The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by w.suchada07, 2021-05-26 14:31:54

แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.1

แผนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ม.1

148

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ
ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

149

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

150

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

151

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะทักษะในการคดิ

ประเดน็ การ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
ด(ี 3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

1. มีความสามารถ 1 เขา้ ใจและแสดงความ เขา้ ใจและแสดงความ เข้าใจและแสดงความ
ในการคิดวเิ คราะห์
คดิ เหน็ เกี่ยวกับทเ่ี รียน คิดเห็นเก่ียวกับท่ีเรียน คิดเหน็ เกยี่ วกับท่ี
และสะทอ้ นความรู้
ความคิด ความรสู้ ึกได้ ดี และสะท้อนความรู้ เรียน และสะท้อน

มาก ความคิด ความรูส้ กึ ได้ ความร้คู วามคิด

ปานกลาง ความรสู้ กึ ไดน้ ้อย

2. ตัดสนิ ใจ 1 สามารถตง้ั คำถามและ สามารถต้งั คำถามและ ไม่สามารถต้ังคำถาม

แก้ปัญหาเกีย่ วกบั ตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ือง ตอบคำถามเกี่ยวกบั และตอบคำถาม

ตนเองได้ ทีเ่ รยี นได้อย่างถูกต้อง เรือ่ งท่เี รยี นไดอ้ ยา่ ง เกี่ยวกับเร่ืองทีเ่ รียน

คล่องแคล้ว แม่นยำ ถกู ตอ้ ง ได้เลย

3. ความสามารถ 1 มกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู และ มีการค้นควา้ ขอ้ มลู ไมม่ ีการค้นควา้ ขอ้ มลู
ในการสร้างองค์
ศึกษาหาความรู้จากแหล่ง และศกึ ษาหาความรู้ และศกึ ษาหาความรู้
ความรู้
เรียนร้อู ื่นเพ่มิ เติมทกุ ครง้ั จากแหล่งเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นร้อู ื่น

เพิม่ เตมิ บางครง้ั เพม่ิ เตมิ เลย

เกณฑ์การประเมนิ ดี
ชว่ งคะแนน 8-9 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ ปรับปรุง
ชว่ งคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ

เกณฑก์ ารผา่ น นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

152

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1.10

เร่อื ง การถา่ ยโอนความรอ้ นในชวี ิตประจำวัน รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว21102 เวลา 2 คาบ

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ พลังงานความร้อนกับการเปล่ียนแปลงของสสาร รวม 27 คาบ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2

สาระท่ี 2 ช่อื สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3

ชือ่ ผ้สู อน นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง โรงเรียนวดั ตะวนั เรอื ง

1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การถา่ ยโอนความร้อนมี 3 วิธคี อื การนําความรอ้ น การพาความรอ้ นและการแผร่ งั สีความรอ้ น การนาํ

ความรอ้ นเป็นการถา่ ยโอนความรอ้ นท่ีอาศยั ตวั กลาง โดยทอ่ี นภุ าคของตัวกลางไม่เคล่ือนที่ แต่ส่ันต่อเน่ืองกัน
ไป การพาความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนซึ่งอาศัยตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือแก๊สโดยที่อนุภาคของ
ตัวกลางเคลื่อนที่ไปพร้อมกับพาความร้อนไปด้วย การแผ่รังสีความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนที่ไม่ต้อง
อาศยั ตวั กลาง แต่ความรอ้ นสง่ ผ่านโดยคลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้

2. ตัวชวี้ ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 ตัวชวี้ ัด
- ม.1/5 เคราะห์สถานการณ์การถ่ายโอนความร้อนและคำนวณปริมาณความร้อนที่ถา่ ยโอน

ระหว่างสสารจนเกิดสมดลุ ความร้อนโดยใช้ สมการ Qสูญเสีย = Q ได้รับ
- ม.1/6 สร้างแบบจำลองที่อธิบายการถา่ ยโอนความร้อนโดยการนำความร้อน การพาความ

ร้อนการแผ่รงั สีความรอ้ น

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- นกั เรยี นสามารถอธิบายการถา่ ยโอนความรอ้ นในชวี ติ ประจำวันได้ (K)
- นกั เรียนสามารถปฏบิ ัตกิ ิจกรรมที่ 5.5 ความร้อนถา่ ยโอนผา่ นของแขง็ ไดอ้ ย่างไร P)
- นกั เรยี นเรียนเสร็จแล้วเกบ็ อปุ กรณเ์ ข้าที่เปน็ ระเบยี บได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้
เมอ่ื สสารไดร้ ับความรอ้ นจะขยายตัว โดยความรอ้ นทำให้อนุภาคเคลื่อนทีเ่ รว็ ขนึ้ และระยะห่างระหว่าง

อนุภาคมากขึ้น สสารจงึ ขยายตัว เชน่ การขยายตัวของแอลกอฮอล์ในหลอดเทอรม์ อมิเตอร์เมือ่ ได้รบั ความร้อน
หรืออากาศในบอลลูนหรือโคมลอยได้รับความร้อน อนุภาคของอากาศเกิดการขยายตัว จึงทำให้บอลลูนหรอื
โคมลอยมขี ยายใหญข่ ึน้

เมื่อสสารสูญเสียความร้อนจะหดตัว โดยความร้อนที่สูญเสียไปทำให้อนุภาคเคลื่อนที่ช้าลงและมี
ระยะห่างระหว่างอนุภาคลดลง เชน่ การเดินสายไฟจะตอ้ งไมข่ งึ สายใหต้ ึงหรอื หย่อนจนเกนิ ไป เน่อื งจากในฤดู
หนาวสายไฟจะสูญเสียความร้อนอนุภาคของสสารในสายไฟจะเกดิ หดตัว หากขึงสายไฟตึงเกินไปในตอนแรก
สายไฟอาจจะขาดได้

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด

153

5. คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์
5.1 มุ่งมั่นในการทำงาน
5.2 มวี ินัย
5.3 ใฝเ่ รยี นรู้

6. การจดั กิจกรรมการเรียนรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
ข้นั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1) กระต้นุ ความสนใจโดยใหน้ ักเรยี นดูภาพในหนงั สือเรียน วีดทิ ศั น์ หรอื สื่ออื่น ๆ ท่ีเกี่ยวกับ

การทำประมงในทะเลนำ้ ลึก พร้อมท้งั ให้นกั เรยี นอ่านเน้อื หานำบทจากนัน้ ครูและนักเรียนอภิปรายถึงวิธีการท่ี
ชาวประมงเกบ็ รกั ษาสัตว์ทะเลที่จับได้ใหย้ งั คงความสดไม่เน่าเสียจากแบคทีเรียที่เจรญิ เติบโตในอุณหภูมิสูงได้
อย่างไร การป้องกันการเน่าเสียของสัตว์ทะเลเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนความร้อนอย่างไร (แนวการตอบ
นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)

2) เชอ่ื มโยงการแสดงความคิดเห็นจากภาพนําบท โดยใชค้ าํ ถามจากหนงั สือเรียน และช้ีแจง
ให้นกั เรยี นทราบวา่ นักเรยี นจะคน้ หาคําตอบได้จากบทเรยี น

3) ให้นักเรียนอ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ของบท เพื่อให้นักเรียนทราบเป้าหมายและแนว
ทางการประเมินผลของบทเรยี นน้ี

4) นําอภปิ รายเพือ่ เชื่อมโยงไปสู่เร่ืองที่ 1 การถ่ายโอนความร้อนในชวี ิตประจำวัน โดยใช้สื่อ
การเรยี นรู้ PowerPoint เรือ่ งการถา่ ยโอนความร้อนในชวี ติ ประจำวนั

5) ครูให้นกั เรยี นสงั เกตภาพเพ่มิ เติมซงึ่ เป็นภาพของลูกชิ้น หมูปิง้ และอื่นๆทีผ่ า่ นกระบวนการ
ท่ีเรยี กวา่ การถา่ ยโอนความร้อน

ที่มา : https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/66196/-blo-sciphy-sci-
6) ครูถามเพื่อกระตุ้นความคิดของนักเรียน โดยถามนักเรียนว่า จากภาพลูกชิ้น หมูปิ้ง

ดงั กลา่ วเหลา่ น้ีสามารถสกุ ได้เพราะอะไร (แนวการตอบ เนื่องจากเปน็ การถา่ ยโอนความร้อน ซึ่งอยู่ในรูปของ
การนำความร้อนโดยมีเหล็กเปน็ ตัวนำความร้อน และมกี ารพาความร้อนโดยมอี ากาศเป็นนำพาความร้อนทำให้
อาหารสกุ ได้)

ขัน้ ที่ 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครใู ห้นกั เรยี นน่ังเปน็ กล่มุ ตามทไี่ ด้จัดไว้ โดยจะมีสมาชกิ กลุม่ อย่ปู ระมาณ 4- 5 คนต่อ

กลมุ่ เพ่อื จะไดด้ ำเนินกจิ กรรมที่ 5.5 ความรอ้ นถา่ ยโอนผ่านของแข็งได้อย่างไร
2) ก่อนการดำเนินกิจกรรม ครูให้นักเรียนอ่านวิธีการดำเนินกิจกรรมและให้นักเรียนอ่าน

จุดประสงคข์ องกจิ กรรม จากนัน้ ครูใช้คำถามเพอื่ อภปิ รายดงั นี้

154

2.1 กจิ กรรมน้เี ก่ียวกับเรอ่ื งอะไร (แนวการตอบ เร่อื งการถ่ายโอนความร้อนของแผน่
อะลมู เิ นยี ม)

2.2 การทำกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (แนวการตอบ เตรียมอุปกรณ์ตาม
ภาพในหนังสือเรียน แล้วทํากิจกรรมเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของชิ้นเทียนไขซ่ึงวางบนแผ่นอะลูมเิ นียมที่
ได้รับความรอ้ น จากนั้นสร้างแบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของของแข็งและสืบค้นข้อมูลแบบจําลองการ
ถ่ายโอนความร้อนของของแขง็ จากแหล่งทเี่ ช่อื ถอื ไดเ้ พือ่ นาํ มาปรบั ปรุงแบบจําลองของตนเอง และนําเสนอ)

3) เปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถามเก่ียวกบั ขั้นตอนการทำกิจกรรมทีน่ กั เรียนยังไมเ่ ข้าใจจากน้ัน
ครูและนกั เรียนร่วมอภิปรายเพื่อแก้ไขสิ่งที่นกั เรียนยังไม่เข้าใจเน้นย้ำเกี่ยวกับวิธีการบันทึกผลข้อควรระวังใน
การทำกิจกรรม โดยอาจใช้คาํ ถามดงั นี้

3.1 ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมนี้มีอะไรบ้าง (แนวการตอบ นักเรียนตอบตาม
ความเขา้ ใจ แต่ครคู วรกำชบั ใหน้ กั เรียนระวงั การใชม้ ือสัมผสั กับแผ่นอะลูมิเนียมทไ่ี ด้รบั ความรอ้ น)

3.2 นกั เรียนต้องสงั เกตหรอื รวบรวมขอ้ มลู อะไรบา้ ง และมวี ธิ ีบันทึกผลอย่างไร (แนว
การตอบ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของชิน้ เทียนไขเม่ือให้ความร้อนแกแ่ ผ่นอะลูมิเนียม บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นและ
บันทึกผลการสังเกตอยา่ งละเอยี ด หรืออาจใช้กล้องบันทกึ ภาพน่งิ หรอื ภาพเคลื่อนไหว)

4) ครูให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมที่ 5.5 เรื่องการถ่ายโอนความร้อนผ่านของแข็งได้อย่างไร
โดยให้นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมตามวิธีการในหนังสือเรียน สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในขณะที่
นักเรยี นกำลงั ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมครูพยายามเดินสังเกตการณ์ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม พรอ้ มเนน้ ย้ำถึงความปลอดภัย

5) ให้นักเรียน 1 - 2 กลุ่ม นําเสนอผลการสังเกต นักเรียนกลุ่มอื่นฟังการนำเสนอ เพื่อ
เปรียบเทียบผลการทำกิจกรรมร่วมกนั หากมขี ้อผดิ พลาดควรอภิปรายเพอ่ื แก้ไขใหถ้ ูกต้อง

ขั้นท่ี 3 ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
1) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายจากกิจกรรมท่ไี ด้ดำเนนิ ไปโดยใชค้ ำถามเพอื่ กระตุ้น

ความคิดของนกั เรยี นดงั ตอ่ ไปนี้
1.1 ให้นักเรยี นอภปิ รายเพื่อใหไ้ ดข้ อ้ สรุปว่า การนาํ ความร้อนเปน็ การถา่ ยโอนความ

ร้อนโดยการสั่นของอนุภาค เมื่ออนุภาคซึ่งเป็นตัวกลางได้รับความร้อน อนุภาคนั้นจะสั่นมากขึ้น มีอุณหภูมิ
เพิ่มขนึ้ และไปชนกับอนุภาคท่ีอยู่ข้างเคียง ทำให้อนุภาคทอ่ี ยู่ข้างเคียงส่นั มากขน้ึ และมอี ุณหภมู ิเพม่ิ ขน้ึ ตามไป
ด้วย ความร้อนจะถา่ ยโอนจากบรเิ วณทีอ่ ยู่ใกล้แหล่งพลังงานความร้อนไปยงั บริเวณท่หี ่างออกไป การนําความ
ร้อนเกิดขึ้นกับสสารได้ทกุ สถานะสสารแตล่ ะชนิดจะนําความร้อนไดแ้ ตกต่างกัน ดังนั้นเราสามารถนําความรู้
เกยี่ วกบั การนําความรอ้ นไปใชใ้ นการเลือกวัสดใุ หเ้ หมาะสมกับการใชง้ าน

1.2 ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายร่วมกันและวาดแบบจําลองการถ่ายโอนความ
ร้อนผา่ นของแข็ง โดยแสดงถึงการจดั เรียงอนภุ าคของของแขง็ เม่อื ได้รบั ความร้อน จากนน้ั นําเสนอแบบจําลอง
ทีส่ รา้ งขน้ึ ตามความคิดของตนเอง

2) ครูให้ตวั แทนกลมุ่ ของนักเรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมาแสดงความรสู้ ึกในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3) ครถู ามนักเรยี นตอ่ เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจให้ถกู ต้อง

3.1เมื่อให้ความร้อนแก่แผ่นอะลูมิเนียม การเปลี่ยนแปลงของชิ้นเทียนไขแต่ละ

ตำแหนง่ เหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร (แนวคาํ ตอบ เมื่อให้ความร้อนแก่แผ่นอะลูมเิ นียม ชนิ้ เทียนไขทวี่ างแต่

ละตำแหนง่ เปล่ียนแปลงแตกต่างกันโดยชิ้นเทยี นไขทีอ่ ยู่ใกล้เปลวเทยี นไขจะหลอมเหลวก่อนช้ินเทียนไขท่ีวาง

ในตำแหน่งห่างออกไป)

3.2 การถ่ายโอนความร้อนของแผ่นอะลูมิเนียมเป็นอย่างไร ทราบได้อย่างไร (แนว

คาํ ตอบ ความร้อนถา่ ยโอนจากบริเวณที่อยู่ใกลเ้ ปลวเทยี นไขซ่ึงมอี ุณหภมู ิสงู กวา่ ไปยงั บรเิ วณท่ีอย่หู า่ งจากเปลว

155
เทียนไขซึ่งมีอณุ หภูมิต่ำกว่า ทราบได้จากชิ้นเทียนไขทีบ่ ริเวณใกล้เปลวไฟจะหลอมเหลวก่อนแสดงว่าบริเวณ
ใกลเ้ ปลวเทยี นไขมีอณุ หภมู ิสงู กว่าบรเิ วณข้างเคียง ชิน้ เทียนไขทอ่ี ยหู่ ่างจากเปลวเทียนไขจะหลอมเหลวในเวลา
ต่อมา แสดงวา่ บรเิ วณท่หี ่างจากเปลวเทียนไขมอี ณุ หภูมิต่ำกว่า)

3.3 แบบจําลองการถ่ายโอนความร้อนของของแขง็ ท่ีสร้างขึ้นในตอนแรกเหมือนหรือ
แตกต่างจากแบบจาํ ลองทีป่ รับปรงุ แล้วอย่างไร (แนวคําตอบ นักเรยี นตอบตามความคิดของตนเอง โดยแนวการ
ตอบอาจเปน็ ดังนีแ้ ตกต่างกัน แบบจาํ ลองทสี่ รา้ งข้นึ ในตอนแรกไมไ่ ดแ้ สดงการส่ันของอนภุ าคของของแข็ง)

3.4 แบบจาํ ลองการถ่ายโอนความรอ้ นที่ปรับปรุงแลว้ อธิบายการถ่ายโอนความร้อน
ของของแข็งไดอ้ ยา่ งไร (แนวคาํ ตอบ อนุภาคของของแขง็ ท่ีไดร้ บั ความรอ้ นก่อนจะมพี ลงั งานมากขึน้ อนภุ าคจึง
สนั่ มากขึน้ อนภุ าคท่ีอยขู่ า้ งเคยี งจึงส่นั มากขึ้นตามไปดว้ ยในทุกทศิ ทาง)

ข้นั ท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครใู ห้นักเรยี นดูสอื่ ออนไลนเ์ พ่มิ เติมเก่ียวกับการถ่ายโอนความร้อนผ่านของแขง็ เพ่ือเป็น

การทบทวนและสร้างความเข้าใจมากย่งิ ขึ้น

ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=EQmIh8L4WcI
2) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนนั้นได้ถามคำถาม โดยแต่ละกลมุ่ ใหต้ ั้งคำถามเกยี่ วกับเรื่องที่เรียน
ไปอยา่ งน้อย 1 คำถามต่อ 1 กลุ่ม
3) ใหน้ กั เรยี นอา่ นเนื้อหาในหนงั สือเรียน เพอื่ ให้นักเรยี นเรียนรเู้ พ่ิมเติมเก่ยี วกับการถ่ายโอน
ความร้อนในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องการนำความร้อน ครูอาจให้นักเรียนสืบค้นจากแหล่งเรยี นรู้อื่น ๆ
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
4) ครูแนะนำแหล่งเรยี นร้เู พ่มิ เตมิ ทางอินเทอรเ์ น็ต

ขัน้ ท่ี 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation)
1) ครูประเมนิ จากกจิ กรรมท่ี 5.5 ความร้อนถา่ ยโอนผา่ นของแขง็ ได้อย่างไร การปฏบิ ัติ

กจิ กรรมกลุ่ม
2) การตอบคำถามในชัน้ เรียน

156

7. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลด้าน วธิ ีการวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การผา่ น
ระดบั คณุ ภาพ
1 ดา้ นความรู้ พอใช้ ข้นึ ไป

1. นกั เรียนสามารถอธิบาย - การตอบคำถามนกั เรยี นในช้ันเรยี น - แบบประเมนิ การตอบคำถาม ระดบั คุณภาพ
การถา่ ยโอนความรอ้ นใน พอใช้ ขนึ้ ไป

ชวี ิตประจำวันได้ ระดับคุณภาพ
พอใช้ ขึน้ ไป
2. ด้านกระบวนการ

1. นักเรียนสามารถปฏบิ ัติ - ตรวจสอบการปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ี 5.5

กจิ กรรมที่ 5.5 ความรอ้ น ความรอ้ นถ่ายโอนผา่ นของแข็งได้ - แบบประเมนิ การทำงานกลุ่ม

ถา่ ยโอนผ่านของแขง็ ได้ อย่างไร

อยา่ งไรได้

3. ด้านคณุ ลกั ษณะที่พึง

ประสงค์

1. นักเรยี นเรยี นเสรจ็ แล้ว - การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน - แบบประเมินการสงั เกต

เกบ็ อปุ กรณ์เขา้ ทเี่ ปน็

ระเบียบได้

8. สอื่ และแหล่งเรียนรู้
8.1 สอื่ การสอน
- สอื่ การเรียนรู้ PowerPoint เรอ่ื ง การถ่ายโอนความร้อนในชวี ติ ประจำวนั
8.2 แหล่งเรียนรู้
- กิจกรรมท่ี 5.5 ความรอ้ นถ่ายโอนผ่านของแขง็ ได้

- สอื่ ออนไลน์

- หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตรพ์ ื้นฐาน ม.1

157

บนั ทกึ ผลการจัดการการเรยี นร้ทู ่ี 1.10

ผลการจดั การเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แนวทางแกไ้ ข / แนวทางการพฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ....................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง)

ความเห็นของผู้นเิ ทศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ...............................................ผู้นิเทศ
(........................................................)

158

กจิ กรรมที่ 5.5 ความรอ้ นถ่ายโอนผา่ น
ของแขง็ ได้อยา่ งไร

จุดประสงค์ 1. สังเกตและอธบิ ายการถ่ายโอนความร้อนของแผน่ อะลมู เิ นยี ม
2. รวบรวมขอ้ มลู และสร้างแบบจําลองเพ่ืออธบิ ายการถา่ ยโอนความรอ้ นของของแขง็

วัสดอุ ปุ กรณ์ วสั ดทุ ่ใี ช้ต่อกลมุ่

รายการ ปรมิ าณ/กล่มุ
เทยี นไข 1 เลม่
เทยี นไขขนาดเลก็ 2 เล่ม
แผ่นอะลมู เิ นยี มขนาด 15 x 15 cm 1 แผ่น
วงเวียน 1 อัน
ไมข้ ดี ไฟ 1 กลกั
ที่กัน้ ลมของชดุ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ 1 อัน
ไมบ้ รรทัด 1 อนั
กรรไกร 1 เล่ม
มีดคัดเตอร์ 1 อัน
เครือ่ งบนั ทกึ ภาพเคลื่อนไหว (ถา้ ม)ี 1 เคร่ือง

วิธีการ ใหด้ ำเนนิ กิจกรรมตามหนังสือเรียน

การเตรียมตัวของครูเตรยี ม - นำ้ สีโดยผสมสผี สมอาหารกับน้ำเปล่า
- เตรียมลูกโปง่ โดยเปา่ ลกู โปง่ ให้ยดื ตวั เล็กน้อย

ขอ้ ควรระวัง - ระวังความร้อนจากเปลวเทยี นไข และความรอ้ นจากการสมั ผัสแผ่นโลหะ
ทีไ่ ด้รับความร้อนควรใช้ผ้าจับ หรอื รอให้แผ่นโลหะเยน็ ลงก่อนจึงจะสมั ผัสได้

ขอ้ เสนอแนะในการทำกิจกรรม - ถา้ ครไู ม่สามารถหาแผน่ อะลมู ิเนยี ม อาจใชแ้ ผน่ โลหะชนิดอนื่ ทดแทนได้
เช่น ทองแดงสังกะสหี รืออาจใช้แผน่ อะลูมิเนยี มฟอยล์สำหรบั ประกอบ
อาหาร แตม่ ขี ้อควรระวงั วา่ แผ่นอะลมู ิเนยี มฟอยลบ์ างและอาจตดิ ไฟได้
ถา้ ไม่ระมดั ระวงั

ตวั อยา่ งการดำเนนิ กิจกรรม

159

160

แบบประเมินความรู้ (K)
กจิ กรรมที่ 5.5 ความรอ้ นถ่ายโอนผา่ นของแขง็ ได้

รายการประเมนิ 1. การตอบ ระดับ ผลการ
เลขท่ี คำถาม คณุ ภาพ ประเมิน
2. เนื้อหา
ช่อื - สกุล
รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน
448

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมนิ ผ่าน...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน
(นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง)

161

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

162

แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ (P)
กิจกรรมท่ี 5.5 ความรอ้ นถ่ายโอนผา่ นของแขง็ ได้

รายการประเมนิ 1. ความสามารถใน ระดบั ผลการ
การออกแบบทดลอง คุณภาพ ประเมนิ
เลขที่ 2. การป ิฏบั ิตการ
ชอ่ื - สกุล
ทดลอง
3. การบันทึกผล
รวมคะแนนท่ีไ ้ด
่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

163

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
ทกั ษะการทดลอง

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดมี าก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. ความสามารถ 1 กำหนดวธิ กี ารอุปกรณ์ กำหนดวิธกี ารอุปกรณ์ กำหนดวธิ กี ารอปุ กรณ์ กำหนดวิธีการ

ในการออกแบบ สารเคมี อย่างถูกต้อง สารเคมี อย่างถกู ต้อง สารเคมี อย่างถกู ตอ้ ง อุปกรณ์ สารเคมี

การทดลอง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใชอ้ ยา่ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง

ถูกวิธีทกุ ครง้ั ถกู วธิ ีบ่อยครัง้ ถกู วิธบี างคร้ัง ไม่เหมาะสม และ

ใช้อยา่ งไม่ถูกวิธี

2. การปฏิบตั ิการ 1 ทดลองตามขน้ั ตอนท่ี ทดลองตามข้ันตอนท่ี ทดลองตามขั้นตอนที่ การทดลองไม่

ทดลอง กำหนดไว้ทันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ ันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ นั เวลา ใช้ เปน็ ไปตามขั้นตอน

อุปกรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณ์และสารเคมี ไม่ทนั เวลา ใช้

อย่างถกู ต้อง อยา่ งถูกต้อง อย่างถูกต้อง อปุ กรณแ์ ละ

คลอ่ งแคล่ว และ คลอ่ งแคล่ว และ คล่องแคลว่ และ สารเคมไี มถ่ ูกตอ้ ง

เหมาะสมทกุ ครง้ั เหมาะสมบอ่ ยครั้ง เหมาะสมบางคร้งั ไม่คล่อง และไม่

เหมาะสม

3. การบันทึกผล 1 บันทึกผลคล่องแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลไม่

ถกู ตอ้ งและออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ คลอ่ งแคล่ว ไม่ค่อย

ตารางบันทึกผลที่ ตารางบันทกึ ผลที่ ตารางบนั ทกึ ผลท่ี ถกู ตอ้ ง และ

เหมาะสมกับข้อมูลทกุ เหมาะสมกับขอ้ มูล เหมาะสมกับข้อมูลเป็น ออกแบบตาราง

ครั้ง บอ่ ยครั้ง บางครงั้ บนั ทกึ ผลไม่

เหมาะสมกบั ขอ้ มูล

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ช่วงคะแนน 11-12 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ช่วงคะแนน 8-10 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถึง ดี

ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดบั คุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

164

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ

ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

165

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

166

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

167

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะทักษะในการคดิ

ประเดน็ การ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
ด(ี 3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

1. มีความสามารถ 1 เขา้ ใจและแสดงความ เขา้ ใจและแสดงความ เข้าใจและแสดงความ
ในการคิดวเิ คราะห์
คดิ เหน็ เกี่ยวกับทเ่ี รียน คิดเห็นเก่ียวกับท่ีเรียน คิดเหน็ เกยี่ วกับท่ี
และสะทอ้ นความรู้
ความคิด ความรสู้ ึกได้ ดี และสะท้อนความรู้ เรียน และสะท้อน

มาก ความคิด ความรูส้ กึ ได้ ความร้คู วามคิด

ปานกลาง ความรสู้ กึ ไดน้ ้อย

2. ตัดสนิ ใจ 1 สามารถตง้ั คำถามและ สามารถต้งั คำถามและ ไม่สามารถต้ังคำถาม

แก้ปัญหาเกีย่ วกบั ตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ือง ตอบคำถามเกี่ยวกบั และตอบคำถาม

ตนเองได้ ทีเ่ รยี นได้อย่างถูกต้อง เรือ่ งท่เี รยี นไดอ้ ยา่ ง เกี่ยวกับเร่ืองทีเ่ รียน

คล่องแคล้ว แม่นยำ ถกู ตอ้ ง ได้เลย

3. ความสามารถ 1 มกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู และ มีการค้นควา้ ขอ้ มลู ไมม่ ีการค้นควา้ ขอ้ มลู
ในการสร้างองค์
ศึกษาหาความรู้จากแหล่ง และศกึ ษาหาความรู้ และศกึ ษาหาความรู้
ความรู้
เรียนร้อู ื่นเพ่มิ เติมทกุ ครง้ั จากแหล่งเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นร้อู ื่น

เพิม่ เตมิ บางครง้ั เพม่ิ เตมิ เลย

เกณฑ์การประเมนิ ดี
ชว่ งคะแนน 8-9 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ ปรับปรุง
ชว่ งคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ

เกณฑก์ ารผา่ น นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

168

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1.11

เรอ่ื ง การถ่ายโอนความร้อนของของเหลวและแก๊ส รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว21102 เวลา 2 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ พลังงานความรอ้ นกับการเปลีย่ นแปลงของสสาร รวม 27 คาบ

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2

สาระท่ี 2 ช่ือสาระ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3

ชอื่ ผสู้ อน นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง โรงเรียนวัดตะวนั เรอื ง

1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การถา่ ยโอนความร้อนมี 3 วธิ คี อื การนาํ ความร้อน การพาความร้อนและการแผร่ ังสีความร้อน การนาํ

ความร้อนเป็นการถา่ ยโอนความร้อนทีอ่ าศยั ตวั กลาง โดยทอี่ นุภาคของตัวกลางไม่เคล่อื นที่ แต่สั่นต่อเนื่องกัน
ไป การพาความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนซึ่งอาศัยตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือแก๊สโดยที่อนุภาคของ
ตัวกลางเคลื่อนที่ไปพร้อมกับพาความร้อนไปด้วย การแผ่รังสีความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนที่ไม่ต้อง
อาศยั ตัวกลาง แตค่ วามร้อนสง่ ผ่านโดยคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า

2. ตวั ช้ีวัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตวั ชว้ี ดั
- ม.1/5 เคราะห์สถานการณ์การถ่ายโอนความร้อนและคำนวณปริมาณความร้อนท่ีถา่ ยโอน

ระหวา่ งสสารจนเกิดสมดุลความร้อนโดยใช้ สมการ Qสญู เสยี = Q ได้รับ
- ม.1/6 สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบายการถ่ายโอนความร้อนโดยการนำความร้อน การพาความ

รอ้ นการแผ่รงั สีความรอ้ น

2.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้
- นักเรียนสามารถอธบิ ายการพาความร้อนได้ (K)
- นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิกิจกรรมที่ 5.6 การถา่ ยโอนความร้อนของของเหลวและแกส๊

เป็นอยา่ งไรได้ P)
- นักเรียนเรียนเสรจ็ แล้วเก็บอุปกรณ์เขา้ ที่เปน็ ระเบยี บได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้
การพาความร้อนเกิดขึ้นกับสสารที่เป็นของเหลวและแก๊ส ตัวกลางจะพาความร้อนไปพร้อมกับการ

เคลื่อนที่ของอนุภาคของตัวกลาง และความรู้เกี่ยวกับการพาความร้อนสามารถนําไปใช้อธิบายปรากฏการณ์
ตา่ งๆ ได้

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด

5. คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์
5.1 มุง่ มนั่ ในการทำงาน
5.2 มวี นิ ยั
5.3 ใฝ่เรยี นรู้

169

6. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E)
ข้ันท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement)
1) ครูทบทวนความร้เู ดมิ เรอ่ื งการถ่ายโอนความร้อน โดยครูใชค้ ำถามดังต่อไปน้ี
1.1 การถา่ ยโอนความร้อนมีกร่ี ปู แบบ (แนวการตอบ มี 3 รปู แบบ)
1.2 การถ่ายโอนความรอ้ นได้แกอ่ ะไรบ้าง (แนวการตอบ การนำความร้อน การพา

ความรอ้ น และการแผ่รังสีความรอ้ น)
1.3 ส่วนใดของภาชนะทำมาจากตัวนําความร้อนและส่วนใดทำมาจากฉนวนความ

ร้อน เพราะเหตุใด (แนวการตอบ ตัวภาชนะทํามาจากวัสดุที่เป็นตัวนําความร้อน เพราะต้องการให้นําความ
ร้อนจากเตาไปยังสิ่งที่อยู่ในภาชนะให้ร้อนเร็ว หูจับของภาชนะทำมาจากวัสดุที่เป็นฉนวนความร้อน เพ่ือ
ปอ้ งกันการนำความร้อนจากเตามายังมือ)

1.4 การนำความร้อน คืออะไร (แนวการตอบ การนําความร้อนเป็นการถ่ายโอน
ความร้อนโดยการสั่นของอนุภาค เมื่ออนุภาคซึ่งเป็นตัวกลางได้รับความร้อน อนุภาคนั้นจะสั่นมากขึ้น มี
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น และไปชนกับอนุภาคที่อยู่ข้างเคียง ทำให้อนุภาคที่อยู่ข้างเคียงสั่นมากขึ้น และมีอุณหภูมิ
เพ่มิ ข้ึนตามไปดว้ ย ความร้อนจะถ่ายโอนจากบรเิ วณท่อี ยู่ใกล้แหลง่ พลงั งานความรอ้ นไปยังบรเิ วณท่ีห่างออกไป
การนําความรอ้ นเกดิ ขึ้นกบั สสารได้ทกุ สถานะสสารแตล่ ะชนดิ จะนําความร้อนได้แตกตา่ งกัน ดังน้ันเราสามารถ
นําความรูเ้ ก่ียวกับการนําความรอ้ นไปใชใ้ นการเลอื กวัสดใุ ห้เหมาะสมกับการใชง้ าน)

2) เช่ือมโยงการแสดงความคิดเห็นจากภาพนําบท โดยใช้คําถามจากหนงั สอื เรยี น และชี้แจง
ใหน้ กั เรยี นทราบว่านกั เรยี นจะค้นหาคําตอบไดจ้ ากบทเรยี น

3) ให้นักเรียนอ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ของบท เพื่อให้นักเรียนทราบเป้าหมายและแนว
ทางการประเมินผลของบทเรยี นนี้

4) นาํ อภปิ รายเพ่อื เชื่อมโยงไปสู่เร่อื งการถา่ ยโอนความรอ้ นของของเหลวและแกส๊
5) ครใู ห้นักเรยี นสังเกตภาพเพมิ่ เติมซ่ึงเป็นภาพของลมบก ลมทะเล ซ่งึ เป็นการเคล่อื นที่ของ
อากาศโดยผ่านกระบวนการพาความร้อน

ทีม่ า : https://sites.google.com/a/ngwk.ac.th/sciencebykrujib/science1.

170

ขน้ั ที่ 2 ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration)
1) ครูให้นักเรยี นนัง่ เปน็ กลมุ่ ตามทไี่ ดจ้ ดั ไว้ โดยจะมีสมาชกิ กล่มุ อยปู่ ระมาณ 4- 5 คนต่อ

กลมุ่ เพอ่ื จะไดด้ ำเนินกจิ กรรมที่ 5.6 การถ่ายโอนความรอ้ นของของเหลวและแก๊สเป็นอย่างไร
2) ก่อนการดำเนินกิจกรรม ครูให้นักเรียนอ่านวิธีการดำเนินกิจกรรมและให้นักเรียนอ่าน

จุดประสงคข์ องกิจกรรม จากนน้ั ครใู ช้คำถามเพือ่ อภิปรายดังนี้
2.1 กจิ กรรมนเี้ ก่ียวกบั เรื่องอะไร (แนวการตอบ เรอ่ื งการถ่ายโอนความร้อนของน้ำ

และอากาศ)
2.2 การทำกิจกรรมมขี ้นั ตอนโดยสรุปอย่างไร (แนวการตอบ ตอนที่ 1 ใหค้ วามร้อน

แกน่ ้ำ สังเกตการเปลีย่ นแปลงของเมล็ดแมงลกั ในน้ำ วัดอณุ หภมู ขิ องนำ้ เมอ่ื ได้รับความรอ้ น สร้างแบบจําลอง
การถ่ายโอนความรอ้ นของของเหลวตามความคิดของกลุ่มและสืบค้นข้อมลู การถ่ายโอนความรอ้ นของของเหลว
จากแหล่งที่เชื่อถือได้แล้วนํามาปรับปรุงแบบจําลองของตนเอง นําเสนอ ตอนที่2 แขวนพู่กระดาษให้สูงจาก
เทียนไข เมื่อจุดเทียนไขแล้ววดั อุณหภูมิของอากาศ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของพู่กระดาษ สร้างแบบจําลอง
การถ่ายโอนความร้อนของแก๊สตามความคิดของกลุ่ม และสืบค้นข้อมูลการถ่ายโอนความร้อนของแก๊สจาก
แหลง่ ที่เช่ือถือไดแ้ ลว้ นาํ มาปรับปรงุ แบบจาํ ลองของตนเอง นาํ เสนอ)

2.3 ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง (แนวการตอบ ควรระวังการใช้ชุด
ตะเกยี งแอลกอฮอล์และการจุดเทยี นไข)

3) เปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามเก่ียวกบั ข้ันตอนการทำกิจกรรมท่ีนกั เรยี นยงั ไม่เข้าใจจากน้ัน
ครูและนกั เรยี นร่วมอภิปรายเพื่อแกไ้ ขสิ่งที่นกั เรียนยังไมเ่ ข้าใจเนน้ ย้ำเก่ียวกับวธิ กี ารบันทึกผลข้อควรระวังใน
การทำกจิ กรรม

4) ครูให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมที่ 5.6 การถ่ายโอนความร้อนของของเหลวและแก๊สเป็น
อย่างไร โดยให้นกั เรียนรว่ มกันทำกิจกรรมตามวิธีการในหนงั สอื เรยี น สังเกตการเปลยี่ นแปลงทเี่ กิดขน้ึ ในขณะ
ที่นกั เรียนกำลังปฏิบตั กิ จิ กรรมครพู ยายามเดนิ สังเกตการณป์ ฏิบตั ิกิจกรรม พรอ้ มเน้นย้ำถึงความปลอดภยั

5) ให้นักเรียน 1 - 2 กลุ่ม นําเสนอผลการสังเกต นักเรียนกลุ่มอื่นฟังการนำเสนอ เพ่ือ
เปรยี บเทยี บผลการทำกิจกรรมร่วมกัน หากมีขอ้ ผิดพลาดควรอภิปรายเพอ่ื แก้ไขใหถ้ กู ตอ้ ง

ขั้นท่ี 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
1) ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายจากกจิ กรรมท่ไี ดด้ ำเนินไปโดยใช้คำถามเพื่อกระตุ้น

ความคิดของนกั เรยี นดังตอ่ ไปน้ี
1.1 ในตอนที่1 นักเรียนต้องติดต้ังเทอร์มอมิเตอร์วัดอุณหภูมิของน้ำท่ีตำแหน่ง

ใดบา้ ง (แนวการตอบ จุม่ กระเปาะเทอรม์ อมิเตอรล์ งในบรเิ วณใกล้กับก้นบกี เกอรแ์ ละจ่มุ อีกอนั ลงในบริเวณใกล้
กบั ผิวนำ้ ใหก้ ระเปาะเทอร์มอมิเตอรจ์ มใตผ้ วิ นำ้ )

1.2 ในตอนที่1สิ่งที่ต้องสังเกตและวัดมีอะไรบ้าง (แนวการตอบ สังเกตสิ่งที่เกิด
ขึ้นกับเมล็ดแมงลักและวัดอุณหภูมิของน้ำบริเวณใกล้กับก้นบีกเกอรแ์ ละบริเวณใกล้ผิวน้ำ ทุกๆ 30 วินาทีจน
น้ำเดอื ด)

1.3 ในตอนที่2 นักเรียนต้องติดต้ังเทอร์มอมิเตอรว์ ัดอุณหภูมิของอากาศทีต่ ำแหน่ง
ใดบา้ ง (แนวการตอบ จัดเทอร์มอมเิ ตอรใ์ หก้ ระเปาะอยูบ่ รเิ วณปลายบนและปลายลา่ งของพูก่ ระดาษ)

1.4 ในตอนที่2 สิ่งที่ต้องสังเกตและวัดมีอะไรบ้าง (แนวการตอบ สังเกตสิ่งที่เกิด
ขน้ึ กับพูก่ ระดาษ และวัดอุณหภมู ขิ องอากาศท่ีตำแหนง่ ปลายบนและปลายล่างของพกู่ ระดาษ ทกุ ๆ 30 วินาที
เปน็ เวลา 3 นาที)

171

2) ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มอภิปรายร่วมกนั และวาดแบบจำลองการถ่ายโอนความร้อนของ
ของเหลวโดยแสดงถึงการจัดเรียงอนภุ าคของของเหลวเมอ่ื ได้รับความร้อน จากนนั้ นักเรยี นนาํ เสนอแบบจาํ ลอง
ทสี่ ร้างขนึ้ ตามความคิดของกลุม่

3) ครูให้นักเรียนอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า การพาความร้อนเกิดขึ้นกับสสารที่เป็น
ของเหลวและแก๊ส ตัวกลางจะพาความร้อนไปพร้อมกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคของตัวกลาง และความรู้
เกยี่ วกบั การพาความร้อนสามารถนําไปใชอ้ ธบิ ายปรากฏการณ์ตา่ งๆ ได้

4) ครูให้ตวั แทนกล่มุ ของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมาแสดงความรสู้ กึ ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม
5) ครูถามนักเรียนตอ่ เพือ่ สรา้ งความเข้าใจให้ถูกต้อง

5.1 การพาความร้อนแตกต่างจากการนําความร้อนหรือไม่ อย่างไร (แนวคําตอบ
การพาความร้อนต่างจากการนำความร้อน การพาความร้อนเกิดข้ึนโดยตวั กลางที่เคล่ือนทไ่ี ปพรอ้ มกบั พาความ
ร้อนไปด้วยส่วนการนําความร้อน ตัวกลางจะไม่เคลื่อนที่แต่ความร้อนถูกส่งผ่านโดยการสั่นของอนุภาค โดย
อนภุ าคไมเ่ คลอ่ื นท่ี)

5.2 เม่อื เกดิ เหตกุ ารณ์ไฟไหม้ในอาคาร ผูป้ ระสบภัยควรหลีกเล่ียงการสูดดมควันไฟ
อย่างไร เพราะเหตุใด (แนวคําตอบ ผู้ประสบภัยควรหมอบกับพื้นเพื่อหลีกเล่ียงการสูดดมควันไฟ เพราะเม่ือ
อากาศได้รับความร้อนจากเปลวไฟ อากาศจะขยายตัวแล้วลอยสูงขึ้น พร้อมกับพาควันไฟลอยขึ้นไปด้วย
ผู้ประสบภัยที่หมอบกับพื้นจึงปลอดภยั จากการสูดดมควันไฟ เนื่องจากควันไฟเป็นอันตรายหากสูดดมเข้าไป
เปน็ จำนวนมาก)

ข้ันท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครใู ห้นกั เรยี นดูสอ่ื ออนไลนเ์ พ่ิมเติมเก่ียวกบั การถา่ ยโอนความรอ้ นของของเหลวและแกส๊

เพอื่ เปน็ การทบทวนและสรา้ งความเข้าใจมากยง่ิ ขน้ึ

ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=CVVSYUC-oWs
2) ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนน้นั ไดถ้ ามคำถาม โดยแตล่ ะกลุ่มใหต้ ้งั คำถามเก่ยี วกับเร่ืองที่เรียน
ไปอยา่ งน้อย 1 คำถามต่อ 1 กลมุ่
3) ครแู นะนำแหลง่ เรยี นรเู้ พิม่ เตมิ ทางอนิ เทอรเ์ น็ต

172

ข้นั ท่ี 5 ขัน้ ประเมนิ (Evaluation)
1) ครูประเมินจากกิจกรรมที่ 5.6 การถา่ ยโอนความร้อนของของเหลวและแกส๊ เปน็ อย่างไร

การปฏิบตั ิกิจกรรมกลุ่ม

2) การตอบคำถามในชน้ั เรียน

7. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลดา้ น วธิ ีการวัด เครื่องมือวดั เกณฑ์การผา่ น
ระดับคณุ ภาพ
1 ดา้ นความรู้ พอใช้ ขน้ึ ไป

1. นกั เรยี นสามารถอธบิ าย - การตอบคำถามนกั เรียนในชนั้ เรียน - แบบประเมินการตอบคำถาม ระดบั คุณภาพ
พอใช้ ขึ้นไป
การพาความร้อนได้
ระดบั คณุ ภาพ
2. ด้านกระบวนการ พอใช้ ขน้ึ ไป

1. นักเรียนสามารถปฏบิ ัติ - ตรวจสอบการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมที่ 5.6

กจิ กรรมท่ี 5.6 การถา่ ยโอน การถา่ ยโอนความรอ้ นของของเหลว - แบบประเมนิ การทำงานกลุม่

ความร้อนของของเหลวและ และแกส๊ เปน็ อยา่ งไร

แก๊สเปน็ อย่างไรได้

3. ดา้ นคุณลกั ษณะทพ่ี ึง

ประสงค์

1. นกั เรยี นเรยี นเสร็จแล้ว - การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน - แบบประเมินการสังเกต

เก็บอปุ กรณ์เข้าท่ีเปน็

ระเบยี บได้

8. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอื่ การสอน
-
8.2 แหลง่ เรยี นรู้
- กิจกรรมท่ี 5.6 การถา่ ยโอนความรอ้ นของของเหลวและแกส๊ เปน็ อย่างไร

- สื่อออนไลน์

- หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์พ้นื ฐาน ม.1

173

บนั ทกึ ผลการจัดการการเรยี นร้ทู ่ี 1.11

ผลการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แนวทางแกไ้ ข / แนวทางการพฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ....................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง)

ความเห็นของผู้นเิ ทศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ...............................................ผู้นิเทศ
(........................................................)

174

กิจกรรมที่ 5.6 การถา่ ยโอนความร้อน
ของของเหลวและแก๊สเป็นอย่างไรได้

จุดประสงค์ 1. สงั เกตและอธบิ ายการถ่ายโอนความร้อนของนำ้ และอากาศ
2. รวบรวมข้อมูลและสร้างแบบจําลองเพอ่ื อธบิ ายการถ่ายโอนความรอ้ นของของเหลวและแก๊ส

วสั ดุอุปกรณ์ วสั ดุทีใ่ ช้ตอ่ กลุ่ม

รายการ ปริมาณ/กลมุ่
บกี เกอรข์ นาด 250 cm3 1 ใบ
ชดุ ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ชุด
เทอร์มอมิเตอร์0 - 100 °C 2 อนั
ขาต้งั พร้อมทจี่ บั 2 ชดุ
เมลด็ แมงลัก
น้ำ 10 เมลด็
ไมข้ ีดไฟ 200 cm3
นาฬิกาจับเวลา 1 กลัก
กระดาษลอกลาย 1 เรือน
เส้นดา้ ยยาว 30 cm 1 แผน่
กรรไกร 1 เสน้
เทียนไข 1 เลม่
เครอ่ื งบันทกึ ภาพเคล่อื นไหว (ถา้ มี) 1 เล่ม
1 เคร่ือง

175

วธิ ีการ ใหด้ ำเนินกจิ กรรมตามหนังสือเรียน

การเตรียมตัวของครูเตรียม - นำเมล็ดแมงลกั แช่นำ้ 10 นาทเี พอ่ื ใหพ้ องตวั เต็มทกี่ อ่ นท่จี ะแบง่ ให้

นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ใชใ้ นการทำกจิ กรรม

- เตรยี มผ้าขนหนหู รือถงุ มือจับของรอ้ นไว้ใหน้ ักเรยี นจับบกี เกอร์ทบ่ี รรจุน้ำ

ร้อนจัด

- ควรตรวจสอบเทอรม์ อมิเตอรใ์ หอ้ ยู่ในสภาพพร้อมใชง้ าน เช่น

แอลกอฮอล์ในกระเปาะเทอร์มอมเิ ตอรไ์ ม่ขาดเปน็ ช่วง เทอรม์ อมิเตอร์

แต่ละอนั อ่านค่าอณุ หภูมิได้ใกล้เคยี งกนั

ข้อควรระวัง - ครูควรกําชับใหน้ กั เรียนระวงั ความรอ้ นจากตะเกยี งแอลกอฮอลแ์ ละความ

รอ้ นจากการสัมผัสบกี เกอรท์ บี่ รรจุน้ำทีร่ ้อนจดั แนะนําใหใ้ ชผ้ ้าหรือถุงมือกนั

ความรอ้ นเพื่อจบั บกี เกอร์ทีร่ อ้ นนอกจากนค้ี รคู วรกําชบั ใหน้ ักเรียนจบั บีกเกอร์

ด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าหากหล่นแตกยอ่ มเกดิ อนั ตรายได้

ขอ้ เสนอแนะในการทำกจิ กรรม - การทาํ กิจกรรมตอนที่ 1 ควรแนะนําใหน้ ักเรยี นวางบกี เกอรท์ ี่บรรจุน้ำบน

ตะแกรงของชดุ ตะเกยี งแอลกอฮอล์จากน้ันค่อย ๆ หยอ่ นเมลด็ แมงลกั ที่พอง

แล้วลงไปให้จมที่ก้นบกี เกอร์ตดิ ตัง้ เทอรม์ อมเิ ตอร์กบั ที่จบั และขาตั้ง 2 ชดุ

โดยจัดกระเปาะเทอร์มอมเิ ตอร์อันแรกใหอ้ ยู่ใกลก้ ับกน้ บกี เกอร์และใกลก้ บั

ตำแหนง่ ของเปลวไฟ สว่ นกระเปาะเทอรม์ อมิเตอรอ์ ันทสี่ องจดั ใหอ้ ยู่ใต้ผวิ นำ้

ลงไปเลก็ นอ้ ย โดยกระเปาะเทอรม์ อมเิ ตอรท์ ัง้ สองตอ้ งไม่แตะก้นหรอื ขอบ

ดา้ นขา้ งของบีกเกอร์

- ครอู าจใหน้ กั เรียนใชเ้ ครอ่ื งบนั ทกึ ภาพนิ่ง หรือภาพเคลอื่ นไหวโดยใช้

โทรศพั ทเ์ คล่ือนทีเ่ พื่อช่วยสงั เกตผลการเปล่ียนแปลงทเี่ กดิ ข้ึนกับเมล็ด

แมงลกั และอาจนําภาพมาใชป้ ระกอบการอธิบายในการนาํ เสนอผลการ

ทำกจิ กรรมของนักเรียนด้วย

-การทำกิจกรรมตอนที2่ นกั เรียนตัดกระดาษลอกลายเปน็ ริว้ เลก็ ๆแล้วม้วน

ใหเ้ ป็นพู่ จากนน้ั นําไปแขวนให้สงู จากเปลวเทยี นไขประมาณ 20 - 25 ซ.ม.

เพราะถา้ แขวนใกล้กับเปลวเทียนไขมากเกนิ ไป จะทำใหก้ ระดาษลอกลาย

ลุกติดไฟ จนเกดิ อนั ตรายได้

- ควรจัดอปุ กรณ์ในตอนที่ 2 ให้ห่างจากบริเวณที่มลี มพดั เช่น หนา้ ตา่ ง

ประตูหรือพดั ลม

176

ตัวอย่างการดำเนินกจิ กรรม

177

ตัวอย่างการดำเนินกจิ กรรม

178

แบบประเมินความรู้ (K)
กิจกรรมท่ี 5.6 การถ่ายโอนความรอ้ นของของเหลวและแก๊สเปน็ อย่างไร

รายการประเมิน 1. การตอบ ระดับ ผลการ
เลขที่ คำถาม คุณภาพ ประเมนิ
2. เนื้อหา
ชอ่ื - สกุล
รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน
448

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผ่าน...........................คน ไมผ่ ่าน...........................คน

ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ
(นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง)

179

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

180

แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ (P)
กจิ กรรมท่ี 5.6 การถ่ายโอนความร้อนของของเหลวและแก๊สเปน็ อยา่ งไร

รายการประเมิน 1. ความสามารถใน ระดับ ผลการ
เลขที่ การออกแบบทดลอง คณุ ภาพ ประเมิน
2. การป ิฏบั ิตการ
ชือ่ - สกุล
ทดลอง
3. การบันทึกผล
รวมคะแนนท่ีไ ้ด
่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

181

เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะกระบวนการ (P)
ทักษะการทดลอง

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดมี าก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. ความสามารถ 1 กำหนดวธิ กี ารอุปกรณ์ กำหนดวิธกี ารอุปกรณ์ กำหนดวธิ กี ารอปุ กรณ์ กำหนดวิธีการ

ในการออกแบบ สารเคมี อย่างถูกตอ้ ง สารเคมี อย่างถกู ต้อง สารเคมี อย่างถกู ตอ้ ง อุปกรณ์ สารเคมี

การทดลอง เหมาะสม และใชอ้ ย่าง เหมาะสม และใช้อย่าง เหมาะสม และใช้อยา่ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง

ถูกวิธีทกุ ครง้ั ถูกวธิ ีบ่อยครัง้ ถกู วิธบี างคร้ัง ไม่เหมาะสม และ

ใช้อยา่ งไม่ถูกวิธี

2. การปฏิบตั ิการ 1 ทดลองตามขน้ั ตอนท่ี ทดลองตามขนั้ ตอนท่ี ทดลองตามขั้นตอนที่ การทดลองไม่

ทดลอง กำหนดไว้ทันเวลา ใช้ กำหนดไว้ทันเวลา ใช้ กำหนดไวท้ นั เวลา ใช้ เปน็ ไปตามขั้นตอน

อุปกรณแ์ ละสารเคมี อปุ กรณแ์ ละสารเคมี อุปกรณ์และสารเคมี ไม่ทนั เวลา ใช้

อย่างถกู ต้อง อย่างถูกตอ้ ง อย่างถูกต้อง อปุ กรณแ์ ละ

คลอ่ งแคล่ว และ คล่องแคล่ว และ คล่องแคลว่ และ สารเคมไี มถ่ ูกตอ้ ง

เหมาะสมทกุ ครัง้ เหมาะสมบ่อยครั้ง เหมาะสมบางคร้งั ไม่คล่อง และไม่

เหมาะสม

3. การบันทึกผล 1 บันทึกผลคล่องแคล่ว บันทึกผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลคลอ่ งแคล่ว บันทกึ ผลไม่

ถกู ตอ้ งและออกแบบ ถูกต้อง และออกแบบ ถกู ตอ้ ง และออกแบบ คลอ่ งแคล่ว ไม่ค่อย

ตารางบันทึกผลท่ี ตารางบันทกึ ผลที่ ตารางบนั ทกึ ผลท่ี ถกู ตอ้ ง และ

เหมาะสมกับข้อมูลทุก เหมาะสมกับขอ้ มูล เหมาะสมกับข้อมูลเป็น ออกแบบตาราง

ครั้ง บอ่ ยครงั้ บางครงั้ บนั ทกึ ผลไม่

เหมาะสมกบั ขอ้ มูล

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ช่วงคะแนน 11-12 คะแนน ระดบั คุณภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

ช่วงคะแนน 8-10 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถึง ดี

ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้

ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผ่านเกณฑ์

182

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ

ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

183

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

184

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

185

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะทักษะในการคดิ

ประเดน็ การ น้ำหนัก ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
ด(ี 3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

1. มีความสามารถ 1 เขา้ ใจและแสดงความ เขา้ ใจและแสดงความ เข้าใจและแสดงความ
ในการคิดวเิ คราะห์
คดิ เหน็ เกี่ยวกับทเ่ี รียน คิดเห็นเก่ียวกับท่ีเรียน คิดเหน็ เกยี่ วกับท่ี
และสะทอ้ นความรู้
และสะท้อนความรู้ เรียน และสะท้อน
ความคิด ความรสู้ ึกได้ ดี
มาก ความคิด ความรูส้ กึ ได้ ความร้คู วามคิด

ปานกลาง ความรสู้ กึ ไดน้ ้อย

2. ตัดสนิ ใจ 1 สามารถตง้ั คำถามและ สามารถต้งั คำถามและ ไม่สามารถต้ังคำถาม

แก้ปัญหาเกีย่ วกบั ตอบคำถามเก่ียวกบั เร่ือง ตอบคำถามเกี่ยวกบั และตอบคำถาม

ตนเองได้ ทีเ่ รยี นได้อย่างถูกต้อง เรือ่ งท่เี รยี นไดอ้ ยา่ ง เกี่ยวกับเร่ืองทีเ่ รียน

คล่องแคล้ว แม่นยำ ถกู ตอ้ ง ได้เลย

3. ความสามารถ 1 มกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู และ มีการค้นควา้ ขอ้ มลู ไมม่ ีการค้นควา้ ขอ้ มลู
ในการสร้างองค์
ความรู้ ศึกษาหาความรู้จากแหล่ง และศกึ ษาหาความรู้ และศกึ ษาหาความรู้

เรียนร้อู ื่นเพ่มิ เติมทกุ ครง้ั จากแหล่งเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นร้อู ื่น

เพิม่ เตมิ บางครง้ั เพม่ิ เตมิ เลย

เกณฑ์การประเมนิ ดี
ชว่ งคะแนน 8-9 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 2 หมายถงึ ปรับปรุง
ชว่ งคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 หมายถงึ

เกณฑก์ ารผา่ น นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

186

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1.12

เรื่อง การถา่ ยโอนความรอ้ นโดยไมอ่ าศัยตัวกลาง รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว21102 เวลา 2 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ พลังงานความร้อนกบั การเปลีย่ นแปลงของสสาร รวม 27 คาบ

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2

สาระท่ี 2 ชอ่ื สาระ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3

ชอ่ื ผู้สอน นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง โรงเรียนวัดตะวนั เรือง

1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การถ่ายโอนความร้อนมี 3 วิธีคอื การนาํ ความร้อน การพาความร้อนและการแผ่รงั สีความร้อน การนาํ

ความรอ้ นเปน็ การถา่ ยโอนความรอ้ นท่อี าศยั ตัวกลาง โดยที่อนภุ าคของตัวกลางไม่เคลือ่ นท่ี แต่ส่ันต่อเน่ืองกัน
ไป การพาความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนซึ่งอาศัยตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือแก๊สโดยที่อนุภาคของ
ตัวกลางเคลื่อนที่ไปพร้อมกับพาความร้อนไปด้วย การแผ่รังสีความร้อนเป็นการถ่ายโอนความร้อนที่ไม่ต้อง
อาศยั ตวั กลาง แต่ความรอ้ นส่งผา่ นโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้

2. ตวั ช้ีวัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตัวชีว้ ดั
- ม.1/5 เคราะห์สถานการณ์การถ่ายโอนความร้อนและคำนวณปรมิ าณความร้อนท่ีถา่ ยโอน

ระหว่างสสารจนเกิดสมดลุ ความร้อนโดยใช้ สมการ Qสูญเสีย = Q ไดร้ บั
- ม.1/6 สร้างแบบจำลองที่อธิบายการถ่ายโอนความร้อนโดยการนำความร้อน การพาความ

รอ้ นการแผ่รังสคี วามรอ้ น

2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
- นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการแผ่รังสีความรอ้ นได้ (K)
- นกั เรยี นสามารถสรา้ งแผนผังความคดิ เรอ่ื งการถ่ายโอนความร้อนโดยไมอ่ าศัยตัวกลางได้ P)
- นักเรียนมีวินัยและใฝ่เรยี นรู้ได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้
วัตถุทุกชนิดมีการแผ่และดูดซับรังสีความร้อนหรือที่เรียกว่า "รังสีอินฟราเรด (Infrared Radiation,

IR)" โดยรังสีอินฟราเรดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง จึง
แตกต่างจากการนำความรอ้ นและการพาความร้อนทีต่ ้องอาศัยอนภุ าคของตัวกลางในการถ่ายโอนความรอ้ น
การแผร่ ังสคี วามร้อนจะมีลักษณะการแผอ่ อกไปในทุกทิศทกุ ทางรอบจุดกำเนิดหรือวัตถุ โดยวัตถุที่มีความร้อน
มากกวา่ จะแผร่ งั สีได้มากกว่า เช่น ดวงอาทติ ย์แผ่รงั สีความร้อนไดม้ ากกว่ากาแฟร้อนในแก้ว

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด

5. คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์
5.1 ม่งุ มั่นในการทำงาน
5.2 มวี นิ ัย
5.3 ใฝ่เรยี นรู้

187

6. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
ข้นั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1) ครทู บทวนความรเู้ ดิมจากกิจกรรมเร่อื งการพาความร้อน ในคาบทผี่ า่ นมา โดยใช้วธิ กี าร

สุ่มถาม ซง่ึ ครูใชค้ ำถามดงั ตอ่ ไปน้ี
1.1 เมื่อใหค้ วามรอ้ นแก่น้ำ ความร้อนถ่ายโอนจากบรเิ วณใดไปสบู่ ริเวณใด ทราบได้

อย่างไร (แนวคำตอบ เม่อื ให้ความรอ้ นแก่นำ้ ความร้อนจะถา่ ยโอนจากนำ้ บริเวณท่ีอย่ใู กล้เปลวไฟซ่ึงมีอุณหภูมิ
สูงกว่าไปยังน้ำบริเวณที่อยู่ห่างออกไปซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า ทราบได้จากการวัดอุณหภูมิของน้ำบริเวณก้น
บกี เกอร์ ซ่งึ สงู กวา่ นำ้ บริเวณใกล้ผิวน้ำ)

1.2 เมอื่ ใหค้ วามรอ้ นแก่น้ำ น้ำมกี ารเคล่ือนท่ีอย่างไร ทราบได้อย่างไร (แนวคําตอบ
เมอื่ ใหค้ วามรอ้ นแก่น้ำ น้ำบริเวณด้านล่างใกลก้ ับกน้ บีกเกอร์เคลื่อนท่ีขน้ึ มาด้านบน ทราบได้จากการเคล่ือนที่
ของเมลด็ แมงลักที่ลอยตวั ขนึ้ ไปใกล้ผวิ น้ำ แสดงว่านำ้ ที่อยู่ด้านล่างซง่ึ มีอุณหภมู ิสูงกว่าเคลื่อนท่ีข้ึนไปด้านบน)

1.3 เมื่อให้ความร้อนแก่อากาศ ความร้อนถ่ายโอนจากบริเวณใดไปสู่บริเวณใด
ทราบได้อย่างไร (แนวคำตอบ เมื่อให้ความร้อนแก่อากาศ ความร้อนจะถ่ายโอนจากอากาศบริเวณที่อยู่ใกล้
เปลวไฟซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่าไปยังอากาศบริเวณที่อยู่ห่างออกไปซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า ทราบได้จากการวัด
อุณหภูมิของอากาศบริเวณดา้ นลา่ งของพกู่ ระดาษซงึ่ มีคา่ มากกว่าอากาศบรเิ วณดา้ นบนของพกู่ ระดาษ)

1.4 เมื่อให้ความร้อนแก่อากาศ อากาศมีการเคลื่อนที่อย่างไร ทราบได้อย่างไร
(แนวคำตอบ เมอ่ื ใหค้ วามร้อนแก่อากาศ อากาศบริเวณทีอ่ ยู่ใกลเ้ ปลวไฟจะเคลอ่ื นทีข่ ึ้นมาด้านบน ทราบได้จาก
การเคล่อื นที่ของพกู่ ระดาษทเ่ี คลอ่ื นไหวและบานขึ้น แสดงวา่ อากาศด้านล่างทีม่ ีอณุ หภูมิสูงกว่าจะเคลื่อนที่ขึ้น
ไปด้านบน)

2) เช่อื มโยงการแสดงความคิดเห็นจากภาพนําบท โดยใชค้ ําถามจากหนงั สอื เรยี น และชี้แจง
ใหน้ ักเรยี นทราบวา่ นักเรยี นจะค้นหาคาํ ตอบได้จากบทเรียน

3) ให้นักเรียนอ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ของบท เพื่อให้นักเรียนทราบเป้าหมายและแนว
ทางการประเมนิ ผลของบทเรยี นนี้

4) นาํ อภปิ รายเพอื่ เช่ือมโยงไปสู่เรื่อง การถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตวั กลาง
5) ครูให้นักเรียนสังเกตภาพเพิ่มเติมซึ่งเป็นภาพการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์มา
ยงั โลก

ทีม่ า : https://xn--72ca8criyj0hl7a.blogspot.com/2017/11/radiation.html

188

ขั้นที่ 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครูให้นักเรียนนั่งเปน็ กลุม่ ตามท่ไี ดจ้ ัดไว้ โดยจะมีสมาชกิ กลมุ่ อยปู่ ระมาณ 4- 5 คนตอ่

กลมุ่ เพ่อื จะได้ดำเนนิ กิจกรรมการดำเนนิ กิจกรรมกลุ่ม โดยครใู หน้ กั เรยี นทำกิจกรรมการสร้างแผนผังความคิด
เร่ืองการถ่ายโอนความร้อนโดยไมอ่ าศัยตวั กลาง

2) ครูแจกกระดาษบรู๊ฟและสีให้นักเรียน จากนั้นให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมของแต่ละกลมุ่
ทั้งน้ีเนอ้ื หาท่ีนกั เรยี นจะได้นำมาเขียนนนั้ สามารถหาได้จากส่อื ออนไลนห์ รืออืน่ ๆ

3) เม่อื แตล่ ะกลุ่มดำเนนิ กิจกรรมเรียบรอ้ ยแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอหน้า
ช้ันเรียน และในขณะที่กลุ่มต่างๆออกมานำเสนอนั้น หากกรณีที่กลุ่มของตัวเองยังไม่มีในประเด็นนั้นๆให้
นักเรยี นเขียนเพอ่ื เตมิ ลงในสมุดของนักเรยี นเอง

ข้นั ที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)
1) ครใู หน้ กั เรียนอภปิ รายเพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ สรุปวา่ ความรอ้ นจะถ่ายโอนโดยไมอ่ าศัยตวั กลางของ

อนุภาคแต่ความร้อนส่งผ่านโดยแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่ออกจากแหล่งพลังงานความร้อนในทุก
ทิศทาง

2) ครูให้นักเรียนตอบคำถามหลังเรียนเรื่อง การถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลาง
ดงั ต่อไปน้ี

2.1 การถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลางเป็นอย่างไร ตัวอย่างการถ่ายโอน
ความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลางมีอะไรบ้าง (แนวคําตอบ การถ่ายโอนความร้อนโดยไม่อาศัยตัวกลางเกิดจาก
แหลง่ พลังงานความร้อนแผค่ ลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ โดยไม่ตอ้ งอาศยั อนุภาคของสสาร ตัวอยา่ งเชน่ การส่งผ่านความ
รอ้ นของดวงอาทิตยม์ ายงั โลก)

2.2 ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างการแผ่รังสีความรอ้ นท่ีเกิดขน้ึ (แนวการตอบ ดวงอาทิตย์
แผร่ ังสคี วามรอ้ นมายังโลก)

ขั้นที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครูใหน้ ักเรียนดสู ือ่ ออนไลนเ์ พม่ิ เตมิ เกย่ี วกับการถา่ ยโอนความร้อนโดยไมอ่ าศยั ตวั กลาง

เพอ่ื เป็นการทบทวนและสร้างความเข้าใจมากยง่ิ ขึ้น

ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=CVVSYUC-oWs
2) ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นนั้นได้ถามคำถาม โดยแตล่ ะกลมุ่ ใหต้ ้ังคำถามเกยี่ วกบั เร่ืองท่ีเรียน
ไปอย่างนอ้ ย 1 คำถามต่อ 1 กลุ่ม

189

3) ครูแนะนำแหลง่ เรียนรูเ้ พมิ่ เตมิ ทางอนิ เทอรเ์ น็ต

ข้ันที่ 5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation)
1) ครูประเมนิ จากกิจกรรมสร้างแผนผังความคิดเรือ่ งการถ่ายโอนความร้อนโดยไมอ่ าศยั

ตวั กลางการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกล่มุ
2) การตอบคำถามในช้นั เรยี น

7. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผลด้าน วิธีการวดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การผา่ น
ระดบั คณุ ภาพ
1 ด้านความรู้ พอใช้ ขน้ึ ไป

1. นักเรยี นสามารถอธิบาย - การตอบคำถามนักเรยี นในช้ันเรียน - แบบประเมินการตอบคำถาม ระดับคุณภาพ
พอใช้ ขึ้นไป
การพาความรอ้ นได้
ระดับคุณภาพ
2. ด้านกระบวนการ พอใช้ ขนึ้ ไป

1. นักเรียนสามารถสร้าง - ตรวจแผนผังความคิดเรื่องการถ่าย - แบบประเมินการทำงานกลุ่ม
แผนผังความคิดเร่อื งการ โอนความรอ้ นโดยไม่อาศัยตัวกลาง
ถ่ายโอนความรอ้ นโดยไม่

อาศัยตัวกลาง

3. ด้านคณุ ลักษณะท่พี งึ

ประสงค์ - การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น - แบบประเมินการสงั เกต
1. นกั เรียนมวี ินยั และใฝ่

เรยี นรู้ได้

8. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอ่ื การสอน
-
8.2 แหล่งเรียนรู้
- กจิ กรรมสร้างแผนผังความคิดเรอ่ื งการถา่ ยโอนความรอ้ นโดยไมอ่ าศัยตวั กลาง

- สอ่ื ออนไลน์

- หนังสอื เรียนวิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ม.1

190

บนั ทกึ ผลการจัดการการเรยี นร้ทู ่ี 1.12

ผลการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาและอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แนวทางแกไ้ ข / แนวทางการพฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ....................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง)

ความเห็นของผู้นเิ ทศ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ...............................................ผู้นิเทศ
(........................................................)

191

แบบประเมินความรู้ (K)
เรอ่ื ง การถา่ ยโอนความร้อนโดยไมอ่ าศัยตัวกลาง

รายการประเมิน 1. การตอบ ระดับ ผลการ
เลขท่ี คำถาม คณุ ภาพ ประเมิน
2. เนื้อหา
ช่อื - สกุล
รวมคะแนนที่ไ ้ด
ผ่าน
ไ ่มผ่าน
448

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผ่าน...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน
(นางสาวสชุ าดา วงษแ์ ดง)

192

เกณฑก์ ารประเมินความรู้ (K)

รายการประเมนิ น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การตอบคำถาม 1 นกั เรียนตอบ นกั เรียนตอบ นกั เรยี นตอบ นกั เรียนตอบ

คำถามได้อย่าง คำถามได้อย่าง คำถามไดก้ ระชบั คำถามไม่ได้

กระชบั และจบั กระชบั และจับ จับใจความสำคัญ กระชบั ไม่สามารถ

ใจความสำคญั ได้ ใจความสำคญั ได้ ได้ ตอบคำถาม จับใจความสำคญั

เปน็ อย่างดี ไมส่ ัน้ พอสมควร แตย่ งั สัน้ หรอื ยาวมาก ได้ ตอบคำถามสน้ั

หรือยาวมาก ไม่สมบรู ณ์ จนเกินไป หรือยาวมาก

จนเกนิ ไป จนเกินไป

2. เน้ือหา 1 เนื้อหาของ เน้ือหาของ เนื้อหาของ เน้ือหาของคำตอบ

คำตอบมีความ คำตอบมีความ คำตอบถกู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ไม่

ถูกต้องมากท่ีสดุ ถกู ต้อง ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น สมบูรณ์

ครบถว้ น สมบูรณ์ สมบรู ณ์ บางส่วน สมบูรณ์

เกณฑก์ ารตัดสิน

ช่วงคะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก

ชว่ งคะแนน 5 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

ชว่ งคะแนน 3 – 4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

ชว่ งคะแนน 1 - 2 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

193

แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ (P)
กจิ กรรมสรา้ งแผนผังความคิดเรอ่ื งการถ่ายโอนความร้อนโดยไมอ่ าศยั ตวั กลาง

รายการประเมิน 1. แหล่งข้อ ูมลที่ระดับ ผลการ
เลขที่ นำมา คุณภาพ ประเมนิ

ชือ่ - สกลุ 2. การ ัจดกระทำ
้ขอ ูมล

3. การนำเสนอข้อ ูมล
รวมคะแนนที่ไ ้ด

่ผาน
ไ ่ม ่ผาน
4 4 4 12

การผ่านเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมนิ ผ่าน...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)

194

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการ (P)
ทักษะสอื่ ความหมายข้อมูล

รายการประเมิน น้ำหนัก ดีมาก (4) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
นำข้อมูลมาจาก
1. แหล่งข้อมูลที่ 1 นำขอ้ มูลมาจากหลาย นำขอ้ มลู มาจากหลาย นำขอ้ มูลมาจากนอ้ ย นอ้ ยแหลง่ และ
นำมา นำมาน้อยรายการ
แหล่ง เช่น จากการ แหลง่ เชน่ จากการ แหลง่ และนำมาแหล่ง
2. การจดั กระทำ จัดกระทำข้อมลู
ข้อมูล สงั เกต การวดั การ สังเกต การวดั การ ละหลายรายการ ใหม่ โดยการ
เรยี งลำดับ แยก
ทดลอง และอ่นื ๆ ทดลอง และอ่นื ๆ แต่ ประเภท หรอื
คำนวณหาค่าใหม่
และนำมาแหลง่ ละ นำมาแหล่งละน้อย เพ่ือใหเ้ ข้าใจงา่ ยขน้ึ
ไม่ชดั เจน และไม่
หลายรายการ รายการ ตรงประเด็น
อธบิ ายเหตุผลใน
1 จัดกระทำข้อมลู ใหม่ จัดกระทำข้อมลู ใหม่ จดั กระทำข้อมูลใหม่ การเลอื กการ
นำเสนอไม่อยา่ ง
โดยการเรียงลำดบั โดยการเรยี งลำดบั โดยการเรียงลำดบั ชัดเจน และไมต่ รง
ประเด็น
แยกประเภท หรอื แยกประเภท หรอื แยกประเภท หรอื

คำนวณหาค่าใหม่ คำนวณหาค่าใหม่ คำนวณหาค่าใหม่

เพ่อื ให้เขา้ ใจง่ายขึน้ เพือ่ ใหเ้ ข้าใจง่ายขึน้ เพ่อื ให้เข้าใจงา่ ยขึน้

ชัดเจน และตรง ชดั เจน และตรง ชัดเจน และตรง

ประเด็นทุกครั้ง ประเดน็ บ่อยครง้ั ประเดน็ บางครงั้

3. การนำเสนอ 1 อธิบายเหตผุ ลในการ อธิบายเหตผุ ลในการ อธิบายเหตุผลในการ
ข้อมลู
เลอื กการนำเสนอได้ เลือกการนำเสนอได้ เลือกการนำเสนอได้

อยา่ งชดั เจน และตรง อย่างชัดเจน และตรง ชัดเจน และตรง

ประเด็นทกุ ครง้ั ประเดน็ บอ่ ยครงั้ ประเดน็ บางครง้ั

เกณฑ์การตัดสิน 11-12 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดีมาก
ช่วงคะแนน หมายถงึ ดี
8-10 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้
ชว่ งคะแนน 5-7 คะแนนระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปรับปรงุ
ช่วงคะแนน 3-4 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปผ่านเกณฑ์
ชว่ งคะแนน
การผา่ นเกณฑ์

195

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

เลขท่ี รายการประเมนิ

1.มวี ินยั และส่งงาน รวม ระดับ ผลการ
ท่ีได้รับมอบหมาย คะแนน คุณภาพ ประเมนิ

ที่ได้

ช่ือ - สกุล 4321 ผ่าน
ไ ่มผ่าน

การผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผา่ นเกณฑ์

สรุปผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไมผ่ า่ น...........................คน

ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสุชาดา วงษแ์ ดง)

196

เกณฑป์ ระเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมวี นิ ัยและสง่ งานตามที่ได้รับหมอบหมายได้ตามกำหนด

รายการ นำ้ หนัก ดมี าก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1)
ประเมิน ดี (3) พอใช(้ 2)
ไมป่ ฏบิ ตั งิ านที่
1. นักเรยี น 1 ปฏบิ ัตงิ านท่ี ปฏิบตั งิ านที่ ปฏิบัตงิ านท่ี ได้รบั มอบ
หมายใหเ้ สรจ็
มีวินยั และ ได้รบั มอบหมาย ไดร้ ับมอบ ไดร้ ับมอบ
สมบรู ณ์ได้ตาม
สง่ งาน ใหเ้ สรจ็ สมบูรณ์ หมายให้เสร็จ หมายให้เสรจ็ กำหนดได้ และ
สง่ งานไมไ่ ดต้ าม
ตามท่ีได้รบั และมคี วาม สมบูรณ์ได้ตาม สมบูรณไ์ ด้ตาม เวลา ท่กี ำหนด
อย่เู ปน็ ประจำ
หมอบ เรยี บรอ้ ยได้ กำหนด และส่ง กำหนด และสง่

หมายได้ ตามทก่ี ำหนด งานไดต้ ามเวลา งานได้ตามเวลา

ตาม และสง่ งานได้ ทกี่ ำหนดอยู่ ทก่ี ำหนดอยู่

กำหนด ตามเวลา ท่ี เป็นประจำ บ่อยคร้ัง

กำหนดอยูเ่ ปน็

ประจำ

เกณฑก์ ารตัดสิน

คะแนน 4 ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถึง ดมี าก

คะแนน 3 ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 1 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง

การผ่านเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไปผา่ นเกณฑ์

197

แบบประเมินสมรรถนะทักษะการคิด

รายการประเมนิ 1. ีมความสามารถใน ระดบั ผลการ
เลขที่ การ ิคด ิวเคราะห์คณุ ภาพ ประเมนิ

ช่อื - สกุล 2. ัตด ิสนใจแ ้กปัญหา
เ ี่กยว ักบตนเองไ ้ด

3. ความสามารถในการ
สร้างอง ์คความ ู้ร
รวมคะแนนที่ไ ้ด

ผ่าน
ไ ่มผ่าน
3 3 39

การผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปผ่านเกณฑ์

สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น...........................คน ไม่ผ่าน...........................คน

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาวสุชาดา วงษ์แดง)


Click to View FlipBook Version