The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือวิทยากรยุวกาชาด สำหรับการอมรมอาสายุวกาชาดหลักสูตรพื้นฐานยุวกาชาด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tawatchai.noom.6837, 2022-03-19 13:31:31

คู่มือวิทยากรยุวกาชาด สำหรับการอมรมอาสายุวกาชาดหลักสูตรพื้นฐานยุวกาชาด

คู่มือวิทยากรยุวกาชาด สำหรับการอมรมอาสายุวกาชาดหลักสูตรพื้นฐานยุวกาชาด

Keywords: วิทยากร,อาสายุวกาชาด,พื้นฐานยุวกาชาด

โรคความดนั โลหติ สงู สาเหตหุ ลกั ๆ ประมาณ 85 - 90% จะไมท่ ราบสาเหตุ สว่ นทเ่ี หลอื
อาจเกิดจากพันธุกรรมและพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น การรับประทานอาหารที่มี
รสเค็มจัด ผนังหลอดเลือดมีโซเดียมมาก เนื่องจากร่างกายไม่สามารถขับถ่ายเกลือโซเดียมท่ี
รบั ประทานเข้าไปไดต้ ามปกติ
โรคมะเรง็ เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในปัจจุบัน ประชาชนขาดความเอาใจใส่
ในเรื่องของสุขภาพ ขาดการออกกำ�ลังกาย รับประทานอาหารที่ให้โทษต่อร่างกาย เช่น
สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนมากับอาหาร เครื่องดื่ม เป็นต้น

• การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ� เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
มะเรง็ ลำ�ไสใ้ หญ่ มะเร็งเยื่อบุมดลกู และมะเรง็ ต่อมลกู หมาก

• การรับประทานอาหารรสเค็มจัด อาหารไหม้เกรียม อาหารที่มีส่วนผสมของดิน
ประสิวเป็นประจ�ำ เสย่ี งตอ่ การเปน็ มะเรง็ กระเพาะอาหาร และมะเรง็ ลำ�ไสใ้ หญ่
โรคเบาหวาน การบรโิ ภคอาหารชนดิ ใดชนดิ หนง่ึ มากเกนิ ไป เปน็ เวลานาน ๆ การ
บรโิ ภค
อาหารทีม่ ีปรมิ าณไขมันสูง หรอื การไม่บรโิ ภคสารอาหารประเภทใยอาหารใหม้ ากเพียงพอ
โรคกระดกู พรุน อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วน เช่น รับประทาน
อาหารรสเค็มจัด อาหารที่มีโปรตีนสูง แต่รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมน้อย และดื่มกาแฟ
มากกว่าวนั ละ 4 แกว้
โรคข้ออักเสบ หมายถึง อาการปวดบวม อักเสบที่บริเวณข้อ สาเหตุจากภาวะ
การณ์
มกี รดในรา่ งกายมากผดิ ปกติ ซง่ึ เกดิ จากการบรโิ ภคอาหารทไ่ี มม่ คี ณุ คา่ ทางโภชนาการ อาหาร
ทข่ี ดั สี ท�ำ ใหเ้ กดิ คราบตกคา้ งในรา่ งกาย เกดิ จากการขาดวติ ามนิ ซโี ดยการบรโิ ภคแตอ่ าหารสกุ
หรืออาหารสดท่ีถกู ทง้ิ ไวน้ านเกินไป
โรคโลหติ จาง เกดิ จากการขาดธาตุเหลก็ ซึง่ เปน็ ส่วนประกอบส�ำ คัญของฮโี มโกลบิน
โรคคอพอก เกดิ จากการขาดไอโอดนี ซง่ึ มคี วามส�ำ คญั ตอ่ การสงั เคราะหฮ์ อรโ์ มนไทรอกซนิ
ซึ่งหลั่งโดยต่อมไทรอยด์เมื่อร่างกายขาดไอโอดีน ปริมาณของไทรอกซินจะลดลง มีผล
ให้
ต่อมพิทูอิทารีหลั่งฮอร์โมนกระตุ้น การเพิ่มจำ�นวนเซลล์มากขึ้น ถ้าต่อมนี้โตมาก ๆ จะกด
หลอดอาหารและหลอดลม ทำ�ให้กลืนอาหารและหายใจได้ลำ�บาก
โรคปากนกกระจอก เกดิ จากรา่ งกายขาดวติ ามนิ บี 2
โรคเลือดออกตามไรฟนั เกดิ จากร่างกายขาดวติ ามนิ ซี
โรคอ้วน โรคอ้วนเกิดจากหลายสาเหตุ อาจเป็นกรรมพันธุ์ อาจเกิดจากความเครียด
แล้วรับประทานอาหารมากเพื่อเป็นการชดเชย โรคที่เกิดจากโรคอ้วน ได้แก่ เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจโต ปวดหลัง เส้นเลือดขอด

244

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

3. การรบั ประทานอาหารใหถ้ ูกตอ้ ง
การรับประทานอาหารให้ถูกต้องเพื่อสุขภาพ

ควรปฏิบตั ดิ งั นี้
1. รบั ประทานอาหารหลกั ให้ครบหา้ หมู่
2. ลดปรมิ าณไขมนั ใหน้ อ้ ยลงหรอื หลกี เลย่ี ง
อาหารมนั ๆ อาหารทอดมีไขมันมาก
3. รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งเป็นอาหารชนิดหยาบที่มีเส้นใยและ
รา่ งกายตอ้ งใชเ้ วลาในการยอ่ ยกอ่ นดดู ซมึ เชน่ ขา้ วซอ้ มมอื ขา้ วกลอ้ ง ขา้ วโพด ลกู เดอื ย เผอื ก
มัน ขนมปงั โฮลวที เปน็ ต้น ซ่งึ จะไดว้ ิตามนิ E วิตามนิ B และสารเสน้ ใยอันมผี ลตอ่ สขุ ภาพ
4. รับประทานอาหารพวกโปรตีนแต่พอควร เน้นอาหารทะเลโดยเฉพาะเนื้อปลา
หรอื โปรตีนจากถว่ั
5. รบั ประทานผกั หลาย ๆ ชนดิ ทง้ั ผกั ใบเขยี วและเหลอื ง เชน่ ผกั กาดหอม ผกั กวางตงุ้
คะน้า กะหล่ำ�ปลี ถ่วั ฝกั ยาว ถว่ั งอก ตน้ หอม ผักชี ข้นึ ฉ่าย มะเขือเทศ มะละกอ แตงกวา
ตน้ กระเทียมและแครอท เปน็ ตน้
6. รบั ประทานผลไมห้ ลาย ๆ อยา่ ง ทง้ั ชนดิ ทไ่ี มม่ เี ปลอื ก มเี ปลอื กและชนดิ เปลอื กแขง็
ทกุ ชนดิ เชน่ สม้ กลว้ ย มะละกอ ฝรง่ั สบั ปะรด พทุ รา สม้ โอ เงาะ มงั คดุ ลน้ิ จแ่ี ละล�ำ ใย เปน็ ตน้
7. รบั ประทานอาหารที่มแี คลเซยี มให้เพียงพอตอ่ ความจำ�เปน็ ของร่างกาย ในวัยเด็ก
แคลเซียมจะช่วยสร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย ในวัยผู้สูงอายุแคลเซียมช่วยป้องกัน
โรคกระดกู พรนุ นอกจากการด่ืมนมแล้วการรับประทานปลาเลก็ ปลานอ้ ย กะปิ ปลาร้า กุ้งแห้ง
งาดำ� ผกั กระเฉด คะนา้ และยอดแคก็สามารถให้แคลเซียมได้
8. รับประทานเกลือหรืออาหารที่มีรสเค็มน้อย วันละไม่เกิน 6 กรัม คือมากกว่า 1
ช้อนชาเลก็ น้อยเท่านั้น
9. รับประทานอาหารน�ำ้ ตาลแตพ่ อควร ลดพวกอาหารที่ทำ�จากน้ำ�ตาลเป็นส่วนผสม
เชน่ ขนมหวาน ไอศกรมี นำ้�หวาน นำ้�อดั ลม เปน็ ตน้

10. รบั ประทานอาหารใหไ้ ดส้ ดั ส่วนกับการใชแ้ รงงานในแตล่ ะวัน
11. รบั ประทานอาหารที่มีฟลอู อไรดเ์ พม่ิ ขึ้น เพื่อสุขภาพฟัน อยา่ รบั ประทานมากไป
12. รับประทานอาหารให้เปน็ เวลา ไม่กินจุบจบิ
13. เลี่ยงการรบั ประทานอาหารเสรมิ และวิตามินสังเคราะห์ กนิ ผกั และผลไมแ้ ทน
14. เลี่ยงหรอื งดการดม่ื แอลกอฮอล์ เหลา้ เบยี ร์ และบุหรี่
15. เล่ยี งอาหารสำ�เร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำ�เร็จรูป โจ๊ก ปลากระป๋อง เนื้อกระป๋อง
เพราะอาหารสำ�เร็จรปู มกั จะมีสารเคมผี สม เชน่ สารกนั บูด สารปรุงสี แตง่ กล่นิ และขาดสาร
อาหารท่ีจำ�เป็นต่อร่างกาย

245

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 3 : การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ

16. เปล่ียนอาหารแต่ละวนั อยา่ รบั ประทานอาหารเพยี งอย่างเดียวซ้ำ� ๆ กนั ทุกวัน
17. รบั ประทานอาหารสด ๆ จากธรรมชาติ หรืออาหารทใ่ี กล้เคยี งธรรมชาติ
18. รบั ประทานอาหารหลายประเภท การรับประทานอาหารหลาย ๆ ชนิด จะทำ�ให้
ได้สารอาหารครบถ้วนตามท่รี า่ งกายตอ้ งการ
19. รับประทานอาหารประเภทเส้นใยใหม้ าก
20. หลีกเล่ยี งกาแฟ น�้ำ ชา นำ้�อัดลม ควรด่ืมน�้ำ เปลา่ แทน

แบบทดสอบสขุ ภาพการรับประทานอาหารด้วยตนเอง

แบบประเมินภาวะโภชนาการด้วยตนเอง โดยการอ่านในแต่ละข้อ แล้วพิจารณาว่า
เราปฏิบัติตัวหรือไม่ ถ้า “ใช่” ให้วงกลมตัวเลข ตรงช่องที่คำ�ว่า “ใช่” ถ้า “ไม่ใช่” ให้วงกลม
ตัวเลขตรงชอ่ งทีค่ ำ�วา่ “ไมใ่ ช”่

แบบประเมินภาวะโภชนาการ ใช่ ไม่ใช่

มภี าวะเจบ็ ปว่ ยหรอื ภาวะทท่ี �ำ ใหเ้ ปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมการรบั ประทานอาหาร 2 0

รับประทานอาหารอย่างนอ้ ย 2 ม้ือต่อวนั 30

ไมค่ ่อยได้รับประทานผกั ผลไม้ หรอื ผลติ ภณั ฑจ์ ากนม 20

ดื่มเบยี ร์ เครือ่ งดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ เชน่ ไวน์ ตงั้ แต่ 3 แก้วเกือบทุกวัน 2 0

มปี ัญหาทีเ่ หงอื ก ปาก และฟัน ท�ำ ใหไ้ ม่อยากรับประทานอาหาร 20

ไม่มีเงนิ เพียงพอทจ่ี ะซอ้ื อาหาร 40

รบั ประทานอาหารคนเดียว 10

รับประทานยาตง้ั แต่ 3 ขนานขึ้นไปตอ่ วนั 10

ใน 6 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะลดน้ำ�หนักหรือเพิ่มน้ำ�หนัก 20
แต่น้ำ�หนักลด หรือเพิ่มมากกว่า 4.5 กิโลกรัม

ไม่สามารถท่จี ะซื้อ หงุ ข้าว หรือรับประทานอาหารเองได้ 20

คะแนนรวม

246

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

ใหก้ รอกคะแนนลงในชอ่ งวา่ งและคดิ คะแนนรวมวา่ ไดค้ ะแนนเทา่ ไร จากนน้ั ใหพ้ จิ ารณา
วา่ คะแนนท่ไี ดอ้ ยู่ในชว่ งใด ดงั น้ี

ถ้าคะแนนรวม แสดงว่า มีโภชนาการดี และควรติดตามผลต่อเนื่องอีก 6 เดือน
0 ถึง 2 ขา้ งหนา้

ถ้าคะแนนรวม แสดงว่า มีความเสี่ยงปานกลาง ที่มีภาวะโภชนาการไม่ดี ซึ่งท่าน
3 ถงึ 5 สามารถปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมการรบั ประทานอาหาร ควรปรกึ ษาแพทย์
หรอื นักโภชนาการและหมนั่ ตรวจสภาวะนี้อกี 3 เดอื นขา้ งหนา้
ถ้าคะแนนรวม แสดงว่า มีความเสี่ยงมากให้นำ�ตารางนี้ไปด้วยเมื่อพบแพทย์ หรือ
ต้ังแต่ 6 ขน้ึ ไป นักโภชนาการ และสอบถามปัญหาต่าง ๆ เพื่อที่จะได้รับคำ�แนะนำ�
หรือช่วยเหลือให้มีภาวะโภชนาการที่ดีขึ้น แบบประเมินเป็น
เพียง
สัญญาณเตือนเพื่อหาความเสี่ยงต่อภาวะโภชนาการที่ไม่ดีแต่ไม่ใช่

247

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 3 : การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ

หมวดที่ 4 กิจกรรม กระบวนการ
และพิธกี ารในการอบรม

หวั ข้อกิจกรรม การลงทะเบียน

วตั ถุประสงค์

เพอ่ื รวบรวมขอ้ มลู ของผูเ้ ข้ารับการอบรมสำ�หรับใชใ้ นการบรหิ ารจัดการอบรม

ขอบขา่ ยกจิ กรรม

ขอ้ มลู การลงทะเบียนของผ้เู ข้ารับการอบรม

สอ่ื และอปุ กรณ์

1. แบบการลงทะเบียนผู้เขา้ รับการอบรม
2. อปุ กรณ์สำ�หรับมอบให้ผู้เข้ารับการอบรม เช่น ผ้าผูกคอสี ป้ายชื่อ สมุดบันทึก
ปากกา เอกสาร คู่มอื อบรมอาสายวุ กาชาดหลักสตู รพื้นฐานยวุ กาชาด

เวลา 30 นาที
การประเมนิ ผล
แบบการลงทะเบียน

แนวการด�ำ เนินกจิ กรรม

การลงทะเบียน
1. ผเู้ ขา้ รบั การอบรมกรอกขอ้ มลู ในแบบการลงทะเบยี น ซง่ึ ประกอบดว้ ย ชอ่ื - นามสกลุ
เลขบัตรประจ�ำ ตัวประชาชน เบอร์โทรศพั ท์ ระดบั การศึกษา สถานศึกษาและลายมอื ชอื่
2. ผู้เขา้ รับการอบรมรับเอกสารและอปุ กรณต์ า่ ง ๆ

สาระทไ่ี ดจ้ ากกิจกรรม

เป็นการรวบรวมข้อมลู ของผเู้ ข้ารบั การอบรม สำ�หรับใช้ในการแบ่งหน่วยสีและนำ�ไป
จัดท�ำ ท�ำ เนียบรนุ่

248

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

หวั ขอ้ กจิ กรรม การปฐมนิเทศ

วัตถปุ ระสงค์

เพอ่ื ใหผ้ ู้เข้ารับการอบรม
1. ทราบถึงวัตถปุ ระสงคข์ องการอบรม
2. ทราบถึงการปฏบิ ตั ติ นในการเขา้ รบั การอบรม

ขอบข่ายกจิ กรรม

1. วัตถปุ ระสงคข์ องการอบรม
2. แนะนำ�วทิ ยากร
3. แนะนำ�สถานที่
4. ก�ำ หนดกจิ กรรมประจ�ำ วัน
5. หน่วยบรกิ ารและการปฏิบัติหนา้ ทข่ี องหนว่ ยบรกิ าร
6. การแต่งกาย
7. สัญญาณนกหวดี
8. เพลงทใ่ี ชใ้ นพธิ ีการ

สอ่ื และอปุ กรณ์

1. นกหวีด
2. ผา้ ผูกคอสตี ่าง ๆ ตามที่ก�ำ หนด
3. เขม็ หัวหนา้ หนว่ ย เขม็ รองหัวหน้าหน่วยและเคร่ืองหมายบรกิ าร
4. สอ่ื PowerPoint การปฐมนิเทศ

เวลา 20 นาที

249

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

การวัดผลและประเมินผล

1. การสังเกตผ้เู ขา้ รบั การอบรม
2. การปฏิบัติตามขน้ั ตอนตา่ ง ๆ

แนวการด�ำ เนนิ กจิ กรรม

1. วิทยากรเชิญผู้อำ�นวยการฝึกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ชี้แจงวัตถุประสงค์ของ
การอบรม แนะน�ำ วทิ ยากร แนะน�ำ สถานท่ี ก�ำ หนดกจิ กรรมประจ�ำ วนั การแตง่ กายในการเขา้
รบั
การอบรม การจัดแบ่งหน่วยสี การนั่งเป็นหน่วยสี การใช้ผ้าผูกคอสี การมอบหมายหน้าที่
หัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย การประดับเข็มหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย
การมอบหมายหน้าที่หน่วยบริการและมอบเครื่องหมายบริการ สัญญาณนกหวีด เพลงพิธีการ
และเกณฑผ์ ่านการอบรม

สาระท่ีได้จากกิจกรรม

เป็นการแจ้งใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรมทราบถึงส่ิ งต่าง ๆ ที่สำ�คัญ และจำ�เป็นตลอด
ระยะ

250

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

แผนผงั การน่ังในหอ้ งประชุมสำ�หรับพิธีเปิด/ปิดการอบรม

ตวั อย่างท่ี 1 สำ�หรบั 7 หน่วยสี

หนว่ ยสที ห่ี นง่ึ คอื สปี ระจ�ำ วนั แรกของการอบรม เชน่ เรม่ิ อบรมวนั จนั ทรใ์ หใ้ ชส้ ตี ามวนั ดงั น้ี
เหลือง ชมพู เขียว แสด ฟ้า ม่วง และแดง หากมีหน่วยสีมากกว่า 7 หน่วยสีขึ้นไป ให้ใช้
สีอ่นื ๆ ได้ เช่น น้ำ�เงนิ นำ้�ตาล เทาโดยสที ี่หนึ่ง ให้น่ังฝง่ั ขวามอื ของผูเ้ ข้ารบั การอบรม

251

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

ตวั อยา่ งท่ี 2 สำ�หรับ 8 - 10 หนว่ ยสี

252

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

แผนผงั การนัง่ ในห้องประชุมแบบคร่ึงวงกลม
สำ�หรับการอบรม หรือการทำ�กิจกรรมให้จัดการนั่งตามลำ�ดับของหน่วยสี โดย
ให้

253

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

เนอื้ หากิจกรรม การปฐมนิเทศ

1. วัตถปุ ระสงคข์ องการอบรม

อธิบายให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบถึงวัตถุประสงค์ของการอบรม ซึ่งสามารถอธิบาย
เปน็ รายขอ้ หรอื เปน็ ความเรยี งตามความเหมาะสม โดยน�ำ ประเดน็ ส�ำ คญั ๆ มาชแ้ี จงใหผ้ เู้ ขา้ รบั
การอบรมทราบและเห็นความสำ�คัญของการเข้าอบรมในครั้งนี้ รวมทั้งให้ผู้เข้ารับการอบรม
ทราบถงึ การปฏิบัตติ นในการเข้ารับการอบรม

2. แนะน�ำ วทิ ยากร

ผู้อำ�นวยการฝึกอบรม รองผู้อำ�นวยการฝึกอบรม พิธีกรประจำ�วัน หรือผู้ที่ได้รับ
มอบหมาย ทำ�หน้าที่แนะนำ�คณะวิทยากรตามความเหมาะสมในขณะนั้น ซึ่งวิทยากรที่มีส่วน
เกี่ยวข้องในการดำ�เนินการอบรมประกอบด้วย วิทยากรผู้รับผิดชอบรายวิชา วิทยากรประจำ�
หนว่ ยสี เป็นตน้

3. แนะน�ำ สถานที่

1. ประวตั ิความเปน็ มาของสถานทอ่ี บรมโดยสงั เขป
2. การใชส้ ถานท่ี ไดแ้ ก่ หอ้ งประชมุ ทพ่ี กั ทร่ี บั ประทานอาหาร หอ้ งประกอบกจิ กรรม
และหอ้ งสขุ า เป็นตน้
3. การอำ�นวยความสะดวกและบรกิ ารต่าง ๆ ได้แก่ อปุ กรณ์ท่จี �ำ เป็น โทรศพั ท์ Wifi
เปน็ ตน้

254

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

4. ก�ำ หนดกิจกรรมประจำ�วนั

05.00 น. ต่ืนนอน
05.30 น. กายบริหารและฝึกระเบยี บแถว ประมาณ 30 นาที
06.00 น. ปฏบิ ตั ภิ ารกิจสว่ นตัว
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า
07.30 น. การตรวจเยย่ี ม
08.00 น. พธิ หี น้าเสาธง
08.30 น. กิจกรรมนันทนาการ
09.00 น. การอบรมภาคเชา้
12.00 น. รบั ประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. กิจกรรมนันทนาการ
13.30 น. การอบรมภาคบา่ ย
17.00 น. ประชมุ หวั หน้าหนว่ ย
18.00 น. ชกั ธงชาติลง (ถา้ มธี งมาตรฐานใหญ่กช็ กั ลงด้วย)
รับประทานอาหารเย็น
19.00 น. การอบรมภาคคำ่�
21.30 น. สวดมนต์ แผเ่ มตตา รอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมี
หมายเหตุ ก�ำ หนดกจิ กรรมประจ�ำ วนั อาจเปลย่ี นแปลงไดต้ ามความเหมาะสม

5. หน่วยบรกิ ารและการปฏบิ ัติหนา้ ทข่ี องหนว่ ยบริการ

5.1 การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ขี องหน่วยบริการ
1. วิทยากรประจำ�วันมอบหมายหน้าที่หน่วยบริการในวันปฐมนิเทศ
โดยมอบใหก้ บั หนว่ ยสที ห่ี นง่ึ ซง่ึ ปกตหิ นว่ ยสที ห่ี นง่ึ จะเปน็ สขี องวนั ทเ่ี รม่ิ การอบรม เชน่ เรม่ิ อบรม
ในวันจันทร์ หน่วยสีที่หนึ่งจะเป็นหน่วยสีเหลือง เป็นต้น โดยให้หน่วยบริการเริ่มปฏิบัติงาน
ตั้งแต่ได้รับมอบหมายจนเสร็จสิ้นกิจกรรมของภาคค่ำ�ในวันนั้น และให้หน่วยบริการใหม่
เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 05.30 น.ของวันต่อไป โดยจะมีการมอบเครื่องหมายบริการใน
พิธีหน้าเสาธงเวลา 08.00 น. ในกรณีที่มีจำ�นวนหน่วยสีมากกว่าวันที่ฝึกอบรมให้เฉลี่ยหน่วยสี
บริการปฏบิ ตั ิหนา้ ทีใ่ ห้ครบตามจำ�นวนวันที่อบรม

2. ในวันสุดท้ายของการอบรมจะมอบหมายให้หน่วยสีสุดท้ายทำ�หน้าที่
หน่วยบริการหรืออาสาสมัครทำ�หน้าที่บริการตามความจำ�เป็นและความเหมาะสมก็ได้

255

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

5.2 ขอบขา่ ยหน้าทขี่ องหนว่ ยบรกิ าร
1. นำ�รอ้ งเพลงชาติ สวดมนต์ แผเ่ มตตา รอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมี
2. ชกั ธงชาตขิ ้ึนตอนเชา้ และชกั ธงลงในตอนเย็น
3. ดูแลทำ�ความสะอาดสถานที่ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ห้องประชุม สถานที่
รับประทานอาหาร หอ้ งน�ำ้ และบรเิ วณท่วั ๆ ไป
4. อ�ำ นวยความสะดวกแก่วิทยากรที่มาบรรยาย
5. ตกแตง่ สถานทท่ี ใ่ี ชร้ ว่ มกนั เชน่ จดั ดอกไมใ้ นหอ้ งประชมุ ท�ำ ความสะอาด
สถานท่ตี ่าง ๆ
6. จดั เตรยี มสถานท่ี อปุ กรณเ์ กย่ี วกบั การแสดงรอบกองไฟ (หากมกี ิจกรรมน้ี)
7. รับผิดชอบงานตา่ ง ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย

6. การแตง่ กาย

6.1 การแต่งกายในพธิ ีเปดิ และปิดการอบรม พธิ ีหน้าเสาธงและการตรวจเย่ยี ม ใหถ้ อื
ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
1. วิทยากร
- ชาย แตง่ เครอ่ื งแบบเจา้ หนา้ ทแ่ี ละผบู้ งั คบั บญั ชายวุ กาชาด (ชดุ เสอ้ื ซาฟารี
กางเกงสีดำ�) พร้อมทั้งประดับเครื่องหมาย หรือแต่งเครื่องแบบของหน่วยงาน หรือแต่งกาย
ชดุ สุภาพ สวมรองเทา้ หนังหุม้ ส้นสีดำ�
- หญงิ แตง่ เครอ่ื งแบบเจา้ หนา้ ทแ่ี ละผบู้ งั คบั บญั ชายวุ กาชาด (ชดุ เสอ้ื ซาฟารี
กางเกงสีดำ�) พร้อมทั้งประดับเครื่องหมาย หรือแต่งเครื่องแบบของหน่วยงาน หรือแต่งกาย
ชุดสุภาพ สวมรองเท้าหนังหมุ้ ส้นสดี ำ�
2. ผเู้ ข้ารับการอบรม
แต่งชุดนักศึกษา หรือชุดสุภาพ ผูกผ้าผูกคอตามหน่วยสีที่กำ�หนดให้ติด
เครื่องหมายหัวหน้าหน่วยหรือรองหัวหน้าหน่วยและป้ายชื่อที่อกเสื้อด้านขวาหรือป้ายชื่อ
แบบแขวน และติดเครื่องหมายบริการที่อกเสื้อด้านซ้าย สวมรองเท้าแบบสุภาพ
6.2 การแตง่ กายในการอบรมภาคกลางวนั และภาคคำ่� ใหถ้ ือปฏบิ ัตดิ งั นี้
1. วิทยากร
ให้แต่งกายสุภาพ ถ้าเป็นผู้บรรยายหรือเป็นพิธีกรให้แต่งเครื่องแบบ
เจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด พร้อมทั้งประดับเครื่องหมายหรือแต่งเครื่องแบบ
ของหน่วยงาน หรือแต่งกายชุดสุภาพ สวมรองเท้าแบบสุภาพ


256

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

2. ผูเ้ ขา้ รบั การอบรม
แตง่ กายในชดุ ล�ำ ลองสภุ าพ (กางเกงขายาว เสอ้ื แขนยาวหรอื สน้ั สวมรองเทา้
แบบสุภาพ) ติดป้ายชื่อที่อกเสื้อด้านขวาและผูกผ้าผูกคอสี ในขณะที่อยู่ในค่ายตลอดเวลา
(ยกเวน้ การแสดงที่สวมบทบาทสมมต)ิ
6.3 กรณที ไี่ ปศกึ ษานอกสถานที่
ให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของผอู้ ำ�นวยการฝกึ อบรมหรอื ผ้ทู ่ีไดร้ ับมอบหมาย

7. สญั ญาณนกหวดี
สญั ญาณนกหวดี ทใี่ ชใ้ นการฝึกอบรมยวุ กาชาด มี 5 ประเภท คือ
1. เตือน (ยาว 1 ครง้ั )
2. เรียกทง้ั หมด (ส้นั ตดิ ตอ่ กัน)
3. เหตุฉุกเฉิน (สนั้ 1 ครั้ง ยาว 1 ครั้ง)
4. เรยี กหวั หน้าหน่วย (ส้นั 3 ครั้ง ยาว 1 คร้ัง)
5. ชักธงชาติลงประจ�ำ วนั (ยาว 3 คร้งั สั้น 1 ครั้ง)
การเป่าสัญญาณนกหวีดจะต้องเป่าสัญญาณเตือนก่อนหนึ่งครั้ง แล้วจึงเป่าสัญญาณ
อน่ื ตอ่ ไป

8. เพลงท่ีใช้ในกจิ กรรม

เพลงต้อนรับและขอบคุณวทิ ยากร

เพลง ยินดที ี่ร้จู ัก
ยนิ ดที ร่ี ู้จัก ท่านทร่ี กั ขอเชิญรว่ มจติ
เ เรารักกนั ฉันท์มติ ร รักสนิทเหมือนพ่ีน้องกนั
ยนิ ดที ่รี จู้ กั ทา่ นทร่ี กั ขอร่วมใจมัน่
ขอใหผ้ กู สัมพนั ธ์ เพ่อื รกั กนั ใหน้ านเถดิ เอย

(ใช้ส�ำ หรับการตอ้ นรับวทิ ยากรครั้งแรกของการบรรยายในการอบรม)

257

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

เพลง สวสั ดยี วุ กาชาด
สขุ ใจท่ีได้มาพบหน้า พวกเรายวุ กาชาดไทย
สวัสดี สวัสดี มชี ยั สดช่ืนแจม่ ใส สวัสดี สวสั ดี
(ใช้สำ�หรับการต้อนรับวทิ ยากรท่เี คยบรรยายแล้ว)

เพลง ขอบคุณ
ขอขอบพระคณุ ยิง่ ด้วยใจจรงิ ที่กรุณา
ชื่นจติ เป็นหนักหนา ขอขอบพระคณุ ขอขอบพระคณุ
(ใช้ขอบคุณวิทยากรเม่อื บรรยายจบ และเมอื่ จบเพลงแลว้ ใหก้ ้าวเท้าขวาไปข้างหนา้

นอ้ มตัวลงเล็กนอ้ ยและปรบมอื ขอบคุณ)

258

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

เพลงใช้ประกอบกิจกรรมเปลี่ยนหนว่ ยบริการ

เพลง บริการ
(สร้อย) บรกิ าร บริการ งานทพ่ี วกเราทำ� เป็นประจำ�เราทำ�ไปไมเ่ คยคิดรวนเร (เฮ้)
บรกิ าร บริการ งานที่พวกเราทำ� เปน็ ประจำ�เราท�ำ ไปไม่เคยคดิ รวนเร
เราท�ำ ด้วยความยินดี ไม่เคยคดิ ทีจ่ ะเบือ่
เพราะเรานีเ้ ปน็ ยวุ กาชาด หน่วยงานบรกิ าร
เกบ็ กวาดเราทำ�ทุกอย่าง สะอาดทุกทางทีผ่ า่ น
หน้าที่ทุก ๆ สถาน เราน้ีบรกิ ารท่ัวไป (สรอ้ ย)

เพลง สญั ญาณนกหวดี (ยาว 1 ครั้ง)
(ยาวเป็นชดุ )
ยาวหน่งึ ครัง้ เราฟงั ได้ความว่าหยุด (ส้ันตดิ ตอ่ กนั )
เป่ายาวเปน็ ชดุ เราตอ้ งรีบรุดรบี เดนิ ต่อไป
ส้นั ติดต่อกัน เรว็ พลนั รีบไปทนั ใด (ส้ัน 1 คร้งั ยาว 1 คร้งั )
สน้ั ยาวนน้ั ไซร้ เราตอ้ งรีบไป เพราะเกิดเหตุการณ์ (สน้ั 3 ครงั้ ยาว 1 ครงั้ )
หวั หน้าหนว่ ยมานี่ ฟังซสี ้นั สามยาวหนึ่ง (ยาว 3 ครัง้ ส้นั 1 ครั้ง)
ชกั ธงลงเราพงึ ยาวสาม ส้นั หน่ึง น่คี อื สัญญาณ

259

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

หวั ขอ้ กจิ กรรม ความคาดหวัง

วัตถปุ ระสงค์

เพ่อื ให้ผ้เู ขา้ รบั การอบรมบอกถงึ ความคาดหวังในการเขา้ รับการอบรม

ขอบข่ายกิจกรรม

ความคาดหวังในการอบรม

ส่อื และอปุ กรณ์

1. กระดาษรปู หวั ใจ
2. กระดาษฟลิปชาร์ทวาดรปู หวั ใจ
3. ปากกาเคมี
4. บอรด์

เวลา 15 นาที
การประเมนิ ผล

ผเู้ ข้ารบั การอบรมเขียนความคาดหวัง

แนวการด�ำ เนนิ กิจกรรม

1. วทิ ยากรช้แี จงแนวทางของการเขียนความคาดหวงั
2. ให้ผู้เข้ารับการอบรมเขียนความคาดหวังลงในกระดาษรูปหัวใจ คนละ 1 - 3
ความคาดหวัง แลว้ นำ�ไปตดิ กระดาษฟลปิ ชารท์ วาดรูปหัวใจทต่ี ิดอย่บู นบอรด์ ที่เตรียมไว้
3. วิทยากรอ่านตวั อย่างความคาดหวงั ทผ่ี ูเ้ ขา้ รบั การอบรมนำ�มาติด
4. วทิ ยากรสรปุ ความคาดหวังเป็นขอ้ ๆ ใหเ้ หน็ อย่างชัดเจน

สาระที่ไดจ้ ากกิจกรรม

ผ้เู ข้ารบั การอบรมทุกคนได้บอกถึงความคาดหวงั ของตนเองในการเขา้ รบั การอบรม

260

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

หัวข้อกจิ กรรม ข้อตกลงในการอยูร่ ่วมกัน

วตั ถปุ ระสงค์

เพอ่ื ให้ผเู้ ขา้ รบั การอบรม
1. นำ�เสนอความคดิ ที่จะอยรู่ ว่ มกนั ในการอบรมอย่างมีความสขุ
2. ทราบถงึ ข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันตลอดระยะเวลาการอบรม

ขอบข่ายกิจกรรม

ขอ้ ตกลงในการอยรู่ ว่ มกัน

สอ่ื และอุปกรณ์

1. กระดาษฟลปิ ชาร์ท
2. ปากกาเคมี
3. บอรด์

เวลา 15 นาที
การประเมินผล

มีการปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงในการอยรู่ ่วมกัน

แนวการดำ�เนินกจิ กรรม

1. วิทยากรชี้แจงแนวทางของการกำ�หนดข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน เพือ่ ท่ีจะทำ�ให้
การอบรมประสบความส�ำ เร็จตามวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการฯ
2. วิทยากรหาอาสาสมัครเป็นตัวแทนเขียนข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน ที่ผู้เข้ารับการ
อบรมช่วยกันเสนอ และเห็นชอบร่วมกันด้วยการยกมือรับรองลงในกระดาษฟลิปชาร์ท โดย
เขยี นเปน็ รายขอ้
3. ใช้มติทปี่ ระชุมเห็นชอบและถือปฏิบัติร่วมกันตลอดระยะเวลาการอบรม (ควรติด
ขอ้ ตกลงไวใ้ นห้องประชุม ณ บรเิ วณทสี่ ามารถเหน็ ไดอ้ ย่างชัดเจน ตลอดเวลาของการอบรม)

สาระทีไ่ ดจ้ ากกจิ กรรม

ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นที่จะทำ�ให้อยู่ร่วมกัน
อย่างมีความสุข และสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทุกคนร่วมกันเสนอความคิดเห็น

261

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

หวั ข้อกิจกรรม การทดสอบขั้นต้นและขน้ั ปลาย

วตั ถปุ ระสงค์

เพ่อื ประเมินความรู้ ความเขา้ ใจของผูเ้ ขา้ รับการอบรมกอ่ น และหลังการอบรม

ขอบขา่ ยกิจกรรม

1. การทดสอบขัน้ ต้น
2. การทดสอบขัน้ ปลาย

สอ่ื และอปุ กรณ์

1. แบบทดสอบ
2. กระดาษค�ำ ตอบ

เวลา 20 นาที
การประเมินผล

1. การท�ำ คะแนนทดสอบข้นั ต้น
2. การท�ำ คะแนนทดสอบขน้ั ปลาย (ตอ้ งไดร้ ้อยละ 50)

แนวการด�ำ เนินกจิ กรรม

1. การทดสอบขัน้ ตน้
ในการด�ำ เนินการอบรม ควรจัดให้มีการทำ�แบบทดสอบขั้นต้น เพื่อเป็นการประเมิน
ผเู้ ขา้ รบั การอบรมกอ่ นการอบรมวา่ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเนอ้ื หาวชิ าของหลกั สตู รในระดบั ใด
เพื่อนำ�มาใช้เป็นแนวทางในการอบรมและให้ความรู้ต่อไป (แบบทดสอบพร้อมเฉลยคำ�ตอบ
อยใู่ นภาคผนวก)
1. วิทยากรแจกแบบทดสอบให้ผู้เข้ารับการอบรมทำ� ใช้เวลาท�ำ แบบทดสอบ 10 นาที
2. การประมวลผล ให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบคะแนนการทดสอบ (ติดประกาศ)
ภายในวันแรกของการอบรม

262

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

2. การทดสอบข้ันปลาย
ในการด�ำ เนนิ การอบรม ควรจดั ใหม้ กี ารท�ำ แบบทดสอบขน้ั ปลาย เพอ่ื เปน็ การประเมนิ
ผู้เข้ารับการอบรมภายหลังการอบรมว่า มีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาวิชาของหลักสูตรเพิ่ม
มากขึ้น เพอื่ นำ�มาใชเ้ ป็นแนวทางในการวัดและประเมนิ ผลผเู้ ขา้ รับการอบรมต่อไป
1. วทิ ยากรแจกแบบทดสอบใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมท�ำ ใชเ้ วลาท�ำ แบบทดสอบ 10 นาที
2. การประมวลผล ด�ำ เนนิ การใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมทราบในทนั ทภี ายหลงั การท�ำ แบบ
ทดสอบเรยี บรอ้ ย

สาระที่ได้จากกจิ กรรม

การทดสอบขั้นต้น เป็นการทดสอบความรู้เบื้องต้นของผู้เข้ารับการอบรม เพื่อ
เป็น
แนวทางในการอบรม ซง่ึ ในการทดสอบข้นั ปลายจะทราบถึงความรตู้ ่าง ๆ ทผี่ ้เู ขา้ รับการอบรม
ไดร้ ับภายหลังการอบรม

263

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

หวั ขอ้ กจิ กรรม กลุม่ สมั พันธ์

วตั ถปุ ระสงค์

เพ่อื ให้ผู้เข้ารับการอบรม
1. ร้จู กั คุน้ เคยซ่ึงกันและกัน
2. ได้รบั ความสนกุ สนานจากการอบรม
3. ไดเ้ รยี นรกู้ ารเปน็ ผนู้ ำ�และผตู้ ามที่ดี

ขอบขา่ ยกจิ กรรม

1. กจิ กรรมกลมุ่ สมั พันธ์
2. การจัดกิจกรรมนนั ทนาการในการอบรม
3. การนำ�เกมมาใช้ในกจิ กรรมนันทนาการ

ส่ือและอุปกรณ์

1. สื่อ PowerPoint เรอื่ งกจิ กรรมกลมุ่ สมั พันธ์
2. เคร่ืองดนตรปี ระกอบจังหวะ เชน่ กลอง ฉง่ิ ฉาบ เป็นตน้
3. อุปกรณท์ จ่ี ะใช้ในแต่ละเกม

เวลา 30 นาที - 1 ช่วั โมง
การประเมนิ ผล

1. สงั เกตจากพฤติกรรมของผู้เขา้ รับการอบรม
2. การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมของผู้เข้ารับการอบรม

264

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

แนวการดำ�เนินกิจกรรม

1. วิทยากรนำ�เสนอข้อมูลจากสื่อ PowerPoint เรื่องกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ซึ่งมี
ความหมายและจุดประสงค์ในการจัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
2. วิทยากรนำ�ร้องเพลง “สวัสดี” และเพลงอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ให้นำ�
เสนอ
พรอ้ มท่าทางประกอบ
3. วิทยากรสาธิตการเล่นเกมตามความเหมาะสม เช่น เกมเทหัวใจให้ทั้งดวง
เกมเล่านิทาน เป็นต้น
4. วิทยากรน�ำ เพลงในคมู่ อื อบรมอาสายวุ กาชาดฯ มาใชใ้ นการสอนผเู้ ขา้ รบั การอบรม
* ห้ามน�ำ เพลงและเกมทม่ี เี นอ้ื หาไมส่ ภุ าพ หยาบคาย มาใชใ้ นการสอนและจดั กจิ กรรม

สาระทไ่ี ด้รบั จากการจดั กิจกรรม

ฝึกการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น สร้างมิตรภาพ ให้เกิดความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน
ในหมู่คณะ อกี ทงั้ ยงั ไดพ้ ฒั นาตนเองในดา้ นการเป็นผ้นู ำ�กจิ กรรมกลุ่มสมั พันธท์ ด่ี ี

265

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

เนื้อหากิจกรรม กลุ่มสมั พันธ์

กจิ กรรมกลุ่มสัมพันธ์
กลมุ่ สมั พันธ์ เป็นกจิ กรรมหนง่ึ ที่น�ำ มาใชใ้ นการอบรม เป็นการละลายพฤติกรรมของ
บุคคลในกลุ่มให้มีความสัมพันธ์ มีความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน สามารถทำ�งานร่วมกันได้อย่างมี
ความสขุ สนกุ สนาน และประสบความส�ำ เรจ็ ตามเปา้ หมายทต่ี ง้ั ไว้ โดยใชเ้ พลงหรอื เกมเปน็ สอ่ื
ลักษณะกิจกรรมกลุ่มสมั พนั ธ์ ประกอบด้วยกิจกรรม ดังต่อไปน้ี
1. การสร้างความคนุ้ เคย 2. การท�ำ งานเปน็ ทมี
3. การสงั เกตพฤติกรรม 4. การแสดงบทบาทสมมต ิ
5. นนั ทนาการ 6. การฝกึ ฟัง - คิด - พูด
7. การบริหารงานกลุม่
ลกั ษณะผ้นู �ำ กิจกรรมกลมุ่ สมั พันธ์ การจัดกจิ กรรมใหป้ ระสบผลส�ำ เรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพนน้ั
ผู้น�ำ กิจกรรมควรมีคุณลักษณะ ดงั ตอ่ ไปนี้
1. มคี วามรู้ดา้ นจิตวิทยา กลมุ่ สมั พนั ธ์ และเทคนคิ การละลายพฤตกิ รรม
2. รูจ้ ักการวางแผน และการเตรยี มการเพื่อดำ�เนนิ กจิ กรรมละลายพฤตกิ รรม
3. เปน็ บุคคลท่มี มี นุษยสัมพันธด์ ี ปรับตวั เกง่ เข้ากบั บคุ คลอนื่ ได้ดี
4. มไี หวพรบิ มคี วามเชือ่ ม่นั ในตนเอง และมคี วามกระตือรือรน้
5. เป็นคนยุตธิ รรม จริงใจ และวางตวั เปน็ กลาง
6. ใจกวา้ ง มเี หตุผล และยอมรบั ฟังความเหน็ ของผ้อู นื่
7. สามารถอธิบายและชแี้ จงกิจกรรมได้อย่างชัดเจน
8. ใช้ค�ำ พูดและภาษาได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมโดยมีเทคนิคการพูดกระตุ้นให้ทุกคน
มีสว่ นรว่ ม
9. ให้ความช่วยเหลือแนะนำ� และสังเกตกิจกรรมโดยประสานงานให้กลุ่มดำ�เนิน
กิจกรรมไปไดด้ ว้ ยดี

10. สรปุ ปญั หาได้ชดั เจนและจบั ประเดน็ ใจความได้ถกู ต้อง

266

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

ประโยชนข์ องการจัดกิจกรรมกล่มุ สมั พันธ์
1. สร้างสัมพนั ธภาพทด่ี ี
2. มที ัศนคตทิ ่ดี ตี อ่ กัน มคี วามเขา้ ใจ เห็นใจกนั และลดการขดั แย้ง
3. ส่งเสริมใหเ้ กดิ การท�ำ งานเป็นทีมไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
4. เปน็ การเสรมิ สรา้ งพลงั ของบคุ ลากรได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
5. ส่งเสริมการพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และผ่อนคลาย
ความตึงเครียด
การจัดกิจกรรมนนั ทนาการในการอบรม
นันทนาการ หมายถึง การแสดงออกตามธรรมชาติของมนุษย์ในด้านความต้องการ
และความสนใจ เพื่อแสวงหาความพึงพอใจในยามว่าง และเป็นการแสดงออกที่พึง
ประสงค์
ของสงั คม ท�ำ ใหม้ คี วามสขุ กอ่ ใหเ้ กดิ ความสนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ ชว่ ยผอ่ นคลายความตงึ เครยี ด
ลดความเหนด็ เหนื่อยเมอื่ ยลา้ ทำ�ใหร้ สู้ ึกสดชื่น กระปร้ีกระเปรา่ มีพลังเตรยี มพร้อมท่ีจะเผชิญ
ปญั หาและภารกจิ อ่ืน ๆ ในชีวติ ประจำ�วันไดอ้ ีก
การนำ�เพลงนันทนาการมาใช้ในกิจกรรมยวุ กาชาด
การรอ้ งเพลง จัดได้ว่าเป็นกิจกรรมนันทนาการประเภทหนึ่ง ซึ่งสามารถนำ�มาใช้ได้
หลาย ๆ โอกาส เชน่ การรอ้ งเพลงในยามวา่ งกบั ครอบครวั การรอ้ งเพลงหรอื การเลน่ ประกอบ
เพลงกบั เดก็ ๆ ในโรงเรยี น ในหมบู่ า้ น การรอ้ งเพลงในชว่ งเวลาวา่ งของการจดั ฝกึ อบรม สัมมนา
การเขา้ ค่ายพักแรม การร้องเพลงบนรถขณะไปค่ายพักแรม ท่องเที่ยว ทศั นศึกษา หรือรอ้ ง
เล่น
ในกลุ่มเพื่อน นับได้ว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และมีคุณค่าทาง
นันทนาการ
อีกแบบหนึ่ง
ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการร้องเพลง
1. ขบั กลอ่ มอารมณ์ให้มีจติ ใจผอ่ งใส
2. กอ่ ให้เกดิ ความสนกุ สนานร่ืนเรงิ
3. เกิดความสามคั คีรกั ใคร่กันในหมู่คณะ
4. ผอ่ นคลายความตงึ เครียด และเบอ่ื หน่ายในการเรยี น
5. ชว่ ยให้จำ�เร่ืองราวในบทเรียนได้แม่นยำ�ยงิ่ ขึน้
6. ปลูกฝังความรกั ชาตบิ า้ นเมือง
7. ส่งเสริมความกล้าแสดงออกและความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์
นอกจากนี้การร้องเพลงยังก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ ด้าน
ร่างกาย จิตใจอารมณ์ สังคม และสติปัญญา มีสุขภาพพลานามยั ที่สมบรู ณ์ดว้ ย

267

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

ลักษณะของเพลงเพอื่ ใช้ประกอบการจัดกจิ กรรมนนั ทนาการ
การใช้เพลงเป็นสื่อในการจัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ สามารถกระทำ�ให้สมาชิกปฏิบัติ
ตามได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีดนตรีประกอบเสียงเพลงด้วยแล้ว ยิ่งทำ�ให้สมาชิกเกิด
ความเพลดิ เพลนิ สนกุ สนาน และผอ่ นคลายความตงึ เครยี ดในการอบรมสมั มนาไดด้ ี เพลงสว่ นใหญ่
จะเปน็ เพลงนนั ทนาการ ซง่ึ มีลักษณะดงั นี้
1. เนอ้ื เพลงสน้ั รอ้ งงา่ ย เมอ่ื น�ำ มาสอน ผเู้ ขา้ รบั การอบรมสามารถจ�ำ เนอ้ื รอ้ งและรอ้ ง
เพลงนน้ั ได้ในระยะเวลาอันสั้น เนอื้ เพลงไมห่ ยาบคาย
2. จังหวะและทำ�นองเพลงจะสนุกสนาน เร้าใจ มีความหมาย ช่วยสร้างบรรยากาศ
ให้สมาชิกอยากร่วมร้องเพลงไปด้วยกัน
3. สามารถน�ำ เพลงบางเพลงมาใชใ้ นการจดั รปู แบบการเลน่ เปน็ เกมได้ เชน่ เพลงวง่ิ แขง่
เพลงรื่นเรงิ ดนตรี เปน็ ต้น
4. เป็นเพลงที่ใช้ในการนำ�เข้าสู่การอบรม ทำ�ความรู้จัก สร้างความคุ้นเคย เช่น
เพลงสวัสดี เพลงเพื่อนฉัน เพลงเพอ่ื นรกั เป็นตน้
5. เปน็ เพลงทีส่ รา้ งความสามัคคใี นหมคู่ ณะ ฝังใจ จดจำ� เม่ือส้นิ สุดการอบรมสัมมนา
เชน่ เพลงสขุ สันตว์ ันอบรม เพลงยนิ ดที ี่รูจ้ ัก เพลงอาลยั เธอ เพลงคำ�มน่ั สญั ญา เปน็ ตน้
6. เป็นเพลงเสริมสร้างด้านความมีระเบียบ วินัย และเคารพซึ่งกันและกัน เช่น
เพลงตรงต่อเวลา เพลงเรียงลำ�ดับ เป็นต้น
ขั้นตอนการฝกึ รอ้ งเพลง
1. บอกชื่อเพลง
2. บอกเนื้อเพลงให้พดู ตามทีละวรรค 2 - 3 เทย่ี ว
3. สอนทำ�นองโดยร้องใหฟ้ งั กอ่ น 1 - 2 เทยี่ ว
4. ใหร้ ้องตามทีละวรรค 2 - 3 เทย่ี ว
5. ให้รอ้ งพร้อม ๆ กัน
6. ใส่จังหวะโดยการปรบมือ ใช้กลองหรือเครอ่ื งดนตรอี ่นื ๆ
7. สอนท่าทางประกอบ (ถ้ามี)
8. เทคนิคพิเศษอื่น ๆ เช่น การใช้สัญญาณในการลด - เพิ่ม ความดัง
ของเสียง และความเรว็ ของจงั หวะ เป็นต้น
เทคนิคการเป็นผู้นำ�ร้องเพลงนั้นกล่าวสรุปก็คือต้องแม่นเนื้อร้อง ทำ�นองชัด
ซัดสายตา ท่าทางดี มีเทคนิค

268

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

การรอ้ งเพลงยุวกาชาด
การจัดกิจกรรมยุวกาชาดมุ่งเน้นการฝึกภาคปฏิบัติให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม เพื่อให้
สามารถปฏบิ ตั จิ รงิ มที กั ษะความช�ำ นาญเพยี งพอ ทจ่ี ะใหก้ ารชว่ ยเหลอื ผเู้ ดอื ดรอ้ นทว่ั ไปซง่ึ เปน็
วัตถุประสงค์ของยุวกาชาดไทย ในขณะเดียวกันการจัดกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้ที่สามารถ
จดจำ�ได้ง่ายขึ้นนั้น วิทยากรควรสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินไปพร้อม ๆ กันด้วยการ
ใช้เพลงเป็นสื่อในการจัดกิจกรรมและกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการอบรมได้แสดงออกด้านความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยเพลงยุวกาชาด ที่ควรพิจารณานำ�มาร้องให้เกิดบรรยากาศแห่งการเรียนรู้
ทงั้ ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัตมิ ี 4 ประเภท คอื
1. เพลงปลกุ ใจยวุ กาชาด
2. เพลงพธิ กี ารยุวกาชาด
3. เพลงประกอบการจดั กจิ กรรมยวุ กาชาด
4. เพลงเบ็ดเตล็ด
1. เพลงปลกุ ใจยวุ กาชาด
หมายถงึ เพลงทแ่ี ตง่ ขน้ึ โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรกั หมคู่ ณะ รกั ชาติ บา้ นเมอื ง
แสดงความองอาจและกล้าหาญ ซึ่งเพลงปลุกใจของยุวกาชาดนัน้ แตง่ ข้นึ มาเพือ่ สร้าง
จติ สำ�นกึ
ใหร้ จู้ กั ประวตั แิ ละบคุ คลส�ำ คญั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และใหเ้ กดิ ความศรทั ธาเลอ่ื มใสในกจิ กรรมยวุ กาชาด
มากย่ิงข้นึ
ตัวอยา่ งเพลงปลกุ ใจยวุ กาชาด
• เพลงมาร์ชยุวกาชาด
• เพลงมาร์ชอาสายุวกาชาด
• เพลงน้ำ�ใจยุวกาชาด
• เพลงบำ�เพ็ญตน
• เพลงค�ำ ขวัญยวุ กาชาด
• เพลงหน้าท่กี าชาด
• เพลงกาชาดรว่ มใจ
2. เพลงพิธีการยวุ กาชาด
หมายถงึ เพลงที่แต่งขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ร้องประกอบในเวลาจัดกิจกรรม
ท่มี พี ิธีการทางยุวกาชาด ซึง่ ส่วนมากจะแต่งคำ�ร้องตามวัตถปุ ระสงค์ และนำ�ท�ำ นองเพลง
สากล
เพลงไทยสากล เพลงพืน้ เมืองมาเป็นหลกั ในการแต่งเพลงพิธกี าร

269

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

ตัวอยา่ งเพลงพธิ กี ารยวุ กาชาด
• เพลงเราคอื พีน่ อ้ ง เพลงแสนสขุ สนั ต์ ใชใ้ นพธิ ีต้อนรบั ผู้เขา้ รบั การอบรม
• เพลงยนิ ดีทีร่ ู้จัก ใชร้ อ้ งเพื่อต้อนรับวิทยากรท่ีมาบรรยายเปน็ ครัง้ แรก
• เพลงสวัสดยี วุ กาชาด ใช้ร้องเพือ่ ตอ้ นรับวิทยากรท่เี คยมาบรรยายแลว้
• เพลงขอบคณุ ใชร้ ้องเพอื่ ขอบคุณวทิ ยากร
• เพลงรอบกองไฟ ใช้ในพิธีเปิดการแสดงรอบกองไฟ
• เพลงพวงมาลยั ใชใ้ นพธิ ีแห่พวงมาลยั พุ่มสลากแสดงรอบกองไฟ
• เพลงดวงเดอื นยวุ กาชาด เพลงสามัคคีชุมนุม ใช้ในพิธีปิดการแสดงรอบ
กองไฟ
• เพลงบริการ ใช้ในการมอบเคร่อื งหมายบริการให้แกห่ น่วยบริการ
• เพลงมาร์ชยุวกาชาด ใชใ้ นการชักธงมาตรฐานใหญ่ข้ึนสูย่ อดเสา
• เพลงอาลยั พีน่ อ้ ง เพลงก่อนจะจากกันไป เพลงลาก่อนเพื่อนที่รัก ใช้ใน
พธิ ีปิดการอบรม
3. เพลงประกอบการจดั กิจกรรมยวุ กาชาด
หมายถึง เพลงที่แต่งขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในกิจกรรม
การเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยทำ�ให้เข้าใจง่ายขึ้น และยังทำ�ให้
เกิดความสนุกสนาน คลายความตึงเครียดและความเบื่อหน่ายในขณะเข้าร่วมกิจกรรม
โดยใช้เพลงในการนำ�เข้าสู่บทเรียน ประกอบบทเรียนและสรุปบทเรียน
ตวั อย่างเพลงประกอบการจดั กจิ กรรมยวุ กาชาด
• เพลงหลักการกาชาด ผู้ยิ่งใหญ่อองรี อุณาโลมแดง ใช้ร้องประกอบ
กิจกรรมกาชาด
• เพลงบ�ำ เพญ็ ตน ใช้รอ้ งประกอบกจิ กรรมบ�ำ เพ็ญประโยชน์
• เพลงมาร์ชปฐมพยาบาล ใชร้ ้องประกอบกจิ กรรมปฐมพยาบาล
• เพลงสญั ญาณนกหวีด ใชร้ ้องประกอบการฝกึ ระเบยี บแถว
4. เพลงเบ็ดเตล็ด
หมายถงึ เพลงทแ่ี ตง่ ขน้ึ โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความบนั เทงิ เรงิ ใจดว้ ยท�ำ นองลลี า
และคำ�รอ้ งทเี่ ป็นความสุข สนกุ สนาน ใช้ถอ้ ยคำ�สภุ าพ หรืออาจใช้ภาษาท้องถนิ่ หรือเปน็
เพลง
พน้ื เมอื ง ในการร้องเพลงเบ็ดเตลด็ อาจมที า่ ทางประกอบเพื่อสง่ เสริมความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์
และการแสดงออกในทางท่ถี กู ต้อง

270

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

ตวั อย่างเพลงเบ็ดเตล็ด
• เพลงสวัสดี
• เพลงบัดด้ี
• เพลงเสียงดนตรี
• เพลงทะเล
การนำ�เกมมาใช้ในกิจกรรมนนั ทนาการ
เกม เปน็ กิจกรรมท่ีสรา้ งความสนใจ และสรา้ งความสนกุ สนาน มกี ฎกตกิ าทีส่ ง่ เสรมิ
ให้เกิดการเรยี นรู้ เขา้ ใจและจดจ�ำ บทเรยี นไดง้ า่ ย พฒั นาทกั ษะดว้ ยการเคลอ่ื นไหว ซ่งึ สามารถ
ปรบั เปล่ียนเพ่อื ความเหมาะสมในการเล่นไดต้ ลอดเวลา
1. จดุ ประสงคข์ องการเล่นเกม
1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความสนุกสนาน ร่าเริง ผ่อนคลาย
ความตงึ เครียด
2. เพอ่ื ส่งเสริมสุขภาพทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สตปิ ญั ญาและสังคม
3. เพื่อปลูกฝังให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดการยอมรับในกฎ กติกาและ
ความสามารถของผู้อื่น
4. เพอ่ื ฝึกให้ผ้เู ข้ารบั การอบรมรจู้ ักการเล่นและการทำ�งานเป็นหมคู่ ณะ
5. เพอ่ื ฝกึ ให้รูจ้ ักการแก้ปัญหาเฉพาะหนา้
6. เพ่ือเสรมิ สร้างให้มคี ุณลกั ษณะความเปน็ ผู้น�ำ ผตู้ ามท่ีดี
7. เพื่อฝกึ ใหผ้ ้เู ขา้ รบั การอบรมรจู้ กั เล่นและคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์
8. เพอ่ื ฝึกทักษะอนั เป็นพนื้ ฐานของการเล่นกีฬารู้แพร้ ูช้ นะ
2. ประเภทของเกม
1. เกมเลยี นแบบธรรมชาติ เกมเลยี นแบบอาชพี เกมเลียนแบบตามเนอ้ื
เรือ่ ง
ของนทิ าน
2. เกมฝึกประสาท สังเกตและตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว โดยใช้
เชาว์ปัญญา ปฏิภาณไหวพริบ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างประสาทกับแขน ขา หู ตา
จมกู เช่น เกมจบั กลุ่มตามหม่เู ลอื ด เกมปลาเลก็ - ปลาใหญ่
3. เกมการแข่งขัน เป็นเกมที่ให้ผู้เล่นรู้จักกล้าแสดงออกในทางที่ถูกและ
ให้ใช้ความสามารถเฉพาะตัว เชน่ เกมงดั ข้อ เกมเป่าถ้วย เกมบอลสามัคคี
4. เกมการตอ่ สู้ เป็นเกมส่งเสริมการออกกำ�ลังกาย เช่น เกมชนไก่ เกมชน
กระสอบ
5. เกมทดสอบสมรรถภาพ เป็นเกมที่ฝึกให้ผู้เล่นมีความแข็งแกร่ง เช่น
เกมกระโดดกระตา่ ย เกมโล้เกา้ อี้

271

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

6. เกมประกอบการร้องเพลง เป็นเกมที่เสริมสร้างทักษะด้านกิจกรรม
เข้าจงั หวะ เชน่ เกมกระโดด เกมเลียนเสียงสัตว์
7. เกมการละเลน่ พน้ื เมอื ง เชน่ เกมงกู นิ หาง เกมรรี ขี า้ วสาร เกมมอญซอ่ นผา้
8. เกมการแสดงเงยี บ เชน่ เกมแสดงเงียบชุดกฬี า เกมแสดงเงียบชุดอาชพี
เกมแสดงเงยี บชุดวรรณคดีไทย
9. เกมเบ็ดเตล็ด เป็นเกมทั่วไปที่มีกฎกติกาการเล่นง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสลับ
ซับซ้อน เช่น เกมวิง่ สามขา เกมชกั เยอ่
10. เกมนำ�ไปสู่กีฬาตา่ ง ๆ เชน่ เกมลิงชงิ บอล เกมกาฟักไข่ เกมการศึกษา
11. เกมการศกึ ษา เปน็ เกมการเลน่ ทม่ี งุ่ พฒั นาผเู้ ลน่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ
และเกดิ ความคดิ รวบยอดในเรื่องตา่ ง ๆ ซ่งึ รวมถงึ ทักษะทางดา้ นภาษาเพอ่ื ใหเ้ ด็กร้จู กั การพูด
การฟัง การจำ�และการฝึกทกั ษะดา้ นคณิตศาสตร์
12. เกมนันทนาการ เป็นเกมที่เล่นในยามว่าง เช่น เกมต่อภาพ เกมปริศนา
ค�ำ ทาย
13. เกมละลายพฤติกรรม เป็นเกมที่มุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง
เพื่อนใหม่ท่มี าอยู่รวมกนั เปน็ กลมุ่ เช่น เกมหาเพือ่ น เกมสรอ้ ยร้อยใจ

ตวั อย่างเกม
เกม “เทหวั ใจให้ทั้งดวง”
วัตถุประสงค์
เพอ่ื ให้ผู้เขา้ รับการอบรม
1. รู้จักการทำ�งานรว่ มกันเป็นทมี
2. รจู้ กั การวางแผนท�ำ งานร่วมกัน
3. ยอมรบั ความคิดเหน็ ของผอู้ ่ืน

สอื่ /อุปกรณ์
1. ลูกเทเบลิ เทนนิสเท่าจำ�นวนสมาชกิ ในกลุม่
2. ช้อนพลาสติกเทา่ จำ�นวนสมาชิกในกล่มุ
3. นกหวดี
วธิ ีดำ�เนินการ
1. วิทยากรใหแ้ ตล่ ะหน่วยสเี ข้าแถวตอนลึก สมาชกิ ภายในหนว่ ยสยี นื หา่ งกนั
ประมาณหนง่ึ ชว่ งแขน มอื ทง้ั สองขา้ งเทา้ เอว

272

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

2. วทิ ยากรแจกชอ้ นพลาสตกิ โดยใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมทกุ คนคาบปลายชอ้ นไว้
น�ำ ลกู เทเบิลเทนนสิ วางไว้ทช่ี อ้ นของคนแรกในแต่ละกลุ่ม
3. วิทยากรให้สัญญาณเริ่มเล่น ให้คนแรกของหน่วยสีหันหลังแล้วนำ�
ลูกเทเบิลเทนนิสส่งให้คนที่ 2 และส่งต่อจนถึงคนสุดท้ายของหน่วยสี โดยให้แต่ละหน่วยสี
ท�ำ เชน่ น้ี 2 รอบ (หา้ มใชม้ อื เดด็ ขาด)
4. หน่วยสีใดที่ปฏิบัติกิจกรรมครบ 2 รอบแล้วให้นั่งลงพร้อมส่งเสียงร้อง
“เฮ”้ จะเปน็ หนว่ ยสที ่ชี นะ
ข้อคิดท่ไี ด้จากเกม
1. เกิดความรัก ความสามัคคแี ละรจู้ กั เสยี สละ
2. มคี วามอดทน มปี ฏภิ าณไหวพรบิ ในการแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้
3. ไดแ้ สดงความมนี �ำ้ ใจเป็นนกั กฬี าและเคารพกฎกติกา
3. คุณสมบตั ขิ องผนู้ ำ�เพลงและเกมที่ดี
1. มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง กลา้ แสดงออก
2. ตรงตอ่ เวลา และรกั ษาเวลาไดด้ ี
3. มีความกระตือรือรน้ กระฉบั กระเฉง
4. ยุติธรรม วางตัวเปน็ กลาง
5. จรงิ ใจ
6. มเี หตุผลไมใ่ ช้อารมณ์
7. มกี ารเตรียมพร้อมอยเู่ สมอ
8. ใจกว้าง ยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื
9. อารมณข์ ัน มคี วามสนุกสนาน รา่ เรงิ
10. ปรบั ตัวเก่ง เข้ากับผู้อ่ืนได้ดี
11. ไหวพริบดี
12. มนษุ ยสัมพนั ธด์ ี
13. มีความสามารถในการใช้ค�ำ พดู และภาษาได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
14. สามารถอธบิ ายชแี้ จงกจิ กรรมได้อย่างชดั เจน
15. มีความสามารถในการจูงใจใหส้ มาชิกทกุ คนมีส่วนร่วม
16. มีความสามารถแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ได้ดี
17. มีความรูเ้ รือ่ งเพลง คือ เน้อื รอ้ ง จงั หวะ ทำ�นอง ประเภทของเพลง
ท่าทางการเคลื่อนไหวประกอบเพลง หรือการเลน่ ประกอบเพลงเป็นอยา่ งดี

273

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

หวั ขอ้ กิจกรรม พิธีเปิดการอบรม

วตั ถุประสงค์

เพอื่ ใหผ้ ูเ้ ขา้ รบั การอบรมสามารถปฏิบัติตามขัน้ ตอนตา่ ง ๆ ในพธิ เี ปิดการอบรมได้

ขอบข่ายกจิ กรรม

การเตรยี มการ และข้นั ตอนพธิ เี ปดิ การอบรม

ส่ือและอปุ กรณ์

1. โต๊ะหมู่บูชา พร้อมธูป เทียน (หากจัดแบบมีพิธีทางศาสนาพุทธ) เสาธง
พร้อมขาต้งั ธง ธงชาติ ธงยวุ กาชาด
2. พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
3. คำ�กลา่ วรายงานและค�ำ กล่าวเปดิ ของประธาน
4. คำ�แถลงสภากาชาดไทยและคำ�ปฏญิ าณตนยุวกาชาด
5. นกหวีด
6. เสาธง พร้อมธงชาติ ธงยวุ กาชาดและธงมาตรฐานใหญ่

เวลา 45 นาที
การประเมนิ ผล

1. การสงั เกตผ้เู ข้ารบั การอบรม
2. การปฏิบัติตามขน้ั ตอนต่าง ๆ

แนวการด�ำ เนินกจิ กรรม

1. พิธีกรแจ้งให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบเกี่ยวกับประธานพิธีเปิด และผมู้ ีเกียรติที่มา
รว่ มงาน
2. พธิ ีกรเตรียมความพร้อมขนั้ ตอนพธิ ีเปดิ การอบรม
3. พิธกี ร คณะวทิ ยากรและผ้เู ข้ารับการอบรมด�ำ เนินการพธิ ีเปิดการอบรม

สาระทไ่ี ด้จากกจิ กรรม

ปฏิบตั ติ นตามข้ันตอนในพิธีเปดิ การอบรม

274

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

เน้อื หากจิ กรรม พธิ เี ปดิ การอบรม

1. พิธีเปิดการฝกึ อบรมในห้องประชุมมี 2 แบบ คอื

1.1 จดั แบบมีพธิ ที างศาสนา ใหถ้ อื ปฏิบัติ ดงั น้ี
1.1.1 จัดให้มีธงยุวกาชาด ธงชาติไทย โต๊ะหมู่บูชา พระบรมฉายาลักษณ์พระบาท
สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามที่มีพระบรมราชานุญาต ดังภาพ

ธงยุวกาชาด ธงชาติไทย โตะ๊ หมู่บชู า พระบรมฉายาลักษณพ์ ระบาทสมเด็จ
พระวชิรเกลา้ เจ้าอยหู่ วั

1.1.2 เมื่อประธานมาถึงห้องประชุม พิธีกรสั่ง “ทั้งหมด - ตรง” ให้ทุกคนยืนตรง
หลังจากประธานนั่งเรยี บรอ้ ยแล้วให้ทกุ คนนั่งลง
1.1.3 พธิ กี รเชญิ ประธานจดุ ธปู เทยี นบชู าพระรตั นตรยั ทกุ คนทอ่ี ยใู่ นหอ้ งประชมุ ยนื ตรง
1.1.4 ประธานเริ่มจดุ เทยี น ให้ทุกคนในห้องประชุมประนมมือ ผู้ที่นับถือศาสนาอื่น
อยใู่ นกริ ิยาสำ�รวม
1.1.5 ประธานกราบ ให้ทกุ คนก้มศีรษะจรดปลายน้วิ หวั แม่มือท่ีระหว่างค้วิ 3 ครงั้
1.1.6 ประธานที่เป็นชายให้โคง้ คำ�นับ สว่ นประธานท่ีเปน็ หญิงใหถ้ อนสายบัว แลว้ ยนื
ท่ีแทน่ รับรายงาน ทุกคนในห้องประชุมนัง่ ลง
1.1.7 พิธีกรเชิญผู้อำ�นวยการฝกึ อบรม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายกล่าวรายงาน
1.1.8 ประธานให้โอวาทและกล่าวเปิดการอบรม
เมอ่ื ประธานท�ำ พธิ เี ปดิ การอบรมเรยี บรอ้ ยแลว้ ใหด้ �ำ เนนิ การพธิ ปี ฏญิ าณตนยวุ กาชาด
เปน็ อนั ดบั ตอ่ ไป

275

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

1.2 จัดแบบไม่มีพิธีทางศาสนา ใหถ้ ือปฏบิ ัติ ดังน้ี
1.2.1 จดั ใหม้ ธี งยวุ กาชาด ธงชาตไิ ทย พระบรมฉายาลกั ษณพ์ ระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้
เจา้ อยู่หวั ตามที่มพี ระบรมราชานุญาต ดงั ภาพ

ธงยวุ กาชาด ธงชาตไิ ทย พระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเดจ็
พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว

1.2.2 เมื่อประธานมาถึงห้องประชุม พิธีกรสั่ง “ทั้งหมด - ตรง” ให้ทุกคนยืนตรง
หลงั จากประธานนงั่ เรยี บร้อยแล้วให้ทกุ คนนงั่ ลง
1.2.3 พิธีกรเชิญประธานประกอบพิธี ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมยืนตรง ประธาน
ถวายความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยูห่ ัว ประธานทีเ่ ปน็
ชายให้โค้งคำ�นับ ส่วนประธานที่เป็นหญิงให้ถอนสายบัว แล้วยืนที่แท่นรับรายงาน ทุกคนใน
หอ้ งประชมุ นง่ั ลง
1.2.4 พิธีกรเชิญผ้อู �ำ นวยการฝึกอบรม หรือผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมายกล่าวรายงาน
1.2.5 ประธานให้โอวาทและกล่าวเปิดการอบรม
เมื่อประธานทำ�พิธีเปิดการอบรมเรียบร้อยแล้ว ให้ดำ�เนินการพิธีปฏิญาณตนยุวกาชาดเป็น
อนั ดบั ตอ่ ไป

2. พิธีปฏิญาณตนยุวกาชาด

พธิ นี จ้ี ดั ใหม้ ขี น้ึ เฉพาะในการเปดิ การอบรม ส�ำ หรบั ผเู้ ขา้ รบั การอบรมเปน็ ครง้ั แรกโดย
เรม่ิ พธิ หี ลงั จากทป่ี ระธานเปดิ การอบรมเรยี บรอ้ ยแลว้ เพอ่ื ใหอ้ าสายวุ กาชาดไดก้ ลา่ วค�ำ ปฏญิ าณตน
ยวุ กาชาดพร้อมกนั เม่ือเข้าร่วมกิจกรรมของสภากาชาดไทย โดยปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
2.1 พิธกี รประกาศวา่ “ต่อไปน้จี ะเปน็ พธิ ีปฏญิ าณตนยุวกาชาด... ทง้ั หมด - ตรง”
2.2 ผอู้ ำ�นวยการฝึกอบรมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายคนที่ 1 ยืนตรงที่แท่นประธาน
กล่าวเปดิ หนั หน้าไปทางผูเ้ ขา้ รับการอบรม แลว้ อา่ นค�ำ แถลงสภากาชาดไทย

276

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

ค�ำ แถลงสภากาชาดไทย

“สภากาชาดไทยเปน็ องคก์ รการกศุ ลเพอ่ื มนษุ ยธรรม ตง้ั ขน้ึ เพอ่ื บรรเทาความทกุ ขย์ ากของมนษุ ยชาติ
โดยไมเ่ ลือกชาติ ชั้น ยึดหลักมนษุ ยธรรมเป็นทต่ี ั้ง

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดี ศรีสนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทรงดำ�รงต�ำ แหน่งพระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง

ทรงดำ�รงต�ำ แหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทย
สมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี

ทรงด�ำ รงตำ�แหน่งอุปนายิกาผอู้ ำ�นวยการสภากาชาดไทย
นบั วา่ เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ตอ่ กจิ การนอ้ี ยา่ งหาทส่ี ดุ มไิ ด้ ยวุ กาชาดเปน็ สว่ นหนง่ึ ของสภากาชาดไทย
และเปน็ ก�ำ ลังส�ำ คัญของสภากาชาดไทย จำ�เปน็ ท่ียวุ กาชาดทกุ คน จะตอ้ งใหก้ ารสนบั สนุน

อยา่ งแทจ้ รงิ โดยบ�ำ เพ็ญตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ เพ่ือช่วยเหลือผูอ้ น่ื ทกุ เมื่อ”
2.3 ผูท้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมายคนที่ 2 ยนื ดา้ นหนา้ ของผ้เู ขา้ รับการอบรมโดยหนั หนา้ ไปทาง
เวที ใหก้ ล่าวน�ำ ค�ำ ปฏญิ าณตนยุวกาชาดทีละขอ้ ดงั น้ี
“ขอใหท้ กุ คนกล่าวค�ำ ปฏิญาณตนตามข้าพเจ้า
ข้อ 1 ข้าฯ จะจงรกั ภกั ดีตอ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ขอ้ 2 ข้าฯ จะเป็นมิตรกับคนทั่วไป และจะบำ�เพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่
สว่ นรวม
ขอ้ 3 ข้าฯ จะรกั ษาอนามัยของตนเอง และสง่ เสรมิ อนามัยของผู้อนื่ ”
2.4 ผู้อำ�นวยการฝึกอบรมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายคนที่ 1 กล่าว “ในนามของ
สภากาชาดไทยขอประกาศว่า บัดนี้สภากาชาดไทยได้รับท่านเข้าเป็นอาสายุวกาชาดแล้ว
จึงขอให้ยึดมั่นในคำ�ปฏิญาณเพื่อเป็นกำ�ลังสำ�คัญของสภากาชาดไทยต่อไป”
2.5 พธิ ีกรสงั่ “น่ัง” เป็นอันเสรจ็ พธิ ีปฏญิ าณตนยุวกาชาด ต่อจากนน้ั ใหไ้ ปทำ�พิธเี ปดิ
การอบรมในสนาม

277

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

3. พิธเี ปดิ การอบรมในสนาม

3.1 พิธีกรเรียกแถวครึ่งวงกลมหน้าเสาธง ผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมดเข้าแถวเป็นรูป
ครึ่งวงกลมเรียงตามลำ�ดับระยะห่างระหว่างหน่วยสี 1 ช่วงแขน โดยให้รองหัวหน้าหน่วย
กางแขนซ้ายไปต่อไหล่กับหัวหน้าหน่วย ๆ ถัดไป และระยะห่างระหว่างบุคคลในหน่วยสี 1
ช่วงศอก ให้ต้ังศอกซา้ ยในการจัดแถว ผู้อ�ำ นวยการฝึกอบรม วิทยากร ยืนหลังเสาธงเป็นแถว
หนา้ กระดาน ผอู้ �ำ นวยการฝกึ อบรมยนื อยกู่ ลางแถวตรงกบั เสาธงชาติ เมอ่ื จดั แถวเรยี บรอ้ ยแลว้
พิธีกรยืนดา้ นขวาหรือซ้ายของเสาธงตามแผนผงั
3.2 ให้หน่วยบริการ 4 คน ชักธงชาติ 2 คน ธงยุวกาชาด 2 คน โดยยืนเป็นแถว
หน้ากระดานหน้าเสาธง ห่างจากเสาธง 3 ก้าว ทำ�ความเคารพโดยคนทางขวาสุดสั่ง “ตรง”
แล้วปลดเชือกที่เสาธงส่งเชือกให้คนทางซ้ายทำ�หน้าที่เป็นผู้ชักธงให้ธงขึ้นทางขวามือ ขณะที่
ชักธงน้ันเชอื กจะต้องตงึ อย่เู สมอ

3.3 พิธีกรนัดหมายหน่วยบริการทำ�หน้าที่ชักธง นำ�ร้องเพลงชาติ นำ�สวดมนต์
พิธีกรสั่ง “เตรียมเคารพธงชาติ ทั้งหมด - ตรง” ผู้แทนหน่วยบริการ 1 คนนำ�ร้องเพลงชาติ
สมาชิกทั้งหมดร้องรับพร้อมกันจนจบธงจะถึงยอดเสาพอดี ให้ธงชาติขึ้นก่อนธงยุวกาชาด
โดยให้มีระยะห่างกันประมาณ 1 ช่วงธง เมื่อชักธงขึ้นสู่ยอดเสาแล้วคนทางขวาเป็นผู้ผูกเชือก
เมอื่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คนทางขวาสดุ ส่ัง “ขวา - หนั ” ว่ิงกลับไปเขา้ แถวตามเดิม

278

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

3.4 พิธกี รส่งั “เตรียมสวดมนต์” ให้ทุกคนประนมมือ ผู้แทนหน่วยบริการ 1 คน
น�ำ สวดมนต์บทพระพุทธคณุ พระธรรมคุณ พระสงั ฆคุณ โดยย่อ (นำ�สวดทีละวรรค)
3.5 พธิ กี รสงั่ “สงบนิ่ง เพื่อระลึกถึง.....................ปฏิบัติ” (วันแรกของการอบรม
ขอเสนอแนะว่า “เพื่อระลึกถึงพ่อ แม่ ครูอาจารย์” ในวันต่อไปจึงสั่งว่า “เพื่อระลึกถึงผู้มี
พระคุณต่อกิจการกาชาดและยุวกาชาด”) ให้ทุกคนก้มศีรษะเล็กน้อย มือขวาทับมือซ้าย
ในระดับต่ำ�กว่าเอว (ประมาณหัวเข็มขัด) โดยกิริยาสำ�รวมเป็นเวลา 1 นาที แล้วพิธีกรสั่ง
“พัก”
3.6 พิธีกรเชิญผอู้ ำ�นวยการฝึกอบรมไปทีห่ น้าเสาธง และสัง่ “ทัง้ หมด - ตรง” แล้วส่งั
“พัก” ผอู้ ำ�นวยการฝึกอบรมกล่าวให้โอวาท โดยเน้นหลกั ปฏิบตั ิในการอยู่คา่ ยพักแรม
3.7 เมื่อผู้อ�ำ นวยการฝกึ อบรมกลา่ วจบ พิธีกรสั่ง “ทั้งหมด - ตรง” ผู้อำ�นวยการฝึก
อบรมเดนิ กลับไปยืนตำ�แหนง่ เดมิ หลังเสาธงชาติ
3.8 พธิ กี รนดั หมายเวลาอบรมในห้องประชุม แล้วสั่ง “แยกแถว” ผู้เข้ารับการอบรม
ทำ�ขวาหนั แลว้ แยกกนั ไปตามท่นี ัดหมาย
หมายเหตุ : ควรมีการซอ้ มพิธเี ปดิ การอบรมและปฏิญาณตนกอ่ นพธิ ีเปิดการอบรมเพื่อให้เกดิ
ความพร้อมเพรยี ง

279

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

หวั ข้อกจิ กรรม Buddy

วตั ถปุ ระสงค์

เพอ่ื ใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรม
1. เรยี นรูก้ ารเป็นผู้ใหต้ ่อผอู้ น่ื
2. มคี วามซอ่ื สัตยต์ ่อตนเองและผู้อ่ืน ในการเก็บความลับของคู่ Buddy
3. แสดงการส่อื สารถงึ ผู้อ่ืนด้วยรูปแบบทีห่ ลากหลาย
4. ไดร้ ับความสนกุ สนาน

ขอบขา่ ยกจิ กรรม

กิจกรรม Buddy เป็นกิจกรรมที่มีการจับคู่ของเพื่อนกับเพื่อนรวมทั้งคณะวิทยากร
ทีเ่ ขา้ รว่ มการอบรมโดยไม่เปิดเผยใหเ้ จ้าตัวรูจ้ ักคขู่ องตนเอง แตค่ ู่ Buddy จะมหี น้าท่เี ป็นผู้ให้
การดูแลเอื้ออาทรต่อคู่ของตน โดยการสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การส่งจดหมายแสดง
ความห่วงใย การฝากสิ่งของ ขนม โดยมีการเฉลยคู่ Buddy ในวนั สดุ ท้ายของการอบรม

ส่ือและอปุ กรณ์

1. กระดาษ A4 ตัดเป็นช้นิ เล็ก ๆ ส�ำ หรบั เขยี นชื่อ
2. ภาชนะใสร่ ายชอ่ื และรับจดหมาย
3. เนอื้ เพลง หรือ CD เพลง Buddy

เวลา 30 นาที
การประเมนิ ผล

1. สังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ ขา้ รับการอบรม
2. การมีส่วนรว่ มของผูเ้ ขา้ รับการอบรม

280

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

แนวการด�ำ เนนิ กิจกรรม
1. วทิ ยากรแจกกระดาษทเ่ี ตรยี มไวใ้ หผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมทกุ คนเขยี นชอ่ื ตนเอง โรงเรยี น
หน่วยสี เมอื่ เสรจ็ แล้วให้พับใสภ่ าชนะให้เรียบรอ้ ย กจิ กรรมนีว้ ทิ ยากรควรรว่ มกจิ กรรมดว้ ย
2. ผเู้ ขา้ รบั การอบรม และวิทยากรท่จี ะร่วมกจิ กรรมจบั สลากช่อื Buddy หากผใู้ ดจบั
สลากไดช้ ือ่ ของตนเองใหค้ ืนสลากนัน้ แล้วจบั ใหม่
3. วิทยากรอธิบายกติกาการร่วมกิจกรรมว่า เมื่อจับสลากได้รายชื่อคนที่จะเป็น
Buddy ของเราแลว้ ตอ้ งเกบ็ ไวเ้ ปน็ ความลบั หา้ มบอกคนอน่ื วา่ เราจบั ไดช้ อ่ื ใคร ชอ่ื คนทเ่ี ราจบั ได้
คือคนที่เราต้องแอบดูแล ให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ คอยช่วยเหลือ หรืออาจแสดงออกถึง
ความหว่ งใย เชน่ เขยี นจดหมายขอ้ ความสน้ั ๆ แสดงความหว่ งใย หรอื เอาขนมมาใหโ้ ดยไม่
ให้
คู่ Buddy ของตนรู้ตัว อาจใช้วิธีการพึ่งพา ไหว้วานผู้อื่นให้เอาน้ำ�หรือขนมไปให้ หรือฝากส่ง
จดหมายไปให้โดยใช้นามแฝง หรือรหัสลับของตนเอง เช่น จาก..บัดดี้ จาก..ผู้ห่วงใย แล้วนำ�
ไปใส่ภาชนะท่ีรบั จดหมาย Buddy ท่ีวิทยากรจัดเตรยี มไว้
4. วทิ ยากรควรกระตุ้นให้ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนหมั่นเขียนจดหมาย โดยการอ่าน
จดหมายทเ่ี ขยี นถงึ คู่ Buddy ตลอดระยะเวลาการอบรมตามทม่ี โี อกาสอ�ำ นวย การเขยี นขอ้ ความ
หรอื แสดงความหว่ งใย จะเรม่ิ ตง้ั แตจ่ บั สลากชอ่ื Buddy ไดจ้ นกระทง่ั ถงึ วนั สดุ ทา้ ยของการอบรม
ตามทวี่ ทิ ยากรกำ�หนด โดยใชข้ อ้ ความท่ีสร้างสรรค์ ไมห่ ยาบคาย หรือกอ่ กวน
5. วิทยากรควรเสนอให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจัดเตรียมของขวัญหรือของที่ระลึกไว้
จ�ำ นวน 2 ชน้ิ โดยชน้ิ แรกมอบใหก้ บั ผทู้ เ่ี ราจบั รายชอ่ื ได้ สว่ นอกี ชน้ิ หนง่ึ มอบใหก้ บั ผทู้ เ่ี ขาจบั ชอ่ื

ขอ้ เสนอแนะ

1. การเตรยี มการของวิทยากร ควรเตรยี มกระดาษสำ�หรบั เขยี นชอ่ื ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม
ท้ังผ้อู บรมและวทิ ยากรให้ครบถ้วน
2. วทิ ยากรที่จะเข้ารว่ มกิจกรรมนี้ ควรเป็นวิทยากรที่อยู่ในสถานที่อบรมตลอดระยะ
เวลาการอบรม
3. การส่งต่อจดหมาย วทิ ยากรควรมเี ทคนคิ ในการอา่ นจดหมายใหเ้ กดิ ความนา่ สนใจ
อาจเขยี นจดหมายขน้ึ เป็นฉบบั แรก อา่ นข้อความเป็นตัวอยา่ งวา่ ควรเขียนลกั ษณะใด
4. วิทยากรอาจเตรียมการแก้ไขปัญหาในกรณีผู้เข้าร่วมกิจกรรมอยู่ไม่ครบในวัน
เฉลยคู่ Buddy เชน่ เตรยี มของขวัญหรอื ของรางวัลสำ�หรับในกรณหี าคู่ Buddy ไม่พบ หรอื มี
ภาระเร่งด่วนไมส่ ามารถอยูใ่ นชว่ งเฉลย Buddy ได้

281

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

สาระท่ไี ด้รับจากการจดั กิจกรรม

ฝึกการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน สร้างสัมพันธภาพที่ทำ�ให้ผู้อื่นเกิดความ
ประทับใจ ฝึกการสื่อสารและถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีต่อกัน
เพลงท่ใี ช้ในกิจกรรม

เพลงบดั ดี้
อยากจะรูเ้ ธอนนั้ ใคร อยู่ในใจทุกครา
แอบเมยี งมองทกุ เวลาเฝ้าฝนั หาถงึ ตวั เธอ
หล่นั ลนั ลา ล้ันลา หลน่ั ลนั ลา ลัน้ ลา หลนั่ ลนั ลา ลั้นลา หลน่ั ลน้ั ลา ลน้ั ลนั ลา
แอบมองเธอทุกวนั อยูไ่ หนกันเพอ่ื นเกลอ
แอบส่งยิม้ ถึงเธอแตต่ วั เธอนนั้ แชเชอื น
หลั่นลันลา ล้นั ลา หลัน่ ลนั ลา ลั้นลา หลน่ั ลนั ลา ล้นั ลา หลน่ั ลนั้ ลา ลัน้ ลนั ลา

สง่ิ ทเี่ ธอนนั้ ทำ� จะจดจ�ำ มเิ ลอื น
สิง่ ดงี ามคอยย�ำ้ เตอื นเพอื่ นของฉนั น้นั คอื ใคร (เธอ)
หลัน่ ลนั ลา ลั้นลา หลน่ั ลนั ลา ลน้ั ลา หล่นั ลนั ลา ลน้ั ลา หลน่ั ล้นั ลา ล้ันลนั ลา

282

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

หวั ขอ้ กจิ กรรม พิธตี อ้ นรบั และกล่มุ สัมพันธ์

วตั ถปุ ระสงค์

เพอ่ื ใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรม
1. เกิดความประทบั ใจและภาคภมู ใิ จเม่ือเขา้ รว่ มในกจิ กรรมของยุวกาชาด
2. ตระหนักในคุณคา่ ของตนเองทจ่ี ะมสี ว่ นสัมพนั ธ์กบั กลุ่มหมูค่ ณะ
3. เกิดความกระตือรือร้นทจี่ ะรว่ มกิจกรรมกับผู้อนื่ และใหค้ วามร่วมมอื กบั หมคู่ ณะ

ขอบขา่ ยกจิ กรรม

1. การเตรียมการพธิ ีต้อนรบั และกลุม่ สมั พันธ์
2. การดำ�เนินการในการต้อนรบั และจัดกิจกรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์

สือ่ และอปุ กรณ์

1. สถานท่ีจัดพิธีต้อนรบั เชน่ หอ้ งประชมุ สนาม
2. แผ่นเครอ่ื งหมายยวุ กาชาด 1 แผน่ ขนาดรศั มวี งกลมตง้ั แต่ 20 นว้ิ ขน้ึ ไป (ขนาดขน้ึ อยู่
กบั จำ�นวนผู้เข้ารบั การอบรม)
3. เทียนชนวน เทียนสำ�หรับประธาน เทียนสำ�หรับวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรม
ทง้ั หมด
4. ซุ้มประตูต้อนรับ พร้อมข้อความประทับใจ เช่น ยินดีต้อนรับ เราทุกคนเป็น
พีน่ ้องกัน
5. พานบายศรีสู่ขวัญ 1 พาน (ถ้ามี) พร้อมด้ายยาวขนาดพอเหมาะกับการผูกข้อมือ
รับขวัญ
6. ดอกไม้และใบไม้เท่ากับจำ�นวนผู้เข้ารับการอบรม ที่สามารถหาได้ตามฤดูกาล
จ�ำ นวน 8 - 10 ชนดิ ชนดิ ละเท่า ๆ กัน
7. เพลงมาร์ชยวุ กาชาด เพลงมาร์ชอาสายุวกาชาด เพลงบริการ เพลงเราคือพี่น้อง
เพลงแสนสุขสันต์ เพลงรับขวัญน้อง และเพลงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดอกไม้

เวลา 2 ชั่วโมง

283

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

การประเมนิ ผล

1. สงั เกตการรว่ มกจิ กรรม
2. การมสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิ

แนวการด�ำ เนนิ กจิ กรรม

1. ประชมุ คณะวิทยากร มอบหมายความรับผดิ ชอบตามจุดกิจกรรมตา่ ง ๆ
2. จัดเตรียมอปุ กรณ์และสถานท่ี
3. ดำ�เนินการตามข้ันตอนพิธตี ้อนรับ (30 นาท)ี
4. จดั กจิ กรรมกล่มุ สมั พันธ์ (50 นาที)
5. สรปุ กิจกรรม (10 นาท)ี

สาระทีไ่ ด้จากกจิ กรรม

ผ้เู ข้ารับการอบรมทุกคนเกิดความประทับใจ ภาคภูมิใจเมื่อเข้าร่วมในกิจกรรมของ
ยวุ กาชาด รวมทั้งตระหนักในคุณค่าของตนเองที่จะมีส่วนสัมพันธ์กับกลุ่มหมู่คณะเป็นการ
สร้างความกระตือรอื รน้ ท่ีจะรว่ มกิจกรรมต่อไป

284

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

เน้อื หากิจกรรม พิธีต้อนรับและกลุ่มสัมพันธ์

1. การเตรียมการของคณะวทิ ยากร

1.1 ประชุมคณะวทิ ยากรเพ่อื มอบหมายความรับผดิ ชอบดำ�เนนิ กิจกรรมพธิ ตี อ้ นรับ
1.2 จดั เตรยี มสถานท่ที ่ใี ชใ้ นพธิ ตี อ้ นรบั
- ในสนาม ท�ำ ซมุ้ ประตตู อ้ นรบั ใหม้ ขี อ้ ความ เชน่ “ยนิ ดตี อ้ นรบั ” “เราทกุ คน
เป็นพน่ี ้องกัน” “เราคือพี่น้อง”
- ในห้องประชุม เตรียมแผ่นเครื่องหมายยุวกาชาด นำ�เทียนปักในรูป
กากบาทสแี ดงเทา่ จ�ำ นวนคณะวทิ ยากรและปกั ในวงกลมสนี �ำ้ เงนิ เทา่ กบั จ�ำ นวนผเู้ ขา้ รบั การอบรม
โดยมีเทียนขนาดใหญ่กว่า 1 เล่ม ไว้ตรงกึ่งกลางของกากบาทสีแดง สำ�หรับผู้อำ�นวยการ
ฝกึ อบรมฯ (ใช้เทียนสขี าวหรอื สีเหลอื งก็ได้)
- เตรียมพานบายศรีสู่ขวัญ 1 พาน (ถ้ามี) พร้อมด้ายยาวขนาดพอเหมาะ
กับการผกู ขอ้ มือรบั ขวญั ให้มจี ำ�นวนมากพอกบั จำ�นวนผเู้ ขา้ รับการอบรม
- เตรยี มแจกนั หรอื ภาชนะสำ�หรบั ปกั ดอกไม้

2. การด�ำ เนินกจิ กรรมพธิ ตี อ้ นรับและกลุ่มสัมพนั ธ์

2.1 พธิ กี รเรยี กผเู้ ขา้ รบั การอบรมพรอ้ มกนั ทส่ี นาม นดั หมายการรว่ มพธิ ตี อ้ นรบั ในสนาม
และในหอ้ งประชมุ มกี ารจดั กจิ กรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์ โดยอาจจดั เปน็ ฐานกจิ กรรม เชน่ การทอ่ งค�ำ
ปฏิญานตนยุวกาชาด การร้องเพลงมาร์ชยุวกาชาด เพลงบริการ เพลงหลักการกาชาด หรือ
เกมสนุกสนาน เป็นต้น
รูปแบบการเขา้ ฐานกจิ กรรม
การรายงานการเข้าฐาน
- ในการเข้าฐานการเรียนรู้ กรณีที่มีหนึ่งหน่วยสี ให้หัวหน้าหน่วยสีใช้
ค�ำ สง่ั “ทั้งหมด - ตรง” และกา้ วไปข้างหนา้ 1 ก้าว พร้อมรายงาน “หน่วยส.ี ...มสี มาชิก....คน
ชาย....คน หญงิ ....คน พรอ้ มท่ีจะเรียนรู้แล้วครับ/คะ่ ” ถอยกลับทเ่ี ดมิ และสง่ั “พัก”
- กรณที ม่ี มี ากกวา่ หนง่ึ หนว่ ยสี ใหห้ วั หนา้ หนว่ ยสที ย่ี นื อยแู่ ถวหนา้ เปน็ ตวั แทน
การรายงานการเข้าฐานใชค้ ำ�สงั่ “ทัง้ หมด - ตรง” และก้าวไปข้างหนา้ 1 กา้ ว พร้อมรายงาน
“หน่วยสี.....มีสมาชิก....คน ชาย....คน หญิง....คน และ “หน่วยสี....มีสมาชิก.....คน
ชาย....คน หญิง....คน พร้อมที่จะเรียนรู้แล้วครับ/ค่ะ” ถอยกลับที่เดิม และสั่ง “พัก” เมื่อ
เขา้ ฐานกิจกรรมเรียบร้อยแลว้ ใหเ้ ตรียมลอดซุม้ เปน็ ลำ�ดับตอ่ ไป

285

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

2.2 พิธีกรให้ผู้เข้ารับการอบรมลอดซุ้มทีละคนเป็นหน่วยสี ก่อนลอดซุ้มให้ทุกคน
อ่านข้อความที่ติดไว้หน้าซุ้ม แล้วลอดเข้าซุ้มผ่านออกไป แล้วรับดอกไม้ 1 ดอก โดยผู้เข้ารับ
การอบรมคนแรกรับเทียนชนวนจากประธานในพิธี (ผู้อำ�นวยการฝึกอบรม) แล้วเดินถือเทียน
ชนวนไปยงั แผน่ เครอื่ งหมายยุวกาชาด จดุ เทียนท่ปี กั ไวบ้ นแผน่ เครื่องหมายยุวกาชาด เริม่ จาก
วงกลมสีน้ำ�เงิน เสร็จแล้วส่งเทียนชนวนให้ผู้เข้ารับการอบรมคนถัดไปจุดเทียนเล่มต่อไปทาง
ดา้ นขวาจนครบทกุ คน ผทู้ จ่ี ดุ เทยี นแลว้ ใหไ้ ปนง่ั เปน็ หนว่ ยสรี ปู ครง่ึ วงกลม หลงั จากนน้ั คณะวทิ ยากร
จุดเทยี นในแนวกากบาทสแี ดง และประธานในพิธีจุดเทียนเล่มที่อยู่ตรงกลางของเครื่องหมาย
ยุวกาชาดเป็นคนสุดท้าย โดยคณะวิทยากรที่จุดเทียนเสร็จแล้วให้ยืนเข้าแถวหน้ากระดาน
หลงั ผอู้ �ำ นวยการฝกึ อบรม (ระหวา่ งจดุ เทยี นวทิ ยากรรอ้ งเพลงเราคอื พน่ี อ้ ง ในกรณที ไ่ี มส่ ามารถ
รอ้ งเพลงได้ ให้เปดิ ซีดีเพลงแทนได้)
2.3 พธิ กี รเชิญผู้อำ�นวยการฝึกอบรม กล่าวต้อนรับผู้เข้ารับการอบรม หลังจากนั้น
คณะวิทยากรร้องเพลงแสนสุขสันต์ 2 จบ แล้วดับเทียน โดยใช้มือปัดให้เทียนดับ (อาจส่งตัว
แทนแตล่ ะหนว่ ยสมี าชว่ ยกนั ดบั เทยี น หรอื ยกแผน่ เครอ่ื งหมายออกไปดบั เทยี นนอกหอ้ งประชมุ
ไดต้ ามความเหมาะสม)
2.4 พธิ กี รหรือผู้ทีร่ บั มอบหมาย เตรียมการผกู ข้อมอื รบั ขวัญ โดยจัดท่ีนง่ั ให้ผู้ท่ีจะท�ำ
หน้าที่เป็นผู้ผูกข้อมือรับขวัญนั่งเป็นแถวหน้ากระดานหันหน้าเข้าหาผู้เข้ารับการอบรม มีพาน
บายศรีตั้งอยู่ในที่ที่เหมาะสม
สำ�หรับการผกู ขอ้ มือรับขวัญนี้ มิได้เป็นพิธกี ารทางศาสนาแต่อย่างใด ผทู้ จ่ี ะทำ�
หน้าที่
เปน็ ผู้ผูกข้อมือรบั ขวัญ อาจเป็นผอู้ ำ�นวยการฝึกอบรม ผู้บังคบั บญั ชาของหน่วยงาน ผมู้ ีเกียรติ
ที่มาร่วมงาน ครู หรือบุคคลอื่นที่เห็นว่าเหมาะสม (ทั้งนี้เพื่อความสะดวก รวดเร็ว อาจจัด
ให้ผู้ที่จะทำ�หน้าที่เป็นผู้ผูกข้อมือรับขวัญมีจ�ำ นวนเท่ากับจำ�นวนของผู้เข้ารับการอบรมแต่ละ
หน่วยสี เช่น ใน 1 หน่วยสีมี 8 คน ก็ควรจัดให้มีผู้ที่จะทำ�หน้าที่เป็นผู้ผูกข้อมือรับขวัญ
จำ�นวน 8 คนเช่นกัน) หน่วยสีแรกเดินไปนั่งให้ตรงกับผู้ที่จะทำ�หน้าที่เป็นผู้ผูกข้อมอื รบั ขวญั
เสร็จแล้วให้ผู้เข้ารับการอบรมทำ�ซ้ายหัน แล้วเดินด้วยเข่าออกไปเป็นแถวกลบั เข้านัง่ ท่เี ดิม
2.5 ผเู้ ข้ารับการอบรมปฏิบัติตามจนกระทั่งครบทุกหน่วยสี โดยในขณะที่มีการผูก
ข้อมือรับขวัญ พิธีกรหรือผู้ที่รับมอบหมาย จะร้องเพลง “รับขวัญน้อง” ในกรณีที่ไม่
สามารถ
ร้องเพลงได้ ให้เปิดแผ่นซีดีเพลงแทนได้ เมื่อเสร็จสิ้นการผูกข้อมือรับขวัญ ให้จัดเตรียม
สถานที่สำ�หรับการจัดกิจกรรมกลุ่มสมั พันธต์ อ่ ไป
2.6 วิทยากร จดั กจิ กรรมดอกไม้ โดยใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรม ซง่ึ ถอื ดอกไมใ้ นมอื คนละดอก
รวมกลมุ่ ผมู้ ดี อกไมช้ นดิ เดยี วกนั หรอื ใบไมช้ นดิ เดยี วกนั ระหวา่ งนน้ั คณะวทิ ยากรรอ้ งเพลง หรอื
เปดิ ซีดเี พลงเกยี่ วกับดอกไม้ เช่น ดอกไมใ้ หค้ ุณ ชมสวนดอกไม้ ฯลฯ

286

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

2.7 วิทยากรให้แต่ละกลุ่มตั้งชื่อกลุ่มและประชุมกลุ่มเรื่อง “คุณค่าและประโยชน์
ของดอก.....” แล้วให้แต่ละกลุ่มนำ�เสนอผลงาน จากนั้นให้แต่ละคนนำ�ดอกไม้ไปจัดวางใน
ภาชนะทเ่ี ตรยี มไวใ้ ห้สวยงาม
2.8 วิทยากร สรุปกิจกรรมดอกไม้ เช่น “ดอกไม้ทุกดอก ทุกประเภท ล้วนมีคุณค่า
ต่อมวลมนุษย์ทุกสถาน ไม่ว่าดอกไม้จะอยู่ ณ ที่ใด ในแจกันที่ราคาแพง ในขวดโหล ดอกไม้
ตามริมถนน ริมทาง หรอื แม้แตด่ อกไม้ในถังขยะ ดอกไมท้ ุกดอกสามารถแสดงความมีคุณค่า
และประโยชน์ของดอกไม้ได้ตลอดเวลา เปรียบประดุจคนเราทุกคนล้วนมีคุณค่าต่อสังคม
หากเรารถู้ งึ คณุ คา่ ของตวั เองตอ่ สงั คมแลว้ แสดงความมคี ณุ คา่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมนน้ั ๆ
เราก็จะเป็นส่วนสำ�คัญที่ทำ�ให้สังคมโลกสวยสดงดงาม เหมือนที่ดอกไม้ทำ�หน้าอย่างเต็มที่
ทุกสถานท่ี ทกุ กาลเวลา”
2.9 วทิ ยากรจดั กจิ กรรมกลมุ่ สมั พนั ธ์ โดยใช้เพลง - เกมทท่ี ำ�ใหเ้ กิดความสนุกสนาน
เพลงทใ่ี ชใ้ นกจิ กรรม

เพลง เราคอื พน่ี อ้ ง
เราคอื พ่ีน้อง ยุวกาชาดไทย ดใี จท่เี ราได้มาเจอะกนั มาพบกนั มาพบกนั
รกั เราม่ันตรงึ จติ เป็นนมิ ติ ดีเลศิ ช่างประเสรฐิ ดแี ท้ รักไม่เปลี่ยนแปร ผูกใจสมั พนั ธ์
เรากาชาดไทย (ซ้ำ�) เราตา่ งรว่ มใจสามคั คี (ซำ้�)
เพ่ือชาติไทยเรา (ซ้ำ�) จะไดร้ งุ่ โรจนส์ ดศรี (ซ้ำ�)
เรารกั รว่ มใจรว่ มสามคั คี มไี มตรี เปน็ มติ รที่ดรี ่วมกัน
ยุวกาชาดต้ังใจทำ�งาน (ซ้ำ�) หน้าทขี่ องเรานั้นบริการ (ซำ้�)
ยวุ กาชาดตง้ั ใจทำ�งาน หน้าท่ีของเรานัน้ บรกิ าร

เพลง แสนสุขสนั ต์
แสนสขุ สันตว์ ันประชมุ น้ี สวัสดีวันนเ้ี ปน็ วนั สขุ ใจ
เป็นมิ่งมงคลไม่ต้องกระวนกระวาย ความสขุ จะหล่งั ไหลมาใหแ้ กท่ า่ น
จงรบั ความช่ืนบาน แสนสราญรื่นเรงิ ไม่วาย และผ่องใสยินดี

287

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

เพลง รบั ขวญั น้อง
โอ โอ้โอละเน้อเอ่ย เอย่ น้องเอย
ลา ลา้ ลา ลา้ ลา ลา ลา้ ลา ลา ล้า ลา ลา.......
โอน้ อ้ งเอยพนี่ ีข้ อชื่นเชย จะมเิ ลยแรมไกล รกั เจา้ ดงั ดวงใจ มคิ ลายหน่ายนา ล้า...
พีจ่ ะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเปน็ ขวญั จติ จะรกั ดังชวี ติ ใจคิดกรณุ า ลา้ ...
ขอจงหายโศก พ้นภัยหายโรค ใหม้ ีโชคนะน้องยา
จะเอาด้ายยาวขาวบริสทุ ธ์ิ หลา่ ลา ล้า ลา ลา หล่า
พนั มัดผกู ไว้ทข่ี ้อมอื ของเจ้า หลา่ ลา ลา้ ลา ลา หล่า
เหมอื นดงั ใจพี่ ผกู พันเจา้ ไว้ ไม่หนา่ ยหนี เอิง...เอย...ใจผกู พนั ลา.......

เพลง น่นั ดอกอะไร
น่นั ดอกอะไรเสยี บไวอ้ ยใู่ นรฮู !ู้ !! นนั่ ดอกอะไร เสยี บไวอ้ ยู่ในรฮู ู้!!!
ฉันอยากจะร้วู ่าดอกไมน้ น่ั ซ่อนกลิ่นบานเยน็ หรือจะเปน็ มะลวิ ลั ย์
โอเ้ จ้าดอกไม้นน้ั ขอให้ฉันจะไดไ้ หมเธอ (ซ�้ำ )

เพลง ดอกไม้จะบาน
ดอกไม้ ดอกไมจ้ ะบาน บริสุทธก์ิ ลา้ หาญ จะบานในใจ
สีขาว หนุม่ สาวจะใฝ่ แนว่ แนแ่ ก้ไข จดุ ไฟศรัทธา
เรียนรตู้ อ่ สู้มายา กา้ วไปขา้ งหนา้ เข้าหามวลชน
ชวี ติ อทุ ิศยอมตน ฝา่ ความสับสน เพ่อื ผลประชา
ดอกไม้บานให้คุณคา่ จงบานชา้ ช้า แตว่ า่ ยั่งยืน
ที่นี่และทีอ่ ่ืน ๆ ดอกไมส้ ดชื่น ยื่นใหม้ วลชน

288

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

เพลง ดอกไมใ้ หค้ ุณ
ขอมอบดอกไมใ้ นสวน นีเ้ พอ่ื มวลประชา จะอย่แู ห่งไหน จะใกลจ้ ะไกล จนสดุ ขอบฟ้า

มอบความหวงั ด่ังดอกไมผ้ ลิ สดไสวอาณา
เปน็ กำ�ลงั ใจใหค้ ุณ เป็นก�ำ ลังใจให้เธอ เป็นสง่ิ เสนอให้มา

**ดวงตะวันทอแสง มิถอยแรงอัปรา
เปน็ เปลวไฟท่ีไหม้นาน เป็นสายธารที่ชุม่ ปา่ เป็นแผน่ ฟา้ ทานทน

(ซำ้� **)
ขอมอบดอกไมใ้ นสวน ใหห้ อมอบอวลสชู่ น จงสบสง่ิ หวงั ใหส้ มตง้ั ใจ ใหค้ ลายหมองหมน่

กา้ วตอ่ ไปตราบชีวิตสุด ดจุ กระแสชล
เป็นกำ�ลงั ใจให้คณุ เป็นก�ำ ลงั ใจใหเ้ ธอ เป็นส่งิ เสนอใหค้ ุณ (ซำ้�)

เพลง อุทยานดอกไม้
ชมผกา จ�ำ ปา จ�ำ ปี กหุ ลาบ
ราตรี พะยอม องั กาบ ทง้ั กรรณกิ าร์
ล�ำ ดวน นมแมว ซอ่ นกลน่ิ ยโ่ี ถ ชงโค
มณฑา สายหยดุ เฟอ่ื งฟา้ ชบา และสรอ้ ยทอง
บานบรุ ี ยส่ี นุ่ ขจร ประดู่ พดุ ซอ้ น
พลบั พลงึ หงอนไก่ พกิ ลุ ควรปอง
งามทานตะวนั รกั เร่ กาหลง ประยงค์ พวงทอง
บานชน่ื สขุ สอง พทุ ธชาดสะอาดแซม
*พศิ พวงชมพู กระดงั งาเล้ือยเคยี งคู่ ดูสดสวยแฉลม้
รสสุคนธ์ บุญนาค นางแย้ม สารภีท่ถี ูกใจ
งามอบุ ลปน จนั ทรก์ ะพอ้ ผเี สอ้ื แตกกอ
พรอ้ มเลบ็ มอื นาง พดุ ตาน กลว้ ยไม้

ดาวเรอื ง อญั ชนั ยห่ี บุ
มะลวิ ลั ยแ์ ลวไิ ล ชชู อ่ ไสว เรา้ ใจในอทุ ยาน..

(ซ�ำ้ *)

289

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

หวั ข้อกิจกรรม กายบรหิ ารและฝึกระเบยี บแถว

วัตถปุ ระสงค์

เพอื่ ใหผ้ เู้ ข้ารบั การอบรม
1. มีสขุ ภาพรา่ งกายแข็งแรง กระตอื รอื รน้ ในการร่วมกจิ กรรม
2. มีระเบยี บวนิ ัย ความสามคั คี และตรงต่อเวลา
3. ฝกึ ระเบยี บแถว

ขอบข่ายกจิ กรรม

1. กายบรหิ าร
2. การฝกึ ระเบียบแถว

สื่อและอุปกรณ์

1. นกหวดี
2. เครือ่ งเสยี ง
3. สอ่ื CD เพลงสนกุ สนานประกอบกจิ กรรม

เวลา 30 นาที
การประเมินผล

1. สงั เกตการร่วมกจิ กรรม
2. การปฏบิ ัตจิ รงิ

290

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

แนวการดำ�เนนิ กิจกรรม

1. วทิ ยากรเปา่ นกหวดี เรยี กผเู้ ขา้ รบั การอบรม เวลา 05.00 น. เพอ่ื ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ สว่ นตวั
2. วทิ ยากรเปา่ นกหวดี เรยี กรวมผเู้ ขา้ รบั การอบรม เวลา 05.30 น. เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ ม
3. วิทยากรนำ�กายบริหารหรือมอบหมายให้หน่วยบริการ หรือตัวแทนออกมานำ�
กายบรหิ าร
4. วทิ ยากรฝกึ ระเบยี บแถว ตามความเหมาะสม

สาระสำ�คัญท่ีได้จากกจิ กรรม

รู้ถึงประโยชน์ของกายบริหารเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีระเบียบวินัย
ความสามัคคี ตรงต่อเวลาและยังได้ฝึกการจัดแถวอย่างมีระเบียบ นอกจากนี้วิทยากรได้
รับทราบข้อมูลความเป็นอยู่ และสุขภาพของผู้เข้ารับการอบรม

291

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม

เนอื้ หากิจกรรม กายบริหารและฝกึ ระเบยี บแถว

1. กายบริหาร

วิทยากรน�ำ กายบรหิ ารหรือมอบหมายใหห้ นว่ ยบรกิ าร หรอื ตวั แทนผู้เข้ารับการอบรม
ออกมานำ�กายบริหาร เพื่อให้ร่างกายตื่นตัว เกิดความกระตือรือร้น และมีพลังในการร่วม
กิจกรรม

2. การฝึกระเบียบแถว

เปน็ การฝึกระเบยี บวินัยและปฏบิ ัติตามคำ�สัง่ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ดังน้ี
2.1 การใช้สัญญาณนกหวีด ในการเรียกแถวทุกครั้ง จะต้องใช้สัญญาณเตือนและ
สญั ญาณเรียกทง้ั หมด
2.2 การใช้สัญญาณมือหรอื ค�ำ ส่งั ในการเรียกแถวทุกครั้ง ผู้เรียกจะต้องใช้สัญญาณ
นกหวีดและสัญญาณมือหรือการใช้คำ�สั่ง เพื่อเรียกแถวในลักษณะต่าง ๆ การใช้คำ�สั่งอาจใช้
ควบคู่ไปกับสัญญาณมือหรืออย่างใดอย่างหนึง่ กไ็ ด้ แตจ่ ะตอ้ งใชส้ ญั ญาณนกหวีดทกุ ครง้ั
2.3 ระเบียบแถวใชใ้ นระหว่างการอบรม ประกอบดว้ ย
2.3.1 แถวคร่ึงวงกลมหน้าเสาธง
- สญั ญาณนกหวีด ใชส้ ญั ญาณเตอื นและสญั ญาณเรยี กทัง้ หมด
- สัญญาณมือผู้เรียกยืนตรงแขนและนิ้วมือทั้งสองข้างเหยียดตรง
ฝ่ามือคว่ำ�เข้าหาลำ�ตวั เหว่ยี งแขนไขวเ้ ข้าหากนั ไปทางดา้ นหน้าในระดับเอว เปน็ รูปคร่งึ วงกลม
ไมเ่ กนิ ครง่ึ ของลำ�ตวั
- การเข้าแถวหน่วยบริการหน่วยแรกอยู่ทางซ้ายมือของผู้เรียก
หัวหน้าหน่วยอยู่ในแนวเดียวกับผู้เรียก หน่วยต่อ ๆ ไป อยู่ทางด้านซ้ายของหน่วยบริการ
รองหัวหน้าหน่วยของหน่วยสุดท้าย อยู่ในแถวเส้นตรงระดับเดียวกับหัวหน้าหน่วยสีแรก
โดยมีผูเ้ รยี กเป็นจุดศูนย์กลาง
- การใช้คำ�สั่ง “จัดแถว” แต่ละหน่วยสียืนห่างกันประมาณ 1
ช่วงแขน ยืนระยะเคียงระหว่างบุคคล 1 ช่วงศอก โดยฝ่ามือซ้ายพักอยู่บนสะโพก นิ้ว
เหยียด
ตรงชี้ลงพื้น นิ้วกลางอยู่ประมาณแนวตะเข็บกระโปรงหรือกางเกง ศอกเสมอลำ�ตัว การจัด
แถวให้แขนขวาจรดปลายศอกซ้ายของคนทางขวา และสะบัดหน้าแลขวาทุกคน เมื่อจัดแถว
เรยี บรอ้ ยแลว้ สง่ั “นง่ิ ” ใหท้ กุ คนลดมอื ลงพรอ้ มกบั สะบดั หนา้ มาอยใู่ นทา่ ตรงดว้ ยความแขง็ แรง
และพร้อมเพรียงกันใช้ในพธิ ีเปิดการอบรมในสนาม และพิธหี นา้ เสาธง

292

คมู่ อื วทิ ยากรยวุ กาชาด : ส�ำ หรบั การอบรมอาสายวุ กาชาดหลกั สตู รพน้ื ฐานยวุ กาชาด

2.3.2 แถวหนา้ กระดานหนว่ ยปิดระยะ
- สญั ญาณนกหวีด ใช้สัญญาณเตอื นและสญั ญาณเรียกท้ังหมด
- สญั ญาณมือผู้เรียกยืนในท่าตรง ยกแขนทั้งสองข้างเหยียดตรง
ไปข้างหน้าขนานกับพืน้ งอข้อศอกขึ้นเปน็ มมุ ฉาก กำ�มอื หันหน้าเขา้ หากบั การเข้าแถว
- การเขา้ แถวใหห้ นว่ ยสแี รกเขา้ แถวตรงหนา้ ผเู้ รยี ก และอยหู่ า่ ง
จาก
ผู้เรียกประมาณ 6 ก้าว หัวหน้าหน่วยอยู่ทางซ้ายมือของผู้เรียก กะให้กึ่งกลางของหน่วยสี
อยตู่ รงหนา้ ของผเู้ รยี ก สมาชกิ ภายในหนว่ ยสยี นื ตอ่ ๆ ไปทางซา้ ยของหวั หนา้ หนว่ ย เวน้ ระยะ
เคยี ง
1 ช่วงศอก หนว่ ยสีตอ่ ไป เข้าแถวหน้ากระดานขา้ งหลังหนว่ ยสีแรกซ้อน ๆ กนั ไปตามล�ำ ดบั
เว้นระยะต่อระหวา่ งหนว่ ยสปี ระมาณ 1 ชว่ งแขนการจดั แถว
- การใช้ค�ำ สั่ง “จัดแถว” ใหท้ ุกคน (ยกเวน้ คนสุดท้าย) ยกมือซ้าย
ทาบสะโพก นิ้วเหยียดชิดกัน นิ้วกลางอยู่ในแนวตะเข็บกางเกง แขนขวาแนบลำ�ตัว (ระยะ
1 ช่วงศอก) สมาชิกในหน่วยสีและสะบัดหน้าไปทางขวา เมื่อสั่ง “นิ่ง” ให้ทุกคนลดแขนลง
พรอ้ มสะบดั หนา้ อยใู่ นทา่ ตรง มกั ใชใ้ นการตรวจเยย่ี มระหวา่ งการอยคู่ า่ ยพกั แรม หรอื การอบรม
ที่จะต้องเรียนแบบฐาน ตลอดทั้งการเข้าแถวหน้ากระดานเคารพประธานก่อน และหลัง
การแสดงรอบกองไฟ
2.3.3 แถวตอนลึก
- สัญญาณนกหวดี ใชส้ ัญญาณเตือนและสัญญาณเรียกทั้งหมด
- สญั ญาณมอื ผเู้ รยี กยนื ตรง เหยยี ดแขนทง้ั สองขา้ งออกไปขา้ งหนา้
เสมอแนวไหล่ มอื แบนวิ้ ทงั้ หา้ ชิดกันหันฝ่ามือเข้าหากนั และขนานกนั
- การเขา้ แถว (ถ้าหนว่ ยสีเดียว) ใหม้ าเข้าแถวหนา้ ผู้เรียก หัวหนา้
หน่วยยืนตรงหน้าผู้เรียกห่างประมาณ 6 ก้าว สมาชิกในหน่วยสีเข้าแถวหลังหัวหน้าหน่วย
ห่างจากหัวหน้าหน่วย 1 ช่วงแขน ถ้ามีมากกว่า 1 หน่วยสี ให้หน่วยสีลำ�ดับกลางเป็นหลัก
เขา้ แถวตอนตรงหนา้ ผู้เรียก หา่ งประมาณ 6 ก้าว หน่วยสีอนื่ ๆ เขา้ แถวตอนเป็นแนวเดยี วกนั
ไปทางซ้ายและทางขวาของหน่วยสีหลัก เช่น หากมี 5 หน่วยสี ให้หันหน้าหน่วยสีที่ 3 เป็น
หลักยืนตรงกับผู้เรียก แต่ถ้ามี 6 หน่วยสี ให้ช่วงกึ่งกลางระหว่างหน่วยสีที่ 3 และ 4 อยู่ตรง
กับผู้เรียก เป็นต้น ระยะต่อระหว่างหน่วยสี 1 ช่วงศอก
- การใช้คำ�ส่งั “จดั แถว” ให้หัวหน้าหน่วยทุกคน (ยกเว้นหัวหน้า
หน่วยสีสุดท้าย) ยกมือซ้ายทาบสะโพก นิ้วเหยียดชิดกัน นิ้วกลางอยู่ในแนวตะเข็บกางเกง
แขนขวาแนบล�ำ ตวั และสะบัดหนา้ ไปทางขวา ระยะหา่ งของสมาชกิ ภายในหน่วยสี 1 ช่วงแขน
เมอื่ ส่งั “นงิ่ ” ใหท้ กุ คนลดแขนลงพร้อมสะบดั หนา้ อยใู่ นทา่ ตรง ใชใ้ นการเรยี กแถวโดยท่วั ไป

293

ตอนท่ี 2 : เนอ้ื หาและกจิ กรรม หมวดท่ี 4 : กจิ กรรม กระบวนการ และพธิ กี ารในการอบรม


Click to View FlipBook Version