The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บัญชีซื้อขายสินค้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chinathip199, 2022-04-01 23:49:21

บัญชีซื้อขายสินค้า

บัญชีซื้อขายสินค้า

หน่วยท่ี 2

ความรู้เบ้อื งตน้ เกย่ี วกบั ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ

แนวคดิ

ภาษีมูลค่าเพ่ิมเป็นภาษีทางอ้อมที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ซ้ือสินค้าหรือรับบริการ โดยจัดเก็บ
เฉพาะจากมูลค่าส่วนท่ีเพ่ิมขึ้นในแต่ละขั้นตอนของการผลิต การจาหน่ายหรือการให้บริการ
เน่ืองจากโครงสร้างภาษีการค้า มีความไม่เหมาะสม มีความซ้าซ้อนและความหลากหลายของ
โครงสร้างอตั ราภาษีกระทรวงการคลัง จึงได้เสนอพิจารณายกเลิกภาษีการค้า และนาภาษีมูลค่าเพ่ิม
มาใช้แทน ภาษีมูลค่าเพ่ิมจะมีอัตราเดียวท่ีใช้กับสินค้าและบริการทุกชนิด โดยเร่ิมมีการจัดเก็บ
ภาษีมลู คา่ เพ่ิมเปน็ ครั้งแรก ในวนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2535

สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของภาษีมูลคา่ เพิม่
2. ผมู้ หี น้าท่ีเสยี ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม
3. ผปู้ ระกอบการท่ีไมต่ อ้ งจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
4. หน้าท่ขี องผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ชาระภาษี
5. สถานทจ่ี ดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพ่ิม
6. อัตราภาษมี ลู คา่ เพ่มิ
7. ใบกากับภาษี
8. การคานวณภาษีมูลคา่ เพิม่
9. แบบแสดงรายการภาษมี ลู ค่าเพิ่ม
10. กาหนดเวลา สถานทย่ี น่ื แบบ และการชาระภาษี
11. รายงานท่ผี ูป้ ระกอบการต้องจัดทา

ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวัง

1. บอกความหมายของภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ได้
2. บอกผู้มีหน้าท่ีเสยี ภาษีมลู ค่าเพม่ิ ได้
3. บอกผูป้ ระกอบการท่ีไม่ต้องจดทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพ่มิ ได้
4. บอกหน้าที่ของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพิม่ ได้
5. บอกสถานทีจ่ ดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพมิ่ ได้
6. บอกและยกตัวอย่างใบกากบั ภาษีได้
7. บอกแบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ได้
8. จัดทารายงานตามท่ีกฎหมายกาหนดได้
9. บอกกาหนดเวลา สถานทีย่ น่ื แบบและการชาระภาษไี ด้
10. มีกจิ นิสัย มีระเบยี บ ละเอยี ด รอบคอบ ซอ่ื สตั ย์ มีวินัย ตรงต่อเวลา

และมเี จตคติทีด่ ตี อ่ วิชาชีพบัญชี

ความหมายของภาษมี ูลค่าเพมิ่

ภาษมี ูลค่าเพิม่ (Value Added Tax) หรือเรียกย่อๆ วา่ แวต (VAT) คือภาษีท่ีเรียกเก็บ
จากผ้ขู ายสนิ คา้ ผู้ผลิตสนิ คา้ และผู้ให้บรกิ ารในส่วนท่ีเพมิ่ ขึ้นภาษีมูลคา่ เพ่มิ ประกอบด้วย

1. ภาษีซื้อ (Input Tax) คือ ภาษีมูลค่าเพมิ่ ท่ีเกิดจากการซ้ือวัตถุดิบ/สินค้า/สินทรพั ย์
และ บริการต่างๆ จากกิจการทจี่ ดทะเบยี นเข้าสู่ระบบภาษมี ลู คา่ เพ่มิ

2. ภาษีขาย (Output Tax) คือ ภาษีมูลค่าเพิม่ ที่เกิดจากการขายวัตถุดิบ/สินค้าและ
บริการต่างๆ ของกจิ การทจ่ี ดทะเบยี นเขา้ สรู่ ะบบภาษมี ูลคา่ เพ่มิ

ความหมายของภาษีมลู ค่าเพมิ่

ผู้ประกอบการท่ีขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพเป็นปกติธุระ ไม่ว่าจะ
ประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดาคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญท่ีมิใช่นิติบุคคล
หรือนิติบุคคลใดๆ หากมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
มีหน้าท่ีต้องยื่นคาขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพ่ิมเพ่ือเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน โดยคานวณ
ภาษีท่ตี ้องเสยี จากภาษีขายหักดว้ ยภาษซี ้ือ

ผปู้ ระกอบการที่ไมต่ ้องจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ

1. ผปู้ ระกอบการท่มี รี ายรับจากการขายสนิ คา้ หรอื ให้บรกิ ารไมเ่ กนิ 1.8 ล้านบาทต่อปี
2. ผู้ประกอบการท่ีขายสนิ คา้ หรือใหบ้ รกิ ารท่ีไดร้ ับการยกเว้นภาษีมลู คา่ เพ่มิ ตามกฎหมาย
3. ผู้ประกอบการทใ่ี หบ้ ริการจากต่างประเทศ และไดม้ ีการใช้บรกิ ารนัน้ ในราชอาณาจักร
4. ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ
ในราชอาณาจักรเป็นครง้ั คราว ท้ังนี้ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเง่ือนไขท่ีกาหนดไว้ใน
ประกาศอธิบดกี รมสรรพากรเกี่ยวกบั ภาษีมูลคา่ เพ่ิม (ฉบับที่ 43) ลงวนั ท่ี 29 มกราคม พ.ศ. 2536
5. ผูป้ ระกอบการอน่ื ตามทอี่ ธิบดจี ะประกาศกาหนดเมื่อมีเหตุอันสมควร

หน้าท่ีของผู้ประกอบการท่ตี ้องจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่มิ

1. เรยี กเก็บภาษมี ลู คา่ เพม่ิ จากผู้ซอื้ สินคา้ หรอื ผู้รบั บรกิ าร
และออกใบกากับภาษเี พ่ือเป็นหลักฐานในการเรยี กเกบ็ ภาษีมูลค่าเพิ่ม

2. จดั ทารายงานตามทกี่ ฎหมายกาหนด ซงึ่ ได้แก่
(1) รายงานภาษซี อื้
(2) รายงานภาษขี าย
(3) รายงานสนิ คา้ และวัตถุดบิ

3. ยนื่ แบบแสดงรายการเพอื่ เสยี ภาษีตามแบบ ภ.พ.30

สถานทีจ่ ดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม่

การจดทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพม่ิ ของผู้ประกอบการให้ย่นื คาขอจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพ่ิม
ตามแบบ ภ.พ.01 ณ สถานทดี่ ังต่อไปนี้

1. กรณสี ถานประกอบการต้งั อยใู่ นเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยน่ื ณ สานักงานสรรพากรพ้นื ทีห่ รือสานักงานสรรพากรพนื้ ที่
สาขาในเขตท้องทท่ี ีส่ ถานประกอบการตั้งอยู่

2. กรณีสถานประกอบการตงั้ อยนู่ อกเขตกรงุ เทพมหานคร ให้ย่นื ณ สานกั งานสรรพากรพน้ื ทีส่ าขา (อาเภอ) ในเขตท้องที่
ท่สี ถานประกอบการตั้งอยู่ และกรณีสถานประกอบการตงั้ ในท้องทีอ่ าเภอหรอื ก่ิงอาเภอต้งั ใหม่ ทก่ี รมสรรพากรมไิ ด้จัด
อัตรากาลงั ไว้ให้ยนื่ ณ สานักงานสรรพากรพ้ืนท่สี าขา (อาเภอ) ทีเ่ คยควบคมุ พืน้ ท่ีเดิม ของอาเภอหรือกง่ิ อาเภอตง้ั ใหม่นั้น
กรณมี สี ถานประกอบการหลายแห่ง ให้ยนื่ คาขอจดทะเบียนได้ท่สี านกั งานสรรพากรในพ้ืนท่ี หรือสานกั งานสรรพากร
พนื้ ทสี่ าขา ในท้องที่ทีส่ ถานประกอบการอนั เปน็ ที่ตั้งของสานกั งานใหญเ่ พียงแห่งเดียว

3. กรณีสถานประกอบการทอ่ี ย่ใู นความกากบั ดแู ลของสานักบรหิ ารภาษีธรุ กิจขนาดใหญ่ใหย้ ื่น ณ สานกั บริหารภาษีธรุ กิจ
ขนาดใหญ่ หรือจะย่ืนผา่ นสานกั งานสรรพากรพ้นื ที่ หรอื สานักงานสรรพากรพนื้ ทสี่ าขาที่สถานประกอบการต้งั อยู่กไ็ ด้



อตั ราภาษีมูลคา่ เพ่มิ มี 2 อัตรา คอื อัตราภาษมี ูลคา่ เพ่มิ

1. รอ้ ยละ7เป็นอตั ราภาษีมลู คา่ เพ่มิ สาหรบั การขายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารทกุ ประเภท รวมท้งั การนาเข้า ซึ่ง

ไมอ่ ยู่ในขา่ ยยกเวน้ ภาษีมูลคา่ เพม่ิ ตามประมวลรษั ฎากร อตั ราน้ีได้รวมภาษที อ้ งถ่ินแล้ว (อัตรา

ภาษีมูลคา่ เพิม่ สาหรบั ประเทศไทยเดมิ ใชอ้ ตั รารอ้ ยละ 10 ปจั จุบนั อตั ราภาษีมูลค่าเพม่ิ ลดลงเหลือร้อย

ละ 7 เปน็ การชั่วคราว

2. รอ้ ยละ 0 เปน็ อตั ราภาษีมูลค่าเพ่ิมสาหรับการขายสินคา้ หรือบรกิ ารสาหรับการประกอบการ

ดังตอ่ ไปนี้

2.1 การส่งออกสินค้าตามมาตรา 81 (3) และตามคาสง่ั กรมสรรพากรที่

ป.33/2536 ลงวนั ท่ี 24 มถิ ุนายน 2536

2.2 การให้บรกิ ารขนส่งระหว่างประเทศโดยอากาศยานหรอื เรือเดนิ ทะเล

ท่ีกระทา โดยผูป้ ระกอบการทเ่ี ป็นนิติบคุ คลที่จดั ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

อัตราภาษีมูลคา่ เพ่มิ

2.3 การขายสินค้าหรือการให้บริการส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตามโครงการเงินกู้หรือเงิน
ช่วยเหลอื จากต่างประเทศ

2.4 การขายสินค้าหรือการให้บริการกับองค์การสหประชาชาติทบวงการชานัญพิเศษของ
สหประชาชาติ สถานเอกอคั รราชทูต สถานกงสลุ ใหญ่ สถานกงสลุ ตามทีอ่ ธิบดีกาหนด

2.5 การขายสินค้าหรอื การให้บริการระหว่างคลังสนิ ค้าทัณฑบ์ นด้วยกนั หรอื ระหวา่ ง
ผปู้ ระกอบการทปี่ ระกอบการอยู่ในเขตอตุ สาหกรรมสง่ ออก รวมทั้งการขายสนิ ค้า
หรอื ให้บรกิ ารระหว่างคลงั สินคา้ ทณั ฑบ์ นกับผปู้ ระกอบการทปี่ ระกอบกิจการ
อย่ใู นเขตอตุ สาหกรรมสง่ ออก

ใบกากับภาษี

ใบกากบั ภาษี (Tax Invoice) เปน็ เอกสารสาคญั ในระบบภาษีมลู คา่ เพิม่ และถือเป็นของคูก่ ันทุกครั้งท่ี
ผูป้ ระกอบการจาหนา่ ยสนิ คา้ หรือให้บริการแกล่ กู ค้า กจิ การจะต้องออกใบกากบั ภาษใี หแ้ ก่ลกู ค้าทันที
ถงึ แม้วา่ จะยงั ไมไ่ ด้รบั ชาระเงิน เพราะความรบั ผิดในการเสียภาษีมูลคา่ เพม่ิ จะเกดิ ขน้ึ ทันทีทมี่ ีการส่งมอบ
สินคา้ หรอื เม่ือได้รับชาระราคาค่าบรกิ าร และระมดั ระวังในการออกใบกากับภาษีใหถ้ กู ตอ้ ง เชน่ ชื่อ ทีอ่ ยู่
จานวนเงนิ เปน็ ต้น สว่ นผ้ซู ือ้ สนิ ค้าหรือผ้รู ับบรกิ ารกค็ วรเรยี กใบกากับภาษีจากผขู้ ายทันทีทีไ่ ด้รบั มอบ
สินค้าหรอื ไดร้ ับบริการ และควรเลือกซอ้ื วตั ถดุ บิ สนิ ค้า สนิ ทรัพยห์ รือรบั บริการ
จากกจิ การท่ีจดทะเบยี นเข้าสูร่ ะบบภาษีมูลค่าเพม่ิ

ใบกากบั ภาษี

มิเช่นน้ันกิจการจะไม่สามารถเรียกคืนภาษีมูลค่าเพ่ิมหรือขอคืนโดยวิธีเครดิตได้ ทาให้กิจการเสีย
ประโยชน์ เนื่องจากใบกากับภาษีเป็นเอกสารสาคัญ ดังน้ันเม่ือผู้ประกอบการออกใบกากับภาษีให้แก่
ลูกค้าแล้วจะต้องเก็บสาเนาไว้ในแฟ้ม เรียงตามลาดับวันที่ หรือในกรณีที่เป็นผู้รับใบกากับภาษีจากผู้อ่ืน
ก็จะตอ้ งตรวจสอบความครบถ้วนของรายการตามทกี่ ฎหมายกาหนดและเก็บตน้ ฉบับหรือสาเนาในกรณีท่ี
ใบกากับภาษีน้ันเป็นเอกสารออกเป็นชุดท่ีผู้ประกอบการออกร่วมกับเอกสารทางการค้าอื่น ไว้ในแฟ้ม
เรียงตามลาดบั วนั ท่เี ช่นกนั ใบกากับภาษีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั น้ี

1.ใบกากบั ภาษเี ต็มรปู

1) ใบกากับภาษแี บบเต็มรูป (Tax Invoice) คือเอกสารหลักฐานสาคัญท่ีผู้ประกอบการ
จดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ออกใหแ้ ก่
ผู้ซือ้ สนิ ค้าหรอื ผรู้ บั บรกิ ารใบกากับภาษี
แบบน้ีต้องมรี ายการครบถว้ นตาม
ท่กี รมสรรพากรกาหนด (มาตรา 86/4)
และใช้เป็นหลกั ฐานในการชาระ
หรอื เรยี กคืนภาษีมูลค่าเพ่มิ

2) ใบกากบั ภาษีอยา่ งย่อ (Abbreviation Tax Invoice)

หรอื เรยี กย่อๆ ว่า ABB Tax Invoice คอื ใบกากบั ภาษีทีอ่ อกโดยผู้ประกอบการที่

จาหนา่ ยสนิ ค้าในลักษณะขายปลีกหรอื ใหบ้ ริการรายยอ่ ยแก่บคุ คลจานวนมาก ใบกากับ
ภาษีอย่างยอ่ น้อี าจออกด้วยมอื หรือออกดว้ ย
เครือ่ งบันทึกเงนิ สด (Cash Register)
ใบกากบั ภาษแี บบนใี้ ช้เปน็ หลกั ฐานในการ
ชาระหรือเรยี กคืนภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ไมไ่ ด้
ดงั นั้นผซู้ ื้อสินคา้ หรอื ผู้รบั บริการตอ้ ง
แจง้ ความประสงค์ว่าต้องการใบกากับ
ภาษแี บบเตม็ รูป

เอกสารอนื่ ท่ีถอื เป็นใบกากบั ภาษี

01 02

ใบเพมิ่ หน้ี (Debit Note) ใบลดหนี้ (Credit Note) คอื ใบกากบั ภาษี
คือใบกากับภาษที ี่ออกเพ่มิ เตมิ ที่ออกเพมิ่ เตมิ ในกรณที ่ีต้องลดหนโ้ี ดยอาจ
ในกรณีที่ต้องเพิ่มหน้โี ดยอาจคานวณจานวน คานวณจานวนเงินผิดหรือตอ้ งการ
เงินผิดหรือนับจานวนสนิ คา้ ผิด ลดราคาสินคา้ ใหล้ ูกค้า เน่อื งจากสินคา้ ชารดุ
หรือมีการสง่ คืนสินค้า
03
04
ใบเสรจ็ รบั เงิน
ที่สว่ นราชการออกให้ในการขายทอดตลาด ใบเสรจ็ รับเงนิ ของกรมสรรพากร
กรมศุลกากร หรือกรมสรรพสามิต เฉพาะสว่ นทเี่ ป็น
ภาษีมูลคา่ เพ่ิม คือใบเสร็จรบั เงินค่ามลู คา่ เพม่ิ ทีไ่ ดร้ บั
จากกรมสรรพากรตามมาตรา 83/5 และ 83/6
และใบเสรจ็ รบั เงินท่ีไดร้ ับจากกรมศลุ กากร
ในกรณีนาเขา้ สนิ คา้



การคานวณภาษมี ลู ค่าเพิ่ม

เ ม่ื อ ถึ ง วั น ส้ิ น เ ดื อ น ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร จ ะ ต้ อ ง ค า น ว ณ ภ า ษี มู ล ค่ า เ พ่ิ ม
และนาสง่ ภายในกาหนดเวลา การคานวณภาษีมลู ค่าเพม่ิ แยกเป็น 2 กรณี ดงั นี้

1. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละ 7 ให้คานวณภาษีซ้ือ
และภาษีขายประจาเดือน โดยดูจากบัญชีภาษีซ้ือและภาษีขายหรือจากรายงานภาษีซ้ือ
และภาษขี ายและหาผลต่าง

ถ้า ภาษีซื้อ > ภาษขี าย จะได้รบั คืน
ถา้ ภาษซี ือ้ < ภาษีขาย จะตอ้ งชาระเพม่ิ

หมายเหตุ

ภาษซี ้ือบางรายการไม่สามารถนาไปหกั จากภาษขี าย เช่น
• ไมม่ ใี บกากับภาษีหรือใบกากบั ภาษีขาย
• ใบกากับภาษชี ารดุ ในส่วนทเ่ี ป็นสาระสาคัญ หรอื มีการแกไ้ ข
• ใบกากับภาษแี สดงช่ือผซู้ ้ือหรือผจู้ ่ายเงินไม่ถูกตอ้ ง
• ภาษซี อื้ ท่ีเกดิ จากรายการทไี่ ม่เก่ียวขอ้ งโดยตรงกับกจิ การ เช่น
รายจา่ ยสว่ นตวั ค่าน้ามันรถผูจ้ ัดการ ค่ารับรองลูกคา้
ในส่วนที่เกินจากทีส่ รรพากรกาหนด
• ภาษีซือ้ ท่เี กดิ จากการซอ้ื /เชา่ ซ้ือหรือรบั โอนรถยนตน์ ง่ั
• /โดยสารท่ีมีทนี่ ั่งไมเ่ กนิ 10 คน

ตวั อยา่ งท่ี 1 ร้านศรรามค้าขายมยี อดซื้อสินค้าปประจาเดือนเมษายน 25X1
จานวน 45,000 บาทยอดขายสนิ คา้ จานวน 56,000 บาท
อัตราภาษีมูลคา่ เพ่มิ 7%

ให้ทา 1. คานวณภาษีซอื้
2. คานวณภาษีขาย
3. คานวณจานวนเงินทต่ี อ้ งชาระเพ่มิ /ไดร้ บั คนื

ภาษซี ื้อเทา่ กบั 45,000 x 7% = 3,150 บาท
ภาษีขายเท่ากบั 56,000 x 7% = 3,920 บาท
รา้ นศรรามคา้ ขายตอ้ งชาระหน้ีภาษีมูลคา่ เพิม่ เท่ากบั 3,920 – 3,150 = 770 บาท

ตวั อย่างท่ี 2 ในเดือนมีนาคม 25X1 รา้ นเตา๋ บรกิ าร จ่ายค่าวสั ดุสน้ิ เปลอื ง
และคา่ ใชจ้ ่ายต่างๆทีเ่ สียภาษมี ลู คา่ เพ่ิมเป็นเงนิ 65,400 บาท
รายได้คา่ บรกิ าร มจี านวน 56,000 บาทอตั ราภาษีมลู คา่ เพม่ิ 7%

ใหท้ า 1. คานวณภาษซี ือ้
2. คานวณภาษีขาย
3. คานวณจานวนเงนิ ทีต่ อ้ งชาระเพิ่ม/ไดร้ ับคืน

ภาษีซื้อเท่ากบั 65,000 x 7% = 4,578 บาท
ภาษีขายเทา่ กับ 56,000 x 7% = 3,920 บาท
รา้ นศรรามค้าขายต้องชาระหนภ้ี าษมี ูลคา่ เพม่ิ เทา่ กบั 4,578 – 3,920 = 658 บาท

2. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิ่มในอัตรารอ้ ยละ 0 ให้คานวณ
ในอตั ราร้อยละ 0 ซ่ึงจะส่งผลทาให้ภาษีขายเท่ากับ 0 และคานวณภาษซี อ้ื
อัตรารอ้ ยละ 7 ดังนน้ั ภาษีซ้ือจะมยี อดมากกว่าภาษีขาย ซง่ึ มีผลทาให้
ผูป้ ระกอบการไดร้ ับคืนภาษี

ตวั อย่างท่ี 3 ผปู้ ระกอบการรายหน่งึ ซื้อเสื้อผา้ สาเรจ็ รูปมาจาหน่ายในราคา 30,000 บาท
ภาษมี ูลค่าเพ่มิ 7% และสง่ ออกไปจาหนา่ ยในต่างประเทศ
ในราคา 42,000 บาท ภาษมี ูลคา่ เพิม่ 0%

ให้ทา 1. คานวณภาษซี ้ือ
2. คานวณภาษีขาย
3. คานวณจานวนเงนิ ท่ีต้องชาระเพิม่ /ไดร้ บั คนื

ภาษซี อ้ื = 30,000 x 7% = 2,100 บาท
ภาษีขาย = 42,000 x 0% = 0 บาท
จานวภาษที จ่ี ะไดร้ ับคนื = 2,100 – 0 = 2,100 บาท

แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพม่ิ มีรายละเอียดดังน้ี

ลาดับ ชอ่ื ย่อ ช่อื เต็ม ผู้มีหนา้ ที่ย่ืนแบบ

1 ภ.พ. 30 แบบแสดงรายการ แบบ ภ.พ.30 น้ี เปน็ แบบแสดงรายการสาหรบั ผปู้ ระกอบการ ซึ่งจด
ภาษีมูลคา่ เพ่มิ ตาม ทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิม่ แลว้ และเปน็ ผ้ปู ระกอบการทีต่ อ้ งเสยี ภาษี โดย
ประมวลรัษฎากร คานวณจากภาษขี ายหกั ดว้ ยภาษีซือ้ ในแต่ละเดอื นภาษี ทง้ั นี้ ไมว่ ่า
ผปู้ ระกอบการนน้ั จะประกอบการในรปู ของบคุ คลธรรมดา คณะบุคคล
หา้ งหุน้ สว่ นสามัญ กองมรดก บริษัทหรือหา้ งหุ้นส่วนนิตบิ คุ ล องค์การ
ของรฐั บาล หรอื นิตบิ ุคคล ในรูปแบบใดกต็ าม ใชย้ ืน่ แสดงรายการเปน็
รายเดอื นภาษี ผู้ประกอบการที่มสี ถานประกอบการหลายแหง่ จะมีความ
ประสงค์ จะขอยน่ื แบบ ภ.พ.30 และชาระภาษมี ูลค่าเพ่มิ ร่วมกนั ก็ทาได้
โดยตอ้ ง ขออนมุ ัตติ อ่ กรมสรรพากรกอ่ น และเม่อื ได้รบั อนมุ ตั ิจาก
กรมสรรพากรแลว้ จงึ จะยน่ื แบบและชาระภาษรี ่วมกันได้ ในกรณีน้ใี ห้
ผปู้ ระกอบการย่ืนแบบ ภ.พ.30 เพยี งฉบบั เดยี วพรอ้ มกบั ใบแนบตามที่
กรมสรรพากรกาหนด

แบบแสดงรายการภาษมี ูลคา่ เพมิ่ มรี ายละเอยี ดดงั นี้

ลาดบั ช่ือย่อ ชอื่ เต็ม ผูม้ ีหนา้ ทยี่ นื่ แบบ

2 ใบแนบ ภ.พ. ใบแนบ ภ.พ. 30 (ใชค้ กู่ บั ภ.พ.30 ในกรณีทผี่ ปู้ ระกอบการมสี ถานประกอบการ หลายแห่ง
30 รายละเอยี ดภาษี ขาย และมคี วามประสงคจ์ ะยืน่ แบบร่วมกัน)
และภาษีซือ้ ของสถาน
ประกอบการแต่ละแห่ง

3 ภ.พ. 30.2 แบบแสดงรายการ แบบ ภ.พ.30.2 นี้ เป็นแบบแสดงรายการสาหรับผู้ประกอบการ จด
ภาษมี ูลค่าเพ่ิม กรณี ทะเบียนที่เสยี ภาษีมลู คา่ เพม่ิ โดยคานวณจากภาษีขายหักด้วยภาษซี ้อื ใน
ปรับปรุงภาษซี ้อื ท่เี ฉล่ยี แตล่ ะเดือนภาษีใช้ย่ืนปรับปรุงภาษซี ้อื ทเ่ี ฉลี่ยตามส่วนของรายได้ ซ่ึง
ตามส่วนของรายได้ เปน็ ไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรทเี่ ก่ยี วกับภาษมี ูลคา่ เพ่มิ (ฉบบั ท่ี
29) กรณผี ูป้ ระกอบการฯ ประกอบกจิ การท้งั ประเภททีต่ อ้ งเสยี
ภาษีมูลคา่ เพ่ิมและประเภทไม่ต้องเสยี ภาษีมลู คา่ เพมิ่ ได้จ่ายภาษซี ้อื เพ่อื
ใชใ้ นกจิ การท้งั สองประเภทซึง่ ไมส่ ามารถแยกไดอ้ ยา่ งชัดแจง้ วา่ เปน็ ภาษี
ซ้ือ ของประเภทใด และไดเ้ ฉลี่ยภาษีซอ้ื ตามสว่ นของรายไดข้ องแต่ละ
กจิ การแล้ว ให้ผู้ประกอบการทีป่ รับปรงุ ภาษซี อ้ื ดงั กลา่ วข้างตน้ ย่ืนแบบ
ภ.พ.30.2 น้ีเพิ่มขึ้นอกี 1 ฉบบั แยกต่างหากเป็น ภ.พ.30 ทต่ี อ้ งยน่ื
ตามปกติ

แบบแสดงรายการภาษีมลู คา่ เพมิ่ มรี ายละเอียดดังน้ี

ลาดบั ชื่อยอ่ ช่อื เต็ม ผมู้ หี น้าท่ยี ่นื แบบ

4 ภ.พ. 30.3 แบบแสดงรายการ แบบ ภ.พ.30.3 น้ี เปน็ แบบแสดงรายการสาหรับผ้ปู ระกอบการ จด

ภาษีมูลค่าเพ่มิ กรณี ทะเบียนที่เสยี ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ โดยคานวณจากภาษีขายหกั ดว้ ยภาษซี ื้อ ใน

ปรับปรงุ ภาษซี ือ้ ทเี่ ฉล่ีย แตล่ ะเดอื นภาษี ใชย้ ืน่ ปรับปรุงภาษซี ื้อท่เี ฉลย่ี ตามสว่ นของการใช้ พน้ื ที่

ตาม สว่ นของการใช้ อาคาร ซ่ึงเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกย่ี วกับ

พืน้ ทอ่ี าคาร ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ (ฉบบั ที่29) กรณภี าษีซื้อนนั้ เกดิ จาการก่อสรา้ งอาคาร เพื่อ

ใช้ในงานประกอบกจิ การของตนเองซึ่งเป็นกิจการประเภททต่ี ้อง เสีย

ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ และเพอื่ การอนื่ ใหผ้ ปู้ ระกอบการทีต่ อ้ งปรับปรงุ ภาษซี อื้

ดังกลา่ วตอ้ งยน่ื แบบ ภ.พ.30.3 แยกต่างหากจากแบบ ภ.พ.30 ท่ีต้องย่นื

ตามปกติ

แบบแสดงรายการภาษีมูลคา่ เพมิ่ มีรายละเอียดดงั นี้

ลาดับ ชอ่ื ย่อ ชอ่ื เตม็ ผู้มหี น้าทย่ี น่ื แบบ

5 ภ.พ. 36 แบบนาส่งภาษีมลู ค่า 1.ผู้จา่ ยเงินท่ีจ่ายคา่ ซื้อสินคา้ หรอื ค่าบริการให้แก่ (ก) ผปู้ ระกอบการทอ่ี ยู่
เพ่ิม ตามประมวล นอกราชอาณาจกั ร ซ่ึงได้เข้ามา ประกอบกจิ การขายสินค้าหรอื ใหบ้ ริการ
รษั ฎากร ในราชอาณาจักรเปน็ การชวั่ คราว และไมไ่ ดจ้ ดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่ิม
เป็นการชั่วคราว หรอื (ข) ผปู้ ระกอบการที่ไดใ้ ห้บรกิ ารในต่างประเทศ
และได้มี การใช้บริการนัน้ ในราชอาณาจกั ร หรือ (ค) ผู้ประกอบการอน่ื
ตามทก่ี าหนดโดยพระราชกฤษฎกี า (ปจั จบุ ันยังไม่ก าหนด)
2. ผรู้ ับโอนสนิ ค้าหรอื ผูร้ ับโอนสทิ ธใิ นบริการท่ีไดเ้ สยี ภาษมี ูลค่าเพิ่มใน
อตั ราร้อยละ 0 ได้แก่ การรับโอนสนิ ค้าหรือรับโอน สทิ ธิในการบรกิ าร ท่ี
ได้มกี ารขายหรือใหบ้ ริการกับองคก์ ารสหประชาชาติ ทบวงการชานัญ
พเิ ศษของสหประชาชาติ สถานเอกอคั รราชทูต สถานทูต สถานกงสุลใหญ่
สถานกงสุล ทัง้ น้ี เฉพาะการขายสนิ ค้าหรอื การ ให้บรกิ ารที่เป็นไปตาม
หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเง่อื นไขทอี่ ธบิ ดกี าหนด
3. ผทู้ อดตลาดซ่งึ ขายทอดตลาดทรัพย์สนิ ของผปู้ ระกอบการ จดทะเบียน
หรือส่วนราชการ ซงึ่ ขายทรพั ยส์ ินของผปู้ ระกอบการ จดทะเบยี นทถี่ ูกยึด
ตามกฎหมายโดยวธิ อี ่ืนนอกจากการขายทอดตลาด









กาหนดเวลา
สถานท่ยี ืน่ แบบและการชาระภาษี

1. กาหนดเวลาย่ืนแบบ ผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 พร้อมชาระภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี)
เป็นรายเดือน ทุกเดือนภาษี ไม่ว่าจะมีการขายสินค้าหรือให้บริการในเดือนภาษีนั้นหรือไม่ก็ตาม โดยให้ยื่น
แบบภายใน วันท่ี 15 ของเดือนถัดไป ในกรณีผู้ประกอบการมีสถานประกอบการหลายแห่ง ให้แยกยื่น
แบบแสดงรายการภาษี และชาระภาษีเป็นรายสถานประกอบการ เว้นแต่ได้ยื่นคาร้องขออนุมัติยื่นแบบ
แสดงรายการภาษีและ ชาระภาษีรวมกัน (ภ.พ.02) เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรแล้ว ก็สามารถ
ยน่ื แบบ ภ.พ.30 รวมกนั ไดต้ ัง้ แตเ่ ดือนภาษที ่อี ธบิ ดีกาหนดเปน็ ตน้ ไป
2. สถานท่ียื่นแบบ กรณีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สานักงานสรรพากร
พ้ืนท่ี สาขา (เขต/อาเภอ) ในท้องท่ีท่ีสถานประกอบการตั้งอยู่ กรณีสถานประกอบการต้ังอยู่นอกเขต
กรุงเทพมหานคร ให้ยน่ื ณ สานกั งานสรรพากรพ้ืนท่ี สาขา (อาเภอ) ในท้องที่ท่สี ถานประกอบการต้งั อยู่
3. การชาระภาษี 3.1 ชาระเป็นเงินสด 3.2 ชาระด้วยเช็คขีดคร่อม ส่ังจ่ายแก่กรมสรรพากร
โ ด ย ขี ด ฆ่ า ค า ว่ า ผู้ ถื อ แ ล ะ / ห รื อ ต า ม ค า สั่ ง ก า ร ย่ื น แ บ บ แ ส ด ง ร า ย ก า ร แ ล ะ ช า ร ะ ภ า ษี
สามารถยื่นผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้(ดูรายละเอียด เพ่ิมเติมได้ท่ี http://www.rd.go.thในหัวข้อ
บริการยื่นแบบผ่านอนิ เทอร์เน็ต)

รายงานทผี่ ูป้ ระกอบการตอ้ งจัดทา

รายงานทผ่ี ปู้ ระกอบการตอ้ งจัดทาตามทก่ี ฎหมายกาหนด ซ่งึ ได้แก่
1. รายงานภาษีซอื้ (Input Tax Report)
2. รายงานภาษีขาย (Output Tax Report)
3. รายงานสินคา้ และวตั ถดุ ิบ
(Goods and Raw materials Report)











ตวั อย่างท่ี 4 ต่อไปนเี้ ปน็ รายการซือ้ ขายสนิ คา้ ระหว่างเดือนกนั ยายน 25X1 ของ
ร้านเล้งนาฬกิ า
ซึ่งเปน็ ของนายเล้ง เก่งค้าขาย สานักงานใหญ่ ต้งั อยู่ท่ี 11 ถนนดินแด
เขตหว้ ยขวาง กทม. 10400 ของเลขประจาตัวผ้เู สยี ภาษีอาการ
1020304050607

ให้ทา 1. รายงานภาษีซือ้
2. รายงานภาษีขาย

25X1

ก.ย. 1. ซ้ือสินคา้ จากบริษทั เทย่ี งตรง จากัด ราคา 50,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ใบกากบั ภาษเี ลขท่ี 007
5. ขายสนิ ค้าให้รา้ นตลาดนัดนาฬกิ า ราคา 30,000 บาท ภาษีมลู คา่ เพม่ิ 7% ใบกากบั ภาษีเลขท่ี 09/01
10. ขายสนิ คา้ ใหร้ ้านตรงเวลาพาณิชย์ ราคา 15,000 บาท ภาษมี ลู คา่ เพมิ่ 7% ใบกากับภาษีเลขท่ี 09/02
15. ซื้อสินค้าจากหา้ งห้นุ ส่วนจากัด วนั เวลา ราคา 40,000 บาท ภาษมี ลู ค่าเพิ่ม 7% ใบกากับภาษเี ลขที่ 1201
20. ซ้อื สินคา้ จากบริษทั เทย่ี งตรง จากัด ราคา 24,000 บาท ภาษมี ูลคา่ เพม่ิ 7% ใบกากับภาษีเลขท่ี 015
25. ขายสนิ ค้าใหร้ า้ นซอื่ สัตยพ์ าณิชย์ ราคา 7,000 บาท ภาษีมูลคา่ เพิม่ 7% ใบกากับภาษเี ลขท่ี 09/03
30. ซอ้ื สินคา้ จากหา้ งห้นุ ส่วนจากัด วันเวลา ราคา 10,000 บาท ภาษมี ูลคา่ เพิม่ 7% ใบกากบั ภาษีเลขท่ี 1215

ขอ้ มลู เพ่มิ เติม :
ผู้ขายสินคา้ /ผใู้ หบ้ รกิ าร

ลาดับ ช่ือผูข้ ายสินค้า/ผใู้ ห้บริการ เลขประจาตวั ผู้เสยี ภาษีอากรของผ้ขู าย สถานประกอบการ หมายเหตุ
สนิ คา้ /ผูใ้ หบ้ รกิ าร หมายเหตุ
1 บริษทั เท่ียงตรง จากัด สานักงานใหญ่ สาขาท่ี
2 หา้ งหุน้ สว่ นจากดั วนั เวลา 0105454545454
3 บรษิ ทั เทยี่ งตรง จากดั 0107676767676 
4 ห้างห้นุ ส่วนจากัดวนั เวลา 0105454545454
0107679797979 


00001

ผู้ซือ้ สนิ ค้า/ผรู้ ับบริการ

ลาดบั ชื่อผขู้ ายสินคา้ /ผใู้ หบ้ ริการ เลขประจาตัวผเู้ สียภาษอี ากรของผขู้ าย สถานประกอบการ
สนิ คา้ /ผใู้ หบ้ ริการ
1 รา้ นตลาดนดั นาฬิกา สานกั งานใหญ่ สาขาที่
2 ร้านตรงเวลาพาณิชย์ 0119898989898
3 รา้ นซื่อสัตยพ์ าณิชย์ 0113636363636 
0105454545454 00002







กรณีทผ่ี ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นย่นื แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพ่มิ ไว้ไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถ้วน ไมว่ า่ การคลาดเคลือ่ นน้นั จะเปน็ เหตุใหจ้ านวนภาษีในเดือนภาษีเปล่ยี นแปลง
ไปหรอื ไม่ ก็ตาม จะย่ืนแบบ แสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิ่ม เพิ่มเติมไดอ้ กี พรอ้ มกบั ชาระ
ภาษี (ถ้ามี) ใหถ้ ูกต้องครบถว้ น ณ หน่วยงาน ทไี่ ด้ยื่นแบบแสดงรายการภาษมี ูลคา่ เพม่ิ ไว้
ก่อน

หนว่ ยท่ี 3

การบนั ทกึ รายการเกย่ี วกบั การซอ้ื ขายสินค้า
สาหรบั กิจการทไ่ี ม่จดทะเบียน
และจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพิ่ม

แนวคิด ในกรณีที่กิจการค้าเป็นกิจการขนาดเล็ก อาจใช้สมุดบันทึกรายการขั้นต้น
เล่มเดียวคือสมุดรายวันท่ัวไป บันทึก รายการทุกรายการที่เกิดขึ้น
ในกิจการ การบันทึกรายการจะแยกเป็นกรณีท่ีกิจการไม่จดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่มและจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนวิธีการบันทึกบัญชี
เก่ียวกับสินค้านั้นมี 2 วิธี คือ วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าเมื่อสิ้นงวด
หรือ เม่ือตรวจนับ (Periodic Accounting System) และวิธีการบันทึก
บญั ชีสินค้าแบบต่อเน่ือง (Perpetual Accounting System)รายละเอียด
จะกล่าวในหน่วยถัดไป ในที่น้ีจะใช้วิธีการบันทึกบัญชีสินค้าเมื่อสิ้นงวด
หรือเมอ่ื ตรวจนบั ซึ่งเปน็ วธิ ที น่ี ิยมิ ใชโ้ ดยทว่ั ไป

สาระการเรยี นรู้

1. การบันทกึ รายการกรณไี ม่จดทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพิม่
2. การบนั ทกึ รายการกรณีจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพมิ่

ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั

1. การบันทึกรายการกรณีไม่จดทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพ่มิ ได้
2. การบันทกึ รายการกรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพมิ่ ได้
3. มีกิจนสิ ัย มรี ะเบียบ ละเอยี ด รอบคอบ ซ่อื สัตย์

มีวินยั ตรงตอ่ เวลา และมเี จตคติที่ดีตอ่ วชิ าชพี บัญชี

การบนั ทึกรายการกรณีไมจ่ ดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพ่ิม จะไมม่ ีบญั ชที เี่ กี่ยวกบั ภาษมี ลู คา่ เพ่ิม
มาเกี่ยวขอ้ งเชน่ ภาษซี ื้อ ภาษขี าย ลกู หน้ี-กรมสรรพากร เจา้ หนี้-กรมสรรพากร ฯลฯ
การบนั ทึกรายการในสมดุ รายวนั ท่ัวไปเปน็ ดงั นี้

วธิ กี ารบันทกึ บญั ชีการบันทึกบัญชีเปน็ ดงั น้ี

การบนั ทึกรายการกรณีไมจ่ ดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพ่มิ

รายการคา้ การบันทึกบัญชี

1. เมอ่ื ซ้อื สินคา้ เปน็ เงนิ สด ซ้อื สนิ คา้ XX
เงนิ สด XX

2. เมอ่ื สง่ คนื สนิ คา้ จากการซอ้ื เงินสด เงินสด XX
สง่ คืนสนิ ค้า XX

3. เมอ่ื ซ้ือสนิ ค้าเปน็ เงินเชื่อ ซ้ือสินค้า XX
เจา้ หน้กี ารค้า XX

4. เมือ่ สง่ คนื สินค้าจากการซื้อเปน็ เงินเชื่อ เจ้าหน้ีการค้า XX
สง่ คนื สินคา้ XX

5. เมือ่ ชาระหนี้ให้เจา้ หนี้ เจา้ หน้ีการคา้ XX
เงินสด XX

การบนั ทกึ รายการกรณีไม่จดทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพ่มิ จะไม่มีบัญชที ่ีเก่ียวกบั ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม
มาเกย่ี วขอ้ งเช่น ภาษซี ้อื ภาษขี าย ลูกหนี้-กรมสรรพากร เจา้ หนี้-กรมสรรพากร ฯลฯ
การบันทึกรายการในสมุดรายวันทวั่ ไปเป็นดังน้ี

วธิ กี ารบนั ทกึ บัญชกี ารบันทึกบญั ชเี ปน็ ดงั น้ี

การบันทึกรายการกรณไี มจ่ ดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ

รายการค้า การบันทกึ บัญชี

6. เม่ือชาระหนแ้ี ละได้สว่ นลด เจา้ หนี้การค้า XX
เงินสด XX
ส่วนลดรับ XX

7. เมือ่ จา่ ยคา่ ขนสง่ เขา้ ค่าขนสง่ เข้า XX
เงินสด XX

8. เมอ่ื จ่ายคา่ ขนสง่แทนกรณีซื้อสนคิ า้ เปน็ เงนิ สด ลกู หน้กี ารค้า XX
เงนิ สด XX

9. เมอ่ื จา่ ยคา่ ขนสง่แทนกรณีซ้อื สนคิ า้ เปน็ เงนิ เชื่อ เจ้าหนกี้ ารคา้ XX
เงินสด XX

10. เมือ่ ขายสินคา้ เปน็ เงนิ สด เงินสด XX
ขายสินค้า XX

การบันทึกรายการกรณไี ม่จดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่มิ

รายการค้า การบนั ทกึ บญั ชี
11. เมื่อรบั คนื สินคา้ เปน็ เงินสด
รบั คนื สินค้า XX
12. เมื่อรับคืนสินคา้ เปน้ เงนิ เชื่อ เงินสด XX
ไมม่ กี ารบนั ทกึ ตน้ ทนุ ขาย
13. เมอ่ื รับชาระหนจ้ี ากลูกหน้ี-ไมใ่ ห้ส่วนลด
14. เมื่อรบั ชาระหนจ้ี ากลูกหน้ี-ใหส้ ่วนลด รับคืนสนิ คา้ XX
ลูกหนี้การค้า XX
15. เมอ่ื จา่ ยค่าขนสง่ ออก ไมม่ กี ารบนั ทกึ ตน้ ทุนขาย
16. เมอื่ จา่ ยค่าขนสง่ แทน กรณีขายสนิ ค้าเป็นเงินสด/เงินเช่ือ
เงนิ สด XX
ลูกหน้ีการค้า XX

เงินสด XX
ส่วนลดจ่าย XX

ลูกหนก้ี ารค้า XX

ต่าขนส่งออก XX
เงนิ สด XX

ลูกหน้กี ารค้า XX
เงนิ สด XX


Click to View FlipBook Version