ภาคผนวก ข. ข-1
ภาคผนวก ข.
คาํ ศพั ท์ไทย-อังกฤษ
กระแสเกิน Overcurrent
กระแสขณะตดั วงจร Breaking Current
กระแสไฟกระโชก Inrush Current
กลอ่ งชมุ สาย Junction Box
กลอ่ งสาย Wiring Chamber
กลอ่ งสาํ หรับงานไฟฟ้ า Box
กลอ่ งอปุ กรณ์ตดั ตอน Cutout Box
กนั้ Guarded
กนั นํา้ Watertight
กนั ฝ่ นุ Dusttight
กบั ดกั เสริ ์จ Surge Arrester
ก๊าซธรรมชาติ Natural Gas
การเชื่อม Welding
การเช่ือมประสาน Brazing
การเดนิ สายในรางเดนิ สาย, รางเดนิ สาย Wireway
การเดนิ สายเปิ ด หรือเดนิ ลอย Open Wiring
การเดนิ สายภายใน Premised Wiring (System)
การตอ่ ทางไฟฟ้ า Electrical Connection
การตอ่ ฝาก Bonding
การตอ่ สาย Splice
การบดั กรี Soldering
การประมวณผลข้อมลู Data Processing
ข-2 ภาคผนวก ข.
การป้ องกนั กระแสรั่วลงดนิ ของบริภณั ฑ์ Ground-Fault Protection of Equipment
การสบั และการปลด Switching
กําลงั ไฟฟ้ าสญู เสยี ทงั้ หมด Total Loss
เกราะห้มุ สายเคเบลิ Cable Armor
เกิดลดั วงจรชว่ั ขณะ Transient Fault
แกโซลนี Gasoline
ขณะเริ่มเดนิ ไม่ตอ่ ขนาน Not Shunted During the Starting Period
ขนาดกระแส Ampacity
ของเหลวระเหยตดิ ไฟ Volatile Flamable Liquid
ข้องอ Elbow
ข้อตอ่ Coupling
ข้อตอ่ เปิ ด Conduit Body
ข้อตอ่ ยดึ Connector
ขวั้ ตอ่ สาย Terminal
เข้าถึงได้ Accessible
เข้าถึงได้งา่ ย Readily Accessible
เข้าที่ได้เอง Reset
คลอสส์ลงิ ้ ก์โพลเิ อทิลีน XLPE
ความต้องการกําลงั ไฟฟ้ าสงู สดุ Maximum Demand
ความต้านทานระหวา่ งหลกั ดนิ กบั ดนิ Resistance to Ground
ความลกึ Depth
คตั เอาต์ Cutout
คตั เอาต์นํา้ มนั Oil Cutout or Oil-Filled Cutout
คตั เอาต์ชนิดฟิวส์ Fuse Cutout
คตั เอาต์ชนิดฟิวส์ขาดตก Drop Out
ภาคผนวก ข. ข-3
คา่ พกิ ดั อณุ หภมู ิเพ่ิม Temperature Rise
เคเบิลแบบสเปซแอเรียล Spaced Aerial Cable
เคร่ืองควบคมุ Controller
เครื่องควบคมุ แบบหม้อแปลงออโต Autotransformer Type Controller
เครื่องใช้ไฟฟ้ า Appliance
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าชนิดหยิบยกได้ Portable Appliance
เคร่ืองตรวจวดั Sensing Device
เครื่องตดั ตอนชนิดที่ทํางานด้วยความร้อน Thermal Cutout and Overload Relay
และรีเลย์โหลดเกิน
เคร่ืองตดั วงจรไฟฟ้ าเมื่อกระแสร่ัวลงดนิ Ground-Fault Circuit-Interrupter
เครื่องประกอบ Fitting
เคร่ืองประกอบที่ปลายทอ่ Terminal Fitting
เครื่องปลดวงจร Disconnecting Means
เคร่ืองปลดวงจรไมใ่ ช่ประเภทสวิตช์สําหรับตดั โหลด Non Load-Break Switch
เคร่ืองปลดโหลด Load-Interrupting Device
เครื่องป้ องกนั กระแสเกิน Overcurrent Protective Device
เครื่องป้ องกนั กระแสรั่วลงดนิ Ground-Fault Protection
เคร่ืองป้ องกนั ความร้อนเกิน Thermal Protector
เคร่ืองมือชนิดมือถือที่ทํางานด้วยมอเตอร์ Hand-Held Motor-Operated Tools
โคมไฟฝังกนั นํา้ แบบเปี ยก Wet-Niche Lighting Fixture
โคมไฟฝังกนั นํา้ แบบแห้ง Dry-Niche Lighting Fixture
โคอินซเิ ดนต์แฟกเตอร์ Coincidence Factor
จดุ จ่ายไฟ Outlet
จดุ จา่ ยไฟชนิดเต้ารับ Receptacle Outlet
จดุ จา่ ยไฟแสงสวา่ ง Lighting Outlet
ข-4 ภาคผนวก ข.
จดุ ตดิ ไฟ Fire Point
จดุ ทดสอบ Test Point
ฉนวนแบบหดตวั เมื่อถกู ความร้อน Heat Shrinkable Insulation
ฉนวนสองชนั้ Double Insulation
ชนิดกนั ฝน Raintight
ชนิดฝังในคอนกรีต Concretetight
ชอ่ งขนึ ้ ลง Hoistway
ช่องเดนิ สาย Raceway
ช่องเดนิ สายโลหะบนพืน้ ผวิ Surface Metal Raceway
ชอ่ งเดนิ สายอโลหะบนพืน้ ผวิ Surface Nonmetallic Raceway
ช่องตู้ Compartment
ชอ่ งต้สู ว่ นแรงตาํ่ Low Voltage Compartment
ช่องน็อกเอาต์ Knockout
ช่องร้ อยสายโลหะ Metal Raceway
ชอ่ งร้อยสายอโลหะ Nonmetallic Raceways
ช่องระบายแรงดนั Pressure Relief Flap
ช่องรางเดนิ สาย Cable Trench
ช่องสาํ หรับการเดนิ สาย Electrical Shaft
ชกั ออก Draw-Out
ชีลด์ Shield
ชดุ จดุ จ่ายไฟสาํ เร็จรูป Multioutlet Assembly
ชดุ ฟิวส์กําลงั Power Fuse
ใช้งาน Duty
ใช้งานตอ่ เน่ือง Continuous Duty
ใช้งานเป็ นคาบ Periodic Duty
ภาคผนวก ข. ข-5
ใช้งานเป็ นระยะ Intermittent Duty
ใช้งานไม่แน่นอน Varying Duty
ใช้งานระยะสนั้ Short-Time Duty
ใช้พดั ลมเป่ า Forced Air Cooled
ซอ่ น Concealed
เซฟตสี วิตช์ Safety Switch
เซอร์กิตเบรกเกอร์ Circuit Breaker
เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิดฉนวนไมต่ ดิ ไฟ Nonflammable Cooling Medium
เซอร์กิตเบรกเกอร์เวลาผกผนั Inverse Time Circuit Breaker
ไซโคลโพรเพน Cyclopropane
ด้านไฟเข้า Source Side
ด้านหน้าไม่มีไฟ Dead Front
ดีมานด์แฟกเตอร์ Demand Factor
เดนิ ซอ่ น Conceal
เดนิ สายเกาะผนงั Surface Wiring
เดนิ สายเปิ ดบนวสั ดฉุ นวน Open Wiring on Insulators
ตรวจจบั Detect
ตอ่ ลงดนิ Grounded
ตอ่ ลงดนิ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ Grounded, Effectively
ตะแกรงประสาน Common Bonding Grid
ตงั้ Setting
ตวั ตอ่ ตวั นําประธาน Service-Entrance Connector
ตวั ตอ่ สายแบบบีบ Connector, Pressure
ตวั นํา Conductor
ตวั นําเดีย่ ว Solid Conductor
ข-6 ภาคผนวก ข.
ตวั นําตอ่ ฝาก, สายตอ่ ฝาก Bonding Jumper
ตวั นําตอ่ หลกั ดนิ หรือสายตอ่ หลกั ดนิ Grounding Electrode Conductor
ตวั นําที่มีการตอ่ ลงดนิ Grounded Conductor
ตวั นํานิวทรัล, ขนาดตวั นํานิวทรัล Neutral
ตวั นําประธาน Service Conductors
ตวั นําประธานเข้าอาคารระบบสายใต้ดนิ Service-Entrance Conductor, Underground
System
ตวั นําประธานเข้าอาคารระบบสายอากาศ Service-Entrance Conductors, Overhead
System
ตวั นําเปลือย Bare conductor
ตวั นําสาํ หรับตอ่ ลงดนิ หรือสายดนิ ของบริภณั ฑ์ Grounding Conductor, Equipment
ตวั นําสําหรับตอ่ ลงดนิ หรือสายดนิ Grounding Conductor
ตวั นําห้มุ Covered Conductor
ตวั นําห้มุ ฉนวน Insulated Conductor
ตวั นําอะลมู ิเนียมห้มุ ด้วยทองแดง Copper Clad Aluminum Conductor
ตวั ประกอบกําลงั ไฟฟ้ า Power Factor
ตวั ประกอบใช้งาน Service Factor
ตวั ฟิวส์กําลงั Power Fuse Unit
ตวั ฟิวส์แบบขบั ก๊าซ Expulsion Fuse Unit of Expulsion Fuse
ต้านเปลวเพลงิ Flame-Retardant
ตู้ Cabinet
ต้แู สดงหน้าร้าน Show Window
เต้าคู่ Duplex
เต้าเดยี่ ว Single
เต้ารับ Receptacle
ภาคผนวก ข. ข-7
เต้ารับและเต้าเสียบ Receptacle and Plug
เต้าเสียบ Attachment Plug
เต้าเสียบชนิดขาดนิ (หน้าสมั ผสั ตอ่ ลงดนิ Fixed Grounding Contact
แบบอยกู่ บั ท่ี)
ถ่านดํา Carbon Black
ทนฝน Rainproof
ทนฝ่ นุ Dustproof
ทนสภาพอากาศ Weatherproof
ทอ่ โลหะบาง Electrical Metallic Tubing
ทอ่ โลหะหนา Rigid Metal Conduit
ทอ่ โลหะหนาปานกลาง Intermediate Metal Conduit
ทอ่ โลหะอ่อน Flexible Metal Conduit
ทอ่ โลหะออ่ นกนั ของเหลว Liquidtight Flexible Metal Conduit
ทอ่ อโลหะแขง็ Rigid Nonmetallic Conduit
ทอ่ อโลหะอ่อน Electrical Nonmetallic Tubing
ทอ่ อโลหะออ่ นกนั ของเหลว Liquidtighht Flexible Nonmetallic Conduit
ทอร์กมอเตอร์ Torque Motor
ทงั้ กลมุ่ Group
ที่วา่ งเหนือพืน้ ที่เพ่ือปฏิบตั งิ าน Headroom
แทปแรงสงู High Voltage Tapping
นิปเพลิ Nipple
แนฟทา Naphtha
บริภณั ฑ์ใช้สอย Utilization Equipment
บริภณั ฑ์ประธาน Service Equipment
บริภณั ฑ์ปิ ดผนกึ ได้ Sealable Equipment
ข-8 ภาคผนวก ข.
บอ่ พกั Sump
บสั ตอ่ ลงดนิ Grounded Bus
บสั ทรังกิง Bus Trunking
บสั บาร์ทองแดง Copper Bus Bar
บสั บาร์อะลมู ิเนียม Aluminum Bus Bar
บสั เวย์ Busway
บิวทะไดอีน Butadiene
บิวเทน Butane
บคุ คลท่ีมีคณุ สมบตั ิ หรือบคุ คลที่มีหน้าท่ี Qualified Person
เกี่ยวข้อง
บชุ ชิงชนิดอดุ Conduit Sealing Bushing
บชุ ชิงยาง Bushing Grommet
บชุ ชิงให้ตวั นําลอด Draw-Through Bushing
เบนซีน Benzene
ปรับได้ Adjustable
ปรับไม่ได้ Nonadjustable
ปลด-สบั ได้ในขณะที่มีโหลด Load-Break
ปลดได้โดยอิสระ Trip Free
ปลดวงจรทนั ที Instantaneous Trip
ปลดวงจรออกเมื่อไม่มีไฟ No-Voltage Release
ปลอกรัด Compression Gland
ป้ ายเตอื น Warning Sign
เป็ นลอน Corrugated
เปลอื กห้มุ Forming Shell
เปิ ดโลง่ Exposed
ภาคผนวก ข. ข-9
แผงเตอื น Annunciator
แผงบริภณั ฑ์ประธานรวมแรงตํ่า Main Distribution Board
แผงยอ่ ย Panelboard
แผงสวิตช์ Switchboard
แผงสวติ ช์ชนิดที่ใช้ของเหลว Liquid-Insulated or Gas-Insulated
แผงสวิตช์แบบปิ ดห้มุ มิดชิด Totally Enclosed
แผน่ กนั้ Partition
แผน่ ปิ ดด้านลา่ ง Bottom Plate
พิกดั ตดั วงจร หรือพกิ ดั ตดั กระแส Interrupting Rating
พิกดั เตม็ ท่ี Full Capacity
พกิ ดั รับกระแสที่เกิดในระยะเวลาสนั้ ๆ Short-time Current Rating
โพรพลิ ีนออกไซด์ Propylene Oxide
โพรเพน Propane
ฟิวส์ Fuse
ฟิวส์กําลงั แบบควบคมุ การพงุ่ ระบาย Controlled Vented Power Fuse
ฟิวส์กําลงั แบบพงุ่ ระบาย Vented Power Fuse
ฟิวส์กําลงั แบบไม่พงุ่ ระบาย Nonvented Power Fuse
ฟิวส์ควบ Multiple Fuse
ฟิวส์จํากดั กระแส Current Limiting Fuse
ฟิวส์และขวั้ รับฟิวส์ Fuse and Fuse Holder
ภายนอกอาคาร Outdoor
ภายในอาคาร Indoor
มีการป้ องกนั ความร้อนเกิน Thermally Protected
มีเทน Methane
มมุ ป้ องกนั Protective Angle
ข-10 ภาคผนวก ข.
เมทลั ออกไซด์วาริสเตอร์ MOV
เมทานอล Methanol
ไมเ่ ป็ นพิษตอ่ คนและสงิ่ แวดล้อม Non-Toxic
ไม่มีโหลด No-Load
ไมอ่ ตั โนมตั ิ Nonautomatic
แยกออก Isolated
ระดบั การป้ องกนั Degree of Protection
ระดบั แรงดนั Voltage Class
ระบบที่มีตวั จ่ายแยกตา่ งหาก Seperately Derived Systems
ระบบประธาน Service
ระบบแรงต่าํ Low Voltage System
ระบบแรงสงู High Voltage System
ระบบอณุ หภมู ิของฉนวน Insulation System Temperature
ระบายอากาศ Ventilated
รับรอง Approved
ราง Trench
รางเคเบลิ Cable Tray
ริงเมนยนู ิต Ring Main Unit
รีเลย์ป้ องกนั กระแสเกิน Overcurrent Relay
รีเลย์โหลดเกิน Overload Relay
แรงดนั Voltage
แรงดนั ที่ระบุ Voltage, Nominal
แรงดนั เทียบกบั ดนิ Voltage to Ground
ลงดนิ หรือตอ่ ลงดนิ Ground
ลกู ถ้วยสายยดึ โยง Guy Strain Insulator
ภาคผนวก ข. ข-11
วงจรควบคมุ จากระยะไกล Remote-Control Circuit
วงจรไมต่ ดิ ไฟ Nonincendive Circuit
วงจรยอ่ ย Branch Circuit
วงจรยอ่ ยเฉพาะ Branch Circuit, Individual
วงจรยอ่ ยสาํ หรับเครื่องใช้ไฟฟ้ า Branch Circuit, Appliance
วงจรยอ่ ยสาํ หรับจดุ ประสงค์ทว่ั ไป Branch Circuit, General Purpose
วงจรยอ่ ยหลายสาย Branch Circuit, Multiwire
วงจรสญั ญาณ Signaling Circuit
วางเป็ นรูปสามเหลยี่ ม Triangular Configuration
วาวด์โรเตอร์ Wound-Rotor
วิธีเช่ือมด้ วยความร้ อน Exothermic Welding
เวลาผกผนั Inverse Time
ไวร์นตั Wire Nut
สกรู Screw
สแตรป Strap
สถานที่ Location
สถานที่ชืน้ Damp Location
สถานท่ีเปี ยก Wet Location
สถานที่แห้ง Dry Location
สระวา่ ยนํา้ ชนิดตดิ ตงั้ ถาวร Permanently Installed Swimming Pools
สลกั เกลยี ว Bolt
สลกั เกลียวสายดนิ Grounding Screw
สวิตช์ Switch
สวติ ช์เกียร์ที่ใช้ก๊าซเป็ นฉนวน Gas-Insulated Switchgear
สวติ ช์ใช้งานทวั่ ไป General-Use Switch
ข-12 ภาคผนวก ข.
สวิตช์ตอ่ ลงดนิ Earthing Switch
สวิตช์ตดั กระแสโหลดชนิดใช้อากาศ Air-Load-Interrupter Switch
สวิตช์ตดั วงจร Interrupter Switch
สวิตช์ตดั วงจรชนิดอากาศ Air-Break Switch
สวติ ช์ถ่ายโอน, สวติ ช์สบั เปลย่ี น Transfer Switch
สวิตช์ท่ีทํางานพร้อมกนั ทกุ เฟส Group-Operated Switch
สวิตช์ธรรมดาใช้งานทวั่ ไป General-Use Snap Switch
สวิตช์นํา้ มนั Oil Switch
สวติ ช์ปลดวงจร Disconnecting Switch, Isolating
Switch, Disconnector or Isolator
สวิตช์แยกวงจร Isolating Switch
สวติ ช์ลดั ผา่ นแยกวงจร Bypass Isolation Switch
สวิตช์ลดั ผา่ นเรกเู ลเตอร์ Regulator Bypass Switch
สวติ ช์วงจรมอเตอร์ Motor-Circuit Switch
สวิตช์สบั เปล่ยี น Transfer Switch
สวติ ช์สาํ หรับตดั โหลด Load Break Switch
สญั ญาณเสียง Alarm
สามเต้า Triplex
สายเคเบิล ชนิด AC Armored Cable
สายเคเบิลชนิด MC Metal-Clad Cable
สายเคเบลิ ชนิด MI Mineral-Insulated, Metal-Sheathed Cable
สายจา่ ยระบบประธานอากาศ Service Drop
สายดนิ อากาศ Over-Head Ground Wire
สายตอ่ ฝากของบริภณั ฑ์ Bonding Jumper, Equipment
สายตอ่ ฝากของวงจร Bonding Jumper, Circuit
ภาคผนวก ข. ข-13
สายตอ่ ฝากประธาน Bonding Jumper, Main
สายยดึ โยง Guy Wire
สารเคลอื บอินทรีย์ Organic Coating
สารไพโรฟอริก Pyrophoric
สงิ่ ปิ ดกนั้ แยก Barrier
เส้นฉาย Projected Line
หน่วย Unit
หน่วยสถานียอ่ ย Unit Suubstation
หม้อแปลงกระแส Current Transformer
หม้อแปลงเครื่องวดั Instrument Transformer
หม้อแปลงฉนวนของเหลวตดิ ไฟยาก Less-Flammable Liquid-Insulated
Transformer
หม้อแปลงฉนวนของเหลวไมต่ ดิ ไฟ Nonflammable Fluid-Insulated Transformer
หม้อแปลงชนิดที่มีอปุ กรณ์ป้ องกนั และตดั ตอน Padmounted Transformer
มากบั หม้อแปลง
หม้อแปลงที่ใช้ระบบควบคมุ ระยะหา่ งและ Transformer Used With Remote-Control
สญั ญาณ and Signaling
หม้อแปลงแรงดนั Potential Transformer
หลอดชนิดปลอ่ ยประจุ Electric Discharge Lamp
ห้มุ ด้วยฉนวนบางสว่ น Partially Insulated
แหวนผนกึ Seal
โหลด 1 เฟส Single-Phase Load
โหลดเกิน, เกินกําลงั Overload
โหลดตอ่ เน่ือง Continuous Load
โหลดประเภทอินดกั ทีฟ Inductive Load
ข-14 ภาคผนวก ข.
อยใู่ นสายตา In Sight From, Within Sight From, Within
Sight
อะโครเลอีน Acrolein
อะซีโทน Acetone
อะเซทลิ ีน Acetylene
อตั โนมตั ิ Automatic
อ่างนํา้ พปุ ระดบั และสระสะท้อนแสง Permanently Installed-Decorative
ชนิดตงั้ ถาวร Fountains and Reflection Pools
อินเตอร์ลอ็ ก Interlock
อีนาเมล Enamel
อปุ กรณ์ Device
อปุ กรณ์สวิตช์ Switching Device
เอทานอล Ethanol
เอทลิ อีเทอร์ Ethyl Ether
เอทลิ ีน Ethylene
เอทิลีนออกไซด์ Ethylene Oxide
แอมโมเนีย Ammonia
แอสคาเรล Askarel
ฮาร์มอนิก Harmonic
เฮกเซน Hexane
ไฮโดรเจน Hydrogen
ภาคผนวก ค. ค-1
ภาคผนวก ค.
ระยะห่างในการตดิ ตงั้ ระบบไฟฟ้ ากบั ระบบอ่ืนๆ
(ข้อแนะนํา)
ในการติดตงั้ ระบบไฟฟ้ ากบั ระบบอื่นๆ เช่น ระบบสื่อสาร ระบบสาธารณปู โภคตา่ งๆ โดยวิธีการ
เดนิ สายตา่ งๆ นนั้ มีข้อแนะนําดงั นี ้
ค.1 ระยะห่างในการตดิ ตัง้ ระบบไฟฟ้ ากบั ระบบส่ือสาร
ชนิดของการตดิ ตัง้ ระยะห่างต่าํ สุด “A” (มม.)
สายไฟฟ้ าท่ีไม่มชี ีลด์ กบั ไม่มแี ผ่นกัน้ หรือมีแผ่นกัน้ แผ่นกัน้ ท่เี ป็ นอลูมิเนียม แผ่นกัน้ ท่เี ป็ นเหล็ก
สายเคเบิลระบบ ท่ไี ม่ใช่โลหะ 100 50
สารสนเทศท่ไี มม่ ีชีลด์ 200 5
สายไฟฟ้ าทไี่ ม่มชี ีลด์ กบั 2
สายเคเบิลระบบ 50 20 0
สารสนเทศทมี่ ชี ีลด์1)
สายไฟฟ้ าที่มชี ีลด์ กบั 30 10
สายเคเบิลระบบ
สารสนเทศท่ีไมม่ ีชีลด์ 00
สายไฟฟ้ าทมี่ ีชีลด์ กบั
สายเคเบิลระบบ
สารสนเทศทม่ี ชี ีลด์1)
หมายเหตุ 1) สายเคเบิลระบบสารสนเทศทีม่ ีชีลด์ตอ้ งเป็นไปตามมาตรฐาน EN50288
2) สายเคเบิลระบบสารสนเทศไม่ควรติดต้ังอยู่ใกล้กันกับหลอดชนิดปล่อยประจุ
(Electric Discharge) (เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ เป็นตน้ ) หากจําเป็นตอ้ งติดตงั้ ใกล้
กนั ตอ้ งมีระยะห่างจากกนั ไม่นอ้ ยกว่า 130 มม. A = ความหนาแผน่ กนั้
3) ตวั อย่างการวดั ระยะห่าง
สายไฟฟ้ า
สายเคเบลิ ระบบสารสนเทศ A = ระยะหา่ งแผน่ กนั ้
อปุ กรณ์จบั ยดึ สาย
A
A
A=0
ค-2 ภาคผนวก ค.
ค.2 ระยะห่างในการตดิ ตัง้ ระบบไฟฟ้ ากบั ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ
ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ระยะห่างระหว่างบ่อพกั สายหรือท่อร้อยสายเคเบลิ ใต้
ดนิ กับระบบสาธารณูปโภคต่างๆ (เมตร)
ท่ อร้ อยสายเคเบิลใต้ ดนิ บ่อพกั สาย
ระบบนํา้ บอ่ พกั นํา้ แนวขนาน 0.91 0.91
ทอ่ นํา้ ความดนั สงู หลกั แนวตดั กนั 0.30 0.30
ทอ่ นํา้ ความดนั สงู หลกั แนวขนาน 1.52 1.52
ทอ่ นํา้ อ่ืนๆ แนวขนาน 0.91 0.91
ระบบนํา้ เสยี บอ่ พกั นํา้ เสีย แนวขนาน 0.91 0.91
ทอ่ นํา้ เสียหลกั แนวตดั กนั 0.30 0.30
ทอ่ นํา้ เสียหลกั แนวขนาน 1.52 1.52
ระบบก๊าซธรรมชาติ บ่อพกั ก๊าซธรรมชาติ แนวขนาน 0.91 0.91
ทอ่ ก๊าซธรรมชาติความดนั สงู แนว 0.30 0.30
ตดั กนั
ทอ่ ก๊าซธรรมชาติความดนั สงู 1.52 1.52
แนวขนาน
ทอ่ ก๊าซอ่ืนๆ แนวขนาน 0.91 0.91
4.57 4.57
ระบบไอนํา้ บอ่ พกั ไอนํา้ หรือแหล่งความร้อน 4.57 4.57
0.91 0.91
ทอ่ ไอนํา้ ความดนั สงู
เคเบิลโทรศพั ท์ เคเบิลทีวี บ่อพกั เคเบิลโทรศพั ท์ เคเบิลทีวี
หรือใยแก้วนําแสง หรือใยแก้วนําแสง
เคเบิลโทรศพั ท์ เคเบิลทีวี หรือใย 0.31 -
แก้วนําแสง แนวตดั กนั
เคเบิลโทรศพั ท์ เคเบิลทีวี หรือใย 0.91 0.91
แก้วนําแสงแนวขนาน
หวั ก๊อกนํา้ ดบั เพลิงแนวขนาน 0.15 0.15
0.31 0.31
ขอบถนนแนวขนาน 1.52 0.91
0.91 0.91
ฐานรากอาคารแนวขนาน
เสาคํา้ คอนกรีต
ภาคผนวก ง. ง-1
ภาคผนวก ง.
เซอร์กติ เบรกเกอร์ท่ใี ช้กับบ้านอย่อู าศัยและอาคารท่วั ไป ตามมาตรฐาน
IEC 60898 หรือ IEC 898
(ข้อแนะนํา)
เซอร์กิตเบรกเกอร์ตามมาตรฐาน IEC 60898 นี ้ เหมาะสําหรับการใช้งานเพ่ือป้ องกัน
กระแสไฟฟ้ าเกินในบ้านอย่อู าศยั และอาคารทวั่ ไปที่มีแรงดนั ไฟฟ้ าระหว่างสายไม่เกิน 440 โวลต์
ความถ่ี 50 หรือ 60 Hz พิกดั กระแสไม่เกิน 125 A และพิกดั การตดั กระแสลดั วงจรไม่เกิน 25 kA
จํานวนขวั้ อาจมีได้ตงั้ แต่ 1 ถึง 4 ขวั้
ประเภทการใช้งานของเซอร์กติ เบรกเกอร์ (Utilization Category)
เซอร์กิตเบรกเกอร์ตามมาตรฐาน IEC 60898 สามารถแบ่งออกเป็ น 3 ประเภท ตามความ
สามารถในการตดั กระแสไฟฟ้ าเกินออกทนั ที (Instantaneous Tripping) ได้ดงั นี ้
ประเภท ช่วงกระแสไฟฟ้ าเกนิ การนําไปใช้งาน
ท่มี ีการตดั ทนั ที
B > 3 In ถงึ 5 In ใช้สําหรับวงจรไฟฟ้ าท่ีไม่มีกระแสไฟกระโชก(inrush
current) หรือ เสริ ์จสวิตชิง (switching surge)
C > 5 In ถงึ 10 In ใช้สําหรับวงจรไฟฟ้ าทั่วไปที่อาจมีกระแสไฟกระโชก
(inrush current) เช่น ไฟแสงสว่างฟลอู อเรสเซนต์,
มอเตอร์เลก็ ๆ, เคร่ืองปรับอากาศ เป็นต้น
D > 10 In ถงึ 50 In ใช้ สําหรับวงจรไฟฟ้ าท่ีมีกระแสไฟกระโชก(inrush
current) สงู เช่น เคร่ืองเชื่อม เครื่องเอกซเรย์ เป็นต้น
หมายเหตุ 1) In = พิกดั กระแสใชง้ านปกติ
2) ไม่ควรใชเ้ ซอร์กิตเบรกเกอร์ประเภท D กบั วงจรทีใ่ ชป้ ้ องกนั อนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด(จะตอ้ ง
ระมดั ระวงั ความปลอดภยั เป็นพิเศษ)
3) ช่วงกระแสไฟฟ้ าเกินทีต่ ํ่ากว่าช่วงทีม่ ีการตดั ทนั ที จะใชเ้ วลาตดั วงจรมากกว่า 0.1 วินาที
ช่วงกระแสไฟฟ้ าเกินทีส่ งู กว่าช่วงทีม่ ีการตดั ทนั ที จะใช้เวลาตดั วงจรนอ้ ยกว่า 0.1 วินาที
พกิ ัดกระแสใช้งาน (In)
มีขนาดพกิ ดั ดงั นี ้:- 6 , 8 , 10 , 13 , 16 , 20 , 25 , 32 , 40 , 50 , 63 , 80 , 100 และ 125 A
ตวั อยา่ งการเรียกประเภทและพกิ ดั กระแสใช้งาน เชน่ C16 หมายถงึ เซอร์กิตเบรกเกอร์ประเภท C
ขนาดพกิ ดั กระแสใช้งาน 16 A
ง-2 ภาคผนวก ง.
พกิ ัดกระแสลดั วงจร (Icn)
คือคา่ พกิ ดั การตดั กระแสลดั วงจรสงู สดุ (Icu) ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีกําหนดโดยผ้ผู ลติ มีขนาด
ดงั นี ้:- 1.5 , 3.0 , 4.5 , 6.0 , 10.0 , 20.0 , 25.0 kA
พกิ ดั การตดั กระแสลัดวงจรสูงสุด (Icu, Ultimate short-circuit breaking capacity)
หมายถึงพกิ ดั การตดั กระแสลดั วงจรท่ีในการทดสอบจะไม่คํานงึ ถงึ วา่ จะสามารถรับกระแสใช้
งานปกตไิ ด้อยา่ งตอ่ เน่ืองภายหลงั การทดสอบหรือไม่
พกิ ัดการตดั กระแสลัดวงจรใช้งาน (Ics, Service short-circuit breaking capacity)
หมายถงึ พกิ ดั การตดั กระแสลดั วงจรที่ภายหลงั การทดสอบ จะต้องสามารถรับกระแสใช้งานปกติ
ได้อยา่ งตอ่ เนื่องด้วย ปกติ Ics จะมีคา่ น้อยกวา่ หรือเทา่ กบั Icu หรือ Icn เชน่
Ics = 0.75 Icn สําหรับเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่มีคา่ Icn : 6 kA < Icn ≤ 10 kA เป็ นต้น
อุณหภมู ิใช้งานและความชืน้ สัมพัทธ์
1. อณุ หภมู ิใช้งานระหวา่ ง –5 ถึง 40 องศาเซลเซียส และอณุ หภมู ิเฉล่ีย 24 ชวั่ โมง ไม่เกิน 35
องศาเซลเซียส
2. ความชืน้ สมั พทั ธ์ไม่เกิน 50% ถ้าใช้ท่ีอณุ หภมู ิสงู สดุ ท่ี 40 องศาเซลเซียส แตส่ ามารถใช้กบั
ความชืน้ สมั พทั ธ์ 90% ได้ถ้าใช้ที่อณุ หภมู ิ 20 องศาเซลเซียส
ภาคผนวก จ. จ-1
ภาคผนวก จ.
เซอร์กติ เบรกเกอร์ตามมาตรฐาน IEC 60947-2 หรือ IEC 947-2
(ข้อแนะนํา)
เซอร์กิตเบรกเกอร์ตามมาตรฐาน IEC 60947-2 นีใ้ ช้สําหรับแรงดนั ไฟฟ้ าระหว่างสายที่ไม่เกิน
1000 VAC หรือ 1500 VDC เหมาะสําหรับการใช้งานโดยผ้มู ีความรู้ในการตดิ ตงั้ หรือปรับแตง่
คา่ ตา่ งๆ ของตวั เซอร์กิตเบรกเกอร์ หรืออปุ กรณ์ประกอบของตวั เซอร์กิตเบรกเกอร์ ตวั อย่างของ
การนําไปใช้งาน เช่น การใช้งานในโรงงานอตุ สาหกรรม เป็ นต้น
ประเภทการใช้งานของเซอร์กติ เบรกเกอร์ (Utilization Category)
เซอร์กิตเบรกเกอร์ตามมาตรฐาน IEC 60947-2 แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ตามจดุ ม่งุ หมายในการ
ทํางานร่วมกนั กบั เซอร์กิตเบรกเกอร์ตวั อื่น (selectivity) ที่ตอ่ อนกุ รมอย่ทู างด้านโหลด ในขณะท่ี
เกิดกระแสลดั วงจรดงั นี ้
ประเภท คุณสมบตั ิ
A เป็ นเซอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีทํางานทนั ที โดยไม่จงใจให้มีการหน่วงเวลา (short-time
delay) ไม่เหมาะสําหรับการทํางานร่วมกบั อปุ กรณ์ป้ องกนั ลดั วงจรตวั อ่ืนท่ีต่อ
อนกุ รมอย่ดู ้านโหลด ในขณะท่ีมีกระแสลดั วงจรเกิดขนึ ้ ดงั นนั้ เซอร์กิตเบรกเกอร์ช
นิดนีจ้ ะไมม่ ีพิกดั กระแสทนชว่ งเวลาสนั้ (short-time withstand current, Icw)
B เป็นเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่ออกแบบให้สามารถทํางานร่วมกบั อปุ กรณ์ป้ องกนั ลดั วงจร
ตวั อื่นที่ตอ่ อนกุ รมอย่ดู ้านโหลดในขณะที่มีกระแสลดั วงจรเกิดขึน้ เซอร์กิตเบรกเก
อร์ชนิดนีอ้ าจสามารถปรับตงั้ ระยะการหน่วงเวลาได้ เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิดนีจ้ ะมี
พกิ ดั กระแสทนชว่ งเวลาสนั้ (short-time withstand current, Icw) ด้วย
หมายเหตุ เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิด A อาจมีการหน่วงเวลา และสามารถทํางานร่วมกบั อปุ กรณ์ตวั
อื่นได้ในสภาวะที่นอกเหนือจากกรณีมีกระแสลดั วงจร (กระแสตํ่ากว่ากระแสลดั วงจร,
พิกดั Icw ต่ํากว่าทีก่ ําหนดไว)้
ระยะการหน่วงเวลา (Short-time delay)
ปกตจิ ะใช้คา่ 0.05, 0.1, 0.25, 0.5 หรือ 1 วนิ าที
จ-2 ภาคผนวก จ.
พกิ ดั กระแสทนช่วงเวลาสัน้ (Short-time withstand current, Icw)
หมายถึงคา่ rms ท่ีเป็ นกระแสไฟสลบั ของกระแสลดั วงจรท่ีสมมตุ ิให้มีค่าคงที่ตลอดระยะการ
หนว่ งเวลา คา่ ตํ่าสดุ ของพกิ ดั กระแสทนช่วงเวลาสนั้ เป็ นดงั นี ้
พกิ ัดกระแสใช้งาน (In) ค่าต่าํ สุดของพกิ ัดกระแสทนช่วงเวลาสัน้ (Icw)
In≤ 2500 A 12 In หรือ 5 kA (ใช้คา่ ที่มากกว่า)
In>2500 A 30 kA
พกิ ดั การตดั กระแสลัดวงจรสูงสุด Icu (Ultimate short-circuit breaking capacity)
หมายถงึ พกิ ดั การตดั กระแสลดั วงจรที่ไมค่ าํ นงึ ถงึ ความสามารถในการรับกระแสใช้งานปกติ
อยา่ งตอ่ เน่ืองภายหลงั การทดสอบ
พกิ ดั การตดั กระแสลัดวงจรใช้งาน Ics (Service short-circuit breaking capacity)
หมายถึงพิกัดการตดั กระแสลดั วงจรที่คํานึงถึงความสามารถในการรับกระแสใช้งานปกติอย่าง
ตอ่ เนื่องภายหลงั การทดสอบ โดยปกตจิ ะกําหนดเป็ น % ของ Icu เช่น Ics = 75 % Icu
อุณหภมู ิใช้งานและความชืน้ สัมพทั ธ์
เชน่ เดียวกบั IEC 60898
หมายเหตุ สําหรบั ขอ้ กําหนดทว่ั ไปใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐาน EN 60947-1
ภาคผนวก ฉ. ฉ-1
ภาคผนวก ฉ.
มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์
(ข้อแนะนํา)
ฉ.1. รางเดนิ สายโลหะ (Metal Wireways)
ฉ.1.1 รางเดนิ สายโลหะมีลกั ษณะเป็ นรางทําจากแผน่ โลหะพบั มีฝาปิ ด-เปิ ดได้เพ่ือใช้สําหรับ
เดนิ สายไฟฟ้ า อาจจะมีชอ่ งระบายอากาศด้วยก็ได้
ฉ.1.2 วสั ดทุ ่ีใช้ทํารางเดนิ สายมี 4 ชนิด คอื
ฉ.1.2.1 แผ่นเหล็กผ่านกรรมวิธีป้ องกนั สนิม และพน่ สีทบั เช่น แผ่นเหล็กผ่านกรรมวิธีล้าง
ทําความสะอาดด้วยนํา้ ยาล้างไขมนั และ เคลือบฟอตเฟตด้วยนํา้ ยา Zinc Phosphate หลงั จาก
นนั้ จงึ พน่ ทบั ด้วยสฝี ่ นุ (Powder Paint) หรือใช้กรรมวธิ ีอื่นที่เทียบเทา่
ฉ.1.2.2 แผน่ เหลก็ ชบุ สงั กะสโี ดยวิธีทางไฟฟ้ า
ฉ.1.2.3 แผน่ เหลก็ ชบุ สงั กะสแี บบจมุ่ ร้อน
ฉ.1.2.4 แผน่ เหลก็ ชบุ อะลซู งิ ก์ (Aluzinc)
หมายเหตุ กรณีทีต่ ิดตง้ั ในสถานทีเ่ ปี ยกหรือชืน้ ใหใ้ ชว้ สั ดตุ ามขอ้ ฉ.1.2.3 หรือ ฉ.1.2.4
ฉ.1.3 ความยาวแนะนําในการผลติ ของรางเดนิ สายมีขนาด 2.4 หรือ 3.0 เมตร
ฉ.1.4 ขนาดรางเดนิ สายโลหะท่ีแนะนําในการผลติ มีขนาดตามตารางที่ ฉ.1-1
ตารางท่ี ฉ.1-1
ขนาดรางเดนิ สายโลหะท่แี นะนาํ ในการผลติ
ขนาดความสูงxกว้าง (มม.) ความหนาต่าํ สุด (มม.)
50 x 50 1.00
50 x 100 1.00
100 x 100 1.20
100 x 150 1.20
100 x 200 หรือ 150 x 200 1.60
100 x 300 หรือ 150 x 300 1.60
ฉ-2 ภาคผนวก ฉ.
ฉ.2 รางเคเบลิ (Cable Trays)
ฉ.2.1 รางเคเบลิ แบบด้านลา่ งทบึ และแบบระบายอากาศ
ฉ.2.2 รางเคเบิลมีลกั ษณะเป็ นรางเปิ ด แผน่ เหลก็ พืน้ พบั เป็ นลกู ฟกู
ฉ.2.2.1 วสั ดทุ ่ีใช้ทํารางเคเบิลมี 4 ชนิด คอื
ฉ.2.2.1.1 แผ่นเหล็กผ่านกรรมวิธีป้ องกนั สนิม และพ่นสีทบั เช่น แผ่นเหล็กผ่านกรรมวิธี
ล้างทําความสะอาดด้วยนํา้ ยาล้างไขมัน และเคลือบฟอตเฟตด้วยนํา้ ยา Zinc Phosphate
หลงั จากนนั้ จงึ พน่ ทบั ด้วยสฝี ่ นุ (Powder Paint) หรือใช้กรรมวธิ ีอื่นท่ีเทียบเทา่
ฉ.2.2.1.2 แผน่ เหลก็ ชบุ สงั กะสโี ดยวิธีทางไฟฟ้ า
ฉ.2.2.1.3 แผน่ เหลก็ ชบุ สงั กะสีแบบจ่มุ ร้อน
ฉ.2.2.1.4 แผน่ เหลก็ ชบุ อะลซู งิ ก์ (Aluzinc)
หมายเหตุ กรณีทีต่ ิดตง้ั ภายนอกอาคารหรือสถานทีเ่ ปี ยกหรือชืน้ ใหใ้ ชว้ สั ดตุ ามขอ้ ฉ.2.2.1.3
ฉ.2.3 ความยาวแนะนําในการผลิตของรางเคเบิลมีขนาด 2.4 หรือ 3.0 เมตร และความสงู
ขนาด 150 มม.
ฉ.3 รางเคเบลิ แบบบนั ได (Cable Ladders)
ฉ.3.1 รางเคเบิลแบบบนั ไดมีลกั ษณะเป็ นรางเปิ ด โดยมีบนั ได (Rung) ขอบมนไม่คมทุกๆ
ระยะ 30 ซ.ม. หรือน้อยกวา่
ฉ.3.2 วสั ดทุ ่ีใช้ทํารางเคเบลิ เป็ นแผ่นเหลก็ ชบุ สงั กะสีแบบจ่มุ ร้อน (Hot Dip Galvanized)
ฉ.3.3 ความยาวแนะนําในการผลิตของรางเคเบิลแบบบนั ไดมีขนาด 2.40 หรือ 3.0 เมตร
และความสงู รางมีขนาด 100 หรือ 150 มม.
ฉ.3.4 ขนาดรางเคเบิลแบบบนั ไดที่แนะนําในการผลติ มีขนาดตามตารางท่ี ฉ.3-1
ตารางท่ี ฉ.3-1
ขนาดของรางเคเบลิ แบบบนั ไดท่แี นะนําในการผลติ
ขนาดความสูง x กว้าง (มม.) ความแขง็ แรงของรางเคเบลิ
ขนาดความสงู แนะนํา 100 หรือ 150 มม. การขนึ ้ รูปของแผ่นเหลก็ ทํารางเคเบิลแบบบนั ได
ขนาดความกว้างแนะนํา 150, 300, 450, 600, 750, 900 มม. ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอ
ภาคผนวก ช. ช-1
ภาคผนวก ช.
ประเภทของเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่เี ก่ียวกับการป้ องกันไฟดดู (IEC 60536)
(ข้อแนะนํา)
ฉนวนมูลฐาน (Basic Insulation)
ฉนวนที่จําเป็ นอนั ดบั แรกสาํ หรับห้มุ สว่ นท่ีมีไฟ เพ่ือการป้ องกนั ไฟฟ้ าดดู
ฉนวนเพ่มิ เตมิ (Supplementary Insulation)
ฉนวนที่แยกโดยอิสระเพ่มิ เตมิ จากฉนวนมลู ฐาน เพื่อให้ยงั คงสามารถป้ องกนั ไฟฟ้ าดดู ในกรณีที่
ฉนวนมลู ฐานเกิดชํารุดขนึ ้ มา
ฉนวนสองชัน้ (Double Insulation)
ฉนวนที่ประกอบด้วยฉนวนมลู ฐานและฉนวนเพ่มิ เตมิ
ฉนวนเสริม (Reinforced Insulation)
ฉนวนเนือ้ เดียวหรือฉนวนหลายๆ ชนั้ ที่สามารถป้ องกนั ไฟฟ้ าดดู ได้เทียบเทา่ กบั ฉนวนสองชนั ้
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าประเภท O เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีมีเพียงฉนวนมลู ฐาน และไม่สามารถที่จะต่อสายดิน
เข้ากบั สว่ นของเปลือกที่เป็นโลหะได้
เครื่องใช้ไฟฟ้ าประเภท OI เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าที่มีฉนวนมลู ฐานเป็นอยา่ งน้อยและมีขวั้ สาํ หรับการตอ่
สายดินที่เปลอื กโลหะไว้แล้ว (สญั ลกั ษณ์ ) แตใ่ ช้สายไฟฟ้ า
และเต้าเสยี บ ท่ีไมม่ ีสายดิน
เครื่องใช้ไฟฟ้ าประเภท I เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีนอกเหนือจากมีฉนวนมลู ฐานแล้วยงั มีการป้ องกัน
ไฟฟ้ าดดู ด้วยการต่อสายดินจากส่วนที่เป็ นเปลือกโลหะให้ลงดินเข้า
กบั สายดนิ ของการตดิ ตงั้ ทางไฟฟ้ า
เครื่องใช้ไฟฟ้ าประเภท II เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีใช้ฉนวนสองชนั้ หรือฉนวนเสริม โดยไมต่ ้องมีการ
ตอ่ สายดิน เครื่องใช้ประเภทนีม้ กั ใช้สญั ลกั ษณ์
เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าประเภท III เคร่ืองใช้ ไฟฟ้ าท่ีใช้ แรงดันไฟฟ้ าต่ําพิเศษขัน้ ปลอดภัย (Safety
Extra-Low Voltage, SELV) ซง่ึ มีแรงดนั ไฟฟ้ ากระแสสลบั ไม่เกิน 50
โวลต์ โดยจะต้ องจ่ายผ่านหม้ อแปลงนิรภัยชนิดแยกขดลวด
เคร่ืองใช้ประเภทนีไ้ มต่ ้องมีสายดนิ สญั ลกั ษณ์ท่ีมกั ใช้คือ
ภาคผนวก ซ. ซ-1
ภาคผนวก ซ.
ตารางเปรียบเทยี บระหว่าง
NEMA EnclosureType และ IP Class Protection (IEC Standard)
(ข้อแนะนํา)
NEMA Enclosure Type Number IEC Enclosure Classification Designation
1 IP10
2 IP11
3 IP54
3R IP14
3S IP54
IP56
4 and 4X IP52
5 IP67
IP52
6 and 6P IP54
12 and 12K
13
หมายเหตุ ตารางนีเ้ ป็นการเปลีย่ นเครื่องห่อหมุ้ จาก NEMA Design เป็น IP Class
Protection ตามการแบ่งกล่มุ ของ IEC เท่านนั้ ไม่สามารถใช้เปลีย่ นจาก
IP Class Protection มาเป็น NEMA Enclosure Type Number ได้
ภาคผนวก ฌ. ฌ-1
ภาคผนวก ฌ.
ดมี านด์แฟกเตอร์สาํ หรับเคร่ืองปรับอากาศแบบส่วนกลาง (Central)
และโหลดของเคร่ืองปรับอากาศแต่ละชนิด
(ข้อแนะนํา)
ตารางท่ี ฌ.1 ดมี านด์แฟกเตอร์สาํ หรับเคร่ืองปรับอากาศแบบส่วนกลาง (Central)
รายละเอยี ด ขนาดของโหลด ดมี านด์แฟกเตอร์
เคร่ืองทําความเยน็ (Chiller) โหลดสงู สดุ ของเครื่องแรก ร้อยละ 100
เครื่องท่เี หลือถดั ไป ร้อยละ 80
เครื่องเป่ าลมเยน็ (Fancoil or AHU) 1-10 เครื่องแรกของโหลดสงู สดุ ตามลําดบั ร้อยละ 100
เคร่ืองท่เี หลือถดั ไป ร้อยละ 80
ตารางท่ี ฌ.2 แสดงโหลดของเคร่ืองปรับอากาศแต่ละชนิด
ประเภทของเคร่ืองปรับอากาศ โหลดเคร่ืองปรับอากาศแต่ละชนิด (kW/ตนั )
1. เครื่องปรับอากาศแบบแยกสว่ น (Split Type) 1.50
2. เคร่ืองปรับอากาศแพคเกจระบายความร้อนด้วยอากาศ 1.40
(Package Air Cooled)
3. เครื่องปรับอากาศแพคเกจระบายความร้อนด้วยนํา้ 1.00
(Package Water Cooled)
4. เคร่ืองทํานํา้ เย็นระบายความร้อนด้วยนํา้
(Water Cooled Chiller)
4.1. Reciprocating Type
ไมเ่ กิน 50 ตนั 1.00
มากกวา่ 50 ตนั 0.95
4.2. Screw Type 0.75
4.3. Centrifugal Type
ไมเ่ กิน 250 ตนั 0.75
มากกวา่ 250 ตนั แตไ่ มเ่ กิน 500 ตนั 0.70
มากกวา่ 500 ตนั 0.67
ฌ-2 ภาคผนวก ฌ.
ตารางท่ี ฌ.2 แสดงโหลดของเคร่ืองปรับอากาศแต่ละชนิด (ต่อ)
ประเภทของเคร่ืองปรับอากาศ โหลดเคร่ืองปรับอากาศแต่ละชนิด (kW/ตนั )
5. เคร่ืองทํานํา้ เย็นระบายความร้อนด้วยอากาศ
(Air Cooled Chiller)
5.1. Reciprocating Type
ไมเ่ กิน 50 ตนั 1.40
มากกวา่ 50 ตนั 1.30
5.2. Screw Type หรือ Centrifugal Type
ไมเ่ กิน 250 ตนั 1.40
มากกวา่ 250 ตนั 1.20
6. Chilled Water Pump
Pump Head ไมเ่ กิน 50 ฟตุ นํา้ 0.04
Pump Head ระหวา่ ง 60-100 ฟตุ นํา้ 0.08
Pump Head ระหวา่ ง 110-150 ฟตุ นํา้ 0.11
7. Condenser Water Pump
Pump Head ไมเ่ กิน 50 ฟตุ นํา้ 0.05
Pump Head ระหวา่ ง 60-100 ฟตุ นํา้ 0.10
Pump Head ระหวา่ ง 110-150 ฟตุ นํา้ 0.14
8. Fan Coil Unit 0.03
9. Air Handling Unit 0.15
10. Cooling Tower 0.03
หมายเหตุ ความเย็น 1 ตนั = 12,000 บีทียู/ชวั่ โมง
ภาคผนวก ญ. ญ-1
ภาคผนวก ญ.
วธิ ีการหาขนาดสายดนิ ของวงจรย่อย
(ข้อแนะนํา)
วิธีการหาขนาดสายดนิ ของวงจรย่อยจะใช้หลกั การการหาคา่ Earth fault loop impedance ของวงจร
ยอ่ ยที่พิจารณา ถ้าคา่ Earth fault loop impedance ของวงจรยอ่ ยอยใู่ นเกณฑ์ท่ีทําให้เซอร์กิต
เบรกเกอร์ของวงจรย่อยนนั้ ทํางานภายในเวลาที่กําหนดก็แสดงว่าขนาดสายดินของ วงจรย่อยมี
ความเหมาะสม
ค่า Earth fault loop impedance คือ คา่ อิมพีแดนซ์ของหม้อแปลงจําหน่ายและสายเฟสไปถึง
ณ จดุ ท่ีเกิดฟอลต์ รวมทงั้ อิมพีแดนซ์ของสายดนิ ท่ีกระแสฟอลต์ไหลกลบั มาท่ีหม้อแปลง
ค่า Maximum earth fault loop impedance คือ คา่ อิมพีแดนซ์สงู สดุ ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่ยงั
คงทําให้เซอร์กิตเบรกเกอร์ทํางานได้ภายในเวลาที่กําหนด
คา่ Earth fault loop impedance ของวงจรมีความสําคญั ในการเลือกขนาดของสาย-ดิน เพื่อให้
การทํางานของอปุ กรณ์ป้ องกนั ทํางานตามเวลาท่ีกําหนดคือ 0.1 วินาที ถึง 5 วินาที โดยที่กระแส
ทํางานเป็ น 4.5 เท่าของขนาดเซอร์กิตเบรกเกอร์ ตามมาตรฐาน IEC 60947-2 (Type B),
กระแสทํางานเป็ น 5 เทา่ ของขนาดเซอร์กิตเบรกเกอร์ ตามมาตรฐาน IEC 60898 (Type B) และ
กระแสทํางานเป็ น 10 เท่าของขนาดเซอร์กิตเบรกเกอร์ ตามมาตรฐาน IEC 60898 และ IEC
60947-2 (Type C)
ญ.1 วธิ ีการหา Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กติ เบรกเกอร์แต่ละขนาด
ในการพิจารณาขนาดของสายดินจําเป็ นท่ีจะต้องหาค่า Maximum earth fault loop
impedance ของเซอร์กิตเบรกเกอร์แต่ละขนาด จากนนั้ ก็จะทําการหาคา่ Earth fault loop
impedance ของวงจรที่มีการพิจารณาขนาดสายดิน สําหรับสมการในการหาค่า Maximum
earth fault loop impedance ของเซอร์กิตเบรกเกอร์แตล่ ะขนาดเป็ นดงั นี ้
Zs = Uo/Ia
โดยท่ี Zs คือ Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กิตเบรกเกอร์
Uo คือ แรงดนั ของวงจรท่ีหม้อแปลงจําหน่าย
Ia คือ กระแสทํางานของเซอร์กิตเบรกเกอร์ภายในเวลาที่กําหนด (0.1 วินาที - 5 วนิ าที)
ค่าของ Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ได้แสดงไว้ใน
ญ-2 ภาคผนวก ญ.
ตารางท่ี ญ.1 ถึง ตารางที่ ญ.4
ตารางท่ี ญ.1 แสดงค่า Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(IEC 60898 Type B)
ขนาดของ กระแสทาํ งานของ Maximum earth fault loop impedance
เซอร์กติ เบรกเกอร์ เซอร์กติ เบรกเกอร์ ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(แอมแปร์ ) (แอมแปร์ ) (โอห์ม)
10 50 4.600
15 75 3.067
20 100 2.300
30 150 1.533
40 200 1.150
50 250 0.920
60 300 0.767
70 350 0.657
ตารางท่ี ญ.2 แสดงค่า Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(IEC 60898 Type C)
ขนาดของ กระแสทาํ งานของ Maximum earth fault loop impedance
เซอร์กติ เบรกเกอร์ เซอร์กติ เบรกเกอร์ ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(แอมแปร์ ) (แอมแปร์ ) (โอห์ม)
10 100 2.300
15 150 1.533
20 200 1.150
30 300 0.767
40 400 0.575
50 500 0.460
60 600 0.383
70 700 0.329
ภาคผนวก ญ. ญ-3
ตารางท่ี ญ.3 แสดงค่า Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(IEC 60947-2 Type B)
ขนาดของ กระแสทาํ งานของ Maximum earth fault loop impedance
เซอร์กติ เบรกเกอร์ เซอร์กติ เบรกเกอร์ ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(แอมแปร์ ) (แอมแปร์ ) (โอห์ม)
10 45 5.111
15 67.5 3.407
20 90 2.556
30 135 1.704
40 180 1.278
50 225 1.022
60 270 0.852
70 315 0.730
ตารางท่ี ญ.4 แสดงค่า Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(IEC 60947-2 Type C)
ขนาดของ กระแสทาํ งานของ Maximum earth fault loop impedance
เซอร์กติ เบรกเกอร์ เซอร์กติ เบรกเกอร์ ของเซอร์กติ เบรกเกอร์
(แอมแปร์ ) (แอมแปร์ ) (โอห์ม)
10 100 2.300
15 150 1.533
20 200 1.150
30 300 0.767
40 400 0.575
50 500 0.460
60 600 0.383
70 700 0.329
ญ.2 วธิ ีการหา Earth fault loop impedance ของวงจร
การหา Earth fault loop impedance ของวงจรสําหรับเซอร์กิตเบรกเกอร์แตล่ ะขนาดนนั้ เพ่ือ
นําไปเปรียบเทียบกบั คา่ Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กิต-เบรกเกอร์ ซ่ีงคา่
ดงั กลา่ วได้แสดงไว้ในตารางท่ี ญ.1 ถึง ตารางที่ ญ.4 ในกรณีท่ีคา่ Earth fault loop impedance
ญ-4 ภาคผนวก ญ.
ของวงจรสําหรับเซอร์กิตเบรกเกอร์น้อยกว่าคา่ Maximum earth fault loop impedance ของ
เซอร์กิตเบรกเกอร์ แสดงวา่ การเลือกขนาดของสาย-ดนิ มีความเหมาะสม
แบบจําลองในการหาคา่ Earth fault loop impedance ของวงจรสําหรับเซอร์กิตเบรก-เกอร์แต่
ละขนาดจะมีการพิจารณาอิมพีแดนซ์รวมของสายลาํ ดบั ที่ ญ.2.1 ถึง ญ.2.4 ตามแบบจําลองดงั นี ้
ญ.2.1 อมิ พแี ดนซ์ของสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (คดิ ความยาวสายตัง้ แต่ 100-1000 เมตร)
คา่ อิมพีแดนซ์ท่ีใช้ในการหา Earth fault loop impedance ของสายจําหน่ายแรงตํ่ามีดงั นี ้
สายอะลมู ิเนียม 50 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 0.616+j0.379 โอห์ม/ก.ม.
สายอะลมู เิ นียม 95 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 0.328+j0.356 โอห์ม/ก.ม.
สายอะลมู ิเนียม 120 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 0.256+j0.349 โอห์ม/ก.ม.
สายอะลมู ิเนียม 185 ตร.มม. คา่ อิมพีแดนซ์เทา่ กบั 0.169+j0.334 โอห์ม/ก.ม.
ญ.2.2 อิมพีแดนซ์ของสายเข้ามิเตอร์ (คิดความยาวสายคงท่คี ือ 6 เมตร)
คา่ อิมพีแดนซ์ท่ีใช้ในการหา Earth fault loop impedance ของสายเข้ามิเตอร์มีดงั นี ้
สายทองแดง 6 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 3.316+j0.325 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 10 ตร.มม. คา่ อิมพีแดนซ์เทา่ กบั 1.970+j0.309 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 35 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 0.565+j0.266 โอห์ม/ก.ม.
ญ.2.3 อมิ พีแดนซ์ของสายออกจากมิเตอร์ (คดิ ความยาวสายคงท่คี ือ 25 เมตร)
คา่ อิมพีแดนซ์ที่ใช้ในการหา Earth fault loop impedance ของสายออกจากมิเตอร์มีดงั นี ้
สายทองแดง 4 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 4.963+j0.341 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 10 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 1.970+j0.309 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 35 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 0.565+j0.266 โอห์ม/ก.ม.
ญ.2.4 อิมพีแดนซ์ของสายวงจรย่อย (คิดความยาวสายคงท่คี ือ 30 เมตร)
คา่ อมิ พีแดนซ์ที่ใช้ในการหา Earth fault loop impedance ของสายวงจรยอ่ ยมีดงั นี ้
สายทองแดง 1.5 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 13.027+j0.149 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 2.5 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 7.978+j0.138 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 4 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 4.963+j0.134 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 6 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 3.316+j0.128 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 10 ตร.มม. คา่ อิมพีแดนซ์เทา่ กบั 1.970+j0.125 โอห์ม/ก.ม.
สายทองแดง 16 ตร.มม. คา่ อมิ พีแดนซ์เทา่ กบั 1.238+j0.119 โอห์ม/ก.ม.
สําหรับแบบจําลองในการพิจารณาหาคา่ Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ี
ทราบคา่ ความต้านทานของสาย (คดิ ที่อณุ หภมู ิแวดล้อม 40 องศาเซลเซียส) และรีแอกแตนซ์ของ
ภาคผนวก ญ. ญ-5
สาย สามารถที่จะหาคา่ Earth fault loop impedance ของวงจรได้ ซงึ่ จะยกตวั อย่างในการหา
คา่ Earth fault loop impedance ของวงจร ดงั นี ้
ตวั อย่างการคาํ นวณหาค่า Earth fault loop impedance ของวงจร
ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 15 A ท่คี วามยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ 100 เมตร
ชนิดสาย ขนาดสาย ค่าอมิ พแี ดนซ์ ความยาว ค่าอมิ พแี ดนซ์
(ตร.มม) (โอห์ม/ก.ม.) (ก.ม.) (โอห์ม)
สายจําหนา่ ยแรงตํา่ (AL) 50 0.616+j0.379 2x0.1001) 0.144650890
สายเข้ามิเตอร์ (CU) 6 3.316+j0.325 2x0.0061) 0.039982662
สายออกจากมเิ ตอร์ (CU) 4 4.963+j0.341 2x0.0251) 0.248735050
สายเฟสวงจรยอ่ ย (CU) 2.5 7.978+j0.138 1x0.0302) 0.239375803
สายดินวงจรยอ่ ย (CU) 1.5 13.027+j0.149 1x0.0302) 0.390835563
คา่ Earth fault loop impedance ของวงจร 1.063579968
หมายเหตุ 1) คิดระยะสายเฟสและนิวทรลั
2) คิดระยะเฉพาะสายเฟสหรือสายดิน
คา่ ของ Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ีใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แตล่ ะขนาด ได้แสดง
ไว้ในตารางท่ี ญ.6 ถงึ ตารางที่ ญ.11 ซงึ่ ในหมายเหตจุ ะระบคุ า่ Zs(critical) เพื่อตรวจสอบวา่ ขนาด
ของสายดินมีความเหมาะสมหรือไม่ สําหรับขนาดสายเมนและความยาวสายจําหน่ายแรงต่ํา
แตกตา่ งกนั
ในการพิจารณาว่าคา่ Earth fault loop impedance ของวงจรว่ามีคา่ น้อยเพียงพอที่จะทําให้เซอร์
กิตเบรกเกอร์ทํางานนนั ้ จะพิจารณาเฉพาะเซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิดที่มีการใช้งานกนั มาก คือ เซอร์
กิตเบรกเกอร์ Type C ซง่ึ คา่ Maximum earth fault loop impedance ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ Type
C มีคา่ ต่ํากว่าของ เซอร์กิตเบรกเกอร์ Type B ถ้าในกรณีท่ีคา่ Earth fault loop impedance ของ
วงจรทําให้เซอร์กิตเบรกเกอร์ Type C ทํางานได้แสดง ว่าเซอร์กิตเบรกเกอร์ Type B ก็จะทํางานได้
เสมอเช่นกนั
ญ-6 ภาคผนวก ญ.
ตารางท่ี ญ.6 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 15 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 1.0636 1.2082 1.3529 1.4975 1.6422 1.7868 1.9315 2.0761 2.2208 2.3654
95 1.0157 1.1126 1.2094 1.3062 1.4030 1.4998 1.5966 1.6934 1.7902 1.8871
120 1.0055 1.0921 1.1786 1.2652 1.3518 1.4383 1.5249 1.6114 1.6980 1.7846
185 0.9938 1.0687 1.1435 1.2184 1.2933 1.3681 1.4430 1.5178 1.5927 1.6676
หมายเหตุ Zs(critical) = 1.533 โอห์ม
สายเขา้ มิเตอร์ขนาด 6 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 4 ตร.มม ยาว 25 เมตร
,สายเฟสวงจรย่อยขนาด 2.5 ตร.มม และสายดินวงจรย่อยขนาด 1.5 ตร.มม ยาว 30 เมตร
ตารางท่ี ญ.7 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 20 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 0.6558 0.8004 0.9451 1.0897 1.2344 1.3790 1.5237 1.6684 1.8130 1.9577
95 0.6080 0.7048 0.8016 0.8984 0.9952 1.0920 1.1888 1.2856 1.3825 1.4793
120 0.5977 0.6843 0.7708 0.8574 0.9440 1.0305 1.1171 1.2037 1.2902 1.3768
185 0.5860 0.6609 0.7357 0.8106 0.8850 0.9603 1.0352 1.1101 1.1849 1.2598
หมายเหตุ Zs(critical) = 1.150 โอห์ม
สายเขา้ มิเตอร์ขนาด 10 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 10 ตร.มม ยาว 25 เมตร,
สายเฟสวงจรย่อยขนาด 4 ตร.มม และสายดินวงจรย่อยขนาด 2.5 ตร.มม ยาว 30 เมตร
ตารางท่ี ญ.8 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 30 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 0.5160 0.6606 0.8053 0.9499 1.0946 1.2392 1.3839 1.5285 1.6732 1.8178
95 0.4681 0.5649 0.6618 0.7586 0.8554 0.9522 1.0490 1.1458 1.2426 1.3395
120 0.4579 0.5445 0.6310 0.7176 0.8041 0.8907 0.9773 1.0638 1.1504 1.2370
185 0.4462 0.5211 0.5959 0.6708 0.7456 0.8205 0.8954 0.9702 1.0451 1.1200
หมายเหตุ Zs(critical) = 0.767 โอห์ม
สายเข้ามิเตอร์ขนาด 10 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 10 ตร.มม ยาว 25 เมตร,
สายเฟสวงจรย่อยขนาด 6 ตร.มม และสายดินวงจรย่อยขนาด 4 ตร.มม ยาว 30 เมตร
ภาคผนวก ญ. ญ-7
ตารางท่ี ญ.9 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 40 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 0.3915 0.5362 0.6808 0.8255 1.9701 1.1148 1.2594 1.4041 1.5487 1.6934
95 0.3437 0.4405 0.5373 0.6341 0.7309 0.8278 0.9246 1.0214 1.1182 1.2150
120 0.3334 0.4200 0.5066 0.5931 0.6797 0.7663 0.8528 1.9394 1.0260 1.1125
185 0.3217 0.3966 0.4715 0.5463 0.6212 0.6961 0.7709 0.8458 0.9207 0.9955
หมายเหตุ Zs(critical) = 0.575 โอห์ม
สายเข้ามิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 25 เมตร,
สายเฟสวงจรย่อยขนาด 10 ตร.มม และสายดินวงจรย่อยขนาด 4 ตร.มม ยาว 30 เมตร
ตารางท่ี ญ.10 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 50 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 0.3202 0.4649 0.6095 0.7542 0.8988 1.0435 1.1881 1.3328 1.4774 1.6221
95 0.2724 0.3692 0.4660 0.5628 0.6596 0.7565 0.8533 0.9501 1.0469 1.1437
120 0.2621 0.3487 0.4353 0.5218 0.6084 0.6950 0.7815 0.8681 0.9547 1.0412
185 0.2504 0.3253 0.4002 0.4750 0.5499 0.6248 0.6996 0.7745 0.8494 0.9242
หมายเหตุ Zs(critical) = 0.460 โอห์ม
สายเข้ามเิ ตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 25 เมตร,
สายเฟสวงจรย่อยขนาด 16 ตร.มม และสายดินวงจรยอ่ ยขนาด 6 ตร.มม ยาว 30 เมตร
ตารางท่ี ญ.11 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 60 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 0.3202 0.4649 0.6095 0.7542 0.8988 1.0435 1.1881 1.3328 1.4774 1.6221
95 0.2724 0.3692 0.4660 0.5628 0.6596 0.7565 0.8533 0.9501 1.0469 1.1437
120 0.2621 0.3487 0.4353 0.5218 0.6084 0.6950 0.7815 0.8681 0.9547 1.0412
185 0.2504 0.3253 0.4002 0.4750 0.5499 0.6248 0.6996 0.7745 0.8494 0.9242
หมายเหตุ Zs(critical) = 0.383 โอห์ม
สายเขา้ มิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 25 เมตร,
สายเฟสวงจรย่อยขนาด 16 ตร.มม และสายดินวงจรย่อยขนาด 6 ตร.มม ยาว 30 เมตร
ญ-8 ภาคผนวก ญ.
ตารางท่ี ญ.12 แสดงค่า Earth fault loop impedance ของวงจร ในกรณีท่ใี ช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ 70 A
ขนาดสาย ค่า Earth fault loop impedance (Ohm)
จาํ หน่ายแรงต่าํ ความยาวสายจาํ หน่ายแรงต่าํ (เมตร)
(ตร.มม.) 100 200 300 400 500 600 700 800 900 1000
50 0.3202 0.4649 0.6095 0.7542 0.8988 1.0435 1.1881 1.3328 1.4774 1.6221
95 0.2724 0.3692 0.4660 0.5628 0.6596 0.7565 0.8533 0.9501 1.0469 1.1437
120 0.2621 0.3487 0.4353 0.5218 0.6084 0.6950 0.7815 0.8681 0.9547 1.0412
185 0.2504 0.3253 0.4002 0.4750 0.5499 0.6248 0.6996 0.7745 0.8494 0.9242
หมายเหตุ Zs(critical) = 0.329 โอห์ม
สายเข้ามิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 6 เมตร, สายออกจากมิเตอร์ขนาด 35 ตร.มม ยาว 25 เมตร,
สายเฟสวงจรย่อยขนาด 16 ตร.มม และสายดินวงจรย่อยขนาด 6 ตร.มม ยาว 30 เมตร
คา่ Earth fault loop impedance ของวงจรในตารางที่ ญ.6 ถึง ตารางที่ ญ.12 ถ้าอย่ใู นบริเวณที่
แรเงาก็ให้ใช้ขนาดของสายดินตามตารางท่ี 4-2 แต่ถ้าหากว่าอย่นู อกบริเวณที่แรเงา ให้ใช้ “
ขนาดของสายดนิ เท่ากับขนาดของสายเฟส”
ภาคผนวก ฎ. ฎ-1
ภาคผนวก ฎ.
จาํ นวนสูงสุดของสายไฟฟ้ าขนาดเดยี วกันในท่อร้อยสาย
(ข้อแนะนํา)
จาํ นวนสงู สุดของสายไฟฟ้ าขนาดเดยี วกัน มอก.11-2553 รหสั ชนิด 60227 IEC 01
ท่ใี ห้ใช้ในท่อโลหะตาม มอก.770-2533
ขนาดสายไฟ จาํ นวนสายสงู สุดของสายไฟฟ้ าตารางท่ี 4 ในท่อร้อยสาย
( mm2 )
8 14 22 37 ----- - --
1.5 5 10 15 25 39 - - - - - - -
2.5 4 7 11 19 30 - - - - - - -
4 359 15 23 37 - - - - - -
6 135 9 14 22 37 - - - - -
10 124 6 10 16 27 42 - - - -
16 112 4 6 10 17 27 34 - - -
25 111 3 5 8 14 21 27 33 - -
35 - 11 1 3 6 10 15 19 24 38 -
50 - -1 1 3 4 7 12 15 18 29 42
70 - -1 1 1 3 5 8 11 13 21 30
95 --- 1 1 2 4 7 9 11 17 25
120 --- 1 1 1 3 5 7 9 14 20
150 --- 1 1 1 3 4 6 7 11 16
185 --- - 1 1 1 3 4 5 8 12
240 --- - - 1 1 2 3 4 7 10
300 --- - -1112 3 58
400 15 20 25 32 40 50 65 80 90 100 125 150
เส้นผ่าน
ศนู ย์กลางของ
ทอ่ ร้อยสาย
ฎ-2 ภาคผนวก ฎ.
จาํ นวนสงู สุดของสายไฟฟ้ าขนาดเดยี วกัน มอก.11-2553 รหสั ชนิด NYY แกนเด่ยี ว
ท่ใี ห้ใช้ในท่อโลหะตาม มอก.770-2533
พนื้ ท่หี น้าตดั ของสายไฟฟ้ า 1 จาํ นวนสงู สุดของสายไฟฟ้ าขนาดเดยี วกันในท่อร้อยสาย
(ตารางมลิ ลเิ มตร) 1
1 1 1 3 5 8 12 21 33 - - - -
1.5 1 1 2 4 7 11 19 30 - - - -
2.5 - 1 2 4 7 10 17 26 33 - - -
4 - 1 1 3 6 9 15 23 29 36 - -
6 - 1 1 3 5 8 13 21 26 33 - -
10 - 1 1 2 4 6 11 17 22 27 - -
16 - 1 1 1 3 5 10 15 19 23 36 -
25 - 1 1 1 3 4 8 12 15 19 29 -
35 - - 1 1 1 3 6 10 12 15 24 35
50 - - 1 1 1 3 5 8 11 13 21 31
70 - - - 1 1 2 4 7 8 11 17 24
95 - - - 1 1 1 3 5 7 8 13 19
120 - - - 1 1 1 3 4 6 7 11 17
150 - - - - 1 1 1 3 4 5 9 13
185 - - - - 1 1 1 3 4 5 7 11
240 - - - - -1123469
300 - - - - -1112357
400 - - - - -111246
500 - - - - -111134
เส้นผ่านศนู ย์กลางของ 15 20 25 32 40 50 65 80 90 100 125 150
ท่อร้อยสาย (มม.)
ภาคผนวก ฏ. ฏ-1
ภาคผนวก ฏ.
Utilization Categories for Contactors and Motor-starters
(ข้อแนะนํา)
60947-4-1 © IEC TABLE I
Utilization Categories for Contactors and Motor-starters
Kind of Utilization Typical applications
current categories
A.C. AC-1 Non-inductive or slightly inductive loads, resistance furnaces
AC-2 Slip-ring motors: starting, switching off
AC-3 Squirrel-cage motors : starting, switching off motors during running1)
AC-4 Squirrel-cage motors : starting, plugging, inching
AC-5a Switching of electric discharge lamp controls
AC-5b Switching of incandescent lamps
AC-6a Switching of transformers
AC-6b Switching of capacitor banks
AC-7a3) Slightly inductive loads in household appliances and similar applications
AC-7b3) Motor-loads for household applications
AC-8a Hermetic refrigerant compressor motor2) control with manual resetting of
overload releases
AC-8b Hermetic refrigerant compressor motor2) control with automatic resetting of
overload releases
D.C. DC-1 Non-inductive or slightly inductive loads, resistance furnaces
DC-3 Shunt-motors : starting, plugging, inching
Dynamic breaking of d.c. motors
DC-5 Series-motors : starting, plugging, inching
Dynamic breaking of d.c. motors
DC-6 Switching of incandescent lamps
1) AC-3 category may be used for occasional inching (jogging) or plugging for limited time periods such as machine set-
up; during such limited time periods the number of such operations should not exceed five per minute or than ten in a
10-min period.
2) Hermetic refrigerant compressor motor is a combination consisting of a compressor and a motor, both of which are
enclose in the same housing, with no external shaft or shaft seals, the motor operating in the refrigerant.
3) For AC-7a and AC-7b, see IEC 61095
ภาคผนวก ฐ. ฐ-1
ภาคผนวก ฐ.
แรงดนั ตก
(ข้อแนะนํา)
แรงดนั ตกคือแรงดนั ไฟฟ้ าท่ีสญู เสียไปในสายไฟฟ้ าระหว่างทางท่ีกระแสไหล การหาค่าแรงดนั
ตกจึงเป็ นการหาแรงดนั ไฟฟ้ าท่ีปลายทางเทียบกับต้นทาง เขียนเป็ นวงจรสมมลู และเฟสเซอร์
ไดอะแกรมได้ดงั นี ้
I R XL ES
ES EL Load EL IZ IXL
θ IR
I
วงจรสมมูล 1 เฟส เฟสเซอร์ ไดอะแกรม
เขียนเป็ นสมการได้ดงั นี ้
ES = EL+I∠- θ (R + j XL)
= EL + I( Cosθ - j Sinθ) ( R + j XL)
= EL + I( R Cosθ+ XL Sinθ - j R Sinθ + j XLCosθ)
= (EL+ I⋅R Cosθ + I⋅XL Sinθ) + j I( XL Cosθ- R Sinθ)
สมการประกอบด้วย Real part และ Imaginary part ซงึ่ สวนท่ีเป็ น Imaginary part มีคา่ น้อย
มากเมื่อเทียบกบั สว่ นของ Real part ดงั นนั้ เพ่ือการคํานวณงา่ ยขนึ ้ จงึ เขียนสมการเสียใหมเ่ ป็ น
คา่ โดยประมาณได้ดงั นี ้
ES = EL+ I⋅R Cosθ + I⋅XL Sinθ
แรงดนั ตก = ES-EL = I⋅R Cosθ + I⋅XL Sinθ
ฐ-2 ภาคผนวก ฐ.
1. แรงดันตกวงจร 3 เฟส ความยาวสาย (L) คดิ จากต้นทางจนถึงปลายทางเพียงเท่ียวเดียว
โดยตงั้ สมมติฐานว่าวงจรสมดลุ กระแสไหลกลบั เป็ นศนู ย์ สําหรับกระแสคูณด้วย √3 เพื่อ
เปล่ียนเป็ น Line current จะได้ดงั นี ้
VD =√3 ×I(R Cosθ + XL Sinθ)×L
ทําเป็ นเปอร์เซน็ ต์ หารด้วยระบบแรงดนั สําหรับระบบแรงดนั 230/400 V
%VD = VD ×100
400
2.แรงดนั ตกวงจร 1 เฟส โดยปกตแิ รงดนั ตกจะเกิดทงั้ ขาไปและกลบั ในสมการจงึ ต้องคณู
ความยาวสายด้วย 2 จะได้ดงั นี ้
VD = 2 ×I(R Cosθ + XL Sinθ)×L
ทําเป็ นเปอร์เซน็ ต์ หารด้วยระบบแรงดนั สาํ หรับระบบแรงดนั 230/400 V
%VD = VD ×100
230
การคํานวณหาคา่ แรงดนั ตกจะเป็ นการหาคา่ สงู สดุ ดงั นนั้ ในการคํานวณจึงใช้คา่ ความต้านทาน
กระแสสลบั ท่ี อณุ หภมู ิพิกดั ใช้งานของสายไฟฟ้ าคือ 70OC สําหรับสายพีวีซี และ 90OC สําหรับ
สาย XLPE ส่วนค่ารีแอกแตนซ์หรือค่า XLของสายไฟฟ้ าจะเปลี่ยนแปลงตามวิธีการวาง
สายไฟฟ้ าเช่นเดยี วกบั ในการคํานวณกระแสลดั วงจร
การคํานวณค่าแรงดนั ตกมีความยุ่งยากในการหาค่าอิมพีแดนซ์ของสายไฟฟ้ า การใช้วิธีจาก
ตารางจงึ สะดวกกว่า ตารางแรงดนั ตกตอ่ ไปนีอ้ ้างอิงตาม BS 7671 และเพ่ือให้สะดวกในการใช้
งานจึงได้กําหนดเป็ นค่าสงู สดุ โดยการคํานวณคา่ แรงตก ตงั้ แต่ P.F. 85 % Lagging ถึง P.F
100 % แล้วเลือกคา่ ที่ให้แรงดนั ตกสงู สดุ อยา่ งไรก็ตาม ผ้ใู ช้งานสามารถคํานวณได้เองจาก BS
7671
ภาคผนวก ฐ. ฐ-3
เง่อื นไขการคาํ นวณ
- ระบบไฟฟ้ า 3 เฟส แรงดนั ตกคดิ เป็ น Line to Line แบบสมดลุ
- ขนาดสายไฟ ถงึ 16 mm2 ให้คดิ คา่ r อยา่ งเดยี ว ละเลยคา่ x ซง่ึ มีคา่ น้อย
- ขนาดสายไฟ ตงั ้ แต่ 25 mm2 ให้คิดคา่ r และ x เพ่ือคํานวณ แรงดนั ตก ตาม Power
Factor ของ Load
- รูปแบบการตดิ ตงั้ (กลมุ่ การเดนิ สาย) เป็ นไปตามตารางท่ี 5-47
ตารางท่ี ฐ.1 แรงดนั ตกสาํ หรับสายไฟฟ้ า ฉนวน PVC แกนเดียว ท่ี 70°C
1 เฟส AC 3 เฟส AC
( mV / A / m ) ( mV / A / m )
ขนาดสาย รูปแบบการตดิ ตงั้
( mm2 )
กลุ่มท่ี กลุ่มท่ี 3 , 7 กลุ่มท่ี กลุ่มท่ี 3 , 7
1.0 1, 2 Touching Spaced 1 , 2 Trefoil Flat Spaced
1.5
2.5 44 44 44 38 38 38 38
4 29 29 29 25 25 25 25
6 18 18 18 15 15 15 15
10 11 11 11 9.5 9.5 9.5 9.5
16 7.3 7.3 7.3 6.4 6.4 6.4 6.4
25 4.4 4.4 4.4 3.8 3.8 3.8 3.8
35 2.8 2.8 2.8 2.4 2.4 2.4 2.4
50 1.81 1.75 1.75 1.52 1.50 1.50 1.52
70 1.33 1.25 1.27 1.13 1.11 1.12 1.15
95 1.00 0.94 0.97 0.85 0.81 0.84 0.86
120 0.71 0.66 0.69 0.61 0.57 0.60 0.63
150 0.56 0.50 0.54 0.48 0.44 0.47 0.50
185 0.48 0.41 0.45 0.40 0.35 0.39 0.43
240 0.41 0.35 0.39 0.35 0.30 0.34 0.38
300 0.36 0.29 0.34 0.31 0.26 0.30 0.34
400 0.30 0.25 0.29 0.27 0.21 0.25 0.29
500 0.27 0.22 0.26 0.24 0.18 0.23 0.26
0.25 0.19 0.23 0.22 0.16 0.20 0.24
0.23 0.17 0.21 0.20 0.15 0.18 0.22
ฐ-4 ภาคผนวก ฐ.
ตารางท่ี ฐ.2 แรงดันตกสาํ หรับสายไฟฟ้ า ฉนวน PVC หลายแกน ท่ี 70°C
ขนาดสาย 1 เฟส AC 3 เฟส AC
( mm2 ) ( mV / A / m ) ( mV / A / m )
ทุกกลุ่มการตดิ ตัง้ ทุกกลุ่มการตดิ ตัง้
1.0
1.5 44 38
2.5 29 25
4 18 15
6 11 9.5
10 7.3 6.4
16 4.4 3.8
25 2.8 2.4
35 1.75 1.50
50
70 1.25 1.10
95 0.93 0.80
120 0.65 0.57
150 0.49 0.43
185 0.41 0.36
240 0.34 0.29
300 0.29 0.25
400 0.24 0.21
0.21 0.18
0.17 0.15
ภาคผนวก ฐ. ฐ-5
ตารางท่ี ฐ.3 แรงดนั ตกสาํ หรับสายไฟฟ้ า ฉนวน XLPE แกนเดียว ท่ี 90°C
1 เฟส AC 3 เฟส AC
ขนาดสาย ( mV / A / m ) ( mV / A / m )
( mm2 )
รูปแบบการตดิ ตงั้
1.0
1.5 กลุ่มท่ี กลุ่มท่ี 3 , 7 กลุ่มท่ี กลุ่มท่ี 3 , 7
2.5
4 1, 2 Touching Spaced 1 , 2 Trefoil Flat Spaced
6
10 46 46 46 40 40 40 40
16
25 31 31 31 27 27 27 27
35
50 19 19 19 16 16 16 16
70
95 12 12 12 10 10 10 10
120
150 7.9 7.9 7.9 6.8 6.8 6.8 6.8
185
240 4.7 4.7 4.7 4.0 4.0 4.0 4.0
300
400 2.9 2.9 2.9 2.5 2.5 2.5 2.5
500
1.85 1.85 1.85 1.60 1.57 1.58 1.60
1.37 1.35 1.37 1.17 1.14 1.15 1.17
1.04 1.00 1.02 0.91 0.87 0.87 0.90
0.75 0.70 0.73 0.65 0.61 0.62 0.64
0.58 0.52 0.56 0.50 0.45 0.46 0.50
0.49 0.42 0.47 0.42 0.37 0.38 0.42
0.42 0.36 0.40 0.37 0.31 0.33 0.37
0.37 0.31 0.35 0.32 0.26 0.27 0.31
0.32 0.25 0.30 0.27 0.22 0.23 0.27
0.28 0.22 0.26 0.24 0.19 0.20 0.24
0.25 0.19 0.23 0.22 0.17 0.18 0.22
0.23 0.17 0.21 0.20 0.15 0.16 0.20
ฐ-6 ภาคผนวก ฐ.
ตารางท่ี ฐ.4 แรงดันตกสาํ หรับสายไฟฟ้ า ฉนวน XLPE หลายแกน ท่ี 90°C
ขนาดสาย 1 เฟส AC 3 เฟส AC
( mm2 ) ( mV / A / m ) ( mV / A / m )
ทุกกลุ่มการตดิ ตงั้ ทุกกลุ่มการตดิ ตัง้
1.0
1.5 46 40
2.5 31 27
4 19 16
6 12 10
10 7.9 6.8
16 4.7 4
25 2.9 2.5
35 1.85 1.60
50 1.35 1.15
70 0.99 0.86
95 0.68 0.60
120 0.52 0.44
150 0.42 0.36
185 0.35 0.31
240 0.30 0.25
300 0.24 0.22
400 0.21 0.18
0.19 0.16