The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทความผลงานสร้างสรรค์ 4u

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Larpluck Boonyakom, 2022-07-12 00:42:49

บทความผลงานสร้างสรรค์ 4u

บทความผลงานสร้างสรรค์ 4u

342

5. การวเิ คราะหผ์ ลงาน

จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลในการออกแบบ ประติมากรรม “ปอดกลางเมือง” เป็นผลงาน
เป็นไปตามความคาดหมาย ในการออกแบบและกระบวนการผลิต คือการออกแบบประติมากรรมให้เป็นส่วน
หนึ่งในบริบท และ อีกทั้ง สร้างประติมากรรม ที่มาจากความทรงจำของทุกคนเพื่อเป็นลดระยะเวลา พื้นฐาน
การทำความเข้าใจ ให้สามารถสื่อถึงได้และเข้าใจได้ง่าย และอีกทั้งสร้าง ประติมากรรม ที่สามารถเข้าถึงได้ทุก
ช่วงวัย เพื่อทำให้ ประติมากรรม “ปอดกลางเมือง” เป็นตัวส่ือความหมายตามจินตภาพจุดเด่นคือ ดอกบัวสี
ทองที่เป็นวสั ดุทองเหลืองคงทนแข็งแรง พร้อมท้ังทำการติดตั้งไปส่องสวา่ งที่เป็นหลากสีโดยใช้พลังงานสะอาด
พลงั งานแสงอาทติ ย์ (Solar Cell)

ทั้งหมดน้ี กระต่ายถือดอกบัวสีทอง เป็นตวั แทน การเล่าตำนาน ความเช่ือ เป็นตวั ส่ือความหมายเรื่อง
ในอดีตที่ผ่านมา ที่ส่งผ่านเรื่องราว สู่การพัฒนาความเป็นย่านท่ีทันสมัย เป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจ
การค้า และ ความทันสมัย สื่อถึงดอกบัว ท่ีเป็น เหมือนจุดเด่นของ สามย่าน ความงามและสะท้อนปัญหาใน
ปัจจุบนั ซึ่ง

6. สรปุ

ประตมิ ากรรม “ปอดกลางเมือง” คือการสร้างสรรค์จากเร่ืองเล่าของกระต่ายในดวงจันทร์และดอดบวั
สีทอง ในหลากหลายบรบิ ทเรอื่ งราว สู่การออกแบบประติมากรรมเพ่อื สะท้อนถึงความเชือ่ วิถชี ีวติ ของย่านสวน
หลวงสามย่าน เพอ่ื สร้าง จุดสงั เกต (Landmark) และอกี ท้งั ไดท้ ำการออกแบบใหส้ อดคล้องกับพน้ื ที่ เปรียบให้
ฟา้ ใหม่โดม เปรียบเสมือนกับดวงจนั ทร์ขนาดใหญ่ ที่กระต่างได้อยู่พรอ้ มทงั้ ผู้อออกแบบยังเช่อื ได้ว่าผู้ท่ีมาเท่ียว
ย่านสวนหลวงสามย่านได้เจอ ประติมากรรม “ปอดกลางเมือง” จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด ของกระต่ายใน
ดวงจันทร์ เป็นเรอ่ื งเลา่ ทย่ี ังมีลมหายใจไมเ่ คยจางหายไปจากความทรงจำของทกุ คน

เอกสารอ้างอิง

นวลนอ้ ยบุญวงศ.์ (2542). หลกั การออกแบบ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .
บุษกร บินฑสนั ต.์ (2565). นำชมเสมือน สวนศิลปจ์ ฬุ าฯ. กรุงเทพ: สำนักพมิ พจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั
แสงจินดา กันยาทิพย.์ (2541). สนกุ กับเทศกาลเฉลมิ ฉลอง Goh Pei Ki. (พิมพ์ครง้ั ท่ี 2).หน้า184-191

กรุงเทพฯ:สำนักพมิ พ์ดอกหญ้า

343

จิตรกรรมสนี ้ำ กวนเกษียรสมุทร
Watercolor painting : The churning of the ocean of milk

เอกราช วรสมุทรปราการ, Ekaraj Worasamutprakarn

คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั ราชภัฏบา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา กรุงเทพฯ, Science and technology,
Bansomdejchaopraya Rajabhat University Bangkok
[email protected]

บทคดั ยอ่

ตำนานด้านเทววิทยาในคติฮินดูท่ีแพร่อิทธิพลจากอินเดียสู่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ จนเกิดเป็นงาน
จิตรกรรมไทยโบราณเชิงประเพณีและเทวศลิ ป์มากมาย ซงึ่ ส่วนใหญจ่ ะเน้นลายเส้นวิจติ รงดงามประกอบไปด้วย
ลายกนกท่ีคมชัด แตส่ ำหรับงานสร้างสรรค์ในช้นิ นี้ผู้จัดทำมีความประสงคท์ ่ีจะปรับเปลี่ยนมมุ มองของผลงานให้
ดูร่วมสมัยมากข้ึน เน้นอารมณ์ฟุ้งฝันและการแสดงออกถึงมิติตื้นลึกแทนความชัดเจนของลายเส้น ซ่ึง
วัตถุประสงค์ในการพัฒนางานได้แก่ (1) สร้างสุนทรียภาพทางทัศนศิลป์ในรูปแบบจิตรกรรมสีน้ำชนิดเน้น
อารมณ์และลดทอนรายละเอียด (2) เพื่อทดลองการใช้เทคนิคสีน้ำแบบเงาคัดแสงและไล่ระดับความชื้นจาก
เปยี กมาแห้ง (3) เพ่อื ศึกษาและวเิ คราะห์คณุ ค่าทางสนุ ทรียภาพดา้ นทศั นธาตใุ นผลงานทศั นศิลป์

ผลงานทัศนศิลป์ที่ได้จากการวิจัยเชิงสร้างสรรค์ที่ได้คือภาพกวนเกษียรสมุทรขนาด 168 x 75
เซนตเิ มตรท่แี บ่งไดเ้ ปน็ สามส่วน และสามารถนำเสนอแนวคิดอารมณ์นำรายละเอยี ดผ่านเทคนคิ สนี ำ้ ได้ด้วยการ
เน้นท่ีน้ำหนักแสงเงา รูปร่างรูปทรงโดยรวมมากกว่าลายเส้นชัดเจนท้ังหมดเหมือนในงานจิตรกรรมไทยท่ัวไป
และได้ใช้เทคนิคสีน้ำแบบเงาคัดแสงและการไล่ระดับความเปียกของน้ำมาจนแห้ง ผลงานได้ถูกวิเคราะห์ตาม
หลกั การออกแบบในเรื่องของสัดสว่ น ระยะและน้ำหนกั เพอ่ื สรา้ งสรรค์งานให้เกดิ ความสำเร็จตามเป้าหมาย

คำสำคัญ: จิตรกรรม, สีน้ำ, เทวศลิ ป์

Abstract

From Hindu mythology that spread from India into the south-east Asia including
Thailand had influenced artists to create many traditional artworks. However, Thai traditional
style of paintings always composes of many curves, beautiful patterns which called Kanok
and also give 2 dimensions perception. So, in this creative work, I want to make Thai
traditional painting style has 3 dimensions perception and more emotional feeling. The
objectives of this artwork are (1) to create aesthetics in visual arts in the form of watercolor
painting which emphasis on emotion and decreasing details; (2) to experiment the technique
of shading bringing the light and wet to dry technique; (3) to study and Analyze the aesthetic
value of visual elements in visual arts.

344

The result of this creative artwork is titled "The churning of the ocean of milk" which
size is a 168 x 75 cm. and can separated into three parts. The painting can present the
concept of getting impression before observing the details by emphasizing the part of light
and shadow through watercolor technique and the overall shape. The principle of design
such as of proportion, distance and value are used to achieve the result of painting.

Keywords: Fineart, Watercolor, religious painting

1. ความสำคัญหรือความเปน็ มาของปญั หา

ศิลปะและวัฒนธรรมในประเทศไทยโดยเฉพาะด้านพุทธศิลป์น้ันปฏิเสธไม่ได้วา่ ได้รับอิทธิพลมากจาก
ทางคติทางพราหมณ์ฮินดูของอินเดีย ซ่ึงคติเหล่าน้ีได้เผยแพร่อิทธิพลต่อศิลปะและประติมากรรมในภูมิภาค
ตะวนั ออกเฉียงใตข้ องเอเชีย ดังเช่น การสร้างนครวัดนครธมให้มีลักษณะเหมือนผงั ของเขาพระสุเมรุตามคัมภรี ์
ของหลักศาสนาพราหมณ์ รูปสลักของเทพนพเคราะห์ในปราสาทโลเลยของเขมร สำหรับประเทศไทยน้ัน
อทิ ธิพลของศาสนาพราหมณ์ฮินดไู ด้เขา้ มาต้งั แต่ยคุ โลหะกอ่ นประวัตศิ าสตรส์ มัยสโุ ขทัยและอยุธยา โดยรัชสมัย
ของรัชกาลที่หน่ึงได้โปรดเกล้าให้พราหณ์จากภาคใต้ในเมืองนครศรีธรรมราช ซ่ึงมีหลักฐานวา่ อพยพย้ายถ่ินมา
จากรัฐทมิฬนาดูของอินเดียใต้ (Bamroong Kam-Ek, 2006) ได้เข้ามาเป็นพราหมณ์ประจำราชสำนักเพ่ือร่วม
ประกอบพระราชพธิ ี ซึ่งทำให้ศิลปะและวรรณกรรมศาสนาพราหมณ์ฮินดูท่ีมีอทิ ธิพลต่อไทย โดยตัวอย่างที่เห็น
ได้ชัดได้แก่ รามเกียรติ์ที่ได้ท่ีมาจากรามายณะของอินเดียใต้ รวมถึงนารายณ์สิบปางซึ่งสัมพันธ์กับภาพเทวรูป
ซ่ึงในรัตนโกสินทร์ตอนต้นน้ันจะมีประติมากรรมเทวรูปพราหมณ์ฮินดูเพื่อประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ถึง
สามสิบเก้าองค์ เชน่ พระปรเมศวรทรงโค พระอาทิตย์ทรงราชสีห์ พระจันทร์ทรงม้า เป็นตน้ ซ่ึงปัจจุบันเทวรูป
เหล่าน้ีถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และแม้ว่าที่มาของงานศิลปะจะเป็นจาก
ประเทศอินเดียแต่เม่ืออยู่ในประเทศไทยก็ได้รับการหล่อหลอมให้เกิดความงดงามแตกต่างตามแบบฉบับของ
ศลิ ปะไทย เชน่ ลวดลายของลายกนกไทย ด้วยความออ่ นชอ้ ยงดงามของตัวละครอนั เปน็ เอกลักษณ์ท่ีทำให้งาน
ทัศนศิลป์ไทยมีอัตลักษณ์ชัดเจน ซ่ึงการดำรงรักษางานของไทยให้มีอายุยาวนานต่อไปน้ันนอกจากวิธีสืบสาน
ภูมิปัญญาไทยให้ถูกต้องตามขนบแล้วการประยุกต์ต่อยอดให้ตามสมัยนิยมก็เป็นอกี วิธีท่ีจะทำให้คนรุ่นใหม่ให้
ความสนใจเชน่ กัน

การพัฒนางานสร้างสรรค์กวนเกษียรสมุทรน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือต่อยอดงานไทยให้เกิดจินตนาการใช้
เทคนิคของสีน้ำผสานความอ่อนช้อยละมุนตาของตวั ละครแบบไทย แตล่ ดทอนรายละเอียดและใช้น้ำหนักแสง
เงา ความฟุง้ เบลอให้รูปแบบงานดูรว่ มสมยั ขน้ึ ซึ่งการนำศิลปวัฒนธรรมไทยมาออกแบบใหม่นนั้ ยงั สามารถช่วย
ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มองเห็นคุณค่าและเข้าถึงศิลปะที่มีอย่างยาวนานอกี ด้วย ดังเช่นงานวิจัยการออกแบบตัว
ละครเทพนพเคราะห์ในรูปแบบตัวละครแอนิเมชันก็ทำให้เยาวชนมีความอยากรู้เรื่องราวของเทวตำนานมาก
ขึ้นแมว้ ่ากอ่ นหนา้ จะไมเ่ คยเข้าใจเกยี่ วกบั เทพนพเคราะห์ (Ekaraj Worasamutprakarn, 2021)

345

2. แนวคดิ / ทฤษฎีท่เี กี่ยวข้อง
ในการทำผลงานกวนเกษียรสมุทรนั้นได้ใช้พัฒนางานด้วยกระบวนการแบบเชิงจินตนาการดังที่ปวีณา

เอื้อน้อมจิตต์กลุ ไดก้ ลา่ วถึงลักษณะเด่นเฉพาะรปู แบบของศลิ ปินจำแนกออกเปน็ 4 ประเภท ได้แก่
1. กระบวนแบบปรนัยนิยม (The style of objective accuracy) ได้แก่งานเลียนแบบส่ิงที่ปรากฏ

ด้วยตาให้เห็น มีตรรกะถูกต้อง อาจแทนด้วยรายละเอียดประหน่ึงกล้องถ่ายภาพที่คุณภาพสูงเกินกว่าสายตา
ทั่วไปจะเห็นได้ หรืออาจเป็นการลดทอนรายละเอียดบางส่วนอยู่แต่ยังยึดหลักความถูกต้องของวัตถุและ
สภาพแวดลอ้ มไว้

2. กระบวนแบบเชิงรูปแบบนิยม (The style of formal order) เป็นผลงานที่มุ่งเน้นการแสดงความ
งามของสัดส่วนมูลฐาน การจัดวางโครงสร้าง ให้คุณค่าของรูปทรงมากกว่าวัตถุหรือสภาพแวดล้อม มักมีการ
นำเสนอภาพเชงิ ลดทอนแต่ยังคงสาระสำคัญของรปู ทรงไว้ มสี ัดส่วนงดงาม ม่นั คงมรี ะเบียบ

3. กระบวนแบบอัตนัยนิยมเชิงอารมณ์ความรู้สึก (The style of emotion) เป็นงานมุ่งเน้นสำแดง
อารมณ์จากภายใน อาจมีการบดิ เบอื นรปู ทรงให้ผดิ เพีย้ น ใชค้ ุณสมบตั ขิ องสีสรา้ งความรสู้ ึกเดน่ ชดั ออกมา

4. กระบวนแบบเชิงจินตนาการ และสัญลักษณ์ (The style of fantasy and Symbol) เป็นผลงาน
ที่สรา้ งดว้ ยมโนภาพหรือจนิ ตนาการของศิลปิน เหตุการณ์หาได้เกิดข้ึนในโลกแห่งความจริงไม่ (ปวีณา เอื้อน้อม
จิตตก์ ลุ , 2550)

ตัวอย่างผลงานกวดเกษียรสมุทรโดยศิลปินไทย ประทีบ คชบัว ซึ่งได้รับอิทธิพลการสร้างสรรค์งาน
แนวตะวันตกกลุ่มเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) ท่ีผสานกับส่ิงเร้าภายในเพ่ือมุ่งหมายสะท้อนสภาวะจิต
แสดงออกถึงสภาพการณ์หรือรูปทรงที่ขาดเหตุผล ประกอบกับทักษะของศิลปินจึงได้ผลงานที่แสดงออก
จินตนาการและสัญลกั ษณ์

ภาพท่ี 1 กวนเกษยี รสมุทร ณ หอศิลป์ MOCA
ท่ีมา : ประทปี คชบวั 2010

346

กรอบแนวคดิ ในการผลติ ผลงาน

การคน้ หาแรงบันดาลใจและขอ้ มลู

การวางแผน

การร่างภาพ

ข้นั ที่ 1 ใช้เทคนิคสนี ้ำสามระดับ เปียก หมาด แห้ง
ขัน้ ท่ี 2 วเิ คราะห์สว่ นแสงเงา ลงคา่ เงา เวน้ แสง

ขั้นท่ี 3 ใชค้ า่ สสี ร้างระยะ น้ำหนัก เก็บรายละเอียด

ภาพที่ 2 กรอบแนวคดิ ในการพัฒนาผลงาน

3. กระบวนการในการสรา้ งสรรค์
กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานแบ่งออกไดด้ งั นี้
1. การค้นคว้ารวบรวมข้อมลู
ค้นคว้าจากเอกสาร หนังสือ และอินเตอร์เน็ต โดยข้อมูลที่ต้องการคือตำนานการกวน

เกษียรสมุทร ข้อมูลเกีย่ วกบั เทวดาและอสูรแตล่ ะฝ่าย การอวตารเปน็ กรู มาวตารของพระนารายณ์ ของวิเศษท่ี
เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร นอกจากน้ียังสืบค้นภาพจิตรกรรม งานประติมากรรมเกี่ยวข้องกับการกวน
เกษียรสมุทร ได้แก่ ภาพสลักหินนูนต่ำกวนเกษียรสมุทรรวมถึงรูปปั้นแนวยาวเสมือนราวขอบถนนนำสู่ตัว
ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา (Uday Dokras, 2022)

ภาพท่ี 2 สลกั หินนนู ต่ำกวนเกษียรสมุทร นครวัด กัมพชู า
ที่มา : John Brennan, 19 February 2008

347
2. การสรา้ งสรรค์ผลงาน

2.1 กระบวนการร่างภาพ โดยจะมีการร่างภาพในหน้ากระดาษขนาดเล็กจำนวนหลากหลาย
ภาพเพื่อทดลองการจัดองค์ประกอบภาพ จากน้ันจึงนำภาพที่เหมาะสมมาวาดในกระดาษจริง ซึ่งควรใชด้ ินสอ
2B - 6B เพือ่ ให้เหน็ เสน้ ชัดเจน มิเช่นนั้นตอนลงสนี ำ้ อาจเลือนหายได้

ภาพที่ 3 สลกั หินนนู ตำ่ กวนเกษียรสมทุ ร นครวัด กัมพชู า

2.2 กระบวนการลงสีด้วยเทคนิคฟุ้งกระจายสร้างความรู้สึกใกล้-ไกล ชัด-เบลอ ซ้อนเร้น-
เปิดเผย การสร้างจังหวะในข้ันตอนนี้ถือเป็นหัวใจของผลงานสีน้ำที่ต้องการสร้างความรู้สึกประทับใจปะทะ
อารมณ์เหมือนอยู่ในจินตนาการและความฝัน สามารถทำได้โดยการขึงน้ำให้เปียกชุ่มและรอเวลาประมาณ 1
ชั่วโมงให้กระดาษเริ่มหมาดจึงลงสีด้วยเน้ือสีต่อน้ำประมาณ 1 : 4 ส่วน และเว้นกระดาษขาวไว้เพื่อสร้างส่วน
กระทบแสงอันจะช่วยให้ผลงานเกิดมิติ สีของแสงจะลงเพยี งเบาบางคือ Yellow ochre และเวน้ ขาว ส่วนของ
เงาจะใช้ Ultramarine และอาจผสาน Yellow ochre เพื่อสรา้ งความกลมกลืน

ภาพท่ี 4 การใชเ้ ทคนคิ ฟุ้งกระจายสรา้ งความจนิ ตนาการ

2.2 โครงสีที่ใช้เป็นคู่สีตรงกันข้าม แต่จะให้ค่าสีเด่นเพียง 20% ได้แก่ สีเหลือง ส่วน
สภาพแวดล้อมจะใช้สีน้ำเงินและกดน้ำหนักให้เข้มข้ึนตามสภาวะการแห้งของกระดาษ สำหรับสีอื่น ๆ ที่มีใน
ภาพเช่น เส้ือผ้าของเหล่าอสุราและเทวดา จะใช้การระบายลงบนสีชั้นแรกคือน้ำเงินและเหลืองท่ีปไู ว้ก่อนแล้ว
เพื่อให้สีผสานเข้าหากันและไม่หลุดเด่นออกมาจากโครงสีโดยรวม ส่วนของน้ำหนักเงาข้ันสุดท้ายจะใช้อัตราสี
และนำ้ 60 : 40 เพ่อื ใหเ้ กิดสที ่ีเข้มชดั และใชส้ ี Ultramarine ผสมกบั Burnt sienna ให้สเี ทาดำ ดังภาพท่ี 5

348

ภาพท่ี 5 การคดั น้ำหนกั ให้เกดิ มิตชิ ัดเจน

4. การวเิ คราะหผ์ ลงาน
ผลงานจิตรกรรมสีน้ำกวนเกษียรสมุทรขนาดภาพละ 56 x 75 cm. จำนวน 3 ภาพต่อเนื่องกัน เป็น

การสร้างสรรค์งานเทวศิลป์โดยถ่ายทอดอารมณ์และจินตนาการจากผู้วาด โดยการวิเคราะห์จะแตกเป็น 2
ประเด็น ได้แก่ ด้านความงาม ดา้ นสาระ

4.1 ด้านความงาม ได้นำทัศนธาตุและการจัดองค์ประกอบเข้ามาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์
ดงั ตอ่ ไปน้ี การใชเ้ ส้นโค้งเปน็ เส้นประธานในการสร้างงานเพื่อให้เกิดพลังการเคลื่อนไหวส่งเสริมกับโจทย์ซึ่งคือ
การดึงพญานาคเพ่ือกวนน้ำอมฤต การใช้ค่าน้ำหนักรวมถึงความชัดเบลอของสีน้ำเพื่อสร้างมิติและระยะใกล้
ไกล ไมใ่ ห้ทกุ อยา่ งเด่นเท่ากนั ทั้งหมด

4.2 ด้านสาระ สามารถส่ือสารถึงเรื่องราวการกวนเกษียรสมุทรได้ตามต้องการ โดยเหล่าเทวดานั้น
ประกอบไปด้วยพระอินทร์ เทวดานพเคราะห์ จตุโลกบาล พระอัศวิน เทพประจำธาตุ เป็นต้น ส่วนคณะ
มหาเทพมาเป็นสักขีพยาน รวมถึงร่างกูรมาวตารของพระนารายณ์และเหล่าอสูรที่นำโดยท้าวพลีหรือบาง
ตำนานว่าคือทศกัณฑ์ ซ่ึงฝ่ายอสูรนี้ข้อมูลไม่แน่ชัดจึงเป็นการวาดโดยรวมถึงลักษณะของยักษ์ในรูปแบบโขน
ไทย

5. สรุป
ผลงานจิตรกรรมสีน้ำกวนเกษียรสมทุ รเปน็ ภาพเทวศลิ ปท์ ่มี ีตำนานยาวนานจากทางอินเดยี แต่เมือ่ เข้า

สู่ประเทศไทยก็มีลักษณะทางศิลปะไทยผสมผสาน ซ่ึงในงานสร้างสรรค์ช้ินนี้มีเป้าหมายเพื่อสืบสานมรดกทาง
วัฒนธรรมไทยแต่ก็ใส่ความน่าสนใจในเร่ืองของมิติภาพ การลดทอนรายละเอียด และการสร้างอารมณ์
ผสมผสานจินตนาการซ่งึ ผลลพั ธ์ที่ได้เปน็ ทีพ่ งึ พอใจท้ังดา้ นความงามและสาระต่อผู้พฒั นาและผชู้ น่ื ชมผลงาน

349

เอกสารอา้ งองิ

ปวีณา เอ้อื นอ้ มจติ ต์กลุ . (2550). สตั วใ์ นงานทัศนศิลปไ์ ทย ตัง้ แตป่ ี พ.ศ.2477-2550. Veridian E-Journal
SU, 4(1), 363-380.

Bamroong Kam-Ek. (2006). The influence of Hindu Brahmanism in the early Ratanakosin
period. 5(1), 187-205 .Damrong Journal.

Ekaraj Worasamutprakarn. (2021). The Design and Development of Thai Cultural Inspiration
to Animation Character: Navagraha. The 6th International Conference on Digital
Arts, Media and Technology (DAMT), 49-52.

Uday Dokras. (2022). Angkor as matsya Avatar. สื บ ค้ น จ า ก https://www.academia.edu/
77523128/Angkor_as_matsya_Avatar_BOOK


Click to View FlipBook Version