The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ เล่มที่ ๑ (แผนที่ ๑-๒๗)
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 110_ชลธิชา ต่ออํานาจ, 2024-02-08 23:38:03

แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้ เล่มที่ ๑ (แผนที่ ๑-๒๗)
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖

แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด มีความรับผิดชอบ ในการทำงาน การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม กระตือรือร้นในการทำ กิจกรรม รวม ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑๐ ผ มผ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมนักเรียน เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๐ คะแนน ๑. สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ แสดงความสนใจในเนื้อหา และกิจกรรมเป็นอย่างดี ค่อนข้างแสดงความ สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรม ไม่สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรมใดเลย ๒. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เคารพและตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด ไม่หยอกล้อกัน เคารพและตั้งใจในการ ฟัง การดู และการพูด แต่มีพูดคุย หยอกล้อกัน เป็นบางครั้ง ไม่ตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด พูดคุย หยอกล้อเล่นกัน ก่อความวุ่นวาย ๓. มีความรับผิดชอบในการทำงาน ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์และส่งงาน ตรงเวลา ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์แต่ส่งงาน ล่าช้า ทำงานไม่เรียบร้อย หรือไม่มีงานส่งเลย ๔. การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตรงตามประเด็นที่กำหนด มีการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตามประเด็นที่กำหนด เล็กน้อย มีการใช้ถ้อยคำ ค่อนข้างเหมาะสม ไม่มีการพูดแสดงความ คิดเห็นใดเลย ๕. กระตือรือร้นในการทำกิจกรรม มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นอย่างดี มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นบาง กิจกรรม ไม่มีความกระตือรือร้น และให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมใดเลย


่ า าน ร น ก า กน พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา กําหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะคําขาน ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน โคควายวายชีพได้ เขาหนัง เป็นสิ่งเป็นอันยัง อยู่ไซร้ คนเด็ดดับสูญสัง- ขารร่าง เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แต่ร้ายกับดี เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่ายหลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตายถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หายากฝากผีไข้ ยากแท้จักหา (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ โคลงโลกนิติ เวลา ๒๐ ชั่วโมง เรื่อง การอ่านบทอาขยานทำนองเสนาะ โคลงโลกนิติ (๒) เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวชลธิชา ต่ออำนาจ โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร วันที่สอน ๙ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๒ วันที่สอน ๙ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๘ วันที่สอน ๑๐ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๑ วันที่สอน ๑๐ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๔ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๑/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนอธิบายการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองได้ถูกต้อง (K) ๒.๒ นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองทำนองเสนาะได้อย่างถูกต้อง (P) ๒.๓ นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนและการทำกิจกรรม (A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓.๑ มีวินัย ๓.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๓.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๔. สมรรถนะสำคัญ ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด


๕. สาระสำคัญ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เป็นการอ่านบทร้อยกรองแต่ละประเภทให้ไพเราะตามทำนองและ ฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรองประเภทนั้น ๆ โดยมีการใช้น้ำเสียงสื่ออารมณ์ ซึ่งในการอ่านบทร้อยกรองต้องอ่าน อย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองตามลักษณะของคำประพันธ์แต่ละชนิด ดังนั้น การอ่านออกเสียง บทร้อยกรองให้เกิดความไพเราะ ถูกต้องเหมาะสมและประทับใจผู้ฟัง ผู้อ่านบทร้อยกรอง ต้องมีความรู้ ความเข้าใจศึกษาหลักและวิธีการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองแต่ละประเภทให้เกิดความแม่นยำ เพื่อให้การอ่าน ออกเสียงบทร้อยกรองมีจังหวะ ลีลาและท่วงทำนองที่ไพเราะ เกิดความงดงามจรรโลงใจแก่ผู้ฟัง ๖. สาระการเรียนรู้ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองทำนองเสนาะ (การอ่านบทอาขยานโคลงโลกนิติ) ๗. ชิ้นงานหรือภาระงาน คำถามทบทวนท้ายบทเรียนเรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการปฏิบัติ) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ในคาบเรียนที่ผ่านมา และอ่านออกเสียง บทร้อยกรองทำนองเสนาะ บทอาขยานโคลงโลกนิติร่วมกันให้เสียงดังฟังชัด ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้ โคลงโลกนิติ พระสมุทร/สุดลึกล้น// คณนา// สายดิ่ง/ทิ้งทอดมา// หยั่งได้// เขาสูง/อาจวัดวา// กำหนด// จิตมนุษย์/นี้ไซร้// ยากแท้/หยั่งถึง// ก้านบัว/บอกลึกตื้น// ชลธาร// มารยาท/ส่อสันดาน// ชาติเชื้อ// โฉดฉลาด/เพราะคําขาน// ควรทราบ// หย่อมหญ้า/เหี่ยวแห้งเรื้อ// บอกร้าย/แสลงดิน// โคควาย/วายชีพได้// เขาหนัง// เป็นสิ่ง/เป็นอันยัง// อยู่ไซร้// คนเด็ด/ดับสูญสัง-// ขารร่าง// เป็นชื่อ/เป็นเสียงได้// แต่ร้าย/กับดี//


เพื่อนกิน/สิ้นทรัพย์แล้ว// แหนงหนี// หาง่าย/หลายหมื่นมี// มากได้// เพื่อนตาย/ถ่ายแทนชี-// วาอาตม์// หายาก/ฝากผีไข้// ยากแท้/จักหา// (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร) ขั้นสอน ขั้นสังเกตรับรู้ ๘.๑ นักเรียนรับฟังวีดิทัศน์การอ่านบทอาขยานโคลงโลกนิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ แบบทำนองเสนาะ จากยูทูป “บทอาขยาน โคลงโลกนิติ/ครูออย สุวรรณิดา” นักเรียนร่วมสนทนาการอ่านออกเสียงบทอาขยาน โคลงโลกนิติและทบทวนการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองทำนองเสนาะ “บทอาขยาน โคลงโลกนิติ” อีกครั้ง ครูคอยแนะเพิ่มเติมหากมีจุดผิดพลาด ขั้นทำตามแบบ ๘.๒ นักเรียนฝึกอ่านออกเสียง บทอ่านอาขยานโคลงโลกนิติเป็นทำนองเสนาะ ตามสื่อการเรียนรู้ วีดิทัศน์ “บทอาขยาน โคลงโลกนิติ/ครูออย สุวรรณิดา” จากยูทูป โดยมีครูคอยกระตุ้นและแนะนำให้นักเรียน ฝึกฝนการอ่านออกเสียง ขั้นทำเองโดยไม่มีแบบ ๘.๓ นักเรียนจับคู่ฝึกฝนการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง การอ่านทำนองเสนาะบทอาขยาน โคลงโลกนิติให้นักเรียนผลัดกันอ่านและผลัดกันวิจารณ์แสดงความคิดเห็นให้คำแนะนำแก้ไขซึ่งกันและกัน ในกรณีที่เพื่อนยังอ่านไม่ถูกต้อง


ขั้นฝึกให้ชำนาญ ๘.๔ นักเรียนแต่ละคนฝึกฝนการอ่านทำนองเสนาะบทอาขยานโคลงโลกนิติจนเกิดความชำนาญแล้ว ให้นักเรียนแต่ละคน ออกมาอ่านออกเสียงให้ครูฟังเพื่อทดสอบการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง โดยนักเรียน และครูตั้งเกณฑ์การประเมินการอ่านร่วมกัน ซึ่งในการทดสอบเพื่อนภายในห้องและครูสามารถให้คะแนน ในการประเมินการอ่านออกเสียงของนักเรียนแต่ละคน พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงในกรณี ที่ยังมีข้อบกพร่อง ขั้นสรุป นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็นจากการประเมินการอ่านของนักเรียนแต่ละคน โดยชื่นชม นักเรียนคนที่อ่านออกเสียงได้อย่างถูกต้องไพเราะ และให้กำลังใจนักเรียนคนที่ยังมีข้อบกพร่องเพื่อพัฒนา ให้ดีขึ้น จากนั้นนักเรียนรวบรวมสมุดบันทึกส่งครู พร้อมรับฟังการมอบหมายการเรียนรู้ในคาบถัดไป ๙. การจัดบรรยากาศเชิงบวก จัดบรรยากาศเชิงบวกเสริมแรงทางสังคม เช่น การทักทาย การยิ้มแย้ม การชมเชย การสร้างกำลังใจ ในการฝึกอ่านออกเสียง เป็นต้น ๑๐. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑๐.๑ บทอ่านอาขยานทำนองเสนาะ โคลงโลกนิติ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑๐.๒ วีดิทัศน์ “บทอาขยาน โคลงโลกนิติ/ครูออย สุวรรณิดา” จากยูทูป https://youtu.be/ TieUAxn7TVA?si=TH94vWlPaukUZb1j ๑๑. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือในการวัด เกณฑ์การประเมินผล ๑. นักเรียนอธิบายการอ่าน ออกเสียงบทร้อยกรอง ได้ถูกต้อง (K) ตรวจสมุดบันทึกและ หรือสังเกตพฤติกรรม การตอบคำถาม สมุดบันทึกและหรือ แบบสังเกตพฤติกรรม การตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ๒. นักเรียนอ่านออกเสียง บทร้อยกรองทำนองเสนาะ ได้อย่างถูกต้อง (P) ประเมินการอ่าน ออกเสียงบทร้อยกรอง แบบประเมินการอ่าน ออกเสียงบทร้อยกรอง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ๓. นักเรียนกระตือรือร้นใน การเรียนและการทำกิจกรรม (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐


เกณฑ์การให้คะแนนสมุดบันทึก เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ (ผ่านเกณฑ์ ๕ คะแนน ขึ้นไป) แบบสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน ความถูกต้อง ตรงประเด็น ในการตอบคำถาม การมีส่วนร่วม ในการตอบคำถาม ความคล่องแคล่วรวดเร็ว ในการตอบคำถาม ความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม รวม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑๐ ผ มผ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้องครบถ้วน ของเนื้อหาสาระ เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ได้ถูกต้องครบถ้วน เป็นอย่างดี เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ได้ถูกต้อง ค่อนข้าง ครบถ้วน เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ถูกต้องบางส่วน และไม่มี ความครบถ้วน ๒. ความเรียบร้อยของงาน คะแนนเต็ม ๒ คะแนน ทำงานเป็นระเบียบ เรียบร้อยเป็นอย่างดี ทำงานเป็นระเบียบแต่ยัง มีบางส่วนไม่เรียบร้อย ๓. ความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความรับผิดชอบในการ ทำงาน ส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ความรับผิดชอบ บกพร่อง ส่งงานล่าช้า เกินกำหนด ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการตอบคำถาม เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้อง ตรงประเด็น ในการตอบคำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตรงประเด็น และอธิบาย คำตอบชัดเจน ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตรงประเด็น แต่อธิบาย คำตอบได้ไม่ชัดเจน ตอบคำถามได้ถูกต้อง บางส่วน ๒. การมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามอย่างสม่ำเสมอ มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามบ่อยครั้ง มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามน้อยครั้ง ๓. ความคล่องแคล่วรวดเร็ว ในการตอบคำถาม คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว สามารถ ตอบคำถามได้ทันที มีการใช้เวลาไม่สามารถ ตอบคำถามได้ทันที ๔. ความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม อย่างมั่นใจ เสียงดัง ชัดเจน มีความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม แต่มีความไม่มั่นใจ


แบบประเมินการอ่านบทร้อยกรอง เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม สรุปผลการ ประเมิน อักขรวิธี ฉันทลักษณ์ น้ำเสียง จังหวะ ทำนอง (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) (๑๒) ผ่าน ไม่ผ่าน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ………… คำชี้แจง กรอกคะแนนลงในช่องรายการประเมินของนักเรียนที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๘ คะแนน)


เกณฑ์การประเมินการอ่านบทร้อยกรอง ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. อักขรวิธี อ่านออกเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเสียงควบกล้ำ ถูกต้องชัดเจน การออกเสียง ตรงตามอักขรวิธีในภาษาไทย อ่านออกเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเสียงควบกล้ำไม่ถูกต้อง ๒ ครั้ง การออกเสียงตรง ตามอักขรวิธีในภาษาไทย อ่านออกเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และ เสียงควบกล้ำไม่ถูกต้อง เกิน ๒ ครั้ง ๒. ฉันทลักษณ์ อ่านได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ ของบทร้อยกรอง ได้เป็นอย่างดี อ่านตามฉันทลักษณ์ ของบทร้อยกรอง ไม่ถูกต้อง ๓ ครั้ง อ่านตามฉันทลักษณ์ ของบทร้อยกรอง ไม่ถูกต้องเกิน ๓ ครั้ง ๓. น้ำเสียง น้ำเสียงไพเราะ มีความ หนักเบาของเสียง เสียงชัดเจน เป็นธรรมชาติ และน้ำเสียงให้อารมณ์ ความรู้สึกสอดคล้องกับเนื้อหา ของบทร้อยกรอง น้ำเสียงไพเราะ มีความ หนักเบาของเสียง เสียงค่อนข้างชัดเจน เป็นธรรมชาติและน้ำเสียง ให้อารมณ์ความรู้สึก สอดคล้องกับเนื้อหา ของบทร้อยกรอง น้ำเสียงมีความหนักเบา แต่ไม่ค่อยชัดเจน ไม่เป็น ธรรมชาติและน้ำเสียง ยังไม่ให้อารมณ์ความรู้สึก สอดคล้องกับเนื้อหา ของบทร้อยกรอง ๔. จังหวะ ทำนอง มีจังหวะทำนองการอ่าน สม่ำเสมอถูกต้อง ตั้งแต่ต้นจนจบ มีจังหวะทำนองการอ่าน ค่อนข้างสม่ำเสมอ ผิดพลาดเพียง ๑-๒ ครั้ง มีจังหวะทำนองการอ่าน ที่ไม่สม่ำเสมอ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 1๑-12 คะแนน ดีมาก ๘-๑๐ คะแนน ดี ๕-๗ คะแนน พอใช้ ๑-๔ คะแนน ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ได้ระดับการประเมินคุณภาพระดับ ดี ถือว่าผ่าน หรือร้อยละ ๗๐ (๘ คะแนน) ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์


แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด มีความรับผิดชอบ ในการทำงาน การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม กระตือรือร้นในการทำ กิจกรรม รวม ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑๐ ผ มผ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมนักเรียน เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๐ คะแนน ๑. สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ แสดงความสนใจในเนื้อหา และกิจกรรมเป็นอย่างดี ค่อนข้างแสดงความ สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรม ไม่สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรมใดเลย ๒. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เคารพและตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด ไม่หยอกล้อกัน เคารพและตั้งใจในการ ฟัง การดู และการพูด แต่มีพูดคุย หยอกล้อกัน เป็นบางครั้ง ไม่ตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด พูดคุย หยอกล้อเล่นกัน ก่อความวุ่นวาย ๓. มีความรับผิดชอบในการทำงาน ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์และส่งงาน ตรงเวลา ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์แต่ส่งงาน ล่าช้า ทำงานไม่เรียบร้อย หรือไม่มีงานส่งเลย ๔. การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตรงตามประเด็นที่กำหนด มีการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตามประเด็นที่กำหนด เล็กน้อย มีการใช้ถ้อยคำ ค่อนข้างเหมาะสม ไม่มีการพูดแสดงความ คิดเห็นใดเลย ๕. กระตือรือร้นในการทำกิจกรรม มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นอย่างดี มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นบาง กิจกรรม ไม่มีความกระตือรือร้น และให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมใดเลย


่ า าน ร น ก า กน พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา กําหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะคําขาน ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน โคควายวายชีพได้ เขาหนัง เป็นสิ่งเป็นอันยัง อยู่ไซร้ คนเด็ดดับสูญสัง- ขารร่าง เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แต่ร้ายกับดี เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หาง่ายหลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตายถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หายากฝากผีไข้ ยากแท้จักหา (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)


คำถามทบทวนท้ายบทเรียน เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๑. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองหมายถึงอะไร จงอธิบายพอสังเขป ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๒. เครื่องหมายวรรคตอนในบทร้อยกรองที่ใช้ในการแบ่งวรรคตอนในการอ่านได้แก่เครื่องหมายใด และเครื่องหมายนั้นแสดงถึงอะไร จงอธิบาย ................................................................................................ ................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................................................................................... ............ ๓. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองสามารถอ่านได้ ๒ แบบ ได้แก่อะไรบ้าง จงอธิบาย ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๔. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองอ่านประเภทโคลงอ่านได้อย่างไร จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง ประกอบ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................


เฉลยคำถามทบทวนท้ายบทเรียน เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๑. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองหมายถึงอะไร จงอธิบายพอสังเขป ตอบ การอ่านบทร้อยกรองแต่ละประเภทให้ไพเราะตามทำนองและฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรอง ประเภทนั้น ๆ โดยมีการใช้น้ำเสียงสื่ออารมณ์ เป็นการฝึกฝนทักษะการอ่านให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์คล้อยตาม ๒. เครื่องหมายวรรคตอนในบทร้อยกรองที่ใช้ในการแบ่งวรรคตอนในการอ่านได้แก่เครื่องหมายใด และเครื่องหมายนั้นแสดงถึงอะไร จงอธิบาย ตอบ เครื่องหมายวรรคตอนในบทร้อยกรองที่ใช้ในการแบ่งวรรคตอนในการอ่าน คือ เครื่องหมาย / (ทับ) - เครื่องหมาย / หมายถึง การหยุดเว้นจังหวะสั้น ๆ ๆ - เครื่องหมาย // หมายถึง การหยุดเว้นช่วงจังหวะยาวกว่าเครื่องหมาย/ / ๓. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองสามารถอ่านได้ ๒ แบบ ได้แก่อะไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ สามารถอ่านออกเสียงได้ ๒ แบบ คือ ๑) การอ่านออกเสียงธรรมดา ตามฉันทลักษณ์ของ ง บทร้อยกรองประเภทนั้น ๆ ถือเป็นการที่เหมือนการอ่านร้อยแก้วแต่มีจังหวะวรรคตอน มีการเน้นสัมผัส ตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์แต่ละชนิด ๒) การอ่านออกเสียงทำนองเสนาะ เป็นการอ่านมีสำเนียงเสียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้น เป็นทำนอง มีการเอื้อนเสียง เน้นสัมผัสตามจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองที่แตกต่างไปตามลักษณะของคำประพันธ์ แต่ละชนิด ให้มีความไพเราะ ๔. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองอ่านประเภทโคลงอ่านได้อย่างไร จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง ประกอบ ตอบ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลง อ่านเป็น วรรคหน้า 2/3 วรรคหลัง 2/2 ยกตัวอย่าง เสียงลือ/เสียงเล่าอ้าง// อันใด/พี่เอย// เสียงย่อม/ยอยศใคร// ทั่วหล้า// เป็นต้น


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ โคลงโลกนิติ เวลา ๒๐ ชั่วโมง เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย (คำพ้อง) เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวชลธิชา ต่ออำนาจ โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร วันที่สอน ๑๓ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๒ วันที่สอน ๑๓ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๑ วันที่สอน ๑๔ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๘ วันที่สอน ๑๕ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๔ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ม.๑/๒ สร้างคำในภาษาไทย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนอธิบายลักษณะของคำพ้องแต่ละชนิดได้ (K) ๒.๒ นักเรียนจำแนกคำพ้องได้อย่างถูกต้อง (P) ๒.๓ นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนและการทำกิจกรรม (A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓.๑ มีวินัย ๓.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๓.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๔. สมรรถนะสำคัญ ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด


๕. สาระสำคัญ คำพ้อง คือ คำที่มีความเหมือนกัน โดยแบ่งออกเป็น คำพ้องเสียงเป็นคำที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน เขียนต่างกัน คำพ้องรูปซึ่งเขียนเหมือนกัน อ่านออกเสียงต่างกัน คำพ้องรูปพ้องเสียงเป็นคำที่เขียนเหมือนกัน และอ่านออกเสียงเหมือนกัน คำพ้องทั้ง ๓ ประเภทนี้มีความหมายแตกต่างกัน การจะเข้าใจความหม าย ของคำพ้องต้องพิจารณาบริบทแวดล้อมจึงจะทราบความหมายอย่างถูกต้อง ส่วนคำพ้องความหมายหรือ คำไวพจน์เป็นคำที่เขียนต่างกัน อ่านออกเสียงต่างกัน แต่มีความหมายเหมือนกัน การนำคำไปใช้ต้องเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับบริบท คำพ้องเป็นการสร้างคำในภาษาไทยที่ช่วยให้เรามีคำในภาษาไทยใช้มากขึ้น ๖. สาระการเรียนรู้ คำพ้อง ๗. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงานเรื่อง คำพ้อง ๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง การอ่านบทอาขยานทำนองเสนาะโคลงโลกนิติในคาบเรียนที่ผ่านมา นักเรียนร่วมกันสังเกตแถบข้อความบนหน้ากระดานดังต่อไปนี้น้องไปเล่นน้ำที่สระหลังบ้าน, แก้วยืนท่องสระ ในภาษาไทย, ต้นกำลังอาบน้ำสระผม ให้นักเรียนอ่านข้อความดังกล่าวพร้อมทั้งสังเกตคำที่ขีดเส้นใต้ นักเรียน ร่วมกันตอบคำถามว่าคำที่ขีดเส้นใต้นั้นมีการเขียนเหมือนกันและออกเสียงเหมือนกัน หรือมีความหมายเหมือน หรือต่างกันอย่างไร (คำตอบเป็นไปตามความคิดเห็นของผู้เรียน) จากนั้นนักเรียนรับฟังการกล่าวเชื่อมโยงเข้าสู่ บทเรียนเรื่อง คำพ้อง เนื่องจากคำว่า สระ ในข้อความทั้ง ๓ ข้อความนั้น มีรูปเขียนที่เหมือนกัน มี ๒ ข้อความ ที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน จึงเรียกว่า คำพ้อง นักเรียนรับทราบจุดประสงค์การเรียนรู้ดังนี้ นักเรียนสามารถ อธิบายลักษณะคำพ้องแต่ละชนิดได้ และนักเรียนต้องสามารถเขียนและใช้คำพ้องได้อย่างถูกต้อง ขั้นสอน ขั้นสังเกตและตระหนัก ๘.๑ นักเรียนร่วมกันสังเกตแถบข้อความและลองอ่านข้อความดังต่อไปนี้ (แถบข้อความ) ในวนอุทยานแห่งชาติมีแหล่งน้ำวน (คำพ้องรูป) เขาพิศดูดอกไม้มีพิษอย่างระมัดระวัง (คำพ้องเสียง) แม่สวมผ้ามัดหมี่ทำเส้นหมี่ (คำพ้องรูปพ้องเสียง) การสดับหรือฟังมากทำให้เป็นผู้รู้ (คำพ้องความหมาย)


เมื่อนักเรียนลองอ่านข้อความข้างต้นทั้งหมดแล้ว นักเรียนรับฟังและอ่านข้อความดังกล่าวตามครู อีกครั้ง พร้อมทั้งสังเกตคำที่ครูขีดเส้นใต้บนข้อความแล้วลองอ่านออกเสียงคำเหล่านั้น จากนั้นนักเรียนร่วมกัน ตอบคำถามว่าข้อความเหล่านั้นเป็นคำพ้องชนิดใด ขั้นวางแผนปฏิบัติ ๘.๒ นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง คำพ้อง โดยศึกษาความหมายและชนิดของคำพ้อง ซึ่งคำพ้อง หมายถึง คำที่มีความเหมือนกัน ชนิดของคำพ้องแบ่งออกเป็น คำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำพ้องรูปพ้องเสียง และคำพ้องความหมายหรือคำไวพจน์ศึกษาเนื้อหาลักษณะของคำพ้องแต่ละชนิด และตัวอย่างของคำพ้อง แต่ละชนิด ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ขั้นลงมือปฏิบัติ ๘.๓ นักเรียนสังเกตบัตรภาพที่ติดบนกระดาน หากนักเรียนคนใดสามารถตอบคำถามในแต่ละข้อได้ ให้ออกมาเขียนบนกระดานถ้าตอบคำถามได้ถูกต้องจะได้รับคะแนนพิเศษจาก ตัวอย่างบัตรภาพ และคำถาม ดังนี้ คำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำพ้องทั้งรูปและเสียง จากภาพเป็นคำพ้องทั้งรูปและเสียง คือ คำว่า กา ซึ่งมีความหมายดังนี้ (๑) ชื่อนกมีขนสีดำ ร้องกา ๆ (๒) ภาชนะสำหรับใส่น้ำหรือต้มน้ำ มีพวยและหู สำหรับหิ้วหรือจับ (๓) ทำเครื่องหมายเป็นรูปกากบาท จากภาพเป็นคำพ้องเสียง ซึ่งภาพดังกล่าวเขียน ได้ว่า ดอกพุด และคำพ้องเสียงคำว่า พุด มีดังนี้ พุด - ดอกไม้ (ดอกพุด) พุธ - วันที่สี่ของสัปดาห์ พุทธ - พระพุทธเจ้า, พระพุทธรูป จากภาพเป็นคำพ้องรูป ซึ่งภาพดังกล่าว คือ คำว่า จอกแหน อ่านว่า จอก - แหฺน (หน + แ-) เป็นคำนาม หมายถึง ชื่อไม้ล้มลุก ชนิดหนึ่ง ซึ่งพ้องรูปกับคำว่า หวงแหน อ่านว่า หวง - แหนฺ (ห + แ- + น) เป็นคำกริยา หมายถึง หวง เฝ้าระวัง ใช้คู่กับคำอื่นเป็น หวงแหน เฝ้าแหน แห่แหน


คำพ้องความหมาย ขั้นพัฒนาความรู้ความเข้าใจ ๘.๔ นักเรียนแบ่งกลุ่มให้มีจำนวนสมาชิกเท่ากัน คละตามความสามารถ ร่วมทำกิจกรรม “ปาร์ตี้ หมูกระทะคำพ้อง” ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรับฟังกติกาในการทำกิจกรรมดังนี้ แต่ละกลุ่มจะได้รับถาดกระทะ สำหรับใส่คำพ้อง เป็นคำพ้อง ๑ ชนิด (คำพ้องรูป คำพ้องเสียง หรือคำพ้องทั้งรูปและเสียง) โดยจะมี บัตรคำพ้องกระจายอยู่บนโต๊ะหน้ากะดาน ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาหยิบคำพ้องที่ตรงกับชนิดคำพ้อง ที่กลุ่มตนได้รับไปเติมคำลงในกระทะคำพ้องให้ครบถ้วน กลุ่มใดทำเวลาได้รวดเร็วและคำพ้องถูกต้องจะได้รับ รางวัล จากนั้นนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่องคำพ้องจากกิจกรรม “ปาร์ตี้หมูกระทะคำพ้อง” นักเรียนออกมา รับใบงานเรื่อง คำพ้อง รับฟังคำชี้แจงในการทำใบงานให้เข้าใจและลงมือทำใบงานเรื่อง คำพ้อง ขั้นสรุป นักเรียนและครูสรุปความรู้เรื่อง คำพ้อง ได้ว่า คำพ้อง เป็นคำที่เหมือนกัน แบ่งออกเป็น ๔ ชนิด ได้แก่ คำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำพ้องรูปพ้องเสียง และคำพ้องความหมาย ซึ่งคำพ้องแต่ละชนิดนั้นมีลักษณะ ที่เหมือนและแตกต่างกัน กล่าวคือ คำพ้องรูป เป็นคำที่เขียนเหมือนกัน แต่มีการอ่านออกเสียงคำและ ความหมายต่างกัน คำพ้องเสียง เป็นคำที่อ่านออกเสียงคำเหมือนกัน แต่มีการเขียนและความหมายต่างกัน คำพ้องรูปพ้องเสียง เป็นคำที่มีทั้งการเขียนและการอ่านออกเสียงคำเหมือนกัน แต่มีความหมายต่างกัน ส่วนคำพ้องความหมายหรือคำไวพจน์นั้น มีความหมายเหมือนกัน แต่การเขียนและอ่านคำแตกต่างกัน ประโยชน์หรือความสำคัญของคำพ้องนั้นทำให้เรามีคำในภาษาไทยใช้มากขึ้นและหลากหลาย นักเรียน ต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อนำความรู้เรื่อง คำพ้อง ไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๙. การจัดบรรยากาศเชิงบวก จัดบรรยากาศเสริมแรงทางสังคม เช่น การทักทาย การยิ้มแย้ม การกล่าวชมเชย และปรบมือ ให้กำลังใจแก่นักเรียน สร้างแรงจูงใจในการเรียนและการทำกิจกรรม เป็นต้น ๑๐. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑๐.๑ ใบความรู้เรื่อง คำพ้อง ๑๐.๒ แถบข้อความคำพ้อง ๑๐.๓ บัตรภาพคำพ้อง ๑๐.๔ สื่อประกอบการสอนกิจกรรม “ปาร์ตี้หมูกระทะคำพ้อง” จากภาพเป็นภาพของดวงจันทร์ ซึ่งดวงจันทร์มีคำพ้องความหมาย หรือเรียกว่าคำไวพจน์ ดังนี้ ดวงจันทร์ โสม รัชนีกร แข บุหลัน นิศากร ศศิธร


๑๑. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือในการวัด เกณฑ์การประเมินผล ๑. นักเรียนอธิบายลักษณะ ของคำพ้องแต่ละชนิดได้ (K) ตรวจสมุดบันทึกและ หรือสังเกตพฤติกรรม การตอบคำถาม สมุดบันทึกและหรือ แบบสังเกตพฤติกรรม การตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ๒. นักเรียนจำแนกคำพ้อง ได้อย่างถูกต้อง (P) ตรวจใบงาน เรื่อง คำพ้อง ใบงาน เรื่อง คำพ้อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ๓. นักเรียนกระตือรือร้นใน การเรียนและการทำกิจกรรม (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐


เกณฑ์การให้คะแนนสมุดบันทึก เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ (ผ่านเกณฑ์ ๕ คะแนน ขึ้นไป) แบบสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน ความถูกต้อง ตรงประเด็น ในการตอบคำถาม การมีส่วนร่วม ในการตอบคำถาม ความคล่องแคล่วรวดเร็ว ในการตอบคำถาม ความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม รวม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑๐ ผ มผ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้องครบถ้วน ของเนื้อหาสาระ เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ได้ถูกต้องครบถ้วน เป็นอย่างดี เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ได้ถูกต้อง ค่อนข้าง ครบถ้วน เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ถูกต้องบางส่วน และไม่มี ความครบถ้วน ๒. ความเรียบร้อยของงาน คะแนนเต็ม ๒ คะแนน ทำงานเป็นระเบียบ เรียบร้อยเป็นอย่างดี ทำงานเป็นระเบียบแต่ยัง มีบางส่วนไม่เรียบร้อย ๓. ความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความรับผิดชอบในการ ทำงาน ส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ความรับผิดชอบ บกพร่อง ส่งงานล่าช้า เกินกำหนด ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการตอบคำถาม เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้อง ตรงประเด็น ในการตอบคำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตรงประเด็น และอธิบาย คำตอบชัดเจน ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตรงประเด็น แต่อธิบาย คำตอบได้ไม่ชัดเจน ตอบคำถามได้ถูกต้อง บางส่วน ๒. การมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามอย่างสม่ำเสมอ มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามบ่อยครั้ง มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามน้อยครั้ง ๓. ความคล่องแคล่วรวดเร็ว ในการตอบคำถาม คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว สามารถ ตอบคำถามได้ทันที มีการใช้เวลาไม่สามารถ ตอบคำถามได้ทันที ๔. ความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม อย่างมั่นใจ เสียงดัง ชัดเจน มีความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม แต่มีความไม่มั่นใจ


แบบประเมินใบงาน เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม สรุปผลการ ประเมิน ความถูกต้อง ความครบถ้วน สมบูรณ์ของงาน ความ เรียบร้อย ของงาน (๔ คะแนน) (๔ คะแนน) (๒ คะแนน) (๑๐คะแนน) ผ่าน ไม่ผ่าน คำชี้แจง กรอกคะแนนลงในช่องรายการประเมินของนักเรียนที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินใบงาน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๔ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้อง เขียนและใช้คำพ้อง ได้อย่างถูกต้อง ทุกข้อ เขียนและใช้คำพ้อง ได้ถูกต้องร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป เขียนและใช้คำพ้อง ได้ถูกต้องร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป เขียนและใช้คำพ้อง ได้ถูกต้องต่ำกว่า ร้อยละ ๕๐ ๒. ความครบถ้วน สมบูรณ์ของงาน งานมีความครบถ้วน สมบูรณ์ทุกข้อเป็น อย่างดี งานมีความครบถ้วน แต่ยังไม่สมบูรณ์ ในบางส่วน งานค่อนข้างครบถ้วน แต่ไม่สมบูรณ์ ค่อนข้างมาก งานไม่มีความ ครบถ้วนและ ไม่สมบูรณ์เลย ๓. ความเรียบร้อย ของงาน คะแนนเต็ม ๒ คะแนน งานมีความเรียบร้อย เป็นระเบียบ มีร่องรอยการลบ เพียง ๒-๔ จุด งานค่อนข้างเป็น ระเบียบ มีร่องรอย การลบมากกว่า ๕ จุดขึ้นไป เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน)


แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด มีความรับผิดชอบ ในการทำงาน การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม กระตือรือร้นในการทำ กิจกรรม รวม ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑๐ ผ มผ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมนักเรียน เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๐ คะแนน ๑. สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ แสดงความสนใจในเนื้อหา และกิจกรรมเป็นอย่างดี ค่อนข้างแสดงความ สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรม ไม่สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรมใดเลย ๒. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เคารพและตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด ไม่หยอกล้อกัน เคารพและตั้งใจในการ ฟัง การดู และการพูด แต่มีพูดคุย หยอกล้อกัน เป็นบางครั้ง ไม่ตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด พูดคุย หยอกล้อเล่นกัน ก่อความวุ่นวาย ๓. มีความรับผิดชอบในการทำงาน ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์และส่งงาน ตรงเวลา ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์แต่ส่งงาน ล่าช้า ทำงานไม่เรียบร้อย หรือไม่มีงานส่งเลย ๔. การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตรงตามประเด็นที่กำหนด มีการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตามประเด็นที่กำหนด เล็กน้อย มีการใช้ถ้อยคำ ค่อนข้างเหมาะสม ไม่มีการพูดแสดง ความคิดเห็นใดเลย ๕. กระตือรือร้นในการทำกิจกรรม มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นอย่างดี มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นบาง กิจกรรม ไม่มีความกระตือรือร้น และให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมใดเลย


ภาพประกอบแถบข้อความคำพ้อง สื่อประกอบการสอนกิจกรรม “ปาร์ตี้หมูกระทะคำพ้อง”


ภาพประกอบบัตรภาพคำพ้อง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ โคลงโลกนิติ เวลา ๒๐ ชั่วโมง เรื่อง คำพ้องรูป พ้องเสียง และพ้องทั้งรูปทั้งเสียง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวชลธิชา ต่ออำนาจ โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร วันที่สอน ๑๔ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๒ วันที่สอน ๑๕ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๘ วันที่สอน ๑๖ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๑ วันที่สอน ๑๗ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ห้อง ม.๑/๔ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ม.๑/๒ สร้างคำในภาษาไทย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนบอกลักษณะของคำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำพ้องทั้งรูปและเสียงได้ (K) ๒.๒ นักเรียนจำแนกและใช้คำพ้องได้อย่างถูกต้อง (P) ๒.๓ นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนและการทำกิจกรรม (A) ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓.๑ มีวินัย ๓.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๓.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๔. สมรรถนะสำคัญ ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด


๕. สาระสำคัญ คำพ้อง คือ คำที่มีความเหมือนกัน โดยแบ่งออกเป็น คำพ้องเสียงเป็นคำที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน เขียนต่างกัน คำพ้องรูปซึ่งเขียนเหมือนกัน อ่านออกเสียงต่างกัน คำพ้องรูปพ้องเสียงเป็นคำที่เขียนเหมือนกัน และอ่านออกเสียงเหมือนกัน คำพ้องทั้ง ๓ ประเภทนี้มีความหมายแตกต่างกัน การจะเข้าใจความหม าย ของคำพ้องต้องพิจารณาบริบทแวดล้อมจึงจะทราบความหมายอย่างถูกต้อง ส่วนคำพ้องความหมายหรือ คำไวพจน์เป็นคำที่เขียนต่างกัน อ่านออกเสียงต่างกัน แต่มีความหมายเหมือนกัน การนำคำไปใช้ต้องเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับบริบท คำพ้องเป็นการสร้างคำในภาษาไทยที่ช่วยให้เรามีคำในภาษาไทยใช้มากขึ้น ๖. สาระการเรียนรู้ ๖.๑ คำพ้องรูป ๖.๒ คำพ้องเสียง ๖.๓ คำพ้องรูปพ้องเสียง ๗. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงานเรื่อง คำพ้อง ๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง คำพ้อง ในคาบเรียนที่แล้วได้ว่า คำพ้อง เป็นคำที่มีความเหมือนกัน อาจมีรูปเหมือนกัน เสียงเหมือนกัน หรือความหมายเหมือนกัน โดยชนิดของคำพ้องมี ๔ ชนิด แบ่งออกเป็น คำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำพ้องรูปพ้องเสียง และคำพ้องความหมาย นักเรียนรับทราบจุดประสงค์การเรียนรู้ ในวันนี้ เป็นการศึกษาเรื่องของคำพ้องรูป คำพ้องเสียง และคำพ้องรูปพ้องเสียง เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจและเกิดความแม่นยำในเรื่องของคำพ้องมากยิ่งขึ้น จากนั้นนักเรียนทุกคนทำกิจกรรมทายปริศนา ตามหาคำพ้อง กติกาคือนักเรียนทุกคนต้องรับฟังคำถามปริศนาให้จบ แล้วลองทายคำตอบว่าปริศนาดังกล่าวนี้ หมายถึงอะไรและจัดเป็นคำพ้องชนิดใด นักเรียนที่ตอบคำถามได้ถูกต้องรับคะแนนพิเศษจากการตอบคำถาม กิจกรรม “ทายปริศนาตามหาคำพ้อง” ๑. อะไรเอ่ยปักษิณขนสีดำ กา, เป็นสิ่งที่นำมาใช้ต้มน้ำ กา (คำพ้องรูปพ้องเสียง) ๒. อะไรเอ่ยสัตว์น้ำพองกลมหนามเป็นพิษ ปักเป้า, เป็นชื่อว่าวชนิดหนึ่ง ปักเป้า (คำพ้องรูป) ๓. อะไรเอ่ยเหลืองนวลบนฟากฟ้าเวลาค่ำ ดวงจันทร์, เป็นอาการประหลาดใจน่าพิศวง อัศจรรย์(คำพ้องเสียง) ๔. อะไรเอ่ยแอ่งน้ำขนาดใหญ่ สระ, เป็นเสียงในภาษาไทยมี ๒๑ รูป สระ (คำพ้องรูป) ๕. อะไรเอ่ยใช้กินอาหารคู่กับช้อน ส้อม, สิ่งของที่ชำรุดต้องรีบทำการ ซ่อมแซม (คำพ้องเสียง) ๖. อะไรเอ่ยเป็นภาชนะใช้ตักน้ำ ขัน, ใช้เรียกอาการตลกชอบใจ ขบขัน (คำพ้องรูปพ้องเสียง)


ขั้นสอน ๘.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง คำพ้อง ประกอบด้วยคำพ้องรูป ศึกษาเนื้อหาความหมายและ ลักษณะของคำพ้องรูป ตัวอย่างคำพ้องรูป คำพ้องเสียง ศึกษาเนื้อหาความหมายและลักษณะของคำพ้องเสียง ตัวอย่างคำพ้องเสียง คำพ้องรูปพ้องเสียง ศึกษาเนื้อหาความหมายและลักษณะของคำพ้องรูปพ้องเสียง ตัวอย่างคำพ้องรูปพ้องเสียง ๘.๒ นักเรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม จำนวน ๕ กลุ่ม สมาชิกในแต่ละกลุ่มต้องมีจำนวนเท่า ๆ กัน ให้นักเรียนทุกกลุ่มร่วมทำกิจกรรม “จัดดอกไม้คำพ้อง” โดยมีกติกาดังนี้ นักเรียนทุกกลุ่มจะได้รับชุดดอกไม้ กลุ่มละ ๑ ชุด ประกอบด้วยแจกันดอกไม้ ๓ แจกัน แบ่งออกเป็น แจกันดอกไม้คำพ้องรูป คำพ้องเสียง และคำพ้องรูปพ้องเสียง ตามลำดับ ดอกไม้จำนวน ๘ ดอก ซึ่งดอกไม้แต่ละดอกจะระบุคำพ้องต่างชนิดคละกัน สมาชิกในแต่ละกลุ่มต้องร่วมกันวิเคราะห์คำพ้องที่ระบุบนดอกไม้แต่ละดอกว่าจัดเป็นคำพ้องชนิดใด เพื่อจำแนกคำพ้องให้ถูกต้องตรงตามชนิดของคำพ้อง ลงในแจกันดอกไม้ นักเรียนกลุ่มใดที่จัดกลุ่มดอกไม้ คำพ้องได้ถูกต้องและรวดเร็ว ได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มจากการทำกิจกรรม เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว นักเรียนทุกคนสรุปลักษณะคำพ้องแต่ละชนิดร่วมกันอีกครั้ง พร้อมยกตัวอย่างคำพ้องแต่ละชนิดประกอบด้วย ๘.๓ นักเรียนออกมารับใบงานเรื่อง คำพ้อง นักเรียนรับฟังคำชี้แจงในการทำใบงานให้เข้าใจ จากนั้น ให้นักเรียนลงมือทำใบงานด้วยตนเอง ส่งท้ายคาบเรียน ขั้นสรุป นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง คำพ้อง ได้ว่า คำพ้อง เป็นคำที่เหมือนกัน อาจมีรูปเหมือนกัน เสียงเหมือนกัน หรือความหมายเหมือนกัน โดยคำพ้องรูป เป็นคำที่เขียนเหมือนกัน แต่มีการอ่านออกเสียงคำ และความหมายต่างกัน คำพ้องเสียง เป็นคำที่อ่านออกเสียงคำเหมือนกัน แต่มีการเขียนและความหมายต่างกัน คำพ้องรูปพ้องเสียง เป็นคำที่มีทั้งการเขียนและการอ่านออกเสียงคำเหมือนกัน แต่มีความหมายต่างกัน ดังนั้น คำพ้องจึงมีความสำคัญทำให้เรามีคำในภาษาไทยใช้มากขึ้นและหลากหลาย นักเรียนต้องศึกษาเรียนรู้ เพื่อให้สามารถนำเอาความรู้เรื่อง คำพ้อง ไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๙. การจัดบรรยากาศเชิงบวก จัดบรรยากาศเสริมแรงทางสังคม เช่น การทักทาย การยิ้มแย้ม การกล่าวชมเชย และปรบมือ ให้กำลังใจแก่นักเรียน สร้างแรงจูงใจในการเรียนและการทำกิจกรรม เป็นต้น ๑๐. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑๐.๑ ใบความรู้เรื่อง คำพ้อง ๑๐.๒ สื่อกิจกรรม จัดดอกไม้คำพ้อง


๑๑. กระบวนการวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือในการวัด เกณฑ์การประเมินผล ๑. นักเรียนอธิบายลักษณะ ของคำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำพ้องทั้งรูปและเสียงได้ (K) ตรวจสมุดบันทึกและ หรือสังเกตพฤติกรรม การตอบคำถาม สมุดบันทึกและหรือ แบบสังเกตพฤติกรรม การตอบคำถาม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ๒. นักเรียนจำแนกและ ใช้คำพ้องได้อย่างถูกต้อง (P) การทำกิจกรรม “จัดดอกไม้คำพ้อง” และหรือตรวจใบงาน เรื่อง คำพ้อง กิจกรรม “จัดดอกไม้ คำพ้อง” และหรือ ใบงานเรื่อง คำพ้อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ๓. นักเรียนกระตือรือร้นใน การเรียนและการทำกิจกรรม (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐


เกณฑ์การให้คะแนนสมุดบันทึก เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์ (ผ่านเกณฑ์ ๕ คะแนน ขึ้นไป) แบบสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน ความถูกต้อง ตรงประเด็น ในการตอบคำถาม การมีส่วนร่วม ในการตอบคำถาม ความคล่องแคล่วรวดเร็ว ในการตอบคำถาม ความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม รวม ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๑๐ ผ มผ รายการประเมิน ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้องครบถ้วน ของเนื้อหาสาระ เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ได้ถูกต้องครบถ้วน เป็นอย่างดี เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ได้ถูกต้อง ค่อนข้าง ครบถ้วน เขียนบันทึกเนื้อหาสาระ ถูกต้องบางส่วน และไม่มี ความครบถ้วน ๒. ความเรียบร้อยของงาน คะแนนเต็ม ๒ คะแนน ทำงานเป็นระเบียบ เรียบร้อยเป็นอย่างดี ทำงานเป็นระเบียบแต่ยัง มีบางส่วนไม่เรียบร้อย ๓. ความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความรับผิดชอบในการ ทำงาน ส่งงานตรงตาม เวลาที่กำหนด ความรับผิดชอบ บกพร่อง ส่งงานล่าช้า เกินกำหนด ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการตอบคำถาม เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้อง ตรงประเด็น ในการตอบคำถาม ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตรงประเด็น และอธิบาย คำตอบชัดเจน ตอบคำถามได้ถูกต้อง ตรงประเด็น แต่อธิบาย คำตอบได้ไม่ชัดเจน ตอบคำถามได้ถูกต้อง บางส่วน ๒. การมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามอย่างสม่ำเสมอ มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามบ่อยครั้ง มีส่วนร่วมในการตอบ คำถามน้อยครั้ง ๓. ความคล่องแคล่วรวดเร็ว ในการตอบคำถาม คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว สามารถ ตอบคำถามได้ทันที มีการใช้เวลาไม่สามารถ ตอบคำถามได้ทันที ๔. ความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม คะแนนเต็ม ๒ คะแนน มีความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม อย่างมั่นใจ เสียงดัง ชัดเจน มีความกล้าแสดงออก ในการตอบคำถาม แต่มีความไม่มั่นใจ


แบบประเมินใบงาน เลขที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม สรุปผลการ ประเมิน ความถูกต้อง ความครบถ้วน สมบูรณ์ของงาน ความ เรียบร้อย ของงาน (๔ คะแนน) (๔ คะแนน) (๒ คะแนน) (๑๐คะแนน) ผ่าน ไม่ผ่าน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ………… คำชี้แจง กรอกคะแนนลงในช่องรายการประเมินของนักเรียนที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน)


เกณฑ์การประเมินใบงาน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๔ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๑. ความถูกต้อง เขียนและใช้คำพ้อง ได้อย่างถูกต้อง ทุกข้อ เขียนและใช้คำพ้อง ได้ถูกต้องร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป เขียนและใช้คำพ้อง ได้ถูกต้องร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป เขียนและใช้คำพ้อง ได้ถูกต้องต่ำกว่า ร้อยละ ๕๐ ๒. ความครบถ้วน สมบูรณ์ของงาน งานมีความครบถ้วน สมบูรณ์ทุกข้อเป็น อย่างดี งานมีความครบถ้วน แต่ยังไม่สมบูรณ์ ในบางส่วน งานค่อนข้างครบถ้วน แต่ไม่สมบูรณ์ ค่อนข้างมาก งานไม่มีความ ครบถ้วนและ ไม่สมบูรณ์เลย ๓. ความเรียบร้อย ของงาน คะแนนเต็ม ๒ คะแนน งานมีความเรียบร้อย เป็นระเบียบ มีร่องรอยการลบ เพียง ๒-๔ จุด งานค่อนข้างเป็น ระเบียบ มีร่องรอย การลบมากกว่า ๕ จุดขึ้นไป เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน)


แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด (ผ่านเกณฑ์๗ คะแนน) เลขที่ ชื่อ –สกุล รายการสังเกต สรุปผลผลการประเมิน ผ่าน/ไม่ผ่าน สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด มีความรับผิดชอบ ในการทำงาน การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม กระตือรือร้นในการทำ กิจกรรม รวม ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑๐ ผ มผ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่……….เดือน………….พ.ศ…………


เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมนักเรียน เกณฑ์การประเมิน ๙-๑๐ คะแนน ระดับ ดีมาก ๗-๘ คะแนน ระดับ ดี ๕-๖ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐-๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีขึ้นไป (ผ่านเกณฑ์ ๗ คะแนน) รายการประเมิน ระดับคะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน ๐ คะแนน ๑. สนใจเนื้อหาและกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ แสดงความสนใจในเนื้อหา และกิจกรรมเป็นอย่างดี ค่อนข้างแสดงความ สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรม ไม่สนใจในเนื้อหาและ กิจกรรมใดเลย ๒. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เคารพและตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด ไม่หยอกล้อกัน เคารพและตั้งใจในการ ฟัง การดู และการพูด แต่มีพูดคุย หยอกล้อกัน เป็นบางครั้ง ไม่ตั้งใจในการฟัง การดู และการพูด พูดคุย หยอกล้อเล่นกัน ก่อความวุ่นวาย ๓. มีความรับผิดชอบในการทำงาน ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์และส่งงาน ตรงเวลา ทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จสมบูรณ์แต่ส่งงาน ล่าช้า ทำงานไม่เรียบร้อย หรือไม่มีงานส่งเลย ๔. การพูดแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตรงตามประเด็นที่กำหนด มีการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม พูดแสดงความคิดเห็น ตามประเด็นที่กำหนด เล็กน้อย มีการใช้ถ้อยคำ ค่อนข้างเหมาะสม ไม่มีการพูดแสดงความ คิดเห็นใดเลย ๕. กระตือรือร้นในการทำกิจกรรม มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นอย่างดี มีความกระตือรือร้นและ ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรมเป็นบาง กิจกรรม ไม่มีความกระตือรือร้น และให้ความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมใดเลย


ใบความรู้ เรื่อง คำพ้อง คำพ้อง หมายถึง คําที่มีความเหมือนกัน อาจเป็นคำที่เขียนรูปเหมือนกัน เสียงตรงกัน หรือมีทั้งรูปและเสียง เหมือนกัน แต่มีความหมายต่างกัน ซึ่งเวลาอ่านต้องอาศัยการสังเกตพิจารณาเนื้อความของคำที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย แบ่งออกเป็นดังนี้ คือ คำที่เขียนเหมือนกัน ออกเสียงต่างกันและความหมายก็ต่างกัน การอ่านคำพ้องรูปให้ถูกต้องควรดูข้อความอื่น ๆ ประกอบด้วยว่าคำพ้องรูปนั้นหมายถึงอะไรแล้วจึงอ่านให้ถูก ตัวอย่าง ในเพลานี้ฉันว่าควรจะเพลา ๆ เรื่องการทะเลาะกันได้แล้ว - เพลา (เพ-ลา) คำแรกเป็นคำนาม หมายถึง กาล, คราว - เพลา (เพลา) คำที่สองเป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เบาลง ตัวอย่างคำพ้องรูป คำ อ่านว่า ความหมาย ครุ คฺรุ ภาชนะสานชนิดหนึ่ง คะ-รุ หนัก, ครู, หนึ่ง พยาธิ พะ-ยา-ธิ ความเจ็บไข้ พะ-ยาด ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชนิดหนึ่ง สระ สะ แอ่งน้ำขนาดใหญ่, ชำระล้าง สะ-หระ อักษรแทนเสียงสระ แหน แหฺน (จอกแหน) พืชชนิดหนึ่งใบเล็กๆ สีเขียว แหนฺ (หวงแหน) หวง, เฝ้าระวัง กรี กะ-รี ช้าง กฺรี โครงแข็งแหลมที่หัวกุ้ง เสมา เส-มา รูปเครื่องหมายบอกเขตโบสถ์ สะ-เหมฺา ต้นหญ้าชนิดหนึ่ง แขม แขมฺ ชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่ง ขะ-แม คนเขมร ปักเป้า ปัก-กะ-เป้า ชื่อปลาชนิดหนึ่ง ผิวหนังมีหนามเป็นพิษ ปัก-เป้า ชื่อว่าวจะชนิดหนึ่ง ตนุ ตะ-นุ ตัว ตน, ฉัน, ข้าพเจ้า ตะ-หนุ ชื่อเต่าทะเลชนิดหนึ่ง สมาธิ สะ-มา-ทิ การสำรวมใจแน่วแน่ สะ-หมาด ท่านั่งขัดสมาธิ คำพ้องรูป


ตัวอย่างคำพ้องรูป (ต่อ) คำ อ่านว่า ความหมาย ปรัก ปฺรัก เงิน ปะ-หรัก หัก, พัง ปริ ปะ-ริ เป็นอุปสรรคในภาษาบาลีและสันสกฤต ใช้นำหน้า คำศัพท์อื่นแปลว่า รอบ เช่น ปริมณฑล ปฺริ แย้ม, ผลิ, แตกแต่น้อย วน วน ไปโดยรอบเข้าหาศูนย์กลาง วะ-นะ ป่าไม้ ดง พลี พะ-ลี การบวงสรวง, การบูชา, เครื่องบวงสรวง พฺลี เสียสละ ผิว ผิ-วะ ถ้าว่า, หากว่า, แม้นว่า ผิว ส่วนที่มีลักษณะบาง ๆ เป็นพื้นหุ้มอยู่ภายนอกสุดของ หนังและเปลือก คือ คำที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่รูปเขียนต่างกันและความหมายต่างกัน ตัวอย่าง เขาเอาน้ำที่ใช้ล้างรถไปรดน้ำต้นไม้ - รถ คำแรกเป็นคำนาม หมายถึง ยานพาหนะ - รด คำที่สองเป็นคำกริยา หมายถึง เท ราด หรือสาดน้ำ ตัวอย่างคำพ้องเสียง คำ อ่านว่า ความหมาย จัน จัน ต้นไม้ชนิดหนึ่ง จรรย์ คำนี้เราจะใช้เขียนคือ มหัศจรรย์ อัฒจรรย์ จันทร์ ดวงเดือน, ชื่อวันที่ ๒ ของสัปดาห์ จันทน์ ชื่อพรรณไม้ ใช้ทำยาและปรุงเครื่องหอม จัณฑ์ ใช้เรียกสุราหรือเมรัยว่า น้ำจัณฑ์ ฆ่า ค่า ทำให้ตาย, ทำให้สิ้นไป ค่า คุณประโยชน์, มูลค่าหรือราคาของสิ่งใด ๆ ข้า ฉัน, คน, ข้าพเจ้า, คนรับใช้ โจทย์ โจด คำถามในวิชาคณิตศาสตร์, ปัญหา โจษ เล่าลือ, กล่าวขาน โจทก์ ผู้กล่าวหา, ผู้ฟ้อง คำพ้องเสียง


ตัวอย่างคำพ้องเสียง (ต่อ) คำ อ่านว่า ความหมาย บาด บาด ทำให้เกิดเป็นแผล บาท เท้า, เงิน, ส่วนหนึ่งของบทประพันธ์ บาศก์ ลูกเต๋า, ลูกสกา, ใช้ว่า ลูกบาศก์ บาตร ภาชนะรับอาหารของพระภิกษุสามเณร กาล กาน เวลา กานต์ เป็นที่รัก การณ์ เหตุ เค้า มูล การ งาน สิ่งหรือเรื่องที่ทำ พันธุ์ พัน พวกพ้อง, เชื้อสาย พรรณ สีของผิว, ชนิด พัน จำนวน ๑๐ ร้อย, มัดโดยรอบหรือเกี่ยวข้องกัน สรร สัน คัด, เลือก สรรค์ สร้าง สัน สิ่งที่มีลักษณะนูนสูงขึ้นเป็นแนวยาว พุด พุด ชื่อไม้ดอก พุทธ พระพุทธเจ้า พุธ ชื่อดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง, วันที่ ๔ ของสัปดาห์ ทาส ทาด ผู้อุทิศตนแก่สิ่งที่เลื่อมใสศรัทธา หรือบ่าวทั่วไป, ผู้ที่ขายตัว หรือถูกบังคับลงเป็นคนรับใช้ ธาตุ สิ่งที่เชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญที่ประกอบกันเป็นร่าง ของสิ่งทั้งหลาย สัจ สัด ความจริง, ความจริงใจ สัตว์ สิ่งมีชีวิต, สัตว์เลี้ยง สัตย์ วาจาสัตย์, มักใช้เข้าคู่กับคำอื่น เช่น ซื่อสัตย์ ส้อม ส้อม เครื่องใช้จิ้มอาหารกิน, ใช้คู่กับช้อน ซ่อม ทำสิ่งที่เสีย หรือชำรุดให้กลับใช้การได้ คำพ้องทั้งรูปและเสียง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คำหลายความหมาย ซึ่งหมายถึง คำที่มีรูปเหมือนกัน อ่านออกเสียง อย่างเดียวกัน เเต่มีความหมายหลายอย่างขึ้นอยู่กับบริบทในประโยค ตัวอย่าง ตาเตือนฉันวาไม่ควรเอามือขยี้ตาจะทำให้เป็นโรคตาแดง ตา คำแรกเป็นคำนาม หมายถึง ญาติผู้ใหญ่ ตา คำที่สองเป็นคำนาม หมายถึง อวัยวะที่ใช้ในการดู ตา คำที่สาม หมายถึง โรคชนิดหนึ่ง คำพ้องรูปและเสียง


ตัวอย่างคำพ้องรูปและเสียง คำว่า “ขัน” อ่านว่า ขัน หมายถึง ๑) ภาชนะสำหรับตักหรือใส่น้ำ ๒) ทำให้ตึงหรือแน่นด้วยวิธีหมุนเข้าใป เช่น ขันนอต ๓) อาการร้องเป็นเสียงอย่างหนึ่งของไก่ ๔) หัวเราะ รู้สึกตลก คำว่า “แกะ” อ่านว่า แกะ หมายถึง ๑) ชื่อสัตว์ ๔ เท้า ประเภทหนึ่ง ๒) เอาเล็บมือค่อย ๆ แกะเพื่อให้หลุดออก คำว่า “เงาะ” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) คนป่าพวกหนึ่ง รูปร่างเตี้ย ตัวดำ ผมหยิก ๒) ชื่อผลไม้ชนิดหนึ่ง คำว่า “กา” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) ชื่อนกมีขนสีดำ ร้องกา ๆ ๒) ภาชนะสำหรับใส่น้ำหรือต้มน้ำมีพวยและหูสำหรับหิ้วหรือจับ ๓) ทำเครื่องหมายเป็นรูปกากบาท คำว่า “มัน” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) ชื่อเรียกไม้เถาหรือไม้ต้นที่ใช้หัวเป็นอาหารได้ ๒) เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่งในคน สัตว์มีลักษณะนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ มีไขมันอยู่ในตัว ๓) คำที่เราใช้แทนผู้ที่เราพูดถึง คำว่า “เขา” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) เนินที่นูนสูงขึ้นเป็นจอมเด่น ๒) สิ่งที่งอกออกมาจากหัวสัตว์บางพวก มีลักษณะแข็ง ๓) ชื่อนกชนิดหนึ่ง ๔) คำที่ใช้แทนผู้ที่เราพูดถึง คำว่า “ฉัน” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) คำที่ใช้แทนผู้พูด ๒) กิน ใช้กับภิกษุสามเณร ๓) มีความหมายว่า เช่น, อย่าง คำว่า “กัน” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) โกนให้เสมอกัน ๒) ฉัน, ข้าพเจ้า คำว่า “ฟัน” อ่านว่า เงาะ หมายถึง ๑) เอาของมีคม เช่น ดาบฟาดลงไป ๒) กระดูกเป็นซี่ๆ อยู่ในปากสำหรับกัด ฉีก หรือเคี้ยวอาหาร


สื่อกิจกรรม จัดดอกไม้คำพ้อง


Click to View FlipBook Version