The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by w.suchada07, 2021-05-26 14:31:54

แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.1

แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.1

แบบประเมินความรู้ (K) 298
เร่อื ง ความชนื้
ระดับ ผลการ
รายการประเมนิ คุณภาพ ประเมิน
8
เลขท่ี 44 1. การตอบ
ชอ่ื - สกุล คำถาม
2. เนื้อหา

รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ ่าน...........................คน

ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

299

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

300

แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
กิจกรรมที่ 6.5 ปัจจัยที่มีผลตอ่ ความชืน้ สมั พัทธ์มอี ะไรบ้าง

รายการประเมนิ 1. ความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การออกแบบทดลอง คณุ ภาพ ประเมนิ
2. การป ิฏบั ิตการ
ชือ่ - สกุล
ทดลอง
3. การบันทึกผล
รวมคะแนนท่ีไ ้ด
่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขึน้ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผ่าน...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

301

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
ทกั ษะการทดลอง

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดมี าก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. ความสามารถ 1 กำหนดวธิ กี ารอุปกรณ์ กำหนดวิธกี ารอุปกรณ์ กำหนดวธิ กี ารอปุ กรณ์ กำหนดวิธีการ

ในการออกแบบ สารเคมี อย่างถูกต้อง สารเคมี อย่างถกู ต้อง สารเคมี อย่างถกู ตอ้ ง อุปกรณ์ สารเคมี

การทดลอง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใช้อยา่ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง

ถูกวิธีทกุ ครง้ั ถกู วธิ ีบ่อยครัง้ ถกู วิธบี างคร้ัง ไม่เหมาะสม และ

ใช้อยา่ งไม่ถูกวิธี

2. การปฏิบตั ิการ 1 ทดลองตามขั้นตอนท่ี ทดลองตามข้ันตอนท่ี ทดลองตามขั้นตอนที่ การทดลองไม่

ทดลอง กำหนดไว้ทันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ ันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ นั เวลา ใช้ เปน็ ไปตามขั้นตอน

อุปกรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณ์และสารเคมี ไม่ทนั เวลา ใช้

อย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งถูกต้อง อย่างถูกต้อง อปุ กรณแ์ ละ

คลอ่ งแคล่ว และ คลอ่ งแคล่ว และ คล่องแคลว่ และ สารเคมไี มถ่ ูกตอ้ ง

เหมาะสมทุกครง้ั เหมาะสมบอ่ ยครั้ง เหมาะสมบางคร้งั ไม่คล่อง และไม่

เหมาะสม

3. การบันทึกผล 1 บันทึกผลคล่องแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลไม่

ถกู ตอ้ งและออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ คลอ่ งแคล่ว ไม่ค่อย

ตารางบันทกึ ผลที่ ตารางบันทกึ ผลที่ ตารางบนั ทกึ ผลท่ี ถกู ตอ้ ง และ

เหมาะสมกับขอ้ มูลทกุ เหมาะสมกับขอ้ มูล เหมาะสมกับข้อมูลเป็น ออกแบบตาราง

ครั้ง บอ่ ยครั้ง บางครงั้ บนั ทกึ ผลไม่

เหมาะสมกบั ขอ้ มูล

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ช่วงคะแนน 11-12 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ช่วงคะแนน 8-10 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถึง ดี

ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดบั คุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

302

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ
ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

303

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

304

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

305

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะทักษะในการคดิ

ประเดน็ การ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
ด(ี 3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
1. มีความสามารถ
ในการคิดวเิ คราะห์ 1 เขา้ ใจและแสดงความ เขา้ ใจและแสดงความ เข้าใจและแสดงความ
คดิ เหน็ เกี่ยวกับทเ่ี รียน
และสะทอ้ นความรู้ คิดเห็นเก่ียวกับท่ีเรียน คิดเหน็ เกยี่ วกับท่ี
ความคิด ความรสู้ ึกได้ ดี
และสะท้อนความรู้ เรียน และสะท้อน
มาก
ความคิด ความรูส้ กึ ได้ ความร้คู วามคิด

ปานกลาง ความรสู้ กึ ไดน้ ้อย

2. ตัดสนิ ใจ 1 สามารถตง้ั คำถามและ สามารถต้งั คำถามและ ไม่สามารถต้ังคำถาม

แก้ปัญหาเกีย่ วกบั ตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ือง ตอบคำถามเกี่ยวกบั และตอบคำถาม

ตนเองได้ ทีเ่ รยี นได้อย่างถูกต้อง เรือ่ งท่เี รยี นไดอ้ ยา่ ง เกี่ยวกับเร่ืองทีเ่ รียน

คล่องแคล้ว แม่นยำ ถกู ตอ้ ง ได้เลย

3. ความสามารถ 1 มกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู และ มีการค้นควา้ ขอ้ มลู ไมม่ ีการค้นควา้ ขอ้ มลู
ในการสร้างองค์
ความรู้ ศึกษาหาความรู้จากแหล่ง และศกึ ษาหาความรู้ และศกึ ษาหาความรู้

เรียนร้อู ื่นเพ่มิ เติมทกุ ครง้ั จากแหล่งเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นร้อู ื่น

เพิม่ เตมิ บางครง้ั เพม่ิ เตมิ เลย

เกณฑ์การประเมนิ ดี
ชว่ งคะแนน 8-9 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ปรับปรุง
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ
ชว่ งคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ
เกณฑก์ ารผา่ น นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

306

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2.6

เร่อื ง เมฆและชนิดของเมฆ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว21102 เวลา 2 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ กระบวนการเปล่ยี นแปลงลมฟา้ อากาศ รวม 27 คาบ

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 2

สาระที่ 2 ช่อื สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 3.2

ช่อื ผสู้ อน นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง โรงเรยี นวัดตะวนั เรอื ง

1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ลมฟ้าอากาศ เป็นสภาวะของอากาศในเวลาหนึง่ ของพนื้ ท่ีหนง่ึ ท่มี กี ารเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่

กับองคป์ ระกอบลมฟ้าอากาศ ได้แก่ อณุ หภมู อิ ากาศ ความกดอากาศ ลม ความชนื้ เมฆ และหยาดน้ำฟ้า โดย
หยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยในประเทศไทยได้แก่ ฝน องค์ประกอบ ลมฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขึ้นอยู่กับ
ปจั จัยต่าง ๆ เชน่ ปรมิ าณรงั สจี ากดวงอาทิตย์และลักษณะพนื้ ผิวโลกส่งผลต่ออุณหภมู ิอากาศ อุณหภูมิอากาศ
และปรมิ าณไอน้ำส่งผลตอ่ ความช้ืน ความกดอากาศส่งผลต่อลม ความชืน้ และลมสง่ ผลต่อเมฆ

2. ตวั ช้วี ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 ตวั ชีว้ ดั
- ม.1/2 อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการเปลย่ี นแปลง องค์ประกอบของลมฟา้ อากาศ จากข้อมูลที่

รวบรวมได้

2.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- นักเรยี นสามารถอธิบายการเกิดเมฆและชนดิ ของเมฆได้ (K)
- นักเรียนสามารถวาดและเขียนอธิบายชน้ั ของเมฆได้ (P)
- นักเรียนตงั้ ใจเรยี นและมุ่งมั่นในการทำงานได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้
เมฆ เกดิ จากการรวมตัวหรือเกาะกลุ่มของไอน้ำในที่สุดก็จะเกิดการควบแน่นและตกลงมาเปน็ ฝน ละออง

น้ำและเกลด็ นำ้ แข็งท่รี วมตวั กนั เปน็ กลุ่มกอ้ นลอยตัวอย่ใู นชน้ั บรรยากาศ ทเี่ ราสามารถมองเห็นได้ ไอน้ำทีค่ วบแน่น
เป็นละอองนำ้ (โดยปกติแล้วจะมีขนาด 0.01 ม.ม.) หรือ เป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งเมื่อเกาะตัวกนั เป็นกลุม่ จะเหน็ เป็น
กอ้ นเมฆ กอ้ นเมฆน้ีสะทอ้ นคลนื่ แสงในแต่ละความยาวคล่ืนในช่วงที่ตามองเห็นได้ ในระดบั ที่เทา่ ๆ กนั จงึ ทำให้เรา
มองเห็นก้อนเมฆนัน้ เป็นสีขาว แต่ก็สามารถมองเห็นเป็นสีเทาหรอื สีดำ ถ้าหากเมฆนั้นมีความหนาแน่นสูงมากจน
แสงผ่านไมไ่ ด้ในธรรมชาติ

เมฆเกิดขึ้นโดยมีรูปร่าง 2 ลักษณะคือ เมฆก้อนและเมฆแผ่น เมฆก้อนเรียกว่า “เมฆคิวมูลัส”
(Cumulus) และเมฆแผ่นเรียกว่า “เมฆสตราตสั ” (Stratus) หากเมฆก้อนลอยชิดตดิ กนั เรานำช่อื ทง้ั สองมาต่อกัน
เรียกว่า “เมฆสตราโตคิวมูลัส” (Stratocumulus) ในกรณีที่เปน็ เมฆฝนจะเพม่ิ คำวา่ “นมิ โบ” หรอื “นมิ บัส” ซ่ึง
แปลวา่ “ฝน” เขา้ ไป โดยเรียกเมฆก้อนที่ทำใหเ้ กิดพายุฝนฟ้าคะนองว่า “เมฆควิ มูโลนมิ บสั ” (Cumulonimbus)
และเรียกเมฆแผน่ ท่มี ีฝนตกปรอยๆ อยา่ งสงบวา่ “เมฆนิมโบสตราตสั ” (Nimbostratus)

นกั อตุ ุนยิ มวทิ ยาแบง่ เมฆออกเป็น 3 ระดับ คอื เมฆชน้ั ตำ่ เมฆชัน้ กลาง และเมฆช้นั สูง
1.เมฆชั้นตำ่ อยสู่ งู จากพ้ืนดนิ ไม่เกิน 2 กิโลเมตร มี 5 ชนิด ได้แก่ เมฆสตราตัส เมฆคิวมูลัส เมฆ
สตราโตคิวมูลัส เมฆนมิ โบสตราตสั และเมฆควิ มโู ลนิมบสั ตามทีไ่ ดก้ ล่าวมาแลว้ หมายเหตุ: นักอตุ ุนิยมวิทยาถือว่า

307
เมฆควิ มูลสั และเมฆควิ มูโลนมิ บัส เปน็ เมฆก่อตัวในแนวด่งิ ซึ่งมีฐานเมฆอยใู่ นระดับเมฆชั้นต่ำ แต่ยอดเมฆอาจอยู่ใน
ระดบั ของเมฆขน้ั กลางและชนั้ สูง

2. เมฆชน้ั กลาง เกดิ ขน้ึ ท่ีระดับสูง 2 - 6 กิโลเมตร ในการเรียกช่อื จะเตมิ คำว่า “อลั โต” ซ่งึ แปลวา่
“ชั้นกลาง” ไว้ข้างหน้า เช่น เมฆแผ่นชั้นกลางเรียกว่า “เมฆอัลโตสตราตัส” (Altostratus) เมฆก้อนชั้นกลางคือ
“เมฆอัลโตคิวมูลัส” (Altocumulus) ข้อสังเกตุ: เมฆชั้นกลางมีความหนาแน่นพอที่จะบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้
เกดิ เงา บางครัง้ มองเหน็ เปน็ สีเทา

3. เมฆช้นั สงู เกดิ ข้นึ ท่รี ะดบั ความสงู มากกว่า 6 กโิ ลเมตร ในการเรยี กชื่อจะเตมิ คำว่า “เซอโร”
ซึ่งแปลว่า “ชั้นสูง” ไว้ข้างหน้า เช่น เมฆแผ่นชั้นสูงเรียกว่า “เมฆเซอโรสตราตัส” (Cirrostratus) เมฆก้อนชั้นสูง
เรียกว่า “เมฆเซอโรคิวมูลัส” (Cirrocumulus) นอกจากนั้นยังมีเมฆช้ันสูงทีม่ ีรูปรา่ งเหมือนขนนก เรียกว่า “เมฆ
เซอรัส” (Cirrus)
4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

4.1 ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์

5.1 มุ่งม่ันในการทำงาน
5.2 มีวนิ ัย
5.3 ใฝ่เรียนรู้
6. การจดั กจิ กรรมการเรียนร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ (5E)
ขัน้ ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)

1) ครูให้นักเรียนดูภาพเกี่ยวกับเมฆโดยใช้สื่อการเรียนรู้ PowerPoint เรื่อง เมฆและชนิด
ของเมฆ ดังภาพที่ 1 กบั ภาพท่ี 2 ดงั น้ี

ภาพท่ี 1 เมฆคิวมโู ลนมิ บสั

ภาพท่ี 2 เมฆคิวมูลัส

308

1.1 เมื่อครูให้นักเรียนสังเกตภาพทั้ง 2 เรียบร้อยแล้ว ครูเปิดประเด็นคำถามถาม
นกั เรียนวา่ จากภาพเมฆทัง้ 2 ภาพนี้ มีความแตกต่างกันหรอื ไม่ อย่างไร

(แนวการตอบ ภาพทงั้ 2 ภาพน้มี คี วามแตกต่างกนั กลา่ วคอื ภาพท่ี 1 นนั้ เป็นภาพเมฆท่ี
กำลังมีฝนตกซ่งึ เมฆดงั กลา่ วน้นั เปน็ เมฆก้อนท่มี ฝี น เรียกว่า เมฆควิ มโู ลนิมบสั ส่วนภาพที่ 2 น้นั เป็นภาพเมฆก้อนที่
สามารถพบเห็นได้ทว่ั ๆไปเรยี กเมฆดงั กลา่ ววา่ เมฆควิ มูลสั ซึง่ เมฆทง้ั 2 นจ้ี ดั อย่ใู นเมฆทีก่ อ่ ตัวในแนวตง้ั )

1.2 แล้วทำไมบางคร้ังเมฆชนดิ เดยี วกันเราจงึ สังเกตเหน็ สีทแี่ ตกตา่ งกัน
(แนวการตอบ สีของก้อนเมฆแตกต่างกนั เพราะเนื่องจากกระเจิงของแสงอาทิตย์ในแต่
ละช่วงเวลาของวัน)
2) ครูนำนักเรียนออกไปศึกษาเมฆนอกห้องเรยี นเพื่อศึกษาเมฆที่มีลักษณะคล้ายดังภาพแล้วให้
นกั เรียนถา่ ยภาพโดยใชก้ ล้องจากโทรศัพทม์ ือถอื ของนกั เรยี นเพือ่ นำมาใหค้ รูดูว่าถูกตอ้ งหรือไม่
ขนั้ ที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration)
1) ครูใหน้ ักเรียนน่ังเปน็ กลุม่ ตามท่ีได้จดั ไว้ โดยจะมสี มาชิกกลุ่มอยูป่ ระมาณ 4- 5 คนต่อกลุ่ม
เพื่อจะได้ดำเนินกิจกรรมจากนั้นครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาบทเรียนเรื่องการเกิดเมฆ ซึ่งให้ศึกษาจากแหล่ง
เรยี นรู้จากอนิ เทอร์เนต็ โดยครมู แี หล่งเรยี นรใู้ หเ้ ป็น QR code ใหน้ ักเรยี นไดศ้ ึกษาเขา้ ใจ

QR code เร่อื ง การเกดิ เมฆ
2) จากนั้นครูให้นักเรียนวาดและเขียนอธิบายชั้นของเมฆโดยให้นักเรียนทำลงในกระดาษ
ขนาด A4 ซึ่งก่อนการเรียน ในคาบที่แล้วครูสั่งให้นักเรียนเตรียมกระดาษ A4 ดินสอ และ สี โดยที่นักเรียน
สามารถเรยี นรู้ไดจ้ ากสือ่ อินเทอร์เนต็ หรือจากการสังเกตจากทอ้ งฟา้ จริงนอกหอ้ งเรียน
3) ครูพยายามเดินตรวจดูการทำงานนักเรียนทุกๆกลุ่มขณะทำกิจกรรมเพื่อให้กิจกรรมน้ัน
ดำเนินไปดว้ ยความเรียบรอ้ ยและเพอ่ื ใหง้ านนัน้ เสร็จทันเวลา
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นเรื่องการเกิดเมฆและชั้นของเมฆ ดังนี้ “เมฆ” เป็น
กลุ่มละอองน้ำที่เกดิ จากการควบแน่น ซึ่งเกิดจากการยกตัวของกลุ่มอากาศ (Air parcel) ผ่านความสูงเหนอื
ระดับควบแน่น และมีอณุ หภมู ิลดต่ำกว่าจดุ น้ำค้าง

การเรียกชอ่ื เมฆ เมฆซึง่ เกิดขึ้นในธรรมชาติมี 2 รปู รา่ งลักษณะคือ เมฆกอ้ น และเมฆ
แผ่น เราเรยี กเมฆก้อนว่า “เมฆคิวมลู สั ” (Cumulus) และเรียกเมฆแผ่นว่า “เมฆสเตรตัส” (Stratus) หากเมฆ
กอ้ นลอยชดิ ตดิ กนั เรานำชอ่ื ทงั้ สองมารวมกนั และเรียกวา่ “เมฆสเตรโตคิวมลู ัส” (Stratocumulus) ในกรณที ่ี
เปน็ เมฆฝน เราจะเพ่ิมคำวา่ “นมิ โบ” หรือ “นิมบสั ” ซงึ่ แปลว่า “ฝน” เขา้ ไป เชน่ เราเรยี กเมฆก้อนท่ีมีฝนตก
ว่า “เมฆคิวมูโลนิมบัส” (Cumulonimbus) และเรียกเมฆแผ่นที่มีฝนตกว่า “เมฆนิมโบสเตรตัส”
(Nimbostratus) เราแบ่งเมฆออกเป็น 3 ระดับ คือ เมฆชั้นสูง เมฆชั้นกลาง และเมฆชั้นต่ำ หากเป็นเมฆช้ัน
กลาง (2 - 6 กิโลเมตร) เราจะเติมคำว่า “อลั โต” ซ่งึ แปลวา่ “ชนั้ กลาง” ไวข้ ้างหนา้ เช่น เราเรียกเมฆก้อนช้ัน
กลางว่า “เมฆอัลโตคิวมูลัส” (Altocumulus) และเรียกเมฆแผ่นชั้นกลางว่า “เมฆอัลโตสเตรตัส”
(Altostratus) หากเป็นเมฆชั้นสูง (มากกว่า 6 กิโลเมตร) เราจะเติมคำว่า “เซอโร” ซึ่งแปลว่า “ชั้นสูง” ไว้

309

ข้างหน้า เช่น เราเรียกเมฆก้อนชั้นสูงว่า “เมฆเซอโรคิวมูลัส” (Cirrocumulus) เรียกเมฆแผ่นชั้นสูงว่า “เมฆ
เซอโรสเตรตสั ” (Cirrostratus) และเรยี กชั้นสงู ทม่ี รี ปู ร่างเหมอื นขนนกวา่ “เมฆเซอรัส” (Cirrus)

2) ครูถามนกั เรยี นเพ่อื กระตุ้นใหน้ ักเรยี นคิดตาม โดยใชค้ ำถามดังน้ี “เมฆกับหมอกแตกต่าง
กันหรือไมอ่ ยา่ งไร” (แนวการตอบ “เมฆ” เปน็ กล่มุ ละอองน้ำท่ีเกิดจากการควบแนน่ ซ่ึงเกดิ การเปลี่ยนแปลง
อุณหภูมิจากการยกตัวของกลุ่มอากาศ (Air parcel) ผ่านความสูงเหนือระดับควบแนน่ และมีอุณหภูมิลดต่ำ
กว่าจุดน้ำค้าง ส่วน “หมอก” เกิดจากไอน้ำเปลี่ยนสถานะควบแน่นเป็นหยดน้ำเล็กๆ เช่นเดียวกับเมฆ แต่
หมอกเกดิ ขึน้ จากความเย็นของพ้ืนผวิ หรือการเพิม่ ปรมิ าณไอนำ้ ในอากาศ)

3) ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อตรวจสอบความรู้
ความเข้าใจของนักเรียนโดยครจู ะเดนิ ไปถามนกั เรยี นในแตล่ ะกล่มุ

4) ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมในสว่ นที่บกพร่องของประเดน็ คำตอบ และเปดิ โอกาสให้นักเรียนแต่ละ
กลุ่มตั้งประเด็นคำถาม กลมุ่ ละ 1 ประเด็น เพ่ือให้ครูชว่ ยอธิบายขอ้ สงสัย

ขัน้ ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครูอาจใชส้ ่อื Power point เร่ือง การเกิดเมฆและประเภทของเมฆ อธบิ ายเพ่มิ เตมิ หรอื สือ่ อินเทอร์เน็ตเพ่ิมเติม
แกน่ ักเรียน

2) ครแู นะนำใหน้ กั เรียนศึกษาเวบ็ ไซต์ทีน่ า่ สนใจเกีย่ วกับเรอื่ งการเกิดเมฆ เช่น

3) ครูแนะนำให้นักเรียนเข้าดูวีดิทัศน์แนะนำการใช้สื่อและอุปกรณ์วิชาวิทยาศาสตร์ ระดับช้ัน
มัธยมศกึ ษาตอนตน้ เร่อื ง การเกิดเมฆ

4) ครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องสีของเมฆ กล่าวคือ สีของเมฆที่ใช้ในการบอกสภาพอากาศได้ เมฆสี
เขียวจาง ๆ นั้นเกิดจากการกระเจิงของแสงอาทิตย์ เมือ่ ตกกระทบนำ้ แขง็ เมฆควิ มโู ลนิมบัสทมี่ ีสีเขยี ว น้ันบ่งบอก
ถึงการกอ่ ตัวของ พายุฝน พายุลกู เหบ็ หรอื พายทุ อร์นาโด เมฆสีเหลือง ไมค่ ่อยได้พบเหน็ บอ่ ยครง้ั แตอ่ าจเกดิ ข้ึนได้
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงต้นของฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงที่เกิดไฟป่าได้ง่าย สีเหลืองนั้นเกิดจากฝุ่นควันใน
อากาศ เมฆสีแดง สีส้ม หรือ สีชมพู นั้นโดยปกติเกิดในช่วง พระอาทิตย์ขึ้น และ พระอาทิตย์ตก เกิดจากการ
กระเจงิ ของแสงในช้ันบรรยากาศ ไม่ไดเ้ กดิ จากเมฆโดยตรง เมฆเพยี งเปน็ ตวั สะทอ้ นแสงนี้เทา่ นั้น ในกรณีที่มีพายุ
ฝนขนาดใหญ่ในช่วงเดียวกันจะทำให้เห็นเมฆ เป็นสีแดงเขม้ เหมอื นสเี ลอื ด เมฆเกิดจากการรวมตัวหรือเกาะกลุ่ม
ของไอน้ำในท่สี ุดกจ็ ะเกดิ การควบแน่นและตกลงมาเปน็ ฝน

5) ครใู หน้ ักเรียนดูสารคดเี พมิ่ เตมิ เรอื่ งการเกิดเมฆ

ท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=KKwMJIER3ts

310

ขน้ั ที่ 5 ข้นั ประเมิน (Evaluation)
1) ครปู ระเมนิ จากการวาดและเขยี นอธิบายชั้นของเมฆ
2) การตอบคำถามในชั้นเรยี น

3) ครูให้นกั เรยี นสอบทอ่ ง เมฆ 10 ชนิด

7. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลด้าน วิธีการวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การผา่ น

1 ด้านความรู้ ระดับคณุ ภาพ
พอใช้ ขึ้นไป
1. นกั เรียนสามารถอธบิ าย - การตอบคำถามนักเรียนในช้นั เรยี น - แบบประเมนิ การตอบคำถาม
การเกิดเมฆและชนดิ ของ ระดับคณุ ภาพ
พอใช้ ขน้ึ ไป
เมฆได้
ระดับคณุ ภาพ
2. ดา้ นกระบวนการ - ตรวจการวาดและเขยี นอธิบายชน้ั - แบบประเมนิ การทำงาน พอใช้ ขน้ึ ไป
ของเมฆ รายบคุ คล
1. นักเรียนสามารถวาดและ
เขียนอธบิ ายชน้ั ของเมฆได้

3. ด้านคุณลักษณะที่พงึ

ประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน - แบบประเมินการสังเกต
1. นักเรยี นต้งั ใจเรียนและ

มุ่งมั่นในการทำงานได้

8. สื่อและแหล่งเรยี นรู้
8.1 สอ่ื การสอน
- สื่อการเรียนรู้ PowerPoint เรื่อง เมฆและชนิดของเมฆ
8.2 แหล่งเรียนรู้
- กิจกรรมการวาดและเขยี นอธบิ ายชั้นของเมฆ
- สอ่ื ออนไลน์
- หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์พน้ื ฐาน ม.1

311

บนั ทกึ ผลการจดั การการเรียนรู้ท่ี 2.6

ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แนวทางแก้ไข / แนวทางการพฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ....................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

ความเหน็ ของผู้นเิ ทศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ...............................................ผู้นเิ ทศ
(........................................................)

แบบประเมินความรู้ (K) 312
เร่อื ง เมฆและชนิดของเมฆ
รายการประเมิน ระดับ ผลการ
คณุ ภาพ ประเมิน
44 8
เลขท่ี 1. การตอบ
ช่อื - สกุล คำถาม
2. เนื้อหา

รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผ่านเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผ่าน...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวสชุ าดา วงษ์แดง)

313

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ (P) 314
กิจกรรมการวาดและเขยี นอธบิ ายช้นั ของเมฆ
ระดบั ผลการ
รายการประเมิน คณุ ภาพ ประเมิน
1. แหล่งข้อ ูมลที่
เลขท่ี นำมา
ช่อื - สกุล
2. การ ัจดกระทำ
้ขอ ูมล

3. การนำเสนอข้อ ูมล
รวมคะแนนที่ไ ้ด

่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้ึนไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

315

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
ทักษะสอื่ ความหมายข้อมูล

รายการประเมิน น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
นำขอ้ มูลมาจาก
1. แหล่งข้อมูลที่ 1 นำขอ้ มูลมาจากหลาย นำขอ้ มลู มาจากหลาย นำขอ้ มูลมาจากนอ้ ย นอ้ ยแหลง่ และ
นำมา นำมาน้อยรายการ
แหล่ง เช่น จากการ แหลง่ เชน่ จากการ แหลง่ และนำมาแหล่ง
2. การจดั กระทำ จดั กระทำข้อมลู
ข้อมูล สงั เกต การวดั การ สังเกต การวดั การ ละหลายรายการ ใหม่ โดยการ
เรยี งลำดับ แยก
ทดลอง และอ่นื ๆ ทดลอง และอ่นื ๆ แต่ ประเภท หรอื
คำนวณหาค่าใหม่
และนำมาแหลง่ ละ นำมาแหล่งละน้อย เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจงา่ ยขน้ึ
ไมช่ ัดเจน และไม่
หลายรายการ รายการ ตรงประเด็น
อธบิ ายเหตุผลใน
1 จัดกระทำข้อมลู ใหม่ จัดกระทำข้อมลู ใหม่ จดั กระทำข้อมูลใหม่ การเลอื กการ
นำเสนอไม่อยา่ ง
โดยการเรียงลำดบั โดยการเรยี งลำดบั โดยการเรียงลำดบั ชัดเจน และไมต่ รง
ประเด็น
แยกประเภท หรอื แยกประเภท หรอื แยกประเภท หรอื

คำนวณหาค่าใหม่ คำนวณหาค่าใหม่ คำนวณหาค่าใหม่

เพ่อื ให้เขา้ ใจง่ายขึน้ เพือ่ ใหเ้ ข้าใจง่ายขึน้ เพ่อื ให้เข้าใจงา่ ยขึน้

ชัดเจน และตรง ชดั เจน และตรง ชัดเจน และตรง

ประเด็นทุกครั้ง ประเดน็ บ่อยครง้ั ประเดน็ บางครงั้

3. การนำเสนอ 1 อธิบายเหตผุ ลในการ อธิบายเหตผุ ลในการ อธิบายเหตุผลในการ
ข้อมลู
เลอื กการนำเสนอได้ เลือกการนำเสนอได้ เลือกการนำเสนอได้

อยา่ งชดั เจน และตรง อย่างชัดเจน และตรง ชัดเจน และตรง

ประเด็นทกุ ครง้ั ประเดน็ บอ่ ยครงั้ ประเดน็ บางครง้ั

เกณฑ์การตัดสิน 11-12 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดีมาก
ช่วงคะแนน หมายถงึ ดี
8-10 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปรับปรงุ
ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปผ่านเกณฑ์
ชว่ งคะแนน
การผา่ นเกณฑ์

316

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ
ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

317

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

318

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

319

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะทักษะในการคดิ

ประเดน็ การ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
ด(ี 3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
1. มีความสามารถ
ในการคิดวเิ คราะห์ 1 เขา้ ใจและแสดงความ เขา้ ใจและแสดงความ เข้าใจและแสดงความ
คดิ เหน็ เกี่ยวกับทเ่ี รียน
และสะทอ้ นความรู้ คิดเห็นเก่ียวกับท่ีเรียน คิดเหน็ เกยี่ วกับท่ี
ความคิด ความรสู้ ึกได้ ดี
และสะท้อนความรู้ เรียน และสะท้อน
มาก
ความคิด ความรูส้ กึ ได้ ความร้คู วามคิด

ปานกลาง ความรสู้ กึ ไดน้ ้อย

2. ตัดสนิ ใจ 1 สามารถตง้ั คำถามและ สามารถต้งั คำถามและ ไม่สามารถต้ังคำถาม

แก้ปัญหาเกีย่ วกบั ตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ือง ตอบคำถามเกี่ยวกบั และตอบคำถาม

ตนเองได้ ทีเ่ รยี นได้อย่างถูกต้อง เรือ่ งท่เี รยี นไดอ้ ยา่ ง เกี่ยวกับเร่ืองทีเ่ รียน

คล่องแคล้ว แม่นยำ ถกู ตอ้ ง ได้เลย

3. ความสามารถ 1 มกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู และ มีการค้นควา้ ขอ้ มลู ไมม่ ีการค้นควา้ ขอ้ มลู
ในการสร้างองค์
ความรู้ ศึกษาหาความรู้จากแหล่ง และศกึ ษาหาความรู้ และศกึ ษาหาความรู้

เรียนร้อู ื่นเพ่มิ เติมทกุ ครง้ั จากแหล่งเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นร้อู ื่น

เพิม่ เตมิ บางครง้ั เพม่ิ เตมิ เลย

เกณฑ์การประเมนิ ดี
ชว่ งคะแนน 8-9 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ปรับปรุง
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ
ชว่ งคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ
เกณฑก์ ารผา่ น นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

320

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2.7

เรื่อง การเกิดฝน รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว21102 เวลา 2 คาบ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ กระบวนการเปลีย่ นแปลงลมฟ้าอากาศ รวม 27 คาบ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

สาระท่ี 2 ชอื่ สาระ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 3.2

ชอ่ื ผสู้ อน นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง โรงเรียนวัดตะวนั เรอื ง

1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ลมฟา้ อากาศ เป็นสภาวะของอากาศในเวลาหนึง่ ของพื้นที่หนงึ่ ท่มี กี ารเปล่ียนแปลงตลอดเวลา ข้ึนอยู่

กับองค์ประกอบลมฟ้าอากาศ ไดแ้ ก่ อณุ หภมู ิอากาศ ความกดอากาศ ลม ความช้นื เมฆ และหยาดนำ้ ฟ้า โดย
หยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยในประเทศไทยได้แก่ ฝน องค์ประกอบ ลมฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขึ้นอยู่กบั
ปัจจยั ต่าง ๆ เชน่ ปรมิ าณรังสจี ากดวงอาทิตย์และลักษณะพ้ืนผิวโลกสง่ ผลต่ออุณหภมู ิอากาศ อุณหภูมิอากาศ
และปรมิ าณไอนำ้ ส่งผลต่อความชน้ื ความกดอากาศสง่ ผลต่อลม ความช้ืนและลมส่งผลตอ่ เมฆ

2. ตัวช้ีวัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตวั ชว้ี ัด
- ม.1/2 อธบิ ายปจั จัยทม่ี ีผลต่อการเปลี่ยนแปลง องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ จากข้อมูลท่ี

รวบรวมได้
2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
- นกั เรยี นสามารถอธิบายการเกดิ ฝนได้ (K)
- นกั เรยี นสามารถเขียนวฏั จกั รการเกดิ ฝนได้ (P)
- นักเรยี นต้งั ใจเรยี นและมงุ่ ม่นั ในการทำงานได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้
การเกิดฝน ฝนเกิดจากอนุภาคของไอน้ำขนาดต่างๆในก้อนเมฆ เมื่อรวมตัวจนมีขนาดใหญ่ขึ้นจนไม่

สามารถลอยตวั อย่ใู นก้อนเมฆไดก้ จ็ ะตกลงมาเป็นฝน ฝนจะตกลงมายังพ้ืนดินไดน้ ้ันจะตอ้ งมเี มฆเกดิ ในท้องฟ้าก่อน
เมฆมีอยู่หลายชนิด มีเมฆบางชนิดเท่านั้นที่ทำให้มีฝนตก ไอน้ำจะรวมตัวทำให้เกิด เป็นเมฆ เมฆจะกลั่นตัวเป็น
นำ้ ฝนได้ก็ตอ้ งมีอนภุ าคแขง็ ตัว (Freezing nuclei) หรือเมด็ นำ้ ขนาดใหญซ่ ่งึ จะดงึ เม็ดนำ้ ขนาดเล็กมารวมตัว กนั จน
เป็นเม็ดฝนน้ำทตี่ กลงมาจากทอ้ งฟา้ อาจเปน็ ลกั ษณะของฝน หิมะ หรอื ลกู เห็บซึ่งเรารวมเรียกวา่ นำ้ ฟ้า ซึง่ มันจะตก
ลง มาในลักษณะไหนกข็ ้ึนอยู่กับอุณหภูมิของอากาศในพ้นื ทน่ี ้นั

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ

5. คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์
5.1 ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
5.2 มวี นิ ยั
5.3 ใฝ่เรยี นรู้

321

6. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1) ครูให้นักเรียนสังเกตภาพพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง จากสื่อการเรียนรู้ PowerPoint เรื่อง

การเกิดฝน จากนนั้ ครตู ง้ั ประเด็นคำถามเพอื่ ถามนักเรียนว่า สาเหตขุ องการที่เกิดการแห้งแล้งน้ีมีผลมาจากสิ่ง
ใดบา้ ง (แนวการตอบ ครพู ยายามโนม้ นา้ วนักเรยี นเพอ่ื นำไปสูค่ ำตอบว่า ปริมาณนำ้ หรอื ปรมิ าณฝนที่ตกลงมามี
น้อย)

ทม่ี า : http://www.agrinature.or.th/article/551
2) เมอ่ื นกั เรียนดำเนินการตอบเรียบร้อยแล้ว ครูถามนกั เรียนตอ่ ว่า ปรมิ าณน้ำขน้ึ อยูก่ ับฝน แลว้
ฝนเกดิ ข้ึนได้อย่างไร โดยครใู ห้นักเรียนเขียนลงในสมดุ ของนักเรยี นเอง ท้ังน้คี รจู ะไมเ่ ฉลยคำตอบ เพอ่ื นำไปสู่การ
เรียนร้เู รื่องต่อไป คอื เร่ืองการเกดิ ฝน
ขนั้ ท่ี 2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครใู หน้ ักเรียนนงั่ เปน็ กล่มุ ตามทไ่ี ด้จัดไว้ โดยจะมีสมาชกิ กลมุ่ อยปู่ ระมาณ 4- 5 คนต่อกลุ่ม
ซึ่งครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาบทเรียนเรื่องการเกิดฝนและวัฏจักรฝนเพื่อเป็นการสืบค้นเพื่อจะได้ดำเนิน
กจิ กรรมตอ่ ไป
2) จากนั้นครูแจกกระดาษบรู๊ฟและสีให้นักเรียน เพื่อให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมของแต่ละ
กลุ่ม ทั้งนี้เนื้อหาที่นักเรียนจะได้นำมาเขียนนั้นสามารถหาได้จากสื่อออนไลน์หรืออื่นๆ กิจกรรมดังกล่าวคือ
กจิ กรรมการเขียนวฏั จกั รของฝน
3) เมื่อแต่ละกลุ่มดำเนินกจิ กรรมเรียบรอ้ ยแล้ว ครูใหน้ ักเรยี นส่งตวั แทนออกมานำเสนอหน้า
ชั้นเรียน และในขณะที่กลุ่มต่างๆออกมานำเสนอนั้น หากกรณีที่กลุ่มของตัวเองยังไม่มีในประเด็นนั้นๆให้
นกั เรยี นเขยี นเพือ่ เติมลงในสมุดของนกั เรียนเอง
4) ในขณะทที่ ำกิจกรรมครพู ยายามเดนิ ตรวจดูการทำงานนกั เรยี นทุกๆกลุม่ ขณะทำกิจกรรม
เพอื่ ใหก้ ิจกรรมน้นั ดำเนินไปด้วยความเรยี บร้อยและเพอ่ื ใหง้ านนั้นเสรจ็ ทนั เวลา
ขนั้ ที่ 3 ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นเรื่องการเกิดฝน ดังนี้ ฝนเกิดจากอนุภาคของไอน้ำ
ขนาดต่างๆในก้อนเมฆ เมื่อรวมตวั จนมีขนาดใหญข่ ึ้นจนไม่สามารถลอยตัวอยู่ในก้อนเมฆได้กจ็ ะตกลงมาเปน็
ฝน ฝนจะตกลงมายงั พน้ื ดินไดน้ ้ันจะต้องมีเมฆเกิดในทอ้ งฟ้าก่อน เมฆมีอย่หู ลายชนิด มีเมฆบางชนิดเท่านั้นท่ี
ทำใหม้ ฝี นตก ไอนำ้ จะรวมตัวทำให้เกิด เป็นเมฆ เมฆจะกลั่นตวั เป็นน้ำฝนได้ก็ต้องมีอนภุ าคแข็งตวั (Freezing
nuclei) หรือเม็ดน้ำขนาดใหญซ่ ึ่งจะดึงเมด็ น้ำขนาดเล็กมารวมตัว กันจนเป็นเมด็ ฝนน้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

322

อาจเปน็ ลกั ษณะของฝน หิมะ หรอื ลกู เห็บซ่ึงเรารวมเรียกวา่ นำ้ ฟา้ ซ่ึงมนั จะตกลง มาในลกั ษณะไหนก็ขน้ึ อยู่กับ
อณุ หภูมิของอากาศในพนื้ ทน่ี นั้

2) ครถู ามนักเรียนเพื่อกระตุ้นให้นักเรยี นคิดตาม โดยใชค้ ำถามดังนี้
2.1 ในวันที่มีลมแรง ปริมาณเมฆปกคลุมน่าจะเป็นอยา่ งไร (แนวคําตอบ ในวันที่มี

ลมแรง จะมีปริมาณเมฆปกคลุมไม่คงที่ เพราะเมฆจะถูกลมพัดพาไปตามกระแสลมหรือปริมาณเมฆปกคลุม
นอ้ ย)

2.2 เหตใุ ดจงึ บอกปรมิ าณฝนโดยใชห้ น่วยวัดความยาว เชน่ มิลลิเมตร (แนวคําตอบ
เนื่องจากการวัดปริมาตรฝนท่ีตกจริงในพืน้ ท่ีทาํ ไดย้ าก จึงใช้เครือ่ งมือในการวดั ฝนซึ่งเมือ่ อ่านค่าความสูงของ
ฝนทตี่ กลงในภาชนะรูปทรงกระบอกแม้ว่าจะมีขนาดแตกต่างกนั กจ็ ะมีสัดสว่ นแปรผนั ตามปริมาตรฝนที่ตกใน
พื้นท่นี ้ัน จงึ ใชห้ นว่ ยวัดความยาวในการบอกปรมิ าณฝน)

2.3 นักเรยี นคิดวา่ ภาคใดของไทยทมี่ ีปรมิ าณฝนเฉลีย่ มากท่ีสุด (แนวการตอบ ภาคท่ี
มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยมากที่สุดในรอบปีคือ ภาคใต้ฝั่งตะวันตกเพราะเป็นพื้นที่ที่ติดกับทะเลทําให้ความชื้นใน
อากาศสูงและเกิดเมฆฝน ได้ง่าย รวมท้งั ไดร้ บั อทิ ธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซ่ึงเป็นมรสุมท่ีพัดพาความช้ืน
มาจากทะเลเข้าคลุมพ้ืนท่ี ทําให้ฝนตกหนัก ภาคทมี่ ปี ริมาณนำ้ ฝนเฉล่ียน้อยที่สดุ ในรอบปีคอื ภาคเหนือ เพราะ
เป็นพื้นที่อยู่ห่างทะเล ทําให้มีความชื้นในอากาศต่ำและเกิดเมฆฝนได้ยาก รวมทั้งได้รับอิทธิพลจากมรสุม
ตะวันตกเฉียงใต้น้อยจึงทําให้เกิดฝนน้อยกว่าภาคอื่น ๆถึงแม้ภาคเหนือจะได้รับอิทธิพลจากมรสุม
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือแตม่ รสุมดังกลา่ วเป็นมรสุมทพ่ี ัดพามาจากพ้ืนทวปี จงึ ไมไ่ ด้นําความช้ืนมาด้วย)

2.4 ปจั จัยใดบ้างทม่ี ีผลต่อปรมิ าณฝน (แนวคาํ ตอบ สภาพภมู ิประเทศและฤดูกาล)
2.5 พื้นที่ที่นักเรียนอาศัยอยู่มีปริมาณฝนมากที่สุดในช่วงเดือนใด เหตุใดจึงเป็น
เช่นนั้น (แนวคําตอบ ตอบตามภูมิภาคที่นักเรียนอาศัยอยู่ เช่น พื้นที่ที่อาศัยอยู่ คือภาคกลางของประเทศ มี
ปรมิ าณฝน มากทส่ี ุดในช่วงเดือนมิถุนายนเพราะไดอ้ ทิ ธพิ ลจากมรสมุ )
3) ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อตรวจสอบความรู้
ความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยครูจะเดนิ ไปถามนักเรยี นในแตล่ ะกลุ่ม
4) ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมในส่วนท่ีบกพร่องของประเด็นคำตอบ และเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละ
กล่มุ ต้ังประเดน็ คำถาม กลมุ่ ละ 1 ประเด็น เพอ่ื ใหค้ รชู ่วยอธบิ ายขอ้ สงสยั
ขน้ั ที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครใู หน้ กั เรียนดูสื่อออนไลน์เพิ่มเตมิ เก่ยี วกับการเกิดฝน เพื่อเปน็ การทบทวนและสร้างความเข้าใจมาก
ย่งิ ขึน้

ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=lBaT3fVPebY

323

2) ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนน้นั ได้ถามคำถาม โดยแตล่ ะกลุ่มให้ต้ังคำถามเกี่ยวกับเรื่องท่ีเรียนไป
อยา่ งน้อย 1 คำถามตอ่ 1 กล่มุ

3) ครูแนะนำแหลง่ เรยี นรเู้ พมิ่ เตมิ ทางอนิ เทอรเ์ นต็

ข้นั ท่ี 5 ขั้นประเมิน (Evaluation)

1) ครูประเมนิ จากการเขียนวัฏจักรการเกิดฝน
2) การตอบคำถามในชนั้ เรยี น

7. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลด้าน วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การผ่าน
ระดบั คุณภาพ
1 ดา้ นความรู้ พอใช้ ข้นึ ไป

1. นักเรยี นสามารถอธบิ าย - การตอบคำถามนกั เรียนในชนั้ เรยี น - แบบประเมนิ การตอบคำถาม ระดับคณุ ภาพ
พอใช้ ขึน้ ไป
การเกิดฝนได้
ระดบั คณุ ภาพ
2. ดา้ นกระบวนการ พอใช้ ขึ้นไป

1. นกั เรยี นสามารถเขยี นวัฏ - ตรวจการเขยี นวัฏจักรการเกดิ ฝน - แบบประเมนิ การทำงานกลุม่

จกั รการเกิดฝนได้

3. ด้านคุณลักษณะทพี่ ึง

ประสงค์ - การสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน - แบบประเมนิ การสังเกต
1. นกั เรยี นต้งั ใจเรียนและ

ม่งุ มั่นในการทำงานได้

8. สอื่ และแหลง่ เรียนรู้
8.1 สือ่ การสอน
- ส่ือการเรยี นรู้ PowerPoint เร่ือง การเกิดฝน
8.2 แหลง่ เรียนรู้
- กจิ กรรมการเขยี นวฏั จกั รการเกิดฝน
- สือ่ ออนไลน์
- หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ม.1

324

บนั ทกึ ผลการจดั การการเรียนรู้ท่ี 2.7

ผลการจัดการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แนวทางแก้ไข / แนวทางการพฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ....................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

ความเหน็ ของผู้นเิ ทศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ...............................................ผู้นเิ ทศ
(........................................................)

แบบประเมินความรู้ (K) 325
เรอ่ื ง การเกดิ ฝน
ระดับ ผลการ
รายการประเมิน คุณภาพ ประเมิน
8
เลขท่ี 44 1. การตอบ
ชอ่ื - สกุล คำถาม
2. เนื้อหา

รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมนิ ผา่ น...........................คน ไมผ่ ่าน...........................คน

ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

326

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

แบบประเมินทักษะกระบวนการ (P) 327
กิจกรรมการเขียนวัฏจักรการเกิดฝน
ระดบั ผลการ
รายการประเมนิ คณุ ภาพ ประเมิน
1. แหล่งข้อ ูมลที่
เลขที่ นำมา
ช่ือ - สกุล
2. การ ัจดกระทำ
้ขอ ูมล

3. การนำเสนอข้อ ูมล
รวมคะแนนที่ไ ้ด

่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้ึนไปผ่านเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผ่าน...........................คน ไม่ผา่ น...........................คน

ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

328

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
ทักษะสอื่ ความหมายข้อมูล

รายการประเมิน น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
นำขอ้ มูลมาจาก
1. แหล่งข้อมูลที่ 1 นำขอ้ มูลมาจากหลาย นำขอ้ มลู มาจากหลาย นำขอ้ มูลมาจากนอ้ ย นอ้ ยแหลง่ และ
นำมา นำมาน้อยรายการ
แหล่ง เช่น จากการ แหลง่ เชน่ จากการ แหลง่ และนำมาแหล่ง
2. การจดั กระทำ จดั กระทำข้อมลู
ข้อมูล สงั เกต การวดั การ สังเกต การวดั การ ละหลายรายการ ใหม่ โดยการ
เรยี งลำดับ แยก
ทดลอง และอ่นื ๆ ทดลอง และอ่นื ๆ แต่ ประเภท หรอื
คำนวณหาค่าใหม่
และนำมาแหลง่ ละ นำมาแหล่งละน้อย เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจงา่ ยขน้ึ
ไมช่ ัดเจน และไม่
หลายรายการ รายการ ตรงประเด็น
อธบิ ายเหตุผลใน
1 จัดกระทำข้อมลู ใหม่ จัดกระทำข้อมลู ใหม่ จดั กระทำข้อมูลใหม่ การเลอื กการ
นำเสนอไม่อยา่ ง
โดยการเรียงลำดบั โดยการเรยี งลำดบั โดยการเรียงลำดบั ชัดเจน และไมต่ รง
ประเด็น
แยกประเภท หรอื แยกประเภท หรอื แยกประเภท หรอื

คำนวณหาค่าใหม่ คำนวณหาค่าใหม่ คำนวณหาค่าใหม่

เพ่อื ให้เขา้ ใจง่ายขึน้ เพือ่ ใหเ้ ข้าใจง่ายขึน้ เพ่อื ให้เข้าใจงา่ ยขึน้

ชัดเจน และตรง ชดั เจน และตรง ชัดเจน และตรง

ประเด็นทุกครั้ง ประเดน็ บ่อยครง้ั ประเดน็ บางครงั้

3. การนำเสนอ 1 อธิบายเหตผุ ลในการ อธิบายเหตผุ ลในการ อธิบายเหตุผลในการ
ข้อมลู
เลอื กการนำเสนอได้ เลือกการนำเสนอได้ เลือกการนำเสนอได้

อยา่ งชดั เจน และตรง อย่างชัดเจน และตรง ชัดเจน และตรง

ประเด็นทกุ ครง้ั ประเดน็ บอ่ ยครงั้ ประเดน็ บางครง้ั

เกณฑ์การตัดสิน 11-12 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดีมาก
ช่วงคะแนน หมายถงึ ดี
8-10 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปรับปรงุ
ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปผ่านเกณฑ์
ชว่ งคะแนน
การผา่ นเกณฑ์

329

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ
ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

330

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

331

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

332

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะทักษะในการคดิ

ประเดน็ การ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
ด(ี 3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
1. มีความสามารถ
ในการคิดวเิ คราะห์ 1 เขา้ ใจและแสดงความ เขา้ ใจและแสดงความ เข้าใจและแสดงความ
คดิ เหน็ เกี่ยวกับทเ่ี รียน
และสะทอ้ นความรู้ คิดเห็นเก่ียวกับท่ีเรียน คิดเหน็ เกยี่ วกับท่ี
ความคิด ความรสู้ ึกได้ ดี
และสะท้อนความรู้ เรียน และสะท้อน
มาก
ความคิด ความรูส้ กึ ได้ ความร้คู วามคิด

ปานกลาง ความรสู้ กึ ไดน้ ้อย

2. ตัดสนิ ใจ 1 สามารถตง้ั คำถามและ สามารถต้งั คำถามและ ไม่สามารถต้ังคำถาม

แก้ปัญหาเกีย่ วกบั ตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ือง ตอบคำถามเกี่ยวกบั และตอบคำถาม

ตนเองได้ ทีเ่ รยี นได้อย่างถูกต้อง เรือ่ งท่เี รยี นไดอ้ ยา่ ง เกี่ยวกับเร่ืองทีเ่ รียน

คล่องแคล้ว แม่นยำ ถกู ตอ้ ง ได้เลย

3. ความสามารถ 1 มกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู และ มีการค้นควา้ ขอ้ มลู ไมม่ ีการค้นควา้ ขอ้ มลู
ในการสร้างองค์
ความรู้ ศึกษาหาความรู้จากแหล่ง และศกึ ษาหาความรู้ และศกึ ษาหาความรู้

เรียนร้อู ื่นเพ่มิ เติมทกุ ครง้ั จากแหล่งเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นร้อู ื่น

เพิม่ เตมิ บางครง้ั เพม่ิ เตมิ เลย

เกณฑ์การประเมนิ ดี
ชว่ งคะแนน 8-9 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ปรับปรุง
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ
ชว่ งคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ
เกณฑก์ ารผา่ น นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

333

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2.8

เรอ่ื ง การพยากรณอ์ ากาศ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว21102 เวลา 2 คาบ
รวม 27 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศ ภาคเรียนที่ 2

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 มาตรฐาน ว 3.2
โรงเรียนวดั ตะวนั เรือง
สาระที่ 2 ชื่อสาระ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

ชือ่ ผู้สอน นางสาวสชุ าดา วงษ์แดง

1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ลมฟา้ อากาศ เปน็ สภาวะของอากาศในเวลาหน่งึ ของพ้ืนท่ีหนง่ึ ทม่ี กี ารเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่

กบั องค์ประกอบลมฟา้ อากาศ ไดแ้ ก่ อุณหภมู อิ ากาศ ความกดอากาศ ลม ความชนื้ เมฆ และหยาดน้ำฟ้า โดย
หยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยในประเทศไทยได้แก่ ฝน องค์ประกอบ ลมฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขึ้นอยู่กับ
ปัจจยั ต่าง ๆ เชน่ ปรมิ าณรังสีจากดวงอาทิตย์และลักษณะพน้ื ผิวโลกส่งผลต่ออุณหภมู อิ ากาศ อุณหภูมิอากาศ
และปรมิ าณไอนำ้ ส่งผลต่อความช้ืน ความกดอากาศส่งผลต่อลม ความชืน้ และลมส่งผลตอ่ เมฆ

2. ตวั ช้วี ัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
2.1 ตวั ชว้ี ัด
- ม.1/4 อธิบายการพยากรณ์อากาศ และพยากรณ์ อากาศอย่างง่ายจากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้
- ม.1/5 ตระหนักถึงคุณค่าของการพยากรณ์อากาศโดยนำเสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนและ

การใช้ ประโยชน์จากคำพยากรณอ์ ากาศ
2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- นักเรียนสามารถบอกประโยชน์ของการพยากรณ์อากาศได้ (K)
- นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมท่ี 6.7 การพยากรณอ์ ากาศทําไดอ้ ยา่ งไรได้ (P)
- นักเรียนตง้ั ใจเรียนและมุ่งมนั่ ในการทำงานได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้
การพยากรณอ์ ากาศ คอื การคาดหมายสภาวะของลมฟา้ อากาศ รวมทั้งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่จี ะ

เกิดขนึ้ ในช่วงเวลาข้างหน้า

ภาพองคป์ ระกอบของการพยากรณ์อากาศ
การพยากรณอ์ ากาศแบ่งไดต้ ามระยะเวลาของการคาดหมาย ดงั น้ี

1. พยากรณอ์ ากาศระยะปจั จุบนั (Nowcast) พยากรณ์ในเวลาไม่เกิน 2 ชัว่ โมง

2. พยากรณ์อากาศระยะสัน้ มาก (Very short-range Forecast) พยากรณร์ ะหว่าง 3-12 ชัว่ โมง
3. พยากรณอ์ ากาศระยะสนั้ (Short-range Forecast) พยากรณร์ ะหว่าง 12-72 ชั่วโมง
4. พยากรณอ์ ากาศระยะปานกลาง (Medium-range Forecast) พยากรณ์ระหวา่ ง 3-10 วัน
5. พยากรณ์อากาศระยะนาน (Long-range Forecast) พยากรณต์ ง้ั แต่ 10 วนั ขึ้นไป

334

องค์ประกอบของการพยากรณ์อากาศ ในการท่จี ะพยากรณ์อากาศไดน้ ัน้ ต้องมอี งคป์ ระกอบท่สี ำคญั อยู่ 3
ประการ คือ

1. การตรวจอากาศ
2. การสอื่ สารขอ้ มูลข่าวอากาศ
3. การวิเคราะห์ลักษณะอากาศ

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
5.1 มุ่งม่ันในการทำงาน
5.2 มีวินยั
5.3 ใฝเ่ รียนรู้

6. การจัดกิจกรรมการเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
ข้นั ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement)
1) ครเู กริ่นถงึ เหตุการณ์ตา่ งๆท่เี กิดขนึ้ เช่น พายุ ลมแรง น้ำทว่ ม ฝนตกหนัก เปน็ ต้น เหตุการณ์ที่

กล่าวมาทงั้ หมดน้ีถือเป็นเหตุการณ์ที่สง่ ผลกระทบต่อสิง่ มีชวี ิตและสิ่งแวดล้อม ซึง่ สง่ ผลใหบ้ างเหตุการณ์ทำให้เกิด
การสญู เสยี ทัง้ ชีวติ และทรพั ยส์ ิน โดยใชส้ ่อื การเรยี นรู้ PowerPoint เรือ่ ง การพยากรณ์อากาศ ดังน้นั การที่จะช่วย
ใหม้ ีชีวติ รอดจากเหตุการณ์ดงั กล่าวท้งั หมดมาน้ี มสี ิ่งท่สี ามารถชว่ ยได้ เพอื่ สามารถรบั รู้และทันเหตุการณ์ก่อนนั่น
คอื การพยากรณอ์ ากาศ

2) สร้างความสนใจแก่นักเรียนโดยการนาํ วดี ิทัศน์หรือรปู ภาพหรอื เล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้
ประโยชน์ของการพยากรณ์อากาศในชีวิตประจําวันมาให้นักเรียนพิจารณาเช่น ในฤดูร้อนอากาศร้อนจัดกรม
อตุ ุนิยมวทิ ยาได้ออกประกาศเตอื นให้ประชาชนระวังภยั จากการเปลีย่ นแปลงอุณหภมู ิอากาศอย่างรวดเร็วจนอาจ
กอ่ ให้เกิดอันตรายจากการเปน็ ลมแดด คาํ พยากรณ์อากาศดังกลา่ วช่วยให้ประชาชนในพ้นื ที่ปลอดภยั จากน้ัน ครู
ถามคาํ ถามสร้างความสนใจว่าการพยากรณอ์ ากาศทําไดอ้ ยา่ งไร

3) นักเรียนทํากิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรียน แล้วนำเสนอผลการทํากิจกรรม หากพบว่า
นักเรียนยังทํากิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรียนไม่ถูกต้อง ครูควรทบทวนหรือแก้ไขความเข้าใจผิดของนักเรียน
เพื่อให้มคี วามรู้พื้นฐานทถี่ กู ตอ้ งและเพยี งพอทีจ่ ะเรยี นเร่ืองการพยากรณอ์ ากาศต่อไป

4) ตรวจสอบความรู้เดมิ ของนักเรียนเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศโดยใหท้ ํากิจกรรม รู้อะไรบ้าง
ก่อนเรียน นักเรยี นสามารถเขียนไดต้ ามความเข้าใจของนกั เรยี น ครูไม่เฉลยคําตอบและนำขอ้ มูลจากการตรวจสอบ
ความรู้เดิมของนักเรียนไปใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ว่าควรเน้นย้ำหรืออธิบายเรื่องใดเป็นพิเศษ เม่ือ
นกั เรียนเรยี นจบเรอื่ งนี้แลว้ นักเรยี นจะมีความร้คู วามเขา้ ใจครบถว้ นตามจุดประสงคข์ องบทเรียน

ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครใู หน้ กั เรียนนง่ั เปน็ กล่มุ ตามท่ีไดจ้ ัดไว้ โดยจะมสี มาชิกกลุ่มอยู่ประมาณ 4- 5 คนต่อกลุ่ม

เพ่ือจะได้ดำเนนิ กิจกรรมท่ี 6.7 การพยากรณ์อากาศทาํ ไดอ้ ย่างไร
2) จากน้ันครูให้นกั เรียนดำเนินกิจกรรมท่ี 6.7 การพยากรณ์อากาศทําได้อยา่ งไร
3) ในขณะทท่ี ำกิจกรรมครพู ยายามเดินตรวจดูการทำงานนักเรียนทุกๆกลมุ่ ขณะทำกิจกรรม

เพอื่ ใหก้ ิจกรรมนัน้ ดำเนินไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยและเพอื่ ให้งานนั้นเสร็จทนั เวลา

335

4) เมอ่ื แต่ละกลมุ่ ดำเนนิ กิจกรรมเรียบรอ้ ยแลว้ ครใู หน้ ักเรียนส่งตวั แทนออกมานำเสนอหน้า
ชั้นเรียน และในขณะที่กลุ่มต่างๆออกมานำเสนอนั้น หากกรณีที่กลุ่มของตัวเองยังไม่มีในประเด็นนั้นๆให้
นักเรียนเขียนเพื่อเติมลงในสมดุ ของนักเรยี นเอง

ขนั้ ที่ 3 ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
1) ครูถามนกั เรยี นเพ่อื กระตนุ้ นกั เรยี น โดยใชค้ ำถามดังน้ี
1.1 กิจกรรมนเ้ี ก่ยี วกบั เร่ืองอะไร (แนวการตอบ การพยากรณอ์ ากาศอยา่ งง่าย)
1.2 กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อย่างไร (แนวการตอบ นักเรียนตอบตามความคิดของ

ตนเอง)
1.3 วิธีดําเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (แนวการตอบ รวบรวมข้อมูล

องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพยากรณ์อากาศอย่างง่าย แล้วตรวจสอบความ
ถกู ต้องของคำพยากรณ์กับสิง่ ทีเ่ กิดข้ึนจรงิ )

1.4 กิจกรรมนี้ควรมีขั้นตอนในการทําเป็นพิเศษอย่างไร (แนวการตอบ รวบรวม
ขอ้ มูลองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศล่วงหน้าจากแหลง่ ต่างๆ และจดั กระทำข้อมูลให้อยู่ในรูปท่ีสามารถนําไป
ประมวลผลได้)

2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า การ
พยากรณ์อากาศมีขั้นตอนคร่าวๆคือการตรวจอากาศเพื่อรวบรวมข้อมูลองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศการ
สื่อสารเพื่อแลกเปลีย่ นข้อมูลให้ได้ครอบคลุม และการวิเคราะหข์ ้อมูลเพื่อคาดหมายลักษณะอากาศและสรา้ ง
คําพยากรณ์ โดยการพยากรณอ์ ากาศต้องอาศยั ข้อมูลที่ถูกต้อง จาํ นวนมากพอ และความร้ใู นการวิเคราะห์จึง
จะช่วยให้คําพยากรณม์ ีความแม่นยําและคําพยากรณ์อากาศมีประโยชน์ในการวางแผนการดํารงชีวิต เพื่อให้
ดาํ รงชีวิตไดอ้ ยา่ งสะดวก ปลอดภยั การพยากรณ์อากาศท่ีแมน่ ยํา อาศยั ข้อมูลองค์ประกอบของลมฟา้ อากาศท่ี
ครอบคลุม และความรู้พนื้ ฐานเพ่ือการวิเคราะห์แปลผล

3) ครอู ธิบายเพม่ิ เติมในสว่ นที่บกพร่องของประเด็นคำตอบ และเปดิ โอกาสให้นักเรียนแต่ละ
กลุ่มต้ังประเดน็ คำถาม กล่มุ ละ 1 ประเดน็ เพอ่ื ใหค้ รชู ว่ ยอธิบายขอ้ สงสยั

ขนั้ ท่ี 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครใู ห้นกั เรียนดูส่ือออนไลนเ์ พ่ิมเติมเกีย่ วกับข่าวพยากรณอ์ ากาศ เพ่ือเปน็ การทบทวนและ

สร้างความเขา้ ใจมากย่งิ ขึ้น

ทมี่ า : https://www.youtube.com/watch?v=KGhADPgJsY8
2) ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนนั้นได้ถามคำถาม โดยแต่ละกลุ่มให้ต้ังคำถามเกี่ยวกับเร่ืองท่ีเรียนไป
อยา่ งนอ้ ย 1 คำถามต่อ 1 กลุ่ม

336

3) ครูแนะนำแหลง่ เรียนรเู้ พ่ิมเติมทางอนิ เทอรเ์ น็ต

ขน้ั ที่ 5 ขัน้ ประเมนิ (Evaluation)
1) ครูประเมนิ จากการปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ี 6.7 การพยากรณอ์ ากาศทาํ ได้อยา่ งไร
2) การตอบคำถามในช้นั เรียน

7. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลด้าน วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การผา่ น
ระดับคณุ ภาพ
1 ด้านความรู้ พอใช้ ขน้ึ ไป

1. นกั เรียนสามารถบอก - การตอบคำถามนักเรียนในชั้นเรยี น - แบบประเมนิ การตอบคำถาม ระดบั คุณภาพ
ประโยชนข์ องการพยากรณ์ พอใช้ ขึ้นไป

อากาศได้ ระดบั คณุ ภาพ
พอใช้ ขน้ึ ไป
2. ดา้ นกระบวนการ

1. นกั เรยี นสามารถปฏิบัติ - ตรวจการปฏบิ ตั ิกิจกรรมที่ 6.7 การ - แบบประเมนิ การทำงานกลมุ่
กิจกรรมที่ 6.7 การ พยากรณอ์ ากาศทําไดอ้ ย่างไร
พยากรณอ์ ากาศทําได้

อย่างไรได้

3. ดา้ นคุณลักษณะท่ีพงึ

ประสงค์ - การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน - แบบประเมินการสงั เกต
1. นกั เรียนต้ังใจเรียนและ

มุ่งม่นั ในการทำงานได้

8. ส่อื และแหล่งเรยี นรู้
8.1 สื่อการสอน
- ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint เรื่อง การพยากรณอ์ ากาศ

8.2 แหล่งเรียนรู้
- กจิ กรรมที่ 6.7 การพยากรณอ์ ากาศทําได้อยา่ งไร

- สอื่ ออนไลน์
- หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน ม.1

337

บนั ทกึ ผลการจดั การการเรียนรู้ท่ี 2.8

ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปญั หาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แนวทางแกไ้ ข / แนวทางการพฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ....................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

ความเหน็ ของผู้นเิ ทศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ...............................................ผู้นเิ ทศ
(........................................................)

338

กิจกรรมที่ 6.7 การพยากรณ์อากาศทำได้อย่างไร

จดุ ประสงค์ 1. รวบรวมขอ้ มูลและวเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งองคป์ ระกอบของลมฟ้าอากาศเพื่อ
พยากรณ์อากาศอย่างงา่ ย

วัสดอุ ุปกรณ์ ขอ้ มูลองคป์ ระกอบของลมฟ้าอากาศ 7 วนั ( ครูเตรยี มให้ )

วธิ ีการ ให้ดำเนินกิจกรรมตามหนงั สอื เรียน
การเตรยี มตัวของครูเตรียม - ครเู ตรยี มข้อมูลองค์ประกอบของลมฟ้าอากาศล่วงหน้าไวใ้ ห้นกั เรยี น
ขอ้ เสนอแนะในการทำกิจกรรม - ครสู ามารถหาขอ้ มูลองค์ประกอบของลมฟา้ อากาศได้จาก เวบ็ ไซตข์ อง

กรมอุตนุ ยิ มวทิ ยาของประเทศไทย และองคก์ ารอุตุนิยมวิทยาโลก
- ครอู าจให้นักเรยี นทํากจิ กรรมทางเลอื กโดย นักเรียนตรวจวัด
องคป์ ระกอบของลมฟา้ อากาศในบริเวณโรงเรยี นล่วงหนา้ ก่อนการจดั
การเรียนการสอน และนาํ ข้อมลู ดังกล่าวมาใชใ้ นการพยากรณ์อากาศ

ตัวอย่างผลการทํากิจกรรม

339

340

แบบประเมินความรู้ (K) 341
เรือ่ ง การพยากรณ์อากาศ
รายการประเมนิ ระดบั ผลการ
คณุ ภาพ ประเมิน
44 8
เลขท่ี 1. การตอบ
ชอื่ - สกุล คำถาม
2. เนื้อหา

รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึน้ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมนิ ผ่าน...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

342

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

343

แบบประเมินทักษะกระบวนการ (P)
กิจกรรมท่ี 6.7 การพยากรณอ์ ากาศทำไดอ้ ยา่ งไร

รายการประเมนิ 1. ความสามารถใน ระดับ ผลการ
การออกแบบทดลอง คณุ ภาพ ประเมิน
เลขท่ี 2. การป ิฏบั ิตการ
ช่อื - สกุล
ทดลอง
3. การบันทึกผล
รวมคะแนนท่ีไ ้ด
่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมนิ ผ่าน...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

344

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
ทกั ษะการทดลอง

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดมี าก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. ความสามารถ 1 กำหนดวธิ กี ารอุปกรณ์ กำหนดวิธกี ารอุปกรณ์ กำหนดวธิ กี ารอปุ กรณ์ กำหนดวธิ กี าร

ในการออกแบบ สารเคมี อย่างถูกต้อง สารเคมี อย่างถกู ต้อง สารเคมี อย่างถกู ตอ้ ง อุปกรณ์ สารเคมี

การทดลอง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใชอ้ ยา่ ง ไม่ถูกตอ้ ง

ถูกวิธีทกุ ครง้ั ถกู วธิ ีบ่อยครัง้ ถกู วิธบี างคร้ัง ไม่เหมาะสม และ

ใช้อยา่ งไม่ถูกวิธี

2. การปฏิบตั ิการ 1 ทดลองตามขั้นตอนท่ี ทดลองตามข้ันตอนท่ี ทดลองตามขั้นตอนที่ การทดลองไม่

ทดลอง กำหนดไว้ทันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ ันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ นั เวลา ใช้ เปน็ ไปตามขัน้ ตอน

อุปกรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณ์และสารเคมี ไม่ทนั เวลา ใช้

อย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งถูกต้อง อย่างถูกต้อง อุปกรณแ์ ละ

คลอ่ งแคล่ว และ คลอ่ งแคล่ว และ คล่องแคลว่ และ สารเคมไี มถ่ ูกต้อง

เหมาะสมทุกครง้ั เหมาะสมบอ่ ยครั้ง เหมาะสมบางคร้งั ไม่คลอ่ ง และไม่

เหมาะสม

3. การบันทึกผล 1 บันทึกผลคล่องแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บนั ทึกผลไม่

ถกู ตอ้ งและออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ คลอ่ งแคล่ว ไม่คอ่ ย

ตารางบันทกึ ผลที่ ตารางบันทกึ ผลที่ ตารางบนั ทกึ ผลท่ี ถูกตอ้ ง และ

เหมาะสมกับขอ้ มูลทกุ เหมาะสมกับขอ้ มูล เหมาะสมกับข้อมูลเป็น ออกแบบตาราง

ครั้ง บอ่ ยครั้ง บางครงั้ บันทึกผลไม่

เหมาะสมกบั ขอ้ มูล

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ช่วงคะแนน 11-12 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ช่วงคะแนน 8-10 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถึง ดี

ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดบั คุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

345

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ
ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

346

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

347

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)


Click to View FlipBook Version