The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by eak atom, 2023-05-24 08:52:19

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ใบงาน การใช้ถ้อยคำในการเขียนสื่อสาร คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง 1. การเลือกใช้คำให้ถูกต้องตามความหมายมีวิธีการอย่างไร ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ 2. การใช้คำให้ถูกต้องตามระเบียบภาษามีวิธีการอย่างไร ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ 3. มารยาทในการเขียนมีหลักปฏิบัติอย่างไร ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________


เฉลยใบงานที่5.3 การใช้ถ้อยคำในการเขียนสื่อสาร คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง 4. การเลือกใช้คำให้ถูกต้องตามความหมายมีวิธีการอย่างไร การเลือกใช้คำให้ถูกต้องตามความหมาย คือ 1. ถูกต้องตามความหมายที่แท้จริงของคำ 2. ถูกต้องตามความนิยม 5. การใช้คำให้ถูกต้องตามระเบียบภาษามีวิธีการอย่างไร การใช้คำให้ถูกต้องตามระเบียบภาษา คือ 1. การใช้ตัวสะกด การันต์ และรูปวรรณยุกต์ถูกต้อง 2. การใช้ลักษณนามถูกต้อง 3. การใช้อาการนามถูกต้อง 4. การใช้คำเชื่อมถูกต้อง 6. มารยาทในการเขียนมีหลักปฏิบัติอย่างไร มารยาทในการเขียนมีหลักปฏิบัติ ดังนี้ 1. เขียนให้ถูกต้องตามอักขรวิธีและวรรคตอนของภาษาไทย 2. เขียนในสิ่งที่เป็นความจริงโดยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลให้ถูกต้อง 3. ต้องมีความเที่ยงธรรม โดยเฉพาะการเขียนวิพากษ์วิจารณ์สิ่งใดสิ่งหนึ่งต้องไม่มีอคติ 4. งานเขียนนั้นต้องไม่ชี้นำหรือใช้อารมณ์ ต้องใช้เหตุผลประกอบให้ผู้อ่านวินิจฉัยเอง 5. เขียนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้ความรู้ที่มีคุณค่า 6. ถ้านำข้อความของผู้อื่นมาเขียนจะต้องให้เกียรติแก่เจ้าของงาน โดยอ้างอิงแหล่งที่มา 7. ใช้ภาษาประกอบการเขียนให้เหมาะสมกับรูปแบบ ถูกต้องตามระดับภาษาและถูกกาลเทศะ


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 4 ทดสอบความรู้ด้านการใช้ภาษา เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เนื่องจากการเขียนเป็นวิธีการใช้ภาษาอย่างหนึ่งจึงมีความจำเป็นในเบื้องต้นที่ผู้เขียนจะต้องมีความรู้ในเรื่องหลักการ ใช้ภาษาที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการเขียนโดยตรงอันได้แก่ เรื่อง การสะกดคำและการใช้คำ ประโยค สำนวนโวหาร ตลอดจน เรื่อง วรรคตอน การใช้เครื่องหมายในการเขียนแบบต่าง ๆ 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม 1/2 เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย ม 1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนตอบคำถามได้ถูกต้อง (K) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนสื่อสาร เช่น การเขียนแนะนำตนเอง 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามนักเรียนว่าเคยเล่นเกม XO หรือไม่ 2. ครูแข่งเล่น XO กับนักเรียน ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนทบทวนเนื้อหา ความรู้เพื่อนำมาใช้แข่งในเกม XO แล้วนักเรียนจับฉลากว่าใครจะเป็นคู่แรก 4. บอกกติกาการเล่น กติกาการเล่นเกม XO 1) นักเรียนฟังคำถามที่ครูถาม แล้วเป่ายิงฉุบ เพื่อตอบคำถาม 2) หากนักเรียนตอบถูกให้นักเรียนกาเครื่องหมาย X หรือ O ลงในกระดาษ หากกลุ่มใดชนะจะได้เล่นต่อ 3) กลุ่มที่แพ้ส่งตัวแทนคนต่อไปมาเอาชนะแชมป์ให้ได้ ขั้นสรุป 5. ครูสรุปคะแนน 6. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำถาม 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ ประเมินตามสภาพจริง คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ถือว่าผ่าน


แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


ตารางเกม XO


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง หลักการเขียนเรียงความ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนเรียงความจัดเป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่มีการใช้รูปแบบและมีการเรียบเรียงภาษาที่สละสลวย โดยเฉพาะการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาจะต้องอาศัยการเลือกสรรถ้อยคำที่ทำให้เกิดจินตภาพและความงามของภาษา 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกหลักการเขียนเรียงความได้(K) 2) นักเรียนสามารถนำเสนอความรู้เรื่อหลักการเขียนเรียงความแต่ละย่อหน้าได้ (P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามนักเรียนว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในการเขียนเรียงความต้องมีความรู้ในเรื่องใดบ้าง แผนการจัดการเรียนรู้


(ต้องมีความรู้เรื่อง ส่วนประกอบของเรียงความ การวางโครงเรื่อง การเลือกใช้สำนวนภาษา) 2. ครูถามว่า ส่วนประกอบในการเขียนเรียงความส่วนใดสำคัญที่สุด (เนื้อเรื่อง) ขั้นสอน 3. นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ พฤกษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ข้อความที่นำมาใช้ในการเขียนคำนำเรียงความควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งใด (คุณความดีของมนุษย์) 4. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน แล้วให้กำหนด หมายเลขประจำตัวเป็นหมายเลข 1-3 เรียกว่า กลุ่มบ้าน 5. นักเรียนที่มีหมายเลขเดียวกันจากกลุ่มบ้านมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาและสืบค้น ความรู้เรื่อง การเขียนเรียงความ จากหนังสือเรียน และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ - กลุ่มหมายเลข 1 ศึกษาและสืบค้นการเขียนเรียงความ เชิงพรรณนา : การเขียนคำนำ - กลุ่มหมายเลข 2 ศึกษาและสืบค้นการเขียนเรียงความ เชิงพรรณนา : การเขียนเนื้อเรื่อง - กลุ่มหมายเลข 3 ศึกษาและสืบค้นการเขียนเรียงความ เชิงพรรณนา : การเขียนสรุป (กลุ่มที่ศึกษาหมายเลขเดียวกันอาจมีหลายกลุ่ม ขึ้นอยู่กับจำนวนของนักเรียน) 6. สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแต่ละกลุ่มวางแผนการทำงานร่วมกันและแบ่งหน้าที่ในการศึกษาและสืบค้นความรู้ตาม ความสนใจ หรือตามความเหมาะสม ขั้นสรุป 7. นักเรียนออกมารายงานผลการศึกษาหน้าชั้นเรียน 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ประเมินการนำเสนอ หน้าชั้นเรียน แบบประเมินการนำเสนอ งาน ได้คะแนนระดับดีขึ้นไปถือ ว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป


- แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


แบบประเมินการนำเสนอผลงาน กลุ่มที่............... คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการนำเสนอผลงาน 4 การนำไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 6 เรื่องการเขียนเรียงความแต่ละย่อหน้า เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนเรียงความจัดเป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่มีการใช้รูปแบบและมีการเรียบเรียงภาษาที่สละสลวย โดยเฉพาะการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาจะต้องอาศัยการเลือกสรรถ้อยคำที่ทำให้เกิดจินตภาพและความงามของภาษา 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนสามารถตอบได้ว่าเรียงความที่อ่านนั้นเป็นการเขียนที่ดี หรือน่าสนใจหรือไม่(K) 2) นักเรียนเขียนเรียงความแต่ละย่อหน้าได้ (P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้เรื่ององค์ประกอบของเรียงความ 2.นักเรียนอ่านตัวอย่างเรียงความที่ครูนำมาให้ ขั้นสอน 3. นักเรียนตอบคำถามว่าเรียงความเรื่องใดน่าสนใจหรือเรื่องใดไม่น่าสนใจเพราะอะไร 4. ครูตั้งหัวข้อการการเขียนเรียงความให้นักเรียนทุกคนช่วยกันช่วยกันเขียนบทนำให้น่าสนใจขึ้นมา 5. นักเรียนค้นหา และลองเสนอบทนำพร้อมครูในหัวข้อ “สภาวะโลกร้อน” 6. เมื่อนักเรียนช่วยกันเขียนเสร็จแล้วครูให้ทำงานเดี่ยว โดยการให้นักเรียนเขียนบทนำในหัวข้อ ประชาธิปไตย ขั้นสรุป 7. นักเรียนนำผลงานที่เขียนมาส่งครู 8. ครูคัดเลือกบทนำที่เขียนดี มาอ่านให้นักเรียนคนอื่นฟัง 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ถาม-ตอบ แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจงาน แบบประเมินการเขียน เรียงความ ได้คะแนนระดับ 2 ขึ้นไป ถือว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป


แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


แบบประเมินการเขียนเรียงความ คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว


เกณฑ์การประเมินการเขียนเรียงความ 4 ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดำเนินเรื่องไมสับสนวกวน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสร้างสรรค์ ใช้สํานวนถอยคําภาษาได้อย่างสละสลวยกลมกลืนกับเนื้อเรื่อง สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย เขียนสะกดคําถูกตอง และสะอาดเรียบรอย 3 ตั้งชื่อเรื่องไดนาสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพการ ดําเนินเรื่องยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสรางสรรค ใช้สํานวนถอยคําภาษาไดอยางสละสลวย สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย และ เขียนสะกดคําไมเกิน 3 คํา 2 ตั้งชื่อเรื่องไดสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่อง ยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานบาง แต่ยังไมชัดเจน สํานวนถ อยคําภาษายังไมคอยสละสลวย สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่านค่อนข้างยาก เขียน สะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา 1 ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือสอดคลองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งหนึ่ง เขียน เรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปน ประโยชนตอผูอาน สํานวนถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่าน ค่อนข้างยาก เขียนสะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา 0 ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือไมตั้งชื่อเรื่อง เขียนเรื่องไมสอดคลองกับ ภาพ ดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอาน สํานวน ถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมได ตัวหนังสืออ่านยาก เขียนสะกดคำผิดมากกว่า 6 คํา ไมเขียนเรื่อง หรือเขียนแตไมเปนเรื่องราวหรือเขียนเปนตัวหนังสือ แตอานไมออก เกณฑ์การผ่าน ตั้งแตระดับ 2 ขึ้นไป


แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


ใบงาน การเขียนคำนำ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การเขียนคำนำ คำนำ เป็นข้อความที่เริ่มเรื่อง เป็นส่วนแรกของเรียงความ เป็นส่วนที่แสดงประเด็นหลักหรือจุดประสงค์ของ เรื่อง ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ พิถีพิถัน คำนึงถึงเรื่องที่จะเขียน นอกจากจะเป็นการบอกผู้อ่านถึงเนื้อหาที่ นำเสนอและยังเป็น การเร้าความสนใจให้อยากอ่านเรื่องจนจบ การเขียนคำนำเน้นศิลปะในการใช้ภาษา แสดง ความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียน เพื่อเร้าใจผู้อ่านให้ติดตามอยากอ่านเรื่องต่อไป การเขียนคำนำเพื่อเร้าความสนใจนั้น มีหลายวิธี แล้วแต่ผู้เขียนจะเลือกตาม ความเหมาะสม การเขียนคำนำอาจนำด้วยปัญหาเร่งด่วน หรือหัวข้อที่ กำลังเป็นเรื่องที่น่าสนใจ คำถาม การเล่าเรื่องที่จะเขียน การยกคำพูด ข้อความหรือสุภาษิตที่น่าสนใจ บทร้อย กรอง การอธิบายความเป็นมาของเรื่อง การบอกจุดประสงค์ของการเขียน การให้คำจำกัดความของคำสำคัญ ของเรื่องที่จะเขียน แรงบันดาลใจ แล้วขยายความนั้นด้วยภาษาที่กระชับรัดกุม คำนำมีหลายแบบ เช่น แบบขึ้นต้น ด้วยส่วนรวมไปสู่เรื่องเฉพาะ แบบมุ่งตรงสู่เรื่อง แบบขึ้นต้นด้วยความตรงกันข้ามและเป็นปัญหาให้คิด แบบขึ้นต้น ด้วยการเล่าเรื่อง แบบที่ทำให้เกิดความพิศวง ทั้งนี้จะเลือกใช้แบบใดย่อมขึ้นอยู่กับเรื่องที่จะเขียนด้วย ควรมีความ ยาว ร้อยละ 10 -15 ของเรียงความทั้งหมด 1. คำนำของเรียงความมีหน้าที่อย่างไร ________________________________________________________________________________________ 2. การเขียนคำนำมีจุดเน้นอย่างไร ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________ 3. การเลือกเขียนคำนำมีวิธีการเลือกอย่างไร ________________________________________________________________________________________ 4. “เหตุใดเยาวชนไทยจึงใส่ใจกับวัฒนธรรมต่างชาติ” ข้อความนี้เป็นการเขียนคำนำแบบใด ________________________________________________________________________________________


เฉลย ใบงานที่ 6.1 การเขียนคำนำ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การเขียนคำนำ คำนำ เป็นข้อความที่เริ่มเรื่อง เป็นส่วนแรกของเรียงความ เป็นส่วนที่แสดงประเด็นหลักหรือจุดประสงค์ของ เรื่อง ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ พิถีพิถัน คำนึงถึงเรื่องที่จะเขียน นอกจากจะเป็นการบอกผู้อ่านถึงเนื้อหาที่ นำเสนอและยังเป็น การเร้าความสนใจให้อยากอ่านเรื่องจนจบ การเขียนคำนำเน้นศิลปะในการใช้ภาษา แสดง ความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียน เพื่อเร้าใจผู้อ่านให้ติดตามอยากอ่านเรื่องต่อไป การเขียนคำนำเพื่อเร้าความสนใจนั้น มีหลายวิธี แล้วแต่ผู้เขียนจะเลือกตาม ความเหมาะสม การเขียนคำนำอาจนำด้วยปัญหาเร่งด่วน หรือหัวข้อที่ กำลังเป็นเรื่องที่น่าสนใจ คำถาม การเล่าเรื่องที่จะเขียน การยกคำพูด ข้อความหรือสุภาษิตที่น่าสนใจ บทร้อย กรอง การอธิบายความเป็นมาของเรื่อง การบอกจุดประสงค์ของการเขียน การให้คำจำกัดความของคำสำคัญ ของเรื่องที่จะเขียน แรงบันดาลใจ แล้วขยายความนั้นด้วยภาษาที่กระชับรัดกุม คำนำมีหลายแบบ เช่น แบบขึ้นต้น ด้วยส่วนรวมไปสู่เรื่องเฉพาะ แบบมุ่งตรงสู่เรื่อง แบบขึ้นต้นด้วยความตรงกันข้ามและเป็นปัญหาให้คิด แบบขึ้นต้น ด้วยการเล่าเรื่อง แบบที่ทำให้เกิดความพิศวง ทั้งนี้จะเลือกใช้แบบใดย่อมขึ้นอยู่กับเรื่องที่จะเขียนด้วย ควรมีความ ยาว ร้อยละ 10 -15 ของเรียงความทั้งหมด 1. คำนำของเรียงความมีหน้าที่อย่างไร เป็นส่วนที่แสดงประเด็นหลักหรือจุดประสงค์ของเรื่อง ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน 2. การเขียนคำนำมีจุดเน้นอย่างไร การเขียนคำนำเน้นศิลปะในการใช้ภาษา แสดงความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียน เพื่อเร้าใจผู้อ่านให้อยาก ติดตามอ่านเรื่องต่อไป . 3. การเลือกเขียนคำนำมีวิธีการเลือกอย่างไร เลือกเขียนให้เหมาะสมกับเรื่องที่เขียน 4. “เหตุใดเยาวชนไทยจึงใส่ใจกับวัฒนธรรมต่างชาติ” ข้อความนี้เป็นการเขียนคำนำแบบใด เป็นการเขียนแบบเป็นปัญหาให้คิด


ใบงาน การเขียนเนื้อเรื่อง คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การเขียนเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่อง เป็นส่วนสำคัญและยาวที่สุดของเรียงความ ประกอบด้วย ความรู้ ความคิด และข้อมูลที่ผู้เขียน ค้นคว้า และเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ ระเบียบ เป็นสาระสำคัญของเรื่องที่ผู้เขียนต้องแสดงความรู้หรือความคิด อย่างกว้างขวาง ถูกต้องและสมบูรณ์ ตรงตามหัวข้อเรื่องที่เขียน ผู้เขียนจะต้องคิดก่อนเป็นขั้นแรกว่า จะเลือกเขียน เรื่องอะไรและมีวัตถุประสงค์ใดในการเขียนเรื่องนั้นๆ จุดประสงค์ในการเขียนเรียงความ มี 4 ประการ คือ 1) เพื่อให้ข้อเท็จจริงแก่ผู้อ่าน 2) เพื่อโน้มน้าวใจผู้อ่าน 3) เพื่อให้ความบันเทิง 4) เพื่อส่งเสริมการใช้ความคิดของผู้อ่านให้กว้างขวางยิ่งขึ้น การกำหนดจุดประสงค์ที่แตกต่างกันจะทำให้เนื้อหาของงานเขียนต่างกันด้วย ผู้เขียนต้องวางโครงเรื่องไว้ ก่อนที่จะลงมือเขียน แบ่งเนื้อหาเป็นย่อหน้าต่างๆ ในย่อหน้าหนึ่งจะมีความคิดเป็นหลักสำคัญเพียงความคิดเดียว แต่ละย่อหน้าต้องมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันและสื่อความหมายได้ชัดเจน ส่วนของเนื้อเรื่องนี้ ควรได้อ้างอุทาหรณ์ ต่างๆ มาประกอบเป็นเชิงสาธกโวหาร เทศนาโวหาร อุปมาโวหาร และอาจเสนอบทกลอนที่เกี่ยวข้องมา ประกอบด้วย จะทำให้เรียงความมีสีสันและคุณค่ามากยิ่งขึ้น ควรมีความยาว ร้อยละ 70 - 80 ของเรียงความ ทั้งหมด 1. เนื้อเรื่องเรียงความมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ____________________________________________________________________________________ การเขียนเนื้อเรื่องเรียงความจะต้องนำเสนออย่างไร ____________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ 2. จุดประสงค์ในการเขียนเรียงความมีกี่ประการ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ 3. การกำหนดจุดประสงค์ในการเขียนต่างกัน มีผลต่อเรียงความอย่างไร ____________________________________________________________________________________________ 4. ก่อนที่จะลงมือเขียนเรียงความผู้เขียนต้องทำสิ่งใดก่อน ___________________________________________________________________________________________


เฉลยใบงาน การเขียนเนื้อเรื่อง คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การเขียนเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่อง เป็นส่วนสำคัญและยาวที่สุดของเรียงความ ประกอบด้วย ความรู้ ความคิด และข้อมูลที่ผู้เขียน ค้นคว้า และเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ ระเบียบ เป็นสาระสำคัญของเรื่องที่ผู้เขียนต้องแสดงความรู้หรือความคิด อย่างกว้างขวาง ถูกต้องและสมบูรณ์ ตรงตามหัวข้อเรื่องที่เขียน ผู้เขียนจะต้องคิดก่อนเป็นขั้นแรกว่า จะเลือกเขียน เรื่องอะไรและมีวัตถุประสงค์ใดในการเขียนเรื่องนั้นๆ จุดประสงค์ในการเขียนเรียงความ มี 4 ประการ คือ 1) เพื่อให้ข้อเท็จจริงแก่ผู้อ่าน 2) เพื่อโน้มน้าวใจผู้อ่าน 3) เพื่อให้ความบันเทิง 4) เพื่อส่งเสริมการใช้ความคิดของผู้อ่านให้กว้างขวางยิ่งขึ้น การกำหนดจุดประสงค์ที่แตกต่างกันจะทำให้เนื้อหาของงานเขียนต่างกันด้วย ผู้เขียนต้องวางโครงเรื่องไว้ ก่อนที่จะลงมือเขียน แบ่งเนื้อหาเป็นย่อหน้าต่างๆ ในย่อหน้าหนึ่งจะมีความคิดเป็นหลักสำคัญเพียงความคิดเดียว แต่ละย่อหน้าต้องมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันและสื่อความหมายได้ชัดเจน ส่วนของเนื้อเรื่องนี้ ควรได้อ้างอุทาหรณ์ ต่างๆ มาประกอบเป็นเชิงสาธกโวหาร เทศนาโวหาร อุปมาโวหาร และอาจเสนอบทกลอนที่เกี่ยวข้องมา ประกอบด้วย จะทำให้เรียงความมีสีสันและคุณค่ามากยิ่งขึ้น ควรมีความยาว ร้อยละ 70 - 80 ของเรียงความ ทั้งหมด 1. เนื้อเรื่องเรียงความมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ประกอบด้วย ความรู้ ความคิด และข้อมูลที่ผู้เขียนค้นคว้า และเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ ระเบียบ การเขียนเนื้อเรื่องเรียงความจะต้องนำเสนออย่างไร ผู้เขียนต้องแสดงความรู้หรือความคิดอย่างกว้างขวาง ถูกต้องและสมบูรณ์ ตรงตามหัวข้อเรื่องที่เขียน 2. จุดประสงค์ในการเขียนเรียงความมีกี่ประการ มี 4 ประการ คือ 1) เพื่อให้ข้อเท็จจริงแก่ผู้อ่าน 2) เพื่อโน้มน้าวใจผู้อ่าน 3) เพื่อให้ความบันเทิง 4) เพื่อส่งเสริมการใช้ความคิดของผู้อ่านให้กว้างขวางยิ่งขึ้น 3. การกำหนดจุดประสงค์ในการเขียนต่างกัน มีผลต่อเรียงความอย่างไร การกำหนดจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน จะทำให้เนื้อหาของงานเขียนต่างกัน 4. ก่อนที่จะลงมือเขียนเรียงความผู้เขียนต้องทำสิ่งใดก่อน จะต้องวางโครงเรื่องไว้ก่อนที่จะลงมือเขียน


ใบงาน การเขียนสรุป คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การเขียนสรุป สรุป เป็นส่วนสุดท้ายของเรียงความ เป็นการปิดเรื่อง เป็นส่วนที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาส่วน อื่น ๆ โดยตลอด และเป็นส่วนที่บอกผู้อ่านว่าเรื่องราวที่เสนอมานั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้เขียนจะทิ้งท้ายให้ ผู้อ่าน เกิดความประทับใจ สอดคล้องกับเรื่องที่เขียน กระชับรัดกุม ใช้ข้อความที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจ ที่ สำคัญคือ ต้องทำให้ผู้อ่านเข้าใจจุดประสงค์ของผู้เขียนอย่างแจ่มชัด ซึ่งการเขียนสรุปมีหลายวิธี เช่น ฝากข้อคิด และความประทับใจให้ผู้อ่านย้ำความคิดสำคัญของเรื่อง ชักชวนให้ปฏิบัติตาม ให้กำลังใจแก่ผู้อ่าน ตั้งคำถามที่ ชวนให้ผู้อ่านคิดหาคำตอบ และยกคำพูด คำคม สุภาษิต หรือบทกวีที่น่าประทับใจ เป็นต้น ไม่ใช่เป็นการย่อเรื่อง ที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่เป็นการทิ้งท้ายเรื่องให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างชัดเจนว่า ผู้เขียนต้องการอะไร โดยเขียนฝาก ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงก็ได้ ส่วนสรุปควรมีความยาวร้อยละ 10 -15 ของเรียงความทั้งหมด 1. การเขียนสรุปมีหลักการเขียนอย่างไร ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ 2. “การแก้ปัญหาซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งชาติ วันนี้ท่านได้ทำหน้าที่ของคนไทยโดยสมบูรณ์แล้วหรือยัง” ข้อความนี้ ควรเป็นการสรุปเรียงความที่มี เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด และเป็นการสรุปแบบใด ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ 3.ส่วนสรุปมีลักษณะอย่างไร ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________


เฉลยใบงาน การเขียนสรุป คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม การเขียนสรุป สรุป เป็นส่วนสุดท้ายของเรียงความ เป็นการปิดเรื่อง เป็นส่วนที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาส่วน อื่น ๆ โดยตลอด และเป็นส่วนที่บอกผู้อ่านว่าเรื่องราวที่เสนอมานั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้เขียนจะทิ้งท้ายให้ ผู้อ่าน เกิดความประทับใจ สอดคล้องกับเรื่องที่เขียน กระชับรัดกุม ใช้ข้อความที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจ ที่ สำคัญคือ ต้องทำให้ผู้อ่านเข้าใจจุดประสงค์ของผู้เขียนอย่างแจ่มชัด ซึ่งการเขียนสรุปมีหลายวิธี เช่น ฝากข้อคิด และความประทับใจให้ผู้อ่านย้ำความคิดสำคัญของเรื่อง ชักชวนให้ปฏิบัติตาม ให้กำลังใจแก่ผู้อ่าน ตั้งคำถามที่ ชวนให้ผู้อ่านคิดหาคำตอบ และยกคำพูด คำคม สุภาษิต หรือบทกวีที่น่าประทับใจ เป็นต้น ไม่ใช่เป็นการย่อเรื่อง ที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่เป็นการทิ้งท้ายเรื่องให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างชัดเจนว่า ผู้เขียนต้องการอะไร โดยเขียนฝาก ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงก็ได้ ส่วนสรุปควรมีความยาวร้อยละ 10 -15 ของเรียงความทั้งหมด 1. การเขียนสรุปมีหลักการเขียนอย่างไร การเขียนสรุปต้องใช้ข้อความที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจและเข้าใจจุดประสงค์ของผู้เขียนอย่าง แจ่มชัด 2. “การแก้ปัญหาซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของคนไทย ทั้งชาติ วันนี้ท่านได้ทำหน้าที่ของคนไทยโดยสมบูรณ์แล้วหรือยัง” ข้อความนี้ ควรเป็นการสรุป เรียงความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด และเป็นการสรุปแบบใด ควรเป็นเรียงความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นการสรุปแบบฝากข้อคิด 3.ส่วนสรุปมีลักษณะอย่างไร เป็นการปิดเรื่อง เป็นส่วนที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาส่วนอื่นๆโดยตลอด และเป็นส่วนที่ บอกผู้อ่านว่าเรื่องราวที่เสนอมานั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนโครงเรื่องเรียงความ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนเรียงความจัดเป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่มีการใช้รูปแบบและมีการเรียบเรียงภาษาที่สละสลวย โดยเฉพาะการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาจะต้องอาศัยการเลือกสรรถ้อยคำที่ทำให้เกิดจินตภาพและความงามของภาษา 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนวางแผนการเขียนได้ (K) 2) นักเรียนสามารถเขียนโครงเรื่องของเรียงความได้ (P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. จากชั่วโมงที่แล้วครูให้ลองเขียนบทนำให้น่าสนใจ และมีเพื่อนบางคนเขียนได้ดี ชั่วโมงนี้เราจะมาเขียนต่อให้จบ เรื่อง แต่ก่อนเขียนเราต้องทราบก่อนว่าจะเขียนเนื้อหาว่าอย่างไรบ้าง 2. นักเรียนตอบคำถามว่าการเขียนเรียงความเรื่องนี้นักเรียนคิดว่าองค์ประกอบเนื้อหาควรใส่อะไรบ้าง (ความหมาย ของประชาธิปไตย ) ขั้นสอน 3. ครูทบทวนความรู้ส่วนเนื้อเรื่อง และส่วนสรุป 4. ครูถามว่าถ้าจะเขียนเนื้อเรื่องต่อ จะเขียนหรือกล่าวถึงเรื่องใดบ้าง 5. ครูวาดผังความคิดลำดับเหตุการณ์ 6. นักเรียนเสนอหัวข้อที่เชื่อมโยงมา 7. เมื่อเขียนโครงเนื้อเรื่องจบแล้ว ครูให้นักเรียนเขียนบทสรุป ขั้นสรุป 8. นักเรียนเขียนเรียงความหัวข้อ “ความรักของฉัน” มาส่งครู 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตรวจงาน แบบประเมินการเขียน เรียงความ ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจงาน แบบประเมินการเขียน เรียงความ ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้น ไปถือว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป


แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


แบบประเมินการเขียนเรียงความ คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว


เกณฑ์การประเมินการเขียนเรียงความ 4 ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดำเนินเรื่องไมสับสนวกวน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสร้างสรรค์ ใช้สํานวนถอยคําภาษาได้อย่างสละสลวยกลมกลืนกับเนื้อเรื่อง สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย เขียนสะกดคําถูกตอง และสะอาดเรียบรอย 3 ตั้งชื่อเรื่องไดนาสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพการ ดําเนินเรื่องยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสรางสรรค ใช้สํานวนถอยคําภาษาไดอยางสละสลวย สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย และ เขียนสะกดคําไมเกิน 3 คํา 2 ตั้งชื่อเรื่องไดสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่อง ยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานบาง แต่ยังไมชัดเจน สํานวนถ อยคําภาษายังไมคอยสละสลวย สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่านค่อนข้างยาก เขียน สะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา 1 ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือสอดคลองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งหนึ่ง เขียน เรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปน ประโยชนตอผูอาน สํานวนถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่าน ค่อนข้างยาก เขียนสะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา 0 ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือไมตั้งชื่อเรื่อง เขียนเรื่องไมสอดคลองกับ ภาพ ดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอาน สํานวน ถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมได ตัวหนังสืออ่านยาก เขียนสะกดคำผิดมากกว่า 6 คํา ไมเขียนเรื่อง หรือเขียนแตไมเปนเรื่องราวหรือเขียนเปนตัวหนังสือ แตอานไมออก เกณฑ์การผ่าน ตั้งแตระดับ 2 ขึ้นไป


แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 8 เรื่องการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนเรียงความจัดเป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่มีการใช้รูปแบบและมีการเรียบเรียงภาษาที่สละสลวย โดยเฉพาะการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาจะต้องอาศัยการเลือกสรรถ้อยคำที่ทำให้เกิดจินตภาพและความงามของภาษา 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายหลักการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาได้(K) 2) เขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึกได้(P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก มาแจกให้นักเรียนอ่าน เพื่อให้นักเรียนสังเกตส่วนประกอบ ของการเขียนเรียงความ และการใช้คำต่างๆ ขั้นสอน 2. นักเรียนรวมกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน จากนั้นให้แต่ละกลุ่มวิเคราะห์ตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ 1) ลักษณะของการเขียนพรรณนาความรู้สึก 2) การนำเสนอข้อเท็จจริงและความรู้สึก 3) การใช้คำพรรณนาต่างๆ ที่ทำให้เห็นภาพ 4) ส่วนประกอบของการเขียนเรียงความ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์ตัวอย่าง เรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก 4. ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึกในเรื่องที่ตนเองสนใจ 5. นักเรียนตรวจสอบงานเขียนของตน โดยพิจารณาความสอดคล้องของเนื้อหาสาระ การใช้ภาษา การเขียนสะกด คำ การลำดับเรื่อง ปรับปรุงงานเขียนเรียงความให้มีความชัดเจน ถูกต้อง และเหมาะสม แล้วบันทึกลงในใบงานเรื่อง การ เขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก ขั้นสรุป 8. ครูประเมินผลการเขียนของนักเรียนและเลือกผลงานการเขียนดีเด่นจัดแสดงไว้บนป้ายนิเทศ 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินการเขียน เรียงความ เกณฑ์การผ่าน ตั้งแตระดับ 2 ขึ้นไป 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป


แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


แบบประเมินใบงาน การจับใจความสำคัญ คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว


เกณฑ์การประเมินการเขียนเรียงความ 4 ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดำเนินเรื่องไมสับสนวกวน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสร้างสรรค์ ใช้สํานวนถอยคําภาษาได้อย่างสละสลวยกลมกลืนกับเนื้อเรื่อง สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย เขียนสะกดคําถูกตอง และสะอาดเรียบรอย 3 ตั้งชื่อเรื่องไดนาสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพการ ดําเนินเรื่องยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสรางสรรค ใช้สํานวนถอยคําภาษาไดอยางสละสลวย สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย และ เขียนสะกดคําไมเกิน 3 คํา 2 ตั้งชื่อเรื่องไดสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่อง ยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานบาง แต่ยังไมชัดเจน สํานวนถ อยคําภาษายังไมคอยสละสลวย สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่านค่อนข้างยาก เขียน สะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา 1 ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือสอดคลองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งหนึ่ง เขียน เรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปน ประโยชนตอผูอาน สํานวนถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่าน ค่อนข้างยาก เขียนสะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา ๐ ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือไมตั้งชื่อเรื่อง เขียนเรื่องไมสอดคลองกับ ภาพ ดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอาน สํานวน ถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมได ตัวหนังสืออ่านยาก เขียนสะกดคำผิดมากกว่า 6 คํา ไมเขียนเรื่อง หรือเขียนแตไมเปนเรื่องราวหรือเขียนเปนตัวหนังสือ แตอานไมออก เกณฑ์การผ่าน ตั้งแตระดับ 2 ขึ้นไป


แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่าง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก วันที่ 2 มกราคม 2551 เป็นวันแห่งการสูญเสียใหญ่หลวงของปวงชนชาวไทย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 2 นาฬิกา 54 นาที ตามแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ยังความวิปโยคโศกเศร้าอาลัยอย่างสุดซึ้งบังเกิดแก่พสกนิกรทั่วไป ทั้งภายใน และนอกประเทศ พอรุ่งสางข่าวได้แพร่สะพัดไปอย่างเร็ว แม้จะเป็นที่คาดหมายกันล่วงหน้าจากที่ติดตามแถลงการณ์สำนัก พระราชวังโดยตลอดก็ตาม ไม่นานนักบริเวณโรงพยาบาลศิริราชก็คลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่ทยอยกันไปเพื่อรอ ถวายความเคารพพระศพ สีดำของเสื้อผ้าที่ผู้คนสวมใส่ ใบหน้าที่หมองคล้ำ นัยน์ตาที่หล่อรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา บอกให้รู้ว่าทุกดวงใจในที่นั้นหมองเศร้าเพียงใด นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชาวไทยรู้สึกสูญเสีย แต่ในความสูญเสียนั้น เราได้เห็นพลังและความจงรักภักดีที่คนไทย มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกคนอยากจะแบ่งเบาความโทมนัส พระทัยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว*และอยากถวายกำลังใจแด่พระองค์ การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ครั้งนี้ ถือเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของพสกนิกรชาวไทย ดังที่มีผู้ถ่ายทอดความรู้สึกถึงพระองค์ไว้ว่า อาลัยพระเสด็จด้าว แดนสวรรค์ ปวงประชาโศกศัลย์ ทั่วหล้า ตะวันลับดับคงผัน คืนรุ่ง อรุณแฮ สูญพระองค์ลับฟ้า ลับแล้วลาไกล หฤทัยปลงเปี่ยมเศร้า โศกสลด หมองหม่นพ้นพากย์พจน์ เทียบแท้ วรกายมิปรากฏ แก่เนตร นรานา พระเกียรติพระคุณแล้ อยู่ยั้งยืนนิรันดร์ (สโมสรสมานมิตร : คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ, นิตยสารสกุลไทย) __________________ * “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ในที่นี้หมายถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


ใบงาน การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึก คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรู้สึกในเรื่องที่ตนเองสนใจ


กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 9 เรื่องการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนเรียงความจัดเป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่มีการใช้รูปแบบและมีการเรียบเรียงภาษาที่สละสลวย โดยเฉพาะการเขียนเรียงความเชิงพรรณนาจะต้องอาศัยการเลือกสรรถ้อยคำที่ทำให้เกิดจินตภาพและความงามของภาษา 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/4 เขียนเรียงความ ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนตอบคำถามได้ว่าการเขียนพรรณนาตามความรู้สึกกับการเขียนพรรณนาตามความเป็นจริงแตกต่างกัน อย่างไร (K) 2) เขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามเป็นจริงได้(P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง มาแจกให้นักเรียนอ่าน เพื่อให้นักเรียนสังเกต ส่วนประกอบของการเขียนเรียงความ และการใช้คำที่สื่อให้เห็นข้อเท็จจริงของเรื่อง ขั้นสอน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากกลุ่มที่แล้ว) วิเคราะห์ตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ 1) ลักษณะของพรรณนาเรื่องราวตามความเป็นจริง 2) การนำเสนอข้อเท็จจริงและความรู้สึก 3) การใช้คำอธิบายและคำพรรณนาที่ทำให้เห็นภาพ 4) ส่วนประกอบของการเขียนเรียงความ 3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์ตัวอย่างเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง 4. ครูถามว่า การเขียนพรรณนาตามความรู้สึกกับการเขียนพรรณนาตามความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างไร (การ เขียนพรรณนาตามความรู้สึกจะมุ่งเน้นถึงอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากเรื่องนั้นๆ ส่วน การเขียนพรรณนาตามความเป็น จริงจะนำเสนอข้อเท็จจริงโดยมีข้อมูลที่อ้างอิงได้ โดยเขียนพรรณนาแทรกคำอธิบายในเรื่องๆ นั้นเพื่อเป็นความรู้สำหรับ ผู้อ่าน) 5. ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริงตามที่นักเรียนสนใจร่วมกัน โดยตั้งชื่อเรื่องเอง 6. ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริงตามที่สมาชิกกลุ่มสนใจร่วมกัน โดยตั้งชื่อเรื่องเอง 7. นักเรียนตรวจสอบงานเขียนของตน โดยพิจารณาความสอดคล้องของเนื้อหาสาระ การใช้ภาษา การเขียนสะกด คำ การลำดับเรื่อง และปรับปรุงงานเขียนเรียงความให้มีความชัดเจน ถูกต้อง และเหมาะสม แล้วบันทึกลงในใบงาน เรื่อง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ 8. การตั้งชื่อเรื่องเรียงความมีความสำคัญหรือไม่ และการตั้งชื่อเรียงความต้องพิจารณาให้สัมพันธ์กับส่วนใด (มี ความสำคัญมาก เพราะชื่อของเรียงความจะทำให้ผู้อ่านสนใจเรื่องและบอกให้รู้ว่าเรื่องนั้นเกี่ยวกับอะไร การตั้งชื่อเรื่องจึงต้อง มีความสัมพันธ์กับเนื้อเรื่อง) ขั้นสรุป 9. ครูตรวจผลงานการเขียนเรียงความของนักเรียนในใบงาน จากนั้นประเมินผล แล้วเสนอแนะให้นักเรียนนำไป ปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และมีความชำนาญในการเขียนเรียงความ 10. ครูประเมินผลการเขียนเรียงความของนักเรียนอีกครั้ง และคัดเลือกผลงานการเขียนเรียงความที่ดีเด่นจัดแสดง บนป้ายนิเทศ


7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินการเขียน เรียงความ เกณฑ์การผ่าน ตั้งแตระดับ 2 ขึ้นไป 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป


แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์


แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


แบบประเมินการเขียนเรียงความ คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว


เกณฑ์การประเมินการเขียนเรียงความ 4 ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดำเนินเรื่องไมสับสนวกวน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสร้างสรรค์ ใช้สํานวนถอยคําภาษาได้อย่างสละสลวยกลมกลืนกับเนื้อเรื่อง สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย เขียนสะกดคําถูกตอง และสะอาดเรียบรอย 3 ตั้งชื่อเรื่องไดนาสนใจ สอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพการ ดําเนินเรื่องยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานในเชิงสรางสรรค ใช้สํานวนถอยคําภาษาไดอยางสละสลวย สื่อความหมายไดชัดเจน ตัวหนังสืออ่านงาย และ เขียนสะกดคําไมเกิน 3 คํา 2 ตั้งชื่อเรื่องไดสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่อง เขียนเรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่อง ยังสับสนวกวนเปนบางตอน ใหขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอานบาง แต่ยังไมชัดเจน สํานวนถ อยคําภาษายังไมคอยสละสลวย สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่านค่อนข้างยาก เขียน สะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา 1 ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือสอดคลองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งหนึ่ง เขียน เรื่องไดสอดคลองกับภาพ การดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปน ประโยชนตอผูอาน สํานวนถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมชัดเจน ตัวหนังสืออ่าน ค่อนข้างยาก เขียนสะกดคำผิดไมเกิน 6 คํา ๐ ตั้งชื่อเรื่องไมสอดคลองกับภาพและเนื้อเรื่องหรือไมตั้งชื่อเรื่อง เขียนเรื่องไมสอดคลองกับ ภาพ ดําเนินเรื่องสับสนวกวนไมตอเนื่อง ไมแสดงขอคิดที่เปนประโยชนตอผูอาน สํานวน ถอยคําภาษาไมถูกตอง สื่อความหมายไมได ตัวหนังสืออ่านยาก เขียนสะกดคำผิดมากกว่า 6 คํา ไมเขียนเรื่อง หรือเขียนแตไมเปนเรื่องราวหรือเขียนเปนตัวหนังสือ แตอานไมออก เกณฑ์การผ่าน ตั้งแตระดับ 2 ขึ้นไป


แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)


เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่าง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง อนุสาวรีย์หมู ใครที่มีโอกาสแวะผ่านไปมาบริเวณริมคลองหลอด เชิงสะพานปีกุน ต้องสะดุดตากับ “อนุสาวรีย์หมู” พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ พวงมาลัย ตุ๊กตาหมูน่ารักของผู้ที่เกิดในปีกุนวางเกลื่อนอยู่ที่ฐานด้านล่าง อนุสาวรีย์รูปหมู มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “อนุสาวรีย์สหชาติ” ออกแบบโดยสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ สร้างขึ้นในปี 2456 เป็นอุทกทานที่สร้างขึ้นในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินี นาถ ในรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระชนมายุ 50 พรรษา พระองค์ทรงพระราชสมภพในปีกุนเช่นเดียวกับผู้สร้างถวายทั้งสามท่าน คือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ พระยาพิพัฒน์โกษา และพระยาราชสงคราม ส่วน “สะพานปีกุน” สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นก่อนอนุสาวรีย์หมู แต่ ไม่ได้พระราชทานชื่อไว้ ต่อมาเมื่อสร้างอนุสาวรีย์หมูขึ้นแล้วจึงเรียกให้สอดคล้องกันว่าสะพานหมู หรือสะพาน ปีกุนนั่นเอง เมื่อแรกสร้างใช้แท่งศิลาขนาดใหญ่มาซ้อนกันเป็นฐาน ตัวหมูที่ตั้งอยู่ด้านบนแท่งศิลาหล่อด้วยโลหะ ปัจจุบันฐานศิลาถูกเปลี่ยนมาเป็นปูนซีเมนต์ และก่อยกให้สูงขึ้นกว่าเดิม ลักษณะเหมือนเป็นภูเขา ใครที่เกิดปี กุนหากมีโอกาสแวะไป ควรไปกราบไหว้ขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลก็จะดีไม่น้อย ที่มา หนังสือพิมพ์M2F ฉบับวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


ใบงาน การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริง คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความเป็นจริงตามที่สมาชิกกลุ่มสนใจร่วมกัน โดยตั้งชื่อเรื่อง พิจารณาความสอดคล้องของเนื้อหาสาระ การใช้ภาษา การเขียนสะกดคำ การลำดับเรื่อง ชื่อเรื่อง...............................................................................................


Click to View FlipBook Version