The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วิชา งานฝึกฝีมือ รหัสวิชา 20100 - 1003

ฝึกฝีมือ 18 บท

198

ใช้ในกรณีผิวงานกวา้ งกว่าหนา้ ตะไบโดยการตะไบทะแยงจนเกือบเตม็ หนา้ ชิ้นงานจากน้นั ก็กลบั ขา้ ง
ทแยง ไม่ควรตะไบจนสุดขอบขา้ งหน่ึง เพราะตรงมุมชิ้นงานมีผิวท่ีรับหนา้ ตะไบนอ้ ย ทาใหต้ ะไบกระดกได้
ง่าย ดงั รูป

แสดงลกั ษณะของการตะไบไขวห้ รือตะไบทะแยง
ตะไบทแยงมุม เหมาะสาหรับใชใ้ นการปรับผิวเรียบ สามารถตรวจสอบผวิ นูนไดเ้ ป็นอยา่ งดีโดยสงั เกต
ไดจ้ ากรอยท่ีเกิดจากการตะไบทแยง ดงั แสดงในรูป

รูปแสดงลกั ษณะของรอยตะไบที่สังเกตไดว้ า่ มีผิวนูนหรือผิวเรียบ
การตะไบขูด
การตะไบวิธีน้ีใชส้ าหรับขูดผิวนูนให้ลดลงโดยการชกั ตะไบในระยะส้ันๆ เท่าน้นั และจะตอ้ งกดแรง
เพยี งเบาๆ โดยใชง้ านที่มีความกวา้ งเพียงเล็กนอ้ ยเท่าน้นั โดยการตะไบแบบน้ี เป็นการตะไบผิวละเอียด และ
ใชก้ บั ตะไบคมตดั เดี่ยวเท่าน้นั วิธีการตะไบใหส้ งั เกตจากรูป

199

รูปแสดงวธิ ีการตะไบขดู

การตะไบขึน้ รูป

วสั ดุท่ีจะนามาทาเป็ นผลิตภณั ฑ์ จะตอ้ งผ่านการตดั ให้ได้ใกลเ้ คียงกบั ขนาดที่แบบสั่งงานกาหนด
หลงั จากน้นั ใหต้ ะไบลบมมุ และนามาตะไบปรับผิว โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี

ลาดบั ข้นั ตอนการตะไบผวิ เรียบของชิ้นงาน
วสั ดุงานตอ้ งปรับผิวให้ได้ 6 ดา้ น แต่ละดา้ นตอ้ งมีผิวเรียบและต้งั ฉากซ่ึงกนั และกนั พร้อมท้งั มีขนาด
ตามแบบส่งั งานกาหนด
อนั ดบั แรกตอ้ งเลือกดา้ นแรกก่อนว่าน่าจะเป็ นดา้ นใดในวสั ดุน้ันแต่ควรเลือกดา้ นท่ีมีพ้ืนท่ีกวา้ งกว่า
ดา้ นอื่นๆ
เม่ือไดพ้ ิจารณาเลือกดา้ นแรกแลว้ ใหป้ ฏิบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ใชป้ ลายของตะไบหรือส่วนขอบของตะไบขดู ผวิ ดิบออกก่อนดงั แสดงในรูป

แสดงการขดู ผิวดิบของชิ้นงานก่อนจะตะไบ

200

2. ตะไบให้ไดผ้ ิวเรียบโดยใช้วิธีการให้เหมาะสมตามที่ไดก้ ล่าวมาแลว้ อาจจะตะไบขวางหรือตะไบ
ไขวก้ ็แลว้ แตว่ สั ดุงาน โดยดา้ นท่ี 1 ตะไบใหไ้ ดผ้ วิ เรียบเทา่ น้นั ใหใ้ ชบ้ รรทดั เสน้ ผมในการวดั

3. ตะไบดา้ นท่ี 2 โดยดา้ นที่ 2 จะตอ้ งไดผ้ ิวเรียบและต้งั ฉากกบั ดา้ นท่ี 1 ใหใ้ ชฉ้ ากเสน้ ผมในการวดั
4. ตะไบดา้ นท่ี 3 โดยจะตอ้ งไดผ้ วิ เรียบและตอ้ งฉากกบั ดา้ นท่ี 1 , 2
5. ตะไบดา้ นท่ี 4 โดนจะตอ้ งไปเขียนเส้นร่างแบบบนโต๊ะระดบั ก่อนอื่นตอ้ งทาน้ายาร่างแบบแลว้ คว่า
ดา้ นท่ี 1 ลง แลว้ ขีดเส้นตามแบบส่ังงานกาหนดดว้ ยเวอร์เนียร์วดั ความสูง แลว้ ตะไบให้ไดข้ นาด,ผิวเรียบ
และต้งั ฉากกบั ดา้ นที่ 1 , 2 , 3
6. ตะไบดา้ นท่ี 5 โดยตอ้ งร่างแบบทาทาตามข้นั ตอนขอ้ 5 แลว้ ขีดเส้นตามแบบส่ังงานกาหนดดว้ ย
เนียร์เวียร์วดั ความสูงแลว้ ตะไบใหไ้ ดข้ นาด, ผวิ เรียบและต้งั ฉากกบั ดา้ นที่ 1 , 2 , 3 , 4
7. ตะไบดา้ นที่ 6 โดยทาตามข้นั ตอนขอ้ 5 แลว้ ควา่ ดา้ นท่ี 3 ลง แลว้ ขีดเสน้ ตามแบบสั่งงานกาหนดดว้ ย
เนียร์เวยี ร์วดั ความสูงแลว้ ตะไบใหไ้ ดข้ นาด, ผวิ เรียบและต้งั ฉากกบั ดา้ นที่ 1 , 2 , 3 , 4 , 5

แสดงลาดบั ในการตะไบผวิ ของชิ้นงาน

17. ใบงานที่ ........

หน่วยการสอนท่ี ....4..... ชอื่ หน่วยการสอน...........................งานตะไบ.......................
ชอ่ื หัวข้อเรื่อง

1. ตะไบและชนดิ ของตะไบ
2 ชนดิ ของคมตะไบ
3 หลักของการตะไบ
4 ทา่ ตะไบ
5 การกำหนดความถ–่ี หยาบของตะไบ
6 ขอ้ ควรระวังในการตะไบและบำรงุ รักษา

จุดประสงค์ เพื่อ
1.บอกวิธกี ารป้องกนั อนั ตรายจากการใชเ้ ครื่องมือ
2.อธิบายลกั ษณะตะไบและชนิดของตะไบ
3.บอกชนดิ ของคมตะไบ

201

4.อธิบายหลักการทำงานของตะไบ

ลำดบั กจิ กรรม/ลำดับการปฏิบัติ

1. ใช้เครอ่ื งเจียระไนไดถ้ กู ตอ้ งและปลอดภัย
2. ลับดอกสวา่ น

เกณฑก์ ารพิจารณา

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

18. แบบประเมนิ ผล

แผนการวัดผลและประเมนิ ผลทงั้ รายวชิ า

- พุทธพิ สิ ัย 1) แบบฝึกหัด 10 %

2) ทดสอบหลงั เรยี น 10 %

3) วัดผลสัมฤทธิ์ 10 %

รวม 30 %

- ทกั ษะพสิ ัย 1) ใบงาน/งานทม่ี อบหมาย 35 %

2) วดั ผลสัมฤทธิ์ 15 %

รวม 50 %

- จติ พสิ ัย 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไวส้ ำหรับเปรยี บเทยี บกับคะแนนทดสอบหลงั เรียน)

19. แบบฝึกหดั
1. จงบอกขนาดความยาวตะไบทม่ี ีใช้ทัว่ ไปมาอยา่ งนอ้ ย 3 ขนาด

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

8. วัสดทุ ่ใี ช้ทำดา้ มตะไบมีอะไรบ้างบอกมา 2 ชนดิ

202

............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ....................................................................................
..................

9. จงบอกชนดิ หรอื รูปรา่ งตะไบมาอยา่ งนอ้ ย 5 ชนิด
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................... ...............................
..................

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรแู้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการตามหลกั

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจัดการเรยี นรู้

รายการ ระดับการปฏิบตั ิ
5432 1

ด้านการเตรียมการสอน

203

1. จัดหนว่ ยการเรยี นรไู้ ดส้ อดคล้องกับวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทัง้ ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจิตพิสยั

3. เตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ ส่ือ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนเข้าสอน

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

4. มวี ิธกี ารนำเขา้ สู่บทเรียนท่ีน่าสนใจ

5. มีกิจกรรมทีห่ ลากหลาย เพื่อช่วยให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ

6. จดั กิจกรรมทสี่ ่งเสริมใหผ้ เู้ รยี นคน้ ควา้ เพ่ือหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมทีเ่ นน้ กระบวนการคดิ ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นแสดงความคิดเหน็ อย่างเสรี

10. จัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ่เี ช่ือมโยงกบั ชีวติ จริงโดยนำภูมปิ ญั ญา/บูรณาการเข้ามามีส่วนร่วม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเม่อื นักเรยี นปฏิบตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดูแลผเู้ รยี น อย่างท่วั ถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาทก่ี ำหนด

ดา้ นสอ่ื นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้

16. ใชส้ อ่ื ทเี่ หมาะสมกบั กิจกรรมและศักยภาพของผ้เู รียน

17. ใช้สอ่ื แหล่งการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ น็ต เป็นตน้

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผูเ้ รียนมีสว่ นร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผู้เรยี น ผปู้ กครอง หรือ ผู้ท่ีเกยี่ วข้องมสี ่วนร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ย่ียม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบตั พิ อใช้ รวม
2 = ควรปรับปรงุ 1 = ไมม่ กี ารปฏิบตั ิ คา่ เฉล่ยี

20.2 ปัญหาท่พี บ และแนวทางแกป้ ัญหา แนวทางแกป้ ญั หา
ปัญหาที่พบ

204

ด้านการเตรียมการสอน
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นสือ่ นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวัดและประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นอนื่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงชือ่ ........................................................................ ครผู สู้ อน

205

(....................................................................)
ตำแหน่ง .......................................................................

............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนิเทศและตดิ ตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนิเทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผูน้ เิ ทศ ตำแหน่ง

206

ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะรายวชิ า
โดยบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วชิ า………………20100-1003…………….วิชา………….งานฝึกฝีมือ…………….หน่วยกิต………2 (0-6-
2)……..

ระดับช้นั ……….ปวช2…………..สาขาวิชา……………ช่างไฟฟา้ กำลงั กลุ่ม 1

ทางสายกลาง

3ห่วง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คุณธรรม

ชื่อหน่วยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวิชา ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบ ้รู(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอสัต ์ย ุสจ ิรต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิต ัปญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ

หนว่ ยการสอนท่ี 5 11 -4321 2 3 - 17 1
ช่ือหน่วยการสอน งานรา่ งแบบ -- -532 - 3 4 - 17 2
สมรรถนะประจำหน่วยการสอน -2 -3342 1 1 - 16 3
5.1 ความหมายของการรา่ งแบบ
5.2 ชนดิ ของเครื่องมือร่างแบบ 13 12 9 8 3 6 8 50
5.3 การระวังรกั ษาและความปลอดภัย
ในการใชเ้ ครื่องมือร่างแบบ

รวม

207

ลำดับความสำคัญ 87 1236 5 4

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมุง่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัสวชิ า .....20100-1003..... วชิ า ......................งานฝึกฝมี อื .....................
หน่วยท่ี .......5....... ชื่อหน่วย .........................งานตะไบ.............................. จำนวน .......6.......ชัว่ โมง
ชือ่ เร่ือง 1. ความหมายของงานร่างแบบ

2. ชนดิ ของเครื่องมือร่างแบบ
3. การระวังรักษาและความปลอดภยั ในการใช้เครือ่ งมอื ร่างแบบ

1. สาระสำคญั

ในอตุ สาหกรรมการผลิต จะมีการขนึ้ รูปชิน้ งานให้เป็นผลิตภัณฑ์และเครื่องมือตา่ ง ๆ ก่อนการขึ้นรูป
ให้ได้รูปร่างและขนาดที่กำหนด สิ่งที่จะช่วยให้ทราบตำแหน่งท่ีแน่นอนได้จะต้องมีการร่างแบบก่อน
ในงานเขียนแบบอาจใช้มาตราส่วนย่อหรือขยายก็ได้ สำหรับงานร่างแบบน้ันจะต้องร่างบนงานจริงและขนาด
จริง

2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

เลือกและใชเ้ ครอ่ื งมือในงานรา่ งแบบชน้ิ งานตามลักษณะงาน

208

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1.บอกความหมายของการรา่ งแบบ
2.บอกชนดิ ของเคร่ืองมือร่างแบบ
3.อธิบายวธิ ีการใชเ้ ครือ่ งมือร่างแบบอย่างถูกตอ้ งและปลอดภยั

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. เจาะรูคอ้ นเดินสายไฟไดถ้ ูกตอ้ งและปลอดภยั
2. ตะไบคอ้ นเดินสายไฟให้มีขนาดตามท่กี ำหนด
3. ตรวจสอบขนาดรคู ้อนเดนิ สายไฟตามแบบทก่ี ำหนด

4. เนือ้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
1. บอกความหมายของการรา่ งแบบ
2. บอกชนิดของเครื่องมือร่างแบบ
3. อธิบายวธิ ีการใช้เคร่อื งมือรา่ งแบบอย่างถูกตอ้ งและปลอดภยั
4. อธิบายข้ันตอนการใช้เครอ่ื งมือรา่ งแบบ
5. บอกการระวงั รักษาเคร่อื งมือรา่ งแบบ

4.2 ด้านทักษะหรอื การประยกุ ต์ใช้
1. เจาะรคู ้อนเดินสายไฟไดถ้ ูกต้องและปลอดภยั
2. ตะไบค้อนเดนิ สายไฟใหม้ ีขนาดตามที่กำหนด
3. ตรวจสอบขนาดรคู ้อนเดินสายไฟตามแบบที่กำหนด
4. ทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ปฏิบตั งิ าน
4.3 ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะท่พี งึ ประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลักปรชั ญา

เศรษฐกิจพอเพียง
ตรงต่อเวลา มีวินยั มคี วามรบั ผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มคี วามซื่อสัตย์ มีเหตุผล

ประหยัด และปฏบิ ตั ติ นในแนวทางทดี่ ี

209

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้

ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขั้นตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของผู้เรยี น

ขัน้ เตรียม(จำนวน.......15......นาท)ี
ครูขานช่อื ผูเ้ รียน
ครทู บทวนความรู้เดิม และให้ขอ้ มลู ย้อนกลบั
เกี่ยวกบั งานตะไบ

ข้ันการสอน(จำนวน.......30.......นาที) นักเรยี นตอบคำถามทค่ี รูถาม
ครใู หน้ กั เรยี นทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 4
ครูต้ังคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเรื่อง การร่างแบบ
(โดยมุ่งเน้นสิ่งที่นักเรียนได้ปฏิบัติไปแล้วตามใบงาน
ท่ีผ่านมา)

ครอู ธบิ าย ถาม-ตอบเน้ือหาเกี่ยวกบั งานรา่ งแบบ นกั เรยี นจดบันทกึ สาระสำคัญทค่ี รูอธิบาย
ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 4
ครูสาธิตการเจาะชน้ิ งานและใหน้ กั เรยี นปฏิบตั งิ าน
ตามใบงานที่ 4 (หากผลการปฏบิ ตั ติ ามใบงานทผ่ี า่ น
มายังไม่เรยี บร้อย ให้นักเรียนปฏิบัติงานนน้ั อยา่ ง
ต่อเนอ่ื งต่อไป)

ครูใหน้ กั เรยี นทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 4

ขนั้ สรุป (จำนวน........15........นาที)
ครูสรปุ เน้อื หาสาระสำคัญในบทเรยี นใหน้ ักเรยี น
ตระหนักถึงความสำคัญ ปัญหาทีเ่ กดิ ข้นึ และ
แนวทางการแก้ไขปญั หาทั้งทฤษฎีและปฏิบตั ิ

210

6. สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้

6.1 สื่อสิ่งพิมพ์
1. หนังสืองานฝึกฝีมอื 1 รหัส 2100-1003 หน่วยท่ี 4
2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ยท่ี 4
3. ใบงานที่ 4/เคร่ืองมือ วัสดอุ ุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน
4. ห้องสมุดวิทยาลยั ศูนยว์ ิทยบริการ ห้อง Internet

6.2 สื่อโสตทัศน์
............................................................................................................................................ ..................................
................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................. ............................................
........................

6.3 ส่ือของจริง
1. แท่นระดับ หรือโต๊ะระดบั
2. เหล็กแท่นฉาก
3. ว-ี บลอ็ ก
4. แคลมป์
5. เหลก็ ขดี

7. แหล่งการเรยี นการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
7.1.1. หอ้ งสมดุ วิทยาลยั ศูนยว์ ิทยุบริการ หอ้ ง Internet

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 4 และใบงานท่ี 4 ใหเ้ สรจ็ สมบรู ณ์ ส่งในครงั้ ต่อไป

8. งานท่มี อบหมาย

211

8.1 ก่อนเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................ ..................................
................................................................................................. .............................................................................
..................

8.2 ขณะเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................
8.3 หลังเรยี น
............................................................................................................................................................. .................
.................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................

9. ผลงาน/ช้นิ งาน ที่เกิดจากการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น

1. ผลการปฏิบัตติ ามใบงานที่ ใบงานท่ี 4 งานเจาะ
2. ผลจากการทำแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 4
3. ผลจากการทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 4

10. เอกสารอ้างอิง

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................

212

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั รายวชิ าอ่ืน

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................... ..........................................
......................................................................................... .....................................................................................
..................

12. หลกั การประเมนิ ผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1) ใช้สมุดบันทึกเวลาเรียนฯ ขานชื่อผ้เู รยี นและตรวจการตรงตอ่ เวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมินความพร้อม เช่น มีเคร่ืองมือ หนงั สือ

สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้
12.2 ขณะเรยี น
1) ใช้แบบสังเกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ

ตอ่ การปฏิบตั ิงาน
12.3.หลังเรยี น
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลงั การเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมนิ การฝึกปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 4 สง่ งานตามขอ้ กำหนด

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี น

จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 1 อธิบายความหมายของงานร่างแบบได้
1. วธิ ีการประเมิน : แบบประเมินผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ที่ 4
2. เครื่องการประเมนิ : ประเมนิ การฝึกปฏบิ ัตติ ามใบงานท่ี 4 งานเจาะ

ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 2 บอกชนิดของเครอื่ มมือและอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นงานรา่ งแบบไดถ้ ูกต้อง
1. วธิ ีการประเมนิ : แบบประเมินผลการเรยี นรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ย

ที่ 4
2. เคร่อื งการประเมิน : ประเมนิ การฝึกปฏบิ ัติตามใบงานที่ 4 งานเจาะ

213

สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

จุดประสงคข์ ้อท่ี 3 เลือกใชเ้ ครอ่ื งมือ
1. วิธีการประเมิน : แบบประเมินผลการเรยี นรู้และแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย

ท่ี 4
2. เคร่อื งการประเมนิ : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 4 งานเจาะ

สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%

14. แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หน่วยการสอนท่ี ........... ชื่อหนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ
………………………………………………………………….......................................…………………………….
ขอ้ คำถาม
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ....................................................................................
..................

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

หนว่ ยการสอนท่ี ......... ชือ่ หนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ……………………………………………………………………………………………….
ข้อคำถาม

214

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

16. ใบความร้ทู ่ี ........

หนว่ ยการสอนที่ ....5..... ชือ่ หน่วยการสอน งานรา่ งแบบ
ช่อื หัวข้อเรอื่ ง

215

เครอ่ื งมือและอุปกรณร์ ่างแบบ
เครื่องมือร่างแบบเป็นเคร่ืองมือท่ีใช้ทำขีดหมายหรือเครื่องหมายบนช้ินงาน เช่น ขีดหมาย

เป็นเส้นตรง เส้นโค้ง วงกลม และทำให้เป็นรอย เพื่อบอกให้ทราบถึงตำแหน่งที่ต้องการ การใช้
เคร่ืองมือร่างแบบโดยลำพัง จะไม่ทราบค่าและขนาดท่ีใช้ ดังน้ัน จะทราบค่าและขนาดท่ีใช้ในงาน
เขียนแบบได้นั้นต้องใช้เครือ่ งมือร่างแบบร่วมกับเคร่ืองมือวดั เชน่ การเขียนวงกลม จะตอ้ งนำวงเวียน
ไปเทียบขนาดกับบรรทัด จึงทำให้ทราบว่า วงกลมท่ีเขียนลงไปน้ันมีขนาดเท่าใด เป็นต้น เครื่องมือ
ร่างแบบและเคร่ืองมือวัดน้ันแยกออกจากกันได้ยาก แต่จะพอแยกชนดิ และการใช้งานของเคร่ืองมือรา่ ง
แบบได้ดงั น้ี คือ

1. เหล็กขีด (Scratch awls) เป็นเคร่ืองมือท่ีใช้ในการร่างแบบ หาที่หมายหรือขอบเขต
บนชิ้นงาน ทำจากเหล็กเครื่องมือ บริเวณส่วนปลายมีลักษณะเป็นเหล็กแหลมมีมุมที่ปลาย 10 องศา
ชบุ แข็งสว่ นปลายแหลมไว้ เพื่อให้ทนทานตอ่ การสึกหรอไดด้ ี ลำตัวจะมีขนาดใหญก่ ว่าและทำการพิมพ์
ลายไว้โดยรอบ เพอ่ื ให้สามารถจับได้มั่นคงโดยไม่ลื่น เหล็กขีดได้มีการออกแบบไวห้ ลายแบบ บางแบบ
ทำเปน็ ด้ามไม้ บางแบบดัดดา้ นเป็นวงกลมหรือวงรี บางแบบปลายอีกขา้ งหนึ่งได้ออกแบบไวเ้ ป็นขอขีด
เพ่ือใชส้ ำหรบั ขีดหรอื รา่ งแบบในพ้ืนท่แี คบๆ หรือในซอกหลบื เปน็ ต้น ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.1

รปู ที่ 5.1 แสดงเหล็กขีดลกั ษณะตา่ ง ๆ
ในการใช้เหล็กขีดทำงานร่วมกับบรรทัดเหล็กน้ัน เม่ือลากเส้นดิง่ ควรลากเหล็กขีดเข้าหาตัว
เม่ือมองด้านข้าง ควรใช้เหล็กขีดทำมุมกับบรรทัด 60 องศา และเมื่อมองด้านหน้า ควรให้เหล็กขีด
เอียงออกจากบรรทัดทำมุมประมาณ 15 องศา เพ่ือให้ปลายเหล็กขีดชิดขอบบรรทัด ช่วยให้การร่าง
แบบมีความเทยี่ งตรงสงู ดังแสดงในรปู ที่ 5.2

216

รูปที่ 5.2 แสดงการร่างแบบโดยการใช้เหลก็ ขีดทำงานรว่ มกับบรรทัดเหลก็

เหล็กขดี เม่ือใช้งานไปได้ระยะเวลาหนึง่ จะท่อื ทำให้ไม่แหลมคมพอทีจ่ ะขดี ลงบนแผน่ โลหะ
ให้เป็นรอยได้ หรือทำให้เกิดรอยท่ีมีขนาดใหญ่ ดังนั้น ควรลับปลายเหล็กขีดให้แหลมคมดังเดิมด้วย
หินน้ำมัน ดงั แสดงในรูปที่ 4.3 อย่านำปลายเหล็กขดี ที่ทื่อไปทำให้แหลมด้วยการเจียระไน เพราะเนื้อ
บริเวณสว่ นปลายของเหล็กขีดทผ่ี ่านการชุมแข็งจะหลุดหลายไป ทำให้ปลายแหลมท่ีเหลือไมค่ งทน ดัง
แสดงในรูปท่ี 4.4

รปู ที่ 5.3 แสดงการลบั เหลก็ ขดี ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง รูปท่ี 5.4 การรับเหลก็ ขดี ดว้ ยหนิ น้ำมนั

2. วงเวียนขาเหล็ก (Dividers) วงเวียนในงานโลหะแผ่นจะมีขาเป็นเหลก็ แหลมทง้ั สองข้าง
โดยข้างหนงึ่ จกิ ลงบนแผ่นดลหะเพอื่ ใช้เป็นจุดศูนยก์ ลาง อกี ข่างหนึ่งใชห้ มุนขดี ลงบนผิวของแผ่นโลหะ
ดังนั้น วงเวียนเหล็กจึงทำจากเหล็กเคร่ืองมือ (Tool Steel) โดยชุบแข็งบริเวณขาแหลมทั้งสองข้าง
เพื่อให้มีความแข็งสามารถทนต่อการสึกหรอได้ดี ใช้สำหรับการร่างแบบเก่ียวกับส่วนโค้ง หรือวงกลม
หรอื ถ่ายขนาด โดยทวั่ ๆ ไปมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบขาตาย และแบบขาสปรงิ

1) แบบขาสปริง (Spring Type) วงเวียนแบบนี้ที่ด้านหัวจะมีเหล็กสปริงประกอบยึดกับ
ขาทั้งสองข้าง การปรับระยะห่างของขาทั้งสองข้าง การปรับระยะห่างของขาทั้งสอง สามารถกระทำ
ได้โดยการขันหรือคลาย Knurled Nut ขาจะหุบเข้าหรือขยายออกโดยอัตโนมัติ นิยมใช้กันมาก
เน่อื งจากใช้งา่ ย สะดวกและการปรบั ระยะห่างของขาวงเวียนทำได้เทยี่ งตรง ดงั แสดงในรูปที่ 4.5 และ
รปู ท่ี 4.6

217

รูปที่ 5.5 วงเวียนขาสปริง รูปท่ี 5.6 แสดงการจับและการใช้วงเวียนแบบขา

สปรงิ

2) แบบขาตาย (Wing Type) วงเวียนแบบน้ีการปรับระยะห่างระหว่างทั้งสองต้องใช้มือ
ถ่างออก หรือบีบเข้า เมื่อได้ระยะห่างระหวา่ งขาตามต้องการแล้ว จึงหมุนล็อกด้วย Knurled Screw
ให้แนน่ จากนั้นจึงนำไปใชง้ าน

การปรับระยะของขาให้ได้ความเท่ียงตรงน้ัน กระทำได้ยากกว่าแบบสปริง เน่ืองจากแรงท่ี
บีบหรือดึงนั้น อาจจะมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ทำให้เสี่ยเวลามากในการปรับระยะห่างของขาให้ได้
ความเทยี่ งตรง ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.7

รูปที่ 5.7 แสดงลกั ษณะของวงเวยี นขาตาย และวิธีการใช้งาน

3) วงเวียนขางอ (Hermaphrodite Caliper) วงเวียนชนิดนี้มีรูปร่างค่อนข้างแปลงกว่า
วงเวียนชนิดอ่ืน คือ ขาขา่ งหนึ่งมีลักษณะงอ อีกข้างหนึ่งแหลมตรง ใช้สำหรับขีดเส้นขนานไปกับขอบ
ของช้นิ งานได้อย่างรวดเร็ว และใช้หาศนู ยก์ ลางของชน้ิ งานแท่งกลมได้ ดงั แสดงในรปู ที่ 5.8

218

รปู ที่ 5.8 แสดงลกั ษณะของวงเวียนขางอ และวธิ กี ารใชง้ าน
4) วงเวียนเล่ือน (Trammel Point) บางแห่งเรียกว่า วงเวียนคาน (Beam Compass)
ประโยชน์และลกั ษณะการใช้งานเหมือนกับวงเวียนขาเหล็ก (Dividers) ทุกประการแตกต่างกันแตเ่ พียง
ว่า วงเวียนเล่ือนนี้ สามารถเขียนวงกลมหรือส่วนโค้งท่ีมีขนาดใหญ่ๆ ได้ดี ในขณะที่วงเวียนธรรมดา
ไม่สามารถกระทำได้ วงเวียนเลื่อนนี้ ประกอบไปด้วย ชุดขาเหล็ก จำนวน 2 ชุด ประกอบเลื่อนอยู่
บนคาน (Beam) เมื่อเล่ือนปรับได้ระยะห่างระหว่างขาตามต้องการแล้วจึงขันล็อกให้ยึดอยู่กับที่ด้วย
Thumb Screw ดงั แสดงในรูปท่ี 5.9

รปู ที่ 5.9 แสดงลกั ษณะของวงเวียนเลอ่ื น และวธิ ีการใช้งาน
การใช้วงเวียนคาน มีวีการใช้แตกต่างจากวงเวียนธรรมดา คือ ขณะใช้เขียนส่วนโค้งควรใช้
มือซ้ายกดขาเหล็กท่ีจดุ ศูนย์กลางให้คงที่ส่วนมือขวาประคองอยู่ทข่ี าเหล็กอีกข้างหน่ึงแล้วหมุนเขา้ หาตัว
หรอื ตามเข็มนาฬกิ า
วธิ กี ารใช้งานและการบำรงุ รักษาวงเวยี น
1. อย่าใช้ขาของวงเวียนขีดแผ่นโลหะแทนเหล็กขีด จะทำให้เส้นหรือรอยขีดท่ีได้คลาดเคลื่อน
เพราะไม่ได้ออกแบบมาใช้สำหรบั การขีด
2. อยา่ ใชค้ อ้ นตอกขาเหลก็ ขีดแทนเหล็กตอกนำศูนย์ จะทำให้ขาเหล็กขีดย่นและงอได้เน่ืองจาก
ขาเหล็กขดี ไมอ่ าจทนตอ่ แรงตอกกระแทกได้
3. อย่าใชข้ าเหล็กขดี งดั ฝากระป๋องสหี รืองัดสิง่ อืน่ ๆ
4. ควรระมดั ระวังไมใ่ หว้ งเวียนตกหล่นจากที่สูง เพราจะทำให้ปลายขาของวงเวยี นงดได้

219

5. วงเวยี นที่มีผิวเปลือย เมอ่ื เลกิ ใช้งานแลว้ ควรชโลมนำ้ มนั บางๆ เพอื่ ป้องกันสนิม
6. ไมค่ วรเก็บวงเวียนรวมกับเครื่องมือท่มี ีคม เชน่ เล่อื ย ตะไบ ฯลฯ

3. เหล็กนำศูนย์ (Center Punch) ทำจากเหล็กเคร่ืองมือ (Tool Steel) ชุบแข็งส่วน
ปลายไว้เพ่ือให้มีความแข็งแรง ทนต่อการสึกหรอได้ดี เหล็กนำศูนย์นี้มีประโยชน์สำหรับการตอกนำ
เพ่ือหาศนู ยก์ ลางในการเจาด้วยดอกสว่าน เพ่ือไม่ให้ดอกสว่านลนื่ ไถลหนีไปจากตำแหนง่ ทตี่ ้องการมมี ุม
ทป่ี ลาย 90 องศา ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.10

รปู ที่ 5.10 เหลก็ ตอกนำศูนย์ ( Center Punch )
ลำดบั ขั้นตอนการตอกนำศูนย์
การตอกนำศนู ยเ์ ป็นขน้ั ตอนที่สำคญั ข้ันตอนหน่ึง ถึงแม้ว่าจะมกี ารร่างแบบอยา่ งดกี ็ตาม แต่
ถา้ นำศนู ย์ไม่ตรงตำแหน่งท่ีตอ้ งการแล้ว จะทำให้งานน้ันคลาดเคล่ือน และอาจต้องท้ิงไป การนำศูนย์
ท่ีดถี า้ หากมกี ารตอกผิดพลาดไปจากเป้าหมาย ก็สามารถแกไ้ ขได้ มีขั้นตอนการนำศูนย์ ดังน้ี
1. ข้ันแรกจรดปลายนำศูนย์ ลงตำแหน่งที่ร่างแบบไว้ โดยเอนลำตัวเหล็กนำศูนย์ เพ่ือจะ
ไดม้ องเห็นปลายนำศูนยก์ ับตำแหน่งทีต่ ้องการได้ชัดเจน
2. เม่ือจรดบนตำแหนง่ ที่ตอ้ งการแลว้ ใหค้ ่อยๆ ตั้งลำตัวเหล็กตอกนำศนู ย์ขน้ึ จนกระท้ังได้
ฉาก จากนน้ั จงึ ใช้คอ้ นตอกเพยี งเบาๆ ก่อน
3. สาเหตุที่แนะนำให้ตอกเพียงเบาๆ ก่อนนั้น ก็เพ่ือว่าถ้าตอกผิดพลาดไม่ตรงตำแหน่งที่
ต้องการ จะได้แก้ไขได้ เพราะว่าหลุมจากการตอกยังเล็กอยู่ แต่ถ้าเร่ิมแรกทำการตอกโดยใช้แรงมาก
จะทำใหเ้ กิดหลมุ ขนาดใหญ่ ในการท่จี ะแก้ไขในการตอกใหม่จะทำไดย้ าก
4. เมื่อไดร้ อยตอกตรงตำแหน่งทีต่ ้องการแล้ว ให้นำปลายของเหล็กตอกนำศูนย์วางลงไปใน
ตำแหนง่ เดมิ แลว้ จึงตอกใหแ้ รงอีกคร้งั หนึ่ง จะได้รอยนำศนู ย์ทีเ่ ที่ยงตรงตามตอ้ งการ

รูปท่ี 5.11 แสดงวธิ กี ารตอกนำศนู ย์เพื่อเจาะ
4. เหล็กถ่ายแบบ (Pick Punch) มีลักษณะคล้ายกับเหล็กตอกนำศูนย์ เพียงแต่มีมุมที่
ปลายแหลมน้อยกว่าเท่าน้ัน คือ มุมท่ีปลายเพียง 30 องศาเท่าน้ัน ใช้ในการถ่ายแบบจากกระดาษ
เขียนแบบลงสู่แผน่ โลหะ หรอื จากแผน่ โลหะทเ่ี ปน็ แบบลงสูแ่ ผน่ โลหะท่ีจะสร้างอกี ครั้งหน่งึ

220

ขณะใช้งานจะไม่ใช้แรงตอกที่มากนัก เพียงแต่ต้องการให้เป็นรอยตำหนิเล็กน้อย เพ่ือเป็น
แนวทางในการร่างแบบต่อไปเท่านั้น ดังนั้น ไม่ควรนำเหล็กถ่ายแบบไปใช้แทนเหล็กตอกนำศูนย์เป็น
อันขาด เพราะเหล็กถ่ายแบบมีความแหลมมาก ทำให้มีความแข็งแรงน้อย ไม่สามารถทนต่อแรง
กระแทกในการตอกนำศูนยไ์ ด้ ดงั แสดงในรูปท่ี 4.12

รปู ที่ 5.12 เหลก็ ถ่ายแบบ ( Pick Punch )
วธิ ีการใชแ้ ละการบำรุงรกั ษาเหลก็ นำศูนย์และเหลก็ ถา่ ยแบบ
1. ก่อนใช้งานควรตรวจสอบเหล็กนำศูนย์และเหล็กถ่ายแบบ ให้ส่วนปลายมีลักษณะเป็น
กรวยแหลมอยเู่ สมอ
2. ถ้าหัวของเหล็กนำศูนย์หรือเหลก็ ถ่ายแบบ เยินและบานออก อนั เน่ืองมากจากถูกตีด้วย
คอ้ น ควรเจียระไนให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์กอ่ นนำไปใชง้ าน
3. ไมค่ วรใชเ้ หลก็ นำศนู ย์หรอื เหล็กถ่ายแบบแทนเหล็กสง่
4. หลังเลิกงานควรทำความสะอาดและชโลมน้ำมัน เพื่อป้องกันสนมิ

5. เหล็กขีดขนาน ลำตัวมีลกั ษณะเปน็ แท่งเหล็กกลมยาว บริเวณปลายขา้ งหน่ึงมเี หล็กขีด
ขนาดเล็กประกอบอยู่ และมีตัวปรับระยะสวมอยู่กับแท่งเหล็กนั้น เพ่ือปรับระยะความลึกในการขีด
เหมาะสำหรบั ร่างแบบโลหะแผ่นที่มีจำนวนมากๆ สามารถร่างแบบงานได้รวดเรว็ แตข่ อบของงานทีจ่ ะ
ร่างแบบตอ้ งมคี วามเรียบเพียงพอ จงึ จะไดเ้ ส้นรา่ งแบบที่เท่ยี งตรง ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.13

รปู ท่ี 5.13 แสดงลกั ษณะของเหลก็ ขดี ขนาน และการใชง้ าน

งานร่างแบบ (Lay Out)
งานรา่ งแบบเป็นงานท่ีสำคัญในขั้นต้น ซึ่งจะทำให้ได้ผลิตภณั ฑ์ทีด่ ีมีคุณภาพ เป็นท่ีต้องการ
ของตลาด ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานนอกจากจะเรียนรู้เคร่ืองมือวัด เคร่ืองมือร่างแบบแล้ว ต้องศึกษาวิธี
และหลักการแบบให้ถูกต้องด้วย วิธีและหลักการร่างแบบน้ี จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถร่างแบบได้
อย่างรวดเรว็ และถูกต้อง ซงึ่ มีหลักการร่างแบบดงั น้ี คอื

221

1. วธิ กี ารร่างแบบโดยเร่มิ ต้นมาจากขอบของงาน
วิธีน้ีขอบของงานท่ีใช้เปน็ เส้นอา้ งอิง จะตอ้ งตรงและทำมุมฉากซึ่งกันและกัน และมีผิวเรียบ
ดังน้ัน ขนาดท่ีวัดออกไปจะตอ้ งเริ่มต้นวดั จากเส้นอ้างองิ ทั้งสองเส้นทต่ี ้ังฉากกันนี้ ดงั แสดงในรปู ที่ 4.14

รปู ที่ 5.14 แสดงวิธกี ารรา่ งแบบโดยเริ่มตน้ จากขอบของงาน

2. วธิ ีการร่างแบบโดยเรมิ่ ตน้ มาจากจดุ กึ่งกลางของชิน้ งาน
การร่างแบบวิธีนี้จะกำหนดจุดอ้างอิงท่ีบริเวณกึ่งกลางของชิ้นงาน การร่างแบบด้วยวิธีน้ีมี
ขอ้ ดีก็คือ กรณีขอบของช้ินงานไมเ่ รียบหรือไม่ได้ฉากซ่ึงกันและกัน แต่ก็สามารถร่างแบบได้กรณีขนาด
ของชิ้นงานไม่เพียงพอ การร่างแบบวิธีน้ีจะช่วยให้ด้านทั้งสองข้างมีขนาดที่ขาดเท่าๆ กัน ดังแสดงใน
รปู ท่ี 4.15

รปู ที่ 5.15 แสดงวธิ กี ารรา่ งแบบโดยเริ่มตน้ จากจดุ ก่ึงกลางของงาน

การร่างแบบมี 2 วธิ กี าร ดงั น้ี

1. การร่างแบบงานบนโต๊ะระดับ การร่างแบบงานบนโต๊ะระดับน้ี จะต้องปฏิบัติงาน
รว่ มกับเวอร์เนียร์ไฮเกจ และฉากเหลก็ ซงึ่ จะช่วยให้สามารถร่างแบบ หรือขีดเส้นขนานได้อย่างรวดเร็ว
กวา่ การเขยี นแบบด้วยเหล็กขีด โดยมขี ้นั ตอนการรา่ งแบบ ดงั นี้

1. ต้องศึกษาแบบให้เข้าใจ และวางแผนในการ
เริ่มต้นเขียนแบบ

รูปท่ี 5.16

222

2. นำชิ้นงานมาตรวจสอบขนาดท่ีแท้จริง ส่วนครีบ
รอยเยินและมุมทแ่ี หลมคมตอ้ งขจัดออกให้หมด ดังแสดง
ในรูปที่ 5.16

รูปที่ 5.17 3. พ่นหรือทาน้ำยาร่างแบบลงบนผิวงาน หรือ
บริเวณที่มีการร่างแบบ ท้ิงไว้จนกระท่ังน้ำยาร่างแบบ
รูปที่ 5.18 แหง้ สนทิ จงึ เริม่ ร่างแบบ ดังแสดงในรูปท่ี 5.17

4. กรณีที่ชิ้นงานไม่สามารถตั้งด้วยตัวเองได้ให้พิง
ด้วยฉากพิง (Angle Plate) การขีดเส้นในแนวด่ิงอาจใช้
ฉากช่วยในการร่างแบบก็ได้หรือจับชิ้นงานนอนลงแล้ว
ร่างแบบด้วยเวอร์เนียร์วัดความสูงก็ได้ ดังแสดงในรูปท่ี
5.18

5. จากนั้นจึงขีดเส้นนอนด้วยเวอร์เนียร์วัดความสูง
ดงั แสดงในรปู ที่ 5.19

รูปท่ี 5.19

223

2. การร่างแบบชิ้นงานด้วยเหล็กขีด การร่างแบบดว้ ยวิธีนี้โดยมากจะเป็นการรา่ งแบบงาน
ในสถานที่ท่ีไม่มีโต๊ะระดับและเวอร์เนียร์วัดความสูง การร่างแบบจะทำได้ช้ากว่าการร่างแบบบนโต๊ะ
ระดับ เน่ืองจากการลากเส้นขนาน จำเป็นต้องวัดขนาดท้ังสองข้างด้วยฟุตเหล็ก โดยมีข้ึนตอนการ
เขยี นแบบดงั นี้

1) ศึกษาแบบงานใหเ้ ข้าใจและวางแผนในการร่างแบบ
2) ลากเสน้ ฐานหรือเสน้ อา้ งองิ
3) วดั ระยะเพือ่ กำหนดตำแหนง่ ความกว้างความยาว เพ่อื ลากเส้นดง่ิ หาความสงู ของกลอ่ ง
4) ลากเส้นขนานกับเสน้ ฐานซงึ่ เป็นความสูงของกล่อง
5) รา่ งแบบกอ้ นกล่องและฝาปดิ
6) ร่างแบบตะเขบ็ และขอบ
7) นำไปพบั ขึ้นรปู
8) เป็นผลติ ภัณฑน์ ำไปจำหนา่ ย

รปู ที่ 5.20 แสดงข้ันตอนการรา่ งแบบกล่อง

สรปุ

เครื่องมือร่างแบบ ลำพังตัวของมันเองน้ันไม่สามารถทำงานให้เกิดผลได้ เนื่องจากไม่รู้
ระยะทางทีข่ ีด แต่เมื่อทำงานร่วมกบั เคร่อื งมือวัด จะทำให้เครื่องมือร่างแบบมีประสิทธิภาพการทำงาน

224

สูง การสร้างผลิตภัณฑ์ท่ีดีนั้น มาจากทักษะการใช้เคร่ืองมือร่างแบบท่ีถูกต้อง เช่น การร่างแบบและ
การตอกนำศนู ย์ เปน็ ตน้

17. ใบงานท่ี ........

หน่วยการสอนท่ี .....5.... ช่อื หนว่ ยการสอน.......................งานรา่ งแบบ.......................
ชอ่ื หัวข้อเร่ือง ความหมายของงานรา่ งแบ

เครื่องมือและอุปกรณ์ท่ใี ชร้ ่างแบบ
จุดประสงค์ เพ่ือ

1.บอกความหมายของการร่างแบบ
2.บอกชนิดของเคร่ืองมอื ร่างแบบ
3.อธบิ ายวิธีการใช้เครื่องมอื ร่างแบบอย่างถูกตอ้ งและปลอดภัย

ลำดับกจิ กรรม/ลำดับการปฏิบตั ิ

1. เจาะรูค้อนเดินสายไฟไดถ้ กู ตอ้ งและปลอดภยั
2. ตะไบคอ้ นเดินสายไฟใหม้ ีขนาดตามที่กำหนด
3. ตรวจสอบขนาดรูค้อนเดนิ สายไฟตามแบบทก่ี ำหนด

เกณฑก์ ารพจิ ารณา

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

18. แบบประเมินผล 10 %
10 %
แผนการวดั ผลและประเมนิ ผลทงั้ รายวชิ า 10 %
- พุทธิพสิ ัย 1) แบบฝกึ หัด 30 %
2) ทดสอบหลังเรียน 35 %
3) วดั ผลสมั ฤทธ์ิ 15 %
รวม 50 %
- ทักษะพิสัย 1) ใบงาน/งานท่มี อบหมาย 20 %
2) วดั ผลสมั ฤทธิ์
รวม
- จิตพสิ ยั

225

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไว้สำหรบั เปรยี บเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลังเรยี น)

19. แบบฝกึ หดั
ข้อ 1 จงอธิบายของงานรา่ งแบบ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

ขอ้ 2 จงอธบิ ายการนำวงเวียนขางอไปใช้ร่างแบบ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................... ..........................................
............
ขอ้ 3 จงเปรยี บเทียบความแต่งตา่ งในการใช้งานระหวา่ งเหล็กแทน่ ฉากกบั วี-บล็อก
................................................................................................................................ ..............................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

226

227

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรูแ้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พสิ ัย

3. เตรยี มวัสดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนเข้าสอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวธิ ีการนำเข้าสบู่ ทเรียนที่น่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเข้าใจ

6. จัดกิจกรรมท่ีสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ คว้าเพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมท่เี น้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ี่เช่ือมโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภมู ิปัญญา/บูรณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสริมแรงเมือ่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรยี น อย่างทว่ั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทก่ี ำหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้

16. ใช้สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใชส้ ือ่ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล

18. ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผูเ้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เี่ กี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบัติพอใช้ รวม

228

2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ัติ ค่าเฉลี่ย

20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาที่พบ แนวทางแกป้ ญั หา

ดา้ นการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

229

ดา้ นอืน่ ๆ (โปรดระบเุ ปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บันทึกการนิเทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกุล ผ้นู เิ ทศ ตำแหนง่

230

ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะรายวชิ า
โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วิชา………………20100-1003…………….วชิ า………….งานฝึกฝีมือ…………….หน่วยกิต………2 (0-6-2)……..
ระดบั ช้นั ……….ปวช 2 …………..สาขาวชิ า……………ชา่ งไฟฟ้ากำลัง กลุ่ม 1

ทางสายกลาง

3หว่ ง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คณุ ธรรม

ชื่อหน่วยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบ ู้ร(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอสัต ์ย ุสจ ิรต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิต ัปญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลำ ัดบความสำคัญ

หน่วยการสอนที่ 6

ชอ่ื หน่วยการสอน งานลับคมตดั 231
สมรรถนะประจำหน่วยการสอน
1. ลบั คมตดั ในงานลักษณะต่างๆ 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 50
50
รวม

ลำดบั ความสำคญั

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วชิ า .......20100-1003...... วชิ า ......................งานฝกึ ฝีมอื ..............................
หนว่ ยที่ ........6...... ชื่อหน่วย ...........งานลับคมตดั .......... จำนวน ........6......ชั่วโมง
ช่อื เร่อื ง

1 เคร่ืองเจียระไน
2 ชนิดของเคร่ืองเจียระไน
3 การลบั มดี กลึง

232

4 การลบั มีดกลึงปาดหน้า
5 การลับมีดกลึงปอกผิว
6 การลบั ดอกสวา่ น

1. สาระสำคัญ

การขึ้นรูปชิ้นงานให้เป็นผลิตภัณฑ์ด้วยมือหรือการขึ้นรูปด้วยเครื่องมือกล ซ่ึงจำเป็นต้องใช้เคร่ืองมือตัด
เช่น สกัด ดอกสว่านมีดกลึง เป็นต้น เคร่ืองมือตัดเหล่าน้ีเมื่อใช้งานไปได้ระยะหน่ึง คมจะท่ือ จึงต้องมีการลับ
คมตัดให้คมตัดมีมุมต่าง ๆ ที่ถูกต้อง เพราะหากลับมุมผิดพลาด จะทำให้ผิวงานไม่สวยและเกิดความร้อนมาก
งานเสรจ็ ช้า เพิ่มตน้ ทนุ การผลิต

2. สมรรถนะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้

เลอื กใช้เคร่ืองมือในงานตัดตามลกั ษณะชิ้นงาน

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป
1.อธบิ ายการทำงานของเคร่ืองเจียระไน
2.จำแนกชนดิ ของเครื่องเจยี ระไน
3.อธิบายวิธกี ารลบั มดี กลงึ
4.บอกข้ันตอนการลับมีดกลงึ ปาดหนา้

3.2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม
1. เล่อื ยช้นิ งานคอ้ นเดนิ สายไฟ
2. ตะไบปรบั ผิวหางค้อนเดินสายไฟ
3. ตะไบลบมมุ และลบคมหัวค้อนเดนิ สายไฟ

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ดา้ นความรู้
4.1 เคร่อื งเจยี ระไน

เคร่อื งเจยี ระไน เป็นเคร่ืองมอื ที่ใชล้ บั คมตัดของมดี กลงึ มีดไส ดอกสวา่ น และผิวงานใหเ้ รียบ

233

4.2 ชนิดของเคร่ืองเจียระไน
4.2.1 เคร่ืองเจียระไนแบบตงั้ โต๊ะ (Pedestal Grinder)
4.2.2 เครอ่ื งเจยี ระไนแบบตั้งพืน้ (Bench Grinder)
4.2.3 ขน้ั ตอนการใชเ้ ครอ่ื งเจียระไน

4.3 การลบั มีดกลึง
การลับมีดกลึงด้วยล้อหินเจียระไนนั้น จะต้องจับมีดกลึงให้แน่นและในขณะลับมีดกลึงจะเกิด

ความรอ้ นให้จุ่มน้ำหล่อเย็นบอ่ ย ๆ การกดมีดกลึงกับหนา้ ล้อหินเจียระไนมากเกินไปจะทำให้ผิวมีดกลึงไหม้เป็น
สีดำ ซ่ึงจะทำให้คมมีดกลึงอ่อน ในการลับมีดกลึงควรยืนให้ห่างจากเคร่ืองเจียระไนพอเหมาะไม่ห่างหรือชิด
จนเกินไป

4.4 การลบั มดี กลึงปาดหนา้
ในการลับมดี กลึงปาดหนา้ เพือ่ ใชก้ ลงึ ปาดหน้าผวิ งาน กลึงบ่าฉาก กลึงลบมุม มีดกลงึ ปาดหน้าจะ

มีความแตกตา่ งไปจากมีดกลึงแบบอนื่ ๆ ตรงค่าของมมุ คมตัด จะตอ้ งลับมุมคมตดั ใหถ้ กู ตอ้ งตามแบบท่กี ำหนด
4.5 การลับมดี กลึงปอกผวิ
ในการลับมีดกลึงปอกผิว เพ่ือใช้ในการกลึงปอกผิวชิ้นงานให้มีขนาดเล็กลง มีดกลึงปอกผิวต่าง

จากมีดกลึงชนิดอ่นื ๆ ทม่ี ุมคมตดั จึงจำเป็นตอ้ งลบั มุมตัดและมมุ อ่ืน ๆ ใหถ้ กู ตอ้ งตามแบบทก่ี ำหนด

4.6 การลับดอกสวา่ น
การลับคมตัดดอกสว่านโดยท่ัวไปจะต้องเอียงคมตัดของดอกสว่านให้ทำมุม 59 องศา กับหน้าล้อ

หิน ทำการลับคมตัดท้ัง 2 ข้าง โดยลับทีละข้างจนกว่าจะได้มุมรวม 118 องศา และตรวจสอบด้วยเกจวัดมุม
ดอกสวา่ นให้ได้มุม 59 องศา ทีละข้าง

กา้ น 234
หนา้ คมตดั ผวิ ฟรี คมขวาง
ลาตวั ปลายจกิ

สนั คมตดั รอ่ งคายเศษ สนั คมตดั

ลักษณะส่วนสำคัญของดอกสว่าน

4.2 ด้านทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้
- ดา้ นทักษะ
1. ใช้เครือ่ งเจยี ระไนได้ถกู ต้องและปลอดภัย
2. ลับดอกสวา่ น
3. ตรวจสอบมุมดอกสวา่ น
4. ทำความสะอาดบริเวณพ้ืนท่ีปฏิบัตงิ าน
6. ทำความสะอาดบริเวณพน้ื ท่ปี ฏบิ ตั งิ าน

4.3 ด้านคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์และบูรณาการตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียงตรงต่อเวลา มีวินยั มคี วามรบั ผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ สนใจใฝร่ ู้ มีความซอื่ สตั ย์ มเี หตุผล
ประหยัด และปฏบิ ัติตนในแนวทางทด่ี ี

235

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรยี นรู้

ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้ันตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของผ้เู รียน

ขนั้ เตรียม(จำนวน......15.......นาท)ี ขนั้ เตรียม
ครขู านชอื่ ผูเ้ รียน
ครูทบทวน ให้ข้อมลู ย้อนกลับเก่ียวกบั สิ่งแวดลอ้ ม
และความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ าน

ขั้นการสอน(จำนวน.......30.......นาที)

ครูให้นักเรยี นทดสอบก่อนเรยี น หน่วยท่ี 6

ครูตั้งคำถามเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนเรื่องงานลับคมตัด

(โดยมุ่งเน้นสิ่งที่นักเรียนได้ปฏิบัติไปแล้วตามใบงาน

ท่ี 1)

นกั เรยี นตอบคำถามทค่ี รูถาม

ครูอธิบาย ถาม-ตอบเนื้อหาเกี่ยวกับงานตะไบ นักเรียนจดบันทกึ สาระสำคัญทค่ี รอู ธิบาย

ค รู ส าธิ ต ก า ร ลั บ ค ม ตั ด ด อ ก ส ว่ าน แ ล ะ ให้ นั ก เรี ย น

ปฏิบัติงานตามใบงานท่ี 6 (หากผลการปฏิบัติตามใบ

งานท่ี 1-2 ยังไม่เรียบร้อย ให้นักเรียนปฏิบัติอย่าง

ต่อเนือ่ งตอ่ ไป)

ครใู ห้นักเรียนทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 6

ข้ันสรุป (จำนวน........15........นาที)
ครูสรุปเน้ือหาสาระสำคัญในบทเรียนให้นักเรียน
ตระหนักถึงความสำคัญ ปัญหาที่เกิดข้ึน และ
แนวทางการแก้ไขปัญหาทง้ั ทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ

236

6. สือ่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์
1. หนังสอื งานฝกึ ฝมี ือ 1 รหัส 2100-1003 หนว่ ยที่ 6
2. แบบประเมินผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ยที่ 6
3. ใบงานที่ 6/เครื่องมือ วัสดอุ ุปกรณ์ในการปฏบิ ัติงาน
4. ห้องสมดุ วทิ ยาลยั ศูนยว์ ิทยบริการ หอ้ ง Internet

6.2 สื่อโสตทัศน์
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..
........................

6.3 ส่ือของจริง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................

7. แหล่งการเรยี นการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
ห้องสมุดวทิ ยาลัย ศูนยว์ ิทยบริการ หอ้ ง Internet

7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา

237

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................

8. งานท่มี อบหมาย

ตรวจสอบ/จัดทำแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 6 และใบงานที่ 6 ให้เสรจ็ สมบูรณ์ ส่งในครงั้ ต่อไป
8.1 ก่อนเรียน

1) ใชส้ มุดบันทกึ เวลาเรยี นฯ ขานช่อื ผู้เรยี นและตรวจการตรงตอ่ เวลา
2) ใช้แบบสงั เกตความพร้อมในการเรยี น ประเมนิ ความพร้อม เชน่ มีเครือ่ งมือ หนังสือ
สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้

8.2 ขณะเรียน
1) ใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ

ตอ่ การปฏิบตั งิ าน

8.3 หลังเรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมินการฝึกปฏิบัติตามใบงานที่ 6 สง่ งานตามขอ้ กำหนด

9. ผลงาน/ชนิ้ งาน ที่เกดิ จากการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน

1. ผลการปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 6 งานลบั คมตดั
2. ผลจากการทำแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 6
3. ผลจากการทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 6

238

10. เอกสารอ้างอิง

............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
..................

11. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั รายวชิ าอื่น

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................. .............
..................

12. หลกั การประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1) ใชส้ มุดบันทกึ เวลาเรียนฯ ขานชอ่ื ผเู้ รียนและตรวจการตรงตอ่ เวลา
2) ใชแ้ บบสงั เกตความพร้อมในการเรียน ประเมินความพร้อม เช่น มีเคร่ืองมือ หนงั สอื

สมุด ปากกา การแต่งกาย เป็นตน้

12.2 ขณะเรยี น
1) ใช้แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผดิ ชอบ

ต่อการปฏิบตั ิงาน

12.3 หลงั เรียน
1) ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 50%
2) ภาคปฏบิ ตั ิ ประเมินการฝึกปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 5 ส่งงานตามข้อกำหนด

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียน

จดุ ประสงค์ข้อท่ี 1 อธิบายการทำงานของเคร่ืองเจยี ระไน
1. วิธกี ารประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หนว่ ย

ที่ 6
2. เคร่อื งการประเมนิ : ประเมินการฝกึ ปฏบิ ัตติ ามใบงานที่ 6 งานขน้ึ รูป

239

สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมนิ ผลหลงั การเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

จุดประสงค์ขอ้ ที่ 2 จำแนกชนิดของเครื่องเจียระไน
1. วิธีการประเมนิ : แบบประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หน่วย

ที่ 6
2. เครอ่ื งการประเมิน : ประเมินการฝึกปฏิบตั ิตามใบงานที่ 6 งานขน้ึ รปู

สง่ งานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
4. เกณฑ์การผ่าน : 50%

จดุ ประสงคข์ อ้ ท่ี 3 อธิบายวิธีการลบั มดี กลงึ
1. วิธกี ารประเมนิ : แบบประเมินผลการเรยี นรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ที่ 6
2. เครอ่ื งการประเมนิ : ประเมินการฝึกปฏิบัติตามใบงานที่ 6 งานขนึ้ รูป

ส่งงานตามข้อกำหนด
3. เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินผลหลังการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑ์การผา่ น : 50%

14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

หนว่ ยการสอนท่ี ........... ชือ่ หนว่ ยการสอน.................................................
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

240

............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................... .....................
.............................................................................................................. ................................................................
..................

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการสอนท่ี ......... ชอ่ื หน่วยการสอน
..............................................................................................................
วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือ ……………………………………………………………………………………………….
ขอ้ คำถาม
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ....................
............................................................................................................... ...............................................................
..................

241

16. ใบความรูท้ ่ี ....1....

หนว่ ยการสอนท่ี .....6.... ช่อื หนว่ ยการสอน.........................งานลับคมตัด........................
ชอ่ื หัวข้อเร่ือง

งานตัดและชนดิ ของเคร่อื งมอื ตดั การใช้งาน และการบำรงุ รกั ษา
งานตัดมีอยู่หลายวิธี แต่ละวิธีจะประกอบด้วยเคร่ืองมือตัดซ่ึงผู้ปฏิบัติงานจะต้องพิจารณาเลือกใช้
เครอื่ งมือให้ถกู ต้องเหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน และความรวดเรว็ ในการตดั เคร่ืองมือตดั มแี บบต่าง ๆ ดังนี้

งานตัดดว้ ยเลื่อย
การเลื่อย คือ การตัดวัสดุด้วยใบเลื่อยที่มีคมเล็กๆ คล้ายคมสิ่ว หรือคมสกัดจำนวนมากท่ีเรียงกันเป็น
แถวตามความยาวของใบเล่ือย ซึ่งฟันเหล่านี้จะกัดชิ้นงานพร้อมๆ กันทีละหลายๆ ฟัน การเลื่อยน้ีจะกระทำ
ด้วยมอื หรอื เครอ่ื งจักรกไ็ ด้
เลื่อยมอื (Hand Hacksaw)
เป็นเลือ่ ยทที่ ำการเลอ่ื ยด้วยมือ ซึ่งหลายประเภทด้วยกนั เชน่

1. เล่ือยแฮดซอว์ (Hack saw) นิยมใช้กันมากในงาน
โลหะทั่วไป ส่วนมากใช้ตัดโลหะต่างๆ ตามที่ต้องการ ดัง
แสดงในรปู ท่ี 6.1

รปู ที่ 6.1 เลือ่ ยแฮคซอร์ ( Hack saw )

2. เล่อื ยชา่ งไม้หรือเล่ือยลันดา เป็นเลื่อยทีช่ า่ งก่อสร้าง
หรือช่างไม่นิยมใช้กันมากเนื่องจากเหมาะสำหรับเล่ือยไม้ดัง
แสดงในรูปท่ี 6.2

รปู ท่ี 6.2 เลื่อยช่างไม้ หรอื เลือ่ ยลนั ดา

3. เล่ือยแทงหรือเล่ือยดาบ ใช้สำหรับเลื่อยตัดภายใน
ส่วนมากใช้ในงานเล่ือยไม้ช้ินเล็กๆ หรือเล่ือยเจาะรู เล่ือย
บากมมุ ดงั แสดงในรปู ท่ี 6.3

รูปที่ 6.3 เลอื่ ยแทง หรือเลอ่ื ยดาบ

242

ชนิดของด้ามโครงเลื่อย
ด้ามจับของโครงเลื่อยมี 2 ชนิด คือ โครงเล่ือยแบบด้ามตรง และโครงเลื่อยแบบด้ามปืนแต่ท่ี

นิยมใช้กันมากในประเทศไทยก็คือ แบบด้ามปืน เน่ืองจากสามารถจับได้ม่ันคง การเลื่อยเท่ียงตรงกว่า
และโครงเลอ่ื ยสามารถปรบั ขนาดได้

รูปท่ี 6.7 แสดงลักษณะของโครงเล่อื ยแบด้ามตรง ( ก ) และแบบดา้ มปืน ( ข )
ขนาดของใบเล่อื ย

ใบเล่ือยมือจะถูกผลิตขึ้นมาหลายขนาด เพื่อเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของขนาดชิ้นงาน เช่น
ความยาว 8 น้ิว (200 มม.) ขนาดความยาว 10 น้ิว (250 มม.) และขนาดความยาว 12 น้ิว (300 มม.) โดย
ความยาวของใบเลอ่ื ยจะวัดจากจุดศูนย์กลางของรูขา้ งหนงึ่ ไปยังจุดศูนยก์ ลางของรอู ีกข้างหนึ่ง ขนาดของใบจะ
กว้าง 1 น้วิ (12.7 มม.) และหนา 0.025 นวิ้ (0.64 มม.)

2

รปู ที่ 6. 8 แสดงการวัดความยาวของใบเลื่อย
การใสใ่ บเลื่อยเข้ากับโครงเลื่อย (Putting Blade in Frame)

การใส่ใบเล่ือยต้องใสใ่ ห้ยอดของฟนั เลื่อยช้ีออกไปจากด้าม เพราะการเลอ่ื ยจะออกแรงกดเพื่อให้
ฟันเล่ือยตัดช้ินงานเม่ือดันไปข้างหน้า จากน้ันจึงปรับใบเล่ือยให้ตึง โดยการขันนัตหางปลาการปรับใบเลื่อยให้
ตึง ควรปรับให้ตึงปานกลาง ไมค่ วรปรบั ให้ตงึ หรอื หย่อนเกนิ ไป มิฉะนน้ั จะเปน็ สาเหตุทำใหใ้ บเลือ่ ยแตกหักได้

243

รปู ท่ี 6.9 แสดงวิธีการใส่ใบเลื่อยเขา้ กับโครงเลือ่ ยท่ีถูกต้อง
การทำงานของฟันเลือ่ ย

เลื่อยจะเคล่ือนท่ีไปในทิศทางตัดพร้อมแรงกด แรงกดตัดน้ีจะทำให้ฟันเล่ือยจมลงไปในเน้ือวัตถุ และ
กัดออกเป็นเศษวัสดุเล็กๆ เศษวัสดุจะอยู่ในช่องฟัน จะหลุดออกไปตามรอยเล่ือยส่วนเศษวัสดุที่อยู่บนผิวงาน
จะถูกเกบ็ ไวใ้ นช่องเกบ็ เศษซึง่ เกิดจากมุมคาย

ปที่ 6.10 การกนิ งานของฟนั เล่ือย

17. ใบงานที่ ........

หนว่ ยการสอนท่ี ....6.... ชอื่ หนว่ ยการสอน...........................งานลับคมตัด.......................
ชอ่ื หัวข้อเรอ่ื ง

1 เครื่องเจยี ระไน
2 ชนิดของเครือ่ งเจยี ระไน
3 การลับมีดกลงึ
4 การลับมดี กลึงปาดหน้า
5 การลับมีดกลึงปอกผวิ
6 การลบั ดอกสวา่ น

จดุ ประสงค์ เพ่ือ
1.อธิบายการทำงานของเครื่องเจยี ระไน
2.จำแนกชนิดของเครอ่ื งเจยี ระไน
3.อธบิ ายวิธีการลับมดี กลงึ
4.บอกขั้นตอนการลับมีดกลึงปาดหน้า

ลำดบั กิจกรรม/ลำดับการปฏบิ ัติ

1. เลอ่ื ยชนิ้ งานค้อนเดินสายไฟ

244

2. ตะไบปรบั ผวิ หางคอ้ นเดนิ สายไฟ
3. ตะไบลบมุมและลบคมหวั ค้อนเดินสายไฟ

เกณฑก์ ารพจิ ารณา

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................
............................................................................................................................................................... ...............
......

18. แบบประเมนิ ผล

แผนการวดั ผลและประเมนิ ผลท้งั รายวิชา

- พทุ ธิพสิ ัย 1) แบบฝึกหดั 10 %

2) ทดสอบหลงั เรียน 10 %

3) วัดผลสัมฤทธ์ิ 10 %

รวม 30 %

- ทกั ษะพิสัย 1) ใบงาน/งานที่มอบหมาย 35 %

2) วัดผลสัมฤทธ์ิ 15 %

รวม 50 %

- จติ พสิ ัย 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไวส้ ำหรบั เปรียบเทียบกับคะแนนทดสอบหลงั เรยี น)

19. แบบฝกึ หดั
1. จงอธิบายขั้นตอนการเลอ่ื ยดว้ ยเคร่ืองเล่อื ยกลแบบชัก

245

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

2. จงอธิบายวิธกี ารบำรุงรักษาเครื่องเล่ือยกลแบบชกั มา 2 ข้อ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..................

3. จงอธบิ ายความปลอดภัยในการใช้เครอื่ งเลือ่ ยกลแบบชกั มา 3 ข้อ
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................

246

20. บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรูแ้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จดั หนว่ ยการเรยี นรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นจติ พสิ ัย

3. เตรยี มวัสดุ-อปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรยี นรู้ก่อนเข้าสอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวธิ ีการนำเข้าสบู่ ทเรียนที่น่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเข้าใจ

6. จัดกิจกรรมท่ีสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนคน้ คว้าเพื่อหาคำตอบดว้ ยตนเอง

7. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมท่เี น้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ี่เช่ือมโยงกับชวี ิตจรงิ โดยนำภมู ิปัญญา/บูรณาการเขา้ มามสี ว่ นร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มีการเสริมแรงเมือ่ นักเรียนปฏบิ ตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดูแลผู้เรยี น อย่างทว่ั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทก่ี ำหนด

ดา้ นสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้

16. ใช้สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของผู้เรยี น

17. ใชส้ ือ่ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และอินเทอร์เน็ต เปน็ ต้น

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล

18. ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่างหลากหลายและครบทั้งดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผูเ้ รยี น ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ เี่ กี่ยวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ัตดิ ี 3 = ปฏิบัติพอใช้ รวม

247

2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ ีการปฏบิ ัติ ค่าเฉล่ยี

20.2 ปัญหาที่พบ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ปญั หา

ดา้ นการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ดา้ นการวัดและประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................


Click to View FlipBook Version