เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีเย่ยี ม (3)
ดี (2)
ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บของช้นั
อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ เรียน ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผูอ้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการ
ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
บผิดชอบในการทำงาน
เวลา ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่ และมี เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ
ยายามในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม เพียรพยายามในการเรยี นรู้ มีส่วนรว่ มในการ
และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ ่างๆ ทงั้
ยในและภายนอกโรงเรยี น ภายในและภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ และเป็น
แบบอย่างท่ดี ี
ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ทีท่ ่ี
มายให้สำเร็จ มีการปรบั ปรงุ การ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ
น มอบหมายให้สำเรจ็ มกี ารปรับปรุงและพฒั นาการ
ทำงานให้ดีข้นึ
แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง
รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน
ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ตัวชี้วัด ผ่าน (1)
ทกั ษะการคำนวณ
คำนวณคา่ ท่ีต้องการโดยใชว้ ิธีการทางการ คำนวณค่าท
ทักษะการลงความเห็นจาก
ข้อมูล คำนวณ เช่น การหาค่าเฉลีย่ อตั ราสว่ น คำนวณ เช่น
ทกั ษะการตีความและลง ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ถูกต้องส่วน
ข้อสรุป
ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทไ่ี ดจ้ าก ลงความเห็น
การสงั เกต หรอื ท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรม สงั เกต หรอื
บางส่วน
บันทกึ ข้อมลู โดยมีการใช้ตารางหือวิธีการ บนั ทึกข้อมลู
อนื่ ในการจดั ระเบียบข้อมลู บางส่วน และมี ในการจดั ระ
การระบุชนดิ หรือหนว่ ยของข้อมลู บางส่วน ระบุชนดิ หร
เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ 3 ดี
ช่วงคะแนน 4 - 6 ระดับคุณภาพ 2 พอใช้
ช่วงคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1
เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรยี นไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป
เกณฑ์การให้คะแนน ดเี ยยี่ ม (3)
ดี (2) คำนวณคา่ ท่ีตอ้ งการโดยใช้วิธีการทางการ
คำนวณ เชน่ การหาค่าเฉลยี่ อัตราส่วน ได้
ที่ตอ้ งการโดยใชว้ ธิ กี ารทางการ ถูกต้องครบถว้ น
น การหาค่าเฉล่ยี อตั ราสว่ น ได้
นใหญ่ ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทีไ่ ด้จากการ
สังเกต หรอื ท่ีได้จากการทำกจิ กรรมครบถว้ น
นโดยอาศยั หลักฐานท่ไี ดจ้ ากการ
อที่ได้จากการทำกิจกรรมส่วนใหญ่
ลโดยมีการใช้ตารางหือวธิ ีการอน่ื บนั ทกึ ข้อมูลโดยมีการใช้ตารางหอื วิธีการอ่นื
ะเบียบข้อมลู ส่วนใหญ่ และมีการ ในการจดั ระเบียบข้อมูลครบถ้วน และมกี าร
รือหนว่ ยของข้อมูลสว่ นใหญ่ ระบชุ นิดหรอื หน่วยของข้อมลู ครบถว้ น
ทม่ี า สสวท.
แบบมาตรประมาณค่าเพือ่ ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วให้ระดบั คะแนนทต่ี รงกับการปฏบิ ตั ิของนกั เรยี นตามความเป็น
จรงิ
รายการประเมนิ
เลขที่ ชอ่ื -สกุล ทักษะการคำนวณ คะแนน การแปลผล
ทักษะการลง เฉล่ีย
ความเห็นจากข้อมูล
ทักษะการ ีตความและ
ลงข้อส ุรป
ลงชอ่ื .........................................................
(.............................................)
ผ้ปู ระเมิน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3
รหสั วชิ า ว30201 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ธรรมชาตฟิ ิสกิ ส์ เรอ่ื ง การวดั และการบนั ทึกผลการวัดปรมิ าณทางฟิสิกส์
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรียน 3 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวสุเมธาวี ขันทอง
มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้
สาระฟสิ กิ ส์ : 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟสิ ิกส์ ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคล่ือนท่แี นวตรง แรงและกฎการ
เคล่ือนทีข่ องนวิ ตนั กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดลุ กลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์พลังงานกล
โมเมนตัมและกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคลอ่ื นที่แนวโคง้ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ผลการเรยี นรู้
วัดและรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนำ ความคลาดเคลื่อนในการ
วัดมาพิจารณาในการนำ เสนอผลด้วย รวมทั้งแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์และแปล
ความหมายจากกราฟเส้นตรง
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
- บอกความสำคัญของการทดลองและรายงานผลการทดลอง
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- บันทกึ ผลการวดั โดยใชค้ า่ ทางสถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและความคลาดเคลอื่ นของค่าเฉลย่ี
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
- นักเรยี นมีนักเรยี นมีความสนใจใฝ่เรียนรตู้ อ่ การเรียน
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การทดลองทางฟิสิกส์เกี่ยวกับการวัดปริมาณต่างๆ ด้วยเครื่องมือวัดซึ่งมีความแม่นยำ อยู่ในช่วงจำ
กัด การวัดควรเลือกใช้เครื่องมือวัดให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัด เช่นการวัดความยาวของวัตถุที่ต้องการ
ความ ละเอียดสูงอาจใช้เวอร์เนียร์แคลิเปอร์ หรือไมโครมิเตอร์ การวัดปริมาณต่าง ๆ จะมีความคลาดเคลื่อน
เสมอ ข้ึนอยู่กับเคร่ืองมือวัด วิธีการวัด และประสบการณ์ของผู้วัด รวมทั้งสภาพแวดล้อมขณะทำ การวัด ใน
การ บันทึกปริมาณที่ได้จากการวัดจะต้องบันทึกผลตามความละเอียดของเครื่องมือวัดพร้อมแสดง ความไม่
แน่นอนในการวัด ซึ่งค่าความคลาดเคลื่อนสามารถแสดงในการรายงานผลทั้งในรูปแบบตัวเลข และกราฟ
การหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ที่ได้จากการทดลองทางฟิสิกส์ทำ ได้โดยการวิเคราะห์ และการ
แปลความหมายจากกราฟ เช่น การหาความชันจากกราฟเส้นตรง จุดตัดแกน พ้ืนที่ใต้กราฟ เป็นต้น
สาระการเรยี นรู้
การทดลองทางฟิสิกส์เมื่อได้ข้อมลู มาแลว้ สามารถนำเสนอข้อมูล โดยการเขยี นกราฟจากผลการทำลอง
เพื่อนำมาวเิ คราะหค์ วามสัมพันธ์ตวั แปรตา่ งๆ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
( ✓ ) ความสามารถในการสื่อสาร ( ✓ ) ความสามารถในการคดิ ( ) ความสามารถในการแก้ปัญหา
( ) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ( ) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
( ) รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ( ✓ ) ซอ่ื สัตย์สจุ ริต ( ) มวี ินัย ( ✓ ) ใฝเ่ รยี นรู้
( ) อยอู่ ยา่ งพอเพียง ( ✓ ) มุ่งมั่นในการทำงาน ( ) รักความเป็นไทย ( ✓ ) มีจิตสาธารณะ
คุณลกั ษณะของผเู้ รียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
( ✓ ) เป็นเลิศวิชาการ ( ) สอ่ื สารสองภาษา ( ✓ ) ล้ำหน้าทางความคิด
( ✓ ) ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ ( ) รว่ มกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก
ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. คำถามตรวจสอบความเข้าใจ 1.3
2. ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง การวัดปริมาณทางกายภาพในเชงิ ฟสิ ิกส์
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ
1. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับ “การทดลอง มีความสำคัญอย่างไร ขณะดำเนินการ
ทดลองสิ่งใดที่มีความสำคัญ” เพื่อนำไปสู่คำถามที่ว่า “การบันทึกข้อมูล ที่ได้จากการทดลอง โดยเฉพาะจาก
เครอื่ งมือแบบสเกล จะเปน็ ขอ้ มลู เชิงปริมาณ ตัวเลขทุกตวั มีความสำคัญ เทา่ กัน หรือตา่ งกันอย่างไร”
2. นักเรียนตอบข้อซักถามของครูว่า “การบันทึกข้อมูล ที่ได้จากการทดลอง โดยเฉพาะจากเครื่องมือ
แบบสเกล จะเปน็ ข้อมลู เชิงปริมาณ ตัวเลขทุกตัวมีความสำคญั เทา่ กัน หรอื ต่างกนั อย่างไร” (คำตอบเป็นแบบ
ปลายเปิด)
3. นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายในแต่ละกลุม่ พรอ้ มท้งั บันทกึ ความเห็นของกลุ่มในใบงาน
4. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอความเห็นของกลุ่ม (ของแต่ละคนในกลุ่มโดยตัวแทนของกลุ่ม
และข้อสรปุ ของกลมุ่ )
5. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ “การบันทึกข้อมูล ที่ได้จากการทดลอง โดยเฉพาะจาก
เคร่อื งมือแบบสเกล จะเปน็ ขอ้ มลู เชิงปริมาณ ตวั เลขทุกตัวมคี วามสำคัญ เท่ากนั หรือต่างกันอย่างไร”
ขัน้ ท่ี 2 ขน้ั สำรวจและค้นหา
1. ครูให้นักเรียนวเิ คราะห์ผลการทดลอง การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็ว และ เวลา ในการ
เคลื่อนที่ของวัตถสุ ามารถบนั ทึกขอ้ มูลได้ดงั ตาราง 1.1
ตาราง 1.1 ผลการทดลองการวดั อัตราเรว็ ในการเคลือ่ นที่ของวัตถุ
เวลา (s) ความเร็ว (m/s)
1 2.9 ± 0.4
2 3.7 ± 0.4
3 4.9 ± 0.4
4 6.0 ± 0.4
5 6.8 ± 0.4
6 8.9 ± 0.4
2. ครูถามนักเรียนว่าเมื่อนำผลการทดลองข้างต้นมาเขียนกราฟโดยให้เวลาเป็นแกนนอน และ
อตั ราเร็วเปน็ แกนตง้ั จะไดร้ ปู เปน็ อยา่ งไร และมแี นวโนม้ เป็นอยา่ งไร
3. ครูให้นักเรียนคำนวณหาความชันจากกราฟและจุดตดั แกน โดยใช้สูตร
∆y
ความชนั = ∆x
ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้
1. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายถงึ กราฟที่ไดจ้ ากข้อมูลในตารางที่ 1.1 ดงั น้ี
พบว่ากราฟมีแนวโน้มเป็นเส้นตรง จึงเขียนเส้นกราฟโดยเขียนเส้นตรงให้ผ่านชุดข้อมูล (รวมค่า
คลาดเคล่ือน) ให้มากทส่ี ุด
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ คา่ ความชันท่ีได้ ดงั น้ี
ความชัน = ∆ = 4.4 / = 1.0233 m/s2
∆ 4.3
กราฟตัดแกนตัง้ ท่ี v = 1.8 m/s
3. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ตรวจสอบความเข้าใจ 1.3 ในหนงั สือเรียนฟิสกิ ส์ เล่ม 1 หนา้ 26 สง่ ครูท้าย
ชว่ั โมง
ขัน้ ที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้
1. นักเรียนสนทนาซกั ถามครูและตอบคำถามว่า “ความสัมพันธ์ของปริมาณต่าง ๆ เมื่อนำมาคำนวณ
คา่ ของอกี ปรมิ าณหนงึ่ ผลลพั ธท์ ี่ไดค้ วรจะบันทกึ อย่างไร” (ทิ้งชว่ งใหน้ กั เรียนคดิ ) เพื่อนำไปส่เู รอื่ ง การบวก ลบ
คูณ หาร เลขนัยสำคญั และค่าความไม่แน่นอนในการวัด
2. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เกี่ยวกับ การบวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ และค่าความไม่
แน่นอนในการวัด และตัวอย่างการบวก ลบ คูณ หาร เลขนัยสำคัญ และค่าความไม่แน่นอนในการวัด เนื้อหา
ตามหนังสือฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 สสวท. เรื่อง เลขนัยสำคัญ การบันทึกผลการคำนวณ และการวิเคราะห์ผลการ
ทดลอง
3 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย เกี่ยวกับ การเขียนกราฟ และการรายงานกราฟ เพิ่มเติมดังนี้
ในการหาความคลาดเคลื่อนความชันสามารถหาได้โดยเขียนเส้นตรงอีก 2 เส้น ท่ีมีความชัน
มากที่สุด และความชันน้อยสุด ในกรณีที่ข้อมูลกระจายมีแนวโน้มเป็นเส้นตรง นอกจากใช้วิธีการลากเส้นให้
ผ่านตำแหน่ง ค่าคลาดเคลื่อนสูงสุดกับต่ำสุดของแถบคลาดเคลื่อนให้ได้มากที่สุดตามรายละเอียดในหนังสือ
เรียนแลว้ ยังสามารถใช้วิธกี ารลากเส้นตรงทีม่ คี วามชันมากท่ีสุดโดยใช้คา่ คลาดเคลื่อนต่ำสุดของขอ้ มูลชุดแรก
กับ ค่าคลาดเคลื่อนสูงสุดของข้อมูลชุดสุดท้าย และลากเส้นตรงท่ีมีความชันน้อยโดยใช้ค่าคาดเคลื่อนสูงสุด
ของขอ้ มลู ชดุ แรกกับค่าคลาดเคลื่อนตำ่ สุดของข้อมูลชดุ สดุ ท้าย ดังรปู
จากรูป พจิ ารณาเสน้ ประสีน้ำเงินซ่งึ มคี วามชนั มากที่สดุ จะได้
ความชันมากที่สุด = ∆ = 8.4−2.5 = 1.18 m/s2
∆ 6−1
กราฟตดั แกนตงั้ ที่ v = 2.40 m/s
พจิ ารณาเส้นประสีมว่ งซ่งึ มีความชนั มากท่สี ุด จะได้
ความชันมากทสี่ ดุ = ∆ = 7.6−3.3 = 0.86 m/s2
∆ 6−1
กราฟตดั แกนต้ังที่ v = 1.30 m/s
จะได้วา่ คา่ คลาดเคลื่อนของความชนั = 1 (ความชนั มาก − ความชันนอ้ ย)
1.18-02.86
= 2
=0.16 m/s2
ค่าคลาดเคลือ่ นของจุดตดั แกนต้งั = 1 (จุดตดั สงู − จดุ ตัดต่ำ)
2.40-1.230
=2
=0.55 m/s
ดังน้ัน ความสมั พนั ธร์ ะหว่างอัตราเร็วกบั เวลาในการเคลื่อนทข่ี องวัตถุ สามารถแสดงได้ด้วยสมการ
เสน้ ตรง ดงั นี้ v = (1.02±0.16 sm2) t - (1.80 ± 0.55 m )
s
4. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงาน 1.3 เร่อื ง การทดลองทางฟิสิกส์ เปน็ การบ้านส่งครูในชว่ั โมง
ถดั ไป
5. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ธรรมชาตแิ ละพัฒนาการทางฟิสิกส์
ขัน้ ท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ ผล
1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลงั เรียน เพื่อตรวจสอบความเข้าใจหลงั เรยี นของนักเรียน
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำทำแบบฝกึ หดั ตรวจสอบความเขา้ ใจ 1.3 และใบงานที่ 1.3
3. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานของนักเรียน
สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ ท่ี 1
1. หนังสือเรยี นรายวิชาเพม่ิ เติม ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 1 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) หน่วยการเรียนรู้
ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟิสิกส์
2. ใบงาน 1.3 เรอ่ื ง การทดลองทางฟสิ ิกส์
3. Powerpoint
การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
K - ใบงาน 1.3
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- บอกความสำคญั ของการทดลอง - คำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ
และรายงานผลการทดลอง 1.3
P - ใบงาน 1.3
- บนั ทึกผลการวดั โดยใชค้ ่าทาง - คำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ
สถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและความ
คลาดเคลอ่ื นของคา่ เฉลย่ี
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
(A)
A - แบบประเมินคุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2
- นักเรยี นมีนักเรยี นมีความสนใจ อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรตู้ ่อการเรยี น
ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ………………………………………………………….
(นางบวั แก้ว ศรภี ธู ร)
ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
................/................./.................
ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ………………………………………………………….
(........................................................)
ตำแหน่ง.............................................................
................/................./.................
บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่...................
เร่อื ง..............................................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวนนกั เรียน.........................คน
ดา้ นความรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะกระบวนการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ………………………………………………………….
(........................................................)
................/................./.................
ใบงานท่ี 1.3
เรอ่ื ง การทดลองฟิสิกส์ 6
2.0
คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นแสดงวธิ คี ดิ อย่างละเอยี ด
1. ในการวดั เวลาของการตกแบบเสรขี องวัตถุจากท่สี ูง 20 เมตร จำนวน 6 คร้งั ได้ผลการวดั ดังน้ี
ครั้งท่ี 1 2 3 4 5
t (s) 2.2 2.1 1.9 2.1 1.8
ก. จงหาค่าเฉล่ยี และความคลาดเคลือ่ นของค่าเฉลีย่ ของขอ้ มลู ชดุ นี้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข. จงแสดงผลการบนั ทกึ ผลการทดลองหาเวลาของการตกแบบเสรขี องวตั ถุ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. สมการ T=2π√gl แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคาบ T และความยาวเชือก l โดย g และเป็นค่าคงตัว จง
แสดงสมการน้ใี ห้อยใู่ นรปู สมการของกราฟเสน้ ตรง จากนนั้ หาเทอมทีเ่ ปน็ ความชันและระยะตัดแกนต้ัง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. กราฟระหว่างความเรว็ กับเวลาของการเคลอื่ นที่ของวตั ถุ เปน็ ดังรูป
ความเรง่ ของวัตถุ ซงึ่ หาได้จากความชันของกราฟมีค่าเทา่ ใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
***********************
ใบงานที่ 1.3 เฉลย
เรอื่ ง การทดลองฟิสกิ ส์ 6
2.0
คำชี้แจง : ให้นักเรียนแสดงวธิ ีคดิ อยา่ งละเอยี ด
1. ในการวดั เวลาของการตกแบบเสรขี องวัตถจุ ากท่สี ูง 20 เมตร จำนวน 6 ครงั้ ไดผ้ ลการวดั ดงั นี้
ครงั้ ที่ 1 2 3 4 5
t (s) 2.2 2.1 1.9 2.1 1.8
ก. จงหาคา่ เฉลีย่ และความคลาดเคลอ่ื นของคา่ เฉล่ยี ของขอ้ มูลชดุ น้ี
t1+ t2+…+tn
วธิ ที ำ ก. t̅= + 2.1n+1.9+2.1+1.8+2.0
= 2.2 6 = = 12.1 = 2.02 s
6
t̅ = 2.0 s ถือวา่ เป็นคา่ เฉล่ยี ของเวลาจากการวัด 6 คร้งั
tmax - tmin
∆t̅ =
2 0.2
= 2.2 - 1.8 s
2 =
∆t̅ = 0.2 s ถอื ว่าเปน็ ความคลาดเคลอ่ื นของเวลาจากการวดั ทง้ั 6 ครั้ง
ข. จงแสดงผลการบนั ทึกผลการทดลองหาเวลาของการตกแบบเสรขี องวตั ถุ
วิธีทำ ผลการทดลองหาเวลาของการตกแบบเสรีของวตั ถุ แสดงได้ในรูป t̅ ± ∆t̅
จะได้ เวลาของการตกแบบเสรีของวตั ถุ = 2.0 s ± 0.2 s
2. สมการ T=2π√gl แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคาบ T และความยาวเชือก l โดย g และเป็นค่าคงตัว จง
แสดงสมการนใี้ หอ้ ยู่ในรปู สมการของกราฟเส้นตรง จากนัน้ หาเทอมที่เปน็ ความชันและระยะตัดแกนต้ัง
วิธีทำ จัดสมการ T=2π√gl ใหอ้ ยูใ่ นรูปสมการของกราฟเสน้ ตรง
จะได้ 2π =√gl (1)
เทยี บกับสมการของกราฟเส้นตรง y = mx + c 2π
√g
จะเหน็ ไดว้ า่ (1) เป็นสมการของกราฟเส้นตรงทีม่ คี วามชนั m = จุดตัด c=0
ตอบ สมการ T=2π√gl เป็นสมการเสน้ ตรงทมี่ ีความชัน 2π และจดุ ตดั แกนตง้ั c=0
√g
3. กราฟระหว่างความเร็วกบั เวลาของการเคล่อื นท่ีของวัตถุ เป็นดงั รูป
ความเร่งของวัตถุ ซ่งึ หาได้จากความชนั ของกราฟมีคา่ เท่าใด
วิธีทำ หาความชันของกราฟ ดงั รปู
จะได้ ความชัน = ∆ = 6 - 3 = 3 = 0.5 m/s2
∆ 8 - 2 6
ตอบ วตั ภถมีความเร่ง 0.5 เมตรตอ่ วนิ าทีกำลังสอง
***********************
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์
ตัวช้วี ัด ผา่ น (1) ปฏบิ ตั ิตามข้อ
1. มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ช้ันเรยี น ตรงต
2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ันเรยี น ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่างๆ และรับ
ต่างๆ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และ เข้าเรยี นตรงเ
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ความเพียรพย
ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ในการเรียนรู้
เรียนร้ตู า่ งๆ บางครง้ั ต่างๆ ทงั้ ภาย
บ่อยครง้ั
ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ ับมอบหมายให้สำเรจ็ ต้งั ใจและรบั ผ
ได้รบั มอบหม
ทำงานใหด้ ีข้ึน
เกณฑ์การประเมิน ดีมาก
ช่วงคะแนน 7 – 9 ระดับคุณภาพ 3 ดี
ชว่ งคะแนน 4 - 6 ระดับคณุ ภาพ 2 พอใช้
ชว่ งคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1
เกณฑก์ ารผ่าน : นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีเย่ยี ม (3)
ดี (2)
ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บของช้นั
อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ เรียน ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผูอ้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการ
ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
บผิดชอบในการทำงาน
เวลา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ และมี เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ
ยายามในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม เพียรพยายามในการเรยี นรู้ มีส่วนรว่ มในการ
และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ ่างๆ ทงั้
ยในและภายนอกโรงเรยี น ภายในและภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ และเป็น
แบบอย่างท่ดี ี
ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ทีท่ ่ี
มายให้สำเร็จ มีการปรบั ปรงุ การ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ
น มอบหมายให้สำเรจ็ มกี ารปรับปรุงและพฒั นาการ
ทำงานให้ดีข้นึ
แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง
รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน
ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ตัวชี้วัด ผ่าน (1)
ทกั ษะการคำนวณ
คำนวณคา่ ท่ีต้องการโดยใชว้ ิธีการทางการ คำนวณค่าท
ทักษะการลงความเห็นจาก
ข้อมูล คำนวณ เช่น การหาค่าเฉลีย่ อตั ราสว่ น คำนวณ เช่น
ทกั ษะการตีความและลง ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ถูกต้องส่วน
ข้อสรุป
ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทไ่ี ดจ้ าก ลงความเห็น
การสงั เกต หรอื ท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรม สงั เกต หรอื
บางส่วน
บันทกึ ข้อมลู โดยมีการใช้ตารางหือวิธีการ บนั ทึกข้อมลู
อนื่ ในการจดั ระเบียบข้อมลู บางส่วน และมี ในการจดั ระ
การระบุชนดิ หรือหนว่ ยของข้อมลู บางส่วน ระบุชนดิ หร
เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ 3 ดี
ช่วงคะแนน 4 - 6 ระดับคุณภาพ 2 พอใช้
ช่วงคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1
เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรยี นไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป
เกณฑ์การให้คะแนน ดเี ยยี่ ม (3)
ดี (2) คำนวณคา่ ท่ีตอ้ งการโดยใช้วิธีการทางการ
คำนวณ เชน่ การหาค่าเฉลยี่ อัตราส่วน ได้
ที่ตอ้ งการโดยใชว้ ธิ กี ารทางการ ถูกต้องครบถว้ น
น การหาค่าเฉล่ยี อตั ราสว่ น ได้
นใหญ่ ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทีไ่ ด้จากการ
สังเกต หรอื ท่ีได้จากการทำกจิ กรรมครบถว้ น
นโดยอาศยั หลักฐานท่ไี ดจ้ ากการ
อที่ได้จากการทำกิจกรรมส่วนใหญ่
ลโดยมีการใช้ตารางหือวธิ ีการอน่ื บนั ทกึ ข้อมูลโดยมีการใช้ตารางหอื วิธีการอ่นื
ะเบียบข้อมลู ส่วนใหญ่ และมีการ ในการจดั ระเบียบข้อมูลครบถ้วน และมกี าร
รือหนว่ ยของข้อมูลสว่ นใหญ่ ระบชุ นิดหรอื หน่วยของข้อมลู ครบถว้ น
ทม่ี า สสวท.
แบบมาตรประมาณค่าเพือ่ ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วให้ระดบั คะแนนทต่ี รงกับการปฏบิ ตั ิของนกั เรยี นตามความเป็น
จรงิ
รายการประเมนิ
เลขที่ ชอ่ื -สกุล ทักษะการคำนวณ คะแนน การแปลผล
ทักษะการลง เฉล่ีย
ความเห็นจากข้อมูล
ทักษะการ ีตความและ
ลงข้อส ุรป
ลงชอ่ื .........................................................
(.............................................)
ผ้ปู ระเมิน
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4
รหสั วชิ า ว30201 รายวิชา ฟิสิกส์ 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 การเคล่ือนท่ีแนวตรง เรอื่ ง ตำแหน่ง
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 3 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวสุเมธาวี ขันทอง
มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้
สาระฟสิ กิ ส์ : 1. เข้าใจธรรมชาตทิ างฟสิ ิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคล่ือนทีแ่ นวตรง แรงและกฎการ
เคลือ่ นทข่ี องนิวตนั กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสยี ดทานสมดุลกลของวตั ถุ งานและกฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล
โมเมนตัมและกฎการอนรุ กั ษ์โมเมนตัม การเคลอ่ื นทแี่ นวโค้ง รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการ
เคลื่อนท่ีของวัตถุในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วง
ของโลก และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
- นักเรียนสามารถอธิบายการระบุตำแหนง่ ของวตั ถุ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นักเรียนสามารถระบุตำแหนง่ ของวตั ถุได้
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- นักเรียนมีนกั เรยี นมคี วามสนใจใฝเ่ รียนร้ตู ่อการเรยี น
สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การระบุตำแหน่ง (position) ของวัตถุในแนวตรงต้องบอกเทียบกับจุด ๆ หนึ่งในแนวการเคลื่อนท่ี
เรียกว่า จุดอ้างอิง เมื่อวัตถุมีการเคลื่อนท่ี ตำแหน่งของวัตถุนั้นจะเปลี่ยนไป การเปลย่ี นตำแหน่งของวัตถุ
เรียกว่า การกระจัด (displacement) การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ที่บอกท้ังขนาดและทิศทางส่วนความ
ยาวตามเส้นทางท่ีวัตถุเคล่ือนท่ี เรียกว่า ระยะทาง (distance
สาระการเรียนรู้
การระบุตำแหน่งของวัตถุในแนวเส้นเมื่อวัตถุมีการเปล่ียนตำแหน่งสามารถบอกเป็นปริมาณสเกลาร์
หรือปริมาเวกเตอร์ก็ได้ หากเป็นปริมาณสเกลาร์ จะระบุเป็นระยะทาง หากเป็นปริมาณเวกเตอร์จะระบุเป็น
ปริมาเวกเตอร์
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
( ✓ ) ความสามารถในการส่ือสาร ( ✓ ) ความสามารถในการคิด ( ) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
( ) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ( ) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
( ) รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ( ✓ ) ซื่อสตั ยส์ ุจรติ ( ) มวี ินยั ( ✓ ) ใฝ่เรยี นรู้
( ) อยอู่ ยา่ งพอเพียง ( ✓ ) มุง่ มน่ั ในการทำงาน ( ) รักความเป็นไทย ( ✓ ) มีจิตสาธารณะ
คณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล
( ✓ ) เป็นเลิศวิชาการ ( ) ส่ือสารสองภาษา ( ✓ ) ล้ำหนา้ ทางความคิด
( ✓ ) ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ ( ) รว่ มกนั รับผิดชอบต่อสังคมโลก
ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. คำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ 2.1
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 1 ข้นั สร้างความสนใจ
1. ครูนำเข้าสู่บทท่ี 1 โดยให้นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง การเคลอื่ นทีแ่ นวตรง
2. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ของหัวข้อ 2.1 แล้วนำเข้าสู่หัวข้อ 2.1 โดยยกสถานการณ์ เช่น ให้
นักเรียน 2 คนนำของไปซ่อนแล้วมาบอกเพื่อนให้ไปหา แล้วให้เปรียบเทียบดูว่าจะหาพบหรือไม่ แล้วถามว่า
นักเรียนจะมีวิธีการบอกอย่างไร หรือ ครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียน จะมีวิธีการบอกอย่างไรให้ครูไปถึงบ้านของ
นักเรียนได้ถูกต้อง อภิปรายร่วมกัน จนได้ข้อสรุปว่า การบอกตำแหน่งวัตถุหรอื ตำแหน่งบ้านนักเรียนต้องระบุ
ตำแหนง่ อา้ งอิง โดยอาจทำแผนภาพ แล้วนำอภปิ รายเกยี่ วกับการใช้ตำแหนง่ อา้ งอิง
2. ครูทบทวนเรื่องปริมาณเวกเตอรโ์ ดยใชค้ ำถามจนไดข้ ้อสรุปว่า เปน็ ปรมิ าณที่มีทั้งขนาดและทศิ ทาง
ปริมาณเวกเตอร์เขียนแทนได้ด้วยลูกศร โดยความยาวของลูกศรแทนขนาดของเวกเตอร์ และหัวลูกศรแทน
ทศิ ทางของเวกเตอร์
ข้นั ที่ 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา
1. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมว่าสามารถระบุตำแหนง่ ของวัตถุใด ๆ ด้วย เวกเตอร์ตำแหน่งที่
บอกระยะห่างและทิศทางเทียบกับจุดอ้างอิง ดังตัวอย่างตามรูป 2.1 เวกเตอร์ตำแหน่งของรถยนต์ ในหนังสือ
ฟิสิกสเ์ พมิ่ เติม 1 หนา้ 38 ไดอ้ ย่างไร
แนวคำตอบ สามารถระบุตำแหน่งของวัตถุใด ๆ ด้วยเวกเตอร์ ตำแหน่งที่บอกระยะห่างและทิศทาง
เทียบกับจุดอ้างอิง ดังตัวอย่างตามรูป 2.1 เวกเตอร์ตำแหน่งของรถยนต์ (เส้นสีฟ้า) x=̅ +4 m และ เวกเตอร์
ตำแหน่งของคน (เสน้ สีแดง) x=̅ -2 m โดยใชเ้ สาไฟฟา้ ต้นทห่ี น่ึงเป็นจุดอา้ งองิ ท้ังสองกรณี
ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรุป
1. ครูนำอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า การระบุตำแหน่งของวัตถุจำเป็นต้องมีตำแหน่งอ้างอิงและในกรณี
การเคลื่อนที่แนวตรง เครื่องหมาย + (หรือ -) ที่ใส่เพื่อบอกค่าตัวแปรที่เป็นค่าบวก (หรือค่าลบ) เป็นการใส่
เพื่อบอกทิศทางเวกเตอรต์ ำแหนง่ ของวตั ถุ รวมทง้ั ไม่จำเป็นต้องใส่เคร่ืองหมาย “ ” บนตัวแปร ครูควรเน้นว่า
การบอกเวกเตอร์ตำแหน่งโดยทั่วไปจะกำหนดให้จุดอ้างอิงเป็นจุดกำเนิดของแกนพิกัด เช่น จากรูป 2.1 ถ้ามี
เด็กยืนตรงกง่ึ กลางระหวา่ งรถยนตแ์ ละคนทางซา้ ย เวกเตอร์ตำแหน่งของเด็กคอื x = +1 m
ข้ันที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้
1 ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า การกำหนดให้จุดอื่นที่ไม่ใช่จุดกำเนิดของแกนพิกัดเป็นจุดอ้างอิง จะต้องมี
สัญลักษณ์ตัวห้อย เช่น จากรูป 2.1 ในการบอกตำแหน่งรถ เทียบกับคนโดยไม่ใช้คนเป็นจุดกำเนิดของแกน
พกิ ัด จะเขียนเปน็ XAB (เมอ่ื B เปน็ ตำแหน่งรถ และ A เป็นตำแหนง่ คน) และจะเขียนตำแหน่งของรถเทียบกับ
คนไดเ้ ป็น X = +6 m ซง่ึ กค็ ือ ใชค้ นท่ีเปน็ จุดกำเนิดของแกนพิกัด
2. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันเพื่อสรุปความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งและการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้
ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน
3. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ตรวจสอบความเข้าใจ 2.1 หน้า 38 สง่ ครทู ้ายชวั่ โมง
ขั้นที่ 5 ข้ันประเมินผล
1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรยี นของนกั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำทำแบบฝึกหัดตรวจสอบความเข้าใจ 2.1
3. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานของนักเรยี น
สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ ที่ 1
1. หนังสอื เรียนรายวชิ าเพ่ิมเติม ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 1 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) หน่วยการเรยี นรู้
ธรรมชาตแิ ละพฒั นาการทางฟสิ ิกส์
2. Powerpoint
การวดั และประเมนิ ผล
วธิ วี ดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
K - แบบฝึกหดั 4
- นกั เรียนสามารถอธบิ ายการระบุ
ตำแหน่งของวตั ถุ
P - แบบฝกึ หดั 4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- นกั เรยี นสามารถระบุตำแหน่ง - คำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ
ของวตั ถุได้
A - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2
-นกั เรยี นมีนักเรยี นมีความสนใจ อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรูต้ ่อการเรยี น
ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ………………………………………………………….
(นางบัวแก้ว ศรีภธู ร)
ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
................/................./.................
ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ………………………………………………………….
(........................................................)
ตำแหน่ง.............................................................
................/................./.................
บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่...................
เร่อื ง..............................................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวนนกั เรียน.........................คน
ดา้ นความรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะกระบวนการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ………………………………………………………….
(........................................................)
................/................./.................
แบบฝึกหัด การเคลือ่ นท่ีแนวตรง
1. จงหาอตั ราเร็ว และความเร็วในหน่วยเมตร/วินาที ของการเคล่อื นท่ตี ามแผนภาพ
กำหนดเวลาท่ีใชใ้ นการเคลื่อนท่ที ั้งหมด 2 วินาที
4m
เริ่ม 3m
2. นายฮุค เดินจาก A ไป B ใชเ้ วลา 18 วินาที จากนน้ั เดินต่อไปยัง C ดงั รปู ใชเ้ วลา 12 วินาที จงหาขนาด
ของความเร็วเฉล่ียของนาย ก. ตลอดการเดนิ นี้
20m B
A 10m
C
3. ภาพตอ่ ไปน้ี กำหนดเวลาท่ีใช้ในการเคล่ือนท่ีท้ังหมด 2 วินาที
จงหาอัตราเรว็ เฉลี่ย และ ความเร็วเฉลีย่ ของการเคล่ือนที่ตามแผน
4. รถคนั หนึ่งวิ่งดว้ ยความเร็ว 10 เมตร/วินาที จนกระทง่ั มคี วามเรว็ 15 เมตร/วินาที ในเวลา 1.5 วินาที ใน
แนวเสน้ ตรง จงหาความเร่งเฉลี่ยของรถ
5. วตั ถุอันหน่งึ เคลื่อนที่ และได้มีการเปลย่ี นความเรว็ จาก 20 m/s เป็น 50 m/s ทำให้เกิดความเรง่ 10 m/s2
อยากทราบวา่ ใชเ้ วลานานเทา่ ไรในการทำให้เกิดความเร่ง
6. หนตู วั หนึ่งวง่ิ รอบสระนำ้ เปน็ วงกลมทมี่ ีเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 14 เมตร ใชเ้ วลา 2 นาที ก็ครบรอบพอดี
(กำหนดπ = 22) จงพจิ ารณาข้อความตอ่ ไปน้ี (O-NET 57)
7
A.อตั ราเร็วเฉลย่ี ของหนูเท่ากับ 0 เมตร/ วินาที
B.ความเรว็ เฉล่ียของหนเู ท่ากับ 22 เมตร/วินาที
C.ขณะวิ่งได้ครงึ่ รอบจะได้การกระจดั เท่ากับ 14 เมตร
D.ขณะวงิ่ ได้ ¼ รอบ จะไดก้ ารกระจดั ประมาณ 9.9 เมตร
ขอ้ ความใดถูกต้อง
ก. C. และ D. ข. B C และ D
ค. A C และ D ง. ถูกทุกขอ้
7. ข้อใดต่อไปนเี้ ปน็ การเคลื่อนที่ทมี่ ีขนาดการกระจัดน้อยท่สี ุด (O-NET 58)
A.เดินไปทางขวา 10 เมตร แลว้ เดนิ ยอ้ นกลับมาทางซ้าย 2 เมตร
B.เดินไปทางซา้ ยด้วยอตั ราเรว็ คงตวั 4 เมตร/วินาที เปน็ เวลา 3 วินาที
C.เดนิ ไปทางขวาดว้ ยอัตราเร็วคงตวั 3 เมตร/วนิ าที เปน็ เวลา 4 วนิ าที
D.ทัง้ สามข้อการกระจัดเทา่ กัน
8. วัตถเุ คล่ือนท่ีครึง่ วงกลมจาก P ไป Q ใช้เวลา 10 วนิ าทีจงหา
A.ระยะทาง
B.การกระจดั
C.อัตราเรว็ เฉล่ยี
D.ความเรว็ เฉลยี่
E .หากวตั ถุเคลอ่ื นทีเ่ ป็นวงกลม กลบั มายงั P ใช้เวลา 20 วินาที วตั ถจุ ะมีความเรว็ เฉลี่ยท้งั หมดเทา่ ไร
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์
ตัวช้วี ัด ผา่ น (1) ปฏบิ ตั ิตามข้อ
1. มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ช้ันเรยี น ตรงต
2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ันเรยี น ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่างๆ และรับ
ต่างๆ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และ เข้าเรยี นตรงเ
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ความเพียรพย
ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ในการเรียนรู้
เรียนร้ตู า่ งๆ บางครง้ั ต่างๆ ทงั้ ภาย
บ่อยครง้ั
ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ ับมอบหมายให้สำเรจ็ ต้งั ใจและรบั ผ
ได้รบั มอบหม
ทำงานใหด้ ีข้ึน
เกณฑ์การประเมิน ดีมาก
ช่วงคะแนน 7 – 9 ระดับคุณภาพ 3 ดี
ชว่ งคะแนน 4 - 6 ระดับคณุ ภาพ 2 พอใช้
ชว่ งคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1
เกณฑก์ ารผ่าน : นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีเย่ยี ม (3)
ดี (2)
ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บของช้นั
อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ เรียน ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผูอ้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการ
ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
บผิดชอบในการทำงาน
เวลา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ และมี เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ
ยายามในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม เพียรพยายามในการเรยี นรู้ มีส่วนรว่ มในการ
และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ ่างๆ ทงั้
ยในและภายนอกโรงเรยี น ภายในและภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ และเป็น
แบบอย่างท่ดี ี
ผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ทีท่ ่ี
มายให้สำเร็จ มีการปรบั ปรงุ การ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ
น มอบหมายให้สำเรจ็ มกี ารปรับปรุงและพฒั นาการ
ทำงานให้ดีข้นึ
แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง
รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน
ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 5
รหัสวิชา ว30201 รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเคลื่อนท่แี นวตรง เรอื่ ง การกระจัดและระยะทาง
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวสเุ มธาวี ขันทอง
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
สาระฟิสิกส์ : 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสกิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลอ่ื นทีแ่ นวตรง แรงและกฎการ
เคลือ่ นที่ของนวิ ตนั กฎความโนม้ ถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกลของวตั ถุ งานและกฎการอนรุ กั ษ์พลังงานกล
โมเมนตมั และกฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตัม การเคลือ่ นท่ีแนวโค้ง รวมทัง้ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการ
เคลื่อนท่ีของวัตถุในแนวตรงที่มีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่าความเร่งโน้มถ่วง
ของโลก และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
- นักเรยี นสามารถอธิบายอธบิ ายการกระจดั และระยะทางการเคลอื่ นที่ของวตั ถุ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรยี นสามารถคำนวณการกระจัดและระยะทางการเคลอื่ นท่ขี องวัตถุ
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- นกั เรยี นมีนกั เรยี นมคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรูต้ ่อการเรยี น
สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การระบุตำแหน่ง (position) ของวัตถุในแนวตรงต้องบอกเทียบกับจุด ๆ หนึ่งในแนวการเคลื่อนที่
เรียกว่า จุดอ้างอิง เมื่อวัตถุมีการเคลื่อนที่ ตำแหน่งของวัตถุนั้นจะเปลี่ยนไป การเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุ
เรียกว่า การกระจัด (displacement) การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ท่ีบอกทั้งขนาดและทิศทางส่วนความ
ยาวตามเส้นทางท่ีวัตถุเคล่ือนท่ี เรียกว่า ระยะทาง (distance)
สาระการเรียนรู้
ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์บอกเพียงขนาด การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์บอกทั้งขนาดและ
ทิศทาง
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
( ✓ ) ความสามารถในการสื่อสาร ( ✓ ) ความสามารถในการคิด ( ) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
( ) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ( ) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
( ) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ( ✓ ) ซอื่ สัตยส์ จุ รติ ( ) มวี นิ ยั ( ✓ ) ใฝ่เรยี นรู้
( ) อยู่อย่างพอเพียง ( ✓ ) มุง่ ม่นั ในการทำงาน ( ) รกั ความเป็นไทย ( ✓ ) มจี ิตสาธารณะ
คุณลักษณะของผเู้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล
( ✓ ) เปน็ เลศิ วิชาการ ( ) ส่อื สารสองภาษา ( ✓ ) ล้ำหนา้ ทางความคิด
( ✓ ) ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ( ) รว่ มกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก
ชน้ิ งาน/ภาระงาน
1. คำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ 2.2
2. ใบงาน 2.1 เรือ่ ง การกระจดั และระยะทาง
กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ ที่ 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ
1. ครูนำเข้าบทเรียนโดยการสนทนา และใช้คำถามเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ เกี่ยวข้องกับสิ่ง
ใดบ้างจนไดข้ อ้ สรปุ ว่า การเคลอื่ นท่ขี องวัตถเุ กยี่ วข้องกับการเปลี่ยนตำแหน่งเมื่อเวลาเปล่ยี นไป หลงั จากนั้นครู
ถามเกี่ยวกับปริมาณการเคลื่อนที่ของวัตถุที่นักเรียนรู้จักมีอะไรบ้าง และพิจารณาอย่างไรโดยไม่คาดหวัง
คำตอบที่ถูกตอ้ ง
2. ครชู แ้ี จงจดุ ประสงค์การเรยี นรู้หวั ข้อ 2.2 แล้วนำเข้าสู่หัวข้อ 2.2 โดยใหน้ กั เรยี นคนหนึ่งมายืนหน้า
ชั้น จากนั้นให้เดินในแนวตรงจากผนังด้านหนึ่งของห้องเรียนไปถึงผนังอีกด้านหนึ่ง แล้วตั้งคำถามว่า การ
กระจัดและระยะทางที่มีค่าเท่ากันหรือไม่ จากนั้น ให้นักเรียนคนเดิมเดินย้อนกลับมาที่จุดตั้งต้น แล้วครูใช้
คำถามว่า เมื่อเดินไปและกลับถึงตำแหน่งเดิม การกระจัดและระยะทางมีค่าเท่ากับหรือไม่อย่างไรให้นักเรียน
อภิปราย โดยไม่คาดหวงั คำตอบท่ีถกู ต้อง
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สำรวจและค้นหา
1. ครูและทบทวนความรู้เกี่ยวกับ การกระจัด ซึ่งเป็นปริมาณเวกเตอร์ที่มีทั้งขนาดและทิศทาง ส่วน
ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ที่มีเพียงขนาด จากนั้นให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนตำแหน่งของ
รถยนต์ณ เวลาตา่ ง ๆ ในรปู 2.2 ในหนังสือเรยี นหน้า 39
2. ครูให้นักเรียนศึกษารายละเอียดในหัวข้อ 2.2 การกระจัดและระยะทาง ในหนังสือเรียน และ
ร่วมกันอภิปรายผลการศึกษาจนไดข้ ้อสรุปวา่ “จากความหมายของการกระจัดเท่ากบั การเปลี่ยนตำแหน่งของ
วตั ถุ สมการคือ ∆x= xf- xi”
3. นักเรียนทำแบบฝึกหดั ตรวจสอบความเข้าใจ 2.2 ในหนงั สอื เรียนหน้า 43 สง่ ครทู า้ ยชว่ั โมง
ข้ันท่ี 3 ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ
1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายสรุปการกจิ กรรมในช่วงแรกว่าการเดินของนักเรียนในช่วงแรก การ
กระจัดและระยะทางมีค่าเท่ากัน ซึ่งเท่ากับระยะจากผนังห้องด้านหนึ่งถึงอีกดา้ นหนึ่ง ในขณะที่การเดินทั้งไป
และกลับถงึ ตำแหน่งเดมิ การกระจดั เทา่ กับศูนยแ์ ต่ระยะทางเท่ากับสองเท่าของระยะจากผนังห้องด้านหนึ่งถึง
อกี ด้านหนึ่ง
2. ครูเน้นกับนักเรียนว่าการกระจัด คือปริมาณเวกเตอร์มีทิศออกจากตำแหน่งเร่ิมต้นไปยังตำแหน่ง
สุดท้าย มีขนาดเท่ากับระยะห่างระหว่างตำแหน่งเริ่มต้มและตำแหน่งสุดท้าย ส่วนระยะทางคือความยาวของ
เส้นทางตลอดการเคล่อื นที่ตัง้ แตต่ ำแหนง่ เรมิ่ ต้นถึงตำแหน่งสุดทา้ ย เปน็ ปริมาณสเกลาร์ ระยะทาง
ไมจ่ ำเปน็ ต้องมคี ่าเทา่ กับ ขนาดของการกระจัด
ข้นั ที่ 4 ขัน้ ขยายความรู้
1. ครูอธิบายตัวอย่าง 2.1 ในหนังสือเรียนหน้า 40-42 เพื่อย้ำความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับการ
คำนวณการกระจัดและระยะทาง ให้นักเรียนอภิปรายเพื่อสรุปความรู้ที่ได้เกี่ยวกับการกระจัดและระยะทาง
ดงั น้ี ระยะทาง (distance) คือ ระยะท้ังหมดทีว่ ัดไดต้ ามแนวการเคลอ่ื นท่ี ระยะทางจะระบุแตข่ นาดเพียงอย่าง
เดยี ว จึงจัดวา่ เป็นปริมาณสเกลาร์ หนว่ ยเป็นเมตร (m) สว่ นการกระจัด (displacement) คอื ระยะที่วัดได้ใน
แนวเส้นตรงจากตำแหน่งเริม่ ต้นไปยังตำแหน่งสุดท้าย ซึ่งเป็นปริมาณเวกเตอร์ที่ต้องระบุทั้งขนาดและทิศทาง
มีหน่วยเป็นเมตร (m) ครูอธิบายชี้ให้นักเรียนเห็นว่า ระยะทางขึ้นอยู่กับเส้นทางการเคลื่อนที่จริง ส่วนการ
กระจัดจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งเริ่มต้นและตำแหน่งสุดท้ายของการเคลื่อนที่ และระยะทางจะมีขนาดเท่ากับการ
กระจัด ในกรณีท่วี ตั ถเุ คลอ่ื นทเ่ี ป็นเสน้ ตรงและไมเ่ ปล่ยี นแปลงทศิ ทาง
2. นักเรยี นทำใบงาน 2.1 เรอื่ ง การกระจดั และระยะทาง สง่ ครูในช่วั โมงถดั ไป
ขนั้ ที่ 5 ขั้นประเมินผล
1. ครตู รวจสอบผลการทำคำถามตรวจสอบความเข้าใจ 2.2 เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 2.1
3. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานของนักเรียน
สือ่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ ที่ 1
1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ฟสิ กิ ส์ ม.4 เล่ม 1 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) หนว่ ยการเรียนรู้
ธรรมชาตแิ ละพฒั นาการทางฟิสกิ ส์
2. ใบงาน 2.1 เรื่อง การกระจดั และระยะทาง
3. Powerpoint
การวดั และประเมนิ ผล
วธิ วี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
K - คำถามตรวจสอบความเข้าใจ
- นักเรียนสามารถอธิบายอธบิ าย 2.2
การกระจดั และระยะทางการ
เคลื่อนที่ของวตั ถุ
P ใบงาน 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- นกั เรยี นสามารถคำนวณการ
กระจดั และระยะทางการเคลื่อนที่ ระดบั คุณภาพ 2
ของวตั ถุ ผ่านเกณฑ์
A - แบบประเมินคุณลักษณะ
-นกั เรียนมีนักเรียนมีความสนใจ อันพึงประสงค์
ใฝ่เรยี นร้ตู ่อการเรียน
ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ………………………………………………………….
(นางบัวแก้ว ศรีภธู ร)
ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
................/................./.................
ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ………………………………………………………….
(........................................................)
ตำแหน่ง.............................................................
................/................./.................
บันทกึ ผลหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่.ี ..................
เรื่อง..............................................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวนนกั เรียน.........................คน
ดา้ นความรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะกระบวนการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………………….
(........................................................)
................/................./.................
ใบงานท่ี 2.1
เรอื่ ง การกระจัดและระยะทาง
คำชแ้ี จง : จงคำนวณหาการกระจัดและระยะทางของวตั ถุ
1. เดก็ คนหนง่ึ เดนิ จากจุดอา้ งอิง 0 ไปทจ่ี ุด A แล้วเดินกลบั มาหยุดนิง่ ทีต่ ำแหนง่ B ดงั ภาพ การกระจัดและ
ระยะทางทัง้ หมดทีเ่ ด็กคนน้ีเดินไดม้ ีค่าเทา่ ไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. รถยนต์คันหน่ึงเคลื่อนท่ีไปทางทิศตะวนั ออก 300 เมตร แลว้ เคลอื่ นท่ีกลบั มาทางเดิม 380 เมตร จงหาวา่
รถยนต์คันนเี้ คล่ือนที่ไดร้ ะยะทางและการกระจดั เท่าใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นักเรียนว่งิ ไปตามถนนได้ระยะทาง 100 เมตร ในเวลา 4 วนิ าที แลว้ หยุดพักเสยี เวลา 2 วนิ าที จึงว่งิ กลับไป
ทางเดมิ คร่งึ ทางในเวลา 4 วนิ าที จงหาระยะทางและการกระจดั ของเด็กคนน้ี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. วัตถหุ นงึ่ เคลือ่ นท่ีในแนวเสน้ ตรง โดยที่ตำแหน่ง (x เมตร) ขึ้นอยู่กับเวลา (t วินาที) ซง่ึ เปน็ ไปตามฟังกช์ ัน
x(t) = 3 + 9t2 จงหาการกระจัดในช่วงเวลา 1 วินาที ถงึ 5 วนิ าที
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
***********************
ใบงานท่ี 2.1 เฉลย
เรอื่ ง การกระจัดและระยะทาง
คำชี้แจง : จงคำนวณหาการกระจดั และระยะทางของวัตถุ
1. เด็กคนหนึง่ เดนิ จากจดุ อ้างองิ 0 ไปท่ีจดุ A แล้วเดินกลับมาหยุดนงิ่ ที่ตำแหน่ง B ดังภาพ การกระจัดและ
ระยะทางทง้ั หมดท่ีเด็กคนนเี้ ดินไดม้ ีค่าเท่าไร
วธิ ที ำ การกระจดั คือ ระยะทางทีว่ ดั จากจุดเร่มิ ต้นไปยังจดุ สดุ ทา้ ยเปน็ เสน้ ตรง
การกระจัด = ระยะ 0 ถึง B = 6 เมตร
ระยะทาง คือ ระยะทง้ั หมดท่ีเด็กคนน้เี ดนิ ได้
ระยะทาง = 0A + AB = 10 + 4 = 14 เมตร
ตอบ การกระจดั เทา่ กบั 6 เมตร และระยะทางเทา่ กับ 14 เมตร
2. รถยนตค์ ันหน่ึงเคลื่อนทไี่ ปทางทศิ ตะวนั ออก 300 เมตร แลว้ เคล่อื นที่กลบั มาทางเดมิ 380 เมตร จงหาว่า
รถยนต์คนั นี้เคล่ือนที่ไดร้ ะยะทางและการกระจัดเท่าใด
วธิ ที ำ เม่ือพจิ ารณาภาพการเคลื่อนที่ของรถยนต์จะไดว้ า่
รถยนตเ์ คล่ือนท่ีไดร้ ะยะทาง = 300 + 380 = 680 เมตร
กำหนดให้ทิศตะวนั ออกมคี า่ เปน็ บวก ส่วนทศิ ตะวนั ตกมีคา่ เป็นลบ
รถยนตเ์ คลอ่ื นทไ่ี ดก้ ารกระจดั = 300 – 380 = -80 เมตร
ตอบ รถยนต์เคลื่อนทไ่ี ดร้ ะยะทาง 680 เมตร และการกระจดั 80 เมตร ทางทิศตะวนั ตก
3. นกั เรียนว่งิ ไปตามถนนได้ระยะทาง 100 เมตร ในเวลา 4 วินาที แลว้ หยดุ พกั เสียเวลา 2 วินาที จงึ วิ่งกลับไป
ทางเดิมครึ่งทางในเวลา 4 วินาที จงหาระยะทางและการกระจดั ของเด็กคนน้ี
วิธที ำ ระยะทาง = 100 + 50 =150 เมตร
กำหนดให้ทิศทางขวามือมคี ่าเป็นบวก และทางซา้ ยมือมีค่าเปน็ ลบ
การกระจดั = 100 + (-50) = 50 เมตร
ตอบ เดก็ คนนว้ี ่ิงไดร้ ะยะทาง 150 เมตร และการกระจัด 50 เมตรไปทางขวามือ
4. วัตถหุ นง่ึ เคลื่อนที่ในแนวเสน้ ตรง โดยที่ตำแหนง่ (x เมตร) ขึ้นอยู่กับเวลา (t วินาท)ี ซง่ึ เปน็ ไปตามฟงั ก์ชนั
x(t) = 3 + 9t2 จงหาการกระจดั ในช่วงเวลา 1 วนิ าที ถงึ 5 วนิ าที
วธิ ีทำ จากฟงั ก์ชัน x(t) = 3 + 9t2 จะไดว้ ่า
การกระจดั ในช่วง t = 1 ถงึ t = 5 วนิ าที
∆x = x (5) – x(1)
= (3 + 9 (5)2) – (3 + 9(1)2)
= 228 – 12
= 216 m
ตอบ การกระจดั ในช่วงเวลา 1 วนิ าที ถงึ 5 วินาที เท่ากับ 216 เมตร
***********************
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์
ตัวชีว้ ัด ผา่ น (1) ปฏบิ ตั ิตามข้อ
1. มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ช้ันเรยี น ตรงต
2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ันเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม ต่างๆ และรับ
ต่างๆ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และ เข้าเรยี นตรงเ
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ความเพียรพย
ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ในการเรียนรู้
เรียนร้ตู า่ งๆ บางครัง้ ต่างๆ ทงั้ ภาย
บ่อยครง้ั
ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ ับมอบหมายให้สำเรจ็ ต้งั ใจและรบั ผ
ได้รบั มอบหม
ทำงานใหด้ ีข้ึน
เกณฑ์การประเมนิ ดีมาก
ช่วงคะแนน 7 – 9 ระดับคุณภาพ 3 ดี
ชว่ งคะแนน 4 - 6 ระดับคณุ ภาพ 2 พอใช้
ชว่ งคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1
เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไป
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีเย่ยี ม (3)
ดี (2)
ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บของช้นั
อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ เรียน ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผูอ้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการ
ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
บผิดชอบในการทำงาน
เวลา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ และมี เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ
ยายามในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม เพียรพยายามในการเรยี นรู้ มีส่วนรว่ มในการ
และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรตู้ ่างๆ ทงั้
ยในและภายนอกโรงเรยี น ภายในและภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ และเป็น
แบบอย่างท่ดี ี
ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ทีท่ ่ี
มายให้สำเร็จ มีการปรบั ปรงุ การ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ
น มอบหมายให้สำเรจ็ มกี ารปรับปรุงและพฒั นาการ
ทำงานให้ดีข้นึ
แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง
รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน
ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน
เกณฑ์การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ตัวชี้วัด ผ่าน (1)
ทกั ษะการคำนวณ
คำนวณคา่ ท่ีต้องการโดยใชว้ ิธีการทางการ คำนวณค่าท
ทักษะการลงความเห็นจาก
ข้อมูล คำนวณ เช่น การหาค่าเฉลีย่ อตั ราสว่ น คำนวณ เช่น
ทกั ษะการตีความและลง ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ถูกต้องส่วน
ข้อสรุป
ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทไ่ี ดจ้ าก ลงความเห็น
การสงั เกต หรอื ท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรม สงั เกต หรอื
บางส่วน
บันทกึ ข้อมลู โดยมีการใช้ตารางหือวิธีการ บนั ทึกข้อมลู
อนื่ ในการจดั ระเบียบข้อมลู บางส่วน และมี ในการจดั ระ
การระบุชนดิ หรือหนว่ ยของข้อมลู บางส่วน ระบุชนดิ หร
เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ 3 ดี
ช่วงคะแนน 4 - 6 ระดับคุณภาพ 2 พอใช้
ช่วงคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1
เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรยี นไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป
เกณฑ์การให้คะแนน ดเี ยยี่ ม (3)
ดี (2) คำนวณคา่ ท่ีตอ้ งการโดยใช้วิธีการทางการ
คำนวณ เชน่ การหาค่าเฉลยี่ อัตราส่วน ได้
ที่ตอ้ งการโดยใชว้ ธิ กี ารทางการ ถูกต้องครบถว้ น
น การหาค่าเฉล่ยี อตั ราสว่ น ได้
นใหญ่ ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทีไ่ ด้จากการ
สังเกต หรอื ท่ีได้จากการทำกจิ กรรมครบถว้ น
นโดยอาศยั หลักฐานท่ไี ดจ้ ากการ
อที่ได้จากการทำกิจกรรมส่วนใหญ่
ลโดยมีการใช้ตารางหือวธิ ีการอน่ื บนั ทกึ ข้อมูลโดยมีการใช้ตารางหอื วิธีการอ่นื
ะเบียบข้อมลู ส่วนใหญ่ และมีการ ในการจดั ระเบียบข้อมูลครบถ้วน และมกี าร
รือหนว่ ยของข้อมูลสว่ นใหญ่ ระบชุ นิดหรอื หน่วยของข้อมลู ครบถว้ น
ทม่ี า สสวท.