The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน วิชา ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by brother_dol, 2022-08-28 23:34:30

เอกสารประกอบการสอน วิชา ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ

เอกสารประกอบการสอน วิชา ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชิงพทุ ธ ๘๒

ตามปกติของภาวะผู้นำแล้ว จะพบว่าคุณสมบัติเหล่าน้ันจะเป็นรองลดหล่ัน
มาจากลักษณะภายในบคุ คลทสี่ ามารถใชอ้ ทิ ธิพลดงั กลา่ วไดส้ ัมฤทธผิ ล ๔

เมื่อพิจารณาถึงท่ีมาของคำว่า "ตะวันออก"แล้ว คำๆ น้ีเป็นคำนิยม
ท่ีเรียกกันตามการแบ่งเขตถิ่นอาศัยและสีผิว เพราะในสมัยโบราณก่อนท่ีจะ
มีการพบทวีปแอฟริกาน้ัน คนยุโรปและเอเชียได้เร่ิมติดต่อค้าขายกันแล้ว
เม่อื ทวีปเอเชียอยู่ทางตะวันออกของทวีปยุโรป ชาวยุโรปท่ีมีผิวสขี าว จึงเรียก
ชาวเอเชียว่า “ชาวตะวันออก” และทวีปยุโรปอยู่ทางตะวันตกของทวีป
เอเชีย ชาวเอเชียซ่ึงส่วนมากเป็นพวกผิวเหลือง จึงเรียกชาวยุโรปว่า
“ชาวตะวนั ตก” นัน่ เอง

คำว่า ผู้นำ และ ภาวะผู้นำ ในภาษาไทยมีการใช้ถ้อยคำอื่นท่ี
แตกต่างกันไป เช่น ประมุขศิลป์ ศิลปะการเป็นผู้นำ ความเป็นผู้นำ เป็นต้น
เป็นเร่ืองท่ีนักวิชาการและผู้ที่เก่ียวข้องได้ให้ความสนใจศึกษามาเป็น
เวลานาน เป็นการศึกษาถึงความมีอำนาจและความสามารถของบุคคลท่ี
สามารถสั่งการในการบริหาร ให้งานที่รับผิดชอบประสบความสำเร็จ ย่อม
เป็นท่ีประจักษ์กันแล้วว่าทั้งผู้นำและภาวะผู้นำ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญย่ิง
ในการบรหิ ารและการจัดองคก์ าร ท้ังภาครฐั และเอกชนให้บรรลุวตั ถุประสงค์
ตามนโยบายขององค์การ ดังนน้ั ขอนำเสนอความหมายดังตอ่ ไปน้ี

พระธรรมปิฎก(ป.อ. ปยุตฺโต) ให้ความหมายว่า ผู้นำ คือ คุณสมบัติ
เช่น สติปัญญา ความดีงาม ความรู้ความสามารถของบุคคลที่ชักนำให้คน
ทงั้ หลายมาประสานกัน และพากันไปสูจ่ ดุ หมายท่ดี งี าม ๕

๔ Jaco, A.J., “Leadership : Perspectives in Theory and Research “,
Management Science, 18, 1982, p.315.

๕ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต), ทศวรรษธรรมทัศน์พระธรรมปิฎก หมวด
สงั คมสงเคราะหแ์ ละมนุษยศาสตร์. (กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๔๓), หนา้ ๕๑.

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชงิ พทุ ธ ๘๓

พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ให้ความหมายไว้ว่า ผู้นำ
คือ ผู้ ชั ก พ าให้ ค น อื่ น เค ลื่ อ น ไห ว ห รือ ก ระท ำก ารใน ทิ ศ ท างท่ี ผู้ น ำก ำห น ด
เป้าหมายไว้ หลายคนมีบทบาทเป็นผู้นำกันอยู่แล้วเช่นเป็นผู้นำองค์กร ผู้นำ
สมาคม ผู้นำวัด และแม้กระทั่งหัวหนา้ ครอบครัวก็จัดวา่ เปน็ ผู้นำ ๖

พระราชญาณวิสิฐ(เสริมชัย ชยมงฺคโล) ได้กลา่ วไว้ว่า ความเปน็ ผูน้ ำ
คือนายสารถีท่ีดี คือ ผู้ที่สามารถขับรถเทียบม้าให้สามารถบรรทุกส่ิงของได้
มาก ไปถึงจุดหมายปลายทางได้รวดเร็วและปลอดภัย เพราะมีคุณสมบัติของ
นายสารถีท่ีดีท่ีสามารถ หรอื นางวงดนตรีท่ีดี คือสามารถควบคุมวงดนตรี ซึ่ง
มีผู้เล่นดนตรีหลายช้ินหลายคนเป็นวงใหญ่ให้บรรเลงเพลงได้ไพเราะเพราะ
พร้ิง สะกดใจผู้ฟังให้เคลิบเคล้ิมเป็นสุขใจ หรือให้บรรเลงเพลงได้เร้าใจถูกใจ
ผู้ฟังให้สนุกสนาน เพราะเป็นนายวงดนตรีท่ีมีความสามารถ กล่าวคือมี
สภาวะความเป็นผู้นำสูง ฉันใด หัวหน้าฝ่ายบริหารตลอดถึงหัวหน้างานทุก
ระดบั ขององคก์ ร ทีจ่ ะสามารถปกครองบังคับบัญชาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และ
สามารถบริหารกิจการ กิจกรรม และหรือโครงการต่างๆ ขององค์กรให้
บรรลุผลดีมีประสิทธิภาพสูง ก็จะตอ้ งเป็นผมู้ ีลกั ษณะความเป็นผู้นำที่ดี คอื มี
ประมุขศลิ ปส์ ูง ๗

พระบุญเรือง จิตธมฺโม ได้ศึกษาเรื่องการศึกษาเชิงวิเคราะห์ผู้นำใน
พระพุทธศาสนาศึกษาเฉพาะวิธีการแก้ปัญหาของพระพุทธเจ้า จากผล
การศึกษา พบว่า ภาวะผู้นำ คือ ผู้มีความสามารถในการตัดสินใจในการ

๖ พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต), พุทธวิธีบริหาร, พิมพ์พิเศษ ๕
ธันวาคม ๒๕๔๙, (กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๙),
หนา้ ๒๖.

๗ พระราชญาณวิสิฐ (เสริมชัย ชยมงฺคโล), หลักธรรมาภิบาลและประมุข
ศิลป์, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพมิ พม์ งคลชยั พริ้นติง้ , ๒๕๔๘), หน้า ๑๒๒.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชงิ พทุ ธ ๘๔

นำพาตัวเองและคณะให้ดำเนินไปได้ในสถานการณ์หน่ึงๆ ภาวะผู้นำนั้นยัง
ข้นึ อยู่กับบุคลิกภาพเป็นตัวส่งเสริม โดยที่พระพุทธศาสนาได้แสดงหลักธรรม
ไว้สำหรับผู้นำหรือผู้ปกครอง คือ หลักพรหมวิหาร ๔ อิทธิบาท ๔ สังคหวัตถุ
๔ ฆราวาสธรรม ๔ ทศพิธราชธรรม ๑๐ และจักรวรรดิวัตร ๑๒ รวมลักษณะ
ของหลักธรรมท้ังหมดแล้วจะต้องเก้ือหนุนให้นักปกครองประสบความสำเร็จ
ในการปกครองท้ังส้นิ ๘

พยอม วงศ์สารศรี กล่าวว่า ผู้นำ หมายถึง บุคคลที่ทำหน้าที่
บังคับบัญชา ส่ังการ รวบรวมความต้องการและประสานความคิดของ
สมาชิกเข้าด้วยกัน ผู้นำมีส่วนช่วยให้องค์การกำหนดจุดมุ่งหมายในการ
ทำงานและดำเนินการจนบรรลุจดุ ม่งุ หมายน้นั ๙

ธรรมรส โชติกุญชร ได้ให้ความหมายว่า ผู้นำ หมายถึง บุคคลซ่ึง
ถูกแต่งตั้งข้ึนมาได้รับการยกย่องขึ้นมาให้เป็นหัวหน้า มีความสามารถในการ
ปกครอง บังคับบัญชา และอาจชักพาผ้ใู ต้บังคับบัญชาหรือหม่ชู น ไปในทางดี
หรอื ชว่ั ได้ ๑๐

อุทัย หิรัญโต กล่าวว่า “ตามความคิดของคนทั่วไปมักจะเข้าใจกัน
ว่าเรื่องของการเป็นผู้นำแสดงออกในรปู ของการส่ังการ หรือความสามารถที่

๘ พระบุญเรือง จิตธมฺโม (สุทธิชัย), “การศึกษาเชิงวิเคราะห์ผู้นำใน
พระพุทธศาสนา : ศึกษาเฉพาะวิธีการแก้ปัญหาของพระพุทธเจ้า”, วิทยานิพนธ์
ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย,
๒๕๔๙), หนา้ ก.

๙ พยอม วงศ์สารศรี. การบริหารงานบุคคล . กรุงเทพ ฯ : พรานนกการ
พมิ พ์, ๒๕๓๒ , หนา้ ๒๓๑.

๑๐ ธรรมรส โชติกุญชร, มนุษยสัมพันธ์, พิมพ์ครั้งท่ี ๒, (กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพพ์ ฆิ เณศ, ๒๕๑๙), หนา้ ๑๓๑.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชงิ พทุ ธ ๘๕

จะบังคับบัญชาคนอ่ืน ความเข้าใจเช่นนี้มีมาช้านาน จนกระท่ังปรัชญาของ
ลทั ธิประชาธปิ ไตยเจริญงอกงามข้นึ ความหมายของผู้นำในแง่ทวี่ ่าเป็นผ้สู ูงส่ง
เรืองอำนาจและเป็นใหญ่เหนือบุคคลอ่ืนเส่ือมความนิยมลง ผู้นำในปัจจุบัน
จึงเพียงแต่หมายถึงผู้มีอิทธิพลและใช้อิทธิพลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาหรือบุคคล
อื่น ภารกิจหลักของผู้นำคือการรวมเอาพลังของคนในกลุ่มเข้าด้วยกันใน
ลักษณะท่ีก่อให้เกิดอำนาจขึ้นใหม่ โดยที่ทุกคนในกลุ่มยินยอมพร้อมใจเชื่อ
ฟังโดยดษุ ฎี” ๑๑

เสนาะ ติเยาว์ กล่าวว่า ผู้นำ คือ ผู้ท่ีสามารถทำให้ผู้อ่ืนไปสู่
จดุ หมายปลายทางได้ ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายโดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุด
โดยใช้วิธีการจูงใจและอาศัยบุคลิกภาพของตัวเอง ที่ทำงานให้สำเร็จด้วย
ลักษณะต่าง ๆ คือ การใช้อำนาจ การกำหนดเป้าหมาย ทัศนะต่อองค์การ
การทำหน้าที่ผู้นำโดยอาศัยความร่วมมือของผู้อื่น ความสัมพันธ์กับผู้อื่นและ
การวางตัวทเ่ี หมาะสม ๑๒

อาชวัน วายวานนท์ ได้ให้ความหมายว่า ผู้นำ คือ ผู้มีชื่อเสียง มี
ความสามารถในการนำผู้อื่น และมักจะหมายถึงผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญ ๆ
ในทางบริหาร เปน็ ผู้ท่ีกลุ่มถือว่ารบั ผดิ ชอบตอ่ การบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ของกลุ่ม
ทีต่ นรว่ มกิจกรรมอยู่ ๑๓

๑๑ อทุ ัย หิรญั โต, ประมขุ ศลิ ป : ศิลปะของการเปน็ ผนู้ ำ. (กรงุ เทพมหานคร:
โอเดยี นสโตร์, ๒๕๒๔, หนา้ ๑๗๔.

๑๒ เสนาะ ติเยาว์, หลักการบ ริหาร, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์,๒๕๔๔),หนา้ ๖-๘.

๑๓ อาชวัน วายวานนท์, ภาวะผู้นำและประสิทธิผลของผู้บริหาร,
(กรุงเทพมหานคร : คณะกรรมการส่งเสริมงานวิจัยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์,
๒๕๒๐), หนา้ ๒๕.

ภาวะผนู้ ำทางการจดั การเชิงพุทธ ๘๖

เอิร์ล เจ. เฟรียริช (Earl J. Frierich) กล่าวว่า ผู้นำ เป็นกลุ่มของ
ประชาชน ซึ่งเป็นผู้มีความแตกต่างจากประชาชนคนอื่นๆ โดยมีข้อยกเว้น
พิเศษในการแสดงออกใดๆ ในทางการเมืองและเป็นผู้ซึ่งผูกขาดการปกครอง
เอาไวใ้ นมืออยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และมีความผกู พนั ในกล่มุ อย่างสูง ๑๔

นอร์มานด์ แอล ฟริกอน (Normand L. Frigon)ได้ให้คำจำกัด
ความว่า ผู้นำ คือ บุคคลท่ีมีความสามารถในการบังคับบัญชาผู้อื่นและ
ประสานงานให้ผู้อื่น ช่วยทำกิจการงานต่างๆ ของตนให้บรรลุผลสำเร็จตาม
วัตถุประสงค์ดว้ ยความเตม็ ใจ ๑๕

เดวิด เจ แคมเบล (David J. Campbell) ได้ให้คำจำกัดความว่า
ผู้นำ คือ บคุ คลผมู้ ีความสามารถในการบังคับบัญชาผูอ้ ่ืน และประสานงานให้
ผอู้ ืน่ ทำกจิ การให้บรรลุผลสำเร็จตามวตั ถปุ ระสงคด์ ว้ ยความเต็มใจ๑๖

ฟีดเลอร์ (Fiedler) ใหค้ วามหมาย ผนู้ ำ ไว้ว่า บุคคลใดบคุ คลหนึ่งใน
กลุ่มผู้เป็นผู้ควบคุมและประสานงานให้กิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มดำเนินไปได้
ดว้ ยความเรยี บร้อย ๑๗

๑๔ Earl J. Frierich, An Introduction to Political Theory, ( New
York : Harper & Row Publishers,1976), p. 96.

๑๕ Normand L. Frigon, Sr.& Harry K. Jackson, Jr., The Leader :
Developing the Skills & Personal Quarlities You Need to Lead
Effectively, (New York : American Management Association, 1996), p.8.

๑๖ David J.Campbell, Organizations and the business
Environment, (Oxford : Butterworth Heineman, 1997). p. 169.

๑๗ F.E.Fiedler, A Theory of Leadership Effeetiveness, ( New
York : McGraw Hill Book,1967), p.8.

ภาวะผ้นู ำทางการจดั การเชงิ พุทธ ๘๗

เรย์มอนด์ เจ เบอร์ดี้ (Raymond J. Burdy) ได้ให้ความหมายไว้ว่า
ผู้นำ คือ บุคคลท่ีสามารถชักจูงให้คนอื่นปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ ทำให้ผู้
ตามมีความเช่ือมั่นในตัวเองและสามารถช่วยคลี่คลายความตึงเครียดต่าง ๆ
ลงได้ และทำกลมุ่ ใหบ้ รรลุเป้าหมายทต่ี ง้ั ไว้ ๑๘

แฟรงคลิน โคว่ีย์ (Franklin Covey) ได้กล่าวถึงการเป็นผู้นำ ๔
ประการไว้ในหนังสอื The Four Roles Leadership ซึ่งเป็นแนวคิดทฤษฎี
เกี่ยวกับผูน้ ำทางตะวันตก หนังสือนี้ได้รวบรวมเน้อื หาบทบาทหน้าที่ของผู้นำ
ท่ีสำคัญ ๔ ประการ คือ การกำหนดทิศทาง การจัดการระบบการทำงาน
การกระจายอำนาจให้ผู้ใต้บังคับบัญชา และแบบอย่างการเป็นผู้นำที่ดี ตาม
แนวคิดทางตะวันตก เพ่ือเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ และพัฒนาผู้นำใน
องค์กรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่จะสามารถนำองค์กรไปสู่
เปา้ หมายทไ่ี ดต้ ัง้ ไวอ้ ย่างสมบรู ณ์แบบ ๑๙

เม่ือได้ทราบความหมายของผู้นำจนเป็นท่ีเข้าใจแล้วว่าเป็นการเรียก
"ผู้บังคับบัญชา" หรือ "หัวหน้า" ว่าเป็นผู้นำ แต่ก็ยังมีการเรียกตำแหน่งผู้ทำ
หน้าที่ท่ีเป็นผู้นำในหน่วยงานด้วย เช่น ผู้อำนวยการ(Director) ผู้จัดการ
(Manager) ผ้บู ริหาร(Executive) ครูใหญ่(Principal) แม่ทพั (Head Master)
ถือว่าเป็นผู้นำในตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มทำหน้าที่รับผิดชอบหน่วยงานน้ันๆ
สามารถให้คุณให้โทษแก่ผบู้ ังคับบัญชาได้ ดังน้ันจึงควรพิจารณาความหมาย
ของ ภาวะผนู้ ำ จากความเห็นทีน่ กั วิชาการและนักบริหารไดใ้ ห้ไว้ดงั ต่อไปนี้

๑๘ Raymond J. Burdy, Fundanamental of Leadership Readings,
(Massachusetts Addison : Wesley Publishing co., 1972), p. 43.

๑๙ Frankin Covey, The Four Roles Leadership, (USA: Frankin
Covey Co., Ltd., 1999), p.8.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชงิ พทุ ธ ๘๘

พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโฺ ต) ได้ให้ความหมายวา่ ภาวะผู้นำคือ
คุณสมบัติ เช่นสติปัญญา ความดีงาม ความรู้ความสามารถของบุคคล ท่ีชัก
นำให้คนท้ังหลายมาประสานกัน และพากันไปสู่จุดหมายท่ีดีงาม๒๐
นอกจากนย้ี ังได้กล่าวถงึ ภาวะผนู้ ำอีกว่า คือ บคุ คลที่จะมาประสานช่วยให้คน
ทงั้ หลายช่วยกันโดยที่ว่าจะเปน็ การอยู่ร่วมกนั ก็ตาม หรือทำการรว่ มกันก็ตาม
ให้พากันไปด้วยดีสู่จดุ หมายท่ีดีงาม ผ้นู ำจะต้องมีความสามารถในการท่ีจะไป
เก่ียวข้องหรือปฏิบัติต่อ สิ่งเหล่านั้นทุกอย่างให้ถูกต้อง และได้ผลดีตาม
องค์ประกอบเหล่านี้ คือ ตัวผู้นำ ตัวผู้ตามจุดหมายหลักการและวิธีการ สิ่งที่
จะทำและสถานการณ์ ด้วยคุณสมบัติที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมหรือส่ิงท่ี
ประสบ ซ่ึงอยู่ภายนอกว่าทำอย่างไรจะผ่านไปได้ด้วยดี ในท่ามกลางสังคม
สง่ิ แวดลอ้ มหรอื สิง่ ท่ปี ระสบเช่น ปัญหาเปน็ ตน๒๑

กิติ ตยัค คาน น ท์ ได้กล่าวไว้ว่าภ าวะผู้นำ คือ ศิลปะห รือ
ความสามารถของบุคคลหน่ึงท่ีจะจูงใจหรือใช้อิทธิพลต่อบุคคลอ่ืนไม่ว่าจะ
เป็นผู้ร่วมงาน หรือผูใ้ ต้บังคับบัญชาในสถานการณ์ต่างๆ เพือ่ ปฏบิ ัติการ และ
อำนวยการโดยใช้กระบวนการสื่อความหมาย หรือการติดต่อกันและกันให้
ร่วมใจกับตนดำเนินการจนกระท่ังบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และ
เปา้ หมายทก่ี ำหนดไว้ การดำเนนิ การจะเป็นไปในทางดหี รือช่ัวก็ได้ ๒๒

๒๐ พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต), ภาวะผูน้ ำ, (กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท
บคุ๊ ไทม์ ,๒๕๔๙), หน้า ๔.

๒๑ พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตฺโต), ทศวรรษธรรมทัศน์พระธรรมปิฎก,
(กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพธ์ รรมสภา, ๒๕๓๔), หนา้ ๕๒.

๒๒ กิติ ตยัคคานนท,์ นพ., เทคนิคการสรา้ งภาวะผู้นำ, (กรงุ เทพมหานคร : โรง
พิมพเ์ ปลวอักษร, ๒๕๔๓), หนา้ ๒๒.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชงิ พทุ ธ ๘๙

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์ ได้สรุปความหมายของภาวะผู้นำ
ออกเป็น ๓ ประการดงั นค้ี อื

๑. ภาวะผู้นำ ได้แก่ พฤติกรรมท่ีมีผลทำให้พฤติกรรมของผู้อื่นยอม
คล้อยตามแทนทจ่ี ะคล้อยตามพฤติกรรมของผู้อื่น

๒. ภาวะผู้นำน้ันเป็นศิลป์อย่างหน่ึงในตัวบุคคลที่จะชักจูงให้
คนทำงานอย่างใดอยา่ งหนึง่ และทำดว้ ยความพอใจ

๓. ภาวะผนู้ ำเปน็ ผจู้ ัดและให้ความสะดวกกบั สมาชิกผูป้ ฏบิ ัติงานโดย
การช่วยเหลือกลุ่มให้เกิดสัมฤทธิผล ผู้นำจะร่วมมือกันปฏิบัติงานโดยการ
ริเร่ิมให้เกิดการวางแผน กำหนดเป้าหมาย และสร้างแรงจูงใจเพ่ือสนอง
ความตอ้ งการของสมาชกิ และเพื่อใหส้ มาชกิ มปี ระสิทธภิ าพในการทำงาน๒๓

เถาวัลย์ นันทาภิวัฒน์ ได้ให้ความหมายว่า “ภาวะผู้นำ” คือ
ความสัมพันธ์ซึ่งบุคคลหน่ึงหรือผู้มีอิทธิพลให้ผู้อื่นทำงานร่วมกันอย่างเต็มใจ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอันเป็นที่ต้องการของผู้นำ ผู้นำ จึงมิใช่มีบทบาทเป็น
เพียงผู้ผลักดันเพียงด้านเดียว แต่เป็นผู้ดึงด้วย โดยแจ้งให้ผู้ตามทราบ
แนวทางปรารถนาใหป้ ฏบิ ตั ิตามดว้ ยการปฏิบตั ติ นเป็นตัวอย่างท่ีดี ๒๔

นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธ์ ได้กล่าวไว้ว่า ภาวะผู้นำเป็นกระบวนการ
มิใช่บุคคล ถึงแม้ว่าจะข้ึนอยู่กับความชอบธรรมในการใช้อำนาจของตัวผู้นำ
ซึ่งเป็นศูนย์กลางและเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการภาวะผู้นำ และผู้ตาม
เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ขาดไม่ได้ หากไม่มีผู้ตามจะมีผู้นำไม่ได้ จึงสรุปได้ว่า

๒๓ ป รียาพ ร วงศ์อนุตรโรจน์ . จิตวิท ยาการบ ริห ารงานบุ คคล.
กรุงเทพมหานคร : สหมติ รออฟเซต, ๒๕๓๕, ๒๐๑ - ๒๐๒.

๒๔ เถาวัลย์ นันทาภิวัฒน์, หลักการจัดการ, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๒๑), หนา้ ๒๐๓.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชงิ พุทธ ๙๐

ภาวะผู้นำเป็นกระบวนการของการมีอิทธิพลเหนือกลุ่ม เพ่ือการกำหนด
เป้าหมาย และการบรรลุเป้าหมายของกลุ่ม และหากกล่าวถึงความเข้มแข็ง
ของภาวะผู้นำในองค์การ จะดูได้จากความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย
ดงั กล่าว ๒๕

นิตย์ สัมมาพันธ์ กล่าวว่า ภาวะผู้นำ คือ พลังชนิดหนึ่งท่ีสามารถ
ส่งแรงกระทำอันก่อให้เกิดการขับเคล่ือนกลุ่มคน และระบบองค์กร ไปสู่การ
บรรลเุ ป้าประสงค์ ๒๖

สมพงษ์ เกษมสิน ได้ให้ความหมายว่า “ภาวะผู้นำ” คือ การใช้
อิทธพิ ลหรอื อำนาจหน้าท่ีในความสมั พนั ธ์ซงึ่ มีผู้ใตบ้ ังคับบัญชาในสถานการณ์
ต่างๆ เพื่อปฏิบัติการและอำนวยการโดยกระบวนการติดต่อซ่ึงกันและกัน
เพือ่ ให้บรรลุผลตามทีก่ ำหนดไว้ ๒๗

สมัย จิตต์หมวด ให้ความหมายภาวะผู้นำว่า หมายถึง การท่ีบุคคล
หนึ่งหรือผู้นำ พยายามใช้กำลังสมอง กำลังกาย และกำลังใจ เพื่อจูงใจ หรือ
ดลใจให้ผู้ตาม หรือกลุ่มกระทำการอย่างใดอย่างหน่ึง ให้เป็นไปตามความ
ประสงค์ของตน และเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และการจูงใจหรือดลใจนั้น

๒๕ นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธ์, การพัฒนาบุคลกิ ผ้นู ำและผบู้ ริหาร, พิมพ์คร้ังท่ี
๕, (กรงุ เทพมหานคร : บริษัทเคลด็ ไทย จำกดั , ๒๕๓๗), หนา้ ๑๕.

๒๖ นิตย์ สัมมาพันธ์, ภาวะผู้นำ, (กรุงเทพมหานคร : อินโนกราฟฟิกส์,
๒๕๔๖), หน้า ๓๑.

๒๗ สมพงษ์ เกษมสิน, การบริหาร, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ไทยวัฒนา
พานิช, ๒๕๒๖), หนา้ ๒๒๐.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชงิ พุทธ ๙๑

จะต้องไม่เป็นการบังคับ ตลอดจนต้องได้รับความยินยอมจากผู้ตามหรือกลุ่ม
ด้วย๒๘

รงั สรรค์ ประเสรฐิ ศรี ให้ความหมาย ภาวะผนู้ ำ หมายถงึ พฤตกิ รรม
ส่วนตัวของบุคคลคนหนึ่งท่ีจะชักนำกิจกรรมของกลุ่มให้บรรลุเป้าหมาย
ร่วมกนั หรอื เป็นความสัมพันธ์ที่มีอิทธิพลระหว่างผู้นำ และผู้ตามซงึ่ ทำให้เกิด
การเปล่ียนแปลงเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน หรือเป็นความสามารถท่ีจะ
ส ร้ า ง ค ว า ม เ ชื่ อ มั่ น แ ล ะ ให้ ก า ร ส นั บ ส นุ น บุ ค ค ล เพ่ื อ ให้ บ ร ร ลุ เป้ า ห ม า ย
องค์การ๒๙

วิฑูรย์ สิมะโชคดี ได้ให้ความหมาย ภาวะผู้นำคือความสามารถใน
การจัดการให้บรรลุเป้าหมายของกลุ่ม โดยทำงานร่วมกับกลุ่มคนและยัง
หมายความรวมถึงอำนาจหน้าท่ีท่ีติดมากับตำแหน่งผู้บังคับบัญชาน้ี จะมีค่า
เม่อื ผู้อยู่ใตบ้ ังคบั บญั ชาเคารพและเช่ือถือในตัวผบู้ งั คบั บัญชา ๓๐

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้ให้ความหมายไว้ว่า ภาวะผู้นำ คือ ความ
ครอบคลุมในมิติท่ีมีอย่างกว้างขวางและหลากหลายกว่าเรื่องความกล้าหาญ
การตัดสินใจ การเป็นผู้นำต้องมีความสามารถในการนำ ผลักดันและส่ังการ
ให้กิจกรรมทุกอย่าง ดำเนินไปตามเป้าหมาย ซึ่งต้องประกอบไปด้วยความ

๒๘ สมัย จิตต์หมวด, พฤติกรรมผู้นำ, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
มหาวทิ ยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๗), หนา้ ๒๒.

๒๙ รังสรรค์ ประเสริฐศรี, ภาวะผู้นำ, (กรุงเทพมหานคร : ธนธัชการพิมพ์,
๒๕๔๔), หนา้ ๓๑.

๓๐ วิฑูรย์ สิมะโชคดี, ทฤษฎีและเทคนิคปฏิบัติสำหรับยอดหัวหน้างาน,
(กรุงเทพมหานคร : บริษทั ซเี อด็ ยูเคชัน่ จำกัด (มหาชน),๒๕๓๘), หนา้ ๑๐๔.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๙๒

กล้าหาญ ความสามารถในการโน้มน้าวจูงใจและจังหวะเวลาใน การ
ตัดสนิ ใจ๓๑

สุพานี สฤษฎ์วานิช ได้ให้ความหมายว่า ภาวะผู้นำ หมายถึง
ความสามารถท่จี ะมีอทิ ธิพลตอ่ ผู้ตามหรือนำผู้ตามไปอย่างสมั ฤทธผ์ิ ลหรอื เป็น
ความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่ืนทำงานอย่างเต็มที่เพ่ือบรรลุ
วตั ถปุ ระสงคข์ องการทำงานอย่างเหมาะสม๓๒

เรน สิ ส ลิ เคิ ร์ท (Rensis Likert) ก ล่าวว่า ภ าวะผู้ น ำ คื อ
กระบวนการซึ่งผู้นำจะต้องเข้าไปเก่ียวข้องกับความคาดหวัง ค่านิยมและ
ความสามารถในการติดต่อพบปะเจรจากันของบุคคล ที่จะเข้าไปเก่ียวข้อง
ด้วย ดังนั้น เพ่ือจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ผู้นำต้องแสดงออก
ซึง่ พฤตกิ รรมที่จะทำใหผ้ ู้ใต้บังคบั บัญชาเห็นว่าควรสนับสนุนในความสามารถ
ของเขา ๓๓

จอร์จ อาร์ เทอร่ี (George R. Terry) กล่าวว่า ภาวะผู้นำ คือ การ
สร้างอิทธิพลหรืออำนาจต่อผู้ตามในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุถึง
จุดหมายท่ีกำหนดไว้๓๔

๓๑ ส ม คิ ด จ า ตุ ศ รี พิ ทั ก ษ์ , วิ สั ย ทั ศ น์ ขุ น ค ลั ง , พิ ม พ์ ค ร้ั งที่ ๒ ,
(กรุงเทพมหานคร : ผจู้ ดั การ, ๒๕๔๔), หน้า ๗๗.

๓๒ สุพานี สฤษฎ์วานิช, พฤติกรรมองค์การสมัยใหม่ : แนวคิดและทฤษฎี,
(กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๙), หนา้ ๒๙๖.

๓๓ Rensis Likert, The Human Organization, (New York : McGraw
Hill, 1967), p.132.

๓๔ George R. Terry, Principles of management, (Illinois : Richard
D.Irwin, 1977), p. 410.

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชงิ พุทธ ๙๓

รีชาร์ดสัน และ เบล์ดวิน (Richardson and Baldwin) กล่าวว่า
ภาวะผู้นำ เป็นกระบวนการซึ่งบุคคลหน่ึงบุคคลใด มีอิทธิพลต่อทัศนคติ
ความเช่ือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือ
มากกว่า โดยพยายามที่จะทำใหส้ มาชิกขององค์การ ประพฤตไิ ปในทศิ ทางที่
จะทำให้องคก์ ารน้นั ๆ บรรลถุ งึ เปา้ หมายท่ไี ด้ตง้ั เอาไว้ ๓๕

จากการใหค้ วามหมายทง้ั ผู้นำ และ ภาวะผู้นำ ท่กี ลา่ วมานีส้ ามารถ
สรุปความหมายเป็นจุดร่วมเดียวกันว่า ผู้นำ หมายถึง บุคคลใดก็ตามท่ีมี
อิทธิพลเหนือคนอื่นในกลุ่ม หรือมีบทบาทสำคัญในการนำกลุ่มไปสู่
ความสำเร็จตามเป้าหมาย ในการทำงาน เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่ม
ส่วนภาวะผู้นำ หมายถึง คุณลักษณะส่วนตัวของบุคคลในสถาบันใดก็ตาม
ล้วนเป็นกระบวนการท่ีแสดงออกมาเพื่อปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มในระหว่างการ
ปฏิบัติงาน หรือให้ผรู้ ่วมในสถานการณ์เดียวกัน ในอันที่จะทำให้กิจกรรมของ
กลุ่มดำเนินไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จ ทั้งน้ีเม่ือพิจารณาเปรียบเทียบ
แล้ว ผู้นำหมายถึง ตัวบุคคลและภาวะผู้นำเป็นเร่ืองของคุณลักษณะหรือ
คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง บุ ค ค ล ท่ี ท ำ ให้ ก า ร ด ำ เนิ น ง า น ข อ ง ก ลุ่ ม เป็ น ไป อ ย่ า ง มี
ประสทิ ธภิ าพและประสบผลสำเรจ็

3.2 ภาวะผ้นู ำตะวันออก

เช่ือกันว่าภาวะผู้นำตามแนวความคิดเดิมท้ังทางตะวันออกและ
ตะวันตกล้วนแต่มีการใช้คำส่ังอำนาจท่ีมีอยู่และการคอยกำกับควบคุม
ประชาชนแทบจะทุกด้าน แต่สิ่งหนึ่งท่ีสามารถเป็นเครื่องยึดเหน่ียวส่งเสริม

๓๕ I.L.Richardson & Sidney Baldwin, Public Administration :
Government in Action, ( Ohio : Charles E. Merrill Publishing Co,1967) ,
p.147.

ภาวะผนู้ ำทางการจดั การเชิงพุทธ ๙๔

และถ่วงดุลการใช้อำนาจทเ่ี กนิ ขอบเขตของผู้นำก็คือหลกั การทางด้านศาสนา
ปรัชญาที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ทั้งนี้บางภูมิภาคอาจจะมีทั้งศาสนจักรและ
ราชอาณาจักรแยกกันปกครองดูแล แต่บางภูมิภาคกลับกลายเป็นการรวม
ศูนย์อำนาจและใช้ศาสนาเป็นเคร่ืองมือในการปกครอง ดังน้ัน ในความ
แตกต่างกันนี้พิจารณาได้ว่าวิถีของภาวะผู้นำทางตะวันออกก็ย่อมแตกต่าง
จากทางตะวันตกอย่างชัดเจนมาต้ังแต่ในอดีตแล้ว เพราะวิถีของภาวะผู้นำ
ทางตะวันออกนอกจากเร่ืองของการบริหารปกครองแล้วยังมีความผูกพันอยู่
กับศาสนาปรัชญาอีกด้านหนึ่งด้วย ดังน้ันในท่ีน้ีจักกล่าวเฉพาะบางส่วนท่ี
เห็นว่าสำคัญและควรแก่การนำมาวิเคราะห์ เช่น ภาวะผู้นำในวรรณกรรม
สามก๊ก ภาวะผู้นำในตำราพิชัยสงครามซุนวู ภาวะผู้นำในคัมภีร์ภควัทคีตา
และภาวะผู้นำตามหลักศาสนาปรัชญาแนวตะวันออก เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้
แสดงให้เห็นลักษณะของภาวะผู้นำตามยุคสมัยและความแตกต่างทางด้าน
ภมู ิภาคด้วย

เมื่อกาลเวลาเปล่ียนไปส่ิงต่างๆ ดูเหมือนว่าจะเปล่ียนแปลงไปอย่าง
รวดเร็วด้วย ทั้งทางด้านสังคม วัฒนธรรม และองค์การที่ปรับเปล่ียนไปท่ัว
โลก อกี ท้ังยังมีแนวโน้มที่จะมุ่งทำให้องค์การท้ังหลายมีความสามารถในการ
ยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้เกิดการถ่ายโอนอำนาจขยายวงกว้างไปอย่างไม่ส้ินสุด
ทำให้สภาพของผู้นำต้องเปล่ียนแปลงไปด้วย เพราะเหตุว่าหากยังใช้แนว
ทางการบริหารปกครองแบบเดิมก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น
ต่อมาผู้นำตะวันออกยุคใหม่จึงถูกครอบงำด้วยแนวคิดแบบตะวันตกมาก
ยิง่ ข้ึน แต่เค้าโครงของเดิมยังมีอยู่บ้างและนกั วชิ าการทั้งหลายตา่ งกพ็ ยายาม
ยกขึ้นมาเป็นประเด็นพิจารณาว่าหลักการเหล่าน้ีเคยรุ่งเรืองมาแต่อดีตและ
ลว้ นแต่เป็นของตะวนั ออกทัง้ สิ้น

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชงิ พุทธ ๙๕

3.3 ภาวะผนู้ ำในวรรณกรรมสามก๊ก

สามก๊กเป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ท่ีมีการเล่าขานถึง
ประวตั ิศาสตรจ์ ีนในยุคสามก๊ก(พ.ศ. ๗๖๓ - ๘๒๓) ในที่สุดก็มีการเขียนขนึ้ มี
เน้ือหาเป็นเหมือนบทละครประมาณในช่วงคริสต์ศตวรรษท่ี ๑๔ ซึ่งเป็นที่
รู้จักและได้รับความนิยมอย่างต่อเน่ือง จัดเป็นวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของ
โลก เป็นมรดกทางปัญญาของปราชญ์ชาวตะวันออกท่ีสุดยอด ทั้งนี้เพราะ
เนื้อหาได้แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำของตัวละครสำคัญๆ เช่น โจโฉ เล่าป่ี
ซุนกวน ขงเบ้ง เป็นต้น สามก๊กมีเน้ือหาหลากหลายรสชาติ เต็มไปด้วยกล
เล่ห์เพทุบาย กลศึกในการรบ การชิงรักหักเหลี่ยม ความเคียดแค้นชิงชัง
ความซ่ือสัตย์และการให้อภัย ซ่ึงมีเนื้อหาและเรื่องราวในทางท่ีดีและร้าย
ปะปนกัน จนมีการกล่าวกันเล่นๆ ว่า " อ่านสามก๊ก ๓ จบ คบไม่ได้ " ทั้งนี้
อาจจะเป็นเพราะเนื้อหาท่ีอ่านแล้วยังต้องมีการวิเคราะห์บทบาทของตัว
ละครไปด้วยจนทำให้เกิดความสับสนได้ ต่อมามีการแปลเป็นภาษาต่างๆ
หลายภาษาแพรห่ ลายทัว่ โลก ๓๖

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของสามก๊กน้ีแม้ว่ากาลเวลาจะเปล่ียนแปลง
ไป อีกท้ังโลกทัศน์ท่ีถูกจุดประกายให้สว่างขึ้นมาก ทำให้ความต้องการ
ค ว า ม เป็ น ผู้ น ำ ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ท่ี แ ท้ จ ริ ง เกิ ด ข้ึ น ท้ั งลั ก ษ ณ ะ ท า ง ก า ย
สติปัญญา ความรู้ความสามารถที่เอ้ือต่อการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ท่ี
เปลยี่ นแปลงตลอดเวลา มีความพร้อมท่ีจะนำผู้ร่วมงานไปสู่เป้าหมายทตี่ ้ังไว้
ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิต ตลอดจนเกิดขวัญกำลังใจสูงในการ

๓๖ มีพิมพ์เผยแพร่กันหลายสำนักพิมพ์ แต่ท่ีนิยมกันคือ สามก๊กฉบับพระยา
พระคลงั (หน) สามก๊กฉบบั หอพระสมดุ เปน็ ตน้

ภาวะผูน้ ำทางการจดั การเชิงพุทธ ๙๖

ปฏิบัติงานของกลุ่มผู้ร่วมงานก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นกระแสของ
ตะวันตกมากกว่า ทว่าในอีกทิศทางหน่ึงท่ีน่าสนใจอย่างยิ่ง เม่ือนักวิชาการ
คนหน่ึงคือ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักด์ิ ไดก้ ล่าวถึงภาวะผนู้ ำตามวถิ ีตะวันออก ว่า
“สำนึกต่อหน้าท่ี มีสัจจะ กตัญญู รู้จักอ่อนน้อม ยอมให้อภัย ไม่ช่วงชิง
เป็นที่หน่ึง คำนงึ ถึงความกลมกลืน” พร้อมใหค้ วามหมายทส่ี รปุ ไดอ้ ย่างน่าคิด
ดงั นี้

๑) สำนึกต่อหน้าที่ คือการตระหนักถึงพันธะที่เรามีต่อผู้คนและส่ิง
ตา่ งๆ บนโลกใบน้ี

๒) มีสัจจะ คนมีสัจจะคือ คนที่เช่ือถือได้ พูดคำไหนคำนั้น ไม่ทรยศ
หักหลัง ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามผลประโยชน์เฉพาะหน้า ไม่เป็นไม้หลักปักข้ี
เลน จึงสามารถเปน็ ทีย่ ดึ เหนย่ี วของผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชาทง้ั หลาย

๓) กตัญญู กตัญญูในที่น้ีไม่ได้หมายความเพียงการกตัญญูต่อ
บพุ การีหรอื ครอู าจารยเ์ ท่า น้ัน แต่หมายถงึ ความกตญั ญรู ู้คุณตอ่ ทุกคน

๔) รู้จกั อ่อนนอ้ ม
๕) ยอมให้อภัย แสดงให้เห็นถึงจิตใจทส่ี ูงส่ง ไม่ผูกพยาบาท อาฆาต
มาดร้าย
๖) ไม่ช่วงชิงเป็นท่ีหน่ึง เพราะความเป็นผู้นำไม่ใช่ได้มาด้วยการช่วง
ชิง ถ้าเรามีคุณสมบัติที่เหมาะสม เม่ือถึงเวลาท่ีเหมาะสม ทุกอย่างจะลงตัว
โดยอตั โนมตั ิ

ภาวะผ้นู ำทางการจัดการเชงิ พุทธ ๙๗

๗) คำนึงถึงความกลมกลืน คือไม่ฝืนเอาตามใจของตัวเอง แต่ต้องดู
ความเหมาะสมสอดคล้องกับส่ิงแวดล้อม เช่น ศาสนา วัฒนธรรม ค่านิยม
หรอื ภาวะทางเศรษฐกจิ ฯลฯ รวมท้ังพยายามลดความขดั แยง้ ใน ๓๗

3.4 ภาวะผนู้ ำในตำราพิชัยสงครามซุนวู

ซนุ วู (Sun Wu หรือ Sun Tzu หรือ Sunzi) เปน็ นักการทหารและ
นักปกครองท่ีเชี่ยวชาญเป็นยอดเย่ียมในสมัยชุนชิว เกิดเม่ือประมาณสองพัน
สี่ร้อยถึงห้าร้อยปีก่อนระหว่างพุทธกาล ได้รับสมญาว่าเป็นมังกรหน่ึงในสมัย
น้นั

ตำราพิชัยสงครามซุนวู ซึ่งตกทอดมาถึงเด๋ียวน้ีมี ๑๓ บรรพด้วยกัน
ได้ประมวลหลักปรัชญาการต่อสู้และทฤษฎีการปกครองไว้อย่างครบครัน
หนังสือเล่มนี้เบื้องโบราณสมัยหลัง ๆ ต่อมา แม้ ขงเบ้ง, พระเจ้าถังไท้จง
ฮ่องเต้ ตลอดจนนักการทหารและนักการปกครองอันมีช่ือของจีนอ่ืนๆ ก็ได้
ถือเป็นตำราเล่าเรียนตลอดมา ชาวโลกก็นิยมว่าเป็นแม่บทของตำราวิชาการ
ทหารซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดเล่มหน่ึง ถ้อยคำสำนวนเดิมสั้น, รัดกุม, แน่นแฟ้น
และเป็นคำยากด้วยเป็นคำโบราณ เท่าท่ีทราบกันว่าได้แปลเป็นพากย์ต่าง ๆ
แล้ว มีภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, เชคโก, เยอรมัน ฯลฯ หลาย
ภาษาดว้ ยกัน ๓๘

๓๗ ที่มา : ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ “ภาวะผู้นำตามวิถีตะวันออก: กรณีศึกษา
จากสามก๊ก” http://www.cpall.co.th/ Blog/Detail/Korsak (วันที่ ๗ มิถุนายน
พ.ศ. ๒๕๕๕)

๓๘ ที่ ม า : http://olddreamz.com/bookshelf/sunwu/sunwu-
curtain.html (วนั ท่ี ๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕)

ภาวะผนู้ ำทางการจดั การเชงิ พุทธ ๙๘

3.5 ภาวะผู้นำในคมั ภีร์ภควัทคตี า

ภควัทคีตา (Bhagavad gita) เป็นช่ือคัมภีรศ์ ักดส์ิ ิทธ์ิของศาสนาฮินดู
หรือวรรณกรรมทิพย์ ท่ีอยู่เหนือส่ิงอื่นใดทั้งมวลในโลกและจักรวาล
โดยเฉพาะสำหรับนิกายไวษณพหรือผู้ท่ียกย่องพระวิษณุ (พระนารายณ)์ เป็น
พระเจ้าสูงสุด คำที่ใช้เรียกชื่อคัมภีร์ ภควัทคีตา มาจาหภควตฺ + คีตา
แปลว่า "บทเพลง (หรือลำนำ) แห่งพระผู้เป็นเจ้า" นำเร่ืองราวส่วนหนึ่งมา
จากมหากาพย์มหาภารตะ ประกอบด้วยบทกวี ๗๐๐ บท โดยมีเนื้อหาท่ี
กล่าวถึงภาวะผู้นำไว้ อันหมายถึงหน้าที่ของกษัตริย์(ผู้ปกครอง)มีดังน้ี
“Heroism, majesty, firmness, skill, not fleeing in battle,
generosity, and lordly spirit are the duties of the kshatriyas, born
of their nature.” แกล้วกล้า เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว แน่วแน่ ไม่หลีกเลี่ยงใน
สงคราม ให้ทาน และมภี าวะผนู้ ำ ๓๙

3.6 ภาวะผ้นู ำตามหลกั ศาสนาปรัชญาแนวตะวันออก

ศาสนาท่ีอุบัติข้ึนในโลกตะวันออกล้วนแฝงด้วยปรัชญาคำสอนให้
ดำรงอยู่ตามวิถีของการดำเนนิ ชวี ิตปกติสุข สอนใหล้ ะในสง่ิ ที่ควรละ สอนให้
ปฏิบัติขัดเกลาจิตใจอยู่เนืองๆ พระพุทธเจ้าก็เป็นผู้นำทางศาสนาพุทธ ทรง
เป็นครูสอนของเทวดาและมนุษย์ หน้าท่ีคือทรงสอนให้รู้จักการละความช่ัว
ทำความดี และชำระจิตของตัวเองให้สะอาด โดยที่ทรงหวังแต่เพียงว่าให้ทุก
คนมีความสุข หายจากความทุกข์ และตั้งแต่เช้ามืดของทุกวันจะทรงตรวจดู
สัตวโลกเพ่ือหาคนที่มีอุปนิสัยที่จะเทศนาส่ังสอน พระองค์ยังทรงเป็นผู้นำที่
ทรงวางพระองค์เป็นกลาง ไม่ทรงมีอคติ ทรงเดินทางไปเทศนาส่ังสอนโดยไม่
ทรงเก่ียงในเร่ืองระยะทาง ทรงงานหนักด้วยพระทัยที่มีพระเมตตาและพระ

๓๙ Bhagavadgita, 18:43 in http://blog.atmajyoti.org/2008/08/

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๙๙

มหากรุณาเป็นที่ตั้ง ปราศจากอคติท้ังส่ี ทรงให้ความเท่าเทียมหมด ไม่มี
เหลอ่ื มล้ำ ๔๐ ดังนนั้ ด้วยภาวะผู้นำดังกล่าวจึงครองใจคนมายาวนานถึงปีแห่ง
พุ ทธชยัน ตี ห รือ สัมพุ ท ธชยัน ตี (Buddhajayanti or Sambuddha
jayanthi) ๒๖๐๐ ปี

ในส่วนของจีนน้ันก็มีลัทธิขงจ๊ือ(Confucianism) ซ่ึงขงจ๊ือท่ีถือเป็น
ปรัชญาเมธีท่ียิ่งใหญ่แห่งโลกตะวันออก และดำรงชีพอยู่ในยุคใกล้เคียงกับ
พระพุทธเจ้า ขงจอ้ื เปน็ ผ้มู ีสติปัญาท่ีชาญฉลาดสามารถดูแลกิจการบ้านเมอื ง
ตามโองการของฮ่องเต้น้ันให้สำเร็จเจริญข้ึนอย่างรวดเร็ว ทำให้ฮ่องเต้และ
ประชาชนล้วนเคารพนับถือขงจ๊ือ คำสั่งสอนของขงจ้ือเป็นสิ่งที่ถูกนำมาเป็น
แนวปฏิบัติจากอดีตเมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้วจนถึงปัจจุบัน คำสอน
ของขงจ๊ือถือกำเนิดขึ้นเป็น "งานสอนด้านจริยธรรม-สังคมการเมือง" มุ่งเน้น
การพัฒนาคุณธรรมและการธำรงรักษาจริยธรรม ซ่ึงเป็นการสอนให้มนุษย์
ได้มีการพัฒนาและทำตนเองให้สมบูรณ์โดยให้สังคมและตนเองได้ใช้ความ
พยายามรว่ มกันดำเนนิ กจิ กรรมด้านนี้ คำสอนของขงจื๊อได้แพร่หลายจากจีน
ไปยังดินแดนต่างๆด้วยเช่น ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปนุ่ และเวียดนาม นอกจากนี้ยัง
ได้แพร่หลายไปยังดินแดนอื่นน่ันคือหลายดินแดนที่ชาวจีนเข้าไปต้ังรกราก
จำนวนมาก เช่น สิงคโปร์ เป็นต้น

ขณะเดียวกันมีเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่นักคิดและปัญญาชนสำนักวิชา
ขงจื๊อถูกปราบปรามกวาดล้างโดยในสมัยราชวงศ์ฉินหรือจักรพรรดิจ๋ินซี ที่มี
เหตกุ ารณ์ "เผาตำรา ฝังบัณฑติ " สาเหตุเพราะทางฝ่ายท่ีมีอำนาจเห็นวา่ ผู้นับ
ถือลทั ธิขงจื๊อต่อตา้ นการปกครองและวิพากษ์วจิ ารณ์ผปู้ กครองว่าไร้คณุ ธรรม
แต่ต่อมาลัทธิขงจื๊อได้รับการฟื้นฟูให้มีบทบาทอีกครงั้ ในสมัยราชวงศ์ฮ่นั และ

๔๐ ท่ีมา : http://iam.hunsa.com/papamama/article/17982 (วันท่ี ๒๕
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕)

ภาวะผ้นู ำทางการจัดการเชงิ พุทธ ๑๐๐

กลายเป็นลัทธคิ ำสอนท่ีมีอทิ ธิพลต่อการเมืองการปกครองของจีนและวถิ ีชีวิต
ของคนจนี มากทีส่ ดุ

ในท่ีสุดแล้วเม่ือพิจารณาเร่ืองภาวะผู้นำทางตะวันออก นักวิชาการ
จำนวนมากต่างก็วิพากษ์ว่าภาวะผู้นำทางตะวันตกในปัจจุบันนี้อาจจะเป็น
เรื่องที่ขงจื้อได้เคยกล่าวไว้เม่ือพันกว่าปีก่อนแล้วก็ได้ ดังนั้นจะเห็นว่าภาวะ
ผู้นำทางตะวันออกที่นิยมนำมาศึกษาส่วนใหญ่เป็นแนวคิดท่ีเกิดข้ึนในจีน
อินเดีย และญี่ปุ่น ส่วนประเทศอ่ืนๆ ในเอเชียนั้นก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับโดด
เด่นมากนัก และนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันท่ีโดดเด่นก็มีเป็นตัวอย่าง เช่น
ภาวะผู้นำท่ีมาจากเน้ือหาของวรรณกรรมสามก๊ก ตำราพิชัยสงครามซุนวู
คัมภีร์ภควัทคีตา หลักศาสนาปรัชญาแบบฮินดู เชน พุทธ เต๋าและขงจื้อ
เนือ้ หาจากเรือ่ งราวของจักรพรรด์ิเจงกิสขา่ น พระเจ้าอโศกมหาราช พระเจ้า
บุเรงนอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระจักรพรรดิ
ญี่ปุ่น เหมา เจ๋อตุง มหาตมะ คานธี โฮจิมินห์ ลีกวนยิว มหาธีร์โมฮัมหมัด
เป็นต้น เพียงแต่รายนามที่กล่าวมาน้ีสะท้อนถึงความนิยมในสถานการณ์ใด
หรือถูกประยุกต์ให้กล่าวถึงตามกาลเวลา ตามลักษณะของภูมิประเทศและ
กระแสวฒั นธรรมของถ่ินนนั้ ๆ หรอื ไม่

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชงิ พุทธ ๑๐๑

คำถามประจำบท

๑. ให้นิสิตอธิบายถึงความเป็นมาของภาวะผู้นำแนวตะวันออกว่ามี
ความเปน็ มาอยา่ งไร โดยอธบิ ายให้เหน็ ถงึ ความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

๒. แนวคิดพ้ืนฐานเก่ียวกับแนวคิดและทฤษฎีภาวะผู้นำแนว
ตะวันออกมแี นวความคดิ มาจากอะไร ใหน้ ิสิตอธบิ ายโดยละเอียด

3.ใหน้ ิสติ ยกตวั อย่างทฤษฎีภาวะผู้นำพรอ้ มอธิบายจำนวน 1 ทฤษฎี
มาโดยละเอยี ด

4. ผูน้ ำกับภาวะผนู้ ำมคี วามแตกตา่ งกนั อยา่ งไร จงอธิบาย
5. ใหน้ ิสิตวิเคราะหข์ องความเป็นผนู้ ำของนายกรฐั มนตรขี องไทย

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๐๒

อา้ งอิงประจำบท

กิติ ตยัคคานนท์.นพ.. เทคนิคการสร้างภาวะผู้นำ. กรุงเทพมหานคร : โรง
พิมพ์เปลวอกั ษร, ๒๕๔๓.

เถาวัลย์ นันทาภิวัฒน์. หลักการจัดการ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๒๑.

ธรรมรส โชติกุญชร. มนุษยสัมพันธ์. พิมพ์ครั้งท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร : โรง
พมิ พ์พิฆเณศ, ๒๕๑๙.

นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธ์. การพัฒนาบุคลิกผู้นำและผู้บริหาร. พิมพ์ครั้งที่
๕. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัทเคล็ดไทย จำกัด, ๒๕๓๗.

นิตย์ สัมมาพนั ธ์. ภาวะผนู้ ำ. กรงุ เทพมหานคร : อินโนกราฟฟิกส์, ๒๕๔๖.
ป รีย าพ ร วงศ์ อ นุ ต รโรจน์ . จิ ต วิท ย าก ารบ ริห ารงาน บุ ค ค ล .

กรงุ เทพมหานคร : สหมิตรออฟเซต, ๒๕๓๕.
พยอม วงศ์สารศรี. การบรหิ ารงานบคุ คล . กรงุ เทพ ฯ : พรานนกการพิมพ์,

๒๕๓๒ .
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). พุทธวิธีบริหาร. พิมพ์พิเศษ ๕

ธันวาคม ๒๕๔๙. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราช
วทิ ยาลัย, ๒๕๔๙.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). ภาวะผู้นำ:ความสำคัญต่อการพัฒนาคน
พัฒนาประเทศ. กรุงเทพมหานคร : สำนกั พิมพธ์ รรมสภา, ๒๕๔๖.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). ทศวรรษธรรมทัศน์พระธรรมปิฎก หมวด
สังคมสงเคราะห์และมนุษยศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร : ธรรมสภา,
๒๕๔๓.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). ภาวะผู้นำ. กรุงเทพมหานคร : สุขภาพใจ,
๒๕๔๐.

ภาวะผนู้ ำทางการจดั การเชงิ พุทธ ๑๐๓

พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตฺโต). ทศวรรษธรรมทัศน์พระธรรมปิฎก .
กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ธรรมสภา, ๒๕๓๔.

พระบุญ เรือง จิตธมฺโม (สุทธิชัย). “การศึกษาเชิงวิเคราะห์ผู้นำใน
พระพุทธศาสนา : ศึกษาเฉพาะวิธีการแก้ปัญหาของพระพุทธเจ้า”.
วิท ยานิพ น ธ์ศาสน ศาสตรมห าบั ณ ฑิ ต . บั ณ ฑิ ตวิทยาลั ย
มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลัย, ๒๕๔๙.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). ภาวะผู้นำ. กรุงเทพมหานคร : บริษัท
บคุ๊ ไทม,์ ๒๕๔๙.

พระราชญาณวิสฐิ (เสริมชยั ชยมงฺคโล). หลักธรรมาภิบาลและประมุขศลิ ป์.
กรงุ เทพมหานคร : สำนกั พมิ พม์ งคลชัยพรนิ้ ติ้ง, ๒๕๔๘.

รังสรรค์ ประเสริฐศรี. ภาวะผู้นำ. กรุงเทพมหานคร : ธนธัชการพิมพ์,
๒๕๔๔.

วิฑูรย์ สิมะโชคดี. ทฤษฎีและเทคนิคปฏิบัติสำหรับยอดหัวหน้างาน .
กรุงเทพมหานคร : บริษทั ซเี อด็ ยูเคชัน่ จำกดั (มหาชน) , ๒๕๓๘.

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์. วิสัยทัศน์ขุนคลัง. พิมพ์คร้ังท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร :
ผจู้ ัดการ, ๒๕๔๔.

สมพงษ์ เกษมสิน. การบริหาร. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ไทยวัฒนาพานิช
, ๒๕๒๖.

สมัย จิตต์หมวด. พฤติกรรมผู้นำ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย
รามคำแหง, ๒๕๔๗.

สุพานี สฤษฎ์วานิช. พฤติกรรมองค์การสมัยใหม่ : แนวคิดและทฤษฎี.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๔๙.

เสนาะ ติเยาว์. ห ลักการบริหาร. (ชกรุงเทพ มหานคร : โรงพิ มพ์
มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๔.

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชงิ พุทธ ๑๐๔

อาช วัน วายวาน นท์ . ภ าวะผู้ น ำแ ละป ระสิท ธิผ ลของผู้ บ ริห าร .
กรุงเทพมหานคร : คณ ะกรรมการส่งเสริมงานวิจัยสถาบัน
บัณฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร์, ๒๕๒๐.

อุทัย หิรัญโต. ประมขุ ศิลป : ศิลปะของการเป็นผู้นำ. กรุงเทพมหานคร: โอ
เดียนสโตร์, ๒๕๒๔.

David J.Campbell. Organizations and the business
Environment. Oxford : Butterworth Heineman, 1997.

Earl J. Frierich. An Introduction to Political Theory. New York :
Harper & Row Publishers, 1976.

F.E.Fiedler. A Theory of Leadership Effeetiveness. New York :
McGraw Hill Book, 1967.

Frankin Covey. The Four Roles Leadership. USA: Frankin Covey
Co.. Ltd., 1999.

George R. Terry. Principles of management. Illinois : Richard
D.Irwin, 1977.

I.L.Richardson & Sidney Baldwin. Public Administration :
Government in Action. Ohio : Charles E. Merrill
Publishing Co, 1967.

Jaco. A.J.. “Leadership : Perspectives in Theory and Research “.
Management Science. 18. 1982.

Normand L. Frigon. Sr.& Harry K. Jackson. Jr.. The Leader :
Developing the Skills & Personal Quarlities You
Need to Lead Effectively. New York : American
Management Association, 1996.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชงิ พุทธ ๑๐๕

Raymond J. Burdy. Fundanamental of Leadership Readings.
Massachusetts Addison : Wesley Publishing co. , 1972.

Rensis Likert. The Human Organization. New York : McGraw
Hill, 1967.

บทท่ี 4
ภาวะผ้นู ำตามแนวของพระพุทธเจ้า

(Buddhist Leadership)

ขอบข่ายประจำบท
๑. แนวคดิ พ้นื ฐานเกยี่ วกับภาวะผนู้ ำตามแนวของพระพุทธเจา้
๒. หลักพุทธธรรมสำหรบั ภาวะผูน้ ำตามแนวของพระพทุ ธเจ้า

จุดประสงคก์ ารเรยี น
๑. เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับ

ภาวะผนู้ ำตามแนวของพระพุทธเจ้า
๒. เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักพุทธธรรมสำหรับ

ภาวะผนู้ ำตามแนวของพระพุทธเจ้า
กิจกรรมการเรยี นการสอน

๑. การจัดการเรียนการสอนทางออ้ ม
๒. ใชเ้ ทคนิคการศึกษาเปน็ รายบคุ คล
๓. ใชเ้ ทคนคิ การเรียนแบบร่วมมอื
๔. ใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบบรู ณาการ

ภาวะผูน้ ำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๐๗

4.1 ความหมายของภาวะผนู้ ำ

ภาวะผู้นำ (Leadership) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนในสังคม
มนุษย์ทุกกลุ่มต้ังแต่สังคมล้าหลัง เช่น ชนเผ่าโบราณดังเดิม จนถึงสังคม
เมืองสมัยใหม่ ในสังคมดังกล่าวเราจะพบบุคคลจำนวนหนึ่ง ซ่ึงใช้ภาวะผู้นำ
ของตนเพื่อประสานประโยชน์และขจัดข้อขัดแย้งให้กับสมาชิกในกลุ่มของ
ตน อาจกล่าวได้ว่าภาวะผู้นำเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับองค์กรทุกประเภท
ไม่ว่าองค์การของรัฐหรือเอกชน เพราะองค์การจะมีความเจริญรุ่งเรืองหรือ
ตกต่ำหรือไม่เพียงใดน้ัน สาเหตุหน่ึงมาจากการท่ีผู้บริหารในองค์การนั้นมี
ภาวะผู้นำเพียงพอท่ีจะโน้มน้าวชักจูงให้บุคลากรทำงานให้แก่องค์การตาม
เป้าหมายที่วางไว้หรือไม่น่ันเองก ดังน้ัน การเรียนรู้เก่ียวกับภาวะผู้นำจึง
เป็นเร่อื งสำคญั และน่าสนใจควบคู่กันไป

ภาวะผู้นำเป็นอย่างไร ผู้นำคืออะไร ผู้นำเป็นมาแต่เกิดหรือถูก
สร้างขึ้น ภาวะผู้นำท่ีดีน้ันเกิดข้ึนในตัวบุคคลหรือในสถานการณ์แห่งการ
กระทำหรือพฤติกรรมกันแน่ เป็นคำถามที่คนส่วนใหญ่ยังไม่พอใจกับ
คำตอบนัก เพราะคำว่าผู้นำ (Leader) และภาวะผู้นำ (Leadership) มี
ความหมายท่ีแตกต่างกันและมีประวัติที่ยาวนานมาก คำว่า ผู้นำ (Leader)
ปรากฏอยู่ในพจนานุกรมภาษาอังกฤษของออกซ์ฟอร์ด ใน ค.ศ. ๑๓๐๐
ส่วนคำว่า ภาวะผู้นำ (Leadership) นั้นปรากฏขึ้นมาภายหลังประมาณ
ค.ศ. ๑๘๐๐ แต่จนกระท่ังในปัจจุบัน ความหมายของคำว่า ผู้นำและภาวะ
ผนู้ ำ กย็ งั เปน็ ปรศิ นาสำหรับนกั วชิ าการและบุคคลทวั่ ไป

ผู้นำ (Leader) คำว่า “ผู้นำ” ได้มีผู้รู้ท้ังในและต่างประเทศได้
ให้ความหมายไว้มากมายซึ่งมีทั้งความหมายที่เหมือนและแตกต่างกันไป
ดังนี้

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชิงพุทธ ๑๐๘

พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) ให้ความหมายว่า ผู้นำ หมายถึง
บุคคลท่ีจะมาประสานช่วยให้คนทั้งหลายรวมกัน โดยที่ว่าจะเป็นการอยู่
รวมกันก็ตาม หรือทำการร่วมกันก็ตาม ให้พากันไปด้วยดีสู่จุดมุ่งหมายที่ดี
งาม ๑

พระธรรมโกศาจารย์ (ประยรู ธมฺมจติ โฺ ต) กลา่ วว่า ผู้นำ หมายถึง
ผชู้ ักพาให้คนอ่ืนเคลื่อนไหวหรือกระทำการในทิศทางท่ีผู้นำกำหนดเป้ามาย
ไว้ หลายคนมีบทบาทเป็นผู้นำกันอยู่แล้ว เช่น เป็นผู้นำองค์กร ผู้นำสมาคม
ผู้นำวดั และแม้กระทั่งหัวหนา้ ครอบครวั ก็จัดวา่ เป็นผ้นู ำ ๒

ศ.ดร.อุดม ทุมโฆสิต กล่าวว่า ผู้นำ หมายถึงบุคคลท่ีมี
ความสามารถในการบริหารจัดการและเป็นบุคคลท่ีมีอำนาจเหนือผู้อ่ืน
สามารถชักจงู หรอื ช้นี ำบุคคลอนื่ ใหป้ ฏบิ ัติงานสำเร็จตามวตั ถุประสงค์ ๓

ศ.เสนาะ ติเยาว์ ให้ความหมายว่า ผู้นำ หมายถึงผู้ท่ีใช้อำนาจ
หรืออิทธิพลกำหนดพฤติกรรมและความรู้สึกของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น
อิทธิพลท่ีมีต่อตัวบุคคลแต่ละคนหรือต่อกลุ่ม ซ่ึงเป็นอิทธิพลที่มีผลต่อ
อารมณ์ของคนเหล่านั้น เช่น ทำให้มีความรู้สึกกระตือรือร้นท่ีจะทำงานซึ่ง
แตก่ ่อนไม่ยอมท่ีจะทำงานน้ัน หรอื เห็นว่างานน้นั นา่ เบอ่ื หนา่ ย ๔

๑ พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต), ภาวะผู้นำ, (กรงุ เทพฯ : สุขภาพใจ, ๒๕๔๖), หน้า
๓.

๒ พระธรรมโกศาจารย์ (ประยรู ธมฺมจิตฺโต), พทุ ธวิธีบริหาร, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์
มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๔๙), หน้า ๕.

๓ อุดม ทุมโฆสิต, ศ.ดร., การจัดการ, (กรุงเทพฯ: คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบัน
บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร,์ ๒๕๔๔) หนา้ ๒๓๐.

๔ เส น าะ ติ เย า ว์ , ศ ., ห ลั ก ก า รบ ริ ห าร , (ก รุ งเท พ ฯ : โร งพิ ม พ์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๖) หน้า ๕.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๐๙

รศ.สุนทร วงศ์ไวศยาวรรณ และรศ.ดร.เสน่ห์ จ้ยุ โต กล่าวว่า ผนู้ ำ
คือบุคคลท่ีสามารถชักจูงหรือชี้นำบุคคลอื่นให้ปฏิบัติงานสำเร็จตาม
วัตถุประสงค์ทว่ี างไว้น่นั เอง ๕

เอฟ อี ฟีดเลอร์ (F. E. Fiedler) ให้ความหมายว่า ผู้นำ คือบุคคล
ใดบุคคลหนึ่งในกลุ่มผู้เป็นผู้ควบคุมและประสานงานให้กิจกรรมต่างๆ ของ
กลมุ่ ดำเนินไปไดด้ ว้ ยความเรยี บร้อย ๖

โดยสรุป ผู้นำ (Leader) คือ บุคคลท่ีสามารถใช้อำนาจกระตุ้น
คนอ่ืนให้ทำงานหนักหรือทุ่มเทให้กับงานจนประสบความสำเร็จตาม
เป้าหมายที่ต้องการ ความเป็นผู้นำจึงมีความสำคัญต่อองค์การ ดังน้ัน จึงมี
คำถามว่าผู้บริหารควรเป็นผู้นำด้วยหรือไม่ เพราะผู้บริหารกับผู้นำมีความ
แตกต่างกัน ซ่งึ โดยแท้จริงแล้วผู้บรหิ ารควรจะต้องเป็นผู้นำด้วย เพราะผู้นำ
จะทำให้เกิดการเปล่ียนแปลง แต่ผู้บริหารจะทำให้งานบรรลุผลสำเร็จอย่าง
มีระบบ แต่ผู้นำไม่จำเป็นต้องเป็นผู้บริหาร เพราะผู้นำสามารถใช้อำนาจได้
โดยไมต่ ้องสง่ั และผตู้ ามก็ยอมรับความเปน็ ผ้นู ำอยแู่ ล้ว

จากความหมายของผู้นำที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทำให้สามารถ
กลา่ วได้ว่า ผู้นำ๗ มแี หล่งท่มี าท่ีสำคัญ ๒ ประการ คือ ๑) ผูน้ ำทมี่ ีแต่กำเนิด
หรือโดยธรรมชาติ หมายถึง ผู้นำท่ีมีเช้ือสาย พ่อแม่ เครือญาติ หรือมีการ

๕ สนุ ทร วงศ์ไวศยวรรณ, รศ. และ เสน่ห์ จุย้ โต, รศ.ดร., “ภาวะผู้นำ” ใน เอกสาร
ก า ร ส อ น ชุ ด วิ ช า อ งค์ ก า ร แ ล ะ ก า ร จั ด ก า ร , (น น ท บุ รี : ส ำ นั ก พิ ม พ์
มหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๑) หน้า ๑๔๘.

๖ F. E. Fiedler, A Theory of Leadership Effectiveness, (New York : McGraw-
Hill Book, 1967) p. 8.

๗ เสน่ ห์ จุ้ ยโต, รศ.ดร., องค์ การสมั ยใหม่ , (นนทบุ รี : สำนั กพิ มพ์
มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช, ๒๕๕๑), หนา้ ๑๑๕.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๑๐

ถ่ายทอดทางพันธกุ รรมท่ีดี โดยการสืบลักษณะและนิสัยมาจากบิดา มารดา
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะท่าทาง รูปร่างและองค์ประกอบอื่นๆ ของความเป็น
ผู้นำในทางคนจีนอาจจะเรียกได้ว่า “โหงวเฮ้งดี” ๒) ผู้นำท่ีเกิดขึ้นโดย
สถานการณ์ หมายถึง เม่ือมีสถานการณ์ที่เบ่ียงเบนเกิดข้ึนท้ังในทาง
การเมือง เศรษฐกิจและสังคม สถานการณ์หรือเหตุการณ์ดังกล่าวจะ
ก่อให้เกิดผู้นำข้ึนมา เช่น ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางเศรษฐกิจ หรือผู้นำ
ทางสังคม เปน็ ต้น ซงึ่ ในบางครงั้ อาจกล่าวไดว้ ่า สถานการณส์ ร้างผ้นู ำขึ้นมา
ในขณะเดียวกันก็มีสถานการณ์ที่เกิดข้ึนมาโดยตั้งใจท่ีจะให้ผู้นำเกิดขึ้น ซึ่ง
สถานการณ์ดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์มากกว่าที่จะเป็นไปโดย
สถานการณท์ ่เี กดิ ข้ึนจรงิ

4.2 ภาวะผนู้ ำ (Leadership)
ภาวะผู้นำเป็นเสน่ห์ของคนมาตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ ใน

วรรณคดีต่างๆ ได้บันทึกเก่ียวกับผู้นำที่ดีและผู้นำท่ีเลว แต่ทุกยุคทุกสมัยก็
มีข้อพิสูจน์ได้ว่าผู้นำท่ีดีจะอยู่คู่กับความเจริญของมนุษยชาติตลอดมา มี
หลักฐานปรากฏอยู่มากมายว่าผู้นำท่ีดีสร้างท้ังผลงานและคุณธรรมต่อ
ส่วนรวมและโลกก็ยังคงต้องการผู้นำท่ีดีอยู่ตลอดไป เพราะความเป็นผู้นำมี
อทิ ธพิ ลต่อพฤติกรรมของบุคคลอ่นื ในหลายๆ ทาง มีผู้ให้คำนิยามภาวะผู้นำ
ไว้ ดังน้ี

พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) ให้ความหมายว่า ภาวะผู้นำ
หมายถึง คุณสมบัติ เช่น สติปัญญา ความดีงาม ความรู้ความสามารถ ของ

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๑๑

บุคคลท่ีชักนำให้คนทั้งหลายมาประสานกันและนำพาไปสู่จุดมุ่งหมายที่ดี
งาม ๘

พระราชปัญญาเมธี (สมชัย กุสลจิตฺโต) กล่าวว่า ภาวะผู้นำ
หมายถึง ความมีคุณธรรม มีคุณสมบัติในการริเร่ิมสิ่งใหม่ๆ ในการรวมเอา
กายรวมเอาใจของมวลชนหรือประสานร้อยรวมคนจำนวนมากให้เห็นดี
เห็นชอบ แล้วดำเนินไปสู่เป้าหมายที่ดีงานอันเดียวกัน พร้อมท้ังเป็นผู้
เสียสละ กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำในส่ิงท่ีถูกต้องชอบธรรมก่อนบุคคลอ่ืนๆ
เป็นต้น ๙

ศ.เสนาะ ติเยาว์ ได้ให้ความหมายของภาวะผู้นำไว้ว่า ภาวะผู้นำ
คือ ความสามารถท่ีมีอิทธิพลต่อคนอื่นซึ่งจะทำให้งานบรรลุเป้าหมายหรือ
เป็นกระบวนการในการกระตุ้นบุคคลอื่นให้ทำงานหนักจนประสบผลสำเร็จ
ในแง่ของสังคมภาวะผู้นำ คือ กระบวนการที่มีอิทธิพลในทางสังคมที่ทำให้
ผู้นำแสวงหาความร่วมมือจากบุคคลอ่ืนให้มีส่วนร่วมด้วยความสมัครใจ ใน
การใชค้ วามพยายามเพือ่ ใหง้ านสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย ๑๐

ศ.ดร.อุดม ทุมโฆสิต กล่าวว่า ภาวะผู้นำ คือ กระบวนการใช้
อำนาจและอิทธิพลที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำและผู้ตาม เพ่ือให้
บรรลวุ ตั ถุประสงค์อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ขององคก์ าร ๑๑

รศ.ดร.เสน่ห์ จุ้ยโต ระบุว่า ภาวะผู้นำ คือ กระบวนการที่บุคคล
ในกลุ่มสมาชิกคนใดคนหน่ึงที่พยายามให้พฤติกรรมมีอิทธิพลเหนือสมาชิก

๘ พระธรรมปฎิ ก (ป.อ. ปยุตโฺ ต), ภาวะผูน้ ำ, (กรุงเทพฯ : ธรรมสภา, มปป), หน้า ๕.
๙ พระราชปัญญาเมธี (สมชัย กุสลจิตฺโต), สงฆ์ผู้นำสังคม, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์
มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๔๗) หนา้ ๕๒.
๑๐ เสนาะ ติเยาว์, ศ., หลักการบรหิ าร, หน้า ๑๘๒.
๑๑ อุดม ทมุ โฆสิต, ศ.ดร., การจัดการ, หนา้ ๒๓๐.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๑๒

คนอ่ืนๆ ในกลุ่มเดียวกัน ภาวะผู้นำ คือ กระบวนการท่ีบุคคลสามารถทำให้
ผู้อ่ืนยอมรับทั้งในแง่ความรู้ ความสามารถในทางวิชาการ สุขภาพดี จิตใจดี
และเป็นบุคคลท่ีสามารถดลใจ ดึงดูดใจและชักจูงใจให้ผู้อื่นยินดีที่จะ
ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ โดยเขามิได้ถูกบังคับให้กระทำแต่อย่าง
ใด ๑๒

ดร.สาคร สขุ ศรีวงศ์ ให้คำจำกัดความของภาวะผนู้ ำว่า ภาวะผนู้ ำ
หมายถึง ความสามารถของผู้นำในการทำให้บุคคลอื่นปฏิบัติอย่างใดอย่าง
หนึ่งเพ่อื ให้บรรลุวตั ถุประสงคข์ ององค์กร ๑๓

สตอกดิลล์ (Stogdill) กล่าวว่า ภาวะผู้นำเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ
ใช้อิทธิพล (Influence) เขาให้นิยามภาวะผู้นำไว้ว่า คือกระบวนการใช้
อทิ ธพิ ลที่ผูน้ ำกระทำตอ่ กลุ่ม เพอื่ ให้งานของกลุ่มบรรลเุ ปา้ หมายทว่ี างไว้ ๑๔

จากคำนิยามข้างต้น พอจะสรุปความหมายของภาวะผู้นำได้ว่า
ภาวะผู้นำ (Leadership) คือ กระบวนการใช้อำนาจอิทธิพลของผู้นำใน
การชกั จงู หรอื ชี้นำบุคคลอืน่ ใหป้ ฏบิ ตั ิงานสำเรจ็ ตามวัตถุประสงคท์ ีว่ างไว้

๑๒ เสน่ห์ จุ้ยโต, รศ.ดร., องค์การสมยั ใหม่, หนา้ ๑๑๔.
๑๓ สาคร สุขศรีวงศ์, ดร., การจัดการ : จากมุมมองของนักบริหาร, (กรุงเทพฯ:
บริษัท จี.พ.ี ไซเบอรพ์ รนิ ท์ จำกัด, ๒๕๕๓), หน้า ๑๕๖.
๑๔ Ralph M. Stogdill, Leadership, Membership and Organization,
(Psychological Bulletin : January 1950,) p. 4.

ภาวะผนู้ ำทางการจดั การเชิงพุทธ ๑๑๓

4.3 ความสำคญั ของภาวะผู้นำ
โดยท่ัวไปภาวะผู้นำมีความสำคัญต่อหน่วยงานอย่างยิ่ง ดังที่

รศ.ดร.เสนห่ ์ จยุ้ โต ได้กลา่ วไว้ดังตอ่ ไปน้ี ๑๕
๑. เป็นส่วนที่ดึงความรู้ความสามารถต่างๆ ในตัวผู้บริหารมาใช้

คือ ผู้บริหารแม้จะมีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ มากมาย
เพียงใดก็ตาม แต่ถ้าหากขาดภาวะผู้นำแล้ว ความรู้ความสามารถดังกล่าว
มักจะไม่ได้ถูกนำออกมาใช้หรือไม่มีโอกาสใช้อย่างเต็มที่เพราะไม่สามารถ
กระตุ้นหรือชักจูงให้ผู้อื่นคล้ายตามและปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายที่วาง
ไว้

๒. ช่วยประสานความขัดแย้งต่างๆ ภายในหน่วยงาน กล่าวคือ
ถ้าผูบ้ ริหารในหน่วยงานมภี าวะผู้นำทม่ี ีคนยอมรับนับถือแล้ว ก็จะประสาน
หรือช่วยบรรเทาความขัดแย้งระหว่างบุคคลในหน่วยงานได้ โดยการชักจูง
ประนีประนอมหรือประสานประโยชน์เพ่ือให้บุคคลในหน่วยงานมีความ
เป็นอันหนง่ึ อันเดียวกันและร่วมกันฟนั ฝ่าอุปสรรคเพ่ือให้หน่วยงานมคี วาม
เจริญกา้ วหน้า

๓. ช่วยโน้มน้าวชักจูงให้บุคลากรทุ่มเทความรู้ความสามารถ
ให้แก่องค์การ การมีภาวะผู้นำในตัวผู้บริหารจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิด
ความยอมรับ เกิดความศรัทธาและเชื่อมั่น และเป็นการง่ายท่ีจะกระตุ้น
หรอื ชักจูงใจใหพ้ วกเขาทุ่มเทความร้คู วามสามารถให้แกอ่ งคก์ าร

๑๕ เสน่ห์ จุ้ยโต, รศ.ดร. และคณะ, “ผู้นำในองค์กร” ใน เอกสารการสอนชุดวชิ า
องค์การและการจัดการงานบุคคล, (นนทบุรี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,
๒๕๕๑), หนา้ ๑๕๖.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๑๔

๔. เป็นหลกั ยึดให้แก่บุคลากรเม่ือหน่วยงานเผชิญสภาวะคับขัน
กล่าวคือ เม่ือใดก็ตามที่หน่วยงานต้องเผชิญกับสภาวะคับขันหรอื สภาวะท่ี
อาจกระทบถึงความอยู่รอด ภาวะผู้นำของผู้บริหารจะย่ิงทวีความสำคัญ
มากขึ้น จะเป็นเสาหลักสำคัญให้สมาชิกของหน่วยงานยึดเหน่ียว พ่ึงพิง
และรว่ มมือช่วยเหลอื กันให้หนว่ ยงานอยู่รอดปลอดภัย

แม้ความเปน็ ผู้นำจะมีความสำคัญต่อหน่วยงานและขวัญกำลังใจ
ของผู้ปฏิบัติงาน แต่บางสถานการณ์ภาวะผู้นำอาจมีความสำคัญลดลง เช่น
ผปู้ ฏิบตั ิงานไดป้ ฏิบตั ิงานมานานจนมีความเชยี่ วชาญ หรอื เปน็ ลักษณะงานท่ี
ทำตามข้นั ตอนการทำงาน่มี กี ารกำหนดระเบยี บไวล้ ะเอียดแล้ว เป็นตน้ ผู้นำ
จะเขา้ ไปมอี ิทธิพลต่อการทำงานได้น้อย อาจจะมีบ้างก็เป็นเพียงกรณีท่ีต้อง
ขอคำปรกึ ษาเทา่ น้นั

4.4 ทฤษฎีภาวะผ้นู ำ
การศึกษาภาวะผู้นำเป็นเร่ืองท่ีสนใจกันมานานแล้วต้ังแต่สมัย

กรีกจนถึงปจั จุบัน นกั ปราชญค์ นสำคญั ในอดีตเช่น เพลโต กไ็ ด้มกี ารพูดถึง
ผู้นำในอุดมคติมาแล้ว นักปราชญ์และนักวิชาการแต่ละคนต่างศึกษาผู้
นำไปตามแง่มุมที่ตนเองถนัดและสนใจ อย่างไรก็ตาม สามารถแบ่ง
การศึกษาภาวะผู้นำในองค์การต้ังแต่อดีตถึงปัจจุบันออกได้เป็น ๔ กลุ่ม
ใหญ่ๆ โดยแต่ละกลุ่มมีจุดเน้นหรือทฤษฎีท่ีโดดเด่นของตัวเองโดยเฉพาะ
ดังน้ี

๔.4.1 ทฤษฎีภาวะผู้นำตามคุณลักษณะเฉพาะของผู้นำ
(Trait Theory) ภาวะผู้นำตามคุณลักษณะเฉพาะของผู้นำเป็นแนวคิดท่ี
เก่าแก่ท่ีสุด ส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์ท่ีศึกษาเก่ียวกับภาวะผู้นำระบุว่า
ผ้นู ำเกดิ ขึ้นโดยกำเนิดและสร้างขน้ึ ในภายหลงั ไม่ได้ อย่างเชน่ อเลก็ ซานเด

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๑๕

อรม์ หาราช นโปเลยี น ไบนาปาร์ท จอรจ์ วอชิงตนั มหาตมะ คานธี อับบรา
ฮัม ลินคอล์น เป็นต้น บุคคลเหล่าน้ีล้วนแต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำ
โดยกำเนิด การศึกษาภาวะผู้นำตามแนวคุณลักษณะมีความเช่ือว่า ผู้นำ
จะต้องมีคุณสมบตั ิและลักษณะเด่นอย่ใู นตัวที่แตกต่างไปจากคนอื่น โดยมี
แนวทางง่ายๆ ว่า อะไรทำให้คนเปน็ ผู้นำที่มปี ระสิทธิภาพกเ็ พียงแต่การวัด
คุณสมบัติและลักษณะเหล่านี้ในตัวคน คุณสมบัติและลักษณะที่ใช้วัดก็
ได้แก่ ลักษณะทางร่างกาย ลักษณะทางบุคลิกภาพ ทักษะและ
ความสามารถ และปัจจยั ทางสังคม เพ่ือหาว่าคุณสมบัติและลักษณะตา่ งๆ
เหล่านีแ้ ตกตา่ งไปจากคนอนื่ อย่างไร

สตอกดิลล์ (Stogdill) ได้สรุปผลจากการศึกษาคุณสมบัติและ
ลักษณะผู้นำ ๑๐๐ ตัวอย่าง ระบุว่า บุคคลที่เป็นผู้นำ คือ ผู้ท่ีมีคุณสมบัติ
และลักษณะต่อไปน้ีมากว่าปกติ คือ ความฉลาด ความรู้ ความรับผิดชอบ
การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมและสังคม และสถานภาพทางเศรษฐกิจสังคม ซ่ึง
ลักษณะต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ผู้นำสามารถดำเนนิ งานอย่างมีประสทิ ธิผล
และช่วยในการพัฒนาทักษะต่างๆ ได้ คุณสมบัติเพียงอย่างเดียวหรือไม่ก่ี
อย่างไม่อาจเป็นหลักประกันให้ผู้นำประสบความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม
ลักษณะต่างๆ ดังกล่าว เป็นส่วนท่ีนำมาใช้ในการประเมินบุคคล ประเมิน
สถานการณ์ เลือกใช้และปรับเปล่ียนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับการ
เปลี่ยนแปลงที่ไม่ไดค้ าดคะเนไว้ลว่ งหน้าไดอ้ ย่างเหมาะสม

๔.4.๒ ทฤษฎีภาวะผู้นำตามพฤติกรรม (Behavior Theory)
การศึกษาภาวะผู้นำตามพฤติกรรม เป็นการเน้นการกระทำของผู้นำ
มากกว่าลักษณะของผู้นำ โดยการระบุแบบของพฤติกรรมและวิธีการที่ผู้
นำเอามาใช้ให้เหมาะสมกับงานและพฤติกรรมของผู้ตาม สมมติฐานท่ีใช้
เป็นแนวการศึกษาก็คือ ผู้นำท่ีประสบผลสำเร็จจะมีพฤติกรรมแตกต่างไป

ภาวะผู้นำทางการจดั การเชิงพทุ ธ ๑๑๖

จากผนู้ ำทไ่ี มป่ ระสบผลสำเรจ็ อยา่ งไร การศกึ ษาภาวะผนู้ ำตามพฤติกรรมน้ี
ได้มีการดำเนินการที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอ (Ohio State University) รัฐ
มิ ชิ แกน และนั กบ ริห ารท่ี มี ชื่ อ อี ก ๒ กลุ่ ม คื อ กลุ่ ม Robert
Tannenbaum และกลุม่ ของ Robert R. Blake

การศึกษาที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอ เน้นพฤติกรรมผู้นำหรือแบบ
ผู้นำ ๓ แบบ คอื ผนู้ ำแบบเผด็จการ ผู้นำแบบประชาธิปไตย และผู้นำแบบ
เสรีว่าผู้นำแบบใดก่อให้เกิดความสำเร็จมากท่ีสุด ซึ่งผลการศึกษาพบว่า
กลุ่มท่ีมีผู้นำแบบเสรีนิยมได้ผลการปฏิบัติงานต่ำกว่ากลุ่มผู้นำแบบเผด็จ
การและแบบประชาธิปไตย ซึ่งได้ปริมาณงานเก่ากันท้ังสองกลุ่ม คุณภาพ
งานและความพอใจในการทำงานดีท่ีสุดตกอยู่กับกลุ่มท่ีมีผู้นำแบบ
ประชาธปิ ไตย เม่ือศึกษาต่อมาก็พบวา่ บางครงั้ ผลการปฏิบตั ิงานในกลมุ่ ท่ีมี
ผู้นำแบบประชาธิปไตยสูงกว่ากลุ่มที่มีผู้นำแบบเผด็จการ แต่บางครั้งผล
การปฏบิ ตั ิงานของกลุ่มท่ีมีผนู้ ำแบบประชาธิปไตยต่ำกวา่ กลุ่มที่มผี ู้นำแบบ
เผด็จการ แต่ความพอใจในการทำงานของกลุ่มท่ีมีผู้นำแบบประชาธิปไตย
สงู กวา่ กล่มุ ท่มี ผี นู้ ำแบบเผดจ็ การ

๔.4.๓ ทฤษฎีภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (Contingency
Theory ) การศึกษาภาวะผู้นำตามสถานการณ์มีพ้ืนฐานของแนวคิดที่ว่า
ผู้นำที่ประสบความสำเรจ็ ไดน้ ้ันไม่จำเปน็ ต้องมคี ุณลักษณะเฉพาะท่ีตายตัว
และไม่จำเป็นต้องมีการแสดงออกเชิงพฤติกรรมในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
เท่านั้น หากแต่ผู้นำจะประสบความสำเร็จในการทำงานได้ก็ต่อเมื่อผู้นำ
สามารถเลือกใช้วธิ ีการหรือแสดงออกซ่ึงพฤติกรรมการเป็นผนู้ ำท่ีเหมาะสม
สอดคลอ้ งกับแตล่ ะสถานการณ์ ดงั น้ัน ผู้นำที่ประสงค์จะประยุกต์ใช้ทฤษฎี
ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง จึงต้องศึกษาว่า
สถานการณ์หรือปัจจัยต่างๆ ท่ีมีผลต่อวิธีการและพฤติกรรมของผู้นำ

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๑๗

เหล่านั้นมีอะไรบ้าง และแต่ละสถานการณ์ผู้นำควรจะใช้วิธีการใดในการ
บรหิ ารงานให้ประสบความสำเร็จได้สงู สุด

นักวิจัยหลายคน เช่น Fiedler F., House, Vroom-Yetto-Jago,
Ker-Jermier, Hersey-Blanchard ฯลฯ ได้ค้นคว้าถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่
สง่ ผลต่อภาวะผู้นำและวิธีการทผี่ ู้นำเลือกใช้ในหลายรปู แบบ๑๖

๔.๔.4 ทฤษฎี ภาวะผู้ นำตามพื้ นฐานการใช้ อิทธิพล
(Influence-based Theory) ภาวะผู้นำในปัจจุบนั ไดม้ ีการพัฒนาภาวะผู้นำ
ขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดการเปลย่ี นแปลงท่ีสมควรจะกลา่ วถงึ คือ ภาวะผู้นำท่ีมี
บารมกี บั ภาวะผู้นำทก่ี ่อให้เกิดการเปลยี่ นแปลง

๑) ภาวะผู้นำที่มีบารมี (Charismatic Leadership) มี
ผู้นำทม่ี ีบารมีท่ีเป็นผู้นำทย่ี ง่ิ ใหญ่ของโลก เช่น โรนลั ด์ เรแกน มาติน ลูเธอร์
คิง วอล์ท ดิสนีย์ แฟรงคลิน ดี รุสเวลท์ นายพลนอร์แมน ชวาคอร์พ เป็น
ต้น ภาวะผู้นำท่ีมีบารมีน้ีเป็นการกลับไปสู่แนวความคิดของภาวะผู้นำ
สมัยก่อนท่ีว่า ใครก็ตามที่มีความสามารถส่วนตัวจะก่อให้เกิดผลกระทบ
อย่างลึกซึ้งและเกินกวา่ ปกติต่อบุคคลอืน่ บุคคลทเี สนอทฤษฎภี าวะผนู้ ำทีม่ ี
บารมี คือ โรเบิร์ต เฮาส์ (Robert House) เขาเสนอว่า ผู้นำที่มีบารมีเป็นผู้
ท่ีมีความเชื่อม่ันสูง มีอุดมการณ์ มีความคิดที่ทำให้น่าเช่ือถือและมีความ
ต้องการสูงท่ีจะมีอิทธิพลเหนือคนอื่น แนวคิดของภาวะผู้นำที่มีบารมีจึงมี
ลักษณะคล้ายกับภาวะผู้นำตามแนวคุณลักษณะ ซ่ึงมีสมมติฐานว่าบารมี
เปน็ ลักษณะสว่ นตัวของผนู้ ำ บารมีเป็นรูปแบบของการให้เกดิ ความดึงดูดใจ
ระหว่างบุคคลที่ดลบันดาลให้เกิดการสนับสนุนและยอมรับบุคคลท่ีมีบารมี
นั้น ที่สำคัญผู้นำท่ีมีบารมีจะมีอิทธิพลเหนือคนอื่นมากกว่าคนท่ีไม่มีบารมี

๑๖ สาคร สุขศรวี งศ,์ ดร., การจัดการ : จากมมุ มองของนักบริหาร, หนา้ ๑๖๒.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๑๘

เช่น ผู้บังคับบัญชาที่มีบารมีสูงจะประสบความสำเร็จในการใช้อิทธิพลต่อ
ผใู้ ต้บังคับบัญชามากกวา่ ผู้บังคับบัญชาท่ีไม่มีบารมี ดังนั้น อิทธิพลเป็นสว่ น
ทส่ี ำคญั ที่สุดของความเป็นผู้นำที่มีบารมี

๒ ) ภ า ว ะผู้ น ำ ท่ี ก่ อ ให้ เกิ ด ก า รเป ล่ี ย น แ ป ล ง
(Transformational Leadership) บุคคลสำคัญทศี่ ึกษาผู้นำท่ีทำให้เกิดการ
เปล่ียนแปลงคือ J.M. Bums และ Burnard M. Bass ซึ่งระบุว่าผู้นำที่ทำให้
เกิดการเปล่ียนแปลงมี ๒ ลักษณะคือ ผู้นำท่ีเปล่ียนแปลงคนอ่ืนโดยอาศัย
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับผู้ตาม (Transactional Leadership) กับผู้นำ
ท่ีสามารถเปล่ียนแปลงค่านิยม ความเชื่อ และความต้องการของผู้ตามให้
เป็นไปในทางที่ดี (Transformational Leadership) จากผลการวิจัยสรุปว่า
ผู้นำแบบ Transactional Leadership เป็นผู้นำที่เปลี่ยนแปลงโดยการจูง
ใจให้ทำงานหนังจนงานสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย ใชว้ ิธีการชว่ ยคนเหลา่ นั้นรู้จักร
รับผิดชอบงาน ระบุให้เห็นเป้าหมายอย่างชัดเจน เกิดความเชื่อม่ันและมี
ความเข้าใจว่าหากทำงานบรรลุตามเป้าหมายเขาจะได้ระคับผลตอบแทน
อ ย่ างไร ส่ วน ผู้ น ำแ บ บ Transformational Leadership เป็ น ก าร
เปล่ียนแปลงผลประโยชน์ ของแต่ละคนให้ เป็ นผลประโยชน์ ท่ี ดี ขึ้นของ
องค์การ เป็นวธิ ีการช่วยพัฒนาให้มองในแนวใหม่ แก้ปัญหาแนวใหม่ ทำให้
คนกล้าทำการเปลี่ยนแลงที่ดีข้ึน เร้าใจและกระตุ้นให้ใช้ความพยายามท่ี
มากขึ้นจนบรรลุผลสำเร็จมากกว่าเป้าหมายท่ีวางไว้ ผู้นำจะทำให้
ผู้ปฏิบัติงานมีจิตสำนึก มีความมุ่งมั่น เปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มุ่ง
ผลประโยชน์ตัวเองไปเน้นประโยชน์ขององค์การและของกลุ่มอาจกล่าวได้
ว่าผู้ปฏิบัติงานเปล่ียนแปลงตัวเองในทางที่ดีข้ึน เพราะเห็นผู้นำเป็น
แบบอยา่ งของความดี เช่น การเห็นแก่ส่วนรวม การเสียสละ ความเรียบงา่ ย
ไม่ละโมบ ไม่เอาเปรียบ ฉลาด มีความคิดริเร่ิม ซึ่งหกจะเปรียบเทียบกับ

ภาวะผูน้ ำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๑๙

Transactional Leadership เป็นผู้นำท่ีทำให้ผู้ตามประสบผลสำเร็จของ
ตัวเองโดยที่งานขององค์การก็ได้รบั ประโยชน์ตามเปา้ หมายด้วย เมื่อมองใน
แง่ของผลงาน Transformational Leadership ทำให้งานขององค์การ
บรรลุผลมากกว่าเป้าหมายท่ีกำหนดไว้ ผู้นำจะใช้อำนาจอ้างอิง ทำให้
ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้ผลมากกว่าท่ีวางแผนไว้ นำไปสู่การเปล่ียนแปลงและ
การเจริญเติบโต ๑๗ ดังนั้น ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงจึงมี ๔ องค์ประกอบ
หลักดว้ ยกัน คือ ๑) องค์ประกอบด้านบารมหี รอื อิทธพิ ลเชิงอดุ มคติ ๒) การ
จูงใจเพื่อสร้างแรงดลใจ ๓) การกระตุ้นทางปัญญา และ ๔) การคำนึงถึง
ปัจเจกบุคคล ๑๘

สรุป การศึกษาทฤษฎีภาวะผู้นำ สามารถแยกออกได้เป็น ๔
ทฤษฎีด้วยกันคือ ทฤษฎีภาวะผู้นำตามแนวคุณลักษณะ ทฤษฎีภาวะผู้นำ
ตามแนวพฤติกรรม ทฤษฎีภาวะผู้นำตามแนวสถานการณ์และทฤษฎีภาวะ
ผู้นำตามแนวพ้ืนฐานการใช้อิทธิพล ทฤษฎีที่ศึกษาแต่ละทฤษฎีทำให้เข้าใจ
ว่าทำไมบางคนจึงเป็นผนู้ ำไดแ้ ละบางคนเปน็ ไม่ได้

4.๕ การพัฒนาภาวะผนู้ ำ
ผูน้ ำมิได้เป็นมาต้ังแต่เกิด แต่สามารถเรียนรู้และพฒั นาได้ การเป็น

ผู้นำน้ันจะต้องมีหลักยึดและมีประสบการณ์ หลักยึด คือแนวคิดต่างๆ ของ
นักวิชาการ ทฤษฎีต่างๆ เก่ียวกับผู้นำและผลการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับผู้นำ
สำหรับประสบการณ์น้ันเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับส่ิงแวดล้อม อาจ
เป็นประสบการณ์ตรงหรือประสบการณ์ทางอ้อม อาจเป็นผลจากการได้

๑๗ เสนาะ ติเยาว,์ ศ., หลกั การบริหาร, หนา้ ๒๐๕.
๑๘ พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, ผศ.ดร., องค์การและการบริหารจัดการ, (กรุงเทพฯ :
ธิงค์ บยี อนด์ บคุ๊ ส์ จำกัด, ๒๕๕๒), หนา้ ๑๙๘.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๐

ปฏิบัติเองหรือเห็นผู้อื่นปฏิบัติ ดังนั้น การพัฒนาภาวะผู้นำย่อมมีความ
จำเป็นอย่างยิง่ โดยมีเปา้ หมายที่สำคญั คอื

๑) เพือ่ ให้ทราบจดุ แข็งและจดุ อ่อนของตนเอง โดยธรรมชาติแล้ว
เรามักจะมองตัวเราเองไม่ค่อยเป็น แต่การพัฒนาภาวะผู้นำจะทำให้เราได้
ขอ้ มูลย้อนกลับ ซงึ่ จะชว่ ยทำให้เรารจู้ ักตนเองไดด้ ีขน้ึ

๒) เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นท่ียังบกพร่องอยู่ เม่ือทราบว่ามี
ทักษะอะไรบ้างทีจ่ ำเปน็ ต้องพฒั นา ก็ต้องหาโอกาสในการฝึกอบรมหรือเพ่ิม
ประสบการณ์ หรือเรียนรู้จากบุคคลอ่ืนเพื่อสร้างความเข้าใจและพัฒนา
ทกั ษะน้นั ๆ

๓) เพื่อทดแทนจุดอ่อนของตนเอง คนทุกคนย่อมมีจดอ่อนใน
ตนเอง ผู้นำจำเป็นต้องพัฒนาการมอบหมายงานให้บุคคลที่มีจุดแข็งในเร่ือง
น้นั เป็นผทู้ ำหน้าทีแ่ ทน เชน่ การพัฒนาทีมบรหิ าร เปน็ ตน้

ดงั นนั้ ในการพฒั นาภาวะผนู้ ำนน้ั มนี ักวชิ าการไดเ้ สนอแนวทางใน
การพฒั นา ๕ วธิ ีด้วยกนั ๑๙ ดังน้ี

๑. การศึกษา การได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการ มีหลักสูตร
และระยะเวลากำหนดไว้ชัดเจน เช่น หลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก
เป็นตน้

๒. การฝึกอบรม เป็นการพัฒนาความรู้และทักษะเฉพาะอย่าง
ของการเป็นผู้นำ ซ่ึงมีหลายวิธี เช่น การสถานการณ์จำลอง เกมการบริหาร
เปน็ ตน้

๑๙ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, “ภาวะผู้นำในองค์กร” ใน เอกสารการสอนชุด
วิชาการบริหารองค์การ, (นนทบุรี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๐), หน้า
๒๘-๒๙.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๑

๓. การสร้างประสบการณ์ เป็นการเรียนรู้จากการทำงาน การมี
โอกาสทำงานที่ท้าทายมากยอ่ มมีโอกาสเรียนรู้มาก การแสวงหาโอกาสในการ
ทำงานท่ที า้ ทายจงึ เป็นวิธีการพฒั นาภาวะผู้นำได้วิธีหนง่ึ

๔. การเรียนรู้จากผู้อ่ืน บุคคลทั้งภายนอกและภายในองค์การ
สามารถเป็นตัวแบบของการเรียนรู้และสามารถนำมาพัฒนาความเป็นผู้นำ
ของตนเองได้ เช่น การเรียนรู้จากบุคคลภายนอกองค์การด้วยการสังเกต
และวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมผู้นำของบุคคลที่สามารถถือเป็นตัวแบบได้ เป็นตน้

๕. การเรียนรู้จากตนเอง ด้วยการเรียนรู้จากความสำเร็จหรือ
ความล้มเหลวของตนเองเป็นวธิ กี ารพฒั นาผ้นู ำที่ดีอีกวิธีหน่งึ โดยเฉพาะการ
เรียนรู้จากความผิดพลาด ทำให้ทราบจุดอ่อนหรือข้อจำกัดของตนเอง แล้ว
นำมาปรบั ปรงุ แกไ้ ข

การพัฒนาการเป็นผู้นำด้วยวิธีการท้ัง ๕ ประการท่ีกล่าวมาน้ี
เป็นการนำไปสู่ประสิทธิผลของผู้นำนอกจากนี้ ยังมีนักวิชาการบางท่านได้
กล่าวว่า กระบวนการพัฒนาภาวะผู้นำนั้น ผู้นำต้องเสริมด้วยกระบวนการ
อีก ๙ ประการ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก ท่ีจะช่วยทำให้ผู้นำมีความสำเร็จได้
๒๐ ประกอบดว้ ย

๑. การสร้างเครือค่าย (Networking) ความเป็นสังคมยุคข้อมูล
ข่าวสารมมี ากขนึ้ เครือข่ายโยงใยด้านข้อมูลข่าวสารจึงเป็นส่งิ จำเป็น ดังนั้น
ผ้นู ำยุคใหม่ต้องสร้างข่ายงานที่กว้างพร้อมท่ีจะร่วมมือกับทุกฝ่ายในรปู ของ
หุ้นสว่ นหรือพนั ธมิตร การสรา้ งเครอื ข่ายนอกจากจะเป็นการรว่ มมือกนั แล้ว
ยังสามารถแข่งขันกันด้วยก็ได้ ผู้นำไม่จำเป็นต้องมีองค์การขนาดใหญแ่ ต่ให้
ใช้องคก์ ารขนาดเล็กๆ ท่ีสามารถเช่อื มโยงข้อมูลขา่ วสารถึงกนั ได้

๒๐ เสน่ห์ จ้ยุ โต, รศ.ดร., องคก์ ารสมยั ใหม่, หนา้ ๑๓๖-๑๔๑.

ภาวะผูน้ ำทางการจดั การเชิงพุทธ ๑๒๒

๒. การติดต่อสื่อสาร (Communication) การติดต่อสื่อสารด้วย
การฟัง การพูดและการเขียน โดยเฉพาะภาษาองั กฤษ ผนู้ ำต้องมีการพฒั นา
อย่างย่ิง เพราะความเป็นสากลหรือนานาชาตินั้นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็น
เคร่ืองมือในการติดต่อส่ือสาร และในอนาคตอาจต้องเพ่ิมภาษาจีนและ
ญี่ป่นุ อกี ด้วย

๓. การจัดองค์การ (Organizing) ผู้นำต้องเป็นนักจัดโครงสร้าง
และสถาปนิกองค์การให้ทันสมัยอยู่เสมอ ต้องออกแบบองค์การให้มีความ
คลอ่ งตวั ยืดหยุ่นและตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของลกู คา้ ไดอ้ ย่างรวดเรว็

๔. การจูงใจ (Motivating) ในองค์การสมัยใหม่ การสร้าง
แรงจูงใจให้เกิดข้ึนในการทำงานของบุคลากรในองค์การ นับว่ามี
ความสำคัญยงิ่ เช่น มกี ารปรับระบบค่าตอบแทนแบบใหม่ใหม้ ลี ักษณะจูงใจ
มากขน้ึ

๕. การมอบหมายงาน (Delegating) จะต้องกระจายมอบหมาย
งานให้ทีมงานทำ อย่าลงไปทำเองทุกอย่าง และสร้างการควบคุมและ
รายงานตรวจซ้ำเพ่ือความเข้าใจแจ้งชัด ประเมินผลการดำเนินงานอย่าง
ตอ่ เน่ือง เหน็ คณุ ค่าและใหร้ างวัลผูร้ ับมอบหมายงาน

๖. การสร้างทีมงาน (Team Building) การสร้างทีมงานเป็น
เครื่องมือนำไปสู่การบริหารโดยวัตถุประสงค์ การพัฒนาองค์การและการ
วางแผน

๗. การสอนงาน (Coaching) การสอนงานโดยหลักการแล้ว
มุ่งเน้น ๓ เรืองใหญ่ที่สำคัญ คือ เร่ืองความรู้ ทักษะและทัศนคติ ผู้นำต้อง
กล้าที่จะบอกว่าสิ่งที่ถูกต้องนั้นคืออะไร มีการฝึกฝนให้กับทีมงาน ตนเอง
ต้องเปน็ แบบทด่ี ีไดด้ ้วย

ภาวะผ้นู ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๓

๘. การตัดสินใจ (Decision Making) ต้องพัฒนาการตัดสินใจให้
มีข้อมูลถูกต้องทนั สมัยครบถ้วนและพรอ้ มที่จะตัดสินใจอยู่ตลอดเวลา ต้อง
รู้จักใช้ข้อมูลท่ีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเชิง
ประจกั ษ์ มากวา่ ตดั สินใจโดยใช้ปทสั ถานตวั เอง

๙. การวางแผน (Planning) ต้องรู้จัดวางแผนไว้ล่วงหน้า ต้อง
จัดทำยุทธศาสตร์ว่าด้วยการวางแผน ต้ังแต่แผนกลยุทธ์ แผนงานโครงการ
และแผนปฏิบัติงาน ซ่ึงเทคนิคที่ใช้ในการวางแผนที่สำคัญ คือ สวอท
(SWOT) โดยการวิเคราะห์ถึงปัจจัยภายในและภายนอกท่ีมีผลกระทบต่อ
องคก์ าร เพื่อกำหนดยทุ ธศาสตรอ์ งคก์ ารต่อไป

สรุปกระบวนการพัฒนาภาวะผู้นำ ประกอบด้วยการสร้าง
เครือข่าย การติดต่อสื่อสาร การจัดองค์การ การจูงใจ การมอบหมายงาน
การสร้างทีม การสอนงาน การตดั สนิ ใจและการวางแผน

4.๖ ภาวะผู้นำตามแนวของพระพุทธเจ้า (Buddhist Leadership)
พระพุทธเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นผู้นำหรือนายก ได้ทรงเป็น

แบบอยา่ งของผู้นำ ซ่ึงเราจะเห็นว่าพระพุทธองคท์ รงเป็นผู้นำท่ีย่ิงใหญท่ ่ีสุด
ในโลก นอกจากจะเป็นผ้นู ำแลว้ พระองคท์ รงเปน็ แบบอย่างของผู้นำของโลก
ท่ีจะให้ชีวติ และสังคมมีความสุข สงบและมีสันติภาพ ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า
“เราเป็นกัลยาณมิตรของสัตว์ทั้งหลาย อาศัยเราผู้เป็นกัลยาณมิตร สัตว์
ท้ังหลายก็พ้นไปได้จากทุกข์ท้ังปวง” ๒๑ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ
ถึงแม้ไม่มีคำว่าผู้นำอยู่ในคำตรัสน้ี แต่พึงเข้าใจว่าความเป็นกัลยาณมิตรน่ี
แหละคือประเภทภาวะผู้นำจุดเด่นหรือสาระสำคัญของพุทธพจน์ กล่าวคือ

๒๑ พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). ภาวะผู้นำ. (กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา,
๒๕๔๖), หน้า ๗-๘.

ภาวะผ้นู ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๔

ผู้นำน้ันเป็นผู้ทำเพ่ือประโยชน์แก่เขา โดยเฉพาะสำหรับพระพุทธเจ้า ก็คือ
ประโยชน์แก่สรรพสัตว์หรือมนุษยชาติทั้งปวง ถ้ามองในวงแคบเข้ามาก็คือ
ผู้นำนั้นเป็นผู้ที่ต้ังใจทำเพื่อประโยชน์แก่หมู่ชน แก่ญาติมิตร เพ่ือนร่วมชุม
ชุน เพื่อนร่วมชาติ เพ่ือนร่วมสังคม แต่องค์กรน้ันๆ ท่ีมีขึ้น ก็เพ่ือประโยชน์
แก่มนุษย์ชาติแก่เพ่ือนมนุษย์แก่สังคมนั้นเอง เพราะฉะนั้นหลักสำคัญก็คือ
เปน็ กลั ยาณมติ รในสาระว่า ทำเพอ่ื ประโยชน์แก่เขา

ความเป็นผู้นำของพระพุทธเจ้านั้นแสดงออกในลักษณะอีกอย่าง
หนง่ึ ว่า เป็นผู้ค้นพบมรรคาหรือคน้ พบทาง ทรงเป็นผู้รู้ทางและทรงบอกทาง
ให้ ทางนั้นเพ่ืออะไร ก็เพื่อไปสู่จุดหมาย หมายความว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้
สามารถท่ีจะช่วยให้คนไปถึงจุดหมายได้ เพราะว่าคนท้ังหลายต้องการไปให้
ถึงจุดหมายน้นั แตเ่ ขาไม่รทู้ างทีไ่ ปสู่จดุ หมาย พระพุทธเจ้าทรงเปน็ ผู้ค้นพบ
ทางแล้วก็มาช่วยบอกกล่าวชี้นำหรือบอกทางให้ เป็นเหมือนมัคคุเทสก์ ทำ
ใหผ้ ้คู นอน่ื สามารถรว่ มเดินทางหรอื โดยสารไปท่านใช้คำวา่ “มาร่วมสมทบ”
หรือ “ตามสมทบ” เดินทางไปสู่จุดหมาย ทั้งนี้ หมายความว่าผู้นำจะต้องรู้
จุดหมายชัดเจน และรู้ทางที่จะดำเนินไปสู่จุดหมายน้ัน ๒๒ อีกประการหนึ่ง
ภาวะผู้นำซึ่งพระพุทธเจ้าได้แสดงในคำตรัส คือ พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ช่วย
ให้คนทั้งหลายได้ศึกษา เรียนรู้หรอื ฝึกฝนตนเอง จนกระท่ังเขาสามารถท่ีจะ
ข้ามพ้นความทุกข์หรือปัญหาไปถึงจุดหมายได้ น่ันหมายความว่า ผู้นำไม่
ได้มาหยบิ ยื่นอะไรให้แก่ผู้อ่ืนโดยตรง แต่มาชว่ ยให้คนอ่ืนได้ฝึกฝน ไดเ้ รียนรู้
จนสามารถพ่ึงตนเองได้และช่วยตนเองให้พ้นปัญหาไปหรือทำได้สำเร็จ
บรรลจุ ดุ หมาย ๒๓

๒๒ สํ.ส. (ไทย) ๑๕/๒๑๕/๓๑๒.
๒๓ พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). ภาวะผู้นำ : ความสำคัญต่อการพัฒนาคน
พฒั นาประเทศ. (กรงุ เทพมหานคร : ธรรมสภา, ๒๕๔๖), หนา้ ๗-๘.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๕

ดังน้ัน จึงกล่าวได้ว่าการเป็นผู้นำที่ดีจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับ
ผู้ใต้บังคับบัญชา และการที่ผู้นำจะสามารถแสดงแบบอย่างการเป็นผู้นำให้
เหมาะสมนั้น จะต้องมีคุณลักษณะหลายประการ มีนักวิชาการได้อธิบายว่า
ผู้นำท่ีดีนั้นต้องมีบารมีและอิทธิพล จึงจะทำให้เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ได้ กรณีที่
เป็นผู้บริหารการท่ีจะเสริมสร้างภาวะผู้นำให้ได้มากข้ึน ควรพยายามท่ีจะใช้
อำนาจหน้าทใ่ี ห้น้อยที่สดุ ใครใช้มากย่อมเสื่อมมาก อำนาจหน้าที่เปน็ อำนาจ
จอมปลอมท่ีไม่จีรังย่ังยืน เม่ือไม่มตี ำแหน่ง อำนาจหนา้ ทย่ี ่อมหมดส้นิ ไปดว้ ย
การเป็นผู้นำอย่างแท้จริงต้องเป็นทั้งอยู่ในตำแหน่งหน้าที่และไม่อยู่ใน
ตำแหนง่ หน้าท่ี

หลวงวิจิตรวาทการ ได้กล่าวว่า การเป็นผู้นำที่ประสบ
ความสำเร็จและเป็นผู้นำท่ีย่ิงใหญ่น้ัน จำเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องอาศัย
หลักการในการปฏิบัติที่สำคัญ ความเป็นผู้มีเหตุผล การเดินสายกลาง การ
ตรงต่อเวลา การมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน มีจิตใจสูง ให้ระวังความหลง
ระเรงิ ความเผลอตัว จะเป็นอุปสรรคอนั หนึ่งทีท่ ำใหเ้ สียความยงิ่ ใหญ่ ความ
ซ่ือตรง เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งท่ีจะทำให้สร้างความย่ิงใหญ่ได้ การสร้าง
ความดีและทำคณุ ประโยชน์ใหเ้ ป็นมรดกตกทอดแก่คนรุ่นหลัง ผู้ยงิ่ ใหญ่นั้น
คือ “ผู้ท่นี ง่ั อยู่ในใจคน ไมใ่ ช่นงั่ อย่บู นหัวคน” ๒๔

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาท
ใน พิ ธี พ ระราชท าน ป ริ ญ ญ าบั ต รแก่ บั ณ ฑิ ต และมห าบั ณ ฑิ ต
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๓๑ ความว่า “... ผู้
ท่ีจะสร้างความสำเร็จในการงานและชีวิตได้แน่นอนนั้นควรมีคุณสมบัติ
ประกอบอย่างน้อย ประการแรก ควรจะต้องมีความสุจริต ความมีใจจริง

๒๔ หลวงวิจิตรวาทการ, กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่, (กรุงเทพฯ: สามัคคีสาส์น,
๒๕๓๒), หน้า ๓.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๖

ความต้ังใจจริง ความอุตสาหะอดทน และความเสียสละเป็นพ้ืนฐานด้าน
จิตใจ ประการที่สอง ควรที่จะต้องมีวิชาความรู้ท่ีถูกต้องแม่นยำ ชำนาญ
พร้อมท้ังความสามารถในเชิงปฏิบัติ เป็นเคร่ืองมือประกอบการ ประการที่
สาม ควรจะต้องมีสติ ความหย่ังคิดวิจารณญาณอันถี่ถ้วนรอบคอบ เป็น
เคร่ืองควบคุมกำกับให้ดำเนินได้โดยถูกต้องเท่ียงตรง ประการที่ส่ี จะต้องมี
ความรอบรู้ มีความสามารถประสานงานและประสานประโยชน์กับผู้อ่ืน
อย่างกว้างขวางเป็นปัจจัยเสริมให้การทำงานได้คล่องตัวและก้าวหน้า และ
ประการท่ีห้า ซึ่งสำคัญท่ีสุดจะต้องมีความฉลาดรู้ในเหตใุ นผลผิดถูกช่ัวดี ใน
ว่าความพอเหมาะพอสม เป็นเคร่ืองตัดสินและสั่งการปฏิบัติงานท้ังมวลให้
เป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ... ๒๕

จากพระบรมราโชวาทดังกล่าว ถือได้เป็นแนวคิดท่ีสำคัญ
เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้นำ ถึงแม้ว่าจะพระราชทานมาเป็นเวลานานหลาย
ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความทันสมัยและสอดคล้องกับลักษณะของผู้นำที่จะ
ประสบผลสำเร็จได้

หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ ได้ให้โอวาทแก่ภิกษุในการสนทนาธรรม
ณ สำนักสวนโมกขพลาราม เป็นหลักธรรมคำส่ังสอนที่สำคัญและเป็น
ประโยชน์ที่เก่ียวข้องกับลักษณะผู้นำหรือผู้บริหารที่ดีควรมี คื อ
ทศพิธราชธรรมจริยาทิกถา เป็นธรรมสำหรับผู้เป็นใหญ่ ผู้ปกครอง ซึ่ง
หมายถึงพระมหากษัตริย์ในยุคปัจจุบัน ผู้นำ ผู้บริหารองค์การทุกระดับ
รวมทั้งหัวหน้าครอบครัว และเอกบุคคลควรทำความเข้าใจและนำไป
ประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและหมู่คณะท่ีใกล้ชิดตอลดจนสังคม
ประเทศชาติ ซึ่งถ้าจะเปรียบกับรูปแบบการบริหารปัจจุบันก็คือ หลักธรร

๒๕ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, เอกสารการสอนชุดวิชา การบริหารองค์การ,
(นนทบุรี: สำนกั พิมพม์ หาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๐), หนา้ ๑๕.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๒๗

มาภิบาลนั่นเอง โดยคุณธรรม ๑๐ ประการของผู้นำที่เป็นผู้ปกครองน้ี เป็น
เร่ืองที่บณั ฑิตรอ้ ยกรองข้นึ เพ่ือถวายเป็นโอวาทานุศาสน์แกพ่ ระมหากษัตริย์
ในอดีต ได้แก่ ๑) ทาน ๒) ศีล ๓) บริจาค ๔) ซ่ือตรง (อาชชวะ) ๕) อ่อน
น้อมถ่อมตน (มัททวะ) ๖) กำจัดบาป (ตบะ) ๗) ไม่โกรธ (อักโกธะ) ๘) ไม่
เบยี ดเบยี น (อวิหงิ สา) ๙) อดทน (ขันต)ิ ๑๐) มน่ั คงในธรรม (อวิโรธนะ) ๒๖

อย่างไรก็ตาม มุมมองในเรื่องผู้นำที่ดีนั้นมีความแตกต่างกัน
ดงั น้ัน ในการเป็นผู้นำท่ีดีน้ันต้องสร้างคุณสมบัติหรือคุณลักษณะให้เกิดขึ้น
ภายในตัวบุคคลหรือท่ีเรียกว่าภาวะผู้นำ ซ่ึงถ้าบุคคลหรือผู้นำมีคุณสมบัติ
ดังกล่าวจะทำให้สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ คุณสมบัติดังกล่าวมี ๑๐ ประการ
คอื ๒๗

๑. มีวิสัยทัศน์หรือชอบฝนั สร้างวิมานในอากาศ (Visionary) การ
เป็นผู้นำที่ดีต้องมีวิสัยทัศน์หรือความฝันอยู่ตลอดเวลา ฝันท่ีอยากจะเห็น
ตัวเองในอนาคตเป็นอย่างไร ในชีวิตคนน้ันต้องฝันว่าตัวเองอยากเป็นอะไร
การฝันจะทำให้เกิดแรงขับที่จะทำให้เราก้าวสู่ส่ิงท่ีเราฝันถึง ความฝันจะ
นำไปสู่การกำหนดจุดหมายปลายทางและสร้างแนวทาง เพ่ือมุ่งไปสู่
จดุ หมายปลายทางนั้น

๒. มีความเข้าใจลึกซึ้ง (Insightful) การเป็นผู้นำต้องมีสายตา
แหลมคม มีความชาญฉลาดมองปัญหาอย่างเปน็ ระบบและรอบด้าน

๓. มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ (Reliable) ความน่าเช่ือถือ
ของผู้นำเกิดข้ึนจากตัวเราต้องมีความจริงใจอยู่เสมอ กรทำสิ่งต่างๆ อย่าง

๒๖ เร่ืองเดียวกนั , หน้า ๑๕.-๑๗.
๒๗ สุนทร วงศไ์ วศยวรรณ,รศ.และ เสน่ห์ จุ้ยโต,รศ.ดร.,“ภาวะผู้นำ” ใน เอกสารการสอน
ชดุ วิชา องคก์ ารและการจัดการ, หนา้ ๑๘๐-๑๘๓.

ภาวะผนู้ ำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๒๘

ตอ่ เนอ่ื ง อยา่ เปน็ คนใชก้ ุศโลบายเพ่ือประโยชนต์ นเอง ต้องสรา้ งความไวว้ างใจ
ให้เกิดข้ึนกับผู้ท่ีเก่ียวข้องให้ได้ เมื่อใดขาดความน่าเช่ือถือความศรัทธาจะ
ลดลงไปทนั ที

๔. มีอารมณ์ที่ม่ันคง (Emotionally Balanced) ผู้นำที่ดีต้องไม่
มีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย ห่อเห่ียวและแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา การรู้จัก
ควบคุมอารมณ์จึงเป็นส่ิงท่ีจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง การเป็นคนสุขุมเยือก
เย็นจงึ เป็นส่ิงท่ีผนู้ ำต้องมี

๕. มีการปรับตัวเปิดรับการเปลี่ยนแปลง (Adaptable) ผู้นำยุค
ใหม่ตอ้ งมกี ารปรับตวั ตลอดเวลา มีอะไรเปล่ียนแปลงก็เปดิ รบั อยา่ ทำตัวเป็น
ผู้เก่งแล้ว รู้แล้ว ควรจำทำตัวในลักษณะที่ว่า “เรายังไม่ดีพอ เราต้อง
ปรับปรงุ ” การเปิดโลกทัศน์เพ่ือเรยี นรู้และรับสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี
สารสนเทศ นับว่ามีคุณค่าอย่างย่ิงและจะเป็นเคร่ืองมือของผู้นำในการ
ปฏบิ ัติงานใหป้ ระสบความสำเรจ็ ได้ตอ่ ไป

๖. มีความเพียรพยายาม (Persistent) ผู้นำที่ดีต้องเป็นคนท่ีเอา
จริงเอาจัง ยึดมั่นในหลักการ ถ้าเชื่อว่าส่ิงนั้นคือสิ่งท่ีถูกต้อง จะพยายามทำ
สง่ิ นั้นให้ไดแ้ ม้ว่าจะมีอปุ สรรคมากน้อยเพียงใดกต็ าม

๗. มีการมองโลกในแง่ดี (Optimistic) ผู้นำท่ีดีต้องมีความ
สนุกสนานเบิกบานใจ อย่างเป็นคนที่เครียดอยู่ท้ังวัน ทำจิตใจใหส้ บายๆ ให้
รูจ้ ักเป็นคนแปรสภาพปัญหาอุปสรรค เป็นโอกาสแห่งความสำเร็จ การมอง
โลกในแง่ดีจะทำให้จิตใจดี ส่งผลต่อกายดีมีความสุข การฝึกให้รู้จักมองโลก
ในแง่ดนี ัน้ เป็นสง่ิ จำเป็นสำหรบั ผู้นำ

๘. มี ความรับผิดชอบ (Accountable) ผู้ นำต้ องมี ความ
รับผิดชอบตอ่ ตนเอง ต่องาน ต่อองค์การ ความรับผิดชอบน้ีหมายถงึ ความผู้

ภาวะผูน้ ำทางการจดั การเชิงพทุ ธ ๑๒๙

พันต่อการปฏิบัติงานให้บรรลุผลสำเร็จตามท่ีตั้งเป้าหมายไว้ด้วยความ
กระตอื รอื รน้ และเต็มใจอย่างยงิ่ ผู้นำตอ้ งกล้าท่จี ะยอมรับท้ังผิดและชอบ

๙. มีความเชื่อม่ันในตนเอง (Confident) ผู้นำท่ีดีต้องสร้างความ
เชื่อม่ันให้เกิดขึ้นกับตนเองให้ได้ เพราะว่าความเชื่อม่ันในตนเองเป็นพลัง
กระต้นุ ตัวเองให้ไปสู่ความสำเร็จในการเป็นผนู้ ำได้

๑๐. มีความคิดริเร่ิม (Initiating) ผู้นำต้องกล้าท่ีจะคิดสิ่งแปลก
ใหม่ด้วยตนเอง ผู้นำยุคใหม่ตอ้ งฝกึ การคดิ ริเรม่ิ ด้วยตนเอง พยายามคิดแบบ
ประยุกต์ สร้างคามคิดใหม่ๆ ลดการครอบงำความคิดด้ังเดิม พยายามคิด
แบบปราศจากหลักเกณฑ์

จากคุณสมบัติดังกล่าวมาแล้ว จะเห็นว่าผู้นำที่ดีน้ันนอกจากมี
พื้นฐานที่ดีแล้วควรจะต้องหม่ันฝึกฝน เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เพ่ื อท่ี จะเสริ มสร้างสมรรถนะของผู้ นำหรื อท่ี เรี ยกว่ าคุ ณ ลั กษณ ะท่ี พึ ง
ประสงค์ของผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นด้านทักษะ ความรู้ ความสามารถ
บคุ ลิกลักษณะ อุปนิสัยและทัศนคติ ให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานเพ่ือก่อให้เกิด
ประสิทธิภาพสูงสุดแก่องคก์ าร

4.๗ หลักพุทธธรรมสำหรบั ภาวะผู้นำ
พระพุทธศาสนา ได้ให้ความสำคัญต่อผู้บริหารหรือผู้นำในการ

บริหารมาก พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงคุณสมบัติสำคัญของผู้นำในแง่นี้
เรียกวา่ ธรรมาธิปไตย แปลว่า ถอื ธรรมเป็นใหญ่ ยดึ ถือธรรมเป็นสำคญั เชิด
ชูหลักการปฏิบัติตามและเพ่ือเห็นแก่ความเป็นจริงความถูกต้องดีงม ผู้นำ
ต้องไม่เป็นอัตตาธปิ ไตย คือ ไม่ถือตัวเป็นใหญ่ แล้วก็ไมโ่ ลกาธปิ ไตย คือ มุ่ง
หาคะแนนนิยมเป็นใหญ่ ไม่ทำเพียงเพื่อหาเสียงหรือให้คนคนชอบ แต่เอา
ธรรม เอาตัวความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม เอาหลัการเปน็ ใหญ่ ตัดสิน
กันด้วยหลักการ ตั้งแต่หลักการโดยการจัดตั้งของมนุษย์ ลงไปจนถึง

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพทุ ธ ๑๓๐

หลักการท่ีเป้นนามธรรมซ่ึงรอบรับหักการจัดตง้ั นั้น นอกจากน้ี ยังมีคำสอน
ของพระพุทธเจ้าทีพ่ ดู ถงึ หลักธรรมสำหรับภาวะผู้นำไว้มากมาย ดงั ท่ีปรากฏ
อยพู่ ระไตรปฎิ ก ประกอบดว้ ย

4.๗.๑ ในทุติยปาปณิกสูตร ๒๘ ผู้นำจะต้องประกอบด้วย
คณุ ลกั ษณะดงั น้ี ๑) จักขุมา เป็นผ้มู ีวิสัยทศั นก์ วา้ งไกลมองสภาพเหตุการณ์
ออกและจะวางแผนเตรียมรับหรือรุกได้อย่างไร เช่น ถ้าเป็นพ่อค้าหรือนัก
ธุรกิจ จะต้องรูว้ ่าซ้ือสินค้าที่ไหนได้ราคาถูก แล้วนำไปขายที่ไหนจึงได้ราคา
แพง ต้องสามารถวางแผนและฉลาดในการใช้คน ตรงกับภาษาอังกฤษว่า
Conceptual Skill คือ ชำนาญในการใช้ความคิด ๒) วิธุโร เป็นผู้ชำนาญใน
งาน รู้จักวิธีการ ไม่บกพร่องในหน้าที่ที่ตนได้รับผิดชอบ เช่น พ่อค้าเพชร
ต้องดูออกว่าเป็นเพชรแท้หรือเพชรเทียม แพทย์ผ่าตัด ต้องเช่ียวชาญการ
ผ่าตัด ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Technical Skill คือ ชำนาญด้านเทคนิค ๓)
นิสสยสัมปันโน พึ่งพาอาศัยคนอ่ืนได้ เน่ืองด้วยเป็นผู้ท่ีมีมนุษยสัมพันธ์ดี
ได้รับความเชื่อถือจากผู้อื่น เช่น พ่อค้า เดินทางไปค้าขายต่างเมือง ก็มี
พ่อค้าในเมืองน้ันๆ ให้ที่พักอาศัยหรือให้กู้ยืมเงิน เพราะมีเครดิตดี ผู้นำท่ีดี
ต้องผูกใจคนไว้ได้ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Human Relation Skill คือ
ชำนาญด้านมนษุ ยสัมพนั ธ์

4.๗.๒ ในสังฆโสภณสูตร ๒๙ ผู้นำจะต้องประกอบด้วย
คุณลักษณะดังต่อไปน้ี ๑) วิยตโต เป็นผู้มีปัญญา หากกล่าวในทาง
พระพุทธศาสนา ผู้มีปัญญาต้องประกอบด้วยปัญญาทางโลกและทางธรรม
เปรียบได้กับปัจจบุ ันคือเช่ียวชาญทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ ๒) วินีโต เป็นผู้
มีระเบียบวินัยดี กล่าวคือ ผ็นำต้องเป็นแบบ แบบในท่ีนี้คือแบบอย่าง เช่น

๒๘ องฺ.จตกฺก. (ไทย) ๒๑/๑๕๗/๒๐๓.
๒๙ องฺ.จตกฺก. (ไทย) ๒๑/๑๕๗/๙-๑๐.

ภาวะผู้นำทางการจัดการเชิงพุทธ ๑๓๑

รกั ษาระเบียบ วนิ ัย ยึดถือปฏิบัติให้เป็นแบบอย่าง ๓) วิสารโท เป็นผู้แกล้ว
กล้า กล้าหาญ บุคคลท่ีมีความกล้าหาญมีพลังสองอย่างในตัว คือ พลังกาย
และพลังใจท่ีเข้มแข็ง เม่ือมีพลังดังกล่าวย่อมสามารถแสดงออกเห็นว่า
บุคคลน้ันมีความกล้าหาญ ๔) พหุสุโต เป็นผู้มีความรู้ มีความจำมาก เช่น
พระอานนท์ เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความจำดีมาก หาก
พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเร่ืองใดหรือตรัสเรื่องใด กับผู้ใด พระอานนท์
สามารถจำรายละเอียดได้ครบท้ังหมด ๕) ธัมมานุธัมมปฎิบันโน เป็นผู้
ปฏิบัติธรรม มีคุณธรรม รักษาความถูกต้องในส่ิงท่ีถูกท่ีควร ผู้นำที่
ประกอบด้วยคุณธรรม ๕ ประการดังกล่าวนี้ ย่อมประสบความสำเร็จและ
ได้รบั การยกย่องนับถอื

4.๗.๓ ในอังคุตรนิกาย ปัญจกนบิ าต ๓๐ ได้ทรงแสดงหลักธรรม
สำหรับผู้นำไว้ ๖ ประการ คือ ๑) ขมา คือ มีความอดทนต่อการปฏิบัติงาน
มีใจหนักแน่น ไม่ยอมตกในความชั่ว ไม่เกรงกลัวหรือมีอคติ ๔ เมื่อจะต้อง
ตัดสินใจและไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรม ๘ ๒) ชาคริยะ คือ มีความต่ืนตัว
อยู่ตลอดเวลา มีความระมัดระวัง ไม่ประมาทในการครองชีวิต หน้าที่และ
การงาน ๓) อุฏฐานะ คือ มีความขยันหม่ันเพียรต่อหน้าที่การงาน ๔) สัง
วิภาคะ คือ มีอัธยาศัยดี เอ้ือเฟ้ือเผ่อื แผ่ มีนำ้ ใจต่อผรู้ ่วมงาน ๕) ทยา คือ มี
จิตใจที่เอ็นดู รักใคร่ห่วงใย เอาใจใส่ดูแลผู้ร่วมงาน ๖) อิกขนา คือ ใจใส่
ตรวจตรางานและหน้าท่ที ต่ี นรบั ผิดชอบ

4.๗.๔ ในมหาสีหนาทสูตรพระพุทธเจ้ามีลักษณะภาวะผู้นำ
ดงั นี้

๑) ความม่ันคงทางอารมณ์ (Emotional Stability) เป็น
ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในการโต้ตอบได้อย่างเหมาะสมแม้

๓๐ อง.ฺ ปญฺจก. (ไทย) ๒๒/๕๓/๕๖.


Click to View FlipBook Version