The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุเมธาวี ขันทอง, 2022-09-25 12:15:46

แผนฟิสิกส์1

แผนฟิสิกส์1

แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง

รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน

ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน

เกณฑ์การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

ตัวชี้วัด ผ่าน (1)
ทกั ษะการคำนวณ
คำนวณคา่ ท่ีต้องการโดยใชว้ ิธีการทางการ คำนวณค่าท
ทักษะการลงความเห็นจาก
ข้อมูล คำนวณ เช่น การหาค่าเฉลีย่ อตั ราสว่ น คำนวณ เช่น

ทกั ษะการตีความและลง ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ถูกต้องส่วน
ข้อสรุป
ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทไ่ี ดจ้ าก ลงความเห็น

การสงั เกต หรอื ท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรม สงั เกต หรอื

บางส่วน

บันทกึ ข้อมลู โดยมีการใช้ตารางหือวิธีการ บนั ทึกข้อมลู

อนื่ ในการจดั ระเบียบข้อมลู บางส่วน และมี ในการจดั ระ

การระบุชนดิ หรือหนว่ ยของข้อมลู บางส่วน ระบุชนดิ หร

เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ 3 ดี
ช่วงคะแนน 4 - 6 ระดับคุณภาพ 2 พอใช้
ช่วงคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1

เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรยี นไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป

เกณฑ์การให้คะแนน ดเี ยยี่ ม (3)

ดี (2) คำนวณคา่ ท่ีตอ้ งการโดยใช้วิธีการทางการ
คำนวณ เชน่ การหาค่าเฉลยี่ อัตราส่วน ได้
ที่ตอ้ งการโดยใชว้ ธิ กี ารทางการ ถูกต้องครบถว้ น
น การหาค่าเฉล่ยี อตั ราสว่ น ได้
นใหญ่ ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทีไ่ ด้จากการ
สังเกต หรอื ท่ีได้จากการทำกจิ กรรมครบถว้ น
นโดยอาศยั หลักฐานท่ไี ดจ้ ากการ
อที่ได้จากการทำกิจกรรมส่วนใหญ่

ลโดยมีการใช้ตารางหือวธิ ีการอน่ื บนั ทกึ ข้อมูลโดยมีการใช้ตารางหอื วิธีการอ่นื
ะเบียบข้อมลู ส่วนใหญ่ และมีการ ในการจดั ระเบียบข้อมูลครบถ้วน และมกี าร
รือหนว่ ยของข้อมูลสว่ นใหญ่ ระบชุ นิดหรอื หน่วยของข้อมลู ครบถว้ น

ทม่ี า สสวท.

แบบมาตรประมาณคา่ เพอ่ื ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
คำชแ้ี จง : ให้พิจารณาพฤติกรรมตอ่ ไปนี้ แล้วให้ระดับคะแนนท่ีตรงกบั การปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเป็น
จรงิ

รายการประเมิน

เลขที่ ชื่อ-สกุล ทักษะการ ีตความหมาย คะแนน การแปลผล
และลงข้อส ุรป เฉลี่ย

ทักษะการลงความเห็น
จากข้อมูล

ลงชื่อ.........................................................
(.............................................)
ผู้ประเมิน

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12

รหัสวิชา ว30201 รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 แรงและกฎการเคล่อื นท่ี เร่อื ง แรง

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง

ผสู้ อน นางสาวสเุ มธาวี ขนั ทอง

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้

สาระฟสิ กิ ส์ : 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสกิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนท่แี นวตรง แรงและกฎการ
เคลอ่ื นทขี่ องนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสยี ดทานสมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล
โมเมนตมั และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลอื่ นท่แี นวโคง้ รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรียนรู้

อธิบายแรงและผลของแรงลัพธ์ที่มีต่อการเคล่ือนที่ของวัตถุ รวมทั้งทดลองหาแรงลัพธ์ของแรงสอง
แรงท่ีทำมุมต่อกัน

เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระ ทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันและ
การใช้กฎการเคลื่อนท่ีของนิวตันกับสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
- นกั เรียนอธบิ ายลกั ษณะของแรงตา่ งๆได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นักเรียนเขียนแผนภาพวัตถุอิสระในกรณีตา่ งๆได้
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
- นักเรยี นมีนักเรียนมคี วามสนใจใฝเ่ รียนรตู้ อ่ การเรยี น

สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

การพิจารณาแรงนั้นจะนำสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุมาระบุแรงที่กระทำต่อวัตถุ โดยต้องรู้ว่าแรงใด
เป็นของผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ มีทิศทางใด และเพื่อการพิจารณาได้ชัดเจนจะใชแ้ ผนภาพวัตถุอิสระทีเ่ ขียนแรง
ทั้งหมดทก่ี ระทำตอ่ วัตถทุ พี่ ิจารณาครบถว้ นและถกู ต้อง มแี รง 5 แรงทคี่ วรรเู้ ป็นพน้ื ฐานคือ

-น้ำหนักของวัตถุ (weight) คือแรงที่โลกดึงดูดวัตถุ มีขนาดขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุและมีทิศเข้าหา
ศูนย์กลางโลก

- แรงสปริง (spring force) เป็นแรงที่สปริงพยายามต้านกับแรงที่มากระทำต่อสปริง มีขนาดขึ้นกับ
ความยาวของสปรงิ ทเี่ ปล่ยี นไป มีทิศทางทที่ ำใหส้ ปริงกลับสูร่ ปู รา่ งเดมิ

- แรงดึง (tension force) เช่น แรงดงึ เชอื ก เปน็ แรงทเ่ี ชอื กดงึ วตั ถุ มที ิศออกจากวตั ถุ
- แรงแนวฉาก (normal force) เป็นแรงกระทำระหว่างผิววัตถุสองก้อนที่สัมผัสกัน มีทิศตั้งฉากกับ
แนวผวิ สมั ผสั

- แรงเสียดทาน (frictional force) เป็นแรงกระทำระหวา่ งผวิ วตั ถสุ องกอ้ นทีส่ ัมผสั กนั พยายามตา้ นการ
เคลอ่ื นท่ีระหว่างวตั ถุ มที ิศในแนวผวิ สมั ผัส

สาระการเรยี นรู้

แรงพ้ืนฐานสำคัญ ได้แก่ แรงสปริง แรงดึง แรงแนวฉาก แรงเสียดทาน และแรงสปริง และการ
เขียนแผนภาพวัตถุอิสระของวัตถุในรูปแบบต่างๆ

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
( ✓ ) ความสามารถในการส่ือสาร ( ✓ ) ความสามารถในการคิด ( ) ความสามารถในการแก้ปัญหา
( ) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ( ) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( ) มีวินยั ( ✓ ) ใฝเ่ รยี นรู้
( ) รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ( ✓ ) ซอื่ สัตยส์ ุจรติ ( ) รักความเปน็ ไทย ( ✓ ) มจี ิตสาธารณะ
( ) อยอู่ ยา่ งพอเพียง ( ✓ ) มุ่งมนั่ ในการทำงาน

คณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

( ✓ ) เป็นเลิศวชิ าการ ( ) สือ่ สารสองภาษา ( ✓ ) ล้ำหน้าทางความคิด

( ✓ ) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์ ( ) รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสังคมโลก

ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. คำถามตรวจสอบความเข้าใจ 3.1
2. ใบงาน 3.1 เรอ่ื ง แรง

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันท่ี 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ

1. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยท่ี 3 แรงและกฎการเคล่อื นท่ี
2. ครูทบทวนความรู้เรื่องแรงที่นักเรียนเคยเรียนมาแล้ว และตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน
เกี่ยวกับ แรง ให้อภิปรายร่วมกันเพ่ือให้เกิดแนวคิดที่ถูกต้อง แล้วตั้งคำถามโดยยกสถานการณ์ให้ นักเรียนเกิด
ความอยากรู้อยากเห็นเกย่ี วกับแรงเพ่ิมขนึ้ เชน่ ยงั มแี รงจากผู้โยนกระทำตอ่ ลกู โบวล์ ่งิ อยู่หรือไม่ขณะลูกโบว์ลิ่ง
กำลังกลงิ้ ไปบนรางหลังจากหลดุ จากมือผโู้ ยนแลว้ (แนวคำตอบ: มี เชน่ แรงโนม้ ถ่วงของโลก)
3. ครูถามนักเรียนว่าในแรงดึงมือในกรณีที่นักเรียนยืนหิ้วของหนักเปรียบเทียบกับการดึงปลายหนัง
ยางวา่ เหมอื นหรอื แตกต่างกนั อย่างไร (คำตอบเปน็ แบบปลายเปดิ )

ข้นั ท่ี 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา
1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกับลักษณะของแรงตามหัวข้อ 3.1.1 ในหนังสือเรียนรายวชิ า
เพิ่มเติม ฟิสิกส์ 1 จนนักเรียนสามารถระบุ ลักษณะสำคัญของแรงว่าแรงต้องมีผู้กระทำผู้ถูกกระทำ และมีทิศ
โดยใชล้ ูกศรแทนแรง

2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับแรงกระทำเป็นคู่ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน จากนั้น
ให้นักเรียนสังเกตว่าแรงอะไรบ้าง เมื่อนักเรียนดึงหนังยางที่ปลายด้านหนึ่งยึดไว้ และให้นักเรี ยนวิเคราะห์
เกี่ยวกับแรงกระทำเป็นคู่ ซักถามจนได้แนวคำตอบว่า เมื่อนักเรียนออกแรงดึงปลายหนังยาง มือของนักเรียน
เป็นผู้กระทำ หนังยางเป็นผู้ถูกกระทำ ดังรูป 3.1 ก. ในขณะเดียวกันหนังยางจะออกแรงดึงกระทำต่อมือของ
นักเรียนด้วย โดยหนังยางเป็นผู้กระทำ มือของนักเรียนเป็นผู้ถูกกระทำ ดังรูป 3.1 ข. นั่นคือ มือของนักเรียน
และหนงั ยางสลับกนั เปน็ ผูก้ ระทำและผู้ถกู กระทำ

ขัน้ ท่ี 3 ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ
1. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษารปู ชายคนหนึง่ ดันกล่อง จากแนวคำถามชวนคดิ ในหนงั สือเรียน หน้า 123

และถามนกั เรียนว่า มแี รงอะไรกระทำต่อกล่อง A บา้ ง (แนวคำตอบ : แรงผลัก แรงท่ีกล่อง B ดันกล่อง A แรง
ที่พน้ื ดนั กลอ่ ง A และนำ้ หนักของกล่อง A) และมีแรงอะไรกระทำต่อกลอ่ ง B บ้าง (แนวคำตอบ : แรงที่กลอ่ ง
A ดนั กลอ่ ง B แรงที่พื้นดันกล่อง B และน้ำหนกั ของกล่อง B)

2. ครใู หค้ วามร้เู กี่ยวกับแผนภาพวตั ถุอสิ ระเพื่อใช้ในการวิเคราะห์แรงที่กระทำกับวัตถุตามขน้ั ตอนท้ัง
3 ขอ้ ตามรายละเอียดหนงั สือเรียนจากน้นั ครอู ธิบายการเขยี นแผนภาพวตั ถุอสิ ระจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน
ตาราง 3.2 และข้อสงั เกตในหนงั สือเรยี น

3. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ตรวจสอบความเข้าใจ 3.1 ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 134 สง่ ครูท้ายช่ัวโมง
ขัน้ ท่ี 4 ข้ันขยายความรู้
1. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า การพิจารณาแรงนั้นจะนำสภาพการเคล่ือนที่ของวัตถุมาระบุแรงทีก่ ระทำ
ต่อวัตถุ โดยต้องรู้ว่าแรงใดเป็นของผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ มีทิศทางใด และเพื่อการพิจารณาได้ชัดเจนจะใช้
แผนภาพวัตถอุ สิ ระทเ่ี ขยี นแรงท้ังหมดทกี่ ระทำต่อวัตถุที่พิจารณาครบถ้วนและถูกต้อง มีแรง 5 แรงที่ควรรู้เป็น
พนื้ ฐานคือ

- น้ำหนกั ของวัตถุ (weight) คอื แรงท่ีโลกดึงดูดวัตถุ มขี นาดขึน้ อยู่กับมวลของวัตถุ และมีทิศ
เขา้ หาศูนย์กลางโลก

- แรงสปริง (spring force) เป็นแรงทีส่ ปรงิ พยายามตา้ นกบั แรงทม่ี ากระทำต่อสปริง มีขนาด
ข้นึ กบั ความยาวของสปรงิ ทเ่ี ปลีย่ นไป มที ิศทางทีท่ ำให้สปรงิ กลบั สู่รูปร่างเดมิ

- แรงดึง (tension force) เชน่ แรงดงึ เชือก เปน็ แรงทเ่ี ชือกดงึ วตั ถุ มีทศิ ออกจากวตั ถุ
- แรงแนวฉาก (normal force) เป็นแรงกระทำระหว่างผิววัตถุสองก้อนที่สัมผัสกัน มีทิศตั้ง
ฉากกบั แนวผิวสัมผสั
- แรงเสียดทาน (frictional force) เป็นแรงกระทำระหว่างผิววัตถุสองก้อนที่สัมผัสกัน
พยายามตา้ นการเคล่ือนทีร่ ะหว่างวัตถุ มที ศิ ในแนวผิวสัมผัส
2. ครูเขียนภาพวัตถุ A และ B ดังรูป 3.2 แล้วให้นักเรียนแต่ละคนเขียนรูปแล้วใส่ลูกศรแทนแรง
ท้งั หมดที่กระทำต่อวัตถุทั้งสองลงในรปู ที่เขียน ให้นักเรยี นระบดุ ว้ ยว่าแรงใดคือ นำ้ หนกั แรงสปริง แรงดึง แรง
แนวฉาก และแรงเสยี ดทาน

ครใู ช้รูป 3.3 เป็นแนวคำตอบตามในการระบปุ ระเภทของแรง โดย W1, W2 เป็นน้ำหนักของวตั ถุ

3. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทำใบงานที่ 3.1 เร่ือง แรง สง่ ครใู นช่ัวโมงถดั ไป
ข้ันท่ี 5 ขน้ั ประเมนิ ผล
1. ครูตรวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรยี นของนักเรยี น
2. ครตู รวจสอบผลจากการทำทำแบบฝึกหดั ตรวจสอบความเขา้ ใจ 3.1
3. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 3.1
4. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานของนักเรียน

สือ่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 1 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1
ธรรมชาติและพฒั นาการทางฟิสกิ ส์

2. ใบงาน 3.1 เร่ือง แรง
3. Powerpoint

การวัดและประเมินผล

วิธีวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
K - คำถามตรวจสอบความเข้าใจ
- นักเรียนสามารถอธิบายและ 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
คำนวณปริมาณทเี่ ก่ียวข้องกบั การ
เคลื่อนที่แนวตรงของวัตถุจาก ระดบั คุณภาพ 2
กราฟตำแหน่งกับเวลา ผ่านเกณฑ์

P ใบงาน 3.1
- นกั เรียนเขียนแผนภาพวตั ถุ
อิสระในกรณีตา่ งๆได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

A - แบบประเมินคุณลักษณะ
-นกั เรียนมีนักเรยี นมีความสนใจ อนั พึงประสงค์
ใฝเ่ รียนรตู้ ่อการเรยี น

ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ………………………………………………………….
(นางบัวแก้ว ศรีภธู ร)

ตำแหนง่ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
................/................./.................

ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………………………….
(........................................................)

ตำแหน่ง.............................................................
................/................./.................

บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่...................
เร่อื ง..............................................

1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวนนกั เรียน.........................คน
ดา้ นความรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะกระบวนการ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ………………………………………………………….
(........................................................)
................/................./.................

ใบงานท่ี 3.1

เรอ่ื ง แรง

คำช้แี จง : จงเขยี นแผนภาพวัตถอุ ิสระในสถานการณต์ า่ งๆ ที่กำหนดให้

รปู แสดงสถานการณ์ แผนภาพวตั ถอุ ิสระ

1.

2.

3.

4.

5.

ใบงานท่ี 3.1 เฉลย

เร่ือง แรง

คำช้ีแจง : จงเขียนแผนภาพวัตถอุ สิ ระในสถานการณต์ า่ งๆ ทก่ี ำหนดให้

รูปแสดงสถานการณ์ แผนภาพวตั ถอุ สิ ระ

1.

2.

3.

4.

5.

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์

ตัวช้วี ัด ผา่ น (1) ปฏบิ ตั ิตามข้อ
1. มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ช้ันเรยี น ตรงต
2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ันเรยี น ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่างๆ และรับ
ต่างๆ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และ เข้าเรยี นตรงเ
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ความเพียรพย
ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ในการเรียนรู้
เรียนร้ตู า่ งๆ บางครง้ั ต่างๆ ทงั้ ภาย
บ่อยครง้ั
ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ ับมอบหมายให้สำเรจ็ ต้งั ใจและรบั ผ
ได้รบั มอบหม
ทำงานใหด้ ีข้ึน

เกณฑ์การประเมิน ดีมาก
ช่วงคะแนน 7 – 9 ระดับคุณภาพ 3 ดี
ชว่ งคะแนน 4 - 6 ระดับคณุ ภาพ 2 พอใช้
ชว่ งคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1

เกณฑก์ ารผ่าน : นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดเี ย่ียม (3)
ดี (2)
ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของช้นั
อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ เรียน ไม่ละเมิดสิทธขิ องผ้อู ื่น ตรงตอ่ เวลาในการ
ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
บผิดชอบในการทำงาน
เวลา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ และมี เขา้ เรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ
ยายามในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม เพียรพยายามในการเรยี นรู้ มีสว่ นรว่ มในการ
และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทงั้
ยในและภายนอกโรงเรยี น ภายในและภายนอกโรงเรยี นเป็นประจำ และเป็น
แบบอยา่ งทีด่ ี
ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ทีท่ ่ี
มายให้สำเร็จ มีการปรบั ปรงุ การ ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ
น มอบหมายใหส้ ำเร็จ มกี ารปรับปรุงและพฒั นาการ
ทำงานให้ดีขน้ึ

แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง

รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน

ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน

เกณฑ์การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

ตัวชี้วัด ผ่าน (1)
ทกั ษะการคำนวณ
คำนวณคา่ ท่ีต้องการโดยใชว้ ิธีการทางการ คำนวณค่าท
ทักษะการลงความเห็นจาก
ข้อมูล คำนวณ เช่น การหาค่าเฉลีย่ อตั ราสว่ น คำนวณ เช่น

ทกั ษะการตีความและลง ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ถูกต้องส่วน
ข้อสรุป
ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทไ่ี ดจ้ าก ลงความเห็น

การสงั เกต หรอื ท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรม สงั เกต หรอื

บางส่วน

บันทกึ ข้อมลู โดยมีการใช้ตารางหือวิธีการ บนั ทึกข้อมลู

อนื่ ในการจดั ระเบียบข้อมลู บางส่วน และมี ในการจดั ระ

การระบุชนดิ หรือหนว่ ยของข้อมลู บางส่วน ระบุชนดิ หร

เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ 3 ดี
ช่วงคะแนน 4 - 6 ระดับคุณภาพ 2 พอใช้
ช่วงคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1

เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรยี นไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป

เกณฑ์การให้คะแนน ดเี ยยี่ ม (3)

ดี (2) คำนวณค่าท่ีตอ้ งการโดยใช้วิธีการทางการ
คำนวณ เชน่ การหาค่าเฉลยี่ อัตราส่วน ได้
ที่ตอ้ งการโดยใชว้ ธิ กี ารทางการ ถูกต้องครบถว้ น
น การหาค่าเฉล่ยี อตั ราสว่ น ได้
นใหญ่ ลงความเหน็ โดยอาศยั หลักฐานทีไ่ ด้จากการ
สังเกต หรือท่ีได้จากการทำกจิ กรรมครบถว้ น
นโดยอาศยั หลักฐานท่ไี ดจ้ ากการ
อที่ได้จากการทำกิจกรรมส่วนใหญ่

ลโดยมีการใช้ตารางหือวธิ ีการอน่ื บันทกึ ข้อมูลโดยมีการใช้ตารางหอื วิธีการอ่นื
ะเบียบข้อมลู ส่วนใหญ่ และมีการ ในการจดั ระเบียบข้อมูลครบถ้วน และมกี าร
รือหนว่ ยของข้อมูลสว่ นใหญ่ ระบชุ นิดหรือหน่วยของข้อมลู ครบถว้ น

ทม่ี า สสวท.

แบบมาตรประมาณคา่ เพอ่ื ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
คำชแ้ี จง : ให้พิจารณาพฤติกรรมตอ่ ไปนี้ แล้วให้ระดับคะแนนท่ีตรงกบั การปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเป็น
จรงิ

รายการประเมิน

เลขที่ ชื่อ-สกุล ทักษะการ ีตความหมาย คะแนน การแปลผล
และลงข้อส ุรป เฉลี่ย

ทักษะการลงความเห็น
จากข้อมูล

ลงชื่อ.........................................................
(.............................................)
ผู้ประเมิน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 13

รหสั วชิ า ว30201 รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 แรงและกฎการเคล่อื นที่ เรือ่ ง การหาแรงลพั ธ์ (1)

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง

ผูส้ อน นางสาวสเุ มธาวี ขนั ทอง

มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้

สาระฟสิ ิกส์ : 1. เขา้ ใจธรรมชาติทางฟสิ กิ ส์ ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคล่อื นท่แี นวตรง แรงและกฎการ
เคลือ่ นท่ขี องนวิ ตนั กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสยี ดทานสมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรกั ษพ์ ลังงานกล
โมเมนตมั และกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคล่ือนท่ีแนวโคง้ รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ผลการเรยี นรู้

อธิบายแรงและผลของแรงลัพธ์ท่ีมีต่อการเคล่ือนที่ของวัตถุ รวมทั้งทดลองหาแรงลัพธ์ของแรงสอง
แรงท่ีทำมุมต่อกัน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
- นกั เรียนอธิบาย- อธิบายความหมายของแรงลัพธแ์ ละแสดงการหาแรงลัพธ์โดยใช้วิธีเขียน
เวกเตอรข์ องแรงแบบหางต่อหัว วิธสี ร้างรปู สเ่ี หลยี่ มด้านขนานของแรงและวธิ ีคำนวณ
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรยี นทดลองหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงท่ีทำมุมต่อกัน
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- นกั เรียนมีนกั เรยี นมีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ตอ่ การเรยี น

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

เมื่อวัตถุก้อนหนึ่งมีแรงกระทำสองแรง ผลที่เกิดกับวัตถุนั้นจะเป็นไปตามแรงรวมของแรงทั้งสองที่ได้
จากการรวมแบบเวกเตอร์ เรียกว่า แรงลพั ธ์ (resultant force) การหาแรงลัพธ์ด้วยวธิ ีเขียนเวกเตอร์แบบหาง
ต่อหัว โดยเขียนลูกศรเวกเตอร์แทนแรงทั้งสองให้หางต่อหัว เวกเตอร์ลัพธ์ คือ ลูกศรจากหางเวกเตอร์แรกไป
หัวเวกเตอร์สุดท้าย หรือวิธีการสร้างรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน โดยเขียนเวกเตอร์แทนแรงทั้งสองให้หางมาต่อกัน
แล้วประแนวจากหัวลูกศรเวกเตอร์ทั้งสองให้เปน็ รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน เวกเตอร์ลัพธ์ คือ ลูกศรจากมุมที่หาง
พบกันไปยงั มุมตรงขา้ ม และการหาแรงลพั ธด์ ว้ ยวธิ คี ำนวณ โดยคำนวณผลรวมแรงองคป์ ระกอบของแรงท้ังสอง
ในแนว x และ ในแนว y แล้วคำนวณแรงลพั ธ์ของแรงรวมในแนว x กับแรงรวมในแนว y จากทฤษฎพี ีทาโกรัส

สาระการเรยี นรู้

แรงลัพธ์ (resultant force) มวี ธิ ีการหาแรงลพั ธ์ดว้ ยวิธีเขียนเวกเตอร์แบบหางต่อหัว และวิธเี ขียน
เวกเตอรแ์ บบหางตอ่ หาง

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
( ✓ ) ความสามารถในการส่ือสาร ( ✓ ) ความสามารถในการคดิ ( ) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
( ) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ( ) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ( ) มวี นิ ยั ( ✓ ) ใฝ่เรยี นรู้
( ) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ( ✓ ) ซือ่ สตั ย์สจุ ริต ( ) รักความเป็นไทย ( ✓ ) มีจิตสาธารณะ
( ) อย่อู ย่างพอเพียง ( ✓ ) ม่งุ มั่นในการทำงาน

คุณลกั ษณะของผเู้ รียนตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

( ✓ ) เป็นเลิศวชิ าการ ( ) ส่อื สารสองภาษา ( ✓ ) ลำ้ หน้าทางความคิด

( ✓ ) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ( ) ร่วมกนั รับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. คำถามตรวจสอบความเขา้ ใจ 3.2
2. กจิ กรรม 3.2การทดลองหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ
1.1 ครูแบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 คน เล่นเกมเลือกตัวอักษรด้วยการเลื่อนถ้วยพลาสติก ที่ผูกโยง

ด้วยเชือกจำนวนเส้นเท่ากับจำนวนผู้เล่น นำถ้วยพลาสติกวางลงบนกระดาษโปสเตอร์ที่เขียนตัวอักษรไว้ ให้
นักเรียนยืนล้อมกระดาษโปสเตอร์และถือปลายเชือกคนละเส้น เพื่อดึงเชือกให้ถ้วยเคลื่อนที่ไปยังตัวอักษรท่ี
กำหนด ให้นักเรียนสังเกตการณ์เคลื่อนที่ของถ้วยพลาสติกกับแรงที่ดึง เมื่อดึงถ้วย 1 คน ดึงถ้วยพร้อมกัน 2
คน ดึงถว้ ยพร้อมกัน 3 คน และพรอ้ มกนั จนครบ 5 คน

1.2 ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของถ้วยกับแรงที่ดึงหนึ่งแรงและ
หลายแรง (คำตอบเป็นแบบปลายเปดิ )

ข้ันท่ี 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา
1. ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม 3.1 การทดลองเรอื่ งการหาแรงลัพธข์ องแรงสองแรงท่ีทำมุมกนั เพื่อหา
ขนาดและทศิ ทางของแรงลัพธ์ของแรงสองแรงทท่ี ำมุมต่อกัน และบันทึกผลอภปิ รายรว่ มกนั ตอบคำถามทา้ ย
กิจกรรม
2. ครูแนะนำตัวอย่างการวางตัวของเคร่ืองชงั่ สปรงิ และแรงลพั ธ์จากรูปส่ีเหล่ียมดา้ นขนานเปน็ ดังรูป

ข้ันท่ี 3 ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรุป
1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายคำถามท้ายกิจกรรมดังนี้
- เวกเตอร์ของแรงลัพธ์มีทิศทางอย่างไร และมีทิศเดียวกันหรือตรงข้ามกันกับแรงจากเครื่อง

ชั่งสปริงตัวที่สาม (แนวคำตอบ : เวกเตอร์ของแรงลัพธ์มีทิศทางตามเส้นทแยงมุมของสี่เหลี่ยมด้านขนานและ
ตรงข้ามกบั แรงจากเคร่ืองชง่ั สปรงิ ตัวท่ีสาม

- เวกเตอร์ของแรงลพั ธ์มีขนาดเท่าใด และมีค่าเทา่ กบั ค่าที่บนั ทกึ ได้จากข้อที่ 4 และ 7 หรือไม่
อย่างไร (แนวคำตอบ : ขนาดเวกเตอร์ของแรงลัพธ์ไม่จำเป็นต้องเท่ากับค่าท่ีวดั ได้จากข้อ 4 แต่จะเท่ากับค่าท่ี
วัดไดจ้ ากขอ้ 7 และมคี า่ เทา่ กับคา่ ทว่ี ดั ได้จากเครื่องชง่ั สปรงิ ตัวทส่ี าม)

ขั้นท่ี 4 ข้ันขยายความรู้
1. ครูนำนักเรียนอภิปรายตามแนวคำถามในหนังสือเรียนจนสรุปได้ว่า แรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทำ
มุมต่อกัน มีขนาดเท่ากับความยาวของเส้นทแยงมุมของรูปสี่เหลีย่ มดา้ นขนานที่มีแรงทั้งสองเป็นด้านประกอบ
และมที ศิ ทางตามเส้นทแยงมมุ ของสเี่ หล่ียมดา้ นขนาน โดยชอ้ี อกจากหางเวกเตอร์ของแรงท้ังสอง
2. ครูทดสอบความรู้เกีย่ วกบั การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์ทง้ั สามวิธี เม่อื มแี รงสองแรงท่ีทำมุม
ต่อกัน กระทำต่อวัตถุ จากรายงานผลการทดลอง การสรุป และการตอบคำถามตรวจสอบความเข้าใจ 3.2 ใน
หนังสอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ 1 หนา้ 142 โดยเฉลยคำตอบและอภปิ รายคำตอบร่วมกัน
ข้ันที่ 5 ขั้นประเมนิ ผล
2. ครตู รวจสอบผลจากการทำทำแบบฝกึ หดั ตรวจสอบความเข้าใจ 3.2
3. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม 3.1
4. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานของนักเรยี น

สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ ท่ี 1

1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ ม.4 เลม่ 1 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) หนว่ ยการเรียนรู้
ธรรมชาตแิ ละพฒั นาการทางฟสิ ิกส์

2. ใบงาน 3.1 เร่ือง แรง
3. Powerpoint

การวัดและประเมินผล

วธิ ีวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมนิ

K - คำถามตรวจสอบความเข้าใจ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

- นักเรยี นสามารถอธิบายและ 3.2

คำนวณปรมิ าณที่เกย่ี วข้องกบั การ

เคล่อื นที่แนวตรงของวัตถจุ าก

กราฟตำแหนง่ กับเวลา

P กิจกรรม 3.1 การทดลองหาขนาด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

- อธิบายความหมายของแรงลัพธ์ และทศิ ทางของแรงลพั ธ์

และแสดงการหาแรงลัพธ์โดยใช้

วิธีเขียนเวกเตอร์ของแรงแบบหาง

ต่อหัว วธิ ีสร้างรูปสเี่ หลี่ยมด้าน

ขนานของแรงและวธิ ีคำนวณ

A - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2

-ทดลองหาแรงลัพธข์ องแรงสอง อันพงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

แรงทท่ี ำมุมต่อกัน

ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ………………………………………………………….
(นางบัวแก้ว ศรีภธู ร)

ตำแหน่ง หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
................/................./.................

ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………………………….
(........................................................)

ตำแหน่ง.............................................................
................/................./.................

บันทกึ ผลหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่.ี ..................
เรื่อง..............................................

1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวนนกั เรียน.........................คน
ดา้ นความรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะกระบวนการ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ………………………………………………………….
(........................................................)
................/................./.................

กจิ 2ก2ร.รม 3.1

การทดลองเร่ือง การหาขนาดและทศิ ทางของแรงลัพธ์

จดุ ประสงค์

หาขนาดและทิศทางของเเนวลพั ท์ของเเรงสองเเรงท่ีทำมมุ กัน

เวลาทใี่ ช้

50 นาที

วัสดแุ ละอุปกรณ์

1. กระดาษเเขง็ 1 ชดุ

2. เคร่อื งชง่ั สปรงิ 3 อัน

3. เชอื กเบา 3 เส้น

4. ตวั ยดื 3 อัน

วิธดี ำเนินกิจกรรม
1. นำปลายข้างหนึง่ ของเชอื กท้ังสามผูกรวมกันไว้ ปลายทเี่ หลือทำเป็นหว่ งเชอื กแล้ววางบนกระดาษขาว
2. ใช้เครื่องชั่งสปริงทั้งสามอันเกี่ยวกับห่วงเชือก แล้วดึงเครื่องชั่งสปริงทั้งสามจนเชือกหยุดนิ่ง โดยยึด

เครื่องชั่งสปริงตัวที่สามกับที่ยึด และใช้มือดึงที่เครื่องชั่งปริงที่หนึ่งและที่สองให้ทำมุม 45 องศา กำหนดจุด
กึ่งกลางของเชือกทั้งสามลงบนกระดาษขาว จากนั้นเขียนแนวแรงตามแนวของเชือก และบันทึกค่าของแรงที่
อา่ นไดจ้ ากเครอ่ื งชัง่ สปริงทหี่ นึง่ และสอง

3. เขียนเวกเตอร์แทนขนาดและทิศทางของแรงจากเครื่องชั่งสปริงที่หนึ่งและสอง โดยทำหารกำหนด
อตั ราสว่ นขนาดของแรง 1 นิวตันเทา่ กับขนาดของเวกเตอร์ 1 เซนตเิ มตร

4. นำค่าขนาดของแรงที่อ่านได้จากเครื่องชั่งสปริงตัวที่หนึ่งและตัวที่สองมารวมกันโดยตรง จากนั้น
บันทึกคา่ ท่ีได้

5. สร้างรูปส่ีเหลี่ยมดา้ นขนานซึ่งมีดา้ นประชิดกันสองด้านท่ีมาจากเวกเตอร์ของแรงจากเครื่องชั่งสปรงิ
ตัวที่หนง่ึ และตวั ท่สี อง

6. หาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์จากรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน โดยลากเส้นทแยงมุมจากจุดปลายของ
เวกเตอร์ทั้งสองไปยังมุมตรงข้าม ขนาดของแรงลัพธ์เป็นความยาวของเส้นทแยงมุม และทิศทางของแรงลัพธ์
เริม่ จากจดุ ปลายของเวกเตอร์ไปยงั มุมด้านตรงข้าม

7. บนั ทกึ ค่าขนาดของแรงลพั ธท์ ี่วัดได้
8. ทำซ้ำข้อ 2-7 โดยใหเ้ ครื่องชั่งสปรงิ ทัง้ สองอนั ทำมมุ 0 องศา และ 90 องศาตอ่ กนั

บันทกึ ผลการทดลอง (วาดรูปเวกเตอรท์ ่ีไดจ้ ากการทดลอง)

คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เวกเตอรข์ องแรงลัพธม์ ที ศิ ทางอย่างไร และมที ิศเดียวกันหรอื ตรงข้ามกนั กับแรงจากเคร่อื งชง่ั สปริงตวั ทีส่ าม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เวกเตอร์ของแรงลัพธม์ ีขนาดเทา่ ใด และมคี ่าเทา่ กบั คา่ ท่ีบันทึกไดจ้ ากข้อที่ 4 และ 7 หรือไม่อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

กิจ2ก2ร.รม 3.1 เฉลย

การทดลองเรอ่ื ง การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์

จดุ ประสงค์

หาขนาดและทิศทางของเเนวลพั ท์ของเเรงสองเเรงทีท่ ำมมุ กัน

เวลาทใี่ ช้

50 นาที

วัสดแุ ละอุปกรณ์

1. กระดาษเเขง็ 1 ชุด

2. เคร่อื งชง่ั สปรงิ 3 อัน

3. เชอื กเบา 3 เส้น

4. ตวั ยดื 3 อัน

วิธดี ำเนินกิจกรรม
1. นำปลายข้างหนึง่ ของเชือกทั้งสามผกู รวมกันไว้ ปลายทเี่ หลือทำเป็นหว่ งเชือกแลว้ วางบนกระดาษขาว
2. ใช้เครื่องชั่งสปริงทั้งสามอันเกี่ยวกับห่วงเชือก แล้วดึงเครื่องชั่งสปริงทั้งสามจนเชือกหยุดนิ่ง โดยยึด

เครื่องชั่งสปริงตัวที่สามกับที่ยึด และใช้มือดึงที่เครื่องชั่งปริงที่หนึ่งและที่สองให้ทำมุม 45 องศา กำหนดจุด
กึ่งกลางของเชือกทั้งสามลงบนกระดาษขาว จากนั้นเขียนแนวแรงตามแนวของเชือก และบันทึกค่าของแรงท่ี
อา่ นไดจ้ ากเครอ่ื งชัง่ สปริงทหี่ นง่ึ และสอง

3. เขียนเวกเตอร์แทนขนาดและทิศทางของแรงจากเครื่องชั่งสปริงที่หนึ่งและสอง โดยทำหารกำหนด
อตั ราสว่ นขนาดของแรง 1 นวิ ตันเทา่ กับขนาดของเวกเตอร์ 1 เซนติเมตร

4. นำค่าขนาดของแรงที่อ่านได้จากเครื่องชั่งสปริงตัวที่หนึ่งและตัวที่สองมารวมกันโดยตรง จากนั้น
บันทึกคา่ ท่ีได้

5. สร้างรูปส่ีเหลี่ยมด้านขนานซึง่ มีดา้ นประชิดกันสองด้านที่มาจากเวกเตอร์ของแรงจากเครื่องชั่งสปรงิ
ตัวที่หนง่ึ และตวั ท่สี อง

6. หาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์จากรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน โดยลากเส้นทแยงมุมจากจุดปลายของ
เวกเตอร์ทั้งสองไปยังมุมตรงข้าม ขนาดของแรงลัพธ์เป็นความยาวของเส้นทแยงมุม และทิศทางของแรงลัพธ์
เริม่ จากจดุ ปลายของเวกเตอรไ์ ปยังมุมด้านตรงข้าม

7. บนั ทกึ ค่าขนาดของแรงลพั ธ์ท่ีวัดได้
8. ทำซ้ำข้อ 2-7 โดยให้เครือ่ งช่ังสปรงิ ท้ังสองอันทำมุม 0 องศา และ 90 องศาต่อกนั

บนั ทกึ ผลการทดลอง (วาดรูปเวกเตอร์ที่ไดจ้ ากการทดลอง)
ตวั อยา่ งการวางตวั ของเคร่ืองช่ังสปรงิ และแรงลัพธจ์ ากรูปสีเ่ หลยี่ มด้านขนาน

คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เวกเตอร์ของแรงลัพธ์มีทศิ ทางอยา่ งไร และมีทิศเดยี วกนั หรอื ตรงขา้ มกันกบั แรงจากเคร่ืองชงั่ สปรงิ ตวั ที่สาม
เวกเตอร์ของแรงลพั ธ์มที ิศทางตามเสน้ ทแยงมมุ ของสี่เหล่ยี มด้านขนาน และตรงขา้ มกบั แรงจากเครื่องชง่ั สปริง
ตัวท่ีสาม
2. เวกเตอร์ของแรงลัพธ์มีขนาดเทา่ ใด และมคี ่าเท่ากบั ค่าท่ีบนั ทกึ ไดจ้ ากข้อท่ี 4 และ 7 หรือไม่อย่างไร
ขนาดเวกเตอรข์ องแรงลัพธ์ไม่จำเป็นตอ้ งเท่ากบั ค่าท่ีวดั ได้จากข้อ 4 แต่จะเทา่ กับค่าทว่ี ัดได้จากข้อ 7 และมคี ่า
เทา่ กบั ค่าท่ีวัดไดจ้ ากเครื่องช่ังสปริงตัวทีส่ าม

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์

ตัวช้วี ัด ผา่ น (1) ปฏบิ ตั ิตามข้อ
1. มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ช้ันเรยี น ตรงต
2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ันเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม ต่างๆ และรับ
ต่างๆ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และ เข้าเรยี นตรงเ
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ความเพียรพย
ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ในการเรียนรู้
เรียนร้ตู า่ งๆ บางครัง้ ต่างๆ ทงั้ ภาย
บ่อยครง้ั
ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ ับมอบหมายให้สำเรจ็ ต้งั ใจและรบั ผ
ได้รบั มอบหม
ทำงานใหด้ ีข้ึน

เกณฑ์การประเมิน ดีมาก
ช่วงคะแนน 7 – 9 ระดับคุณภาพ 3 ดี
ชว่ งคะแนน 4 - 6 ระดับคณุ ภาพ 2 พอใช้
ชว่ งคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1

เกณฑก์ ารผ่าน : นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไป

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดเี ย่ียม (3)
ดี (2)
ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของช้นั
อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ เรียน ไมล่ ะเมิดสิทธขิ องผ้อู ื่น ตรงตอ่ เวลาในการ
ต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ และรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
บผิดชอบในการทำงาน
เวลา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ และมี เข้าเรียนตรงเวลา ต้ังใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ
ยายามในการเรียนรู้ มสี ่วนร่วม เพียรพยายามในการเรยี นรู้ มีสว่ นรว่ มในการ
และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทงั้
ยในและภายนอกโรงเรยี น ภายในและภายนอกโรงเรยี นเป็นประจำ และเป็น
แบบอย่างท่ดี ี
ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ทีท่ ่ี
มายให้สำเร็จ มีการปรบั ปรงุ การ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับ
น มอบหมายให้สำเรจ็ มกี ารปรับปรุงและพฒั นาการ
ทำงานให้ดีข้นึ

แบบมาตรประมาณค่าเพ่อื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
คำชี้แจง : ใหพ้ ิจารณาพฤติกรรมต่อไปน้ี แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกับการปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเปน็
จริง

รายการประเมิน คะแนน
เฉลี่ย
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันใน การแปลผล
การทำงาน

ลงช่อื .........................................................
(.............................................)
ผปู้ ระเมิน

เกณฑ์การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

ตัวชี้วัด ผ่าน (1)
ทกั ษะการคำนวณ
คำนวณคา่ ท่ีต้องการโดยใชว้ ิธีการทางการ คำนวณค่าท
ทักษะการลงความเห็นจาก
ข้อมูล คำนวณ เช่น การหาค่าเฉลีย่ อตั ราสว่ น คำนวณ เช่น

ทกั ษะการตีความและลง ได้ถูกตอ้ งบางส่วน ถูกต้องส่วน
ข้อสรุป
ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทไ่ี ดจ้ าก ลงความเห็น

การสงั เกต หรอื ท่ีไดจ้ ากการทำกิจกรรม สงั เกต หรอื

บางส่วน

บันทกึ ข้อมลู โดยมีการใช้ตารางหือวิธีการ บนั ทึกข้อมลู

อนื่ ในการจดั ระเบียบข้อมลู บางส่วน และมี ในการจดั ระ

การระบุชนดิ หรือหนว่ ยของข้อมลู บางส่วน ระบุชนดิ หร

เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก
ชว่ งคะแนน 7 – 9 ระดบั คุณภาพ 3 ดี
ช่วงคะแนน 4 - 6 ระดับคุณภาพ 2 พอใช้
ช่วงคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1

เกณฑก์ ารผา่ น : นักเรยี นไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป

เกณฑ์การให้คะแนน ดเี ยยี่ ม (3)

ดี (2) คำนวณคา่ ท่ีตอ้ งการโดยใช้วิธีการทางการ
คำนวณ เชน่ การหาค่าเฉลยี่ อัตราส่วน ได้
ที่ตอ้ งการโดยใชว้ ธิ กี ารทางการ ถูกต้องครบถว้ น
น การหาค่าเฉล่ยี อตั ราสว่ น ได้
นใหญ่ ลงความเห็นโดยอาศยั หลักฐานทีไ่ ด้จากการ
สังเกต หรอื ท่ีได้จากการทำกจิ กรรมครบถว้ น
นโดยอาศยั หลักฐานท่ไี ดจ้ ากการ
อที่ได้จากการทำกิจกรรมส่วนใหญ่

ลโดยมีการใช้ตารางหือวธิ ีการอน่ื บนั ทกึ ข้อมูลโดยมีการใช้ตารางหอื วิธีการอ่นื
ะเบียบข้อมลู ส่วนใหญ่ และมีการ ในการจดั ระเบียบข้อมูลครบถ้วน และมกี าร
รือหนว่ ยของข้อมูลสว่ นใหญ่ ระบชุ นิดหรอื หน่วยของข้อมลู ครบถว้ น

ทม่ี า สสวท.

แบบมาตรประมาณคา่ เพอ่ื ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
คำชแ้ี จง : ให้พิจารณาพฤติกรรมตอ่ ไปนี้ แล้วให้ระดับคะแนนท่ีตรงกบั การปฏบิ ัติของนกั เรยี นตามความเป็น
จรงิ

รายการประเมิน

เลขที่ ชื่อ-สกุล ทักษะการ ีตความหมาย คะแนน การแปลผล
และลงข้อส ุรป เฉลี่ย

ทักษะการลงความเห็น
จากข้อมูล

ลงชื่อ.........................................................
(.............................................)
ผู้ประเมิน

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 14

รหัสวิชา ว30201 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 แรงและกฎการเคลอ่ื นที่ เรอ่ื ง การหาแรงลพั ธ์ (2)

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง

ผู้สอน นางสาวสเุ มธาวี ขันทอง

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้

สาระฟิสิกส์ : 1. เข้าใจธรรมชาตทิ างฟิสิกส์ ปรมิ าณและกระบวนการวดั การเคลือ่ นที่แนวตรง แรงและกฎการ
เคลือ่ นท่ีของนวิ ตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสยี ดทานสมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานกล
โมเมนตมั และกฎการอนรุ กั ษโ์ มเมนตมั การเคลอ่ื นทีแ่ นวโคง้ รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรยี นรู้

อธิบายแรงและผลของแรงลัพธ์ท่ีมีต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ รวมทั้งทดลองหาแรงลัพธ์ของแรงสอง
แรงท่ีทำมุมต่อกัน

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
- อธิบายความหมายของแรงลพั ธ์และแสดงการหาแรงลัพธ์โดยใช้วธิ เี ขยี นเวกเตอรข์ องแรง
แบบหางตอ่ หัว วิธสี รา้ งรูปสเี่ หลย่ี มด้านขนานของแรงและวิธีคำนวณ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- หาแรงลัพธข์ องแรงย่อยหลายแรงในแนวเส้นตรงเดยี วกนั ทก่ี ระทำบนวัตถุโดยใช้
เคร่ืองหมาย บวก-ลบ แทนทิศทางของแรงที่อยู่ในแนวเส้นตรงเดยี วกนั ได้ถกู ต้อง
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
- นักเรียนมีนกั เรียนมคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ตอ่ การเรยี น

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

เมื่อวัตถุก้อนหนึ่งมีแรงกระทำสองแรง ผลที่เกิดกับวัตถุนั้นจะเป็นไปตามแรงรวมของแรงทั้งสองที่ได้
จากการรวมแบบเวกเตอร์ เรยี กวา่ แรงลัพธ์ (resultant force) การหาแรงลัพธ์ดว้ ยวธิ ีเขียนเวกเตอร์แบบหาง
ต่อหัว โดยเขียนลูกศรเวกเตอร์แทนแรงทั้งสองให้หางต่อหัว เวกเตอร์ลัพธ์ คือ ลูกศรจากหางเวกเตอร์แรกไป
หัวเวกเตอร์สุดท้าย หรือวิธีการสร้างรูปสี่เหลีย่ มด้านขนาน โดยเขียนเวกเตอร์แทนแรงทั้งสองให้หางมาต่อกนั
แล้วประแนวจากหัวลูกศรเวกเตอร์ทั้งสองให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน เวกเตอร์ลัพธ์ คือ ลูกศรจากมุมที่หาง
พบกันไปยังมมุ ตรงขา้ ม และการหาแรงลพั ธด์ ้วยวิธีคำนวณ โดยคำนวณผลรวมแรงองค์ประกอบของแรงท้ังสอง
ในแนว x และ ในแนว y แล้วคำนวณแรงลัพธข์ องแรงรวมในแนว x กับแรงรวมในแนว y จากทฤษฎีพที าโกรัส

สาระการเรียนรู้

แรงลัพธข์ องแรงย่อยหลายแรงในแนวเส้นตรงเดยี วกัน ที่กระทำบนวตั ถุจะใชเ้ ครื่องหมาย บวก-ลบ
แทนทิศทางของแรงท่ีอยูใ่ นแนวเสน้ ตรงเดยี วกัน

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
( ✓ ) ความสามารถในการส่ือสาร ( ✓ ) ความสามารถในการคิด ( ) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
( ) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ( ) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ( ) มวี นิ ัย ( ✓ ) ใฝเ่ รยี นรู้
( ) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ( ✓ ) ซื่อสตั ย์สุจรติ ( ) รักความเปน็ ไทย ( ✓ ) มีจติ สาธารณะ
( ) อยอู่ ยา่ งพอเพียง ( ✓ ) มุ่งมั่นในการทำงาน

คณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

( ✓ ) เป็นเลศิ วิชาการ ( ) ส่ือสารสองภาษา ( ✓ ) ลำ้ หนา้ ทางความคิด

( ✓ ) ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ( ) รว่ มกันรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

ชนิ้ งาน/ภาระงาน
1. แบบฝึกหดั 3.2
2. ใบงาน 3.2 เร่ือง การหาแรงลัพธ์

กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั ท่ี 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ

1. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับการหาแรงลัพธ์โดยวิธีเขียนเวกเตอร์ของแรงแบบหางต่อหัวและวิธีการ
สร้างรปู สเ่ี หลีย่ มดา้ นขนาน

2. ครถู ามนักเรียนว่าการหาแรงลัพธด์ ว้ ยวิธที ีแ่ ตกต่างกนั จะไดผ้ ลลัพธท์ ีไ่ มเ่ หมือนกันหรือไม่
(แนวคำตอบ : การหาแรงลัพธ์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ เมื่อทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง จะได้ผลลัพธ์ท่ี
เหมือนกนั )

ขัน้ ท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา
1. นักเรียนศึกษาการหาแรงลัพธ์ โดยวิธีการเขียนเวกเตอร์ของแรงแบบหางต่อหัวและวิธีการสร้างรปู
สี่เหลี่ยมด้านขนาน พร้อมอภิปรายและวิเคราะห์ความเหมือนกันและความแตกต่างกันของวิธีทั้งสอง ดัง
ตัวอยา่ งในหนังสอื เรียน หน้า137

2. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอภิปรายการวิเคราะห์ความเหมือนกันปละความแตกต่างกันของทั้งสองวิธี
(แนวคำตอบ : เหมือนกันที่เป็นการหาคำตอบโดยใช้เวกเตอร์ลัพธ์ ต่างกันที่ทราบมุมกับไม่ทราบมุม)

ขั้นท่ี 3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ
1. ครใู ห้ความร้เู กี่ยวกบั การหาขนาดและทิศทางของแรงลัพธ์โดยการคำนวณในกรณแี รงทั้งสองต้ังฉาก
กัน ตามสมการ (3.1) และ (3.2) ในหนังสือเรียน และชี้ให้เห็นว่าแรงหนึ่งแรงสามารถแยกเป็นแรงสองแรงได้
ดังรูป 3.26 ก.- ง. ในหนังสือเรียน นำความเข้าใจนี้ไปพิจารณาตามรายละเอียดในหนังสือเรียน เพื่อสรุปเป็น
หลักการหาแรงองค์ประกอบในแนว x และในแนว y ซึ่งเป็นพื้นฐานในการหาแรงลัพธ์ด้วยวิธีคำนวณ
2. ครูและนักเรียนร่วมกับอภิปรายการหาแรงลัพธ์ จนได้ข้อสรุปว่า สามารถหาแรงลัพธ์ได้จากการ
เขยี นรปู โดยใช้การต่อเวกเตอรแ์ ละไดจ้ ากการคำนวณโดยใช้สูตร

ข้นั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้

1. ครูถามนักเรียนว่า จากรูป 3.26 ก. ถึงรูป 3.26 ง. (ในหนังสือเรียน) ถ้า F⃑ มีค่าเท่ากันแล้ว

F⃑⃑a+F⃑⃑⃑b = ⃑F⃑c+⃑F⃑⃑d = ⃑F⃑⃑e+F⃑⃑f⃑= ⃑F⃑x+F⃑⃑y จะเปน็ จริงหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด

(แนวคำตอบ : สมการดังกล่าวเปน็ จรงิ แรงทกุ คเู่ ปน็ แรงองค์ประกอบซ่งึ มีผลบวกเทา่ กับแรง ⃑ )
2. ครใู หค้ วามรเู้ กีย่ วกบั การหาแรงองค์ประกอบต้งั ฉากของแรงใด ๆ ต่อจากนน้ั จึงให้ความร้กู ารหาแรง
ลัพธจ์ ากแรงองค์ประกอบตั้งฉากโดยวิธีคำนวณดว้ ยตวั อย่าง 3.1 ของหนังสือเรยี น หนา้ 140
3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับการหาแรงลัพธ์ จากนั้นครูให้
นักเรียน ทำแบบฝึกหัด 3.2 ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 1 ชั้นม.4 สสวท. โดยเฉลยคำตอบและ
อภิปรายคำตอบรว่ มกัน
4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 3.2 เรื่อง การหาแรงลพั ธ์ สง่ ครูในช่ัวโมงถัดไป

ขนั้ ท่ี 5 ข้ันประเมินผล
2. ครตู รวจสอบผลจากการทำทำแบบฝกึ หดั 3.2
3. ครูตรวจสอบผลการทำใบงาน 3.2
4. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานของนักเรียน

สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ ท่ี 1

1. หนงั สอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ ฟิสกิ ส์ ม.4 เลม่ 1 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) หน่วยการเรยี นรู้
ธรรมชาติและพัฒนาการทางฟสิ กิ ส์

2. ใบงาน 3.1 เรอ่ื ง แรง
3. Powerpoint

การวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การประเมนิ
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วิธีวดั เครอื่ งมอื
K ใบงาน 3.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- อธิบายความหมายของแรงลัพธ์
และแสดงการหาแรงลัพธโ์ ดยใช้ ระดับคุณภาพ 2
วิธเี ขียนเวกเตอร์ของแรงแบบหาง ผ่านเกณฑ์
ต่อหัว วธิ ีสรา้ งรปู ส่ีเหลย่ี มดา้ น
ขนานของแรงและวิธคี ำนวณ
P ใบงาน 3.2
- หาแรงลัพธ์ของแรงย่อยหลาย
แรงในแนวเส้นตรงเดียวกัน ท่ี
กระทำบนวัตถุโดยใช้เครื่องหมาย
บวก-ลบ แทนทิศทางของแรงท่ีอยู่
ในแนวเสน้ ตรงเดยี วกันได้ถูกต้อง

A - แบบประเมินคุณลักษณะ
-ทดลองหาแรงลัพธข์ องแรงสอง อนั พึงประสงค์
แรงทท่ี ำมุมต่อกัน

ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ………………………………………………………….
(นางบวั แก้ว ศรภี ธู ร)

ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
................/................./.................

ความเหน็ ของผ้บู ริหาร/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………………………….
(........................................................)

ตำแหน่ง.............................................................
................/................./.................

บันทกึ ผลหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่.ี ..................
เรื่อง..............................................

1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวนนกั เรียน.........................คน
ดา้ นความรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านทักษะกระบวนการ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ………………………………………………………….
(........................................................)
................/................./.................

ใบงานที่ 3.2
เรื่อง การหาแรงลพั ธ์

1. จงหาแรงลพั ธข์ องแรงทก่ี ำหนดใหโ้ ดยการวาดรปู

2. จงหาแรงลัพธ์โดยการคำนวณ
2.1) แรง 10 นิวตัน และแรง 25 นิวตัน มีทิศทางทำมุม 30 และ 45 องศากับแกน +x ตามลำดับ จงหาขนาด
ของแรงลัพธข์ องแรงท้ังสอง

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.2) แรง A B และ C มขี นาดและทศิ ทาง ดังภาพ จงหาแรงลัพธ์ของแรงท้งั สาม

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.3) วตั ถกุ ้อนหน่ึงมีแรงมากระทำ 3 แรง ดดยแรงแรกมีขนาด 10 นิวตนั มีทิศทางในแนวแกน +x แรงทั้งสอง
มีขนาด 20 นิวตัน มีทิศทางทำมุม 120 องศากับแกน +x และแรงที่สามมีขนาด 30 นิวตัน มีทิศทางทำมุม
240 องศากบั แกน +x จงหาขนาดและทิศทางของแรงลพั ธ์บนวตั ถุก้อนนี้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานที่ 3.2 เฉลย
เรอื่ ง การหาแรงลพั ธ์

1. จงหาแรงลพั ธ์ของแรงที่กำหนดใหโ้ ดยการวาดรูป

2. จงหาแรงลัพธ์โดยการคำนวณ
2.1) แรง 10 นิวตัน และแรง 25 นิวตัน มีทิศทางทำมุม 30 และ 45 องศากับแกน +x ตามลำดับ จงหาขนาด
ของแรงลัพธข์ องแรงทง้ั สอง

วธิ ที ำ แรงลพั ธ์ คือ ∑ F⃑ = ∑ F⃑1 + ∑ F⃑2
ขนาดของแรงลพั ธ์ตามแนวแกน x ∑ F⃑x = F⃑1x + F⃑2x
= 10 cos 30o + 25 cos 45o

ขนาดของแรงลพั ธต์ ามแนวแกน y = 10(√23 ) + 25(√22 )

= 26.34 N
∑ F⃑y = F⃑1y + F⃑2y
= 10 sin 30o + 25 sin 45o

= 10(12) + 25(√22 )

= 22.68 N
คำนวณหาขนาดแรงลพั ธ์ตามแนวแกนจาก

∑ F⃑ = √(Fx)2+ (Fy)2

∑ F⃑ = √(26.34)2+ (22.68)2
∑ F⃑ = 34.76 N
ตอบ ขนาดของแรงลพั ธ์ท่เี กิดจากการรวมแรงทง้ั สองเท่ากบั 34.76 นิวตนั

2.2) แรง A B และ C มขี นาดและทิศทาง ดังภาพ จงหาแรงลพั ธ์ของแรงท้งั สาม

วิธีทำ แรงลัพธ์ของแรงท้ังสาม คอื ∑ F⃑ = A⃑ + B⃑ + C⃑ ซ่ึงเขยี นภาพการรวมแรงลัพธไ์ ด้ ดังนี้

แยกองค์ประกอบของแรง B ให้เข้าสู่แกนพิกัดแก โดยกำหนดให้ทิศทางขวามีค่าเป็นบวก ส่วนทิศ
ทางซา้ ยมีคา่ เป็นลบ และทศิ ข้นึ มคี ่าเป็นบวก สว่ นทศิ ลงมีค่าเปน็ ลบ จะได้วา่

แรงลพั ธ์ตามแนวแกน x ∑ F⃑x = A + B cos 60o
= 3 + 3(21)
4.5 N
=

แรงลัพธ์ตามแนวแกน y ∑ F⃑y = B sin 60o – C

= 3(√23) – 2

= 0.6 N

ขนาดของแรงลพั ธ์ (∑ F⃑) ∑ F⃑ = √(Fx)2+ (Fy)2
√(4.5)2+ (0.6)2
= 4.5 N
=

มมุ ท่แี รงลัพธก์ ระทำกับแกน x α = ttaann--11((∑∑04..56FF⃑)⃑yx)
=

= 7.6 องศา

ตอบ แรงลพั ธข์ องแรงท้งั สามมขี นาด 4.5 นวิ ตนั มีทิศทำมุม 7.6 องศากับแกน +x

2.3) วัตถกุ อ้ นหน่ึงมีแรงมากระทำ 3 แรง ดดยแรงแรกมีขนาด 10 นวิ ตนั มที ิศทางในแนวแกน +x แรงทั้งสอง
มีขนาด 20 นิวตัน มีทิศทางทำมุม 120 องศากับแกน +x และแรงที่สามมีขนาด 30 นิวตัน มีทิศทางทำมุม
240 องศากับแกน +x จงหาขนาดและทศิ ทางของแรงลัพธ์บนวัตถุก้อนน้ี

วิธีทำ แยกองค์ประกอบของแรงใหเ้ ข้าสแู่ กนพิกัดฉาก โดยกำหนดให้ ทิศทางขวามีคา่ เป็นบวก ส่วนทิศ
ทางซา้ ยมีคา่ เปน็ ลบ และทศิ ขึ้นมคี ่าเปน็ บวก สว่ นทศิ ลงมีค่าเป็นลบ

แรงลพั ธต์ ามแนวแกน x ∑ F⃑x = 10 - 20 cos 60o - 3020 cos 60o
= 10 - 20(21) – 30(12)
-15 N
=

แรงลัพธ์ตามแนวแกน y ∑ F⃑y = 20 sin 60o – 30 sin 60o

= 20(√32) - 30(√32)

ขนาดของแรงลัพธ์ (∑ F⃑) = -5(√3) N
∑ F⃑ = √(Fx)2+ (Fy)2

= √(-15)2+ −5(√3)2

= 17.32 N

มมุ ทีแ่ รงลัพธก์ ระทำกับแกน x α = tan-1(∑∑ FF⃑⃑yx)
= tan-1(-5(-√153) )
= 30 องศา

ตอบ แรงลพั ธ์ของแรงท้ังสามมขี นาด 17.32 นวิ ตนั มีทิศทำมุม 30 องศากบั แกน -x

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษะอนั พงึ ประสงค์

ตัวช้วี ัด ผา่ น (1) ปฏบิ ตั ิตามข้อ
1. มวี นิ ยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ช้ันเรยี น ตรงต
2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ันเรยี น ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่างๆ และรับ
ต่างๆ
3. มุ่งมั่นในการทำงาน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และ เข้าเรยี นตรงเ
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มีส่วน ความเพียรพย
ร่วมในการเรยี นรู้ และเข้าร่วมกจิ กรรมการ ในการเรียนรู้
เรียนร้ตู า่ งๆ บางครง้ั ต่างๆ ทงั้ ภาย
บ่อยครง้ั
ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ ับมอบหมายให้สำเรจ็ ต้งั ใจและรบั ผ
ได้รบั มอบหม
ทำงานใหด้ ีข้ึน

เกณฑ์การประเมิน ดีมาก
ช่วงคะแนน 7 – 9 ระดับคุณภาพ 3 ดี
ชว่ งคะแนน 4 - 6 ระดับคณุ ภาพ 2 พอใช้
ชว่ งคะแนน 3 ระดบั คุณภาพ 1

เกณฑก์ ารผ่าน : นักเรียนไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป


Click to View FlipBook Version