บทท่ี 6 บริภัณฑ์ไฟฟ้ า 6-29
6.4.14 ห้องหม้อแปลงสาํ หรับหม้อแปลงชนิดแห้ง
ใหใ้ ชข้ อ้ กําหนดเช่นเดียวกบั ข้อ 6.4.13 ยกเว้น ไม่ตอ้ งมีบ่อพกั และทอ่ ระบายของเหลว
ตอน ง. ลานหม้อแปลงอยู่ภายนอกอาคาร (Outdoor Yard)
6.4.15 ลานหม้อแปลงอยู่บนพนื้ ดนิ
6.4.15.1 หม้อแปลงต้องอยู่ในที่ล้อม ท่ีล้อมนีอ้ าจจะเป็ นกําแพงหรือรัว้ ท่ีใส่กุญแจได้ และ
เข้าถงึ ได้เพ่ือการตรวจสอบและบํารุงรักษาสาํ หรับบคุ คลท่ีมีหน้าท่ีเกี่ยวข้อง
6.4.15.2 ท่วี ่างเพ่อื ปฏบิ ตั งิ าน
ส่วนท่ีมีไฟฟ้ าของระบบไฟฟ้ าแรงสูงเหนือท่ีว่างเพ่ือปฏิบัติงานต้องอยู่สูงจากพืน้ ไม่น้อยกว่า
2.75 เมตร หรือมีที่กนั้ เพื่อป้ องกนั การสมั ผสั สว่ นท่ีมีไฟฟ้ าโดยไมไ่ ด้ตงั้ ใจ
6.4.15.3 ระยะห่าง
ก) ระยะห่างตามแนวระดับระหว่างรัว้ หรือผนังกับส่วนท่ีมีไฟฟ้ าของระบบ
ไฟฟ้ าแรงสงู ต้องไม่น้อยกวา่ 1.20 เมตร สําหรับแรงดนั ไม่เกิน 33 เควี
ข) ระยะห่างตามแนวระดบั ระหว่างรัว้ หรือผนงั กบั หม้อ-แปลงต้องไม่น้อยกว่า 1.00
เมตร ระยะหา่ งระหวา่ งหม้อแปลงต้องไมน่ ้อยกวา่ 0.60 เมตร
6.4.15.4 รัว้ หรือกําแพงของลานหม้อแปลงต้องสงู ไมน่ ้อยกวา่ 2.00 เมตร
6.4.15.5 การตอ่ ลงดนิ ต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 6.4.12.10
6.4.15.6 ควรมีป้ ายเตือนแสดงข้อความ “อันตรายไฟฟ้ าแรงสูง” และ “เฉพาะเจ้าหน้าท่ที ่ี
เก่ยี วข้องเท่านัน้ ” ให้เห็นอยา่ งชดั เจนตดิ ไว้ที่ผนงั ด้านนอกห้องหม้อแปลง
6.4.15.7 พืน้ ของลานหม้อแปลง ต้องใสห่ ินเบอร์ 2 หนาอยา่ งน้อย 100 มม. ยกเว้น ส่วนที่
ติดตงั้ บริภณั ฑ์
6.4.16 ลานหม้อแปลงอย่บู นดาดฟ้ าของอาคาร
ให้ใช้ข้อกําหนดเช่นเดียวกบั ข้อ 6.4.15 โดยมีข้อกําหนดเพิม่ เตมิ ดงั นี ้
6.4.16.1 พืน้ ของดาดฟ้ ารวมทงั้ ตวั อาคารที่ติดตงั้ หม้อแปลง ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอท่ีจะ
รับนํา้ หนกั ของหม้อแปลงและบริภณั ฑ์ได้อยา่ งปลอดภยั
6.4.16.2 ต้องติดตงั้ ระบบป้ องกนั อนั ตรายจากฟ้ าผ่าตามมาตรฐานการป้ องกนั ฟ้ าผ่าสาํ หรับ
สิ่งปลกู สร้าง ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
6.4.16.3 หม้อแปลงชนิดฉนวนของเหลวติดไฟได้ต้องมีบ่อพักและบ่อพักต้องสามารถบรรจุ
ของเหลวได้อีกอย่างน้อย 3 เท่าของปริมาตรของเหลวของหม้อแปลงตวั ท่ีมากที่สดุ แล้วใส่หิน
6-30 บทท่ี 6 บริภัณฑ์ไฟฟ้ า
เบอร์ 2 จนเต็ม ท่อระบายของเหลวไปบ่อพกั ต้องมีขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลางไม่เล็กกว่า 50 มม.
และเป็ นชนิดทนไฟ ปลายทอ่ ด้านหม้อแปลงต้องปิ ดด้วยตะแกรง
บอ่ พกั ต้องมีวิธีป้ องกนั นํา้ ขงั และป้ องกนั ฉนวนของเหลวจากหม้อแปลงลงพืน้ ที่สาธารณะ
6.5 คาปาซเิ ตอร์
6.5.1 ท่วั ไป
ให้ใช้กับการติดตงั้ คาปาซิเตอร์ในวงจรไฟฟ้ า เพื่อปรับปรุงค่าตวั ประกอบกําลงั ไฟฟ้ า (power
factor) เทา่ นนั้
6.5.2 เคร่ืองห่อห้มุ และการกนั้
6.5.2.1 คาปาซเิ ตอร์ท่ีบรรจดุ ้วยของเหลวตดิ ไฟปริมาณรวมกนั มากกวา่ 11 ลติ ร ต้องติดตงั ้ ใน
ห้องเฉพาะหรือตดิ ตงั้ ภายนอกอาคารโดยมีรัว้ ล้อมหรือตดิ ตงั้ บนเสา
6.5.2.2 คาปาซิเตอร์ต้องมีเครื่องห่อห้มุ หรือติดตงั้ โดยมีการกนั้ รัว้ หรือโดยวิธีอื่น เพื่อป้ องกนั
บคุ คลมาสมั ผสั กบั สว่ นท่ีมีไฟฟ้ าโดยบงั เอิญ ยกเว้น คาปาซิเตอร์นนั้ เข้าถึงไดเ้ ฉพาะบคุ คลทีม่ ี
หนา้ ทีเ่ กี่ยวขอ้ งเท่านน้ั
ตอน ก. คาปาซเิ ตอร์แรงดันไม่เกนิ 1,000 โวลต์
6.5.3 การคายประจุ
ต้องจดั ให้มีวธิ ีการคายประจขุ องคาปาซเิ ตอร์ ดงั นี ้
6.5.3.1 ช่วงเวลาคายประจุ
เม่ือปลดคาปาซิเตอร์ออกจากวงจรไฟฟ้ า ต้องมีการคายประจใุ ห้แรงดนั ลดลงเหลอื ไม่เกิน 75
โวลต์ ภายในเวลา 3 นาที นบั จากเวลาท่ีปลด
6.5.3.2 มาตรการในการคายประจุ
ให้มีการคายประจุ โดยใช้วงจรคายประจทุ ี่ต่ออย่างถาวรกับ คาปาซิเตอร์ หรือมีอปุ กรณ์ที่จะ
ต่อเข้ากับขัว้ ของชุดคาปาซิเตอร์โดยอัตโนมัติ เม่ือปลดคาปาซิเตอร์ออกจากแหล่งจ่ายไฟฟ้ า
ห้ามใช้สวิตช์ท่ีทํางานด้วยมือ หรือวงจรคายประจทุ ่ีทําการตอ่ วงจรด้วยมือ
6.5.4 ขนาดกระแสของตัวนํา
ตวั นําของวงจรคาปาซิเตอร์ต้องมีขนาดกระแสไม่น้อยกว่าร้อยละ 135 ของพิกัดกระแสของคา
ปาซิเตอร์ หากคาปาซิเตอร์ต่อกบั วงจรมอเตอร์ ตวั นําของ วงจรคาปาซิเตอร์ต้องมีขนาดกระแส
บทท่ี 6 บริภัณฑ์ไฟฟ้ า 6-31
ไม่น้อยกว่า 1/3 ของขนาดกระแสของสาย วงจรมอเตอร์ แต่ทงั้ นีข้ นาดกระแสของตวั นําต้องไม่
น้อยกวา่ ร้อยละ 135 ของพกิ ดั กระแสของคาปาซิเตอร์
6.5.5 การป้ องกันกระแสเกนิ
6.5.5.1 คาปาซิเตอร์แตล่ ะชดุ (bank) ต้องมีเครื่องป้ องกนั กระแสเกินท่ีตวั นําทกุ สายเส้นไฟ
ยกเว้น กรณีทีค่ าปาซิเตอร์ต่อไวท้ างดา้ นโหลดของเครื่องป้ องกนั การใช้งานเกินกําลงั ของ
มอเตอร์
6.5.5.2 พิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินต้องให้ตํ่าท่ีสดุ เทา่ ท่ีจะให้คาปาซิ
เตอร์ชดุ นนั้ ตอ่ ใช้งานได้
6.5.6 เคร่ืองปลดวงจร
6.5.6.1 ต้องตดิ ตงั้ เครื่องปลดวงจรในทกุ สายเส้นไฟของคาปาซิเตอร์แตล่ ะชดุ ยกเว้น คาปา
ซิเตอร์ต่อไวท้ างดา้ นโหลดของเครื่องป้ องกนั การใชง้ านเกินกําลงั ของมอเตอร์
6.5.6.2 เคร่ืองปลดวงจรต้องปลดทกุ สายเส้นไฟพร้อมกนั
6.5.6.3 เครื่องปลดวงจรต้องสามารถปลดคาปาซิเตอร์ออกจากวงจรในสภาพการใช้งาน
ปกตไิ ด้โดยเครื่องปลดวงจรไม่เสียหาย
6.5.6.4 พิกดั กระแสของเครื่องปลดวงจรต้องไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 135 ของพิกดั กระแสของคา
ปาซเิ ตอร์
6.5.7 พกิ ัดหรือขนาดปรับตงั้ ของเคร่ืองป้ องกันการใช้งานเกนิ กาํ ลังของมอเตอร์
เมื่อติดตงั้ คาปาซิเตอร์ทางด้านโหลดของเคร่ืองป้ องกันการใช้งานเกินกําลงั ของมอเตอร์ การ
กําหนดพกิ ดั หรือขนาดปรับตงั้ ของเครื่องป้ องกนั การใช้งานเกินกําลงั และการกําหนดขนาดตวั นํา
ให้คํานวณจากคา่ กระแสที่ปรับคา่ ตวั -ประกอบกําลงั ไฟฟ้ าแล้วและดําเนินการตามที่กําหนดใน
ข้อ 6.3 ด้วย
6.5.8 การต่อลงดนิ
เปลือกโลหะของคาปาซิเตอร์ต้องตอ่ ลงดิน ตามท่ีกําหนดในบทที่ 4 ยกเว้น คาปาซิเตอร์ที่
ติดตงั้ บนโครงสร้างชนิดทีเ่ ปลือกของคาปาซิเตอร์มีแรงดนั ไม่เท่ากบั ดิน
6-32 บทที่ 6 บริภัณฑ์ไฟฟ้ า
ตอน ข. คาปาซเิ ตอร์แรงดันเกนิ 1,000 โวลต์
6.5.9 การคายประจุ
6.5.9.1 ช่วงเวลาคายประจุ
เม่ือปลดคาปาซิเตอร์ออกจากวงจรไฟฟ้ า ต้องมีการคายประจุให้แรงดนั ลดลงเหลือไม่เกิน 75
โวลต์ ภายในเวลา 10 นาที นบั จากเวลาที่ปลด
6.5.9.2 มาตรการในการคายประจุ
ให้มีการคายประจุ โดยใช้วงจรคายประจทุ ี่ต่ออย่างถาวรกบั คาปาซิเตอร์หรือมีอุปกรณ์ที่จะ
ต่อเข้ากับขวั้ ของชุดคาปาซิเตอร์โดยอัตโนมัติเม่ือปลดคาปาซิเตอร์ออกจากแหล่งจ่ายไฟฟ้ า
นอกจากคาปาซเิ ตอร์ชดุ นีจ้ ะตอ่ ตรงเข้ากบั ขดลวดของมอเตอร์ หรือของหม้อแปลง หรือบริภณั ฑ์
ไฟฟ้ าอ่ืน แตช่ ว่ งเวลาการคายประจตุ ้องเป็ นไปตามข้อ 6.5.9.1
6.5.10 การป้ องกันกระแสเกนิ
ก) ต้องจดั ให้มีมาตรการตรวจจบั และตดั กระแสลดั วงจรซงึ่ ทําให้เกิดความดนั ภายใน
คาปาซิเตอร์ แตล่ ะตวั ที่เป็ นอนั ตราย
ข) การป้ องกนั คาปาซเิ ตอร์จะทําเฉพาะแตล่ ะตวั หรือทงั้ กลมุ่ ก็ได้
ค) เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกิน อนญุ าตให้ใช้ชนิดหนงึ่ เฟสก็ได้
ง) เครื่องป้ องกนั สาํ หรับคาปาซิเตอร์ และบริภณั ฑ์ท่ีมีคาปาซิเตอร์ ต้องมีพกิ ดั หรือ
ขนาดปรับตงั้ เพื่อให้คาปาซเิ ตอร์แตล่ ะตวั ทํางานได้โดยไมเ่ สียหาย
6.5.11 การสับและการปลด
6.5.11.1 กระแสโหลด
การสบั หรือปลดคาปาซิเตอร์ ต้องใช้สวติ ช์ท่ีทํางานพร้อมกนั ทกุ เฟส (group-operated switch)
ซงึ่ มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี ้
ก) ความสามารถในการนํากระแสไฟฟ้ าตอ่ เน่ือง ต้องไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 135 ของ
พกิ ดั กระแสของคาปาซิเตอร์ที่ตดิ ตงั้
ข) สามารถตดั กระแสโหลดตอ่ เน่ืองสงู สดุ ของคาปาซเิ ตอร์ท่ีตอ่ อยู่ ในสภาพการใช้
งานปกตไิ ด้
ค) สามารถทนกระแสไฟกระโชก (inrush current) คา่ สงู สดุ ท่ีอาจเกิดขนึ ้ ในวงจร
รวมทงั ้ กระแสท่ีมาจากคาปาซิเตอร์ที่อยขู่ ้างเคียงได้
ง) สามารถทนกระแสลดั วงจรท่ีอาจเกิดขนึ ้ ทางด้านท่ีตอ่ เข้ากบั คาปาซิเตอร์ได้
บทท่ี 6 บริภัณฑ์ไฟฟ้ า 6-33
6.5.11.2 การแยกวงจร
ก) ต้องมีสวติ ช์แยกวงจร เพ่ือแยกคาปาซิเตอร์ออกจากวงจร
ข) ระยะหา่ งระหวา่ งสว่ นที่มีไฟฟ้ าท่ีแยกออกจากกนั เม่ือทําการปลดสวิตช์แยก
วงจรแล้ว ต้องมากพอท่ีจะทนแรงดนั ไฟฟ้ าที่ใช้งานกบั คาปาซเิ ตอร์ได้
ค) สวิตช์แยกวงจร หรือเคร่ืองปลดวงจรที่ไม่กําหนดพกิ ดั ตดั กระแสลดั วงจร ต้องมี
อินเตอร์ลอ็ ก (interlock) กบั เคร่ืองปลดโหลด (load-interrupting device)
หรือจดั ทําเครื่องหมาย หรือตดิ ป้ ายเตอื นให้สบั หรือปลดเคร่ืองปลดโหลดก่อน
6.5.12 การต่อลงดนิ
เปลือกโลหะของคาปาซเิ ตอร์ต้องตอ่ ลงดนิ ตามที่กําหนดในบทท่ี 4 ตวั นําลงดนิ เป็ นทองแดง
ขนาดไม่เลก็ กวา่ 35 ตร.มม. ยกเว้น คาปาซิเตอร์ทีต่ ิดตงั้ บนโครงสร้างชนิดทีเ่ ปลือกของคาปา
ซิเตอร์มีแรงดนั ไม่เทา่ กบั ดินไม่ตอ้ งต่อลงดิน
6.5.13 เคร่ืองหมายแสดงพกิ ัด
คาปาซเิ ตอร์แตล่ ะตวั ต้องมีแผน่ ป้ ายประจําเครื่องอยา่ งถาวรระบชุ ื่อผ้ผู ลติ พกิ ดั แรงดนั ความถี่
ไฟฟ้ า กิโลวตั ต์ จํานวนเฟสและถ้าบรรจขุ องเหลวตดิ ไฟได้ ต้องระบปุ ริมาณของของเหลวนนั้ ด้วย
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-1
บทท่ี 7
บริเวณอันตราย
ข้อกําหนดในบทนีเ้ ก่ียวกบั การออกแบบและติดตงั้ ระบบไฟฟ้ าสําหรับบริเวณอนั ตราย โดยแบ่ง
ออกเป็ น 2 มาตรฐาน กลา่ วคือ มาตรฐานที่ 1 (NEC) กําหนดในข้อ 7.2 ถึง ข้อ 7.6 ถกู จําแนก
บริเวณอนั ตรายเป็ นประเภทท่ี 1 ประเภทที่ 2 และ ประเภทท่ี 3 มาตรฐานท่ี 2 (IEC) กําหนด
ในข้อ 7.7 ถกู จําแนกบริเวณอนั ตรายเป็ น โซน 0 โซน 1 และ โซน 2
7.1 ท่วั ไป
การเดินสายและติดตงั้ อุปกรณ์ไฟฟ้ าสําหรับบริเวณอันตรายให้ปฏิบตั ิตามข้อกําหนดในบทนี ้
กรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในบทนีใ้ ห้ปฏิบตั ิตามข้อกําหนดของมาตรฐานการติดตงั้ ทางไฟฟ้ าสําหรับ
ประเทศไทยในสว่ นที่เกี่ยวข้อง
7.1.1 ขอบเขต
บทที่ 7 ครอบคลมุ ข้อกําหนดสําหรับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงวิธีการ
เดนิ สายทกุ ระดบั แรงดนั ในบริเวณที่อาจเกิดเพลงิ ไหม้หรือเกิดการระเบิด เน่ืองจากก๊าซ ไอระเหย
หรือของเหลวท่ีตดิ ไฟได้ ฝ่ นุ ที่เผาไหม้ได้ เส้นใยหรือละอองท่ีตดิ ไฟได้
7.1.2 การจาํ แนกบริเวณอันตราย
7.1.2.1 การจําแนกบริเวณอนั ตราย การเดนิ สายและการตดิ ตงั ้ อปุ กรณ์ไฟฟ้ า ให้ปฏิบตั ติ ามข้อ
7.1.2.3 หรือ ข้อ 7.1.2.4
7.1.2.2 ไม่อนญุ าตให้บริเวณอนั ตรายท่ีจําแนกคนละวิธีกนั ทบั ซ้อนกนั
คําอธิบาย ไม่อนญุ าต ใหน้ ําวิธีการในการจําแนกบริเวณอนั ตรายทีแ่ ตกต่างกนั มาใชผ้ สมกนั ในการ
จําแนกบริเวณอนั ตรายบริเวณ เดียวกนั เช่น ในพื้นที่หนึ่งๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วนย่อย
หลายส่วนตอ้ งไม่จําแนกบริเวณอนั ตรายของพืน้ ที่ส่วนย่อยบางส่วนเป็นโซน 0 โซน 1
หรือโซน 2 ในขณะทีบ่ ริเวณอนั ตรายของพืน้ ทีส่ ่วนย่อยอีกบางส่วนถูกจําแนกเป็น บริเวณ
อนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 1 หรือประเภทที่ 1 แบบที่ 2 เป็นตน้
7.1.2.3 บริเวณอนั ตรายมาตรฐานที่ 1 (NEC) จําแนกเป็ นประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 (Class I
,Division I) ประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 (Class I ,Division II) ประเภทที่ 2 แบบท่ี 1 (Class II
,Division I) ประเภทที่ 2 แบบท่ี 2 (Class II ,Division II) ประเภทที่ 3 แบบที่ 1(Class III
,Division I) และ ประเภทท่ี 3 แบบที่ 2 (Class III ,Division II) ให้เป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ
7.2 ถึง ข้อ 7.6
7-2 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
7.1.2.4 บริเวณอนั ตรายมาตรฐานที่ 2 (IEC) ถกู จําแนกเป็ น โซน (Zone) 0 โซน (Zone) 1
และ โซน (Zone) 2 ให้เป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 7.7
7.2 บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 ประเภทท่ี 2 และ ประเภทท่ี 3
7.2.1 การจาํ แนกบริเวณและข้อกาํ หนดท่วั ไป
การจําแนกบริเวณขนึ ้ อย่กู บั คณุ สมบตั ิของไอระเหย ก๊าซ หรือของเหลวที่ตดิ ไฟได้ ฝ่ นุ หรือเส้นใย
ที่ลกุ ไหม้ได้ ซง่ึ อาจมีขนึ ้ และมีความเป็ นไปได้ที่จะมีความเข้มข้น หรือมีปริมาณมากพอที่จะทําให้
เกิดการลกุ ไหม้หรือเกิดเพลิงไหม้ได้ สถานที่ซง่ึ มีการใช้สารไพโรฟอริก (pyrophoric) เพียงชนิด
เดยี ว ไมจ่ ดั เป็ นบริเวณอนั ตราย
ในการพิจารณาจําแนกประเภทแตล่ ะห้อง สว่ น หรือพืน้ ท่ี จะแยกพิจารณาโดยเฉพาะ
ข้อยกเว้นท่ี 1 ข้อกําหนดต่างๆ ในตอนตน้ นีใ้ หใ้ ช้กบั บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าและการเดินสายใน
ข้อยกเว้นท่ี บริเวณอนั ตราย (แยกประเภท) ได้ ยกเวน้ ทีไ่ ดเ้ พ่ิมเติมในขอ้ 7.1 ถึง 7.5
ข้อยกเว้นที่
2 เครื่องสําเร็จและการเดินสายที่รับรองว่าปลอดภัยอย่างแท้จริ ง อนุญาตให้ใช้ใน
บริเวณอนั ตรายตามทีไ่ ดร้ บั การรบั รองได้ โดยไม่ต้องทําตามขอ้ 7.3 ถึง 7.5
3 การเดินสายของวงจรที่รับรองว่าปลอดภยั อย่างแท้จริง ต้องติดตง้ั แยกออกจากวงจรอื่น ๆ
และตอ้ งจดั ทําใหม้ ีก๊าซหรือไอระเหยส่งผ่านเข้ามาไดน้ อ้ ยทีส่ ดุ
ข้อยกเว้นที่ 4 ท่อร้อยสายทีก่ ล่าวถึงในทีน่ ี้ ตอ้ งทําเกลียว โดยมีความลาดเอียง 1 ต่อ 16 มม. แต่ละท่อ
ร้อยสายที่ต่อกนั ต้องสามารถขนั แน่นเพือ่ ลดการเกิดประกายไฟเมื่อเกิดกระแสลดั วงจร
ไหลผ่านระบบท่อร้อยสายในทีซ่ ึ่งไม่สามารถขนั เกลียวใหแ้ น่นไดใ้ หใ้ ชส้ ายต่อฝากแทน
7.2.2 ข้อควรระวังเป็ นพิเศษ ข้อ 7.1 ถึง 7.5 ใช้สําหรับการจดั สร้างบริภณั ฑ์และการ
ติดตงั้ ซ่ึงให้ความปลอดภัยในการใช้งานภายใต้สภาวะการใช้งานและบํารุงรักษาท่ีเหมาะสม
สําหรับจุดประสงค์เพือ่ การทดสอบ การรับรอง และการจําแนกพืน้ ที่ ส่วนผสมต่างๆ ในอากาศ
(ไม่รวมส่วนทีม่ ีอ๊อกซิเจนมาก) ให้แบ่งเป็นกลุ่มตามทีก่ ําหนดในข้อ 7.2.2.1 และ 7.2.2.2
ยกเว้น บริภณั ฑ์ทีไ่ ดร้ บั การรบั รองสําหรบั ก๊าซ ไอระเหย หรือ ฝ่นุ ทีร่ ะบุ
7.2.2.1 การแบ่งกลุ่ม สาํ หรับบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบง่ เป็ นกลมุ่ ตา่ งๆ ดงั นี ้
7.2.2.1.1 กลุ่ม A คอื บริเวณที่มีบรรยากาศซงึ่ ประกอบด้วย อาเซททีลีน (acetylence)
7.2.2.1.2 กลุ่ม B คือบริเวณที่มีบรรยากาศซงึ่ ประกอบด้วย ก๊าซท่ีลกุ ไหม้ได้ ไอระเหยจาก
ของเหลวท่ีสามารถลกุ เป็ นไฟหรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวท่ีผสมกบั อากาศแล้วอาจทํา
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-3
ให้เกิดการไหม้หรือเกิดการระเบิดได้ ในกลมุ่ B มีคา่ MESG (maximum experimental save
gap) ไมเ่ กิน 0.45 มม. หรือมีอตั ราสว่ น MIC (minimum igniting currentratio) ไมเ่ กิน 0.40
โดยปกติ สารท่ีจดั ให้อยใู่ นกลมุ่ B คอื ไฮโดรเจน (hydrogen)
ข้อยกเว้นท่ี 1 บริภณั ฑ์ทีใ่ ชใ้ นบรรยากาศกล่มุ D อนญุ าตให้ใชใ้ นบรรยากาศทีม่ ีบิวทะ
ไดอีน (butadiene) ได้โดยท่อที่ต่อเข้ากบั อปุ กรณ์ทีท่ นการระเบิด
จะต้องปิ ดผนึกชนิดทนการระเบิดทีท่ ่อร้อยสายทงั้ หมดในตําแหน่งที่
อยู่ห่างจากเครื่องห่อห้มุ ไม่เกิน 450 มม (18 นิ้ว)
ข้อยกเว้นที่ 2 บริภณั ฑ์ที่ใช้ในบรรยากาศกล่มุ C อนญุ าตให้ใช้ในบรรยากาศที่มี
แอลลิล กลีซิได อีเทอร์ (allyl ethern-butyl glycidyl ether) เอ็นบิวทิล
กลีซิได อีเทอร์ ( n-butyl glycidyl ether) เอทิลีนออกไซด์ (ethylene
oxide) โพรพีลีนออกไซด์(propylene oxide) และอาโครเลอีน
(acrolein )ได้ โดยท่อที่ต่อเข้ากบั อุปกรณ์ที่ทนการระเบิดจะต้องปิ ด
ผนึกชนิดทนการระเบิดอดุ ภายในท่อร้อยสายทงั้ หมดในตําแหน่งทีอ่ ยู่
ห่างจากเครื่องห่อห้มุ ไม่เกิน 450 มม. (18 นิ้ว)
7.2.2.1.3 กลุ่ม C บริเวณที่มีบรรยากาศซงึ่ ประกอบด้วย ก๊าซท่ีลกุ ไหม้ได้ ไอระเหยจาก
ของเหลวที่สามารถลกุ เป็ นไฟหรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวท่ีผสมกบั อากาศแล้วอาจทํา
ให้เกิดการไหม้หรือเกิดการระเบิดได้ ในกลมุ่ C มีคา่ MESG มากกว่า 0.45 มม. แตไ่ ม่เกิน 0.75
มม.หรือมีอตั ราสว่ น MIC มากกวา่ 0.40 แตไ่ ม่เกิน 0.8
โดยปกติ สารท่ีจดั ให้อยใู่ นกลมุ่ C คือ เอทิลนี (ethylence)
7.2.2.1.4 กลุ่ม D บริเวณที่มีบรรยากาศซง่ึ ประกอบด้วย ก๊าซท่ีลกุ ไหม้ได้ ไอระเหยจาก
ของเหลวที่สามารถลกุ เป็ นไฟหรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวที่ผสมกบั อากาศแล้วอาจทํา
ให้เกิดการไหม้หรือเกิดการระเบดิ ได้ ในกลมุ่ D มีคา่ MESG มากกว่า 0.75 มม. หรือมีอตั ราสว่ น
MIC มากกว่า 0.8 โดยปกติสารท่ีจดั ให้อยใู่ นกลมุ่ D คือ โพรเพน (propane) ยกเว้น สําหรบั
บรรยากาศซึ่งประกอบด้วยแอมโมเนีย (ammonia) และเจ้าหนา้ ทีไ่ ด้กําหนดใหใ้ ช้ข้อบงั คบั ตาม
มาตรฐานนี้ อนญุ าตใหส้ ามารถจําแนกประเภทบริเวณอนั ตรายใหม่ใหเ้ ป็นบริเวณอนั ตรายนอ้ ยลง
หรือไม่เป็นบริเวณอนั ตรายได้
7.2.2.2 การแบ่งกลุ่มสาํ หรับบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบง่ เป็ นกลมุ่ ตา่ งๆ ดงั นี ้
7.2.2.2.1 กลุ่ม E บรรยากาศซึ่งประกอบด้วย ฝ่ นุ โลหะที่ลกุ ไหม้ได้ ซงึ่ ได้แก่ อะลมู ิเนียม
(aluminum) แมกนีเซียม (magnesium) และโลหะผสมของสารดงั กลา่ ว หรือฝ่ นุ ที่ลกุ ไหม้ได้ ซงึ่
7-4 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
ขนาดของฝ่ ุน การเสียดสีเน่ืองจากฝ่ นุ และสภาพการนําไฟฟ้ าของฝ่ ุน อาจทําให้เกิดอนั ตราย
เช่นเดียวกบั บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า
7.2.2.2.2 กลุ่ม F บรรยากาศซึ่งมีส่วนผสมของฝ่ ุนท่ีลุกไหม้ ได้ (combustible
carbonaceous dusts) สงู มากกว่าร้อยละ 8 ของปริมาณฝ่ นุ ทงั้ หมดท่ีดกั จบั ได้เมื่อมีการ
ทดสอบ เช่น ฝ่ นุ ของถ่านดํา (carbon black) ถ่านไม้ ถ่านหิน หรือฝ่ นุ ซงึ่ เกิดจากวสั ดอุ ่ืนเกิดที่มี
คณุ สมบตั สิ ามารถทําให้เกิดการระเบิดที่เป็ นอนั ตรายได้
7.2.2.2.3 กลุ่ม G บรรยากาศซง่ึ ประกอบด้วย ฝ่ นุ ที่ลกุ ไหม้ได้นอกเหนือจากที่ระบใุ นกลมุ่ E
และ F ได้แก่ฝ่ นุ ของ แป้ ง เมลด็ พืช ไม้ พลาสตกิ และสารเคมี
7.2.3 การรับรองบริภัณฑ์สาํ หรับประเภทและคุณสมบัติ บริภณั ฑ์ต้องเป็ นประเภทท่ี
ระบใุ ห้ใช้กบั สถานที่นนั้ ๆ และต้องรับรองสําหรับคณุ สมบตั ิของการระเบิด การลกุ ไหม้ หรือการ
จุดระเบิดของก๊าซ ไอระเหย ฝ่ นุ เส้นใย ละออง แต่ละชนิดที่อาจเกิดขึน้ นอกจากนี ้ บริภัณฑ์
สําหรับบริเวณอันตรายประเภทที่ 1 จะต้องไม่มีพืน้ ผิวเปิ ดโล่ง ซึ่งมีอุณหภูมิใช้งานสงู กว่า
อณุ หภมู ิจดุ ระเบิดของก๊าซหรือไอระเหย บริภณั ฑ์สําหรับสถานท่ีประเภทท่ี 2 ต้องไม่มีอณุ หภมู ิ
ภายนอกสงู กว่าท่ีกําหนดในข้อ 7.2.3.5 บริภณั ฑ์สําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 ต้องมี
อณุ หภมู ิสงู สดุ ของผิวด้านนอกไม่เกินท่ีกําหนดในข้อ 7.5.1 บริภณั ฑ์ท่ีได้รับการรับรองสําหรับ
สถานที่แบบท่ี 1 อนญุ าตให้ใช้ในสถานท่ีแบบที่ 2 ที่อยใู่ นประเภทและกลมุ่ เดยี วกนั ได้
7.2.3.1 นอกจากท่ีได้อนญุ าตเป็ นการเฉพาะในข้อ 7.3 ถึง 7.5 บริภณั ฑ์สําหรับใช้งานทวั่ ไป
หรือบริภณั ฑ์ที่อยใู่ นเครื่องหอ่ ห้มุ สาํ หรับใช้งานทวั่ ไป อนญุ าตให้ตดิ ตงั ้ ในสถานที่แบบท่ี 2 ได้ ถ้า
ในสภาพการทํางานปกตไิ ม่เป็ นสาเหตใุ ห้เกิดการจดุ ระเบิด
ถ้าไม่ได้มีการระบไุ ว้โดยเฉพาะ สภาพการใช้งานตามปกติของมอเตอร์ถือว่าเป็ นการใช้งานเต็ม
กําลงั คงท่ี
ในท่ีซง่ึ ก๊าซที่ติดไฟได้และฝ่ นุ ที่ลกุ ไหม้ได้อาจเกิดขนึ ้ ในเวลาเดียวกนั การกําหนดอณุ หภมู ิใช้งาน
ท่ีปลอดภยั ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ต้องคํานงึ ถึงสภาพดงั กลา่ วด้วย
7.2.3.2 บริภณั ฑ์ที่ได้ยอมรับให้ใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 หรือแบบที่ 2,
ประเภทท่ี 2 แบบที่ 1 หรือแบบที่ 2, ประเภทท่ี 3 แบบที่ 1 หรือแบบที่ 2 ต้องมีการรับรองจาก
สถาบนั ท่ีเช่ือถือได้ เช่น UL.CSA. ECCS PTB LCIE หรือ CSI เป็ นต้น
7.2.3.3 การทาํ เคร่ืองหมาย (Marking) บริภณั ฑ์ที่ได้รับการรับรองแล้ว ต้องมีเครื่องหมาย
แสดงประเภท กลมุ่ อณุ หภมู ิใช้งานหรือช่วงอณุ หภมู ิใช้งาน โดยอ้างอิงกบั อณุ หภมู ิโดยรอบ40ºC
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-5
ข้อยกเว้นที่ 1 บริภณั ฑ์ชนิดที่ไม่ทําให้เกิดความร้อน เช่น กล่องต่อสาย ท่อร้อยสาย และ
เครื่องประกอบและบริภณั ฑ์ทีท่ ําให้เกิดความร้อนสูงสดุ ไม่เกิน 100 ºC ไม่
ตอ้ งแสดงค่าอณุ หภูมิหรือช่วงอณุ หภูมิทีใ่ ชง้ าน
ข้อยกเว้นท่ี 2 ดวงโคมแบบติดประจําทีซ่ ึ่งมีเครื่องหมายแสดงสําหรบั ใช้แค่เฉพาะในบริเวณ
อนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2 หรือประเภทที่ 2 แบบที่ 2 ไม่ตอ้ งแสดง
เครื่องหมายระบกุ ล่มุ
ข้อยกเว้นที่ 3 บริภณั ฑ์สําหรับใช้งานทว่ั ไปแบบติดประจําทีใ่ นบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1
นอกจากดวงโคมแบบติดประจําทีซ่ ึ่งยอมให้ใชใ้ นบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1
แบบที่ 2 ได้ ไม่ตอ้ งแสดงเครื่องหมายแสดงประเภท แบบกล่มุ หรืออณุ หภูมิใช้
งาน
ข้อยกเว้นที่ 4 บริภณั ฑ์กนั ฝ่ นุ แบบติดประจําที่ ยกเวน้ ดวงโคมแบบติดประจําทีซ่ ึ่งยอมใหใ้ ช้
ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 2 และประเภทที่ 3 ไม่ตอ้ งแสดง
เครื่องหมายสําหรบั ประเภท แบบ กล่มุ หรืออณุ หภูมิใชง้ าน
ข้อยกเว้นท่ี 5 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีเ่ หมาะสมสําหรับอณุ หภูมิโดยรอบที่สูงเกิน 40°C (140°F)
ตอ้ งมีเครื่องหมายแสดงค่าสูงสดุ ของอณุ หภูมิโดยรอบ และอณุ หภูมิใชง้ าน หรือ
แสดงช่วงของอณุ หภูมิโดยรอบนนั้
7-6 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
ตารางท่ี 7-1
ระดบั อุณหภมู สิ ูงสุดท่ผี วิ สาํ หรับบริภณั ฑ์บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
อุณหภมู สิ ูงสุด เคร่ืองหมาย T-Code
องศาเซลเซียส (°C) องศาฟาเรนไฮต์ (°F) (Temperature Class)
450 842
300 572 T1
280 536 T2
260 500 T2A
230 446 T2B
215 419 T2C
200 392 T2D
180 356 T3
165 329 T3A
160 320 T3B
135 275 T3C
120 248 T4
100 212 T4A
85 185 T5
T6
ถ้าแสดงช่วงอณุ หภมู ิใช้งาน ให้ระบตุ ามเครื่องหมาย ท่ีแสดงในตารางท่ี 7-1 และเครื่องหมายท่ี
ระบบุ นป้ ายแสดงของบริภณั ฑ์ต้องเป็ นไปตามตารางที่ 7-1
บริภณั ฑ์ท่ีได้รับการรับรองสําหรับใช้งานได้ทงั้ ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2
ต้องแสดงค่าอุณหภูมิสูงสุดที่ใช้งานได้โดยปลอดภัย ซึ่งจะต้องพิจารณาจากสภาวะของการ
ก่อให้เกิดบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 และ 2 พร้อมกนั
7.2.3.4 ระดับอุณหภมู ิสาํ หรับบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 เครื่องหมายแสดงอณุ หภมู ิที่
ระบุในข้อ 7.2.3.3 ท่ีกล่าวมา การเลือกใช้ค่าอุณหภูมิสงู สดุ ที่ผิวของบริภัณฑ์ต้องมีค่าไม่เกิน
อณุ หภมู ิจดุ ระเบดิ ของก๊าซหรือไอระเหยที่เกี่ยวข้อง
อณุ หภมู ิที่กําหนดของแตล่ ะกลมุ่ ถือวา่ เป็ นอณุ หภมู ิจดุ ระเบดิ ที่ตํ่าที่สดุ ของวสั ดตุ า่ งๆ ในกลมุ่ เช่น
กลมุ่ D อณุ หภมู ิไมเ่ กิน 280°C (536°F) และ กลมุ่ C อณุ หภมู ิไมเ่ กิน 180°C (356°F)
อณุ หภมู ิจดุ ระเบิดสาํ หรับบริภณั ฑ์ที่ได้รับการรับรองแล้วให้เป็ นไปตามตารางที่ 7-1
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-7
7.2.3.5 ระดับอุณหภูมิสาํ หรับบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 เครื่องหมายแสดงอณุ หภมู ิท่ี
กลา่ วมาในข้อ 7.2.3.3 การเลอื กใช้คา่ อณุ หภมู ิสงู สดุ ที่ผิวของบริภณั ฑ์ต้องไมส่ งู เกินกวา่ อณุ หภมู ิ
จดุ ระเบิดของฝ่ นุ ที่เกี่ยวข้อง สําหรับฝ่ นุ ที่เป็ นสารอินทรีย์ซงึ่ อาจแห้งหรือกลายเป็ นถ่าน อณุ หภมู ิ
ท่ีแสดงต้องไม่เกินค่าตํ่าสดุ ของอุณหภูมิจดุ ระเบิดหรือไม่เกิน 165°C (329°F) อุณหภูมิจุด
ระเบิดสําหรับบริภณั ฑ์ที่ได้รับการรับรองแล้วให้เป็ นไปตามตารางท่ี 7-2
ตารางท่ี 7-2
ระดบั อุณหภมู สิ ูงสุดท่ผี วิ สาํ หรับบริภณั ฑ์บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2
บริเวณอันตราย บริภณั ฑ์ท่ไี ม่มีการใช้ บริภณั ฑ์ท่อี าจใช้โหลดเกนิ
ประเภทท่ี 2 โหลดเกนิ
เช่น มอเตอร์ หรือหม้อแปลง
กลุ่ม °C °F
E 200 392 ทาํ งานปกติ ทาํ งานไม่ปกติ
F 200 392
G 165 329 °C °F °C °F
200 392 200 392
150 302 200 392
120 248 165 329
7.2.4 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 คือ บริเวณที่ซึ่งมีก๊าซหรือไอระเหยท่ีติดไฟได้ผสมอย่ใู นอากาศ
ปริมาณมากพอที่จะทําให้เกิดการระเบิดได้ บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 จะหมายความรวมถึง
บริเวณตามท่ีกําหนดในข้อ 7.2.4.1 และ 7.2.4.2 ตอ่ ไปนีด้ ้วย
7.2.4.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ได้แก่
7.2.4.1.1 บริเวณท่ีในภาวะการทํางานตามปกติมีก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้นพอที่จะ
เกิดการระเบิดได้
7.2.4.1.2 บริเวณที่อาจมีก๊าซหรือไอระเหย ที่มีความเข้มข้นพอที่จะเกิดการระเบิดได้อยู่
บอ่ ยๆ เนื่องจากการซอ่ มแซม บํารุงรักษาหรือร่ัว
7.2.4.1.3 บริเวณที่เมื่อบริภัณฑ์เกิดความเสียหายหรือทํางานผิดพลาด อาจทําให้เกิดก๊าซ
หรือไอระเหยท่ีมีความเข้มข้นพอที่จะเกิดการระเบิด และอาจทําให้บริภัณฑ์ไฟฟ้ าขดั ข้องและ
กลายเป็ นแหลง่ กําเนิดประกายไฟได้
7.2.4.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 2 ได้แก่
7-8 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.2.4.2.1 บริเวณที่ใช้เก็บของเหลวติดไฟซ่ึงระเหยง่ายหรือก๊าซท่ีติดไฟได้ ซึ่งโดยปกติ
ของเหลว ไอระเหยหรือก๊าซนีจ้ ะถกู เก็บไว้ในภาชนะหรือระบบที่ปิ ด ซง่ึ จะร่ัวออกมาได้เฉพาะใน
กรณีที่บริภณั ฑ์ทํางานผิดปกติ
7.2.4.2.2 บริเวณมีการป้ องกันการระเบิดเน่ืองจากก๊ าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้น
เพียงพอโดยใช้ระบบระบายอากาศซึ่งทํางานโดยเคร่ืองจักรกล และอาจเกิดอันตรายได้หาก
ระบบระบายอากาศขดั ข้องหรือทํางานผดิ ปกติ
7.2.4.2.3 บริเวณท่ีอยใู่ กล้กบั บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 และอาจได้รับการถ่ายเท
ก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้นพอที่จะจดุ ระเบดิ ได้ในบางครัง้ ถ้าไม่มีการป้ องกนั โดยการทําให้
ความดนั ภายในห้องสงู กว่าความดนั บรรยากาศโดยการดูดอากาศสะอาดเข้ามาภายในห้อง
และมีระบบตรวจสอบด้านความปลอดภยั ที่มีประสิทธิผลหากระบบการอดั และระบายอากาศ
ทํางานผิดพลาด
7.2.5 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 คือ บริเวณที่มีฝ่ นุ ที่ทําให้เกิดการระเบิดได้ทําให้เกิดอันตราย
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 จะหมายความรวมถึงบริเวณตามท่ีกําหนดในข้อ 7.2.5.1 และ
7.2.5.2 ตอ่ ไปนีด้ ้วย
7.2.5.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ได้แก่
7.2.5.1.1 บริเวณท่ีมีฝ่ นุ ท่ีลกุ ไหม้ได้ อยใู่ นอากาศเป็ นปริมาณที่อาจทําให้เกิดสว่ นผสมท่ีอาจ
ระเบิดหรือจดุ ระเบดิ ได้ ภายใต้สภาวะการทํางานตามปกติ
7.2.5.1.2 บริเวณที่เมื่อเครื่องจกั รกลขดั ข้องหรือทํางานผิดปกติ อาจทําให้เกิดส่วนผสมท่ี
อาจระเบิดหรือจุดระเบิดได้ และอาจเป็ นแหล่งกําเนิดของการจุดระเบิดเม่ือบริภัณฑ์ไฟฟ้ า
ทํางานขดั ข้องหรือจากการทํางานของอปุ กรณ์ป้ องกนั หรือสาเหตอุ ื่น
7.2.5.1.3 บริเวณที่มีฝ่ นุ ท่ีมีคณุ สมบตั ิเป็ นตวั นําไฟฟ้ าที่ลกุ ไหม้ได้ในปริมาณท่ีเป็ นอนั ตราย
7.2.5.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ได้แก่
7.2.5.2. 1 บริเวณที่ตามปกติจะมีฝ่ นุ ท่ีลกุ ไหม้ได้อย่ใู นอากาศแต่มีปริมาณไม่มากพอที่จะทํา
ให้เกิดการระเบิดหรือจดุ ระเบิด และการสะสมของฝ่ นุ ไม่มีผลต่อการทํางานปกติของบริภัณฑ์
ไฟฟ้ าหรือเคร่ืองสาํ เร็จอื่น ฝ่ นุ นีอ้ าจเกิดขนึ ้ เน่ืองจากการขนถ่ายน้อยครัง้ หรือผดิ ขนั ้ ตอนหรือ จาก
กระบวนการผลติ
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-9
7.2.5.2.2 บริเวณซึ่งฝ่ ุนมีการสะสมในบริเวณใกล้เคียงกับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่ใช้งาน และมี
ปริมาณมากพอที่จะทําให้บริภณั ฑ์ระบายความร้อนได้ยาก หรืออาจจดุ ระเบิด ซ่ึงเกิดจากการ
ทํางานผดิ ปกตหิ รือการขดั ข้องของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า
7.2.6 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 3 คือ บริเวณท่ีมีเส้นใยหรือละอองที่จุดระเบิดได้ง่าย แต่ปกติจะไม่
ลอยอยใู่ นอากาศเป็ นปริมาณมากพอที่จะทําให้เกิดการจดุ ระเบดิ ได้ บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3
รวมถึงตามที่กําหนดในข้อ 7.2.6.1 และ 7.2.6.2 ตอ่ ไปนีด้ ้วย
7.2.6.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 แบบที่ 1 ได้แก่ บริเวณท่ีมีเส้นใยท่ีจดุ ระเบิดงา่ ยหรือมีการขนถ่าย
ผลติ หรือใช้งาน วตั ถทุ ี่ทําให้เกิดละอองที่จดุ ระเบิดได้
7.2.6.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 2
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 แบบที่ 2 ได้แก่ บริเวณที่เป็ นที่เก็บหรือขนถ่ายเส้นใยท่ีลกุ ไหม้ได้ง่าย
ยกเว้น ในกระบวนการผลิต
7.2.7 เทคนิคการป้ องกัน การออกแบบระบบป้ องกันของบริภัณฑ์ไฟฟ้ า ให้เป็ นไป
ตามตารางที่ 7-3
7-10 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
ตารางท่ี 7-3
เทคนิคการป้ องกัน (Protection Techniques)
สัญญลักษณ์ เทคนิคการป้ องกัน บริเวณอนั ตราย
XP Explosionproof Equipment ประเภทที่ 1 แบบที่ 1
IS ประเภทที่ 1 แบบท่ี 1
d Intrinsic Safety ประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1
e Flameproof enclosure ประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2
ia ประเภทที่ 1 แบบท่ี 1
ib Increased safety ประเภทท่ี 1 แบบที่ 2
m Intrinsic safety ประเภทที่ 1 แบบท่ี 2
nA Intrinsic safety ประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2
o Encapsulation ประเภทที่ 1 แบบที่ 2
p Nonsparking equipment ประเภทที่ 1 แบบที่ 2
q Oil immersion ประเภทที่ 1 แบบที่ 2
Purged and pressurized
Powder filled
7.3 บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
7.3.1 ท่วั ไป
กฎทวั่ ไปของมาตรฐานนีใ้ ช้กับการเดินสายไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์ ในบริเวณอันตรายประเภทที่ 1
ตามข้อ 7.2.4 ยกเว้น ตามทีไ่ ดป้ รบั ปรุงในขอ้ นี้
7.3.2 หม้อแปลงและคาปาซเิ ตอร์
7.3.2.1 ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ท่ีตดิ ตงั ้ ใน
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 1 มีข้อกําหนดดงั นี ้
7.3.2.1.1 บรรจุของเหลวติดไฟได้ หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ท่ีบรรจุของเหลวติดไฟได้
ต้องตดิ ตงั้ ในห้องตามข้อ 6.4 ตอน ค และมีข้อกําหนดเพมิ่ เตมิ ดงั นี ้
ก) ต้องไมม่ ีประตหู รือช่องเปิ ดถึงกนั ระหวา่ ง ห้องกบั บริเวณอนั ตราย แบบที่ 1
ข) ต้องมีการระบายอากาศเพียงพอที่จะระบายก๊าซ หรือไอระเหยที่ติดไฟออกได้
อยา่ งตอ่ เนื่อง
ค) ช่องหรือท่อระบายอากาศต้องมีทิศทางออกสู่บริเวณที่ปลอดภัย ภายนอก
อาคาร
ง) ช่องหรือท่อระบายอากาศต้องมีพืน้ ที่เพียงพอท่ีจะลดแรงระเบิดภายในห้องได้
และสว่ นของทอ่ ระบายอากาศที่อยใู่ นอาคารต้องทําด้วยคอนกรีตเสริมแรง
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-11
7.3.2.1.2 ไม่ได้บรรจุของเหลวติดไฟได้ หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ที่ไม่ได้บรรจขุ องเหลว
ตดิ ไฟได้ มีข้อกําหนดดงั นี ้
ก) ตดิ ตงั้ ในห้องตามข้อ 7.3.2.1.1 ข้างต้น หรือ
ข) เป็ นชนิดท่ีได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
7.3.2.2 ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ท่ีตดิ ตงั้ ใน
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2 ต้องเป็ นไปตามข้อ 6.4 ตอน ค.
7.3.3 เคร่ืองวัด เคร่ืองมือวัด และรีเลย์
7.3.3.1 ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 เครื่องวดั เครื่องมือวดั และรีเลย์
รวมทงั้ เครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ า หม้อแปลงเครื่องมือวดั ตวั ต้านทาน เครื่องเรียงกระแสและหลอด
เทอร์มิโอนิก ต้องมีเครื่องหอ่ ห้มุ ซง่ึ ได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1
เคร่ืองหอ่ ห้มุ ท่ีได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 หมายรวมถงึ
7.3.3.1.1 เคร่ืองหอ่ ห้มุ ท่ีทนการระเบดิ
7.3.3.1.2 เครื่องหอ่ ห้มุ อดั ชนิดอดั ความดนั
7.3.3.2 ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 เคร่ืองวดั เคร่ืองมือวดั และรีเลย์ ต้อง
เป็ นดงั นี ้
7.3.3.2.1 หน้าสัมผัส สวิตช์, เซอร์กิตเบรกเกอร์, หน้าสมั ผสั ปลด-สบั ของสวิตช์แบบกดป่ มุ
รีเลย์ กระดิ่งสัญญาณเตือนและแตรต้องมีเคร่ืองห่อหุ้มท่ีได้รับการรับรอง สําหรับบริเวณ
อนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ตามข้อ 7.3.3.1 ข้างต้น
ยกเว้น อนญุ าตให้ใช้เครื่องห่อหมุ้ แบบใช้งานทว่ั ไปได้ ถา้ หนา้ สมั ผสั ตดั กระแส
เป็นดงั นี้
1) จุ่มอยู่ในนํ้ามนั หรือ
2) อยู่ในช่องซึ่งปิ ดผนึกจนก๊าซและไอระเหยเข้าไม่ได้
3) อยู่ในวงจรซ่ึงไม่อาจปล่อยพลงั งานออกมาเพียงพอที่จะจุดระเบิด
สารผสมเฉพาะอย่างในบรรยากาศภายใตส้ ภาพการทํางานปกติ
7.3.3.2.2 ตัวต้านทานและบริภัณฑ์ท่ีคล้ายกัน ตวั ต้านทาน อุปกรณ์ความต้านทาน
หลอดเทอร์มิโอนิก (thermionic tubes) เครื่องเรียงกระแส (rectifiers) และบริภณั ฑ์ที่คล้ายกนั
ซึ่งใช้ในหรือใช้ร่วมกับเครื่องวดั เครื่องมือวดั และรีเลย์ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.3.1 ข้างต้น
ยกเว้น อนญุ าตใหใ้ ชเ้ ครื่องห่อหมุ้ แบบใชง้ านทว่ั ไปได้ ถา้ บริภณั ฑ์ไม่มีหนา้ สมั ผสั สําหรับปลด-
สบั หรือหนา้ สมั ผสั เลื่อน (นอกจากทีก่ ําหนดในข้อ 7.3.3.2.1 ข้างต้น) และถา้ อณุ หภูมิใชง้ าน
7-12 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
สูงสดุ ของผิวทีเ่ ปิ ดโล่งไม่เกินร้อยละ 80 ของอณุ หภูมิจุดระเบิดของก๊าซหรือไอระเหยทีเ่ กี่ยวข้อง
หรือไดท้ ดสอบแลว้ พบว่าไม่สามารถจุดระเบิดก๊าซหรือไอระเหยได้
7.3.3.2.3 ไม่มีหน้าสัมผัสสําหรับปลด-สับ ขดลวดหม้อแปลง ขดลวดอิมพีแดนซ์ โซลิ
นอยด์ และขดลวดอ่ืนซ่ึงไม่ใช้งานร่วมกับหน้าสมั ผสั เล่ือนหรือหน้าสมั ผสั สําหรับปลดสบั ซ่ึง
จําเป็ นต้องมีเครื่องหอ่ ห้มุ อนญุ าตให้ใช้เคร่ืองหอ่ ห้มุ แบบใช้งานทว่ั ไปได้
7.3.3.2.4 เคร่ืองสาํ เร็จสําหรับใช้งานท่ัวไป เคร่ืองสําเร็จท่ีทําขนึ ้ จากชิน้ สว่ นท่ีใช้สําหรับ
เครื่องห่อห้มุ ใช้งานทว่ั ไปและได้รับการยอมรับตามข้อ 7.3.3.2.1, 7.3.3.2.2 และ 7.3.3.2.3
ข้างต้น เครื่องห่อห้มุ เด่ียวสําหรับใช้งานทวั่ ไปของเครื่องสําเร็จนนั้ เป็ นท่ียอมรับด้วย ถ้าเคร่ือง
สําเร็จประกอบด้วยบริภณั ฑ์ตามข้อ 7.3.3.2.2 ข้างต้น อณุ หภมู ิสงู สดุ ที่ผิวของชิน้ สว่ นใดๆ ของ
เครื่องสําเร็จ ต้องแสดงไว้ด้านนอกของเครื่องหอ่ ห้มุ อยา่ งชดั เจนและถาวร หรือยอมให้บริภณั ฑ์ที่
ได้รับการรับรองแล้ว มีเครื่องหมายแสดงช่วงอุณหภูมิใช้งานท่ีเหมาะสมกับบริภัณฑ์โดยใช้
เครื่องหมายตามตารางที่ 7-1
7.3.3.2.5 ฟิ วส์ กรณีที่อนญุ าตให้ใช้เครื่องห่อห้มุ แบบใช้งานทว่ั ไปตามข้อ 7.3.3.2.1 ถึง
7.3.3.2.4 ข้างต้น ฟิ วส์สําหรับใช้ป้ องกนั กระแสเกินของวงจรเครื่องมือวดั และในการใช้งานปกติ
ไม่มีโหลดเกิน อนญุ าตให้ติดตงั้ ในเครื่องห่อห้มุ แบบใช้งานทว่ั ไปได้ ถ้าฟิ วส์นนั้ มีสวิตช์ซ่ึงเป็ นไป
ตามข้อ 7.3.3.2.1 ข้างต้น อยดู่ ้านหน้า
7.3.3.2.6 การต่อ เพ่ือความสะดวกในการเปล่ียนทดแทน อนุญาตให้ต่อเครื่องมือควบคมุ
ขบวนการตา่ งๆ ด้วยสายอ่อน เต้ารับและเต้าเสียบ โดยจดั ทําดงั นี ้
ก) มีสวติ ช์ที่เป็ นไปตามข้อ 7.3.3.2.1 เพ่ือไมใ่ ห้เต้าเสยี บทําหน้าที่ตดั กระแส
ข) กระแสต้องไม่เกิน 3 แอมแปร์ ท่ีแรงดนั ระบุ 240 โวลต์
ค) สายตอ่ ไฟเข้ายาวไม่เกิน 900 มม. ซึ่งเป็ นชนิดใช้งานหนกั พิเศษ หรือชนิดใช้
งานหนัก ถ้าติดตัง้ ในที่ที่มีการป้ องกันสายต่อไฟเข้านีต้ ่อผ่านเต้ารับและ
เต้าเสยี บแบบมีตวั ลอ็ กและตอ่ ลงดนิ
ง) มีเต้ารับเฉพาะที่จําเป็ นเทา่ นนั้
จ) เต้ารับต้องมีป้ ายเตือน ห้ามปลดเต้าเสียบขณะมีโหลด
7.3.4 วธิ ีการเดนิ สาย
วธิ ีการเดนิ สายต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.4.1 และ 7.3.4.2 ดงั นี ้
7.3.4.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1
7.3.4.1.1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 การเดนิ สายต้องใช้ทอ่ โลหะหนาแบบมี
เกลียว ท่อโลหะหนาปานกลางแบบมีเกลียว สําหรับกลอ่ ง เคร่ืองประกอบและข้อต่อต่างๆ ต้อง
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-13
เป็ นแบบมีเกลยี วเพื่อตอ่ กบั ทอ่ ร้อยสายหรือเครื่องประกอบการทําปลายสายเคเบิล และต้องเป็ น
แบบทนการระเบิด เกลียวของข้อตอ่ ต้องมีเกลียวสําหรับขนั ให้แน่นอย่างน้อยห้าเกลียว ที่ได้รับ
การับรองแล้วสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1
กรณีใช้สายเคเบิลชนิด MI ต้องมีเคร่ืองประกอบการทําปลายสายที่ได้รับการรับรองแล้วสําหรับ
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 การติดตงั้ สายเคเบิลชนิด MI ต้องติดตงั้ และยึดใน
ลักษณะท่ีไม่เกิดแรงดึงที่เครื่องประกอบปลายสาย ยกเว้น การติดตั้งท่อร้อยสายใต้ดิน
อนญุ าตใหใ้ ชท้ ่อร้อยสายอโลหะ หมุ้ คอนกรีตหนาไม่นอ้ ยกว่า 50 มม.(2 นิ้ว) และความลึกตอ้ ง
ไม่นอ้ ยกว่า 0.60 เมตร
7.3.4.1.2 ในที่ซงึ่ จําเป็ นต้องใช้การตอ่ ท่ียืดหยนุ่ ได้ เช่นที่ขวั ้ ของมอเตอร์ให้ใช้เครื่องประกอบ
แบบงอได้ซงึ่ ได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1
7.3.4.1.3 กลอ่ งตอ่ สายและข้อตอ่ ต้องเป็ นชนิดที่ได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตราย
ประเภทท่ี 1
7.3.4.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2
ใช้วิธีการเดินสายเช่นเดี่ยวกับ 7.3.4.1 หรือการเดินสายต้องใช้ท่อโลหะหนาแบบมีเกลียว ท่อ
โลหะหนาปานกลางแบบมีเกลียว บสั เวย์แบบมีปะเก็นและเครื่องห่อห้มุ รางเดินสายที่มีปะเก็น
และเครื่องหอ่ ห้มุ
สายเคเบิลชนิด PLTC และ ชนิด PLTC-ER หรือ สายเคเบิลชนิด ITCและ ชนิด ITC-ER ตดิ ตงั้
ในรางเคเบลิ ได้
สายเคเบิลชนิด MI, MC, MV, TC และเคร่ืองประกอบปลายสายต้องเป็ นชนิดที่ได้รับการรับรอง
แล้ว
สายเคเบิลชนิด ITC, ITC-ER, PLTC, PLTC-ER, MI, MC, MVหรือ TC อนญุ าตให้ตดิ ตงั้ ในราง
เคเบลิ ได้และต้องหลกี เลยี่ งไมใ่ ห้เกิดแรงดงึ ท่ีเครื่องประกอบปลายสาย
กลอ่ ง เคร่ืองประกอบและข้อตอ่ ไม่ต้องเป็ นชนิดทนการระเบิดในที่ซง่ึ ต้องการความออ่ นตวั เช่นที่
ขวั้ ของมอเตอร์ให้ใช้เครื่องประกอบโลหะอ่อนงอได้ ท่อโลหะอ่อนงอได้และเคร่ืองประกอบที่
ได้รับการรับรองแล้ว ท่อโลหะอ่อนงอได้กันของเหลวและเคร่ืองประกอบท่ีได้รับการรับรองแล้ว
ท่ออโลหะอ่อนงอได้กนั ของเหลวและเครื่องประกอบที่ได้รับการรับรองแล้ว สายอ่อนท่ีได้รับการ
รับรองสําหรับใช้งานหนกั พิเศษ พร้อมทงั้ เคร่ืองประกอบสายท่ีได้รับการรับรองแล้ว สายอ่อนที่ใช้
ต้องเป็ นชนิดท่ีมีตวั นําสําหรับตอ่ ลงดิน ยกเว้น การเดินสายในวงจรทีไ่ ม่ก่อให้เกิดพลงั งาน
พอทีจ่ ะทําใหเ้ กิดการจุดระเบิด อนญุ าตใหใ้ ชว้ ิธีเดินสายสําหรบั สถานทีธ่ รรมดาได้
7-14 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
7.3.5 การปิ ดผนึกและการระบาย (Sealing and Drainage)
การปิ ดผนึกท่อและระบบสายเคเบิลต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.5.1 ถึง 7.3.5.6 สารท่ีใช้ปิ ดผนึกต้อง
ได้รับการรับรองสําหรับสภาพและการใช้งาน สารปิ ดผนึกต้องใช้กับเคร่ืองประกอบปลายสายของ
สายเคเบิลชนิด MI เพ่ือกนั ความชืน้ และของเหลว
7.3.5.1 การปิ ดผนึกท่อในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 การปิ ดผนึกท่อใน
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 ต้องทําตามตาํ แหนง่ ตา่ งๆ ดงั นี ้
7.3.5.1.1 ในแตล่ ะทอ่ ร้อยสายที่ตอ่ เข้ากบั เคร่ืองหอ่ ห้มุ ท่ีทนการระเบดิ ได้
ก) เครื่องห่อห้มุ ของสวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ ฟิ วส์ รีเลย์ ตวั ต้านทานหรือเคร่ือง
สําเร็จอ่ืนท่ีทําให้เกิดอาร์ก ประกายไฟหรืออุณหภูมิสงู ท่ีเป็ นแหลง่ กําเนิดการ
ตดิ ไฟในสภาวะการทํางานตามปกติ หรือ
ข) ท่อขนาดตงั้ แต่ 50 มม. (2 นิว้ ) ขึน้ ไปและเคร่ืองห่อห้มุ ของปลายสาย หวั ตอ่
หรือ จดุ ตอ่ แยก รวมถึงในท่ีอณุ หภมู ิสงู เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ ของอณุ หภมู ิติดไฟ
ของก๊าซ หรือไอระเหยที่เกี่ยวข้อง
การปิ ดผนึกต้องทําในตําแหน่งที่อยหู่ า่ งจากเคร่ืองห่อห้มุ ไม่เกิน 450 มม. (18 นิว้ ) หวั ตอ่ ข้อตอ่
ข้องอ ข้องอมีฝาเปิ ด และข้อตอ่ เปิ ดรูปร่างคล้ายตวั “L”, “T” และรูปกากบาท ชนิดทนการระเบิด
เท่านนั้ ท่ีอนญุ าตให้ใช้เป็ นเคร่ืองประกอบระหว่างการปิ ดผนึกกับเครื่องห่อห้มุ ข้อต่อเปิ ดต้องมี
ขนาดไม่ ใหญ่กวา่ ทอ่ ร้อยสายขนาดใหญ่ท่ีสดุ
7.3.5.1.2 ในแตล่ ะทอ่ ร้อยสาย ที่ตอ่ เข้ากบั เคร่ืองหอ่ ห้มุ ที่ระบายความดนั หรือเปลือกครอบขวั้
สาย จดุ ตอ่ สาย หรือจดุ ตอ่ แยกสายภายในระยะ 450 มม. (18 นิว้ ) จากเครื่องห่อห้มุ หรือเคร่ือง
ประกอบนนั้
7.3.5.1.3 ในท่ีซึ่งเครื่องห่อห้มุ ตงั้ แต่ 2 เคร่ืองขึน้ ไปซึ่งต้องมีการปิ ดผนึกตามข้อ 7.3.5.1.1
และ 7.3.5.1.2 ข้างต้นตอ่ ด้วยนิปเพิล หรือทอ่ ร้อยสายยาวไม่เกิน 900 มม. (36 นิว้ ) การปิ ดผนึก
เพียงที่เดียวที่นิปเพิลหรือท่อถือว่าเป็ นการเพียงพอ ถ้าอยู่ห่างจากแต่ละเคร่ืองห่อหุ้มไม่เกิน
450 มม. (18 นิว้ )
7.3.5.1.4 ในแตล่ ะท่อร้อยสายท่ีออกจากบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 อนญุ าตให้ใช้
อปุ กรณ์ปิ ดผนกึ ที่ด้านใดด้านหนึ่งของสถานท่ีนนั้ ภายในระยะ 3.00 เมตร และต้องออกแบบและ
ติดตงั้ ให้มีก๊าซหรือไอระเหยเล็ดลอดเข้าไปในระบบท่อท่ีอยู่ในสถานท่ีแบบท่ี 1 ได้น้อยท่ีสุด
ยกเว้นท่อลดแบบกนั ระเบิดท่ีได้รับการรับรองที่จดุ ปิ ดผนึกทอ่ ต้องไม่มี หวั ตอ่ ข้อตอ่ กลอ่ ง หรือ
เคร่ืองประกอบในทอ่ ซงึ่ อยรู่ ะหวา่ งอปุ กรณ์ปิ ดผนกึ และจดุ ท่ีทอ่ ออกจากบริเวณอนั ตรายแบบที่ 1
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-15
ยกเว้น ท่อโลหะซ่ึงวางผ่านบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 1 โดยไม่มี หวั ต่อ ข้อต่อ กล่อง
หรือ เครื่องประกอบ และในระยะ 300 มม. (12 นิ้ว) ทีเ่ ลยออกจากขอบเขตของบริเวณอนั ตราย
ไม่มีเครื่องประกอบการเดินท่อ ไม่จําเป็นตอ้ งปิ ดผนึกถา้ ปลายทอ่ ไม่อยู่ในบริเวณอนั ตราย
7.3.5.2 การปิ ดผนึกท่อในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตราย
ประเภทที่ 1 แบบท่ี 2 การปิ ดผนกึ ทอ่ ต้องทําตามตาํ แหนง่ ตา่ งๆ ดงั นี ้
7.3.5.2.1 สําหรับการต่อเข้ากบั เครื่องห่อหุ้มชนิดทนการระเบิดซึ่งได้รับการรับรองให้ใช้
สําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 การปิ ดผนึกต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.5.1.1 ถึง 7.3.5.1.3
ข้างต้น ทกุ สว่ นของท่อหรือนิปเพิลระหว่างจดุ ท่ีปิ ดผนึกกบั แตล่ ะเคร่ืองหอ่ ห้มุ ต้องเป็ นไปตามข้อ
7.3.5.1.4
7.3.5.2.2 การวางท่อผ่านบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 2 ไปยงั สถานที่ธรรมดา
อนุญาตให้มีการปิ ดผนึกที่ด้านใดด้านหนึ่งของสถานท่ีนนั้ แต่ต้องออกแบบและติดตงั้ เพื่อให้มี
ก๊าซ หรือไอระเหยเล็ดลอดเข้าไปในระบบทอ่ ที่อยใู่ นบริเวณอนั ตรายแบบท่ี 2 ได้น้อยท่ีสดุ การ
วางท่อระหว่างจดุ ที่ปิ ดผนึกกบั จดุ ท่ีท่อออกจากบริเวณอนั ตรายแบบที่ 2 ต้องใช้ท่อโลหะหนา
หรือท่อโลหะหนาปานกลางแบบมีเกลียวและจดุ ที่ปิ ดผนึกต้องใช้ข้อต่อแบบมีเกลียว ยกเว้นท่อ
ลดแบบกนั ระเบิดท่ีได้รับการรับรองท่ีจดุ ปิ ดผนึกท่อและต้องไม่มีหวั ต่อ ข้อต่อ กล่องหรือเครื่อง
ประกอบในทอ่ ท่ีอยรู่ ะหวา่ งอปุ กรณ์ปิ ดผนกึ และจดุ ท่ีทอ่ ออกจากบริเวณอนั ตรายแบบที่ 2
ข้อยกเว้นท่ี 1 ท่อโลหะซ่ึงวางผ่านบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2 โดยไม่มีหวั ต่อข้อ
ต่อกล่องหรือเครื่องประกอบ และในระยะ 300 มม. (12 นิ้ว) ทีเ่ ลยออกจาก
ขอบเขตของบริเวณอนั ตรายไม่มีเครื่องประกอบการเดินท่อ ไม่จําเป็นต้อง
ปิ ดผนึกถา้ ปลายท่อไม่อยู่ในบริเวณอนั ตราย
ข้อยกเว้นที่ 2 ระบบท่อซ่ึงมีจุดส้ินสดุ ไม่อยู่ในบริเวณอนั ตรายและอยู่ภายนอกอาคาร และมี
การเปลีย่ นวิธีการเดินสายเป็นการเดินสายโดยใช้ รางเคเบิล ทางเดินเคเบิล
ทางเดินบสั แบบมีช่องระบาย สายเคเบิลชนิด MI หรือการเดินสายแบบเปิ ด
ไม่จําเป็ นต้องทําการปิ ดผนึกในที่ซ่ึงระบบท่อวางผ่านบริ เวณอันตราย
ประเภทที่ 1 แบบที่ 2 ไปยงั สถานทีธ่ รรมดา สถานทีธ่ รรมดาตอ้ งเป็นส่วน
ภายนอกอาคาร ยกเวน้ ถา้ ระบบการเดินท่อร้อยสายทง้ั หมดอยู่ในหอ้ ง ใหถ้ ือ
เป็นสายภายในอาคาร ท่อตอ้ งไม่มีจุดสิ้นสดุ ทีเ่ ครื่องห่อหมุ้ ซึ่งเป็นแหล่งทีท่ ํา
ใหเ้ กิดการจดุ ระเบิด
7.3.5.3 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2 ในท่ีซึง่ ต้องการปิ ดผนึกของ
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2 ต้องเป็ นดงั นี ้
7-16 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.3.5.3.1 เคร่ืองประกอบ (Fittings) เคร่ืองหอ่ ห้มุ สําหรับจดุ ตอ่ หรือบริภณั ฑ์ ต้องมีวิธีการปิ ด
ผนกึ หรืออปุ กรณ์ปิ ดผนกึ ท่ีได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 อปุ กรณ์ปิ ดผนกึ
ต้องอยใู่ นท่ีซงึ่ เข้าถงึ ได้
7.3.5.3.2 สารประกอบ(Compound) สารประกอบท่ีใช้เป็ นสารปิ ดผนึก ต้องเป็ นชนิดท่ี
ได้รับการรับรองแล้ว สามารถป้ องกันไม่ให้ก๊าซหรือไอระเหยเล็ดลอดผ่านได้ ต้องไม่มีผล
เนื่องจากบรรยากาศโดยรอบหรือของเหลว และต้องมีจดุ หลอมเหลวไม่ตา่ํ กวา่ 93 °C (200 °F)
7.3.5.3.3 ความหนาของสารประกอบ เมื่อปิ ดผนึกเสร็จความหนาของสารประกอบท่ีใช้ปิ ด
ผนกึ ต้องไม่น้อยกวา่ ขนาดของทอ่ และต้องไมน่ ้อยกวา่ 16 มม. (5/8 นิว้ )
7.3.5.3.4 การต่อและการต่อแยก การต่อและการต่อแยกต้องไม่ทําในเคร่ืองประกอบ
สําหรับใส่สารปิ ดผนึกหรือเคร่ืองประกอบอื่นซึง่ การต่อและการตอ่ แยกจะต้องใสส่ ารสําหรับปิ ด
ผนกึ
7.3.5.3.5 ชุดประกอบสาํ เร็จ (Assemblies) ในชดุ ประกอบสําเร็จที่ซง่ึ บริภณั ฑ์ท่ีอาจทําให้
เกิดอาร์ก ประกายไฟ หรืออณุ หภมู ิสงู ตดิ ตงั้ ในสว่ นที่แยกตา่ งหากจากสว่ นที่มีการตอ่ หรือการตอ่
แยก และมีการปิ ดผนกึ ในจดุ ที่ตวั นําผ่านจากสว่ นหนึ่งไปสว่ นอื่น ชดุ ประกอบสําเร็จนนั้ ต้องได้รับ
การรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 การปิ ดผนึกในท่อที่ตอ่ เข้ากบั ส่วนที่มีการตอ่ หรือ
การตอ่ แยกต้องเป็ นแบบท่ีใช้กบั บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ตามข้อ 7.3.5.1.2 ข้างต้น
7.3.5.4 การปิ ดผนึกสายเคเบิลในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ในบริเวณ
อนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 สายเคเบิลหลายแกนแตล่ ะเส้นให้ถือวา่ เป็ นตวั นําเดียว ถ้าสาย
เคเบิลเป็ นชนิดป้ องกันไม่ให้ก๊าซหรือไอระเหยผ่านเข้าทางแกนสายเคเบิลได้ การปิ ดผนึกสาย
เคเบลิ ให้เป็ นไปตามข้อ 7.3.5.1 ข้างต้น
สายเคเบิลชนิดกนั ก๊าซหรือไอระเหยที่มีเปลือกห้มุ ตลอด แต่ก๊าซหรือไอระเหยสามารถผ่านเข้า
ทางแกนได้ เมื่ออย่ใู นบริเวณอนั ตรายแบบที่ 1 ต้องมีการปิ ดผนึกเม่ือมีการปอกเปลือกเพ่ือให้
สารปิ ดผนกึ ห้มุ แต่ละตวั นําและเปลือกนอกทงั้ หมด ยกเว้น สายเคเบิลหลายแกนชนิดกนั ก๊าซ
หรือไอระเหยทีม่ ีเปลือกหมุ้ ตลอด แต่ก๊าซหรือไอระเหยสามารถผ่านเข้าทางแกนได้ อนญุ าตใหถ้ ือ
เป็นตวั นําเดียวโดยการปิ ดผนึกสายเคเบิลทีอ่ ยู่ในท่อร้อยสายทีม่ ีเครื่องห่อหมุ้ ยาวไม่เกิน 450 มม.
(18 นิ้ว) และจุดสิ้นสดุ ของสายเคเบิลอยู่ในเครื่องห่อหมุ้ การปิ ดผนึกนีต้ อ้ งใชว้ ิธีทีไ่ ด้รับการรับ-
รองแล้วว่าสามารถป้ องกนั ก๊าซหรือไอระเหยผ่านเข้าไปหรือป้ องกนั การแผ่ขยายของเปลวเพลิง
เขา้ ไปในแกนของสายเคเบิล หรือโดยวิธีการอืน่ ทีไ่ ดร้ บั การรบั รองแลว้
7.3.5.5 การปิ ดผนึกสายเคเบิล ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณ
อนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2 การปิ ดผนกึ ให้เป็ นดงั นี ้
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-17
7.3.5.5.1 ต้องปิ ดผนึกจุดที่สายเคเบิลเข้าสู่เครื่องห่อหุ้มที่ได้รับการรับรอง สําหรับบริเวณ
อนั ตรายประเภทที่ 1 อปุ กรณ์ปิ ดผนึกต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.5.2.1 ข้างต้น สายเคเบิลหลายแกน
ชนิดกนั ก๊าซหรือไอระเหยท่ีมีเปลอื กห้มุ ตลอด แตก่ ๊าซหรือไอระเหยสามารถผา่ นเข้าทางแกนได้ ถ้า
อย่ใู นบริเวณอนั ตรายแบบที่ 2 ต้องมีการปิ ดผนึกในเครื่องประกอบท่ีได้รับการรับรองแล้วหากมี
การปอกเปลือก เพื่อให้สารปิ ดผนึกห้มุ แตล่ ะตวั นําทงั้ หมด ทงั้ นีเ้พ่ือให้มีก๊าซหรือไอระเหยผ่านเข้า
ไปได้น้อยท่ีสดุ สายเคเบิลหลายแกนในทอ่ ต้องทําการปิ ดผนกึ ตามข้อ 7.3.5.4 ข้างต้น
7.3.5.5.2 สายเคเบิลหลายแกนชนิดกนั ก๊าซหรือไอระเหย ที่มีเปลือกห้มุ ตลอดและก๊าซหรือไอ
ระเหยไม่สามารถผา่ นเข้าทางแกนได้เกินกวา่ ปริมาณท่ีผ่านอปุ กรณ์ปิ ดผนกึ ได้ไม่จําเป็ นต้องมีการ
ปิ ดผนกึ นอกจากจะกําหนดไว้ในข้อ 7.3.5.5.1 ข้างต้น ความยาวตํ่าสดุ ของสายเคเบิลต้องไม่น้อย
กว่าความยาวท่ีจํากดั การไหลผา่ นของก๊าซหรือไอระเหยผ่านทางแกนสายเคเบิลไม่ให้เกินอตั ราท่ี
ผา่ นอปุ กรณ์ปิ ดผนกึ (200 ลบ.ซม. ตอ่ ชวั่ -โมง) ของอากาศท่ีความดนั 1500 พาสคลั (Pascal)
7.3.5.5.3 สายเคเบิลชนิดกันก๊าซหรือไอระเหย ท่ีมีเปลือกหุ้มตลอดและก๊าซหรือไอระเหย
สามารถผา่ นเข้าทางแกนได้ไม่จําเป็ นต้องมีการปิ ดผนึกนอกจากที่กําหนดในข้อ 7.3.5.5.1 ข้างต้น
ถ้าสายเคเบิลนนั้ ไม่ได้อย่ตู ิดกบั บริภณั ฑ์หรืออปุ กรณ์ท่ีเกี่ยวกบั การผลิต ซงึ่ อาจทําให้เกิดแรงดนั
เกิน 1500 พาสคลั ท่ีปลายสายเคเบิล ในกรณีนีต้ ้องจดั ให้มีการปิ ดผนึกหรือกนั้ เพ่ือป้ องกนั การตดิ
ไฟแผข่ ยายเข้าสสู่ ถานท่ีธรรมดา ยกเว้น สายเคเบิลชนิดกนั ก๊าซหรือไอระเหยทีม่ ีเปลือกหมุ้ ตลอด
และไม่มีจุดแตกชํารุดอนญุ าตใหว้ างผ่านบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2 ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งมี
การปิ ดผนึก
7.3.5.5.4 สายเคเบิลชนิดไม่มีเปลือกห้มุ ตลอดเพื่อกันก๊าซหรือไอระเหยต้องมีการปิ ดผนึกท่ี
ขอบเขตของบริเวณอนั ตรายแบบท่ี 2 และสถานท่ีธรรมดา เพื่อให้มีการสง่ ผา่ นก๊าซหรือไอระเหย
เข้าสสู่ ถานที่ธรรมดาน้อยที่สดุ
7.3.5.6 การระบาย (Drainage)
7.3.5.6.1 บริภณั ฑ์สาํ หรับควบคุม ในท่ีซงึ่ ของเหลวหรือไอระเหยที่กลนั่ ตวั เป็ นของเหลวได้
มีโอกาสเข้าไปภายในเคร่ืองห่อห้มุ ของบริภณั ฑ์สําหรับควบคมุ หรือท่ีใดๆ ในระบบช่องเดินสาย
ต้องมีวิธีการที่รับรองแล้วเพ่ือไม่ให้เกิดการสะสม หรือต้องมีการระบายของเหลวหรือไอระเหยท่ี
กลนั่ ตวั เป็ นระยะ
7.3.5.6.2 มอเตอร์และเคร่ืองกาํ เนิดไฟฟ้ า ในท่ีซง่ึ เจ้าหน้าที่ผ้มู ีอํานาจตดั สินวา่ มีโอกาส
ที่ของเหลวหรือไอระเหยท่ีกลนั่ ตวั อาจเกิดการสะสมในตวั มอเตอร์หรือเครื่องกําเนิดไฟฟ้ าต้อง
จดั ทําจดุ ตอ่ และระบบท่อให้มีของเหลวผา่ นเข้าไปได้น้อยท่ีสดุ ถ้าการตดั สินนนั้ จําเป็ นท่ีจะต้อง
7-18 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
ให้มีการป้ องกนั การสะสมหรือมีการระบายเป็ นระยะ วิธีการท่ีเหมาะสมต้องจดั ทําพร้อมกบั การ
ผลติ และเป็ นสว่ นหนง่ึ ของเคร่ืองจกั ร
7.3.6 สวติ ช์ เซอร์กติ เบรกเกอร์ เคร่ืองควบคุมมอเตอร์และฟิ วส์
7.3.6.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1
สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เครื่องควบคมุ มอเตอร์และฟิ วส์ รวมทงั้ สวิตช์กดป่ มุ รีเลย์และอปุ กรณ์
อ่ืนท่ีคล้ายกัน ต้องมีเคร่ืองห่อห้มุ และเคร่ืองห่อห้มุ นัน้ รวมถึงเคร่ืองสําเร็จท่ีอย่ใู นเคร่ืองห่อห้มุ
ต้องเป็ นชดุ ประกอบสาํ เร็จแบบท่ีได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
7.3.6.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคมุ
มอเตอร์และฟิวส์ ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 2 ต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
7.3.6.2.1 แบบชนิดท่ีต้องการเคร่ืองป้ องกัน เซอร์กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคมุ มอเตอร์และ
สวิตช์ ท่ีใช้สําหรับตดั กระแสในการทํางานปกติ ต้องอย่ใู นเคร่ืองห่อห้มุ ท่ีได้รับการรับรองสําหรับ
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 ตามข้อ 7.3.3.1 นอกจากจะเป็ นเคร่ืองหอ่ ห้มุ แบบใช้งาน
ทวั่ ไปซงึ่ เป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
1) การตดั กระแสอย่ใู นส่วนท่ีมีการปิ ดผนึกอย่างแน่นหนาไม่ให้ก๊าซหรือไอระเหย
เข้าได้
2) หน้าสมั ผสั ปลด-สบั กระแสจมอยใู่ นนํา้ มนั ดงั นี ้
ก) สําหรับหน้าสมั ผสั ใช้งานแบบกําลงั ต้องจมอยใู่ นนํา้ มนั ท่ีมีระดบั ความลกึ
ไม่น้อยกวา่ 50 มม. (2 นิว้ )
ข) สําหรับหน้าสมั ผสั ใช้งานแบบควบคมุ ต้องจมอย่ใู นนํา้ มนั ที่มีระดบั ความ
ลกึ ไม่น้อยกวา่ 25 มม. (1 นิว้ )
ค) การตดั กระแสเกิดขึน้ ในส่วนที่ปิ ดผนึกมาจากโรงงานและทนการระเบิด
ซงึ่ ได้รับการรับรองให้ใช้ในสถานที่ดงั กลา่ ว
ง) การใช้อปุ กรณ์กง่ึ ตวั นําตดั กระแส การควบคมุ ปราศจากหน้าสมั ผสั
อณุ หภมู ิท่ีผวิ ต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของอณุ หภมู ิจดุ ระเบิดของก๊าซหรือ
ไอระเหย
7.3.6.2.2 สวติ ช์แยกวงจร สวิตช์แยกวงจรแบบมีหรือไม่มีฟิ วส์สําหรับหม้อแปลงและคาปา
ซเิ ตอร์ซง่ึ ไมไ่ ด้ใช้สาํ หรับตดั กระแสในการใช้งานปกติ ยอมให้ติดตงั้ ในเครื่องห่อห้มุ สําหรับใช้งาน
ทวั่ ไปได้
7.3.6.2.3 ฟิ วส์ เพ่ือการป้ องกนั มอเตอร์เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าและหลอดไฟฟ้ า นอกจากที่กําหนดไว้
ในข้อ 7.3.6.2.4 ข้างลา่ งอนญุ าตให้ใช้เต้าเสียบมาตรฐาน หรือคาร์ทริดจ์ฟิ วส์ได้ ถ้าตดิ ตงั้ ไว้ใน
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-19
เคร่ืองห่อห้มุ ซึ่งได้รับการรับรองสําหรับประเภทของสถานที่นนั ้ หรืออนญุ าตให้ใช้ฟิ วส์ซ่ึงอย่ใู น
เคร่ืองห่อห้มุ สําหรับใช้งานทวั่ ไปได้ ถ้าเป็ นแบบที่ชิน้ ส่วนสําหรับตดั กระแสจมอย่ใู นนํา้ มนั หรือ
ของเหลวที่ได้รับการรับรอง หรือชิน้ ส่วนสําหรับตัดกระแสอยู่ในส่วนที่มีการปิ ดผนึกอย่าง
หนาแนน่ ไมใ่ ห้ก๊าซหรือไอระเหยเข้าไปได้
7.3.6.2.4 ฟิ วส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์สาํ หรับป้ องกันกระแสเกนิ ในกรณีท่ีมีฟิ วส์ไม่เกิน
10 ชดุ ในเครื่องห่อห้มุ หรือมีเซอร์กิตเบรกเกอร์ไม่เกิน 10 ชดุ และไม่มีจดุ ประสงค์ที่จะให้เป็ น
สวิตช์สําหรับตดั กระแสติดตงั้ เพื่อป้ องกนั วงจรย่อยและสายป้ อนในห้อง พืน้ ท่ีหรือส่วนใดๆ ของ
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 อนญุ าตให้ใช้เครื่องหอ่ ห้มุ ของฟิ วส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์
แบบใช้งานทว่ั ไปได้ ถ้าฟิ วส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ใช้สําหรับป้ องกนั วงจรหรือสายป้ อนที่จ่ายไฟ
ให้กบั หลอดไฟท่ีตดิ ประจําที่เทา่ นนั้
7.3.6.2.5 ฟิ วส์ภายในดวงโคม อนญุ าตให้ใช้คาร์ทริดจ์ฟิ วส์ที่ได้รับการรับรองแล้วภายใน
ดวงโคมได้
7.3.7 หม้อแปลงควบคุมและตวั ต้านทาน
หม้อแปลง ขดลวดอิมพีแดนซ์ และตวั ต้านทานที่ใช้เป็ นหรือใช้ร่วมกับบริภณั ฑ์ควบคมุ สําหรับ
มอเตอร์ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า และเครื่องใช้ไฟฟ้ า ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.7.1 และ 7.3.7.2 ดงั นี ้
7.3.7.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 1
หม้อแปลง ขดลวดอิมพีแดนซ์ และตวั ต้านทาน รวมทงั้ กลไกการสวิตช์ที่เกี่ยวข้องต้องเป็ นแบบมี
เครื่องหอ่ ห้มุ ท่ีได้รับการรับรองแล้วสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 ตามข้อ 7.3.3.1
7.3.7.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2
หม้อแปลงควบคมุ และตวั ต้านทาน ต้องเป็ นดงั นี ้
7.3.7.2.1 กลไกการสวติ ช์ กลไกการสวิตช์ที่ใช้ร่วมกบั หม้อแปลง ขดลวดอิมพีแดนซ์ และตวั
ต้านทานต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.6.2
7.3.7.2.2 ขดลวด เคร่ืองห่อหุ้มขดลวดของหม้อแปลง ขดลวดโซลินอยด์ หรือขดลวด
อิมพีแดนซ์ อนญุ าตให้ใช้แบบสําหรับใช้งานทวั่ ไปได้
7.3.7.2.3 ตัวต้านทาน ตวั ต้านทาน ต้องเป็ นแบบมีเคร่ืองห่อห้มุ และทงั้ ชดุ ต้องได้รับการ
รับรองสําหรับใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 นอกจากความต้านทานจะแปรค่าไม่ได้ และ
อณุ หภมู ิทํางานในหน่วยองศาเซลเซียสไม่เกินร้อยละ 80 ของอณุ หภมู ิจดุ ระเบิดของก๊าซ หรือไอ
ระเหยที่เก่ียวข้องหรือเป็ นแบบท่ีทดสอบแล้ววา่ ไม่สามารถจดุ ระเบิดก๊าซหรือไอระเหยได้
7.3.8 มอเตอร์และเคร่ืองกาํ เนิดไฟฟ้ า
7-20 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.3.8.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1
มอเตอร์ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า และเครื่องจกั รกลไฟฟ้ าต้องเป็ นดงั นี ้
7.3.8.1.1 เป็ นแบบท่ีได้รับการรับรองแล้วสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 1 หรือ
7.3.8.1.2 เป็ นแบบท่ีถูกห่อห้มุ อย่างมิดชิดทัง้ หมดและมีระบบระ บายอากาศจากแหล่ง
อากาศท่ีสะอาดและระบายออกสสู่ ถานที่ปลอดภยั โดยจดั ทําในลกั ษณะท่ีเคร่ืองจกั รจะไม่ได้รับ
การจ่ายไฟจนกว่าจะมีการระบายอากาศแล้ว และเคร่ืองห่อห้มุ ต้องได้รับการอดั อากาศผ่านใน
ปริมาตรไม่น้อยกว่า 10 เท่าของปริมาตรเครื่องห่อหุ้ม และต้องจัดทําให้บริภัณฑ์หยุดโดย
อตั โนมตั เิ มื่อการระบายอากาศขดั ข้อง หรือ
7.3.8.1.3 เป็ นแบบท่ีถกู ห่อห้มุ อย่างมิดชิดทงั้ หมดบรรจกุ ๊าซเฉื่อยอย่ภู ายในและมีแหล่งจ่าย
ก๊าซท่ีแน่นอนสําหรับอดั ก๊าซเข้าเคร่ืองห่อห้มุ มีอุปกรณ์ท่ีเหมาะสมที่สามารถตรวจสอบได้ว่า
แรงดนั ของก๊าซในเครื่องหอ่ ห้มุ เป็ นไปตามที่ต้องการ และมีการจดั ทําในลกั ษณะที่ตดั การจ่ายไฟ
ให้บริภณั ฑ์โดยอตั โนมตั ิ เมื่อระบบจ่ายก๊าซขดั ข้อง หรือ
7.3.8.1.4 เป็ นแบบที่จมอย่ใู นของเหลว ซงึ่ จะติดไฟได้ก็ต่อเมื่อกลายเป็ นไอระเหยและผสม
กบั อากาศหรือเป็ นแบบท่ีอยภู่ ายใต้ก๊าซหรือไอระเหยที่มีแรงดนั สงู กวา่ บรรยากาศ และจะติดไฟ
ได้ก็ต่อเมื่อผสมกับอากาศ เครื่องจักรต้องมีการจัดทําในลกั ษณะท่ีไม่ได้รับการจ่ายไฟจนกว่า
อากาศจะถกู ไล่ด้วยของเหลวหรือก๊าซ และต้องตดั การจ่ายไฟให้เคร่ืองจกั รเมื่อระบบการจ่าย
ของเหลวหรือก๊าซขดั ข้อง หรือแรงดนั ลดลงเทา่ กบั บรรยากาศ
มอเตอร์ซง่ึ มีเคร่ืองหอ่ ห้มุ ตามข้อ 7.3.8.1.2 และ 7.3.8.1.3 ต้องไม่มีสว่ นของพืน้ ผิวที่มีอณุ หภมู ิ
ใช้งานเป็ นองศาเซลเซียสเกินกว่าร้อยละ 80 ของอณุ หภูมิจุดระเบิดของก๊าซหรือไอระเหยท่ี
เก่ียวข้องกบั ต้องมีอปุ กรณ์ท่ีเหมาะสมคอยตรวจจบั และตดั การจ่ายไฟให้มอเตอร์โดยอตั โนมตั ิ
หรือมีสญั ญาณเตือนภยั อย่างเพียงพอเม่ืออุณหภมู ิของมอเตอร์เพ่ิมขึน้ เกินขีดจํากัด บริภณั ฑ์
ประกอบต้องเป็ นแบบท่ีได้รับการรับรองแล้วสาํ หรับบริเวณอนั ตรายนีด้ ้วย
7.3.8.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2
มอเตอร์ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า และเครื่องจักรกลไฟฟ้ าที่หมุนได้อ่ืนๆ ท่ีมีหน้าสมั ผสั เล่ือน หรือ
สวติ ช์หนีศนู ย์กลาง หรือกลไกสวติ ช์แบบอื่น (รวมทงั้ อปุ กรณ์ป้ องกนั กระแสเกิน การใช้เกินกําลงั
และอณุ หภมู ิเกินของมอเตอร์) หรืออปุ กรณ์ความต้านทานในเครื่อง ไม่วา่ จะใช้ขณะเร่ิมเดิน หรือ
ขณะเดนิ ต้องเป็ นแบบที่ได้รับการรับรองแล้วสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 2 ตามข้อ
7.3.3.2
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-21
เมื่อทํางานที่แรงดนั พกิ ดั พืน้ ผิวเปิ ดโลง่ ของตวั ทําความร้อน สาํ หรับป้ องกนั การกลน่ั ตวั ขณะหยดุ
ใช้งาน ต้องสงู ไม่เกินร้อยละ 80 ของอณุ หภมู ิจดุ ระเบิดเป็ นองศาเซลเซียสของก๊าซหรือไอระเหย
ที่เก่ียวข้อง และต้องมีป้ ายแสดงท่ีเห็นได้ชดั เจนติดตงั้ ที่ตวั มอเตอร์ซึ่งระบุอุณหภูมิพืน้ ผิวสงู สดุ
(สําหรับอณุ หภมู ิแวดล้อม 40°C) ตวั ทําความร้อนต้องได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตราย
ประเภทท่ี 1 แบบที่ 2 ด้วย
ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 2 ยอมให้ติดตงั้ มอเตอร์แบบเปิ ดหรือแบบไม่ทนการ
ระเบิดซ่ึงมีเคร่ืองห่อห้มุ เช่น มอเตอร์แบบเหน่ียวนํา โรเตอร์เป็ นชนิด กรงกระรอกซึ่งไม่มีแปรง
ถ่าน กลไกสวติ ช์ หรืออปุ กรณ์ก่อให้เกิดอาร์กท่ีคล้ายกนั
7.3.9 ดวงโคม
ดวงโคมต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.9.1.หรือ 7.3.9.2 ดงั นี ้
7.3.9.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1
ดวงโคมต้องเป็ นดงั นี ้
7.3.9.1.1 ดวงโคมท่ีได้รับการรับรองแล้ว ดวงโคมต้องเป็ นแบบประกอบสําเร็จท่ีได้รับ
การรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 และต้องแสดงคา่ กําลงั ไฟฟ้ าที่ได้รับการ
รับรองท่ีเห็นได้ชดั เจน ดวงโคมแบบหยิบยกได้ต้องได้รับการรับรองเป็ นพิเศษว่าเป็ นชดุ ประกอบ
สาํ เร็จสําหรับการใช้งานนนั้
7.3.9.1.2 ความเสียหายทางกายภาพ ดวงโคมต้องมีการป้ องกนั มิให้เกิดความเสียหาย
ทางกายภาพโดยการกนั้ หรือโดยตําแหน่งตดิ ตงั้ ที่เหมาะสม
7.3.9.1.3 ดวงโคมแขวน ดวงโคมแขวน ต้องยดึ แขวนและรับกระแส ผ่านทางก้านแขวนซง่ึ
ทําด้วยท่อโลหะหนาหรือท่อโลหะหนาปานกลางมีเกลียว และจุดต่อเกลียวต่างๆ ต้องมีหมุด
เกลียวยึดหรือใช้วิธีการที่มีประสิทธิผลเพ่ือป้ องกนั การหลวม ถ้าก้านแขวนยาวกว่า 300 มม.
ต้องมีตวั ยึดที่มีประสิทธิผลติดตงั้ อย่างถาวรเพื่อป้ องกนั การแกว่ง โดยยดึ ที่จดุ ซงึ่ สงู ไม่เกิน 300
มม. จากปลายลา่ งของก้าน ถ้าต้องการให้อ่อนตวั ได้ต้องใช้เคร่ืองประกอบและข้อตอ่ ท่ีผ่านการ
รับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 และต้องตดิ ตงั้ ในระยะไม่เกิน 300 มม. จาก
จดุ ยดึ ตดิ กบั กลอ่ งหรือเคร่ืองประกอบ
7.3.9.1.4 ท่ีรองรับ กล่อง กล่องประกอบสําเร็จ หรือเครื่องประกอบ ซงึ่ ใช้รองรับดวงโคม
ต้องเป็ นแบบท่ีได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
7.3.9.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 2
ดวงโคมต้องเป็ นดงั นี ้
7-22 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.3.9.2.1 ดวงโคมแบบหยิบยกได้ ดวงโคมแบบหยิบยกได้ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.9.1.1
ข้างต้น ยกเว้น ดวงโคมแบบหยิบยกไดซ้ ่ึงติดบนขาตงั้ เคลือ่ นทีไ่ ดแ้ ละต่อดว้ ยสายอ่อนตามข้อ
7.3.11 อนญุ าตใหใ้ ชไ้ ดเ้ มือ่ ติดตงั้ ในตําแหน่งใดๆ ทีเ่ ป็นไปตามขอ้ 7.3.9.2.2 ขา้ งล่าง
7.3.9.2.2 ดวงโคมแบบยึดกับท่ี ดวงโคมสําหรับให้แสงสว่างประจําที่ ต้องมีการกนั้ หรือ
ติดตงั้ ในตําแหน่งที่เหมาะสมเพ่ือมิให้เกิดความเสียหายทางกายภาพ ในที่ซึ่งอาจมีอันตราย
เน่ืองจากประกายไฟหรือความร้อนของโลหะจากหลอดไฟหรือดวงโคมที่อาจจดุ ระเบิดก๊าซหรือ
ไอระเหยที่มีความเข้มข้นเพียงพอต่อการติดไฟในบริเวณใกล้เคียงได้ ต้องจดั ให้มีเครื่องห่อห้มุ ที่
เหมาะสมหรือวธิ ีป้ องกนั อ่ืนที่มีประสทิ ธิผล
ในท่ีซง่ึ หลอดไฟมีขนาด หรือเป็ นแบบ ซงึ่ ในภาวะการทํางานตามปกติ ทําให้อณุ หภมู ิท่ีผิววดั เป็ น
องศาเซลเซียสสงู กว่าร้อยละ 80 ของอณุ หภมู ิจดุ ระเบิดของก๊าซหรือไอระเหยท่ีเก่ียวข้อง ดวง
โคมนนั้ ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.9.1.1 ข้างต้น หรือเป็ นแบบท่ีทดสอบแล้วโดยมีการแสดงคา่ หรือ
ระดบั อณุ หภมู ิใช้งาน
7.3.9.2.3 ดวงโคมแขวน ดวงโคมแขวนต้องแขวนและรับกระแสผ่านทางก้านแขวนซ่ึงทํา
ด้วยทอ่ โลหะหนาหรือทอ่ โลหะหนาปานกลางแบบมีเกลียว หรือวิธีการอ่ืนที่รับรองแล้ว
7.3.9.2.4 สวิตช์ สวิตช์ท่ีเป็ นสว่ นของดวงโคมประกอบสําเร็จหรือของแตล่ ะขวั้ รับหลอดต้อง
เป็ นไปตามข้อ 7.3.6.2.1
7.3.9.2.5 บริภัณฑ์สําหรับจุดหลอด บริภณั ฑ์สําหรับจดุ หลอดและควบคมุ หลอดปลอ่ ย
ประจตุ ้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.7.2 ยกเว้น บลั ลาสต์ของหลอดฟลูออเรสเซนต์ทีม่ ีตวั ป้ องกนั
ความร้อนติดอยู่ภายใน ถา้ ดวงโคมไดร้ บั การรบั รองตามประเภทและแบบของสถานทีน่ นั้ แลว้
7.3.10 บริภณั ฑ์ใช้สอย
7.3.10.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบที่ 1
บริภณั ฑ์ใช้สอยทงั้ หมดต้องได้รับการรับรองสาํ หรับใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1
7.3.10.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 2
บริภณั ฑ์ใช้สอยทงั้ หมดต้องเป็ นดงั นี ้
7.3.10.2.1 มอเตอร์ มอเตอร์ซ่ึงเป็ นตวั ขบั เคลื่อนของบริภณั ฑ์ใช้สอย ต้องเป็ นไปตามข้อ
7.3.9.2
7.3.10.2.2 สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์และฟิ วส์ สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์และฟิ วส์ ต้อง
เป็ นไปตามข้อ 7.3.6.2
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-23
7.3.11 สายอ่อนในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2
อนญุ าตให้ใช้สายออ่ นเพียงเพื่อการตอ่ ระหวา่ งแหลง่ จา่ ยไฟประจําที่ไปยงั โคมไฟแบบหยิบยกได้
หรือบริภณั ฑ์ใช้สอยแบบหยิบยกได้ และต้องเป็ นดงั นี ้
7.3.11.1 เป็ นแบบท่ีได้รับการรับรองแล้วสําหรับใช้งานหนกั พิเศษ
7.3.11.2 ตอ่ กบั ขวั้ สาย หรือกบั สายท่ีจ่ายไฟให้โดยวธิ ีท่ีได้รับการรับรอง
7.3.11.3 มีการจบั ยดึ ด้วยแคลมป์ หรือโดยวิธีท่ีเหมาะสมซง่ึ ไม่ทําให้เกิดแรงดงึ ที่ขวั้ ปลายสาย
7.3.11.4 มีการปิ ดผนึกท่ีเหมาะสม เม่ือสายอ่อนเข้าไปในกล่อง เคร่ืองประกอบ หรือเครื่อง
หอ่ ห้มุ ชนิดทนการระเบดิ ยกเว้น ตามทีก่ ําหนดในข้อ 7.3.3.2.6 และ 7.3.4.2
เคร่ืองสบู นํา้ ไฟฟ้ าแบบจมุ่ ในนํา้ ถือวา่ เป็ นบริภณั ฑ์ใช้สอยแบบหยิบยกได้ ถ้าสามารถเคล่ือนย้าย
ได้โดยไม่ต้องเข้าไปยงั ที่ซง่ึ จ่มุ นํา้ อยู่ อนญุ าตให้มีการตอ่ ขยายสายออ่ นระหวา่ งจดุ ท่ีจ่มุ นํา้ กบั จดุ
จา่ ยไฟได้โดยต้องอยใู่ นช่องเดนิ สายที่เหมาะสม
เคร่ืองผสมไฟฟ้ าแบบท่ีใช้สาํ หรับเลื่อนเข้า-ออกในถงั หรือหม้อสําหรับผสม ถือว่าเป็ นบริภณั ฑ์ใช้
สอยแบบหยิบยกได้
7.3.12 เต้ารับและเต้าเสียบพร้อมสายในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ2
เต้ารับและเต้าเสียบพร้ อมสายต้องเป็ นแบบมีท่ีสําหรับต่อตวั นําสําหรับต่อลงดินของสายอ่อน
และเป็ นแบบท่ีได้รับการรับรองแล้วสาํ หรับบริเวณอนั ตรายนนั้ ยกเว้น ตามที่กํ าหนดในข้อ
7.3.3.2.6
7.3.13 ฉนวนของตวั นําในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2
ในที่ซ่ึงของเหลวหรือไอระเหยกลนั่ ตวั อาจสะสม หรือสมั ผสั กับฉนวนของตวั นํา ฉนวนนัน้ ต้อง
เป็ นแบบที่ได้รับการรับรองแล้วสําหรับสภาวะนัน้ หรือฉนวนต้องมีการป้ องกันโดยใช้เปลือก
ตะกวั่ หรือวธิ ีการอื่นท่ีได้รับการรับรองแล้ว
7.3.14 ระบบสัญญาณ ระบบสัญญาณเตือน ระบบควบคุมระยะไกล และ
ระบบส่ือสาร
7.3.14.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 เครื่องสําเร็จและบริภณั ฑ์ทงั้ หมดของระบบ
สญั ญาณเตือน ระบบควบคมุ ระยะไกลและระบบส่ือสาร โดยไม่คํานึงแรงดนั ไฟฟ้ า ต้องเป็ นแบบ
ที่ได้รับการรับรองแล้วสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 และการเดนิ สายต้องเป็ นไป
ตามข้อ 7.3.4.1, 7.3.5.1 และ 7.3.5.3
7.3.14.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2
ระบบสญั ญาณ ระบบสญั ญาณเตอื น ระบบควบคมุ ระยะไกลและระบบส่อื สาร ต้องเป็ นดงั นี ้
7-24 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
7.3.14.2.1 หน้าสัมผัส สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ และหน้าสมั ผสั ปลดสบั ของสวิตช์แบบกด
ป่ ุม รีเลย์ กร่ิงเตือนและแตรเตือนต้องเป็ นแบบท่ีมีเครื่องห่อหุ้มที่ได้รับการรับรองแล้ว สําหรับ
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 ตามข้อ 7.3.3.1
ยกเว้น อนุญาตให้ใช้เครื่องห่อหุ้มสําหรับใช้งานท่วั ไปได้ ถ้าหน้าสมั ผสั ตัด
กระแสเป็นดงั นี้
1) จุ่มอยู่ในน้ํามนั หรือ
2) ถูกห่อห้มุ ในช่องที่มีการปิ ดผนึกอย่างแน่นหนา ไม่ให้ก๊าซหรือไอ
ระเหยเข้าไปได้ หรือ
3) อยู่ในวงจรซ่ึงไม่อาจปล่อยพลงั งานออกมาเพียงพอทีจ่ ะจุดระเบิด
บรรยากาศผสมไดภ้ ายใตส้ ภาวะการทํางานปกติ
7.3.14.2.2 ตัวต้านทานและบริภัณฑ์ท่ีคล้ายกัน ตวั ต้านทาน อุปกรณ์ความต้านทาน
หลอดเทอร์มิโอนิก เครื่องเรียงกระแส และบริภณั ฑ์ท่ีคล้ายกนั ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.3.2.2
7.3.14.2.3 ตัวป้ องกัน อปุ กรณ์ป้ องกนั ฟ้ าผ่าและฟิ วส์ต้องมีเคร่ืองห่อห้มุ และอนญุ าตให้ใช้
เครื่องหอ่ ห้มุ แบบใช้งานทว่ั ไปได้
7.3.14.2.4 การเดินสายและการปิ ดผนึก การเดนิ สายทงั้ หมดต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.4.2
และ 7.3.5.2 และ 7.3.5.3
7.3.15 ส่วนท่มี ีไฟฟ้ าในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2
ต้องไม่มีสว่ นท่ีมีไฟฟ้ าเปิ ดโลง่
7.3.16 การต่อลงดนิ ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2
การเดนิ สายและบริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 และ 2 ต้องตอ่ ลงดนิ ตามบทท่ี
4 และเพม่ิ เตมิ ดงั นี ้
7.3.16.1 การต่อฝาก การใช้บชุ ชิงพร้อมแป้ นเกลียวล็อก หรือใช้แป้ นเกลียว ล็อกคู่ ไม่ถือว่า
เป็ นการต่อฝากเพียงพอ การต่อฝากต้องใช้สายต่อฝาก พร้อมเครื่องประกอบท่ีเหมาะสมหรือใช้
วิธีการต่อฝากแบบอื่นซึ่งได้รับการรับรองแล้ว ต้องมีการต่อฝากสําหรับช่องเดินสาย, เครื่อง
ประกอบ, กลอ่ ง เครื่องห่อห้มุ ท่ีอย่รู ะหว่างบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 กบั จดุ ต่อลงดินของ
บริภณั ฑ์ประธานหรือจดุ ต่อลงดินของระบบที่มีตวั จ่ายแยกต่างหาก ยกเว้น วิธีการต่อฝาก
โดยเฉพาะใหจ้ ดั ทําทีจ่ ุดต่อลงดินของเครื่องปลดวงจรของอาคาร ตามข้อ 4.3 เท่านนั้ และตอ้ งจดั
ใหเ้ ครื่องป้ องกนั กระแสเกินของวงจรย่อยติดตง้ั อยู่ดา้ นโหลดของเครื่องปลดวงจร
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-25
7.3.16.2 ชนิดของตัวนําสาํ หรับต่อลงดนิ ของบริภณั ฑ์ ในท่ีซง่ึ อนญุ าตให้ใช้ทอ่ โลหะอ่อนงอ
ได้หรือท่อโลหะอ่อนกนั ของเหลวตามข้อ 7.3.4.2 และเช่ือได้ว่ามีการตอ่ ลงดนิ ที่สมบรู ณ์เพียงจดุ
เดียว ต้องจดั ให้มีสายตอ่ ฝากภายในหรือภายนอกขนานไปกบั แตล่ ะท่อร้อยสายและต้องเป็ นไป
ตามข้อ 4.15.6
7.3.17 การป้ องกันเสริ ์จ (Surge Protection)
7.3.17.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 1 อปุ กรณ์ป้ องกนั เสริ ์จ หรือกบั ดกั เสริ ์จ หรือ
คาปาซิเตอร์จะรวมทงั้ การติดตงั้ และการต่อสายต้องเป็ นไปตามมาตรฐาน และต้องติดตงั้ ใน
เครื่องหอ่ ห้มุ ซง่ึ ได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 การใช้คาปาซิเตอร์
เพื่อป้ องกนั เสริ ์จต้องเป็ นชนิดท่ีออกแบบเพ่ือใช้งานเฉพาะ
7.3.17.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 อปุ กรณ์ป้ องกนั เสริ ์จ หรือกบั ดกั เสริ ์จ ต้อง
เป็ นชนิดท่ีไม่ทําให้เกิดอาร์ก เช่น แบบ เมทลั ออกไซด์วาริสเตอร์ (MOV) แบบปิ ดผนกึ และคาปา
ซเิ ตอร์แบบป้ องกนั เสริ ์จ และต้องเป็ นชนิดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
อนญุ าตให้ใช้เคร่ืองห่อห้มุ สําหรับใช้งานทว่ั ไปได้ การป้ องกนั เสิร์จที่เป็ นชนิดอ่ืนนอกเหนือจากที่
กล่าวมาข้างต้นต้องติดตงั ้ ในเครื่องห่อห้มุ ท่ีได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
แบบท่ี 1
7.3.18 วงจรย่อยหลายสาย ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 แตล่ ะวงจรยอ่ ยแบบ 1
เฟส ซึง่ เป็ นสว่ นหน่ึงของวงจรย่อยหลายสายต้องติดตงั้ ตวั นําท่ีต่อลงดินแยกต่างหาก ยกเว้น
ในทีซ่ ่ึงใช้อปุ กรณ์ปลดวงจรทีส่ ามารถปลดตวั นําเสน้ ไฟทกุ เสน้ ของ วงจรย่อยหลายสายออกได้
พร้อมกนั
7.4 บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2
7.4.1 ท่วั ไป
กฎทวั่ ไปของมาตรฐานนีใ้ ช้กับการเดินสายไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2
ตามข้อ 7.2.3 ยกเว้น ตามทีไ่ ดป้ รบั ปรุงในขอ้ นี้
คาํ วา่ “ทนฝ่ ุนท่จี ุดระเบดิ ได้” ในข้อนีห้ มายถงึ ถกู หอ่ ห้มุ ในลกั ษณะท่ีป้ องกนั ฝ่ นุ ไม่ให้เข้าได้ ใน
ที่ซึ่งมีการติดตัง้ และป้ องกันตามมาตรฐานนีจ้ ะไม่ทําให้ อาร์ก ประกายไฟ หรือความร้ อนท่ี
เกิดขึน้ หรือปล่อยออกมาจาก ภายในเครื่องห่อห้มุ เป็ นสาเหตขุ องการจุดระเบิด ฝ่ นุ ที่สะสมอยู่
ภายนอกหรือที่ลอยอยใู่ นบรรยากาศหรือในบริเวณใกล้เคียง
7-26 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
บริภณั ฑ์ท่ีติดตงั้ ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 เม่ือใช้งานเต็มที่ต้องไม่ทําให้อณุ หภมู ิพืน้ ผิวสงู
เพียงพอที่จะทําให้ฝ่ นุ ของสารอินทรีย์ที่สะสมอยทู่ ่ีผิวเกิดการแห้งหรือคอ่ ยๆ กลายเป็ นถ่าน
บริภัณฑ์และการเดินสายที่กําหนดเป็ นชนิดทนการระเบิดตามบทที่ 1 ตอน ก ไม่สามารถ
นํามาใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 ได้ นอกจากจะได้รับการรับรองวา่ ใช้ได้
ท่ีซง่ึ มีฝ่ นุ ประเภทท่ี 2 กลมุ่ E (ข้อ 7.2.2.2.1) ในปริมาณที่อาจเกิดอนั ตราย ถือว่าเป็ นบริเวณ
อนั ตรายแบบท่ี 1 เทา่ นนั้
7.4.2 หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์
7.4.2.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 1
หม้อแปลงและคาปาซเิ ตอร์ต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
7.4.2.1.1 บรรจุของเหลวติดไฟได้ หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ซึ่งบรรจขุ องเหลวติดไฟได้
ต้องตดิ ตงั้ ในห้องที่ได้รับการรับรองแล้วตามข้อ 6.4 ตอน ค เทา่ นนั้ และมีข้อกําหนดเพิม่ เตมิ ดงั นี ้
ก) ประตหู รือช่องเปิ ดเข้าส่บู ริเวณอนั ตรายแบบที่ 1 ต้องมีประตกู นั ไฟซ่ึงปิ ดเอง
ได้ทงั้ สองด้านของผนงั ประตตู ้องตดิ ตงั้ ให้พอดแี ละมีการปิ ดผนึกท่ีเหมาะสม
(เช่น weather stripping) เพื่อให้ฝ่ นุ เข้าได้น้อยที่สดุ
ข) ชอ่ งระบายอากาศและทอ่ ต้องตอ่ ออกสอู่ ากาศภายนอกเทา่ นนั้
ค) ต้องจดั ให้มีชอ่ งเปิ ดสาํ หรับลดความดนั ที่เหมาะสมตอ่ ออกสอู่ ากาศภายนอก
7.4.2.1.2 ไม่บรรจุของเหลวตดิ ไฟได้ หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ซงึ่ ไม่บรรจขุ องเหลวตดิ
ไฟได้ต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
ก) ตดิ ตงั้ ในห้องท่ีเป็ นไปตามข้อ 6.4 ตอน ค หรือ
ข) เป็ นชุดประกอบสําเร็จรวมทงั้ ขวั้ ต่อสายท่ีได้รับการรับรองแล้ว สําหรับใช้ใน
บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2
7.4.2.1.3 ฝ่ ุนโลหะ ห้ามติดตงั้ หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ในสถานที่ซ่งึ มีฝ่ นุ แมกนีเซียม
อะลมู ิเนียม หรือผงอะลมู ิเนียมบรอนซ์ หรือฝ่ นุ โลหะอ่ืนซง่ึ มีคณุ สมบตั เิ ป็ นอนั ตรายคล้ายกนั
7.4.2.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2
หม้อแปลงและคาปาซเิ ตอร์ต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
ก) บรรจุของเหลวตดิ ไฟได้ หม้อแปลงและคาปาซเิ ตอร์ ที่บรรจขุ องเหลวตดิ ไฟได้
ต้องตดิ ตงั้ ในห้องท่ีเป็ นไปตามข้อ 6.4 ตอน ค
ข) หม้อแปลงชนิดแห้ง หม้อแปลงชนิดแห้งต้องติดตงั้ ในห้องหม้อแปลงและ
ต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-27
1) ขดลวดและขวั ้ ต่อสายของหม้อแปลงต้องอยใู่ นเครื่องห่อห้มุ โลหะโดยไม่มี
ชอ่ งระบายหรือช่องเปิ ดอ่ืนๆ
2) แรงดนั ใช้งานที่ระบไุ ม่เกิน 1,000 โวลต์
7.4.3 วธิ ีการเดนิ สาย
วธิ ีการเดนิ สายต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.3.1 และ 7.4.3.2 ดงั นี ้
7.4.3.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 1
การเดนิ สายต้องใช้ทอ่ โลหะหนาแบบมีเกลยี ว ทอ่ โลหะหนาปานกลางแบบมีเกลยี ว
กรณีสายเคเบิลชนิด MI เคร่ืองประกอบ และการทําปลายสายต้องเป็ นชนิดที่ได้รับการรับรอง
แล้วสาํ หรับสถานท่ีนนั้ สายเคเบิลชนิด MI ต้องติดตงั้ ในลกั ษณะที่ไม่เกิดแรงดงึ ที่เคร่ืองประกอบ
ปลายสาย
7.4.3.1.1 เคร่ืองประกอบและกล่อง เคร่ืองประกอบและกล่องต้องมีที่ต่อแบบเกลียว
สําหรับต่อกบั ท่อหรือขวั้ ปลายสายเคเบิล ต้องมีฝาปิ ดมิดชิดและไม่มีช่องเปิ ด (เช่นรูสําหรับยึด
สกรู) ซงึ่ ฝ่ นุ อาจเข้าได้หรือประกายไฟหรือวตั ถทุ ่ีเผาไหม้ผา่ นออกมาได้ เคร่ืองประกอบและกลอ่ ง
ซึง่ ใช้เป็ นที่ตอ่ แยกสาย ต่อเชื่อมสาย หรือขวั ้ ต่อสาย หรือใช้ในที่ซึ่งมีฝ่ ุนที่ลกุ ไหม้ได้ ต้องเป็ น
ชนิดท่ีได้รับการรับรองแล้วสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2
7.4.3.1.2 การต่อแบบอ่อนตวั ได้ ในที่ซงึ่ มีความจําเป็ นต้องใช้การตอ่ แบบอ่อนตวั ได้ต้องใช้
ข้อตอ่ อ่อนงอได้ชนิดกนั ฝ่ นุ ทอ่ โลหะอ่อนงอได้กนั ของเหลวและเคร่ืองประกอบที่ได้รับการรับรอง
แล้ว ท่ออโลหะอ่อนงอได้กนั ของเหลวและเคร่ืองประกอบท่ีได้รับการรับรองแล้ว หรือสายอ่อนที่
ได้รับการรับรองสาํ หรับใช้งานหนกั พิเศษและเคร่ืองประกอบสาย การใช้สายออ่ นต้องเป็ นไปตาม
ข้อ 7.3.11 ในที่ซ่ึงการต่อแบบอ่อนตวั ได้สมั ผสั กบั นํา้ มนั หรือสภาวะท่ีกัดกร่อนอ่ืน ฉนวนของ
ตวั นําต้องเป็ นชนิดที่ได้รับการรับรองสําหรับสภาวะดงั กล่าวหรือต้องมีการป้ องกันโดยการใช้
เปลอื กห้มุ ที่เหมาะสม
7.4.3.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 2
การเดินสายใช้ตาม ข้อ 7.4.3.1 หรือต้องใช้ ท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง ท่อโลหะบาง
รางเดนิ สายชนิดกนั ฝ่ นุ
สายเคเบิลชนิด MC หรือ MI พร้อมทงั้ เคร่ืองประกอบปลายสายที่ได้รับการรับรองแล้ว สาย
เคเบิลชนิด PLTC และ PLTC-ER หรือ สายเคเบิลชนิด ITC และ ITC-ER ตดิ ตงั้ ในรางเคเบิลได้
สายเคเบิลชนิด MC, MI หรือ TC ตดิ ตงั้ แบบชนั้ เดียวในรางเคเบิลแบบบนั ได หรือแบบด้านลา่ งมี
ช่องระบายอากาศ และมีช่องว่างระหว่างสายเคเบิลไม่น้อยกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของสาย
เคเบลิ เส้นใหญ่ที่สดุ
7-28 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
ยกเว้น 1) การเดินสายในวงจรทีไ่ ม่ก่อใหเ้ กิดพลงั งานพอทีจ่ ะทําใหเ้ กิดการจดุ ระเบิดได้
อนญุ าตใหใ้ ชว้ ิธีเดินสายสําหรบั สถานทีธ่ รรมดาได้
2) การติดตง้ั ทอ่ ร้อยสายใตด้ ิน อนญุ าตใหใ้ ชท้ ่อร้อยสายอโลหะ หมุ้ คอนกรีตหนาไม่
นอ้ ยกว่า 50 มม.(2 น้ิว) และความลึกตอ้ งไม่นอ้ ยกว่า 0.60 เมตร
7.4.3.2.1 รางเดนิ สาย เคร่ืองประกอบและกล่อง รางเดนิ สาย เครื่องประกอบและกลอ่ ง
ท่ีใช้ในการต่อแยกสาย ต่อเช่ือมสายหรือเข้าขวั้ ปลายสาย ต้องออกแบบให้ฝ่ นุ เข้าได้น้อยที่สดุ
และเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
ก) ต้องมีท่ีสวมป้ องกัน ฝาปิ ดมิดชิด หรือวิธีการอื่นเพ่ือป้ องกันไม่ให้ประกายไฟ
หรือวตั ถทุ ่ีลกุ ไหม้ผา่ นออกมา
ข) ต้องไม่มีช่องเปิ ด (เช่น รูสําหรับยดึ สกรู) ภายหลงั การตดิ ตงั้ เพื่อไม่ให้ประกาย
ไฟ หรือวัตถุที่ลุกไหม้ ผ่านออกมาจุดระเบิดวัตถุลุกไหม้ได้ท่ีอยู่บริเวณ
ใกล้เคยี ง
7.4.3.2.2 การต่อแบบอ่อนตัวได้ ในที่ซึ่งมีความจําเป็ นต้องใช้การต่อแบบอ่อนตวั ได้ให้
ปฏิบตั ติ ามข้อ 7.4.3.1.2 ข้างต้น
7.4.4 การปิ ดผนึกในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 และ 2
ในท่ีซึง่ ช่องเดินสายต่ออย่รู ะหว่างเครื่องห่อห้มุ ชนิดทนฝ่ นุ ท่ีจดุ ระเบิดได้กบั ชนิดอื่น ต้องจดั ให้มี
วิธีการที่เหมาะสม เพื่อป้ องกันไม่ให้ฝ่ นุ เข้าไปในเคร่ืองห่อห้มุ ชนิดทนฝ่ นุ ผ่านทางช่องเดินสาย
โดยใช้วิธีใดวธิ ีหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปนี ้
7.4.4.1 การปิ ดผนกึ ท่ีถาวรและมีประสทิ ธิผล
7.4.4.2 ชอ่ งเดนิ สายตดิ ตงั้ ในแนวระดบั และมีความยาวไมน่ ้อยกวา่ 3.00 เมตร (10 ฟตุ )
7.4.4.3 ช่องเดนิ สายตดิ ตงั้ ในแนวด่งิ และมีความยาวไม่น้อยกวา่ 1.50 เมตร (5 ฟตุ ) ตอ่ จาก
ด้านลา่ งของเครื่องหอ่ ห้มุ ชนิดทนฝ่ นุ ท่ีจดุ ระเบดิ ได้
ในกรณีที่ช่องเดินสายต่ออย่รู ะหว่างเคร่ืองห่อห้มุ ชนิดทนฝ่ นุ ที่จุดระเบิดได้กบั เครื่องห่อห้มุ ท่ีไม่
อยใู่ นบริเวณอนั ตราย ไมบ่ งั คบั ให้มีการปิ ดผนกึ
อปุ กรณ์ปิ ดผนกึ ต้องเข้าถงึ ได้ และสารปิ ดผนกึ ไม่จําเป็ นต้องเป็ นวสั ดกุ นั ระเบิด
7.4.5 สวติ ช์ เซอร์กติ เบรกเกอร์ เคร่ืองควบคุมมอเตอร์ และฟิ วส์
7.4.5.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1
สวติ ช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เครื่องควบคมุ มอเตอร์ และฟิวส์ต้องเป็ นดงั นี ้
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-29
7.4.5.1.1 ชนิดท่ตี ้องการ สวติ ช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เครื่องควบคมุ มอเตอร์ และฟิ วส์ รวมทงั้
สวติ ช์กดป่ มุ รีเลย์ และอปุ กรณ์อ่ืนท่ีคล้ายกนั ที่ใช้สําหรับตดั กระแสในการทํางานปกตหิ รือตดิ ตงั ้
ในท่ีซึ่งมีฝ่ ุนท่ีลุกไหม้ได้และมีคุณสมบัติเป็ นตัวนําไฟฟ้ า ต้องมีเครื่องห่อหุ้มชนิดทนฝ่ ุนที่จุด
ระเบิดได้ ซงึ่ ได้รับการรับรองวา่ เป็ นชดุ ประกอบสําเร็จสาํ หรับใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2
7.4.5.1.2 สวิตช์แยกวงจร สวิตช์ปลดวงจรและสวิตช์แยกวงจร แบบไม่มีฟิ วส์ซ่งึ ไม่ได้ใช้
สําหรับตดั กระแสและไม่ได้ติดตงั้ อยู่ในที่ซ่ึงมีฝ่ ุนที่เป็ นตัวนําไฟฟ้ าต้องมีเคร่ืองห่อหุ้มโลหะที่
ออกแบบให้ฝ่ นุ เข้าได้น้อยที่สดุ และต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
ก) ต้องมีท่ีสวมป้ องกัน ฝาปิ ดมิดชิดหรือวิธีการอื่นเพื่อป้ องกันไม่ให้ประกายไฟ
หรือวตั ถทุ ี่ลกุ ไหม้ผา่ นออกมา
ข) ต้องไม่มีช่องเปิ ด (เช่น รูสําหรับยดึ สกรู) ภายหลงั การติดตงั้ เพ่ือไม่ให้ประกาย
ไฟหรือวตั ถทุ ่ีลกุ ไหม้ผ่านออกมาจุดระเบิดฝ่ นุ ท่ีสะสมอย่ภู ายนอกหรือวตั ถทุ ี่
ลกุ ไหม้ได้ท่ีอยใู่ นบริเวณใกล้เคียง
7.4.5.1.3 ฝ่ ุนโลหะ ในสถานท่ีซง่ึ มีฝ่ นุ แมกนีเซียม อะลมู ิเนียม ผงอะลมู ิเนียมบรอนซ์ หรือ
ฝ่ นุ โลหะอื่นท่ีมีคณุ สมบตั เิ ป็ นอนั ตรายคล้ายกนั สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เครื่องควบคมุ มอเตอร์
และฟิวส์ ต้องมีเคร่ืองหอ่ ห้มุ ซงึ่ ได้รับการรับรองเฉพาะสาํ หรับสถานท่ีดงั กลา่ ว
7.4.5.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2
เครื่องห่อห้มุ สําหรับ สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคมุ มอเตอร์และฟิ วส์ รวมทงั้ สวิตช์กด
ป่ มุ รีเลย์ และอปุ กรณ์อ่ืนท่ีคล้ายกนั ต้องเป็ นชนิดกนั ฝ่ นุ
7.4.6 หม้อแปลงควบคุมและตวั ต้านทาน
7.4.6.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1
หม้อแปลงควบคุม ขดลวดโซลินอยด์ ขดลวดอิมพีแดนซ์ ตัวต้านทาน และอุปกรณ์ป้ องกัน
กระแสเกินอื่นๆ หรือกลไกสวิตช์ที่ใช้ประกอบต้องมีเคร่ืองห่อหุ้มชนิดทนฝ่ ุนท่ีจุดระเบิดได้ซึ่ง
ได้รับกาารรับรองแล้วสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 ห้ามตดิ ตงั้ หม้อแปลงควบคมุ ขดลวด
อิมพีแดนซ์ ตวั ต้านทานในสถานท่ีซง่ึ มีฝ่ นุ แมกนีเซียม อะลมู ิเนียม ผงอะลมู ิเนียมบรอนซ์ หรือฝ่ นุ
โลหะอ่ืนที่มีคณุ สมบตั ิเป็ นอนั ตรายคล้ายกนั ถ้าไม่มีเคร่ืองห่อห้มุ ซง่ึ ได้รับรองโดยเฉพาะสําหรับ
บริเวณอนั ตรายดงั กลา่ ว
7.4.6.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 2
หม้อแปลงควบคมุ และตวั ต้านทานต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
7-30 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
7.4.6.2.1 กลไกสวิตช์ กลไกสวิตช์ (รวมทงั ้ อปุ กรณ์ป้ องกนั กระแสเกิน) ซง่ึ ใช้ร่วมกบั หม้อ
แปลงควบคมุ ขดลวดโซลินอยด์ ขดลวดอิมพีแดนซ์และตวั ต้านทานต้องมีเคร่ืองห่อห้มุ ชนิดกนั
ฝ่ นุ
7.4.6.2.2 ขดลวด ในกรณีที่ไม่ได้ติดตงั้ อย่ใู นเคร่ืองห่อหุ้มเดียวกันกับกลไกสวิตช์ หม้อ
แปลงควบคมุ ขดลวดโซล-ิ นอยด์ และขดลวดอิมพีแดนซ์ ต้องจดั ให้มีเคร่ืองหอ่ ห้มุ โลหะปิ ดมิดชิด
และไมม่ ีช่องระบายอากาศ
7.4.6.2.3 ตัวต้านทาน ตวั ต้านทานและอปุ กรณ์ความต้านทาน ต้องมีเครื่องห่อห้มุ ชนิดทน
ฝ่ นุ ท่ีจดุ ระเบิดได้ และได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 ยกเว้น ในกรณีที่
อณุ หภูมิใช้งานสูงสดุ ของตวั ตา้ นทานไม่เกิน 120°C อนญุ าตใหต้ วั ต้านทานแบบปรับค่าไม่ได้
หรือตวั ตา้ นทานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอปุ กรณ์เดินเครื่องอตั โนมตั ิมีเครื่องห่อหมุ้ ตามข้อ 7.4.6.2.2
ขา้ งตน้ ได้
7.4.7 มอเตอร์และเคร่ืองกาํ เนิดไฟฟ้ า
7.4.7.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 1
มอเตอร์ เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ า และเคร่ืองจกั รกลไฟฟ้ า ต้องเป็ นดงั นี ้
7.4.7.1.1 ได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 1 หรือ
7.4.7.1.2 เป็ นแบบห้มุ ปิ ดหมดมีทอ่ ระบายอากาศและมีอณุ หภมู ิจํากดั ไว้ตามข้อ 7.3.1
7.4.7.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2
มอเตอร์ เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ า และเคร่ืองจกั รกลไฟฟ้ าอ่ืนๆ ต้องเป็ นชนิดห้มุ ปิ ดหมดไม่มีการระบาย
อากาศ, ห้มุ ปิ ดหมดมีทอ่ ระบายอากาศ, ห้มุ ปิ ดหมดมีพดั ลมระบายความร้อน หรือเป็ นชนิดทน
ฝ่ ุนท่ีจุดระเบิดได้ อุณหภูมิสูงสุดของพืน้ ผิวเม่ือจ่ายโหลดเต็มท่ีต้องเป็ นไปตามข้อ 7.2.3.5
สาํ หรับการทํางานตามปกตใิ นท่ีโลง่ (ไม่มีฝ่ นุ ปกคลมุ ) และไมม่ ีช่องเปิ ดออกภายนอก
7.4.8 ท่อระบายอากาศ
ท่อระบายอากาศสําหรับมอเตอร์ เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ า เคร่ืองจกั รกลไฟฟ้ าหรือเครื่องห่อห้มุ ของ
บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าต้องเป็ นโลหะหนาไม่น้อยกว่า 0.5 มม. หรือเป็ นวสั ดทุ ่ีไม่ติดไฟที่เทียบเท่าและ
ต้องเป็ นดงั นี ้
ก) ตอ่ ตรงไปนอกอาคารซง่ึ มีอากาศสะอาด
ข) ปลายทอ่ ด้านนอกต้องปิ ดด้วยตาขา่ ยเพื่อป้ องกนั ไมใ่ ห้สตั ว์เลก็ และนกเข้า และ
ค) ต้องมีการป้ องกันความเสียหายทางกายภาพ และป้ องกันการเกิดสนิมหรือการผุ
กร่อน จากสาเหตอุ ื่น
ทอ่ ระบายอากาศต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.8.1 และ 7.4.8.2 ตอ่ ไปนี ้
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-31
7.4.8.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 1
ทอ่ ระบายอากาศรวมทงั้ การตอ่ เข้ากบั มอเตอร์ หรือเข้ากบั เคร่ืองห่อห้มุ ชนิดทนฝ่ นุ ท่ีจดุ ระเบิดได้
ของบริภณั ฑ์อื่น ต้องเป็ นชนิดกนั ฝ่ นุ ตลอดความยาวตะเขบ็ และข้อตอ่ ของทอ่ โลหะต้องเป็ นดงั ข้อ
ใดข้อหนงึ่ ตอ่ ไปนี ้
ก) ยดึ ด้วยหมดุ และบดั กรี
ข) ยดึ ด้วยสลกั เกลียวและบดั กรี
ค) เชื่อม
ง) วธิ ีอ่ืนๆ ท่ีมีประสทิ ธิผลทําให้กนั ฝ่ นุ ได้
7.4.8.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 2
ท่อระบายอากาศและการต่อต้องทําให้แน่นหนาพอท่ีจะป้ องกันไม่ให้ฝ่ นุ เข้าไปในเครื่องห่อห้มุ
หรือในบริภณั ฑ์ท่ีต้องการระบายอากาศได้มากเกินไป และต้องป้ องกนั ไม่ให้ประกายไฟ เปลวไฟ
หรือวตั ถทุ ่ีลกุ ไหม้ผ่านออกมาซ่ึงอาจทําให้เกิดการจดุ ระเบิดฝ่ นุ ท่ีสะสมอยู่ หรือวตั ถตุ ิดไฟท่ีอยู่
ใกล้เคียงได้ การต่อท่อโลหะ อนุญาตให้ใช้วิธีเช่ือมหรือต่อเป็ นตะเข็บและยํา้ ด้วยหมุด จุดที่
ต้องการให้มีความออ่ นตวั อนญุ าตให้ใช้ข้อตอ่ เลอ่ื นแบบสวมแน่นพอดไี ด้
7.4.9 บริภณั ฑ์ใช้สอย
7.4.9.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 1
บริภณั ฑ์ใช้สอยทกุ ชนิดต้องเป็ นแบบที่ได้รับการรับรองสําหรับสถานท่ีประเภทท่ี 2 ในท่ีซง่ึ มีฝ่ นุ
แมกนีเซียม อะลูมิเนียม ผงอะลูมิเนียมบรอนซ์ หรือฝ่ ุนโลหะอื่นที่มีคุณสมบัติเป็ นอันตราย
คล้ายกนั บริภณั ฑ์ที่ใช้ต้องได้รับการรับรองเป็ นการเฉพาะ
7.4.9.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 2
บริภณั ฑ์ใช้สอยทกุ ชนิดต้องเป็ นไปดงั นี ้
7.4.9.2.1 เคร่ืองทาํ ความร้อน บริภณั ฑ์ใช้สอยท่ีทําให้เกิดความร้อนด้วยไฟฟ้ าต้องเป็ นแบบ
ท่ีได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2
7.4.9.2.2 มอเตอร์ มอเตอร์ของบริภณั ฑ์ใช้สอยต้องเป็ นไปตามข้อ 5.4.7.2
7.4.9.2.3 สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ และฟิ วส์ เครื่องหอ่ ห้มุ สําหรับสวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์
และฟิวส์ต้องเป็ นชนิดกนั ฝ่ นุ
7.4.9.2.4 หม้อแปลง ขดลวดอิมพีแดนซ์ และตวั ต้านทาน หม้อแปลง ขดลวดโซลนิ อยด์
ขดลวดอิมพีแดนซ์ และตวั ต้านทานต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.6.2
7-32 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
7.4.10 ดวงโคม
ดวงโคมต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.10.1 และ 7.4.10.2 ตอ่ ไปนี ้
7.4.10.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 1
ดวงโคมแบบยดึ กบั ที่และแบบหยบิ ยกได้ต้องเป็ นดงั นี ้
7.4.10.1.1 ดวงโคมท่ีได้รับการรับรองแล้ว ดวงโคมต้องเป็ นแบบซ่ึงได้รับการรับรอง
สําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 และต้องมีเครื่องหมายอยา่ งชดั เจน แสดงกําลงั ไฟฟ้ าสงู สดุ ที่
ได้รับการรับรอง ในที่ซง่ึ มีฝ่ นุ แมกนีเซียม อะลมู ิเนียม ผงอะลมู ิเนียมบรอนซ์ หรือฝ่ นุ โลหะอ่ืนท่ีมี
คณุ สมบตั เิ ป็ นอนั ตรายคล้ายกนั ดวงโคมแบบยดึ กบั ที่หรือดวงโคมแบบหยิบยกได้ และบริภณั ฑ์
ประกอบทงั ้ หมดต้องได้รับการรับรองเป็ นการเฉพาะ
7.4.10.1.2 ความเสียหายทางกายภาพ ดวงโคมต้องมีการป้ องกันความเสียหายทาง
กายภาพ โดยการกนั ้ หรือโดยตําแหน่งตดิ ตงั้ ท่ีเหมาะสม
7.4.10.1.3 ดวงโคมแขวน ดวงโคมแขวนต้องยดึ แขวนด้วยก้านซงึ่ ทําด้วยทอ่ โลหะหนา หรือ
ทอ่ โลหะหนาปานกลางมีเกลียว โดยโซ่ซึง่ มีเครื่องประกอบท่ีได้รับการรับรองแล้ว หรือโดยวิธีอ่ืน
ที่ได้รับการรับรองแล้ว
7.4.10.1.4 ท่ีรองรับ กลอ่ ง กลอ่ งประกอบสําเร็จ หรือเครื่องประกอบสําหรับรองรับดวงโคม
ต้องได้รับการรับรองสาํ หรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2
7.4.10.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 2
ดวงโคมต้องเป็ นดงั นี ้
7.4.10.2.1 ดวงโคมแบบหยิบยกได้ ดวงโคมแบบหยิบยกได้ต้องได้รับการรับรองสําหรับ
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 2 และต้องมีเครื่องหมายอย่างชดั เจนแสดงกําลงั ไฟฟ้ าสงู สดุ
ที่ได้รับการรับรอง
7.4.10.2.2 ดวงโคมแบบยดึ กับท่ี ดวงโคมแบบยดึ กบั ที่ซงึ่ ไม่ได้รับการรับรองสําหรับบริเวณ
อนั ตรายประเภทที่ 2 ต้องมีเครื่องหอ่ ห้มุ หลอดไฟและขวั้ รับหลอด ซง่ึ ออกแบบให้ฝ่ นุ เข้าไปเกาะ
หลอดไฟได้น้อยท่ีสดุ และต้องสามารถป้ องกันไม่ให้ประกายไฟ วตั ถุติดไฟหรือโลหะร้อนผ่าน
ออกมาได้ดวงโคมต้องมีเครื่องหมายที่ชัดเจนแสดงกําลงั ไฟฟ้ าสูงสุดของหลอดไฟท่ีไม่ทําให้
พืน้ ผิวเปิ ดโลง่ มีอณุ หภมู ิสงู เกินกวา่ ที่กําหนดในข้อ 7.2.3.5 เม่ือใช้งานปกติ
7.4.10.2.3 ความเสียหายทางกายภาพ ดวงโคมแบบยึดกับท่ีต้องมีการป้ องกันความ
เสียหายทางกายภาพโดยการกนั้ หรือโดยตําแหน่งตดิ ตงั้ ที่เหมาะสม
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-33
7.4.10.2.4 ดวงโคมแขวน ดวงโคมแขวนต้องยึดด้วยก้านซึง่ ทําด้วยท่อโลหะหนา หรือท่อ
โลหะหนาปานกลางมีเกลียว โดยโซ่ซึ่งมีเครื่องประกอบที่ได้รับการรับรองแล้ว หรือโดยวิธีอ่ืนซ่ึง
ได้รับการรับรองแล้ว
7.4.10.2.5 หลอดไฟฟ้ าชนิดปล่อยประจุ บริภณั ฑ์สําหรับจดุ ไส้หลอดและควบคมุ หลอด
ปลอ่ ยประจุ ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.6.2
7.4.11 สายอ่อนในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 และ 2
สายออ่ นที่ใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 ต้องเป็ นดงั นี ้
ก) เป็ นแบบท่ีได้รับการรับรองแล้วสําหรับใช้งานหนกั พิเศษ
ข) มีตวั นําสาํ หรับตอ่ ลงดนิ ร่วมอยดู่ ้วย
ค) ตอ่ กบั ขวั้ ตอ่ สาย หรือกบั สายที่จา่ ยไฟฟ้ าให้ในลกั ษณะที่ได้รับการรับรองแล้ว
ง) มีการรองรับโดยใช้ตวั จบั ยึดหรือวิธีที่เหมาะสมซ่ึงไม่ทําให้เกิดแรงดึงท่ีขวั้ ปลาย
สาย และ
จ) มีการปิ ดผนึกท่ีเหมาะสมเพื่อป้ องกัน ไม่ให้ฝ่ ุนเข้าไปได้ตรงจุดท่ีสายอ่อนเข้า
กลอ่ งหรือเคร่ืองประกอบชนิดทนฝ่ นุ ท่ีจดุ ระเบดิ ได้
7.4.12 เต้ารับและเต้าเสียบพร้อมสาย
7.4.12.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 1
เต้ารับและเต้าเสียบพร้อมสายต้องเป็ นแบบมีที่สําหรับต่อตวั นําสําหรับต่อลงดินของสายอ่อน
และต้องได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2
7.4.12.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 2
เต้ารับและเต้าเสียบพร้อมสายต้องเป็ นแบบมีท่ีสําหรับต่อตวั นําสําหรับต่อลงดินของสายอ่อน
และต้องเป็ นแบบซึง่ ไม่สามารถถอดออกหรือเสียบเข้าวงจรจ่ายไฟได้ถ้ามีส่วนท่ีมีไฟฟ้ าเปิ ดโล่ง
อยู่
7.4.13 ระบบสัญญาณ ระบบสัญญาณเตือน ระบบควบคุมระยะไกล ระบบส่ือสาร
เคร่ืองวดั เคร่ืองมือวัดและรีเลย์
7.4.13.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2
ระบบสญั ญาณ ระบบสญั ญาณเตือน ระบบควบคมุ ระยะไกล ระบบส่ือสาร เครื่องวดั เครื่องมือ
วดั และรีเลย์ ต้องเป็ นดงั นี ้
7.4.13.1.1 วธิ ีการเดนิ สาย วิธีการเดนิ สายต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.3.1
7-34 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.4.13.1.2 หน้าสัมผัส สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ รีเลย์ คอนแทกเตอร์ ฟิ วส์ และหน้าสมั ผสั
ตดั กระแสของกริ่ง แตร หวดู ไซเรน หรืออปุ กรณ์อื่นซึ่งเม่ือทํางานอาจเกิดประกายไฟ หรืออาร์ก
ได้ ต้องติดตงั้ ในเครื่องหอ่ ห้มุ ซง่ึ ได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 ยกเว้น ใน
กรณีทีห่ นา้ สมั ผสั ตดั กระแสซึ่งจุ่มอยู่ในนํ้ามนั หรือการตดั กระแสเกิดขึ้นในช่องปิ ดผนึกทีฝ่ ่ นุ เข้า
ไม่ได้ อนญุ าตใหใ้ ชเ้ ครื่องห่อหมุ้ สําหรบั ใชง้ านทวั่ ไปได้
7.4.13.1.3 ตัวต้านทานและบริภณั ฑ์ท่ีคล้ายกัน ตวั ต้านทาน หม้อแปลง โช้ก เคร่ืองเรียง
กระแส หลอดเทอร์มิโอนิก และบริภณั ฑ์ซงึ่ ทําให้เกิดความร้อนชนิดอื่นต้องติดตงั ้ ในเคร่ืองหอ่ ห้มุ
ท่ีได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 ยกเว้น ในกรณีทีต่ วั ต้านทานและ
บริภณั ฑ์ที่คล้ายกนั จุ่มอยู่ในน้ํามนั หรืออยู่ในช่องปิ ดผนึกที่ฝ่ นุ เข้าไม่ได้ อนุญาตให้ใช้เครื่อง
ห่อหมุ้ สําหรบั ใชง้ านทว่ั ไปได้
7.4.13.1.4 เคร่ืองจักรกล มอเตอร์ เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ าและเครื่องจกั รกลไฟฟ้ าแบบอ่ืนๆ ต้อง
เป็ นไปตามข้อ 7.4.7.1
7.4.13.1.5 ฝ่ ุนท่เี ป็ นตัวนําไฟฟ้ าและลุกไหม้ได้ ในที่ซง่ึ มีฝ่ นุ ท่ีเป็ นตวั นําไฟฟ้ าและลกุ ไหม้
ได้ การเดนิ สายและบริภณั ฑ์ต้องได้รับการรับรองสาํ หรับใช้ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2
7.4.13.1.6 ฝ่ ุนโลหะ ในที่ซงึ่ อาจมีฝ่ นุ แมกนีเซียม อะลมู ิเนียม ผงอะลมู ิเนียมบรอนซ์ หรือฝ่ นุ
โลหะอ่ืนท่ีมีคณุ สมบตั ิเป็ นอนั ตรายคล้ายกนั บริภณั ฑ์และเคร่ืองสําเร็จต้องได้รับการรับรองเป็ น
การเฉพาะ
7.4.13.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 2 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 2
ระบบสญั ญาณ ระบบสญั ญาณเตือน ระบบควบคมุ ระยะไกล ระบบส่ือสาร เครื่องวดั เครื่องมือ
วดั และรีเลย์ ต้องเป็ นดงั นี ้
7.4.13.2.1 หน้าสัมผัส เครื่องห่อหุ้มของหน้าสมั ผัสต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.13.1.2
ข้างต้น หรือหน้าสมั ผสั ต้องอย่ใู นเคร่ืองห่อห้มุ โลหะปิ ดแน่นซึ่งฝ่ ุนเข้าได้น้อยที่สดุ และมีฝาปิ ด
แน่นโดยไม่มีช่องเปิ ดภายหลงั การตดิ ตงั้ ซง่ึ ประกายไฟหรือวตั ถทุ ่ีติดไฟผ่านออกมาได้ ยกเว้น
วงจรซ่ึงในสภาวะปกติไม่ทําใหเ้ กิดพลงั งานเพียงพอทีจ่ ะจุดระเบิดฝ่ นุ ทีเ่ กาะอยู่ ยอมใหใ้ ช้เครื่อง
ห่อหมุ้ สําหรบั ใชง้ านทว่ั ไปได้
7.4.13.2.2 หม้อแปลงและบริภัณฑ์ท่ีคล้ายกัน ขดลวดและขวั ้ ต่อสายของหม้อแปลง โช้
กและบริภณั ฑ์ท่ีคล้ายกนั ต้องอยใู่ นเครื่องหอ่ ห้มุ โลหะปิ ดแนน่ โดยไม่มีช่องระบายอากาศ
7.4.13.2.3 ตัวต้านทานและบริภณั ฑ์ท่คี ล้ายกนั ตวั ต้านทาน อปุ กรณ์ความต้านทานหลอด
เทอร์มิโอนิก เคร่ืองเรียงกระแส และบริภณั ฑ์ที่คล้ายกนั ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.13.1.3 ข้างต้น
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-35
ยกเว้น อนญุ าตใหใ้ ชเ้ ครื่องห่อหมุ้ สําหรับใช้งานทว่ั -ไปสําหรับหลอดเทอร์มิโอนิก ตวั ตา้ นทาน
ชนิดปรบั ค่าไม่ไดห้ รือเครื่องเรียงกระแสซึ่งมีอณุ หภูมิใชง้ านสูงสดุ ไม่เกิน 120 °Cได้
7.4.13.2.4 เคร่ืองจักรกล มอเตอร์ เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ าและเคร่ืองจักรกลไฟฟ้ าอื่นๆ ต้อง
เป็ นไปตามข้อ 7.4.7.2
7.4.13.2.5 วธิ ีการเดนิ สาย วิธีการเดนิ สาย ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.4.3.2
7.4.14 ส่วนท่มี ีไฟฟ้ าในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 และ 2
ต้องไมม่ ีสว่ นที่มีไฟฟ้ าเปิ ดโลง่
7.4.15 การต่อลงดนิ ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 และ 2
การเดนิ สายและบริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 1 และ 2 ต้องตอ่ ลงดิน ตามที่
กําหนดในบทท่ี 4 และเพ่มิ เตมิ ดงั นี ้
7.4.15.1 การต่อฝาก การใช้บชุ ชิงพร้อมแป้ นเกลียวลอ็ ก หรือใช้แป้ นเกลียวลอ็ กคู่ ไม่ถือวา่ เป็ น
การต่อฝากเพียงพอ การต่อฝากต้องใช้สายต่อฝาก พร้ อมเครื่องประกอบท่ีเหมาะสมหรือใช้
วิธีการตอ่ ฝากอื่นซงึ่ ได้รับการรับรองแล้ว ต้องมีการตอ่ ฝากสําหรับช่องเดินสาย, เคร่ืองประกอบ,
กล่อง เครื่องห่อห้มุ ที่อยู่ระหว่างบริเวณอันตรายประเภทที่ 2 กับจุดต่อลงดินของบริภณั ฑ์
ประธานหรือจดุ ตอ่ ลงดนิ ของระบบท่ีมีตวั จ่ายแยกตา่ งหาก ยกเว้น วิธีการต่อฝากโดยเฉพาะ
ใหจ้ ดั ทําทีจ่ ุดต่อลงดินของเครื่องปลดวงจรของอาคาร ตามข้อ 4.3 เท่านน้ั และตอ้ งจดั ใหเ้ ครื่อง
ป้ องกนั กระแสเกินของวงจรย่อยติดตง้ั อยู่ดา้ นโหลดของเครื่องปลดวงจร
7.4.15.2 ชนิดของตัวนําสาํ หรับต่อลงดนิ ของบริภณั ฑ์ ในที่ซง่ึ อนญุ าตให้ใช้ท่อโลหะอ่อน
ตามข้อ 7.4.3 ต้องมีสายต่อฝากภายในหรือภายนอกขนานไปกับแต่ละท่อร้อยสายและต้อง
เป็ นไปตามข้อ 4.15.6
7.4.16 การป้ องกันเสริ ์จในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 และ 2
ล่อฟ้ า กับดกั เสิร์จ รวมทงั้ การติดตงั้ และการต่อสาย ต้องเป็ นไปตามมาตรฐาน สําหรับล่อฟ้ า
หรือกบั ดกั เสิร์จ ท่ีติดตงั้ ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบ ท่ี 1 ต้องติดตงั ้ ในเครื่องห่อห้มุ ที่
เหมาะสม หากใช้คาปาซเิ ตอร์เพ่ือป้ องกนั เสริ ์จ ต้องเป็ นชนิดท่ีออกแบบเพื่อใช้งานเฉพาะ
7.5 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3
7.5.1 ท่วั ไป
กฎทว่ั ไปของมาตรฐานนีใ้ ช้กับการเดินสายไฟฟ้ าและบริภัณฑ์ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 3
ตามข้อ 7.2.4 ยกเว้น ตามทีไ่ ดป้ รบั ปรุงในข้อนี้
7-36 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
บริภณั ฑ์ท่ีติดตงั้ ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 3 ต้องสามารถทํางานได้เต็มพิกดั โดยไม่ทําให้
อณุ หภมู ิที่ผิวสงู พอที่จะทําให้เกิดการแห้งตวั มากเกินไป หรือทําให้เส้นใย หรือละอองท่ีสะสมตวั
อยคู่ ่อยๆ กลายเป็ นถ่าน อินทรีย์สารที่กลายเป็ นถ่านหรือแห้งมากเกินไปนีส้ ามารถจดุ ระเบิดขนึ ้
เองได้ อณุ หภมู ิสงู สดุ ที่ผิวของบริภณั ฑ์ขณะทํางานตามปกติไม่มีโหลดเกินต้องไม่เกิน 165 °C
สว่ นบริภณั ฑ์ซง่ึ ตามภาวะการทํางานตามปกตอิ าจมีโหลดเกิน เช่น มอเตอร์หรือหม้อแปลงกําลงั
ต้องมีอณุ หภมู ิสงู สดุ ท่ีผวิ ไม่เกิน 120 °C
7.5.2 หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์
บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 แบบที่ 1 และ 2 หม้อแปลงและคาปาซิเตอร์ต้องเป็ นไปตามข้อ
7.4.3.2
7.5.3 วธิ ีการเดนิ สาย
วิธีการเดนิ สายต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5.3.1 และ 7.5.3.2 ดงั นี ้
7.5.3.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 แบบท่ี 1
การเดินสายต้องเดินในท่อโลหะหนา ท่ออโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง ท่อโลหะบาง ราง
เดนิ สายชนิดกนั ฝ่ นุ
สายเคเบิลชนิด MCหรือ MI และเครื่องประกอบการทําปลายสาย ต้องเป็ นชนิดที่ได้รับการ
รับรองแล้ว
สายเคเบิลชนิด PLTC และ PLTC-ER หรือ สายเคเบิลชนิด ITC และ ITC-ER ให้ตดิ ตงั้ ในราง
เคเบลิ ได้
สายเคเบลิ ชนิด MC, MI หรือ TC ตดิ ตงั้ แบบชนั้ เดียวในรางเคเบลิ แบบบนั ได หรือแบบด้านลา่ งมี
ช่องระบายอากาศได้ ยกเว้น การเดินสายในวงจรทีไ่ ม่ก่อใหเ้ กิดพลงั งานพอทีจ่ ะทําใหเ้ กิด
การจดุ ระเบิดได้ อนญุ าตใหใ้ ชว้ ิธีเดินสายสําหรบั สถานทีธ่ รรมดาได้
7.5.3.1.1 กล่องและเคร่ืองประกอบ กลอ่ งและเครื่องประกอบต้องเป็ นชนิดกนั ฝ่ นุ
7.5.3.1.2 การต่อแบบอ่อนตัวได้ ในท่ีซง่ึ มีความจําเป็ นต้องใช้การตอ่ แบบอ่อนตวั ได้ ต้อง
ใช้ข้อต่ออ่อนงอได้ชนิดกันฝ่ ุน ท่อโลหะอ่อนงอได้กันของเหลวและเคร่ืองประกอบที่ได้รับการ
รับรองแล้ว ท่ออโลหะอ่อนงอได้กนั ของเหลวและเคร่ืองประกอบท่ีได้รับการรับรองแล้ว หรือสาย
ออ่ นท่ีเป็ นไปตามข้อ 7.5.10
7.5.3.2 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 2 วิธีการเดินสายในบริเวณอนั ตราย
ประเภทที่ 3 แบบที่ 2 ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5.3.1 ข้างต้น ยกเว้น กรณีทีส่ ถานทีด่ งั กล่าวใช้
เป็นทีเ่ ก็บอย่างเดียว และไม่มีเครื่องจกั รกลใดๆ อนญุ าตใหเ้ ดินสายเปิ ดบนลูกถว้ ยได้ ในกรณีที่
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-37
ตวั นําไม่ไดเ้ ดินอยู่ในช่องใตห้ ลงั คา ตอ้ งการมีการป้ องกนั ตวั นําจากความเสียหายทางกายภาพ
ดว้ ย
7.5.4 สวิตช์ เซอร์ กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคุมมอเตอร์ และฟิ วส์ ในบริเวณ
อันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
สวติ ช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคมุ มอเตอร์ และฟิวส์ รวมทงั้ สวิตช์กดป่ มุ รีเลย์ และอปุ กรณ์
ท่ีคล้ายกนั ต้องมีเครื่องหอ่ ห้มุ ชนิดกนั ฝ่ นุ
7.5.5 หม้อแปลงควบคุม และตัวต้านทาน ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1
และ 2
หม้อแปลง ขดลวดอิมพีแดนซ์ และตัวต้านทานที่ใช้ร่วมกับบริภัณฑ์สําหรับควบคุมมอเตอร์
เครื่องกําเนิดไฟฟ้ าและเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าต้องมีเครื่องห่อหุ้มชนิดกันฝ่ ุน และอุณหภูมิไม่เกินที่
กําหนดในข้อ 7.5.1
7.5.6 มอเตอร์และเคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ า ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1
และ 2
ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2 มอเตอร์ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า และเครื่องจกั รกล
ไฟฟ้ าอื่นๆ ต้องเป็ นชนิดห้มุ ปิ ดหมดโดยไม่มีช่องระบายอากาศ หรือชนิดห้มุ ปิ ดหมดมีทอ่ ระบาย
อากาศ หรือชนิดห้มุ ปิ ดหมดมีพดั ลมระบายอากาศ
7.5.7 ท่อระบายอากาศในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
ทอ่ ระบายอากาศสําหรับ มอเตอร์ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า และเครื่องจกั รกลไฟฟ้ าอื่นๆ หรือสําหรับ
เคร่ืองห่อห้มุ ของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า ต้องใช้ท่อโลหะหนาไม่น้อยกว่า 0.5 มม. หรือวสั ดทุ ี่ไม่ติดไฟ
อยา่ งอ่ืนที่เทียบเทา่ และต้องเป็ นดงั ตอ่ ไปนี ้
7.5.7.1 ตอ่ ตรงไปนอกอาคารซงึ่ มีอากาศสะอาด
7.5.7.2 ปลายทอ่ ด้านนอกต้องปิ ดด้วยตาขา่ ยเพ่ือป้ องกนั ไม่ให้สตั ว์เลก็ หรือนกเข้า
7.5.7.3 ต้องมีการป้ องกนั ความเสียหายทางกายภาพ และป้ องกนั การเกิดสนิมหรือผกุ ร่อน
จากสาเหตอุ ่ืน
ท่อระบายอากาศรวมทงั้ การต่อต้องแน่นหนาเพียงพอ เพื่อป้ องกนั มิให้เส้นใยหรือละอองเข้าไป
ในบริภณั ฑ์ระบายอากาศ หรือเครื่องหอ่ ห้มุ และเพ่ือป้ องกนั มิให้ประกายไฟ เปลวไฟ วตั ถทุ ่ีตดิ ไฟ
ผ่านออกมาทําให้เส้นใย ละออง และวัตถุติดไฟท่ีสะสมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเกิดลุกไหม้
อนุญาตให้ใช้ท่อโลหะ ตะเข็บล็อก และจุดต่อโดยการใช้หมุดยํา้ หรือการเชื่อมได้ ส่วนข้อต่อ
เลอื่ นแบบสวมแน่นพอดี อนญุ าตให้ใช้ในท่ีซงึ่ ต้องการความออ่ นตวั เช่น จดุ ท่ีตอ่ เข้ามอเตอร์
7-38 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.5.8 บริภณั ฑ์ใช้สอยในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
7.5.8.1 เคร่ืองทาํ ความร้อน บริภณั ฑ์ใช้สอยที่ทําให้เกิดความร้อนด้วยไฟฟ้ า ต้องเป็ น
แบบที่ได้รับการรับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 3
7.5.8.2 มอเตอร์ มอเตอร์ของบริภณั ฑ์ใช้สอย ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5.6
7.5.8.3 สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคุมมอเตอร์และฟิ วส์ สวิตช์ เซอร์กิต
เบรกเกอร์ เคร่ืองควบคมุ มอเตอร์และฟิวส์ ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5.4
7.5.9 ดวงโคม ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
7.5.9.1 ดวงโคมแบบยึดกับท่ี ดวงโคมแบบยึดกบั ที่ ต้องมีเครื่องห่อห้มุ สําหรับหลอดไฟ
และขวั้ รับหลอดซ่ึงออกแบบให้เส้นใย และละอองเข้าไปภายในได้น้อยท่ีสดุ และป้ องกันไม่ให้
ประกายไฟ วตั ถทุ ่ีติดไฟ หรือโลหะร้อน ผา่ นออกมาได้ ดวงโคมต้องมีเครื่องหมายท่ีชดั เจนแสดง
กําลงั ไฟฟ้ าสงู สดุ ของหลอดท่ีไม่ทําให้พืน้ ผิวเปิ ดโลง่ มีอณุ หภมู ิสงู กวา่ 165 °C (329 °F) ในการ
ใช้งานปกติ
7.5.9.2 ความเสียหายทางกายภาพ ดวงโคมที่เปิ ดโลง่ ตอ่ ความเสียหายทางกายภาพ ต้อง
ป้ องกนั ด้วยเคร่ืองกนั้ ที่เหมาะสม
7.5.9.3 ดวงโคมแขวน ดวงโคมแขวนต้องยึดแขวนด้วยก้านซ่ึงทําด้วยท่อโลหะหนามี
เกลียว ทอ่ โลหะหนาปานกลางมีเกลียว ท่อโลหะบางมีเกลียวท่ีมีความหนาเทียบเท่า หรือแขวน
ด้วยโซซ่ งึ่ มีเครื่องประกอบที่ได้รับการรับรองแล้ว
7.5.9.4 ดวงโคมแบบหยิบยกได้ ดวงโคมแบบหยิบยกได้ต้องมีด้ามจบั และเคร่ืองกนั้ ที่
แข็งแรง ขวั ้ รับหลอดต้องเป็ นแบบไม่มีสวิตช์ และเต้ารับ ต้องไม่มีสว่ นที่เป็ นโลหะนํากระแสเปิ ด
โลง่ สว่ นท่ีเป็ นโลหะไม่นํากระแสเปิ ดโลง่ ต้องต่อลงดินและต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5.9.1 ข้างต้น
ด้วย
7.5.10 สายอ่อนในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
สายออ่ นต้องเป็ นดงั นี ้
7.5.10.1 เป็ นแบบที่ได้รับการรับรองแล้วสาํ หรับใช้งานหนกั พิเศษ
7.5.10.2 มีตวั นําสําหรับตอ่ ลงดนิ ร่วมอยดู่ ้วย
7.5.10.3 ตอ่ กบั ขวั้ ตอ่ สาย หรือกบั สายที่จ่ายไฟฟ้ าให้ในลกั ษณะท่ีได้รับการรับรองแล้ว
7.5.10.4 มีการรองรับโดยใช้ตวั จบั ยึดหรือวิธีที่เหมาะสมซึ่งไม่ทําให้เกิดแรงดงึ ท่ีขวั้ ปลายสาย
และ
7.5.10.5 มีวิธีการท่ีเหมาะสมเพื่อป้ องกันเส้นใยหรือละอองเข้าไปได้ตรงจุดท่ีสายอ่อนเข้า
กลอ่ ง หรือเคร่ืองประกอบ
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-39
7.5.11 เต้ารับและเต้าเสียบในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
เต้ารับและเต้าเสียบต้องเป็ นแบบต่อลงดินและต้องออกแบบให้มีการสะสมเส้นใยและละออง
น้อยที่สดุ และต้องป้ องกนั มิให้ประกายไฟหรืออนภุ าคท่ีหลอมละลาย เลด็ ลอดออกมา
7.5.12 ระบบสัญญาณ ระบบสัญญาณเตือน ระบบควบคุมระยะไกล และระบบเคร่ือง
พดู ตดิ ต่อภายใน ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
ระบบสญั ญาณ ระบบสญั ญาณเตือน ระบบควบคมุ ระยะไกล และระบบเครื่องพดู ตดิ ตอ่ ภายใน
ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5 ในเร่ืองวิธีการเดินสาย สวิตช์ หม้อแปลง ตวั ต้านทาน มอเตอร์ ดวงโคม
และอปุ กรณ์ประกอบท่ีเกี่ยวข้อง
7.5.13 เครนไฟฟ้ า รอกไฟฟ้ า และบริภัณฑ์ท่ีคล้ายกันในบริเวณอันตรายประ เภทท่ี
3 แบบท่ี 1 และ 2
ในกรณีที่ติดตงั้ เครนไฟฟ้ า รอกไฟฟ้ า และบริภณั ฑ์ท่ีคล้ายกนั เพ่ือใช้งานเหนือเส้นใยท่ีลกุ ไหม้
ได้ หรือที่ซงึ่ มีละอองสะสม ต้องเป็ นไปตาม 7.5.13.1 ถงึ 7.5.13.2 ดงั นี ้
7.5.13.1 การจ่ายไฟ การจา่ ยไฟให้กบั ตวั นําหน้าสมั ผสั ต้องแยกออกจากระบบอ่ืน และต้อง
มีเคร่ืองตรวจจบั การร่ัวลงดินซงึ่ แสดงสญั ญาณเตือน และตดั ไฟท่ีจ่ายไปยงั ตวั นําหน้าสมั ผสั ได้
โดยอตั โนมตั ิเมื่อเกิดไฟรั่วลงดิน หรือให้สญั ญาณที่มองเห็นได้และได้ยินเสียงเตือนตลอดเวลา
เมื่อยงั จ่ายไฟให้กบั ตวั นําหน้าสมั ผสั ท่ียงั มีการร่ัวลงดนิ
7.5.13.2 ตัวนําหน้าสัมผัส ตวั นําหน้าสมั ผสั ต้องติดตงั้ หรือกัน้ ไม่ให้ผ้ทู ี่ไม่มีอํานาจหน้าท่ี
เข้าถงึ ได้ และต้องป้ องกนั มิให้สง่ิ แปลกปลอมสมั ผสั โดยบงั เอิญ
7.5.13.3 ตัวเก็บกระแส ตวั เก็บกระแสต้องจัด หรือกัน้ เพื่อกักเก็บประกายไฟท่ีเกิดขึน้
ตามปกติและป้ องกนั มิให้ประกายไฟและอนภุ าคที่ร้อนหลดุ ออกไฟ เพ่ือลดการเกิดประกายไฟ
ต้องทําให้พืน้ ผิวของตวั นําหน้าสมั ผสั แต่ละอนั แยกกนั เป็ นหลายชิน้ และต้องจดั ให้มีมาตรการท่ี
เหมาะสมท่ีทําให้ตวั นําหน้าสมั ผสั และตวั เก็บกระแสไมม่ ีการสะสมฝ่ นุ หรือละออง
7.5.13.4 บริภณั ฑ์ควบคุม บริภณั ฑ์ควบคมุ ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.5.4 และ 7.5.5
7.5.14 บริภณั ฑ์สาํ หรับอัดแบตเตอร่ี ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1และ 2
บริภณั ฑ์สําหรับอดั แบตเตอร่ีต้องติดตงั้ ในห้องแยกโดยเฉพาะ ซ่ึงสร้างหรือบดุ ้วยวสั ดไุ ม่ติดไฟ
และต้องสร้างไมใ่ ห้ฝ่ นุ หรือละอองเข้าไปได้และต้องมีการระบายอากาศที่ดี
7.5.15 ส่วนท่มี ีไฟฟ้ าในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
ต้องไม่มีสว่ นท่ีมีไฟฟ้ าเปิ ดโลง่
7-40 บทที่ 7 บริเวณอันตราย
7.5.16 การต่อลงดนิ ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบท่ี 1 และ 2
การเดนิ สายและบริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 แบบท่ี 1 และ 2 ต้องตอ่ ลงดินตามบทท่ี
4 และเพิม่ เตมิ ดงั นี ้
7.5.16.1 การต่อฝาก การใช้บชุ ชิงพร้อมแป้ นเกลยี วลอ็ ก หรือใช้แป้ นเกลียวลอ็ กคู่ ไม่ถือวา่
เป็ นการตอ่ ฝากเพียงพอ การตอ่ ฝากต้องใช้สายตอ่ ฝาก พร้อมเครื่องประกอบท่ีเหมาะสมหรือใช้
วิธีการตอ่ ฝากอื่นซง่ึ ได้รับการรับรองแล้ว ต้องมีการตอ่ ฝากสาํ หรับชอ่ งเดนิ สาย เคร่ืองประกอบ
กลอ่ ง เคร่ืองหอ่ ห้มุ ทีอ่ ยรู่ ะหวา่ งบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 กบั จดุ ตอ่ ลงดนิ ของบริภณั ฑ์
ประธาน หรือจดุ ตอ่ ลงดนิ ของระบบชนิดจา่ ยแยกตา่ งหาก ยกเว้น วิธีการต่อฝากโดยเฉพาะให้
จดั ทําทีจ่ ุดต่อลงดินของเครื่องปลดวงจรของอาคาร ตามข้อ4.3 เทา่ นนั้ และตอ้ งจดั ใหเ้ ครื่อง
ป้ องกนั กระแสเกินของ วงจรย่อยติดตง้ั อยู่ดา้ นโหลดของเครื่องปลดวงจร
7.5.16.2 ชนิดของตัวนําสาํ หรับต่อลงดนิ ของบริภัณฑ์ ในท่ีซง่ึ อนญุ าตให้ใช้ทอ่ โลหะอ่อน
งอได้หรือท่อโลหะอ่อนกนั ของเหลวตามข้อ 7.5.3 และเช่ือได้วา่ มีการตอ่ ลงดินท่ีสมบรู ณ์เพียง
จุดเดียว ต้องจัดให้มีสายต่อฝากภายในหรือภายนอกขนานไปกับแต่ละท่อร้ อยสายและต้อง
เป็ นไปตามข้อ 4.15.6
7.6 ระบบท่ปี ลอดภยั อย่างแท้จริง (Intrinsically Safe Systems)
7.6.1 ขอบเขต มาตรฐานข้อนีค้ รอบคลมุ การติดตงั้ สําหรับเคร่ืองสําเร็จ การเดินสายและ
ระบบในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1, 2 และ 3
หมายเหตุ สําหรบั ข้อมูลเพ่ิมเติมให้ดู ANSI/ISA-RP 12.06.01-2003, Recommended Practice for
Wiring Methods for Hazardous (Classified) Locations Instrumentation
7.6.2 นิยาม สําหรับจดุ ประสงค์ในข้อนี ้มีดงั นี ้
อุปกรณ์ ประกอบ (Associated Apparatus) หมายถึงอุปกรณ์ในวงจรซ่ึงอุปกรณ์นีไ้ ม่
จําเป็ นต้องมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง แต่มีผลต่อพลงั งานในวงจรท่ีปลอดภัยอย่างแท้จริง
และช่วยให้คงไว้ซึ่งความปลอดภัยอย่างแท้จริงของอุปกรณ์ อุปกรณ์ประกอบนีไ้ ด้แก่ข้อใดข้อ
หนงึ่ ดงั นี ้
ก) อปุ กรณ์ไฟฟ้ าท่ีสามารถเลือกวิธีการป้ องกนั ให้เหมาะสมกบั บริเวณอนั ตรายแต่
ละประเภทหรือ
ข) อปุ กรณ์ไฟฟ้ าท่ีไม่มีการป้ องกนั ซงึ่ ห้ามใช้ในบริเวณอนั ตราย
หมายเหตุ อุปกรณ์ประกอบที่มี สญั ลักษณ์ว่าการต่อมีความปลอดภัยอย่างแท้จริ ง
สําหรบั การต่อระหว่างอปุ กรณ์ทีม่ ีความปลอดภยั อย่างแทจ้ ริงกบั อปุ กรณ์ทีไ่ ม่
เป็นอปุ กรณ์แบบปลอดภยั อย่างแทจ้ ริง
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-41
แบบแสดงระบบควบคุม (Control Drawing) หมายถึง แบบหรือเอกสารท่ีจดั ทําโดยบริษัทที่
ผลิต อุปกรณ์ท่ีปลอดภยั อย่างแท้จริงหรืออปุ กรณ์ประกอบซ่ึงแสดงรายละเอียดการตอ่ ระหว่าง
ระบบที่ปลอดภยั อยา่ งแท้จริงและอปุ กรณ์ประกอบ
วงจรท่ีมีความปลอดภัยอย่างแท้จริงต่างกัน (Different Intrinsically Safe Circuits)
หมายถึง วงจรที่มีความปลอดภัยอย่างแท้จริงซ่ึงการต่อระหว่างกันไม่ได้รับการประเมินและ
รับรองวา่ ปลอดภยั อยา่ งแท้จริง
อุปกรณ์ท่ปี ลอดภยั อย่างแท้จริง (Intrinsically Safe Apparatus) หมายถึง อปุ กรณ์ในวงจรที่
มีความปลอดภยั อยา่ งแท้จริง
วงจรท่ปี ลอดภัยอย่างแท้จริง (Intrinisically Safe Circuit) หมายถึง วงจรซง่ึ ประกายไฟหรือ
ผลของความร้อนที่อาจเกิดขึน้ ไม่สามารถทําให้เกิดการจดุ ระเบิดสารผสมที่ติดไฟได้หรือวสั ดทุ ่ี
ลกุ ไหม้ได้ท่ีอยใู่ นอากาศภายใต้สภาวะการทดสอบที่กําหนด
หมายเหตุ สภาวะการทดสอบกําหนดไวใ้ น ANSI/UL 913-1997, Standard for Safety, Intrinsically
SafeApparatus and Associated Apparatus for Use in Class I, II,and III, Division 1,
Hazardous (Classified) Locations.
ระบบท่ีปลอดภัยอย่างแท้จริง (Intrinsically Safe Systems) หมายถึง การประกอบสําเร็จ
ของการตอ่ ระหว่างอปุ กรณ์ที่ปลอดภยั อย่างแท้จริง อปุ กรณ์ประกอบและสายเคเบิลท่ีใช้ตอ่ ร่วม
ซง่ึ ทกุ สว่ นในระบบสามารถใช้ในบริเวณอนั ตราย
หมายเหตุ ระบบทีป่ ลอดภยั อย่างแทจ้ ริงอาจประกอบดว้ ย วงจรทีป่ ลอดภยั อย่างแทจ้ ริงมากกว่า 1 วงจร
7.6.3 การใช้กฎข้ออ่ืน นอกจากที่ได้ปรับปรุงในข้อนีแ้ ล้ว กฎข้ออื่นในมาตรฐานนีส้ ามารถ
นํามาใช้ได้
7.6.4 การรับรองบริภัณฑ์ อปุ กรณ์ที่ปลอดภยั อย่างแท้จริงและอปุ กรณ์ประกอบต้อง
ได้รับการรับรองจากสถาบนั ท่ีเช่ือถือได้ เช่น UL, NEMA, FM, CSA, ECCS, PTB, LCIE หรือ
DEMKO เป็ นต้น
7.6.5 การตดิ ตงั้ บริภณั ฑ์
7.6.5.1 แบบแสดงระบบควบคุม อุปกรณ์ท่ีปลอดภัยอย่างแท้จริง อุปกรณ์ประกอบและ
บริภณั ฑ์อื่นต้องตดิ ตงั้ ตามแบบแสดงระบบควบคมุ
หมายเหตุ อปุ กรณ์มีเครื่องหมายแสดงเอกลกั ษณ์ของแบบแสดงระบบควบคมุ
7.6.5.2 สถานท่ี อุปกรณ์ที่ปลอดภยั อย่างแท้จริงและอปุ กรณ์ประกอบ อนญุ าตให้ติดตงั้
ในบริเวณอนั ตรายซงึ่ อปุ กรณ์นนั้ ได้รับการรับรอง
7-42 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
หมายเหตุ อปุ กรณ์ประกอบอาจติดตงั้ ในบริเวณอนั ตรายถ้ามีการป้ องกนั โดยวิธีทีอ่ นญุ าตไวใ้ น
ขอ้ 7.3 ข้อ 7.4 และขอ้ 7.5 อนญุ าตใหใ้ ชเ้ ครื่องห่อหมุ้ สําหรับใชง้ านทว่ั -ไปสําหรบั
อปุ กรณ์ทีป่ ลอดภยั อย่างแทจ้ ริงได้
7.6.6 วิธีการเดินสาย อปุ กรณ์ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงและการเดินสายอนญุ าตให้ติดตงั้
โดยใช้วิธีการเดนิ สายที่เหมาะสมสาํ หรับสถานที่ธรรมดา ต้องจดั ให้มีการปิ ดผนกึ ตามข้อ 7.6.10
และ การแยกตามข้อ 7.6.7
7.6.7 การแยกตวั นําท่ปี ลอดภยั อย่างแท้จริง
7.6.7.1 การแยกจากตัวนําของวงจรท่ไี ม่ปลอดภยั อย่างแท้จริง
7.6.7.1.1 การเดินสายเปิ ด ตวั นําและสายเคเบิลของวงจรที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง และ
ไม่ได้อย่ใู นช่องเดินสายหรือรางเคเบิลต้องแยกให้อย่หู ่างจากตวั นําและสายเคเบิลของวงจรท่ีไม่
ปลอดภยั อยา่ งแท้จริงอยา่ งน้อย 50 มม.
ยกเว้น สําหรบั กรณีต่อไปนี้
1) ตวั นําของวงจรที่ปลอดภยั อย่างแท้จริงเป็ นสายเคเบิลชนิด MI
หรือ MC
2) ตวั นําของวงจรที่ไม่ปลอดภยั อย่างแท้จริงอยู่ในช่องเดินสายหรือ
เป็ นสายเคเบิลชนิด MI หรือ MC ซ่ึงมีเปลือกหุ้มสามารถรับ
กระแสผิดพร่องลงดินได้
7.6.7.1.2 ในช่องเดินสาย รางเคเบิล และสายเคเบิล ตวั นําของ วงจรที่ปลอดภยั อย่าง
แท้จริงต้องไม่อย่ใู นช่องเดินสาย รางเคเบิลหรือสายเคเบิลร่วมกบั ตวั นําของ วงจรท่ีไม่ปลอดภยั
อยา่ งแท้จริง
ข้อยกเว้นที่ 1 ในกรณีที่ตวั นําของวงจรทีป่ ลอดภยั อย่างแท้จริงมีการจบั ยึดและแยกออก
จากตวั นําของวงจรทีไ่ ม่ปลอดภยั อย่างแทจ้ ริงเป็นระยะไม่นอ้ ยกว่า 50 มม.
(2น้ิว) หรือโดยใช้ผนงั กน้ั แยกทีเ่ ป็นโลหะและต่อลงดินหรือทําด้วยฉนวนที่
ไดร้ บั การรบั รองแลว้
ผนงั กน้ั แยกซ่ึงเป็นแผ่นโลหะหนาไม่นอ้ ยกว่า 1 มม. (0.0359 นิ้ว)ยอมรับให้
ใชไ้ ดท้ วั่ ไป
ข้อยกเว้นที่ 2 กรณีใดกรณีหนึ่งดงั ต่อไปนี้
1) เป็นตวั นําของวงจรทีป่ ลอดภยั อย่างแทจ้ ริงทงั้ หมด หรือ
2) ตวั นําของวงจรที่ไม่ปลอดภยั อย่างแทจ้ ริงเป็นสายเคเบิลชนิดเปลือก
นอกโลหะหรือสายเคเบิลหมุ้ ดว้ ยโลหะซึ่งเปลือกหรือส่วนหมุ้ ทีเ่ ป็นโลหะ
ต่อลงดิน และสามารถรบั กระแสผิดพร่องลงดินได้
สายเคเบิลชนิด MI, MC หรือ SNM ยอมรบั ใหใ้ ชไ้ ด้
บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-43
7.6.7.1.3 ภายในเคร่ืองห่อหุ้ม
ก) ตวั นําของวงจรที่ปลอดภยั อย่างแท้จริงต้องแยกให้อย่หู า่ งจากตวั นําของวงจร
ที่ไม่ปลอดภัยอย่างแท้จริงอย่างน้อย 50 มม. (2 นิว้ ) หรือตามท่ีระบุในข้อ
7.6.7.1.2
ข) ต้องจบั ยดึ ตวั นําให้แน่นเพื่อไม่ให้เกิดการหลวม ซงึ่ อาจทําให้ปลายสายหลดุ
จากขวั้ ไปสมั ผสั กบั ปลายสายขวั้ อ่ืนได้
หมายเหตุ การใช้วิธีการเดินสายแยกแต่ละส่วนสําหรับขว้ั สายของวงจรที่ปลอดภยั
อย่างแท้จริงและวงจรที่ไม่ปลอดภยั อย่างแท้จริง จดั เป็นวิธีทีค่ วรพิจารณา
ตามข้อกําหนดนี้
ผนงั กัน้ เช่น ผนงั กน้ั แยกโลหะที่ต่อลงดิน ผนงั กัน้ แยกฉนวนที่ได้รับการ
รับรองแล้ว หรือท่อร้อยสายทีจ่ ํากดั การเข้าถึงทีไ่ ด้รบั การรับรองแล้วและอยู่
ห่างจากท่ออืน่ อย่างนอ้ ย 19 มม. (3/4 น้ิว) สามารถนํามาใช้เพือ่ ช่วยให้
เป็ นไปตามข้อกําหนดการแยกเดินสาย
7.6.7.2 จากตัวนําของวงจรท่มี ีความปลอดภยั อย่างแท้จริงต่างกัน
วงจรที่มีความปลอดภยั อย่างแท้จริงตา่ งกนั ต้องมีการแยกสายเคเบิลหรือแยกจากวงจรอื่นโดย
วธิ ีใดวิธีหนงึ่ ดงั นี ้
7.6.7.2.1 ตวั นําของแตล่ ะวงจรอยภู่ ายในเปลือกโลหะท่ีตอ่ ลงดนิ
7.6.7.2.2 ตวั นําของแตล่ ะวงจรมีฉนวนซง่ึ หนาไม่น้อยกวา่ 0.25 มม. (0.01 นิว้ ) ห้มุ ยกเว้น
ถา้ ไม่มีการรบั รองเป็นอย่างอืน่
7.6.8 การต่อลงดนิ
7.6.8.1 อุปกรณ์ท่ีปลอดภัยอย่างแท้จริง อุปกรณ์ประกอบและช่องเดินสาย อปุ กรณ์
ท่ีปลอดภยั อย่างแท้จริง เกราะห้มุ สายเคเบิล เคร่ืองห่อห้มุ และช่องเดินสายหากเป็ นโลหะต้อง
ตอ่ ลงดนิ
การต่อฝากกับหลกั ดิน เพิ่มเติมอาจมีความจําเป็ นสําหรับอปุ กรณ์ประกอบบางอย่าง เช่น ผนงั
กนั้ ของซีเนอร์ไดโอด ถ้าได้ระบไุ ว้ในแบบแสดงระบบควบคมุ
หมายเหตุ ดูรายละเอียดเพ่ิมเติมใน ANSI/ISA-RP 12.06.01-2003, RecommendedPractice for Wiring
Methods for Hazardous (Classified) LocationsInstrumentation — Part 1: Intrinsic
Safety.
7.6.8.2 การต่อกับหลักดิน ในกรณีที่ต้องจดั ให้มีการต่อเข้ากบั หลกั ดินแบบ exothermic
หลกั ดนิ ต้องมีรายละเอียดเป็ นไปตามข้อ 2.4
7-44 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย
7.6.8.3 เกราะหุ้มสายเคเบลิ ในกรณีท่ีตวั นําสายเคเบิลมีเกราะห้มุ ต้องตอ่ เกราะห้มุ ลงดนิ
ยกเว้น ในกรณีทีเ่ กราะหมุ้ นีเ้ ป็นสว่ นของวงจรทีป่ ลอดภยั อย่างแทจ้ ริง
7.6.9 การต่อฝาก
7.6.9.1 บริเวณอันตราย ในบริเวณอนั ตรายอปุ กรณ์ท่ีปลอดภยั อย่างแท้จริงต้องมีการต่อ
ฝากตามข้อ 4.15.5
7.6.9.2 ไม่เป็ นบริเวณอันตราย ในสถานท่ีซ่ึงไม่จดั เป็ นบริเวณอนั ตราย ในที่ซึ่งมีการใช้
ช่องเดินสายโลหะสําหรับการเดินสายระบบที่ปลอดภยั อยา่ งแท้จริงในบริเวณอนั ตราย อปุ กรณ์
ประกอบต้องมีการตอ่ ฝากตามข้อ 7.3.16.1, 7.4.15.1 หรือ 7.5.17.1
7.6.10 การปิ ดผนึก ท่อร้ อยสายและสายเคเบิลซึ่งต้องมีการปิ ดผนึกตามข้อ 7.3.5 และ
7.4.4 ต้องปิ ดผนกึ เพ่ือให้ก๊าซ ไอระเหย หรือฝ่ นุ ผา่ นเข้าไปได้น้อยท่ีสดุ ยกเว้น ไม่จําเป็นต้อง
มีการปิ ดผนึกสําหรับเครื่องห่อห้มุ ทีม่ ีเพียงอุปกรณ์ที่ปลอดภยั อย่างแทจ้ ริง นอกจากจะกําหนด
โดยขอ้ 7.3.5.6.3
หมายเหตุ ขอ้ นีไ้ ม่มีจดุ ม่งุ หมายสําหรบั การปิ ดผนึกชนิดทนการระเบิด
7.6.11 สัญลักษณ์ ป้ ายซึ่งกําหนดในข้อนีต้ ้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมท่ีติดตัง้ โดย
พจิ ารณาถงึ การเปิ ดโลง่ ตอ่ สารเคมีและแสงอาทิตย์
7.6.11.1 ขัว้ ปลายสาย วงจรท่ีปลอดภยั อย่างแท้จริงต้องแสดงสัญลักษณ์ ท่ีขวั ้ ปลายสาย
และจุดชมุ สายในลกั ษณะที่จะป้ องกันการรบกวนต่อวงจรโดยไม่ตงั้ ใจระหว่างการทดสอบหรือ
บริการ
7.6.11.2 การเดินสาย ช่องเดินสาย รางเคเบิล และการเดินสายเปิ ดสําหรับการเดินสายที่
ปลอดภัยอย่างแท้จริงต้องแสดงเอกลักษณ์ด้วยป้ ายที่ถาวรมีข้อความว่า "การเดินสายท่ี
ปลอดภยั อย่างแท้จริง" หรือเทียบเทา่ และต้องติดตงั้ ป้ ายในท่ีเห็นได้ชดั เจนภายหลงั การตดิ ตงั้
และอ่านได้ง่ายจากทางเข้าส่ตู ําแหน่งติดตงั้ ระยะหา่ งระหว่างป้ ายต้องไม่เกิน 7.50 ม. (25 ฟตุ )
ยกเว้น วงจรทีเ่ ดินสายใต้ดินอนญุ าตให้แสดงเอกลกั ษณ์ตรงจุดที่เข้าถึงได้หลงั จากโผล่พน้ ดิน
วิธีการเดินสายที่อนุญาตให้ใช้ในสถานที่ซ่ึงไม่ใช่บริเวณอนั ตราย อาจใช้กบั ระบบที่ปลอดภยั
อย่างแท้จริ งในบริ เวณอันตรายได้ ถ้าไม่มีป้ ายแสดงเอกลักษณ์ของการใช้งานเดินสาย
เจ้าหนา้ ที่ผูม้ ีอํานาจไม่สามารถพิจารณาได้ว่าการติดตงั้ นนั้ เป็นไปตามมาตรฐานในสถานทีซ่ ่ึง
ไม่ใช่บริเวณอนั ตราย การแสดงเอกลกั ษณ์เป็นสิ่งจําเป็นเพือ่ ใหแ้ น่ใจได้ว่าวงจรทีไ่ ม่ปลอดภยั
อย่างแทจ้ ริงจะไม่ถูกเพ่ิมเขา้ ไปในช่องเดินสายทีม่ ีอยู่ในปัจจบุ นั ภายหลงั โดยพลง้ั เผลอ
บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-45
7.6.11.3 รหัสสี อนญุ าตให้ใช้รหสั สี แสดงเอกลกั ษณ์ของตวั นําท่ีปลอดภยั อย่างแท้จริงในท่ี
ซงึ่ ตวั นําเป็ นสีฟ้ าอ่อนและไม่มีตวั นําอ่ืนที่มีสฟี ้ าออ่ นรวมอยดู่ ้วย
7.7 บริเวณอันตราย โซน 0, โซน 1 และ โซน 2 มาตรฐานท่ี 2 (IEC)
7.7.1 ขอบเขต
หวั ข้อนีค้ รอบคลมุ ข้อกําหนดทงั้ ในระบบการแบ่งโซน ตามมาตรฐาน IEC เช่นเดียวกนั กบั ระบบ
การแบ่งกล่มุ ซงึ่ กําหนดไว้ในข้อ 7.1 สําหรับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า บริภณั ฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และการ
เดนิ สายทกุ ระดบั แรงดนั ในบริเวณอนั ตราย แยกเป็ นโซน 0, โซน 1 และ โซน 2 ซง่ึ เป็ นสถานที่
ท่ีอาจเกิดเพลงิ ไหม้ หรือการระเบิดเน่ืองจากก๊าซ ไอระเหยของเหลวท่ีตดิ ไฟได้
7.7.2 บริเวณและข้อกาํ หนดท่วั ไป
7.7.2.1 การจาํ แนกบริเวณอันตราย
การจําแนกบริเวณอนั ตรายขึน้ อย่กู บั คณุ สมบตั ิของไอระเหย ก๊าซ หรือของเหลวที่ติดไฟได้ ซึ่ง
อาจมีขึน้ และมีความเป็ นไปได้ที่จะมีความเข้มข้น หรือมีปริมาณมากพอท่ีจะทําให้เกิดการลกุ
ไหม้ หรือเกิดเพลงิ ไหม้ได้ สถานที่ซงึ่ มีการใช้สารไพโรฟอริก (pyrophoric) เพียงชนิดเดียว ไม่
จดั เป็ นบริเวณอนั ตราย
ในการพิจารณาจําแนกประเภทแต่ละห้อง ส่วนหรือพืน้ ที่จะแยกพิจารณาเป็ นกรณีเฉพาะของ
แตล่ ะห้องหรือพืน้ ท่ีนนั้ ๆ
7.7.2.2 บริเวณอันตราย โซน 0, โซน 1 และโซน 2 เป็ นบริเวณท่มี ีก๊าซหรือไอระเหย
ตดิ ไฟหรืออาจมีจาํ นวนอากาศท่ผี สมอย่างเพียงพอจนเกดิ การตดิ หรือระเบดิ
7.7.3 เทคนิคการป้ องกัน
เทคนิคการป้ องกนั ท่ีเป็ นที่ยอมรับ สําหรับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าในบริเวณอนั ตราย (แยกประเภท) มี
ดงั นี ้
ก) Flameproof “d” เป็ นเทคนิคการป้ องกันท่ีใช้กับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าในบริเวณ
อนั ตราย โซน 1 ซง่ึ ได้รับการรับรองแล้ว
ข) Purged and Pressurized เป็ นเทคนิคการป้ องกนั ที่ใช้กบั บริภณั ฑ์ในบริเวณ
อนั ตราย โซน 1 หรือโซน 2 ซงึ่ ได้รับการรับรองแล้ว
ค) Intrinsic Safety เป็ นเทคนิคการป้ องกนั ท่ีใช้กบั บริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตราย โซน
0 หรือโซน 1 ซง่ึ ได้รับการรับรองแล้ว