The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by graphic, 2022-07-12 00:41:36

e-bookแก้ใหม่2

e-bookแก้ใหม่

29
17. การโอนความเสี่ยงภัยไปยังบริษัทคู่สัญญา หมายถึงอะไร และมีความแตกต่าง

อยา่ งไรกบั การโอนภาระความเส่ยี งภัยน้นั ไปยังบรษิ ทั ประกนั ภยั
18. อธิบายบทบาทและหน้าที่ของสานักงานคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการ

ประกอบธุรกจิ ประกันภัย (สานกั งาน คปภ.)
19. อธบิ ายบทบาทและหนา้ ทข่ี องสมาคมนักคณติ ศาสตรป์ ระกนั ภยั แห่งประเทศไทย
20. อธบิ ายบทบาทและหน้าทีข่ องสานักงานอตั ราเบี้ยประกันวนิ าศภัย

บทที่ 1 ธรุ กจิ ประกนั ภยั



02บทที่ 2

ธุรกิจประกันชวี ติ และประกันวินาศภยั

Life and Non-Life Insurance Industries

2.1 บทนา

ประเทศไทยได้รับการจัดอนั ดับจากธนาคารโลก (World Bank) ในปี พ.ศ. 2554 ให้
เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแบบรายได้ปานกลางระดับบน (Upper-Middle Income
Economy) (World Bank, 2564) โดยประเทศไทยได้พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจาก
ประเทศเศรษฐกิจท่ีมีรายได้ต่า (Low Income) และเป็นประเทศที่มีสังคมในลักษณะเอ้ือ
อาทร มีประชาการสูงอายุอยู่จานวนมาก และมีแนวโน้มเพ่ิมสูงข้ึนในทุกๆ ปี มูลค่าเบ้ีย
ประกันภัยคิดเป็นร้อยละ 5.30 ของรายได้ประชาชาติ (GDP) ในปี พ.ศ. 2561 ซ่ึงถือได้ว่า
ค่อนข้างตา่ เมื่อเทยี บกบั ประเทศพัฒนาอนื่ ๆ ปัจจยั ที่สาคญั ต่อการเติบโตของธุรกจิ ประกันภัย
ในประเทศไทยท่ีเป็นปัจจัยสาคัญอันหน่ึง คือ จานวนของบริษัทประกันภัยที่ได้รับอนญุ าตให้
ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่ง ณ ส้ินปี พ.ศ. 2561 ประเทศไทยมีจานวนบริษัทประกัน
ชีวิตที่ได้รับอนุญาต จานวน 23 บริษัท และบริษัทประกันวินาศภัย จานวน 59 บริษัท
(สามารถดูรายชือ่ บรษิ ัทประกันวนิ าศภยั จากเอกสารแนบท้าย สานกั งานคณะกรรมการกากับ
และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สานักงาน คปภ.) ไม่มีการออกใบอนุญาต
ประกันภัยเพ่ิมเติมในชว่ ง 20 ปีท่ีผ่านมา และจากภาวะเศรษฐกจิ และการแขง่ ขันทร่ี นุ แรง ทา
ใหจ้ านวนของบริษทั ประกันภยั ค่อยๆ ลดลง ทง้ั จากการร่วมลงทุน (Joint Venture) ระหว่าง
บริษทั ประกันภยั ต่างประเทศและบริษัทประกันภัยไทย การควบรวม (Acquisitions) กิจการ
ของบริษัทประกันภัยด้วยกันเอง ตัวอย่างเช่น ในปี พ.ศ. 2556 Hong Kong Pacific
Century Group ได้ควบรวมกับบริษัทประกันภัยของไทย ในกลุ่มของ ING Group NV และ
ตั้งชื่อใหม่เป็นบริษัท FWD ประกันชีวิต จากัด (มหาชน) และภายหลัง FWD ได้ซื้อบริษัท
ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCB Life Assurance PLC) ในปี พ.ศ. 2562 กลายเป็นบริษัท
ประกนั ชวี ติ ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ในปจั จบุ ันบรษิ ัทประกนั ภยั มีชอ่ งทางการจัดจาหน่ายที่
หลากหลาย เช่นช่องทางจาหน่ายผ่านธนาคารพาณิชย์ หรือที่เรียกว่า Bancassurance ซ่ึง

32

เป็นข้อตกลงระหว่างธนาคารและบริษัทประกันภัยท่ีอนุญาตให้บริษัทประกันภัยขาย
ผลิตภัณฑ์ของตนให้กับฐานลูกค้าของธนาคาร และช่องทางการจัดจาหน่ายผ่านตัวแทน
ประกันภัย (Insurance Broker) ช่องทางการจาหน่ายที่หลากหลายทาให้เพิ่มเข้าถึงการ
ประกันภัย เข้าถึงได้ง่ายและสะดวก ช่องทางการจัดจาหน่ายที่เพิ่มข้ึนนี้กลายเป็นปัจจัย
สาคัญที่เอื้อตอ่ การประสบความสาเร็จในธุรกจิ ประกนั ภัยในประเทศไทย

2.2 ขอ้ มูลตวั เลขเชงิ เปรียบเทียบทส่ี าคญั สาหรับธรุ กิจประกันภัยและประกนั วินาศภยั

รายได้เบี้ยประกัยภัย ท้ังประกันชีวิตและประกันวินาศภัยของประเทศไทย ปี พ.ศ.
2563 แสดงตามตารางตอ่ ไปนี้

ตารางท่ี 2.1 มูลคา่ เบ้ยี ประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้ พ.ศ. 2563

เบ้ยี ประกนั ท่ถี ือเป็นรายได้ หนว่ ย: ล้านบาท หนว่ ย: %

ประกนั ชวี ิต 560,720 74.95

ประกันวินาศภยั 187,391 25.05

รวม 748,111 100.00

ทีม่ า: สานกั งานคณะกรรมการกากับและสง่ เสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภัย (2564)

ตารางเรียบเรียงโดยผเู้ ขยี น

จากตารางมูลค่าเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ พ.ศ. 2563 ข้างต้นจะพบว่า บริษัท
ประกนั ชวี ติ มรี ายไดเ้ บ้ยี ประกันชีวิตถึง 560,720 ลา้ นบาท หรอื เทียบเป็นรอ้ ยละ 74.95 หรอื
ประมาณ 3 สว่ น 4 ของเบย้ี ประกนั ภยั ท้ังหมดของประเทศ ซง่ึ เปน็ สดั สว่ นทีม่ ีความสอดคล้อง
กบั สัดสว่ นเบย้ี ประกันภยั ทวั่ โลก ที่สัดส่วนเนน้ ไปท่เี บยี้ ประกนั ชวี ิต (ดูภาพท่ี 2.1)

รายได้เบยี้ ประกนั ภัยของประเทศไทย ปี 2563

ประกนั วินาศภยั 25%

ประกนั ชวี ติ 75%

ภาพที่ 2.1 กราฟสัดสว่ นเบยี้ ประกนั ชวี ิตและเบย้ี ประกันวินาศภัยของประเทศไทย
พ.ศ. 2563

ท่ีมา: สานักงานคณะกรรมการกากับและส่งเสรมิ การประกอบธุรกจิ ประกนั ภัย (2564)
กราฟจัดทาโดยผเู้ ขียน

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกนั ชีวติ และประกันวินาศภัย

33

ในธรุ กจิ ประกนั ภัย ไมว่ ่าจะเปน็ ในธรุ กิจประกันชวี ิตหรือธุรกิจประกนั ภัย รายไดจ้ าก
เบ้ียประกันถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจ แม้ว่าเบี้ยประกันภัยท่ีได้รับจากผู้เอาประกันภัย จะ
ถูกนาไปลงทุนเพื่อเพ่ิมพูนผลตอบแทน และสามารถย้อนกลับไปเป็นผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น
รายได้จากการลงทุนดังกล่าวมิได้ถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจประกันภัย นอกจากนี้ บริษัท
ประกันภัยมีนโยบายในการกระจายความเสี่ยงภัย ดังนั้น ในการรับประกันภัยจากผู้เอา
ประกันท่ีบริษัทประกันภัยพิจารณาว่ามีความเสี่ยง หรือบริษัทประกันภัยต้องการกระจาย
ความเสย่ี งตามหลักการหรือนโยบายการบริหารความเสย่ี งที่ดีของบริษัท บรษิ ัทประกันภัยจะ
มกี ารทาประกันภัยต่อ (Reinsurance) โดยมีการโอนความรับผดิ ชอบบางส่วนหรอื ท้ังหมดไป
ยังบริษัทรับประกันภัยต่อ ซ่ึงการดาเนินการดังกล่าว บริษัทประกันภัยต้องชาระค่าเบี้ย
ประกันภัยต่อเช่นกัน ดังนั้น รายได้จากการรับประกันภัย อาจมิใช่รายได้สุทธิของบริษัท
ประกันภัย เน่ืองจากมีการประกันภัยต่อ แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากงบกาไรขาดทุน
ของบริษัทประกันภัย จะพบว่ารายได้จากเบ้ียประกันภัย ยังคงเป็นสัดส่วนท่ีสูงมาก เช่น ใน
ภาพรวมของงบกาไรขาดทุนของบริษัทประกันวินาศภัยท้ังประเทศ ในปี พ.ศ. 2563 พบว่า
เบย้ี ประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้มสี ัดส่วนร้อยละ 89.56 ซง่ึ ถอื ว่าเป็นสดั สว่ นท่สี ูงมาก (ดตู าราง
ท่ี 2.2) และเบ้ียประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้ของบริษัทประกันชีวิต ร้อยละ 81.70 (ดูตารางที่
2.4 ตามลาดบั )

จากตารางท่ี 2.2 แสดงภาพรวมงบกาไรขาดทุนของบริษัทประกันวินาศไทย พ.ศ.
2563 โดยเบ้ียประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ มีสัดส่วนร้อยละ 89.56 (ดูบรรทัดท่ี 1) โดยรายได้
รวมท่ีเกิดจากธุรกิจประกันวินาศภัยอยู่ที่ 209,247 ล้านบาท (บรรทัดท่ี 4) ซึ่งในการดาเนิน
ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจต้องมีค่าใช้จ่ายในการดาเนินธุรกิจประกันภัยเกิดขึ้น โดยบริษัท
ประกันภัยจะต้องมีการสารองประกันภัยสาหรับการประกันภัยระยะยาวเพิ่ม (บรรทัดที่ 5)
และสารองความเสี่ยงภัยอื่น (บรรทัดที่ 6) และค่าใช้จ่ายในการดาเนินธุรกิจประกันภัย เช่น
ค่าสินไหมทดแทน (บรรทัดท่ี 7) ค่าจ้างและบาเหน็จ (บรรทัดท่ี 8) และค่าใช้จ่ายในการรับ
ประกันภัยอ่ืน (บรรทัดที่ 9) และค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน (บรรทัดที่ 11) จากงบกาไร
ขาดทุน กาไรจากการดาเนินงานที่แสดงในบรรทัดที่ 13 เป็นกาไรขาดทุนจากการดาเนิน
ธุรกิจประกันวินาศภัย ซ่ึงได้มาจากผลรวมของรายได้ (บรรทัดท่ี 4) หักผลรวมของค่าใช้จ่าย
(บรรทัดท่ี 12) ซึ่งบรรทัดน้ี ถือเป็นกาไรหรือขาดทุนสุทธิท่ีได้จากการดาเนินธุรกิจประกัน
วินาศภัย ที่ทั้งผู้บริหารและนักลงทุนควรให้การพิจารณาเป็นพิเศษ นอกจากน้ัน บริษัท
ประกันวินาศภัยยังมีรายได้จากการลงทุน (บรรทัดท่ี 14) และรายได้อ่ืน (บรรทัดที่ 15) เม่ือ
นากาไรจากการรับประกันภัย มารวมกับรายได้จากการลงทุนและรายได้อื่น และหักกับ
ค่าใช้จ่ายอื่น จะได้กาไรหรือขาดทุนสุทธิจากการดาเนินงาน (บรรทัดที่ 17) และรายการที่
ควรให้ความสนใจอีกรายการหน่ึง คอื กาไรหรอื ขาดทนุ ก่อนหักภาษีเงินได้นิติบคุ คล (บรรทัด
ที่ 26) ซึ่งเป็นรายการท่ีได้จากการรวมกาไรจากการดาเนินงานเข้ากับกาไรจากการจาหน่าย
เงินลงทุน (ซึ่งกาไรน้ีได้มาจากการนาเงินไปบริหารโดยลงทุนในตราสารต่างๆ ซ่ึงเป็นอีก
แหล่งท่ีมาของรายได้ของบริษัทประกันวินาศภัย แต่ไม่ใช่รายได้หลัก) และรวมกับกาไรจาก
อัตราแลกเปล่ียน เป็นต้น และหักกับเงินสมทบต่างๆ ที่ระเบียบของ คปภ. ซ่ึงจะพบว่า กาไร

บทท่ี 2 ธรุ กิจประกนั ชวี ติ และประกันวนิ าศภัย

34

จากการดาเนินงาน (บรรทัดที่ 17) เม่ือบวกและหักกับรายการต่างๆ แล้ว คงเหลือเป็นกาไร
ก่อนหักภาษีเงินได้นิติบุคคล (บรรทัดที่ 26) และเมื่อหักกับภาษีเงินได้นิติบุคลล (บรรทัดที่
27) คงเหลือเป็นกาไร (ขาดทุน) สทุ ธิประจาปขี องบริษทั ประกนั วนิ าศภัย (บรรทัดท่ี 28) ทัง้ น้ี
จากภาพรวมของงบกาไรขาดทุนของบริษัทประกันวินาศภัย พบวา่ กาไรจากการดาเนินงาน
มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 9.69 ของรายได้ท้ังสิ้น และเมื่อพิจารณากาไรสุทธิมีสัดส่วนเป็นร้อยละ
6.52 ของรายไดท้ ัง้ สิ้น (ดตู ารางท่ี 2.2)

ตารางท่ี 2.2 ภาพรวมงบกาไรขาดทุนของบริษทั ประกันวนิ าศภยั ไทย พ.ศ. 2563

งบกาไรขาดทุนรวม ของบริษัทประกันวินาศภัยไทย สาหรับปี สิ้นสุด 31 ธันวาคม

2563 รายการ หน่วย: ล้านบาท %

1. เบ้ยี ประกันภัยทถ่ี ือเป็นรายได้ 187,391 89.56

2. รายไดค้ ่าจา้ งและค่าบาเหน็จ 20,118 9.61

3. รายไดเ้ งินสมทบ 1,737 0.83

4. รวม (1+2+3) 209,247 100.00

5. สารองประกนั ภัยสาหรบั สัญญาประกันภยั 918 0.44
ระยะยาวเพม่ิ (ลด) 8 0.00

6. สารองความเสีย่ งภยั ทย่ี งั ไมส่ ้นิ สุดเพิม่ (ลด)

7. คา่ สินไหมทดแทนท่ีเกดิ ข้นึ ระหว่างงวด 103,811 49.61

8. คา่ จ้างและคา่ บาเหน็จ 37,223 17.79

9. คา่ ใช้จา่ ยในการรบั ประกนั ภยั อ่นื 24,307 11.62

10. เงินสมทบบริษัทกลางคุ้มครองผูป้ ระสบภัย 1,728 0.83
11.จคาา่กใรชถ้จา่ ยในการดาเนนิ งาน 28,882 13.80

12. รวม (5+6+7+8+9+10+11) 196,877 94.09

13. กาไร (ขาดทนุ ) จากการรบั ประกันภัย 12,370 5.91
6,555 3.13
(4-12)
14. รายไดจ้ ากการลงทนุ สทุ ธิ

15. รายได้อน่ื 1,466 0.70

16. ค่าใชจ้ ่ายอืน่ 105 0.05

17. กาไร (ขาดทุน) จากการดาเนินงาน 20,286 9.69
18.(1ก3าไ+ร1(4ข+า1ด5ท-นุ 1)6จ)ากการจาหน่ายเงนิ ลงทุน 570- 0.27-

ก1า8ร.โ2อกนาเปไรล่ีย(ขนาปดรทะุนเภ) ทจาเงกินกลางรทโอุนนกเปารลข่ียานดทนุ
จากกาปรดระ้อเยภคทา่ เขงอนิ งลสงนิททนุ รพั ย์ และการตรี าคา
เงนิ ลงทนุ

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกนั ชวี ติ และประกันวนิ าศภยั

35

งบกาไรขาดทุนรวม ของบริษัทประกันวินาศภัยไทย สาหรับปี สิ้นสุด 31 ธันวาคม

2563 รายการ หน่วย: ลา้ นบาท %

18.1 กาไร (ขาดทุน) จากการจาหนา่ ยเงิน 0 0.00
ลงทนุ รบั ร้เู ขา้ กาไรขาดทุน

18.3 ผลขาดทนุ ดา้ นเครดิตที่คาดวา่ จะ 569 0.27
เกดิ ข้นึ

18.4 ขาดทนุ จากการด้อยคา่ ของสินทรัพย์ 2 0.00
ทางการเงนิ (1,815) (0.87)

18.5 กาไร (ขาดทนุ ) จากการปรบั มลู คา่
ยุตธิ รรมของเครื่องมอื ทางการเงิน

19. สว่ นแบง่ กาไร (ขาดทนุ ) ในบริษทั ร่วมและ 22 0.01
การรว่ มคา้ (ภายใต้วธิ ีสว่ นไดเ้ สยี )

20. กาไร (ขาดทนุ ) จากการจาหนา่ ย --
อสงั หาริมทรัพยท์ ี่ได้รบั จากการชาระหนี้ (18) (0.01)

21. กาไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปล่ยี น

22. กาไร (ขาดทุน) สทุ ธจิ ากการบญั ชีปอ้ งกนั --
ความเสย่ี ง 598 0.29

23. เงนิ สมทบสานกั งานคณะกรรมการกากับและ
ส่งเสริมการประกอบธรุ กจิ ประกันภัย

24. เงนิ สมทบกองทนุ ประกันวินาศภยั 625 0.30

25. เงินสมทบกองทุนทดแทนผูป้ ระสบภยั 188 0.09

26. กาไร (ขาดทนุ ) ก่อนหักภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ ุคคล 17,065 8.16
(17+18.1+18.2-18.3-
18.4+18.5+19+20+21+22-23-24-25)

27. ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล 3,412 1.63

28. กาไร (ขาดทนุ ) สุทธิประจาปี (26-27) 13,653 6.52

ท่ีมา: ขอ้ มลู จากสานักงานคณะกรรมการกากบั และสง่ เสริมการประกอบธรุ กิจประกนั ภัย (2564)
ตารางเรียบเรยี งโดยผ้เู ขยี น

จากงบกาไรขาดทนุ ของธรุ กจิ ประกนั วนิ าศภัย ที่แสดงในตารางท่ี 2.2 เบีย้ ประกันภัย
ท่ีถือเป็นรายได้ (บรรทัดท่ี 1) สามารถแจกแจงตามประเภทของการประกันภัย โดยแยกเป็น
การประกันอัคคีภัย การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยรถ การประกันภัย

บทท่ี 2 ธุรกจิ ประกนั ชวี ติ และประกันวินาศภัย

36

เบ็ดเตล็ด ซึ่งจากตารางท่ี 2.3 จะพบว่า แต่ละประเภทประกันภัย มีสัดส่วนร้อยละ 3.86,
1.58, 68.44 และ 26.12 ตามลาดับ โดยเบ้ยี ประกันภัยทถ่ี ือเป็นรายได้จากการประกันภัยรถ
ซ่ึงรวมทั้งการประกันภัยตามข้อบังคับแห่งกฎหมายและการประกันโดยสมัครใจ เป็นสัดส่วน
เบ้ียประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สูงสุด อย่างไรก็ดี ในแต่ละประเภทของการประกันภัย ผู้เอา
ประกันภัยมีสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าสินไหนทดแทนจากบริษัทประกันวินาศภัยได้ตามเหตุที่
เกดิ และเป็นไปตามสัญญาหรือกรมธรรม์ทีก่ าหนดไว้ โดยคา่ สินไหมทดแทนท่ีเกิดข้ึนระหว่าง
ปี ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการประกันภยั จะต้องนามาหักจากเบี้ยประกันภยั ท่ีถือเปน็ รายได้ เพื่อ
คานวณหากาไรหรือขาดทุนจากการรับประกันภัย (ดูบรรทัดที่ 13 ตารางท่ี 2.2) ซึ่งค่าสินไหม
ทดแทนท่ีเกิดขึ้น ถือเป็นค่าใช้จ่าย หากธุรกิจมีค่าสินไหมทดแทนเกิดขึ้นมากกาไรจากการรบั
ประกันภัยก็จะต่าลง อัตราส่วนทางการเงินท่ีมักจะถูกนามา พิจารณาเสมอ เพ่ือดู
ความสามารถในการทากาไรของธุรกิจประกันวินาศภัย คือ อัตราส่วน คุ้มครองผู้เอา
ประกันภัย (Insured Protection Ratio) หรืออีกชื่อหนึ่งท่ีมักนิยมเรียกกันคือ อัตรา Loss
Ratio ซงึ่ เป็นอตั ราส่วนความเสยี หายหรอื ค่าสินไหมทดแทนที่คดิ เทียบกับเบ้ียประกนั ภัยรับที่
ถือเป็นรายได้ โดยตารางที่ 2.3 แสดงให้เห็นถึง Loss Ratio แยกตามประเภทของการ
ประกันภัย อัตราส่วน Loss Ratio ที่สูง แสดงว่ามีการจ่ายสินไหมทดแทนเป็นสัดส่วนของ
เบี้ยประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้ท่ีสูง ซ่ึงการประกันภัยรถยนต์เป็นรูปแบบการประกันภัยที่มี
สัดส่วนน้ีสูงสุดแต่ขณะเดียวกันก็มีค่าสินไหมทดแทนสูงด้วยเช่นกัน ทาให้มีอัตราส่วน Loss
Ratio ท่ีสูงถึงร้อยละ 63.20 และเมื่อพิจารณาในภาพรวมพบว่า ค่าสินไหมทดแทนท่ีเกิดขึ้น
ในระหว่างปี พ.ศ. 2563 จานวน 103,810 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.40 ของเบ้ีย
ประกนั ภยั ท่ถี อื เป็นรายได้ (ดูตารางท่ี 2.3)

ตารางที่ 2.3 อัตราคา่ สินไหมทดแทนต่อเบีย้ ประกนั ภัยทีถ่ ือเปน็ รายได้ของธรุ กิจประกนั วินาศ
ภยั พ.ศ. 2563

บรษิ ัท : รวมทุกบรษิ ัท เบ้ยี ประกันภยั หนว่ ย : ลา้ นบาท
ประเภทของการประกนั ภัย ท่ถี ือเป็น
รายได้ คา่ สนิ ไหม อัตราสว่ น
(A) ทดแทนท่ี คมุ้ ครองผู้
เกิดข้ึน เอา
1. การประกนั อัคคีภยั 7,236.06 ระหว่างปี ประกนั ภัย
รวม 7,236.06 (สุทธ)ิ (ร้อยละ)

2. การประกนั ภยั ทางทะเลและขนส่ง 93.23 (B) (B)/(A) x
2.1 การประกันภยั ตัวเรือ 2,858.25 100
2.2 การประกันภัยสนิ ค้า
1,350.44 18.66

1,350.44 18.66

85.56 91.77
1,118.31 39.13

บทท่ี 2 ธุรกจิ ประกันชีวติ และประกนั วนิ าศภัย

37

บรษิ ทั : รวมทุกบริษทั หนว่ ย : ลา้ นบาท

ประเภทของการประกันภัย เบีย้ ประกนั ภยั คา่ สนิ ไหม อัตราส่วน

ท่ถี ือเป็น ทดแทนท่ี คุ้มครองผู้

รายได้ เกิดขึน้ เอา

(A) ระหวา่ งปี ประกันภัย

(สุทธ)ิ (ร้อยละ)

(B) (B)/(A) x

100

รวม 2,951.48 1,203.88 40.79

3. การประกนั ภยั รถ

3.1 การประกันภัยรถโดยข้อบงั คับ 17,260.62 11,893.28 68.90
แหง่ กฎหมาย

3.2 การประกนั ภยั รถโดยสมคั รใจ 110,996.97 69,167.04 62.31

รวม 128,257.59 81,060.31 63.20

4. การประกนั ภัยเบด็ เตล็ด

4.1 การประกันความเสีย่ งภยั ทกุ

ชนิดและการประกันภยั 6,325.41 3,093.81 48.91

ทรพั ยส์ ิน

4.2 การประกันภยั ความรับผิดตาม 1,008.97 519.91 51.53
กฎหมาย

4.3 การประกันภัยอบุ ัตเิ หตุ 22,177.04 8,278.66 37.33

4.4 การประกันภยั สขุ ภาพ 13,397.09 6,163.55 46.01

4.5 การประกันภัยการเดินทาง 605.21 142.05 23.47

4.6 การประกนั ภยั อสิ รภาพ 125.08 54.88 43.87

4.7 การประกนั ภัยอื่นๆ 5,307.50 1,943.38 36.62

รวม 48,946.31 20,196.23 41.26

รวมการรบั ประกันภยั ทกุ ประเภท 187,391.43 103,810.85 55.40

ท่มี า: ข้อมลู จากสานักงานคณะกรรมการกากบั และสง่ เสริมการประกอบธรุ กจิ ประกันภัย (2564)

ตารางเรียบเรียงโดยผู้เขยี น

จากภาพรวมงบกาไรขาดทุนรวมของบริษัทประกันชีวิตไทย พ.ศ. 2563 (ตารางท่ี
2.4) มีโครงสร้างของงบกาไรขาดทุนที่คล้ายคลึงกับงบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัย
เพียงแต่มีมูลค่าท่ีสูงกว่า โดยในปี 2563 บริษัทประกันชีวิตท้ังหมดที่จดทะเบียนในประเทศ
ไทย จานวน 22 แห่ง มีเบี้ยประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้มูลค่า 560,720 ล้านบาท ซ่ึงสูงกว่า
มูลค่าของเบี้ยประกันวินาศภัย จานวน 58 แห่ง ซ่ึงมีเบ้ียประกันภัยที่ถือเป็นรายได้เพียง
187,391 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เบี้ยประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้ของบริษัทประกันชีวิต มี

บทที่ 2 ธรุ กจิ ประกนั ชวี ติ และประกนั วนิ าศภัย

38

สัดส่วนเป็นร้อยละ 81.70 ของรายได้ทั้งส้ิน แม้ว่าการแสดงรายการในงบกาไรขาดทุนของ
บริษัทประกันภัยและบริษัทประกันชีวติ มีความใกลเ้ คียงกัน แต่ยังมีรายการที่ถือว่าเป็นความ
แตกต่างและเป็นสาระสาคัญในการแสดงรายการ กล่าวคือ รายได้จากการลงทุนสุทธิของ
บริษัทประกันชีวิต (บรรทัดท่ี 3) ถูกนามารวมเป็นรายได้ท้ังส้ินของบริษัทประกันชีวิตไทย
ในขณะท่ีรายการน้ี ถูกนามาแสดงแยกต่างหากในงบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัยโดย
ไมน่ ามารวมเปน็ รายไดท้ ้ังสนิ้ (ดูบรรทดั ท่ี 14 ของตาราง 2.2) และมลู คา่ รายไดจ้ ากการลงทุน
ในธุรกิจประกันชีวิตมีสัดส่วนท่ีสูงกว่ามาก โดยใน พ.ศ. 2563 รายได้จากการลงทุนมีมูลค่า
122,876 ล้านบาท เทียบเป็นร้อยละ 17.90 ของรายได้ท้ังสิ้น ในขณะที่รายการน้ีในธุรกิจ
ประกันวินาศภัยมีมูลค่าเพียง 6,555 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.13 ของรายได้ท้ังสิ้น สาเหตุ
หนึ่งของมูลค่าของรายได้จากการลงทุนมีความแตกต่างกันเน่ืองมาจากรูปแบบหรือลักษณะ
ของธุรกิจ ซึ่งธุรกิจประกันชีวิตมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่มักมีอายุกรมธรรม์
ระยะกลางถงึ ระยะยาว เบ้ียประกันภัยที่ได้รับมาเปน็ เบีย้ ประกนั ภยั ทมี่ เี ง่ือนไขในการให้ความ
คุ้มครองที่มีระยะเวลานานกว่า 1 ปี บริษัทมีภาระผูกพันที่นอกเหนือจากการให้ความ
คุ้มครองตามสัญญาหรือตามกรมธรรม์แล้ว บริษัทประกันชีวิตยังมีผลตอบแทนในรูปแบบอน่ื
เช่น เงินปันผล เงินคืน ตามเงื่อนไขท่ีกาหนด ทาให้บริษัทประกันชีวิตมีความจาเป็นต้องนา
เบยี้ ประกนั ภัยที่ได้รับไปลงทุน เพอ่ื สรา้ งผลตอบแทนตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังน้นั ดว้ ย
รูปแบบกรมธรรม์ที่มคี วามแตกต่างกนั บริษัทประกันวนิ าศภยั ซง่ึ มักนาเสนอผลิตภัณฑ์ในการ
ให้ความคุ้มครองระยะสั้นหรือเป็นลักษณะปีต่อปี ไม่สามารถนาเงินที่ได้รับมาบริหารจัดการ
เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ตอบแทนกลับคืนมาได้มากเท่ากับที่บริษัทประกันชีวิตกระทา
เนื่องจากลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือกรมธรรม์ที่นาเสนอมีความแตกต่างกัน จึงส่งผลให้
สัดส่วนรายได้จากการลงทุนของธุรกิจท้ังสองประเภทมีมูลค่าและสัดสว่ นที่ต่างกัน โดยในการ
แสดงรายการในงบกาไรขาดทนุ สาหรับธุรกิจประกนั ชวี ิต จึงถอื ว่าการลงทนุ ดังกล่าวเป็นส่วน
หนึ่งที่มีความผกู พนั กับเบ้ยี ประกนั ภัยทไี่ ดร้ ับและถือเปน็ รายได้

บริษัทประกันชีวิตไทย (ดูตารางท่ี 2.4) มีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ จานวน
560,720 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.70 ของรายได้ท้ังส้ิน มีกาไรจากการรับประกันภัย
(บรรทดั ที่ 13) จานวน 46,506 ลา้ นบาท หรือร้อยละ 6.78 กาไรจากการดาเนินงาน (บรรทดั
ท่ี 16) จานวน 47,333 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.90 จะเห็นว่าบริษัทประกันชีวิตมีรายได้อื่น
และค่าใช้จ่ายอื่นน้อยมาก ทาให้กาไรจากการดาเนินงานมีมูลค่าท่ีใกล้เคียงกับกาไรจากการ
รับประกันภัย และกาไรก่อนหักภาษีเงินได้นิติบุคคล (บรรทัดท่ี 24) มีจานวน 43,894 ล้าน
บาท หรือร้อยละ 6.40 และกาไร (ขาดทุน) สุทธิ (บรรทัดที่ 26) มีจานวน 35,211 ล้านบาท
หรือร้อยละ 5.13

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงสัดส่วนกาไรสุทธิประจาปี เปรียบเทียบระหว่างบริษัท
ประกันวินาศภัย กับบริษัทประกันชีวิต พบว่าบริษัทประกันวินาศภัยมีสัดส่วนกาไรสุทธิท่ีคิด
เป็นร้อยละของรายได้ที่สูงกว่าบริษัทประกันชีวิต (บริษัทประกันวินาศภัย ร้อยละ 6.52
ขณะท่ีบริษัทประกันชีวิต ร้อยละ 5.13 ([35,211/560,720]*100) แม้ว่ารายได้รวมจะคิดมา
จากฐานที่แตกต่างกัน แต่หากทาการคานวณใหม่ภายใต้ฐานรายได้เดียวกัน จะพบว่า บริษัท

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกันชีวติ และประกันวินาศภยั

39

ประกันชีวิตก็ยังมีสัดส่วนกาไรสุทธิท่ีต่ากว่าบริษัทประกันวินาศภัยอยู่ดี (กาไรสุทธิต่อเบี้ย
ป ร ะ กั น ภั ย ท่ี ถื อ เ ป็ น ร า ย ไ ด้ ข อ ง บ ริ ษั ท ป ร ะ กั น วิ น า ศ ภั ย ร้ อ ย ล ะ 7 . 29
([13,653/187,391]*100) ข ณ ะ ที่ ข อ ง บ ริ ษั ท ป ร ะ กั น ชี วิ ต ร้ อ ย ล ะ 6 . 2 8
([13,653/187,391]*100) หรือหากพิจารณาจากกาไรสุทธิต่อรายได้รวมทั้งส้ิน ของบริษัท
ประกันวินาศภัยร้อยละ 6.28 ([13,653/(209,247+6,555+1,466)]*100) ขณะที่บริษัท
ประกันชีวิตมีกาไรสุทธิต่อรายได้รวมทั้งส้ิน ร้อยละ 5.12 ([35,211/(386,286+1318)]*100)
ไมว่ ่าจะพิจารณาจากรายไดใ้ นฐานใด กาไรสทุ ธิของบรษิ ัทประกนั วนิ าศภยั ในภาพรวม มีกาไร
ที่สูงกว่าบริษัทประกันชีวิต อย่างไรก็ตาม การพิจารณาน้ีเป็นการพิจารณาในภาพรวมของ
ธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัย การจะพิจารณาความสามารถในการทากาไร
ของบริษทั ประกนั ภยั ควรพจิ ารณาความสามารถในการทากาไรท่เี ปน็ ผลประกอบการของแต่
ละบริษัท และมีอัตราส่วนทางการเงินอีกหลายอัตราส่วนท่ีสามารถใช้เพ่ือการวิเคราะห์ร่วม
เพ่อื ดูถึงประสิทธภิ าพการดาเนินงานของบริษทั ประกันภยั

ตารางที่ 2.4 ภาพรวมงบกาไรขาดทุนของบรษิ ทั ประกันชีวิต พ.ศ. 2563
งบกาไรขาดทุนรวมของบริษัทประกันชีวิตไทย สาหรับปี ส้ินสุด 31 ธันวาคม 2563

รายการ หน่วย: ล้านบาท %
1. เบีย้ ประกันภยั ที่ถือเปน็ รายได้ 560,720 81.70
2. รายได้ค่าจ้างและค่าบาเหนจ็ 2,690 0.39
3. รายไดจ้ ากการลงทุนสุทธิ 122,876 17.90
4. รวม (1+2+3) 686,286 100.00
5. สารองประกันภัยสาหรับสัญญาประกันภัยระยะ
ยาวเพมิ่ (ลด) 135,123 19.69
6. สารองความเสย่ี งภยั ทยี่ ังไมส่ ิ้นสดุ เพมิ่ (ลด) 48 0.01

7. เงินจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยท่ีเกิดข้ึนระหว่าง 318,934 46.47
งวด 46,502 6.78
69,515 10.13
8. คา่ สนิ ไหมทดแทนที่เกิดข้ึนระหวา่ งงวด 25,081 3.65
9. คา่ จา้ งและคา่ บาเหน็จ 44,577 6.50
10. ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภยั อ่นื 639,780 93.22
11. ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงาน 46,506 6.78
12. รวม (5+6+7+8+9+10+11)
13. กาไร (ขาดทนุ ) จากการรบั ประกันภยั (4-12)

บทที่ 2 ธรุ กจิ ประกนั ชวี ติ และประกนั วินาศภัย

40

รายการ หนว่ ย: ล้านบาท %
0.19
14. รายไดอ้ ืน่ 1,318 0.07
6.90
15. คา่ ใชจ้ า่ ยอ่ืน 491
47,333 1.28
16. กาไร (ขาดทุน) จากการดาเนินงาน (13+14- -
15)
17. กาไร (ขาดทุน) จากการจาหน่ายเงินลงทุน การ (1.23)
(0.00)
โอนเปล่ียนประเภทเงินลงทุน การขาดทุนจาก
การด้อยค่าของสินทรัพย์ และการตีราคาเงิน (0.05)
ลงทนุ -

17.1 กาไร (ขาดทุน) จากการจาหน่ายเงินลงทุน 8,800 0.02
รับรู้เขา้ กาไรขาดทนุ - 0.04
(0.33)
17.2 กาไร (ขาดทุน) จากการโอนเปลี่ยนประเภท 0.15
เงนิ ลงทนุ 0.09

17.3 ผลขาดทนุ ด้านเครดิตทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ (8,439) 6.40
1.27
17.4 ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ทาง (3) 5.13
การเงิน

17.5 กาไร (ขาดทุน) จากการปรับมูลค่ายุติธรรม (324)
ของเครอื่ งมอื ทางการเงิน -

18. กาไร (ขาดทุน) จากการจาหน่ายอสงั หารมิ ทรัพย์ 153
ทไ่ี ด้รับจากการชาระหน้ี 289

19. ส่วนแบ่งกาไร (ขาดทุน) ในบริษัทร่วมและการ
รว่ มค้า (ภายใต้วิธสี ว่ นไดเ้ สยี )

20. กาไร (ขาดทนุ ) จากอัตราแลกเปลยี่ น

21. กาไร (ขาดทุน) สุทธิจากบัญชปี อ้ งกนั ความเสีย่ ง (2,277)
1,040
22. เงินสมทบสานักงานคณะกรรมการกากับและ
ส่งเสริมการประกอบธรุ กจิ ประกันภยั

23. เงนิ สมทบกองทนุ ประกันชวี ติ 599
43,894
24. กาไร (ขาดทุน) ก่อนหักภาษีเงินได้นิติบุคคล
(16+17.1+17.2-17.3-
7.4+17.5+18+19+20+21-22-23)

25. ภาษเี งนิ ได้นิตบิ คุ คล 8,683

26. กาไร (ขาดทุน) สุทธิ (24-25) 35,211

ที่มา: สานักงานคณะกรรมการกากบั และส่งเสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภัย (2564)

ตารางเรียบเรียงโดยผเู้ ขียน

บทที่ 2 ธรุ กิจประกันชวี ิตและประกนั วินาศภยั

41

2.3. อตุ สาหกรรมประกันภัยในประเทศไทย

ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 บริษัทท่ีประกอบธุรกิจประกันภัยทั้งส้ิน มีจานวน
84 บริษัท ซึ่งมีท้ังท่ีเป็นบริษัทสัญชาติไทย บริษัทต่างชาติ และบริษัทร่วมทุน โดยแบ่งเป็น
บริษัทประกันชีวิต จานวน 23 แห่ง บริษัทประกันวินาศภัย จานวน 59 แห่ง และบริษัท
ประกันภยั ต่อ จานวน 2 แหง่ (ดูตาราง 2.5)

ตารางท่ี 2.5 จานวนบริษทั ประกนั ภยั ในประเทศไทย พ.ศ. 2563

ประเภทธรุ กจิ รวม เบี้ย เบี้ย อัตราผูถ้ ือ
ประกนั ภัย ประกนั ภัย ประกันภยั กรมธรรม์
ต่อ GDP ประกนั ชวี ติ
(%)* ตอ่ หวั ตอ่ ประชากร
(Insurance
(%)**
Density)
(บาท)

บริษทั ประกันชีวิต 23 3.82 9,062.39 43.28

บรษิ ทั ประกนั วินาศภยั 59 1.61 3,816.75 -

บริษัทประกนั ภยั ตอ่ 2 - --

รวม 84 5.43 12,879.14 43.28

ท่ีมา: สานกั งานคณะกรรมการกากับและส่งเสรมิ การประกอบธุรกจิ ประกนั ภัย (2563)
ตารางจัดทาโดยผเู้ ขียน
* เบยี้ ประกนั ภยั ตอ่ GDP (%) หรือ Insurance Penetration ** Density Rate

ในปัจจุบันธุรกิจประกันภยั ท้ังธรุ กิจประกนั วนิ าศภัยและธรุ กิจประกันชวี ิตในประเทศ
ไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเพ่ิมช่องทางการจัดจาหน่ายที่
ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่าย ท่ัวถึง รูปแบบของการประกันภัยมีความหลากหลาย
ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค และผู้บริโภคมีความเข้าใจในประโยชน์ของการทา
ประกันภัยมากขึ้น โดยผู้ทาประกันภัยเข้าใจถึงบทบาทและสิทธิประโยชน์จากการทา
ประกันภัย อันเป็นมาตรการในการป้องกันความเสี่ยงและสามารถสร้างหลักประกันท่ีม่ันคง
ให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกัน และยังเป็นหนึ่งในรูปแบบการออมเงินอีกด้วย การ
ทาประกันภัยจึงเป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญและจาเป็นต่อการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ของภาค
ประชาชน ภาคธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม ท่มี แี นวโนม้ ในการขยายตวั อยา่ งรวดเร็ว

ข้อมูลจากบริษัท Swiss Reinsurance ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยตอ่ ช้ันนาของโลก
แสดงให้เห็นว่า ในปี พ.ศ. 2561 สัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับรวมจากธุรกิจประกันภัยทุก
ประเภทต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หรือที่เรียกว่า Insurance Penetration
Ratio ของประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.27 ซึ่งหากเปรียบเทียบอัตราส่วนนี้กับ

บทที่ 2 ธรุ กจิ ประกนั ชีวติ และประกันวินาศภัย

42

ประเทศอ่ืนๆ ที่มีรายได้ประชากรสูงกว่าประเทศไทย เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญ่ีปุ่น
และสิงคโปร์ จะพบว่า ประเทศเหล่านี้มีอัตราส่วนเบี้ยประกันภัยรับต่อ GDP ในอัตราท่ีสูง
กวา่ ประเทศไทย และหากพจิ ารณาเทยี บกบั ประเทศในกลุ่มอาเซียน ประเทศไทยมีอตั ราส่วน
เบ้ียประกันภัยต่อ GDP สูงกว่าประเทศมาเลเซีย จีน อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และ
ฟิลิปปินส์ ข้อมูลเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกประเภทต่อ GDP ณ พ.ศ. 2561 แสดงดังภาพ
ขา้ งล่างน้ี (ภาพท่ี 2.2)

(ร้อยละ)

25.00 20.88
20.00 18.16
15.00 11.17
10.00 8.86 7.82
5.00 5.27 4.77 4.22 3.7 2.42 1.95 1.82
0.00

ภาพที่ 2.2 เบ้ียประกนั ภัยรบั รวมทกุ ประเภทต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในแต่ละประเทศ

พ.ศ. 2561

ที่มา: Swiss Reinsurance (2021). Sigma No.3/2019; ฝา่ ยวิเคราะหธ์ ุรกิจและสถิติ
สานกั งานคณะกรรมการกากบั และสง่ เสรมิ การประกอบธุรกจิ ประกันภัย (2564)

ในปี 2563 เป็นปีท่ีประเทศไทยและท่ัวโลกต่างประสบปัญหาการแพร่ระบาดของ
เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทาให้ธุรกิจประกันภัยแม้มีการเติบโตแต่เป็นการ
เติบโตที่ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งการแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่
สง่ ผลกระทบตอ่ การเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกประเทศ รวมท้ังประเทศไทยด้วย โดยผลงาน
ภาพรวมธุรกิจประกันภัยมีประกันภัยรับรวมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ GDP
(Insurance Penetration Rate) อยู่ท่ีร้อยละ 3.82 และมีอัตราการคงอยู่ของกรมธรรม์ร้อย
ละ 82 และเมื่อเปรียบเทยี บกบั อัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศ พบวา่ ภาพรวมธุรกิจ
ประกันชีวิตมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตของ GDP ที่เติบโตลดลงร้อยละ 6 โดย
การเพ่ิมขึ้นในสัดส่วนเบ้ียประกันภัยรับต่อ GDP ส่วนหน่ึงมาจากการผ่อนคลายนโยบาย
ระเบียบและกฎเกณฑ์ของสานักงาน คปภ. ให้กับภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาด เช่น การเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีสาหรบั การซื้อประกันสุขภาพเปน็
25,000 บาทต่อปี และมาตรการผ่อนคลายกฎเกณฑ์หรือประกาศต่างๆ ได้แก่ การผ่อนปรน
การชาระเบ้ียประกันภัย การขยายระยะเวลาการผ่อนผันเง่ือนไขกรมธรรม์ฯ และอัตราเบี้ย

บทท่ี 2 ธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย

43

ประกันภัย การแก้ไขหลักเกณฑ์วิธีการออกการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยผ่อนคลายให้
สามารถเสนอขายแบบ Digital Face to Face ให้กับผู้เอาประกันหรือผู้สนใจได้ ซึ่งการผ่อน
คลายนี้เป็นการอานวยความสะดวกให้กับทุกฝ่ายและเป็นการปรับกระบวนการขายให้
สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากน้ี ยังมีการอนุโลมการอบรมต่ออายุใบอนุญาต
ตัวแทนประกันชีวิตและนายหน้าประกันชีวิต เป็นต้น และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่
ระบาดของเช้ือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทาให้ประชาชนและธุรกิจหันมาตระหนักและให้
ความสนใจในการทาประกันภัย มีความสนใจในการวางแผนการประกันสุขภาพมากยิ่งข้ึน
ส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตมีเบ้ียประกันชีวิตประเภทสัญญาเพ่ิมเติมการประกันสุขภาพ และ
เบี้ยประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันโรคร้ายแรงเติบโตเพ่ิมข้ึนร้อยละ 6.10
และ ร้อยละ 13.59 ตามลาดับ เม่ือเทยี บกับปี 2562 (สมาคมประกนั ชีวติ ไทย, 2564)

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโคโรนาไวรัสสายพันธ์ุใหม่ในปี 2563
ต่อเนอื่ งมาถงึ ปี 2564 ภาคประชาชนผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างหันมาให้ความสาคัญกับการ
ทาประกันภัย ประกันสุขภาพ และประกันชีวิตเพ่ิมมากขึ้น โดยช่องทางการจัดจาหน่ายใน
ธุรกิจประกันชีวิตพบว่า การจาหน่ายโดยผ่านตัวแทนประกันชีวิต (Agency) ยังคงเป็นช่อง
ทางการจาหน่ายที่มีสัดส่วนการจาหน่ายสูงสุด (ประมาณร้อยละ 53.37 ณ ปี 2563)
รองลงมาคือการจาหน่ายผ่านธนาคาร (Bancassurance) (ประมาณร้อยละ 38.58) และ
ช่องทางอ่ืนๆ เช่น จาหน่ายผ่านทางโทรศัพท์ ช่องทางดิจิทัล และ ช่องทางไปรษณีย์ มี
อัตราส่วนต่อเบี้ยประกันภัยรับรวมเพยี งรอ้ ยละ 8.05 (สมาคมประกนั ชีวติ ไทย, 2564)

นอกจากน้ี เบ้ียประกันวินาศภัยรับรวมทุกประเภทเพ่ิมข้ึนจาก 221,700 ล้านบาท
ในปี พ.ศ. 2558 เป็น 253,576 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2562 หรือเพ่ิมข้ึนในอัตราเฉล่ียร้อยละ
3.42 ต่อปี (อัตราการเติบโตต่อปี หรือ Compound Annual Growth Rate - CAGR) ส่วน
เบ้ียประกันชีวิตรับรวมทุกประเภทเพิ่มขึ้นจาก 533,222 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2558 เป็น
612,823 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2562 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยในอัตราร้อยละ 3.44 ต่อปี (CAGR)
และในปี พ.ศ. 2563 อัตราการเพมิ่ ขึน้ ของเบี้ยประกันภยั ท้งั เบี้ยประกันชวี ติ และเบยี้ ประกัน
วินาศภัย ต่างก็เพิ่มข้ึน แม้จะมีสถานการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเช้ือโคโรนา
ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เบ้ียประกันภัยก็ยังมีอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการ
เตบิ โตของอตุ สาหกรรมประกันภัยในประเทศไทยทีม่ ีอยา่ งต่อเนื่อง (ดภู าพที่ 2.3)

บทท่ี 2 ธุรกจิ ประกันชีวติ และประกันวินาศภยั

44

(ลา้ นบาท) 533,222 599,960 602,430 629,968 612,823
700,000
600,000 221,700 223,932 229,884 242,478 253,576
500,000
400,000 2558 2561 2562
300,000
200,000
100,000

0

2559 2560
ประกันภัย ประกนั ชวี ิต

ภาพที่ 2.3 เบีย้ ประกนั ภยั รับรวมทุกประเภทของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2558 – 2562

ทมี่ า: ฝ่ายวิเคราะห์ธรุ กิจและสถิติ สานกั งานคณะกรรมการกากบั และส่งเสริมการประกอบธุรกจิ
ประกนั ภัย (2564) กราฟจดั ทาโดยผู้เขยี น

สาหรับการประกันวินาศภัยสามารถจาแนกได้เป็นหลายประเภทตามรูปแบบของ
การรับประกันภัย จากข้อมูลเบ้ียประกันวินาศภัยรับรวมของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2562 ท่ี
จัดทาโดยฝ่ายวิเคราะห์ธรุ กจิ และสถิติ สานักงาน คปภ. แสดงให้เหน็ ว่าการประกนั ภยั รถยนต์
โดยสมัครใจ เปน็ ประเภทธุรกิจประกันวินาศภยั ท่ีมีสัดส่วนเบี้ยประกนั วินาศภัยสูงสุด ถึงรอ้ ย
ละ 49.89 ของเบ้ียประกันวินาศภัยทั้งหมด และรองลงมาคือการประกันอุบัติเหตุ ร้อยละ
12.65 และการประกนั ความเสี่ยงภยั ทุกชนิดและการประกนั ภัยทรัพยส์ ิน รอ้ ยละ 10.55 (ดู
ภาพท่ี 2.4)

10.28% 49.89% การประกนั ภัยรถโดยสมัครใจ
4.37% การประกนั ภยั อบุ ตั ิเหตุ
4.94% การประกนั ความเสี่ยงภัยทุกชนิดและการประกันภัยทรพั ย์สนิ
7.32% การประกนั ภัยรถโดยขอ้ บังคบั แห่งกฎหมาย
การประกนั ภยั สขุ ภาพ
10.55% ประกันอัคคีภยั

12.65% การประกันภยั อ่ืน

ภาพท่ี 2.4 สัดสว่ นเบยี้ ประกันวนิ าศภยั รบั แบ่งตามประเภทธรุ กจิ ประกนั วินาศภัยไทย พ.ศ.
2562

ที่มา: ฝ่ายวิเคราะห์ธรุ กจิ และสถติ ิ สานกั งานคณะกรรมการกากับและส่งเสรมิ การประกอบธุรกจิ
ประกนั ภัย (2564) กราฟจดั ทาโดยผเู้ ขยี น

บทที่ 2 ธุรกิจประกันชีวิตและประกนั วนิ าศภัย

45
จากข้อมูลของสานังาน คปภ. พบว่าเบ้ียประกันภัยรวมทุกประเภทของประเทศไทย
เพิ่มข้ึนจาก 103.01 ล้านล้านบาทในปี พ.ศ. 2558 เป็น 119.39 ล้านล้านบาทในปี พ.ศ.
2562 (ดูภาพ 2.5) การเพ่ิมข้ึนของเบ้ียประกันภัยรับเป็นตัวเลขท่ีสะท้อนถึงการเติบโตของ
ธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย และเป็นตัวเลขท่ีแสดงให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจใน
ประโยชน์ของการทาประกันภัย โดยตัวเลขเบ้ียประกันภัยมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความรู้
ความเข้าใจของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือภาคธุรกิจ นอกจากน้ัน ยังแสดงให้
เห็นถึงความเส่ียงในภาพรวมของบริษัทประกันภัยท่ีรับภาระในการชดใช้ความเสียหาย
บางส่วนหรือท้ังหมดให้กับผู้เอาประกันภัย บริษัทประกันภัยเองจึงต้องมีการบริหารความ
เสี่ยงให้เหมาะสม ซ่ึงโดยส่วนใหญ่บริษัทประกันวินาศภัยจะมีการบริหารความเสี่ยงภัยโดย
การทาประกันภัยต่อ เพ่ือเป็นการลดภาระค่าสินไหมทดแทนท่ีอาจเกิดข้ึนในภายหน้า โดย
บริษัทประกันวินาศภัย เป็นบริษัทท่ีมีการทาประกันภัยต่อจานวนมากเน่ืองจากลักษณะการ
คุ้มครอง และการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จะทาให้บริษัทเกิดภาวะความเสี่ยง ซ่ึงจาเป็นต้อง
มกี ารบรหิ ารความเส่ยี งดงั กลา่ วตามนโยบายของบรษิ ทั (ดูภาพท่ี 2.6)

(หน่วย: ลา้ นลา้ นบาท) เบยี้ ประกันภัยรับ พ.ศ. 2558 - 2562

160 134
140 118 119
120 103 102
100
80
60
40
20
0
2558 2559 2560 2561 2562

ภาพท่ี 2.5 เบี้ยประกันภยั รับรวมทกุ ประเภทของประเทศไทย พ.ศ. 2558 – 2562

ทม่ี า: ฝา่ ยวิเคราะห์ธรุ กิจและสถิติ สานกั งานคณะกรรมการกากบั และสง่ เสรมิ การประกอบธุรกิจ
ประกนั ภัย (2564) กราฟจดั ทาโดยผูเ้ ขียน

ในธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะประกันวินาศภัย เป็นรูปแบบการประกันภัยที่บริษัท
รับประกันภัยตามสัญญาหรือกรมธรรม์ท่ีเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้
เอาประกัน หรือความเสี่ยงในความไม่แน่นอนของธุรกิจ หรือภาวะหนี้สินสาธารณะท่ีอาจจะ
เกิดขึ้น โดยลักษณะธรรมชาตขิ องธุรกิจประกันวินาศภยั ท่ีรบั ภาระความเสี่ยงไว้ค่อนข้างมาก
การประกันภัยต่อ (Reinsurance) จึงถูกนามาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเส่ียง
เน่ืองจากการทาประกันภัยต่อจะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงใหก้ ับบริษัทประกันภัย ทา
ให้บริษัทประกันภัยมีศักยภาพเพ่ิมมากขึ้นในการรับประกันภัย และการทาประกันภัยต่อยัง
เป็นการเพ่ิมเสถียรภาพให้กับผลการรับประกันภัยอีกด้วย การทาประกันภัยต่อจึงนาไปสู่
ความมัน่ คงทางการเงนิ และความยัง่ ยืนของบริษทั ประกันภยั ได้

บทท่ี 2 ธุรกจิ ประกันชีวติ และประกนั วนิ าศภัย

46

สาหรับการเอาประกันภัยต่อของธุรกิจประกันชีวิตนั้น สามารถกระทาได้เช่นกันแต่
ได้รับความนิยมน้อยกว่าในธุรกิจประกันวินาศภัย เน่ืองจากลักษณะธุรกิจและรูปแบบ
กรมธรรม์ของการประกันชีวิตมีลักษณะเป็น Term หรือมีระยะเวลาของกรมธรรม์หลายปี
ทาใหบ้ ริษัทประกันชีวิตสามารถบรหิ ารเบ้ยี ประกันภยั ที่ได้รบั ไปลงทุนในรปู แบบตา่ งๆ ตามท่ี
กาหนดไว้ เพ่ือสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาให้กับผูเ้ อาประกันภัยตามสัญญาหรือกรมธรรมท์ ี่
กาหนดไวล้ ่วงหนา้ อกี ทงั้ การลงทุนยังเปน็ การบรหิ ารความเสย่ี งไปในตัวอีกด้วย

จากภาพต่อไปน้ี แสดงมูลค่าการเอาประกันภัยต่อของธุรกิจประกันวินาศภัยและ
ธุรกิจประกันชีวิต พบว่าเบ้ียเอาประกันภัยต่อของธุรกิจประกันวินาศภัยมีอัตราการขยายตัว
เพิ่มขึ้นจาก 65,642 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2558 เป็น 70,091 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2562 หรือ
เพ่ิมข้ึนในอัตราเฉล่ียร้อยละ 1.69 ต่อปี (CAGR) โดยในปี พ.ศ. 2562 เบ้ียเอาประกันภัยต่อ
คิดเป็นร้อยละ 27.64 ของเบ้ียประกันภัยรับทั้งหมด เบ้ียประกันภัยต่อของธุรกิจประกันชีวติ
เพ่ิมขึ้นจาก 9,212 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2558 เป็น 14,790 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2562 หรือ
เพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 12.57 ต่อปี (CAGR) โดยในปี พ.ศ. 2562 เบ้ียเอาประกันภยั ต่อ
คิดเปน็ สดั ส่วนรอ้ ยละ 2.41 ของเบ้ยี ประกันชีวิตรบั ท้งั หมด (ดูภาพที่ 2.6)

(หน่วย: พันล้านบาท)

80 66 เบีย้ ประกันภัยตอ่ รวม พ.ศ. 2558 - 2562 70
70
66 67 72

60

50

40

30 9 11 13 15
2562
20 9 2559 2560 2561
10
ประกันวนิ าศภัย ประกันชวี ิต
0

2558

ภาพที่ 2.6 เบย้ี ประกันภยั ต่อรวมทกุ ประเภทของประเทศไทย พ.ศ. 2558 – 2562

ท่ีมา: ฝ่ายวเิ คราะห์ธุรกจิ และสถติ ิ สานกั งานคณะกรรมการกากับและสง่ เสรมิ การประกอบธรุ กจิ
ประกันภัย (2564) กราฟจัดทาโดยผ้เู ขยี น

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกนั ชวี ติ และประกันวนิ าศภัย

47

2.4 ส่วนแบง่ การตลาด (Market Share) ของบรษิ ัทประกนั ชวี ติ

ธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย หากพิจารณาจากเบ้ียประกันภัยรับรวมท้ังบริษัท
ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยกว่าร้อยละ 75 หรือสามในส่ีของรายได้เบ้ียประกันภัย มา
จากธุรกิจประกันชีวิต ซ่ึงหากพิจารณาส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจประกันภัย ในปี พ.ศ. 2562
พบว่า 5 อันดับแรกของธุรกิจประกันชีวิต คือ 1) บริษัท เอ ไอ เอ จากัด (มหาชน) 2) บริษัท
ไทยประกันชีวิต จากัด (มหาชน) 3) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จากัด (มหาชน) 4) บริษัท
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จากัด (มหาชน) 5) บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จากัด
(มหาชน) โดยมขี อ้ มูลโดยสังเขปของบริษทั ประกันชวี ิตหา้ อนั ดับแรก ดังนี้

1) บรษิ ทั เอไอเอ จากดั (มหาชน) มีส่วนแบง่ ตลาดรอ้ ยละ 22.99 หรอื เบ้ยี ประกันภัยท่ี
132,455 ลา้ นบาท เปน็ บริษัทในเครือของเอไอเอท่เี ป็นบริษัทประกันขนาดใหญ่ของ
โลก เปดิ ดาเนนิ กจิ การในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2564
) มีอายุในประเทศไทย 83 ปี และเปิดดาเนินการมากว่า 100 ปี นับแต่ก่อตั้งบริษัท
ในประเทศจีน

2) บริษัท ไทยประกันชีวิต จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14.53 หรือเบี้ย
ประกันภัยท่ี 92,039 ล้านบาท บริษัท ไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่ง
แรกของคนไทย เริ่มดาเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2485 และมีการเปล่ียนแปลง
คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ในปี พ.ศ. 2513 และมีการปรับปรุงโครงสร้างและ
ปรับปรุงระบบการบริหารงานทเ่ี นน้ การเป็นผู้นานวัตกรรม

3) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 13.90 หรือ
เบี้ยประกันภัยที่ 75,775 ล้านบาท บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต เร่ิมดาเนินธุรกิจใน
ปี พ.ศ. 2494

4) บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 9.64
หรือเบ้ียประกันภัยที่ 58,105 ล้านบาท โดยบริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างธนาคารกรุงไทย และกลุ่มแอกซ่า จากประเทศฝร่ังเศส
เริ่มดาเนนิ ธุรกิจประกนั ชีวติ ในประเทศไทย ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2540

5) บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 7.79 หรือ
44,855 ล้านบาท เริ่มดาเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2562 โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือธนาคาร
ไทยพาณิชย์ ต่อมาได้จาหน่ายหุ้นทั้งหมดให้กับบริษัท FWD Group Financial
Service Pte. Ltd. หรือกลุ่ม FWD ในเครอื กลมุ่ การลงทนุ Pacific Century Group
จากฮ่องกง (เขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน) (Efinanthai,
2564. เวบ็ ไซต์ efiancethai.com)

สาหรับธรุ กิจประกันวนิ าศภัย หากทาการจัดอนั ดับ 5 อนั ดบั แรกตามสว่ นแบง่ ตลาด
ณ พ.ศ. 2563 (สานักงานวินาศภัย, 2564) ไดแ้ ก่ 1) บรษิ ัท วริ ยิ ะประกันภัย จากัด (มหาชน)
2) บริษัท ทิพยประกันภัย จากัด (มหาชน) 3) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จากัด (มหาชน) 4)

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกนั ชวี ิตและประกนั วนิ าศภัย

48

บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย จากัด 5) บริษัท เมืองไทยประกันภัย จากัด (มหาชน) โดย
ขอ้ มลู โดยสังเขปของท้งั 5 บริษัท มีดังน้ี

1) บริษัท วิริยะประกันภัย จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14.4 บริษัท
วิริยะประกันภัย จากัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทคร้ังแรกภายใต้ชื่อ "บริษัท อาเซีย
พาณิชยการ จากัด" ใน พ.ศ. 2490 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ให้บริการ
รับประกันวินาศภัยในเบื้องต้นเฉพาะการประกันอัคคีภัยและการประกันภัยทางทะเลและ
ขนส่ง ในปี พ.ศ. 2522 บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจไปสู่การรับประกันภัยรถยนต์และการรับ
ประกันภัยเบ็ดเตล็ด เพ่ือรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศและช่วยสร้าง
หลักประกันความม่ันคงแก่ประชาชนและสังคมไทย บริษัทฯ ได้เปลี่ยนช่ือเป็น "บริษัทวิริยะ
พานิช ประกันภัย จากัด" และในปี พ.ศ. 2525 ได้เปล่ียนชื่อเป็น บริษัท วิริยะประกันภัย
จากัด นับจากปี พ.ศ. 2530 จนถึงปัจจุบัน บริษัทวิริยะประกันภัย จากัด สามารถครองส่วน
แบง่ ตลาดประกันภยั รถยนต์อนั ดับ 1 เป็นครั้งแรก และรักษาอนั ดบั 1 มาอยา่ งตอ่ เน่ืองจนถึง
ปัจจุบัน (พ.ศ. 2564) ซ่ึงบริษัท วิริยะประกันภัย จากัด (มหาชน) มีอายุ 74 ปี (ณ ปี พ.ศ.
2564) เปน็ บรษิ ัทประกนั วินาศภัยอันดบั หน่ึงของประเทศไทยท่มี ีมูลค่าเบี้ยประกนั ภัยรับในปี
พ.ศ. 2556 ท่ีสูงถึง 33,983 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีท่ี 22
(บรษิ ทั วริ ยิ ะประกนั ภัย จากัด (มหาชน), 2564. เว็บไซต์ https://www.viriyah.co.th/)

2) บรษิ ทั ทิพยประกันภัย จากัด (มหาชน) มสี ่วนแบง่ ตลาดร้อยละ 9.9 บรษิ ัท ทพิ ย
ประกันภัย จากัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2494 โดย ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ด้วย
ทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท ในปี พ.ศ. 2538 บริษัทฯ ได้ดาเนินการจดทะเบียนแปร
สภาพเป็นบริษัทมหาชน จากัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทิพยประกันภัย จากัด (มหาชน)
ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2538 โดยมี กระทรวงการคลัง, ธนาคารกรุงไทย จากัด
(มหาชน), ธนาคารออมสิน, และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ปัจจุบัน
(พ.ศ. 2564) บริษัทฯ มีอายุ 70 ปี ทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท (บริษัท ทิพยประกันภัย
จากัด (มหาชน), 2564. เว็บไซต์ https://www.dhipaya.co.th/home)

3) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 9.0 บริษัท
ก่อตั้งโดยคุณชิน โสภณพนิช ดาเนินธุรกิจเป็นบริษัทประกันภัยอย่างเป็นทางการ โดยจด
ทะเบียนเป็นบริษัทจากัดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2490 ภายใต้ชื่อว่า "บริษัท เอเชีย
พาณิชย์ประกันสรรพภัย จากัด (The Asia Insurance Co., Ltd.) ด้วยทุนจดทะเบียน
เริ่มแรก 5 ล้านบาท ทั้งน้ี ในยุคแรกของการดาเนินงาน เป็นเพียงแผนกประกันภัยเล็กๆ
แผนกหน่ึงในบรษิ ัท เอเชียพาณชิ ย์ จากดั และได้รับใบอนญุ าตใหป้ ระกอบธุรกจิ ประกนั วินาศ
ภัยฉบับแรก ณ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2490 ต่อมาในปี 2507 บริษัท จึงได้เปลี่ยนชื่อ
เป็น บริษัท กรงุ เทพประกนั ภัย จากดั และมกี ารขยายกิจการและเพมิ่ ทุนจดทะเบยี นมาอย่าง
ต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2521 ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และต่อมาในปี พ.ศ.
2536 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จากัด ในชื่อ "บริษัท กรุงเทพประกันภัย จากัด

บทท่ี 2 ธุรกจิ ประกันชวี ิตและประกันวนิ าศภัย

49

(มหาชน)" ปัจจุบัน (พ.ศ. 2564) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จากัด (มหาชน) มีอายุ 74 ปี มี
ทุนจดทะเบียน 1,064.7 ล้านบาท (บริษัท กรุงเทพประกันภัย จากัด (มหาชน), 2564.
เว็บไซต์ https://www.bangkokinsurance.com)

4) บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย จากัด มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 7.1 บริษัท
โตเกียวมารีน เป็นบริษัทประกันภัยแห่งแรกในประเทศญ่ีปุ่น ก่อต้ังข้ึนในปี พ.ศ. 2422
ให้บริการด้านการประกันวินาศภัยและการประกันชีวิต บริษัท โตเกียวมารีน ดาเนินธุรกจิ ใน
38 ประเทศ จัดเป็นหน่ึงในกลุ่มบริษัทประกันภัยและประกันชีวิตที่มีความหลากหลายและมี
ความมั่นคงทางการเงินมากท่ีสุดในโลก ณ ปัจจุบัน บริษัท โตเกียวมารีน อยู่ในกลุ่มบริษัท
ประกันภัยท่ีใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นที่มีสินทรัพย์มากกว่า 2.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3.6 หม่ืนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ณ กันยายน พ.ศ. 2561)
และมีพนกั งานกว่า 38,000 คน ดาเนินธรุ กจิ ในหลายประเทศในเอเชีย ได้แก่ ฮอ่ งกง สิงคโปร์
อินโดนีเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย ไต้หวัน จีน และเวียดนาม (บริษัท
โตเกยี วมารีนประกนั ภยั จากัด, 2564. เว็บไซต์ https://www.tokiomarine.com)

5) บริษัท เมืองไทยประกันภัย จากัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 6.1 บริษัท
เมืองไทยประกันภัย จากัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2475 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2564) มีอายุ
89 ปี โดยบริษัทฯ เกิดข้ึนจากการควบรวมระหว่าง บริษัท ภัทรประกันภัย จากัด (มหาชน)
และบริษทั เมืองไทยประกนั ภัย จากัด เมือ่ วนั ท่ี 20 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2551 ภายใตช้ อื่ ว่า บริษัท
เมืองไทยประกันภัย จากัด (มหาชน) (บริษัทเมืองไทยประกันภัย จากัด (มหาชน), 2564.
เว็บไซต์ https://www.muangthaiinsurance.com)

จากข้อมูลส่วนแบ่งตลาดทั้งของบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยท่ี
แสดงข้างต้น จะพบว่าธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจท่ีมีความกระจุกตัวในส่วนแบ่งตลาด
มากกวา่ ธรุ กิจวนิ าศภัย โดยจากสว่ นแบ่งตลาดรวม 5 อนั ดบั แรกของธุรกิจประกันชีวิต มีส่วน
แบ่งตลาดรวมทั้งหมดร้อยละ 68.85 ในขณะท่ีส่วนแบ่งตลาดรวม 5 อันดับแรกของธุรกิจ
ประกันวนิ าศภยั มีส่วนแบ่งตลาดรวมร้อยละ 46.50 การกระจายตวั ในการถอื ครองตลาดของ
ธุรกิจประกันวินาศภัยมีมากกว่า นั่นอาจจะเป็นเหตุผลจากจานวนบริษัทประกันวินาศภัยใน
ตลาดประเทศไทยมีจานวนมากกว่าบริษัทประกันชีวิต และประวัติความเป็นมาของบริษัท
ประกนั ชวี ติ ในตลาดประเทศไทยมีมายาวนานกว่าบรษิ ทั ประกนั วินาศภัย

2.5 อตุ สาหกรรมประกนั ภยั ในเอเชียแปซิฟิก

จากข้อมลู มลู ค่าของเบีย้ ประกันภยั รับในโซนเอเชยี - แฟซฟิ กิ มลู คา่ โดยประมาณคือ
1,659.8 พนั ล้านเหรยี ญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2563 มีอัตราการขยายตัวที่ลดลงจากปี 2562 ร้อย
ละ 4.8 โดยมีอัตราถัวเฉล่ียขยายตัวต่อปี นับแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2563 ประมาณร้อยละ 2.7
(ดูตารางท่ี 2.6)

บทที่ 2 ธุรกจิ ประกันชวี ติ และประกนั วินาศภยั

50

ตารางที่ 2.6 ขอ้ มลู เบย้ี ประกันภัยรบั ในเอเชีย - แปซิฟิก ปี พ.ศ. 2559 - 2563

ปี เบ้ียประกันภยั รบั อตั ราการขยายตัว

(พนั ลา้ นเหรยี ญสหรัฐ) (%)

2559 1,493.8 N/A

2560 1,591.8 6.6

2561 1,644.1 3.3

2562 1,743.0 6.0

2563 ประมาณการ 1,659.8 - 4.8

ทมี่ า: MARKETLINE, (2020). MarketLine Industry Profile, Insurance in Asia-Pacific, December
2020 Ref code: 0200-2087

มูลค่าเบ้ียประกันภัยรับรวมทั้งหมด ท้ังประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในกลุ่ม
เอเชีย - แปซิฟิก มีมูลค่า 1,659.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในจานวนนี้ ร้อยละ 64.4 เป็น
เบี้ยประกันภัยชีวิต และร้อยละ 35.6 มาจากเบี้ยประกันวินาศภัย ทั้งนี้ ประเทศจีนครอง
สัดส่วนการประกันภัยในกลุ่มประเทศเอเชีย - แปซิฟิกอยู่ 593.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ
ร้อยละ 35.8 ขณะท่ีประเทศญี่ปุ่นครองสัดส่วนตลาดอยู่ที่ 432.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ
ร้อยละ 26.0 จากตารางตัวเลขเบี้ยประกันภัยรับต่อไปนี้ แสดงให้เห็นถึงส่วนแบ่งตลาด
(Market Share) ท่ีท้ังประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่นถือครองอยู่รวมกันมากกว่าร้อยละ 60
ของกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก (ดูตารางท่ี 2.7)

ตารางที่ 2.7 ข้อมูลเบ้ยี ประกันภยั แยกตามประเภทธรุ กจิ ปี พ.ศ. 2563

เบ้ยี ประกนั ภัยรับ 2563 ประมาณการ รอ้ ยละ

ประกนั ชวี ติ (พันลา้ นเหรียญสหรฐั ) (%)
ประกนั วนิ าศภัย 1,068.3 64.4
รวม 591.4 35.6
ประเทศ: 1,659.7 100.0

จีน 593.9 35.8
ญปี่ ุ่น 432.0 26.0
เกาหลีใต้ 171.8 10.4
อินเดีย 102.6 6.2

บทที่ 2 ธุรกจิ ประกันชวี ติ และประกนั วนิ าศภัย

เบีย้ ประกนั ภัยรบั 2563 ประมาณการ 51

ประเทศอืน่ ๆ ในเอเชีย (พันล้านเหรยี ญสหรัฐ) รอ้ ยละ
รวม 359.5 (%)
21.7
ทมี่ า: MARKETLINE (2020) 1,659.8 100.0

ธุรกิจประกันชีวิตเป็น Segment ของตลาดประกันภัยท่ีมีสัดส่วนสูง เม่ือ
เปรียบเทียบกับธุรกิจประกันวนิ าศภัย โดยมีสัดส่วนอยู่ท่ีร้อยละ 64.4 โดยในจานวนนี้บริษัท
ประกันชีวิตในประเทศจีน มีสัดส่วนครองตลาดในกลมุ่ เอเชียแปซิฟิกอยู่ถึงร้อยละ 35.8 จาก
ข้อมูลของ MarketLine (2020) ระบุว่าบริษัทประภันภัยขนาดใหญ่ท่ีถือว่าเป็นบริษัทอันดับ
หนึ่ง และเป็น Leading Player หรือผู้เล่นสาคัญในตลาดประกันชีวิตในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก
คือ บริษัท Ping An มีสัดส่วนครองตลาดร้อยละ 6.8 อันดับท่ีสองคือ บริษัท China Life
Insurance มีสัดสว่ นอยู่ทรี่ อ้ ยละ 5.1 อันดบั ที่สามคอื บรษิ ทั Nippon Life ร้อยละ 5.0 และ
อันดบั ทีส่ ่ีคือ Dai-ichi Life Holdings ร้อยละ 4.4 (MarketLine, 2020, Ref. Code 0200-
2087) (ดูตารางท่ี 2.8)

ตารางที่ 2.8 สว่ นแบง่ ตลาดของธุรกิจประกันภยั ในเอเชยี - แปซิฟกิ พ.ศ. 2563

Company สญั ชาติ สว่ นแบง่ ตลาด

ในเอเชียแปซิฟิก (%)

Ping An จีน 6.8
China Life Insurance จีน 5.1
Nippon Life ญ่ีปุน่ 5.0
Dai-ichi Life Holdings ญ่ีปุ่น 4.4
Others ประเทศอ่ืนๆ ในเอเชยี 78.7
แปซิฟิก
ที่มา: MARKETLINE (2020)

บ ริ ษั ท Ping An ห รื อ Ping An Insurance (Group) Company of China Ltd
(Ping An) เป็นบริษัทที่ดาเนินธุรกิจประกันภัยขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย - แปซิฟิก โดยมี
สัดส่วนการตลาด (Market Share) อยู่ที่ร้อยละ 6.8 ของมูลค่าประกันภัยทั้งส้ิน โดยบริษัท
ต้ังอยู่ท่ีเมือง Shenzhen ประเทศจีนและเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินแบบองค์รวม
(Integrated Financial Services Company) กล่าวคือ ดาเนินธุรกิจประกันภัย ธนาคาร
การลงทุน ซึ่งบริษัท Ping An ให้บริการในลักษณะให้สินเชื่อ ให้บริการบัตรเครดิต บริหาร

บทท่ี 2 ธุรกิจประกันชีวิตและประกนั วนิ าศภัย

52

สินทรัพย์ ตัวแทนค้าหลักทรัพย์ ทรัสต์ และ บริการการลงุทน บริษัท Ping An ยังให้บริการ
ประกันชีวิตและประกันภัย ซึ่งรวมถึงการประกันภัยจักรยานยนต์ การประกันหนี้สิน และ
การประกันชีวิต ประกันสุขภาพ การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment
Insurance) และการประกันชีวิตแบบเงินได้ประจา (Annuities Insurance) ในส่วนของการ
ประกันวินาศภัย ยังรวมถึง การประกันภัยรถยนต์ การประกันอุบัติเหตุ และการประกัน
สุขภาพต่อบุคคล หรือต่อกลุ่มลูกค้าบริษัท บริษัท Ping An ดาเนินธุรกิจในประเทศจีน และ
ฮอ่ งกง

บริษัท ประกันชีวิตไชน่า หรือ China Life Insurance Co Ltd (China Life) เป็น
บริษทั ในเครือของบรษิ ทั China Life Insurance (Group) Company (Ping An) โดย China
Life เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่อันดับสองรองจาก Ping An ให้บริษัทประกันภัยใน
เอเชียแฟซิฟิก โดยมีสัดส่วนตลาดร้อยละ 5.1 บริษัทมีท่ีต้ังอยู่ที่เมือง Beijing ประเทศจีน
โดยให้บริการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต เช่น ประกันชีวิตเป็นระยะเวลา (Term Life
Insurance) ประกันชีวิตตลอดชีวิต (Whole Life Insurance) ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
(Endowment Insurance) ประกันชีวิตสากล (Universal Life Insurance) ประกันชีวิต
แบบกลุ่ม (Group Life Insurance) และประกันชีวิตแบบเงินได้ประจา (Annuities
Policies) นอกจากนี้ China Life ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เก่ียวกับการประกันอุบัติเหตุและ
สุขภาพ เช่น ประกันค่าใช้จ่ายการแพทย์ ประกันโรคเฉพาะ ประกันโครงการผลประโยชน์
(Defined Benefit Insurance) China Life ให้บริการในลักษะลูกค้ารายบุคคล บริษัทขนาด
กลางถึงขนาดย่อม และกลุ่มลูกค้าสถาบันขนาดใหญ่ในประเทศจีน มีรูปแบบในการนาเสนอ
ผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนขายโดยตรง ผ่านบริษัทเอเย่นต์ประกันภัย ผ่านธนาคารพาณิชย์ และ
ผา่ นบริษัทตวั แทน (Insurance Brokerage Companies)

บริษทั นปิ ปอนไลฟ์ หรอื Nippon Life Company (Nippon) เปน็ บริษัทที่ใหบ้ ริการ
ประกันภัยที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเอเชียแปซิฟิก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 5.0
Nippon ถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทอันดับท่ี 111 ในบริษัทที่ร่ารวยใน 500 บริษัทท่ัวโลก
(Global Fortune 500) ในปี 2560 โดย Nippon มีธุรกิจที่เก่ียวข้องท่ีเป็นบริษัทประกันภัย
และประกันภัยต่อถึง 11 บริษัท มีธุรกิจท่ีเกี่ยวข้องกับการบริหารสินทรัพย์อยู่ถึง 48 บริษัท
และมีธรุ กิจทเ่ี กยี่ วขอ้ งอ่ืนๆ อกี 10 บรษิ ัท ในวันที่ 31 มนี าคม พ.ศ. 2561 Nippon มีสาขาท่ี
ดาเนินงานอยู่ถึง 108 สาขา 1,536 สานักงานขาย และมีสานักงานตัวแทนในระดับโลกถึง 4
แห่ง มีตัวแทนอยู่ถึง 16,536 ตัวแทน โดยในปี พ.ศ. 2561 บริษัท Nippon ให้บริการลูกค้า
รายบุคคลถึง 11.8 ล้านคน และ 236,000 ลกู คา้ บริษัท

บริษัท โฮลดิ้ง ไดอิชิประกันชีวิต จากัด หรือ Dai-ichi Life Holdings, Inc. (Dai-
ichi) เป็นบริษัทที่ใหญ่อันดับสี่ของเอเชียแปซิฟิกที่ให้บริษัทประกันภัยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ท่ี
ร้อยละ 4.4 บริษัทต้ังอยู่ที่ Chiyoda-ku เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น Dai-ichi เป็นบริษัท
ประกันชีวิตและบริษัทบริหารสินทรัพย์ ให้บริการลูกค้าประกันชีวิตรายบุคคลและรายกลุ่ม
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์รายบุคคล ประกันการเกษียณอายุแบบกลุ่ม ประกันค่า

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกันชีวิตและประกนั วินาศภัย

53

รักษาพยาบาล และประกันทางการเงิน นอกจากน้ี Dai-ichi ยังให้บริการเกี่ยวกับการบริหาร
การลงทนุ การให้คาปรกึ ษาการลงทุน บรษิ ทั ทาการตลาดและจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ผา่ นตัวแทน
ขาย ผ่านธนาคาร และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ เอเย่นต์ประกันภัย และยังมีลักษณะ Walk-
in Shops หมายถึง ร้านคา้ ให้ลกู ค้าเดินเข้ามาซอ้ื ไดด้ ้วยตนเอง และผา่ นชอ่ งทางการจาหน่าย
ตรง Dai-ichi ให้บริการประกันชีวิตในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และกลุ่มประเทศ
อาเซียน ซงึ่ รวมถึงประเทศออสเตรเลยี อนิ โดนเี ซยี อนิ เดีย ไทย กัมพชู า พม่า และเวียดนาม

2.6 สรุป

ธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานใน
ประเทศไทย มูลค่าเบี้ยประกันภัยมีจานวนเพิ่มขึ้นแทบจะทุกปี โดยมูลค่าเบี้ยประกันภัยทั้ง
ประกนั ชีวติ และประกันวนิ าศภยั มมี ลู ค่า ณ ปี พ.ศ. 2563 จานวน 748 พันลา้ นบาท โดยรอ้ ย
ละ 75 เป็นสัดส่วนเบ้ียประกันภัยท่ีถือเป็นรายได้ของธุรกิจประชีวิต และอีกร้อยละ 25 เป็น
สัดส่วนเบี้ยประกันวินาศภัย โดยในปี พ.ศ. 2563 อัตราเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม
ของประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) หรือทีเ่ รียกวา่ Insurance Penetration มี
อตั ราร้อยละ 5.43 โดยเบยี้ ประกนั ชวี ิตยงั คงเป็นเบยี้ ประกนั ทมี่ สี ัดสว่ นต่อ GDP ที่สูงกวา่ เบ้ีย
ประกันวินาศภัย โดยเฉลี่ยแล้ว ความหนาแน่นของการประกันภัยสามารถวัดได้จากเบ้ีย
ประกันภัยต่อหัว (Insurance Density) ซ่ึงคานวณจากมูลค่าเบ้ียประกันภัยรวมหารด้วย
จานวนประชากรของประเทศ อัตราสว่ นน้ใี ชว้ ดั ว่าโดยเฉล่ยี คนในประเทศจา่ ยเบ้ยี ประกันภัย
โดยเฉล่ียคนละก่ีบาทต่อปี สาหรับในประเทศไทย อัตราเบ้ียประกันชีวิตต่อหัว รายละ
9,062 บาท และเบ้ียประกันวินาศภัยตอ่ หัวรายละ 3,817 บาท หรือเฉล่ียรวมหัวละ 12,879
บาท นอกจากน้ีหากพจิ ารณาจากอตั ราผู้ถือกรมธรรม์ประกนั ชวี ิตต่อประชากร พบวา่ มผี ถู้ ือ
กรมธรรม์ประกันชีวิตร้อยละ 43.28 ซ่ึงเป็นเพียงอัตราเฉลี่ยท่ีบอกให้ทราบถึงสัดส่วนผู้ถือ
กรมธรรม์ประกันชีวิต มีเกือบคร่ึงหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ ณ ปี พ.ศ. 2563 ในบทน้ียัง
ไดอ้ ธิบายโครงสรา้ งของงบกาไรขาดทุนรวมของบริษัทประกันชีวิตและบรษิ ัทประกนั ภัยอย่าง
ละเอียด และแสดงให้เห็นถึงแหล่งท่ีมาของรายได้ และค่าใช้จ่ายของธุรกิจประกันภัย โดย
กาไรสุทธปิ ระจาปี พ.ศ. 2563 ของธุรกจิ ประกนั วินาศภัยมีจานวน 13,653 ล้านบาท หรอื คิด
เป็นร้อยละ 6.52 ของรายได้รวม และของธรุ กจิ ประกนั ชีวิตมีกาไรสุทธิ จานวน 35,211 ล้าน
บาท หรือคดิ เป็นร้อยละ 5.13 ของรายได้รวม

บทท่ี 2 ธุรกจิ ประกนั ชวี ติ และประกันวนิ าศภัย

54

2.7 แบบฝึกหดั ทา้ ยบท

1. ให้อธิบายภาพรวมของมูลค่าเบ้ียประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ของธุรกิจประกันภัยใน
ประเทศไทย

2. ให้อธบิ ายความหมายของคาว่า ‘สนิ ไหมทดแทน’

3. ให้อธิบายความหมายของคาว่า ‘อัตราสินไหมทดแทนต่อเบ้ียประกันภัยท่ีถือเป็น
รายได’้

4. หากลูกค้าทาการประกันภัยแบบอัคคีภัย ให้อธิบายสิทธิความคุ้มครองของการ
ประกนั อคั คภี ยั

5. การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง ครอบคลุมถึงการประกันภัยใดบ้าง อธิบายพอ
สังเขป

6. ตามประเภทของการประกันภัยท่ีจาแนกเป็น การประกันอัคคีภัย การประกันภัย
ทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยรถ และการประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประเภท
ประกันภัยใดที่มีสดั ส่วนมากท่ีสุดในตลาดประเทศไทย อธิบายพอสงั เขป

7. รายได้ของบริษัทประกันชีวิต สามารถจาแนกประเภทของรายได้ออกเป็นอะไรบ้าง
และรายไดป้ ระเภทใดมสี ัดส่วนสงู สดุ

8. การประกันภัยต่อมีประโยชน์อย่างไร อธิบายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทาประกันภัย
ตอ่

9. Density Rate หมายความวา่ อยา่ งไร

10. อธิบายภาพรวมของเบี้ยประกันภัยรับรวมทุกประเภท ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP)
ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยใช้ข้อมูลของ Swiss Reinsurance ประกอบการ
อธิบาย

11. ประเทศใดในเขตเอเชียแปซิฟิกที่มีสัดส่วนของเบ้ียประกันภัยรับรวมทุกประเภทต่อ
ผลติ ภณั ฑ์มวลรวม (GDP) สูงสดุ

12. เบยี้ ประกนั ภยั ตอ่ หัว (Insurance Density) หมายความวา่ อย่างไร
13. ระหวา่ งเบ้ยี ประกนั ชวี ิต กบั เบี้ยประกนั วินาศภยั แบบใดทมี่ ตี ัวเลขเบย้ี ประกันภยั ต่อ

หัวสงู กวา่ กนั
14. Bancassurance หมายความว่าอย่างไร
15. ใหย้ กตัวอยา่ งของ Bancassurance ในประเทศไทย มาอย่างนอ้ ย 2 กรณี

บทท่ี 2 ธรุ กิจประกันชวี ติ และประกันวินาศภัย

55
16. ให้เหตุผลสนับสนุนเพราะเหตุใดการประกันวินาศภัยจึงมีสัดส่วนของการทา

ประกันภัยต่อ (Reinsurance) สูงกว่าการประกันชีวิต พร้อมท้ังบอกถึงประโยชน์
ของการทาประกนั ภัยต่อ
17. ในประเทศไทย บริษัทประกันชีวิตใด และบริษัทประกันวินาศภัยใดมีส่วนแบ่งทาง
การตลาดสงู สดุ
18. ประเทศใดในกลุ่มเอเชียแปซฟิ ิกมีเบี้ยประกันภยั รับสูงสุด และเป็นร้อยละเท่าไร ให้
แสดงความเห็นถงึ สนบั สนุนปจั จยั ทส่ี นบั สนุนการมีเบย้ี ประกันภัยสูงสุด
19. ให้แสดงความเห็น กรณีสถานการณ์แพร่ระบาดโคโรนาไวรัส สายพันธ์ใหม่ (Covid-
19) มีผลกระทบอย่างไรต่อตลาดประกันชีวิต และประกันวินาศภัย ในประเทศไทย
อยา่ งไร
20. ให้ท่านยกตัวอย่างกรณีอะไรบ้างที่จะมีผลกระทบต่อความต้องการ (Demand)
กรมธรรม์ประกันชีวิต และ/หรือกรมธรรม์ประกันภัย อธิบายพร้อมให้เหตุผล
ประกอบพอสังเขป

บทท่ี 2 ธรุ กจิ ประกนั ชีวติ และประกันวนิ าศภัย



03บทท่ี 3

งบการเงินของธุรกจิ ประกนั วนิ าศภัย

Financial Statements of
Non-Life Insurance Industry

3.1 บทนา

รูปแบบของการดาเนินธุรกิจประกันวินาศภัยภัย (Non-life Insurance หรือ
General Insurance) มีความซับซ้อนในการดาเนินธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจประกันชีวิต
(Life Insurance) หรือธุรกิจอื่นๆ การจะวิเคราะห์ผลประกอบการหรือฐานะการเงินของ
บริษัทท่ีดาเนินธุรกิจประกันภัย ผู้วิเคราะห์ควรมีความรู้ความเข้าใจในรูปแบบการดาเนิน
ธุรกิจประกันภัย และควรทาความเข้าใจถงึ ตวั เลขทป่ี รากฏในงบการเงนิ ไมว่ า่ จะเปน็ งบกาไร
ขาดทุน (Income Statement) งบแสดงฐานะทางการเงิน (Statmeent of Financial
Position) งบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flows) และที่สาคัญท่ีจะขาดไม่ได้คือ
หมายเหตุประกอบงบการเงิน (Notes to Financial Statements) สาเหตุที่ธุรกิจมีรูปแบบ
ทางธุรกิจท่ีค่อนข้างแตกต่าง ทั้งมีความซับซ้อนเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอ่ืน เช่น ธุรกิจการ
ผลิต ธุรกิจการบริการ การขนส่ง การค้าปลีก ค้าส่ง การทาความเข้าใจทั้งรูปแบบการทา
ธุรกิจและข้อมูลที่เก่ียวข้องจึงเป็นเร่ืองที่สาคัญมาก การวิเคราะห์งบการเงินจะไม่สามารถทา
ไดถ้ กู ต้องหากขาดองคป์ ระกอบเหล่านี้ไป ในบทนี้จะได้อธิบายถึงรายการทสี่ าคัญต่างๆ ในงบ
การเงิน ซ่ึงรวมถึงหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วย ให้เป็นพื้นฐานก่อนนาไปส่กู ารวเิ คราะห์
งบการเงินดว้ ยการใชอ้ ตั ราส่วนทางการเงนิ

ในช่วงแรกของบทน้ี เป็นการนาเสนองบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัย พร้อม
ทั้งอธิบายรายการทางการเงินท่ีสาคัญท่ีนักวิเคราะห์หรือผู้สนใจท่ัวไปควรเข้าใจเป็นพื้นฐาน
โดยจะอธิบายถึงรายการหรือตัวเลขทีม่ คี วามสาคญั ท่ีปรากฏในงบแสดงฐานะการเงนิ งบกาไร
ขาดทุน และงบกระแสเงินสด และนาเสนอข้อมูลหมายเหตุประกอบงบการเงินท่ีสาคัญ
สาหรับการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินที่สาคัญของธุรกิจประกันวินาศภัย จะนาเสนอใน
บทท่ี 4 – 10

58

รายการทีแ่ สดงในงบแสดงฐานะการเงิน แบง่ เปน็ 3 หมวดใหญ่ คอื สนิ ทรัพย์ หนสี้ นิ
และส่วนของเจ้าของ ซึ่งท้ัง 3 หมวดน้ี สาหรับธุรกิจประกันวินาศภัยอาจมีรายการท่ีสร้าง
ความฉงน หรือสงสัยให้กับผู้อ่านงบการเงินโดยท่ัวไปได้ ด้วยรายการท่ีแสดงเป็นรายการที่
เกิดจากการดาเนนิ ธุรกิจประกันภัย ทีม่ ีความแตกตา่ งจากการดาเนนิ ธุรกิจอ่ืนๆ เช่น ในธรุ กิจ
การค้า การบริการ การผลิต เป็นต้น การอ่านงบการเงินให้เข้าใจและวิเคราะห์งบการเงินให้
แตกฉานน้ัน ผูอ้ า่ นหรอื ผ้วู เิ คราะห์มีความจาเป็นต้องเขา้ ใจรูปแบบหรือลักษณะในการดาเนิน
ธุรกิจนั้นเป็นอย่างดี นอกจากน้ี การแสดงรายการสินทรัพย์ในงบแสดงฐานะการเงินสาหรับ
ธุรกิจประกันภยั จะไม่ได้แยกแสดงเป็นสินทรัพย์หมนุ เวียนและสนิ ทรัพย์ไมห่ มนุ เวียน สาหรบั
รายการหน้ีสินก็มิได้แยกแสดงเป็นหน้ีสินหมุนเวียนและหน้ีสินไม่หมุนเวียน แม้ลักษณะ
รายการจะมีความแตกต่างกันไปจากธุรกิจประเภทอ่ืน แต่พ้ืนฐานความเข้าใจในงบการเงิน
จากธรุ กจิ ท่วั ไปก็สามารถนามาใช้ประกอบได้

รายการท่ีแสดงในงบกาไรขาดทุน หรือ กาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ เป็นไปตามลักษณะ
การเกิดธุรกรรมของธุรกิจประกันวินาศภัย โดยมีรายการรายได้จากเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ
จากเบ้ียประกันภัยต่อ ซ่ึงเป็นลักษณะปกติของธุรกิจประกันภัยที่จะต้องมีการบริหารความ
เสี่ยงด้วยการทาประกันภัยต่อ สาหรับภัยใดท่ีคาดว่าจะมีความเส่ียงสูงหรือมีความเป็นไปได้
ว่าจะเกิดขึ้นและสร้างความสูญเสียหรือความเสียหายมากจนเกินกว่าบริษัทประกัน วินาศภัย
จะรับได้ บริษัทประกันวินาศภัยจะทาการประกันภัยต่อ โดยรายการรายได้จากเบ้ีย
ประกันภัยรับสทุ ธิจะต้องแสดงรายการสุทธจิ ากสารองเบี้ยประกนั ภัยและเบ้ยี ประกนั ภัยต่อที่
ยังไม่ถือเป็นรายได้ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายหลักที่เกิดข้ึนคือค่าสินไหมทดแทน และรองลงมาคือ
ค่าจ้างและบาเหน็จ ซ่ึงเมื่อพิจารณาในรายละเอียดตามท่ีจะได้อ่านต่อไปในบทนี้ จะพบว่า
ธุรกรรมของบริษัทประกันวินาศภัยมีความแตกต่างจากลักษณะธุรกรรมของธุรกิจอื่นอย่าง
เห็นได้ชัด รายการท่ีแสดงในงบกระแสเงินสดสาหรับธุรกิจประกันภัยจึงมีความแตกต่างจาก
ธุรกิจทั่วไป อย่างไรก็ดี หลักการในการจัดทาและการแสดงรายการ ยังคงไว้ซ่ึงหลักการ
ทางการบัญชี และเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงนิ

3.2 ความหมายของรายการทส่ี าคญั ในงบแสดงฐานะการเงิน

ความหมายของรายการสาคัญที่แสดงในงบแสดงฐานะการเงิน (Statement of
Financial Position) งบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสร็จ (Statement of Comprehensive Income)
งบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flows) งบแสดงการเปล่ียนแปลงในส่วนของ
เจ้าของ (Statement of Changes in Equity) และหมายเหตุประกอบงบการเงิน (Notes
to Financial Statements) สามารถอธบิ ายไดด้ ังต่อไปน้ี

3.2.1 สินทรัพย์ (Assets)

สินทรัพย์ (Assets) หมายถึง ทรัพยากรที่กิจการสามารถควบคุมได้ ซ่ึงเป็นผลของ
เหตุการณ์ในอดีตและคาดว่าจะให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจแก่กิจการในอนาคต รายการท่ี
จัดเปน็ สินทรัพย์ ไดแ้ ก่

บทท่ี 3 งบการเงินของธุรกิจประกนั วินาศภัย

59

1) เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด (Cash and Cash Equivalent) (ดูงบแสดง
ฐานะการเงนิ บรรทดั ท่ี 1)

1.1) เงินสด หมายถึง เงินสดในมือและเงินฝากธนาคารทกุ ประเภท เช่น
- ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่บริษัทมีอยู่ รวมทั้งเงินสด
ยอ่ ย ธนาณัติ ตั๋วแลกเงนิ ไปรษณีย์
- เงินฝากธนาคารกระแสรายวันและออมทรัพย์ ใบรับฝาก
และบัตรเงนิ ฝาก ทัง้ นี้ไม่รวมเงินฝากธนาคารประเภทจ่าย
คืนเมื่อสิ้นระยะเวลา (เงินฝากประจา) และบัตรเงินฝากท่ี
ออกโดยธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอ่ืน ท่ีได้
แสดงไวภ้ ายใตร้ ายการสนิ ทรัพย์ลงทุน
- เช็คที่ถึงกาหนดชาระแต่ยังมิได้นาฝาก เช็คเดินทาง
ดราฟท์ของธนาคาร

1.2) รายการเทียบเท่าเงินสด หมายถึง เงินลงทุนระยะสั้นที่มีสภาพคล่อง
สูง ซึ่งพร้อมที่จะเปล่ียนเป็นเงินสดในจานวนที่ทราบได้ และมีความ
เส่ียงต่อการเปล่ียนแปลงในมูลค่าน้อยหรือไม่มีนัยสาคัญ ท้ังน้ีให้
เป็นไปตามท่ีกาหนดในมาตรฐานการรายงานทางการเงนิ ที่เกีย่ วข้อง

2) เบ้ียประกันภัยค้างรับ (Premium Receivable) หมายถึง เบ้ียประกันภัยค้างรับ
จากการรับประกันภัยโดยตรง ซ่ึงยังมิได้รับชาระจากผู้เอาประกันภัย หรือ
ตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันวินาศภัย รายการน้ีมีสถานะเป็น
สินทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายบัญชีลูกหนี้ (Accounts Receivable) ในธุรกิจทั่วไป
(ดูงบแสดงฐานะการเงนิ บรรทัดที่ 2)

3) รายได้จากการลงทนุ คา้ งรบั (Accrued Investment Income) หมายถงึ ดอกเบย้ี
และเงินปันผลค้างรับจากสถาบันการเงิน จากเงินให้กู้ยืม จากเงินลงทุนใน
หลักทรัพย์ รวมทั้งดอกเบ้ียและผลประโยชน์อ่ืนใดท่ีเกิดจากการประกอบ
ธุรกรรมลงทุนค้างรับ เช่น ค่าเช่าค้างรับจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เป็น
ตน้ (ดงู บแสดงฐานะการเงินบรรทดั ท่ี 3)

4) สินทรัพย์จากการประกันภัยต่อ (Reinsurance Assets) หมายถึง สิทธิตาม
สัญญาสุทธิ (Net Contractual Rights) ของผู้เอาประกันภัยต่อภายใต้สัญญา
ประกันภัยตอ่ ได้แก่ สารองประกันภัยสว่ นที่เรียกคืนจากบริษัทประกนั ภยั ต่อ ซง่ึ
ได้จากการคานวณสารองสาหรับสัญญาประกันภัยระยะยาว และสารองสาหรับ
สัญญาประกันภัยระยะส้ัน รายการนี้จะเกิดขึ้น เม่ือมีการทาประกันภัยต่อ ทั้งน้ี
บริษัทประกันวินาศภัย โดยปกติแล้วจะมีการประกันภัยต่อเพื่อเป็นการบริหาร

บทที่ 3 งบการเงนิ ของธุรกิจประกนั วนิ าศภยั

60

ความเส่ยี งจากภาระความรับผิดชอบท่ีมตี ่อผเู้ อาประกนั จากสัญญาหรอื กรมธรรม์
ประกันภยั (ดงู บแสดงฐานะการเงินบรรทดั ที่ 4)

5) ลูกหนี้จากสัญญาประกันภัยต่อ (Amount Due from Reinsurance) หมายถึง
เงินค้างรับจากบริษัทประกันภัยต่ออันเกิดจากการเอาประกันภัยต่อทั้งใน
ประเทศและต่างประเทศ ซ่ึงประกอบด้วย เบ้ียประกันภัยต่อ ค่าสินไหมทดแทน
ค้างรับ รายการค้างรับอื่นๆ จากบริษัทประกันภัยต่อ และเงินท่ีบริษัทวางไว้จาก
การเอาประกันภัยต่อ รายการนี้จะเกิดขึ้นเม่ือบริษัทประกันภัยมีการรับ
ประกันภัยตอ่ (ดูงบแสดงฐานะการเงินบรรทัดที่ 5)

6) สินทรัพย์ตราสารอนุพันธ์ (Derivative Assets) หมายถึง มูลค่ายุติธรรม หรือ
ส่วนปรับมูลค่าที่มีผลเป็นกาไรของตราสารอนุพันธ์ รวมถึงตราสารอนุพันธ์แฝงที่
แยกออกมาจากสัญญาหลักท่เี กิดจากการวัดมลู คา่ ยุตธิ รรม

7) สินทรัพย์ลงทุน (Investment Assets) เป็นรายการที่แสดงถึงการท่ีบริษัท
ประกันภัยนาเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ หรือนาเงินท่ีมีไปให้กู้ยืม
หรอื ลงทุนในอสงั หารมิ ทรพั ย์ (ดงู บแสดงฐานะการเงินบรรทดั ท่ี 6) ได้แก่

7.1) เงินลงทุนในหลักทรัพย์ (Portfolio Investment) (ดูงบแสดงฐานะ
การเงินบรรทัดที่ 7) รายการที่แสดงภายใตห้ ัวขอ้ น้ี ประกอบด้วย

(1) หลักทรัพย์รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ (Government and State
Enterprise Securities) หมายถึง ตั๋วเงินคลัง พันธบัตร หรือตรา
สารอื่นท่ีออกโดยรัฐบาลไทย องค์การบริหารราชการส่วนท้องถ่ิน
และจังหวัด หุ้นกู้ พันธบัตรหรือตราสารอ่ืนท่ีองค์การของรัฐ
รฐั วสิ าหกจิ หรือนติ ิบุคคลทมี่ ีกฎหมายเฉพาะจดั ตง้ั ข้นึ เปน็ ผอู้ อก

(2) ตราสารหนี้ภาคเอกชน (Private Enterprises Debt Securities)
หมายถงึ หนุ้ กู้ ตัว๋ แลกเงนิ ทีอ่ อกโดยบรษิ ัทเงินทุนทีม่ ลี ักษณะเป็น
การระดมทุน ต๋ัวแลกเงินที่ออกโดยธุรกิจอ่ืนท่ีมีลักษณะเป็นการ
ระดมทุนและคล้ายหุ้นกู้ตามท่ีสานักงานคณะกรรมการกากับ
หลักทรพั ย์และตลาดหลักทรพั ย์กาหนด และตราสารแห่งหน้ีอ่ืนใด
ที่มีลักษณะเป็นการระดมทุนและคล้ายหุ้นกู้ตามข้อกาหนดของ
สานักงานคณะกรรมการกากบั หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

(3) ตราสารหนี้ต่างประเทศ (Foreign Debt Securities) หมายถึง
ตราสารท่ีออกหรือค้าประกันโดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์กรหรือ
หน่วยงานของรัฐบาลต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ นิติ
บุคคลที่จัดตั้งตามกฎหมายต่างประเทศ หรือรัฐวิสาหกิจตาม

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธุรกจิ ประกนั วนิ าศภัย

61

กฎหมายต่างประเทศ และให้รวมถึงตราสารหนี้ต่างประเทศแต่
ออกจาหนา่ ยในประเทศไทยด้วย
(4) เงินฝากธนาคารหรือสถาบันการเงิน (Deposit in Banks or
Financial Institutions) หมายถึง เงินฝากธนาคารหรือสถาบัน
การเงิน รวมท้ังใบรับฝากเงินและบัตรเงินฝากท่ีออกโดยธนาคาร
พาณิชย์และสถาบันการเงินอ่ืน ท่ีมีระยะเวลาครบกาหนดเกินสาม
เดือนนับแตว่ ันทไ่ี ดม้ า
(5) ตราสารหน้ีอื่น (Other Debt Securities) หมายถึง ตราสารหน้ีท่ี
มอิ าจแสดงไว้ในรายการท่กี ลา่ วข้างตน้
(6) ตราสารทุน (Equity Securities) หมายถึง หลักทรัพย์ท้ังท่ีมี
หรือไม่มีการซ้อื ขายในตลาดซื้อขายคลอ่ งในประเทศ
(7) ตราสารทุนต่างประเทศ (Foreign Equity Securities) หมายถึง
หลักทรัพย์ทั้งที่มีหรือไม่มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายคล่อง
ต่างประเทศ
(8) อน่ื ๆ (Others) หมายถงึ ตราสารทุกประเภททม่ี ิไดก้ ลา่ วถงึ ข้างตน้

7.2) เงินให้กู้ยืม (Loan) หมายถึง เงินให้กู้ยืมทุกประเภทแก่ลูกหน้ี รวมท้ัง
ลูกหน้ีให้เช่าซ้ือรถ และ ลูกหนี้ให้เช่าทรัพย์สินแบบลิสซิ่ง (ดูงบแสดง
ฐานะการเงนิ บรรทดั ที่ 8)

7.3) อสังหาริมทรัพย์เพ่ือการลงทุน (Investment Property) หมายถึง
อสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินและ/หรืออาคาร พร้อมทั้งส่วนควบของท่ีดินหรือ
อาคาร) ท่ีกิจการมีไว้เพ่ือหาประโยชน์จากรายได้ค่าเช่า หรือจากการ
เพ่ิมขนึ้ ของมูลค่าสนิ ทรพั ยห์ รอื ทงั้ สองอยา่ ง (สภาวชิ าชพี บญั ชี, 2559)

3.2.2 หนสี้ นิ (Liabilities)

หนี้สิน หมายถึง ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการ ซึ่งเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต
คาดว่าจะส่งผลให้กิจการต้องชาระคืนภาระผูกพันนั้น จึงทาให้กิจการเสียประโยชน์เชิง
เศรษฐกิจในอนาคต ในบทนี้จะอธิบายเฉพาะความหมายของหน้ีสินบางรายการที่มักพบใน
ธุรกิจประกันวินาศภัย เช่น หน้ีสินจากสัญญาประกันภัย เป็นต้น สาหรับการแสดงรายการ
หนี้สิน ไม่ได้มีการแยกแสดงเป็นหนี้สินหมุนเวียนและหนี้สินไม่หมุนเวียนในงบแสดงฐานะ
การเงินของกิจการ

หน้ีสินจากสัญญาประกันภัย (Insurance Liabilities) หมายถึง หนี้สินและภาระ
ผกู พนั ที่บริษัทมีตอ่ ผู้เอาประกนั ภัยอนั เกิดจากสัญญาประกันภัย (Insurance Contract) ตาม
มาตรฐานการรายงานทางการเงนิ ท่ีเก่ียวขอ้ ง (ดงู บแสดงฐานะการเงนิ บรรทัดท่ี 14) ไดแ้ ก่

บทท่ี 3 งบการเงินของธุรกจิ ประกนั วนิ าศภยั

62

1) สารองประกันภัยสาหรับสัญญาประกันภัยระยะยาว (Long–term Technical
Reserves) หมายถึงสารองสาหรับสัญญาประกันภัยระยะยาว อันเป็นภาระผูกพนั ที่
บริษัทประกันวินาศภัยมีต่อผู้เอาประกันภัยสัญญาประกันภัยระยะยาว หมายความ
ว่า สัญญาประกันภัยท่ีมีระยะเวลาของสัญญาเกินกว่า 1 ปี หรือมีการรับรองการตอ่
อายุอัตโนมัติ ซ่ึงบริษัทไม่สามารถบอกเลิกสัญญาและไม่สามารถปรับเพ่ิมหรือลด
เบี้ยประกันภยั รวมถึงเปลยี่ นแปลงผลประโยชน์ใดๆ ตลอดอายสุ ญั ญา ทง้ั นค้ี านยิ าม
ให้เป็นไปตามประกาศว่าด้วยการประเมินราคาทรัพย์สินและหน้ีสินของบริษัท
ประกันวินาศภยั

2) สารองประกันภัยสาหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น (Short–term Technical
Reserves) หมายถึง สารองสาหรับสัญญาประกันภัยระยะสน้ั อันเป็นภาระผูกพันท่ี
บริษัทประกันวินาศภัยมีต่อผู้เอาประกันภัย สัญญาประกันภัยระยะสั้น หมายความ
ว่า สญั ญาประกันภยั ทีไ่ มม่ ลี ักษณะหรือเง่ือนไขเชน่ เดียวกบั สาหรับสัญญาประกันภัย
ระยะยาว ทั้งนี้ คานิยามให้เป็นไปตามประกาศว่าด้วยการประเมินราคาทรัพย์สิน
และหน้ีสินของบริษัทประกันวินาศภัย สารองประกันภัยสาหรับสัญญาประกันภัย
ระยะสัน้ มีดงั น้ี

2.1 สารองค่าสินไหมทดแทน (Claim Liability) หมายถึง ประมาณการค่า
สินไหมทดแทน สาหรับความเสียหายท่ีเกิดขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้ตกลง
หรือยังไม่ได้รับรายงาน และค่าสินไหมทดแทนท่ีตกลงแล้วแต่ผู้เอา
ประกันภัยยังไม่ได้รับไป ทั้งน้ี ในการประมาณการค่าสินไหมทดแทน
ดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคานวณเงินสา รอง
ประกันภัยซึ่งได้มีการรวมค่าใช้จ่ายในการจัดการค่าสินไหมทดแทนใน
การประมาณการเงนิ สารองดังกลา่ วแล้ว

2.2 สารองเบย้ี ประกนั ภัย (Premium Liability) หมายถงึ ภาระผูกพันตาม
สญั ญาประกันภยั ซ่งึ เป็นจานวนที่สูงกว่าระหวา่ งสารองเบี้ยประกันภัยท่ี
ยังไม่ถือเป็นรายได้ กับสารองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุด โดยมี
รายละเอียดดังนี้
ก. สารองเบี้ยประกันภัยท่ียังไม่ถือเป็นรายได้ (Unearned Premium
Reserve) หมายถึง เบี้ยประกันภัยส่วนท่ียังไม่ถือเป็นรายได้ของ
บริษัทสาหรับกรมธรรมป์ ระกันภัยทย่ี ังมผี ลบังคบั อยู่
ข. สารองความเสี่ยงภัยท่ียังไม่สิ้นสุด (Unexpired Risk Reserve)
หมายถึง จานวนเงินที่ผู้รับประกันภัยจัดสารองไว้เพื่อชดใช้ค่า
สินไหมทดแทนรวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการกรมธรรม์ที่อาจ
เกิดข้นึ ในอนาคต สาหรบั การประกนั ภัยทย่ี งั มีผลอยู่

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธุรกจิ ประกันวินาศภัย

63
2.3 เจ้าหนี้บริษัทประกันภัยต่อ (Amount Due from Reinsurance)

หมายถึง เงินค้างจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยต่ออันเกิดจากการเอา
ประกันภัยต่อท้ังในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย เบี้ย
ประกันภัยต่อผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยและค่าสินไหม
ทดแทน และรายการค้างจ่ายอื่นๆ ให้กับบริษัทประกันภัยต่อรวมถึง
เงินที่บริษัทถือไว้จากการเอาประกันภัยต่อ (ดูงบแสดงฐานะการเงิน
บรรทัดที่ 15)
3.2.3 ส่วนของเจ้าของ (Owners’ Equity)
ส่วนของเจา้ ของ หมายถึง สว่ นได้เสียคงเหลือหลังจากหักหนีส้ ินทง้ั สนิ้ ออกแลว้ ส่วน
ของเจ้าของจึงสามารถคานวณได้จากการนาสินทรัพย์ที่กิจการมีอยู่หักด้วยหนี้สิน ผลลัพธ์ท่ี
ได้ก็คือสว่ นได้เสียคงเหลือในสินทรัพยข์ องกจิ การนั่นเอง และเน่อื งจากบริษทั ประกนั วินาศภัย
จะต้องอยู่ในรูปของบริษัท ส่วนของเจ้าของจึงเรียกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders’
Equity) ซึ่งโดยท่ัวไปประกอบด้วย ทุนหุ้นสามัญ ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ กาไรสะสม และ
องค์ประกอบอ่ืนของส่วนของเจ้าของ สาหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่ดาเนินกิจการใน
ประเทศไทยเป็นสาขาของบริษัทต่างประเทศสว่ นของเจ้าของจะใช้คาว่า “สว่ นของสานักงาน
ใหญ”่ (ดูงบแสดงฐานะการเงนิ บรรทดั ที่ 22 - 31)

บทที่ 3 งบการเงนิ ของธรุ กิจประกันวนิ าศภยั

64

ภาพที่ 3.1 งบแสดงฐานะการเงนิ

บรษิ ัท xxx ประกันภัย จากัด (มหาชน)

งบแสดงฐานะการเงนิ

หนว่ ย: บาท

31 ธันวาคม

2563 2562

สนิ ทรพั ย์

1 เงินสดและรายการเทยี บเท่าเงนิ สด 55,359,930 49,611,579

2 เบยี้ ประกนั ภยั ค้างรับ 82,276,112 80,890,298

3 รายได้จากการลงทนุ ค้างรับ 3,764,090 6,163,215

4 สินทรัพยจ์ ากการประกันภัยต่อ 16,339,955 9,410,000

5 ลูกหนีจ้ ากการประกันภัยต่อ 141,397 138,561

6 สินทรัพยล์ งทนุ :

7 เงินลงทุนในหลักทรพั ย์ 1,264,396,106 1,303,359,548

8 เงนิ ให้กู้ยมื และดอกเบ้ยี ค้างรับ 1,123,062 2,609,583

9 ทีด่ ิน อาคารและอุปกรณ์ 21,777,449 19,681,016

10 สินทรพั ย์สทิ ธกิ ารใช้ 13,323,414 -

11 สินทรพั ย์ไม่มตี ัวตน 3,608,936 3,525,217

12 สินทรัพย์อืน่ 21,693,821 16,128,624

13 รวมสินทรพั ย์ 1,483,804,271 1,491,517,641

บทท่ี 3 งบการเงินของธรุ กิจประกันวนิ าศภยั

65

หน่วย: บาท
31 ธนั วาคม
2563 2562

หน้ีสินและสว่ นของเจ้าของ 626,082,185 595,349,006
หนีส้ นิ 13,155,166 5,843,411
14 หนสี้ นิ จากสญั ญาประกันภยั 4,299,111 -
15 เจ้าหนบ้ี รษิ ทั ประกนั ภัยต่อ 11,521,368 -
16 ภาษเี งนิ ได้นิติบคุ คลค้างจ่าย 21,119,507 18,628,596
17 หนี้สินตามสัญญาเชา่ 53,998,006 74,333,414
18 ภาระผกู พนั ผลประโยชนพ์ นักงาน 40,135,861 38,005,130
19 หนี้สินภาษีเงนิ ได้รอการตัดบัญชี 770,311,205
20 หน้สี ินอ่นื 732,159,557
21 รวมหนี้สนิ
40,000,000 40,000,000
สว่ นของเจา้ ของ 40,000,000 40,000,000
22 ทนุ เรือนหนุ้
23 ทุนจดทะเบยี น - -
24 ทนุ ท่อี อกและชาระแล้ว - -
25 กาไรสะสม 4,000,000 4,000,000
26 จดั สรรแลว้ 21,400 21,400
27 ทุนสารองตามกฎหมาย 394,786,054 383,102,253
28 สารองอ่ืน 274,685,612 332,234,432
29 ยงั ไม่ไดจ้ ดั สรร 713,493,067 759,358,085
30 สว่ นของเจ้าขององค์ประกอบอื่น
31 รวมส่วนของเจา้ ของ 1,483,804,271 1,491,517,641

32 รวมหนี้สนิ และส่วนของเจา้ ของ

บทท่ี 3 งบการเงินของธุรกิจประกันวินาศภยั

66

3.3 ความหมายของรายการท่สี าคญั ในงบกาไรขาดทุนเบด็ เสรจ็ (Comprehensive
Income Statement)

งบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเป็นงบที่แสดงรายการรายได้ ค่าใช้จ่าย และกาไรขาดทุน
เบ็ดเสร็จอื่นสาหรับงวด ทั้งน้ีบริษัทประกันวินาศภัยสามารถแสดงรายการทั้งหมดในงบกาไร
ขาดทุนเบ็ดเสร็จได้คือ 1) แสดงในงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเพียงงบเดียว หรือ 2) แสดงแยก
เป็น 2 งบ คือ งบกาไรขาดทุน กับงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จซ่ึงเป็นงบที่ต้ังต้นด้วยกาไรหรือ
ขาดทุนสาหรับปีและปรับด้วยกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ท้ังน้ีไม่ว่าจะแสดงรวมเป็นงบเดียว
หรือแสดงแยกเป็น 2 งบ ผลที่ได้ท้ายสุด ก็คือกาไรหรือขาดทุนเบ็ดเสร็จสาหรับงวดซ่ึงเป็น
ยอดเดียวกัน สาหรับตัวอย่างการแสดงงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเพียงงบเดียวของบริษัท
ประกันวนิ าศภัยแสดงได้ดังต่อไปน้ี

3.3.1 รายได้ (Revenues)

รายได้ หมายถึง การเพิ่มขึ้นของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบัญชีในรูป
ของกระแสเข้า หรือการเพ่ิมข้ึนของสินทรัพย์ หรือการลดลงของหน้ีสิน ซึ่งส่งผลให้ส่วนของ
เจ้าของเพิ่มขึ้น ทั้งน้ีไม่รวมทุนท่ีเจ้าของนามาลง ในท่ีนี้จะอธิบายเฉพาะความหมายของ
รายได้บางรายการ (สานักงานคณะกรรมการกากบั และส่งเสริมการประกอบธรุ กิจประกันภัย,
2556) เช่น

1) เบ้ียประกันภัยรับ (Gross Written Premiums) หมายถึง รายได้เน่ืองจากการ
รับประกันภัยโดยตรง และการรับประกันภัยต่อ หักเบี้ยประกันภัยยกเลิกและ
ส่งคืนท่ีต้องจ่ายคืนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยจ่ายจากการเอา
ประกันภัยต่อ (Premium Ceded to Reinsurers) จะแสดงเป็นรายการหัก
จากเบ้ียประกันภัยรับ ซ่ึงผลที่ได้ก็คือเบ้ียประกันภัยรับสุทธิ (Net Written
Premiums) (ดงู บกาไรขาดทนุ บรรทัดท่ี 1)

2) สารองเบ้ียประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน (Net Change
in Unearned Premium Reserve) หมายถึง การเปล่ียนแปลงในสารองเบี้ย
ประกนั ภยั ท่ยี งั ไม่ถอื เปน็ รายได้ของบริษทั สาหรับกรมธรรม์ทย่ี ังมีผลบงั คับอยู่ ณ
วนั ส้ินรอบระยะเวลาบัญชีปัจจุบนั กับวันสนิ้ รอบระยะเวลาบัญชีก่อน (ดูงบกาไร
ขาดทนุ บรรทดั ที่ 4)

3) เบ้ียประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิจากการเอาประกันภัย (Net Earned
Premiums) หมายถึง รายได้เน่ืองจากการรับประกันภัยโดยตรงและรายไดจ้ าก
การรับประกันภัยต่อ หักเบี้ยประกันภัยยกเลิกและส่งคืนผู้เอาประกันภัย หัก
ด้วยเบี้ยประกันภัยจ่ายให้แก่ผู้รับประกันภัยต่อจากการเอาประกันภัยต่อและ
การเอาประกันภัยต่อช่วงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปรับปรุงด้วยการ

บทท่ี 3 งบการเงินของธุรกจิ ประกันวนิ าศภัย

67

เปลี่ยนแปลงในสารองเบ้ียประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้ (ดูงบกาไรขาดทุน
บรรทดั ที่ 6)

4) รายได้ค่าจ้างและค่าบาเหน็จ (Fee and Commission Income) หมายถึง ค่า
บาเหน็จที่บริษัทได้รับเนื่องในการประกันภยั ต่อ และค่าธรรมเนียมอ่ืนใดท่ีบริษัท
ไดร้ บั ในการเขา้ ทาสญั ญาประกนั ภัย (ดงู บกาไรขาดทุนบรรทดั ที่ 7)

5) รายได้จากการลงทุนสุทธิ (Net Investment Income) หมายถึง ดอกเบ้ีย เงิน
ปันผล ส่วนลด ค่าธรรมเนียมจากการกู้ยืม ซ้ือ ซ้ือลดหรือรับช่วงซื้อลดต๋ัวเงิน
ดอกเบีย้ จากเงินฝากธนาคารและสถาบนั การเงินอ่ืน ดอกผลจากการให้เช่าซื้อรถ
และจากการให้เช่าทรัพย์สินแบบลิสซ่ิง รวมท้ังดอกเบ้ีย ค่าเช่าและผลประโยชน์
อ่ืนใดท่ีเกิดจากการประกอบธุรกรรมลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์
ลงทนุ ในอสงั หาริมทรพั ย์ หรือการลงทนุ อนื่ ๆ ทัง้ น้ี โดยใหส้ ุทธจิ ากคา่ ใชจ้ า่ ยต่างๆ
อันเกิดขึ้นเน่ืองจากการลงทุนแสวงหาผลประโยชน์ (ดูงบกาไรขาดทุนบรรทัดท่ี
8)

6) รายได้เงินสมทบ (Contribution Income) หมายถึง เงินสมทบที่บริษัทได้รับ
ตามมาตรา 10 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
และท่แี ก้ไขเพิ่มเติม

3.3.2 ค่าใชจ้ ่าย (Expenses)

ค่าใช้จ่าย หมายถึง การลดลงของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบัญชีใน
รูปของกระแสออก หรือการลดค่า หรือการเพิ่มขึ้นของหนี้สิน อันส่งผลให้ส่วนของเจ้าของ
ลดลง ท้ังนี้ไม่รวมถงึ การแบ่งปันสว่ นทนุ ใหก้ ับเจ้าของ ในทีน่ ้ีจะอธบิ ายเฉพาะความหมายของ
ค่าใช้จ่ายบางรายการ (สานักงานคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
ประกนั ภัย, 2556) เชน่

1) สารองประกันภัยสาหรับสัญญาประกันภัยระยะยาวเพ่ิม (ลด) (Change in
Long–Term Technical Reserve) หมายถงึ การเปลี่ยนแปลงในสารองสาหรับ
ภาระผูกพันท่ีมีต่อผู้เอาประกันภัยจากการประกันภัยระยะยาว ณ วันสิ้นรอบ
ระยะเวลาบัญชีปัจจุบันกบั วันส้ินรอบระยะเวลาบัญชีก่อนและจัดการค่าสินไหม
ทดแทน เช่น เงินที่จ่ายให้แก่ผู้ประเมินวินาศภัยหรือผู้สารวจภัย ค่าใช้จ่ายใน
การดาเนินคดีที่เก่ียวข้องกับการจัดการค่าสินไหมทดแทน รวมถึงค่าใช้จ่าย
ทางตรงและทางอ้อมอืน่ ๆ เก่ียวกบั การจัดการค่าสินไหมทดแทนท้ังน้ี ค่าสนิ ไหม
ทดแทนรับคืนจากการประกันภัยต่อ (Claim Recovered from Reinsurers)
จะแสดงเปน็ รายการหกั จากคา่ สินไหมทดแทน

บทท่ี 3 งบการเงินของธุรกิจประกนั วินาศภยั

68

2) ค่าจ้างและค่าบาเหน็จ (Commissions and Brokerages) หมายถึง ค่า
นายหน้า ค่าจ้างและค่าบาเหน็จ ที่จ่ายให้ตัวแทนประกันวินาศภยั หรอื นายหน้า
ประกันวินาศภัย เนื่องในการชักชวนหรือช้ีช่อง หรือจัดการให้บุคคลได้ทา
สัญญาประกันภัยกับบริษัท และค่าบาเหน็จท่ีบริษัทจ่ายไปเน่ืองในการรับ
ประกนั ภัยต่อ (ดงู บกาไรขาดทนุ บรรทัดที่ 16)

3) ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยอื่น (Other Underwriting Expenses) หมายถึง
ค่าใช้จ่ายอ่ืนจากการรับประกันภัย ทั้งนี้ ให้รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ เก่ียวกับศูนย์
โทรศพั ทก์ รณกี ารขายผ่านทางโทรศพั ท์ และค่าใช้จ่ายทางตรงและทางอ้อมอื่นๆ
เก่ียวกับการรับประกันภัย และให้รวมถึงเงินสมทบต่างๆ ที่บริษัทประกันวินาศ
ภัยได้จ่ายให้แก่สานักงาน คปภ. กองทุนประกันวินาศภัย กองทุนทดแทน
ผู้ประสบภัย และเงินสมทบบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จากัด ตาม
ขอ้ กาหนดของพระราชบัญญัตทิ ี่เกย่ี วข้อง (ดูงบกาไรขาดทุนบรรทัดท่ี 17)

4) ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน (Operating Expenses) หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการ
ดาเนินงานที่ไม่เก่ียวกับการรับประกันภัยและการจัดการค่าสินไหมทดแทน (ดู
งบกาไรขาดทุนบรรทัดที่ 18)

5) ตน้ ทนุ ทางการเงนิ (Finance Costs) หมายถึง ค่าใช้จา่ ยหรอื ต้นทนุ ท่เี กิดขน้ึ จาก
การก่อหนี้สินของบริษัทประกันวินาศภัย เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าธรรมเนียม
ธนาคาร ดอกเบย้ี ทเี่ กดิ จากสัญญาเชา่ การเงิน (Financial Lease) เป็นต้น (ดงู บ
กาไรขาดทนุ บรรทัดที่ 19)

3.3.3) กาไร (ขาดทุน) สุทธิ และกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอ่นื

รายการกาไร (ขาดทุน) สทุ ธิ และกาไรขาดทุดเบ็ดเสร็จอนื่ มีรายละเอียดดงั น้ี

1) กาไร (ขาดทุน) สุทธิ (Net Profit (Loss) หมายถึง ยอดรวมรายได้หักด้วยยอด
รวมค่าใช้จ่ายหากมีผลขาดทุนสุทธิ ให้แสดงจานวนเงินไว้ในเคร่ืองหมายวงเล็บ
(ดงู บกาไรขาดทุนบรรทัดที่ 25)

2) กาไรขาดทนุ เบ็ดเสร็จอ่นื (Other Comprehensive Income) หมายถึง รายการ
รายได้และค่าใช้จ่าย รวมถึงการปรับปรุงการจัดประเภทรายการใหม่ ซึ่งไม่
อนุญาตให้รับรู้ในงบกาไรขาดทุน โดยมาตรฐานการรายงานทางการเงินอื่น
ตัวอย่างของกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอ่ืน เช่น ผลกาไรหรือขาดทุนจากการวัดมูลค่า
เงินลงทุนเผ่ือขาย ผลกาไรหรือขาดทุนจากการตีมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ เป็นต้น (ดู
งบกาไรขาดทนุ บรรทัดท่ี 26-33)

บทที่ 3 งบการเงินของธรุ กิจประกันวนิ าศภัย

69

ภาพที่ 3.2 งบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็

บริษทั xxx ประกันภยั จากดั (มหาชน)
งบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็

หนว่ ย: บาท

สาหรบั ปี
ส้นิ สุดวันท่ี 31 ธนั วาคม

2563 2562

รายได้

1 เบ้ียประกันภัยรบั 763,148,118 777,959,265

2 หกั เบ้ยี ประกนั ภัยต่อ (21,727,833) 12,246,605)

3 เบยี้ ประกันภยั รับสุทธิ 741,420,285 765,712,659

4 บวก (หัก) สารองเบย้ี ประกันภยั ทยี่ งั ไม่ถือ 7,573,275 (7,336,880)
เปน็ รายได้ลด (เพิม่ ) จากปีก่อน

5 บวก (หัก) สารองเบย้ี ประกันภยั ทย่ี ังไม่ถือ

เปน็ รายไดจ้ ากการประกนั ภัยตอ่ เพิ่ม (ลด) 4,358,599 (708,663)
จากปีก่อน

6 เบย้ี ประกนั ภยั ท่ีถือเป็นรายได้สทุ ธิ 753,352,159 757,667,116

7 รายได้คา่ จา้ งและค่าบาเหน็จ 5,448,122 3,686,758

8 รายไดจ้ ากการลงทุนสุทธิ 21,960,502 28,184,835

9 กาไรจากเงินลงทุน 5,001,225 876,011

10 กาไร (ขาดทุน) จากการปรับมูลค่ายตุ ิธรรม (33,177,154) 2,655,082

11 รายได้อ่ืน 2,911,021 4,202,902

12 รวมรายได้ 755,495,875 797,272,704

บทที่ 3 งบการเงนิ ของธรุ กจิ ประกันวินาศภัย

70

2563 2562

ค่าใชจ้ า่ ย 486,698,286
(6,788,796)
13 ค่าสินไหมทดแทน 469,935,166 479,909,490
14 หกั คา่ สินไหมทดแทนรับคืนจากการ (10,188,168) 123,415,661
1ป5ระคกา่ ันสภินัยไหตอ่มทดแทนสุทธิ 71,054,787
459,746,998 91,855,609

16 ค่าจ้างและคา่ บาเหน็จ 120,952,735 -
-
17 ค่าใชจ้ ่ายในการรบั ประกันภัยอ่ืน 60,952,414 5,567
766,241,115
18 ค่าใช้จ่ายในการดาเนนิ งาน 95,004,599 31,031,589
(4,882,774)
19 ตน้ ทนุ ทางการเงนิ 195,325 26,148,815
20 ผลขาดทุนด้านเครดติ ท่ีคาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ (15,554)
(2ก1ลคับา่รใาชย้จกา่ ายรอ)่ืน (2,914,487)
65 582,897

22 รวมคา่ ใช้จา่ ย 736,836,582 (2,331,589)

23 กาไรกอ่ นภาษเี งินได้ 18,659,293 25,999,452
(5,199,890)
24 ภาษีเงินได้ (2,502,056) 20,799,562

25 กาไรสุทธิ 16,157,238

กาไร (ขาดทนุ ) เบ็ดเสรจ็ อืน่
รายการที่จะไม่ถูกจัดประเภทใหมไ่ ว้ในกาไรหรือ

ขาดทุนในภายหลงั

26 ขาดทุนจากการวัดมลู คา่ ใหมข่ อง (1,318,196)
ผลประโยชนพ์ นกั งาน

27 ภาษีเงินได้ของรายการทจ่ี ะไม่ถูกจดั ประเภท 263,639

28 รใวหม่ (1,054,557)

รายการที่อาจถูกจัดประเภทใหม่ไวใ้ นกาไรหรอื ขาดทนุ ในภายหลัง

29 กาไร (ขาดทนุ ) จากการวดั มลู คา่ เงนิ ลงทนุ

ที่วดั มลู ค่ายุติธรรมผา่ นกาไรขาดทุน (86,381,505)
30 เภบา็ดษเีเสงรนิ จ็ ไอดืน่ข้ องรายการท่ีอาจถูกจัดประเภท 17,276,301
31 ใรหวมม่ (69,105,204)

32 กาไร (ขาดทนุ ) เบด็ เสรจ็ อน่ื สาหรับปี - (70,159,761) 18,467,973
3ส3ทุ ธกจิ าาไกรภ(าขษาดี ทนุ ) เบด็ เสรจ็ รวมสาหรับปี (54,002,523) 44,616,787

34 กาไรต่อหุ้นขัน้ พนื้ ฐาน (บาท) 0.40 0.65

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธรุ กจิ ประกันวนิ าศภยั

71

3.4 ความหมายของรายการทสี่ าคัญในงบแสดงการเปลย่ี นแปลงส่วนของเจา้ ของ
(Statement of Changes in Equity)

งบแสดงการเปล่ียนแปลงส่วนของเจ้าของ หมายถึง งบการเงินท่ีแสดงรายละเอียด
ของการเปลี่ยนแปลงในรายการที่เป็นองค์ประกอบต่างๆ ของเจ้าของ จากต้นงวดบัญชีไปถึง
ส้นิ งวดบญั ชีโดยแยกแสดงแตล่ ะรายการตามประเภทของรายการ

การแสดงรายการในงบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเจ้าของ เป็นการกระทบ
ยอดระหว่างยอดยกมา ณ วันต้นงวดและวันสิ้นงวด โดยให้เปิดเผยการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็น
ผลมาจากรายการดังต่อไปน้ี (สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชปู ถมั ภ์, 2552 ก)

1. กาไรหรือขาดทุน

2. รายการของกาไรขาดทุนเบ็ดเสรจ็ อืน่

3. รายการกบั ผู้เป็นเจ้าของจากความสามารถในการเป็นเจ้าของ ซ่ึงแสดงเงินทุนท่ี
ได้รับจากผู้เป็นเจ้าของและการจัดสรรส่วนทุนให้ผู้เป็นเจ้าของและการ
เปล่ียนแปลงในส่วนได้เสียของความเป็นเจ้าของในบริษัทย่อยท่ีไม่ได้ส่งผลให้
สญู เสยี การควบคุม

ซึ่งตามประกาศของสภาวิชาชีพบัญชี ฉบับท่ี 20/2554 เร่ือง มาตรฐานการรายงาน
ทางการเงินสาหรับกิจการท่ีไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรม
ราชปู ถัมภ์, 2554) ได้กาหนดใหก้ จิ การต้องนาเสนองบแสดงการเปล่ียนแปลงของเจ้าของโดย
นาเสนอรายการตอ่ ไปน้ี

1. เงินทนุ ท่ีได้รับจากเจา้ ของและจา่ ยคืนให้แกเ่ จา้ ของ รวมท้งั สว่ นแบ่งกาไร

2. กาไรหรือขาดทนุ สทุ ธสิ าหรับรอบระยะเวลาของการรายงาน

3. ยอดคงเหลือ ณ วันต้นงวด ของกาไร (ขาดทุน) สะสม และรายการต่างๆ ใน
ส่วนของเจ้าของ การเปล่ียนแปลงรายการต่างๆ ระหว่างงวดและยอดคงเหลือ
ของรายการนน้ั ๆ ณ วนั สิ้นงวด

4. รายการซึ่งมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กาหนดให้กิจการต้องรับรู้
โดยตรงไปยังส่วนของเจา้ ของ

ในภาพต่อไป เป็นการแสดงงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของของ ปี 2562
และ 2563 ซึ่งเริ่มต้นรายการด้วยยอดคงเหลอื ณ วันต้นงวด ของทุนเรือนหุ้นที่ออกจาหน่าย
และชาระแล้ว ทุนสารองตามกฎหมาย ทุนสารองอ่ืน กาไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร และ
รายการ กาไร (ขาดทุน) จากการวัดมูลค่าเงินลงทุนที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกาไรขาดทุน
เบ็ดเสร็จ (ท้ังน้ี หากกิจการเป็นบริษัทจากัด มิใช่บริษัทมหาชนจากัด จะไม่มีการแสดง
รายการของรายการผ่านกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) รายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธุรกิจประกนั วินาศภยั

72
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงนโยบายบัญชี ที่มีการปรับปรุงผลกระทบผ่านไปยังงบกาไร
ขาดทุน หรือผ่านไปยังงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ จะมีการแสดงการเปลี่ยนแปลงในงบแสดง
การเปลี่ยนแปลงในส่วนของเจ้าของนี้ด้วย และรวมถึงรายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการ
จา่ ยเงนิ ปันผลใหก้ บั ผู้ถือห้นุ ของบริษัท เปน็ รายการหัก แสดงจานวนเงินปนั ผลท่ปี ระกาศจ่าย
รายการกาไรสทุ ธสิ าหรบั งวด เป็นรายการบวก และ กาไร (ขาดทนุ ) เบด็ เสรจ็ อื่น เป็นรายการ
บวก/หัก และแตก่ รณี เม่อื แสดงรายการเปลี่ยนแปลงในสว่ นของเจ้าของแลว้ จะแสดงรายการ
สุดท้ายซึง่ เปน็ ยอดคงเหลอื ของสว่ นของเจ้าของ ณ วันสิ้นงวด

บทท่ี 3 งบการเงินของธรุ กิจประกันวนิ าศภยั

ภาพท่ี 3.3 งบแสดงการเปล่ียนแปลงส่วนของเจา้ ของ

งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจา้ ของ - 2562

สาหรบั ปีส้นิ สุดวันที่ 31 ธนั วาคม 2562 ทุนเรือนหุ้นท่ี ทนุ สารองตาม ทุนสารองอ่นื กาไร (ขาดทุน) รวมส่วนของ
1 ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2562 ออกและ กฎหมาย จากการวดั เจ้าของ
รายการกับผ้ถู ือหนุ้ ทีบ่ นั ทึกโดยตรงเขา้ สว่ น ชาระแลว้ 21,400 มลู ค่าเงนิ
ของเจ้าของ 4,000,000 ลงทุนที่วัด 718,591,297
40,000,000 - มลู ค่ายุติธรรม
การจดั สรรสว่ นทุนใหผ้ ู้ถอื หุ้น - - ยังไม่ไดจ้ ัดสรร ผา่ นกาไร -
2 เงินปนั ผลใหผ้ ู้ถอื หุ้นของบริษัท - - - ขาดทุน -
3 รวมการจัดสรรส่วนทนุ ให้ผู้ถอื หุ้น - - - 363,285,028 3เ1บ1ด็ ,เ2ส8ร4็จ,อ8่ืน70 (4,000,000)
กาไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จสาหรบั ปี - - - (4,000,000)
4 กาไรสทุ ธิ - - - -- -
5 กาไร (ขาดทนุ ) เบด็ เสรจ็ อ่นื - - - 26,148,815
6 รวมกาไร (ขาดทุน) เบด็ เสรจ็ สาหรับปี - - - -- 18,467,973
7 ยอดคงเหลือ ณ วันท่ี 31 ธนั วาคม 2562 - - 21,400 44,616,787
- 4,000,000 (4,000,000) - 759,208,085
40,000,000
(4,000,000) -

--

26,148,815 -

(2,331,589) 20,799,562

23,817,225 20,799,562

383,102,253 332,084,432

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธรุ กิจประกันวินาศภยั 73

74

งบแสดงการเปล่ียนแปลงส่วนของเจา้ ของ - 2563

สาหรบั ปีสนิ้ สดุ วันที่ 31 ธนั วาคม 2563 ทุนเรอื นหุ้นท่ี ทนุ สารองตาม ทุนสารองอนื่ ยังไม่ได้จัดสรร กาไร (ขาดทนุ ) รวมส่วนของ
8 ยอดคงเหลือ ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม ออกและชาระ กฎหมาย จากการวัดมลู ค่า เจ้าของ
295ผ6ล2กระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย 21,400 383,102,253
1บ0ัญชยีอดคงเหลือ ณ วนั ท่ี 1 มกราคม แลว้ 4,000,000 - 581,121 เงนิ ลงทนุ วัด 759,208,085
2รา5ย6ก3ารกับผู้ถือหนุ้ ท่ีบนั ทกึ โดยตรงเข้าส่วน - มูลคา่ ยตุ ิธรรม 12,137,505
ของเจา้ ของ 40,000,000 21,400 383,683,374 ผา่ นกาไรขาดทนุ
- 4,000,000 เบด็ เสรจ็ อ่ืน 771,345,590
11 การจัดสรรสว่ นทุนใหผ้ ถู้ ือหุ้น - -
40,000,000 - - (4,000,000) 332,084,432 -
12 เงินปันผลใหผ้ ูถ้ ือหนุ้ ของบริษัท - - (4,000,000) 11,556,385 (4,000,000)
- - (4,000,000)
13 รวมการจดั สรรสว่ นทุนให้ผู้ถอื หุ้น - - 16,157,238 343,640,816
- - - (1,054,557) 16,157,238
กาไร (ขาดทุน) เบด็ เสรจ็ สาหรบั ปี - - 15,102,681 - (70,159,761)
- - 21,400 394,786,054 - (54,002,523)
14 กาไรสุทธิ - 4,000,000 - 713,343,067
-
15 กาไร (ขาดทุน) เบด็ เสร็จอืน่ 40,000,000 -
(69,105,204)
16 รวมกาไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จสาหรับปี (69,105,204)
17 ยอดคงเหลือ ณ วันท่ี 31 ธนั วาคม 274,535,612
2563

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธรุ กจิ ประกนั วนิ าศภยั

75

3.5 รายการทส่ี าคัญในงบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flows)

งบกระแสเงินสดเป็นงบที่แสดงการได้มาและใช้ไปของเงินสดในระหว่างงวดบัญชี
โดยแสดงให้เห็นถึ งการเปล่ียนแปลงในย อด คงเหลื อของเ งินสดจา กกิจ กรรมดา เนิ น ง า น
กิจกรรมลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงิน ท้ังนี้ กิจการท่ีถูกกาหนดให้จัดทางบกระแสเงินสดคือ
กิจการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาธารณะ ที่มีการจัดตั้งรูปแบบกิจการประเภทบริษัทมหาชน
จากัด โดยรายการท่ีสาคัญท่ีแสดงในงบกระแสเงินสดของธุรกิจประกันวินาศภัยสามารถ
อธิบายตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี

3.5.1 ก ร ะ แ ส เ งิ น ส ด จ า ก กิ จ ก ร ร ม ด า เ นิ น ง า น (Cash Flows from Operating
Activities)

กระแสเงินสดจากกิจกรรมดาเนินงาน เป็นกระแสเงินสดซึ่งเกิดจากกิจกรรมหลักท่ี
ก่อให้เกิดรายได้ของกิจการ และจากกจิ กรรมอื่นที่ไม่ใชก่ ิจกรรมลงทนุ และกจิ กรรมจดั หาเงิน
(ดูงบกระแสเงินสดบรรทัดท่ี 1-15) กระแสเงินสดจากกิจกรรมดาเนินงานมีท้ังด้านรับและ
ด้านจา่ ย เช่น

- เงินสดรับเบ้ียประกันภัยจากการรับประกันภัยโดยตรง (ดูงบกระแสเงินสด
บรรทดั ท่ี 1)

- เงินสดรบั จา่ ยเก่ียวกับการประกันภัยตอ่ (ดูงบกระแสเงินสดบรรทดั ที่ 2)
- เงนิ สดรับจากดอกเบีย้ รบั และเงินปนั ผลรับ (ดงู บกระแสเงินสดบรรทัดที่ 3)
- เงินสดรับจากเงินสมทบ
- เงินสดจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากการรับประกันภัยโดยตรง (ดูงบกระแสเงินสด

บรรทัดที่ 7)
- เงินสดจ่ายค่าจ้างและค่าบาเหน็จจากการรับประกันภัยโดยตรง เป็นต้น (ดูงบ

กระแสเงนิ สดบรรทัดที่ 8)

การแปลความหมาย

กระแสเงินสดจากกิจกรรมดาเนินงาน กิจกรรมดาเนินงานเป็นกิจกรรมหลกั ท่ีสาคญั
ท่ีสุด คือเป็นกิจกรรมก่อให้เกิดรายได้หรือหากาไร การท่ีบริษัทประกันวินาศภัยมีกาไรน้ัน
มิได้หมายความว่า จะมีเงินสดเพิ่มข้ึนเสมอไป ทั้งน้ีเพราะกาไรขาดทุนคานวณจากเกณฑ์คง
ค้าง (Accrual Basis) กล่าวคือรายได้และค่าใช้จ่ายเกิดข้ึนงวดไหนจะบันทึกเป็นรายได้และ
ค่าใช้จ่ายของงวดนั้น ซึ่งรายได้บางรายการยังไม่ได้รับเงิน และค่าใช้จ่ายบางรายการยังไม่ได้
จ่ายเงิน แต่กระแสเงินสดจากการดาเนินงานเป็นการวิเคราะห์จากเงินสดที่ได้มาและเงินสด
ใช้ไปจากการดาเนินงานในงวดนั้นๆ ดังนั้น กรณีท่ีบริษัทมีผลกาไร กิจการอาจจะมีเงินสด
สุทธจิ ากกจิ กรรมดาเนินงานเป็นบวกหรอื เป็นลบกไ็ ด้

- ถ้าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงานเป็นบวก แสดงถึงความสามารถของ
ผู้บริหารในการสร้างเงินสดขึ้นเองภายในกิจการ โดยสามารถจัดหาเงินสดได้

บทที่ 3 งบการเงินของธุรกจิ ประกันวนิ าศภยั

76

มากกว่าการจ่ายเป็นเงินสด ทาให้กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น หากเพิ่มขึ้นอย่าง
ตอ่ เนอื่ งย่อมแสดงถงึ ความสาเร็จของกิจการในระยะยาว
- ในทางตรงข้าม ถ้าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงานติดลบ แสดงถึง
ความสามารถในการสร้างเงินสดขึ้นเองภายในกิจการมีน้อย กล่าวคือเงินสด
ไดม้ าจากการดาเนินงานน้อยกว่าเงินสดที่ต้องใช้ สง่ ผลใหเ้ งนิ สดขาดมือ ซึง่ หาก
มีผลติดลบอย่างต่อเน่ือง ย่อมทาให้ผู้เอาประกันภัย นักลงทุนและเจ้าหน้ีขาด
ความเชื่อม่นั ส่งผลเสยี ต่อชือ่ เสยี งของกิจการ

3.5.2 กระแสเงินสดจากกจิ กรรมลงทุน (Cash Flows from Investing Activities)

กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน เป็นกระแสเงินสดที่ได้มาจากการจาหน่าย
สินทรัพย์ระยะยาว หรือใช้ไปในการซ้ือสินทรัพย์ระยะยาว ซึ่งไม่รวมอยู่ในรายการเทียบเท่า
เงนิ สด เชน่

- เงินสดจา่ ยสาหรับเงินลงทุนในหลักทรพั ย์
- เงนิ สดจา่ ยซอ้ื อปุ กรณ์
- เงนิ สดรบั จากการขายทีด่ นิ เปน็ ตน้

การแปลความหมาย

กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน เป็นการพิจารณาว่าผู้บริหารกิจการได้จัดหา
สนิ ทรัพย์ถาวรใหม่เพม่ิ ขน้ึ มากนอ้ ยเพียงไร

- ถ้าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุนเป็นบวก แสดงว่าบริษัทมีขายสินทรัพย์ลงทุน
หรอื สนิ ทรพั ย์
ถาวรเก่าออกไปมากกว่าการจ่ายเงินสดเพ่ือซ้ือสินทรัพย์ลงทุน หรือสินทรัพย์
ถาวรใหม่เพิม่ จงึ ไมจ่ าเป็นตอ้ งจัดหาเงินสดเพ่ิมเติมจากกจิ กรรมอนื่ ๆ

- แต่หากเงินสดสุทธิจากกจิ กรรมลงทนุ ติดลบ แสดงวา่ บรษิ ทั มีการจ่ายเงนิ สดเพ่ือ
ซื้อสินทรัพย์ลงทุน หรือสินทรัพย์ถาวรใหม่เพ่ิมมากกว่าการขายสินทรัพย์ถาวร
เก่าออกไป ซึ่งต้องวิเคราะห์ต่อไปว่าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงานซ่ึงเป็น
กิจกรรมหลักมีเพียงพอหรือไม่ หากเพียงพอก็แสดงถึงประสิทธิภาพของ
ผู้บริหารในการสรา้ งเงินสดขึ้นเองภายในกจิ การ แต่หากเงนิ สดสุทธิจากกจิ กรรม
ดาเนนิ งานไมเ่ พียงพอ แสดงว่าบรษิ ัทจงึ ต้องใช้เงินสดจากกจิ กรรมจดั หาเงินเพ่ือ
การลงทุนมาเป็นกระแสเงินสดหมนุ เวียนเพอ่ื การดาเนนิ งานของกจิ การ

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธุรกิจประกนั วินาศภยั

77

3.5.3 กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน (Cash Flows from Financing Activities)

กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจัดหาเงิน เป็นกระแสเงนิ สดท่ีทาใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลง
ในขนาดและองค์ประกอบของสว่ นของเจา้ ของและส่วนของการกู้ยืมของกจิ การ เช่น

- เงนิ สดรับจากการกยู้ ืมเงนิ จากสถาบนั การเงนิ
- เงนิ สดรบั จากการเพิ่มทุนหนุ้ สามัญ หรอื เงนิ เพิ่มทนุ จากสานักงานใหญ่
- เงินสดจ่ายคนื เงนิ ตน้ ให้แกเ่ จ้าหนเี้ งินกู้
- เงนิ สดจ่ายเงนิ ปนั ผลแก่ผู้ถือหุ้น เป็นต้น

การแปลความหมาย

กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน เปน็ การพจิ ารณาถึงความเส่ียงในการจัดหาเงิน
ของบริษัทประกันวินาศภัย ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนเพ่ือความเติบโตของบริษัทในระยะยาว
ประกอบด้วย เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงาน เงินสดรับจากการขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้น และ
เงินกู้หรือภาระผูกพันระยะยาว ซ่ึงเงินกู้หรือภาระผูกพันระยะยาวเป็นแหล่งเงินทุนท่ีมีความ
เส่ียงมากที่สุดและมีต้นทุน เพราะกิจการมีภาระการจ่ายดอกเบ้ียและคืนหนี้สินเม่ือครบ
กาหนด กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมจดั หาเงนิ จงึ เป็นการเปรยี บเทยี บเงินสดท่ีได้มากับเงินสดที่
ตอ้ งใช้ไปจากกจิ กรรมจัดหาเงนิ ซงึ่ เงินสดสทุ ธจิ ากกจิ กรรมจัดหาเงินอาจเปน็ บวกหรือเป็นลบ
ก็ได้ การแปลความหมายของกระแสเงินสดจากกจิ กรรมจัดหาเงินมักเป็นการเปรียบเทียบเงิน
สดสทุ ธิจากกจิ กรรมดาเนินงานกบั เงินสดทจ่ี ่ายคนื ภาระหนส้ี นิ ระยะยาวในงวดน้ัน

- หากเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงานมากกว่าเงินสดจ่ายคืนเงินกู้ หรือภาระ
หนี้สินในงวดนน้ั
แสดงว่าผู้บริหารสามารถสร้างเงินสดข้ึนเองภายในกิจการเพียงพอสา หรับการ
จ่ายคืนภาระหนส้ี ิน ส่งผลให้กิจการมีความเสย่ี งน้อยในการจัดหาเงิน

- แต่หากเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดาเนินงานน้อยกว่าเงินสดจ่ายคืนเงินกู้ หรือ
ภาระหน้ีสินในงวดนั้น แสดงว่าความสามารถในการสร้างเงินสดข้ึนเองภายใน
กิจการไม่เพียงพอสาหรับการจ่ายคืนภาระหนี้สิน ส่งผลให้กิจการมีความเสี่ยง
มากในการจดั หาเงนิ (ดูภาพที่ 3.4)

บทท่ี 3 งบการเงินของธุรกิจประกนั วินาศภยั

78

ภาพที่ 3.4 งบกระแสเงนิ สด

บริษัท xxx ประกันภัย จากดั (มหาชน)
งบกระแสเงินสด

หน่วย: บาท

สาหรบั ปี
ส้นิ สดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม

2563 2562

กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดาเนนิ งาน 761,345,184 779,161,475
1 เบีย้ ประกนั ภัยรบั (2,217,116) (1,800,629)
2 เงนิ สดจ่ายเก่ยี วกบั การประกนั ภัยตอ่ 11,745,522 11,059,942
3 ดอกเบี้ยรบั 12,572,972 15,947,461
4 เงินปนั ผลรบั
5 รายได้จากการลงทุนอน่ื 26 233
6 รายไดอ้ น่ื 2,789,008 4,202,093
7 ค่าสินไหมทดแทน (430,721,123) (478,729,683)
8 คา่ จ้างและค่าบาเหนจ็ (120,884,377) (123,679,928)
9 ค่าใชจ้ า่ ยในการรับประกนั ภยั อ่ืน (60,952,414) (71,054,787)
10 คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งาน (88,424,517) (85,226,416)
11 ค่าใช้จา่ ยอน่ื
12 ภาษีเงินได้จ่าย (65) (140)
13 เงนิ สดรับ - สินทรัพยท์ างการเงิน (4,099,542) (7,855,709)
14 เงนิ สดจ่าย - สินทรัพยท์ างการเงนิ 604,214,524 572,656,119
15 กระแสเงินสดสุทธไิ ดม้ าจากกจิ กรรม (663,092,999) (591,541,666)

ดาเนินงาน 22,275,082 23,138,364
กระแสเงนิ สดจากกิจกรรมลงทุน
16 เงินสดรบั จากการขายอปุ กรณ์ 130,045 415,973
17 เงนิ สดจ่ายเพื่อซื้อทด่ี นิ อาคาร และอุปกรณ์ (5,251,210) (3,492,125)
18 เงนิ สดจ่ายเพ่ือซ้ือสนิ ทรัพยไ์ ม่มตี วั ตน (3,052,259)
19 กระแสเงนิ สดสุทธิใช้ไปในกจิ กรรมลงทนุ (632,591) (6,128,412)
(5,753,756)

บทท่ี 3 งบการเงนิ ของธรุ กิจประกนั วนิ าศภัย


Click to View FlipBook Version