The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

001.ตามรอยธรรม ประวัติปฏิปทาหลวงปู่ดู่ หรหมปัญโญ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

001.ตามรอยธรรม ประวัติปฏิปทาหลวงปู่ดู่ หรหมปัญโญ

001.ตามรอยธรรม ประวัติปฏิปทาหลวงปู่ดู่ หรหมปัญโญ

189 ๑๘๙

๙​ ๘​

​หลวงปดู​่ ่​ู ห​ ลวงป​ ทู่ วด​



วนั ห​ นง่ึ ใ​นค​ ราวท​ ป​่ี ลอดค​ น​ข​ า้ พเจา้ ไ​ดม​้ โ​ี อกาสอ​ ยท​ู่ ก​่ี ฏุ ข​ิ องห​ ลวงป​ู่
กับ​ท่านโ​ดยล​ ำพงั ​​หลวงปู่​ได​้เลา่ ใ​ห้​ขา้ พเจ้าฟ​ งั ว​ า่ ​ม​ ล​ี ูก​ศษิ ย​์นายท​ หาร​คน​
หนึง่ ​มาเ​ลา่ ใ​ห้ท​ า่ น​ฟงั ​ว่า​​หลวงป​ ทู่ วดท​ ่าน​ไปห​ ลอก​เขา​
​ “​หลอก​ยังไ​งห​ รือค​ รับ​”​​ขา้ พเจา้ ถ​ ามท​ า่ น​
​ “​เขา​ว่า​เวลา​ท่ี​เขา​ภาวนา​อยู่​ ​หลวง​ปู่ทวด​ไป​ยืน​อยู่​ข้าง​หน้า​เขา​​
สัก​พักต​ ัวท​ ่าน​ก​็เปล่ยี นไ​ป​​หวั เ​ป็น​หลวงป​ ่ทู วด​​ตวั เ​ปน็ ข​ า้ ​.​..​​”​
​ หลวงปตู่​ อบ​ข้าพเจา้ ​ยังไ​มจ​่ บ​​ขา้ พเจ้า​อดถ​ ามแ​ ทรก​ไม​่ได้​ว่า​“​ เ​ขาร​ ​ู้
ได​้อย่างไร​ครบั ว​ ่าต​ วั ​เป็นห​ ลวงป”ู​่ ​
​ ทา่ นต​ อบข​ า้ พเจา้ ว​ า่ ​“​ เ​ขาจ​ ำร​ อยส​ กั ร​ ปู ผ​ เ​ี สอื้ ท​ ม​ี่ อื ข​ า้ ไ​ด​้ ”​ ​ห​ ลวงป​ู่
ได้​เล่า​ต่อว่า​ ​“​เมื่อ​หลวง​ปู่ทวด​ไป​หลอก​เขา​โดย​แสดง​ให้​เห็น​ ​หัว​เป็น​
หลวงป​ ่ทู วด​​ตัวเ​ปน็ ​ข้าแ​ ลว้ ​​สกั ​พกั ​กเ็​ปลยี่ นใ​หม​่ ​ทีน​้ีหวั ​เป็นข​ ้า​​ส่วนต​ วั ​
เปน็ ​หลวงป​ ูท่ วดถ​ ือไ​ม​้เทา้ ​ก​ ลบั ​ไป​กลับม​ าอ​ ย่างน​ ี้​​”​
เ​รอ่ื งท​ ห​ี่ ลวงปไ​ู่ ดเ​้ ลา่ ใ​หข​้ า้ พเจา้ ฟ​ งั น​ ​ี้ ต​ รงก​ บั น​ มิ ติ ท​ ศ​ี่ ษิ ยข​์ องห​ ลวงป​ู่
หลายค​ นเ​คยม​ น​ี มิ ติ เ​กย่ี วก​ บั ท​ า่ น​ค​ อื ​เ​ปน็ น​ มิ ติ ร​ปู พ​ ระพทุ ธเจา้ อ​ ยต​ู่ รงก​ ลาง​
ดา้ นข​ วาด​ า้ นซ​ า้ ยม​ ร​ี ปู ห​ ลวงป​ ทู่ วดแ​ ละห​ ลวงปด​ู่ ​ู่ ส​ กั พ​ กั ภ​ าพท​ งั้ ส​ ามก​ ค​็ อ่ ยๆ​
เลื่อน​มา​รวม​เป็น​ภาพ​เดียวกัน​คือ​เป็น​ภาพ​พระพุทธเจ้า​ ...หาก​หลวงปู่​ดู่​

๑๙๐ 190

และ​หลวง​ปู่ทวด​มิใช่​พระองค์​เดียวกัน​แล้ว​ ​สมควร​แล้ว​หรือ​ท่ี​นิมิต​ที่​ศิษย์​
นาย​ทหาร​ท่าน​น้ัน​จะ​เห็น​ศีรษะ​หลวงปู่​ดู่​ไป​วาง​บน​ลำ​ตัว​หลวง​ปู่ทวด​​
สมควรแ​ ลว้ ​หรอื ท​ ี​ศ่ รี ษะห​ ลวง​ป่ทู วดม​ า​วาง​บน​ลำ​ตัวห​ ลวงป​ู่ดู​่ ​และส​ มควร​
แล้ว​หรือ​ทภ​ี่ าพพ​ ระพทุ ธเจ้า​​หลวง​ปทู่ วด​แ​ ละ​หลวงป่ด​ู ู่​​มา​รวมเ​ปน็ ​ภาพ​
เดยี วกนั ​
​ ข้าพเจ้า​เชื่อ​ว่า​หลวงปู่​ดู่​เป็น​พระ​โพธิ​สัตว์​ที่​ปรารถนา​พุทธ​ภูมิ​
เช่น​เดียว​กบั ห​ ลวงป​ ูท่ วด​​ส่วน​ท่าน​จะ​เป็น​องคเ​์ ดยี วกนั ห​ รือไ​ม่​นน้ั ​ข​ ้าพเจา้ ​
ไมท​่ ราบไ​ด​้ เ​พราะเ​ปน็ ว​ สิ ยั ข​ องผ​ ม​ู้ ญ​ี าณเ​ทา่ นนั้ ท​ จ​ี่ ะพ​ งึ ท​ ราบ​เ​หตท​ุ บ​ี่ นั ทกึ ​
เร่ือง​น้ี​ไว้​ก็​เพียง​เพ่ือ​เตือน​ใจ​ตัว​เอง​ท่ี​ครั้ง​หน่ึง​หลวงปู่​ได้​เคย​เมตตา​เล่า​
​เร่ือง​น้ี​ให้​ข้าพเจ้า​ฟัง​ ​และ​หาก​จะ​เป็น​ประโยชน์​กับ​ใคร​บ้าง​ ​ช่วย​สร้าง​
ศรัทธา​ป​สา​ทะ​ให้​เกิด​ความ​พาก​ความ​เพียร​ ​ที่​จะ​ก้าว​ล่วง​ความ​ทุกข์​ให้​ได้​
แล้ว​​ขา้ พเจา้ ​ขอ​อนุโมทนา​ด้วยอ​ ย่างย​ ิ่งค​ รับ​



191 ๑๙๑

๙​ ๙​

​หลวงปูบ่​ อก​หวย​



ความจ​ รงิ แ​ ลว้ ข​ า้ พเจา้ ค​ วรต​ ง้ั ช​ อื่ เ​รอื่ งน​ ว​ี้ า่ ​“​ ว​ ดี โี อป​ ระวตั แ​ิ ละค​ ำส​ อน​
ของ​หลวงปู่”​ ​​มากก​ วา่ ​​แตช​่ ือ่ ​เร่ืองย​ าว​ไป​​และไ​ม​ช่ วนอ​ ่านเ​ทา่ ​​“ห​ ลวงป​ู่
บอก​หวย​”​จ​ งึ ข​ อ​อนญุ าตใ​ช​ช้ ือ่ ​เร่ือง​นี​้แทน​
​ ขา้ พเจา้ แ​ ละห​ มค​ู่ ณะอ​ กี ห​ ลายค​ นม​ ค​ี วามต​ ง้ั ใจท​ จ​ี่ ะท​ ำว​ ดิ โี อป​ ระวตั ​ิ
และค​ ำส​ อนข​ องห​ ลวงป​ู่ เ​พอื่ เ​ปน็ อ​ นสุ รณร​์ ำลกึ ถ​ งึ ท​ า่ น​โ​ดยจ​ ดั ท​ ำด​ ว้ ยค​ วาม​
เคารพท​ ่าน​เปน็ ท​ สี่ ุด​​ไมต​่ อ้ งการ​หาผ​ ล​กำไร​จาก​การ​นี้​
​ จากน​ น้ั ก​ ไ็ ดป​้ รกึ ษาก​ นั ใ​นเ​รอ่ื งท​ นุ ท​ จ​ี่ ะด​ ำเนนิ ก​ าร​แ​ ละห​ ลงั จ​ ากท​ ไ​่ี ด​้
แบง่ ง​านก​ นั แ​ ลว้ ​ท​ กุ ค​ นพ​ รอ้ มใจก​ นั ม​ ากร​ าบน​ มสั การห​ ลวงปต​ู่ อ่ ห​ นา้ ส​ รรี ะ​
ของท​ า่ นท​ ต​ี่ งั้ ไ​วท​้ ห​ี่ อส​ วดม​ นต​์ ซ​ ง่ึ อ​ ยต​ู่ รงข​ า้ มก​ บั ก​ ฏุ ข​ิ องห​ ลวงปใ​ู่ นป​ จั จบุ นั ​
ขา้ พเจา้ จ​ ำไ​ดว​้ า่ ค​ ำอ​ ธษิ ฐานข​ องพ​ วกเ​ราใ​นว​ นั น​ น้ั ​ค​ อื ​ข​ ออ​ นญุ าตต​ อ่ ห​ ลวงป​ู่
ใน​การ​จัด​ทำ​วิดีโอ​ประวัติ​และ​คำ​สอน​ของ​ท่าน​ ​และ​หาก​หลวงปู่​อนุญาต​​
ขอ​ให้ห​ ลวงปู่บ​ อก​พวกเ​รา​ด้วย​​จะ​โดยน​ มิ ติ ​​มา​เข้าฝ​ ัน​​หรือ​วิธี​ใด​กแ​็ ล้วแ​ ต​่
เพือ่ ใ​ห้​พวก​เราส​ บายใจว​ ่า​ไม่​ได้​ทำโ​ดยที่​หลวงปไู​่ มอ่​ นญุ าต​แ​ ละ​ขอ​ให​้สงิ่ ท​ ่ี​
จะ​ต้อง​ทำท​ กุ ​อย่างส​ ะดวกร​ าบร​ น่ื ​​ไม​ต่ ดิ ขัด​จนง​านส​ ำเร็จ​​แตห่​ าก​หลวงป​ู่
ไมอ​่ นญุ าตแ​ ลว้ ​ข​ อใ​หก้ ารท​ ำงานข​ องพ​ วกเ​ราต​ ดิ ขดั ​ม​ อ​ี ปุ สรรค​ท​ ำใหท​้ อ้ ใจ​
และเ​ลิกล​ ม้ ค​ วาม​ต้ังใจท​ จ่​ี ะ​ทำก​ ัน​ใน​ท่ีสุด​

๑๙๒ 192

​ จาก​วัน​ที่​พวก​เรา​ได้​ขอ​อนุญาต​หลวงปู่​แล้ว​ ​พวก​เรา​สิบ​กว่า​คนใช้​
เวลา​กนั ป​ ระมาณห​ น่งึ ป​ ี​​เพ่อื จ​ ัด​ทำ​วิดโี อ​ท​ีม่ ​ีความย​ าว​ประมาณ​​๓๐​​นาที​
เรม่ิ ต​ ง้ั แ​ ตก​่ ารเ​ขยี นบ​ ท​เ​ปลยี่ นจ​ ากบ​ ทใ​หเ​้ ปน็ ส​ คร​ ปิ ต​์ ต​ ดิ ตอ่ ห​ าข​ อ้ มลู เ​กยี่ ว​
กบั ห​ ลวงปต​ู่ งั้ แ​ ตช​่ วี ติ ข​ องท​ า่ นใ​นว​ ยั เ​ยาว​์ จ​ นก​ ระทงั่ อ​ ปุ สมบทเ​ปน็ พ​ ระภ​ กิ ษ​ุ
สอบถาม​จาก​พระ​เถระ​ครู​อาจารย์​ท่ี​เคย​ร่วม​ธุดงค์​กับ​ท่าน​ ​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ท่ี​
รู้จัก​ท่าน ติดต่อ​ช่าง​ภาพ​ท่ี​จะ​มา​ถ่าย​ทำ​วิดีโอ​นอก​สถาน​ที่​ ​โดย​ต้อง​ไป​
ถ​ า่ ยท​ ำท​ บ​่ี า้ นเ​กดิ ข​ องท​ า่ น​เ​ปน็ ตน้ ​จ​ นก​ ระทงั่ ว​ ดิ โี อท​ ช​ี่ ว่ ยก​ นั จ​ ดั ท​ ำแ​ ลว้ เ​สรจ็ ​
​ข้าพเจ้า​ยัง​จำ​ได้​ดี​วัน​นั้น​เป็น​วัน​ที่​ ​๓๑​ ​มกราคม​ ​๒๕๓๖​ ​เวลา​
กลาง​คืน​ประมาณ​สาม​ทุ่ม​ ​ข้าพเจ้า​น่ัง​ดู​วิดีโอ​อยู่​คน​เดียว​ที่​ชั้น​ล่าง​ ​ดู​ไป​ก็​
คดิ ถงึ ท​ า่ นไ​ป​ผ​ า่ นไ​ปไ​ดค​้ อ่ นเ​รอ่ื ง​ด​ ว้ ยค​ วามค​ ดิ ถงึ ท​ า่ น​น​ ำ้ ตาเ​จา้ ก​ รรมข​ อง​
ข้าพเจ้า​ก็​เอ่อ​ล้น​ข้ึน​มา​ ​ใน​ขณะ​เดียวกัน​น้ัน​เอง​ ​ข้าพเจ้า​แล​เห็น​หลวงปู่​ด​ู่
ทาง​ด้าน​ขวา​มือ​ข้าพเจ้า​ ​ท่าน​เดิน​เข้า​มา​หา​แล้ว​หยุด​ห่าง​จาก​ข้าพเจ้า​
ประมาณ​เมตรเ​ศษ​แ​ ล้ว​บอกข​ า้ พเจา้ ​ว่า​
​ “ข​ า้ ​อนโุ มทนา​กับ​พวกแ​ ก​ดว้ ย​​ท​่ที ำให​ค้ นอ​ ่ืนไ​ดบ้​ ุญ​หลาย”​ ​
​ ขา้ พเจา้ เ​หน็ ท​ า่ นด​ ว้ ยห​ างต​ า​ค​ รนั้ เ​มอ่ื ห​ นั ไ​ปม​ องท​ า่ นต​ ร​ งๆ​ป​ รากฏ​
วา่ ท​ ่าน​หาย​ไป​แ​ ล้วข​ า้ พเจ้า​ถามต​ วั เ​องว​ า่ ค​ ดิ เ​อา​เองห​ รอื เ​ปล่า​เ​สียง​จิ้งจก​
ทกั ​ทนั ทท​ี ี่​ความ​คดิ ​นีเ้​กิด​ขึ้นใ​นใ​จ​ข​ ้าพเจา้ น​ ึกถึงค​ ำท​ ​่ีหลวงป่​เู คยบ​ อก​พวก​
เราไ​ว​้วา่ ​
​ “​ถ้า​ขา้ ไ​ป​หา​แก​ใ​ห้​คอย​ฟัง​เสียงจ​ งิ้ จก​ใหด้​ ​ี”​
​ พอดว​ี ดิ โี อจ​ บ​ข​ า้ พเจา้ จ​ งึ ข​ น้ึ ไ​ปห​ อ้ งพ​ ระช​ น้ั บ​ น​ข​ ณะท​ ข​่ี า้ พเจา้ ก​ ำลงั ​

193 ๑๙๓

จะ​ก้มล​ งก​ ราบพ​ ระ​​ภาพห​ ลวงปูก​่ ​็ปรากฏ​เบือ้ ง​หน้า​​ทางด​ า้ นซ​ า้ ย​ของโ​ต๊ะ​
บชู าพ​ ระ​ห​ รือ​ขวาม​ อื ข​ องข​ า้ พเจา้ ​แ​ ล้วท​ ่านก​ ็​บอก​ข้าพเจ้า​อีกว​ ่า​“​ ​พ​ ร่งุ ​น้​ี
หวยอ​ อก​๒​ ๑​”​ข​ า้ พเจา้ ย​ งั ง​นุ งงก​ บั เ​หตกุ ารณท​์ ก​ี่ ำลงั เ​กดิ ข​ น้ึ ใ​นเ​วลาน​ น้ั ว​ า่ ​
คิดเ​อาเ​อง​อีก​หรือเ​ปลา่ ​​ทำไมถ​ งึ เ​ป็นเ​รอื่ ง​เป็น​ราวท​ ​ีเดียว​ห​ ลวงปู​่ท่านค​ งร​ ้​ู
ความ​คดิ ข​ องข​ า้ พเจ้า​ในข​ ณะน​ ัน้ ​ท​ ่านจ​ งึ ​บอก​ขา้ พเจ้าอ​ ีกว​ า่ ​“​ ​​ไม​่เชอื่ ใ​หด​้ ​ู
ใน​รปู ข​ า้ ​ป​ ฏทิ ิน​​๒๑”​ ​
​ ข้าพเจา้ ​รีบเ​ดินเ​ข้า​ใกลท้​ ่ี​บูชา​พระ​ซ่งึ ม​ ีร​ ูป​หลวงปู่​ ​ขนาด​ ​๘​ x​ ​ ๑​ ๐​​
น้ิว​ใ​ส​่กรอบต​ ั้ง​อยู่​เ​ปน็ ร​ ปู ​หลวงป​่นู ั่ง​สมาธิ​ห​ นา้ ก​ ุฏิ​ทา่ น​เอง​ท​ ขี​่ ้าง​ฝาก​ ุฏิ​
มี​ปฏิทิน​แบบ​ฉีก​ใบ​ละ​วัน​แขวน​ไว้​ ​วัน​ที่​ใน​ปฏิทิน​ท่ี​เห็น​นั้น​เป็น​วัน​ที่​ ​๒๑​
ซ่ึง​ตรง​กับ​ท่ี​ข้าพเจ้า​ได้ยิน​หลวงปู่​บอก​อยู่​ใน​เวลา​น้ี​ ​ข้าพเจ้า​ก้ม​ลง​กราบ​
พระ​​๓​ค​ รั้ง​แ​ ละ​เรยี น​หลวงปว่​ู ่าข​ า้ พเจ้าไ​ม​เ่ คย​คิดจ​ ะข​ อห​ วยห​ ลวงปู​่เลย​​
ขา้ พเจา้ เ​รม่ิ เ​ขา้ ใจแ​ ลว้ ล​ ะ่ ​ห​ ากว​ นั น​ ห​ี้ ลวงปม​ู่ าจ​ รงิ ​ไ​มใ่ ชภ​่ าพน​ มิ ติ ท​ ข​่ี า้ พเจา้ ​
คิด​ข้ึน​เอง​ก็​ขอ​ให้​พรุ่ง​น้ี​หวย​ออก​ ​๒๑​ ​จริง​ ​แต่​ถ้า​พรุ่ง​นี้​หวย​ไม่​ออก​ ​๒๑​​
แปล​ว่า​ภาพ​นิมิต​ทั้งหมด​เป็น​เรื่อง​ไม่​จริง​และ​ข้าพเจ้า​เพ้ียน​เอง​ต้ัง​แต่​ต้น​
จน​จบร​ ายการน​ ี้​
​ วัน​รุ่ง​ข้ึน​ข้าพเจ้า​มี​งาน​ที่​ทำงาน​ ​จำ​ได้​ว่า​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​จัด​ทำ​
แผน​งาน​ประจำ​ปี​ ​พ​.​ศ​.​ ​๒๕๓๖​ ​ข้าพเจ้า​ลืม​เรื่อง​น้ี​ไป​สนิท​ตลอด​ท้ัง​วัน​​
ตก​เย็น​ก็​ต้อง​ทำงาน​ล่วง​เวลา​กว่า​จะ​ได้​กลับ​บ้าน​ก็​เป็น​เวลา​ค่ำ​ ​เส้น​ทาง​ท่ี​
ข้าพเจ้า​ขับ​รถ​กลับ​บ้าน​ต้อง​ข้าม​สะพาน​พระปิ่น​เกล้า​เป็น​ประจำ​ทุก​วัน​
วนั น​ น้ั ข​ า้ พเจา้ ข​ บั ร​ ถม​ าต​ ดิ ไฟแ​ ดงอ​ ยท​ู่ ห​่ี นา้ ส​ ำนกั งานส​ ลากก​ นิ แ​ บง่ ร​ ฐั บาล​

๑๙๔ 194

พอด​ี ​พลันข​ ้าพเจา้ น​ ึกข​ ้ึน​มาไ​ด้​จ​ ึงเ​หลอื บไ​ปม​ อง​ผลก​ ารอ​ อก​สลากก​ นิ ​แบง่ ​
รฐั บาลท​ ต​่ี ดิ ป​ ระกาศเ​ปน็ ต​ วั เลขเ​ดน่ อ​ ยห​ู่ นา้ ส​ ำน​ กั ง​านฯ​ ​ส​ ง่ิ ท​ ข​ี่ า้ พเจา้ ไ​ดเ​้ หน็ ​
ก​ค็ อื ​เลขท​ า้ ยส​ อง​ตัวข​ อง​หวย​งวด​ประจำว​ นั ​ท​ี่ ​๑​ก​ มุ ภาพันธ์​พ​ ​.​ศ.​​๒​ ๕๓๖​
ออก​เลข​​๒๑​ซ​ งึ่ ​ตรงก​ บั ​ท่หี​ ลวงป่​ูไดบ​้ อกข​ ้าพเจ้าไ​วต้​ ้ังแ​ ตเ่​มือ่ ​คนื ​น้ี​
​ เหตกุ ารณ​ท์ ​เ่ี กดิ ​ข้ึนน​ ​ี้ ​ขา้ พเจ้า​มา​สรปุ เ​องไ​ด​ว้ ่า​ห​ ลวงป่​ตู ้องการม​ า
บอ​ ก​ใหข้​ า้ พเจ้า​ทราบว​ า่ ​ท​ ่าน​อนุญาต​ใหพ้​ วก​เราท​ ำว​ ิดีโอเ​รอ่ื ง​ของท​ า่ นไ​ด้​
ซง่ึ ข​ า้ พเจา้ ไ​ดน​้ ำเ​รอื่ งน​ ม​้ี าเ​ลา่ ใ​หห​้ มค​ู่ ณะไ​ดร​้ บั ท​ ราบว​ า่ พ​ วกเ​ราไ​มไ​่ ดท​้ ำก​ นั ​
โดย​พลการ​ ห​ ลวงปอู่​ นญุ าต​แลว้ ​จ​รงิ ๆ​ ​ซึ่ง​หากท​ า่ นไ​ม​บ่ อกเ​หตุการณล​์ ว่ ง​
หน้า​โดย​มา​ผูก​เรื่อง​กับ​หวย​ท่ี​จะ​ออก​ใน​วัน​รุ่ง​ข้ึน​ ​ข้าพเจ้า​ก็​คงจะ​ไม่​เช่ือ​
ว่า​ท่าน​อนุญาต​สำหรับ​ข้าพเจ้า​แล้ว​ ​นี้​เป็น​เหตุการณ์​ท่ี​ประทับ​ใจ​ข้าพเจ้า​
มาก​ที่สุด​คร้ัง​หนึ่ง​ท่ี​แสดง​ถึง​ความ​รัก​ ​ความ​เมตตา​ ​และ​ความ​ห่วงใย​ของ​
หลวงป​ู่ท่​มี ​ีตอ่ ​บรรดา​ศษิ ยานุศิษย​์ ข​ ้าพเจ้าม​ ​ีความ​เชอ่ื ​๑​ ๐๐​%​ ​​เต็ม​ว​ ่า​
ถึง​แม​้หลวงปู่​ดู​จ่ ะ​มรณภาพไ​ปแ​ ลว้ ​​กเ​็ ป็นการจ​ ากไ​ป​แต​่กายข​ องท​ า่ น​​แต่​
หลวงปด​ู่ อ​ู่ งคจ​์ รงิ ท​ เ​ี่ ปน็ อ​ งคธ​์ รรมข​ องท​ า่ นย​ งั อ​ ยค​ู่ อยช​ ว่ ยเ​หลอื พ​ ระศ​ าสนา​
และค​ อยช​ ว่ ยเ​หลอื ผ​ ป​ู้ ฏบิ ตั ธ​ิ รรมท​ ง้ั ห​ ลายอ​ ยา่ งท​ ไ​ี่ มเ​่ สอ่ื มถ​ อยไ​ปก​ วา่ ส​ มยั ท​ ​ี่
ท่านย​ งั ม​ ​ีชวี ติ ​อย่​ูเลย​
​เหตุการณ์เ​ร่อื งห​ ลวงปบ​ู่ อกห​ วยน​ ้ี​ ​เปน็ ​เพยี งต​ ัวอย่างห​ นงึ่ ​ในห​ ลาย​
เหตกุ ารณ​์ทห​่ี ลวงปท่​ู า่ นเ​มตตาม​ าช​ ว่ ย​เหลือห​ มค​ู่ ณะ​ซ​ ่งึ ข​ า้ พเจา้ แ​ ละ​ศิษย​์
หลายค​ น​ที่เ​คยม​ ป​ี ระสบการณ์​​คง​ไมม่ ​ใี ครป​ ฏเิ สธว​ า่ ​หลวงป่​ดู ู่ท​ ่าน​.​..​​​มาไ​ด้​
จริงๆ​ ​

195 ๑๙๕

​๑๐๐​

อ​ ยากไ​ด้ว​ ตั ถม​ุ งคลข​ อง​หลวงปู่​



ผม​ได้​รับ​ทราบ​คำ​สอน​และ​ปฏิปทา​เกี่ยว​กับ​หลวง​ปู่​ดู่​จาก​ศิษย์​ของ​
ท่าน​คน​หน่ึง​ ​จน​เกิด​ศรัทธา​ป​สา​ทะ​ ​กระท่ัง​ได้​มี​โอกาส​เดิน​ทาง​ไป​ถวาย​
สังฆทาน​กับ​หลวง​ปู่​คร้ัง​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​เป็น​ครั้ง​เดียว​ท่ี​ได้​พบ​ได้​กราบ​ท่าน​ ​หลัง​
จาก​น้ัน​เวลา​ผ่าน​ไป​.​.​.​ผม​ได้​รับ​ทราบ​เรื่อง​ราว​ของ​หลวง​ปู่​มาก​ขึ้น​เรื่อย​ๆ​​
ความ​รัก​ความ​เคารพ​บูชา​มี​มาก​ขึ้น​ตาม​กาล​เวลา​ ​แต่​ก็​ไม่​เคย​ได้​ไป​กราบ​
ท่าน​อีก​จน​ทา่ น​มรณภาพ​
​ วนั ​น้นั .​.​.​เ​มื่อค​ ราว​ไปท​ ำบญุ ​กับห​ ลวงป​ ​ู่ ​ผม​เคยค​ ิดน​ อ้ ยใจ​ท่ี​ไม​่ได​้รับ​
โอวาทค​ ำส​ อนห​ รอื ว​ า่ ส​ ง่ิ ใ​ดจ​ ากห​ ลวงป​ เ​ู่ ลย​ค​ วามค​ ดิ เ​ชน่ น​ แ​้ี มไ​้ มถ​่ กู ต​ อ้ งน​ กั ​
เพราะ​เป็นการ​ทำบุญ​ที่​หวัง​ผล​ ​แต่​นี่​คือ​ความ​รู้สึก​ของ​ปุถุชน​คน​หนึ่ง​ที่​ยัง​
ต้องการก​ ำลังใ​จ​ต​ ้องการท​ ี่พ​ ่ึงพ​ ิง​ทางใ​จอ​ ยู่​
​ ถึง​วัน​นี้​.​.​.​ผม​เช่ือ​ใน​ความ​เมตตา​ของ​ท่าน​ ​เพียง​แต่​จะ​แผ่​มา​ถึง​เรา​
ใน​ลักษณะใ​ด​เท่านั้น​​ผมไ​ด้​รับฟ​ งั ​เรื่องร​ าว​เก่ยี ว​กบั ค​ ณุ ธ​ รรมแ​ ละค​ ณุ ว​ ิเศษ​
ของ​หลวง​ปู่​หลาย​เรื่อง​หลาย​ลักษณะ​ ​แต่​ไม่​เคย​ได้​ประสบ​กับ​ตนเอง​ ​จน​
ครง้ั ​หน่ึงใ​น​ชวี ิต.​​..​ไ​ดเ้​กิดข​ ึน้ ​
ผ​ มเ​ปน็ ค​ นท​ ช​ี่ อบส​ ะสมแ​ ละส​ นใจพ​ ระเ​ครอื่ ง​แ​ ละเ​ชอื่ ว​ า่ พ​ ระท​ ห​ี่ ลวง​
ปอ​ู่ ธษิ ฐานจ​ ติ ​ม​ ค​ี วามศ​ กั ดส​ิ์ ทิ ธแ​ิ์ ละเ​ปน็ ม​ งคลก​ บั ผ​ ค​ู้ รอบค​ รอง​ผ​ มเ​องก​ ไ็ ด​้

๑๙๖ 196

แสวงหาก​ ระท่ัง​ได​เ้ หรียญ​รุ่น​​“​เปดิ โ​ลก”​ ​​จากล​ ูกศ​ ษิ ยห​์ ลวง​ปู​่ ท​ นี ​ีป้ ัญหา​
เกดิ ​ตรงท​ วี่​ ่า​ตัว​เองไ​ด​้แล้ว​ยัง​ไม​พ่ อ.​.​​.​ยัง​อยาก​ได​เ้ ผ่อื ไ​ว้ใ​ห้ร​ ุน่ ​พ่ี​ทีท​่ ำงาน​ซ​ ึง่ ​
เปน็ ​คน​นสิ ยั ​ด​มี ี​นำ้ ใจเ​กิดค​ วาม​รู้สกึ ​อยาก​ให​พ้ ค​่ี นน​ ​้มี ​พี ระ​ของห​ ลวงป​ ู่​ โ​ดย​
เฉพาะ​เหรียญร​ ุ่น​เปดิ ​โลกน​ ​แี่ หละ​
​ ทกุ ขเ​์ กดิ ข​ นึ้ แ​ ลว้ .​.​.​ต​ วั เ​องก​ ไ​็ มม่ ​ี แ​ ตอ​่ ยากใ​หเ​้ ขา.​.​.​จ​ ะไ​ปข​ อใ​ครก​ ก​็ ลวั ​
เขาว​ ่า​ไ​ดไ​้ ม่รจ​ู้ ัก​พอห​ รอื ไ​ง​
​ ปกติ​ผม​จะ​สวด​มนต์​ไหว้​พระ​ก่อน​นอน​ทุก​คืน​ ​คืน​นี้​ก็​เช่น​เดียวกัน​
ใจ​ก​ย็ งั ค​ งม​ ​คี วาม​คดิ ​วา่ ​จะห​ า​พระใ​หพ​้ ​ค่ี นน​ ​ย้ี งั ไ​ง​​จติ ​ก​ค็ ดิ ​วา่ ​พระ​ของ​หลวงป​ู่
ขอจ​ ากห​ ลวงป​ ก​ู่ แ​็ ลว้ ก​ นั ​น​ กึ แ​ ลว้ จ​ งึ ห​ นั ห​ นา้ ไ​ปท​ างร​ปู ห​ ลวงป​ แ​ู่ ลว้ เ​รยี นทา่ น​
ว่า​ ​“​หลวง​ปู่​ครับ​ ​ผม​อยาก​ได้​เหรียญ​เปิด​โลก​ของ​หลวง​ปู่​ไป​ให้​คุณ​.​.​.​เพ่ือ​
ให้​เป็น​สิริ​มงคล​คุ้มครอง​ตัว​ ​แต่​ผม​ไม่มี​พระ​ของ​หลวง​ปู่​ ​ขอ​ให้​ผม​ได้​พระ​
ของ​หลวง​ปด​ู่ ้วยค​ รับ​”​
​ ขอโทษ​ครับ​.​.​.​ความ​รู้สึก​ว่า​จะ​ได้​พระ​น้ัน​ไม่มี​ ​เพราะ​เป็น​เพียง​การ​
นึก​เอง​ ​คิด​เอง​และ​พูด​เอง​ ​คิด​ว่า​ท่าน​คง​ไม่​ได้​รับ​รู้​สิ่ง​ที่​บอก​กับ​ตนเอง​คือ​
นอน​ดกี​ ว่า​ค​ ดิ มากก​ ฟ​็ ้งุ ซ​ ่านเ​ปล​ า่ ​ๆ​เ​ช้า​ของ​สอง​วัน​ต่อม​ า​​ลกู ​ศิษยห์​ ลวงป​ ่​ู
เจอ​ผม​บอก​วา่ ​“​ ​เดี๋ยว​ว่างๆ​ ​​ม​เี รื่อง​จะถ​ าม​พ่​หี น่อย​”​
​ จาก​เช้า​.​.​.​จน​บ่าย​ ​เขา​ก็​ยัง​ไม่​ว่าง​และ​คง​ลืม​ไป​แล้ว​ ตก​เย็น​เขา​จะ​
กลบั ​บา้ น​ผ​ ม​นึกไ​ด้​เลยถ​ าม​เขาเองว​ า่ ​​“เ​ม่อื ​เช้า​จะถ​ าม​อะไรผ​ มห​ รอื ค​ รบั ​”​
​ “อ​ อ้ !​​ค​ อื อ​ ยา่ งน​ ​้ี จ​ ะถ​ ามว​ า่ ​เ​หรยี ญเ​ปดิ โ​ลกน​ ​่ี พ​ จ​่ี ะเ​อาก​ เ​่ี หรยี ญค​ รบั ”​
เขา​ถาม​

197 ๑๙๗

“​ ฮ​ า้ ​!​​พ​ ดู ใ​หมอ​่ กี ท​ ซ​ี ค​ิ รบั ​พ​ ดู ​ช​ า้ ๆ​ ​ช​ ดั ๆ​ ”​ ​ผ​ มอ​ ทุ านด​ ว้ ยค​ วามแ​ ปลก​
ใจ​และ​ร้สู ึก​ได​้ทนั ทว​ี ่าม​ อ​ี ะไร​ผดิ ​ปกต​แิ น่นอน​
เ​พื่อน​ผม​คนน​ น้ั ​กท​็ วนค​ ำถามเ​ดมิ ​แลว้ ​เล่า​ให้ฟ​ งั ​ว่า​
“​เม่อื ​คืนส​ วด​มนต​ไ์ หวพ​้ ระต​ ามป​ กติ​​ขณะ​ท​จี่ ิตส​ งบ​อย่​ูก็ม​ ​ีนิมติ ​เป็น​
หน้า​พ่ี​ปรากฏ​ข้ึน​และ​ได้ยิน​เสียง​ของ​หลวงปู่​ดู่​บอก​ว่า​เอา​เหรียญ​เปิด​โลก​
ของ​ขา้ ไ​ปใ​ห้​เขา​​พอต​ อนเ​ชา้ ​มาว​ า่ ​จะถ​ ามพ​ ​ี่แล้วก​ ​ล็ มื ”​ ​
​เขาย​ งั ไ​ดเ​้ ลา่ ใ​ห​้ฟังเ​พ่มิ ​เตมิ ​วา่
“​เห็น​นมิ ติ ​เชน่ เ​ดียวกัน​นี้​ตงั้ ​แต่​คืน​วานแ​ ล้ว​แตไ่​ม​่แน่ใจ​​นึกว​ ่า​คิด​ไป​
เอง​จนก​ ระทง่ั เ​มอ่ื ค​ นื เ​กดิ น​ มิ ติ เ​หมอื นเ​ดมิ อ​ กี ​ภ​ าพป​ รากฏช​ ดั เจนข​ น้ึ ​เสยี ง​
ของ​หลวงป​ู่ที่ส​ ัง่ ​ก็​ดงั ฟ​ ัง​ชดั ​จ​ ึง​คดิ ​ว่า​ไม​่น่า​ท​่ีจะค​ ิดเ​อา​เอง”​
​ ผม​จึง​ได้​เล่า​ราย​ละเอียด​สิ่ง​ท่ี​ได้​คิด​ได้​ทำ​ให้​เพื่อน​ผม​ฟัง ​และ​ขอ​
เหรยี ญ​เปดิ ​โลกม​ าใ​ห้พ​ ีค่​ นด​ ​ขี อง​ผม​ไดต​้ าม​ท่ต​ี ง้ั ใจไ​ว​้ ​เหตุการณน​์ ​เ้ี ปน็ เ​ร่อื ง​
จริง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ตัว​ผม​เอง​ ​และ​คง​ยืนยัน​ถึง​ความ​เมตตา​ของ​หลวง​ปู่​ที่​
สงเคราะห​์ผม​และ​คนร​ อบ​ขา้ งด​ ว้ ย​
​ “แ​ ก​คดิ ถึง​ข้า​ข​ ้า​ก็​คิดถงึ แ​ ก”​ ​​คำพ​ ดู น​ ย้ี​ งั ​กอ้ งอ​ ยใู่​นห​ ูข​ องผ​ ม​แ​ ละ​
คง​ก้อง​อยู่​ใน​หู​ของ​ลูก​ศิษย์​ของ​หลวง​ปู่​ตลอด​ไป​ ​และ​สิ่ง​ที่​แปลก​สำหรับ​
ปถุ ชุ น​คน​ธรรมดาอ​ ย่าง​เรา​กค็​ ือ​​หลวง​ป​ทู่ า่ น​มรณภาพไ​ป​แลว้ ​ท​ ำไมย​ งั ม​ า​
ชว่ ยเ​ราไ​ด​อ้ กี ​​
เรา​คงเ​คย​ไดย้ นิ ผ​ ป​ู้ ฏบิ ตั ​ธิ รรมไ​ดพ​้ บพระ​พทุ ธ​เจา้ ​พระส​ งฆผ​์ ​ปู้ ฏบิ ตั ดิ ​ี
ปฏบิ ตั ช​ิ อบท​ ง้ั ห​ ลายท​ ท​ี่ า่ นม​ รณภาพไ​ปแ​ ลว้ เ​ชน่ ก​ นั ม​ าส​ อนม​ าโปรดล​ กู ศษิ ย​์

๑๙๘ 198

ใน​รูป​แบบ​ตา่ ง​ๆ​แ​ ตค​่ น​ธรรมดาอ​ ยา่ งเ​รา​​ตาย​กันไ​ป​แล้ว​มากมาย​บ​ างค​ รง้ั ​
อยากใ​ห้ม​ าก​ ็ไ​ม​่เหน็ ม​ า​
​ สงิ่ เ​หลา่ น​ เ​ี้ กดิ ข​ นึ้ ไ​ดอ​้ ยา่ งไร​เ​ปน็ เ​พราะบ​ ญุ บ​ ารมข​ี องแ​ ตล่ ะท​ า่ นห​ รอื ​
เปล่า​?​​...​ขอ​ฝากใ​ห​ช้ ่วย​กัน​คดิ ต​ อ่ ​ไป​

ลาภะ​ ปญั โญ​


199 ๑๙๙

​๑๐๑​

​ทสี่ ดุ ​แห่งท​ กุ ขเวทนา​



“​ธรรมน​ นั้ ​อยฟ่​ู าก​ตาย​ไ​มร่​ อดต​ าย​​ไม่​เห็นธ​ รรม​”​
​เป็นค​ ำ​สอน​ธรรมท​ ไ่ี​พเราะ​ ก​ นิ ​ใจ​ ​และ​เปน็ ​ประโยชนใ์​น​การนำ​มา​
ขบคดิ ​พิจารณาใ​หแ​้ จม่ ​แจ้งก​ ับ​ตนเองอ​ ย่างย​ ่งิ ​
​ วัน​หนึ่ง​ขณะ​ท่ี​ข้าพเจ้า​น่ัง​ปฏิบัติ​ภาวนา​ ​ใจ​มี​ความ​สงบ​ระงับ​พอ​
สมควร​เ​วลา​ผา่ นไ​ป​ได้​สกั ​๒​ ​​-​๓​ ​ช​ ่ัวโมง​ท​ กุ ขเวทนาอ​ นั ​เนอื่ งม​ า​จาก​ความ​
ปวด​เมือ่ ย​ตามร​ า่ งกายเ​ริ่ม​ทว​ีข้นึ ​เร่อื ย​ๆ​
​ ใน​คร้ัง​แรก​ ​ข้าพเจ้า​อาศัย​กำลัง​สมาธิ​เข้า​ข่ม​ความ​เจ็บ​ปวด​ ​โดย​
พยายาม​ให​จ้ ติ จ​ ดจอ่ ​อยก​ู่ บั ​คำภ​ าวนา​ใหม​้ น่ั คง​ขน้ึ ​ค​ วามป​ วด​เมอ่ื ย​ก​ห็ ายไ​ป​​
แต่​กเ็​ปน็ ​เพียงช​ ว่ั ​ขณะไ​ม่น​ าน​นัก​ ​ความ​ปวดเ​ม่ือย​น้ันก​ ็​กลับค​ นื ม​ าอ​ ีก​และ​
รนุ แรง​ขึ้น​​ข้าพเจา้ ​จึงต​ ั้ง​คำถามต​ วั ​เอง​ว่า​.​..​​
​ “​ทว​่ี า่ เ​จบ็ ป​ วด​​มัน​ปวด​ตรง​ไหน​​ท​จ่ี ิต​หรอื ท​ ีก​่ าย”​ ​
​ “​เจบ็ ท​ ก​่ี าย”​ ​ข​ า้ พเจา้ ​ตอบ​ตวั ​เอง​
​ “​เออ​​เจบ็ ท​ ่ีก​ าย​​มนั ก​ ​ต็ ้อง​ไม​่เกีย่ วก​ ับ​จิต​​ถา้ เ​รา​เชอ่ื ​พระพุทธเจ้าว​ ่า​
จติ ก​ บั ​กาย​เปน็ ค​ นละส​ ่วน​กนั ​เ​ราจ​ ะต​ ้อง​เห็น​จิต​เห็นก​ ายว​ า่ ​เปน็ ​คนละส​ ่วน​
ดว้ ยต​ วั เ​รา​แ​ ละต​ อ้ งไ​มท​่ รุ นท​ ร​ุ ายจ​ ากค​ วามเ​จบ็ ป​ วดอ​ นั น​ ”​้ี ​ข​ า้ พเจา้ บ​ อกก​ บั ​
ตวั ​เอง​อกี ​

๒๐๐ 200

​ เวลาผ​ า่ นไ​ปอ​ ยา่ งช​ า้ ๆ​แ​ ตอ​่ นจิ จาค​ วามเ​จบ็ ป​ วดม​ ไิ ดห​้ ายไ​ปไ​หนเ​ลย​
กลับ​ทวี​ความ​รุนแรง​ ถึง​ขนาด​ท่ี​ขา​ทั้ง​สอง​ข้าง​ของ​ข้าพเจ้า​ส่ัน​ระริก​
แ​ ละ​กระตุกด​ ้วย​ความ​เจบ็ ​ปวด​เอง​ข​ ณะ​นั้นเ​กิดเ​ป็น​ความ​รอ้ น​ท่ัวร​ า่ งกาย​
โดยเ​ฉพาะท​ ห​่ี วั เ​ขา่ ท​ น​ี่ งั่ ข​ ดั ส​ มาธเ​ิ กดิ ค​ วามเ​จบ็ ป​ วดแ​ สนส​ าหสั เ​หมอื นม​ ใ​ี คร​
มาบ​ ดิ ข​ า​และ​ดงึ ​ให​้ยืด​ออก​​เปน็ ​ความ​ทรมานท​ ่ีสดุ ค​ รั้งห​ นง่ึ ​ของก​ าร​ปฏบิ ตั ​ิ
ภาวนา​ของ​ขา้ พเจ้า​ท​ีเดียว​
​ ข้าพเจ้า​บอก​กับ​ตนเอง​ว่า​วัน​น้ี​ต้อง​ให้​เห็น​ที่สุด​ของ​ทุกขเวทนา​ให้​
ได​้ ​เราจ​ ะ​ไม่ย​ อมล​ กุ จ​ าก​ทีน​่ งั่ โ​ดยไ​มผ่​ า่ น​ทุกข​์ ​ไม​เ่ หน็ ​ท่ีสดุ ​ของ​ทกุ ขเวทนา​
ถา้ เ​ราล​ กุ แ​ ปลว​ า่ เ​ราไ​มเ​่ ชอ่ื พ​ ระพทุ ธเจา้ ​ถ​ า้ เ​ราเ​ชอ่ื พ​ ระพทุ ธเจา้ จ​ รงิ เ​ราต​ อ้ ง​
ผา่ นท​ กุ ขใ​์ หไ​้ ด​้ ใ​หใ​้ จเ​ราเ​หน็ ใ​หไ​้ ดว​้ า่ ​“​ จติ ก​ บั ก​ ายน​ เ​้ี ปน็ ค​ นละส​ ว่ นก​ นั ”​ถ​ า้ ​
หากว​ นั น​ เ​้ี ราแ​ พก​้ ไ​็ ปห​ าผ​ า้ ถงุ ม​ าน​ งุ่ เ​สยี ​แ​ ลว้ ไ​มต​่ อ้ งม​ าป​ ฏบิ ตั อ​ิ กี เ​ลย​ป​ ฏบิ ตั ​ิ
ไปก​ ต็​ าย​เปลา่ ​​เพราะ​คนข​ ีแ้​ พท​้ ำ​อะไรม​ ันก​ ็แ​ พ้อ​ ยู่​วัน​ยงั ​ค่ำ​​เวลาจ​ ะต​ ายม​ นั ​
เจบ็ ​ปวด​เพยี งไ​รจ​ ะ​ทนไ​หวห​ รือ​
เ​มอ่ื ต​ กลงก​ บั ต​ วั เ​องด​ งั นแ​ี้ ลว้ ​ค​ วามเ​จบ็ ป​ วดก​ ย​็ งั ม​ ไิ ดห​้ ายไ​ปไ​หนเ​ลย​
คราว​นีก้​ ลับ​เพ่มิ ​ความ​รุนแรง​ขึ้นจ​ นน​ ้ำตาข​ ้าพเจา้ ไ​หล​ออก​มา​เปน็ ส​ าย​ ​ใน​
ใจข​ ณะน​ ัน้ ข​ า้ พเจ้าไ​ม่​หวงั อ​ ะไรท​ ัง้ ​ส้ิน​​ไม​ต่ อ้ งการแ​ ม​้กระท่ัง​ความส​ งบ​น​ ึก​
เพยี งอ​ ยา่ งเ​ดยี วว​ า่ ทเ​่ี ราท​ ำอ​ ยน​ู่ ​้ี ท​ ำด​ ว้ ยศ​ รทั ธา​ด​ ว้ ยค​ วามร​ กั ห​ ลวงปด​ู่ แ​ู่ ละ​
ขอ​เอา​ชีวิต​เป็น​เดิม​พัน​ ​เม่ือ​ความ​เจ็บ​ปวด​รุม​เร้า​ข้าพเจ้า​อย่าง​แสน​สาหัส​​
ถึง​ขนาด​เจียน​อยู่​เจียน​ไป​ ​จน​ข้าพเจ้า​รู้ตัว​ดี​ว่า​ไม่​สามารถ​ทน​ต่อ​ไป​ได้​อีก​
แล้ว​​แต่ใ​จ​กย็​ ังไ​ม่ย​ อมแ​ พ้​ไ​ม​ย่ อม​ลุก​แ​ ละ​ไม​่ยอมข​ ยับเขย้อื น​​

201 ๒๐๑

ขา้ พเจา้ ร​ สู้ กึ ว​ า่ ต​ วั เ​องเ​หมอื นเ​ดก็ ท​ ย​ี่ นื ก​ ำห​ มดั ​ก​ ดั ฟนั ​แ​ ลว้ ว​ งิ่ เ​ขา้ ไป​
ชก​กับ​คู่​ต่อสู้​ท่ี​รูป​ร่าง​สูง​ใหญ่​ได้​เปรียบ​กว่า​ทุก​ประตู​ ​ข้าพเจ้า​ทั้ง​ร้องไห้ ​
ทั้ง​ตะโกน​อยใ​ู่ นใ​จว​ า่ ​“​ ​ผม​ทำ​ถวายห​ ลวงป่ค​ู รับ​”​
​ ส้ิน​คำ​กล่าว​ของ​ข้าพเจ้า​นี้​ ​เหมือน​กับ​หลวงปู่​ท่าน​รับ​ทราบ​ ​พลัน​
เกิด​เหตุ​อัศจรรย์​เป็น​นิมิต​ที่​ข้าพเจ้า​จดจำ​ได้​ตลอด​ชีวิต​ ​คือ​ ​ข้าพเจ้า​เห็น​
หลวงปู่​ด​ู่เป่า​พรวดล​ ง​มา​ที่ก​ ระหม่อมข​ องข​ า้ พเจ้า​​ความ​รูส้ กึ ข​ ณะน​ ้นั ​ดจุ ม​ ​ี
นำ้ ท​ พิ ยช​์ โลมร​ ดต​ ง้ั แ​ ตศ​่ รี ษะ​ จนจ​ รดป​ ลายเ​ทา้ ​ท​ กุ ขเวทนาค​ วามป​ วดเ​มอ่ื ย​
ทเ​ี่ มอื่ ส​ กั ค​ รร​ู่ าวกบั ถ​ กู ก​ อ้ นห​ นิ ท​ ม​ี่ น​ี ำ้ ห​ นกั ห​ นงึ่ ร​อ้ ยก​ โิ ลท​ บั ไ​ว​้ ก​ พ​็ ลนั ห​ ายไ​ป​
ในพ​ รบิ ต​ า​เ​กดิ เ​ปน็ ค​ วามเ​ยน็ ก​ ายเ​ยน็ ใจต​ งั้ แ​ ตศ​่ รี ษะจ​ นจ​ รดป​ ลายเ​ทา้ ​ไ​มม่ ​ี
ที​่ใด​ที​ค่ วามเ​จ็บป​ วดซ​ ่อนเ​ร้นห​ รือ​หลง​เหลืออ​ ยู่เ​ลย​
​ ขา้ พเจ้า​เรมิ่ ม​ ​คี วามม​ ่นั ใจ​ในก​ าร​ปฏิบัต​มิ าก​ขน้ึ ​​ความล​ งั เล​สงสัย​ใน​
วิถี​ทาง​ปฏิบัติ​เร่ิม​หมด​ไป​ ​มี​แต่​ความ​ปลาบปล้ืม​ปีติ​ใน​ธรรม​อย่าง​ท่ี​ไม่​เคย​
เปน็ ม​ าก​ อ่ น​ส​ งั เกตด​ จ​ู ติ ก​ บั อ​ ารมณถ​์ กู แ​ ยกอ​ อกเ​ปน็ ค​ นละส​ ว่ นเ​หมอื นแ​ กว้ ​
ทใ​่ี สน​่ ำ้ ไ​ว​้ แ​ กว้ ก​ บั น​ ำ้ แ​ มอ​้ ยด​ู่ ว้ ยก​ นั ​แ​ กว้ ก​ เ​็ ปน็ แ​ กว้ ​น​ ำ้ ก​ เ​็ ปน็ น​ ำ้ ​อ​ ยก​ู่ นั ค​ นละ​
สว่ น​ฉนั ใด​จ​ ติ ​ก็เ​ป็น​จิต​..​เปน็ ​ผ​ู้รู้​​อารมณ​ก์ เ​็ ปน็ ​อารมณ์​​..​​เป็น​ผถู้​ ูกร​ ู้​ฉ​ นั น​ นั้ ​
เมอ่ื ห​ ยดุ อ​ ยส​ู่ กั พ​ กั ห​ นง่ึ ​จ​ งึ น​ อ้ มเ​อาค​ วามส​ งบม​ าพ​ จิ ารณาธ​ รร​มาร​มณต​์ า่ งๆ​
ทม่ี า​กระทบใ​จต​ ่อ​ไป​
​ อยา่ งน​ ​ก้ี ระมงั ท​ ท​่ี า่ น​หลวงต​ า​(​​พระ​อาจารย​ม์ หาบ​ วั ​​ญาณส​ มั ​ปนั โ​น)​
เคยส​ อน​ไวว้​ า่ ​ก​ ารต​ ่อส​กู้ ับก​ เิ ลส​​ถา้ ​สู้ก​ บั ม​ ัน​ช​ กก​ ับ​มัน​ห​ ากส​ ​ู้ไมไ​่ หว​ถ​ กู ​
มนั ​จับ​ได​้ ​จบั ม​ ือเ​ราม​ ัดไ​ว้​ข​ า​เรา​ม​ี ​ก็​ต้อง​เตะ​ถบี ม​ นั ​ห​ ากถ​ กู ม​ ันจ​ ับ​ขาไ​ด้อ​ กี ​

๒๐๒ 202

ปากเ​ราม​ ี​ก็​ต้องก​ ัด​ต​ อ้ งด​ า่ ม​ ัน​ใ​ห้​สู้​จนย​ ิบต​ า​
​ ขา้ พเจา้ เ​รมิ่ เ​ขา้ ใจบ​ ทเ​รยี นบ​ ทน​ แ​้ี ลว้ ​ค​ วามเ​ขา้ ใจเ​รม่ิ ม​ ม​ี ากข​ น้ึ ​พ​ รอ้ ม​
กบั ​ความร​ ักท​ ม​่ี ตี​ อ่ ห​ ลวงปด​ู่ ​ู่ก็​มม​ี ากข​ นึ้ ​เชน่ ​กัน​

203 ๒๐๓

​๑๐๒​

​เปรียบ​ศีล​

​ดิฉัน​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต​และ​ขี้​สงสัย​ว่า​ ​ทำไม​ใน​บท​สวด​สมาทาน​
พระกร​รม​ฐาน​ของ​หลวงปู่​ถึง​ได้​ต้อง​มี​การ​อาราธนา​ศีล​ ซึ่ง​มี​ผู้​แนะนำ​ให้​
ทำเ​ปน็ ป​ ระจำ​ทกุ ว​ ัน​
​ ด้วย​ความ​อด​รน​ทน​ไม่​ได้​ ​เมื่อ​สบ​โอกาส​ที่​ได้​มาก​ราบ​นมัสการ​
หลวงป​ู่ ​จงึ เ​รยี นถ​ าม​ท่าน​​
“​หลวงป่เ​ู จ้าค​ ะ​​ทำไมเ​วลา​สวด​มนต์​จึง​ตอ้ ง​ขอศ​ ลี ท​ ุกว​ ันคะ”​ ​
​ หลวงปู่​อธบิ ายว​ ่า​​
“​กเ​็ หมอื น​เชอื กล​ ะ่ ​​เอง็ ​เคยเ​ห็นเ​ชือกไ​หม​​ห้าเ​สน้ ค​ วน่ั ​เปน็ เ​กลยี ว​
ถา้ เ​สน้ ห​ นงึ่ ข​ าด​เ​ราก​ ผ​็ กู ใ​หม​่ สองเ​สน้ ข​ าด​เ​ราก​ ผ​็ กู ส​ องเ​สน้ ใ​หม​่ แ​ ลว้ ถ​ า้ ​
เอง็ ​ไมผ​่ กู ม​ นั ​จะเ​ป็น​ยังไ​งล​ ่ะ​?​”​ ​​
หลวงปจ​ู่ บค​ ำ​ตอบ​ด้วย​คำถาม​
​ ดิฉัน​น่ัง​นึก​อย่าง​เห็น​ภาพ​.​.​.​เชือก​ก็​คง​บาง​ลง​ ​และ​คงขาด​ที​ละ​เส้น​​
สอง​เส้น​.​.​.​​จนห​ มด​
​ หลวงป​่มู องดิฉันแ​ ลว้ ​ยม้ิ ​

​ อรพนิ ท​ ์​

๒๐๔ 204 ​๑๐๓​

​ บ​ ท​เรียน​ทาง​ธรรม​

บทท​ ่ี​​๑​ค​ วาม​กตญั ญ​ู แ​ ละก​ ศุ โลบาย​ในก​ าร​หา​บญุ ​
​ ครงั้ ​แรกท​ ่ี​ขา้ พเจา้ ​ไดไ้​ป​กราบ​หลวงป​ู่ดู​่ ใ​น​ปี​​พ.​ศ​ .​​๒​ ๕๒๖​โ​อวาทท​ ​ี่
ทา่ นม​ อบใ​หก​้ บั ล​ กู ศ​ ษิ ยห​์ นา้ ใ​หมค​่ นน​ ก​ี้ ค​็ อื ​“​ ท​ ำบญุ ก​ บั พ​ ระท​ ไ​่ี หนๆ​ ​ก​ ต​็ อ้ ง​
ไม​่ลมื พ​ ระ​ท​่ีบา้ น​พ​ อ่ ​แมเ​่ ราน​ ี้แ​ หละ​.​.​.​อย่าม​ องข​ ้าม​ทา่ นไ​ป​”​
ค​ ร้ัง​นัน้ ​​ยงั จ​ ำ​ไดว้​ ่าข​ า้ พเจ้าแ​ ละเ​พอ่ื น​ๆ​ไ​ด้ซ​ ้ือ​ดอกบัว​ไปถ​ วายท​ ่าน​
ด้วย​​ท่านร​ บั ​และ​นำ​ไป​บูชา​พระพุทธ​รปู ​​แล้ว​ก็​ให้​โอวาทอ​ กี ว​ า่ ​​“พ​ วก​แก​
ยงั เ​ปน็ น​ กั เรยี น​น​ กั ศ​ ึกษา​​ยงั ​ต้องแ​ บมือ​ขอ​เงนิ พ​ อ่ ​แมอ​่ ย​ู่ ​คราวห​ นา้ อ​ ยา่ ​
ไปเ​สีย​เงิน​เสยี ท​ องซ​ ้ือ​ดอกไม​้มาถ​ วาย​ร​ ะหว่าง​ทาง​มาว​ ดั ​ห​ าก​เห็นส​ ระ​
บวั ท​ ่ีไหน​ก​ ็ใ​ห้​ตั้ง​จิตน​ กึ ​นอ้ มเ​อา​ดอกบวั ​ถวายเ​ปน็ พ​ ุทธ​บูชา​​ธรรม​บชู า​
สังฆ​บูชา​​ก​็ใช้ได​้แลว้ ”​ ​
​ นอกจาก​นี้​ ​วิธี​หา​บุญ​แบบ​ง่ายๆ​ ​โดย​ไม่​ต้อง​เสีย​สตางค์​ ​สามารถ​
ทำไดท​้ ้ัง​วัน​คือ​ต​ น่ื ​เชา้ ​มา​ข​ ณะ​ล้างห​ น้า​​หรือ​ดืม่ น​ ำ้ ก​ ใ็​หว้​ า่ ​“​ พ​ ุทธงั​​​สรณงั ​
คจั ฉาม​ ิ,​​​ธัมมงั ​ส​ รณัง​​​คจั ฉา​ม​,ิ ​ส​ ังฆ​งั ​ส​ รณ​งั ​​คจั ฉา​ม”ิ​ ​​ก​ อ่ นจ​ ะ​กิน​ข้าว​
ก็​ให้​นึก​ถวาย​ข้าว​พระพุทธ​ ​ออก​จาก​บ้าน​เห็น​คน​อ่ืน​เขา​กระทำ​ความ​ดี​

เปน็ ต้นว​ า่ ​​ใส่บ​ าตร​พระ​​จูงค​ น​แก​ข่ ้าม​ถนน​​ฯลฯ​ก​ ใ​็ หน​้ กึ ​อนุโมทนา​กบั ​เขา​

ผา่ นไ​ปเ​หน็ ด​ อกไมท​้ ใ​่ี สก​่ ระจาดว​ างข​ ายอ​ ย​ู่ ห​ รอื ด​ อกบวั ใ​นส​ ระข​ า้ งท​ าง​ก​ ใ​็ ห​้

205 ๒๐๕

นกึ อ​ ธษิ ฐานถ​ วายเ​ปน็ เ​ครอ่ื งบ​ ชู าพ​ ระร​ตั นตรยั โ​ดยว​ า่ ​“​ พ​ ทุ ธส​ั ส​ ะ​ธ​ มั มสั สะ​
สงั ฆส​ั ส​ ะ​ป​ เู ชม​ ”​ิ ​แ​ ลว้ ต​ อ้ งไ​มล​่ มื อ​ ทุ ศิ บ​ ญุ ใ​หแ​้ มค่ า้ ข​ ายด​ อกไมแ​้ ละร​กุ ขเ​ทว​ า​
ท่​ีดแู ล​สระ​บวั ​น้นั ด​ ว้ ย​
​ ตอน​เย็น​น่ัง​รถ​กลับ​บ้าน​ ​เห็น​ไฟ​ข้าง​ทาง​ก็​ให้​นึก​น้อม​บูชา​พระ​
รัตนตรยั ​โดยว​ า่ ​​“โ​อมอ​ ัคค​ไี ฟฟา้ ​พ​ ุทธบ​ ชู า​ธ​ รรม​บชู า​​สังฆบ​ ูชา”​ ​​กลับ​
มา​บ้าน​ ​ก่อน​นอน​ก็​นั่ง​สมาธิ​ ​เอนตัว​นอน​ลง​ก็​ให้​นึก​คำ​บริ​กรรม​ภาวนา​
ไตร​ สร​ ณาค​ มน​จ์ น​หลับ​ต​ ืน่ ​ขนึ้ ม​ า​ก็​บร​กิ รรม​ภาวนา​ตอ่ อ​ กี ​
​น่ี​เรียก​ว่า​เป็น​กุศโลบาย​ของ​หลวงปู่​ดู่​ ​ที่​ต้องการ​ให้​พวก​เรา​คอย​
ตะล่อมจ​ ิต​ให้​อยู่​แตใ​่ นบ​ ญุ ​ในก​ ุศล​ตลอด​ทั้ง​วันเ​ลยท​ ีเ​ดยี ว​

บทท​ ​่ี ​๒​​ระวงั จ​ ะ​ตก​ตน้ ตาล​
​ ด้วย​ความ​ที่​ข้าพเจ้า​เป็น​คน​ที่​สนใจ​อ่าน​หนังสือ​ธรรม​อยู่​เส​มอๆ​​
ทำใหส​้ ญั ญาห​ รอื ค​ วามจ​ ดจำม​ นั ล​ ว่ งห​ นา้ ไ​ปไ​กลก​ วา่ ก​ ารป​ ฏบิ ตั ช​ิ นดิ ไ​มเ​่ หน็ ​
ฝนุ่ เ​ลย​ที​เดียว​
​ เชา้ ว​ นั ห​ นง่ึ ​ใ​นช​ ว่ งท​ ข​่ี า้ พเจา้ ร​จู้ กั แ​ ละไ​ปก​ ราบห​ ลวงป​ ใ​ู่ หมๆ​่ ​ข​ า้ พเจา้ ​
ถามท​ า่ น​วา่ ​​
“​หลวงปค​ู่ รบั ​พ​ ระท​ า่ นส​ อน​ว่า​บุญ​ก็​ไม​่ให​้เอา​​บาป​ก​ไ็ มใ่​หเ้​อา​แ​ ละ​
อยา่ ไ​ปย​ นิ ดย​ี นิ ร​า้ ยก​ บั ส​ งิ่ ท​ ง้ั ป​ วง​ท​ นี ท​ี้ ำอ​ ยา่ งไรผ​ มถ​ งึ จ​ ะห​ มดค​ วามย​ นิ ดย​ี นิ ​
รา้ ย​ครบั ​”​
​ หลวงปู่​ท่าน​ยิ้มแ​ ละ​ตอบ​พลางห​ วั เราะว​ า่ ​​

๒๐๖ 206

“เ​บ้อื งต​ ้น​กจ​็ ะข​ ึน้ ย​ อดต​ าล​​มห​ี วัง​ตกลงม​ าต​ ายเ​ทา่ นั้น”​ ​​
คำตอบของท่านทำเอา​ข้าพเจ้า​รู้สึก​เขิน​ ​และ​คิด​ได้ว่าการ​ปฏิบัติ​
ธรรมท​ ถ​ี่ กู ท​ ค​ี่ วรน​ น้ั ไ​มค​่ วรจ​ ะอ​ า่ นต​ ำรบั ต​ ำราม​ าก​แ​ ตค​่ วรป​ ฏบิ ตั อ​ิ ยา่ งค​ อ่ ย​
เปน็ ค​ อ่ ยไ​ป​ม​ งุ่ ป​ ระกอบเ​หตท​ุ ด​่ี อ​ี ยา่ งเ​สมอต​ น้ เ​สมอป​ ลาย​โ​ดยไ​มเ​่ รง่ รดั ห​ รอื ​
คาด​คัน้ ​เอา​ผล​​และ​ทสี​่ ำคัญค​ อื ​อย่า​สำคญั ผ​ ิดค​ ดิ ว​ า่ ​“​ ส​ ัญญา​”​(ความจำ)​
เปน็ ​“​ ป​ ญั ญา”​ ​​(ความจริง) เพราะ​หาก​ยัง​เป็น​แคส​่ ญั ญา​หรือ​ความ​ร​ทู้ ​่ีเป็น​
เพียง​การ​จด​การ​จำ​ม​ ันย​ งั ​ไม​ช่ ่วย​ให​เ้ รา​เอา​ตัวร​ อด​หรือพ​ ้น​ทกุ ข​์ได้​

บท​ที่​​๓​อ​ ย่า​ประมาท​
​ หลวงปท​ู่ า่ นพ​ ดู เ​ตอื นเ​สมอเ​พอ่ื ใ​หพ​้ วกเ​ราไ​มป​่ ระมาท​ร​บี ทำความด​ี
เสยี แ​ ตย​่ งั แ​ ขง็ แ​ รงอ​ ย​ู่ เ​พราะเ​มอ่ื แ​ กเ​่ ฒา่ ล​ ง​ห​ รอื ม​ โ​ี รคภ​ ยั ไ​ขเ​้ จบ็ ม​ าเ​บยี ดเบยี น​
ก็​จะ​ปฏิบตั ​ิได​้ยาก​ท​ า่ น​ว่า​
​“​ปฏิบัต​ิธรรม​เสีย​ต้ัง​แต​่ยัง​เป็น​เด็ก​ ​เป็น​หนุ่ม​ ​เป็น​สาว​ ​นี้​แหละ​
ด​ี ​เพราะ​เม่อื ​แก่​เฒ่าไ​ป​แล้ว​​จะน​ ่ัง​กโ​็ อย​​จะล​ กุ ก​ โ​็ อย​ห​ ากจ​ ะร​ อ​ไว​้ให​แ้ ก​่
เสยี ก​ อ่ นแ​ ลว้ จ​ งึ ค​ อ่ ยป​ ฏบิ ตั ​ิ ก​ เ​็ หมอื นค​ นท​ ค​ี่ ดิ จ​ ะห​ ดั ว​ า่ ยน​ ำ้ เ​อาต​ อนท​ แ​่ี พ​
ใกล​้จะแ​ ตก​ม​ ัน​จะไ​ม่ทนั ​การณ”​์ ​​
นอกจาก​นน้ั ​ท​ ่าน​ยัง​แนะใ​หห้ า​โอกาสไ​ปโ​รง​พยาบาล​ท​ ่านว​ ่า​​
“โ​รงพ​ ยาบาล​น้​แี หละ​เ​ป็น​โรงเรยี นส​ อนธ​ รรมะ​ม​ ี​ให้​เหน็ ท​ งั้ เ​กิด​
แก​่ ​เจบ็ ​​และต​ าย​ใ​ห้​พ​ ิจารณาใ​ห้​เห็นค​ วาม​จริง​​ทกุ ข์ท​ ั้ง​น้นั ​.​​.​.​​อนิจจ​ ัง​
ทุกข​ งั ​อ​ นตั ตา​”​

207 ๒๐๗

บ​ ท​ท​ี่ ​๔​​ให้​หม่นั ​ด​ูจติ ​
​ คำ​สอน​ของ​หลวงปู่​ที่​ข้าพเจ้า​ได้ยิน​แทบ​จะ​ทุก​คร้ัง​ที่​ ​ไป​นมัสการ​
ท่าน​ก​็คอื ​
“​ ข​ องดอ​ี ยู่​ทต่​ี วั เ​รา​ข​ อง​ไมด่​ กี​ ็อ​ ยท​ู่ ตี​่ ัว​เรา​
​ให​้หม่นั ​ดู​จิต​ร​ กั ษา​จติ ”​ ​
​ นบั เ​ปน็ โ​อวาทท​ ส​่ี น้ั ​แ​ ตเ​่ อาไ​ปป​ ฏบิ ตั ไ​ิ ดย​้ าวจ​ นช​ ว่ั ช​ วี ติ ห​ รอื ย​ าวนาน​
จนกว่า​จะ​พน้ จ​ ากว​ ัฏฏะส​ งสาร​นไี้​ปไ​ด้​ซ​ ึ่ง​สอดคล้องก​ ับ​พทุ ธ​พจนท์ ีว่ า่ ​
​ “ผ​ ใ้​ู ด​หมัน่ ​ตาม​ด​ูจติ ​ผ​ ​ู้น้ัน​จะพ​ ้นจ​ าก​บ่วง​แห่ง​มาร​”​
​ การ​ขาด​การต​ ามด​ ​ูจิต​​รักษา​จิต​เ​ปน็ เ​หต​ุให​้เรา​ไมฉ่​ ลาดใ​น​ความ​คดิ ​
หรอื อ​ ารมณ​์ ซ​ งึ่ ถ​ งึ แ​ มว้ า่ เ​ราจ​ ะเ​คยไ​ดย้ นิ ไ​ดฟ​้ งั ค​ ำส​ อนข​ องค​ รบู าอ​ าจารยม​์ า​
มาก​ก​ ไ​็ มอ​่ าจช​ ว่ ยอ​ ะไรเ​ราไ​ด​ั เ​พราะเ​พยี งแ​ คก​่ ารฟ​ งั ธ​ รรมจ​ ากค​ รบู าอ​ าจารย​์
ภายนอกโ​ดยป​ ราศจ​ ากโ​ยนโิ สม​ นสกิ าร​ห​ มน่ั ต​ รกึ พ​ จิ ารณาส​ ง่ิ ต​ า่ งๆ​ใ​หเ​้ ปน็ ​
ธรรม​​หรอื อ​ กี นยั ​หนึง่ ​คอื ​ขาด​การ​ฟงั ธ​ รรมใ​นใ​จ​เรา​เองบ​ า้ ง ธ​ รรม​ตา่ ง​ๆ ท​ ​่ี
ไดย้ นิ ​ได้​ฟังม​ าน​ ้นั ​ก​ย็ ่อมไ​ม​อ่ าจ​สำเร็จ​ประโยชนเ​์ ป็น​ความ​ดบั ​ทกุ ข์​ได​้เลย​

บทท​ ี่​๕​ ​ร​ ู้จกั ​หลวงปอ​ู่ ยา่ งไร​
เ​ชา้ ​วนั ห​ นง่ึ ​ใ​นเ​ดือน​มกราคม​พ​ ​.ศ​ .​​​๒๕๓๓​​กอ่ นห​ น้าท​ี่หลวงปู่จ​ ะ​
ละส​ งั ขารไ​มก​่ ว​่ี นั ​ใ​นข​ ณะท​ ร​่ี อใ​สบ​่ าตรอ​ ยท​ู่ ห​่ี นา้ ก​ ฏุ ข​ิ องท​ า่ น​ห​ ลวงปไ​ู่ ดพ​้ ดู ​
เปน็ ค​ ต​แิ กส่​ าน​ุศิษย​์ ​ณ​​ทน่ี​ ั้นว​ า่ .​​.​.​

๒๐๘ 208

​“ต​ ราบ​ใด​กต็ าม​ท​่ีแกย​ งั ไ​มเ่​ห็น​ความด​ ​ใี นต​ ัว​
​ก​็ยังไมน​่ บั ว​ ่าแ​ กร​ ู้จักข​ ้า​
​แต​่ถา้ ​เมอื่ ​ใด แ​ กเร่มิ เ​หน็ ​ความด​ ​ีในต​ วั ​เองแ​ ลว้ ​
​เมอื่ ​นน้ั .​..​ข้าจ​​ ึง​วา่ ​แกร​ ้จู กั ข​ า้ ​ดข​ี น้ึ ​แลว้ ​”​
​คำ​พูด​น้ี​ ​ถือ​เป็น​คำ​พูด​เตือน​สติ​แก่​ผู้​ท่ีมา​ปฏิบัติ​ใน​สมัย​ที่​ท่าน​ยัง​มี​
ชีวิต​อยู่​ว่า​ ​อย่า​ได้​สำคัญ​ตน​ว่า​เคย​ได้​อยู่​ใกล้​ชิด​ ​หรือ​เคย​ได้​รับ​ฟัง​คำ​สอน​
โดยตรง​จาก​ท่าน​ ​เพราะ​ตัว​วัด​ว่า​รู้จัก​ท่าน​ดี​หรือ​ไม่​น้ัน​ ​ท่าน​ว่า​อยู่​ที่​การ​
ฝกึ ฝน​ตน​ให้​เปน็ ​คนท​ ด่ี​ ี​ขนึ้ ไ​ด​ห้ รอื ​ไม​่ ถ​ า้ ​ไม​่ได้​ก​ ็เ​ท่ากบั ​วา่ ไ​ม่รจู​้ ัก​ท่าน​จรงิ ​
​ ใน​ทาง​กลับ​กัน​ ​คำ​พูด​น้ี​ช่วย​ให้​เกิด​กำลัง​ใจ​แก่​ผู้​ท่ี​ไม่มี​โอกาส​ได้​
มา​สัมผัส​ท่าน​ใน​ขณะ​ที่​ท่าน​ยัง​มี​ชีวิต​ ​หาก​แต่​มี​ศรัทธา​น้อม​เอา​ธรรมะ​
คำ​สอน​ของ​ท่าน​มาป​ ฏบิ ัตขิ​ ัดเกลา​ตนเอง​จนความโลภ โกรธ หลง ลดลง
เรียกวา่ เหน็ ความดีในตัวเอง หลวงปู่​ท่าน​กร​็ ับรอง​ว่าเป็นผ​ ้​ทู ร่ี จู้ กั ​ทา่ นจริง​
คำ​พูด​ของ​หลวงป​ู่น้นั ท​ ำใหผ้​ เ​ู้ ขยี นน​ กึ ถึง​พทุ ธพ​ จนท​์ ี่ว​ า่ ​
“​ ผ​ ้ใ​ู ดเ​ห็น​ธรรม​ผ​ น​ู้ ้นั ​เห็น​เรา​.​.​.​ตถาคต”​ ​

​ “พ​ อ”​ ​

209 ๒๐๙

๑​ ๐๔​

พ​ ลกิ ช​ วี ิต​



ดิฉนั ​ได้ม​ ​ีโอกาสม​ า​พบ​หลวงปดู่​ ู่​​ที​ว่ ัด​สะแก​​ต้งั ​แตป่​ ี​พ​ ​.ศ​ .​​๒​ ๕๒๙​​
คอื ก​ อ่ นท​ ท​่ี า่ นจ​ ะล​ ะส​ งั ขารป​ ระมาณ​๔​ ​ป​ ​ี โ​ดยก​ ารแ​ นะนำข​ องเ​พอื่ นร​ กั ค​ น​
หนงึ่ ​แ​ ละน​ น่ั ค​ อื จ​ ดุ ห​ กั เหช​ วี ติ ท​ ส​ี่ ำคญั ท​ ส่ี ดุ ข​ องด​ ฉิ นั ​เ​พราะก​ อ่ นท​ ด​ี่ ฉิ นั จ​ ะไ​ด​้
มาพ​ บห​ ลวงป​ู่ ช​ วี ติ ข​ องด​ ฉิ นั ช​ า่ งไ​รส​้ าระ​ว​ นั ค​ นื ห​ มดไ​ปก​ บั ก​ ารด​ มื่ ส​ รุ า​แ​ ละ​
เลน่ ก​ ารพ​ นนั ​เ​พยี งเ​พอ่ื จ​ ะก​ ลบเ​กลอ่ื นท​ กุ ขไ​์ ปว​ นั ๆ​ ​โ​ดยไ​มม่ ส​ี ตป​ิ ญั ญาท​ จ​่ี ะ​
เตือน​ตวั ​เองไ​ด​้วา่ ​น​ ั่นไ​ม่ใช่​การ​แก​ป้ ญั หา​​ตรง​กนั ข​ า้ มก​ ลับเ​ป็นการ​ซ้ำ​เตมิ ​
ชีวติ ​ให​เ้ ลวร​ ้ายล​ งไ​ป​เรอ่ื ยๆ​ ​ก​ ระทัง่ ไ​ด้ม​ า​พบ​หลวงป​ู่ ผ​ ​ูท้ ​พี่ ลิกช​ วี ิต​ของด​ ิฉนั ​
จาก​ด้าน​มืด​มา​ให้​ได้​เห็น​แสง​สว่าง​ ​ท่าน​ทำให้​ดิฉัน​รู้​ว่า​จะ​ใช้​ชีวิต​อย่างไร​
จงึ ​จะ​เกดิ ค​ ณุ ค่า​แก่​ชีวติ ท​ ​่เี หลือ​อย่​ู ​ท้ังแ​ ก่ต​ นเอง​ต​ อ่ ค​ รอบครัว​แ​ ละ​ต่อค​ น​
รอบ​ข้าง​
​ หลวงปท​ู่ า่ นม​ ก​ี ศุ โลบายใ​นก​ ารพ​ ลกิ ช​ วี ติ ข​ องด​ ฉิ นั ใ​หส​้ ามารถล​ ะเ​ลกิ ​
อบายมขุ ไ​ดท้ ล​ี ะอ​ ยา่ ง​โ​ดยเ​ดด็ ข​ าด​แ​ ละท​ ส​ี่ ำคญั ค​ อื ด​ ว้ ยค​ วามส​ มคั รใ​จข​ อง​
ตัว​ดิฉัน​เอง​ ​เป็นต้น​ว่า​ ​ท่าน​สอน​ให้​ดิฉัน​พิจารณา​เห็น​โทษ​และ​ความ​ไม่​ดี​
ตา่ ง​ๆ​​ของ​การเ​มาส​ รุ า​โ​อกาส​ในก​ าร​สอน​ของ​ทา่ นม​ า​ถงึ ​เมอ่ื เ​ช้า​วัน​หนึ่ง​ท​ี่
ดฉิ นั เ​ดนิ ท​ างไ​ปถ​ วายภ​ ตั ต​ าห​ ารแ​ กท​่ า่ น​พ​ อดก​ี บั ม​ ช​ี าวบ​ า้ นเ​มาส​ รุ าห​ ลบั อ​ ย​ู่
ใกลๆ​้ ​ก​ ับบ​ นั ไดท​ าง​ขึน้ ​กุฏ​ิ ​หลวงปทู่​ ่าน​พดู ​ว่า​​

๒๑๐ 210

“ข​ า้ ​วา่ ​ค​ น​เมา​เห​ล้านะ่​ ​เ​ลว​กวา่ ห​ มา​แ​ ก​ว่าไ​หม​?”​ ​​
“​เลว​กว่า​ยงั ​ไง​เจา้ ​คะ​”​​
ดฉิ ัน​ถาม​อยา่ ง​ขึงขัง​​เพราะร​ สู้ กึ จ​ ะ​เป็น​เร่อื ง​ใกลต้​ วั เ​ขา้ ม​ าท​ ุกที​​
ท่าน​ก็​ย้อนถ​ ามม​ า​อีกว​ ่า​​
“ถ​ า้ ​เรา​เอา​ขกี้​ บั เ​อาเ​หล้า​ไป​ตั้ง​ไว้​​แก​วา่ ห​ มาม​ ันจ​ ะก​ ิน​อะไร​”​
​แล้วท​ ่านก​ ​็เฉลยต​ อ่ วา่ ​​
“ม​ นั ก​ เ​็ ลอื กก​ นิ ข​ น​ี้ ะส​ ​ิ ม​ นั ไ​มเ​่ ลอื กก​ นิ เ​หลา้ น​ ะ​ข​ า้ จ​ งึ ว​ า่ ค​ นก​ นิ เ​หลา้ ​
นี​่เลวก​ ว่าห​ มา”​ ​​
เทา่ นน้ั แ​ หละ​ด​ ฉิ นั ก​ บ​็ งั เกดิ ค​ วามล​ ะอายใ​จ​บอกก​ บั ต​ วั เ​องว​ า่ ฉ​ นั จ​ ะ​
ไม​่กิน​เหลา้ ​อกี ​พ​ รอ้ มก​ บั ท​ อ่ ง​บน่ ใ​น​ใจ​วา่ ​
​ “​…​หมา​มนั ​กินข​ ี้​ ม​ ันไ​ม่​กนิ เ​หลา้ ​ ค​ นก​ นิ ​เหลา้ ​นเ​่ี ลวก​ วา่ ​หมา​ ​ฉันไ​ม​่
ตอ้ งการจ​ ะ​เปน็ ​คนท​ เี​่ ลว​กว่าห​ มา…​ ​”​
​ ไม่ใช่​เพียง​แค่​การ​ดื่ม​สุรา​ยา​เมา​เท่าน้ัน​ที่​ดิฉัน​สามารถ​เลิก​ได้​ ​หาก​
แตด​่ ว้ ยอ​ บุ ายก​ ารส​ อนข​ องห​ ลวงป​ู่ ดฉิ นั จ​ งึ ส​ ามารถเ​ลกิ อ​ บายมขุ อ​ ยา่ งอ​ นื่ ๆ​
ด้วย​ ​รวม​ไป​ถึง​การ​ใช้​เคร่ือง​สำอาง​ท่ี​ท่าน​ว่า​เกิน​งาม​และ​เป็น​อันตราย​ต่อ​
สุขภาพ​ ​ทั้งนี้​ทั้ง​น้ัน​ ​ท่าน​คง​ทราบ​ว่า​ขณะ​นั้น​ดิฉัน​ยัง​มาก​ด้วย​ทิฏฐิ​มานะ​
ท่าน​จึง​หลีก​เลยี่ งก​ ารส​ อน​หรือว​ ่าก​ ล่าว​ทต​ี่ ัว​ดิฉนั โ​ดยตรง​ ​หาก​แตใ่​ช้ว​ ธิ ​ียก​
สงิ่ ต​ า่ งๆ​ ​ข​ น้ึ เ​ปน็ อ​ ปุ มาอ​ ปุ ไมย​แ​ ลว้ ใ​หค​้ ดิ พ​ จิ ารณาต​ ามจ​ นเ​หน็ ท​ กุ ขเ​์ หน็ โ​ทษ​
และเ​ปน็ ฝ​ า่ ยส​ มคั รใ​จล​ ะเ​ลกิ ส​ ง่ิ ไ​มด​่ ไ​ี มง​่ ามต​ า่ งๆ​ ​ด​ ว้ ยต​ วั เ​อง​ด​ ฉิ นั จ​ งึ ส​ ามารถ​
รบั ​การ​ขัดเกลาท​ ​ีละเ​ล็ก​ท​ลี ะ​นอ้ ย​จาก​ท่านไ​ด้​​

211 ๒๑๑

หลวงป​ทู่ า่ นฉ​ ลาด​และ​อดทนใ​น​การอ​ บรมล​ กู ศ​ ิษยอ​์ ยา่ งย​ งิ่ ​​ท่าน​ไม​่
เพียง​แนะนำ​การ​ปฏิบัติ​ธรรม​แก่​ดิฉัน​เท่าน้ัน​ ​หาก​แต่​ยัง​ได้​เมตตา​ให้​ดิฉัน​
เกดิ ป​ ญั ญาร​ค​ู้ วามเ​หมาะค​ วรใ​นก​ ารด​ ำรงช​ วี ติ ใ​นเ​พศฆ​ ราวาสเ​พอ่ื ใ​หด​้ ำเนนิ ​
ไปไ​ดท​้ งั้ ​ทางโ​ลกแ​ ละ​ทางธ​ รรม​​อย่าง​ท​ท่ี ่าน​พดู ว​ า่ ​โลกก​ ​ไ็ ม่ใ​ห้​ชำ้ ​​ธรรมก​ ็​
ไมใ​่ ห​้เสยี ​
​ การ​จาก​ไป​ของ​หลวงปู่​ ​ยาก​ที่​ดิฉัน​จะ​ยอมรับ​ได้​ ​แม้ว่า​ท่าน​จะ​ได้​
เมตตาพด​ู เ​ปรยใ​หท​้ ราบม​ าเ​ปน็ ร​ะยะๆ​ ​ร​วมท​ ง้ั ส​ งั่ ด​ ฉิ นั ไ​มใ​่ หร​้ อ้ งไหเ​้ มอ่ื ท​ า่ น​
ละส​ งั ขารแ​ ล้ว​ก็ตาม​​
ใน​เช้า​วัน​ที่​ ​๑๗​ ​มกราคม​ ​๒๕๓๓​ ​วัน​ที่​ทราบ​ข่าวมรณกรรมของ
หลวงป​ู่ ​ดิฉันเ​รง่ ​รบี เ​ดินท​ างไ​ป​ท​ี่วัดโ​ดยทันท​ี ​และ​เม่อื ​ไป​ถึง​ด​ ิฉนั ก​ ​ไ็ ม​่อาจ​
กล้ัน​ความ​เศร้า​โศก​เสียใจ​ รวมทั้ง​ไม่อาจทรงตัวยืนอยู่ได้ ต้องอาศัยกอด
ต้นไม้​ข้าง​กุฏิ​ ​ร้องไห้​ฟูมฟาย​อยู่​พัก​ใหญ่​ ​ดิฉันรู้สึกว่าเวลาแห่งการได้พบ​
ไดเ้ ห็น และได้ยินไดฟ้ งั คำสอนของหลวงปู่นั้น มันชา่ งน้อยเสียเหลอื เกนิ
แม้ว่า​หลวงปู่​ดู่​ ​ผู้​ที่​ฉุด​ชีวิต​ของ​ดิฉัน​ขึ้น​จาก​โคลน​ตม​ ​ได้​ละ​สังขาร​
ไป​แลว้ ​​แต​ด่ ฉิ นั ​กต​็ ง้ั ส​ จั อ​ ธษิ ฐานว​ า่ จ​ ะข​ อย​ ดึ ​มน่ั ​ใน​ไตร​สรณาค​ มน​์ แ​ ละจ​ ะ​
ไม​ท่ ง้ิ ​การป​ ฏิบัติ​ธรรมไป​จน​ตลอด​ชีวติ ​ เ​พอื่ ​บชู าค​ ุณห​ ลวงปด​ู่ ​ู่ ท​ ่​ไี ด้​เมตตา​
ต่อ​ดิฉัน​และ​ครอบครวั ​อย่างห​ าท​ สี่ ดุ แ​ ละ​หา​บคุ คลอ​ ื่นเ​สมอ​เหมือน​มไิ ด​้

“น​ ”​ิ ​

๒๑๒ 212 ​๑๐๕​

​ ​บาป​

หลวงปด​ู่ ท​ู่ า่ นเ​ปน็ พ​ ระท​ ม​ี่ ค​ี วามล​ ะเอยี ดอ​ ยา่ งม​ าก​โ​ดยเ​ฉพาะอ​ ยา่ ง​
ย่ิงใ​น​เร่ือง​ความ​ระมดั ระวังไ​ม่​ให้​เกดิ ​บาป​​ตลอด​ระยะ​เวลาป​ ระมาณ​๘​ ​​ปี​
ทพ​่ี บแ​ ละป​ ฏบิ ตั ธ​ิ รรมก​ บั ท​ า่ น​ย​ งิ่ น​ านว​ นั ก​ ย​็ ง่ิ ป​ ระทบั ใ​จใ​นป​ ฏปิ ทาใ​นเ​รอื่ ง​
นข​้ี องท​ า่ น​แ​ ละบ​ างเ​รอื่ งข​ า้ พเจา้ เ​หน็ ว​ า่ เ​ปน็ เ​รอื่ งท​ น​ี่ า่ ค​ ดิ ​เ​พราะก​ อปรด​ ว้ ย​
เหตุผล​ ​อีก​ทั้ง​ไม่​เคย​ได้ยิน​ได้​ฟัง​ใคร​กล่าว​สอน​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​เช่น​น​ี้
มาก​ อ่ น​จ​ งึ เ​ปน็ แ​ รงบ​ นั ดาลใ​จท​ จ​ี่ ะถ​ า่ ยทอดไ​ว​้ ณ​ ​ท​ น​ี่ ​้ี เ​ผอ่ื ว​ า่ จ​ ะเ​กดิ ป​ ระโยชน​์
แก​่ผู้​อา่ น​บา้ งไ​ม​่มาก​กน็​ อ้ ย​โ​ดยใ​ห​้ชอ่ื ห​ ัวข้อ​เร่ือง​ว่า​“​ ป​ กิณก​ บาป”​ ​

พาเ​ด็กเลก็ ​เขา้ ว​ ดั ​-​​บ​ าป​
​ เร่ือง​นี้​ค่อน​ข้าง​เป็น​เร่ือง​ท่ี​สวน​กับ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​ท่ัวไป​ แต่​
หาก​ได้​พิจารณา​ความ​จริง​ไป​ตาม​เหตุผล​ท่ี​หลวงปู่​ได้​เมตตา​ช้ีแนะ​ก็​จะ​
เข้าใจได้​ ​ท่าน​ว่า​เด็ก​เล็ก​ที่​พา​มา​วัด​น้ัน​ยัง​ควบคุม​ดูแล​ตนเอง​ไม่​ได้​ ​จึง​
มัก​ซุกซนและคึก​คะนอง​ไป​ตาม​ประสา​เด็ก​ ​แต่​เน่ืองจาก​ที่​วัด​มัก​มี​ผู้​มา​
ฝึกหัดปฏิบัติ​สมาธิ​ภาวนา​อยู่​เส​มอๆ​ ​ดัง​นั้น​ ​เสียง​รบกวน​ของ​เด็ก​ ​จึง​
อาจรบกวนผู้ทกี่ ำลงั ป​ ฏิบตั ​ภิ าวนาอยู​่ ​ดังน​ ้นั ​บ​ าป​จึงเ​กดิ ​กบั เ​ด็กอ​ ย่าง​ไมร่ ู​้
ตวั ​ท​ ้ังนก​้ี ็​ดว้ ยพ​ ่อแ​ ม่​ผป้​ู กครองไ​ม​่เข้าใจแ​ ละปล่อยปละละเลย

213 ๒๑๓

​ ภาพ​แห่ง​ความ​เมตตา​ที่​ท่าน​เมตตา​อบรม​ช้ีแนะ​ข้าพเจ้า​ยัง​ชัดเจน​
อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ ​วัน​นั้น​ข้าพเจ้า​พา​ลูก​ซึ่ง​ยัง​เล็ก​ไป​วัด​สะแก​ด้วย​ ​จำ​ได้​
วา่ การ​ไป​วดั ใ​นว​ ัน​นน้ั ​ ​ข้าพเจา้ ​ไมส่ รู้​ สู้ กึ ​ปลอด​โปร่ง​นัก​เพราะ​วา่ ต​ อ้ งม​ า​มัว​
กงั วลก​ บั ล​ กู น​ อ้ ยท​ เ​่ี ดย๋ี วก​ ส​็ ง่ เ​สยี งร​อ้ งไห​้ เ​ดยี๋ วก​ ป​็ สั สาวะร​ด​พ​ อห​ ลวงปท​ู่ า่ น​
เห็นจ​ ังหวะ​เห​มาะ​ท​ ่าน​ก็​เรียก​ขา้ พเจา้ ​ให้​เขา้ ไป​ใกลๆ้​ ​แ​ ล้ว​บอก​ว่า​​
“​นี่​เพราะ​ข้า​รัก​แก​หรอก​นะ​ ​จึง​บอก​จึง​สอน​ให้​รู้​ ​คน​เขา​ภาวนา​
กัน​อยู่​​แก​พา​เดก็ ​ๆ​ม​ าว​ ่งิ เลน่ ซุกซน​​สง่ ​เสยี งร​ บกวน​ม​ ันบ​ าปนะ​​
อนั ท​ จ​่ี รงิ แ​ กเ​อาเ​ดก็ เ​ลก็ ไ​วท​้ บ​่ี า้ นก​ ไ็ ด​้ เ​วลาท​ แ​่ี กภ​ าวนาก​ ใ​็ หน​้ กึ ถงึ ​
เขา ​แผเ่​มตตา​ใหเ​้ ขา​เ​ขาก​ ไ็ ด​้บุญเ​หมือน​กนั ​”​

​ชวนค​ นเ​ข้า​วัด​–​ ​บ​ าป​
​ บางทค​ี นเ​รา​ก็​มอง​อะไร​ไม​ร่ อบด​ า้ น​​ดัง​นั้น​แ​ ม้​จะม​ ีค​ วาม​ปรารถนา​
ดี​​ก​ไ็ มเ่​ป็น​หลกั ​รับป​ ระกนั ​ว่า​ทุกอ​ ยา่ งจ​ ะ​ออกม​ า​ด​ี ด​ งั เ​ช่น​ท่ี​ขา้ พเจ้าไ​ด้ร​ บั ​
การ​อบรม​จาก​หลวงปู่​ว่า​​
“แ​ ก​เท่ียว​ชวนค​ น​เขาม​ า​วัด​ร​ ะวังน​ ะ​​จะก​ ลายเ​ป็นต้นบ​ าป​”​
​ ทา่ นช​ ีแ้ นะเ​พิม่ ​เติม​ว่า​​
“แ​ กจ​ ะไ​ปร​เ​ู้ หร​อว​ า่ ส​ งิ่ ท​ แ​ี่ กเ​หน็ ว​ า่ ด​ ​ี เ​ขาจ​ ะเ​หน็ ว​ า่ ด​ ต​ี ามแ​ กไ​ปด​ ว้ ย​
ถา้ เ​ขาป​ รามาสจ​ นเ​กดิ บ​ าป​แ​ กต​ อ้ งม​ ส​ี ว่ นร​ บั บ​ าปน​ น้ั ไ​ปด​ ว้ ยค​ รง่ึ ห​ นง่ึ ใ​น​
ฐานะ​ทพ่​ี าเ​ขา​มาใ​หเ​้ กิดบ​ าป​”​

๒๑๔ 214

อ​ ยู​่ใกล้พ​ ระอ​ ร​หนั ​ต์​นาน​ๆ​​–​บ​ าป​
เ​รอื่ งน​ ก​ี้ เ​็ ปน็ อ​ กี เ​รอื่ งห​ นง่ึ ท​ ด​ี่ จ​ู ะส​ วนท​ างก​ บั ค​ วามร​สู้ กึ ข​ องค​ นท​ ว่ั ๆ​ ​ไ​ป
เพราะ​ทุก​คน​ย่อม​จะ​คิด​ว่า​หาก​เรา​ได้​อยู่​ใกล้​ชิด​พระอร​หัน​ต์​ ​ก็​ย่อม​จะ​มี​
โอกาส​สั่งสม​บุญ​กุศล​ได้​อย่าง​เต็ม​ท่ี​ ​แต่​การณ์​หา​เป็น​เช่น​น้ัน​ไม่​ ​หลวงปู่​ดู่​
ท่านส​ อน​วา่ ​
“​ ​อย่าไ​ป​อยูใ​่ กล้​พระอ​ รห​ นั ​ต์​นาน​​ประ​เดย๋ี วจ​ ะ​บาป​​จะบ​ าป​ยงั ไง​
ก็บ​ าปต​ รงท​ อี่​ าศยั ​ความค​ นุ้ เ​คย​เ​ลย​เอา​ทา่ นเ​ป็นเ​พอื่ น​เล่นบ​ ้าง​ใ​ช้​ทา่ น​
ทำ​โนน่ ท​ ำน​ ​่ใี ห​บ้ า้ ง แ​ ล้ว​จะไ​ม่​ให้​บาปไ​ดย​้ งั ​ไง”​ ​

ถ่าย​รปู ​กบั พ​ ระ​ทม​่ี ีค​ ณุ ธ​ รรม​–​ ​บ​ าป​
​ หลวงปเ​ู่ คยต​ ้ัง​คำถาม​กบั ข​ า้ พเจ้าว​ ่า​​
“​เวลา​ที่​แก​ถ่าย​รูป​กับ​พระ​ ​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​กับ​ครู​อาจารย์​ท่ี​
ทา่ น​มค​ี ณุ ​ธรรม​แกจ​ ะเ​อา​รปู ไ​ปต​ ้งั ​ไว้ท​ ่ีไหน​
​หากแ​ ก​เอาร​ ปู ไ​ป​ไว้ใ​นท​ ​่ีๆ​​ไม​่บังควรก​ ​็จะเ​กดิ บ​ าปข​ น้ึ ​ได้​ส​ ว่ น​ว่า​
จะ​เอาร​ ปู ​ไปต​ ั้งบ​ ูชาใ​น​ทีส่​ ูง​ใ​ครผ​ า่ นไ​ป​ผ่านม​ า​กย​็ กมือ​ไหว้​แ​ ล้ว​ตรองด​ ​ู
ซิ​ว่า​ ​แก​มี​คุณ​ธรรม​เสมอ​กับ​ท่าน​เห​รอ​ ​หรือ​แก​มี​คุณ​ธรรม​อะไร​ท่ี​จะ​ให้​
เขา​ยกมอื ​ไหวแ​้ ก​”​

​“อ​ ๋ยุ ”​ ​

215 ๒๑๕

​๑๐๖​

​ความเ​มตตา​และ​ขันตธิ​ รรม​ของห​ ลวงป​ู่



จะ​มี​ใคร​ทราบ​บ้าง​ว่า​เบ้ือง​หลัง​ภาพ​การ​ปฏิสันถาร​พูดจา​ปราศรัย
​ให​้แง​่คดิ ​และก​ ำลงั ใ​จ​แก่ผ​ ู​้ทม่ี าก​ ราบ​นมัสการ​หลวงป​ดู่ ู่​นนั้ ​ บ​ ่อยค​ ร้ัง​ ทา่ น​
ต้อง​ใช้​ขันติ​มาก​สัก​เพียง​ใด​ ​โดย​ปรกติ​หลวงปู่​ท่าน​รับแขก​ตั้ง​แต่​เช้า​มืด​
กระทงั่ จ​ น​ดกึ ​จนด​ ่ืนท​ กุ ๆ​ ​​วนั ​​ต่อ​เนอื่ ง​นับระยะเวลา​เป็นสบิ ๆ ป​ ​ี ​ซง่ึ ​ไม่ว​ ่า​
ใครจ​ ะท​ กุ ขร์​อ้ นว​ นุ่ ว​ ายใ​จมาอ​ ยา่ งไร​ห​ ลวงปท​ู่ า่ นก​ จ​็ ะป​ ฏสิ นั ถารด​ ว้ ยค​ วาม​
เมตตาเ​สมอ​โ​ดยจ​ ะม​ ใ​ี ครบ​ า้ งไ​หมท​ จ​่ี ะส​ งั เกตห​ รอื ส​ งสยั ว​ า่ ​ท​ า่ นน​ ง่ั ร​ บั แขก​
บนพ​ นื้ ก​ ระดานแ​ ขง็ ๆ​ ​อ​ ยา่ งน​ น้ั ต​ ง้ั แ​ ตเ​่ ชา้ จ​ รดค​ ำ่ ใ​นแ​ ตล่ ะว​ นั ​ท​ า่ นแ​ ทบจ​ ะไ​ม​่
ไดล​้ กุ ไ​ปไ​หนเ​ลย​ท​ า่ นไ​มป​่ วดไมเ​่ มอ่ื ยบ​ า้ งห​ รอื ​ท​ า่ นไ​มป​่ วดท​ อ้ งห​ นกั ท​ อ้ งเ​บา​
บ้างห​ รอื ​​ท่านเ​จบ็ ไ​ข้​ไม่ส​ บาย​บ้าง​หรอื เ​ปล่า​​สว่ น​วา่ ​จะร​ อฟ​ ังท​ า่ น​เอย่ ​ปาก​
ออก​มา​ก็​คง​เป็น​เร่ือง​ที่​ยาก​ ​เพราะ​หลวงปู่​เป็น​พระ​ท่ี​ขี้​เกรงใจ​อย่าง​มาก​
แค่​จะ​ใช้สอย​ลูก​ศิษย์​ให้​เดิน​ออก​ไป​ซื้อ​ยา​ที่​หน้า​วัด​ ​ก็​ยัง​ต้อง​เอ่ย​ปาก​ถาม​
ลกู ​ศิษยอ​์ ย่างเ​กรงอ​ กเ​กรงใจ​
​ ขา้ พเจา้ เ​องไ​ดม​้ าป​ ระจกั ษค​์ วามอ​ ดทนข​ องท​ า่ นจ​ นมอิ าจก​ ลนั้ น​ ำ้ ตา​
เอา​ไว​้ได​้ ​ก​็ในต​ อนท​ ​่ไี ด​้อุปัฏฐากร​ ับ​ใช้ท​ า่ น​ใน​ยาม​ท​ที่ า่ น​ชราม​ ากแ​ ล้ว​โ​ดย​
มี​โอกาส​ถวาย​การ​ทายา​แผล​ท่ี​ก้น​ของ​ท่าน​ ​ภาพ​ที่​ปรากฏ​แก่​สายตา​ของ​
ขา้ พเจา้ น​ น้ั ค​ อื ร​ อ่ งร​ อยข​ องแ​ ผลท​ แ​ี่ ตกซ​ ำ้ ๆ​ ​ซ​ ากๆ​ ​ใ​นท​ เ​ี่ ดมิ ​น​ ค​ี่ งเ​ปน็ แ​ ผลท​ ​ี่

๒๑๖ 216

เกดิ จ​ ากก​ ารท​ ท​ี่ า่ นต​ อ้ งน​ ง่ั บ​ นพ​ น้ื ก​ ระด​ านแ​ ขง็ ๆ​ต​ อ่ เ​นอ่ื งเ​ปน็ แ​ รมป​ ​ี ข​ า้ พเจา้ ​
รสู้ กึ แ​ ปลกใ​จม​ ากท​ ท​ี่ า่ นเ​ปน็ ถ​ งึ ข​ นาดน​ แ​้ี ลว้ ​ข​ า้ พเจา้ ห​ รอื ล​ กู ศ​ ษิ ยค​์ นอ​ น่ื ๆ​ ​ก​ ​็
ไมเ​่ คย​ไดย้ ิน​ทา่ นเ​อ่ยหรือบ​ ่น​ใหใ้ คร​ไดร้​ บั ​ร้​บู า้ งเ​ลย​​ตรงก​ นั ข​ า้ ม ​เรา​ทกุ ค​ น​
ยงั ค​ งเ​หน็ ท​ า่ นท​ ำห​ นา้ ทค​ี่ รอ​ู าจารยท​์ ค​ี่ อยใ​หก​้ ำลงั ใ​จล​ กู ศ​ ษิ ยด​์ ว้ ยอ​ าการย​ มิ้ ​
แย้ม​แจ่มใส​เป็น​ปรกตอิ​ ย่​อู ยา่ งน​ ั้น​​ช่วยใหเ​้ ขา​เหล่า​น้นั ​กลบั บ​ ้าน​ด้วย​ความ​
ปีติ​ทกุ ​รายไ​ป​
​ ข้าพเจ้า​เห็น​แผล​ของ​ท่าน​แล้ว​ก็​ไม่​อาจ​กลั้น​น้ำตา​เอา​ไว้​ได้​ ​ได้​แต่​
ซาบซงึ้ ใ​จใ​นเ​มตตาแ​ ละข​ นั ตธ​ิ รรมอ​ นั ย​ ง่ิ ข​ องท​ า่ น​อ​ กี ท​ ง้ั ภ​ มู ใิ จท​ ไ​่ี มเ​่ สยี ช​ าต​ิ
เกิดท​ ่ีไ​ด​้มีโ​อกาส​มาเ​ปน็ ​ลกู ศ​ ิษย​์รบั ก​ าร​อบรมส​ ัง่ ส​ อนจ​ ากท​ า่ น​เ​พราะท​ า่ น​
ไมเ​่ พยี งพ​ ดู ส​ อนเ​พยี งอ​ ยา่ งเ​ดยี ว​ห​ ากแ​ ตท​่ า่ นย​ งั ส​ อนด​ ว้ ยก​ ารท​ ำใหด​้ ​ู ข​ า้ พเจา้ ​
จงึ ​ภาค​ภมู ใิ จ​ทม่ี​ ​ีคร​ูอาจารย์​เชน่ ​ท่าน​.​.​.​​หลวงปูด่​ ​ู่ พ​ รหม​ปัญโญ​​พระ​แท​ท้ ​ี่
จะ​อยู​่ในด​ วงใจข​ อง​ขา้ พเจา้ ​ตลอด​ไป​

​ “​นาย​ อ”​ู๋ ​

217 ๒๑๗

๑​ ๐๗​

​หลวงปตู่​ าย​แลว้ ต​ ้อง​ลง​นรก​?​​



วนั ห​ นง่ึ ​ห​ ลวงปด​ู่ ท​ู่ า่ นม​ องไ​ปท​ ล​ี่ กู ศ​ ษิ ยใ​์ กลช​้ ดิ ก​ ลมุ่ ห​ นง่ึ แ​ ลว้ เ​อย่ ข​ น้ึ ​
ว่า​“​ ข​ ้าต​ าย​แลว้ ต​ อ้ งล​ ง​นรก”​ ​​
พอ​ลูก​ศิษย์​ได้ยินเ​ชน่ น​ น้ั ​กต็​ กใจ​​เรยี นถ​ าม​ทา่ น​ในท​ ันทวี​ ่า​​
“​หลวงปู่จ​ ะ​ตก​นรกไ​ดอ้​ ย่างไร ใ​นเ​มื่อ​หลวงปบู่​ ำเพ็ญ​คุณง​ามค​ วาม​
ดมี​ า​มาก​ออก​อย่างน​ ​ี”้ ​
​ หลวงป​ตู่ อบ​กลับ​ไป​ว่า​​
​“​ข้าก​ ​็จะล​ ง​นรก​​เพือ่ ​ไปด​ งึ พ​ วก​แกข​ ้นึ ​มาน่ะ​ ​ส​ิ!”​ ​
​ คำพ​ ดู เ​ตอื นข​ องห​ ลวงปน​ู่ น้ั ​ช​ วนใ​หศ​้ ษิ ยท​์ ง้ั ห​ ลายต​ อ้ งม​ าน​ กึ ท​ บทวน​
ตัว​เอง​วา่ การท​ ไ​ี่ ดม้​ ​โี อกาส​อยู่ใ​กลค​้ รบู าอ​ าจารย​์นั้น​ก​็มิใช่​เป็นห​ ลกั ​ประกนั ​
ว่า​จะ​ไม่​ลง​นรก​ ​ตรง​กัน​ข้าม​ ​หลวงปู่​ท่าน​ได้​พูด​เตือน​ทำนอง​น้ี​หลายคร้ัง​
หลาย​หน​ ​เพราะ​ช่อง​ทาง​ทำบาป​ของ​คน​เรา​นั้น มันมี​มาก​เหลือ​เกิน​​
ทา่ นเคยกลา่ วว​ ่า​ค​ น​เรา​เปน็ อ​ ย​โู่ ดยบ​ าป​ทง้ั น​ น้ั ​เ​พยี งแ​ ต​ผ่ ท้​ู ​่ตี ั้ง​อย่ใู​นค​ วาม​
ไม่​ประมาท​ก​ บ็​ าป​น้อย​หน่อย​
​ หลวงปท​ู่ า่ นเ​ปน็ แ​ บบอ​ ยา่ งท​ ห​่ี าไ​ดย​้ ากใ​นเ​รอื่ งก​ ารร​ ะมดั ระวงั ไ​มใ​่ ห​้
เปน็ ห​ นส​ี้ งฆ​์ ถ​ งึ ข​ นาดว​ า่ ก​ อ่ นท​ ท​ี่ า่ นจ​ ะม​ รณภาพไ​มก​่ ว​่ี นั ​ทา่ นไ​ดบ​้ อกช​ อ่ งล​ บั ​
สำหรับเปิดประตูกุฏิ ให้​โยม​อุปัฏฐากได้​ทราบ​ ​เพ่ือ​ว่า​จะ​ได้​สามารถ​เปิด​

๒๑๘ 218

ประตูเ​ขา้ ​กฏุ ​ิทา่ น​ใน​กรณฉี​ ุกเฉิน​ได​้ ​โดยไ​ม่ต​ อ้ งไ​ปง​ัดป​ ระต​ู อ​ นั ​จะเปน็ การ​
ทำลาย​ของ​สงฆ์​ซ​ งึ่ ​ในท​ ่สี ดุ ก​ ม็​ ​ีเหตใุ​ห้ไ​ดเ​้ ปดิ ป​ ระต​ูกุฏท​ิ ่าน​ผ่าน​ทางช​ ่อง​ลบั ​
น้นั ​จรงิ ๆ​ ​​ในเ​ชา้ ​ตร่ขู​ อง​วันพ​ ุธท​ ี่​๑​ ๗​​มกราคม​๒​ ๕๓๓​อ​ นั ​เปน็ ว​ นั ท​ ีท่​ า่ นล​ ะ​
สังขาร​
​ นอกจากน​ ​้ี ท​ ่าน​ยงั ไ​ดพ้​ ดู เ​ตือน​อกี ห​ ล​ ายๆ​ ​เ​รอื่ ง​ซ​ งึ่ เ​ปน็ ​สง่ิ ท​ ​พี่ วกเ​รา​
อาจม​อง​ข้าม​เ​ปน็ ตน้ ​วา่ ​เอย่ ป​ าก​ใช้​พระ​หยิบโ​นน่ ​หยบิ น​ ี​่ ​ไม​ย่ กเว้น​แม​้กรณี​
ขอใ​หพ​้ ระท​ า่ นห​ ยบิ ซ​ องใ​หเ​้ พอ่ื จ​ ะใ​สป​่ จั จยั ถ​ วาย​ก​ ารห​ ยบิ ฉ​ วยข​ องส​ งฆไ​์ ป​
ใช​ส้ ว่ น​ตวั ​​การพ​ ดู ช​ ักไ​ปใ​นท​ างโ​ลก​ใน​ขณะ​ทผี่​ ู้​อ่นื ก​ ำลงั ส​ นทนา​ธรรม​​การ​
สง่ เ​สยี งร​บกวนผ​ ท​ู้ ก​ี่ ำลงั ป​ ฏบิ ตั ภ​ิ าวนา​ก​ ารข​ ายพ​ ระก​ นิ ​ซ​ ง่ึ เ​รอ่ื งห​ ลงั น​ ​้ี ท​ า่ น​
พูดเ​อาไ​ว​้คอ่ นข​ ้าง​รุนแรงว​ า่ ​ใ​คร​ขาย​พระ​กิน​จะฉ​ ิบหาย​​สมัย​ทา่ น​ยังม​ ีช​ วี ติ ​
ทา่ นจ​ ะพ​ ดู ก​ ระห​ นาบบ​ อ่ ยค​ รงั้ ​โ​ดยเ​ฉพาะเ​วลาร​ บั ป​ ระทานอ​ าหาร​ท​ า่ นไ​ม​่
ใหพ​้ ดู ค​ ยุ ก​ นั จะท​ ำก​ จิ อ​ นั ใ​ดอ​ ย​ู่ ก​ ใ​็ หม​้ ส​ี ต​ิ พ​ ยายามบ​ รก​ิ รรมภ​ าวนาไ​วเ​้ รอื่ ยๆ​
เรียก​ว่า​เกล่ีย​จิต​ไว้​ให้​ได้​ทั้ง​วัน​ ​เมื่อ​ถึง​คราว​น่ัง​ภาวนา​ ​จิต​จะ​ได้​เป็น​สมาธ​ิ
ได้​เรว็ ​​เวลาจ​ ติ ​เกิดโ​ลภ​โ​กรธ​ห​ ลง​ขึน้ มาก​ ​็จะไ​ด้​รูเ้​ทา่ ท​ นั ไดโ้ ดยเร็ว​
​ดัง​ท่ี​หลวงปู่​สอน​ว่า​ ​การ​ตั้ง​อยู่​ใน​ความ​ไม่​ประมาท​เท่าน้ัน​จึง​จะ​
ชว่ ยใ​หเ​้ ราห​ า่ งจ​ ากน​ รกไ​ด​้ ด​ งั น​ น้ั ​เ​ราจ​ งึ จ​ ำเปน็ ต​ อ้ งค​ อยส​ อบท​ านต​ วั เ​องอ​ ย​ู่
เสม​ อๆ​ว​ า่ เ​ราเ​ขา้ ว​ ดั เ​พอ่ื อ​ ะไร​เ​พอ่ื ค​ วามเ​ดน่ ค​ วามด​ งั ​ห​ วงั ล​ าภส​ กั ก​ าระ​ ​ห​ วงั ​
เป็น​ผูจ้​ ดั การพ​ ระ​ผ​ ​ู้จัดการ​วดั ​​ฯลฯ​ห​ รือเ​พ่อื ม​ ุ่ง​ละ​โลภ​โ​กรธ​​หลง​​ซึง่ เ​ปน็ ​
ตัว​กอ่ ​ทกุ ขก​์ อ่ โ​ทษข​ ้ามภ​ พ​ข้ามช​ าตไิ​มร่ ​จู้ ักจ​ บ​จกั ​สนิ้ ​ท่ีม​ อ​ี ยใู่​น​ใจเ​ราน​ ี​้
​ ปฏปิ ทาท​ จ​ี่ ะช​ ว่ ยใ​หเ​้ ราป​ ลอดภยั ​แ​ ละห​ า่ งไ​กลจ​ ากน​ รก​ค​ อื ก​ ารเ​กรง​

219 ๒๑๙

กลัว​และ​ละอาย​ใจ​ใน​การ​ทำบาป​กรรม​ ​หรือ​สิ่ง​ที่​จะ​ทำ​จิตใจ​เรา​ให้​เศร้า​
หมอง​ขุ่น​มัว​ทั้ง​ใน​ที่​ลับ​และ​ที่​แจ้ง​ ​นอกจาก​นี้​ ​ควร​หลีก​เลี่ยง​การ​คลุกคลี​
กับ​หมู่​คณะ​โดย​ไม่​จำเป็น​ ​หาก​แต่​ควร​มุ่ง​เน้น​การ​ปฏิบัติ​ภาวนา​เป็น​หลัก
เป็นผ​้พู รอ้ มร​ บั ฟ​ ังค​ ำต​ กั เ​ตอื นข​ อง​ผ​ู้อนื่ ​ โ​ดยเ​ฉพาะค​ ำ​ตัก​เตือนจ​ าก​ครูบา-​
อ​ าจารย​์ ​อย่าง​ท่ีทาง​พระท​ า่ น​สอน​วา่ ใ​ห​อ้ ดทน​ใน​คำส​ ่งั ​สอน​​ใหค้ ดิ ว​ า่ ท​ ่าน​
กำลัง​ดุด​ ่า​กิเลสข​ อง​เราอ​ ย่​ู
​ ทอ่ นซ​ งุ ท​ ้งั ท​ ่อน​ถ​ า้ ​ไม​่ไดข้​ วาน​ช่วย​สบั ช​ ่วย​บาก​ไ​ม่ไ​ดก้​ บ​ไส​ไม​้ ช​ ่วย​
ทำ​พื้น​ไม้​หยาบ​ๆ​ ​ให้​เกลี้ยง​เกลา​ข้ึน​ ​ไม่​ได้​กระดาษ​ทราย​ช่วย​ขัด​ให้​พื้น​ไม้​
เรียบ​เนียน​ ​ไม่​ถูก​ดัด​ถูก​ประกอบ​ ​ก็​คง​ไม่​กลาย​มา​เป็น​เครื่อง​เรือน​เคร่ือง​
ใช้​ที่​มี​ประโยชน์​ ​ฉันใด​ก็​ฉัน​น้ัน​ ​จิตใจ​ของ​เรา​ท่ี​หยาบ​อยู่​ ​หาก​ไม่​ได้​รับ​
การ​ขัดเกลา​หรือ​อบรม​จาก​ครู​อาจารย์​ ​ไม่​ได้​รับ​การ​อบรม​ด้วย​ธรรม​ของ​
พระพทุ ธเจ้า​จ​ ิตใจน​ ้นั ​กย็​ ่อมใช้งานใชก้ ารไมไ่ ด้ ...เ​อาเ​ปน็ ​ทพี​่ ง่ึ ​ไม​ไ่ ด​้
​ ครงั้ ​หนึ่ง​ไ​ด้​ม​โี อกาสเ​รียนถ​ ามห​ ลวงปว​ู่ ่า​​
“​หลวงป่​คู รับ​​ทีว​่ ่าธ​ รรม​ย่อมร​ ักษาผ​ ู​้ประพฤติ​ธรรมน​ ั้น​​ธรรมท​ ​ีว่ ่า​
นัน้ ​ท่าน​หมายถ​ งึ ธ​ รรมเ​รอื่ ง​ใด​ครบั ”​ ​
​ เม่ือส​ น้ิ ​เสยี งค​ ำถาม​ของ​ข้าพเจา้ ​ห​ ลวงป​่ทู า่ นก​ ็​ตอบ​ใน​ทันทว​ี ่า​​
“​กายส​ ุจริต​ว​ าจาส​ ุจริต​แ​ ละม​ โน​สุจริต”​ ​
​ ซงึ่ ​คำส​ อนข​ อง​ท่านข​ ้างต​ น้ ​ก​ ็​เป็นการต​ อบ​ให้​ชดั ​อีก​ครั้ง​วา่ ​อานสิ งส​์
แหง่ ก​ ารป​ ระพฤตค​ิ วามด​ ท​ี งั้ ท​ างก​ าย​ท​ างว​ าจา​แ​ ละท​ างใ​จน​ แ​้ี หละ​จ​ ะก​ ลบั ​
มาร​ ักษาเ​ราไ​มใ​่ ห​ต้ กไ​ปส​ ู่โ​ลกท​ ช่​ี ว่ั ​​จึงเ​ปน็ ​หลกั ​ประกัน​ที่ช​ ว่ ย​ให้เ​ราห​ ่างไ​กล​

๒๒๐ 220

จากน​ รก​อ​ กี ท​ ง้ั ย​ งั ช​ ว่ ยใ​หเ​้ ราส​ ามารถเ​ขา้ ใ​กลห​้ ลวงปด​ู่ ว้ ยก​ ารเ​พม่ิ พนู ค​ ณุ ธ​รรม
​ความ​ดี​ให้​ย่ิง​ๆ​ ​ขึ้น​ไป ​เพ่ือ​ว่า​ใน​ท่ีสุด​จะ​ได้​ไม่​ต้อง​รบกวน​หลวงปู่​ให้​ต้อง​
ลำบาก​ลง​นรกม​ าส​ งเคราะหศ​์ ิษย​์ ​ดงั ​ทท​ี่ า่ น​ปรารภ​ดว้ ย​ความ​ห่วงใย​​ตงั้ แ​ ต​่
ครั้ง​ท่ี​ทา่ นย​ ัง​มชี​ ีวิต​อยู​่

​ “​พอ”​ ​

221 ๒๒๑

๑๐๘

ทม่ี า​ของ​วัตถมุ​ งคลร​ นุ่ ​​“​เปดิ โ​ลก​”​

​ จากก​ ารท​ ่ม​ี ผี​ ้ส​ู นใจ​วตั ถ​มุ งคลร​ ุน่ ​“​ ​เปดิ โ​ลก”​ ​​เป็น​จำนวนม​ าก​​และ​
มี​แนว​โน้ม​มาก​ข้ึน​ทุกที​ ​ประกอบ​กับ​พบ​ว่า​ข้อมูล​บาง​อย่าง​ท่ี​ปรากฏ​ตาม​
หนงั สอื ​ต่างๆ ร​ วมทัง้ ทางอินเ​ทอร​์เน็ต​ห​ รือ​สอื่ อ​ ่นื ​ๆ​ม​ ี​ความคลาด​เคลือ่ น​
จาก​ข้อ​เท็จ​จริง​ ​และ​บาง​เร่ือง​ก็​เป็น​ความคลาด​เคล่ือนที่​มี​นัย​สำคัญ​ โดย​
เฉพาะอยา่ งยง่ิ มกี ารโนม้ นา้ วผอู้ า่ นใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ ไปในทางอภนิ หิ ารจน
มองขา้ มเจตนารมยท์ แี่ ทจ้ รงิ ในการสร้างพระ อธษิ ฐานพระของหลวงปดู่ ู่
ด​ ว้ ยเ​หตน​ุ ​้ี ใ​นฐ​ านะท​ ข​่ี า้ พเจา้ เ​ปน็ ผ​ ป​ู้ ระสานง​านด​ ำเนนิ ก​ ารจ​ ดั ส​ รา้ ง​
พระ​รุ่น​น้ี​ ​จึง​ขอ​อนุญาต​ให้​ข้อมูล​ ​เพื่อ​ให้​ท่าน​ผู้​สนใจ​ได้​ทราบ​ท่ีมา​และ​
วัตถุประสงค์​ ​รวม​ทั้ง​ราย​ละเอียด​ของ​การ​จัด​สร้าง​พระ​รุ่น​นี้​ ​เพื่อ​ความ​
เข้าใจ​ทถ​่ี ูก​ตอ้ งต​ รง​กนั ​

๒๒๒ 222

๑​ ​.​ท​ ่มี าแ​ ละว​ ตั ถปุ ระสงคข​์ องก​ ารส​ รา้ ง​
จดุ เ​รมิ่ ข​ องก​ ารจ​ ดั ส​ รา้ งว​ ตั ถม​ุ งคลร​นุ่ น​ ​ี้ เกดิ ขน้ึ เ​มอ่ื ป​ ระมาณก​ ลางป​ี
พ​.​ศ​.​ ​๒๕๓๒​ ​โดยข้าพเจ้า​ได้​รับ​การ​ติดต่อ​จาก​คุณ​ว​รวิ​ทย์​ ​ด่าน​ชัย​วิจิตร​
ให้​เป็น​ธุระ​ใน​การ​ประสาน​งานการ​จัด​สร้าง​วัตถุมงคลของหลวงปู่ดู่เพ่ือ​
เอาไว้แจกให้กับผู้ศรัทธา โดยเฉพาะอย่างย่ิงผู้ท่ีสนใจปฏิบัติกรรมฐาน​​
เพราะพจิ ารณาเหน็ ว​ า่ พ​ ระเ​ครอ่ื งพ​ ระบ​ ชู าข​ องห​ ลวงป​ ด​ู่ ​ู่ ม​ แ​ี นวโ​นม้ จ​ ะเ​ปน็ ​
ทต​่ี อ้ งการแ​ ละห​ ายากม​ ากข​ น้ึ เ​รอ่ื ยๆ​ ​ป​ ระกอบก​ บั อ​ งคห​์ ลวงป​ ด​ู่ ทู่ า่ นก​ ม​็ อี าย​ุ
มาก​แลว้ ​กลา่ วคือ อายุข​ องทา่ นนน้ั ยา่ งเข้าปที ี่ ​๘๖ แล้ว​
ทั้งนี้ ​คุณ​ว​รวิ​ทย์​และคณะ​ได้นำ​เรื่อง​น้ี​ไป​กราบ​เรียนขออนุญาต
จากหลวง​ปู่​ ​ซึ่งหลวงปู่ท่าน​ก็​เมตตา​อนุญาต​ท้ัง​ที่​ท่าน​ได้​งด​อธิษฐาน​จิต​
วตั ถม​ุ งคลม​ าเ​ปน็ ร​ ะยะเ​วลาก​ วา่ ​๑​ ​ป​ แ​ี ลว้ ​ด​ ว้ ยเ​หตผุ ลส​ ว่ นต​ วั บ​ างป​ ระการ​
อย่างไร​ก็​ดี​ ​สำหรับ​วัตถุ​มงคล​รุ่น​น้ี​ ​หลวง​ปู่​ท่าน​กำหนด​วัน​ประกอบ​พิธี​
อธิษฐาน​จิต​ใน​วัน​ท่ี​ท่าน​เรียก​ว่า​ ​“​วัน​ธงชัย​”​ ​ซ่ึง​ตรง​กับ​วัน​อังคาร​ที่​ ​๒๙​​
สงิ หาคม​พ​ .​ศ​ .​​๒​ ๕๓๒​เ​วลา​๒​ ​ท​ มุ่ ​ส​ ว่ นก​ ำหนดเ​วลา​๒​ ​ท​ มุ่ ​น​ นั้ ​ส​ นั นษิ ฐาน​
ว่า​น่า​จะ​เป็น​เพราะ​ท่าน​ไม่​ต้องการ​ให้​ไป​รบกวน​เวลา​ที่​ญาติโยม​มา​ทำบุญ​
หรือ​สนทนา​ธรรม​กับ​ท่าน​ใน​ช่วง​ระหว่าง​วัน​ รวมท้ังอาจไม่ต้องการให้ดู​
เอิกเกริก

๒​ .​​​การ​ออกแบบ​เหรียญ​
​ ​เดิมที​คุณวรวิทย์และคณะต้องการ​จะ​จัด​สร้าง​เหรียญ​รูปเหมือน​

223 ๒๒๓

ของ​หลวง​ป​ู่ด​ู่ ​แต่ท​ ่าน​กลับ​แนะนำว​ า่ ​ควรส​ ร้าง​รูป​เคารพค​ รูบา​อาจารยค์ อื ​
หลวงปู่ทวด​ดี​กว่า​ ​นอกจาก​น้ี​ ​ท่าน​ยัง​เน้น​ด้วย​ว่า​ ​ต้อง​มี​ข้อความ​​
“หลวงพอ่ ทวด​เ​หยยี บน​ ำ้ ท​ ะเลจ​ ดื ”​ป​ ระกอบรปู เหมอื นองคห์ ลวงปทู่ วด​
ดว้ ย​​น​ค้ี ือ​กรอบ​การออก​แบบเ​หรียญในเ​บื้องต​ ้นท​ ข​ี่ า้ พเจา้ ไ​ดร​้ บั ​​
ข้าพเจ้าเองแม้จะเคยมีประสบการณ์ในการจัดทำหนังสือธรรมะ​
ของหลวงปู่ แต่ก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการสร้างพระใดๆ มาก่อนเลย
แต่ด้วยความเกรงใจในคุณวรวิทย์ จึงตกปากรับคำในการติดต่อหาช่าง​
แกะพระ รวมท้งั การประสานงานดำเนนิ การจัดสรา้ งเหรียญให้แลว้ เสรจ็ ​
เพราะขา้ พเจา้ อยทู่ างกรงุ เทพฯ จงึ นา่ จะคลอ่ งตวั กวา่ คณุ วรวทิ ยซ์ ง่ึ อยทู่ าง​
อยธุ ยา
ในเร่ืองช่างแกะพระน้ัน มีผู้แนะนำข้าพเจ้าให้รู้จักกับช่างอ๊อด
หรือคุณ​ประหยัด​ ​ลออ​พันธ์​สกุล​ ซึ่งเม่ือข้าพเจ้าเห็นผลงานในอดีตของ​
ช่างผู้น้ีแล้วก็รู้สึกพึงพอใจ จึงตกลงให้ดำเนินการแม้ว่าจะมีราคาท่ีค่อน​
ขา้ งสงู เมอ่ื เทยี บกบั ชา่ งรายอน่ื ๆ ดว้ ยคดิ วา่ โอกาสสรา้ งพระถวายหลวงปดู่ ู่
นน้ั ไมไ่ ดม้ งี า่ ยๆ จงึ อยากใหเ้ หรยี ญออกมาสวยงามและแลดเู หมอื นมชี วี ติ
สำหรบั รปู ตน้ แบบหลวงปทู่ วดน​ น้ั ​ข​ า้ พเจา้ ไดอ​้ าศยั ​เคา้ โครงจากรปู ​
หนุ่ ข​ ผ​้ี ง้ึ ห​ ลวงป​ ทู่ วดท​ พ​่ี พิ ธิ ภณั ฑห​์ นุ่ ขผ​้ี ง้ึ ไ​ทย​เ​พราะใ​หร​้ ายล​ ะเอยี ดท​ ช่ี ดั เจน​
สะดวกส​ ำหรบั ช​ า่ งแ​ กะพ​ ระ แ​ ละจากร​ปู แ​ บบห​ นา้ ตาห​ ลวงปทู่ วดท​ ล่ี งตวั แลว้ ​
ขา้ พเจา้ แ​ ละค​ ณะจ​ งึ ไดค​้ อ่ ยๆ เรม่ิ ออกแบบเ​พม่ิ เ​ตมิ ร​ายละเอยี ดท​ ง้ั ด​ า้ นห​ นา้ ​
และ​ดา้ นห​ ลงั ​ด​ งั น้​ี

๒๒๔ 224

​•​ ฐาน​บัว​ ​บ่ง​บอก​เอกลักษณ์​ของ​องค์​หลวง​ปู่ทวด​ ​ใน​ความ​เป็น​
พระ​โพธ​สิ ตั ว์​ท่​ีบารมี​เตม็ ​แล้ว​​​
​•​ ลูก​แก้ว​บน​ฝ่ามือ​หลวง​ปู่ทวด​ ​สร้าง​ตาม​อย่าง​ความ​นิยม​ของวัด​
พะ​โคะ​​จังหวดั ส​ งขลา​และส่ือถงึ ลกู แก้วสารพดั นกึ ​
•​อ​ ักขระ​“​ พ​ ทุ ​​ธะ​ส​ งั ​ม​ ”​ิ ​​ท่ี​ด้านห​ น้า​​หมาย​ถงึ ห​ วั ใจพ​ ระไ​ตร-​​
สรณา​คมณ​์ คอื ​​“พ​ ทุ ธง​ั ​​สรณง​ั ​​คจั ฉา​ม​,ิ ​​ธมั มงั ​​สรณงั​​ค​ จั ฉาม​ ,​ิ ​แ​ ละ​สงั ฆง​ั ​
สรณงั​​ค​ จั ฉาม​ ”​ิ ​​​ซง่ึ เ​ปน็ คำทห่ี ลวง​ปใ​ู่ ห​ใ้ ชเ​้ ปน็ ​คำ​บร​กิ รรมภ​ าวนา​​อกี ทง้ั ยงั
เป็นคำทีใ่ ช้อธษิ ฐานบวชจติ อกี ด้วย​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​
​•​​อกั ขระ​​“​นะ​โ​ม​​พุท​​ธา​​ยะ”​ ​ท​ ่​ีดา้ นห​ ลัง​​หมาย​ถึง​​​พระนาม​ย่อ​
ของ​พระพทุ ธเจา้ ​๕​ ​พ​ ระองค์​ใ​น​ภทั ร​กปั ​น​ี้
​ • ​ เสน้ ร​ ศั มโ​ี ดยร​ อบอ​ กั ขระ​“​ น​ ะ​โ​ม​พ​ ทุ ​ธ​ า​ย​ ะ”​ ​ห​ มายถ​ งึ ​อานภุ าพ​
แหง่ ค​ ณุ พ​ ระพทุ ธ​พ​ ระธ​ รรม​พ​ ระส​ งฆ​์ ท​ ม​ี่ ม​ี ากอ​ ยา่ งจ​ ะน​ บั จ​ ะป​ ระมาณม​ ไิ ด​้
ซ่ึง​แผ่​ออก​ไป​ได​้ทกุ ท​ ิศท​ ุก​ทาง​
​•​ ​สัญลักษณ์​​“นะ​ปิด​ล้อม​”​​ท่ี​อยู่​ก่ึงกลาง​อักขระ​​“​นะ​ ​โม​ ​พุท​​
ธา​ ​ยะ”​ ​ ​เป็น​สัญลักษณ์​ท่ี​หลวง​ป่​ูด่​ูใช้​จาร​ใน​วัตถุ​มงคล​ของ​ท่าน​เสมอๆ​​
อีกประการหน่ึง ข้าพเจ้าเคยได้ยินท่านผู้รู้กล่าวว่า “นะ”มีความหมาย
ตั้งแตห่ ยาบสดุ ไปหาละเอยี ดสดุ นะเบอ้ื งต่ำหมายถงึ ธาตดุ ิน นะเบื้องสูง
หมายถงึ พระธาตุ กล่าวคือ หากเราพฒั นาจติ ของเราให้บรสิ ุทธ์ถึงทีส่ ุด​
แล้ว ความบริสุทธิ์ของจิตนั้นก็สามารถท่ีจะกลั่นกระดูก ซ่ึงเป็นธาตุดิน​
ของเราใหก้ ลายเปน็ พระธาตไุ ด้ นะเบอ้ื งสงู ก็คือ “พระนิพพาน” นน่ั เอง

225 ๒๒๕

​ •​​ดา้ นซ​ า้ ยข​ องช​ อื่ พ​ ระพ​ รหมป​ ญั โญ​จ​ ะม​ พ​ี ยญั ชนะท​ ด​่ี ค​ู ลา้ ยท​ งั้ ​“​ ๑​ ”​ ​
​และ​​“ด​ ​”​​​ในข​ ณะ​ทส​่ี ญั ลักษณ์​คล้าย​กากบาท ​ ท​ าง​ด้านข​ วาของช่ือทา่ น​
ลว้ นเปน็ สัญลกั ษณ์เฉพาะของหลวงปู่ดู่
​ มี​เร่ือง​แปลก​เก่ียว​กับ​การ​แกะ​องค์​หลวง​ปู่ทวด​ท่ี​ขอ​อนุญาต​บันทึก​​
ไว้​ ​ณ​ ​ที่​น้ี​ ​กล่าว​คือ​ใน​ตอน​แรก​น้ัน​ ​ผู้​เขียน​ตกลง​กับ​ช่าง​อ๊​อด​ว่า​อยาก​ให้​
หลวง​ปู่ทวด​ห่ม​จีวร​ให้​เรียบร้อย​ ​กล่าว​คือ​ไม่​ต้องการ​ให้​เห็น​นม​หลวง​ปู่​
อย่าง​ที่​เขา​นิยม​แกะ​กัน​ ​จากนั้น​ข้าพเจ้า​ก็​เทียว​ไป​เทียว​มา​ใน​การ​ปรับ​
แก้​แบบ​ โดย​ช่าง​อ๊​อด​ใช้​เวลา​แกะ​บล็อค​เหล็ก​ต่อ​เนื่อง​กัน​นาน​ ​๑๕​ ​วัน​
​ก็แล้ว​เสร็จ​ ​จาก​น้ัน​ก็​เริ่ม​ดำเนิน​การ​ปั๊ม​จริง​ ​แต่​พอ​ปั๊ม​ไป​ได้​กว่า​หนึ่ง​พัน​
เหรียญ​ ​ช่าง​อ๊​อด​ก็​เพิ่ง​มา​สังเกต​เห็น​ว่า​เหรียญ​ที่​ป๊ัม​ออก​มา​มี​นม​ปรากฏ​
ทง้ั ๆ​ ​ ​ที่​ไม่​ไดแ​้ กะ​บล็อค​ ข​ า้ พเจ้าแ​ ละ​ช่าง​อ็อ​ ดช​ ว่ ยก​ นั ด​ ​ู ใ​นท​ ี่สุดก​ พ็​ บว​ า่ ​ม​ี
เศษ​เหล็ก​ปุ่ม​เล็ก​ๆ​ ​ไป​ฝัง​ติด​อยู่​ท่ี​บล็อค​ใน​ตำแหน่ง​หัวนม​พอดี​ ​เมื่อ​เป็น​
เ​ชน่ น​ ​ี้ ข​ า้ พเจา้ จ​ งึ ใ​หช​้ า่ งอ​ อ​๊ ดเ​ขย่ี เ​ศษเ​หลก็ อ​ อก​แ​ ลว้ ป​ รบั ปรงุ บ​ ลอ็ คด​ ว้ ยก​ าร​
แกะน​ มข​ ้ึนม​ า​ให้เ​ปน็ ​เรื่องเ​ปน็ ​ราว​​ดว้ ย​สงสยั ​วา่ ห​ ลวง​ปูท่ วด​อ​ าจ​ต้องการ​
รกั ษา​เอกลักษณ​์รปู แ​ บบข​ อง​ท่าน​ก็​เป็น​ได้​

๓.​​ช​ นดิ แ​ ละ​จำนวนก​ าร​สรา้ ง​
​ ​การจ​ ัดท​ ำเ​หรยี ญ​หลวงป​ ทู่ วด​ครงั้ น​ ​้ี ​นอกจากเ​หรยี ญ​ทองแดงแ​ ล้ว​
ยังม​ ​เี หรยี ญโ​ลหะ​อ่ืนๆ​ ​​รวมท​ ัง้ พ​ ระ​เนื้อ​ผง​​​โปสเตอร์​​​และล​ กู ​แก้ว​​​ซง่ึ ส​ รปุ ​
ได​ด้ งั น้ี​

๒๒๖ 226

ชนิด จำนวน​ หมายเหต​ุ

๑​.​​เหรยี ญ​เน้อื ​​ ๒๔๐​​​ ใชท​้ องคำช​ นดิ ​​๙๖​%​แ​ ต่ละ​เหรียญม​ ีน​ ำ้ ​หนกั ​​๙.๙​​
ทองคำ เหรยี ญ กรัม​​ให้​สั่งจ​ อง​เทา่ ร​ าคาท​ องคำร​ วม​ค่าก​ ำ​เหน็จ​ท​่ี

ช่างแ​ กะพ​ ระค​ ิด​ค​ อื เ​หรียญล​ ะ​​๓,๔๐๐​บ​ าท​​ซ่งึ ​
ในจ​ ำนวนน​ ี​้ ​ม​ี ​๓​​เหรยี ญ​ทค​ี่ ณุ ว​ ​รวท​ิ ย​์ส่งั ท​ ำพเิ ศษ​​
แต่ละเ​หรียญ​ม​นี ้ำ​หนกั ​๑​ ​​บาท​​

​๒.​​เ​หรยี ญ​เนื้อ​ ๑,๐๓๗​​ ​ให​ส้ ง่ั ​จองเ​ท่า​ราคาท​ ่ีช​ า่ ง​แกะ​พระค​ ิด​ค​ อื ​
เงิน เหรยี ญ เ​หรียญล​ ะ​​๑๓๐​​บาท​

๓​.​เ​หรียญ​เนือ้ ​ ๑๐,๐๐๐​​ ไ​มน​่ บั เ​หรยี ญท​ ช​่ี า่ งแ​ กะพ​ ระป​ ม๊ั เ​กนิ ม​ าอ​ กี จ​ ำนวน​๕​ ๐๐​
ทองแดง​ เหรยี ญ เหรียญ​ ซ​ ่งึ ​เหรียญ​เน้อื ท​ องแดง​น้​ี ​ไม่​ได​้เปิด​ให​ส้ ่งั จ​ อง​​

เพราะเ​ปน็ ​ส่วน​ท​มี่ เี​จตนาไ​ว้​แจก​แก่ผ​ ป​ู้ ฏิบัติธ​ รรม​​

๔​ ​.​​เหรยี ญ​เนือ้ ​ ๑,๐๐๐​​ ไม​่นับ​เหรยี ญท​ ​ี่ม​ขี ้อความ​​“​หลวงปทู่​ วดฯ​ ​”​อ​ กี ​
ตะกั่ว เหรียญ จำนวน​๔​ ๐๐​เ​หรียญ​เ​พราะ​เจตนาเ​ดมิ ​​ไม​่ให​ม้ ​ี

ข้อความ​“ห​ ลวงป่ทู​ วด​ฯ​”​บ​ น​เหรียญ​เนือ้ ต​ ะกวั่ ​​
ห​ มายเหต​ุ ​​เนอ้ื ต​ ะกัว่ ​ท่ี​ใช้​ไ​ด้ผ​ สม​พลวงป​ ระมาณ​​
​๗%​ ​เ​พื่อเ​พ่ิม​ความ​แกรง่ ​และ​ความม​ ัน​วาว

​๕​.​​เนื้อผ​ ง ๕,๐๐๐​​ ​ใช้​ผงม​ วลสารท​ ำจ​ ากว​ า่ น​​๑๐๘​ซ​ ึ่งห​ ลวงป​ ดู่​ ่​อู ธิษฐาน​
(​รปู ท​ รง​​๔​​ องค์ ให​้ ​ในจำนวนน​ ี​้ ม​ ​ี ๓​ ๖๐​อ​ งค​์ ท​ ่บี​ รรจุพ​ ระธ​ าตุ​​​แต​่
เหลย่ี ม ข​ อบ​ ​
มน​เลก็ ​นอ้ ย)​ เปน็ ท​ ี​น่ า่ เ​สยี ดายท​ ่​ีพระผ​ งจำนวนก​ ว่า​​๑,๐๐๐​อ​ งค​์ ​
ชำรดุ ร​ ะหวา่ งก​ ารข​ นสง่ ​เ​น่อื งจากค​ วามร​ ีบ​เร่งขนสง่ ​
ใน​ขณะ​ที​่เนื้อ​ผง​ยงั ​ไม​แ่ หง้ ​สนทิ ด​ ี​

227 ๒๒๗

​ ​สำหรับ​เหรียญ​เน้ือ​ทองคำ​และ​เน้ือ​เงิน​น้ัน​ ​ศิษย์​ของ​หลวง​ปู่​ท่าน​
หนง่ึ ไ​ดล​้ งเ​หลก็ จ​ ารบ​ นเ​หรยี ญก​ อ่ นท​ จ​่ี ะน​ ำเ​ขา้ พ​ ธิ ​ี น​ อกจากน​ ค​้ี ณะผ​ จ​ู้ ดั ส​ รา้ ง​
ยัง​ได้​จัด​ทำ​โปสเตอร์​หลวง​ปู่​ดู่​ใน​อิริยาบถ​ต่าง​ๆ​ ​บน​ฉาก​หลัง​รูป​ใบ​โพธิ์​​
ขนาด​๑​ ๐​x​ ​๑​ ๒​​นิ้ว​อ​ ีกจ​ ำนวน​​๑๐,๐๐๐​แ​ ผน่ ​​และ​ลกู ​แกว้ ​ใสเ​คลือบ​
ปรอทบ​ างๆ​ ​อ​ กี จ​ ำนวน​๕​ ,๐๐๐​ล​ กู ​(​ไ​มร​่ วมล​ กู แ​ กว้ ช​ นดิ เ​คลอื บป​ รอทส​ สี นั ​
ตา่ ง​ๆ​อ​ กี ​จำนวน​ประมาณ​​๕๐​​ลูก​)​
​ ​
​๔.​​​เหตกุ ารณใ​์ น​วัน​พิธ​ี (​​วันองั คาร​ท่ี​๒​ ๙​​สิงหาคม​​พ​ .​ศ​ ​.​๒​ ๕๓๒)​​
​ ​เยน็ ว​ นั ​นั้น​ฝน​ตกลง​มาอ​ ย่าง​หนกั ​​ขณะท​ ​่ขี า้ พเจ้าแ​ ละ​นอ้ งช​ าย​ของ​
คณุ วร​ วท​ิ ยเ​์ รง่ ข​ บั ร​ ถฝา่ พ​ ายฝ​ุ น​เ​พอื่ จ​ ะน​ ำว​ ตั ถม​ุ งคลท​ เ​่ี หลอื ​(​ส​ ว่ นม​ ากเ​ปน็ ​
พระ​เนือ้ ​ผง​)​​ไปท​ ​่กี ุฏขิ​ องห​ ลวงป​ ดู่​ ​ใู่ หท้​ นั ​พธิ ​ี ​แตพ​่ อม​ า​ถงึ ว​ ัด​ฝ​ น​ก​็หยดุ ​ตก​
ทอ้ งฟ้า​แจ่มใสม​ าก​​​ราวกับว​ า่ ​ไดป​้ ัดเ​ป่าส​ งิ่ ​สกปรกอ​ อกไ​ป​จนห​ มด​สนิ้ ​​
​ เมอื่ ​ใกล​เ้ วลา​​๒​ท​ มุ่ ​​กป​็ รากฏว​ ่าม​ ีผ​ ู้คนม​ า​ร่วมพ​ ิธกี​ นั จ​ นเ​ตม็ ​ตลอด​
พืน้ ทีห​่ นา้ ก​ ุฏห​ิ ลวงป​ ่​ู ห​ ลายค​ นไ​ด​น้ ำ​วัตถ​มุ งคล​ส่วน​ตวั ม​ าร​ ่วมพ​ ิธีด​ ้วย​เปน็ ​
จำนวน​มาก​ ​คุณ​ว​รวิ​ทย์​ได้​เปิด​กล่อง​พร้อม​นำ​ตัวอย่าง​วัตถุ​มงคล​ที่​จัด​ทำ​
แตล่ ะ​ชนดิ ​ออกใ​ห​ห้ ลวงป​ ไ​ู่ ด​ช้ ม​ทง้ั ​เนอ้ื ท​ องคำ​​เงนิ ​ท​ องแดง​ต​ ะกว่ั ​​พระผง​
โปสเตอร์​แ​ ละล​ ูก​แก้ว​​
พอถ​ งึ เ​วลา​๒​ ​ท​ มุ่ ​ห​ ลวงป​ เ​ู่ รม่ิ อ​ ธษิ ฐานจ​ ติ ​อ​ ญั เ​ชญิ บ​ ารมพ​ี ระพทุ ธเจา้ ​
ทงั้ แ​ สนโ​กฏจ​ิ กั รวาล​ร​ วมท​ ง้ั บ​ ารมค​ี รบู าอ​ าจารยแ​์ ละส​ ง่ิ ศ​ กั ดส​ิ์ ทิ ธท​ิ์ งั้ ห​ ลาย​
มา​ประดิษฐาน​ที่​วัตถุ​มงคล​ ​และ​หลวง​ปู่​ได้​ต้ัง​จิต​อธิษฐาน​ให้​สว่าง​ไป​ทั้ง​

๒๒๘ 228

สามโ​ลก​คอื ​พรหมโ​ลก​เ​ทวโลก​แ​ ละม​ นุษย​โลก​สัก​คร่ห​ู นึง่ ​หลวงป​ ​ลู่ มื ตา​
ข้นึ ​ ย​ กมือ​ข้าง​ขวาข​ ้นึ ​ลบู พ​ ระ​ท​ี่อยเู​่ บ้อื งห​ น้า​ ​จากน้ันท​ ่าน​ก็บ​ อกกล่าวข​ อ​
ให้​หลวง​ปู่ทวด​และ​เทวดา​ปก​ปัก​รักษา​วัตถุ​มงคล​น้ี​ตลอด​ไป​ ​ให้​ปิด​ก้ัน​ภัย​
อันตรายท​ ุก​อย่าง​​
พอ​เสร็จพ​ ิธี​​ท่านใ​ห​้ผ้ท​ู มี่ า​รว่ มง​านต​ ัง้ ​จิต​อทุ ศิ ​บุญไ​ป​ท่วั ​โดยร​ อบส​ ุด​
ขอบ​จกั รวาล​​อนนั ต​จักรวาล​ห​ ลัง​จากก​ ราบ​ลา​หลวง​ป​ู่แล้ว​ค​ ุณ​ว​รวิท​ ย์ก​ ็​
แจก​จ่ายว​ ตั ถ​ุมงคลใ​ห้​กับ​ตวั แทน​หมู่ค​ ณะ​หลาย​คน​ ส​ ำหรบั ม​ อบตอ่ ​ให้ก​ บั ​
ผู้ท​ ี่เหมาะ​สมใน​โอกาสต​ อ่ ​ไป​​

๕​.​ท​ ำไมจ​ ึงช​ ื่อว​ า่ ร​ ุน่ ​เปดิ ​โลก ?​
​ เ​ชา้ ว​ นั ร​งุ่ ข​ น้ึ ​ไ​ดม​้ ล​ี กู ศ​ ษิ ยห​์ ลวงป​ ท​ู่ เ​่ี ปน็ น​ กั ป​ ฏบิ ตั บ​ิ างค​ น​ซ​ งึ่ ไ​มไ​่ ดม​้ า​
ร่วม​งาน​ไ​ดก​้ ราบ​เรียน​หลวงป​ ู่​วา่ เ​มื่อ​คืน​ไม่รู้​ท​ี่วดั ​สะแกม​ ีอ​ ะไร​ก​ ำหนด​จติ ​
ดเ​ู ห็นห​ ลวง​ป่ทู วดล​ อยอ​ ย่เ​ู ตม็ ​ท้องฟา้ ว​ ัด​สะแก​​
หลวงป​ เ​ู่ ลา่ ใ​หศ​้ ษิ ยผ​์ น​ู้ นั้ ​ร​วมท​ งั้ ล​ กู ศ​ ษิ ยค​์ นอ​ น่ื ๆ​ ​ฟ​ งั เ​กยี่ วก​ บั เ​รอื่ งท​ ม​ี่ ​ี
คณะศ​ ิษย​ม์ าข​ อ​ให​ท้ า่ นอ​ ธษิ ฐานจ​ ิต​เหรียญ​หลวงป​ ู่ทวดเ​ม่ือ​คืน​​แล้วท​ ่านก​ ็​
พูดเ​ปรย​ๆ​ข​ ้ึน​ว่า​​“​เม่อื ค​ ืน ข​ ้า​เสก​ให​้แบบเ​ปดิ ส​ าม​โลกเ​ลยน​ ะ”​ ​​นีเ่ อง​​นา่ ​
จะเ​ปน็ ท​ มี่ าข​ องก​ ารพ​ ดู ป​ ากต​ อ่ ป​ ากก​ ระทง่ั ก​ ลายม​ าเ​ปน็ ช​ อ่ื ร​ นุ่ ว​ า่ ​“​ ร​นุ่ เ​ปดิ ​
สาม​โลก”​ ​​หรือเ​รียกส​ ัน้ ​ๆ​​วา่ ​​“​ รุน่ ​เปิด​โลก​”​


229 ๒๒๙

๖.​​ว​ ตั ถ​ุมงคลร​ ุ่น​เปิด​โลกม​ ​ีความศ​ ักด​ส์ิ ทิ ธิก​์ ว่าพ​ ระ​รนุ่ ​อ่นื จ​ ริง​หรอื ?​
​ ​แม้ว่า​วัตถุ​มงคล​รุ่น​ ​“​เปิด​โลก​”​ ​นี้​ ​จะ​ได้​รับ​การ​อธิษฐาน​จิต​คร้ัง​
ใหญ่​ครั้ง​สุดท้าย​ของ​หลวง​ปู่​ดู่​ ​พรหม​ปัญโญ​ ​วัด​สะแก​ ​กล่าว​คือ​ท่าน​ได้​
เมตตา​อธิษฐาน​จิต​ก่อน​ท่ี​ท่าน​จะ​มรณภาพ​ประมาณ​ ​๔​ ​เดือน​เศษ​ ​และ​
มี​ผู้คน​จำนวน​ไม่​น้อย​ท่ี​ช่ืน​ชอบ​และ​ศรัทธา​ถึง​ขนาด​พูด​ว่า​วัตถุ​มงคล​รุ่น​นี้​
ดท​ี สี่ ดุ ​ศ​ กั ดส​์ิ ทิ ธท​ิ์ ส่ี ดุ ​แ​ ตใ​่ นท​ ศั นะข​ องผ​ ส​ู้ รา้ ง​ร​วมถ​ งึ ศ​ ษิ ยก​์ รรมฐ​ านห​ ลายๆ​
ทา่ น​ม​ ิได​ค้ ดิ เ​ช่น​นนั้ เ​ลย​​เพราะเ​หต​ุท​ห่ี ลวง​ปเ​ู่ คยพ​ ูด​ใหพ​้ วก​เราฟ​ ังว​ า่ ​​เวลา​
ท​ที่ ่านต​ ัง้ จ​ ิต​อธิษฐานพ​ ระน​ ้นั ​น​ อกจาก​ท่าน​จะ​สง่ ​กระแสจ​ ิต​อัญเ​ชญิ ​พทุ ธ-​
คุณ​​ธรรม​คุณ​ส​ งั ฆค​ ณุ ​​บรรจเ​ุ ข้า​ในว​ ตั ถ​มุ งคลด​ งั ก​ ลา่ วแ​ ลว้ ​ท​ า่ น​ยังเ​ผ่อื แ​ ผ่​
ไปถ​ ึง​วัตถ​ุมงคลร​ ุน่ ​ก่อน​หนา้ ​ทง้ั หมด​ของท​ ่าน​​ไม​ว่ ่าว​ ตั ถ​มุ งคลน​ ้ัน​จะอ​ ยู่​ณ​ ​
ท​ี่ใด​ก็ตาม​​
ดัง​นั้น​เ​มอ่ื ท​ ราบ​ความ​ตามน​ แ​้ี ล้ว​​ก​ข็ อใ​หผ้​ ้มู​ ว​ี ตั ถ​ุมงคลข​ อง​หลวงปู่​
รนุ่ ใ​ด​ๆ​ก​ ต็ าม​​ขอ​ไดโ้​ปรดอ​ ยา่ ห​ ว่นั ไ​หวไ​ปต​ าม​คา่ น​ ิยมท​ ่​ีตลาดเ​ขาแ​ ตง่ ​แต้ม​
ให้​เลย​ ​และ​เหนืออ่ืนใด ขอท่านโปรดอย่าลืม​ระลึก​ถึง​พระ​ที่​หลวง​ปู่​ให้​
ความ​สำคัญส​ ูงสดุ ​​ทหี่​ ลวงป​ เ่​ู รียกว​ ่า​“​ ​พ​ ระ​เก่า​พ​ ระแ​ ท​้”​ ​น​ ัน่ ก​ ็ค​ อื ​จ​ ติ ​ท่​ี
ฝกึ ฝนอ​ บรมด​ แี ลว้ น​ น่ั เอง​เ​พราะพ​ ระองคน​์ เ​้ี ทา่ นน้ั ท​ จ​่ี ะเ​ปน็ ท​ พ​ี่ ง่ึ ท​ เ​่ี ทย่ี งแ​ ท​้
แน่นอนข​ องเ​ราท​ ุก​คน​​
พระ​ภายนอกท่ีหลวงปู่สร้างขึ้น​ ​ก็​ล้วน​ต้องการใช้เป็นเครื่องมือ​ที่​
จะ​โยง​เขา้ หา​การ​สรา้ ง​พระภ​ ายในใ​ห้เ​กดิ ใ​ห​้ม​ขี น้ึ ​​หาก​ปราศ​จากก​ ารส​ ร้าง​
พระภ​ ายในแ​ ลว้ ไ​ซร​้ ก​ ารม​ พ​ี ระภ​ ายนอก​แ​ มม​้ ากเ​ทา่ ใดก​ ย​็ งั ไ​มไ​่ ดช​้ อ่ื ว​ า่ เ​ปน็ ​

๒๓๐ 230

ผป​ู้ ลอดภยั อ​ ยา่ งแ​ ทจ้ รงิ ​อ​ กี ท​ งั้ ย​ งั ไ​มน​่ บั ว​ า่ ร​จู้ กั อ​ งคแ​์ ทข​้ องห​ ลวงป​ ​ู่ ด​ งั ท​ ท​่ี า่ น​
กลา่ ว​เชงิ ​ท้าทายน​ ักป​ ฏบิ ตั ิว​ ่า​
​“ต​ ราบใ​ดก็ตาม​ท่ี​แก​ยัง​ไม​เ่ หน็ ​ความด​ ใี​นต​ วั ​ก​ ​็ยงั ไมน​่ ับ​วา่ แ​ ก​รจู้ ัก​ข้า​

​แต​่ถ้า​เมอ่ื ​ใด​แ​ กเ​รม่ิ ​เหน็ ​ความ​ดใี​นต​ ัวเ​อง​แลว้
เ​ม่อื น​ นั้ ​.​..​ข​ า้ ​จงึ ว​ า่ ​​แกเ​ริ่ม​ร้จู ักข​ า้ ด​ ข​ี ้ึนแ​ ลว้ ​”​

“​ พ​ อ​”​

231 ๒๓๑

๑​ ๐๙​

​ปฏิบัต​ิแบบโ​ง่ๆ​



นับเ​ปน็ เ​วลา​ทีค​่ อ่ น​ข้าง​ยาวนาน​ท​ีเดียว​​กว่า​ท่ค​ี ำพ​ ดู ท​ ห่​ี ลวงป่​ดู ู่เ​คย​
พูด​สอน​ว่า​ใน​เวลา​ปฏิบัติ​สมาธิ​ภาวนา​ ​ให้​ปฏิบัติ​แบบ​โง่ๆ​ ​นั้น​ ​จะ​ค่อย​ๆ​​
กระจา่ งช​ ัด​ขน้ึ ​เรอ่ื ยๆ​ ​
​ การ​อา่ น​มาก​ร​ มู้ าก​​บาง​ครั้งก​ ็เ​ป็น​ดาบส​อง​คม​เ​พราะ​ใน​ดา้ น​หนง่ึ ​
การ​รู้มาก​ อาจ​ช่วย​ให้​สามารถ​มอง​เห็น​เส้น​ทาง​เดิน​​รวม​ทั้ง​เห็น​ส่ิง​ท่ี​ต้อง​
ระมดั ระวงั ล​ ว่ งห​ น้า​ฯ​ ลฯ​
แ​ ตอ​่ กี ด​ า้ นห​ นง่ึ ​ก​ ารร​มู้ ากก​ จ​็ ะม​ าเ​ปน็ ต​ วั อ​ ปุ สรรคเ​สยี เ​อง​เ​ชน่ ​เ​ผลอ​
คิด​ว่า​ความ​ร้​ู ​(ร​ จู้​ ำ)​​​นั้น​เป็น​ปัญญา​​(ร​ ​จู้ รงิ ​)​​เกดิ ​เป็น​ทิฏฐิ​มานะป​ ิด​กั้นก​ าร​
ด​ ดู ซ​ บั ค​ วามร​ จ​ู้ ากภ​ ายนอก​น​ อกจากน้ี ยงั อาจเปน็ อปุ สรรคในข​ ณะป​ ฏบิ ตั ​ิ
จิต​ภาวนา​น้ัน​ ​เพราะการ​รู้มาก​นี้​ก็​กลาย​เป็น​สิ่ง​รุงรัง​ใน​จิตใจ​ ​ใช้​ความ​คิด​
ผดิ ก​ าลเ​ทศะจ​ นก​ ลายเ​ปน็ น​ วิ รณข​์ ดั ขวางไมใ่ หจ้ ติ รวมเปน็ สมาธิ ค​ ดิ ไ​ปลว​่ ง​
หนา้ ต​ าม​ประสาค​ น​รูม้ ากบ​ ้าง​​คอย​ใสช​่ ่ือเ​รยี ก​ใหก้​ ับส​ ภาวะต​ า่ งๆ​​ท​่กี ำลัง​
ประสบ​บา้ ง​ค​ อยส​ งสัย​นน่ั น​ บี​่ า้ ง​
​ การร​ ับร​ ู้​หรือ​สัมผัสจ​ งึ ไ​มเ​่ ป็น​ไปอ​ ย่าง​ตรงไ​ปต​ รง​มา​​แล้วเ​จา้ ​ตัวก​ ย็​ ัง​
สำคัญ​ตัว​ว่า​กำลัง​คิด​พิจารณา​หรือ​มอง​ดู​สภาวะ​ต่างๆ​ ​ตาม​ความ​เป็น​จริง​​

๒๓๒ 232

ทั้งๆ​ ​​ทีข​่ อง​จรงิ ​​“น​ ิง่ เ​ปน็ ​ใบ​”้ ​พ​ อจ​ ติ ​เขา้ ไปป​ รุงแ​ ต่งจ​ น​รุงรงั ​ไปห​ มดแ​ ลว้ ​จ​ งึ ​
ยาก​ที่​จะ​ถอย​ออก​มา​ให้​เห็น​ไป​ตาม​สภาวะ​ที่​มัน​เป็น​อย่าง​ธรรมชาติ​ ​หาก​
แตเ่​ป็น​ไป​อย่างท​ ่​จี ิต​เรา​อยากใ​หม​้ นั เ​ป็น​​
จึง​มา​ตระหนัก​ว่า “การ​ปฏิบัติ​แบบ​โง่ๆ” ที่หลวงปู่ท่านสอนน้ี​
ส​ ำคญั ม​ าก​แ​ ละจ​ ะต​ อ้ งว​ างค​ วามร​ ต​ู้ า่ งๆ​ไ​วข​้ า้ งน​ อกเ​สยี ​ก​ ระทงั่ เ​พกิ สญั ญา
ความ​ม่ัน​หมายว่า​เรา​ว่า​เขา​ ​ว่า​นั่น​ว่า​นี่​ออก​เสีย​ ​แล้วรู้​ส่ิง​ท่ีมา​กระทบ​ใจ​
ไปตามสภาวะ​ท่ีมนั เปน็
​ น่​ีแหละห​ นา​ห​ ลวงปด​ู่ ู่ถ​ งึ วา่ ​​
“​สอนค​ นร​ ูม้ าก​​น​ ้ันส​ อน​ยาก​ส​ ​ูส้ อนเ​ด็กๆ​ห​ รือ​คนร​ ​ู้น้อยไ​ม​ไ่ ด”้​

“พ​ อ​”​

233 ๒๓๓

๑​ ๑๐​

พ​ ุทธค​ ุณ​กบั ​การ​เชค็ พ​ ระ​​!​



คงไ​มม่ ใ​ี ครป​ ฏเิ สธว​ า่ ​พ​ ระพทุ ธช​ นิ ร​าชท​ จ​่ี งั หวดั พ​ ษิ ณโุ ลกน​ น้ั ม​ ค​ี วาม​
งามย​ ง่ิ ​เ​ปน็ อ​ งคพ​์ ระท​ ไ​ี่ ดร​้ บั ก​ ารย​ กยอ่ งว​ า่ เ​ปน็ พ​ ระพทุ ธร​ปู ท​ ม​ี่ ค​ี วามง​ดงาม​
ทส่ี ดุ ใ​นป​ ระเทศไ​ทย​ข​ า้ พเจา้ เ​องก​ ร​็ สู้ กึ เ​ชน่ น​ น้ั ​ครง้ั ห​ นง่ึ ใ​นช​ ว่ งเ​ทศกาลป​ ใ​ี หม​่
ขา้ พเจา้ ไ​ดห​้ าซ​ อ้ื ​ส​ .​ค​ .​ส​ .​​อ​ ยใ​ู่ นร​า้ น​แ​ ละไ​ดแ​้ ลเ​หน็ โ​ปสการด์ ภ​ าพพ​ ระพทุ ธ-​
ชิน​ราช​จึง​ได้​หยิบ​มา​ดู​ ​ขณะ​ท่ี​เพ่ง​มอง​ภาพ​อยู่​น้ัน​ ​ข้าพเจ้า​รู้สึก​เหมือน​มี​
พลงั งานบ​ างอ​ ยา่ งว​ ่งิ ​ออกจ​ ากภ​ าพเ​ขา้ ​ส​ู่ตวั ​ข้าพเจา้ จ​ น​เกดิ ป​ ีตข​ิ นลุก​น​ ้ำตา​
ไหล​เ​ปน็ ค​ วามร​ สู้ ึก​ที่​ชดั เจนท​ ้งั ส​ องม​ ือ​ที่จ​ บั ภ​ าพ​อยู่​​
เหตกุ ารณเ​์ ชน่ น​ ไ​้ี มเ​่ คยเ​กดิ ข​ น้ึ ม​ าก​ อ่ นเ​ลยใ​นช​ วี ติ ​ท​ ำใหข​้ า้ พเจา้ เ​กดิ ​
ความส​ งสยั แ​ ละส​ นใจใ​ครร​่ ข​ู้ นึ้ ม​ าท​ นั ท​ี ข​ า้ พเจา้ พ​ ยายามท​ บทวนเ​หตกุ ารณ​์
ทเ​่ี กดิ ข​ นึ้ ​พ​ บว​ า่ เ​หมอื นก​ บั เ​มอื่ ค​ รงั้ ท​ ห​่ี ลวงปด​ู่ เู่ คยม​ อบพ​ ระบ​ ชู าใ​หข​้ า้ พเจา้ ​
เปน็ เ​หตกุ ารณข​์ ณะท​ ท​่ี า่ นย​ น่ื ส​ องม​ อื จ​ บั ท​ อ​่ี งคพ​์ ระพทุ ธร​ปู แ​ ละส​ วดม​ นตใ​์ หพ​้ ร​
ขา้ พเจ้าเ​องก​ ห็​ ลับตาแ​ ละ​ย่นื ​สอง​มือ​แตะ​ทอ​่ี งค​พ์ ระเ​ชน่ ​กนั ​ใ​นร​ ะหวา่ งน​ นั้ ​
รู้สึก​ว่า​มี​พลังงาน​บาง​อย่าง​ว่ิง​ออก​จาก​ท่าน​ผ่าน​องค์​พระพุทธ​รูป​เข้า​สู่​ตัว​
ข้าพเจา้ ​และ​รู้สกึ ส​ ว่างไสว​ไป​หมด​ทง้ั ๆ​ ​​ท​่ียงั ​หลบั ตา​อยู่​
เ​มอ่ื ท​ า่ นใ​หพ​้ รเ​สรจ็ ​ท​ า่ นม​ องข​ า้ พเจา้ แ​ ลว้ ว​ า่ ​แ​ ก​“เปน็ ” ด​ ​ี ข​ า้ พเจา้ ​
เรยี น​ถามท​ า่ น​ว่า​หลวงปู่ท​ ราบ​ไดอ้​ ยา่ งไร​

๒๓๔ 234

​ ท่านต​ อบว​ า่ ​“​ มปี​ ีตอ​ิ อก​จาก​ข้า​​ไหลไ​ป​ที​แ่ ก​แลว้ กล​ บั ม​ าห​ าข​ ้า”​
​ หลวงปู่​ได้​สอน​ข้าพเจ้า​ให้​หัด​จับ​พระ​ ​ซึ่ง​ใน​หมู่​ศิษย์​เรียก​กันเอง​ว่า​​
“เช็ค​พระ”​ ​วิธี​การ​คือ​ใช้​มือขวา​หรือ​ท้ัง​สอง​มือ​แตะ​ที่​ภาพ​พระ​ หรือ​กำ​
หากเ​ปน็ พ​ ระเ​ครอ่ื ง​ห​ รอื จ​ บั ท​ อ​ี่ งคพ​์ ระห​ ากเ​ปน็ พ​ ระพทุ ธร​ปู ​จากน​ นั้ ท​ ำจ​ ติ ​
ให้​นิง่ ​​และจ​ ะ​รู้สกึ ส​ ัมผัส​ได​ถ้ งึ ​พุทธค​ ุณ​ท่​ีครูบา​อาจารย์ท​ ่าน​ได้​อธิษฐาน​ไว้​
ห​ ลวงปเ​ู่ คยเ​ลา่ เ​รอ่ื งก​ ารป​ ลกุ เ​สกพ​ ระใ​หฟ​้ งั ว​ า่ ​เ​รอ่ื งค​ งกระพนั ช​ าตร​ี
นน้ั ท​ ำง​า่ ย​แ​ คข​่ นลกุ ก​ เ​็ หนยี วแ​ ลว้ ​แ​ คลว้ คลาดย​ งั ด​ ก​ี วา่ เ​พราะไ​มเ​่ จบ็ ต​ วั ​แ​ ต​่
ท่ี​ดี​ท่ีสุด​คือ​เมตตา ​เพราะ​แคล้วคลาด​ยัง​มี​ศัตรู​แต่​รอดพ้น​ได้​ ​ส่วน​เมตตา​
น้นั ม​ ี​แตค​่ น​รัก ​ไม่มีศ​ ัตรู​​การ​เสก​พระ​ใหม​้ พ​ี ทุ ธค​ ณุ ​ทาง​เมตตา​จึง​ทำไดย​้ าก​
ท่ีสดุ ​
​ มี​เรื่อง​ปรากฏ​ใน​พระ​ธรรมบท​ว่า​ ​ใน​กรุง​ราชคฤห์​ ​เด็ก​คน​หนึ่ง​ไป​
เกบ็ ฟ​ นื ก​ บั บ​ ดิ า​โ​คท​ เ​่ี ทยี มเ​กวยี นไ​ดห​้ นเ​ี ขา้ ไปใ​นเ​มอื ง บ​ ดิ าจ​ งึ ต​ ามโ​คเ​ขา้ ไป​
แต่​เวลา​จะ​ออก​จาก​เมือง​นั้น ​ประตู​ปิด​เสีย​แล้ว​จึง​ต้อง​ทิ้ง​บุตร​น้อย​คน​
เดียว​ไว้​นอก​เมือง​นั้น​เอง​ ​ถึง​เวลา​กลาง​คืน​ขณะ​ท่ี​เด็ก​นอน​หลับ​ ​ได้​มี​พวก​
อมนุษย์​เข้า​มา​ทำร้าย​โดย​พา​กัน​ลาก​เท้า​ของ​เด็ก​นั้น​ไป​มา​ ​เม่ือ​เด็ก​ตกใจ​
ตื่น​ขึ้น​ก็​ระลึก​ถึง​พระพุทธเจ้า​แล้ว​ร้อง​ออก​มา​ว่า​ ​นะโม​พุทธ​ัส​สะ​ ​(​ข้า​ขอ​
นมัสการ​พระพุทธเจ้า​)​ ​พวก​อมนุษย์​ก็​ถอย​กลับ​ทันที​ ​ไม่​กล้า​ทำร้าย​เด็ก​
นนั้ อ​ กี ​ค​ วามท​ ราบถ​ งึ พ​ ระเจา้ ก​ รงุ ร​ าชคฤหจ​์ งึ เ​สดจ็ ไ​ปเ​ฝา้ ท​ ลู เ​รอ่ื งร​ าวน​ ต​ี้ อ่ ​
พระพทุ ธเจา้ ​
​ พระพทุ ธอ​ งค​ท์ รงร​ บั สั่งว​ า่ ​ก​ าร​ระลึก​ถึงพ​ ระองค์​นั้นย​ ังไ​ม​พ่ อ​​ต้อง​

235 ๒๓๕

ระลึกถ​ ึงพ​ ระ​ธรรม​พ​ ระส​ งฆ์​​ตง้ั ​สตมิ​ น่ั ​​ไมเ​่ บยี ดเบยี นใ​คร​และ​มจ​ี ติ ​เมตตา​
ด้วย​​พระพทุ ธพ​ จน์​ข้อ​น​้ีเองท​ ​ถ่ี ือ​เป็นห​ ลกั ​ต่อ​มาว​ ่าส​ ง่ิ ท​ ่​ปี อ้ งกนั ​อนั ตราย​ท​ี่
ด​ีทีส่ ุด​นัน้ ​คอื ​เ​มตตา​น​ ัน่ เอง​
​ ข้าพเจ้า​รู้สึก​ว่า การ​สอน​ของ​หลวงปู่​โดย​การ​ให้​เช็ค​พระ​เช่น​น้ี​
เปน็ อ​ บุ ายว​ ธิ ก​ี ารฝ​ กึ ใ​หศ​้ ษิ ยไ​์ ดเ​้ กดิ ​พ​ ทุ ธา​ นส​ุ ต​ิ เ​พราะท​ กุ ค​ รงั้ ท​ จ​่ี บั อ​ งคพ​์ ระ​
จิต​จะ​มี​อารมณ์​น้อม​ไป​สู่​ความ​เลื่อม​ใส​ศรัทธา​ใน​องค์​พระพุทธเจ้า​เสมอ​​
ทำให้เ​รา​ระลกึ ​และ​ทำแ​ ต​ส่ ิ่งท​ ​่ีดี​
​ มี​ลูก​ศิษย์​ของ​หลวงปู่​ท่ี​จับ​องค์​พระ​และ​สามารถ​สัมผัส​ถึง​พุทธ​คุณ​​
ไดเ​้ ลา่ ว​ า่ ​พระบ​ ชู าท​ ผ​ี่ า่ นก​ ารป​ ลกุ เ​สกม​ าแ​ ลว้ น​ นั้ ​ห​ ากเ​ดน่ ใ​นเ​รอื่ งค​ งกระพนั ​
ชาตรี​เ​มอ่ื จ​ ับ​ด​ูก็จ​ ะม​ อี​ าการ​ปีติข​ นลกุ ​ขน​พอง​สยองเ​กลา้ ​แ​ ต​่หาก​เด่นท​ าง​
เมตตา​ ​เม่ือ​จับ​ดู​ก็​จะ​มี​ปีติ​น้ำตา​ไหล​และ​บังเกิด​ความ​สงบ​เยือก​เย็น​ถึง​จิต​
ถงึ ใจ​
​ ทำไม​หลวงปู่​จึง​สอน​เรื่อง​เช็ค​พระ​ ​ข้าพเจ้า​มา​ใคร่ครวญ​ดู​แล้ว​พบ​
ว่าน​อก​จาก​เพื่อ​ให้​เกิด​พุทธ​านุ​สติ​แล้ว​ ​หลวงปู่​ต้องการ​ให้​ศิษย์​แต่ละ​คน​
สามารถเ​ปน็ ป​ ระจกั ษพ​์ ยานแ​ กต​่ นเองไ​ด​้ ใ​หเ​้ ปน็ ​ป​ จั จตั ต​ งั ​ไ​ดร​้ เ​ู้ องเ​หน็ เอง​
เปน็ พ​ ยานใ​หต​้ นเองไ​ด​้ จ​ ะไ​ดเ​้ กดิ ค​ วามม​ น่ั ใจใ​นก​ ารป​ ฏบิ ตั ธ​ิ รรมย​ งิ่ ข​ น้ึ น​ นั่ เอง​
มิใช่​ให้​ไป​อวด​เด่น​อวดดี​ ​หรือ​อวด​คุณ​วิเศษ​ใน​ตัว​ ​หรือ​เที่ยว​ไป​เช็ค​พระ​
ให​ผ้ ู้อ​ นื่ ​ซ​ ่งึ จ​ รงิ ​ๆ​แ​ ล้ว​ห​ ากผ​ ​ู้อ่ืนย​ ัง​ทำ​ไม่​เปน็ ​ถ​ ึงเ​ขา​จะบ​ อกว​ า่ ​เชือ่ ​อยา่ งไร​
โดย​ส่วน​ลึก​เขา​ก็​ยัง​มี​ความ​ลังเล​สงสัย​อยู่​นั่นเอง​ ​เพราะ​ไม่รู้​ไม่​เห็น​ด้วย​
ตนเอง​

๒๓๖ 236

​ ปจั จบุ นั ม​ ผ​ี อ​ู้ า้ งต​ นเ​ปน็ ศ​ ษิ ยห​์ ลวงปด​ู่ แ​ู่ ละแ​ สดงค​ วามส​ ามารถใ​นการ​
เชค็ ​พระ​​ไมว​่ า่ ​จะเ​ปน็ ​พระเ​ครอ่ื ง​พ​ ระบ​ ชู า​ห​ รอื รปู เหมอื นพ​ ระ​สงฆอ์ งคเ์ จา้ ​
ว่าท​ า่ น​เหล่า​นนั้ ม​ ​ีคณุ ​ธรรม​ใน​ระดบั น​ ั้น​ระดับ​น้ี​โ​ดยห​ วงั ​อาม​ ิสแ​ ละล​ าภผล​
ไม่วา่ จ​ ะ​โดยท​ าง​ตรงห​ รือท​ าง​ออ้ ม​ ​
​การห​ ลง​เชือ่ ​ดงั ​กลา่ ว​อาจ​นำท​ ่านไ​ปส​ ู่ค​ วาม​เสยี ​หาย​ ต​ ง้ั ​แต่ก​ าร​เสีย​
ทรพั ย์​ หรือ​หลง​ออกน​ อก​ล​ู่นอกท​ างท​ ี่​พระพทุ ธเจ้า​ ร​ วม​ท้ัง​ท่​หี ลวงป​ดู่ ​ู่พา​
ดำเนิน​ ​กระทั่ง​การ​ทำบาป​กรรม​จาก​การ​ไป​ปรามาส​ครู​อาจารย์​ท่ี​ท่าน​มี​
คณุ ธ​ รรมโ​ดยไ​มเ​่ จตนา​เ​พราะส​ งิ่ ท​ ห​ี่ ลวงปด​ู่ พ​ู่ รำ่ ส​ อนน​ นั้ ​จ​ ะต​ อ้ งเ​ปน็ ไ​ปเ​พอื่ ​
การล​ ดละ​ความ​โลภ​​ความ​โกรธ​ค​ วาม​หลง​ท​ ิฏฐ​ิมานะ​​ความ​ถือตวั ​ถอื ​ตน​
จงึ เ​ป็นข​ ้อ​พึง​พจิ ารณาร​ ะมดั ระวงั ​ไม่​ให้​ผิดท​ าง​


237 ๒๓๗

๑​ ๑๑​

​ธรรม​​ทำใหค​้ รบ​

​แต่​ก่อน​เคย​แต่​ได้ยิน​ว่า​ธรรมะ​ทุก​ข้อ​ล้วน​พา​คน​ไป​ให้​ถึง​นิพพาน​
ได​้ ​ซง่ึ ฟ​ ังแ​ ลว้ ก​ ​็นกึ ​คล้อยต​ าม​ ​แต่ก​ อ​็ ดจ​ ะ​เกบ็ ​ความล​ ังเลส​ งสัย​ใน​บางส​ ว่ น​
ไว้​ไม่​ได้​กระทง่ั ​หลวงปู​่ดูพ่​ ดู ​ถึง​​“เ​มตตาพ​ า​ตกเ​หว​”​​ประกอบ​กบั ค​ ำ​สอน​
ของ​ทา่ นเ​จา้ ค​ ณุ อ​ าจารย​์ พ​ ระพ​ รหม​คณุ าภรณ​์ (​ป​ ​.​อ​ ​.​ปย​ ตุ ​โต​)​​ขยายค​ วาม​
ใน​เร่อื ง​ทำนอง​เดียวกัน​น้​ี ​จึง​ค่อย​เกิด​ความ​กระจ่าง​และ​ตระหนัก​มาก​ข้นึ
ว่าการ​ปฏบิ ตั ​ธิ รรมน​ ต้ี อ้ งม​ ป​ี ญั ญาก​ ำกับใ​นท​ ุก​ๆ​​เรือ่ งท​ ​เี ดียว​
​ ดงั ท​ ห​ี่ ลวงปย​ู่ กม​ าก​ ลา่ วเ​ตอื นข​ า้ งต​ น้ ​ซง่ึ “เ​มตตา”​ กเ​็ ปน็ ธ​รรมข​ อ้ ห​ นงึ่
ใ​นห​ มวดพ​ รหมว​ หิ าร​๔​ ​ซ​ งึ่ ป​ ระกอบด​ ว้ ย​เ​มตตา​ก​ รณุ า​ม​ ทุ ติ า​แ​ ละอ​ เุ บกขา​
ซงึ่ ช​ ว่ ยใ​หม​้ นษุ ยอ​์ ยร​ู่ ว่ มก​ นั อ​ ยา่ งผ​ าสกุ ​เ​พราะท​ า่ นส​ อนว​ า่ ​ก​ ารว​ างทา่ ท​ ต​ี อ่ ​
คน​ปกต​ ทิ​ ่ัว​ๆ​ไ​ป​ค​ ือ​​วางจ​ ติ ไ​ว​้ดว้ ย​เมตตา​​ส่วนก​ บั ​คน​ท่ี​แยก​่ ว่า​เรา​​ก​็ตอ้ ง​
กรุณา​ ​ช่วย​เหลือ​สงเคราะห์​อะไร​ได้​ก็​พร้อม​จะ​ช่วย​เหลือ​เกื้อกูล​กัน​ ​ส่วน​
กับ​คน​ที่​ดี​กว่า​หรือ​ประสบ​ความ​สำเร็จ​ใน​ทาง​ที่​ชอบ​ที่​ควร​ ​เรา​ก็​มุทิตา
คือพลอย​ยินดี​กับเ​ขาไ​ป​ด้วย​จ​ ติ ใจ​กแ​็ ช่มช​ น่ื เ​บิก​บาน​​ไม่ค​ บั ​แคบ​
​ แต่​ก็​มี​บาง​กรณี​ท่ี​ควร​วาง​อุเบกขา​ ​กล่าว​คือ​อย่า​เพ่ิง​แสดง​ความ​
เมตตา​ ​กรุณา​ ​หรือ​มุทิตา​ ​ออก​ไป​ ​โดย​ไม่​ได้​ใช้​ปัญญา​ไตร่ตรอง​ให้​
รอบคอบ​

๒๓๘ 238

​ ตวั อยา่ งเ​ชน่ ​ก​ ารนำเ​งนิ ไ​ปช​ ว่ ยเ​หลอื ผ​ อ​ู้ น่ื ด​ ว้ ยเ​มตตาแ​ ละด​ ว้ ยก​ รณุ า​
โดยข​ าดก​ ารป​ ระมาณฐ​ านะก​ ำลงั ห​ รอื ค​ วามพ​ อด​ี ซ​ งึ่ น​ อกจากจ​ ะช​ ว่ ยเ​หลอื ​
​ผู้​อื่น​ไม่​สำเร็จ​แล้ว​ก็​ยัง​พา​ครอบครัว​ตัว​เอง​เดือด​ร้อน​ไป​ด้วย​ ​น้ี​เรียก​ว่า​
เมตตาแ​ ละ​กรณุ า​แต​่ขาด​อุเบกขา​
อ​ กี ต​ วั อยา่ งห​ นง่ึ ค​ อื ก​ ารน​ กึ ย​ นิ ดก​ี บั ค​ วามส​ ำเรจ็ ข​ องผ​ อ​ู้ น่ื ​โดยทค่ี วาม
สำเร็จนั้นมิได้มาโดยชอบธรรม หากแต่มา​จาก​การ​เอา​รัด​เอา​เปรียบ​หรือ​
ทุศีล​อ​ ยา่ งน​ ก้ี​ ็ไ​มค่ วรน​ ึกย​ นิ ดีไ​ป​กบั ​เขา​ดว้ ย​จำต้องวางอุเบกขา
​ อีกตัวอย่างหนึ่ง หาก​ผู้​ท่ี​เป็น​ผู้​หลัก​ผู้ใหญ่​เอาแต่​ปฏิบัติ​ธรรมะ​ข้อ​
เมตตา​โดยขาดอุเบกขา ​สงั คม​และบ​ ้าน​เมือง​คง​เตม็ ไ​ปด​ ว้ ยร​ ะบบ​อปุ ถมั ภ​์
เพราะ​เอาแต่​ช่วย​เหลือ​เพื่อน​ฝูง​คน​รู้จัก​ ​โดย​ไม่​ปล่อย​สิ่งต่างๆ ​ดำเนิน​ไป​
ตาม​กฎเ​กณฑห์ รอื ระเบยี บ​ที่​วางเอาไ​ว้​
​ ผไ​ู้ มร​่ อบคอบเ​นน้ ป​ ฏบิ ตั ธ​ิ รรมข​ อ้ ใ​ดข​ อ้ ห​ นง่ึ แ​ ลว้ ล​ ะเลยธ​ รรมเ​ครอื่ ง​
ประกอบ​ข้อ​อ่ืน​ๆ​ ​ก็​อาจ​ทำให้​ไม่ได้ผลดังท่ีหมาย ​นั่น​ไม่ใช่​ว่า​ธรรมะ​เป็น​
เครื่อง​มือ​ไม่​ด​ี ​หาก​แตเ​่ ป็นค​ วามบ​ กพรอ่ งข​ อง​ผ้​ูใช้เ​ครือ่ ง​มอื ​ต่าง​หาก​
​ แม้​ใน​การ​ปฏิบัติ​สมาธิ​ภาวนา​ก็​เช่น​กัน​ ​สัมมา​สมาธิ​ใน​มรรค​มี​องค์​
แปด​ห​ รอื ท​ ย​ี่ น่ ยอ่ ม​ าเ​ปน็ ​ศ​ ลี ​ส​ มาธ​ิ แ​ ละป​ ญั ญาน​ น้ั ​ใ​นค​ ราวท​ น​ี่ ำม​ าป​ ฏบิ ตั ​ิ
จริง​ๆ​ ​ท่าน​ก็​ให้​ปฏิบัติ​ธรรม​ข้อ​อื่น​ๆ​ ​เพ่ือ​ให้​เกิด​ความ​ครบ​ถ้วน​เพียง​พอ​
ไม่​ผิด​พลาด​ ​กล่าว​คือ​ ​จาก​สัมมา​สมาธิ​ซึ่ง​ได้แก่ ​ความ​เพียร​ชอบ​ ​(​สัมมา​
วายามะ​)​ ​ความ​ระลึก​ชอบ​ ​(​สัมมา​สติ​)​ ​และ​ความ​ตั้งใจ​ม่ัน​ชอบ​ ​(​สัมมา​
สมาธิ​)​​น้นั ​​ทา่ น​ก​ใ็ ห​เ้ พ่ิมใ​น​เรอ่ื งศ​ รทั ธาแ​ ละ​ปัญญา​เข้าไปด​ ว้ ย​​จาก​สมั มา​


Click to View FlipBook Version