The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย 2556

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sirawit Sukkasem, 2021-04-27 03:22:11

มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย 2556

มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย 2556

บทที่ 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-23

1.102.10 แสงสว่างเหนือท่วี ่างเพ่ือปฏบิ ตั งิ าน

ต้องมีแสงสวา่ งอยา่ งพอเพียงเหนือพืน้ ท่ีปฏิบตั ิงาน โดยท่ีความสอ่ งสว่างเฉลี่ยไม่น้อยกวา่ 200
ลกั ซ์ และจดั ให้สามารถซอ่ มหรือเปลีย่ นดวงโคมได้โดยไมเ่ กิดอนั ตรายจากสว่ นท่ีมีไฟฟ้ า

1.102.11 ส่วนท่มี ีไฟฟ้ าและเปิ ดโล่ง

สว่ นที่มีไฟฟ้ าและเปิ ดโลง่ ซ่งึ ไม่มีการกนั้ ถ้าอย่เู หนือพืน้ ท่ีปฏิบตั งิ านต้องตดิ ตงั้ อย่ใู นระดบั สงู ไม่
น้อยกวา่ ที่กําหนดในตารางที่ 1-3

1.102.12 ท่วี ่างเหนือพืน้ ท่เี พ่ือปฏบิ ตั งิ าน (Headroom)

บริเวณที่ว่างเพ่ือปฏิบตั ิงาน ต้องมีความสงู ไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร และสว่ นบนของแผงสวิตช์
ต้องอย่หู ่างจากเพดานตดิ ไฟได้ไม่น้อยกว่า 0.90 เมตร หากเป็ นเพดานไม่ตดิ ไฟ หรือมีแผน่ กนั้ ที่
ไม่ติดไฟระหว่างแผงสวิตช์กบั เพดาน ระยะห่างระหว่างส่วนบนของแผงสวิตช์และเพดานต้องไม่
น้อยกวา่ 0.60 เมตร

ตารางท่ี 1-3

ระดบั ความสงู ของส่วนท่มี ไี ฟฟ้ าและไม่มีท่กี ัน้

แรงดนั ไฟฟ้ าระหว่างสายเส้นไฟ (โวลต์) ระดบั ความสงู (เมตร)
1,000-7,500 2.80
7,501-35,000 2.90
>35,000
2.90 + 0.01 (เมตร/กิโลโวลต์)

1.103 เคร่ืองห่อหุ้มและการกนั้ ส่วนท่มี ีไฟฟ้ า

สว่ นท่ีมีไฟฟ้ าของบริภณั ฑ์ที่มีแรงดนั เกิน 50 โวลต์ขนึ ้ ไป ต้องมีการกนั้ เพื่อป้ องกนั การสมั ผสั สว่ น
ที่มีไฟฟ้ าโดยบงั เอิญ การกนั้ อาจใช้เคร่ืองหอ่ ห้มุ หรือวธิ ีการใดวิธีการหนงึ่ ที่เหมาะสมดงั นี ้

ตอน ก. สาํ หรับระบบแรงตา่ํ

1.103.1 การกนั้

การกนั้ อาจใช้วธิ ีการหนงึ่ วธิ ีการใดดงั ตอ่ ไปนี ้
1.103.1.1 อยใู่ นห้องหรือเคร่ืองหอ่ ห้มุ ท่ีมีลกั ษณะคล้ายกนั ซงึ่ อนญุ าตให้เข้าได้เฉพาะบคุ คลที่มี
หน้าที่เกี่ยวข้องเทา่ นนั้

1-24 บทท่ี 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป

1.103.1.2 อยใู่ นสถานท่ีซง่ึ มีแผงหรือรัว้ ตาขา่ ยกนั้ ที่ถาวรและเหมาะสม และการเข้าไปยงั ที่วา่ ง
ซงึ่ อาจสมั ผสั ส่วนที่มีไฟฟ้ าได้นนั้ ทําได้เฉพาะบคุ คลท่ีเก่ียวข้องเท่านนั้ ช่องเปิ ดใดๆ ของที่กนั ้
หรือที่ปิ ดบังต้องมีขนาดหรืออยู่ในตําแหน่งที่บคุ คลอื่นไม่อาจสมั ผสั ส่วนที่มีไฟฟ้ าได้โดย
บงั เอิญ หรือไมอ่ าจนําวตั ถซุ งึ่ เป็ นตวั นําไฟฟ้ าไปสมั ผสั สว่ นที่มีไฟฟ้ านนั้ ได้โดยบงั เอิญ
1.103.1.3 ติดตงั้ แยกส่วนในพืน้ ที่หรือบริเวณ เพ่ือไม่ให้บคุ คลท่ีไม่มีหน้าท่ีเก่ียวข้องเข้าไปได้ เช่น
ตดิ ตงั้ บนระเบียง บนกนั สาด หรือบนนงั่ ร้าน
1.103.1.4 ตดิ ตงั้ ยกขนึ ้ เหนือพืน้ หรือพืน้ ท่ีทํางานไมน่ ้อยกวา่ 2.40 เมตร
1.103.1.5 ในที่ซ่ึงมีการติดตงั้ สวิตช์ หรือบริภัณฑ์อื่นในระบบแรงตํ่า ต้องมีการกัน้ แยกออก
จากระบบแรงสงู ด้วยแผ่นกนั้ รัว้ หรือตาข่ายที่เหมาะสม

ตอน ข. สาํ หรับระบบแรงสูง

1.103.2 การตดิ ตัง้ ทางไฟฟ้ าในห้องท่ปี ิ ดล้อม

การติดตงั้ ทางไฟฟ้ าในห้องที่ปิ ดล้อมหรือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกําแพง ผนงั หรือรัว้ โดยมีการ
ปิ ดกนั ้ ทางเข้าด้วยกญุ แจ หรือวิธีการอื่นที่ได้รับการรับรองแล้ว ให้ถือวา่ เป็ นสถานที่เข้าได้เฉพาะ
บคุ คลท่ีมีหน้าท่ีเกี่ยวข้องเท่านนั้ ชนิดของเครื่องห่อห้มุ ต้องออกแบบและสร้างให้สอดคล้องกบั
ประเภทและระดบั ของอนั ตรายที่เกี่ยวข้องกบั การตดิ ตงั้

กําแพง ผนงั หรือรัว้ ที่มีความสงู น้อยกวา่ 2.00 เมตรไม่ถือว่าเป็ นการป้ องกนั การเข้าถึง นอกจาก
จะมีสง่ิ อ่ืนเพม่ิ เตมิ ท่ีทําให้การกนั้ นนั้ มีคณุ สมบตั ใิ นการกนั้ เทียบเทา่ กําแพง ผนงั หรือรัว้ ท่ีมีความ
สงู ไม่น้อยกวา่ 2.00 เมตร

1.103.3 การตดิ ตงั้ ภายในอาคาร

ในสถานที่ที่บคุ คลทวั่ ไปเข้าถงึ ได้ การตดิ ตงั้ ทางไฟฟ้ าต้องเป็ นดงั นี ้

1.103.3.1 เป็ นบริภณั ฑ์ที่อยใู่ นเครื่องห่อห้มุ ที่เป็ นโลหะหรืออยใู่ นห้องหรือบริเวณท่ีใสก่ ญุ แจ
ได้

1.103.3.2 สวิตช์เกียร์ที่อยใู่ นเครื่องห่อห้มุ ที่เป็ นโลหะ หน่วยสถานียอ่ ย (unit substation) หม้อ
แปลง กลอ่ งดงึ สาย กล่องตอ่ สาย และบริภณั ฑ์อื่นท่ีคล้ายกนั ต้องทําป้ ายหรือเคร่ืองหมายเตือน
ภยั ท่ีเหมาะสม

1.103.3.3 ช่องระบายอากาศของหม้อแปลงแบบแห้งหรือช่องของบริภัณฑ์อ่ืนที่คล้ายกัน ต้อง
ออกแบบให้วตั ถจุ ากภายนอกที่อาจลอดเข้าไปให้เบ่ียงเบนพ้นไปจากสว่ นท่ีมีไฟฟ้ า

บทที่ 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-25

1.103.4 การตดิ ตงั้ ภายนอกอาคาร

ในสถานท่ีที่บุคคลทวั่ ไปเข้าถึงได้ การติดตงั้ ทางไฟฟ้ าต้องอยู่ในเครื่องห่อห้มุ หรือวิธีการอ่ืนที่
ได้รับการรับรองแล้ววา่ ปลอดภยั

1.104 สถานท่ซี ่งึ บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าอาจได้รับความเสียหายทางกายภาพได้

ในสถานท่ีซึง่ บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าอาจได้รับความเสียหายทางกายภาพได้ ต้องกนั้ ด้วยที่กนั้ หรือเครื่อง
หอ่ ห้มุ ที่มีความแข็งแรง ที่จะป้ องกนั ความเสียหายนนั้ ได้

1.105 เคร่ืองหมายเตอื นภยั

ทางเข้าห้องหรือท่ีกนั้ ท่ีมีสว่ นท่ีมีไฟฟ้ าอย่ภู ายในและเปิ ดโลง่ ต้องมีเครื่องหมายเตือนภยั ท่ีชดั เจน
และเหน็ ได้งา่ ย เพ่ือห้ามบคุ คลท่ีไมม่ ีหน้าที่เก่ียวข้องเข้าไป

1.106 ส่วนท่มี ีประกายไฟ

ส่วนของบริภัณฑ์ซึ่งในขณะใช้ งานปกติทําให้เกิดอาร์ก ประกายไฟ เปลวไฟ หรือโลหะ
หลอมเหลว ต้องมีการห้มุ หรือปิ ดกนั้ และแยกจากวสั ดทุ ี่ตดิ ไฟได้

1.107 การทาํ เคร่ืองหมายระบุเคร่ืองปลดวงจร

เครื่องปลดวงจรท่ีใช้สําหรับมอเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้ า สายเมน สายป้ อนหรือวงจรย่อยทกุ เคร่ือง
ต้องทําเครื่องหมายระบุวตั ถปุ ระสงค์ให้ชัดเจนติดไว้ที่เครื่องปลดวงจรหรือใกล้กับเคร่ืองปลด
วงจรนัน้ นอกจากว่าตําแหน่งและการจัดเคร่ืองปลดวงจรนัน้ ชัดเจนอยู่แล้ว เครื่องหมายต้อง
ชดั เจนและทนตอ่ สภาพแวดล้อม

ตอน ง. ระยะห่างทางไฟฟ้ า (Electrical Clearance) ในการตดิ ตั้งสายไฟฟ้ า

ระยะห่างทางไฟฟ้ านี้ ครอบคลมุ ถึงระยะห่างทงั้ หมดทีเ่ กี่ยวข้องกบั สายจ่ายพลงั งานไฟฟ้ า
เหนือพืน้ ดิน (overhead supply) สําหรบั การติดตง้ั เพือ่ ใช้งานทงั้ แบบถาวรและชวั่ คราว สําหรับ
กรณีพาดสายผ่านอาคารหรือสิ่งก่อสร้างใดๆ โดยที่สายไฟฟ้ าไม่ได้ยึดติดกับอาคารหรือ
สิ่งก่อสร้างนนั้ ๆ

1-26 บทที่ 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป

1.108 การวัดระยะห่างทางไฟฟ้ า

การวดั ระยะห่างทางไฟฟ้ าให้วดั ระยะในแนวตรงจากผิว (surface) ของส่วนท่ีมีแรงดนั ไฟฟ้ า
(สายไฟ, ตวั นําไฟฟ้ า และอปุ กรณ์ไฟฟ้ า) ไปยงั ผิวของสว่ นที่ไม่มีแรงดนั ไฟฟ้ าหรือไปยงั สง่ิ ตา่ งๆ
ที่อยใู่ กล้ที่สดุ

1.109 ระยะห่างทางไฟฟ้ า

ระยะหา่ งทางไฟฟ้ าในการตดิ ตงั้ สายไฟฟ้ าต้องมีระยะหา่ งไมน่ ้อยกวา่ ตามท่ีกําหนดดงั ตอ่ ไปนี ้

1.109.1 ระยะห่างในแนวนอน (Horizontal Clearance)

ระยะหา่ งในแนวนอน ให้ใช้คา่ ตามตารางที่ 1-4

1.109.2 ระยะห่างในแนวด่งิ (Vertical Clearance)

ระยะหา่ งในแนวดงิ่ ให้ใช้คา่ ตามตารางที่ 1-5

1.109.3 ระยะห่างในแนวเฉียง (Diagonal Clearance)

ระยะหา่ งในแนวเฉียง ให้เป็ นไปตามข้อกําหนดของแตล่ ะการไฟฟ้ าฯ

หมายเหตุ 1) ระยะห่างตามตารางเป็นระยะห่างสําหรับอาคารหรือส่ิงก่อสร้างทีไ่ ม่มีการเข้าไปบํารุงรักษา
หรือทํางาน หากมีความจําเป็นตอ้ งเข้าไปบํารุงรกั ษาหรือทํางานในระยะห่างดงั กล่าว ผูท้ ีเ่ ข้า
ไปดําเนินงานจะ ตอ้ งมีการป้ องกนั ทีเ่ หมาะสม

2) แรงดนั ไฟฟ้ าในทีน่ ี้ หมายถึง แรงดนั ไฟฟ้ าระหว่างสายเสน้ ไฟ (เฟส-เฟส)
3) ชือ่ ของสายไฟฟ้ า ชนิดต่างๆ ในตารางเทียบกบั สายไฟฟ้ าของการไฟฟ้ าฯ ดงั นี้

3.1) สายหมุ้ ฉนวนแรงต่ําตีเกลียวกบั สายนิวทรลั เปลือย
= Service drop Conductor

3.2) สายหมุ้ ฉนวนแรงตํ่า
= Weather proof Conductor

3.3) สายหมุ้ ฉนวนแรงสงู ไม่เต็มพิกดั
= Partially insulated Conductor

3.4) สายหมุ้ ฉนวนแรงสูง 2 ชนั้ ไม่เต็มพิกดั
= Space aerial Cable

3.5) สายหมุ้ ฉนวนแรงสงู เต็มพิกดั ตีเกลียว
= Fully insulated Cable

4) ผนงั ดา้ นปิ ดของอาคาร คือ ผนงั อาคารทีบ่ ุคคลไม่สามารถยืน่ ส่วนของร่างกายหรือวตั ถมุ า
สมั ผสั สายไฟฟ้ าได้ โดยพลงั้ เผลอ

บทที่ 1 นิยามและข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-27

5) ผนงั ด้านเปิ ดของอาคาร คือ ผนงั อาคารที่บุคคลสามารถยื่นส่วนของ ร่างกายหรือวตั ถุมา
สมั ผสั สายไฟฟ้ าได้ โดยพลง้ั เผลอ

6) สิ่งก่อสร้างอื่นๆ หมายถึง ปล่องควนั ถงั ซ่ึงบรรจสุ ารทีไ่ ม่ติดไฟ เสาอากาศโทรทศั น์-วิทยุ ที่
ติดตง้ั อิสระ และรวมถึงเสาอากาศโทรทศั น์-วิทยุ ทีต่ ิดตงั้ กบั ตวั อาคาร ซึ่งต้องไม่ล้ําส่วนหน่ึง
ส่วนใดของอาคารใน แนวนอนเดียวกบั สายไฟฟ้ านนั้

7) ระยะห่างนี้ กําหนดทีส่ ภาพ Max. Final Sag ทีอ่ ณุ หภูมิใชง้ านสงู สดุ ของสายไฟฟ้ า
8) ทางสญั จร หมายถึง ทางหลวง ถนน ตรอก ซอย ทีเ่ ป็นทีส่ าธารณะหรือทางส่วนบคุ คลก็ตาม

หรือบริเวณทีย่ านพาหนะใชผ้ ่านอยู่แลว้
9) หากเป็นทางสญั จรและพืน้ ทีซ่ ึ่งไม่ไดจ้ ดั ไวส้ ําหรับรถยนต์ หรือยาน พาหนะอื่นใดผ่าน

ระยะห่างต่ําสดุ สามารถลดลงไดเ้ หลือ 2.6 เมตร
10) ไม่อนญุ าตให้ใช้สายดงั กล่าวเดินสายใตห้ ลงั คา ระเบียง ส่วนของอาคาร ป้ าย เสาโทรทศั น์

- วิทยุ หรือถงั ซึ่งบรรจสุ ารทีไ่ ม่ติดไฟ
11) อนญุ าตใหเ้ ดินสายชว่ั คราวไดโ้ ดยตอ้ งขออนญุ าตจากการไฟฟ้ าทอ้ งถ่ิน ทง้ั นีใ้ ชร้ ะยะห่างดงั นี้

11.1) 69 kV ระยะห่าง 2.2 เมตร
11.2) 115 kV ระยะห่าง 2.5 เมตร
11.3) 230 kV ระยะห่าง 3.2 เมตร
ข้อแนะนํา ระยะห่างในการติดตง้ั ระบบไฟฟ้ ากบั ระบบอืน่ ๆ ใหด้ ภู าคผนวก ค.

บทท่ี 1 นิยามและ

ตารางท
ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวนอนระหว่างสายไฟฟ้ ากับส่งิ ก่อ

(Minimum Horizo

ไม่เกนิ 1 kV

ชนิดของสายไฟฟ้ า

ส่งิ ท่อี ยู่ใกล้สายไฟฟ้ า สายหุ้มฉนวน

1.1 - ผนงั ด้านปิดของอาคาร4) แรงต่าํ ตเี กลียว สายหุ้มฉนวน สายเป
- สะพานลอยคนเดินข้ามถนน กรณีท่ีมีแผงหรือผนงั แรงต่าํ 3) 1.5
กนั ้ ระหว่างสายไฟฟ้ ากบั สะพานลอย กับสายนิวทรัล
- ป้ ายโฆษณาท่ีติดกบั อาคาร เปลือย3) 1.8

1.2 - ผนงั ด้านเปิ ดของอาคาร5) เฉลียงระเบียงหรือบริเวณ 0.30 0.15
ที่มีคนเข้าถงึ ได้
0.90 0.15
- สะพานทกุ ชนิดสําหรับยานพาหนะ
- เสาไฟถนน เสาสญั ญาณไฟจราจรตา่ งๆ
- สง่ิ ก่อสร้างอ่ืนๆ6)

ะข้อกาํ หนดทั่วไป 1-28

ท่ี 1-4
อสร้าง เม่อื สายไฟฟ้ าไม่ได้ยดึ ตดิ กับส่งิ ก่อสร้าง (เมตร)
ontal Clearance)

แรงดนั ไฟฟ้ า2) 69 kV 115 kV 230 kV
11 – 33 kV ชนิดของสายไฟฟ้ า

ชนิดของสายไฟฟ้ า

สายห้มุ ฉนวน สายห้มุ ฉนวน สายหุ้มฉนวน สายเปลือย

ปลือย แรงสูงไม่เตม็ แรงสูง 2 ชัน้ แรงสูงเตม็
พกิ ัด3) ไม่เตม็ พกิ ัด3) พกิ ัดตีเกลียว3)

50 0.60 0.30 0.15 1.80 2.30 3.00

80 1.50 0.90 0.60 2.13 2.30 3.00

บทท่ี 1 นิยามและ

ตารางท
ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวด่งิ ระหว่างสายไฟฟ้ า7)กับพ

(Minimum Vertic

ไม่เกนิ 1 kV

ชนิดของสายไฟฟ้ า

ส่งิ ท่ีอยู่ใกล้สายไฟฟ้ า สายหุ้มฉนวน

2.1 - เหนือทางสญั จร8) สําหรับคน, รถยนต์ หรือยาน แรงต่าํ ตีเกลียว สายหุ้มฉนวน สายเป
พาหนะอื่นใด รวมส่ิงของที่บรรทุกแล้ว สูงไม่เกิน 4.6
2.45 เมตร ผ่าน กับสายนิวทรัล แรงต่าํ 3) 6.1
เปลือย3)
2.2 - เหนือทางสัญจร8) สําหรับไว้ให้รถยนต์และรถ
บรรทุก หรือยานพาหนะอื่นใดรวมส่ิงของที่บรรทุก 3.609) 2.909)
แล้วสงู ไมเ่ กิน 4.3 เมตร ผ่าน
5.50 5.50
2.3 - คลองหรือแหล่งนํา้ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ
กรมเจ้าทา่ กรมชลประทาน หน่วยราชการ หรือเอก
ชนท่ีมีเรื อแล่นผ่านให้ ปฏิบัติตามข้ อกําหนดของ
กรมเจ้าทา่ กรมชลประทาน หน่วยราชการ หรือเอก
ชน ตามความสงู ของเรือสูงสดุ ท่ีสามารถแล่นผ่าน
ร่องนํา้ หรือจุดลอดสงู สดุ ของสะพานแบบปิ ด ณ ที่
นัน้ ๆได้ โดยให้ระยะห่างวดั จากท้องสายไฟฟ้ ากับ
จุด ย อ ด สูงสุด ใ ด ๆ ข อ ง เ รื อ ห รื อ จุด ล อ ด สูงสุด ข อ ง
สะพานไม่น้ อยกว่าค่าตามตารางโดยวัดระยะเมื่อ
ระดับนํา้ ขึน้ สูงสุดซ่ึงกําหนดตามความกว้างของ
แหลง่ นํา้ ดงั ต่อไปนี ้

ะข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-29

ท่ี 1-5 69 kV 115 kV 230 kV
พนื้ แหล่งนํา้ อาคาร หรือส่งิ ก่อสร้างอ่ืนๆ (เมตร) ชนิดของสายไฟฟ้ า
cal Clearance)
สายเปลือย
แรงดนั ไฟฟ้ า2)
11 – 33 kV 4.90 5.10 5.80

ชนิดของสายไฟฟ้ า

สายห้มุ ฉนวน สายห้มุ ฉนวน สายหุ้มฉนวน
ปลือย แรงสูงไม่เตม็ แรงสูง 2 ชนั้ แรงสูงเตม็

พกิ ัด3) ไม่เตม็ พกิ ัด3) พกิ ัดตเี กลียว3)

60 4.60 4.60 3.609)

10 6.10 6.10 5.50 7.00 7.50 9.00

บทท่ี 1 นิยามและ

ตารางท่ี 1
ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวด่งิ ระหว่างสายไฟฟ้ า7)กบั พ

(Minimum Vertic

ไม่เกนิ 1 kV

ชนิดของสายไฟฟ้ า

ส่ิงท่ีอยู่ใกล้สายไฟฟ้ า สายห้มุ ฉนวน

2.3.1 - ไมเ่ กิน 50 เมตร แรงต่าํ ตเี กลียว สายห้มุ ฉนวน สายเป
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่ แรงต่าํ 3) 7.7
เกิน 4.9 เมตร ผ่าน กับสายนิวทรัล 10.
เปลือย3) 12.
2.3.2 - เกินกว่า 50 เมตร แตไ่ มเ่ กิน 500 เมตร 13.
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่ 7.0 6.8
เกิน 7.3 เมตร ผ่าน h+2
9.4 9.3
2.3.3 - เกินกว่า 500 เมตร แต่ไมเ่ กิน 5,000 เมตร
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่ 11.3 11.1
เกิน 9.0 เมตร ผ่าน
13.1 12.9
2.3.4 - มากกวา่ 5,000 เมตร
ปกติให้ถือว่าเรือหรือยานพาหนะมีความสงู ไม่ h + 2.1 h + 2.1
เกิน 11.0 เมตร ผา่ น

2.3.5 - ถ้ามีการกําหนดให้เรือหรือยานพาหนะท่ีมี
ความสงู (h) มากกว่าทีก่ ําหนดตามข้อ 2.3.1 –
2.3.4 ผา่ น

ะข้อกาํ หนดท่ัวไป 1-30

1-5 (ต่อ) 69 kV 115 kV 230 kV
พนื้ แหล่งนํา้ อาคาร หรือส่งิ ก่อสร้างอ่ืนๆ (เมตร) ชนิดของสายไฟฟ้ า
cal Clearance)
สายเปลือย
แรงดนั ไฟฟ้ า2)
11 – 33 kV 7.9 8.2 8.9

ชนิดของสายไฟฟ้ า

สายหุ้มฉนวน สายหุ้มฉนวน สายห้มุ ฉนวน
ปลือย แรงสูงไม่เตม็ แรงสูง 2 ชัน้ แรงสูงเตม็

พกิ ัด3) ไม่เตม็ พกิ ัด3) พกิ ัดตีเกลียว3)

7 7.7 7.7 6.8

.2 10.2 10.2 9.3 10.4 10.7 11.4

.0 12.0 12.0 11.1 12.2 12.5 13.2

.8 13.8 13.8 12.9 14.0 14.3 15.0

2.9 h + 2.9 h + 2.9 h + 2.9 h + 3.2 h + 3.5 h + 4.1

บทท่ี 1 นิยามและ

ตารางท่ี 1
ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวด่งิ ระหว่างสายไฟฟ้ า7)กับพ

(Minimum Vertic

ไม่เกนิ 1 kV

ชนิดของสายไฟฟ้ า

ส่ิงท่ีอย่ใู กล้สายไฟฟ้ า สายห้มุ ฉนวน

2.4 - คลองหรือแหล่งนํา้ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ แรงต่าํ ตีเกลียว สายหุ้มฉนวน สายเป
หน่วยงานราชการ หรือเป็ นของเอกชน ที่ไม่มีเรือ แรงต่าํ 3)
แลน่ ผ่าน กับสายนิวทรัล 5.2
เปลือย3)
2.5 - เหนือหรือใต้หลงั คาหรือสว่ นของอาคารท่ีไมม่ ีคนเดิน 3.01
หรือไมส่ ามารถเข้าถงึ ได้ 4.4 4.3 4.61
4.6
- เหนือหรือใต้หลงั คาระเบียงท่ีมีคนเดินหรือสามารถเข้า 1.1 0.15 3.0
ถงึ ได้ 2.41
3.5 2.4
2.6 - เหนือสะพานลอยคนเดนิ ข้ามถนนท่ีไมม่ ีหลงั คา
- เหนือหลงั คาสะพานลอยคนเดนิ ข้ามถนน 3.5 2.4
1.1 0.15
2.7 - เหนือหรือใต้ ป้ าย, เสาโทรทศั น์-วิทย,ุ ถงั ซ่งึ บรรจุ 1.1 0.15
สารที่ไมต่ ิดไฟ

ะข้อกาํ หนดทั่วไป 1-31

1-5 (ต่อ) 69 kV 115 kV 230 kV
พนื้ แหล่งนํา้ อาคาร หรือส่งิ ก่อสร้างอ่นื ๆ (เมตร) ชนิดของสายไฟฟ้ า
cal Clearance)
สายเปลือย
แรงดนั ไฟฟ้ า2)
11 – 33 kV 5.4 5.7 6.4

ชนิดของสายไฟฟ้ า

สายหุ้มฉนวน สายห้มุ ฉนวน สายหุ้มฉนวน
ปลือย แรงสูงไม่เตม็ แรงสูง 2 ชนั้ แรงสูงเตม็

พกิ ัด3) ไม่เตม็ พกิ ัด3) พกิ ัดตีเกลียว3)

2 5.2 5.2 4.3

10) 3.010) 1.1 0.15 3.410) 3.610) 4.310)

10) 4.610) 3.5 2.4 4.910) 5.110) 5.810)

6 4.6 3.5 2.4 4.9 5.1 5.8
0 3.0 1.1 0.15 3.4 3.6 4.3
10) 2.410) 1.1 0.15 2.610) 2.910) 3.610)

บทท่ี 1 นิยามและ

ตารางท่ี 1
ระยะห่างต่าํ สุดตามแนวด่งิ ระหว่างสายไฟฟ้ า7)กบั พ

(Minimum Vertic

ไม่เกิน 1 kV

ส่งิ ท่อี ยู่ใกล้สายไฟฟ้ า ชนิดของสายไฟฟ้ า
2.8 - ข้ามทางรถไฟ หรือรถไฟฟ้ า (เหนือระดบั สนั ราง)
2.9 - ใต้สะพานท่ีมียานพาหนะวิ่งผา่ น สายหุ้มฉนวน สายหุ้มฉนวน สายเป
แรงต่าํ ตีเกลียว แรงต่าํ 3)
กับสายนิวทรัล

เปลือย3)

7.0 7.0 9.0

ความสงู สงู สดุ ของรถไฟหรือรถไฟฟ้ าที่ใช้ในข้อกําห

เทียบกบั ความสงู ของรถไฟนนั ้ เทา่ กบั 0.9, 2.9, 3.4

1.2 0.15 ไมอ่ นญุ

2.10 - เหนือเสาไฟถนน เสาสญั ญาณไฟจราจรต่างๆ 0.6 0.6 1.4

ะข้อกาํ หนดทั่วไป 1-32

1-5 (ต่อ)
พนื้ แหล่งนํา้ อาคาร หรือส่งิ ก่อสร้างอ่ืนๆ (เมตร)
cal Clearance)

แรงดันไฟฟ้ า2) 69 kV 115 kV 230 kV
ชนิดของสายไฟฟ้ า
11 – 33 kV
ชนิดของสายไฟฟ้ า

สายห้มุ ฉนวน สายห้มุ ฉนวน สายหุ้มฉนวน สายเปลือย

ปลือย แรงสูงไม่เตม็ แรงสูง 2 ชัน้ แรงสูงเตม็
พกิ ัด3) ไม่เตม็ พกิ ัด3) พกิ ัดตเี กลียว3)

0 9.0 9.0 9.0 9.5 10.5 11.5

หนดนี ้ไม่เกิน 6.1 เมตร หากรถไฟหรือรถไฟฟ้ าอ่ืนใดท่ีมีความสงู เกิน 6.1เมตร ให้รักษาระยะห่าง ตามแนวดิ่ง

4, 4.4 และ 5.4 เมตร สําหรับแรงดนั ไฟฟ้ า ไมเ่ กิน 1 kV, 11-33 kV, 69 kV, 115 kV และ 230 kV ตามลาํ ดบั

ญาต ไมอ่ นญุ าต 2.0 0.15 ไม่ ไม่ ไม่

อนญุ าต11) อนญุ าต11) อนญุ าต11)

4 1.4 1.4 0.6 1.9 2.4 3.6

บทที่ 2 มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ไฟฟ้ า 2-1

บทท่ี 2
มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

บริภณั ฑ์และสายไฟฟ้ าทกุ ชนิด ต้องมีคณุ สมบตั ิเป็ นไปตามมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ อตุ สาหกรรม
(มอก.) ฉบบั ลา่ สดุ หรือมาตรฐานท่ีการไฟฟ้ าฯ ยอมรับ เช่น มาตรฐาน IEC, BS, ANSI, NEMA,
DIN, VDE, UL, JIS, AS หรือเป็ นชนิดท่ีได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้ าฯ ก่อน โดยมาตรฐาน
ท่ีอ้างอิงให้ยดึ ถือตามฉบบั ที่ปรับปรุงลา่ สดุ มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี ้

2.1 มาตรฐานสายไฟฟ้ า

2.1.1 สายไฟฟ้ าหุ้มฉนวน
2.1.1.1 สายไฟฟ้ าทองแดงห้มุ ฉนวน พีวีซี เป็ นไปตาม มอก. 11-2553
2.1.1.2 สายไฟฟ้ าอะลมู ิเนียมห้มุ ฉนวน พีวีซี เป็ นไปตาม มอก. 293-2541

หมายเหตุ 1. การไฟฟ้ านครหลวง หา้ มใชใ้ นการเดินสายภายในของระบบไฟฟ้ าแรงต่ํา
2. การไฟฟ้ าส่วนภูมิภาค อนญุ าตใหใ้ ชส้ ายชนิดนีเ้ ป็นตวั นําประธานได้ เฉพาะการ
เดินสายลอยในอากาศบนวสั ดฉุ นวน ภายนอกอาคาร

2.1.1.3 สายไฟฟ้ าทองแดงหุ้มฉนวนครอสลิง้ กด์พอลิเอทิลีน เป็ นไปตามมาตรฐาน IEC
60502 หรือ มาตรฐานท่ีกําหนดไว้ข้างต้น
2.1.1.4 สายไฟฟ้ าตามมาตรฐานการไฟฟ้ านครหลวง หรือการไฟฟ้ าสว่ นภมู ิภาค

2.1.2 สายไฟฟ้ าเปลือย
2.1.2.1 สายไฟฟ้ าทองแดงรีดแขง็ สําหรับสายไฟฟ้ าเหนือดนิ เป็ นไปตาม มอก. 64-2517
2.1.2.2 สายไฟฟ้ าอะลมู ิเนียมตีเกลียวเปลือย เป็ นไปตาม มอก. 85-2548
2.1.2.3 สายไฟฟ้ าอะลมู ิเนียมตีเกลยี วเปลอื ยแกนเหลก็ เป็ นไปตาม มอก. 85-2548
2.1.2.4 สายไฟฟ้ าตามมาตรฐานการไฟฟ้ านครหลวง หรือการไฟฟ้ าสว่ นภมู ิภาค

2.2 มาตรฐานตัวนําไฟฟ้ า

2.2.1 บัสบาร์ทองแดง (Copper Bus Bar) ต้องมีความบริสทุ ธ์ิของทองแดงไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 98

2.2.2 บัสบาร์อะลูมิเนียม (Aluminum Bus Bar) ต้องมีความบริสทุ ธิ์ของอะลมู ิเนียมไม่
น้อยกวา่ ร้อยละ 98

2-2 บทท่ี 2 มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ไฟฟ้ า

2.2.3 บัสเวย์ (Busway) หรือบัสดัก (Bus Duct) ต้องเป็ นชนิดที่ประกอบสําเร็จรูปจาก
บริษัทผ้ผู ลิตและ ได้มีการทดสอบแล้วตามมาตรฐานข้างต้น

2.3 มาตรฐานเคร่ืองป้ องกันกระแสเกนิ และสวติ ช์ตดั ตอน
อุปกรณ์ตัดตอนและเครื่องป้ องกันกระแสเกินต้องมีมาตรฐานและคุณสมบัติไม่น้อยกว่าท่ี
กําหนดดงั นี ้

2.3.1 ตัวฟิ วส์และขัว้ รับฟิ วส์ เป็ นไปตาม มอก. 506-2527 และ มอก. 507-2527

2.3.2 สวติ ช์ท่ที าํ งานด้วยมือ เป็ นไปตาม มอก. 824-2531

2.3.3 สวติ ช์ใบมีด เป็ นไปตาม มอก. 706-2530

2.3.4 อุปกรณ์ตัดตอนและเคร่ืองป้ องกันกระแสเกิน ต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐานท่ีการ
ไฟฟ้ าฯ ยอมรับ เช่น UL, BS, DIN, JIS และ IEC

2.3.5 ฟิ วส์และขัว้ รับฟิ วส์ (Fuse and Fuse Holder) พิกดั กระแสของฟิ วส์ต้องไม่สงู กวา่
ของขัว้ รับฟิ วส์ ทําจากวัสดุที่เหมาะสม มีการป้ องกันหรือหลีกเลี่ยงการผุกร่อน (corrosion)
เนื่องจากการใช้โลหะต่างชนิดกันระหว่างฟิ วส์กับขวั้ รับฟิ วส์ และต้องมีเคร่ืองหมายแสดงพิกัด
แรงดนั และกระแสให้เห็นได้อยา่ งชดั เจน

2.3.6 เซอร์กติ เบรกเกอร์ (Circuit Breaker)
2.3.6.1 ต้องเป็ นแบบปลดได้โดยอิสระ (trip free) และต้องปลดสบั ได้ด้วยมือ ถึงแม้ว่าปกติ
การปลดสบั จะทําโดยวธิ ีอ่ืนก็ตาม
2.3.6.2 ต้องมีเคร่ืองหมายแสดงอยา่ งชดั เจนวา่ อยใู่ นตําแหน่งสบั หรือปลด
2.3.6.3 ถ้าเป็ นแบบปรับตงั ้ ได้ต้องเป็ นแบบการปรับตงั ้ คา่ กระแสหรือเวลา โดยในขณะใช้
งานกระทําได้เฉพาะผ้ทู ่ีมีหน้าที่เก่ียวข้อง
2.3.6.4 ต้องมีเครื่องหมายแสดงพิกดั ของแรงดนั กระแส และความสามารถในการตดั กระแส
ท่ีเห็นได้ชดั เจนและถาวรหลงั จากตดิ ตงั้ แล้ว หรือเห็นได้เมื่อเปิ ดแผน่ กนั้ หรือฝาครอบ
2.3.6.5 เซอร์กิตเบรกเกอร์สาํ หรับระบบแรงต่ําให้เป็ นไปตามมาตรฐานดงั นี ้
2.3.6.5.1 เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่ใช้ในสถานที่อยู่อาศยั หรือสถานที่คล้ายคลึงกัน พิกัดไม่เกิน
125 แอมแปร์ ให้เป็ นไปตาม IEC 60898 กรณีพกิ ดั กระแสเกิน 125 แอมแปร์ ให้เป็ นไปตาม IEC 60947-2
2.3.6.5.2 เซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีใช้ในสถานที่อ่ืนๆ ให้เป็ นไปตาม IEC 60947-2 หรือ IEC 60898

หมายเหตุ รายละเอียดเซอร์กิตเบรกเกอร์ใหด้ ูในภาคผนวก ง. และ จ.

บทท่ี 2 มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ไฟฟ้ า 2-3

2.3.7 เซฟตีสวิตช์ (Safety Switch) ต้องปลดหรือสบั วงจรได้พร้อมกนั ทกุ ๆ ตวั นําเส้นไฟ
และต้องประกอบด้วยฟิวส์ตามข้อ 2.3.5 รวมอยใู่ นกลอ่ งเดยี วกนั และจะเปิ ดฝาได้ตอ่ เม่ือได้ปลด
วงจรแล้ว หรือการเปิ ดฝานนั้ เป็ นผลให้วงจรถกู ปลดด้วย และต้องสามารถปลดและสบั กระแสใช้
งานในสภาพปกตไิ ด้ ในกรณีที่ใช้งานเป็ นสวติ ช์อยา่ งเดียว อนญุ าตให้ใช้แบบ Non-fuse ได้

2.3.8 เคร่ืองตดั ไฟร่ัว (Residual Current Device หรือ RCD)
เครื่องตดั ไฟร่ัวที่ใช้ลดอนั ตรายจากการถกู ไฟฟ้ าดดู สําหรับแรงดนั ไม่เกิน 440 โวลต์ สําหรับบ้านอยู่
อาศยั หรือสถานที่คล้ายคลงึ กันต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐาน IEC 60755, IEC 61008, IEC
61009, IEC 61543, มอก. 2425-2552 หรือ มอก. 909-2548 มีรายละเอียดดงั นี ้
2.3.8.1 เครื่องตดั ไฟรั่วควรมีค่ากระแสรั่วที่กําหนด (rated residual operating current,
IΔn) ไม่เกิน 30 มิลลแิ อมแปร์ และมีช่วงระยะเวลาในการตดั (break time หรือ operating time)
ไม่เกิน 0.04 วินาที เม่ือกระแสร่ัวมีคา่ 5 IΔn (อาจใช้คา่ 0.25 แอมแปร์แทนคา่ 5 IΔn ก็ได้) และ
ไม่ทํางานเม่ือกระแสร่ัวมีคา่ 0.5 IΔn
2.3.8.2 เคร่ืองตดั ไฟรั่วต้องเป็ นชนิดท่ีปลดสายไฟเส้นท่ีมีไฟทกุ เส้นออกจากวงจรรวมทงั้ สาย
นิวทรัล (neutral) ยกเว้น สายนิวทรลั นนั้ มีการต่อลงดินโดยตรงตามบทที่ 4 แลว้
2.3.8.3 ห้ามตอ่ วงจรลดั คร่อมผา่ น (by pass) เพ่ือป้ องกนั เครื่องตดั ไฟรั่วปลดวงจรเม่ือไฟร่ัว

2.4 มาตรฐานหลักดนิ และส่งิ ท่ใี ช้แทนหลักดนิ

2.4.1 แทง่ เหล็กห้มุ ด้วยทองแดง (copper-clad steel) หรือแท่งทองแดง (solid copper)
หรือแทง่ เหลก็ อาบสงั กะสี (hot-dip galvanized steel) ต้องมีขนาดเส้นผา่ นศนู ย์กลางไม่น้อย
กวา่ 5/8 นิว้ (ขนาดทางการค้า-รายละเอียดให้ดหู มายเหต)ุ ยาวไม่น้อยกวา่ 2.40 เมตร

- เหลก็ ที่ใช้เป็ นแกนให้ทําจาก low carbon steel ท่ีมี tensile strength ขนาดไม่
น้อยกวา่ 600 นิวตนั ตอ่ ตร.มม.

- ทองแดงท่ีใช้ห้มุ มีความบริสทุ ธิ์ 99.9% และห้มุ อยา่ งแนบสนิทแบบ molecularly
bonded กบั แกนเหลก็ ความหนาของทองแดงที่ห้มุ ที่จดุ ใดๆต้องไม่น้อยกว่า 250
ไมโครเมตร

- ต้องผ่านการทดสอบการยดึ แน่นและความคงทนของทองแดงท่ีห้มุ ด้วยวิธี jacket
adherence test และ bending test ตามมาตรฐาน UL-467

- กรณีแท่งเหล็กอาบสังกะสีต้องมีความหนาเฉลี่ยของสังกะสีไม่น้อยกว่า 85
ไมโครเมตร

2-4 บทท่ี 2 มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ไฟฟ้ า

2.4.2 แผ่นตวั นําชนิดป้ องกนั การผกุ ร่อนที่มีพืน้ ผิวสมั ผสั กบั ดินไม่น้อยกว่า 0.18 ตร.เมตร
ในกรณีท่ีเป็ นเหล็กอาบโลหะชนิดกนั การผกุ ร่อนต้องหนาไม่น้อยกว่า 6 มม. หากเป็ นโลหะกนั
การผกุ ร่อนชนิดอ่ืนที่ไม่ใชเ่ หลก็ ต้องหนาไมน่ ้อยกวา่ 1.50 มม.

2.4.3 ห้ามใช้วสั ดทุ ี่ทําด้วยอะลมู ิเนียมหรือโลหะผสมของอะลมู ิเนียม เป็ นหลกั ดินหรือส่ิงที่
ใช้แทนหลกั ดนิ

2.4.4 ยอมให้ใช้อาคารที่เป็ นโครงโลหะและมีการต่อลงดินอย่างถกู ต้อง โดยมีค่าความ
ต้านทานของการตอ่ ลงดนิ ไม่เกิน 5 โอห์ม

2.4.5 หลกั ดนิ ชนิดอ่ืนๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้ าฯ ก่อน

หมายเหตุ แท่งหลกั ดินขนาด 5/8 น้ิว หมายถึงขนาดโดยประมาณ 0.560 นิ้ว หรือ 14.20 มม. สําหรบั แท่ง
เหล็กหมุ้ ดว้ ยทองแดง และ 0.625 นิ้ว หรือ 15.87 มม. สําหรบั แท่งเหล็กอาบสงั กะสี

2.5 มาตรฐานช่องเดนิ สาย และรางเคเบลิ

2.5.1 ท่อร้อยสายไฟฟ้ า
2.5.1.1 ท่อเหล็กสําหรับใช้ ร้ อยสายไฟฟ้ า ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน
ผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม มอก. 770-2533
2.5.1.2 ท่อพีวีซี.แข็งสําหรับใช้ร้อยสายไฟฟ้ า ต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐาน
ผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม มอก. 216-2524 หรือตามมาตรฐานท่อร้อยสายไฟฟ้ าท่ีการไฟฟ้ าฯ
ยอมรับ
2.5.1.3 ท่อเอชดีพีอี (HDPE) แข็งที่นํามาใช้ร้อยสายไฟฟ้ าฝังดินโดยตรง ต้องมีคณุ สมบตั ิ
ตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม มอก. 982-2533 หรือตามมาตรฐานทอ่ ร้อยสายไฟฟ้ าที่
การไฟฟ้ าฯ ยอมรับ
2.5.1.4 ทอ่ ร้อยสายชนิดอื่นๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้ าฯ ก่อน
2.5.1.5 ขนาดของทอ่ ท่ีกลา่ วถงึ นี ้หมายถึงเส้นผา่ นศนู ย์กลางภายใน หรือขนาดทางการค้า
2.5.1.6 เครื่องประกอบการเดินท่อต้องเป็ นชนิดที่ได้รับอนญุ าตให้แสดงเครื่องหมาย
มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม หรือตามมาตรฐานที่การไฟฟ้ าฯยอมรับ

2.5.2 รางเดนิ สาย (Wireways)
ต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐานท่ีการไฟฟ้ าฯ ยอมรับ หรือที่ได้รับความเห็น ชอบจากการไฟฟ้ าฯ
(ดภู าคผนวก ฉ.)

บทท่ี 2 มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ไฟฟ้ า 2-5

2.5.3 รางเคเบลิ (Cable Trays)
ต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐานที่การไฟฟ้ าฯยอมรับ หรือท่ีได้รับความเห็น ชอบจากการไฟฟ้ าฯ
(ดภู าคผนวก ฉ.)
2.5.4 รางเคเบลิ แบบบนั ได (Cable Ladders)
ต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐานท่ีการไฟฟ้ าฯยอมรับ หรือท่ีได้รับความเห็น ชอบจากการไฟฟ้ าฯ
(ดภู าคผนวก ฉ.)

2.6 มาตรฐานหม้อแปลง

หม้อแปลงชนิดฉนวนนํา้ มนั ต้องมีคณุ สมบตั ิตาม มอก. 384-2543 หรือมาตรฐานท่ีกําหนดไว้
ข้างต้น สําหรับหม้อแปลงชนิดแห้ง ต้องมีคณุ สมบตั ติ ามมาตรฐานท่ีกําหนดไว้ข้างต้น

2.7 มาตรฐานบริภณั ฑ์และเคร่ืองประกอบอ่ืนๆ

บริภณั ฑ์และเคร่ืองประกอบอื่นๆ ต้องเป็ นไปตามมาตรฐานท่ีการไฟฟ้ าฯยอมรับ เช่น UL, IEC,
BS, DIN และ NEMA หรือท่ีได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้ าฯ

2.8 มาตรฐานระดบั การป้ องกันส่ิงห่อหุ้มบริภณั ฑ์ ให้เป็ นไปตามตารางท่ี 2-1

มาตรฐานระดบั การป้ องกนั แสดงด้วยสญั ลกั ษณ์ IP ตามด้วยตวั เลข 1 หรือ 2 ตวั ตามประเภท
การป้ องกนั หากการป้ องกันประเภทใดไม่ได้กําหนด อาจแสดงด้วย “_” หรือ “x” หรือเว้น
ชอ่ งวา่ งไว้ เช่น IPx3

2-6 บทท่ี 2 มาตรฐานสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ไฟฟ้ า

ตารางท่ี 2-1
ความหมายตวั เลขกาํ กับระดบั การป้ องกนั หลังสญั ลกั ษณ์ IP

ตวั เลขตวั ท่ี 1 ตวั เลขตวั ท่ี 2
ประเภทการป้ องกันของเหลว
ประเภทการป้ องกันวัตถุจากภายนอก เลข ระดบั การป้ องกนั
0 ไมม่ ีการป้ องกนั
เลข ระดบั การป้ องกนั
1 ป้ องกนั หยดเฉพาะในแนวดิ่ง
0 ไมม่ ีการป้ องกนั

1 ป้ องกนั วตั ถทุ ี่มีขนาดใหญ่กว่า 50
มลิ ลเิ มตร เชน่ สมั ผสั ด้วยมอื

2 ป้ องกนั วตั ถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 12 2 ป้ องกนั หยดและนํา้ สาดทาํ มมุ ไมเ่ กิน
มลิ ลเิ มตร เช่น นิว้ มือ 15 องศากบั แนวด่งิ

3 ป้ องกนั วตั ถทุ ี่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 3 ป้ องกนั หยดและนํา้ สาดทํามมุ ไมเ่ กิน
มิลลิเมตร เช่น เครื่องมือ เส้นลวด 60 องศากบั แนวดิง่

ป้ องกันวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 4 ป้ องกนั นํา้ สาดเข้าทกุ ทศิ ทาง
4 มิลลิเมตร เช่น เครื่องมือเล็กๆ เส้น

ลวดเลก็ ๆ

5 ป้ องกนั ฝ่ นุ 5 ป้ องกนั นํา้ ฉีดเข้าทกุ ทศิ ทาง
6 ผนกึ กนั ฝ่ นุ 6 ป้ องกนั นํา้ ฉีดอย่างแรงเข้าทกุ ทศิ ทาง
7 ป้ องกนั นํา้ ทว่ มชวั่ คราว
8 ป้ องกนั นํา้ เมอื่ ใช้งานอยใู่ ต้นํา้

หมายเหตุ รายละเอียดเพ่ิมเติมใหด้ ูจาก IEC 60529 หรือ มอก.513-2553

2.9 มาตรฐานเต้ารับ-เต้าเสียบ
เต้ารับ-เต้าเสียบต้องเป็ นไปตามมาตรฐาน มอก.166-2549 และ มอก. 2162-2547

2.10 มาตรฐานแผงสวติ ช์สาํ หรับระบบแรงต่าํ
แผงสวิตช์สําหรับระบบแรงต่ําที่เป็ นโลหะต้องเป็ นไปตามมาตรฐาน มอก.1436-2540 หรือท่ี
ได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้ าฯ
2.11 โคมไฟฟ้ าแสงสว่างฉุกเฉิน ต้องเป็ นไปตาม มอก.1102-2538
2.12 โคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉุกเฉิน ต้องเป็ นไปตาม มอก. 2430-2552

บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-1

บทท่ี 3
ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

ในการออกแบบระบบไฟฟ้ า ต้องเริ่มต้นจากวงจรย่อยซึ่งเป็ นส่วนสําคัญที่จะต้องพิจารณา
ตรวจสอบและกําหนดขนาดโหลดให้เหมาะสม เพื่อนําไปคํานวณและออกแบบขนาดตวั นํา
กําหนดขนาดอุปกรณ์ป้ องกันของวงจรย่อย วงจรสายป้ อน และวงจรประธาน ให้มีขนาด
เหมาะสมและทํางานได้อย่างถูกต้องปลอดภยั กับผู้ใช้งาน ในบทนีไ้ ด้กําหนดแนวทางในการ
คาํ นวณโหลดและวิธีการเลือกขนาดตวั นําและอปุ กรณ์ป้ องกนั โดยพิจารณาที่ความปลอดภยั ขนั้
ต่ําเป็ นเกณฑ์ กรณีที่ต้องการออกแบบให้รองรับการขยายตวั ของโหลดในอนาคตให้พิจารณา
เพิ่มเตมิ จากเกณฑ์ท่ีกําหนดไว้

3.1 วงจรย่อย

3.1.1 ขอบเขต
ให้ใช้กับวงจรย่อยสําหรับไฟฟ้ าแสงสว่างหรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้ า หรือทัง้ ไฟฟ้ าแสงสว่างและ
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ ารวมกนั ยกเว้นวงจรยอ่ ยสําหรับมอเตอร์ไฟฟ้ า (ดบู ทท่ี 6 เร่ืองวงจรมอเตอร์)

3.1.2 ขนาดพกิ ัดวงจรย่อย
ขนาดพิกดั วงจรย่อยให้เรียกตามขนาดพิกัดของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินที่ใช้ตดั กระแสสําหรับ
วงจรนนั้ ๆ วงจรยอ่ ยซงึ่ มีจดุ จา่ ยไฟฟ้ าตงั้ แต่ 2 จดุ ขนึ ้ ไปต้องมีขนาดไมเ่ กิน 50 แอมแปร์ ยกเว้น
อนญุ าตให้วงจรย่อยซ่ึงมีจุดจ่ายไฟฟ้ าตง้ั แต่ 2 จุดข้ึนไปทีไ่ ม่ใช่โหลดแสงสว่างมีพิกดั เกิน 50
แอมแปร์ ไดเ้ ฉพาะในโรงงานอตุ สาหกรรมทีม่ ีบคุ คลทีม่ ีคณุ สมบตั ิคอยดูแล และบํารุงรกั ษา

3.1.3 ขนาดตัวนําของวงจรย่อย
ตวั นําของวงจรย่อยต้องมีขนาดกระแสไม่น้อยกว่าโหลดสงู สดุ ที่คํานวณได้ ตามข้อ 3.1.6 และต้อง
ไม่น้อยกว่าพิกัดของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินของวงจรย่อย และกําหนดให้ขนาดตวั นําของวงจร
ยอ่ ยต้องมีขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 2.5 ตร.มม.

กรณีวงจรย่อยไฟฟ้ าแสงสว่าง 3 เฟส 4 สาย ท่ีจ่ายโหลด 1 เฟส และเดินรวมในช่องเดินสาย
เดียวกนั อนญุ าตให้ใช้ตวั นํานิวทรัลร่วมกนั ได้ โดยโหลดแต่ละเฟสต้องมีโหลดใกล้เคียงกนั และ
ขนาดตวั นํานิวทรัลไม่เลก็ กวา่ ตวั นําเฟสยกเว้นโหลดท่ีมีฮาร์มอนิกส์สงู

ข้อควรระวัง หากสายนิวทรลั หลดุ อาจทําใหเ้ กิดแรงดนั เกินได้

3-2 บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

3.1.4 การป้ องกนั กระแสเกนิ
3.1.4.1 อาคารท่ีมีความสงู เกิน 1 ชนั้ ต้องแยกวงจรยอ่ ยอยา่ งน้อยชนั ้ ละ 1 วงจร

ข้อแนะนํา สําหรบั วงจรย่อยชน้ั ล่างควรแบ่งวงจรอย่างนอ้ ยดงั ต่อไปนี้
1. ไฟฟ้ าแสงสว่างภายในอาคาร
2. เตา้ รบั ภายในอาคาร
3 ภายนอกอาคาร

3.1.4.2 วงจรย่อยต้องมีการป้ องกนั กระแสเกิน โดยขนาดพิกดั เครื่องป้ องกนั กระแสเกินต้อง
สอดคล้องและไมต่ ํ่ากวา่ โหลดสงู สดุ ท่ีคํานวณได้

3.1.5 โหลดสาํ หรับวงจรย่อย
วงจรย่อยซ่ึงมีจุดต่อไฟฟ้ าตงั้ แต่ 2 จุดขึน้ ไป ลกั ษณะของโหลดต้องเป็ นไปตามข้อกําหนด
ตอ่ ไปนี ้
3.1.5.1 วงจรย่อยขนาดไม่เกิน 20 แอมแปร์ โหลดของเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าที่ติดตงั ้ ถาวรหรือท่ีใช้
เต้าเสียบแตล่ ะเครื่องจะต้องไม่เกินขนาดพิกดั วงจรยอ่ ย กรณีมีเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีใช้เต้าเสียบ
รวมอยดู่ ้วยโหลดที่ตดิ ตงั้ ถาวรรวมกนั แล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของขนาดพิกดั วงจรยอ่ ย
3.1.5.2 วงจรยอ่ ยขนาด 25 ถึง 32 แอมแปร์ ให้ใช้กบั ดวงโคมไฟฟ้ าท่ีตดิ ตงั้ ถาวรขนาดดวง
โคมละไม่ต่ํากว่า 250 วตั ต์ หรือใช้กบั เครื่องใช้ไฟฟ้ าซง่ึ ไม่ใช่ดวงโคม ขนาดของเคร่ืองใช้ไฟฟ้ า
ชนิดใช้เต้าเสียบแตล่ ะเครื่องจะต้องมีขนาดไมเ่ กินขนาดพกิ ดั วงจรยอ่ ย
3.1.5.3 วงจรยอ่ ยขนาดเกิน 32 ถึง 50 แอมแปร์ ให้ใช้กบั ดวงโคมไฟฟ้ าท่ีตดิ ตงั ้ ถาวรขนาด
ดวงโคมละไมต่ ่ํากวา่ 250 วตั ต์หรือใช้กบั เครื่องใช้ไฟฟ้ าท่ีตดิ ตงั้ ถาวร
3.1.5.4 วงจรยอ่ ยขนาดเกินกวา่ 50 แอมแปร์ ให้ใช้กบั โหลดที่ไมใ่ ชแ่ สงสวา่ งเทา่ นนั้

3.1.6 การคาํ นวณโหลดสาํ หรับวงจรย่อย
โหลดสําหรับวงจรยอ่ ยต้องคาํ นวณตามท่ีกําหนดดงั ตอ่ ไปนี ้
3.1.6.1 วงจรยอ่ ยต้องมีขนาดไมน่ ้อยกวา่ ผลรวมของโหลดทงั้ หมดท่ีตอ่ อยใู่ นวงจรนนั้
3.1.6.2 โหลดแสงสว่างและโหลดของเครื่องใช้ไฟฟ้ าอื่นที่ทราบแน่นอนให้คํานวณตามท่ี
ตดิ ตงั้ จริง
3.1.6.3 โหลดของเต้ารับใช้งานทวั่ ไป ให้คํานวณโหลดจดุ ละ 180 โวลต์แอมแปร์ ทงั้ ชนิด
เต้าเด่ียว (single) เต้าคู่ (duplex) และชนิดสามเต้า (triplex) กรณีตดิ ตงั้ ชนิดตงั้ แต่ 4 เต้า ให้
คาํ นวณโหลดจดุ ละ 360 โวลต์แอมแปร์
3.1.6.4 โหลดของเต้ารับอื่นที่ไม่ได้ใช้งานทัว่ ไป ให้คํานวณโหลดตามขนาดของ
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ านนั้ ๆ

บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-3

3.1.7 เต้ารับ
3.1.7.1 เต้ารับท่ีอยใู่ นวงจรยอ่ ยต้องเป็ นแบบมีขวั้ สายดนิ และต้องตอ่ ลงดนิ ตามบทท่ี 4
3.1.7.2 เต้ารับในสถานที่เดียวกันแต่ใช้แรงดันต่างกัน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้
งานตา่ งกนั ต้องจดั ทําเพื่อให้เต้าเสยี บไม่สามารถสลบั กนั ได้

3.1.8 การป้ องกันไฟฟ้ าดูดโดยใช้เคร่ืองตดั ไฟร่ัวในท่อี ย่อู าศัยและท่คี ล้ายคลึงกนั

วงจรย่อยต่อไปนีน้ อกจากมีสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าและติดตงั ้ ตามบทที่ 4 แล้ว ต้องมีการ
ป้ องกันโดยใช้เครื่องตดั ไฟร่ัว ขนาด IΔn ไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ เพ่ิมเติมด้วย คือ

ก) วงจรเต้ารับในบริเวณห้องนํา้ ห้องอาบนํา้ โรงจอดรถยนต์ ห้องครัว ห้องใต้ดนิ
ข) วงจรเต้ารับในบริเวณ อ่างล้างชาม อ่างล้างมือ (บริเวณพืน้ ที่เคาน์เตอร์ ที่มีการ

ตดิ ตงั้ เต้ารับภายในระยะ 1.5 เมตร หา่ งจากขอบด้านนอกของอ่าง)
ค) วงจรไฟฟ้ าเพื่อใช้จ่ายภายนอกอาคาร และบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีอยใู่ นตําแหน่งท่ีบคุ คล

สมั ผสั ได้ทกุ วงจร
ง) วงจรเต้ารับในบริเวณชนั้ ล่าง (ชนั้ 1) รวมถึงในบริเวณท่ีอย่ตู ํ่ากว่าระดบั ผิวดิน ที่

อยใู่ นพืน้ ที่ปรากฏวา่ เคยมีนํา้ ทว่ มถึงหรืออยใู่ นพืน้ ท่ีต่ํากวา่ ระดบั ทะเลปานกลาง
จ) วงจรยอ่ ยสาํ หรับ เคร่ืองทํานํา้ อ่นุ เคร่ืองทํานํา้ ร้อน อา่ งอาบนํา้

หมายเหตุ ตําแหน่งที่สมั ผสั ได้ หมายถึงอยู่ห่างจากพืน้ หรือโลหะที่ต่อลงดินไม่เกิน 2.4 เมตร
ในแนวดิ่ง หรือ 1.5 เมตร ในแนวระดบั และบคุ คลสามารถเข้าถึงไดโ้ ดยไม่ตง้ั ใจ

3.1.9 การป้ องกันไฟฟ้ าดูดโดยใช้เคร่ืองตัดไฟร่ัวในสถานประกอบการท่ีไม่ใช่ท่ีอยู่
อาศัย
วงจรย่อยต่อไปนีน้ อกจากมีสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าและติดตงั ้ ตามบทที่ 4 แล้ว ต้องมีการ
ป้ องกันโดยใช้เครื่องตดั ไฟร่ัว ขนาด IΔn ไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ เพ่ิมเติมด้วย คือ

ก) วงจรสําหรับสระหรืออ่างกายภาพบําบดั ธาราบําบดั อ่างนํา้ แร่ (spa) อ่างนํา้ ร้อน
(hot tub) อา่ งนวดตวั

ข) เคร่ืองทํานํา้ อ่นุ เครื่องทํานํา้ ร้อน และเคร่ืองทํานํา้ เยน็
ค) วงจรยอ่ ยเต้ารับ ในบริเวณตอ่ ไปนี ้

1) ห้องนํา้ ห้องอาบนํา้ ห้องครัว
2) สถานที่ทํางานก่อสร้าง ซอ่ มบํารุง บนดาดฟ้ า อ่ซู อ่ มรถ
3) ทา่ จอดเรือ โป๊ ะจอดเรือ ท่ีทําการเกษตร พืชสวนและปศสุ ตั ว์
4) การแสดงเพ่ือการพกั ผอ่ นในท่ีสาธารณะกลางแจ้ง
5) งานแสดงหรือขายสนิ ค้าและที่คล้ายคลงึ กนั

3-4 บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

6) วงจรเต้ารับท่ีอย่ชู นั้ ล่าง (ชนั้ 1) ชนั้ ใต้ดิน รวมถึงวงจรเต้ารับท่ีอย่ตู ่ํากว่า
ระดบั ผิวดิน ท่ีอยู่ในพืน้ ที่ปรากฏว่าเคยมีนํา้ ท่วมถึงหรืออยู่ในพืน้ ท่ีตํ่ากว่า
ระดบั ทะเลปานกลาง ยกเว้น มีระบบป้ องกนั นํ้าทว่ ม

หมายเหตุ การติดต้ังเครื่องตัดไฟรั่วตามข้อ 3.1.8 และข้อ 3.19 เป็ นการติดต้ังเพ่ิมเติม
นอกเหนือจากสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าตามบทที่ 4

3.2 สายป้ อน

3.2.1 ขนาดตัวนําของสายป้ อน
สายป้ อนต้องมีขนาดกระแสไม่น้อยกว่าโหลดสงู สดุ ท่ีคํานวณได้และไม่น้อยกว่าขนาดพิกดั ของ
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินของสายป้ อน และกําหนดให้ขนาดตวั นําของสายป้ อนต้องไม่เล็กกว่า 4
ตร.มม.

3.2.2 การป้ องกนั กระแสเกนิ
สายป้ อนต้องมีการป้ องกันกระแสเกิน โดยขนาดพิกัดเครื่องป้ องกันกระแสเกินต้องสอดคล้อง
และไม่ตาํ่ กวา่ โหลดสงู สดุ ท่ีคํานวณได้

3.2.3 การคาํ นวณโหลดสาํ หรับสายป้ อน
โหลดของสายป้ อนต้องคาํ นวณตามที่กําหนดดงั ตอ่ ไปนี ้
3.2.3.1 สายป้ อนต้องมีขนาดกระแสเพียงพอสําหรับการจ่ายโหลดและต้องไม่น้อยกว่า
ผลรวมของโหลดในวงจรยอ่ ยเม่ือใช้ดีมานด์แฟกเตอร์
3.2.3.2 โหลดแสงสวา่ ง อนญุ าตให้ใช้ดมี านด์แฟกเตอร์ตามตารางที่ 3-1
3.2.3.3 โหลดของเต้ารับอนญุ าตให้ใช้ดมี านด์แฟกเตอร์ตามตารางที่ 3-2 ได้เฉพาะโหลดของ
เต้ารับที่มีการคาํ นวณโหลดแตล่ ะเต้ารับไม่เกิน 180 โวลต์แอมแปร์
3.2.3.4 โหลดเครื่องใช้ไฟฟ้ าทว่ั ไป อนญุ าตให้ใช้ดีมานด์แฟกเตอร์ตามตารางที่ 3-3 ได้
3.2.3.5 เต้ารับในอาคารที่อย่อู าศยั ที่ต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ าท่ีทราบโหลดแน่นอนให้คํานวณโหลด
จากเต้ารับท่ีมีขนาดสงู สดุ 1 เครื่องรวมกบั ร้อยละ 40 ของขนาดโหลดในเต้ารับท่ีเหลือ
3.2.3.6 ดมี านด์แฟกเตอร์นีใ้ ห้ใช้กบั การคํานวณสายป้ อนเทา่ นนั้ ห้ามใช้กบั การคาํ นวณวงจรยอ่ ย

บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-5

ตารางท่ี 3-1
ดมี านด์แฟกเตอร์สาํ หรับโหลดแสงสว่าง

ชนิดของอาคาร ขนาดของไฟแสงสว่าง ดมี านด์แฟกเตอร์
(โวลต์ –แอมแปร์ ) (ร้ อยละ)
ท่ีพกั อาศยั
ไมเ่ กิน 2,000 100
โรงพยาบาล* สว่ นเกิน 2,000 35
โรงแรม รวมถึง ห้องชดุ ไมเ่ กิน 50,000 40
ที่ไมม่ ีสว่ นให้ผ้อู ยอู่ าศยั สว่ นเกิน 50,000 20
ประกอบอาหารได้* ไมเ่ กิน 20,000 50
โรงเก็บพสั ดุ 20,001-100,000 40
อาคารประเภทอ่นื สว่ นเกิน 100,000 30

ไมเ่ กิน 12,500 100
สว่ นเกิน 12,500 50
100
ทกุ ขนาด

หมายเหตุ * ดีมานด์แฟกเตอร์ตามตารางนี้ หา้ มใชส้ ําหรบั โหลดแสงสว่างในสถานทีบ่ างแห่งของ
โรงพยาบาลหรือโรงแรม ซึ่งบางขณะจําเป็นตอ้ งใชไ้ ฟฟ้ าแสงสว่างพร้อมกนั เช่น ใน
หอ้ งผ่าตดั หอ้ งอาหารหรือหอ้ งโถง ฯลฯ

ตารางท่ี 3-2
ดมี านด์แฟกเตอร์สาํ หรับโหลดของเต้ารับในสถานท่ไี ม่ใช่ท่อี ย่อู าศัย

โหลดของเต้ารับรวม ดมี านด์แฟกเตอร์
(คาํ นวณโหลดเต้ารับละ 180 VA) (ร้ อยละ)

10 kVA แรก 100
สว่ นที่เกิน 10 kVA 50

3-6 บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

ตารางท่ี 3-3
ดมี านด์แฟกเตอร์สาํ หรับเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่วั ไป

ชนิดของอาคาร ประเภทของโหลด ดมี านด์แฟกเตอร์
เครื่องหงุ ต้มอาหาร 10 แอมแปร์ + ร้อยละ 30 ของ สว่ นทเี่ กิน 10
แอมแปร์

1. อาคารทอ่ี ย่อู าศยั เครื่องทาํ นํา้ ร้อน กระแสใช้งานจริงของสองตวั แรกทใ่ี ช้งาน +
ร้อยละ 25 ของตวั ที่เหลือทงั้ หมด

เครื่องปรับอากาศ ร้อยละ 100
กระแสใช้งานจริงของตวั ท่ใี หญ่ทส่ี ดุ
2. อาคารสาํ นกั งาน เคร่ืองหงุ ต้มอาหาร + ร้อยละ 80 ของตวั ใหญ่รองลงมา
และร้ านค้ ารวมถงึ เคร่ืองทํานํา้ ร้อน + ร้อยละ 60 ของตวั ท่ีเหลอื ทงั้ หมด
ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 100 ของสองตวั แรกที่ใหญ่ที่สดุ
+ ร้อยละ 25 ของตวั ท่เี หลอื ทงั้ หมด
3. โรงแรมและ เครื่องปรับอากาศ ร้อยละ 100
อาคารประเภทอ่นื เหมือนข้อ 2
เคร่ืองหงุ ต้มอาหาร เหมือนข้อ 2
เครื่องทาํ นํา้ ร้อน
เคร่ืองปรับอากาศ ร้อยละ 75
ประเภทแยกแตล่ ะห้อง

หมายเหตุ สําหรับเครื่องปรบั อากาศแบบส่วนกลาง (central) ให้ดูค่าดีมานด์แฟกเตอร์ทีแ่ นะนําไว้
ในภาคผนวก ฌ.

3.2.4 ขนาดตัวนํานิวทรัล (Neutral)
ขนาดตวั นํานิวทรัล ต้องมีขนาดกระแสเพียงพอท่ีจะรับกระแสไม่สมดลุ สงู สดุ ท่ีเกิดขึน้ และต้องมี
ขนาดไม่เลก็ กวา่ ขนาดสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าตามข้อ 4.20

กรณีระบบไฟฟ้ า 3 เฟส 4 สาย ขนาดของตวั นํานิวทรัลมีข้อกําหนดดงั นี ้
3.2.4.1 กรณีสายเส้นไฟมีกระแสของโหลดไม่สมดลุ สูงสุดไม่เกิน 200 แอมแปร์ ขนาด
กระแสของตวั นํานิวทรัลต้องไม่น้อยกวา่ ขนาดกระแสของโหลดไม่สมดลุ สงู สดุ นนั้
3.2.4.2 กรณีสายเส้นไฟมีกระแสของโหลดไม่สมดลุ สงู สดุ มากกว่า 200 แอมแปร์ ขนาด
กระแสของตวั นํานิวทรัลต้องไม่น้อยกว่า 200 แอมแปร์ บวกด้วยร้อยละ 70 ของสว่ นท่ีเกิน 200
แอมแปร์

บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-7

3.2.4.3 ไม่อนญุ าตให้คํานวณลดขนาดกระแสในตวั นํานิวทรัลในสว่ นของโหลดไม่สมดลุ ที่
ประกอบด้วยหลอดชนิดปลอ่ ยประจุ (electric discharge) (เช่น หลอดฟลอู อเรสเซนต์ เป็ นต้น)
อปุ กรณ์เก่ียวกบั การประมวลผลข้อมลู (data processing) หรืออปุ กรณ์อ่ืนท่ีมีลกั ษณะคล้ายกนั
ท่ีทําให้เกิดกระแสฮาร์มอนิก (harmonic) ในตวั นํานิวทรัล

หมายเหตุ 1) กระแสของโหลดไม่สมดลุ สูงสดุ คือค่าสูงสดุ ที่คํานวณได้จากโหลด 1 เฟส (single-phase
load) ทีต่ ่อระหว่างตวั นํานิวทรลั และสายเสน้ ไฟเสน้ ใดเสน้ หน่ึง

2) ในระบบไฟ 3 เฟส 4 สายทีจ่ ่ายใหก้ บั ระบบคอมพิวเตอร์ หรือโหลดอิเล็กทรอนิกส์จะตอ้ งเผือ่
ตวั นํานิวทรัลให้ใหญ่ข้ึนเพือ่ รองรับกระแสฮาร์มอนิกด้วย ในบางกรณีตวั นํานิวทรัลอาจมี
ขนาดใหญ่กว่าสายเสน้ ไฟ

3.3 การป้ องกันกระแสเกนิ สาํ หรับวงจรย่อยและสายป้ อน
วงจรย่อยและสายป้ อนต้องมีการป้ องกันกระแสเกิน และเคร่ืองป้ องกันกระแสเกินต้องมี
รายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี ้

3.3.1 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินอาจเป็ นฟิวส์ หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ก็ได้

3.3.2 ฟิ วส์ เซอร์กิตเบรกเกอร์หรือการผสมของทัง้ สองอย่างนี ้ จะนํามาต่อขนานกันไม่ได้
ยกเว้น เป็นผลิตภณั ฑ์มาตรฐานทีป่ ระกอบสําเร็จมาจากโรงงานผูผ้ ลิต และเป็นแบบทีไ่ ด้รับ
ความเห็นชอบว่าเป็นหนว่ ย (unit) เดียวกนั

3.3.3 ในกรณีที่ติดตงั ้ เครื่องป้ องกนั กระแสเกินเพิ่มเตมิ สําหรับดวงโคมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้ า
อื่นๆ เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินเพ่ิมเติมเหล่านี ้จะใช้แทนเครื่องป้ องกนั กระแสเกินของวงจรย่อย
ไมไ่ ด้และไม่จําเป็ นต้องเข้าถึงได้ทนั ที

3.3.4 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินต้องสามารถป้ องกันตวั นําทกุ สายเส้นไฟและไม่ต้องติดตงั้ ใน
ตวั นําที่มีการตอ่ ลงดนิ ยกเว้น อนญุ าตใหต้ ิดตง้ั เครื่องป้ องกนั กระแสเกินในตวั นําทีม่ ีการต่อลง
ดินได้ ถ้าเครื่องป้ องกนั กระแสเกินนนั้ สามารถตดั วงจรทกุ เส้นรวมทง้ั ตวั นําที่มีการต่อลงดินได้
พร้อมกนั

3.3.5 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินต้องไม่ตดิ ตงั้ ในสถานที่ซึ่งทําให้เกิดความเสียหาย และต้องไม่
อยใู่ กล้กบั วสั ดทุ ่ีตดิ ไฟงา่ ย

3.3.6 เครื่องป้ องกนั กระแสเกิน ต้องบรรจไุ ว้ในกลอ่ งหรือต้อู ย่างมิดชิด (เฉพาะด้ามสบั ของ
เซอร์กิตเบรกเกอร์ ยอมให้โผลอ่ อกมาข้างนอกได้) ยกเว้น หากติดตง้ั ไวท้ ีแ่ ผงสวิตช์หรือแผง
ควบคมุ ซ่ึงอยู่ในห้องทีไ่ ม่มีวสั ดตุ ิดไฟง่ายและไม่มีความชื้น เครื่องป้ องกนั กระแสเกินสําหรับ
บา้ นอยู่อาศยั ขนาดไม่เกิน 16 แอมแปร์ หน่ึงเฟส ไม่ต้องบรรจไุ ว้ในกลอ่ งหรือต้กู ็ได้

3-8 บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

3.3.7 กลอ่ งหรือต้ทู ่ีบรรจเุ คร่ืองป้ องกนั กระแสเกิน ซ่ึงติดตงั ้ ในสถานท่ีเปี ยกหรือชืน้ ต้องเป็ น
ชนิดที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว และต้องมีช่องวา่ งระหวา่ งต้กู บั ผนงั หรือพืน้ ที่รองรับไม่น้อยกวา่ 5
มม.

3.3.8 เครื่องป้ องกันกระแสเกินต้องติดตัง้ ในที่ซึ่งสามารถปฏิบตั ิงานได้สะดวก มีที่ว่าง
และแสงสว่างอย่างพอเพียง บริเวณหน้าแผงต้องมีท่ีว่างเพื่อปฏิบตั ิงานไม่น้อยกว่าท่ีกําหนดใน
บทที่ 1

3.3.9 ต้องตดิ ตงั้ เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินทกุ จดุ ตอ่ แยก

ข้อยกเว้นท่ี 1 กรณีเครื่องป้ องกนั กระแสเกินของสายป้ อนสามารถป้ องกนั สายที่ต่อแยกได้ไม่ต้องติดตงั้
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินทกุ จดุ ต่อแยก

ข้อยกเว้นท่ี 2 สายทีต่ ่อแยกจากสายป้ อนเป็นไปตามทกุ ข้อดงั นี้
2.1) ความยาวของสายทีต่ ่อแยกไม่เกิน 7.5 เมตร
2.2) ขนาดกระแสของสายทีต่ ่อแยกไม่นอ้ ยกว่า 1 ใน 3 ของขนาดกระแสสายป้ อน
2.3) จดุ ปลายของสายต่อแยกตอ้ งมีเครื่องป้ องกนั กระแสเกิน 1 ตวั
2.4) สายทีต่ ่อแยกตอ้ งติดตงั้ ในช่องเดินสาย

3.3.10 เคร่ืองป้ องกันกระแสเกินของวงจรย่อยและสายป้ อนในแผงสวิตช์ต่าง ๆ ต้องระบุ
โหลดที่จ่ายให้ชดั เจนตดิ ไว้ตามข้อ 1.107

3.4 ตวั นําประธาน (Service Conductor)

ตวั นําประธานต้องมีขนาดเพียงพอท่ีจะรับโหลดทงั้ หมดได้ และตวั นําประธานท่ีจ่ายไฟฟ้ าให้กบั
อาคารหลงั หนง่ึ ๆ หรือผ้ใู ช้ไฟฟ้ ารายหนง่ึ ต้องมีชดุ เดยี ว

ขนาดตัวนํานิวทรัล ต้องมีขนาดกระแสเพียงพอที่จะรับกระแสไม่สมดุลสูงสดุ ท่ีเกิดขึน้ ตามท่ี
คํานวณได้ในข้อ 3.2.4.1 ถึง 3.2.4.3 และต้องมีขนาดไม่เล็กกว่าขนาดสายตอ่ หลกั -ดนิ ของระบบ
ไฟฟ้ าตามข้อ 4.19 และไม่เล็กกว่าร้อยละ 12.5 ของตวั นําประธานขนาดใหญ่ที่สดุ แต่ไม่
จําเป็ นต้องใหญ่กวา่ สายเฟสนอกจากเผื่อสําหรับปัญหาฮาร์มอนิก
ยกเว้น ยอมใหม้ ีตวั นําประธานมากกว่า 1 ชดุ ได้ โดยมีขอ้ กําหนดดงั ต่อไปนี้

1) สําหรบั เครื่องสูบน้ําดบั เพลิง ซึ่งตอ้ งการแยกระบบประธาน
2) สําหรบั ระบบไฟฟ้ าฉกุ เฉินและระบบไฟฟ้ าสํารอง
3) ผูใ้ ช้ไฟฟ้ าทีม่ ีอาคารมากกว่า 1 หลงั อยู่ในบริเวณเดียวกนั และจําเป็นต้องใช้

ตวั นําประธานแยกกนั ภายใตเ้ งือ่ นไขดงั นี้

บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-9

3.1) อาคารทกุ หลงั ตอ้ งมีบริภณั ฑ์ประธานโดยขนาดของเครื่องป้ องกนั กระแส
เกินของบริภัณฑ์ประธานรวมกันต้องไม่เกินขนาดพิกัดเครื่องป้ องกัน
กระแสเกินของเครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ า

3.2) ตวั นําประธานจากเครื่องวัดฯ ถึงจุดแยกเข้าแต่ละอาคารต้องมีขนาด
กระแสไม่นอ้ ยกว่าขนาดของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินของอาคารทกุ หลงั
รวมกนั

3.3) จุดต่อแยกตวั นําประธานไปยงั อาคารหลงั อื่นต้องอยู่ในบริเวณของผู้ใช้
ไฟฟ้ า

4) เป็ นอาคารที่รับไฟจากหม้อแปลงไฟฟ้ ามากกว่า 1 ลูก หรือที่การไฟฟ้ า
กําหนดใหต้ อ้ งจ่ายไฟฟ้ ามากกว่า 1 แหล่งจ่าย

5) เมือ่ ตอ้ งการตวั นําประธานทีร่ ะดบั แรงดนั ต่างกนั
6) เป็นอาคารชดุ อาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ทีจ่ ําเป็นตอ้ งใชต้ วั นํา

ประธานมากกว่า 1 ชดุ โดยจะตอ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบจากการไฟฟ้ าฯก่อน

ตอน ก. สาํ หรับระบบแรงตา่ํ

3.4.1 ตัวนําประธานอากาศสําหรับระบบแรงต่ํา ต้องเป็ นสายทองแดงหุ้มฉนวนที่
เหมาะสมและต้องมีขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 4 ตร.มม. การไฟฟ้ าสว่ นภมู ิภาคยอมให้ใช้สายอะลมู ิเนียม
ห้มุ ฉนวนที่เหมาะสมเป็ นตวั นําประธานได้เฉพาะการเดินสายลอยในอากาศบนวสั ดภุ ายนอก
อาคาร แตท่ งั้ นีข้ นาดต้องไมเ่ ลก็ กวา่ 10 ตร.มม.

3.4.2 ตัวนําประธานใต้ดินสาํ หรับระบบแรงต่าํ ต้องเป็ นสายทองแดงห้มุ ฉนวนชนิดท่ี
เหมาะสมกบั ลกั ษณะการตดิ ตงั้ และต้องมีขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 10 ตร.มม.

หมายเหตุ 1) การติดตง้ั ใต้ดิน ต้องมีแผนผงั แสดงแนวสายไฟฟ้ าใตด้ ินไว้พร้อมทีจ่ ะตรวจสอบไดแ้ ละตอ้ ง
ทําป้ ายระบุแนวของสายไฟฟ้ าและบอกความลึกของสายบนสดุ ป้ ายต้องเห็นได้ชดั เจน
ระยะห่างระหว่างป้ ายไม่เกิน 50 เมตร

2) การติดตง้ั ใตด้ ินทีม่ ีหลายวงจร ทีป่ ลายสายและสายทีอ่ ยู่ในช่วงช่องเปิ ดของ แ ต่ ล ะ ว ง จ ร
จะตอ้ งมีเครื่องหมายแสดงใหเ้ ห็นความแตกต่างติดอยู่อย่างถาวร

3) อนญุ าตใหใ้ ช้สายเมนขนาดไม่เล็กกว่า 4 ตร.มม. ไดก้ รณีจ่ายโหลดผ่านเครื่องวดั ฯ ขนาด
5(15)A 1 เฟส 2 สาย โดยโหลดเป็นลกั ษณะ fixed-load และอยู่บริเวณทางเดินริมถนน
(sidewalk)

3-10 บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

ตอน ข. สาํ หรับระบบแรงสูง

3.4.3 ตัวนําประธานอากาศสาํ หรับระบบแรงสูง เป็ นสายเปลือยหรือสายห้มุ ฉนวนก็ได้

3.4.4 ตัวนําประธานใต้ดินสาํ หรับระบบแรงสูง ต้องเป็ นสายทองแดงห้มุ ฉนวนชนิดท่ี
เหมาะสมกบั ลกั ษณะการตดิ ตงั้ โดยจะต้องทําป้ ายระบแุ นวของสายใต้ดนิ และบอกความลกึ ของ
สายบนสดุ ป้ ายต้องเห็นได้ชัดเจน ระยะห่างระหว่างป้ ายไม่เกิน 50 เมตร และต้องมีแผนผงั
แสดงแนวสายใต้ดนิ เก็บรักษาไว้พร้อมที่จะตรวจสอบได้

3.5 บริภณั ฑ์ประธานหรือเมนสวิตช์ (Service Equipment)

อาคารหรือสิ่งปลกู สร้างต้องติดตงั้ บริภณั ฑ์ประธานเพ่ือปลดวงจรทกุ สายเส้นไฟออกจากตวั นํา
ประธาน ทงั้ นีบ้ ริภณั ฑ์ประธานประกอบด้วยเครื่องปลดวงจร (disconnecting means) และ
เครื่องป้ องกนั กระแสเกิน (overcurrent protective device) ซงึ่ อาจประกอบเป็ นชดุ เดียวกนั หรือ
เป็ นตวั เดยี วกนั ก็ได้

ตอน ก. สาํ หรับระบบแรงตา่ํ

อาคารหรือสงิ่ ปลกู สร้างท่ีต้องรับไฟฟ้ าแรงตํ่าจากการไฟฟ้ าฯ ต้องติดตงั้ บริภณั ฑ์ประธานแรงตํ่า
หรือแผงสวิตช์แรงต่ํา หลงั เคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ า เพื่อปลดวงจรทุกสายเส้นไฟออกจากตวั นํา
ประธาน และมีการป้ องกนั กระแสเกินสาํ หรับระบบจา่ ยไฟฟ้ าของผ้ใู ช้ไฟฟ้ า ทงั้ นีจ้ ะต้องติดตงั ้ ใน
ตําแหนง่ ที่เข้าถึงได้โดยสะดวกและมีลกั ษณะตามรายละเอียดและข้อกําหนดการตดิ ตงั้ ดงั นี ้

3.5.1 เคร่ืองปลดวงจรของบริภณั ฑ์ประธาน
รายละเอียดและข้อกําหนดการตดิ ตงั้ มีดงั นี ้
3.5.1.1 เคร่ืองปลดวงจรชนิดหนึ่งเฟสที่มีขนาดตงั้ แต่ 50 แอมแปร์ขนึ ้ ไป และชนิดสามเฟส
ทกุ ขนาดต้องเป็ นชนิดสวิตช์สําหรับตดั โหลด (load-break) ขนาดท่ีต่ํากวา่ ท่ีกําหนดข้างต้นไม่
บงั คบั ให้เป็ นชนิดสวติ ช์สําหรับตดั โหลด
3.5.1.2 เคร่ืองปลดวงจรต้องสามารถปลดวงจรทกุ สายเส้นไฟ (สายเฟส) ได้พร้อมกนั และ
ต้องมีเคร่ืองหมายแสดงให้เห็นว่าอยู่ในตําแหน่งปลดหรือสบั หรือตําแหน่งที่ปลดหรือสับนัน้
สามารถเห็นได้อยา่ งชดั เจน กรณีท่ีสายตวั นําประธานมิได้มีการตอ่ ลงดินตามบทท่ี 4 เครื่องปลด
วงจรต้องสามารถปลดสายเส้นไฟและสายนิวทรัล ทกุ เส้นพร้อมกนั
3.5.1.3 เครื่องปลดวงจรต้องมีพิกัดไม่น้อยกว่าพิกดั ของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินขนาดมาก
ที่สดุ ท่ีใสไ่ ด้หรือปรับตงั้ ได้

บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-11

3.5.1.4 เคร่ืองปลดวงจรต้องสามารถปลดวงจรได้สะดวกและไม่มีโอกาสสมั ผสั กบั สว่ นที่มี
ไฟฟ้ า

ข้อแนะนํา บริภณั ฑ์ประธานสําหรับอาคารควรอยู่บนชนั้ ลอยหรือชนั้ สอง หากเป็นอาคารชนั้ เดียวขอบล่าง
ของบริภณั ฑ์ประธานควรอยู่สูงจากพืน้ ไม่ตํ่ากว่า 1.6 เมตร

3.5.1.5 อนญุ าตให้ติดตงั้ เคร่ืองปลดวงจรได้ทงั้ ภายในหรือภายนอกอาคาร แต่ต้องเป็ นชนิด
ที่เหมาะสมกับสภาพการติดตงั้ และควรติดตงั้ ให้อย่ใู กล้กบั แหล่งจ่ายไฟมากท่ีสดุ และเข้าถึงได้
โดยสะดวก
3.5.1.6 ห้ามให้ต่อบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทางด้านไฟเข้าของเคร่ืองปลดวงจร ยกเว้น เป็นการต่อ
เพือ่ เข้าเครื่องวดั คาปาซิเตอร์ สญั ญาณต่างๆ อปุ กรณ์ป้ องกนั เสิร์จวงจรระบบไฟฉกุ เฉินระบบ
เตือนและป้ องกนั อคั คีภยั ระบบป้ องกนั กระแสร่วั ลงดิน หรือเพือ่ ใช้ในวงจรควบคมุ ของบริภณั ฑ์
ประธานทีต่ อ้ งมีไฟเมือ่ เครื่องปลดวงจรอยู่ใน ตําแหน่งปลด
3.5.1.7 ในอาคารที่มีผ้ใู ช้พืน้ ท่ีหลายราย ผ้ใู ช้แต่ละรายต้องสามารถเข้าถึงเครื่องปลดวงจร
ของตนเองได้โดยสะดวก
3.5.1.8 ต้องจดั ให้มีที่ว่างเพ่ือปฏิบตั งิ านที่เครื่องปลดวงจรได้อย่างพอเพียง และต้องมีที่ว่าง
เพื่อปฏิบตั งิ านด้านหน้าไม่น้อยกวา่ ที่กําหนดในบทที่ 1
3.5.1.9 ในกรณีที่จําเป็ นต้องใช้เครื่องปลดวงจรเป็ นสวิตช์สับเปลี่ยน (transfer switch)
ด้วย ต้องจดั ให้มีอินเตอร์ลอ็ ค (interlock) ป้ องกนั การจา่ ยไฟชนกนั จากหลายแหลง่ จา่ ย

3.5.2 เคร่ืองป้ องกันกระแสเกนิ ของบริภณั ฑ์ประธาน
แตล่ ะสายเส้นไฟที่ตอ่ ออกจากเครื่องปลดวงจรของบริภณั ฑ์ประธานต้องมีเครื่องป้ องกนั กระแส
เกิน

1) การไฟฟ้ านครหลวง กําหนดพิกดั สงู สดุ ของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินไว้ตาม
ตารางที่ 3-4

2) การไฟฟ้ าส่วนภูมิภาค กําหนดพิกดั สงู สดุ ของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินไว้ตาม
ตารางที่ 3-5

3.5.2.1 ไม่อนุญาตให้ติดตัง้ เครื่องป้ องกันกระแสเกินในสายท่ีมีการต่อลงดิน ยกเว้น
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินทีเ่ ป็นเซอร์กิตเบรกเกอร์ซึ่งตดั วงจรทกุ สายของวงจรออกพร้อมกนั เมื่อ
กระแสไหลเกิน

3-12 บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

ตารางท่ี 3-4
พกิ ดั สงู สุดของเคร่ืองป้ องกันกระแสเกนิ และโหลดสูงสุดตามขนาดเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ า

(สาํ หรับการไฟฟ้ านครหลวง)

ขนาดเคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ า พกิ ัดสูงสุดของเคร่ืองป้ องกันกระแสเกนิ โหลดสงู สุด
(แอมแปร์ )
(แอมแปร์ ) (แอมแปร์ )

5 (15) 16 10
15 (45) 50 30
30 (100) 100 75
50 (150) 125 100
200 150
200 250 200
300 250
400 400 300
500 400

หมายเหตุ พิกดั ของเครื่องป้ องกนั กระแสเกิน มีค่าต่ํากว่าที่กําหนดในตารางได้ แต่ทงั้ นีต้ ้องไม่น้อยกว่า
1.25 เท่าของโหลดทีค่ ํานวณได้

ตารางท่ี 3-5
ขนาดสายไฟฟ้ า เซฟตสี วติ ช์ คตั เอาต์ และคาร์ทริดจ์ฟิ วส์สาํ หรับตวั นําประธาน

(สาํ หรับการไฟฟ้ าส่วนภมู ภิ าค)

ขนาดตัวนําประธาน บริภณั ฑ์ประธาน
เล็กท่ีสุดท่ยี อมให้ใช้ได้
ขนาด เซฟตีสวติ ช์หรือ คัตเอาต์ ใช้ ร่ วมกับ เซอร์ กติ
เคร่ืองวัด (ตร.มม.) เบรกเกอร์
หน่วยไฟฟ้ า โหลด โหลดเบรกสวติ ช์ คาร์ทริดจ์ฟิ วส์
(แอมแปร์ ) สูงสุด สาย สาย ขนาด
(แอมแปร์ ) อะลมู ิเนียม ทองแดง ขนาดสวติ ช์ ขนาดฟิ วส์ ขนาดคทั ขนาดฟิ วส์ ปรับตัง้
5 (15) ต่าํ สุด สูงสุด เอาต์ต่าํ สุด สูงสุด สูงสุด
15 (45) 12 10 4 (แอมแปร์ )
30 (100) 36 25 10 (แอมแปร์) (แอมแปร์) (แอมแปร์) (แอมแปร์)
80 50 35 15-16
30 15 20 16
- 40-50
60 40-50 - -
100
100 100 -

หมายเหตุ 1) สําหรบั ตวั นําประธานภายในอาคารใหใ้ ชส้ ายทองแดง
2) ขนาดสายในตารางนีส้ ําหรับวิธีการเดินสายลอยในอากาศวสั ดฉุ นวนภายนอกอาคาร หากวิธี

เดินสายแบบอืน่ ใหพ้ ิจารณาขนาดตวั นําประธานในบทที่ 5 แต่ทง้ั นี้ ขนาดตวั นําประธานตอ้ ง
รบั กระแสไดไ้ ม่นอ้ ยกว่า 1.25 เท่าของโหลดตามตาราง

บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-13

3.5.2.2 อุปกรณ์ป้ องกนั กระแสเกินต้องป้ องกันวงจรและอปุ กรณ์ทงั ้ หมด อนญุ าตให้ตดิ ตงั้
ทางด้านไฟเข้าของเครื่องป้ องกันกระแสเกิน เฉพาะวงจรของระบบฉกุ เฉินตา่ งๆ เช่นเครื่องแจ้ง
เหตเุ พลิงไหม้ ระบบสญั ญาณป้ องกนั อนั ตราย เคร่ืองสบู นํา้ ดบั เพลิง นาฬิกา เครื่องป้ องกัน
อนั ตรายจากฟ้ าผา่ คาปาซิเตอร์ เคร่ืองวดั ฯ และวงจรควบคมุ
3.5.2.3 เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกิน ต้องสามารถตดั กระแสลดั วงจรค่ามากท่ีสดุ ท่ีอาจเกิดขึน้ ท่ี
จุดต่อไฟด้านไฟออกของเครื่องป้ องกันกระแสเกินได้ โดยคุณสมบัติยังคงเดิม ทัง้ นีค้ ่าพิกัด
กระแสลดั วงจรไม่ตา่ํ กวา่ 10 กิโลแอมแปร์ ยกเว้น ในบางพืน้ ทีท่ ีก่ ารไฟฟ้ าฯ กําหนดเป็นกรณี
พิเศษ
3.5.2.4 การป้ องกนั กระแสเกิน ต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 3.3 สําหรับข้อท่ีนํามาใช้ได้
ด้วย
3.5.2.5 อนญุ าตให้ใช้เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินท่ีมีคณุ สมบตั ิตามข้อ 3.5.1 ทําหน้าท่ีเป็ น
เครื่องปลดวงจรได้
3.5.2.6 กรณีระบบท่ีนิวทรัลของระบบวาย (wye) ตอ่ ลงดนิ โดยตรง บริภณั ฑ์ประธานแรงตํ่าที่
มีขนาดตงั ้ แต่ 1,000 แอมแปร์ขนึ ้ ไป ต้องตดิ ตงั้ เคร่ืองป้ องกนั กระแสร่ัวลงดนิ ของบริภณั ฑ์

ระบบป้ องกันกระแสร่ัวลงดินต้องมีการทดสอบการทํางานเมื่อติดตงั้ ครัง้ แรก ณ ที่ติดตงั้ โดย
ทดสอบตามคําแนะนําที่ให้มากับบริภณั ฑ์ ผลการทดสอบนีต้ ้องบนั ทึกเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร
เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีผ้มู ีอํานาจตรวจสอบทราบ

ข้อยกเว้นท่ี 1 ข้อบังคบั ตามข้อนี้ไม่ใช้กับเครื่องปลดวงจรประธานของกระบวนการทาง
อตุ สาหกรรมแบบต่อเนือ่ ง ซ่ึงหากมีการหยดุ ทํางานอย่างกะทนั หนั จะทําให้
เกิดความเสียหายมาก

ข้อยกเว้นท่ี 2 ข้อบงั คบั ตามข้อนีไ้ มใ่ ช้กบั เครื่องสบู นํา้ ดบั เพลงิ

ตอน ข. สาํ หรับระบบแรงสูง

อาคารหรือส่ิงปลกู สร้างที่ต้องรับไฟฟ้ าแรงสงู จากการไฟฟ้ าฯ ต้องติดตงั้ บริภณั ฑ์ประธานแรงสงู
หรือแผงเมนสวิตช์แรงสงู หลงั เครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ าเพ่ือปลดวงจรทกุ สายเส้นไฟออกจากตวั นํา
ประธานแรงสงู และต้องมีการป้ องกนั ระบบไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าแรงสงู อื่นๆ ของผ้ใู ช้ไฟฟ้ า
โดยจะต้องตดิ ตงั้ ในตําแหนง่ ท่ีเข้าถงึ ได้โดยสะดวก และในบริเวณใกล้กบั หม้อแปลงหรือบริภณั ฑ์
แรงสงู อื่นๆ ในระยะที่มองเห็นกนั ได้

3-14 บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

กรณีที่ต้องรับไฟฟ้ าแรงสูงในพืน้ ที่ประกาศเป็ นระบบสายป้ อนใต้ดินของการไฟฟ้ าฯ
จะต้องจดั เตรียมสถานที่สําหรับติดตงั้ เคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าและอปุ กรณ์ป้ องกนั แรงสงู ของ
การไฟฟ้ าโดยสถานท่ีต้องอยู่ในตําแหน่งที่เจ้าหน้าท่ีของการไฟฟ้ าสามารถเข้าออกได้
ตลอด 24 ชวั่ โมง และสามารถขนย้ายอปุ กรณ์ไฟฟ้ าได้สะดวก

ทงั้ นีต้ ้องมีลกั ษณะตามรายละเอียดและข้อกําหนดการตดิ ตงั้ ดงั นี ้

3.5.3 สวติ ช์แยกวงจร (Isolating Switches)

ต้องติดตงั้ สวิตช์แยกวงจรทางด้านไฟเข้าของเครื่องปลดวงจรด้วย เมื่อใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ทํา
หน้าท่ีเป็ นเครื่องปลดวงจรของบริภณั ฑ์ประธาน ยกเว้น สําหรับสวิตช์เกียร์ทีใ่ ช้ก๊าซเป็นฉนวน
(gas-insulated switchgear) ไม่บงั คบั ใหต้ ิดตงั้ สวิตช์แยกวงจรทางดา้ นไฟเขา้

สวิตช์แยกวงจรต้องมีรายละเอียดตามข้อ 3.5.3.1 ถึงข้อ 3.5.3.3
3.5.3.1 สวิตช์แยกวงจรต้องมีอินเตอร์ล็อกให้สบั -ปลดได้เฉพาะเมื่อบริภณั ฑ์ประธานอยู่ใน
ตําแหน่งปลด และต้องมีป้ ายเตือนที่เห็นได้ชดั เจนไม่ให้สบั -ปลดขณะบริภัณฑ์ประธาน อย่ใู น
ตาํ แหน่งสบั
3.5.3.2 ทางด้านโหลดของสวิตช์แยกวงจรต้องมีอุปกรณ์สําหรับต่อลงดินเม่ือปลดวงจรออก
จากแหลง่ จา่ ยไฟ
3.5.3.3 เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิดชกั ออก (draw-out) ถือวา่ มีสวิตช์แยกวงจรอยแู่ ล้ว

3.5.4 เคร่ืองปลดวงจรของบริภณั ฑ์ประธาน
3.5.4.1 เคร่ืองปลดวงจรต้องปลดสายเส้นไฟทงั้ หมดพร้อมกันได้และต้องสบั วงจรได้ขณะท่ี
เกิดกระแสลดั วงจรคา่ มากท่ีสดุ ที่อาจเกิดขนึ ้ เม่ือติดตงั้ ฟิ วส์สวิตช์หรือฟิ วส์ประกอบกนั ฟิ วส์นนั้
จะต้องมีคณุ สมบตั ิที่สามารถตดั กระแสลดั วงจรขณะท่ีสบั เคร่ืองปลดวงจรได้โดยเครื่องปลด
วงจรนีไ้ มเ่ สียหาย
3.5.4.2 กรณีท่ีใช้ฟิ วส์จํากดั กระแส (current limiting fuse) ทําหน้าท่ีบงั คบั ให้สวิตช์สําหรับ
ตัดโหลดปลดวงจรออกทัง้ สามเฟสเม่ือฟิ วส์เส้นใดเส้นหน่ึงขาด พิกัดกระแสขณะตัดวงจร
(breaking current) ของสวิตช์สําหรับตดั โหลด ต้องมีคา่ ไม่น้อยกวา่ 7 เทา่ ของพิกดั กระแสฟิ วส์
(ตามมาตรฐาน IEC 60420)
3.5.4.3 กรณีที่เคร่ืองปลดวงจรเป็ นชนิดคตั เอาต์พร้อมฟิ วส์ (fuse cutout) ชนิดฟิ วส์ขาดตก
(drop out) ติดตงั้ บนเสาไฟฟ้ าหรือโครงสร้างอื่นท่ีทําหน้าท่ีเช่นเดียวกบั เสาไฟฟ้ า ไม่บงั คบั ให้
ปลดวงจรทกุ สายเส้นไฟได้พร้อมกนั นอกจากการไฟฟ้ าฯจะกําหนดไว้เป็ นอยา่ งอื่น

บทที่ 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย 3-15

3.5.5 เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกนิ
เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินต้องตดิ ตงั้ และมีลกั ษณะเฉพาะ ดงั นี ้
3.5.5.1 ต้องตดิ ตงั้ เครื่องป้ องกนั กระแสเกินในสายเส้นไฟทกุ เส้น
3.5.5.2 เมื่อบริภณั ฑ์ประธานติดตงั ้ ในห้องสวิตช์เกียร์ หรือเป็ นตู้สวิตช์เกียร์โลหะ เครื่อง
ป้ องกนั กระแสเกินและเคร่ืองปลดวงจรต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) สวิตช์นํา้ มนั ชนิดไม่อตั โนมตั ิ คตั เอาต์ชนิดฟิ วส์ใช้นํา้ มนั หรือสวิตช์สําหรับ
ตดั โหลดชนิดใช้อากาศ (air–load-interrupter switch) ต้องใช้กับฟิ วส์
ความสามารถในการปลดวงจรของสวติ ช์ดงั กลา่ วต้องไม่น้อยกวา่ ขนาดกระแส
ใช้งานตอ่ เน่ืองของฟิวส์

ข) เซอร์กิตเบรกเกอร์ต้องมีพิกัดกระแสและพิกัดตัดกระแสลัดวงจรที่
เหมาะสมกบั การใช้งาน

3.5.5.3 เมื่อบริภณั ฑ์ประธานไม่ได้ตดิ ตงั ้ ในห้องสวิตช์เกียร์หรือไม่ได้เป็ นต้สู วิตช์เกียร์โลหะ
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินและเคร่ืองปลดวงจรต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) สวติ ช์ตดั กระแสโหลดชนิดใช้อากาศ หรือสวิตช์อ่ืนที่สามารถตดั กระแสโหลดท่ี
กําหนดของวงจรได้ ต้องใช้ร่วมกับฟิ วส์ที่ติดอยู่บนเสาหรือบนโครงสร้ างที่
ยกขึน้ ให้สูงและอยู่ภายนอกอาคาร และสวิตช์นีต้ ้องสบั -ปลดโดยบุคคลที่มี
หน้าท่ีเก่ียวข้อง

ข) เซอร์กิตเบรกเกอร์ต้องมีพกิ ดั กระแสและพกิ ดั ตดั กระแส ลดั วงจรที่เหมาะสมและ
ถ้าต้องติดตงั้ ไว้ภายนอกอาคารให้ติดใกล้กับจุดท่ีตวั นําประธานเข้าอาคาร
มากท่ีสดุ เทา่ ท่ีจะทําได้

3.5.5.4 ฟิ วส์ ต้องมีพิกดั ตดั กระแสลดั วงจรไม่น้อยกว่ากระแสลดั วงจรคา่ มากที่สดุ ท่ีอาจ
เกิดขนึ ้ ท่ีจดุ ตอ่ สายด้านไฟออก โดยต้องมีคา่ พิกดั กระแสตอ่ เน่ืองไม่เกิน 3 เท่าของขนาดกระแส
ของตวั นํา
3.5.5.5 เซอร์กิตเบรกเกอร์ ต้องเป็ นแบบปลดได้โดยอิสระ เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่ทําหน้าที่เป็ น
บริภณั ฑ์ประธานต้องมีเคร่ืองหมายแสดงให้เห็นชดั เจนวา่ อย่ใู นตําแหน่งสบั หรือปลด และต้องมี
พิกดั ตดั กระแสลดั วงจรไม่น้อยกว่ากระแสลดั วงจรคา่ มากที่สดุ ที่อาจจะเกิดขนึ ้ ที่จดุ ตอ่ สายด้าน
ไฟออก โดยต้องมีขนาดปรับตงั้ การตดั สงู สดุ ไม่เกิน 6 เทา่ ของขนาดกระแสของตวั นํา
3.5.5.6 เครื่องป้ องกันกระแสเกิน ต้องสามารถทํางานสมั พนั ธ์กับอุปกรณ์ป้ องกันของการ
ไฟฟ้ าฯ

3-16 บทท่ี 3 ตัวนําประธาน สายป้ อน วงจรย่อย

3.5.5.7 ต้องจดั ทํา Wiring Diagram ของระบบป้ องกนั ตงั ้ แต่ด้านรับไฟฟ้ า(Incoming)
จนถึงด้านจ่ายไฟออก(Outgoing)ของบริภณั ฑ์ประธานแรงสงู แผงเมนสวิตช์แรงสงู หม้อแปลง
ไฟฟ้ า และบริภณั ฑ์ท่ีสําคญั อื่น ที่คงทนถาวรและเห็นได้ชดั เจนติดตงั้ ไว้ในห้องท่ีติดตงั้ แผงสวิตช์
ทกุ ห้อง

3.6 แรงดนั ตกสาํ หรับระบบแรงต่าํ

3.6.1 กรณีรับไฟแรงตํา่ จากการไฟฟ้ า แรงดนั ตกคดิ จากเคร่ืองวดั ฯ จนถงึ จดุ ใช้ไฟจดุ สดุ ท้าย
รวมกนั ต้องไม่เกิน 5% จากระบบแรงดนั ท่ีระบุ
3.6.2 กรณีรับไฟแรงสงู จากการไฟฟ้ าแรงดนั ตกคิดจากบริภณั ฑ์ประธานแรงตํ่าจนถึงจดุ ใช้
ไฟจดุ สดุ ท้ายรวมกนั ต้องไมเ่ กิน 5% จากระบบแรงดนั ท่ีระบุ

บทท่ี 4 การต่อลงดนิ 4-1

บทท่ี 4
การต่อลงดนิ

ข้อกําหนดในบทนีเ้ กี่ยวกับการต่อลงดิน สําหรับวงจรและระบบไฟฟ้ า การเลือกขนาดสาย
วธิ ีการตดิ ตงั้ และคา่ ความต้านทานระหวา่ งหลกั ดนิ กบั ดนิ

4.1 วงจรและระบบไฟฟ้ ากระแสสลับท่ตี ้องต่อลงดนิ

วงจรและระบบไฟฟ้ ากระแสสลบั ตามที่กําหนดไว้ในข้อ 4.1.1 ถึง 4.1.2 ต้องตอ่ ลงดนิ สว่ นวงจร
และระบบอื่นนอกจากนี ้อาจตอ่ ลงดนิ ก็ได้

4.1.1 ระบบไฟฟ้ าท่มี ีแรงดันไฟฟ้ าเกนิ 50 โวลต์ แต่ไม่เกิน 1,000 โวลต์ ต้องตอ่ ลง
ดนิ เมื่อมีสภาพตามข้อใดข้อหนงึ่ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) เป็ นระบบ 1 เฟส 2 สาย
ข) เป็ นระบบ 1 เฟส 3 สาย
ค) เป็ นระบบ 3 เฟส 3 สาย
ง) เป็ นระบบ 3 เฟส 4 สาย

4.1.2 วงจรและระบบไฟฟ้ าท่ีมีแรงดันไฟฟ้ าเกิน 1,000 โวลต์ ขนึ ้ ไป ถ้าจ่ายไฟให้
บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดเคล่ือนที่ได้จะต้องตอ่ ลงดิน แตถ่ ้าจ่ายไฟให้บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าอ่ืนๆ อนญุ าตให้
ตอ่ ลงดนิ ได้แตต่ ้องไมข่ ดั กบั ข้อกําหนดข้ออื่นๆ
ยกเว้น ระบบทีม่ ีตวั จ่ายแยกต่างหาก (separately derived systems) โดยเฉพาะระบบ

ไฟฟ้ าที่รับพลังงานจากเครื่องกําเนิดไฟฟ้ า หม้อแปลงไฟฟ้ า คอนเวอร์เตอร์ที่มี
ขดลวด ซึ่งมีจุดประสงค์เพือ่ จ่ายไฟใหร้ ะบบไฟฟ้ าพิเศษและไม่มีการต่อทางไฟฟ้ ากบั
วงจรระบบอืน่ ไม่บงั คบั ใหต้ ่อลงดิน หากตอ้ งการต่อลงดินตามข้อ 4.1.1 ข้างตน้
จะตอ้ งปฏิบตั ิตาม ขอ้ 4.6 ดว้ ย

4.2 วงจรและระบบไฟฟ้ าท่หี ้ามต่อลงดนิ

4.2.1 วงจรของปัน้ จัน่ ที่ใช้งานอยู่เหนือวสั ดเุ ส้นใยที่อาจลกุ ไหม้ได้ ซึง่ อยู่ในบริเวณ
อนั ตราย

4.2.2 วงจรในสถานดแู ลสขุ ภาพ (health care facility) เช่น วงจรในห้องผ่าตดั สําหรับ
โรงพยาบาล หรือ คลนิ ิก

4-2 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ

4.3 การต่อลงดนิ ของระบบประธาน

4.3.1 ระบบไฟฟ้ าของผู้ใช้ไฟฟ้ าท่ีต้องต่อลงดินตามข้อ 4.1 จะต้องต่อลงดินท่ีบริภัณฑ์
ประธานแต่ละชุด จดุ ต่อลงดินต้องอย่ใู นจดุ ที่เข้าถึงสะดวกที่ปลายตวั นําประธาน หรือบสั หรือ
ขวั้ ต่อท่ีต่อเข้ากับตวั นํานิวทรัลของตวั นําประธานภายในบริภณั ฑ์ประธาน ในกรณีหม้อแปลง
ไฟฟ้ าติดตงั้ ภายนอกอาคารจะต้องตอ่ ลงดินเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 จุด ทางด้านไฟออกของหม้อ
แปลงไฟฟ้ า ณ จดุ ที่ตดิ ตงั้ หม้อแปลงหรือจดุ อ่ืนที่เหมาะสม ห้ามตอ่ ลงดินท่ีจดุ อ่ืนๆ อีกทางด้าน
ไฟออกของบริภณั ฑ์ประธาน

ข้อยกเว้นท่ี 1 ถ้าอาคารนน้ั รับไฟจากตวั นําประธานมากกว่า 1 ชดุ ซ่ึงอยู่ภายในสิ่งห่อห้มุ เดียวกนั หรือ
ติดตงั้ แยกคนละสิ่งห่อหมุ้ แต่อยู่ติดกนั และต่อถึงกนั ทางดา้ นไฟออกทีจ่ ดุ ต่อถึงกนั นีส้ ามารถ
ต่อตวั นํานิวทรลั หรือสายทีม่ ีการต่อลงดินของตวั นําประธานลงหลกั ดินเพียงชดุ เดียวก็ได้

ข้อยกเว้นท่ี 2 ในกรณีที่มีการต่อฝาก ระหว่างบสั บาร์นิวทรัลกับบัสบาร์ต่อลงดินของบริ ภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่
บริภณั ฑ์ประธานตามข้อ 4.15.6 สามารถต่อสายต่อหลกั ดินเข้ากบั บสั บาร์ต่อลงดินของ
บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีม่ ีการต่อฝากนน้ั ได้

4.3.2 ระบบไฟฟ้ ากระแสสลบั ที่มีแรงดนั ไฟฟ้ าไม่เกิน 1,000 โวลต์ ท่ีมีการตอ่ ลงดนิ ที่จดุ ใดๆ
จะต้องเดินสายท่ีมีการต่อลงดินนัน้ ไปยังบริภัณฑ์ประธานทุกชุด และต้องต่อฝากเข้ากับสิ่ง
หอ่ ห้มุ ของบริภณั ฑ์ประธาน สายดงั กลา่ วจะต้องเดนิ ร่วมไปกบั สายเส้นไฟด้วย

4.4 การต่อลงดนิ ของวงจรท่มี ีบริภณั ฑ์ประธานชุดเดยี วจ่ายไฟให้อาคาร 2 หลัง
หรือมากกว่า

4.4.1 แตล่ ะอาคารต้องมีหลกั ดนิ เพื่อตอ่ สายท่ีมีการตอ่ ลงดนิ ของวงจรและระบบไฟฟ้ า
กระแสสลบั และเคร่ืองหอ่ ห้มุ ของเครื่องปลดวงจรลงดนิ

4.4.2 อนญุ าตให้ไม่ต้องทําหลกั ดินของแตล่ ะอาคารตามข้อ 4.4.1 ก็ได้ ถ้ามีสภาพตามข้อ
ใดข้อหนง่ึ ตอ่ ไปนี ้
4.4.2.1 ในอาคารมีวงจรย่อยชุดเดียวและไม่ได้จ่ายไฟให้แก่บริภัณฑ์ท่ีต้องต่อลงดิน และ
อาคารทงั้ สองไม่ตอ่ ถึงกนั ทางไฟฟ้ า
4.4.2.2 มีการเดินสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าร่วมกับตวั นําอื่นของวงจร เพ่ือไปต่อส่วนที่ไม่
เป็ นทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ าของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ระบบท่อโลหะภายในและโครงสร้างของอาคาร
ที่ต้องการตอ่ ลงดนิ

บทท่ี 4 การต่อลงดนิ 4-3

4.5 ตวั นําท่ตี ้องมีการต่อลงดนิ ของระบบไฟฟ้ ากระแสสลับ

สําหรับระบบไฟฟ้ ากระแสสลบั ท่ีใช้ภายในอาคาร สายตวั นําของระบบต้องมีการตอ่ ลงดนิ ตวั นําที่
มีการต่อลงดินต้องมีการกําหนด สีหรือทําเคร่ืองหมาย การต่อลงดินต้องทําตามข้อใดข้อหนึ่ง
ดงั นี ้

ก) ระบบ 1 เฟส 2 สาย กําหนดให้ตวั นํานิวทรัลเป็ นสายที่ตอ่ ลงดนิ
ข) ระบบ 1 เฟส 3 สาย กําหนดให้ตวั นํานิวทรัลเป็ นสายท่ีตอ่ ลงดนิ
ค) ระบบ 3 เฟส 3 สาย กําหนดให้สายตวั นําเส้นใดเส้นหนงึ่ ตอ่ ลงดนิ
ง) ระบบ 3 เฟส 4 สาย กําหนดให้ตวั นํานิวทรัลเป็ นสายที่ตอ่ ลงดนิ

4.6 การต่อลงดนิ สาํ หรับระบบไฟฟ้ ากระแสสลับท่มี ีตวั จ่ายแยกต่างหาก

ระบบไฟฟ้ ากระแสสลบั ที่มีตวั จา่ ยแยกตา่ งหากต้องปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดดงั ตอ่ ไปนี ้

4.6.1 ต้องใช้สายตอ่ ฝากลงดนิ (ที่มีขนาดตามข้อ 4.15.6 ค) ซงึ่ กําหนดขนาดจากสายเส้น
ไฟของระบบที่มีตวั จ่ายแยกตา่ งหาก) เชื่อมตอ่ สายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า (ของระบบท่ีมีตวั จ่าย
แยกตา่ งหาก) เข้ากบั สายตวั นําที่มีการต่อลงดินของระบบไฟฟ้ า การต่อฝากให้ทําท่ีจดุ ใดก็ได้
ระหวา่ งระบบที่มีตวั จ่ายแยกตา่ งหากกบั เครื่องป้ องกนั กระแสเกินตวั แรกเทา่ นนั้

4.6.2 สายต่อหลกั ดินท่ีเชื่อมต่อหลกั ดินเข้ากับสายตวั นําที่มีการต่อลงดินของระบบท่ีมีตวั
จ่ายแยกตา่ งหากให้ใช้ขนาดตามข้อ 4.19 ซง่ึ กําหนดขนาดจากสายเส้นไฟของระบบที่มีตวั จ่าย
แยกตา่ งหาก

4.6.3 หลกั ดนิ ต้องเป็ นไปตามข้อ 2.4 และต้องอยใู่ กล้จดุ ตอ่ ลงดนิ มากที่สดุ เทา่ ที่จะทําได้

4.7 การต่อลงดินของเคร่ืองห่อหุ้มและ/หรือช่องเดนิ สายท่ีเป็ นโลหะของตัวนาํ
ประธานและของบริภัณฑ์ประธาน

เคร่ืองห่อห้มุ และ/หรือช่องเดินสายท่ีเป็ นโลหะของตวั นําประธานและของบริภณั ฑ์ประธานต้อง
ตอ่ ลงดนิ

4.8 การต่อลงดินของเคร่ืองห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายท่ีเป็ นโลหะของสาย
ตวั นํา

เครื่องหอ่ ห้มุ และ/หรือชอ่ งเดนิ สายที่เป็ นโลหะของสายตวั นํา ต้องตอ่ ลงดนิ

ข้อยกเว้นที่ 1 เครื่องห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายที่เป็ นโลหะช่วงสนั้ ๆ ซึ่งใช้ป้ องกนั ความเสียหายทาง
กายภาพทีม่ ีการต่อสายเคเบิลหรือใชจ้ บั ยึดสาย ไม่บงั คบั ใหต้ ่อลงดิน

4-4 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ

ข้อยกเว้นท่ี 2 เครื่องห่อหุ้มและ/หรือช่องเดินสายที่เป็ นโลหะของสายที่ต่อจากการติดตง้ั เดิมทีเป็ นการ
เดินสายแบบเปิ ดเดินสายบนต้มุ หรือใช้สายทีม่ ีเปลือกนอกไม่เป็นโลหะไม่จําเป็นตอ้ งต่อลง
ดินถ้าระยะเดินสายทีเ่ พิ่มมีความยาวไม่เกิน 8 เมตร ไม่สมั ผสั กบั ดินหรือโลหะทีต่ ่อลงดิน
หรือวสั ดทุ ีเ่ ป็นตวั นํา และมีการป้ องกนั ไม่ใหบ้ คุ คลสมั ผสั

4.9 การต่อลงดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าชนิดยึดติดกับท่ี หรือชนิดท่ีมีการเดินสาย
ถาวร

บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดยึดติดกับท่ี หรือชนิดท่ีมีการเดินสายถาวร ส่วนที่เป็ นโลหะท่ีเปิ ดโล่งและ
ไม่ได้เป็ นทางเดินของกระแสไฟฟ้ าของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าดงั กลา่ วต้องตอ่ ลงดินเมื่อมีสภาพตามข้อ
ใดข้อหนงึ่ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) ห่างจากพืน้ หรือโลหะท่ีต่อลงดินไม่เกิน 2.4 เมตรในแนวดิ่ง หรือ 1.5 เมตรในแนว
ระดบั และบคุ คลอาจสมั ผสั ได้โดยบงั เอิญ

ข) อยใู่ นสถานท่ีเปี ยกหรือชืน้ และไมไ่ ด้มีการแยกอยตู่ า่ งหาก
ค) มีการสมั ผสั ทางไฟฟ้ ากบั โลหะ
ง) อยใู่ นบริเวณอนั ตราย
จ) รับไฟฟ้ าจากสายชนิดห้มุ สว่ นนํากระแสไฟฟ้ าด้วยโลหะ (metal-clad, metal-sheath)

หรือสายท่ีเดนิ ในทอ่ สายโลหะเว้นแตท่ ี่ได้ยกเว้นในข้อ 4.8

4.10 การต่อลงดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดยดึ ตดิ กับท่ที กุ ขนาดแรงดนั

บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดยึดติดกบั ท่ีทกุ ขนาดแรงดนั ส่วนที่เป็ นโลหะเปิ ดโลง่ และไม่เป็ นทางเดินของ
กระแสไฟฟ้ า บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าตอ่ ไปนีต้ ้องตอ่ ลงดนิ

ก) โครงของแผงสวิตช์
ข) โครงของมอเตอร์ชนิดยดึ ตดิ กบั ที่
ค) กลอ่ งของเคร่ืองควบคมุ มอเตอร์ ยกเว้นฝาครอบสวิตช์ ปิ ด-เปิ ดท่ีมีฉนวนรองด้านใน
ง) บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าของลฟิ ต์และปัน้ จนั่
จ) บริภัณฑ์ไฟฟ้ าในอู่จอดรถ โรงมหรสพ โรงถ่ายภาพยนตร์ สถานีวิทยุและโทรทัศน์

ยกเวน้ โคมไฟแบบแขวน
ฉ) ป้ ายท่ีใช้ไฟฟ้ ารวมทงั้ อปุ กรณ์ประกอบ
ช) เคร่ืองฉายภาพยนตร์
ซ) เคร่ืองสบู นํา้ ท่ีใช้มอเตอร์

บทท่ี 4 การต่อลงดนิ 4-5

4.11 การต่อลงดนิ ของบริภณั ฑ์ซ่งึ ไม่ได้รับกระแสไฟฟ้ าโดยตรง

บริภณั ฑ์ซง่ึ ไม่ได้รับกระแสไฟฟ้ าโดยตรง สว่ นที่เป็ นโลหะของบริภณั ฑ์ตอ่ ไปนีต้ ้องตอ่ ลงดนิ
ก) โครงและรางของปัน้ จน่ั ท่ีใช้ไฟฟ้ า
ข) โครงของต้โู ดยสารลฟิ ต์ที่ไม่ได้ขบั เคล่ือนด้วยไฟฟ้ าแตม่ ีสายไฟฟ้ าตดิ อยู่
ค) ลวดสลงิ ซง่ึ ใช้ยกของด้วยแรงคนและลวดสลงิ ของลฟิ ต์ท่ีใช้ไฟฟ้ า
ง) สิ่งกัน้ ท่ีเป็ นโลหะ รัว้ หรือส่ิงห่อห้มุ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่มีแรงดนั ระหว่างสายเส้นไฟ
เกิน 1,000 โวลต์
จ) โครงสร้างโลหะท่ีใช้ตดิ ตงั้ บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

4.12 การต่อลงดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่มี ีสายพร้อมเต้าเสียบ

บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่มีสายพร้อมเต้าเสียบ ส่วนที่เป็ นโลหะเปิ ดโล่งของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าจะต้องต่อลง
ดนิ ถ้ามีสภาพตามข้อใดข้อหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) ใช้ในบริเวณอนั ตราย

ข) ใช้แรงดนั ไฟฟ้ าวดั เทียบกบั ดนิ เกิน 150 โวลต์

ข้อยกเว้นท่ี 1 มอเตอร์ทีม่ ีการกน้ั
ข้อยกเว้นท่ี 2 โครงโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้ าทางความร้อน ซึ่งมีฉนวนกนั้ ระหว่างโครงโลหะกบั ดินอย่าง

ถาวร
ข้อยกเว้นที่ 3 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีร่ ะบวุ ่าเป็นฉนวน 2 ชนั้ หรือเทียบเท่า ซึ่งมีเครื่องหมายแสดงชดั เจนว่าไม่

ตอ้ งต่อลงดิน

4.12.3 เครื่องใช้ไฟฟ้ าท่ีใช้ในสถานท่ีอยอู่ าศยั ตอ่ ไปนี ้
ก) ต้เู ยน็ ต้แู ช่แขง็ เคร่ืองปรับอากาศ
ข) เคร่ืองซักผ้า เครื่องอบผ้า เคร่ืองล้างจาน เคร่ืองสูบนํา้ เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าในตู้เลีย้ ง
ปลา
ค) เครื่องมือชนิดมือถือที่ทํางานด้วยมอเตอร์ (hand-held motor-operated tools)
ง) เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีทํางานด้วยมอเตอร์ เช่น เคร่ืองเล็มต้นไม้ เคร่ืองตดั หญ้า เครื่อง
ขดั ถชู นิดใช้นํา้
จ) ดวงโคมไฟฟ้ าชนิดหยิบยกได้

ยกเว้น บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีร่ ะบวุ ่าเป็นฉนวน 2 ชนั้ หรือเทียบเท่า ซึ่งมีเครื่องหมายแสดงชดั เจนว่า
ไม่ตอ้ งต่อลงดิน

4-6 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ

4.12.4 เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีไม่ได้ใช้ในสถานท่ีอยอู่ าศยั ตอ่ ไปนี ้
ก) ต้เู ย็น ต้แู ช่แข็ง เคร่ืองปรับอากาศ
ข) เครื่องซกั ผ้า เครื่องอบผ้า เคร่ืองล้างจาน เครื่องสบู นํา้ เคร่ืองประมวลผลข้อมูล
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าในต้เู ลยี ้ งปลา
ค) เคร่ืองมือชนิดมือถือท่ีทํางานด้วยมอเตอร์
ง) เครื่องใช้ไฟฟ้ าท่ีทํางานด้วยมอเตอร์ เช่น เครื่องเลม็ ต้นไม้ เคร่ืองตดั หญ้าเคร่ืองขดั
ถชู นิดใช้นํา้
จ) เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีมีสายพร้อมเต้าเสียบใช้ในสถานท่ีเปี ยกหรือชืน้ หรือบคุ คลท่ีใช้ยืน
อยบู่ นพืน้ ดนิ หรือพืน้ โลหะ หรือทํางานอยใู่ นถงั โลหะหรือหม้อนํา้
ฉ) เคร่ืองมือที่อาจนําไปใช้ในท่ีเปี ยก หรือ ใช้ในบริเวณท่ีนําไฟฟ้ าได้
ช) ดวงโคมไฟฟ้ าชนิดหยิบยกได้

ข้อยกเว้นท่ี 1 เครื่องมือและดวงโคมไฟฟ้ าชนิดหยิบยกได้ ทีอ่ าจนําไปใช้ในที่เปี ยกหรือใช้ในบริเวณทีน่ ํา
ไฟฟ้ าได้ ไม่บงั คบั ใหต้ ่อลงดินถา้ รับพลงั ไฟฟ้ าจากหม้อแปลงนิรภยั ทีข่ ดลวดดา้ นไฟออกม
แรงดนั ไฟฟ้ าไม่เกิน 50 โวลต์ และไม่ต่อลงดิน

ข้อยกเว้นที่ 2 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีร่ ะบวุ ่าเป็นฉนวน 2 ชน้ั หรือเทียบเท่าซ่ึงมีเครื่องหมายแสดงชดั เจนว่าไม่
ตอ้ งต่อลงดิน

4.13 ระยะห่างจากตวั นําระบบล่อฟ้ า

ช่องเดินสายเคร่ืองห่อห้มุ โครงโลหะ และส่วนโลหะอ่ืนของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ที่ไม่เป็ นทางเดินของ
กระแสไฟฟ้ าต้องมีระยะห่างจากตวั นําระบบล่อฟ้ าไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร หรือต้องตอ่ ฝากเข้า
กบั ตวั นําระบบลอ่ ฟ้ า

4.14 วิธีต่อลงดนิ

4.14.1 การต่อสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่มีตวั จ่ายแยกต่างหากโดยเฉพาะ ต้องปฏิบัติ
ตามที่ได้กําหนดไว้ในข้อ 4.6.1 การตอ่ สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีบริภณั ฑ์ประธานต้องปฏิบตั ิ
ดงั นี ้

ก) ระบบไฟฟ้ าที่มีการต่อลงดิน ให้ต่อฝากสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าเข้ากับตวั นํา
ประธานที่มีการตอ่ ลงดนิ และสายตอ่ หลกั ดนิ ยกเว้น กรณีต่อลงดินของหอ้ งชดุ
ในอาคารชดุ ใหเ้ ป็นไปตามทีก่ ําหนดในบทที่ 9

ข) ระบบไฟฟ้ าท่ีไม่มีการต่อลงดิน ให้ต่อฝากสายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าเข้ากับสาย
ตอ่ หลกั ดนิ

บทที่ 4 การต่อลงดนิ 4-7

4.14.2 ทางเดนิ สู่ดนิ ท่ใี ช้ได้ผลดี
ทางเดนิ สดู่ นิ จากวงจร บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า และเครื่องหอ่ ห้มุ สายที่เป็ นโลหะ ต้องมีลกั ษณะดงั นี ้

ก) เป็ นชนิดตดิ ตงั้ ถาวรและมีความตอ่ เนื่องทางไฟฟ้ า
ข) มีขนาดเพียงพอสาํ หรับนํากระแสลดั วงจรทกุ ชนิดที่อาจเกิดขนึ ้ ได้อยา่ งปลอดภยั
ค) มีอิมพีแดนซ์ต่ําเพียงพอท่ีจะจํากดั แรงดนั ไฟฟ้ าวดั เทียบกบั ดินไม่ให้สงู เกินไป และ

ช่วยให้เครื่องป้ องกนั กระแสเกินในวงจรทํางานได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

4.14.3 การใช้หลักดนิ ร่วมกนั
ถ้าระบบไฟฟ้ ากระแสสลับมีการต่อลงดินเข้ากับหลักดินภายในอาคารหรือสถานท่ีตามที่ได้
กําหนดไว้ในข้อ 4.3 และข้อ 4.4 แล้ว ต้องใช้หลกั ดนิ นนั้ สําหรับตอ่ เคร่ืองห่อห้มุ สายและสว่ นที่
เป็ นโลหะของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าลงดินด้วย สําหรับอาคารท่ีรับไฟจากแหล่งจ่ายไฟแยกกันต้องใช้
หลกั ดนิ ร่วมกนั หลกั ดนิ สองหลกั หรือมากกวา่ ที่ตอ่ ฝากเข้าด้วยกนั อย่างใช้ได้ผลดีถือว่าเป็ นหลกั
ดนิ หลกั เดยี ว

4.14.4 การต่อของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดยดึ ตดิ กับท่ี หรือชนิดท่มี ีการเดนิ สายถาวร
ส่วนที่เป็ นโลหะของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าและไม่ได้เป็ นทางเดินของกระแสไฟฟ้ าถ้าต้องการต่อลงดิน
จะต้องตอ่ โดยวธิ ีใดวธิ ีหนงึ่ ตอ่ ไปนี ้

ก) โดยใช้สายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าประเภทตา่ งๆ ตามท่ีได้กําหนดไว้ในข้อ 4.17
ข) โดยใช้สายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าเดินสายร่วมไปกับสายวงจรภายในท่อสาย

เดียวกันหรือเป็ นส่วนหนึ่งของสายเคเบิลหรือสายอ่อน สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า
อาจหุ้มฉนวนหรือไม่หุ้มฉนวนก็ได้ ฉนวนหรือเปลือกของสายดินต้องเป็ นสีเขียว
หรือสเี ขียวแถบเหลือง

ข้อยกเว้นที่ 1 สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดหุ้มฉนวนขนาดใหญ่กว่า 10 ตร.มม. อนุญาตให้ทํา
เครื่องหมายที่ถาวรเพือ่ แสดงว่าเป็ นสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่ปลายสายและทุกแห่งที่
เขา้ ถึงได้ การทําเครื่องหมาย ตอ้ งใชว้ ิธีหน่ึงวิธีใดดงั ต่อไปนี้
1.1) ปอกฉนวนหรือเปลือกส่วนทีม่ องเห็นทง้ั หมดออก
1.2) ทําใหฉ้ นวนหรือเปลือกส่วนทีม่ องเห็นเป็นสีเขียว
1.3) ทําเครื่องหมายบนฉนวนหรือเปลือกส่วนทีม่ องเห็นดว้ ยเทปพนั สายหรือแถบกาวสี
เขียว

ข้อยกเว้นท่ี 2 ถา้ การบํารุงรกั ษากระทําโดยผมู้ ีหนา้ ทีเ่ กีย่ วข้อง อนญุ าตใหท้ ําเครื่องหมายถาวรทีป่ ลายสาย
และทุกแห่งที่เข้าถึงได้ที่ฉนวนของตวั นําในเคเบิลหลายแกนเพือ่ แสดงว่าเป็ นสายดินของ
บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า การทําเครื่องหมายตอ้ งใชว้ ิธีหน่ึงวิธีใดดงั ต่อไปนี้
2.1) ปอกฉนวนหรือเปลือกส่วนทีม่ องเห็นทง้ั หมดออก

4-8 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ

2.2) ทําใหฉ้ นวนหรือเปลือกส่วนทีม่ องเห็นเป็นสีเขียว
2.3) ทําเครื่องหมายบนฉนวนหรือเปลือกส่วนทีม่ องเห็นด้วยเทปพนั สายหรือแถบกาวสี

เขียว

4.14.5 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ถี อื ว่ามีการต่อลงดนิ อย่างใช้ได้ผลดี
ส่วนท่ีเป็ นโลหะของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าซึ่งไม่ได้เป็ นทางเดินของกระแสไฟฟ้ า เมื่อมีสภาพดงั ต่อไปนี ้
ถือวา่ มีการตอ่ ลงดนิ แล้ว

ก) บริภณั ฑ์ไฟฟ้ ากระแสสลบั ที่ยดึ แน่นและสมั ผสั ทางไฟฟ้ ากบั โครงสร้ างโลหะท่ี
รองรับ และโครงสร้างโลหะนนั้ ตอ่ ลงดินตามท่ีได้กําหนดไว้ในข้อ 4.14.4 แล้วไม่
อนญุ าตให้ใช้โครงสร้างโลหะของอาคารแทนสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ านนั้

ข) โครงโลหะของต้โู ดยสารลฟิ ต์ท่ีแขวนกบั ลวดสลิง ซงึ่ คล้องหรือพนั รอบเพลากว้าน
ของมอเตอร์ลฟิ ต์ที่ตอ่ ลงดนิ ตามที่ได้กําหนดไว้ในข้อ 4.14.4 แล้ว

4.14.6 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่มี ีสายพร้อมเต้าเสียบ
สว่ นที่เป็ นโลหะของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่มีสายพร้อมเต้าเสียบ ซง่ึ ไม่ได้เป็ นทางเดินของกระแสไฟฟ้ า
ถ้าต้องตอ่ ลงดนิ ให้ใช้วิธีหนงึ่ วธิ ีใดดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) โดยใช้สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าเดินสายร่วมกับสายวงจรอย่ภู ายในสายเคเบิล
หรือสายอ่อนเดียวกัน และปลายสายต่อเข้ากับขาดินของเต้าเสียบชนิดขาดิน
ตายตวั (fixed grounding contact) สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าอาจไม่ห้มุ ฉนวนก็
ได้ ถ้าห้มุ ฉนวนสีของฉนวนต้องเป็ นสเี ขียวหรือสเี ขียวแถบเหลือง

ข) โดยใช้สายอ่อนหรือแถบโลหะแยกต่างหากอาจจะห้มุ ฉนวนหรือไม่ห้มุ ฉนวนก็ได้
แตต่ ้องมีการป้ องกนั ความเสยี หายทางกายภาพ

4.15 การต่อฝาก

การต่อฝากมีจุดประสงค์เพ่ือให้แน่ใจว่ามีความต่อเน่ืองทางไฟฟ้ า และสามารถรับกระแส
ลดั วงจรใดๆ ที่อาจเกิดขนึ ้

4.15.1 การต่อฝากท่บี ริภณั ฑ์ประธาน
สว่ นที่เป็ นโลหะซงึ่ ไมไ่ ด้เป็ นทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ าของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าตอ่ ไปนีต้ ้องมีการตอ่ ฝาก
ถึงกนั อยา่ งใช้ได้ผลดี

ก) ทอ่ สาย รางเคเบิลและเปลือกนอกที่เป็ นโลหะของตวั นําประธาน
ข) เครื่องหอ่ ห้มุ ของบริภณั ฑ์ประธาน
ค) ทอ่ สายโลหะของสายตอ่ หลกั ดนิ

บทที่ 4 การต่อลงดนิ 4-9

4.15.2 วธิ ีต่อฝากท่บี ริภณั ฑ์ประธาน
การตอ่ ถงึ กนั ทางไฟฟ้ าท่ีบริภณั ฑ์ประธานต้องปฏิบตั ติ ามข้อใดข้อหนงึ่ ตอ่ ไปนี ้

ก) ต่อฝากต้บู ริภณั ฑ์ประธานเข้ากบั ตวั นําประธานเส้นที่มีการต่อลงดินตามวิธีที่ได้
กําหนดไว้ในข้อ 4.22 ยกเว้น บริภณั ฑ์ประธานของหอ้ งชดุ ให้เป็นไปตามข้อ
9.1.12

ข) โดยใช้ข้อต่อแบบมีเกลียวต่อเข้ากับกล่องหรือสิ่งห่อหุ้มท่ีทําเกลียวในเมื่อใช้ท่อ
โลหะหนาหรือทอ่ โลหะหนาปานกลางการตอ่ ให้ใช้ประแจขนั ให้แน่น

ค) โดยใช้ข้อตอ่ แบบไม่ต้องทําเกลียวตอ่ กบั ทอ่ ให้แน่นสนิทเมื่อใช้ทอ่ โลหะบาง
ง) ใช้สายต่อฝากหรืออปุ กรณ์อ่ืนท่ีมีคณุ สมบตั เิ หมาะสมรอบรอยตอ่ ที่ช่องน็อกเอ้าต์

(knockout) เพื่อให้การตอ่ ลงดนิ มีความตอ่ เน่ืองทางไฟฟ้ า
จ) ใช้อปุ กรณ์อ่ืนๆ เชน่ ใช้บชุ ชิงแบบมีขวั้ ตอ่ สายดนิ พร้อมกบั ลอ็ กนตั

4.15.3 การต่อขัว้ ต่อสายดนิ ของเต้ารับเข้ากับกล่องโลหะ
ต้องใช้สายตอ่ ฝากตอ่ ระหว่างขวั้ ตอ่ สายดนิ ของเต้ารับชนิดมีสายดนิ กบั กลอ่ งโลหะท่ีมีการตอ่ ลง
ดนิ ไว้แล้ว

ข้อยกเว้นที่ 1 กล่องโลหะเป็นแบบติดตัง้ บนพืน้ ผิว การสมั ผสั โดยตรงระหว่างกล่องกับ
เต้ารับถือได้ว่าเป็ นการต่อลงดินของเต้ารับเข้ากบั กล่อง ข้อยกเว้นนี้ไม่ใช้กบั
เตา้ รบั ทีต่ ิดตงั้ บนฝาครอบทีไ่ ดร้ ะบวุ ่ามีความต่อเนือ่ งทางไฟฟ้ าเพียงพอระหว่าง
กล่องกบั เตา้ รบั

ข้อยกเว้นท่ี 2 อปุ กรณ์สมั ผสั หรือก้านยื่นซึ่งไดอ้ อกแบบและระบวุ ่าใหใ้ ชร้ ่วมกบั สกรูยึดเพือ่
เป็นวงจรต่อลงดินระหว่างเตา้ รบั กบั กล่องชนิดติดตง้ั เสมอผิว

ข้อยกเว้นที่ 3 กล่องแบบติดตง้ั บนพืน้ ผิวซึ่งได้ออกแบบและระบุว่ามีความต่อเนือ่ งลงดินทาง
ไฟฟ้ าระหว่างกล่องกบั อปุ กรณ์

ข้อยกเว้นท่ี 4 ในกรณีทีต่ อ้ งการลดการรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ าในวงจรสายดิน อาจใช้
เต้ารับชนิดทีม่ ีฉนวนคนั่ ระหว่างขวั้ ต่อลงดินกบั สิ่งทีใ่ ช้ยึดหรือติดตงั้ เตา้ รับ โดย
ต่อขั้วต่อสายดินของเต้ารับเข้ากบั สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าซึ่งเป็ นสายหุ้ม
ฉนวนเดินร่วมไปกบั สายของวงจร สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ านีอ้ าจเดินผ่านแผง
ย่อยแผงเดียวหรือหลายแผงโดยไม่ตอ้ งต่อกบั ตวั แผงก็ไดแ้ ลว้ ไปต่อเข้ากบั ขวั้ ต่อ
สายดินของบริภณั ฑ์ประธานดา้ นไฟออก

4-10 บทท่ี 4 การต่อลงดนิ

4.15.4 การต่อฝากเคร่ืองห่อห้มุ อ่ืนๆ
ทอ่ สายท่ีเป็ นโลหะ รางเคเบิล เคร่ืองหอ่ ห้มุ โครงเครื่องประกอบในการตดิ ตงั้ และสว่ นท่ีเป็ นโลหะ
อ่ืนๆ ท่ีไม่ได้เป็ นทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ า ถ้าสงิ่ เหลา่ นีท้ ําหน้าที่แทนสายดินต้องมีการต่อถึงกนั
ทางไฟฟ้ าและสามารถทนกระแสลดั วงจรใดๆ ท่ีอาจเกิดขึน้ ได้ เกลียวและหน้าสมั ผสั ให้ขูดสี
หรือส่ิงเคลือบอ่ืนๆที่ไม่เป็ นตวั นําไฟฟ้ าออกก่อนทําการต่อ เว้นแตใ่ ช้อปุ กรณ์การตอ่ ที่ออกแบบ
ไว้โดยเฉพาะ

4.15.5 การต่อฝากในบริเวณอันตราย
ส่วนที่เป็ นโลหะของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าและไม่ได้ เป็ นทางเดินของกระแสไฟฟ้ าที่ทุกระดับ
แรงดันไฟฟ้ า ซึ่งอยู่ในบริเวณอันตรายต้องต่อถึงกันทางไฟฟ้ าตามวิธีที่ได้กําหนดไว้ในข้อ
4.15.2 ข) - 4.15.2 จ) โดยเลือกวิธีให้เหมาะกบั การเดนิ สาย

4.15.6 สายต่อฝากลงดนิ และสายต่อฝากของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า
ก) สายตอ่ ฝากลงดนิ และสายตอ่ ฝากของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าต้องเป็ นชนิดตวั นําทองแดง
ข) สายต่อฝากลงดิน และสายต่อฝากของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าต้องติดตงั ้ ตามที่ได้กําหนด
ไว้ในข้อ 4.22 เม่ือเป็ นสายตอ่ ลงดนิ ของวงจรหรือบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า และข้อ 4.24 เม่ือ
เป็ นสายตอ่ หลกั ดนิ
ค) สายต่อฝากของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าทางด้านไฟเข้าของบริภัณฑ์ประธานและสายต่อ
ฝากลงดิน ต้องมีขนาดไม่เล็กกว่าขนาดของสายต่อหลักดินท่ีได้กําหนดไว้ใน
ตารางที่ 4-1 ถ้าสายเส้นไฟของตวั นําประธานมีขนาดใหญ่กว่าท่ีกําหนดไว้ใน
ตารางท่ี 4-1 ให้ใช้สายตอ่ ฝากขนาดไม่เล็กกวา่ ร้อยละ 12.5 ของตวั นําประธาน
ขนาดใหญ่ที่สดุ ถ้าใช้ตวั นําประธานเดินในท่อสาย หรือเป็ นสายเคเบิลมากกว่า 1
ชดุ ขนานกนั แต่ละท่อสายหรือสายเคเบิลให้ใช้สายต่อฝากที่มีขนาดไม่เล็กกว่าท่ี
ได้กําหนดไว้ในตารางดงั กลา่ วโดยคาํ นวณจากขนาดของสายในแตล่ ะท่อสายหรือ
สายเคเบลิ
ง) สายต่อฝากของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าด้านไฟออกของบริภณั ฑ์ประธานต้องมีขนาดไม่
เลก็ กวา่ ขนาดของสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่ได้กําหนดไว้ในตารางท่ี 4-2

4.16 ชนิดของสายต่อหลักดนิ

สายตอ่ หลกั ดนิ ต้องเป็ นตวั นําทองแดง เป็ นชนิดตวั นําเดี่ยวหรือตวั นําตีเกลียวห้มุ ฉนวนและต้อง
เป็ นตวั นําเส้นเดียวยาวตลอดโดยไม่มีการตอ่ แตถ่ ้าเป็ นบสั บาร์อนญุ าตให้มีการต่อได้ ยกเว้น
จดุ ทดสอบตามทีก่ ําหนดไวใ้ นมาตรฐานฯ

บทท่ี 4 การต่อลงดนิ 4-11

4.17 ชนิดของสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

สายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีเดนิ สายร่วมไปกบั สายของวงจรต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
ก) ตวั นําทองแดง ห้มุ ฉนวนหรือไมห่ ้มุ ฉนวนก็ได้
ข) เปลือกโลหะของสายเคเบิลชนิด AC, MI และ MC
ค) บสั เวย์ท่ีได้ระบใุ ห้ใช้แทนสายสําหรับตอ่ ลงดนิ ได้

4.18 วิธีการตดิ ตงั้ สายดนิ

4.18.1 สายตอ่ หลกั ดินหรือเครื่องห่อหุ้มต้องยดึ แน่นกับสิ่งรองรับสายนีจ้ ะต้องร้ อยในท่อ
สายไฟฟ้ าหรือใช้เคเบิลแบบมีเกราะเมื่อใช้ในสถานที่ที่อาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ

4.18.2 เคร่ืองห่อห้มุ โลหะของสายต่อหลกั ดินจะต้องมีความต่อเนื่องทางไฟฟ้ านับตงั้ แต่จุดที่
ต่อกบั ตู้ หรือบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าจนถึงหลกั ดิน และต้องมีการต่อเข้ากับหลกั ดินอย่างมัน่ คงด้วยแค
ลมป์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เหมาะสม ถ้าเคร่ืองห่อหุ้มนีไ้ ม่ต่อเนื่องทางไฟฟ้ าให้ใช้สายต่อฝากที่
ปลายทงั้ สองของเครื่องหอ่ ห้มุ

4.18.3 สายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้ าที่เป็ น เกราะหุ้มสายเคเบิล เปลือกนอกโลหะของสาย
เคเบิลหรือเป็ นสายเดินแยกในช่องเดินสายหรือแกนๆ หนึ่งในเคเบิลต้องติดตงั้ โดยใช้เคร่ือง
ประกอบ หัวต่อ ข้อต่อที่ได้รับการรับรองสําหรับการเดินสายวิธีนัน้ ๆ ในการติดตัง้ ต้องใช้
เคร่ืองมือที่เหมาะสมและต้องขนั ให้แนน่

4.19 ขนาดสายต่อหลักดนิ ของระบบไฟฟ้ ากระแสสลับ

สายตอ่ หลกั ดนิ ต้องมีขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ ท่ีได้กําหนดไว้ในตารางที่ 4-1

4.20 ขนาดสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

4.20.1 กําหนดให้สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ต้องมีขนาดไม่เล็กกวา่ ที่ได้กําหนดไว้ในตาราง
ที่ 4-2

4.20.2 ในกรณีเดินสายควบ ถ้ามีสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ให้เดินขนานกนั ไปในแต่ละท่อ
สาย และให้คํานวณขนาดสายดินจากพิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินของ
วงจรนนั้

ในกรณีเดนิ สายหลายวงจรในทอ่ สายเดียวกนั แตใ่ ช้สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าร่วมกนั ในทอ่ สาย
นนั้ ให้คํานวณขนาดสายดนิ จากพิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินท่ีใหญ่ท่ีสดุ
ท่ีป้ องกนั สายในทอ่ สายนนั้

4-12 บทที่ 4 การต่อลงดนิ

ในกรณีเครื่องป้ องกนั กระแสเกินเป็ นชนิดอตั โนมตั ิปลดวงจรทนั ที หรือเป็ นเครื่องป้ องกนั กระแส
ลดั วงจรของมอเตอร์ขนาดสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ านนั้ ให้เลอื กตามพิกดั ของเคร่ืองป้ องกนั การ
ใช้งานเกินกําลงั ของมอเตอร์

ข้อยกเว้นท่ี 1 สําหรับสายพร้อมเต้าเสียบของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ซึ่งใช้ไฟฟ้ าจากวงจรซึ่งมีเครื่องป้ องกนั
กระแสเกินทีม่ ีขนาดไม่เกิน 20 แอมแปร์ สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าซึ่งเป็นตวั นําทองแดง
และเป็นแกนหน่ึงของสายอ่อน อาจมีขนาดเล็กกว่าทีก่ ําหนดไวใ้ นตารางที่ 4-2 ไดแ้ ต่ตอ้ งไม่
เล็กกว่าขนาดสายตวั นําของวงจรและไม่เล็กกว่า 1.0 ตร.มม.

ข้อยกเว้นที่ 2 สายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ไม่จําเป็นตอ้ งใหญ่กว่าสายตวั นําของวงจรของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ านนั้
ข้อยกเว้นท่ี 3 ในกรณีที่ใช้เกราะหุ้มสายเคเบิลหรือเปลือกหุ้มสายเคเบิล เป็ นสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

ตามทีอ่ นญุ าตในข้อ 4.17 ข)

4.21 จุดต่อของสายต่อหลักดนิ (เข้ากับหลักดนิ )

จุดต่อของสายต่อหลกั ดินเข้ากบั หลกั ดินตอ้ งอยู่ในทีเ่ ข้าถึงได้ โดยตอ้ งเลือกจุดต่อและวิธีการต่อ
เพือ่ ให้มีความคงทนและใช้ไดผ้ ลดี ยกเว้น จุดต่อกบั หลกั ดินทีอ่ ยู่ในคอนกรีต หรือฝังอยู่ในดิน
ไม่จําเป็นตอ้ งอยู่ในทีซ่ ึ่งเข้าถึงได้

ตารางท่ี 4-1
ขนาดต่าํ สุดของสายต่อหลักดนิ ของระบบไฟฟ้ ากระแสสลบั

ขนาดตวั นําประธาน ขนาดต่าํ สุดของสายต่อหลกั ดนิ
(ตวั นําทองแดง) (ตวั นําทองแดง)
(ตร.มม.) (ตร.มม.)
ไมเ่ กิน 35 10*
เกิน 35 แตไ่ มเ่ กิน 50 16
เกิน 50 แตไ่ มเ่ กิน 95 25
เกิน 95 แตไ่ มเ่ กิน 185 35
เกิน 185 แตไ่ มเ่ กิน 300 50
เกิน 300 แตไ่ มเ่ กิน 500 70
เกิน 500 95

หมายเหตุ * แนะนําใหต้ ิดตงั้ ในท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง ท่อโลหะบาง หรือ
ท่ออโลหะ และการติดตง้ั สอดคลอ้ งตามข้อ 5.4 และ 5.8

4.22 การต่อสายดนิ เข้ากับสายหรือบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

การตอ่ สายดินและสายต่อฝาก ต้องใช้วิธีเชื่อมด้วยความร้อน (exothermic welding) หรือใช้
หวั ตอ่ แบบบีบ ประกบั จบั สาย หรือสง่ิ อื่นท่ีระบใุ ห้ใช้เพื่อการนี ้ห้ามตอ่ โดยใช้การบดั กรีเป็ นหลกั

บทท่ี 4 การต่อลงดนิ 4-13

ตารางท่ี 4-2
ขนาดต่าํ สุดของสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

พกิ ัดหรือขนาดปรับตงั้ ของ ขนาดต่าํ สุดของสายดนิ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า
เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกนิ ไม่เกนิ (ตวั นําทองแดง)
(ตร.มม.)
(แอมแปร์ ) 2.5*
20 4*
40 6
70 10
100 16
200 25
400 35
500 50
800 70
1000 95
1250 120
2000 185
2500 240
4000 400
6000

หมายเหตุ * หากความยาวของวงจรย่อยเกิน 30 เมตร ให้พิจารณาขนาดสายดินของ
บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า โดยคํานึงถึงค่า earth fault loop impedance ของวงจร ทีแ่ สดง
ในภาคผนวก ญ

4.23 การต่อสายดนิ เข้ากับกล่อง

ในแต่ละกล่อง ถ้ามีสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าอยู่หลายเส้น แต่ละเส้นต้องต่อถึงกันทางไฟฟ้ า
เป็ นอย่างดี และต้องจดั ให้การต่อลงดินมีความต่อเน่ืองโดยไม่ขาดตอนแม้ว่าจะถอดหรือปลด
วงจรเครื่องประกอบ หรือสงิ่ อื่นท่ีรับไฟฟ้ าจากกลอ่ งนนั้

4.23.1 กล่องโลหะ
ต้องต่อสายดินของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่มีอย่ใู นกล่องโลหะ ซึ่งอาจเป็ นสายเดียวหรือหลายสายเข้า
กบั กลอ่ งโลหะ โดยตอ่ ท่ีสลกั เกลียวสายดิน (grounding screw) ซงึ่ ห้ามใช้งานหน้าท่ีอื่น หรือ
ตอ่ โดยใช้อปุ กรณ์ท่ีได้ระบใุ ห้ใช้สําหรับการตอ่ ลงดนิ


Click to View FlipBook Version