The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

14รูปเล่มวิชาการครั้งที่ 14_เชียงราย_2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

14รูปเล่มวิชาการครั้งที่ 14_เชียงราย_2565

14รูปเล่มวิชาการครั้งที่ 14_เชียงราย_2565

335 ได้ท ำกำรกระจำยลงทำงสื่อออนไลน์ที่สถำนบริกำรมี และท ำกำรท ำโปสเตอร์ไว้หน้ำสถำนบริกำร จึงท ำให้ ผู้รับบริกำรเข้ำทำงช่องทำง QR codeได้มำก และสำมำรถลดควำมแออัด ลดควำมกดดันจำกกำรที่ผู้รับบริกำร ที่ป่วยเป็นโควิดมำยังสถำนบริกำรได้จริง ท ำให้ไม่มีข้อร้องเรียนตำมมำ และจำกกำรเก็บข้อมูลพบว่ำ ผู้ป่วยที่ เข้ำรับกำรกำรรักษำโดยกำรแสกน QR code ได้รับกำรติดต่อกลับและได้รับกำรเปิด visit เป็นผู้ป่วยของ โรงพยำบำลสุรำษฎร์ธำนี ร้อยละ 99.46 ในส่วนของร้อยละที่ไม่ดีรับกำรติดต่อกลับภำยใน 24 ชั่วโมง พบว่ำ ในวันนั้นมีผู้รับบริกำรในสถำนบริกำรจ ำนวนมำก ท ำให้มีกำรตกหล่นในกำรรับข้อมูลผ่ำน google sheet แต่ ผู้ป่วยมีกำรติดต่อกลับไปยังสถำนบริกำรหลัง 24 ชั่วโมง ท ำให้ผู้ป่วยดังกล่ำวได้รับกำรรักษำได้ทันและ เหมำะสมตำมระดับควำมรุนแรงของโรค ตารางที่ 3 ความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่ตามสถานบริการ (N=17) ก่อน(ระบบเก่ำ) หลัง(QR Code) มำก ปำน กลำง น้อย ต้อง ปรับปรุง มำก ปำน กลำง น้อย ต้อง ปรับปรุง 1.ลดระยะเวลำกำรท ำงำน - 4 4 9 11 6 - - 2.ง่ำยแก่กำรใช้ - 8 6 3 9 6 2 - 3.คัดแยกและจัดล ำดับกำรให้กำรรักษำ - 6 6 5 16 1 - - 4.ลดควำมเสี่ยงต่อกำรติดเชื้อ - - 1 16 16 1 - - 5.ลดข้อร้องเรียน - 5 8 4 13 3 1 - สรุปผล จำกกำรให้ผู้ให้บริกำรท ำแบบสอบถำมควำมพึงพอใจต่อเจ้ำหน้ำที่ในกำรรับผู้มูลผ่ำน google sheet พบว่ำ เมื่อเทียบช่องทำงกำรเข้ำรับบริกำรของผู้ป่วยยืนยันเชื้อโควิดกับแบบระบบเก่ำ เจ้ำหน้ำที่มีควำมพึงพอใจระดับมำก ร้อยละ 76.48 พึงพอใจระดับปำนกลำง ร้อยละ 20.00 และพึงพอใจ ระดับน้อย ร้อยละ 3.52 โดยประเมินว่ำสำมำรถละระยะเวลำกำรท ำงำนได้จริง ง่ำยแก่กำรใช้งำน ไม่มีข้อ ร้องเรียนหลังจำกมีกำรเข้ำรับกำรรักษำโดยกำรแสกนQR code ไม่พบเจ้ำหน้ำที่กำรติดเชื้อจำกกำรท ำงำน สำมำรถคัดแยกและจัดล ำดับกำรให้กำรรักษำได้จริง อุปสรรค/ข้อเสนอแนะ 1. ข้อจ ำกัดในกำรใช้ สมำร์ทโฟน และ QR code ในเด็กและผู้สูงอำยุ เบื้องต้นแนะน ำให้คนใกล้ชิด ในกำรท ำแบบสอบถำมกำรซักประวัติให้ 2. กำรตอบแบบสอบถำมที่ไม่ครบ ในส่วนของข้อมูล มีกำรแก้ไขโดยใส่ข้อจ ำเป็นในกำรตอบค ำถำม ลงใน google form 3. กำรแสกนข้อมูลผิดพื้นที่ (ไม่ทรำบและไม่ค้นหำพื้นที่ตัวเอง) แก้ไขโดยกำร เพิ่มรำยละเอียดพื้นที่ ของสถำนบริกำรต่ำงๆ เช่น ถนน ตรอก ซอย เป็นต้น


336 การปรับปรุงพัฒนา 1. น ำ QR code ที่ใช้ รวบรวมเป็นชุดเดียวกันเพื่อง่ำยและสะดวกขึ้นกับผู้รับบริกำร 2. เปิดให้ผู้ป่วยสำมำรลงทะเบียน HI register เองเพื่อลดภำระงำนของเจ้ำหน้ำที่ 3 น ำไปสู่กำรพัฒนำกำรซักประวัติแบบออนไลน์ที่ลงประวัติโดยผู้รับบริกำรเอง **ตัวอย่ำง QR code แต่ละพื้นที่ และกำรรับข้อมูลผู้ป่วยลงสถำนบริกำร QR code ที่แชร์ลงสื่อออนไลน์ หน้ำจอที่พื้นที่มองเห็น


337 การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทในชุมชน อ าเภอพาน จังหวัดเชียงราย สุพรรณ มหิตธิ งำนสุขภำพจิตและยำเสพติด กลุ่มงำนบริกำรปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยำบำลพำน จังหวัดเชียงรำย ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา โรคจิตเภท (schizophrenia) เป็นโรคที่ พบได้ ร้อยละ 0.50-1.00 ของประชำกรทั่วไป พบมำกเป็น อันดับหนึ่งของโรคทำงจิตเวช โดยพบ ร้อยละ 40.00-50.00 ของ ผู้ป่วยจิตเวช สถิติของผู้รับบริกำรโรคทำงจิต เวช ในโรงพยำบำลพำนที่ผ่ำนมำ พบว่ำมีจ ำนวนสูงเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ โดยพบว่ำโรคทำงจิตเวชที่พบมำกที่สุดคือ โรคจิตเภท ซึ่งพบมำกเป็นอันดับ 1 ในทุกปีงบประมำณ คิดเป็นร้อยละ 52.67-58.96 ของผู้ป่วยโรคจิตเวช ทั้งหมด ข้อมูลกำรด ำเนินงำนที่ผ่ำนมำ ปีงบประมำณ 2563-2564 มีผู้ป่วยจิตเภทที่อำกำรก ำเริบซ้ ำ/ส่งต่อ โรงพยำบำลจิตเวช คิดเป็นร้อยละ 20.30 และ13.65 ผู้ป่วยจิตเภทมำรับยำไม่ตรงนัด/มีอำกำรก ำเริบ คิดเป็น ร้อยละ 39.57 และ29.7 และผู้ป่วยจิตเภทได้รับกำรติดตำม/เยี่ยมบ้ำน คิดเป็นร้อยละ 26.46 และ 60.54 จำก สำเหตุไม่มำรับยำตำมนัด ขำดกำรรักษำต่อเนื่อง ขำดผู้ดูแล พฤติกรรมดื่มสุรำและใช้สำรเสพติด ส่งผลให้ขำด ยำและมีอำกำรทำงจิตก ำเริบ หวำดระแวง ครอบครัวและชุมชนเกิดควำมเดือดร้อน หวำดกลัว ไม่ยอมรับ ผู้ป่วยจิตเภท ผู้ป่วยด้อยโอกำสทำงสังคม ส่งผลต่อกำรด ำรงชีวิตและคุณภำพชีวิตของผู้ป่วย จึงจ ำเป็นต้อง พัฒนำระบบกำรดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภททั้งคลินิกและชุมชนให้มีควำมเชื่อมโยงกัน โดยอำศัยควำมร่วมมือจำก ผู้ป่วย ญำติและเครือข่ำยในชุมชน ให้ผู้ป่วยโรคจิตเภทสำมำรถใช้ชีวิตร่วมกับคนในชุมชนได้อย่ำงปกติสุข ลด กำรกลับเป็นซ้ ำและกำรส่งต่อ เป้าหมาย เพื่อลดปัญหำกำรกลับเป็นซ้ ำของผู้ป่วยโรคจิตเภท สร้ำงเครือข่ำยกำรมีส่วนร่วมในกำรดูแลผู้ป่วยจิต เภทในชุมชน ตัวชี้วัด 1. ผู้ป่วยโรคจิตเภทมำรับยำตำมนัด ไม่มีอำกำรกลับเป็นซ้ ำ > ร้อยละ 80.00 2. ผู้ป่วยโรคจิตเภทได้รับกำรติดตำมต่อเนื่อง/เยี่ยมบ้ำน > ร้อยละ 90.00 3. กำรส่งต่อผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มีอำกำรกลับเป็นซ้ ำไปโรงพยำบำลจิตเวช < ร้อยละ 5.00 กระบวนการด าเนินงาน (PDCA) กิจกรรมการพัฒนา ช่วงที่ 1 ปี งบประมำณ 2562 1. กำรรวบรวมข้อมูลสถิติผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มำรับบริกำรในคลินิกจิตเวชของโรงพยำบำล วิเครำะห์ ข้อมูล เพื่อหำสำเหตุปัญหำ 2. ติดตำมปัญหำกำรใช้ยำของผู้ป่วยโรคจิตเภท และออกติดตำมเยี่ยมบ้ำน


338 ปัญหาที่พบ ผู้ป่วยโรคจิตเภทขำดควำมเข้ำใจเกี่ยวกับโรคจิตเภท กำรรักษำด้วยยำ รักษำไม่ต่อเนื่องญำติ/ผู้ดูแล ขำดทักษะในกำรดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภท เจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุขและเครือข่ำยในชุมชนขำดทักษะในกำรดูแลและ ส่งต่อผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มีอำกำรก ำเริบซ้ ำ กิจกรรมพัฒนาช่วงที่ 2 ปีงบประมาณ 2563 1. ประชุมทีมงำน เครือข่ำยโรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพต ำบล/เครือข่ำยชุมชน ร่วมกันวิเครำะห์ สภำพปัญหำ และรูปแบบกำรด ำเนินงำนเพื่อให้ได้แนวทำงที่สำมำรถน ำมำปฏิบัติได้และเหมำะสมกับบริบท ชุมชน 2. อบรมให้ควำมรู้แก่เครือข่ำยชุมชนประกอบด้วย อสม./ผู้น ำชุมชน/ท้องถิ่นและผู้ดูแลผู้ป่วยโรคจิต เภทในกำรค้นหำ/คัดกรองและกำรเฝ้ำระวังผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มีอำกำรก ำเริบซ้ ำและกำรส่งต่อ 3. ให้ควำมรู้และทักษะกำรดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทส ำหรับผู้ดูแล/ญำติ 4. พัฒนำรูปแบบกำรติดตำมเยี่ยมบ้ำนผู้ป่วยโรคจิตเภทให้มีควำมต่อเนื่องและครอบคลุมทั้งในสถำน บริกำรและชุมชน โดยติดตำมเยี่ยมบ้ำนและกำรแบ่งควำมรับผิดชอบของเจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุขในแต่และพื้นที่ กำรประสำนงำนกับทีมสหวิชำชีพของโรงพยำบำล/โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพต ำบลและเครือข่ำยชุมชนใน กำรออกเยี่ยมแต่ละครั้ง ปัญหาที่พบ 1. ผู้ป่วยโรคจิตเภทบำงรำยมีอำกำรก ำเริบเนื่องจำกกินยำไม่ต่อเนื่อง/ขำดนัด ส่งผลให้มีอำกำร ก ำเริบ บำงรำยไม่ยอมรับกำรรักษำ มีปัญหำกำรใช้ยำ คนในชุมชนหวำดกลัวและไม่ยอมรับ 2. เจ้ำหน้ำหน้ำที่สำธำรณสุขและชุมชนยังขำดควำมเข้ำใจและสับสนแนวทำงกำรจัดกำรผู้ป่วยโรค จิตเภทที่มีควำมเสี่ยงต่อควำมรุนแรงในชุมชน กิจกรรมพัฒนาช่วงที่ 3 ปีงบประมาณ 2564 1. พัฒนำระบบกำรติดตำมกำรนัดรับยำในผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มำรับบริกำร กำรส่งยำจิตเวชถึงบ้ำน 2. กำรอบรมให้ควำมรู้แก่ญำติและผู้ดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทที่รับประทำนยำไม่ต่อเนื่อง/ขำดนัด 3. พัฒนำกำรมีส่วนร่วมของเครือข่ำยในชุมชนในกำรจัดกำรรำยกรณีผู้ป่วยโรคจิตเภทในชุมชน เฝ้ำ ระวังและส่งต่อผู้ป่วยจิตเวชที่มีภำวะจิตเวชฉุกเฉิน มีอำกำรทำงจิตก ำเริบโดยกำรประสำนควำมร่วมมือและ กำรมีส่วนร่วมของหน่วยงำนในชุมชนได้แก่ เจ้ำหน้ำที่ รพ.สต./ ญำติ/อพปร./ผู้น ำชุมชน/อสม./อปท./ต ำรวจ ในกำรน ำส่งผู้ป่วยเข้ำสู่ระบบกำรรักษำและกำรกินยำต่อเนื่อง 4. ติดตำมเยี่ยมบ้ำนผู้ป่วยโรคจิตเภท โดย HOME WARD ร่วมกับเครือข่ำยในชุมชน ผลการด าเนินงาน จำกผลกำรด ำเนินงำน ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคจิตเภทที่ขำดยำ มีอำกำรก ำเริบ กลับเป็นซ้ ำ ส่งต่อ โรงพยำบำลจิตเวช ได้รับกำรติดตำมดูแลต่อเนื่อง ผู้ป่วยจิตเวชเข้ำถึงบริกำรเพิ่มมำกขึ้น ญำติและผู้ป่วย ประหยัด ค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำงไปรักษำโรงพยำบำลจิตเวช เครือข่ำยในชุมชนมีควำมมั่นใจ ยอมรับผู้ป่วยจิต


339 เวชและให้กำรดูแลและเฝ้ำระวังอำกำรก ำเริบซ้ ำ ช่วยเหลือส่งต่อ เกิดเครือข่ำยกำรดูแลแบบมีส่วนร่วมและ ระบบกำรดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชฉุกเฉินในชุมชน แสดงผลดังตำรำงดังต่อไปนี้ ตัวชี้วัดผลิตผล เป้าหมาย 2563 2564 2565 1.อัตรำผู้ป่วยโรคจิตเภทมำรับยำตำมนัด ไม่มีอำกำรกลับเป็นซ้ ำ >ร้อยละ 80.00 60.43 70.30 86.35 2.อัตรำผู้ป่วยโรคจิตเภทได้รับกำรติดตำมต่อเนื่อง/เยี่ยมบ้ำน > ร้อยละ 90.00 26.46 60.54 93.25 3.อัตรำกำรส่งต่อผู้ป่วยโรคจิตเภท ที่มีอำกำรกลับเป็นซ้ ำไป โรงพยำบำลจิตเวช <ร้อยละ 5.00 20.3 13.65 5.30 กรำฟแสดง ผลกำรด ำเนินงำนตำมตัวชี้วัด การน าผลงานไปใช้ประโยชน์ 1. เป็นแนวทำงปฏิบัติในกำรดูแลผู้ป่วยโรคจิตเภทในคลินิกและชุมชนอย่ำงเหมำะสมและพัฒนำ รูปแบบกำรด ำเนินงำนกำรดูแลผู้ป่วยจิตเภท 2. น ำไปใช้เป็นแนวทำงในกำรพัฒนำรูปแบบกำรดูแลผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มอื่น เช่นผู้ป่วยจิตเวชที่ใช้สำร เสพติดและสุรำ เอกสารอ้างอิง กรมสุขภำพจิตและส ำนักกำรพยำบำล กระทรวงสำธำรณสุข. (2556). มำตรฐำนกำรพยำบำล สุขภำพจิตและจิตเวช. พิมพ์ครั้งที่ 1. เชียงใหม่ โรงพิมพ์. ส ำนักงำนหลักประกันสุขภำพแห่งชำติ. (2559). คู่มือกำรดูแลผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน ส ำหรับ บุคลำกรระดับปฐมภูมิ ภำยใต้กองทุนหลักประกันสุขภำพแห่งชำติ. 0 100 ผู้ป่วยโรคจิตเภทมารับยาตาม นัด การติดตามเยี่ยมบ้าน การส่งต่อ 2563 2564 2565


340 รับยาทันใจ หายไวโควิด ปฏิญญำ อยู่ตระกูล, กฤตภำส อิทธิสังวรน, ขนิษฐำ อุดมจินดำสวัสดิ์ โรงพยำบำลรำชบุรี บทน า จำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (Covid-19)ที่มีกำรแพร่ระบำดใน จังหวัดรำชบุรี จำกเดิมมีผู้ป่วยติดเชื้อวันละ 15-20 คน เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 120-150 คน และเจ้ำหน้ำที่ SAT มี จ ำนวน 3 คน/เวร จึงไม่สำมำรถท ำงำนได้ทัน เกิดภำวะผู้ป่วยล้นโรงพยำบำล ท ำให้โรคลุกลำมอย่ำงรวดเร็ว ผู้ป่วยบำงคนมีอำกำรหนักขึ้นจนต้องย้ำยจำกหอผู้ป่วยสำมัญไปที่หอผู้ป่วยหนัก จ ำนวน 5–10 คนต่อวัน กำรควบคุมกำรระบำดของโรคต้องร่วมมือกันหลำยภำคส่วน เริ่มตั้งแต่กำรสอบสวนโรค,ติดตำมผู้ สัมผัสเสี่ยงสูงและค้นหำผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชน เมื่อค้นพบผู้ป่วยแล้วต้องได้รับกำรรักษำในรพ.รำชบุรี ต้องมีกำร เบิกยำต้ำนไวรัสยำฟำวิพิรำเวียร์ (Favipiravir) ที่มีฤทธิ์ในกำรยับยั้งกำรเพิ่มจ ำนวนของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 กำรเบิกยำต้องมีรหัสเฉพำะรำยบุคคลของผู้ป่วย ซึ่งข้อมูลของผู้ป่วยทุกรำยที่มีผลว่ำติดเชื้อ Covid-19 ต้องถูก บันทึกในระบบ Co-lab ซึ่งเป็น Platform ส ำหรับกำรรำยงำนผลกำรตรวจทำงห้องปฏิบัติกำรของกระทรวง สำธำรณสุข และน ำข้อมูลที่ลงระบบ on line มำประกอบกำรเบิกยำในโรงพยำบำลและเชื่อมโยงกำรรำยงำน ผลไปยังกองระบำด กระทรวงสำธำรณสุข เนื่องจำกทุกโรงพยำบำลต้องเข้ำไปลงข้อมูลในระบบ Co-lab พร้อมๆ กัน ท ำให้ในช่วงเวลำรำชกำร ระบบไม่สำมำรถรองรับกำรบันทึกข้อมูลผู้รับกำรรักษำได้ทั้งหมด ต้องน ำข้อมูลมำบันทึกนอกเวลำรำชกำร ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับยำช้ำออกไป ซึ่งมีผลต่ออำกำรป่วยของผู้ป่วยได้ทีมผู้ปฏิบัติงำนจึงหำแนวทำงร่วมกัน เริ่ม จำกจัดท ำแฟ้มข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อแบบเอกสำร โดยลงข้อมูลด้วยวิธีกำรเขียนรำยละเอียด และออกรหัสเฉพำะ รำยบุคล (SAT code) เป็นรำยวัน เมื่อทำงหอผู้ป่วยโทรศัพท์มำสอบถำมเพื่อขอ SAT code ในกำรเบิกยำ ต้องใช้วิธีสืบค้นด้วยมือ ก็ยังมีข้อจ ำกัดในเรื่องของกำรใช้เวลำถึง 1 ชั่วโมง/คน ทีมผู้ปฏิบัติงำนจึงพัฒนำโดยให้มีกำรบันทึกเหมำะสมกับปริมำณผู้ป่วย และปริมำณเจ้ำหน้ำที่ให้ ท ำงำนได้สะดวก เพื่อลดขั้นตอนและผู้ป่วยสำมำรถได้รับยำเร็วขึ้นกว่ำเดิม สำมำรถสืบค้นข้อมูลได้ง่ำยและ หน่วยงำนอื่นสำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้พร้อมกัน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนำระบบกำรลงทะเบียนผู้ป่วยรำยใหม่ ให้หน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง สำมำรถเข้ำถึงข้อมูลได้ เร็วขึ้น 2. เพื่อลดขั้นตอนกำรลงข้อมูลในรูปแบบเดิมด้วยกำรบันทึกลงในกระดำษ 3. เพื่อให้กำรจัดเก็บข้อมูลเป็นระบบและสืบค้นง่ำย 4. เพื่อลดระยะกำรรอคอยยำของผู้ป่วยรำยใหม่


341 วิธีการศึกษา/การด าเนินงาน วิธีกำรด ำเนินงำน 1. เครื่องมือที่ใช้ในกำรพัฒนำนวัตกรรมกำรพัฒนำรูปแบบกำรประยุกต์ใช้กูเกิ้ลแอปพิเคชันเพื่อ สนับสนุนกำรเก็บข้อมูลในกูเกิ้ลออนไลน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกำรบริกำรของกูเกิ้ลแอปพิเคชัน เป็นกำรบันทึก ข้อมูลโดยสำมำรถให้หน่วยงำนอื่นเข้ำมำดูได้แบบทันทีทันใด(real time)และไม่ต้องเสียเวลำ โทรสอบถำมกัน ไปมำและไม่เสียค่ำใช้จ่ำย 2.ขั้นตอนกำรด ำเนินงำนพัฒนำรูปแบบประยุกต์ใช้วงจรกำรพัฒนำระบบงำน (SDLC) 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย 3. ขั้นตอนและวิธีกำรออกแบบ 4.กำรวิเครำะห์ข้อมูลจำกกำรทดสอบและใช้งำนแอปพลิเคชัน กำรพัฒนำรูปแบบกำรประยุกต์ใช้ google drive เพื่อสนับสนุนกำรเก็บข้อมูล SAT Code ในระบบ คอมพิวเตอร์ และน ำข้อมูลมำต่อยอดเป็น QR code มีสถิติในกำรวิเครำะห์ข้อมูลกำรพึงพอใจจำกเจ้ำหน้ำที่ หอผู้ป่วยด้วยค่ำเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน SAT Code google drive OR code scan QR code ใ เ ิ


342 ผลการศึกษา จำกกำรใช้งำนโดยเจ้ำหน้ำที่หอผู้ป่วย ได้ผลตอบรับไปในทำงที่ดีเป็นอย่ำงมำก สำมำรถตอบสนอง ต่อควำมต้องกำรเรื่อง กำรลดระยะเวลำรอคอยเบิกยำให้ผู้ป่วยได้อย่ำงรวดเร็วยิ่งขึ้น อภิปรายสรุปและข้อเสนอแนะ เมื่อน ำเทคโนโลยีสำรสนเทศเข้ำมำพัฒนำระบบกำรล ำดับข้อมูล SAT code ท ำให้ลดขั้นตอนกำร ค้นหำข้อมูลในรูปแบบเดิมด้วยกำรบันทึกในแฟ้ม SAT code ด้วยมือ ท ำให้มีควำมสะดวก รวดเร็วมำกขึ้น ลด ขั้นตอนและควำมผิดพลำดจำกกำรลงข้อมูล หอผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสำมำรถเข้ำถึงข้อมูล SAT code ได้พร้อม กัน เพื่อทันต่อกำรเบิกยำแก่ผู้ป่วยในแต่ละวัน กำรประยุกต์ใช้ระบบ Google drive เป็นนวตกรรมทำง เทคโนโลยีที่ใช้ในกำรรวบรวมข้อมูล ประหยัดเวลำ ประหยัดบุคลำกร งบประมำณ ให้เชื่อมกับระบบค้นหำ ข้อมูล SAT code ในระดับอ ำเภอ เพื่อเป็นประโยชน์ในกำรสืบค้นข้อมูล SAT code ของผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อมำ รับกำรักษำในโรงพยำบำลรำชบุรี เอกสารอ้างอิง โปรแกรม Microsoft Office (Excel) ระบบปฏิบัติกำร Google Mail แฟ้ม SAT code ผู้ป่วยโควิด ธีระวัฒน์ พวงบุรี, ฉัตรชัย ไตรยรำช. กำรพัฒนำรูปแบบกำรประยุกต์ใช้กูเกิลแอปพลิเคชันเพื่อ สนับสนุนกำรเก็บข้อมูลระบบส่งต่อโรงพยำบำลนำแก อ ำเภอนำแก จังหวัดนครพนม. Royal Thai Air Force Medical Gazette. ปี 2022;68(1):34-39


343 Community Hygge ว่ำที่ รต.พงษ์วิษณุ คมสำรพำงค์, ขนิษฐำ อุดมจินดำสวัสดิ์, วศินี ปุจฉำกำร, กฤตภำส อิทธิสังวรปฏิญญำ อยู่ตระกูล โรงพยำบำลรำชบุรี บทน า ในสถำนกำรณ์ที่มีกำรแพร่ระบำดโรค COVID-19 แม้ว่ำได้เตรียมมำตรกำรต่ำง ๆ ไว้รองรับแล้ว แต่ก็ยัง เกิดกำรระบำดในแทบทุกพื้นที่ กำรควบคุมโรคเป็นได้ยำก และมีหลำยขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนหนึ่งที่มีควำมส ำคัญใน ล ำดับต้นๆ คือ กำรสอบสวนโรค กำรคัดแยกกลุ่มผู้ป่วยและกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด ออกจำกกัน เพื่อควบคุมกำรระบำด ให้อยู่ในวงจ ำกัดได้อย่ำงทันท่วงที กำรด ำเนินงำนด้ำนกำรคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่ระบำด เจ้ำหน้ำที่ต้องเข้ำไปสอบสวนโรค พร้อมทั้งท ำกำร ตรวจหำเชื้อ COVID-19โดยผู้เชี่ยวชำญ จึงมีควำมเสี่ยงสูงที่เจ้ำหน้ำที่อำจติดเชื้อจำกผู้ป่วย จำกกำรท ำงำนในพื้นที่ ท ำให้ทีมตระหนักถึงควำมปลอดภัยของเจ้ำหน้ำที่เป็นอย่ำงมำก เพรำะกำรคัดกรองผู้ป่วย ต้องใช้เอกสำรในกำร สอบสวนโรค เจ้ำหน้ำที่ต้องซักประวัติและติดต่อสื่อสำรกับผู้ป่วยทุกรำยหำกสอบสวนโรคในกลุ่มผู้สูงอำยุ จะยิ่งใช้ เวลำมำกกว่ำปกติ เมื่อสอบสวนโรคเสร็จแล้วต้องน ำแบบสอบสวนโรคทั้งหมดเข้ำมำบันทึกข้อมูล เพื่อสรุปแบบ รำยงำนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ำ 2019 ต่อผู้บริหำร พร้อมทั้งน ำข้อมูลมำเพื่อวำงแผนควบคุมกำรระบำด รวมไปถึงกำร ส่งเอกสำรเพื่อเบิกเงินงบประมำณ ดังนั้น ทำงผู้ปฏิบัติงำนจึงได้ร่วมกันหำแนวทำงแก้ไขกำรด ำเนินกำรสอบสวนโรค และป้องกันกำรติดเชื้อ ของเจ้ำหน้ำที่ในขณะออกปฏิบัติงำน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อลดระยะเวลำกำรปฏิบัติงำน ในกำรสอบสวนโรคของ เจ้ำหน้ำที่ 2. เพื่อลดกำรใช้เอกสำรและป้องกันเอกสำรสูญหำย 3. เพื่อให้สะดวกต่อกำรรำยงำนโรค 4. เพื่อลดควำมเสี่ยงกำรติดเชื้อจำกกำรปฏิบัติงำนสอบสวนโรค วิธีการศึกษา/การด าเนินงาน จำกปัญหำข้ำงต้น เจ้ำหน้ำที่ต้องซักประวัติและติดต่อสื่อสำรกับผู้ป่วยทุกรำย แต่ละรำยใช้เวลำสอบสวน โรค 30 นำที ถึง 1 ชม./คน/ครั้ง และพบบุคลำกรทีมสอบสวนโรคติดเชื้อ COVID-19 จำกกำรปฏิบัติงำน ตั้งแต่ วันที่ 1 เดือนกรกฎำคม พ.ศ.2564–วันที่ 30 เดือนพฤษภำคม พ.ศ.2565 จ ำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 46.66 รวมทั้งต้องน ำเอกสำรที่อำจปนเปื้อนเชื้อโรคเข้ำมำบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ที่หน่วยงำน โดยน ำเข้ำข้อมูลเป็น รำยบุคคล ซึ่งต้องใช้ระยะเวลำ 5 นำที/รำย ส่งผลให้กำรสรุปข้อมูลช้ำ ไม่ทันต่อกำรควบคุมสถำนกำรณ์แพร่ระบำด ทีมจึงได้ร่วมกันหำแนวทำงด้วยกำรน ำระบบคอมพิวเตอร์เข้ำมำใช้ในกำรออกปฏิบัติงำน


344 จำกเดิม เรำใช้โปรแกรม Microsoft Office (word/excel) ธรรมดำ บันทึกข้อมูลสอบสวนโรคเบื้องต้น และออกหนังสือกักตัวให้แก่ผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัส เมื่อน ำไปใช้จริง แม้จะลดเวลำในกำรปฏิบัติงำนลง แต่กำรตรวจ ในแต่ละวันมีจ ำนวน 500 คนขึ้นไป ทีมผู้ปฏิบัติงำน จึงได้หำแนวทำงใหม่ โดยปรึกษำกับงำนพัฒนำนวัตกรรมและ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นหน่วยงำนที่ดูแลระบบปฏิบัติกำรด้ำนสุขภำพทั้งหมดของโรงพยำบำลและเป็น เจ้ำของ โปรแกรม Hygge ที่ใช้ในโรงพยำบำล จึงได้เป็นที่มำของ โปรแกรม ฮุกกะ โควิด เบื้องต้นโปรแกรมนี้ ถูกใช้โดยเจ้ำหน้ำที่ทีมสอบสวนโรค (SAT) พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลระบบ (Admin) เพื่อ ทดสอบระบบ ปรับ แก้ไขจุดบกพร่องของโปรแกรมให้ง่ำยต่อกำรใช้งำน เมื่อทดลองระบบและใช้ภำยในโรงพยำบำล พบว่ำ มีผลกำรตอบรับเป็นที่น่ำพอใจ จึงส่งให้ รพ.สต.น ำไปใช้ส ำหรับสอบสวนโรค และสำมำรถนัดผู้ป่วยเข้ำมำรับ กำรตรวจหำเชื้อ โควิดที่โรงพยำบำลได้ภำยในวันต่อวัน และกำรลงข้อมูลจะใช้ QR code เพื่อเข้ำสู่ระบบ ผลการศึกษา จำกกำรใช้งำนโดยเจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุข ได้รับผลตอบรับที่ดี ตอบสนองต่อควำมต้องกำรเรื่องกำรลด ระยะเวลำและสัมผัสกับผู้ป่วยของผู้ปฏิบัติงำนด้ำนสำธำรณสุขได้ จึงได้น ำไปสู่กำรเผยแพร่ให้ประชำชนที่มีควำม เสี่ยง ลงข้อมูลเบื้องต้นผ่ำนทำง QR code เมื่อลงข้อมูลและส่งข้อมูลแล้ว ทีม SAT จะใช้โทรศัพท์สอบสวน รำยละเอียดอีกครั้ง และสำมำรถนัดหมำยผู้ป่วยเข้ำมำตรวจหำเชื้อโควิดที่จุดตรวจโควิด ได้อย่ำงทันท่วงที ใช้ระบบเก่ำ (กำรเขียน) ระบบ Microsoft Office (word/excel) ระบบ ฮุกกะ โควิด (QR code) สอบสวนโรคได้ 30 นำที ถึง 1 ชม./ คน/ครั้ง -ต้องเขียน ใบสอบสวนโรค, จพต. และใบติดตำมอำกำร - ใช้บุคลำกรสอบสวนจ ำนวนมำก สอบสวนโรคได้ 20–30 นำที/คน/ครั้ง -ต้องกรอกข้อมูลไปที่ excel เพื่อ พิมพ์ ใบสอบสวนโรค, จพต. และใบ ติดตำมอำกำร ออกมำเป็นเอกสำร word สอบสวนโรคได้ 5–10 นำที/คน/ครั้ง -สำมำรถพิมพ์ ใบสอบสวนโรค, จพต. และใบติดตำมอำกำร - พิมพ์เอกสำรเพื่อสรุปรำยงำน กำรรวบรวมข้อมูล (1) ท ำได้ยำก และเอกสำรสูญหำย (2) อ่ำนลำยมือไม่ออก, ชื่อ นำมสกุล และเลขบัตรประชำชนไม่ชัดเจน (3) ต้องน ำข้อมูลมำคีย์เพื่อเก็บ ข้อมูล กำรรวบรวมข้อมูล (1) ดึงข้อมูลได้จำก excelแต่ข้อมูลไม่ ครบถ้วน (2) หำกข้อมูลมีจ ำนวนมำก ท ำให้ดึง ข้อมูลได้ช้ำ กำรรวบรวมข้อมูล (1) สำมำรถดึงข้อมูลได้จำกโปรแกรม ฮุกกะ โควิด ได้ทันที เมื่อต้องกำร เรียกดู


345 อภิปรายสรุปและข้อเสนอแนะ ทีมสำมำรถลดระยะเวลำในกำรสอบสวน,ลดกำรสัมผัสผู้ป่วย,คัดแยกผู้ป่วย,ผู้สัมผัส,กักตัวควบคุมโรค, น ำส่งเอกสำรส ำหรับเบิกได้ทันเวลำ รวมถึงกำรรำยงำนข้อมูลให้แก่ผู้บริหำรได้อย่ำงรวดเร็ว เปรียบเทียบจำกระบบ เขียนเอกสำรซึ่งต้องใช้ระยะเวลำประมำณ 1 อำทิตย์ จึงจะสรุปข้อมูลได้ครบถ้วน มำจนถึงระบบกำรใช้โปรแกรม ฮุกกะ โควิด ที่ใช้ระยะเวลำ 1 วัน ในกำรสรุปข้อมูล การน าผลงานไปใช้ประโยชน์และคุณค่าของนวัตกรรม 1. โปรแกรมสำมำรถน ำไปใช้ได้จริง โดยประชำชนที่มีควำมเสี่ยงสำมำรถกรอกข้อมูลผ่ำนระบบออนไลน์ และเจ้ำหน้ำที่สอบสวนโรค (SAT) เมื่อได้รับข้อมูลแล้วจะโทรกลับสอบสวนโรคได้ทันที 2. โปรแกรมนี้สำมำรถน ำไปปรับใช้กับโรคอุบัติใหม่อื่นๆได้ เอกสารอ้างอิง Microsoft Office (word/excel) โปรแกรม ฮุกกะ โควิด จำกงำนพัฒนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ รพ.รำชบุรี ได้เขียนตัว โปรแกรมขึ้นมำเอง (รูปที่1)ใบสอบสวนโรค ที่ต้อง เขียน ข้อมูลรำยบุคคล (รูปที่2)โปรแกรม ฮุกกะ


346 (รูปที่3) โปรแกรม ฮุกกะเมื่อเจ้ำหน้ำที่สอบสวนโรค(SAT) ได้รับข้อมูลแล้วจะโทรกลับสอบสวนโรคได้ทันที


Click to View FlipBook Version