การสื่อสารสุขภาพในยุคดิจิทัล ทฤษฎี วิจัย และการปฏิบัติ

วรภรณp บุญจมี , ปยe ะนชุ ชโู ต, และบงั อร ศุภวิฑิตพฒั นา. (2562). ผลของโปรแกรมสงV เสรมิ โภชนาการโดยการ
เฝKาตดิ ตามตนเองตVอน้ำหนักทเ่ี พิม่ ข้ึนของสตรีขณะต้งั ครรภ.p วารสารการพยาบาลและการดูแล
สขุ ภาพ, 37(4), 177-185.

สมศรี เสนาพันธp, และศริ เิ พญ็ สิทธบิ รรณp. (2561). แนวทางการจัดการตนเองเพอื่ ลดปจ¥ จัยเสย่ี งตอV การเปนU
โรคเบา หวานของชมุ ชนบYานปากทอน อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรธี รรมราช. วารสารวิชาการแพทยu
เขต, 11, 32(1). 805-812.

สจุ ติ ราภรณp ทบั ครอง, เพญ็ รงุV นวลแจVม, นยิ า วิโรจนะ, และพาจนา ดวงจันทรp. (2561). ผลของการใชสY ่ือ
สขุ ภาพรูปแบบแอปพลเิ คชนั ไลนตp VอความรแYู ละความเขYาใจโรคเบาหวานของบคุ ลากรในสถานศกึ ษา.
วารสารพยาบาลศาสตรu มหาวิทยาลัยสยาม, 19(36). 78-87.

สดุ าสินี สทุ ธิฤทธp, ดวงกมล ปµนe เฉลียว, และทพิ ยฆp มั พร เกษโกมล, (2561). ประสิทธผิ ลโปรแกรมกำกบั ตนเอง
รวV มกบั แอพพลเิ คชนั ไลนขp องอาสาสมัครสาธารณสขุ ประจำหมูVบาY นที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน
ตำบลทาV โรงชาY ง จงั หวดั สุราษฎรธp านี. วารสารพยาบาลตำรวจ, 10 (2 กรกฎาคม -
ธนั วาคม 2561).

สุภาพ พุทธปญ¥ โญ, นจิ ฉรา ทลู ธรรม, และนันทิพฒั นp พัฒนโชต,ิ . (2559). ประสทิ ธิผลของโปรแกรมพฒั นา
พฤติกรรมสขุ ภาพตอV ความฉลาดทางสุขภาพ พฤติกรรมการลดน้ำหนัก และนำ้ หนักของบุคลากรทีVมี
ภาวะโภชนาการเกินในโรงพยาบาลรอY ยเอด็ อำเภอเมอื ง จังหวดั รYอยเอด็ . วารสารการพยาบาลและ
การศกึ ษา, ปท± ี่ 9 ฉบบั ท่ี 4 ตลุ าคม-ธนั วาคม 2559.

อนชุ า จันทรเp ตม็ , สรญั ญา เช้อื ทอง, และปกรณp สุปอนานนท.p (2561). การพฒั นาแอปพลเิ คชันโดยใชกY าร
เรียนรูYรวV มกัน เรอ่ื ง การออกกำลงั กายเพือ่ สุขภาพสำหรบั ผสYู งู อายุ. Veridian E-Journal
Silpakorn University ฉบับภาษาไทย มนษุ ยศาสตรp สงั คมศาสตรp และศลิ ปะ, 11(1), 1371-1385.

อโนชา ศิริโยธา, ลลติ า ปญ¥ ญา, รนษิ ฐา กลิน่ อาจ, นิรชา พรมมา, วรรดา สุธงษา, ปรยี า โพธิสาจนั ทร,p ปาลกิ า
เรือนมินทร,p ลกั ษมณ สาวทรพั ยp, และวนิดา ดุรงคฤp ทธิชยั . (2562). ประสทิ ธิผลนวตั กรรมนาëกิ า
เปล่ยี นชีวติ เพอ่ื เสรมิ สราo งความรอบรสูo ขุ ภาพ ในผใoู หญãตอนปลายทมãี ภี าวะอoวนลงพงุ . งานประชุม
วชิ าการระดับชาติ คร้ังท่ี 11 มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

Copyright Porn-p271u-n Prajaknate

Copyright Porn-p272u-n Prajaknate

บทที่

12

บทสรุปและแนวโนมA การสือ่ สาร
สุขภาพในอนาคต

สVวนที่ 1 ของบทนี้รวบรวมบทสรุปของหนังสือตั้งแตVบทที่ 1-12 และสVวนที่ 2 นำเสนอแนวโนYมการ
สื่อสารสขุ ภาพในอนาคตตั้งแตVสถานการณสp ุขภาพ นโยบายการสื่อสารสุขภาพ การวิจัยและโครงการรณรงคp
ดYานการสอ่ื สารสุขภาพ

Copyright Porn-p273u-n Prajaknate

บทสรุป

หนังสือเลVมนี้ใหYความสำคัญกับการบูรณาการแนวคิดและทฤษฎีการสื่อสารสุขภาพ การสื่อสาร
การตลาดแบบบรู ณาการ การตลาดดจิ ิทัลและการสาธารณสุข เพื่อนำมาประยุกตใp ชYในกระบวนการออกแบบ
การวิจัยและโครงการรณรงคpการสื่อสารสุขภาพผVานเว็บไซตp (Website) เฟซบุ∑ก (Facebook) ทวิตเตอรp
(Twitter) ยูทูบ (YouTube) โมบายแอปพลิเคชัน (Mobile Application) และไลนp (Line) โดยหนังสือแบVง
การนำเสนอออกเปนU 4 สวV น ดังน้ี

ส"วนท่ี 1 การสอื่ สารสุขภาพและวิวัฒนาการการสอ่ื สารสขุ ภาพในยคุ ดจิ ทิ ัล ที่อธิบายความหมายของ
คำวVา “สุขภาพ” นำเสนอสถานการณpสุขภาพในระดับนานาชาติและระดับประเทศ รวมทั้งรวบรวมนโยบาย
การสื่อสารสุขภาพแบบดิจิทัล ตลอดจนสำรวจความหมายคำวาV “การสื่อสารสุขภาพ” และวิวัฒนาการของ
การสือ่ สารสุขภาพในยุคดจิ ิทลั

ส"วนที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎแี ละกระบวนการส่อื สารสขุ ภาพ จำแนกทฤษฎแี ละแนวคดิ ทเี่ ก่ยี วขอY งกบั การ
สอื่ สารสขุ ภาพและโครงการรณรงคกp ารสื่อสารสุขภาพ

ส"วนท่ี 3 การวจิ ัยทม่ี Vงุ อธบิ ายเคร่อื งสำหรับการวิจัยในการสือ่ สารสุขภาพ
ส"วนที่ 4 การปฏิบัติที่ระบุรูปแบบ เคล็ดลับการสื่อสาร และตัวชี้วัดการสื่อสารสุขภาพผVานเว็บไซตp
(Website) เฟสบุ∑ก (Facebook) ทวิตเตอรp (Twitter) ยูทูบ (YouTube) และโมบายแอปพลิเคชัน (Mobile
Application) รวมทง้ั บทสรปุ และแนวโนYมสำหรบั การสื่อสารสุขภาพในอนาคต

การสื่อสารสขุ ภาพและววิ ัฒนาการการสอ่ื สารสขุ ภาพในยคุ ดจิ ทิ ัล

“สุขภาพ” หมายถึง สภาวะทางกาย จิต และสุขภาวะทางสงั คมที่สมบูรณp ปราศจากโรคหรือความ
อVอนแอ และเชือ่ มโยงกนั เปUนองคpรวมอยVางสมดลุ โดยคำนงึ ถงึ ป¥จจยั ดYานนโยบาย กฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม
และสภาพแวดลYอมที่สVงผลกระทบตVอสุขภาพของบุคคล อยVางไรก็ตามประชากรทุกชVวงอายุทั่วโลกและใน
ประเทศไทยยังคงเผชิญกับป¥ญหาสุขภาพทั้งโรคติดตVอและโรคไมVติดตVอเรื้อรัง ผูYมีสVวนไดYสVวนเสียในระดับ
นานาชาตแิ ละประเทศ จงึ กำหนดนโยบายและยุทธศาสตรpดYานการสอื่ สารสขุ ภาพเพ่อื รณรงคpสงV เสรมิ การรกั ษา
และปอK งกันป¥ญหาสขุ ภาพ

อีกท้งั ดิจทิ ลั เทคโนโลยีเขYามามบี ทบาทในชวี ิตประจำวันของประชากรทั่วโลก การขบั เคล่ือนดYานการ
สื่อสารสุขภาพผาV นดจิ ิทลั เทคโนโลยีจึงถกู บูรณาการเขYาไปในนโยบายและยุทธศาสตรpการสอ่ื สารสุขภาพทวั่ โลก

Copyright Porn-p274u-n Prajaknate

โดยตั้งแตVป± พ.ศ.2548 (ค.ศ. 2005) ในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (World Health Assembly)
หลายฝ^ายตื่นตัวและเริ่มกำหนดกลยุทธpการพัฒนาบริการสุขภาพแบบอินเทอรpเน็ตเพื่อใหYประชากรทั่วโลก
เขYาถึงสุขภาพไดYอยVางเทVาเทียม ซึ่งสอดรับกับเปKาหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development
Goal) ของสหประชาชาติ (United Nation) ขอY ที่ 9 ท่สี งV เสริมใหปY ระเทศกำลังพฒั นาเริ่มดำเนินการวิจัยและ
พัฒนาดจิ ทิ ลั เทคโนโลยีเพอ่ื ใหเY กดิ การเขาY ถงึ อยาV งเทVาเทียมและย่งั ยืน

องคpการอนามัยโลก (World Health Organization) เผยแพรVกลยุทธpระดับโลกดYานสุขภาพแบบ
ดิจิทัลระหวาV งป± พ.ศ. 2563-2567 (Global Strategy on Digital Health 2020–2024) ที่มีเปKาประสงคpเพือ่
สVงเสริมการประยุกตpใชดY จิ ทิ ัลเทคโนโลยดี าY นสุขภาพเพื่อใหปY ระชากรท่ัวโลกมีสขุ ภาพดีถYวนหนYา (Health for
All) โดยกำหนด 4 กลยุทธสp ำคญั ดังน้ี

(1) การสVงเสริมดYานการกำหนดนโยบายการลงทุนระบบสุขภาพแบบดิจทิ ัล ผVานการประสานความ
รวV มมือกับประเทศพนั ธมิตร

(2) การสVงเสริมและสนับสนุนใหYประเทศพันธมิตรบรรจุเรื่องดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพไวYใน
แผนพฒั นาสขุ ภาพระดบั ประเทศ

(3) การสVงเสรมิ ธรรมาภิบาลสำหรบั สุขภาพแบบดจิ ิทัลในระดบั โลก ภูมิภาค และประเทศ
(4) การสงV เสริมการใชYดิจทิ ัลเทคโนโลยี สื่อสังคม และสื่อมวลชน เพื่อยกระดับการใหYบริการสขุ ภาพ
และเสรมิ สราY งความรYูดYานสขุ ภาพใหYแกVประชากรทั่วโลก
ผูYมสี วV นไดสY VวนเสียดาY นสุขภาพในประเทศไทย ดำเนนิ การตามแผน โดยบูรณาการกลยทุ ธpดYานสุขภาพ
แบบดจิ ิทัลในแผนและนโยบายระดับชาติ และแผนปฏิบัตงิ านขององคpกรสขุ ภาพระดบั ประเทศ ดงั นี้
¿กรอบยทุ ธศาสตรชp าตริ ะยะ 20 ป±
¿แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหงV ชาติ ฉบับท่ี 12 พ.ศ. 2560–2564
¿พิมพเp ขยี ว Thailand 4.0 โมเดลขบั เคลอ่ื นประเทศไทยสคูV วามมัง่ ค่งั มัน่ คง และยง่ั ยนื
¿แผนพฒั นาสุขภาพแหงV ชาติ ในชVวงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหงV ชาติ ฉบบั ที่ 11 พ.ศ. 2555-
2559 และฉบบั ท่ี 12 พ.ศ. 2560-2564
¿แผนงานหลกั สาํ นักงานคณะกรรมการสุขภาพแหงV ชาติ รองรบั การดําเนินงานตามพระราชบัญญตั ิ
สุขภาพแหVงชาติ พ.ศ. 2550 ฉบับท่ี 3 (ปง± บประมาณ พ.ศ. 2560-2564)
¿แผนพัฒนาสขุ ภาพจิตแหงV ชาติ ฉบบั ที่ 1 (พ.ศ. 2561 - 2580)
¿แผนยทุ ธศาสตรกp ระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2560

Copyright Porn-p275u-n Prajaknate

การสื่อสารสุขภาพผVานดิจทิ ัลเทคโนโลยี คือ อะไร? ในยุคป¥จจุบนั ท่ีดจิ ิทลั เทคโนโลยีเปUนสVวนหนึ่งใน
ชวี ิตประจำวนั ของมนุษยp การสอ่ื สารสขุ ภาพจงึ เกย่ี วขYองกบั อเิ ลก็ ทรอนกิ สp หมายถึง การใชกY ลยุทธกp ารสื่อสาร
ผVานดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อการสVงเสริมใหYความรูYดYานการปKองกันและรักษาโรค การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
สขุ ภาพและคณุ ภาพชีวติ ของบุคคล

อยVางไรกต็ ามการสอ่ื สารสุขภาพผVานดิจทิ ลั เทคโนโลยีมีลกั ษณะแบบพลวตั ไมVหยุดน่ิง เน่ืองจากดิจิทัล
เทคโนโลยีมีววิ ฒั นาการและเกดิ การเปลี่ยนแปลงตลอดชวV ง 2 ศตวรรษทผี่ Vานมา โดยเรมิ่ จาก เวบ็ 1.0 เวบ็ 2.0
มาจนถึงเว็บ 3.0 และในป¥จจุบันกำลังอยูยV ุคเว็บ 4.0 สVงผลใหYวิวัฒนาการของดิจิทัลเทคโนโลยีในแตลV ะยุคมี
ความสมั พันธpเชือ่ มโยงกับการส่ือสารสขุ ภาพ ดังน้ี

¿ยุคเว็บ 1.0 (พ.ศ. 2533-2543: ค.ศ. 1990-2000) การสื่อสารมีลักษณะเสYนตรง ประกอบดYวย
เครื่องมอื สือ่ สาร เชVน เวบ็ ไซตp บล็อก และอีเมล เน้อื หาท่เี ผยแพรVผVานเวบ็ ไซตมp ลี ักษณะทางเดียว การส่ือสาร
สขุ ภาพจึงดำเนินการผาV นบลอ็ ก (Blogs) และเวบ็ ไซตเp ปUนแหลVงในการดาวนโp หลดแผนV พับ หนงั สอื และวารสาร
สุขภาพ

¿ยคุ เวบ็ 2.0 และการส่ือสารสุขภาพ (พ.ศ. 2543-2553: ค.ศ. 2000-2010) การสื่อสารมีลกั ษณะ
การปฏิสมั พันธpกันแบบสองทาง ผใYู ชสY ามารถส่ือสารกนั ผVานเครอื ขาV ยสังคม เชนV เฟซบุก∑ (Facebook) อินสตา
แกรม (Instagram) ยทู บู (YouTube) ทวติ เตอรp (Twitter) วิกพิ ีเดยี (Wikipedia) และพอดแคสตp (Podcast)
องคกp รสุขภาพใชYส่อื สงั คมเปUนชVองทางในการสอื่ สารเพื่อสงV เสริมสุขภาพ

¿ยุคเว็บ 3.0 (พ.ศ. 2553-2563: ค.ศ.2010-2020) ชVองทางการสื่อสารที่สำคัญของยุคนี้ ไดYแกV
สมารทp โฟน โมบายแอปพลเิ คชัน (Mobile Application) (เชนV ไลนp (Line) และ ต๊กิ ตอ็ ก (TikTok)) และขYอมลู
ขนาดใหญV (Big Data) การสือ่ สารสุขภาพในยุค 3.0 จึงมีระบบใหบY ริการขYอมูลทีม่ VุงเนนY คนไขเY ปUนจดุ ศูนยpกลาง
ในการตัดสนิ ใจรกั ษาสขุ ภาพ

¿ยุคเว็บ 4.0 (พ.ศ. 2563-2573: ค.ศ. 2020-2030) ป¥ญญาประดิษฐp (Artificial Intelligence)
และเทคโนโลยีความจริงเสริม (Augmented Reality) ถูกนำมาประยุกตpใชYกับการสื่อสารสุขภาพ ดYวยการ
เช่ือมโยงการใหบY ริการสขุ ภาพระหวาV งสมารตp โฟนกบั ระบบการจดั การดาY นสขุ ภาพของผใYู หYบรกิ าร เพื่อการดแู ล
รักษาและการส่ือสารแบบตามเวลาจรงิ (Real Time)

Copyright Porn-p276u-n Prajaknate

แนวคดิ ทฤษฎแี ละกระบวนการสอื่ สารสขุ ภาพ

แนวคดิ ทฤษฎแี ละกระบวนการส่ือสารสขุ ภาพ มคี วามสำคญั อยาV งมากในการออกแบบโปรแกรมและ
โครงการณรงคกp ารสอื่ สารสขุ ภาพ วธิ ีการวิจยั รวมทัง้ การประเมินผลกระทบและผลลัพธp หนงั สือเลมV นี้มุVงเนYน
การอธิบายทฤษฎีและแนวคิดเกี่ยวกับการสื่อสารสุขภาพตามมุมมองแบบนิเวศวิทยา (Ecological
Perspective) ท่ใี หYความสำคญั กับป¥จจัยหลายระดบั ทีม่ อี ิทธิพลตVอพฤตกิ รรมสุขภาพ ดังน้ี

(1) ปจ[ จัยภายในและป[จจยั ส"วนบุคคล (Intrapersonal and Individual Factors) มอี ทิ ธพิ ลตVอ
ความรYู ความเชือ่ ทศั นคติ และพฤติกรรม ทฤษฎีท่ีนำเสนอในหนังสือเลมV น้ี ไดแY กV

¿ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน (Theory of Planned Behavior) เปUนกรอบแนวคิดที่สามารถ
ทำนาย ความต้งั ใจและพฤติกรรมสุขภาพ ทมี่ อี งคปp ระกอบสำคญั คือ ทัศนคติ (Attitude) การคลอY ยตามกลVุม
อYางองิ (Subjective Norms) การรับรYูควบคุมตนเอง (Perceived Behavioral Control)

¿โมเดลความเชื่อดAานสุขภาพ (Health Belief Model) เปUนกรอบแนวคิดที่มุVงศึกษาความเชื่อ
และการรับรูYที่สVงผลตVอการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ไดYแกV การรับรูYโอกาสเสี่ยงตVอการเปUนโรค
(Perceived Susceptibility) การรับรูYความรุนแรงของโรค (Perceived Severity) การรับรูYประโยชนp
(Perceived Benefits) การรับรูYอุปสรรค (Perceived Barrier) สิ่งชักนำใหYเกิดการปฏิบัติ (Cues to Action)
การรับรคYู วามสามารถตนเอง (Self-Efficacy) และป¥จจัยดYานประชากร เศรษฐกจิ และสังคม

¿โมเดลขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Transtheoretical Model) เกี่ยวขYองกับขั้นตอน
ของการสรYางแรงจงู ใจของบคุ คล (Motivation) ตอV การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมสุขภาพ

(2) ปจ[ จัยระหวา" งบคุ คล (Interpersonal Factors) เก่ยี วขอY งกบั กระบวนการสอ่ื สารระหวVาง
บคุ คลและกลมVุ ทฤษฎีท่นี ำเสนอในหนังสอื เลVมนี้ ไดYแกV ทฤษฎปี ญ¥ ญาเชิงสงั คม (Social Cognitive Theory)
ทปี่ ระกอบดวY ยองคpประกอบทเี่ กี่ยวขอY งกบั ปจ¥ จยั สVวนบุคคล สภาพแวดลYอม และพฤตกิ รรม

(3) ป[จจัยชุมชน องคxกร และนโยบาย (Community, Organizational and Policy Level) ท่ี
มอี ิทธิพลตอV พฤตกิ รรม ทฤษฎีท่ีนำเสนอในหนงั สอื เลVมนี้ ไดYแกV โมเดลการวางแผนสVงเสริมสขุ ภาพ (Precede-
Proceed Model of Health Promotion) ประกอบดYวย 8 ระยะ ไดแY กV ระยะท่ี 1 การประเมินสงั คม (Social
Assessment) ระยะที่ 2 การประเมินดYานระบาดวิทยา (Epidemiological Assessment) ระยะที่ 3 การ
ประเมินดาY นการศกึ ษาและนเิ วศวิทยา (Educational and Ecological Assessment) ระยะที่ 4 การวางแผน
การสงV เสรมิ สขุ ภาพ (Health Communication Plan) ระยะท่ี 5 การดำเนนิ การตามแผน (Implementation)
ระยะที่ 6 ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) ระยะท่ี 7 ประเมนิ ผลกระทบ (Impact Evaluation)
ระยะท่ี 8 ประเมนิ ผลลัพธp (Outcome Evaluation)

Copyright Porn-p277u-n Prajaknate

โครงการรณรงคกx ารสอ่ื สารสขุ ภาพและเครอ่ื งมอื วิจัยสำหรับการส่อื สารสุขภาพ

โครงการรณรงคpการสื่อสารสุขภาพ (Health Communication Campaign) เปUนเครื่องมือที่นัก
สื่อสารสุขภาพนำมาใชYเพื่อเปลี่ยนแปลงสุขภาพแกVประชาชน หนังสือเลVมน้ี นำเสนอโมเดลการวางแผนการ
สื่อสารสุขภาพเชิงกลยุทธp (The Strategic Health Communication Campaign Model) โดยบูรณาการ
รVวมกันกับทฤษฎีและแนวคิดดYานการสื่อสาร การสื่อสารสุขภาพ การสื่อสารการตลาดผVานสื่อดิจิทัล และ
การตลาดเพ่อื สังคม เพอ่ื เปนU แนวทางในการออกแบบและจัดทำโครงการรณรงคpเพื่อการสอื่ สารสขุ ภาพผาV นสือ่
ดิจิทัล

ทั้งนี้ ในการริเริ่มพัฒนาโครงการรณรงคp การดำเนินการวิจัยเพื่อใหYไดYมาซึ่งขYอมูลในการออกแบบ
โครงการรณรงคpการสื่อสารสขุ ภาพ ดังนั้นเครื่องมือ (Method) คือ เทคนิคในการเก็บและวเิ คราะหขp Yอมูล ที่
เปรียบเสมือนแวVนตา เพื่อสVองและพจิ ารณางานวิจัยดYานการส่ือสารสุขภาพ เครื่องมือในการดำเนินการวิจัย
ดาY นการสอ่ื สารสขุ ภาพแบVงออกเปนU 2 ประเภท ดังนี้

¿เครอ่ื งมอื สำหรับการวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ มVงุ ศกึ ษาตวั แปรเชงิ ปริมาณ เชVน การเปดe รบั ขาV วสาร ความรูY
หรือทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ มีกลุVมตัวอยาV งขนาดใหญV และใชYขYอมูลเชิงสถิติในการวิเคราะหแp ละ
อธิบายผลการวิจัย ประกอบดYวย การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey) และการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental
Research)

¿เครื่องมือสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ มุVงศึกษาความคิดหรือประเด็นตVาง ๆ ในเชิงลึก มี
กลุVมเปKาหมายขนาดเล็กและจำเพาะเจาะจง มีลักษณะคำถามวVา ทำไม และใชYการวิเคราะหpขYอมูลดYวยการ
ตีความ ประกอบดวY ย การสมั ภาษณเp ชงิ ลึก (In-Depth Interview) และการสนทนากลุVม (Focus Group)

เมื่อดำเนนิ การวจิ ัยเพอ่ื ใหไY ดYมาซึ่งขYอมลู สำหรบั การออกแบบโครงการรณรงคpเพอ่ื การสื่อสารสุขภาพ
ลำดับตอV มา คอื การเลอื กชVองทางการสื่อสารแบบดจิ ิทัลที่สามารถเขYาถึงกลุVมเปKาหมายไดYอยVางมปี ระสิทธิภาพ
ซึ่งหนังสือเลVมนี้ นำเสนอการสื่อสารสุขภาพผVานสื่อดิจิทัลที่มีจำนวนผูYใชYเปUนจำนวนมาก ไดYแกV เว็บไซตp
(Website) เฟซบุ∑ก (Facebook) ยูทูบ (YouTube) ทวิตเตอรp (Twitter) และโมบายแอพลิเคชัน (Mobile
Application)

โครงการรณรงคxการส่อื สารสุขภาพผา" นเวบ็ ไซตx (Website)

เว็บไซตpเปUนสื่อดิจิทัลที่ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแตVยุคเว็บ 1.0 ซึ่งมีองคpประกอบสำคัญ 8 ดYาน ไดYแกV (1)
รูปลักษณp (Context) (2) เนื้อหา (Content) (3) ชุมชน (Community) (4) ฟ¥งกpชันการปรับแตVง
(Customization) (5) ฟ¥งกpชันการติดตVอสื่อสารกับกลุVมเปKาหมาย (Site-to-user Communication) (6)
ฟ¥งกpชันการเชื่อมตVอ (Connection) (7) ฟ¥งกpชันดYานพาณิชยp (Commerce) และ (8) การสรYางความรVวมมือ
(Collaboration) การสื่อสารสุขภาพผVานเว็บไซตp (Website) มีเคล็ดลับในการออกแบบการสื่อสารอยVาง

Copyright Porn-p278u-n Prajaknate

ประณีต ที่สามารถดึงดูดใจกลุVมเปKาหมายไดY ดังนั้น การออกแบบจำเปUนตYองใหYความสำคัญกับโครงสรYาง
สุนทรียภาพ และคุณภาพ การใชYภาษาและการปรับปรุงเว็บไซตpใหYทันสมัย เว็บไซตpเขYาถงึ ประชากรไดYในวง
กวYาง ทุกกลุมV อายุ อาชีพ และทุกภูมิภาค นักสือ่ สารสุขภาพและนกั วิชาการจัดโปรแกรม กิจกรรมแทรกแซง
และโครงการรณรงคpสำหรับการสือ่ สารสขุ ภาพผาV นเวบ็ ไซตp (Website) เพือ่ การปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพ
เชVน การปฏิบัตกิ ิจกรรมทางกายและโรคติดตอV ทางเพศสัมพนั ธp เปUนตนY

โครงการรณรงคxการสอื่ สารสขุ ภาพผา" นเฟซบุÑก (Facebook)
เฟซบุ∑ก (Facebook) เปUนสื่อสังคมในยุคเว็บ 2.0 ที่ไดYรับความนิยมมากทีส่ ุดในประเทศไทย และถูก

นำมาใชเY ปUนเครอื่ งมือในการสอื่ สารเพอื่ เปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรมสขุ ภาพ เพราะสามารถเขYาถึงกลมุV เปาK หมายเปนU
จำนวนมากไดY ฟ¥งกpชันการทำงานของเฟซบุ∑ก (Facebook) ที่โครงการรณรงคpสื่อสารสุขภาพใชYประโยชนp
ไดYแกV เฟซบุ∑กแฟนเพจ (Facebook Fan Page) กลุVมเฟซบุ∑ก (Facebook Group) และศูนยpโฆษณา (Ads
Manager) เคล็ดลับสำคัญสำหรับการออกแบบเนือ้ หาบนเฟซบกุ∑ (Facebook) คือ การออกแบบใหYสอดคลYอง
กับความสนใจของกลุVมเปKาหมาย สำหรับการประเมินผลโครงการรณรงคpเพื่อการสือ่ สารสุขภาพผVานเฟซบุ∑ก
(Facebook) ประกอบดวY ยตวั ชว้ี ดั ที่สำคญั ไดแY กV ตวั ช้วี ดั ความคมYุ คVา การวัดจากขอY มูลเชิงลกึ (Insight) การวัด
การมีสVวนรVวม (Engagement) จากการแสดงความคิดเห็น (Comment) การกดถูกใจ (Likes) และการแชรp
(Share)

โครงการรณรงคxการส่อื สารสขุ ภาพผ"านทวิตเตอรx (Twitter)
ทวิตเตอรp (Twitter) เปUนสือ่ สังคมในยุคเว็บ 2.0 ที่เปUนแหลVงขYอมูลสุขภาพขนาดใหญV (Big Data) จงึ

เปUนชอV งทางการสอ่ื สารในการเฝาK ระวงั และการขบั เคลอ่ื นสังคม (Social Movement) ดาY นสุขภาพ การส่ือสาร
ผVานทวิตเตอรp (Twitter) จำกัดเพียง 280 ตัวอักษร ดังนั้นจึงตYองออกแบบเนื้อหา ดYวยการใชYเว็บลิงกp
(Weblinks) การใชYแฮชแท็ก (Hashtags) และสรYางจุดจูงใจเพื่อใหY “สาร” สามารถเขYาถึงผูYใชYทวิตเตอรp
(Twitter) ไดYอยาV งมปี ระสิทธภิ าพ ท้งั นี้ กลVมุ เปาK หมายที่ใชทY วติ เตอรp (Twitter) มากทสี่ ุด ไดYแกV ประชากรที่มี
ชVวงอายุระหวVาง 16-24 ป± และ 25-34 ป± การประเมินผลลัพธpกิจกรรมแทรกแซงและโครงการรณรงคpการ
สื่อสารสุขภาพบนทวิตเตอรp (Twitter) ประกอบดYวยตัวชี้วัดสำคัญ ไดYแกV การประเมนิ การใชงY าน (Usability)
การประเมินความเปUนไปไดY (Feasibility) การประเมินการยอมรบั (Acceptability) และการประเมินความพึง
พอใจ (Satisfaction) การประเมินผลลัพธpตามตัวแปรในทฤษฎี และการประเมินตามตัวชี้วัดของทวิตเตอรp
(Twitter) ไดแY กV ตวั ชี้วัดการเจริญเตบิ โต (Growth) ตัวชี้วดั การมสี วV นรวV ม ตYนทนุ การแสดงผล (Engagement)
และขอY มูลเชงิ ลึก (Insight)

Copyright Porn-p279u-n Prajaknate

โครงการรณรงคกx ารส่อื สารสขุ ภาพผ"านยทู ูบ (YouTube)
ยูทูบ (YouTube) เปUนสื่อสังคมในยุคเว็บ 2.0 ที่มีผูYใชYมากเปUนอันดับที่ 2 ของโลกและของประเทศ

ไทย ฟ¥งกpชนั การทำงานของยูทบู (YouTube) มีประโยชนpตVอการสื่อสารสุขภาพ ไดYแกV วิดีโอ การแสดงความ
คิดเห็น (Comments) การแชรp (Shares) ถูกใจ (Likes) และไมVถูกใจ (Dislikes) สำหรับการออกแบบการ
สอ่ื สารสุขภาพผVานยูทบู (YouTube) ควรคำนึงถงึ 3 องคปp ระกอบ ไดYแกV (1) การออกแบบและผลติ วดิ ีโอ (2)
การสรYางสรรคpเนื้อหา (Content) และ (3) การจัดการชVองยูทูบ (YouTube) กลุVมเปKาหมายของยูทูบ
(YouTube) คือ ประชากรทกุ เจเนอเรชัน สำหรบั ตัวชี้วัดในการประเมินผVานยูทูบ (YouTube) ไดYแกV การวดั
ระยะเวลาในการชม (Watch Time) การรักษาผูYชม (Audience Retention) คVาเฉลี่ยระยะเวลาการชม
(Average View Duration) การมีสVวนรVวมในวิดีโอ (Video Engagement) จำนวนสมาชิก (Subscribers)
อัตราสVวนการชมตVอการมีสVวนรVวม (View to Engagement Ratio) จำนวนผูYใชYท่ีมีปฏิสัมพันธรp ายวัน (Daily
Active Users) แหลVงที่มาของการเขYาชม (Traffic Source) และลักษณะทางประชากรของสมาชิก
(Subscribers’ Demographic)

โครงการรณรงคกx ารสอื่ สารสุขภาพผา" นโมบายแอปพลเิ คชนั (Mobile Application)
โมบายแอปพลเิ คชนั (Mobile Application) เปนU ดิจทิ ลั เทคโนโลยีในยคุ เวบ็ 3.0 ที่มีประโยชนตp อV การ

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เปUนชVองทางสำหรับการสื่อสารสุขภาพ โมบายแอปพลิเคชัน (Mobile
Application) ดYานสุขภาพมี 4 ประเภท ไดYแกV (1) แอปพลิเคชันการปฏิบัติกิจกรรมทางกายและฟeตเนส
(Physical Activity and Fitness) (2) แอปพลเิ คชันโภชนาการ (Diet) (3) แอปพลิเคชนั อารมณpและสขุ ภาพจติ
(Emotional and Mental Health) และ (4) แอปพลิเคชันประเมินสุขภาพและรักษาสุขภาพ (Health
Assessment and Healthcare) นอกจากนี้โมบายแอปพลิเคชันที่ไดYรับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย
ไดYแกV ไลนp (LINE) หนังสือเลVมน้ีจึงนำเสนอกรณีศึกษาการสื่อสารสุขภาพผVานโมบายแอปพลิเคชัน (Mobile
Application) ท่พี ัฒนาใหมVแบบเฉพาะเจาะจง และไลนp (Line) ท้ังนี้การประเมนิ ผลลพั ธกp จิ กรรมแทรกแซงบน
โมบายแอปพลิเคชันมี 2 รูปแบบ ไดYแกV การประเมินผลลัพธpการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพ และการ
ประเมินประสิทธิผลของการใชYงานโมบายแอปพลิเคชัน (Mobile Application) ไดYแกV ความพึงพอใจ
(Satisfaction) หรอื การยอมรบั (Acceptability) เปUนตYน

Copyright Porn-p280u-n Prajaknate

แนวโนAมการสื่อสารสุขภาพในอนาคต

สถานการณpโรคและความเจ็บปว^ ยของมนุษยpไมVแนVนอน ป¥จจุบันยังคงเกิดโรคติดตVออุบตั ิใหมVอยVาง
ตVอเนือ่ งท่ียังไมสV ามารถคYนพบวิธีการรักษา เชVน โควิด-19 ประกอบกับวิวัฒนาการดYานเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการส่ือสารที่ไมเV คยหยุดนงิ่ และเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ดังน้นั หนังสอื เลมV นจ้ี งึ นำเสนอแนวโนYมการสอ่ื สาร
สุขภาพในอนาคตในประเด็นตVาง ๆ ไดYแกV สถานการณpสุขภาพ นโยบายการสื่อสารสุขภาพ การวิจัยและ
โครงการรณรงคpดYานการส่อื สารสุขภาพ
สถานการณสx ุขภาพ

ตั้งแตVปลายป± พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ตVอเนื่องมาจนถึง ป± พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) ทุกประเทศทว่ั
โลกเผชิญกบั สถานการณวp กิ ฤตดิ Yานสขุ ภาพอยาV งหลกี เล่ยี งไมVไดY นนั่ คือ การเกดิ อบุ ตั ิการณpโรคระบาดโควิด-19
สงV ผลใหปY ระชากรทว่ั โลกเปนU โรคโควดิ -19 จำนวนทัง้ ส้นิ 21,026,758 คน และมีผูYเสยี ชีวติ ทัง้ สิ้น 755,786 คน
(ขYอมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2563) (World Health Organization, 2020) ป¥จจุบันยังไมVมียาชนิดใดท่ี
สามารถรักษาไดY หากแตVมีการดำเนนิ การวิจัยพัฒนาและทดลองวัคซนี ประมาณ 108 ชนิดทั่วโลก และมีการ
ทดลองเพยี ง 6 ชนิดเทVานัน้ ที่กำลังอยูVในชVวงของการทดลองทางคลินิก (Khuroo et al., 2020) ซึ่งยังตYองใชY
เวลาในการทดลองเพื่อใหYเกิดประสิทธิภาพสูงสดุ สถานการณpดังกลVาวเปUนประเด็นที่ทYาทายและจุดประกาย
ความคิดสำคัญ คือ ป¥ญหาดYานสุขภาพของมนุษยpคVอนขYางไมVแนVนอนและมีการเปลี่ยนแปลงไดYตลอดเวลา
ดงั นน้ั ในอนาคตผYมู สี VวนไดYสVวนเสียทุกภาคสVวน โดยเฉพาะอยาV งยิง่ ภาคสวV นที่เกยี่ วขอY งกับงานดYานสาธารณสุข
จำเปนU ตYองมีการตงั้ รบั กับสถานการณpสุขภาพทเี่ ปลย่ี นแปลงไปตลอดเวลา

การเกิดอุบัตกิ ารณpโรคโควิด-19 เปUนหนึ่งในป¥ญหาโรคติดตVอที่ยังไมVมีวิธีรักษาใหYหายไดY หากแตVใน
อนาคตประชากรโลกยงั คงเผชิญกบั ปญ¥ หาโรคไมตV ิดตVอที่เกดิ จากปจ¥ จยั ภายนอก เมื่อดจิ ิทลั เทคโนโลยีเปUนสVวน
หน่งึ ของการดำเนินชีวติ ตงั้ แตตV ่นื นอนจนกระท่งั เขาY นอนของประชากรท่ัวโลกทใ่ี ชYคอมพวิ เตอรp โทรศพั ทมp ือถือ
และแท็บเล็ตตลอดเวลา ดงั น้นั จึงหลกี เลย่ี งไมVไดYท่จี ะเกิดปญ¥ หาดYานสขุ ภาพจากการใชYดิจิทัลเทคโนโลยตี ามมา
ทั้งป¥ญหาสุขภาพกาย ไดYแกV พฤติกรรมเนือยนิ่งจากการใชYเทคโนโลยีสารสนเทศ (Huang et al., 2020) โรค
ออฟฟeศซินโดรม (Office Syndrome) (Nezis et al., 2019) ป¥ญหาสุขภาพตาจากการจอY งคอมพิวเตอรpนาน
(Kushali & Brundha, 2020) และป¥ญหาสุขภาพจติ เชนV โรคซมึ เศรYาท่เี กดิ จากการใชYคอมพวิ เตอรp (Zink et
al., 2020) และเสพขYอมลู ในเครือขVายสังคมออนไลนp (Keles et al., 2020) ซึ่งในปจ¥ จุบันผูมY ีสVวนไดสY Vวนเสีย
หลายภาคสVวน เชVน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสรYางเสริมสุขภาพ
(สสส.) ตระหนักถึงความสำคัญของป¥ญหาและดำเนินการเฝKาระวังและจัดทำขYอเสนอแนะเพื่อลดป¥ญหา
ดังกลาV ว

Copyright Porn-p281u-n Prajaknate

โดยเฉพาะอยาV งยิ่ง วิวฒั นาการดYานดจิ ทิ ัลเทคโนโลยกี าY วเขYามาสูยV คุ เว็บ 4.0 ท่ีเทคโนโลยอี นิ เทอรpเน็ต
ของสรรพสิ่ง (Internet of Things) เปUนสVวนหนึง่ ในชวี ิตประจำวันของประชาชน ในอนาคตมีการคาดการณpถึง
ขYอผดิ พลาดของดจิ ิทลั เทคโนโลยีที่อาจสงV ผลตVอความเจบ็ ปว^ ยและอันตรายตอV ราV งกายมนษุ ยp เชVน อุบตั เิ หตุจาก
การใชYดิจิทัลเทคโนโลยี อันตรายที่เกิดจากการใชYงานดิจิทัลเทคโนโลยีแบบผิดวิธี หรือขYอผิดพลาดจากการ
ทำงานผิดปกติของดิจทิ ัลเทคโนโลยี และความเสีย่ งดYานความปลอดภัยในโลกไซเบอรp แนวโนYมในอนาคตของ
ป¥ญหาสุขภาพที่เกิดจากเทคโนโลยีจึงเปUนสิ่งที่คาดการณpไดYคVอนขYางลำบาก เนื่องจากดิจิทัลเทคโนโลยีมี
วิวฒั นาการและเกดิ การเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ดงั นั้นผYมู ีสVวนไดYสวV นเสยี ในดYานสุขภาพจึงจำเปนU ตอY งเฝKาระวัง
โรค ตดิ ตามเพื่อส่ือสารใหปY ระชาชนตระหนกั ถงึ ปญ¥ หาและรักษาสขุ ภาพไดYอยาV งทนั ทVวงที

นโยบายดAานการส่ือสารสขุ ภาพ

จากกรณีการเกิดอุบัติการณpโรคใหมV เชVน โควิด-19 ทุกภาคสVวนทั่วโลกจำเปUนตYองดำเนินการจัดทำ
แผนฉุกเฉินสำหรับพัฒนา ทดสอบวัคซนี และแผนการฉกุ เฉินดYานการสือ่ สารสขุ ภาพในการปอK งกนั โรคโควดิ -19
(Liu et al., 2020) ในขณะเดยี วกันผมYู ีสVวนไดสY Vวนเสยี ดาY นสขุ ภาพระดบั โลก เชVน องคกp ารอนามยั โลก (World
Health Organization) และระดับประเทศ เชVน กระทรวงสาธารณสุข ควรกำหนดนโยบายดYานการสื่อสาร
สขุ ภาพเพอ่ื ตั้งรบั กบั อบุ ตั กิ ารณpโลกใหมVและสถานการณpฉุกเฉินทอ่ี าจจะเกิดขึ้นในอนาคต เชVนเดียวกับโรคโค
วิด-19

สำหรบั แนวโนYมการกำหนดนโยบายการส่อื สารสขุ ภาพในยุคที่ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยกี ำลงั เปล่ียนผVานจาก
เว็บ 4.0 ไปสูV เว็บ 5.0 ระหวVางชVวงป± พ.ศ. 2563 (ค.ศ.2020) ถึง พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2020) ซึ่งเปUนยุคเว็บ
ป¥ญญาประดิษฐpที่ดิจิทัลเทคโนโลยีสามารถติดตVอสื่อสารกับมนุษยpไดY มีความอัจฉริยะ (Intelligent) และ
สามารถรับรูYอารมณแp ละความรูสY ึกไดY (Germain, 2019) ผูYกำหนดนโยบายควรใหYความสำคญั กับการสือ่ สาร
สุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกสp (E-Health Communication) ดYวยการเชือ่ มโยงระหวVางการสือ่ สารสุขภาพ การ
สื่อสารกับสาขาวิชาอื่น เชVน การสื่อสารผVานคอมพิวเตอรp (Computer Mediated Communication)
เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาศาสตรpสังคม ระบบอจั ฉริยะ และหนุV ยนตp (Robotics) (Kreps, 2020) ดังนั้นจึงมี
ความจำเปUนท่ผี มYู ีสวV นไดสY วV นเสียในการกำหนดนโยบายดYานการสื่อสารและสาธารณสขุ ควรมีการเตรยี มความ
พรYอมบุคลากรการสื่อสารสุขภาพ ใหYมีสมรรถนะในการใชYดิจิทัลเทคโนโลยีในการสื่อสารสุขภาพ เพื่อใหY
สามารถใชYประโยชนpจากดิจิทัลเทคโนโลยีไดYอยVางมีประสิทธิภาพ และกYาวทันตVอพฤติกรรมการใชYดิจิทัล
เทคโนโลยีทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปไดY (Lee & Viswanath, 2020) โดยในอนาคตควรมกี ารกำหนดนโยบาย ดงั ตVอไปน้ี

¿นโยบายหรือแผนการสรYางความรวV มมอื กับองคpกรที่มคี วามเชี่ยวชาญดYานดิจิทัลเทคโนโลยีในการ
จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพือ่ ใหYความรูYแกVบคุ คลากรดYานสุขภาพดYานการใชYดิจทิ ลั เทคโนโลยีในยุคเว็บ 5.0
(Web 5.0)

¿การกำหนดนโยบายหรือแผนเพอื่ สราY งชมุ ชนเชิงปฏบิ ตั ิ สำหรับการแลกเปลย่ี นขอY มลู และการปฏบิ ตั ิ
ท่ีดีในการใชปY ระโยชนจp ากขYอมูลขนาดใหญV (Big Data) ในการสอ่ื สารสขุ ภาพ

Copyright Porn-p282u-n Prajaknate

การวจิ ยั และการออกแบบโครงการรณรงคดx าA นการสือ่ สารสขุ ภาพ

วิวฒั นาการของดิจทิ ลั เทคโนโลยีกอV ใหYเกดิ การเปลี่ยนแปลงชVองทางการส่ือสารสขุ ภาพและพฤติกรรม
การคนY หาขอY มูลเก่ียวกับสุขภาพของบคุ คล นักสอื่ สารสุขภาพจงึ จำเปนU ตอY งปรับตวั ดวY ยการปรับเปล่ียนรปู แบบ
และเครอื่ งมือการวิจัยรวมท้ังการออกแบบโครงการรณรงคpดYานการส่อื สารสขุ ภาพ นบั จากอดีตการดำเนินการ
วิจัยเพ่ือการสือ่ สารสขุ ภาพใชYเครื่องมอื การวิจัยเชิงคุณภาพ เชVน การสนทนากลุมV การสัมภาษณเp ชิงลึก การ
วจิ ยั เชิงปริมาณมีเครอ่ื งมอื การวจิ ัย เชVน การวจิ ยั เชิงสำรวจ และการวิจัยเชิงทดลอง ในอนาคตการดำเนินการ
วจิ ัยการสือ่ สารสขุ ภาพในยคุ เวบ็ 5.0 จะประยุกตใp ชดY จิ ทิ ลั เทคโนโลยเี ปUนเคร่ืองมือในการเก็บขYอมูลในรูปแบบ
ตาV ง ๆ มากย่ิงขน้ึ ตวั อยาV งเชนV การใชขY YอมูลขนาดใหญรV Vวมกับอปุ กรณpตรวจวัดสุขภาพในการทำนายพฤตกิ รรม
สุขภาพกายและสขุ ภาพจิต (Duffy et al., 2020; Tomlinson et al., 2020) การออกแบบการรักษาและการ
ติดตVอสื่อสารกับผูYป^วย (Finkelstein et al., 2020) การใชYดิจิทัลเทคโนโลยีในการประเมินและติดตาม
กระบวนการทำงานของสมอง ดวY ยการตงั้ สมมตฐิ านทกี่ ำหนดใหYสมองเปนU ตัวแปรตาม และการวัดผลการรับรูY
ดาY นอารมณp ความรูสY กึ และการตัดสินใจ ซ่งึ จะนำไปสกVู ารทำนายรูปแบบการสอ่ื สารของมนษุ ยp เพอ่ื ใชสY ำหรับ
การออกแบบโครงการรณรงคดp าY นการสื่อสารสขุ ภาพไดYอยาV งมีประสิทธภิ าพ (Schmälzle & Meshi, 2020)

โดยเฉพาะอยVางยิ่งงานวิจัยที่เกี่ยวขYองกับการสื่อสารสุขภาพในอนาคตจะใชYขYอมูลขนาดใหญV (Big
Data) แทนขอY มูลขนาดเล็กจากการสำรวจมากยง่ิ ข้นึ เชVน การวเิ คราะหpเครอื ขาV ยสังคมออนไลนp การวเิ คราะหp
การสนับสนุนของเครอื ขาV ยสงั คมออนไลนp การวิเคราะหpรปู แบบและแหลVงขYอมูลขVาวสารดYานสุขภาพของผYูใชY
เครอื ขVายสงั คมออนไลนpเพือ่ กำหนดแนวทางและออกแบบโครงการรณรงคpเพอื่ การสอื่ สารสุขภาพ ตัวอยาV งเชVน

¿การศึกษาทศั นคติและความคิดเหน็ ท่ีมีตVอการใหYบรกิ ารดYานสขุ ภาพผาV นขอY มูลขนาดใหญV เชนV การ
ใชYการวิเคราะหpเครอ่ื งมือขนาดใหญV (Big Data Analysis) ในการวเิ คราะหขp อY ความในทวิตเตอรp (Twitter) เพ่ือ
ศึกษาทศั นคติและพฤติกรรมการรบั วคั ซนี รักษาโรคไขYหวัดใหญV ซ่งึ นำไปสูขV อY เสนอแนะในการวางแผนโครงการ
การสื่อสารผVานทวิตเตอรpเพื่อรณรงคpใหYเกิดทัศนคติเชิงบวกและพฤตกิ รรมการรับวัคซีนปอK งกันไขYหวัดใหญV
(Chan et al., 2020)

¿การใชYขYอมลู ขนาดใหญV (Big Data Analysis) เพอ่ื ศึกษาพฤตกิ รรมการคYนหาขYอมูลเกย่ี วกบั โรคและ
ความเจ็บป^วย เชVน บุหงา ชัยสุวรรณ และพรพรรณ ประจักษpเนตร (2563) ใชYการวิเคราะหpขYอมูลขนาดใหญV
(Big Data Analysis) เพื่อวิเคราะหpเสียงในสื่อสังคม (Social Voice) ของประชาชนไทย และการรับรูYการ
ปKองกันตนเองจากโรคโควิด-19 ซึ่งผลการวิจัยสะทYอนใหYเห็นรูปแบบการใชYเครือขVายสังคมออนไลนpในการ
คYนหาขYอมูลเพื่อการปKองกันตนเองจากโรคโควิด-19 อันจะนำไปสูVขYอเสนอแนะในการใชYสื่อดิจิทัลเพื่อสรYาง
ความตระหนักถึงการปอK งกนั โรคโควดิ -19

¿การบูรณาการระหวVางเครื่องมือวิเคราะหpขYอมูลขนาดใหญV (Big Data Analysis) และการวิจัยเชงิ
ปริมาณและการวิจัยเชิงคณุ ภาพ เพอ่ื ศกึ ษาเครอื ขาV ยสงั คมออนไลนทp ีส่ VงผลตอV พฤติกรรมการใชYส่อื และผลลพั ธp
ดาY นสขุ ภาพ เน่อื งจากเครอื ขาV ยสงั คมออนไลนpสVงผลใหเY กิดวฒั นธรรมการใชสY อ่ื ในประเด็นกระบวนการส่อื สาร
และชอV งทางการใชYสอื่ เพ่อื คนY หาขอY มลู ดYานสขุ ภาพท่ีแตกตาV งกัน ผลการวิจยั ดงั กลาV วชวV ยใหYนักส่ือสารสุขภาพ

Copyright Porn-p283u-n Prajaknate

ออกแบบโครงการรณรงคpดาY นการสือ่ สารสุขภาพท่สี อดคลYองและเหมาะสมกับความตYองการเฉพาะบุคคลมาก
ย่ิงขึน้ (Personalization)(Wright, 2020)

บรรณานุกรม

ภาษาองั กฤษ
Chan, M. S., Jamieson, K. H., & Albarracin, D. (2020). Prospective associations of regional

social media messages with attitudes and actual vaccination: A big data and survey
study of the influenza vaccine in the United States. Vaccine, S0264-410X(20)30985-3.
Advance online publication. https://doi.org/10.1016/j.vaccine.2020.07.054
Duffy, A., Faurholt-Jepsen, M., & Ostacher, M. (2020). Using big data to advance mental
health research. Evidence Based Mental Health, 23(1), 1.
https://doi.org/10.1136/ebmental-2020-300143
Finkelstein, J., Zhang, F., Levitin, S. A., & Cappelli, D. (2020). Using big data to promote
precision oral health in the context of a learning healthcare system. Journal of Public
Health Dentistry, 80(S1), S43-S58. https://doi.org/10.1111/jphd.12354
Germain, M. L. (2019). Integrating service-learning and consulting in distance education.
Emerald Publishing Limited.
Huang, Y., Benford, S., Price, D., Patel, R., Li, B., Ivanov, A., & Blake, H. (2020). Using internet of
things to reduce office workers’sedentary behavior: Intervention development
applying the behavior change wheel and human-centered design approach [Original
Paper]. JMIR Mhealth Uhealth, 8(7), e17914. https://doi.org/10.2196/17914
Keles, B., McCrae, N., & Grealish, A. (2020). A systematic review: the influence of social media
on depression, anxiety and psychological distress in adolescents. International
Journal of Adolescence and Youth, 25(1), 79-93.
https://doi.org/10.1080/02673843.2019.1590851
Khuroo, M. S., Khuroo, M., Khuroo, M. S., Sofi, A. A., & Khuroo, N. S. (2020). COVID-19
vaccines: A race against time in the middle of death and devastation!. Journal of
Clinical and Experimental Hepatology.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.jceh.2020.06.003

Copyright Pornpun Prajaknate- 284 -

Kreps, G. L. (2020). The value of health communication scholarship: New directions for
health communication inquiry. International Journal of Nursing Sciences.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.ijnss.2020.04.007

Kushali, R., & Brundha, M. P. (2020). Prevalence and awareness on computer vision syndrome
among individuals in information technology [Article]. Drug Invention Today, 14(3),
416-419.

Lee, E. W. J., & Viswanath, K. (2020). Big data in context: Addressing the twin perils of data
absenteeism and chauvinism in the context of health disparities research. Journal of
Medical Internet Research, 22(1), e16377. https://doi.org/10.2196/16377

Liu, X., Liu, C., Liu, G., Luo, W., & Xia, N. (2020). COVID-19: Progress in diagnostics, therapy and
vaccination. Theranostics, 10(17), 7821-7835. https://doi.org/10.7150/thno.47987

Nezis, I., Biskos, G., Eleftheriadis, K., & Kalantzi, O.-I. (2019). Particulate matter and health
effects in offices - A review. Building and Environment, 156, 62-73.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.buildenv.2019.03.042

Schmälzle, R., & Meshi, D. (2020). Communication neuroscience: Theory, methodology and
experimental approaches. Communication Methods and Measures, 14(2), 105-124.
https://doi.org/10.1080/19312458.2019.1708283

Tomlinson, A., Furukawa, T. A., Efthimiou, O., Salanti, G., De Crescenzo, F., Singh, I., & Cipriani,
A. (2020). Personalise antidepressant treatment for unipolar depression combining
individual choices, risks and big data (PETRUSHKA): rationale and protocol. Evidence
Based Mental Health, 23(2), 52. https://doi.org/10.1136/ebmental-2019-300118

World Health Organization. (2020). Coronavirus disease (Covid-19): Situation report-208.
World Health Organization. https://www.who.int/docs/default-
source/coronaviruse/situation-reports/20200815-covid-19-sitrep-
208.pdf?sfvrsn=9dc4e959_2

Wright, K. B. (2020). New technologies and health communication. The handbook of applied
communication research, 863-878.

Zink, J., Ebrahimian, S., Belcher, B. R., & Leventhal, A. M. (2020). Reciprocal associations
between depression and screen-based sedentary behaviors in adolescents differ by

Copyright Porn-p285u-n Prajaknate

depressive symptom dimension and screen-type. Journal of Affective Disorders, 263,
39-46. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.jad.2019.11.130
ภาษาไทย
บหุ งา ชยั สวุ รรณ, และพรพรรณ ประจกั ษpเนตร. (2563). Social voice: การสื่อสารเกย่ี วกบั การระบาดของ
ไวรสั โควิด-19 บนพนื้ ทสี่ ือ่ สงั คม. การประชมุ วิชาการ เนือ่ งในโอกาสครบรอบป±ที่ 54 แหงV การ
สถาปนาสถาบันบณั ฑิตพฒั นบริหารศาสตรp ประจำป± พ.ศ. 2563 หวั ขอY นวัตกรรมการบริหารการ
พฒั นาเพอื่ ฝา^ วกิ ฤตปิ ระเทศ, สถาบนั บณั ฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร.p

Copyright Porn-p286u-n Prajaknate

บรรณานุกรม

ภาษาองั กฤษ
Abd-Alrazaq, A. A., Rababeh, A., Alajlani, M., Bewick, B. M., & Househ, M. (2020). Effectiveness

and safety of using chatbots to improve mental health: Systematic review and
meta-analysis. Journal of Medical Internet Research, 22(7), e16021.
Abram, C. (2012). Facebook for dummies. Wiley.
Adria, M. (2019). Using new media for citizen engagement and participation. IGI Global.
Ahmad, F., El Morr, C., Ritvo, P., Othman, N., Moineddin, R., & Team, M. (2020). An eight-
week, web-based mindfulness virtual community intervention for students’ mental
health: Randomized controlled trial. JMIR Mental Health, 7(2), e15520.
Ahmed, A. H., Roumani, A. M., Szucs, K., Zhang, L., & King, D. (2016). The effect of interactive
web-based monitoring on breastfeeding exclusivity, intensity, and duration in
healthy, term infants after hospital discharge. Journal of Obstetric, Gynecologic &
Neonatal Nursing, 45(2), 143-154.
Ahn, S. J., Johnsen, K., Moore, J., Brown, S., Biersmith, M., & Ball, C. (2016). Using virtual pets
to increase fruit and vegetable consumption in children: A technology-assisted
social cognitive theory approach. Cyberpsychology, Behavior, and Social
Networking, 19(2), 86-92.
Ajzen, I. (1991). The theory of planned behavior. Organizational Behavior and Human
Decision Processes, 50(2), 179-211.
Ajzen, I. (2002). Perceived behavioral control, self-efficacy, locus of control, and the Theory
of planned behavior. Journal of Applied Social Psychology, 32(4), 665-683.
https://doi.org/10.1111/j.1559-1816.2002.tb00236.x
Ajzen, I. (2005). Attitudes, personality, and behavior. Open University Press.
Akagi, C. (2008). YouTube? For health education? American Journal of Health Education,
39(1), 58-60.

Copyright Por-n28p7 -un Prajaknate

Akers, L., & Gordon, J. S. (2018). Using Facebook for large-scale online randomized clinical
trial recruitment: effective advertising strategies. Journal of Medical Internet
Research, 20(11), e290.

Algie, J., & Mead, N. (2019). Fun ways to engage with rail safety through the Dumb Ways to
Die social marketing campaign. In D. Z. Basil, G. Diaz-Meneses, & M. D. Basil (Eds.),
Social marketing in action: Cases from around the world (pp. 93-110). Springer
International Publishing. https://doi.org/10.1007/978-3-030-13020-6_6

Allen, J. D., Hollander, J., Gualtieri, L., Alarcon Falconi, T. M., Savir, S., & Agénor, M. (2020).
Feasibility of a twitter campaign to promote HPV vaccine uptake among
racially/ethnically diverse young adult women living in public housing. BMC Public
Health, 20, 1-8.

Allen, M. (2017). The SAGE encyclopedia of communication research methods. SAGE
Publications.

Altendorf, M., Hoving, C., Van Weert, J. C., & Smit, E. S. (2020). Effectiveness of message
frame-tailoring in a web-based smoking cessation program: Randomized controlled
trial. Journal of Medical Internet Research, 22(4), e17251.

American Marketing Association (AMA). (2007). Archive.
www.Marketingpower.com/Community/ARC/Pages/Additional/Definition/default.aspx

Anderson, P. (2016). Web 2.0 and beyond: principles and technologies. CRC Press.

Andrade, E. L., Evans, W. D., Barrett, N., Edberg, M. C., & Cleary, S. D. (2018). Strategies to
Increase Latino Immigrant youth engagement in health promotion using social
media: mixed-methods study. JMIR Public Health and Surveillance, 4(4), e71.
https://doi.org/10.2196/publichealth.9332

Arkin, E. B. (2009). Making health communication programs work (rev. Ed. ). DIANE Publishing
Company.

Asencio, H. (2015). Cases on strategic social media utilization in the nonprofit sector. IGI
Global.

Australian Association of Social Marketing (AASM). (2013). What is social marketing?
www.aasm.org.au/about-us /

Copyright Por-n28p8 -un Prajaknate

Bandura, A. (1988). Self-regulation of motivation and action through goal systems. In
Cognitive perspectives on emotion and motivation (pp. 37-61). Springer.

Bandura, A. (1997). Self-efficacy in changing societies. Cambridge University Press.

Bandura, A. (1998). Health promotion from the perspective of social cognitive theory.
Psychology & Health, 13(4), 623-649. https://doi.org/10.1080/08870449808407422

Bandura, A. (2001). Social Cognitive Theory of mass communication. Media psychology, 3(3),
265-299. https://doi.org/10.1207/S1532785XMEP0303_03

Bandura, A. (2005). The evolution of social cognitive theory. In K. G. Smith & M. A. Hitt (Eds.).,
Great minds in management. (pp.9-35). OUP Oxford.

Bandura, A. (2006). Going global with Social cognitive theory: From prospect to paydirt. In S.
I. Donaldson, D. E. Berger, & K. Pezdek (Eds.), Applied psychology: New frontiers and
rewarding careers (p. 53–79). Lawrence Erlbaum Associates Publishers.

Bandura, A. (2008a). Observational learning. In W. Donsbach (Ed.), The international
encyclopedia of communication. John Wiley & Sons, Ltd.
https://doi.org/10.1002/9781405186407.wbieco004

Bandura, A. (2008b). The reconstrual of “free will” from the agentic perspective of social
cognitive theory. In J. Baer, J. C. Kaufman, & R. F. Baumeister (Eds.), Are we free:
Psychology and free will (pp. 86-127). Oxford University Press.

Bandura, A. (2010). Self-efficacy. In W. E. C. Irving B. Weiner (Ed.), The corsini encyclopedia of
psychology (pp. 1-3). https://doi.org/10.1002/9780470479216.corpsy0836

Barker, M., Barker, D. I., Bormann, N. F., & Neher, K. E. (2012). Social media marketing: A
strategic approach. Cengage Learning.

Barker, M., Barker, D. I., Bormann, N. F., & Zahay, D. (2016). Social media marketing: A
strategic approach. Cengage Learning.

Basch, C. H., Brown, A. A., Fullwood, M. D., Clark, A., Fung, I. C. H., & Yin, J. (2018). YouTube
as a source of information on skin bleaching: a content analysis. Clinical and
Experimental Dermatology, 43(4), 399-403. https://doi.org/10.1111/ced.13335

Copyright Por-n28p9 -un Prajaknate

Basch, C. H., Mongiovi, J., Berdnik, A., & Basch, C. E. (2016). The most widely viewed YouTube
videos with content related to multivitamins. Health Promotion Perspectives, 6(4),
213-216. https://doi.org/10.15171/hpp.2016.35

Bates, B. R., & Ahmed, R. (2013). Health communication and mass media: An integrated
approach to policy and practice. Ashgate Publishing Limited.

Bauer, K. D., & Liou, D. (2020). Nutrition counseling and education skill development.
Cengage Learning.

Bazargan-Hejazi, S., Teruya, S., Pan, D., Lin, J., Gordon, D., Krochalk, P. C., & Bazargan, M.
(2017). The theory of planned behavior (TPB) and texting while driving behavior in
college students. Traffic Injury Prevention, 18(1), 56-62.

Bensley, R., & Brookins-Fisher, J. (2009). Community health education methods: A practical
guide. Jones & Bartlett Learning.

Blaxter, M. (2010). Health. Wiley.

Blaxter, M. (2018). Health. Wiley.

Bold, K. W., Hanrahan, T. H., O'Malley, S. S., & Fucito, L. M. (2016). Exploring the utility of
web-based social media advertising to recruit adult heavy-drinking smokers for
treatment. Journal of Medical Internet Research, 18(5), e107.

Brennan, L., Binney, W., Parker, L., Aleti, T., & Nguyen, D. (2014). Social marketing and
behaviour change: models, theory and applications. Edward Elgar Publishing,
Incorporated.

Brookins-Fisher, J. (2017). Community and public health education methods. Jones &
Bartlett Learning.

Burke, S. C., & Snyder, S. L. (2008). YouTube: An Innovative Learning Resource for College
Health Education Courses. International Electronic Journal of Health Education, 11,
39-46.

Cavallo, D. N., Sisneros, J. A., Ronay, A. A., Robbins, C. L., Jilcott Pitts, S. B., Keyserling, T. C.,
Ni, A., Morrow, J., Vu, M. B., Johnston, L. F., & Samuel-Hodge, C. D. (2016). Assessing
the feasibility of a web-based weight loss intervention for low-income women of
reproductive age: A pilot study. JMIR Research Protocols, 5(1), e30.
https://doi.org/10.2196/resprot.4865

Copyright Por-n29p0 -un Prajaknate

Centers for Disease Control and Prevention. (2005). Introduction to program evaluation for
public health programs: A self-study guide (Atlanta: Centers for Disease Control and
Prevention, Issue.

Chaffey, D. (2019). Digital marketing. Pearson.
Chambers, C. T., Dol, J., Parker, J. A., Caes, L., Birnie, K. A., Taddio, A., Campbell-Yeo, M.,

Halperin, S. A., & Langille, J. (2020). Implementation effectiveness of a parent-
directed YouTube video (“It Doesn’t Have To Hurt”) on evidence-based strategies
to manage needle pain: Descriptive survey study. JMIR Pediatrics and Parenting,
3(1), e13552. https://doi.org/10.2196/13552
Champion, V. L., & Skinner, C. S. (2008). The health belief model. In K. Glanz, B. K. Rimer, & K.
Viswanath (Eds.), Health behavior and health education: Theory, research, and
practice (p. 45–65). Jossey-Bass.
Chan, D. K. C., Stenling, A., Yusainy, C., Hikmiah, Z., Ivarsson, A., Hagger, M. S., Rhodes, R. E., &
Beauchamp, M. R. (2020). Editor's Choice: Consistency tendency and the theory of
planned behavior: a randomized controlled crossover trial in a physical activity
context. Psychology & Health, 35(6), 665-684.
https://doi.org/10.1080/08870446.2019.1677904
Chan, M. S., Jamieson, K. H., & Albarracin, D. (2020). Prospective associations of regional
social media messages with attitudes and actual vaccination: A big data and
survey study of the influenza vaccine in the United States. Vaccine, S0264-
410X(20)30985-3. Advance online publication.
https://doi.org/10.1016/j.vaccine.2020.07.054
Chan, W. S. Y., & Leung, A. Y. M. (2020). Facebook as a novel tool for continuous professional
education on dementia: Pilot randomized controlled trial. Journal of Medical
Internet Research, 22(6), e16772. https://doi.org/10.2196/16772
Chan, W. S., & Leung, A. Y. (2018). Use of social network sites for communication among
health professionals: Systematic review [Review]. Journal of Medical Internet
Research, 20(3), e117. https://doi.org/10.2196/jmir.8382

Copyright Por-n29p1 -un Prajaknate

Chapman, A. L., Lei, M., & Greenhow, C. (2018). Social network applications for education:
The case of college connect. Springer International Publishing.

Chapman, Y. L. (2017). Pseudo-twitter format: Health literacy learning activity. Journal of
Nursing Education, 56(7), 448-448.

Chell, D., Erasmus, T., Colley, S., & Whitehouse, O. (2015). The mobile application hacker's
handbook. Wiley.

Cheng, H., Kotler, P., & Lee, N. (2011). Social marketing for public health: Global trends and
success stories. Jones & Bartlett Learning.

Chiou, P.-Y., Liao, P.-H., Liu, C.-Y., & Hsu, Y.-T. (2020). Effects of mobile health on HIV risk
reduction for men who have sex with men. AIDS Care, 32(3), 316-324.

Choi, E. P., Chow, E. P., Wan, E. Y., Wong, W. C., Wong, J. Y., & Fong, D. Y. (2020). The safe use
of dating applications among men who have sex with men: a study protocol for a
randomised controlled trial to evaluate an interactive web-based intervention to
reduce risky sexual behaviours. BMC Public Health, 20(1), 1-7.

Choi, I., Milne, D. N., Glozier, N., Peters, D., Harvey, S. B., & Calvo, R. A. (2017). Using different
Facebook advertisements to recruit men for an online mental health study:
engagement and selection bias. Internet Interventions, 8, 27-34.

Chou, W.-y. S., Prestin, A., Lyons, C., & Wen, K.-y. (2013). Web 2.0 for health promotion:
reviewing the current evidence. American Journal of Public Health, 103(1), e9-e18.
https://doi.org/10.2105/AJPH.2012.301071

Chou, W.-y. S., Trivedi, N., Peterson, E., Gaysynsky, A., Krakow, M., & Vraga, E. (2020). How do
social media users process cancer prevention messages on Facebook? An eye-
tracking study. Patient Education and Counseling, 103(6), 1161-1167.
doi:https://doi.org/10.1016/j.pec.2020.01.013

Chu, S. K. W. (2020). Social media tools in experiential internship learning. Springer Singapore.

Chung, A. E., Skinner, A. C., Hasty, S. E., & Perrin, E. M. (2017). Tweeting to health: a novel
mHealth intervention using Fitbits and Twitter to foster healthy lifestyles. Clinical
Pediatrics, 56(1), 26-32.

Copyright Por-n29p2 -un Prajaknate

Chung, J. E. (2015). Antismoking campaign videos on YouTube and audience response:
Application of social media assessment metrics. Computers in Human Behavior, 51,
114-121. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.chb.2015.04.061

Cobelli, N. (2020). Innovation in community-based private practices through eHealth: A
business management perspective. Springer International Publishing.

Coccia, C., Fernandes, S. M., & Altiti, J. (2020). Tweeting for nutrition: feasibility and efficacy
outcomes of a 6-week social media-based nutrition education intervention for
student-athletes. The Journal of Strength & Conditioning Research, 34(7), 2084-
2092.

Cohen, L., Chavez, V., & Chehimi, S. (2007). Prevention is primary: Strategies for community
wellbeing. Wiley.

Coulston, A. M., & Boushey, C. J. (2008). Nutrition in the prevention and treatment of
disease. Elsevier Science.

Cowie, J. M., & Gurney, M. E. (2018). The use of Facebook advertising to recruit healthy
elderly people for a clinical trial: baseline metrics. JMIR Research Protocols, 7(1),
e20.

Crawford, E. C., & Okigbo, C. C. (2013). Strategic communication campaigns. In C. C. Okigbo
(Ed.), Strategic urban health communication. Springer New York.

Crosby, R. A., DiClemente, R. J., & Salazar, L. F. (2011). Research methods in health
promotion. Wiley.

Crosby, R., & Noar, S. M. (2011). What is a planning model? An introduction to PRECEDE-
PROCEED. Journal of Public Health Dentistry, 71(s1), S7-S15.
https://doi.org/10.1111/j.1752-7325.2011.00235.x

Dahl, D. W., J.Gorn, G., & B.Weinberg, C. (2018). Marketing, safer sex, and condom acquisition.
Taylor & Francis.

Dai, X., Bikdash, M., & Meyer, B. (2017). From social media to public health surveillance:
Word embedding based clustering method for twitter classification. SoutheastCon
2017, Charlotte, NC, 2017, pp. 1-7, doi: 10.1109/SECON.2017.7925400.

Dainton, M., & Zelley, E. D. (2017). Applying communication theory for professional life: A
practical introduction. SAGE Publications.

Copyright Por-n29p3 -un Prajaknate

Daniel, J. (2011). Sampling essentials: Practical guidelines for making sampling choices. SAGE
Publications.

Davis, C. S. (2016). Focus groups: Applying communication theory through design, facilitation,
and analysis. Taylor & Francis.

Dehlin, J. M., Stillwagon, R., Pickett, J., Keene, L., & Schneider, J. A. (2019). # PrEP4Love: An
evaluation of a sex-positive HIV prevention campaign. JMIR Public Health and
Surveillance, 5(2), e12822.

DiCicco-Bloom, B., & Crabtree, B. F. (2006). The qualitative research interview. Medical
education, 40(4), 314-321. https://doi.org/10.1111/j.1365-2929.2006.02418.x

Diehl, F. S. (2020). An evaluation of social marketing delivery modes aimed at teen
smartphone use while driving behavior: An application of the theory of planned
behavior. Indiana University of Pennsylvania.

DIGIDAMIN. (2020). Social Media marketing: Complete tutorial 2020. DIGIDAMIN.

Diviani, N., Zanini, C., Amann, J., Chadha, S., Cieza, A., & Rubinelli, S. (2019). Awareness,
attitudes, and beliefs about music-induced hearing loss: Towards the development
of a health communication strategy to promote safe listening. Patient education
and counseling, 102(8), 1506-1512.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.pec.2019.03.013

Donsbach, W. (2015). The concise encyclopedia of communication. Wiley.

Doorley, J., & Garcia, H. F. (2020). Reputation management: The key to successful public
relations and corporate communication. Taylor & Francis.

Dowshen, N., Lee, S., Matty Lehman, B., Castillo, M., & Mollen, C. (2015). IknowUshould2:
Feasibility of a youth-driven social media campaign to promote STI and HIV testing
among adolescents in Philadelphia. AIDS and behavior, 19 Suppl 2(0 2), 106-111.
https://doi.org/10.1007/s10461-014-0991-9

Drager, K. (2018). Experimental research methods in sociolinguistics. Bloomsbury Publishing.

Duffy, A., Faurholt-Jepsen, M., & Ostacher, M. (2020). Using big data to advance mental
health research. Evidence Based Mental Health, 23(1), 1.
https://doi.org/10.1136/ebmental-2020-300143

Copyright Por-n29p4 -un Prajaknate

Dugdill, L., Crone, D., & Murphy, R. (2009). Physical activity and health promotion: Evidence-
based approaches to practice. Wiley.

Dumbrell, D., & Steele, R. (2015). #worldhealthday 2014: The anatomy of a global public
health Twitter campaign. 2015 48th Hawaii International Conference on System
Sciences.

Eagle, W. (2019). YouTube marketing for dummies. Wiley.

Edlin, G., Golanty, E., & Brown, K. M. C. (2000). Essentials for health and wellness. Jones and
Bartlett.

Facebook for Business. (2020). Facebook ads manager. Facebook.
https://www.facebook.com/business/tools/ads-manager

Fadda, M., Galimberti, E., Fiordelli, M., Romanò, L., Zanetti, A., & Schulz, P. J. (2017).
Effectiveness of a smartphone app to increase parents' knowledge and
empowerment in the MMR vaccination decision: A randomized controlled trial.
Human Vaccines & Immunotherapeutics, 13(11), 2512-2521.
https://doi.org/10.1080/21645515.2017.1360456

Ferrer, D. A., & Ellis, R. (2017). A review of physical activity interventions delivered via
Facebook. Journal of Physical Activity and Health, 14(10), 823-833.

Fertman, C. I., Allensworth, D. D., & Education, S. P. H. (2010). Health promotion programs:
From theory to practice. Wiley.

Fimberg K., Sousa S. (2020) The Impact of Website Design on Users’ Trust Perceptions. In:
Markopoulos E., Goonetilleke R., Ho A., Luximon Y. (eds)., Advances in Creativity,
Innovation, Entrepreneurship and Communication of Design. AHFE 2020. Advances
in Intelligent Systems and Computing, vol 1218. Springer, Cham.
https://doi.org/10.1007/978-3-030-51626-0_34

Finkelstein, J., Zhang, F., Levitin, S. A., & Cappelli, D. (2020). Using big data to promote
precision oral health in the context of a learning healthcare system. Journal of
Public Health Dentistry, 80(S1), S43-S58. https://doi.org/10.1111/jphd.12354

Fishbein, M., & Ajzen, I. (2011). Predicting and changing behavior: The reasoned action
approach. Taylor & Francis.

Fitton, L., Hussain, A., & Leaning, B. (2014). Twitter for dummies. Wiley.

Copyright Por-n29p5 -un Prajaknate

Flores, L. (2013). How to measure digital marketing: Metrics for assessing impact and
designing success. Palgrave Macmillan UK.

Fowler, F. J. (2013). Survey research methods. SAGE Publications.

Freberg, K. (2018). Social media for strategic communication: Creative strategies and
research-based applications. SAGE Publications.

Freepik. มปป. People vector [vector]. Freepik. <a href='https://www.freepik.com/free-photos-

French, J. (2017). Social marketing and public health: Theory and practice. Oxford University
Press.

French, J., & Gordon, R. (2019). Strategic social marketing: For behaviour and social change.
SAGE Publications.

Gannon, B., Davis, R., Kuhns, L. M., Rodriguez, R. G., Garofalo, R., & Schnall, R. (2020). A
mobile sexual health app on empowerment, education, and prevention for young
adult men (MyPEEPS mobile): Acceptability and usability evaluation. JMIR Formative
Research, 4(4), e17901.

Gass, R. H., & Seiter, J. S. (2018). Persuasion: Social influence and compliance gaining. Taylor
& Francis.

Germain, M. L. (2019). Integrating service-learning and consulting in distance education.
Emerald Publishing Limited.

Gerrish, K., & Lacey, A. (2010). The research process in nursing. John Wiley & Sons.

Godfrey, D. M., & Feng, P. (2017). Communicating sustainability: student perceptions of a
behavior change campaign. International Journal of Sustainability in Higher
Education, 18(1), 2-22. https://doi.org/10.1108/IJSHE-01-2015-0009

Gordon, R. (2012). Re-thinking and re-tooling the social marketing mix. Australasian Marketing
Journal, 20, 122-126.

Gorin, S. S., & Arnold, J. (2008). Health promotion in practice. Wiley.

Gough, A., Hunter, R. F., Ajao, O., Jurek, A., McKeown, G., Hong, J., Barrett, E., Ferguson, M.,
McElwee, G., McCarthy, M., & Kee, F. (2017). Tweet for behavior change: Using social
media for the dissemination of public health messages. JMIR Public Health
Surveillance, 3(1), e14. https://doi.org/10.2196/publichealth.6313

Copyright Por-n29p6 -un Prajaknate

Green, J., & Thorogood, N. (2004). Qualitative methods for health research. SAGE
Publications.

Green, L., & Kreuter, M. (2005). The Precede-Proceed model of health program planning and
evaluation. Health promotion planning: An educational and ecological approach
(4ht ed.). McGraw-Hill.

Grodner, M., Escott-Stump, S., & Dorner, S. (2015). Nutritional foundations and clinical
applications - E-Book: A nursing approach. Elsevier Health Sciences.

Groves, R. M., Fowler, F. J., Couper, M. P., Lepkowski, J. M., Singer, E., & Tourangeau, R. (2011).
Survey methodology. Wiley.

Grow, A., Perrotta, D., Del Fava, E., Cimentada, J., Rampazzo, F., Gil-Clavel, S., & Zagheni, E.
(2020, May 30). Addressing Public Health Emergencies via Facebook Surveys:
Advantages, Challenges, and Practical Considerations.
https://doi.org/10.31235/osf.io/ez9pb

Gubrium, J. F., Holstein, J. A., Marvasti, A. B., & McKinney, K. D. (2012). The SAGE handbook of
interview research: The complexity of the craft. SAGE Publications.

Guest, G., Namey, E. E., & Mitchell, M. L. (2013). Collecting qualitative data: A field manual
for applied research. SAGE Publications.

Guttman, N., Lev, E., Segev, E., Ayecheh, S., Ziv, L., Gadamo, F., Dayan, N., & Yavetz, G. (2017).
“I never thought I could get health information from the Internet!”: Unexpected
uses of an Internet website designed to enable Ethiopian immigrants with low/no
literacy skills to browse health information. New Media & Society, 20(7), 2272-2295.
https://doi.org/10.1177/1461444817712937

Hagger, M. S., Chan, D. K. C., Protogerou, C., & Chatzisarantis, N. L. D. (2016). Using meta-
analytic path analysis to test theoretical predictions in health behavior: An
illustration based on meta-analyses of the theory of planned behavior. Preventive
Medicine, 89, 154-161. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.ypmed.2016.05.020

Haigh, P. (2010). Social network websites: Their benefits and risks [eBook]. Optimus
Education eBooks.

Hansen, E. C. (2020). Successful qualitative health research: A practical introduction. Taylor
& Francis.

Copyright Por-n29p7 -un Prajaknate

Harari, P., & Legge, K. (2001). Psychology and health. Pearson Education.

Harrington, N. G. (2014). Health communication: Theory, method, and application. Taylor &
Francis.

Harris, J. K., Moreland-Russell, S., Choucair, B., Mansour, R., Staub, M., & Simmons, K. (2014).
Tweeting for and against public health policy: Response to the Chicago Department
of Public Health's Electronic Cigarette Twitter Campaign. Journal of Medical Internet
Research, 16(10), e238. https://doi.org/10.2196/jmir.3622

Haslam, K., Doucette, H., Hachey, S., MacCallum, T., Zwicker, D., Smith-Brilliant, M., & Gilbert,
R. (2019). YouTube videos as health decision aids for the public: An integrative
review. Canadian Journal of Dental Hygiene, 53(1).

Hawkins, J. (2019). Facebook fanpage profits: Learn how to drive traffic to And monetize
your Facebook fan page. Scribl.

Haydon, J. (2014). Facebook marketing For dummies. Wiley.

Healy, S., & Marchand, G. (2020). The feasibility of Project CHASE: A Facebook-delivered,
parent-mediated physical activity intervention for children with Autism.
International Journal of Disability, Development and Education, 67(2), 225-242.

Hootsuite. (2020). Digital 2020 april global statshot report [eBook edition]. Hootsuite.
https://datareportal.com/reports/digital-2020-april-global-statshot

Hootsuite. (2020). Digital 2020 global statshot report [eBook edition]. Hootsuite.
https://wearesocial.com/digital-2020

Hoyer, W. D., MacInnis, D. J., & Pieters, R. (2016). Consumer behavior. Cengage Learning.

https://twitter.com/WHO

Huang, Y., Benford, S., Price, D., Patel, R., Li, B., Ivanov, A., & Blake, H. (2020). Using internet of
things to reduce office workers’ sedentary behavior: Intervention development
applying the behavior change wheel and human-centered design approach [Original
Paper]. JMIR Mhealth Uhealth, 8(7), e17914. https://doi.org/10.2196/17914

Hughes, C. T., Kirtz, S., Ramondetta, L. M., Lu, Q., Cho, D., Katzin, C., & Kahlor, L. A. (2020).
Designing and Implementing an educational social media campaign to increase HPV

Copyright Por-n29p8 -un Prajaknate

vaccine awareness among men on a large college campus. American Journal of
Health Education, 51(2), 87-97. https://doi.org/10.1080/19325037.2020.1722297

Hyun, C., McMenamin, J., Ko, O., & Kim, S. (2020). Efficacy of a mobile texting app (HepTalk)
in encouraging patient participation in viral hepatitis B care: Development and
cohort study. JMIR Mhealth Uhealth, 8(4), e15098. https://doi.org/10.2196/15098

Iacobucci, D. (2016). Marketing management. Cengage Learning.

International Social Marketing Association (ISMA). (2013). Consensus definition of social
marketing. http://isma.memberclicks.net/assets/social_marketing_definition.pdf

Istepanian, R. S. H., & Lacal, J. C. (2003, 17-21 Sept. 2003). Emerging mobile communication
technologies for health: some imperative notes on m-health. Proceedings of the
25th Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and
Biology Society (IEEE Cat. No.03CH37439),

Jackson, T., & Deckers, E. (2013). The owned media doctrine: Marketing operations theory,
strategy, and execution for the 21st century real-time brand. Archway Publishing.

Jacobsen, K. H. (2016). Introduction to health research methods. Jones & Bartlett Learning.

Jeihooni, A. K., Hidarnia, A., Kaveh, M. H., Hajizadeh, E., & Askari, A. (2016). Application of the
health belief model and social cognitive theory for osteoporosis preventive
nutritional behaviors in a sample of Iranian women. Iranian Journal of Nursing and
Midwifery Research, 21(2), 131.

Johnson, S. (2020). Social Media Marketing 2020: Secret strategies for advertising your
business and personal brand on Instagram, YouTube, Twitter, And Facebook. A
guide to being an influencer of millions In 2020. Andrea Astemio.

Jones, R., Lacroix, L. J., & Porcher, E. (2017). Facebook advertising to recruit young, urban
women into an HIV prevention clinical trial. AIDS and Behavior, 21(11), 3141-3153.

Jordan, S. E., Hovet, S. E., Fung, I. C.-H., Liang, H., Fu, K.-W., & Tse, Z. T. H. (2019). Using
Twitter for public health surveillance from monitoring and prediction to public
response. Data, 4(1), 6.

Juska, J. M. (2017). Integrated marketing communication: Advertising and promotion in a
digital world. Taylor & Francis.

Copyright Por-n29p9 -un Prajaknate

Kang, E., Lee, J., Kim, K. H., & Yun, Y. H. (2020). The popularity of eating broadcast: Content
analysis of “mukbang” YouTube videos, media coverage, and the health impact of
“mukbang” on public. Health Informatics Journal, 1460458220901360.
https://doi.org/10.1177/1460458220901360

Karami, A., Dahl, A. A., Turner-McGrievy, G., Kharrazi, H., & Shaw Jr, G. (2018). Characterizing
diabetes, diet, exercise, and obesity comments on Twitter. International Journal of
Information Management, 38(1), 1-6.

Kaschny, M., & Nolden, M. (2018). Innovation and transformation: Basics, implementation
and optimization. Springer International Publishing.

Keaver, L., McGough, A., Du, M., Chang, W., Chomitz, V., Allen, J. D., Attai, D. J., Gualtieri, L., &
Zhang, F. F. (2019). Potential of using Twitter to recruit cancer survivors and their
willingness to participate in nutrition research and web-based interventions: A cross-
sectional study. JMIR Cancer, 5(1), e7850. https://doi.org/10.2196/cancer.7850

Keles, B., McCrae, N., & Grealish, A. (2020). A systematic review: the influence of social media
on depression, anxiety and psychological distress in adolescents. International
Journal of Adolescence and Youth, 25(1), 79-93.
https://doi.org/10.1080/02673843.2019.1590851

Kelly-Hedrick, M., Grunberg, P. H., Brochu, F., & Zelkowitz, P. (2018). “It’s totally okay to be
sad, but never lose hope”: Content analysis of infertility-related videos on YouTube
in relation to viewer preferences. Journal of Medical Internet Research, 20(5),
e10199. https://doi.org/10.2196/10199

Khan, Y., Leung, G. J., Belanger, P., Gournis, E., Buckeridge, D. L., Liu, L., Li, Y., & Johnson, I. L.
(2018). Comparing Twitter data to routine data sources in public health surveillance
for the 2015 Pan/Parapan American Games: An ecological study. Canadian Journal
of Public Health, 109(3), 419-426.

Khatri, P., Singh, S. R., Belani, N. K., Yeong, Y. L., Lohan, R., Lim, Y. W., & Teo, W. Z. Y. (2020).
YouTube as source of information on 2019 novel coronavirus outbreak: a cross
sectional study of English and Mandarin content. Travel Medicine and Infectious
Disease, 35, 101636. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.tmaid.2020.101636

Khuroo, M. S., Khuroo, M., Khuroo, M. S., Sofi, A. A., & Khuroo, N. S. (2020). COVID-19
vaccines: A race against time in the middle of death and devastation!. Journal of

Copyright Pornpun Prajaknate- 300 -

Clinical and Experimental Hepatology.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.jceh.2020.06.003

Kite, J., Foley, B. C., Grunseit, A. C., & Freeman, B. (2016). Please like me: Facebook and
public health communication. PloS One, 11(9), e0162765.

Klassen, K. M., Borleis, E. S., Brennan, L., Reid, M., McCaffrey, T. A., & Lim, M. S. C. (2018).
What people “Like”: Analysis of social media strategies used by food industry
brands, lifestyle brands, and health promotion organizations on Facebook and
Instagram. Journal of Medical Internet Research, 20(6), e10227.
https://doi.org/10.2196/10227

Kosinski, M., Matz, S. C., Gosling, S. D., Popov, V., & Stillwell, D. (2015). Facebook as a
research tool for the social sciences: Opportunities, challenges, ethical
considerations, and practical guidelines. American Psychologist, 70(6), 543.

Kotler, P., & Lee, N. (2008). Social marketing: Influencing behaviors for good. Sage
Publications.

Kreps, G. L. (2020). The value of health communication scholarship: New directions for
health communication inquiry. International Journal of Nursing Sciences.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.ijnss.2020.04.007

Kreps, G. L., & Bonaguro, E. W. (2009). Health communication as applied communication
inquiry. In Teresa L. Thompson, Roxanne Parrott, Jon F. Nussbaum (Eds.), Routledge
handbook of applied communication research (380-404). Routledge.

Kreps, G. L., & Kunimoto, E. N. (1994). Effective communication in multicultural health care
settings. SAGE Publications.

Kupzyk, K. A., Pozehl, B., Pullen, C. H., & Hageman, P. A. (2020). Behavior-specific cognitions
moderate rural women's responsiveness to web-based interventions for weight loss.
Journal of Nutrition Education and Behavior, 52(5), 474-482.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.jneb.2020.02.003

Kushali, R., & Brundha, M. P. (2020). Prevalence and awareness on computer vision syndrome
among individuals in information technology [Article]. Drug Invention Today, 14(3),
416-419.

Copyright Por-n30p1 -un Prajaknate

Lai, B., Ismagilova, E., Dwlvedi, Y. K., & Kwayu, S. (2019). Return on investment in social
media marketing: Literature review and suggestions for future research. Springer
International Publishing.

Lamprinakos, G. C., Mousas, A. S., Kapsalis, A. P., Kaklamani, D. I., Venieris, I. S., Boufis, A. D.,
Karmiris, P. D., & Mantzouratos, S. G. (2014). Using FHIR to develop a healthcare
mobile application. 2014 4th international conference on wireless mobile
communication and healthcare-transforming healthcare through innovations in
mobile and wireless technologies (MOBIHEALTH),

Larsen, B., Benitez, T., Cano, M., Dunsiger, S. S., Marcus, B. H., Mendoza-Vasconez, A., Sallis, J.
F., & Zive, M. (2018). Web-based physical activity intervention for Latina
adolescents: feasibility, acceptability, and potential efficacy of the Niñas Saludables
Study. Journal of Medical Internet Research, 20(5), e170.
https://doi.org/10.2196/jmir.9206

Lee, E. W. J., & Viswanath, K. (2020). Big data in context: Addressing the twin perils of data
absenteeism and chauvinism in the context of health disparities research. Journal
of Medical Internet Research, 22(1), e16377. https://doi.org/10.2196/16377

Lee, K. C., Oh, H.-K., Park, G., Park, S., Suh, B., Bae, W. K., Kim, J. W., Yoon, H., Kim, M. J., Kang,
S.-I., Son, I. T., Kim, D.-W., & Kang, S.-B. (2016). Transmissibility of the campaign for
Colorectal cancer awareness in Korea among Twitter users. Annals of
Coloproctology, 32(5), 184-189. https://doi.org/10.3393/ac.2016.32.5.184

Lee, N. R., & Kotler, P. (2019). Social marketing: behavior change for social good. SAGE
Publications.

Leek, S., Houghton, D., & Canning, L. (2019). Twitter and behavioral engagement in the
healthcare sector: An examination of product and service companies. Industrial
Marketing Management, 81, 115-129.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.indmarman.2017.10.009

Lenoir, P., Moulahi, B., Azé, J., Bringay, S., Mercier, G., & Carbonnel, F. (2017). Raising
awareness about cervical cancer using Twitter: Content analysis of the 2015
#SmearForSmear Campaign. Journal of Medical Internet Research, 19(10), e344.
https://doi.org/10.2196/jmir.8421

Copyright Por-n30p2 -un Prajaknate

Leong, A. Y., Sanghera, R., Jhajj, J., Desai, N., Jammu, B. S., & Makowsky, M. J. (2018). Is
YouTube useful as a source of health information for adults with type 2 diabetes? A
South Asian perspective. Canadian Journal of Diabetes, 42(4), 395-403. e394.

Leyva, A., & Law, N. (2015). Facebook marketing for small business: Easy strategies to
engage your Facebook community. Callisto Media Inc.

Lin, C.-Y., Broström, A., Årestedt, K., Mårtensson, J., Steinke, E. E., & Pakpour, A. H. (2020).
Using extended theory of planned behavior to determine factors associated with
help-seeking behavior of sexual problems in women with heart failure: a
longitudinal study. Journal of Psychosomatic Obstetrics & Gynecology, 41(1), 54-61.

Lin, H., Wang, X., Luo, X., & Qin, Z. (2019). A management program for preventing
occupational blood-borne infectious exposure among operating room nurses: an
application of the Precede-Proceed model. Journal of International Medical
Research, 48(1), 0300060519895670. https://doi.org/10.1177/0300060519895670 .

Liu, X., Liu, C., Liu, G., Luo, W., & Xia, N. (2020). COVID-19: Progress in diagnostics, therapy
and vaccination. Theranostics, 10(17), 7821-7835.
https://doi.org/10.7150/thno.47987

Livingston, B. (2010). Using web 2.0 technologies. American Society for Training &
Development.

Loft, L. H., Pedersen, E. A., Jacobsen, S. U., Søborg, B., & Bigaard, J. (2020). Using Facebook to
increase coverage of HPV vaccination among Danish girls: An assessment of a Danish
social media campaign. Vaccine, 38(31), 4901–4908.
https://doi.org/10.1016/j.vaccine.2020.04.032

Logghe, H., Pellino, G., Brady, R., McCoubrey, A., & Atallah, S. (2016). How Twitter has
connected the colorectal community. Techniques in Coloproctology, 20(12), 805-
809.

Lu, I. J. G. (2019). Help is just a click away: Social network sites and support for parents of
children with special needs. Vernon Art and Science Incorporated.

Lundgren, R. E., & McMakin, A. H. (2018). Risk communication: A handbook for
communicating environmental, safety, and health risks. Wiley.

Copyright Por-n30p3 -un Prajaknate

Luo, X., Gao, L., Li, J., Lin, Y., Zhao, J., & Li, Q. (2020). A critical literature review of dyadic
web-based interventions to support cancer patients and their caregivers, and
directions for future research. Psycho-Oncology, 29(1), 38-48.
https://doi.org/10.1002/pon.5278

Lupton, D. (2017). Digital health: Critical and cross-disciplinary perspectives. Taylor & Francis.

Lustria, M. L. A., Noar, S. M., Cortese, J., Van Stee, S. K., Glueckauf, R. L., & Lee, J. (2013). A
meta-analysis of web-delivered tailored health behavior change interventions.
Journal of Health Communication, 18(9), 1039-1069.
https://doi.org/10.1080/10810730.2013.768727

Madathil, K. C., Rivera-Rodriguez, A. J., Greenstein, J. S., & Gramopadhye, A. K. (2015).
Healthcare information on YouTube: a systematic review. Health Informatics
Journal, 21(3), 173-194.

Maibach, E. W., Kreps, G. L., & Bonaguro, E. W. (2002). Developing strategies communication
campaigns for HIV/AIDs prevention. Taylor & Francis.

Marsden, P. V., & Wright, J. D. (2010). Handbook of survey research. Emerald Group
Publishing Limited.

Martin, L. R., Haskard-Zolnierek, K. B., & DiMatteo, M. R. (2010). Health behavior change and
treatment adherence: Evidence-based guidelines for improving healthcare. Oxford
University Press.

Massett, H. A., Dilts, D. M., Bailey, R., Berktold, J., Ledsky, R., Atkinson, N. L., Mishkin, G.,
Denicoff, A., Padberg, R. M., Allen, M. P., Silver, K., Carrington, K., & Johnson, L. E.
(2017). Raising public awareness of clinical trials: Development of messages for a
National Health Communication Campaign. Journal of Health Communication,
22(5), 373-385. https://doi.org/10.1080/10810730.2017.1290715

Masterman, G., & Wood, E. (2007). Innovative marketing communications. Taylor & Francis.

Mathos, M., Norman, C., & Kanter, B. (2012). 101 Social media tactics for nonprofits: A field
guide. Wiley.

Maya, L. (2019). YouTube My Business. Publisher s21598.

McWay, D. C. (2013). Today's health information management: An integrated approach.
Cengage Learning.

Copyright Por-n30p4 -un Prajaknate

McWherter, J., & Gowell, S. (2012). Professional mobile application development. Wiley.

Meeroona. (2020). Gadgets that can change your life. Travel away.
https://travelaway.me/portable-health-gadgets/

Mejova, Y., Weber, I., & Fernandez-Luque, L. (2018). Online health monitoring using Facebook
advertisement audience estimates in the United States: Evaluation study. JMIR
Public Health Surveillance, 4(1), e30. https://doi.org/10.2196/publichealth.7217

Melia, R., Francis, K., Hickey, E., Bogue, J., Duggan, J., O'Sullivan, M., & Young, K. (2020).
Mobile health technology interventions for suicide prevention: systematic review.
JMIR MHealth and UHealth, 8(1), e12516.

Mendoza, J. A., Baker, K. S., Moreno, M. A., Whitlock, K., Abbey-Lambertz, M., Waite, A.,
Colburn, T., & Chow, E. J. (2017). A fitbit and Facebook mHealth intervention for
promoting physical activity among adolescent and young adult childhood cancer
survivors: A pilot study. Pediatric Blood & Cancer, 64(12), e26660.

Meng, J., Bissell, K. L., & Pan, P.-L. (2015). YouTube video as health literacy tool: A test of
body image campaign effectiveness. Health Marketing Quarterly, 32(4), 350-366.
https://doi.org/10.1080/07359683.2015.1093883

Meskó, B., Drobni, Z., Bényei, É., Gergely, B., & Győrffy, Z. (2017). Digital health is a cultural
transformation of traditional healthcare. MHealth, 3, 38-38.
https://doi.org/10.21037/mhealth.2017.08.07

Miller, N. H., & Taylor, C. B. (1995). Lifestyle management for patients with coronary heart
disease. Human Kinetics.

Milne-Ives, M., Lam, C., De Cock, C., Van Velthoven, M. H., & Meinert, E. (2020). Mobile apps
for health behavior change in physical activity, diet, drug and alcohol use, and
mental health: Systematic review. JMIR Mhealth Uhealth, 8(3), e17046.
https://doi.org/10.2196/17046

Moazzami, Z., Dehdari, T., Taghdise, M. H., & Soltanian, A. (2017). Chapter 6 article: Effect of
an ergonomics-based educational intervention based on Transtheoritical model in
adopting correct body posture among operating room nurse. In Hayden (Ed.),
Introduction to health behavior theory. Jones & Bartlett Learning.

Copyright Por-n30p5 -un Prajaknate

Mohammadi, E., Gregory, K. B., Thelwall, M., & Barahmand, N. (2020). Which health and
biomedical topics generate the most Facebook interest and the strongest citation
relationships?. Information Processing & Management, 57(3), 102230.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.ipm.2020.102230

Mohanty, S., Leader, A. E., Gibeau, E., & Johnson, C. (2018). Using Facebook to reach
adolescents for human papillomavirus (HPV) vaccination. Vaccine. 36(40), 5955-
5961. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.vaccine.2018.08.060

Mohr, J. J., Sengupta, S., & Slater, S. F. (2010). Marketing of high-technology products and
innovations. Prentice Hall.

Montaño, D. E., & Kasprzyk, D. (2015). Theory of reasoned action, Theory of planned
behavior, and the integrated behavioral model. Health behavior: theory, research
and practice, 70(4), 231.

Moonie, N. (2000). Advanced health and social care. Heinemann Educational.

Moore, J. (2012). The benefits of mobile apps for patients and providers. British Journal of
Healthcare Management, 18(9), 465-467.

Moorhead, S. A., Hazlett, D. E., Harrison, L., Carroll, J. K., Irwin, A., & Hoving, C. (2013). A new
dimension of health care: Systematic review of the uses, benefits, and limitations of
social media for health communication [review]. Journal Medical Internet Research,
15(4), e85. https://doi.org/10.2196/jmir.1933

Moorhead, S. A., Hazlett, D. E., Harrison, L., Carroll, J. K., Irwin, A., & Hoving, C. (2013). A new
dimension of health care: Systematic review of the uses, benefits, and limitations of
social media for health communication [Review]. Journal of Medical Internet
Research, 15(4), e85. https://doi.org/10.2196/jmir.1933

Morris, A. (2015). A practical introduction to in-depth interviewing. SAGE Publications.

Mowat, J. (2018). Video marketing strategy: Harness the power of online video to drive
brand growth. Kogan Page.

Murphy, A. L., Peltekian, S., & Gardner, D. M. (2018). Website analytics of a google ads
campaign for a men’s mental health website: Comparative analysis. JMIR Mental
Health, 5(4), e12428. https://doi.org/10.2196/12428

Copyright Por-n30p6 -un Prajaknate

Myrick, J. G. (2015). The role of emotions in preventative health communication. Lexington
Books.

Naidoo, J., & Wills, J. (2009). Foundations for health promotion E-Book. Elsevier Health
Sciences.

Nakhornriab, S., Wattanakitkrileart, D., Charoenkitkarn, V., Chotikanuchit, S., & Vanijja, V.
(2017). The effectiveness of mobile application on medication adherence in
patients with stroke. Nursing Science Journal of Thailand, 35(3), 58-69.

Namkoong, K., Nah, S., Record, R. A., & Van Stee, S. K. (2017). Communication, reasoning, and
planned behaviors: Unveiling the effect of interactive communication in an anti-
smoking social media campaign. Health Communication, 32(1), 41-50.
https://doi.org/10.1080/10410236.2015.1099501

Narayanan, V. K., & O'Connor, G. C. (2010). Encyclopedia of technology and innovation
management. Wiley.

Naslund, J. A., Aschbrenner, K. A., Marsch, L. A., & Bartels, S. J. (2016). Feasibility and
acceptability of Facebook for health promotion among people with serious mental
illness. Digital Health, https://doi.org/10.1177/2055207616654822.

Neiger, B. L., Thackeray, R., Van Wagenen, S. A., Hanson, C. L., West, J. H., Barnes, M. D., &
Fagen, M. C. (2012). Use of social media in health promotion: Purposes, key
performance indicators, and evaluation metrics. Health Promotion Practice, 13(2),
159-164. https://doi.org/10.1177/1524839911433467

Nelson, R., Joos, I. M., Joos, I., & Wolf, D. M. (2012). Social media for nurses: Educating
practitioners and patients in a networked world. Springer Publishing Company.

Nezis, I., Biskos, G., Eleftheriadis, K., & Kalantzi, O.-I. (2019). Particulate matter and health
effects in offices - A review. Building and Environment, 156, 62-73.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.buildenv.2019.03.042

Nguyen, J., Gilbert, L., Priede, L., & Heckman, C. (2019). The Reach of the “Don’t Fry Day”
Twitter campaign: Content analysis. JMIR Dermatol, 2(1), e14137.
https://doi.org/10.2196/14137

Noman, M., Koo, A. C., Tee, S. H., & Krishnan, M. (2020). Web elements for health promotion
in Malaysia. Health Promotion International, 35(3), 458-469.

Copyright Por-n30p7 -un Prajaknate

Novillo-Ortiz, D., De Fátima Marin, H., & Saigí-Rubió, F. (2018). The role of digital health in
supporting the achievement of the Sustainable Development Goals (SDGs).
International Journal of Medical Informatics, 114, 106-107.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.ijmedinf.2018.03.011

Nurudeen, T. O. S. O. N. A. (2020). Indigenous language media and communication for health
purposes in the digital age. In K. O. Oyesomi, Salawu, Abiodun (Ed.), Innovation in
community-based private practices through eHealth: A business management
perspective. Springer International Publishing.

Nykanen, P. (2008). eHealth system, their use and visions for the future. In D. Parry & E. Parry
(Eds.), Medical Informatics in Obstetrics and Gynecology. IGI Global.

O'Connor, M. I., Brennan, K., Kazmerchak, S., & Pratt, J. (2016). YouTube videos to create a
“virtual hospital experience” for hip and knee replacement patients to decrease
preoperative anxiety: A randomized trial. Interactive Journal of Medical Research,
5(2), e10. https://doi.org/10.2196/ijmr.4295

O'Neil, I. (2019). Digital health promotion: A critical introduction. Wiley.

Obamiro, K., West, S., & Lee, S. (2020). Like, comment, tag, share: Facebook interactions in
health research. International Journal of Medical Informatics, 137, 104097.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.ijmedinf.2020.104097.

Obregon, R., & Waisbord, S. (2012). The handbook of global health communication. Wiley.

Oesterle, S., Epstein, M., Haggerty, K. P., & Moreno, M. A. (2018). Using Facebook to recruit
parents to participate in a family program to prevent teen drug use. Prevention
Science, 19(4), 559-569. https://doi.org/10.1007/s11121-017-0844-7.

Oyebode O., Ndulue C., Alhasani M., Orji R. (2020). Persuasive Mobile Apps for Health and
Wellness: A Comparative Systematic Review. In: Gram-Hansen S., Jonasen T.,
Midden C. (eds) Persuasive Technology. Designing for Future Change. PERSUASIVE
2020. Lecture Notes in Computer Science, vol 12064. Springer, Cham.
https://doi.org/10.1007/978-3-030-45712-9_13.

Özbebek Tunç, A., & Aslan, P. (2019). Business management and communication
perspectives in industry 4.0. IGI Global.

Copyright Por-n30p8 -un Prajaknate

Paisley, W., & Atkin, C. K. (2013). Public communication campaigns-The American experience.
In R. E. Rice & C. K. Atkin (Eds.), Public communication campaigns. SAGE
Publications.

Palmatier, R. W., & Steinhoff, L. (2019). Relationship marketing in the digital Age. Taylor &
Francis.

Pandey, A., Patni, N., Singh, M., Sood, A., & Singh, G. (2010). YouTube as a source of
information on the H1N1 influenza pandemic. American Journal of Preventive
Medicine, 38(3), e1-e3.

Parackal, M., Parackal, S., Eusebius, S., & Mather, D. (2017). The use of Facebook advertising
for communicating public health messages: A campaign against drinking during
pregnancy in New Zealand. JMIR Public Health and Surveillance, 3(3), e49.
https://doi.org/10.2196/publichealth.7032

Park, B. K., Nahm, E.-S., & Rogers, V. E. (2016). Development of a teen-friendly health
education program on Facebook: Lessons learned. Journal of Pediatric Health Care,
30(3), 197-207. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.pedhc.2015.06.011

Park, D. Y., & Goering, E. M. (2016). The health-related uses and gratifications of YouTube:
Motive, cognitive involvement, online activity, and sense of empowerment. Journal
of Consumer Health on the Internet, 20(1-2), 52-70.
https://doi.org/10.1080/15398285.2016.1167580

Park, H., Reber, B. H., & Chon, M.-G. (2016). Tweeting as health communication: health
organizations’ use of Twitter for health promotion and public engagement. Journal
of Health Communication, 21(2), 188-198.

Pattanapongsa, T., Jiamjarasrangsi, W., Hanvoravongchai, P., & Pekthong, D. (2019).
Effectiveness of social media for weight reduction on overweight undergraduate
students in Thailand. Journal of Health Research, 34(2), 90-99.
https://doi.org/10.1108/JHR-03-2019-0044.

Patton, M. Q., & Fund, R. E. C. M. (2002). Qualitative research & evaluation methods. SAGE
Publications.

Copyright Por-n30p9 -un Prajaknate

Pauwels, L., & Hellriegel, P. (2009). Strategic and tactical uses of internet design and
infrastructure: the case of YouTube. Journal of Visual Literacy, 28(1), 51-69.
https://doi.org/10.1080/23796529.2009.11674659.

Pedersen, E. R., & Kurz, J. (2016). Using Facebook for Health-related Research Study
Recruitment and Program Delivery. Current Opinion in Psychology, 9, 38-43.
https://doi.org/10.1016/j.copsyc.2015.09.011.

Peng, Y., Pei, C., Zheng, Y., Wang, J., Zhang, K., Zheng, Z., & Zhu, P. (2020). Knowledge,
attitude and practice associated with COVID-19 among university students: a cross-
sectional survey in China.

Perrault, E. K., Hildenbrand, G. M., Loew, T. F., & Evans, W. G. (2020). Evaluation of a
university’s smart partying social norms campaign including emoji-style messaging.
Journal of Communication in Healthcare, 13(1), 35-45.
https://doi.org/10.1080/17538068.2020.1753471

Pershad, Y., Hangge, P. T., Albadawi, H., & Oklu, R. (2018). Social medicine: Twitter in
healthcare. Journal of Clinical Medicine, 7(6), 121.

Pires, I. M., Marques, G., Garcia, N. M., Flórez-Revuelta, F., Ponciano, V., & Oniani, S. (2020). A
research on the classification and applicability of the mobile health applications.
Journal of Personalized Medicine, 10(1), 11.

Polgar, S., & Thomas, S. A. (2011). Introduction to research in the health sciences E-Book.
Elsevier Health Sciences.

Pope, Z. C., Zeng, N., Zhang, R., Lee, H. Y., & Gao, Z. (2018). Effectiveness of combined
smartwatch and social media intervention on breast cancer survivor health
outcomes: a 10-week pilot randomized trial. Journal of Clinical Medicine, 7(6), 140.

Pope, Z., Lee, J. E., Zeng, N., Lee, H. Y., & Gao, Z. (2019). Feasibility of smartphone
application and social media intervention on breast cancer survivors’ health
outcomes. Translational behavioral medicine, 9(1), 11-22.

Porter, C. M. (2015). Revisiting Precede–Proceed: A leading model for ecological and ethical
health promotion. Health Education Journal, 75(6), 753-764.
https://doi.org/10.1177/0017896915619645

Copyright Por-n31p0 -un Prajaknate

Postolache, G., Carry, F., Lourenco, F., Ferreira, D., Oliveira, R., Girao, P. S., & Postolache, O.
(2018). Serious gams based on kinect and leap motion controller for upper limbs
physical rehabilitation. Springer International Publishing.

Prochaska, J. O. (2008). Decision making in the Transtheoretical model of behavior change.
Medical Decision Making, 28(6), 845-849. https://doi.org/10.1177/0272989X08327068

Prochaska, J. O., & Marcus, B. H. (1994). The transtheoretical model: Applications to exercise.
In R. K. Dishman (Ed.), Advances in exercise adherence (p. 161–180). Human Kinetics
Publishers.

Prochaska, J. O., & Prochaska, J. M. (2016). Changing to thrive: Using the stages of change to
overcome the top threats to your health and happiness. Hazelden Publishing.

Prochaska, J. O., & Prochaska, J. M. (2019). Transtheoretical model. In J. M. Rippe (Ed.),
Lifestyle medicine, Third Edition. CRC Press.

Prochaska, J. O., & Velicer, W. F. (1997). The transtheoretical model of health Behavior
change. American Journal of Health Promotion, 12(1), 38-48.
https://doi.org/10.4278/0890-1171-12.1.38.

Prochaska, J. O., Johnson, S., & Lee, P. (Eds.). (1998). The transtheoretical model of behavior
change. Springer Publishing Co.

Prochaska, J. O., Redding, C. A., & Evers, K. E. (2015). The transtheoretical model and stages
of change. In K. Glanz, B. K. Rimer, & K. "V." Viswanath (Eds.), Health behavior:
Theory, research, and practice (p. 125–148). Jossey-Bass/Wiley.

Prybutok, G. (2013). YouTube: An effective web 2.0 informing channel for health education
to prevent STDs. Informing Science: The International Journal of an Emerging
Transdiscipline, 16, 19-36.

Quesenberry, K. A. (2015). Social media strategy: Marketing and advertising in the consumer
revolution. Rowman & Littlefield Publishers.

Ramo, D. E., Thrul, J., Delucchi, K. L., Ling, P. M., Hall, S. M., & Prochaska, J. J. (2015). The
tobacco status project (TSP): Study protocol for a randomized controlled trial of a
Facebook smoking cessation intervention for young adults. BMC Public Health,
15(1), 897. https://doi.org/10.1186/s12889-015-2217-0

Copyright Por-n31p1 -un Prajaknate

Ramo, D. E., Thrul, J., Delucchi, K. L., Ling, P. M., Hall, S. M., & Prochaska, J. J. (2015). The
Tobacco Status Project (TSP): Study protocol for a randomized controlled trial of a
Facebook smoking cessation intervention for young adults. BMC Public Health,
15(1), 897. https://doi.org/10.1186/s12889-015-2217-0

Rankin, S. H., Stallings, K. D., & London, F. (2005). Patient education in health and illness.
Lippincott Williams & Wilkins.

Ratz, T., Lippke, S., Muellmann, S., Peters, M., Pischke, C. R., Meyer, J., Bragina, I., & Voelcker-
Rehage, C. (2020). Effects of two web-based interventions and mediating
mechanisms on stage of change regarding physical activity in older adults. Applied
Psychology: Health and Well-Being, 12(1), 77-100.
https://doi.org/10.1111/aphw.12174

Reisner, S. L., Randazzo, R. K., White Hughto, J. M., Peitzmeier, S., DuBois, L. Z., Pardee, D. J.,
Marrow, E., McLean, S., & Potter, J. (2018). Sensitive health topics with underserved
patient populations: Methodological considerations for online focus group
discussions. Qualitative Health Research, 28(10), 1658-1673.
https://doi.org/10.1177/1049732317705355

Rich, J. R. (2013). Ultimate Guide to YouTube for Business. Entrepreneur Press.

Rinehart, D. J., Leslie, S., Durfee, M. J., Stowell, M., Cox-Martin, M., Thomas-Gale, T., Shlay, J.
C., & Havranek, E. P. (2020). Acceptability and efficacy of a sexual health texting
intervention designed to support adolescent females. Academic Pediatrics, 20(4),
475-484. https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.acap.2019.09.004

Rodríguez-Martínez, M., & Garzón-Alfonso, C. C. (2018). Twitter Health Surveillance (THS)
System. Proceedings : ... IEEE International Conference on Big Data. IEEE
International Conference on Big Data, 2018, 1647–1654.
https://doi.org/10.1109/BigData.2018.8622504

Romer, D., Jamieson, P. E., Jamieson, K. H., Jones, C., & Sherr, S. (2017). Counteracting the
influence of peer smoking on YouTube. Journal of Health Communication, 22(4),
337-345. https://doi.org/10.1080/10810730.2017.1290164

Rootman, I., Goodstadt, M., & World Health Organization. (2001). Evaluation in health
promotion: Principles and perspectives. World Health Organization, Europe.

Copyright Por-n31p2 -un Prajaknate

Ros, F., & Guillaume, S. (2019). Sampling techniques for supervised or unsupervised tasks.
Springer International Publishing.

Rosenstock, I. M. (1974a). Historical origins of the Health belief model. Health Education
Monographs, 2(4), 328-335. https://doi.org/10.1177/109019817400200403

Rosenstock, I. M. (1974b). The health belief model and preventive health behavior. Health
Education Monographs, 2(4), 354-386. https://doi.org/10.1177/109019817400200405

Rosenstock, I. M., Strecher, V. J., & Becker, M. H. (1988). Social learning theory and the Health
belief model. Health Education Quarterly, 15(2), 175-183.
https://doi.org/10.1177/109019818801500203

Rossiter, J. R., Percy, L., & Bergkvist, L. (2018). Marketing communications: Objectives,
strategy, tactics. SAGE Publications.

Rubin, R. B., Rubin, A. M., & Haridakis, P. M. (2009). Communication research: Strategies and
sources. Cengage Learning.

Rudov, L., McCormick-Ricket, I., Kingsmill, D., Ledford, C., & Carton, T. (2017). Evaluation
recommendations for nonprofit social marketing campaigns: An example from the
Louisiana Campaign for Tobacco-Free Living. International Journal of Nonprofit and
Voluntary Sector Marketing, 22(1), e1570.

Rush, V. L. (2014). Planned behavior: Theory, applications and perspectives. Nova Science
Publishers, Incorporated.

Sahlin, D., & Botello, C. (2011). YouTube for dummies. Wiley.

Saks, M., & Allsop, J. (2019). Researching health: Qualitative, quantitative and mixed
methods. SAGE Publications.

Saura, J. R., Palos-Sánchez, P., & Cerdá Suárez, L. M. (2017). Understanding the digital
marketing environment with KPIs and web analytics. Future Internet, 9(4), 76.

Schiavo, R. (2011). Health communication: From theory to practice. Wiley.

Schlichthorst, M., King, K., Turnure, J., Sukunesan, S., Phelps, A., & Pirkis, J. (2018). Influencing
the conversation about masculinity and suicide: Evaluation of the Man Up
multimedia campaign using Twitter data. JMIR Mental Health, 5(1), e14.
https://doi.org/10.2196/mental.9120

Copyright Por-n31p3 -un Prajaknate

Schmälzle, R., & Meshi, D. (2020). Communication neuroscience: Theory, methodology and
experimental approaches. Communication Methods and Measures, 14(2), 105-124.
https://doi.org/10.1080/19312458.2019.1708283

Schoja, V. (2016). Why should companies invest in social media marketing?: Parameters and
means for performance measurement. Anchor Academic Publishing.

Schulte, M. F. (2017). Healthcare delivery in the U.S.A.: An introduction, Second Edition.
Taylor & Francis.

Schwinn, T., Hopkins, J., Schinke, S. P., & Liu, X. (2017). Using Facebook ads with traditional
paper mailings to recruit adolescent girls for a clinical trial. Addictive Behaviors, 65,
207-213.

Sendall, M. C., McCosker, L. K., Crane, P., Rowland, B., Fleming, M., & Biggs, H. C. (2018). Using
Facebook for health promotion in "Hard-to-Reach" truck drivers: Qualitative analysis.
Journal of Medical Internet Research, 20(11), e286-e286.
https://doi.org/10.2196/jmir.9689

Seo, W., & Jung, H. (2017). Exploring the community of blind or visually impaired people on
YouTube. Proceedings of the 19th International ACM SIGACCESS Conference on
Computers and Accessibility,

Sharma, M., & Romas, J. A. (2012). Theoretical foundations of health education and health
promotion. Jones & Bartlett Learning.

Sharma. (2016). Theoretical foundations of health education and health promotion. Jones &
Bartlett Learning.

Shaver, L. G., Khawer, A., Yi, Y., Aubrey-Bassler, K., Etchegary, H., Roebothan, B., Asghari, S., &
Wang, P. P. (2019). Using Facebook advertising to recruit representative samples:
Feasibility assessment of a cross-sectional survey. Journal of Medical Internet
Research, 21(8), e14021. https://doi.org/10.2196/14021

Sheth, A., & Thirunarayan, K. (2013). Semantics empowered web 3.0: Managing enterprise,
social, sensor, and cloud-based data and services for advanced applications.
Morgan & Claypool Publishers.

Siegel, M., & Doner, L. (2004). Marketing public health: Strategies to promote social change.
Jones and Bartlett Publishers.

Copyright Por-n31p4 -un Prajaknate

Siegler, E.L., Capezuti, E., & Mezey, M. (2007). The Encyclopedia of elder care: The
comprehensive resource on geriatric and social care. Springer Publishing Company.

Silva, A. G., Simões, P., Queirós, A., Rodrigues, M., & Rocha, N. P. (2020). Mobile apps to
quantify aspects of physical activity: A systematic review on its reliability and
validity. Journal of Medical Systems, 44(2), 51.

Sinclair-White, B., Nett, B., Ilagan, L., Cacal, S. L., Vu, U., Ching, L. K., Pirkle, C. M., & Keliikoa, L.
B. (2020). Insights in public health: Development, implementation, and evaluation
of the prevent diabetes, Hawai'i Campaign. Hawai'i Journal of Health & Social
Welfare, 79(3), 86-90.

Singh, A.K. (2019). Social psychology, Second Edition. PHI Learning Pvt. Ltd.

Sinnenberg, L., Buttenheim, A. M., Padrez, K., Mancheno, C., Ungar, L., & Merchant, R. M.
(2017). Twitter as a tool for health research: A systematic review. American Journal
of Public Health, 107(1), e1-e8. https://doi.org/10.2105/AJPH.2016.303512

Skellie. (2011). Successful Facebook marketing. Rockable Press.

Šmahel, D., Macháčková, H., Šmahelová, M., Čevelíček, M., Almenara, C. A., & Holubčíková, J.
(2018). Digital technology, eating behaviors, and eating disorders. Springer
International Publishing.

Snelson, C. (2018). The benefits and challenges of YouTube as an educational resource
(Vol. 48). Routledge.

Soboleva, A., Burton, S., & Khan, A. (2015). Marketing with Twitter: Challenges and
opportunities. In Burkhalter, J. (Ed.)., Maximizing commerce and marketing strategies
through micro-blogging (pp. 1-39). IGI Global.

Stiff, J. B., & Mongeau, P. A. (2002). Persuasive communication. Guilford Press.

Strecher, V. J., & Rosenstock, E. M. (1997). The Health belief model. In A. Baum, S. Newman,
J. Weinman, R. West, & C. McManus (Eds.), Cambridge handbook of psychology,
health and medicine. Cambridge University Press.

Strekalova, Y. A. (2017). Health risk information engagement and amplification on social
media: News about an emerging pandemic on Facebook. Health Education &
Behavior, 44(2), 332-339.

Copyright Por-n31p5 -un Prajaknate

Sudol, T., & Mladjenovic, P. (2019). Affiliate marketing for dummies. Wiley.

Sue, V. M., & Ritter, L. A. (2012). Conducting online surveys. SAGE Publications.

Suggs, L. S., & Ratzan, S. C. (2012). Global e-health communication. In R. Obregon & S.
Waisbord (Eds.), The handbook of global health communication. Wiley.

Sundstrom, B., Ferrara, M., DeMaria, A. L., Baker-Whitcomb, A., & Payne, J. B. (2017).
Integrating pregnancy ambivalence and effectiveness in contraceptive choice.
Health Communication, 32(7), 820-827.
https://doi.org/10.1080/10410236.2016.1172294

Suppasilp Kullajitjuewong. (2013). LINE-Communicating format on the creativity of
Smartphone: Benefits and limits of application. Executive Journal, 33(4), 42-54.

Susanna Maneenithiveth. (2020). Effect of a social-network-based self-care program on
health literacy and outcomes among personnel at risk of metabolic syndrome.
The Journal of Public Health, 50(1), 47-60.

Sweezey, M. (2014). Marketing automation for dummies. Wiley.

Takemura, K. (2019). Foundations of economic psychology: A behavioral and mathematical
approach. Springer Singapore.

Tan, R. K. J., Koh, W. L., Le, D., Tan, A., Tyler, A., Tan, C., Banerjee, S., Wong, C. S., Wong, M.-
L., Chio, M. T.-W., & Chen, M. I. C. (2020). Effect of a web drama video series on HIV
and other sexually transmitted infection testing among gay, bisexual and queer
men: study protocol for a community-based, pragmatic randomised controlled trial
in Singapore: the People Like Us (PLU) Evaluation Study. BMJ Open, 10(4), e033855-
e033855. https://doi.org/10.1136/bmjopen-2019-033855

Tang, W., Olscamp, K., Choi, S. K., & Friedman, D. B. (2017). Alzheimer’s Disease in Social
Media: Content Analysis of YouTube Videos. Interactive Journal of Medical
Research, 6(2), e19. https://doi.org/10.2196/ijmr.8612

Teeriniemi, A. M., Salonurmi, T., Jokelainen, T., Vähänikkilä, H., Alahäivälä, T., Karppinen, P.,
Enwald, H., Huotari, M. L., Laitinen, J., & Oinas-Kukkonen, H. (2018). A randomized
clinical trial of the effectiveness of a Web-based health behaviour change support
system and group lifestyle counselling on body weight loss in overweight and
obese subjects: 2-year outcomes. Journal of Internal Medicine, 284(5), 534-545.

Copyright Por-n31p6 -un Prajaknate

Thaipradit, K., & Treeratanaporn, T. (2016). Social commerce: The comparative selective
different characteristics among Facebook, LINE, and Instagram. Executive Journal,
36(2), 24-38.

The International Telecommunication Union. (2020). Statistics [Online image]. The
International Telecommunication Union. https://www.itu.int/en/ITU-
D/Statistics/Pages/stat/default.aspx

Thomas, R. K. (2006). Health communication. Springer US.

Thompson, T. L. (2014). Encyclopedia of health communication. SAGE Publications.

Thuemmler, C., & Bai, C. (2017). Health 4.0: Application of industry 4.0 design principles in
future asthma management. In C. Thuemmier & C. Bai (Eds.), Health 4.0: How
virtualization and big data are revolutionizing healthcare. Springer International
Publishing.

Thurnheer, S. E., Gravestock, I., Pichierri, G., Steurer, J., & Burgstaller, J. M. (2018). Benefits of
mobile apps in pain management: systematic review. JMIR mHealth and uHealth,
6(10), e11231.

Tian, Y. (2010). Organ donation on Web 2.0: content and audience analysis of organ donation
videos on YouTube. Health Communication, 25(3), 238-246.

Tomlinson, A., Furukawa, T. A., Efthimiou, O., Salanti, G., De Crescenzo, F., Singh, I., & Cipriani,
A. (2020). Personalise antidepressant treatment for unipolar depression combining
individual choices, risks and big data (PETRUSHKA): rationale and protocol. Evidence
Based Mental Health, 23(2), 52. https://doi.org/10.1136/ebmental-2019-300118

Tritter, J. Q., & Landstad, B. J. (2020). Focus group. Wiley.

Tsai, W., Zavala, D., & Gomez, S. (2019). Using the Facebook advertisement platform to
recruit Chinese, Korean, and Latino cancer survivors for psychosocial Research:
Web-based survey study. Journal of Medical Internet Research, 21(1), e11571.
https://doi.org/10.2196/11571

Tubbs, S. L. (2020). Shared experiences in human communication. Taylor & Francis.

Tuten, T. L. (2010). Enterprise 2.0: How technology, Ecommerce, and web 2.0 are
transforming business virtually [2 volumes]: How technology, ecommerce, and web
2.0 are transforming business virtually. ABC-CLIO.

Copyright Por-n31p7 -un Prajaknate

Tuten, T. L., & Solomon, M. R. (2017). Social media marketing. SAGE Publications.

Twittera. (2020). #Covid-19 [Screenshot].
https://twitter.com/search?q=%23Covid_19&src=typeahead_click

U.S. Department of Health and Human Services. (2018). Theory at a glance: A guide for
health promotion practice (Second Edition). Lulu.com.

United Nation. (2018). Goal 9: Build resilient infrastructure, promote sustainable
industrialization and foster innovation.
https://www.un.org/sustainabledevelopment/infrastructure-industrialization/

United Nation. (2019). Special edition: progress towards the sustainable development goals:
Report of the Secretary-General. United Nation.
https://sustainabledevelopment.un.org/content/documents/24978Report_of_the_S
G_on_SDG_Progress_2019.pdf

Freepik. มปป. People vector [vector]. Freepik. <a href='https://www.freepik.com/free-photos-

vectors/people'>People vector created by freepik - www.freepik.com</a>

Velicer, W. F., Prochaska, J. O., Fava, J. L., Norman, G. J., & Redding, C. A. (1998). Smoking
cessation and stress management: applications of the transtheoretical model.
Homeostasis, 38(5-6), 216-233.

Ventola, C. L. (2014). Mobile devices and apps for health care professionals: uses and
benefits. Peer-Reviewed Journal for Formulary Management, 39(5), 356-364.

Viskovich, S., & Pakenham, K. I. (2020). Randomized controlled trial of a web-based
acceptance and commitment therapy (ACT) program to promote mental health in
university students. Journal of Clinical Psychology, 76(6), 929-951.

Vogel, E. A., Belohlavek, A., Prochaska, J. J., & Ramo, D. E. (2019). Development and
acceptability testing of a Facebook smoking cessation intervention for sexual and
gender minority young adults. Internet Interventions, 15, 87-92.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.invent.2019.01.002

Wagner, R. (2011). Building Facebook applications for dummies. Wiley.

Wagner, T., Lindstadt, C., Jeon, Y., & Mackert, M. (2016). Implantable medical device website
efficacy in informing consumers weighing benefits/risks of health care options.

Copyright Por-n31p8 -un Prajaknate

Journal of Health Communication, 21(sup2), 121-126.
https://doi.org/10.1080/10810730.2016.1201173

Wang, R., & Chan-Olmsted, S. (2020). Content marketing strategy of branded YouTube
channels. Journal of Media Business Studies, 1-21.
https://doi.org/10.1080/16522354.2020.1783130

Wasilewski, M. B., Stinson, J. N., Webster, F., & Cameron, J. I. (2019). Using Twitter to recruit
participants for health research: an example from a caregiving study. Health
Informatics Journal, 25(4), 1485-1497.

Watkins, D. C., Allen, J. O., Goodwill, J. R., & Noel, B. (2017). Strengths and weaknesses of the
young black men, masculinities, and mental health (YBMen) Facebook project.
American Journal of Orthopsychiatry, 87(4), 392.

Welch, V., Petkovic, J., Pardo, J. P., Rader, T., & Tugwell, P. (2016). Interactive social media
interventions to promote health equity: an overview of reviews. Health Promotion
and Chronic Disease Prevention in Canada: Research, Policy and Practice, 36(4), 63.

West, R., & Turner, L. H. (2008). Understanding interpersonal communication: Making choices
in changing times. Cengage Learning.

Whaley, B. B. (2014). Research methods in health communication: Principles and
application. Taylor & Francis.

Widman, L., Golin, C., Kamke, K., Massey, J., & Prinstein, M. (2017). Feasibility and
acceptability of a web-based HIV/STD prevention program for adolescent girls
targeting sexual communication skills. Health Education Research, 32(4), 343-352.

Wilkinson, S. (1998). Focus groups in health research: Exploring the meanings of health and
illness. Journal of Health Psychology, 3(3), 329-348.
https://doi.org/10.1177/135910539800300304

Wilson, L. (2019). 30-Minute website marketing: A step by step guide. Emerald Publishing
Limited.

Witte, K., Meyer, G., & Martell, D. (2001). Effective health risk messages: A step-by-step guide.
SAGE Publications.

Wiyeh, A. B., Cooper, S., Jaca, A., Mavundza, E., Ndwandwe, D., & Wiysonge, C. S. (2019).
Social media and HPV vaccination: Unsolicited public comments on a Facebook

Copyright Por-n31p9 -un Prajaknate

post by the Western Cape Department of Health provide insights into determinants
of vaccine hesitancy in South Africa. Vaccine, 37(43), 6317-6323.
https://doi.org/https://doi.org/10.1016/j.vaccine.2019.09.019

World Health Organization. (1946). Preamble to the constitution of WHO as adopted by the
international health conference, New York, 19 June - 22 July 1946; signed on 22
July 1946 by the representatives of 61 States (Official records of WHO, no. 2, p. 100)
and entered into force on 7 April 1948. World Health Organization.
https://www.who.int/about/who-we-are/frequently-asked-questions

World Health Organization. (2017). WHO strategic communications framework for effective
communications. World Health Organization.
https://www.who.int/about/communications

World Health Organization. (2020). Coronavirus disease (Covid-19): Situation report-208.
World Health Organization. https://www.who.int/docs/default-
source/coronaviruse/situation-reports/20200815-covid-19-sitrep-
208.pdf?sfvrsn=9dc4e959_2

World Health Organization. (2020). Home [Screenshot]. World Health Organization.

World Health Organization. (2020a). Coronavirus disease (Covid-19): Situation report-208.
World Health Organization. https://www.who.int/docs/default-
source/coronaviruse/situation-reports/20200815-covid-19-sitrep-
208.pdf?sfvrsn=9dc4e959_2

World Health Organization. (2020b). World health statistics 2020: monitoring health for the
SDGs sustainable development goals. World Health Organization.

Wright, K. B. (2020). New technologies and health communication. The handbook of applied
communication research, 863-878.

Xu, S., Markson, C., Costello, K. L., Xing, C. Y., Demissie, K., & Llanos, A. A. (2016). Leveraging
social media to promote public health knowledge: example of cancer awareness
via Twitter. JMIR Public Health and Surveillance, 2(1), e17.

Xu, W. W., Chiu, I.-H., Chen, Y., & Mukherjee, T. (2015). Twitter hashtags for health: applying
network and content analyses to understand the health knowledge sharing in a
Twitter-based community of practice. Quality & Quantity, 49(4), 1361-1380.

Copyright Por-n32p0 -un Prajaknate