The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thippawan_kai, 2022-09-15 03:38:07

เอกสารประกอบการสอน “การจัดการการจัดหาและการจัดซื้อ”

ดร.พิเซษฐ เนตรสว่าง

Keywords: เอกสารประกอบการสอน ตำรา

90 การจัดการการจดั หาและการจัดซอื้

สรุป จากการคานวณโดยวิธีการใช้ค่าคาดหวัง (Expected Value : E.V.) ของทางเลือกท้ัง
3 ทางเลือก จะเห็นว่าค่า E.V. ของการขยายโรงงานมีมูลค่าสูงสุด คือ 304 ล้าน USD ดังน้ันเลือก
ทางเลอื กการขยายโรงงาน

(2) การใช้ค่าเสียโอกาส (Expected opportunity cost: E.O.L) การตัดสินใจโดยใช้ค่าเสีย
โอกาส มีหลักการดังตอ่ ไปนี้

- สรา้ งตารางแสดงคา่ เสยี โอกาสในแต่ละเหตกุ ารณ์
- คานวณคา่ เสียโอกาสทคี่ าดหวงั
- เลือกทางเลือกที่มีคา่ เสยี โอกาสตา่ ทสี่ ุด

ตัวอย่างที่ 4.4 จากข้อมูลในตัวอย่างท่ี 4.3 ใช้การวิเคราะห์โดยวิธี EOL ในการตัดสินใจ เลือก

ทางเลือกทดี่ ที ส่ี ดุ

เหตกุ ารณ์ P ทางเลอื ก
ขยายโรงงาน จ้างโรงงานอน่ื ผลติ เพม่ิ เวลาการทางาน

เศรษฐกิจดี 0.5 500 0 300 200 100 400

เศรษฐกจิ ชะลอตัว 0.3 200 0 150 50 50 150

เศรษฐกจิ ถดถอย 0.2 -30 40 -5 15 10 0

การคานวณหาค่าเสียโอกาส พิจารณาแต่ละสถานการณ์แล้วดูว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ใด
เหตุการณ์หนึ่งข้ึน ทางเลือกท่ีมีอยู่จะมีค่าเสียโอกาสอย่างไร เช่นถ้าเศรษฐกิจดีแล้วได้เลือกขยาย
โรงงาน ผลตอบแทนคือ 500 ล้าน USD ซึ่งเป็นทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด เม่ือเทียบกับ
ทางเลือกอ่ืน แต่ถ้าเลือกจ้างโรงงานอื่นผลิต ผลตอบแทนจะได้แค่ 200 ล้าน USD ซ่ึงในกรณีนี้ถือว่า
มีค่าเสียโอกาส เกิดข้ึนเนื่องจากว่าเราได้ทิ้งทางเลือกขยายโรงงานไป (ซึ่งเป็นทางเลือกท่ีให้
ผลตอบแทนสูงสุด) และค่าเสียโอกาสท่ีเกิดข้ึนมีค่าเท่ากับ 500 - 200 = 300 ล้าน USD และ
ถา้ เลอื กใชว้ ิธีขยายเวลาทางานแล้วเศรษฐกจิ ดี จะมคี ่าเสียโอกาสคอื 300 - 100 = 400 ลา้ น USD

ดงั น้ัน ค่าเสียโอกาสในกรณีของผลตอบแทน จะได้จากค่ามากสุดในแต่ละเหตุการณ์ลบด้วย
ค่าของผลไดใ้ นแต่ละเหตกุ ารณข์ องทางเลอื กต่าง ๆ

การคานวณหาค่าเสียโอกาสที่คาดหวัง (E.O.L.) ทาได้โดยใช้ค่าความน่าจะเป็นคูณกับ
ค่าเสียโอกาสที่คาดหวัง (โดยทาทีละทางเลือก ทางเลือกหนึ่งทาทุกเหตุการณ์ แล้วนาผลลัพธ์มา
รวมกนั )

บทที่ 4 การตัดสนิ ใจในการจดั หาจดั ซอื้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 91

โดยทางเลือกที่ 1 คือ E.O.L. ของการขยายโรงงาน = (0.5 * 0) + (0.3 * 0) + (0.2 * 40)
= 0 + 0 + 8 = 8 ล้าน USD **

ทางเลอื กที่ 2 คอื E.O.L. ของการจ้างโรงงานอน่ื ผลติ = (0.5 * 200) + (0.3 * 50) + (0.2 *15)
= 100 + 15 + 3 = 118 ลา้ น USD

ทางเลอื กที่ 2 คือ E.O.L. ของการขยายเวลาทางาน = (0.5 * 400) + (0.3 * 150) + (0.2*0)
= 200 + 45 + 0 = 245 ล้าน USD

สรุป จากการคานวณโดยการใชค้ า่ เสยี โอกาส (Expected opportunity cost : E.O.L) น้อย
ทสี่ ดุ นั้นของทางเลือกทั้ง 3 ทางเลอื ก จะเหน็ ว่าคา่ E.O.L ของการขยายโรงงานมีมูลคา่ น้อยทส่ี ดุ คือ
8 ล้าน USD ดงั นั้นควรพจิ ารณาเลอื กทางเลือกในการขยายโรงงาน

ตัวอย่างท่ี 4.5 บริษัท A ทาการวิเคราะห์ต้นทุน เพื่อการตัดสินใจในการจัดซ้ือวัตถุดิบจากซัพพลาย
เออร์ ในตารางต้นทุนต่อไปนี้ บริษัท A มีการซ้ือขายวัตถุดิบซ่ึงมีอยู่สามทางเลือก คือทาสัญญาซ้ือ
ขายระยะยาว, ทาสัญญาซื้อขายระยะสั้น, ไม่ทาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และเหตุการณ์ที่อาจจะ
เกิดขึ้นเก่ียวกับวัตถุดิบก็คือ วัตถุดิบขึ้นราคา, ราคาถูกลง, และมีราคาท่ีไม่เปลี่ยนแปลง
จากตารางขอ้ มลู ขา้ งลา่ งน้ี จงเลอื กทางเลอื กท่ีดีทส่ี ุด

ทางเลอื ก (A)

เหตุการณ์(E) P ทาสญั ญาซ้ือระยะยาว ทาสญั ญาซ้ือระยะสน้ั ไมท่ าสญั ญาลว่ งหน้า

(A1) (A2) (A3)

วัตถุดิบข้ึนราคา 0.3 70 80 100

วตั ถดุ ิบราคาถูกลง 0.1 70 40 50

ราคาไม่เปลยี่ น 0.6 70 60 60

วิธีทา วิธีแรก ใช้วิธี E.V. คานวณหาค่าคาดหวังในแต่ละทางเลือกแล้วเลือกทางเลือกดีที่สุด คาว่า"
ทางเลือกที่ดีที่สุด" ต้องพิจารณาว่าเป็นเร่ืองอะไร ถ้าเป็นกาไรหรือผลได้ต่าง ๆ ดีที่สุดคือค่าสูงสุด
แตถ่ ้าเป็นเรื่องเก่ยี วกับ ต้นทุน, รายจ่าย ดที สี่ ุดคอื ค่าต่าสดุ

92 การจัดการการจดั หาและการจดั ซอ้ื

ตารางแสดงคา่ คาดหวังของแตล่ ะทางเลือก

เหตุการณ์(E) P (A1) ทางเลอื ก(A) (A3)
0.3 0.3*70 = 21 (A2) 0.3*100
วตั ถุดิบขึ้นราคา 0.1 0.1*70 = 7 0.1*50
วตั ถดุ บิ ราคาถูกลง 0.6 0.6*70 = 42 0.3*80 = 24 0.6*60
ราคาไม่เปล่ยี น รวม 70 0.1*40 = 4 210
0.6*60 = 36

64**

จากตารางแสดงค่าคาดหวัง (E.V.) เห็นว่าทางเลือก A2 (ทาสัญญาซ้ือระยะสั้น) เป็นทางเลือก
ที่ให้ค่าคาดหวังต่าท่ีสุด ซ่ึงถือว่าดีที่สุดในกรณีนี้ เพราะกรณีน้ีเป็นเร่ืองของต้นทุน ดังนั้นเลือก
ทาสัญญาซ้อื ระยะสน้ั

วธิ ที ี่ 2 การใชว้ ิธีเทคนิค E.O.L. สรา้ งตารางแสดงคา่ เสียโอกาส

เหตกุ ารณ์ P (A1) ทางเลือก (A3)
(A2)

วตั ถุดบิ ขึ้นราคา 0.3 70 (70-70=0) 80 (80-70=10) 100 (100-70=30)

วัตถดุ ิบราคาถูกลง 0.1 70 (70-40=30) 40 (40-40=0) 50 (50-40=10)

ราคาไม่เปลยี่ น 0.6 70 (70-60=10) 60 (60-60=0) 60 (60-60=0)

ข้อสังเกต เร่ืองนี้เป็นเรื่องของต้นทุน ดังนั้น ทางเลือกท่ีเสียต้นทุนต่าสุด แสดงว่าค่า
เสียโอกาสก็ต่าด้วย ดังน้ันในแต่ละเหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นทางเลือกทีต่ ้นทุนต่าสุดค่าเสียโอกาสก็จะต่าสุด
น่ันคือ ค่าเสียโอกาส = 0 และทางเลือกที่มีต้นทุนสูงกว่าค่าเสียโอกาสก็สูงตามด้วย ในกรณีของ
ต้นทุนการหาค่าเสียโอกาสสามารถหาได้โดยนาค่าต่าสุดในแต่ละเหตุการณ์ไปหักออกจา กจากทุก
ทางเลอื กในเหตุการณน์ ั้น โดยทาทีละเหตกุ ารณ์

วิธที า หาค่า E.O.L. P A1 A2 A3
E 0.3 0*0.3 = 0 10*0.3 = 3 30*0.3 = 9
0.1 30*0.1 =3 0*0.1 = 0 10*0.1 = 1
วัตถุดิบขน้ึ ราคา 0.6 10*0.6 =6 0*0.6 = 0 0*0.6 =0
วัตถดุ ิบราคาถูกลง รวม
ราคาไม่เปลย่ี น 9 3** 10

บทท่ี 4 การตัดสนิ ใจในการจดั หาจัดซ้อื อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 93

จากค่า E.O.L. ท่ีคานวณได้เลือกทางเลือกที่มีค่าเสียโอกาสต่าสุด นั่นคือเลือกทางเลือกท่ี 2
เลือกทางเลือกในการขยายโรงงาน

ค่าEPPI (Expected payoff with Perfect information) และค่า EVPI (Expected Value
Perfect Information)

ถา้ ในการตัดสินใจ สมมติว่าผูท้ าการตัดสินใจมขี ้อมูลข่าวสารทแ่ี ม่นยาเหมือนกับทราบอนาคต
(ซ่งึ เกดิ ขน้ึ ยากในความเป็นจรงิ ) จะทาใหเ้ ลอื กทางเลือกที่ดีท่สี ดุ ไดโ้ ดยง่าย

ซึ่งสามารถคานวณค่าคาดหวังในกรณีท่ีมีข่าวสารสมบูรณ์ได้โดยพิจารณาว่า ในแต่ละ
เหตุการณ์ ทางเลือกใดคือทางเลือกที่ดีท่ีสุด เลือกทางเลือกนั้นออกมาแล้วนาค่าความน่าจะเป็นคูณ
เข้าไป ทาทุกเหตุการณ์ และหาผลรวมออกมา ค่าผลรวมท่ีได้คือค่าคาดหวังในกรณีท่ีมีข่าวสาร
สมบรู ณ์หรือเรยี กสนั้ ๆ ว่า คา่ EPPI (Expected payoff with Perfect information)

ตัวอย่างที่ 4.6 จากตัวอย่างท่ี 4.3 จงหาค่า EPPI ผู้ผลิตผลไม้กระป๋องรายหน่ึง ผลิตผลไม้กระป๋อง
ส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะจาหน่ายได้ดีในอนาคต ผู้บริหารบริษัทจึงต้องการผลิต
ผลไม้กระป๋องเพ่ิมข้ึน ซึ่งก็มีทางเลือก 3 ทางในการเพ่ิมผลผลิตคือ ทางเลือกที่ 1 ขยายโรงงาน,
ทางเลือกที่ 2 จ้างโรงงานอื่นผลิตและทางเลือกท่ี 3 เพิ่มการทางานล่วงเวลาอีก 1 กะ โดยทางเลือก
ทั้งสามทางเลือกข้างต้น ให้ผลตอบแทนเป็นกาไรต่างกันไป ท้ังนี้ผลตอบแทนยังขึ้นอยู่กับสภาวะ
เศรษฐกิจของโลกอีกด้วย ซึ่งเศรษฐกิจโลกในอนาคตมีโอกาสเกิดขึ้นได้ 3 ลักษณะคือ เศรษฐกิจดี,
เศรษฐกิจชะลอตัว,และเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งได้แสดงกาไรในแต่ละทางเลอื กสาหรับแต่ละเหตุการณ์
ไดด้ งั นี้ (หนว่ ย : ล้านดอลล่าสหรัฐฯ)

จากข้อมูลข้างต้น การวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจของพนักงานฝ่ายวางแผน พบว่า โอกาส (P)
ที่เศรษฐกิจจะดี : ชลอตัว : ถดถอย คือ 5 : 3 : 2 ตามลาดับ จากขอ้ มลู ข้างต้นควรเลือกทางเลือกท่ีดี
ทส่ี ดุ ด้วยวธิ ี E.V.

สถานการณ์ P ทางเลอื ก
ขยายโรงงาน จ้างโรงงานอื่นผลติ เพม่ิ เวลาการทางาน

เศรษฐกิจดี 0.5 500* 300 100

เศรษฐกจิ ชะลอตัว 0.3 200* 150 50

เศรษฐกิจถดถอย 0.2 -30 -5 10*

เครอื่ งหมาย * แสดงถึงทางเลือกท่ีดที ี่สดุ ในเหตกุ ารณน์ ัน้ ๆ

94 การจัดการการจัดหาและการจัดซ้ือ

ผลลัพธ์ของทางเลือกที่ดีท่ีสุดในกรณีท่ีเศรษฐกิจ
ดี

EPPI = (0.5*500) + (0.3*200) + (0.2*10) = 250 + 60 + 2 = 312 ลา้ น USD

ค่าความน่าจะเปน็ ท่ีเศรษฐกจิ จะดี

สรุป คา่ EPPI คือ 312 ลา้ น USD นั่นคือ ถา้ มีขา่ วสารสมบูรณ์ผลตอบแทนสูงสุดท่จี ะไดค้ ือ
312 ลา้ น USD

พิจารณา จากตัวอย่างที่ 4.3 เลือกทางเลือกขยายโรงงาน โดยมีค่าตอบแทนท่ีคาดหวัง
(E.V.) คือ 304 ลา้ น USD (กรณนี ีย้ ังไม่มีข่าวสารสมบูรณ์ แต่ถ้ามีข้อมูลสมบรู ณ์ค่าคาดหวังจะเพ่ิมข้ึน
จาก 304 เป็น 312 ล้าน USD เพิ่มข้ึนมา 8 ล้าน USD ค่าท่ีเพิ่มขึ้นมาน้ีเรียกว่า ค่า EVPI
(Expected Value Perfect Information) จะสรุปความสมั พันธ์ระหว่าง EPPI กบั EVPI ไดด้ งั นี้

EVPI = EPPI – EV(Max)
ค่า EVPI = 8 ล้าน USD เป็นค่าที่เพ่ิมขึ้นมาในกรณีท่ีมีข้อมูลข่าวสารสมบูรณ์ แสดงว่าถ้า
ผู้บริหารจาเป็นต้องจ่ายเงินเพม่ิ ขน้ึ เพอื่ ใหไ้ ดข้ า่ วสารสมบูรณ์ เขาควรจ่ายเงนิ สงู สดุ แค่ 8 ลา้ น USD
ข้อสังเกต ค่าของ EVPI มีค่าเท่ากับค่าเสียโอกาสที่คาดหวัง (E.O.L.) ต่าสุดเสมอ
ลองเปรยี บเทียบดกู ับค่า E.O.L. ในตวั อยา่ งท่ี 4.3

 EVPI = EPPI – EV(Max) = EOL(Min)
4.6.2 การตัดสินใจภายใตค้ วามไม่แนน่ อน (Decision Making Under Uncertainty)

ความไม่แน่นอนคือการไม่รู้อะไรเลยเก่ียวกับเหตุการณ์ท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีข้อมูล
หรือความน่าจะเป็นในการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ หรือไม่สามารถคาดเดาได้เกี่ยวกับอนาคต วิธีการ
ตดั สนิ ใจภายใต้สถานการณน์ มี้ ดี ังต่อไปนี้

(1) Maxi-Max Criterion เป็นการตัดสินใจโดยเลือก ส่ิงที่ดีที่สุดก่อนในแต่ละทางเลือก
(พิจารณาทีละทางเลือกโดยดูทุกเหตุการณ์) แล้วเลือกดีท่ีสุดของดีที่สุดอีกคร้ังหน่ึง (วิธีน้ีผู้ตัดสินใจ
เลือกเฉพาะทางทีด่ ที ส่ี ุดเทา่ นน้ั ) ผู้ทใี่ ช้วิธนี ้ีจดั เป็นผทู้ ่ีมองโลกในแง่ดี

บทที่ 4 การตัดสินใจในการจดั หาจดั ซอ้ื อย่างมีประสทิ ธิภาพ 95

(2) Maxi-Min Criterion มีหลักในการตัดสินใจคือเลือกผลได้ท่ีน้อยท่ีสุดในแต่ละทางเลือก
สถานการณ์จากนั้นเลือกทางเลอื กทด่ี ที ่สี ดุ วธิ นี ้ีเป็นการทม่ี องโลกในแง่รา้ ยและไม่คอ่ ยกลา้ เสยี่ ง

(3) Mini-max Regret Criterion เป็นวิธีที่ใช้หลักค่าเสียโอกาส คือต้องสร้างตารางค่า
เสียโอกาสขึ้นมาก่อน จากนั้นเลือกค่าเสียโอกาสสูงสุดในแต่ละทางเลือกแล้วก็เลือกทางเลือกท่ีมีค่า
เสียโอกาสนอ้ ยท่สี ุด

ตัวอย่างที่ 4.7 บริษัท B ผู้ผลิตเสื้อกันฝน ต้องตัดสินใจผลิตเส้ือกันฝนในปีน้ี โดยมีทางเลือก
3 ทางเลือก คือ ผลิตมาก, ผลิตน้อย, และผลิตเท่าเดิม และเหตกุ ารณ์ที่จะเกิดข้ึนก็มีสามลักษณะคือ
ฝนตกทุกภาค, ฝนตกเฉพาะภาคใต้, ฝนไม่ตกเลย จากตารางข้างล่างนี้ เป็นตารางท่ีแสดงถึงกาไร
ท่ีเขาจะได้รับในแต่ละทางเลือกภายใต้เหตุการณ์ต่าง ๆ จากข้อมูลที่กาไรที่มีจงใช้วิธี Maxi-Max,
Maxi-Min, Mini-max regreat ในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด (ผลกาไรมีหน่วยเป็นล้าน
บาท)

เหตกุ ารณ์ ผลิตมาก ทางเลือก ผลิตเทา่ เดมิ
200 ผลิตน้อย 50
ฝนตกทกุ ภาค 50 80
ฝนตกเฉพาะภาคใต้ -100 100 -10
150
ฝนไมต่ กเลย -30

เหตุการณ์ ผลิตมาก ทางเลอื ก ผลติ เท่าเดิม
200 ผลิตนอ้ ย 50
ฝนทุกภาค 50 80
ฝนตกเฉพาะภาคใต้ -100 100 -10
150
ฝนไม่ตกเลย 200 -30 80
Maxi-Max 200
1. ค่า ดสี ดุ ของแตล่ ะทาง 150 -10
2. ทางเลอื กท่ีมีค่าดที ่ีสุด -100 -10
Maxi-Min -30
1. คา่ แยส่ ุดของแตล่ ะทาง
2. ทางเลอื กที่มีค่าดีท่ีสุด

96 การจดั การการจัดหาและการจดั ซอ้ื

จากการวิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใช้เทคนคิ Maxi-Max, Maxi-Min พบว่า
- วธิ ี Maxi-Max บรษิ ทั B เลือกทางเลอื ก ผลิตมาก เพราะไดก้ าไรสงู สดุ เปน็ มูลค่า 200 ลา้ นบาท
- วิธี Maxi-Min บรษิ ทั B เลือกทางเลอื ก ผลติ เท่าเดมิ เพราะขาดทุนน้อยสุด เปน็ มูลคา่ 10 ลา้ นบาท

สาหรับวิธี Mini-max regreat ขั้นแรกต้องสร้างตารางค่าเสียโอกาสก่อน การสร้างตาราง
ค่าเสียโอกาสต้องพิจารณาทีละเหตุการณ์ ให้ค่าท่ีดีท่ีสุดในแต่ละทางเลือกมีค่าเสียโอกาสเป็น 0 ใน
กรณีท่ีเป็นเรื่องของผลกาไรหรือขาดทุน ให้เอาค่าที่ดีท่ีสุดเป็นตัวตั้ง แล้วลบออกด้วยค่าในทางเลือก
อ่ืน ๆ ของเหตุการณ์น้ัน ๆ แต่ถ้าเป็นกรณีของต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย ให้เอาค่าที่ดีท่ีสุด (ซ่ึงเป็นค่า
ตา่ สุด) ไปหกั ออกจากค่าในทางเลือกอ่นื ๆ ในเหตกุ ารณ์นนั้ ๆ โดยสรา้ งตารางค่าเสยี โอกาสไดด้ ังน้ี

เหตกุ ารณ์ ผลติ มาก ทางเลือก ผลติ เท่าเดมิ
200 - 200 = 0 ผลติ น้อย 200 - 50 = 150
ฝนทกุ ภาค 150 - 50 = 100 200 - 100 = 100 150 - 80 = 70
ฝนตกเฉพาะภาคใต้ -10 - (-100) = 90 150 - 150 = 0 -10 - (-10) = 0
-10 - (-30) = 20
ฝนไม่ตกเลย 100 150
1.Max ของแตล่ ะทาง 100 100
2.ทางเลือกทมี่ ีคา่ Min 100

เมื่อสร้างตารางค่าเสยี โอกาสได้แล้ว ข้ันตอ่ ไปให้เลือกค่าทมี่ ากที่สุดในแต่ละทางเลือก จากน้ัน
ให้เลือกค่าที่น้อยท่ีสุดจากค่าท่ีได้เลือกไว้ ซึ่งได้ค่าที่น้อยที่สุดคือ 100 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือก
ดงั น้ันถ้าใชห้ ลกั Mini-max Regret จะตดั สนิ ใจ ผลิตมาก หรือ ผลติ น้อย กไ็ ด้

ตัวอย่างท่ี 4.8 บริษัท C เป็นบริษัทจัดจาหน่ายวัตถุดิบ มีทางเลือกในการขายวัตถุดิบ ให้กับบริษัท
คู่ค้า โดยมีทางเลือกอยู่ 2 ทางซ่ึงก่อให้เกิดรายจ่ายต่างกันไปซึ่งข้ึนอยู่กับเหตุการณ์ท่ีจะเกิดขึ้นใน
อนาคตด้วย และจากข้อมูลรายจ่ายที่มีอยู่ (หน่วยเป็นล้านบาท) ให้หาทางเลือกที่ดีท่ีสุด โดยใช้หลัก
Maxi-Max, Maxi-Min, และ Mini-max Regret

เหตกุ ารณ์ ทางเลือก
ตนุ สนิ ค้า ไม่ตนุ สินค้า
ของล้นตลาด
ของขาดตลาด 90 60
100 40
ของพอดี 50 120

บทท่ี 4 การตดั สนิ ใจในการจดั หาจดั ซอ้ื อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 97

วิธีที่ 1 เทคนิค Maxi-Max เรื่องนี้เป็นเรื่องของรายจ่ายหรือต้นทุน ต้องระวัง หลักของ

Maxi-Max คือ เลอื กดที สี่ ุดของดีท่สี ดุ (รายจ่ายที่ดที ส่ี ุดกค็ ือ รายจ่ายตอ้ งต่าๆ)

วิธีที่ 2 เทคนิค Maxi-Min หลักการก็คือ เลือกดีที่สุดในบรรดาทางเลือกที่แย่ท่ีสุด (ค่าใช้จ่าย

แย่ ๆ กค็ ือ ค่าใช้จา่ ยสูง)

เหตุการณ์ ทางเลือก

ตนุ สินค้า ไมต่ นุ สนิ คา้

ของลน้ ตลาด 90 60

ของขาดตลาด 100 40

ของพอดี 50 120

Maxi-Max

1.เลอื กค่าดที ี่สดุ ของแตล่ ะทาง 50 40

2. เลือกทางเลอื กท่คี า่ ดีทส่ี ุด 40

Maxi-Min

1.เลือกค่าแย่ทีส่ ดุ ของแตล่ ะทาง 100 120

2.เลอื กทางเลือกท่ีค่าดที ่ีสุด 100

วิธีท่ี 3 เทคนิค Mini-max regreat หลักการก็คือ วิเคราะห์ต้นทุนหรือค่าใชจ้ ่าย ให้เอาค่าท่ีดี
ที่สดุ (ซึ่งเป็นค่าต่าสุด) ไปหักออกจากคา่ ในทางเลอื กอ่นื ๆ ในเหตกุ ารณน์ ้นั ๆ

เหตกุ ารณ์ ทางเลอื ก

ของล้นตลาด ตนุ สินค้า ไมต่ ุนสนิ ค้า
ของขาดตลาด
90-60 = 30 60-60 = 0
ของพอดี
1.เลือกค่าเสียโอกาส Max แตล่ ะทาง 100-40 = 60 40-40 = 0
2. เลอื กทางเลอื กทีค่ ่าเสียโอกาส Min
50-50 = 0 120-50 = 70

60 70

60

สรปุ วธิ ีที่ 1 วธิ ี Maxi-Max บรษิ ทั C ควรเลือกไม่ตุนสินค้า เพราะมีรายจา่ ยน้อยทส่ี ดุ
วิธีที่ 2 วธิ ี Maxi-Min บรษิ ทั C ควรเลือกการตนุ สนิ ค้าเพราะมีรายจา่ ยน้อยท่สี ดุ

98 การจัดการการจดั หาและการจดั ซื้อ

วิธีที่ 3 วิธี Mini-max Regret จากตารางค่าเสียโอกาส บริษทั C ควรเลือกการตุนสินค้า
เพราะมรี ายจา่ ยทีน่ อ้ ยทส่ี ดุ

4.6.3 การตัดสินใจภายใต้การวิเคราะห์ผลจากการลงทุน (Decision Making under Analysis
of Investment Results) โดยการตัดสินใจภายใต้การวิเคราะห์ผลจากการลงทุน เป็นวิธีการ
ประมาณคา่ ใช้จา่ ยในระบบตา่ งๆ โดยมีต้นทุนคงท่ี (Fix Cost : FC) ต้นทุนผนั แปร (Variable Cost :
VC) และปริมาณสินค้าที่ต้องการผลิต (Demand : D) เพ่ือพิจารณาในการตัดสินใจให้บริษัทพิจาณา
ในการผลติ เอง หรอื ตัดสินใจซ้อื วัตถดุ ิบ

โดยมวี ิธกี ารคานวณ คือคา่ ใชจ้ า่ ยต่อปี (TC) = ตน้ ทุนคงท่ี + ตน้ ทนุ ผนั แปร
= ตน้ ทนุ คงท่ี + (ปริมาณ x ค่าใช้จา่ ยตอ่ หนว่ ย)
= FC + (D x VC)

แทนคา่ D = ปรมิ าณสินคา้ ทตี่ ้องการผลติ
FC = ต้นทนุ คงที่
VC = ตน้ ทุนผันแปร

ตัวอย่างที่ 4.9 บริษัทแหง่ หนึ่งผลิตรถยนต์ เพ่ือจาหน่ายในประเทศทง้ั หมด ซึ่งในปจั จุบันซื้อชิน้ ส่วน
ประกอบรถยนต์ประจาจากซัพพลายเออร์ ต่อมาบริษัทมีโครงการผลิตเอง ให้ศึกษาว่าบริษัทควร
ตัดสินใจผลิตเองในระบบการผลิตแบบยืดหยุ่น, ระบบการผลิตแบบต่อเน่ือง หรือสั่งซ้ือเหมือนเดิม
(หน่วย : บาท)

รายการ ระบบการผลติ แบบ ระบบการผลติ สัง่ ซ้ือสาเร็จรปู
ปริมาณการใช้ตอ่ ปี ยดื หยุ่น แบบต่อเน่ือง 50,000.00

50,000.00 50,000.00

ต้นทนุ คงที่ต่อปี 100,000.00 150,000.00 --

ต้นทุนแปรผนั ต่อหนว่ ย 30.00 28.00 35.00
วิธีทา จากสูตร

คา่ ใชจ้ ่ายตอ่ ปี (TC) = ต้นทุนคงที่ + ตน้ ทุนผนั แปร
= ต้นทุนคงท่ี + (ปริมาณ x คา่ ใช้จา่ ยตอ่ หนว่ ย)
= FC + (D x VC)

บทที่ 4 การตดั สนิ ใจในการจดั หาจดั ซอ้ื อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 99

ทางเลือกท่ี 1 คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลติ ระบบการผลติ แบบยดื หยุ่น = 100,000 + 50,000(30)

= 1,600,000 บาท

ทางเลอื กที่ 2 คา่ ใช้จ่ายในการผลติ ระบบการผลิตแบบตอ่ เน่อื ง = 150,000 + 50,000(28)

= 1,550,000 บาท **

ทางเลอื กท่ี 3 คา่ ใช้จา่ ยในการสั่งซอื้ สาเรจ็ รปู = 50,000(35)

= 1,750,000 บาท

สรุป ในการใช้ช้ินส่วนประกอบรถยนต์ปริมาณ 50,000 หน่วย บริษัท ควรเลือกผลิตเอง

ในระบบการผลิตแบบต่อเน่อื ง เพราะมตี น้ ทนุ สนิ ค้าท่รี าคาถกู ท่สี ดุ

ตัวอย่างท่ี 4.10 บริษัทแห่งหน่ึงมีการวางแผนผลิตบะหมี่ก่ึงสาเร็จรูป โดยต้องการลงทุนใน
การจัดการวัถุดิบท่ีใช้ในการผลิต ซึ่งทาให้เกิดค่าใช้จ่ายคงที่ และค่าใช้จ่ายผันแปรที่เกิดข้ึนตาม
จานวนการผลิตขึ้น ในขณะเดียวกันแผนกจัดซ้ือได้รับการเสนอจากผู้จาหน่ายวัตถุดิบ มีราคาที่
ผันแปรตามจานวนทีใ่ ช้ บรษิ ัทจงึ มกี ารพจิ ารณาค่าใช้จา่ ยที่ต้องเปรยี บเทียบ 2 ทางเลอื กดังนี้

รายการ บริษัทผลติ เอง ส่ังซ้ือสาเร็จรปู
ปริมาณการใชต้ ่อปี 500,000 ตนั 500,000 ตนั
ต้นทนุ คงท่ีตอ่ ปี 1,500,000 บาท --
ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหนว่ ย 35.00 บาท 37.50 บาท

วิธีทา จากสูตร

คา่ ใชจ้ ่ายตอ่ ปี (TC) = ต้นทุนคงที่ + ตน้ ทุนผนั แปร

= ตน้ ทนุ คงท่ี + (ปรมิ าณ x คา่ ใชจ้ า่ ยตอ่ หน่วย)

= FC + (D x VC)

ทางเลือกท่ี 1 ค่าใช้จา่ ยในการผลิตเอง = 1,500,000 + 500,000(35)

= 19,000,000 บาท

ทางเลือกท่ี 2 ค่าใชจ้ า่ ยในการสัง่ ซ้ือสาเร็จรปู = 50,000(35)

= 18,750,000 บาท

สรุป ในการผลิตบะหมี่กึ่งสาเร็จรูปปริมาณ 500,000 ตัน บริษัทควรเลือกตัดสินใจสั่งซ้ือ
วัตถุดิบจากผจู้ าหนา่ ยวัตถดุ ิบ เพราะมีราคาวัตถุดิบถกู กว่าที่บรษิ ทั จะผลติ เอง

100 การจดั การการจัดหาและการจดั ซ้ือ

4.7 ประโยชนข์ องการตัดสินใจในการจดั หาจดั ซอ้ื อย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมายของการตัดสินใจในการจดั หาจัดซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ คือการช่วยลดภาระหน้าที่

ของผู้บริหารในการตัดสินใจด้านต่างๆ ในการจัดหาจัดซ้อื และช่วยให้การตดั สนิ ใจบรหิ ารงานองค์กร
ส่วนอ่ืนเป็นไปอย่างราบร่ืน โดยประโยชน์ท่ีได้รับจากการตัดสินใจในการจัดหาจัดซ้ืออย่างมี
ประสิทธภิ าพ ได้แก่

4.7.1 ช่วยให้เกิดการพัฒนาประสิทธิภาพการทางานส่วนบุคคล โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ
การตัดสินใจในการจัดหาจัดซ้ือ ซึ่งเป็นงานหลักของผู้บริหาร เนื่องจากเทคนิคการตัดสินใจในการ
จัดหาจดั ซื้อจะช่วยใหก้ ารจัดการวตั ถุดิบและสินค้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพสงู สุด

4.7.2 ช่วยให้เกิดการพัฒนาประสิทธิภาพของการแก้ไขปัญหา โดยช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถ
แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว และถูกต้องมากย่ิงขึ้น และยังสามารถช่วยตัดสินปัญหากึ่งโครงสร้างและ
ปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลที่ได้รับจากการตัดสินใจน่ันๆ เพ่ือพิจารณา
ประกอบการตัดสินใจของฝ่ายจัดหาจัดซื้อ ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจมีความถูกต้อง รวดเร็ว และ
นา่ เชือ่ ถือมากย่ิงขึน้

4.7.3 ส่งเสรมิ การเรียนร้หู รือเปน็ ประสบการณ์ เน่ืองจากการตัดสินใจมกี ระบวนการทางานของ
การจัดหาจัดซื้อ คล้ายกระบวนการตัดสินใจของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อมีการใช้การตัดสินใจซ้าๆ จึงช่วย
พัฒนาการเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ ฝ่ายจัดหาจัดซื้อสามารถศึกษากระบวนการให้เหตุผล
ของการตัดสินใจผ่านการสอบถามถึงลักษณะปัญหา ขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา กระบวนการให้
ข้อเสนอแนะ และกระบวนการให้เหตุผล โดยเทคนิคการตัดสินใจท่ีช่วยส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้
และเปน็ ประสบการณท์ ี่ดี

4.7.4 การตัดสินใจมีในการจัดหาจัดซ้ือ ทาให้สามารถผู้บริหารสามารถบริหารและควบคุม
องคก์ รได้ดียง่ิ ข้ึน การบรหิ ารและควบคุมองค์กรเปน็ งานทต่ี ้องอาศัยการตัดสินใจหลายๆ ด้าน ดังนั้น
การตัดสินใจในการจัดหาจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถดาเนินการได้อย่างราบร่ืน
เป็นไปตามวตั ถุประสงคข์ ององคก์ ร

นอกจากน้ีการตัดสินใจมีในการจัดหาจัดซื้อ ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าและ
พนักงานภายในองค์กรช่วยในการตัดสินใจเพื่อเพ่ิมผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต โดยผลผลิตยังคงมี
คุณภาพตรงตามมาตรฐาน ซึ่งผลท่ีได้รับทั้งหมดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันกับองค์กรคู่แข่งท่ี
ประกอบธรุ กจิ ประเภทเดยี วกนั

บทที่ 4 การตดั สนิ ใจในการจดั หาจดั ซื้ออยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 101

สรุป

ในเรื่องของการตัดสินใจการจัดหา (Supply) และจัดซ้ือ (Purchasing) อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นกิจกรรมหน่ึงที่สาคัญมากอีกกิจกรรมหนึ่งของบริษัท ซึ่งในการบริหารจัดการโซ่อุปทาน
ของบริษัทต้องตะหนักถึงความสาคัญท่ีจะต้องมีการจัดการในการจัดซื้อวัตถุดิบ (Purchasing
Materials) และการจัดหาวัตถุดิบ (Supply Materials) ที่ดีมีคุณภาพเพ่ือตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้าท่ีเปลี่ยนไปจากการเน้นท่ีราคา และคุณภาพทีด่ ีของสินค้า โดยในการจัดหาจัดซ้ือจะต้องมี
กระบวนการเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกวัตถุดิบ และตัดสินใจเลอื กผู้จัดจาหนา่ ยวัตถุดิบ (Supplier)
ท่ีมีคุณภาพในราคาที่ยอมรับได้ และที่สาคัญจะต้องมรี ะบบทใ่ี ช้ในการตรวจสอบคณุ ภาพของวัตถุดิบ
และตัวผู้จัดจาหน่ายวัตถุดิบ (Suppliers) ซ่ึงจะเป็นตัวท่ีส่งผลทากให้ต้นทุน (Cost) รวมของบริษัท
ต่าลงตรงตามวัตถุประสงค์ของการบริหารจัดการโซ่อุปทานของบริษัท ในบทนี้มีเทคนิคในการ
ตัดสินใจในการจัดหาจดั ซือ้ ประกอบไปดว้ ยเทคนคิ ท่ีเรียกว่า การใช้คา่ คาดหวัง (Expected Value :
E.V.) การใช้ค่าเสียโอกาส (Expected opportunity cost : E.O.L) เทคนิคที่เรียกว่า Maxi-Max,
Maxi-Min, และ Mini-max Regret และเทคนิควิเคราะห์ผลจากการลงทุน เป็นวิธีการประมาณ
ค่าใช้จ่ายในระบบต่างๆ โดยมีต้นทุนคงที่ (Fix Cost : FC) ต้นทุนผันแปร (Variable Cost : VC)
และปรมิ าณสนิ ค้าทตี่ ้องการผลิต (Demand : D) มาใช้ในการแปรผลรบั เพื่อตดั สินใจในการลงทุน

102 การจดั การการจดั หาและการจดั ซื้อ

คาถามท้ายบทที่ 4

1. การตัดสนิ ใจในการจัดหาจัดซื้ออยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เป็นอย่างไร (อธบิ ายมาพอเขา้ ใจ)
2. ใหน้ กั ศึกษาอธิบายลกั ษณะของการตัดสนิ ใจในการจัดหาจัดซือ้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
3. ขั้นตอนของกระบวนการตดั สินใจมกี ่ีข้นั ตอน อะไรบ้าง (อธิบายมาพอเขา้ ใจ)
4. ให้นักศึกษาอธบิ ายรปู แบบของการตัดสินใจโดยบุคคลคนเดียว และการตดั สินใจโดยกล่มุ

บคุ คล แตกต่างกนั อย่างไร
5. สถานการณ์ของการตัดสินใจในการจดั หาจดั ซ้ือ มีอะไรบ้าง
6. เทคนคิ การตดั สนิ ใจ (Technics Decision Making) ในการจดั หาจัดซอื้ มีอะไรบา้ ง
7. บริษัทส่งออกชาเขียวแห่งหน่ึงในประเทศญี่ปุ่น ต้องการวางแผนในการขายวัตถุดิบ ให้กับ

บริษัทผลิตเครื่องด่ืมชาเขียวในประเทศไทย โดยมีทางเลือกอยู่ 2 ทางเลือก ซ่ึงก่อให้เกิด
ต้นทุนในการจัดจาหน่ายท่ีต่างกันไป ซ่ึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
และจากข้อมูลต้นทุนในการจัดจาหน่ายที่มีอยู่ (หน่วยเป็นล้านเยน) ให้หาทางเลือกที่ดีท่ีสุด
โดยใชห้ ลกั Maxi-Max, Maxi-Min, และ Mini-max Regret

สถานการณ์ ทางเลือก
สตอ็ กวตั ถุดิบ ไมส่ ต็อกวัตถดุ ิบ
วตั ถดุ บิ ล้นตลาด
วตั ถุดิบขาดตลาด 100 70
วัตถดุ ิบพอดี 120 50
70 90

8. ผู้ผลติ รถยนต์รายหน่ึง มีการวางแผนการผลิตรถยนต์สง่ ออกไปยังต่างประเทศ ซง่ึ มีแนวโน้ม
ว่าจะจาหน่ายได้ดีในอนาคต ผู้บริหารบริษัทจึงต้องการผลิตผลิตรถยนต์เพิ่มข้ึน ซึ่งก็มีการ
พิจารณาทางเลือก 3 ทาง ในการเพิ่มผลผลิต คือ ทางเลือกที่ 1 ขยายสาขา, ทางเลือกที่ 2
จ้างผลิต และทางเลือกท่ี 3 เพ่ิม OT โดยทางเลือกทั้ง 3 ทางเลือกข้างต้น ให้ผลตอบแทน
เป็นกาไรต่างกันไป ทั้งน้ีผลตอบแทนยังขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจของโลกอีกด้วย โดย
เศรษฐกิจโลกในอนาคตมีโอกาสเกิดข้ึนได้ 3 ลักษณะคือ เศรษฐกิจดี, เศรษฐกิจชะลอตัว,
และเศรษฐกิจตกต่า ซึ่งได้แสดงกาไรในแต่ละทางเลือกสาหรับแต่ละสถานการณ์ได้ดังน้ี
(หนว่ ย : ลา้ นดอลลา่ สหรฐั ฯ)

บทที่ 4 การตดั สนิ ใจในการจดั หาจัดซอ้ื อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 103

จากข้อมูลข้างต้น การวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจของพนักงานฝ่ายวางแผน พบว่า โอกาส (P)

ที่เศรษฐกิจจะดี ชลอตัว : ถดถอย คือ :2 : 5 : 3 ตามลาดับ จากข้อมูลข้างต้น ให้นักศึกษา

วิเคราะห์ทางเลือกทีด่ ที สี่ ดุ ดว้ ยวธิ ี E.V. วิธี E.O.L. และวิธี EPPI

สถานการณ์ P เพิม่ สาขา ทางเลือก เพม่ิ OT
จา้ งผลิต

เศรษฐกจิ ดี 0.2 300 200 150

เศรษฐกิจชะลอตวั 0.5 200 150 180

เศรษฐกิจตกตา่ 0.3 -20 10 50

9. บริษัทแห่งหน่ึงวางแผนผลิตน้าผลไม้ ต้องการลงทุนท่ีทาให้เกิดค่าใช้จ่ายคงท่ี และ
ค่าใช้จ่ายแปรผันที่เกิดขึ้นตามจานวนการผลิตข้ึน ในขณะเดียวกันแผนกจัดซื้อได้รับ
การเสนอ จากผู้จาหน่ายปัจจัยการผลิต ในราคาท่ีผันแปรตามจานวนท่ีใช้ มีคา่ ใช้จ่ายที่ต้อง
เปรียบเทียบ 2 โครงการดังน้ี

รายการ ระบบการผลิตแบบยดื หยนุ่ สั่งซื้อสาเร็จรูป

ปรมิ าณการใช้ต่อปี 20,000.00 20,000.00

ต้นทุนคงท่ีต่อปี 100,000.00 บาท --

ตน้ ทุนแปรผนั ตอ่ หน่วย 35.00 บาท 36.00 บาท

ถ้าท่านเปน็ ผบู้ รหิ ารฝา่ ยจดั ซ้ือ ทา่ นจะตัดสนิ ใจผลิตเอง หรือ ส่งั ซอื้ สาเรจ็ รูป

10. บริษัทผลิตเครื่องปั๊มน้า ต้องการหาช้ินส่วนมอเตอร์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทซื้อช้ินส่วนประจา

จากผูจาหน่ายรายหน่ึง ต่อมาบริษัทมีโครงการผลิตเอง ให้ศึกษาว่าบริษัทควรตัดสินใจ

อยา่ งไร ควรผลิตในระบบ A, ระบบ B หรอื สั่งซือ้ ดี

รายการ ผลติ ระบบ A ผลิตระบบ B ส่งั ซ้ือระบบ C

ปริมาณการใช้ตอ่ ปี 5,000 ชิ้น 5,000 ชน้ิ 5,000 ช้ิน

ต้นทุนคงท่ีต่อปี 100,000.00 บาท 300,000.00 บาท --

ตน้ ทนุ แปรผนั ตอ่ หนว่ ย 75.00 บาท 70.00 บาท 80.00 บาท

104 การจดั การการจดั หาและการจดั ซือ้

เอกสารอ้างอิง

กลุ ชลี ไชยนนั ตา. (2539). กระบวนการตดั สินใจ. กรงุ เทพฯ: ประยูรวงศ
ชนงกรณ์ กุณฑลบุตร. (2552). องค์การและการจัดการแนวคิดการบริหารธุรกิจในสถานการณ์

ปัจจุบัน, กรุงเทพฯ; แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
สมคิด บางโม. (2555) องค์การและการจัดการ Organization and management ฉบับพิมพ์ท่ี

6กรุงเทพฯ : วทิ ยพัฒน์,
อดลุ ย์ จาตรุ งคกลุ (2547) การจัดซอ้ื กรงุ เทพมหานคร:มหาวทิ ยาลัยธรรศาสตร์
Barnard, C. I. (1938). The functions of the executive. Cambridge, MA: Harvard

University Press.J.
J. and Render, B., Heizer. (2009). Operations Management. Pearson Education.
Jacobs & Chase. (2010). Operations and Supply Management. NY:McGraw-Hill Itwin.
Robert Monczka, Robert Trent and Robert Handfield, 2 0 0 5 , Purchasing and Supply

Chain Management, 3rd ed., South-Western, Mason, pp. 30-35
Russell & Taylor. (2011). Operation Management. 7th ed. NJ:John Wiley &Sons (Asia).
S. e. (2011). Managing Operations Across the Supply Chain. NY:McGraw-Hall.
Verma, R. B. (2008). Operations & Supply Chain Management. Chaina :: Chaina

Translation & Printing Services Limited.
William J. Stevenson, Sum Chee Chuong. (2015). Operations management. Singapore

: McGraw-Hill Education (Asia).
Simon, Herbert A. (1960). Administrative Behavior. New York: The McMillen Company

บทที่ 5 เอกสารท่ใี ช้การจดั หาจดั ซื้อ 105

บทที่ 5

เอกสารที่ใชก้ ารจัดหาจัดซ้ือ

การซื้อสินค้าหรือบริการในลักษณะ จานวน และคุณภาพท่ีเหมาะสม ณ สถานท่ี เวลา และ
ราคาท่ีเหมาะสม ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้จัดหน่ายวัตถุดิบในการประกันการส่งมอบที่เหมาะสม
ตามท่ีเราต้องการ โดยเจ้าหน้าท่ีจัดซ้ือของธุรกิจจะต้องเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดกับผู้จาหน่ายสินค้าเพ่ือ
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าท่ีแตกต่างกัน การสั่งซ้ือวัตถุดิบในธุรกิจการผลิต ผู้รับผิดชอบ
ต้องทางานร่วมกับฝ่ายผลิตและฝ่ายขาย โดยให้ความสาคัญของการจัดซ้ือวัตถุดิบ และระบบ
การไหลเวียนของวัตถุดิบมีความสาคัญต่อการดาเนินงาน การจัดระบบการไหลเวียนของวุตถุดิบที่มี
ประสิทธิภาพจะช่วยให้การดาเนินงานราบรื่น และมีต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้า
คงคลังทม่ี ีผลตอ่ ศักยภาพและความสามารถในการทากาไรขององคก์ ร

การจัดซ้อื เป็นกระบวนการจดั การในการจัดหาวัตถุดิบ และบริการให้แก่ธุรกิจโดยมขี อบเขต
งาน ตั้งแต่ การรับรู้ความต้องการ การเลือกผู้ขายวัตถุดิบ/บริการ การส่ังซ้ือและการจัดส่งวัตถุดิบ
โดยการจัดซ้ือต้องตอบสนองความต้องการทั้งระยะสั้นและระยะยาวในการดาเนินงานของธุรกิจ
ประเด็นท่ีต้องพิจารณาในด้านการจัดหาจัดซื้อ ประกอบไปด้วยกระบวนการจัดหาวัตถุดิบ/บริการ
การเลือกผู้ขายวัตถุดิบ ความสัมพันธ์กับผู้ขายวัตถุดิบ การจัดซ้ือรวมหรือกระจาย การวิเคราะห์
คุณค่าและการทาสัญญา เอกสารท่ีใช้การจัดหาจัดซื้อในงานอุตสาหกรรมและธุรกิจ เน้ือหาในบทนี้
จะเป็นเนอื้ หาที่เกี่ยวกบั เอกสารในการจัดหาจัดซ้อื ซงึ่ จะเรยี งลาดับในการใช้งานดังนี้

1. เอกสารใบขอส่ังซ้ือ (Purchase Requisition: PR)
2. เอกสารใบเสนอราคา (Quotation)
3. เอกสารใบส่งั ซือ้ สาหรับใบส่ังซ้ือไปยังซัพพลายเออร์ (Purchase Order: PO)
4. เอกสารใบสั่งส่งคนื สินคา้ สาหรับคนื สินค้ากลบั ไปยงั ซัพพลายเออร์ (return order)
5. เอกสารใบส่งสินคา้ (Delivery Order: DO)
6. เอกสารใบแจ้งหน้ี (Invoice)
7. ใบรับสนิ ค้า (Receive Report)

106 การจดั การการจัดหาและการจัดซือ้
5.1 เอกสารใบขอส่ังซ้ือ (Purchase Requisition: PR)
เอกสารในการทาธุรกิจ นอกเหนือจากเอกสารที่ใช้กับผู้ติดต่อภายนอกบริษัท เช่น ใบเสนอ
ราคา, ใบส่ังซื้อ, ใบกากับภาษี หรือใบเสร็จรับเงิน ยังมีเอกสารท่ีใช้ภายในเพื่อการบริหารจัดการ
การทางานภายในบริษัท หรือองค์กรให้เป็นระบบระเบียบมากยิ่งข้ึน รวมถึงสามารถตรวจสอบ
งบประมาณทใ่ี ช้จา่ ย เพ่อื เกบ็ ไวเ้ ป็นสถติ ใิ นการวางแผนงบประมาณของบริษัทในโอกาสต่อไปได้
ใบขอซ้ือ (Purchase Requisition: PR) คือ เอกสารท่ีใช้บริหารการควบคุมภายในของ
บริษัทเก่ียวกับการจัดซื้อ ปกติแล้วหน้าที่การจัดซื้อ หรือการออกใบส่ังซ้ือ จะเป็นหน้าท่ีของฝ่าย
จัดซ้ือหรือแผนกจัดซื้อ ส่วนฝ่ายอื่นๆ หรือแผนกอื่นๆ หากต้องการจัดซื้อ ตัวอย่างเช่น
ซ้อื คอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ใช้ในสานักงานสาหรับแผนกหรือซอ้ื โต๊ะ ตู้ หรืออุปกรณ์ตา่ งๆในออฟฟศิ เป็นต้น

ภาพท่ี 5.1 ตัวอยา่ งใบขอสงั่ ซ้ือ (Purchase Requisition: PR)
ท่มี า: (https://smemove.com/blog, 2564)

5.1.1 เน้อื หาในเอกสารใบขอส่ังซือ้ (Purchase Requisition: PR)
(1) แผนกที่ทาการขอซ้ือ
(2) เหตผุ ลในการขอซอื้
(3) วนั ทที่ าการขอซื้อ

บทที่ 5 เอกสารท่ีใชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 107

(4) รายละเอยี ดสินคา้ /บริการที่ต้องการ
(5) จานวนสนิ ค้า/บรกิ ารทตี่ ้องการ
(6) ราคาสินค้า (ถ้าม)ี
(7) ผ้จู ดั ทา และผู้อนุมัติ
ฝ่ายหรือแผนกเหล่าน้ัน ไม่ควรสั่งซ้ือด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะทาให้กิจการควบคุม
การบริหารงบประมาณได้ยากแล้ว ยังเปิดโอกาสให้พนักงานทุจริตได้อีกด้วย ดังน้ัน ใบขอซื้อ
จึงเข้ามาทาหน้าท่ีเป็นตัวแทนของความต้องการซื้อของแต่ละแผนก โดยใบขอซ้ือน้ันต้องผ่าน
การเห็นชอบของผู้มีอานาจลงนามในแผนกนั้นด้วย โดยต้องจัดทาใบขอซื้อ โดยให้ผู้บริหาร หรือผู้มี
อานาจลงนามของแผนกท่ีต้องการจัดซื้อลงนามอนุมัติก่อน แผนกหรือฝ่ายจัดซ้ือจึงจะทาการ
เปรียบเทียบราคา และหา Supplier ที่ดีทีสุดเพ่ือทาการออกใบสั่งซ้ือต่อไป โดยส่วนใหญ่กิจการที่มี
การขยายตัวเป็นกิจการที่ใหญ่ข้ึน ก็จะถือว่าเป็นเอกสารท่ีใช้ควบคุมการบริหารงานได้เป็นอย่างดี
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากิจการขนาดเล็กไม่จาเป็นต้องใช้ เพราะถ้าหากนามาใช้ก็จะช่วยให้บริษัท
ตรวจสอบการสง่ั ซอื้ และงบประมาณท่ีจ่ายได้

5.2 เอกสารใบเสนอราคา (Quotation)
ใบเสนอราคา เป็นเอกสารท่ีผู้ขาย (ผู้ประกอบการ) ออกให้กับผู้ท่ีสนใจ (ลูกค้า) เพื่อแสดง

รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและบริการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ภายในเอกสารใบเสนอราคาจะมีข้อมูล
การชแี้ จงรายการสนิ ค้า บรกิ าร เง่อื นไข และข้อกาหนดอย่างชัดเจน เพอื่ สง่ ต่อให้ผทู้ ี่สนใจสินค้า และ
บริการของบริษัทได้นาไปพิจารณาก่อนการตัดสินใจซ้ือ ในฐานะของผู้ประกอบการควรสร้างความ
นา่ เช่ือถือใหก้ ับธรุ กจิ ด้วยการเปิดใบเสนอราคา

5.2.1 ส่วนประกอบของใบเสนอราคา มดี งั น้ี
(1) ภาพโลโก้บรษิ ัท
(2) รหัสสนิ ค้า / บรกิ าร คาอธบิ ายรายการของสนิ คา้ /บริการ
(3) จานวน , ราคาต่อหนว่ ย, มูลค่าก่อนภาษี หมายเหตุ
(4) รายละเอยี ดชื่อบริษัท ที่อยู่ เลขประจาตวั ผ้เู สยี ภาษี และสานกั งานสาขา ของฝ่าย
เจา้ ของธุรกิจ (ผู้ขาย หรอื ผู้ให้บริการ) และฝา่ ยลูกค้า (ผ้ซู ือ้ )
(5) อเี มล เบอรโ์ ทรศัพท์ และช่อื โครงการ
(6) วธิ กี ารชาระ/เครดติ การชาระเงนิ (หากมี) ให้ลกู คา้ ทราบ
(7) ช่องผ้อู นุมตั ิ และชอ่ งยอมรบั ใบเสนอราคา

108 การจดั การการจัดหาและการจัดซื้อ

ช่ือบรษิ ัท......................................................................... ตราบริษทั

ที่อย.ู่ ..................................................................................................................... ..............................................
เลขประจาตวั ผเู้ สียภาษี ...................................................................... โทร........................................................

ใบเสนอราคา เลขที่
วันที่

ชอื่ ลกู คา้ วันทกี่ าหนดส่ง
Tax ID ย่ืนราคาภายใน
ชอ่ื ผู้ติดต่อ Expire Date
ที่อยู่ จานวนวนั เครดิต

โทร

รหัสสนิ ค้า รายการสินคา้ จานวน หนว่ ย บาทต่อหนว่ ย สว่ นลด จานวนเงนิ

หมายเหตุ รวมเงนิ
สว่ นลดการคา้
( เงนิ หลังหกั ส่วนลด
ภาษีมูลค่าเพมิ่ 7%
) จานวนเงนิ ทงั้ สนิ้

________________ ________________ ________________
ผู้อนมุ ัติ ผู้อนมุ ัติ ผูอ้ นมุ ัติ
วันที่ วันท่ี วันท่ี

ภาพที่ 5.2 ตัวอย่างใบเอกสารใบเสนอราคา (Quotation)

ทม่ี า: (https://www.kruchiangrai.net, 2562)

บทที่ 5 เอกสารทีใ่ ช้การจดั หาจดั ซื้อ 109

5.2.2 ความสาคญั ของใบเสนอราคา มคี วามสาคัญ ดงั น้ี
(1) มคี วามน่าจะเป็นสูงที่ลกู ค้าจะใช้ในการตดั สินใจ ซ้ือ หรือ ใชบ้ รกิ าร
(2) มกี ารใหล้ ายละเอียดท่ีครบถ้วน เชน่ เงอ่ื นไขการชาระ รายละเอยี ดสนิ ค้า จานวน
ประเภท ลักษณะ ทาใหไ้ ม่สับสนในการซอ้ื
(3) ใบเสนอราคาไม่ถึอเปน็ ใบแจ้งหนี้ หรือการออกใบเสรจ็
(4) ใช้ประกอบการตัดสนิ ใจ เปรียบเทยี บราคาในฝ่ังผูซ้ ื้อ
(5) เป็นส่ิงตอ้ งมหี รือควรมีในกิจการเพือ่ ความเปน็ มืออาชพี
(6) สรา้ งการตัดสนิ ใจ และเปรียบเทียบราคาให้กับผ้ซู ้อื ได้

5.2.3 วิธที าใบเสนอราคา
โปรแกรมออกใบเสนอราคา ดงั น้ี
(1) โปรแกรม Microsoft word เป็นโปรแกรมพื้นฐานเลยก็ว่าได้ หากจะใช้ออกแบบ
ใบเสนอราคา ถือวา่ เปน็ โปรแกรมท่ีใช้ง่าย
(2) โปรแกรม INVOICE TINY PLUS เป็นแกรมขายหน้าร้าน ออกใบ Invoice สาหรับ
งานขายได้
(3) โปรแกรม Express Invoice โปรแกรม Express Invoice ออกใบเสร็จได้ และยัง
เป็นโปรแกรมสาหรับงานออกใบกากับภาษีในราคาย่อมเยา ท่ีช่วยอานวยความ
สะดวกใหธ้ รุ กจิ ห้างรา้ น ช่วยลดความผดิ พลาดในการออกใบกากับภาษดี ้วยมือ
(4) โปรแกรม Bill Printing เป็นโปรแกรมพิมพ์บิล (Bill Printing) เป็นโปรแกรมที่
พัฒนาข้ึนสาหรับงานขายโดยเฉพาะ ทาให้การทางานด้านเอกสารต่างๆ เป็นไปได้
รวดเร็วและถูกต้องมากยิ่งข้ึน เช่น ใบเสนอราคา, ใบรับมัดจา, ใบขายสด, ใบขาย
เชื่อ, ใบเพ่ิมหนี้, ใบลดหน้ี, ใบวางบิล, ใบเสร็จรับเงนิ
(5) โปรแกรม Sale Order Systems โปรแกรม Sale Order ระบบงานขาย ช่วยงาน
เอกสารท้ังหมด) ถือเป็นโปรแกรมบริหารระบบด้านการขายสินค้า รองรับท้ังการ
ขายในประเทศและต่างประเทศ โดยเร่ิมจากการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าที่บันทึก
หน้า Inquiry และเมื่อลูกค้าสนใจต้องการให้ประมาณราคาคร่าวๆก็สามารถ
Estimate ราคาไดจ้ ากระบบ
(6) โปรแกรม Mini Quotation โปรแกรม Mini Quotation ทาใบเสนอราคา สาหรับ
งานนาเสนอ เจา้ ตัวนี้ มีช่ือว่า โปรแกรม Mini Quotation เป็นระบบใบเสนอราคา

110 การจดั การการจัดหาและการจดั ซือ้

ท่ีติดตั้ง / ใช้งานง่ายมาก มีระดับการรักษาความลับของข้อมูลข้ันสูง สามารถเร่ิม
นาไปใช้งานได้รวดเร็ว เหมาะสาหรบั บริษัทห้างร้านที่ต้องการความความสะดวกใน
การออกใบเสนอราคา
(7) โปรแกรม Microsoft excel หากจะใช้ excel ในการทาใบเสนอราคา ต้องมีทกั ษะ
ในการผูกสตู ร หรือการใช้ตารางในการออกใบเสนอ
ใบเสนอสินค้า การทาแบบฟอร์มใบเสนอราคาด้วยระบบ Excel เป็นท่ีนิยมใช้กันเป็น
อันดับต้น เนื่องจากการจัดทา “ใบเสนอราคา” ด้วยระบบ Excel นั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีต้นทุน
เลยก็ว่าได้ แต่การจะจัดทา “ใบเสนอราคา” ด้วยระบบ Excel นั้น ผู้ออกใบจะต้องมีความรู้ในการ
ผูกสูตรขั้นพื้นนฐาน หากกาหนดสูตรขั้นพื้นฐานเป็นแล้ว การออกใบเสนอราคา หรือแบบฟอร์ม
เอกสารทางบัญชตี ่างๆ น้นั ก็จะเป็นเรือ่ งง่าย
5.2.4 ประโยชน์ใบเสนอราคามดี ังน้ี
(1) สรา้ งความนา่ เชือ่ ของบริษัทไดอ้ ยา่ งหน่ึง
(2) เมื่อมีการจัดทาใบเสนอราคาแลว้ ทาใหค้ าดวา่ จะขายได้แน่นนอน
(3) เป็นเอกสารทางบญั ชหี ากมกี ารออกสารเปน็ ชุด

5.3 เอกสารใบส่งั ซือ้ สาหรับใบสงั่ ซ้ือไปยงั ซพั พลายเออร์ (Purchase Order: PO)
ใบสั่งซื้อ Purchase Order หรือจะเรียกสั้นว่า PO คือเอกสารท่ีแสดงถึงข้อตกลงของผู้จัด

จาหน่าย ในการซ้ือสินค้า หรือบริการ ซ่ึงภายในเอกสารจะระบุถึงรายละเอียดในการสั่งซื้อสินค้า
อย่างจานวนของสินค้าท่ีถูกสั่งซื้อ ราคาของสินค้า ใบสั่งซ้ือเป็นหนึ่งในเอกสารที่สามารถใช้เป็น
หลักฐานในการยืนยันข้อตกลงระหว่างการทาธุรกิจได้เป็นอย่างดี หากเกิดข้อโต้แย้งในการซ้ือขาย
เอกสารใบสั่งซอื้ จะเปน็ ตวั ยนื ยันความต้องการของท้ังสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี

สนิ ค้า หรอื วัตถุดิบ อาจไม่เพียงพอ ในการผลิต หรอื ให้บรกิ าร แก่ลูกค้า พนักงานท่ีมหี นา้ ที่
ตรวจนับสินค้า หรือ วัตถุดิบภายในบริษัท จึงต้องรวบรวมส่ิงที่ต้องการแล้วทา “ใบขอซื้อ”
(เป็นเอกสารท่ีจัดทาข้ึนภายในองค์กร) เพ่ือเสนอให้แก่ฝ่ายจัดซ้ือ ฝ่ายจัดซ้ือจึงทาการจัดหาสินค้า
จากบุคคลภายนอก (ผู้ขาย) เมื่อผู้ขาย ออกใบเสนอราคามา ฝ่ายจัดซื้อจึงมีหน้าท่ีจัดทา “ใบสั่งซ้ือ”
เพอ่ื ออกใหแ้ กบ่ ุคคลภายนอก (ผูข้ าย)

บทที่ 5 เอกสารที่ใช้การจดั หาจดั ซื้อ 111

ตวั อย่างใบส่ังซือ้ สนิ ค้า

วนั ที่สัง่ .............................................................วนั ท่ีส่ง................................................................
ชอื่ ผขู้ าย........................................................................
ทีอ่ ยู่
....................................................................................................................................................
เบอรโทรศัพท.์ ............................................................
เบอรแ์ ฟกซ.์ ................................................................

ชื่อผ้สู ัง่ ซือ้ ........................................................................
ทอ่ี ยู่
....................................................................................................................................................
เบอรโทรศัพท์.............................................................
เบอร์แฟกซ์.................................................................

ขอสัง่ ซ้ือสินคา้ ตามรายการดงั ต่อไปน้ี จานวน ราคา/หน่วย รวมเป็นเงิน
ลาดบั ท่ี รายการ/รายละเอยี ดของสินค้า

รวมเป็นเงิน

ผูส้ ่ังซือ้ ................................................................... (ประทบั ตรา บรษิ ทั )
...................................................................

ภาพที่ 5.3 ตวั อย่างใบสงั่ ซื้อ (Purchase Order)
ที่มา : (พิเชษฐ เนตรสวา่ ง, 2564)

112 การจัดการการจดั หาและการจดั ซอื้

5.3.1 สว่ นประกอบสาคญั ของใบสั่งซ้อื (Po)
(1) ช่อื บรษิ ทั ที่อยู่บรษิ ัท เลขประจาตัวผูเ้ สยี ภาษี
(2) เลขที่ วนั ที่ ครบกาหนด
(3) ถึง (บรษิ ทั ท่ีเราต้องการสง่ั ซือ้ สินคา้ หรือบริการ)
(4) กาหนดวนั สง่ สนิ ค้า
(5) เงื่อนไขการชาระเงิน
(6) ช่ือ/รายละเอียดสนิ ค้า
(7) จานวนสินค้าราคาต่อหนว่ ย
(8) จานวนเงิน
(9) หมายเหตุ
(10)ราคารวม
(11)ลายเซน็ ผู้สัง่ และผู้อนุมัติ

5.3.2 ประโยชนข์ องการจดั ทาใบสัง่ ซื้อ
(1) ควบคมุ ปริมาณการสั่งซอ้ื
(2) เปรยี บเทยี บราคาแต่ละบรษิ ัท
(3) มขี อ้ มลู การซื้อกับผู้ขายรายใหญ่ท่ีมีของสง่ แน่นนอน สามารถติดตอ่ ธุรกจิ ได้อย่าง
สะดวกและรวดเรว็
(4) ใช้เปน็ หลกั ฐานอา้ งอิง เมื่อผดิ สญั ญาหรือข้อตกลง ซ่ึงมีผลตามกฎหมาย
(5) สร้างความน่าเชอ่ื ถือในการติดต่อธุรกิจ
(6) เพอ่ื ใชเ้ ป็นขอ้ มูลในกาบนั ทึกบัญชี

5.3.3 ความแตกต่างระหว่าง ใบ PR และ PO
ใบ PR (Purchase Requisition)” หรือเรียกว่า“ใบขอซ้ือ” เป็นเอกสารภายในองค์กร

สาหรับพนักงานออกให้กับฝ่ายจัดซ้ือเม่ืออยากให้ซ้ืออะไรเข้ามาในบริษัท เม่ือฝ่ายจัดซ้ือได้ใบ PR
มาแลว้ ก็จะมาพิจารณาว่าจะอนมุ ัตหิ รือไม่ ถ้าอนุมัติกจ็ ะเอาไปทาใบ PO ตอ่ ไป

ส่วน “PO (Purchase Order)” หรือ “ใบส่ังซื้อ” คือใบท่ีออกโดยฝ่ายจัดซ้ือของบริษัท
ส่งให้กับผู้ขายเพื่อส่ังซ้ือสินค้า ในกรณีท่ีผู้ขายมีลูกค้าเป็นหน่วยงานรัฐหรือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่
แล้วต้องการเงินสดทันที ไม่อยากรอครบเครดิตเทอม ก็สามารถมาใช้บริการ Factoring
(รบั ซอ้ื ลูกหนก้ี ารคา้ ) กับ Lease It

บทที่ 5 เอกสารทใ่ี ชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 113

5.4 เอกสารใบสั่งส่งคนื สินค้าสาหรับคืนสนิ คา้ กลับไปยงั ซพั พลายเออร์ (return order)
ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการสาหรับใบสั่งส่งคืนสินค้า ซึ่งจะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการส่งคืน

ของลูกค้าและผลท่ีเกิดขึ้นในการคานวณต้นทุนและปริมาณคงคลังคงเหลือ ลูกค้าสามารถส่งคืน
สินค้าอนั เนื่องมาจากเหตผุ ลต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น สินค้าอาจมีตาหนิ หรือไมต่ รงกับความคาดหวังของ
ลูกค้า กระบวนการส่งคืนสินค้าเร่ิมต้นเม่ือลูกค้าออกการร้องขอการส่งคืนสินค้า หลังจากท่ีได้รับ
คาขอของลูกค้า ใบสั่งส่งคืนจะถกู สรา้ งขึน้

5.4.1 กระบวนการใบสง่ั สง่ คืนสนิ คา้ จรงิ

สร้างใบสั่งสง่ คืนสนิ คา้

นาเขา้ คลังสินค้าเพ่อื ตรวจสอบ

กาหนดการโอนการครอบครอง

สรา้ งบนั ทึกการจัดส่ง

สรา้ งใบแจง้ หน้ี ปิดใบส่งั สง่ คนื สนิ ค้า

ภาพท่ี 5.4 กระบวนการใบสงั่ สง่ คืนสินคา้ จริง
ทม่ี า : (พิเชษฐ เนตรสวา่ ง, 2564)

(1) การสร้างใบส่ังส่งคืนสินค้า จัดทาเอกสารการตรวจสอบสาหรับลูกค้าท่ีจะส่งคืน
ผลิตภณั ฑ์ใด ๆ ทไ่ี มพ่ ึงประสงคห์ รอื มีข้อบกพร่องอยา่ งเป็นทางการ ใบสั่งสง่ คนื สนิ ค้าไม่ได้กาหนดให้
บริษัทยอมรับผลิตภัณฑ์ท่ีส่งคืนหรือให้เครดิตสาหรับลูกค้า ถ้าการส่งคืนได้รับการยอมรับ
เราสามารถอนมุ ัติสินคา้ ทดแทนเพ่อื สง่ ก่อนมีการสง่ คนื สินคา้ ทมี่ ีตาหนิ

(2) มาถึงท่ีคลังสินค้าเพื่อตรวจสอบ ดาเนินการตรวจสอบเร่ิมต้นและการตรวจสอบ
ความถูกต้องกับเอกสารใบสั่งส่งคืนสินค้า ใบสั่งส่งคืนสินค้ายังสนับสนุนการตรวจสอบสินค้าของ
สินคา้ ทีส่ ่งคนื สาหรับการตรวจสอบเพิ่มเตมิ และการควบคุมคณุ ภาพ

114 การจดั การการจดั หาและการจดั ซ้ือ

(3) กาหนดการโอนการครอบครอง ดาเนินการกระบวนการตรวจสอบขั้นสุดท้าย และ
ตดั สินใจว่าควรจะทาอะไรกับผลติ ภณั ฑท์ ี่ส่งคืน ส่วนหนึ่งของขนั้ ตอนนี้คอื การตดั สินใจวา่ บรษิ ัทจะให้
เครดิตลูกค้า ปฏิเสธการส่งคืนผลิตภัณฑ์ หรือยอมรับการส่งคืนผลิตภัณฑ์ ตัดผลิตภัณฑ์ให้เป็นส่วน
เศษซาก แลว้ ส่งผลิตภณั ฑท์ ดแทนใหก้ ับลูกค้า

(4) สร้างบันทึกการจัดส่ง สร้างบันทึกการจัดส่ง และยืนยันการตัดสินใจการโอน
การครอบครองทบี่ ริษทั ทาไวใ้ นข้นั ตอนท่ี 3 ดาเนินการขน้ั สุดท้ายกบั กระบวนการโลจิสตกิ ส์

(5) สร้างใบแจ้งหน้ี ปิดใบส่งั ส่งคนื สนิ คา้
ตวั อย่างใบส่ังส่งคืนสนิ คา้

ช่ือบรษิ ัท.....................................................................................

เลขทส่ี ่งกลับ...............................................................
วันท่ีสง่ กลบั ................................................................
ใบเสร็จอ้างอิงส่งคนื ...................................................
Invoice……………………………………………………………

ขอสง่ สินค้าคืนตามรายการดังตอ่ ไปน้ี จานวน ราคา/หน่วย รวมเป็นเงนิ
ลาดบั ที่ รายการ/รายละเอยี ดของสนิ ค้า

รวมเปน็ เงิน

ผู้สง่ คนื ................................................................... (ประทับตรา บรษิ ทั )
...................................................................

ภาพท่ี 5.5 ใบสงั่ สง่ คนื สินคา้
ทีม่ า : (พิเชษฐ เนตรสวา่ ง, 2564)

บทที่ 5 เอกสารทใ่ี ชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 115

ตัวอยา่ งใบรับคืนสนิ ค้า

ช่ือบริษัท..................................................................................... (ผู้ส่งคืน)

เลขท่รี บั กลบั ...............................................................
วนั ท่ีรับกลบั ................................................................
ใบเสรจ็ อา้ งอิงสง่ คืน...................................................
Invoice……………………………………………………………

ขอส่งสนิ ค้าคนื ตามรายการดงั ตอ่ ไปนี้ จานวน ราคา/หนว่ ย รวมเป็นเงนิ
ลาดบั ที่ รายการ/รายละเอียดของสนิ ค้า

รวมเป็นเงนิ

ผู้รับคนื ................................................................... (ประทบั ตรา บรษิ ัท)
...................................................................

ภาพท่ี 5.6 ใบรบั คนื สนิ คา้
ที่มา : (พเิ ชษฐ เนตรสวา่ ง, 2564)

5.4.2 กระบวนการเครดิตอย่างเดียว
(1) สร้างใบสั่งสง่ คืนสินคา้ จัดทาเอกสารการตรวจสอบสาหรบั ลกู ค้าท่ีจะรับเครดติ โดยไม่

ส่งคืนผลิตภัณฑ์ท่ีไม่พึงประสงค์หรือมีข้อบกพร่องอย่างเป็นทางการ รหัสการโอนการครอบครอง
เครดิตอย่างเดยี ว อนมุ ัติการตดั สินใจที่จะใหเ้ ครดติ ลูกค้าโดยไม่มกี ารสง่ คนื จริง

(2) สร้างใบแจง้ หน้ี สรา้ งใบลดหน้ีแล้วปดิ ใบสัง่ ส่งคืนสินค้า

116 การจดั การการจดั หาและการจัดซือ้

5.4.3 กระบวนงานสาหรบั การสรา้ งใบสั่งสง่ คืนสินคา้
การสร้างรายการใบส่ังส่งคืนสินค้า หลังจากท่ีมีดาเนินการกับส่วนหัวของใบสั่งเสร็จ

สมบูรณ์แล้ว สามารถสร้างรายการส่งคืนได้โดยป้อนรายละเอียดรายการ ปริมาณ และข้อมูลอื่น ๆ
สาหรับทุกรายการสง่ คนื ดว้ ยตนเอง

การสร้างรายการส่งคืนโดยใช้ฟังก์ชัน ค้นหาใบสั่งขาย บริษัทควรใช้ฟังก์ชันนี้เม่ือบริษัทสร้าง
ใบส่ังส่งคืนสินค้า ฟังก์ชัน ค้นหาใบสั่งขาย จะสร้างการอ้างอิงจากรายการส่งคืนสินค้าไปยังบรรทัด
ใบส่ังขายที่ออกใบแจ้งหน้ี และดึงรายละเอียดรายการ เช่น หมายเลขสินค้า ปริมาณ ราคา ส่วนลด
และมูลค่าต้นทุนจากรายการขาย การอ้างอิงช่วยรับประกันว่าเม่ือมีการส่งคืนผลิตภัณฑ์ไปยังบริษัท
จะมีมูลคา่ ต้นทุนต่อหน่วยเดียวกันกับตอนท่ีถูกขาย นอกจากน้กี ารอ้างอิงยังตรวจสอบว่าใบส่ังส่งคืน
สินค้าไม่ได้ถูกสร้างข้ึนสาหรับปริมาณที่เกินกว่าปริมาณท่ีถูกขายบนใบแจ้งหน้ีรายการส่งคืนท่ีมีการ
อ้างอิง ถึงใบสั่งขายจะได้รับการจัดการเป็นการแก้ไขไปยัง หรือการกลับรายการของ การขาย
สาหรับข้อมลู เพมิ่ เติม ใหด้ ูสว่ น "ลงรายการบัญชที บ่ี ัญชแี ยกประเภท" ในหวั ข้อนีใ้ นภายหลัง

5.4.4 คา่ ธรรมเนียม
สามารถเพม่ิ ค่าธรรมเนียมลงในใบส่งั สง่ คืนสนิ ค้าโดยใชว้ ิธีใดวธิ ีหนง่ึ ต่อไปนี้
(1) การเพ่ิมค่าธรรมเนียมลงในส่วนหัวของใบสั่งส่งคืนสินค้า รายการใบสั่งส่งคืนสินค้า

หรอื ท้ังสองอย่างด้วยตนเอง
(2) การเพิ่มค่าธรรมเนียมลงในส่วนหัวของใบสั่งส่งคืนสินค้าโดยเป็นฟังก์ชันของรหัส

เหตผุ ลการสง่ คนื ไดโ้ ดยอตั โนมัติ
(3) การเพิม่ ค่าธรรมเนียมลงในรายการใบสั่งส่งคนื สินคา้ ตามรหัสการโอนการครอบครอง

ของรายการได้โดยอตั โนมตั ิ
5.4.5 สร้างใบแจ้งหน้ี
ใบส่ังส่งคืน จะประกอบด้วยข้อมูลและการดาเนินการท่ีจาเป็นในการจัดการข้อมูลเชิง

ลักษณะพิเศษด้านโลจิสตกิ สข์ องใบสง่ั สง่ คืน ต้องใช้หนา้ ใบส่ังขาย เพื่อทากระบวนการออกใบแจ้งหน้ี
ให้เสร็จสมบูรณ์ จากน้ันบริษัทสามารถออกใบสั่งส่งคืนใบแจ้งหน้ีและใบส่ังขายในเวลาเดียวกัน และ
บคุ คลดงั กล่าวสามารถทากระบวนการออกใบแจ้งหน้ีให้เสร็จสมบูรณ์ได้ตามท่ีต้องการ เม่อื ต้องการดู
ใบสั่งส่งคืนจากหน้า ใบสั่งขาย การเช่ือมโยงสาหรับหมายเลขใบส่ังขายเพ่ือเปิดใบส่ังขายที่เก่ียวข้อง
ยงั สามารถค้นหาใบสั่งสง่ คืนได้บนหน้า ใบส่ังขายทั้งหมด ใบสั่งส่งคืนเป็นใบสั่งขายทมี่ ีชนิดของใบสั่ง
เป็น ใบสั่งท่ีส่งคนื

บทท่ี 5 เอกสารทีใ่ ชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 117

5.4.6 การส่งคนื สนิ คา้ ระหว่างบรษิ ัทแบบง่าย
การส่งคืนสินค้าระหว่างบริษัทแบบง่าย สามารถสร้างห่วงโซ่ใบสั่งเมื่อมีการสร้าง

ใบสัง่ ส่งคืนสินคา้ ของผจู้ ัดจาหนา่ ยในบริษัทผู้ซ้ือ หรือมีการสร้างใบสง่ั ส่งคืนสินคา้ ของลูกค้าในบริษัท
ผูข้ าย ใบสัง่ ทสี่ อดคล้องกนั จะถูกสร้างข้ึนในบรษิ ัทอ่ืนและตรวจสอบใหแ้ น่ใจว่าส่วนหัวและข้อมลู ราย
กาของใบส่ังส่งคืนของผู้จัดจาหน่ายจะแสดงถึงการต้ังค่าในใบส่ังส่งคืนของลูกค้า ใบสั่งส่งคืนท่ีสร้าง
ข้ึนอาจรวมหรือไม่รวมการอ้างอิง (ค้นหาใบส่ังขาย) กับใบแจ้งหนี้ของลูกค้าท่ีมีอยู่ได้ สามารถ
ประมวลผลบันทึกการจัดส่งและใบแจ้งหนี้ของใบสั่งท้ังสองแต่ละรายการได้ ตัวอย่างเช่น เราไม่
จา เป็ น ต้อง สร้ าง บั นทึกกา รจั ด ส่ง ส าห รับ ใบส่ั ง ส่ง คืน ของ ผู้ จัด จา ห น่า ย ก่อนที่เ รา จ ะส ร้า ง บัน ทึก
การจดั สง่ สาหรบั ใบส่ังส่งคืนของลกู คา้

5.5 เอกสารใบสง่ สินคา้ (Delivery Order: DO)
ใบส่งสินค้า หมายถึง (Delivery note) หรือใบส่งสินค้า เป็นเอกสารที่ผู้ส่ง (ผู้ขาย) ใช้เป็น

หลักฐานในการส่งมอบสินค้า รายละเอียดภายในใบส่งสินค้าก็จะเป็นชนิดของสินค้า จานวนของ
สินค้า ลักษณะของสินค้าท่ีถูกส่งมอบ เอกสารใบส่งสินค้า มีความสาคัญมากเมื่อเกิดเหตุการณ์หรือ
ข้อพิพาทระหวา่ งผู้ส่งของ และผู้รับของไมว่ ่าจะเป็นจานวนของสินค้าทไี่ ม่ถูกตอ้ ง ลักษณะของสินค้า
ไมเ่ ปน็ ไปตามท่ตี กลงในใบส่งสนิ คา้

5.5.1 ใบส่งสินค้าช่ัวคราว กับ ใบกากับภาษี ต่างกัน การออกเอกสาร เลขท่ี วันที่ ข้อความ
ไม่จาเป็นต้องตรงตามใบกากับภาษีตามที่สรรพากรกาหนด เนื่องจากเอกสารใบนี้ ไม่สามารนามาใช้
ได้ในทางภาษีซื้อ และภาษีขายได้ และการออกใบส่งสินค้าน้ัน บางคร้ัง ใบกากับภาษีขาย ก็อาจจะ
รนั เลขท่ี หรือวันท่ีไปก่อนหน้าท่ี จะมีการนาส่งสนิ คา้ จากใบสัง่ ซ้อื นนั้ เองนั้นเอง

ใบส่งสินค้าโดยท่ัวไป คือเอกสารชนิดเดียวกัน หากกิจการไม่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพ่ิม
การจัดทาใบส่งสินค้า อาจไม่มีผลตอ่ กรมสรรพากรและการดาเนนิ ธุรกจิ อย่างเช่น

(1) การขนยา้ ยสนิ ค้าจากคลงั หน่ึง ไปอีกคลงั หนึง่
(2) เล่อื นยา้ ยจากคลัง ไปยงั สถานที่ของลูกค้า
(3) การตดั สต็อกสินค้า
(4) การควบคุมภายในของกจิ การ
(5) การเบิกสินคา้ ตัวอยา่ ง
แตห่ ากสถานประกอบการธุรกจิ อย่ใู นระบบภาษมี ูลค่าเพิ่ม เอกสารท่ีหวั มีคาว่า “ใบส่งสนิ ค้า
หรือใบส่งของ” แสดงอยู่ มีผลกับกรมสรรพากรโดยตรงแน่นอน เพราะการออกเอกสารท่ีมีคาว่า

118 การจดั การการจดั หาและการจดั ซอื้
“ใบส่งสินค้าหรือใบส่งของ” กากับอยู่ ถือเป็นการเคล่ือนย้ายสินค้าออกจากคลังที่เก็บ จึงต้องมี
ตัวภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามาเก่ียวข้องทุกคร้ัง เพราะฉะนั้น การนาใบส่งสินค้ามาใช้ในกิจการ จึงต้องดู
ความสะดวกในการจัดทาบัญชี การทางานของระบบภายในกิจการ หรือ การจัดทาภาษีของ
ผปู้ ระกอบการ ว่าควรใช้ ใบสง่ สนิ คา้ ค่กู ับเองสารแบบใด เช่น

ภาพที่ 5.7 ตวั อยา่ งใบส่งสนิ คา้ แบบทั่วไป (Delivery Order :DO)
ทีม่ า: (https://www.officemate.co.th/, 2564)

(1) กรณีที่มีการตกลงซื้อสินค้า แต่สินค้ายังไม่มีพร้อมส่ง ผู้ซื้อ ได้ทาการ โอนเงินเพื่อชาระ
ไมว่ ่าจะเต็มจานวนหรือไม่เตม็ จานวน กิจการก็อาจออกใบกากับภาษีพร้อมใบเสร็จรับเงิน และบนั ทึก

บทท่ี 5 เอกสารทีใ่ ชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 119
บัญชีภาษีขาย เม่ือสินค้าพร้อมส่งค่อยออก “ใบส่งสินค้า/ใบส่งของ” ให้ผู้ซื้อเซ็นรับเพียงอย่างเดียว
เพอ่ื เกบ็ เปน็ หลกั ฐานกไ็ ด้

(2) กรณีที่กิจการได้ทาการตกลงขายสินค้าให้กับลูกค้าแล้ว และมีการขนย้ายสินค้าไปยัง
สถานที่ของลูกค้า แต่ลูกค้ายงไม่ได้ชาระเงิน กรณีนี้ กิจการก็จาเป็นจะต้อง ออกเอกสารช่ือมีหัวว่า
“ใบส่งของ/ใบกากับภาษี” ก็ได้ เนื่องจากมีการขนย้ายสินคา้ ออกจากคลังแล้ว ลูกค้าก็จะสามารถใช้
สิทธใิ บกากบั ภาษีไปใชไ้ ด้เลย เปน็ ตน้

ภาพท่ี 5.8 ตวั อย่างใบสง่ สินคา้ (1)
ที่มา: (Royal Paper Form.co.th, 2563)

ใบส่งสินค้า (Delivery Order : DO)

120 การจดั การการจัดหาและการจัดซือ้

ชอื่ ผู้ขาย.............................................................

ทอ่ี ย.ู่ ...................................................................

...........................................................................

เบอรแ์ ฟกซ.์ .......................................................

เบอรโทรศัพท.์ ..................................................

ชือ่ ลูกคา้ ........................................................... หมายเลขเคร่อื ง………………………………………………………………
เลขที่ ……………………………………………………………………………..
ทอี่ ยู่................................................................. วนั ท่ี ……………… /……………………………………/…………….........
เวลา ……………………………………จดุ ขาย……………………………….
........................................................................ จุดขาย …………………………….……………………………………………..
แคชเชียร์…………………………………………………………………………
........................................................................
จานวน ราคา/หน่วย รวมเป็นเงนิ (บาท)
เบอรโทรศัพท์.................................................

เบอร์แฟกซ์......................................................

ขอส่งั ซ้ือสินคา้ ตามรายการดงั ตอ่ ไปนี้

ลาดับท่ี รายการ

( ) รวมเปน็ เงิน
จานวนเงนิ เป็นตวั อักษร VAT 7 %
จานวนเงนิ

ทั้งสนิ้

ไดร้ ับสินคา้ ตามรายการถกู ต้องเรียบร้อยแลว้
ผู้ส่งสินคา้ ..................................................
วันที่ .............../............./.............................
ผูร้ บั สินค้า ..................................................
วนั ที่ .............../............./.............................

ภาพที่ 5.9 ตวั อย่างใบสง่ สนิ คา้ (2)
ท่มี า : (พเิ ชษฐ เนตรสวา่ ง, 2564)

บทที่ 5 เอกสารท่ใี ช้การจดั หาจดั ซื้อ 121

5.5.2 ข้อความในใบส่งสินค้า (Delivery Order: DO) ประกอบไปด้วยรายละเอียดในใบส่ง
สินค้า (Delivery note) รายละเอียดสาคัญของสินค้าที่จะต้องนาส่งอย่างจานวนหน่วย ปริมาณ
ลกั ษณะ คณุ ภาพ ตลอดจนมูลค่าของสินคา้

(1) ชือ่ และที่อยูข่ องผู้รบั ของหรอื สินค้า
(2) สถานทใี่ นการจดั สง่
(3) รายการสินคา้ ข้อมูลรายละเอียดของสนิ คา้ จานวน ราคา ยอดชาระเงนิ
(4) ลายเซ็นในใบส่งสนิ ค้า หรือใบสง่ สินค้าจากผู้ท่ดี าเนินการสง่ เพื่อเป็นหลักฐานว่า

มีการดาเนนิ การจดั ส่งจริง
(5) ลายเซ็นผู้รับในใบส่งสินคา้ เพื่อยนื ยันว่าสินค้าท่ีถูกส่งมาตรงตามท่ีได้ตกลง และ

ได้นามาส่งมอบจริง หลังจากมีผู้เซ็นรับใบส่งสินค้า ก็จะถูกยืนยันว่ามีการส่ง และ
การรบั ของจรงิ
กฎหมายก็ยังไม่ได้กาหนด หรือ เข้ามาควบคุมการจัดทา “ใบส่งสินค้า/ใบส่งของ”
อยา่ งชัดเจน แตเ่ อกสารขนดิ นก้ี ม็ ีผลต่อกฎหมาย หากเกิดมคี ดคี วามก็สามารถนามาใช้เป็นหลกั ฐาน

5.6 เอกสารใบแจ้งหน้ี (Invoice)
เป็นเอกสารท่ีเกิดข้ึนเมื่อการขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ (ให้เครดิต) เกิดขึ้นภายหลังจากการจัดทา

ใบเสนอราคา ใบส่งสินค้าเป็นส่วนใหญ่ ท้ังน้ี เพ่ือแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงจานวน รายละเอียดสินค้า
วันเวลา หรือแม้กระทง้ั ลายเซน็ ผู้ท่มี ีหน้าทีร่ ับผดิ ชอบ และเกี่ยวข้องกับการซ้ือขายครง้ั ในหนง่ึ งาน

5.6.1 ใบแจง้ หนถี้ ือใบเสร็จ (Biller) การออกใบแจ้งหนี้ ไม่ถอื วา่ เปน็ ไมเ่ สร็จรับเงิน แต่กไ็ มเ่ สมอ
ไป ต้องดูองค์ประกอบการจ่ายชาระเงื่อนไขการให้บริการ หรือขายสินค้า หรือ ธุรกิจท่ีทาเป็นหลัก
บางครั้งใบแจง้ หน้ีก็ถือเปน็ ใบเสร็จรับเงินได้ เม่ือมีการออกใบแจ้งหน/้ี ใบเสร็จรับเงนิ ตัวอย่าง วิธีการ
วางบิล เชน่

(1) ธรุ กจิ บริการ กรณี แจ้งค่าบริการพร้อมกับรบั เงินในวันเวลาเดียวกัน กจิ การอาจ
ออกใบ (ใบแจ้งหนี้ / ใบเสรจ็ รบั เงิน ) แบบนี้ก็ถือว่า “ ใบแจง้ หน้ี ” ใบนเ้ี ป็น
ใบเสร็จรบั เงนิ ได้

(2) ธุรกจิ ซื้อมา ขายไป กรณที ่ี มีการซื้อ ขายสนิ ค้า แล้วมีการสง่ สินคา้ ไปยัง ลูกค้าแล้ว
แตย่ ังไม่ได้รบั เงิน จงึ ออกไดเ้ พียง “ใบส่งของ” เท่าน้นั

กรณีที่ 1 ลูกค้า ตอ้ งการทราบยอดทง้ั หมดแล้วชาระเงินทง้ั หมด กิจการจึงออก (ใบแจ้งหน้ี/
ใบเสรจ็ รบั เงนิ )

122 การจัดการการจัดหาและการจัดซอื้

กรณีที่ 2 ลกู คา้ ต้องการทราบยอดท้ังหมดแตย่ ังไม่ชาระ กิจการจึงออกจงึ ออกเพยี ง (ใบแจ้ง
หนี้) เพียงอยา่ งเดยี ว แบบนีก้ ็ไมถ่ ึงวา่ เป็นใบเสรจ็ รับเงิน

5.6.2 ใบวางบิล (Billing Note)
ใบวางบิล (Billing Note) หมายถึง การบันทึกรายการเมื่อต้องการจัดทาใบวางบิลกับ

ลกู คา้ หรอื ลูกหนี้ โดยอ้างอิงจากยอดคา้ งชาระ ต่าง ๆ เพอื่ นาไปใชใ้ นการบันทกึ รบั ชาระหน้ีตอ่ ไป
ใบวางบิล เป็นเอกสารท่ีผู้ประกอบการใช้เพื่อออกให้แก่ลูกค้า เพื่อให้การเก็บเงินดู

น่าเชื่อถือมากข้ึน เพื่อให้ทราบราคาที่ต้องเตรียมเงินไว้ชาระ เป็นเอกสารที่บริษัทท่ัวไป ไม่ว่าจะ
ขนาดเล็ก หรือ ขนาดใหญ่ ใช้กันเป็นส่วนมาก เมื่อมีการแจง้ ราคาหรือการให้เครดิตลูกค้า จะระบุไว้
ในใบวางบิล บางครั้งอาจระบวุ นั หมดอายุของการวางบลิ ไวใ้ นรายละเอยี ดก็ได้

ใบวางบิลบุคคลธรรมดา ก็สามารถออกได้ใกล้เคียงกับ นิติบุคคล อาจแตกต่างกันที่ความ
น่าเช่ือถือ หรือ รายละเอียดเลขนิติบุคคลท่ีใช้ และหากคู่ค้าของเราต้องการใช้สิทธิภาษีซื้อ บางครั้ง
อาจเรียกเก็บเงินไม่ได้หรืออาจมีการยกเลิกการซ้ือขายจาก “ ใบเสนอราคา ” ก่อนก็ได้ ในกรณีน้ี
ถือวา่ เป็นใบแจง้ จานวนเงนิ ทต่ี อ้ งชาระเท่านัน้

5.6.3 ส่วนประกอบของใบวางบลิ และใบแจ้งหน้ี
กรณีที่ 1 หัวเอกสาร มีคาว่า “ ใบแจ้งหนี้ ” อย่างเดียว เช่น เดือน มกราคม บริษัท ก

มีใบแจ้งหนี้ท้ังเดือน จากบริษัท ข จานวน 2 คร้ัง ยอดเงิน 1,000,000 บาท 2,000,000 บาท และ
ยังไม่ไดช้ าระเงิน เม่ือถงึ สิ้นเดือน มกี ารรวมยอดใบแจ้งหนี้ทงั้ หมด จากบริษัท ข คอื 3,000,000 บาท
ดังนั้น บริษัท ข จึงออก “ใบวางบิลรวม” ในจานวนเงิน 3,000,000 บาท ให้แก่บริษัท ก เมื่อบริษัท
และเมอื่ ข ไดร้ บั เงนิ แล้ว จงึ ออกใบเสร็จรับเงนิ ใหบ้ ริษัท ก

กรณีท่ี 2 หัวเอกสาร มีคาว่า “ ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ ” เช่น เดือน มกราคม บริษัท ก
มีใบแจ้งน้ีจากบริษัท ข จานวน 1 ใบ ยอดเงิน 2,000,000 บาท และบริษัท ก ต้องการชาระเงินเลย
ดังนั้น ให้บริษัท ข ออก ใบแจ้งหน้ี/ใบวางบิล และ ออกใบเสร็จรับเงินตาม ให้แก่บริษัท ก ได้เลย
ในสว่ นประกอบของใบวางบิลและใบแจ้งหน้ี มรี ายละเอียดดังนี้

(ก) รายละเอยี ดผู้ออกใบวางบิล
1) วนั ทอี่ อกเอกสาร
2) เลขท่ีใบวางบิล
3) ช่อื ทอ่ี ยู่บรษิ ัท
4) เลขประจาตวั ผู้เสยี ภาษี

บทท่ี 5 เอกสารทีใ่ ช้การจดั หาจดั ซื้อ 123

5) เบอร์โทรศัพทข์ องบริษทั
6) ลายเซน็ ผวู้ างบิล
(ข) รายละเอยี ดลูกคา้
1) ช่อื ลูกค้า
2) ท่อี ยู่บริษัทลูกค้า
3) เลขประจาตวั ผูเ้ สยี ภาษี
4) รายละเอยี ดของสินคา้ และบริการ
5) ยอดรวมของค่าใช้จา่ ยที่ต้องชาระท้ังหมด
6) วันทก่ี าหนดชาระเงนิ
7) หมายเหตุเพ่ิมเตมิ
รายละเอียดภายใน “ใบแจ้งหนี้” อาจระบุ ชื่อสินค้า จานวนเงินแต่สินค้า ยอดเงินรวม
รายละเอยี ดภายใน “ ใบวางบลิ ” อาจระบอุ ้างองิ เพยี งเลข “ใบแจง้ หนี้”
(ค) การออกใบวางบลิ
โดยปกติของการดาเนินธุรกิจแล้ว ก่อนจะมีการออกใบวางบิลจะมีการออก ใบเสนอ
ราคา ก่อนเพ่ือแจ้งราคาให้ทราบ เมื่อมีการตกลงหรือต้องการซื้อขายกันจริง ๆ ผู้ขายจึงจะออก
เอกสารให้เป็นลายลักอักษรที่เช่ือถือได้ และหนักแน่น!! โดยเอกสารนั้นเรียกว่า “ ใบวางบิล ”
เนื่องจากบางครั้ง การเสนอราคา ไม่ได้มีการเสนอราคาเพียงครั้งเดียว บางครั้งอาจจะยังไม่ถูกใจ
สาหรับลูกค้า จึงทาให้การออกใบวางบิลมักจะเป็นข้ันตอนหลังจากการเสนอราคาเป็นที่น่าพอใจ
สาหรับลูกคา้ แล้ว
5.6.4 ข้ันตอนการออกใบวางบลิ ใบแจง้ หนี้
(1) ออกใบวางบลิ กาหนดรายละเอยี ดใหค้ รบถ้วน
(2) จัดเตรียมเอกสารจานวน 1 ชดุ (ตน้ ฉบบั และสาเนา)
หากมีใบเสนอราคา หรือใบส่ังซื้อแนบเอกสารไปกับใบวางบิล นาส่งเอกสาร โดยผู้รับ
เอกสารจะเซ็นช่ือเพื่อเป็นการรับรองการวางบิล (นาต้นฉบับเอกสารให้ลูกค้า) เม่ือให้บริการหรือส่ง
มอบของ แล้วมีการรับเงิน ให้ออกใบเสร็จรับเงิน (หากลูกค้าอยู่ในระบบหรือเราอยู่ในระบบ ต้องมี
การออกใบกากับภาษีดว้ ย)
ฝ่ายบัญชีเมื่อเห็นหัวเอกสาร ที่มีคาว่า “ใบวางบิล” สามารถนามาลงบัญชี เพ่ือรับรู้ หนี้สิน
รายได้ ท่ีจะเกิดขึ้นได้ ไม่เหมือนกับ “ใบเสนอราคา” ที่ยังไม่จาเป็นต้องนามาบันทึกบัญชี เน่ืองจาก

124 การจดั การการจดั หาและการจัดซื้อ
บางครั้งการเสนอราคเปรียบเสมือนการแจ้งให้ทราบว่า เรามีค่าบริการ หรือ ส่ิงท่ีจะขาย ว่ามี
อะไรบ้าง โดยท่ลี ูกคา้ ยงั ไมจ่ าเป็นตอ้ งตัดสินใจท่จี ะซื้อ

ภาพที่ 5.10 ตวั อยา่ งใบวางบิลและใบแจ้งหนี้ (1)
ทม่ี า: (https://www.kmcpaccounting.com, 2564)

5.6.5 ความแตกต่างระหว่างใบวางบิล กบั ใบแจ้งหนี้
ใบแจ้งหน้ี และ ใบวางบิล เป็นเอกสารท่รี ะบุยอดชาระให้แก่คู่คา้ ท้ังคู่ มลี ักษณะคล้ายกัน

แต่อาจแตกต่างกนั ท่ี การใช้งาน ดังนี้
ใบแจ้งหนี้ ส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่เราแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นงานๆไป โดยอาจมี

รายละเอียด เช่นรายละเอียดของสินค้า บริการ spec สินค้า ที่ส่ัง ค่าบริการ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

บทท่ี 5 เอกสารทีใ่ ชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 125

จานวนเงิน จานวนสินค้า และระยะเวลาชาระ เป็นต้น และภายในหน่ึงเดือน อาจมีใบแจ้งหนี้
ของ บริษัทคคู่ ้าเรา ได้หลายใบ โดยสว่ นใหญ่จะนาไปประกบกับ “ ใบวางบิล ” เม่อื ครบกาหนดเวลา
ทีต่ อ้ งชาระ อาจจะทุก ๆ สินเดือน ของใบนนั้ ๆ

ใบวางบิล ส่วนมากจะออกมาเมื่อถึงเวลาชาระเงิน โดยจะรวมยอดคงค้างทั้งหมดของ
“ ใบแจ้งหน้ี ” และสรุปว่ามีรายการค่าใช้จ่ายใดบ้าง เป็นจานวนเงินเท่าไหร่ ซึ่งบางทีบริษัทคู่ค้า
จะแจ้งมาว่าต้องการให้ออกใบวางบิลให้ โดยบริษัทเจ้าหน้ีจะออกใบวางบิลรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
(สว่ นมากจะของท้งั เดือนนนั้ ๆ) ทง้ั นขี้ ึ้นกบั การตกลงของเราและคคู่ ้าด้วย

5.7 ใบรบั สินค้า (Receive Report)
ใบรับสินค้า (Receive Report) คือ เอกสารที่ผู้ซ้ือสินค้าจัดทาข้ึน หลังจากท่ีได้รับสินค้าจาก

ซัพพลายเออร์ ผู้ซื้อจะต้องทาการตรวจนับสินค้าคกู่ ับใบ กากับสินค้าทผี่ ู้ขายสินคา้ ส่งมาใหว้ ่าถูกต้อง
ตรงตามทส่ี ่ังหรือไม่ เม่อื ถกู ต้องแล้วกจ็ ดั ทาใบรบั สินคา้ สง่ ไปให้ผขู้ ายสนิ ค้า

การออกใบรับสินค้าจากใบส่ังซ้ือที่เคยทารายการไว้แล้ว หลังจากสร้างใบสั่งซื้อเสร็จแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการรอสินค้ามาส่ง ส่วนการเปล่ียนแปลงสถานะของสินค้านั้นก็ขึ้นอยู่กบั สินค้าที่เรา
ทาการส่ังซื้อว่าเป็นสินค้าประเภทไหน หากเปน็ การส่ังซื้อสนิ คา้ ท่ัวไปที่ใช้ในบริษทั หรือสาหรับธุรกิจ
บริการ (สินค้าประเภทไม่นับสต็อก) ให้เลือกบันทึกในเมนูค่าใช้จ่าย และทางระบบจะนาไปบันทึก
เป็นค่าใช้จ่ายของบริษัททันที หากเป็นสินค้าที่ซ้ือมาเพ่ือขายให้ไปต่อที่ การสร้างใบรับสินค้า
(ระบบจะนารายการสนิ ค้าไปบนั ทกึ ใหใ้ นสินค้าคงเหลือโดยอัตโนมตั ิ)

ใบรบั สนิ คา้ เปน็ หลักฐานสาคัญสาหรบั การยืนยนั การรบั สนิ ค้าเขา้ สต๊อก หลังจากซพั พลายเออร์
ได้ส่งมอบสินค้าให้กิจการ สถานะของการรับมอบสินค้าจะมี 2 แบบ คืออนุมัติเมื่อได้รับสินค้า
ครบถว้ นสมบรู ณ์ และรออนมุ ัติเมือ่ ยังไม่ไดร้ บั สนิ คา้ ใบรับสินคา้ เป็นกระบวนการบันทกึ วา่ ผลิตภัณฑ์
ที่ถูกส่ังได้รับแล้วหรือไม่เพ่ือท่ีรายการในใบการซื้อ (PO) จะสามารถประมวลสาหรับการออกใบแจ้ง
หน้ี ในบางกรณี ผลิตภัณฑ์จะผ่านสู่ข้ันตอนการลงทะเบียนล่วงหน้าซงึ่ มีการบันทึกข้อมูลเพิ่มเตมิ จาก
ซัพพลายเออร์ก่อนท่ีจะได้รับผลิตภัณฑ์ เมื่อมีผลิตภัณฑ์เข้ามา ผลิตภัณฑ์เหล่าน้ันจะถูกทา
เคร่ืองหมายเป็น ลงทะเบียนแล้ว ก่อน ผลิตภัณฑ์อาจไปสู่กระบวนการเพิ่มเติม เช่น การจัดการ
คณุ ภาพ ก่อนทจ่ี ะถูกทาเครือ่ งหมายเป็น ได้รบั แลว้ ในท่สี ดุ

ส่วนใหญ่แล้ว การดาเนินการรับสินค้าในหน้าใบสั่งซ้ือ จะถูกใช้เพื่อทาเครื่องหมายผลิตภัณฑ์
เป็นได้รับแล้ว ใน PO หน้าการลงรายการบัญชีใบรับสินค้า มีตัวเลือกต่างๆ สาหรับปริมาณท่ีมี
การลงบัญชีตามที่ได้รับ ตัวอย่างเช่น บริษัทสามารถต้ังค่าฟิลด์ ปริมาณ เป็น ปริมาณท่ีสั่ง หรือ

126 การจดั การการจัดหาและการจัดซือ้
ปริมาณสินค้าที่รับทนั ที ได้ อีกวิธีหน่ึงคือ ถ้ามีการใช้กระบวนการมาถึงคลังสินค้า บริษัทมักจะต้ังค่า
ฟิลด์นี้เป็น ปริมาณท่ีลงทะเบียน บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนปริมาณบนแต่ละบรรทัดใบสั่งที่จะถูก
กาหนดเป็นได้รับแล้ว เพ่ือพิจารณาถึงความขัดแย้ง เช่น การจัดส่งน้อยเกินไปและการจัดส่งมาก
เกินไปในระหว่างการรับผลิตภัณฑ์ บริษัทต้องระบุตัวระบุการรับผลิตภัณฑ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นการ
อ้างอิงถึงบันทึกการจัดส่งจากซัพพลายเออร์ เนื่องจากทาให้สามารถตรวจสอบหรือตรวจสอบบัญชี
บันทึกการจดั ส่งของซัพพลายเออรเ์ ทียบกับสง่ิ ท่ีไดร้ ับและการลงบัญชสี ินค้าคงคลังหรอื ค่าใชจ้ า่ ย

ภาพท่ี 5.11 ตัวอยา่ งใบวางบิลและใบแจ้งหนี้ (2)
ท่มี า: (https://www.kmcpaccounting.com, 2564)

บทที่ 5 เอกสารที่ใช้การจดั หาจดั ซื้อ 127

สรุป

การจัดการเอกสารด้านการจัดซื้อ จัดจ้าง จัดหา วัตถุดิบ สินค้า อะไหล่ เครื่องจักร และ
อ่ืนๆ ที่ต้องจัดหาในการบวนการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ถือว่าเป็นส่ิงสาคัญมาก ที่ไม่สามารถ
ผิดพลาดได้ เน่ืองจากมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการด้านต้นทุน เวลา และทาให้กระบวนการ
ทางานท้ังระบบ ตั้งแต่ กระบวนการจัดซื้อ กระบวนการผลิต กระบวนการจัดจาหน่าย เหตุผล
ดงั กล่าวจึงทาใหผ้ ปู้ ระกอบอาชีพจดั ซ้ือตอ้ งมีความละเอียด รอบครอบเปน็ พิเศษ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายการจัดหาและการจัดซ้ือจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับงานด้านกฎ ระเบียบ
และคาสั่งฯลฯ ของหนว่ ยงาน เน่ืองจากการจัดหาและจัดซื้อเกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ ระหว่าง
บุคคลหรือนิติบุคคล 2 ฝ่ายขึ้นไป บางคร้ังความยุ่งยากก็อาจเกิดขึ้นจาก ข้อตกลงหรือข้อแม้ต่าง ๆ
ในสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อท่ีจะหลีกเล่ียงปัญหาดังกล่าว ท่ีดาเนินการจัดหาจะต้องศึกษา
กฎ และระเบยี บต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องใหเ้ พียงพอและเขา้ ใจไดโ้ ดยตลอด

การจัดเก็บรักษาหลักฐานต่าง ๆ ในการจัดหาและจัดซ้ือจะยังสาเร็จเรียบร้อยไม่ได้ จนกว่า
จะมีการเกบ็ หลักฐานและลงบัญชีให้เรยี บร้อย ซ่ึงหมายความว่า แบบพิมพ์และจดหมายโต้ตอบต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาแต่ละคร้ังจะต้องรวบรวมเข้าแฟ้มให้เป็นระเบียบเรียบร้อย บันทึกและ
หลักฐานต่างๆ จะต้องมีไว้พร้อมเพ่ือการจัดทารายงาน การตรวจสอบบญั ชี และเพ่ือวตั ถุประสงค์อ่ืน
ในอนาคตทีอ่ าจจะเกดิ ขน้ึ ดว้ ย

128 การจัดการการจัดหาและการจดั ซ้ือ

คาถามทา้ ยบทท่ี 5

1. ให้อธิบายความหมายของใบขอซ้อื )Purchase Requisition: PR) อธบิ ายมาพอเข้าใจ

2. ข้อมูลท่ีตอ้ งระบุในใบขอซ้อื Purchase Requisition: PR แผนกที่ทาการขอซอื้ มีอะรบ้าง

3. ขอ้ มลู ท่ีต้องมใี นใบเสนอราคา ประกอบไปดว้ ยส่งิ ใดบ้าง

4. ใบเสนอราคามปี ระโยชน์อย่างไร ต่อการจดั หาจดั ซ้ือ

5. เอกสารใบส่ังซ้ือ (Purchase Order: PO) มีส่วนประกอบสาคัญอะไรบ้าง อธิบาย

รายละเอยี ดใหค้ รบถว้ น

6. ประโยชน์ของการจดั ทาใบส่งั ซ้ือ มีอะไรบ้าง อธบิ ายโดยละเอยี ด

7. ใหน้ กั ศึกษาอธิบายกระบวนการทาใบส่งั สง่ คืนสินคา้ จริง

8. ใบส่งสนิ ค้า (Delivery Order :DO) ใชใ้ นการดาเนนิ การจัดหาจัดซ้อื อยา่ งไร

9. ร้าน AAA เลขท่ี 74/44 หมู่ 4 ถนนราชเทวี แขวงพญาไท เขตพญาไท กรงุ เทพฯ 10150

เบอรโ์ ทร02 - 02333345 ได้ส่งั ซอ้ื ผลติ ภณั ฑบ์ ะหม่กี ่ึงสาเร็จรปู จาก บรษิ ัท ZZZ

จากัด เลขท่ี 88/8 หมู่ 1 ซอย 55 ถนนสวุ นิ ทวงศ์ แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ

10120 โดยมีรายการดงั ต่อไปน้ี ราคาลังละ 155 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพม่ิ 7 %) โทร 02 -

8888880- 1 แฟกซ์ 02 - 8888176

- รสซปุ ไก่ 10 ลงั - โปรตีนไข่ 8 ลงั - รสหมสู ับ 20 ลัง

- รสตม้ ยากุง้ 30 ลัง - รสเป็ดพะโล้ 7 ลงั - รสเยน็ ตาโฟ 10 ลงั

- รสผดั ขเี้ มาแห้ง 8 ลงั - รสหมนู า้ ตก 8 ลัง - รสหมตู ้มยา 18 ลัง

- รสโป๊ะแตก 8 ลัง - รสตม้ ยากงุ้ น้าข้น 12 ลัง - รสตม้ แซบ 4 ลงั

- โฮลวีตรสหมพู ริกไทยดา 8 ลงั

จากขอ้ มูลข้างต้นให้นักศกึ ษาเขยี นเอกสารใบส่งั ซ้อื สาหรบั ใบสง่ั ซอื้ ไปยังซัพพลายเออร์

(Purchase Order: PO) และเขยี นเอกสารใบส่งสินค้า (Delivery Order :DO)

10. ร้าน MM เลขท่ี 37/33 หมู่ 3 ถนนดินแดง แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10180

โทร ( (021235553 ได้สั่งซ้ือ ผลิตภัณฑ์ชาเขยี วและชาดา จากบริษัท BB จากดั สานักงาน

ใหญ่ช้ัน 28 ชาญอิสสระทาวเวอร์ 2, เลขที่ 2822, ถ.เพชรบุรีตัดใหม่, บางกะปิ, เขตห้วย

ขวาง,กรุงเทพมหานคร10320 โทร 0-2716-8888 อเี มล์ [email protected]

บทที่ 5 เอกสารทใี่ ชก้ ารจดั หาจดั ซื้อ 129

ให้เขียนใบสั่งซ้ือสินค้า และใบกากับภาษีแบบเต็มรูปหรือใบส่งของ โดยมีราคา
สนิ คา้ ลังละ 300.00 บาท ไม่รวมภาษมี ลู คา่ เพิ่ม 7 % มรี ายการสินค้าดังต่อไปนี้

- ชาเขียวรสตน้ ตารับผสมดอกชา 10 ลงั
- ชาเขยี วรสน้าผ้ึงผสมมะนาว 20 ลัง
- ชาเขยี วผสมเกก๊ ฮวย 18 ลัง
- ชาเขยี วผสมจมูกขา้ วญปี่ ุ่น 18 ลัง
- ชาเขยี วสูตรไม่มีนา้ ตาล 8 ลงั
- ชาเขยี วรสมิโดรพิ นั ช์ 8 ลัง
- ชาเขียวผสมข้าวโพด 3 ลงั
- ชาเขยี วดบั เบิ้ลดริ๊งคอ์ ัญชัน+เบอรี่ 8 ลงั
- ชาเขียวดบั เบลิ้ ดรง๊ิ ค์ตะไคร+้ กีวี 8 ลัง
- ขาเขยี วดบั เบ้ิลดริง๊ ค์ใบเตย+ยอดออ่ นขา้ วสาลี 4 ลงั
- ชาเขียวดับเบิ้ลดรงิ๊ ค์มลั เบอรร์ ี่+แอปเปิ้ลแดง 3 ลงั
- ชาดารสเลมอน 8 ลงั
- ชาดารสสตรอเบอรร์ ี่ 8 ลงั

130 การจดั การการจัดหาและการจัดซ้อื

เอกสารอ้างอิง

ฐาปนา บุญหลา้ ,FCILT,CMC, (2559) คู่มือการตรวจประเมินโลจสิ ตกิ ส์ พิมพ์ครัง้ ที่ 5 กรงุ เทพฯ :
แอคทีฟ พร้นิ จากดั

ณัฐพนธ์ เกษสาคร. (2862). สารสนเทศเพื่อการจัดการโลจสิ ตกิ ส์ บทที่ 1. เข้าถึงได้จากสารสนเทศ
เพื่อการจัดการโลจิสติกส์บทท่ี 1 https://www.scribd.com/doc/183882720/
สารสนเทศเพ่อื การจดั การโลจิสตกิ สบทท่ี 1

ธิดารัตน์ ภัทราดูลย์. (2552) ธิดารัตน์ ภัทราดูลย์. (2552). เกณฑ์การตัดสินใจในการจัดซ้ือ.
Online].Available:http://www.logisticscorner.com/index.php?option=com_con
tent&view=category&id=37&Itemid=88 [20 ตลุ าคม 2555].

วโิ ชติ สัมพันธรัตน.์ ประสทิ ธภิ าพของการรายงานการบรรทุกขนถา่ ย และการรายงานการรับมอบสง่
มอบตู้สนิ คา้ ด้วยระบบการสง่ เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ ของ บริษัท ที ไอ พี เอส จากัด ทา่ เรือ
แหลมฉบงั ทา่ บี 4. งานนิพนธป์ ริญญาวทิ ยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวชิ าการจัดการการ
ขนสง่ และโลจสิ ตกิ ส์: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา, 2548.

Appelfeller and Buchholz (2011) Supplier Relationship Management Wieland
Appelfeller Wolfgang Buchholz

Ayer and Odegaard (2 0 17) Retail Supply Chain Management 2nd Edition, Kindle
Edition

Harrison and Hoek (2 0 0 2 ) Logistics Management and Strategy 3rd edition
Competing through the supply chain
W.C. Benton, Jr., (2009) Construction Purchasing & Supply Chain Management

(Hardcover) by Jr. W. C. Benton [2009 Edition] Hardcover – January 1, 1672
https://www.kruchiangrai.net. (2016)
https://www.kmcpaccounting.com (2564)
https://www.kmcpaccounting.com (2564)
https://www.officemate.co.th. (2564)
https://www.Royal Paper Form.co.th (2563)

บทท่ี 6 เทคนิคการพยากรณค์ วามตอ้ งการวตั ถดุ ิบและสนิ ค้า 131

บทที่ 6

การพยากรณ์ความตอ้ งการวตั ถดุ ิบและสนิ คา้

การจัดการซัพพลายเชน ในยุคปัจจุบัน ครอบคลุมถึงโรงงานสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน หน้าที่
ฝ่ายต่างๆในบริษัท กิจกรรมที่ผลิตสินค้าและบริการจากผู้ขายปัจจัยการผลิตรวมถึงผู้ขายปัจจัย
การผลิตในทกุ ขั้นถัดไป ลูกค้าของลูกคา้ ในทุกระดับ รวมถึงกิจกรรมการจัดซ้ือสินค้าคงคลัง การผลิต
ตารางกาหนดการผลิต การกาหนดทาเลท่ีตง้ั โรงงานและคลงั สินคา้ การขนส่ง และการกระจายสินค้า
ส่งผลกระทบในระยะส้ัน คือ การจัดการความต้องการของสินค้า ส่วนระยะยาวจะเก่ียวกับการออก
ผลิตภัณฑ์ใหม่ และกระบวนการผลิต ความล้าหน้าทางเทคโนโลยี และการเปล่ียนตลาด ซึ่งต้องมี
การพยากรณ์ในส่วนที่ได้รับผลกระทบทั้งระยะส้ันและระยะยาว โดยระยะสั้นจะมองท่ีการพยากรณ์
ท่ีแม่นยา ซ่ึงเป็นตัวบ่งชี้แนวทางในการเก็บสินค้าคงคลังท่ีกระจายอยู่ในจุดต่างๆ ในระยะยาวต้อง
มองการเปลี่ยนแปลงของโลก ท้ังทางเทคโนโลยี ตลาดในต่างประเทศ คู่แข่ง และปัจจัยภายนอก
ทั้งหมด ไม่วา่ เปน็ เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง ลูกคา้ การเปล่ียนแปลงตลาดใหม่

แนวโน้มในการออกแบบซัพพลายเชน คือ การเติมสินค้าอย่างต่อเนื่อง (Continuous
Replenishment) ซ่ึงเก่ียวข้องกับผู้ขายสินค้า โดยใช้ยอดขายท่ีเช่ือมต่อผ่านอินเตอร์เน็ต เพ่ือลด
สินค้าคงคลัง การเพ่ิมความเร็วในการส่งสินค้าให้ลูกค้า วิธีการน้ีการตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็ว
Just In Time (JIT) Vender Management (VMI) และการไม่เก็บสต็อก ฉะนั้นการพยากรณ์ท่ีต้อง
มีประวัติ และตวั เลข ย่งิ มตี วั เลขในอดตี ที่ผา่ นมามาก ยง่ิ ทาใหก้ ารพยากรณแ์ ม่นยามากขึ้น

การพยากรณ์เกี่ยวกับการจัดการคุณภาพเพราะเป็นแนวทางในการจัดหาคุณภาพและ
บริการท่ีดีแก่ลูกค้า โดยให้บริการแก่ลูกค้าโดยสินค้าที่ถูกต้องทั้งคุณภาพและปริมาณส่งถึงในเวลา
ท่ีกาหนด สถานที่ท่ีระบุ และราคาเป็นธรรม ในอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือแม้กระท่ังร้านอาหาร
อาหารฟาสต์ฟู้ด (Fast Food) กใ็ ช้ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี

ในการที่จะทาให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย และประสบความสาเร็จนั้น มีความจาเป็นอย่างยิ่ง
ในการพยากรณ์ความต้องการ ในตลาดและผลิตภัณฑ์ในอนาคตที่แม่นยา ต้องมองการพยากรณ์ทั้ง
ระบบในการบริหารการผลิตมีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องใช้ตัวเลขและข้อมูลเชิงปริมาณในการ
วางแผนและตัดสนิ ใจดาเนินการตามหนา้ ที่ตา่ งๆ ทง้ั ระยะสน้ั และระยะยาว ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณอันหนึ่ง

132 การจัดการการจัดหาและการจัดซือ้

ซึ่งมีความสาคัญอย่างย่ิงคือ ความต้องการของผลิตภัณฑ์ เพราะความต้องการของลูกค้าเป็น
ตัวกาหนดเชิงปริมาณของกิจกรรม การบริหารการผลิตหลายประการ ทาให้สามารถจัดสรร
ทรพั ยากรอันมีอยอู่ ยา่ งจากดั ขององค์การใหเ้ หมาะสมกบั ปรมิ าณผลติ ภัณฑท์ ่ลี กู ค้าตอ้ งการ การล่วงรู้
ความต้องการ นอนาคตจะมผี ลในการวางแผนกิจกรรมการบริหารการผลิตในระยะสั้นและระยะยาว
ได้ถูกต้อง ใกล้เคียงกับผลลัพธ์ท่ีดีท่ีสุด ซึ่งการพยากรณ์ข้ึนกับกรอบเวลา พฤติกรรมความต้องการ
และสาเหตุท่ีเกิดขึ้นของแต่ละพฤติกรรม ซึ่งในบทนี้จะเป็นเน้ือหาเก่ียวกับความหมายของการ
พยากรณ์ความต้องการวัตถุดิบและสินค้า การพยากรณ์ความต้องการวัตถุดิบและสินค้าที่ให้ผล
แม่นยา องค์ประกอบของการพยากรณ์ความต้องการ วิธีการที่ใช้ในการพยากรณ์ความต้องการ
วัตถุดิบและสินค้า การนาโปรแกรมไมโครซอฟเอกเซลมาใช้ในการพยากรณ์ความต้องการวัตถุดิบ
และสินค้าและประโยชน์ของการพยากรณ์ความต้องการวัตถุดิบและสินค้า โดยมีรายละเอียด
ดงั ต่อไปนี้

6.1 ความหมายของการพยากรณ์ความตอ้ งการวัตถุดิบและสินค้า
การพยากรณ์ (Forecasting) เป็นการใช้วิธีการเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพ่ือคาดคะเน

ความต้องการของสินค้าและบรกิ ารในอนาคตของลูกคา้ ทงั้ ช่วงระยะส้ัน ระยะปานกลาง ระยะยาว
การพยากรณค์ วามต้องการ มปี ระโยชนใ์ นการวางแผนและการตัดสนิ ใจตอ่ บริษัท
ฝ่ายการเงิน : การประมาณการจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดทางบประมาณการขายซ่ึงจะ

เป็นจุดเริ่มต้นในการทางบประมาณการเงิน เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้ทุกส่วนขององค์การอย่างท่ัวถึง
และเหมาะสม

ฝ่ายการตลาด : การประมาณการไว้จะถูกใช้กาหนดโควตาการขายของพนักงานขาย หรือ
ถูกนาไปสร้างเป็นยอดขายเป้าหมายของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพ่ือใช้ในการควบคุมงานของฝ่ายขายและ
การตลาด

ฝ่ายการผลิต : การประมาณการไว้ถูกนามาใช้เป็นข้อมูลในการดาเนินการต่างๆ ในฝ่าย
การผลิต คอื

6.1.1 การบริหารสินค้าคงคลังและการจัดซื้อ เพ่ือมีวัตถุดิบพอเพียงในการผลิต และมีสินค้า
สาเรจ็ รูปพอเพยี งตอ่ การขาย ภายใตต้ น้ ทนุ สนิ คา้ คงคลังในระดบั ที่เหมาะสม

6.1.2 การบริหารแรงงานโดยการจัดกาลังคนให้สอดคล้องกับปรมิ าณงานการผลิตทพ่ี ยากรณ์ไว้
แตล่ ะช่วงเวลา

บทท่ี 6 เทคนิคการพยากรณค์ วามต้องการวตั ถดุ ิบและสนิ ค้า 133

6.1.3 การกาหนดกาลังการผลิต เพ่ือจัดให้มขี นาดของโรงงานท่ีเหมาะสม มีเครื่องจักร อุปกรณ์
หรือสถานีการผลิตท่ีเพียงพอต่อการผลิตในปริมาณที่พยากรณ์ไว้ การวางแผนการผลิตรวม
เพ่ือจัดสรรแรงงานและกาลังการผลิตให้สอดคล้องกับการจัดซ้ือวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ต้องใช้ใน
การผลติ แตล่ ะชว่ งเวลา

6.1.4 การเลอื กทาเลท่ีตงั้ สาหรบั การผลิต คลงั เก็บสินคา้ หรือศูนยก์ ระจายสนิ ค้าในแต่ละแหล่ง
ลกู ค้าหรอื แหล่งการขายทมี่ ีความต้องการมากพอ

6.1.5 การวางแผนผังกระบวนการผลิตและการจัดตารางการผลิต เพื่อจัดกระบวนการผลิต
ให้เหมาะสมกับปริมาณสินค้าท่ีต้องผลิต และกาหนดเวลาการผลิตให้สอดคล้องกับช่วงของความ
ตอ้ งการ

6.2 การพยากรณ์ความต้องการวตั ถดุ บิ และสินคา้ ทใ่ี ห้ผลแมน่ ยา
จากประโยชน์ของการพยากรณ์ดังที่กล่าวมาแล้ว จะเห็นได้ว่ายิ่งพยากรณ์ความต้องการ ได้

ถูกต้องใกล้เคียงกับความจริงเท่าใด ก็ยิ่งจะทาให้การวางแผนและการตัดสินใจดาเนินงานของ
องค์การเกิดประสิทธิผลมากขึ้นเท่านั้น ความผิดพลาดจากการพยากรณ์จะนามาซ่ึงปัญหาในการ
จัดการผลิตหลายประการ เช่นซื้อวัตถุดิบมากเกินไปทาให้เกิดต้นทุนสินค้าคงคลังที่สูง โรงงานคับ
แคบเกินไปมีเคร่ืองจักรไม่เพียงพอที่จะผลิตสินค้าท่ีพยากรณ์ความต้องการ ไว้ต่าเกินไป ทาให้เกิด
การทางานล่วงเวลา และค่าใช้จ่ายการซ่อมบารุงเคร่ืองจักรท่ีสูงข้ึน ดังนั้น การพยากรณ์ความ
ต้องการที่แม่นยาจงึ เปน็ ส่ิงสาคัญสาหรับการวางแผนการบรหิ ารการผลิตและการจัดการสนิ ค้าคงคลัง
ท้ังหมด

วธิ ีการท่จี ะพยากรณไ์ ด้ผลท่ีแม่นยา ถกู ต้องใกลเ้ คยี งกบั ความเปน็ จรงิ มีดงั ต่อไปน้ี
6.2.1 ระบุวัตถุประสงค์ในการนาผลการพยากรณ์ไปใช้ และช่วงเวลาที่การพยากรณ์
จะครอบคลมุ ถึงเพอื่ ที่จะเลือกใช้การพยากรณไ์ ด้ถกู ต้องเหมาะสม
6.2.2 รวบรวมข้อมูลอย่างมีระบบ ถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะคุณภาพของข้อมูลมีผล
อยา่ งย่ิงตอ่ การพยากรณ์
6.2.3 เมื่อมีสินค้าหลายชนิดในองค์การ ควรจาแนกประเภทของสินค้าท่ีมีลักษณะของความ
ต้องการคล้ายกันไว้เป็นกลุ่มเดียวกัน พยากรณ์สาหรับกลุ่ม แล้วจึงแยกกันพยากรณ์สาหรับแต่ละ
สินค้าในกลุ่มอกี ครัง้ โดยเลอื กวิธกี ารพยากรณท์ เี่ หมาะสมกบั แตล่ ะกลุ่มแตล่ ะสินคา้
6.2.4 ควรบอกข้อจากัดและสมมติฐานท่ีต้ังไว้ในการพยากรณ์น้ัน เพื่อผู้นาผลพยากรณ์ไปใช้
จะทราบถงึ เง่ือนไขข้อจากดั ท่ีมีผลตอ่ ค่าพยากรณ์

134 การจัดการการจัดหาและการจดั ซื้อ

6.2.5 หมั่นตรวจสอบความถูกต้องแม่นยาของค่าพยากรณ์ได้กับค่าจริงท่ีเกิดข้ึนเป็นระยะ
เพอื่ ปรบั วธิ กี าร คา่ คงท่ี หรอื สมการท่ีใชใ้ นการคานวณให้เหมาะสมเมอ่ื เวลาเปล่ียนไป

6.3 องคป์ ระกอบของการพยากรณ์ความต้องการ (Components of Forecasting Demand)
การพยากรณ์ขึ้นกับกรอบเวลา พฤติกรรมความตอ้ งการโดยมรี ายละเอยี ดตอ่ ไปนี้
6.3.1 การพยากรณ์ตามกรอบเวลาท่กี ารพยากรณ์ครอบคลมุ ถึง
(1) การพยากรณ์ระยะส้ัน เป็นการพยากรณ์ในช่วงเวลาท่ีต่ากว่า 3 เดือน ใช้พยากรณ์

แต่ละสินค้าแยกเฉพาะ เพ่ือใช้ในการบริหารสินค้าคงคลัง การจัดตารางการผลิตสายการประกอบ
หรือการใช้แรงงานในช่วงเวลาแต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน หรือแต่ละไตรมาศ หรืออีกนัยหน่ึงคือ
การพยากรณร์ ะยะสน้ั ใชใ้ นการวางแผนระยะสัน้

(2) การพยากรณ์ระยะปานกลาง เป็นการพยากรณ์ในช่วงเวลาที่มากกว่า 3 เดือน จนถึง
2 ปี ใช้พยากรณ์ทั้งกลุ่มของสินค้าหรือยอดขายรวมขององค์การ เพ่ือใช้ในการวางแผนด้านบุคลากร
การวางแผนการผลิต การจัดตารางการผลิตรวม การจัดซื้อและการกระจายสินค้า ระยะเวลาท่ีนิยม
พยากรณ์คือ 1 ปี เพราะเป็นหน่ึงรอบระยะเวลาบัญชีพอดี การพยากรณ์ระยะปานกลางใช้ในการ
วางแผนระยะปานกลาง

(3) การพยากรณ์ระยะยาว เป็นการพยากรณ์ในช่วงเวลา 2 ปีข้ึนไป ใช้พยากรณ์ยอดขาย
รวมขององค์การ เพ่ือใช้ในการเลือกทาเลที่ต้ังของโรงงานและสิ่งอานวยความสะดวก การวางแผน
กาลังการผลิต และการจัดการกระบวนการผลิตในระยะยาว การพยากรณ์ระยะยาวใช้ใน
การวางแผนระยะยาว

6.3.2 การพยากรณ์แบ่งตามพฤติกรรมความต้องการ โดยแนวโน้มเป็นการบ่งช้ีระดับการ
เคล่ือนไหวของความต้องการ ในระยะยาวว่ามากขึ้น หรือต่าลง โดยปัจจุบันพฤติกรรมความต้องการ
เป็นค่าท่ีเป็นลักษณะการสุ่ม ซึ่งไม่ใช่พฤติกรรมปกติ มีหลายรูปแบบ คือ พฤติกรรมที่เป็นรูปแบบ
แนวโนม้ วัฎจกั ร และฤดูกาล

(1) แนวโน้ม (Trend) เป็นเส้นท่ีเมื่อนามาเขียนกราฟแล้วมีแนวโน้มเพ่ิมอย่างต่อเนื่อง
เปน็ ลกั ษณะการเปน็ ไปของยอดขายในอนาคต

(2) วัฎจักร (Cycle) เปน็ เส้นที่เม่ือนามาเขียนกราฟแล้วมีลักษณะเพิ่มขึ้น ลดลงเท่าๆ กัน
เป็นวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี การแข่งขัน กฎหมาย และการเมือง
ระบบเศรษฐกิจ อันเป็นปจั จัยท่คี วบคมุ ไมไ่ ด้

บทที่ 6 เทคนคิ การพยากรณ์ความตอ้ งการวัตถุดิบและสนิ คา้ 135

(3) ฤดูกาล (Season) เป็นเส้นที่เมอื่ นามาเขยี นกราฟแล้วมีลกั ษณะเพิม่ ขนึ้ เป็นชว่ งส้ัน ๆ
และลดลง เป็นช่วงเวลาในแต่ละปีท่ีผลิตภัณฑ์จะทายอดขายในลักษณะรูปแบบหนึ่งและลักษณะนี้
เกิดขึน้ ประจาทกุ ปี เช่น พฤตกิ รรมการใชโ้ ลช่นั ในฤดูหนาว

(4) แนวโน้มและฤดูกาล เป็นเส้นท่ีมีลักษณะผสมระหว่างแนวโน้มและฤดูกาล เช่น
พฤติกรรมการบริการซ่อมบารุงระบบปรับอากาศของโลกร้อนข้ึนเร่ือยๆ คนจะใช้ระบบปรับอากาศ
ในเมืองมากข้ึน ปริมาณความต้องการมากขึ้น แต่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมในแต่ละปีคนจะ
เรยี กใช้บริการมากทีส่ ุด

(5) เหตุการณ์ผิดปกติ (Irregular Variation) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย
ซ่ึงมีผลกระทบต่อยอดขายของผลติ ภณั ฑ์ เช่น โรคระบาด ภัยธรรมชาติ การคน้ พบส่ิงใหมโ่ ดยบังเอิญ
ในห้องปฏบิ ตั กิ ารสงคราม จะพยากรณเ์ หตุการณ์ผิดปกตไิ ม่ไดเ้ พราะไม่มีรปู แบบของการอนุมตั ิ

6.4 วิธกี ารทใี่ ช้ในการพยากรณ์ความตอ้ งการวตั ถุดบิ และสนิ ค้า (Forecast Method)
6.4.1 วิธีการใช้วิจารณญาณ (Judgment Method) เป็นวิธีการที่ใช้เมื่อไม่มีข้อมูลในอดีต

เพียงพอที่จะใชพ้ ยากรณ์ เช่น ต้องการพยากรณ์ยอดขายของสินคา้ ใหม่ หรือเมือ่ มคี วามก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยเี กดิ ขึน้ การพยากรณแ์ บบนมี้ ี 4 วธิ ีดว้ ยกนั คอื

(1) การประมาณการของพนักงานขาย ใช้การประมาณการของพนักงานขายซ่ึงเป็นผู้ที่
ได้สัมผัสกับสภาพของตลาดมากที่สุด ใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด พนักงานขายจะพยากรณ์โดย
รวบรวมยอดขายแต่ละเขตพื้นที่ซึ่งตนรับผิดชอบน้ัน แล้วส่งมายังสานักงานใหญ่ แต่วิธีนั้ น
มีข้อผิดพลาดได้เน่อื งจากพนักงานขายบางคนเป็นผู้มองโลกในแง่ดเี กินไป หรือพนักงานขายมักจะรู้ดี
ว่ายอดขายของการพยากรณ์จะถูกใช้ในการกาหนดโควตาการขายจึงประมาณการไว้ต่า เพ่ือทา
ยอดขายเกินเป้าได้ง่ายข้ึน และพนักงานขายบางคนไม่เข้าใจว่าความต้องการเป็นความต้องการท่ีมี
“กาลงั ซอื้ ” ของลูกค้าประกอบดว้ ย

(2) ความคิดเห็นของผู้บริหาร ใช้พยากรณ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ท่ียังไม่ออกสู่ท้องตลาดมาก่อน
จึงใช้ความคิดเห็นของผู้บริหารที่มีประสบการณ์คนหนึ่งหรือหลายคนมาช่วยพยากรณ์และกาหนด
กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น การนาผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ ข้อจากัดของวิธีนี้
คือ มักใช้เวลาของกลุ่มผู้บริหารในการประชุมสรุปการพยากรณ์มากจึงเป็นวิธีท่ีมีค่าใช้จ่ายสูง และ
ไม่ควรใช้ผู้บริหารฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงพยากรณ์ตามลาพังโดยไมไ่ ด้สรุปร่วมกับผู้บริหารฝ่ายอ่ืน เพราะผล
ของการพยากรณ์กระทบทุกฝา่ ยขององคก์ าร

136 การจัดการการจัดหาและการจัดซอื้

(3) การวจิ ยั ตลาด เป็นวิธที ่ีต้องกระทาอย่างมีระบบโดยสร้างสมมติฐาน แล้วเกบ็ รวบรวม
ข้อมูลจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เพ่ือทาการพยากรณ์ การวิจัยตลาดตอ้ งประกอบด้วยการออกแบบสอบถาม
กาหนดวิธีการเก็บข้อมูล สุ่มตัวอย่างมาสัมภาษณ์ รวบรวมข้อมูลมาประมวลผลและวิเคราะห์
ตามลาดับ วิธีน้ีใช้กับการพยากรณ์ในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาวได้ แต่เป็นวิธีท่ีเสีย
ค่าใช้จ่ายสงู และตอ้ งพิถีพถิ ันในการปฏบิ ัติหลายขั้นตอน

(4) วิธเี ดลฟาย เป็นวธิ ีที่ประชุมกลมุ่ ผูเ้ ช่ียวชาญเฉพาะทางมีความรเู้ ก่ยี วกบั ผลิตภัณฑ์
น้ัน วิธีน้ีจะใช้ได้ดีเม่ือไม่มีข้อมูลใดจะใช้พยากรณ์ได้และผู้บริหารขององค์การไม่มีประสบการณ์ใน
ผลิตภัณฑ์น้ันเพียงพอ วิธีนี้จะเร่ิมจากการส่งคาถามเวียนไปยังผู้เช่ียวชาญหลายคนให้ตอบกลับ
มาแล้วทาเป็นรายงานส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนได้อ่านข้อคิดเห็นของทุกคน เพื่อให้ทุกคนปรับปรุง
แนวความคิดใหม่แลว้ สง่ กลับมาอีกทาซา้ ๆ หลายรอบจนได้ข้อสรุปยุติจากทุกคน ข้อเสียของวิธีนี้ คือ
เสียเวลามาก (อาจเป็นปี) ผู้เชี่ยวชาญบางคนอาจยึดมั่นในความคิดของตนจนไม่สรุปกับข้อคิดเห็น
ของคนอื่น

6.4.2 วิธีการพยากรณ์สาเหตุ (Causal Method) เป็นวิธีการท่ีใช้เมื่อข้อมูลมีความสัมพันธ์ของ
ตัวแปรหนึ่งกับยอดขาย ซึ่งตัวแปรน้ันจะเป็นปัจจัยภายในองค์การ เช่น ต้นทุนขาย หรือปัจจัย
ภายนอกองค์การ เช่น ต้นทุนโลจิสติกส์ของคู่แข่งก็ได้ ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นสมการ
เส้นตรง (Linear Regression) โดยมตี ัวแปรหน่งึ เป็นตัวแปรตาม (Dependent Variable) กบั อีกตัว
แปรหนึ่งซ่ึงเป็นตัวแปรอิสระ (Independent Variable) สัมพันธ์กันในลักษณะท่ีเมื่อตัวแปรอิสระ
เปลีย่ นแปลงแลว้ จะสง่ ผลให้ตัวแปรตามเปลย่ี นดว้ ย

Yc = a+b X
a = Y-b X

b = XY – n X Y

X2- n X 2
เมอ่ื a = ค่าท่ีแกน Y ซ่งึ สมการเส้นตรงตดั

b = ความลาดชันของเส้นตรง
n = จานวนขอ้ มลู ท่ใี ชห้ าสมการ
Y = ยอดขายพยากรณ์
X = ตวั แปรอสิ ระ

บทที่ 6 เทคนคิ การพยากรณค์ วามตอ้ งการวตั ถุดบิ และสินคา้ 137

ตัวอย่างที่ 6.1 จงหาความสัมพันธ์ของยอดขายของสินค้าหนึ่ง (y) และต้นทุนโลจิสติกส์รวม (x)
จากข้อมลู ดงั ต่อไปนี้ (หน่วย : ล้านบาท)

ยอดขาย (Y) ต้นทุนโลจสิ ติกส(์ X) X2 XY Y2
264 2.5 6.25 660.0 69,696
116 1.3 1.69 150.8 13,465
165 1.4 1.96 231.0 27,225
101 1.0 1.00 101.0 10,201
209 2.0 4.00 418.0 43,681

Y = 855 X = 8.2 X 2 = 14.9 XY = 1560.8 Y 2 = 164,259

X = 8.2/5 = 1.64

Y = 885/5 = 171.00

b = XY – n X Y = 1560.8 – 5 (1.64) (171)

X2- n X 2 14.9 – 5 (1.64) 2

= 158.60 = 109.229

1.452

a = Y - b X = 171.00 – 109.229 (1.64) = -8.136

Y = -8.136 + 109.229X
c

ถ้าตง้ั งบประมาณต้นทนุ โลจสิ ติกส์ไวท้ ี่ 1.75 ลา้ นบาท จะพยากรณ์ยอดขายได้คือ

ยอดขาย = -8.136 + 109.229 (1.75) = 183.015 ล้านบาท

ค่ายอดขายที่พยากรณ์ได้ คือ 183.015 ล้านบาท เป็นจุดค่าเฉลี่ยของยอดขาย
(Point Estimate of Sale) ซึ่งเป็นค่าค่าเดียวจึงมีโอกาสจะเป็นค่าพยากรณ์ท่ีถูกต้องแม่นยาน้อย
มาก ถ้าหากถือว่าค่าพยากรณ์มีการกระจายแบบปกติ (Normal Curve) ซึ่งมีค่าระดับความเช่ือม่ัน
ต่างๆกัน จะทาให้สามารถแสดงค่าพยากรณ์เป็นช่วงซ่ึงมีโอกาสท่ีจะเป็นค่าพยากรณ์ท่ีถูกต้องได้
มากกว่าค่าคา่ เดยี ว และมีความยดื หยุน่ ในการนาไปใช้งานได้มากกว่าคา่ ค่าเดียว ดังตอ่ ไปน้ี

คา่ พยากรณใ์ นชว่ ง X  SD มโี อกาสถกู ต้องแมน่ ยาถงึ 68% และมีโอกาสผิดพลาด 32 %

138 การจัดการการจดั หาและการจดั ซ้อื

ค่าพยากรณ์ในช่วง X  2SD มีโอกาสถูกต้องแม่นยาถึง 95.5% และมโี อกาสผิดพลาด 4.5 %
คา่ พยากรณ์ในช่วง X  3SD มีโอกาสถูกต้องแมน่ ยาถึง 99.7% และมีโอกาสผิดพลาด 0.3 %

โดยทีค่ ่าความเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation หรอื SD) คานวณไดจ้ าก

SD = Y  Yc 2 หรือ = Y 2  a Y  b  XY
n-2 n-2

ตวั อยา่ งที่ 6.2 จงหายอดขายเมอื่ มีงบประมาณต้นทุนโลจสิ ติกส์ 1.75 ล้านบาทในระดบั ความเช่อื มั่น
ท่ี 95.5%

SD = Y 2  a Y  b  XY
n-2

= 164,250  (8.136)(855) 109.229(1560.8)
5-3

= 730.66 = 15.61
3

ยอดขาย = X  2SD เมอ่ื ต้องการระดบั ความเช่ือมน่ั 95.5%
= 1833148  (2 x 15.61) = 151.795 ถงึ 214.235 ล้านบาท

การวัดค่าสหสัมพันธ์ของตัวแปร อน่ึง สมการเส้นตรง Yc = a + bx ควรถูกตรวจสอบ
ความสัมพันธ์ระหว่าง x และ y ให้มั่นใจแน่นอนว่าตัวแปรท้ังสองนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างแท้จริง
เหมาะสมท่ีจะใช้พยากรณไ์ ดโ้ ดยใช้

1) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Coefficient of Correlation) ใช้วัดทิศทางและระดับของ
ความสมั พันธร์ ะหว่าง x และ y

r = n  XY   X Y

  n  X 2   X 2 n Y 2  Y 2

ค่าของ r จะอยู่ระหว่าง -1.00 ถึง +1.00 ถ้าค่าของ r เป็นบวกแสดงว่า x และ y
มีความสัมพันธ์แปรตามกัน ถ้าค่าของ r เป็นลบแสดงว่า x และ y มีความสัมพันธ์แบบผกผัน คือ
ถ้า x เพิ่มขึ้น y จะลดลง และถ้า x ลดลง y จะเพิ่มขึ้น ถ้าค่าของ r น้อยมากหรือเข้าใกล้ศูนย์
แสดงว่า x และ y ไม่มีความสัมพนั ธต์ อ่ กนั

บทท่ี 6 เทคนคิ การพยากรณค์ วามต้องการวตั ถุดบิ และสนิ ค้า 139

2) สัมประสิทธ์ิการกาหนด (Coefficient of Determination) ใช้วัดอิทธิพลของตัวแปร
อสิ ระท่ีมีตอ่ ยอดขายพยากรณ์ โดยนาค่า r มายกกาลังสอง

หรือ r 2 = a Y   XY  ny 2

2

Y 2  nY

ค่า r 2 อยู่ระหว่าง 0 ถึง 1 สมการความสัมพันธ์ที่คานวณค่า r 2 ได้ใกล้เคียง 1.0 แสดงว่า
ตัวแปรอิสระ (x) ที่ใช้มีอิทธิพลต่อยอดขายที่พยากรณ์ได้มาก

ในความเป็นจริง ยอดขายมักจะได้รับผลกระทบจากตัวแปรอิสระหลายตัวในขณะเดียวกัน
การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์จึงต้องมีการใช้ตัวแปรอิสระมากกว่า 1 ตัว เรียกว่า Multiple
Regression Analysis ซึ่งสมการจะอยู่ในรูป Y c = a+b1 x1 +b 2 x 2 เช่นยอดขายแปรตามต้นทุน

โลจิสติกส์และค่าโบนัสพนักงานขาย วิธีนี้จะมีการหาค่า a, b1 และ b2 ค่อนข้างซับซ้อน จึงขอไม่
กลา่ วถงึ ในท่ีนี้

ข้อดีของวิธพี ยากรณส์ าเหตุ
1) ไดค้ า่ พยากรณ์เป็นชว่ งท่จี ะนาไปใช้งานได้อยา่ งมีความยืดหยนุ่ มากกว่าคา่ พยากรณ์เดียว
2) สามารถพยากรณ์ยอดขายได้จากปัจจัยภายในและภายนอกองค์การที่เกี่ยวข้องกับผล
การดาเนินงาน (ยอดขายและกาไร) จากการปฏิบตั งิ าน (ต้นทนุ และคา่ ใชจ้ า่ ย) ได้
ขอ้ จากดั ของวธิ พี ยากรณ์สาเหตุ
(1) ตอ้ งการขอ้ มูลจานวนมากพอเพียงท่จี ะสรุปเป็นสมการได้ จงึ ทาใหม้ คี ่าใช้จ่ายสงู
(2) การคานวณค่อนข้างยงุ่ ยาก ไม่เหมาะกบั การพยากรณส์ าหรับธุรกจิ ทมี่ สี นิ ค้าหลายชนิด
6.4.3 การพยากรณ์แบบอนุกรมเวลา (Time Series Method) เป็นวิธีการที่ใช้พยากรณ์
ยอดขายในอนาคตโดยคาดว่าจะมีลักษณะเช่นเดียวกับยอดขายในปัจจุบันหรืออนาคต ยอดขายหรือ
ความต้องการในความเป็นจริงได้รับอิทธิพลจากแนวโน้ม (Trend) ฤดูกาล (Seasonal) วัฎจักร
(Cycle) และเหตุการณ์ผิดปกติ (Irregular Variation)
การใชอ้ นกุ รมเวลามี 3 วิธี คือ
ก) การพยากรณ์อย่างง่าย (naïve Forecast) เป็นการพยากรณ์ว่ายอดขายในอนาคต
จะเท่ากับยอดขายปัจจุบัน เช่น เดือนมกราคมขายได้ 35 กล่อง เดือนกุมภาพันธ์ควรจะขายได้
35 กลอ่ ง เชน่ กัน ถ้าเดือนกมุ ภาพันธข์ ายไดจ้ ริง 42 กล่อง กจ็ ะพยากรณ์วา่ เดอื นมนี าคมวา่ ขายได้ 42
กล่องเช่นกนั


Click to View FlipBook Version