The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pim_kitty_15, 2021-12-12 21:52:41

แผนวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม 2

แผนวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม 2

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงที่ 1

ขน้ั นำ

ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. นักเรยี นตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเองก่อนเขา้ ส่กู จิ กรรมการเรยี นการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์ โดยบันทึกลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน
2. นกั เรยี นทำกจิ กรรม Engaging Activity จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ พิจารณาภาพตัวอยา่ งแผงวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์
แลว้ บอกช่อื ช้นิ สว่ นอิเล็กทรอนิกส์ท่นี กั เรยี นรู้จกั ใหไ้ ดม้ ากทสี่ ุด โดยบันทกึ ลงในสมุดประจำตวั
นักเรยี น
3. ครตู ง้ั ประเด็นคำถามกระตนุ้ ความสนใจนักเรยี น จากกิจกรรม Engaging Activity วา่ “นกั เรยี นคิด
ว่าชิ้นสว่ นอิเลก็ ทรอนิกสท์ ำหนา้ ท่ีอะไร” โดยให้นักเรียนแตล่ ะคนรว่ มกันอภิปรายแสดงความ
คิดเหน็ อย่างอสิ ระโดยครูเขยี นคำตอบของนักเรยี นไว้ แลว้ ครจู ะมาตรวจสอบคำตอบหลังเรียนเสรจ็
(แนวตอบ : ควบคมุ การไหลของกระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ )

ขนั้ สอน

ข้ันท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. ครถู ามคำถาม Key Question จากหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ว่า “ชิน้ ส่วนอเิ ล็กทรอนกิ สค์ อื อะไร”
โดยให้นักเรียนแตล่ ะคนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพือ่ หาคำตอบ
(แนวตอบ : คำตอบขึ้นอยกู่ บั ดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)
2. นักเรยี นแบง่ กล่มุ ออกเปน็ 8 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั ตามความสมคั รใจ จากนั้นให้นักเรียนแตล่ ะ
กลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาจับสลากเร่ืองท่ศี กึ ษา โดยครูเตรยี มสลากหมายเลขไวห้ นา้ ชนั้ เรยี น
ซึ่งหมายเลขจะระบุเรอ่ื งท่ีใหน้ ักเรยี นศึกษา ดังนี้
• หมายเลข 1 และ 2 ศึกษาไดโอด
• หมายเลข 3 และ 4 ศกึ ษาทรานซสิ เตอร์

• หมายเลข 5 และ 6 ศึกษาตัวเก็บประจุ
• หมายเลข 7 และ 8 ศึกษาวงจรรวม
3. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันศึกษาค้นคว้าขอ้ มลู เรอ่ื งท่ีกลุม่ ตนเองจับสลากได้ จากหนังสือเรยี น
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์
หรอื แหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ เช่น อินเทอร์เนต็ หอ้ งสมดุ จากน้นั รว่ มกันสรุปความรทู้ ีไ่ ดจ้ าก
การศึกษาคน้ ควา้ ลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น
4. ครูตั้งประเดน็ คำถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรยี น โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดง
ความคดิ เห็นเพื่อหาคำตอบ ดังน้ี
• ถ้านำขว้ั ลบของไอโอดเปล่งแสงต่อกับข้วั บวกของแบตเตอรี่ ผลท่เี กิดข้นึ จะเปน็ อยา่ งไร

(แนวตอบ : เนอื่ งจากการตอ่ ไดโอดเปล่งแสงจะต้องต่อใหถ้ กู ข้วั กระแสไฟฟา้ จึงจะไหลครบวงจร
ถ้าต่อข้วั บวกกบั ขว้ั ลบสลบั กัน ไดโอดเปล่งแสงจะเกิดความตา้ นทานสงู กระแสไฟฟ้าจะไม่
สามารถไหลผ่านได้ ไดโอดจะไม่ทำงาน)
• ทรานซิสเตอร์ทำหนา้ ท่ีสำคัญอย่างไร
(แนวตอบ : ขยายสญั ญาณของกระแสไฟฟา้ ทอ่ี อ่ นให้มีพลงั งานไฟฟา้ มากขน้ึ และทำหนา้ ท่เี ป็น
สวติ ช์เปิด-ปิดในเครื่องใช้ไฟฟ้า)
• ชนิ้ ส่วนอเิ ล็กทรอนกิ ส์ชนดิ ใดมีสมบตั ิคล้ายกบั ซลิ ิคอน
(แนวตอบ : ทรานซสิ เตอร์)
• การต่อตวั เกบ็ ประจุเขา้ ไปในวงจรไฟฟา้ โดยไมม่ ีตวั ตา้ นทานในวงจรจะเกดิ ผลเสยี อยา่ งไร
(แนวตอบ : จะสญู เสียประจุไฟฟา้ เร็วขน้ึ )

ช่ัวโมงท่ี 2-3

5. ครูสนทนากับนักเรยี นเก่ียวกบั ชิน้ สว่ นอเิ ล็กทรอนิกส์ว่า “ชิ้นสว่ นอิเล็กทรอนิกส์จะทำงานได้ก็
ตอ่ เม่อื ถูกตอ่ อยใู่ นวงจรไฟฟ้าอยา่ งถูกต้อง”

6. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากนน้ั รว่ มกนั ศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลเกีย่ วกบั
เรือ่ ง การต่อวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ จากหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยให้สมาชิกภายในกล่มุ แบ่งหนา้ ท่ีกันศึกษา
คนละ 1 เร่อื ง ซึง่ หัวข้อมดี ังน้ี
• คนที่ 1 ศกึ ษาการต่อวงจรตวั ตา้ นทาน
• คนท่ี 2 ศกึ ษาการตอ่ วงจรไดโอด
• คนท่ี 3 ศกึ ษาการต่อวงจรทรานซสิ เตอร์

7. สมาชกิ ภายในกลุ่มนำเรอ่ื งทต่ี นเองศึกษาค้นคว้ามาอธบิ ายให้เพอื่ นในกลมุ่ ฟัง จากน้นั ร่วมกันสรปุ
ความรทู้ ่ไี ด้ลงในสมุดประจำตัวนกั เรียน

8. นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ เพ่อื ศึกษากจิ กรรมการตอ่ วงจรทรานซสิ เตอร์
จากน้ันให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมารบั วัสดุอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการปฏิบตั ิกิจกรรมการต่อ
วงจรทรานซิสเตอร์

9. สมาชิกภายในกลุ่มรว่ มกันศกึ ษาจุดประสงค์ วัสดุอุปกรณ์ และวิธปี ฏิบตั ิกิจกรรม จากหนงั สือเรียน
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์

10. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ปฏิบัติกจิ กรรมตามข้ันตอน ในหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จากนัน้ สมาชิกแตล่ ะกลุ่มนำผลการ
ทดลองทไ่ี ดม้ าอภิปรายรว่ มกันภายในกลุ่ม เพือ่ หาข้อสรปุ ของผลการทดลอง

ชัว่ โมงที่ 4

ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)
11. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมการตอ่ วงจรทรานซสิ เตอร์หนา้ ช้นั เรยี น
ในระหว่างท่นี กั เรยี นนำเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ เพ่อื ใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจถูกตอ้ ง
12. นักเรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม โดยให้นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความ
คิดเหน็ เพอ่ื หาคำตอบ จากนัน้ ครสู ่มุ นักเรยี นให้ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม
13. นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภิปรายผลท้ายกิจกรรมการตอ่ วงจรทรานซิสเตอร์ และเฉลยคำถามทา้ ย
กจิ กรรม
14. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 5.3 เรอื่ ง ชนิ้ สว่ นอเิ ล็กทรอนิกส์ จากนั้นครูสุ่มนกั เรยี น 3 คน ออกมาเฉลย
คำตอบของตนเองหนา้ ช้นั เรียน โดยให้เพอ่ื นในชัน้ เรียนรว่ มกันพจิ ารณาว่าคำตอบถูกตอ้ งหรอื ไม่
จากนัน้ ครเู ฉลยคำตอบที่ถูกตอ้ งใหน้ กั เรียน

ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
15. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเนื้อหาเก่ยี วกับเรอื่ ง วงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์เบอื้ งตน้ และให้ความรู้
เพม่ิ เติมจากคำถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์เบอื้ งต้น
ในการอธิบายเพ่มิ เติม
16. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน ตามความสมัครใจ โดยให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั ศึกษา
กรอบ Application Activity ในหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพ่อื ออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ และนำเสนอผลงาน
หน้าชั้นเรียน

17. นกั เรียนทำ Topic Questions เรอื่ ง วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบือ้ งต้น จากหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ลงในสมุดประจำตวั
นักเรยี น

18. นักเรยี นแต่ละคนทำแบบฝึกหัด เร่ือง วงจรอเิ ล็กทรอนิกสเ์ บ้อื งต้น จากแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ เปน็ การบา้ นส่งใน
ช่วั โมงถดั ไป

ขนั้ สรปุ

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหนา้ ชั้นเรยี น
2. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นก่อนเข้าสู่กจิ กรรมการเรยี นการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในสมุดประจำตัวนักเรียน
3. ครตู รวจสอบผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม การตอ่ วงจรทรานซสิ เตอร์
4. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 5.3 เรือ่ ง ชิน้ ส่วนอิเล็กทรอนิกส์
5. ครูตรวจ Topic Questions เรือ่ ง วงจรอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บือ้ งตน้ ในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น
6. ครตู รวจแบบฝึกหัด เรอ่ื ง วงจรอิเลก็ ทรอนิกส์เบือ้ งต้น จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์
7. นักเรยี นและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับเรื่อง วงจรอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บอื้ งตน้

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน

7.1 ประเมินระหว่าง

การจดั กจิ กรรม

การเรยี นรู้

1) วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ - ตรวจใบงานท่ี 5.3 - ใบงานท่ี 5.3 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

เบือ้ งตน้ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตัว หรอื - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี

เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 ม.3 เลม่ 2

2) ผลบนั ทึกการ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตัว หรอื - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ปฏิบัติกิจกรรม หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์

การตอ่ วงจร วทิ ยาศาสตรแ์ ละ และเทคโนโลยี

ทรานซิสเตอร์ เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 ม.3 เลม่ 2

3) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดับคณุ ภาพ 2

ผลงาน/การปฏิบตั ิ ผลงาน/การปฏิบตั ิ นำเสนอผลงาน/การ ผา่ นเกณฑ์

กจิ กรรม กิจกรรม ปฏบิ ตั ิกิจกรรม

4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2

ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

5) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2

ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

6) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี ินยั - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์

และม่งุ มนั่ ในการ อันพงึ ประสงค์

ทำงาน

8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์
2) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
3) ใบงานที่ 5.3 เรอื่ ง ชน้ิ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์
4) วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการต่อวงจรทรานซสิ เตอร์
5) PowerPoint เรอ่ื ง วงจรอิเล็กทรอนกิ ส์เบื้องตน้
6) สลากหมายเลข
7) สมุดประจำตวั นักเรยี น

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

ใบงานที่ 5.3

เร่อื ง ช้นิ สว่ นอเิ ล็กทรอนิกส์

คำชแี้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกตอ้ ง สญั ลกั ษณ์
1. เขยี นช่ือของอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกสแ์ ต่ละชนดิ

อุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์

..............................................................................

..............................................................................

..............................................................................

..............................................................................

..............................................................................

2. บอกหนา้ ท่ีการทำงานของชนิ้ สว่ นอเิ ล็กทรอนิกส์ตอ่ ไปนี้พอสังเขป
2.1 ตวั ต้านทาน
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
2.2 ไดโอด
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

2.3 ทรานซิสเตอร์
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

2.4 ตัวเก็บประจุ
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 5.3 เฉลย

เรื่อง ชน้ิ สว่ นอเิ ล็กทรอนิกส์

คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ตอ้ ง สัญลกั ษณ์
1. เขยี นช่ือของอปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์แต่ละชนิด

อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์

...................................ไ.ด...โ.อ..ด....................................

.......................ต..ัว..ต...้า..น..ท...า..น..ป...ร..ับ...ค..า่..ไ.ด...้ .....................

..............................ต..ัว..เ..ก..บ็...ป..ร..ะ...จ..ุ ............................

...........................ท...ร..า..น...ซ..สิ ..เ..ต..อ..ร..์.............................

..........................ไ..ด..โ.อ...ด..เ..ป..ล..่ง..แ...ส..ง.............................

2. บอกหนา้ ทีก่ ารทำงานของช้นิ สว่ นอเิ ล็กทรอนกิ สต์ ่อไปน้ีพอสงั เขป

2.1 ตวั ตา้ นทาน
..ท...ำ..ห..น...้า..ท...่ีค..ว..บ...ค...ุม..ป...ร..ิม..า..ณ....ก..ร..ะ...แ..ส..ไ..ฟ...ฟ...้า..ใ.น...ว..ง..จ..ร..ไ..ฟ...ฟ...้า...เ..ป..็น...อ..ุป...ก...ร..ณ...์ไ..ฟ...ฟ..้า..ช...น..ิ.ด..ห...น..่ึง..ท...่ีม..ีค...ุณ...ส...ม..บ...ัต..ิ.ใ.น.....
..ก..า..ร..ต...้า..น..ก...า..ร..ไ.ห...ล..ผ..่า..น...ข..อ...ง..ก..ร..ะ..แ..ส...ไ.ฟ...ฟ...า้ ..................................................................................................

..............................................................................................................................................................

2.2 ไดโอด
....เ.ป..็น...ช..้ิน...ส..่ว...น..อ...ิเ.ล..ก็...ท..ร..อ...น...ิก..ส..์ช...น..ิด....2....ข..ั้ว....ค..ือ....ข..้วั....p...แ...ล..ะ..ข...ั้ว...n....ท..่ีอ...อ..ก...แ..บ...บ..แ...ล..ะ..ค...ว..บ...ค..ุม..ท...ิศ...ท..า..ง..ก...า..ร..ไ.ห...ล...
....ข..อ..ง..ป...ร..ะ..จ..ุไ..ฟ..ฟ...้า...จ...ะ..ย..อ...ม..ใ..ห..้ก...ร..ะ..แ..ส..ไ..ฟ...ฟ...า้ .ไ..ห...ล..ใ.น...ท...ิศ..ท...า..ง.เ..ด..ีย..ว.................................................................

..............................................................................................................................................................

2.3 ทรานซสิ เตอร์
....ท..ำ..ห...น..้า..ท...ี่ใ.น...ก..า..ร..ค...ว..บ...ค..ุม...ก..า..ร..ไ.ห...ล..ข...อ..ง..ก...ร.ะ...แ..ส..ไ..ฟ...ฟ...า้ ...เ.ป...็น..เ..ส..ม..อื...น...ส..ว..ิต...ช..ป์ ..ิด...ห...ร..ือ..เ.ป...ดิ ..ว..ง..จ..ร...ไ.ฟ...ฟ...้า...แ..ล...ะ..ย..ัง...
....ส..า..ม..า..ร..ถ..ค...ว..บ..ค...มุ ..ป...ร..มิ..า..ณ....ก..ร..ะ..แ...ส..ไ.ฟ...ฟ...า้..ไ..ด..ด้..ว้..ย.........................................................................................

..............................................................................................................................................................

2.4 ตัวเกบ็ ประจุ
....ท..ํา..ห...น..้า..ท...สี่ ..ะ...ส..ม..ป...ร..ะ..จ...ุไ.ฟ...ฟ...้า..ไ.ว..ใ้..น...ต..วั ..แ..ล...ะ..ค..า..ย...ป..ร..ะ...จ..ุไ..ฟ..ฟ...้า..ใ..ห..ว้..ง..จ...ร..อ..ย..า่..ง..ต..่.อ..เ.น...่ือ..ง....น..ิย...ม..ใ..ช..้ต..ัว...เ.ก..็บ...ป...ร..ะ..จ..ุ .
....เ.พ...ื่อ..ร..ัก..ษ...า..อ..ัต...ร..า..ก..า..ร..ไ.ห...ล..ข...อ..ง..ก..ร..ะ...แ..ส..ไ..ฟ...ฟ..า้..ใ..น..ว..ง..จ..ร..ใ..ห...้ค..ง..ท..่ี..ร..ว..ม..ท...้งั ..ใ.ช..ส้...าํ ..ห..ร..ับ...ต..ัด...ส..ัญ...ญ....า.ณ....ร..บ..ก...ว..น............

..............................................................................................................................................................

สลากหมายเลข 2 
4
1 6
3 8
5
7

9. ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทีม่ ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ 4

กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 6 (ว23102)

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3/1-8 ภาคเรยี นท่ี 2/2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เวลา 20 ชวั่ โมง

เร่ือง พลงั งานไฟฟา้ กำลงั ไฟฟ้า และการคำนวณคา่ ไฟฟ้า เวลา 3 ชัว่ โมง

ผสู้ อน นางสาวรุจริ าวรรณ จนั สวา่ ง โรงเรยี นบ้านแพงพิทยาคม

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั

ว 2.3 ม.3/8 อธิบายและคำนวณพลังงานไฟฟ้าโดยใชส้ มการ W = Pt รวมทงั้ คำนวณค่าไฟฟ้าของ
เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าในบา้ น

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายความหมายของพลงั งานไฟฟา้ และกำลงั ไฟฟ้าได้ (K)
2. คำนวณหาปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั พลงั งานไฟฟ้า กำลังไฟฟา้ และค่าไฟฟา้ ของเครื่องใชไ้ ฟฟา้

ในบา้ นได้ (P)
3. นำความรูเ้ กยี่ วกับพลงั งานไฟฟา้ กำลงั ไฟฟา้ และการคำนวณคา่ ไฟฟา้ ไปประยุกต์ใช้ใน

ชวี ติ ประจำวนั ได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
• เคร่อื งใช้ไฟฟ้าจะมคี ่ากำลงั ไฟฟ้าและความต่างศักย์

กำกับไว้ กำลงั ไฟฟ้ามีหนว่ ยเปน็ วัตต์ ความตา่ งศักย์
มีหน่วยเปน็ โวลต์ คา่ ไฟฟ้าสว่ นใหญค่ ิดจากพลังงาน
ไฟ ฟ้ าท่ี ใช้ท้ั งห ม ด ซ่ึ งห าได้จาก ผลคูณ ขอ ง
กำลังไฟฟ้า ในหน่วยกิโลวัตต์ กับเวลาในหน่วย
ชั่วโมง พลังงานไฟฟ้ามีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ ชั่วโมง
หรอื หนว่ ย

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

พลงั งานไฟฟ้าเปน็ งานหรือพลังงานทใ่ี ช้ในการเคล่ือนท่ีหรอื การถ่ายเทของประจุไฟฟ้าจากจดุ หน่งึ ไป
ยงั จุดหนึ่ง พลังงานไฟฟ้าท่ใี ช้ไปในหนึ่งหน่วยเวลา เรียกว่า กำลังไฟฟ้า มีหน่วยเป็น วตั ต์ หรอื จูลต่อวินาที
กล่าวได้ว่า กำลังไฟฟ้า คือ อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า เครื่องมือที่ใช้ในการวัดปริมาณการไหลของ
กระแสไฟฟา้ เขา้ สู่บา้ นเรอื นเรยี กวา่ มาตรไฟฟ้า

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

2) ทกั ษะการคำนวณ

3) ทกั ษะการวิเคราะห์

4) ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชวั่ โมงท่ี 1

ข้ันนำ

ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage)
1. นักเรียนตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเองก่อนเขา้ สกู่ ิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยบันทึกลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น
2. นักเรยี นทำกิจกรรม Engaging Activity จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ พิจารณาภาพท่กี ำหนดให้ ภาพใดมกี ารใช้พลงั งาน
ไฟฟา้ มากกวา่ กนั ถ้าเปิดใช้งานในเวลาทเี่ ท่ากัน เพราะเหตุใด โดยบันทกึ ลงในสมดุ ประจำตวั
นักเรยี น
3. ครูเตรียมบตั รภาพเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ทเ่ี ขียนกำกับปริมาณกระแสไฟฟา้ และพลังงานไฟฟ้ามาให้

นกั เรยี นดู จากนัน้ ครูใชค้ ำถาม Key Question ในหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วา่ “ตวั เลขท่ีระบบุ นเครือ่ งใช้ไฟฟา้ ใน
บา้ นเกยี่ วข้องกับพลงั งานไฟฟ้าอย่างไร” โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ อย่าง
อิสระโดยครูเขยี นคำตอบของนักเรยี นไว้ แล้วครจู ะมาตรวจสอบคำตอบหลงั เรยี นเสร็จ
(แนวตอบ : ตวั เลขบอกถึงกำลังไฟฟา้ และความต่างศกั ยข์ องเคร่อื งใช้ไฟฟา้ น้นั ๆ โดยจะทำให้
ทราบถงึ พลงั งานไฟฟา้ ท่จี ะต้องใช้ตามเวลาทีใ่ ช้งาน)

ขน้ั สอน

ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. นักเรยี นจบั คกู่ ับเพือ่ นในชน้ั เรียนตามความสมัครใจ จากน้นั ร่วมกนั ศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกยี่ วกบั
เรอ่ื ง พลังงานไฟฟ้าและกำลงั ไฟฟ้า จากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรอื แหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอรเ์ น็ต
2. นักเรยี นแต่ละคูร่ ว่ มกันอภิปรายเร่ืองท่ีไดศ้ ึกษา จากนั้นเขยี นสรปุ ความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษาคน้ ควา้
ลงในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น
3. นกั เรียนแต่ละคูร่ ว่ มกันศกึ ษาตวั อย่างที่ 5.10-5.13 จากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยให้นักเรียนแต่ละคนจดบนั ทึก
ข้ันตอนและวิธีการคำนวณหาผลลัพธ์ลงในสมดุ ประจำตวั นักเรียน ครอู าจแนะนำใหน้ ักเรียนทำ
ตามข้นั ตอนการแกโ้ จทยป์ ัญหา ดงั น้ี
• ขน้ั ท่ี 1 ทำความเขา้ ใจโจทยป์ ญั หา
• ขั้นที่ 2 วางแผนการแกโ้ จทย์ปัญหา เชน่ สง่ิ ท่โี จทยต์ ้องการถามหา และจะหาส่ิงทีโ่ จทยต์ ้องการ
ตอ้ งทำอยา่ งไร
• ขัน้ ท่ี 3 ดำเนินการแก้โจทยป์ ญั หา
• ขัน้ ท่ี 4 ตรวจสอบคำตอบ

ชวั่ โมงที่ 2

4. นกั เรียนแตล่ ะคนศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกย่ี วกบั เรื่อง ระบบการส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟา้ ถงึ
บา้ นเรอื น จากหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5
ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ หรอื แหลง่ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เช่น อินเทอรเ์ น็ต QR Code เรื่อง ระบบ
การสง่ กระแสไฟฟ้า

5. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากนั้นใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันวาด
แผนภาพแสดงระบบการสง่ กระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟา้ ถงึ บา้ นเรอื นลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ตท่คี รู

เตรยี มให้
6. ครูให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ นำผลงานของกล่มุ ตนเองไปตดิ ที่หน้ากระดาน แล้วให้นักเรยี นแตล่ ะคน

เดินชมผลงานของเพ่ือนกลุ่มอื่น ๆ จากนนั้ ให้สมาชกิ ภายในกล่มุ ร่วมกันอภิปรายแสดงความ
คิดเห็นว่า ผลงานของเพ่ือนกลมุ่ ไหนมีการนำเสนอท่ีสวยงามและถกู ตอ้ ง
7. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม (กล่มุ เดิม) จากน้ันรว่ มกนั ศกึ ษาคน้ คว้าขอ้ มูลเกี่ยวกบั เรอื่ ง การคำนวณค่าไฟฟา้
จากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและ
อิเล็กทรอนิกส์ หรอื แหลง่ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เช่น อนิ เทอร์เน็ต โดยให้สมาชิกภายในกลุ่มแบง่ หน้าที่
กนั ศึกษาคนละ 1 เรื่อง ซ่งึ หัวขอ้ มีดงั น้ี
• คนท่ี 1 ศกึ ษาคา่ ไฟฟา้ ฐาน
• คนท่ี 2 ศกึ ษาคา่ บรกิ าร
• คนท่ี 3 ศกึ ษาคา่ ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม
8. สมาชกิ ภายในกล่มุ นำเร่ืองที่ตนเองศึกษาค้นคว้ามาอธิบายให้เพ่อื นในกล่มุ ฟงั จากนนั้ รว่ มกนั สรุป
ความรทู้ ีไ่ ดล้ งในสมุดประจำตวั นักเรียน
9. ครถู ามคำถามทา้ ทายการคิดขั้นสงู (H.O.T.S.) จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ วา่ “ตน้ ทนุ การผลติ สินค้าต่อหน่วย
เกยี่ วกับปจั จัยใดบา้ งและเขียนเป็นสมการแสดงความสมั พนั ธไ์ ด้อยา่ งไร” โดยใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั
อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพือ่ หาคำตอบ
(แนวตอบ : ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ โดยมีความสัมพนั ธด์ ังสมการ
ตน้ ทนุ การผลิตตอ่ หนึง่ หนว่ ย = (คา่ วตั ถุดิบ +จคำ่านแวรนงงสาินนค้า+ท่ผี คลา่ติ ใไชด้จ้ า่ ยในการผลิต))

ชัว่ โมงท่ี 3

ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
10. นักเรยี นจบั คู่กบั เพ่ือนในชน้ั เรียนตามความสมัครใจ จากนัน้ ร่วมกนั ศึกษาตัวอยา่ งการคำนวณ
คา่ ไฟฟา้ จากตัวอย่างที่ 5.14-5.15 ในหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ โดยให้นกั เรยี นแตล่ ะคนจดบนั ทึกขัน้ ตอนและ
วธิ กี ารคำนวณหาผลลัพธล์ งในสมดุ ประจำตวั นักเรยี น ครูอาจแนะนำใหน้ กั เรยี นทำตามขน้ั ตอนการ
แก้โจทย์ปัญหา ดังนี้
• ขั้นที่ 1 ทำความเขา้ ใจโจทย์ปัญหา
• ขนั้ ที่ 2 วางแผนการแกโ้ จทยป์ ัญหา เช่น สิ่งท่โี จทยต์ ้องการถามหา และจะหาสิง่ ที่โจทยต์ ้องการ
ต้องทำอยา่ งไร
• ขนั้ ที่ 3 ดำเนินการแกโ้ จทยป์ ัญหา

• ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบคำตอบ
11. ครยู กตัวอยา่ งการคำนวณค่าไฟฟา้ โดยครเู ขียนตัวอย่างและแสดงวธิ ีการคำนวณใหน้ กั เรียนดบู น

กระดาน ดังนี้
ตวั อยา่ ง บ้านของเดก็ ชายปงั ปอนด์มีเครอ่ื งปรับอากาศขนาด 3,000 วตั ต์ จำนวน 2 เครอ่ื ง เปดิ ใช้

งานวันละ 6 ชั่วโมง หลอดไฟฟา้ ขนาด 60 วัตต์ จำนวน 2 หลอด เปิดใชง้ านวันละ 6
ชัว่ โมง และโทรทศั น์ขนาด 10 วตั ต์ จำนวน 1 เคร่ือง เปดิ ใช้งานวันละ 3 ชัว่ โมง
จงหาพลังงานไฟฟา้ ทีใ่ ช้ทั้งหมดในหน่งึ วนั
วิธที ำ คำนวณหาพลังงานไฟฟ้าทใ่ี ช้ท้งั หมดในหนงึ่ วัน
จากสมการ W = Pt

=  2  3,000 kW  6 h +  2  60 kW  6 h +
 1,000   1,000 

= 1  90 kW  3 h
 1,000 

W = 36 + 0.72 + 0.27

W = 36.99 kW h

ดังนนั้ พลงั งานไฟฟ้าท่ีใช้ทงั้ หมดในหน่ึงวนั เทา่ กับ 36.99 กโิ ลวัตต์ ช่ัวโมง หรอื 36.99 หน่วย

12. ครูให้นกั เรยี นแต่ละคนคำนวณหาค่าไฟฟา้ ฐาน ค่าไฟฟา้ ผนั แปร และคา่ ภาษมี ลู คา่ เพิ่ม ในรอบ
เดอื นธนั วาคมของบ้านเดก็ ชายปงั ปอนด์ (กำหนดใหค้ ่า Ft เทา่ กับ -11.60 สตางคต์ ่อหน่วย)
จากตัวอย่างท่ีครูเขียนบนกระดาน โดยแสดงวธิ ีการคำนวณหาผลลพั ธล์ งในสมดุ ประจำตัวนกั เรยี น

13. นกั เรียนทำใบงานที่ 5.4 เร่ือง พลงั งานไฟฟ้า จากน้นั ครูสมุ่ นักเรยี น 5 คน ออกมาเฉลย
คำตอบของตนเองหนา้ ชั้นเรียน โดยให้เพือ่ นในช้ันเรียนร่วมกันพจิ ารณาว่าคำตอบถกู ต้องหรอื ไม่
จากนนั้ ครเู ฉลยคำตอบที่ถกู ตอ้ งใหน้ ักเรียน

ข้นั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
14. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามเนื้อหาเก่ียวกับเรือ่ ง พลังงานไฟฟา้ กำลังไฟฟ้า และการคำนวณ
ค่าไฟฟ้า และใหค้ วามรเู้ พิม่ เติมจากคำถามของนักเรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เรอื่ ง พลังงาน
ไฟฟ้า ในการอธบิ ายเพ่มิ เติม
15. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนสำรวจเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าภายในบ้านของตนเอง จากนนั้ บันทึกขอ้ มลู
กำลงั ไฟฟา้ จากป้ายกำกับของเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ แต่ละชิน้ แล้วนำมาคำนวณหาค่าไฟฟ้าจากการเปดิ ใช้
งานจริง โดยแสดงวธิ ีการคำนวณหาผลลัพธอ์ ยา่ งละเอียดลงในกระดาษ A4 เป็นการบา้ นสง่ ใน
ช่ัวโมงถดั ไป

16. นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝกึ หดั เร่ือง พลงั งานไฟฟ้า กำลงั ไฟฟา้ และการคำนวณคา่ ไฟฟ้า
จากแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 ไฟฟา้ และ
อิเล็กทรอนกิ ส์

ขั้นสรปุ

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมหน้าชน้ั เรยี น
2. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นกอ่ นเขา้ สู่กจิ กรรมการเรยี นการสอน จากกรอบ
Check for Understanding ในสมดุ ประจำตวั นักเรียน
3. ครูตรวจแผนภาพแสดงระบบการส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถงึ บา้ นเรอื น
4. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 5.4 เรอ่ื ง พลงั งานไฟฟา้
5. ครูตรวจแบบฝึกหัด เร่ือง พลังงานไฟฟา้ กำลงั ไฟฟ้า และการคำนวณคา่ ไฟฟา้ จากแบบฝกึ หัด
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
6. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ เก่ยี วกับเร่ือง พลังงานไฟฟา้ กำลังไฟฟา้ และการคำนวณคา่ ไฟฟ้า

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ

7.1 ประเมนิ ระหว่าง

การจัดกจิ กรรม

การเรยี นรู้

1) พลังงานไฟฟ้า - ตรวจใบงานท่ี 5.4 - ใบงานที่ 5.4 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

กำลงั ไฟฟ้า และ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตวั หรอื - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

การคำนวณคา่ หรือแบบฝกึ หดั แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์

ไฟฟ้า วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี

เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 ม.3 เล่ม 2

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2

ผลงาน นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2

ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์

รายการวดั วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
4) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทำงานกลมุ่ การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
ทำงานกลมุ่ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2
5) คุณลกั ษณะ รบั ผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มน่ั ในการ อนั พงึ ประสงค์
อันพึงประสงค์ ทำงาน

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์
2) แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์
3) ใบงานที่ 5.4 เร่ือง พลังงานไฟฟา้
4) PowerPoint เรือ่ ง พลงั งานไฟฟา้
5) บตั รภาพ
6) QR Code เรือ่ ง ระบบการส่งกระแสไฟฟ้า
7) สมุดประจำตัวนกั เรียน

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) อนิ เทอรเ์ น็ต

ใบงานท่ี 5.4

เร่ือง พลังงานไฟฟา้

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง

1. หนว่ ยงานใดเป็นต้นทางซ่งึ มหี น้าทใ่ี นการผลิตและส่งจา่ ยพลงั งานไฟฟ้า
........................................................................................................................................................................

2. บ้านหลังหนงึ่ อยใู่ นอำเภอเมอื ง จังหวดั ชมุ พร เกิดหมอ้ แปลงไฟฟา้ ระเบดิ ทำใหไ้ ฟฟ้าดับ เจ้าของบ้านหลังนี้
ควรแจง้ เหตุการณต์ ่อหน่วยงานใด เพอื่ ดำเนนิ การแกไ้ ข
........................................................................................................................................................................

3. นายสนั ติสขุ ต้องการเปิดกิจการรา้ นอาหารแหง่ ใหม่ในจงั หวัดสมทุ รปราการ จะตอ้ งติดตอ่ หน่วยงานใด
เพ่ือขอใชไ้ ฟฟ้าในรา้ นอาหาร
........................................................................................................................................................................

4. หนว่ ยงานใดท่ีมีหนา้ ท่กี ำหนดอตั ราคา่ ไฟฟ้า
........................................................................................................................................................................

5. องคป์ ระกอบคา่ ไฟฟา้ มีกี่ส่วน อะไรบ้าง
........................................................................................................................................................................

6. ค่าก่อสรา้ งโรงไฟฟ้าเป็นตน้ ทนุ นำมาในการคำนวณค่าไฟฟา้ แบบใด
........................................................................................................................................................................

7. คา่ ไฟฟ้าผันแปรข้ึนอยู่กับปัจจยั ใดบ้าง จงยกตวั อยา่ ง
........................................................................................................................................................................

8. ภาษีมลู ค่าเพิม่ ในใบแจ้งคา่ ไฟฟา้ คิดอตั ราภาษีเทา่ ใด
........................................................................................................................................................................

9. ค่าไฟฟ้าทีค่ ดิ แบบอตั รากา้ วหน้าคอื อะไร
........................................................................................................................................................................

10. รดี ผา้ ดว้ ยเตารีดไฟฟา้ ขนาด 1,000 วัตต์ เป็นเวลา 1ชว่ั โมง จะใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ไปก่หี นว่ ย
........................................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 5.4 เฉลย

เร่ือง พลงั งานไฟฟ้า

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ีให้ถกู ตอ้ ง

1. หนว่ ยงานใดเปน็ ตน้ ทางซงึ่ มีหน้าทีใ่ นการผลติ และสง่ จ่ายพลังงานไฟฟา้
...ก..า..ร..ไ..ฟ...ฟ..้า..ฝ...า่ ..ย..ผ..ล...ิต..แ..ห...ง่..ป..ร..ะ...เ.ท...ศ..ไ.ท...ย....(.ก..ฟ...ผ...)...................................................................................................

2. บา้ นหลังหน่ึงอยใู่ นอำเภอเมือง จังหวดั ชมุ พร เกดิ หม้อแปลงไฟฟ้าระเบดิ ทำใหไ้ ฟฟา้ ดับ เจ้าของบา้ นหลงั น้ี
ควรแจ้งเหตกุ ารณต์ ่อหน่วยงานใด เพอ่ื ดำเนินการแกไ้ ข
...ก..า..ร..ไ..ฟ...ฟ..า้..ส...ว่ ..น..ภ...มู..ิภ...า..ค....(.ก..ฟ...ภ.....).......................................................................................................................

3. นายสันตสิ ขุ ตอ้ งการเปิดกิจการร้านอาหารแห่งใหมใ่ นจงั หวัดสมุทรปราการ จะต้องติดต่อหนว่ ยงานใด
เพ่ือขอใช้ไฟฟ้าในรา้ นอาหาร
...ก..า..ร..ไ..ฟ...ฟ..า้..ฝ...่า..ย..ผ..ล...ติ ..แ..ห...ง่..ป..ร..ะ...เ.ท...ศ..ไ.ท...ย....(.ก..ฟ...ผ...)...................................................................................................

4. หน่วยงานใดที่มีหน้าทกี่ ำหนดอัตราคา่ ไฟฟ้า
...ค...ณ...ะ..ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..ก...ำ..ก..ับ...ก..จิ ..ก...า..ร.พ...ล...ัง.ง..า..น....(.ก...ก..พ.....).................................................................................................

5. องคป์ ระกอบคา่ ไฟฟ้ามีก่สี ่วน อะไรบา้ ง
...3....ส..่ว..น....ค..อื....ค...่า.ไ..ฟ...ฟ..า้..ฐ...า.น....ค...่า..ไ.ฟ...ฟ...้า..ผ..นั...แ..ป...ร...แ..ล...ะ..ค..า่..ภ...า..ษ...ีม..ลู..ค...่า..เ.พ...ิม่ ...................................................................

6. คา่ ก่อสรา้ งโรงไฟฟ้าเป็นต้นทุนนำมาในการคำนวณคา่ ไฟฟ้าแบบใด
...ค...า่ .ไ..ฟ...ฟ..้า..ฐ..า..น....................................................................................................................................................

7. คา่ ไฟฟ้าผนั แปรขึน้ อยู่กบั ปัจจยั ใดบ้าง จงยกตวั อย่าง
...เ.ช...่น....ค..า่..เ.ช..ื้อ...เ.พ...ล..งิ...ค...่า..ซ..ื้อ...ไ.ฟ...ฟ...้า..จ..า..ก..เ.อ...ก..ช..น...แ..ล...ะ..ป...ร..ะ..เ.ท...ศ..เ.พ...อื่..น...บ...า้ ..น....................................................................

8. ภาษมี ลู ค่าเพิม่ ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าคดิ อัตราภาษีเทา่ ใด
...ค...ดิ ..ใ.น...อ..ตั...ร..า..ร..้อ..ย..ล...ะ...7.......................................................................................................................................

9. คา่ ไฟฟา้ ทคี่ ดิ แบบอตั รากา้ วหน้าคอื อะไร
...ถ..้า..ย...ิ่ง.ใ..ช..้ไ..ฟ...ฟ..า้..ม...า..ก..ข..นึ้....ค...า่ ..ไ.ฟ...ฟ...้า..จ..ะ..ย..่งิ..ส...ูง.ข...ึน้ ......................................................................................................

10. รีดผา้ ดว้ ยเตารดี ไฟฟ้าขนาด 1,000 วตั ต์ เป็นเวลา 1ช่วั โมง จะใช้พลังงานไฟฟ้าไปกีห่ นว่ ย
...1....ห..น...ว่ ..ย..........................................................................................................................................................

บตั รภาพ



ภาพเครอื่ งซกั ผ้า ภาพตู้เยน็
250-2,000 วตั ต์ 53-194 วตั ต์

ภาพเตารีด ภาพเตาอบไมโครเวฟ
750-2,000 วัตต์ 1,000-2,000 วัตต์



ภาพเครือ่ งปรบั อากาศ ภาพโทรทศั นส์ ี
680-3,300 วตั ต์ 43-95 วัตต์

ภาพเคร่อื งป้งิ ขนมปงั ภาพพัดลม
600-1,000 วัตต์ 45-75 วัตต์

9. ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทีม่ ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 5

กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 6 (ว23102)

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/1-8 ภาคเรยี นท่ี 2/2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เร่อื ง ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ เวลา 20 ชวั่ โมง

เรื่อง วงจรไฟฟา้ และเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ น เวลา 2 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวรจุ ริ าวรรณ จันสว่าง โรงเรียนบ้านแพงพทิ ยาคม

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด

ว 2.3 ม.3/9 ตระหนักในคณุ คา่ ของการเลือกใช้เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าโดยนำเสนอวธิ กี ารใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟา้
อยา่ งประหยดั และปลอดภัย

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายหลกั การการจ่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงผลิตไฟฟ้าส่บู ้านเรอื นได้ (K)
2. อธบิ ายและยกตวั อยา่ งการเลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ สำหรบั วงจรไฟฟ้าในบ้านได้ (K)
3. สืบคน้ ข้อมูลเกีย่ วกบั วงจรไฟฟ้า และเครื่องใชไ้ ฟฟ้าในบ้านได้ถูกต้อง (P)
4. สามารถประยุกต์ใช้งานเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าไดอ้ ย่างเหมาะสม ตรงตามต้องการ และลดการใชพ้ ลงั งาน

ไฟฟา้ ได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
• วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแบบ

ขน าน เพ่ื อให้ ค วามต่างศั ก ย์เท่ ากั น ก ารใช้
เค รื่ อ ง ใช้ ไ ฟ ฟ้ า ใน ชี วิ ต ป ร ะ จ ำ วั น ต้ อ ง เลื อ ก ใช้
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์และกำลังไฟฟ้าให้
เหมาะกับการใช้งาน และการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ
อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องใช้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และ
ประหยัด

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรือนโดยท่ัวไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับมีความต่างศักย์ 220 โวลต์ การส่งพลังงาน
ไฟฟ้าเข้าบ้านจะใช้สายไฟฟ้า 2 สาย คือ สายมีศกั ย์ เปน็ สายที่มีพลังงานศักย์ไฟฟ้า อาจเรียกว่าสาย L และ
สายกลาง มีศักย์ไฟฟ้าเป็นศูนย์เม่ือเทียบกับดิน อาจเรียกว่า สาย N วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อ
เคร่อื งใช้ไฟฟ้าแบบขนานเพื่อให้ความต่างศักยเ์ ทา่ กัน เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเมอื่ แบง่ ตามลักษณะพลงั งานท่ี
ได้รับจากเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็น
พลงั งานแสงสวา่ ง เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ทเี่ ปลยี่ นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลังงานความรอ้ น และเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าท่เี ปล่ียน
พลังงานไฟฟ้าเปน็ พลังงานกล

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

2) ทกั ษะการคำนวณ

3) ทกั ษะการนำความร้ไู ปใช้

3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงท่ี 1

ขัน้ นำ

ข้นั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครทู บทวนความร้เู ดิมของนักเรยี นเกยี่ วกบั เรื่อง พลังงานไฟฟา้ และกำลังไฟฟา้ จากนัน้ ครูแจง้
จุดประสงคก์ ารเรยี นร้ใู หน้ กั เรยี นทราบ
2. ครถู ามคำถามกระตุ้นความคิดนักเรยี นวา่ “การไฟฟา้ ส่งพลังงานไฟฟา้ เข้าบา้ นเรือนไดอ้ ย่างไร”
โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเหน็ เพ่ือหาคำตอบโดยไมม่ ีการเฉลยว่าถูกหรือผดิ
(แนวตอบ : คำตอบขึน้ อยู่กับดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

3. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคนยกตัวอยา่ งเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้ามาคนละ 1 อย่าง แบบไมซ่ ำ้ กันให้ไดม้ ากท่สี ดุ
ซง่ึ ครเู ขียนคำตอบของนกั เรยี นบนกระดานหนา้ ช้นั เรียน

4. นักเรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ แบ่งประเภท
เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าตามเกณฑ์หรือความคดิ เหน็ ของกลุ่ม ทคี่ รูเขยี นไวบ้ นกระดานหนา้ ชัน้ เรยี น
โดยจดบันทกึ ลงในกระดาษ A4

ขน้ั สอน

ข้นั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ตามความสมัครใจ จากนัน้ รว่ มกนั ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูลเกยี่ วกับ
เร่ือง วงจรไฟฟา้ ในบ้าน อุปกรณไ์ ฟฟ้าและเครอ่ื งใช้ไฟฟ้า จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรยี นรู้
ตา่ ง ๆ เช่น อนิ เทอรเ์ น็ต
2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภปิ รายเร่ืองท่ไี ด้ศึกษา จากน้ันเขยี นสรปุ ความรู้ท่ไี ดจ้ ากการศึกษา
ค้นคว้าลงในสมุดประจำตวั นกั เรียน

ช่ัวโมงท่ี 2

ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain)
3. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลจากการศึกษาหนา้ ชั้นเรียน ในระหวา่ งท่นี ักเรียนนำเสนอ
ครคู อยให้ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ เพื่อใหน้ ักเรียนมคี วามเขา้ ใจทถี่ กู ต้อง
4. ครูตง้ั ประเด็นคำถามกระตุน้ ความคดิ นกั เรยี น โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั อภิปรายแสดง
ความคิดเหน็ เพ่ือหาคำตอบ ดังนี้
• สายไฟฟ้าท่ตี ่อเข้าบ้านเรือนมีกี่สาย อะไรบา้ ง
(แนวตอบ : มี 2 สาย คอื สายมีศกั ย์หรอื สาย L เป็นสายไฟฟา้ ที่มีพลงั งานศกั ย์ไฟฟา้ 220 โวลต์
และสายกลางหรือสาย N เป็นสายทมี่ พี ลังงานศักยไ์ ฟฟา้ เปน็ ศูนยเ์ มื่อเทียบกับพน้ื ดิน)
• หลังจากทีก่ ระแสไฟฟ้าผ่านมาตรไฟฟ้าแลว้ จะต้องทำการต่ออุปกรณใ์ ดก่อนท่กี ระแสไฟฟา้ จะ
เดินทางไปถึงเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าในบ้าน
(แนวตอบ : แผงควบคมุ ไฟฟา้ )
• แผงควบคมุ ไฟฟา้ ในปัจจุบันประกอบด้วยอะไรบา้ ง
(แนวตอบ : ตัวตดั วงจรรวม และตัวตัดวงจรยอ่ ย)

5. ครถู ามคำถามท้าทายการคิดขั้นสงู (H.O.T.S.) จากหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ว่า “เพราะเหตใุ ดแผงควบคุมไฟฟ้าใน
ปัจจุบนั จงึ ไม่มกี ารตดิ ตงั้ ฟวิ ส์” โดยใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพื่อหาคำตอบ
(แนวตอบ : ตวั ตดั วงจรทีต่ ิดตงั้ ไว้บนแผงควบคุมไฟฟา้ ทำหน้าที่เปน็ ทั้งฟิวสแ์ ละสะพานไฟ จึงไม่
จำเปน็ ต้องติดตั้งฟิวส์เพิม่ ในแผงควบคุมไฟฟ้าอีก แตก่ ย็ งั จำเป็นจะต้องตดิ ต้งั ไวภ้ ายในในอุปกรณ์
ไฟฟา้ บางชนิด เพ่ือตดั วงจรไฟฟ้าในเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าน้ัน ๆ ทันทีเมื่อกระแสไฟฟ้ามากเกนิ ปกติ)

6. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า “เครื่องใช้ไฟฟ้าในบา้ นเมื่อแบ่งประเภทตามลกั ษณะ
พลงั งานทไ่ี ด้รับจากเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ เป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดเ้ ปน็ 3 ประเภท ได้แก่ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า
ท่เี ปลยี่ นพลงั งานไฟฟา้ เป็นพลงั งานแสงสวา่ ง เครื่องใช้ไฟฟา้ ทีเ่ ปลี่ยนพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลังงาน
ความร้อน และเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทเ่ี ปล่ยี นพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล”

7. ครสู ุ่มนกั เรยี น 3 คน ออกมาหนา้ ชนั้ เรียน ยกตวั อยา่ งเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ในบ้าน มาคนละ 2 ตวั อย่าง
ดงั นี้
• คนที่ 1 ยกตวั อย่างเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าที่ได้รับพลงั งานแสงสวา่ ง
• คนท่ี 2 ยกตวั อยา่ งเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ท่ีได้รบั พลงั งานความรอ้ น
• คนท่ี 3 ยกตวั อย่างเครอื่ งใช้ไฟฟ้าทไี่ ดร้ บั พลงั งานกล

ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
8. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามเน้อื หาเกยี่ วกบั เรือ่ ง วงจรไฟฟา้ และเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ น
และใหค้ วามรเู้ พ่มิ เติมจากคำถามของนักเรยี น โดยครใู ช้ PowerPoint เรอื่ ง วงจรไฟฟ้า
และเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ น ในการอธบิ ายเพิม่ เตมิ
9. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 5.5 เรอ่ื ง ประเภทเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ จากนนั้ ครูส่มุ นักเรยี น 3 คน ออกมา
เฉลยคำตอบของตนเองหน้าช้ันเรียน โดยใหเ้ พอื่ นในช้ันเรยี นร่วมกนั พิจารณาวา่ คำตอบถกู ต้อง
หรือไม่ จากนน้ั ครเู ฉลยคำตอบท่ีถูกต้องใหน้ ักเรียน
10. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำแบบฝกึ หัด เรอ่ื ง วงจรไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบา้ น จากแบบฝึกหัด
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์

ขั้นสรปุ

ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูประเมนิ ผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม และจากการนำเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าชนั้ เรียน
2. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 5.5 เร่ือง ประเภทเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้า
3. ครตู รวจแบบฝึกหัด เร่อื ง วงจรไฟฟ้า และเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ในบา้ น จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์
4. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ เกี่ยวกบั เรอื่ ง วงจรไฟฟา้ และเครื่องใช้ไฟฟา้ ในบ้าน

7. การวัดและประเมนิ ผล

รายการวัด วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน

7.1 ประเมินระหวา่ ง

การจัดกิจกรรม

การเรยี นรู้

1) วงจรไฟฟ้า - ตรวจใบงานที่ 5.5 - ใบงานที่ 5.5 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

และเคร่อื งใช้ไฟฟา้ - ตรวจสมุดประจำตัว - สมดุ ประจำตวั หรือ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ในบา้ น หรอื แบบฝึกหดั แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี

เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 ม.3 เลม่ 2

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2

ผลงาน นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

3) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2

ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์

4) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2

ทำงานกล่มุ การทำงานกล่มุ การทำงานกลุม่ ผ่านเกณฑ์

5) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2

อนั พงึ ประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์

และมุ่งม่นั ในการ อันพงึ ประสงค์

ทำงาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
2) แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
3) ใบงานที่ 5.5 เรือ่ ง ประเภทเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า
4) PowerPoint เร่ือง วงจรไฟฟ้า และเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าในบ้าน
5) สมุดประจำตัวนกั เรียน

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) อนิ เทอรเ์ นต็

ใบงานที่ 5.5

เรื่อง ประเภทเคร่อื งใช้ไฟฟ้า

คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนยกตัวอย่างเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าพรอ้ มทง้ั อธิบายหลักการทำงานพอสังเขป

1. เครื่องใชไ้ ฟฟ้าทเี่ ปลีย่ นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลังงานแสงสว่าง
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

2. เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ท่ีเปลีย่ นพลังงานไฟฟา้ เปน็ พลังงานความร้อน
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

3. เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ทเ่ี ปล่ียนพลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลงั งานกล
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 5.5 เฉลย

เรอ่ื ง ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า

คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนยกตวั อย่างเครื่องใชไ้ ฟฟ้าพรอ้ มทั้งอธบิ ายหลกั การทำงานพอสงั เขป

1. เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ทีเ่ ปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเปน็ พลงั งานแสงสว่าง
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
................(.ข...ึ้น..อ...ย..ูก่ ..บั...ด..ลุ...ย..พ...ิน..ิจ..ข...อ..ง..ผ..ู้ส...อ..น....โ.ด...ย..พ...จิ..า..ร..ณ....า..จ..า..ก..ค...ว..า..ม..ถ..กู...ต..อ้..ง..แ...ล..ะ..เ.ห...ม...า.ะ...ส..ม..ข...อ..ง..ข..้อ...ม..ลู..)................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

2. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลังงานความร้อน
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
................(.ข...้นึ ..อ...ย..กู่ ..บั...ด..ุล...ย..พ...ิน..ิจ..ข...อ..ง..ผ..ู้ส...อ..น....โ.ด...ย..พ...ิจ..า..ร..ณ....า..จ..า..ก..ค...ว..า..ม..ถ..ูก...ต..้อ...ง.แ...ล..ะ..เ..ห..ม...า..ะ..ส..ม...ข..อ..ง..ข..้อ...ม..ลู...)...............
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

3. เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ทเ่ี ปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเปน็ พลังงานกล
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
................(.ข...ึน้ ..อ...ย..กู่ ..บั...ด..ลุ...ย..พ...ิน..ิจ..ข...อ..ง..ผ..ู้ส...อ..น....โ.ด...ย..พ...จิ..า..ร..ณ....า..จ..า..ก..ค...ว..า..ม..ถ..กู...ต..อ้..ง..แ...ล..ะ..เ.ห...ม...า.ะ...ส..ม..ข...อ..ง..ข..้อ...ม..ูล..)................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

9. ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทีม่ ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 6

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 6 (ว23102)

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3/1-8 ภาคเรยี นท่ี 2/2564

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เวลา 20 ชว่ั โมง

เรอ่ื ง การใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภัย เวลา 3 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวรจุ ริ าวรรณ จันสวา่ ง โรงเรยี นบ้านแพงพทิ ยาคม

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั

ว 2.3 ม.3/9 ตระหนกั ในคณุ คา่ ของการเลือกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้าโดยนำเสนอวิธกี ารใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า
อย่างประหยัดและปลอดภยั

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายการเลอื กใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันอย่างถูกตอ้ งและปลอดภัยได้ (K)
2. เสนอแนวทางวิธีการใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภยั ได้ (P)
3. เหน็ ความสำคัญของการใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภัย (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
• วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ

ขน าน เพ่ื อให้ ค วามต่างศั ก ย์เท่ ากั น ก ารใช้
เค ร่ื อ ง ใช้ ไ ฟ ฟ้ า ใน ชี วิ ต ป ร ะ จ ำ วั น ต้ อ ง เลื อ ก ใช้
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่มีความต่างศักย์และกำลังไฟฟ้าให้
เหมาะกับการใชง้ าน และการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ
อุปกรณ์ไฟฟ้าต้องใช้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และ
ประหยดั

4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การใช้พลังงานไฟฟ้ามากจะทำให้เสียค่าไฟฟ้าต่อหน่วยมากข้ึนด้วย เพื่อความประหยดั ควรเลือกใช้
เคร่ืองใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานเท่าที่จำเป็น เพ่ือความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า
ควรใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งระมดั ระวงั รวมทั้งตรวจสอบสภาพการใชง้ านอย่างสมำ่ เสมอ

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี ินัย รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

2) ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมลู

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั นำ

ข้นั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรียนเกยี่ วกับเรอ่ื ง เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าในบา้ น โดยครูยกตวั อยา่ ง
เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าในบ้านท่ีพบเห็นในชวี ิตประจำวัน แล้วใหน้ กั เรยี นแต่ละคนรว่ มกนั อภปิ รายแสดง
ความคดิ เหน็ ว่า “เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าในบ้านแต่ละชนดิ เปลีย่ นพลังงานไฟฟ้าเป็นพลงั งานชนิดใด”
(แนวตอบ : คำตอบขึน้ อยกู่ ับดลุ ยพนิ ิจของครูผ้สู อน)
2. ครูต้ังประเดน็ คำถามกระตุ้นความสนใจนักเรยี นวา่ “ถ้านกั เรยี นตอ้ งการจะประหยัดพลงั านไฟฟ้า
นักเรียนจะมีหลักในการเลือกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร และทราบหรอื ไม่ว่าพฤตกิ รรมการใช้
พลังงานไฟฟา้ มีความเหมาะสมหรือเกิดการสนิ้ เปลอื งอย่างไร” โดยให้นักเรยี นแต่ละคนร่วมกัน
อภิปรายแสดงความคดิ เห็นอย่างอิสระโดยไมม่ ีการเฉลยว่าถกู หรือผิด
(แนวตอบ : คำตอบขน้ึ อยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

ขั้นสอน

ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
1. นักเรียนจบั คู่กบั เพ่ือนในช้ันเรยี นตามความสมัครใจ จากน้นั รว่ มกนั ศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกย่ี วกบั
เรอ่ื ง การใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภยั จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หรือแหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เช่น
อินเทอรเ์ นต็
2. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเร่ืองที่ไดศ้ ึกษา จากน้ันเขยี นสรปุ ความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษาค้นควา้ ลงใน
สมดุ ประจำตัวนักเรียน
3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน ตามความสมคั รใจ จากนั้นให้สมาชกิ ภายในกลมุ่ ร่วมกนั พดู คุย
และคิดสถานการณ์จำลองเกย่ี วกบั เร่ือง การเกดิ อุบัติเหตุ เน่อื งมาจากความประมาทในการใช้
เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ โดยบันทกึ ข้อมูลทไ่ี ดล้ งในกระดาษ A4 ซ่งึ มขี ้อมูลและลำดบั เน้อื หา ดงั น้ี
• กำหนดชอ่ื สถานการณ์
• สาเหตุของการเกดิ อุบัตเิ หตุ
• ผลของการเกดิ อุบัติเหตุ
• การแก้ไขเมือ่ เกดิ อบุ ตั เิ หตุ
• วิธีการป้องกันไมใ่ หเ้ กิดอบุ ัตเิ หตุ

ชวั่ โมงท่ี 2-3

ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอสถานการณจ์ ำลองหน้าชน้ั เรยี น ในระหว่างที่นักเรียนนำเสนอ
ครูคอยให้ข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมคี วามเขา้ ใจทถ่ี ูกตอ้ ง
5. นักเรยี นแตล่ ะคนศึกษากรอบ Application Activity ในหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์

ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
6. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามเนอื้ หาเก่ียวกับเร่ือง การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภัย
และให้ความรเู้ พิม่ เตมิ จากคำถามของนักเรยี น โดยครใู ช้ PowerPoint เร่ือง การใชไ้ ฟฟา้ อย่าง
ประหยดั และปลอดภัย ในการอธิบายเพมิ่ เตมิ
7. นักเรยี นทำ Topic Questions เรื่อง พลังงานไฟฟา้ และเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ในบ้าน จากหนังสอื เรียน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ลงในสมุด
ประจำตวั นักเรยี น

8. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม โดยครูเตรยี มสลากหมายเลขกลุ่ม จากนัน้ ให้นักเรยี นแตล่ ะคนออกมาหยบิ สลาก
ซึง่ นกั เรยี นทีไ่ ด้หมายเลขเดียวกันจะอยกู่ ลุม่ เดยี วกัน แตล่ ะกลมุ่ จะมีสมาชิกภายในกล่มุ 5 คน

9. ครูแจ้งจุดประสงคข์ องกิจกรรม Fun Science Activity เรอื่ ง ไฟฉายจากขวดพลาสติก ให้นักเรียน
ทราบเพ่ือเป็นแนวทางการปฏิบัติกจิ กรรมทถ่ี ูกตอ้ ง จากน้นั ให้สมาชิกภายในกลุ่มจัดเตรยี ม
วสั ดอุ ปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการปฏบิ ัติกจิ กรรม Fun Science Activity เร่ือง ไฟฉายจากขวดพลาสติก
จากหนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ และ
อิเล็กทรอนิกส์

10. สมาชิกภายในกลมุ่ ร่วมกันปฏิบตั กิ จิ กรรม Fun Science Activity เร่อื ง ไฟฉายจากขวดพลาสติก
ตามขั้นตอน จากหนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5
ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หลงั จากนักเรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมเสร็จ นกั เรยี นและครูร่วมกันอภิปรายผล
จากกจิ กรรม Fun Science Activity

11. นกั เรยี นแต่ละคนศกึ ษาค้นควา้ ขอ้ มูลเพิ่มเติมเก่ยี วกับเรื่อง วทิ ยาศาสตร์ในชีวติ ประจำวนั
จากกรอบ Science in Real Life เรอ่ื ง หลอดฟลูออเรสเซนต์ ในหนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

12. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ “หลอดฟลอู อเรสเซนต์ ประกอบด้วยสตารต์ เตอร์ ทำหน้าท่ี
เปน็ สวิตช์ติดไฟอัตโนมัติ และบัลลาสต์ ทำหนา้ ท่เี หนยี่ วนำใหเ้ กิดความต่างศกั ย์ที่ขั้วหลอด”

13. นกั เรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ Self Check เร่ือง ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์
จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและ
อเิ ล็กทรอนิกส์ โดยบันทึกลงในสมุดประจำตัวนกั เรียน

14. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำ Unit Question เร่อื ง ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จากหนังสือเรยี น
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยทำลง
ในสมุดประจำตวั นักเรียน เปน็ การบ้านสง่ ในช่วั โมงถดั ไป

15. นักเรยี นแต่ละคนทำแบบฝกึ หัด เร่อื ง การใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภยั จากแบบฝึกหัด
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์

16. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี นของหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ เปน็ การ
วดั ความร้หู ลังเรียนของนกั เรยี น

17. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 4-5 คน ตามความสมัครใจ จากนน้ั ใหส้ มาชกิ ภายในกลมุ่ ร่วมกนั
ออกแบบสงิ่ ประดิษฐ์ชิ้นงานเกี่ยวกบั เรือ่ ง การตอ่ วงจรไฟฟา้ โดยใช้ความรู้วงจรไฟฟา้ อปุ กรณ์
อเิ ล็กทรอนิกส์ เพ่อื มาตอ่ วงจรไฟฟ้าซึ่งวงจรไฟฟา้ ต้องมกี ารตอ่ ทงั้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน
และสามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวันได้ ตัวอยา่ งเช่น โคมไฟ ไฟฉาย ป้ายไฟ เปน็ ตน้
พร้อมอธบิ ายวสั ดอุ ุปกรณ์ท่ใี ช้ในการประดิษฐช์ ้นิ งาน หลกั การทำงานหรอื วิธกี ารใชง้ าน
แล้วนำเสนอช้ินงานในชว่ั โมงถดั ไป

ขั้นสรุป

ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์
เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจหลงั เรียนของนักเรยี น
2. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
พฤติกรรมการทำงานกล่มุ และจากการนำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน
3. ครูตรวจ Topic Questions เรือ่ ง พลงั งานไฟฟา้ และเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ในบ้าน ในสมุดประจำตวั
นกั เรียน
4. ครปู ระเมนิ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม Fun Science Activity เรื่อง ไฟฉายจากขวดพลาสตกิ
5. ครตู รวจแบบฝึกหดั เร่อื ง การใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และปลอดภยั จากแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
6. ครูตรวจสอบผลการตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ Self Check เรอ่ื ง ไฟฟา้ และ
อิเลก็ ทรอนิกส์ ในสมุดประจำตวั นกั เรยี น
7. ครตู รวจแบบฝึกหดั Unit Question เรอ่ื ง ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ ในสมดุ ประจำตวั นักเรียน
8. ครวู ัดและประเมินผลจากชิ้นงานส่งิ ประดษิ ฐ์ เร่ือง การตอ่ วงจรไฟฟา้ เปน็ การบ้าน และนำมาส่งใน
ช่ัวโมงถดั ไป
9. นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั เรือ่ ง การใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภัย

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ

7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง

การจัดกิจกรรม

การเรียนรู้

1) การใชไ้ ฟฟ้าอยา่ ง - ตรวจสมุดประจำตัว - สมดุ ประจำตัว หรือ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ประหยัดและ หรือแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์

ปลอดภยั วทิ ยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี

เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 ม.3 เลม่ 2

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2

ผลงาน นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์

3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2

ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

4) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2

ทำงานกลุ่ม การทำงานกลุม่ การทำงานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์

5) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์

และมงุ่ ม่นั ในการ อันพึงประสงค์

ทำงาน

7.2 การประเมินหลังเรียน

- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หลังเรยี น หน่วยการ หลงั เรียน หน่วยการ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5

เรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและ เรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและ ไฟฟ้าและ

อเิ ลก็ ทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์

7.3 การประเมินชิ้นงาน/

ภาระงาน (รวบยอด)

- ออกแบบและ - ตรวจช้นิ งาน - แบบประเมินชน้ิ งาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2

สร้างชิ้นงาน สิ่งประดิษฐจ์ ากการ ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์

สิ่งประดิษฐ์จากการ ต่อวงจรไฟฟ้า

ต่อวงจรไฟฟ้า

8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์
2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์
3) วัสดอุ ุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม Fun Science Activity เรื่อง ไฟฉายจากขวดพลาสตกิ
4) PowerPoint เรือ่ ง การใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย
5) สลากหมายเลข
6) สมุดประจำตัวนักเรยี น

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) อินเทอร์เน็ต

สลากหมายเลข 2 
4
1
3
5

ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

เรือ่ ง การตอ่ วงจรไฟฟา้

คำชี้แจง : นักเรียนแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 4-5 คน รว่ มกันออกแบบสง่ิ ประดิษฐช์ ้นิ งานเก่ียวกับเรื่อง การต่อ
วงจรไฟฟา้ โดยวงจรไฟฟ้าต้องมีการตอ่ ทั้งแบบอนุกรมและแบบขนาน และสามารถนำมาใช้
ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวันได้ ตวั อยา่ งเชน่ โคมไฟ ไฟฉาย ปา้ ยไฟ เป็นต้น พรอ้ มอธิบายวัสดุ
อปุ กรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐช์ ิน้ งาน หลักการทำงานหรือวิธกี ารใช้งาน

9. ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตำแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

 ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวทิ ยาศาสตร์

 ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทีม่ ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6

คลนื่

เวลา 7 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั

ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร
และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับเสียง แสง
และคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
ว 2.3 ม.3/10 สร้างแบบจำลองทอี่ ธบิ ายการเกิดคลน่ื และบรรยายส่วนประกอบของคลนื่
ว 2.3 ม.3/11 อธิบายคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และสเปกตรัมคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ จากข้อมูลที่รวบรวมได้
ว 2.3 ม.3/12 ตระหนักถึงประโยชนแ์ ละอนั ตรายจากคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ โดยนำเสนอการใช้ประโยชน์
ในดา้ นต่าง ๆ และอนั ตรายจากคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ในชีวิตประจำวนั

2. สาระการเรียนรู้

2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. คลื่นเกิดจากการส่งผา่ นพลังงานโดยอาศัยตัวกลางและไม่อาศัยตัวกลาง ในคล่ืนกล พลังงานจะถกู ถา่ ย
โอนผา่ นตัวกลางโดยอนุภาคของตัวกลางไม่เคล่ือนที่ไปกบั คล่ืน คล่ืนทีแ่ ผอ่ อกมาจากแหลง่ กำเนดิ คลื่น
อยา่ งต่อเนือ่ งและมรี ูปแบบทซี่ ้ำกัน บรรยายไดด้ ว้ ยความยาวคล่ืน ความถี่ แอมพลิจดู
2. คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่ไม่อาศัยตัวกลางในการเคล่ือนที่ มีความถ่ีต่อเนื่องเป็นช่วงกว้างมาก
เคลื่อนท่ีในสุญญากาศด้วยอัตราเร็วเท่ากัน แต่จะเคลื่อนท่ีด้วยอัตราเร็วต่างกันในตัวกลางอื่น
คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าแบง่ ออกเป็นช่วงความถตี่ ่าง ๆ เรียกวา่ สเปกตรัมของคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า แตล่ ะช่วง
ความถี่มีชื่อเรียกต่างกัน ได้แก่ คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ อินฟราเรด แสงท่ีมองเห็น อัลตราไวโอเลต
รังสีเอกซแ์ ละรงั สแี กมมา ซ่ึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
3. เลเซอร์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นเดียว เป็นลำแสงขนานและมีความเข้มสูง นำไปใช้
ประโยชน์ในด้านตา่ ง ๆ เช่น ด้านการส่ือสาร มีการใช้เลเซอร์สำหรับส่งสารสนเทศผ่าน เส้นใยนำแสง
โดยอาศยั หลกั การการสะทอ้ นกลบั หมดของแสง ด้านการแพทย์ใช้ในการผา่ ตดั
4. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์แล้ว ยังมีโทษต่อมนุษย์ด้วย เช่น ถ้ามนุษย์
ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง หรือถ้าได้รังสีแกมมาซึ่งเป็น
คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานสูง และสามารถทะลุผ่านเซลล์และอวัยวะได้ อาจทำลายเน้ือเยื่อหรือ
อาจทำใหเ้ สียชีวติ ไดเ้ ม่อื ได้รบั รงั สแี กมมาในปริมาณสูง

2.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น
(พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)

3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

คลืน่ (wave) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการรบกวนแหลง่ กำเนิด หรอื ตัวกลางเกิดการส่ันสะเทือนทำให้
มกี ารแผ่หรอื ถ่ายโอนพลังงานจากการส่ันสะเทอื นไปยังจดุ อ่ืน ๆ โดยท่ตี ัวกลางน้ันไม่มีการเคล่อื นท่ีไปกับคลื่น
การเกิดคลนื่ นำ้ เป็นการถ่ายโอนพลงั งานโดยผา่ นโมเลกุลของนำ้ ซงึ่ โมเลกุลของน้ำจะไมเ่ คลื่อนทไ่ี ปกับคลืน่

คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic waves) เป็นคล่ืนตามขวาง ประกอบด้วยสนามไฟฟ้าและ
สนามแมเ่ หลก็ ทมี่ ีการส่ันในแนวตง้ั ฉากกนั และอย่บู นระนาบต้ังฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลน่ื โดยท่ีคล่ืน
แม่เหล็กไฟฟ้าเกิดจากการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าโดยการทำให้สนามไฟฟ้า หรือสนามแม่เหล็กมีการ
เปล่ียนแปลง เมื่อสนามไฟฟา้ มีการเปลี่ยนแปลงจะเหน่ียวนำให้เกิดสนามแม่เหล็ก หรือถ้าสนามแม่เหล็กมีการ
เปลยี่ นแปลงกจ็ ะเหนีย่ วนำทำใหเ้ กดิ สนามไฟฟ้า

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีด้วยกันอยู่หลายชนิด ซึ่งแบ่งตามความถ่ีของคลื่น คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าทุกช่วงที่มี
ความถี่ท่ีต่อเน่ืองกัน เรียกว่า สเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic spectrum) โดยคลื่น
แม่เหลก็ ไฟฟา้ ช่วงความถ่ตี ่าง ๆ มีลักษณะเฉพาะตัว ซงึ่ สามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้แตกต่างกัน

คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้านำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น คลื่นไมโครเวฟนำมาใช้ในการส่ือสารผ่าน
ดาวเทียม ใช้ในการรักษาโรคด้วยความรอ้ น ด้านการแพทย์มกี ารนำเลเซอร์มาใช้ผ่าตัดหรอื รกั ษาอาการผิดปกติ
ทีบ่ ริเวณตา ด้านอุตสาหกรรม ใช้เลเซอร์ในการเชื่อมโลหะเขา้ ด้วยกัน นอกจากคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าจะนำมาใช้
ประโยชน์แล้ว ยังมีโทษต่อมนุษย์ด้วย เช่น คลื่นจากโทรศัพท์มือถือส่งผลต่อการทำงานของสมอง เกิดการ
อักเสบของสมอง รังสเี อกซ์และรังสีแกมมา เม่ือร่างกายได้รับรังสีเขา้ ไปอาจทำเซลล์เสอื่ มสภาพส่งผลให้อวัยวะ
ตา่ ง ๆ ทำงานไม่มีประสทิ ธภิ าพหรือไมส่ ามารถทำงานได้

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

2) ทกั ษะการทดลอง

3) ทกั ษะการคำนวณ

4) ทกั ษะการวิเคราะห์

5) ทักษะการนำความรู้ไปใช้

6) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล

7) ทกั ษะการตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- แผนผังมโนทัศน์ เรือ่ ง คลน่ื

6. การวัดและการประเมนิ ผล

รายการวัด วิธวี ดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

6.1 การประเมินชน้ิ งาน/

ภาระงาน (รวบยอด)

- แผนผังมโนทศั น์ - ตรวจแผนผังมโนทศั น์ - แบบประเมนิ ช้ินงาน/ - ระดบั คณุ ภาพ 2

เรื่อง คลื่น เรอื่ ง คลน่ื ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์

6.2 การประเมินก่อนเรยี น

- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

ก่อนเรยี น หนว่ ยการ กอ่ นเรียน หนว่ ยการ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6

เรียนรู้ท่ี 6 คลื่น เรียนรู้ท่ี 6 คลนื่ คลืน่

6.3 การประเมินระหวา่ ง

การจัดกิจกรรม

1) คล่ืนกล - ตรวจใบงานที่ 6.1 - ใบงานท่ี 6.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

- ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หรอื แบบฝึกหัด แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตรแ์ ละ และเทคโนโลยี ม.3

เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2

เลม่ 2

2) ผลบนั ทกึ การปฏิบัติ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตวั หรอื - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

กจิ กรรมคล่ืนในลวด หรือแบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์

สปรงิ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ และเทคโนโลยี ม.3

เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2

เลม่ 2

3) คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ - ตรวจสมุดประจำตัว - สมุดประจำตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หรอื แบบฝึกหดั แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3

เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2

เล่ม 2

รายการวดั วิธีวดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน

4) ประโยชนข์ องคล่นื - ตรวจใบงานท่ี 6.2 - ใบงานที่ 6.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

แม่เหล็กไฟฟา้ - ตรวจสมุดประจำตัว - สมุดประจำตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หรือแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3

เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2

เล่ม 2

5) การนำเสนอผลงาน/ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2

การปฏิบัตกิ ิจกรรม ผลงาน/การปฏบิ ตั ิ นำเสนอผลงาน/การ ผา่ นเกณฑ์

กิจกรรม ปฏบิ ัติกิจกรรม

6) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2

ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์

7) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2

ทำงานกลุ่ม การทำงานกล่มุ การทำงานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์

8) คุณลกั ษณะอนั พงึ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2

ประสงค์ รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์

และมงุ่ ม่ันในการ อันพึงประสงค์

ทำงาน

6.4 การประเมินหลังเรียน

- แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 หลงั เรียน หนว่ ยการ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6

คลน่ื เรียนรทู้ ี่ 6 คล่นื คลน่ื

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา 3 ช่ัวโมง
เวลา 2 ช่ัวโมง
• แผนท่ี 1 : คลน่ื กล เวลา 2 ชว่ั โมง
วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) (รวมเวลา 7 ช่ัวโมง)

• แผนท่ี 2 : คลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

• แผนท่ี 3 : ประโยชน์ของคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 คลืน่
2) แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 คลื่น
3) ใบงานที่ 6.1 เรื่อง คลื่นกล
4) ใบงานที่ 6.2 เร่ือง คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
5) ใบกจิ กรรม Fun Science Activity เรือ่ ง กระดาษฟอยลก์ บั โทรศัพทม์ อื ถอื
6) วัสดุอุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมคลนื่ ในลวดสปริง
7) วสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่ใช้ในการปฏิบตั กิ ิจกรรม Fun Science Activity เร่อื ง กระดาษฟอยลก์ บั โทรศพั ทม์ อื ถือ
8) PowerPoint เรอื่ ง คลนื่ กล
9) PowerPoint เร่ือง คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า
10) อปุ กรณส์ าธิตการทดลอง เช่น ดินสอ กะละมงั และเศษกระดาษ
11) สลากหมายเลข
12) QR Code เร่อื ง การเกิดคล่ืน
13) สมุดประจำตวั นกั เรียน

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) ห้องสมดุ
3) อินเทอรเ์ นต็

แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 คลน่ื

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. เมอื่ คล่นื เดินทางจากนำ้ ต้ืนส่นู ้ำลกึ ข้อใดตอ่ ไปน้ีถูกต้อง 6. คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าข้อใดทีใ่ ชเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นการถนอม
1. ความถ่ีคลืน่ ในน้ำลกึ มากกวา่ ความถี่คลื่นในนำ้ ตนื้ อาหาร
2. ความถ่ีคลน่ื ในนำ้ ลึกนอ้ ยกวา่ ความถ่ีคล่นื ในน้ำตื้น 1. รงั สเี อกซ์
3. ความยาวคล่ืนในน้ำลกึ มากกวา่ ความยาวคลื่นในนำ้ ตื้น 2. รงั สแี กมมา
4. อัตราเร็วของคล่นื ในน้ำลึกนอ้ ยกวา่ อตั ราเรว็ คลืน่ ใน 3. รงั สอี ินฟราเรด
นำ้ ต้ืน 4. รังสอี ลั ตราไวโอเลต

2. คลนื่ ในขอ้ ใดเป็นคลืน่ ท่ีไมจ่ ำเป็นต้องอาศยั ตวั กลางในการ 7. คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าชนิดใดตอ่ ไปน้ที ี่มคี วามยาวคล่ืนสั้นทีส่ ุด
เคลือ่ นที่ 1. คลนื่ วทิ ยุ
1. คล่ืนเสียง 2. คลน่ื ไมโครเวฟ
2. คล่ืนแสง 3. รงั สีอนิ ฟราเรด
3. คล่ืนผวิ นำ้ 4. รังสอี ลั ตราไวโอเลต
4. คลน่ื ในเสน้ เชอื ก
8. อาหารทจ่ี ะอุน่ ด้วยเตาไมโครเวฟต้องมอี ะไรเป็น
3. ขอ้ ใดต่อไปนี้ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั คลน่ื ตามยาว องค์ประกอบ
1. เป็นคลื่นทไ่ี ม่ตอ้ งอาศัยตวั กลางในการเคล่ือนที่ 1. นำ้
2. เป็นคลน่ื ทเ่ี คลอื่ นทไี่ ปตามแนวยาวของตัวกลาง 2. เกลือ
3. เป็นคล่ืนที่อนภุ าคของตวั กลางมีการสั่นไดห้ ลายแนว 3. ไขมัน
4. เป็นคล่นื ท่ีของตวั กลางมีการสั่นในแนวเดียวกบั การ 4. ออกซเิ จน
เคล่ือนท่ีของคลนื่
9. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ เกยี่ วกบั คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้
4. คลื่นเคลอื่ นทีจ่ ากตัวกลางหน่ึงไปยังอีกตวั กลางหน่งึ 1. เป็นคลื่นตามขวาง
ปริมาณใดตอ่ ไปนีไ้ ม่เปล่ียนแปลงเสมอ 2. เป็นคล่ืนวิทยุเอเอม็ ทม่ี ีความถ่ีคงตัว
1. ความถ่ี 3. เป็นเคลอื่ นทไี่ ด้โดยไม่อาศัยตวั กลาง
2. อัตราเร็ว 4. เป็นคลนื่ วทิ ยสุ ะท้อนในช้นั เรดโิ อสฟียร์
3. ความยาวคลน่ื
4. ทศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องคลืน่ 10. รังสีชนิดใดที่ใชใ้ นการถ่ายภาพอวัยวะในรา่ งกาย
1. รังสีเอกซ์
5. ถา้ กระท่มุ น้ำเปน็ จงั หวะสม่ำเสมอ ลกู ปงิ ปองท่ลี อยอย่หู ่าง 2. รงั สีแกมมา
ออกไปจะเคล่อื นทอี่ ยา่ งไร 3. รงั สแี อลฟา
1. ลกู ปงิ ปองเคลอ่ื นทไี่ ปดา้ นข้าง 4. รังสอี ินฟราเรด
2. ลูกปงิ ปองเคลอื่ นท่เี ขา้ มาหา
3. ลกู ปิงปองเคลื่อนท่ีออกหา่ งไปมากขึ้น
4. ลกู ปิงปองเคลื่อนที่ขนึ้ -ลงอยทู่ ่ีตำแหนง่ เดิม

เฉลย 1. 3 2. 2 3. 4 4. 1 5. 4 6. 2 7. 4 8. 1 9. 2 10. 1

แบบทดสอบหลังเรยี น

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 คลน่ื

คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ยี วกบั คล่ืน 6. การเชอ่ื มโลหะดว้ ยไฟฟา้ สามารถทำให้เกิดคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟา้
1. การทำให้ตัวกลางสั่น ชนดิ ใด
2. ผลของการรบกวนแหล่งกำเนดิ 1. รังสีเอกซ์
3. ลกั ษณะการเคลอ่ื นท่ีเป็นรปู กราฟ 2. รังสแี กมมา
4. การเคล่อื นทีท่ ีม่ ีความเรว็ กับความเรง่ 3. รงั สอี ินฟราเรด
4. รงั สีอัลตราไวโอเลต
2. คลนื่ ที่อาศัยตวั กลางในการถ่ายโอนพลงั งานคือขอ้ ใด
1. คลน่ื กล 7. คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าท่ีนิยมใชใ้ นรโี มทควบคุมการทำงานของ
2. คลน่ื วทิ ยุ เครื่องโทรทศั นค์ อื ข้อใด
3. คล่ืนไมโครเวฟ 1. คลน่ื วิทยุ
4. ถูกทกุ ข้อ 2. คลนื่ ไมโครเวฟ
3. รังสอี นิ ฟราเรด
3. เมอ่ื คล่นื เดินทางจากนำ้ ลึกสู่นำ้ ตนื้ ข้อใดตอ่ ไปน้ีถูกต้อง 4. รงั สอี ัลตราไวโอเลต
1. ความถีค่ ลื่นในนำ้ ลึกมากกว่าความถค่ี ลื่นในน้ำตนื้
2. ความถคี่ ลื่นในน้ำลึกน้อยกวา่ ความถคี่ ลน่ื ในนำ้ ต้ืน 8. คลืน่ ในขอ้ ใดต่อไปนี้ท่มี ีความยาวคลน่ื สนั้ ทีส่ ุด
3. อตั ราเรว็ คล่ืนในนำ้ ลึกนอ้ ยกว่าอตั ราเร็วคล่นื ในน้ำต้ืน 1. คลน่ื วิทยุ
4. ความยาวคล่นื ในนำ้ ลกึ มากกวา่ ความยาวคลนื่ ในน้ำตื้น 2. คลน่ื ไมโครเวฟ
3. คลน่ื อนิ ฟราเรด
4. คล่นื ขบวนหนง่ึ มอี ตั ราเร็ว 15 เมตรต่อวินาที และมีความถี่ 4. แสงทีต่ ามองเหน็
ของคลนื่ 3 เฮริ ตซ์ ความยาวของคล่ืนจะมีคา่ เทา่ ใด
1. 3 เมตร 9. เพราะเหตุใดคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้าจงึ จัดเปน็ คลืน่ ตามขวาง
2. 4 เมตร 1. เพราะสนามแมเ่ หลก็ มีทิศต้ังฉากกับสนามไฟฟ้า
3. 5 เมตร 2. เพราะสนามแม่เหลก็ และสนามไฟฟา้ มีทศิ ต้ังฉากกบั ทิศ
4. 6 เมตร การเคลอื่ นทข่ี องคลนื่
3. เพราะสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้ามที ศิ เดยี วกบั ทิศการ
5. ขอ้ ใดไมถ่ กู ต้องเกย่ี วกับคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ เคลอ่ื นที่ของคล่นื
1. คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟ้าทุกชนิดมอี ัตราเรว็ ในสุญญากาศ 4. เพราะสนามแมเ่ หล็กและสนามไฟฟา้ มที ศิ ตรงกันข้ามกบั
เท่ากนั ทิศการเคล่ือนท่ีของคลน่ื
2. มีคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้าบางชนดิ ต้องอาศัยตัวกลางในการ
เดินทาง 10. ข้อใดเป็นการเรยี งลำดับคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้าจากความยาว
3. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นทมี่ ที งั้ สนามไฟฟ้าและ คลนื่ นอ้ ยไปมากทถี่ ูกต้อง
สนามแม่เหลก็ 1. รังสเี อกซ์ รังสอี นิ ฟราเรด คล่นื ไมโครเวฟ
4. คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าเดินทางในตัวกลางท่เี ปล่ยี นไป 2. รังสอี ินฟราเรด คลนื่ ไมโครเวฟ รังสเี อกซ์
อตั ราเร็วของคลืน่ จะเปล่ียนไป 3. รังสีเอกซ์ คล่นื ไมโครเวฟ รังสีอินฟราเรด
4. คลืน่ ไมโครเวฟ รังสอี ินฟราเรด รงั สีเอกซ์

เฉลย 1. 1 2. 1 3. 4 4. 3 5. 2 6. 4 7. 3 8. 4 9. 2 10. 4


Click to View FlipBook Version