โครงการพัฒนาผลงานทางวิชาการ 37 ปี
ตารา
การจดั การการจดั หาและการจดั ซอ้ื
(Procurement and Purchasing Management)
พเิ ชษฐ เนตรสวา่ ง
คณะวทิ ยาการจดั การ
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนครศรอี ยธุ ยา
2564
การจดั การการจัดหาและการจัดซ้อื
(Procurement and Purchasing Management)
พิเชษฐ เนตรสวา่ ง
คณะวทิ ยาการจัดการ
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครศรอี ยธุ ยา
2564
ก กก ก ก
คำนำ
ต เ ่มนีเป็นเน ใน ยวิช ก ก ก ก (Procurement
and Purchasing Management) ่ึงเป็นเน เก่ียวกบบทบ ทข งก ที่มีต่ ก
ก โ ิสติกส์ ก ว ง ผน เชิงก ยุทธ์ ก ว ง ผน เชิงก วีธี ก ว ง ผน เชิง
ปฏบิ ติก ก ส ้ งพนธมิต คว ม ว่ มม ท งก ค้ ก พฒน ก ยุทธใ์ นก ย่ ง
มีป สิทธิภ พ ก ก พพ ยเ ์ คู่ค้ ก ต สินใ ผ ิต ก พย ก ณ์คว ม
ต้ งก วิธีก ในโ ิสติกส์ เ กส ที่ใช้ในก ก เ กส สินค้ ที่มี
คุณภ พ บบทนเว พ ีเพ่ ป สิทธิภ พในง น วมถึงบทบ ทข งเทคโนโ ยี
ส สนเทศต่ ก ในโ สิ ติกส์
กต ท่ีเ ียบเ ียงในเ ่มนี มีส่วนช่วยเพิ่มพูน คว ม ู้ เ ิญสติปัญญ ทศนคติ
ก บวนทศน์พฤติก มส ้ งส ค์ น พ ชีวิตข งผู้ ่ นใ ้เ ญิ ุง่ เ งป สบคว มส เ ็ บ้ ง ก็ถ
ว่ ต งเ ตน มณ์ข งผู้เขียน เป็นพ คุณ ย่ งย่ิง ท่ีท่ น ก ุณ ใ ้ค น น ติชม
ข้ คิ เ ็นท่ีเป็นป โยชน์ม ยงผู้เขียนใน นที่ น ไป ก้ไขป บป ุง พฒน ใ ้สมบู ณ์ย่ิงขึน ใน
โ ก สต่ ไป ผู้เขียนใค ่ข ข บคุณส บก สนบสนุนใ ้ก งใ ข้ คิ เ ็น ข้ น น ที่มี
คุณค่ ม กม ย ก ยมิติ กทุกฝ่ ย ข บคุณโค งก พฒน ผ ง นท งวิช ก 37 ปี คณ
วิทย ก ก ม วิทย ย ชภฏพ นค ศ ี ยุธย ท่ีใ ้ก สนบสนุนเป็น ย่ ง ี ข บคุณ
ค บค วท่ีเป็นก งใ ต ม ข บพ คุณค ูบ ย์ทุกท่ นที่ไ ้ บ มส่งส น ที่ส คญ
ข ข บพ คุณ ย่ งสูงต่ ผู้เขียนผ ง นท งวิช ก ที่ไ ้ใช้ในก ศึกษ ค้นคว้ ้ ง ิงทุกท่ น
ม ณ โ ก สนี
พิเชษฐ เนต สว่ ง
ส ข วิช ก ก โ ิสตกิ ส์ พพ ยเชน
ม วทิ ย ย ชภฎพ นค ศ ี ยุธย
2564
ก กก ก ค
สำรบัญ
คำนำ หน้ำ
ก
สำรบัญ ข
ช
สำรบญั รูปภำพ ฌ
1
สำรบัญตำรำง 3
4
บทท่ี 1 ควำมรู้เบอ้ื งต้นเก่ียวกับกำรจัดกำรกำรจดั หำและกำรจดั ซ้ือ 5
10
คว ม ม ยข งก ก ก ก 11
14
น้ ทข่ี งก 15
20
กก ก ก ก 23
24
วธิ ีปฏิบตใิ นก 25
27
น่วยง น ข ง งค์ก 27
29
บบ บบเ ิม 37
40
ก กบก ก ุตส ก ม 43
46
ก ก โ สิ ตกิ ส์ พพ ยเชนท่ีส่งผ ต่ ก 49
ส ุป
ค ถ มท้ ยบท
เ กส ้ ง ิง
บทท่ี 2 กำรวำงแผนกำรจัดหำจัดซือ้ ในอตุ สำหกรรมและโลจสิ ติกส์
วตถปุ สงค์ข งก ว ง ผนก ใน ุตส ก ม โ ิสตกิ ส์
ก ว ง ผน เชงิ ก ยทุ ธ์
ก ว ง ผน เชิงก วิธี
ก ว ง ผน เชงิ ปฏิบตกิ
ก ว ป สิทธภิ พส บกิ ก มก
ป โยชน์ข งก ว ง ผนก ใน ุตส ก ม โ ิสตกิ ส์
ส ปุ
คง ก ก ก ก
ค ถ มท้ ยบท หนำ้
50
เ กส ้ ง ิง 51
53
บทท่ี 3 กำรจดั กำรซัพพลำยเออรแ์ ละคูค่ ำ้ 53
57
คว ม ม ยข งก ก พพ ยเ ์ คูค่ ้ 58
60
คว มส คญข งก ก พพ ยเ ์ 63
64
คว มสมพนธ์ ว่ งธุ กิ กบ พพ ยเ ์ 65
67
ก ก พพ ยเ ์ 70
73
ก ส ้ งพนธมิต ท งก ค้ กบคู่ค้ 76
77
ขนต นในก บ ิ คว มสมพนธก์ บ พพ ยเ ์ 78
79
ก พฒน พพ ยเ ์ 80
81
ก น เทคโนโ ยมี ใช้ในก เพม่ิ ป สิทธภิ พในก ก พพ ยเ ์ 81
84
ก ติ ต่ ส่ ส ว่ ง พพ ยเ ์กบ งค์ก ธุ กิ 85
87
ป โยชนข์ งก บ ิ ก พพ ยเ ต์ ่ บ ษิ ท 100
101
ส ุป 102
104
ค ถ มท้ ยบท
เ กส ้ ง ิง
บทท่ี 4 กำรตดั สินใจในกำรจัดหำจดั ซื้ออยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ
คว ม ม ยข งก ต สินใ ในก ย่ งมปี สิทธภิ พ
กษณ ข งก ต สินใ ในก ย่ งมีป สิทธิภ พ
ชนิ ข งก ต สนิ ใ ในก
ปู บบข งก ต สินใ ในก
สถ นก ณ์ข งก ต สนิ ใ ในก
เทคนิคก ต สนิ ใ (Technics Decision Making) ในก
ป โยชน์ข งก ต สินใ ในก ย่ งมีป สิทธภิ พ
ส ปุ
ค ถ มท้ ยบท
เ กส ้ ง งิ
ก กก ก ง
บทที่ 5 เอกสำรท่ีใชก้ ำรจัดหำจัดซอ้ื หนำ้
เ กส ใบข สง่ 105
เ กส ใบเสน ค 106
เ กส ใบส่ง ส บใบสง่ ไปยง พพ ยเ ์ 107
เ กส ใบส่งสง่ คนสินค้ ส บคนสนิ ค้ ก บไปยง พพ ยเ ์ 110
เ กส ใบส่งสินค้ 113
ใบ ง้ นี 117
ใบ บสนิ ค้ 121
ส ุป 125
ค ถ มท้ ยบท 127
เ กส ้ ง ิง 128
130
บทท่ี 6 กำรพยำกรณค์ วำมต้องกำรวัตถดุ ิบและสินค้ำ 131
คว ม ม ยข งก พย ก ณ์คว มต้ งก วตถุ ิบ สินค้ 132
ก พย ก ณ์คว มต้ งก วตถุ บิ สินค้ ท่ใี ้ผ ม่นย 133
งค์ป ก บข งก พย ก ณ์คว มต้ งก 134
วธิ กี ทใี่ ช้ในก พย ก ณ์คว มต้ งก วตถุ บิ สินค้ 135
ก น โป ก มไมโค ฟเ กเ ม ใชใ้ นก พย ก ณ์ 151
ป โยชนข์ งก พย ก ณค์ ว มต้ งก วตถุ บิ สนิ ค้ 152
ส ุป 153
ค ถ มท้ ยบท 154
เ กส ้ ง ิง 156
157
บทท่ี 7 กำรจัดกำรคลงั สินคำ้ และกำรจดั กำรสนิ ค้ำคงคลงั เบอ้ื งตน้ 157
คว ม ม ยข งก ก ค งสนิ ค้ ก ก สนิ ค้ คงค ง 158
ูป บบข งสินค้ ในค งสนิ ค้ 160
ต้นทุนในก ก ค งสนิ ค้ ก ก สินค้ คงค ง 167
เทคนิคก ก ค งสินค้ ก ก สินค้ คงค ง 172
ก มว มู่ บทบ ท น้ ทีข่ งสินค้
ฉ ก กก ก
ก ต ว นบ นวนสินค้ ในสต็ ก หนำ้
บบก บ ิ สินค้ คงค ง 174
ุ ส่ง ใ ม่ 176
178
ป โยชน์ข งก ก ค งสนิ ค้ ก ก สนิ ค้ คงค ง 179
ส ุป 180
ค ถ มท้ ยบท 181
เ กส ้ ง ิง 182
บทที่ 8 ระบบทนั เวลำพอดีและเทคนิคทีเ่ พม่ิ ประสิทธิภำพในงำนจัดหำจดั ซื้อ 183
คว ม ม ยข ง บบก บบทนเว พ ี 183
วตถปุ สงค์ข งก ผ ิต บบทนเว พ ี 185
ผ ที่เกิ กก ผ ติ บบทนเว พ ี 186
ป โยชน์ข ง บบก ก วตถุ ิบต่ ก ผ ิต บบทนเว พ ี 186
188
บบคมบง 190
ทฤษฎีมู ิ มู มู 193
195
บบไคเ น็ 197
บบ ีน 199
ุตส ก มสีเขียว 203
กิ ก ม 6 ส. 204
เทคนคิ ก ท ง นทเ่ี ม สมต่ บุค ก 206
ก ป กนคณุ ภ พโ ยใช้ Six Sigma ใน ตุ ส ก มโ ิสตกิ ส์ 207
ส ปุ 208
ค ถ มท้ ยบท 209
เ กส ้ ง งิ 209
บทที่ 9 กำรเลอื กสรรผลิตภัณฑท์ ี่มีคณุ ภำพ 213
คว ม ม ยข งคณุ ภ พ 214
ก ก คุณภ พข งสินค้ บ กิ
ต้นทุนข งคุณภ พข งสินค้ บ กิ
ก กก ก ชฉ
งว ง่ คุณภ พ หนำ้
เทคนคิ ในก ค ส ผ ติ ภณฑ์ทมี่ ีคุณภ พ 215
ป โยชน์ข งก เ กส ผ ิตภณฑท์ ่ีมีคุณภ พ 216
ส ปุ 230
ค ถ มท้ ยบท 232
เ กส ้ ง งิ 233
บทที่ 10 กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศต่อกำรจดั หำจัดซอื้ 234
235
บบก กเป ่ียนข้ มู ผ่ น บบ ิเ ็กท นกิ ส์ 238
บบบ ์โค้ 244
บบค น่ วทิ ยุ 246
ก ว ง ผนท พย ก งค์ก โ ย วม 249
บบก ก ค งสินค้ 252
โป ก มไมโค ฟเ กเ ส บก 255
ส ุป 258
ค ถ มท้ ยบท 259
เ กส ้ ง ิง 260
บรรณำนกุ รม 261
ดัชนี 267
ก กก ก ฌ
สำรบญั ภำพ
ภ พท่ี 1.1 น้ ที่ ก ฝ่ ยต่ งๆ ข ง งค์ก ธุ กิ ุตส ก ม หน้ำ
ภ พท่ี 1.2 นวคิ ก ก พพ ยเชนเปน็ ยุคถ ม ในก ปฏิวตโิ ิสติกส์ 2
ภ พที่ 2.1 6R+1 น้ ท่ี กข งฝ่ ย 22
ภ พที่ 2.2 ก บวนก โ ่ ุปท นภ ยใน งคก์ ธุ กิ ตุ ส ก ม 28
ภ พท่ี 2.3 ผูท้ ่เี กี่ยวข้ งในก วตถุ บิ /สนิ ค้ 29
ภ พท่ี 2.4 ก บวนก ในก เ กผู้ น่ ยวตถุ ิบ/สินค้ 30
ภ พที่ 2.5 ก บวนก ขนต นในก 33
ภ พท่ี 3.1 ูป บบข งก พฒน คว มสมพนธ์กบ พพ ยเ ์ 43
ภ พท่ี 3.2 ป เภทข งคนก งทีเ่ ปน็ พพ ยเ ์ 55
ภ พท่ี 3.3 ขนต นในก บ ิ คว มสมพนธก์ บ พพ ยเ ์ 60
ภ พท่ี 3.4 ก น บบพ ณิชย์ เิ ็กท นิกส์ม ใชใ้ นก เพิม่ ป สทิ ธิภ พ 64
ภ พท่ี 5.1 ตว ย่ งใบข สง่ (Purchase Requisition: PR) 69
ภ พที่ 5.2 ตว ย่ งใบเ กส ใบเสน ค (Quotation) 106
ภ พที่ 5.3 ตว ย่ งใบสง่ (Purchase Order) 108
ภ พท่ี 5.4 ก บวนก ใบส่งส่งคนสนิ ค้ งิ 111
ภ พที่ 5.5 ใบสง่ ส่งคนสินค้ 113
ภ พท่ี 5.6 ใบ บคนสินค้ 114
ภ พท่ี 5.7 ตว ย่ งใบสง่ สินค้ บบท่วไป (Delivery Order :DO) 115
ภ พท่ี 5.8 ตว ย่ งใบสง่ สินค้ (1) 118
ภ พที่ 5.9 ตว ย่ งใบส่งสนิ ค้ (2) 119
ภ พท่ี 5.10 ตว ย่ งใบว งบิ ใบ ้ง นี (1) 120
ภ พท่ี 5.11 ตว ย่ งใบว งบิ ใบ ง้ นี (2) 124
ภ พที่ 6.1 ตว ย่ งก ใช้ Excel template for trend-adjusted smoothing 126
151
ญ ก กก ก
ภ พที่ 7.1 ผนภ พขน ก ส่ง หนำ้
ภ พท่ี 8.1 บบก ท ง นข งคมบง 176
ภ พท่ี 8.2 บก พฒน 5 ขนสู่ ุตส ก มสีเขยี ว 188
ภ พที่ 9.1 ูป บบผงก้ งป 199
ภ พท่ี 9.2 ตว ย่ ง ส ง ย เ ยี ข งผงก้ งป 218
ภ พท่ี 9.3 ตว ย่ ง ผนผงพ เ โต 220
ภ พท่ี 9.4 ตว ย่ ง นวท งก เขียน ผนผงพ เ โต 221
ภ พที่ 9.5 ตว ย่ งก ฟเส้น 222
ภ พที่ 9.6 ตว ย่ ง ผนภมู ิ ทง่ 224
ภ พท่ี 9.7 ตว ย่ งก ฟวงก ม 224
ภ พท่ี 9.8 ใบต ว ส บ 225
ภ พท่ี 10.1 ขนต นก บวนก ข ง E-Procurement 226
ภ พท่ี 10.2 ขนต นก ท ง นข ง บบ EDI 235
ภ พที่ 10.3 บ ์โค้ ท่ี ส ง ม ยเ ขป ตวสนิ ค้ 239
ภ พที่ 10.4 ปุ ก ณ์ท่ใี ช้ส บง นบ โ์ ค้ 244
ภ พท่ี 10.5 สว่ นป ก บข ง RFID 245
ภ พท่ี 10.6 โค งส ้ ง บบก ท ง น ข ง ERP 247
ภ พที่ 10.7 ก ก ค งสินค้ (Warehouse Management System: WMS) 249
252
ก กก ก ฎ
สำรบัญตำรำง
ต งที่ 1.1 ตว ย่ งข งป เภทข ง ตุ ส ก ม หน้ำ
ต งที่ 2.1 ก ค เ กผู้ น่ ย 15
ต งที่ 4.1 ส งข้ มู ก ต สินใ ภ ยใตค้ ว ม นน่ น 36
ต งที่ 6.1 ก วิเค ก์ ป บเ ียบ ว้ ยเ ็ก โ์ ปเนนเชีย 85
ต งท่ี 7.1 ต ง ส งก นกสนิ ค้ คงค งเปน็ มว เ บี ี (ABC) 143
168
บทท่ี 1 ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ยี วกบั การจดั การการจดั หาและการจัดซื้อ 1
บทที่ 1
ความรู้เบอ้ื งต้นเกยี่ วกับการจดั การการจดั หาและการจัดซื้อ
การจัดการการจัดหาและการจัดซื้อเป็นเรื่องท่ีเก่ียวข้องกับการกระบวนการในการเตรียม
ปัจจัยต่างๆ เพ่ือนาไปเข้ากระบวนการแปลงสภาพวัถุดิบ ส่วนผสม ผ่านกรรมวิธีการผลิต
กระบวนการผลิต ให้เป็นสินค้าและบริการตามคุณลักษณะท่ีผู้บริโภคต้องการ การจัดการการจัดหา
และการจัดซื้อได้เริ่มมีวิวัฒนาการจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีกลุ่มบุคคลซ่ึงมี F.W. Taylor เป็น
ผนู้ าการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีส่วนร่วมเป็นผู้บุกเบิกการอุตสาหกรรมการผลิตในสมัยใหม่มาถงึ ปจั จุบันน้ี
ซ่ึงการนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทสาคัญมากในการอุตสาหกรรมการผลิตแบบใหม่
หน้าท่ีสาคัญของการจัดการการจัดหาและการจัดซือ้ จะเก่ียวกับการเตรยี มจัดหาและแปรรูปวัตถุดิบ
ผ่านระบบการจัดการการผลิต การควบคุมการผลิตและการกระบวนการการตรวจสอบ
การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งกับการผลิต ทีม่ ีความสันพันธ์และเช่ือมโยงเพื่อให้เกิดสินค้า
และบริการตามท่ีลูกคา้ ต้องการ
การจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ เป็นเป้าหมายสาคัญของการบริหารอุตสาหกรรมให้มี
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ดังน้ันการจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ จึงต้องมี
การปฏิบัติงานแต่ขั้นตอนต่างๆ สอดคล้องและสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกัน เพื่อให้เกิดการบรรลุ
เปา้ หมายอยา่ งเหมาะสม ไดส้ ินค้าและบรกิ ารตามทล่ี กู คา้ ตอ้ งการ และไดต้ ามมาตรฐานทกี่ าหนด
การจัดการการจัดหาและการจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารในทุกระดับจาเป็นจะต้อง
เข้าใจลักษณะของกิจการแต่ละชนิด และต้องเข้าใจความแตกต่างของการผลิตสินค้าและบริการ
แต่ละประเภทด้วย รวมตลอดไปถึงการทราบและความเข้าใจถึงปัญหาท่ีจะเกิดจากการจัดการ
การจดั หาและการจัดซือ้ ทั้งในระยะสน้ั และระยะยาว และสามารถปรับปรุงแกไ้ ขสิง่ ท่ีทาให้เกิดปัญหา
นนั้ ได้อย่างถกู ต้องได้
กระบวนการการจัดการการจัดหาและการจดั ซ้ือเป็นสง่ิ ที่เริ่มตน้ ในการสร้างสรรค์สินค้าและ
บริการเพ่ือตอบสนองความต้องการลูกค้า ซ่ึงเป็นผู้มีความต้องการอย่างต่อเนื่องและไม่มีส้ินสุด
แต่เน่ืองจากการมีทรัพยากรท่ีนามาใช้เป็นวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิต มีอยู่อย่างจากัดในปัจจุบัน
จึงทาให้วัตถุดิบที่นามาใช้เข้ามาเป็นตัวกาหนดบทบาทในกระบวนการผลิตเป็นอย่างมาก ดังน้ัน
2 การจดั การการจดั หาและการจดั ซื้อ
จึงทาให้เกิดการจัดการการจัดหาและการจัดซ้ือวัตถุดิบและปัจจัยที่ใช้ในการผลิต ต้องมีการคัดสรร
อย่างมีคุณภาพ เพ่ือช่วยให้ผลผลิตท่ีออกมามีคุณภาพ และตรงตามความต้องการของลูกค้า
และยังเป็นการช่วยให้เรานาเอาทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างจากัด นามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยกระบวนการผลิตมีการแปรรูปวัตถุดิบ ผ่านกระบวนการผลิตท่ีทาให้ผลผลิตมีมูลค่าเพ่ิมมากข้ึน
ดังนั้นตั้งแต่การจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ และกระบวนการผลิตจึงเป็นหน่ึงในหน้าท่ีหลักของ
บริษัท ที่ส่งผลโดยตรงต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการ และต้องสัมพันธ์เกี่ยวกับหน้าที่อ่ืน
โดยตอ้ งมีความสมั พนั ธ์ระหวา่ งฝ่ายจัดซ้ือจัดหา ฝา่ ยการผลติ ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ ฝ่ายการจดั การ
สินค้าคงคลัง ฝ่ายบัญชกี ารเงนิ ฝ่ายการตลาดและการขาย ภายในองค์กรธรุ กิจ ซึ่งเริ่มจากฝา่ ยจัดซ้ือ
จัดหาทาหน้าท่ีหาวัตถุดิบ อุปกรณ์เครื่องเครื่องจักร แรงงาน มาทางานในส่วนของฝ่ายการผลิตที่มี
หน้าท่ีผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ โดยมีฝ่ายควบคุมคุณภาพเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพให้ได้มาตรฐาน
เดียวกันทุกชิ้น โดยส่งต่อให้ฝ่ายสินค้าคงคลัง ในการประมาณการสินค้าในสต็อกให้เพียงพอต่อ
ความต้องการของผู้บริโภค ตามที่ฝ่ายการตลาดค้นหาความต้องการของลูกค้า และเสนอสินค้าตามที่
ลูกค้าต้องการอยา่ งเหมาะสม สว่ นฝา่ ยบญั ชแี ละการเงินมีหนา้ ที่จัดสรรเงินทนุ เพือ่ นาไปจัดหาวติ ถุดิบ
อุปกรณ์ เครอ่ื งมือเครอ่ื งจักร แรงงาน มาให้ฝ่ายการฝา่ ยจดั ซอื้ มาใชบ้ ริหารจัดการ การผลิตสินค้าที่ดี
ให้กับลูกค้าต้องการอย่างเป็นรูปธรรม ซ่ึงการดาเนินงานของทั้ง 6 หน้าที่หลักนี้ ประสานงานกัน
อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เพ่อื ใหอ้ งคก์ รธรุ กิจไดบ้ รรลุเปา้ หมายสูงสุด ดงั ภาพที่ 1.1
องคก์ รธุรกิจและอุตสาหกรรม
ฝ่ายจัดซื้อจัดหา ฝา่ ยการผลิต ฝา่ ยตรวจสอบ
คุณภาพสินค้า
ฝา่ ยบัญชกี ารเงิน ฝา่ ยการตลาด ฝ่ายการจัดการ
และการขาย สินคา้ คงคลงั
ภาพที่ 1.1 หนา้ ทห่ี ลกั และฝา่ ยตา่ งๆ ขององคก์ รธรุ กจิ และอตุ สาหกรรม
ที่มา : (พิเชษฐ เนตรสว่าง, 2564)
บทที่ 1 ความรูเ้ บอ้ื งต้นเก่ียวกบั การจัดการการจดั หาและการจัดซอื้ 3
กระบวนการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นกิจกรรมการสร้างมูลค่า โดยผ่านกระบวนการแปลง
สภาพทรัพยากร ให้เกิดผลผลิตในรูปแบบของสินค้าและบริการ ซึ่งนับได้ว่าเป็นกิจกรรมสาคัญ
ท่ีเกิดขึ้นในทุก ๆ องค์กร ทั้ง กิจกรรมการผลิตสินค้าท่ีจับต้องได้ทางกายภาพ ในธุรกิจอุตสาหกรรม
การผลิต และกิจกรรมที่ไม่ได้ผลิตสินค้าทางด้านกายภาพ แต่ให้บริการแก่ลูกค้าในธุรกิจต่าง ๆ
ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย จะเป็นสินค้าหรือบริการ การบริหารจัดการจะเกี่ยวข้องกับหน้าที่หลัก
ในการบริหารจัดการซึ่งประกอบไปด้วย การวางแผน (Planning), การจัดองค์การ (Organizing),
การจัดคนเข้าทางาน (Staffing), การบังคับบัญชา (Leading) และการควบคุมงาน (Controlling)
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน การส่งมอบสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า (Delivery) ในปริมาณที่ถูกต้อง
(Quantity) มีคุณภาพ (Quality) และมีต้นทุนที่เหมาะสม (Cost) นอกจากน้ียังต้องคานึงถึงความ
ปลอดภัย (Safety) และ สิ่งแวดล้อม (Environment) ด้วย เน้ือหาในบทน้ีเป็นความรู้เบื้องต้น
เก่ียวกับการจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ ประกอบไปด้วยเนื้อหาเก่ียวกับ ความหมายของ
การจัดการการจัดหาและการจัดซ้ือ หน้าท่ีของการจัดซ้ือ หลักการจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ
วิธีปฏิบัติในการจัดหาจัดซ้ือ หน่วยงานจัดซื้อขององค์กร ระบบจัดซื้อแบบเดิม การจัดหาและจัดซื้อ
กับการจัดการอุตสาหกรรม และการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนที่ส่งผลต่อการจัดหาจัดซ้ือ
โดยมรี ายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี
1.1 ความหมายของการจัดการการจัดหาและการจัดซอ้ื (Procurement and Purchasing
Management)
การมุ่งเน้นในการได้มาซ่ึงสินค้าหรือบริการเพื่อสามารถส่งสินค้าไปยังสถานท่ีต้องการ
ถูกต้อง แม่นยา ความหมายของการจัดซ้ือ ซึ่งผู้จัดซื้อจัดหาต้องจัดหาวัตถุดิบท่ีมีราคาท่ีถูกต้อง
มีการเจรจาตอ่ รอง และมีความซอื่ สตั ย์ มนี กั วิชาการหลายท่านไดใ้ หค้ วามหมายไว้ดังนี้
ยุทธ ไกยวรรณ์ (2550, หน้า 311) ได้ให้ความหมายของการจัดซ้ือไว้ว่า การดาเนินงาน
ตามขน้ั ตอนต่าง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ดม้ า ซ่ึงวตั ถดุ บิ วสั ดุ และสิง่ ของเครื่องใช้ตา่ ง ๆ ทีจ่ าเปน็ โดยมีคุณสมบัติ
ปริมาณ ราคา ช่วงเวลา และเวลาการนาส่งในสถานท่ีถูกต้อง และเป็นการบริหารจัดการแหล่ง
ทรัพยากรภายนอกของ องค์กร ซึ่งได้แก่ สินค้า งานบริการ ความสามารถ (Capabilities)
และความรู้ (Knowledge)
อรณุ บริรกั ษ์ (2550, หน้า 164) ไดใ้ หค้ วามหมายของการจัดซ้ือไว้วา่ หมายถึง กระบวนการ
ท่ีบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ตกลงทาการ ซื้อขายเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการที่ ต้องการเพ่ือให้
บรรลุถึงวัตถุประสงค์ของธุรกิจอย่างมีจังหวะเวลาและมีต้นทุนท่ีเหมาะสม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้
4 การจดั การการจดั หาและการจัดซือ้
สินค้าหรือบริการที่ มีคุณภาพปริมาณท่ีถูกต้อง ตรงตามเวลาท่ีต้องการ ใน ราคาที่เหมาะสม
จากแหล่งขายท่มี ีความนา่ เชอ่ื ถือ
พูนสุข สังข์รุ่ง และคณะ (2556, หน้า 213) ได้ให้ความหมายของการจัดซื้อไว้ว่า หมายถึง
กระบวนการและการดาเนินงานข้ันตอน เพ่ือให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการท่ีต้องการที่ โดยบรรลุ
วตั ถปุ ระสงคข์ องธรุ กิจ ซงึ่ นามาในการลติ ตามคณุ สมบัตทิ ่กี าหนดตรงตามเวาและสถานที่
ทวีศักดิ์ เทพพิทักษ์ (2554, หน้า 170 ) ได้ให้ความหมายของการจัดซื้อไว้ว่า หมายถึง
กิจกรรมการซ้ือสินค้า ซึ่งกระทาโดยหน่วยงานที่เป็นส่วนหน่ึงของแผนกการเงินหรือการคลัง
โดยกิจกรรมนี้เป็นงานทั่วไป เพ่ือรองรับการดาเนินการจัดซ้ือและมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งราคา
ของวตั ถดุ ิบหรอื สนิ คา้ ทม่ี ีราคาต่าที่สดุ
จากความหมายที่ได้จากนักวิชาการหลายๆ ท่าน กล่าวโดยสรุปได้ว่า การจัดหาจัดซ้ือ
หมายถึง กระบวนการการบริหารจัดการ ทรัพยากรท้ังภายในและภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็น
วัตถุดิบ สินค้า บริการ องค์ความรู้ ทักษะความสามารถ ต่างๆ ที่มีส่วนสาคัญในการดาเนินงานใน
กิจกรรมการจัดซื้อวัตถุดิบ (Procurement of raw materials) โดยเป็นเร่ืองของการศึกษา
ความ ต้องการในการใช้วัตถุดิบการจัดหาวัตถุดิบ (Supply Materials) ที่ดีมีคุณภาพ โดยในการ
จัดซ้ือ (Purchasing) และการจัดหาจะต้องมีกระบวนการเพ่ือใช้ในการตัดสินใจเลือกวัตถุดิบ
และตัดสินใจเลือกผู้จัดจาหน่ายวัตถุดิบ (Supplier) ท่ีมีคุณภาพในราคา (Price) ที่ยอมรับได้ และท่ี
สาคัญจะต้องมี ระบบที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบและตัวผู้จัดจาหน่ายวัตถุดิบ
(Supplier) ซง่ึ จะเปน็ ตวั ทสี่ ่งผลตอ่ ต้นทุน (Cost) รวมของโลจสิ ติกส์ (Logistics) ตา่ ลง
1.2 หน้าท่ีของการจัดซอ้ื
เพื่อทาการซ้ือวัตถุดิบและบริการให้มีคุณภาพท่ีถูกต้องในปริมาณท่ีถูกต้องโดยมีราคาที่
ถกู ต้อง จากแหลง่ ขายที่ถูกต้อง และในเวลาท่ีถูกตอ้ ง ในปัจจุบันวัตถุประสงค์ของการจัดซ้ือมุ่งท่ีการ
บริหารทั่วไป ด้วยวัตถุประสงค์ในลักษณะเช่นนี้ สามารถอธิบายแยกย่อยได้ 10 ประการ โดยมี
รายละเอยี ด (ธรี วฒุ ิ (2556), หน้า 208) ดังตอ่ ไปน้ี
1) เพ่ือสนับสนุนการดาเนินงานของบริษัท ด้วยการจัดหาวัตถุดิบและบริการสนองให้โดย
ไมข่ าดสาย เพื่อมใิ หก้ ระบวนการผลติ หยดุ ชะงกั เนอ่ื งจากการขาดวตั ถุดิบ
2) ทาการซ้ือโดยได้ราคาไม่เกินกว่าคู่แข่งขันและทาการแสวงหาสิ่งที่มีคุณค่าท่ีดีกว่า
ใน ราคาที่จา่ ยไป
3) รักษาคุณภาพของวตั ถุดบิ ทท่ี าการซ้ือใหอ้ ย่ใู นมาตรฐานเพียงพอสาหรบั ใช้งาน
บทที่ 1 ความรเู้ บือ้ งตน้ เกยี่ วกบั การจัดการการจดั หาและการจดั ซื้อ 5
4) รักษาระดับความเสียหายอันเกิดแก่การลงทุนในวัตถุดิบให้น้อยที่สุด โดยขจัดการซ้ือซ้า
กัน ความสญู เสยี และล้าสมัยอนั เนอ่ื งมาจากการเกบ็ รกั ษาที่ขาดประสิทธิภาพ
5) สรา้ งแหล่งขายสินค้าทีเ่ ชอื่ ถอื ได้ไวเ้ ปน็ แหล่งสารองในการจัดหาวัตถดุ บิ
6) รกั ษาสถานะการแขง่ ขนั ให้บรษิ ทั กับคู่แข่งขัน
7) พัฒนาให้เกิดความสัมพันธ์กับผู้ขายสินค้าเพ่ือขจัดปัญหาต่างๆ และยังทาให้การจัดซ้ือ
สง่ิ ของไดใ้ นราคาถูก และบรกิ ารทดี่ แี ละมีภาพพจนท์ ดี่ ี
8) แสวงหาความร่วมมือกับแผนกอื่น ๆ ในบริษัท ซ่ึงก็ต้องทาความเข้าใจถึงความต้องการ
ของแผนกอ่ืนเพ่อื ทีจ่ ะให้การสนับสนุนทางดา้ นวัตถุดบิ ไดด้ กี วา่
9) ฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรฝ่ายจัดซื้อ เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการทางานให้แผนกและ
บรษิ ทั
10) จัดทานโยบายและวิธกี ารเพื่อใหบ้ รรลุถงึ วัตถุประสงค์ต่างๆ
โดยให้มีต้นทุน (Cost) ในการดาเนินการตามความเหมาะสม จากท่ีได้กล่าวมาข้างต้น สรุป
ไดว้ า่ วัตถปุ ระสงค์ของการจัดหาจัดซื้อ เพือ่ ให้มีวัตถดุ บิ และวสั ดุอ่ืน ๆ ในการผลติ อย่างเพยี งพอ เพ่ือ
รักษาคุณสมบัติของวัตถุดิบที่จัดซื้อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน หลีกเล่ียงการเสียหาย และความล้าสมัย
วัตถุดิบ และให้กิจการมีกาไร มีต้นทุนในการจัดซื้อต่อวัตถุดิบที่ใช้เพียงพอ โดยหลีกเล่ียงปัญหา
วัตถุดิบซ้ากัน ตรงตามงบประมาณที่ต้ังไว้ การจัดซ้ือเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์
เคร่ืองจักรและสิ่งต่างๆ ที่ต้องใช้ในการดาเนินธุรกิจ ซ่ึงการดาเนินกิจกรรมจะแคบกว่าการจัดหา
(Procurement) ท่ีได้รวมกิจกรรมทั้งหมดของการจัดหาจัดซื้อแลว้ ยังครอบคลุมถึง การยืม การเช่า
การผลิตข้ึนใช้เอง การแลกเปลี่ยน ฯลฯ สาหรับการจัดการการจัดหาและการจัดซื้อน้ัน จะเน้นใน
เร่ืองการจัดซ้ือวัตถุดิบ อุปกรณ์ และ เคร่ืองจักร ที่ใช้ในการดาเนินการผลิตหรืออาจเรียกว่าเป็น
การจดั หาจดั ซอ้ื เพ่ือใชห้ รอื เปลี่ยนสภาพ (Purchasing for Conversion) (สุมนา อยูโ่ พธ์ิ, 2554 หน้า
559-573) การจัดซื้อเป็นกิจกรรมท่ีส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการผลิต ที่ทาให้
ตน้ ทุนทางการผลิตสูงขน้ึ หรอื ต่าลงได้
1.3 หลกั การจดั การการจัดหาและการจดั ซ้อื
การจัดหาจดั ซ้อื วัตถุดิบเพ่ือนามาใช้ในการผลิตและการดาเนินงานของธุรกิจ เปน็ งานสาคัญ
ที่ ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การจัดหาจัดซื้อมีหลายขั้นตอนระบบปฏิบัติในการจัดซ้ือที่แตกต่างกัน
ออกไป เนื่องจากต้องมีหลักการการจัดซ้ือจัดหาท่ีดีท่ีสุด ต้องอาศัยระบบการสั่งซ้ือที่มีประสิทธิภาพ
จะช่วยดาเนนิ งานไปด้วยความคล่องตัว และถูกต้องเหมาะสม ควรคานึงถงึ ประเด็นสาคัญ การจัดหา
6 การจดั การการจดั หาและการจัดซ้อื
จัดซ้ือท่ีดีท่ีสุด (Best Buy) มีหลักการ อยู่ 6 ประการ หรือท่ีเรียกว่า หลัก 6 Rs ประกอบด้วย
(สุมนา อยู่โพธิ์, 2554 หน้า 559-573) ดังน้ี
1.3.1 การจัดหาจัดซ้ือให้ได้คุณภาพท่ีถูกต้อง (The Right Quality) การซื้อให้ได้คุณภาพหรือ
ข้อกาหนดคุณสมบัติ (Specifications) ตามความต้องการของหน่วยงานต่าง ๆ ในองค์กร รวมถึง
การช่วยกาหนดคุณสมบัติของวัตถุดิบหรือสินค้าท่ีต้องการด้ วย เพ่ือให้สามารถจัดหาและ
เปรียบเทียบคุณสมบัติได้อย่างถูกต้อง และควรหลีกเล่ียงระบุตรายี่ห้อลงไป เพราะอาจเกิดข้อครหา
ได้ว่าการจัดซ้ือน้ันมีการทุจริตหรือมีการล็อคสเปกสินค้า แต่อาจสรุปได้ว่า คุณภาพท่ีถูกต้อง
เปน็ คุณภาพท่ีเหมาะสมท่ีสุดสาหรับงานทตี่ ้ังใจจะนาไปใช้สาหรบั วิธีการบอกระดับคณุ ภาพที่ต้องการ
สรุปได้ 5 วิธี ดงั นี้
(1) บอกตามตราย่ีห้อ (By Brand or Trade Name) วิธีน้ีเหมาะสาหรับสินค้าท่ีไม่
อาจบอกคุณลักษณะเฉพาะได้ ที่อาจเกิดจากการมีลิขสิทธ์ิหรือความลับทางการค้าของผู้ขายหรือ
อาจจะมคี า่ ใช้จา่ ยในการตรวจสอบมากเกินไปก็ได้
(2) กาหนดคุณลักษณะเฉพาะ (By Specification) เป็นการกาหนดคุณลักษณะ
เฉพาะทต่ี ้องการ เชน่ วตั ถดุ ิบทใี่ ช้ผลติ กรรมวิธกี ารผลติ หรอื ผลการใชง้ าน เปน็ ต้น
(3) กาหนดตามเกรดทางตลาด (Market Grade) สาหรับเกรดทางการตลาดนั้น
อาจจัดทาขึ้นโดยบุคคลหรือสถาบันที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขาย ซ่ึงวิธีน้ี
เหมาะกบั การจัดซ้อื สินค้าคงคลังประเภทเกษตรกรรม
(4) กาหนดตามตัวอย่าง (Sample) วิธีนี้เหมาะสาหรับการจัดซื้อสินค้าที่ไม่ได้ซ้ือ
เป็นประจา จานวนทีซ่ ือ้ และความสาคญั ของการซ้อื ไม่คุม้ กับคา่ ใช้จ่ายในการกาหนดด้วยวิธอี ่นื
(5) วิธีผสม (Combination) เป็นวิธีในการจัดซ้ือที่ใช้หลายๆวิธีรวมกันเพ่ือให้
การจัดหาจดั ซอ้ื มปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุด
1.3.2 การจัดซื้อให้ได้จานวนท่ีถูกต้อง (The Right Quantity) เป็นการพิจารณาถึง ปริมาณ
การซื้อที่ทาให้เกิดความสมดุลระหว่างจานวนความต้องการที่จะใช้กับประโยชน์ที่ได้รับจากส่วนลด
กรณที ่ซี ื้อจานวนมาก เน่ืองจากปริมาณการสง่ั ซอื้ ส่งผลตอ่ ปัจจัยตา่ ง ๆ ดงั น้ี
(1) ผลต่อต้นทุนการผลติ ปรมิ าณการซื้อคราวละมาก ๆ ทาให้ไดร้ ับสว่ นลดทางการค้า
ซึ่งทาให้ตน้ ทนุ ตอ่ หนว่ ยลดลง
บทท่ี 1 ความรเู้ บอื้ งต้นเกี่ยวกบั การจดั การการจดั หาและการจัดซือ้ 7
(2) ปริมาณสินค้าคงคลัง จานวนซ้ือทีม่ ากเกินไปจะทาให้มีสนิ ค้าคงคลังมีจานวนมาก
ทาให้เกิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ท่ีเพิ่มสูงข้ึน เช่น ค่าเส่ือมราคาสินค้าคงคลัง ค่าเก็บรักษา ค่าของทุน
เป็นต้น กรณีท่จี านวนซ้ือน้อยเกนิ ไป ก็จะทาให้กระบวนการผลิตหยดุ ชะงกั ได้
(3) ค่าใช้จ่ายในการออกใบส่ังซื้อ เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดข้ึนจากการส่ังซ้ือซึ่งหากมี
การสัง่ ซื้อบ่อยครง้ั ก็ยิง่ ทาให้ค่าใช้จ่ายในการออกใบส่ังซ้ือสงู มากขนึ้
จากที่กล่าวมาข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า การซื้อสินค้าให้ได้ปริมาณตรงตามความต้องการ
เพ่ือลดปัญหาและค่าใช้จ่ายท่ีจะเกิดขึ้นจากการส่ังซ้ือที่ไม่เหมาะสม ทั้งน้ีควรจะต้องคานึงถึง
การวางแผนในการสั่งซ้ือ เช่น การพยากรณ์ความต้องการในอนาคต การส่ังซื้อจากต่างประเทศ
รวมถึงควรมีการประสานงานกับคลังสินค้าเพื่อตรวจสอบว่าสามารถรองรับปริมาณสินค้าท่ีจะสั่งซื้อ
ได้หรือไม่ ปริมาณการสั่งซ้ือที่เหมาะสมทาให้ต้นทุนการผลิตต่าลง และต้นทุนของสินค้าคงคลัง
โดยรวมต่าลงด้วย สาหรับปริมาณการส่ังซื้อที่เหมาะสมน้ัน สามารถใช้หลักการทางคณิตศาสตร์เข้า
มาช่วย ซ่ึงได้กล่าวถึงโดยละเอียดแล้วในเรื่องการคานวณหาปริมาณการสั่งซ้ือที่ประหยัด
(Economic Order Quantity หรือ EOQ)
1.3.3 การจัดซื้อจากผู้ขายท่ีถูกต้อง (The Right Source of Supply) การซ้ือสินค้าจากแหล่ง
ขายที่เช่ือถือได้ ควรมีการตรวจสอบประวัติผู้ขายเพื่อพิจารณาความน่าเช่ือถือในด้านต่าง ๆ เช่น
มีทุนจดทะเบียนประกอบการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ความมั่นคงในการดาเนินธุรกิจของผู้ขาย
เป็นอย่างไร รวมถงึ งบการเงินหรือกระแสเงินหมุนเวียนในการดาเนินธุรกจิ ของบรษิ ัทเพยี งพอหรือไม่
ปัจจุบันผู้ส่งมอบ (Suppliers) มีบทบาทสาคัญต่อการดาเนินการผลิตที่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงต้อง
พิจารณาผู้ส่งมอบท่ีมีคุณภาพ โดยพิจารณาทั้งในด้านของคุณภาพของสินค้าคงคลัง (Quality)
ปรมิ าณทถี่ ูกต้อง (Quantity) การส่งมอบทันตามกาหนดเวลา (Delivery) และบริการดา้ นอน่ื ๆ เช่น
การรบั ประกนั การเปลย่ี นคืนสนิ คา้ คงคลงั เปน็ ต้น
1.3.4 การจัดซื้อในราคาท่ีถูกต้อง (The Right Price) การซ้ือสินค้าในราคาท่ีเหมาะสม
ไม่เพียงแต่ปัจจัยด้านราคาซ้ือที่ถูกเท่าน้ัน รวมถึงคุณภาพและความคุ้มค่าของสินค้า/วัตถุดิบ ซ่ึงที่มี
ผลกระทบต่อต้นทุนการดาเนินงานขององค์กรด้วย คาว่าราคาที่ถูกต้องนั้น หมายถึง ราคาที่
เหมาะสมซ่ึงเกิดข้ึนจากคุณภาพของสินค้าคงคลัง แน่นอนว่าระดับคุณภาพของสินค้าคงคลัง จะเป็น
ตัวกาหนดราคา นอกจากนั้นยังเกิดขึ้นได้จากอุปสงค์กับอุปทานของสินค้าคงคลัง ซ่ึงหากสินค้า
คงคลังมีระดับของอปุ สงค์กับอุปทานไม่สมดุลกัน ก็จะส่งผลต่อระดับราคาได้ เชน่ หากอุปสงค์สูงแต่
อปุ ทานตา่ ก็จะทาให้ราคาของสินคา้ คงคลังสูง และหากอุปสงคต์ า่ แต่อปุ ทานสูงก็จะทาให้ราคาของต่า
8 การจัดการการจดั หาและการจัดซ้อื
สินค้าคงคลังได้ ระดับราคาของสินค้าคงคลังท่ีสูงหรือต่า ยังอาจเกิดได้จากระดับของการแข่งขัน
ซงึ่ การแข่งขันของผู้ขายสินค้าคงคลงั จะทาให้เกิดราคาจากผู้ขายหลายราย ราคาที่ตา่ งกันเปน็ เพราะ
ต้นทุนของผู้ขายแต่ละรายแตกต่างกันนั่นเอง สาหรับวิธีซื้อสินค้าคงคลัง โดยท่ัวไปแบ่งออกได้เป็น
3 วธิ ี ประกอบดว้ ย
(1) การซื้อย่อย (Small Purchase) ใช้สาหรับสินค้าคงคลังที่มีราคาต่า จานวนซื้อ
แต่ละครั้งไม่มากนัก และระดับราคาสินค้าคงคลงั ที่ซอ้ื เป็นที่ทราบกนั โดยทัว่ ไป
(2) การประกวดราคา (Bidding) วิธีการน้ีเพ่ือให้เกิดการแข่งขันโดย การประกวด
ราคา จะพิจารณาที่ดา้ นราคาและเง่อื นไขอ่ืน ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธรุ กิจ จึงต้องพิจารณา
เลือกผู้ขายทสี่ ามารถตอบสนองต่อความต้องการของเราได้มากท่ีสุด
(3) การเจรจาตกลงราคา (Negotiation) เป็นการเจรจาตกลงกัน สาหรับกรรมวิธีใน
การทางานเกี่ยวกับการซื้อขายเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่พอใจท้ังสองฝ่ายตามแนวคิดท่ีถูกต้อง สาหรับ
วิธีการนี้จะไม่ใช่การเอารัดเอาเปรียบระหว่างกัน แต่เป็นความพยายามในการเจรจา เพื่อกาหนด
ราคาท่ีถูกต้องโดยแท้จริง วิธีการนี้ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเจรจาตกลงราคาของผู้ซื้อและ
ผู้ขายที่อยู่ในระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (Just in Time) หรือระบบการผลิตแบบโตโยต้า
(Toyota Production System) ท่ีให้ความสาคัญกับผู้ส่งมอบสินค้าคงคลังสูงมาก เพราะถือว่าผู้ส่ง
มอบสนิ คา้ คงคลังเป็นสว่ นหน่ึงของระบบการผลิตท่ีดี ดังน้ันจึงพยายามทาให้ระดับราคาของสินค้าคง
คลงั นัน้ เป็นราคาท่ยี ตุ ิธรรมทั้งสองฝาุ ย
1.3.5 การจัดซื้อในจังหวะเวลาท่ีถูกต้อง (The Right Time) การกาหนดเวลาในการส่ง สินค้า/
วัตถุดิบให้ได้ในเวลาท่ีต้องการ ซึ่งข้ันตอนน้ีมีความสาคัญในกิจกรรมตา่ ง ๆ ขององค์กร หากมกี ารส่ง
สินค้า/วัตถุดิบช้ากว่ากาหนดที่ต้องการอาจส่งผลทาให้โครงการ กระบวนการผลิตหยุดชะงัก ดังนั้น
ฝ่ายจัดซ้ือจาเป็นจะต้องระบุเวลาในการจัดส่งทแี่ น่นอน (Lead Time) จังหวะเวลาที่ควรจัดซื้อสินค้า
คงคลังนั้น ผู้ซ้ือจะต้องคานึงถึงการได้รับสินค้าคงคลังที่ทันเวลา มีคุณภาพและปริมาณท่ีถูกต้อง
เปน็ หลกั จงั หวะเวลาทถ่ี กู ตอ้ งจะเก่ยี วพันกับลกั ษณะของตลาดโดยตรง ซ่ึงแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ คือ
(1) ตลาดท่ีอุปทานและราคาคงที่ (Stable Market) เป็นสินค้าคงคลังประเภทสินค้า
มาตรฐานและสินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องไฟฟ้า, มอเตอร์, เคมี ฯลฯ ซ่ึงอปุ ทานและราคาจะคงท่ี
ในระยะสัน้ แตใ่ นระยะยาวอปุ สงค์และอุปทานจะเปน็ ตวั กาหนดระดบั ราคาของสินคา้ เหลา่ นี้
(2) ตลาดที่อุปทานและราคาไม่แน่นอน (Unstable Market) ประเภทของสินค้า
ได้แก่ ยางพารา, น้ามันพืช, เหล็ก, ฝ้าย, ขนสัตว์ ฯลฯ ราคาของสินค้าเหล่าน้ีอาจจะเปลี่ยน
บทท่ี 1 ความร้เู บ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การจดั การการจดั หาและการจัดซื้อ 9
ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน และมักขึ้นอยู่กับภาวะการเมือง การเก็งกาไร สภาพดินฟ้าอากาศ ฯลฯ
การจัดหาจัดซ้ือในจังหวะท่ีเหมาะสมน้ันจะต้องสอดคล้องกับภาวะตลาด สาหรับการจัดซ้ือนั้น
สามารถแบง่ ลักษณะการจดั ซ้ือได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
(2.1) ซ้ือเม่ือสินค้าคงคลังหมด (Hand to Mouth Buying) เป็นการจัดซ้ือตามความ
ต้องการของฝ่ายใช้ และมักใช้ในกรณีราคาตลาดมีแนวโน้มท่ีจะลดลงหรือกาลังมีการเปลี่ยนแปลง
รูปแบบผลิตภณั ฑ์หรอื ไม่ตอ้ งการใหเ้ กดิ ตน้ ทนุ จมสูง
(2.2) ซื้อล่วงหน้า (Forward Buying) เป็นการซื้อท่ีมากกว่าความต้องการใช้ใน
ปัจจุบัน แต่ไม่เกินความต้องการใช้ที่คาดว่าจะมีจริง ๆ ในอนาคตอันใกล้ มักใชใ้ นกรณีท่ีตลาดมีราคา
ไม่แนน่ อนหรือกรณไี ม่ตอ้ งการให้มีสนิ ค้าคงคลงั ขาดมือ
(2.3) การซื้อเม่ือคาดว่าราคาจะสูงขึ้น (Speculative Buying) เป็นการซื้อเมื่อ
คาดการณ์ว่าราคาสินค้าคงคลัง มีแนวโน้มจะสูงข้ึน ซ่ึงนอกจากจะนามาใช้ในการผลิตแล้วยงั อาจซ้ือ
เพื่อการขายต่อได้
1.3.6 สถานท่ีท่ีถูกต้อง (The Right Place) การส่งสินค้าไดต้ รงตามสถานที่ท่ตี ้องการ ทั้งนี้ฝ่าย
จัดซื้อจะต้องระบุสถานท่ีในการจัดส่ง มีการแนบแผนท่ี ช่ือและเบอร์โทรศัพท์ผู้ติดต่อ อย่างชัดเจน
เพ่ือให้ได้รับสินค้า/วัตถุดิบท่ีถูกต้องตามคุณภาพ ปริมาณที่ครบถ้วน เวลาที่ตรงกับความต้องการ
ราคาท่ีเหมาะสม ในสถานท่ีท่ีถูกต้อง การจัดซ้ือท่ีดียังต้องพิจารณาถึงสถานที่ในการส่งมอบสินค้า
หรือคลังสินค้า ซ่ึงถือได้ว่าเป็นข้ันตอนสุดท้ายในการจัดซื้อสินค้าคงคลัง โดยจะเกี่ยวข้องกับการรับ
สินค้าคงคลังและการเก็บรักษา (Receiving and Storekeeping) การรับสินค้าคงคลัง เป็นงานท่ีมี
ลักษณะเป็นงานธุรการ ซึ่งมีความสาคัญในการควบคุมการรับสินค้าคงคลัง ทาให้ทราบถึงความมี
มาตรฐานของสินค้าและบริการของผู้ขาย สาหรับการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง จะต้องคานึงถึง
หลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น ความสามารถเข้าถึงได้ ความยืดหยุ่นในการจัดเก็บ การประหยัดเนื้อที่
การสูญหาย และการตรวจนบั ได้งา่ ย เป็นต้น
หลักการในการจัดซ้ือเพ่ือให้ดีท่ีสุด ทั้ง 6 ประการดังกล่าวข้างต้น เป็นหลักการขั้นพื้นฐาน
ที่ต้องพิจารณาในการจัดซื้อ ซ่ึงจะทาให้การจัดซ้ือนั้นก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร นอกจาก
หลักการจัดซ้ือที่ดีที่สุดแล้ว การจัดซื้อที่ดีควรพิจารณาถึงหลักจรรยาบรรณ ซ่ึง National
Association of Purchasing Management ได้สรุปหลักปฏิบัติด้านจรรยาบรรณของผู้จัดซ้ือ
(สุมนา อยู่โพธ์ิ, 2554, หนา้ 190-191) มรี ายละเอียดไวด้ งั น้ี
10 การจดั การการจัดหาและการจดั ซือ้
(1) พจิ ารณาถงึ ประโยชนแ์ ละนโยบายของบริษทั
(2) รบั ฟงั ความคิดเห็นของผทู้ เ่ี ก่ียวข้อง เช่น ฝา่ ยตลาด ฝ่ายผลิต ฯลฯ
(3) มงุ่ ที่ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าท่ีจะได้รับมากที่สุด
(4) หาความรู้เกยี่ วกับสินค้าคงคลงั กระบวนการผลติ และการสรา้ งวธิ กี ารปฏิบัติ
(5) ทาหน้าท่อี ยา่ งซอ่ื สตั ย์ สมา่ เสมอ
(6) มีความสุภาพ บรกิ ารท่รี วดเรว็ และอานวยความสะดวกต่อผู้มาติดต่อ
(7) มีความรบั ผดิ ชอบ
(8) มคี วามรอบคอบ หลกี เล่ียงการตดั สนิ ใจเร็ว การด่วนสรปุ
(9) ขอคาปรกึ ษาและชว่ ยเหลอื ทุกคนทปี่ ฏบิ ตั เิ ก่ยี วกบั การจัดซื้อเทา่ ทม่ี ีโอกาส
(10) ให้ความร่วมมอื กบั หน่วยงานทุกหน่วยและทุกคนในการพัฒนาและคงไว้ซึ่งฐานะ
ทด่ี ขี องฝ่ายการจัดซอื้
จากท่ีกล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า หลักการต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น 10 ข้อนั้น เป็นหลักการ
โดยท่ัว ๆ ไป ท่ีตั้งอยู่บนพื้นฐานของความซื่อตรง ความยุติธรรม ซึ่งจะสร้างความเช่ือมั่น และ
ความร่วมมือจากผขู้ ายและทา้ ยทสี่ ดุ จะก่อให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสุดตอ่ บริษทั นน่ั เอง
1.4 วธิ ปี ฏิบตั ิในการจัดหาจัดซื้อ
การจัดซื้อวัตถุดิบเพ่ือนามาใช้ในการผลิตและการดาเนินงานของธุรกิจเป็นภารกิจที่ต้อง
ปฏิบตั ิอย่างตอ่ เนื่องการปฏิบัติงานในช่วงหน่ึงๆ จะเกย่ี วพนั กับการจัดซื้อหลาย ๆ รายการแต่ละราย
มีความแตกต่างในด้าน คุณสมบัติ ราคา จานวน แหล่งขายการปฏิบัติการจัดซื้อมีหลายข้ันตอน
แต่ละข้ันตอนมีเอกสารที่เกี่ยวข้องจานวนมาก ด้วยเหตุนี้การจัดซ้ือจึงต้องใช้แรงงาน เวลาและ
ต้นทุนสูงการจัดระบบปฏิบัติในการสั่งซ้ืออย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การจัดซ้ือดาเนินไปด้วย
ความคล่องตัวและถูกต้องเหมาะสม ระบบปฏิบัติในการจัดซ้ือของแต่ละกิจการย่อมแตกต่างกันไป
แต่โดยทั่วไประบบปฏิบัติในการ จัดซ้ือท่ีสมบูรณ์จะประกอบด้วยขั้นตอนพื้นฐานมีรายละเอียด
(จลุ ศิริ ศรงี ามผอ่ ง, 2556, หน้า 6-7) ดงั น้ี
1) รับการวิเคราะห์ใบขอให้ซื้อ (Purchase Requisition) ซ่ึงจะวิเคราะห์ถึงประเภท
ของส่ิงของและจานวนท่ซี ้ือ
2) ศึกษาถึงสภาตลาดแหล่งท่จี ะจัดซื้อและผ้ขู าย
3) ส่งใบขอใหเ้ สนอราคา (Request for Quotations) ไปยังผขู้ ายหลาย ๆ แหลง่
4) การรบั และวิเคราะหใ์ บขอให้เสนอราคาจากผขู้ าย
บทท่ี 1 ความรเู้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับการจดั การการจดั หาและการจัดซ้ือ 11
5) การเลอื กผขู้ ายทีเ่ สนอราคาและเง่อื นไขตา่ งๆ ทด่ี ที สี่ ดุ
6) การคานวณราคาของส่ิงของท่ีจะสงั่ ซ้ือใหถ้ ูกต้อง
7) การสง่ ใบสง่ั ซ้ือ (Purchase Order: PO) ไปยังผู้ขายทีต่ ้องการจะซื้อ
8) การติดตามผลให้เป็นไปตามท่ไี ด้ติดต่อหรือตามสญั ญา
9) การวิเคราะหร์ ายงานการรบั รองของสนิ ค้า
10) การวิเคราะห์และตรวจสอบใบกากับสินค้า (Invoice) ของผู้ขายกับสินค้าที่ได้รับ
การสง่ มอบให้แน่ใจ เพื่อจะได้การจ่ายเงินอย่างถูกต้อง
1.5 หน่วยงานจัดซ้ือขององค์กร
หน่วยงานจดั ซ้ือเป็นองคก์ รหน่วยงานหน่งึ ท่มี คี วามสาคญั และมคี วามจาเปน็ อยา่ งยง่ิ สง่ เสริม
ให้ระบบการทางานมีประสิทธิภาพยง่ิ ขึ้น ซึง่ การจัดหนว่ ยงานจัดซื้อจะต้อง มีการกาหนด คาบรรยาย
ลักษณะงานไว้อย่างชัดเจน มีการมอบหมายหน้าที่ อานาจในการดาเนินการ และมี รูปแบบการจัด
ตามความเห็นของผู้บริหาร มรี ายละเอียด (กิตติ กอบัวแก้ว,2557 หน้า 165) ดังนี้
(1) รปู แบบของการจัดหนว่ ยงาน
(1.1) ฝ่ายจัดซ้ือขึน้ ตรงต่อผ้บู ริหารสงู สดุ เทียบเทา่ กับฝ่ายอื่น ๆ
(1.2) ฝ่ายจดั ซ้อื จดั เปน็ หนว่ ยงานหนึ่งของฝ่ายการเงนิ
(1.3) ฝ่ายจดั ซ้อื ขึ้นตรงตอ่ ผูร้ บั ผิดชอบด้านการผลิต
(2) ตาแหนง่ งานของบุคคลในแผนกจดั ซ้ือ
(2.1) ผูอ้ านวยการฝ่ายจัดซอื้
(2.2) ผู้ช่วยผ้จู ัดการฝ่ายจดั ซอื้
(2.3) ผู้ซอื้ อาวุโส
(2.4) ผู้ซอื้ ชน้ั รอง
(2.5) ผเู้ รง่ รดั งาน
(2.6) ผู้ประสานงานการผลติ
(2.7) เสมียนราคา
(2.8) ผคู้ วบคมุ วัตถุดิบ
(2.9) เสมยี นทวั่ ไป
(3) ความสัมพันธ์ระหว่างแผนกจัดซื้อกับแผนกอ่ืน ๆ การปฏิบัติงานของแผนกจัดซ้ือจะ
สัมพันธ์กบั แผนกอนื่ ๆ ดังนี้
12 การจัดการการจดั หาและการจัดซอื้
(3.1) แผนกผลิต (Production Department) แผนกผลิตจะแจ้งข้อมูลข่าวสาร
เก่ียวกับตารางการผลติ ให้แผนกจดั ซือ้ ทราบ
(3.2) ฝา่ ยวศิ วกรรม (Engineering Department) มีหน้าทใี่ นการออกแบบและกาหนด
คุณลกั ษณะเฉพาะของผลติ ภัณฑท์ ี่กจิ การผลิต
(3.3) ฝ่ายขาย (Sales Department) มหี นา้ ที่ขายสินค้าของกจิ การ
(3.4) ฝ่ายบัญชี (Accounting Department ) มีหน้าท่ีในการบันทึกรายการ
ในการจดั ซ้ือ
(3.5) ฝ่ายควบคุมวัตถุดิบคงคลัง (Inventory Control Department) มีหน้าท่ีเขียน
ใบขอซอื้ ใหฝ้ ่ายจดั ซอ้ื นาไปดาเนนิ การ
(4) การสรรหาและคัดเลือกบุคลากรดา้ นการจดั ซื้อ แบ่งได้ 2 ประเภท
(4.1) การคัดเลือกบคุ ลากรภายในกิจการ
(4.2) การคดั เลือกบคุ ลากรภายนอกกจิ การ
(5) การกาหนดคณุ สมบตั ขิ องบุคลากรฝ่ายจัดซือ้ มีปัจจยั ทคี่ วรนามาพจิ ารณา ดังน้ี
(5.1) ซื่อสัตย์และโปร่งใส เป็นส่ิงที่สาคัญอันดับแรก ฝ่ายจัดซื้อที่ดี ต้องมีจิตสานึกของ
ความซื่อสัตยแ์ ละทางานทุกอยา่ งด้วยความโปรง่ ใส สามารถตรวจสอบได้
(5.2) รู้จักการวางแผน เตรียมตัวป้องกัน ส่ิงผิดพลาดท่ีอาจจะเกิดข้ึนได้ คานึงถึงเรื่อง
การประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาเป็นสิ่งสาคัญ การวางแผนในการจัดซื้อช่วยให้
สามารถซื้อของในปรมิ าณที่พอเหมาะและได้ราคาทเ่ี หมาะสม
(5.3) บริหารเวลาเป็นงานจัดซ้ือทุกอย่างมีกาหนดระยะเวลามาเป็นเงื่อนไข
กาหนดกรอบการทางาน เพ่อื ตอบสนองความต้องการของลกู ค้าอันเป็นวัตถุประสงค์ขององค์กร
(5.4) หม่นั ศกึ ษาหาความรู้ใหม่ ๆ และขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ เสมอ
(5.5) มนุษย์สัมพันธ์ดีเย่ียม หลายๆคร้ัง การแก้ป๎ญหาต่างๆ ด้วยวิธีการทางเทคนิค
หรือวิชาการ กลับไม่ได้ผลดีเท่ากับความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน งานของฝ่ายจัดซ้ือก็จาเป็นต้องรักษา
ความสมั พันธท์ ีด่ ีต่อทกุ ๆ ฝ่ายที่ได้ร่วมงานกัน
(5.6) เรียนรู้เทคนิคในการเจรจาต่อรอง การเจรจาต่อรองราคาสาคัญมากสาหรับฝ่าย
จัดซื้อ หลักการของการต่อรองก็คือ การคานึงถึงผลประโยชน์ท่ีทุกฝ่ายจะได้รับอย่างเป็นธรรม หรือ
การเจรจาแบบได้ทั้งคู่ (Win-Win Negotiation) ส่ิงท่ีได้จากการทางานด้านจัดซื้อก็คือ เราสามารถ
เอากลยุทธ์การต่อรองราคาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้
บทที่ 1 ความร้เู บอ้ื งต้นเก่ียวกบั การจดั การการจดั หาและการจัดซื้อ 13
(5.7) มีความอดทนสูงต่อแรงกดดันจากรอบข้าง งานจัดซ้ือนอกจากต้องแข่งกับเวลา
และยังต้องติดต้องประสานงานกับหน่วยงานอ่ืน ๆ อีกมาก ท้ังจากภายใน ภายนอก รวมทั้ง
ผู้มีอานาจบริหาร ความอดึ และอดทนต่อแรงกดดนั เสยี งวจิ ารณ์รอบข้าง สาคัญตอ่ จิตใจและร่างกาย
(5.8) ความรอบคอบ เพราะว่างานจัดซื้อเกี่ยวข้องกับการใช้เงินงบประมาณขององค์กร
ดังนั้น ก่อนจะเสร็จงานแต่ละเร่ืองต้องอ่านให้ละเอียด ตรวจสอบให้รอบคอบ ความผิดพลาด
บางอย่าง อาจถูกมองไปในทางความไม่สุจริต ความไม่โปร่งใสก็ได้ การจัดซื้อถือเป็นแนวทางและ
เกณฑ์ในการปฏบิ ตั ิเพ่ือใหก้ ิจกรรม ต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วกับการจัดซอ้ื จัดจ้าง โดยจะตอ้ งมคี วามซ่ือสัตย์และ
มีความยุติธรรมอย่างมาก เพราะงานด้านจัดซ้ือถูกมองว่ามีความสาคัญและมีผลกระทบต่อฐานะ
การเงิน และผลการดาเนินของบริษัท ฝ่ายจัดซ้ือต้องปฏิบัติตามแนวทางหรือนโยบายท่ีองค์กร
กาหนดไว้อย่างตั้งใจ รอบคอบและมีความระมัดระวัง เพ่ือเป็นการสร้างความเชื่อถือและศรัทธาจาก
หน่วยงานต่าง ๆ ที่มาติดต่อกับฝ่ายจัดซื้อ และการจัดความสาคัญของงานคือการวางแผนการจัดซื้อ
การเจรจาต่อรองก็เป็นเทคนิคที่ สาคัญเหมือนกันสาหรับฝ่ายจัดซ้ือ เพราะต้องคานงึ ถึงผลประโยชน์
ขององคก์ รเป็นหลัก หลีกเล่ยี งการกระทาทีท่ าใหอ้ งค์กรต้องเสียผลประโยชน์
ก) จุดมุ่งหมายและความสามารถของระบบสัง่ ซ้อื
- การจัดเก็บขอ้ มูลการจัดซื้อและรับสินค้าเพือ่ ใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์
การจัดซื้อ การส่งต่อข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลกับระบบที่เก่ียวข้องเช่น ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง
ระบบบญั ชี เจา้ หน้ี ระบบทาใบสาคญั สั่งจ่าย
- การพมิ พใ์ บสงั่ ซื้อสนิ ค้า
- พิมพใ์ บรับสินค้า
- พิมพ์รายงานรายวันเก่ียวกับการจัดซื้อ การรับและส่งคืนสินค้า เพื่อให้
ทราบความเคล่ือนไหว และเตรียมการรับสินคา้ ล่วงหนา้
- พิมพ์รายงานสิ้นงวดเก่ียวกับการจัดซ้ือ การรับและส่งคืนสินค้า เพ่ือให้
ทราบผลการดาเนนิ การในงวดหนึง่ ๆ
ระบบการจัดซ้อื เปน็ ระบบซึ่งต้องอาศัยข้อมูลสินค้าคงเหลือเกี่ยวกับจานวนท่สี ่งั ซอื้ แต่ละคร้ัง
รา้ นค้าที่ทาการจัดซื้อ เงื่อนไขการส่งของ การชาระเงินราคาสินค้า โดยหลักการในกิจการแต่ละแห่ง
จะแบ่งหน้าท่ี การจัดซื้อ การรับ และการจ่ายเงินค่าซ้ือออกจากกัน เพ่ือประโยชน์ในการควบคุม
ภายในและมีการกาหนดวิธีการให้รัดกุมและใช้แบบฟอร์มต่างๆ เช่น แบบฟอร์มใบเสนอซ้ือ
( Purchase Requisition: PR) ใ บ สั่ ง ซ้ื อ ( Purchase Order) ใ บ รั บ ข อ ง ( Receiving Slip)
14 การจัดการการจดั หาและการจดั ซอื้
การนาคอมพิวเตอร์มาใช้จะช่วยในการจัดเก็บข้อมูล การเรียกใช้ การพิมพ์ใบสั่งซ้ือ พิมพ์ใบรับของ
ตลอดจนการวิเคราะห์ผลการดาเนินงานของระบบและออกรายงานเพื่อสนองตอบผู้ปฏิบัติติงาน
และผบู้ รหิ ารไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ถูกตอ้ ง รวดเร็วและเป็นระบบทีส่ ามารถตรวจสอบไดท้ นั ที
1.6 ระบบจดั ซื้อแบบเดมิ
รายงานจากระบบการจัดซ้ือประกอบด้วยรายงานรายวัน และรายงานสิ้นงวด ใบสั่งซื้อ
ใบรับสินคา้ ต่างๆ มรี ายละเอียด (ทวีศักด์ิ เทพพทิ กั ษ,์ 2554 หนา้ 178-179 ) ดงั ตอ่ ไปนี้
1.6.1 รายงานรายละเอียดผู้ขาย เป็นรายงานแสดงรายละเอียดผู้ขายแต่ละรายทางจอภาพ
หรือทางเครื่องพิมพ์ ต้ังแต่รหัสท่ีกาหนดเริ่มต้นถึงรหัสสุดท้าย รายงานนี้จะใช้ประโยชน์สาหรับ
ออกรายงานรายละเอียด ผู้ขายที่มีการปรับปรุงแก้ไขประจาวัน พิมพ์รายละเอียดผู้ขายประจาเดือน
เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล รายละเอียดของรายงาน ประกอบด้วย ช่ือบริษัท
ชื่อระบบงานจัดซื้อสินค้า ชื่อรายงาน รายละเอียดผู้ขาย วันเดือนปี ที่รายงาน รหัสผู้ขาย ชื่อผู้ขาย
ท่ีอยู่ จังหวดั รหัสไปรษณยี ์ โทรศัพทจ์ านวนเงินให้เครดิต จานวนวันใหเ้ ครดิต ยอดต้ังแตต่ ้นปีถึงงวด
กอ่ น ยอดค้างชาระงวดก่อน ยอดคา้ งชาระงวดนยี้ อดชาระงวดนี้
1.6.2 รายงานการจัดซื้อและรับสนิ ค้ารายวัน รายงานการจัดซื้อและรับสินค้ารายวันได้ จากการ
นาข้อมูลในแฟ้มรายการรายวัน
1.6.3 รายงานยอดการรบั สนิ คา้ และยอดคงเหลอื ของใบสัง่ ซื้อแต่ละใบ
1.6.4 รายงานสถติ ิการขอซอ้ื ของแผนกตา่ งๆ แยกตามประเภทของสนิ คา้ ท่ีจัดซื้อประจาเดอื น
1.6.5 รายงานผลการขอซ้อื ให้กับแผนกต่างๆ ว่าได้สินค้าครบถว้ น
1.6.6 รายงานยอดคงเหลอื ทย่ี งั ไม่ได้สั่งซอ้ื และที่ได้สัง่ ซอ้ื แล้วของรายการขอซอ้ื ต่างๆ
จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า เป็นระบบการการจัดซื้อท่ีทาหน้าที่เปล่ียนใบขอส่ังซ้ือ
(Purchase Requisition) หรือเรียกกันย่อ ๆ ว่าใบ PR) เป็นเอกสารที่ใช้กันภายในองค์กร ให้เป็น
ใบสั่งซื้อ (Purchase Order หรือเรียกว่า ใบ PO) สาหรับใช้ติดต่อส่ังซื้อภายนอกองค์กร ซ่ึงแต่ละ
ครั้งในการ จดั ซ้ือ ฝ่ายจัดซ้อื ต้องทาการรวบรวมปริมาณของสินค้าก่อน ต่อมาก็หาผู้ขายที่ขายสินค้า
น้ัน ๆ โดยทาการเจรจา หรือเปรียบเทียบราคาของผู้ขายหลายๆราย หลังจากนั้นเมื่อได้ราคา
ที่เหมาะสมแล้วก็นาเสนอผู้อนุมัติในการออกใบส่ังซื้อไปยังผู้ขาย ซ่ึงฝ่ายจัดซ้ือก็ใช้เวลาไปกับงาน
เอกสาร งานติดตามไมไ่ ด้มีเวลาด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning) และ มุ่งเน้นด้าน
การต่อรองสินค้า (Negotiations) หรือแม้กระทั่งหาผู้ค้ารายใหม่ ๆ (New Strategic Partners)
บทที่ 1 ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการจดั การการจดั หาและการจดั ซือ้ 15
ซ่ึงถือว่างานท่ีสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรถูกมองข้ามและให้ความสาคัญน้อยลงไป เทคโนโลยีสมัยใหม่
ทีม่ าสร้างประโยชน์ให้กับการจดั ซ้ือในองคก์ ร คอื อโี พรเคยี วเมนท์ (E-Procurement)
1.7 การจัดหาและจัดซอ้ื กับการจัดการอตุ สาหกรรม
เป็นการบริหารจัดการสินคา้ และบริการโดยใช้วตั ถุดบิ อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครือ่ งจกั ร แรงงานใน
การผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยสินค้าท่ีได้จากกระบวนการผลิตต้องมีส่ิงที่ทาให้
เกิดประโยชน์ มีรูปรา่ งลักษณะของสนิ ค้าที่สวยงาม มีการผลิตในปรมิ าณที่เพียงพอกับความต้องการ
ของลกู ค้า ได้สินค้าทที่ นั เวลาตามที่ลูกคา้ ส่ังซือ้ โดยจาแนกของประเภทของอตุ สาหกรรม ดังน้ี
ตารางที่ 1.1: ตัวอย่างของประเภทของอุตสาหกรรม
ท่ีมา : (ดดั แปลงจาก William, J. Stevenson, Operations Management, 2002: 7.)
การผลิตสินค้า • การทาฟาร์ม, การทาเหมือง, การก่อสร้าง, การผลติ ในโรงงาน,
การส่อื สาร • หนงั สือพมิ พ,์ โทรศพั ท,์ ดาวเทยี ม, อนิ เทอร์เนต็
ความบันเทิง • หนงั , วิทยุและโทรทศั น์, คอนเสริ ต์
การแลกเปลีย่ น • การขายปลีก, การขายส่ง, ธนาคาร, การเชา่ , การกู้ยมื
แหลง่ เกบ็ ข้อมูล • คลงั สนิ ค้า,การบริการจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์
การขนสง่ • รถบรรทกุ , รถแท็กซ่ี, รถบัส, โรงแรม, เครอื่ งบนิ
การจัดการอุตสาหกรรม (Industrial Management) จึงเป็นการบริหารกระบวนการ
แปรงสภาพปัจจัยนาเข้าให้กลายเป็นผลผลิตท่ีมีมูลค่ามากกว่าผลรวมของปัจจัยนาเข้าโดยใช้ระบบ
การบริหารการผลิต ในกระบวนการผลิตมีองค์ประกอบท่ีสาคัญ 3 ประการ อันได้แก่ ปัจจัยนาเข้า
(Input), กระบวนการแปลงสภาพ (Conversion Process) และผลผลติ (Output) โดยมีรายละเอยี ด
ดงั ตอ่ ไปนี้
(1) ปัจจัยนาเข้า (Input) คือทรัพยากรขององค์การที่ใช้ผลิตทั้งท่ีเป็นสินทรัพย์ท่ีมีตัวตน
(Tangible Assets) เชน่ วัตถดุ ิน เครอื่ งจักร อปุ กรณ์ และสินทรัพย์ทไ่ี ม่มีตวั ตน (Intangible Assets)
เช่น แรงงาน ระบบการจัดการ ข่าวสาร ทรัพยากรท่ีใช้จะต้องมีคุณสมบัติและประโยชน์ใช้สอยท่ี
เหมาะสม และมีต้นทุนการผลิตท่ีต่า เพ่ือให้สินค้าสาเร็จรูปสามารถแข่งขันทางด้านราคาได้ใน
ทอ้ งตลาด
16 การจัดการการจัดหาและการจัดซ้ือ
(2) กระบวนการแปลงสภาพ (Conversion Process) เป็นข้ึนตอนที่ทาให้ปัจจัยนาเข้า
ทีผ่ า่ นเข้ามามีการเปล่ียนแปลงในดา้ นตา่ งๆ ได้แก่
- รปู ลกั ษณ์ (Physical) โดยการผา่ นกระบวนการผลติ ในโรงงาน
- สถานที่ (Location) โดยการขนสง่ การเกบ็ เข้าคลงั สนิ ค้า
- การแลกเปลี่ยน (Exchange) โดยการคา้ ปลกี การค้าส่ง
- การให้ขอ้ มูล (Informational) โดยการติดตอ่ สื่อสาร
- จิตวทิ ยา (Psychological) โดยการนนั ทนาการ ฯลฯ
(3) ผลผลิต (Output) เป็นผลได้จากระบบการผลิตท่ีมีมูลค่าสูงกว่าปัจจัยนาเข้าที่รวมกัน
อันเนื่องมาจากที่ได้ผ่านกระบวนการแปลงสภาพ ผลผลิตแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ สินค้า
(Goods) และบรกิ าร (Service)
1.7.1 วัตถปุ ระสงคใ์ นการจัดการอตุ สาหกรรม
การจัดการอุตสาหกรรม เป็นหน่ึงในหน้าที่หลักของการบริหารธุรกิจและองค์การอันมี
พันธกิจ (Mission) คือผลกาไรที่ทาให้องค์การอยู่รอดและเจริญเติบโตได้ในระยะยาว เมื่อมีการแยก
พันธะกิจออกเปน็ วตั ถปุ ระสงคข์ องแต่ละหน้าทหี่ ลักจะพบว่า
ฝา่ ยการตลาด : วัตถุประสงค์หลกั คือ การขยายตัวของส่วนแบ่งตลาด (Market Share)
และความพึงพอใจของลกู คา้ (Customer Satisfaction)
ฝ่ายการเงิน : วัตถุประสงค์หลักคือ ความสามารถในการทากาไร (Profitability) และ
การรักษาสภาพคลอ่ งของธุรกิจ (Liquidity)
ฝ่ายการผลิต : วัตถุประสงค์หลัก คือ คุณภาพ (Quality) และผลิตผล (Productivity)
แตค่ ุณภาพและผลติ ผล คอื หวั ใจของการผลติ แตว่ ตั ถุประสงคท์ ง้ั หมดของการผลิตจะมีดังตอ่ ไปนี้
(1) การสรา้ งคุณลกั ษณะของผลิตภณั ฑอ์ ยู่ในระดับคุณภาพท่ีกาหนดได้
(2) การมรี ะดบั ตน้ ทนุ ทตี่ ่า ซึ่งแสดงถึงการใช้ทรัพยากรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
(3) การมีความสามารถท่ีจะส่งผลติ ภัณฑ์ไดท้ นั เวลาที่กาหนดแก่ลูกค้า
(4) การมีความยืดหยุ่นท่ีจะปรับปริมาณการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของ
ลกู คา้ และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑใ์ หม่ เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ ท่เี ปลีย่ นแปลงไป
คุณภาพ (Quality) เป็นวัตถุประสงค์หลักของการผลิตที่สาคัญที่สุด เพราะการที่ลูกค้าซ้ือ
ผลิตภัณฑ์ย่อมต้องการสิ่งท่ีตรงกับความคาดหมายของเขา หรือถ้าได้ในสิ่งที่เหนือกว่า
บทที่ 1 ความรู้เบ้อื งต้นเกยี่ วกับการจดั การการจดั หาและการจดั ซอื้ 17
ความคาดหมายก็ยง่ิ พอใจมากข้ึน คุณภาพครอบคลุมความหมายถึงประโยชน์ใช้สอย รูปรา่ งลกั ษณะ
ท่ดี ึงดูดใจ คุณคา่ ทางจิตใจท่ีไดร้ บั จากผลิตภัณฑ์ ฯลฯ
ผลิตผล (Productivity) เป็นวตั ถุประสงค์สาคญั ทส่ี ุดอีกประการหน่ึงของการบริหารการผลิต
เพราะผลิตผล คือการเปรียบเทียบระหว่างปริมาณของปัจจัยนาเข้าและปริมาณของผลผลิต
จากระบบการผลิต
การเพิ่มผลิตผลทาไดห้ ลายวิธคี ือ
วิธที ่ี 1 ผลผลิตเพม่ิ ขนึ้ ในขณะท่ีปจั จัยนาเข้าเทา่ เดมิ หรอื เพิม่ ขน้ึ เล็กนอ้ ย
วิธที ี่ 2 ผลผลิตเทา่ เดิมแต่ใชป้ จั จยั นาเขา้ ลดลง
วธิ ีที่ 3 ผลผลติ เพิ่มขน้ึ เร็วกวา่ การเพม่ิ ข้นึ ของปจั จยั นาเข้า
วธิ ีที่ 4 ผลผลติ ลดลงแต่ช้ากว่าการลดลงของปจั จัยนาเข้า
วธิ ีท่ี 5 ผลผลิตเพม่ิ ขน้ึ ในขณะท่ีใชป้ ัจจัยนาเข้าลดลง
สาเหตกุ ารเพ่มิ ขึน้ ของผลผลิต คือการเปล่ียนแปลงของผลผลิต การเพิ่มขน้ึ ของผลผลติ มีผลจาก
การใช้เทคโนโลยีในการผลิต แต่ในขณะเดียวกันต้องระมัดระวังไม่ให้คุณภาพของผลผลิตลดลง
เพราะการลดต้นทุนอาจจะมีผลกระทบต่อคุณภาพของสินค้าและบริการได้ การเปลี่ยนแปลงของ
ปจั จัยนาเขา้ อาจมผี ลตอ่ ผลผลติ โดยตรงได้ 3 ประเภท คือ
(1) แรงงาน การท่ผี ลผลติ จะเพ่มิ ขนึ้ ไดต้ ้องอาศัยแรงงานที่มีฝีมือและความรู้
(2) เงินทนุ เป็นการจดั สรรเครื่องจกั รเขา้ มาใชแ้ ทนแรงงานคน ดงั น้ันจึงควรมกี ารพจิ ารณา
ใหเ้ หมาะสม
(3) การบรหิ ารจัดการ เปน็ ตัวประสานการใชแ้ รงงานและเงนิ ทุน ให้อยใู่ นสัดส่วนท่ที าให้
เกิดประสทิ ธภิ าพและมผี ลผลติ เพิ่มขน้ึ
1.7.2 งานท่ีเกยี่ วขอ้ งและสมั พันธ์ในการจดั การอุตสาหกรรม
การบริหารจัดการด้านคุณภาพ ผลผลิต เวลา ปริมาณ และความยืดหยุ่นด้านปริมาณและ
ผลิตภณั ฑ์ ผู้บริหารอุตสาหกรรมต้องดาเนนิ การกจิ กรรมตามหน้าที่ต่างๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี
(1) การวางแผนกาหนดกลยุทธก์ ารผลิต จะเป็นการกาหนดแผนงานกลยุทธ์ของแต่ละ
ฝ่าย เพอ่ื ใช้เป็นแนวทางสร้างวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านของกจิ กรรมต่างๆ ในแตล่ ะฝ่าย
(2) การบริหารและควบคุมคุณภาพ เป็นการจัดการให้ทุกส่วนของระบบการผลิต
มีมาตรฐาน โดยพยายามลดความผิดพลาดต่างๆ ที่อาจจะเกิดข้ึนกับปัจจัยนาเข้า
(input) กระบวนการผลิต (transformation) และผลผลิต (output)
18 การจัดการการจัดหาและการจัดซ้ือ
(3) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิต ให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของตลาด
โดยอาจนาเอาเทคโนโลยแี ละวธิ กี ารทีท่ ันสมยั มาประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินการผลิต
(4) การพยากรณ์การผลิต เป็นการคาดหมายความต้องการ(Demand) ในอนาคต
เพ่ือวางแผนเชงิ ปริมาณ อาทิเช่น การวางแผนกาลังการผลิต การวางแผนกาลังคน
เป็นต้น
(5) การวางแผนกาลังการผลิต เป็นการกาหนดระดับของการลงทุนในเคร่ืองจักร
อุปกรณ์ และการจัดการกาลงั คน เพอื่ ใหป้ ริมาณการผลิตเพียงพอกบั ความต้องการ
(6) การวางแผนการผลติ รวม
(7) การบริหารสินค้าคงคลัง เป็นต้นทุนส่วนใหญ่ของการผลิต จึงต้องมีการจัดการ
ให้ปริมาณของสินค้าคงคลังอยู่ในระดับที่เหมาะสม และเพียงพอท่ีจะบริการให้กับ
ลกู คา้
(8) การเลือกทาเลท่ีตั้ง เป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องการวางแผนอย่างดี เพราะอาจ
ส่งผลไปยังต้นทนุ ของธรุ กจิ
(9) การวางแผนผังกระบวนการผลิต การวางลาดับของเครื่องจักรตามประเภทของ
การผลิต มีผลต่อการไหลผ่านของงาน
(10) การบรหิ ารโครงการ เป็นการควบคุมโครงการให้เสร็จทันเวลาและเป็นการจัดสรร
ทรพั ยากรอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
(11) การบริหารแรงงานการผลิต เป็นการกาหนดวิธีการทางานแก่คนงานโดยคานึงถึง
ปัจจยั ท่ีมอี ยู่
(12) การจัดตารางการผลิต เป็นการจัดสรรในเร่ืองของต้นทุน และเวลาในการผลิต
เพ่อื ใช้ไดอ้ ยา่ งคุ้มค่าท่สี ดุ ใหท้ ันกับการสง่ มอบงาน
(13) การบริหารห่วงโซ่ของสินค้า เป็นการบริหารงานต้งั แต่กระบวนการคัดสรรวตั ถดุ ิบ
จนถงึ มอื ผ้รู ับโดยคานึงถึงปัจจยั ท่ีมอี ยู่
(14) การบารุงรักษาเคร่ืองจักรอุปกรณ์ ต้องมีการดูแลบารุงรักษาเครื่องจักรตลอด
ระยะเวลาการใชง้ านโดยต้องคานงึ ถงึ ต้นทุนการซอ่ มและการบารุงรักษาด้วย
1.7.3 ประเภทของอตุ สาหกรรมการผลิต แบง่ ตามลกั ษณะเฉพาะของผลิตภณั ฑ์
(1) การผลิตตามคาสั่งซ้ือ (Made-to-order) เป็นการผลิตที่คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์
จะเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย การเตรียมการผลิตและวัตถุดิบที่ต้องการ
บทที่ 1 ความรู้เบอ้ื งต้นเกย่ี วกับการจดั การการจดั หาและการจดั ซอ้ื 19
จะใช้ตลอดจนกระบวนการผลิตจึงไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ เครื่องจักรอุปกรณ์ที่ใช้ต้อง
เป็นแบบอเนกประสงค์ และผู้ผลิตต้องมีความสามารถและความชานาญหลายอย่าง เพือ่ ทาการผลิต
สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ ตัวอย่างของการผลิตตามคาส่ังซ่ือได้แก่ การตัดเย็บชุดวิวาห์ การรับสร้างบ้าน
บนทีด่ ินของลกู คา้ การทาผม ฯลฯ
(2) การผลิตเพ่ือรอจาหน่าย (Made-to-stock) เป็นการผลิตผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณลักษณะ
เป็นมาตรฐานเดียวกันตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่ การจัดหาวัตถุดิบและ
การเตรียมกระบวนการผลิตสามารถทาได้ล่วงหน้า เคร่ืองจักรอุปกรณ์จะเป็นเครื่องมือเฉพาะงาน
และผู้ผลิตถูกอบรมมาเพ่ือทางานตามหน้าท่ีเฉพาะอย่าง ตัวอย่างของการผลิตเพ่ือรอจาหน่าย ได้แก่
การผลิตสบู่ การผลิตรถยนต์ การผลติ เสื้อผ้าเครอื่ งแบบนกั เรียน ฯลฯ
(3) การผลิตเพื่อรอคาสั่งซื้อ (Assembly-to-order) เป็นการผลิตชิ้นส่วนที่จะประกอบ
เป็นสินค้าสาเร็จรูได้หลายชนิด ซึ่งชิ้นส่วนเหล่าน้ันจะมีลักษณะแยกออกเป็นส่วนจาเพาะหรือโมดูล
(Module) โดยผลิตโมดูลรอไวก้ ่อน เม่ือได้รบั คาสั่งซื้อจากลกู ค้าจึงทาการประกอบโมดูลให้เป็นสินค้า
ตามลักษณะทล่ี กู ค้าตอ้ งการ จึงนับได้วา่ การผลิตเพือ่ รอคาส่งั ซื้อไดน้ าเอาลักษณะของการผลิตเพ่อื รอ
จาหน่ายซึ่งมีการผลิตช้ินส่วนเป็นโมดูลมาตรฐานท่ีใช้ประกอบเป็นสินค้าหลายชนิดรอไว้มาผสมเข้า
กับลักษณะของการผลิตตามคาสั่งซื้อซ่ึงนาโมดูลมาประกอบ และแต่งเติมรายละเอียดให้สินค้า
สาเร็จรูปมีความแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย ตัวอย่างการผลิตเพื่อรอ
คาส่ังซ้ือ ไดแ้ ก่ การผลติ เครอื่ งใช้ไฟฟ้า หลายรนุ่ ที่มกี ารใช้อะไหล่เหมอื นกัน
ในปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจอุตสาหกรรมและทวีเพ่ิมข้ึน ขอบเขตของการแข่งขัน
ขยายตัวจากระดับท้องถ่ิน ระดับประเทศ ไปสู่ระดับนานาชาติ การติดต่อส่ือสารที่โยงใยโลกให้ใกล้
กันทาให้ผู้บริโภคได้รับข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่หลากหลาย ทาให้มีทางเลือกมาก
ย่ิงขึ้น การผลิตจึงต้องพยายามปรับปรุงเพ่ิมผลิตภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ดึงดูดใจลูกค้ามาก
ยิ่งข้ึน ทาให้กระแสโลกาภิวัตน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการหาแหล่งวัตถุดิบ แหล่งเงินและตลาดของ
ผลิตภัณฑ์ การผลิตไม่จาเป็นท่ีจะต้องใช้วัตถุดิบในประเทศท่ีแพงกว่าถ้ามีแหล่งอื่นท่ีถูกกว่า
ธุรกิจสามารถย้ายฐานการผลิตไปอยู่ในประเทศท่ีค่าแรงคนงานต่ากว่า เพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือ
เพ่ือหลีกเลี่ยงข้อจากัดของการกีดกันทางการค้า กลยุทธ์การรวมตัวกันทางธุรกิจ ในปัจจุบัน
การดาเนินธุรกิจมีลักษณะเป็นเครือข่าย (Network) ที่เช่ือมโยงกันต้ังแต่ผู้ขาย ผู้ผลิต ผู้จัดจาหน่าย
ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก จนถึงลูกค้าที่เป็นผู้ใช้ การรวมตัวภายในอุตสาหกรรมเดียวกันในรูปแบบพันธมิตร
ทางกลยุทธ์ (Strategic Alliance) กอ่ ให้เกดิ อานาจต่อรองกับคู่คา้ มากยิ่งข้ึน ดงั นน้ั การไดม้ าซึ่งปัจจัย
20 การจัดการการจัดหาและการจดั ซ้อื
การผลิตที่มาจากแหล่งวัตถุดิบต่างๆ มีแนวโน้มจะต้องทาเป็นสัญญาระยะยาวหรือสัญญาที่ไม่เป็น
ลายลักษณ์อักษร อันเป็นความร่วมมือระหว่างกันและกันระหว่างคู่ค้าที่แน่นแฟ้นย่ิงข้ึน ความ
หลากหลายของผลิตภัณฑ์และการตอบสนองลูกค้าเฉพาะราย (Customization) แพร่หลายมากข้ึน
ความนิยมในผลิตภัณฑ์มวลชนเริ่มเสื่อมลง ลูกค้าเร่ิมต้องการสินค้าและบริการที่ตอบสนองความ
ต้องการเฉพาะแบบที่ไม่ซ้าใคร การผลิตจึงมแี นวโน้มจะมีปริมาณการผลิตต่อ Lot ท่ีต่าลง ทาให้ต้อง
หาวธิ ีจะผลติ ผลิตภัณฑท์ ี่หลากหลายไดใ้ นตน้ ทนุ ท่ตี า่ รวมท้ังต้องพยายามคิดคน้ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
ให้ดึงดูดใจลกู คา้ อยเู่ สมอ ใหท้ ันกบั วงจรชีวติ ผลิตภัณฑ์ทส่ี ั้นลง และส่ิงท่ีสาคญั ทีส่ ุด คอื ความกา้ วหน้า
ในเทคโนโลยี ทั้งด้านการผลิตโดยตรง เช่น การใช้แสงเลเซอร์ และด้านอื่นๆ เช่น การใช้ข้อมูลทาง
อนิ เตอร์เน็ต (Internet) การตดิ ต่อการา้ ดว้ ยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ล้วนแตม่ ีผลต่อ
คณุ ภาพ ผลิตภาพ ปรมิ าณและตน้ ทุนของการผลิตเปน็ อยา่ งมาก
1.8 การจดั การโลจสิ ติกสแ์ ละซัพพลายเชนที่สง่ ผลตอ่ การจัดหาจดั ซื้อ
ฐาปนา บุญหล้า (2551) ความเจริญเติบโตในตลาดการค้าภูมิภาคเอเชียทุกวันนี้ เกิดจาก
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและการแข่งขันที่เติบโตมากขึ้น ได้นาไปสู่ความ
ท้าทายหลักต่อกลุ่มธุรกิจโดยรวมของเอเชียอานาจซื้อที่เพิ่มขึ้นทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ
ผู้บริโภค ตลาดสนับสนุนคือแนวโน้มปัจจุบันและบริษัทภายในประเทศ กาลังมองหาฝั่งท่ีดีกว่าและ
ค้นหาโอกาสใหม่ในตลาดภูมิภาคเอเชีย แต่บริษัทเหล่านี้กาลังพบว่าทุกหน่วยงานมีปัญหาท่ีไม่
สามารถแก้ไขได้ ซึ่งต้องการความยืดหยุ่นและความฉับไวในทุกหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องต้องการ
การร่วมมือวางแผนอย่างจริงจัง แทนการวางแผนงานตามลาพัง องค์การในวันน้ีจึงต้องทางานกัน
อย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายของตนต้ังแต่ผู้ขายวัตถุดิบ ผู้ผลิต ผู้ขนส่ง ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก และให้บริการ
ตา่ งๆ ด้วยเปา้ หมายการสง่ มอบสินค้าท่ีถกู ต้องในสถานท่ีทถ่ี ูกตอ้ งในเวลาทีถ่ ูกต้องด้วยราคาท่ถี กู ตอ้ ง
และเพ่ิมกาไรสูงสุด การเคลื่อนสู่ธุรกิจร่วมกัน และเป็นคู่ค้ากันเพื่อจัดการ การไหลของสินค้าและ
บ ริ ก า ร จ า ก แ ห ล่ ง ก า เ นิ ด ก า ร จั ด ส่ ง สิ น ค้ า แ ล ะ บ ริ ก า ร จ น ถึ ง ผู้ บ ริ โ ภ ค ค น สุ ด ท้ า ย จึ ง ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด
“การจัดการซัพพลายเชน”
มีผเู้ ชยี่ วชาญมากมายได้กาหนดนยิ ามของการจัดการซัพพลายเชนไวห้ ลากหลายความหมาย
คล้ายกันบ้างต่างกันบ้างตามมิติการมองจากองค์ความรู้และประสบการณ์ในแต่ละภาคธุรกิจ เช่น
อุตสาหกรรมต้นน้าอุตสาหกรรมกลางน้า อุตสาหกรรมปลายน้า ต่างก็มีมุมมอง จุดเน้น ในประเด็น
สาระท่ีแตกต่างกัน แต่โดยส่วนรวมก็มีนัยสาคัญแฝงอยู่ท่ีคล้ายกัน เช่น การจัดการซัพพลายเชนเป็น
การจัดการด้านปฏิบัติการเชิงกลยุทธ์ การบูรณาการองค์รวม การเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย การใช้
บทที่ 1 ความรเู้ บ้อื งตน้ เก่ียวกบั การจัดการการจดั หาและการจดั ซอ้ื 21
เทคโนโลยีและนวตกรรม การทางานร่วมกัน ความไว้วางใจกัน การทางานเป็นกระบวนการ
มุ่งบริการด้วยความเร็วและความถูกต้องของการไหลของสินค้า เงิน และสารสนเทศเพ่ือสร้างความ
ประทับใจแก่ลกู คา้ และทาใหเ้ กดิ ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันแบบยั่งยืน
“การจัดการซัพพลายเชน” คือ ประมวลการวางแผนและการจดั การกิจกรรมทั้งมวลที่เกี่ยวข้อง
กับการเสาะหาและจัดหา การแปลงสภาพสินค้า และกิจกรรมการจัดการโลจิสติกส์ ท้ังหมดที่สาคัญ
ได้รวมถึงการประสานงานและความร่วมมือกับช่องทางคู่ค้าต้ังแต่ผู้ค้า ตัวกลางผู้ให้บริการบุคคล
ท่ีสามจนถึงลูกค้า ที่มา The Council of Supply Chain Management Professional (CSCMP),
Supply Chain and Logistics Terms and Glossary Update October 2006) www.CSCMP.org
จากคานิยามดังกล่าวข้างต้นจะเห็นว่า การจัดการซัพพลายเชนเป็นการรวมตัวเป็นเอกภาพของ
ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกองค์การ เพื่อสร้างพลังสูงสุดด้วยการเช่ือมโยง
เทคโนโลยีและปฏิบัติการที่ดีที่สุดของธุรกิจให้เป็นกลุ่มบริษัทสากลทั่วโลก ในกลุ่มพันธมิตรได้สร้าง
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติการภายในซัพพลายเชนท่ีตระหนักถึงการเพ่ิมผลผลิตและประ หยัด
ด้วยการปรับปรุงกระบวนการทางาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าระหว่างผู้ค้าหรือพันธมิตรธุรกิจ
ทุกหน่วยงานได้ผูกกระบวนการธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันเป็นกลุ่มบริษัทหลายชั้นทวีคูณ และหลากหลาย
ภายในวิสาหกิจ ผลลัพธ์ทาให้สมาชิกในกลุ่มจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าด้วยสินค้าที่ถูกต้อง ในสถานท่ี
ที่ถูกต้องในเวลาที่ถูกต้องด้วยราคาท่ีถูกต้องและขจัดต้นทุนส่วนที่เกินตลอดทั่วทั้งองค์การและ
ในเครือข่ายธุรกิจการบริการที่รวดเร็วขึ้น ความใกล้ชิดลูกค้า ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
วงจรอายุผลิตภัณฑ์ ส้ันลง และการแผ่ขยายไปทั่วภูมิภาค ยังผลให้เกิดความสลับซับซ้อนมากข้ึน
ในการดาเนินธุรกิจ หลายบริษัทได้ติดตั้งซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจ
(ERP : Enterprise Resources Planning) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเฉพาะภายในองค์การ ซึง่ ก็ยัง
ไม่เพียงพอต่อความอยู่รอดและเจริญเติบโตในตลาดปัจจุบัน ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและ
การตอบสนองลูกค้าอยา่ งทั่วถงึ จึงตอ้ งมีการเชือ่ มโยงเครอื ขา่ ยภายนอกกบั กล่มุ พันธมิตรท้ังหมด
การจัดการโลจิสติกส์เป็นองค์ประกอบของการจัดการซัพพลายเชน คือ การวางแผน
การปฏิบัติงาน และ การควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลท้ังล่วงหน้า และย้อนกลับของ
การเคลอ่ื นย้าย และการจดั เก็บสินค้า การบรกิ ารและสารสนเทศทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ต้ังแต่จดุ กาเนดิ จนถึงจุด
การบรโิ ภคสินค้าเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของลูกค้า
โลจิสติกส์เป็นกระบวนการ การวางแผน จัดหา จัดเก็บจัดส่งสินค้าและสารสนเทศที่
เกย่ี วข้อง จากแหล่งวัตถุดิบ สู่กระบวนการผลติ ทุกข้ันตอนและการกระจายสนิ คา้ เพื่อสร้างมลู คา่ เพ่ิม
22 การจดั การการจดั หาและการจัดซ้อื
กระบวนการต่อเน่ืองจนกระท่ังเป็นสินค้าสาเร็จรูปอยู่ในมือของผู้บริโภคคนสุดท้าย จากภาพท่ี 1.2
แสดงถึงกระบวนการโลจิสติกสใ์ นรูปแบบแนวคดิ รวบยอด
ภาพที่ 1.2 แนวคิดการจดั การซพั พลายเชนเปน็ ยุคถดั มาในการปฏิวตั โิ ลจสิ ติกส์
ท่ีมา: (ไอบเี อ็ม คอรป์ อเรชัน่ , แนวทางการจดั การซัพพลายเชน, 2541)
บทท่ี 1 ความร้เู บอื้ งตน้ เกยี่ วกับการจัดการการจดั หาและการจดั ซื้อ 23
สรปุ
การจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ (Procurement and Purchasing Management)
เป็นเน้ือหาเกี่ยวกับบทบาทของการจัดซ้ือจัดหา ท่ีมีต่อการจัดการโลจิสติกส์ การวางแผนจัดหา
เชิงกลยุทธ์ การวางแผนจัดหาเชิงกลวีธี การวางแผนจัดหาเชิงปฏิบัติการ การสร้างพันธมิตรและ
ความร่วมมือทางการค้า การพัฒนากลยุทธ์ในการจัดซื้อ จัดหาอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการ
ซพั พลายเออรแ์ ละคู่ค้า การตดั สินใจซื้อหรือผลิต การพยากรณ์ความต้องการ และวธิ ีการจดั ซื้อจัดหา
ในโลจิสติกส์ เอกสารที่ใช้ในการจัดซ้ือจัดหา การเลือกสรรสินค้าท่ีมีคุณภาพ ระบบทันเวลาพอดี
เพอ่ื ประสทิ ธภิ าพในงานจัดซอื้ จัดหา รวมถงึ บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการจัดซ้ือจัดหา
การบริหารจัดการการจัดหาและจัดซื้อของภาคธุรกิจ ระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
ของบริษัทหรือภาคอุตสาหกรรมมีส่วนสาคัญ ก็คือ การส่งมอบสินค้าที่ถูกต้อง สถานที่ที่ต้องการ
ในเวลาท่ีเหมาะสม ทั้งนี้ท้ังนั้นอยู่ภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนท่ีมีประสิทธิภาพและยอมรับได้
ท้งั หมดน้ี จะทาใหล้ ูกค้ามีความพึงพอใจในการบรโิ ภคสินค้าน้ันหรอื ท่ีเราคุ้นเคยกับคาว่า Customer
Satisfaction นั่นเอง โดยกิจกรรมการจัดหาจัดซ้ือได้เกิดขึ้นในทุก ๆ กระบวนการตลอดห่วงโซ่
อุปทานและสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับสินค้าตตลอดกระบวนการ เริ่มต้นจากการส่ังซื้อวัตถุดิบ มาเป็น
สินค้าระหว่างผลิต และสินค้าสาเร็จรูปพร้อมสาหรับผู้บริโภค กล่าวโดยสรุปก็คือ การจัดการ
การจัดหาและการจัดซื้อก่อให้เกิดความพึงพอใจและสร้างคุณค่าจากต้นน้าของการผลิตสินค้าท่ี
ตรงตามความต้องการ หลายบริษัทที่การจัดการแบบเดิมขององค์ประกอบกระบวนการโลจิสติกส์
แยกส่วนตามบทบาทหน้าท่ขี องตน เชน่ การจัดซอ้ื การคลังสนิ คา้ การขนส่ง การบันทกึ คาสั่งซอ้ื และ
การวางแผนการผลิตให้สัมฤทธิผลแยกส่วนขององค์กรแต่ละฝ่ายตามเป้าหมายและงบประมาณ
การจดั ลาดับแยกส่วนและมกี ารขดั แยง้ กันในบางครั้งระหวา่ งฝ่ายนม้ี ักเป็นสาเหตุก่อเกิดความขดั แย้ง
และความสูญเสยี โดยไม่จาเป็น
24 การจดั การการจัดหาและการจดั ซ้อื
คาถามทา้ ยบทที่ 1
1. ให้นกั ศึกษาอธบิ ายความหมายของการจัดการการจดั หาและการจดั ซ้ือ ตามทีน่ กั ศึกษา
เขา้ ใจ
2. ใหน้ กั ศึกษาอธิบายหน้าทข่ี องฝา่ ยจัดซ้ือจดั หาท่ีดี มาพอเข้าใจ
3. หลกั การจดั การการจดั หาและการจดั ซ้อื ควรคานงึ ถงึ ส่ิงใดบ้าง
4. ข้นั ตอนพน้ื ฐานในการจดั หาจัดซอ้ื ต้องทาอย่างไร
5. เทคโนโลยสี มัยใหมท่ ี่มาสร้างประโยชน์ให้กบั การจดั ซ้ือในองคก์ ร เรียกวา่ อะไร
6. Purchase Requisition หรอื เรียกว่า ใบ PR ไว้ใช้ทาอะไร
7. Purchase Order หรือเรียกว่า ใบ PO มไี ว้เพ่ือทาส่ิงใด
8. ใหน้ กั ศึกษาตัวอย่างของประเภทของอุตสาหกรรมการผลติ สนิ ค้ามาอย่างน้อย 5 ตวั อยา่ ง
9. กระบวนการผลิตมีองคป์ ระกอบทสี่ าคัญอะไรบ้าง อธบิ ายมาพอเขา้ ใจ
10. ให้นกั ศึกษาอธิบายวา่ การจดั การการจดั หาและการจดั ซื้อส่งผลต่อกระบวนการโลจสิ ติกส์
และซัพพลายเชนอย่างไร
บทท่ี 1 ความรเู้ บอื้ งต้นเกยี่ วกบั การจดั การการจดั หาและการจัดซอ้ื 25
เอกสารอ้างองิ
กตญั ญู หริ ญั ญสมบูรณ.์ (2559) การบริหารอุตสาหกรรม. กรุงเทพฯ: เท็กซ์ แอนด์ เจอรน์ ัล พบั ลเิ คชนั่
จากัด.
คานาย อภิปรัชญาสกุล. (2537). ส่วนท่ี 3 โลจิสติกส์และการจัดการซัพพลายเชน. ในโลจิสติกส์
เพ่ือการผลิต และการจดั การดาเนนิ งาน. บริษัท ซี.วาย.ซซิ เทมิ พรนิ้ ติ่ง จากดั .
ชุติภา โอภาสานนท์. (2560). ก้าวสู่ความเป็นผู้ประกอบการ. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวง
อุตสาหกรรม. กรงุ เทพมหานคร: วนั ทนีย์ ภูมิภทั ราคม และคณะ.
ชัยยนต์ ชโิ นกุล, (2559) การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ พมิ พค์ ร้ังท่ี 5 กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วน
จากัด วีเจ.พรนิ ต้ิง
ฐาปนา บญุ หล้า,FCILT,CMC, (2559) คูม่ อื การตรวจประเมนิ โลจสิ ติกส์ พิมพ์ครัง้ ท่ี 5 กรงุ เทพฯ :
แอคทฟี พร้ิน จากดั
ฐาปนา บุญหล้า,FCILT,CMC, (2560) คู่มือสัมนาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน พิมพ์คร้ังที่ 7
กรงุ เทพฯ : แอคทีฟ พร้นิ จากัด
ณฐั พนธ์ เกษสาคร. (2562). สารสนเทศเพ่อื การจดั การโลจสิ ติกส์ บทที่ 1. เข้าถงึ ได้จากสารสนเทศ
เพือ่ การจัดการโลจสิ ติกสบ์ ทที่1 https://www.scribd.com/doc/153952720/
สารสนเทศเพ่ือการจัดการโลจสิ ตกิ สบทท่ี 1
ทวศี กั ดิ์ เทพพิทกั ษ.์ (2550). การจัดการโลจสิ ติกสแ์ ละซพั พลายเชน. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์
เอ็กซเปอรเ์ นท็ .
ธนภัทร์ ธชพันธ์. (21 สิงหาคม 2559). บทนาของวัสดุบรรจุภัณฑ์. สงขลา, ไทย. เข้าถึงได้จาก
Slide Share.
ปริญ ลักษิตานนท์, ศุกร เสรีรัตน์, องอาจ ปถะวานิช ศิริวรรณ เสรีรัตน์. (2547). การวางตาแหน่ง
ใหม่สู่ตลาดสว่ นล่าง. ใน ปรญิ ลกั ษติ านนท,์ ศุกร เสรีรัตน์, องอาจ ปถะวานชิ
ศิริวรรณ เสรีรัตน์, (2547). กลยุทธ์การตลาด การบริหารการตลาดและกรณีศึกษา (หน้า 136).
กรุงเทพฯ: ธีระฟิล์มและไซเท็กซ์.
ปรยี า วอนขอพร และคณะ. (2534). หลักการตลาด. กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ลยั .
รุธิร์ พนมยงค์ และคณะ (2550) การจัดหาและการบริหารความสัมพันธ์กับผู้ส่งมอบในโซ่
อปุ ทาน กรุงเทพมหานคร : ไอทแี อล เทรด มเี ดยี ,
เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ, (2561) การจัดการคุณภาพ .ซีเอ็ดยเู คช่นั จากัด (มหาชน)
26 การจดั การการจัดหาและการจดั ซอ้ื
วรภัทร์ ภู่เจริญ, กาญจนา สร้อยระย้า และธนกฤต จรัสรุ่งชวลิต (2561) “ชาแหละ Six Sigma”,
พิมพ์คร้ังท่ี 4, กรุงเทพฯ: บรษิ ัท อริยชน จากดั ,
ศศิประภา พรมทอง (2562) การจัดการการดาเนินงาน คณะวิทยาการจดั การ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
อบุ ลราชธานี
อดุลย์ จาตุรงคกุล (2547) การจัดซอื้ กรงุ เทพมหานคร:มหาวทิ ยาลยั ธรรศาสตร์
Mark, M. Davis, Nicholas, J. Aquilano, and Richard, B. Chase, (2017): Fundamentals of
Operations Management,
J. Van Weele, 2005, Purchasing & Supply Chain Management: Analysis, Strategy,
Planning and Practice, 4th ed., Thomson, London, pp. 12, 251-252
Robert Monczka, Robert Trent and Robert Handfield, 2 0 0 5 , Purchasing and Supply
Chain Management, 3rd ed., South-Western, Mason, pp. 30-35
บทท่ี 2 การวางแผนการจัดหาจัดซ้ือในอุตสาหกรรมและโลจสิ ตกิ ส์ 27
บทท่ี 2
การวางแผนการจดั หาจัดซอื้ ในอุตสาหกรรมและโลจิสตกิ ส์
การจดั หา (Supply) และการจดั ซือ้ (Purchasing) เป็นกิจกรรมหนึง่ ท่สี าคัญมากอกี กจิ กรรม
หน่ึงของโลจิสติกส์ (Logistics) ซ่ึงในการบริหารจัดการโซ่อุปทานเล็งเห็นถึงความสาคัญท่ีจะต้องมี
การจัดการในการจัดซ้อวัตถุดิบ (Purchasing Materials) และการจัดหาวัตถุดิบ (Supply
Materials) ท่ีดีมีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าท่ีเปล่ียนไปจากการเน้นที่ราคา
(Price) ไปเป็นคุณภาพที่ดี โดยในการจัดซื้อ (Purchasing) และการจัดหาจะต้องมีกระบวนการเพื่อ
ใช้ในการตัดสินใจเลือกวัตถุดิบ และตัดสินใจเลือกผู้จัดจาหน่ายวัตถุดิบ (Supplier) ท่ีมีคุณภาพ
ในราคาที่ยอมรับได้ และที่สาคัญจะต้องมีระบบท่ีใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ และตัวผู้
จัดจาหน่ายวัตถุดิบ (Supplier) ซึ่งจะเป็นตัวที่ส่งผลทาการต้นทุนรวมของโลจิสติกส์ต่าลงตรงตาม
วัตถุประสงค์ของการจัดการโซ่อุปทาน (Supply chain Management) โดยองค์ความรู้ในเร่ืองของ
การจัดหา (Supply) และการจัดซื้อ (Purchasing) เน้ือหาในบทนี้เป็นการวางแผนการจัดหาจัดซื้อ
ในอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ประกอบไปด้วยเน้ือหา คือวัตถุประสงค์ของการวางแผนการจัดหา
จัดซ้ือในอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ การวางแผนจัดหาจัดซื้อเชิงกลยุทธ์การวางแผนจัดหาเชงิ กลวิธี
การวางแผนจัดหาเชิงปฏิบัติการ การวัดประสิทธิภาพสาหรับกิจกรรมการจัดซื้อ และประโยชน์ของ
การวางแผนการจดั หาจดั ซื้อในอุตสาหกรรมและโลจสิ ติกส์ โดยมรี ายละเอยี ดดังต่อไปน้ี
2.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวางแผนการจดั หาจัดซอ้ื ในอตุ สาหกรรมและโลจิสตกิ ส์
อดุลย์ จาตุรงคกุล (2547) กล่าวว่า ตามความคิดสมัยด้ังเดิมน้ัน วัตถุประสงค์ของ
การวางแผนจัดซื้อก็เพ่ือทาการซ้ือวัตถุดิบ และบรกิ ารให้มีคุณภาพท่ีถูกต้องในปริมาณที่ถูกต้องโดยมี
ราคาที่ถูกต้อง จากแหล่งขายท่ีถูกต้องและในเวลาที่ถูกต้อง ในปัจจุบันวัตถุประสงค์ของการจัดซ้ือ
มุ่งท่ีการบริหารทัว่ ไป ดว้ ยวัตถุประสงคใ์ นลักษณะเช่นน้สี ามารถอธบิ ายแยกยอ่ ยได้ 10 ประการ คอื
(1) เพอื่ สนับสนุนการดาเนินงานของบริษัท ด้วยการจัดหาวัตถุดบิ และบรกิ ารสนองให้โดย
ไมข่ าดสาย เพอื่ มิใหก้ ระบวนการผลิตหยดุ ชะงักเนอ่ื งจากการขาดวัตถุดิบ
(2) ทาการซอ้ื โดยได้ราคาไม่เกินกว่าคู่แขง่ ขัน และทาการเสาะแสวงหาส่ิงท่ีมีคณุ ค่าที่ดกี ว่า
ในราคาทีต่ ้องจ่ายไป
28 การจัดการการจัดหาและการจดั ซ้อื
(3) รักษาคุณภาพของวตั ถดุ ิบท่ีทาการซ้ือให้อยู่ในมาตรฐานเพยี งพอสาหรับใช้งาน
(4) รักษาระดบั ความเสยี หายอันเกดิ แก่การลงทุนในวตั ถดุ ิบให้น้อยท่ีสุด โดยขจดั การซื้อซ้า
กนั ความสญู เสีย และลา้ สมยั อนั เนอื่ งจากการเกบ็ รกั ษาท่ขี าประสทิ ธิภาพ
(5) สรา้ งแหล่งขายสินคา้ ทีเ่ ช่อื ถือได้ไว้เป็นแหล่งสารองในการจดั หาวตั ถุดบิ
(6) รกั ษาฐานะการแข่งขันใหก้ บั บรษิ ัท
(7) พฒั นาให้เกิดความสัมพันธก์ ับผ้ขู ายสนิ ค้าเพ่ือขจดั ปญั หาต่าง ๆ และยังทาให้การจัดซ้ือ
ส่ิงของได้ในราคาและบริการทด่ี ี และมีภาพพจน์ทีด่ ี
(8) แสวงหาความร่วมมอื กับแผนกอ่ืน ๆ ในบริษัท ซ่ึงก็ต้องทาความเข้าใจถึงความตอ้ งการ
ของแผนกอื่นเพื่อที่จะใหก้ ารสนบั สนุนทางด้านวัตถุดบิ ได้ดกี ว่า
(9) ฝกึ อบรมและพัฒนาบุคลากรฝ่ายจัดซ้ือ เพ่ือให้เกดิ แรงจูงใจในการทางานให้แผนกและ
บรษิ ทั จนประสบความสาเร็จ
(10) จดั ทานโยบายและวิธีการเพ่ือให้บรรลถุ งึ วัตถปุ ระสงคต์ ่าง ๆ
ท่ีกล่าวมาข้างต้น (อดุลย์ จาตุรงคกุล, 2547) โดยให้มีต้นทุน (Cost) ในการดาเนินการตาม
ความเหมาะสมหน้าที่หลักของฝ่ายจัดซ้ือต่อนโยบายการจัดซ้ือจัดหา (Function of purchasing
and procurement policies) เป็นท่ีทราบกันดีว่าฝ่ายจัดซื้อมีหน้าท่ีในการจัดหาสินค้าและบริการ
ให้ตรงกบั ความต้องการของผู้ร้องขอ ซึ่งประกอบด้วย 6R+1 หน้าท่หี ลักของฝ่ายจัดซ้ือ คือ
คุณภาพท่ีดี • การจดั ซือ้ วตั ถดุ ิบทมี่ คี ุณภาพถกู ต้อง (Right Quality
มีของที่ครบ • ปรมิ าณที่ถกู ตอ้ ง (Right Quantity)
ส่งของถกู ที่ • สถานท่ถี ูกต้อง (Right Place)
ตรงตอ่ เวลา • จังหวะเวลาถูกต้อง (Right Time)
ราคาท่ีถูก • ราคา (Price) ท่ถี กู ต้อง (Right Price)
จากแหล่งทีเ่ หมาะสม • แหลง่ ขายทีถ่ ูกตอ้ ง (Right Source)
ภาพท่ี 2.1 6R+1 หน้าท่ีหลักของฝ่ายจัดซื้อ
ท่ีมา: (ดดั แปลงจาก อดุลย์ จาตุรงคกุล, 2547)
บทที่ 2 การวางแผนการจัดหาจัดซือ้ ในอตุ สาหกรรมและโลจสิ ตกิ ส์ 29
Right Purchaser การหาผู้ทเี่ หมาะสมมาทางานด้านการจัดซือ้ (Purchasing) ซึ่งมีพรอ้ มท้ัง
ความรู้ คุณวฒุ ิ และประสบการณ์ในการจดั ซ้ือ
2.2 การวางแผนจัดหาจัดซื้อเชงิ กลยทุ ธ์
การจดั หาจัดซอื้ ไม่ใช่แคเ่ ป็นเฉพาะการทากิจกรรมด้านการจัดหาจัดซื้อให้ถูกเพียงอยา่ งเดยี วแต่
รวมถึงการบริหารการจัดการทางด้านวัตถุดิบและเคร่ืองมือเครื่องจักรในการผลิต เป็นการทาให้เกิด
ความม่ันใจได้ว่า โรงงานหรือบริษัทของเราจะต้องมีวัตถุดิบพร้อมใช้คงคลังตลอดเวลา ซ่ึงต้องมี
คุณภาพที่ตรงตามความต้องการ การจัดหาจัดซื้อนี้ เป็นกิจกรรมที่สาคัญอย่างมาก ซ่ึงจะช่วยให้
องคก์ รนน้ั ๆ ได้เปรียบทางดา้ นตน้ ทุนในการประกอบธุรกิจ
ผขู้ ายวตั ถดุ ิบ ลกู คา้
Supplier Customer
External supply Internal supply chain External supply
chain organization organization chain organization
(ต้นนา้ ) (กลางนา้ ) (ปลายนา้ )
การวางแผน การส่งั ซ้อื การผลติ การจดั ส่ง
Plan Purchase Production Derivery
ภาพที่ 2.2 กระบวนการโซ่อุปทานภายในองคก์ รธรุ กิจอุตสาหกรรม
ที่มา : (พิเชษฐ เนตรสว่าง, 2564)
30 การจัดการการจัดหาและการจดั ซ้อื
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าบริษัทของเราซ้ือวัตถุดิบได้ในราคาหน่วยละ 100 บาท ในขณะที่บริษัท
คู่แข่งซ้อื ได้ 110 บาท บริษัทของเราจะมตี น้ ทุนต่ากว่า 10 บาท และสามารถขายของได้กาไรมากกว่า
หรอื จะขายใหถ้ ูกกว่าบริษัทคแู่ ข่งได้
ความได้เปรียบยังไม่ได้หยุดแค่ด้านต้นทุน ยังส่งผลถึงด้านคุณภาพสินค้า การให้บริการ
และอน่ื ๆ ถา้ การซอื้ ของเราไมด่ จี ะสง่ ผลกระทบเปน็ ลูกโซ่ไปกจิ กรรมกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมด
การเงิน/บัญชี
ผจู้ ดั จ้าหนา่ ย ผ้จู ัดหาวัตถุดิบ/
สนิ คา้
บริษัท
ผผู้ ลติ ผู้จัดสง่
ภาพท่ี 2.3 ผู้ท่ีเกีย่ วขอ้ งในการจดั ซอ้ื วตั ถดุ ิบ/สนิ ค้า
ทีม่ า : (พเิ ชษฐ เนตรสว่าง, 2564)
ตัวอยา่ งที่ 2.1 โรงงานผลิตชิน้ ส่วนรถยนต์แห่งหนึง่ ต้องการซอื้ วัตถุดิบประเภทเหล็กราคา 200,000
บาท/ตัน จากบริษัทซัพพลายเออร์แห่งหนึ่ง ซึ่งราคาถูกที่สุด แต่มีบริการด้านการขนส่งวัตถุดิบท่ี
แยม่ าก และส่งไมส่ ่งสินค้าตรงต่อเวลาตามท่กี าหนดไว้ คือโรงงานส่งั วัตถุดิบไปในวันที่ 1 มีกาหนดส่ง
ถึงโรงงานวันท่ี 7 กว่าสินค้าจะมาถึงก็วันที่ 10 ซึ่งทาให้ระบบการผลิตเกิดความล่าช้าไป 3 วัน
ลกู คา้ ของโรงงานผลิตช้นิ ส่วนรถยนต์น้ี กจ็ ะได้รบั สินคา้ ช้ากว่ากาหนดอีก 3 วนั
ตัวอย่างที่ 2.2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แห่งหนึ่ง ต้องการซ้ือวัตถุดิบประเภทเหล็ก ราคา
500,000 บาท/ตนั จากบริษัทซพั พลายเออรแ์ ห่งหนง่ึ มีราคาแพง แต่บริการดี และ สินค้ามีคุณภาพ
บทที่ 2 การวางแผนการจัดหาจัดซอ้ื ในอตุ สาหกรรมและโลจสิ ติกส์ 31
ความชน้ื ต่า ก็จะทาใหโ้ รงงานผลติ ชนิ้ ส่วนรถยนต์ สามารถผลิตสนิ ค้าได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ คณุ ภาพ
ของสินคา้ กด็ ตี ามไปดว้ ย สินค้าก็ถงึ มือลกู ค้าไดต้ รงตามกาหนด
ดังน้ัน การที่ผู้บริหารจะกาหนดกลยุทธ์การจัดซ้ืออย่างไรน้ันมีความสาคัญอย่างมาก เพราะถ้า
ตัดสินใจผิดพลาด จะส่งผลเสียหายต่อเน่ืองตอ่ เนอื่ งเป็นลูกโซไ่ ปทง้ั หมดอย่างท่กี ล่าวมา แตก่ ็ใช่ว่าเรา
จะต้องเลือกซ้ือแต่ของแพงของดี การซื้อสินค้าก็ต้องดูว่าเราซื้อมาใช้ในรูปแบบใด ไม่ใช่ซ้ือของราคา
500,000 บาท มาผลิตสินค้าราคา 400,000 บาท มันก็ไม่คุ้มทุน กลยุทธ์การจัดซ้ือจึงควรที่จะวาง
รปู แบบใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ านดว้ ย ยกตวั อย่างเหตกุ ารณส์ นิ ค้าประเภทขา้ วท่สี ง่ ออกในปัจจุบัน
2.2.1 รปู แบบการจัดหาจัดซื้อ มดี ังน้ี
(1) การวเิ คราะห์วิธีการจัดหาจัดซอ้ื จากภายในองคก์ ร (Internal analysis)
(1.1) ต้องมีทาการวิเคราะห์ให้เกิดความเข้าใจในบทบาทของการจัดซื้อจัดหาในแต่ละ
ประเภทของผลิตภณั ฑ์สนิ ค้าที่มีตอ่ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ทางธุรกจิ เม่ือทราบว่าสนิ ค้าท่ีจะจัดซอื้ อยใู่ น
ประเภทไหน จะทาใหเ้ ราตัดสนิ ใจเลอื กใชก้ ลยุทธ์การจดั ซือ้ จดั หาไดเ้ หมาะสม
(1.2) ทาการวิเคราะหต์ ลาดผู้ขายวตั ถุดิบว่า ผู้ขายวตั ถุดบิ ท่เี ราจะซ้ือเป็นอยา่ งไร ผู้ขาย
วตั ถุดบิ ผกู ขาดอยู่ หรือ มผี ู้ขายวตั ถุดบิ จานวนมากทข่ี ายสินค้าอย่างเดยี วกัน
(1.3) วิเคราะห์ผู้ขายวัถุดิบแต่ละราย ดูว่าผู้ขายวัถุดิบมีความพร้อมมากพอที่จะส่ง
วตั ถุดบิ ใหเ้ ราได้มากแค่ไหน คณุ ภาพของวตั ถุดบิ เป็นอยา่ งไร ราคาสูงเกนิ ไปคุ้มกบั ราคาหรือไม่
(2) ระบุรายช่ือผู้ขายวัตถุดิบ เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ขายวัตถุดิบ และต้องมีการคัดกรอง
ผู้ขายวัตถุดิบท่ีไม่ผ่านเกณฑ์ออก รวมถึงการทาบัญชีรายชื่อผู้ขายวัตถุดิบ แล้วนามาวิเคราะห์เชิงลึก
เชน่ การขอส่งคนไปตรวจสอบวิธกี ารทางานแล้วทาการประเมิน
(3) ต้องมีการวางกลยุทธ์ในการกาหนดประเภทของผลิตภัณฑ์ในการจัดซื้อจัดหาท้ังหมด
ที่จะเป็นไปได้ และจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแต่ละกลยุทธ์น้ันๆ เราอาจจะใช้แบบจาลอง
การจัดหาเชิงกลยุทธ์ (The four sourcing quadrants) มาประยุกต์ใช้ในการกาหนดกลยุทธ์
การจัดซ้อื ในแตล่ ะผลติ ภณั ฑไ์ ด้
2.2.2 ความสาคญั ของผลติ ภณั ฑส์ นิ ค้าท่จี ัดซอ้ื
(1) มลู ค่าโดยรวมของผลติ ภณั ฑส์ ินค้าท่ีจดั ซื้อจดั หา
(2) ผลกระทบท่ีมีต่อคุณภาพของผลิตภณั ฑส์ นิ คา้
(3) ผลกระทบที่มีต่อการเติบโตขององคก์ รธรุ กจิ
(4) ผลกระทบท่ีมีต่อปัจจัยเชงิ คุณภาพ
32 การจดั การการจัดหาและการจัดซ้ือ
2.2.3 ความซบั ซอ้ นของตลาดผจู้ ดั จาหนา่ ย
(1) ความยากในการจัดหาจัดซ้ือ
(2) จานวนของผจู้ ดั จาหนา่ ยที่มอี ยู่ในตลาด
(3) ระดับความเสีย่ งของระยะเวลาในการส่งมอบ
(4) โอกาสท่จี ะใช้สินคา้ อน่ื ทดแทนกนั ได้
(5) โอกาสท่สี นิ ค้าจะหมดอายุ ความเสี่ยงในการถอื ครอง
2.2.4 การกาหนดกลยทุ ธ์การจัดซอื้ ของธุรกิจขนาดเลก็
(1) ร่วมพัฒนาไปพร้อมๆกัน เราจะส่งคนไปช่วยสอนวิธีผลิตท่ีมีประสิทธิภาพ จัดหา
เทคโนโลยีมาใชเ้ พ่ิมผลผลติ ลดของเสียในการผลิต ช่วยจดั วตั ถดุ บิ และขายใหใ้ นราคาถกู
(2) เทคนิคการเป็นหุ้นส่วนกัน โดยการชวนมาเป็นสมาชิก แล้วก็ปันผลให้ทุกปี
สรา้ งผลประโยชนร์ ว่ มกนั สมาชกิ ก็ไดท้ งั้ กาไรที่เพิ่มขนึ้ แลว้ ยังไดป้ นั ผลด้วย
(3) ซื้อบริการขนส่งโดยรถขนาดเล็ก และแรงงาน เพ่ือนาสินค้าให้ไปถึงมือลูกค้า
การขนสง่ โดยรถขนาดเลก็ เขา้ กรุงเทพนั้นมีความสาคัญมาก เพราะตอ้ งคอยควบคมุ ใหส้ ินค้าเราถึงมือ
ลกู ค้าอย่าปลอดภัยแลว้ ต้องจดั ส่งให้ทนั เวลาอีกดว้ ย ควรที่จะต้องทาสัญญากนั ระยะยาวกบั ผบู้ ริการ
ขนสง่ เฉพาะรายไปเลย
(4) การกาหนดกลยุทธ์ในการร่วมดาเนินงานกับผู้จัดจาหน่ายในแต่ละราย ซ่ึงรูปแบบ
และความต้องการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการซื้อน้ันมีความแตกต่างกันไป จึงจาเป็นต้อง
กาหนดกลยทุ ธ์การจัดซอ้ื ที่ตา่ งกนั การกาหนดกลยุทธน์ จี้ ะสง่ ผลต่อ
(4.1) การจากัดจานวนของซัพพลายเออร์หลักทเี่ หมาะสม (number of supplier)
(4.2) การม่งุ เนน้ ในการทาใบขอเสนอราคา (Request for proposal-RFP)
(4.3) กระบวนการในการเจรจาตอ่ รอง (Negotiation process)
(5) ทาการวางกลยุทธก์ ารเจรจาตอ่ รองบนพน้ื ฐานแห่งข้อเทจ็ จริง
(5.1) กาหนดกลยทุ ธใ์ นการเจรจา เราต้องมีจุดยืนของเรากอ่ นวา่ จะซ้ือของแบบไหน
อย่างไร แล้วทาการส่งใบขอข้อมูลท่ีสาคัญๆไปให้กับผู้จัดจาหน่ายทุกๆราย (Request for
information-RFI)
(5.2) ดูปฏิกิริยาของซัพพลายเออร์ว่าเป็นอย่างไรกับจุดยืนของเรา เราอาจจะมีการ
คาดการณไ์ วล้ ่วงหน้าสาหรับการตอบโต้ของซพั พลายเออร์แต่ละราย
บทที่ 2 การวางแผนการจดั หาจดั ซ้ือในอตุ สาหกรรมและโลจสิ ติกส์ 33
(5.3) วางแผนการเจรจาต่อรอง ไตร่ตรองและหาข้อสรุป กระบวนการน้ีเป็น
การเตรยี มตัวให้พร้อมสาหรับองค์กรผู้จดั หาในการเจรจาตอ่ ท่เี กิดขนึ้ จรงิ
(5.4) เม่ือรู้แล้วผู้จดั จาหน่ายเจ้าไหนท่ผี ่านการคัดเลือกเร่อื งบ้างก็จัดทาการใบเสนอ
ราคา (Request for quotation-RFP, RFQ)
(5.5) ทาการคัดเลือก และประเมินผลผู้จัดจาหน่าย เราอาจจะทาเป็นการให้
คะแนนตามเกณฑท์ ่ตี งั้ ไว้ โดยแตล่ ะเกณฑจ์ ะมคี า่ นา้ หนักแตกตา่ งกนั ไป
การเลือกผู้จดั จา้ หนา่ ยวตั ถุดบิ /สินคา้
ผูจ้ ัดจาหนา่ ยที่ร้จู ักในปัจจบุ ัน 5 ราย แสวงหาผ้จู ัดจาหน่ายรายใหม่ 10 ราย
ขอใบเสนอราคาจากผจู้ ้าหน่ายแตล่ ะราย
ผจู้ ัดจาหน่ายในปัจจุบัน 5 ราย ผจู้ ัดจาหน่ายรายใหม่ 10 ราย
พิจารณาข้อมูลจากในเสนอราคาจากผู้จดั จ้าหน่ายวตั ถดุ บิ
ผจู้ ดั จาหน่ายในปัจจบุ ัน 5 ราย ผจู้ ัดจาหน่ายรายใหม่ 10 ราย
คดั เลือกผจู้ ดั จา้ หนา่ ย
ผูจ้ ัดจา้ หนา่ ยวตั ถดุ บิ /สินค้า ผผู้จ้จู ดั ัดจา้ จหา้ นห่ายนวา่ตั ยถุด3ิบ/สรินาคย้า ผ้จู ดั จ้าหน่ายวตั ถุดบิ /สินคา้
ทางเลอื กล้าดบั ท่ี 1 ทางเลอื กลา้ ดับที่ 3 (ส้ารอง)
ทางเลอื ก ล้าดบั ที่ 2
วัตถุดบิ /สนิ ค้าทม่ี คี ณุ ภาพ
ภาพที่ 2.4 กระบวนการในการเลอื กผ้จู ัดจาหน่ายวัตถดุ ิบ/สนิ คา้
ทมี่ า : (พิเชษฐ เนตรสว่าง, 2564)
34 การจัดการการจัดหาและการจดั ซอ้ื
2.2.5 เกณฑก์ ารตัดสินใจในการจดั ซ้อื (Criteria in purchasing decisions)
วัตถุประสงค์ของส่วนนี้คือการกาหนดเกณฑ์ที่ใช้ตามท่ีคณะกรรมการตรวจสอบสัญญา
การตัดสินใจเก่ียวกับสิ่งที่ทาสัญญาอีกคร้ังเกณฑ์เหล่าน้ีอาจแตกต่างกันระหว่างองค์กร แต่จะต้อง
กาหนดเป็นส่วนหน่ึงของแผนจัดการจดั ซ้อื จดั จา้ ง
เกณฑ์สาหรับการคัดเลือกและได้รับรางวัลของสัญญาการจัดซื้อภายใต้โครงการนี้
จะขึ้นอยู่กับเกณฑก์ ารตดั สินใจดังตอ่ ไปน้ี (www.ProjectManagementDocs.com: 2561)
(1) ความสามารถของผู้ขายเพอื่ ใหบ้ ริการทุกรายการจากวนั ที่ส่งมอบ
(2) คณุ ภาพ
(3) คา่ ใช้จา่ ย
(4) วนั ทส่ี ง่ มอบ
(5) การเปรียบเทยี บคา่ ใชจ้ ่ายเมอื่ เทียบกับ outsourced ในการจดั หา
(6) ประสิทธภิ าพทีผ่ า่ นมา
เกณฑ์เหล่านี้จะมีการวัดตามท่ีคณะกรรมการทบทวนสัญญาและ/หรือผู้จัดการโครงการ
ตัดสนิ ใจทดี่ ีท่ีสุดที่จะทาขึน้ อย่กู ับเง่ือนไขเหล่าน้เี ป็นทรัพยากรท่ีมอี ยู่
การท่ีจะทาการจัดซื้อจัดหาสินค้าหรือวัตถุดิบชนิดใดชนิดหน่ึงน้ัน กลยุทธ์หนึ่งในการสร้าง
ความได้เปรียบก็คือการสร้างและการพัฒนาผู้ส่งมอบ ซ่ึงรูปแบบของการพัฒนาผู้ส่งมอบมีหลาย
รูปแบบ (รุธิร์ พนมยงค์ และคณะ: 2550) ไดก้ ล่าวอ้างถึง การแบ่งประเภทของผู้ส่งมอบ โดยสมาคม
การบริหารการจัดซ้ือแห่งชาติ (Nation Association of Purchasing Management: NAPM) ซึ่ง
แบ่งผ้สู ่งมอบออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ตามความสมั พนั ธ์ระหว่างผสู้ ่งมอบกับธุรกจิ ได้ดังนี้
1) ผู้ส่งมอบที่ผ่านการคัดเลือก (Approved Suppliers)เป็นผู้ส่งมอบท่ีผ่านกระบวนการ
คัดเลือกของธุรกิจในเบื้องต้น และได้รับการยอมรับให้อยู่ในรายช่ือของผู้ส่งมอบของวัตถุดิบน้ันๆ
ของธรุ กิจ หรือเรียกวา่ บัญชรี ายช่ือผสู้ ่งมอบทผ่ี ่านการคดั เลอื ก (Approve Vendor List /AVL) ซ่ึงผู้
สง่ มอบที่จะอย่ใู นรายช่ือของธุรกิจไดน้ น้ั จาเป็นอยา่ งย่ิงทีจ่ ะต้องมีคุณสมบัตเิ ฉพาะ ดงั น้ี
(ก) วัตถุดิบหรือสินค้าของผู้ส่งมอบมีลักษณะตรงตามข้อกาหนดและคุณสมบัติที่
กาหนดไว้ของบรษิ ัท
(ข) ราคา (Price) ท่ผี ู้ส่งมอบนาเสนอเปน็ ราคาท่ียอมรับไดใ้ นตลาด
(ค) ผู้ส่งมอบมีความสามารถท่ีจะส่งมอบสินค้าหรือวัตถุดิบได้ตรงตามเวลาและปริมาณ
ท่ีตอ้ งการ
บทท่ี 2 การวางแผนการจดั หาจัดซ้ือในอตุ สาหกรรมและโลจสิ ตกิ ส์ 35
2) ผู้ส่งมอบในลาดับต้น (Preferred Suppliers) เป็นผู้ส่งมอบที่ดาเนินธุรกิจกับบริษัทอยู่
แล้ว โดยมีการจัดส่งสินค้าหรือวัตถุดิบให้กับบริษัทอย่างสม่าเสมอและสามารถตอบสนองต่อความ
ต้องการของบริษัทได้อย่างดี เช่น มีการส่งมอบวัตถุดิบหรือสินค้าที่ตรงเวลาและปริมาณท่ีต้องการ
คุณภาพของวัตถุดิบหรือสินค้าตรงตามท่ีตกลงราคา (Price) ของวัตถุดิบหรือสินค้ามีความ
สมเหตุสมผล นอกจากนี้ยงั มีคุณลักษณะพิเศษบางอยา่ งที่เพิ่มเติมข้ึนจากผ้สู ง่ มอบที่ผ่านการคัดเลือก
(Approved Suppliers) ดังน้ี
(ก) เม่ือบริษัทมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของการส่งมอบวัตถุดิบหรือสินค้า เช่น ปริมาณ
การสั่งซ้ือ ระยะเวลาในการส่งมอบ คุณสมบัติของวัตถุดิบหรือสินค้า เป็นต้น ผู้ส่งมอบก็สามารถ
ตอบสนองตอ่ การเปลีย่ นแปลงในเงื่อนไขดงั กล่าวได้อย่างดี
(ข) ต้องเป็นผู้ส่งมอบท่ีมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถนาเสนอรูปแบบของ
ผลิตภณั ฑ์หรือบรกิ ารท่จี ะทาใหต้ ลาดและลกู คา้ มีความพงึ พอใจยงิ่ ขนึ้
(ค) หากเกิดปญั หาเก่ียวกับเร่ืองการสง่ มอบสินค้าหรือวตั ถุดิบ ผสู้ ่งมอบทีอ่ ยูใ่ นประเภท
นี้จะมีการแจ้งเตือนบริษัทที่เป็นลูกค้าของตนล่วงหน้าถึงปัญหาที่จะเกิดข้ึน เพ่ือท่ีว่า บริษัทน้ันๆ
จะได้มีการวางแผนปรบั ปรุงการผลติ รวมถงึ แผนการรองรับด้านอ่ืนๆ
(ง) ผ้สู ่งมอบท่ีอย่ใู นประเภทนีจ้ ะมีห้องทดลอง เพอื่ ทดสอบและตรวจสอบคุณภาพของ
วัตถุดิบหรือสินค้าก่อนที่จะทาการส่งมอบให้กับลูกค้าของตน อีกทั้งยังต้องสามารถออกเอกสาร
การรบั รองคุณภาพสนิ คา้ หรอื วตั ถดุ บิ ให้กบั ลกู ค้าไดอ้ ีกด้วย
(จ) ผู้ส่งมอบท่ีอยู่ในประเภทน้ีจะต้องเป็นผู้ส่งมอบที่มีความมุ่งม่ันที่จะพัฒนา
ความสมั พนั ธ์ในระยะยาวกบั บรษิ ัทท่เี ปน็ ลูกคา้ ของตน
3) ผู้ส่งมอบที่ได้รับการยอมรับ (Certified Suppliers) เป็นผู้ส่งมอบท่ีมีระบบคุณภาพ
ที่สามารถทดแทนระบบการควบคุมคุณภาพของบริษัทได้ ทาให้สินค้าหรือวัตถุดิบทีส่งมาจากผู้ส่ง
มอบไม่จาเป็นต้องมีการตรวจสอบสินค้าหรือวัตถุดิบที่รับเข้ามา (Incoming Quality Control
Inspection) ซ่ึงลักษณะเช่นน้ีแสดงถึงความไว้วางใจในระบบการตรวจสอบคุณภาพของผู้ส่งมอบที่
อยู่ในประเภทน้ี โดยปกติแล้วบริษัทจะมีการตรวจสอบระบบต่างๆ ของผู้ส่งมอบประเภทที่ได้รับ
การยอมรับ ยกตัวอย่างเช่น ระบบการตรวจรบั วัตถุดบิ ของผูส้ ่งมอบ ระบบการผลิตสินค้าหรือวัตถดุ ิบ
ของผู้ส่งมอบ ระบบการตรวจสอบก่อนมีการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า เป็นต้น ซ่ึงระบบการตรวจสอบ
ก่อนท่ีจะทาการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าของผู้ส่งมอบแต่ละรายนั้นมักจะมีลักษณะท่ี คล้ายคลึงกับ
ก า ร ต ร ว จ เ ช็ ค คุ ณ ภ า พ ข อ ง วั ต ถุ ดิ บ ข อ ง ลู ก ค้ า เ มื่ อ ผู้ ส่ ง ม อ บ ไ ด้ ส่ ง ม อ บ วั ต ถุ ดิ บ ห รื อ สิ น ค้ า
36 การจดั การการจัดหาและการจัดซือ้
ชนิดนั้นๆ สรุปว่า ผู้ส่งมอบที่ได้รับการยอมรับน้ีเป็นผู้ส่งมอบที่ได้รับความไว้วางใจสูงมากในแง่
คุณภาพ ไม่เกิดการส่งคืนสินค้าหรือวัตถุดิบ นอกจากน้ีจะต้องเป็นผู้ส่งมอบที่มีข้อตกลงในอันที่จะ
พัฒนาความสมั พนั ธ์ไปสู่ความสมั พันธ์ระยะยาวกับบรษิ ทั
4) ผู้ส่งมอบที่อยู่ในฐานะหุ้นส่วน (Partnership Suppliers) เป็นผู้ส่งมอบที่มีปริมาณ
การซื้อขายวัตถุดิบหรือสินค้ากับบริษัทมากที่สุดและมีการดาเนินงานร่วมกันในฐานะหุ้นส่วนท่ีจะ
ได้รับประโยชน์ร่วมกันจากการซื้อขายสินค้าหรือวัตถุดิบ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
อย่างยุติธรรมด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากน้ียังหมายรวมถึงการทางานในด้านอื่นๆ ร่วมกัน เช่น
การวางแผนการส่งมอบ การร่วมกันพัฒนาสินค้าใหม่ เป็นต้น นอกเหนือจากคุณลักษณะพิเศษ
ที่กล่าวมาแล้ว ยังรวมถงึ การเปน็ ผู้ส่งมอบที่มีความรู้ความสามารถ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ในด้าน
การนาเอาเทคโนโลยมี าปรบั ใช้ตลอดจนการมีขอ้ ตกลงร่วมกนั ในด้านของการส่งมอบสนิ ค้าท่สี ามารถ
ปรับเปล่ียนได้ตามเง่ือนไขหรือการเปล่ียนแปลงต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้ส่งมอบท่ีมีการดาเนินการ
วิจัยและพัฒนาสินค้าร่วมกับบริษัท จะมีการลงทุนในสินค้านั้นๆ ร่วมกันด้วย ทาให้เกิดการร่วมทุน
กันทจ่ี ะพัฒนาสินค้าในอนาคตจากผลกาไรท่ีเกดิ ขึน้
ตวั อย่างที่ 2.3 วิธีการคดั เลือกผู้จดั จาหน่าย โดยคานึงถงึ ปัจจยั ท่ีส่งผลตอ่ การตดั สินใจเลือกดงั นี้
ตารางท่ี 2.1 การคัดเลือกผ้จู ัดจาหนา่ ย
ทมี่ า : (พิเชษฐ เนตรสวา่ ง, 2564)
ผู้จัด ราคาของ คณุ ภาพของ การบริการ ตรงต่อ การตอบสนอง รวม
จา้ หน่าย สนิ ค้า สนิ คา้ 10 เวลา ของผจู้ ดั จา้ หนา่ ย คะแนน
คะแนนเต็ม 10 10 10
10 50
A5 8 7 7
8 35
B 8 9 8 10 10 45
C7 8 9 7 9 40
จากตารางการคัดเลือกผู้จัดจาหน่ายด้านบนจะเห็นได้ชัดเจนว่า เราควรจะเลือกซื้อ
จากบริษทั B เนอ่ื งจากได้รบั คะแนนสูงกว่า บรษิ ัท A และ บริษัท C นน้ั เอง
บทที่ 2 การวางแผนการจดั หาจัดซอ้ื ในอตุ สาหกรรมและโลจสิ ตกิ ส์ 37
2.3 การวางแผนจัดหาเชิงกลวธิ ี (The plan provides mechanical methods.)
การจัดซ้ือจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบท่ีสุด เพ่ือได้สินค้าท่ีเหมาะสม
กับความต้องการของโรงงานมากท่ีสุด (ไม่ใช่เพื่อได้สินค้าท่ีดีทส่ี ุด) ผ้ซู ้ือจาเปน็ ต้องทราบรายละเอียด
ของสินค้าเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้สินค้าท่ีตรงความต้องการ ซึ่งปัจจุบันม่ักจะมีปัญหาอยู่บ่อยๆ คือ
คนซื้อไม่รู้เรื่อง ซ้ือมาแต่ถูกๆ คุณภาพห่วยแตก เอามาผลิตก็ไม่ได้เร่ือง คนที่โดนด่าก็มักจะเป็นฝ่าย
ผลติ สะส่วนใหญ่
การจัดหาจัดซ้ือ เริ่มต้นด้วยการกาหนดความต้องการอย่างหน่ึงอย่างใดขึ้น และจบลงด้วย
การได้มาซึ่งความต้องการน้ัน วงจรการจัดหาส่วนใหญ่จะต้องอาศัยวิธีการ (Procedure) เก่ียวกับ
การจัดหา คือวิธีการจัดหาที่ดี คาตอบก็น่าจะเป็นว่า วิธีการจัดหาท่ีดีจะต้องอาศัยเคร่ืองมือให้
ปฏิบัติงานได้สาเร็จตามวัตถุประสงค์ของการจัดหาอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการจัดหาเช่นน้ี จะมี
ลักษณะดงั น้คี ือ
- งา่ ยต่อการปฏบิ ัติ
- สามารถเข้าใจได้
- มคี วามยดื หยนุ่ พอสมควร
- ก่อให้เกดิ ความประหยัดสงสดู ฯลฯ
นอกจากวิธีการน้ีแล้ว การจัดหาจะต้องเก่ียวข้องกับงานด้านกฎระเบียบ และคาสั่งฯลฯ
ของหน่วยงาน เน่ืองจากการจัดหาเก่ียวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ ระหว่างบุคคลหรือนิติบุคคล
2 ฝ่ายขึ้นไป บางคัร้งความยุ่งยากก็อาจเกิดข้ึนจากขอ้ ตกลง หรือข้อแม้ต่าง ๆ ในสัญญาระหว่างผู้ซื้อ
และผู้ขาย ฉะนั้น เพ่ือท่ีจะหลีกเล่ียงปัญหาดังกล่าว ผู้ท่ีดาเนินการจัดหาจะต้องศึกษากฎและ
ระเบยี บต่างๆ ทีเ่ ก่ียวข้องให้ เพียงพอและเขา้ ใจได้โดยตลอด
2.3.1 หน้าท่คี วามรับผิดชอบในการจดั ซ้อื จัดหา (Responsibilities in Purchasing)
Monczka, et al. (2005) ได้จาแนกหน้าท่ีความรับผิดชอบการจัดซ้ือ (Responsibilities
of Purchasing) ไว้ดังนี้คือ
1) พิจารณาและคัดเลือกผู้ขาย
2) ตรวจสอบข้อมลู คณุ สมบตั ิทางด้านเทคนิคของวตั ถดุ ิบท่จี ะจัดซ้ือ
3) เปน็ ผู้ตดิ ตอ่ ประสานงานคนแรกกบั ผู้ขาย
4) เลือกวธิ จี ดั ซอ้ื จดั จา้ ง
38 การจัดการการจัดหาและการจดั ซื้อ
นอกจากหน้าที่ความรับผิดชอบการจัดซื้อ (Purchasing) ตามการจาแนกของ (Monczka, et
al. : 2005) แล้ว ฝ่ายจัดซ้ือจะต้องรับผิดชอบท้ังงานบริหาร และงานประจาวัน งานต่าง ๆ โดยมี
รายละเอียดของหนา้ ที่ดงั นี้ (อดลุ ย์ จาตุรงคกลุ , 2547)
(ก) ข่าวสารท่ัวไป
(1) ทาบนั ทกึ การซื้อ
(2) ทาบนั ทกึ ราคา
(3) ทาบันทกึ สต็อกและการใช้
(4) ทาบันทึกเก่ียวกบั ผขู้ าย
(5) ทาบนั ทึกแฟ้มคณุ ลักษณะเฉพาะของสนิ ค้าที่ต้องการ
(6) ทาบันทกึ แฟ้มแคตาล็อก
(ข) การวจิ ัย (Research)
(1) จัดทาการศึกษาตลาด
(2) จัดทาการศึกษาวัตถดุ บิ
(3) จัดทาการวิเคราะห์ตน้ ทุน/ราคา
(4) จัดทาการวิเคราะหค์ ่าวัตถุดบิ
(5) สอบสวนแหลง่ วตั ถุดบิ
(6) ตรวจสอบโรงงานผ้ขู าย
(7) พัฒนาแหล่งขาย
(8) พฒั นาแหลง่ และวตั ถุดิบที่จะเอาไว้ใชเ้ ป็นทางเลอื ก
(ค) การจัดซอ้ื (Purchasing)
(1) ตรวจใบขอซื้อ
(2) แสวงหาใบเสนอราคา
(3) วเิ คราะหใ์ บเสนอราคา
(4) ทาการเลือกวา่ จะซอื้ โดยจัดทาสญั ญาหรอื ซ้ือเงนิ สด
(5) วางตารางการซื้อและสง่ ของ
(6) สมั ภาษณพ์ นักงานขาย
(7) ตอ่ รองราคาและเขยี นสัญญา
(8) ออกใบสั่งซ้ือ
บทท่ี 2 การวางแผนการจดั หาจัดซ้อื ในอุตสาหกรรมและโลจสิ ตกิ ส์ 39
(9) ตรวจเงือ่ นไขทางกฎหมายในสญั ญา
(10) ติดตามผลการส่งของ
(11) ตรวจใบรบั วัตถุดิบ
(12) ตรวจใบแจง้ หน้ี
(13) โตต้ อบจดหมายกับผขู้ าย
(14) ทาการปรบั ให้ถูกต้องกับผูข้ าย
(ง) การบรหิ ารวตั ถดุ บิ (Supplies Management)
(1) เกบ็ รกั ษาสต็อกให้น้อยท่ีสุด
(2) ปรบั ปรุงการหมนุ เวยี นของวตั ถดุ ิบ
(3) โยกยา้ ยวัตถดุ ิบ
(4) หลกี เล่ียงวตั ถดุ บิ เกนิ ความจาเปน็ และล้าสมัย
(5) จดั ใหม้ หี บี ห่อและส่งิ บรรจทุ ม่ี ีมาตรฐาน
(6) จดั ทาบญั ชขี องส่งิ บรรจทุ ่ตี ้องคืนผูข้ าย
(7) รายงานพันธกรณที ีม่ ีเป็นระยะ ๆ
(จ) เบด็ เตลด็
(1) คาดคะเนต้นทนุ
(2) จาหนา่ ยวตั ถดุ บิ ท่ีเป็นซาก ลา้ สมยั และวัตถดุ ิบเกนิ ความต้องการ
(ฉ) กจิ กรรมพิเศษ กิจกรรมเหลา่ นี้ พอจะยกตัวอยา่ งไดด้ งั นี้
(1) ตดั สนิ ใจว่าจะผลติ เองหรือซ้ือ
(2) การทาใหเ้ ป็นมาตรฐาน
(3) การออกคุณลกั ษณะเฉพาะ
(4) การหาวตั ถุดบิ แทน
(5) การยอมรับการทดสอบวตั ถุดิบ
(6) งบประมาณสาหรับวัตถดุ บิ
(7) การควบคุมวัตถดุ บิ คงคลงั
(8) เลือกอุปกรณห์ ลัก
(9) โครงการก่อสร้าง
(10) การใหโ้ ครงการผลติ เป็นไปตามวัตถุดบิ ท่ีมีหรือหาได้