ย่อคำพพิ ำกษำศำลปกครองสงู สุดท่ี อร.133/2564
ผู้ฟ้องคดี นำย ส.
ผถู้ กู ฟ้องคดี อธิบดกี รมสง่ เสริมสหกรณ์
กรณเี รอ่ื ง คดพี ิพำทเกยี่ วกับกำรท่ีเจำ้ หนำ้ ที่ของรฐั ออกกฎโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมำย
กฎหมำยทเี่ ก่ยี วข้อง มำตรำ 16 แห่งพระรำชบัญญัตสิ หกรณ์ พ.ศ. 2542 และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ
ผู้ฟ้องคดีเป็นสมำชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ก. จำกัด ขณะดำรงตำแหน่งกรรมกำรดำเนินกำร
สหกรณ์ ชุดที่ 41 ต่อมำผู้ถูกฟ้องคดีได้ออกระเบียบนำยทะเบียนสหกรณ์ ว่ำด้วยกำรตรวจสอบกิจกำรของ
สหกรณ์ พ.ศ. 2559 โดยผู้ฟ้องคดีเห็นวำ่ ตำมพระรำชบัญญตั สิ หกรณ์ พ.ศ. 2542 มำตรำ 53 ไมไ่ ด้ให้อำนำจ
ผู้ถูกฟ้องคดีในกำรกำหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจสอบกิจกำรตำมข้อ 7 (2) และข้อ 8(2) และ (3) ของระเบียบ
นำยทะเบียนสหกรณ์ดงั กล่ำว ดงั น้ัน กำรท่ีผู้ถูกฟ้องคดีออกระเบียบดังกล่ำว จึงเป็นกำรจำกัดสิทธิผู้ฟ้องคดีและ
สมำชิกสหกรณ์ที่จะสมัครเป็นผู้ตรวจสอบกิจกำร อีกทั้งยงั เป็นกำรออกระเบียบโดยไม่คำนึงถงึ ศักด์ิศรีควำมเป็น
มนษุ ย์ สิทธิและเสรีภำพตำมทบี่ ัญญตั ไิ วในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย จงึ นำคดมี ำฟ้องต่อศำลปกครอง
ศำลปกครองสูงสุด เห็นว่ำ ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นนำยทะเบียนสหกรณ์ ตำมมำตรำ 15 แห่ง
พระรำชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และมีอำนำจออกระเบียบหรือคำส่ังตำมมำตรำ 16 วรรคหน่ึง (1) (3) และ
(8) แห่งพระรำชบัญญัติดังกล่ำว ได้มีคำสั่งนำยทะเบียนสหกรณ์ ท่ี 14/2559 ลงวันที่ 30 ธันวำคม 2559
มอบอำนำจหน้ำท่ีให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ปฏิบัติกำรแทนนำยทะเบียนสหกรณ์ โดยให้อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ปฏิบัติหน้ำท่ีแทนนำยทะเบียนสหกรณ์ในฐำนะพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมท่ีบัญญัติไว้ตำมมำตรำ 16 วรรคสอง
แห่งพระรำชบัญญัติดังกล่ำว ดังนั้น อธิบดีกรมตรวจบัญชีในฐำนะพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ปฏิบัติกำรแทน
นำยทะเบียนสหกรณ์ มีอำนำจออกระเบียบนำยทะเบียนสหกรณ์ ว่ำด้วยกำรตรวจสอบกิจกำรของสหกรณ์
พ.ศ. 2559 ได้ และเม่ือพิจำรณำระเบียบนำยทะเบียนสหกรณ์ ว่ำด้วยกำรตรวจสอบบัญชีของสหกรณ์
พ.ศ. 2559 ข้อ 7 ข้อ 8 และ ข้อ 24 วรรคหนึ่ง แล้ว เห็นว่ำ ข้อกำหนดดังกล่ำวมีลักษณะเป็นกำรกำหนด
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ำมของบุคคลที่จะสมัครเข้ำมำทำหน้ำท่ีผู้ตรวจสอบกิจกำรของสหกรณ์ ซ่ึงจะมีผล
ใช้บังคับภำยหลังจำกระเบียบดังกล่ำวประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำไปแล้ว ส่วนผู้ตรวจสอบกิจกำรท่ีได้
รับเลือกตั้งมำก่อนระเบียบน้ีใช้บังคับยังคงสำมำรถปฏิบัติหน้ำที่ต่อไปได้ตำมเงื่อนไขที่ระบุในบทเฉพำะกำล
ข้อ 24 ของระเบียบดังกล่ำว กรณีจึงมิได้มีผลใช้บังคับย้อนหลังแก่บุคคลดังกล่ำว นอกจำกน้ี กำรกำหนด
คุณสมบตั ิและลักษณะต้องห้ำมดังกลำ่ ว เห็นวำ่ เป็นหลักเกณฑท์ ่ีมุง่ สง่ เสริมกำรตรวจสอบกิจกำรของสหกรณใ์ ห้
มมี ำตรำฐำนและสรำ้ งควำมโปร่งใสในกำรดำเนินกิจกำรของสหกรณ์ รวมท้ังเพื่อให้กำรตรวจสอบกิจกำรบรรลุ
ตำมวัตถุประสงค์อย่ำงถูกต้องและเหมำะสม ซึ่งเป็นกำรเปิดโอกำสให้สมำชิกของสหกรณ์ได้มีโอกำสเลือก
ผู้ตรวจสอบกิจกำรสหกรณ์ที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนให้เข้ำตรวจสอบสหกรณ์ได้
กรณีจึงไม่เป็นกำรกระทบกระเทือนต่อสำระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภำพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและมิได้
มีลักษณะเป็นกำรล่วงละเมิดหรือส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ของบุคคลที่รัฐธรรมนูญแห่ง
รำชอำณำจักรไทยรับรองไว้ ดังน้ัน กำรออกระเบียบนำยทะเบียนสหกรณ์ ว่ำด้วยกำรตรวจสอบกิจกำรของ
สหกรณ์ พ.ศ. 2559 ข้อ 7 (2) และข้อ 8 (2)และ (3) จึงชอบด้วยกฎหมำย อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีฟังไม่ขึ้น
กำรทศ่ี ำลปกครองชนั้ ต้นพิพำกษำยกฟ้อง นนั้ ศำลปกครองสูงสุดเหน็ พ้องดว้ ย
สำนักนำยทะเบยี นและกฎหมำย กลุ่มกฎหมำย/ย่อ
ใช้เพอ่ื ประกอบการศึกษาเท่านนั้ ห้ามมใิ ห้นาไปใชเ้ พ่อื แสวงหากาไร