนั ของเซต เอกภพสัมพัทธ์ สับเซต และพาวเวอรเ์ ซต แผนภาพของ

เวนน์ – ออยเลอร์ การดาเนนิ การของเซต และจานวนสมาชกิ ของเซตจากดั
ฟังกช์ นั ความสัมพนั ธ์ ผลคูณคาร์ทีเซยี น ความสัมพนั ธ์ โดเมนและเรนจ์ของความสมั พนั ธ์

ตัวผกผันของความสัมพนั ธ์ ฟังก์ชนั ความหมายของฟังกช์ นั การดาเนนิ การของฟังกช์ นั ฟงั ก์ชนั ผกผัน และ
เทคนิคการเขยี นกราฟ

ลำดับและอนกุ รม ความหมายของลำดับ การหาพจน์ท่วั ไปของลาดบั ลำดับเลขคณติ ลาดับเรขาคณติ
ความหมายของอนุกรม อนกุ รมเลขคณิต อนกุ รมเรขาคณิต ผลบวก n พจน์แรกของอนกุ รมเลขคณิต และอนกุ รม
เรขาคณิต

ความน่าจะเป็น การทดลองสุม่ แซมเปิลสเปซ เหตกุ ารณ์และเหตุการณ์อย่างงา่ ย ความ
นา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ ความนา่ จะเปน็ และการนาไปใช้

หลักการนับเบอ้ื งต้น วิธีเรียงสบั เปลย่ี นและวิธีจดั หมู่ แผนภาพต้นไม้ แฟกทรอเรียล การเรยี งสับเปลี่ยน
การจัดหมู่ ทฤษฎีบททวินาม

เลขยกกาลงั รากที่ n ของจานนจรงิ เม่ือ n เปน็ จานวนนบั ทม่ี ากกวา่ 1 เลขยกกาลังที่มีเลขชกี้ าลงั เปน็
จานวนเต็มและเลขยกกาลงั ที่มเี ลขชก้ี าลังเปน็ ตรรกยะ

สถิตแิ ละขอ้ มลู ตวั อย่างของกรณีหรอื ปญั หาที่ต้องใช้สถิติ ความหมายของสถติ ิ สถติ กิ ับการตัดสินใจ
และการวางแผน ขอ้ มูลและการเก็บรวบรวมขอ้ มลู

การวิเคราะหข์ ้อมูลเบื้องต้น การแจกแจงความถ่ีของข้อมลู การแจกแจงความถี่โดยใชก้ ราฟ การวัด
ตาแหนง่ ทข่ี องข้อมลู การวัดค่ากลางของขอ้ มูล และการวดั การกระจายของขอ้ มูล

อตั ราสว่ นตรีโกณมติ ิ อัตราส่วนตรโี กณมิติ การนาค่าอตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิของมุม 30˚ 45˚ และ 60˚
ไปใชใ้ นการแก้ปญั หา

จานวนจริง จานวนจรงิ และสมบตั ิของจานวนจริง ค่าสมั บรู ณข์ องจานวนจรงิ และสมบัตขิ องค่าสัมบูรณ์
ของจานวนจรงิ จานวนจริงในรูปกรณและจานวนจรงิ ในรปู เลขยกกาลงั

โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ และใชช้ ีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทงั้ เหน็ คุณค่าและมเี จตคติ
ท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชอ่ื มน่ั ในตนเอง เป็นเลศิ วิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมโลกรัก
ความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบน
พ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ยี งอบายมุข เพ่อื บรรลุเปา้ หมายของหลกั สูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

107

การวดั ผลและประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารหลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาเนอ้ื หา
และทักษะ / กระบวนการท่ตี อ้ งการวัด

ตัวชว้ี ัด

ค 1.1 ม.4/1 ค 1.1 ม. 5/1 ค 3.2 ม. 4/1 , ม.4/2

ค 1.2 ม.5/1 , ม.5/2 ค 3.1 ม. 6/1

รวม 7 ตวั ชว้ี ดั

ผลการเรียนร(ู้ สาระจานวนและพชี คณิต ข้อ 1)

- เข้าใจจานวนจรงิ และใชส้ มบัตขิ องจานนจรงิ ในการแก้ปญั หา

ผลการเรียนร้(ู สาระจานวนและพีชคณติ ข้อ 2)

- หาผลลพั ข์ องการบวก การลบ การคณู การหารฟงั กช์ นั หาฟงั ชนั กป์ ระกอบและฟงั ชันกผ์ กผนั

ผลการเรียนร(ู้ สาระสถิติและความน่าจะเป็น ข้อ1)

1. เข้าใจและใชห้ ลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียน และการจดั หมใู่ นการแก้ปญั หา

2. หาความนา่ จะเป็นและนาความรูเ้ กย่ี วกบั ความน่าจะเปน็ ไปใช้

108

คาอธิบายรายวิชา

รหสั วชิ า ค 31201 รายวิชา คณิตศาสตรเ์ พิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษา ฝึกทกั ษะ / กระบวนการในสาระต่อไปน้ี
ตรรกศาสตรเ์ บอ้ื งตน้ ประพจน์ การเชื่อมประพจน์ การหาคา่ ความจริงของประพจน์ การสรา้ งตาราง
คา่ ความจรงิ รูปแบบของประพจน์ทีส่ มมูลกัน สัจนริ นั ดร์ การอ้างเหตผุ ล ประโยคเปิด ข้อความท่มี ตี ัวบง่ ปรมิ าณ
และคา่ ความจรงิ ของประโยคที่มีตวั บ่งปริมาณ สมมูลและนเิ สธของประโยคทม่ี ีตวั บง่ ปริมาณ
จานวนจรงิ จานวนจริง การเท่ากนั การบวก การลบ การคูณ และการหารในระบบจานวนจรงิ สมบัติ
ของระบบจานวนจรงิ การนาสมบัติของจานวนจริงไปใช้ในการแก้ปัญหา ค่าสัมบรู ณ์
พหุนามและเศษส่วนของพหนุ าม ตวั ประกอบของพหุนาม สมการพหนุ ามตัวแปรเดียว สมบัติการไม่
เท่ากนั ช่วงและการแกอ้ สมการพหนุ าม การดาเนนิ การของเศษสว่ นพหนุ าม สมการและอสมการเศษส่วนของพหุ
นาม สมการและอสมการคา่ สัมบูรณช์ องพหนุ าม
โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นที่ใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สงิ่ ต่าง ๆ และใชช้ ีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมเี จตคติ
ที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เช่ือม่ันในตนเอง เป็นเลิศวชิ าการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสงั คมโลกรัก
ความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มีความซอ่ื สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบน
พ้นื ฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพอ่ื บรรลุเปา้ หมายของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

การวดั ผลและประเมนิ ผล ใชว้ ธิ กี ารหลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอดคลอ้ งกับเน้ือหาเนอ้ื หา
และทกั ษะ / กระบวนการที่ตอ้ งการวดั

ผลการเรยี นรู้

109

1. เข้าใจและใช้ความรู้เกย่ี วกบั ตรรกศาสตรเ์ บือ้ งต้นในการสอ่ื สาร สือ่ ความหมาย และอ้างเหตุผล
2. เข้าใจจานวนจรงิ และใช้สมบัติของจานวนจริงในการแกป้ ัญหา
3. แกส้ มการและอสมการพหุนามตวั แปรเดยี วดกี รีไมเ่ กินส่ี และนาไปใชใ้ นการแก้ปญั หา
4. แกส้ มการและอสมการเศษส่วนพหุนามตัวแปรเดยี ว และนาไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา
5. แกส้ มการและอสมการคา่ สัมบูรณ์พหนุ ามตวั แปรเดยี ว และนาไปใช้ในการแก้ปัญหา

คาอธิบายรายวิชา

รหัสวชิ า ค 31202 รายวิชา คณติ ศาสตร์เพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระต่อไปนี้
เรขาคณติ วิเคราะห์ ความรู้เบอื้ งตน้ เกย่ี วกับเรขาคณติ วเิ คราะห์ ระยะทางระหวา่ งจุดสองจดุ จดุ กึ่งกลาง
ระหวา่ งจุดสองจุด ความชันของเส้นตรง เสน้ ขนาน เส้นตงั้ ฉาก ความสมั พันธท์ ม่ี ีกราฟเปน็ เสน้ ตรง ระยะหา่ ง
ระหวา่ งเสน้ ตรงกบั จุด และระยะหา่ งระหวา่ งเส้นตรงสองเสน้ ทข่ี นานกัน ภาคตดั กรวย วงกลม วงรี พาราโบลา และ
ไฮเพอรโ์ บลา
โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการท่ไี ด้ไปใช้ในการเรียนรสู้ ง่ิ ตา่ ง ๆ และใชช้ วี ติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณคา่ และมเี จตคติ
ท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เช่อื ม่นั ในตนเอง เปน็ เลศิ วชิ าการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ร่วมกันรับผดิ ชอบตอ่ สังคมโลกรัก
ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มคี วามซอื่ สัตย์สจุ ริต มีจติ สาธารณะ ดารงชีวติ บน
พ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมขุ เพอื่ บรรลุเปา้ หมายของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

การวัดผลและประเมินผล ใชว้ ธิ กี ารหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกบั เนื้อหาเน้อื หา
และทกั ษะ / กระบวนการท่ีต้องการวัด

ผลการเรยี นรู้

110

1. เขา้ ใจและใช้ความรู้เกีย่ วกบั เรขาคณิตวิเคราะหใ์ นการแก้ปัญหา

คาอธิบายรายวิชา

รหสั วชิ า ค 32201 รายวชิ า คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษา ฝึกทกั ษะ / กระบวนการในสาระต่อไปน้ี
สมการเอกซโ์ พเนนเชียลและสมการลอการิทึม เลขยกกาลัง ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเชียล ฟังก์ชนั ลอการิทึม
การหาคา่ ลอการิทมึ การเปลีย่ นฐานของลอการทิ ึม สมการเอกซ์โพเนนเชยี ลและสมการลอการทิ มึ การประยุกต์
ของฟงั ก์ชันเอกซโ์ พเนนเชียลและฟงั กช์ นั ลอการทิ ึม
เวกเตอรใ์ นสามมิติ ระบบพิกัดฉากสามมิติ เวกเตอร์ เวกเตอร์ในระบบพกิ ัดฉาก ผลคณู เชิงสเกลาร์
ผลคูณเชงิ เวกเตอร์
โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการเรยี นร้สู ่งิ ตา่ ง ๆ และใชช้ ีวติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมทง้ั เหน็ คุณค่าและมเี จตคติ
ท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชือ่ มน่ั ในตนเอง เป็นเลศิ วิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์ รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลกรัก

111

ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน มีระเบียบวนิ ัย มคี วามซอ่ื สัตย์สุจริต มีจติ สาธารณะ ดารงชีวติ บน
พน้ื ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลีกเล่ยี งอบายมขุ เพื่อบรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

การวัดผลและประเมนิ ผล ใชว้ ธิ กี ารหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคลอ้ งกับเนอื้ หาเนื้อหา
และทักษะ / กระบวนการทีต่ ้องการวดั

ผลการเรียนรู้

1. เข้าใจลักษณะกราฟของฟังกช์ นั เอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟงั กช์ นั ลอการทิ ึม และนาไปใช้ในการแก้ปัญหา
2. แกส้ มการเอกซโ์ พเนนเชียลและสมการลอการิทมึ และนาไปใช้ในการแก้ปญั หา
3. หาผลลพั ธข์ องการบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอรด์ ว้ ยสเกลาร์ หาผลคณู เชิงสเกลาร์ และผลคูณเชงิ
เวกเตอร์
4. นาความรู้เก่ยี วกับเวกเตอรใ์ นสามมิติไปใชใ้ นการแก้ปัญหา

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหสั วชิ า ค 32202 รายวชิ า คณิตศาสตร์เพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษา ฝึกทกั ษะ / กระบวนการในสาระต่อไปน้ี
ฟงั กช์ ันตรโี กณมิติ ฟงั กช์ ันไซนแ์ ละโคไซน์ ค่าของฟังกช์ ันไซนแ์ ละโคไซน์ ฟังกช์ ันตรีโกณมติ ิอืน่ ๆ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติของมมุ การใชต้ ารางค่าฟงั กช์ ัตรโี กณมติ ิ กราฟของฟงั กช์ นั ตรโี กณมิติ ฟังกช์ ันตรโี กณมติ ขิ อง
ผลบวกและผลต่างของจานวนจริงและมมุ ตัวผกผันของฟงั ก์ชันตรีโกณมิติ เอกลกั ษณ์และสมการตรีโกณมิติ กฎ
ของไซนแ์ ละโคไซน์ การหาระยะทางและความสงู
จานวนเชิงซอ้ น จานวนเชิงซอ้ นและสมบัตขิ องจานวนเชิงซ้อน จานวนเชิงซอ้ นในรูปเชิงขั้ว รากท่ี n
ของจานวนเชิงซ้อน เมอ่ื n เป็นจานวนนบั ที่มากกว่า 1

112

จานวนเชิงซ้อน (สมการพหนุ ามตัวแปรเดียว) การนาความรูเ้ กย่ี วกบั สมการพหนุ ามตวั แปรเดียวไปใชใ้ น
การแก้ปัญหา

โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือ สร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นท่ีใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้ส่งิ ตา่ ง ๆ และใชช้ ีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทัง้ เหน็ คุณคา่ และมีเจตคติ
ท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชือ่ มนั่ ในตนเอง เป็นเลศิ วชิ าการ ล้าหนา้ ทางความคดิ ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ รว่ มกันรบั ผิดชอบตอ่ สังคมโลกรัก
ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มคี วามซื่อสัตย์สุจริต มีจติ สาธารณะ ดารงชีวิตบน
พน้ื ฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลย่ี งอบายมุข เพอ่ื บรรลุเป้าหมายของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

การวัดผลและประเมนิ ผล ใช้วธิ ีการหลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อดคล้องกบั เน้ือหาเนือ้ หา
และทักษะ / กระบวนการทีต่ ้องการวัด

ผลการเรียนรู้

1. แก้สมการตรีโกณมิติ และนาไปใช้ในการแก้ปัญหา
2. ใชก้ ฎของไซน์และโคไซน์ในการแก้ปญั หา
3. เขา้ ใจจานวนเชงิ ซ้อน และใชส้ มบัติของจานวนเชงิ ซอ้ นในการแก้ปญั หา
4. หารากท่ี n ของจานวนเชิงซอ้ น เม่อื n เปน็ จานวนที่มากกวา่ 1

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวชิ า ค 33201 รายวชิ า คณิตศาสตรเ์ พิ่มเตมิ กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะ / กระบวนการในสาระตอ่ ไปน้ี
ลาดบั และอนุกรมอนนั ต์ ลาดบั อนนั ต์ และอนกุ รมอนนั ต์

113

แคลคูลัสเบ้อื งตน้ ลิมิตและความตอ่ เน่อื งของฟังก์ชนั อตั ราการเปลี่ยนแปลง อนุพนั ธข์ องฟงั ก์ชนั ปฎิ
ยานพุ นั ธ์

โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง
ทดลอง สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทกั ษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนา
ประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทกั ษะกระบวนการทไี่ ด้ไปใชใ้ นการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ชีวติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคณุ ค่าและมี

เจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และเชื่อมั่นในตนเอง เป็นเลิศ
วิชาการ ลา้ หน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลกรักความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้
มุ่งม่นั ในการทางาน มรี ะเบยี บวินยั มีความซ่ือสัตย์สจุ ริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง
หลีกเล่ียงอบายมขุ เพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

การวัดผลและประเมนิ ผล ใช้วิธีการหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงใหส้ อดคล้องกบั เน้อื หาเน้อื หา
และทกั ษะ / กระบวนการทีต่ อ้ งการวัด

ผลการเรยี นรู้

1. ระบุไดว้ ่าลาดบั ท่ีกาหนดให้เป็นลาดับลู่เข้าหรือลู่ออก
2. หาผลบวก n พจน์แรกของอนกุ รมเลขคณติ และอนุกรมเรขาคณติ
3. หาผลบวกอนกุ รมอนนั ต์
4. เขา้ ใจและนาความรู้เกีย่ วกับลาดบั และอนุกรมไปใช้
5. ตรวจสอบความตอ่ เน่อื งของฟังก์ชันทีก่ าหนดให้
6. หาอนพุ ันธข์ องฟงั ก์ชันพชี คณติ ที่กาหนดใหแ้ ละนาไปใช้แกป้ ญั หา
7. หาปริพันธไ์ มจ่ ากดั เขตและจากดั เขตของฟงั ก์ชันพชี คณติ ท่ีกาหนดใหแ้ ละนาไปใช้แกป้ ญั หา

คาอธิบายรายวิชา

รหสั วิชา ค 33202 รายวิชา คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

114

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษา ฝกึ ทักษะ / กระบวนการในสาระตอ่ ไปนี้
การแจกแจงความนา่ จะเปน็ เบอ้ื งต้น การแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวินาม การแจกแจงปกติ
โดยก าร จัดปร ะ สบก าร ณ์หรือสร้าง สถาน ก าร ณ์ใน ชีวิ ตปร ะ จาวั นที่ใก ล้ตัว ให้ผู้เรียน ไ ด้
ศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปรายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การ
แก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ
กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรยี นรสู้ ิ่งตา่ ง ๆ และใชช้ วี ติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทง้ั เหน็ คุณคา่ และมเี จตคติ
ท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เชือ่ ม่ันในตนเอง เป็นเลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคดิ ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลกรัก
ความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์สจุ ริต มีจติ สาธารณะ ดารงชีวิตบน
พืน้ ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพอื่ บรรลุเป้าหมายของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

การวัดผลและประเมนิ ผล ใชว้ ธิ ีการหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงใหส้ อดคล้องกับเนอ้ื หาเนอ้ื หา
และทกั ษะ / กระบวนการทตี่ อ้ งการวดั

ผลการเรยี นรู้

1. หาความนา่ จะเป็นของเหตุการณท์ ี่เกิดจากตวั แปรสุ่มทมี่ กี ารแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวนิ าม และการแจก
แจงปกติ และนาไปใช้ในไปใช้

115

คาอธบิ ายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี

116

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้

คาอธิบายรายวิชาวทิ ยาศาสตร์

รหสั วชิ า ว21101 รายวิชา วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 60 ชัว่ โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเกี่ยวกบั สารรอบตัว สมบัตขิ องสาร การจาแนกสารด้วยสถานะ เนือ้ สาร และขนาดอนภุ าคของสาร
การเปลี่ยนแปลงของสารบริสุทธ์ิและสารผสม สมบัติสารบริสุทธิ์และสารผสม การใช้ความรู้ทางเคมีให้เป็น
ประโยชน์ต่อการเลือกใช้สารเคมีในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย การศึกษาชีววิทยาโดยอาศัย
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ศึกษาประเภทโครงสร้างและหน้าท่ีของส่วนประกอบภายในเซลล์ส่ิงมีชีวิตด้วยกล้อง
จุลทรรศน์ ศึกษากระบวนการลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ด้วยวิธีการแพร่และการออสโมซิส ศึกษาการ
ดารงชีวิตของพืช กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง การลาเลียงสารในพชื การเจริญเติบโตของพชื การสบื พนั ธ์ุของ
พชื และเทคโนโลยีชวี ภาพของพชื

โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
มคี วามสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารส่งิ ที่เรียนรแู้ ละนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
มีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อ
สงั คมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ
ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลุเป้าหมายของหลักสูตรโรงเรียน
มาตรฐานสากล

ตวั ช้ีวัด

117

ว ๑.๒ ม๑/๑, ม๑/๒ ,ม๑/๓, ม๑/๔ , ม๑/๕ , ม๑/๖ , ม๑/๗, ม๑/๘ ม๑/๙,ม๑/๑๐, ม๑/๑๑ , ม๑/๑๒ ,
ม๑/๑๓ ม๑/๑๔ , ม๑/๑๕ ม๑/๑๖ , ม๑/๑๗ , ม๑/๑๘

ว ๒.๑ ม๑/๑ , ม๑/๒ , ม๑/๓, ม๑/๔, ม๑/๕, ม๑/๖ , ม๑/๗, ม๑/๘ ,ม๑/๙, ม๑/๑๐

รวม ๒๘ ตัวชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชาวทิ ยาศาสตร์

รหัสวชิ า ว21102 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์พน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรยี น 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเกย่ี วกับอุณหูมิและการวดั ผลของความร้อนท่ีมผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงของสาร การถ่ายโอนความ
ร้อน การดูดกลืนและคายความร้อน สมดุลความร้อน องค์ประกอบของบรรยากาศ การแบ่งช้ันบรรยากาศ
ไดแ้ ก่ อุณหภูมิอากาศ ความดันอากาศ ความช้ืนอากาศ ลม เมฆ และฝน พายุฟา้ คะนอง พายุหมนุ เขตร้อน มรสุม
การพยากรณ์อากาศ และการเปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศของโลก

โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารส่งิ ทเ่ี รียนรูแ้ ละนาความรไู้ ปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน มีจติ วทิ ยาศาสตร์
มีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อ
สังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ
ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือบรรลุเป้า หมายของหลักสูตรโรงเรียน
มาตรฐานสากล

118

ตวั ชวี้ ัด
ว ๒.๒ ม๑/๑
ว ๒.๓ ม๑/๑, ม๑/๒, ม๑/๓ , ม๑/๔, ม๑/๕ , ม๑/๖, ม๑/๗
ว ๓.๒ ม๑/๑, ม๑/๒, ม๑/๓ , ม๑/๔, ม๑/๕ , ม๑/๖, ม๑/๗

รวม ๑๕ ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์

รหัสวิชา ว22101 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษา วเิ คราะห์ ตระหนกั คณุ ค่า และอธบิ ายการระบอุ วัยวะและบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะทีเ่ ก่ยี วขอ้ งใน
ระบบหายใจ กลไกการหายใจเขา้ และออก โดยใช้แบบจาลอง ความสาคญั ของระบบหายใจรวมทง้ั อธิบาย
กระบวนการแลกเปลย่ี นแก๊ส ความสาคญั ของระบบขบั ถ่ายในการกาจัดของเสียทางไตหน้าที่ของหัวใจหลอดเลือด
และเลือด ระบบหมนุ เวยี นเลอื ด หน้าทขี่ องอวยั วะในระบบประสาทส่วนกลางในการควบคุมการทางานตา่ ง ๆ ของ
รา่ งกาย ความสาคัญของระบบประสาท โดยการบอกแนวทางในการดแู ลรักษา รวมถึงการปอ้ งกนั การ
กระทบกระเทือนและอนั ตรายตอ่ สมองและไขสันหลัง หน้าทขี่ องอวยั วะในระบบสบื พันธุ์ของเพศชายและเพศหญิง
ฮอร์โมนเพศชายและเพศหญงิ การตกไข่ การมีประจาเดือนการปฏสิ นธิ และการพัฒนาของไซโกตจนคลอดเปน็
ทารก

119

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ตระหนักคณุ ค่า และอธบิ ายการแยกสารผสมโดยการระเหยแหง้ การตกผลึก การกลัน่
อย่างง่ายโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทาละลาย นาวธิ ีการแยกสารไปใช้แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวัน
ผลของชนิดตัวละลาย ชนดิ ตัวทาละลายอณุ หภูมิทีม่ ตี อ่ สภาพละลายไดข้ องสาร ผลของความดันทมี่ ตี ่อสภาพ
ละลายได้ของสาร โดยใชส้ ารสนเทศ ตวั ละลายในสารละลาย ในหนว่ ยความเข้มขน้ เป็นร้อยละ ปรมิ าตรต่อปริมาตร
มวลตอ่ มวล และมวลต่อปริมาตร

ศกึ ษา วิเคราะห์ ตระหนกั คุณค่า และอธิบายการพยากรณ์การเคลื่อนท่ีของวตั ถุท่ีเป็นผลของแรงลัพธ์ที่
เกิดจากแรงหลายแรงที่กระทาต่อวตั ถุในแนวเดียวกัน ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ีเหมาะสมในการ
อธิบายปัจจัยท่ีมีผลต่อความดันของเหลว แรงพยุงและการจม การลอยของวัตถุในของเหลว แรงเสียดทานสถิต
และแรงเสียดทานจลน์ แหล่งของสนามแม่เหล็กสนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง และทิศทางของแรงทกี่ ระทาต่อ
วัตถุที่อยู่ในแตล่ ะสนาม และคานวณอัตราเรว็ และความเรว็ ของการเคล่อื นท่ขี องวัตถุ

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่อื บรรลุเป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

ตัวช้วี ดั
ว.1.2 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5,ม.2/6,ม.2/7,ม.2/8,ม.2/9,ม.2/10,ม.2/11,ม.2/12,ม.2/13,ม.2/14,

ม.2/15,ม.2/16,ม.2/17
ว.2.1 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5,ม.2/6
ว.2.2 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5,ม.2/6,ม.2/7,ม.2/8,ม.2/9,ม.2/10,ม.2/11,ม.2/12,ม.2/13,ม.2/14,

ม.2/15

คาอธบิ ายรายวชิ าวิทยาศาสตร์

รหัสวิชา ว22102 รายวชิ า วิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น 60 ชว่ั โมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วิเคราะห์ และอธบิ ายการวิเคราะห์สถานการณ์และคานวณเกย่ี วกับงาน และกาลังทเี่ กดิ จากแรงท่ี

120

กระทาต่อวัตถุ วเิ คราะหห์ ลกั การทางานของเครื่องกลอย่างงา่ ย ตระหนกั ถึงประโยชน์ของความรขู้ องเคร่ืองกล
อย่างงา่ ย โดยบอกประโยชน์ และการประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ปัจจัยทีม่ ีผลต่อพลังงานจลน์ และพลังงานศกั ย์
โน้มถ่วง แปลความหมายขอ้ มูลและอธบิ ายการเปลย่ี นพลงั งานระหว่างพลังงานศักย์โนม้ ถ่วงและพลงั งานจลนข์ อง
วตั ถุโดยพลงั งานกลของวตั ถุมีคา่ คงตัว วเิ คราะหส์ ถานการณแ์ ละอธบิ ายการเปลีย่ น และการถ่ายโอนพลงั งานโดย
ใชก้ ฎการอนุรักษ์พลังงาน

ศึกษาเปรียบเทยี บกระบวนการเกิด สมบัติ และการใชป้ ระโยชน์ รวมทั้งอธิบายผลกระทบจากการใช้
เชื้อเพลิงซากดกึ ดาบรรพ์ ผลจากการใชเ้ ชือ้ เพลิงซากดกึ ดาบรรพ์ เปรยี บเทยี บขอ้ ดแี ละข้อจากดั ของพลงั งาน
ทดแทนแต่ละประเภท สร้างแบบจาลองที่อธบิ ายโครงสรา้ งภายในโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมี การผพุ งั อย่กู ับท่ี
การกร่อน และการสะสมตัวของตะกอน ลกั ษณะของชนั้ หนา้ ตัดดนิ และกระบวนการเกดิ ดิน ตรวจวัดสมบัติบาง
ประการของดิน โดยใช้เครอื่ งมอื ปัจจัยและกระบวนการเกิดแหล่งน้าผิวดนิ และแหลง่ น้าใต้ดนิ กระบวนการเกิด
และผลกระทบของน้าท่วม การกดั เซาะชายฝง่ั ดินถล่ม หลมุ ยุบ แผน่ ดินทรดุ

ศึกษาการคาดการณแ์ นวโนม้ เทคโนโลยีท่ีจะเกดิ ขึ้นโดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรอื ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อการ
เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และวเิ คราะห์เปรยี บเทียบ ตัดสนิ ใจเลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่เี กิดขึน้
ตอ่ ชีวติ สังคม และส่ิงแวดล้อม ออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หา โดยวิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลอื กข้อมลู ที่
จาเปน็ ภายใตเ้ ง่อื นไขและทรัพยากรท่ีมอี ยู่ ทดสอบ ประเมินผล และอธิบายปญั หาหรอื ขอ้ บกพรอ่ งทเ่ี กดิ ขน้ึ
ภายใต้กรอบเงอื่ นไขพร้อมท้ังหาแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข ใช้ความรู้ และทักษะเกย่ี วกับวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมอื
กลไก ไฟฟ้า และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพอ่ื แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และปลอดภยั

ศึกษาการแสดงลาดบั ข้ันตอนการทางานหรือการแก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือขอ้ ความ
เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือส่ือ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม ใชเ้ ทคโนโลยีในการ
สรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรยี กใช้ขอ้ มลู ตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏบิ ตั ิ
ตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์รว่ มกัน ดแู ลรักษาอุปกรณเ์ บ้อื งตน้ ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพอ่ื บรรลุเป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ตัวช้วี ัด
ว.2.3 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5,ม.2/6
ว.3.2 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5,ม.2/6,ม.2/7,ม.2/8,ม.2/9,ม.2/10
ว.4.1 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4,ม.2/5
ว.4.2 ม.2/1,ม.2/2,ม.2/3,ม.2/4

คาอธบิ ายรายวชิ าวิทยาศาสตร์

รหัสวิชา ว23101 รายวิชา วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน 121

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
เวลาเรียน 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษา วเิ คราะห์ ตระหนกั คณุ ค่า และอธิบายการใชป้ ระโยชนว์ สั ดปุ ระเภทพอลิเมอร์ เซรามิกสแ์ ละวสั ดุ

ผสม การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี กฎทรงมวล ปฏกิ ริ ิยาดดู ความร้อน และปฏิกริ ิยาคายความรอ้ น ปฏิกิรยิ าการเกดิ สนมิ
ของเหล็ก ปฏิกริ ยิ าของกรดกบั โลหะปฏิกริ ิยาของกรดกับเบส และปฏกิ ริ ิยาของเบสกับโลหะ ปฏกิ ิริยาการเผาไหม้
การเกดิ ฝนกรด และการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ตระหนกั คุณคา่ บรรยาย และอธิบายความสมั พันธ์ระหว่างความต่างศกั ยก์ ระแสไฟฟ้า
และความต้านทานไฟฟา้ การใช้โวลตม์ ิเตอร์ แอมมเิ ตอร์ แผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการตอ่ ตัวต้านทานแบบอนุกรม
และขนาน การทางานของช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างงา่ ย คานวณพลงั งานไฟฟ้า การเลอื กใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้า
อธิบายการเกดิ คลืน่ และบรรยายสว่ นประกอบของคลื่น คลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้ และสเปกตรัมคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า กฎ
การสะทอ้ นของแสง การเคล่ือนทีข่ องแสงแสดงการเกิดภาพจากกระจกเงา การหักเหของแสง ปรากฏการณท์ ่ี
เกย่ี วกับแสงและการทางานของทัศนอปุ กรณ์ ความสว่างของแสง ท่มี ตี ่อดวงตา โดยเลือกใชว้ ัสดุอุปกรณ์ที่
เหมาะสมตอ่ การศึกษาภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ เปน็ พ้นื ฐานในการปรับใชก้ บั การประกอบอาชพี ใน
อนาคต และหา่ งไกลอบายมุข

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพนื้ ฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลยี่ งอบายมุข เพอื่ บรรลุเป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ตวั ช้วี ดั
ว 2.1 ม 3/๑ , ม 3/๒ , ม3/๓ , ม3/๔ , ม3/๕ , ม3/๖ ม 3/7 , ม 3/8
ว 2.3 ม 3/๑ , ม 3/๒ , ม3/๓ , ม3/๔ , ม3/๕ , ม3/๖ ม 3/7 , ม 3/8 , ม3/9 , ม3/10, ม3/11

ม 3/๑2 , ม3/1๓ , ม3/1๔ , ม3/1๕ , ม3/1๖ ม 3/17 , ม 3/18 , ม3/19 , ม3/20,ม3/21

รวม 29 ตวั ช้วี ัด

122

คาอธบิ ายรายวชิ าวิทยาศาสตร์

รหัสวชิ า ว23102 รายวชิ า วิทยาศาสตร์พนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

ศกึ ษา ปฏิสมั พันธ์ขององคป์ ระกอบของระบบนิเวศ รูปแบบความสมั พนั ธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกบั สง่ิ มชี ีวติ
รปู แบบตา่ ง ๆ ในแหล่งทีอ่ ยเู่ ดียวกัน การถา่ ยทอดพลังงานในสายใยอาหาร ความสัมพันธข์ องผู้ผลิต ผูบ้ รโิ ภค และ
ผูย้ อ่ ยสลายสารอินทรยี ์ในระบบนเิ วศ การสะสมสารพิษในส่ิงมชี วี ติ ในโซอ่ าหาร และตระหนกั ถงึ ความสมั พนั ธข์ อง
สิ่งมชี วี ติ และสิง่ แวดลอ้ มในระบบนเิ วศ โดยไม่ทาลายสมดุลของระบบนิเวศ

ศึกษาความสมั พันธร์ ะหว่าง ยนี ดเี อน็ เอ และโครโมโซม การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม การเกดิ จีโน
ไทป์และฟโี นไทปข์ องลกู และคานวณอตั ราสว่ นการเกดิ จีโนไทป์ และฟีโนไทป์ของรุ่นลูก การแบ่งเซลล์แบบไมโท
ซสิ และไมโอซิส โรคทางพันธุกรรม การใช้ประโยชนจ์ ากส่งิ มีชีวติ ดดั แปรพนั ธกุ รรมและผลกระทบทีอ่ าจมีตอ่ มนุษย์
และสิ่งแวดลอ้ ม และความหลากหลายทางชีวภาพ

ศึกษาการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตย์ อธิบายการเกดิ ฤดูและการเคลือ่ นที่ปรากฏของดวง
อาทิตย์ การเกิดขา้ งขึ้นข้างแรมการเปล่ียนแปลงเวลาการขน้ึ และตกของดวงจนั ทรแ์ ละการเกดิ น้าขึ้นน้าลง การใช้
ประโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศและยกตัวอยา่ งความกา้ วหนา้ ของโครงการสารวจอวกาศ

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เล่ียงอบายมุข เพอ่ื บรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ตัวชว้ี ดั
ว ๑.๑ ม 3/๑ , ม 3/๒ , ม3/๓ , ม3/๔ , ม3/๕ , ม3/๖
ว ๑.๓ ม 3/๑ , ม 3/๒ , ม3/๓ , ม3/๔ , ม3/๕ , ม3/๖ ม 3/7 , ม 3/8 , ม3/9 , ม3/10 , ม3/11
ว 3.1 ม 3/๑ , ม 3/๒ , ม3/๓ , ม3/๔

รวม 21 ตัวชวี้ ัด

123

คาอธบิ ายรายวิชา

รหัสวชิ า ว20211 รายวชิ า ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

________________________________________________________________________________

ศึกษาและปฏิบัตเิ กยี่ วกบั ทักษะ การสงั เกต การวดั การจาแนก การใชต้ วั เลขและการคานวณ การจัดการ
กระทาและส่ือความหมายข้อมลู การทานายหรอื การพยากรณ์ การลงความคิดเหน็ จากข้อมูล การหาความสมั พันธ์
ระหวา่ งสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลา การตง้ั สมมติฐาน การควบคมุ ตัวแปร การตีความหมายขอ้ มลู และการลง
ข้อสรปุ การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ัติการ การทดลองเพ่ือใหม้ ีความเขา้ ใจ

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ มสี มรรถนะสาคญั มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ นาความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตรไ์ ปใชใ้ น
การศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ อย่อู ย่างพอเพียง และแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ การคดิ อยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล คิด
วเิ คราะห์ คดิ สร้างสรรค์ และมีจิตวทิ ยาศาสตร์

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตยส์ ุจรติ มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพืน้ ฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพอ่ื บรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มูลและอภปิ รายทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2. อธบิ ายและฝึกทักษะการสังเกต
3. อภิปราย และฝึกทกั ษะการจาแนก
4. สังเกต วเิ คราะห์ และฝกึ ทกั ษะการวัด

124

5. อภิปรายแลฝกึ ทกั ษะการใชต้ วั เลขและการคานวณ
6. สังเกต วิเคราะห์ และฝึกทักษะการกระทากบั ข้อมูลและสอ่ื ความหมาย
7. อภปิ รายและฝึกทักษะการลงความคิดเหน็ จากขอ้ มลู
8. สังเกต วเิ คราะห์ และฝกึ ทกั ษะการหาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสเปสกับสเปสและสเปสกบั เวลา
9. สงั เกต วิเคราะห์ และฝกึ ทกั ษะทานายหรอื พยากรณ์
10. อภปิ ราย และฝึกทักษะการตัง้ สมมติฐาน
11. อภิปรายและฝกึ ทกั ษะการกาหนดและควบคุมตัวแปร
12. อธบิ ายและฝึกทกั ษะการกาหนดนิยามเชงิ ตัวแปร
13. อภิปราย และฝกึ ทักษะในการทดลอง
14. สังเกต อธบิ ายและฝกึ ทักษะการตคี วามหมายข้อมลู การลงข้อสรุป

รวมทง้ั หมด 14 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เติม

รหัส ว20209 รายวชิ า พลังงานทดแทนกบั การใชป้ ระโยชน์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์

ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ทดลอง ตรวจสอบ เกยี่ วกบั พลังงานน้า พลังงานลม พลงั งานแสงอาทติ ย์
พลงั งานชีวมวล และพลังงานนวิ เคลยี ร์

เพ่ือ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ของพลังงานดังกล่าว และการนามาใช้
ประโยชน์เป็นพลังงานทดแทน ตระหนักถงึ ความสาคญั บทบาท และผลกระทบของพลังงานเหล่าน้ันท่มี ีต่อมนุษย์
และสงิ่ แวดลอ้ ม

โดย ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสอื่ สาร
ส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม และ
ค่านิยมทเ่ี หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นกั เรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลย่ี งอบายมุข เพอ่ื บรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. เขยี นบรรยายและยกตวั อย่างความสาคญั ของพลังงานทดแทน

125

2. เขยี นสรปุ หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ในการนาพลงั งานน้า พลังงานลม พลงั งานแสงอาทิตย์
พลงั งานชีวมวล และพลงั งานนิวเคลยี ร์ ไปใชป้ ระโยชน์

3. เขยี นบรรยายและยกตัวอย่างการใชป้ ระโยชนพ์ ลังงานนา้ พลงั งานลม พลังงานแสงอาทติ ย์
4. พลังงานชีวมวล และพลงั งานนวิ เคลยี ร์ ในประเทศไทย
5. เขียนสรุปข้อดี ข้อจากัดและแนวทางการพัฒนาในการนาพลังงานน้า พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์

พลังงานชีวมวล และพลงั งานนิวเคลยี ร์ ไปใช้ประโยชน์

คาอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

รหสั วชิ า ว20212 รายวิชาวิทยาศาสตร์โลกทง้ั ระบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1 หนว่ ยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งองค์ประกอบตา่ งๆในสภาพแวดลอ้ มธรรมชาตไิ ดแ้ ก่ ดิน นา้
บรรยากาศ สิ่งที่ปกคลุมดนิ และส่ิงมีชีวติ เพอ่ื ให้เข้าใจถงึ รปู แบบความสัมพนั ธ์ ปรากฏการณ์ รวมท้งั แนวโน้มตา่ งๆ
ท่ีอาจเกดิ ข้นึ ซึ่งจะมีผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงสภาพแวดล้อมและมผี ลตอ่ เนอ่ื งมาถึงคณุ ภาพชีวติ แลความเป็นอยขู่ อง
มนษุ ย์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ได้แก่ การสังเกต การตั้งคาถามวิจยั การ
ตัง้ สมมติฐาน การวางแผนการวจิ ยั และการเขียนเค้าโครงวจิ ัย โดยมีการพฒั นากระบวนการคดิ วิเคราะหแ์ ละ
การคิดอยา่ งเป็นระบบ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ การสื่อสาร การทางานรว่ มกนั เป็นทมี และการนาความรู้
ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นกั เรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี

126

ความซ่อื สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพนื้ ฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพื่อบรรลุเปา้ หมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายถึงองคป์ ระกอบหลักของโลก และความสัมพันธก์ นั ขององคป์ ระกอบตา่ งๆของโลกท้งั ระบบ
2. สารวจและสงั เกตสภาพแวดลอ้ มธรรมชาติ และอธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ มีชีวติ กบั สง่ิ แวดลอ้ ม
ธรรมชาติ
3. กาหนดปัญหา วเิ คราะห์ ตัง้ คาถามวิจัย และเลือกคาถามวิจัยจากผลการสารวจสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
เพ่อื ไปสูก่ ารวิจยั ได้
4. เขียนหลักการ เหตุผล ที่มา และจุดประสงค์ของการดาเนนิ งานวิจยั ได้
5. สืบค้นขอ้ มูลรวบรวมความรทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งเพ่อื ไปส่กู ารวางแผนการวจิ ยั
6. เลือกเครื่องมือ และใชเ้ ครื่องมือในการตรวจวดั สิ่งแวดลอ้ มไดถ้ กู ตอ้ งและสอดคลอ้ งกับงานวจิ ยั
7. ใชเ้ ครื่องมอื ในการตรวจวัด หาข้อมลู ทตี่ อ้ งการทราบได้อย่างถูกตอ้ ง และเหมาะสม
8. วางแผนทางานวิจยั ตามข้อคาถามทต่ี อ้ งการหาคาตอบและเขียนปฏิทนิ ในการดาเนินงานวิจยั ได้
9. เขียนเคา้ โครงงานวจิ ยั ตามแบบที่กาหนดไดถ้ กู ต้องครอบคลมุ และครบถว้ นตามแบบแผน
10. นาเสนอเคา้ โครงงานวิจยั อธิบายเก่ียวกับแนวคดิ กระบวนการที่ใชใ้ นการดาเนินงานวจิ ยั ให้ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ

คาอธิบายรายวิชา

รหัสวิชา ว 20203 รายวิชา สนุกกบั โครงงานวิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา วิเคราะห์ บันทกึ และอธบิ ายผลการสังเกต ต้งั คาถามที่กาหนดประเด็นหรือตวั แปรทีส่ าคัญในการ
สารวจตรวจสอบหรอื ศกึ ษาค้นคว้าเรอ่ื งท่ีสนใจได้อยา่ งครอบคลมุ และเชอื่ ถอื ได้ สรา้ งสมมตฐิ านทีส่ ามารถ
ตรวจสอบได้และวางแผนการสารวจตรวจสอบหลายๆวธิ ี เลอื กเทคนิควธิ ีการสารวจตรวจสอบท้ังเชิงปรมิ าณและ
คุณภาพท่ไี ด้ผลเทีย่ งตรงและปลอดภยั โดยใชว้ ัสดุและเคร่ืองมอื ท่เี หมาะสม เกบ็ ขอ้ มูล จดั ทาขอ้ มูลเชิงปริมาณ
และคุณภาพ วิเคราะห์ และประเมินความสอดคล้องของประจักษ์พยานกบั ขอ้ สรปุ ทง้ั ท่สี นับสนุนหรอื ขัดแยง้ กับ

127

สมมติฐาน และความผดิ ปกตขิ องขอ้ มูล จากการสารวจตรวจสอบ สร้างแบบจาลอง หรอื รูปแบบท่อี ธบิ ายหรอื
แสดงผลของการสารวจตรวจสอบ สรา้ งคาถามนาไปสู่การสารวจตรวจสอบในเรื่องทเ่ี กีย่ วข้อง และนาความร้ทู ่ีได้
ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ คน้ ควา้ เพม่ิ เติมจากแหลง่ ความรู้ต่างๆให้ได้ขอ้ มลู ทนี่ า่ เช่ือถอื นาเสนอเค้าโครงโครงงาน
วทิ ยาศาสตร์ ใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจได้ โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพอื่ ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทักษะ
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ มสี มรรถนะสาคญั มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นาความรแู้ ละกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตรไ์ ปใช้ในการศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง และแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ การคิดอย่างเป็น
เหตเุ ป็นผล คิดวเิ คราะห์ คดิ สร้างสรรค์ และมจี ิตวิทยาศาสตร์

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซือ่ สัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพน้ื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลี่ยงอบายมุข เพอ่ื บรรลุเป้าหมาย
ของหลกั สตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. สบื คน้ ขอ้ มูลเก่ยี วกบั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
2.สบื ค้นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความหมายและประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์และทากจิ กรรมในรปู แบบตา่ งๆ

ทเ่ี กย่ี วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภทต่างๆ
3. สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั การคิดช่ือโครงงานวทิ ยาศาสตร์
4.สบื คน้ ขอ้ มลู และอภิปรายเกย่ี วกบั การวิเคราะหโ์ ครงงานวิทยาศาสตร์ จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ
5.สบื ค้นขอ้ มูลเกย่ี วกับขั้นตอนการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์
6.เลือกเทคนคิ วธิ กี ารสารวจตรวจสอบทง้ั เชงิ ปริมาณและคุณภาพท่ีได้ผลเทยี่ งตรงและปลอดภัย โดยใช้

วัสดุและเคร่อื งมือทีเ่ หมาะสม
7.เก็บขอ้ มูล จัดทาข้อมลู เชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ
8.วิเคราะห์ และประเมนิ ความสอดคลอ้ งของประจักษ์พยานกบั ข้อสรุปท้งั ที่สนบั สนนุ หรอื ขัดแย้งกับ

สมมตฐิ าน และความผดิ ปกติของข้อมูล จากการสารวจตรวจสอบ
9. สร้างคาถามนาไปส่กู ารสารวจตรวจสอบเรือ่ งที่เก่ียวข้อง และนาความรูท้ ไ่ี ด้ไปใชใ้ นสถานการณ์ใหม่
10. คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ จากแหล่งความร้ตู า่ งๆให้ได้ข้อมลู ท่นี ่าเชือ่ ถอื
11. นาเสนอเคา้ โครงโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ให้ผูอ้ ื่นเข้าใจได้

รวม 11 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ า

รหัสวชิ า ว20214 รายวชิ า ชีววิทยาสาหรบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง

128

ศึกษาเกี่ยวกบั ความหลากหลายของไบโอม การเปลยี่ นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ การใชท้ รพั ยากร
ของมนษุ ย์ การใชท้ รัพยากรธรรมชาติ ปญั หาและผลกระทบทมี่ ตี อ่ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มแนวทาง
ในการอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มรวมทงั้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ โครงสรา้ งของ
เซลล์ การลาเลียงสารผา่ นเซลล์ การรกั ษาดุลยภาพของร่างกาย พืช สัตว์ ในรา่ งกายมนุษย์ การสรา้ ง
ภูมคิ มุ้ กัน กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง การเจรญิ เติบโตของพชื การควบคมุ การเจริญเตบิ โตของพชื
การตอบสนองของพืชตอ่ สิง่ แวดล้อม

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้น
ขอ้ มลู และการอภปิ ราย เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความคิด สามารถสอื่ สารสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้ มคี วามสามารถ
ในการตัดสนิ ใจ เหน็ คณุ ค่าของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คณุ ธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นกั เรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่อื บรรลุเปา้ หมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. สืบค้นขอ้ มูลและอธิบายความสมั พนั ธข์ องสภาพทางมศิ าสตร์บนโลกกับความหลากหลายของไบโอม

และยกตัวอย่างไบโอมชนดิ ต่าง ๆ
2. สบื คน้ ข้อมูล อภิปรายสาเหตุ และยกตวั อยา่ งการเปล่ียนแปลงแทนท่ขี องระบบนิเวศ
3. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ ายและยกตวั อย่างเก่ียวกับการเปล่ยี นแปลงขององค์ประกอบทางกายภาพและทาง

ชวี ภาพทีม่ ผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงขนาดของประชากรสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
4. สืบคน้ ข้อมูลและอภิปรายเก่ยี วกับปัญหาและผลกระทบทม่ี ีต่อทรัพยากร ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม

พร้อมทง้ั นาเสนอแนวทางในการอนุรกั ษท์ รัพยากร ธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม
5. อธิบายโครงสรา้ งและสมบัติของเยอ่ื หุ้มเซลล์ที่สัมพันธก์ ับการลาเลียงสาร และเปรียบเทยี บการลาเลียง

สารผ่านเย่อื ห้มุ เซลลแ์ บบตา่ ง ๆ
6. อธบิ ายการควบคุมดลุ ยภาพของนา้ และสารในเลอื ดโดยการทางานของไต
7. อธบิ ายการควบคมุ ดลุ ยภาพของกรด-เบสของเลอื ดโดยการทางานของไตและปอด
8. อธิบายการควบคมุ ดลุ ยภาพของอณุ หภมู ภิ ายในรา่ งกายโดยระบบหมุนเวียนเลอื ด ผิวหนัง และ

กล้ามเนอ้ื โครงรา่ ง
9. อธบิ าย และเขยี นแผนผงั เกย่ี วกบั การตอบสนองของรา่ งกายแบบไมจ่ าเพาะ และแบบจาเพาะต่อ

สงิ่ แปลกปลอมของร่างกาย

129

10. สบื คน้ ข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างโรคหรืออาการที่เกดิ จากความผิดปกตขิ องระบบภมู คิ มุ้ กนั
11. อธิบายภาวะภมู คิ ุม้ กันบกพร่องทมี่ สี าเหตมุ าจากการตดิ เชื้อ HIV
12. ทดสอบ และบอกชนดิ ของสารอาหารทพ่ี ืชสงั เคราะห์ได้
13. สืบค้นข้อมูล อภิปรายและยกตัวอย่างเกยี่ วกบั การใช้ประโยชน์จากสารต่างๆ ทพ่ี ชื บางชนดิ สร้างขน้ึ
14. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และอธบิ ายเก่ียวกับปจั จัยภายนอกทมี่ ีผลตอ่ การ
เจรญิ เติบโตของพชื
15. สืบค้นขอ้ มูลเกยี่ วกบั สารควบคมุ การเจรญิ เติบโตของพชื ท่มี นษุ ย์สงั เคราะหข์ ้นึ และยกตัวอยา่ งการ
นามาประยุกต์ใชท้ างดา้ นการเกษตรของพืช
16. สังเกต และอธิบายการตอบสนองของพชื ตอ่ ส่ิงเรา้ ในรูปแบบตา่ ง ๆ ท่ีมีผลตอ่ การดารงชีวิต

รวม 16 ผลการเรยี นรู้

130

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม

รหสั วชิ า ว20207 รายวิชา วิทยาศาสตร์กับความงาม กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนต้น เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ ตรวจสอบ และอธบิ าย ความงามทสี่ มวัยและปัจจัยท่มี ีผลต่อความงาม การดแู ลความ
งามและการเลอื กใช้เครือ่ งสาอาง เคร่อื งสาอางในชีวิตประจาวัน การใช้สมนุ ไพรในทอ้ งถ่ินเพอื่ ความงามและ
สขุ ภาพ เทคโนโลยีเพ่อื ความงามและสขุ ภาพ

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถส่อื สารสิ่งทร่ี ู้ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ นาความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจาวัน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่ี
เหมาะสม

เพ่ือ ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นมีความกระตอื รือร้นท่ีจะใฝ่เรยี นรู้ ตระหนักถงึ ความสาคญั ของวิทยาศาสตรใ์ นการ
นาหลักการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาดูแลความงามและสุขภาพให้สมวัย โดยใช้สมนุ ไพรในท้องถนิ่

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบวินัย มี
ความซอื่ สัตย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกจิ พอเพียง หลกี เลย่ี งอบายมุข เพอื่ บรรลุเป้าหมาย
ของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายส่วนต่างๆ ของร่างกายทเ่ี กย่ี วข้องกับความงาม และแนวทางในการดูแลอยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
2. สบื คน้ ข้อมลู สารวจตรวจสอบและอธบิ ายผลิตภณั ฑแ์ ละเทคโนโลยีเก่ยี วกบั ความงามประเภทตา่ งๆ
3. สืบคน้ ข้อมลู และสารวจตรวจสอบภมู ปิ ัญญาไทยท่ีเกีย่ วกบั ความงาม
4. นาความรไู้ ปใช้ในการเลอื กใช้ผลติ ภัณฑ์และเทคโนโลยเี ก่ียวกับความงามได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

ส่ือสารสิ่งที่เรยี นรู้ และสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกบั ความงามอยา่ งมคี ุณธรรมและจริยธรรม

131

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

รหสั วิชา ว20215 รายวชิ า เคมี กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/1
ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง จานวน 1 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาววิ ฒั นาการของแบบจาลองอะตอมของธาตุ อนภุ าคมลู ฐานของอะตอม เลขอะตอม เลขมวลและ
ไอโซโทป สญั ลักษณนวิ เคลียรการจัดเรียงอิเลก็ ตรอนในอะตอมของธาตบุ างชนิด การจดั เรียงธาตใุ นตารางธาตุ
แนวโนมสมบัติบางประการของธาตุตามตารางธาตุ ศกึ ษาและทดลองเกย่ี วกบั ชนิดของพันธะเคมจี ากการนาไฟฟา
ของสารบางชนดิ ศกึ ษาการเกดิ พนั ธะและสมบัติบางประการของสารโคเวเลนต ไอออนกิ และโลหะ

ศึกษาและทดลองการเกิดปฏิกิริยาเคมี ศึกษาความสมั พันธของพลงั งานกบั การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ศกึ ษา
และคานวณหาอตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี ศึกษาและทดลองปจจยั ท่มี ีผลตออัตราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ า ศึกษาปฏกิ ิริยา
เคมีในชวี ติ ประจาวนั การใชประโยชนและผลของปฏิกิรยิ าเคมีตอสงิ่ มีชีวิตและสิ่งแวดลอม

ศกึ ษาการเกิดและแหลงปโตรเลียม กระบวนการแยกแกสธรรมชาตกิ ารกลน่ั นา้ มนั ดบิ ผลติ ภัณฑ และการ
ใชประโยชนผลิตภัณฑทีไ่ ด ผลกระทบของการใชผลติ ภณั ฑจากปโตรเลยี มตอส่งิ มีชีวิตและ ส่ิงแวดลอมรวมท้ัง
การปองกนั และแกไขปญหา เชื้อเพลิงในชวี ิตประจาวัน เลขออกเทน เลขซีเทน

ศกึ ษาความหมายและตัวอยางพอลิเมอรธรรมชาติและพอลเิ มอรสังเคราะหปฏกิ ิรยิ าการสงั เคราะห
พอลเิ มอร โครงสราง สมบตั ิ ประเภทของพอลเิ มอรรวมท้ังการใชประโยชนและผลกระทบจากการใชผลิตภัณฑ
ของพอลิเมอร ศกึ ษาและทดลองจาแนกชนิดของพลาสติกบางชนดิ โดยใชความหนาแนนเปนเกณฑ ศึกษายาง
ธรรมชาตริ วมทง้ั ยางสงั เคราะห เสนใยธรรมชาติ เสนใยสังเคราะห และทดลองเตรียมเสนใยสงั เคราะห

132

เพอ่ื ใหมคี วามรูความเขาใจเก่ียวกบั สมบตั ิและความสัมพนั ธระหวางสมบัติของธาตุและสารประกอบ
พันธะเคมี ปฏิกริ ยิ าเคมี การใชเชือ้ เพลงิ ผลิตภัณฑจากพอลิเมอรและสารชีวโมเลกุลโดยใชการเรยี นรูดวยกระบวน
การทางวิทยาศาสตร การสบื เสาะหาความรู การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู และหลักการไปใชประโยชน
เชื่อมโยง อธบิ ายปรากฏการณหรอื แกปญหาในชวี ติ ประจาวนั สามารถจัดกระทา และวเิ คราะหขอมูล สอื่ สารส่งิ ท่ี
เรียนรู มีความสามารถในการตดั สินใจแกปญหา มีจิตวทิ ยาศาสตร เหน็ คุณคาของวิทยาศาสตร มีจริยธรรม
คุณธรรมและคานยิ มท่ีเหมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรยี นมคี วามเปน็ เลศิ วชิ าการ ล้าหนา้ ทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ ร่วมกนั รบั ผิดชอบต่อสงั คมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน มีระเบยี บวินยั มี
ความซอ่ื สตั ย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชวี ิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลีย่ งอบายมขุ เพอ่ื บรรลุเป้าหมาย
ของหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. ระบุว่าสารเปน็ ธาตหุ รือสารประกอบและอยูใ่ น รปู อะตอม โมเลกุล หรือไอออนจากสูตรเคมี
2. เปรยี บเทียบความเหมอื นและความแตกต่างของแบบจาลองอะตอมของโบร์ กับแบบจาลอง อะตอม

แบบกลมุ่ หมอก
3. ระบจุ านวนโปรตอนนวิ ตรอนและอเิ ลก็ ตรอน ของอะตอม และไอออนท่เี กดิ จากอะตอมเดียว
4. เขยี นสัญลักษณน์ วิ เคลยี ร์ของธาตแุ ละระบุการ เป็นไอโซโทป
5. ระบหุ มู่และคาบของธาตแุ ละระบุวา่ ธาตุเปน็ โลหะ อโลหะกง่ึ โลหะกล่มุ ธาตุเรพรเี ซนเททีฟ

หรือกลุม่ ธาตแุ ทรนซชิ ัน จากตารางธาตุ
6. เปรียบเทียบสมบัติการนาไฟฟา้ การให้และรับ อิเลก็ ตรอนระหว่างธาตใุ นกลมุ่ โลหะกับอโลหะ
7. สบื ค้นข้อมูลและนาเสนอตวั อยา่ งประโยชนแ์ ละ อนั ตรายทีเ่ กดิ จากธาตุเรพรเี ซนเททฟี

และธาตแุ ทรนซิชนั
8. ระบวุ า่ พนั ธะโคเวเลนต์เปน็ พันธะเด่ียว พนั ธะคู่ หรือพันธะสามและระบจุ านวนคู่อเิ ลก็ ตรอน

ระหวา่ งอะตอมคูร่ ่วมพนั ธะ จากสตู รโครงสร้าง
9. ระบุสภาพข้ัวของสารทโี่ มเลกุลประกอบดว้ ย ๒ อะตอม10.ระบุสารที่เกดิ พนั ธะไฮโดรเจน

ได้จากสตู ร โครงสร้าง
10. ระบุสารท่ีเกดิ พนั ธะไฮโดรเจน ไดจ้ ากสูตร โครงสรา้ ง
11. อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งจุดเดือดของสาร โคเวเลนต์กับแรงดงึ ดูดระหวา่ งโมเลกลุ ตาม สภาพขว้ั

หรอื การเกดิ พนั ธะไฮโดรเจน
12. เขยี นสูตรเคมีของไอออนและสารประกอบ ไอออนิก
13. ระบวุ ่าสารเกิดการละลายแบบแตกตวั หรอื ไมแ่ ตกตัว พรอ้ มให้เหตุผลและระบวุ ่าสาร ละลายทีไ่ ด้

เปน็ สารละลายอิเลก็ โทรไลต์ หรอื นอนอิเล็กโทรไลต์
14. ระบุสารประกอบอนิทรียป์ ระเภทไฮโดรคาร์บอน ว่าอ่ิมตวั หรือไม่อิ่มตัวจากสตู รโครงสร้าง

133

15. สืบคน้ ขอ้ มูลและเปรียบเทียบสมบตั ิ ทางกายภาพระหวา่ งพอลเิ มอร์ และมอนอเมอร์
ของพอลเิ มอร์ชนดิ นนั้

16. ระบุสมบตั คิ วามเป็นกรด-เบสจากโครงสรา้ งของสารประกอบอินทรยี ์
17. อธบิ ายสมบัติการละลายในตัวทาละลายชนดิ ตา่ งๆ ของสาร
18. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายความ สัมพนั ธร์ ะหวา่ ง โครงสร้างกับสมบตั ิเทอรม์ อพลาสตกิ และเทอร์มอเซต
ของพอลิเมอร์ และการนาพอลเิ มอร์ไปใช้ประโยชน์
19. สืบค้นข้อมูลและนาเสนอผลกระทบของการใช้ ผลติ ภัณฑพ์ อลิเมอรท์ ม่ี ีตอ่ สง่ิ มีชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม
พร้อมแนวทางป้องกนั หรือแกไ้ ข
20. ระบสุ ตู รเคมีของสารต้ังต้นผลติ ภัณฑ์ และแปลความหมายของสญั ลกั ษณ์ในสมการเคมี
ของปฏิกริ ยิ าเคมี
21. ทดลองและอธบิ ายผลของความเขม้ ขน้ พ้ืนทผ่ี ิว อณุ หภมู ิและตัวเรง่ ปฏิกริ ยิ าท่มี ผี ลต่ออตั รา
การเกดิ ปฏิกิริยาเคมี
22.สบื ค้นข้อมลู และอธิบายปจั จัยท่ีมีผลต่ออัตรา การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีที่ใช้ประโยชนใ์ นชวี ิต ประจาวัน
หรือในอุตสาหกรรม
23. อธบิ ายความหมายของปฏกิ ิริยารดี อกซ์
24. อธบิ ายสมบัติของสารกมั มนั ตรังสี และคานวณครึ่งชีวติ และปริมาณของสารกมั มันตรังสี
25. สบื คน้ ข้อมูลและนาเสนอตัวอยา่ งประโยชน์ ของสารกมั มันตรังสีและการป้องกนั อนั ตราย ท่ีเกิดจาก
กมั มนั ตภาพรังสี

รวมทง้ั ส้ิน 25 ผลการเรยี นรู้

134

คาอธบิ ายรายวชิ าเคมสี าหรับมธั ยมศึกษาตอนต้น

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว20215 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3/1

ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาววิ ฒั นาการของแบบจาลองอะตอมของธาตุ อนุภาคมูลฐานของอะตอม เลขอะตอม เลขมวล
และไอโซโทป สัญลกั ษณนิวเคลยี รการจัดเรียงอเิ ล็กตรอนในอะตอมของธาตุบางชนิด การจัดเรียงธาตุในตาราง
ธาตุ แนวโนมสมบตั ิบางประการของธาตตุ ามตารางธาตุ ศกึ ษาและทดลองเกย่ี วกบั ชนิดของพันธะเคมีจากการ
นาไฟฟาของสารบางชนดิ ศกึ ษาการเกิดพันธะและสมบตั ิบางประการของสารโคเวเลนต ไอออนกิ และโลหะ

ศึกษาและทดลองการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี ศกึ ษาความสมั พันธของพลงั งานกับการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี
ศึกษาและคานวณหาอตั ราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ศึกษาและทดลองปจจัยที่มีผลตออัตราการเกิดปฏิกิรยิ า ศกึ ษา
ปฏิกริ ยิ าเคมใี นชีวติ ประจาวัน การใชประโยชนและผลของปฏกิ ิรยิ าเคมีตอสงิ่ มีชวี ิตและสิ่งแวดลอม

ศกึ ษาการเกดิ และแหลงปโตรเลียม กระบวนการแยกแกสธรรมชาตกิ ารกลั่นน้ามนั ดบิ ผลติ ภัณฑ และ
การใชประโยชนผลิตภัณฑทีไ่ ด ผลกระทบของการใชผลิตภณั ฑจากปโตรเลียมตอส่งิ มีชีวิตและ ส่ิงแวดลอม
รวมท้ังการปองกันและแกไขปญหา เชื้อเพลิงในชีวิตประจาวัน เลขออกเทน เลขซีเทน

ศึกษาความหมายและตวั อยางพอลิเมอรธรรมชาติและพอลเิ มอรสงั เคราะหปฏกิ ิรยิ าการสังเคราะห
พอลิเมอร โครงสราง สมบัติ ประเภทของพอลเิ มอรรวมท้ังการใชประโยชนและผลกระทบจากการใชผลติ ภัณฑ
ของพอลิเมอร ศกึ ษาและทดลองจาแนกชนิดของพลาสตกิ บางชนิดโดยใชความหนาแนนเปนเกณฑ ศึกษายาง
ธรรมชาตริ วมทงั้ ยางสงั เคราะห เสนใยธรรมชาติ เสนใยสังเคราะห และทดลองเตรียมเสนใยสงั เคราะห

เพื่อใหมีความรูความเขาใจเกย่ี วกบั สมบตั แิ ละความสัมพนั ธระหวางสมบตั ขิ องธาตุและสารประกอบ
พนั ธะเคมี ปฏกิ ริ ยิ าเคมี การใชเช้อื เพลงิ ผลิตภัณฑจากพอลิเมอรและสารชีวโมเลกุลโดยใชการเรยี นรูดวยกระ
บวนการทางวิทยาศาสตร การสบื เสาะหาความรู การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู และหลักการไปใช
ประโยชนเช่อื มโยง อธบิ ายปรากฏการณหรอื แกปญหาในชีวติ ประจาวัน สามารถจัดกระทา และวเิ คราะหข
อมูล สอื่ สารสงิ่ ที่เรียนรู มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจแกปญหา มีจติ วทิ ยาศาสตร เหน็ คุณคาของวทิ ยา
ศาสตร มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและคานิยมที่เหมาะสม

จากกระบวนการเรยี นรู้ต่างๆ ทาให้นักเรยี นมีความเปน็ เลิศวชิ าการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสรา้ งสรรค์ รว่ มกนั รบั ผดิ ชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน มรี ะเบยี บ
วนิ ยั มีความซ่อื สตั ย์สุจริต มจี ิตสาธารณะ ดารงชีวติ บนพืน้ ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลกี เลย่ี งอบายมุข เพอ่ื
บรรลเุ ป้าหมายของหลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. ระบุว่าสารเปน็ ธาตหุ รอื สารประกอบและอยู่ใน รปู อะตอม โมเลกุล หรือไอออนจากสตู รเคมี
2. เปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกต่างของแบบจาลองอะตอมของโบร์ กบั แบบจาลอง

อะตอมแบบกลุ่มหมอก

135

3. ระบุจานวนโปรตอนนวิ ตรอนและอิเล็กตรอน ของอะตอม และไอออนท่ีเกดิ จากอะตอมเดยี ว
4. เขียนสญั ลักษณ์นวิ เคลียรข์ องธาตุและระบุการ เป็นไอโซโทป
5. ระบหุ มู่และคาบของธาตุและระบวุ า่ ธาตุเป็น โลหะ อโลหะก่ึงโลหะกลุ่มธาตุเรพรเี ซนเททีฟ
หรอื กลุ่มธาตุแทรนซิชนั จากตารางธาตุ
6. เปรยี บเทยี บสมบัติการนาไฟฟา้ การให้และรบั อิเลก็ ตรอนระหว่างธาตใุ นกลุ่มโลหะกบั อโลหะ
7. สบื คน้ ข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างประโยชน์และ อนั ตรายที่เกิดจากธาตุเรพรีเซนเททฟี
และธาตุแทรนซชิ นั
8. ระบุวา่ พนั ธะโคเวเลนต์เป็นพนั ธะเด่ยี ว พันธะคู่ หรือพันธะสามและระบุจานวนคอู่ ิเล็กตรอน
ระหว่างอะตอมคูร่ ว่ มพนั ธะ จากสูตรโครงสรา้ ง
9. ระบุสภาพขั้วของสารทโี่ มเลกุลประกอบดว้ ย ๒ อะตอม10.ระบสุ ารทเี่ กดิ พนั ธะไฮโดรเจน
ได้จากสตู ร โครงสร้าง
10. ระบสุ ารทเี่ กดิ พันธะไฮโดรเจน ไดจ้ ากสูตร โครงสรา้ ง
11. อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งจดุ เดอื ดของสาร โคเวเลนต์กบั แรงดึงดดู ระหว่างโมเลกลุ ตาม สภาพ
ขั้วหรอื การเกิดพันธะไฮโดรเจน
12. เขียนสตู รเคมีของไอออนและสารประกอบ ไอออนิก
13. ระบวุ ่าสารเกิดการละลายแบบแตกตวั หรือ ไม่แตกตวั พรอ้ มใหเ้ หตุผลและระบวุ า่ สาร ละลายทไ่ี ด้
เปน็ สารละลายอิเล็ก โทรไลต์ หรอื นอนอิเลก็ โทรไลต์
14. ระบุสารประกอบอนทิ รยี ป์ ระเภทไฮโดรคารบ์ อน วา่ อ่ิมตัวหรือไม่อ่ิมตัวจากสูตรโครงสร้าง
15. สืบค้นขอ้ มูลและเปรียบเทยี บสมบตั ิ ทางกายภาพระหวา่ งพอลเิ มอร์ และมอนอเมอร์
ของพอลเิ มอร์ชนิดนัน้
16. ระบสุ มบตั ิความเปน็ กรด-เบสจากโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์
17. อธบิ ายสมบัตกิ ารละลายในตวั ทาละลายชนิดต่างๆ ของสาร
18. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายความ สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง โครงสร้างกับสมบตั ิเทอรม์ อพลาสติก และเทอรม์ อ
เซตของพอลิเมอร์ และการนาพอลเิ มอร์ไปใช้ประโยชน์
19. สบื คน้ ขอ้ มูลและนาเสนอผลกระทบของการใช้ ผลติ ภณั ฑพ์ อลิเมอรท์ มี่ ีตอ่ สง่ิ มีชวี ิตและ
สง่ิ แวดล้อม พรอ้ มแนวทางปอ้ งกนั หรือแก้ไข
20. ระบสุ ูตรเคมขี องสารตง้ั ต้นผลติ ภัณฑ์ และแปลความหมายของสัญลกั ษณ์ในสมการเคมี
ของปฏกิ ิริยาเคมี
21. ทดลองและอธิบายผลของความเข้มข้น พ้ืนท่ผี วิ อุณหภมู แิ ละตวั เรง่ ปฏิกริ ยิ าท่ีมผี ลต่ออตั รา
การเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
22.สืบค้นขอ้ มูลและอธบิ ายปัจจยั ที่มีผลตอ่ อัตรา การเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีที่ใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั
หรอื ในอุตสาหกรรม
23. อธิบายความหมายของปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์

136

24. อธบิ ายสมบตั ิของสารกัมมันตรงั สี และคานวณครึง่ ชีวติ และปรมิ าณของสารกัมมันตรงั สี
25. สืบค้นขอ้ มูลและนาเสนอตัวอย่างประโยชน์ ของสารกมั มนั ตรงั สีและการปอ้ งกนั อนั ตราย ท่เี กดิ
จากกมั มนั ตภาพรงั สี

รวมท้งั สิ้น 25 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

รายวิชาของเล่นเชิงวิทยาศาสตร์ รหัส ว20216 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนต้น เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบ สรา้ งของเล่นอย่างงา่ ยตามแบบท่ีกาหนดให้ ดดั แปลงหรอื ประดษิ ฐ์ของ
เล่นท่ใี ช้เครื่องกลอยา่ งงา่ ยหรอื หลักการทางไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ยา่ งงา่ ย และอธบิ ายการทางานของของ
เลน่ ด้วยหลกั การทางวิทยาศาสตร์ สามารถใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การ
แกป้ ญั หา สามารถสอ่ื สารส่ิงทเี่ รยี นรู้ สามารถตัดสนิ ใจ นาความร้ไู ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพ่ือ
บรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้

1. ต้ังคาถามเก่ียวกบั หลกั การทางวทิ ยาศาสตรท์ ่ีสงั เกตได้จากการเลน่ ของเลน่
2. สงั เกตและอธิบายหลกั การทางานของเครื่องกลอยา่ งงา่ ย วงจรไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ย่างงา่ ยท่ีประกอบขนึ้

ในของเลน่
3. ตรวจสอบและแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งของเคร่ืองกลอยา่ งง่าย วงจรไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ สอ์ ย่างง่ายทปี่ ระกอบขนึ้

ในของเลน่ ทก่ี าหนด

137

4. ออกแบบและประดษิ ฐข์ องเลน่ โดยใช้เคร่ืองกลอยา่ งง่าย และไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์อย่างง่าย
มเี จตคติที่ดีต่อหลกั การทางวิทยาศาสตรใ์ นของเล่น

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

ว20216 ฟสิ ิกสส์ าหรับ มธั ยมศึกษาตอนตน้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ช้นั

มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ

ศกึ ษาธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงท่กี ระทาต่อวตั ถุลักษณะการเคลอื่ นที่แบบต่างๆ
ของวัตถุ รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอน
พลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี
เกย่ี วข้องกับเสียง แสง และคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้ารวมทัง้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

โดยใช้การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะการ
เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ
สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือ
บรรลุเปา้ หมายของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

138

ผลการเรยี นรู้

1. เขยี นแผนภาพแสดงแรงและแรงลพั ธท์ เี่ กิดจากแรงหลายแรงที่กระทาต่อวัตถใุ นแนวเดยี วกัน

2. วิเคราะหค์ วามสมั พันธ์ระหวา่ งขนาดของแรงแมเ่ หล็ก แรงไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงท่ีกระทาต่อวตั ถุที่

อยู่ในสนามนั้นๆ กบั ระยะหา่ งจากแหล่งของสนามถึงวตั ถุจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้

3. อธิบายและคานวณอัตราเร็วและความเรว็ ของการเคลื่อนทีข่ องวัตถุ โดยใช้สมการ

= และ ⃗ = ⃗

4. วิเคราะห์ความสัมพนั ธร์ ะหว่างความตา่ งศกั ย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทานและคานวณปรมิ าณ

ที่เก่ยี วขอ้ งโดยใช้สมการ V=IR จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์

5. เขียนกราฟความสมั พันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้

6. วิเคราะห์ความต่างศักยไ์ ฟฟ้าและกระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ เมือ่ ต่อตวั ตา้ นทานหลายตวั แบบ

อนกุ รมและแบบขนานจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

7. อธิบายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้าจากขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้

8. ตระหนกั ถงึ ประโยชนแ์ ละอนั ตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ โดยนาเสนอการใช้ประโยชนใ์ นด้านต่างๆ

และอนั ตรายจากคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวัน

9. อธิบายการสะทอ้ น การหกั เห การเลีย้ วเบน และการรวมคลื่นของคลืน่ เสยี ง

10. อธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างความเขม้ เสยี งกับระดบั เสียงและผลของความถี่กบั ระดบั เสยี งท่ีมีต่อ

การไดย้ นิ เสยี ง

11. ยกตัวอย่างการนาความรู้เกย่ี วกบั เสยี งไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั

รวมทั้งหมด 11 ผลการเรียนรู้

ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รายวิชาวิทยาศาสตร์ โลก และอวกาศ รหสั ว31104 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ชนั้ มัธยมศกึ ษาศึกษาปีที่ 4 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1 หน่วยกติ

ศึกษาการกาเนิดและการเปล่ียนแปลงพลังงานสสารขนาดอุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิกแบงใน
ช่วงเวลาต่างๆตามวิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงจากความสัมพันธ์ระหว่าง
ความเร็วกับระยะทางของกาแล็กซี โครงสรา้ งและองค์ประกอบของกาแล็กซี ทางช้างเผอื กและระบุตาแหน่ง
ของระบบสุรยิ ะ พรอ้ มเชอื่ มโยงกับการสังเกตเห็นทางชา้ งเผอื กของคนบนโลก กระบวนการเกิดดาวฤกษ์ ปจั จัย
ที่ส่งผลต่อความส่องสว่างของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่าง ความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์
ความสัมพันธ์ระหว่างสี อุณหภูมิ ผิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการที่สัมพันธ์กับมวลต้ังต้นและการ

139

เปล่ียนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกดิ ระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์
และลักษณะของดาวเคราะห์ทเี่ ออื้ ต่อการดารงชวี ิต โครงสร้างของดวงอาทิตย์การเกิดลมสรุ ิยะ พายุสุริยะและ
วิเคราะห์ นาเสนอ ปรากฏการณ์ หรือเหตุการณท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกับผลของลมสรุ ิยะ และพายสุ ุริยะที่มีต่อโลกรวมทั้ง
ประเทศไทยสืบค้นขอ้ มูล การสารวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศนใ์ นชว่ งความยาคลนื่ ต่างๆ ดาวเทยี ม ยาน
อวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอแนวคิดการนาความรู้ทางด้าน เทคโนโลยีอวกาศมาประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั หรือในอนาคต ศึกษาเกย่ี วกับการแบง่ ชั้นและสมบตั ิของโครงสร้างโลก หลกั ฐานทางธรณวี ิทยาท่ี
สนับสนุนการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณี ลักษณะของการเคลื่อนของแผ่นธรณีตามทฤษฎีธรณีแปลสัณฐาน การ
ลาดับชั้นหินและธรณีประวัติ หลักฐานทางธรณีวิทยา การหาอายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ์ มาตราธรณีกาล
สาเหตุและกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบดิ แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ การทาความเข้าใจธรรมชาติของธรณีพิบัติภัย
เพ่ือเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต การ
วิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและการสรุปผลเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ตลอดจนมีจิตวิทยา
ศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ีถกู ต้องเหมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อ
บรรลุเป้าหมายของหลกั สูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายการกาเนดิ และการเปล่ียนแปลงพลังงานสสารขนาดอณุ หภูมิของเอกภพหลังเกิดบกิ แบงใน

ช่วงเวลาต่างๆตามววิ ฒั นาการของเอกภพ
2. อธบิ ายหลกั ฐานท่ีสนบั สนุนทฤษฎบี ิกแบงจากความสัมพนั ธ์ระหว่างความเรว็ กบั ระยะทาง ของ

กาแลก็ ซีรวมทัง้ ขอ้ มลู การคน้ พบไมโครเวฟ พื้นหลงั จากอวกาศ
3. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซี ทางช้างเผือกและระบุตาแหน่งของระบบสุริยะ

พรอ้ มอธิบายเชือ่ มโยงกบั การสงั เกตเหน็ ทางชา้ งเผอื กของคนบนโลก
4. อธิบายกระบวนการเกดิ ดาวฤกษโ์ ดยแสดงการเปลี่ยนแปลงความดนั อณุ หภมู ิ ขนาด จากดาวฤกษ์

ก่อนเกิดจนเปน็ ดาวฤกษ์
5. ระบุปจั จัยที่สง่ ผลต่อความสอ่ งสวา่ งของดาวฤกษ์ และอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่าง ความส่องสว่าง

กับโชติมาตรของดาวฤกษ์
6. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสี อุณหภมู ิผิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์

140

7. อธบิ ายลาดบั วิวัฒนาการที่สมั พนั ธก์ บั มวลตัง้ ต้นและวเิ คราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงสมบัตบิ างประการ
ของดาวฤกษ์

8. อธบิ ายกระบวนการเกิดระบบสุรยิ ะ การแบ่งเขตบรวิ ารของดวงอาทติ ย์และลกั ษณะของดาว
เคราะหท์ ่เี อ้อื ตอ่ การดารงชวี ิต

9. อธิบายโครงสรา้ งของดวงอาทิตยก์ ารเกิดลมสุรยิ ะ พายุสุริยะและวิเคราะห์ นาเสนอ ปรากฏการณ์
หรอื เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผลของลมสุริยะ และพายสุ ุรยิ ะท่มี ีต่อโลกรวมทง้ั ประเทศไทย

10. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายการสารวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศนใ์ นชว่ งความยาคลืน่ ต่างๆ
ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอแนวคิดการนาความรู้ทางด้าน เทคโนโลยีอวกาศมา
ประยุกตใ์ ช้ใน ชวี ิตประจาวนั หรือในอนาคต

11. อธบิ ายปัจจยั ทีม่ ีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศของโลกพรอ้ มทง้ั นาเสนอแนวปฏบิ ัติ เพ่อื ลด
กจิ กรรมของมนุษย์ท่ีส่งผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงภมู ิอากาศโลก

12. แปลความหมายสญั ลกั ษณ์ลมฟา้ อากาศที่สาคัญจากแผนทอ่ี ากาศและนาขอ้ มูลสารสนเทศต่างๆ
มาวางแผนการดาเนนิ ชีวติ ให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ

คาอธิบายรายวชิ า

141

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ รายวชิ าฟิสิกส์พน้ื ฐาน
รหสั วิชา ว31101 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1
รหสั วชิ า ว33101 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2
เวลาเรยี น 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 80 ชว่ั โมง/ภาค
จานวน 2 หน่วยกิต

ศกึ ษาวิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งระยะทาง การกระจัด เวลา อัตราเร็ว อตั ราเรง่ การเคล่ือนท่แี นว
ตรง การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ การหาแรงลัพธท์ ่ีเกิดจากแรงหลายแรง แรงกิริยาและแรงปฏิกริ ิยาระหว่าง
วัตถุคู่หน่ึง การเคลื่อนที่ของวัตถุในสนามโน้มถ่วง การเคลื่อนที่ของอนุภาคท่ีมีประจุในสนามไฟฟ้าและ
สนามแมเ่ หล็ก การใชป้ ระโยชน์จากการเคล่อื นที่แบบตา่ งๆ และการใชป้ ระโยชนใ์ นทางสร้างสรรคร์ วมถึงผลต่อ
สง่ิ มีชีวิตและส่ิงแวดล้อม โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สืบค้นข้อมลู อภิปรายและการทดลองเพ่ือให้
เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารส่ิงทเี่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นาความรู้ไปใชใ้ น
ชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมโดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การสร้างสถานการณ์
การวางแผน การลงมือปฏิบัติคิดวิจารณญาณ การสร้างความคิดรวบยอดและการเสริมสร้างคุณลักษณะที่พึง
ประสงค์

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสมมีจิตสานึกใน
การใช้พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมอยา่ งคุม้ ค่าและถูกวธิ ี

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพื่อ
บรรลุเป้าหมายของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ว 2.2 ม.5/1-ม.5/10

142

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัส ว31261 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1 หน่วยกิต

ศึกษาเก่ียวกับทรัพยากรธรณี การจาแนกแร่ โครงสร้างทางเคมีและสมบัติทางกายภาพของแร่ การ
ตรวจสอบสมบัติทางเคมีของแร่ อุตสาหกรรมทรัพยากรแร่ การจาแนกหิน สมบัติและการใช้ประโยชน์
ทรัพยากรหนิ กระบวนการเกดิ และสารวจแหล่งปโิ ตรเลียมและถ่านหิน ผลิตภณั ฑ์ท่ไี ด้จากปโิ ตรเลียมและถา่ น
หิน การอ่านและแปลความหมายจากแผนท่ีภูมิประเทศ และแผนท่ีธรณีวิทยา การประยุกต์ความรู้เกี่ยวกับ
แผนท่ีไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ศึกษาเก่ียวกับการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก หลักฐานทาง
ธรณีวิทยาที่สนับสนุนการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณี ลักษณะของการเคลื่อนของแผ่นธรณีตามทฤษฎีธรณีแปล
สัณฐาน การลาดับชั้นหินและธรณีประวัติ หลักฐานทางธรณีวิทยา การหาอายุเปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ์
มาตราธรณีกาล สาเหตุและกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว สึนามิ การทาความเข้าใจธรรมชาติ
ของธรณีพิบตั ภิ ัยเพื่อเตรยี มความพรอ้ มรับสถานการณ์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต การ
วิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและการสรุปผลเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ตลอดจนมีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทถี่ ูกตอ้ งเหมาะสม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือ
บรรลเุ ปา้ หมายของหลกั สตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายการแบ่งชั้นและสมบัตขิ องโครงสร้างโลกพร้อมยกตวั อยา่ งข้อมูลท่ีสนับสนนุ
2. อธบิ ายหลักฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีสนบั สนุนการเคลื่อนทข่ี องแผน่ ธรณี
3. ระบุสาเหตแุ ละอธิบายรปู แบบแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณที ส่ี ัมพันธ์กับการเคลื่อนท่ีของแผน่ ธรณีพรอ้ ม
ยกตวั อย่างหลักฐานทางธรณวี ทิ ยาที่พบ
4. วิเคราะหห์ ลักฐานทางธรณวี ทิ ยาท่พี บในปัจจบุ ันและอธิบายลาดบั เหตกุ ารณท์ างธรณีวิทยาในอดตี

143

5. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดภเู ขาไฟระเบดิ และปจั จัยทีท่ าให้ความรุนแรงของการปะทแุ ละ
รูปร่างของภูเขาไฟแตกตา่ งกัน รวมท้งั สืบคน้ ข้อมลู พ้ืนทเี่ ส่ียงภยั ออกแบบและนาเสนอ แนวทางการ
เฝา้ ระวังและการปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัย

6. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดขนาดและ ความรุนแรงและผลจากแผน่ ดินไหว รวมท้ัง สบื ค้นข้อมลู
พนื้ ท่ีเส่ียงภัยออกแบบและนาเสนอ แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภัย

7. อธบิ ายสาเหตกุ ระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ รวมท้ังสบื ค้นข้อมูลพื้นทเ่ี ส่ยี งภัยออกแบบและ
นาเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการ ปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัย

8. ตรวจสอบและระบุชนดิ แร่รวมท้ังวิเคราะห์ สมบตั ิและนาเสนอการใช้ประโยชน์จาก ทรพั ยากรแรท่ ่ี
เหมาะสม

9. ตรวจสอบจาแนกประเภทและระบุช่ือหินรวมทั้งวิเคราะห์สมบัติและนาเสนอการใช้ ประโยชน์ของ
ทรัพยากรหนิ ท่เี หมาะสม

10. อธบิ ายกระบวนการเกดิ และการสารวจแหล่งปโิ ตรเลยี มและถ่านหินโดยใช้ข้อมลู ทางธรณวี ิทยา
11. อธบิ ายสมบัติของผลิตภัณฑ์ทีไ่ ดจ้ ากปโิ ตรเลยี ม และถา่ นหิน พรอ้ มนาเสนอการใช้ประโยชน์

อย่างเหมาะสม
12. อ่านและแปลความหมายจากแผนที่ภูมิประเทศ และแผนที่ธรณีวิทยาของพื้นท่ีที่กาหนด พร้อมทั้ง

อธิบายและยกตัวอย่างการนาไปใช้ ประโยชน์
13. อธบิ ายปัจจัยสาคัญที่มีผลตอ่ การรับและคายพลังงานจากดวงอาทติ ย์แตกตา่ งกนั และผลทีม่ ีต่อ

อณุ หภมู อิ ากาศในแตล่ ะบริเวณของโลก
14. อธิบายกระบวนการท่ที าใหเ้ กิดสมดลุ พลงั งานของโลก
15. อธิบายผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่าง ของความกดอากาศ แรงคอริออลิสแรงสู่ศูนย์กลาง และ

แรงเสยี ดทานทม่ี ตี อ่ การหมนุ เวียนของอากาศ
16. อธิบายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขตละติจดู และผลท่มี ีตอ่ ภูมิอากาศ
17. อธบิ ายปัจจยั ท่ที าให้เกดิ การแบ่งช้นั นา้ ในมหาสมุทร
18. อธบิ ายปจั จยั ทที่ าให้เกดิ การหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทรและรปู แบบการหมุนเวียนของนา้ ใน

มหาสมุทร
19. อธิบายผลของการหมุนเวยี นของนา้ ใน มหาสมทุ รท่มี ีตอ่ ลักษณะลมฟา้ อากาศ สงิ่ มีชวี ติ และ

ส่งิ แวดล้อม
20. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งเสถียรภาพ อากาศและการเกดิ เมฆ
21. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่างๆ และลกั ษณะลมฟ้าอากาศทีเ่ กยี่ วข้อง
22. อธบิ ายปจั จยั ตา่ งๆ ทม่ี ีผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงภูมิอากาศของโลกพรอ้ มยกตัวอย่างขอ้ มลู สนบั สนุน
23. วิเคราะห์ และอภปิ รายเหตุการณท์ ่ีเป็นผล จากการเปล่ยี นแปลงภมู อิ ากาศ และนาเสนอแนวปฏบิ ตั ิ

ของมนษุ ย์ทม่ี สี ่วนชว่ ย ในการชะลอการเปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศโลก
24. แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟา้ อากาศ บนแผนทอ่ี ากาศ

144

25. วเิ คราะหแ์ ละคาดการณ์ลักษณะลมฟา้ อากาศเบื้องต้นจากแผนทีอ่ ากาศและขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่ือ
วางแผนในการประกอบอาชีพ และการดาเนินชวี ติ ให้สอดคลอ้ งกบั สภาพลม ฟ้าอากาศ

26. อธิบายการกาเนิดและการเปลย่ี นแปลงพลังงาน สสารขนาดอุณหภูมิของเอกภพหลงั เกดิ บกิ แบง
ในช่วงเวลาตา่ งๆตามววิ ัฒนาการของเอกภพ

27. อธบิ ายหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงจากความสมั พันธ์ระหวา่ งความเร็วกับระยะทางของ
กาแลก็ ซี รวมทงั้ ข้อมูลการค้นพบ ไมโครเวฟพนื้ หลงั จากอวกาศ

28. อธิบายโครงสร้างและองคป์ ระกอบของกาแลก็ ซีทางช้างเผือกและระบุตาแหน่งของ ระบบสุริยะพรอ้ ม
อธิบายเชือ่ มโยงกบั การสังเกตเห็นทางช้างเผือกของคนบนโลก

29. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ดาวฤกษโ์ ดยแสดงการเปล่ียนแปลงความดัน อุณหภมู ิ ขนาด จากดาวฤกษ์
ก่อนเกิดจนเปน็ ดาวฤกษ์

30. อธบิ ายกระบวนการสร้างพลงั งานของดาวฤกษ์และผลทีเ่ กิดขน้ึ โดยวิเคราะห์ ปฏิกริ ยิ าลกู โซโ่ ปรตอน-
โปรตอน และวัฏจกั ร คารบ์ อน ไนโตรเจน ออกซเิ จน

31. ระบปุ จั จยั ที่สง่ ผลต่อความสอ่ งสวา่ งของดาวฤกษ์ และอธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ความส่องสว่างกับ
โชตมิ าตรของดาวฤกษ์

32. อธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างสี อุณหภมู ิผวิ และสเปกตรมั ของดาวฤกษ์
33. อธบิ ายวิธกี ารหาระยะทางของดาวฤกษ์ ด้วยหลกั การแพรัลแลกซ์ พร้อมคานวณหา ระยะทางของ

ดาวฤกษ์
34. อธบิ ายลาดับววิ ฒั นาการทสี่ ัมพันธ์กับมวลตัง้ ต้นและวิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงสมบัติบางประการของ

ดาวฤกษ์ในลาดบั วิวัฒนาการจากแผนภาพเฮริ ์ซปรุง-รัสเซลล์
35. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ระบบสุริยะ การแบง่ เขตบรวิ ารของดวงอาทติ ย์และลกั ษณะของดาวเคราะห์ที่

เออ้ื ต่อการดารงชีวติ
36. อธิบายการโคจรของดาวเคราะห์ รอบดวงอาทิตย์ด้วยกฏเคพเลอร์ และกฎความโน้มถ่วงของนิวตัน

พรอ้ มคานวณคาบ การโคจรของดาวเคราะห์
37. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะและวิเคราะห์ นาเสนอ ปรากฏการณ์

หรอื เหตุการณท์ ีเ่ ก่ยี วข้องกับผลของลมสรุ ิยะ และพายสุ รุ ิยะท่ีมีต่อโลกรวมทั้งประเทศไทย
38. สร้างแบบจาลองทรงกลมฟา้ สงั เกตและ เช่ือมโยงจุดและเส้นสาคญั ของแบบจาลอง ทรงกลมฟ้ากับ

ทอ้ งฟา้ จรงิ และอธิบายการระบุ พิกัดของดาวในระบบขอบฟ้าและระบบ ศูนย์สูตร
39. สงั เกตท้องฟา้ และอธิบายเส้นทางการขึ้น การตกของดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์
40. อธิบายเวลาสรุ ยิ คติปรากฏ โดยรวบรวม ขอ้ มูล และเปรยี บเทยี บเวลาขณะท่ดี วงอาทติ ย์ ผา่ นเม

ริเดยี นของผูส้ งั เกตในแต่ละวัน
41. อธิบายเวลาสรุ ยิ คตปิ านกลาง และการเปรียบเทยี บเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก
42. อธิบายมมุ ห่างทสี่ ัมพนั ธ์กับตาแหนง่ ในวงโคจรและอธิบายเชอ่ื มโยงกับตาแหน่ง ปรากฏของ

ดาวเคราะห์ที่สงั เกตได้จากโลก

145

43. สบื ค้นข้อมลู อธิบายการสารวจอวกาศ โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศน์ในชว่ งความยาคลนื่ ตา่ งๆ ดาวเทยี ม
ยานอวกาศ สถานอี วกาศและนาเสนอแนวคิดการนาความรทู้ างดา้ นเทคโนโลยอี วกาศมาประยกุ ต์ใช้
ในชวี ิตประจาวนั หรอื ในอนาคต

44. สบื คน้ ขอ้ มูล ออกแบบและนาเสนอ กจิ กรรมการสงั เกตดาวบนทอ้ งฟา้ ดว้ ยตาเปลา่ และ/หรอื กล้อง
โทรทรรศน์

รวม 44 ผลการเรียนรู้

146

คาอธบิ ายรายวิชา

ว31241 ชวี วทิ ยา 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

________________________________________________________________________________

ศกึ ษาเกีย่ วกับลักษณะทีส่ าคญั ของสิง่ มชี ีวิต การศึกษาชวี วิทยาโดยอาศัยวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ การ
นาความรเู้ กี่ยวกับชีววทิ ยามาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั โครงสร้างและหน้าที่ของสารเคมที ี่เปน็ องค์ประกอบ
ในเซลล์ของส่งิ มีชวี ิต ปฏิกิริยาเคมใี นเซลล์ของสิ่งมีชวี ิต โครงสรา้ งและหนา้ ที่ของสว่ นประกอบของเซลล์ การ
แพร่ การออสโมซสิ การแพรแ่ บบฟาซิลเิ ทต แอกทีฟทรานสปอร์ต การลาเลยี งสารโมเลกุลใหญ่ การแบง่ เซลล์
และการหายใจระดับเซลล์

โดยอาศัยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มลู การสังเกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มี
คณุ ธรรม และจรยิ ธรรม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเล่ียงอบายมุข เพ่ือ
บรรลุเป้าหมายของหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายและสรุปสมบตั ิทสี่ าคญั ของสิ่งมีชวี ติ และความสัมพนั ธ์ของการจัดระบบในสง่ิ มีชีวติ ทท่ี าให้

ส่งิ มีชวี ิตดารงชีวติ อย่ไู ด้
2. อภิปรายและบอกความสาคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐาน และ

วิธีการตรวจสอบสมมติฐาน รวมทั้งออกแบบการทดลองเพอ่ื ตรวจสอบสมมติฐาน
3. สืบค้นข้อมูล อธิบายเก่ียวกับสมบัติของน้าและบอกความสาคัญของน้าที่มีต่อส่ิงมีชีวิต และ

ยกตัวอยา่ งธาตุตา่ งๆ ท่ีมีความสาคัญต่อร่างกายส่ิงมชี วี ิต
4. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายโครงสร้างของคารโ์ บไฮเดรต ระบกุ ล่มุ คาร์โบไฮเดรต รวมท้ังความสาคัญของ

คารโ์ บไฮเดรตท่มี ตี อ่ สิง่ มชี ีวิต
5. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบายโครงสร้างของโปรตนี และความสาคัญของโปรตีนท่ีมีตอ่ สงิ่ มชี วี ิต
6. สบื ค้นข้อมลู อธิบายโครงสรา้ งของลิพิด และความสาคญั ของลพิ ิดท่ีมตี ่อสง่ิ มชี ีวติ
7. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลีอิก และระบุชนิดของกรดนิวคลีอิกและความสาคัญของกรด

นวิ คลีอิกทมี่ ีต่อสง่ิ มีชีวติ

147

8. สบื ค้นข้อมูลและอธิบายปฏิกิรยิ าเคมีทีเ่ กดิ ข้ึนในสิง่ มีชีวิต
9. อธิบายการทางานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีในส่ิงมีชีวิต และระบุปัจจัยที่มีผลต่อการ
ทางานของเอนไซม์
10. บอกวิธีและการเตรียมตัวอย่างส่ิงมีชีวิตเพ่ือศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง วัดขนาด
โดยประมาณและวาดภาพที่ปรากฏภายใต้กล้อง บอกวิธีการใช้ และการดูแลรักษากล้องจุลทรรศน์ใช้แสงที่
ถกู ต้อง
11. อธิบายโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องส่วนท่หี ่อหมุ้ เซลลข์ องเซลล์พชื และเซลล์สัตว์
12. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบาย และระบุชนดิ และหนา้ ท่ขี องออร์แกเนลล์
13. อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของนิวเคลียส
14. อธบิ ายและเปรยี บเทียบการแพร่ การออสโมซิส การแพรแ่ บบฟาซลิ ิเทต
และแอกทฟี ทรานสปอรต์
15. สืบค้นข้อมูล อธิบายและเขียนแผนภาพการลาเลียงสารโมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ด้วย
กระบวนการเอกโซไซโทซสิ และการลาเลยี งสารโมเลกลุ ใหญ่เขา้ สเู่ ซลลด์ ้วยกระบวนการเอนโดไซโทซสิ
16. สงั เกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซสิ จากตวั อย่างภายใตก้ ล้องจลุ ทรรศน์ พรอ้ ม
ทง้ั อธิบายและเปรยี บเทยี บการแบง่ นวิ เคลยี สแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิส
17. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรปุ ข้ันตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะท่ีมอี อกซิเจนเพียงพอและ
ภาวะทมี่ ีออกซิเจนไมเ่ พียงพอ

รวม 17 ผลการเรยี นรู้

148

คาอธบิ ายรายวชิ า

ว31242 ชวี วิทยา 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

________________________________________________________________________________

ศกึ ษาเกยี่ วกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล กฏแห่งการแยกและ
กฏแหง่ การรวมกลุ่มอย่างอสิ ระ ลกั ษณะทางพันธุกรรมท่ีเปน็ สว่ นขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล ศกึ ษาเกี่ยวกับ
ยนี และโครโมโซม การค้นพบสารพนั ธุกรรม โครโมโซม องค์ประกอบทางเคมีของ DNA โครงสร้างของ DNA
สมบัติของสารพันธุกรรม มิวเทชัน ศึกษาเก่ียวกับพันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง DNA พันธุวิศวกรรม การ
ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีทาง DNA ความปลอดภัยของเทคโนโลยีทาง DNA และมุมมองทางสังคมและจริยธรรม
ศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการ หลักฐานท่ีบ่งบอกถึงวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ
ส่งิ มชี ีวิต พันธุศาสตรป์ ระชากร กาเนิดของสปชี สี ์

โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสังเกต
การวิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จรยิ ธรรมคุณธรรม และค่านิยม

จากกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ทาให้นักเรียนมีความเป็นเลิศวิชาการ ล้าหน้าทางความคิด ผลิตงาน
อย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลกรักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีระเบียบ
วินัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ ดารงชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข เพื่อ
บรรลุเป้าหมายของหลักสตู รโรงเรยี นมาตรฐานสากล

149

ผลการเรยี นรู้
1. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบายและสรุปผลการทดลองของเมนเดล
2. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยก และกฏแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระและนากฏของเมนเดลนี้ไป

อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม และใช้ในการคานวณโอกาสในการเกดิ ฟีโนไทป์และจีโนไทป์แบบ
ตา่ งๆ ของร่นุ F1 และ F2

3. สบื ค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเก่ียวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเป็นส่วน
ขยายของพนั ธศุ าสตร์เมนเดล

4. สืบคน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ และเปรยี บเทยี บลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่มี กี ารแปรผันไม่ตอ่ เน่อื ง และ
แปรผันตอ่ เน่ือง

5. อธิบายลักษณะการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม ยกตัวอย่างลกั ษณะทางพันธุกรรมท่ถี ูกควบคุมด้วย
ยนี บนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ

6. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบตั ิและหนา้ ท่ขี องสารพันธุกรรม โครงสรา้ งและองค์ประกอบทางเคมีของ
DNA และสรปุ การจาลอง DNA

7. อธิบายและระบุข้ันตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน และหน้าที่ของ DNA และ RNA ใน
กระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตนี

8. สรุปความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสารพนั ธกุ รรม แอลลลี โปรตนี ลักษณะทางพนั ธุกรรม และเชอื่ มโยงกับ
ความรู้เร่ืองพนั ธุศาสตร์เมนเดล

9. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน
รวมทั้งยกตัวอยา่ งโรคและกลุ่มอาการทเ่ี ป็นผลของการเกิดมิวเทชัน

10. อธิบายหลักการสร้างสิ่งมชี วี ิตดดั แปรพันธกุ รรมโดยดีเอ็นเอรคี อมบแิ นนท์
11. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนาเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ทั้งในด้าน
ส่ิงแวดลอ้ ม นติ วิ ทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอตุ สาหกรรม และควรคานึงถึงดา้ นชวี จรยิ ธรรม
12. สืบค้นข้อมูล และอธบิ ายเกี่ยวกับหลกั ฐานท่ีสนบั สนุนและข้อมูลที่ใชอ้ ธิบายการเกิดวิวัฒนาการ
ของสิง่ มชี ีวติ
13. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎี
เก่ยี วกับววิ ฒั นาการของสิ่งมชี ีวติ ของชาลส์ ดาร์วนิ
14. ระบุสาระสาคัญและอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทาให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงความถีข่ องแอลลีลในประชากรพร้อมท้ังคานวณหาความถขี่ องแอลลลี และจีโนไทป์ของประชากร
โดยใช้หลกั ของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก
15. สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ รายและอธิบายกระบวนการเกดิ สปชี ีส์ใหมข่ องสง่ิ มีชวี ิต

รวม 15 ผลการเรียนรู้


Click to View FlipBook Version