รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การทาโครงงานทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ตอ้ งทาอย่างเป็นขนั้ ตอน ผสู้ รา้ งตอ้ งเขา้ ใจกระบวนการทาโครงงาน
รจู้ กั ศกึ ษาและคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพอ่ื พฒั นา ตอบปัญหาหรอื ขอ้ สงสยั เขยี นรายงานผล และนาเสนอโครงงานไดอ้ ย่าง
สรา้ งสรรค์
2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/1 อธบิ ายหลกั การทาโครงงานทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
ม.3/4 การใชค้ อมพวิ เตอรช์ ่วยสรา้ งงานตามหลกั การทาโครงงาน โดยมกี ารอา้ งองิ แหล่งขอ้ มลู ใชท้ รพั ยากรอยา่ ง
คมุ้ ค่า ไม่คดั ลอกผลงานผอู้ ่นื ใชค้ าสุภาพและไมส่ รา้ งความเสยี หายต่อผอู้ น่ื
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. เขา้ ใจกระบวนการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์
2. พฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรแ์ ละเขยี นรายงานผลได้
3. สามารถคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพอ่ื ตอบปัญหาหรอื ขอ้ สงสยั ของตนเองได้
4. นาเสนอโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- หลกั การทาโครงงาน เป็นการพฒั นาผลงานทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาคน้ ควา้ ดาเนินการพฒั นาตามความสนใจและ
ความถนดั โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู
4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน
1. มวี นิ ยั
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 คาถามกระต้นุ ความคิด
• โครงงานที่นักเรียนคิดจะลงมือทา
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ส่งผลอยา่ งไรต่อสงั คม
วิธีสอนแบบโครงงาน (Project Method) (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
ขนั้ ท่ี 1 กาหนดปัญหาหรือสารวจความสนใจ
คาถามกระต้นุ ความคิด
ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : — • เคา้ โครงของโครงงาน ส่งผลดีต่อการจดั ทา
15.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบการวเิ คราะห์ โครงงานอยา่ งไร
ขอ้ มลู เพ่อื การตดั สนิ ใจ และการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพ่อื ตดั สนิ ใจเลอื ก (ทาใหเ้ หน็ ภาพรวมของโครงการการจดั ทา
โครงงาน โครงงาน)
16.ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดมิ จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1)
นาเสนอแนวคดิ /ปัญหาทต่ี นเองสงสยั หรอื ตอ้ งการหาคาตอบจาก
การลงมอื ปฏบิ ตั โิ ครงงาน
17.สมาชกิ ในกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ แนวคดิ /ปัญหาทก่ี ลมุ่ ตนเองตอ้ งการลง
มอื ปฏบิ ตั โิ ครงงาน
ขนั้ ที่ 2 กาหนดจดุ มุ่งหมายในการเรียนรู้
ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —
1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
2. ครใู หน้ ักเรยี นเขยี นจุดมงุ่ หมายของการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์
ตามหวั ขอ้ ทก่ี ลุ่มตนเองสนใจ โดยม่งุ เน้นใหน้ กั เรยี นตอบคาถามวา่
จดั ทาโครงงานน้ีเพอ่ื อะไร เม่อื ทาแลว้ จะเกดิ ประโยชน์อะไร
3. นักเรยี นนาเสนอจดุ ม่งุ หมายดงั กลา่ วใหค้ รทู ราบ และครใู ห้
คาแนะนาทเ่ี หมาะสมกบั นกั เรยี น
ขนั้ ที่ 3 วางแผนและวิเคราะห์โครงงาน
สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 5.1
1. ครนู าอภปิ รายถงึ ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน นักเรยี นจะตอ้ งเขยี น
โครงงานอยา่ งไร มอี งคป์ ระกอบอย่างไร วธิ กี ารเขยี นโครงงาน
เพอ่ื นาเสนอขออนุมตั จิ ากอาจารยท์ ป่ี รกึ ษา
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เขยี นโครงงานและบนั ทกึ เสนอโครงงานเพ่อื
พจิ ารณาความเหมาะสมเกย่ี วกบั โครงงานตามหวั ขอ้ ในใบงานที่
5.1 เรอ่ื ง เค้าโครงของโครงงาน
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอเคา้ โครงของโครงงาน
ทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยครแู ละเพ่อื นนักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็
และใหข้ อ้ เสนอแนะ
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
4. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาขอ้ เสนอแนะทไ่ี ดไ้ ปปรบั ปรงุ การทา
โครงงานของกลุ่มของตนเองใหด้ ยี ง่ิ ขน้ึ
5. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
ขนั้ ท่ี 4 ลงมอื ปฏิบตั ิหรือแก้ปัญหา
ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —
1. นกั เรยี นลงมอื ปฏบิ ตั โิ ครงงานตามคาแนะนาของครู โดยตอ้ งปฏบิ ตั ิ
ตามระยะเวลาดาเนนิ งานตามเคา้ โครงของโครงงานทน่ี าเสนอ
2. นักเรยี นบนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั โิ ครงงานอย่างเป็นระบบ หากเกดิ
ปัญหาระหวา่ งการปฏบิ ตั โิ ครงงาน ครตู อ้ งใหค้ าแนะนาหรอื
ชว่ ยเหลอื
ขนั้ ที่ 5 ประเมินผลระหว่างปฏิบตั ิโครงงาน คาถามกระต้นุ ความคิด
สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — นักเรยี นคิดว่า การทาโครงงานได้
ประโยชน์อยา่ งไรบา้ ง
1. ครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น
โดยครแู ละเพอ่ื นนกั เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ ผลงานลงในแบบประเมนิ (ทาใหม้ ที กั ษะในการแกป้ ัญหา รจู้ กั วธิ ี
โครงงานและใหข้ อ้ เสนอแนะ แสวงหาขอ้ มลู ฝึกกระบวนการกลุ่มสมั พนั ธ์
มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ฝึกความเป็น
2. ครแู นะนาใหน้ ักเรยี นนาขอ้ เสนอแนะไปปรบั ปรุงผลงานของตนเอง ประชาธปิ ไตย และมคี ุณลกั ษณะในการ
เพอ่ื ใหผ้ ลงานดยี งิ่ ขน้ึ ทางานทดี่ )ี
3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
ขนั้ ที่ 6 สรปุ รายงานผล และเสนอผลงาน
ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —
1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มเขยี นรายงานสรปุ ผลการปฏบิ ตั โิ ครงงาน แลว้ ออกมา
นาเสนอผลงาน โครงงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็
ตอ่ ไปน้ี
1) การเขยี นโครงงาน
2) การดาเนนิ งานตามโครงงาน
3) การบนั ทกึ ขอ้ มลู
4) การเขยี นรายงานโครงงาน
5) การนาเสนอโครงงาน
2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปถงึ ผลสาเรจ็ และขอ้ บกพร่องของการทา
โครงงาน เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาการทางานในโอกาสต่อไป
3. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั คดั เลอื กผลงานทด่ี ที ส่ี ดุ นามาจดั ป้ายนเิ ทศแสดง
ผลงานของนกั เรยี น จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์
รายวชิ าเพิ่มเตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
7. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 5.1 ใบงานท่ี 5.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบประเมนิ โครงงาน แบบประเมนิ โครงงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจโครงงานคอมพวิ เตอร์ แบบประเมนิ โครงงานคอมพวิ เตอร์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
- ใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง เคา้ โครงของโครงงาน
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
—
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินโครงงานคอมพิวเตอร์
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
432
1 การเขยี นโครงงาน
2 การดาเนินงานตามโครงงาน
3 การบนั ทกึ ขอ้ มลู และหลกั ฐานประกอบ
4 การเขยี นรายงานโครงงาน
5 การนาเสนอโครงงาน
6 ผลงาน
รวม
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน 4
3
ดมี าก = 2
ดี = 1
พอใช้ =
ปรบั ปรงุ =
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
21 - 24 ดมี าก
17 - 20 ดี
12 - 16 พอใช้
ต่ากวา่ 12 ปรบั ปรุง
รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบประเมิน โครงงาน
คาชี้แจง : แบบประเมนิ โครงงานน้สี ามารถใหท้ ุกคนมสี ่วนในการประเมนิ โครงงาน คอื สมาชกิ ทุกคนในกลุ่ม เพ่อื นนักเรยี นกลุ่มอน่ื
อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4 3 21
1 การเขยี นโครงงานถกู ตอ้ งชดั เจน
2 เลอื กขอ้ มลู และแหล่งเรยี นรไู้ ดเ้ หมาะสม
3 มกี ารแบง่ หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบชดั เจน
4 มกี ารวางแผนอยา่ งเป็นระบบ
5 มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
6 มกี ารดาเนินงานตามแผนและรายงานผลตามกาหนดเวลา
7 มกี ารประเมนิ ผลและปรบั ปรุงการทางาน
8 การสรุปผลการดาเนนิ งานไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์
9 การนาเสนอผลงานไดค้ รบถว้ น สอ่ื ความหมายชดั เจน
10 รปู แบบการนาเสนอผลงานของโครงงานน่าสนใจ
รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(...................................................)
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเป้าหมายทุกประการเป็นแบบอยา่ งได้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเป้าหมายทุกประการ วนั ..........เดอื น ..................พ.ศ. ...............
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมไดต้ รงตามเป้าหมายเป็นบางหวั ขอ้ ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
36 - 40
29 - 35 ดมี าก
20 - 28 ดี
ต่ากวา่ 20
พอใช้
หมายเหตุ ปรบั ปรงุ รายการประเมนิ และเกณฑก์ ารประเมนิ ตามความเหมาะสม ปรบั ปรงุ
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
ใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง เคา้ โครงของโครงงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ รายละเอยี ดของการทาโครงงาน
1. ชอ่ื โครงงาน
ประเภทของโครงงาน
2. ช่อื ผจู้ ดั ทา
3. ชอ่ื ครทู ป่ี รกึ ษาโครงงาน
4. ระยะเวลาดาเนินงาน
5. แนวคดิ ทม่ี า
6. วตั ถปุ ระสงค์
7. หลกั การทฤษฎี
8. วธิ ดี าเนินงาน
วชิ าคอมพวิ เตอร์ ช่อื .............................................................................ช้นั ..................เลขท่.ี ....................
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
9. ขนั้ ตอนปฏบิ ตั ิ
10. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั
11. เอกสารอา้ งองิ
วชิ าคอมพวิ เตอร์ ชื่อ.............................................................................ช้นั ..................เลขท่.ี ....................
รายวชิ าเพิ่มเตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 เฉลย
ใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง เคา้ โครงของโครงงาน
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ รายละเอยี ดของการทาโครงงาน
1. ชอ่ื โครงงาน
ประเภทของโครงงาน
2. ชอ่ื ผจู้ ดั ทา
3. ช่อื ครทู ป่ี รกึ ษาโครงงาน
4. ระยะเวลาดาเนนิ งาน
5. แนวคดิ ทม่ี า
6. วตั ถุประสงค์
7. หลกั การทฤษฎี
8. วธิ ดี าเนินงาน
รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
9. ขนั้ ตอนปฏบิ ตั ิ
10. ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั
11. เอกสารอา้ งองิ
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
รายวชิ าเพมิ่ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321
1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน
2 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย
4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ
5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน
รวม
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบางสว่ น ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
รายวิชาเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ ชื่อ-สกลุ การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี ้าใจ การมี รวม
ของผรู้ บั การ ความ ฟังคนอ่ืน ตามที่ไดร้ บั ส่วนรว่ มใน 20
คิดเหน็ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน
ประเมิน ผลงานกลุ่ม
43214321432143214321
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรงุ
รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ของเพลงชาติ
3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี
4. ใฝ่ เรยี นรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและชุมชน
1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ช่นื ชมความ
เป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อย่างสม่าเสมอ เป็นแบบอยา่ งทด่ี ขี องศาสนกิ ชน
1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชุมชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณียกจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์
2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง
ทด่ี ดี า้ นความซ่อื สตั ย์
2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง
และเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่เพ่อื นดา้ นความซ่อื สตั ย์
3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ น่ื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน
4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ
4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ
4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล
5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั
คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื
กระทาผดิ พลาด
รายวิชาเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (ต่อ)
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
6. มุ่งมนั ่ ในการทางาน ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
7. รกั ความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้
ผอู้ ่นื
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชมุ ชน
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 บนั ทึกหลงั แผนการสอน
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง
รายวชิ าเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
บนั ทึกหลงั หน่วยการเรียนรอู้ ิงมาตรฐาน
ตอนท่ี 1 นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้
ต่อไปน้ี ง 3.1 (ม.3/1)
ดา้ นความรู้
(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )
สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คณุ ภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
ปัญหา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย
ลงช่อื )
(
ตาแหน่ง
รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
คาชี้แจง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ทกั ษะทเ่ี กดิ จากการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 7. โครงงานพฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน จดั เป็น
ก. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ โครงงานคอมพวิ เตอรป์ ระเภทใด
ข. ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ก. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์
ค. ทกั ษะการสอ่ื สารถา่ ยทอดความคดิ ข. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื
ง. ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ค. โครงงานทดลองทฤษฎี
ง. โครงงานพฒั นาส่อื เพ่อื การศกึ ษา
2. โครงงานคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเป็นกป่ี ระเภท
ก. 3 ประเภท ข. 4 ประเภท 8. โครงงานพฒั นาโปรแกรมเกม จดั เป็นโครงงาน
คอมพวิ เตอรป์ ระเภทใด
ค. 5 ประเภท ง. 6 ประเภท ก. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์
ข. โครงงานพฒั นาเครอ่ื งมอื
3. โครงงานคอมพวิ เตอรป์ ระเภทใดทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั นักเรยี น ค. โครงงานทดลองทฤษฎี
มากทส่ี ุด ง. โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา
ก. โครงงานทดลองทฤษฎี
ข. โครงงานประยกุ ตใ์ ชง้ าน 9. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะโครงงานทด่ี ี
ค. โครงงานพฒั นาเครอ่ื งมอื ก. ดาเนนิ การตามแผน แต่เสรจ็ ชา้ กว่าระยะเวลาทก่ี าหนด
ง. โครงงานพฒั นาสอ่ื เพอ่ื การศกึ ษา ข. เกดิ ผลกระทบทางลบตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ในดา้ นต่างๆ
ค. ตอบสนองความตอ้ งการหรอื แกป้ ัญหาของโครงงาน
ไดอ้ ย่างครบถว้ น
ง. ไมเ่ ป็นไปตามขอบเขตทก่ี าหนดไว้
รายวิชาเพิม่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 10. จดุ มงุ่ หมายของการจดั ทาเคา้ โครงของโครงงานคอื อะไร
ก. เพ่อื ใหส้ ามารถทดสอบและแกไ้ ขโครงงานได้
4. โครงการจดั ระบบจองตวั ๋ รถไฟบนอนิ เทอรเ์ นต็ ข. เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาโครงงานในอนาคต
จดั เป็นโครงงานคอมพวิ เตอรป์ ระเภทใด ค. เพอ่ื นาเสนอขอ้ มลู ต่อครทู ป่ี รกึ ษาในการขอคาแนะนา
ก. โครงงานทดลองทฤษฎี ง. เพ่อื ใชเ้ ป็นตน้ แบบในการประเมนิ ผลโครงงาน
ข. โครงงานประยุกตใ์ ชง้ าน
ค. โครงงานพฒั นาเครอ่ื งมอื 11. หวั ขอ้ ใดไมจ่ าเป็นตอ้ งอยใู่ นเคา้ โครงของโครงงาน
ง. โครงงานพฒั นาส่อื เพ่อื การศกึ ษา ก. ชอ่ื โครงงาน
ข. ระยะเวลาดาเนินงาน
5. โครงงานพฒั นาเคร่อื งมอื หมายถงึ ขอ้ ใด ค. แนวคดิ ทม่ี า และความสาคญั
ก. การพฒั นาฮารด์ แวรห์ รอื ซอฟตแ์ วรค์ อมพวิ เตอร์ ง. การอภปิ รายและขอ้ เสนอแนะ
ข. การประยุกตใ์ ชร้ ะบบสารสนเทศภายในโรงเรยี น
ค. การส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นใชค้ อมพวิ เตอรเ์ พ่อื การเรยี น 14. ขนั้ ตอนใดเป็นขนั้ ตอนสดุ ทา้ ยของการทาโครงงาน
ง. การใชค้ อมพวิ เตอรจ์ าลองสถานการณ์ต่าง ๆ ก. การลงมอื ทาโครงงาน
ข. การเขยี นรายงานโครงงาน
6. โครงงานใดจดั อย่ใู นโครงงานประเภททดลองทฤษฎี ค. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
ก. โครงงานหนุ่ ยนตจ์ าลองเกบ็ ขยะ ง. การศกึ ษาคน้ ควา้ จากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มลู
ข. โครงงานประเมนิ ความเสยี หายจากแผ่นดนิ ไหว
ค. โครงงานพฒั นาโปรแกรมประมวลผลคา
ง. โครงงานผลติ ส่อื การสอนแบบมลั ตมิ เี ดยี
12. สงิ่ ทม่ี ่งุ หวงั ไวห้ ลงั จากการทาโครงงาน ตอ้ งระบไุ วใ้ น
หวั ขอ้ ใด
ก. วตั ถปุ ระสงค์
ข. วธิ ดี าเนนิ งาน
ค. ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ
ง. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั
รายวิชาเพมิ่ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 15. เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งมกี ารประเมนิ ผลโครงงาน
ก. เพอ่ื วดั คุณภาพของโครงงานวา่ มคี ุณภาพเพยี งใด
13. วธิ ดี าเนนิ งาน ตอ้ งกลา่ วถงึ อะไร ข. เพอ่ื ใหผ้ ศู้ กึ ษาไดท้ ราบรายละเอยี ดของโครงงาน
ก. งบประมาณทต่ี อ้ งใช้ ค. เพอ่ื นาเสนอขอ้ เสนอแนะในการทาโครงงานตอ่ ไป
ข. ผลทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ ง. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหก้ ารทาโครงงานไดร้ บั ความนยิ ม
ค. แหล่งเอกสารอา้ งองิ มากขน้ึ
ง. กจิ กรรมดาเนินการ
1. ง 2. ค 3. ง 4. ข 5. ก
6. ข 7. ง 8. ก 9. ค 10. ค
11. ง 12. ง 13. ก 14. ค 15. ก
รายวิชาเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 แนวคิดและหลกั การเขียนโปรแกรม
เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ตอ้ งมคี วามเขา้ ใจความหมายและลกั ษณะโครงสรา้ งของโปรแกรม
จงึ จะสามารถออกแบบโปรแกรมได้
2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/2 เขยี นโปรแกรมภาษาขนั้ พน้ื ฐาน
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความหมายของการออกแบบโปรแกรมคอมพวิ เตอรไ์ ด้
2. อธบิ ายลกั ษณะโครงสรา้ งโปรแกรมคอมพวิ เตอรไ์ ด้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
• หลกั การพน้ื ฐานในการเขยี นโปรแกรม
- แนวคดิ และหลกั การโปรแกรม โครงสรา้ งโปรแกรม ตวั แปร การลาดบั คาสงั่ การตรวจสอบเงอ่ื นไข
การควบคุมโปรแกรม คาสงั่ แสดงผล และรบั ขอ้ มลู การเขยี นโปรแกรมงา่ ยๆ
3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)
รายวิชาเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการสงั เคราะห์
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
(ช่ัวโมงที่ 1)
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ชวั่ โมงท่ี 1
นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรม (1)
ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ
สอ่ื การเรยี นรู้ : โปรแกรม Visual Studio 2008 คาถามกระตุ้นความคิด
1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • ผ้ทู ่ีมีความร้ดู ้านการเขียนโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ สามารถประกอบอาชีพใด
2. ครตู งั้ ประเดน็ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายว่า นักเรยี นรจู้ กั ภาษา ได้บา้ ง
คอมพวิ เตอรห์ รอื เคยไดย้ นิ ภาษาคอมพวิ เตอรบ์ า้ งหรอื ไม่ และ (โปรแกรมเมอร์ นกั วเิ คราะหร์ ะบบ วศิ วกร
ภาษาใดทน่ี ักเรยี นรจู้ กั หรอื เคยไดย้ นิ ครใู หเ้ วลานกั เรยี นร่วมกนั
แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ภาษาคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ ผดู้ แู ลระบบ)
3. ครแู นะนาภาษาคอมพวิ เตอรใ์ หน้ กั เรยี นรจู้ กั เบอ้ื งตน้ ว่า มภี าษาใด
บา้ ง และแนะนาการเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษา C# โดยเปิดโปรแกรม
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 คาถามกระตุ้นความคิด
Visual Studio 2008 และแสดงการทางานเบอ้ื งตน้ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ โครงสร้างของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา
(3 แบบ ไดแ้ ก่ โครงสรา้ งตามลาดบั
สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : 1) หนังสอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศฯ ม.3
โครงสรา้ งแบบมที างเลอื ก โครงสรา้ ง
2) ใบความรู้ แบบทางานซ้า)
3) ใบงานท่ี 1.1
4) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
1. ครอู ธบิ ายความหมายของการออกแบบโปรแกรมและลกั ษณะสาคญั
ของโครงสรา้ งโปรแกรมแบบตา่ งๆ พรอ้ มกบั แสดงแผนภาพ
โครงสรา้ งโปรแกรมแบบตา่ งๆ ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาและทาความเขา้ ใจ
จากใบความรู้ เร่อื ง โครงสรา้ งโปรแกรม
2. นักเรยี นสงั เกตสญั ลกั ษณ์ในแผนภาพทค่ี รนู าเสนอ แลว้ ใหน้ กั เรยี น
ศกึ ษาลกั ษณะสาคญั ของโครงสรา้ งโปรแกรมเพม่ิ เตมิ จากหนงั สอื -
เรยี นและแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
3. นักเรยี นศกึ ษาความหมายของสญั ลกั ษณ์ต่างๆ ทเ่ี หน็ ในแผนภาพ
จากใบความรู้ เร่อื ง สญั ลกั ษณ์ท่ใี ช้ในการเขยี นผงั งาน แลว้ ให้
นักเรยี นทกุ คนทาใบงานที่ 1.1 เรื่อง โครงสรา้ งโปรแกรม
เสรจ็ แลว้ ร่วมกนั เฉลยคาตอบของใบงาน
4. นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ
รายวชิ าเพิ่มเตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
(ชั่วโมงที่ 2)
ชวั่ โมงท่ี 2
ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้
ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —
1. ครสู ่มุ นักเรยี นจานวน 5 คน ใหอ้ ธบิ ายเกย่ี วกบั โครงสรา้ งโปรแกรม
ลกั ษณะของโครงสรา้ งโปรแกรมแบบต่างๆ โดยครคู อยตรวจสอบ
ความถูกตอ้ ง และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ในส่วนทย่ี งั มขี อ้ บกพรอ่ งอยู่
2. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปองคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั การเขยี นผงั งานโครงสรา้ ง
โปรแกรม
ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ คาถามกระต้นุ ความคิด
ส่อื การเรยี นรู้ : สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นผงั งาน • สญั ลกั ษณ์ที่ใช้เขียนผงั งานต่างกนั
อยา่ งไร
1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้
2. ครแู สดงภาพสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นผงั งาน 10 ภาพ โดยแสดง อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
ทลี ะภาพ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแขง่ ขนั กนั ยกมอื ขน้ึ ตอบคาถาม นกั เรยี น
ทส่ี ามารถอธบิ ายหน้าทข่ี องสญั ลกั ษณ์ทค่ี รแู สดงและยกตวั อยา่ งการ
ใชง้ านไดถ้ ูกตอ้ งจะไดค้ ะแนน 1 คะแนน
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล
สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —
ครถู ามนักเรยี นเพอ่ื ตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเขยี น
โปรแกรมวา่ กอ่ นการเขยี นโปรแกรมจะตอ้ งมกี ารวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั อะไร
เพ่อื จะไดเ้ ขยี นโปรแกรมใหง้ า่ ยขน้ึ
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
7. การวดั และประเมินผล
วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
รายวิชาเพม่ิ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ม.3
2) ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง โครงสรา้ งโปรแกรม
3) โปรแกรม Visual Studio 2008
4) ใบความรู้ เร่อื ง โครงสรา้ งโปรแกรม
5) ใบความรู้ เรอ่ื ง สญั ลกั ษณ์ท่ใี ช้ในการเขยี นผงั งาน
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
- www.numsai.com/การเขยี นโปรแกรม-ฐานขอ้ มลู /การเขยี นผงั งาน-Flowchart.html
- http://www.bcoms.net/system_analysis/lesson63.asp
รายวิชาเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
ใบความรู้
เรื่อง โครงสรา้ งโปรแกรม
โครงสร้างแบบลาดบั
ตวั อยา่ ง ผงั งานการเดนิ ทางจากบา้ นไปยงั โรงเรยี น
เรม่ิ
นงั่ รถรบั จา้ งไปหน้าปากซอย
นงั่ รถประจาทางไปโรงเรยี น
ถงึ โรงเรยี น
จบ
รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
โครงสร้างแบบมีทางเลือก
ตวั อยา่ ง ผงั งานการแกป้ ัญหาโปรแกรมตดั สนิ คะแนน
เรมิ่ ตน้
รบั คะแนน (score)
เทจ็ /False score>=50 จรงิ /True
แสดงผล“นักเรยี นสอบไม่ แสดงผล“นกั เรยี นสอบผ่าน”
ผา่ น”
จบการทางาน
รายวิชาเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
โครงสร้างแบบทางานซ้า
ตวั อยา่ ง ผงั งานการแกป้ ัญหาโปรแกรมแฟคทอเรยี ล
เร่มิ ตน้
Fact = 5
Total = 1
Fact >= 1 จรงิ /True Total = Total *Fact
Fact = Fact - 1
เทจ็ /False
แสดงผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ (Total)
จบการทางาน
รายวชิ าเพ่มิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
ใบความรู้
เรื่อง สญั ลกั ษณท์ ี่ใชใ้ นการเขียนผงั งาน
สญั ลกั ษณ์ ช่ือ ความหมาย
Terminator สญั ลกั ษณ์แทนจดุ เรม่ิ ตน้ และจดุ สน้ิ สุด
Process สญั ลกั ษณ์กระบวนการตา่ งๆ
Decision สญั ลกั ษณ์เงอ่ื นไข
Data สญั ลกั ษณ์ตดิ ตอ่ ผใู้ ชง้ าน
Manual Input สญั ลกั ษณ์การรบั ขอ้ มลู จากผใู้ ชง้ าน
Display สญั ลกั ษณ์การแสดงผลลพั ธ์
Predefined Process สญั ลกั ษณ์ระบกุ ารทางานในฟังกช์ นั ย่อย
Connect สญั ลกั ษณ์จดุ เช่อื มต่อ
Arrow สญั ลกั ษณ์เสน้ ทางการดาเนินงาน
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง โครงสรา้ งโปรแกรม
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ คาหรอื วาดภาพลงในชอ่ งว่างใหม้ คี วามหมายสมบูรณ์
สญั ลกั ษณ์ ชื่อ ความหมาย
1. Display สญั ลกั ษณ์เงอ่ื นไข
2.
สญั ลกั ษณ์การแสดงผลทางจอภาพ
3.
สญั ลกั ษณ์จดุ เช่อื มตอ่
4.
Data
5.
Manual Input สญั ลกั ษณ์การรบั ขอ้ มลู จากผใู้ ชง้ าน
6.
Process
7.
Predefined Process สญั ลกั ษณ์ระบุการทางานในฟังกช์ นั ย่อย
8. สญั ลกั ษณ์แทนจุดเรม่ิ ตน้ และจุดสน้ิ สุด
9. Arrow สญั ลกั ษณ์เสน้ ทางการดาเนินงาน
วชิ าคอมพิวเตอร์ ชื่อ.............................................................................ช้นั ..................เลขท.่ี ....................
รายวิชาเพิ่มเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 เฉลย
ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง โครงสรา้ งโปรแกรม
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเตมิ คาหรอื วาดภาพลงในช่องว่างใหม้ คี วามหมายสมบูรณ์
สญั ลกั ษณ์ ช่ือ ความหมาย
1. Decision สญั ลกั ษณ์เงอ่ื นไข
2. สญั ลกั ษณ์การแสดงผลทางจอภาพ
3. Display
สญั ลกั ษณ์จุดเชอ่ื มตอ่
4. Connect
5. Data สญั ลกั ษณ์ตดิ ตอ่ ผใู้ ชง้ าน
6. Manual Input สญั ลกั ษณ์การรบั ขอ้ มลู จากผใู้ ชง้ าน
7. Process สญั ลกั ษณ์กระบวนการต่างๆ
8. Predefined Process สญั ลกั ษณ์ระบุการทางานในฟังกช์ นั ยอ่ ย
9. Terminator สญั ลกั ษณ์แทนจุดเรมิ่ ตน้ และจุดสน้ิ สดุ
Arrow สญั ลกั ษณ์เสน้ ทางการดาเนินงาน
รายวชิ าเพ่ิมเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ ชื่อ-สกลุ ความตงั้ ใจ ความ การตรงต่อ ความ ผลสาเรจ็ รวม
ของผรู้ บั การ ในการ รบั ผิดชอบ เวลา สะอาด ของงาน 20
ทางาน เรยี บรอ้ ย
ประเมิน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
รายวิชาเพมิ่ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุม่
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี ช่ือ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง การตงั้ ใจ การแก้ไข รวม
ของผ้รู บั การ รว่ มมอื กนั ความ ความ ทางาน ปัญหา/หรือ
ทากิจกรรม คิดเหน็ คิดเหน็ ปรบั ปรงุ 20
ประเมิน ผลงานกลมุ่ คะแนน
43214321432143214321
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
รายวชิ าเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย
กษตั ริย์ ของเพลงชาติ
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื งดี
1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและชุมชน
1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ชน่ื ชมความ
เป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
อยา่ งสม่าเสมอ เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องศาสนิกชน
1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณยี กจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์
2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม
รายวิชาเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอยา่ ง
ทด่ี ดี า้ นความซ่อื สตั ย์
3. มีวินัย รบั ผิดชอบ 2.3 ปฏบิ ตั ติ นต่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง
4. ใฝ่ เรียนรู้ และเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่เพอ่ื นดา้ นความซอ่ื สตั ย์
3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ ่นื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน
4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ
4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ยา่ งเป็นระบบ
4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
5. อยอู่ ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั
คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื
กระทาผดิ พลาด
รายวชิ าเพม่ิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)
คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
และปรบั ตวั อย่รู ่วมกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
6. มุง่ มนั ่ ในการทางาน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสงิ่ ของ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้
ผอู้ น่ื
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน
8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชมุ ชน
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
รายวิชาเพม่ิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
รายวชิ าเพ่มิ เติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
บนั ทึกหลงั แผนการสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมที่มปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื )
(
ตำแหนง่
รายวิชาเพ่ิมเตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 โครงสรา้ งตามลาดบั
เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ผทู้ เ่ี รม่ิ ต้นการเขยี นโปรแกรม จะตอ้ งเขา้ ใจการทางานของโครงสรา้ งตามลาดบั และสามารถออกแบบผงั งานการ
ทางานของโครงสรา้ งตามลาดบั ได้
2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 ตวั ช้ีวดั
ง 3.1 ม.3/2 เขยี นโปรแกรมภาษาขนั้ พน้ื ฐาน
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายการทางานของโครงสรา้ งตามลาดบั ได้
2. สามารถออกแบบผงั งานการทางานของโครงสรา้ งตามลาดบั ได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
• หลกั การพน้ื ฐานในการเขยี นโปรแกรม
- แนวคดิ และหลกั การโปรแกรม โครงสรา้ งโปรแกรม ตวั แปร การลาดบั คาสงั่ การตรวจสอบเงอ่ื นไข
การควบคุมโปรแกรม คาสงั่ แสดงผล และรบั ขอ้ มลู การเขยี นโปรแกรมงา่ ยๆ
3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)
รายวิชาเพิม่ เติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการสงั เคราะห์
4.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
(ชั่วโมงท่ี 1)
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบวฏั จกั รการเรยี นรู้ (4 MAT)
ชวั่ โมงที่ 1
ขนั้ ที่ 1 สร้างคณุ ค่าและประสบการณ์ของสิ่งที่เรียน (พฒั นาสมองซกี ขวา)
สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —
1. ครเู ล่าประสบการณ์หรอื กระบวนการทางานตามลาดบั โดย
ยกตวั อยา่ งหน่งึ สถานการณ์เพอ่ื เล่าการดาเนนิ การตามขนั้ ตอน
ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ
2. ครใู หน้ ักเรยี นเล่าประสบการณ์หรอื กจิ วตั รการทางานของตนเองทม่ี ี
ลกั ษณะการทางานทเ่ี รยี งตามลาดบั
3. ครสู รุปประเดน็ สาคญั ว่า ลกั ษณะการทางานของทกุ คน จะมกี าร
ทางานเรยี งตามลาดบั เป็นพน้ื ฐานอย่แู ลว้ ซง่ึ การทางานลกั ษณะน้ี
กจ็ ะมลี กั ษณะเชน่ เดยี วกบั การทางานของคอมพวิ เตอร์
รายวิชาเพ่ิมเตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3 คาถามกระตุ้นความคิด
ขนั้ ท่ี 2 วิเคราะหป์ ระสบการณ์ (พฒั นาสมองซกี ซา้ ย) • โครงสร้างตามลาดบั มกี ารประมวลผล
อยา่ งไร
สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : — (ประมวลผลเพยี งครงั้ เดยี วเท่านนั้ )
1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ
(เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลาง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน
ออ่ น) จากนนั้ ตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกแบบและเขยี นขนั้ ตอนหรอื ผงั งาน
การแกป้ ัญหาตามสถานการณ์ทค่ี รกู าหนด ดงั น้ี
- การสรา้ งโปรแกรมคานวณหาพน้ื ทรี่ ปู วงกลม โดยมกี ารรบั คา่
รศั มขี องรปู วงกลม
โดยใหน้ ักเรยี นวาดผงั การทางานของตนเองลงในกระดาษ A4
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอผงั การทางานของโปรแกรมของกลมุ่
ตนเองตามทไ่ี ดอ้ อกแบบไวท้ ห่ี น้าชนั้ เรยี น
ขนั้ ที่ 3 ปรบั ประสบการณ์เป็นความคิดรวบยอด (พฒั นาสมองซกี ขวา)
ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —
1. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ทค่ี รู
กาหนด
2. นกั เรยี นทุกคนทาความเขา้ ใจขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาขา้ งตน้
3. ครสู รุปขนั้ ตอนการแกป้ ัญหาขา้ งตน้ โดยสรปุ เป็นประเดน็ และวธิ กี าร
แตล่ ะขนั้ ตอนอย่างชดั เจน
(ชั่วโมงท่ี 2)
ขนั้ ที่ 4 พฒั นาความคิดรวบยอด (พฒั นาสมองซกี ซา้ ย)
ส่อื การเรยี นรู้ : 1. ใบความรู้ 2. เอกสารประกอบการสอน
1. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง ตวั อย่างโครงสรา้ งการ
ทางานตามลาดบั โดยครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นทกุ คนเขา้ ใจถงึ ลกั ษณะ
การเขยี นผงั งาน และการใชส้ ญั ลกั ษณ์ต่างๆ ในผงั งานอย่างละเอยี ด
2. นกั เรยี นศกึ ษาเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั โครงสรา้ งตามลาดบั จาก
รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
หนงั สอื เรยี น
3. ครสู รุปลกั ษณะของผงั งานตามลาดบั ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจ โดยแสดง
ตวั อยา่ งโครงสรา้ งการทางานตามลาดบั ใหน้ กั เรยี นเหน็ อย่างชดั เจน
ตามเอกสารประกอบการสอน
ชวั่ โมงท่ี 2
ขนั้ ที่ 5 ลงมอื ปฏิบตั ิจากกรอบความคิดท่ีกาหนด (พฒั นาสมองซกี ซา้ ย)
สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —
1. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ อธบิ ายผงั งานของโปรแกรมคานวณหา
คา่ เฉลย่ี ของจานวนเตม็ 5 จานวน โดยแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั
คดิ วเิ คราะหแ์ ละออกนาเสนอทห่ี น้าชนั้ เรยี น
2. ครสู รุปผงั งานของโปรแกรมหาคา่ เฉล่ยี ใหน้ กั เรยี นทุกคนฟังและ
ทาความเขา้ ใจ โดยการวาดผงั งานลงบนกระดานหน้าชนั้ เรยี น
3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สรุปแนวคดิ และองคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั โครงสรา้ ง
โปรแกรมแบบลาดบั พรอ้ มกบั ยกตวั อย่างประกอบอย่างชดั เจน
4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบงานที่ 2.1 เรื่อง โครงสร้างตามลาดบั
เสรจ็ แลว้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบ
ขนั้ ที่ 6 สร้างชิ้นงานเพอื่ สะท้อนความเป็ นตนเอง (พฒั นาสมองซกี ขวา)
ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศฯ ม.3
2. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 3. ใบงานท่ี 2.1
1. นักเรยี นศกึ ษาโครงสรา้ งโปรแกรมตามลาดบั จากหนังสอื เรยี นหรอื
แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
2. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสรา้ งชน้ิ งานโดยออกแบบโครงสรา้ ง
โปรแกรมตามลาดบั โดยกาหนดสถานการณ์ทต่ี อ้ งการออกแบบเอง
กลมุ่ ละ 1 โครงสรา้ ง
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
(ช่ัวโมงที่ 2)
ขนั้ ที่ 7 วิเคราะห์คณุ ค่าและการประยุกต์ใช้ (พฒั นาสมองซกี ซา้ ย)
ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —
1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอสถานการณ์และโครงสรา้ งโปรแกรม
ทเ่ี ขยี นจากสถานการณ์ดงั กลา่ วทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยมเี พอ่ื นและ
ครคู อยใหค้ าชแ้ี นะเพมิ่ เตมิ ในส่วนทย่ี งั บกพร่อง
2. นักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะหผ์ ลงานของเพอ่ื นทน่ี าเสนอ โดยสามารถ
แสดงความคดิ เหน็ หรอื ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื ปรบั ปรุงได้
ขนั้ ท่ี 8 แลกเปล่ียนประสบการณ์เรียนรกู้ บั ผอู้ ื่น (พฒั นาสมองซกี ขวา) คาถามกระต้นุ ความคิด
สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : — • โครงสร้างตามลาดบั มีการทางานอยา่ งไร
(ทางานตามลาดบั ก่อน-หลงั จากบนลงล่าง
1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มจดั บอรด์ ผลงานของกลุ่มตนเอง แลว้ ตดิ ไวด้ า้ นหลงั หรอื จากจดุ เรมิ่ ตน้ ถงึ จดุ ส้นิ สดุ )
หอ้ งเรยี น พรอ้ มกบั เวน้ บรเิ วณในบอรด์ ใหเ้ พอ่ื นหรอื บุคคลอน่ื รว่ ม
แสดงความคดิ เหน็ หรอื ใหข้ อ้ เสนอแนะได้
2. ครใู หเ้ วลานักเรยี นทุกคนศกึ ษาเรยี นรูผ้ ลงานทก่ี ลุม่ อ่นื จดั บอรด์ ไวแ้ ละ
รว่ มแสดงความคดิ เหน็ หรอื ใหข้ อ้ เสนอแนะ
3. นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ
รายวิชาเพ่ิมเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 เคร่ืองมอื เกณฑ์
7. การวดั และประเมินผล ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วิธีการ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.1
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มนั ่ ในการทางาน
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ม.3 2) เอกสารประกอบการสอน
3) ใบความรู้ เร่อื ง ตวั อยา่ งโครงสรา้ งการทางานตามลาดบั 4) ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง โครงสรา้ งตามลาดบั
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
- www.numsai.com/การเขยี นโปรแกรม-ฐานขอ้ มลู /การเขยี นผงั งาน-Flowchart.html
- http://www.bcoms.net/system_analysis/lesson63.asp
รายวิชาเพิ่มเตมิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
ใบความรู้
เรือ่ ง ตวั อยา่ งโครงสรา้ งการทางานตามลาดบั
ผงั งานการเดินทางจากบ้านไปยงั โรงเรียน
เร่ิม
นงั่ รถรบั จา้ งไปหน้าปากซอย
นัง่ รถประจาทางไปโรงเรยี น
ถงึ โรงเรยี น
จบ
รายวชิ าเพิ่มเติม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ม.3
เอกสารประกอบการสอน
เรือ่ ง ผงั งานการคานวณหาพ้ นื ที่รูปวงกลม
คาชี้แจง นกั เรยี นตอ้ งการพฒั นาโปรแกรมคานวณหาพน้ื ท่รี ปู วงกลม โดยการรบั ค่ารศั มขี องรปู วงกลมเขา้ ไป นกั เรยี น
จะออกแบบโครงสรา้ งโปรแกรมไดอ้ ย่างไร
เริ่ม
รบั คา่ รศั มี
คานวณ πr2
แสดงผลลพั ธ์
จบ
รายวิชาเพิ่มเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3
ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง โครงสรา้ งตามลาดบั
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นออกแบบโครงสรา้ งโปรแกรมเพอ่ื แกป้ ัญหาในสถานการณ์ทก่ี าหนดต่อไปน้ี
“โปรแกรมคานวณคะแนนเฉลยี่ ของวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่3 ของนกั เรยี นทสี่ อบวชิ าวทิ ยาศาสตร์
จานวน 5 คน และแสดงผลทคี่ านวณได”้
วชิ าคอมพวิ เตอร์ ช่ือ.............................................................................ชั้น..................เลขที่.....................
รายวิชาเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ม.3 เฉลย
ใบงานที่ 2.1 เรื่อง โครงสรา้ งตามลาดบั
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นออกแบบโครงสรา้ งโปรแกรมเพอ่ื แกป้ ัญหาในสถานการณ์ทก่ี าหนดตอ่ ไปน้ี
“โปรแกรมคานวณคะแนนเฉลยี่ ของวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่3 ของนกั เรยี นทสี่ อบวชิ าวทิ ยาศาสตร์
จานวน 5 คน และแสดงผลทคี่ านวณได”้
เรมิ่ ตน้
รบั ค่า score1, score2, score3,
score4, score5
คานวณ mean = ( score1+score2+score3+score4+score5)/5
แสดงผลการคานวณคา่ mean
จบการทางาน