The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย 2556

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sirawit Sukkasem, 2021-04-27 03:22:11

มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย 2556

มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย 2556

7-46 บทที่ 7 บริเวณอันตราย

ง) Type of Protection “n” เป็ นเทคนิคการป้ องกนั ท่ีใช้กบั บริภณั ฑ์ในบริเวณ
อนั ตราย โซน 2 ซงึ่ ได้รับการรับรองแล้ว และแบง่ ย่อยออกเป็ นชนิด nA, nC และ
nR

จ) Oil Immersion “o” เป็ นเทคนิคการป้ องกนั ที่ใช้กบั บริภณั ฑ์ในสถานอนั ตราย
โซน 1 ซง่ึ ได้รับการรับรองแล้ว

ฉ) Increased Safety “e” เป็ นเทคนิคการป้ องกันท่ีใช้กับบริภณั ฑ์ในบริเวณ
อนั ตราย โซน 1 ซงึ่ ได้รับการรับรองแล้ว

ช) Encapsulation “m” เป็ นเทคนิคการป้ องกนั ที่ใช้กบั บริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตราย
โซน 1 ซง่ึ ได้รับการรับรองแล้ว

ซ) Powder filling “q” เป็ นเทคนิคการป้ องกนั ที่ใช้กบั บริภณั ฑ์ในบริเวณอนั ตราย
โซน 1 ซง่ึ ได้รับการรับรองแล้ว

7.7.4 การรับรองผลิตภณั ฑ์
ผลติ ภณั ฑ์ท่ีใช้ในสถานท่ีอนั ตรายและอปุ กรณ์ประกอบต้องได้รับการรับรองผลติ ภณั ฑ์ เช่น CE,
ATEX, IEC และ IP เป็ นต้น หรือได้รับการรับรองจากสถาบนั ท่ีเช่ือถือได้ เชน่ ECCS, PTB, LCIE
หรือ DEMKO เป็ นต้น

7.7.5 ข้อควรระวงั เป็ นพเิ ศษ
ข้อ 7.7 ใช้สําหรับการจดั สร้างบริภณั ฑ์ และการตดิ ตงั้ ซง่ึ ให้ความปลอดภยั ในการใช้งานภายใต้
สภาวะการใช้งาน และบํารุงรักษาที่เหมาะสม
7.7.5.1 การควบคุมงาน การแบ่งพืน้ ท่ี การเลือกบริภัณฑ์ และวิธีการเดินสายต้องอยู่
ภายใต้การควบคมุ ของ ชา่ งเทคนิคหรือวิศวกรมืออาชีพ ที่ผา่ นการฝึกอบรมจากวิศวกรรมสถาน
แห่งประเทศไทย หรือสถาบันท่ีเช่ือถือได้ ที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยรับรอง จึงจะมี
คณุ สมบตั ติ ามที่กําหนด
7.7.5.2 การอนุญาตให้มีการจาํ แนกประเภทของบริเวณอันตราย
อนญุ าตให้จําแนกประเภทใหม่เป็ นบริเวณอนั ตรายโซน 0 โซน 1 หรือโซน 2 ได้ เน่ืองจาก
แหลง่ กําเนิดก๊าซ หรือ ไอระเหย ที่ตดิ ไฟได้แตล่ ะชนิดได้จําแนกประเภทใหม่ ตามหวั ข้อนีแ้ ล้ว

7.7.6 การแบ่งกลุ่มและการแบ่งประเภท
สําหรับจดุ ประสงค์เพื่อการทดสอบ การรับรอง และการจําแนกพืน้ ที่สว่ นผสมตา่ ง ๆ ในอากาศ
(ไมร่ วมสว่ นท่ีมีออกซเิ จนมาก) ให้แบง่ กลมุ่ ตามที่กําหนดในข้อ 7.7.5.1, 7.7.5.2

บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-47

กลุ่มก๊าซ I คือบรรยากาศ ซง่ึ ประกอบด้วย firedamp (สว่ นผสมของก๊าซหลายชนิด ซง่ึ สว่ น
ใหญ่เป็ นก๊าซมีเทน (methane) โดยพบบริเวณใต้พืน้ ดนิ เชน่ เหมืองแร่)
กลุ่มก๊าซ II แบง่ เป็ นกลมุ่ IIC IIB และ IIA ตามธรรมชาตขิ องก๊าซหรือไอระเหย
7.7.6.1 กลุ่มก๊าซ IIC
บรรยากาศซงึ่ ประกอบด้วยอาเซททีลีน (acetylene) ไฮโดรเยน (hydroyen) ก๊าซที่ลกุ ไหม้ได้
ไอระเหยจากของเหลวที่สามารถลุกเป็ นไฟ หรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวท่ีผสมกับ
อากาศแล้ว อาจทําให้เกิดการไหม้ หรือเกิดการระเบิดได้ ในกรณีท่ีมีคา่ MESG น้อยกว่าหรือ
เทา่ กบั 0.5 มม. หรือในกรณีที่คา่ MIC ratio น้อยกวา่ หรือเทา่ กบั 0.45
7.7.6.2 กลุ่มก๊าซ IIB
บรรยากาศซงึ่ ประกอบด้วยอาเซททาลดีไฮต์ (acetsldehyte) เอทิลีน (elhylene) ก๊าซที่ลกุ ไหม้
ได้ ไอระเหยจากของเหลวที่สามารถลกุ เป็ นไฟ หรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวที่ผสมกบั
อากาศแล้วเกิดการระเบิดได้ ซ่ึงอาจทําให้เกิดการเผาไหม้หรือระเบิดได้ ในกรณีท่ีมีค่า MESG
มากกว่า 0.5 มม. และน้อยกว่าหรือเท่ากบั 0.9 มม. หรือในกรณีที่คา่ MIC ratio มากกวา่ 0.45
และน้อยกวา่ หรือเทา่ กบั 0.80
7.7.6.3 กลุ่มก๊าซ IIA
บรรยากาศซึ่งประกอบด้วยอาเซโทน (acetone) แอมโมเนีย (ammonia) เอธีลแอลกอฮอล์
(ethyl alcohol) ก๊าซโซลีน (gasolie) มีเทน (methane) โพรเพน (propane) ก๊าซท่ีลกุ ไหม้ได้
ไอระเหยจากของเหลวท่ีสามารถลกุ เป็ นไฟ หรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวท่ีผสมกับ
อากาศแล้วเกิดการระเบิดได้ ซ่ึงอาจทําให้เกิดการเผาไหม้หรือระเบิดได้ ในกรณีท่ีมีค่า
maximum experimental safe gap (MESG) มากกว่า 0.9 มม. หรือในกรณีที่คา่ Minimum
igniting current ratio (MIC ratio) มากกวา่ 0.8
7.7.6.4 กลุ่มก๊าซอ่ืน ๆ
บริภณั ฑ์ท่ีอนญุ าตให้กําหนดรายชื่อสําหรับก๊าซหรือไอระเหย โดยเฉพาะสว่ นผสมของก๊าซหรือ
ไอระเหย โดยเฉพาะ หรือการรวมตวั ของก๊าซหรือไอระเหยโดยเฉพาะ

7.7.7 อุณหภมู ิโซน
เครื่องหมายจําแนกอณุ หภมู ิที่ระบใุ นข้อ 7.7.9.2 ต้องมีคา่ ไม่เกินอณุ หภมู ิจดุ ระเบิดของก๊าซหรือ
ไอที่เก่ียวข้อง

7.7.8 การจาํ แนกโซน
การจําแนกโซน ต้องเป็ นไปตาม รายละเอียดดงั นี ้

7-48 บทที่ 7 บริเวณอันตราย

7.7.8.1 โซน 0
บริเวณอนั ตราย โซน 0 คือ

ก) สถานที่ซง่ึ มีก๊าซหรือไอระเหย อยา่ งตอ่ เนื่องและมีความเข้มข้นพอท่ีจะ เกิด
การระเบดิ ได้

ข) สถานท่ีซึ่งมีก๊าซหรือไอระเหย ตลอดเวลา และมีความเข้มข้นพอท่ีจะเกิด
การระเบดิ ได้

7.7.8.2 โซน 1
บริเวณอนั ตราย โซน 1 คือ

ก) สถานที่ซง่ึ ในภาวะการทํางานปกติ อาจมีก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้น
พอท่ีจะเกิดการระเบิดได้

ข) สถานท่ีซง่ึ อาจมีก๊าซหรือ ไอระเหย ที่มีความเข้มข้นพอที่จะเกิดการระเบิดได้
อยบู่ อ่ ยๆ เน่ืองจากการซอ่ มแซม บํารุงรักษา หรือรั่ว

ค) สถานที่ซง่ึ เมื่อบริภณั ฑ์เกิดความเสียหายหรือทํางานผิดพลาดอาจทําให้เกิด
ก๊ าซหรือไอระเหยที่มีความเข้ มข้ นพอท่ีจะเกิดการระเบิดได้ และใน
ขณะเดยี วกนั อาจทําให้บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าขดั ข้องซง่ึ เป็ นสาเหตใุ ห้บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า
ดงั กลา่ วเป็ นแหลง่ กําเนิดของการระเบิดได้

ง) สถานท่ีซงึ่ อยใู่ กล้กบั บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 โซน 0 และอาจได้รับการ
ถ่ายเทก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้นพอที่จะจุดระเบิดได้ ถ้าไม่มีการ
ป้ องกนั โดยการระบายอากาศโดยดดู อากาศสะอาดเข้ามา และมีระบบรักษา
ความปลอดภยั ท่ีมีประสทิ ธิผล หากระบบระบายอากาศทํางานผิดพลาด

7.7.8.3 โซน 2
บริเวณอนั ตราย โซน 2 คอื

ก) สถานที่ซึ่งในภาวะการทํางานปกติ เกือบจะไม่มีก๊าซหรือไอระเหยที่มีความ
เข้มข้นพอท่ีจะเกิดการระเบิดได้ และถ้ามีก๊าซหรือไอระเหยดงั กลา่ ว เกิดขนึ ้ ก็
จะมีในช่วงเวลาสนั้ ๆ เทา่ นนั้

ข) สถานท่ีซึ่งใช้เก็บของเหลวติดไฟซ่ึงระเหยง่าย ก๊าซ หรือไอระเหยที่ติดไฟได้
ซึ่งโดยปกติของเหลวไอระเหยหรือก๊าซนีจ้ ะถกู เก็บไว้ในภาชนะหรือระบบท่ี
ปิ ดโดยอาจรั่วออกมาได้จากการทํางานของบริภัณฑ์ท่ีผิดปกติในขณะท่ีมี
การหยบิ ยก ผลติ หรือใช้งานของเหลวหรือก๊าซ

บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-49

ค) สถานท่ีซึ่งมีการป้ องกันการระเบิด เน่ืองจากก๊าซหรือไอระเหยที่มีความ
เข้มข้นเพียงพอโดยใช้ระบบระบายอากาศ ซึง่ ทํางานโดยเครื่องจกั รกล และ
อาจเกิดอนั ตรายได้หากระบบระบายอากาศขดั ข้องหรือทํางานผิดปกติ

ง) สถานท่ีซง่ึ อยใู่ กล้กบั บริเวณอนั ตราย โซน 1 และอาจได้รับการถ่ายเทก๊าซหรือ
ไอระเหยที่มีความเข้มข้นพอที่จะจุดระเบิดได้ ถ้าไม่มีการป้ องกันโดยการ
ระบายอากาศโดยดดู อากาศสะอาดเข้ามาและมีระบบรักษาความปลอดภยั
ที่มีประสทิ ธิผลหากระบบระบายอากาศทํางานผดิ พลาด

7.7.9 การทาํ รายช่ือ เคร่ืองหมายและเอกสาร
7.7.9.1 การทาํ รายช่ือ
บริภณั ฑ์ที่มีรายช่ือให้ใช้ได้ในบริเวณอนั ตรายโซน 0 อนญุ าตให้ใช้ในบริเวณอนั ตรายโซน 1 และ
โซน 2 ได้สําหรับก๊าซหรือไอระเหย ที่เป็ นชนิดเดียวกนั และบริภณั ฑ์ที่มีรายชื่อให้ใช้ได้ในบริเวณ
อนั ตรายโซน 1 อนญุ าตให้ใช้ในบริเวณอนั ตราย โซน 2 ได้ สําหรับก๊าซหรือไอระเหย ที่เป็ นชนิด
เดยี วกนั
7.7.9.2 การทาํ เคร่ืองหมาย
บริภณั ฑ์ต้องมีเคร่ืองหมายตามรายละเอียด ดงั นี ้
7.7.9.2.1 การจาํ แนกบริภณั ฑ์
บริภัณฑ์ท่ีได้รับการรับรองแล้วสําหรับ ที่ทําเคร่ืองหมายตามข้อ 7.2.3.6 อนุญาตให้ทํา
เครื่องหมายดงั นี ้

ก) แสดงการจําแนกเป็ นโซน 1 หรือ โซน 2
ข) แสดงการจําแนกกลมุ่ ก๊าซตามตารางที่ 7-5
ค) แสดงการจําแนกประเภทอณุ หภมู ิใช้งานตามตารางท่ี 7-6
7.7.9.2.2 การจาํ แนกการทาํ เคร่ืองหมาย
บริภณั ฑ์ท่ีมีเทคนิคการป้ องกนั ตงั้ แต่ 1 แบบขนึ ้ ไป ตามข้อ 7.7.3 ต้องทําเคร่ืองหมายตามลําดบั
ดงั นี ้
a กลมุ่ (Groups) เช่น กลมุ่ I (เหมือง) หรือ กลมุ่ II (พืน้ ท่ีอื่น ๆ)
b ลําดบั ป้ องกนั อนั ตราย (Category) เช่น โซน 0 ลําดบั หมายเลข 1, โซน 1

ลําดบั หมายเลข 2, หรือโซน 2 ลําดบั หมายเลข 3
c สภาวะการจดุ ระเบดิ (explosive atmosphere) เชน่ ก๊าซ (G) หรือ ฝ่ นุ (D)
d สญั ลกั ษณ์ “Wx” (มีอกั ษรนําหน้าได้ตามความเหมาะสม)
e เทคนิคการป้ องกนั ตามตารางที่ 7-4

7-50 บทที่ 7 บริเวณอันตราย

ข้อยกเว้นท่ี f การจําแนกกลมุ่ ก๊าซตามตารางท่ี 7-5
ข้อยกเว้นท่ี
ข้อยกเว้นที่ g การจําแนก ประเภทอณุ หภมู ิใช้งานตามตารางท่ี 7-6

ข้อยกเว้นท่ี 1 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีม่ ีการป้ องกนั แบบ “e”, “m”, “p” หรือ ”q” ตอ้ งทําเครื่องหมาย กล่มุ
ก๊าซ II

2 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีม่ ีการป้ องกนั แบบ “d“, “ia“ หรือ “ib”, “[ia]” หรือ “[ib]” ตอ้ งทํา
เครื่องหมาย กล่มุ ก๊าซ IIA IIB IIC ชือ่ ก๊าซหรือไอระเหยโดยเฉพาะ

3 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีม่ ีการป้ องกนั แบบ “n“ ตอ้ งทําเครื่องหมาย กล่มุ ก๊าซ II ถ้าไม่มีอปุ กรณ์
ตดั ตอนที่มีเครื่องห่อหุ้มส่วนประกอบที่ไม่เป็ นเครื่องกระตุ้นบริภณั ฑ์หรือวงจรที่จํากัด
พลงั งาน ในกรณีนอกเหนือจากทีก่ ล่าวข้างตนั ให้ทําเครื่องหมาย กล่มุ ก๊าซ IIA IIB IIC ชือ่
ก๊าซหรือไอระเหยโดยเฉพาะ

4 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทีม่ ีการป้ องกนั แบบอื่นให้ทําเครื่องหมาย กล่มุ ก๊าซ II ถ้าแบบของการ
ป้ องกนั นนั้ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่บริภณั ฑ์ ในกรณีนอกเหนือจากทีก่ ล่าวข้างต้นให้ทํา
เครื่องหมาย กล่มุ ก๊าซ IIA IIB IIC ชือ่ ก๊าซหรือไอระเหยโดยเฉพาะ

ตารางท่ี 7-4
เทคนิคการป้ องกนั (Protection Techniques)

ประเภทการออกแบบ เทคนิคการป้ องกนั โซน
d Flameproof enclosure 1
db Flameproof enclosure 1
e 1
eb Increased safety 1
ia Increased safety 0
ib Intrinsic safety 1
ic Intrinsic safety 2
[ia] Intrinsic safety Unclassified
[ib] Associated apparatus Unclassified
[ic] Associated apparatus Unclassified
m Associated apparatus 1
ma Encapsulation 0
mb Encapsulation 1
nA Encapsulation 2
nAc Nonsparking equipment 2
nC Nonsparking equipment 2
Sparking equipment in which the contacts are suitably
nCc protected other than by restricted breathing enclosure 2
Sparking equipment in which the contacts are suitably
protected other than by restricted breathing enclosure

บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-51

ประเภทการออกแบบ เทคนิคการป้ องกนั โซน
nR Restricted breathing enclosure 2
nRc Restricted breathing enclosure 2
o 1
ob Oil immersion 1
p Oil immersion 1
pxb pressurization 1
py pressurization 1
pyb pressurization 1
pz pressurization 2
pzc pressuization 2
q pressurization 1
qb Powder filled 1
Powder filled

ตารางท่ี 7-5
การจาํ แนกประเภทของกลุ่มก๊าซ

กลุ่มก๊าซ หวั ข้อ
II C 7.7.6.1
II B 7.7.6.2
II A 7.7.6.3

ตารางท่ี 7-6
การจาํ แนกประเภทอุณหภมู พิ นื้ ผวิ สูงสุดสาํ หรับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

ประเภทอุณหภมู ใิ ช้งาน อุณหภมู พิ นื้ ผวิ สูงสุด
(Maximum SurfaceTemperature)
(Temperature Class)
(T Code) (°C)

T1 ≤450
≤300
T2 ≤200
T3 ≤135
T4 ≤100
T5 ≤85
T6

7-52 บทที่ 7 บริเวณอันตราย

7.7.9.2.3 การจาํ แนกอุณหภมู ิใช้งาน (Temperature Class)
บริ ภัณฑ์ท่ีได้ รับการรับรองต้ องทําเครื่ องหมายแสดงอุณหภูมิใช้ งานหรื อช่วงอุณหภูมิใช้ งาน
(Temperature Class) สําหรับอณุ หภมู ิโดยรอบ 40 องศาเซลเซียส อณุ หภมู ิใช้งานให้ระบุ ตาม
ตารางที่ 7-6 โดยการเลือกใช้บริภัณฑ์จะต้องมีค่าอุณหภูมิพืน้ ผิวสูงสุดของบริภัณฑ์ไม่เกิน
อณุ หภมู ิจดุ ตดิ ไฟได้เองของสารไวไฟ

บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีออกแบบให้ใช้งานในช่วงอณุ หภมู ิโดยรวมจากช่วงอณุ หภมู ิ -20๐C และ +40๐C
ไม่ต้องทําเคร่ืองหมายเพิ่มเติม สําหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้ าที่ออกแบบให้ใช้งานในช่วงอุณหภูมิ
โดยรอบนอกเหนือจากชว่ งอณุ หภมู ิ -20๐C และ +40๐C นนั ้ จะเป็ นกรณีพิเศษต้องทําเคร่ืองหมาย
และช่วงอณุ หภมู ิโดยรอบนนั้ บนบริภณั ฑ์และต้องทําเครื่องหมาย “Ta” หรือ “Tamb” เพิ่มอีกด้วย
ตวั อย่างเช่น “-30๐C Ta +40๐C”

บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่ใช้งานท่ีอณุ หภมู ิโดยรอบมากกว่า 40 ๐C ต้องทําเคร่ืองหมายแสดงอณุ หภมู ิ
โดยรอบสงู สดุ และอณุ หภมู ิใช้งานหรืออาจทําเครื่องหมายแสดงช่วงอณุ หภมู ิใช้งานท่ีอณุ หภูมิ
โดยรอบนนั้ ๆ

ข้อยกเว้นท่ี 1 บริภณั ฑ์ชนิดทีไ่ ม่ทําใหเ้ กิดความร้อนเช่น ท่อร้อยสาย และเครื่องประกอบ และบริภณั ฑ์ทีท่ ํา
ใหเ้ กิดความร้อนสงู สดุ ไม่เกิน 100 ๐C ไม่ตอ้ งแสดงค่าอณุ หภูมิหรือช่วงอณุ หภูมิทีใ่ ชง้ าน

ข้อยกเว้นที่ 2 บริภณั ฑ์ทีไ่ ดร้ ับรองสําหรับบริเวณอนั ตรายโซน 1 หรือ โซน 2 ในข้อ 7.7.12.2 และ
7.7.12.3 ตอ้ งทําเครื่องหมายตามขอ้ 7.7.9.2.3 และ ตารางที่ 7-6

บทท่ี 7 บริเวณอันตราย 7-53

ตวั อย่างการทําเครื่องหมาย
II 2 G Ex d IIC T3

ประเภทอณุ หภูมิใชง้ าน ตารางที7่ .6

กล่มุ ก๊าซ ตารางที7่ .5

ประเภทออกแบบระบบป้ องกนั ตารางที7่ .4

สญั ลกั ษณ์อปุ กรณ์ป้ องกนั

สภาวะการจุดระเบิด G (ก๊าซ) D
ลําดฝ่บั ป้ องกนั อนั ตราย

โซน 0 ลําดบั หมายเลข 1
โซน 1 ลําดบั หมายเลข 2
โซน 2 ลําดบั หมายเลข 3

กล่มุ
กล่มุ I (เหมือง)
กล่มุ II (พืน้ ทีอ่ ืน่ ๆ)

7.7.10 วธิ ีการเดนิ สายด้วยระบบสายเคเบลิ
7.7.10.1 ท่วั ไป
7.7.10.1.1 วิธีเดนิ สายต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในบทที่ 5 ยกเว้น ข้อ 5.3 และ ข้อ 5.14 หรือ
เป็ นไปตามมาตรฐาน IEC 60079-14 โดยเป็ นอปุ กรณ์และบริภณั ฑ์ต้องเป็ นชนิดท่ีได้รับการ
รับรองแล้วสําหรับบริเวณอนั ตราย จากสถาบนั ที่เช่ือถือได้ เช่น UL, NEMA, FM, CSA, ECCS,
PTB, LCIE หรือ DEMKO เป็ นต้น ตามท่ีระบใุ นข้อ 7.7.4
7.7.10.1.2 การเดินสายต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 7.7.10 ยกเว้น การติดตง้ั ทีเ่ ป็น
ระบบทีป่ ลอดภยั อย่างแทจ้ ริง
7.7.10.1.3 การใช้สายไฟฟ้ าแกนเดยี วชนิดไม่มีเปลือก ห้ามใช้สายแกนเดยี วชนิดไมม่ ีเปลอื ก
7.7.10.1.4 การเดนิ สายเข้าบริภณั ฑ์ การเดนิ สายเข้าบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนด
ในแตล่ ะแบบการป้ องกนั (type of protection)

7-54 บทที่ 7 บริเวณอันตราย

7.7.10.1.5 ทางผา่ นของเปลวเพลงิ เคร่ืองหอ่ ห้มุ สาย ชอ่ งเดนิ สาย ต้องมีการป้ องกนั ไม่ให้สาร
ไวไฟทงั้ ที่เป็ นไอระเหย ก๊าซ และ ของเหลวไหลผ่านจากพืน้ ที่หน่งึ ไปยงั อีกพืน้ ท่ีหนึ่ง และป้ องกนั
ไม่ให้สารไวไฟดงั กลา่ วถกู เก็บขงั อยภู่ ายใน
การป้ องกนั อาจทําโดยการปิ ดผนกึ การระบายอากาศ หรือเตมิ ทรายให้เตม็ ชอ่ งวา่ ง
7.7.10.1.6 การเดินสายผ่านบริเวณอันตราย สายไฟฟ้ าที่เดินผ่านจากบริเวณทว่ั ไปเข้าหรือ
ผา่ นบริเวณอนั ตรายต้องมีการป้ องกนั ที่เหมาะสมกบั โซนนนั้ ๆ
7.7.10.1.7 การเดินสายผ่านผนงั การเดินสายไฟฟ้ าผ่านผนงั ระหว่างบริเวณท่ัวไปกับ
บริเวณอนั ตรายต้องมีการปิ ดผนึกท่ีเหมาะสมเพ่ือป้ องกันการรั่วไหลของสารไวไฟจากบริเวณ
อนั ตรายไปยงั บริเวณทว่ั ไป
7.7.10.1.8 การต่อสาย สายไฟฟ้ าที่เดินในบริเวณอนั ตรายไม่ควรมีการต่อสาย กรณีที่
จําเป็ นต้องตอ่ สายต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 1.101 และใช้วิธีการตอ่ สายที่เหมาะสมกบั แต่
ละสถานที่ การต่อสายต้องทําในเครื่องห่อหุ้มท่ีมีระดบั การป้ องกันเหมาะสมกับโซนท่ีมีเคร่ือง
หอ่ ห้มุ อยู่ หรือ จดุ ตอ่ สายมีการเติมให้เต็มด้วยอิพอกซี (epoxy) คอมปาวด์ หรือหลอดหดตวั ด้วย
ความร้อน (heat shrinkable tube) ตามกรรมวิธีท่ีผ้ผู ลิตกําหนด และจดุ ตอ่ สายต้องไม่รับแรง
ทางกล
7.7.10.2 โซน 0
ชนิดของสายเคเบิลและการเดินสายให้เป็ นไปตามข้อ 12.3 ของ IEC 60079-14 สําหรับชนิด
การป้ องกนั แบบ “ia” (ความปลอดภยั แบบแท้จริง)
7.7.10.3 โซน 1 และ โซน 2
ชนิดของสายเคเบิลและการเดินสายให้เป็ นไปตามข้อ 7.7.11 และข้อกําหนดเพิ่มเติมในข้อ
7.7.10.4 ถงึ 7.7.10.8 หรือตามมาตรฐาน IEC 60079-14
7.7.10.3.1 โซน 1 และ โซน 2 สายเคเบลิ สําหรับบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดตดิ ตงั้ ถาวร เป็ นสาย
เคเบิลฉนวนแร่ห้มุ เปลอื กโลหะ, สายเคเบลิ ห้มุ เปลอื กเทอร์โมพลาสตกิ เชน่ MI, MC, AC, CV
หรือ NYY เป็ นต้น
7.7.10.3.2 สายสําหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้ าชนิดเคลื่อนท่ีได้ ต้องระบุแรงดันใช้งานไม่เกิน 240
โวลต์ เทียบกบั ดนิ สายไฟฟ้ าต้องเป็ นชนิดมีเปลือกนอก พิกดั ใช้กระแสในสายไม่เกิน 6 แอมแปร์
กรณีเป็ นบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีต้องตอ่ ลงดนิ สายไฟฟ้ าต้องมีสายดนิ รวมอย่ดู ้วย ขนาดสายไฟฟ้ าต้อง
ไมเ่ ลก็ กวา่ 1.00 ตารางมิลลเิ มตร

บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-55

7.7.10.4 ข้อกาํ หนดเพ่มิ เตมิ สาํ หรับเทคนิคการป้ องกนั แบบ “d” (Flameproof Enclosure)
7.7.10.4.1 การเข้าสายเคเบลิ

ก) การเข้าสายต้องทําให้เหมาะสมกับมาตรฐานที่กําหนดของบริภัณฑ์ อุปกรณ์
เข้าสายเคเบิลต้องเป็ นชนิดที่เหมาะสมกับสายเคเบิลที่ใช้งาน การเข้าสาย
ต้องไมท่ ําให้ระดบั การป้ องกนั ของอปุ กรณ์ลดลง

ข) ในที่ซึ่งสายเคเบิลเดินเข้าบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าชนิดกันเปลวเพลิงโดยผ่านบุชชิง
ชนิดกนั เปลวเพลิงซ่ึงเป็ นการเข้าสายโดยอ้อม บชุ ชิงที่อย่นู อกเครื่องห่อห้มุ
ชนิดกนั เปลวเพลงิ จะต้องมีการป้ องกนั ท่ีเหมาะสม เช่นให้สว่ นท่ีเปิ ดโลง่ ของ
บชุ ชิงอย่ใู นกลอ่ งตอ่ สาย กล่องตอ่ สายนีอ้ าจเป็ นกล่องตอ่ สายชนิดกนั เปลว
เพลงิ หรือหรือมีการป้ องกนั แบบ “e”

ค) ในท่ีซงึ่ กลอ่ งตอ่ สายเป็ นแบบ Ex “d” ระบบการเดินสายต้องเป็ นไปตามที่
กําหนดในข้อ 7.7.11 และในที่ซง่ึ กลอ่ งตอ่ สายเป็ นแบบ Ex “e” ระบบการ
เดนิ สายต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 7.7.11 ถ้าการเดินสายเข้าบริภณั ฑ์
ชนิดกนั เปลวเพลงิ เป็ นการเดนิ สายเข้าโดยตรง ระบบการเดินสายต้องเป็ นไป
ตามท่ีกําหนดในข้อ 7.7.11

7.7.10.4.2 ระบบการเข้าสายเคเบลิ ต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดข้อใดข้อหนง่ึ ดงั นี ้
ก) ใช้อปุ กรณ์เข้าสายที่เหมาะสมกบั เทคนิคการป้ องกนั ที่ใช้
ข) ใช้สายเคเบลิ ชนิดมีเปลอื กตามที่อนญุ าต สายเคเบลิ ต้องเป็ นสายกลมเทา่ นนั้
ค) ใช้สายเคเบิลชนิด MI ที่อาจมีเปลือกพลาสติกหรือไม่ก็ได้ ร่วมกบั อปุ กรณ์
เข้าสายเคเบิลชนิดกนั เปลวเพลงิ

อุปกรณ์ซีลชนิดกันเปลวเพลิง เช่น กล่องท่ีมีการซีล ตามที่ผ้ผู ลิตบริภณั ฑ์กนั ระเบิดกําหนด
หรือเป็ นชนิดท่ีได้รับการรับรองว่าใช้ได้กับสายเคเบิลที่ใช้ การซีลต้องใช้วัสดุที่เหมาะสมท่ีจะ
สามารถห้มุ สายได้โดยรอบ การซีลต้องทําตรงจดุ ที่สายเดนิ เข้าบริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

ง) ใช้อุปกรณ์เข้าสายชนิดกนั เปลวเพลงิ ท่ีมีการซีลท่ีเหมาะสมรอบ ๆ สาย
เคเบิล

จ) กรรมวิธีอ่ืนๆ ที่ไม่ทําให้ความสามารถในการกนั เปลวเพลิงของเครื่องห่อห้มุ
ลดลง

7.7.10.5 ข้อกาํ หนดเพ่มิ เตมิ สาํ หรับเทคนิคการป้ องกนั แบบ “e” (Increased Safety)
ระบบการเดนิ สาย การเดนิ สายต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 7.7.10 และเพ่มิ เตมิ ดงั นี ้

7-56 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย

7.7.10.5.1 การต่อสายเข้ากบั บริภณั ฑ์ชนิด “e” ต้องใช้อปุ กรณ์เข้าสายชนิดท่ีเหมาะสมกับ
สายเคเบิล การต่อสายต้องไม่ทําให้ความสามารถในการป้ องกันลดลง และมีการซีลที่ทําให้
กลอ่ งตอ่ สายมีระดบั การป้ องกนั ไม่ตํ่ากวา่ IP54

หมายเหตุ 1) การซีลกล่องต่อสาย ในมีระดบั การป้ องกนั ไม่ต่ํากว่า IP54 อาจจําเป็นตอ้ งมีการซีลระหว่าง
อปุ กรณ์เขา้ สายและเครื่องห่อหมุ้ เช่นใชแ้ หวนซีลหรือจดุ ซีลทีเ่ กลียว

2) เกลียวของอุปกรณ์เข้าสาย ที่ต่อกบั เครื่องห่อหุ้มที่หนาไม่น้อยกว่า 6 มิลลิเมตร ไม่
จําเป็นตอ้ งมีการซีลเพิ่มเติมระหว่างอปุ กรณ์เข้าสายกบั เครื่องห่อห้มุ ถ้าสายเคเบิลช่วงทีต่ ่อ
เข้าอปุ กรณ์เขา้ สายไม่โคง้ งอ

7.7.10.5.2 การตอ่ สาย ขัว้ ตอ่ สายบางชนิดเช่นชนิดที่เป็ นร่องที่ยอมให้สายเข้าได้มากกว่า
หนงึ่ เส้น เม่ือมีสายเคเบิลมากกวา่ หนงึ่ เส้นตอ่ เข้าขวั้ ตอ่ สายเดยี วกนั ต้องมีการจบั ยดึ ท่ีเหมาะสม
สายไฟฟ้ าท่ีมีขนาดตา่ งกนั ห้ามต่อเข้าขวั้ ตอ่ สายเดียวกนั ยกเว้นสายแตล่ ะเส้นตอ่ เข้าขวั้ ตอ่ สาย
ชนิดบีบก่อน

การต่อสายต้องมีการป้ องกันการลดั วงจรที่ขวั้ ต่อสายโดยการห้มุ ฉนวนสายแต่ละเส้นให้สงู ถึง
สว่ นที่เป็ นโลหะของกลอ่ งตอ่ สาย
7.7.10.6 ข้อกาํ หนดเพ่มิ เตมิ สาํ หรับเทคนิคการป้ องกันแบบ “i” (Intrinsic Safety)
7.7.10.6.1 วงจรการเดินสายต้องป้ องกันผลจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ าหรือสนามไฟฟ้ าจาก
ภายนอกที่มีต่อบริภณั ฑ์ การป้ องกันอาจทําได้โดยการใช้ screen หรือสายตีเกลียว โดยมี
ระยะหา่ งจากแหลง่ กําเนิดสนามแม่เหลก็ และสนามไฟฟ้ าท่ีเพียงพอ
7.7.10.6.2 การเดินสายต้องมีการป้ องกนั ความเสียหายทางกายภาพ และเพิ่มเตมิ ตามข้อใด
ข้อหนง่ึ ที่กําหนด ดงั นี ้

ก) สายเคเบิลของวงจรระบบที่ปลอดภยั อย่างแท้จริง แยกออกจากระบบอ่ืน
หรือ

ข) การติดตงั้ สายเคเบิลของวงจรระบบที่ปลอดภยั อย่างแท้จริง มีการหลีกเลี่ยง
จากความเสียหายทางกล หรือ

ค) สายเคเบิลของวงจรระบบที่ปลอดภยั อย่างแท้จริง เป็ นชนิดมีเปลือกโลหะ
หรือปลอกโลหะ

7.7.10.6.3 ตวั นําของวงจรระบบที่ปลอดภยั อยา่ งแท้จริงกบั ตวั นําของวงจรอื่น ห้ามอย่ใู นสาย
เคเบิลเดียวกนั

บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-57

7.7.10.6.4 เมื่อสายเคเบิลระบบปลอดภยั ที่แท้จริงกบั สายตวั นําอ่ืนเดินรวมในช่องเดินสาย
เดียวกัน ต้องมีการกัน้ แยกด้วยวสั ดฉุ นวน หรือโลหะท่ีมีการต่อลงดิน ยกเว้นสายเคเบิลระบบ
ปลอดภยั ท่ีแท้จริงหรือสายตวั นําอ่ืนใช้สายไฟฟ้ าชนิดมีเปลอื กโลหะหรือปลอกโลหะ
7.7.10.7 ข้อกาํ หนดเพ่มิ เตมิ สาํ หรับเทคนิคการป้ องกันแบบ “p” (Pressurized
apparatus)
7.7.10.7.1 การเดนิ ช่องเดนิ สาย
ช่องเดนิ สายและสว่ นท่ีมีการตอ่ ต้องสามารถทนความดนั ได้ดงั นี ้

ก) สามารถทนความดนั สงู สดุ ได้ 1.5 เท่า ในการทํางานปกติ ซ่ึงกําหนดโดย
ผ้ผู ลติ บริภณั ฑ์นนั้ ๆ หรือ

ข) สามมารถทนความดนั สงู สดุ ที่เกิดขนึ ้ ขณะที่จดุ ปลายทางทงั้ หมดถกู ปิ ด โดย
ที่แหลง่ กําเนิดความดนั (เช่น พดั ลม) จะถกู กําหนดโดยผ้ผู ลิตบริภณั ฑ์นนั้ ๆ
คา่ ความดนั ทงั้ 2 ข้อ ไม่น้อยกวา่ 200 พาสคลั (2 มิลลบิ าร์)

7.7.10.7.2 วัสดุท่ีใช้งานกับท่อร้ อยสายและส่วนที่มีการต่อ ต้องไม่ได้รับผลกระทบอย่าง
รุนแรงทงั้ จากก๊าซ specified protective gas และ ก๊าซ หรือ ไอระเหยท่ีตดิ ไฟได้

จดุ ตา่ ง ๆ ที่ก๊าซ specified protective gas เข้าไปในท่อร้อยสายได้ จะต้องอย่ใู นบริเวณไม่
อนั ตราย ยกเว้น for cylinder supplied protective gas

การเดินท่อร้ อยสาย ต้องเดินในบริเวณไม่อันตราย เท่าที่สามารถทําได้ หากการเดินท่อผ่าน
บริเวณอนั ตราย และ ก๊าซ specified protective gas มีความดนั ต่ํากวา่ บรรยากาศ การเดนิ ท่อ
ต้องไม่มีจดุ ที่รั่วได้
7.7.10.8 ข้อกาํ หนดเพ่มิ เตมิ สาํ หรับบริภณั ฑ์ท่ใี ช้ในโซน 2
ระบบการเดนิ สาย การเดนิ สายต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 7.7.10 และเพิ่มเตมิ ดงั นี ้
7.7.10.8.1 การต่อสาย ต้องใช้อปุ กรณ์เข้าสายที่เหมาะสมกบั สายเคเบลิ

การซีลกลอ่ งตอ่ สายที่ต้องการให้มีระดบั การป้ องกนั อาจจําเป็ นต้องมีการซีลระหวา่ งอปุ กรณ์เข้า
สาย และ เคร่ืองหอ่ ห้มุ เช่น ใช้แหวนซีล หรือ อดุ ซีลท่ีเกลียว

หมายเหตุ เกลียวของอุปกรณ์เข้าสาย ที่ต่อกบั เครื่องห่อหุ้มที่หนาไม่น้อยกว่า 6 มิลลิเมตร ไม่
จําเป็นต้องมีการซีลเพิ่มเติม ระหว่างอุปกรณ์เข้าสายกบั เครื่องห่อห้มุ ถ้าสายเคเบิลช่วงทีต่ ่อ
เข้าอปุ กรณ์เข้าสายไม่โก่งงอ

7.7.10.8.2 การต่อสาย ขวั้ ต่อสายบางชนิด เช่น ชนิดท่ีเป็ นร่องท่ียอมให้สายเข้าได้มากกว่า
หนึ่งเส้น เม่ือมีสายเคเบิลมากกว่าหน่ึงเส้น ต่อเข้าขัว้ ต่อสายเดียวกัน ต้องมีการจับยึดที่

7-58 บทท่ี 7 บริเวณอันตราย

เหมาะสม สายไฟฟ้ าที่มีขนาดตา่ งกนั ห้ามตอ่ เข้าขวั้ ตอ่ สายเดียวกนั ยกเว้นสายแตล่ ะเส้นตอ่ เข้า
ขวั้ ตอ่ สายชนิดบีบก่อน

การต่อสายต้องมีการป้ องกนั การลดั วงจร ที่ขวั้ ต่อสายโดยการห้มุ ฉนวนสายแต่ละเส้นให้สงู ถึง
สว่ นท่ีเป็ นโลหะของกลอ่ งตอ่ สาย

7.7.11 วธิ ีเดนิ สายเคเบลิ
การเดนิ สายเคเบิลต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 7.7.10 และข้อกําหนดเพิม่ เตมิ ในข้อ 7.7.10.4
ถึง 7.7.10.8 หรือตามมาตรฐาน IEC 60079-14

7.7.12 บริภณั ฑ์ใช้สอย
7.7.12.1 โซน 0 ในบริเวณอนั ตราย โซน 0 บริภณั ฑ์ท่ีใช้สอยที่มีรายชื่อและทําเคร่ืองหมาย
โดยเฉพาะเท่านนั้ จึงอนญุ าตให้ใช้ในบริเวณอนั ตราย โซน 0 ยกเว้น บริภณั ฑ์ของระบบ
ปลอดภยั ทีแ่ ทจ้ ริงทีม่ ีรายชือ่ สําหรับใช้ในบริเวณอนั ตรายโซน 0 ที่เป็ นก๊าซชนิดเดียวกนั หรือ
อนญุ าตตามข้อ 7.7.6.4 และมีพิกดั อณุ หภูมิทีเ่ หมาะสมสามารถใชใ้ นบริเวณอนั ตรายโซน 0 ได้
7.7.11.2 โซน 1 ในบริเวณอนั ตรายโซน 1 บริภณั ฑ์ใช้สอยท่ีมีรายช่ือและทําเคร่ืองหมาย
โดยเฉพาะเท่านนั้ จงึ อนญุ าตให้ใช้ในบริเวณอนั ตรายโซน 1 ยกเว้น บริภณั ฑ์ได้รับการรับรอง
สําหรับใช้ในบริเวณอนั ตราย หรือทีม่ ีรายชือ่ สําหรบั ใชใ้ นบริเวณอนั ตราย โซน 0 ทีเ่ ป็นก๊าซชนิด
เดียวกนั หรืออนญุ าตตามข้อ 7.7.6.4 และมีพิกดั อุณหภูมิที่เหมาะสมสามารถใช้บริเวณ
อนั ตรายโซน 1 ได้
7.7.12.3 โซน 2 ในบริเวณอนั ตราย โซน 2 บริภณั ฑ์ใช้สอยที่มีรายช่ือและทําเครื่องหมาย
โดยเฉพาะเทา่ นนั้ จงึ อนญุ าตให้ใช้ในบริเวณอนั ตราย โซน 2

ข้อยกเว้นที่ 1 บริภณั ฑ์ทีม่ ีรายชือ่ สําหรับใช้ในบริเวณอนั ตราย โซน 0 หรือโซน 1 ทีเ่ ป็น
ก๊าซชนิดเดียวกัน และมีพิกัดอุณหภูมิเหมาะสมสามารถใช้ในบริ เวณ
อนั ตราย โซน 2ได้

ข้อยกเว้นที่ 2 ในบริเวณอนั ตราย โซน 2 อนญุ าตใหต้ ิดตง้ั มอเตอร์แบบเปิ ด หรือแบบมี
เครื่องห่อหุ้มชนิดไม่ทนระเบิดหรือไม่ทนเปลวเพลิง เช่นมอเตอร์แบบ
เหนีย่ วนําโรเตอร์เป็นชนิดกรงกระรอกซ่ึงไม่มีแปรงถ่าน หรืออปุ กรณ์อืน่ ทีท่ ํา
ใหเ้ กิดอาร์กชนิดทีค่ ลา้ ยกนั

7.7.12.4 ข้อแนะนําของผู้ผลิต
บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีติดตงั้ ในบริเวณอนั ตราย (แยกประเภท) ต้องทําการติดตงั้ ตามข้อแนะนําของ
ผ้ผู ลติ

บทที่ 7 บริเวณอันตราย 7-59

7.7.13 การต่อลงดนิ และการต่อฝาก
การต่อลงดินและการต่อฝากบริเวณอนั ตราย โซน 1 และโซน 2 ต้องเป็ นไปตามบทที่ 4 และ
เพ่ิมเตมิ ดงั นี ้
7.7.13.1 การตอ่ ฝาก วธิ ีการตอ่ ฝาก ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.16.1
7.7.13.2 ชนิดของตวั นําสาํ หรับการตอ่ ลงดนิ ของบริภณั ฑ์ ต้องเป็ นไปตามข้อ 7.3.16.2
7.7.13.3 การตอ่ ลงดนิ และการตอ่ ฝาก บริเวณโซน 0 เพม่ิ เตมิ ตามข้อ 7.6.8 และตามข้อ7.6.9

บทท่ี 8 สถานท่เี ฉพาะ 8-1

บทท่ี 8
สถานท่เี ฉพาะ

ข้อกําหนดในบทนีเ้ ก่ียวกับการออกแบบระบบไฟฟ้ าสําหรับสถานที่เฉพาะ ซ่ึงเก่ียวข้องกับ
สาธารณะชนจํานวนมาก จึงต้องการความปลอดภยั เป็ นพิเศษได้แก่ โรงมหรสพ ป้ ายโฆษณา
สถานบริการ และโรงแรม

8.1 โรงมหรสพ

8.1.1 ท่วั ไป
8.1.1.1 โรงมหรสพ หมายถึง อาคารหรือส่วนใดของอาคารที่ใช้เป็ นสถานที่สําหรับฉาย
ภาพยนตร์ แสดงละคร แสดงดนตรี หรือการแสดงรื่นเริงอื่นใด และมีวัตถุประสงค์เพ่ือเปิ ดให้
สาธารณชนเข้าชมการแสดงนนั้ เป็ นปกตธิ รุ ะ โดยจะมีคา่ ตอบแทนหรือไม่ก็ตาม
8.1.1.2 การเดนิ สายสําหรับโรงมหรสพให้ปฏิบตั ิตามข้อกําหนดในบทนี ้กรณีที่ไม่ได้ระบไุ ว้ใน
บทนีใ้ ห้ปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดของการเดนิ สายในบทที่ 5
8.1.1.3 ข้อกําหนดนีใ้ ช้เฉพาะระบบแรงดนั ไมเ่ กิน 1,000 โวลต์ เทา่ นนั้

8.1.2 สายไฟฟ้ า
8.1.2.1 สายไฟฟ้ าระบบแรงตํ่า ในส่วนภายในที่ผู้นั่งชมการแสดง ห้องควบคุม เวที ช่อง
ทางเดนิ บนั ได ทางหนีไฟ ต้องเป็ นสายตวั นําทองแดงห้มุ ฉนวนตามข้อ 11.2.1 Cat.C ข้อ 11.2.2
และข้อ 11.2.3
ยกเว้น โรงมหรสพประเภท จ ตามกฎหมายควบคมุ อาคาร
8.1.2.2 สายไฟฟ้ าของวงจรช่วยชีวิตต้องเป็ นสายตวั นําทองแดงห้มุ ฉนวน ตามท่ีกําหนดใน
ข้อ 12.8
8.1.2.3 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 5.25.1
8.1.2.4 ไม่อนญุ าตให้ใช้สายไฟฟ้ าที่มีขนาดเลก็ กวา่ 1.0 ตร.มม.

8.1.3 วธิ ีการเดนิ สาย
8.1.3.1 สายของวงจรยอ่ ยต้องมีขนาดไม่เลก็ กวา่ 2.5 ตร.มม.
8.1.3.2 เครื่องใช้ไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่เวลาทํางานมีประกายไฟเกิดขึน้ เช่น เคร่ืองหรี่
ไฟ สวติ ช์ ฯลฯ ต้องมีเครื่องหอ่ ห้มุ ท่ีเป็ นโลหะ ยกเว้น สวิตช์ขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์

8-2 บทที่ 8 สถานทเี่ ฉพาะ

8.1.3.3 การเดินสายเฉพาะส่วนที่อย่ภู ายในอาคาร ให้ใช้วิธีการเดินสายด้วยช่องเดินสาย
โลหะ หรือใช้สายเคเบิลชนิด MI หรือ สายทนไฟ เทา่ นนั้ ห้ามใช้ช่องเดนิ สายอโลหะและการใช้
ช่องเดินสายต้ องใช้ ตัวคูณปรับค่าขนาดกระแสเน่ืองจากจํานวนสายท่ีนํากระแสในช่องเดิน
สายไฟฟ้ าเดยี วกนั มากกวา่ 1 กลมุ่ วงจร ตามตารางท่ี 5-8
8.1.3.4 การเดนิ สายไฟฟ้ าต้องมีการป้ องกนั ไฟลกุ ลาม ตามบทท่ี 5

8.1.4 การออกแบบระบบไฟฟ้ า
8.1.4.1 ต้องตดิ ตงั้ บริภณั ฑ์ประธานตามที่กําหนดในบทท่ี 3
8.1.4.2 ต้องมีการแบง่ วงจรยอ่ ยเพื่อจ่ายไฟฟ้ าให้กบั สว่ นตา่ งๆ อยา่ งน้อยที่สดุ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) สว่ นภายในที่ผ้นู งั่ ชมการแสดง
ข) สว่ นห้องฉาย
ค) สว่ นไฟฟ้ าแสงสวา่ งและไฟฟ้ ากําลงั บนเวที
ง) สว่ นเครื่องปรับอากาศและเครื่องระบายอากาศ
จ) สว่ นไฟฟ้ าแสงสวา่ งประจําท่ีทวั่ ไปของอาคารและอ่ืนๆ
ฉ) สว่ นไฟฟ้ าที่ตดิ ตงั้ เป็ นครัง้ คราวบนเวที
ช) สว่ นไฟฟ้ าท่ีเก่ียวข้องกบั อปุ กรณ์สําหรับการผจญเพลงิ (ถ้ามี)
ซ) สว่ นไฟฟ้ าแสงสวา่ งฉกุ เฉินและป้ ายทางออก
8.1.4.3 บริภณั ฑ์ประธานและแผงสวิตช์หรือแผงย่อยของวงจรยอ่ ย ตามข้อ 8.1.4.1 และข้อ
8.1.4.2 ต้องทําด้วยวสั ดทุ นไฟและติดตงั้ รวมกนั ในห้องท่ีจดั ไว้โดยเฉพาะ ห้องต้องสร้างด้วย
วสั ดทุ นไฟที่มีอตั ราการทนไฟและกนั ไฟลามอยา่ งน้อย 2 ชวั่ โมง
8.1.4.4 เครื่องป้ องกันกระแสเกินของบริภัณฑ์ประธานและวงจรย่อย ต้องติดตงั้ ในกล่อง
โลหะหรือต้โู ลหะ เพื่อป้ องกนั ประกายไฟและการสมั ผสั สว่ นที่มีไฟฟ้ าโดยบงั เอิญ
8.1.4.5 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าทกุ ชนิด ที่มีเปลอื กนอกเป็ นโลหะต้องตอ่ ลงดนิ ตามบทที่ 4
8.1.4.6 หากติดตัง้ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า เพื่อการจ่ายกําลังไฟฟ้ าสํารอง ต้องติดตัง้ เคร่ือง
ป้ องกนั กระแสเกิน และต้องมีการป้ องกนั การจ่ายไฟชนกนั กบั ระบบไฟฟ้ าของการไฟฟ้ าฯ และ
การตดิ ตงั้ ให้เป็ นไปตามท่ีกําหนดในมาตรฐานระบบเครื่องกําเนิดไฟฟ้ าของ วสท.
8.1.4.7 การติดตัง้ ไฟฟ้ าแสงสว่างฉุกเฉินให้เป็ นไปตามมาตรฐานระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง
ฉกุ เฉินและโคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉกุ เฉิน ของ วสท.

8.1.5 เคร่ืองปลดวงจรและเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกนิ
วงจรไฟฟ้ าตามข้อ 8.1.4.2 ต้องติดตงั้ เครื่องปลดวงจรและเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกิน ขนาดของ
เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในบทที่ 3

บทท่ี 8 สถานท่เี ฉพาะ 8-3

8.1.6 การตดิ ตงั้ บริภณั ฑ์บนเวทแี ละห้องฉาย
8.1.6.1 แผงสวติ ช์และแผงย่อยท่ตี ดิ ประจาํ ท่ี
8.1.6.1.1 แผงสวิตช์และแผงย่อยต้องทําด้วยวัสดุทนไฟและเป็ นแบบด้านหน้าไม่มีไฟ
ด้านหลงั ของแผงสวติ ช์หรือแผงยอ่ ยต้องมีที่กนั้ หรือกนั้ ด้วยสว่ นของอาคารท่ีทนไฟ
8.1.6.1.2 ทกุ วงจรยอ่ ยที่จา่ ยจากแผงสวติ ช์หรือแผงยอ่ ยต้องตดิ ตงั้ เครื่องป้ องกนั กระแสเกิน
8.1.6.2 บริภณั ฑ์ตดิ ประจาํ ท่ี
8.1.6.2.1 หลอดไฟท่ีติดท่ีพืน้ หน้าเวทีต้องมีการป้ องกันความเสียหายทางกายภาพและมี
ระบบการระบายความร้อนอยา่ งพอเพียง
8.1.6.2.2 หลอดไฟชนิดแขวนหรือชนิดติดเพดาน ต้องมีการป้ องกนั หลอดไฟหลดุ จากที่ยึด
และต้องอยสู่ งู จากพืน้ ไมน่ ้อยกวา่ 2.50 เมตร
8.1.6.2.3 มอเตอร์ท่ีใช้สําหรับปิ ด-เปิ ดม่าน ถ้าเป็ นชนิดที่มีแปรงถ่านหรือชนิดที่คล้ายกนั ซ่ึง
เวลาทํางานมีประกายไฟเกิดขนึ ้ ต้องเป็ นแบบใดแบบหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) มอเตอร์เป็ นแบบปิ ดมิดชิด
ข) มอเตอร์อยใู่ นฝาครอบที่ทําด้วยวสั ดไุ มต่ ดิ ไฟและระบายอากาศได้
8.1.6.3 บริภณั ฑ์ชนิดหยบิ ยกได้
8.1.6.3.1 สายไฟฟ้ าที่จ่ายไฟฟ้ าให้กบั แผงสวิตช์หรือแผงย่อยชนิดหยิบยกได้ต้องเป็ นสาย
ทองแดงมีฉนวนและเปลือกนอกห้มุ เป็ นสายชนิดอ่อนตวั ได้ดี เป็ นเส้นเดียวตลอดไม่มีรอยต่อ
และต้องตดิ ตงั้ เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินไว้ที่ต้นทางด้วย
8.1.6.3.2 แผงสวิตช์หรือแผงย่อยชนิดหยิบยกได้ เต้ารับ และหลอดไฟ ต้องมีการป้ องกัน
ความเสียหายทางกายภาพท่ีเหมาะสม
8.1.6.3.3 บริภณั ฑ์ที่ขณะใช้งานอาจมีประกายไฟต้องติดตงั ้ ในท่ีที่หา่ งจากวสั ดตุ ิดไฟได้ หรือ
มีการป้ องกนั ที่เหมาะสม
8.1.7 การต่อลงดนิ
ต้องมีการตอ่ ลงดนิ ตามที่กําหนดในบทท่ี 4 และเป็ นดงั นี ้
8.1.7.1 การตอ่ ตวั นําเข้ากบั หลกั ดนิ ให้ใช้วธิ ีการตอ่ เช่ือมด้วยความร้อน
8.1.7.2 การตอ่ ลงดนิ ต้องจดั ทําจดุ ทดสอบ สําหรับใช้วดั คา่ ความต้านทานการตอ่ ลงดนิ และ
จดุ ทดสอบนีต้ ้องเข้าถึงได้โดยสะดวก

8.1.8 หม้อแปลงและห้องหม้อแปลง
ต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 6.4 หากติดตงั้ ภายในอาคารต้องเป็ นชนิดแห้ง หรือฉนวนไม่ติด
ไฟ ตดิ ตงั้ อยใู่ นเคร่ืองห่อห้มุ ท่ีมีระดบั การป้ องกนั ไม่ตํ่ากวา่ IP 21 ตามข้อ 2.8 และฉนวนต้องไม่

8-4 บทท่ี 8 สถานทีเ่ ฉพาะ

เป็ นพิษต่อบคุ คลและส่ิงแวดล้อม ไม่อนญุ าตให้ติดตงั้ หม้อแปลงชนิดฉนวนติดไฟได้ หรือหม้อ
แปลงชนิดฉนวนตดิ ไฟยากภายในอาคาร ใต้อาคาร บนดาดฟ้ า หรือบนสว่ นย่ืนของอาคาร

8.2 ป้ ายโฆษณา

8.2.1 ท่วั ไป
8.2.1.1 ให้ใช้กับระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง ที่ติดตัง้ เพื่อให้ความสว่างแก่ป้ ายโฆษณาในท่ี
สาธารณะซง่ึ โครงสร้างโลหะของป้ ายอย่สู งู จากพืน้ ไม่เกิน 2.50 เมตร ทงั้ นีโ้ ครงสร้างโลหะที่
รองรับป้ ายให้ถือว่าเป็ นสว่ นหน่ึงของป้ าย ทงั ้ ระบบไฟฟ้ าแสงสว่างที่ติดตงั ้ อย่ภู ายนอกป้ ายและ
ภายในป้ าย และให้รวมถงึ ป้ ายโฆษณาท่ีใช้มอเตอร์ไฟฟ้ าในการเคลื่อนไหวป้ ายด้วย
8.2.1.2 การเดนิ สายสําหรับป้ ายโฆษณา ให้ปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดในบทนี ้กรณีท่ีไม่ได้ระบุ
ไว้ในบทนีใ้ ห้ปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดของการเดนิ สาย
8.2.1.3 ป้ ายโฆษณาแบบมีล้อเข็น แบบยกย้ายได้ ต้องติดตงั้ เคร่ืองตดั ไฟรั่วท่ีต้นทางของ
วงจรที่จา่ ยไฟให้ป้ ายโฆษณาดงั กลา่ ว

8.2.2 สายไฟฟ้ า
8.2.2.1 สายไฟฟ้ าที่ใช้ทวั่ ไปต้องเป็ นสายทองแดงห้มุ ฉนวนและมีเปลอื กนอกกนั ความชืน้ ได้
8.2.2.2 ส า ย ใ ต้ ดิ น ต้ อ ง เ ป็ น ส า ย ท อ ง แ ด ง หุ้ ม ฉ น ว น พี วี ซี ต า ม ม า ต ร ฐ า น
ผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรมท่ี มอก.11-2553 รหสั ชนิด NYY หรือ VCT สายห้มุ ฉนวน XLPE มีเปลือก
นอก หรือสายอื่นที่มีคณุ สมบตั ไิ มต่ าํ่ กวา่ และต้องมีขนาดไมเ่ ลก็ กวา่ 2.5 ตร.มม.
8.2.2.3 กรณีท่ีมีหลอดไฟฟ้ าติดตัง้ อยู่ภายในป้ ายโฆษณา สายไฟฟ้ าที่ใช้ภายในป้ าย
โฆษณาต้องเป็ นชนิดท่ีทนความร้อนท่ีเกิดขึน้ ภายในป้ ายโฆษณานัน้ ได้ และต้องมีอณุ หภมู ิใช้
งานไม่ต่ํากวา่ 90 ºC

8.2.3 วธิ ีการเดนิ สาย
8.2.3.1 สายไฟฟ้ าต้องร้อยในทอ่ โลหะหนาหรือหนาปานกลาง ยกเว้น ส่วนทีอ่ ยู่ภายใน
ป้ าย
8.2.3.2 สายใต้ดนิ ต้องร้อยในท่อ และการตดิ ตงั ้ ต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในบทที่ 5 และข้อ
อ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง
8.2.3.3 การตอ่ สายให้ปฏิบตั ิตามที่กําหนดในบทท่ี 1 และในทกุ กรณี ไม่อนญุ าตให้ใช้สาย
พนั รอบหมดุ เกลยี ว

8.2.4 การออกแบบระบบไฟฟ้ า
8.2.4.1 ทกุ วงจรยอ่ ยต้องตดิ ตงั้ เครื่องปลดวงจรและเครื่องป้ องกนั กระแสเกิน

บทที่ 8 สถานทีเ่ ฉพาะ 8-5

8.2.4.2 การคาํ นวณโหลดของวงจรยอ่ ย ให้คาํ นวณตามที่ตดิ ตงั้ ใช้งานจริง
8.2.4.3 บริภณั ฑ์ประธานต้องติดตงั้ อย่ใู นเคร่ืองห่อห้มุ มิดชิด ถ้าติดตงั้ ภายนอกอาคารต้อง
เป็ นชนิดกนั ฝนได้

8.2.5 การต่อลงดนิ
8.2.5.1 ดวงโคม ก้านดวงโคม และ/หรือโครงของป้ ายโฆษณาท่ีเป็ นโลหะ รวมทงั้ ส่วนโลหะ
ของบริภณั ฑ์ที่ไม่ใช้เป็ นทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ าต้องตอ่ ลงดนิ ตามท่ีระบใุ นบทที่ 4
8.2.5.2 ดวงโคม ก้านดวงโคม และ/หรือโครงของป้ ายโฆษณาท่ีเป็ นโลหะหากติดตัง้ กับ
โครงสร้างโลหะ โครงสร้างโลหะนนั้ ต้องตอ่ เชื่อมกนั ทางไฟฟ้ าโดยตลอด และต้องตอ่ ลงดนิ
8.2.5.3 ตวั นําต่อหลักดินต้องเป็ นสายทองแดงหุ้มฉนวนและมีขนาดตามที่กําหนดในข้อ
4.19 และต้องไม่เลก็ กวา่ 16 ตร.มม.และต้องร้อยในทอ่ โลหะหนาหรือหนาปานกลาง
8.2.5.4 การตอ่ ตวั นําเข้ากบั หลกั ดนิ ต้องใช้วธิ ีเชื่อมด้วยความร้อนเทา่ นนั้
8.2.5.5 หลกั ดินต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 2.4.1 ทําด้วยทองแดงหรือโลหะอื่นห้มุ ด้วย
ทองแดงเทา่ นนั้ ปลายบนสดุ ต้องฝังลกึ จากผวิ ดนิ ไมน่ ้อยกวา่ 0.30 เมตร
8.2.5.6 การต่อลงดินต้องมีจดุ ทดสอบ การต่อลงดินต้องจดั ทําจดุ ทดสอบ สําหรับใช้วดั ค่า
ความต้านทานการตอ่ ลงดนิ และจดุ ทดสอบนีต้ ้องเข้าถงึ ได้โดยสะดวก
8.2.6 วงจรย่อยท่ีจ่ายไฟให้ป้ ายโฆษณาที่อยู่ภายในอาคารในระยะเอือ้ มถึงและภายนอก

อาคาร จะต้องป้ องกนั ไฟฟ้ าดดู โดยใช้เครื่องตดั ไฟรั่ว ขนาด IΔn ไมเ่ กิน 30 มลิ ลแิ อมแปร์

8.3 สถานบริการ

8.3.1 ท่วั ไป
8.3.1.1 สถานบริการหมายถึง อาคารหรือส่วนใดของอาคารที่ใช้ประกอบกิจการเป็ นสถาน
บริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ และอาคารท่ีเป็ นไปตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง เรื่อง
กําหนดประเภทและระบบความปลอดภยั ของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็ นสถานบริการ
พ.ศ. 2555 ซง่ึ ออกตามพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 แบง่ ออกเป็ น 6 ประเภท ดงั นี ้

สถานบริการประเภท ก หมายความถงึ สถานบริการที่เป็ นอาคารเด่ียวหรือท่ีตงั้ อยใู่ นอาคารท่ี
ประกอบกิจการหลายประเภทรวมกนั ซง่ึ มีการจดั พืน้ ท่ีบริการน้อยกวา่ 200 ตารางเมตร

สถานบริการประเภท ข หมายความถึง สถานบริการที่เป็ นอาคารเดี่ยว ซึ่งมีการจดั พืน้ ที่
บริการตงั้ แต่ 200 ตารางเมตร แตไ่ ม่ถึง 500 ตารางเมตร

8-6 บทท่ี 8 สถานท่เี ฉพาะ

สถานบริการประเภท ค หมายความถึง สถานบริการที่เป็ นอาคารเด่ียว ซึ่งมีการจดั พืน้ ท่ี
บริการตงั้ แต่ 500 ตารางเมตรขนึ ้ ไป
สถานบริการประเภท ง หมายความถึง สถานบริการท่ีตงั้ อย่ใู นอาคารท่ีประกอบกิจการหลาย
ประเภทรวมกนั ซง่ึ มีการจดั พืน้ ที่บริการตงั้ แต่ 200 ตารางเมตร แตไ่ มถ่ งึ 500 ตารางเมตร

สถานบริการประเภท จ หมายความถึง สถานบริการท่ีตงั้ อยใู่ นอาคารท่ีประกอบกิจการหลาย
ประเภทรวมกนั ซงึ่ มีการจดั พืน้ ท่ีบริการตงั้ แต่ 500 ตารางเมตรขนึ ้ ไป

สถานบริการประเภท ฉ หมายความถึง สถานบริการที่เป็ นอาคารชนั้ เดียวและไม่มีผนงั
ภายนอกหรือมีผนงั ภายนอกซ่ึงมีความยาวรวมกันน้อยกว่าคร่ึงหนึ่งของความยาวเส้นรอบรูป
ภายนอกของพืน้ ท่ีอาคารที่อยภู่ ายใต้หลงั คาคลมุ ซง่ึ มีการจดั พืน้ ที่บริการตงั้ แต่ 200 ตารางเมตร
ขนึ ้ ไป
8.3.1.2 นิยาม
พืน้ ท่สี ถานบริการ หมายความวา่ พืน้ ท่ีของอาคารท่ีอย่ภู ายในขอบเขตของผนงั ภายนอกสถาน
บริการ โดยให้รวมถึงพืน้ ที่ของช่องทางเดิน ช่องบนั ได ตู้ หรือความหนาของฝา เสาหรือ
สว่ นประกอบอ่ืนของอาคารที่คล้ายคลงึ กนั เฉลยี งหรือระเบียงท่ีใช้เป็ นสว่ นหนึง่ ของสถานบริการ
และพืน้ ที่ของอาคารหรือส่วนของพืน้ ที่ท่ีไม่มีผนงั ภายนอกท่ีอย่ใู ต้หลงั คาคลมุ หรืออย่ใู ต้พืน้ ชนั้
ถดั ไปแตไ่ ม่รวมถงึ พืน้ ท่ีของช่องทอ่ ชอ่ งลฟิ ต์ และท่ีจอดรถ

พืน้ ท่ีบริการ หมายความว่า พืน้ ที่ที่จดั ไว้สําหรับให้บริการตามวตั ถปุ ระสงค์ของกิจการสถาน
บริการนนั้ ๆ แตไ่ ม่รวมถึงพืน้ ท่ีประกอบการให้บริการ เช่น พืน้ ที่จอดรถ ห้องนํา้ ห้องครัวห้องเก็บ
ของ ห้องเครื่องระบบตา่ ง ๆ ชอ่ งทางเดนิ ช่องทอ่ ชอ่ งบนั ได ช่องลฟิ ต์ พืน้ ที่จดั เตรียมเคร่ืองด่ืม
8.3.1.3 การเดนิ สายสําหรับสถานบริการให้ปฏิบตั ิตามข้อกําหนดในบทนี ้ กรณีท่ีไม่ได้ระบไุ ว้
ในบทนีใ้ ห้ปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดของการเดนิ สาย
8.3.1.4 ข้อกําหนดหนีใ้ ช้เฉพาะระบบแรงดนั ไมเ่ กิน 1,000 โวลต์ เทา่ นนั้

8.3.2 สายไฟฟ้ า
8.3.2.1 สายไฟฟ้ าระบบแรงตํ่า ในพืน้ ที่บริการต้องเป็ นสายตวั นําทองแดงห้มุ ฉนวน ตามข้อ
11.2.1 Cat.C ข้อ 11.2.2 และข้อ 11.2.3
ยกเว้น สถานบริการประเภท ก และ ฉ ตามกฎหมายควบคมุ อาคาร
8.3.2.2 สายไฟฟ้ าของวงจรชว่ ยชีวิตต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 12.8

8.3.3 วธิ ีการเดนิ สาย
8.3.3.1 การเดนิ สายสว่ นที่อยนู่ อกอาคาร ให้เป็ นไปตามที่กําหนดในบทท่ี 5

บทที่ 8 สถานทีเ่ ฉพาะ 8-7

8.3.3.2 การเดินสายเฉพาะส่วนที่อย่ภู ายในอาคาร ให้ใช้วิธีการเดินสายด้วยช่องเดินสาย
โลหะ หรือใช้เคเบิลชนิด MI หรือ สายทนไฟเท่านนั้ ห้ามใช้ช่องเดนิ สายอโลหะ และการใช้ช่อง
เดนิ สายต้องใช้ตวั คณู ปรับคา่ ขนาดกระแสเน่ืองจากจํานวนสายท่ีนํากระแสในช่องเดนิ สายไฟฟ้ า
เดียวกนั มากกว่า 1 กลมุ่ วงจร ตามตารางที่ 5-8 ยกเว้น การเดินสายในหอ้ งหมอ้ แปลงและ
หอ้ งไฟฟ้ ารวมอนญุ าตใหเ้ ดินสายบนรางเคเบิลได้
8.3.3.3 การเดนิ สายไฟฟ้ าต้องมีการป้ องกนั ไฟลกุ ลาม ตามบทที่ 5

8.3.4 การออกแบบระบบไฟฟ้ า
8.3.4.1 การคาํ นวณโหลดให้เป็ นไปตามท่ีกําหนดในบทท่ี 3
8.3.4.2 ต้องมีการแบง่ วงจรยอ่ ยเพ่ือจ่ายไฟฟ้ าให้กบั สว่ นตา่ ง ๆ อยา่ งน้อยที่สดุ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) สว่ นไฟฟ้ าแสงสวา่ งภายในพืน้ ที่บริการ
ข) สว่ นช่องทางเดนิ บนั ได ทางหนีไฟ และห้องควบคมุ
ค) สว่ นไฟฟ้ าแสงสวา่ งและไฟฟ้ ากําลงั บนเวที
ง) สว่ นระบบไฟฟ้ าแสงสวา่ งฉกุ เฉินและโคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉกุ เฉิน
จ) สว่ นเคร่ืองปรับอากาศและเคร่ืองระบายอากาศ
ฉ) สว่ นไฟฟ้ าที่ตดิ ตงั้ เป็ นครัง้ คราวบนเวที
ช) สว่ นของเต้ารับ
ซ) สว่ นไฟฟ้ าท่ีเกี่ยวข้องกบั วงจรช่วยชีวิตอปุ กรณ์สาํ หรับการผจญเพลงิ (ถ้ามี)
8.3.4.3 วงจรย่อยและสายป้ อนต้องมีเคร่ืองป้ องกันกระแสเกิน พิกัดเครื่องป้ องกันกระแส
เกินไม่ต่าํ กวา่ 1.25 เทา่ ของโหลดที่คาํ นวณได้ และเป็ นไปตามที่กําหนดใบบทที่ 3
8.3.4.4 เต้ารับต้องเป็ นชนิดมีขวั้ สายดนิ และต้องตอ่ ลงดนิ ตามท่ีกําหนดในบทที่ 4
8.3.4.5 วงจรย่อยเต้ารับท่ีติดตงั้ ในพืน้ ที่บริการและห้องครัวต้องต่อลงดินและตอ่ ผ่านเคร่ือง
ตดั ไฟรั่ว
8.3.4.6 บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าในวงจรย่อยแสงสว่างในพืน้ ที่บริการต้องตอ่ ลงดิน ยกเว้น ใชแ้ รงดนั
ไม่เกิน 50 โวลต์ และต่อผา่ นหมอ้ แปลงชนิดแยกขดลวด

ดวงโคมท่ีอย่หู ่างจากพืน้ หรือโลหะที่ต่อลงดินไม่เกิน 2.40 เมตรในแนวด่ิง หรือ1.50 เมตร ใน
แนวระดบั และบคุ คลอาจสมั ผสั ได้โดยบงั เอิญ ต้องตอ่ ผา่ นเคร่ืองตดั ไฟรั่ว
8.3.4.7 หากติดตัง้ เครื่องกําเนิดไฟฟ้ า เพื่อการจ่ายกําลังไฟฟ้ าสํารอง ต้องติดตัง้ เครื่อง
ป้ องกันกระแสเกิน และต้องมีการป้ องกันการจ่ายไฟชนกนั กับระบบไฟฟ้ าของการไฟฟ้ าฯ และ
การตดิ ตงั้ ให้เป็ นไปตามท่ีกําหนดในมาตรฐานระบบเครื่องกําเนิดไฟฟ้ าของ วสท.

8-8 บทท่ี 8 สถานท่เี ฉพาะ

8.3.4.8 การติดตัง้ ไฟฟ้ าแสงสว่างฉุกเฉินให้เป็ นไปตามมาตรฐานระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง
ฉกุ เฉินและโคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉกุ เฉิน ของ วสท.

8.3.5 การตดิ ตัง้ บริภณั ฑ์บนเวที
8.3.5.1 แผงสวติ ซ์และแผงย่อยท่ตี ดิ ประจาํ ท่ี

ก) แผงสวติ ช์และแผงยอ่ ยต้องทําด้วยวสั ดทุ นไฟและเป็ นแบบด้านหน้าไม่มีไฟ
ด้านหลงั ของแผงสวิตช์หรือแผงยอ่ ยต้องมีท่ีกนั้ หรือกนั้ ด้วยสว่ นของอาคารท่ีทน
ไฟ

ข) ทกุ วงจรย่อยที่จ่ายจากแผงสวิตช์หรือแผงย่อยต้องติดตงั้ เคร่ืองป้ องกันกระแส
เกิน

8.3.5.2 บริภณั ฑ์ตดิ ประจาํ ท่ี
ก) หลอดไฟที่ติดที่พืน้ หน้าเวทีต้องมีการป้ องกันความเสียหายทางกายภาพและมี
ระบบการระบายความร้อนอยา่ งพอเพียง
ข) หลอดไฟชนิดแขวนหรือชนิดตดิ เพดาน ต้องมีการป้ องกนั หลอดไฟหลดุ จากท่ียดึ

ตกลงพืน้
8.3.5.3 บริภณั ฑ์ชนิดหยบิ ยกได้

ก) สายไฟฟ้ าที่จ่ายไฟฟ้ าให้กบั แผงสวิตช์หรือแผงย่อยชนิดหยิบยกได้ต้องเป็ นสาย
ทองแดงมีฉนวนและเปลือกนอกห้มุ เป็ นสายชนิดอ่อนตวั ได้ดี เป็ นเส้นเดยี ว
ตลอดไมม่ ีรอยตอ่ และต้องตดิ ตงั้ เครื่องป้ องกนั กระแสเกินไว้ที่ต้นทางด้วย

ข) บริภัณฑ์ไฟฟ้ าชนิดหยิบยกได้ รวมทัง้ เต้ารับ และหลอดไฟ ต้องมีการป้ องกัน
ความเสียหายทางกายภาพที่เหมาะสม และต้องตอ่ ผา่ นเครื่องตดั ไฟร่ัว

8.3.6 บริภณั ฑ์ตดิ ประจาํ ท่ี
8.3.6.1 มอเตอร์ที่ใช้สาํ หรับปิ ด-เปิ ดมา่ น (ถ้ามี) ถ้าเป็ นชนิดที่มีแปรงถ่านหรือชนิดท่ีคล้ายกนั
ซงึ่ เวลาทํางานมีประกายไฟเกิดขนึ ้ ต้องเป็ นแบบใดแบบหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปนี ้

ก) มอเตอร์เป็ นแบบปิ ดมิดชิด
ข) มอเตอร์อยใู่ นฝาครอบท่ีทําด้วยวสั ดไุ ม่ตดิ ไปและระบายอากาศได้
8.3.6.2 เครื่องใช้ไฟฟ้ าและบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่เวลาทํางานมีประกายไฟเกิดขนึ ้ เช่น เครื่องหร่ีไฟ
สวิตช์ ฯลฯ ต้องมีเคร่ืองหอ่ ห้มุ ที่เป็ นโลหะ ยกเว้น สวิตช์ขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์
8.3.6.3 สระหรืออา่ งกายภาพบําบดั ธาราบําบดั อา่ งนํา้ แร่ (spa) อ่างนํา้ ร้อน (hot tub) อ่าง
นวดตวั ต้องตอ่ ผา่ นเครื่องตดั ไฟร่ัว

บทที่ 8 สถานทีเ่ ฉพาะ 8-9

8.3.7 หม้อแปลงและห้องหม้อแปลง
8.3.7.1 หม้อแปลงต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 6.4 หากตดิ ตงั้ ภายในอาคารต้องเป็ นชนิด
แห้งหรือฉนวนไม่ติดไฟ ตดิ ตงั้ อยใู่ นเครื่องหอ่ ห้มุ ท่ีมีระดบั การป้ องกนั ไม่ต่ํากว่า IP 21 ตามข้อ
2.8 และฉนวนต้องไม่เป็ นพิษต่อบุคคลและสิ่งแวดล้อม ไม่อนญุ าตให้ติดตงั้ หม้อแปลงชนิด
ฉนวนตดิ ไฟได้ หรือหม้อแปลงชนิดฉนวนตดิ ไฟยากภายในอาคาร ใต้อาคาร บนดาดฟ้ า หรือบน
สว่ นยื่นของอาคาร
8.3.7.2 ห้องหม้อแปลง ต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 6.4

8.3.8 บริภณั ฑ์ประธาน
8.3.8.1 บริภณั ฑ์ประธาน ต้องตดิ ตงั้ ในห้องหรือสถานท่ีซงึ่ จดั ไว้โดยเฉพาะ มีพืน้ ท่ีว่างเพ่ือ
ปฏิบตั ิงานพอเพียง ถ้าเป็ นห้องต้องสร้างด้วยวสั ดทุ นไฟท่ีมีอตั ราการทนไฟและกนั ไฟลามอย่าง
น้อย 2 ชว่ั โมง มีระดบั การป้ องกนั ไมต่ าํ่ กวา่ IP 21
8.3.8.2 แผงสวิตช์แรงสงู ต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 5.7 มีระดบั การป้ องกนั ของเคร่ือง
หอ่ ห้มุ ไม่ต่ํากวา่ IP 31 ตามข้อ 2.8 และเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินแรงสงู ถ้าใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์
ต้องเป็ นชนิดฉนวนไมต่ ดิ ไฟ หากใช้ชดุ ฟิวส์กําลงั ต้องใช้ประกอบกบั สวิตช์สําหรับตดั โหลด พิกดั
กระแสของเครื่องป้ องกนั กระแสเกิน ต้องสอดคล้องกบั ตารางท่ี 6-5
8.3.9 การต่อลงดนิ
ต้องมีการตอ่ ลงดนิ ตามที่กําหนดในบทท่ี 4 และเป็ นดงั นี ้
8.3.9.1 การตอ่ ตวั นําเข้ากบั หลกั ดนิ ให้ใช้วิธีการตอ่ เช่ือมด้วยความร้อน
8.3.9.2 การต่อลงดินต้องจดั ทําจุดทดสอบ สําหรับใช้วดั ค่าความต้านทานของหลกั ดินกับ
ดนิ และจดุ ทดสอบนีต้ ้องเข้าถึงได้โดยสะดวก

8.4 โรงแรม

8.4.1 ท่วั ไป
8.4.1.1 ครอบคลมุ สถานประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายวา่ ด้วยโรงแรม
8.4.1.2 การเดินสายสําหรับสถานบริการให้ปฏิบตั ิตามข้อกําหนดในบทนี ้ กรณีที่ไม่ได้ระบไุ ว้
ในบทนีใ้ ห้ปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดของการเดนิ สาย
8.4.1.3 ข้อกําหนดนีใ้ ช้เฉพาะระบบแรงดนั ไม่เกิน 1,000 โวลต์ เทา่ นนั้
8.4.1.4 โรงแรมที่เป็ นอาคารสงู หรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ ต้องปฏิบตั ติ ามข้อ 9.2 ด้วย

8.4.2 สายไฟฟ้ า

8-10 บทที่ 8 สถานทเี่ ฉพาะ

8.4.2.1 สายไฟฟ้ าระบบแรงต่ํา ต้องเป็ นสายทองแดงหุ้มฉนวน พีวีซี ตามมาตรฐาน
ผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรมท่ี มอก 11-2553 หรือสายอ่ืนที่มีคณุ สมบตั ไิ มต่ ่ํากวา่
8.4.2.2 สายไฟฟ้ าของวงจรชว่ ยชีวติ ต้องเป็ นไปตามกําหนดในข้อ 12.8

8.4.3 วธิ ีการเดนิ สาย
8.4.3.1 การเดนิ สายสว่ นที่อยนู่ อกอาคาร ให้เป็ นไปตามที่กําหนดในบทที่ 5
8.4.3.2 การเดินสายเฉพาะส่วนที่อยู่ภายในอาคาร ให้ใช้วิธีการเดินสายด้วยช่องเดินสาย
โลหะ หรือใช้ MI หรือ สายทนไฟ หากใช้ท่ออโลหะต้องฝังในผนงั ปนู หนาไม่น้อยกวา่ 50 มม.
ห้ามเดนิ ลอยหรือซอ่ นในฝ้ า
8.4.3.3 การเดนิ สายไฟฟ้ าต้องมีการป้ องกนั ไฟลกุ ลาม ตามบทท่ี 5

8.4.4 การออกแบบระบบไฟฟ้ า
8.4.4.1 การคาํ นวณโหลดให้เป็ นไปตามท่ีกําหนดในบทท่ี 3
8.4.4.2 วงจรย่อยสําหรับระบบไฟฟ้ าแสงสว่างฉุกเฉินและโคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉกุ เฉิน
ต้องแยกตา่ งหากจากบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าอื่น
8.4.4.3 วงจรย่อยและสายป้ อนต้องมีเครื่องป้ องกันกระแสเกิน พิกัดเคร่ืองป้ องกันกระแส
เกินไมต่ ่าํ กวา่ ของโหลดที่คาํ นวณได้ และเป็ นไปตามที่กําหนดในบทท่ี 3
8.4.4.4 เต้ารับต้องเป็ นชนิดมีขวั้ สายดินและเต้ารับส่วนท่ีอย่ใู นห้องพกั ต้องตอ่ ผ่านเคร่ืองตดั
ไฟร่ัว
8.4.4.5 หากติดตัง้ เคร่ืองกําเนิดไฟฟ้ า เพื่อการจ่ายกําลังไฟฟ้ าสํารอง ต้องติดตัง้ เคร่ือง
ป้ องกนั กระแสเกิน และต้องมีการป้ องกนั การจ่ายไฟชนกนั กบั ระบบไฟฟ้ าของการไฟฟ้ าฯ และ
การตดิ ตงั้ ให้เป็ นไปตามที่กําหนดในมาตรฐานระบบเครื่องกําเนิดไฟฟ้ าของ วสท.
8.4.4.6 กรณีมีสระนํา้ อา่ งนํา้ พุ ต้องปฏิบตั ติ ามข้อ 10.2 ด้วย
8.4.4.7 สระหรืออ่างกายภาพบําบดั ธาราบําบดั อ่างนํา้ แร่ อ่างนํา้ ร้อน อ่างนวดตวั เครื่อง
ทํานํา้ ร้อน เครื่องทํานํา้ อ่นุ ต้องตอ่ ผา่ นเคร่ืองตดั ไฟร่ัว
8.4.4.8 วงจรย่อยสําหรับแสงสว่างและเต้ารับภายนอกอาคารต้องต่อผ่านเครื่องตดั ไฟร่ัว
ยกเว้น ดวงโคมทีอ่ ยู่ห่างจากพืน้ หรือโลหะทีต่ ่อลงดินเกิน 2.40 เมตร ในแนวด่ิงหรือเกิน 1.50
เมตร ในแนวระดบั และพน้ จากการสมั ผสั โดยบงั เอิญ
8.4.4.9 การติดตัง้ ไฟฟ้ าแสงสว่างฉุกเฉินให้เป็ นไปตามมาตรฐานระบบไฟฟ้ าแสงสว่าง
ฉกุ เฉินและโคมไฟฟ้ าป้ ายทางออกฉกุ เฉิน ของ วสท.

บทที่ 8 สถานทีเ่ ฉพาะ 8-11

8.4.5 หม้อแปลงและห้องหม้อแปลง
8.4.5.1 หม้อแปลงต้องเป็ นไปตามข้อ 6.4 หากติดตงั้ ภายในอาคารต้องเป็ นชนิดแห้งหรือ
ฉนวนไม่ติดไฟ ตดิ ตงั้ อยใู่ นเครื่องหอ่ ห้มุ ที่มีระดบั การป้ องกนั ไม่ต่ํากว่า IP 21 ตามข้อ 2.8 และ
ฉนวนต้องไม่เป็ นพิษตอ่ บคุ คลและสงิ่ แวดล้อม ไม่อนญุ าตให้ติดตงั้ หม้อแปลงชนิดฉนวนติดไฟ
ได้ หรือหม้อแปลงชนิดฉนวนตดิ ไฟยากภายในอาคาร ใต้อาคาร บนดาดฟ้ า หรือบนสว่ นย่ืนของ
อาคาร
8.4.5.2 ห้องหม้อแปลง ต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 6.4

8.4.6 บริภณั ฑ์ประธาน
8.4.6.1 บริภณั ฑ์ประธาน ต้องตดิ ตงั้ ในห้องหรือสถานที่ซง่ึ จดั ไว้โดยเฉพาะ มีพืน้ ท่ีว่างเพื่อ
ปฏิบตั ิงานพอเพียง ถ้าเป็ นห้องต้องสร้างด้วยวสั ดทุ นไฟท่ีมีอตั ราการทนไฟและกนั ไฟลามอย่าง
น้อย 2 ชวั่ โมง มีระดบั การป้ องกนั ไม่ตา่ํ กวา่ IP 21
8.4.6.2 แผงสวิตช์แรงสงู ต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 5.7 มีระดบั การป้ องกนั ของเครื่อง
ห่อห้มุ ไม่ตํ่ากว่า IP 31 ตามข้อ 2.8 และเครื่องป้ องกนั กระแสเกินแรงสงู ถ้าใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์
ต้องเป็ นชนิดฉนวนไม่ตดิ ไฟ หากใช้ชดุ ฟิวส์กําลงั ต้องใช้ประกอบกบั สวิตช์สําหรับตดั โหลด พิกดั
กระแสของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกิน ต้องสอดคล้องกบั ตารางท่ี 6-5

8.4.7 การต่อลงดนิ
8.4.7.1 การตอ่ ตวั นําเข้ากบั หลกั ดนิ ให้ใช้วธิ ีการตอ่ เชื่อมด้วยความร้อน
8.4.7.2 การตอ่ ลงดนิ ต้องจดั ทําจดุ ทดสอบ สําหรับใช้วดั คา่ ความต้านทานการตอ่ ลงดนิ และ
จดุ ทดสอบนีต้ ้องเข้าถงึ ได้โดยสะดวก

บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ 9-1

บทท่ี 9
อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

ข้อกําหนดในบทนีเ้ กี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้ าในอาคารชุด อาคารสงู หรืออาคารขนาด
ใหญ่พิเศษ สําหรับอาคารชุดการคํานวณโหลดจะพิจารณาจากชนิดของห้องชุดและพืน้ ที่ของ
ห้องชดุ

9.1 อาคารชุด

9.1.1 ท่วั ไป
9.1.1.1 ให้ใช้กบั อาคารชดุ ทกุ ประเภท ภายใต้ พ.ร.บ.อาคารชดุ พ.ศ.2522 หรือที่จะแก้ไข
เพิ่มเตมิ ตอ่ ไป ซง่ึ กฎหมายรับรองกรรมสทิ ธิ์ในแตล่ ะห้องชดุ
9.1.1.2 ให้ใช้กบั อาคารประเภทอื่นๆ ที่ผู้ขอใช้ไฟฟ้ าประสงค์จะให้มีการจ่ายไฟฟ้ าและ
ตดิ ตงั้ เครื่องวดั ฯ แบบอาคารชดุ
9.1.1.3 การเดินสายสําหรับอาคารชดุ ให้ปฏิบตั ิตามข้อกําหนดในบทนี ้กรณีท่ีไม่ได้ระบไุ ว้ใน
บทนีใ้ ห้ปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดของการเดนิ สาย
9.1.1.4 อาคารชดุ ท่ีเป็ นอาคารสงู หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ต้องปฏิบตั ติ ามข้อ 9.2 ด้วย
9.1.1.5 การคํานวณโหลดท่ีกล่าวในบทนีเ้ป็ นคา่ ต่ําสดุ หากการติดตงั้ จริงมีโหลดมากกว่าท่ี
คํานวณนีก้ ็ต้องใช้คา่ ตามท่ีตดิ ตงั้ จริง

9.1.2 การคาํ นวณโหลด
ให้แบ่งการคํานวณโหลดออกเป็ น 2 ส่วน คือ โหลดส่วนกลาง และโหลดห้องชุด ซ่ึงโหลดท่ี
คํานวณได้ต้องไม่ตํา่ กวา่ ที่กําหนด ดงั ตอ่ ไปนี ้
9.1.2.1 โหลดส่วนกลาง
หมายถึงไฟฟ้ าที่ใช้สําหรับระบบไฟฟ้ าส่วนกลางทงั้ หมด เช่นแสงสว่างห้องโถง ทางเดิน ลิฟต์
เคร่ืองสบู นํา้ ระบบไฟฉกุ เฉิน เป็ นต้น โดยขนาดความต้องการใช้ไฟฟ้ า ให้คํานวณจากโหลดท่ี
ตดิ ตงั้ อนญุ าตให้ใช้คา่ ดมี านด์แฟกเตอร์ท่ีระบใุ นบทที่ 3 หรือมาตรฐานอื่นที่การไฟฟ้ าฯ ยอมรับ
ในการคํานวณหาขนาดตวั นําประธาน สายป้ อน และหม้อแปลงไฟฟ้ าได้
9.1.2.2 โหลดห้องชุดประเภทอย่อู าศัย
ขนาดความต้องการใช้ไฟฟ้ าของห้องชดุ ให้คํานวณจากขนาดพืน้ ท่ีในห้องชดุ ไม่รวมพืน้ ท่ีเฉลียง
และห้ามใช้ดีมานด์แฟกเตอร์ ซงึ่ อาจแบง่ ออกเป็ น

9-2 บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

9.1.2.2.1 ห้องชุดท่ไี ม่มีระบบทาํ ความเยน็ จากส่วนกลาง
โหลดของห้องชดุ ให้ใช้สตู รดงั นี ้

ก) ห้องชุดท่มี ีพนื้ ท่ไี ม่เกนิ 55 ตารางเมตร
[90 x พืน้ ที่ห้อง(ตร.ม.)] +1,500 VA

ข) ห้องชุดท่มี ีพนื้ ท่มี ากกว่า 55 ตารางเมตร แต่ไม่เกนิ 180 ตารางเมตร
[90 x พืน้ ท่ีห้อง(ตร.ม.)] + 3,000 VA

ค) ห้องชุดท่มี ีพืน้ ท่มี ากกว่า 180 ตารางเมตร
[90 x พืน้ ท่ีห้อง(ตร.ม.)] + 6,000 VA

9.1.2.2.2 ห้องชุดท่มี ีระบบทาํ ความเยน็ จากส่วนกลาง
โหลดของห้องชดุ ให้ใช้สตู รดงั นี ้

ก) ห้องชุดท่มี ีพนื้ ท่ไี ม่เกนิ 55 ตารางเมตร
[20 x พืน้ ที่ห้อง(ตร.ม.)] + 1,500 VA

ข) ห้องชุดท่มี ีพนื้ ท่มี ากกว่า 55 ตารางเมตร แต่ไม่เกนิ 180 ตารางเมตร
[20 x พืน้ ที่ห้อง(ตร.ม.)] + 3,000 VA

ค) ห้องชุดท่มี ีพนื้ ท่มี ากกว่า 180 ตารางเมตร
[20 x พืน้ ที่ห้อง(ตร.ม.)] + 6,000 VA

9.1.2.3 โหลดห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าท่วั ไป
ขนาดความต้องการใช้ไฟฟ้ าในห้องชดุ ให้คํานวณจากขนาดพืน้ ที่ในห้องชดุ (ไม่รวมพืน้ ที่เฉลียง)
และห้ามใช้ดีมานด์แฟกเตอร์ ซงึ่ อาจแบง่ ออกเป็ น
9.1.2.3.1 ห้องชุดท่ไี ม่มีระบบทาํ ความเยน็ จากส่วนกลาง
ให้ใช้คา่ 155 โวลต์แอมแปร์ตอ่ พืน้ ท่ีหนงึ่ ตารางเมตร
9.1.2.3.2 ห้องชุดท่มี ีระบบทาํ ความเยน็ จากส่วนกลาง
ให้ใช้คา่ 85 โวลต์แอมแปร์ตอ่ พืน้ ที่หนงึ่ ตารางเมตร
9.1.2.3.3 ห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าหรือเพ่ือการอ่ืนใดท่ใี ช้ไฟฟ้ ามากเป็ น
พเิ ศษ
ห้องอาหาร ท่ีใช้เตาไฟฟ้ า หรือเคร่ืองทําความร้อนมาก และต้แู ชเ่ ยน็ ขนาดใหญ่ และโหลดอื่น ๆ
ท่ีใช้ไฟมากเป็ นพิเศษต้องพิจารณาตามสภาพที่จะใช้จริงและต้องแสดงรายการคํานวณโหลด
ของอปุ กรณ์ไฟฟ้ าที่จะใช้ตดิ ตงั้ จริง

บทท่ี 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ 9-3

9.1.2.4 โหลดห้องชุดประเภทอุตสาหกรรม
ขนาดความต้องการใช้ไฟฟ้ าของห้องชุด ให้คํานวณจากขนาดพืน้ ที่ในห้องชุด (ไม่รวมพืน้ ที่
เฉลียง) และห้ามใช้ดีมานด์แฟกเตอร์ โดยโหลดของห้องชดุ ให้ใช้ค่าไม่น้อยกว่า 220 โวลต์
แอมแปร์ตอ่ พืน้ ที่หนึ่งตารางเมตร (ทงั้ กรณีห้องชดุ มีและไม่มีระบบทําความเย็นจากส่วนกลาง)
หรือคํานวณโหลดตามที่ติดตงั ้ จริงโดยผู้ขอไฟฟ้ าต้องแสดงรายการคํานวณโหลดของอปุ กรณ์
ไฟฟ้ าท่ีตดิ ตงั้ จริงให้การไฟฟ้ าฯ พจิ ารณาเห็นชอบด้วย

หมายเหตุ ใหถ้ ือว่าโหลดตามข้อ 9.1.2.2 ถึง 9.1.2.4 เป็นโหลดต่อเนือ่ ง

9.1.3 เคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าของห้องชุด
9.1.3.1 ขนาดเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ ให้ใช้ขนาดเคร่ืองวดั ฯ ตามคา่ ความต้องการ
ใช้ไฟฟ้ า ที่คํานวณได้ตามข้อ 9.1.2 มากําหนดขนาดเครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ าสําหรับห้องชดุ โดย
ขนาดต้องไม่เลก็ กวา่ ที่กําหนดในตารางที่ 9-1, 9-2, 9-3 หรือ 9-4 แล้วแตก่ รณี และต้องแสดง
รายการคํานวณโหลดของห้องชดุ
9.1.3.2 ขนาดเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงสูง ให้นําผลรวมของโหลด หรือคา่ ความต้องการ
ใช้ไฟฟ้ า ท่ีคํานวณได้ตามข้อ 9.1.2 มากําหนดขนาดเคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าสําหรับห้องชดุ โดยผู้
ขอไฟฟ้ าต้องแสดงรายการคํานวณโหลดให้การไฟฟ้ าฯ พจิ ารณาเหน็ ชอบ
9.1.3.3 การตดิ ตัง้ เคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ
เคร่ืองวดั หนว่ ยไฟฟ้ าแรงตํ่าสาํ หรับห้องชดุ ต้องตดิ ตงั้ เป็ นกลมุ่ เครื่องวดั ในแผงที่จดั เตรียมไว้เพื่อ
การติดตงั้ เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้ าสําหรับห้องชุดโดยเฉพาะ ซ่ึงอาจติดตงั้ รวมกันบริเวณชัน้ ล่าง
หรือแยกเป็ นกล่มุ สําหรับห้องชดุ ในแต่ละชนั้ ก็ได้ โดยต้องสามารถให้เจ้าหน้าท่ีของการไฟฟ้ าฯ
เข้าตรวจสอบ ปฏิบตั งิ าน และอา่ นหน่วยไฟฟ้ าได้โดยสะดวก
9.1.3.4 การตดิ ตงั้ เคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าแรงสูง
เครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ าแรงสงู อาจติดตงั้ บนเสาไฟฟ้ า หรือภายในห้อง สําหรับการติดตงั ้ เคร่ืองวดั
หน่วยไฟฟ้ าแรงสงู โดยต้องสามารถให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ าฯ เข้าตรวจสอบ ปฏิบตั ิงานและ
อ่านหน่วยไฟฟ้ าได้โดยสะดวก

9.1.4 การป้ องกันกระแสเกนิ ของเคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ า
9.1.4.1 เคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ
ต้องตดิ ตงั้ เซอร์กิตเบรกเกอร์ทางด้านไฟเข้าเคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าทกุ เคร่ือง พิกดั กระแสของเซอร์
กิตเบรกเกอร์ต้องไม่ต่ํากว่า 1.25 เท่าของขนาดกระแสท่ีคํานวณจากขนาดพืน้ ที่ห้องตามข้อ
9.1.2 หากขนาดท่ีคํานวณได้ไม่ใช่ขนาดมาตรฐานของผ้ผู ลติ ให้ใช้ขนาดใกล้เคียงที่สงู ขึน้ ถดั ไป
แต่ต้องมีขนาดไม่สงู กว่าท่ีกําหนดไว้ในตารางท่ี 3-4 หรือ 3-5

9-4 บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

ห้ามใช้วิธีการติดตงั้ แบ็กอฟั ฟิ วส์ (back up fuse) เพื่อเพ่ิมพิกดั กระแสลดั วงจร และห้ามใช้วิธี
แคสเคดเซอร์กิตเบรกเกอร์ (cascade circuit breaker) ในสว่ นของเซอร์กิตเบรกเกอร์ก่อนเข้า
เครื่องวดั หนว่ ยไฟฟ้ า

อนญุ าตให้ใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิดจํากดั กระแส (current limitting circuit breaker) เพ่ือลด
คา่ กระแสลดั วงจรได้
9.1.4.2 เคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงสูง
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินหน้าเครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ าแรงสงู สําหรับห้องชดุ (ภายในอาคาร) แผง

สวิตช์แรงสงู ต้องเป็ นชนิด SF6-Insulated switchgear ตามคําแนะนําการจดั เตรียมอปุ กรณ์
ไฟฟ้ าของการไฟฟ้ าฯ และตามท่ีกําหนดในข้อ 5.17

ตารางท่ี 9-1
ขนาดของเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ สาํ หรับห้องชุดประเภทอย่อู าศัย

(สาํ หรับการไฟฟ้ านครหลวง)

ลาํ ดบั ท่ี ประเภท พนื้ ท่หี ้อง โหลดสูงสุดของ ขนาดเคร่ืองวดั ฯ
ตารางเมตร เคร่ืองวัดฯ (A)
1 ไมม่ ีระบบทําความเยน็ 15 (45) A 1P
จากสว่ นกลาง 55 30 30 (100) A 1P
150 75 50 (150) A 1P
2 มีระบบทําความเย็น 180 100 15 (45) A 3P
จากสว่ นกลาง 180 30 (100) A 3P
483 30 50 (150) A 3P
666 75
1,400 100 200 A 3P
2,866 200 400 A 3P
35 400 5 (15) A 1P
180 15 (45) A 1P
525 10 30 (100) A 1P
800 30 50 (150) A 1P
690 75 15 (45) A 3P
2,475 100 30 (100) A 3P
3,000 50 (150) A 3P
6,300 30 200 A 3P
12,900 75 400 A 3P
100
200
400

หมายเหตุ 1P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 1 เฟส 2 สาย
3P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 3 เฟส 4 สาย

บทท่ี 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ 9-5

ตารางท่ี 9-2
ขนาดของเคร่ืองวดั หน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ สาํ หรับห้องชุดประเภทอย่อู าศัย

(สาํ หรับการไฟฟ้ าส่วนภมู ภิ าค)

ลาํ ดับท่ี ประเภท พนื้ ท่หี ้อง โหลดสูงสุดของ ขนาดเคร่ืองวัดฯ
ตารางเมตร เคร่ืองวัดฯ (A)
1 ไม่มีระบบทําความเยน็ 15 (45) A 1P
จากสว่ นกลาง 55 36 30 (100) A 1P
150 80 15 (45) A 3P
2 มีระบบทําความเยน็ 30 (100) A 3P
จากสว่ นกลาง 180 36 5 (15) A 1P
483 80 15 (45) A 1P
35 12 30 (100) A 1P
180 36 15 (45) A 3P
525 80 30 (100) A 3P
690 36
2,475 80

หมายเหตุ 1P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 1 เฟส 2 สาย
3P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 3 เฟส 4 สาย

ตารางท่ี 9-3
ขนาดของเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ
สาํ หรับห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าท่วั ไป

(สาํ หรับการไฟฟ้ านครหลวง)

ลาํ ดบั ท่ี ประเภท พนื้ ท่หี ้อง โหลดสงู สุดของ ขนาดเคร่ืองวดั ฯ
ตารางเมตร เคร่ืองวดั ฯ (A)
1 ไมม่ รี ะบบทาํ ความเยน็ 15 (45) A 1P
จากสว่ นกลาง 40 30 30 (100) A 1P
105 75 50 (150) A 1P
140 100 15 (45) A 3P
30 (100) A 3P
125 30 50 (150) A 3P
320 75
425 100 200 A 3P
850 200 400 A 3P
1,700 400

9-6 บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

ตารางท่ี 9-3 (ต่อ)
ขนาดของเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ
สาํ หรับห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าท่วั ไป

(สาํ หรับการไฟฟ้ านครหลวง)

ลาํ ดบั ท่ี ประเภท พนื้ ท่หี ้อง โหลดสูงสุดของ ขนาดเคร่ืองวัดฯ
ตารางเมตร เคร่ืองวัดฯ (A)
2 มีระบบทําความเย็น 15 (45) A 1P
จากสว่ นกลาง 80 30 30 (100) A 1P
190 75 50 (150) A 1P
260 100 15 (45) A 3P
30 (100) A 3P
230 30 50 (150) A 3P
580 75
770 100 200 A 3P
1,550 200 400 A 3P
3,100 400

หมายเหตุ 1) 1P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 1 เฟส 2 สาย
3P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 3 เฟส 4 สาย

2) หอ้ งชดุ ทีม่ ีพืน้ ทีม่ ากกว่าทีก่ ําหนดไวใ้ นตารางที่ 9-3 นีจ้ ะกําหนดขนาดของ
เครื่องวดั ฯ เป็นรายๆ ไป

ตารางท่ี 9-4
ขนาดของเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ
สาํ หรับห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าท่วั ไป

(สาํ หรับการไฟฟ้ าส่วนภมู ภิ าค)

ลาํ ดบั ท่ี ประเภท พนื้ ท่หี ้อง โหลดสงู สุดของ ขนาดเคร่ืองวัดฯ
ตารางเมตร เคร่ืองวดั ฯ (A)
1 ไมม่ รี ะบบทาํ ความเยน็ 15 (45) A 1P
จากสว่ นกลาง 40 36 30 (100) A 1P
105 80 15 (45) A 3P
30 (100) A 3P
125 36
320 80

บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ 9-7

ตารางท่ี 9-4 (ต่อ)
ขนาดของเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าแรงต่าํ
สาํ หรับห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าท่วั ไป

(สาํ หรับการไฟฟ้ าส่วนภมู ภิ าค)

ลาํ ดบั ท่ี ประเภท พนื้ ท่หี ้อง โหลดสูงสุดของ ขนาดเคร่ืองวัดฯ
ตารางเมตร เคร่ืองวดั ฯ (A)
2 มรี ะบบทําความเย็น 15 (45) A 1P
จากสว่ นกลาง 80 36 30 (100) A 1P
190 80 15 (45) A 3P
30 (100) A 3P
230 36
580 80

หมายเหตุ 1) 1P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 1 เฟส 2 สาย
3P หมายถึง เครื่องวดั ฯ ชนิด 3 เฟส 4 สาย

2) หอ้ งชดุ ทีม่ ีพืน้ ทีม่ ากกว่าทีก่ ําหนดไวใ้ นตารางที่ 9-4 นีจ้ ะกําหนดขนาดของ
เครื่องวดั ฯ เป็นรายๆ ไป

9.1.5 ตัวนําประธานเข้าห้องชุด
9.1.5.1 ขนาด
9.1.5.1.1 ตัวนําเฟส
ตวั นําประธานเข้าห้องชุดต้องมีขนาดกระแสไม่ตํ่ากว่าพิกัดเครื่องป้ องกันกระแสเกินตามข้อ
9.1.6 และต้องมีขนาดไม่เลก็ กวา่ 6 ตร.มม.
9.1.5.1.2 ตัวนํานิวทรัล
ขนาดตวั นํานิวทรัลต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 3.2.4 และห้ามแตล่ ะห้องชดุ ใช้ตวั นํานิวทรัล
ร่วมกนั
9.1.5.2 วธิ ีการเดนิ สาย
ตวั นําประธานเข้าห้องชดุ ต้องเป็ นดงั นี ้
9.1.5.2.1 สายทองแดง ต้องเดินในช่องเดินสายโลหะ หรือยอมให้เดินในท่ออโลหะตามที่
กําหนดในบทท่ี 5 ได้ แตต่ ้องฝังในคอนกรีต ในกรณีท่ีอาคารชดุ เข้าเกณฑ์อาคารสงู หรืออาคาร
ขนาดใหญ่พิเศษ วิธีการเดนิ สายต้องเป็ นไปตามข้อ 9.2.2 ด้วย

หากเดินในท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง ท่อโลหะบาง หรือท่ออโลหะ แต่ละเคร่ืองวดั ฯ
ต้องเดนิ ทอ่ แยกจากกนั กรณีเดนิ ในรางเดนิ สาย อนญุ าตให้เดนิ สายรวมกนั ในรางเดนิ สายได้

หมายเหตุ ไม่อนญุ าตใหเ้ ดินสายเกาะผนงั เดินสายเปิ ดบนวสั ดฉุ นวน และรางเคเบิล

9-8 บทท่ี 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

9.1.5.2.2 บสั เวย์หรือบสั ดกั ให้ใช้ได้ทงั้ ชนิดตวั นําทองแดงและอะลมู ิเนียม ต้องเป็ นชนิดปิ ด
มิดชิดที่สามารถถอดเปลี่ยนสว่ นที่ชํารุดได้โดยอิสระ
9.1.5.2.3 บสั ทรังกิง (bus trunking) ต้องเป็ นชนิดปิ ดมิดชิด และให้ใช้บสั บาร์ทําด้วย
ทองแดงที่มีความบริสทุ ธิ์ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 98 เทา่ นนั้

9.1.6 บริภณั ฑ์ประธาน
ต้องมีการติดตงั ้ บริภณั ฑ์ประธานที่แต่ละห้องชดุ พิกดั กระแสของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินท่ี
บริภณั ฑ์ประธานต้องไม่เกินพิกัดกระแสของเซอร์กิตเบรกเกอร์ตามข้อ 9.1.4
9.1.6.1 เครื่องปลดวงจรประธานของห้องชดุ สําหรับ 1 เฟส ต้องเป็ นชนิด ปลด สบั สายเส้น
ไฟ และสายนิวทรัล พร้อมกนั

9.1.7 สายป้ อน (จากแผงสวิตช์รวมไปถึงแผงสวิตช์ของเคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าของ
ห้องชุด)
9.1.7.1 โหลดสําหรับสายป้ อนห้องชุด ให้คํานวณจากผลรวมของโหลดในห้องชุด ตามข้อ
9.1.2 และใช้คา่ โคอินซิเดนต์แฟกเตอร์ (co-incidence factor) ตามตารางท่ี 9-5 และ 9-6 เพื่อ
คาํ นวณลดขนาดสายป้ อนได้
9.1.7.2 สายป้ อนสาํ หรับไฟส่วนกลางต้องแยกต่างหากจากสายป้ อนของห้องชดุ
9.1.7.3 สายป้ อนต้องมีขนาดกระแสไม่ตํ่ากว่าพิกดั เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินตามข้อ 9.1.9.3
และขนาดตวั นํานิวทรัลต้องเป็ นไปตามข้อ 3.2.4
9.1.7.4 สายป้ อนต้องเดนิ ในชอ่ งเดนิ สายโลหะ หรือใช้บสั เวย์ หรือบสั ทรังกิง
9.1.7.5 ในกรณีสายป้ อนเดินในช่องสําหรับการเดินสาย ห้ามมีท่อของระบบอื่นท่ีไม่ใช่
ระบบไฟฟ้ า เช่น ทอ่ ก๊าซ ทอ่ ประปา ทอ่ นํา้ ทิง้ เดนิ ร่วมกนั

9.1.8 หม้อแปลงและห้องหม้อแปลง
9.1.8.1 หม้อแปลงและห้องหม้อแปลงต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 6.4 หากติดตงั้ ภายใน
อาคารต้องเป็ นชนิดแห้งหรือฉนวนไม่ตดิ ไฟ ตดิ ตงั้ อยใู่ นเครื่องหอ่ ห้มุ ที่มีระดบั การป้ องกนั ต้องไม่
ตาํ่ กวา่ IP 21 และฉนวนต้องไมเ่ ป็ นพษิ ตอ่ บคุ คลและสงิ่ แวดล้อม

ห้ามติดตงั้ หม้อแปลงชนิดฉนวนติดไฟได้ ภายในอาคาร ใต้อาคาร บนดาดฟ้ า หรือบนส่วนย่ืน
ของอาคาร
9.1.8.2 การคํานวณโหลดสําหรับหม้อแปลงให้คํานวณตามข้อ 9.1.2 และเฉพาะโหลดของ
ห้องชดุ อนญุ าตให้ใช้คา่ โคอินซเิ ดนต์แฟกเตอร์ตามตารางที่ 9-5 และ 9-6 ได้

บทท่ี 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ 9-9

ตารางท่ี 9-5
ค่าโคอนิ ซเิ ดนต์แฟกเตอร์
สาํ หรับห้องชุดประเภทอย่อู าศยั

ลาํ ดบั ห้องชุด โคอนิ ซเิ ดนต์แฟกเตอร์
1-10 0.9
11-20 0.8
21-30 0.7
31-40 0.6
0.5
41 ขนึ ้ ไป

หมายเหตุ ลําดบั หอ้ งชดุ ใหเ้ ริ่มจากหอ้ งชดุ ทีม่ ีโหลดสูงสดุ ก่อน

ตารางท่ี 9-6
ค่าโคอนิ ซเิ ดนต์แฟกเตอร์
สาํ หรับห้องชุดประเภทสาํ นักงานหรือร้านค้าท่วั ไปและประเภทอุตสาหกรรม

ลาํ ดบั ห้องชุด โคอนิ ซเิ ดนต์แฟกเตอร์
1-10 1.0
0.85
11 ขนึ ้ ไป

หมายเหตุ ลําดบั หอ้ งชดุ ใหเ้ ร่ิมจากหอ้ งชดุ ทีม่ ีโหลดสงู สดุ ก่อน

9.1.8.3 ขนาดของหม้อแปลงเม่ือไม่ใช้พดั ลมเป่ า (forced air cooled) ต้องไม่เลก็ กวา่ โหลด

ที่คาํ นวณได้จากข้อ 9.1.8.2

หมายเหตุ การไฟฟ้ าฯ แนะนําใหใ้ ชข้ นาดสงู สดุ ไม่เกิน 2,000 เควีเอ

9.1.8.4 หม้อแปลงสาํ หรับจ่ายไฟสว่ นของห้องชดุ ต้องมีคณุ สมบตั ดิ งั นี ้
9.1.8.4.1 สาํ หรับการไฟฟ้ านครหลวง

ก) พิกัดแรงดันของหม้อแปลง ต้องเป็ นขนาด 12,000-416Y/240 โวลต์
24,000-416Y/240 โวลต์ หรือ (12,000/24,000)-416Y/240 โวลต์ ทงั ้ นี ้
ขนึ ้ อยกู่ บั พืน้ ที่การจา่ ยไฟของการไฟฟ้ านครหลวง

ข) แท็ปแรงสงู (high voltage tapping) ใช้เป็ น 4x(-)2.5% ของพิกดั เต็มท่ีด้าน
ปฐมภมู ิ (hull capacity primary tap)

ค) กําลงั ไฟฟ้ าสญู เสียทงั้ หมด ของหม้อแปลงต้องไม่เกิน 1.5 % ของพิกดั เต็มที่
ของหม้อแปลง ที่คา่ ตวั ประกอบกําลงั ไฟฟ้ าเทา่ กบั 1.0

9-10 บทท่ี 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

9.1.8.4.2 สาํ หรับการไฟฟ้ าส่วนภมู ิภาค
ก) พิกดั แรงดนั ของหม้อแปลง ต้องเป็ นขนาด 22,000-400Y/230 โวลต์ สําหรับ

ระบบ 22 เควี และ 33,000-400Y/230 โวลต์ สาํ หรับระบบ 33 เควี
ข) BIL 125 เควี สําหรับระบบ 22 เควี และสําหรับระบบ 33 เควี คา่ BIL ของ

บชุ ชิงเทา่ กบั 200 เควี และ BIL ของขดลวดเทา่ กบั 170 เควี
ค) แทป็ แรงสงู ใช้เป็ น (+/-)2x2.5% ของพิกดั เตม็ ที่ด้านปฐมภมู ิ

9.1.9 แผงสวติ ช์แรงต่าํ (จากหม้อแปลงถงึ เคร่ืองวัดหน่วยไฟฟ้ าของห้องชุด)
9.1.9.1 แผงสวติ ช์แรงตํ่าต้องเป็ นไปตามข้อ 5.17 ระดบั การป้ องกนั ของต้แู ผงสวิตช์แรงตํ่าต้อง
ไม่ตํ่ากวา่ IP 31 และโครงสร้างของแผงสวิตช์แรงตํ่าต้องสามารถรับแรงที่เกิดจากกระแสลดั วงจร
ได้
9.1.9.2 เคร่ืองป้ องกันกระแสเกิน ต้องเป็ นเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่สามารถตดั กระแสลดั วงจร
สงู สดุ ท่ีอาจเกิดขนึ ้ ณ จดุ นนั้ ได้โดยคณุ สมบตั ยิ งั คงเดมิ และต้องไมต่ า่ํ กวา่ 10 กิโลแอมแปร์
9.1.9.3 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินของสายป้ อนต้องมีพิกดั กระแสไม่ตํ่ากว่า 1.25 เท่าของ
ผลรวมของโหลดท่ีคํานวณได้ตามข้อ 9.1.7.1
9.1.9.4 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินของสายป้ อนไฟฟ้ าสว่ นกลาง อนญุ าตให้มีได้ไม่เกิน 1 ตวั
สําหรับหม้อแปลงแต่ละลูก และต้องสามารถล็อกกุญแจได้ในตําแหน่งปลด ยกเว้น วงจรที่
เกีย่ วข้องกบั การป้ องกนั อคั คีภยั และวงจรช่วยชีวิต
9.1.9.5 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินด้านแรงต่ําของหม้อแปลง ต้องมีพิกดั กระแสไม่ต่ํากว่า
ผลรวมของโหลดท่ีคํานวณได้ตามข้อ 9.1.2 และเป็ นไปตามข้อ 6.4.3.1 อนญุ าตให้ใช้คา่ โคอินซิ
เดนต์แฟกเตอร์ ตามตารางท่ี 9-5 และ 9-6 ได้
คาํ อธิบาย ขนาดปรับตงั้ ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ แนะนําให้ใช้ค่าไม่เกินร้อยละ 125 ของ

กระแสดา้ นแรงต่ําของหมอ้ แปลง

9.1.10 ตวั นําประธานแรงต่าํ จากหม้อแปลงไปยังแผงสวติ ช์รวม
ตวั นําประธานแรงต่ําจากหม้อแปลงไปยังแผงสวิตช์รวมต้องมีขนาดกระแสไม่น้อยกว่าพิกัด
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินตามข้อ 9.1.9.5 สําหรับขนาดตวั นํานิวทรัลต้องเป็ นไปตามข้อ 3.2.4
ตวั นําประธานท่ีเดินภายในอาคารต้องเดินในช่องเดินสายโลหะ ยกเว้น การเดินสายในห้อง
หมอ้ แปลงและหอ้ งไฟฟ้ ารวมอนญุ าตใหเ้ ดินสายบนรางเคเบิลได้

9.1.11 แผงสวติ ช์แรงสูง
แผงสวิตช์แรงสงู ต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 5.17 และเพ่มิ เตมิ ดงั นี ้

บทท่ี 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ 9-11

9.1.11.1 เครื่องป้ องกันกระแสเกินแรงสงู ถ้าใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ต้องเป็ นชนิดฉนวนไม่ติด
ไฟหากใช้ชดุ ฟิ วส์กําลงั (power fuse) ซง่ึ ต้องใช้ประกอบกบั สวิตช์สําหรับตดั โหลดพิกดั กระแส
ของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินต้องสอดคล้องกบั ตารางที่ 6-5
9.1.11.2 ระดบั การป้ องกนั ของเครื่องหอ่ ห้มุ ต้องไมต่ าํ่ กวา่ IP 31

9.1.12 การต่อลงดนิ
ต้องมีการตอ่ ลงดนิ ตามที่กําหนดในบทที่ 4 และเพ่มิ เตมิ ดงั นี ้
9.1.12.1 ห้องชดุ ทกุ ห้อง ต้องมีระบบสายดินเตรียมพร้อมไว้สําหรับตอ่ กบั อุปกรณ์และ
เครื่องใช้ไฟฟ้ าได้ และเต้ารับต้องเป็ นชนิดมีสายดนิ และมีการตอ่ ลงดนิ
9.1.12.2 การต่อฝากสายดินเข้ากับตวั นํานิวทรัล ให้ต่อที่แผงบริภัณฑ์ประธานรวมแรงต่ํา
ของอาคารชดุ เท่านนั้ และห้ามตอ่ ฝากสายดินของบริภณั ฑ์เข้ากบั ตวั นํานิวทรัลท่ีแผงสวิตช์ของ
เคร่ืองวดั หนว่ ยไฟฟ้ าและท่ีบริภณั ฑ์ประธานของห้องชดุ
9.1.12.3 การตอ่ ตวั นําเข้ากบั หลกั ดนิ ให้ใช้วิธีการตอ่ เชื่อมด้วยความร้อน
9.1.12.4 การตอกฝังหลกั ดินลงในพืน้ ดิน ตําแหน่งของหลกั ดินจะต้องอยู่ห่างจากผนัง
กําแพงหรือฐานรากของอาคารในรัศมีไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร และปลายบนของหลกั ดินจะต้อง
อยตู่ ํ่าจากผิวดนิ ไม่น้อยกวา่ 0.30 เมตร
9.1.12.5 การตอ่ ลงดนิ ต้องจดั ทําจดุ ทดสอบ สําหรับใช้วดั คา่ ความต้านทานการตอ่ ลงดนิ และ
จดุ ทดสอบนีต้ ้องเข้าถึงได้โดยสะดวก

9.1.13 การป้ องกันไฟดูด
ต้องมีการป้ องกนั ไฟดดู โดยใช้เครื่องตดั ไฟร่ัวให้ใช้ข้อกําหนดในข้อ 3.1.8 และข้อ 3.1.9

9.2 อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

อาคารท่ีเป็ นอาคารชดุ หรือสถานท่ีเฉพาะต้องปฏิบตั ติ ามข้อกําหนดของอาคารดงั กลา่ วด้วย

9.2.1 ท่วั ไป
9.2.1.1 ข้อกําหนดนีใ้ ห้ใช้เป็ นข้อกําหนดเพ่ิมเติมจากท่ีได้กล่าวไว้แล้วในตอนต้น
9.2.1.2 ข้อกําหนดนีไ้ มบ่ งั คบั ใช้กบั โรงงานอตุ สาหกรรม

9.2.2 วธิ ีการเดนิ สาย
ให้ใช้ข้อกําหนดการเดนิ สายในบทท่ี 5 และสาํ หรับสายที่เดินภายในอาคารห้ามใช้วิธีเดนิ สายบน
ผิว เดินเปิ ดหรือเดินลอยบนวสั ดฉุ นวน เดินในช่องเดินสายอโลหะ และในรางเคเบิล ยกเว้น
การเดินสายในหอ้ งหมอ้ แปลงและหอ้ งไฟฟ้ ารวมอนญุ าตใหเ้ ดินสายบนรางเคเบิลได้

9-12 บทที่ 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ

9.2.3 หม้อแปลงและห้องหม้อแปลง
หม้อแปลงและห้องหม้อแปลงต้องเป็ นไปตามท่ีกําหนดในข้อ 6.4 หากติดตงั ้ ภายในอาคารต้อง
เป็ นชนิดแห้งหรือฉนวนไม่ติดไฟตดิ ตงั้ อยใู่ นเครื่องห่อห้มุ ที่มีระดบั การป้ อกงกนั ไม่ตํ่ากว่า IP 21
ตามข้อ 2.8 และฉนวนต้องไมเ่ ป็ นพษิ ตอ่ บคุ คลและสงิ่ แวดล้อม
ห้ามตดิ ตงั ้ หม้อแปลงชนิดฉนวนตดิ ไฟได้ หรือ หม้อแปลงชนิดฉนวนตดิ ไฟยาก ภายในอาคาร ใต้
อาคาร บนดาดฟ้ า หรือบนสว่ นยื่นของอาคาร

ข้อยกเว้น ยอมให้ติดตงั้ หม้อแปลงชนิดฉนวนติดไฟได้ เฉพาะในอาคารประเภทระบบสถานีไฟฟ้ าย่อย
แรงสูง หรือการติดตง้ั หมอ้ แปลงไฟฟ้ าในโรงงานอตุ สาหกรรมทีม่ ีบคุ คลทีม่ ีคณุ สมบตั ิคอยดูแล
และบํารุงรกั ษาตลอดเวลา

9.2.4 แผงสวติ ช์แรงสูง
แผงสวิตช์แรงสงู ต้องเป็ นไปตามที่กําหนดในข้อ 5.17 และเพ่มิ เตมิ ดงั นี ้
9.2.4.1 เครื่องป้ องกนั กระแสเกินแรงสงู ถ้าใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ ต้องเป็ นชนิดฉนวนไม่ติดไฟ
หากใช้ชุดฟิ วส์กําลงั ต้องใช้ประกอบกับสวิตช์สําหรับตดั โหลด พิกัดกระแสของเครื่องป้ องกัน
กระแสเกิน ต้องสอดคล้องกบั ตารางที่ 6-5
9.2.4.2 ระดบั การป้ องกนั ของเคร่ืองหอ่ ห้มุ ต้องไมต่ ่ํากวา่ IP 31 ตามข้อ 2.8

9.2.5 การต่อลงดนิ
ต้องมีการตอ่ ลงดนิ ตามท่ีกําหนดในบทที่ 4 และเพม่ิ เตมิ ดงั นี ้
9.2.5.1 การตอ่ ตวั นําเข้ากบั หลกั ดนิ ให้ใช้วธิ ีการตอ่ เชื่อมด้วยความร้อน
9.2.5.2 การตอกฝังหลกั ดินลงในพืน้ ดิน ตําแหน่งของหลกั ดินจะต้องอยู่ห่างจากผนัง
กําแพงหรือฐานรากของอาคารในรัศมีไม่น้อยกวา่ 0.60 เมตร และปลายบนของหลกั ดินจะต้อง
อยตู่ ํา่ จากผิวดนิ ไมน่ ้อยกวา่ 0.30 เมตร
9.2.5.3 การตอ่ ลงดนิ ต้องจดั ทําจดุ ทดสอบ สําหรับใช้วดั คา่ ความต้านทานการตอ่ ลงดนิ และ
จดุ ทดสอบนีต้ ้องเข้าถึงได้โดยสะดวก

9.2.6 การป้ องกนั ไฟดูด
ต้องมีการป้ องกนั ไฟดดู โดยใช้เคร่ืองตดั ไฟร่ัวตามที่กําหนดในข้อ 3.1.8 และข้อ 3.1.9

บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-1

บทท่ี 10
บริภณั ฑ์เฉพาะงาน

ข้อกําหนดในบทนีเ้ก่ียวกบั การออกแบบระบบไฟฟ้ าสําหรับบริภณั ฑ์เฉพาะงาน แบ่งเป็ น 3 สว่ น
ส่วนแรกเป็ นการออกแบบเครื่องป้ องกันกระแสเกินและเคร่ืองปลดวงจรของเคร่ืองเชื่อมไฟฟ้ า
สว่ นท่ีสองเป็ นการออกแบบระบบไฟฟ้ าและเลือกใช้บริภณั ฑ์สําหรับสระนํา้ อ่างนํา้ พุ และการ
ติดตงั้ อ่ืนที่คล้ายคลงึ กัน ส่วนที่สามเป็ นการออกแบบระบบไฟฟ้ าสําหรับลิฟต์ ต้สู ่งของ บนั ได
เล่ือนและทางเดนิ เล่ือน

10.1 เคร่ืองเช่ือมไฟฟ้ า

10.1.1 ขอบเขต
ครอบคลมุ ถึงเครื่องเช่ือมอาร์ก เคร่ืองเช่ือมความต้านทาน และเคร่ืองเชื่อมอยา่ งอ่ืนที่คล้ายคลงึ
กนั ท่ีใช้ไฟจากระบบไฟฟ้ า

10.1.2 เคร่ืองเช่ือมอาร์กกระแสสลับ และเคร่ืองเช่ือมอาร์กกระแสตรง
10.1.2.1 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ า
ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าท่ีจา่ ยไฟให้เคร่ืองเชื่อมต้องเป็ นดงั นี ้
10.1.2.1.1 สําหรับเคร่ืองเช่ือมเคร่ืองเดียว ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องไม่น้อยกว่าท่ี
คํานวณได้จากผลคณู ของพิกัดกระแสด้านไฟเข้าที่ระบุบนแผ่นป้ ายประจําเคร่ืองกับตวั คณู ซ่ึง
ขนึ ้ กบั รอบทํางานหรือพิกดั เวลาของเคร่ืองเช่ือม ดงั นี ้

รอบทาํ งาน (ร้อยละ) 100 90 80 70 60 50 40 30 ไม่เกนิ 20
ตวั คูณ 1.00 0.95 0.89 0.84 0.78 0.71 0.63 0.55 0.45

หมายเหตุ สําหรบั เครื่องเชือ่ มทีม่ ีพิกดั เวลา 1 ชวั่ โมง ตวั คูณเท่ากบั 0.75

10.1.2.1.2 สาํ หรับเคร่ืองเช่ือมหลายเคร่ือง ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ า ยอมให้มีคา่ ต่ํากว่า
ผลบวกของคา่ ท่ีคาํ นวณได้จากข้อ 10.1.2.1 ของเครื่องเช่ือมแตล่ ะเครื่องเน่ืองจากเครื่องเชื่อมใช้
งานไม่พร้อมกนั โหลดของเคร่ืองเช่ือมแต่ละเครื่องท่ีนํามาใช้คํานวณ ต้องคิดทงั้ ค่ากระแสและ
ช่วงเวลาท่ีเครื่องเช่ือมทํางาน

หมายเหตุ ในสภาพการทํางานสูงสดุ ยอมให้ใช้ค่ากระแสทีค่ ํานวณตามข้อ 10.1.2.1 สําหรับเครื่องใหญ่
ทีส่ ดุ 2 เครื่องแรก บวกกบั ร้อยละ 85 ของเครื่องทีใ่ หญ่อนั ดบั 3 บวกกบั ร้อยละ 70 ของเครื่องที่
ใหญ่อนั ดบั 4 บวกกบั ร้อยละ 60 ของเครื่องอืน่ ทีเ่ หลือทง้ั หมด โดยถือว่าอณุ หภูมิของสายไฟฟ้ า

10-2 บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน

ยงั อยู่ในเกณฑ์ทีป่ ลอดภยั หากสภาพการทํางานไม่ยอมใหเ้ ครื่องมีรอบทํางานสูง ก็ยอมใหล้ ดค่า
ร้อยละตามขา้ งตน้ ลงไดอ้ ีก

10.1.2.2 การป้ องกันกระแสเกนิ
ต้องมีการป้ องกนั กระแสเกินสําหรับเครื่องเชื่อมตามข้อ 10.1.2.2.1 และ 10.1.2.2.2 หากเคร่ือง
ป้ องกนั กระแสเกินตามท่ีกําหนดไว้ข้างต้นปลดวงจรโดยไมจ่ ําเป็ น ยอมให้ใช้พิกดั มาตร-ฐานหรือ
ขนาดปรับตงั้ ท่ีสงู ถดั ขนึ ้ ไปได้
10.1.2.2.1 สําหรับเคร่ืองเช่ือม เครื่องเช่ือมแต่ละเคร่ืองต้องมีการป้ องกันกระแสเกินที่มี
พิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ไมเ่ กินร้อยละ 200 ของพิกดั กระแสด้านไฟเข้าของเคร่ืองเช่ือม
ยกเว้น ไม่ต้องมีเครื่องป้ องกันกระแสเกินสําหรับเครื่องเชื่อมได้ ถ้าสายไฟฟ้ าที่จ่ายไฟให้

เครื่องเชื่อมมีเครื่องป้ องกนั กระแสเกินที่มีพิกดั หรือขนาดปรับตง้ั ไม่เกินร้อยละ 200
ของพิกดั ของพิกดั กระแสดา้ นไฟเข้าของเครื่องเชือ่ ม
10.1.2.2.2 สาํ หรับสายไฟฟ้ า สายไฟฟ้ าสําหรับเคร่ืองเช่ือมเครื่องเดียวหรือหลายเคร่ือง ต้อง
มีเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินท่ีมีพิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ไม่เกินร้อยละ 200 ของขนาดกระแสของ
สายไฟฟ้ า
10.1.2.3 เคร่ืองปลดวงจร
ต้องตดิ ตงั้ เครื่องปลดวงจรทางด้านไฟเข้าของเคร่ืองเช่ือม ถ้าเครื่องเช่ือมดงั กลา่ วไม่มีเครื่องปลด
วงจรประกอบมาด้วย เคร่ืองปลดวงจรต้องเป็ นสวิตช์หรือเชอร์กิตเบรกเกอร์ที่มีพิกดั กระแสไม่ต่ํา
กวา่ เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินตามข้อ 10.1.2.2

10.1.3 เคร่ืองเช่ือมอาร์กมอเตอร์-เจเนอเรเตอร์
10.1.3.1 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ า
ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าท่ีจา่ ยไฟให้เครื่องเชื่อม ต้องเป็ นดงั นี ้
10.1.3.1.1 สาํ หรับเคร่ืองเช่ือมเคร่ืองเดียว ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องไม่น้อยกว่าผล
คณู ของพิกดั กระแสด้านไฟเข้าที่ระบบุ นแผ่นป้ ายประจําเครื่อง กับตวั คณู ซึ่งขึน้ กับรอบทํางาน
หรือพิกดั เวลาของเคร่ืองเช่ือม ดงั นี ้

รอบทาํ งาน (ร้อยละ) 100 90 80 70 60 50 40 30 ไม่เกนิ 20
ตวั คูณ 1.00 0.96 0.91 0.86 0.81 0.75 0.69 0.62 0.55

หมายเหตุ สําหรบั เครื่องเชือ่ มทีม่ ีพิกดั เวลา 1 ชวั่ โมง ตวั คูณเท่ากบั 0.80

10.1.3.1.2 สาํ หรับเคร่ืองเช่ือมหลายเคร่ือง ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ ากําหนดเช่นเดียวกบั
ข้อ 10.1.2.1.2

บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-3

10.1.3.2 การป้ องกนั กระแสเกนิ
พิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ของเคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินกําหนดเช่นเดียวกบั ข้อ 10.1.2.2
10.1.3.3 เคร่ืองปลดวงจร
ขนาดเครื่องปลดวงจรกําหนดเช่นเดยี วกบั ข้อ 10.1.2.3

10.1.4 เคร่ืองเช่ือมความต้านทาน
10.1.4.1 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ า
ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าท่ีจา่ ยไฟให้เคร่ืองเช่ือม ต้องเป็ นดงั นี ้
10.1.4.1.1 สาํ หรับเคร่ืองเช่ือมเคร่ืองเดียว ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องเป็ นดงั นี ้

ก) สําหรับเคร่ืองเชื่อมท่ีทํางานในช่วงเวลาและค่ากระแสทางด้านไฟเข้าไม่
แน่นอนหรือมีรอบทํางานไม่แน่นอน ถ้าเป็ นเครื่องเชื่อมตะเข็บหรือเครื่อง
เชื่อมท่ีป้ อนงานโดยอตั โนมตั ิ ขนาดกระแสของของสายไฟฟ้ าต้องไม่ตํ่ากว่า
ร้ อยละ 70 ของพิกัดกระแสด้านไฟเข้าแต่ถ้าเคร่ืองเช่ือมทํางานแบบไม่
อตั โนมตั ิ ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 50 ของพิกัด
กระแสด้านไฟเข้า

ข) สําหรับเครื่องเชื่อมที่ทํางานเฉพาะ ทราบกระแสด้านไฟเข้าและรอบ
ทํางานแน่นอน ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องไม่ตํ่ากว่าผลคณู ของกระแส
ด้านไฟเข้ากบั ตวั คณู ซงึ่ ขนึ ้ กบั รอบทํางานของเคร่ืองเช่ือม ดงั นี ้

รอบทาํ งาน (ร้อยละ) 50 40 30 25 20 15 10 7.5 ไม่เกนิ 5
ตวั คณู 0.71 0.63 0.55 0.50 0.45 0.39 0.32 0.27 0.22

10.1.4.1.2 สําหรับเคร่ืองเช่ือมหลายเคร่ือง ขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องไม่ต่ํากว่า
ผลบวกของคา่ ที่คํานวณได้ตามข้อ 10.1.4.1.1 สําหรับเครื่องท่ีใหญ่ที่สดุ บวกกบั ร้อยละ 60 ของ
เคร่ืองอื่นที่เหลอื ทงั้ หมด
10.1.4.2 การป้ องกนั กระแสเกนิ
ต้องมีการป้ องกนั กระแสเกินสําหรับเคร่ืองเช่ือมตามข้อ 10.1.4.2.1 และ 10.1.4.2.2 หากเคร่ือง
ป้ องกนั กระแสเกินตามท่ีกําหนดไว้ข้างต้นปลดวงจรโดยไม่จําเป็ น ยอมให้ใช้พิกดั มาตรฐานหรือ
ขนาดปรับตงั้ ท่ีสงู ถดั ขนึ ้ ไปได้
10.1.4.2.1 สําหรับเคร่ืองเช่ือม เคร่ืองเชื่อมแต่ละเครื่องต้องมีการป้ องกันกระแสเกินที่มี
พิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ไม่เกินร้อยละ 300 ของพิกดั กระแสด้านไฟเข้าของเคร่ืองเช่ือม ยกเว้น ไม่
ตอ้ งมีเครื่องป้ องกนั กระแสเกินสําหรบั เครื่องเชื่อมได้ ถา้ สายไฟฟ้ าทีจ่ ่ายไฟใหแ้ ก่เครื่องเชื่อม มี

10-4 บทท่ี 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน

เครื่องป้ องกนั กระแสเกินทีม่ ีพิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ไม่เกินร้อยละ 300 ของพิกดั กระแสดา้ นไฟ
เขา้ ของเครื่องเชือ่ ม

10.1.4.2.2 สาํ หรับสายไฟฟ้ า สายไฟฟ้ าสําหรับเคร่ืองเช่ือมเคร่ืองเดียวหรือหลายเครื่อง ต้อง
มีเคร่ืองป้ องกันกระแสเกินท่ีมีพิกดั หรือขนาดปรับตงั้ ไม่เกินร้อยละ 300 ของขนาดกระแสของ
สายไฟฟ้ า
10.1.4.3 เคร่ืองปลดวงจร
ต้องติดตงั้ เครื่องปลดวงจรทางด้านไฟเข้าของเคร่ืองเชื่อม เครื่องปลดวงจรต้องเป็ นสวิตช์หรือ
เชอร์กิตเบรกเกอร์ท่ีมีขนาดใหญ่ไม่ต่ํากว่าขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าตามท่ีกําหนดในข้อ
10.1.4.1 ในกรณีที่มีเคร่ืองเชื่อมเคร่ืองเดียว ยอมให้ใช้สวิตช์ท่ีติดตงั้ ทางด้านไฟเข้าของเคร่ือง
เชื่อมเป็ นเคร่ืองปลดวงจรได้

10.2 สระนํา้ อ่างนํา้ พุ และการตดิ ตงั้ อ่ืนท่คี ล้ายกัน

ตอน ก. ทั่วไป

10.2.1 ขอบเขต
ครอบคลุมถึงการเดินสายและการติดตัง้ บริภัณฑ์ภายในหรือชิดกับสระนํา้ และอ่างนํา้ พุชนิด
ก่อสร้างถาวร รวมทงั้ บริภณั ฑ์ประกอบ ซง่ึ ทําด้วยโลหะ เช่นเคร่ืองสบู นํา้ และเครื่องกรองนํา้

10.2.2 ข้อกําหนดนีใ้ ช้เป็ นข้อกําหนดเพิ่มเตมิ จากที่กลา่ วในตอนต้น

10.2.3 คาํ จาํ กัดความ
โคมไฟฝังกันนํา้ แบบแห้ง (Dry-Niche Lighting Fixture) หมายถึง โคมไฟฟ้ าที่ใช้สําหรับตดิ ฝังที่
ผนงั สระหรืออ่างนํา้ พุ โดยตดิ ตงั้ ไว้ในชอ่ งแล้วผนกึ กนั นํา้ เข้า

เปลือกหุ้มโคมในสระ (Forming Shell) หมายถึง โครงสร้างโลหะออกแบบสําหรับรองรับชดุ
โคมไฟฝังกนั นํา้ แบบเปี ยก และสาํ หรับตดิ ตงั้ ในโครงสร้างของสระและอ่างนํา้ พุ

อ่างนํา้ พุประดับและสระสะท้อนแสงชนิดตดิ ตงั้ ถาวร (Permanently Installed-Decorative
Fountains and Reflection Pools) หมายถึง สระและอ่างนํา้ พทุ ี่สร้างขนึ ้ เพื่อความสวยงาม
มิได้ใช้สําหรับวา่ ยนํา้ การก่อสร้างอาจก่อสร้างในดนิ หรือบนพืน้ ดนิ หรือภายในอาคารในลกั ษณะ
ท่ีไมส่ ามารถถอดออกเก็บได้ และมีวงจรไฟฟ้ าจ่ายไฟ

บทท่ี 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-5

สระว่ายนํา้ ชนิดตดิ ตัง้ ถาวร (Permanently Installed Swimming Pools) หมายถึง สระที่
ก่อสร้างในดิน บนพืน้ ดิน หรือในอาคารในลกั ษณะท่ีไม่สามารถถอดออกเก็บได้ ทงั้ ท่ีมีและไม่มี
วงจรไฟฟ้ า

โคมไฟฝังกันนํา้ แบบเปี ยก (Wet-Niche Lighting Fixture) หมายถึง โคมไฟฟ้ าสําหรับติดตงั้
ในเปลือกห้มุ โลหะ ตดิ ตงั้ ในโครงสร้างของสระหรืออา่ งนํา้ พุ โดยโคมไฟล้อมรอบด้วยนํา้

10.2.4 หม้อแปลงไฟฟ้ า และเคร่ืองป้ องกันกระแสร่ัวลงดนิ
10.2.4.1 หม้อแปลงไฟฟ้ า
หม้อแปลงที่ใช้สําหรับโคมไฟฟ้ าใต้นํา้ รวมถึงเครื่องห่อห้มุ หม้อแปลง ต้องเป็ นชนิดที่ระบุให้ใช้
เพ่ือจดุ ประสงค์นี ้หม้อแปลงต้องเป็ นชนิดหม้อแปลงนิรภยั (ชนิดแยกขดลวด)
10.2.4.2 เคร่ืองป้ องกันกระแสร่ัวลงดนิ
ต้องเป็ นชนิดหน่วยประกอบสําเร็จเป็ นแบบตดั ตอนอตั โนมตั ิ แบบเต้ารับ หรือแบบอ่ืนที่ได้รับการ
รับรอง
10.2.4.3 การเดนิ สาย
สายไฟฟ้ าที่ต่อออกทางด้านโหลดของเคร่ืองป้ องกนั กระแสรั่วลงดิน หรือจาก หม้อแปลง ซ่ึงใช้
สําหรับโคมไฟฟ้ าใต้นํา้ ตามข้อ 10.2.11 ห้ามเดินรวมอย่ภู ายในท่อ กลอ่ ง หรือในเครื่องห่อห้มุ
เดยี วกบั สายอ่ืนๆ

ข้อยกเว้นท่ี 1 เครื่องป้ องกนั กระแสรั่วลงดิน ยอมให้ติดตง้ั ในแผงย่อยที่มีวงจรอื่นซึ่งมิได้มี
การป้ องกนั กระแสลดั วงจรและรว่ั ลงดินได้

ข้อยกเว้นที่ 2 สายจ่ายไฟฟ้ าให้เครื่องป้ องกนั กระแสรั่วลงดินชนิดป้ อนผ่านหรือชนิดเตา้ รับ
ยอมใหอ้ ยู่ในเครื่องห่อหมุ้ เดียวกนั ได้

ข้อยกเว้นท่ี 3 สายไฟฟ้ าทางด้านโหลดของเครื่องป้ องกนั กระแสร่ัวลงดิน ยอมให้เดินในช่อง
เดินสายไฟฟ้ า กล่อง หรือเครื่องห่อห้มุ ทีม่ ีเฉพาะสายไฟฟ้ า ซ่ึงมีการป้ องกนั
ดว้ ยเครื่องป้ องกนั กระแสรวั่ ลงดิน

ข้อยกเว้นท่ี 4 สายดิน

10.2.5 เต้ารับ โคมไฟฟ้ า และจุดต่อไฟฟ้ าแสงสว่าง
10.2.5.1 เต้ารับ
10.2.5.1.1 เต้ารับต้องติดตงั้ หา่ งจากขอบสระด้านในไม่น้อยกวา่ 3.00 เมตร ยกเว้น เตา้ รบั
ทีจ่ ่ายไฟใหเ้ ครื่องสบู น้ําทีต่ ิดตง้ั ถาวรซึ่งใชก้ บั สระน้ําหรือน้ําพตุ ามข้อ 10.2.6 ยอมใหม้ ีระยะห่าง
ระหว่าง 1.50 ถึง 3.00 เมตรได้ แต่ตอ้ งเป็นเตา้ รบั ชนิดเตา้ รบั เดีย่ วล็อกไดแ้ ละเป็นชนิดมีสายดิน
และตอ้ งมีการป้ องกนั ดว้ ยเครื่องป้ องกนั กระแสเกินและรวั่ ลงดิน

10-6 บทท่ี 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน

10.2.5.1.2 ถ้าเป็ นสระว่ายนํา้ ชนิดติดตงั้ ถาวรในสถานท่ีอยอู่ าศยั ต้องตดิ ตงั้ เต้ารับอยา่ งน้อย
1 จดุ ท่ีระยะหา่ งจากขอบสระด้านในไม่น้อยกวา่ 3.0 เมตร และไม่เกิน 6.0 เมตร
10.2.5.1.3 เต้ารับต่างๆ ท่ีติดตงั้ ห่างจากขอบสระด้านในภายในระยะ 6.0 เมตร ต้องติดตงั้
เครื่องป้ องกนั กระแสเกินและร่ัวลงดนิ
10.2.5.2 โคมไฟฟ้ า จุดต่อไฟฟ้ าแสงสว่าง และพัดลมเพดาน
10.2.5.2.1 โคมไฟฟ้ า จดุ ต่อไฟฟ้ าแสงสว่าง และพดั ลมเพดาน ห้ามติดตงั้ เหนือสระนํา้ หรือ
อย่เู หนือพืน้ ท่ีซง่ึ หา่ งจากขอบสระด้านในตามแนวระดบั ไม่เกิน 1.50 เมตร เว้นแตจ่ ะไม่มีสว่ นใด
ของโคมไฟฟ้ าหรือพดั ลมเพดานอยสู่ งู จากระดบั นํา้ ในสระไม่น้อยกวา่ 3.65 เมตร

ข้อยกเว้นท่ี 1 โคมไฟฟ้ าและจุดต่อไฟฟ้ าแสงสว่างที่ติดตง้ั อยู่เดิมมีระยะห่างตามแนว
ระดบั วดั จากขอบสระดา้ นในนอ้ ยกว่า 1.50 เมตร ตอ้ งอยู่สูงจากระดบั นํ้า
สูงสดุ ไม่นอ้ ยกว่า 1.50 เมตร และตอ้ งติดตงั้ กบั โครงสร้างเดิมอย่างมนั่ คง

ข้อยกเว้นที่ 2 บริเวณสระว่ายนํ้าภายในอาคารไม่ต้องปฏิบตั ิตามข้อ 10.2.5.2.1 ถ้า
เป็นไปตามข้อต่างๆ เหล่านีท้ กุ ข้อคือ
1) โคมไฟฟ้ าเป็นชนิดปิ ดมิดชิด
2) วงจรย่อยทีจ่ ่ายไฟใหโ้ คมไฟฟ้ าหรือพดั ลมเพดานนี้ ติดตง้ั เครื่องป้ องกนั
กระแสเกินและรว่ั ลงดิน
3) ส่วนล่างของโคมไฟฟ้ าหรือพดั ลมเพดานอยู่สูงจากระดบั น้ําสูงสุดไม่
นอ้ ยกว่า 2.30 เมตร

10.2.5.2.2 โคมไฟฟ้ าและจดุ ต่อไฟฟ้ าแสงสว่างในระยะระหว่าง 1.50 เมตร ถึง 3.00 เมตร
จากขอบสระด้านในโดยวดั ตามแนวระดบั ถ้าตดิ ตงั้ สงู จากระดบั นํา้ สงู สดุ ไม่ถึง 1.50 เมตร ต้อง
ป้ องกนั ด้วยเครื่องป้ องกนั กระแสเกินและรั่วลงดนิ และต้องยดึ ตดิ กบั โครงสร้างอยา่ งมนั่ คง
10.2.5.2.3 โคมไฟฟ้ าชนิดตอ่ ด้วยสายพร้อมเต้าเสียบ ต้องมีคณุ -สมบตั ติ ามข้อ 10.2.6 เม่ือ
ตดิ ตงั้ ในระยะ 4.80 เมตร จากผิวนํา้ วดั ตามแนวรัศมี
10.2.5.3 อุปกรณ์สับปลดวงจร
ติดตงั้ ห่างจากขอบสระด้านในวดั ตามแนวระดบั ไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร นอกจากจะกนั้ ด้วยรัว้
ผนงั หรือโครงสร้างที่ถาวร

10.2.6 บริภณั ฑ์ชนิดต่อด้วยสายพร้อมเต้าเสียบ
นอกจากโคมไฟฟ้ าใต้นํา้ สําหรับสระชนิดตดิ ตงั้ ถาวรบริภณั ฑ์ชนิดยดึ ติดแน่นหรือตดิ ตงั ้ ประจําท่ี
ซงึ่ มีพกิ ดั ไม่เกิน 20 แอมแปร์ยอมให้ตอ่ ด้วยสายออ่ นได้ สายออ่ นต้องยาวไม่เกิน 0.90 เมตร และ
มีสายดนิ ของบริภณั ฑ์ขนาดตวั นําทองแดงไมเ่ ลก็ กวา่ 1.5 ตร.มม. และใช้เต้ารับแบบมีสายดนิ

บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-7

10.2.7 ระยะห่างจากสายอากาศ
ห้ามเดนิ สายเปิ ดเหนือสระและสว่ นประกอบของสระดงั นี ้

10.2.7.1 สระและบริเวณท่ีหา่ งจากขอบสระด้านในออกไปไม่เกิน 3.00 เมตร ตามแนวระดบั

10.2.7.2 ท่ีกระโดดนํา้
10.2.7.3 อฒั จนั ทร์สงั เกตการณ์ หอ หรือพืน้ ยก

ข้อยกเว้นที่ 1 ส่ิงปลูกสร้างตามข้อ 10.2.7.1 ถึง 10.2.7.3 อนญุ าตให้อยู่ใต้แนวสายจ่ายไฟ หรือตวั นํา
ประธานลงเครื่องวดั หน่วยไฟฟ้ า ของการไฟฟ้ าฯ ได้ หากมีระยะห่างตามตารางที่ 10-1

ข้อยกเว้นท่ี 2 สายสือ่ สาร และสายสะพานขององค์การทอ้ งถิ่น อนญุ าตใหเ้ ดินเหนือสระว่ายนํ้า อฒั จนั ทร์
สงั เกตการณ์ หอ และพืน้ ยก แต่ทงั้ นีต้ อ้ งเหนือไม่นอ้ ยกว่า 3.0 เมตร

ตารางท่ี 10-1
ระยะห่างระหว่างสายไฟฟ้ าอากาศกับส่วนต่างๆ ของสระว่ายนํา้

ตัวนําประธานจ่ ายไฟหรื อตัวนํา ตวั นําประธานจ่ายไฟหรือ
ประธานลงเคร่ืองวัดฯ ชนิดเดิน
ไ ป กั บ ส า ย ส ะ พ า น ห รื อ ส า ย ตวั นําประธานลง
สะพานในตัวซ่งึ ต่อลงดนิ แรงดัน
ระยะห่าง ต่อดนิ ไม่เกนิ 750 โวลต์ เคร่ืองวัดฯ ชนิดอ่ืน

ก) ระยะห่างวัดทุกทิศทางถึง แรงดนั ต่อดนิ
ระดบั นํา้ ขอบของผิวนํา้ ฐาน
ของกระดานกระโดดนํา้ 0-15 เควี 15-50 เควี

ข) ระยะห่างวัดทุกทิศทางถึง 6.90 เมตร 7.50 เมตร 8.00 เมตร
กระดานกระโดดนํา้ หรือ
หอกระโดดนํา้ 4.40 เมตร 5.20 เมตร 5.50 เมตร

ค) ระยะห่างวัดตามแนวนอน ระยะห่างนีน้ บั ถึงขอบด้านนอกของส่ิงปลกู สร้างที่ระบใุ น 10.2.7.1 และ10.2.7.2
จากขอบสระด้านใน ข้างต้น แตท่ งั้ นีต้ ้องไม่น้อยกวา่ 3.00 เมตร

10.2.8 เคร่ืองทาํ นํา้ ร้อนสาํ หรับสระ
เครื่องทํานํา้ ร้อนสําหรับสระต้องแบง่ ตวั ทําความร้อนออกเป็ นสว่ นๆ แตล่ ะสว่ นมีขนาดไม่เกิน 48
แอมแปร์ และใสเ่ ครื่องป้ องกนั การลดั วงจร ขนาดไม่เกิน 60 แอมแปร์
เครื่องป้ องกนั กระแสเกิน หรือขนาดกระแสของสายไฟฟ้ าต้องไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 125 ของโหลด
ตามท่ีระบบุ นแผน่ ป้ ายประจําเคร่ือง

10.2.9 ตาํ แหน่งการเดนิ สายใต้ดนิ
ห้ามเดินสายใต้ดิน ใต้สระหรือใต้สว่ นท่ียื่นไปในสระในระยะ1.50 เมตร วดั ตามแนวนอนจาก
ขอบสระด้านใน

10-8 บทท่ี 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน

ข้อยกเว้นที่ 1 การเดินสายสําหรบั บริภณั ฑ์ทีอ่ นญุ าตในขอ้ 10.1 ยอมใหอ้ ยู่ในบริเวณนีไ้ ด้
ข้อยกเว้นที่ 2 เมือ่ มีสถานทีจ่ ํากดั ไม่สามารถหลีกเลีย่ งให้พน้ ระยะ 1.50 เมตร จากขอบสระดา้ นในได้ สาย

ดงั กล่าวจะต้องเดินในท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลางหรือระบบช่องเดินสายไฟฟ้ า
อโลหะ ท่อโลหะที่ใช้ต้องเป็นชนิดทนการผกุ ร่อน และเป็นชนิดเหมาะสมแก่การติดตงั้ ใน
สถานทีเ่ ช่นนน้ั ความลึกในการติดตง้ั ใตด้ ินสอดคลอ้ งตามตารางที่ 5-1 และไม่อนญุ าตให้
ลดความลึกตามขอ้ กําหนดในหมายเหตุ

10.2.10 ห้องบริภณั ฑ์
ไม่อนญุ าตให้ตดิ ตงั้ บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าไว้ในห้องซงึ่ มิได้จดั การระบายนํา้ ให้เพียงพอ เพื่อป้ องกนั นํา้ ท่ี

เกิดสะสมขนึ ้ ระหวา่ งการปฏิบตั กิ ารตามปกติ หรือระหวา่ งการบํารุงรักษาเคร่ืองกรองนํา้

ตอน ข. สระชนิดตดิ ต้งั ถาวร

10.2.11 โคมไฟฟ้ าใต้นํา้
10.2.11.1 ท่วั ไป
10.2.11.1.1 แบบของโคมไฟใต้นํา้ ที่รับไฟฟ้ าจากวงจรย่อย หรือจากหม้อแปลงตาม ข้อ
10.2.4.1 ต้องเป็ นแบบเมื่อตดิ ตงั้ อยา่ งเหมาะสม โดยไม่ได้ตดิ ตงั้ เครื่องป้ องกนั กระแสเกินและร่ัว
ลงดินแล้ว ต้องไม่ทําให้เกิดอนั ตรายจากไฟฟ้ าดดู ในสภาพใช้งานตามปกติ และในกรณีที่ติดตงั้
เคร่ืองป้ องกนั กระแสเกินและร่ัวลงดิน สําหรับโคมไฟฟ้ าที่ใช้แรงดนั เกินกว่า 15 โวลต์ ต้องไม่ทํา
ให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้ าดูดขณะเปล่ียนหลอด ทงั้ นีโ้ ดยการใช้โคมไฟฟ้ า และเครื่องป้ องกัน
กระแสเกินและรั่วลงดนิ ท่ีได้รับการรับรองจากสถาบนั ที่เชื่อถือได้
10.2.11.1.2 โคมไฟฟ้ าท่ีตดิ ตงั้ ห้ามใช้ระบบแรงดนั ระหวา่ งสายเกิน 230 โวลต์
10.2.11.1.3 โคมไฟท่ีติดตงั้ ในผนงั (ขอบ) สระ ต้องติดตงั้ ให้เลนส์สว่ นบนของดวงโคมอย่ใู ต้
ระดบั นํา้ ปกตเิ ป็ นระยะอยา่ งน้อย 0.45 เมตร โคมไฟที่หนั ด้านหน้าขนึ ้ จะต้องมีครอบป้ องกนั การ
สมั ผสั จากบคุ คล ยกเว้น อนญุ าตใหใ้ ชโ้ คมไฟฟ้ าทีแ่ สดงเอกลกั ษณ์ทีว่ ่าใช้ทีร่ ะดบั ระดบั ความ
ลึกไม่นอ้ ยกว่า 100 มม. ใตร้ ะดบั น้ําปกติ
10.2.11.1.4 โคมไฟที่ทํางานได้อย่างปลอดภยั เมื่ออย่ใู ต้ระดบั นํา้ ต้องมีการป้ องกนั อนั ตราย
อยา่ งเพียงพอจากความร้อนเกินเม่ืออยพู่ ้นระดบั นํา้
10.2.11.2 โคมไฟฟ้ าฝังกนั นํา้ แบบเปี ยก
10.2.11.2.1 ต้องติดตงั ้ เปลือกห้มุ โคมโลหะ สําหรับโคมไฟฟ้ าฝังผนงั กนั นํา้ แบบเปี ยกและต้อง
มีข้อต่อเกลียวสําหรับต่อกับท่อ ใช้ท่อโลหะหนาหรือท่อโลหะหนาปานกลางท่ีเป็ นทองเหลือง
หรือโลหะทนการผกุ ร่อนหรือท่ออโลหะหนาต่อจากเปลือกห้มุ โดยไปเข้ากลอ่ งชมุ สายหรือเครื่อง

บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-9

ห่อหุ้มที่ติดตัง้ ตามที่กําหนดในข้อ 10.2.12 กรณีที่ใช้ท่ออโลหะหนาต้องเดินสายขนาด
พืน้ ที่หน้าตดั ไม่เล็กกว่า 6 ตร.มม. ในทอ่ เพ่ือตอ่ เปลือกห้มุ โคม กลอ่ งชมุ สาย หรือเครื่องห่อห้มุ
ของหม้อแปลง หรือเครื่องห่อหุ้มของเครื่องป้ องกนั ไฟร่ัว การต่อสายกับเปลือกห้มุ โคม ต้องปิ ด
หรือห้มุ ด้วยสารผนกึ เพื่อป้ องกนั การผกุ ร่อนจากนํา้ ในสระ สว่ นประกอบของโคมและเปลือกห้มุ ที่
สมั ผสั กบั นํา้ ต้องทําด้วยทองเหลอื ง หรืออโลหะทนการผกุ ร่อนอยา่ งอื่น
10.2.11.2.2 สว่ นปลายของสายอ่อน และการตอ่ สายอ่อนในโคมไฟฟ้ าต้องปิ ดหรือห้มุ ด้วยสาร
อุดเพ่ือป้ องกันนํา้ เข้าไปในโคม นอกจากนีจ้ ุดต่อลงดินภายในโคมไฟ ต้องมีการป้ องกันการผุ
กร่อนจากนํา้ ในสระ ในกรณีท่ีนํา้ เข้าในโคม
10.2.11.2.3 โคมไฟต้องประสานและยึดแน่นกับเปลือกห้มุ โคม โดยเครื่องยึดเพื่อให้เกิดความ
ตอ่ เน่ืองทางไฟฟ้ าอยา่ งสมบรู ณ์ และการถอดโคมต้องใช้เคร่ืองมือพิเศษช่วย
10.2.11.3 โคมไฟฝังกันนํา้ แบบแห้ง
โคมไฟฝังกนั นํา้ แบบแห้งต้องจดั ให้มีการระบายนํา้ และต้องมีท่ีตอ่ สายดินสําหรับแตล่ ะทอ่ ท่ีต่อ
เข้าโคม
ต้องใช้ท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง หรือท่อโลหะหนาที่ได้รับการรับรองต่อจากโคมไฟ
ไปยงั แผงย่อย ไม่ต้องใช้กลอ่ งชมุ สาย แต่ถ้าใช้ก็ไม่ต้องติดตงั้ ในระดบั และตําแหน่งที่กําหนดใน
ข้อ 10.2.12.1.4 ถ้าโคมไฟมีการแสดงเอกลกั ษณ์เป็ นพเิ ศษเพ่ือวตั ถปุ ระสงค์นนั ้

10.2.12 กล่องชุมสาย และเคร่ืองห่อหุ้มของหม้อแปลงหรือเคร่ืองป้ องกันกระแสร่ัวลง
ดนิ
10.2.12.1 กล่องชุมสาย
กลอ่ งชมุ สายท่ีตอ่ กบั ทอ่ ซงึ่ ตอ่ ไปถงึ เปลอื กโคมต้องมีคณุ สมบตั ดิ งั นี ้
10.2.12.1.1 ต้องจดั ให้มีที่ตอ่ ทอ่ เกลียว หรือข้อตอ่ สําหรับทอ่ อโลหะ และ
10.2.12.1.2 เป็ นทองแดง ทองเหลอื ง พลาสตกิ ที่เหมาะสม หรือสารทนการผกุ ร่อนอ่ืน และ
10.2.12.1.3 ต้องทําให้มีการต่อเนื่องทางไฟฟ้ าระหว่างท่อโลหะท่ีต่อเข้าโคมกับขวั้ ต่อสายดิน
ด้วยทองแดง ทองเหลอื ง หรือสารทนการผกุ ร่อนอ่ืน ซง่ึ ตดิ เป็ นสว่ นประกอบของกลอ่ ง และ
10.2.12.1.4 ติดตงั้ ในระยะไม่น้อยกว่า 0.20 เมตร วดั จากก้นกล่องด้านในเหนือระดบั
พืน้ ดนิ ชานขอบสระ หรือท่ีระดบั นํา้ ในสระสงู สดุ แล้วแตอ่ ยา่ งไหนจะได้ระดบั สงู สดุ และต้องอยู่
หา่ งจากผนงั สระด้านในไม่น้อยกวา่ 1.20 เมตร ถ้ามิได้แยกจากสระโดยกนั ้ ทบึ ด้วยกําแพง รัว้ หรือ
การกนั้ แบบอ่ืน

10-10 บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน

ยกเว้น สําหรับระบบแสงสว่างแรงดนั ไม่เกิน 15 โวลต์ อนญุ าตให้ใชก้ ล่องฝังผิวหนา้ เสมอ
ระดบั ชานขอบได้โดยต้องจดั ให้มีการใส่สารอุดในกล่องเพือ่ กนั ความชื้นเข้าภายใน
กล่อง และกล่องตอ้ งอยู่ห่างจากผนงั สระดา้ นในไม่นอ้ ยกว่า 1.20 เมตร

10.2.12.2 เคร่ืองห่อห้มุ หรือเคร่ืองห่อหุ้มอ่ืนๆ
เครื่องห่อห้มุ หรือเคร่ืองห่อห้มุ สําหรับหม้อแปลง เครื่องป้ องกนั ไฟร่ัว หรืออปุ กรณ์ที่คล้ายกนั ซ่ึง
ตอ่ กบั ทอ่ ท่ีตอ่ ตรงกบั เปลอื กห้มุ โคม ต้องมีคณุ สมบตั ดิ งั นี ้
10.2.12.2.1 ต้องจดั ให้มีท่ีตอ่ ทอ่ เกลยี ว หรือข้อตอ่ สําหรับทอ่ อโลหะ และ
10.2.12.2.2 จดั ให้มีการผนึก เช่น การผนึกท่ีหวั ต่อท่อ เพื่อป้ องกันการหมุนเวียนของอากาศ
ระหวา่ งทอ่ และเคร่ืองหอ่ ห้มุ และ
10.2.12.2.3 ต้องทําให้มีการตอ่ เน่ืองทางไฟฟ้ า ระหวา่ งท่อโลหะท่ีตอ่ เข้าเคร่ืองห่อห้มุ กบั ขวั้ ต่อ
สายดิน ด้วยทองแดง ทองเหลือง หรือสารทนการผกุ ร่อนอื่น ซ่งึ ติดเป็ นส่วนประกอบของเคร่ือง
หอ่ ห้มุ และ
10.2.12.2.4 ติดตงั้ ในระยะไม่น้อยกวา่ 0.20 เมตร วดั จากก้นกลอ่ งด้านในเหนือระดบั ดนิ ชาน
ขอบสระ หรือระดบั นํา้ ในสระสงู สดุ แล้วแตอ่ ย่างไหนจะได้ระดบั สงู สดุ และต้องอย่หู า่ งจากผนงั
สระด้านในไม่น้อยกว่า 1.20 เมตร ถ้ามิได้แยกจากสระโดยกนั้ ทบึ ด้วยกําแพง รัว้ หรือการกัน้
แบบอื่น
10.2.12.3 การป้ องกัน
กล่องชุมสายและเครื่องห่อหุ้ม ซ่ึงติดตัง้ เหนือระดับทางเดินขอบสระ ห้ามติดตัง้ ในบริเวณ
ทางเดิน นอกจากจะมีการป้ องกันเพิ่มเติม เช่น ติดตัง้ ไว้ใต้กระดานกระโดดนํา้ หรือติดกับ
โครงสร้างที่ยดึ แน่น หรือท่ีคล้ายกนั
10.2.12.4 ขัว้ ต่อสายดนิ
กล่องชุมสาย เครื่องห่อห้มุ ของหม้อแปลง และเคร่ืองป้ องกนั ไฟรั่วท่ีต่อโดยตรงกับท่อซึ่งต่อเข้า
เปลือกห้มุ โคม ต้องจดั ให้มีขวั้ ตอ่ สายดนิ เป็ นจํานวนมากกวา่ จํานวนทอ่ ท่ีตอ่ เข้าอยา่ งน้อย 1 ขวั้
10.2.12.5 การลดแรงดงึ
การต่อปลายของสายอ่อนภายในกลอ่ งต่อสายของโคมไฟฟ้ าใต้นํา้ เครื่องห่อห้มุ ของหม้อแปลง
และเครื่องป้ องกนั ไฟร่ัว หรือเครื่องหอ่ ห้มุ อื่น ต้องจดั ให้มีการลดแรงดงึ

10.2.13 การประสาน
10.2.13.1 ส่วนท่ตี ้องประสาน
สว่ นตา่ งๆ ตอ่ ไปนีต้ ้องประสานให้ตดิ ตอ่ กนั

บทท่ี 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-11

ก) ส่วนที่เป็ นโลหะของโครงสร้างของสระ รวมทงั้ โลหะที่ใช้เสริมแรงของตวั สระ
ของสนั กําแพง และของชานขอบสระ

ข) เปลือกห้มุ โคม
ค) หวั ตอ่ โลหะที่อยภู่ ายในหรือสมั ผสั โครงสร้างของสระ
ง) ส่วนโลหะของบริภณั ฑ์ไฟฟ้ าที่ใช้ในระบบหมนุ เวียนนํา้ ในสระ รวมทงั ้ มอเตอร์

เครื่องสบู นํา้ ด้วย
จ) สว่ นโลหะของบริภณั ฑ์ท่ีใช้งานร่วมกบั หลงั คาสระ รวมทงั้ มอเตอร์ไฟฟ้ าด้วย
ฉ) เปลือกโลหะของเคเบิลและท่อสาย ท่อโลหะ และส่วนโลหะท่ียดึ ติดกบั ท่ี ซึ่งอยู่

หา่ งจากขอบสระด้านในตามแนวระดบั ไม่เกิน 1.50 เมตร หรืออย่ใู นระดบั สงู
ไม่เกิน 3.60 เมตร จากระดบั นํา้ สงู สดุ หรือโครงสร้างอ่ืนท่ีไม่ได้แยกออกจากตวั
สระด้ วยโครงสร้ างถาวร

ข้อยกเว้นที่ 1 ใชล้ วดผกู เหล็กก่อสร้างในการประ-สานเหล็กเสริมแรงได้ และไม่ตอ้ งเชือ่ ม ประสาน หรือใช้
ตวั จบั ยึดเป็นพิเศษ

ข้อยกเว้นท่ี 2 โครงสร้างเหล็กเสริมแรง หรือผนงั ของโครงสร้างโลหะของสระทีเ่ ชือ่ มติดกนั หรือต่อดว้ ยสลกั
เกลียว อนญุ าตใหใ้ ชเ้ ป็นตะแกรงประสาน (common' bonding grid) สําหรบั ส่วนทีไ่ ม่ใช้
ไฟฟ้ า กรณีทีก่ ารต่อสามารถทําไดต้ ามข้อกําหนดในเรื่องการต่อลงดิน

ข้อยกเว้นท่ี 3 ส่วนแยกทีม่ ีขนาดไม่เกิน 100 มม. และแทรกเข้าไปในโครงสร้างของสระลึกไม่เกิน 25 มม.
ไม่ตอ้ งประสาน

10.2.13.2 ตะแกรงประสานร่วม
ส่วนต่อไปนีต้ ้องต่อกับตะแกรงประสานร่วมด้วยสายเด่ียวเป็ นทองแดงเปลือยหรือหุ้มฉนวน
ขนาดไม่เล็กกว่า 10 ตร.มม. การต่อต้องทําโดยการบีบ หรือใช้ตวั จับยึดชนิด ทองแดง
ทองเหลือง หรือทองแดงผสม ตะแกรงประสานร่วมอาจเป็ นสงิ่ ตอ่ ไปนี ้
10.2.13.2.1 เหล็กเสริมแรงของสระคอนกรีต เมื่อเหล็กเสริมแรงเหล่านัน้ ประสานติดต่อกัน
ด้วยลวดผกู เหลก็ หรือยา่ งอื่นที่เทียบเทา่
10.2.13.2.2 ผนงั ของสระโลหะซงึ่ ประกอบเข้าด้วยการเชื่อมประสานหรือสลกั เกลียว
10.2.13.2.3 ตวั นําเดี่ยว (solid conductor) ทําด้วยทองแดงเปลือยหรือห้มุ ฉนวน ขนาดไม่เล็ก
กวา่ 10 ตร.มม.
10.2.13.3 เคร่ืองทาํ ความร้อนนํา้ ในสระ
สําหรับเครื่องทําความร้อนนํา้ ในสระที่มีพิกัดเกินกว่า 50 แอมแปร์ ซ่ึงได้มีข้อแนะนําเฉพาะ
เก่ียวกบั การประสานและการตอ่ ลงดิน สว่ นที่กําหนดให้ประสานต้องมีการประสานให้ตดิ ต่อกนั
และสว่ นที่กําหนดให้ตอ่ ลงดนิ ต้องตอ่ ลงดนิ

10-12 บทที่ 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน

10.2.14 บริภณั ฑ์เคร่ืองเสียงใต้นํา้
บริภณั ฑ์เครื่องเสยี งใต้นํา้ ทงั้ หมด ต้องมีการแสดงเอกลกั ษณ์เพ่ือใช้ตามวตั ถปุ ระสงค์นนั้
10.2.14.1 ลาํ โพง
ลําโพงแต่ละตวั ต้องติดตงั้ ภายในเปลือกโลหะห้มุ ลําโพงด้านหน้า ซ่ึงปิ ดด้วยตะแกรงโลหะมีการ
ประสานและยดึ แน่นกบั เปลือกห้มุ ลําโพง โดยอปุ กรณ์ล็อกให้มีความตอ่ เน่ืองทางไฟฟ้ าสมบรู ณ์
และต้องใช้เครื่องมือเปิ ดในการติดตงั้ หรือบริการตวั ลําโพง เปลือกห้มุ ลําโพงต้องตดิ ตงั้ ฝังในผนงั
หรือพืน้ ของสระ
10.2.14.2 วธิ ีเดนิ สาย
การเดินสายใช้ท่อโลหะหนา หรือทอ่ โลหะหนาปานกลางท่ีทําด้วยทองเหลืองหรือโลหะทนการผุ
กร่อนอย่างอื่น หรือท่ออโลหะหนาต่อจากเปลือกห้มุ ลําโพงไปยงั กล่องชมุ สายที่เหมาะสม หรือ
เครื่องห่อห้มุ อย่างอื่นตามข้อ 10.2.12 ในกรณีที่ใช้ท่ออโลหะหนา ต้องเดินสายทองแดงเด่ียว
ขนาดไม่เล็กกว่า 10 ตร.มม. ภายในท่อตอ่ ปลายเข้ากบั เปลือกห้มุ ลําโพง และกล่องชุมสาย
ปลายทางด้านเปลือกห้มุ ลําโพง ต้องปิ ดหรือห้มุ ด้วยสารผนึกเพ่ือป้ องกนั การผกุ ร่อนจากนํา้ ใน
สระ
10.2.14.3 เปลือกหุ้มลาํ โพงและตะแกรงโลหะ
เปลือกห้มุ ลําโพงและตะแกรงโลหะต้องทําด้วยทองเหลืองหรือโลหะทนการผกุ ร่อนอยา่ งอ่ืนท่ีได้รับ
การรับรอง เพ่ือจดุ ประสงค์นนั้ แล้ว

10.2.15 การต่อลงดนิ
บริภณั ฑ์ตอ่ ไปนีต้ ้องตอ่ ลงดนิ

ก) โคมไฟฝังผนงั กนั นํา้ แบบเปี ยก
ข) โคมไฟฝังผนงั กนั นํา้ แบบแห้ง
ค) บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีตดิ ตงั้ ในระยะ 1.50 เมตร จากผนงั สระด้านใน
ง) บริภณั ฑ์ไฟฟ้ าท่ีเก่ียวข้องกบั ระบบการหมนุ เวียนนํา้ ในสระ
จ) กลอ่ งชมุ สาย
ฉ) เคร่ืองหอ่ ห้มุ ของหม้อแปลง
ช) เคร่ืองป้ องกนั ไฟรั่ว
ซ) แผงวงจรยอ่ ยที่ไม่ใช่สว่ นของบริภณั ฑ์ประธาน และจ่ายไฟให้แก่บริภณั ฑ์ไฟฟ้ า

ที่เกี่ยวข้องกบั สระ

บทท่ี 10 บริภัณฑ์เฉพาะงาน 10-13

10.2.16 วธิ ีการต่อลงดนิ
10.2.16.1 ท่วั ไป
การดําเนินการต่อไปนีใ้ ช้สําหรับการต่อลงดินของโคมไฟใต้นํา้ กล่องชุมสายเคร่ืองห่อหุ้มของ

หม้อแปลงที่เป็ นโลหะ แผงวงจรยอ่ ย รวมทงั้ เคร่ืองหอ่ ห้มุ และบริภณั ฑ์อ่ืน

10.2.16.2 โคมไฟใช้ในสระและบริภณั ฑ์อ่ืน
10.2.16.2.1 โคมไฟฟ้ าผนงั กันนํา้ แบบเปี ยก จะต้องต่อกบั ตวั นําต่อลงดินของบริภณั ฑ์ ขนาด

ตามตารางที่ 4-2 หรือ 4-3 แตต่ ้องไม่เลก็ กว่า 4.0 ตร.มม. และต้องเป็ นสายห้มุ ฉนวนเดินรวมไป

กบั สายไฟภายในทอ่ โลหะหนา ทอ่ โลหะหนาปานกลาง หรือทอ่ อโลหะหนา

ข้อยกเว้นท่ี 1 ใหใ้ ชท้ ่อโลหะบางได้ ถา้ ติดตง้ั ภายในอาคาร
ข้อยกเว้นท่ี 2 ตวั นําต่อลงดินของบริภณั ฑ์ ระหว่างกล่องสาย (wiring chamber) ของ

ขดลวดทุติยภูมิของหม้อแปลงและกล่องชุมสาย ต้องกําหนดขนาดตาม
ขนาดของเครื่องป้ องกนั กระแสเกินของวงจรนี้

10.2.16.2.2 กล่องชุมสาย เครื่องห่อห้มุ ของหม้อแปลง หรือเคร่ืองห่อห้มุ อื่นในวงจร ท่ีจ่ายไฟ

แก่โคมไฟฟ้ าฝังผนงั กนั นํา้ แบบเปี ยก และทอ่ สายของโคมไฟฟ้ าฝังผนงั กนั นํา้ แบบแห้ง ต้องตอ่ ลง

ดนิ โดยตอ่ เข้ากบั ขวั้ สายดินของแผงยอ่ ย ขวั้ ตอ่ นีต้ ้องตอ่ โดยตรงกบั แผงย่อย ตวั นําตอ่ ลงดินของ

บริภณั ฑ์ ต้องตดิ ตงั้ โดยไมม่ ีการตดั ตอ่

ข้อยกเว้นที่ 1 ในกรณีที่โคมไฟฟ้ าใต้น้ํามากกว่า 1 ชุด รับไฟฟ้ าไฟฟ้ าจากวงจรย่อย
เดียวกนั ตวั นําต่อลงดินของบริภณั ฑ์ที่ติดตงั้ ระหว่างกล่องชุมสาย เครื่อง
ห่อหุ้มของหม้อแปลง หรือเครื่องห่อหุ้มอื่น ในวงจรจ่ายจ่ายไฟให้แก่โคม
ไฟฟ้ าฝังผนงั กนั น้ําแบบเปี ยกหรือระหว่างช่องที่ใช้เดินสายของโคมไฟฝัง
ผนงั กนั น้ําแบบแหง้ อนญุ าตใหต้ ่อปลายสายเขา้ ทีข่ ว้ั ต่อสายดินได้

ข้อยกเว้นที่ 2 กรณีทีโ่ คมไฟฟ้ าใต้นํ้าต่อใช้ไฟฟ้ าจากหมอ้ แปลงเครื่องป้ องกนั กระแสรั่วลง
ดิน หรือสวิตช์นาฬิกา ซึ่งอยู่ระหว่างแผงวงจรย่อยกบั กล่องชุมสาย ซึ่งต่อ
ท่อทีเ่ ดินเข้าโคมไฟฟ้ าใต้นํ้าโดยตรง ตวั นําต่อลงดินของบริภณั ฑ์ อนญุ าต
ให้ต่อปลายสายเข้ากบั ขวั้ ต่อสายลงดินเครื่องห่อห้มุ ของหม้อแปลง เครื่อง
ป้ องกนั ไฟรวั่ และของสวิตช์นาฬิกาได้

10.2.16.2.3 โคมไฟฟ้ าฝังผนังกันนํา้ แบบเปี ยก ที่รับไฟฟ้ าด้ วยสายอ่อน ส่วนโลหะที่ไม่

นํากระแส ต้องตอ่ ลงดนิ โดยใช้ตวั นําตอ่ ลงดนิ ของบริภณั ฑ์ เป็ นสายทองแดงห้มุ ฉนวนซงึ่ เป็ นสาย

หนึ่งในสายอ่อนหรือสายเคเบิลอ่อนนนั้ ตวั นําต่อลงดินต้องต่อเข้ากับขวั้ ต่อสายลงดินในกล่อง

ชุมสายท่ีจ่ายไฟ หรือเครื่องห่อหุ้มของหม้อแปลง หรือเคร่ืองห่อหุ้มอ่ืน ตัวนําต่อลงดินของ

บริภณั ฑ์ต้องไม่เลก็ กวา่ ตวั นําท่ีจา่ ยไฟ และไมเ่ ลก็ กวา่ 1.5 ตร.มม.


Click to View FlipBook Version