148
1. วิธกี ารประเมนิ : แบบประเมินผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย
ท่ี 5
2. เครอื่ งการประเมนิ : ประเมินการฝกึ ปฏิบตั ิตามใบงานท่ี 5 งานลบั คมตดั ดอดสวา่ น
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%
จดุ ประสงค์ขอ้ ที่ 3 อธิบายหลกั การทำงานของตะไบ
1. วธิ ีการประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรียนร้แู ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ย
ที่ 5
2. เคร่อื งการประเมิน : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ัติตามใบงานที่ 5 งานลบั คมตดั ดอกสวา่ น
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%
14. แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการสอนที่ ......4..... ชอ่ื หน่วยการสอน.......................งานตะไบ..........................
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ
1. บอกวิธีการป้องกนั อนั ตรายจากการใชเ้ ครื่องมอื
149
2.อธบิ ายลกั ษณะตะไบและชนดิ ของตะไบ
3.บอกชนิดของคมตะไบ
4.อธิบายหลกั การทำงานของตะไบ
1. จงบอกสงบอกส่วนประกอบของตะไบ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
กน่ั ตะไบ
ขอบตะไบ ดา้ มจบั ตะไบ
ปลายตะไบ โคนตะไบ
ผิวหนา้ ตะไบ
ความยาวตะไบ
15. แบบทดสอบหลงั เรยี น
150
หน่วยการสอนท่ี ......... ชื่อหนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ ……………………………………………………………………………………………….
ข้อคำถาม
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................................. ................
..................
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
151
16. ใบความรทู้ ่ี ....1....
หน่วยการสอนที่ .....4.... ชอ่ื หน่วยการสอน.........................งานตะไบ........................
ชื่อหัวข้อเรอ่ื ง
ส่วนตา่ งๆ ของตะไบ
ตะไบเป็นเคร่ืองมือท่ีทำหน้าท่ีปรับผิวชิ้นงานท่ีขรุขระให้เรียบ หรือตกแต่งผิวงานเพื่อประกอบ
ชน้ิ สว่ นเขา้ ด้วยกันใช้กับงานโลหะทุกชนดิ คมของตะไบจะขูดเอาเศษโลหะเล็กๆ บนผิวงานออก
จากรูปท่ี 4.1 เมื่อขยายคมตัดจะเห็นคอมตัดเล็กๆ เรียงตามกัน ซ่ึงมีลักษณะเหมือนฟัน
เลอ่ื ยท่ีหนามาก
รปู ที่ 4.1 ส่วนตา่ ง ๆ ของตะไบและลักษณะของฟันตะไบ
ตะไบประกบด้วยส่วนลำตัว ซ่ึงบนลำตัวมีฟันขนาดเล็กจำนวนมาก และส่วนก้านตะไบจะ
ประกอบเข้ากับด้ามตะไบ ฟันตะไบเม่ือขยายให้เป็นเพียงฟันเดียวแล้วนำมาเปรียบเทียบกับฟันของ
เลื่อย
รปู ท่ี 4.2 การเปรียบเทยี บคมตดั ของตะไบ กบั คมตัดของฟันเลอ่ื ย
152
มุมคายมีค่าลบ มมุ คายมีคา่ เป็นบวก
คมตัดกระทำกับผิวงานในลักษณะปาดเศษหรือ คมตัดจะกระทำกับผิวงานในลักษณะขุดแซะซึ่ง
ขูดผิว ใช้แรงตัดเฉือนน้อย เศษโลหะหลุด ต้องใช้แรงดึงเฉือนมาก การคายเศษโลหะจะ
ออกเป็นขุยจำนวนน้อย ตัวอย่างเช่น ตะไบ หลุดออกได้ง่ายมีลักษณะช้ินใหญ่จำนวนมาก
เหล็กขดุ เปน็ ตน้ ดังแสดงในรปู ที่ 5.2 (ก) ตัวอย่างเช่นสกัด เล่ือย เป็นต้น ดังแสดงในรูป
ท่ี 5.2 (ข)
แนวของฟันตะไบ
รปู ท่ี 4.3 แสดงลกั ษณะของร่องฟนั ตะไบและการไหลของเศษโลหะ
ลายตัดของฟนั ตะไบแบบนี้เรียกว่า ตะไบลายตดั เดี่ยว แตล่ ะลายตัดจะทำให้เกิดคมตัดเป็นรูป
ปริซึมสามเหล่ียม ขณะท่ีทำการปาดผิวจะได้แถบของเศษกว้าง หรือกล่าวได้ว่าฟันตะไบกินเต็มหน้า
จึงเหมาะสำหรับโลหะอ่อนๆ เช่น ตะกั่ว ดีบุก อะลูมเิ นียม เพราะถา้ โลหะงานแข็ง จะทำให้ฟันกนิ เต็ม
หน้า และใช้แรงมากเกินไป ผลคือ ผิวไมเ่ รียบ ส่วนแนวฟันที่เอียงหรือโค้ง ก็เพื่อให้เศษโลหะวิ่งออก
จากช่องได้สะดวกเท่าน้ัน ตะไบลายตัดเดี่ยวโดยทั่วไปจะมีมุมประมาณ 65-85 องศา ดังแสดงในรูปท่ี
5.4
รูปที่ 4.4 แสดงมุมท่ัวไปของตะไบลายตัดเด่ยี ว
153
ตะไบลายไขว้ เกิดจากแนวตัด 2 แนวตัดกัน ทำให้เกิดเป็นรูปปิรามิด เหมาะสำหรับตะไบ
วสั ดแุ ขง็ เช่น เหลก็ หลอ่ เหลก็ เหนยี ว ทองเหลือง ดงั แสดงในรูปที่ 5.5
รูปท่ี 4.5 ตะไบลายไขว้
ปริ ามิดเหล่าน้ีจะเรียงเป็นแนวเดียวกันกับแนวแรงของตะไบ แลว้ ถ้าให้แนวตัดท้ังสองทำมุม
กับแกนตะไบเท่ากัน จะเป็นผลให้ฟันตะไบอยู่ในลักษณะตรงกันตลอดทั้งแนว เป็นผลให้ตะไบผิวงาน
เป็นร่อง ดังแสดงในรูปท่ี 4.5 (ก)
ตามแบบรูปท่ี 4.5 (ข) แนวตัดทั้งสองทำมุมไม่เท่ากัน คือ แนว a ทำมุมกับแกนตะไบ
ประมาณ 40-45 องศา ในขณะที่แนวแกน b ทำมุมกับแกนตะไบประมาณ 70-80 องศา เป็นผลให้
แนวยอดฟันมิได้ขนานกบั แกนตะไบ และจะทำมมุ กนั ซงึ่ ใช้สำหรบั ตะไบเหลก็ หยาบทั่วไป
จากรูปที่ 4.5 (ค) แนว X ทำมุมกบั แกนตะไบประมาณ 30 องศา ในขณะท่ีแนว Y ทำมมุ กับ
แกนตะไบประมาณ 80-90 องศา เนื่องจากความแตกต่างของมุมท้ังสอง มากกว่าแบบ (ข) ทำให้ยอด
ฟันทำมุมกับแนวตะไบมากกว่า เป็นผลทำให้มีฟันเกิดข้ึนจำนวนมากและเย้ืองกันอย่างมากใช้สำหรับ
ตะไบผิวสำเรจ็
ชว่ งร่องฟงั ตะไบ
ช่วงร่องฟันตะไบ คือ ระยะห่างท่ีแกนตะไบของร่องฟัน 2 ร่อง ท่ีอยู่เรียงกัน ความหยาบ
ละเอียดของตะไบจะบอกเป็นจำนวนร่องฟนั ต่อความยาว 1 เซนตเิ มตร ดังแสดงในรูปที่ 5.6
รปู ท่ี 4.6 ตะไบลายไขว้
154
ความลึกของแนวตดั
ในกรณีตะไบลายตัดคู่ ถ้าหากว่าแนวตัดท้ังสองแนวมีความลึกเท่ากันแล้ว จะเป็นผลทำให้เกิดปิรา
มิดยอดแหลมการท่ีเกิดฟันเป็นยอดแหลมน้ีทำให้การตะไบผิวงานไม่เรียบเนื่องจากฟันที่ได้จะทำหน้าท่ีขูดไป
เป็นรอยขว่ นหรอื เปน็ เสน้ เทา่ นั้น ดังแสดงในรปู ท่ี 4.7 (ก)
แต่ถ้าร่องฟังตะไบของแนวตัดทั้งสองไม่เท่ากัน จะมีผลทำให้ยอดฟันมิได้เป็นจุด และมี
ความกว้างหรือเป็นเกล็ดข้ึนทำให้ได้เศษโลหะเปน็ แถบโตขึ้น ซึง่ จะทำใหไ้ ดผ้ ิวเรียบกว่าเมอ่ื ทำการตะไบ
ดังแสดงในรปู ที่ 4.7 (ข)
รูปท่ี 4.7 แสดงลักษณะของร่องฟันตะไบท่ีลกึ เท่ากนั ( ก ) และลึกไมเ่ ท่ากัน
แนวตดั หลักและแนวตัดรอง
จากแนวตัดของตะไบคมตัดคู่ จะเห็นว่ามีร่องตัดท่ีลึก เรียกว่า “แนวตัดหลัก” (First Cut) ซึ่งจะ
ทำมุมกับแกนตะไบมากกว่า คือ ประมาณ 70-80 องศา ส่วนร่องตัดท่ีต้ืนกว่า เรียกว่า แนวตัดรอง”
(Second Cut) ซึ่งจะทำมุมกบั แกนตะไบนอ้ ยกว่า คือ ประมาณ 30-45 องศา ดังแสดงในรูปท่ี 4.8
รปู ที่ 4.8 แสดงมมุ ของแนวตัดหลักและมุมของแนวตดั รอง
วสั ดุที่ใช้ทำตะไบ
ตะไบทำจากเหล็กผสมคารบ์ อน ซ่ึงมีส่วนผสมของคาร์บอนอยู่ประมาณ 0.8 ถึง 1.4% ส่วนตะไบท่ี
ต้องการความคงทนสูงต้องทำด้วยเหล็กกล้าอย่างดี รูปร่างของฟัน นอกจากที่ถูกกำหนดโดยลายตัดแล้ว
ความถี่ความลึกของรอ่ งฟังยังมีผลต่อขนาดของฟันอีกด้วย คือ ตะไบหยาบจะเกิดจากร่องตัดลกึ และห่าง ใช้
155
สำหรบั ตะไบงานหยาบ สว่ นตะไบละเอยี ด จะเกิดจากร่องตดั ต้ืนและถ่ี ซ่งึ เปน็ ผลใหเ้ กิดฟันจำนวนมากและถ่ี
ซ่ึงเหมาะสำหรบั ตะไบตกแต่งผิวขนั้ สุดท้าย หรือเรียกวา่ การตะไบผวิ ละเอียด
การกำหนดความหยาบ-ละเอียดของตะไบกำหนดได้ ดงั น้ี
เบอรต์ ะไบ ชนิดของตะไบ ลักษณะลาย จำนวนฟัน : ซม. คณุ ภาพผวิ
0 ตะไบหยาบ หยาบ 4.5-10
1 ตะไบหยาบปานกลาง ซี่ฟนั ขนาดกลาง 6.3-16
2 ตะไบละเอยี ดปานกลาง ละเอียดปานกลาง 10-25
3 ตะไบละเอียด ละเอียด 14-35
4 ตะไบละเอยี ดมาก ละเอียดมาก 25-30
5 ตะไบละเอยี ดที่สดุ ละเอียดทีส่ ุด 40-71
ชนดิ ของลายคมตัด กับการใชง้ าน
ลายคมตัดแบบตา่ งๆ ของตะไบถูกออกแบบโดยเฉพาะสำหรบั ตะไบวสั ดุต่างๆ ดงั นี้ คอื
1. ตะไบคมตดั เดี่ยว ใช้สำหรบั ตะไบวสั ดุออ่ น เชน่
ตะก่ัว ดีบกุ อะลูมิเนียม และทองแดง บางครง้ั ก็
ออกแบบตะไบคมตดั เดี่ยวสำหรับตะไบผวิ ละเอยี ดชน้ิ งานที่
เปน็ เหลก็
2. ตะไบคมตดั คู่ ใช้สำหรับตะไบวสั ดแุ ข็ง เช่น
เหลก็ กลา้ เหลก็ หลอ่ เหลก็ เหนียว บรอนซ์ และ
ทองเหลือง เป็นต้น
3. ตะไบคมตัดเดย่ี วมีรอ่ ง ใช้สำหรบั ตะไบวัสดอุ ่อน เชน่
โลหะเบา คือ อะลมู เิ นียม แมกนีเซียม และพลาสติก
เปน็ ตน้
4. ตะไบหนาม หรือบุ้ง ใช้สำหรบั ตะไบวสั ดอุ ่อน เชน่
หนังสตั ว์ ไม้ เปน็ ต้น
156
5. ตะไบคมตดั โค้ง มรี อ่ งหักเศษวัสดุใชส้ ำหรับตะไบวสั ดุ
เบาผสม เชน่ ดูราล (โลหะอ่อนผสมอะลูมิเนยี ม) กระดาษ
อัดแข็ง วตั ถอุ ัด เป็นตน้
รูปท่ี 4.9 แสดงลักษณะลายคมตดั แบบต่าง ๆ และการใช้งาน
ชนดิ ของตะไบ และลักษณะการใช้งาน
การเลอื กชนิดของตะไบ ไมเ่ ฉพาะแตจ่ ะเลอื กความหยาบละเอยี ดมาใช้งานให้เหมาะกับวสั ดุ
งานเท่านั้น ยงั ต้องเลอื กตามขนาดและรปู รา่ งของชิน้ งานท่ีต้องการดว้ ย ตามปกติการใช้งานของตะไบ
ข้นึ อยูก่ ับรปู รา่ งหนา้ ตดั ของมัน เชน่ ตะไบกลม ใช้สำหรับตะไบรูกลม เป็นต้น
อยา่ งไรกต็ าม ขนาดของตะไบก็มีสว่ นเกีย่ วข้องในการเลอื กใช้งานดว้ ย เชน่ อาจใช้ตะไบ
ทอ้ งปลงิ สำหรบั ตะไบรูกลมขนาดใหญ่ เป็นต้น
1. ตะไบแบน ใช้สำหรบั ตะไบผิวนอก ลักษณะแบน
ราบ หรือตะไบผิวงานโค้งมน
2. ตะไบท้องปลิง ใชส้ ำหรับตะไบรูกลมท่ีมีขนาดใหญ่
หรือผวิ งานท่มี รี ่องโคง้ มากๆ
3. ตะไบคมตดั เดย่ี วมีรอ่ ง ใช้สำหรบั ตะไบวสั ดุอ่อน เช่น
โลหะเบา คือ อะลูมิเนยี ม แมกนเี ซียม และพลาสติก
เปน็ ต้น
4. ตะไบหนาม หรือบงุ้ ใช้สำหรบั ตะไบวัสดุอ่อน เชน่
หนงั สัตว์ ไม้ เป็นต้น
157
5. ตะไบคมตัดโค้ง มีร่องหักเศษวสั ดใุ ช้สำหรับตะไบวัสดุ
เบาผสม เชน่ ดูราล (โลหะออ่ นผสมอะลูมิเนียม) กระดาษ
อดั แข็ง วัตถุอัด เป็นต้น
รปู ท่ี 4.9 แสดงลักษณะลายคมตัดแบบต่าง ๆ
ชนิดของตะไบ และลักษณะการใชง้ าน
การเลือกชนิดของตะไบ ไม่เฉพาะแต่จะเลือกความหยาบละเอียดมาใช้งานให้เหมาะกับวัสดุงาน
เท่าน้ัน ยังต้องเลือกตามขนาดและรูปร่างของชิ้นงานที่ต้องการด้วย ตามปกติการใช้งานของตะไบข้ึนอยู่กับ
รปู ร่างหน้าตัดของมนั เช่น ตะไบกลม ใช้สำหรบั ตะไบรูกลม เป็นตน้
อย่างไรก็ตาม ขนาดของตะไบก็มีส่วนเก่ียวข้องในการเลอื กใช้งานด้วย เช่น อาจใช้ตะไบท้องปลิง
สำหรับตะไบรูกลมขนาดใหญ่ เปน็ ตน้
1. ตะไบแบน ใช้สำหรับตะไบผิวนอก ลักษณะแบน
ราบ หรือตะไบผวิ งานโคง้ มน
2. ตะไบท้องปลิง ใช้สำหรับตะไบรูกลมท่ีมีขนาดใหญ่
หรือผวิ งานทม่ี ีร่องโค้งมากๆ
158
17. ใบงานที่ ........
หนว่ ยการสอนที่ ....4..... ช่อื หนว่ ยการสอน...........................งานตะไบ.......................
ชื่อหัวข้อเรอื่ ง
1. ตะไบและชนิดของตะไบ
2 ชนดิ ของคมตะไบ
3 หลักของการตะไบ
4 ท่าตะไบ
5 การกำหนดความถ–ี่ หยาบของตะไบ
6 ขอ้ ควรระวงั ในการตะไบและบำรุงรักษา
จดุ ประสงค์ เพื่อ
1.บอกวิธีการป้องกันอันตรายจากการใช้เคร่ืองมอื
2.อธิบายลกั ษณะตะไบและชนิดของตะไบ
3.บอกชนิดของคมตะไบ
4.อธบิ ายหลกั การทำงานของตะไบ
ลำดับกิจกรรม/ลำดับการปฏิบตั ิ
1. ใชเ้ ครื่องเจยี ระไนได้ถกู ตอ้ งและปลอดภยั
2. ลับดอกสวา่ น
เกณฑ์การพจิ ารณา
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
18. แบบประเมนิ ผล
แผนการวดั ผลและประเมินผลทั้งรายวิชา
159
- พุทธิพสิ ัย 1) แบบฝึกหดั 10 %
2) ทดสอบหลังเรียน 10 %
3) วัดผลสมั ฤทธิ์ 10 %
รวม 30 %
- ทักษะพิสัย 1) ใบงาน/งานทม่ี อบหมาย 35 %
2) วัดผลสัมฤทธ์ิ 15 %
รวม 50 %
- จติ พิสยั 20 %
หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไว้สำหรับเปรียบเทียบกับคะแนนทดสอบหลงั เรียน)
19. แบบฝกึ หดั
1. จงบอกขนาดความยาวตะไบทมี่ ีใชท้ ัว่ ไปมาอย่างนอ้ ย 3 ขนาด
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
2. วัสดทุ ี่ใช้ทำดา้ มตะไบมอี ะไรบ้างบอกมา 2 ชนดิ
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ....................................................................................
..................
3. จงบอกชนิดหรอื รูปรา่ งตะไบมาอย่างนอ้ ย 5 ชนดิ
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................... ...............................
..................
160
20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรูแ้ บบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
20.1 สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้
รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1
ด้านการเตรยี มการสอน
1. จัดหนว่ ยการเรียนรู้ไดส้ อดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้
2. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พสิ ัย
3. เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ สอื่ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนเข้าสอน
ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
4. มีวิธีการนำเข้าสบู่ ทเรียนที่น่าสนใจ
5. มกี จิ กรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรยี นรู้ ความเข้าใจ
6. จัดกิจกรรมท่สี ง่ เสรมิ ให้ผ้เู รยี นค้นคว้าเพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง
7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
8. จดั กิจกรรมที่เน้นกระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )
9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รียนแสดงความคิดเหน็ อย่างเสรี
10. จัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่เช่ือมโยงกบั ชวี ติ จรงิ โดยนำภูมิปญั ญา/บูรณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม
11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
12. มกี ารเสริมแรงเม่ือนักเรยี นปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกตอ้ ง
13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผ้เู รียน
14. เอาใจใส่ดูแลผูเ้ รยี น อย่างทัว่ ถงึ
15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี ำหนด
ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้
16. ใชส้ ่อื ท่ีเหมาะสมกบั กิจกรรมและศักยภาพของผู้เรยี น
17. ใชส้ ือ่ แหลง่ การเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร
สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ตน้
ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
18. ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล
19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย
20. ครู ผู้เรยี น ผปู้ กครอง หรือ ผทู้ ่ีเกี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ
หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏบิ ัติดเี ยย่ี ม 4 = ปฏิบัตดิ ี 3 = ปฏิบัติพอใช้ รวม
161
2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ัติ ค่าเฉลี่ย
20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา
ปญั หาที่พบ แนวทางแกป้ ญั หา
ดา้ นการเตรยี มการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
162
ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)
ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................
21. บันทึกการนิเทศและติดตาม
วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผ้นู เิ ทศ ตำแหนง่
163
ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะรายวชิ า
โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รหสั วิชา………………20100-1003…………….วชิ า………….งานฝึกฝีมือ…………….หน่วยกิต………2 (0-6-2)……..
ระดบั ช้นั ……….ปวช 2 …………..สาขาวชิ า……………ชา่ งไฟฟ้ากำลัง กลุ่ม 1
ทางสายกลาง
3หว่ ง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คณุ ธรรม
ชื่อหน่วยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบ ้รู(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอสัต ์ย ุสจ ิรต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิต ัปญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ
หน่วยการสอนที่ 4
164
ช่ือหน่วยการสอน งานตะไบ
สมรรถนะประจำหน่วยการสอน
4.4 ทา่ ตะไบ 3 4 3 3 5 3 3 5 3 4 36 1
4.5 การกำหนดความถ–ี่ หยาบของตะไบ 3 5 3 3 5 3 3 5 2 2 34 2
รวม 6 9 6 6 10 6 6 10 5 6 70
ลำดบั ความสำคัญ 3233133 1 4 3
แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รหสั วิชา .......20100-1003...... วิชา ......................งานฝกึ ฝีมอื ..............................
หน่วยท่ี ........4...... ชอ่ื หน่วย ...........งานตะไบ.......... จำนวน ........6......ชั่วโมง
ช่อื เรือ่ ง..
1 ตะไบและชนดิ ของตะไบ
2 ชนดิ ของคมตะไบ
3 หลักของการตะไบ
4 ท่าตะไบ
165
5 การกำหนดความถ–ี่ หยาบของตะไบ
6 ขอ้ ควรระวงั ในการตะไบและบำรุงรกั ษา
แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 5
ใบงานที่ 5 งานลับคมตัดดอกสวา่ น
1. สาระสำคญั
งานตะไบเป็นงานขั้นพื้นฐาน ซึ่งนักเรียนที่เร่ิมเรียนช่างอุตสาหกรรมทุกคนจะต้องเรียนรู้และ
ให้ความสำคัญ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเครื่องจักรที่ทันสมัย ในการทำให้ผิวเรียบแต่ก็ยังมี ความจำเป็นต้องใช้
ตะไบในการทำงานเป็นประจำ ตะไบเป็นเคร่ืองมือใช้สำหรับลดขนาดของช้ินงาน ตกแต่งผิวงานให้เรียบเพื่อ
งานประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งการตัดเฉือนของตะไบจะอาศัยคมตัดที่เรียกว่าฟันตะไบ ในการปฏิบัติงาน
แต่ละครงั้ ความปลอดภยั เป็นสง่ิ สำคญั ท่สี ุดสำหรับชา่ งทุกคน
2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
เลอื กใชต้ ะไบในการตกแต่งผิวชิน้ งานตามลกั ษณะงาน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จุดประสงคท์ ่ัวไป
1. บอกวธิ กี ารปอ้ งกันอันตรายจากการใชเ้ ครื่องมอื
2.อธบิ ายลกั ษณะตะไบและชนดิ ของตะไบ
3.บอกชนิดของคมตะไบ
4.อธบิ ายหลกั การทำงานของตะไบ
3.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. ใชเ้ ครอื่ งเจยี ระไนไดถ้ กู ต้องและปลอดภยั
2. ลับดอกสว่าน
4. เนือ้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้
ตะไบและชนดิ ของตะไบ
4.1.1 ตะไบ (Files)
166
ตะไบ คือ เคร่ืองมือสำหรับลดขนาดของวัสดุให้มีผิวเรียบได้ขนาดตามต้องการ โดยใช้ฟัน
ตะไบตัดช้ินงาน ตะไบทำมาจากเหล็กกล้าคารบ์ อนสูง
4.1.2 ชนดิ ของตะไบ
ตะไบแบน ตะไบท้องปลิง ตะไบกลมหรือตะไบหางหนู ตะไบส่เี หล่ยี ม ตะไบสามเหล่ียม
4.2 ชนิดของคมตะไบ
ลกั ษณะคมตดั เดี่ยว ลกั ษณะคมตดั คู่และลักษณะคมตัดโค้ง
4.3 หลักของการตะไบ
4.3.1 วธิ ีจับตะไบ
4.3.2 วธิ ีการใช้ตะไบ
4.3.3 การใส่และถอดดา้ มตะไบ
4.4 ท่าตะไบ
4.5 การกำหนดความถ่ี–หยาบของตะไบ
4.6 ขอ้ ควรระวงั ในการตะไบและบำรุงรกั ษา
1. ควรใชต้ ะไบที่มีดา้ ม เพราะตะไบท่ไี มม่ ีด้ามทำใหเ้ กิดอนั ตรายแก่ผู้ปฏบิ ัตงิ านได้
2. ควรทำความสะอาดตะไบด้วยแปรงเหลก็ ตามแนวร่องฟันคมตะไบเสมอ
ฯลฯ
4.2 ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้
- ดา้ นทักษะ
1. ใช้เคร่อื งเจยี ระไนได้ถกู ต้องและปลอดภยั
2. ลบั ดอกสวา่ น
3. ตรวจสอบมมุ ดอกสวา่ น
4. ทำความสะอาดบริเวณพ้ืนท่ีปฏิบตั งิ าน
6. ทำความสะอาดบรเิ วณพ้นื ทีป่ ฏบิ ัตงิ าน
167
4.3 ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงตรงตอ่ เวลา มวี นิ ยั มคี วามรบั ผดิ ชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝ่รู้ มีความซ่อื สัตย์ มเี หตุผล
ประหยัด และปฏิบัติตนในแนวทางทดี่ ี
5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรยี นรู้
ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขัน้ ตอนการเรียนหรือกิจกรรมของผู้เรยี น
ข้นั เตรยี ม(จำนวน......15.......นาท)ี ขั้นเตรียม
ครขู านชอ่ื ผเู้ รยี น
ครทู บทวน ให้ข้อมูลย้อนกลบั เกย่ี วกับสิ่งแวดลอ้ ม
และความปลอดภัยในการปฏิบตั ิงาน
ขนั้ การสอน(จำนวน.......30.......นาท)ี
ครใู หน้ กั เรยี นทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ 5
ครูตั้งคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเร่ือง การตะไบ
(โดยมุ่งเน้นสิ่งท่ีนักเรียนได้ปฏิบัติไปแล้วตามใบงาน
ที่ 1)
นกั เรียนตอบคำถามทคี่ รูถาม
ครูอธบิ าย ถาม-ตอบเน้ือหาเก่ียวกับงานตะไบ นักเรยี นจดบนั ทึกสาระสำคัญท่คี รูอธบิ าย
ค รู ส า ธิ ต ก า ร ลั บ ค ม ตั ด ด อ ก ส ว่ า น แ ล ะ ให้ นั ก เรี ย น
ปฏิบัติงานตามใบงานที่ 5 (หากผลการปฏิบัติตามใบ
งานท่ี 1-2 ยังไม่เรียบร้อย ให้นักเรียนปฏิบัติอย่าง
ตอ่ เนือ่ งตอ่ ไป)
ครใู ห้นักเรยี นทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 4
ขนั้ สรปุ (จำนวน........15........นาที)
ครูสรุปเน้ือหาสาระสำคัญในบทเรียนให้นักเรียน
ตระหนักถึงความสำคัญ ปัญหาที่เกิดขึ้น และ
แนวทางการแกไ้ ขปัญหาท้ังทฤษฎีและปฏบิ ตั ิ
168
6. ส่ือการเรียนการสอน/การเรียนรู้
6.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์
1. หนงั สืองานฝกึ ฝีมอื 1 รหัส 2100-1003 หน่วยที่ 5
2. แบบประเมินผลการเรียนรูแ้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ยท่ี 5
3. ใบงานที่ 5/เครื่องมือ วัสดุอปุ กรณ์ในการปฏบิ ตั งิ าน
4. หอ้ งสมุดวทิ ยาลัย ศูนย์วทิ ยบริการ ห้อง Internet
6.2 สื่อโสตทศั น์
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..
6.3 สื่อของจริง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
7. แหล่งการเรียนการสอน/การเรียนรู้
7.1 ภายในสถานศึกษา
ห้องสมดุ วทิ ยาลยั ศูนยว์ ทิ ยบรกิ าร หอ้ ง Internet
7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
169
8. งานท่ีมอบหมาย
ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 5 และใบงานท่ี 5 ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ สง่ ในครงั้ ต่อไป
8.1 ก่อนเรียน
1) ใชส้ มดุ บนั ทกึ เวลาเรยี นฯ ขานช่อื ผเู้ รียนและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรยี น ประเมินความพร้อม เชน่ มีเคร่ืองมือ หนังสือ
สมุด ปากกา การแตง่ กาย เป็นตน้
8.2 ขณะเรียน
1) ใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ
ต่อการปฏบิ ัตงิ าน
8.3 หลังเรยี น
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมนิ การฝึกปฏบิ ัติตามใบงานท่ี 5 สง่ งานตามข้อกำหนด
9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่เี กิดจากการเรยี นร้ขู องผเู้ รยี น
1. ผลการปฏิบัติตามใบงานท่ี 5 งานตะไบ
2. ผลจากการทำแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 5
3. ผลจากการทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 5
10. เอกสารอ้างอิง
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
11. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั รายวชิ าอนื่
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
12. หลกั การประเมินผลการเรยี น
12.1 ก่อนเรยี น
170
1) ใช้สมุดบนั ทกึ เวลาเรียนฯ ขานช่ือผูเ้ รยี นและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใชแ้ บบสงั เกตความพร้อมในการเรยี น ประเมินความพร้อม เชน่ มีเครือ่ งมือ หนังสอื
สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้
12.2 ขณะเรียน
1) ใช้แบบสังเกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ
ต่อการปฏบิ ตั งิ าน
12.3 หลงั เรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมนิ การฝึกปฏบิ ตั ติ ามใบงานที่ 5 สง่ งานตามขอ้ กำหนด
13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี น
จุดประสงค์ขอ้ ที่ 1 อธบิ ายลักษณะตะไบและชนิดของตะไบ
1. วิธีการประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรียนรูแ้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หน่วย
ที่ 5
2. เครอื่ งการประเมิน : ประเมนิ การฝกึ ปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 5 งานลับคมตดั ดอกสว่าน
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%
จดุ ประสงคข์ อ้ ที่ 2 บอกชนิดของคมตะไบ
1. วธิ ีการประเมิน : แบบประเมินผลการเรยี นรแู้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย
ท่ี 5
2. เคร่อื งการประเมิน : ประเมนิ การฝกึ ปฏิบัติตามใบงานที่ 5 งานลบั คมตดั ดอดสวา่ น
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%
จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 3 อธบิ ายหลกั การทำงานของตะไบ
171
1. วธิ ีการประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ย
ที่ 5
2. เครอ่ื งการประเมิน : ประเมนิ การฝกึ ปฏิบตั ติ ามใบงานท่ี 5 งานลบั คมตัดดอกสว่าน
สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%
14. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หนว่ ยการสอนท่ี ......4..... ชอื่ หนว่ ยการสอน.......................งานตะไบ..........................
วัตถุประสงค์ เพ่ือ
1. บอกวิธกี ารปอ้ งกนั อันตรายจากการใชเ้ ครื่องมือ
2.อธิบายลกั ษณะตะไบและชนดิ ของตะไบ
3.บอกชนิดของคมตะไบ
4.อธิบายหลักการทำงานของตะไบ
4. จงบอกสงบอกส่วนประกอบของตะไบ
172
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
กนั่ ตะไบ
ขอบตะไบ ดา้ มจบั ตะไบ
ปลายตะไบ โคนตะไบ
ผวิ หนา้ ตะไบ
ความยาวตะไบ
15. แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการสอนที่ ......... ช่อื หนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือ ……………………………………………………………………………………………….
173
ขอ้ คำถาม
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................................. ................
..................
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
174
การตะไบ มีวธิ ีการดงั น้ี
การรักษาระดบั ของตะไบ
การรักษาระดบั ของตะไบเพื่อให้ไดผ้ ิวงานท่ีเรียบและไดข้ นาดตามที่กาหนดน้นั การประคองตะไบ
เพ่ือให้อย่ใู นแนวนอนที่ขนานตรงกบั พ้ืนผิววสั ดุเป็นเร่ืองสาคญั โดยที่ขณะดนั ตะไบไปขา้ งหนา้ จนถึงโคน
ตะไบน้ัน แขนท่ีไม่ถนัด (ส่วนใหญ่ไม่ถนัดแขนซ้าย) จะตอ้ งตึง เพ่ือรักษาระดับของตะไบเพื่อให้อยู่ใน
แนวขนานกบั พ้นื ผวิ วสั ดุ ดงั แสดงในรูป
รูปแสดงการประคองตะไบที่ถูกตอ้ งตะไบอยใู่ นแนวนอน ไดผ้ ิวงานเรียบ
การออกแรงกดมากเกินไปในการตะไบ ซ่ึงโนม้ ตวั ไปดา้ นหนา้ จะทาใหแ้ ขนดา้ นที่ไมถ่ นดั งอ ทาใหไ้ ม่
สามารถรักษาระดบั ของตะไบใหอ้ ยใู่ นแนวนอนได้ ดงั แสดงในรูป
แสดงการประคองตะไบท่ีไม่ถกู ตอ้ ง ตะไบกระดก ไดผ้ ิวงานโคง้ ไมเ่ รียบ
วธิ กี ารออกแรงกดตะไบขณะทาการตะไบ
การตะไบมีการเคลื่อนที่สองทาง คือ การเคล่ือนท่ีเดินหนา้ และถอยหลงั โดยไมม่ ีการออกแรงกดเฉพาะ
การเคล่ือนท่ีเดินหน้าเท่าน้นั เมื่อถอยหลงั ไม่ตอ้ งออกแรงกด การเฉลี่ยแรงกดมีหลกั การว่าจะตอ้ งพยายาม
รักษาน้าหนักท่ีกดลงบนผิวงานให้อยู่ในตาแหน่งศูนยก์ ลางชิ้นงานเสมอ และน้าหนักที่กดควรมีขนาด
สม่าเสมอ โดยใชห้ ลกั การของคานกบั จุดหมุนนน่ั เอง
รูป (ก) จงั หวะเริ่มตะไบ ควรกดทางดา้ นปลายตะไบใหม้ าก และน้าหนกั นอ้ ยกวา่ ทางดา้ นจบั
รูป (ข) จงั หวะชิ้นงานอยตู่ รงกลางตะไบ ใหก้ ดส่วนหวั และทา้ ยเทา่ กนั
รูป (ค) จงั หวะสุดระยะชกั ใหก้ ดทางดา้ นดา้ มจบั ใหม้ าก
175
รูปแสดงความสมั พนั ธ์ของแรงกดเมื่อเคลื่อนที่ไปขา้ งหนา้
ในขณะทาการตะไบ หากไม่สามารถรักษาน้าหนกั การกดให้สม่าเสมอ ตรงจุดศูนยก์ ลางของชิ้นงาน
แลว้ ผิววสั ดุที่ถูกตะไบจะเอียงหรือโคง้ เป็นหลงั เต่า ดงั น้นั จะตอ้ งฝึ กฝนเป็นเวลานานพอสมควรจึงสามารถ
เฉลี่ยแรงกดใหอ้ ยบู่ ริเวณส่วนกลางของชิ้นงานอยเู่ สมอได้
การวางตาแหน่งเท้าขณะทาการตะไบ
การวางตาแหน่งเทา้ จะตอ้ งปฏิบตั ิให้ถูกตอ้ ง เพราะตาแหน่งเทา้ มีความสัมพนั ธ์โดยตรงกบั การเคล่ือนไหว
โดยการวางตาแหน่งเทา้ มีวิธีการดงั น้ี
1. การตะไบขวาง
ผปู้ ฏิบตั ิงานยืนหันหน้าไปทางปากกา ให้ปลายเทา้ ซ้ายหรือขา้ งท่ีไม่ถนดั ห่างจากแนวศูนยป์ ากกา
ประมาณช่วงหน่ึงฝ่ าเทา้ แนวศูนยข์ องเทา้ ทามุมประมาณ 30 องศา กบั แนวศูนยป์ ากกาปลายเทา้ ขวาหรือขา้ ง
ท่ีถนดั ถอยห่างจากส้นเทา้ ซา้ ยประมาณช่วงความยางของตะไบ แนวปลายเทา้ ห่างจากแนวศูนยป์ ากกาเท่ากนั
ศนู ยข์ องฝ่าเทา้ ทามมุ ประมาณ 75 องศากบั ทิศทางแนวศูนยป์ ากกาดงั รูป
รูปแสดงลกั ษณะวางตาแหน่งในการตะไบตามขวาง
176
2. การตะไบตามยาว
• เทา้ ที่ไมถ่ นดั ทามมุ เลก็ นอ้ ยกบั แนวร่องของปากกาและอยหู่ นา้ เทา้ ขา้ งที่ถนดั
• เทา้ ท้งั สองห่างกนั ประมาณ 30 – 40 ซ.ม.
• ตาแหน่งการยนื อยทู่ างชีกเทา้ ขา้ งที่ไมถ่ นดั ดงั แสดงรูป
แสดงลกั ษณะวางตาแหน่งในการตะไบตามยาว
3. การตะไบไขว้
• การวางตาแหน่งเทา้ ใหอ้ ยตู่ าแน่งกบั การตะไบขวางและตะไบตามยาว
• ตาแหน่งการยืน อาจอยทู่ างดา้ นซ้ายหรือขวาของปากกาน้นั ข้ึนอยูก่ บั ทิศทางการตะไบไขว้ ดงั
รูปท่ีแสดงรูป
แสดงลกั ษณะวางตาแหน่งเทา้ ในการตะไบไขว้
การเคล่ือนตัวในขณะตะไบ
177
การท่ีจะไดต้ ะไบท่ีมีคุณภาพ การเคล่ือนลาตวั ขา และแขน ควรบงั คบั ให้ถูกตอ้ งตามความตอ้ งการ
ของงานดงั น้ี
การเคล่ือนท่ีตวั อยา่ งแบ่งเป็นสองระดบั คอื การตะไบหยาบและการตะไบละเอียดการตะไบหยาบ คือ
การตะไบท่ีตอ้ งการลดเศษโลหะออกเป็ นจานวนมาก ต้องออกแรง การหนักแต่ต้องเคล่ือนที่สม่าเสมอ
น้าหนักของลาตวั จะถูกนาไปช่วยเพ่ิมแรงกดจากมือท้งั สอง ดงั น้ันควรยืนห่างจากชิ้นงานพอสมควร เพ่ือ
สะดวกตอ่ การโยกตวั
รูปแสดงการเคล่ือนตวั ในขณะตะไบ
178
17. ใบงานท่ี ........
หนว่ ยการสอนท่ี ....4..... ชอ่ื หน่วยการสอน...........................งานตะไบ.......................
ชอ่ื หัวข้อเรอ่ื ง
1. ตะไบและชนิดของตะไบ
2 ชนิดของคมตะไบ
3 หลกั ของการตะไบ
4 ท่าตะไบ
5 การกำหนดความถ–่ี หยาบของตะไบ
6 ขอ้ ควรระวังในการตะไบและบำรงุ รกั ษา
จุดประสงค์ เพื่อ
1.บอกวธิ กี ารป้องกนั อนั ตรายจากการใช้เคร่ืองมือ
2.อธบิ ายลกั ษณะตะไบและชนิดของตะไบ
3.บอกชนิดของคมตะไบ
4.อธิบายหลกั การทำงานของตะไบ
ลำดับกจิ กรรม/ลำดับการปฏิบตั ิ
1. ใช้เครือ่ งเจยี ระไนได้ถูกต้องและปลอดภยั
2. ลับดอกสวา่ น
เกณฑ์การพจิ ารณา
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................ ..............................................
..............................................................................................................................................................................
..................
18. แบบประเมนิ ผล 10 %
10 %
แผนการวัดผลและประเมินผลทั้งรายวชิ า 10 %
- พทุ ธพิ ิสัย 1) แบบฝกึ หัด 30 %
2) ทดสอบหลังเรยี น
3) วดั ผลสัมฤทธิ์
รวม
179
- ทกั ษะพสิ ัย 1) ใบงาน/งานทีม่ อบหมาย 35 %
2) วดั ผลสัมฤทธ์ิ 15 %
รวม 50 %
- จิตพิสัย 20 %
หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไวส้ ำหรับเปรยี บเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลังเรียน)
19. แบบฝกึ หัด
1. จงบอกขนาดความยาวตะไบทม่ี ีใชท้ ว่ั ไปมาอย่างนอ้ ย 3 ขนาด
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
5. วัสดุทใ่ี ช้ทำด้ามตะไบมีอะไรบ้างบอกมา 2 ชนิด
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ....................................................................................
..................
6. จงบอกชนดิ หรือรูปร่างตะไบมาอย่างน้อย 5 ชนดิ
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................... ...............................
..................
20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรูแ้ บบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
20.1 สรุปผลการจัดการเรยี นรู้
รายการ ระดบั การปฏบิ ัติ
5432 1
ด้านการเตรียมการสอน
1. จัดหนว่ ยการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้
2. กำหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ด้านทักษะ และดา้ นจติ พิสยั
180
3. เตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ สือ่ นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนร้กู ่อนเขา้ สอน
ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
4. มวี ธิ กี ารนำเข้าสู่บทเรียนที่น่าสนใจ
5. มกี จิ กรรมท่หี ลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ
6. จดั กิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นค้นคว้าเพื่อหาคำตอบด้วยตนเอง
7. นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
8. จดั กิจกรรมที่เน้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ )
9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รียนแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี
10. จดั กิจกรรมการเรยี นรทู้ ่เี ชื่อมโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภูมปิ ัญญา/บรู ณาการเข้ามามสี ว่ นร่วม
11. จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม
12. มีการเสริมแรงเมอ่ื นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรือตอบถูกตอ้ ง
13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผ้เู รยี น
14. เอาใจใสด่ แู ลผ้เู รยี น อย่างทว่ั ถงึ
15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทก่ี ำหนด
ดา้ นส่อื นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้
16. ใช้ส่อื ทเี่ หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผ้เู รยี น
17. ใช้สื่อ แหล่งการเรยี นรอู้ ย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานท่ี ของจริง เอกสาร
ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอรเ์ นต็ เป็นตน้
ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
18. ผู้เรยี นมีสว่ นร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล
19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ังด้านความรู้ ทักษะ และจิตพิสยั
20. ครู ผเู้ รียน ผู้ปกครอง หรือ ผูท้ เ่ี กี่ยวข้องมสี ่วนรว่ ม ในการประเมิน
หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบัตดิ เี ย่ยี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏบิ ตั ิพอใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไม่มีการปฏิบตั ิ คา่ เฉลี่ย
181
20.2 ปญั หาทพ่ี บ และแนวทางแกป้ ัญหา
ปัญหาที่พบ แนวทางแก้ปญั หา
ดา้ นการเตรียมการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ด้านสือ่ นวตั กรรม แหล่งการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
182
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นการวัดและประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ดา้ นอ่นื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
ลงชื่อ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)
ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................
21. บนั ทึกการนิเทศและตดิ ตาม
วัน-เดอื น-ปี เวลา รายการนิเทศและตดิ ตาม ช่อื -สกุล ผูน้ เิ ทศ ตำแหน่ง
183
ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะรายวชิ า
โดยบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รหสั วิชา………………20100-1003…………….วชิ า………….งานฝกึ ฝมี อื …………….หนว่ ยกิต………2 (0-6-2)……..
ระดบั ช้นั ……….ปวช 2 …………..สาขาวชิ า……………ช่างไฟฟ้ากำลงั กลุ่ม 1
ทางสายกลาง
ล
รำ
วดั
มบ
(ค
5ว
า0
)ม
ส
184
3ห่วง 2 เง่อื นไข
ความรู้ คณุ ธรรม
ชื่อหนว่ ยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเห ุตผล(5)
ีมภู ิมคุ้มกัน(5)
รอบรู้(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
ซื่อ ัสตย์ ุสจริต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมสติปัญญา(5)
แบ่งปัน(5)
หนว่ ยการสอนท่ี 4 3 5 3 3 5 3 3 5 5 3 38 1
ชื่อหน่วยการสอน งานตะไบ 3533533 5 53
สมรรถนะประจำหน่วยการสอน
4.6 ข้อควรระวังในการตะไบและ 2122122 1 1 2
รวม
ลำดับความสำคัญ
แผนการจดั การเรียนรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
185
รหัสวชิ า .......20100-1003...... วิชา ......................งานฝกึ ฝีมือ..............................
หน่วยท่ี ........4...... ชือ่ หนว่ ย ...........งานตะไบ.......... จำนวน ........6......ชั่วโมง
ชื่อเรอ่ื ง..
1 ตะไบและชนิดของตะไบ
2 ชนดิ ของคมตะไบ
3 หลกั ของการตะไบ
4 ท่าตะไบ
5 การกำหนดความถ–่ี หยาบของตะไบ
6 ขอ้ ควรระวังในการตะไบและบำรงุ รักษา
แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4
ใบงานที่ 4 งานตะไบ
1. สาระสำคัญ
งานตะไบเป็นงานข้ันพ้ืนฐาน ซึ่งนักเรียนที่เริ่มเรียนช่างอุตสาหกรรมทุกคนจะต้องเรียนรู้และ
ให้ความสำคัญ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเคร่ืองจักรที่ทันสมัย ในการทำให้ผิวเรียบแต่ก็ยังมี ความจำเป็นต้องใช้
ตะไบในการทำงานเป็นประจำ ตะไบเป็นเคร่ืองมือใช้สำหรับลดขนาดของช้ินงาน ตกแต่งผิวงานให้เรียบเพ่ือ
งานประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งการตัดเฉือนของตะไบจะอาศัยคมตัดที่เรียกว่าฟันตะไบ ในการปฏิบัติงาน
แต่ละครั้งความปลอดภยั เปน็ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชา่ งทุกคน
2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
เลือกใชต้ ะไบในการตกแตง่ ผิวชน้ิ งานตามลักษณะงาน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
1. บอกวธิ กี ารปอ้ งกันอันตรายจากการใชเ้ คร่ืองมอื
2.อธบิ ายลักษณะตะไบและชนิดของตะไบ
3.บอกชนดิ ของคมตะไบ
4.อธิบายหลักการทำงานของตะไบ
3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. ใชเ้ ครอื่ งเจียระไนไดถ้ กู ตอ้ งและปลอดภยั
2. ลับดอกสว่าน
186
4. เนอื้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้
ตะไบและชนดิ ของตะไบ
4.1.1 ตะไบ (Files)
ตะไบ คือ เคร่ืองมือสำหรับลดขนาดของวัสดุให้มีผิวเรียบได้ขนาดตามต้องการ โดยใช้ฟัน
ตะไบตดั ชิ้นงาน ตะไบทำมาจากเหลก็ กลา้ คารบ์ อนสูง
4.1.2 ชนดิ ของตะไบ
ตะไบแบน ตะไบท้องปลิง ตะไบกลมหรือตะไบหางหนู ตะไบสีเ่ หล่ียม ตะไบสามเหลย่ี ม
4.2 ชนดิ ของคมตะไบ
ลักษณะคมตัดเดีย่ ว ลกั ษณะคมตัดคู่และลักษณะคมตดั โค้ง
4.3 หลักของการตะไบ
4.3.1 วธิ ีจบั ตะไบ
4.3.2 วิธีการใช้ตะไบ
4.3.3 การใส่และถอดดา้ มตะไบ
4.4 ทา่ ตะไบ
4.5 การกำหนดความถ่ี–หยาบของตะไบ
4.6 ข้อควรระวังในการตะไบและบำรงุ รักษา
1. ควรใชต้ ะไบท่ีมดี า้ ม เพราะตะไบทีไ่ มม่ ีด้ามทำให้เกิดอันตรายแกผ่ ้ปู ฏิบตั ิงานได้
2. ควรทำความสะอาดตะไบด้วยแปรงเหล็กตามแนวร่องฟันคมตะไบเสมอ
ฯลฯ
4.2 ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้
- ดา้ นทกั ษะ
187
1. ใช้เครื่องเจียระไนไดถ้ ูกต้องและปลอดภัย
2. ลับดอกสวา่ น
3. ตรวจสอบมุมดอกสว่าน
4. ทำความสะอาดบริเวณพืน้ ทปี่ ฏิบัติงาน
6. ทำความสะอาดบรเิ วณพนื้ ท่ีปฏบิ ัติงาน
4.3 ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพียงตรงต่อเวลา มวี นิ ยั มคี วามรับผิดชอบ ละเอียดรอบคอบ สนใจใฝ่รู้ มีความซ่อื สตั ย์ มเี หตผุ ล
ประหยดั และปฏบิ ตั ติ นในแนวทางท่ีดี
5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้
ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ข้ันตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของผเู้ รียน
ขนั้ เตรียม(จำนวน......15.......นาท)ี ข้ันเตรยี ม
ครขู านชื่อผเู้ รียน
ครูทบทวน ให้ข้อมลู ย้อนกลับเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
และความปลอดภยั ในการปฏิบัติงาน
ข้ันการสอน(จำนวน.......30.......นาท)ี
ครูให้นกั เรียนทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 5
ครูต้ังคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเรื่อง การตะไบ
(โดยมุ่งเน้นสิ่งที่นักเรียนได้ปฏิบัติไปแล้วตามใบงาน
ที่ 1)
นักเรียนตอบคำถามทคี่ รูถาม
ครอู ธบิ าย ถาม-ตอบเน้ือหาเกี่ยวกบั งานตะไบ นักเรียนจดบนั ทกึ สาระสำคัญทีค่ รูอธบิ าย
ค รู ส า ธิ ต ก า ร ลั บ ค ม ตั ด ด อ ก ส ว่ า น แ ล ะ ให้ นั ก เรี ย น
ปฏิบัติงานตามใบงานท่ี 5 (หากผลการปฏิบัติตามใบ
งานท่ี 1-2 ยังไม่เรียบร้อย ให้นักเรียนปฏิบัติอย่าง
ตอ่ เนอื่ งตอ่ ไป)
ครูใหน้ ักเรยี นทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 4
188
ขนั้ สรปุ (จำนวน........15........นาที)
ครูสรุปเนื้อหาสาระสำคัญในบทเรียนให้นักเรียน
ตระหนักถึงความสำคัญ ปัญหาท่ีเกิดขึ้น และ
แนวทางการแกไ้ ขปญั หาท้ังทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ
6. สือ่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้
6.1 สื่อสิ่งพิมพ์
1. หนงั สืองานฝกึ ฝมี อื 1 รหัส 2100-1003 หน่วยท่ี 5
2. แบบประเมินผลการเรียนร้แู ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ยท่ี 5
3. ใบงานท่ี 5/เคร่ืองมือ วัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบตั งิ าน
4. หอ้ งสมดุ วิทยาลัย ศูนย์วิทยบรกิ าร หอ้ ง Internet
6.2 สื่อโสตทัศน์
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..
6.3 ส่ือของจริง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
7. แหล่งการเรียนการสอน/การเรียนรู้
7.1 ภายในสถานศกึ ษา
189
ห้องสมดุ วทิ ยาลัย ศูนยว์ ิทยบรกิ าร หอ้ ง Internet
7.2 ภายนอกสถานศึกษา
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
8. งานทีม่ อบหมาย
ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 5 และใบงานที่ 5 ให้เสรจ็ สมบูรณ์ สง่ ในครงั้ ต่อไป
8.1 ก่อนเรยี น
1) ใช้สมดุ บนั ทึกเวลาเรยี นฯ ขานชอื่ ผเู้ รยี นและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมนิ ความพร้อม เช่น มีเคร่ืองมือ หนังสือ
สมดุ ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้
8.2 ขณะเรียน
1) ใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ
ต่อการปฏิบตั ิงาน
8.3 หลังเรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมนิ การฝึกปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 5 สง่ งานตามขอ้ กำหนด
9. ผลงาน/ชิ้นงาน ท่ีเกดิ จากการเรียนรู้ของผู้เรียน
1. ผลการปฏิบัติตามใบงานท่ี 5 งานตะไบ
2. ผลจากการทำแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 5
3. ผลจากการทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 5
10. เอกสารอ้างอิง
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
11. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั รายวชิ าอ่ืน
190
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
12. หลกั การประเมนิ ผลการเรยี น
12.1 ก่อนเรียน
1) ใช้สมดุ บนั ทึกเวลาเรียนฯ ขานชือ่ ผเู้ รยี นและตรวจการตรงต่อเวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมนิ ความพร้อม เช่น มีเครื่องมือ หนังสอื
สมุด ปากกา การแตง่ กาย เป็นตน้
12.2 ขณะเรยี น
1) ใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผิดชอบ
ตอ่ การปฏบิ ัตงิ าน
12.3 หลังเรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมินผลหลงั การเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ัติ ประเมินการฝึกปฏบิ ัติตามใบงานที่ 5 ส่งงานตามขอ้ กำหนด
13. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี น
จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 1 อธบิ ายลกั ษณะตะไบและชนิดของตะไบ
1. วธิ กี ารประเมิน : แบบประเมินผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หน่วย
ท่ี 5
2. เครอ่ื งการประเมนิ : ประเมนิ การฝึกปฏบิ ตั ติ ามใบงานที่ 5 งานลบั คมตดั ดอกสว่าน
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%
จุดประสงคข์ อ้ ที่ 2 บอกชนิดของคมตะไบ
191
1. วิธกี ารประเมนิ : แบบประเมินผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย
ท่ี 5
2. เครอื่ งการประเมนิ : ประเมินการฝกึ ปฏิบตั ิตามใบงานท่ี 5 งานลบั คมตดั ดอดสวา่ น
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%
จดุ ประสงค์ขอ้ ที่ 3 อธิบายหลกั การทำงานของตะไบ
1. วธิ ีการประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรียนร้แู ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ย
ที่ 5
2. เคร่อื งการประเมิน : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ัติตามใบงานที่ 5 งานลบั คมตดั ดอกสวา่ น
ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%
14. แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการสอนที่ ......4..... ชอ่ื หน่วยการสอน.......................งานตะไบ..........................
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ
1. บอกวิธีการป้องกนั อนั ตรายจากการใชเ้ ครื่องมอื
192
2.อธบิ ายลกั ษณะตะไบและชนิดของตะไบ
3.บอกชนดิ ของคมตะไบ
4.อธบิ ายหลกั การทำงานของตะไบ
7. จงบอกสงบอกสว่ นประกอบของตะไบ
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
กนั่ ตะไบ
ขอบตะไบ ดา้ มจบั ตะไบ
ปลายตะไบ โคนตะไบ
ผวิ หนา้ ตะไบ
ความยาวตะไบ
193
15. แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการสอนท่ี ......... ชื่อหน่วยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ ……………………………………………………………………………………………….
ขอ้ คำถาม
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................................. ................
..................
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
194
การตะไบละเอยี ด เป็นการตะไบข้นั สุดทา้ ยการตะไบหยาบจะมีร่องกินลึกประมาณ0.3 มม. ฉะน้นั ก่อน
ตะไบละเอียดตอ้ งตะไบหยาบก่อนและเผ่ือขนาดไว้ 0.5 มม. และใช้ตะไบละเอียดตะไบแต่งให้ไดข้ นาด
ชิ้นงานสาเร็จและผิวตามแบบกาหนด การเคล่ือนท่ีและแรงกดจะใช้แขนเท่าน้ันไม่มีการเคล่ือนท่ีลาตวั
เพราะอาจทาให้ผิวเรียบของงานอาจเสียได้ การตะไบให้ผิวเรียบ ตอ้ งใชค้ วามรู้สึกไปท่ีผิวงานท่ีกาลงั ตะไบ
ใหไ้ ดส้ มดุลและเรียบอยเู่ สมอ จึงจะไดง้ านท่ีมีคณุ ภาพ
การปรับปิ ดตะไบการตะไบชิน้ งานทม่ี พี ืน้ ผิวสัมผสั ไม่เท่ากนั
• กรณีผวิ งานรองรับตะไบเตม็ หนา้ จุดท่ีแรงกดตอ้ งใหล้ งตามแนวแกนตะไบดงั รูป
รูปแสดงจุดท่ีแรงกดจะอยใู่ นแนวแกนตะไบ
• กรณีท่ีผิวงานรองรับตะไบไม่เต็มหน้า เมื่อตะไบไปจะทาให้ผิวงานที่ได้ออกมาเอียงดังรูป
เพราะแรงท่ีกดอยตู่ รงแนวแกนทาใหน้ ้าหนกั ลดลงท่ีผวิ งานขา้ งท่ีแคบมากกวา่ ปกติ
195
รูปแสดงผิวงานที่รองรับแรงกดตะไบกวา้ งไม่เทา่ กนั ทาใหผ้ ิวงานเอียง
• แก้ จะตอ้ งกุดตะไบให้เอียงเขา้ หาผิวงานท่ีกวา้ งกวา่ เพื่อให้น้าหนกั กดกระจายออกมาดงั รูป จุด
ที่น้าหนกั จะกดเล่ือนห่างเส้นแนวแกนมาทางขวามือเลก็ นอ้ ยจะไดผ้ ิวงานที่เรียบ
แสดงการแกเ้ พื่อใหผ้ ิวเรียบโดยการเล่ือนแรงกดไปทางขวามือเลก็ นอ้ ย
การตะไบโค้ง
1. การตะไบโค้ง วิธีการคือ แนบปลายตะไบกบั ผิวส่วนโคง้ ของวสั ดุชิ้นงานทางด้านหน้า ขณะออก
แรงดนั ตะไบไปขา้ งหนา้ ให้กดดา้ มตะไบลงคมตะไบสามารถกินเน้ือวสั ดุงานไดต้ ลอดส่วนโคง้ ทิศทางให้ดู
ตามลกู ศร ดงั รูป
196
รูปแสดงการตะไบผิวงานโคง้
2. งานตะไบผิวเข้า วิธีการคอื ใหต้ ะไบทอ้ งปลิงทาการตะไบ โดยบิดขอ้ มือเพือ่ ใหต้ ะไบเคล่ือนตวั ไปทาง
ดา้ นขา้ งดว้ ย เพอื่ ใหค้ มตะไบกินผิวงานตามรัศมีผวิ เขา้ น้นั ดงั รูป
รูปแสดงการตะไบผวิ งานเขา้
3. การตะไบลบมุม 45 องศา วิธีการคือ เอียงตะไบให้ไดม้ ุม 45 องศาแลว้ ตะไบตามขอบงาน ดงั รูป
ประกอบ
197
รูปแสดงการตะไบลบมมุ 45 องศา
การพจิ ารณาเลือกทศิ ทางตะไบ
กรณีชิ้นงานมีรูปร่างไม่แน่นนอน เราจะใชว้ ิธีการตะไบตามที่กล่าวมาไม่ได้ ตอ้ งมีการพิจารณาเลือก
ทิศทางการตะไบดงั น้ี
1. งานกลมหรือวงแหวน ใหว้ างทิศทางตามรูป (ก)
2. งานเหลก็ ฉาก จะตอ้ งตะไบใหส้ มั ผสั ขาท้งั สองขา้ งทามุมกนั แสดงทิศทาง ตามรูป (ข)
3. งานส่ีเหลี่ยมคางหมู จะตอ้ งตะไบเปล่ียนแปลงแนวตะไบเรื่อยๆ เม่ือผิวงานมีพ้ืนท่ีกวา้ งหรือแคบลง
ดงั แสดงในรูปท่ี (ง)
รูปแสดงทิศทางการตะไบชิ้นงานวงกลม เหลก็ ฉาก สี่เหล่ียมคางหมู (งานที่มีรูปร่างไม่แน่นนอน)
งานตะไบผวิ ราบ
วสั ดุงานส่วนใหญ่จะมีพ้ืนที่ที่เรียบ และวิธีการตะไบสามารถทาได้หลายวิธีตามท่ี ได้กล่าวมาแล้ว
ไดแ้ ก่ โดยการตะไบตอ้ งเริ่มตะไบคมตดั คู่เพื่อขดู ผวิ หนา้ ท่ีแข็งออกก่อนและเป็นการตะไบเพ่ือลดขนาดของ
หนงั ลง เมื่อตะไบงานจวนจะไดข้ นาดจึงเปล่ียนมาใชต้ ะไบคมตดั เด่ียวเพื่อปรับแตง่ ผิวงานใหเ้ รียบ
การตะไบไขว้หรือการตะไบทแยงมมุ