The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่ม-แผนการสอนเทคโนโลยีฯ ม.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s.aekapop, 2021-11-30 09:09:09

รวมเล่ม-แผนการสอนเทคโนโลยีฯ ม.3

รวมเล่ม-แผนการสอนเทคโนโลยีฯ ม.3

บันทึกขอ้ ความ

ส่วนราชการ โรงเรียนบา้ นหนิ ดาด อ.แมว่ งก์ จ.นครสวรรค์
ท่ี........................วันท่ี ............................................................
เรื่อง ขออนมุ ัตใิ ช้แผนการจัดการเรยี นรู้

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนิ ดาด

ตามทขี่ า้ พเจ้าวา่ ทร่ี ้อยตรเี อกภพ สดุ สะอาด ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไดร้ ับมอบหมายให้ปฏบิ ตั ิงานสอนในระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 รายวชิ า คอมพวิ เตอร์ จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ในภาค
เรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 นั้น

ขา้ พเจ้าไดว้ เิ คราะหต์ ัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ คำอธบิ ายรายวิชา โครงสร้างรายวชิ า เพื่อจัดทำแผนการจดั การ
เรยี นรู้ ซง่ึ สอดคล้องกับหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านหินดาด ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
พทุ ธศักราช 2551 โดยจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั เพ่ือทจี่ ะได้นำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้
และพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นให้บรรลุเป้าหมายของหลกั สูตรฯ ตอ่ ไป

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .................................................
( เอกภพ สุดสะอาด )
......................................................................................... ตำแหน่ง ครู
.........................................................................................
ความเห็นของหัวหน้าฝา่ ยบรหิ ารงานวชิ าการ

.........................................................................................
.........................................................................................

ลงชื่อ ............................................................ ลงชือ่ ............................................................

( ......................................................) ( ......................................................)

ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน

.........................................................................................
.........................................................................................

ลงช่อื ............................................................
(นางปณุ ยวีร์ โพธิ)

รายวชิ าเพิม่ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

คำอธิบายรายวิชา

รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง/ปี

อธบิ ายหลกั การทำโครงงานท่ีมีการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ และใชค้ อมพิวเตอร์ชว่ ยสร้างชน้ิ งานจากจินตนาการหรืองาน
ทที่ ำในชีวิตประจำวัน ตามหลักการทำโครงงานอย่างมจี ิตสำนกึ และความรับผิดชอบ พร้อมทัง้ สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
เพอ่ื นำเสนองานในรูปแบบท่ีเหมาะสมกับลักษณะงาน และมีทกั ษะการเขยี นโปรแกรมภาษาพน้ื ฐาน

โดยใชก้ ระบวนการการทำงาน กระบวนการสืบคน้ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความ
เข้าใจ เห็นคณุ ค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื ค้นข้อมูล การเรียนรู้ การส่อื สาร การแกป้ ญั หา และการ
ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธผิ ล และมีคณุ ธรรม

ตวั ชี้วดั ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
ง 3.1

รวม 4 ตวั ช้ีวดั

รายวิชาเพ่มิ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

โครงสรา้ งรายวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ม. 3

ลำดับที่ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
เรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน

1 หลกั การทำโครงงาน ง 3.1 ม.3/1 การทำโครงงานท่ีมกี ารใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 10 25
ตอ้ งทำอย่างเปน็ ขั้นตอนและนำเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์ ม.3/4 สารสนเทศมาใชใ้ นการดำเนนิ การ การใช้ 25
คอมพวิ เตอร์ช่วยสรา้ งช้ินงาน ผู้สรา้ งต้อง
30
สรา้ งงานตามหลักการทำโครงงาน มกี ารอ้างอิง
แหล่งข้อมูล ใช้ทรพั ยากรอย่างคมุ้ ค่า ไม่คดั ลอกงาน 20
ผู้อืน่ และไมส่ รา้ งความเสียหายตอ่ ผู้อืน่

2 การเขยี นโปรแกรม (1) ง 3.1 ม. 3/2 การเขียนโปรแกรมใหท้ ำงานไดด้ ีมปี ระสทิ ธภิ าพนั้น 10
จะต้องมีการวางแผนและการออกแบบโปรแกรม
ดงั นน้ั การออกแบบโครงสรา้ งโปรแกรมจึงถอื ได้ว่า
เปน็ ส่วนสำคญั ของการพฒั นาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์

3 การเขยี นโปรแกรม (2) ง 3.1 ม. 3/2 โปรแกรม Microsoft Visual Studio 2008 12
เป็นชดุ พัฒนาโปรแกรมท่ีมคี วามหลากหลาย 8
4 การใชเ้ ทคโนโลยี ง 3.1 ม. 3/3 สามารถเขียนโปรแกรมไดห้ ลายภาษา อีกทัง้
สารสนเทศในการ ยงั มกี ารทำงานและการใชง้ านท่ไี มย่ ุง่ ยาก สามารถ
นำเสนองาน เรยี นรู้และนำมาสร้างเป็นโปรแกรมสำเรจ็ รูปท่ี
ตอ้ งการไดง้ ่าย

การนำเสนองานโดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
จะตอ้ งเลือกใช้ซอฟต์แวร์และอปุ กรณ์ดจิ ิทัลให้
เหมาะสมกับลักษณะงาน เพือ่ ส่อื สารไปยงั
ผู้รบั สารไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

รายวชิ าเพิม่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

โครงสร้างแผนฯ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม. 3

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัด วิธสี อน/กระบวนการจัด ทักษะการคิด เวลา
การเรียนรู้ การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง)

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 1. ความสำคัญและ - วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรู้ - ทักษะการรวบรวมข้อมลู 1-2
หลักการทำโครงงาน ประเภทของ แบบร่วมมือ : เทคนิคการตอ่
คอมพวิ เตอร์ โครงงาน เรอื่ งราว (Jigsaw) 1-2
คอมพิวเตอร์ 1-2
1-2
2. ขน้ั ตอนการ - วิธสี อนแบบกระบวนการ - ทักษะการรวบรวมขอ้ มูล
1-2
พัฒนาโครงงาน กลุม่ สัมพนั ธ์

3. คณุ ลักษณะของ - วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : - ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู
โครงงานทีด่ แี ละ กระบวนการสรา้ งความ
การประเมนิ ผล ตระหนัก

4. การศึกษา - วธิ สี อนโดยการจดั การเรียนรู้ - ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล
ผลกระทบ แบบร่วมมอื : เทคนิคคคู่ ิด
ของโครงงาน สี่สหาย
คอมพวิ เตอร์

5. โครงงาน - วธิ ีสอนแบบโครงงาน - ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล
คอมพิวเตอร์ (Project Method)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 1. แนวคดิ และ - วิธีสอนแบบสืบเสาะ - ทักษะการสงั เคราะห์ 1-2
หลักการเขียน หาความรู้ 1-2
การเขียนโปรแกรม โปรแกรม (Inquiry Method : 5E)
(1)
2. โครงสรา้ ง
ตามลำดับ - วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรู้ - ทกั ษะการสงั เคราะห์
แบบวัฏจักรการเรียนรู้
(4 MAT)

รายวิชาเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั วธิ ีสอน/กระบวนการจดั ทกั ษะการคิด เวลา
การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ - ทกั ษะการสงั เคราะห์ (ช่ัวโมง)
- ทกั ษะการคิดสงั เคราะห์
3. โครงสรา้ งแบบมี - วธิ ีสอนแบบโมเดลซปิ ปา 1-2
ทางเลือก (CIPPA Model) - ทกั ษะการสงั เคราะห์
1-2
4. โครงสร้างแบบ - วธิ ีสอนแบบสบื เสาะ
ทำงานซำ้ หาความรู้ 1-2
(Inquiry Method : 5E)

5. ออกแบบ - วิธสี อนแบบกระบวนการ
โครงสร้าง กลุ่มสมั พนั ธ์
โปรแกรม

รายวชิ าเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

โครงสร้างแผนฯ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร ม. 3

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัด วธิ ีสอน / กระบวนการจดั ทักษะการคิด เวลา
การเรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่วั โมง)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 1. การเขียน - วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวน : - ทักษะการสงั เคราะห์ 1-2
โปรแกรม กระบวนการปฏบิ ตั ิ
การเขยี นโปรแกรม เพ่ือแกป้ ญั หา - ทกั ษะการสงั เคราะห์ 1-2
(2) - วิธีสอนแบบสาธิต - ทักษะการสังเคราะห์ 1-2
2. โปรแกรมหา - ทกั ษะการสังเคราะห์ 1-2
คา่ เฉลีย่ - ทกั ษะการสังเคราะห์ 1-2
- ทักษะการสงั เคราะห์ 1-2
3. โปรแกรมตดั เกรด - วธิ ีสอนแบบสาธิต 1-2

4. โปรแกรมเครื่อง - วธิ สี อนแบบสาธติ 1-2
คิดเลข
1-2
5. โปรแกรมสูตรคณู - วิธสี อนแบบสาธิต

6. โครงงานโปรแกรม - วธิ ีสอนแบบโครงงาน

คอมพวิ เตอร์ (Project Method)

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 1. การนำเสนองาน - วิธีสอนแบบสบื เสาะ - ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้
หาความรู้ ความรู้
การใช้เทคโนโลยี 2. การเลอื กใช้ (Inquiry Method : 5E)
สารสนเทศในการ เทคโนโลยี - ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้
นำเสนองาน สารสนเทศ - วิธีสอนแบบกระบวนการ ความรู้
ทเี่ หมาะสมกบั กล่มุ สมั พันธ์
การนำเสนองาน - ทักษะการประยุกตใ์ ช้
- วิธสี อนโดยการจดั การ
3. การเลือกใช้ เรยี นรแู้ บบร่วมมือ :
อุปกรณ์แสดงผล

รายวชิ าเพิม่ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัด วธิ ีสอน / กระบวนการจดั ทักษะการคดิ เวลา
การเรียนรู้ ความรู้ (ชวั่ โมง)
การเรยี นรู้
และอปุ กรณ์
สำหรับใช้ เทคนคิ การตอ่
ประกอบการ เรือ่ งราว (Jigsaw)
นำเสนองาน

4. การพฒั นาผลงาน - วธิ ีสอนแบบกระบวนการ - ทกั ษะการประยุกต์ใช้ 1-2
นำเสนอดว้ ย กลุ่มสัมพนั ธ์ ความรู้
เทคโนโลยี
สารสนเทศ

รายวิชาเพิ่มเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 ความสาคญั และประเภทของ

โครงงานคอมพวิ เตอร์

เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

โครงงานคอมพวิ เตอรเ์ ป็นกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ม่ี คี วามสาคญั และใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศชว่ ยสรา้ งชน้ิ งาน โดยแบ่ง
ออกไดห้ ลายประเภทดว้ ยกนั

2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/1 อธบิ ายหลกั การทาโครงงานทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้
2. บอกประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง

- หลกั การทาโครงงาน เป็นการพฒั นาผลงานทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ดาเนินการพฒั นาตามความสนใจและ
ความถนดั โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

รายวิชาเพ่มิ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
 วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมอื : เทคนิคการต่อเรอื่ งราว (Jigsaw)

 นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. ครถู ามนักเรยี นเกย่ี วกบั ประสบการณ์ในการทาโครงงานว่า นกั เรยี น
รจู้ กั และเคยทาโครงงานในวชิ าอน่ื ๆ หรอื ไม่ เชน่ โครงงาน
วทิ ยาศาสตร์

2. ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 คน ทเ่ี คยทาออกมาเล่าประสบการณ์ทห่ี น้า
ชนั้ เรยี น

ขนั้ สอน คาถามกระตุ้นความคิด

สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศฯ ม.3 2. ใบงานท่ี 1.1  การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ มผี ลดีต่อ
นักเรียนอย่างไร
1. ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั โครงงานคอมพวิ เตอรว์ า่ เป็นผลงานทไ่ี ดจ้ าก
การศกึ ษาคน้ ควา้ ตามความสนใจ ความถนัด และความสามารถของ (พฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ การสอื่ สาร
นกั เรยี น โดยวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ และเชอ่ื มโยงความรตู้ ่างๆ การแกป้ ัญหา การใชท้ กั ษะชวี ติ และการใช้
และความรดู้ า้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่อื สรา้ ง เทคโนโลยใี หเ้ กดิ ประโยชน์)
ผลงานทเ่ี ป็นไปตามความตอ้ งการอยา่ งเหมาะสม

2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
3. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ

(เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลาง ปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ น
และออ่ น) เรยี กกลุ่มน้วี า่ กลุม่ บา้ น ใหส้ มาชกิ กลมุ่ มหี มายเลข
ประจาตวั 1-5
4. สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขของแตล่ ะกลุ่มไปรวมกนั เป็นกลุ่มใหม่ เรยี ก
กลุ่มน้วี ่า กลุ่มผเู้ ชย่ี วชาญ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศกึ ษาประเภทของ
โครงงานคอมพวิ เตอร์ จากหนงั สอื เรยี น ดงั น้ี
- หมายเลข 1 ศกึ ษาโครงงานพฒั นาส่อื เพอ่ื การศกึ ษา
- หมายเลข 2 ศกึ ษาโครงงานพฒั นาเครอ่ื งมอื
- หมายเลข 3 ศกึ ษาโครงงานทดลองทฤษฎี
- หมายเลข 4 ศกึ ษาโครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน
- หมายเลข 5 ศกึ ษาโครงงานพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์
5. เมอ่ื นักเรยี นกลุม่ ผเู้ ชย่ี วชาญศกึ ษาโครงงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
จนเกดิ ความเขา้ ใจแลว้ ใหก้ ลบั เขา้ ส่กู ลุ่มบา้ นแลว้ ผลดั กนั อธบิ าย
ความรทู้ ต่ี นไดไ้ ปศกึ ษามาใหส้ มาชกิ คนอน่ื ในกลุ่มฟังตามลาดบั
หมายเลข

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 คาถามกระตุ้นความคิด

6. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทาใบงานที่ 1.1 เร่ือง โครงงาน  โครงงานคอมพิวเตอร์ มีความสาคญั ต่อการ
คอมพิวเตอร์ เสรจ็ แลว้ ครสู ุ่มตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอ พฒั นาสงั คมอย่างไร
ทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยครคู อยตรวจสอบความถกู ตอ้ งและอธบิ าย (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
เพมิ่ เตมิ ในส่วนทย่ี งั มขี อ้ บกพร่องอยู่ ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

ขนั้ สรปุ

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —

1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ เกย่ี วกบั ความสาคญั และ
ประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอร์

2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

7. การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ม.3
2) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง โครงงานคอมพวิ เตอร์

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



รายวชิ าเพิม่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

ใบงานที่ 1.1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจาแนกประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอร์ต่อไปน้ี

E-Learning เกมผจญภยั กบั ภาษาองั กฤษ CAI

โครงงานห่นุ ยนต์จาลอง โครงงานเพอื่ สร้างฮารด์ แวร์ โครงงานพฒั นาการจดั เกบ็
เกบ็ ขยะ เอกสาร

โครงงานประเมินความเสียหาย ระบบจองตวั ๋ รถไฟบน โปรแกรมการค้นหา
จากการเกิดแผน่ ดินไหว อินเทอรเ์ น็ต คาภาษาไทย

1. โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา

2. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื

3. โครงงานทดลองทฤษฎี

4. โครงงานประยุกตใ์ ชง้ าน

5. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์

วชิ าคอมพิวเตอร์ ชื่อ.............................................................................ชนั้ ..................เลขท.่ี ....................

รายวิชาเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 เฉลย

ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์ CAI
โครงงานพฒั นาการจดั เกบ็
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจาแนกประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอรต์ ่อไปน้ี
เอกสาร
E-Learning เกมผจญภยั กบั ภาษาองั กฤษ โปรแกรมการค้นหา

โครงงานห่นุ ยนต์จาลอง โครงงานเพือ่ สรา้ งฮารด์ แวร์ คาภาษาไทย
เกบ็ ขยะ
ระบบจองตวั ๋ รถไฟบน
โครงงานประเมินความเสียหาย อินเทอรเ์ น็ต
จากการเกิดแผน่ ดินไหว

1. โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา

E-Learnin CAI

2. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื

โครงงานเพอื่ สรา้ งฮารด์ แวร์ โปรแกรมการคน้ หาคาภาษาไทย

3. โครงงานทดลองทฤษฎี

โครงงานประเมนิ ความเสยี หายจากการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว

4. โครงงานประยุกตใ์ ชง้ าน

โครงงานหุ่นยนตจ์ าลองเกบ็ ขยะ ระบบจองตวั ๋ รถไฟบนอนิ เทอรเ์ นต็

5. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยุกต์

โครงงานพฒั นาการจดั เกบ็ เอกสาร เกมผจญภยั กบั ภาษาองั กฤษ

รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี ช่ือ-สกลุ ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ของผรู้ บั การ ความมีวินยั เอือ้ เฟื้ อ ความ ความ เวลา 20
คิดเหน็ คิดเหน็ คะแนน
ประเมิน เสียสละ

43214321432143214321

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวิชาเพม่ิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ของผรู้ บั การ ความ ฟังคนอื่น ตามท่ีได้รบั ส่วนรว่ มใน 20
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ประเมิน ผลงานกลมุ่

43214321432143214321

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ของเพลงชาติ

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี
4. ใฝ่ เรยี นรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและชมุ ชน

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี

ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ชน่ื ชมความ

เป็นชาตไิ ทย

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา

อย่างสม่าเสมอ เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องศาสนกิ ชน

1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั

พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณยี กจิ

พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม

สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอย่าง

ทด่ี ดี า้ นความซ่อื สตั ย์

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง

และเป็นแบบอยา่ งทด่ี แี ก่เพ่อื นดา้ นความซ่อื สตั ย์

3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั

และโรงเรยี น ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน

4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั

คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม

5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี

5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล

5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผู้อ่นื

กระทาผดิ พลาด

รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
6. มุ่งมนั ่ ในการทางาน ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั
และปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ

6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสง่ิ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้

ผอู้ ่นื
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชุมชน

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

รายวชิ าเพิ่มเตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 ข้นั ตอนการพฒั นาโครงงาน เวลา 1-2 ชวั่ โมง

1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การทาโครงงานคอมพวิ เตอรท์ ม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศตอ้ งดาเนินการอย่างเป็นขนั้ ตอน

2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/1 อธบิ ายหลกั การทาโครงงานทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

- บอกขนั้ ตอนการดาเนนิ การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

- หลกั การทาโครงงาน เป็นการพฒั นาผลงานทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ดาเนินการพฒั นาตามความสนใจและ
ความถนดั โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศ(ชแ่ัวลโะมกงทา่ีร1ส) ่ือสาร ม.3

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
 วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มสมั พนั ธ์

ชวั่ โมงท่ี 1

ขนั้ ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรยี น

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

นกั เรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) มารวมกลุม่ กนั
จากนนั้ ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกประเภทของโครงงานต่างๆ ว่ามลี กั ษณะ
เป็นอย่างไร เพ่อื เป็นการทบทวนความรู้

ขนั้ ที่ 2 จดั การเรียนรู้ คาถามกระตุ้นความคิด
• ส่ิงสาคญั ในการเลือกหวั ขอ้ การจดั ทาหรือ
สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศฯ ม.3
2. ใบงานท่ี 2.1 พฒั นาโครงงานคอมพิวเตอรค์ ืออะไร
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยอยใู่ น
1. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงาน ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
จากหนงั สอื เรยี น แลว้ ใหช้ ว่ ยกนั สรปุ ขนั้ ตอนการดาเนนิ การจดั ทา
โครงงานคอมพวิ เตอร์ โดยครเู น้นใหน้ ักเรยี นทกุ คนมสี ่วนร่วมใน คาถามกระตุ้นความคิด
การทากจิ กรรม • ทาไมการจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์

2. ครสู ่มุ ตวั แทน 1 กลุ่ม ออกมานาเสนอผลทไ่ี ดจ้ ากการสรุปและให้ จึงต้องมีขนั้ ตอนการศึกษาค้นคว้าจาก
กลุ่มอ่นื ๆ นาเสนอขอ้ มลู ทแ่ี ตกตา่ งเพมิ่ เตมิ โดยครคู อยตรวจสอบ เอกสารและแหล่งขอ้ มลู
ความถกู ตอ้ งและอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ในสว่ นทย่ี งั มขี อ้ บกพร่องอยู่ (เพอื่ กาหนดขอบเขตของเรอื่ งทจี่ ะศกึ ษา)

3. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น โดยใหน้ ักเรยี นทาใบงาน
ท่ี 2.1 เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงาน เสรจ็ แลว้ ครสู ุ่มเรยี ก
นกั เรยี นตอบคาถามขอ้ ละ 1 คน จนครบทุกขอ้

4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ชวั่ โมงท่ี 2

ขนั้ ท่ี 3 สรปุ และนาหลกั การไปประยกุ ต์ใช้

แหลง่ การเรยี นรู้ : แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
2. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรปุ ขนั้ ตอนการดาเนินการจดั ทาโครงงาน

คอมพวิ เตอร์
3. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ สบื คน้ ขอ้ มลู ตวั อย่างโครงงานคอมพวิ เตอร์ กลุม่

ละ 1 โครงงาน จากแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ แลว้ ใหช้ ว่ ยกนั วเิ คราะห์
องคป์ ระกอบเคา้ โครงของโครงงานวา่ ครบตามทศ่ี กึ ษามาหรอื ไม่

รายวชิ าเพิ่มเตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศ(แชลั่วโะมกงาทรี่ 2ส)่ือสาร ม.3

4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกนาเสนอผลการวเิ คราะห์
องคป์ ระกอบเคา้ โครงของโครงงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยมคี รคู อย
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ในส่วนทย่ี งั มขี อ้ บกพรอ่ ง
อยู่

ขนั้ ท่ี 4 วดั และประเมินผล

สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 5.2

นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง การจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์
เสรจ็ แลว้ ส่งครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง เพอ่ื ประเมนิ ผลว่านักเรยี น
มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหรอื ไม่

7. การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานท่ี 2.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ม.3
2) ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงาน
3) ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์

8.2 แหล่งการเรยี นรู้



รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง ข้นั ตอนการพฒั นาโครงงาน

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงานในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ี
1. องคป์ ระกอบสาคญั ในการตดั สนิ ใจเลอื กหวั ขอ้ ทจ่ี ะนามาพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบา้ ง

2. องคป์ ระกอบของโครงงานคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบา้ ง

3. ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรใ์ หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพมอี ะไรบา้ ง

4. ขนั้ ตอนหลงั จากทเ่ี คา้ โครงของโครงงานไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาแลว้ คอื ขนั้ ตอนอะไร
5. องคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงานมอี ะไรบา้ ง

6. ขนั้ ตอนสุดทา้ ยของการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ คอื อะไร
วิชาคอมพวิ เตอร์ ช่อื .............................................................................ช้ัน..................เลขท่ี.....................

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 เฉลย

ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ข้นั ตอนการพฒั นาโครงงาน

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงานในแตล่ ะขอ้ ตอ่ ไปน้ี

1. องคป์ ระกอบสาคญั ในการตดั สนิ ใจเลอื กหวั ขอ้ ทจ่ี ะนามาพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบา้ ง

1. มคี วามรแู้ ละทกั ษะพ้นื ฐานอย่างเพยี งพอในหวั ขอ้ เรอื่ งทจี่ ะศกึ ษา 2. มเี วลาเพยี งพอ

3. จดั หาเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ซอฟตแ์ วร์ และวสั ดุและอปุ กรณ์ทเี่ กยี่ วขอ้ งได้ 4. มงี บประมาณเพยี งพอ

5. มแี หลง่ ความรเู้ พยี งพอทจี่ ะคน้ ควา้ หรอื ขอคาปรกึ ษา 6. มคี วามปลอดภยั

2. องคป์ ระกอบของโครงงานคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบา้ ง

1. ชอื่ โครงงาน 2. ชอื่ ผจู้ ดั ทา 3. อาจารยท์ ปี่ รกึ ษา 4. ระยะเวลาดาเนินงาน
8. วธิ ดี าเนินงาน
5. แนวคดิ ทมี่ า 6. วตั ถปุ ระสงค์ 7. หลกั การทฤษฎี

9. ขนั้ ตอนปฏบิ ตั ิ 10. ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั 11. เอกสารอา้ งองิ

3. ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรใ์ หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพมอี ะไรบา้ ง

1. การเตรยี มการ 2. การลงมอื พฒั นา

3. การทดสอบผลงานและแกไ้ ข 4. การอภปิ รายและขอ้ เสนอแนะ

5. แนวทางการพฒั นาโครงงานในอนาคตและขอ้ เสนอแนะ

4. ขนั้ ตอนหลงั จากทเ่ี คา้ โครงของโครงงานไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาแลว้ คอื ขนั้ ตอนอะไร

ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงาน

5. องคป์ ระกอบของการเขยี นรายงานโครงงานมอี ะไรบา้ ง 2. ความตอ้ งการของระบบคอมพวิ เตอร์
4. คณุ ลกั ษณะของผลงาน
1. ชอื่ ผลงาน
3. ความตอ้ งการของซอฟตแ์ วร์
5. วธิ กี ารใชง้ านของแต่ละฟังกช์ นั

6. ขนั้ ตอนสดุ ทา้ ยของการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ คอื อะไร

การนาเสนอและแสดงโครงงาน

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

ใบงานท่ี 2.2 เรื่อง การจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ตวั อย่างการทาโครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ากแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศมา 2 โครงงาน
แลว้ ระบรุ ายละเอยี ด ดงั น้ี

ชื่อโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน ประเภทของโครงงาน

วชิ าคอมพวิ เตอร์ ชือ่ .............................................................................ชน้ั ..................เลขท่ี.....................

รายวชิ าเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ เฉลย

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ตวั อย่างการทาโครงงานคอมพวิ เตอรจ์ ากแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศมา 2 โครงงาน
แลว้ ระบุรายละเอยี ด ดงั น้ี

ช่ือโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน ประเภทของโครงงาน

(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

รายวชิ าเพมิ่ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321

1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน

2 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา

3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย

4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ

5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน

รวม

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบางสว่ น ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรุง

รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ ช่ือ-สกลุ ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ของผรู้ บั การ ความมวี ินยั เอือ้ เฟื้ อ ความ ความ เวลา 20
คิดเหน็ คิดเหน็ คะแนน
ประเมิน เสียสละ

43214321432143214321

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวชิ าเพ่มิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี ชื่อ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ของผ้รู บั การ ความ ฟังคนอื่น ตามที่ไดร้ บั ส่วนรว่ มใน 20
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ประเมิน ผลงานกลมุ่

43214321432143214321

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ของเพลงชาติ

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี
4. ใฝ่ เรยี นรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและชุมชน

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี

ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ช่นื ชมความ

เป็นชาตไิ ทย

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา

อย่างสม่าเสมอ เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั

พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ ชน่ื ชมในพระราชกรณียกจิ

พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม

สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง

ทด่ี ดี า้ นความซ่อื สตั ย์

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง

และเป็นแบบอย่างทด่ี แี กเ่ พอ่ื นดา้ นความซ่อื สตั ย์

3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั

และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ น่ื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน

4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตุผล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั

คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี

5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล

5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื

กระทาผดิ พลาด

รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
6. มุ่งมนั ่ ในการทางาน ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ

6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้

ผอู้ ่นื
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชมุ ชน

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 คุณลกั ษณะของโครงงานที่ดีและการประเมนิ ผล

เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

โครงงานคอมพวิ เตอรท์ ด่ี ี ตอ้ งสามารถตอบสนองความตอ้ งการหรอื แกป้ ัญหาของโครงงานไดอ้ ยา่ งครบถว้ น
และไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบทางลบตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ในดา้ นตา่ งๆ

2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/1 อธบิ ายหลกั การทาโครงงานทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- บอกคุณลกั ษณะของโครงงานคอมพวิ เตอรท์ ด่ี ไี ด้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

- หลกั การทาโครงงาน เป็นการพฒั นาผลงานทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ดาเนนิ การพฒั นาตามความสนใจและ
ความถนดั โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

รายวิชาเพ่มิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

6. กิจกรรมการเรียนรู้
 วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก

ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — • โครงงานต่างๆ ท่ีพฒั นาขึ้นมามีผลกระทบ
ทางดา้ นลบได้หรือไม่ อยา่ งไร
1. ครนู าอภปิ รายเกย่ี วกบั คณุ ลกั ษณะโครงงานทด่ี คี วรเป็นอยา่ งไร
จนไดข้ อ้ สรุปวา่ ตอ้ งสามารถตอบสนองความตอ้ งการหรอื แกป้ ัญหา (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยอย่ใู น
ของโครงงานไดอ้ ยา่ งครบถว้ น เป็นไปตามขอบเขตทก่ี าหนดไว้ ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ดาเนินการเป็นไปตามแผนทก่ี าหนดไวแ้ ละเสรจ็ สน้ิ ตามระยะเวลา
ทก่ี าหนด และไม่ก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบทางลบต่อคุณภาพชวี ติ ในดา้ น
ต่างๆ

2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ ที่ 2 วิเคราะห์วิจารณ์ คาถามกระต้นุ ความคิด

สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. เอกสารประกอบการสอน • ทาไมด้านพฒั นาโครงงานจึงกาหนดเกณฑ์
2. หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศฯ ม.3 การประเมินมากกว่าด้านอ่ืนๆ

5. ครยู กตวั อยา่ งโครงงาน 2 โครงงาน ตามเอกสารประกอบการสอน (เพราะเป็นขนั้ ตอนทนี่ กั เรยี นตอ้ งลงมอื ปฏบิ ตั ิ
แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม (กล่มุ เดมิ จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) ตามเคา้ โครงทผี่ ่านการตรวจจากอาจารยท์ ี่
ช่วยกนั วเิ คราะหว์ ่า โครงงานน้มี ผี ลกระทบทางลบอย่างไรหรอื ไม่ ปรกึ ษาแลว้ )
และมผี ลกระทบทางดา้ นใด

6. ครสู มุ่ ตวั แทน 1-2 กล่มุ ออกมานาเสนอผลทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์
และใหก้ ลมุ่ อ่นื ๆ นาเสนอผลการวเิ คราะหท์ แ่ี ตกตา่ งเพม่ิ เตมิ
โดยครคู อยตรวจสอบความถกู ตอ้ งและอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ในสว่ น
ทย่ี งั มขี อ้ บกพรอ่ งอยู่

7. ครบู อกกบั นกั เรยี นวา่ การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ จะตอ้ งมกี าร
วดั คณุ ภาพของผลงาน ดงั นนั้ นกั เรยี นจงึ ควรทราบเกย่ี วกบั เกณฑ์
การประเมนิ เพ่อื สรา้ งผลงานใหม้ คี ุณภาพ

8. นกั เรยี นศกึ ษาเกณฑก์ ารประเมนิ ผลโครงงาน จากหนงั สอื เรยี น
9. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ ท่ี 3 สรปุ

แหล่งการเรยี นรู้ : แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เก่ยี วกบั คณุ ลกั ษณะของ
โครงงานทด่ี ี และการประเมนิ ผลโครงงาน แลว้ ใหน้ กั เรยี นจดบนั ทกึ
ลงในสมุด

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

7. การวดั และประเมินผล

วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ม.3
2) เอกสารประกอบการสอน

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้



รายวิชาเพม่ิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

เอกสารประกอบการสอน
ตวั อยา่ งโครงงาน

โครงงานที่ 1
ระบบคานวณเลขหวย เป็นโครงงานสาหรบั หาเลขทค่ี าดวา่ สลากกนิ แบง่ รฐั บาลจะออกในแต่ละงวด

โครงงานที่ 2
โครงงานเกมต่อสู้ เป็นโครงงานทพ่ี ฒั นาโปรแกรมเกมการต่อสทู้ ใ่ี ชเ้ ล่นในคอมพวิ เตอร์ สาหรบั เดก็

รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ท่ี ช่ือ-สกลุ ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ของผรู้ บั การ ความมีวินยั เอือ้ เฟื้ อ ความ ความ เวลา 20
คิดเหน็ คิดเหน็ คะแนน
ประเมิน เสียสละ

43214321432143214321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวิชาเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ของผรู้ บั การ ความ ฟังคนอื่น ตามท่ีได้รบั ส่วนรว่ มใน 20
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ประเมิน ผลงานกลมุ่

43214321432143214321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ของเพลงชาติ

3. มวี ินยั รบั ผิดชอบ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี
4. ใฝ่ เรยี นรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและชุมชน

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี

ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ช่นื ชมความ

เป็นชาตไิ ทย

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา

อยา่ งสม่าเสมอ เป็นแบบอยา่ งทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั

พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ชน่ื ชมในพระราชกรณยี กจิ

พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม

สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอย่าง

ทด่ี ดี า้ นความซอ่ื สตั ย์

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง

และเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่เพ่อื นดา้ นความซอ่ื สตั ย์

3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั

และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน

4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั

คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม

5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี

5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล

5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื

กระทาผดิ พลาด

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
6. มุ่งมนั ่ ในการทางาน ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรบั ตวั อยรู่ ่วมกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ

6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้

ผอู้ ่นื
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชมุ ชน

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง

รายวิชาเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 การศึกษาผลกระทบของโครงงานคอมพิวเตอร์

เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ จะมที งั้ ผลกระทบทงั้ ทางบวกและทางลบ ผใู้ ชจ้ ะตอ้ งเลอื กนาไปใชใ้ นทางทถ่ี ูกตอ้ ง

2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/1 อธบิ ายหลกั การทาโครงงานทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- วเิ คราะหผ์ ลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบของโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง

- หลกั การทาโครงงาน เป็นการพฒั นาผลงานทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ดาเนินการพฒั นาตามความสนใจและ
ความถนดั โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

6. กิจกรรมการเรียนรู้
 วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิคค่คู ิดส่ีสหาย

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — • โครงงานบางโครงงานอาจมีผลกระทบต่อ
คณุ ภาพชีวิตของคนในสงั คมอย่างไร
3. ครทู บทวนเกย่ี วกบั คุณลกั ษณะโครงงานทด่ี คี วรเป็นอย่างไร
โดยครสู ่มุ ถามนกั เรยี น 5 คน ใหน้ ักเรยี นตอบคนละ 1 ขอ้ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยอยใู่ น
ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
4. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ สอน

สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศฯ ม.3 2. ใบงานท่ี 4.1

10.ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ (กล่มุ เดมิ จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1)
ร่วมกนั ศกึ ษาความรู้ เร่อื ง การศกึ ษาผลกระทบของโครงงาน
คอมพวิ เตอรแ์ ละตวั อยา่ งการศกึ ษาผลกระทบโครงงานเวบ็ ไซตก์ าร
ขายสนิ คา้ OTOP ประจาจงั หวดั จากหนังสอื เรยี น

11.นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั อภปิ รายสรุปถงึ ผลกระทบในดา้ นต่างๆ
ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ของคนในสงั คม แลว้ ส่งตวั แทนออกมา
นาเสนอทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยครคู อยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ในสว่ นทย่ี งั มี
ขอ้ บกพรอ่ งอยู่

12.นักเรยี นทุกคนทาใบงานท่ี 4.1 เร่ือง ผลกระทบทางบวกและ
ทางลบของโครงงาน แลว้ ใหจ้ บั คกู่ บั เพอ่ื นในกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ าย
คาตอบทต่ี นคดิ ไว้

13.นกั เรยี นรวมกลุ่ม 4 คน (กลุ่มเดมิ ทแ่ี บง่ ไว)้ ซง่ึ มาจากนกั เรยี น 2 คู่
เมอ่ื เขา้ กลุ่มแลว้ ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของใบงานท่ี 4.1 จากนนั้ ครู
สมุ่ เรยี กตวั แทนกลุ่ม 3-5 กลมุ่ ออกมานาเสนอคาตอบทห่ี น้าชนั้ เรยี น

14.ครอู ธบิ ายความรเู้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นทย่ี งั มขี อ้ บกพรอ่ งอยู่

ขนั้ สรปุ

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เกย่ี วกบั ผลกระทบของโครงงาน

คอมพวิ เตอรท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นตา่ งๆ ดงั น้ี

- ดา้ นเศรษฐกจิ - ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม

- ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม

แลว้ ใหน้ ักเรยี นจดบนั ทกึ ลงในสมดุ

รายวิชาเพิม่ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

7. การวดั และประเมินผล

วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 4.1 ใบงานท่ี 4.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั ่ ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ม.3
2) ใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง ผลกระทบทางบวกและทางลบของโครงงาน

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



รายวิชาเพิ่มเตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

ใบงานท่ี 4.1 เรื่อง ผลกระทบทางบวกและทางลบของโครงงาน

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. โครงงานคอมพวิ เตอรส์ ว่ นใหญท่ พ่ี ฒั นาขน้ึ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื อะไร

2. ผพู้ ฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรค์ วรมคี วามตระหนกั ในเร่อื งใด

3. ผลกระทบของโครงงานคอมพวิ เตอรท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ต่อคณุ ภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นเศรษฐกจิ เกย่ี วกบั เรอ่ื งใด

4. ผลกระทบของโครงงานคอมพวิ เตอรท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ต่อคุณภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมเก่ยี วกบั
เรอ่ื งใด

5. ผลกระทบของโครงงานคอมพวิ เตอรท์ อ่ี าจเกดิ ข้นึ ตอ่ คุณภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มเกย่ี วกบั เร่อื งใด

วชิ าคอมพวิ เตอร์ ชอ่ื .............................................................................ชัน้ ..................เลขท่.ี ....................

รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 เฉลย

ใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง ผลกระทบทางบวกและทางลบของโครงงาน

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี

1. โครงงานคอมพวิ เตอรส์ ว่ นใหญท่ พ่ี ฒั นาขน้ึ มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื อะไร

เพอื่ แกป้ ัญหาทเี่ กดิ ขน้ึ ในสงั คมใหด้ ขี ้นึ แต่มนุษยต์ อ้ งเลอื กนาไปใชใ้ นทางทถี่ ูก

2. ผพู้ ฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรค์ วรมคี วามตระหนกั ในเร่อื งใด

ผพู้ ฒั นาควรตระหนกั ในเรอื่ งผลกระทบทจี่ ะเกดิ ข้นึ ต่อคุณภาพชวี ติ ของคนในสงั คม เพอื่ หาแนวทางป้องกนั ปัญหาทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ
อย่างรอบคอบ

3. ผลกระทบของโครงงานคอมพวิ เตอรท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ต่อคณุ ภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นเศรษฐกจิ เกย่ี วกบั เร่อื งใด

การซอ้ื ขาย การจบั จ่ายใชส้ อยและรายไดข้ องคนในสงั คม

4. ผลกระทบของโครงงานคอมพวิ เตอร์ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมเกย่ี วกบั
เร่อื งใด

วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ความเสอื่ ม ขนบธรรมเนยี มประเพณขี องคนในสงั คม

5. ผลกระทบของโครงงานคอมพวิ เตอรท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ ตอ่ คุณภาพชวี ติ ของคนในสงั คมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มเก่ียวกบั เรอ่ื งใด

ทรพั ยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ภเู ขา ดนิ น้า อากาศ

รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ ช่ือ-สกลุ ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ของผรู้ บั การ ความมวี ินยั เอือ้ เฟื้ อ ความ ความ เวลา 20
คิดเหน็ คิดเหน็ คะแนน
ประเมิน เสียสละ

43214321432143214321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวิชาเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลาดบั ที่ ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ของผรู้ บั การ ความ ฟังคนอื่น ตามท่ีได้รบั ส่วนรว่ มใน 20
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ประเมิน ผลงานกลมุ่

43214321432143214321

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ

รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ของเพลงชาติ

3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี
4. ใฝ่ เรยี นรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและชมุ ชน

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี

ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ชน่ื ชมความ

เป็นชาตไิ ทย

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา

อย่างสม่าเสมอ เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน

1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั

พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ชน่ื ชมในพระราชกรณยี กจิ

พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม

สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง

ทด่ี ดี า้ นความซ่อื สตั ย์

2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง

และเป็นแบบอย่างทด่ี แี กเ่ พ่อื นดา้ นความซอ่ื สตั ย์

3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั

และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน

4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล

5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั

คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี

5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล

5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื

กระทาผดิ พลาด

รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)

คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
6. มุ่งมนั ่ ในการทางาน ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ

6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้

ผอู้ ่นื
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชมุ ชน

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้

รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 บนั ทึกหลงั แผนการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย

ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง


Click to View FlipBook Version