The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วิชา งานฝึกฝีมือ รหัสวิชา 20100 - 1003

ฝึกฝีมือ 18 บท

348

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

16. ใบความรู้ท่ี ....1....

หน่วยการสอนท่ี .....10.... ชอื่ หนว่ ยการสอน.........................งานทำเกลียวด้วยมือ........................
ชือ่ หัวข้อเรื่อง

349

งานทำเกลยี ว

มาตรฐานของเกลยี ว
เกลียวนอกจากจะใช้ในการจับยึดช้ินงานแล้ว ยังนำไปใช้ในการส่งกำลังจากการหมุนให้ข้ึนส่วน
เคร่ืองจักรเคลื่อนท่ีเป็นเส้นตรงได้ เช่น การเคล่ือนที่ของปากกา เป็นต้น ดังนั้นเกลียวจึงเป็นชิ้นส่วนท่ี
สำคัญยิ่ง ซึ่งนักศึกษาจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามการทำเกลียวด้วยมือได้ รูปร่างของเกลียวน้ันจะ
แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ซึ่งในแต่ละเกลียวจะมีมาตรฐานของตัวเอง เพื่อให้
สามารถเปล่ียนชิ้นส่วนหรือทำข้ึนมาใหม่ได้กรณีมีการชำรุด เกลียวมีรูปร่างและมาตรฐานแตกต่างกัน
ดงั น้ี

1.เกลียวเมตริก (Metric Thread) เป็นเกลียวสากลที่
นิยมใช้กันท่ัวโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย เกลียวจะทำมุม 60
องศา บรเิ วณยอดเกลียวและโคนเกลยี วจะตัดตรงเล็กน้อย ดัง
แสดงในรปู ท่ี 9.1

บอกขนาดของเกลียวจะบอกเป็นสัญลักษณ์ เช่น M12
x 1.75 หมายถึง เกลียวเมตริกที่มีความโตของยอดเกลียว 12
มลิ ลเิ มตร มีระยะพติ ชเ์ ทา่ กับ 1.75 มิลิเมตร
รูปท่ี 9.1 แสดงลกั ษณะของเกลียวเมตรกิ

2. เกลียววิตเวอต (Whitworth Thread) ได้คิดค้นข้ึน
ในประเทศอังกฤษโดยนายวิตเวอต เกลียวจะมีมุม 55 องศา
บริเวณยอดเกลียวและโคนเกลียวจะโค้งมนเล็กน้อย ดังแสดง
ในรูปท่ี 9.2

รปู ท่ี 9.2แสดงลกั ษณะของเกลยี ววิตเวอต

1. เกลียวรูปตัววี (Sharp – V Thread) เป็นเกลียวท่ีมีลักษณะคล้ายกับเกลียวเมตริกเพียงแต่
เกลียวชนิดน้ีมียอดเกลียวแหลม ไม่ตัดตรงหรือโค้งมน เกลียวทำมุม 60 องศา ดังแสดงในรูปท่ี
9.3

350

รูปที่ 9.3แสดงลักษณะของเกลียวรูปตัววี

2. เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมู (Acme Thread) เปน็ เกลียว
ขนาดใหญ่ นิยมนำไปใช้ในการส่งกำลังของเคร่ืองจักร หรือใช้
ควบคุมการเคลื่อนไหวของช้ินงาน เช่น เกลียวของปากกาจับ
งานหรือเกลียวนำส่งกำลังของเครื่องกลึง เป็นต้น ดังแสดงใน
รูปที่ 9.4
รูปที่ 9.4แสดงลักษณะของเกลยี วสี่เหลยี่ มคา้ งหมู

3. เกลียวส่ีเหลี่ยม (Square Thread) เป็นเกลียวขนาด
ใหญ่ เช่นกัน มีลักษณะเป็นรูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัส นิยมนำไปใช้ใน
การส่งกำลังเคร่ืองมือเครื่องจักรที่รบั แรงมากๆ เช่น เกลยี วของ
แมแ่ รงเป็นต้น ดงั แสดงในรูปที่ 9.5
รปู ท่ี 9.5แสดงลกั ษณะของเกลียวส่ีเหลยี่ ม

6. เกลียวฟันเลื่อย (Buttress Thread) จากภาพตัดของ
เกลียวจะเห็นว่า ด้านท่ีประกอบเป็นยอดเกลียวด้านหนึ่งจะชัน
มาก อีกดา้ นหนง่ึ จะปาดเอียงทำมุม 45 องศา ใช้สำหรบั รับแรง
กดอัดเพยี งด้านเดยี ว เช่น เกลียวของปากกาช่างไม้ เป็นตน้

รปู ท่ี 9.6แสดงลกั ษณะของเกลยี วฟันเล่อื ย

7. เกลียวกลม (Knuckle Thread) เป็นเกลียวที่ใช้งาน
เฉพาะอย่าง ซึ่งต้องการให้หมุนเข้าหรือคายออกได้ง่าย เช่น
เกลียวต่อท่อสายยางของท่อดับเพลิง เกลียวก๊อกน้ำ และ
เกลียวของประแจจับท่อ เป็นเกลียวท่ีช่วยป้องกันการสึกหรอ
ซึ่งเกิดจากการใช้งานโดยเฉพาะงานท่ีมีฝุ่นและส่ิงสกปรกติด
เกลียวจำนวนมากขณะใชง้ าน
รูปท่ี 9.7 แสดงลกั ษณะของเกลียวกลม

เกลียวซ้ายและเกลยี วขวา

ปกติการขันเกลียวเข้าจะหมุนนัตหรือสลักเกลยี วตามเขม็ นาฬิกาเข้าหากนั อันสืบเนื่องมาจาก
เส้นเกลยี วเวียนขวา จึงเรียกวา่ “เกลยี วขวา” ตามรูปที่ 9.8 ( ก ) แต่บางชนิดทจี่ ำเปน็ ตอ้ งขันเกลยี ว

351

เข้าทิศทางตรงกันข้าม คือ ทวนเข็มนาฬิกา ตามรูปท่ี 9.8 ( ข ) เรียกว่า “เกลียวซ้าย” ตัวอย่างงาน
เชน่ ปลายเพลาของหินเจียระไน เกลียวของท่อแกส๊ เช้อื เพลิง เปน็ ต้น

รูปท่ี 9.8 แสดงรปู ร่างของเกลยี วขวาและเกลียวซ้าย

เส้นเกลียวท่ีพันรอบสลักเกลียว โดยทั่วไปจะมีอยู่เพียงเส้นเดียวพันติดต่อกันไป ซ่ึงเรียกว่า “เกลียวปาก
เดยี ว” ดังแสดงในรูปท่ี 9.9 ( ก ) แบบนี้ทำใหค้ วามหา่ งของเสน้ เกลยี วใน 1 รอบโตเทา่ กบั หนงึ่ ระยะพิตซ์

งานบางอย่างต้องการให้การขันหรือคลายเคล่ือนท่ี
เร็ว หรืองานท่ีต้องการให้การรับน้ำหนักบนเส้นเกลียวมี
หลายจุด ก็สร้างเป็นแบบเกลียวหลายปาก เช่น เกลียว
2 ปากกา และเกลียว 3 ปาก เป็นต้น ดังแสดงในรูปท่ี
9.9 (ข ) และ( ค )

( ก ) เกลียวปากเดียว เม่ือหมุนไป 1 รอบ จะ
เคลือ่ นทไี่ ปได้ 1 ระยะพิตซ์

( ข ) เกลียวสองปาก เม่ือหมุนไป 1 รอบ จะ
เคลอ่ื นทีไ่ ปได้ 2 ระยะพิตซ์

( ค ) เกลียวสามปาก เมื่อหมุนไป 1 รอบ จะ
เคลือ่ นที่ ไปได้ 3 ระยะพติ ซ์

รูปที่ 9.9 แสดงลกั ษณะของเกลยี วปากเดียว ( ก ) เกลยี วสองปาก ( ข ) และเกลียวสามปาก ( ค )

352

17. ใบงานที่ ........

หนว่ ยการสอนท่ี ....10..... ชอื่ หน่วยการสอน...........................งานทำเกลียวด้วยมอื .......................
ชื่อหัวข้อเรอ่ื ง

1.ชนิดงานทำเกลียว
2.การทำเกลยี วด้วยมือ
3.เคร่ืองมือทำเกลียว
4.การทำเกลียวนอก
5.การทำเกลียวใน
จุดประสงค์ เพ่ือ
1. อธบิ ายลกั ษณะชนดิ ของงานทำเกลียว
2. บอกวธิ กี ารทำเกลียวด้วยมอื
3. อธบิ ายวธิ ีการใช้เครอื่ งมอื ทำเกลยี ว
4. อธบิ ายขัน้ ตอนการทำเกลียวนอก
5. อธบิ ายขั้นตอนการทำเกลียวใน

ลำดบั กจิ กรรม/ลำดบั การปฏบิ ตั ิ

1. ร่างแบบและนำศนู ย์
2. เจาะรูตามตำแหน่งท่ีกำหนด
3. เลอ่ื ยช้นิ งานซแี คลมป์

353

4. สกดั ช้นิ งานซีแคลมป์

5. ปฏิบัตงิ านอยา่ งปลอดภัย

6. ทำความสะอาดบริเวณพน้ื ทป่ี ฏิบตั งิ าน

เกณฑ์การพจิ ารณา

............................................................................................................................. .................................................

................................................................................................................................ ..............................................

..............................................................................................................................................................................

18. แบบประเมินผล

แผนการวดั ผลและประเมินผลท้งั รายวิชา

- พทุ ธพิ ิสัย 1) แบบฝกึ หัด 10 %

2) ทดสอบหลงั เรียน 10 %

3) วัดผลสัมฤทธ์ิ 10 %

รวม 30 %

- ทักษะพสิ ัย 1) ใบงาน/งานท่มี อบหมาย 35 %

2) วัดผลสมั ฤทธ์ิ 15 %

รวม 50 %

- จติ พสิ ยั 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไว้สำหรับเปรยี บเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลงั เรยี น)

19. แบบฝึกหดั

1. จงบอกลกั ษณะเกลียวขวา พรอ้ มอธบิ าย

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ............................................................................................

............................................................................................................................. .................................................

..................

2.วสั ดทุ ่ใี ช้ทำด้ามตะไบมีอะไรบา้ งบอกมา 2 ชนดิ

............................................................................................................................. .................................................

................................................................................................................................... ...........................................

..............................................................................................................................................................................

..................

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

354

..............................................................................................................................................................................
..................

3.จงบอกชนดิ หรือของเกลียวมาอยา่ งน้อย 5 ชนิด
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
......................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

355

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรูแ้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พสิ ัย

3. เตรยี มวัสดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนเข้าสอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวธิ ีการนำเข้าสบู่ ทเรียนที่น่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเข้าใจ

6. จัดกิจกรรมท่ีสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ คว้าเพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมท่เี น้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ี่เช่ือมโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภมู ิปัญญา/บูรณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสริมแรงเมือ่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรยี น อย่างทว่ั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทก่ี ำหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้

16. ใช้สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใชส้ ือ่ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล

18. ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผูเ้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เี่ กี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบัติพอใช้ รวม

356

2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มีการปฏิบตั ิ ค่าเฉลย่ี

20.2 ปญั หาทีพ่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ดา้ นการเตรียมการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

357

ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน

(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................

............../.................................../....................

21. บันทึกการนิเทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผ้นู เิ ทศ ตำแหนง่

358

ตารางวิเคราะห์สมรรถนะรายวชิ า
โดยบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วิชา………………20100-1003…………….วชิ า………….งานฝึกฝีมอื …………….หนว่ ยกิต………2 (0-6-2)……..
ระดบั ชน้ั ……….ปวช2…………..สาขาวิชา……………ชา่ งไฟฟา้ กำลัง กลมุ่ 1

ทางสายกลาง

3หว่ ง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คณุ ธรรม

ช่ือหน่วยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบ ้รู(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอสัต ์ย ุสจ ิรต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิต ัปญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ

หน่วยการสอนที่ 10
ชือ่ หน่วยการสอน งานทำเกลียว
สมรรถนะประจำหนว่ ยการสอน

359

10.4 การทำเกลียวนอก - 52 -433 5 3 - 25 1
10.5 การทำเกลยี วใน - 52 -431 5 4 - 24 2

รวม 10 4 8 6 4 10 7 49

ลำดบั ความสำคัญ 15 245 1 3

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุง่ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหสั วิชา .......20100-1003...... วิชา ......................งานฝกึ ฝีมือ..............................
หนว่ ยท่ี ........10...... ช่ือหน่วย ...........งานทำเกลยี ว.......... จำนวน ........6......ชั่วโมง
ชือ่ เรื่อง..

1.ชนดิ งานทำเกลียว
2.การทำเกลยี วด้วยมือ
3.เคร่อื งมือทำเกลียว
4.การทำเกลียวนอก
5.การทำเกลยี วใน

360

1. สาระสำคัญ

การทำเกลียวด้วยมือ เป็นการตัดเกลียวขึ้นงานท่ีเป็นรูปทรงกระบอกทำให้เกิดร่องลาดเอียงมีความลึก
สม่ำเสมอ พันไปรอบแท่งทรงกระบอก ซ่ึงร่องที่เกิดข้ึนเรียกว่า เกลียว ร่องเกลียวที่เกิดข้ึนภายนอกแท่ง
ทรงกระบอกเรียกว่า เกลียวนอก ส่วนร่องเกลียวที่เกิดข้ึนภายในรูปทรงกระบอกเรียกว่า เกลียวใน การทำ
เกลยี วนอกและเกลยี วในน้เี พอ่ื ใชส้ ำหรับยึดชน้ิ งานสองชน้ิ ใหต้ ิดกัน

2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั งานทำเกลยี ว
2. รา่ งแบบ เจาะ เลื่อยและสกัดช้นิ งานโลหะตามแบบ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 จุดประสงค์ท่ัวไป
1. อธิบายลักษณะชนดิ ของงานทำเกลยี ว
2. บอกวธิ ีการทำเกลียวดว้ ยมอื
3. อธบิ ายวิธีการใช้เครื่องมือทำเกลียว
4. อธิบายขนั้ ตอนการทำเกลียวนอก
5. อธบิ ายขนั้ ตอนการทำเกลียวใน

3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. รา่ งแบบและนำศนู ย์
2. เจาะรูตามตำแหน่งทก่ี ำหนด
3. เล่ือยชนิ้ งานซีแคลมป์
4. สกดั ช้นิ งานซีแคลมป์
5. ปฏิบตั งิ านอยา่ งปลอดภยั
6. ทำความสะอาดบริเวณพนื้ ท่ปี ฏบิ ัตงิ าน

4. เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้
10.1 ชนิดงานทำเกลยี ว

เกลียวโดยทั่วไปแบ่งออกเป็นเกลียวนอกและเกลยี วใน ซ่ึงจะต้องทำเกลียวด้วยมือ ส่วนการทำ
เกลียวด้วยเครื่องมือกลและการข้ึนรูปเกลียวด้วยวิธีการต่าง ๆ นั้น สามารถทำเกลียวได้คือ การรีด อัด เกลียว
การตดั เกลยี วดว้ ยเครื่องกดั การกลึงเกลียวด้วยเครือ่ งกลงึ การหล่อเกลยี วและการทำเกลยี วด้วยมือ

361

10.2 การทำเกลยี วด้วยมือ
การทำเกลียวเพื่อนำมาใชง้ านนัน้ สามารถทำได้หลายวิธี แตใ่ นทนี่ ้ีจะกล่าวถึงการทำเกลยี วด้วย

มือ เป็นวิธีที่ทำเกลียวได้ง่าย รวดเร็ว ซ่ึงแบ่งได้ 2 แบบ คือ การทำเกลียวใน เป็นการทำให้เกิดร่องเกลียว
ภายในรกู ลมและการทำเกลียวนอก เปน็ การทำให้เกิดรอ่ งเกลียวข้นึ บนผวิ นอกแท่งทรงกระบอก

10.3 เครอื่ งมือทำเกลยี ว
1. เคร่ืองมือสำหรับใช้ทำเกลียวใน (Tap) ซง่ึ ปกติ 1 ชดุ จะประกอบด้วยดอกตา๊ ป 3 ตัว
2. เครอ่ื งมือสำหรบั ใชท้ ำเกลยี วนอก (Die) ซงึ่ ปกติในแตล่ ะขนาดเกลยี วจะมี 1 ตัว

10.4 การทำเกลียวนอก
ดาย (Die) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับทำเกลียวนอก มีลกั ษณะกลมหรือเป็นแท่งเหลี่ยม มีรอู ยตู่ รง

กลางมีร่องเกลียวเป็นคมตัด สามารถตัดหรือทำเกลียวบนช้ินงานกลม มี 2 ลักษณะ ได้แก่ ลักษณะกลม และ
ลกั ษณะเหล่ยี ม ซ่ึงเครื่องมือทำเกลยี วนอกนี้ มี 2 แบบ คอื

10.4.1 แบบตายตัวหรอื แบบไม่
10.4.2 แบบปรบั ไดห้ รอื แบบผา่
10.4.3 วิธกี ารทำเกลียวนอก
10.5 การทำเกลียวใน
ต๊าป (Tap) เป็นเครื่องมือสำหรับทำเกลียวใน ทำด้วยเหล็กเคร่ืองมือคุณภาพสูง รูปร่างเป็นแท่ง
กลมมีฟันเกลียวรอบตัว และรอบตัวจะมรี ่องอย่ปู ระมาณ 3 – 4 รอ่ ง ใช้สำหรับคายเศษโลหะ ท่รี อ่ งเกลียวจะมี
มุมตัด เพื่อใช้ตัดโลหะให้เกิดเป็นเกลียวตามที่ต้องการ ท่ีปลายอีกด้านหนึ่งจะเป็นสี่เหล่ียมสำหรับจับด้วย
ด้ามตา๊ ปเพือ่ หมุนต๊าปเกลียว
ตา๊ ป 1 ชดุ จะมดี ว้ ยกนั 3 ดอก ได้แก่ ต๊าปตัวนำ ตา๊ ปตวั ตาม ต๊าปตัวสดุ ท้าย

ลกั ษณะของดอกตา๊ ปท้งั 3 ดอก
10.5.1 ด้ามจบั ตา๊ ป

ในการทำเกลียวในจะต้องใช้ด้ามต๊าปเพื่อจับดอกต๊าปและหมุนดอกต๊าปให้เฉือนกิน
งาน เพ่ือได้เกลียว ด้ามจับต๊าปท่ีใช้ทั่วไปมี 2 แบบ ได้แก่ ด้ามจับต๊าปสำหรับจับดอกต๊าปขนาดเล็กในการทำ
เกลยี วในท่มี ีขนาดเล็ก และด้ามจบั ต๊าปแบบธรรมดา ใชส้ ำหรับจบั ดอกตา๊ ป ตั้งแต่ขนาดเลก็ จนถึงขนาดใหญ่

362

ลักษณะของด้ามจบั ต๊าปแบบตา่ ง ๆ

10.5.2 วธิ กี ารตดั เกลียวใน
10.5.3 ข้อควรปฏิบตั ิ

4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
- ด้านทักษะ
1. ร่างแบบและนำศนู ย์
2. เจาะรตู ามตำแหน่งท่ีกำหนด
3. เลื่อยชน้ิ งานซแี คลมป์
4. สกดั ชนิ้ งานซแี คลมป์
5. ปฏิบตั ิงานอย่างปลอดภัย
6. ทำความสะอาดบริเวณพน้ื ที่ปฏิบตั งิ าน

4.3 ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพียงตรงต่อเวลา มีวินัย มคี วามรับผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มีความซอ่ื สัตย์ มีเหตผุ ล
ประหยดั และปฏบิ ัตติ นในแนวทางทด่ี ี

363

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ข้นั ตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผ้เู รียน

ขัน้ เตรียม(จำนวน......15.......นาท)ี ขัน้ เตรียม
ครขู านช่ือผูเ้ รียน
ครทู บทวน ให้ข้อมูลย้อนกลับเกยี่ วกบั สงิ่ แวดลอ้ ม
และความปลอดภยั ในการปฏิบัตงิ าน

ข้นั การสอน(จำนวน.......30.......นาท)ี

ครใู หน้ ักเรียนทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 10

ครูตั้งคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเรื่อง การตะไบ

(โดยมุ่งเน้นสิ่งที่นักเรียนได้ปฏิบัติไปแล้วตามใบงาน

ท่ี 10)

นักเรยี นตอบคำถามทีค่ รูถาม

ครอู ธิบาย ถาม-ตอบเน้ือหาเกี่ยวกบั งานตะไบ นกั เรยี นจดบันทกึ สาระสำคัญที่ครอู ธิบาย

ค รู ส า ธิ ต ก า ร ลั บ ค ม ตั ด ด อ ก ส ว่ า น แ ล ะ ให้ นั ก เรี ย น

ปฏิบัติงานตามใบงานท่ี 10 (หากผลการปฏิบัติตาม

ใบงานท่ี 1-2 ยังไมเ่ รียบรอ้ ย ให้นักเรยี นปฏิบัติอย่าง

ต่อเน่อื งตอ่ ไป)

ครใู หน้ กั เรียนทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 10

ขั้นสรุป (จำนวน........15........นาท)ี
ครูสรุปเน้ือหาสาระสำคัญในบทเรียนให้นักเรียน
ตระหนักถึงความสำคัญ ปัญหาที่เกิดข้ึน และ
แนวทางการแกไ้ ขปญั หาทัง้ ทฤษฎแี ละปฏิบตั ิ

364

6. สอ่ื การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 สื่อสงิ่ พิมพ์
1. หนงั สอื งานฝึกฝมี ือ 1 รหัส 2100-1003 หนว่ ยท่ี 10
2. แบบประเมินผลการเรยี นรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หน่วยท่ี 10
3. ใบงานท่ี 10/เครอ่ื งมือ วัสดุอปุ กรณ์ในการปฏิบัติงาน
4. ห้องสมุดวทิ ยาลยั ศูนยว์ ทิ ยบรกิ าร ห้อง Internet

6.2 สื่อโสตทัศน์
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................................... .....
........................

6.3 สื่อของจริง
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
........................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
หอ้ งสมดุ วทิ ยาลัย ศูนย์วทิ ยบริการ หอ้ ง Internet

7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

365

............................................................................................................................. .................................................
........................

8. งานที่มอบหมาย

ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 10 และใบงานที่ 10 ใหเ้ สรจ็ สมบรู ณ์ สง่ ในครัง้ ต่อไป
8.1 ก่อนเรียน

1) ใช้สมุดบันทึกเวลาเรียนฯ ขานชอื่ ผเู้ รยี นและตรวจการตรงตอ่ เวลา
2) ใชแ้ บบสงั เกตความพร้อมในการเรยี น ประเมนิ ความพร้อม เชน่ มเี คร่อื งมือ หนังสอื
สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้

8.2 ขณะเรียน
1) ใช้แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ

ต่อการปฏบิ ตั ิงาน

8.3 หลังเรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ัติ ประเมนิ การฝึกปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 10 ส่งงานตามขอ้ กำหนด

9. ผลงาน/ชน้ิ งาน ที่เกดิ จากการเรียนรู้ของผเู้ รยี น

1. ผลการปฏิบัติตามใบงานท่ี 10 งานรา่ งแบบเจาะเลอื่ ยและสกดั
2. ผลจากการทำแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 10
3. ผลจากการทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 10

10. เอกสารอ้างอิง

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

11. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั รายวิชาอ่ืน

366

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................... ..........................................
......................................................................................... .....................................................................................
..................

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1) ใชส้ มุดบันทึกเวลาเรียนฯ ขานชอื่ ผเู้ รยี นและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใชแ้ บบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมนิ ความพร้อม เชน่ มีเครอ่ื งมือ หนงั สอื

สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้

12.2 ขณะเรียน
1) ใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผดิ ชอบ

ตอ่ การปฏบิ ัตงิ าน
12.3 หลงั เรยี น
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ัติ ประเมินการฝึกปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 10 สง่ งานตามข้อกำหนด

13. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี น

จดุ ประสงค์ข้อที่ 1 อธิบายลกั ษณะชนดิ ของงานทำเกลยี ว
1. วธิ กี ารประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ยที่

10
2. เคร่ืองการประเมนิ : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามใบงานท่ี 10 งานรา่ งแบบ เจาะ

เลอ่ื ยและสกัดส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%

จุดประสงคข์ อ้ ที่ 2 บอกวิธกี ารทำเกลยี วดว้ ยมอื
1. วิธีการประเมิน : แบบประเมินผลการเรยี นรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หน่วยท่ี

10
2. เครอ่ื งการประเมนิ : ประเมินการฝึกปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 10 งานร่างแบบ เจาะ

เล่ือยและสกัดส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 3 อธบิ ายวธิ ีการใช้เครื่องมอื ทำเกลยี ว

367

1. วิธีการประเมิน : แบบประเมินผลการเรียนรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ยท่ี
10
: ประเมนิ การฝกึ ปฏบิ ัติตามใบงานที่ 10 งานร่างแบบ เจาะ
2. เครอื่ งการประเมิน
เลือ่ ยและสกัดสง่ งานตามข้อกำหนด : แบบประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
: 50%
3. เกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผ่าน

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

หน่วยการสอนที่ ........... ชอื่ หนว่ ยการสอน................................................
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อ
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................ ......................................
............................................................................................. .................................................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................................................... .........
..................

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการสอนท่ี ......... ชอ่ื หนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วัตถุประสงค์ เพื่อ ……………………………………………………………………………………………….
ข้อคำถาม
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

368

..................................................................................................................................................... .........................
.......................................................................................................... ....................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

การทำเกลียวใน

วิธีการทำเกลียวใน คล้ายกับการหมุนสลักเกลียวลงในเน้ือไม้ท่ีอ่อนกว่า เช่น ดินน้ำมัน เม่ือ
คลายสลักเกลียวคืน กจ็ ะไดน้ ัต (Nut) ที่เปน็ ดินน้ำมัน เมื่อพิจารณาภาพตัดจะสงั เกตเห็นเสน้ เกลยี วท่ีมี
ฟันอยู่รอบแกนทำหน้าที่เป็นคมตัด ซ่ึงจะเบียดงานให้เกิดเป็นร่องเกลียว แต่ถ้านำสลักเกลียวตัวเดิม
ทำการตัดเกลียวเข้าไปในเน้ือเหล็ก ก็จะเกิดปัญหาการเก็บเศษการออกแบบร่องเก็บเศษ ดังแสดงใน
รูปท่ี 9.10 ( ก ) ซึ่งจะทำให้เกิดคมตัดขึ้นในตัว แต่การไหลของเศษโลหะไม่ดี ดังแสดงในรปู ที่ 9.10 (
ข )จะมกี ารไหลของเศษที่ดีกวา่ และมีชอ่ งเกบ็ เศษทใี่ หญก่ วา่

ร่องเกบ็ เศษหรอื Flute นี้ มีผลตอ่ โดยตรงต่อความแข็งแรงของตัว Tap คอื ถา้ ร่องเกบ็ เศษตื้น
ทำให้ได้มุมลิ่มโตและมุมคายเล็ก เหมาะสำหรับชิ้นงานที่แข็งและคายเศษน้อย ทั้งมุมฟรีและมุมคายน้ี
เลก็ ประมาณ 8-10 องศา เท่าน้นั ดงั แสดงในรูปท่ี 9.10

รูปท่ี 9.10 แสดงมุมล่ิม มุมคาย และมุมฟรี ของคมตดั ดอกตาป

ดอกตัดเกลยี วใน

หน้าตัดของงานทผี่ า่ นการกระทำเกลยี วในจะเห็นว่า เส้นเกลียวเกิดขึ้นไดเ้ พราะเดมิ ได้เจาะรูไว้
ในแนว X และตาป (Tap) ตัดเศษออกโตเท่ากับหน้าตัด A การตัดเศษออกมาเช่นนี้จะต้องให้แรงตัด
มาก และจะได้ผิวงานไมเ่ รียบ ฉะน้นั ถา้ แบง่ หนา้ ตดั A ออกเป็น 3 ส่วน คือ หน้าตดั 1 , 2 และ 3 จะได้
ผวิ เกลยี วที่เรยี บ และแขง็ แรงมากกวา่

369

รูปท่ี 9.11 แสดงการแบง่ การตัดเฉอื นเน้ืองานออกเป็น 3 ส่วน

เครือ่ งมือและอุปกรณท์ ำเกลยี ว

จากเหตุผลดังกล่าวจึงได้ออกแบบดอกเกลียวในให้มีจำนวน 3 ตัว การทำเกลียวในจะต้องใช้
ท้งั 3 ตวั จึงจะได้เกลียวในท่ีสมบรู ณ์ ดังแสดงในรปู ที่ 9.12

รปู ที่ 9.12 แสดงลักษณะและมมุ ลาดเอียงของดอกทำเกลียวใน

รปู ที่ 9.13 แสดงลักษณะของด้ามจบั ตา๊ ป
ดอกเกลยี วใน 1 ชดุ มี 3 ตวั แตล่ ะตัวแตกต่างกนั ทีร่ ะยะเรียวและความสมบรู ณ์ของคมตัด ดงั น้ี

370

ตวั ท่ี 1 เรียกว่า เทเปอร์ (Taper) ดอกตัดตัวท่ี 1 น้ี จะมีความเรียวท่ีปลายมาก เพ่ือใช้ใน
การนำตัดและประคองศูนย์ไดด้ ี คมตัดจะตัดเศษไดป้ ระมาณ 55% ของหนา้ ตัดเกลียวท้งั หมด

ตัวที่ 2 เรียกว่า ปลั๊ก (Plug) ดอกตัดตัวที่ 2 นี้ จะมีความเรียวน้อยกว่าตัวท่ี 1 จำนวน 1 เท่า
เปน็ ตัวทจ่ี ะตอ้ งทำเกลียวต่อจากตัวท่ี 1 ทำการตดั เศษเพิ่มข้ึนจากตัวท่ี 1 อีก 30% ของหน้าตัดเกลยี ว

ตวั ที่ 3 เรียกว่า บอตทอม (Bottom) เป็นดอกตัดเกลยี วตัวสุดท้าย สามารถทำเกลยี วจนเกือบ
ถึงก้นรูเจาะ เน่ืองจากมีความเรียวน้อยมากเพียง 1-2 ฟันเท่าน้ัน จะทำการตัดเนื้อโลหะเพ่ิมอีก 15%
ของหนา้ ตัดเกลยี ว

การออกแบบความหยาบละเอยี ดของฟนั เกลียว

ผลของเกลียวฟันถี่หรือเกลยี วละเอียดทำให้เนื้อท่ีรบั น้ำหนกั ของฟนั เกลียวเล็กลง ฉะน้นั การ
ตัดเกลียวสำหรับวัสดุอ่อน ควรตัดเกลียวชนิดท่ีมีระยะพิตช์ยาวหรือเกลียวหยาบ ดังแสดงในรูปที่
9.14

รปู ท่ี 9.14 เปรยี บเทียบระยะพิตซ์ของวสั ดุอ่อนและแข็ง

ผลของการเบียดแทรก ( Squeezing Effect)
เม่ือคมตัดได้ตัดผ่านบนเน้ืองานท่ีเป็นวัสดุเหนียว เช่น ทองแดง อลูมิเนียม และเหล็กเหนียว
เนื้อโลหะบางส่วนจะถูกเบียดตัวหนีและนูนข้ึนในส่วนท่ีมิได้มีแรงกระทำ ท้ังน้ีเพราะเน้ือโลหะยึดตัวซ่ึง
ผิดกับวัสดุเปราะ ส่วนท่ีมีคมตัดเฉือนผ่าน เศษก็จะหลุดออกอย่างง่ายๆ โดยเน้ืองานท่ีเหลือไม่
เปลย่ี นแปลง ดงั แสดงในรปู ที่ 9.15 ( ก ) และ ( ข )

รปู ท่ี 9.15 การเบยี ดแทรกของวัสดอุ อ่ น
จากหลักการดังกล่าวมีผลตัดการตัดเกลียวมาก ถ้ารูที่เจาะมีขนาดโตเท่ากับโคนเกลียวของ
Tap การหมุนดอก Tap ลงในเนื้องาน ต้องใช้แรงจำนวนมาก เพื่อเอาชนะแรงเสียดทานอันเกิดจาก

371

เนอื้ โลหะที่เบยี ดตวั เขา้ มาอดั กับตัว Tap ฉะนนั้ เพ่ือใหก้ ารทำงานเปน็ ไปได้โดยง่ายและได้ประโยชน์จาก
การนูนของเนื้อตัวเองดังกล่าว จึงควรเจาะรูให้โตกว่าเดิมเล็กน้อย ซึ่งจะได้เน้ือโลหะนูนขึ้นเองโดย
อตั โนมัติ แต่ถ้าขนาดของรูเจาะโตมากเกินไปก็จะเป็นผลให้เกลียวรูดได้งา่ ยเม่ือใช้งาน ค่าท่ีเหมาะสมมี
ดังน้ี คอื

ตารางท่ี 9-1 แสดงขนาดของรเู จาะที่เหมาะสมกับขนาดของเกลียว

ขนาดเกลยี ว ขนาด  รูเจาะ (mm) ขนาดเกลยี ว ขนาด  รูเจาะ (mm)
วัสดุเปราะ วัสดุเหนียว วสั ดุเปราะ วสั ดุเหนยี ว
M4 ¼
M5 3.2 3.3 3/8 5 5.1
M6 4.1 4.2 ½ 7.7 7.9
M8 4.8 5 5/8 10.25 10.5
M 10 6.5 6.7 ¾ 13.25 13.5
M 12 8.2 8.4 3/8 16.25 16.5
M 14 9.8 10.00 1 19.00 19.25
11.5 11.75 21.75 22.00

ในการหาขนาดของรูเจาะ ถ้าหากไม่มีตาราง ให้คำนวณอย่างง่ายๆ ดังนี้ เชน่ ต้องการทำเกลียว
เมตริกขนาด M10 x 1.5 เมอ่ื M คอื เกลยี วเมตรกิ

10 คือ ความโตของยอดเกลียว (มม.) 1.5 คือ ระยะห่างระหว่างยอดเกลียว (Pitch) ให้นำความโตของ
ยอดเกลียวลบด้วยระยะพติ ช์ น่นั คือ 10-1.5 = 8.5 มลิ ลิเมตร

สรปุ ใช้ดอกสวา่ นขนาด  8.5 เจาะเพอื่ ตาปเกลียว M10 x 1.5

การทำเกลยี ว

การทำเกลียวมี 2 ชนิด คือ การทำเกลยี วใน และการทำเกลียวนอก

การทำเกลียวใน

มี 2 ขัน้ ตอนดงั นี้ คือ ข้ันตอนการเตรียมงาน และข้ันตอนการทำเกลยี ว

1. ขั้นตอนการเตรยี มงาน มดี ังน้ี
1) การเตรยี มการเพือ่ ทำเกลยี วใน
การทำเกลยี วในน้ัน กอ่ นอื่นผ้ปู ฏิบตั งิ านต้องทราบวา่ จะทำเกลียวขนาดความโตเทา่ ใด

372

มีความหยาบ ละเอียด หรือระยะพิตช์ (Pitch) เท่าใด เพ่ือจะได้กำหนดขนาดความโตของดอกสว่านได้
เหมาะสม เนื่องจากรูเจาะมีขนาดไม่เหมาะสม เช่น เล็กเกนิ ไป จะทำให้ดอกตาปอัดแน่นอยู่ในรเู จาะและหักใน
ทีส่ ดุ แตถ่ า้ รเู จาะโตมากเกนิ ไป จะทำใหย้ อดเกลยี วไมแ่ หลม เกลยี วมคี วามแขง็ แรงนอ้ ย

สำหรับเกลียวเมตริก ผู้ปฏิบัติการสามารถกำหนดขนาดของดอกสว่านได้อย่างง่ายๆ ก็คือ นำ
ความโตของเกลยี วลบออกดว้ ยระยะพิตช์ จะได้ความโตของดอกสวา่ น ดังน้ี

M8 x 1.25
ระยะพติ ช์
ความโตของเกลียว
เกลยี วเมตริก

8 –1.25 = 6.75 มม.

จากการคำนวณถ้าต้องการทำเกลียวเมตรกิ ขนาดความโต 8 มม. ต้องเจาะรขู นาด 6.75 มม.
2) การผายปากรูเจาะเพ่อื ทำเกลียวใน
การทำเกลยี วในทกุ คร้งั จะตอ้ งมกี ารผายปากรูเจาะในดา้ นทจ่ี ะเรม่ิ ต้นทำเกลยี วด้วยดอก
ผายปาก และฝังหัวสกรู (Countersink) เพ่ือการเร่ิมต้นตัดเฉือนของเกลียวและการหาศูนย์กลางท่ีดี
และเกดิ ความสวยงามของรเู กลียว ดังแสดงในรปู ท่ี 9.16

รปู ที่ 9.16 แสดงลักษณะของรเู จาะ และลักษณะของการผายปากรูเจาะ

2. ข้ันตอนการทำเกลยี วมขี ้ันตอน มดี ังน้ี
1. จับยึดชนิ้ งานที่เจาะรไู ด้เหมาะสมแลว้ กบั ขนาดของดอกตาปดว้ ยปากกาจับงาน
2. นำกา้ นของดอกตาปประกอบเขา้ กับด้ามจบั และขนั จบั ให้แนน่ จากนั้นให้ใช้มือกำตรง
กลางของด้ามตาปไว้ กดและหมุนลงไปในรูเจาะ เมื่อคมตัดของตาปเริ่มตัดเฉือนชิ้นงานแล้ว ให้ใช้สอง
มือมาจับบริเวณโคนด้ามตาป และขันให้หมุนตามเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆ ให้คมตัดเริ่มตัดเฉือนเข้าไปใน
เนื้อโลหะ ในขั้นตอนนี้ต้องระมดั ระวงั และสงั เกตให้ดอกตาปตัง้ ฉากกับผวิ หน้าของชน้ิ งาน

373

รปู ท่ี 9.17 แสดงการจบั ด้ามต๊าปขณะเร่ิมตน้ ตัดเกลยี วใน

17. ใบงานท่ี ........

หนว่ ยการสอนท่ี ....10..... ชอ่ื หน่วยการสอน...........................งานทำเกลียวด้วยมอื .......................
ช่อื หัวข้อเรื่อง

1.ชนดิ งานทำเกลยี ว
2.การทำเกลยี วดว้ ยมือ
3.เครือ่ งมือทำเกลียว
4.การทำเกลียวนอก
5.การทำเกลียวใน
จดุ ประสงค์ เพื่อ
1. อธิบายลกั ษณะชนดิ ของงานทำเกลียว
2. บอกวิธกี ารทำเกลยี วด้วยมือ
3. อธิบายวธิ ีการใชเ้ ครือ่ งมือทำเกลียว
4. อธิบายข้นั ตอนการทำเกลียวนอก
5. อธบิ ายขัน้ ตอนการทำเกลียวใน

ลำดบั กิจกรรม/ลำดับการปฏบิ ตั ิ

1. ร่างแบบและนำศูนย์
2. เจาะรตู ามตำแหน่งที่กำหนด
3. เล่ือยชิ้นงานซีแคลมป์

374

4. สกัดชิน้ งานซแี คลมป์

5. ปฏบิ ัตงิ านอยา่ งปลอดภัย

6. ทำความสะอาดบรเิ วณพ้นื ท่ปี ฏบิ ตั งิ าน

เกณฑ์การพิจารณา

.................................................................................................. ............................................................................

............................................................................................................................. .................................................

................................................................................................................................... ...........................................

18. แบบประเมินผล

แผนการวัดผลและประเมนิ ผลทง้ั รายวชิ า

- พุทธิพสิ ัย 1) แบบฝึกหดั 10 %

2) ทดสอบหลังเรียน 10 %

3) วัดผลสัมฤทธ์ิ 10 %

รวม 30 %

- ทกั ษะพิสัย 1) ใบงาน/งานที่มอบหมาย 35 %

2) วัดผลสมั ฤทธ์ิ 15 %

รวม 50 %

- จิตพสิ ยั 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไวส้ ำหรบั เปรียบเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลงั เรียน)

19. แบบฝกึ หัด

1. จงบอกลกั ษณะเกลียวขวา พร้อมอธบิ าย

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ............................................................................................

............................................................................................................................. .................................................

..................

2.วสั ดทุ ่ใี ช้ทำด้ามตะไบมีอะไรบ้างบอกมา 2 ชนดิ

............................................................................................................................. .................................................

................................................................................................................................... ...........................................

..............................................................................................................................................................................

..................

3.จงบอกชนิดหรือของเกลียวมาอย่างนอ้ ย 5 ชนดิ

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ............................................................................................

375

............................................................................................................................. .................................................
..................

376

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรูแ้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พสิ ัย

3. เตรยี มวัสดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนเข้าสอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวธิ ีการนำเข้าสบู่ ทเรียนที่น่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเข้าใจ

6. จัดกิจกรรมท่ีสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ คว้าเพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมท่เี น้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ี่เช่ือมโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภมู ิปัญญา/บูรณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสริมแรงเมือ่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรยี น อย่างทว่ั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทก่ี ำหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้

16. ใช้สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใชส้ ือ่ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล

18. ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผูเ้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เี่ กี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบัติพอใช้ รวม

377

2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มีการปฏิบตั ิ ค่าเฉลย่ี

20.2 ปญั หาทีพ่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ดา้ นการเตรียมการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

378

ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน

(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................

............../.................................../....................

21. บันทึกการนิเทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผ้นู เิ ทศ ตำแหนง่

379


Click to View FlipBook Version