แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่10 เรื่อง การเขียนบรรยายประสบการณ์ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การบรรยายประสบการณ์ เป็นการเขียนถ่ายทอดข้อมูล รายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้ผู้อ่านได้ทราบ โดย อาจเป็นเรื่องที่ได้จากประสบการณ์จริงของนักเรียนเอง หรืออาจได้ยินได้ฟังมาจากผู้อื่น 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/3 เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายหลักการเขียนบรรยายประสบการณ์ได้ (K) 2) เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุนได้(P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การบรรยายประสบการณ์ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามคำถาม นักเรียนจะเขียนบรรยายประสบการณ์อย่างไร จึงจะทำให้เรื่องที่เขียนนั้นมีความน่าสนใจ 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ4 คน จากนั้นครูให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่นักเรียน ประทับใจที่สุดให้เพื่อนฟัง 3. ครูถามนักเรียนว่า สมาชิกคนใดในกลุ่มเล่าประสบการณ์ได้น่าฟังที่สุด พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ 4. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การเล่าหรือการเขียนบรรยายเกี่ยวกับประสบการณ์จะต้องอาศัยการระบุ สาระสำคัญและรายละเอียดต่างๆ ด้วย จึงจะทำให้มีความน่าสนใจ ขั้นสอน 5. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การเขียนบรรยาย จากหนังสือเรียน 6. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันอธิบายลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์เรื่องล่องแพแม่วัง จากหนังสือ เรียน ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ 1) การเขียนบรรยายเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร และเกิดผลอะไร 2) ลักษณะของการใช้คำในการเขียนบรรยาย 3) เทคนิคที่ผู้เขียนนำมาใช้ในการเขียนเล่าเรื่อง 7. สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์ในแต่ละประเด็น แล้วสรุปผล 8. ครูสุ่มเรียกตัวแทนนักเรียน 2-3 กลุ่ม อธิบายประเด็นความรู้ที่เป็นข้อสรุปของกลุ่ม 9. นักเรียนร่วมกันสรุปลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์ ขั้นสรุป 10. นักเรียนทำใบงานเรื่อง การเขียนบรรยายประสบการณ์ เป็นรายบุคคล เมื่อทำเสร็จแล้วให้ตรวจความเรียบร้อย และแก้ไขให้สมบูรณ์ 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบบันทึกการตอบคำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม ๔ รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินการเขียน บรรยาย นักเรียนได้คะแนนระดับ พอใช้ขึ้นไป ถือว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป

แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์

แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

แบบประเมินการเขียนบรรยาย คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผลการ ประเมิน การ เลือกใช้ คำศัพท์ ไวยา การณ์ เนื้อหา 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว

เกณฑ์การประเมินการเขียนบรรยาย ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 การเลือกใช้คำศัพท์ ใช้คำศัพท์สื่อความหมาย ตรงกับเนื้อหา ใช้คำศัพท์สื่อความหมายไม่ ตรงกับเนื้อหาเป็นบางคำ ใช้คำศัพท์สื่อความหมายไม่ ตรงกับเนื้อหาหลายคำ ไวยาการณ์ เขียนประโยคถูกตอง ตามหลักไวยากรณ ทุกประโยค / สะกดคํา ถูกตองเปนสวนใหญ / ใชเครื่องหมายตาง ๆ ถูกตอง เขียนประโยคไม ถูกตองตามหลัก ไวยากรณเล็กน้อย / สะกดคําผิดบาง เล็กนอย / ใช เครื่องหมายตาง ๆ ผิด บางแหง เขียนประโยคผิดหลัก ไวยากรณ / สะกดคําและ ใชเครื่องหมายตาง ๆ ผิดมาก เนื้อหา เขียนอธิบายเนื้อหาได้เข้าใจ ชัดเจน เขียนอธิบายเนื้อหาพอ เข้าใจ เขียนอธิบายเนื้อหาไม่ ชัดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 5-7 พอใช้ 3-4 ควรปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่คุณภาพพอใช้ขึ้นไป

แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

ใบงานที่ 7.1 การเขียนบรรยายประสบการณ์ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนบรรยายประสบการณ์ที่ประทับใจมากที่สุด 1 เรื่อง ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนสื่อสาร จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง การเขียนย่อความ เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การย่อความ เป็นทักษะจําเป็นต้องใช้อยู่เสมอ ผู้ย่อต้องจับประเด็นของเรื่องได้ถูกต้อง ตลอดจนเห็นคุณค่าและ ความสําคัญของการใช้ภาษา และสามารถนํามาเรียบเรียงใหม่ด้วยภาษาที่สั้น 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสารเขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษา ค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.1/5 เขียนย่อความ ม.1/9 มารยาทในการเขียน 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกหลักการเขียนย่อความได้(K) 2) เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่านได้ถูกต้องตามรูปแบบ(P) 3) มีมารยาทในเขียน (A) 3. สาระการเรียนรู้ การเขียนย่อความจากสื่อต่างๆ เช่น นิทาน 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 หลักการเขียนย่อความ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูเล่านวนิยายที่ครูชอบให้นักเรียนฟังอย่างย่อๆ 2. ครูและนักเรียนสนทนาถึงนวนิยายที่ครูเล่าให้ฟัง ครูอธิบายว่าเรื่องราวจากนวนิยายที่นำมาเล่าให้นักเรียนฟังนี้ เป็นการเล่าอย่างย่อๆ จับประเด็นที่ชอบและเนื้อเรื่องตอนที่ครูประทับใจวิธีการเล่าเรื่องย่อของครูไม่เหมือนกับการย่อความที่ นักเรียนจะได้เรียนต่อไป ขั้นสอน 3. นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 4 คนจากนั้นร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การเขียนย่อความ จากหนังสือเรียน 4. นักเรียนอภิปรายความรู้ภายในกลุ่ม 5. นักเรียนฝึกย่อความในหนังสือเรียน แล้วนำคำตอบที่ได้มาให้ครูตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นสรุป 6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้หลักการย่อความ ชั่วโมงที่ 2 การฝึกย่อความ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้ครั้งที่แล้ว ขั้นสอน 2. นักเรียนมารับใบงานที่ครูเป็นรายบุคคล 3. นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การย่อความ 4. เมื่อนักเรียนทำใบงานเสร็จแล้วนำมาส่งให้ครูตรวจสอบความถูกต้อง 5. ครูอธิบายและให้คำแนะนำในการแก้ไขปรับปรุงงานแก่นักเรียนที่มีข้อบกพร่องในการเขียน 6. ครูถามคำถาม การจับใจความสำคัญและการย่อความมีความสัมพันธ์กันอย่างไร (การจับใจความสำคัญเป็นการสรุปสาระสำคัญของเนื้อความหรือเนื้อเรื่อง แต่การย่อความจะเป็นการนำใจความ สำคัญมาเขียนย่อความในรูปแบบเฉพาะ ตามที่มาของสื่อนั้นๆ เช่น ย่อในรูปแบบนิทาน บทความ โอวาท เป็นต้น) ขั้นสรุป 7. นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการจับใจความสำคัญและการย่อความจากนั้นร่วมกันบอกประโยชน์ที่ได้รับจากการจับ ใจความสำคัญ และการย่อความ 8. ครูและนักเรียนเฉลยการย่อความ

7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบบันทึกการตอบ คำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ได้คะแนนร้อยละ 70 ขึ้น ไปถือว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 80 ขึ้นไป

แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์

แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

แบบประเมินใบงาน คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 6 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว

แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการเขียน ที่ ชื่อ-สกุล มารยาทในการอ่าน ผลการประเมิน เขียนด้วยลายมือบรรจง สวยงาม เรียบร้อย (2) เขียนสะกดคำให้ถูกต้อง (2) รักษาความสะอาดในการเขียน (2) เขียนคำสุภาพ ถูกกาลเทศะ (2) มีความรับผิดชอบในงานเขียนของตน (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไป ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

ใบงานการย่อความ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วจับใจความสำคัญของเรื่องในแต่ละย่อหน้า อะไรก็แอพ มนุษย์ในยุคโมบายติดมือที่วันๆ พูดแต่แอพตลอดเวลา คำว่าแอพนี้ย่อมาจากแอพพลิเคชั่น ซอฟต์แวร์ในวิกิพีเดียให้ความหมายไว้ว่า เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เพียงแต่ถูกออกแบบ โดยนักพัฒนาโปรแกรมและซอฟต์แวร์ให้ดูง่ายขึ้นคล้ายคลึงกับคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ การทำงานจะต่างกัน บ้าง เพราะแอพพลิเคชั่นจะใช้ในสมาร์ทโฟน มีการใช้ที่หลากหลายรูปแบบและฉลาดมากง่ายต่อการใช้งาน การใช้แอพพลิเคชั่น คือ ต้องผ่านการดาวน์โหลดผ่านทางอินเทอร์เน็ต สามารถเลือกได้จากคลัง แอพพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นจากค่ายต่างๆ แอพพลิเคชั่นมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกไม่ต้องยุ่งยากเหมือนกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ที่มี ขั้นตอนยุ่งยากกว่าหลายเท่า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นขึ้นมาก็เพื่อรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต สามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เป็นแผนที่นำทาง เป็นไฟฉายให้แสงสว่างในยามวิกาล เป็น สะพานให้เชื่อมไปหาเพื่อนทั่วโลก เป็นช่างแต่งหน้าได้หลายสไตล์ เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีบุ๊คส์ และ เป็นสนามแข่งรถเป็นเครื่องมือนำเราไปตะลุยจักรวาลและอื่นๆ อีกมากมาย ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/ • ย่อหน้าที่ 1 ______________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ • ย่อหน้าที่ 2______________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ • ย่อหน้าที่ 3______________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ • ย่อหน้าที่ 4______________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________

เฉลยใบงาน การย่อความ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วจับใจความสำคัญของเรื่องในแต่ละย่อหน้า อะไรก็แอพ มนุษย์ในยุคโมบายติดมือที่วันๆ พูดแต่แอพตลอดเวลา คำว่าแอพนี้ย่อมาจากแอพพลิเคชั่น ซอฟต์แวร์ในวิกิพีเดียให้ความหมายไว้ว่า เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เพียงแต่ถูกออกแบบ โดยนักพัฒนาโปรแกรมและซอฟต์แวร์ให้ดูง่ายขึ้นคล้ายคลึงกับคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ การทำงานจะต่างกัน บ้าง เพราะแอพพลิเคชั่นจะใช้ในสมาร์ทโฟน มีการใช้ที่หลากหลายรูปแบบและฉลาดมากง่ายต่อการใช้งาน การใช้แอพพลิเคชั่น คือ ต้องผ่านการดาวน์โหลดผ่านทางอินเทอร์เน็ต สามารถเลือกได้จากคลัง แอพพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นจากค่ายต่างๆ แอพพลิเคชั่นมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกไม่ต้องยุ่งยากเหมือนกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ที่มี ขั้นตอนยุ่งยากกว่าหลายเท่า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นขึ้นมาก็เพื่อรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต สามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เป็นแผนที่นำทาง เป็นไฟฉายให้แสงสว่างในยามวิกาล เป็น สะพานให้เชื่อมไปหาเพื่อนทั่วโลก เป็นช่างแต่งหน้าได้หลายสไตล์ เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีบุ๊คส์ และ เป็นสนามแข่งรถเป็นเครื่องมือนำเราไปตะลุยจักรวาลและอื่นๆ อีกมากมาย ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/ • ย่อหน้าที่ 1 แอพย่อมาจาก แอพพลิเคชั่น ซอฟต์แวร์ เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เพียงแต่ถูกออกแบบโดยนักพัฒนาโปรแกรมและซอฟต์แวร์ให้ดูง่ายขึ้น • ย่อหน้าที่ 2 การใช้แอพพลิเคชั่นต้องผ่านการดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ต • ย่อหน้าที่ 3 แอพพลิเคชั่นมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกไม่ยุ่งยากเหมือนกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ • ย่อหน้าที่ 4 แอพพลิเคชั่นสามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย มีประโยชน์มากมาย

ใบงาน การเขียนย่อความนิทาน คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านนิทานที่กำหนด แล้วเขียนย่อความให้ถูกต้องตามรูปแบบ เกือบสายไปแล้ว ช่วงวัยของชีวิตไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าวัยรุ่นวัยเรียนนั้นน่าสนุกที่สุด เพราะเมื่อเราจากไกลบ้านแล้วนั้น เท่ากับว่าไม่มีผู้ใหญ่คอยขีดขวางอีกแล้ว กับการมีชีวิตตามลำพังมีบททดสอบมากมายให้ลองผิดลองถูกทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับเราตัดสินเลือกหนทางเดินเองทั้งสิ้นดั้งนั้นคนคนหนึ่งที่เรารู้จักโดยบังเอิญ ชีวิตวัยเด็กเขาเป็นเด็กดี มากถูกเลี้ยงมาอย่างดีเขาเป็นลูกคนเดียวจึงุถูกตามใจในทุก ๆ เรื่องหลังจบชั้นประถมก็ต่อชั้นมัธยมเมื่อออกสู่โลก ภายนอกทำให้เขาหลงระเริงกับสภาพบรรยากาศใหม่ๆ เรียนได้ไม่กี่ปีชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างทางที่ไม่ดีไม่ใส่ใจ การเรียน ติดยา นานวันก็ยิ่งหนักขึ้นเป็นตัวปัญหา ที่ว่าสังคมไม่ต้องการ ทางบ้านจึงได้ส่งตัวไปเมืองนอกเผื่อว่าจะดี ขึ้น แต่กลับรุนแรงเข้าไปอีก เมื่อทางบ้านทราบข่าวสิ่งที่หวังจึงหมดหนทางสุดท้าย เขาถูกส่งตัวกลับบ้านหลังจากนั้น เขาทำอะไรก็ไม่มีใครสนใจจนเขาเองก็รู้สึกเเปลกใจ จนวันหนึ่งเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ เขาเกือบตายในขณะที่เขาอาการโคม่าเขาได้สำนึกถึงการกระทำอันเลวร้ายที่ผ่านมาเขาได้ สัญญากับตัวเองว่าหาก เขาหายจากอาการแล้วคนแรกที่จะขอโทษคือพ่อแม่และจะเป็น คนดีตลอดชีวิตถ้ามีชีวิตกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ผู้แต่ง ถวัลย์ มาสจรัส สำนักพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว ปีทีพิมพ์ 2539 ย่อนิทานเรื่อง _______________________________________________________________________ ของ _________________________________________________________________________________ จาก _________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________

หน่วยที่ 3 ภาษาพาสาร เวลา 10 ชั่วโมง

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ภาษาพาสาร จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องมารยาทในการฟังและการดู เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การฟังและการดูที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องฝึกให้มีมารยาทในการฟังและการดู 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ม. 1/6 มารยาทในการฟัง การดู และการพูด 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายมารยาทในการฟังและการดูได้ (K) 2) เขียนอธิบายมารยาทในการฟังและการดูได้ (P) 3) มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด (A) 3. สาระการเรียนรู้ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับมารยาทไทย จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันบอกความหมายของมารยาท 2. ครูถาม การปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทเป็นผลดีต่อตนเองอย่างไร(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลย พินิจของครูผู้สอน) ขั้นสอน 3. นักเรียนรวมกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การฟัง และการดูสื่อ จากหนังสือเรียน ตามประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ - การสื่อสารจากการฟังและการดู - จุดมุ่งหมายของการรับสารด้วยทักษะการฟัง และการดู - ลักษณะของผู้ฟัง และผู้ดูที่ดี - มารยาทในการฟัง และการดูสื่อต่างๆ 4. สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันศึกษาความรู้ในประเด็นต่างๆ ตามความสนใจ หรือตามความเหมาะสม ขั้นสรุป 5. สมาชิกแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ในประเด็นที่ตนรับผิดชอบ จากนั้นร่วมกันซักถามข้อสงสัย และหาคำตอบ ร่วมกันเพื่ออธิบายข้อสงสัยให้มีความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น 6. สมาชิกแต่ละกลุ่มอภิปรายเพื่อสรุปประเด็นความรู้ 7. ครูถามการปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทเป็นผลดีต่อตนเองอย่างไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลย พินิจของครูผู้สอน) ชั่วโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูทบทวนความรู้จากการเรียนครั้งที่แล้ว ขั้นสอน 2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำคำตอบมาอภิปรายร่วมกันจนได้คำตอบที่สมบูรณ์และมีความเข้าใจกันทุกคน แล้วแก้ไข หรือปรับปรุงคำตอบในใบงานของตนเองให้ถูกต้องและสมบูรณ์ เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ 3. ถ้านักเรียนฟังและดูสื่อต่างๆ ที่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ส่วนบุคคล จำเป็นต้องมีมารยาทในการฟังและดูสื่อหรือไม่ เพราะ เหตุใด (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ใน ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสรุป 4. ครูสุ่มเลือกใบงาน จำนวน 2-3 ใบงาน แล้วให้นักเรียนที่เป็นเจ้าของใบงานออกมานำเสนอคำตอบที่หน้าชั้นเรียน 5. ครูให้กำลังใจและยกย่องกลุ่มนักเรียนที่ตอบคำถามได้ถูกต้องมากที่สุด เพื่อเสริมกำลังใจ 6.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับมารยาทในการฟังและการดู

7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบบันทึกการตอบ คำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 80 ขึ้นไป 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการฟัง การดู และพูด นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 5 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน

แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์

แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

แบบประเมินใบงาน เรื่อง........................................................................................................................................ คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว

แบบสังเกตพฤติกรรมการฟัง การดู และการพูด เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน การฟัง การดู การพูดฟังด้วยความสงบ ตั้งใจฟัง มองหน้าผู้พูด อูอย่างสงบ เรียบร้อย ในขณะดูไม่คุยกัน ไม่ลุกเดินไปเดินมา พูดด้วยถ้อยคำสุภาพ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่พูดแทรก 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 5 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

ใบงาน มารยาทการฟังและการดูสื่อ ตอนที่ 1 คำชี้แจง ให้นักเรียนนำเลขหน้าข้อความในกรอบไปเขียนหน้าข้อความที่กำหนดให้ โดยพิจารณาให้มีความสัมพันธ์กัน 1. การรับสารที่มีการโต้ตอบระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสาร 2. การรับสารที่ไม่มีการโต้ตอบระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสาร การดูข่าว การดูภาพยนตร์ การพูดโทรศัพท์ การดูคัตเอาท์โฆษณา การดูป้ายจราจร การสนทนาทางอินเทอร์เน็ต การฟังการโต้วาที การฟังการอภิปราย การฟังคำอธิบาย การชมรายการแสดงคอนเสิร์ต

ตอนที่ 2 คำชี้แจง ให้นักเรียนนำข้อความที่กำหนดให้เขียนลงในตารางให้ตรงกับจุดมุ่งหมายของการรับสาร ฟังเทศน์ ฟังคำบรรยาย ฟังการอภิปราย ฟังการโต้วาที ฟังเพลง ฟังการบรรยายธรรม ฟังการให้โอวาท ชมนิทรรศการ ฟังการอ่านบทความวิชาการ ชมการละเล่นของเด็กไทย ฟังหรือดูเพื่อแสวงหาความรู้ และความรอบรู้ ฟังหรือดูเพื่อให้เกิดความ เพลิดเพลินและความซาบซึ้ง ฟังหรือดูเพื่อให้ได้ข้อคิด ตอนที่ 3 คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง ชัดเจน 1. จงอธิบายลักษณะของผู้ฟังและผู้ดูที่ดี ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________________________ 2. จากข้อ 1 การปฏิบัติตนของผู้ฟังที่ดี ข้อใดที่เป็นการปฏิบัติตามหัวใจนักปราชญ์ ___________________________________________________________________________________________________ 3. การนำความรู้จากการฟังและการดูไปใช้ประโยชน์ จะต้องใช้ความรู้ความสามารถในด้านใด ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________

4. การตั้งใจฟังและดู “ตั้งใจ” มีลักษณะอย่างไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ 5. มีจุดมุ่งหมายในการฟัง หมายความว่าอย่างไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ 6. จุดประสงค์ของการรับสารด้วยทักษะการฟัง และการดู มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง _____________________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________________ 7. มารยาท หมายถึงอะไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ 8.ผู้มีมารยาทในการฟังและดู มีประโยชน์อย่างไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ 9. การปลูกฝังมารยาทในการฟังและการดูที่ดี ควรปฏิบัติอย่างไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ 10. ผู้มีมารยาทในการฟังและการดูในที่ชุมชน ควรปฏิบัติตนอย่างไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________

เฉลยใบงาน ฟังและการดูสื่อ ตอนที่ 1 คำชี้แจง ให้นักเรียนนำเลขหน้าข้อความในกรอบไปเขียนหน้าข้อความที่กำหนดให้ โดยพิจารณาให้มีความสัมพันธ์กัน 3. การรับสารที่มีการโต้ตอบระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสาร 4. การรับสารที่ไม่มีการโต้ตอบระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสาร 2 การดูข่าว 2 การดูภาพยนตร์ 1 การพูดโทรศัพท์ 2 การดูคัตเอาท์โฆษณา 2 การดูป้ายจราจร 1 การสนทนาทางอินเทอร์เน็ต 2 การฟังการโต้วาที 1 การฟังการอภิปราย 1 การฟังคำอธิบาย 2 การชมรายการแสดงคอนเสิร์ต ตอนที่ 2 คำชี้แจง ให้นักเรียนนำข้อความที่กำหนดให้เขียนลงในตารางให้ตรงกับจุดมุ่งหมายของการรับสาร ฟังเทศน์ ฟังคำบรรยาย ฟังการอภิปราย ฟังการโต้วาที ฟังเพลง ฟังการบรรยายธรรม ฟังการให้โอวาท ชมนิทรรศการ ฟังการอ่านบทความวิชาการ ชมการละเล่นของเด็กไทย ฟังหรือดูเพื่อแสวงหาความรู้ และความรอบรู้ ฟังหรือดูเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน และความซาบซึ้ง ฟังหรือดูเพื่อให้ได้ข้อคิด ฟังคำบรรยาย ฟังการอภิปราย ฟังการอ่านบทความวิชาการ ฟังการโต้วาที ฟังเพลง ชมนิทรรศการ ชมการละเล่นของเด็กไทย ฟังเทศน์ ฟังการบรรยายธรรม ฟังการให้โอวาท

ตอนที่ 3 คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง ชัดเจน 1. จงอธิบายลักษณะของผู้ฟังและผู้ดูที่ดี ผู้ฟังและผู้ดูที่ดีมีลักษณะ ดังนี้ 1. มีจุดมุ่งหมายในการฟังและการดู 2. มีความพร้อมในการฟังและการดู 3. มีความสนใจในสาร 4. มีความตั้งใจฟังและตั้งใจดู 5. มีอาการสำรวมและมีมารยาทอันดี ให้เกียรติผู้ส่งสาร 6. มีความสามารถในการจับใจความ 2. จากข้อ 1 การปฏิบัติตนของผู้ฟังที่ดี ข้อใดที่เป็นการปฏิบัติตามหัวใจนักปราชญ์ การจดบันทึกสิ่งที่ฟังและดูมาแล้วนำไปใช้ประโยชน์ 3. การนำความรู้จากการฟังและการดูไปใช้ประโยชน์ จะต้องใช้ความรู้ความสามารถในด้านใด ความสามารถในการจับใจความ 4. การตั้งใจฟังและดู “ตั้งใจ” มีลักษณะอย่างไร ตั้งใจ คือ ผู้รับสารต้องมีความเอาใจใส่จดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง และมีความอดทนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ 5. มีจุดมุ่งหมายในการฟัง หมายความว่าอย่างไร การตั้งจุดมุ่งหมายว่าจะฟังในลักษณะใด แล้วจับใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังไปตามจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ได้ สารอย่างสมบูรณ์ 6. จุดประสงค์ของการรับสารด้วยทักษะการฟัง และการดู มีกี่ลักษณะ อะไรบ้าง 1. ฟังหรือดู เพื่อแสวงหาความรู้และความรอบรู้ 2. ฟังหรือดู เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินและความซาบซึ้ง 3. ฟังหรือดู เพื่อให้ได้ข้อคิด 7. มารยาท หมายถึงอะไร ข้อควรปฏิบัติในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ถ้าขาดมารยาทจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่มีความสุภาพ 8. ผู้มีมารยาทในการฟังและดู มีประโยชน์อย่างไร เป็นบุคคลที่มีวัฒนธรรมอันดีงาม ได้รับการยกย่อง ยอมรับจากผู้อื่น เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ 9. การปลูกฝังมารยาทในการฟังและการดูที่ดี ควรปฏิบัติอย่างไร 1. แสดงความตั้งใจและมีความกระตือรือร้นในการฟังและการดู

2. มีความสำรวม 3. มีมารยาทในการฟังและการดูในที่ชุมนุมชน 8. ผู้มีมารยาทในการฟังและการดูในที่ชุมชน ควรปฏิบัติตนอย่างไร 1. ถ้าเป็นการประชุมให้ไปตรงเวลาหรือก่อนเวลาเล็กน้อย ถ้ามีเอกสารประกอบการประชุมก็ให้อ่านมา ล่วงหน้า 2. อยู่ในอาการสงบไม่พูดคุยกันหรือทำธุระส่วนตัว 3. ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็กเข้าไปด้วย 4. ไม่ลุกขึ้นเดินเข้า-ออกบ่อยโดยไม่จำเป็น ถ้าต้องออกไปก่อนเวลาควรเลือกนั่งใกล้ทางออก 5. ไม่นำอาหาร เครื่องดื่ม หรือของขบเคี้ยวเข้าไปรับประทาน 6. ไม่แสดงอาการที่ไม่เหมาะสมต่อเพื่อนต่างเพศในที่ประชุมหรือการชมการแสดง 7. ควรปรบมือให้เป็นเกียรติแก่ผู้พูดเมื่อมีการแนะนำผู้พูดหรือเมื่อผู้พูดพูดจบลง 8. ในการดูมหรสพ เมื่อมีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ควรยืนตรงแสดงความเคารพ ไม่พูดคุยหรือ ลุกขึ้นเดินในระหว่างที่เพลงสรรเสริญพระบารมียังไม่จบ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ภาษาพาสาร จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องมารยาทในพูด เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การพูดที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องฝึกให้มีมารยาทในการพูดด้วย 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ม. 1/6 มารยาทในการฟัง การดู และการพูด 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายมารยาทในการพูด (K) 2) เขียนอธิบายความสำคัญของมารยาทในการพูดได้(P) 3) มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด (A) 3. สาระการเรียนรู้ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับการพูด จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดของ บุคคลในวีดิทัศน์ว่า มีลักษณะการพูดอย่างไร แผนการจัดการเรียนรู้

2. ครูถามว่า บุคคลในวีดิทัศน์ปฏิบัติตนอย่างไร นักเรียนคิดว่าการปฏิบัติตนเช่นนี้ แสดงถึงความเป็นผู้มีมารยาท ในการพูดหรือไม่ เพราะเหตุใด (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นสอน 3. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง ความสำคัญและมารยาทในการพูด 4. ครูให้นักเรียนผลัดกันออกไปอธิบายความสำคัญและมารยาทในการพูดให้เพื่อนฟังที่หน้าชั้นเรียน แล้วร่วมกัน แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม 5. นักเรียนทำใบงานเรื่อง ความสำคัญและมารยาทในการพูด เป็นรายบุคคล เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ 6. ครูถามว่า การพูดสนทนามีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของนักเรียนอย่างไร และมีความจำเป็นหรือไม่ที่ จะต้องมีมารยาทในการพูดสนทนา 7. นักเรียนดูรายการทางอินเทอร์เน็ตที่ครูจัดให้ แล้วเขียนบทความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมารยาทในการพูด ของผู้ดำเนินรายการลงในสมุด ขั้นสรุป 8. นักเรียนคิดว่า ผู้ดำเนินรายการที่ไม่รักษามารยาทในการพูดจะส่งผลเสียต่อรายการ ที่จัดอย่างไร 9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบบันทึกการตอบ คำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย ตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน นักเรียนผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 80 ขึ้นไป 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการฟัง การดู และพูด นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 5 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน

แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง................................................................................................................................................................. ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์

แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

แบบประเมินใบงาน เรื่อง........................................................................................................................................ คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เกณฑ์การตัดสิน : ได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................) ที่ ชื่อ-สกุล ข้อ(คะแนน) คะแนน รวม สรุปผล การ ประเมิน 1 (2) 2 (2) 3 (2) 4 (2) 5 (2) 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว

แบบสังเกตพฤติกรรมการฟัง การดู และการพูด เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน การฟัง การดู การพูดฟังด้วยความสงบ ตั้งใจฟัง มองหน้าผู้พูด อูอย่างสงบ เรียบร้อย ในขณะดูไม่คุยกัน ไม่ลุกเดินไปเดินมา พูดด้วยถ้อยคำสุภาพ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่พูดแทรก 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 5 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

ใบความรู้ ความส าคัญและมารยาทในการพูด การพูดมีความส าคัญต่อชีวิตมนุษย์เป็นอันมาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดประกอบกิจการงานใด หรือคบหาสมาคมกับผู้ใด ผู้ที่ ประสบความส าเร็จในธุรกิจการงาน การคบหาสมาคมกับผู้อื่นตลอดจนการท าประโยชน์แก่สังคม ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพใน การพูดทั้งสิ้น การพูดมีความส าคัญต่อตนเอง เพราะถ้าผู้พูดมีศิลปะในการพูดก็จะเป็นคุณแก่ตนเอง ส่วนในด้านสังคมนั้น เนื่องจากเรา ต้องคบหาสมาคมและพึ่งพาอาศัยกัน การที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนั้นจ าเป็นต้องเป็นคนที่ “พูดดี” คือ พูดไพเราะ น่าฟัง และพูดถูกต้องด้วย มารยาทในการพูด การพูดของคนเราจ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ รู้จักกาลเวลา และที่ส าคัญต้องค านึงถึงมารยาทที่ดีในการพูดด้วย มารยาทในการพูดแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ มารยาทในการพูดระหว่างบุคคลและมารยาทในการพูดในที่สาธารณะ มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล มีดังนี้ 1. เรื่องที่พูดควรเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีความสนใจและพอใจร่วมกัน 2. ไม่พูดเรื่องของตนเองมากจนเกินไป ควรฟังในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งพูด และไม่พูดสอดแทรก 3. พูดตรงประเด็น และเบี่ยงเบนประเด็นบ้างเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ 4. เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่บังคับให้ผู้อื่นเชื่อหรือคิดเหมือนตน ฯลฯ มารยาทในการพูดในที่สาธารณะ การพูดในที่สาธารณะต้องรักษามารยาทให้มากกว่าการพูดระหว่างบุคคล เพราะมีผู้ฟังซึ่งมาจากที่ต่างๆ มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ และพื้นฐานความรู้ ความสนใจและรสนิยมต่างกันไป มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล อาจน ามาใช้ได้และควรปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้ 1. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยเหมาะแก่โอกาสและสถานที่ 2. มาถึงสถานที่พูดให้ตรงเวลาหรือก่อนเวลาเล็กน้อย 3. ก่อนพูดควรแสดงความเคารพต่อผู้ฟังตามธรรมเนียมนิยม 4. ไม่แสดงกิริยาอาการอันไม่สมควรต่อหน้าที่ประชุม 5. ใช้ค าพูดที่ให้เกียรติแก่ผู้ฟังเสมอ 6. ไม่พูดพาดพิงถึงเรื่องส่วนตัวของบุคคลอื่นในที่ประชุม 7. ไม่พูดหยาบโลนหรือตลกคะนอง 8. พูดให้ดังพอได้ยินทั่วกันและไม่พูดเกินเวลาที่ก าหนด การสื่อสารด้วยการพูดไม่ว่าจะเป็นการพูดกับคนเพียงคนเดียวหรือพูดกับคนจ านวนมากจ าเป็นอย่างยิ่งที่ผู้พูดทุกคนต้อง มีมารยาท ถ้าขาดหรือละเลยต่อมารยาทในการพูดแล้ว อาจท าให้การพูดประสบความล้มเหลว หรือไม่ประสบความส าเร็จได้

ข้อควรค านึงในการสื่อสารด้วยการพูด การพูดจะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการที่ผู้พูดได้วิเคราะห์องค์ประกอบส าคัญในการพูดให้ถ่องแท้หรือ มีการเตรียมพร้อมเพียงใดก่อนที่จะพูด การพูดจึงมีข้อควรค านึง ดังนี้ 1. การพูดให้เหมาะสมกับบุคคล ต้องวิเคราะห์ในเรื่องต่อไปนี้ คือ วัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ ความสนใจพิเศษเพื่อเตรียมเรื่องที่จะพูดได้อย่างเหมาะสม 2. การพูดให้เหมาะกับกาลเทศะ ควรพิจารณาว่าจะพูดในโอกาสใด การพูดนั้นเป็นทางการมากน้อยแค่ไหน 3. การพูดให้ผู้อื่นเข้าใจตรงตามความประสงค์ ควรใช้ภาษาบ่งบอกความต้องการหรือความมุ่งหมาย ให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงการตีความหลายแง่หลายมุม 4. การพูดสรุปใจความส าคัญจากเรื่องที่ฟังหรืออ่าน เป็นการพัฒนาการใช้ภาษาให้สัมพันธ์กันทุกด้าน และอาศัย ความสามารถในการสรุปความจากเรื่องที่ฟังหรืออ่านได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับสารเข้าใจเจตนาของผู้ส่งสาร ได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว 5. การพูดแสดงความคิดเห็น เป็นการใช้ทักษะการฟัง การอ่าน การพูด และการคิดให้สัมพันธ์กัน ต้องอาศัยการฝึกฝน ให้เกิดความช านาญ เพราะการพูดแสดงความคิดเห็น ผู้พูดต้องใช้ทั้งความรู้ ความคิด เหตุผลหรือหลักการต่างๆ หลายอย่างประกอบกัน จึงจะท าให้ความคิดเห็นมีคุณค่าน่าเชื่อถือ ที่มา http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=1239

ใบงาน ความสำคัญ และมารยาทในการพูด คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง 1. มารยาทในการพูดแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง ____________________________________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________________________________ 2.การพูดระหว่างบุคคล ควรปฏิบัติอย่างไร ____________________________________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________________________________ 3. เพราะเหตุใด การพูดในที่สาธารณะจึงต้องรักษามารยาทมากกว่าการพูดระหว่างบุคคล ____________________________________________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________________________________________________________________ 4. การพูดในที่สาธารณะ ควรปฏิบัติอย่างไร ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________________________

เฉลยใบงานความสำคัญและมารยาทในการพูด คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง 1. มารยาทในการพูดแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง มารยาทในการพูด แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล 2. มารยาทในการพูดในที่สาธารณะ 2. การพูดระหว่างบุคคล ควรปฏิบัติอย่างไร มารยาทในการพูดระหว่างบุคคล ควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. เรื่องที่พูดควรเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีความสนใจและพอใจร่วมกัน 2. ไม่พูดเรื่องของตนเองมากจนเกินไป ควรฟังในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งพูด ไม่สอดแทรกเมื่อผู้พูดยังพูดไม่จบ 3. พูดตรงประเด็น อาจออกนอกเรื่องบ้างพอผ่อนคลายอารมณ์ 4. เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่บังคับให้ผู้อื่นเชื่อหรือคิดเหมือนตน 3. เพราะเหตุใด การพูดในที่สาธารณะจึงต้องรักษามารยาทมากกว่าการพูดระหว่างบุคคล การพูดในที่สาธารณะต้องรักษามารยาทให้มากกว่าการพูดระหว่างบุคคล เพราะการพูดในที่สาธารณะนั้น ย่อมมีผู้ฟังซึ่งมาจากที่ต่างๆกัน มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ และพื้นฐานความรู้ความสนใจและรสนิยมต่างกันไป 4. การพูดในที่สาธารณะ ควรปฏิบัติอย่างไร การพูดในที่สาธารณะ ควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยเหมาะแก่โอกาสและสถานที่ 2. มาถึงสถานที่พูดให้ตรงต่อเวลาหรือก่อนเวลาเล็กน้อย 3. ก่อนพูดควรแสดงความเคารพต่อผู้ฟังตามธรรมเนียมนิยม 4. ไม่แสดงกิริยาอาการอันไม่สมควรต่อหน้าที่ประชุม 5. ใช้คำพูดที่ให้เกียรติแก่ผู้ฟังเสมอ 6. ไม่พูดพาดพิงถึงเรื่องส่วนตัวของบุคคลอื่นในที่ประชุม 7. ไม่พูดหยาบโลนหรือตลกคะนอง 8. พูดให้ดังพอได้ยินทั่วกันและไม่พูดเกินเวลาที่กำหนด

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ภาษาพาสาร จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องหลักการพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและการดูสื่อ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การพูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู คือ การพูดที่ตัดข้อความหรือใจความที่ไม่สำคัญออกไป ให้เหลือ เฉพาะส่วนที่สำคัญ โดยใช้ประโยคสั้นๆ เรียบเรียงอย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ม.1/1 พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ตอบคำถามเกี่ยวกับหลักการพูดจับใจความสำคัญได้(K) 2) พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดูได้(P) 3) มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด (A) 3. สาระการเรียนรู้ การพูดสรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคิดอย่างสร้างสรรค์จากเรื่องที่ฟังและดู 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนตอบคำถามคนที่พูดมากโดยไม่มีสาระสำคัญ ตรงกับสำนวนไทยว่าอย่างไร (น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง) 2. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการรับสื่อต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 3. ครูซักถามนักเรียนเกี่ยวกับละครทางโทรทัศน์ที่ออกอากาศอยู่ในเวลานี้ แล้วให้นักเรียนเล่าถึงละครที่นักเรียนชอบ ขั้นสอน 4. ครูอธิบายถึงการเล่าละครของนักเรียนว่า เป็นการเล่าย่อ ๆ ตอนที่นักเรียนเห็นว่าสำคัญ โดยไม่เล่าละเอียดตลอดทั้ง เรื่องแต่การพูดจับใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู จะต้องมีหลัก ในการจับใจความสำคัญ 5. นักเรียนตอบคำถาม การพูดจับใจความสำคัญมีผลดีต่อผู้พูดอย่างไร(ทำให้ผู้พูดไม่เป็นคนพูดมากโดยไม่มีเนื้อหาสาระ 6. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและการดูสื่อ จากหนังสือเรียน 7. นักเรียนตอบคำถาม การพูดจับใจความสำคัญเพื่อให้เกิดความชำนาญจะต้องปฏิบัติอย่างไร(จะต้องฝึกฟังและดูสื่อ ต่างๆ เพื่อฝึกพูดจับใจความสำคัญ เป็นประจำ) 8. นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและดูสื่อ 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตอบคำถาม แบบประเมินการตอบ คำถาม นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้น ไปถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย สังเกตพฤติกรรมการพูด แบบประเมินการพูด นักเรียนอยู่ในระดับ ดี ขึ้น ไปถือว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการฟัง ดู และ พูด นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 5 รายการขึ้นไป ถือว่าผ่าน

แบบบันทึกหลังแผนการสอน รายวิชา…….......................................….….….…รหัสวิชา..............................แผนการจัดการเรียนรู้ที่.............. เรื่อง............................................................................................................................. .................................... ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นางสาวญาณินท์ คนซื่อ) ลงชื่อ.......................................................ผู้ตรวจ (นางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาเล่ย์

แบบบันทึกการตอบคำถาม เรื่อง................................................................................................................................................นักเรียนชั้น............... หัวข้อคำถาม................................................................................................................................................................... เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน ความ กระตือรือร้น เนื้อหาในการ ตอบคำถาม ความเชื่อมั่นและ กล้าแสดงออก มีความพร้อมในการตอบคำถาม เมื่อมีคำถามจะรีบค้นหาคำตอบ ตอบได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ ตอบคลุมเครือ แต่ยังพอเข้าใจได้ ตอบคำถามไม่ถูกประเด็นคำถาม กล้าถาม-ตอบ อาสาเป็นตัวแทนตอบคำถาม ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ ๑. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน ๒. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 4 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

แบบประเมินการพูด รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.การสรุป ใจความสำคัญของ เรื่อง ที่ฟังและดู สรุปใจความสำคัญ ของเรื่องที่ฟังและดู ได้ถูกต้องครบถ้วน และเข้าใจง่าย สรุปใจความสำคัญ ของเรื่องที่ฟังและดู ได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ และเข้าใจง่าย สรุปใจความสำคัญ ของเรื่องที่ฟังและดู ได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ แต่ค่อนข้างสับสนวกวน สรุปใจความสำคัญ ของเรื่องที่ฟังและดู ได้ถูกต้องเป็นบางส่วนแต่ ค่อนข้างสับสนวกวน 2.การแสดงความ คิดเห็นอย่าง สร้างสรรค์ เกี่ยวกับเรื่องที่ ฟังและดู แสดงความคิดเห็น ต่อเรื่องที่ฟังและดู ได้อย่างสร้างสรรค์ และ มีเหตุผลประกอบชัดเจน แสดงความคิดเห็น ต่อเรื่องที่ฟังและดู ได้อย่างสร้างสรรค์ เป็น ส่วนใหญ่ และมีเหตุผล ประกอบชัดเจน แสดงความคิดเห็น ต่อเรื่องที่ฟังและดู ได้อย่างสร้างสรรค์เป็น บางส่วน และมีเหตุผล ประกอบชัดเจน แสดงความคิดเห็น ต่อเรื่องที่ฟังและดู ไม่ค่อยสร้างสรรค์ และมีเหตุผลประกอบ ไม่ชัดเจน 3.การพูดรายงาน ประเด็นที่ศึกษา ค้นคว้าจากการ ฟังการดู และ การสนทนา พูดรายงานได้ถูกต้องตาม หลักการพูด โดย ใช้ข้อมูล จากการดู การฟัง และ การสนทนาครบถ้วน ตรง ประเด็น พูดรายงานได้ถูกต้องตาม หลักการพูด โดย ใช้ ข้อมูลจากการดู การฟัง และการสนทนาครบถ้วน ตรงประเด็นเป็นส่วนใหญ่ พูดรายงานได้ถูกต้อง ตามหลักการพูด โดย ใช้ ข้อมูลจากการดู การฟัง และการสนทนา ครบถ้วน ตรงประเด็น เป็นบางส่วน พูดรายงานได้ถูกต้องตาม หลักการพูด โดยใช้ข้อมูล จากการดู การฟัง และการ สนทนาไม่ครบถ้วนและไม่ ตรงประเด็น 4.มารยาทในการ พูด มีมารยาทในการพูด ครบถ้วน ดังนี้1)พูด ตามลำดับขั้นตอน 2) นำเสนอข้อมูลตรง ประเด็นและยกหลักฐาน หรือเหตุผลประกอบ3) ใช้ภาษาพูดกระชับ และ ไม่ใช้คำ ภาษาต่างประเทศ 3)พูด คำควบกล้ำชัดเจน มีข้อบกพร่องเกี่ยวกับ มารยาทในการพูด 1 ข้อ มีข้อบกพร่องเกี่ยวกับ มารยาทในการพูด 2 ข้อ มีข้อบกพร่องเกี่ยวกับ มารยาทในการพูด 3 ข้อ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่าน นักเรียนได้คะแนนระดับ ดี ขึ้นไป ถือว่าผ่าน ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ำกว่า 8 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง

แบบสังเกตพฤติกรรมการฟัง การดู และการพูด เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการพฤติกรรม ผลการประเมิน การฟัง การดู การพูดฟังด้วยความสงบ ตั้งใจฟัง มองหน้าผู้พูด อูอย่างสงบ เรียบร้อย ในขณะดูไม่คุยกัน ไม่ลุกเดินไปเดินมา พูดด้วยถ้อยคำสุภาพ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่พูดแทรก 1 เด็กชายภานุสรณ์ กองแก้ว 2 เด็กชายสมรัก3 เด็กชายวิษณุ แก้ววิงวอน 4 เด็กชายฐิติ เจริญสว่างวงศ์ 5 เด็กชายสอง แผ่นดิน6 เด็กชายกรวิชญ์ กาสุนา 7 เด็กชายสมพงษ์ แซ่ย่าง 8 เด็กชายสะอาด วันพรเจริญ 9 เด็กหญิงกชกร พรมีโชค 10 เด็กหญิงจินตรา - 11 เด็กหญิงวนิดา - 12 เด็กหญิงศศิธร - 13 เด็กหญิงพิชญา - 14 เด็กหญิงชนัญชิดา เชื้อสิงห์ 15 เด็กหญิงวลัยพร ชันษายืนยาว หมายเหตุ 1. ผู้สังเกตพิจารณาจากพฤติกรรมของนักเรียนแต่แล้วเขียนเครื่องหมายลงในช่องรายการพฤติกรรมที่นักเรียนผ่าน 2. นักเรียนผ่านรายการพฤติกรรม 5 รายการขึ้นไปถือว่าผ่าน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (......................................................)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รหัส ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ภาษาพาสาร จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและการดูสื่อ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การพูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู คือ การพูดที่ตัดข้อความหรือใจความที่ไม่สำคัญออกไป ให้เหลือ เฉพาะส่วนที่สำคัญ โดยใช้ประโยคสั้นๆ เรียบเรียงอย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ม.1/1 พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนสามารถสรุปใจความจากสื่อได้ (K) 2) นักเรียนพูดจับใจความเนื้อเรื่องที่ฟัง ดูได้ (P) 3) มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด (A) 3. สาระการเรียนรู้ การพูดสรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคิดอย่างสร้างสรรค์จากเรื่องที่ฟังและดู 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซื่อสัตย์สุจริต 4. มุ่งมั่นในการทำงาน แผนการจัดการเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูอ่านบทความ เรื่อง วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง ให้นักเรียนฟัง หรือให้นักเรียนฟังข่าวหรือบทความสั้นๆ จากวิทยุ จากนั้นให้จดบันทึกเรื่องที่ฟัง แล้วจัดทำแผนภาพโครงเรื่องตามลำดับเหตุการณ์ โดยให้นักเรียนแต่ละคนคิดหาคำตอบด้วยตนเอง ขั้นสอน 2. นักเรียนแต่ละคนทำแผนภาพโครงเรื่องเสร็จแล้วให้จับคู่กับเพื่อน ผลัดกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานที่ทำ 3. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 1 คน ออกมานำเสนอผลงานแผนภาพโครงเรื่องที่หน้าชั้นเรียน แล้วให้นักเรียนอีกคนหนึ่งเป็นผู้ แสดงความคิดเห็น 4. นักเรียนตอบคำถาม ถ้านักเรียนต้องการนำความรู้จากเรื่องที่ฟังมาใช้ประโยชน์ในการเรียน นักเรียนจะต้องมีวิธีการ ฟังอย่างไร (จับใจความสำคัญของเรื่องที่ฟัง) 5. ครูให้นักเรียนเลือกดูรายการสารคดีทางโทรทัศน์ คนละ 1 รายการ แล้วเตรียมพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและดู สื่อ โดยใช้เวลาคนละ 2 นาที ดังนี้ - ลำดับเหตุการณ์เรื่องที่จะเล่า - เตรียมภาษา/ท่าทางที่จะเล่า - เตรียมสื่อที่จะใช้ประกอบ (ถ้ามี) 6. นักเรียนฝึกพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและดูสื่อตามลำดับขั้นตอนที่เตรียมไว้ 7. นักเรียนตอบคำถาม นักเรียนมีจุดประสงค์อย่างไร ในการฟัง และดูสื่อ (เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลิน) ขั้นสรุป 8. นักเรียนแต่ละคนพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและดูสื่อตามลำดับขั้นตอน 9. ครูประเมินผลการพูดของนักเรียน เป็นรายบุคคล 10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจุดเด่นและจุดด้อยในการพูดจับใจความสำคัญจากการฟังและดูสื่อของนักเรียนแต่ ละคนเพื่อเสนอแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข 7. การวัดและประเมินผล 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม. 1 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1. ด้านพุทธิพิสัย ตรวจงาน แบบประเมินผลงาน นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 4 รายการขึ้นไป ถือว่าผ่าน 2. ด้านทักษะพิสัย สังเกตพฤติกรรมการพูด แบบประเมินการพูด นักเรียนอยู่ในระดับ ดี ขึ้น ไปถือว่าผ่าน 3. ด้านจิตพิสัย สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม มารยาทในการฟัง ดู และพูด นักเรียนผ่านรายการ พฤติกรรม 5 รายการขึ้นไป ถือว่าผ่าน