- ๑๙๒ -
เปลยี่ นตาแหน่งเป้ าหมาย
๑๓ ๑ ๑. พลเป้ าหมาย ๒ คน ยงิ กระสุนซอ้ มรบ คนละ ๑ นดั ท้งั ๒๐๐ ๑๑ก-๑๒ก
๒ ๒ คนคลาน ๕ เมตร สลบั ไปยงั ที่ท่ีถูก ๙ข-๑๐ข
๓ มองเห็นไดย้ ากและง่าย ป๒
๔ ป๕
๑๔ ๕ ๒. ปฏิบตั ิเช่นเดียวกบั ขอ้ ๑๓ เวน้ แต่ใหอ้ ยใู่ นท่ีที่ถกู ๗๕ ป๓
๖ มองเห็นไดย้ าก แต่มีจุดอา้ งที่เห็นไดง้ ่าย ป๑
๗ ๔๔ข-๔๕ข
๘ ๔๔ค-๔๕ค
๑๕ ๑ ๑. พลเป้ าหมาย ๒ คน อยหู่ ่างกนั มาก โผ ๓ วนิ าที ท้งั ๒ ๒๒๕ ๘ก-๙ก
๒ คนเขา้ ใกลก้ นั แลว้ ยงิ กระสุนซอ้ มรบ คนละ ๒ นดั ๗ค-๘ค
๓ ป๑๔
๔ ป๑๑
เปลยี่ นตาแหน่งเป้ าหมาย
๑๖ ๕ ๒. พลเป้ าหมาย ๔ คน โผ ๑-๒-๓-๔ วนิ าที หลงั จากถูก ๒๗๕ ๑๕ก-๑๖ก
๖ ยงิ จากแนวตรวจการณ์ พลเป้ าหมายแตล่ ะคนยงิ กระสุนซอ้ ม ๑๔ข-๑๓ข
๗ รบคนละ ๑ นดั หลงั จากเขา้ ที่ซ่อนตวั เปลี่ยนท่ีไปมา ๑๖ข-๑๕ข
๘ ระหวา่ งจุดที่ถูกมองเห็นไดง้ ่ายและยาก ๑๔ค-๑๕ค
๑๗ ๑ ๓. พลเป้ าหมาย ๔ คน ผลดั กนั ยงิ กระสุนซอ้ มรบ คนละ ๑๒๕ ๓๖ก
๒ ๑ นดั ; สลบั ไปมาระหวา่ งที่ที่ถกู มองเห็นไดง้ ่ายและยาก ๓๕ก
๓ ๓๑ข
๔ ๓๒ค
๑๘ ๕ ๔. พลเป้ าหมาย ๒ คน โผ ๑ วนิ าที ; ท้งั ๒ คน ยงิ กระสุน ๓๐๐ ป๙
๖ ซอ้ มรบคนละ ๑ นดั สลบั ไปมาระหวา่ งที่ท่ีถกู มองเห็นได้ ป๑๓
๗ ง่ายและยาก ๑ก-๒ก
๘ ๒ค-๓ค
เปลย่ี นตาแหน่งเป้ าหมาย
๑๙ ๑ ๑. พลเป้ าหมาย ๓ คน โผ ๒ วนิ าที ๓ คร้ัง ๑๒๕ ๓๕ก-๓๔ก
๒ พลเป้ าหมาย ๑ คน ยงิ กระสุนซอ้ มรบ ๑ นดั ๓๖ก-๓๗ก
๓ ๓๑ข-๓๒ข
๔ ป๙
๒๐ ๕ ๒. พลเป้ าหมาย ๑ คน คลานระยะ ๕ เมตร ๑๗๕ ๒๓ข-๒๔ข
๖ พลเป้ าหมาย ๓ คน ยงิ กระสุนคนละ ๑ นดั สลบั ไปมา ป๑๔
๗ ระหวา่ งท่ีท่ีถกู มองเห็นไดง้ ่ายและยาก ป๑๑
๘ ป๑
- ๑๙๓ -
ซ.แบบฝึ กหดั ที่ ๘ : การทดสอบคน้ หาเป้ าหมายคร้ังท่ี ๑ (๑ ชวั่ โมง)
การทดสอบคร้ังน้ีใชท้ ดสอบขีดความสามารถในการคน้ หาเป้ าหมาย, กะระยะไปยงั เป้ าหมาย
เด่ียว, อยกู่ บั ท่ีในสภาพการรบ
๑)สิ่งอานวยความสะดวก สนามฝึกคน้ หาเป้ าหมาย ๑ สนาม
๒)เจา้ หนา้ ที่
ก)* ผฝู้ ึก ๑ นาย
ข)* ผชู้ ่วยผฝู้ ึก ๗ นาย
ค)* พลเป้ าหมาย ๓ นาย
๓)ความตอ้ งการกระสุนซอ้ มรบ
ก)* กระสุนสาหรับการแนะนา -๑๕ นดั
ข)* กระสุนสาหรับการซกั ซ้อม - ๑๕ นดั
๔)แผน่ บนั ทึกหลกั ฐานประจาสนาม เช่นเดียวกบั ในแบบฝึกหดั ท่ี ๑ แต่ควรเปลี่ยน
ตาแหน่งเป้ าหมาย
๕)แผน่ บนั ทึกคาตอบ เช่นเดียวกบั แบบฝึกหดั ที่ ๑
ด.แบบฝึ กหดั ที่ ๙ : การทดสอบคน้ หาเป้ าหมายคร้ังท่ี ๒ และ ๓ (๑ ชว่ั โมง)
การทดสอบคร้ังน้ีใชท้ ดสอบขีดความสามารถในการกาหนดท่ีต้งั เป้ าหมาย และหมายจุดที่
เป้ าหมายเดี่ยว และเป้ าหมายหลายเป้ าหมายหายไปในภมู ิประเทศ (การทดสอบคร้ังท่ี ๒) และขีด
ความสามารถในการคน้ หาเป้ าหมายท่ีเกิดเสียง (การทดสอบคร้ังที่ ๓)
๑)ส่ิงอานวยความสะดวก สนามฝึกคน้ หาเป้ าหมาย ๑ สนาม
๒)เจา้ หนา้ ท่ี
ก)* ผฝู้ ึก ๑ นาย
ข)* ผชู้ ่วยฝึก ๔ นาย
ค)* พลเป้ าหมาย ๔ นาย
๓)ความตอ้ งการกระสุนซอ้ มรบ
ก)* กระสุนสาหรับการแนะนา - ๓๐ นดั
ข)* กระสุนสาหรับการซกั ซอ้ ม - ๓๐ นดั
แผน่ บนั ทึกหลกั ฐานประจาสนาม , การคน้ หาเป้ าหมาย, การทดสอบคร้ังท่ี ๒ (ดูตาราง ข-
๘) แผน่ บนั ทึกหลกั ฐานประจาสนาม , การคน้ หาเป้ าหมายเสียง, การทดสอบคร้ังที่ ๓ (ดูตาราง ข-
๙)
- ๑๙๔ -
ตาราง ข-๘ การทดสอบคร้ังท่ี ๒ แบบฝึ กหัดท่ี ๙
บ่งการ พล การปฏบิ ัตขิ องพลเป้ าหมาย ระยะ หลกั
ท่ี เป้ าหมาย (เมตร) หมายเลข
๑ ๑ ๑. นง่ั คุกเข่าขา้ ง ๆ ตน้ ไม้ , ลกุ ข้ึนเม่ือไดร้ บั คาสงั่ , พงุ่ ตวั ๓๐๐ ๑ก-๒ก
ระยะ ๑๐ เมตร ไปยงั ที่ที่ถูกมองเห็นไดย้ าก
๒ ๒ ๒. โผระยะ ๑๕ เมตร ไปยงั ท่ีที่ถูกมองเห็นไดย้ าก ๗๕ ๔๐ก-๔๑ก
๓ ๓๙ข-๔๐ข
๔๐ก-๔๑ค
๓ ๑ ๑. โผระยะ ๑๐ เมตร ไปยงั ท่ีที่ถกู มองเห็นไดย้ าก ๒๐๐ ๑๑ก-๑๒ก
๒ ๑๓ก-๑๔ก
๓ ๑๑ข-๑๒ข
๔ ๑๑ค-๑๒ค
๔ ๑ ๒. โผไปทางขา้ ง ๑๐ เมตร ไปท่ีที่ถกู มองเห็นไดง้ ่าย ๑๕๐ ๑๒ก-๑๒ข
๒ ๑๔ก-๑๔ข
๓ ๑๒ข-๑๒ค
๔ ๑๒ค-๑๑ข
เปลย่ี นทตี่ ้งั เป้ าหมาย
๕ ๑ ๑. พลเป้ าหมายคนหน่ึงโผไปทางขวา, อีกคนไปทางซา้ ยท้งั คู่ ๒๐๐ ๑๐ก-๑๒ข
๒ หยดุ ที่ท่ีถูกมองเห็นไดย้ าก ๑๒ค-๑๑ข
๖ ๓ ๒. โผ ๑๐ เมตร คนหน่ึงไปยงั ท่ีท่ีถกู มองเห็นไดง้ ่าย อีก ๗๕ ๓๕ค-๓๖ค
๔ คนหน่ึงไปท่ีที่ถกู มองเห็นไดย้ าก ๑๐๐ ๒๙ข-๓๐ข
๑ ๑๒๕ ๒๗ก-๒๘ก
๗ ๒ ๑. โผ ๕ เมตร ไปยงั ที่ที่ถกู มองเห็นไดย้ าก ๗๕ ๓๔ข-๓๕ค
๓
๔
๘ ๑ ๒. โผ ๒๐ เมตร ไปยงั ที่ที่ถกู มองเห็นไดย้ าก ๒๐๐ ๓๕ก-๓๕ข
๑๖ก-๑๗ก
๙ ๒ ๓. พลเป้ าหมายคนแรกโผ ๕ เมตร ไปยงั ท่ีที่ถูกมองเห็นได้ ๓๐๐ ๑ข-๒ข
๓ ง่าย , อีกคนหน่ึงโผ ๑๐ เมตร ไปยงั ท่ีท่ีถกู มองเห็นไดย้ าก ๑ค-๓ค
๑๐ ๔ ๔. โผ ๕ เมตร ไปทางขา้ ง ในท่ีที่ถกู มองเห็นไดย้ าก ๑๕๐ ๒๕ก-๒๖ก
๒๔ข-๒๕ข
- ๑๙๕ -
ตาราง ข-๙ การทดสอบคร้ังที่ ๓, แบบฝึ กหัดท่ี ๙
บ่งการท่ี พลเป้ าหมาย ป้ ายหมายเลข
๑ ๑๖
๒
๓ ๒ , ๓ ๔ , ๑๒
๔
๕ ๔,๑ ๗,๙
๖
๗ ๒๘
๘
๙ ๓ ๑๔
๑๐
๑๑ ๔ , ๑ ๑๔ , ๓
๑๒
๑๓ ๒๑
๑๔
๑๕ ๓๖
๑๖
๑๗ ๔๗
๑๘
๑๙ ๑ , ๒ ๑๓ , ๘
๒๐
๓ , ๔ ๑๐ , ๑
๑,๒ ๒,๖
๓,๔ ๗,๓
๑ , ๒ ๑๑ , ๖
๓๗
๔๓
๑ , ๒ ๖ , ๑๔
๓ , ๔ ๑๒ , ๑
๑๘
๒๓
- ๑๙๖ -
ผนวก ค
เครื่องช่วยฝึ กและอปุ กรณ์การฝึ ก
รายละเอียดในผนวกน้ีจะกล่าวถึง รายการ คุณลกั ษณะ วธิ ีการใชเ้ ครื่องช่วยฝึกและอุปกรณ์
การฝึกสาหรับการฝึกยงิ ปื น ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖ มม.ที่มีความสาคญั บางประการเท่าน้นั เพอ่ื ใหผ้ ู้
ท่ีเกี่ยวขอ้ งสามารถวางแผนการฝึก,การเตรียมการดา้ นงานการฝึก และเขา้ ใจ คชฝ.ท่ีเก่ียวขอ้ ง
ประเภทของเคร่ืองช่วยฝึ ก
ประเภท รายการ
เครื่องช่วยฝึกประเภทแผน่ ภาพ แผน่ ภาพขนาดใหญ่, แผน่ ภาพขนาดเล็ก,
แผน่ ภาพการฝึกบุคคลท่าอาวุธและ
แผน่ ภาพอาวธุ ศึกษาสาหรับ ปลย.ทาโวร์
แบบทาร์ ๒๑ ขนาด ๕.๕๖ มม. และฯลฯ
อุปกรณ์การฝึ ก แผน่ ฝึกเล็ง ๓ จุด, คานฝึกเล็ง, หีบพาดปื น,
หีบปิ ดเป้ า, รูปจาลอง, หุ่นจาลอง ฯลฯ
ภาพยนตร์ แผน่ ซีดีบนั ทึกขอ้ มลู แผนกวิชาอาวธุ รร.ร.ศร.
ตารา ตารา, เอกสารประกอบคาบรรยาย, แนวสอนของ
แผนกวชิ าอาวธุ รร.ร.ศร. และฯลฯ
ค-๑ การใช้เคร่ืองช่วยฝึ กประกอบการฝึ ก
เคร่ืองช่วยฝึกและอุปกรณ์การฝึกต่าง ๆ น้ี ถา้ ใชใ้ หม้ ีความเหมาะสมกบั การฝึกแลว้ จะ
ก่อใหเ้ กิดประโยชน์อยา่ งสูง นอกจากน้ียงั สามารถช่วยแกป้ ัญหาการขาดแคลนยทุ โธปกรณ์ที่จะใชใ้ น
การฝึก ความสึกหรอ และความเสียหายอนั เน่ืองมาจากการฝึก ความสิ้นเปลืองกระสุนสาหรับใชใ้ น
การฝึก คชฝ.เป็นอุปกรณ์ท่ีใชป้ ระกอบในการเรียนการสอนใหก้ บั ผฝู้ ึกและครูฝึกไดเ้ ป็ นอยา่ งดีทหารท่ี
เขา้ รับการฝึกจะไดเ้ ห็นภาพของอาวธุ ก่อน และเรียนรู้ในขอ้ จากดั บางประการของอาวธุ น้นั ๆ ท้งั ยงั
เป็นการช่วยในการรักษาอาวุธปื น ในกรณีที่หน่วยไม่สามารถนาอาวธุ มาใหท้ หารดูหรือจบั ตอ้ งของ
อาวธุ ปื นจริงไดอ้ ยา่ งเพยี งพอ
ก. คานฝึ กเลง็ ( รูปที่ ค – ๑ ก , ข, ค และ ง )
เป็นอุปกรณ์เครื่องช่วยฝึกที่จะใชใ้ นการฝึกการจดั ภาพการเล็ง เพือ่ ใหท้ หารไดร้ ับการเรียนรู้
วธิ ีการเลง็ ดว้ ยวธิ ีการมองพร้อมๆ กนั ท้งั ๒ ตา(เป็ นการเล็งต่อเป้ าหมายดว้ ยตาท้งั ๒ ขา้ งโดยไม่มีการ
ปิ ดตาขา้ งหน่ึงขา้ งใด)ไปยงั เป้ าหมาย เสมือนเป็ นการเลง็ โดยการใชก้ ลอ้ งเลง็ สะทอ้ นภาพ ( MEPRO
21 M) , รู้จกั วธิ ีการเลง็ ที่ก่ึงกลางเป้ าหมายโดยการใชอ้ ุปกรณ์เครื่องช่วยฝึกที่เรียกวา่ คานฝึกเล็ง โดย
ไมต่ อ้ งนา ปลย.ทาโวร์ แบบทาร์ ๒๑ ที่ติดกลอ้ งเลง็ สะทอ้ นภาพ มาใหท้ หารใช้ ทหารหรือผทู้ ี่เขา้ รับ
การฝึกจะตอ้ งฝึกหดั การจดั ภาพการเลง็ จากคานฝึกเลง็ ใหถ้ ูกตอ้ ง และทาความเขา้ ใจถึงหลกั ในการ
เลง็ ปื นใหไ้ ดม้ ากท่ีสุดก่อนท่ีจะไปใชป้ ื นจริง โดยจะมีครูฝึ กเป็นผคู้ อยใหค้ าแนะนาแก่ทหารผเู้ ขา้ รับ
การฝึกในเร่ือง การเล็งเป้ าหมาย การจดั ภาพการเลง็ โดยการใชต้ าท้งั สองในการเล็งต่อเป้ าหมายโดย
- ๑๙๗ -
การมองผา่ นแผน่ กลอ้ งเลง็ ซ่ึงเสมือนเป็ นกลอ้ งเลง็ สะทอ้ นภาพ( MEPRO 21 M)ไปยงั แผน่ จุดเล็งสีแดง
เสมือนเป็ นจุดเล็งสีแดง( RED DOT ) มองไปยงั เป้ าหมาย โดยใหจ้ ุดเล็งสีแดงวางอยบู่ นเป้ าหมายตาม
ตาแหน่งท่ีผยู้ งิ ตอ้ งการที่จะใหก้ ระสุนกระทบเป้ าหมาย
๓ ๒
๔
๑
รูปที่ ค – ๑ (ก) คานฝึ กเล็ง ปลย.ทาโวร์
ช่ือเรียกอปุ กรณ์
หมายเลข ๑ คานฝึกเลง็
หมายเลข ๒ แผน่ กลอ้ งเลง็
หมายเลข ๓ แผน่ จุดเล็งสีแดง
หมายเลข ๔ แผน่ เป้ า
- ๑๙๘ -
รูปที่ ค – ๑ (ข) การฝึ กเลง็ คานฝึ กเลง็ ปลย.ทาโวร์
รูปที่ ค – ๑ (ค) คานฝึ กเลง็ ปลย.ทาโวร์
- ๑๙๙ -
๑) แผน่ กลอ้ งเลง็ ท่ีติดต้งั อยบู่ นคานฝึกเลง็ รูปที่ ค – ๑ (ก) หมายเลข ๒ จะเสมือนเป็น
กลอ้ งเล็งสะทอ้ นภาพ( MEPRO 21 M) มีลกั ษณะเป็ นแผน่ สังกะสีแผน่ เรียบรูปร่างเป็ นสี่เหล่ียม
จตั ุรัสขนาด ๘ ซม. พ้ืนทาดว้ ยสีดาดา้ นท้งั ๒ ดา้ น และมีรูบนแผน่ สงั กะสีขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง
ขนาด ๒ ซม.จานวน ๑ รู
2
33
4
รูปท่ี ค - ๑(ก) แผ่นกล้องเลง็
- ๒๐๐ -
๒) แผน่ จุดเลง็ สีแดงท่ีติดต้งั อยบู่ นคานฝึกเล็ง รูปท่ี ค – ๑ (ข) หมายเลข ๓ จะเสมือนเป็นจุด
เล็งสีแดง(RED DOT )ท่ีอยภู่ ายในกลอ้ งเล็งสะทอ้ นภาพ( MEPRO 21 M) มีลกั ษณะเป็ นแผน่
พลาสติกใสไม่ขนุ่ มวั โดยจะมีจุดวงกลมสีแดงอยบู่ นแผน่ พลาสติกใสมีขนาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางขนาด
๐.๒ ซม.
รูปท่ี ค – ๑ (ข) แผ่นจุดเลง็ สีแดง
- ๒๐๑ -
๓) แผน่ เป้ าที่ติดต้งั อยบู่ นคานฝึกเลง็ รูปที่ ค – ๑ (ค) หมายเลข ๔ จะเสมือนเป็น
เป้ าหมายสมมุติในการฝึกเลง็ แผน่ เป้ ามีลกั ษณะเป็นแผน่ สังกะสีแผน่ เรียบมีรูปร่างเป็ นส่ีเหล่ียมจตั ุรัส
ขนาด ๘ ซม.ทาดว้ ยสีขาวท้งั ๒ ดา้ นโดยมีรูปหุ่นคนทึบสีดามีวงกลมสีขาวอยกู่ ลางลาตวั หุ่น และจุดสี
ขาวอยกู่ ลางวงกลม มีไวเ้ สมือนเป็ นเป้ าสาหรับฝึกการจดั ภาพการเลง็ ปื น
พนื้ ทาด้วยสีขาว
รูปท่ี ค – ๑ (ค) แผ่นเป้ า
- ๒๐๒ -
๔) เป้ ารูปหุ่นคนยอ่ ส่วน รูปท่ี ค-๑(ง) จะเสมือนเป็ นเป้ าหมายที่ปรากฏข้ึน เพ่ือใหผ้ ทู้ ี่เขา้
รับการฝึกการเล็งปื น ปลย. ทาโวร์ โดยใชค้ านฝึกเล็ง ไดส้ ร้างความคุน้ เคยในการใชจ้ ุดเลง็ สีแดง หรือ
จุด RED DOT เรียนรู้วธิ ีใชก้ ารเลง็ ท่ีมีความใกลเ้ คียงกบั การใชก้ ลอ้ งเล็งสะทอ้ นภาพ เรียนรู้วธิ ีการใน
การจดั เส้นการเลง็ ไปยงั เป้ าหมาย การจดั ศูนยพ์ อดี และการจดั ศูนยน์ ง่ั แท่น
รูปที่ ค – ๑ (ง) เป้ ารูปหุ่นคน
- ๒๐๓ -
ข.การฝึ กใช้คานฝึ กเลง็
ก่อนท่ีจะเริ่มทาการฝึกผฝู้ ึกจะตอ้ งแนะนาหรืออธิบายถึงลกั ษณะของคานฝึกเล็ง ปลย. ทาโวร์
ใหท้ หารไดร้ ับทราบพอสงั เขปเสียก่อนที่จะทาการฝึก โดยการใหค้ าแนะนาลกั ษณะทวั่ ๆไป ใหท้ หาร
ทราบวา่ ชิ้นส่วนไหนเรียกวา่ อะไร มีการจบั ถืออยา่ งไร จะตอ้ งใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกจดั วางแผน่ กลอ้ งเลง็ ,
แผน่ จุดเล็งสีแดง และแผน่ เป้ าใหถ้ ูกตาแหน่งบนคานฝึกเล็งเสียก่อน และดา้ นไหนของคานฝึกเลง็ ท่ี
จะตอ้ งหนั เขา้ หาตวั ของผฝู้ ึก(ดา้ นที่หวั ไมท้ าสีแดง) การฝึ กใชค้ านฝึกเลง็ น้นั จะใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึก
ปฏิบตั ิในท่ายนื ยงิ , ท่านอนยงิ , ทา่ นงั่ ยงิ ( ราบ, คุกเขา่ , สูง ) ท่าใดกไ็ ดเ้ พ่ือเป็นการสร้างความคุน้ เคยใน
การจดั ภาพการเลง็ ในทา่ ยงิ ต่างๆ ในการฝึกครูฝึกอาจจะมีการสาธิตการจดั วางอุปกรณ์ต่างๆ บนคาน
ฝึกเล็งและการจดั ภาพของการเล็งท่ีถูกตอ้ งใหก้ บั ผทู้ ่ีเขา้ รับการฝึกดูเสียก่อน พร้อมการอธิบาย
ประกอบ และใหผ้ ทู้ ่ีเขา้ รับการฝึกจะไดด้ ูภาพการเล็งที่ถูกตอ้ ง พร้อมท้งั รับฟังคาอธิบายถึงลกั ษณะ
ของการจดั ภาพการเลง็ ที่ถูกตอ้ ง พร้อมสอบถามความเขา้ ใจ และหลงั จากน้นั ถา้ มีเวลาเพียงพอใหผ้ ทู้ ่ี
เขา้ รับการฝึ กอธิบายในความเขา้ ใจตา่ งๆ พอสงั เขป ในลาดบั ต่อไปผฝู้ ึกจะถอดอุปกรณ์ออกแลว้ ใหผ้ ู้
เขา้ รับการฝึกปฏิบตั ิเองตามข้นั ตอนท่ีไดส้ อนไว้ จนกระท้งั ผเู้ ขา้ รับการฝึกสามารถจดั ภาพเล็งไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ งตามท่ีตอ้ งการ จากน้นั ครูผฝู้ ึกก็จะทาการตรวจสอบถึงความถูกตอ้ ง และควรใหท้ หารปฏิบตั ิซ้า
หลายๆ คร้ังจนมน่ั ใจวา่ ทหารเขา้ ใจภาพการเลง็ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งแน่นอน
เมื่อทหารไดร้ ับการฝึกสอนใหม้ ีความเขา้ ใจในการจดั ภาพการเลง็ ที่ถูกตอ้ งแลว้ ท้งั ผฝู้ ึกมี
ความมน่ั ใจวา่ ทหารมีความเขา้ ใจ และสามารถที่จะจดั ภาพการเลง็ ที่ถูกตอ้ งได้ ในข้นั ตอนต่อไปก็จะ
เป็นการสอนใหท้ หารมีความรู้มากข้ึนดว้ ยการฝึกสอนการเล็ง ๓ จุด
ค.ปลอกทวีแรงถอยสาหรับใช้กบั กระสุนซ้อมรบ
เครื่องมือท่ีใชส้ าหรับสวมที่ปากลากลอ้ งปื น บริเวณปลอกลดแสงของ ปลย. เครื่องมือน้ีถูก
ออกแบบมาเพอื่ เพ่มิ แรงดนั ของแกส๊ ในลากลอ้ งใหพ้ อเพียงกบั การยงิ แบบก่ึงอตั โนมตั ิ, แบบอตั โนมตั ิ
และแบบอตั โนมตั ิในจงั หวะส้ัน (คร้ังละ ๒ – ๓ นดั /การเหน่ียวไกปื น๑ คร้ัง ) โดยการใชล้ ูกกระสุน
ซอ้ มรบ แบบ เอม็ .๒๐๐ สิ่งสาคญั เม่ือไดใ้ ชก้ ระสุนซอ้ มรบทาการยงิ ปื นไปแลว้ อยา่ งนอ้ ยที่สุด ๒๕ นดั
พลยงิ จะตอ้ งรีบทาการตรวจสอบดูระบบการทางานของปื นใหค้ รบถว้ น เพราะการยิงโดยใชก้ ระสุน
ซอ้ มรบทาการยงิ มากๆ จะทาใหเ้ กิดมีคราบเขม่าของดินปื น ที่เกิดจากการเผาไหมข้ องดินปื น แลว้ ทา
ใหเ้ ขมา่ ดินปื นจานวนมากกวา่ ปกติ ไดเ้ คลื่อนตวั กลุ่มแก๊สถอยหลงั ไปผลกั ดนั ใหร้ ะบบการทางานของ
ปื นทางานไดเ้ สมือนทาการยิงปื นดว้ ยลูกกระสุนจริง จึงทาใหม้ ีคราบเขม่าดินปื นไปติดอยใู่ นร่อง
เกลียวภายในลากลอ้ งปื น, ในท่อนาแกส๊ และที่สลกั ยดึ ปลอกท่ีปากลากลอ้ ง ครูฝึก/ครูฝึ กจึงควรมีการ
เนน้ ย้า และตกั เตือนใหท้ หารทราบ และรีบทาความสะอาด ปลย.ใหเ้ ร็วที่สุดเม่ือไดใ้ ชล้ ูกกระสุนซอ้ ม
รบไปตามจานวนดงั กล่าวขา้ งตน้ เพ่ือเป็นการรักษาอาวธุ ปื น
- ๒๐๔ -
ง.การฝึ กเลง็ ๓ จุด
เป็นกระบวนการหรือข้นั ตอนหน่ึงของการฝึก เพื่อใหท้ หารท่ีเขา้ รับการฝึกสามารถตรวจสอบ
ไดว้ า่ ผทู้ ี่เขา้ รับการฝึกมีความเขา้ ใจในกระบวนการจดั ภาพการเลง็ ประกอบกบั การหายใจและการลน่ั
ไกปื น(ยงิ แหง้ )ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ในการฝึกน้ีจะตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์ดงั น้ี แผน่ เล็ง ๓ จุด, หีบปิ ดเป้ า, กระดาษ,
กาวลาเทก็ ซ์และดินสอปลายแหลม, หีบพาดปื น ปลย. ทาโวร์ และ ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖มม. แบบ
ทาร์ ๒๑
๑)แผ่นเลง็ ๓ จุด ( รูปที่ ค – ๒ )
เป็นเคร่ืองช่วยฝึกท่ีทาดว้ ยกระดาษมีขนาดความหนาไมน่ อ้ ยกวา่ ๘๐ แกรมชนิดผวิ
กระดาษดา้ นทาการเคลือบดว้ ยพลาสติกใส ( LAMINATING FILM ) บนแผน่ กระดาษจะมีรูปหุ่น
คนสีดาดา้ นอยบู่ นแผน่ เล็ง ๓ จุดดา้ นหวั และดา้ นทา้ ย สาหรับใชใ้ นการฝึกเลง็ ๓ จุดใน ๒ ระยะคือใน
ระยะการฝึกเลง็ ท่ี ๑๕ เมตร และระยะการฝึกเลง็ ที่ ๒๕ เมตร จะมีระบุไวใ้ ตภ้ าพรูปหุ่นคนสีดาดา้ นท้งั
๒ ภาพโดยภายในรูปหุ่นคนสีดาดา้ นจะมีรูปวงกลมสีขาวอยทู่ ่ีกลางลาตวั รูปหุ่นคน และเจาะรูที่จุด
กลางวงกลมพอใหป้ ลายดินสอสอดผา่ นได้ การปฏิบตั ิโดยการนาแผน่ เลง็ ๓ จุดไปทาบไวบ้ น
แผน่ กระดาษของหีบปิ ดเป้ าตามระยะที่จะทาการฝึก (รูปที่ ค – ๓ ) มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อใชเ้ ป็นเป้ าให้
ทหารใชใ้ นการฝึกการจดั ภาพการเลง็ (โดยการนา ปลย. ทาโวร์วางบนหีบเล็ง) ประกอบการหายใจ
การลน่ั ไก ในการฝึกเลง็ ๓ จุด โดยวธิ ีการใหค้ ู่ฝึกนาแผน่ เล็ง ๓ จุดไปทาบลงบนแผน่ กระดาษท่ีติดอยู่
บนหีบปิ ดเป้ า
- ๒๐๕ -
ระยะ ๑๕ เมตร
ระยะ ๒๕ เมตร
รูปที่ ค – ๒ แผ่นเลง็ ๓ จุด ปลย. ทาโวร์
- ๒๐๖ -
รูปท่ี ค – ๓
แผ่นเลง็ ๓ จุด ปลย. ทาโวร์
๒)หบี ปิ ดเป้ า ( รูปที่ ค – ๔ )
เป็นเคร่ืองช่วยฝึกที่ทาดว้ ยไมค้ ลา้ ยหีบไม้ ปิ ดทึบดา้ นเดียว ดา้ นที่ปิ ดทึบใชส้ าหรับปิ ด
กระดาษเป้ าในการฝึกเลง็ ๓ จุด เป็น คชฝ.ที่มีหมายเลขสิ่งอุปกรณ์ หมายเลข ๖๙๒๐ – ๑๖๕ – ๐๐๐๖
มีวตั ถุประสงค์ เพ่อื ใชป้ ิ ดกระดาษเป้ าสีขาวที่หีบปิ ดเป้ าดา้ นท่ีปิ ดทึบในการฝึกเลง็ ๓ จุด และใหท้ หาร
คูฝ่ ึกใชด้ ินสอทาเครื่องหมายลงไปบนแผน่ เป้ ากระดาษสีขาว ตรงรูกลางเป้ าหุ่นรูปคนสีดาของแผน่ เลง็
๓ จุดในตาแหน่งท่ีพลยงิ มน่ั ใจวา่ สามารถจดั ภาพการเลง็ ไดด้ ีที่สุด
- ๒๐๗ -
รูปท่ี ค – ๔ หีบปิ ดเป้ า
๓)หีบพาดปื น ( รูปที่ ค – ๕ )
เป็นเคร่ืองช่วยฝึกท่ีทาดว้ ยไมค้ ลา้ ยหีบไม้ มีร่องรอยบากท้งั ๒ ดา้ นตามรูปร่าง มี
วตั ถุประสงคเ์ พื่อใชว้ าง ปลย.ทาโวร์ เพอ่ื ใชใ้ นการฝึกเลง็ ๓ จุดในทา่ นอนยงิ ( รูป ค – ๖ (ก, ข) )
ประกอบกบั หีบปิ ดเป้ าและแผน่ เลง็ ๓ จุด ในการฝึกเล็ง ๓ จุด สาหรับหีบพาดปื นดา้ นท่ีใชว้ างพาน
ทา้ ยปื นน้นั ทหารที่เขา้ รับการฝึกสามารถท่ีจะยก และปรับระดบั พานทา้ ยปื น( เลื่อนข้ึน ลงได)้ ซ่ึง
เรียกวา่ แผน่ ยกระดบั พานทา้ ยปื นหรือบากตวั ยปู รับข้ึนลงไดโ้ ดยจะใชน้ ๊อต ๒ ตวั ในการควบคุมการ
ปรับระดบั เพ่ือให้รองรับกบั สรีระของทหารแต่ละนายท่ีมีขนาดรูปร่างของลาตวั ความกวา้ งของ
หวั ไหล่ไม่เหมือนกนั ซ่ึงจะส่งผลไปที่การเลง็ แนวปื น ทาใหต้ วั ของทหารท่ีเขา้ รับการฝึกมีการผอ่ น
คลาย ไมเ่ กิดอาการเกร็งในระหวา่ งทาการฝึก ทาใหท้ หารปฏิบตั ิไดด้ ี และลดปัจจยั อื่นๆท่ีจะส่งผล
กระทบในระหวา่ งทาการฝึก
- ๒๐๘ -
ร่องสาหรับวางพาดลากลอ้ งปื น
ร่องสาหรับวางพานทา้ ยปื น
รูปท่ี ค – ๕ หีบพาดปื น
รูปท่ี ค – ๖ (ก) ปลย.ทาโวร์ วางบนหีบพาดปื น
- ๒๐๙ -
รูปท่ี ค – ๖ (ข)
ปลย.ทาโวร์ วางบนหบี พาดปื น (ด้านซ้ายพลยงิ )
รูปที่ ค – ๖ (ค)
ปลย.ทาโวร์ วางบนหบี พาดปื น (ด้านขวาพลยิง)
- ๒๑๐ -
จ.การฝึ กเลง็ ๓ จุดโดยใช้หบี พาด ปลย.ทาโวร์
การฝึกโดยการใชห้ ีบพาดปื นเลก็ ยาว ทาโวร์ ซ่ึงมีช่ือสิ่งอุปกรณ์ ตามไดย้ นื่ ขออนุมตั ิ
คุณลกั ษณะเฉพาะส่ิงอุปกรณ์สาย สพ. หรือท่ีเรียกกนั ง่ายๆและคุน้ ปากวา่ หีบเล็ง การฝึกโดยการใชห้ ีบ
เล็งน้ีจะเป็นกระบวนการการฝึกในการตรวจสอบความถูกตอ้ ง ในการจดั ภาพการเลง็ ประกอบกบั การ
หายใจและการลน่ั ไกท่ีถูกตอ้ ง ตรวจสอบความมน่ั คงในการเลง็ และการยงิ กระสุนเป็นกลุ่ม ๓ นดั โดย
ใชว้ ธิ ีการยงิ แหง้ ( รูปท่ี ค – ๗ )
สญั ญาณมือใหค้ ูฝ่ ึกเล่ือนแผน่
เลง็ ๓ จุดไปทางขวาของพลยิง
รูปท่ี ค – ๗ การฝึ กยงิ แห้งโดยใช้หีบพาดปื น
การฝึกโดยการใชห้ ีบพาดปื นเล็กยาว ทาโวร์ หรือหีบเลง็ ผฝู้ ึกหรือครูฝึกจะตอ้ งระลึกอยเู่ สมอ
วา่ การฝึกน้ีมีความสาคญั อยา่ งมากคือ เป็นกระบวนการในการฝึกข้นั ตน้ การวางพ้นื ฐานเกี่ยวกบั
ความรู้การปฏิบตั ิในการยงิ ปื นท่ีถูกวธิ ีตอ่ ตวั ของทหาร หากกระบวนการฝึกในข้นั น้ีไดถ้ ูกออกแบบ
และเตรียมการมาเป็นอยา่ งดี ผลลพั ธ์ท่ีไดค้ ือทหารกระทาไดด้ ี ก็แสดงใหเ้ ห็นวา่ ทหารจะมีความเขา้ ใจ
ในหลกั การข้นั พ้นื ฐานในการยงิ ปื นไดเ้ ป็ นอยา่ งดี แต่ยงั คงมีสิ่งสาคญั อีกหลายๆ อยา่ งท่ีผฝู้ ึกและครูฝึก
จะตอ้ งคานึกถึงใหม้ ากไว้ นน่ั คือผลและปัจจยั ในหลายประการท่ีจะเป็ นผลกระทบส่งไปยงั ผทู้ ่ีเขา้ รับ
การฝึก ดงั น้นั เพอ่ื เป็นการลดปัจจยั หรือผลกระทบตา่ งๆ ท่ีจะส่งผลไปยงั ผทู้ ่ีเขา้ รับการฝึกหรือทหาร ผู้
ฝึกและครูฝึกโดยจะตอ้ งจดั เตรียมกระบวนการในการฝึกสอนและจดั เตรียมสถานที่ไวเ้ ป็นอยา่ งดี หรือ
ทาการเลือกสถานที่ หว้ งเวลาที่เก้ือกลู ในการฝึก (ถา้ สามารถทาได)้ เช่น
- ๒๑๑ -
๑.ผฝู้ ึกหรือครูฝึกจะตอ้ งมีความรู้ความเขา้ ใจการจดั ภาพการเล็ง การหายใจประกอบกบั
การลนั่ ไกปื นไดเ้ ป็นอยา่ งดี สามารถท่ีจะอธิบาย และตอบขอ้ สงสัยในทุกๆปัญหา และทุกข้นั ตอนใน
การปฏิบตั ิใหแ้ ก่ทหารผทู้ ่ีเขา้ รับการฝึกได้
๒.ผฝู้ ึกหรือครูฝึกจะตอ้ งเลือก จดั เตรียมสถานที่ใชใ้ นการฝึกท่ีดีและเหมาะสมหมายถึง
เป็นสถานที่ที่ไม่มีความลาดเอียง จุดที่ใชใ้ นการวางหีบเลง็ และจุดท่ีใชว้ างหีบปิ ดเป้ าควรท่ีจะไม่มี
ความลาด และควรที่จะมีการกาหนดระยะที่จะทาการฝึกโดยการหมายแนวในจุดท่ีจะต้งั คชฝ.น้นั ๆ
หรือการปรับแตง่ พ้ืนที่ที่จะใชใ้ นการฝึกไวล้ ่วงหนา้ อยา่ งเหมาะสม ( รูปที่ ค – ๘ ก และ ข )
ระยะห่าง ๑๕ เมตร
รูปที่ ค – ๘ (ก)
- ๒๑๒ -
ระยะห่าง ๒๕ เมตร
รูปที่ ค – ๘ (ข)
๓.หว้ งระยะเวลาที่ทาการฝึก ควรจะเลือกในหว้ งระยะเวลาท่ีเหมาะสมท่ีจะไมท่ าใหผ้ เู้ ขา้
รับการฝึกร้อนจนเกินไป จะทาใหท้ หารท่ีเขา้ รับการฝึกไมค่ อ่ ยมีสมาธิในการปฏิบตั ิ แสงแดดท่ีส่อง
มายงั พ้นื ที่การฝึกจะมีผลกระทบในการมองเห็นเป้ าหมาย แสงแดดที่นอ้ ยเกินไป หรือแสงแดดจา้
(แสบตา)มากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น
๔.แสงแดดมีผลกระทบในการมองเห็นเป้ าหมาย(แผน่ เล็ง ๓ จุด)เพราะฉะน้นั ผฝู้ ึกและครู
ฝึกจะตอ้ งพิจารณาตาแหน่ง และหว้ งเวลาการฝึกท่ีเหมาะสม ในการวางตวั ของทหารผเู้ ขา้ รับการฝึก
บริเวณดา้ นหลงั หีบเล็งใหด้ ี โดยพจิ ารณาในตาแหน่งที่ลาแสงจะตอ้ งส่องผา่ นทางดา้ นหลงั ของทหารผู้
เขา้ รับการฝึกหรือจากดา้ นทา้ ยพานทา้ ยปื นเม่ือวางบนหีบพาดปื นไปยงั ปากกระบอกปื น แลว้ ไป
กระทบแผน่ เป้ าท่ีติดอยทู่ ี่หีบปิ ดเป้ า ซ่ึงจะเป็นลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคม์ ากที่สุด แตไ่ มค่ วรฝึกในหว้ ง
เวลาที่ทาใหเ้ กิดเงาจากส่วนใดๆไปบดบงั หีบปิ ดเป้ าทาให้การมองเห็นเป้ าไมช่ ดั หรือการมองแผน่ เลง็
๓ จุดมวั ทาใหเ้ กิดความสบั สนของผเู้ ล็งได้ ( รูปที่ ค – ๙ )
- ๒๑๓ -
คูฝ่ ึกใชด้ ินสอทาเคร่ืองหมายลงบนแผน่ กระดาษ
บริเวณรูตรงกลางรูปหุ่นยอ่ ส่วน( จุดดินสอ )
OK
พลยงิ ใหส้ ญั ญาณมือใหค้ ู่ฝึกทา
เครื่องหมายลงบนแผน่ กระดาษ
รูปที่ ค – ๙
๕.ตาแหน่งในการวางหีบปิ ดเป้ าท่ีดีท่ีสุดสาหรับการมองเห็นของผเู้ ล็งคือในจุดที่เม่ือวาง
หีบปิ ดเป้ าแลว้ ใหห้ นั ดา้ นท่ีปิ ดทึบ หรือดา้ นท่ีติดกระดาษเป้ าหนั ตรงไปยงั ผเู้ ล็ง อยใู่ นระดบั เดียวกบั ผู้
เลง็ และที่สาคญั ที่สุดคือใหแ้ สงแดดจะตอ้ งส่องกระทบท่ีแผน่ เป้ าโดยตรงไมค่ วรจะกระทบจาก
ดา้ นขา้ ง ซ่ึงจะส่งผลกระทบใหผ้ เู้ ลง็ มองเห็นแผน่ เลง็ ๓ จุดไมช่ ดั
ค-๒วธิ ีการฝึ ก
การฝึกเล็ง ๓ จุดโดยการใชห้ ีบเลง็ ผฝู้ ึกและครูฝึกจะตอ้ งวางแผนในกระบวนการ การเรียน
การฝึกสอนซ่ึงในการฝึกสอนในแตล่ ะคร้ังครูฝึกควรท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ิคือ
ก.ช้ีแจงถึงวตั ถุประสงคใ์ นการฝึก
ข.ทาการช้ีแจงในภาพรวมในการปฏิบตั ิใหท้ หารท่ีเขา้ รับการฝึก
๑)ช้ีแจงลกั ษณะ และมิติของสนามฝึก ตาแหน่งการวางของอุปกรณ์ หรือ คชฝ.ที่เก่ียวขอ้ ง
ในการฝึ ก
๒)ชื่อเรียก อุปกรณ์ และ คชฝ. ที่เก่ียวขอ้ งในการฝึก
๓)วธิ ีการใชอ้ ุปกรณ์ และ คชฝ. ท่ีเกี่ยวขอ้ งในการฝึก
๔)การปฏิบตั ิของผเู้ ขา้ รับการฝึก, คูฝ่ ึก ท้งั ซกั ซอ้ มการปฏิบตั ิหลายๆ คร้ังจนเช่ือมน่ั ไดว้ า่
ผปู้ ฏิบตั ิสามารถกระทาไดถ้ ูกตอ้ ง
๕)ทศั นสญั ญาณ และความหมายทศั นสัญญาณน้นั ๆ ที่ใชใ้ นการฝึก
๖)แสดงตวั อยา่ งการปฏิบตั ิที่สาคญั
- ๒๑๔ -
๗)และอื่นๆ
ค.ผลลพั ธ์ที่ไดส้ าหรับทหารท่ีเขา้ รับการฝึก
ง.การนาไปสู่การขยายผลในการฝึกในระดบั สูงต่อไป
จ.การใหค้ วามรู้ที่เก่ียวขอ้ งท่ีจะเป็นประโยชนใ์ นการฝึก
การฝึก เมื่อครูฝึกไดด้ าเนินการช้ีแจงตามที่กล่าวในข้นั ตน้ ใหท้ หารท่ีเขา้ รับการฝึกไดร้ ับฟัง
แลว้ หลงั จากน้นั ใหท้ าการแบ่งทหารที่เขา้ รับการฝึกออกเป็ น ๒ ส่วนเทา่ ๆ กนั โดยการจบั กนั เป็น
คู่บดั ด้ี(คู่ฝึก) โดยกาหนดให้ส่วนหน่ึงปฏิบตั ิเป็ นผยู้ งิ และอีกส่วนหน่ึงปฏิบตั ิเป็นคูฝ่ ึก หลงั จากน้นั
ครูฝึกจึงสงั่ ใหแ้ ตล่ ะส่วนท่ีไดร้ ับการแบง่ มอบหนา้ ที่ใหป้ ฏิบตั ิเขา้ ประจาแนวหลงั คชฝ.ท่ีกาหนด
(รูปที่ ค- ๑๐)
- โดยผทู้ ่ีปฏิบตั ิเป็นผยู้ งิ พร้อม ปลย.ทาโวร์ แบบ ทาร์ ๒๑ เขา้ ประจาดา้ นหลงั หีบพาดปื น
พร้อมกบั นาปื นไปวางบนหีบพาดปื น แลว้ ปฏิบตั ิในท่านอนยงิ
- โดยผทู้ ่ีปฏิบตั ิเป็นคู่ฝึกพร้อมแผน่ เล็ง ๓ จุดและดินสอปลายแหลม เขา้ ประจาดา้ นหลงั
หีบปิ ดเป้ า และนาแผน่ เล็ง ๓ จุดทาบไปบนกระดาษเป้ าดา้ นหนา้ ของหีบปิ ดเป้ าปื น
ใชก้ ระสอบทราย
วางดกั หีบพาดปื น
ไมใ่ หเ้ คลื่อนท่ีใน
ระหวา่ งทาการฝึก
รูปที่ ค – ๑๐ (ก) การเข้าประจาท่ี
- ๒๑๕ -
รูปท่ี ค – ๑๐ (ข) การเข้าประจาท่ี
กระทาโดยใหค้ ูฝ่ ึกวางรูปเป้ าหุ่นคนสีดาตามระยะท่ีกาหนดลงบนแผน่ กระดาษ แลว้ เคล่ือนที่
รูปเป้ าน้นั ไปตามคาสั่งของผยู้ งิ ตาแหน่งของผยู้ งิ และคูฝ่ ึกน้นั จะตอ้ งถูกกาหนดไวแ้ ลว้ คร่าวๆ เพ่ือให้
การวางตาบลเล็งเป็ นไปอยา่ งรวดเร็ว ระยะห่างระหวา่ งคูฝ่ ึ กและพลยงิ จะอยทู่ ่ีระยะ ๑๕ เมตร หรือ
๒๕ เมตร (รูปที่ ค – ๑๑ ) เม่ือผยู้ งิ ไดต้ าบลเลง็ ที่ตอ้ งการแลว้ กท็ าสญั ญาณมือ (รูปที่ ค – ๑๒ )ให้
คูฝ่ ึกทาเคร่ืองหมายลงบนแผน่ กระดาษ การใหส้ ัญญาณน้นั ใหใ้ ชส้ ญั ญาณมือเป็ นหลกั เพราะถา้ ใช้
เสียงสญั ญาณก็จะเกิดความสับสน โดยเฉพาะเมื่อตอ้ งฝึกทหารหลายๆ คู่พร้อมกนั ในคราวทีเดียว
- ๒๑๖ -
รูปที่ ค - ๑๑
รูปที่ ค - ๑๒
- ๒๑๗ -
คูฝ่ ึกจะใชป้ ลายดินสอสอดลงไปในรูที่อยตู่ รงกลางตวั เป้ าหุ่นรูปคนสีดาและทาเคร่ืองหมาย
จุดไวบ้ นแผน่ กระดาษ จากน้นั คูฝ่ ึกกจ็ ะเล่ือนรูปเป้ าไปยงั จุดอ่ืนๆ บนแผน่ เป้ า และใหส้ ญั ญาณกบั ผยู้ งิ
วา่ พร้อมที่จะใหท้ าการเล็งคร้ังต่อไปแลว้ ทาเช่นน้ีจนเม่ือไดค้ รบ ๓ จุด แลว้ จึงลากเส้นโยงจุดท้งั ๓
เป็นรูปสามเหล่ียม และเขียนหมายเลขกากบั ไวท้ ่ีจุดของสามเหล่ียมน้นั ๆ ตามจานวนคร้ังที่ทาการเล็ง
ไปยงั เป้ าหมายคร้ังที่ ๑, ๒ และ ๓ เพอ่ื ระบุคร้ังของการเลง็ ลงไปขา้ งจุดและในการระบุใหต้ วั เลขอยู่
ดา้ นนอกกรอบรูปสามเหลี่ยม เพ่ือใหค้ รูฝึกและผยู้ งิ เขา้ มาดูกลุ่มการเล็งยงิ ๓ จุด ( รูปที่ ค – ๑๓)
Ø = ๑ ซม.
รูปที่ ค – ๑๓ กลุ่มการเล็งของปื นในการฝึ กเลง็ ๓ จุด
กลุ่มการเลง็ ยงิ ใดท่ีมีขนาด ๑ ซม. (เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง) แสดงใหเ้ ห็นถึงความสามารถในการเลง็
(การจดั ภาพการเลง็ )คงที่ของทหารผรู้ ับการฝึก และเน่ืองจากในการฝึกน้ีไม่มีตวั แปรอนั เน่ืองมาจาก
ปลย.กระสุนเขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง และไมม่ ีความจาเป็นที่จะตอ้ งปรับใหก้ ลุ่มกระสุนถูกท่ีใดที่หน่ึง
โดยเฉพาะ ดงั น้นั กลุ่มการเล็งขนาด ๑ ซม. จึงเปรียบไดก้ บั กลุ่มกระสุนขนาด ๔ ซม. ในการยงิ ปรับ
ศูนยป์ ื นในระยะ ๒๕ เมตร ครูฝึกใหท้ หารปฏิบตั ิการเล็งใหม้ ากคร้ังเท่าท่ีจะทาได้ เมื่อกลุ่มกระสุน ๒
หรือ ๓ กลุ่ม ถูกทาเคร่ืองหมายลงในกระดาษส่วนหน่ึงแลว้ ครูฝึกควรสง่ั ใหม้ ีการขยบั เปล่ียนแปลง
ที่ต้งั ของ ปลย., หีบติดกระดาษ หรือเคลื่อนยา้ ยกระดาษ เพ่ือใหไ้ ดม้ ีการเล็งและทาเคร่ืองหมายบน
ส่วนอื่นของกระดาษบา้ ง
- ๒๑๘ -
แตถ่ า้ หากการเลง็ คร้ังท่ี ๒ หรือ ๓ ของการทากลุ่มการเล็งมีการขยบั หรือเคลื่อนตวั ปื นแลว้
จะทาใหก้ ารทากลุ่มการเล็งน้นั ถือเป็นโมฆะ ทหารจึงควรระมดั ระวงั ในเร่ืองน้ี เครื่องมือยดึ ตวั ปื นหรือ
หีบพาดปื นน้นั จะตอ้ งวางอยบู่ นพ้นื ระดบั หรือถูกกนั ดว้ ยกระสอบทรายหรือหลกั ( รูป ค – ๑๔) เพือ่
ป้ องกนั มิใหเ้ กิดการเคลื่อนไหวของตวั ปื น ในระหวา่ งการทากลุ่ม ๓ นดั กระดาษน้นั ควรถูกปิ ดอยบู่ น
พ้ืนผวิ ท่ีแขง็ การเคลื่อนไหวของปื นหรือกระดาษยอ่ มมีผลต่อการทากลุ่มการเลง็
รูปท่ี ค - ๑๔
รูปเป้ าหุ่นคนสีดาที่อยบู่ นแผน่ กระดาษเคลือบพลาสติกใส (แผน่ เล็ง ๓ จุด) รูปที่ ค- ๒ เป็น
ขนาดยอ่ ของเป้ าหุ่นคร่ึงตวั ในระยะ ๒๕๐ เมตร ดงั น้นั ภาพการมองเห็นของทหารตอ่ เป้ าในการฝึกโดย
ใชห้ ีบเลง็ น้ี กจ็ ะมีสภาพเช่นเดียวกบั การยงิ เพ่อื ปรับศนู ยน์ น่ั เอง บนแผน่ เล็ง ๓ จุดจะมีรูปเป้ าหุ่นคนสี
ดาอยู่ ๒ ตวั รูปเล็กจะใชก้ บั การฝึกหีบเลง็ ในระยะ ๑๕ เมตร และรูปใหญจ่ ะใชใ้ นระยะ ๒๕ เมตร
(ผฝู้ ึกสามารถเลือกใชไ้ ดท้ ้งั ๒ ระยะแลว้ แต่สภาพของสนามฝึก)
นอกจากน้ีแลว้ ผฝู้ ึกยงั อาจพจิ ารณาใชเ้ ป้ าปรับศนู ยป์ ื นมีใชใ้ นระยะ ๒๕ เมตรแทนแผน่ เลง็ ๓
จุดกไ็ ด้ โดยใชเ้ ป้ าดงั กล่าวเจาะรูตรงกลางเป้ า เพือ่ ใชด้ ินสอหรือปากกาสอดปลายลงไปทาเครื่องหมาย
ได้
การฝึกยงิ จดั กลุ่มจะทาใหผ้ ฝู้ ึ กไดม้ ีโอกาสคน้ หาขอ้ บกพร่องในวธิ ีเล็งของทหาร การเล็งที่คงท่ี
และการวางกลุ่มกระสุนสมมุติวา่ ปลย.และแผน่ กระดาษถูกยดึ ตรึงอยกู่ บั ท่ีไมข่ ยบั เขย้อื นและการทา
เครื่องหมายของคู่ฝึกตามท่ีกาหนดเป็ นไปอยา่ งถูกตอ้ งท้งั ๓ คร้ังแลว้ ปัจจยั ประการเดียวที่ทาใหก้ าร
- ๒๑๙ -
กาหนดจุดท้งั ๓ คร้ัง ไม่เป็ นจุดเดียวกนั ก็คือ การคลาดเคลื่อนในการเลง็ ของทหารเองเม่ือทหารไดร้ ับ
การฝึกการเลง็ เป็ นอยา่ งดีแลว้ ก็ยอ่ มท่ีจะเลง็ ต่อก่ึงกลางเป้ าหมายในการยงิ ปรับศนู ย์ และการยงิ ใน
สนามตามระยะจริงอยา่ งไดผ้ ลเช่นกนั
การฝึกยงิ โดยใชก้ ระสุนจริงและกระสุนหดั บรรจุปนกนั การฝึกลกั ษณะน้ีกระทาในสนามฝึก
ยงิ ดว้ ยกระสุนจริง ครูฝึกหรือผชู้ ่วยทาหนา้ ท่ีนากระสุนหดั บรรจุปนลงไปในซองที่บรรจุกระสุนจริง
ดว้ ยวธิ ีการน้ีครูฝึกจะคน้ หาอาการกระตุกของทหารขณะทาการยงิ ได้ โดยครูฝึ กตอ้ งรู้วา่ เม่ือใดกระสุน
หดั บรรจุจะเขา้ ไปอยใู่ นรังเพลิงแตท่ หารผทู้ าการยงิ จะไมร่ ู้ และถา้ หากทหารใชก้ ารเหน่ียวไกท่ีไม่ถูก
วธิ ีแลว้ ครูฝึกจะสงั เกตเห็นไดท้ นั ที แตถ่ า้ ทหารเหน่ียวไกไดถ้ ูกวธิ ีก็จะไมม่ ีอาการเคลื่อนไหวเกิดข้ึน
ใหเ้ ห็นเม่ือนกปื นฟาดไปขา้ งหนา้
ค-๓ การฝึ กยงิ แห้ง
การฝึกยงิ แหง้ โดยใชว้ สั ดุแผน่ กลมแบนวางบนปากลากลอ้ งปื น การฝึกลกั ษณะน้ีใชเ้ พื่อ
ตรวจสอบการลนั่ ไก และใชไ้ ดผ้ ลเมื่อทหารทาท่ายงิ โดยไม่มีเครื่องหนุนรอง เม่ือทหารใช้ ปลย.ทาโวร์
ฝึกยงิ แหง้ จะตอ้ งข้ึนนกทาทา่ ยงิ เลง็ ไปยงั เป้ าหมาย คูฝ่ ึกนาเหรียญหรือแผน่ วงกลมวางลงบนลากลอ้ ง
ปื น ในช่วงระหวา่ งปลอกลดแสงและโครงศนู ยห์ นา้ ( รูปที่ ค – ๑๕) แลว้ ใหท้ หารเหนี่ยวไกตามปกติ
โดยเหรียญน้นั จะตอ้ งไม่หล่นจากลากลอ้ งปื น ใหค้ รูฝึกส่ังทหารปฏิบตั ิเช่นน้ีหลายๆ คร้ัง ถา้ ทหารทา
ไดห้ ลายคร้ังโดยเหรียญไม่หล่นจากลากลอ้ งปื นกแ็ สดงวา่ ทหารนายน้นั เหนี่ยวไก(ลน่ั ไกปื นแหง้ )ได้
ถูกตอ้ งตามวธิ ีการที่ไดรับการฝึกมาอยา่ งดี และถูกวธิ ี
ตาแหน่งวางเหรียญที่ถูกตอ้ ง
รูปที่ ค – ๑๕ วางเหรียญถูกตาแหน่ง
- ๒๒๐ -
ก.การวางเหรียญทผี่ ดิ ตาแหน่ง ( รูปที่ ค – ๑๖ ก, ข และ ค )
การวางเหรียญบนลากลอ้ งปื นน้นั จะตอ้ งเลือกวางบนจุดที่เหมาะสม ถา้ วางใกลห้ รือติดชิด
โครงศูนยห์ นา้ รูปที่ ค – ๑๖ (ก) หรือวางใกลต้ ิดชิดปลอกลดแสงมากเกินไป รูปท่ี ค – ๑๖ (ข) ก็จะ
ทาใหเ้ หรียญหล่นลงมาไดง้ ่าย แมว้ า่ ทหารจะเหนี่ยวไกไดถ้ ูกวธิ ีกต็ าม ปลย.บางกระบอกอาจมีแหนบ
นกปื นที่แขง็ เกินไปก็ไม่เหมาะสาหรับการฝึกแบบน้ี ครูฝึกจึงควรพิจารณาเปล่ียน ปลย. ถา้ ทหารเกิด
ปัญหาดงั กล่าว
การวางเหรียญบนปลอกลดแสง รูปท่ี ค- ๑๖ (ค) ในระหวา่ งการฝึกการลนั่ ไกปื นแหง้ เพื่อการ
วดั ผลวา่ พลยงิ สามารถกระทาไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การหรือไม่ แตใ่ นการปฏิบตั ิในลกั ษณะน้ีจะไม่
สามารถใชก้ ารวางเหรียญบนปลอกลดแสงไดเ้ น่ืองจากสภาพของปลอกลดแสงจะมีส่วนโคง้ ท่ีรองรับ
การวางเหรียญ ในระหวา่ งการฝึกลน่ั ไกแหง้ เหรียญจะไม่ตกล่นลงมา ไม่วา่ พลยงิ จะกระทาถูกวธิ ี
หรือไม่ถูกวธิ ี
วางเหรียญผดิ ตาแหน่ง
รูปท่ี ค – ๑๖ (ก)
วางเหรียญใกล้หรือชิดติดโครงศูนย์หน้าเกนิ ไป เป็ นการวางทผี่ ดิ ตาแหน่ง
- ๒๒๑ -
วางเหรียญผดิ ตาแหน่ง
รูปที่ ค – ๑๖ (ข)
วางเหรียญใกล้หรือตดิ ชิดปลอกลดแสงมากเกนิ ไป เป็ นการวางทผี่ ดิ ตาแหน่ง
วางเหรียญผดิ ตาแหน่ง
รูปที่ ค – ๑๖ (ค)
การวางเหรียญบนปลอกลดแสง เป็ นการวางทผ่ี ดิ ตาแหน่ง
- ๒๒๒ -
เม่ือใช้ ปลย.ทาโวร์ กบั การฝึ กแบบน้ี ครูฝึกจะใชเ้ หรียญในการฝึกได้ หรือจะตอ้ งดดั แปลง
วสั ดุอื่นใดท่ีใชแ้ ทนเหรียญ จะเป็นแผน่ กลมท่ีใชว้ างบนปากลากลอ้ งปื นเพมิ่ เติมไดต้ ามความ
เหมาะสม
ค-๔รายการเครื่องช่วยฝึ กและอุปกรณ์การฝึ ก
ประเภท หมายเลข
-แผน่ เล็ง ๓ จุด รออนุมตั ิ
-คานฝึกเลง็ เบ้ืองตน้ รออนุมตั ิ
-หีบปิ ดเป้ า ๖๙๒๐-๑๖๕-๐๐๐๗
-หีบพาดปื น รออนุมตั ิ
แผ่นภาพเคร่ืองช่วยฝึ ก
ประเภท หมายเลข
-การฝึกบุคคลทา่ อาวธุ รออนุมตั ิ
-อาวธุ ศึกษา รออนุมตั ิ
วซี ีดี ข้อมูล แผนกอาวธุ รร.ร.ศร.
ประเภท หมายเลข
-การทางานของเครื่องกลไก -
-การถอดประกอบ -
-สาเหตุการทางานผดิ ปกติ -
เป้ าชนิดต่างๆ
ชนิด หมายเลข
-เป้ าปรับศูนยร์ บ (กลอ้ งเล็งมีโปร์) รออนุมตั ิ
-เป้ าปรับศูนยร์ บ (ศูนยส์ ารอง) รออนุมตั ิ
-เป้ า ปลย. แบบ ก ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๘๔
-เป้ า ปลย. แบบ ข ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๘๔
-เป้ า ปลย. แบบ ค ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๘๖
-เป้ า ปลย. แบบ ง ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๖๐
-เป้ าหุ่น ก (นอน) ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๗๙
-เป้ า หุ่น ข (นงั่ ) ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๘๐
-เป้ า หุ่น ค (ยนื ) ๖๙๒๐-๑๖๖-๐๐๘๑
-เป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วนแบบ ก รออนุมตั ิ
-เป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วนแบบ ข รออนุมตั ิ
-เป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วนแบบ ค รออนุมตั ิ
- ๒๒๓ -
ผนวก ง
ระเบียบปฏบิ ตั กิ ารรักษาความปลอดภยั ในสนามยงิ ปื น
และรายการตรวจสอบการปฏบิ ัติ
ผทู้ ี่จะเขา้ รับการฝึกยงิ ปลย. ในสนามยงิ ปื นทุกคนจะตอ้ งไดร้ ับการช้ีแจงเก่ียวกบั การรักษา
ความปลอดภยั และระเบียบปฏิบตั ิอื่น ๆ ในสนามยงิ ปื นน้นั
ง-๑ การชี้แจงสรุปทจี่ าเป็ น
ถึงแมว้ า่ จุดประสงคห์ ลกั ของการใชส้ นามยงิ ปื นกเ็ พ่ือการฝึก แตค่ วามปลอดภยั ตอ้ งการก่อน
เป็นอนั ดบั แรก มาตรการรักษาความปลอดภยั จะประกอบดว้ ยสิ่งต่าง ๆ ดงั น้ี
ก. เสาหลกั ทาสีลายสลบั แดง – ขาว อยทู่ างดา้ นซา้ ยสุดและขวาสุดของสนาม แสดงเขตซา้ ย
และขวาของสนามยงิ ปื น ผทู้ ่ีทาการยิงปื นตอ้ งไมย่ งิ หรือหนั ปากลากลอ้ งปื นออกไปในเขตท่ีกาหนด
ไวเ้ ป็นอนั ขาด (ครูฝึกช้ีเขต ซา้ ย – ขวา ของสนามใหท้ หารดู)
ข. เมื่อไมไ่ ดอ้ ยบู่ นแนวยงิ , ใหท้ หารจดั คนั บงั คบั การยงิ ไปท่ีตาแหน่ง SAFE เปิ ดรังเพลิง
และแขวนโครงนาลูกเลื่อนไว้ พร้อมท้งั เปิ ดฝากนั ฝ่ ุน (ครูฝึกแสดงใหท้ หารดู)
ค. ทหารที่จะทาการยงิ ปื นใหผ้ า่ นเขา้ – ออกแนวยงิ ไปเส้นทางเดียว คือ ทางดา้ นล่างของหอ
ควบคุมการยงิ (ช้ีใหท้ หารดู)
ง. ก่อนท่ีจะเขา้ ประจาจุดยงิ ใหท้ หารตรวจดูที่จุดยงิ และบริเวณใกลเ้ คียงรอบ ๆ วา่ มีสัตว์
อนั ตรายหรือแมลงมีพิษอยหู่ รือไม่
จ. ทหารจะตอ้ งหนั ปากลากลอ้ งปื นไปยงั แนวเป้ าเสมอตลอดเวลาท่ีอยบู่ นแนวยงิ และนิ้วมือ
จะตอ้ งไมอ่ ยใู่ นโกร่งไก เมื่อยงั ไมพ่ ร้อมทาการยงิ (ครูฝึกแสดงใหท้ หารดู)
ฉ. เปิ ดรังเพลิง แขวนโครงนาลูกเล่ือนไว้ และจดั คนั บงั คบั การยงิ ไปที่ตาแหน่ง SAFE เม่ือ
เขา้ ไปสู่แนวยงิ อาจใชเ้ คร่ืองมือขวางหนา้ ลูกเลื่อนไว้
ช. ใหท้ หารสูบบุหรี่ไดเ้ ฉพาะในบริเวณที่จดั ไว้ (ช้ีใหท้ หารดู)
ซ. หา้ มรับประทานอาหารหรือเคร่ืองด่ืมบนแนวยงิ นอกจากครูฝึกจะอนุญาตใหด้ ื่มน้าจาก
กระติกน้าของทหารเอง ทหารควรดื่มน้าบ่อย ๆ ในขณะท่ีมีอากาศร้อน
ด. อยา่ จบั หรือแตะตอ้ งปื นของตนหรือของผอู้ ่ืนในขณะที่มีคนอื่นอยหู่ นา้ แนวยงิ
ต. บรรจุซองกระสุนและนากระสุนเขา้ รังเพลิง เมื่อไดร้ ับคาส่งั จากหอบงั คบั การยงิ หรือจาก
ครูฝึกเทา่ น้นั
ถ. ขณะทาการยงิ ปื นอยภู่ ายในรัศมี ๒๕ เมตรของการฝึกยงิ ปื น ตอ้ งสวมหรือใส่เครื่อง
ป้ องกนั เสียงเสมอ
ท. ก่อนออกจากแนวยงิ ตอ้ งใหน้ ายสิบรักษาความปลอดภยั ตรวจดูลากลอ้ งและรังเพลิงก่อน
ทุกคร้ัง
ธ. ใหถ้ ือเสมือนวา่ ปื นไดบ้ รรจุกระสุนไวต้ ลอดเวลาแมใ้ นพ้ืนที่พกั ผอ่ น หา้ มใชล้ ากลอ้ งปื นช้ี
ไปท่ีผหู้ น่ึงผใู้ ดเด็ดขาด
- ๒๒๔ -
น. ทหารที่ยงิ ปื นดว้ ยมือซา้ ยเมื่อใช้ ปลย.เอม็ .๑๖ เอ ๑ จะตอ้ งติดต้งั เครื่องป้ องกนั ปลอก
กระสุนเสมอ
บ. ผใู้ ดก็ตามที่เห็นการปฏิบตั ิที่ฝ่ าฝืนระเบียบหรือเหตุอนั จะนาไปสู่การเกิดอนั ตราย ใหร้ ้อง
ขอคาสง่ั การหยดุ ยงิ , จดั คนั บงั คบั การยงิ ไปที่ตาแหน่ง SAFE วางปื นลงบนท่ีพกั ปื นหรือบนกระสอบ
ทรายบนแนวยงิ แลว้ ให้เสียงสัญญาณและทศั นสัญญาณการหยดุ ยงิ (ครูฝึกสาธิตใหท้ หารดู และให้
ทหารลองปฏิบตั ิ)
ป. เมื่อออกจากแนวยงิ ใหท้ หารไปรายงานตวั ท่ีตาบลจา่ ยกระสุนทนั ที และคืนกระสุนที่ไม่ได้
ใชง้ าน รวมท้งั ปลอกกระสุนดว้ ย
ผ. ทุกคนจะออกไปจากสนามยงิ ปื นไดก้ ็ตอ่ เม่ือไดร้ ับการเก็บกระสุนและปลอกกระสุนจาก
เจา้ หนา้ ท่ีสนามยงิ ปื นแลว้ เทา่ น้นั
ครูฝึก/ผฝู้ ึก ตอ้ งเปิ ดโอกาสใหท้ หารไดซ้ กั ถามขอ้ สงสยั เกี่ยวกบั ระเบียบปฏิบตั ิการรักษา
ความปลอดภยั ในสนามยงิ ปื น
ง-๒ เจ้าหน้าทรี่ ับผดิ ชอบในสนามยงิ ปื น
เพ่อื ใหก้ ารปฏิบตั ิเป็นไปอยา่ งปลอดภยั และมีประสิทธิภาพการฝึกไดผ้ ลดีสมความมุ่งหมาย
เจา้ หนา้ ท่ีตา่ ง ๆ อาจไดร้ ับการพิจารณาจดั ใหม้ ีข้ึนตามสมควรดงั น้ี
ก.นายทหารควบคุมรับผดิ ชอบการยงิ มีหนา้ ที่รับผดิ ชอบการปฏิบตั ิการท้งั หมดต้งั แต่ก่อน,
ระหวา่ ง และภายหลงั การฝึกยงิ ปื น
ข.นายทหารรักษาความปลอดภยั ประจาสนามยงิ ปื น มีหนา้ ที่รับผดิ ชอบในเรื่องความ
ปลอดภยั ในการปฏิบตั ิในสนามยงิ ปื นทุกข้นั ตอน รวมท้งั การช้ีแจงสรุปก่อนการยงิ ปื นดว้ ยกระสุน
จริงทุกคร้ัง นายทหารผนู้ ้ีตอ้ งทาการตรวจเพื่อเก็บกระสุนที่เหลือใช้ และปลอกกระสุนจากทหารทุก
คนก่อนออกจากสนามยงิ ปื น ตอ้ งมนั่ ใจไดว้ า่ กาลงั พลทุกคนไดเ้ ขา้ ใจและปฏิบตั ิตามระเบียบการ
รักษาความปลอดภยั เม่ือทาการยงิ ดว้ ยกระสุนจริง ตอ้ งดูแลใหท้ หารที่ถนดั ซา้ ยไดใ้ ชเ้ คร่ืองมือและ
อุปกรณ์สาหรับการยงิ ดว้ ยมือซา้ ย นายทหารผนู้ ้ีจะตอ้ งปฏิบตั ิหนา้ ที่น้ีเพียงอยา่ งเดียวไมค่ วร
รับผดิ ชอบเรื่องอื่นนอกเหนือจากน้ี
ค.นายสิบรักษาความปลอดภัย มีหนา้ ท่ีช่วยเหลือนายทหารผคู้ วบคุมรับผดิ ชอบตามความ
ตอ้ งการ เช่น การกากบั ดูแลนายสิบของหน่วยทหารที่ทาหนา้ ท่ีใหก้ ารสนบั สนุนการฝึ กยงิ ปื นดว้ ย
กระสุนจริง
ง.แผนกกระสุน แผนกน้ีประกอบดว้ ยผจู้ ่ายกระสุนหน่ึงหรือหลายคนกไ็ ดต้ ามความ
เหมาะสม มีหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบการตรวจนบั , การจ่าย, การรับ, การทาบญั ชี และเก็บรักษากระสุน
นอกจากน้ียงั ตอ้ งทาหนา้ ที่เก็บปลอกกระสุนและส่ิงเหลือใชอ้ ่ืน ๆ ในสนามยงิ ปื นอีกดว้ ย
จ.ช่างอาวุธประจาหน่วย มีหนา้ ที่ซ่อมอาวธุ และเปล่ียนชิ้นส่วนของอาวธุ ตามความจาเป็ น
- ๒๒๕ -
ฉ.ผ้ชู ่วยครูฝึ ก จะตอ้ งมีผชู้ ่วยครูฝึก ๑ คน ต่อจุดยงิ จานวน ๑ ถึง ๓๐ จุด ผชู้ ่วยครูฝึก
เหล่าน้ีจะตอ้ งช่วยดูแลทหารขณะทาการยงิ ปื น ใหป้ ฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสนามยงิ ปื นและ
ช่วยเหลือเมื่อทหารผทู้ าการยิงปื นเกิดปัญหาขดั ขอ้ ง
ช.เจ้าหน้าทพี่ ยาบาล มีหนา้ ที่ใหก้ ารสนบั สนุนดา้ นการรักษาพยาบาลตามความจาเป็น
ซ.เจ้าหน้าทปี่ ระจาหอควบคุมการยงิ มีหนา้ ท่ีควบคุมการปรากฏข้ึน – ลง ของเป้ า, ใหเ้ สียง
สัญญาณและใหค้ าสงั่ ยงิ ปกติแลว้ จะใชเ้ จา้ หนา้ ที่ประมาณ ๒ นาย ประจาบนหอควบคุมการยงิ
ด.แผนกซ่อมบารุง ควรประกอบดว้ ย ๒ ส่วน : ส่วนแรกสาหรับทาหนา้ ท่ีซ่อมบารุงอาวธุ
เบา และส่วนท่ีสองสาหรับทาหนา้ ท่ีซ่อมบารุงระบบเป้ าอตั โนมตั ิประจาสนาม
ต.ระเบียบและข้นั ตอนการปฏิบัติในสนามยงิ ปื น
ก่อนทาการยงิ ปื นดว้ ยกระสุนจริง ทหารทุกคนตอ้ งไดร้ ับการช้ีแจงการปฏิบตั ิในสนามยงิ ปื น
คาช้ีแจงจะประกอบดว้ ยข้นั ตอนการปฏิบตั ิ ตลอดจนคาสั่งการหยดุ ยงิ หรือเลิกปฏิบตั ิ และหนา้ ที่ของ
เจา้ หนา้ ท่ีประจาสนาม เจา้ หนา้ ที่บนั ทึกคะแนนทาหนา้ ที่บนั ทึกคะแนนการยิงของทหารแต่ละคน
และอาจช่วยเหลือในการช้ีตาบลรอยกระสุนถูกเป้ าหรือทิศทางของกระสุนตามความจาเป็น เช่น
กระสุนตกหนา้ , ซา้ ย, ขวา หรือสูงเกินไป เป็นตน้
ทหารจะถูกแบ่งออกเป็น ๔ พวก : พวกที่ ๑ ทาการยงิ , พวกที่ ๒ เป็นคูฝ่ ึก, พวกที่ ๓
และ ๔ ทาหนา้ ที่ท่ีแนวเป้ า และท้งั ๔ พวกน้ีจะหมุนเวยี นกนั ทาหนา้ ท่ีตามวงรอบ อยา่ งไรกต็ าม
อาจแบง่ ทหารออกเป็ น ๕ พวก หรือมากกวา่ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ขนาดของหน่วย สภาพของสนามยงิ ปื น
ผฝู้ ึกจะตอ้ งพจิ ารณาถึงปัจจยั เวลาในการฝึกดว้ ย ท้งั น้ีไม่ควรใชท้ หารมากกวา่ ๒ พวก ไปประจาที่
แนวเป้ า
ง-๓ การฝึ กยิงเพอื่ บันทกึ ผลและการยงิ เพอ่ื จัดช้ันคุณวุฒิ
การออกคาส่ังยงิ จะตอ้ งเป็ นไปตามมาตรฐานของคาสง่ั ท้งั น้ีเพอื่ ป้ องกนั การเขา้ ใจผดิ และการ
สบั สนในขณะทาการยงิ เพื่อจดั ช้นั คุณวุฒิ
ก.การฝึ กยงิ เพอื่ บันทกึ ผล
คาสั่ง : ผยู้ งิ , จดั ทา่ ยงิ มีเครื่องหนุนรอง (หรือทา่ นอนยงิ ไม่มีเครื่องหนุนรอง)
ใหเ้ หมาะสม
เจา้ หนา้ ท่ีบนั ทึกคะแนน, ตรวจดูเขตรับผดิ ชอบ
ผยู้ งิ , หา้ มไก, บรรจุกระสุนซองที่ ๑, ๑ นดั บรรจุ
ผยู้ งิ ,ตรวจการณ์ในเขตรับผดิ ชอบ , ยงิ เมื่อเป้ าปรากฏ
...................
หยดุ ยงิ
หา้ มไก , ตรวจอาวธุ
- ๒๒๖ -
ข.การยงิ บันทกึ ผลเพอ่ื จัดช้ันคุณวุฒิ
คาสั่ง : ผยู้ งิ , จดั ท่ายงิ มีเครื่องหนุนรอง (หรือทา่ นอนยงิ ไมม่ ีเครื่องหนุนรอง)
ท่ีเหมาะสม
ผบู้ นั ทึกคะแนน ,ตรวจดูเขตรับผดิ ชอบ
ผยู้ งิ , หา้ มไก, บรรจุกระสุนซองที่ ๑, ๒๐ นดั , ๑ นดั บรรจุ
ผยู้ งิ , ตรวจการณ์ในเขตรับผดิ ชอบ , ยงิ เม่ือเป้ าปรากฏ
...................
หยดุ ยงิ
หา้ มไก , ตรวจอาวธุ
ค. การยงิ เป้ าหุ่นอตั โนมตั ใิ นสนามทราบระยะ
คาสั่ง : ผยู้ งิ , จดั ทา่ ยงิ (....................) ใหเ้ หมาะสม
หา้ มไก , บรรจุกระสุนซองท่ี ๑ (....................) นดั , ๑ นดั บรรจุ
ซา้ ยพร้อม, ขวาพร้อม
แนวยงิ ระวงั
จดั คนั บงั คบั การยงิ ไปที่ตาแหน่งก่ึงอตั โนมตั ิ(R)
ตรวจการณ์ในเขตรับผดิ ชอบ , ยงิ เม่ือเป้ าปรากฏ
...................
หยดุ ยงิ , หา้ มไก , ตรวจอาวธุ
นายทหารควบคุมการยงิ ถ่ายทอดคาส่ังผา่ นทางวทิ ยหุ รือโทรทศั น์ไปยงั แนวหลุมเป้ าเพ่ือให้
นายสิบรักษาความปลอดภยั ไดท้ ราบถึงข้นั ตอนการปฏิบตั ิ ก่อนท่ีจะเร่ิมการฝึกยงิ แต่ละคร้ัง
นายทหารควบคุมการยงิ จะตอ้ งแจง้ ให้นายสิบรักษาความปลอดภยั ที่อยู่ ณ แนวหลุมเป้ า ไดท้ ราบถึง
ข้นั ตอนการปฏิบตั ิต่อไปและการปฏิบตั ิที่เจา้ หนา้ ที่แนวหลุมเป้ าจะตอ้ งปฏิบตั ิตวั อยา่ งเช่น “การยงิ
คร้ังต่อไปน้ีจะเป็ นการยงิ ปรับศนู ยใ์ หแ้ นวหลุมเป้ าทาเคร่ืองหมายรอยกระสุนทุก ๓ นดั ” หรือ “การ
ยงิ คร้ังตอ่ ไปน้ีจะเป็นการยงิ ในจงั หวะชา้ ๑๐ นดั , ใหแ้ นวหลุมเป้ าทาเคร่ืองหมายรอยกระสุนทีละนดั ”
พนกั งานวทิ ยโุ ทรทศั นถ์ ่ายทอดคาสัง่ ไปยงั แนวหลุมเป้ า และส่งคาส่ังเฉพาะการปฏิบตั ิในแต่
ละคร้ังไปยงั ผชู้ ่วยครูฝึก คาส่งั ของพนกั งานวทิ ยโุ ทรศพั ทจ์ ะไมร่ ะบุเฉพาะเจาะจงจุดยงิ ใดจุดยงิ หน่ึง
ง. คาสั่งยงิ ทว่ั ไป
คาส่ังต่อไปน้ีเป็ นคาสง่ั มาตรฐานสาหรับใชส้ ั่งยงิ ทวั่ ไปอาจเพิ่มเติมหรือเปล่ียนแปลงได้
ตามความเหมาะสม
ผยู้ งิ , จดั ท่า...........................ยงิ
(จา่ ยกระสุนใหผ้ ยู้ งิ ..............นดั )
คูฝ่ ึก, จดั กระสุน...................นดั
ผยู้ งิ ,หา้ มไก, กระสุน ๑ นดั บรรจุ
- ๒๒๗ -
ซา้ ยพร้อม , ขวาพร้อม
ท้งั หมดพร้อม
ตรวจการณ์ในเขตรับผดิ ชอบ , เร่ิมยงิ เม่ือเป้ าปรากฏ
.........................
หยดุ ยงิ , หา้ มไก, ตรวจอาวธุ
จ.การฝึ กยิงเร็ว
ใชค้ าส่ังยงิ ตอ่ ไปน้ี :
หา้ มไก, ตรวจอาวธุ
ซา้ ยปลอดภยั , ขวาปลอดภยั
แนวยงิ ปลอดภยั
ผยู้ งิ , จดั ทา่ ......................ยงิ
คูฝ่ ึก , จดั กระสุน ๒ ซอง ซองละ ๕ นดั
(ส่งซองกระสุนใหผ้ ยู้ งิ ๑ ซอง)
กระสุน ๑ ซอง ๕ นดั , ๑ นดั บรรจุ
ซา้ ยพร้อม ,ขวาพร้อม
แนวยงิ ระวงั
ตรวจการณ์ในเขตรับผดิ ชอบ , ยงิ เม่ือเป้ าปรากฏ
(ผยู้ งิ จดั ทา่ ยงิ ท่ีเหมาะสม และเริ่มทาการยงิ เมื่อเป้ าปรากฏ)
เมื่อเป้ าปรากฏครบตามจานวนและลงตามเวลาท่ีกาหนดแลว้ ใหน้ ายทหารควบคุมการยงิ
สารวจดูวา่ มีนายทหารผใู้ ดยงั ยงิ ไม่ครบจานวนนดั หรือเกิดเหตุอาวธุ ติดขดั แลว้ พจิ ารณาอนุมตั ิใหท้ า
การยงิ ต่อจนครบ
นายสิบรักษาความปลอดภยั ที่ควบคุมรับผดิ ชอบในแนวหลุมเป้ า , จดั การดาเนินการ, สาธิต
และจดั ระบบรักษาความปลอดภยั ในแนวหลุมเป้ า ความสาเร็จของการฝึกยงิ ปื นในสนามทราบระยะ
น้นั ข้ึนอยกู่ บั การปฏิบตั ิของเจา้ หนา้ ที่หลุมเป้ า และการประสานการปฏิบตั ิระหวา่ งนายทหารควบคุม
การยงิ และนายสิบรักษาความปลอดภยั ท่ีหลุมเป้ า นอกจากน้ีแลว้ เจา้ หนา้ ท่ีหลุมเป้ าจะตอ้ งเขา้ ใจ
วธิ ีการปฏิบตั ิเพือ่ แสดงเป้ าและตรวจรอยกระสุน รวมท้งั การทาเครื่องหมายและการนบั คะแนนที่เป้ า
เป็นอยา่ งดี
ฉ. การทาเคร่ืองหมายจากรอยกระสุนทเี่ ป้ าสาหรับการยงิ ปรับศูนย์และการยงิ จังหวะช้า เป้ า
จะตอ้ งถูกทาเคร่ืองหมายรอยกระสุนอยา่ งรวดเร็วทนั ทีภายหลงั จากการยงิ แตล่ ะชุดโดยไม่ตอ้ งรอรับ
คาสง่ั ในระหวา่ งการยงิ จงั หวะชา้ น้นั ผยู้ งิ จะมีเวลายงิ ประมาณ ๑ นาที ต่อ ๑ นดั และทหารที่หลุม
เป้ าจะมีเวลา ๒๐ วินาที ในการทาเคร่ืองหมายรอยกระสุนแตล่ ะนดั โดยใชแ้ ผน่ กลมติดที่รอย
- ๒๒๘ -
กระสุนโดยไม่ตอ้ งคานึงวา่ รอยกระสุนจะอยู่ ณ ที่ใดของเป้ า และเมื่อผยู้ งิ ทาการยงิ นดั ตอ่ ไปใหท้ หาร
ท่ีหลุมเป้ ายา้ ยแผน่ กลมไปท่ีรอยกระสุนนดั ใหม่ ส่วนรอยเดิมใหใ้ ชก้ ระดาษปิ ดไว้ (แผน่ กลมขนาด
เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง ๓ นิ้ว ใชส้ าหรับระยะ ๑๐๐, ๒๐๐ และ ๓๐๐ เมตร ; แผน่ กลมขนาด
เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง ๕ นิ้ว ใชส้ าหรับระยะ ๕๐๐ เมตร)
ช. การใช้แผ่นกลมทาเคร่ืองหมาย แผน่ กลมดงั กล่าวจะถูกทาสีดาดา้ นหน่ึงและอีกดา้ นหน่ึง
จะถูกทาสีขาวเอาไว้ ปกติแลว้ จะมี ๓ ขนาด ; ขนาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง ๑ ๑/๒ นิ้ว , ๓ นิ้ว และ ๕
นิ้ว และมีแกนกลางสาหรับเสียบติดกบั เป้ า
ง-๔ รายการตรวจสอบการปฏิบัติในสนามยงิ ปื น
รายการตรวจสอบน้ีประกอบดว้ ย ๙ ส่วน ในแต่ละส่วนจะมีรายละเอียดตา่ ง ๆ กนั ในแต่ละ
แง่มุมของการปฏิบตั ิในสนามยงิ ปื น
รายการตรวจสอบน้ี ควรจะไดถ้ ูกดดั แปลงเพมิ่ เติมเพื่อใหเ้ หมาะสมกบั นโยบายของ ผบ.
หน่วย และ รจป.ของหน่วยแตล่ ะหน่วย เจา้ หนา้ ที่ผมู้ ีหนา้ ท่ีเกี่ยวขอ้ งและรับผดิ ชอบการฝึกตอ้ งตอบ
คาถามในแตล่ ะส่วนได้ โดยการต้งั คาถามเหล่าน้นั กบั ตนเอง ถา้ คาตอบคือ “ใช่” ใหท้ าเครื่องหมาย
ไวใ้ นช่อง “ผา่ น” ถา้ คาตอบคือ “ไม่ใช่” หรือ “ไม่ทราบ” ใหท้ าเครื่องหมายไวใ้ นช่อง “ไมผ่ า่ น”
เมื่อต้งั คาถามทุกคาถามกบั ตนเองแลว้ , ใหต้ รวจสอบดูในช่อง “ไมผ่ า่ น” และติดต่อ
ประสานงานกบั ผทู้ ่ีมีหนา้ ที่เกี่ยวขอ้ งและรายงานข้ึนมา เพอ่ื ตรวจดูวา่ ไดม้ ีการแกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ น้นั
หรือไม่ ถา้ ไดม้ ีการแกไ้ ขแลว้ กใ็ หเ้ ปล่ียนเคร่ืองหมายมาอยทู่ ่ีช่อง “ผา่ น” แตถ่ า้ ยงั ไมม่ ีการแกไ้ ขใด ๆ
ก็ใหว้ เิ คราะห์และเพ่ิมเติมมาตรการแกไ้ ขปรับปรุงใหป้ ัญหาน้นั ถูกขจดั ไปโดยเร็ว หลงั จากน้นั ใหท้ า
การตรวจสอบการดาเนินการตามมาตรการดงั กล่าว ก่อนที่จะมีการปฏิบตั ิในสนามยงิ ปื นผรู้ ับผิดชอบ
การฝึกจะตอ้ งมนั่ ใจวา่ ไมม่ ีปัญหาขอ้ ขดั ขอ้ งใด ๆ อนั จะนาไปสู่การเกิดอนั ตรายหลงเหลืออยู่
ส่วนท่ี ๑ การวเิ คราะห์ภารกจิ
ก) ใครจะเป็นผรู้ ับการฝึกยงิ ปื นในสนาม ? .....................
จานวนทหาร.......................หน่วย...................
ข) จะใชอ้ าวธุ ชนิดใดและหลกั สูตรใดทาการฝึก ?
อาวธุ ..................หลกั สูตร........................
ค) จะทาการฝึก ณ ที่ใด ?
สนาม......................
ง) กาหนดเวลาการฝึกเม่ือใด ?
วนั .................เร่ิมฝึก......................ฝึกจบ........................
ส่วนที่ ๒ การตรวจซ้า
ก) ไดม้ ีการร้องขอกระสุนสาหรับการฝึกเพียงพอหรือไม่ ?
ข) ส่ิงอานวยความสะดวกในสนามพอเพยี งสาหรับการฝึ กหรือไม่ ?
ค) ไดจ้ ดั เวลาสาหรับการฝึกพอเพยี งหรือไม่ ?
- ๒๒๙ -
ง) ไดม้ ีการขจดั ขอ้ ขดั ขอ้ งหรืออุปสรรคเบ้ืองตน้ หรือไม่ ?
ผา่ น ไม่ผา่ น หมายเหตุ
ส่วนที่ ๓ การเตรียมตวั สาหรับครูฝึ ก
ก) ทบทวนคู่มือการฝึกและคู่มือราชการสนามที่มีรายละเอียดเกี่ยวขอ้ งกบั อาวธุ ที่จะ
ใชฝ้ ึก
ข. ไดพ้ บปะพดู คุยเพอื่ หาความรู้และประสบการณ์กบั ช่างอาวธุ และผเู้ ช่ียวชาญใน
อาวธุ ที่จะใชฝ้ ึก
ค) ทบทวนจากภาพยนตร์และแถบบนั ทึกภาพวดิ ีทศั น์ ประกอบการฝึก
ง) ไปพบผรู้ ับผดิ ชอบสนามยงิ ปื นเพอื่ ศึกษาระเบียบปฏิบตั ิประจาในสนาม
จ) ตรวจดูสภาพของสนามยงิ ปื น (ถา้ ทาไดค้ วรตรวจดูในขณะกาลงั ใชง้ าน)
ฉ) ตรวจสอบดูรายการทดสอบและประเมินคา่ ทกั ษะต่าง ๆ วา่ สามารถสอดแทรก
เขา้ ไปในการฝึกยงิ ปื นในสนามไดห้ รือไม่
ผา่ น ไมผ่ า่ น หมายเหตุ
ส่วนท่ี ๔ เสนอความต้องการ
ก)เจ้าหน้าท่ี (บุคลากร)
(๑) นายทหารควบคุมรับผดิ ชอบการยงิ
(๒) นายทหารรักษาความปลอดภยั
(๓) ผชู้ ่วยนายทหารรักษาความปลอดภยั
(๔) นายสิบรักษาความปลอดภยั
(๕) นายสิบกระสุน
หรือไม่ ? - ๒๓๐ -
(๖) เจา้ หนา้ ที่กระสุน (ตามแบบของสนาม)
(๗) เจา้ หนา้ ท่ีควบคุมเป้ าและรายละเอียดของเป้ า
(๘) ผปู้ ฏิบตั ิงานในหอควบคุม
(๙) ผฝู้ ึก
(๑๐) ผชู้ ่วยผฝู้ ึก
(๑๑) พนกั งานวทิ ยโุ ทรศพั ท์
(๑๒) ยามรักษาการณ์ (ประจาสนาม)
(๑๓) เจา้ หนา้ ท่ีเสนารักษ์
(๑๔) ยามอากาศ
(๑๕) นายสิบช่างอาวธุ
(๑๖) พลขบั รถ
(๑๗) ช่างยานยนต์
(๑๘) ทา่ นไดป้ ระสานการปฏิบตั ิกบั เจา้ หนา้ ที่ผเู้ กี่ยวขอ้ งในสนามยงิ ปื นแลว้
ข) ยทุ โธปกรณ์
(๑) แผนผงั ที่ต้งั สนามและบริเวณใกลเ้ คียง
(๒) ระยะนิรภยั และแผนผงั สังเขป
(๓) อุปกรณ์รักษาความปลอดภยั อ่ืน ๆ (เขม็ ทิศ, เครื่องมือเล็ง)
(๔) เอกสารที่เก่ียวขอ้ งกบั การฝึก
(๕) แผนบทเรียน, รายงานสถานภาพ , บนั ทึกประจาวนั
(๖) ธงประจาสนาม , ระบบแสงสวา่ ง (สาหรับการยงิ ในเวลากลางคืน)
(๗) วทิ ยุ
(๘) โทรศพั ทส์ นามและสายโทรศพั ท์
(๙) เสาอากาศ ๒๙๒ , ถา้ จาเป็น
(๑๐) เคร่ืองมือทาเสียงสัญญาณ
(๑๑) อุปกรณ์ทาเคร่ืองหมาย
(๑๒) เครื่องช่วยฝึกประจาแตล่ ะสถานี
(๑๓) กระสอบทราย
(๑๔) เตน็ ทก์ ระโจม (เต็นทช์ ้ีแจงสรุป , เตรียมตวั )
(๑๕) เครื่องมือทาความร้อน, ถา้ จาเป็น
(๑๖) หมวกเหลก็ สีสาหรับเจา้ หนา้ ที่ควบคุม
(๑๗) ธงสญั ญาณหรือแสงสัญญาณสาหรับยานพาหนะ
(๑๘) รถพยาบาล
ของเป้ า - ๒๓๑ -
(๑๙) เครื่องป้ องกนั เสียง
(๒๐) น้าด่ืมและน้าทาความสะอาด
(๒๑) บตั รบนั ทึกคะแนน
(๒๒) แผน่ บนั ทึกหลกั ฐานประจาสนาม
(๒๓) เคร่ืองมือของช่างอาวธุ และอุปกรณ์ทาความสะอาดอาวธุ
(๒๔) ไมก้ วาด , พลว่ั และเครื่องมือทาความสะอาดสนาม
(๒๕) โตะ๊ และเกา้ อ้ี
(๒๖) อุปกรณ์ประกอบเป้ า
(๒๗) เคร่ืองมือดบั เพลิง
(๒๘) ผา้ ใบ , หลกั ไม้ , และเชือกสาหรับใชก้ บั กองกระสุน
(๒๙) กระดาษชาระ
(๓๐) อาวธุ ปื นอะไหล่และชิ้นส่วนอะไหล่
(๓๑) เครื่องมือลากจงู และโซ่สาหรับยานพาหนะ
(๓๒) น้ามนั เช้ือเพลิงและน้ามนั หล่อลื่นสาหรับยานพาหนะและระบบกลไก
ส่วนที่ ๕ การดาเนินการภายในหน่วย
ก) บรรจุเจา้ หนา้ ที่ในตาแหน่งท่ีวา่ ง
ข) ดารงสถานภาพการฝึ กของหน่วย
ค) คดั เลือกนายสิบ
ง) การประสานการปฏิบตั ิกบั หน่วยสนบั สนุน
(๑) กระสุน และ สป.๕
(๒) การขนส่ง
(๓) เคร่ืองช่วยฝึก
(๔) อุปกรณ์สายแพทย์
(๕) อาวธุ
(๖) ยทุ โธปกรณ์อ่ืน ๆ
ส่วนท่ี ๖ การสารวจข้อผดิ พลาด , บกพร่อง
ก) เตรียมทาแผนบทเรียนท้งั หมด
ข) ทาแผนการยงิ
(๑) การจดั ระบบในสนาม
(๒) หลกั สูตรการฝึกยงิ
(๓) เตรียมคาสัง่ การยงิ
(๔) จดั ระบบหมุนเวยี นการฝึก
- ๒๓๒ -
ค) ซกั ซอ้ มผฝู้ ึก ผชู้ ่วยผฝู้ ึก และครูฝึก
ง) ช้ีแจงสรุปพนกั งานวทิ ยโุ ทรศพั ทใ์ หท้ ราบถึงระเบียบของสนามยงิ ปื น
จ) ช้ีแจงสรุปและซกั ซอ้ มนายทหารช้นั ประทวนเก่ียวกบั การปฏิบตั ิในสนามยงิ ปื น
และหนา้ ที่ประจาของแต่ละบุคคล
ฉ) รวบรวมยทุ โธปกรณ์ที่จะใชใ้ นสนามยงิ ปื นไว้ ณ ตาบลใดตาบลหน่ึง
ช) เบิกรับเคร่ืองช่วยฝึก
ซ) เบิกเป้ าอตั โนมตั ิเพิม่ เติมตามความจาเป็น
ด) รายงานขอใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีสนามทาการช้ีแจงสรุป (ถา้ จาเป็น) ถึงอาณตั ิสัญญาณ
พิเศษอื่น ๆ ที่ใชใ้ นสนามยงิ ปื น
ต) เอกสารประจาสนาม
(๑) เคร่ืองแต่งกายของเจา้ หนา้ ที่สนามและผรู้ ับการฝึก (หมวกเหล็กและเคร่ือง
ป้ องกนั เสียง)
(๒) วธิ ีการขนส่ง, เวลาแยกขบวน และสถานที่
ถ) การรับประทานอาหาร
ท) รายละเอียดอ่ืน ๆ ตามความจาเป็น
ส่วนที่ ๗ การเข้าสู่สนามยงิ ปื นและการฝึ ก
ก) การเข้าสู่สนามยงิ ปื น
(๑) การขออนุญาต เขา้ ใชส้ นามยงิ ปื น
(๒) จดั วางการติดต่อสื่อสารภายในสนาม
(๓) แบง่ พ้นื ท่ีภายในสนามเพอ่ื ใชส้ าหรับ
(ก) จอดรถ
(ข) ตาบลจ่ายกระสุน
(ค) ที่ปฐมพยาบาล
(ง) จุดบริการน้า
(จ) การฝึกเตรียมการ
(ฉ) ท่ีรับประทานอาหาร
(ช) สนาม ฮ.
(ซ) ช่างอาวธุ
(๔) ตรวจสอบสภาพสนามสาหรับการปฏิบตั ิการฝึก
(๕) ชกั ธงสีแดงข้ึนยอดเสาเม่ือเขา้ ใชส้ นามยงิ ปื นตามระเบียบของสนาม
(๖) ตรวจดูกระสุนที่จะใชง้ านวา่ ถูกแบบและครบตามจานวน
(๗) ตรวจดูวา่ เจา้ หนา้ ที่ประจาสนามยงิ ปื นแต่งกายถูกระเบียบและยทุ โธปกรณ์
อยใู่ นที่ที่ถูกตอ้ งหรือไม่
- ๒๓๓ -
(๘) นาหน่วยทหารท่ีจะเขา้ รับการฝึกเขา้ มาภายในสนามยิงปื น
(๙) ตรวจสภาพความปลอดภยั ของอาวธุ ก่อนการใชง้ าน
(๑๐) ตรวจดูความสะอาดและกลไกการทางานของอาวธุ
(๑๑) ทาการช้ีแจงสรุป (รวมท้งั การบริหารบุคลากรประจาสนาม)
(๑๒) จดั แบง่ ทหารออกเป็ นผลดั การยงิ (พยายามใหค้ งสภาพความเป็นหน่วย
ได)้
(๑๓) แจง้ ไปยงั หอควบคุมประจาสนามวา่ พร้อมทาการยงิ
ข) การฝึ กยงิ ปื น
(๑) การติดต่อสื่อสารภายในสนามใชก้ ารไดด้ ีหรือไม่ ?
(๒) เสียงส่ังการจากหอควบคุมชดั เจนหรือไม่ ?
(๓) มีเจา้ หนา้ ท่ีตรวจตราภายในสนามหรือไม่ ?
(๔) มีเจา้ หนา้ ท่ีควบคุมการกระจายกระสุนหรือไม่ ?
(๕) แผน่ บนั ทึกหลกั ฐานประจาสนามถูกตอ้ งหรือไม่ ?
(๖) กาลงั พลพอเพยี งปฏิบตั ิหนา้ ท่ีหรือไม่ ?
(๗) ที่จอดยานพาหนะเหมาะสมหรือไม่ ?
(๘) มียานอากาศปฏิบตั ิงานหรือไม่ ?
(๙) การแตง่ กายของกาลงั พลถูกระเบียบหรือไม่ ?
(๑๐) มีการใชเ้ คร่ืองป้ องกนั เสียงหรือไม่ ?
(๑๑) กาลงั พลปฏิบตั ิตามคาสงั่ อยา่ งเคร่งครัดหรือไม่ ?
(๑๒) มีการใชก้ ระสุนอยา่ งประหยดั หรือไม่ ?
(๑๓) มีการตรวจสภาพอาวธุ ก่อนออกจากแนวยงิ หรือไม่ ?
(๑๔) มีการตรวจเกบ็ กระสุนเหลือใชห้ รือปลอกกระสุนจากตวั กาลงั พลก่อน
ออกจากสนามหรือไม่ ?
(๑๕) มีผไู้ ม่เกี่ยวขอ้ งกบั การฝึก หรือการสนบั สนุนเขา้ ไปในสนามยงิ ปื น
หรือไม่ ?
ส่วนท่ี ๘ การปิ ดสนาม
ก) การปิ ดสนามไดก้ ระทาตาม รปจ.ของสนามยงิ ปื น
ข) นาอาวธุ ยทุ โธปกรณ์และกระสุนออกไปจากสนามยงิ ปื น
ค) ตรวจสนามยงิ ปื น
ง) ทาการซ่อมและปิ ดเป้ าตามระเบียบของสนามยงิ ปื น
จ) ทาการปรนนิบตั ิบารุงและซ่อมบารุงอื่น ๆ ตาม รปจ. ของสนามยงิ ปื น
ฉ) รายงานขอเจา้ หนา้ ที่ตรวจสนามเมื่อพร้อมรับการตรวจ
ช) รายงานการปฏิบตั ิไปยงั หน่วยเหนือ
- ๒๓๔ -
ซ) รายงานเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนอนั อาจนาไปสู่ความไม่ปลอดภยั ไปยงั ผมู้ ีหนา้ ที่
รับผดิ ชอบ
ส่วนท่ี ๙ สนามยงิ ปื นทราบระยะ
ก) เจ้าหน้าท่ี (บุคลากร) : เช่นเดียวกบั ท่ีกล่าวมาแลว้ ในส่วนท่ี ๔ เพม่ิ เติมดงั น้ี
(๑) นายสิบรักษาความปลอดภยั ณ แนวหลุมเป้ า
(๒) ผชู้ ่วยนายสิบรักษาความปลอดภยั ณ แนวหลุมเป้ า
ข) ยุทโธปกรณ์ : เช่นเดียวกบั ท่ีกล่าวมาแลว้ ในส่วนที่ ๔ เพิ่มเติมดงั น้ี
(๑) เคร่ืองขยายเสียงและระบบเสียงท่ีแนวหลุมเป้ า
(๒) วางการติดต่อส่ือสารจากแนวยงิ ไปยงั แนวหลุมเป้ า
(๓) อุปกรณ์สาหรับปิ ดเป้ า
(๔) กาวและแปรงสาหรับทากาว
(๕) น้ามนั หล่อลื่นสาหรับชโลมกรอบเป้ า
(๖) ใชเ้ ป้ าท่ีเหมาะสมกบั ขนาดของกรอบเป้ า
(๗) ช้ีแจงสรุปการปฏิบตั ิภายในสนามยงิ ปื นทราบระยะ
(๘) ข้นั ตอนในการทาเครื่องหมายรอยกระสุนที่เป้ า
(๙) ข้นั ตอนสาหรับรักษาความปลอดภยั ฯ แนวหลุมเป้ า
- ๒๓๕ -
ผนวก จ
เป้ ารูปหุ่นแบบย่อส่วน
จ-๑ กล่าวทว่ั ไป
เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนใน รส.ในเล่มน้ีไดถ้ ูกออกแบบและพฒั นาข้ึนมาจากเป้ ารูปหุ่นแบบ
ยอ่ ส่วนรูปหุ่นคนสีดาในหลายๆ ระยะต้งั แต่ระยะ ๕๐ เมตร ถึงระยะ ๓๐๐ เมตร และลกั ษณะของเป้ าที่
เกิดข้ึนในสนามรบในลกั ษณะทา่ คนนอนหมอบ และท่านง่ั สาหรับใชฝ้ ึกยงิ กบั ปลย. เอม็ .๑๖ เอ ๑
และ เอ ๒ ในสนามยงิ ปื นทราบระยะ ๒๕ เมตร( ระยะ ๑,๐๐๐ นิ้ว) ที่ไดข้ ออนุมตั ิคุณลกั ษณะเฉพาะ
ส่ิงอุปกรณ์ สาย สพ. ลาดบั ท่ี ๕๓๑๔ หมายเลขส่ิงอุปกรณ์ ๖๙๒๐- ๓๕-๑๖๕-๐๖๓๘ มีช่ือเรียกส่ิง
อุปกรณ์วา่ เป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วน สาหรับยงิ ในสนามยงิ ปื น ระยะ ๒๕ เมตร และไดน้ าหลกั การในกรอบ
แนวความคิด การใชเ้ ป้ าและการฝึก มาจากเอกสารและองคค์ วามรู้ดงั น้ี
ก. รส. วา่ ดว้ ย การฝึกยงิ ปื นเล็กยาว เอม็ .๑๖ เอ ๑ และปื นเล็กยาว เอม็ .๑๖ เอ ๒ (พ.ศ.
๒๕๔๑)
ข. แนวสอนวชิ าอาวธุ เรื่อง ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖.มม. แบบ ทาร์ ๒๑ ในเร่ืองกระสุนวถิ ี
ของ ปลย.ทาโวร์ แบบ ทาร์ ๒๑
จ-๒ วตั ถุประสงค์
เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนรูปหุ่นคนสีดา ที่ใชฝ้ ึกยงิ ในสนามทราบระยะ ๒๕ เมตร สาหรับใชฝ้ ึก
ยงิ อาวธุ ปลย. ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖ มม. แบบ ทาร์ ๒๑ ไดถ้ ูกออกแบบและพฒั นาข้ึนมาจากเป้ ารูปหุ่น
แบบยอ่ รูปหุ่นคนสีดาในหลายๆ ระยะต้งั แตร่ ะยะ ๕๐ เมตร ถึงระยะ ๓๐๐ เมตร มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ
ก.เป็นการเพิ่มประโยชน์ในการใชง้ านของสนามยงิ ปื นในระยะ ๒๕ เมตรใหม้ ีความคุม้ คา่
ประโยชน์ในการใชง้ านมากข้ึนอีกประการหน่ึง นอกเหนือจากการใชใ้ นการปรับศนู ย์ ปลย.เพียงอยา่ ง
เดียว
ข.ใหท้ หารและผทู้ ่ีเขา้ รับการฝึกไดส้ ร้างความคุน้ เคย ไดก้ ารฝึกฝนเรียนรู้ใหส้ ามารถทาการ
ยงิ ปลย.ในมิติของขนาดเป้ าหมายตา่ งๆ ที่มองเห็นในภูมิประเทศท่ีมีขนาดที่แตกต่างกนั ซ่ึงจะแสดง
มาในรูปของเป้ ารูปหุ่นคนแบบยอ่ ส่วนต้งั แต่ระยะ ๕๐ เมตรไปจนถึงเป้ าในระยะ ๓๐๐ เมตร จานวน
๖ ขนาด ในจงั หวะการยงิ ชา้ ไม่มีการจบั เวลา
ค.ทหารและผทู้ ่ีเขา้ รับการฝึ กไดส้ ร้างความคุน้ เคย ได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ทาให้ผทู้ ่ีเขา้ รับ
การฝึกมีขีดความสามารถในการยงิ ปลย.ในสถานการณ์ท่ีมีความกดดนั ต่อเป้ าหมายในระยะตา่ งๆ คือ
ในจงั หวะการยงิ เร็วมีการกาหนดเวลาในการยงิ
ง.ทหารและผทู้ ่ีเขา้ รับการฝึ กไดส้ ร้างความคุน้ เคย ได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ในเทคนิคเกี่ยวกบั
การยงิ ปื นท่ีมีความแม่นยา สร้างความมน่ั ใจในการใชอ้ าวุธปื น ในการยงิ ต่อเป้ าหมายในระยะตา่ งๆ ทา
ใหม้ ีขีดความสามารถในการยงิ ปลย. ไดด้ ีข้ึน
- ๒๓๖ -
จ.เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนน้ีจะช่วยเสริมเพ่ิมขีดความสามารถใหท้ หาร และยงั ช่วยลดช่องวา่ ง
ในการยงิ ปื นไดเ้ ป็ นอยา่ งดี กล่าวคือ ในการฝึกแบบเดิมน้นั ทหารจะไดร้ ับการฝึกยงิ ปลย.ในสนาม
ระยะ ๒๕ เมตร เพอ่ื การปรับศูนยป์ ื น การปรับศูนยร์ บแลว้ หลงั จากน้นั จะไปทาการยงิ เป้ าแบบหุ่น
อตั โนมตั ิในสนามยงิ ปื นทานองรบต้งั แต่ระยะ ๕๐ ถึง ๓๐๐ เมตรซ่ึงจะทาใหท้ หารไดร้ ับทราบวา่
ตนเองทาการยงิ ปลย. ถูกหรือผดิ เป้ าหมายเทา่ น้นั และฝ่ ายผบู้ งั คบั บญั ชาและครูฝึกสามารถที่จะรู้ผล
ของการยงิ ไดใ้ น ๒ จาพวกคือ ทหารท่ีทาการยงิ ไดผ้ ล(ผา่ น) และทาการยงิ ไมไ่ ดผ้ ล(ผลการยงิ ไมผ่ า่ น
ตามท่ีกาหนด) ซ่ึงขอ้ มลู ท่ีไดไ้ ม่เพียงพอสาหรับนามาใชใ้ นการพฒั นาทกั ษะของทหารใหม้ ีความ
กา้ วหนา้ ข้ึนได้ และท่ีสาคญั เป็นอยา่ งยง่ิ คือทหารที่เขา้ ทาการยงิ ไมส่ ามารถท่ีจะรู้ขอ้ บกพร่องใน
หลกั การยงิ ปื น ๔ ประการของตนเองที่เกิดจากผลการยงิ ปื นในคร้ังน้นั ๆ หรือการท่ีจะพฒั นาตนเอง
ใหม้ ีขีดความสามารถที่จะทาการยงิ ใหล้ ูกกระสุนที่ถูกเป้ าเป็นส่วนใหญ่ใหม้ ีผลการยงิ ถูกท่ีบริเวณ
กากบาทสีขาวในรัศมีรอบกากบาทสีขาวไม่เกิน ๔ ซม. บนเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน
จ-๓ กรอบแนวคดิ
งานการฝึกการยงิ ปื นใหก้ บั ทหารไม่วา่ จะเป็ นทหารใหมท่ ี่เพ่ิงเขา้ รับราชการ หรือแมแ้ ต่ทหาร
ประจาการ งานการฝึกน้ีถือวา่ เป็นสิ่งที่มีความทา้ ทา้ ยและสาคญั ยง่ิ สาหรับผทู้ ี่ไดร้ ับผดิ ชอบในการ
จดั การฝึก ตลอดจนไปถึงการพจิ ารณาคดั เลือกครูผฝู้ ึกท่ีมีความเหมาะสมมีความรู้ความสามารถ การ
ถ่ายทอดความรู้ทาใหผ้ ทู้ ่ีเขา้ รับการฝึกไดร้ ับความรู้ในแขนงวชิ าขององคค์ วามรู้ในวชิ าน้นั ๆ ท้งั ในทาง
ทฤษฎีไดไ้ ปมากท่ีสุด ถา้ หมายถึงการยงิ ปื นแลว้ คือ ผทู้ ี่รับผดิ ชอบในการจดั การฝึกจะตอ้ งพจิ ารณา
กรอบระยะเวลาในการฝึกท่ีมีความเหมาะสม รายวชิ าที่จะใหค้ วามรู้ใหม้ ีความสอดคลอ้ ง ตลอดจนการ
พิจารณาคดั เลือกครูผทู้ ่ีทาการฝึกสอนถา้ ทาไดอ้ ยา่ งนอ้ ยจะตอ้ งเป็นบุคคลท่ีผา่ นการยงิ ปื นในการจดั
ช้นั คุณวฒุ ิมาแลว้ และเป้ าหมายสูงสุดตอ้ งการใหผ้ ทู้ ี่ผา่ นการฝึกทุกนายสามารถยงิ ปื นไดด้ ี สามารถที่
จะดารงรักษาขีดความสามารถในทางการยงิ ปื นไดน้ าน และนาความรู้ไปเรียนเพิ่มเติมในข้นั สูง เพอ่ื
พฒั นาไปสู่การเป็นพลแม่นปื น ของกองทพั ใหม้ ีจานวนมากยง่ิ ข้ึน ดงั น้นั การจดั ทาเป้ ารูปหุ่นแบบ
ยอ่ ส่วน สาหรับฝึกยงิ ปื น ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖ มม.แบบ ทาร์ ๒๑ จึงไดอ้ อกแบบมาจากกรอบแนวคิด
ดงั น้ี
ก. ทหารไดม้ ีความคุน้ เคยต่อเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนคนในลกั ษณะของทา่ คนนอนหมอบ และ
ทา่ คนนง่ั ในระยะตา่ งๆ เพื่อทาใหท้ หารเกิดความคุน้ เคยต่อการมองเห็นภาพขา้ ศึกในสนามรบ การ
ตรวจการณ์ต่อเป้ าหมายท่ีเกิดข้ึน ตลอดจนไปถึงสามารถนาไปใชใ้ นการกะระยะของขา้ ศึก และ
สามารถทาการยงิ ตอ่ เป้ าหมายท่ีเกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งแม่นยา
ข.ใหม้ ีการวดั ผลการยงิ ปื นในสถานการณ์ที่มีความกดดนั (จบั เวลาในการยงิ ) ซ่ึงในแต่ละแผน่
เป้ าจะมีการเรียงเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนในลกั ษณะที่แตกตา่ งกนั ใน ๖ ระยะการมองของเป้ าหมาย ซ่ึง
ในแผน่ เป้ าแตล่ ะแบบกจ็ ะสร้างความกดดนั ใหก้ บั ผยู้ งิ ไดแ้ ตกตา่ งกนั (ยาก-ง่าย)
- ๒๓๗ -
ค. ความกดดนั อนั เน่ืองมาจากขนาดของเป้ ารูปหุ่นคนแบบยอ่ ส่วนจะมีขนาดเล็กในระยะไกล
น้นั หมายความวา่ พ้นื ที่ ที่จะใหล้ ูกกระสุนตกกระทบบนแผน่ เป้ าตามท่ีกาหนดไว้ (รูปหุ่นคนแบบ
ยอ่ ส่วน)ของในการมองเห็นเป้ าหมายตามความเป็นจริงก็มีพ้ืนที่นอ้ ยลงไปดว้ ย ในลกั ษณะน้ีผยู้ งิ ปื น
จะตอ้ งใชห้ ลกั พ้นื ฐานการยงิ ปื นท้งั ๔ ประการให้ดีที่สุด มีความประณีตในการยงิ มากยง่ิ ข้ึนเพอื่ ให้
กระสุนกระทบเป้ าในแต่ละระยะของเป้ าหมาย จากระยะ ๕๐ เมตร ไปจนถึง ๓๐๐ เมตร ทหารจะตอ้ ง
ใชค้ วามพยายามท่ีจะยงิ ปื นใหล้ ูกกระสุนตกกระทบอยภู่ ายในเป้ ารูปหุ่นคนแบบยอ่ ส่วนสีดาหรือ
ภายในแนวเส้นประสีดามากท่ีสุด และทาการยงิ อยา่ งประณีตมากยงิ่ ข้ึนตามลาดบั เน่ืองจากมีพ้นื ที่ให้
กระสุนกระทบเป้ านอ้ ยลง
ง. เป็นการฝึก – ทดสอบการเล็งปื นท่ีระยะ ๒๕ เมตร ของผยู้ งิ ปื น ดงั น้นั เป้ ารูปหุ่นแบบ
ยอ่ ส่วนจึงไดอ้ อกแบบจุดเล็งสีขาว, เส้นวงกลมสีขาว และกากบาทสีขาวบนเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนใน
ทุกระยะ ๕๐ ถึง ๓๐๐ เมตรท่ีปรากฏบนเป้ าหุ่นยอ่ ส่วน ในทุกมิติท้งั ขนาด และระยะห่างที่อยใู่ นเป้ า
รูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนมีขนาดเท่ากนั ในทุกระยะของเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนท้งั ๖ ระยะของการมอง
( รูปท่ี จ – ๑ )
๑) จุดเลง็ สีขาว บนเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน มีขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง ๑.๐ ซม. กาหนดไว้
เพ่ือใหท้ หารใชเ้ ป็นจุดในการเล็ง ณ กลางจุดเลง็ สีขาวในทุกๆ เป้ า
๒) วงกลมสีขาว ลอ้ มรอบจุดเลง็ สีขาวบนเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนมีความหนา ๐.๑ ซม.
เส้นผา่ ศูนยก์ ลางของวงกลมสีขาวขนาด ๒.๐ ซม. กาหนดไวเ้ พอื่ เป็นจุดอา้ ง ช่วยใหท้ หารมองเห็นจุด
เลง็ สีขาวไดง้ ่ายข้ึนกรณีที่มีการเปลี่ยนยา้ ยการยงิ ไปยงั เป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วนในแนวระดบั หรือในแนวดิ่ง
ภายในแผน่ เป้ า
๓) กากบาทสีขาว ใตว้ งกลมสีขาวบนเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน มีความหนาขนาด ๐.๑ ซม.
ความยาวของเส้นมีความยาว ๑.๘ ซม. กากบาทจะอยใู่ ตจ้ ุดเล็งสีขาว โดยที่จุดตดั กนั ของเส้นกากบาท
ณ จุดกลางของเส้นตดั จะห่างจากจุดศนู ยก์ ลางของจุดเล็งสีขาวลงมาในระยะ ๓ ซม. กาหนดไวเ้ พ่ือ
เป็นจุดที่ลูกกระสุนจะตอ้ งกระทบเป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วน ซ่ึงเกิดจากผลงานการวจิ ยั ของบริษทั ผผู้ ลิตอาวธุ
ปื นเกี่ยวกบั กระสุนวถิ ีของ ปลย.ทาโวร์ แบบ เอม็ .๑๙๓ และ แบบ เอม็ .๘๕๕
รูปที่ จ – ๑ ภาพจาลองสัญลกั ษณ์บนเป้ ารูปหุ่นย่อส่วน
( สัญลกั ษณ์จริงบนแผ่นเป้ ารูปหุ่นย่อส่วนจะเป็ นสีขาว )
- ๒๓๘ -
จ. ตาแหน่งของกากบาทบนแผน่ รูปหุ่นยอ่ ส่วนน้นั จะกาหนดใหก้ ากบาทสีขาวอยใู่ ตจ้ ุดเล็งสี
ขาวเป็นตาแหน่งท่ีลูกกระสุนกระทบเป้ าน้นั ไดน้ าหลกั การกาหนดมาจากการเคล่ือนท่ีของลูกกระสุน
ซ่ึงเป็นผลงานการวจิ ยั ของบริษทั ผผู้ ลิตอาวธุ ปื นท่ีเรียกวา่ กระสุนวถิ ีของ ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖
มม.แบบ ทาร์ ๒๑ ซ่ึงในการยงิ ปื นจะใชล้ ูกกระสุนแบบ เอม็ .๘๕๕ (รูปท่ี จ – ๒ ) มาเป็นกรอบในการ
พิจารณา สาหรับการยงิ ปื นจะพบวา่ ในระยะ ๒๕ เมตร เม่ือลูกกระสุนเคลื่อนที่ห่างจากปากกระบอก
ปื นไปน้นั ลูกกระสุนจะค่อยๆ เคล่ือนตวั ในลกั ษณะที่ต่อตา้ นกบั แรงดึงดูดของโลก คือจะเคลื่อนที่
สูงข้ึน โดยลูกกระสุนจะเคลื่อนท่ีไปตดั กนั แนวเส้นการเล็ง แต่ในระยะ ๒๕ เมตรน้ีจะยงั คงเคลื่อนท่ี
อยใู่ ตเ้ ส้นแนวการเล็งหรือเป็ นตาแหน่งท่ีต่าจากเส้นแนวการเลง็ ในระยะ ๓.๓ ซม. ซ่ึงจากขอ้ เทจ็ จริง
ดงั กล่าวอนั เป็ นผลงานการวจิ ยั ของบริษทั ผผู้ ลิตอาวธุ ปื น ทหารท่ีเขา้ รับการฝึก เมื่อทาการยงิ ปื นแลว้
ใชห้ ลกั พ้ืนฐานการยงิ ปื นท้งั ๔ ประการคือ ทา่ ยงิ การเล็ง การหายใจ และการลนั่ ไกปื นไดอ้ ยา่ ง
สมบูรณ์ ๑๐๐ % แลว้ จะทาใหล้ ูกกระสุนท่ียงิ ออกไปจากปากกระบอกปื นกระทบยงั เป้ าหมายท้งั ๖
ระยะ ท่ี ณ จุดก่ึงกลางที่เส้นกากบาทสีขาวตดั กนั ทุกนดั ทุกระยะของเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนรูปคนสีดา
รูปที่ จ – ๒ วถิ กี ระสุน แบบ เอม็ . ๑๙๓
ฉ. กลุ่มกระสุนที่เกิดจากการยงิ ปื นที่ดีที่สุดน้นั ควรท่ีกระจายตวั กนั อยรู่ อบเครื่องหมาย
กากบาทสีขาวในรัศมีไมเ่ กิน ๔ ซม. ของเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนทุกเป้ าในทุกระยะท่ีมีอยบู่ นแผน่ เป้ า
รูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน
- ๒๓๙ -
ช. การนบั คะแนน ในการนาเป้ าหุ่นแบบยอ่ ส่วนมาใชย้ งิ ในสถานการณ์ท่ีมีการกดดนั (การ
กาหนดเวลาหรือจบั เวลาในการยงิ น้นั )ใหค้ ิดนบั รอยกระสุนที่ถูกภายในเป้ ารูปหุ่นระยะ ๕๐เมตร ถึง
๓๐๐ เมตร และในแนวรอยเส้นประสีดาในเป้ ารูปหุ่นระยะ ๒๕๐ เมตร และ ๓๐๐ เมตร
จ-๔ กระสุนวถิ ี
ตารางแสดงกระสุนวถิ ีของ ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖ มม. แบบ ทาร์ ๒๑ ทาการยงิ โดยใชล้ ูก
กระสุนแบบ เอม็ . ๘๕๕ ซ่ึงทางบริษทั ผผู้ ลิตอาวธุ ปื นไดท้ าการ ศึกษา ทดลอง และวจิ ยั การเคลื่อนที่
ของลูกกระสุน ไดผ้ ลการทดลองรายละเอียดตามตาราง รูปท่ี จ- ๓ และรูปที่ จ – ๔ จากตาราง
ดงั กล่าว ผทู้ ี่รับผดิ ชอบในการฝึกและครูฝึกสอนจะตอ้ งทาความเขา้ ใจโดยจะตอ้ งมีความรู้พอท่ีจะ
อธิบายใหผ้ ทู้ ี่เขา้ รับการฝึกเขา้ ใจไดว้ า่ รูปอาการการเคล่ือนที่ของลูกกระสุนเมื่อเคลื่อนท่ีออกจากปาก
ลากลอ้ งปื นไปแลว้ จะมีการเคลื่อนที่ในลกั ษณะใด ทางระยะและทางสูงมีความหมายอยา่ งไร ตวั เลขท่ี
แสดงค่าเป็น บวก(+) แสดงค่าเป็น ลบ(-) ไดบ้ ง่ บอกถึงการเคล่ือนที่ของกระสุนเม่ือไดเ้ คล่ือนที่ออก
จากปากกระบอกลากลอ้ งในลกั ษณะใด และใชแ้ นวเส้นอะไรเป็นเส้นแบง่ ระหวา่ งตวั เลขท่ีแสดงคา่
ความเป็น บวก(+) และ ลบ(-)
ก. ทางระยะ จะเป็ นระยะท่ีบง่ บอกค่าในทางระดบั จะมีค่าเป็น บวก(+) เสมอ น้นั คือ เป็ นคา่ ท่ี
แสดงใหเ้ ห็นในทางระดบั วา่ ลูกกระสุนไดเ้ คล่ือนที่ออกห่างจากปากลากลอ้ งปื นไปในระยะทางเท่าใด
ในแนวเส้นการเล็ง หรือเส้นการมองของผเู้ ลง็ ที่มองไปในกลอ้ งเล็งสะทอ้ นภาพ (MEPRO 21M ) ผา่ น
จุดเลง็ สีแดง( RED DOT ) ไปยงั เป้ าหมายโดยจะมีจุดเร่ิมตน้ ท่ีระยะ ๐ เมตร คือท่ีปากกระบอกปื น เช่น
ท่ีระยะ ๒๕ เมตร มีความหมายวา่ ลูกกระสุนไดเ้ คลื่อนที่ห่างจากปากกระบอกปื นไปเป็ นระยะทาง
๒๕ เมตร, ท่ีระยะ ๗๕ เมตร มีความหมายวา่ ลูกกระสุนไดเ้ คลื่อนที่ห่างจากปากกระบอกปื นไปเป็น
ระยะทาง ๗๕ เมตร และท่ีระยะ ๓๐๐ เมตร มีความหมายวา่ ลูกกระสุนไดเ้ คลื่อนท่ีห่างจากปาก
กระบอกปื นไปเป็นระยะทาง ๓๐๐ เมตร(ในแนวระดบั )
ข. ความสูง จะเป็นระยะท่ีบง่ บอกในระดบั ทางสูงที่มีคา่ บวก(+ )และระดบั ทางต่ามีค่าเป็นลบ
(-) ในการกาหนดคา่ น้นั จะยึดแนวเส้นการเลง็ หรือเส้นการเล็งของพลยงิ เป็นหลกั (หรือเส้นการมอง
ของผเู้ ล็งที่มองไปในกลอ้ งเล็งสะทอ้ นภาพ(MEPRO 21M ) ผา่ นจุดเล็งสีแดง( RED DOT ) ไปยงั
เป้ าหมาย) กล่าวคือ ในตาแหน่งใดท่ีลูกกระสุนเคล่ือนท่ีต้งั แตแ่ นวเส้นเลง็ ข้ึนไป หรือเคลื่อนที่อยู่
เหนือแนวเส้นเลง็ จะแสดงคา่ ระดบั ทางสูงที่มีคา่ เป็นบวก (+)เสมอ เช่น ท่ีระยะ ๕๐ เมตร (วถิ ีกระสุน
วง่ิ ไตข่ ้ึนทางสูง) ลูกกระสุนขณะน้นั จะเคล่ือนที่โดยอยสู่ ูงจากแนวเส้นการเล็ง ๒.๐ ซม.[คา่ ระดบั ทาง
สูงจะแสดงเป็นบวก(+)] , ที่ระยะ ๒๐๐ เมตร( วถิ ีกระสุนว่ิงลงตามแรงดึงดูดของโลก) ลูกกระสุน
ขณะน้นั จะเคล่ือนที่โดยอยสู่ ูงจากแนวเส้นการเล็ง ๑๔.๗ ซม.[ค่าระดบั ทางสูงจะแสดงเป็นบวก(+)],
ที่ระยะ ๓๐๐ เมตร( วถิ ีกระสุนวงิ่ ลงตามแรงดึงดูดของโลก) ลูกกระสุนขณะน้นั จะเคลื่อนท่ีโดยตดั
เส้นแนวการเลง็ พอดี ๐ ซม.(ไม่คา่ ระดบั ทางสูง-ต่า) และตาแหน่งใดท่ีลูกกระสุนเคล่ือนที่ต้งั แตแ่ นว
เส้นเล็งลงมา ไปหรือเคล่ือนที่อยใู่ ตแ้ นวเส้นการเลง็ จะแสดงค่าระดบั ทางต่าจะแสดงเป็ นลบ (-) เสมอ
- ๒๔๐ -
เช่น ท่ีระยะ ๒๕ เมตร ( วถิ ีกระสุนวงิ่ ไตข่ ้ึนทางสูง)ลูกกระสุนขณะน้นั จะเคล่ือนท่ีโดยอยตู่ ่าจากแนว
เส้นการเลง็ ๓.๓ ซม. [คา่ ระดบั ทางต่าจะแสดงเป็ นลบ( - )] , ท่ีระยะ ๓๒๕ เมตร( วถิ ีกระสุนวง่ิ ลงตาม
แรงดึงดูดของโลก) ลูกกระสุนขณะน้นั จะเคล่ือนท่ีโดยอยตู่ ่าจากแนวเส้นการเล็ง ๗.๓ ซม. [ค่าระดบั
ทางต่าจะแสดงเป็นลบ( - )], ที่ระยะ ๓๕๐ เมตร( วถิ ีกระสุนวง่ิ ลงตามแรงดึงดูดของโลก) ลูกกระสุน
ขณะน้นั จะเคล่ือนที่โดยอยตู่ ่าจากแนวเส้นการเล็ง ๑๖.๔ ซม.[ค่าระดบั ทางต่าจะแสดงเป็นลบ( - )]
ความสูง ( ซม. ) -๙.๔ -๓.๓ ๒.๐ ๖.๕ ๑๐.๑ ๑๒.๘ ๑๔.๕ ๑๕.๒ ๑๔.๗
ระยะห่าง( ม. ) ๐ ๒๕ ๕๐ ๗๕ ๑๐๐ ๑๒๕ ๑๕๐ ๑๗๕ ๒๐๐
รูปที่ จ- ๓
ความสูง ( ซม. ) ๑๓.๐ ๑๐.๑ ๕.๘ ๐ -๗.๓ -๑๖.๔ -๒๗.๒ -๓๙.๙
ระยะห่าง( ม. ) ๒๒๕ ๒๕๐ ๒๗๕ ๓๐๐ ๓๒๕ ๓๕๐ ๓๗๕ ๔๐๐
รูปที่ จ - ๔
จ-๕ หลกั พนื้ ฐาน
ก. เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนน้ีไดถ้ ูกออกแบบที่จะใหท้ หารไดเ้ รียนรู้ และไดค้ ุน้ เคยกบั มองภาพ
ในระยะต่างๆ เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนบนแผน่ เป้ าจะใหก้ ารมองภาพของการมองเห็นคนในลกั ษณะท่า
นอนหมอบ และทา่ นงั่ ในระยะ ๒๕ เมตร เสมือนวา่ เป้ าขนาดต่างๆ ท่ีมองเห็นน้นั อยใู่ นระยะจริงท่ี
เกิดข้ึนจริงในสนามรบลกั ษณะทา่ นอนหมอบในระยะ ๕๐ เมตร และระยะ ๑๐๐ เมตร ลกั ษณะท่านงั่
ในระยะ ๑๕๐, ๒๐๐, ๒๕๐ และ ๓๐๐ เมตร เม่ือใชเ้ ป้ าแบบหุ่นยอ่ ส่วนในขนาดตา่ งๆ แลว้ จะทาให้
ทหารที่เขา้ รับการฝึกไดม้ ีโอกาส
๑) มองเห็นภาพที่เสมือนจริงในระยะต่างๆ เพื่อสร้างความคุน้ เคยของขนาดเป้ าหมาย
๒) ทาการฝึกการเลง็ ต่อเป้ าหมายที่เกิดข้ึนในระยะตา่ งๆ ซ่ึงการกาหนดตาบลเล็งต่อ
เป้ าหมายในระยะต่างๆ กนั ยอ่ มไมเ่ หมือนกนั (เมื่อใชศ้ นู ยร์ บ )
๓) ไดร้ ับขอ้ มูลจากผลของการยงิ ปื น หลงั จากไดท้ าการยงิ ปื นไปแลว้ จะไดท้ ราบวา่ ผล
ของการยงิ ปื นในระยะต่างๆ มีกระสุน หรือกลุ่มกระสุนถูกเป้ าบริเวณใด และพลาดเป้ าไปไกลเทา่ ใด
ข. เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนน้ีจะช่วยเสริมช่องวา่ งระหวา่ งการฝึกยงิ ปื นในการปรับศนู ยร์ บใน
ระยะ ๒๕ เมตร กบั การยงิ เป้ าหุ่นอตั โนมตั ิในสนามทานองรบในสถานการณ์ตา่ งๆ แต่ครูฝึกจะตอ้ ง
พิจารณาจานวนลูกกระสุนที่ใชใ้ นการยงิ ใหเ้ พียงพอ สาหรับการนาเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนมาใชใ้ นการ
ฝึกน้นั สามารถท่ีจะนาเป้ าแบบน้ีมาใชใ้ นการฝึกในการปรับตาบลเลง็ ต่อเป้ าในระยะต่างๆ การเล็งเพ่ือ
- ๒๔๑ -
ปรับแกอ้ นั เน่ืองมาจากทิศทางลม การกะระยะไกล และการนาไปใชใ้ นการฝึกยงิ แหง้ ในบา้ งกรณีอาจ
ใชเ้ พอื่ ใชท้ าการยงิ ในการบนั ทึกผลในการจดั ช้นั คุณวฒุ ิเม่ือไดร้ ับอนุมตั ิจากหน่วยเหนือ เป้ ารูปหุ่น
แบบยอ่ ส่วนมกั จะนิยมนามาใชใ้ นการฝึกยงิ ปื นใน ๒ ประเภทคือ
๑) การยงิ ปื นในสถานการณ์ที่ไมม่ ีความกดดนั หรือท่ีเรียกวา่ การยงิ ในจังหวะช้า ที่ไมม่ ี
การจบั เวลา เพ่ือการปรับศูนย,์ การศึกษาจากผลการยงิ แลว้ ปรับแกไ้ ขตามท่ีครูฝึกใหค้ าแนะนาให้
เป็นไปตามหลกั การพ้นื ฐานการยงิ ปื น ๔ ประการ, การเรียนรู้ที่จะสร้างความคุน้ เคยของพลยงิ ในการ
มองเห็นขนาดเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนในระยะต่างๆ ในการปรับปื นจะใชล้ ูกกระสุนจานวน ๓ นดั หรือ
๕ นดั ต่อการปรับปื น ๑ คร้ัง
๒) การยงิ ปื นในสถานการณ์ที่มีความกดดนั หรือท่ีเรียกวา่ การยงิ ในจังหวะเร็ว ท่ีมีการ
จบั เวลาในการยงิ โดยเฉลี่ยกระสุนที่จะทาการยงิ ตอ่ ๑ นดั จะใชร้ ะยะเวลา ๕ วนิ าที สาหรับรูปแบบใน
การฝึกยงิ ปื นเพอื่ ใชใ้ นการบนั ทึกแตม้ หรือในการจดั ช้นั คุณวฒุ ิน้นั ครูฝึกหรือผทู้ ี่รับผดิ ชอบในการฝึก
สามารถท่ีจะออกแบบวธิ ีการฝึก-ทดสอบได้ รวมถึงการกาหนดจานวนกระสุนท่ีใชย้ งิ ต่อ ๑ เป้ ารูปหุ่น
แบบยอ่ ส่วน เช่น ถา้ ใชเ้ ป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน แบบ ค ในการฝึก - ทดสอบการยงิ เพอ่ื บนั ทึกแตม้ โดย
กาหนดเง่ือนไขใหท้ าการยงิ ต่อเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน เป้ าละ ๕ นดั ๆ ละ ๑ คะแนน ในการฝึก-
ทดสอบคร้ังน้ี ทหารที่เขา้ รับการทดสอบจะไดร้ ับลูกกระสุนในการยงิ สาหรับใชใ้ นการยงิ เพ่อื การ
บนั ทึกแตม้ หรือคิดคะแนน ในจานวนต่อ ๑ นายๆ ละ ๕๐ นดั โดยจะมีเวลาสาหรับทาการยงิ รวมท้งั
สิ้น ๒๕๐ วนิ าทีในการกาหนดใหใ้ ชก้ ระสุนนอ้ ย หรือมากกวา่ น้ีก็ไดข้ ้ึนอยทู่ ่ีผบู้ งั คบั บญั ชาเป็นผู้
กาหนด
จ-๖ เป้ ารูปหุ่นแบบย่อส่วน
การออกแบบเป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วนท่ีจะนามาใชส้ าหรับยงิ ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖ มม.
แบบ ทาร์ ๒๑ น้นั ไดอ้ อกแบบมาเพอื่ ใหเ้ กิดความหลากหลายของเป้ าซ่ึงมีอยทู่ ้งั หมด ๓ แบบ จะใช้
วธิ ีการยงิ ที่จะใชเ้ ครื่องหนุนรอง หรือไมม่ ีเคร่ืองหนุนรองก็ได้ โดยจะแบ่งเป็ นเป้ าท่ีใชย้ งิ ปื นในจงั หวะ
ชา้ (ไมจ่ บั เวลา) และใชย้ งิ ปื นในจงั หวะเร็ว(จบั เวลา) สามารถนาไปเป็นเป้ าในการยงิ เพ่ือบนั ทึกแตม้
หรือนบั คะแนนไดท้ ุกแบบ ใชท้ าการยงิ ในสนามยงิ ปื นระยะ 25 เมตร หรือสนาม ๑,๐๐๐ นิ้ว
- เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน แบบ ก สาหรับฝึกยงิ ปื น ทาโวร์(จงั หวะชา้ )
- เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน แบบ ข สาหรับฝึกยงิ ปื น ทาโวร์(จงั หวะชา้ )
- เป้ ารูปหุ่นแบบยอ่ ส่วน แบบ ค สาหรับฝึกยงิ ปื น ทาโวร์(ยงิ เร็วจบั เวลา)
ก. เป้ ารูปหุ่นย่อส่วนสาหรับการยงิ ปื นในจังหวะช้า
เป้ าหุ่นยอ่ ส่วนสาหรับการยงิ ปื นในจงั หวะชา้ ประกอบดว้ ยเป้ ารูปหุ่นยอ่ ส่วนแบบ ก และ
แบบ ข ซ่ึงไดถ้ ูกออกแบบมาเป็นการเฉพาะ ตวั ของแผน่ เป้ าจริงจะทาจากกระดาษพ้นื สีขาวดา้ นไม่มี
ความมนั วาว หรือสะทอ้ นแสง ภายในแผน่ กระดาษจะพิมพเ์ ป็ นรูปเป้ าหุ่นยอ่ ส่วนท่ีเป็ นลกั ษณะคนใน
ท่าคนหมอบและท่านงั่ ดว้ ยสีดาดา้ นไม่สะทอ้ นแสง