The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by eak atom, 2023-05-24 08:52:19

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

โครงสร้างหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ รหัส กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม เวลาเรียน (ชม./ภาคเรียน) หน่วยกิต รายวิชาพื้นฐาน (4๔0) (๑๑.๐) ท21101 ภาษาไทย 1 60 1.5 ค21101 คณิตศาสตร์ 1 60 1.5 ว21101 วิทยาศาสตร์ 1 60 1.5 ว21103 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 20 0.5 ส21101 สังคมศึกษา 1 60 1.5 ส21103 ประวัติศาสตร์ 1 20 0.5 พ21101 สุขศึกษา 1 20 0.5 พ21103 พลศึกษา 1 20 0.5 ศ21101 ทัศนศิลป์ 1 20 0.5 ศ21103 ดนตรี นาฎศิลป์ 1 20 0.5 ง21101 การงานอาชีพ 1 20 0.5 อ21101 ภาษาอังกฤษ 1 60 1.5 รายวิชาเพิ่มเติม (100) (2.5) ว21201 คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม 1 40 1.0 ศ21201 จิตรกรรม 1 20 0.5 ศ212๐1 ดนตรีเพิ่มเติม 1 20 0.5 ง21201 งานเชื่อมโลหะเบื้องต้น 20 0.5 รายวิชาบูรณาการ การป้องกันทุจริต - - กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (60) แนะแนว 20 กิจกรรมนักเรียน • ลูกเสือ เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ • ชุมนุม 20 15 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 5 รวมเวลาเรียนทั้งหมด 600 ชั่วโมง/ภาคเรียน


คําอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ท 21101 ภาษาไทย 1 กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง 1.5 หนวยกิต ฝกทักษะการอาน การฟง การดู การพูด การเขียน และประเมินคาวรรณคดี วรรณกรรม โดยการศึกษากา รอานออกเสียงรอยแกว บทรอยกรอง อานจับใจความจากเรื่องเลาจากประสบการณ นิทาน วรรณคดีในบทเรียน อานตีความเอกสารทางวิชาการที่มีคําศัพทเฉพาะวงการที่ตองทําความเขาใจความหมาย อานตีความเอกสารคูมือ มีมารยาทในการอาน และการเขียน การสรางคํา ชนิดและหนาที่ของคําในประโยค การเขียนเรียงความ เขียน แสดงความคิดเห็นจากบทความ ขาว และเหตุการณประจําวัน และประเมินความนาเชื่อถือจากสื่อ วิเคราะห ประเมินคา และขอคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม เรื่องนิราศภูเขาทอง เรื่องราชาธิราชตอน สมิงพระราม ทองจําบทอาขยานตามกําหนด และบทรอยกรองที่มีคุณคาตามความสนใจ โดยใชกระบวนการอาน กระบวนการฟงการดู การพูด กระบวนการเขียน เขียนสื่อสารสรางสรรคความรู และความคิดเพื่อนําไปใชตัดสินใจ แกปญหาในการดําเนินชีวิต เพื่อใหเขาใจธรรมชาติของภาษา ภูมิปญญาทาง ภาษา เลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรูความคิด ความรูสึกในโอกาสตาง ๆ อยางมี วิจารณญาณ แสดงความคิดเห็นและวิเคราะหวรรณคดีและวรรณกรรมไทยเพื่อใหเห็นคุณคาของภาษาไทย ใฝเรียนรูอยูอยางพอเพียง มีวินัย มีนิสัยรักการอาน การเขียน มีมารยาทในการอาน การฟง การดู มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/1, ม.1/2 ,ม.1/3, ม.1/8, ม.1/9 ท 2.1 ม.1/1, ม.1/4, ม.1/6, ม.1/9 ท 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/6 ท 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ท 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/5 รวม ๕ มาตรฐาน 18 ตัวชี้วัด


กำหนดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๑๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๖๐ ชั่วโมง สัดส่วนคะแนน ระหว่างเรียน : กลางภาค : ปลายภาค = 70 : 15 : 15 ลำดับ ที่ หน่วยการเรียนรู้ที่ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก (คะแนน) 1 การอ่าน -อ่านออกเสียง - อ่านในชีวิตประจำวัน ท ๑.๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ศึกษาหลักเกณฑ์ทางภาษาด้านการ อ่าน ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงร้อย แก้วที่เป็นบทบรรยาย การอ่านบท ร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะจากการ อ่านเพื่อนำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ต้องจับใจความสำคัญ ของเรื่องที่อ่าน ระบุเหตุและผล ข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ อ่าน ตีความคำยาก ปฏิบัติตามคู่มือ แนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือ หรือเครื่องใช้ วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับ จากการอ่านงานเขียนอย่าง หลากหลาย และมีมารยาทในการ อ่าน ๑0 15 2 การเขียนสื่อสาร ท ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ การเขียนสื่อสารด้วยการคัด ลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตาม รูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย จะต้องเลือกใช้ถ้อยคำที่ถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และมีความ สละสลวย ในการเขียนการเขียน บรรยายประสบการณ์ โดยคำนึงถึง มารยาทใน ๑๒ 15 3 ภาษาพาสาร ท ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ การฟัง การดู และการพูดที่มี ประสิทธิภาพนั้นต้องฝึกฝนให้เกิด ทักษะ และคำนึงถึงมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๑0 15


4 หลักเกณฑ์ทางภาษา ท ๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม. ๑/ ๖ การศึกษาหลักภาษาไทย จะต้อง เข้าใจลักษณะของเสียงในภาษาไทย และหลักการสร้างคำในภาษาไทย ประโยคในภาษาไทย ต้องวิเคราะห์ ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยคได้ ๑๒ 15 5 คุณค่าวรรณคดี ท ๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ วรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกับ บันเทิงคดีบันทึกการเดินทาง วรรณกรรมท้องถิ่นการวิเคราะห์ คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและ วรรณกรรม การท่องบทอาขยานที่ กำหนดและบทร้อยกรองที่สนใจ ๑0 10 คะแนนเก็บระหว่างภาค ๕6 50 สอบกลางภาค 3 30 สอบปลายภาค 3 20 รวม ๖๐ ๑๐๐ ลงชื่อ..................................................... (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ครูผู้สอน


หน่วยที่ 1 การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน เวลา 10 ชั่วโมง


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่าน เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การพัฒนาทักษะการอ่าน เป็นการพัฒนาการอ่านทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ให้มีประสิทธิภาพ 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม. 1/1 อ่านออกเสียร้อยแก้ว และบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ม. 1/9 มารยาทในการอ่าน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ตอบคำถามความสำคัญของการอ่านร้อยแก้วและร้อยกรองได้(K) 2) แยกบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ (P) 3 ) มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด (A) 3. สาระการเรียนรู้ การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และให้นักเรียนอ่านบทความสั้น ๆ ทั้งบทร้อยแก้ว และร้อยกรอง 2. นักเรียนบอกความแตกต่างว่าบทที่อ่านมีความต่างกันอย่างไร ตามความคิดเห็นของนักเรียน ขั้นสอน 3. นักเรียนแบ่งกลุ่มกัน (2-3กลุ่ม) ศึกษาความหมายของบทร้อยแก้วและบทร้อยรอง 4. นักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้กันภายในกลุ่ม แล้วเขียนสรุปลงในกระดาษที่ครูแจกให้ 5. นักเรียนส่งตัวแทนออกมานำเสนอความรู้ที่ได้ศึกษา ขั้นสรุป 6. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ 7. นักเรียนทำใบงานส่งครู 7. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ๑. นักเรียนพูดแนะนำตัวเอง ได้ นักเรียนแนะนำตัวเอง หน้าชั้นเรียน แบบประเมินกิจกรรมการ พูดแนะนำตนเอง คะแนนรวมร้อยละ ๗๐ ถือ ว่าผ่านเกณฑ์ ๒. นักเรียนมีมารยาทในการ ฟัง การดู และการพูด ครูสังเกตพฤติการฟัง การดู การพูด ของ นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการฟัง การดู การพูด นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๕ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ กระดาษเทา ขาว 8.2 แหล่งการเรียนรู้ -


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว หมายถึง การอ่านถ้อยคำที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้ โดยการเปล่งเสียง และวาง จังหวะเสียงให้เป็นไปตามความนิยม และเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม. 1/1 อ่านออกเสียร้อยแก้ว และบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ม. 1/9 มารยาทในการอ่าน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนบอกหลักในการอ่านบทร้อยแก้วได้ (K) 2) อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน (P) 3) มีมารยาทในอ่าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การอ่านออกเสียงที่เป็นบทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยาย 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนอ่านคำควบกล้ำบนกระดาษ เช่น คำว่า กรด ครู ขวักไขว่ ครั้งคราว แผนการจัดการเรียนรู้


2. นักเรียนอ่านประโยคต่อไปนี้ ห้ามผู้หญิงใส่กางเกงในเวลาทำงาน ยานี้ดีกินแล้วแข็งแรงไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ครูสุ่มให้นักเรียนออกมาอ่านแล้วเว้นวรรคให้ถูกต้อง ขั้นสอน 3. นักเรียนศึกษาหลักเกณฑ์ในการอ่านในหนังสือเรียน 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม แล้วให้ส่งตัวแทนกลุ่มมาจับสลาก เพื่อเลือกบทอ่าน 5. นักเรียนจับกลุ่มฝึกซ้อมอ่านบทร้อยแก้วโดยมีครูคอยแนะนำ 6. นักเรียนทั้งกลุ่มออกมาอ่านหน้าชั้นเรียน 7. นักเรียนที่ฟังช่วยกันประเมินการอ่านของเพื่อ ขั้นสรุป 8.นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว 9. นักเรียนสรุปหลักการอ่านและวิธีการอ่านบทร้อยแก้ว การเตรียมตัวก่อนการอ่านออกเสียงและมารยาทในการ อ่าน ครูอธิบายเพิ่มเติม 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2) แบบฝึกอ่าน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ — จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้นไป ถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย สังเกตการอ่านของ นักเรียน แบบประเมินการอ่าน นักเรียนได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 3 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน


สายลมแห่งการให้อภัยและก้อนหินแห่งความทรงจำ มีคน 2 คนเป็นเพื่อนรักกันมาก ร่วมเดินทางไปในทะเลทราย ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงกันรุนแรงทะเลาะกัน เพื่อน คนหนึ่งระงับอารมณ์ไม่อยู่ตบหน้าอีกฝ่าย เพื่อนที่ถูกทำร้ายเจ็บปวดแต่ไม่เอ่ยวาจากลับเขียนข้อความลงบนผืนทรายว่า “วันนี้ฉันถูกเพื่อนรักตบหน้า”พวกเขายังคงเดินทางต่อไปจนกระทั่งถึงแหล่งน้ำ พวกเขาก็อาบน้ำ เพื่อนคนที่เคยถูกตบหน้า ได้พลัดตกแหล่งน้ำ จมน้ำ เพื่อนอีกคนไม่รอช้า รีบลงไปช่วยทันที คนรอดตายยังคงไม่เอ่ยวาจา กลับสลักข้อความลงไปบน ก้อนหินใหญ่ “วันนี้เพื่อนรักช่วยชีวิตฉันไว้” อีกคนไม่เข้าใจเลยถามว่า “เมื่อเธอถูกฉันตบหน้า เธอเขียนเรื่องราวลงพื้นทราย แล้วเรื่องที่ฉันได้ช่วยเธอจากการจมน้ำ ทำไมจึงต้องสลักบนก้อนหิน” อีกคนยิ้มพรายกล่าวตอบเมื่อถูกคนที่รักทำร้ายเราควร เขียนมันไว้บนพื้นทราย ซึ่ง “สายลมแห่งการให้อภัย” จะทำหน้าที่พัดผ่าน ลบล้างไม่เหลือ” แต่เมื่อมีสิ่งที่ดีมากมายเกิดขึ้น เราควรสลักไว้บน “ก้อนหินแห่งความทรงจำในหัวใจ” ซึ่งต่อให้มีสายลมพัดแรงเพียงใดก็ไม่อาจ ลบล้าง ทำลาย คิดแบบผึ้งหรือแมลงวัน สมมุติว่าเราจับผึ้งจำนวน 6 ตัว ใส่ในขวด และจับแมลงวัน 6 ตัว ใส่ในอีกขวด จากนั้นวางขวดนอนลง โดยหันก้น ขวดไปยังหน้าต่างที่มีแสงสว่างกว่า เราจะพบว่า กลุ่มผึ้งจะพยายามบินออกทางก้นขวด จนกระทั่งมันตายจากการขาดอาหาร หรือว่าหมดแรง ในขณะที่แมลงวัน จะบินวนอยู่ในขวดชนไปชนมา แต่ก็จะค่อยๆทยอยบินหาทางออกมาจากขวดได้ จากฝั่ง คอขวด ที่อยู่ตรงกันข้ามกับก้นขวดซึ่งหันไปทางหน้าต่าง ทำไมผลการทดลองจึงออกมาแบบนี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ผึ้งเป็น สัตว์ที่ฉลาด มีองค์ความรู้ พวกมันรู้ว่าหากบินไปในทิศทางที่มีแสงสว่างจะเป็นทางออกจากรัง แต่เมื่อมันต้องมาอยู่ในขวด ซึ่ง เป็นสถานการณ์ที่ผึ้งไม่เคยประสบมาก่อน มันก็ยังคงเชื่อในความคิดแบบเดิมๆไม่เปลี่ยนแปลง คือ ต้องบินออกทางแสงสว่าง เท่านั้น แต่สำหรับแมลงวัน เป็นสัตว์ที่ไม่มีความคิดเป็นตรรกะอะไร ดังนั้นเมื่อมันถูกจับไว้ในขวด มันจึงบินชนผนังขวดแกะ ทางไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็พบกับทางออก กาน้ำชาสอนใจ มีบ้านหลังหนึ่งที่บ้านมีกาน้ำชาสูงค่า เพราะเป็นกาที่ปั้นมาจากดินชนิดพิเศษสุดของประเทศจีน เลยวางไว้หัวเตียง อย่างทะนุถนอม มีอยู่คืนหนึ่ง ด้วยความไม่ระวัง มือไปปัดโดนฝากาน้ำชากระเด็นตกสู่พื้น ทั้งโกรธทั้งเจ็บใจ เมื่อคิดว่าทำฝา แตกแล้ว จะเก็บกาไว้ให้ดูเจ็บใจเล่นทำไม คิดได้ดังนั้นเลยหยิบกาน้ำชาขว้างออกไปนอกหน้าต่าง รุ่งเช้าตื่นมาลุกลงจากเตียง เห็นฝากาน้ำชาหล่นอยู่บนรองเท้านุ่นที่ข้างเตียงไม่มีอะไรแตกเสียหาย กาน้ำชาก็ขว้างทิ้งไปแล้ว ยิ่งเจ็บใจ เลยกระทืบฝาจน แตกละเอียด พอตอนสายเดินออกไปนอกบ้าน ปรากฏว่ากาน้ำชาที่ขว้างออกไปเมื่อคืนนั้น ยังคาอยู่บนต้นไม้ไม่มีอะไรบุบ สลาย แบบฝึกอ่าน


รักพี่รักน้อง วันหนึ่ง ขณะที่เจียงกงและน้องชายจี้เจียง กำลังเดินทางจะเข้าไปในเมือง พลันก็มีพวกโจร 4-5 คน โผล่ออกมาจาก ข้างทางเข้ามาขวางหน้าไว้ พร้อมกับชักดาบออกมาทำท่าจะฆ่าเขาทั้งสอง ผู้เป็นพี่ชายกล่าวว่า “พวกท่าน น้องชายของผมยัง เด็กอยู่ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้พบหน้าแม้สักวันก็จะไม่สบายใจ ขอให้พวกท่านฆ่าผมแล้วปล่อยน้องชายผมไปเถิด” น้องชายของเขาก็ กล่าวว่า “พวกท่านพี่ชายผมอายุมากกว่าผม แข็งแรงกว่าผมและเป็นคนดี พ่อแม่แก่แล้วต้องอาศัยเขาเลี้ยงดู ขอให้ผมตาย แทนพี่ผมเถิด” พี่น้องทั้งสองต่างแย่งกันตาย พวกโจรรู้สึกตื้นตันใจมาก จึงเก็บดาบเข้าฝัก โบกมือกล่าวว่า “พี่น้องคู่นี้รักกัน จริง พวกเราไปกันเถอะ” มีความละอาย ในสมัยราชวงศ์ซ้อง เมื่ออัครเสนาบดีไช่จิงได้กุมอำนาจก็เริ่มเปลี่ยนเรื่องขาวให้เป็นดำ ดำให้เป็นขาว ผู้ใดต่อต้าน เขา ก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนชั่ว ถูกลงชื่อในบัญชีของคนร้าย แล้วให้คนจารึกลงในแผ่นศิลา มีช่างแกะสลักหินคนหนึ่งชื่อ อันหมิน ได้ถูกเรียกไปแกะสลักศิลา เขาพยายามเกี่ยงว่า “ผมเป็นคนหยาบที่ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่ทราบว่าเพราะอะไรถึงต้อง แกะสลักศิลา แล้วคนอย่างซือหม่ากวงคนนี้ ทั่วทั้งแผ่นดินต่างก็ยกย่องว่าเขาเป็นคนดี มาบัดนี้จะให้บอกว่าเขาเป็นคนชั่ว ผมไม่สามารถแกะสลักได้จริง ๆ ขอใต้เท้าโปรดอนุญาตไม่ต้องลงชื่อผมไว้ที่หลังศิลา เพื่อคนรุ่นหลังจะได้ไ ม่ด่าผม ในฐานะ เป็นคนจารึกศิลา” คนที่ได้ฟังคำพูดของช่างแกะสลัก ต่างยกย่องเขาว่าเป็นคนที่รู้จักละอาย และมีมโนธรรม


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การอ่านออกเสียงร้อยกรอง เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสียงร้อยกรอง เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลินซาบซึ้งในรสของคำประพันธ์ ซึ่งจะต้องอ่าน อย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองตามลักษณะคำประพันธ์เเต่ละชนิด 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม. 1/1 อ่านออกเสียร้อยแก้ว และบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ม. 1/9 มารยาทในการอ่าน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนบอกหลักในการอ่านบทร้อยกรองได้ (K) 2) อ่านออกเสียงบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน (P) 3) มีมารยาทในอ่าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การอ่านออกเสียง ประกอบด้วย บทร้อยกรอง เช่น กลอนสุภาพ กลอนสักวา กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 กาพย์สุรางคนางค์ 28 และโคลงสี่สุภาพ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนฟังเสียงการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ จากซีดีที่ครูเปิด แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับลักษณะของการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองแต่ละประเภท แผนการจัดการเรียนรู้


ขั้นสอน 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความสามารถ โดยให้สมาชิกแต่ละคนเลือกหมายเลข ประจำตัว ตั้งแต่หมายเลข 1-6 เรียกว่า กลุ่มบ้าน 3. นักเรียนที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ครูให้สมาชิกในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง จากหนังสือเรียน ตามประเด็นความรู้ที่กำหนด ดังนี้ - กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 1-2 ศึกษาความรู้เรื่อง วิธีการอ่านกลอนสุภาพ - กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 3-4 ศึกษาความรู้เรื่อง วิธีการอ่านกาพย์ยานี 11 - กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหมายเลข 5-6 ศึกษาความรู้เรื่อง วิธีการอ่านโคลงสี่สุภาพ 4. นักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญศึกษาความรู้ในประเด็นที่ตนรับผิดชอบ จากหนังสือเรียน และฝึกอ่านออกเสียงบทร้อย กรอง จาก Youtube 5. สมาชิกในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันอภิปรายและฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยกรองจนทุกคนมีความเข้าใจ กระจ่างชัด ในประเด็นที่ศึกษาและอ่านได้อย่างถูกต้อง 6. สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกลับไปยังกลุ่มเดิมของตนที่เรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มบ้าน ผลัดกัน อธิบายเพื่อถ่ายทอดความรู้ที่ตนได้ไปศึกษามา 7. สมาชิกแต่ละกลุ่มฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่างๆ ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องจน สามารถอ่านได้ถูกต้อง ขั้นสรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ 9. ครูมอบหมายให้นักเรียนท่องจำโคลงสี่สุภาพ ลิลิตพระลอ 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2) คลิปเสียงการอ่านบทร้อยกรอง 8.2 แหล่งการเรียนรู้ Youtube จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้นไป ถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย สังเกตการอ่านของ นักเรียน แบบประเมินการอ่าน นักเรียนได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 3 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน


หัวข้อและเกณฑ์การประเมิน 1. ความถูกต้องในการอ่าน คะแนนมี 4 ระดับ ( 4 คะแนน ) ระดับคะแนน 4 หมายความว่า สามารถอ่านได้ถูกต้องทั้งหมด ระดับคะแนน 3 หมายความว่า สามารถอ่านได้เกือบถูกต้องทั้งหมด ผิดไม่เกิน 3 คำ ระดับคะแนน 2 หมายความว่า สามารถอ่านได้ ผิดไม่เกิน 10 คำ ระดับคะแนน 1 หมายความว่า พยายามอ่านได้บ้าง ผิดมากว่า 10 คำ 2. น้ำเสียง การเว้นวรรคตอน คะแนนมี 4 ระดับ ( 4 คะแนน ) ระดับคะแนน 4 หมายความว่า สามารถอ่านได้ชัดเจน สื่อความรู้สึกของเรื่องที่อ่านได้ดี ระดับคะแนน 3 หมายความว่า สามารถอ่านได้ชัดเจน สื่อความรู้สึกของเรื่องที่อ่านได้พอใช้ ระดับคะแนน 2 หมายความว่า สามารถอ่านได้ค่อนข้างชัดเจน แต่ค่อนข้างช้า ยังสื่อความรู้สึกของ เรื่องได้ไม่ชัดเจน ระดับคะแนน 1 หมายความว่า พยายามอ่านได้บ้าง น้ำเสียงเบา ไม่ชัดเจน ไม่สามารถสื่อ ความรู้สึกของเรื่องได้ชัดเจน 3. คุณลักษณะ ( มีความมั่นใจในการใช้ภาษา ) คะแนน มี 4 ระดับ ( 2 คะแนน ) ระดับคะแนน 2 หมายความว่า มีความมั่นใจในการอ่านดี มีการเตรียมตัวมาอย่างดี มั่นใจตนเอง ระดับคะแนน 1.5 หมายความว่า มีความมั่นใจในการอ่านพอใช้ เตรียมตัวมาอย่างดี ยังประหม่า ระดับคะแนน 1 หมายความว่า ยังไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าที่ควร มีการเตรียมตัวมาพอใช้ ระดับคะแนน 0.5 หมายความว่า ขาดความมั่นใจในตนเอง เตรียมตัวมาบ้างแต่ไม่มากนัก


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความ คือ การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็น ข้อความที่คลุมข้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหนึ่ง ๆ ไว้ทั้งหมด 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม.1/2 จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ม.1/9 มารยาทในการอ่าน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนบอกหลักการการจับใจความสำคัญได้ (K) 2) นักเรียนจับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่านได้(P) 3) มีมารยาทในอ่าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น นิทาน บทความ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนเล่นเกม ฟัง จับ ความ วิธีการเล่น ดังนี้ ครูสุ่มนักเรียนออกมา 6 คน ให้ออกมายืนหน้าชั้นเรียน โดยเข้าแถวเรียงกัน คนที่ 1-5 หันหลัง และคนที่ 6 หัน หน้ามาหาครู และครูจะบอกสารให้นักเรียนคนที่ 6 ฟัง เมื่อฟังจบแล้ว นักเรียนคนที่ 6 บอกคนที่ 5 และคนที่ 5 บอกคนที่ 4 ตามลำดับ ไปเรื่อย ๆ จนครบ เมื่อถึงคนสุดท้าย ครูจะมาถามว่าสารที่ได้รับมีความว่าอย่างไร แผนการจัดการเรียนรู้


2. ครูบอกว่าสารที่นักเรียนได้รับมานั้นไม่ครบถ้วนแต่ยังคงใจความสำคัญไว้อยู่ 3. วันนี้เราจึงจะมาเรียนการจับใจความสำคัญ ขั้นสอน 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน และนักเรียนตกลงกันว่าใครจะเป็นคนที่เท่าไร 5. คนที่ 1 จะไปประจำอยู่ที่ฐานที่ 1 คนที่ 2 อยู่ในฐานที่ 2 และคนที่ 3 อยู่ในฐานที่ 3 6. นักเรียนจะได้ศึกษาตามฐานที่ตนเองประจำอยู่ โดยให้นักเรียนศึกษาแต่ละหัวข้อ ซึ่งใช้หนังสือประกอบกับค้นหา ทางอินเทอร์เน็ต หัวข้อดังต่อไปนี้ - ความหมายของการอ่านจับใจความสำคัญ - ลักษณะของใจความสำคัญ - หลักการอ่านจับใจความสำคัญ 7. เมื่อนักเรียนศึกษาเสร็จแล้วให้นักเรียนกลับรวมกลุ่มเดิมที่แบ่งไว้ 8.นักเรียนนำความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนกัน ขั้นสรุป 9. นักเรียนทำแผนผังความคิด เรื่องหลักการอ่านจับใจความสำคัญ 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม ๔ รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่าน เกณฑ์ 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการอ่าน นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 3 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน


ค ำชี้แจง ให้นักเรียนสรุปใจความส าคัญให้ถูกต้อง ลูกแกะหลงฝูงกับหมำป่ ำ ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงวิ่งเตลิดไปพบกับหมาป่า ขณะกำลังจะถูกจับกินลูกแกะเห็นจวนตัวไม่มี ทางหนีพ้น จึงแข็งใจยืนเผชิญหน้า พร้อมออกอุบายว่า “ไหนๆ ข้าก็จะต้องกลายเป็นอาหารของท่านอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว ก่อนตายข้าอยาก ฟังเสียงปี่ และเต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย ขอท่านช่วยอนุเคราะห์ด้วยเถิด” หมาป่านึกสนุกจึงเป่าปี่ด้วยทำนองเร้าใจ หมาเฝ้าฝูงแกะตัวหนึ่งวิ่งมาตามเสียง ครั้นเห็นลูก แกะกำลังตกอยู่ในอันตรายจึงเห่าเรียกพรรคพวกของมัน ด้วยเหตุนี้หมาป่าต้องรีบทิ้งปี่วิ่งหนีไปด้วยความ เสียดาย ที่มา http://www.nitarn.com/index.php/นิทานอีสป-12.html _________________________________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________________________________________________ เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่าย หลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หายาก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา (โคลงโลกนิติ : กรมพระยาเดชาดิศร) _________________________________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________________________________________________ ใบงาน การอ่านจับใจความสำคัญ


เฉลยใบงาน การอ่านจับใจความสำคัญ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนสรุปใจความส าคัญให้ถูกต้อง ลูกแกะหลงฝูงกับหมำป่ ำ ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงวิ่งเตลิดไปพบกับหมาป่า ขณะกำลังจะถูกจับกินลูกแกะเห็นจวoตัวไม่มี ทางหนีพ้น จึงแข็งใจยืนเผชิญหน้า พร้อมออกอุบายว่า “ไหนๆ ข้าก็จะต้องกลายเป็นอาหารของท่านอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว ก่อนตายข้าอยาก ฟังเสียงปี่ และเต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย ขอท่านช่วยอนุเคราะห์ด้วยเถิด” หมาป่านึกสนุกจึงเป่าปี่ด้วยทำนองเร้าใจ หมาเฝ้าฝูงแกะตัวหนึ่งวิ่งมาตามเสียง ครั้นเห็นลูกแกะ กำลังตกอยู่ในอันตรายจึงเห่าเรียกพรรคพวกของมัน ด้วยเหตุนี้หมาป่าต้องรีบทิ้งปี่วิ่งหนีไปด้วยความเสียดาย ที่มา http://www.nitarn.com/index.php/นิทานอีสป-12.html ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงวิ่งเตลิดไปพบหมาป่า ลูกแกะออกอุบายว่า ก่อนตายอยากฟังเสียงปี่ และเต้นรำก่อน หมาป่าหลงกลจึงเป่าปี่ให้ฟัง หมาเฝ้าฝูงแกะได้ยินจึงวิ่งตามหาเสียงแล้วเห่าเรียกพรรค พวกของมันมาช่วยลูกแกะ จากนั้นหมาป่าจึงรีบทิ้งปี่แล้ววิ่งหนีไป เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่าย หลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หายาก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา (โคลงโลกนิติ : กรมพระยาเดชาดิศร) เมื่อมีทรัพย์สินมากมายก็จะมีเพื่อนฝูงเยอะ เมื่อทรัพย์สินหมดเพื่อนฝูงก็จะจากไปด้วย แต่เพื่อนตายคือ เพื่อนแท้ที่ยอมตายแทนกันได้และคอยช่วยเหลือเกื้อกูลเมื่อเพื่อนตกยาก


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความ คือ การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็น ข้อความที่คลุมข้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหนึ่ง ๆ ไว้ทั้งหมด 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม.1/2 จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ม.1/3 ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ม.1/9 มารยาทในการอ่าน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนบอกใจความสำคัญของบทความได้ (K) 2) นักเรียนเขียนใจความสำคัญแต่ละย่อหน้าได้ (P) 3) มีมารยาทในอ่าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น นิทาน บทความ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนอ่านบัตรประโยค แล้วให้นักเรียนตอบว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็น 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับหลักการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น แผนการจัดการเรียนรู้


ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น จากใบความรู้ 4. นักเรียนเลือกอ่านบทความจากหนังสือพิมพ์รายวันที่ตนเองสนใจ คนละ 1 ข่าว (ค้นคว้าในอินเทอร์เน็ต) 5. นักเรียนสังเกตและจำแนกประโยคที่เป็นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความในหนังสือพิมพ์ที่อ่าน ลงในแบบบันทึกการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ตอนที่ 1 6. นักเรียนบอกข้อแตกต่างของข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นว่ามีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร 7. คำถามกระตุ้นความคิด “นักเรียนคิดว่าข่าวที่น่าเชื่อถือมีลักษณะอย่างไร” 8. นักเรียนพิจารณาภาพรวมของข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นว่ามีอะไรที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน ขั้นสรุป 9. นักเรียนสรุปผลการพิจารณาความเหมือนหรือความคล้ายคลึงกันของข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นลงในแบบ บันทึกการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ตอนที่ 2 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2) ใบงาน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้น ไป ผ่านเกณฑ์ 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการอ่าน นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 3 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน


แบบบันทึกการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น บทความจากข่าว หัวข้อ __________________________________________________________ ตอนที่ 1 จำแนกประโยคที่เป็นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ตอนที่ 2 สรุปความเหมือนหรือความคล้ายคลึงกันของข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ตอนที่ 3 หลักการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ ชื่อ............................................................................................................................ชั้น..............................เลขที่.................


ใบความรู้ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ความหมายของข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริง คือ ข้อความหรือเหตุการณ์ที่มีความเป็นไปได้ มีความสมจริง มีหลักฐานเชื่อถือได้ มีความสมเหตุสมผล เช่น วันขึ้น 15 ค่ำ จะมองเห็นพระจันทร์เต็มดวง ข้อความนี้เป็นข้อเท็จจริง เพราะมี ความสมจริง เป็นไปได้ พิสูจน์ได้ ลักษณะของข้อเท็จจริง 1. มีความเป็นไปได้เสมอ 2. มีความเป็นจริง 3. มีหลักฐานอ้างอิงพิสูจน์ได้ 4. มีความสมเหตุสมผล ความหมายของข้อคิดเห็น ข้อคิดเห็น เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึก แสดงความคาดคะเน หรือข้อความที่แสดงทัศนะ ของผู้พูดที่สอดแทรกเข้าไปในข้อความที่พูด เพื่อแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เช่น ชายชราคนนั้นน่า สงสารมากเขาต้องทำงานเหนื่อยตลอด ทั้งข้อความนี้เป็นข้อคิดเห็น เพราะเป็นความรู้สึกหรือความ คิดเห็นส่วนตัว ลักษณะของข้อคิดเห็น 1. เป็นการแสดงความรู้สึก 2. แสดงการคาดคะเน 3. เป็นข้อเสนอแนะ 4. เป็นการแสดงความคิดเห็น 5. เป็นความเชื่อที่ไม่สมเหตุสมผล ความแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น 1. มีความเป็นไปได้เสมอ 1. แสดงความรู้สึก 2. มีความเป็นจริง 2. แสดงการคาดคะเน 3. มีหลักฐานอ้างอิงพิสูจน์ได้ 3. เป็นข้อเสนอแนะ 4. มีความสมเหตุสมผล 4. เป็นการแสดงความคิดเห็น 5. เป็นความเชื่อที่ไม่สมเหตุสมผล


การอ่านเพื่อแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น การอ่านเพื่อแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเป็นการอ่านอย่างไตร่ตรองพิจารณาเหตุผลแล้วตีความหมาย ของข้อความหรือเรื่องเพื่อแยกให้ได้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง ส่วนใดเป็นข้อคิดเห็น อะไรถูก อะไรผิด ถ้าผิดต้องทราบ ว่าผิดอย่างไร การอ่านเพื่อแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น หมายถึง การอ่านอย่างละเอียดทุกตัวอักษร และเมื่ออ่านจบ แล้ว ต้องแยกแยะได้ว่าอะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือข้อคิดเห็น อะไรถูก อะไรผิด ถ้าผิดก็ต้องทราบว่าผิดอย่างไร ตัวอย่าง การแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกเป็นเด็กเก่ง มีอัจฉริยภาพ ความสามารถเฉพาะด้าน บ้างก็ให้เรียนพิเศษ เสริมความรู้ความสามารถต่างๆ ขณะที่เจ้าลูกน้อยไม่มีความสนใจในสิ่งนี้ สร้างความปวดหัวให้กับพ่อแม่ กระนั้นก็ ยังไม่วายต้องการให้ลูกเป็นที่หนึ่ง เป็นเด็กอัจฉริยะ สร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียนเป็นที่ยอมรับของสังคม เมื่อลูก ไม่มีความสามารถ ขาดอัจฉริยภาพ พ่อแม่บางคนรับไม่ได้ พยายามยัดเยียดให้ลูกเป็นในสิ่งที่ตนต้องการ สิ่งเหล่านี้ ถูกต้องแล้วหรือ ข้อเท็จจริง : พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกเป็นเด็กเก่ง มีอัจฉริยภาพ ความสามารถเฉพาะด้าน ข้อคิดเห็น : เมื่อลูกไม่มีความสามารถ ขาดอัจฉริยภาพ พ่อแม่บางคนรับไม่ได้ พยายามยัดเยียดให้ลูก เป็นในสิ่งที่ตนต้องการ สิ่งเหล่านี้ถูกต้องแล้วหรือ ที่มา http://www.ahph9thi.gotoknow.org/assets/media/files/000/.../original_งานแก้ไทย.doc?...-


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงและการอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความ คือ การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็น ข้อความที่คลุมข้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหนึ่ง ๆ ไว้ทั้งหมด 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ม.1/3 ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ม.1/9 มารยาทในการอ่าน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ตอบคำถามปากเปล่าเกี่ยวกับการระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่านได้(K) 2) เขียนระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่านได้ (P) 3) มีมารยาทในอ่าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น นิทาน บทความ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนงานและความรู้จากครั้งที่แล้ว 2. นักเรียนคิดว่าข้อเท็จจริงแตกต่างจากข้อคิดเห็นอย่างไร แผนการจัดการเรียนรู้


ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนนำงานจากครั้งที่แล้วขึ้นมาทำต่อ 4. นักเรียนระบุหลักการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นลงในแบบบันทึกการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ตอนที่ 3 5. นักเรียนแต่ละคนนำเสนอผลงานในแบบบันทึกการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ 1) อ่านรายละเอียดของบทความที่เลือก 2) จำแนกความแตกต่างของข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความ 3) สรุปความเหมือนและความคล้ายคลึงกันของข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นจากบทความ 4) ระบุหลักการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ขั้นสรุป 6. นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2) ใบงาน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้น ไป ผ่านเกณฑ์ 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการอ่าน นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 3 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน


แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


ใบงาน การพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม เด็กหญิง 5 ขวบถูกหามส่งรพ.เหตุโรคคลั่งผอม เว็บไซต์แท็บลอยด์เดลี่ เมล รายงานว่า มีเด็กผู้หญิงวัยเพียงแค่ 5 ขวบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากป่วยเป็นโรคอะนอเร็กเซีย หรือโรคคลั่งผอมอย่างรุนแรง ซึ่งสร้างความตื่นตกใจไปทั่วประเทศ พร้อมกับการตั้งคำถามว่า ความคิดห่วงสวยได้เข้าไปครอบงำจิตใจของเด็กตั้งแต่อายุเท่าใด จากสถิติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่า มีเด็กจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะ เด็กผู้หญิงกำลังคลั่งไคล้ความผอมกันอย่างรุนแรง บางคนเลียนแบบนางแบบที่ผอมจนเกินเหตุ หรือไม่ก็พวก คนที่มีชื่อเสียงที่พวกเขาเห็นในนิตยสารหรือโทรทัศน์และพยายามจะผอมเลียนแบบคนเหล่านี้ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหลายคนเตือนว่า มีเด็กที่อายุน้อยกำลังพัฒนาไปสู่ ความสัมพันธ์กับอาหารในแบบที่ผิดหลักอนามัย เพราะนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อน และบางครั้งยังแข่ง กันด้วยว่า ใครลดน้ำหนักได้มากกว่ากัน โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านจิตใจด้วย ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง อย่างมาก หรือกลุ่มที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ บางคนเคยถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือทางจิตใจ หรือ มักรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักอยู่ตลอดเวลา การรักษานอกจากรักษาทางการแพทย์แล้ว วิธีครอบครัวบำบัดก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยคนใน ครอบครัวต้องเป็นผู้เยียวยาสำคัญที่สุด ต้องให้ความรัก ความเข้าใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วย อย่าใช้ วิธีบังคับให้กินตามมื้ออาหาร แต่เปลี่ยนเป็นการสร้างบรรยากาศการกิน เปลี่ยนสถานที่กิน หรือชักชวนให้ ร่วมกันทำอาหาร ในขณะเดียวกันพ่อแม่อาจชวนลูกไปออกกำลังกายร่วมกัน เพื่อให้ลูกลดความวิตกกังวล เกี่ยวกับเรื่องน้ำหนัก และต้องเอาตัวเองเข้าไปปรับแก้พฤติกรรมของลูกด้วยจึงจะได้ผล ที่มา http://www.mumuu.com/news-show-เด็กหญิง-5-ขวบถูกหามส่งรพ-เหตุโรคคลั่งผอม-12- 55241-


คำถามจากเนื้อเรื่อง คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามดังต่อไปนี้ 1. บอกสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ 2. บอกผลที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ 3. สรุปข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________________


เฉลยใบงานที่2.3 การพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม คำถาม 1. บอกสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ คือ เด็กผู้หญิงในประเทศอังกฤษ กำลังคลั่งไคล้ความผอมกันอย่างรุนแรง บาง คนเลียนแบบนางแบบที่ผอมจนเกินเหตุ หรือไม่ก็พวกคนที่มีชื่อเสียงที่พวกเขาเห็นในนิตยสารหรือโทรทัศน์ และ พยายามจะผอมเลียนแบบคนเหล่านั้น 2. บอกผลที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ เด็กผู้หญิงวัยเพียงแค่ 5 ขวบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากป่วยเป็นโรคคลั่งผอมอย่าง รุนแรง 3. สรุปข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ ข้อเท็จจริง คือ โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านจิตใจด้วย ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มที่ขาดความ มั่นใจในตัวเองอย่างมาก หรือกลุ่มที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ บางคนเคยถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือจิตใจ หรือมักรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักอยู่ตลอดเวลา ข้อคิดเห็น คือ การรักษานอกจากรักษาทางการแพทย์แล้ว วิธีครอบครัวบำบัดก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยคนในครอบครัวต้องเป็นผู้เยียวยา สำคัญที่สุดต้องให้ความรัก ความเข้าใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วย


Click to View FlipBook Version