The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ลูกเสือ กศน. สค12025

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการจัดการเรียนรู้ ลูกเสือ กศน. สค12025

แผนการจัดการเรียนรู้ ลูกเสือ กศน. สค12025

140
9. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ผู้ให้กาเนิดลูกเสือไทย ได้อยา่ งถูกต้อง

ก. รชั กาลที่ 4
ข. รัชกาลท่ี 5
ค. รชั กาลท่ี 6
ง. รชั กาลที่ 7
10. ข้อใดเปน็ หลกั การสาคญั ของการสรา้ งอดุ มการณข์ องความเป็นพลเมืองในทัศนะของลูกเสอื
ก. การนาหลกั คาสอนของทุกศาสนามาปรบั ใชใ้ นการพัฒนาตนเอง
ข. การนากฎหมาย ขอ้ บังคับ กติกาทางสังคมมาปรับใช้ในการพฒั นาตนเอง
ค. การนาคาปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือเป็นแนวทางการพฒั นาตนเอง
ง. การนาความรกั ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การพฒั นาชุมชนมาปรับใช้ในการพฒั นาตนเอง

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น

แผนการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรือ่ ง ลกู เสอื กศน.กับจติ อาสา และการบรกิ าร

1) ง 2) ข 3) ค 4) ง 5) ง
6) ก 7) ข 8) ก 9) ง 10) ง

ชื่อ.................................................นามสกลุ ................................................ระดบั ......................................

บันทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................

141

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
สภาพปัญหาท่ีพบ
................................................................................................................. .............................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................. ............................................................................................
วิธแี ก้ปัญหา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................. .............................................................

ลงชอ่ื ..................................................ผู้บนั ทึก
(..................................................)
วนั ที่............................................

ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ าร
................................................................................................................................................ ..............................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................. ............................................................
................................................................................................................................................ ..............................

ลงชื่อ.......................................................
(…………………………………………….)
ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอ

142

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8

เรื่อง การเขียนโครงการเพอ่ื พฒั นาชุมชนและสงั คม

รายวิชา ลกู เสือ กศน. รหัสวิชา สค12025 ระดับ ประถมศึกษา

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 สาระการเรียนรูส้ าระการพัฒนาสงั คม เวลา 4 ช่ัวโมง

ครผู สู้ อน.................................................. รูปแบบการสอนพบกลมุ่ /ค้นคว้าด้วยตนเอง

**********************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
1.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เกยี่ วกบั ภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการ

ปกครองในท้องถ่ิน ประเทศ นามาปรับใช้ในการดาเนินชีวิต และการประกอบอาชีพ เพอ่ื ความม่นั คงของชาติ
1.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของทอ้ งถน่ิ และ

ประเทศไทย
1.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ดาเนินชีวิตตามวิถปี ระชาธิปไตย กฎหมายเบ้อื งต้น กฎระเบียบของชมุ ชน

สังคม และประเทศ
1.4 มีความรู้ ความเข้าใจหลักการพฒั นาชุมชน สงั คม และวิเคราะห์ข้อมูลในการพฒั นาตนเอง

ครอบครวั ชุมชน สงั คม

2. ตัวชี้วดั
2.1 อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของโครงการ
2.2 อธบิ ายลักษณะของโครงการ
2.3 อธบิ ายองคป์ ระกอบของโครงการ
2.4 เขยี นโครงการตามขน้ั ตอนการเขียนโครงการ
2.5 อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานตามโครงการ
2.6 อภปิ รายและสรปุ รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการเพ่ือการนาเสนอ

3. ขอบขา่ ยเน้อื หา
3.1 โครงการเพ่ือพฒั นาชุมชนและสังคม
3.2 ลกั ษณะของโครงการ
3.3 องคป์ ระกอบของโครงการ
3.4 ขั้นตอนการเขยี นโครงการ
3.5 การดาเนินการตามโครงการ

143

3.6 การสรุปรายงานผลการดาเนนิ งานโครงการเพ่ือการนาเสนอ

4. เปา้ หมายการเรียนรู้ (ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง)
4.1 สามารถอธบิ ายความหมายและความสาคัญของโครงการ
4.2 สามารถอธิบายลักษณะของโครงการ
4.3 สามารถถอธบิ ายองค์ประกอบของโครงการ
4.4 สามารถเขียนโครงการตามขั้นตอนการเขียนโครงการ
4.5 สามารถอธิบายข้ันตอนการดาเนินงานตามโครงการ
4.6 สามารถอภิปรายและสรุปรายงานผลการดาเนนิ งานโครงการเพ่ือการนาเสนอ

5. ขั้นจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรยี นรู้
1) ครแู ละผ้เู รียนรว่ มกันกาหนดสภาพความจาเป็นที่ต้องเรียนรูใ้ นเรือ่ งต่อไปนี้
(1) ความหมาย ความสาคัญ ของโครงการ และลักษณะของการเขยี นโครงการ
(2) องคป์ ระกอบของการเขียนโครงการ
(3) การเขยี นโครงการตามขนั้ ตอนท่ีถูกต้องและสามารถอธิบายข้ันตอนต่าง ๆ ได้
(4) การสรุปและรายงานผลการดาเนนิ งานโครงการทน่ี าเสนอ
2) ครูและผู้เรียนทาความเข้าใจสภาพปญั หาความต้องการในการเรียนรใู้ หผ้ ู้เรยี นซกั ถาม

แลกเปลยี่ นเรียนรู้ เชื่อมโยงความรู้ใหม่
3) ครใู ห้ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน

ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและจดั การเรียนรู้
1) ครูให้ผู้เรียนดูคลปิ วีดโี อจาก YouTube ตัวอย่างกจิ กรรมโครงการพฒั นาชมุ ชนสงั คมของ

ลกู เสอื กศน. เช่น โครงการลูกเสอื มัคคเุ ทศก์

144

https://www.youtube.com/watch?v=fdMLQgGifhE

https://www.youtube.com/watch?v=dwMvFj0van4
2) ครแู บ่งกลุ่มผเู้ รียนออกเป็นกล่มุ โดยแบ่งออกเปน็ 3 กลมุ่ เพ่ือให้ผูเ้ รยี นฝึกเขียนโครงการ
เพอื่ พฒั นาชมุ ชนและสงั คม และให้ตัวแทนกลุ่มมาจับฉลากหวั ข้อของการเขียนโครงการ ดงั น้ี

กลุ่มที่ 1 หวั ขอ้ ที่ 1 เรือ่ งการจดั การขยะในชุมชน
กลมุ่ ท่ี 2 หัวข้อท่ี 2 เรอื่ งการกาจดั ลูกน้ายุงลาย
กล่มุ ท่ี 3 หวั ข้อที่ 3 เรอื่ งการปอ้ งโรคไวรัสโคโรน่า (Covid-19)
3) ครูใหผ้ ูเ้ รยี นฝึกเขยี นโครงการตามขัน้ ตอนของการเขียนโครงการและนาเสนอโครงการที่เขยี น
ขึ้น
4) ครแู จกแบบฝึกหดั /ใบงานที่ 1-4 เรอ่ื งโครงการพัฒนาชุมชนและสังคม
ข้ันที่ 3 ปฏิบตั ิและนาไปประยุกต์ใช้

145

1) ครใู หผ้ ู้เรียนร่วมกันสรุปผลของการดาเนนิ โครงการท่ีนาเสนอ
2) ครสู รุปผลการเรยี นรเู้ รือ่ งการเขียนโครงการพฒั นาชุมชนและสังคมและแลกเปลีย่ น
เรียนรู้รว่ มกับผูเ้ รียน
ขนั้ ที่ 4 ประเมินผลการเรียนรู้
1) ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2) ประเมินจากใบงาน
3) บันทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
4) ทาแบบทดสอบหลังเรียน

สื่อการเรยี นรู้
1. ชดุ วิชาลูกเสอื กศน. รหสั รายวิชา สค12025
2. สมุดบันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรูป้ ระกอบชุดวชิ า
3. สื่อเสริมการเรียนรู้อ่ืน ๆ
4. ใบความรู้
5. ใบงาน

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แผนการเรียนรู้ คร้ังที่ 8

การเขียนโครงการเพอื่ พฒั นาชุมชนและสังคม

1. โครงการ หมายถึงขอ้ ใด ค. ช่วยใหจ้ ัดสรรงบประมาณได้มากย่งิ ข้นึ

ก. กระบวนการทางานทปี่ ระกอบไปดว้ ยหลายๆ ง. ช่วยใหก้ ารดาเนินการสอดคลอ้ งกบั นโยบาย

กจิ กรรม ซึ่งมกี ารทาตามขั้นตอน ความจาเปน็ 3. โครงการท่ดี ี ต้องเปน็ โครงการอยา่ งไร

มกี ารกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ เป้าหมาย ระยะเวลา ก. มจี ุดมงุ่ หมาย มีระยะเวลาทช่ี ัดเจน

วธิ กี ารดาเนนิ การ งบประมาณ ผลทีค่ าดวา่ จะ ข. มคี วามหลากหลาย

ได้รบั ทช่ี ัดเจน ค. งบประมาณต้องเยอะ

ข. กระบวนการทางานทปี่ ระกอบไปด้วยหลายๆ ง. มผี รู้ ับเหมา

กจิ กรรม ซงึ่ มีการทาตามข้นั ตอน 4. โครงการระยะยาว ควรเปน็ ลักษณะโครงการ

ค. กระบวนการทางานที่ทาตามความจาเปน็ มีการ อยา่ งไร

กาหนดวตั ถุประสงค์ เป้าหมาย ระยะเวลา ก. ระยะ 2 ปีข้นึ ไป

วธิ ีการดาเนินการ งบประมาณที่มาก ข. ระยะ 3 ปี ข้ึนไป

ง. กระบวนการทางานท่มี ขี ั้นตอนทีซ่ ับซอ้ น และ ค. ระยะ 4 ปขี ้ึนไป

ตอ้ งมีผู้รับผดิ ชอบและผูอ้ นมุ ตั ทิ ชี่ ัดเจน ง. ระยะ 5 ปีขนึ้ ไป

2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ความสาคัญของโครงการ 5. ขอ้ ใดไม่เกย่ี วข้องกับประเภทของโครงการ

ก. ชว่ ยใหก้ ารดาเนินงานมที ศิ ทางทช่ี ดั เจน ก. โครงการทีม่ รี ะยะเวลาเปน็ ตวั กาหนด

ข. สร้างความมน่ั คงใหก้ ับแผนงาน ข. โครงการที่มีลกั ษณะงานเปน็ ตวั กาหนด

146

ค. โครงการใหม่ ค. ดาเนนิ การช่วงใดกไ็ ด้ ในเมอื่ จะปฏบิ ตั ติ าม
ง. โครงการท่ีมผี ูร้ บั เหมาเขา้ มาเกย่ี วข้อง โครงการอยู่แลว้

6. ข้อใดไมเ่ กยี่ วขอ้ งกับองคป์ ระกอบของโครงการ ง. ใหร้ องบประมาณกอ่ น
ก. วธิ ดี าเนินการ 10. หลงั จากผู้เรยี นมีการปฏิบตั ิตามโครงการเสรจ็ สน้ิ
ข. งบประมาณ
ค. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ เรยี บแล้วจะต้องมีการดาเนินการอย่างไรต่อไป
ง. ประธาน ก. เคลยี งบประมาณทดี่ าเนนิ การ
ข. จดั ทาสรปุ รายงานผลการดาเนนิ งานตาม
7. เหตุผลทาไมตอ้ งทาโครงการ ตรงกับข้อใด
ก. ชื่อโครงการ โครงการ
ข. หลกั การและเหตุ ค. มองถึงปญั หาท่ีเกดิ ข้นึ
ค. วธิ ีดาเนินการ ง. เตรียมพร้อมเรมิ่ ทาโครงการใหม่
ง. ผลท่คี าดวา่ จะได้รบั

8. ขอ้ ใดจดั เรียงถกู ตอ้ ง เกี่ยวกบั ข้ันตอนการเขยี น
โครงการ
ก. สารวจชมุ ชนวเิ คราะห์ชุมชนตรวจข้อมูล
กาหนดแนวทางและแก้ปญั หาเขียน
โครงการเพื่ออนมุ ตั ิ
ข. วิเคราะห์ชมุ ชนสารวจชมุ ชน ตรวจ
ขอ้ มลู กาหนดแนวทางและแก้ปัญหา
เขยี นโครงการเพ่ืออนุมตั ิ
ค. กาหนดแนวทางและแกป้ ญั หาสารวจชมุ ชน
วิเคราะห์ชุมชนตรวจขอ้ มลู  เขยี น
โครงการเพ่อื อนุมตั ิ
ง. เขยี นโครงการเพอื่ อนมุ ตั ิสารวจชมุ ชน
วเิ คราะห์ชุมชนตรวจข้อมูลกาหนด
แนวทางและแกป้ ญั หา

9. การดาเนนิ งานตามโครงการ ควรดาเนนิ การตาม
ข้อใด ถูกตอ้ งท่ีสดุ
ก. ดาเนนิ การก่อนการเขียนโครงการ
ข. ดาเนินการหลงั จากไดร้ บั การอนมุ ัติโครงการ

147

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น คร้งั ท่ี 8

1. ก
2. ค
3. ง
4. ง
5. ง
6. ง
7. ข
8. ก
9. ข
10. ข

148

ใบความร้ทู ี่ 1 โครงการเพ่ือพัฒนาชมุ ชนและสงั คม

ความหมายของโครงการ
โครงการ หมายถึง กระบวนการทางานท่ีประกอบไปด้วยหลาย ๆ กิจกรรม ซึ่งมีการทา

โครงการเป็นตามข้ันตอน ความจาเป็น มีการกาหนดวัตถุประสงค์ มีเป้าหมาย ระยะเวลา สถานที่
วิธีดาเนินการ งบประมาณ ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ รวมท้ังการประเมินผลการดาเนินงานตาม
โครงการ

ความสาคญั ของโครงการ มีดงั น้ี
1. ชว่ ยให้การดาเนินการสอดคลอ้ งกบั นโยบาย หรือความต้องการของผรู้ บั ผดิ ชอบหรอื
หนว่ ยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง
2. ช่วยใหก้ ารดาเนินงานนั้นมีทศิ ทางท่ีชดั เจน และมีประสิทธภิ าพ
3. ชว่ ยช้ีใหเ้ หน็ ถึงสภาพปัญหาของชุมชนทีจ่ าเปน็ ต้องให้บรกิ าร
4. ชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ัติงาน สามารถดาเนินงานไดต้ ามตามแผนงาน
5. ชว่ ยใหแ้ ผนงานมีความชัดเจน โดยคณะกรรมการ หรือบุคคลท่ีเกี่ยวขอ้ ง มคี วามเขา้ ใจและ
รบั รสู้ ภาพปัญหาร่วมกัน
6. ชว่ ยใหแ้ ผนงานมีทรัพยากรใช้เพยี งพอ เหมาะสาหรับการปฏบิ ัติงานจริงเพราะโครงการมี
รายละเอียดเพยี งพอ
7. ชว่ ยลดความขัดแย้ง และขจัดความซ้าซอ้ นในหนา้ ที่รบั ผดิ ชอบของกลุม่ บุคคลหน่วยงาน
เพราะโครงการจะมผี รู้ ับผิดชอบเป็นการเฉพาะ
8. เสริมสร้างความเขา้ ใจอันดี และรบั ผิดชอบรว่ มกัน ตามความรู้ ความสามารถ ของแต่ละ
บคุ คล
9. สร้างความม่นั คงใหก้ บั แผนงาน และผู้รบั ผิดชอบมคี วามม่ันใจในการทางานมากข้ึน
10. ช่วยใหง้ านดาเนินการไปสู่เป้าหมายได้เร็วข้ึน

149

ใบความรู้ที่ 2 ลักษณะของโครงการ

ลักษณะของโครงการ
โครงการเป็นส่วนประกอบที่สาคัญของแผนพัฒนาทุกระดับ ลักษณะของโครงการต้องมี

จุดมุ่งหมาย มีเป้าหมายการปฏิบัติงานที่มีระยะเวลาดาเนินการชัดเจน ระบุความต้องการ
งบประมาณ หรือผมู้ สี ่วนเกี่ยวข้อง มีการคาดการณ์ผลทีจ่ ะเกิดขึ้นเมื่อการดาเนนิ งานโครงการเสร็จ
ประเภทของโครงการ มดี ังนี้

1. โครงการที่มรี ะยะเวลาเปน็ ตวั กาหนด ได้แก่
1.1 โครงการระยะส้นั หมายถงึ โครงการที่มีระยะเวลาการดาเนนิ งาน หรือ

กาหนดเวลาดาเนนิ การ ไมเ่ กิน 2 ปี
1.2 โครงการระยะปานกลาง หมายถึง โครงการทม่ี รี ะยะเวลาการดาเนนิ งานหรอื

กาหนดเวลาดาเนนิ การ ตง้ั แต่ 2 - 5 ปี
1.3 โครงการระยะยาว หมายถึง โครงการท่ีมรี ะยะเวลาการดาเนนิ งานหรือ

กาหนดเวลาดาเนินการ ตัง้ แต่ 5 ปี ขึ้นไป
2. โครงการทม่ี ีลกั ษณะงานเป็นตัวกาหนด ได้แก่
2.1 โครงการเดิม หรือโครงการต่อเนอ่ื ง คอื โครงการทม่ี ีลกั ษณะตอ่ เนื่องจากปีที่

ผ่านมา อาจเป็นโครงการทไ่ี ม่สามารถดาเนนิ การให้แลว้ เสร็จได้ในปีเดยี ว หรือโครงการ ท่ีตอ้ งมี
การดาเนนิ งานต่อเนอ่ื ง หรอื ตอ่ ยอด ขยายผลไปสกู่ ล่มุ เป้าหมายอนื่ ๆ ได้ เชน่ ปีทผ่ี ่านมาได้มกี าร
จัดอบรม “ลกู เสอื กับการดูแลเยียวยาช่วยเหลือผเู้ กี่ยวขอ้ งกับยาเสพติด สาหรับนกั ศกึ ษา
มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ” ในปีการศกึ ษา 2559 ซึ่งในปี 2560 กอ็ าจมกี ารดาเนนิ งานโครงการใน
ลักษณะเดยี วกันแต่เน้นการขยายผลจานวนกลุ่มเปา้ หมายให้เพมิ่ มากขนึ้ เม่ือเทียบกับผลการ
ดาเนินงานในปีกอ่ นหนา้ โดยใชว้ ิธีการดาเนินงานโครงการตามรปู แบบเดิม

150

2.2 โครงการใหม่ คือ โครงการที่จัดทาขึน้ ใหม่

ใบความรทู้ ่ี 3 ขั้นตอนการเขียนโครงการ

ขน้ั ตอนการเขยี นโครงการ มดี งั นี้
1. สารวจชมุ ชนและสงั คม เป็นการศึกษาขอ้ มูลเกย่ี วกับลกั ษณะสภาพปัญหาตา่ งๆ ท่ีมอี ยู่ใน

ชมุ ชน เพื่อนาขอ้ มูลเหล่านน้ั มาวิเคราะห์และกาหนดแนวทางการพัฒนา การแก้ปัญหา โดย
การศึกษา สภาพ ปญั หา และสาเหตขุ องปญั หา เพื่อหาวธิ กี ารคิดค้น วิธกี ารพัฒนาและ สาเหตขุ อง
ปญั หา โดยใชว้ ธิ กี ารสารวจขอ้ มูลทีห่ ลากหลาย เช่น การสังเกต การศึกษาภูมหิ ลงั ของชมุ ชน การ
สัมภาษณ์ การสอบถาม การทาเวทปี ระชาคม ฯลฯ เปน็ ตน้

2. ตรวจสอบข้อมูล หลงั จากที่มีการสารวจขอ้ มลู ชุมชนและนาขอ้ มูลมาสรปุ เรียบรอ้ ยแลว้
เพื่อความถกู ต้อง ชดั เจนของข้อมูลดงั กล่าว ควรจัดให้มเี วทีเพอ่ื การตรวจสอบข้อมลู โดย
กลมุ่ เปา้ หมายที่ใหข้ ้อมูลท่ีสารวจมาได้มีความถูกต้องสมบรู ณย์ ่งิ ขึน้

3. นาข้อมลู ที่ได้หลงั จากตรวจสอบเรยี บร้อยแลว้ มาวิเคราะห์ พร้อมจัดลาดบั ความสาคญั
เพื่อจาแนกความสามรถในการจัดทาโครงการ

4. การกาหนดแนวทางการดาเนินงานเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาชุมชนและสังคม เม่ือ
ผู้รบั ผิดชอบโครงการ ได้สารวจชุมชนและสังคม ดาเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหาของชุมชน และ
สังคม นาผลสรุปการวิเคราะห์สภาพปัญหาชุมชนและสังคมมากาหนดแนวทางการ ดาเนินงาน
เพ่ือแก้ไขปัญหาชุมชนและสังคมว่ามีสภาพปัญหาเป็นอย่างไร มีความต้องการ อย่างไร แล้วจึง
กาหนดแนวทางแก้ไขตามสภาพปัญหานั้น หรือเขียนแนวทางเพื่อสนอง ความต้องการของชุมชน

151

และสังคมนั้น ๆ ควรเขียนในลักษณะของโครงการ เพ่ือดาเนินการ ในการกาหนดแนวทางการ
ดาเนินงาน เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนและสังคม ควรขอความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงานท่ีมีส่วน
เกี่ยวข้องกับเร่ืองที่จะดาเนินการแก้ไขปัญหา หรือพัฒนา ได้เข้ามาร่วมในการกาหนดแนวทางการ
ดาเนนิ งาน หรอื ร่วมกันเขยี นโครงการด้วย

5. การเขยี นและเสนอขออนุมตั โิ ครงการ การเขียนโครงการ ผู้เขียนโครงการ ตอ้ งนาข้อมูล
จากการศกึ ษาสภาพปัญหาของชมุ ชนและสงั คม และขอ้ มูลท่ไี ด้จากการกาหนด แนวทางการ
ดาเนนิ งานมาใชเ้ ป็นข้อมลู ประกอบในการเขียนโครงการ ซ่งึ การเขียนโครงการ ควรเขียนให้เปน็ ไป
ตามรูปแบบขององค์ประกอบการเขยี นโครงการ

ตัวอยา่ งโครงการ

1. ชอ่ื โครงการ โครงการเพลนิ คิด จติ อาสา ปลกู ป่าชายเลน

2. หลกั การและเหตุผล
ป่าชายเลน เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีความสาคัญและมีคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อ

ระบบนิเวศน์ทางทะเลและต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเรา เพราะธรรมชาติ เป็นแหล่งสาคัญสาหรับ
การดารงชีวิต ป่าชายเลนเป็นพืชที่ขึ้นอยู่บริเวณชายฝ่ังทะเล ปากแม่น้า หรือปากอ่าวซึ่งเป็น
บริเวณท่ีมีน้าทะเลท่วมถึงในช่วงที่มีน้าทะเลขึ้นสูงสุดประกอบไปด้วยพันธ์ไม้สกุลไม้โกงกาง เช่น
โกงกาง แสม เป็นพืชที่มีรากท่ีหยั่งลึกแข็งแรงและแผ่บริเวณกว้างขวางลักษณะเช่นน้ี จะช่วย
ป้องกันลมพายุทางทะเล ไม่ให้พัดทาลายท่ีอยู่อาศัยและพื้นท่ีทากิน ของประชาชนแถบชายทะเล

152

และเป็นที่ อนุบาลสั ตว์น้าท ะเล เราจึงเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติ อนุ รักษ์ และใช้
ทรัพยากรธรรมชาติใหเ้ กดิ ประโยชนม์ ากทส่ี ุด

ลูกเสือ กศน.อาเภอเมืองจันทบุรี มีความตระหนักว่า ป่าชายเลนมีคุณประโยชน์มากมาย
ซึ่งนับวันจะลดปริมาณลงเร่ือย ๆ จนทาให้เกิดผลกระทบต่อสัตว์น้า ซ่ึงใช้ป่าชายเลนเป็นที่อยู่
อาศัย และเพาะพันธ์สัตว์อ่อน จึงจัดทาโครงการ เพลินคิด จิตอาสา ปลูกป่าชายเลน เพื่อสร้างจิต
สานึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความสามัคคี ให้เกิดขึ้นแก่ลูกเสือ กศน.อาเภอเมือง
จันทบรุ ี

3. วัตถุประสงค์
3.1 เพ่ือสร้างจิตสานกึ การอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ
3.2 เพื่อสร้างความสามัคคี ให้เกิดขึ้น
3.3 เปน็ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มประเภทป่าชายเลน

4. เป้าหมาย
4.1 เชิงปริมาณ
ลกู เสือ กศน.อาเภอเมืองจันทบุรี จานวน 30 - 60 คน
4.2 เชิงคุณภาพ
ลกู เสือ กศน.อาเภอเมืองจันทบรุ ี มีความรู้ความเข้าใจในหลกั การและวิธกี าร

อนรุ กั ษ์ปา่ ชายเลนและนามาปฏิบตั ิได้อยา่ งถูกต้อง มจี ติ สานึกในการช่วยกนั รักษาปา่ ชายเลนและ
ชว่ ยฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนให้กลบั มามคี วามอดุ มสมบูรณ์

5. วิธดี าเนนิ การ
5.1 ขออนุมัตโิ ครงการฯ
5.2 ตดิ ต่อประสานงานศูนย์ศกึ ษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุง้ กระเบน อาเภอท่าใหม่

จังหวดั จันทบรุ ี และสถานพี ฒั นาป่าชายเลนที่ 2 ลมุ่ น้าเวฬุ อาเภอขลุง จงั หวัดจนั ทบุรี
5.3 รับฟังบรรยายเร่ืองการอนุรักษป์ า่ ชายเลนและการปลกู ป่าชายเลนอย่างถูกวธิ ี
5.4 ลกู เสอื กศน.อาเภอเมืองจนั ทบุรี ปลกู ป่าชายเลน คนละ 10 ต้น

153

6. ระยะเวลาศกึ ษาโครงการ วันเสาร์ ท่ี 28 กรกฎาคม 2561

7. สถานท่ีดำเนนิ การ บรเิ วณปา่ ชายเลน ตาบลหนองบวั อาเภอเมืองจนั ทบรุ ี จงั หวดั จนั ทบุรี

8. งบประมาณ ใช้เงินบริจาค จานวน 3,000 บาท

9. ผรู้ ับผดิ ชอบ ลกู เสือ กศน.อาเภอเมืองจนั ทบุรี

10. หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้อง
10.1 ศนู ย์ศกึ ษาธรรมชาติปา่ ชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน อาเภอท่าใหม่ จังหวัดจนั ทบุรี
10.2 สถานพี ฒั นาป่าชายเลนที่ 2 ล่มุ น้าเวฬุ อาเภอขลงุ จงั หวดั จนั ทบุรี

11. การประเมนิ ผล
11.1 การสังเกต
11.2 การสัมภาษณ์

12. ผลที่คาดว่าจะได้รบั
12.1 ลกู เสอื กศน.อาเภอเมอื งจันทบรุ ี มคี วามสามัคคีในหมู่คณะและเหน็ ความสาคัญของ

ป่าชายเลนมากขน้ึ
12.2 ไดร้ บั ความชว่ ยเหลือจากชุมชนเปน็ อย่างดี ทรัพยากรจะมคี วามอดุ มสมบูรณ์
12.3 ได้ความรูแ้ ละวธิ ีปลูกปา่ ชายเลนที่ถกู ตอ้ งและปา่ ชายเลนมคี วามอดุ มสมบรู ณม์ ากขึ้น

13. ผปู้ ระสานงานโครงการ
นางนันทิยา หากหุ ลาบ หวั หนา้ นายหมู่ลูกเสือ กศน.อาเภอเมอื งจันทบุรี
โทร 089-7443982

154

ลงช่ือ .......................................... ผู้เสนอโครงการ
(นางนนั ทยิ า หากหุ ลาบ)

หัวหน้านายหมู่ลกู เสอื กศน.อาเภอเมืองจันทบุรี

ลงชือ่ ........................................ ที่ปรึกษาโครงการ
(นายศรัณยพงศ์ ขตั ยิ ะนนท์)
ครู กศน.ตาบล
ผ้กู ากับกองลกู เสือ

ลงชอ่ื .......................................... ผู้เห็นชอบโครงการ
(วา่ ทรี่ อ้ ยโท เตชวัตร แกว้ เกตุ)
ครชู านาญการพิเศษ
ผกู้ ากับกลุ่มลกู เสือ

ลงช่อื .......................................... ผอู้ นุมัตโิ ครงการ
(นางอบุ ลรัตน์ ชณุ หพันธ์)

ผูอ้ านวยการศูนย์ กศน.อาเภอเมืองจันทบรุ ี
ผอู้ านวยการลกู เสอื กศน.อาเภอเมืองจันทบรุ ี

155

ใบความรู้ท่ี 4

การสรุปรายงานผลการดาเนินงานโครงการเพ่อื การนาเสนอ

การสรุปผลการดาเนนิ งานควรประกอบด้วยเนอ้ื หาที่สาคัญ ดังตอ่ ไปน้ี
1. ผลการดาเนนิ งานท่ีสอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์ หรือผลที่เกดิ ข้ึนตาม “ผลท่ี คาดว่าจะ
ไดร้ บั ” ท่ีเขียนไวใ้ นโครงการ
2. ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดข้ึนระหวา่ งการดาเนินงานตามโครงการ โดยให้ระบุปญั หาและ
อปุ สรรคที่เกดิ ข้นึ พรอ้ มแนวทางแก้ไข เพอ่ื ป้องกันไม่ใหป้ ญั หา หรอื อุปสรรคเหล่านนั้
เกิดขนึ้ อกี
3. ข้อเสนอแนะ เปน็ การเขยี นขอ้ เสนอแนะแนวทางเพ่ือจะทาให้การปฏิบัติงานโครงการใน
ครง้ั ต่อไป ประสบผลสาเร็จได้งา่ ยขน้ึ
ทัง้ น้ี การสรปุ รายงานผลการดาเนินงานโครงการ เพอื่ นาเสนอผลตอ่ ทปี่ ระชมุ สามารถ

จดั ทาไดต้ ามองคป์ ระกอบ ดงั น้ี
1. ส่วนนา เปน็ สว่ นแรกของรายงาน ซ่ึงควรประกอบด้วย
1. ปก ควรมที ง้ั ปกนอก และปกใน ซึ่งมีเน้ือหาซา้ กนั
2. คานา หลกั การเขียนคานาที่ดีจะต้องทำใหผ้ ู้อา่ นเกดิ ความสนใจ ตอ้ งการทีจ่ ะ
อ่านเนื้อหาส่วนต่าง ๆ ทป่ี รากฏอยใู่ นรายงาน
3. สารบญั หมายถึง การระบุหัวข้อสาคัญในเลม่ รายงาน โดยต้องเขยี นเรยี งลาดับ
ตามเน้ือหาของรายงาน พร้อมระบุเลขหน้า

156

2. สว่ นเนอื้ หา ประกอบดว้ ยส่วนต่าง ๆ ดังน้ี
1. หลักการและเหตผุ ลของโครงการ หรอื ความเป็นมา และความสาคญั ของ
โครงการ
2. วตั ถปุ ระสงค์
3. เปา้ หมายของโครงการ
4. วธิ ีดาเนนิ การ หรือกิจกรรมท่ีได้ดาเนนิ งานตามโครงการเป็นการเขยี นถงึ
ข้ันตอนการดาเนนิ งานโครงการแตล่ ะขัน้ ตอนตามท่ีได้ปฏิบัติจรงิ วา่ มกี าร
ดาเนินการอย่างไร
5. ผลทเ่ี กดิ ขึน้ จากการดาเนินงานโครงการเป็นการเขียนผลการดาเนนิ งาน ที่
เกิดขึน้ จรงิ ซึ่งเป็นผลมาจากการดาเนินงานโครงการ
6. ข้อเสนอแนะจากการดาเนินงานโครงการ (เปน็ การเสนอความคิดเหน็ ท่ีเป็น
ประโยชน์ต่อผอู้ ่าน หรือตอ่ การดาเนินงานโครงการในครงั้ ถดั ไป)
7. ภาคผนวก (ถา้ ม)ี เช่น รปู ภาพจากการดาเนนิ งานโครงการ แบบสอบถาม หรอื
เอกสารท่ีเกิดขึ้นจากการดาเนินงานโครงการ เปน็ ต้น

ท้ังนี้ เมื่อจัดทารูปเล่มรายงานผลการดาเนินงานโครงการ เสร็จส้ินแล้ว ให้นารูปเล่ม
รายงานส่ง/เสนอต่อผู้ท่ีอนุมัติโครงการ หรือผู้ท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือรับทราบผลการดาเนินงานโครงการ
ตอ่ ไป

นอกจากน้ี การเสนอผลการดาเนินงานโครงการ บางหนว่ ยงาน หรือบางโครงการ ผู้อนุมัติ
โครงการ อาจมีความประสงค์ให้ผู้รับผิดชอบโครงการนาเสนอโครงการในลักษณะของการพูด

157

ส่ือสาร ให้ผู้ที่เก่ียวข้องได้รับทราบ ผู้รับผิดชอบโครงการหรือผู้นาเสนอ จึงควรมีการเตรียมความ
พรอ้ มและปฏบิ ตั ิ ดังน้ี

1. ผนู้ าเสนอ ควรมกี ารสารวจตนเองเพ่ือเตรยี มความพรอ้ มใหก้ ับตนเอง ทั้งในเรื่องของ
บุคลิกภาพ การแต่งกายทเ่ี หมาะสม และการทาความเข้าใจกับเนื้อหาท่ีจะนาเสนอ เป็นอยา่ งดี
หากมผี นู้ าเสนอมากกวา่ 1 คน ควรมกี ารเตรียมการโดยการแบง่ เน้ือหารบั ผิดชอบ ในการนาเสนอ
เพือ่ ใหก้ ารนาเสนอเกดิ ความต่อเน่อื ง ราบรนื่

2.กลา่ วทักทาย/สวัสดีผู้ฟงั โดยเริม่ กลา่ วทักทายผู้อาวโุ สทสี่ ดุ แลว้ เรียงลาดับรองลงมา
จากนัน้ แนะนาตนเอง แนะนาสมาชิกในกลมุ่ และแนะนาชือ่ โครงการ

3.พดู ดว้ ยเสียงที่ดงั อย่างเหมาะสม ไมเ่ ร็ว และไมช่ ้าเกินไป
4.หลีกเล่ยี งการอ่าน แต่ควรจดเฉพาะหัวข้อสาคัญ ๆ เพื่อใช้เตอื นความจา ในขณะที่พดู
รายงาน
5.โดยผู้นาเสนอควรจัดความคดิ อย่างเปน็ ระบบ และนาเสนออย่างตรงไปตรงมาดว้ ยภาษา
ทช่ี ดั เจนและเขา้ ใจง่ายเป็นธรรมชาติ
6.ผู้นาเสนอควรรักษาเวลาของการนาเสนอ โดยไม่พดู วกไปวนมาหรือพดู ออกนอกเรอ่ื งจน
เกินเวลา
7.รจู้ กั การใช้ท่าทางประกอบการพูดพอสมควร
8.ควรมีสอื่ ประกอบการนาเสนอ เพ่อื ให้การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ นา่ เช่ือถอื และเพอ่ื
ความสมบูรณ์ในการนาเสนอผลการดาเนนิ งานโครงการ และควรเปดิ โอกาสให้ผู้ฟังไดซ้ ักถาม
เพ่มิ เติม เพือ่ ความเข้าใจในกรณีทผี่ ฟู้ งั มีขอ้ สงสัย

158

ใบงานที่ 1 โครงการเพื่อพัฒนาชมุ ชนและสังคม

คาช้ีแจง ใหผ้ ้เู รียนตอบคาถามต่อไปน้ี
1. โครงการคืออะไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
......................................................................................................... .....................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

159
2. โครงการมคี วามสาคญั อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................. .................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 2 ลกั ษณะของโครงการ

คาช้แี จง ให้ผเู้ รียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1.โครงการทีด่ คี วรมลี ักษณะอยา่ งไร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

160
.......................................................................................................... ....................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................. .............................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. องค์ประกอบของโครงการมอี ะไรบ้าง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................... ....................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................... ..........................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 3 องค์ประกอบของโครงการ

161

คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รียนโยงเสน้ ขัน้ ตอนการเขียนโครงการกับความหมายของข้ันตอนที่กาหนด

1. ชือ่ โครงการ ก. แสดงยอดรวมค่าใช้จ่าย
2. หลกั การและเหตผุ ล ข. ผู้ทีท่ าโครงการ
3. วตั ถปุ ระสงค์ ค. เหมาะสม ชดั เจน ดงึ ดูดความสนใจ
4. วธิ ดี าเนนิ การ
5. ระยะเวลาและสถานท่ดี าเนินการ เฉพาะเจาะจง
6. งบประมาณ ง. ปัญหา ความจาเป็น
7. ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ จ. การติดตามดแู ล หลังจากดาเนินโครงการแล้ว
8. ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั ฉ. ความตอ้ งการที่จะกระทาสิ่งใดสิง่ หน่งึ
9. การประเมนิ ผลโครงการ ช. แสดงขั้นตอนภารกจิ ที่จะต้องทา
ซ. ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั จากความสาเรจ็

เมอ่ื ส้นิ สุดโครงการ
ฌ. การระบุเวลาท่เี รมิ่ ต้นและส้นิ สุดโครงการ

ช่ือ - สกุล..................................................กศน.ตาบล.............................

162

ใบงานท่ี 4

คาช้ีแจง ใหผ้ ้เู รียนฝึกปฏบิ ัตเิ ขยี นโครงการ เพื่อพัฒนาชุมชนและสงั คม และนาสู่การปฏิบัติ ตามโครงการ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................... ....................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................ ..............................................................
.............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.......................................................................................................... ....................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................... ..........................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

163

..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................ ..............................................................
.............................................................................................................................................................................

ชอ่ื - สกลุ ..................................................กศน.ตาบล.............................

ใบงานท่ี 5 การสรปุ รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการเพอ่ื การนาเสนอ

คาช้ีแจง ใหผ้ เู้ รยี นสรุปรายงานผลการดาเนนิ งานโครงการเพ่อื การนาเสนอ ตามรปู แบบการรายงานผลการ
ดาเนินงาน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................... ..........................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................ ..............................................................
.............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................ ......................................................................
.............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

164

.................................................................................... ..........................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................ ..............................................................
.............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ชอื่ - สกุล..................................................กศน.ตาบล.............................

แบบทดสอบหลังเรียน แผนการเรยี นรู้ คร้งั ที่ 8

การเขียนโครงการเพ่ือพฒั นาชุมชนและสังคม

11. โครงการ หมายถงึ ข้อใด ก. มจี ุดมุง่ หมาย มีระยะเวลาทช่ี ดั เจน

จ. กระบวนการทางานทป่ี ระกอบไปดว้ ยหลายๆ ข. มีความหลากหลาย

กจิ กรรม ซึง่ มีการทาตามข้นั ตอน ความจาเป็น ค. งบประมาณตอ้ งเยอะ

มีการกาหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ระยะเวลา ง. มีผรู้ ับเหมา

วธิ กี ารดาเนินการ งบประมาณ ผลท่คี าดว่าจะ 14. โครงการระยะยาว ควรเปน็ ลกั ษณะโครงการ

ไดร้ ับทชี่ ดั เจน อย่างไร

ฉ. กระบวนการทางานทป่ี ระกอบไปด้วยหลายๆ ก. ระยะ 2 ปีขึ้นไป

กิจกรรม ซงึ่ มกี ารทาตามข้นั ตอน ข. ระยะ 3 ปี ข้ึนไป

ช. กระบวนการทางานท่ที าตามความจาเปน็ มีการ ค. ระยะ 4 ปีขึ้นไป

กาหนดวตั ถุประสงค์ เปา้ หมาย ระยะเวลา ง. ระยะ 5 ปีขนึ้ ไป

วธิ ีการดาเนินการ งบประมาณทม่ี าก 15. ข้อใดไม่เก่ียวข้องกบั ประเภทของโครงการ

ซ. กระบวนการทางานท่ีมขี ้ันตอนที่ซับซ้อน และ ก. โครงการท่ีมีระยะเวลาเปน็ ตวั กาหนด

ตอ้ งมีผรู้ ับผิดชอบและผู้อนมุ ัตทิ ช่ี ดั เจน ข. โครงการทม่ี ีลกั ษณะงานเป็นตวั กาหนด

12. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ความสาคญั ของโครงการ ค. โครงการใหม่

ก. ชว่ ยใหก้ ารดาเนนิ งานมีทิศทางท่ีชัดเจน ง. โครงการที่มผี ูร้ ับเหมาเขา้ มาเกีย่ วข้อง

ข. สร้างความมนั่ คงใหก้ ับแผนงาน

ค. ชว่ ยใหจ้ ัดสรรงบประมาณได้มากยง่ิ ขน้ึ

ง. ชว่ ยให้การดาเนินการสอดคล้องกับนโยบาย

13. โครงการท่ดี ี ต้องเป็นโครงการอย่างไร 16. ข้อใดไม่เก่ยี วข้องกับองค์ประกอบของโครงการ

165

ก. วิธีดาเนินการ ข.งบประมาณ ง. เขยี นโครงการเพอ่ื อนุมัติสารวจชมุ ชน
วเิ คราะหช์ ุมชนตรวจข้อมูลกาหนด
ค. ผู้รับผิดชอบโครงการ ง. ประธาน แนวทางและแก้ปัญหา

17. เหตุผลทาไมตอ้ งทาโครงการ ตรงกับข้อใด 19. การดาเนนิ งานตามโครงการ ควรดาเนินการตาม
ขอ้ ใด ถูกตอ้ งทส่ี ดุ
ก. ชอ่ื โครงการ ก. ดาเนินการก่อนการเขยี นโครงการ
ข. ดาเนินการหลังจากไดร้ บั การอนมุ ตั โิ ครงการ
ข. หลักการและเหตุ ค. ดาเนนิ การช่วงใดกไ็ ด้ ในเมอ่ื จะปฏิบตั ติ าม
โครงการอยแู่ ลว้
ค. วิธดี าเนนิ การ ง. ให้รองบประมาณก่อน

ง. ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั 20. หลังจากผเู้ รยี นมกี ารปฏบิ ตั ิตามโครงการเสร็จสิ้น
เรียบแล้วจะตอ้ งมีการดาเนนิ การอยา่ งไรตอ่ ไป
18. ขอ้ ใดจัดเรยี งถูกต้อง เกี่ยวกบั ขั้นตอนการเขียน ก. เคลียงบประมาณที่ดาเนนิ การ
ข. จดั ทาสรปุ รายงานผลการดาเนนิ งานตาม
โครงการ โครงการ
ค. มองถงึ ปัญหาทีเ่ กิดขึน้
ก. สารวจชมุ ชนวเิ คราะห์ชมุ ชนตรวจข้อมูล ง. เตรยี มพรอ้ มเรมิ่ ทาโครงการใหม่

กาหนดแนวทางและแกป้ ัญหาเขยี น

โครงการเพื่ออนุมตั ิ

ข. วิเคราะห์ชุมชนสารวจชมุ ชน ตรวจ

ข้อมูลกาหนดแนวทางและแกป้ ัญหา

เขียนโครงการเพือ่ อนมุ ตั ิ

ค. กาหนดแนวทางและแก้ปญั หาสารวจชุมชน

วิเคราะห์ชุมชนตรวจข้อมูล เขยี น

โครงการเพือ่ อนมุ ตั ิ

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ครัง้ ที่ 8

1. ก
2. ค
3. ง
4. ง
5. ง
6. ง
7. ข
8. ก
9. ข
10. ข

166

บนั ทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
สภาพปญั หาที่พบ
..............................................................................................................................................................................

167

..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................ ..............................
..............................................................................................................................................................................
วิธแี กป้ ญั หา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................. .............................................................

ลงชื่อ..................................................ผบู้ นั ทึก
(..................................................)
วนั ที.่ ...........................................

ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ าร
................................................................................................................................................ ..............................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................................ ..................................

ลงชอ่ื .......................................................
(…………………………………………….)
ผู้อานวยการ กศน.อาเภอ

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 9

เร่ือง ทักษะลูกเสือ (แผนท่ี – เข็มทิศ)

รายวชิ า ลกู เสือ กศน. รหัสวิชา สค12025 ระดบั ประถมศกึ ษา

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 สาระการพฒั นาสังคม เวลา 6 ชวั่ โมง

168

ครผู สู้ อน...................................................................... รปู แบบการสอนพบกลมุ่ /ค้นควา้ ด้วยตนเอง
**********************************************

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
1.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เก่ยี วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการ

ปกครองในท้องถ่ิน ประเทศ นามาปรบั ใชใ้ นการดาเนินชวี ติ และการประกอบอาชีพ เพ่ือความมนั่ คงของชาติ
1.2 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของท้องถนิ่ และ

ประเทศไทย
1.3 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ดาเนนิ ชวี ติ ตามวิถปี ระชาธิปไตย กฎหมายเบ้อื งตน้ กฎระเบยี บของชุมชน

สงั คม และประเทศ
1.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจหลกั การพฒั นาชุมชน สังคม และวิเคราะหข์ ้อมูลในการพัฒนาตนเอง

ครอบครวั ชุมชน สงั คม

2. ตัวชี้วดั
อธิบายความหมายและความสาคญั ของแผนที่ - เข็มทิศ

3. สาระสาคญั ของเนื้อหา
3.1 ความหมายและความสาคัญของแผนที่
3.2ความหมายและความสาคัญของเข็มทิศ

4. เป้าหมายการเรยี นรู้ (ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง)
4.1 ความหมายและความสาคญั ของแผนที่
4.2 ความหมายและความสาคญั ของเขม็ ทิศ

5. ขนั้ จดั กระบวนการเรยี นรู้
ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการในการเรียนรู้
1) ครูและผเู้ รียนร่วมกันกาหนดสภาพความจาเปน็ ที่ตอ้ งเรียนรู้ในเรื่องต่อไปน้ี
(1) ความหมายของแผนท่ี
(2) ความสาคัญของแผนท่ี
(3) ชนดิ ของแผนที่
(4) สญั ลักษณ์ในแผนท่ี
(5) แผนที่สงั เขปของลูกเสือ
(6) การอ่านแผนท่ี
(7) ความหมายของเข็มทิศ

169

(8) ความสาคัญของเขม็ ทิศ
(9) การหาทศิ
(10) การใช้เขม็ ทศิ
2) ครแู ละผ้เู รียนทาความเข้าใจสภาพปัญหาความต้องการในการเรยี นรู้ให้ผเู้ รียนซักถาม
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เชอ่ื มโยงความร้ใู หม่
3) ครใู ห้ผูเ้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
ข้ันท่ี 2 การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้
1) ครแู ละผู้เรียนร่วมแสดงความคดิ เห็น เรอื่ ง ความหมายและความสาคัญของแผนทแ่ี ละ
เขม็ ทิศ เข็มทิศ ชนิดของแผนที่ สญั ลกั ษณใ์ นแผนที่ แผนที่สังเขปของลกู เสือ การอ่านแผนที่ ขอ้ ควรระวงั ใน
การใชเ้ ขม็ ทิศ การใชแ้ ผนท่ีและเข็มทิศเดินทางไกล
2) ครูใหผ้ ูเ้ รยี นศึกษาหาความรู้จากหนังสือเรียน ความหมายและความสาคัญของแผนท่ีและ
เข็มทิศ ชนดิ ของแผนที่ สัญลักษณ์ในแผนที่ แผนท่สี งั เขปของลกู เสือ การอ่านแผนท่ี ข้อควรระวังในการใชเ้ ขม็
ทิศ การใชแ้ ผนท่ีและเขม็ ทิศเดินทางไกล
ขั้นที่ 3 ปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ต์ใช้
1) ครแู บง่ กลุ่มผ้เู รียนเป็น 2 กลมุ่ และมอบหมายให้ผ้เู รยี นแต่ละกลุม่ อภปิ รายหน้าชั้นเรยี น
เรื่องความหมายและความสาคญั ของแผนที่ – เขม็ ทศิ โดยศึกษาเพ่มิ เติมจากใบความรู้ ที่ 1 และ 2
2) ครแู ละผู้เรียนสรุปเนือ้ หาท่นี าเสนอร่วมกนั
3) ครใู ห้ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน
ขน้ั ท่ี 4 ประเมินผลการเรียนรู้
1) ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน
2) ประเมินจากใบงาน
3) ครูสังเกตจากการนาเสนอผ้เู รียน
4) บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
5) ทาแบบทดสอบหลงั เรียน

สอ่ื การเรยี นรู้
1. ใบความรู้
2. ใบงาน
3. หนังสอื เรียนรายวชิ าลูกเสือ กศน.

170

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

เรื่อง ความหมายและความสาคัญของแผนที่ - เข็มทศิ
คาชี้แจง : จงกากบาท X เลือกข้อท่ีทา่ นคดิ วา่ ถกู ต้องทส่ี ุด

1. ความหมายของแผนท่ี หมายถึงข้อใด
ก. สิ่งท่แี สดงรายละเอียดของภมู ปิ ระเทศบนพื้นผวิ โลกท้งั ที่มอี ยู่ ตามธรรมชาตแิ ละที่มนุษย์สรา้ งข้ึน
ข. ส่ิงทีแ่ สดงปรากฎบนพ้ืนโลก
ค. สงิ่ ทีม่ นุษย์สร้างข้นึ เปน็ อย่างเดยี ว
ง. ส่งิ ที่ปรากฏข้ึนเองตามธรรมชาติ

2. ความสาคัญของแผนที่ หมายถึงข้อใด
ก. ใชเ้ ปน็ เครื่องมือประกอบกจิ กรรมการเดนิ ทางไกลของลูกเสือ โดยแผนท่จี ะให้ ขอ้ มูลเบ้อื งต้นของ

พกิ ดั ทิศทางและตาแหน่งของสถานทใ่ี นการเดินทางในเบอ้ื งต้นที่ชดั เจนขน้ึ
ข. แผนทจ่ี ะชว่ ยให้เขา้ ใจถึงข้อมลู พ้ืนฐานของสภาพลกั ษณะภูมิประเทศเบ้ืองต้น ของสถานท่ีในแต่ละ

แห่ง ชว่ ยใหส้ ามารถวางแผนในการเดินทางได้อย่างเหมาะสม
ค. ความเขา้ ใจในชนิดของแผนท่ี จะช่วยให้รู้จกั ทจ่ี ะเลอื กใชป้ ระโยชน์จากแผนท่ี ในแตล่ ะชนิดได้

อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ง. ถูกทกุ ข้อ

3. แผนท่ีแบ่งออกเป็นกช่ี นิด
ก. 1 ชนิด
ข. 2 ชนิด
ค. 3 ชนิด
ง. 4 ชนิด

4. ข้อใดหมายถึง แผนท่ีแนวราบ
ก. แสดงพืน้ ผิวโลก ความสูงต่า ใชแ้ สดงตาแหน่ง ระยะทาง และเส้นทาง
ข. แสดงพนื้ ผวิ โลกในทางราบ ไมแ่ สดงความสูงต่า ละเอยี ด กว่าและใช้ประโยชนไ์ ด้มากกว่าแผนที่แบนราบ

171

ค. ทาขึน้ จากภาพถ่ายทางอากาศ มีความละเอียดและความ ถูกต้องมากกว่าแผนทีช่ นิดอื่นมาก
สามารถมองเหน็ สง่ิ ตา่ ง ๆ ตามธรรมชาติ และสิง่ ทม่ี นุษย์ สรา้ งขน้ึ อยา่ งชัดเจน

ง. แสดงถึงลกั ษณะพน้ื ผิวเรียบละเอียด
5. ข้อใดหมายถงึ แผนทภ่ี ูมิประเทศ

ก. แสดงพ้ืนผิวโลก ความสงู ต่า ใช้แสดงตาแหน่ง ระยะทาง และเส้นทาง
ข. แสดงพนื้ ผวิ โลกในทางราบ ไม่แสดงความสงู ต่า ละเอยี ด กว่าและใชป้ ระโยชน์ได้มากกว่าแผนท่ีแบน
ราบ
ค. ทาข้ึนจากภาพถ่ายทางอากาศ มีความละเอียดและความ ถูกต้องมากกวา่ แผนที่ชนิดอ่นื มาก
สามารถมองเหน็ สง่ิ ต่าง ๆ ตามธรรมชาติ และสงิ่ ทมี่ นุษย์ สร้างขน้ึ อย่างชดั เจน
ง. แสดงถึงลักษณะพน้ื ผวิ เรยี บละเอียด

6. ขอ้ ใดหมายถงึ แผนทีภ่ าพถ่าย

ก. แสดงพ้นื ผิวโลก ความสงู ต่า ใชแ้ สดงตาแหน่ง ระยะทาง และเสน้ ทาง

ข. แสดงพน้ื ผวิ โลกในทางราบ ไม่แสดงความสูงต่า ละเอยี ด กว่าและใชป้ ระโยชน์ได้มากกว่าแผนท่ีแบน

ราบ

ค. ทาขน้ึ จากภาพถา่ ยทางอากาศ มีความละเอยี ดและความ ถูกต้องมากกว่าแผนทชี่ นิดอืน่ มาก

สามารถมองเห็นสิง่ ตา่ ง ๆ ตามธรรมชาติ และส่ิงท่มี นุษย์ สร้างข้ึนอย่างชดั เจน

ง. แสดงถึงลกั ษณะพื้นผวิ เรยี บละเอียด

7. สญั ลกั ษณ์ หมายถึง ข้อใด

ก. ทศิ ใต้ ข. ทศิ เหนือ
ค. ทิศตะวันออก ง. ทศิ ตะวนั ตก

8.สัญลกั ษณ์ หมายถึงข้อใด

ก. วัด ข. โรงเรยี น
ค. โบสถ์ ง. โรงพยาบาล
9. สญั ลกั ษณ์ หมายถึงข้อใด

ก. ทิศใต้ ข. ทศิ เหนอื
ค. ทศิ ตะวนั ออก ง. ทศิ ตะวันตก

172

10.สญั ลักษณ์ หมายถึงข้อใด

ก. ทิศใต้ ข. ทิศเหนือ
ค. ทศิ ตะวันออก ง. ทศิ ตะวนั ตก

ชอื่ .................................................นามสกลุ ................................................ระดบั ......................................

เฉลย 1) ก 2) ง 3) ค 4) ก 5) ข 6) ค 7) ข 8) ข 9) ค 10) ก

ใบความรู้ท่ี 1
ความหมายและความสาคัญของแผนที่

1. ความหมาย และความสาคญั ของแผนท่ี
แผนที่ คอื สงิ่ ที่แสดงรายละเอยี ดของภูมปิ ระเทศบนพน้ื ผวิ โลกทัง้ ที่มีอยู่ ตามธรรมชาติและทมี่ นษุ ย์

สร้างขน้ึ โดยจาลองไวบ้ นวัตถุพนื้ ราบด้วยมาตราส่วนใดมาตราสว่ นหน่ึง ซง่ึ รายละเอียดเหลา่ น้ีอาจแสดงดว้ ย
เส้น สี และสัญลักษณ์ต่าง ๆ เชน่ สที ่ีใช้ในแผนท่ี ทางภมู ิศาสตร์ ไดแ้ ก่ สีน้าเงินแก่ แสดงถงึ ทะเล มหาสมุทรท่ี
ลกึ มาก สีฟ้าอ่อน แสดงถึง เขตน้าต้นื หรอื ไหลท่ วปี สเี ขียว แสดงถงึ ท่ีราบระดับต่า สีเหลอื ง แสดงถึง ทร่ี าบ
ระดบั สงู สีแสด แสดงถงึ ภเู ขาทส่ี ูงปานกลาง สแี ดง แสดงถึง ภูเขาท่ีสูงมาก สีน้าตาล แสดงถึง ยอดเขาทีส่ งู
มาก ๆ สีขาว แสดงถึง ยอดเขาทส่ี งู จนมีหิมะปกคลมุ สที ่ีใชใ้ นแผนท่ีทว่ั ไป ไดแ้ ก่ สดี า ใช้แทนรายละเอียดที่
เกดิ จากแรงงานมนุษย์ ยกเว้นถนน สแี ดง ใช้แทนรายละเอียดที่เปน็ ถนน สีน้าเงิน ใชแ้ ทนรายละเอียดท่เี ป็นนา้
หรอื ทางนา้ เช่น ทะเล แมน่ า้ สเี ขียว ใชแ้ ทนรายละเอียดทเ่ี ป็นป่าไม้ และบรเิ วณท่ที าการเพาะปลูก สนี า้ ตาล
ใช้แทนลักษณะทรวดทรงความสูง

2. ความสาคญั ของแผนท่ี
2.1 ใช้เปน็ เคร่ืองมือประกอบกิจกรรมการเดนิ ทางไกลของลูกเสือ โดยแผนท่ีจะให้ ข้อมูลเบ้ืองต้นของ

173

พิกดั ทิศทางและตาแหนง่ ของสถานทีใ่ นการเดินทางในเบือ้ งต้นทีช่ ัดเจนขนึ้
2.2 แผนที่จะช่วยให้เข้าใจถึงข้อมูลพื้นฐานของสภาพลักษณะภูมิประเทศเบ้ืองต้น ของสถานที่ในแต่

ละแหง่ ช่วยใหส้ ามารถวางแผนในการเดินทางได้อย่างเหมาะสม
2.3 ความเข้าใจในชนิดของแผนที่ จะช่วยให้รู้จักที่จะเลือกใช้ประโยชน์จากแผนท่ี ในแต่ละชนิดได้

อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ชนดิ ของแผนที่
แผนท่โี ดยทัว่ ไป แบ่งออกเปน็ 3 ชนดิ
1) แผนทแ่ี บนราบ แสดงพื้นผิวโลก ความสงู ตา่ ใชแ้ สดงตาแหน่ง ระยะทาง และเสน้ ทาง
2) แผนที่ภูมิประเทศ แสดงพ้ืนผิวโลกในทางราบ ไม่แสดงความสูงต่า ละเอียด กว่าและใช้ประโยชน์
ไดม้ ากกวา่ แผนทีแ่ บนราบ
3) แผนที่ภาพถ่าย ทาข้ึนจากภาพถ่ายทางอากาศ มีความละเอียดและความ ถูกต้องมากกว่าแผนท่ี
ชนดิ อนื่ มาก สามารถมองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามธรรมชาติ และส่งิ ท่มี นุษย์ สรา้ งขึ้นอยา่ งชัดเจน
นอกจากนย้ี งั แบง่ ชนดิ ของแผนท่ตี ามลักษณะการใชง้ าน ตวั อยา่ ง เช่น
(1) แผนที่ทวั่ ไป เชน่ แผนท่ีโลก แผนที่ประเทศต่าง ๆ
(2) แผนทท่ี รวดทรงหรอื แผนทน่ี นู แสดงความสงู ต่าของภูมิประเทศ
(3) แผนที่ทหาร เป็นแผนท่ยี ทุ ธศาสตร์ ยทุ ธวธิ ี
(4) แผนท่ีเดนิ อากาศ ใชส้ าหรับการบนิ เพื่อบอกตาแหน่ง และทศิ ทาง ของเครอื่ งบนิ
(5) แผนที่เดินเรอื ใช้ในการเดินเรอื แสดงสันดอน ความลกึ แนวปะการัง
(6) แผนทป่ี ระวตั ิศาสตร์ แสดงอาณาเขตยคุ และสมยั ตา่ ง ๆ
(7) แผนทก่ี ารขนส่ง แสดงการคมนาคมทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ฯลฯ

สญั ลกั ษณใ์ นแผนท่ี
สญั ลกั ษณ์ (SYMBOL) เป็นเคร่ืองหมายท่ีใชแ้ ทนรายละเอยี ดตา่ ง ๆ ทีป่ รากฏ อยบู่ นพนื้ ผวิ โลก
ฉะนั้น เม่ืออา่ นแผนที่จึงควรตรวจดูเครอื่ งหมายแผนที่ก่อนเสมอ ท้งั นเี้ พื่อจะ ป้องกันมิให้ตีความหมาย
สัญลกั ษณ์ต่าง ๆ ผิดพลาดได้ ในแผนท่ชี ดุ L 7017 จะแสดงสญั ลกั ษณ์ 3 ประเภท คือ ตาแหน่งหน่วยพทิ ักษ์
หนว่ ยงานป่าไม้อนื่ ๆ หมบู่ ้าน สัญลักษณ์เปน็ จุด (POINT SYMBOL) สัญลักษณร์ ูปทรงเรขาคณิต เช่น วดั
โรงเรยี น ศาลาท่ีพัก ทต่ี ง้ั จังหวัด ฯลฯ

174
แผนทสี่ งั เขปของลกู เสือ

175

“แผนที่สังเขป” คือ แผนที่หรือรูปภาพแผนที่ หรือเส้นทางในการเดินทาง แสดงรายละเอียดต่าง ๆ
ตามความตอ้ งการ แผนทสี่ ังเขปน้ีจะให้ความละเอียดถกู ต้อง พอประมาณเทา่ นนั้

แผนท่ีสังเขปของลูกเสือ จะแสดงลักษณะภูมิประเทศที่เด่นชัดท่ีอยู่บริเวณ ใกล้เคียงกับเส้นทาง
ส่ิงจาเปน็ ในการทาแผนที่สงั เขป คือ ต้องใช้เข็มทศิ เปน็ และรู้ระยะกา้ วของตน โดยทั่วไปคนปกติจะมีความยาว
1 ก้าวเท่ากบั 75 เซนติเมตร เดินได้นาทลี ะ 116 ก้าว เดนิ ได้ ช่วั โมงละ 4 กิโลเมตรโดยประมาณ

การอา่ นแผนท่ี วางแผนท่ใี นแนวราบบนพ้นื ท่ีไดร้ ะดับ ทิศเหนอื ของแผนทีช่ ี้ไปทางทศิ เหนอื จดั ใหแ้ นว
ต่าง ๆ ในแผนท่ขี นานกบั แนวท่ีเปน็ จรงิ ในภมู ิประเทศทุกแนว

176

ใบความรู้ที่ 2
เรอ่ื ง ความหมาย และความสาคัญของเข็มทศิ

ความหมายของเข็มทิศ
เขม็ ทิศ คือ เครือ่ งมอื สาหรับใช้หาทศิ ทางหรือบอกทิศทางในแผนท่ี

ความสาคญั ของเข็มทศิ
เขม็ ทิศ มคี วามสาคัญในการบอกทิศที่สาคัญทัง้ 4 ทิศ คือ ทิศเหนอื ทิศใต้ ทิศตะวนั ออก และทิศ

ตะวันตก หรอื อาจจะบอกรายละเอยี ดเป็น 8 ทศิ 16 ทิศ หรือ 32 ทิศก็ได้ ในกรณีการเดินทางไกลของลกู เสือ
เข็มทิศเปน็ อุปกรณ์ทีส่ าคญั ในการบอกทศิ ทางไปสู่จุดหมาย ปลายทาง หากกรณีหลงป่าหรอื หลงทาง

ลูกเสอื สามารถแจ้งพกิ ดั ให้ผชู้ ่วยเหลือได้ การหาทิศ วางเข็มทิศในแนวระนาบ ปลายเข็มทศิ ขา้ งหน่ึงจะช้ีไปทาง
ทศิ เหนอื คอ่ ย ๆ หมนุ หนา้ ปัดของเข็มทิศให้ตาแหนง่ ตัวเลข หรืออักษรทบ่ี อกทิศเหนือบนหนา้ ปดั ตรงกบั ปลาย
เหนือ ของเขม็ ทิศ เม่ือปรับเข็มตรงกบั ทิศเหนือแลว้ จะสามารถอา่ นทิศตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถูกต้องจาก หน้าปัดเขม็
ทิศ ลูกเสอื สามารถนาเขม็ ทิศไปใชใ้ นกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เชน่ การเดนิ ทางไกล การสารวจป่า การผจญภัย การ
สารวจและการเยือนสถานท่ี เป็นต้น เมือ่ เร่มิ ออกเดินทาง ลูกเสอื ควรหาทิศท่ีจะมุ่งหนา้ ไปให้ทราบก่อนวา่ เปน็
ทิศใด เม่ือเกิดหลงทิศหรือหลงทางจะสามารถ หาทศิ ทางต่าง ๆ จากเข็มทิศได้

ขอ้ ควรระวังในการใช้เขม็ ทิศ
1. จับถอื ดว้ ยความระมัดระวงั เพราะหน้าปดั และเขม็ บอบบาง อ่อนไหวงา่ ย
2. อยา่ ใหต้ ก แรงกระเทือนทาใหเ้ สยี ได้
3. ไมค่ วรอา่ นเข็มทิศใกลส้ ิง่ ที่เปน็ แม่เหลก็ หรือวงจรไฟฟา้
4. อยา่ ใหเ้ ปยี กนา้ จนขนึ้ สนมิ
5. อยา่ ให้ใกล้ความร้อนเข็มทิศจะบิดงอ

การใช้แผนทีแ่ ละเขม็ ทิศเดนิ ทางไกล
1. ยกเขม็ ทิศให้ไดร้ ะดบั
2. ปรบั มุมอะซมิ ุทใหเ้ ท่ากบั มุมทก่ี าหนดในแผนที่
3. เลง็ ตามแนวลกู ศรช้ที ิศทาง เป็นเส้นทางทีจ่ ะเดินไป
4. เดนิ ไปเท่ากับระยะทางทก่ี าหนดในแผนที่

177

ใบงาน
เรอื่ ง ความหมายและความสาคัญของแผนท่ี - เขม็ ทศิ

ชือ่ – สกุล .................................................................... รหัสนกั ศึกษา ....................................

คาช้แี จง ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามให้ถูกต้องและครบถว้ น
1. ความหมายของแผนที่ คือ
......................................................................................... .......................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
......................................................................................................................... .......................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. ความหมายของเข็มทิศ คือ
..................................................................................................................... ...........................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................... ...........
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3. ชนิดของแผนท่ี คอื
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................. ...

178
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

แบบทดสอบหลังเรียน

เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของแผนที่ - เข็มทิศ
คาชแี้ จง : จงกากบาท X เลอื กข้อทีท่ า่ นคดิ วา่ ถูกตอ้ งทส่ี ุด

1. ความหมายของแผนท่ี หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. สง่ิ ทแี่ สดงรายละเอยี ดของภูมปิ ระเทศบนพ้นื ผิวโลกทง้ั ที่มอี ยู่ ตามธรรมชาตแิ ละท่ีมนุษยส์ รา้ งข้ึน
ข. ส่ิงที่แสดงปรากฎบนพน้ื โลก
ค. ส่ิงทมี่ นุษยส์ ร้างขนึ้ เปน็ อย่างเดียว
ง. สง่ิ ท่ีปรากฏขึน้ เองตามธรรมชาติ

2. ความสาคญั ของแผนที่ หมายถึงข้อใด
ก. ใช้เปน็ เครอื่ งมือประกอบกิจกรรมการเดินทางไกลของลูกเสือ โดยแผนทีจ่ ะให้ ขอ้ มูลเบอื้ งต้นของ

พกิ ัดทิศทางและตาแหนง่ ของสถานทใ่ี นการเดินทางในเบอื้ งต้นทช่ี ัดเจนขึ้น
ข. แผนทจี่ ะช่วยใหเ้ ข้าใจถึงข้อมลู พน้ื ฐานของสภาพลกั ษณะภมู ิประเทศเบื้องต้น ของสถานทใ่ี นแตล่ ะ

แหง่ ชว่ ยให้สามารถวางแผนในการเดินทางได้อยา่ งเหมาะสม
ค. ความเข้าใจในชนิดของแผนที่ จะชว่ ยใหร้ ู้จกั ท่จี ะเลอื กใช้ประโยชน์จากแผนท่ี ในแตล่ ะชนดิ ได้

อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
ง. ถกู ทุกข้อ

3. แผนท่แี บง่ ออกเป็นก่ชี นิด
ก. 1 ชนดิ
ข. 2 ชนดิ

179

ค. 3 ชนิด
ง. 4 ชนดิ
4. ข้อใดหมายถึง แผนที่แนวราบ
ก. แสดงพน้ื ผิวโลก ความสงู ต่า ใชแ้ สดงตาแหน่ง ระยะทาง และเส้นทาง
ข. แสดงพ้นื ผิวโลกในทางราบ ไม่แสดงความสงู ตา่ ละเอยี ด กวา่ และใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแผนท่ีแบนราบ
ค. ทาขึ้นจากภาพถา่ ยทางอากาศ มีความละเอียดและความ ถกู ต้องมากกวา่ แผนท่ชี นิดอืน่ มาก
สามารถมองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามธรรมชาติ และสิง่ ท่มี นุษย์ สรา้ งข้นึ อย่างชัดเจน
ง. แสดงถึงลกั ษณะพน้ื ผิวเรยี บละเอียด
5. ข้อใดหมายถึง แผนท่ภี ูมิประเทศ
ก. แสดงพ้ืนผิวโลก ความสงู ต่า ใช้แสดงตาแหน่ง ระยะทาง และเส้นทาง
ข. แสดงพนื้ ผิวโลกในทางราบ ไม่แสดงความสงู ต่า ละเอยี ด กว่าและใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแผนที่แบน
ราบ
ค. ทาข้นึ จากภาพถา่ ยทางอากาศ มีความละเอียดและความ ถกู ต้องมากกว่าแผนที่ชนิดอน่ื มาก
สามารถมองเหน็ สิ่งต่าง ๆ ตามธรรมชาติ และสงิ่ ท่ีมนุษย์ สรา้ งขึ้นอยา่ งชัดเจน
ง. แสดงถึงลกั ษณะพน้ื ผวิ เรยี บละเอยี ด

6. ข้อใดหมายถงึ แผนทีภ่ าพถา่ ย

ก. แสดงพ้นื ผิวโลก ความสูงต่า ใชแ้ สดงตาแหน่ง ระยะทาง และเสน้ ทาง

ข. แสดงพืน้ ผวิ โลกในทางราบ ไม่แสดงความสงู ต่า ละเอียด กว่าและใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแผนท่ีแบน

ราบ

ค. ทาขึ้นจากภาพถ่ายทางอากาศ มีความละเอียดและความ ถูกต้องมากกว่าแผนทชี่ นดิ อนื่ มาก

สามารถมองเหน็ สิ่งตา่ ง ๆ ตามธรรมชาติ และสงิ่ ทีม่ นุษย์ สร้างข้ึนอยา่ งชดั เจน

ง. แสดงถึงลกั ษณะพ้นื ผิวเรียบละเอยี ด

7. สัญลักษณ์ หมายถึง ข้อใด

ก. ทิศใต้ ข. ทศิ เหนอื
ค. ทศิ ตะวันออก ง. ทิศตะวันตก

8.สัญลักษณ์ หมายถึงข้อใด

180

ก. วดั ข. โรงเรยี น
ค. โบสถ์ ง. โรงพยาบาล
9. สัญลกั ษณ์ หมายถึงข้อใด

ก. ทิศใต้ ข. ทิศเหนอื

ค. ทิศตะวันออก ง. ทศิ ตะวันตก

10.สญั ลกั ษณ์ หมายถึงข้อใด

ก. ทศิ ใต้ ข. ทิศเหนอื
ค. ทิศตะวันออก ง. ทศิ ตะวนั ตก

ช่อื .................................................นามสกุล................................................ระดับ......................................

เฉลย 1) ก 2) ง 3) ค 4) ก 5) ข 6) ค 7) ข 8) ข 9) ค 10) ก

บันทกึ หลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

กจิ กรรมการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...................................................................................... .......................................................... ..............................
..............................................................................................................................................................................
สภาพปญั หาที่พบ
................................................................................................................. .............................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

181

.................................................................................. ............................................................................................
วิธีแกป้ ัญหา
...................................................................................................................................... ........................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................. .............................................................

ลงชือ่ ..................................................ผู้บันทกึ
(..................................................)
วันที่............................................

ขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ าร
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................. ............................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .......................................................
(…………………………………………….)
ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10

เรอ่ื ง ทักษะลกู เสอื (วธิ กี ารใช้แผนท่ี – เข็มทศิ )

รายวิชา ลกู เสือ กศน. รหัสวิชา สค12025 ระดับ ประถมศึกษา

ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 สาระการพฒั นาสังคม เวลา 4 ชัว่ โมง

ครูผู้สอน...................................................................... รปู แบบการสอนพบกล่มุ /คน้ คว้าด้วยตนเอง

**********************************************

182

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
1.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเก่ียวกบั ภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการ

ปกครองในท้องถิ่น ประเทศ นามาปรบั ใช้ในการดาเนนิ ชีวติ และการประกอบอาชีพ เพอ่ื ความม่ันคงของชาติ
1.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณคา่ และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่น และ

ประเทศไทย
1.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ดาเนินชีวิตตามวิถปี ระชาธปิ ไตย กฎหมายเบื้องต้น กฎระเบยี บของชมุ ชน

สังคม และประเทศ
1.4 มีความรู้ ความเข้าใจหลกั การพัฒนาชมุ ชน สังคม และวิเคราะห์ข้อมูลในการพัฒนาตนเอง

ครอบครวั ชมุ ชน สังคม

2. ตวั ช้ีวัด
อธิบายวธิ กี ารใชแ้ ผนที่ - เขม็ ทศิ

3. สาระสาคญั ของเนอื้ หา
3.1 วิธีการใช้แผนท่ี
3.2 วิธกี ารใชเ้ ขม็ ทิศ

4. เป้าหมายการเรยี นรู้ (ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั )
4.1 วธิ กี ารใชแ้ ผนท่ี
4.2 วิธกี ารใช้เขม็ ทิศ

5. ขั้นจัดกระบวนการเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรียนรู้
1) ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกันกาหนดสภาพความจาเปน็ ที่ตอ้ งเรียนรใู้ นเรอ่ื งต่อไปนี้
(1) วิธกี ารใช้แผนท่ี
(2) วิธีการใช้เข็มทิศ
(3) สว่ นประกอบของเข็มทิศแบบซิลวา
(4) การใช้เข็มทิศซลิ วา
(5) การกาหนดเป้าหมายและหามุม
(6) ข้อควรระวังในการใช้เข็มทศิ ซลิ วา
(7) การใชแ้ ผนที่และเขม็ ทิศเดนิ ทางไกล
(8) การจัดทาสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้
(9) การวัดทิศทางบนแผนที่โดยการใชเ้ ข็มทศิ

183
2) ครแู ละผูเ้ รยี นทาความเขา้ ใจสภาพปัญหาความต้องการในการเรียนรูใ้ หผ้ ู้เรียนซกั ถาม
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ เชื่อมโยงความรู้ใหม่
3) ครใู ห้ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้
1) ครูและผเู้ รยี นร่วมแสดงความคดิ เหน็ เร่ือง วิธีการใชแ้ ผนท่ี วิธกี ารใช้เขม็ ทศิ สว่ นประกอบ
ของเข็มทิศแบบซลิ วา การใชเ้ ข็มทศิ ซิลวา การกาหนดเปา้ หมายและหามุม ข้อควรระวังในการใชเ้ ข็มทิศซลิ วา
การใชแ้ ผนท่ีและเขม็ ทศิ เดินทางไกล การจัดทาสารสนเทศเผยแพร่ความรู้ การวดั ทิศทางบนแผนทโี่ ดยการใชเ้ ข็ม
ทศิ
2) ครูให้ผู้เรียนดูคลิปจาก YouTube เรื่อง “การใช้แผนที่และเข็มทิศ”และ“ส่วนประกอบ
ของเข็มทศิ Silva” มาใหผ้ เู้ รียนดูแล้วถามคาถามในประเด็นดังน้ี

(1) ผู้เรียนได้อะไรบ้างจากการดู YouTube เรื่อง การใช้แผนที่และเข็มทิศ”และ
“สว่ นประกอบของเข็มทิศ Silva”

(2) สว่ นประกอบของเขม็ ทศิ มีอะไรบ้าง
(3) ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ นาเสนอ และจดบันทึก

https://www.youtube.com/watch?v=qlX2XF_wYhs

https://www.youtube.com/watch?v=qlX2XF_wYhs&ab_channel=Maytika%27J

184

https://www.youtube.com/watch?v=uoIqObuWy_E
ขั้นที่ 3 ปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ใช้

1) ครูแบ่งกลุ่มผูเ้ รยี นเป็น 2 กลมุ่ และมอบหมายให้ผเู้ รียนอธิบายวธิ ีการใชแ้ ผนที่และเข็มทิศ
และฝกึ ปฏิบตั ิ โดยศกึ ษาเพิ่มเติมจากใบความรู้ ที่ 1 และ 2

2) ครแู ละผู้เรยี นสรุปเน้ือหาท่ีนาเสนอรว่ มกนั
ขัน้ ที่ 4 ประเมนิ ผลการเรียนรู้

1) แบบทดสอบก่อนเรยี น
2) ประเมินจากใบงาน
3) ครูสังเกตจากการนาเสนอผู้เรยี น
4) บันทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
5) แบบทดสอบหลงั เรียน
สื่อการเรยี นรู้
1. ใบความรู้

185

2. ใบงาน
3. เข็มทศิ
4. วดี ที ัศน์
5. อนิ เตอรเ์ น็ต

แบบทดสอบก่อนเรยี น

เรอ่ื ง วธิ ีการใชแ้ ผนท่ี - เข็มทศิ
คาชี้แจง : จงกากบาท X เลือกขอ้ ที่ทา่ นคิดวา่ ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ

1. ผใู้ ดใช้เข็มทิศได้ถูกวิธี
ก. สมศกั ดิ์ ยืนข้างๆเสาไฟฟ้า
ข. สมชาย วางบนพื้นราบเพ่ือหาทศิ
ค. สมชัย ถือไว้เพราะอ่านองศาได้ง่าย
ง. สมศรี ไปลา้ งนา้ เม่ือเลกิ ใช้งาน

2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของแผนที่
ก. ภูมิประเทศ
ข. ทศิ ทาง
ค. สญั ลักษณ์
ง. มาตราส่วน

3. เข็มทศิ ชนิดใดทนี่ ิยมใชใ้ นวงการลูกเสือ
ก. เข็มทิศสากล
ข. เขม็ ทศิ สมุทร
ค. เข็มทิศจาาลอง
ง. เขม็ ทิศซลิ วา

4. การทาแผนที่ใช้หลกั การในขอ้ ใด
ก. การสรา้ งแบบ
ข. การจาลอง

186

ค. การสมดลุ
ง. การทดแทน
5. เหตใุ ดขณะใชเ้ ขม็ ทิศจึงต้องถือเขม็ ทิศดว้ ยความระมดั ระวัง
ก. หน้าปดั หลวม
ข. ปอ้ งกันน้าเข้าหน้าปดั
ค. หนา้ ปดั และเข็มทิศบอบบาง
ง. ไม่มรี ะบบปอ้ งกันการส่ันสะเทือน
6. สนี ้าตาลในแผนท่ใี ชแ้ ทนสิ่งใด
ก. ทีส่ งู หรือภเู ขาสงู
ข. ทร่ี าบสงู
ค. แหล่งน้า
ง. ทร่ี าบลุ่ม หรือปา่ ไม้

7. ขอ้ ใดหมายถึงทิศเหนือท้ังหมด
ก. พายพั NW 315 องศา
ข. ประจมิ W 207 องศา
ค. อดุ ร N 0 องศา หรอื 360 องศา
ง. ทักษณิ S 180 องศา

8.ข้อใด ไมใ่ ช่ สว่ นประกอบของเข็มทิศ
ก. เข็มช้ีทิศทาง
ข. แผ่นฐาน
ค. แวน่ ขยาย
ง. ปรอท

9.เข็มทิศซิลวา ถกู ค้นคดิ ข้นึ ในประเทศใด
ก. อังกฤษ
ข. สวีเดน
ค. ฝรั่งเศส
ง. สหรฐั อเมริกา

10.ขอ้ ควรระวงั ในการใชเ้ ข็มทิศชลิ วา ควรคานึงถงึ ระยะความปลอดภัย ขอ้ ใด
ก. สายไฟแรงสูง

187

ข. สายโทรศัพท์ โทรเลข
ค. รถยนต์
ง. ถกู ทกุ ข้อ

เฉลย 1) ข 2) ก 3) ง 4) ข 5) ค 6) ก 7) ค 8) ง 9) ข 10) ง

ช่ือ.................................................นามสกุล................................................ระดบั ......................................

ใบความรู้ท่ี 1 เรอ่ื งแผนทีแ่ ละเข็มทิศ

เข็มทิศ (magnetic compass ) คอื เคร่อื งหมายสาหรับใชห้ าทศิ ทาง มีเขม็ แม่เหลก็ ท่ี
แกวง่ ไกวได้อิสระในแนวนอนทอดตัวในแนวเหนอื - ใต้ ตามแรงดึงดดู ของแม่เหล็กโลก และท่ี
หนา้ ปดั มีส่วนแบ่งสาหรับหาทศิ ทางโดยรอบ เข็มทศิ จึงมปี ลายชไ้ี ปทางทิศเหนือเสมอ (อักษร N
หรอื น) เมื่อทราบทศิ เหนือแลว้ ก็ยอ่ มหาทศิ อ่ืนได้โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านขวามือเป็นทิศ
ตะวันออก ด้านซ้ายมือเป็นทศิ ตะวนั ตก ด้านหลังเป็นทศิ ใตก้ ารบอกทิศทางในแผนท่ีโดยท่วั ไป คือ

188

การบอกเปน็ ทิศที่สาคัญ 4 ทศิ คือทิศเหนอื ทศิ ใต้ ทิศตะวันออก และ ทศิ ตะวนั ตก หรอื อาจจะ
บอกละเอียดเป็น 8,16 หรือ32 ทิศกไ็ ด้

เขม็ ทิศ หมายถึงเคร่ืองมือชี้บอกแนวทศิ ท่มี ีลูกศรเป็นเขม็ แม่เหลก็ เป็นตัวชี้ เราสามารถ
ใชเ้ ข็มทศิ ได้ โดยวางเขม็ ทิศบนพน้ื ราบหรือถือเขม็ ทิศให้อยู่ในแนวระนาบให้กูกตอ้ ง กอ่ นมองดูที่
หน้าปัดเข็มทิศแลว้ ค่อยๆหมนุ ปรับใหห้ วั ลูกศรตรงกับตวั อกั ษร N ซึง่ แสดงทศิ เหนือ เพราะตวั
ลกู ศรทาจากแมเ่ หล็กจะชีไ้ ปทางทิศเหนอื (ทศิ เหนือแมเ่ หลก็ )เสมอ เมอื่ ปรับเข็มตรงกับทศิ เหนือ
แลว้ เราจะอ่านทิศตา่ งๆ ได้จากหน้าปัดเข็มทศิ เข็มทิศจึงเป็นเครอ่ื งมอื ชบ้ี อกทศิ ทางไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ ง ซึง่ ลกู เสือสามารถนาเข็มทิศไปใช้ในกจิ กรรมต่างๆได้ เช่นการเดนิ ทางไกล การสารวจป่า
การผจญภัย การสารวจและการเยือนสถานท่ี เป็นต้น

เขม็ ทิศ มี หลายชนดิ

เข็มทิศแบบตลบั

189

เข็มทิศตลบั ธรรมดา หาแนวทิศเหนอื ไดแ้ ตห่ ามมุ อาซิมุทไมไ่ ดเ้ ป็นเขม็ ทศิ แม่เหล็กเล็ก

เขม็ ทิศแบบเล็นซาติก

เขม็ ทิศแบบเล็นซาตกิ ฝาตลบั มีช่องเล็ง มเี ส้นลวดขึงไว้ตรงกลางช่องฝาเพ่ือประกอบการเล็งท่ี
หมาย

เขม็ ทศิ แฟชัน่
เข็มทิศแบบแฟชั่นมหี ลากหลายรูปแบบ ผลิตมาเพื่อการค้าใช้บอกทิศได้


Click to View FlipBook Version