The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวบรวมสรุปคำพิพากษาและคำสั่งของ
ศาลปกครองและศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง
จัดทำโดย กรมส่งเสริมสหกรณ์
สำนักนายทะเบียนและกฎหมาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by lawcpd2563, 2022-04-29 04:08:25

รวบรวมสรุปคำพิพากษาและคำสั่งของศาลปกครองและศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง

รวบรวมสรุปคำพิพากษาและคำสั่งของ
ศาลปกครองและศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง
จัดทำโดย กรมส่งเสริมสหกรณ์
สำนักนายทะเบียนและกฎหมาย

ย่อคำพพิ ากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมาเลขแดงที่ อ.36/2563

ผู้ฟ้องคดี นายสพุ จน์ โกสยิ ะจินดา

ผู้ถูกฟ้องคดี คณะกรรมการพฒั นาการสหกรณแ์ หง่ ชาติ

กรณีเร่ือง คดพี ิพาทเก่ียวกับการทเ่ี จา้ หน้าที่ของรฐั ออกคำสัง่ โดยชอบด้วยกฎหมาย (อุทธรณ์คำพิพากษา)

กฎหมายที่เก่ยี วข้อง มาตรา 20, มาตรา 50 แห่งพระราชบญั ญตั สิ หกรณ์ พ.ศ. 2542

ผู้ฟ้องคดีเป็นเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด ได้มีหนังสือ
ร้องเรียนต่อรองนายทะเบียนสหกรณ์ว่า มติที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558
ในส่วนของการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รองนายทะเบียนสหกรณ์จึงอาศัย
อำนาจตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 มีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่เลือกตั้ง
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ดังกล่าว สหกรณ์ฯ ไม่เห็นพ้องด้วยจึงยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ถูกฟ้องคดี ต่อมาผู้ถูก
ฟ้องคดีได้พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์แล้วเห็นว่า การพิจารณาคัดเลือกคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เป็นไป
ตามระเบียบและวิธปี ฏบิ ัติของสหกรณ์แล้ว อุทธรณ์ฟังขน้ึ และรองนายทะเบยี นสหกรณ์ได้มคี ำสั่งเพิกถอนคำส่ัง
ตนเองแล้ว ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีไม่ชอบด้วยมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์
พ.ศ. 2542 จงึ ย่ืนฟ้องคดีต่อศาล

ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้ว คดีมีประเด็นว่ามติและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดี
เป็นคำสง่ั ทไ่ี มช่ อบด้วยกฎหมายหรือไม่

เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า การเลือกตั้งกรรมการดำเนินการสหกรณ์ไม่มีการประกาศผลการนับ
คะแนนของผู้สมัครที่ไม่ได้รับการสรรหา ประธานกรรมการสรรหาประกาศเพียงกรรมการ 6 คน ที่ได้รับ
คะแนนสูงสุด แต่ไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกที่เหลือรวมทั้งผู้ฟ้องคดีออกเสียงลงคะแนนไม่เห็นชอบด้วย
จึงมีผลให้มติที่ประชุมใหญไ่ ม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อพิจารณาข้อ 54 วรรคส่ี ของข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์
พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด พ.ศ. 2543 ประกอบข้อ 16 วรรคสอง ของระเบียบสหกรณ์ฯ ว่าด้วยการ
สรรหาบุคคลเพื่อให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งเป็นกรรมการดำเนินการสหกรณ์ พ.ศ. 2550 การเลือกกรรมการ
ดำเนินการกระทำโดยคณะกรรมการสรรหา มิใช่กระทำโดยที่ประชุมใหญ่ และให้ประธานกรรมการสรรหาส่ง
ประกาศผลการนับคะแนนเฉพาะผู้ที่ได้รับการสรรหาเท่านั้น และส่งผลการนับคะแนนที่เรียงลำดับแล้ว
ไปยังคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เพื่อให้ประธานนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งเป็นกรรมการ
มิได้กำหนดให้ส่งผลคะแนนของผู้สมัครที่ไม่ได้รับการสรรหาแต่อย่างใด กรณีจึงแตกต่างจากการเลือกต้ัง
ประธานกรรมการจะต้องดำเนินการตาม ข้อ 17 ของระเบียบสหกรณ์ฯ ที่กำหนดให้สมาชิกในที่ประชุมใหญ่
เสนอชื่อเพื่อให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งโดยมิต้องมีการสรรหา ส่วนกรณีเลือกตั้งคณะผู้ตรวจสอบกิจการ
ตามข้อ 73 วรรคหนึ่งและวรรคสี่ ของข้อบังคับสหกรณ์ดังกล่าว กำหนดให้เลือกตั้งในวันเวลาและสถานท่ี
ที่ดำเนินการประชุมใหญ่ โดยไม่ได้กำหนดให้มีการสรรหาดังเช่นการเลอื กตั้งคณะกรรมการดำเนินการแต่อย่างใด
ดงั นน้ั การทผี่ ู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาวนิ จิ ฉัยอุทธรณว์ ่า การพิจารณาคดั เลือกคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์
เป็นไปตามระเบียบและวธิ ีปฏิบัติของสหกรณ์แลว้ และมีมติให้รองนายทะเบียนสหกรณ์เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
จงึ ชอบด้วยกฎหมายแลว้

2

ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่าเมื่อรองนายทะเบียนสหกรณ์ได้วินิจฉัยแล้วว่าที่ประชุมใหญ่
ดำเนินการขัดต่อมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และข้อ 16 ของระเบียบสหกรณ์ฯ
ว่าด้วยการสรรหาบุคคลเพื่อให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งเป็นกรรมการดำเนินการสหกรณ์ พ.ศ. 2550
แต่ไม่ปรากฏว่าสหกรณ์ได้อุทธรณ์คำสั่งของผู้ออกคำสั่งหรือผู้ฟ้องคดีตอ่ ศาลปกครอง นั้น เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดี
ได้มีมติเพิกถอนคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ดังกล่าวแล้ว จึงมีผลให้คำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ดังกล่าว
ถูกยกเลิกหรือเพิกถอนไป สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด จึงไม่ใช่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จากคำสง่ั ท่อี าจนำคดีมาฟ้องตอ่ ศาลได้แตอ่ ยา่ งใด

ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า การที่ศาลปกครองพิพากษาว่า เป็นการดำเนินการที่ชอบด้วย
ระเบียบแล้ว เป็นการแทรกแซงคำสั่งของรองนายทะเบียนสหกรณ์ นั้น เห็นว่า เมื่อผู้ฟ้องคดีได้เสนอข้อพิพาท
ตอ่ ศาลว่า มติหรือคำวินจิ ฉยั อุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีไมช่ อบด้วยกฎหมายหรือระเบียบ แต่ผูถ้ ูกฟ้องคดีให้การว่า
มติหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแล้ว ศาลปกครองจึงมีอำนาจวินิจฉัย
คดีที่เกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของมติหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์ อันถือเป็นคำส่ั งทางปกครองได้
ดังน้นั การพพิ ากษาข้างต้น ของศาลปกครองจงึ ไม่เป็นการแทรกแซงคำสัง่ ของรองนายทะเบียนสหกรณ์แต่อย่างใด

สำหรับกรณีที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์คัดค้านคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีที่รับฟัง
ข้อเท็จจริงไม่ถูกต้อง นั้น เห็นว่า ตุลาการผู้แถลงคดีปกครองไม่ใช่ตุลาการในองค์คณะที่พิจารณาพิพากษาคดี
และคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีเป็นเพียงคำแถลงการณ์ที่เสนอต่อองค์คณะเพื่อปร ะกอบการ
พิจารณาขององค์คณะเท่านั้น แต่ไม่ถือว่าเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดในคดีที่ผู้ฟ้องคดีสามารถอุทธรณ์
คัดค้านคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีได้ อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีข้อน้ี จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่เป็นสาระ
อันสมควรได้รับการวินิจฉยั ตามมาตรา 73 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา
คดปี กครอง พ.ศ. 2542 และขอ้ 108 วรรคสอง แห่งระเบยี บของทปี่ ระชุมใหญ่ตลุ าการในศาลปกครองสูงสุด
ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ดังนั้น มติและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ให้เพิกถอน
คำสงั่ นายทะเบยี นสหกรณ์ดังกล่าวจึงเปน็ คำสงั่ ทช่ี อบดว้ ยกฎหมายแลว้

การที่ศาลปกครองชน้ั ต้นพพิ ากษายกฟ้อง นนั้ ศาลปกครองสงู สุด เห็นพอ้ งด้วย
พพิ ากษายนื

สำนักนายทะเบยี นและกฎหมาย กล่มุ กฎหมาย/ย่อ

ใชเ้ พอื่ ประกอบการศึกษาเท่านัน้ ห้ามมใิ หน้ ำไปใชเ้ พ่อื แสวงหากำไร

















































ย่อคำพิพำกษำศำลปกครองสูงสดุ ท่ี อ.961/2563

ผ้ฟู ้องคดี นำยชินรตั น์ เมืองขุนทด

ผู้ถูกฟ้องคดี กรมสง่ เสริมสหกรณ์

กรณีเรือ่ ง คดีพิพำทเกี่ยวกับกำรที่หน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วย
กฎหมำย และกำรกระทำละเมิดของหน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำท่ีของรัฐอันเกิดจำกกำรใช้อำนำจตำม
กฎหมำย (อุทธรณ์คำพพิ ำกษำ)

กฎหมำยท่เี ก่ียวข้อง พระรำชบัญญตั จิ ัดตัง้ ศำลปกครองและวธิ พี ิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

ผู้ฟ้องคดีเป็นข้ำรำชกำรสังกัดกรมส่งเสริมสหกรณ์ มีควำมประสงค์ขอลำออกจำกรำชกำร
ตำมมำตรกำรปรบั ปรุงอตั รำกำลงั ของสว่ นรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554
แต่เม่ือประกำศรำยช่ือผู้ได้รับอนุมัติให้เข้ำร่วมมำตรกำรดังกล่ำวแล้วไม่ปรำกฎชื่อผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงเห็นว่ำ
ผู้ถูกฟ้องคดีกระทำกำรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมำย ละเลยต่อหน้ำที่ตำมที่กฎหมำยกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และ
เลอื กปฏบิ ตั โิ ดยไมเ่ ป็นธรรม ทำใหผ้ ้ฟู อ้ งคดีเสียสทิ ธิไมส่ ำมำรถเข้ำรว่ มมำตรกำรดังกล่ำวได้ จึงนำคดีมำฟ้องศำล

ศำลปกครองสูงสุดพิจำรณำแล้วเหน็ ว่ำ

ประเด็นท่ีหน่ึง กำรที่ถูกผู้ฟ้องคดีไม่อนุมัติให้ผู้ฟ้องคดีเข้ำร่วมมำตรกำรปรับปรุงอัตรำกำลัง
ของส่วนรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 ของผู้ถูกฟ้องคดีชอบด้วย
กฎหมำยหรือไม่ โดยมีประเด็นต้องวินิจฉัยก่อนว่ำกำรท่ีผู้ถูกฟ้องคดีเลือกจัดทำแผนดำเนินกำรมำตรกำร
ปรับปรุงอัตรำกำลังของส่วนรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554
เป็นกรณีที่ห้ำ กรณีส่วนรำชกำรมีอัตรำกำลังไม่เพียงพอแก่กำรทำงำนตำมบทบำท ภำรกิจ และมีประเด็น
จำนวนขำ้ รำชกำรสูงอำยุ (50ปขี ้ึนไป) มำกกวำ่ รอ้ ยละท่ีกำหนด เป็นกำรกระทำท่ชี อบดว้ ยกฎหมำย หรือไม่

พิเครำะห์แล้วเห็นว่ำ ในปีงบประมำณท่ีผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินกำรมำตรกำรปรับปรุงอัตรำกำลังของ
ส่วนรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 ซ่ึงกำรพิจำรณำว่ำส่วนรำชกำรใด
มีอัตรำกำลังเพยี งพอหรือไม่ในกำรทำงำนตำมบทบำท ภำรกิจของส่วนรำชกำรน้ัน เป็นอำนำจหน้ำท่ีโดยเฉพำะของ
ส่วนรำชกำรที่ต้องเป็นผู้พิจำรณำวินิจฉัย เม่ือผู้ถูกฟ้องคดีเลือกจัดทำแผนดำเนินมำตรกำรปรับปรุงอัตรำกำลังของ
ส่วนรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 เป็นกรณีท่ีห้ำ โดยกำหนด
กลุ่มเป้ำหมำยของผู้ร่วมมำตรกำรไม่เกินร้อยละ 5 ของกลุ่มเป้ำหมำย และได้กำหนดจำนวนข้ำรำชกำรท่ีสำมำรถ
เข้ำร่วมโครงกำรดังกล่ำวจำนวน 73 คน กำรดำเนินกำรของผู้ถูกฟ้องคดีจึงเป็นไปตำมหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมกำร
กำหนดเป้ำหมำยและนโยบำยกำลังคนภำครัฐได้กำหนดรำยละเอียดมำตรกำรปรับปรุงอัตรำกำลังของส่วนรำชกำร
(โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 ไว้แล้ว รวมท้ังคณะกรรมกำรเป้ำหมำยและนโยบำย
กำลังคนภำครัฐได้ให้ควำมเห็นชอบแผนและขั้นตอนกำรดำเนินกำรมำตรกำรดังกล่ำวของผู้ถูกฟ้องคดีแล้ว
เม่ือไม่ปรำกฏข้อเท็จจริงว่ำกำรเลือกดำเนินกำรตำมมำตรกำรดังกล่ำวของผู้ถูกฟ้องคดี มีเจตนำกล่ันแกล้งผู้ฟ้องคดี
เพื่อมิให้เข้ำร่วมมำตรกำรดังกล่ำวแต่อย่ำงใด จึงถือว่ำกำรดำเนินกำรของผู้ถูกฟ้องคดีที่เลือกจัดทำแผนดำเนินกำร
มำตรกำรดังกล่ำว เป็นกรณีท่ีห้ำ เป็นกำรพิจำรณำโดยคำนึงถึงบทบำท ภำรกิจ และอัตรำกำลังของผู้ถูกฟ้องคดี
อันเปน็ กำรใช้ดุลพนิ ิจโดยชอบด้วยกฎหมำยแล้ว

ใช้เพ่อื ประกอบการศึกษาเท่านั้น หา้ มมใิ หน้ าไปใช้เพ่อื แสวงหากาไร

2
คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่ำ กำรท่ีผู้ถูกฟ้องคดีไม่อนุมัติให้ผู้ฟ้องคดีเข้ำร่วมมำตรกำร
ปรับปรุงอัตรำกำลังของส่วนรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554
ของผถู้ กู ฟ้องคดชี อบดว้ ยกฎหมำยหรือไม่
พิจำรณำแล้วเห็นว่ำ ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีประกำศกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงวันท่ี 6 กรกฎำคม 2553
และต่อมำคณะกรรมกำรดำเนินกำรมำตรกำรปรับปรุงอัตรำกำลังของกรมส่งเสริมสหกรณ์ (โครงกำรเกษียณอำยุ
ก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 ได้นำหลักเกณฑ์แนวทำงกำรดำเนินกำรมำตรกำรดังกล่ำว ตำมประกำศ
ของผู้ถูกฟ้องคดีมำกำหนดเป็นเกณฑ์กำรให้คะแนน ซ่ึงผู้ฟ้องคดีได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 66 คะแนน และอยู่ในลำดับ
ที่ 154 ซึ่งกำรให้คะแนนทั้งสำมด้ำนดังกล่ำวไม่พบว่ำมีข้อเท็จจริงใดที่แสดงว่ำเป็นกำรให้คะแนนโดยเลือกปฏิบัติ
กำรให้คะแนนเป็นไปตำมหลักเกณฑ์กำรให้คะแนนท่ีคณะกรรมกำรฯ กำหนดไว้แล้ว เม่ือจำนวนข้ำรำชกำรในสังกัด
ของผู้ถูกฟ้องคดีท่ีสำมำรถเข้ำร่วมโครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนดปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 ได้ มีเพียง 73 คน
และผู้ฟ้องคดีอยู่ลำดับที่ 154 กำรท่ีผู้ถูกฟ้องคดีประกำศรำยช่ือผู้ที่ได้รับอนุมัติให้เข้ำร่วมมำตรำดังกล่ำวจำนวน
73 คน จึงชอบดว้ ยกฎหมำยแล้ว และแม้ต่อมำผู้ถูกฟ้องคดีจะได้รับอนมุ ัติจำก อ.ก.พ. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้เพิ่มผู้เข้ำร่วมมำตรกำรดังกล่ำวอีก จำนวน 58 คน ก็ยังไม่ถึงลำดับท่ีของผู้ฟ้องคดี กำรที่ผู้ถูกฟ้องคดีประกำศ
รำยชื่อข้ำรำชกำรผู้ได้รับอนุมัติให้เข้ำร่วมมำตรำกำรดังกล่ำวเพิ่มเติมอีกจำนวน 58 คน ซึ่งไม่มีรำยชื่อ
ผฟู้ ้องคดเี ปน็ ผูไ้ ดร้ ับอนุมัติในเขำ้ รว่ มมำตรกำรดังกล่ำวจึงชอบด้วยกฎหมำยแล้ว
ประเด็นท่ีสอง เมื่อผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับอุนมัติให้เข้ำร่วมมำตรกำรปรับปรุงอัตรำกำลังของ
ส่วนรำชกำร (โครงกำรเกษียณอำยุก่อนกำหนด) ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 เป็นกำรกระทำโดยชอบด้วย
กฎหมำย ผถู้ ูกฟ้องคดจี ึงไม่จำตอ้ งชดใชค้ ำ่ สินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีแตอ่ ย่ำงใด
กำรทีศ่ ำลปกครองช้ันตน้ พิพำกษำยกฟ้อง น้ัน ศำลปกครองสงู สดุ เหน็ พอ้ งด้วย พิพำกษำยืน

สำนักนำยทะเบียนและกฎหมำย กลุ่มกฎหมำย/ย่อ

ใช้เพอ่ื ประกอบการศกึ ษาเท่านั้น ห้ามมใิ หน้ าไปใชเ้ พ่ือแสวงหากาไร










































Click to View FlipBook Version