The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.4 ภาคเรียนที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krunuch0324, 2022-09-01 05:43:16

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.4 ภาคเรียนที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.4 ภาคเรียนที่ 1

๓. กะทัดรัด คือ ข้อความส้ันแต่ได้ใจความครบถ้วนตามที่ต้องการ เพราะเวลาของนักธุรกิจเป็นเร่ืองสาคัญ
นักธุรกิจจะไม่เสียเวลากับการอ่านจดหมายท่ีมีข้อความยาวๆ ภาษาเย่ินเย้อ แต่ได้ใจความเพียงเล็กน้อย การเขียน
จดหมายให้กะทัดรัดทาได้โดยการตัดเน้ือความท่ีไม่เกย่ี วข้องท้ิงไป และละเว้นการกล่าวเนื้อความบางตอนซ้าๆ แต่มี
ขอ้ ควรระวังว่า การเขยี นจะตอ้ งไมห่ ว้ นหรอื ไมส่ นั้ เกนิ ไปจนทาใหผ้ ู้อา่ นรู้สึกว่าผู้เขยี นไมส่ ุภาพหรอื เปน็ มิตร
ตวั อยา่ ง
“ทองคาเปน็ สิ่งมคี ่าเงนิ และเพชรกเ็ ป็นส่งิ มีคา่ เช่นกัน”

ควรใช้วา่ “ทองคา เงนิ และเพชรลว้ นเปน็ สิ่งมีค่า” คาว่า “ลว้ น” ช่วยให้ขอ้ ความกะทดั รัดขึน้ โดยหลกี เหล่ยี ง
การใชค้ าว่า “เป็นส่งิ มคี า่ ” ซ้าๆ กนั

๔. สุภาพ การดาเนินงานใดๆ จะบรรลุผลสาเร็จได้ดีนั้น ย่อมต้องอาศัยความสุภาพในการติดต่อระหว่าง
บุคคลกับบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับหน่วยงาน แม้ในเร่ืองของการเขียนจดหมายก็จาเป็นต้องใช้ความสุภาพเป็น
เคร่ืองช่วยให้ประสบความสาเร็จเช่นเดียวกัน ผู้เขียนจึงต้องใช้ถ้อยคาสุภาพแสดงออกถึงความเคารพยกย่องและ
ความน่มุ นวลต่อผู้อ่าน งดเวน้ การใชถ้ ้อยคาทเ่ี ป็นการกล่าวรา้ ย การเสยี ดสี การตาหนิ ควรใช้เหตุผลที่ดจี ะทาใหผ้ รู้ ับ
จดหมายเข้าใจ
ตวั อยา่ ง

ในกรณีทวงหนี้ แทนท่ีจะเขียนว่า “ท่านทาความเสียหายแก่บริษัทมากท่ีไม่ส่งเงินตามกาหนด” ควรเขียนว่า
“ทา่ นไดล้ ะเลยการส่งเงนิ ประจางวดที่ ... มาเป็นเวลากวา่ สปั ดาหแ์ ลว้ บรษิ ัทจงึ จาเปน็ ต้องเตือนท่าน...”

๕. แนบเนียน คือ การรู้จักพูดจาหรือทาส่ิงที่ถูกที่ควร ในเวลาท่ีถูกที่ควรกับบุคคลที่เหมาะสมหรือเรียกอีก
อย่างหน่ึงว่า เป็นผู้รู้จักกาลเทศะ รู้ว่าอะไรควรทาอะไรไม่ควรทา เช่น ถ้าท่านต้องการขายรถยนต์ให้แก่ลูกค้า ท่าน
ต้องทราบว่าคนหนุ่มสาวจะซ้ือรถยนต์เพราะความเร็วและรปู ทรงของรถน้ัน ในขณะท่คี นสูงอายจุ ะซ้อื รถยนต์เพราะ
ความปลอดภัยของรถ ดังนั้นวิธีการที่จะช้ีชวนให้ผู้อ่านซื้อสินค้าแต่ละชนิด ท่านจะต้องทราบลักษณะความต้องการ
และรสนยิ มของลกู ค้าแตล่ ะรายดว้ ย

๖. ระลึกถึงผู้อ่าน คือ การให้ความสาคัญแก่ผู้รับจดหมาย พยายามเขียนโดยคานึงถึงความรู้สึกของคนอ่าน
ให้มากท่ีสุด โดยเวลาท่ีเขียนสมมติตนเองว่าเป็นผู้อ่าน เพื่อลองหาวิธีปรับปรุงข้อความให้น่าสนใจสาหรับผู้อ่านมาก
ย่ิงขนึ้ หรือหากมขี ้อความใดก่อใหเ้ กิดความรู้สกึ ไม่ดี ควรแกไ้ ขขอ้ ความนั้น เชน่ การใชส้ รรพนามบุรษุ ที่หนงึ่ เช่น ผม
เรา ของผม ของเรา มากเกินไปจะทาให้ผู้รับรู้สึกว่าเรามิได้ยกย่องหรือไม่เห็นความสาคัญของเขาเลย เวลาเขียน
จดหมายควรใชค้ าแทนตัวผรู้ ับวา่ “ท่าน” และแทนผูเ้ ขยี นวา่ “บรษิ ัท”

๓. ตัวอยา่ งจดหมายธุรกจิ ประเภทต่างๆ
๑. จดหมายเสนอขายสนิ ค้าและบรกิ าร

บริษทั วสิ ุธาภณั ฑ์ จากัด

๕๔/๑๒ ซอยออ่ นนชุ กรุงเทพฯ ๑๐๒๖๐

๑๐ มนี าคม ๒๕๕๙

เรื่อง ขอเสนอขายสินค้า

เรียน คณุ มาลี จิตรเกษม

จนถึงปจั จบุ นั น้ี การทค่ี รอบครัวทม่ี ีบ้านอยใู่ นกรุงแล้ว อยากจะใครไ่ ดบ้ า้ นพักตากอากาศอย่ทู ่ชี ายทะเล ดู

จะเป็นเรอ่ื งลาบากทแี่ ต่ละทา่ นจะไปเท่ยี วจัดหา และทพ่ี อมีอยู่บ้างก็จะเป็นประเภทห้องชดุ บนอาคารสงู แหงน

คอตั้งบ่า ซึ่งเป็นส่ิงท่ไี มส่ บอธั ยาศยั ของคนไทยเรากนั เอง

ดว้ ยความคิดที่อยากจะใหท้ ่านท่ตี ้ังความหวังอยากจะได้ท่พี ักตากอากาศในแบบทท่ี ่านเองเป็นเจ้าของ บริษัทฯ

ได้ดาเนินการจัดหาท่ีดินท้ังผืนขนาด ๔๐ ไร่ ติดชายทะเลย่านท่ีมีบรรยากาศเดียวกันกับหัวหิน แต่อยู่ท่ีชายฝั่งทะเล

อาเภอเมอื ง จังหวดั ระยองแถบเดียวกบั วงั แกว้

บริษัทฯ ได้เลือกทีมงานผู้ดาเนินการและสถาปนิกท่ีมีช่ือมาออกแบบโครงการ โดยต้ังแนวความคิดในการจัด

บ้านพักตากอากาศแบบที่ท่านเป็นเจ้าของทั้งบ้านและท่ีดิน ด้วยคาขวัญที่ว่า “เมื่อท่านเบื่อสวนในบ้านนกกลางกรุง

ของทา่ น ก็ขับรถมาอยู่บา้ นในสวนของท่านทช่ี ายหาดระยอง”

เราต้ังช่ือสถานท่ีตากอากาศแห่งน้ีว่า “โอเชี่ยนไซด์เพลส” (Oceanside Place) บ้านตากอากาศท่ีมี

บรกิ ารทกุ อยา่ งครบครัน รวมทงั้ ความงดงามของตัวบ้านและบริเวณทม่ี คี วามเป็นส่วนตัว และความสงบปลอดภยั

หากท่านเคยคิดท่ีจะทาอะไรให้เป็นรางวัลกับทุกคนที่อยู่ในครอบครัวของท่าน ได้เป็นเจ้าของบ้านพัก

ตากอากาศท่จี ะเป็นเสมือนบา้ นหลงั ทส่ี องของทา่ น “โอเชี่ยนไซด์เพลส” (Oceanside Place) จะเปน็ การตัดสินใจที่

ทาให้ทกุ คนในครอบครวั ท่านมีความสุขและยินดี

หากท่านสนใจและเห็นด้วยกับทาเลนั้น เราได้จัดแบบบ้านไว้ให้ท่านเลือกแล้ว โปรดติด ต่อท่ี บริษัท

วสิ ธุ าภัณฑ์ จากดั สานกั งานเลขที่ ๕๔/๑๒ ถนนออ่ นนุช พระโขนง กรุงเทพฯ โทร. ๐-๒๓๒๑-๒๖๖๗ และ ๐-

๒๓๒๑-๕๘๙๗

ขอแสดงความนบั ถอื

ณรงค์ ศรียะราช
(นายณรงค์ ศรียะราช)

กรรมการรองผู้จดั การฝ่ายการตลาด
โทร. ๐-๒๓๒๑-๒๖๖๗, ๐-๒๓๒๑-๕๘๙๗

หลักการเขียนจดหมายเสนอขายสนิ คา้ และบริการ มีดังน้ี
๑. เรยี กรอ้ งความสนใจด้วยการเสนอคณุ สมบตั ิ และประโยชน์อันเปน็ ลักษณะเดน่ ของสนิ ค้า
๒. ก่อให้เกดิ ความพอใจและต้องการซอ้ื โดยบอกรายละเอียดเก่ยี วกบั สนิ ค้านั้น ๆ ให้กระจ่างแจง้
๓. จงู ใจใหล้ ูกค้าตัดสินใจซ้ือ โดยใชค้ าพูดเร่งเร้า พร้อมท้ังเสนอทางเลือกท่นี า่ สนใจไว้ด้วย
๒. จดหมายสอบถาม

๖๗๐ / ๘๑ ซอย ๖๘ ถนนจรญั สนิทวงศ์
บางพลดั บางกอกนอ้ ย กทม. ๑๐๗๐๐
๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๙
เรอ่ื ง ขอทราบรายละเอียดเก่ียวกับบรกิ ารท่องเทย่ี ว
เรียน ผจู้ ดั การบริษทั สยามการท่องเท่ยี ว จากดั
ผมไดท้ ราบจากโฆษณาในหนังสือพิมพบ์ ้านเมอื ง ฉบบั ประจาวันท่ี ๔ มิถนุ ายน ๒๕๕๙ เก่ียวกับการบริการ
ท่องเที่ยวของท่านและสนใจในการนาเท่ียวภาคใต้ จึงใคร่ขอให้ท่านส่งรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเท่ียว
การเดนิ ทาง คา่ บริการ ตลอดจนเอกสารคมู่ ือการท่องเท่ียวภาคใต้ เพอ่ื เป็นแนวทางในการพจิ ารณาตัดสินใจ
หากท่านจะจัดส่งรายละเอียดดังกล่าวแล้วไปใหผ้ มได้รับทราบโดยเร็ว กจ็ กั ขอบคณุ ยิง่

ขอแสดงความนับถือ
ยงยทุ ธ ภมู นิ ทร์

(นายยงยุทธ ภมู นิ ทร์)

หลักการเขียนจดหมายสอบถาม มีดังน้ี
๑. ควรแจง้ ถึงแหลง่ โฆษณาท่ีทาให้ทราบชอ่ื สนิ คา้ หรอื บริการทส่ี นใจ และวตั ถปุ ระสงค์ท่ีเขียนจดหมาย
๒. แจ้งข้อมูลท่ผี ้เู ขียนตอ้ งการจะรบั ทราบเก่ยี วกบั สนิ ค้าหรือบรกิ ารน้ัน ๆ
๓. สรุปปิดท้ายจดหมายอย่างสุภาพ เพ่ือให้ได้รับความร่วมมืออันดีจากบริษัทห้างร้านท่ีเขียนจดหมาย

ไปถงึ

๓. จดหมายแบบสอบถาม

บรษิ ทั สยามการท่องเทีย่ ว จากดั
๘๖ ถนนพระราม ๔ สามยา่ น
กรงุ เทพฯ ๑๐๕๐๐

๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๙
เรื่อง ขอเสนอรายละเอียดบริการนาเท่ยี วภาคใต้
เรยี น คุณยงยทุ ธ ภมู นิ ทร์
สิง่ ทส่ี ่งมาด้วย ๑. รายละเอยี ดกาหนดการเดินทางท่องเที่ยวประจาเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙

๒. สมุดภาพรวมสถานท่ีทอ่ งเทย่ี ว
บริษัทได้รับจดหมายของท่านลงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๙ สอบถามเร่ืองการนาเที่ยวภาคใต้ บริษัท
ต้องขอขอบคุณท่านที่สนใจบริการของเรา และยินดีจะเรียนให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามท่ีท่าน
ต้องการ
อน่ึง ท่านจะไดท้ ราบข้อมูลเกยี่ วกับสถานท่ที อ่ งเท่ียว และกาหนดการเดินทางจากเอกสารและสมดุ ภาพ
ทีเ่ ราได้สง่ มาดว้ ยแลว้
ขอรับรองว่าท่านจะได้รับความสุข ความเพลิดเพลิน และประทับใจกับบริการท่ีเอาใจใส่ เป็นกันเอง
เน่ืองจากเราได้จัดบริการด้านนี้มานานนับสิบปี จึงมีประสบการณ์ท้ังด้านการจัดบริการท่ีจะอานวยความ
สะดวก การนาสู่แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตลอดจนพนักงานที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีทั้งด้านความรู้และ
มารยาท
ถ้าท่านสนใจ กรุณาติดต่อสอบถามหรือจองการเดินทางได้ที่สานักงานของบริษัท เลขที่ ๘๖ ถนน
พระราม ๔ หรอื โทรศัพท์ ๐-๒๒๑๑-๒๕๓๔ พนกั งานของเรารอตอ้ นรบั ทา่ นอยู่

ขอแสดงความนบั ถือ

ยวุ ดี เจริญศรี
(นางยุวดี เจริญศรี)
หัวหนา้ ฝ่ายประชาสมั พันธ์

หลกั การเขียนจดหมายตอบแบบสอบถาม มีดังน้ี
๑. เท้าความถงึ จดหมายทไ่ี ดร้ ับ พรอ้ มท้ังขอบคุณที่ให้ความสนใจ
๒. อธิบายรายละเอียดทสี่ อบถามมา และประชาสมั พนั ธ์เชญิ ชวนใหซ้ ื้อสนิ ค้าหรอื เลือกใชบ้ รกิ ารนน้ั
๓. ท้ายจดหมายเขยี นเน้นความประสงค์ของตนทจี่ ะได้ให้บริการในโอกาสต่อไป

๔. จดหมายสั่งซ้ือสนิ คา้

บริษทั วชิ ัยอเิ ลคทรคิ จากัด

๑๑๕ / ๓ ถนนสุรวงศ์

บางรัก กรงุ เทพฯ ๑๐๕๐๐

๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๙

เร่ือง ขอสง่ั ซ้ือสนิ คา้

เรยี น ผจู้ ัดการบรษิ ทั แสงชัยการไฟฟา้ จากัด

บริษัทได้รบั จดหมายเสนอราคาผลติ ภัณฑ์เคร่อื งไฟฟ้าของทา่ นแล้ว ด้วยความขอบคณุ จงึ ขอสั่งซือ้ สนิ ค้าตามรายการ

ต่อไปน้ี

จานวน ๓ เครอ่ื ง SN ๗๒๑ เคร่ืองซักผ้าซนั โย เครื่องละ ๗,๐๐๐ บาท เปน็ เงิน ๒๑,๐๐๐ บาท

จานวน ๔ เครอ่ื ง SW๘๘๐ เคร่อื งซกั ผ้าซันโย เครอ่ื งละ ๙,๐๐๐ บาท เปน็ เงิน ๓๖,๐๐๐ บาท

จานวน ๕ เครอ่ื ง CFA ๒๐ นิ้ว เครอื่ งรับโทรทศั น์สซี นั โย เครอ่ื งละ ๑๒,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท

จานวน ๕ เครื่อง FVH เคร่อื งเลน่ เทปโทรทัศน์ (วดิ โี อ) เคร่อื งละ ๑๑,๐๐๐ บาท เปน็ เงนิ ๕๕,๐๐๐ บาท

รวมเป็นเงินทงั้ สิน้ ๑๗๒,๐๐๐ บาท (หนงึ่ แสนเจ็ดหม่นื สองพันบาท)

โดยขอให้ทางบริษัทแสงชัยการไฟฟ้า นาสินค้ามาจัดส่งในวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ ท่ีบริษัทแสงชัยอิเล็กทริค
โดยทางบรษิ ัทจะจา่ ยเงนิ โดยเช็กเงินสดในวันทีไ่ ด้รับสินค้า

ขอแสดงความนับถือ

กาธร เมตตาธรรม
(นายกาธร เมตตาธรรม)

ผจู้ ดั การฝ่ายจดั ซ้อื

หลกั การเขียนจดหมายสง่ั ซ้ือสินค้า มดี งั น้ี
๑. อาจเริม่ ต้นจดหมายดว้ ยเหตุที่สง่ั ซ้ือสินค้า และตามดว้ ยวัตถุประสงค์ทขี่ ึ้นต้นวา่ “จึงขอส่ังซื้อสินค้า
ตามรายการต่อไปนี้
๒. แจ้งข้อมลู รายละเอียดเกีย่ วกบั สินค้าทส่ี ง่ั ซื้อ
๓. บอกกาหนดวนั ทจี่ ะให้สง่ สินค้า วิธีการชาระเงิน
๔. จบจดหมายด้วยข้อความที่แสดงความเป็นมิตรสั้น ๆ เช่น “หวังว่าคงจะได้รับสินค้าตามที่กาหนด
ขอขอบคณุ ”
๕. จดหมายเตือนหรือทวงหน้ี

บริษัท ไทยยนู คิ จากัด

๑๕๙ - ๑๖๑ ถนนตะนาว กรุงเทพมหานคร

โทร. ๐-๒๒๑๗-๗๕๑๑

๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

เรือ่ ง ขอแจ้งยอดเงินคา้ งชาระ

เรยี น ผ้จู ัดการบรษิ ทั ไมตรีจิต จากัด

สิ่งที่สง่ มาดว้ ย ๑. ใบแจง้ หนี้ ๑ ฉบับ

๒. ใบรบั รอง ๑ ฉบบั

บริษทั ขอเรียนว่า ทา่ นยังมยี อดค้างขาระซงึ่ ครบกาหนดเมื่อวนั ที่ ๑๐ กุมภาพนั ธ์ ศกน้ี เปน็ จานวนเงิน

๙,๘๐๐ บาท (เก้าพนั แปดร้อยบาทถว้ น)

โปรดตรวจสอบบัญชที ่ีไดแ้ นบมาดังน้ี หากรายการใดคลาดเคลื่อนกรุณาติดต่อโดยตรงกับบริษัทแต่หาก

ถูกต้องแล้ว โปรดลงลายมือช่ือในใบรับรองท่ีแนบมานี้ แล้วส่งคืนไปยังบริษัทภายใน ๗ วัน นับแต่วันท่ีได้รับ

หนงั สอื น้ี มฉิ ะน้ันบริษทั จะถอื ว่ายอดเงินดังกล่าวถูกต้อง

ขอแสดงความนบั ถือ

ประเสริฐ ศิริอดุ มฤกษ์
(นายประเสรฐิ ศิริอดุ มฤกษ)์

ผู้จดั การฝ่ายเครดติ

ตวั อยา่ งแบบฟอร์มใบแจง้ หน้ีท่แี นบไปพร้อมกบั จดหมาย

เล่มที.่ ................................................ เลขท่.ี ........................................................

ใบแจ้งหนี้

บรษิ ทั ไทยยนู ิค จากดั THAI UNIQUE CO., LTD.

๑๕๙ - ๑๖๑ ถนนตะนาว กรุงเทพมหานคร 159 - 161 Tanao Road, Bangkok

โทร. ๐-๒๒๑๗-๗๕๑๑ โทรเลขยอ่ “ยูเนก๊ กรงุ เทพฯ” Tel. 0-2217-7511 Cable

“UNEXทะเบยี นการค้า ๑๐ ๔๗ ๖๘๕๓ BANGKOK”

วันท.ี่ ......................../........................./....................

นามผู้ซือ้ ใบส่ังเลขท่ี

Sold to …………………………………………………… Order No. ……………………………………………………..

…………………………………………………… ทะเบยี นการคา้ ของผูซ้ ื้อ...........................................

ตัวอยา่ งใบรับรองท่ีให้ลกู หนลี้ งช่ือรับทราบ

ถงึ ผ้จู ัดการบรษิ ัท ...........................................
ข้าพเจ้าขอรับรองว่า เมื่อวันที่ ....................................... บัญชีเงินเช่ือของข้าพเจ้าในบริษัท

ของท่านแสดงว่าขา้ พเจา้ เปน็ ลูกหน้บี ริษทั .......................................................จานวนเงิน........................ ..บาท
(...............................................................................บาทถ้วน) เปน็ การถูกต้อง

ขอแสดงความนบั ถอื

หลักการเขยี นจดหมายเตือนหรอื ทวงหน้ี มดี ังนี้
๑. แจง้ ยืนยันการเป็นหนีแ้ ละกาหนดวธิ กี ารชาระเงนิ ให้ลูกหน้ีได้ปฏิบัติ
๒. ย้าให้ชาระเงินหรือปฏิบัติตามท่ีเจ้าหน้าท่ีแนะนา ถ้าเป็นการทวงหนี้ฉบับสุดทา้ ย จะมีข้อความแจ้งว่า
“จะดาเนินการตามกฎหมาย”

๖. จดหมายขอเปิดเครดิต

รา้ นทักษิณา
๑๐๕ ถนนในเมือง อาเภอหาดใหญ่

สงขลา โทร. ๐๒๕๒๔๘๔-๙

๑๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๙

เรอ่ื ง ขอเปิดเครดิต

เรยี น ผจู้ ดั การฝ่ายเครดติ บรษิ ัท สหสามคั คี จากดั

ด้วยผมทราบว่า บริษัทของท่านให้เครดิตแก่ลูกค้าทั้งขายปลีกและขายส่ง ร้านของผมเป็นร้าน

ขายปลีกและขายส่งในเขต ๔ จังหวัดภาคใต้ คือ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีลูกค้าจานวนมาก

สินค้าที่ส่งไปแต่ละครั้งจึงไม่พอจาหน่าย ท้ังน้ีเพราะมีทุนหมุนเวียนจากัด จึงเรียนมาเพื่อขอเปิดบัญชีเงินเช่ือ

จากทา่ นในวงเงนิ ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หน่งึ แสนบาทถว้ น)

เพื่อความมั่นใจในการพิจารณาให้เครดิต โปรดสอบถามรายละเอียดช่ือเสียงของร้านและฐานะ

ทางเครดติ ของผมไดจ้ าก บริษัท ศรีวัฒนา จากัด ๕๓๙/๒ ถนน ศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร โทร. ๐-

๒๒๕๒-๖๔๓๔

หวังเปน็ อยา่ งย่ิงวา่ คงได้รับการพิจารณาจากท่านและโปรดแจ้งให้ทราบโดยเร็ว จะขอบคุณย่ิง

ขอแสดงความนับถือ

ศกั ดิ์ชาย มโนมยั อดุ ม
(นายศกั ดช์ิ าย มโนมยั อดุ ม)

เจ้าของรา้ นทักษณิ า

หลักการเขียนจดหมายขอเปิดเครดิต มีดงั น้ี

๑. แจง้ ความประสงค์ทจี่ ะซื้อสินค้าประเภทใดไปจาหนา่ ยหรือบริโภคด้วยการขอเปดิ บัญชีเงินเชอื่
๒. บอกข้อมูลส่วนตัวอันจาเป็นต่อการท่ีบรษิ ทั จะพิจารณาให้เปดิ เครดิตได้หรอื ไม่ ได้แก่ การแนะนา
ตนเอง แจง้ ประวตั ิ ทอ่ี ยู่ อาชีพ รายได้ ผคู้ า้ ประกนั รายชื่อบริษัททเ่ี คยได้รบั เครดิตมาแลว้ สรุปโดยเขยี นแสดง
ความหวงั วา่ จะได้รับคาตอบตกลงโดยเรว็

๗. จดหมายใหเ้ ครดติ

บรษิ ัท สหสามคั คี จากัด
๓๕๔ ถนน บารงุ เมือง เขตปอ้ มปราบศตั รูพา่ ย
กรงุ เทพฯ ๑๐๑๐๐ โทร. ๐-๒๒๒๖-๐๐๗๔-๖

๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
เรื่อง การขอเปิดเครดติ
เรยี น เจา้ ของรา้ นทกั ษิณา

จดหมายของท่านลงวันท่ี ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ขอเปิดเครดิตกับบริษัทน้ัน บริษัทยินดี
เรียนให้ทราบว่า ได้พิจารณาให้ท่านเปิดบัญชีตามที่ท่านเสนอ โดยมีเง่ือนไขว่าบริษัทจะส่งบิลเก็บเงินมา
ทุกวันที่ ๑ ของเดือน และขอให้ท่านชาระให้เสร็จสิ้นภายใน ๑๐ วัน ถ้าท่านชาระภายใน ๓ วันนับแต่วันที่
ปรากฏบลิ ทา่ นจะได้ส่วนลด ๑๐ %

พร้อมกันน้ีบริษัทได้ส่งแคตตาล็อกสินค้ารุ่นล่าสุด และเอกสารเกี่ยวกับสินค้าฉบับประจาเดือนนี้
มาด้วยแล้ว โปรดม่ันใจว่าเม่ือท่านได้เป็นตัวแทนจาหน่ายสินค้าของเราแล้ว ท่านจะได้รับบริการที่ดีจากเรา
เสมอ

หวังวา่ จะไดร้ ับการส่งั ซ้ืองวดต่อไปจากทา่ นในไมช่ า้ น้ี

ขอแสดงความนบั ถือ
พิเศษ ลกั ษณะพิสิฐ
(นายพเิ ศษ ลักษณะพสิ ิฐ)
ผู้จดั การฝา่ ยเครดิต

หลกั การเขยี นจดหมายปฏเิ สธการใหเ้ ครดติ มดี ังนี้
๑. แจ้งให้ทราบว่ายอมให้เปิดบัญชีเงินเช่อื (หรือสนิ เชื่อ)
๒. อธบิ ายเครดติ เป็นข้อความที่แสดงถงึ เง่ือนไขหรอื รายละเอียดต่างๆ ให้ลกู ค้าไดร้ ับทราบ
๓. ข้อความส่งเสริมการขาย เป็นการแทรกข้อความโฆษณาสนิ ค้าหรือบริการของบรษิ ัท เพ่ือจูงใจให้
ลูกค้าส่ังซ้ืออีก
๔. เขียนขอบคุณทีล่ ูกค้าไดส้ ่งั ซ้ือสินคา้ และหวังท่ีจะได้บริการอีกในโอกาสตอ่ ไป

๘. จดหมายปฏเิ สธการใหเ้ ครดติ

บรษิ ัท สหสามคั คี จากดั
๓๕๔ ถนน บารงุ เมอื ง เขตปอ้ มปราบศัตรูพ่าย
กรงุ เทพฯ ๑๐๑๐๐ โทร. ๐-๒๒๒๖-๐๐๗๔-๖

๑๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๙
เรื่อง แจ้งผลพจิ ารณาการขอเปิดเครดติ
เรียน เจา้ ของรา้ นทกั ษณิ า

ตามท่ีท่านได้ติดต่อขอเปิดเครดิตเพ่ือซื้อสินค้าจากบริษัทไปจาหน่ายในบริษัทของท่าน ตาม
จดหมายลงวันท่ี ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ น้นั บริษทั ขอขอบคณุ เปน็ อย่างยิง่

ขอเรียนให้ทราบว่า รายละเอียดที่เราได้จากท่านน้ันยังไม่สมบูรณ์ในการพิจารณา และขาด
ความหนักแน่นท่ีเราจะพิจารณาเปิดบัญชีเงินเช่ือให้แก่ท่านได้ในขณะน้ี จึงใคร่ขอเวลาสักระยะหน่ึงแล้วเรา
อาจจะแจ้งข่าวดีให้ท่านได้ทราบในโอกาสต่อไป หากท่านยังสนใจที่จะเป็นตัวแทนจาหน่ายสินค้าของเรา
ในขณะท่ีเรายังไม่อาจเปิดบัญชีให้ได้ บริษัทมีข้อเสนอต่อ ท่านท่ียังไม่เคยให้แก่ลูกค้ารายใดมาก่อน คือ
เรายินดีลดพิเศษให้ ๒๕ % สาหรบั การส่งั ซอื้ ดว้ ยเงนิ สด

ขอขอบคณุ อีกครั้งหน่ึงที่ท่านให้ความสนใจสนิ ค้าของเรา และบริษทั ม่นั ใจวา่ จะเปิดบัญชีให้แก่ท่าน
ได้ในไมช่ า้

ขอแสดงความนบั ถือ
พิเศษ ลกั ษณะพิสิฐ
(นายพิเศษ ลักษณะพิสฐิ )
ผู้จดั การฝ่ายเครดิต

หลกั การเขยี นจดหมายปฏเิ สธการให้เครดิต มีดงั นี้
๑. เท้าความการขอเปดิ บัญชีเครดติ ของลูกค้า ขอบคุณทีล่ ูกค้าใหค้ วามสนใจ
๒. อธิบายสาเหตุที่จาเป็นต้องปฏิเสธ ต้องเขียนอย่างสุภาพและให้เหตุผลที่ผู้ขอเปิดบัญชีเครดิต

ยอมรบั

๓. เสนอแนะวิธีปฏิบัติอย่างอ่ืนที่จะทาให้ลูกค้าซื้อสินค้า ผู้เขียนต้องเสนอเงื่อนไขบางประการเพื่อ
เป็นการจูงใจลูกคา้ ให้ซ้ือสินค้า เชน่ ขอให้ซ้ือเงินสดไประยะหนง่ึ กอ่ น ใหส้ ่วนลด เปน็ ต้นเขียนสรุปเพอื่ ยนื ยันให้
ลูกค้าตระหนักว่า บริษัทมิได้ตัดรอนการขอเปิดเครดิตของลูกค้าเสียทีเดียว ลูกค้ายังคงมีโอกาสท่ีจะได้รับการ
พจิ ารณาอกี คร้ังต่อไป
๙. จดหมายสมัครงาน

๘๐ ซอย ๕๗ ถนนจรญั สนิทวงศ์
บางพลดั กทม. ๑๐๒๐๐

๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๕๙
เรอื่ ง ขอสมคั รงานในตาแหน่งพนักงานขาย
เรยี น ผจู้ ดั การแผนกผลติ ภัณฑ์ บริษัท ไทยอุตสาหกรรม จากัด

ผมได้อ่านประกาศรับสมคั รพนกั งานขายของบริษัทท่านจากหนังสือพมิ พเ์ ดลินิวส์ ฉบับประจาวันท่ี
๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ และประสงค์ที่จะเรียนรายละเอียดคุณสมบัติของผมเพ่ือการพิจารณารับบรรจุใน
ตาแหน่งดงั กลา่ ว

ผมอายุ ๒๕ ปี สาเร็จการศึกษาแผนกการขายจากวิทยาเขตพาณิชยการพระนคร ปีการศึกษา
๒๕๕๖ สาหรบั ประสบการณใ์ นงานการขายของผมมดี งั นี้

๑. ขณะศึกษาในวิทยาเขต ผมได้ฝึกงานการขายในร้านสหกรณ์วิทยาลัยตลอดปีการศึกษา ๒๕๕๔
และในเดอื นธันวาคม ๒๕๕๕ ฝึกงานทบ่ี ริษัท ไทยไดมารู จากัด

๒. เมอ่ื สาเรจ็ การศึกษาแล้ว ผมไดท้ างานในตาแหนง่ พนักงานขายจกั รยานยนต์ ของบริษัทกรุงเทพ
การค้า จากัด เป็นเวลาประมาณ ๒ ปี

หากท่านประสงค์ท่ีจะได้หลักฐานการศึกษาโปรดติดต่อสอบถามได้ท่ีวิทยาเขตพ าณิชยการ
พระนคร ๘๖ ถนน พิษณุโลก ดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๘๑-๐๐๐๑ และที่คุณสุนทร วิชัยกุล
ผู้จัดการบริษัท กรุงเทพการค้า จากัด เลขท่ี ๘๙-๙๑ ถนนสีลม กรุงเทพฯ ๑๐๕๐๐ ซ่ึงคงจะยินดีให้คาตอบ
เก่ียวกับการทางานของผม

ผมหวังอย่างยิ่งว่า ใบสมัครของผมคงจะได้รับการพิจารณาด้วยดี และพร้อมท่ีจะมาเรียนชี้แจง
เพม่ิ เตมิ เก่ยี วกับคุณสมบัตสิ ว่ นตัวของผมหากทางบริษัทต้องการ

ขอแสดงความนับถือ

สเุ มธ ประเสริฐนนั ต์
(นายสุเมธ ประเสริฐนันต์)

หลักการเขียนจดหมายสมัครงาน มดี ังน้ี
๑ บอกถึงแหล่งข่าวท่ไี ด้รบั ทราบมา
๒. บอกรายละเอียดส่วนตัว เช่น อายุ สุขภาพ สภาวะทางกฎหมาย ประวัติการศึกษาโดยย่อ อ้างถึง

ตั้งแต่ระดับมัธยม วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย รวมทั้งกจิ กรรมนอกหลักสตู ร เน้นความดีในการศึกษาและบอก
ความสามารถพเิ ศษ

๓. ประสบการณใ์ นการทางาน บรษิ ัทมักจะรับผู้ทเี่ คยผ่านงานมาแลว้ จะได้สะดวกในการปฏิบัติหน้าท่ี
แต่ถ้าเพิ่งจบการศึกษาไม่เคยมีประสบการณ์ ก็อาจพูดถงึ การเข้าร่วมกลุ่มทางานกิจกรรมในขณะท่ีกาลังศึกษา
อยู่ต้องพยายามช้ใี ห้เห็นวา่ ประสบการณ์จากการทางานกจิ กรรมนน้ั อาจเปน็ ผลดตี ่องานทีจ่ ะทาตอ่ ไป

๔. อ้างถึงผู้รับรองเพอื่ เปน็ หลักประกนั ต่อนายจา้ ง

เคร่ืองมอื วัดผล
๑. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ( ดทู า้ ยหนว่ ย )
๒. แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม ( ดูท้ายหน่วย )
๓. แบบประเมินผลการเขียนยอ่ ความ ( ดทู ้ายหน่วย )
๔. แบบทดสอบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนหลังเรยี น

๑๔. เฉลยกจิ กรรมและแบบทดสอบ
กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ

กจิ กรรม
ก. แนวคาตอบ
จดหมายธุรกิจ คือ จดหมายท่ีมีไปมาระหว่างห้างร้าน และบริษัทต่างๆ กับเอกชน หรือระหว่าง

เอกชนกบั บรษิ ทั ห้างรา้ นต่างๆ ในเรือ่ งธรุ กจิ สว่ นตวั และธุรกจิ การค้า ใชภ้ าษาเปน็ ทางการ กระชบั รัดกมุ
สว่ น จดหมายกิจธรุ ะ คือ จดหมายสว่ นตัวท่มี ถี ึงกนั ระหวา่ งญาติสนทิ มิตรสหาย และบุคคลทร่ี ้จู ัก

คุ้นเคย เพื่อส่งขา่ วคราว ไตถ่ ามทุกข์สุขส่วนตวั หรือแจ้งธรุ ะเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ที่ไม่เป็นทางการ ไม่เครง่ ครัดในเร่ือง
สานวนภาษา

ข. แล้วแต่ดุลยพนิ จิ ของอาจารยผ์ สู้ อน

แบบทดสอบก่อนเรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ จดหมายกิจธรุ ะ

เลือกคาตอบที่ถกู ต้องท่ีสดุ เพียงคาตอบเดียว

๑. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะของจดหมายธรุ กิจ

๔. บริษัทวีรวัฒน์สง่ จดหมายไปยังหา้ งสรรพสนิ คา้ ชน้ั นาตา่ งๆ เพ่อื เสนอขายผลิตภณั ฑใ์ หม่
๕. ธนาคารกสิกรมจี ดหมายถงึ รา้ นศรสี ิทธแิ์ จง้ ปัญหาเร่ืองการเงนิ
๖. ชลลดาเขียนจดหมายชวนชาดาไปงานเล้ยี งสงั สรรค์รุ่น
๗. จดหมายเขียนติดตอ่ ในเรื่องพาณชิ ยแ์ ละการเงนิ ระหว่างบรษิ ทั
๒ ข้อใดแสดงว่าผู้เขยี นขาดมารยาทในการเขยี นจดหมายมากทสี่ ุด

๕. ไมเ่ ขียนที่อยู่ของผู้สง่ และผู้รับใหช้ ัดเจน
๖. ใช้กระดาษเขยี นจดหมายและซองจดหมายสีตา่ งกัน
๗. ไม่ติดดวงตราไปรษณยี ากร
๘. เขยี นช่ือ นามสกุล ตาแหน่งของผู้รับไมถ่ กู ต้อง
๓. ถา้ นักเรยี นจะเขียนจดหมายสมคั รงาน ควรเรยี งลาดับเน้ือความตามขอ้ ใดจึงจะถูกต้อง

๕. ดิฉันจบการศกึ ษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั

๖. ดฉิ นั สามารถพิมพ์ดีดทัง้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษได้คล่องแคล่ว อีกท้ังมีความรพู้ น้ื ฐานเกีย่ วกบั

คอมพิวเตอร์

๗. ดิฉันขอสมคั รเขา้ ทางานในตาแหน่งเลขานุการ อตั ราเงินเดอื นข้ันตน้ ๑๕,๐๐๐ บาท

๘. ดิฉนั ไดอ้ า่ นพบแจ้งความของทา่ นในหนังสือพิมพ์ไทยเดย์ ฉบบั ประจาวนั ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙

๙. ดิฉันเคยฝกึ งานดา้ นเลขานกุ ารกับหา้ งหุ้นส่วนจากดั ศกนุ ตลา เป็นเวลา ๒ เดอื น

๑๐. ดิฉันไดแ้ นบหนงั สอื รบั รองพรอ้ มท้งั ใบรับรองแพทย์มาดว้ ย

๑๑. หวังเปน็ อย่างยง่ิ ที่จะไดร้ ับความกรณุ าจากท่าน

๑. ๔ ๓ ๒ ๑ ๕ ๖ ๗ ๒. ๔ ๑ ๓ ๒ ๖ ๕ ๗

๓. ๔ ๕ ๑ ๒ ๓ ๖ ๗ ๔. ๔ ๑ ๒ ๕ ๓ ๖ ๗

๔. การเขียนจดหมายใหม้ ปี ระสิทธผิ ลสิ่งท่คี วรคานึงถงึ เป็นสาคญั ท่สี ุดคืออะไร

๑. ถอ้ ยคากะทัดรดั ไดใ้ จความ

๒. ใช้ภาษางา่ ยๆ ส่อื ความหมายชัดแจ้ง

๓. สามารถทาความเข้าใจไดต้ ามความประสงค์

๔. เขยี นถูกต้องตามรูปแบบ ลายมอื สวยงาม

๕. ข้อความส่วนทีส่ าคญั ที่สุดในการเขียนจดหมายสั่งซ้ือสินคา้ คือข้อความใด

๑. สว่ นท่เี ป็นการแสดงไมตรีจติ ระหวา่ งลูกคา้ กบั บริษัท

๒. สว่ นท่ีบอกกาหนดวันทจี่ ะใหส้ ง่ สนิ ค้า

๓. สว่ นท่แี จง้ ขอ้ มลู รายละเอียดเกยี่ วกบั สนิ ค้าที่สง่ั ซอื้

๔. ส่วนทีแ่ จง้ วิธีการชาระเงนิ

๖. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง

๑. ในการเขียนจดหมายธรุ กจิ ถ้าสนทิ สนมกันมากอาจใชช้ อ่ื เลน่ แทนคาสรรพนาม

๒. ในการเขียนจดหมายสมัครงาน ควรเขียนดว้ ยลายมอื ให้สวยงาม ไมต่ ้องพิมพ์

๓. การใชภ้ าษาในจดหมายธุรกิจตอ้ งเปน็ ภาษาทเ่ี หมาะสมและสะกดถูกต้อง

๔. จดหมายไมส่ ามารถใช้เปน็ หลกั ฐานทางกฎหมายได้

๗. จดหมายธรุ กิจจะมคี าลงท้ายเป็นสากลวา่ อย่างไร

๑. ดว้ ยความเคารพ

๒. ขอแสดงความเคารพนบั ถอื

๓. ขอแสดงความนับถอื

๔. ด้วยความขอบคุณ

พจิ ำรณำกำรเสนอขำยในข้อ ๘-๙ แล้วตอบว่ำใช้สิง่ ใดในกำรเสนอขำย

๑. เรยี กรอ้ งความสนใจ

๒. กอ่ ให้เกดิ ความพอใจและตอ้ งการ

๓. ให้ความกระจา่ งแจง้

๔. จงู ใจใหเ้ กดิ การกระทา

๘. “รถยนต์รุน่ นส้ี ่ังเขา้ มาเพียง ๓๐๐ คันเท่านน้ั ถ้าท่านตอ้ งการ โปรดรีบมาสงั่ จองมิฉะนัน้ อาจพลาดการเป็น

เจ้าของ”

๑. ข้อ ๑ ๒. ข้อ ๒

๓. ขอ้ ๓ ๔. ข้อ ๔

๙. “ถา้ ท่านมชี ุดโฮมเธยี เตอร์ของ... บ้านของทา่ นจะมแี ต่ความสนกุ สนานรื่นรมย์...”

๑. ขอ้ ๑ ๒. ขอ้ ๒

๓. ข้อ ๓ ๔. ขอ้ ๔

๑๐.ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ กู ตอ้ ง
๑. เครดิต หมายถึง ความเช่ือถือซ่ึงผู้ขายมีต่อผู้ซ้ือว่าจะสามารถชาระค่าสินค้าภายในเวลาที่กาหนด
หลังจากทไี่ ดร้ บั สนิ คา้ ไปแล้ว
๒. การพิจารณาให้เครดิตแก่ลูกค้า นอกจากจะพิจารณาจากบุคลิกลักษณะเป็นสาคัญแล้วยังต้องสืบค้น
ไปถึงความประพฤตสิ ่วนตวั ของลูกคา้ อีกดว้ ย
๓. การขอเปิดบัญชเี งินเชื่อด้วยตนเอง ผู้ประสงค์จะขอเปิดตอ้ งไปกรอกข้อความในแบบฟอร์ม ณ บริษัท
หา้ งร้านทีต่ นประสงคจ์ ะขอเปดิ เครดิต
๔. การส่งใบส่ังซ้ือโดยผู้ขายพิจารณาเองว่า จะเปิดบัญชีเงินเช่ือได้หรือไม่ วิธีน้ีใช้สาหรับผู้ท่ีมีฐานะทาง
เครดิตดีมาก

เฉลย

๑. ตอบขอ้ ๓ เพราะเป็นลักษณะจดหมายสว่ นตัว เรอ่ื งราวทีต่ ดิ ตอ่ เป็นเรือ่ งส่วนตัว
๒. ตอบข้อ ๒ เพราะการเขียนช่ือ นามสกลุ ตาแหนง่ ของผ้รู บั ผิด แสดงถงึ ความไม่ใสใ่ จ
๓. ตอบข้อ ๔
๔. ตอบขอ้ ๓
๕. ตอบขอ้ ๓
๖. ตอบขอ้ ๓
๗. ตอบข้อ ๓
๘. ตอบข้อ ๔ เพราะจูงใจให้เกิดการกระทา โดยเร่งเรา้ ใหผ้ ู้อ่านตัดสินใจซือ้ สนิ ค้า ยา้ ให้ทราบว่าสนิ คา้ มี

จานวนจากดั
๙. ตอบข้อ ๒ เพราะก่อให้เกิดความพอใจและความต้องการ โดยใช้คาบรรยายทางจิตวิทยา บรรยาย

ลกั ษณะของสนิ คา้ จากความร้สู กึ ภายใน
๑๐. ตอบข้อ ๒ เพราะบุคลิกและความประพฤติสว่ นตัวไมใ่ ช่เกณฑต์ ัดสินการพจิ ารณาใหเ้ ครดติ

แบบทดสอบหลังเรยี นผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนประจาหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๖ จดหมายกจิ ธรุ ะ

เลอื กคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสดุ เพยี งคาตอบเดียว

๑. ข้อความสว่ นใดในจดหมายกิจธุระตอ่ ไปน้ีไม่จาเปน็ ต้องกล่าวถงึ

๑) ด้วยชมรมวิทยาศาสตร์จะจัดการแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเนื่องในงานสัปดาห์

วิทยาศาสตร์ ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๑ / ๒) ซ่ึงการแข่งขันโต้วาทีจาเป็นต้องมีคณะกรรมการ

การตัดสินเพ่ือหาผู้ชนะ / ๓) ในการน้ีจึงขอเรียนเชิญทา่ นเป็นกรรมการตดั สินการโต้วาทีรอบชิงชนะเลิศ / ๔)

ในวนั พธุ ท่ี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๔.๓๐ น. ณ ห้องประชุม

๑. ส่วนที่ ๑ ๒. ส่วนท่ี ๒ ๓. สว่ นท่ี ๓ ๔. สว่ นท่ี ๔

๒. ข้อใดเป็นมารยาททด่ี ใี นการเขียนจดหมาย

๑. เลอื กกระดาษและซองใสจ่ ดหมายท่ีสะอาดเรียบร้อย

๒. เขียนตัวหนงั สือให้อา่ นง่าย

๓. ใชค้ าขนึ้ ต้นและคาลงทา้ ยให้ถกู ต้อง

๔. ถูกทุกข้อ

๓ . ขอ้ ความส่วนใดเหมาะจะใช้ในจดหมายกิจธุระ

๑) พรอ้ มกันนีผ้ มขออนุญาตส่งเอกสารเก่ยี วกบั การพฒั นาสินคา้ มาให้ดเู ผ่ือจะเปน็ ประโยชนก์ บั สมาชกิ

๒) ทัง้ นไ้ี ม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องดาเนินการผลติ ตามหลกั การใหมน่ ้จี ึงจะสง่ สินคา้ มาขายได้

๓) รายละเอียดอน่ื ๆ เกี่ยวกบั การพัฒนาสนิ ค้ามีอยูอ่ ีกมากท่ศี ูนย์ฯ ถา้ ท่านจะแวะไปกย็ ินดตี ้อนรบั

๔) หากทา่ นมีข้อขอ้ งใจสามารถตดิ ตอ่ ไดใ้ นเวลาทาการ ตามหมายเลขโทรศัพท์ท้ายจดหมายนี้

๑. ส่วนที่ ๑ ๒. สว่ นที่ ๒ ๓. ส่วนที่ ๓ ๔. สว่ นที่ ๔

๔. ขอ้ ความส่วนใดไม่เหมาะจะใช้ในจดหมายกิจธรุ ะ

๑) บัดนี้ถึงวันกาหนดที่จะต้องยืนยันการเดินทางไปท่องเท่ียวกับบริษัท “เท่ียวทั่วแดน” แล้ว/ ๒)

ขอให้ท่านที่จองล่วงหน้ากับบริษัทชาระเงินค่าเดินทางภายในวันท่ี ๑๐ มกราคม ศกน้ี / ๓) ถ้าท่าน

ไมจ่ ่ายเงินตามเวลาดังกล่าวกแ็ ปลวา่ ทา่ นสละสทิ ธ์ิท่ีเคยจองไว้ก่อนหนา้ น้ี/ ๔) ทางบริษัทจะมอบสิทธ์สิ ว่ นของ

ทา่ นแก่ผจู้ องในรายชอื่ สารองตอ่ ไป

๑. สว่ นที่ ๑ ๒. สว่ นที่ ๒

๓. สว่ นท่ี ๓ ๔. ส่วนท่ี ๔

๕. ข้อใดไมใ่ ช่จดหมายกิจธุระ

๑. จดหมายสงั่ ซ้อื สินคา้ ๒. จดหมายเชิญเปน็ วทิ ยากร

๓. จดหมายแสดงความยินดี ๔. จดหมายนัดสมั ภาษณ์ผู้สมัครงาน

๖. การลงทา้ ยจดหมายกจิ ธรุ ะ ใชค้ าใดจงึ จะเหมาะสมท่ีสดุ

๑. ขอแสดงความนบั ถือ ๒. ด้วยความเคารพอย่างสงู

๓. ดว้ ยรักและเคารพอยา่ งสงู ๔. ขอสง่ ความปรารถนาดีมายังท่าน

๗. จดหมายนม้ี ขี ้อบกพร่องอย่างไร

โรงเรียนป่านแก้ว
ตาบลในเมือง อาเภอเมือง
จังหวัดขอนแกน่ ๔๐๐๐๐
๑๘ มกราคม ๒๕๕๙
เร่อื ง ขอเชิญร่วมงานโรงเรียน
เรียน ผู้ปกครอง เด็กชายมนไท อสิ รานุวฒั น์
เนื่องด้วยทางโรงเรียนป่านแก้ว จะจัดงานโรงเรียน ณ หอประชุมโรงเรียนป่านแก้ว เวลา
๙.๓๐ – ๑๖.๐๐ เพื่อประชาสมั พันธโ์ รงเรียน จึงขอเชญิ ท่านผู้ปกครองมารว่ มงานโรงเรยี น

จงึ เรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ

วีรวฒั น์ วฒั นาสิรกิ ลุ
(นายวีรวฒั น์ วัฒนาสริ กิ ลุ )

ผู้อานวยการโรงเรียนป่านแกว้

๑. ไมม่ สี ่ิงทสี่ ง่ มาดว้ ย ๒. รายละเอยี ดไม่ชดั เจน

๓. ไมบ่ อกจุดประสงค์การจดั งาน ๔. ไม่เขยี นท่ีอยูข่ องผรู้ บั ในจดหมาย

๘. เปล้ิ เปลิ้ เขียนหมายส่งั ซอื้ เคร่อื งด่ืมจากบริษัทผลไม้ไทย ถอื เปน็ จดหมายประเภทใด

๑. จดหมายส่วนตวั ๒. จดหมายธรุ กจิ

๓. จดหมายกิจธรุ ะ ๔. จดหมายราชการ

๙. หากมแี ผนทหี่ รอื รายละเอียดเพิ่มเติมในจดหมายจะเขยี นแจ้งในสว่ นใดของจดหมาย

๑. ยอ่ หน้าแรก ๒. สงิ่ ทส่ี ่งมาด้วย

๓. ย่อหนา้ สุดทา้ ย ๔. ท้ายกระดาษในจดหมาย

๑๐. สว่ นทา้ ยของจดหมายขอความอนเุ คราะหใ์ นข้อใดเขยี นไดเ้ หมาะสมทสี่ ดุ

๑. หวงั เป็นทส่ี ดุ วา่ ท่านจะไม่ปฏเิ สธเรา และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

๒. หวังเปน็ อยา่ งยิง่ ว่าท่านจะให้ความอนุเคราะห์ และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

๓. หวังเหลือเกินว่าทา่ นจะใหเ้ กยี รตแิ ละมารว่ มงานกับเรา ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี

๔. จึงเรยี นมาเพอื่ พิจารณาและหวงั วา่ จะได้รับความเมตตาจากทา่ น และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

เฉลย ๒. ๔ ๓. ๔ ๔. ๓ ๕. ๓
๑. ๒ ๗. ๒ ๘. ๓ ๙. ๒ ๑๐. ๒
๖. ๑

การประเมินและสะท้อนตนเองหลงั เสรจ็ สนิ้ การเรียนในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๖
(Self Reflection)

๑. การประเมินตนเองของผู้เรยี น ให้ดาเนินการดังนี้
๑.๑ ผู้สอนทบทวนผลการเรยี นรู้ประจาหน่วยทกุ ข้อให้ผูเ้ รียนได้ทราบ โดยอาจเขยี นไวบ้ นกระดาน
พรอ้ มท้ังทบทวนถงึ หวั ข้อกิจกรรมการเรยี นวา่ ไดเ้ รยี นอะไรบ้าง
๑.๒ ให้ผเู้ รยี นเขยี นบันทึกการประเมนิ ตนเองไวใ้ นสมุดงานด้านหลังตามหัวข้อ ดงั นี้

บนั ทึกการประเมนิ และสะท้อนตนเองประจาหน่วยการเรียนรู้ที่..............
วนั /เดือน/ปี ทบี่ นั ทึก ................./................../...................

รายการบันทกึ

๑. จากการเรยี นท่ผี ่านมาได้มคี วามรู้อะไรบ้าง
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. ..........................................

๒. ปัจจุบันนมี้ คี วามสามารถปฏิบัตสิ ง่ิ ใดไดแ้ ลว้ บ้าง
..................................................................................................................................... ..................................
............................................................................................... ........................................................................

๓. สงิ่ ทย่ี งั ไม่รู้ ไม่กระจา่ ง ไม่เข้าใจ มีอะไรบ้าง
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. ..........................................

๔. ผลงานหรอื ชน้ิ งานที่เนน้ ความภาคภมู ิใจจากการเรียนในหน่วยนคี้ ืออะไร ทาไมจงึ ภาคภูมิใจ
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................

๒. การพฒั นาการเรียนการสอนโดยใชก้ ระบวนการวิจัยในชั้นเรียนของผ้สู อน

ชอื่ เร่ืองท่ีวจิ ัย......................................................................................................
๒.๑ ความเป็นมาของปัญหา

ส่ิงทคี่ าดหวงั
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ส่งิ ทเี่ ปน็ จรงิ
........................................................................................................................................ ...............................
.......................................................................................................................................................................

ปัญหาที่พบคือ
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

สาเหตขุ องปญั หาคือ
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

แนวทางการแก้ไขปัญหาคอื
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
๒.๒ วตั ถปุ ระสงค์ในการแก้ปญั หา

๑. เพอ่ื แกป้ ัญหาเรือ่ ง...............................................................................................
ของผเู้ รยี นชนั้ ............................... ห้อง................ จำนวน.................คน โดยใช.้ ...........................

.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

๒. เพอ่ื ศึกษาผลการแก้ไขปัญหาเกยี่ วกับ................................................................................. .....
หลังจากทไี่ ดท้ ดลองใช้วธิ ีแก้ปัญหาโดย......................................................................................... .

......................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

๒.๓ ขอบเขตของการแกป้ ัญหา
๑. กลุ่มเปา้ หมายในการแกป้ ญั หาคือ ผู้เรียนชั้น................................ ห้อง.......................................

จานวน......................คน ในภาคเรียนท.่ี ................ ปีการศกึ ษา................... ท่ีมีปญั หาเกย่ี วกบั .......................
๒. เนอ้ื หาที่ใช้ในการศกึ ษาคอื เรอื่ ง........................................................... หน่วยการเรยี นร.ู้ .............
วชิ า.................................................................................................
๓. ระยะเวลาในการศกึ ษา ประมาณ....... สัปดาห/์ เดอื น ตง้ั แต่วันที่ ......... เดือน............. พ.ศ. .......
ถึงวันท่ี ............. เดอื น ................................ พ.ศ. ...................

๒.๔ วธิ ีดาเนนิ การในการแก้ไขปัญหา
๑. เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการแก้ปัญหาคือ

................................................................................................ .......................................................................
............................................................................................................................. ..........................................

ซ่ึงมขี ัน้ ตอนในกำรสรำ้ งและพัฒนำดังนี้

............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................

๒. เครื่องมือทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

ซ่งึ มีข้นั ตอนในการสรา้ งและตรวจสอบคณุ ภาพดังน้ี
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................

๓. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ไดด้ าเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลตามวิธกี ารดงั น้ี

๑. นาเครื่องมือทีใ่ ช้ในการแก้ปัญหาไปทดลองใช้กับผ้เู รียนในเวลา ...............................................
โดย.................................................................................................................... ..........

.....................................................................................................................................................
๒. นาเคร่อื งมือเก็บรวบรวมข้อมูลไปเกบ็ ข้อมูลเกยี่ วกบั ................................................................

โดย................................................................................................................. ..........................
.....................................................................................................................................................

๔. การวเิ คราะห์ข้อมลู และการสรุปผล ได้ดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มูลและสรุปผลดังน้ี
.............................................................................................................. .........................................................
............................................................................................................................. ..........................................
๒.๕ ผลการแกป้ ัญหา

ผลการแกป้ ัญหาเก่ยี วกับ ............................................................................................................
ของผูเ้ รียนกลุ่มเปา้ หมาย ปรากฏผลดงั น้ี

.......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
................................................................................................................................ .......................................
.......................................................................................................................................................................

เคร่ืองมอื วัดผล
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียน

เลขที่ ชื่อ-สกุล ความ ความ ความ ความ ระเบียบ คะแนน
สนใจ ตง้ั ใจ ร่วมมอื รบั ผดิ ชอบ วินัย รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดมี าก ให้คะแนน ๔

ดี ใหค้ ะแนน ๓

พอใช้ ใหค้ ะแนน ๒

ควรปรับปรุง ใหค้ ะแนน ๑

เกณฑ์การประเมิน

นกั เรยี นได้คะแนนรวม ๑๖ - ๒๐ อยูใ่ นเกณฑ์ดมี าก

นักเรยี นได้คะแนนรวม ๑๑ - ๑๕ อยูใ่ นเกณฑ์ดี
นักเรยี นได้คะแนนรวม ๖ - ๑๐ อยู่ในเกณฑ์พอใช้
นกั เรยี นได้คะแนนรวม ๑ - ๕ อยู่ในเกณฑค์ วรปรับปรุง

ลงช่ือ.................................................................................................(ผู้ประเมนิ )

แบบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกลมุ่

กล่มุ ท่.ี .............
ข้อท่ี รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ควร

(๔) (๓) (๒) ปรับปรุง
(๑)

๑ ความร่วมมอื และการจดั การภายในกลุม่
๒ ความสามารถปฏบิ ัติกจิ กรรมทไ่ี ดร้ บั มอบหมายอย่างถกู ต้อง
๓ การรกั ษาระเบียบวินัยในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
๔ ความเรียบร้อยในการปฏบิ ตั ิงาน
๕ ความสนใจและความกระตือรือรน้ ของสมาชิกในกลุ่ม

ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ............................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
สรปุ ผลการประเมนิ ......................................................................................................................... ....
นักเรยี นได้คะแนนรวม ๒๑ - ๒๕ แสดงวา่ ผลงานนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดีมาก
นักเรียนได้คะแนนรวม ๑๖ - ๒๐ แสดงว่าผลงานนักเรยี นอยูใ่ นเกณฑ์ ดี
นักเรยี นได้คะแนนรวม ๖ - ๑๐ แสดงวา่ ผลงานนักเรียนอยูใ่ นเกณฑ์ พอใช้
นักเรยี นได้คะแนนรวม ๐ - ๕ แสดงว่าผลงานนักเรียนอยใู่ นเกณฑ์ ควรปรับปรุง

ลงชือ่ .................................................................................................(ผปู้ ระเมิน)

แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม

คาช้แี จง เขียนเติมคะแนนและระดับคณุ ภาพตามความเป็นจริง

กิจกรรม คะแนน ไดร้ ะดบั คุณภาพ

เต็ม ได้ .........................................

กิจกรรม ๑ ขอ้ ๑ ๑๐ .........................................

ขอ้ ๒ ๕ .........................................
.........................................
ขอ้ ๓ ๕
ตนเอง
ขอ้ ๔ ๔

ขอ้ ๕ ๑๐

รวมคะแนน ๓๔

กิจกรรม ๒ ข้อ ๑ ๑๐

ขอ้ ๒ ๓

ขอ้ ๓ ๑๐

ขอ้ ๔ ๑๒

รวมคะแนน ๓๕

กจิ กรรม ๓ ขอ้ ๑ ๑๐

ขอ้ ๒ ๑๐

ข้อ ๓ ๑๐

ขอ้ ๔ ๘

รวมคะแนน ๓๘

กจิ กรรม ๔ ขอ้ ๑ ๕

ขอ้ ๒ ๑๐

รวมคะแนน ๑๕

ผปู้ ระเมิน ครู เพอื่ น

เกณฑก์ ารประเมิน คาตอบถกู ต้อง ชดั เจน มเี หตุมผี ล

เกณฑ์การจดั อนั ดบั คณุ ภาพ

คะแนนรวมในแต่ละกจิ กรรมไดร้ ้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ให้ ๓ (ดี)
คะแนนรวมในแต่ละกิจกรรมได้รอ้ ยละ ๕๐-๗๙ ให้ ๒ (พอใช้)
คะแนนรวมในแต่ละกจิ กรรมไดร้ ้อยละ ๕๐ ให้ ๑ (ควรปรบั ปรุง)
เกณฑค์ ุณภาพการผ่าน
ได้ระดบั “พอใช้” ขน้ึ ไป

;k, หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ การอา่ นอย่างมีประสทิ ธิภาพ

รายวิชาภาษาไทย เวลา ๒ ชว่ั โมง

๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดาเนนิ ชวี ิต และมนี ิสยั รักการอา่ น

ตวั ชี้วดั ที่ ๒ อา่ นตีความ แปลความ และขยายความเร่ืองท่ีอ่าน
ตัวช้วี ดั ท่ี ๓ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์เรอื่ งที่อา่ นในทุกๆ ด้านอยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัดที่ ๔ คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่าน และประเมินค่าเพื่อนาความรู้ ความคิดไปใช้ตัดสินใจ
แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชวี ติ
ตวั ชี้วดั ที่ ๕ วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเร่ืองที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมี
เหตผุ ล
ตัวชีว้ ัดท่ี ๖ ตอบคาถามจากการอ่านประเภทต่างๆ ภายในเวลาทก่ี าหนด
ตัวชีว้ ัดที่ ๗ อ่านเรอื่ งต่างๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ ผังความคิด บนั ทึก ย่อความ และรายงาน
ตัวช้วี ดั ท่ี ๘ สังเคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มา
พัฒนาตน พัฒนาความรู้ทางอาชีพ
ตัวชว้ี ัดที่ ๙ มีมารยาทในการอ่าน

๒. ทักษะทจี่ าเป็นแหง่ ศตวรรษท่ี ๒๑

๒.๑ ทกั ษะพ้ืนฐานการเรียนรู้
- การอา่ น
- การเขยี น

๒.๒ ทกั ษะการเรยี นร้แู ละนวตั กรรม
- การคิดเชงิ วพิ ากษ์และการแกป้ ัญหา
- การสงั เกต การคิดวิเคราะห์ และการสังเคราะห์
- การจดั การความรู้
- การสือ่ สาร
- การทางานร่วมกันเปน็ ทมี

๒.๓ ทกั ษะการรดู้ จิ ิตอล
- การใช้ขอ้ มลู สารสนเทศ
- การใชส้ ื่อ
- การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

๒.๔ ทกั ษะชวี ิตและการทางาน
- การยืดหย่นุ และความสามารถในการปรับตัว
- ทกั ษะทางสังคมและวฒุ ิภาวะ
- ความรับผิดชอบต่อตนเองและสงั คม
- เชอ่ื ม่ันในตนเอง
- ความเป็นผู้นา

๓. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

๓.๑ มวี ินัย
๓.๒ ใฝเ่ รยี นรู้
๓.๓ ม่งุ มน่ั ในการทางาน
๓.๔ รักการเป็นไทย

๔. สาระการเรยี นรู้

๔.๑ องคป์ ระกอบของการอ่าน
๔.๒ การอ่านตีความ
๔.๓ การอ่านแปลความ
๔.๔ การอา่ นขยายความ
การออกแบบการจดั การเรียนรู้แบบยอ้ นกลับ (Backward Design)

สาระสาคัญ การวัดและประเมินผล

๑. องค์ประกอบของการอ่าน ๑. การทาแบบทดสอบผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น

๒. การอ่านตีความ ๒. กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ

๓. การอ่านแปลความ ๓. การทากจิ กรรมเสนอแนะ
๔. การอ่านขยายความ ๔. การทากิจกรรมในใบความร้แู ละใบงาน
๕. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรียน

๖. แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม

๗. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม

กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาถามสาคญั

๑. ศึกษาเรื่อง องค์ประกอบของการอ่าน การอ่านตีความ การอ่าน ๑. องคป์ ระกอบของการอ่านมอี ะไรบา้ ง

แปลความ และการอ่านขยายความ จากหนังสือเรียนแม็ค ๒. การอ่านตีความคอื อะไร

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๗ ๓. การอ่านแปลความคอื อะไร

๒. ทากจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ กจิ กรรม ๑ – ๓ ๔. การอ่านขยายความคืออะไร

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ การอา่ นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๗ การอา่ นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

เวลา ๒ ชวั่ โมง

๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดาเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน

ตัวชี้วัดที่ ๒ อา่ นตคี วาม แปลความ และขยายความเรอื่ งทอ่ี ่าน
ตวั ช้วี ดั ที่ ๓ วิเคราะห์และวิจารณ์เรือ่ งที่อา่ นในทุกๆ ดา้ นอยา่ งมเี หตุผล
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔ คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่าน และประเมินค่าเพื่อนาความรู้ ความคิดไปใช้ตัดสินใจ
แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวิต
ตัวชว้ี ดั ท่ี ๕ วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเรื่องที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมี
เหตุผล
ตวั ช้ีวัดท่ี ๖ ตอบคาถามจากการอ่านประเภทต่างๆ ภายในเวลาท่กี าหนด
ตวั ชี้วดั ท่ี ๗ อา่ นเรือ่ งตา่ งๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคดิ ผังความคิด บันทกึ ย่อความ และรายงาน
ตัวชี้วัดที่ ๘ สังเคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อส่ิงพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ มา
พัฒนาตน พัฒนาความรู้ทางอาชพี
ตัวชวี้ ัดท่ี ๙ มมี ารยาทในการอา่ น

๒. สาระสาคัญ

๒.๑ องคป์ ระกอบของการอ่าน
๒.๒ การอา่ นตคี วาม
๒.๓ การอา่ นแปลความ
๒.๔ การอ่านขยายความ

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

๓.๑ อา่ นแปลความได้
๓.๒ อา่ นตีความหมายจากข้อความและภาพได้
๓.๓ อ่านขยายความจากข้อความและภาพได้

๔. สาระการเรียนรู้

๔.๑ องคป์ ระกอบของการอ่าน
๔.๒ การอา่ นตคี วาม
๔.๓ การอ่านแปลความ
๔.๔ การอ่านขยายความ

๕. ช้ินงาน/ ภาระงาน

๕.๑ กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
๕.๒ ภาระงาน “วาดภาพทีต่ คี วามจากสานวน สุภาษิต และคาพังเพย”
๕.๓ ภาระงาน “รวบรวมเวบ็ ไซตท์ ่ีให้ความรเู้ กีย่ วกับการอา่ นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ”
๕.๔ แบบทดสอบ
๕.๕ กิจกรรมเสนอแนะ

๖. คาถามสาคัญ

๖.๑ องค์ประกอบของการอ่านมีอะไรบ้าง
๖.๒ การอ่านตีความคืออะไร
๖.๓ การอ่านแปลความคืออะไร
๖.๔ การอา่ นขยายความคืออะไร

๗. กิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อการเรยี นรู้

๗.๑ ขน้ั นา
นักเรียนดูและพิจารณาภาพและข้อความจากแผ่นใส ครูสนทนากับนักเรียนถึงความเกี่ยวเนื่องของ
ภาพกบั ข้อความ แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันแปลความหมาย
๗.๒ ขนั้ สอน
ตอนที่ ๑ อ่านแปลความและตีความจากข้อความและภาพได้
๑. ครูถามความคิดเห็นของนักเรียนแต่ละคนเก่ียวกับความหมายของภาพ ครูและนักเรียนช่วยกัน
ตคี วามจากภาพ
๒. ครูถามนักเรียนเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับความหมายของข้อความที่ให้นักเรียนดู ครูและนักเรียน
ชว่ ยกนั ตีความจากขอ้ ความ
๓. นักเรียนศึกษาเรื่อง “การอ่านแปลความและการอ่านตีความ” จากหนังสือเรียนแม็ค หน่วยการ
เรียนรู้ที่ ๗
๔. ครูและนักเรียนอภิปรายและทาความเข้าใจร่วมกันเก่ียวกับการอ่านแบบตีความว่า “เป็นการอ่าน
เพื่อวินิจฉัยภาพหรือข้อความท่ีอ่านเป็นการอ่านเพื่อความเข้าใจเร่ือง ผู้อ่านจะต้องอาศัยพื้นความรู้เดิม
ความสนใจ ประสบการณ์ สติปัญญา รวมทั้งจนิ ตนาการมาตคี วามใหเ้ ขา้ ใจกบั ภาพหรอื เรือ่ งนนั้ ๆ
๕. นกั เรียนจบั คกู่ ับเพื่อนจบั ฉลากสภุ าษติ และคาพังเพยแลว้ ช่วยกันแปลความและตีความสุภาษติ และ
คาพงั เพยทจี่ บั ฉลากได้ จากนัน้ ครเู ฉลยคาตอบ

๖. นกั เรยี นทากจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ จากหนงั สือเรียนแมค็ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ กจิ กรรม ๑
เรื่อง “การอ่านแปลความ“ และกจิ กรรม ๒ เร่ือง “อา่ นตีความ”

๗. ครตู รวจผลงาน แกไ้ ขข้อผิดพลาด และอธบิ ายเพม่ิ เติม
ตอนที่ ๒ อา่ นขยายความจากขอ้ ความและภาพได้
๑. นักเรียนอ่านข้อความในแถบประโยคและพิจารณาภาพในใบงานเร่ือง “การอ่านขยายความ” ครู
สนทนากบั นักเรียนว่านักเรียนคิดถึงเหตุการณ์อะไรบ้างเม่ือ อ่านข้อความและดูภาพเหล่าน้ัน ใหช้ ่วยกันแสดง
ความคิดเห็น
๒. นักเรยี นศกึ ษา “เรอ่ื งการอา่ นขยายความ” จากหนังสือเรียนแมค็ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๗
๓. ครูสนทนากับนักเรยี นเก่ียวกับการอ่านขยายความว่า เป็นการอ่านเพ่ือขยายความคิดของผู้อ่านให้
กว้างไกลและลึกซึ้ง โดยอาศัยการอ่านเป็นพ้ืนฐานอาจขยายความคิดโดยใช้เหตุผลหรือข้อเท็จจริงประกอบ
การอ่านขยายความต้องนาความรู้ ความคดิ ของผู้อ่านมาขยายความ เพ่ืออธบิ ายขอ้ ความนนั้ ๆ ได้ ตวั อยา่ งเชน่

จะหลบหลกี เขา้ ฝงั่ กย็ งั ไกล คล่นื กใ็ หญโ่ ยนเรอื เหลือกาลงั
แนวคาตอบ

เรือแล่นในทะเลที่มีพายุพัดจัด จะเข้าฝั่งก็ยังอีกไกล คลื่นทะเลก็ลูกใหญ่มากคลื่นซัดเรือ
โคลงเคลงไปมา เรืออาจล่มลงได้

๔. นกั เรียนทากจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ จากหนงั สอื เรียนแม็ค หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๔ กจิ กรรม ๓
เรอื่ ง “อ่านขยายความ”

๕. ครตู รวจผลงาน แกไ้ ขข้อผดิ พลาด และอธิบายเพิ่มเติม
๗.๓ ข้ันสรุป

๑. ผ้เู รียนและผู้สอนร่วมกนั สรปุ ตามประเดน็ ดังนี้
๑. การอา่ นแปลความ
๒. การอา่ นตีความหมายจากข้อความและภาพ
๓. การอ่านขยายความจากข้อความและภาพ

๒. นกั เรียนทากิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจทุกกิจกรรม
๓. ครแู จง้ ผลการปฏิบัติงานของนักเรียนทุกข้อ และใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติม

๘. ส่ือการเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้

๘.๑ สือ่ การเรยี นรู้

๑. หนงั สือเรียนแม็ค สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๑
๒. แผ่นใสภาพและขอ้ ความทีใ่ ห้นักเรียนแปลความหมาย
๓. ฉลากคาพังเพย สุภาษิต
๔. ใบงานเรอ่ื ง “ตัวอย่างการอ่านขยายความประกอบคาอธบิ าย”
๘.๒ แหล่งการเรยี นรู้
๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน
๒. หอ้ งสมดุ ภาษาไทย
๓. หอ้ งสมุดประชาชน
๔. หอสมดุ แหง่ ชาติ
๕. www.obec.go.th/news/

๙. การวัดและการประเมนิ ผลการเรียนรู้

๙.๑ การทากิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ กจิ กรรม ๑ – ๓

๙.๒ ผลงานจากภาระงาน “วาดภาพที่ตคี วามจากสานวน สภุ าษติ และคาพังเพย”

๙.๓ ผลงานจากภาระงาน “รวบรวมเวบ็ ไซตท์ ่ใี หค้ วามร้เู กี่ยวกับการอ่านอย่างมีประสทิ ธภิ าพ”

๙.๔ การทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน

๙.๕ การตอบคาถามกิจกรรมเสนอแนะ

๑๐. านั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้

๑๐.๑ ความสาเรจ็ ในการจัดการเรียนรู้
ด้านผเู้ รยี น................................................................................................................. ........

..............................................................................................................................................
ดา้ นวิธีสอนการวัดผล.......................................................................................................... ..

................................................................................................................................................
ด้านสือ่ การเรียนร.ู้ ......................................................................................................... ..........

................................................................................................................................................
๑๐.๒ ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู.้ ................................................................. .......................
.........................................................................................................................................................
๑๐.๓ สิ่งท่ีไม่ได้ปฏิบัติตามแผน…..…………………………………………………….………………………………………
.........................................................................................................................................................

เหตุผล……..……………………………………………………………………………………………………………………………
........................................................................................................................................................
๑๐.๔ แนวทางการปรบั ปรุงครั้งต่อไป ..............................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงช่อื ................................................................... ผสู้ อน

๑๑. แาาการประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน

เกณฑค์ ุณภาพการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี นดา้ น.........................................

ระดัาคุณภาพ
ท่ี รายการประเมนิ

๑๒๓

๑ การทางานร่วมกนั ยอมรับมติการทางาน ยอมรบั มติของกลมุ่ - ยอมรบั มติของกลมุ่
ของกลุ่ม แต่ปฏิบัติ
ตามน้อยครัง้ - รับผดิ ชอบงานที่รบั
มอบหมายจากกลุ่ม

๒ ความกระตือรือรน้ ชว่ ยเหลืองานภายใน - ช่วยเหลืองานในกลุม่ - ช่วยเหลอื งานภายใน
กลุม่ เม่ือมกี ารร้องขอ - ร่ ว ม แ ส ด ง ค ว า ม กลมุ่
คิดเห็น - ร่วมแสดงความคดิ เห็น

- ใฝ่รู้ใฝ่เรียน

- ศึกษาคน้ คว้า

๓ การตอบคาถาม มีสว่ นร่วมในการตอบ มสี ่วนรว่ มในการตอบ ให้ความรว่ มมือในการ

คาถามน้อยมาก คาถามบางครัง้ ตอบคาถามเปน็ อย่างดี

๔ ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ ร่วมกิจกรรมตามที่ รับฟังแต่แสดงความ รว่ มรบั ฟังและแสดง
กลุม่ ขอร้อง คดิ เห็นท่ีคล้อยตาม ความคดิ เหน็ ท่ีแตกต่าง
เพอื่ นๆ แตม่ ีประโยชน์

แาาการประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนดา้ นการทางานเปน็ กลุ่ม

รายการประเมิน สรุปผล

ที่ ช่อื -สกลุ การทางาน ความ การตอา ความคิดรเิ ร่มิ รวม
ร่วมกัน กระตอื รอื ร้น คาถาม สร้างสรรค์ (๑๒) ผา่ น ไมผ่ า่ น

(๓) (๓) (๓) (๓)



















๑๐

เกณฑ์การประเมนิ
๙ - ๑๒ คะแนน ระดบั ๓ = ดี
๕ - ๘ คะแนน ระดับ ๒ = พอใช้
ต่ากวา่ ๕ คะแนน ระดับ ๑ = ควรปรบั ปรุง

สรปุ ผลการประเมนิ
 ดี  พอใช้  ปรับปรุง

เกณฑ์การตัดสินใจ
 ผา่ น  ไม่ผ่าน

หมายเหตุ : เกณฑเ์ ปน็ ไปตามทีโ่ รงเรียนกาหนด
ลงชอื่ ............................................................................ผ้ปู ระเมิน
(.............................................................................)

๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ

๑๒.๑ กจิ กรรมส่งเสริมการอ่านเชิงวเิ คราะห์ ประกอบด้วยข้นั ตอน ดังน้ี
ขน้ั รวบรวมข้อมูล
นักเรียนรวบรวมขอ้ ความ คาพังเพย สภุ าษิต จากแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ
ข้นั วเิ คราะห์
นักเรียนอ่านแปลความ อ่านตีความ อ่านขยายความ ข้อความ คาพังเพย สุภาษิตท่ีนักเรียนได้
เตรียมไว้แลว้ จากขน้ั รวบรวมข้อมูล แล้ววเิ คราะหเ์ รื่องราวที่อ่านเก่ียวกับประเด็นตา่ งๆ ดงั นี้
๑. สาระสาคัญของสง่ิ ทอ่ี ่าน
๒. ประโยชน์ทีไ่ ด้รับ
๓. คณุ ค่าด้านภาษา
๔. คุณคา่ ดา้ นสังคม
๕. คณุ ค่าด้านการนาเสนอไปใชใ้ นชวี ิต
ขั้นสรปุ
นักเรียนสรุปสาระสาคัญของส่ิงที่อ่าน ประโยชน์ท่ีได้รับ คุณค่าด้านภาษา คุณค่าด้านสังคมและ
คุณค่าดา้ นการนาไปใชใ้ นชีวิต
ขนั้ ประยุกตใ์ ช้
๑. นักเรยี นนาสาระสาคัญของเรอื่ งท่ีอ่าน ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั คุณคา่ ด้านภาษา คุณคา่ ด้านสังคม และ
คุณค่าดา้ นการนาไปใช้ในชีวิต ไปจัดแสดงท่ปี ้ายนเิ ทศหนา้ ชัน้ เรยี น
๒. นักเรยี นนาสาระสาคัญของเรื่องทอ่ี ่าน ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั คณุ ค่าด้านภาษา คุณค่าด้านสงั คม และ
คุณค่าด้านการนาไปใช้ในชีวิต ไปประยุกต์ใช้โดยแต่งเร่ืองข้ึนใหม่ให้มีสาระสาคัญท่ีเป็นประโยชน์ต่อ การ
นาไปใช้ในชวี ติ คนละ ๑ เรอ่ื ง แล้วนาเสนอหน้าชั้นเรยี นเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์
๑๒.๒ กิจกรรมบรู ณาการ
กจิ กรรมที่ ๑
ครูสามารถบูรณาการการเรียนรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระท่ี ๑ : ทัศนศิลป์ โดยให้
นักเรยี นวาดภาพที่ตีความจากสานวน คาพังเพย และสุภาษิต ตามขัน้ ตอนดงั น้ี

ภาระงาน “ วาดภาพท่ตี ีความจากสานวน คาพังเพย และสุภาษติ ”

การบูรณาการ มฐ. ศ ๑.๑

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ มีทักษะในการตคี วามสานวน คาพังเพย และสภุ าษติ แล้วถ่ายทอด

ออกมาเปน็ ภาพวาด

ผลงานท่ตี อ้ งการ ภาพวาดตคี วามจากสานวน คาพงั เพย และสุภาษิต

ขั้นตอนการทางาน

๑. กาหนดใหน้ กั เรยี นค้นควา้ รวบรวมสานวน คาพังเพย และสภุ าษติ

พรอ้ มทง้ั ศึกษาคน้ คว้าหาความหมาย

๒. นักเรียนวาดภาพท่ีสอดคล้องกับความหมายของสานวน คาพังเพย

และสุภาษิตท่ีได้ศึกษาค้นคว้ารวบรวมนั้น โดยให้วาดภาพลงในกระดาษ

ขนาด A ๔ ๑ ภาพ / ๑ แผน่ / ๑ สานวน คาพงั เพย หรือสภุ าษติ

๓. เสนอผลงานหน้าชน้ั เรียนและจัดนิทรรศการแสดงผลงานนักเรียน

เกณฑก์ ารประเมนิ

๑. ความถูกตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์ของข้อมูลที่ค้นคว้ามานาเสนอ

๒. การวาดภาพสอดคล้องกับเนือ้ ความของสานวน คาพังเพย และ

สภุ าษิต

๓. ความประณีต เรยี บร้อย ความสวยงาม และความคิดสรา้ งสรรค์

๔. ความนา่ สนใจในการนาเสนอ

กิจกรรมท่ี ๒

ครสู ามารถบูรณาการการเรยี นรูก้ บั กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ ๔ :

เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยให้นกั เรียนศกึ ษาส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์จากของจรงิ และใหน้ กั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรม ดงั นี้

ภาระงาน “รวบรวมเว็บไซต์ทีใ่ หค้ วามร้เู กีย่ วกบั การอยา่ งมีประสิทธิภาพ”

การบูรณาการ มฐ. ท ๑.๑ และ ง ๔.๑

จุดประสงค์การเรียนรู้ มีทักษะในการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษารวบรวมเว็บไซต์ที่ให้ความรู้

เร่ืองการอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลงานที่ตอ้ งการ เวบ็ ไซต์ทีใ่ ห้ความรูเ้ กย่ี วกับ “การอา่ นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ”

ขน้ั ตอนการทางาน

๑. กาหนดให้นกั เรยี นเลือกสืบคน้ ข้อมลู จากอินเทอรเ์ นต็

๒. นักเรียนนาผลงานการสืบค้นมาจัดทาเป็นสมุดคู่มือการสืบค้นแหล่งเรียนรู้เพื่อ

พฒั นาการอา่ นใหม้ ีประสิทธิภาพมากยง่ิ ขน้ึ

๓. นาผลงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ดงั กลา่ วนาเสนอหน้าชัน้ เรยี น

เกณฑก์ ารประเมิน

๑. ความถูกตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมลู ทค่ี ้นคว้ามานาเสนอ

๒. ความประณีต เรียบรอ้ ย

๓. ความนา่ สนใจในการนาเสนอ

๑๓. ใบความรู้ ใบงาน และเครือ่ งมือวัดผล

๑๓.๑ ใบความรู้
๑. แผ่นใสภาพและข้อความใหน้ กั เรียนชว่ ยกันแปลความ

๑)

นีค่ ือแม่ของฉนั เพยี รพรา่ ปนั้ ให้เป็นคน
ทกุ ข์ใดมิใหย้ ล สขุ แม่ด้นเสาะหามา
แม่นีช้ า่ งดีลา้ สุดหาคาจานรรจา
คุณใดในแหล่งหล้า ยากจะหามาเปรยี บปาน
จงึ ควรสนองตอบ ประพฤติชอบทุกสถาน
ทาดีทกุ วันวาร เพ่อื มารดาปลาบปลื้มใจ
ข้อ ๒ – ๓ ตคี วำมจำกภำพและขอ้ ควำม

๒)

๓) สง่ ออกไปอินโดจีนกระฉดู ไฟเขยี ว ท.ท.ท. อดั ๓ หมนื่ ลา้ นบมู ท่องเท่ียว

เฉลย
๑. แนวคาตอบ แปลความหมายได้ว่า แม่เป็นผู้มีพระคุณสูงสุดมิอาจหาส่ิงใดมาเปรียบได้ ลูกทุกคน ควรตอบ
แทนพระคุณท่านด้วยการประพฤติตนเป็นคนดี ปฏบิ ตั แิ ตส่ ิ่งทดี่ งี าม
๒. แนวคาตอบ จากภาพที่เห็นตีความได้ว่า เป็นการเตือนให้ระมัดระวังในการใช้ตู้เย็นให้ถูกวิธี เพื่อเป็น การ
ประหยัดพลังงาน โดยไม่นาอาหารร้อนๆ เข้าแช่ในต้เู ย็น ควรปล่อยใหอ้ าหารท่ีรอ้ นอยู่น้ันเย็นลงก่อนจึงนาเข้า
เก็บในตเู้ ย็น
๓. แนวคาตอบ ท้งั สองขอ้ ความเป็นภาษาปาก (ภาษาพาดหวั ขา่ วของหนงั สอื พิมพ์) ซ่ึงสามารถตคี วามได้ดงั น้ี

- สินค้าของไทยทส่ี ่งออกไปจาหน่ายในกลุ่มประเทศอนิ โดจนี มปี ริมาณการจาหน่ายเพิม่ มากข้นึ
(ประเทศไทยส่งสนิ ค้าส่งออกไปจาหนา่ ยในกลมุ่ ประเทศอินโดจีนเพิ่มมากขึ้น – ดกี ว่ามั้ย)
- การทอ่ งเที่ยวแห่งประเทศไทยใชง้ บประมาณ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาทเพื่อพัฒนาการทอ่ งเท่ียวไทย

๒. ฉลากคาพงั เพย สุภาษิต
อ่านแปลความและตีความสานวน สุภาษิต และคาพังเพยต่อไปน้ี

เรือใหญค่ ับคลอง กระตา่ ยหมายจันทร์ ปิดควนั ไฟไม่มิด

ปลาใหญ่กนิ ปลาเลก็ จระเข้ขวางคลอง

เฉลย
๑. เรอื ใหญ่คับคลอง

- แปลความ เรอื มขี นาดลาใหญ่แตล่ าคลองมขี นาดเล็ก เรือย่อมเคลอ่ื นไปไดไ้ ม่สะดวก
- ตีความ คนที่เคยรุ่งเรืองหรือเป็นใหญ่เป็นโต เมื่อตกต่าลงแต่ก็วางตัวอย่างคนสามัญไม่ได้ หรือ
เรียกวา่ จมไมล่ ง
๒. กระตา่ ยหมายจันทร์
- แปลความ กระตา่ ยแหงนมองดวงจันทร์
- ตคี วาม ผ้ชู ายหมายปองผู้หญิงทีม่ ีฐานะดีกวา่

๓. ปดิ ควันไฟไม่มิด
- แปลความ กอ่ ไฟต้องมีควนั พุง่ ออกมาให้เห็น
- ตคี วาม การทาความช่วั ทาเรื่องอือ้ ฉาว ยอ่ มไม่สามารถปกปดิ ไวไ้ ด้

๔. ปลาใหญก่ นิ ปลาเลก็
- แปลความ ปลาตวั เลก็ ๆ ยอ่ มเปน็ อาหารของปลาทม่ี ขี นาดใหญ่กวา่
- ตคี วาม ผูม้ อี านาจหรอื ผใู้ หญท่ ก่ี ดข่ีข่มเหง ผอู้ อ่ นแอหรือผนู้ ้อย

๕. ตาขา้ วสารกรอกหมอ้
- แปลความ ตาข้าวสารใส่ในหม้อ
- ตีความ หาเพยี งแคพ่ อกนิ ไปมอ้ื หน่งึ ๆ

๓. ใบงานเรือ่ ง “การอ่านขยายความ”

ใบงานเรอ่ื ง “ การอา่ นขยายความ ”
คาชี้แจง อ่านข้อความในแถบประโยคและพิจารณาภาพที่ครูติดให้ดบู นกระดาน ครูสนทนากับนกั เรยี นว่า
นกั เรยี นคิดถงึ เหตุการณ์อะไรบา้ งเมื่ออ่าน ข้อความและดูภาพเหล่าน้นั ใหช้ ว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็

๑.

เขาเรยี กอยู่นานกว่าคนในบา้ นจะมาเปดิ ประตู

๒.

เฉลย
๑. แนวคาตอบ

- เขาคงกลบั บ้านดกึ มาก คนในบา้ นหลับหมด แล้วจงึ ไม่ได้ยินเสียงเรียก
- คนในบ้านอาจกาลงั ทาธุระอยู่ เช่น อาบน้า ซักผ้า ทาครัว มีภาระติดพันจงึ ไม่สามารถมาเปิดประตู
ได้โดยเรว็
- เสียงเรียกของเขาคอ่ ยเกินไป คนในบ้าน ไมไ่ ดย้ ิน
๒.แนวคาตอบ
- การเล่นชกั เย่อตอ้ งใชเ้ ชอื กขนาดใหญ่พอประมาณ มิฉะนน้ั เชือกอาจขาดได้
- มกี ารขดี เส้นแบง่ เขต หรือนาวตั ถุมาวางเปน็ เสน้ แบง่ เขต เช่น กอ้ นหิน ท่อนไม้ เป็นตน้
- แบ่งคนเล่นออกเป็น ๒ พวกถ้าจะให้ ครึกครื้นต่ืนเต้น ก็ให้เป็นเด็กชายพวกหน่ึง เด็กหญิงพวกหน่ึง
จานวนเด็กหญิงควรมากกว่าเดก็ ชาย (เพราะเด็กหญงิ ไม่แขง็ แรงเท่าเด็กชาย แรงน้อยกว่า)
- ทงั้ สองพวกจบั เชือกไวใ้ หม้ ัน่ ใหศ้ นู ยก์ ลางของเชอื กอยู่ที่เสน้ แบง่ เขตพอดี

- เมื่อได้รบั สัญญาณให้แข่งขัน ตา่ งฝา่ ยต้องพยายามร้ังเชือกให้ไปทางฝ่ายตน ถา้ ฝ่ายใดสามารถฉุดจน
เทา้ ของคนเล่นฝ่ายตรงข้ามเขา้ มาเลยเส้น แบ่งเขต ฝ่ายน้ันก็ชนะ

- ยา้ ยขา้ งสลับกนั ชกั เยอ่ อีกครง้ั หนึ่ง

เครื่องมอื วดั ผล
๑. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิกิจกรรม ( ดูทา้ ยหน่วย )
๒. แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ( ดทู ้ายหน่วย )
๓. แบบประเมินผลการเขยี นย่อความ ( ดทู ้ายหนว่ ย )
๔. แบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลงั เรยี น

๑๔. เฉลยกจิ กรรมและแบบทดสอบ
กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
กิจกรรม ๑
๑. การอ่านตีความ หมายถงึ การวินิจฉยั สารหรือความหมายทผี่ เู้ ขียนสง่ มายงั ผูอ้ ่าน
๒. แนวคาตอบ
๑) ในวนั หนงึ่ ๆ อย่างนอ้ ยก็ก่อนนอน เราควรพิจารณาดูตนเอง
๒) ความรู้หรือสิ่งท่ีดีงามทั้งหลาย หรือแม้แต่ผู้รู้จักมักคุ้น หากเราละทิ้งไป สิ่งเหล่านั้นก็จะ
พลอยห่างหายไปจากเราด้วย ข้อความบาทท่ีสามที่ว่า “สามวันจากนารีเป็นอ่ืน” น้ี มีผู้
ตคี วามแตกต่างดงั นี้
(๑) ผู้ชายจากผู้หญิงไปเพียงสามวัน (ไม่นานนัก) ใจก็จะเปล่ียนแปลงไปไม่
เหมอื นเดิม หรือผูช้ ายเปลยี่ นใจง่าย จากผหู้ ญิงคนนก้ี ไ็ ปรกั ผู้หญิงคนโน้น
(๒) บางท่านตีความ “นารีเป็นอ่ืน” โดยแบ่งข้อความว่าสามวันจาก นารีเป็นอื่น
หมายความวา่ เพียงจากกันไม่นาน ผู้หญงิ กเ็ ปลย่ี นใจไปรกั ชอบผ้ชู ายอน่ื ได้
การท่ีจะตคี วามว่าอยา่ งไรก็ขนึ้ อยู่กบั ประสบการณแ์ ละภูมิหลังของผู้ตีความ ถ้าพิจารณาจากคาท่ี

เอามาเรยี งกันในรอ้ ยกรองก็อาจตีความได้ท้ังสองอยา่ ง
๓. แนวคาตอบ
ภาพนีต้ ีความได้ว่า ในเมืองหลวงนัน้ มีประชากรมาอาศัยอยู่มาก จึงทาให้รถติด และมีมลภาวะทาง

อากาศจากไอเสยี ของรถ

๔. แนวคาตอบ

๑) เขาประทษุ รา้ ยตอ่ ท่าน แตต่ ัวเขาเองกลับไดร้ ับผลร้าย
๒) เธอทาส่ิงท่ีเกดิ ประโยชน์แก่คนอ่ืน และอาจเกิดโทษแกต่ นเอง
๓) การรับสินบนในวงราชการไทยอาจมาจากคาสอนที่ว่า ถ้าจะคบขุนนาง (ผู้มีอานาจ) ก็อย่าไร้

นา้ ใจ (หรอื อยา่ แลง้ นา้ ใจ)
๔) การแข่งขันฟุตบอลนัดแรกของกลุ่มที่มีทีมผู้เล่นมีความสามารถเท่าเทียมกันในวันนี้ ทีมชาติ

ฝรัง่ เศสซ่งึ มผี เู้ ลน่ บาดเจ็บแขง่ ขันกบั ทมี ชาติโรมาเนยี แปลจาก
ไก่ หมายถงึ นกั ฟตุ บอลชาติฝรั่งเศส
เดีย้ ง หมายถงึ บาดเจ็บ
บด หมายถึง ตอ่ สู้
ผีดบิ หมายถึง นกั ฟุตบอลชาติโรมาเนีย
กรปุ๊ ออฟเดธ หมายถึง กลุม่ ท่ีดหี รือเกง่ ท่ีสุด
หวด หมายถงึ แข่งขัน
นัดแรก หมายถึง รอบแรก

๕) ปัญญาเปน็ เครื่องชว่ ยปอ้ งกันตนเอง หรอื ต่อส้กู บั ผู้อน่ื ไดด้ ีท่ีสดุ

๕. แนวคาตอบ

๑) ได้รับผลประโยชนโ์ ดยไม่ต้องลงทนุ ลงแรง
๒) ทาอะไรไม่ถูกวิธยี ่อมไดร้ ับความลาบาก
๓) ขดั ขวางประโยชนท์ ่ีกาลงั จะเกดิ
๔) โกรธคนหนึ่งแตท่ าอะไรเขาไมไ่ ด้ ไพลไ่ ปรงั ควานอีกคนหน่ึงทเี่ กี่ยวขอ้ ง และตนสามารถทาได้
๕) พูดหรือทาให้กิจการของผอู้ ืน่ ซ่ึงกาลังดาเนนิ ไปดว้ ยดีกลับเสยี ไป
กิจกรรม ๒

๑. การอ่านแปลความ หมายถึง การนาเร่ืองเดิมมาเขียนใหม่ หรือเรียบเรียงใหม่โดยใช้คาพูดหรือ

ภาษาใหมเ่ พ่ือให้เข้าใจง่ายข้ึน แตต่ อ้ งรักษาเน้ือหาและสาระของเรอ่ื งเดมิ ไว้อย่างครบถ้วน

๒. นายตารวจหลายนายถูกปลดออกจากราชการเพราะกนิ สินบน
๓. คนเราหากไม่ยึดมั่นถอื มั่นว่าเปน็ ตวั เราน่ันเป็นของเรา ก็จะมีความสุข ปลอ่ ยวางได้มากเทา่ ไร กจ็ ะ
มีความสขุ มากเท่าน้ัน แต่ถา้ เรายดึ มนั่ ถือมั่นมากเท่าใด ก็จะมคี วามทุกข์ใจมากเท่านัน้
๔. อย่าเอาอย่างถ้วยหรือแก้ว ถ้าแตกแล้วจะไม่สามารถซ่อมให้เหมือนเดิมได้ จงเอาอย่างโลหะ
(สมั ฤทธคิ์ อื โลหะชนิดหนึ่ง) ท่ีแมต้ กแตกก็สามารถทาให้เหมอื นเดมิ ได้
๕. มคี าสอนว่า ถา้ จะจับงูอย่าจบั ทางหาง เพราะอาจถกู งูกดั ถึงตาย ใหจ้ บั ทางหวั งจู ะปลอดภัย
กิจกรรม ๓

ก. แนวคาตอบ
๑. การอ่านขยายความ หมายถึง การขยายความคิดเก่ียวกับเรื่องที่ได้อ่านให้กว้างออกไป ลึกลงไป
หรอื ไกลออกไปกว่าเร่ืองเดมิ โดยอาศัยเรอ่ื งเดิมหรอื ขอ้ ความที่ปรากฏเปน็ พ้ืนฐาน จะคิดฟ้งุ ไปเองตามใจชอบ
ไม่ได้
๒. การขยายความอาจทาไดด้ ว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ดงั น้ี

๑. การกล่าวถงึ สาเหตุและผลทสี่ มั พันธก์ นั
๒. การยกตัวอย่างหรือขอ้ เท็จจรงิ มาประกอบเน้ือเร่อื งเดิม
๓. การอธิบายสง่ิ ท่เี กยี่ วขอ้ งกับเรอ่ื งนน้ั เพมิ่ เติม
๔. การคาดคะเน (การอนุมาน) ส่ิงท่ีน่าจะเป็นหรือสิ่งที่จะเกิดข้ึนต่อไป โดยอาศัยข้อมูล เหตุผล
จากเร่อื งเดิมเป็นพื้นฐานการคิดคะเนน้ัน
ข. แนวคาตอบ
๑) สามารถขยายความไดโ้ ดยใช้เหตุผล ข้อเท็จจริงและการอนุมาน ดงั น้ี

- ชายคนนี้ตอ้ งมีดวงตาพิการ คอื ตาบอดจึงต้องอาศัยสนุ ัขนาทาง
- เขาเดินฝา่ เปลวแดดไปอย่างเรื่อยเปอื่ ย น่าจะแสดงว่าชายผู้น้ีเป็นคนพเนจร เดินไปอย่าง
ไร้จดุ หมาย (เดินเร่อื ยเปือ่ ย) ทั้งๆ ที่แสดงแดดรอ้ นจัดควรจะรบี เดิน

เมื่อขยายความคิดแล้วจะได้ข้อความว่า “ชายตาบอดพเนจรคนหน่ึงจูงสุนัขเป็นเพื่อและ
ชว่ ยนาทาง เดินฝ่าเปลวแดดท่ีรอ้ นระอุไปอย่างเรื่อยเปื่อย ดูไรจ้ ุดหมาย เขาคงนึกไม่ออกว่าจะเดนิ ไปหาใคร
หรอื จะเดนิ ตอ่ ไปทใี่ ด”

๒) สามารถขยายความได้โดยการอธิบายให้ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ ดงั นี้
ข้าวเหนียวน้ากะทิทุเรียนไม่ถูกกับคนอ้วนและคนเป็นโรคเบาหวาน เพราะข้าวเหนียว

และทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตสูงมาก เม่ือรับประทานเข้าไปจะแปรรูปเป็นน้าตาลที่ร่างกายเก็บสะสมไว้ ส่วน
น้ากะทิเป็นไขมัน ฉะนั้นหากคนอ้วนหรือคนเป็นโรคเบาหวานรับประทาน จะเป็นการเพิ่มปริมาณไขมันและ
นา้ ตาลในร่างกาย ซง่ึ ถา้ มปี ริมาณมากกจ็ ะเป็นอันตราย

๓) ขยายความไดโ้ ดยการอธิบายเพ่ิมเติม ดงั นี้
ผู้ท่ีนับถือพระพุทธศาสนาจะพากันไปเวียนเทียนท่ีวัดในวันวิสาขบูชา ซ่ึงเป็นวันขึ้น

๑๕ ค่า เดือน ๖ อันเป็นวันที่ตรงกับวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระ
สมั มาสัมพุทธเจา้ ทง้ั นี้เพือ่ เปน็ การนอ้ มจติ ราลกึ ถงึ และกระทาสักการะบูชาแด่พระองค์

๔) ขยายความได้โดยการอธบิ ายเพิม่ เติม ดังน้ี

ไฟซ่ึงเกิดจากการเผาป่าเพ่ือทาไร่เลื่อนลอยของพวกชาวบ้านไหม้โหมลุกลามจนเป็นไฟ
ป่าทเ่ี มอื งกาลมิ ันตนั ประเทศอนิ โดนิเชีย ทาให้ ผคู้ นท่ีอาศัยอยใู่ นบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนอย่าง
หนัก เพราะนอกจากจะต้องอพยพหนีไฟท่ีอาจลุกลามมาและยังต้องหายใจเอาควันและเถ้าละอองที่เกิดจาก
การเผาไหม้เข้าไปด้วย อันเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ส่วนภาครัฐก็ได้รับความเสียหายจากการท่ี
เคร่ืองบินไม่สามารถบินขึน้ -ลงไดต้ ามปกติ เพราะทศั น-วิสยั ท่ีเปน็ หมอกควันไมอ่ านวย

๕) ขอ้ ความนีข้ ยายความไดโ้ ดยการอธบิ ายเพม่ิ เติมด้วยเหตผุ ลและการคาดคะเน (อนุมาน) ดังน้ี
หลังจากถวายอาหารเพลแด่พระสงฆ์ท่ีวัดซ่ึงอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก (“ฉัน” เดินกลับ

บา้ น แสดงว่าวัดอยู่ไม่ไกลมาก) และฟังพระธรรมเทศนาแล้ว ฉันเดินหว้ิ ปิ่นโตกลับบ้านอย่างไม่เร่งรีบ ด้วย
ไม่มภี ารกิจใดๆ ทีต่ ้องทาในตอนบ่าย ลมโชยผา่ นทุ่งข้าวเขียวขจมี าเบาๆ พอให้เยน็ กาย (จากความตอนนซี้ ึ่ง
บอกวา่ มีทงุ่ นาและต้นขา้ วเขียวขจี เราอาจขยายความไดว้ า่ “ฉัน” ผู้นี้อย่ตู ่างจังหวัดหรืออยู่ทีช่ นบท เพราะ
เดินผ่านทุ่งนา และข้อความที่บอกว่าทุ่งข้าวเขียวขจีอาจจะทาให้ผู้อ่านคาดคะเนช่วงเวลาได้ เพราะชาวนา
เร่ิมดานาปลูกข้าวเมื่อเร่ิมเข้าฤดูฝน หรือประมาณเดือน ๖ และต้นข้าวเจริญเติบโตจนทาให้ทุ่งนาเขียวขจีก็
น่าจะประมาณเดือน ๘ ล่วงแล้ว) ระหว่างทางฉันครุ่นคิดถึงความตอนหน่ึงที่พระท่านเทศน์ว่า “คนเราพบ
กันเพื่อจาก มีเพ่ือละ น่ีเป็นสัจธรรม” แล้ว ฉันก็ยอมรับว่าเป็นสัจธรรมจริงแท้ (ข้อความส่วนที่ต้องขยาย
ความด้วยการอธิบายเพิ่มเติม คือ “คนเราพบกันเพ่ือจาก มีเพื่อละ...”) น่ันคือ “คนเราพบกันเพื่อจาก”
หมายความว่า เราเกิดมาพบกนั เป็นพ่อ แม่ พ่ี น้อง ญาติ เพ่ือน สามี ภรรยา ลกู หรือแมแ้ ต่ศัตรู ก็
เป็นการพบกันเพียง ชั่วคราว เพียงช่วงระยะเวลาไมม่ ากนัก แล้วเราก็ต้องจากกันเมื่อความตายมาพรากแน่
แท้ ส่วน “มเี พ่ือละ” หมายความวา่ ขณะมีชวี ิตอยู่ มนุษย์ต่างกระเสือกกระสนด้ินรน แสวงหาวตั ถุส่งิ ของ
เงินทอง กองสมบัติ บ้านเรือน ท่ีดิน และอ่ืนๆ ตามความ “อยากมี” แท้ท่ีจริง บรรดาส่ิงต่างๆ ท่ีเรามี
ขณะท่ียังมีลมหายใจ น้ันเราก็ต้องละท้ิงเมื่อเราตายไป ปล่อยท้ิงไว้ให้ตกเป็นสมบัติของคนท่ีอยู่ข้างหลังที่ยังมี
ลมหายใจ จึงมีคากล่าวว่าสิ่งของทุกอย่างเป็นเพียง “สมบัติผลัดกันชม” เป็นสมบัติของโลก มิใช่ของเรา
จรงิ ๆ เลย นแ่ี หละคอื สจั ธรรมท่ีปฏิเสธมไิ ดเ้ ลย
ค. แนวคาตอบ

๑) คาประพันธน์ ้ขี ยายความได้โดยการอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ดังนี้
บาทท่ี ๑ เพ่ือนที่คบกับเราเฉพาะเวลาที่เรามีกิน เมื่อเราหมดทรัพย์สมบัติ เพื่อนเหล่าน้ี

จะหายไป เพราะ
เราไม่เหลอื ทรัพยส์ มบตั ิท่ีจะเลย้ี งเพือ่ น และเขาอาจเกรงว่าจะไปรบกวนเงนิ ทองของเขา

บาทที่ ๒ - ๔ เพ่ือนกินเป็นเพ่ือนท่ีหาง่าย แต่เพื่อนแท้ท่ีคบกับเราอย่างจริงใจ คอยช่วย
แก้ไขปัญหา และปรกึ ษาเรอ่ื งตา่ งๆ ไดห้ ายาก

๒) ขยายความได้โดยการใช้เหตุผลอธบิ ายเพิม่ เติม ประกอบกับการคาดคะเนหรืออนุมาน ดงั นี้
บาทท่ี ๑ และบาทที่ ๒ ผู้แตง่ บอกเวลาว่าเป็นเวลากลางคืน มพี ระจันทรส์ ่องแสงสว่าง

กระจ่างอยู่กลางท้องฟ้า ซึ่งน่าจะอนุมานไดว้ ่าเป็นวันข้างขึ้นแก่ๆ อาจจะเป็น ๑๔ หรือ ๑๕ ค่า เพราะใช้
วา่ “แสงสวา่ งกลางโพยม แจ่มฟ้า” ซึง่ หมายความวา่ ทอ้ งฟ้าสวา่ งกระจ่างแจม่ ไปท่ัว และจากคาว่า “แจ่ม
ฟ้า” นี้ มีนัยยะท่ีทาให้คิดได้ว่า ท้องฟ้าไม่มีเมฆปกคลุม จึงจะแจ่มกระจา่ งได้ ซ่ึงน่าจะเป็นฤดูหนาว เดือน
๑๒ มากกว่าจะเป็นฤดูฝน หรืออาจเป็นฤดูร้อนก็ได้ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าฤดูจะมีก้อนเมฆมากกว่าฤดู
หนาว

บาทที่ ๓ และบาทที่ ๔ ผู้แต่งบรรยายว่า มีผู้คนจานวนมากไปนั่งดูการแสดงและ
การละเล่นต่างๆ ท่ีให้ความบันเทิงใจ (มหรสพ แปลว่า การแสดงหรือการละเล่น) สิ่งท่ีจะอนุมานเพิ่มเติม
ได้คือ การแสดงหรือการละเล่นตา่ งๆ นั้น มักจะเล่นกันในวาระท่ีมงี านฉลองหรืองานสมโภช จึงน่าจะกล่าว
ได้ว่า คืนที่พระจันทร์กระจ่างฟ้า และผู้คนพากันไปนั่งดูการแสดงและการละเล่นต่างๆ น้ัน มีการสมโภช
ฉลอง... (ผ้แู ตง่ มไิ ดบ้ อกไว้ว่างานอะไร)

แบบทดสอบกอ่ นเรยี นผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนประจาหน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ การอา่ นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

เลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งทีส่ ุดเพียงคาตอบเดียว

๑. การพรรณนาในข้อใดใหค้ ติข้อคิดในการดาเนนิ ชวี ิต

๑. ขอเทเวศรเ์ ขตสวรรค์ชนั้ ดุสิต ดลใจมิตรอยา่ ให้เหมอื นกบั กรงุ ใหญ่

ให้เหมอื นกรงุ เราทกุ วันไมพ่ รนั่ ใคร นน่ั แลใจจึงจะครองกบั นอ้ งนาน

๒. ถงึ บางซ่ือช่ือบางนสี้ จุ รติ เหมือนซอื่ จติ ทพี่ ตี่ รงจานงสมร

มิตรจติ ขอใหม้ ติ รใจจร ใจสมรขอใหซ้ ่อื เหมอื นชื่อบาง

๓. เจา้ ของตาลรกั หวานขน้ึ เป็นต้น ระวงั ตนตนี มือระมดั มน่ั

เหมือนคบคนคาหวานราคาญครัน ถา้ พล้งั พลนั เจ็บอกเหมอื นตกตาล

๔. ดเู หยา้ เรอื นหาเหมอื นอย่างไทยไม่ หลงั คาใหญพ่ ้ืนเล็กเปน็ โลงผี

ระยะบ้านยา่ นน้นั ก็ยาวรี จาเพาะมฝี ง่ั ซ้ายเมือ่ พายไป

๒. “ดูเหย้าเรอื นหาเหมอื นอย่างไทยไม่ หลังคาใหญ่พื้นเล็กเป็นโลงผี

ระยะบา้ นย่านนัน้ ก็ยาวรี จาเพาะมีฝง่ั ซ้ายเม่ือพายไป”

ขอ้ ความใดไม่สามารถอนุมานไดจ้ ากคาประพนั ธข์ า้ งตน้

๑. บ้านเรอื นมีลกั ษณะหลังคาใหญ่ พนื้ เลก็

๒. เรอื นมลี กั ษณะเหมือนโลงศพ

๓. บา้ นเรอื นตง้ั อยู่ริมแมน่ ้า

๔. เรือนเหลา่ นนั้ มีขนาดใหญแ่ ละกว้าง

๓. “ฉนั อยู่เพ่อื หน้าท่ที ่ีพันผูก เพ่อื ปลูกฝงั ปลูกความหวังพลังไข

เป็นทอ่ ธารรักท้นล้นพ้นไป หล่อดวงใจแล้งร่นื ให้ชนื่ บาน”

ผูเ้ ขยี นหวงั ทจ่ี ะมชี วี ติ อย่เู พอื่ ทาส่งิ ใดให้สาเร็จ

๑. ทาให้ทุกคนมคี วามหวัง

๒. ทาให้ทกุ คนรักใครก่ นั

๓. ทาให้ทุกคนมีความผูกพันกัน

๔. ทาให้ทุกคนมีความชื่นบาน


Click to View FlipBook Version