The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วิชา งานฝึกฝีมือ รหัสวิชา 20100 - 1003

ฝึกฝีมือ 18 บท

248

ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน

(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................

............../.................................../....................

21. บันทึกการนิเทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผ้นู เิ ทศ ตำแหนง่

249

ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะรายวชิ า
โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัสวิชา………………20100-1003…………….วชิ า………….งานฝึกฝีมอื …………….หนว่ ยกติ ………2 (0-6-2)……..
ระดับชน้ั ……….ปวช2…………..สาขาวชิ า……………ช่างไฟฟ้ากำลงั กลุ่ม 1

ทางสายกลาง

3ห่วง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คุณธรรม

ชอื่ หน่วยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวิชา ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบ ้รู(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอสัต ์ย ุสจ ิรต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิต ัปญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ

หนว่ ยการสอนท่ี 7
ชื่อหน่วยการสอน งานเจาะ
สมรรถนะประจำหนว่ ยการสอน

250

7.1 เคร่อื งเจาะ 3 3 3 5 5 5 3 4 5 3 39 3
7.2 ชนิดของเครื่องเจาะ 3 3 3 4 4 4 3 4 5 3 36 5
7.3 ดอกสวา่ น 3 4 3 3 3 3 3 3 4 3 32 6
7.4 การจบั ชิน้ งานเจาะ 3 4 4 4 5 4 4 4 3 3 38 4
7.5 การเลือกใชค้ วามเร็วตัด 3 5 5 4 5 5 3 5 3 3 41 2
7.6 การระวงั รกั ษาและความปลอดภยั 3 5 5 5 5 5 3 5 5 3 44 1
ในงานเจาะ
18 24 23 25 27 26 19 25 25 18 230
รวม 7 4 5 3 1 2 67 3 3 7

ลำดบั ความสำคัญ

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัสวชิ า .......20100-1003...... วิชา ......................งานฝกึ ฝมี ือ..............................
หน่วยที่ ........7...... ชอ่ื หน่วย ...........งานเจาะ.......... จำนวน ........6......ชว่ั โมง
ช่อื เรือ่ ง..

1 เคร่อื งเจาะ
2 ชนิดของเครื่องเจาะ
3 ดอกสวา่ น
4 การจบั ชน้ิ งานเจาะ
5 การเลือกใช้ความเรว็ ตัด

251

6 การระวงั รักษาและความปลอดภัยในงานเจาะ
แบบฝึกหดั หน่วยที่ 7
ใบงานที่ 7 งานตกแตง่ และประกอบ

1. สาระสำคญั

การประกอบชิ้นส่วน เคร่ืองมือ ผลิตภัณฑ์ สะพาน งานโครงสร้างส่วนใหญ่มีชิ้นส่วนต้ังแต่ 2 ชิ้น
ประกอบกัน โดยการย้ำหมุด ยึดด้วยสกรู ยึดด้วยตะปูเกลียว แต่ก่อนที่จะประกอบกันจะต้องทำให้เป็นรู ด้วย
การเจาะรู เครื่องจกั รท่ใี ชใ้ นงาน ได้แก่ เครอ่ื งเจาะและเครอ่ื งมอื ที่ทำให้เกิดรู คอื ดอกสว่าน

2. สมรรถนะประจำหน่วยการเรียนรู้

เลอื กใชเ้ คร่ืองเจาะและอุปกรณเ์ จาะในงานเจาะ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
1. อธิบายลกั ษณะของเครื่องเจาะ
2. บอกชนิดของเคร่ืองเจาะ
3. เลือกขนาดและชนิดของดอกสว่านใหเ้ หมาะสมกบั งาน
4. บอกวธิ กี ารจับช้ินงานเจาะอยา่ งถูกต้องและปลอดภยั
5. เลอื กใชค้ วามเร็วตดั ที่เหมาะสม
6. อธบิ ายวิธีการระวังรักษาให้เกดิ ความปลอดภยั ในงานเจาะ

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. ตะไบตกแตง่ ด้ามค้อนเดนิ สายไฟ
2. ตะไบลมิ่
3. ประกอบดา้ มค้อนเดินสายไฟ
4. ทำความสะอาดบรเิ วณพนื้ ท่ปี ฏบิ ัตงิ าน

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ดา้ นความรู้
4.1 เครอ่ื งเจาะ
เครอื่ งเจาะ (Drilling Machines) เปน็ เครือ่ งจกั รกลท่ีอาศัยแรงหมนุ จากมอเตอรไ์ ฟฟ้า ส่งกำลัง

ดว้ ยระบบสายพานหรือระบบเฟืองไปยังแกนเพลา ซึ่งประกอบอยู่กบั หวั จบั ดอกสว่าน ใช้จับยดึ ดอกสวา่ นโดย

252

ดอกสว่านหมนุ รอบแกนเพ่ือให้คมตัดของดอกสว่านตดั เฉือนเนือ้ วสั ดุ เคร่อื งเจาะมหี ลายชนิดและหลายขนาด
แต่ในงานฝึกฝีมือนจ้ี ะขอกล่าวถงึ เคร่อื งเจาะแบบต้ังโตะ๊ และเครื่องเจาะแบบตัง้ พน้ื ซง่ึ เหมาะสำหรบั ใชใ้ นการ
เจาะ

4.2 ชนิดของเครื่องเจาะ
4.2.1 เคร่ืองเจาะตงั้ โต๊ะ
4.2.2 เคร่ืองเจาะตัง้ พ้นื
4.2.3 เครอ่ื งเจาะรศั มี

4.3 ดอกสวา่ น
ดอกสว่านมีรูปร่างทรงกระบอกกลม มีลักษณะเป็นคมเล้ือย มีร่องสำหรับคายเศษโลหะ ทำจาก

เหล็กเป็นเครอื่ งมอื ประเภทเหลก็ กล้าคาร์บอนและเหล็กผสมสูง ประกอบดว้ ยสว่ นสำคัญ ดังนี้

กา้ น ลาตวั ปลายจกิ

หนา้ คมตดั ผิวฟรี คมขวาง

สนั คมตดั รอ่ งคายเศษ ลบั คมตดั
ก่นั

ลักษณะรูปร่างและสว่ นตา่ ง ๆ ของดอกสวา่ น

4.4 การจบั ชน้ิ งานเจาะ
ในการเจาะรูช้ินงานน้ัน ช้ินงานจะต้องถูกจับยึดให้มั่นคง เพ่ือให้ได้รูเจาะตรงตำแหน่งตาม

ต้องการ และเป็นการป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดข้ึนในขณะปฏิบัติงานเจาะรู ช้ินงานที่ใช้ในการเจาะรูมีรูปร่าง
ลักษณะตา่ งกัน ในการจับยึดชนิ้ งานแตล่ ะรูปรา่ ง จะมเี ทคนิควธิ ีทแี่ ตกต่างกันออกไป

4.4.1 งานรปู รา่ งเป็นเหลยี่ ม
4.4.2 งานรูปร่างทรงกระบอก

4.2 ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้

253

- ด้านทักษะ
1. ใช้เคร่อื งเจียระไนได้ถกู ตอ้ งและปลอดภัย
2. ลบั ดอกสวา่ น
3. ตรวจสอบมุมดอกสว่าน
4. ทำความสะอาดบรเิ วณพื้นท่ปี ฏบิ ตั งิ าน
6. ทำความสะอาดบรเิ วณพื้นทปี่ ฏิบตั งิ าน

4.3 ด้านคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงตรงต่อเวลา มีวนิ ยั มคี วามรบั ผิดชอบ ละเอียดรอบคอบ สนใจใฝ่รู้ มีความซ่ือสัตย์ มเี หตุผล
ประหยดั และปฏบิ ัตติ นในแนวทางที่ดี

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของผเู้ รียน

ขน้ั เตรียม(จำนวน......15.......นาท)ี ขนั้ เตรยี ม

ครูขานชอื่ ผูเ้ รยี น

ครทู บทวน ให้ข้อมูลย้อนกลบั เกยี่ วกับส่งิ แวดล้อมและความ

ปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงาน

ขน้ั การสอน(จำนวน.......30.......นาท)ี

ครูใหน้ กั เรียนทดสอบก่อนเรยี น หน่วยท่ี 7

ครูต้ังคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเรื่อง การตะไบ (โดย

มงุ่ เนน้ สิ่งทน่ี ักเรยี นไดป้ ฏิบตั ิไปแลว้ ตามใบงานท่ี 1)

นกั เรยี นตอบคำถามทค่ี รูถาม

ครูอธิบาย ถาม-ตอบเนื้อหาเก่ียวกบั งานตะไบ นกั เรยี นจดบันทกึ สาระสำคญั ทีค่ รอู ธิบาย

ครูสาธิตการลับคมตัดดอกสว่านและให้นักเรียนปฏิบัติงาน

ตามใบงานท่ี 7 (หากผลการปฏิบัติตามใบงานที่ 1-2 ยังไม่

เรียบรอ้ ย ให้นกั เรยี นปฏิบตั ิอย่างต่อเน่อื งตอ่ ไป)

ครูให้นกั เรยี นทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 4

ขน้ั สรปุ (จำนวน........15........นาที)
ครูสรุปเนอ้ื หาสาระสำคัญในบทเรียนใหน้ ักเรียนตระหนักถึง
ความสำคัญ ปัญหาที่เกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไขปัญหา
ทง้ั ทฤษฎแี ละปฏิบัติ

254

6. ส่อื การเรยี นการสอน/การเรียนรู้

6.1 ส่ือสิง่ พิมพ์
1. หนังสืองานฝึกฝมี ือ 1 รหัส 2100-1003 หน่วยที่ 7
2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ยที่ 7
3. ใบงานที่ 7 เครื่องมือ วัสดอุ ุปกรณ์ในการปฏิบตั ิงาน
4. ห้องสมุดวทิ ยาลัย ศูนยว์ ทิ ยบริการ ห้อง Internet

6.2 ส่ือโสตทัศน์
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................. .................................
.................................................................................................. ............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................

6.3 ส่ือของจริง
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั ศูนยว์ ิทยบริการ ห้อง Internet

255

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................... ...........
........................................................................................................................ ......................................................
........................

8. งานทม่ี อบหมาย

ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 7 และใบงานท่ี 7 ใหเ้ สร็จสมบูรณ์ ส่งในคร้ังต่อไป
8.1 ก่อนเรยี น

1) ใช้สมดุ บนั ทึกเวลาเรียนฯ ขานชื่อผู้เรียนและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมนิ ความพร้อม เชน่ มีเคร่ืองมือ หนงั สือ
สมดุ ปากกา การแตง่ กาย เป็นต้น

8.2 ขณะเรียน
1) ใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ

ต่อการปฏบิ ัตงิ าน

8.3 หลังเรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมินผลหลังการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน 50%
2) ภาคปฏบิ ัติ ประเมนิ การฝึกปฏิบัติตามใบงานท่ี 7 ส่งงานตามข้อกำหนด

9. ผลงาน/ชน้ิ งาน ท่ีเกิดจากการเรียนรขู้ องผูเ้ รียน

1. ผลการปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 7 งานเจาะ
2. ผลจากการทำแบบฝึกหดั หน่วยที่ 7
3. ผลจากการทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 7

10. เอกสารอา้ งองิ

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

256

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวชิ าอ่ืน

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรยี น

12.1 ก่อนเรยี น
1) ใชส้ มุดบนั ทึกเวลาเรยี นฯ ขานช่อื ผเู้ รียนและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใชแ้ บบสงั เกตความพร้อมในการเรยี น ประเมินความพร้อม เชน่ มีเครือ่ งมือ หนงั สอื

สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นต้น

12.2 ขณะเรียน
1) ใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ

ตอ่ การปฏบิ ัติงาน

12.3 หลังเรยี น
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมินผลหลังการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน 50%
2) ภาคปฏบิ ัติ ประเมนิ การฝึกปฏบิ ัตติ ามใบงานท่ี 7 งานตกแต่งและประกอบ

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี น

จุดประสงค์ข้อที่ 1 อธิบายลกั ษณะของเครอ่ื งเจาะ
1. วิธีการประเมนิ : แบบประเมินผลการเรียนรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ที่ 7
2. เคร่อื งการประเมิน : ประเมนิ การฝกึ ปฏิบัตติ ามใบงานท่ี 7 งานตกแตง่ และ

ประกอบ
สง่ งานตามข้อกำหนด

3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%
จดุ ประสงคข์ ้อที่ 2 บอกชนิดของเคร่ืองเจาะ

257

1. วิธีการประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ย
ท่ี 7

2. เครอ่ื งการประเมนิ : ประเมนิ การฝึกปฏบิ ัตติ ามใบงานท่ี 7 งานตกแต่งและ
ประกอบ
ส่งงานตามข้อกำหนด

3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลังการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%
จุดประสงคข์ อ้ ท่ี 3 เลอื กขนาดและชนดิ ของดอกสว่านให้เหมาะสมกับงาน
1. วธิ กี ารประเมิน : แบบประเมินผลการเรียนรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย
ท่ี 7
2. เครอ่ื งการประเมนิ : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ัติตามใบงานที่ 7 งานตกแต่งและ
ประกอบ
สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

หน่วยการสอนที่ ........... ชือ่ หนว่ ยการสอน.................................................
วัตถุประสงค์ เพ่ือ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................... .....................
.............................................................................................................. ................................................................
..................

258

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

หนว่ ยการสอนที่ ......... ชอื่ หนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ ……………………………………………………………………………………………….
ข้อคำถาม
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

16. ใบความร้ทู ่ี ....1....

หน่วยการสอนท่ี .....7.... ชอื่ หน่วยการสอน.........................งานเจาะ........................
ช่ือหัวข้อเรื่อง

งานเจาะ

ประเภทของเครอ่ื งเจาะ (Type of Drilling Machine)
เคร่ืองจักรทีม่ ีความสำคัญในการเจาะรูก็คือ เครื่องเจาะเป็นเครือ่ งจักรกลท่ีอาศัยแรงหมนุ จากมอเตอร์
ไฟฟ้า ส่งแรงด้วยระบบสายพานหรือระบบเฟืองไปยังแกนเพลา (Spindle) ซึ่งประกอบอยู่กับหัวจับดอกสว่าน

259

เคร่ืองเจาะมีหลายชนิดและหลายขนาด แต่ในงานฝึกฝีมือน้ีผู้เรียบเรียงจะขอกล่าวถึงดอกสว่านตั้งโต๊ะและ
สวา่ นตัง้ พ้นื เท่านั้น

1. สว่านต้ังโต๊ะ เป็นสว่านขนาดกลางในการนำมาใช้งานต้องยึดไว้บนโต๊ะ จึงจะทำให้ความ
สูงในการเจาะเหมาะสมกำลงั ขับจากมอเตอร์มีนอ้ ยจึงใชเ้ จาะรูซง่ึ มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เช่น ใช้เจาะรทู ่มี ีขนาด
โตประมาณ 13 มม. ดังแสดงในรปู ท่ี 7.1 ( ก ) และ ( ข ) ส่วนใหญ่จะเป็นดอกสว่านก้านตรง หัวจบั เป็นแบบ
ขันจับด้วยจำปา ดังแสดงในรปู ท่ี 7.2 ( ก )

รปู ท่ี 7.1 แสดงลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของเครอื่ งเจาะแบบต้ังโต๊ะ ( ก )
และการส่งกำลงั มาจากมอเตอร์ ( ข )

รปู ที่ 7.2 แสดงหัวจบั แบบขันดว้ ยดอกจำปา ( ก )และแบบขนั จับด้วยแรงบิด ( ข )
2. เครื่องเจาะแบบต้ังพ้ืน เป็นเครื่องเจาะขนาดใหญ่ต้องต้ังไว้บนพ้ืน สามารถเจาะรูขนาดใหญ่บน
แผ่นเหล็กหรือโลหะต่างๆได้ดี ท้ังนี้ต้องมีอุปกรณ์การจับยึดชิ้นงานที่แน่นหนามาๆระบบส่งกำลังนั้นจะมาจาก
มอเตอร์ มี 2 แบบ คือ แบบใช้สายพานส่งกำลังและแบบใช้เฟืองส่งกำลัง ดอกสว่านที่ใช้เป็นดอกสว่านชนิด
ก้านเรยี ว (Taper Shank) ที่มขี นาดใหญ่ ดงั แสดงในรูปที่ 7.6 ( ข )

260

ดอกสว่านท่ีใช้กบั เครื่องตั้งพ้นื นนั้ จะเป็นดอกสว่านขนาดใหญม่ ีกา้ นเรยี ว สวมใสใ่ นรูของเพลาหมุน ทำ
ให้ยดึ ติดดันด้วยความฝืด โดยมีสว่ นแบนของกา้ นสว่านขัดอยู่ในเพลานำ แต่ถา้ ดอกสวา่ นมีขนาดเล็กกส็ ามารถ
เลือกปลอกมาสวมใส่ต่อ (Drill Sleeve) เพอ่ื ชว่ ยสวมจบั ให้พอดกี ับช่องเพลานำ ดงั แสดงในรปู ที่ 7.4

รปู ท่ี 7.3 แสดงลกั ษณะและส่วนต่าง ๆ ของสว่านตงั้ พ้ืน

รูปที่ 7.4 แสดงลักษณะของปลายสวมต่อ ( ก ) และเหลก็ ตอกถอด ( ข )
แต่ถ้าดอกสวา่ นมีขนาดเล็กก็สามารถเลือกปลอกมาสวมต่อ เพ่ือช่วยสวมจบั ให้พอดีกับช่องของเพลา
นำ ดงั เสดงในรูปที่ 7.5

ชนิดของดอกสวา่ น
ดอกสว่านมีหลายชนิด แต่ถ้าแบ่งตามลกั ษณะของกา้ นแลว้ จะมอี ยู่ 2 แบบ คอื
1. แบบก้านตรง โดยทั่วไปจะเป็นดอกสวา่ นขนาดเล็กมีความโตไม่เกิน 13 มม. ซึง่ จะนำไปจับเข้ากับ
หัวของสวา่ นตง้ั โต๊ะ

261

2. แบบกา้ นเรยี ว โดยทัว่ ไปจะเปน็ ดอกสว่านขนาดใหญ่ก้านจะมีลกั ษณะเรยี ว ใช้สวมต่อเขา้ กับรูของ
แกนเพลา

รปู ท่ี 7.5 แสดงลกั ษณะของปลายสวมตอ่ ( ก ) และเหลก็ ตอกถอด ( ข )
สว่ นต่างๆของดอกสว่าน
ดอกสวา่ นชนดิ คมตดั เล้อื ยจะมสี ่วนต่าง ๆ ดงั แสดงในรปู

รูปท่ี 7.7 แสดงส่วนตา่ ง ๆ ของดอกสวา่ นคมตัดเลื่อย
วัสดทุ ใ่ี ช้ทำดอกสว่าน
ดอกสว่านเป็นเครื่องมือที่จิกกินผิวงาน ฉะนั้นวัสดุท่ีนำมาทำดอกสว่านต้องมีความแข็งกว่าวัสดุงานที่
จะเจาะ วัสดทุ ีน่ ำมาทำดอกสวา่ นมอี ยดู่ ว้ ยกัน 3 ชนดิ ดงั น้ี คอื
1. เหล็กกล้าคาร์บอนสูง (High Carbon Steel) ดอกสว่านท่ีทำจากวัสดุชนิดน้ีจะมีความแข็งไม่
มากนักใชเ้ จาะเหลก็ จะท่อื เร็ว ทำให้เสยี เวลาในการลับบอ่ ยสว่ นมากนิยมใชก้ ับการเจาะไม้ มรี าคาไม่แพงนัก
2. เหล็กรอบสูง (High Speed Steel) นอกจากมีความแข็งแล้วยังสามารถทนต่อความร้อนได้สูง
อีกด้วย โดยคุณสมบัติความแข็งไม่เปล่ียนไปสามารถใช้งานได้นาน ทำงานในขณะที่มคี วามเร็วสูงได้ สว่านชนิด
น้จี งึ มีราคาแพงกว่าสวา่ นชนิด High Carbon นิยมใชก้ นั มากในโรงงานทัว่ ไป

262

3. เหล็กคารไ์ บด์ (Carbide Steel) เป็นวสั ดแุ ข็งกวา่ เหล็กรอบสูง จะใชเ้ ม่อื วสั ดนุ นั้ แขง็ มาก
ไม่สามารถใช้ดอกสว่านชนิดเหล็กรอบสูงเจาะได้ เช่น การเจาะเหล็กเคร่ืองมือ (Tool Steel) หรือเหล็กท่ีผ่าน
การชุบแข็งมาแล้ว ส่วนใหญ่จะทำจากทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) ซ่ึงมีราคาแพงมาก เม่ือเป็น
เช่นน้ี ในการทำเคร่ืองมือจึงนำช้ินเล็กๆ มาบัดกรีแข็งติดไว้บริเวณส่วนคมที่สัมผัสกับงานเท่านั้น เช่น ส่วนคม
ของดอกสว่าน หรือปลายมดี ของกลงึ เปน็ ต้น

17. ใบงานที่ ........1……

หนว่ ยการสอนที่ ....7..... ช่ือหนว่ ยการสอน...........................งานเจาะ.......................
ชอ่ื หัวข้อเรอ่ื ง

1 เครื่องเจาะ
2 ชนดิ ของเครื่องเจาะ
3 ดอกสวา่ น
4 การจบั ชิน้ งานเจาะ
5 การเลอื กใชค้ วามเรว็ ตดั
6 การระวงั รกั ษาและความปลอดภยั ในงานเจาะ

จุดประสงค์ เพ่ือ
1. อธบิ ายลักษณะของเครอ่ื งเจาะ
2. บอกชนดิ ของเคร่ืองเจาะ
3. เลอื กขนาดและชนดิ ของดอกสว่านใหเ้ หมาะสมกบั งาน
4. บอกวิธกี ารจับชิ้นงานเจาะอยา่ งถูกต้องและปลอดภยั
5. เลอื กใชค้ วามเรว็ ตดั ที่เหมาะสม
6. อธบิ ายวิธีการระวงั รักษาให้เกดิ ความปลอดภัยในงานเจาะ

ลำดบั กจิ กรรม/ลำดบั การปฏบิ ัติ

1. ใช้เคร่อื งเจาะได้ถกู ต้องและปลอดภัย
2. ลบั ดอกสว่าน

เกณฑก์ ารพิจารณา

......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

263

............................................................................................................................. .................................................
......

18. แบบประเมินผล

แผนการวดั ผลและประเมินผลท้งั รายวชิ า

- พุทธพิ สิ ัย 1) แบบฝกึ หดั 10 %

2) ทดสอบหลังเรยี น 10 %

3) วัดผลสมั ฤทธิ์ 10 %

รวม 30 %

- ทักษะพิสัย 1) ใบงาน/งานที่มอบหมาย 35 %

2) วัดผลสัมฤทธิ์ 15 %

รวม 50 %

- จติ พิสัย 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรียนไวส้ ำหรบั เปรียบเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลงั เรียน)

19. แบบฝึกหดั
1. จงบอกวธิ กี ารบอกขนาดดอกสว่านมา 3 ระบบ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

2. จงอธิบายความปลอดภัยในงานเจาะมาอย่างน้อย 4 ข้อ
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................... ...........................................

264

..............................................................................................................................................................................
..................

3. จงอธบิ ายการบำรุงรกั ษาเครอ่ื งเจาะมาอยา่ งน้อย 4 ข้อ
..................................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................... ........................................
..................

265

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรูแ้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พสิ ัย

3. เตรยี มวัสดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนเข้าสอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวธิ ีการนำเข้าสบู่ ทเรียนที่น่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเข้าใจ

6. จัดกิจกรรมท่ีสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ คว้าเพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมท่เี น้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ี่เช่ือมโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภมู ิปัญญา/บูรณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสริมแรงเมือ่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรยี น อย่างทว่ั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทก่ี ำหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้

16. ใช้สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใชส้ ือ่ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล

18. ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผูเ้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เี่ กี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบัติพอใช้ รวม

266

2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ัติ ค่าเฉลี่ย

20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาที่พบ แนวทางแกป้ ญั หา

ดา้ นการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

267

ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บันทึกการนิเทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผ้นู เิ ทศ ตำแหนง่

268

ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะรายวิชา
โดยบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัสวิชา………………20100-1003…………….วชิ า………….งานฝกึ ฝีมอื …………….หน่วยกติ ………2 (0-6-2)……..
ระดบั ชนั้ ……….ปวช 2…………..สาขาวชิ า……………ชา่ งไฟฟ้า กลมุ่ 1

ทางสายกลาง

3หว่ ง 2 เงือ่ นไข
ความรู้ คณุ ธรรม

ช่อื หนว่ ยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบ ้รู(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอสัต ์ย ุสจ ิรต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิตปัญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ

หน่วยการสอนท่ี 8
ช่อื หน่วยการสอน งานเล่อื ยและงาน

สกัด 269
สมรรถนะประจำหนว่ ยการสอน
8.1 งานเล่ือย - 5 - 4 3 5 3 5 3 3 31 1
8.2 การเลือกใชใ้ บเลือ่ ย - 3 - 3 4 3 - 3 3 - 19 4
8.3 การประกอบใบเลอื่ ย - 3 - 3 3 4 2 3 3 - 21 3
8.4 การปฏิบัตงิ านเลอ่ื ย - 5 - 3 2 4 - 5 3 - 22 2

รวม 14 13 13 16 5 16 11 3 93
2 3315 1 4 6
ลำดบั ความสำคัญ

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วชิ า .......20100-1003...... วิชา ......................งานฝกึ ฝมี ือ..............................
หนว่ ยที่ ........8...... ชอ่ื หน่วย ...........งานเลื่อยและงานสกดั .......... จำนวน ........6......ชั่วโมง
ชอื่ เร่ือง..

1 งานเล่ือย
2 การเลอื กใชใ้ บเลื่อย
3 การประกอบใบเลอื่ ย
4 การปฏิบัติงานเลือ่ ย

270

5 งานสกัด
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 8
ใบงานท่ี 8 งานตะไบปรับผวิ ซแี คลมป์

1. สาระสำคญั

งานเล่อื ยและงานสกัดเป็นงานทส่ี ำคญั อกี งานหนึ่ง เนื่องจากการทำผลิตภณั ฑ์ในแต่ละชิ้นน้ันจะต้องมี
การนำวัตถุดิบมาทำให้มีขนาดใกล้เคียงกับขนาดท่ีต้องการและนำไปข้ึนรูปต่อไป ซ่ึงจะต้องทำงานได้รวดเร็ว
และสญู เสยี วสั ดนุ ้อยทส่ี ุด

2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรียนรู้

1. แสดงความรเู้ กีย่ วกบั งานเลอื่ ยและงานสกดั
2. ปรบั ผวิ ชิ้นงานโลหะตามแบบ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
1.บอกลกั ษณะงานเล่ือย
2.เลือกใช้ใบเลื่อยตามชนิดของวัสดุ
3.อธิบายการประกอบใบเล่ือย
4.บอกลกั ษณะงานสกัด

3.2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม
1. เตรยี มชิน้ งานตะไบ
2. ตะไบปรบั ผวิ ชนิ้ งานซีแคลมป์
3. ปฏบิ ัตงิ านตะไบอยา่ งถูกต้องและ ปลอดภยั

4. เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้
8.1 งานเลอื่ ย

271

งานเลื่อย (Sawing) คือ การใช้เคร่ืองมือสำหรับตัดโลหะ ท่ีมีคมเล็ก ๆ คล้ายคมลิ่มเรียงตัวซ้อน
กันเป็นแถว ไปตามความยาวของใบเลื่อย เพ่ือตัดเฉือนเนื้อวัสดุให้ขาดออกจากกัน และนำไปขึ้นรูปให้เป็น
ผลติ ภณั ฑ์ตอ่ ไป สว่ นประกอบของเลอ่ื ย จะประกอบด้วยส่วนสำคญั ดงั นี้

8.1.1 โครงเลอ่ื ย (Frame)
8.1.2 ใบเลอ่ื ย (Blade)
8.1.3 ฟนั เลอื่ ย
8.2 การเลือกใชใ้ บเลอื่ ย
1. ชิ้นงานที่มีความกว้างหรือช่วงตัดหนา ให้เลือกใบเล่ือยชนิดฟันหยาบส่วนชิ้นงานบาง ๆ
ให้เลือกใชช้ นดิ ฟันละเอยี ด
2. ชน้ิ งานทเี่ ปน็ วัสดุอ่อน ใหใ้ ช้ใบเลื่อยชนิดฟนั หยาบ
3. ชิน้ งานที่เป็นวสั ดแุ ขง็ ควรเลือกใชช้ นดิ ฟนั ละเอยี ด
8.3 การประกอบใบเลื่อย
การใช้เลื่อยมือ มีความจำเป็นจะต้องทราบถึงวธิ กี ารใสใ่ บเลื่อยเขา้ กับโครงเลอ่ื ยอย่างถกู ต้อง
เพราะขนาดของฟันเล่อื ยจะต้องเหมาะสมกับวสั ดุงาน เม่อื นำใบเล่ือยมาใสก่ ับโครงเลื่อยแล้วต้องขนั ให้ตึงพอดี
และขนาดความยาวของใบเลื่อย กค็ วรต้องปรบั ให้พอดีกับโครงเล่อื ยเชน่ เดียวกัน
8.4 การปฏิบัตงิ านเลื่อย
การปฏิบัติการเล่ือยเพ่ือตัดช้ินงานให้มีรูปร่างและขนาดตามความต้องการนั้น ต้องมีเทคนิค
วธิ กี ารทค่ี วรต้องศึกษาขั้นตอนตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้สามารถปฏิบัตงิ านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1. กอ่ นลงมือเลือ่ ยงานจะต้องทำการร่างแบบหรอื ขีดหมายแนวเลอื่ ย
2. จับยึดช้ินงานด้วยปากกาจับงาน โดยให้แนวทจี่ ะเลื่อยอยู่ในแนวด่ิงและใกล้กับปากของปากกา
มากท่ีสุด ถา้ ชน้ิ งานเปน็ แผ่นบาง ๆ ควรใช้แผ่นไม้ประกบชิ้นงานก่อนทำการเลอ่ื ย
3. ใช้ตะไบสามเหลี่ยมตะไบเส้นแนวเลื่อย เพื่อบากคลองเลื่อยให้เป็นร่อง เป็นการบังคับไม่ให้
ใบเลื่อยลนื่ ไถลออกจากเส้นรา่ งแบบ
4. ออกแรงกดเบา ๆ เม่ือเร่ิมเคลื่อนใบเลื่อยไปข้างหน้า และต้ังมุมเลื่อยไปข้างหน้ามุมยกข้ึน
ประมาณ 10 องศากบั แนวระดบั
5. ใชค้ วามเร็วในการเล่ือยประมาณ 30–40 ครั้ง/นาที และไมต่ ้องออกแรงกดขณะดงึ เล่อื ยกลับ
6. เม่อื ชนิ้ งานใกลจ้ ะขาดจากกนั ใหล้ ดแรงกดและความเรว็ ในการเล่ือยลง
7. เม่อื เลิกการใช้งานเลือ่ ย ให้คลายนอตหางปลาปรบั ใบเลอื่ ยใหห้ ย่อน
4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
- ดา้ นทกั ษะ
1. ใช้เคร่อื งเจยี ระไนไดถ้ ูกต้องและปลอดภัย
2. ลับดอกสว่าน
3. ตรวจสอบมุมดอกสว่าน

272

4. ทำความสะอาดบริเวณพ้ืนทีป่ ฏบิ ัตงิ าน
6. ทำความสะอาดบริเวณพืน้ ท่ีปฏิบัตงิ าน
4.3 ด้านคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพียงตรงต่อเวลา มีวินยั มคี วามรับผดิ ชอบ ละเอียดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มีความซ่ือสตั ย์ มีเหตุผล
ประหยัด และปฏบิ ตั ิตนในแนวทางท่ีดี

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้

ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้นั ตอนการเรยี นหรอื กจิ กรรมของผเู้ รียน

ขั้นเตรียม(จำนวน......15.......นาท)ี ขน้ั เตรยี ม
ครขู านชื่อผ้เู รียน
ครทู บทวน ใหข้ ้อมูลย้อนกลับเกย่ี วกบั ส่งิ แวดลอ้ ม
และความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

ข้นั การสอน(จำนวน.......30.......นาที)

ครใู หน้ ักเรียนทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยท่ี 8

ครูตั้งคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเร่ือง การตะไบ

(โดยมุ่งเน้นส่ิงที่นักเรียนได้ปฏิบัติไปแล้วตามใบงาน

ท่ี 8)

นกั เรียนตอบคำถามทีค่ รูถาม

ครูอธบิ าย ถาม-ตอบเน้ือหาเกี่ยวกับงานตะไบ นักเรยี นจดบนั ทึกสาระสำคัญที่ครอู ธบิ าย

ค รู ส า ธิ ต ก า ร ลั บ ค ม ตั ด ด อ ก ส ว่ า น แ ล ะ ให้ นั ก เรี ย น

ปฏิบัติงานตามใบงานท่ี 8 (หากผลการปฏิบัติตามใบ

งานที่ 1-2 ยังไม่เรียบร้อย ให้นักเรียนปฏิบัติอย่าง

ต่อเนอื่ งตอ่ ไป)

ครใู ห้นักเรยี นทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 4

ขนั้ สรปุ (จำนวน........15........นาที)
ครูสรุปเน้ือหาสาระสำคัญในบทเรียนให้นักเรียน
ตระหนักถึงความสำคัญ ปัญหาท่ีเกิดข้ึน และ
แนวทางการแกไ้ ขปัญหาทงั้ ทฤษฎแี ละปฏบิ ัติ

273

6. ส่อื การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์
1. หนงั สอื งานฝึกฝีมอื 1 รหัส 2100-1003 หน่วยท่ี 8
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หน่วยท่ี 8
3. ใบงานท่ี 8/งานตะไบปรับผวิ ซแี คลมป์
4. ห้องสมุดวทิ ยาลยั ศนู ย์วิทยบริการ ห้อง Internet

6.2 สื่อโสตทศั น์
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................

6.3 ส่ือของจริง
......................................................................................................................................................... .....................
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................... ...............................
........................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
หอ้ งสมุดวิทยาลัย ศนู ยว์ ทิ ยบรกิ าร ห้อง Internet

7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา

274

............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

8. งานที่มอบหมาย

ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 8 และใบงานที่ 8 ให้เสร็จสมบรู ณ์ ส่งในครง้ั ต่อไป
8.1 ก่อนเรยี น

1) ใช้สมุดบนั ทึกเวลาเรยี นฯ ขานช่อื ผูเ้ รียนและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมนิ ความพร้อม เช่น มเี ครอ่ื งมือ หนังสอื
สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นต้น

8.2 ขณะเรียน
1) ใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผิดชอบ

ต่อการปฏบิ ตั งิ าน

8.3 หลังเรยี น
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ัติ ประเมินการฝึกปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 8 สง่ งานตามขอ้ กำหนด

9. ผลงาน/ช้ินงาน ที่เกิดจากการเรียนรขู้ องผู้เรียน

1. ผลการปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 8 งานตะไบปรบั ผิวชแี คลมป์
2. ผลจากการทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 8
3. ผลจากการทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 8

275

10. เอกสารอ้างอิง

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

11. การบรู ณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวชิ าอืน่

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................... ..........................................
......................................................................................... .....................................................................................
..................

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรยี น

12.1 ก่อนเรียน
1) ใช้สมดุ บนั ทึกเวลาเรยี นฯ ขานชอื่ ผูเ้ รียนและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใชแ้ บบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมินความพร้อม เช่น มเี ครอื่ งมือ หนงั สอื

สมดุ ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้

12.2 ขณะเรยี น
1) ใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผดิ ชอบ

ตอ่ การปฏบิ ัติงาน

12.3 หลังเรยี น
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมินการฝึกปฏิบตั ิตามใบงานท่ี 5 สง่ งานตามขอ้ กำหนด

276

13. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี น

จุดประสงค์ขอ้ ท่ี 1 บอกลักษณะงานเลื่อย
1. วิธกี ารประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หน่วย

ท่ี 8
2. เคร่ืองการประเมิน : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 8 งานตะไบปรบั ผวิ ซแี ค

ลมปส์ ง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

จดุ ประสงคข์ ้อที่ 2 เลือกใช้ใบเลื่อยตามชนิดของวสั ดุ
1. วิธีการประเมิน : แบบประเมินผลการเรยี นรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ท่ี 8
2. เครอ่ื งการประเมนิ : ประเมนิ การฝึกปฏิบัติตามใบงานท่ี 1 งานตะไบปรับผิวซแี ค

ลมป์
สง่ งานตามข้อกำหนด

3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลงั การเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%
จุดประสงคข์ อ้ ท่ี 3 อธบิ ายการประกอบใบเล่ือย
1. วธิ กี ารประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรยี นรแู้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย
ที่ 8
2. เคร่อื งการประเมิน : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ัตติ ามใบงานที่ 8 งานตะไบปรบั ผวิ ซแี ค
ลมป์
สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

หน่วยการสอนที่ ......8..... ชอื่ หน่วยการสอน.......................งานเล่อื ยและงานสกัด..........................
วตั ถุประสงค์ เพื่อ

1.บอกลกั ษณะงานเล่ือย
2.เลือกใช้ใบเล่ือยตามชนดิ ของวสั ดุ
3.อธิบายการประกอบใบเลื่อย
4. บอกลักษณะงานสกดั
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................ ..................

277

................................................................................................................. .............................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการสอนที่ ......... ช่ือหน่วยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ……………………………………………………………………………………………….
ข้อคำถาม
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

278

16. ใบความรู้ที่ ....1....

หนว่ ยการสอนท่ี .....8.... ชื่อหนว่ ยการสอน.........................งานเลอื่ ยและสกัด........................
ชอ่ื หัวข้อเร่ือง
เน้อื หาสาระ

8.1 งานเลื่อย
งานเล่ือย (Sawing) คือ การใช้เคร่ืองมือสำหรับตัดโลหะ ที่มีคมเล็ก ๆ คล้ายคมลิ่มเรียงตัวซ้อน

กันเป็นแถว ไปตามความยาวของใบเล่ือย เพ่ือตัดเฉือนเน้ือวัสดุให้ขาดออกจากกัน และนำไปขึ้นรูปให้เป็น
ผลิตภัณฑต์ อ่ ไป สว่ นประกอบของเลื่อย จะประกอบด้วยสว่ นสำคัญ ดังนี้

8.1.1 โครงเล่อื ย (Frame)
8.1.2 ใบเล่อื ย (Blade)
8.1.3 ฟนั เลอ่ื ย
8.2 การเลอื กใช้ใบเลอื่ ย
1. ชิ้นงานที่มีความกว้างหรือช่วงตัดหนา ให้เลือกใบเล่ือยชนิดฟันหยาบส่วนช้ินงานบาง ๆ
ใหเ้ ลือกใช้ชนิดฟันละเอยี ด
2. ช้นิ งานท่เี ป็นวัสดุออ่ น ใหใ้ ช้ใบเลอื่ ยชนดิ ฟนั หยาบ
3. ชิ้นงานท่ีเปน็ วสั ดแุ ข็ง ควรเลือกใช้ชนิดฟันละเอียด
8.3 การประกอบใบเลื่อย
การใช้เล่อื ยมือ มคี วามจำเปน็ จะตอ้ งทราบถึงวธิ ีการใสใ่ บเลื่อยเขา้ กบั โครงเลอ่ื ยอย่างถกู ต้อง
เพราะขนาดของฟันเล่ือยจะต้องเหมาะสมกับวัสดุงาน เมือ่ นำใบเลอื่ ยมาใส่กับโครงเล่ือยแลว้ ตอ้ งขนั ใหต้ ึงพอดี
และขนาดความยาวของใบเลื่อย กค็ วรต้องปรบั ให้พอดีกบั โครงเลอ่ื ยเชน่ เดียวกนั
8.4 การปฏบิ ัตงิ านเล่อื ย
การปฏิบัติการเล่ือยเพ่ือตัดชิ้นงานให้มีรูปร่างและขนาดตามความต้องการนั้น ต้องมีเทคนิค
วิธีการท่ีควรตอ้ งศกึ ษาขนั้ ตอนต่าง ๆ เพอื่ ให้สามารถปฏิบัตงิ านได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ดังนี้
1. กอ่ นลงมือเลื่อยงานจะตอ้ งทำการร่างแบบหรือขีดหมายแนวเลอื่ ย
2. จบั ยึดชิ้นงานด้วยปากกาจับงาน โดยให้แนวทีจ่ ะเลื่อยอยู่ในแนวดิง่ และใกลก้ ับปากของปากกา
มากท่สี ดุ ถา้ ชิน้ งานเป็นแผน่ บาง ๆ ควรใชแ้ ผ่นไมป้ ระกบชนิ้ งานกอ่ นทำการเลือ่ ย
3. ใช้ตะไบสามเหล่ียมตะไบเส้นแนวเล่ือย เพื่อบากคลองเล่ือยให้เป็นร่อง เป็นการบังคับไม่ให้
ใบเลือ่ ยล่ืนไถลออกจากเส้นร่างแบบ
4. ออกแรงกดเบา ๆ เมื่อเริ่มเคลื่อนใบเล่ือยไปข้างหน้า และตั้งมุมเล่ือยไปข้างหน้ามุมยกข้ึน
ประมาณ 10 องศากบั แนวระดบั
5. ใชค้ วามเร็วในการเล่ือยประมาณ 30–40 ครั้ง/นาที และไม่ต้องออกแรงกดขณะดงึ เลือ่ ยกลับ
6. เมือ่ ชน้ิ งานใกลจ้ ะขาดจากกนั ให้ลดแรงกดและความเรว็ ในการเล่อื ยลง
7. เมอื่ เลกิ การใช้งานเล่อื ย ให้คลายนอตหางปลาปรับใบเลอ่ื ยให้หย่อน

279

8.5 งานสกัด
สกัดเป็นเคร่ืองมือมีคม ใช้ในการข้ึนรูปงานด้วยวิธีการตัดเฉือนเน้ือวัสดุใช้งานได้สองลักษณะ คือ

ลำตัวสกัดทำมุมตั้งฉากกับช้ินงานคมสกัดจะตัดเฉือนเนื้อวัสดุให้ขาดออกจากกัน และถ้าลำตัวสกัดเอียงทำมุม
แทรกกับงานประมาณ 30 – 40 องศา คมสกดั จะตัดเฉอื นเน้ือวัสดใุ นลกั ษณะถากเพื่อลดขนาดเซาะรอ่ ง

ส่วนประกอบของสกดั

8.5.1 ส่วนประกอบของสกดั
8.5.2 ชนดิ ของสกัด
8.5.3 วิธกี ารสกดั
8.5.4 การบำรุงรักษาสกัด
ส่วนต่างๆ ของเล่ือยมือ
มีส่วนประกอบต่างๆดงั น้ีคือ โครงเลื่อย ดา้ มจบั ขอเกี่ยวหูใบเล่ือย สกรู นตั หางปลา และใบเล่ือย ดงั
แสดง ในรูป การตึงใบเลื่อยใชก้ ารหมุนสกรูนตั หางปลา

รูป แสดงส่วนตา่ งๆของเล่ือยมือ
ชนดิ ของด้ามโครงเล่ือย
มี 2 ชนิด คือ
− โครงเล่ือยแบบดา้ มตรง ปัจจุบนั ไมน่ ิยมใชใ้ นประเทศไทย
− โครงเลื่อยดา้ มปื น นิยมใชก้ นั มากในปัจจุบนั เพราะจบั ไดม้ น่ั คงกวา่ การเลื่อยกา
ไดค้ วามเท่ียงตรงกวา่ โดยโครงเล่ือยสามารถปรับขนาดตามใบเล่ือยไดห้ ลายขนาด

280

รูป แสดงลกั ษณะโครงเล่ือยแบบตา่ งๆ
ขนาดของใบเล่ือย
มีการผลิตมาหลายขนาดเพื่อใหผ้ ใู้ ชไ้ ดเ้ ลือกใชต้ ามความเหมาะสมของชิ้นงาน เช่นความยาว 12 นิ้ว
(300 มม.), 10 นิ้ว (250 มม.), 8 นิ้ว (200 มม.) การวดั ความยาวของใบเลื่อยจะวดั จากจุดศูนยก์ ลางรูขา้ งหน่ึง
ไปยงั จุดศนู ยก์ ลางของรูอีกขา้ งหน่ึง ขนาดของใบจะกวา้ ง 12.7 มม.และหนา 0.64 มม. ดงั แสดงในรูป ขนาด
ใบเล่ือยท่ีนิยมใชใ้ นประเทศไทย คือ 12 นิ้ว (300 มม.)

การใส่ใบเล่ือยเข้ากบั โครงเลื่อย (Puttjng Blade in Frame)
จะตอ้ งใส่ฟันเล่ือยช้ีออกไปจากด้าม เพราะเวลาปฏิบตั ิงานเล่ือยจะออกแรงกดเพื่อให้ฟันเลื่อยตัด
ชิ้นงานเมื่อดนั ไปขา้ งหนา้ เท่าน้นั คือ ฟันเลื่อยจะตดั เฉือนเศษวสั ดุงานออกเฉพาะไปขา้ งหนา้ การดึงกลบั จะ
ไม่ตดั เฉือนจึงมีตอ้ งกดใบเล่ือยลง การใส่ใบเล่ือยตอ้ งหงายโครงเลื่อยข้ึนเมื่อใส่ใบเล่ือยแลว้ ให้ขนั นตั หาง
ปลาเพ่ือตึงใบเล่ือย โดยควรตึงปานกลาง ไม่ควรตึงหรือหย่อนเกินไปเพราะใบเล่ือยอาจหักได้ วิธีการใส่
แสดงในรูป

รูปแสดงวธิ ีการใส่ใบเลื่อยเขา้ กบั โครงเล่ือยที่ถกู ตอ้ ง

การทางานของฟันเล่ือย
เลื่อยจะเคล่ือนที่ไปในทิศทางตดั กินเน้ือวสั ดุพร้อมแรงกด แรงกดตดั น้ีจะทาให้ฟันเล่ือยจมลงไปใน
เน้ือวตั ถุออกเป็นเศษเลก็ ๆ อยใู่ นช่องฟัน จะหลุดออกมาตามรอยเลื่อยส่วนเศษวสั ดุท่ีอย่บู นผวิ งานจะถูกเก็บ
ไวใ้ นช่องเก็บเศษโดยเกิดจากมุมฟรีและมุมคาย ดงั แสดงในรูป

281

รูป แสดงการกินงานของฟันเลื่อย

มุมต่างๆ ของฟันเลื่อย

จะประกบไปดว้ ยมุมล่ิม (β) มมุ คายหรือมุมแซะ () และมุมฟรี (∝) ฟันเล่ือยท่ีมีรูปร่างท่ีเหมาะสม

ที่สุดควรจะมีขนาดมุมตา่ ง ๆ ดงั น้ี

มมุ ล่ิม (β) = 650

มุมคายหรือมุมแซะ () = 50

มุมฟรี (∝) = 200

มมุ ตดั () = มมุ ล่ิม (β) + มุมฟรี (∝)

รูป แสดงมุมตดั ของฟันเล่ือย

ค่ามุมตดั ของฟันเลื่อยไม่กาหนดตายตวั เพราะค่าดงั กล่าวจะข้ึนอยู่กับวสั ดุ และลกั ษณะงานแต่ละ

ชนิด เช่น เหลก็ หล่อและเหลก็ กลา้ ควรมีมมุ ตดั โตกวา่ น้ี การท่ีมีมุมตดั นอ้ ยจะทาใหฟ้ ันเล่ือยจิกฝังตวั ลงไปใน

เน้ือโลหะมากเกินไป ฟันเลื่อยจะหกั ไดง้ า่ ย เล่ือยมือทวั่ ๆ ไปท่ีใชเ้ ล่ือยเหลก็ กลา้ จะมี

มุมล่ิม (β) = 500

มมุ ฟรี (∝) = 400

มมุ คาย () = 00

แตห่ ากเป็นโลหะเบาจะตอ้ งมีมมุ คายหรือมมุ เซาะ () และมมุ ตดั () จะเลก็ กวา่ เหลก็ กลา้ ดงั แสดงในรูป

รูป แสดงลกั ษณะฟันเล่ือยท่ีใชก้ บั วสั ดุงานชนิดตา่ งๆ

282

ความหยาบและความละเอยี ดของใบเล่ือย
มีกาหนดไว้ 2 ระบบ คือ
1. ระบบเมตริก วดั เป็นระยะพิตช์ (Pitch) คือยอดฟันถึงยอดฟันเล่ือยอีกฟันหน่ึง
2. ระบบองั กฤษ วดั เป็นจานวนฟันต่อ 1 นิ้ว ดงั แสดงในรูป

รูป แสดงการวดั ความหยาบ ความละเอียดของฟันเลื่อยท้งั 2 ระบบ

ตาราง การเลือกใชค้ วามหยาบ ความละเอียดของฟันเล่ือนใหเ้ หมาะสมกบั ชนิดวตั ถุ และความหนา

จานวนฟัน/นิ้ว ความหนาของวสั ดุ ประโยชน์ใชง้ าน
(Pitch)

14-16 ฟัน/นิ้ว 1 นิ้ว (25 มม.) วสั ดุอ่อนเช่น อลูมิเนียม ทองแดงผสมทองเหลือง และ

(1.88 มม.) หรือมากกวา่ วสั ดุอื่น ๆ

18 ฟัน/นิ้ว 1/4 นิ้ว - 1 นิ้ว เหลก็ กลา้ ท่ีมีลกั ษณะเป็นเหลก็ ฉากเหลก็ กลม เหลก็

(1.4 มม.) (6-25 มม.) เคร่ืองมือ, อลูมิเนียม ทองแดงผสมและวสั ดุอ่ืน ๆ

14 ฟัน/นิ้ว 1/6 นิ้ว - 1/4 นิ้ว เหลก็ กลา้ แขง็ ปานกลางท่ีมีลกั ษณะเป็นท่อหรือเหลก็

(1 มม.) (1.6-6 มม.) ฉากบาง

14 ฟัน/นิ้ว 1/16 นิ้ว เหลก็ กลา้ , เหลก็ เครื่องมือ, เหลก็ กลา้ คาร์บอนหลก็ กลา้

(1 มม.) (1.6)ลงมา รอยสูง ท่ีมีลกั ษณะบาง เช่น ท่อผนงั บาง เหลก็ ฉาก

เหลก็ รางที่บาง ๆ และใชต้ ดั วสั ดุที่มีความแขง็ มาก ๆ

283

ชนิดของใบเล่ือยมือ
ใบเลื่อยมือ มี 3 ชนิด คือ

1. ใบเลื่อยมือชนิดผลิตจากเหล็กกลา้ คาร์บอน (High Carbon Steel) มีคุณภาพต่า หกั ไดง้ ่าย มีความ
เปราะสูง แข็งท้งั ใบ และไม่สามารถเล่ือยเร็วๆ ได้ เพราะความร้อนอาจทาให้ความแขง็ ของฟันเล่ือยลดลง
ขอ้ ดีคือราคาถูก

2. ใบเล่ือยชนิดเหลก็ รอบสูง (High Seed Steel) มีคุณภาพดีกวา่ ชนิดแรกทนต่อการเสียดสีไดด้ ี ทน
ตอ่ ความร้อน งอไดเ้ ลก็ นอ้ ย ราคาสูงกวา่ ชนิดแรก แตใ่ ชง้ านไดด้ ี และเลื่อยไดป้ ริมาณมากกวา่

3. ใบเลื่อยชนิดบดั กรีฟันเลื่อย ปัจจุบนั นามาใชก้ นั มาก ใบเล่ือยชนิดน้ีออกแบบมาเพื่อป้องกนั ใบ
เล่ือยหักก่อนเวลาอนั ควร โดยลาตวั ทาจากเหล็กกลา้ คาร์บอนต่า เพราะอ่อนตวั ไดด้ ีส่วนฟันเล่ือยจะผลิตมา
จากเหลก็ รอบสูง แลว้ บดั กรีติดอยกู่ บั ความหนาของชิ้นลาตวั ขอ้ ดีคือหกั ยาก และตดั งานไดม้ ากกวา่ ประเภท
ท่ี 1 และ 2 ใบเลื่อยชนิดน้ีเหมาะกบั ผเู้ ร่ิมฝึกเลื่อยมือใหม่ๆ

การเลือกฟันเลื่อยให้ถกู ต้องกบั ความหนาของชิน้ งาน
ควรเลือกให้เหมาะสมกบั ความหนาเพราะหากเลือกละเอียดเกินไปจะทาให้เสียเวลาในการตดั เลือก
หยาบเกินไปจะทาใหต้ ดั ลาบาก
ดงั น้ันขอ้ ควรพิจารณาในการเลือก คือ ตอ้ งให้ฟันเลื่อยเกาะอยบู่ นความหนาของชิ้นงานอย่างน้อย 2
ฟัน ดงั แสดงในรูป

รูป แสดงการเลือกใชค้ วามหยาบ ความละเอียดของฟันเล่ือยใหเ้ หมาะสมกบั ความหนาของชิ้นงาน

284

การออกแบบการจบั ยดึ งานเล่ือย
การจบั ชิ้นงานท่ีเหมาะสมน้นั สามารถออกแบบไดต้ ามรูป

รูป แสดงการจบั ยดึ ชิ้นงานเพื่อเลื่อย
การเลื่อยโลหะแผ่นบาง
กรณีตอ้ งการตดั โลหะแผน่ บางดว้ ยเลื่อยมือใหใ้ ชไ้ มเ้ น้ือแขง็ ประกบกบั ชิ้นงานและใชซ้ ีแคลม์ ลอ็ คอีก
ช้นั หน่ึงก่อนทาการเลื่อยเพื่อให้ฟันของใบเลื่อยอยู่บนเน้ือวสั ดุงานที่จะตดั เกิน 2 ฟันดงั แสดงในรูป ก และ
หากงานเป็นท่อนบางๆ ท่ีภายในนอ้ ยควรกาสลกั ไมส้ วมอดั ในรูก่อนเพื่อเป็ นการเพิ่มความหนาให้กบั วสั ดุ
งานป้องกนั ชิ้นงานลอ็ คขดั กนั ฟันของใบเลื่อยดงั แสดงใน รูป

รูป แสดงการประกบโลหะแผน่ บางดว้ ยไมเ้ น้ือแขง็

285

คลองเลื่อย
ขณะตดั ชิน้ งานจะทา ใหใ้ บเลื่อยติดอยใู่ นร่องที่เล่ือย
โดยเรียกวา่ “คลองเล่ือย” ดงั น้นั ตอ้ งหาวธิ ีการใหค้ ลองเล่ือย
โตกวา่ ใบเลื่อยทาไดโ้ ดยดดั ฟันเลื่อยใหเ้ อียงสลบั กนั หรือพลิว้
คมใบเล่ือยเป็นช่วงซา้ ยขวาสลบั กนั ฟันต่อฟันหรือช่วงต่อช่วง
ตามลาดบั วิธีการท้งั หมดดงั กล่าวจะทาใหค้ ลองเล่ือยกวา้ ง
กวา่ ใบเล่ือยจะทาใหต้ ดั งานสะดวกรวดเร็วยงิ่ ข้ึนอายกุ ารใช้
งานก็จะมากข้นึ ลดความฝืดระหวา่ งการตดั

รูป แสดงการประกบโลหะแผน่ บางดว้ ยไมเ้ น้ือแขง็

การจับและการใช้เล่ือยมือ รูปแสดงวธิ ีการจบั โครงเล่ือย และวธิ ีการเลื่อยซ่ึงใบเล่ือยตอ้ งทามมุ
ใชม้ ือขา้ งท่ีถนดั จบั ดา้ มของ กบั ชิ้นงานประมาณ 10 องศา
โครงเลื่อยส่วนมือที่ไม่ถนดั จบั บริเวณ
ส่วนในดา้ นหนา้ ของโครงเล่ือย ขณะ
ทา การเลื่อยควรจบั ให้ดา้ มเล่ือยยก
ข้นึ เลก็ นอ้ ยทามมุ ประมาณ 10 องศา
กบั แนวนอน ดงั รูป
การเลื่อยจะตอ้ งออกแรงโยก
ไปดา้ นหนา้ พร้อมกบั ใชแ้ รงกดดว้ ย
แตล่ ะช่วงชกั กลบั ไมต่ อ้ งออกแรงกด
เพยี งแค่ประคองถอนออกมาตรงๆ จะ
ตอ้ งเลื่อยใหห้ มดระยะของฟันใบ
เลื่อย ควรใชค้ วามเร็วเล่ือยใหพ้ อดีไม่
เร็วหรือชา้ เกินไป ประมาณ 40 รอบ

286

ต่อนาที ดงั แสดงในรูป

การเร่ิมต้นเล่ือย
ก่อนการเล่ือยตอ้ งร่างแบบก่อนเพอ่ื ให้
เล่ือยตดั งาน ไดข้ นาดและรูปร่างตามตอ้ งการ
การร่างแบบจะตอ้ งขดี เสน้ สองเสน้ ไดแ้ ก่ เส้น
แรกเป็นเส้นตามขนาดท่ีแบบส่งั งานกาหนดและ
เสน้ ท่ีสองเป็นเส้นเผือ่ ความกวา้ งของคลองเล่ือย
โดยตอ้ งขดี ใหห้ ่างกนั 2 - 4 มิลลิเมตร ดงั แสด
ในรูป
เม่ือเร่ิมตน้ เล่ือยตอ้ งใช้ตะไบสามเหล่ียมตะไบนาร่องไวด้ งั รูป หรืออาจใช้นิ้วหัวแม่มือประคองใบ
เล่ือยใหอ้ ยใู่ นตาแหน่งที่ตอ้ งการเพื่อกนั การเลื่อนไหลออกไปจากจุดท่ีไดข้ ีดไว้ ดงั รูป

เทคนคิ การเล่ือยท่อและแนวเล่ือยทย่ี าว
1. การเล่ือยทอ่ ผนงั บางที่ ภายในกวา้ ง
มากไม่สามารถหาไมต้ อกอดั ไดใ้ บเล่ือยอาจหกั
เน่ืองจากเกิดการติดขดั ควรจะขยบั ชิ้นงานหลายๆ
คร้ังและเลื่อยเทา่ ๆ กนั จนรอบดา้ น ดงั รูป

2. การเล่ือยชิ้นงานที่มีแนวเล่ือยยาว
สามารถปรับใบเล่ือยใหท้ ามมุ 90 องศากบั โครง
เลื่อยไดเ้ พอ่ื ทาใหท้ าการเล่ือยดงั รูป

287

ท่าการวางแนวเลื่อย ในการเล่ือยชิน้ งานหน้าตดั ต่างๆ

288

ในการเลื่อยควรหล่อเยน็ ดว้ ยน้ายาหล่อเยน็ ไม่ควรใชน้ ้ามนั หล่อลื่นแทนเพราะจะทาใหก้ ารคายเศษได้
ไม่ดี ขณะที่ยงั เล่ือยไมเ่ สร็จตอ้ งถอดเลื่อยออกจากชิ้นงานอยา่ คาเอาไวก้ บั ชิ้นงาน อาจทาใหใ้ บเล่ือยหกั ได้

ข้อควรระวงั เกย่ี วกบั การใช้เลื่อย
1. อยา่ เลื่อยในขณะท่ีใบเลื่อยยงั ปรับไมไ่ ดท้ ่ี
2. ใส่ใบเล่ือยใหฟ้ ันช้ีไปทางดา้ นหนา้
3. เวลาเลื่อยตอ้ งเล่ือยตรงๆอยา่ ใหบ้ ิดโยไ้ ปมาใบเลื่อยจะหกั ได้
4. เม่ือเลิกใชแ้ ลว้ ตอ้ งหยอ่ นใบเลื่อยทกุ คร้ังเพ่อื ใบเล่ือยจะไดไ้ มย่ ดื ตวั
5. การจบั ชิ้นงานใหร้ อยตดั อยใู่ กลท้ ี่จบั ยดื มากที่สุดเพือ่ ป้องกนั การสน่ั ของชิ้นงานขณะ
ทาการเล่ือย
6. การจบั ยดึ ชิ้นงานตอ้ งมีเทคนิคที่เหมาะสมในงานบางลกั ษณะ
7. ใชใ้ บเล่ือยใหเ้ ตม็ ตลอดใบหรือใหใ้ ชจ้ านวนฟันมากท่ีสุด
8. ตอ้ งใหฟ้ ันเล่ือยอยบู่ นความหนางาน 2 ฟัน ข้นึ ไป
9. ในขณะชกั โครงเล่ือยกลบั ไมต่ อ้ งออกแรงกด

เคร่ืองเลื่อยกล ( Power Hack Saw)
ใชห้ ลกั การเป็ นพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานกล เคร่ืองเลื่อยกล Power Hack Saw จะใชม้ ากในงานช่าง
กล มีหลกั การทางานคลา้ ยเลื่อยมือ คือจะกินงานช่วงชักไปดา้ นหน้าโดยมีมอเตอร์เป็ นตวั ส่งกาลัง
ขบั เคล่ือนดว้ ยระบบเฟื อง เหมาะกบั การตดั โลหะท่ีมีความโตต้งั แต่ 20 มม.ข้ึนไปโดยตดั ไดท้ ้งั ตดั ตรงตวั
เอียงทามุมต่างๆไดโ้ ดยปรับที่ปากกาจบั ชิ้นงานให้เอียงทามุมกบั ใบเลื่อยเท่าน้นั ดงั แสดงในรูป โดยตอ้ งเผ่ือ
ขนาดของชิ้นงานไวด้ ว้ ยการวดั ใหใ้ ชบ้ รรทดั เหลก็ ไม่ควรใชเ้ วอร์เนียร์เพราะอาจชารุดได้

289

17. ใบงานที่ ........

หน่วยการสอนที่ ....8..... ชอื่ หน่วยการสอน...........................งานเลีอ่ ยและสกัด.......................
ชือ่ หัวข้อเร่ือง

1.งานเล่ือย
2.การเลอื กใชใ้ บเลือ่ ย
3.การประกอบใบเล่ือย
4.การปฏบิ ัติงานเลื่อย
5.งานสกัด
แบบฝึกหดั หน่วยที่ 8
ใบงานที่ 8 งานตะไบปรบั ผิวซีแคลมป์

จดุ ประสงค์ เพ่ือ
1. บอกลกั ษณะงานเล่ือย
2. เลือกใชใ้ บเล่อื ยตามชนิดของวสั ดุ
3. อธิบายการประกอบใบเลอ่ื ย
4. บอกลกั ษณะงานสกัด

ลำดับกิจกรรม/ลำดับการปฏิบัติ

1. ใชเ้ คร่ืองเล่อื ยถกู ต้องและปลอดภัย
2. ลบั ดอกสว่าน

เกณฑ์การพิจารณา

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
.................................................................................................................................................................. ............
......

290

18. แบบประเมินผล

แผนการวดั ผลและประเมนิ ผลทั้งรายวิชา

- พทุ ธพิ สิ ัย 1) แบบฝึกหัด 10 %

2) ทดสอบหลังเรยี น 10 %

3) วัดผลสมั ฤทธ์ิ 10 %

รวม 30 %

- ทกั ษะพสิ ัย 1) ใบงาน/งานทีม่ อบหมาย 35 %

2) วดั ผลสมั ฤทธิ์ 15 %

รวม 50 %

- จติ พิสัย 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไวส้ ำหรับเปรยี บเทียบกับคะแนนทดสอบหลงั เรียน)

19. แบบฝกึ หัด
1. จงบอกเครือ่ งเลอ่ื ยท่มี ใี ชท้ ัว่ ไปมาอยา่ งน้อย 3 ขนาด

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

4. วสั ดุที่ใช้ทำใบเล่ือยมีอะไรบ้างบอกมา 2 ชนิด
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

291

............................................................................................................................. .................................................
..................

5. จงบอกชนดิ หรอื รูปร่างของใบเลอ่ื ยมาอย่างน้อย 5 ชนิด
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..................
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................... .......................
..................

20. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรแู้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลัก

ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

20.1 สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ัติ
5432 1

ด้านการเตรียมการสอน

1. จัดหนว่ ยการเรียนร้ไู ด้สอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทงั้ ด้านความรู้ ดา้ นทักษะ และด้านจิตพสิ ัย

3. เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ สอื่ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรียนร้กู ่อนเข้าสอน

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ ีการนำเขา้ สบู่ ทเรียนที่นา่ สนใจ

5. มกี ิจกรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยใหผ้ ้เู รยี นเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จัดกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ เพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรียนมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จัดกจิ กรรมที่เนน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ )

9. กระตุ้นใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีเช่ือมโยงกับชีวติ จริงโดยนำภมู ปิ ญั ญา/บรู ณาการเข้ามามีส่วนร่วม

292

11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเมือ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรือตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใสด่ แู ลผูเ้ รยี น อย่างทว่ั ถึง

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกำหนด

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรียนรู้

16. ใช้สอื่ ท่ีเหมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรียน

17. ใช้สือ่ แหล่งการเรียนรอู้ ย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานที่ ของจริง เอกสาร

สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอร์เน็ต เป็นตน้

ดา้ นการวดั และประเมินผล

18. ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งด้านความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ยั

20. ครู ผเู้ รยี น ผู้ปกครอง หรือ ผทู้ เ่ี กี่ยวข้องมสี ่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยยี่ ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบตั ิพอใช้ รวม
2 = ควรปรับปรุง 1 = ไม่มีการปฏบิ ตั ิ คา่ เฉล่ยี

20.2 ปญั หาทพี่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ด้านการเตรียมการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านส่ือ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้

293

..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงชอ่ื ........................................................................ ครผู สู้ อน
(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทกึ การนเิ ทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผูน้ เิ ทศ ตำแหน่ง

294

ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะรายวิชา
โดยบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

รหสั วชิ า………………20100-1003…………….วิชา………….งานฝกึ ฝมี อื …………….หน่วยกติ ………2 (0-6-2)……..
ระดับชน้ั ……….ปวช 2…………..สาขาวชิ า……………ชา่ งไฟฟ้า กลุ่ม 1

295

ทางสายกลาง

3หว่ ง 2 เงอื่ นไข
ความรู้ คุณธรรม

ช่อื หนว่ ยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบรู้(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิตปัญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ

หนว่ ยการสอนท่ี 8 -1-111 - 2 1-71
ชอื่ หน่วยการสอน งานเลอื่ ยและงาน 1 111 2 1
สกัด
สมรรถนะประจำหน่วยการสอน 1 111 1 1 6
8.5 งานสกดั

รวม

ลำดับความสำคัญ

296

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัสวิชา .......20100-1003...... วิชา ......................งานฝกึ ฝมี อื ..............................
หนว่ ยที่ ........8...... ชอื่ หน่วย ...........งานเล่อื ยและงานสกัด.......... จำนวน ........6......ชั่วโมง
ชื่อเรอ่ื ง..

1 งานเลอื่ ย
2 การเลือกใชใ้ บเลื่อย
3 การประกอบใบเล่อื ย
4 การปฏบิ ัตงิ านเล่อื ย
5 งานสกดั
แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 8
ใบงานท่ี 8 งานตะไบปรบั ผวิ ซแี คลมป์

1. สาระสำคญั

งานเลอ่ื ยและงานสกัดเปน็ งานท่สี ำคญั อกี งานหนึ่ง เน่ืองจากการทำผลิตภัณฑใ์ นแต่ละชิ้นนั้นจะตอ้ งมี
การนำวัตถุดิบมาทำให้มีขนาดใกล้เคียงกับขนาดท่ีต้องการและนำไปขึ้นรูปต่อไป ซึ่งจะต้องทำงานได้รวดเร็ว
และสูญเสียวสั ดุนอ้ ยที่สดุ

2. สมรรถนะประจำหน่วยการเรยี นรู้

1. แสดงความรู้เก่ียวกบั งานเลือ่ ยและงานสกดั
2. ปรบั ผวิ ช้นิ งานโลหะตามแบบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1.บอกลักษณะงานเล่ือย
2.เลอื กใชใ้ บเล่ือยตามชนดิ ของวัสดุ
3.อธบิ ายการประกอบใบเลอื่ ย
4.บอกลกั ษณะงานสกัด

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. เตรียมชนิ้ งานตะไบ
2. ตะไบปรบั ผวิ ชิ้นงานซแี คลมป์
3. ปฏิบัติงานตะไบอยา่ งถูกต้องและ ปลอดภัย

297

4. เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้
8.1 งานเลือ่ ย

งานเล่ือย (Sawing) คือ การใช้เคร่ืองมือสำหรับตัดโลหะ ที่มีคมเล็ก ๆ คล้ายคมลิ่มเรียงตัวซ้อน
กันเป็นแถว ไปตามความยาวของใบเลื่อย เพื่อตัดเฉือนเนื้อวัสดุให้ขาดออกจากกัน และนำไปขึ้นรูปให้เป็น
ผลิตภัณฑ์ต่อไป สว่ นประกอบของเลอื่ ย จะประกอบดว้ ยสว่ นสำคญั ดังน้ี

8.1.1 โครงเล่ือย (Frame)
8.1.2 ใบเล่อื ย (Blade)
8.1.3 ฟนั เลอื่ ย
8.2 การเลือกใช้ใบเลือ่ ย
1. ชิ้นงานท่ีมีความกว้างหรือช่วงตัดหนา ให้เลือกใบเลื่อยชนิดฟันหยาบส่วนช้ินงานบาง ๆ
ใหเ้ ลอื กใชช้ นิดฟนั ละเอยี ด
2. ชน้ิ งานทีเ่ ปน็ วสั ดุอ่อน ให้ใชใ้ บเลื่อยชนดิ ฟนั หยาบ
3. ช้นิ งานท่ีเป็นวสั ดแุ ขง็ ควรเลือกใช้ชนิดฟนั ละเอยี ด
8.3 การประกอบใบเลือ่ ย
การใชเ้ ล่อื ยมือ มคี วามจำเป็นจะตอ้ งทราบถึงวิธกี ารใส่ใบเลื่อยเขา้ กับโครงเลอื่ ยอย่างถกู ต้อง
เพราะขนาดของฟนั เล่ือยจะต้องเหมาะสมกับวสั ดุงาน เม่ือนำใบเล่อื ยมาใสก่ บั โครงเลื่อยแลว้ ตอ้ งขนั ใหต้ ึงพอดี
และขนาดความยาวของใบเล่ือย ก็ควรต้องปรบั ให้พอดีกบั โครงเลือ่ ยเชน่ เดยี วกนั
8.4 การปฏิบตั งิ านเล่ือย
การปฏิบัติการเลื่อยเพ่ือตัดชิ้นงานให้มีรูปร่างและขนาดตามความต้องการนั้น ต้องมีเทคนิค
วธิ ีการท่ีควรต้องศกึ ษาขั้นตอนตา่ ง ๆ เพอื่ ใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ดงั น้ี
1. ก่อนลงมือเล่ือยงานจะตอ้ งทำการร่างแบบหรือขีดหมายแนวเลือ่ ย
2. จบั ยึดชิ้นงานด้วยปากกาจับงาน โดยให้แนวท่ีจะเล่ือยอยู่ในแนวดิ่งและใกล้กับปากของปากกา
มากทีส่ ุด ถา้ ชิน้ งานเปน็ แผน่ บาง ๆ ควรใช้แผ่นไม้ประกบช้นิ งานก่อนทำการเลอ่ื ย
3. ใช้ตะไบสามเหล่ียมตะไบเส้นแนวเล่ือย เพื่อบากคลองเลื่อยให้เป็นร่อง เป็นการบังคับไม่ให้
ใบเลื่อยล่นื ไถลออกจากเส้นร่างแบบ
4. ออกแรงกดเบา ๆ เม่ือเริ่มเคลื่อนใบเลื่อยไปข้างหน้า และต้ังมุมเล่ือยไปข้างหน้ามุมยกขึ้น
ประมาณ 10 องศากับแนวระดบั


Click to View FlipBook Version