The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาพชีวประวัติและปฏิปทา พระอาจารย์ฝั้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-24 21:42:40

ภาพชีวประวัติและปฏิปทา พระอาจารย์ฝั้น

ภาพชีวประวัติและปฏิปทา พระอาจารย์ฝั้น

Keywords: ภาพชีวประวัติและปฏิปทา พระอาจารย์ฝั้น

มะขามต้นนีเ้ ป็น

ท่ีมาของถำ้ ขาม

พระอาจารย์ฝน้ั สรา้ ง

ศาลาโรงธรรมคร่อม


ไว้ดงั ในภาพ


ปนี น้ั มกี ารทำสระนำ้ เปน็ งานหลกั สระนำ้ บนถำ้ ขาม อยู่เช่นเคย แต่บรรดาพระภิกษุสามเณรท่ี
น้ันปรากฏว่าต้องทำถึงสองคร้ัง เม่ือทำเสร็จ
อาศัยอยู่กับพระอาจารย์ฝั้น ก็มิได้ย่อท้อต่อ
ครง้ั แรกเกบ็ นำ้ เตม็ สระแลว้ เกดิ ชำรดุ ผนงั แตกรา้ ว ความลำบาก ชาวบ้านก็เอาใจใส่เป็นอย่างดี
น้ำไหลซึมออกไปหมด จึงต้องจัดทำกันใหม่อีก โดยเดนิ ทางไปใสบ่ าตรที่เชงิ เขา สว่ นพระและ
ครงั้ หนงึ่ โดยขยบั เนอ้ื ทเ่ี ขา้ ไปอกี ครงั้ นที้ ำผนงั เปน็ เณรก็เดินลงจากเขา รับบิณฑบาตแล้วก็เดิน
คอนกรตี เสรมิ เหลก็ จงึ แนน่ หนาถาวรมาจนกระทง่ั กลบั ขนึ้ ไป กวา่ จะไดล้ งมอื ฉนั กต็ กเขา้ ไปเกอื บ
ปจั จบุ นั และในปตี อ่ มาพระอาจารยฝ์ นั้ ไดท้ ำสระนำ้ ๙ นาฬิกาครง่ึ ขณะเดียวกนั น้ัน กไ็ ด้มกี ารจัด
อีกแห่งบนพน้ื ท่ีสูงขน้ึ ไป จงึ มที ั้งหมดรวมสองสระ
สร้างกฏุ ิ สำหรับพระและเณรอยู่อาศัยเพ่ิมข้ึน

ตลอดเวลาทผ่ี า่ นไป พระอาจารยฝ์ ้ันยัง เร่ือยๆ ด้วยแรงศรัทธาของบรรดาสานุศิษย์
คงนำสานุศิษย์บำเพ็ญความเพียรอย่างคงเส้น เพราะตลอดเวลาที่ผ่านไปมีพระและเณรขึ้นไป
คงวา สำหรบั อาหารการบณิ ฑบาตยงั คงขดั สน อาศัยและจำพรรษามากขึ้นเปน็ ลำดับ

294

(บน) กฏุ ทิ พ่ี ระอาจารยฝ์ น้ั
จำพรรษาในระยะ
แรกๆ บนถ้ำขาม
ปั จ จุ บั น ไ ด้ บู ร ณ ะ
เปน็ กุฏถิ าวรไปแลว้


(ขวา) ทางเดนิ จงกรมใตถ้ นุ
กุฏขิ องทา่ น

มขี อ้ นา่ สงั เกตอกี ประการหนง่ึ วา่ ขณะ แล้วหรือยัง โยมผู้นั้นตอบว่ายัง พระอาจารย์ฝั้น
ที่พระอาจารย์ฝั้น ข้ึนไปพักบนถ้ำขาม จงึ สง่ั สอนวา่ เพราะพวกเราพากนั ขเี้ กยี จเชน่ นแี้ หละ
ใหมๆ่ นนั้ บรเิ วณเชงิ เขาเตม็ ไปดว้ ยปา่ รก ถงึ ไดพ้ ากนั อดอยาก ขาดแคลนกนั มาเรอ่ื ย มวั แตพ่ ดู
เป็นดงช้างดงเสือ และสัตว์ป่านานาชนิด มัวแต่คดิ ว่าทำไม่ได้ ทงั้ ๆ ท่ียังไม่เคยลงมอื ทำเลย
แต่ปัจจุบันได้เป็นป่ากล้วย และไร่สวนไป แล้วจะรู้ผลได้อย่างไรว่าปลูกข้ึนหรือไม่ขึ้น หาก
มากมาย
ปลกู ไมข่ น้ึ จรงิ ๆ แลว้ บรรดาตน้ ไมต้ า่ งๆ เหลา่ นมี้ นั

เหตุท่ีเป็นเช่นน้ันก็เพราะพระอาจารย์ฝั้น จะอยู่ได้อย่างไร ถึงบนภูเขานี้เองก็เถอะ ถ้าปลูก
ได้เป็นผู้แนะนำให้ชาวบ้านบุกเบิก เพื่อประโยชน์ ลงไปมันก็ขึ้นได้เหมือนกัน แล้วพระอาจารย์ฝั้น

ในการครองชีพ และในทางเศรษฐกิจของชาวบ้าน ก็ส่ังให้ญาติโยมหาหน่อกล้วยข้ึนไปปลูกดูบนภูเขา
แถบนน้ั เอง เรอ่ื งมอี ยวู่ า่ วนั หนง่ึ ขณะทพี่ ระอาจารย์ เพื่อลองดูว่ามันจะข้ึนได้หรือไม่ พร้อมกันน้ันก็พา
ฝ้ัน ได้แนะนำส่ังสอนให้ญาติโยมมีความขยัน
ญาตโิ ยมรวมทง้ั โยมทคี่ า้ นทา่ นไปปรบั พน้ื ท่ี ตรงทเี่ ปน็
หมั่นเพียรในการทำมาหากิน ท่านได้แนะนำให้ ปา่ กลว้ ยทกุ วนั นด้ี ว้ ยกนั ทกุ คน วนั ตอ่ ๆ มา พวกโยม
ปลูกกลว้ ยปลกู ออ้ ยให้มากขนึ้ ด้วย จะไดม้ อี ย่มู กี ิน กแ็ บกหนอ่ กลว้ ยขนึ้ ไปปลกู วนั ละตน้ สองตน้ ในทสี่ ดุ

ไม่อดอยากยากแค้น โยมคนหน่ึงได้ค้านข้ึนว่า กล้วยที่ปลูกก็เจริญงอกงามจนเป็นป่ากล้วยอยู่ใน

หมู่บ้านแถบนพ้ี ืน้ ท่ไี มอ่ ุดมสมบรู ณ์ ปลูกอะไรก็ไม่ ปจั จบุ นั และไรส่ วนในบรเิ วณถำ้ ขาม กเ็ กดิ ขนึ้ อยา่ ง

ข้ึนเสียแรงเปล่าๆ ต่อให้เทวดาหน้าไหนมาปลูกก็ มากมายตามกนั มา นบั วา่ พระอาจารยฝ์ นั้ ไดเ้ ปน็


ไม่ได้ผล พระอาจารย์ฝั้น จึงถามว่าได้ลองปลูกดู ผบู้ ุกเบกิ นำความเจรญิ ไปสหู่ มูบ่ ้านน้นั อยา่ งแทจ้ รงิ

296

(บน) พระภิกษสุ ามเณรและบรรดาญาติโยม ชว่ ยกันบรู ณะกุฏขิ องท่านให้เปน็ กฏุ ิถาวร

ในภาพจะเหน็ พระอาจารย์ฝ้นั เปน็ ผู้อำนวยการในการบูรณะอยา่ งใกล้ชดิ


(ลา่ ง) บรรดาญาติโยมท่ขี ้นึ ไปชว่ ยบูรณะกฏุ ขิ องท่าน

297

(บน) กฏุ ิทบ่ี ูรณะเรยี บร้อยแล้ว พระอาจารย์ฝนั้ ได้ใชเ้ ป็นท่ีพำนกั จำพรรษาตลอดเวลาท่อี ย่บู นถำ้ ขาม

(ล่าง) สภาพการทำงานของบรรดาญาติโยม ในการบรู ณะกุฏ


298

ในพรรษาปี พ.ศ. ๒๔๙๙ พระอาจารยฝ์ ้ัน เม่ือออกพรรษาปี พ.ศ. ๒๕๐๕ แล้ว


ลงไปจำพรรษาอยทู่ ว่ี ดั ปา่ ภธู รพทิ กั ษ์ เพราะบรรดา พระอาจารย์ฝน้ั ได้ลงไปพกั ทว่ี ดั ป่าอดุ มสมพร ใน
สานศุ ษิ ยท์ ง้ั หลายไดอ้ อ้ นวอนขออาราธนาทา่ นลงไป ฤดูแล้งของปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านได้นำญาติโยม
จำพรรษาอย่ทู ่ีนัน่ ออกพรรษาแล้วท่านกก็ ลับขน้ึ พัฒนาเส้นทางจากโรงเรียนบ้านม่วงไข่ไปบ้าน
ไปบนถ้ำขามและนำสานุศิษย์ในการบูรณะ กับ หนองโดก โดยช่วยดูแลเป็นกำลังใจแก่ชาวบ้าน
ก่อสร้างถาวรวตั ถเุ พม่ิ ขึน้ ตามลำดับ

อย่างใกล้ชิด เป็นเวลาถึง ๕ – ๖ วัน การ

ในพรรษาปี พ.ศ. ๒๕๐๐ มีพระและเณร ตรากตรำคร่ำเคร่งงานในขณะสังขารกำลังร่วงโรย
จำพรรษาอยู่กับท่านรวม ๗ รูป เหมือนปีก่อน
เชน่ นี้ เปน็ เหตใุ หท้ า่ นปว่ ยหนกั ถงึ ขนาดตอ้ งเขา้ พกั
ปีต่อมาก็ยังคงจำนวนเดิม แต่ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ รกั ษาตวั ในโรงพยาบาลจงั หวดั สกลนคร หลงั จากนนั้
มพี ระและเณรจำพรรษาเพมิ่ ขน้ึ เปน็ ๙ รปู ปี พ.ศ. ประมาณ ๒ สปั ดาห์ เมอ่ื อาการทเุ ลาลงแลว้ จงึ กลบั
๒๕๐๓ เพิ่มเป็น ๑๕ รปู จนเกินกำลังของผทู้ จี่ ะ ไปพกั ฟน้ื ทว่ี ดั ปา่ ภธู รพทิ กั ษ์ และไดจ้ ำพรรษาอยทู่ ่ี
ให้ความอุปัฏฐาก ยังความลำบากแก่พระและเณร วัดนั้นในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ อีกพรรษาหน่งึ เพราะ
ในกลางพรรษาเปน็ อนั มาก ในพรรษาตอ่ มาทา่ นจงึ ขณะนนั้ ทา่ นมอี ายมุ ากแลว้ และมโี รคภยั เบยี ดเบยี น
ตัดจำนวนลง คือปี พ.ศ. ๒๕๐๔ มีพระและเณร ดว้ ย คณะแพทยแ์ ละสานศุ ษิ ยเ์ หน็ วา่ การเดนิ ขนึ้ ลง

จำพรรษาลดลงเหลอื ๙ รูป และปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่ีถ้ำขามต้องออกกำลังมาก อาจเป็นอันตรายต่อ
สุขภาพของทา่ นได้ จึงวงิ วอนใหท้ า่ นพกั จำพรรษา
ลดลงอกี เหลือ ๖ รปู

299

อยูท่ ่ีวัดป่าภูธรพิทักษไ์ ปพลางก่อน



อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ท่านจะจำพรรษาอยู่ที่
วัดน้ันเพื่อเป็นการพักฟื้น แต่บรรดาญาติโยม

ทั้งใกล้และไกลก็ยังพากันไปนมัสการอยู่ไม่ขาด
ท่านเองก็เมตตาต้อนรับ และเทศนาอบรมส่ังสอน
โดยมิเห็นแก่ความเหน็ดเหน่ือย นับเป็นอันตราย
ต่อสขุ ภาพของทา่ นเป็นอย่างย่งิ


นอกจากนี้ ท่านยังมีภารกิจในการอบรม พระอาจารย์เทสก์ เทสรํสี

พระภิกษุสามเณร โดยเฉพาะนวกภิกษุผู้บวชใหม่
ไปพร้อมกันด้วย ทั้งยังได้นำการพัฒนาวัด โดย
นามเดมิ เทสก์ เรย่ี วแรง

ขุดลอกขยายสระหนองแวงให้กว้างและลึกจนเป็น บิดา อสุ าห์ เรี่ยวแรง

รปู สระใหญ่ สรา้ งโบสถน์ ำ้ ขน้ึ ในแบบไดป้ ระโยชน์ มารดา คร่ัง เร่ยี วแรง

ใช้สอยและถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ โดย
เกิด วนั เสารท์ ี่ ๒๖ เนม.ษตารยงนกบั วพนั .ศ๗. ๔ฯ๒๕๔ป๔ขี ๕าล
เวลา
หลีกเล่ียงความวิจิตรพิสดารในการตกแต่งอย่าง
ประมาณ ๐๙.๐๐
ส้ินเชิง สำหรับกุฏิที่พักก็ได้สร้างขึ้นใหม่เท่าท่ีมี ท่ีบ้านนาสดี า ตำบลกลางใหญ่ อำเภอบา้ นผือ
ความจำเปน็ เท่านั้น
จังหวดั อดุ รธานี เปน็ บุตรคนที่ ๙ ในจำนวน ๑๐ คน

การบรรพชาและอุปสมบท ในพ.ศ. ๒๔๕๙ ไดอ้ อกจาก
ในปี ๒๕๐๗ พระอาจารย์เทสก์ เทสรสี บา้ นตดิ ตามพระอาจารยส์ งิ ห์ ขนตฺ ยาคโม และพระอาจารยค์ ำ
ผู้ซึ่งจากไปเทศนาอบรมสั่งสอนประชาชนทาง เดินทางไปยังบ้านหนองขอน ตำบลหัวตะพาน อำเภอ
ภาคใต้ติดต่อกันมาถึง ๑๕ ปี ได้เดินทางกลับ อำนาจเจริญ แล้วได้ไปบรรพชาเป็นสามเณรกับพระ
มาทางภาคอีสาน และได้แวะเข้าไปเย่ียมเยียน อปุ ชั ฌาย์ลุย ท่บี ้านเคง็ ใหญ่

พระอาจารยฝ์ ั้น ทีพ่ รรณานคิ มดว้ ย วันหนึง่ ทา่ น เมอื่ อายุย่างเข้า ๒๒ ปี ได้อปุ สมบท ณ วดั
ได้เดินขึ้นไปบนถ้ำขาม พอเห็นสภาพบนถ้ำขาม พสุท.ศัศ. น๒์ ๔จั๖งห๖วัดตอรงุบกลบั รวานัชธา๔น๒ฯี๗เม่ือเววลันาท่ี๑๑๑.๖๔๘พฤนษ. ภโดาคยมม

เขา้ แลว้ ทา่ นกช็ อบใจจงึ ไดพ้ กั วเิ วกและจำพรรษา พระมหารัฐเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาป่ิน ปญฺญฺาพโล
อยบู่ นนน้ั ปรากฏวา่ ในระหวา่ งพรรษาทา่ นสามารถ เป็นพระกรรมวาจาจารย

บำเพ็ญความเพียรอย่างเต็มท่ี เพราะพระภิกษุ การจารกิ เพอื่ ศกึ ษาปฏบิ ตั แิ ละสงั่ สอนธรรม พ.ศ. ๒๔๖๖
สามเณรทร่ี ว่ มพรรษาดว้ ย ลว้ นเปน็ สานศุ ษิ ยข์ อง เมื่อออกพรรษาแล้ว ได้ติดตามพระอาจารย์สิงห์ และ

พระอาจารย์ฝั้น แต่ละรูปได้รับการอบรมจาก พระมหาปน่ิ ออกธดุ งคจ์ ากวดั สทุ ศั นเ์ ปน็ ครง้ั แรก เดนิ ทาง
พระอาจารย์ฝ้ันอย่างดีมาแล้วทั้งน้ัน จึงไม่เป็น บุกป่ามาจนถึงจังหวัดอุดรธานี และได้เดินทางไปนมัสการ
ภาระท่ีท่านจะต้องหนักใจหรือสืบต่อการอบรม พระอาจารยม์ นั่ และพระอาจารยเ์ สาร์ เปน็ ครงั้ แรกทบ่ี า้ นคอ้
แตป่ ระการใด ความเหมาะสมในการวเิ วกบำเพญ็ อำเภอบ้านผือ ตอ่ จากนน้ั ไดจ้ ารกิ ไปยังจงั หวดั ต่างๆ

ความเพยี รบนถำ้ ขามนน้ั พระอาจารยข์ าว อนาลโย และในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ นเ้ี อง ทา่ นกไ็ ดเ้ ดนิ ทาง
กลบั จากจงั หวดั ภเู กต็ มาอยจู่ ำพรรษาทวี่ ดั ถำ้ ขาม กบั ทา่ น
อาจารยฝ์ ้ัน อาจาโร

ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ทา่ นกไ็ ดเ้ ดนิ ทางไปพกั วเิ วก
อยทู่ วี่ ดั หนิ หมากเปง้ ตงั้ แตน่ นั้ เปน็ ตน้ มาจนกระทง่ั ปจั จบุ นั น
้ี
สมณศกั ด์ิ ๕ ธนั วาคม ๒๕๐๐ ไดร้ บั พระราชทานสมณศกั ดิ์
เป็นพระราชาคณะสามัญฝ่ายวิปัสสนาที่พระนิโรธรังส

คมั ภรี ปัญญาจารย


300

บรรยากาศและสถานท่ีบนถ้ำขามน้ี เป็นท่ีช่ืนชมของสมเด็จ

พระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) เป็นอย่างยิ่ง ได้เคยมาพักอยู่
บ่อยๆ และได้ส่ังไว้ด้วยว่าเม่ือมรณภาพ แล้วให้นำอัฐิส่วนหนึ่ง
มาบรรจไุ ว้ท่ถี ้ำขาม

(บน) และ (ลา่ ง) สถานทบ่ี รรจุอัฐิของสมเด็จฯ


กพ็ อใจเชน่ เดียวกนั กล่าวคอื ในการพาคณะศษิ ย์
ของทา่ นขนึ้ ไปพกั เพอ่ื เยย่ี มเยยี นพระอาจารยเ์ ทสก์
ในวันหนึ่ง ท่านถึงกับเอ่ยปากขอแลกสถานท่ีกับ
พระอาจารย์เทสก์ โดยขอให้พระอาจารย์เทสก์
ไปอยู่ดูแลวดั ถำ้ กลองเพลแทนทา่ น ส่วนทา่ นเอง
จะขออยู่บนวดั ถ้ำขามเอง แต่ไม่สำเรจ็


ในปตี อ่ ๆ มา พระอาจารยฝ์ นั้ ยงั คงไปๆ มาๆ
ระหว่างวัดป่าอุดมสมพร วัดป่าภูธรพิทักษ์ และ

301

กฏุ ิของสมเดจ็ ฯ บนถ้ำขาม


วัดป่าถ้ำขาม แต่ไม่ว่าท่านจะไปพำนักอยู่ท่ีใด ผู้ติดอบายมุขต่างๆ ให้บังเกิดความสำนึกตนและ

บรรดาผคู้ นจะพากนั ไปกราบไหวน้ มสั การทา่ นอยา่ ง ละเว้นจากการประพฤติมิชอบเป็นผลสำเร็จมามาก

เนืองแน่น ทุกคนได้รับการต้อนรับจากท่านอย่าง ตอ่ มาก


เสมอหน้า ไม่มีเด็กไม่มีผู้ใหญ่ ไม่มีคนมีคนจน เมตตาบารมีธรรมของท่าน กว้างใหญ่
ไมม่ เี จา้ นายหรอื บา่ วไพร่ ทกุ คนไดร้ บั ความเมตตา ไพศาลขน้ึ ทกุ ที แตล่ ะปที ลี่ ว่ งไป ผคู้ นทหี่ ลงั่ ไหล
ปรานีเสมอกันหมด ตลอดเวลาท่ีผ่านไปท่านไม่ ไปนมสั การท่าน เพิ่มจำนวนขน้ึ เรอ่ื ยๆ อย่าง
เคยกระตอื รอื รน้ ในอนั ทจี่ ะตอ้ นรบั ใครผใู้ ดเปน็ พเิ ศษ ไมม่ วี นั จบสนิ้ จนกระทง่ั ในระยะหลงั ๆ บรรดา
ทั้งไม่เคยย่อท้อในการเอาธุระแนะนำสั่งสอนอบรม สานุศิษย์และนายแพทย์ได้กราบวิงวอนท่าน
เทศนาแกผ่ ู้คนทุกหมู่ทุกเหล่า
ครั้งแล้วคร้ังเล่า ให้บรรเทาการรับแขกลงเสีย

ท่านเป็นนกั สร้างคน คือสร้างคนให้เป็นคน บา้ ง ทา่ นจะไดม้ เี วลาพกั ผอ่ นมากยง่ิ ขน้ึ เพราะ
ที่สมบูรณ์ ท่านได้แก้ไขผู้ประพฤติเป็นพาลเกเร นับวันที่ผ่านไปสังขารของท่านได้ทรุดโทรมลง
เบียดเบียนข่มเหงรังแก สร้างความเดือดร้อนแก
่ ไปมาก ทั้งยังล้มป่วยลงบ่อยๆ อีกด้วย แต่
ผอู้ น่ื โดยการใชอ้ ำนาจหนา้ ทใ่ี นทางมชิ อบ ตลอดจน ท่านไม่ยอมกระทำตาม ซง่ึ ทุกคนกต็ ระหนักดี

302

(บน) ระยะหลงั น้ี ปรากฏวา่ พระอาจารยฝ์ น้ั สงั ขารโทรมลงไปมาก ไดเ้ ขา้ ไปรกั ษาตวั ในกรงุ เทพฯ ครงั้ หนงึ่ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๑๗

(ล่าง) หลังจากนัน้ ไดม้ าพกั ฟืน้ อยู่ถ้ำขามระยะหนงึ่


ในเหตุผลว่าเป็นการขัดต่อเมตตาธรรมที่ท่าน สกลนคร แต่อาการของทา่ นไม่ดขี ้นึ จงึ ได้
ยดึ ถือปฏิบัตมิ าตลอด
เขา้ มารบั การรกั ษาทโ่ี รงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์

ความตรากตรำ ในการแผ่บารมีธรรม ในกรุงเทพมหานครอีกระยะหนง่ึ โดยอยู่ใน
ของทา่ นนเ้ี อง เปน็ มลู เหตสุ ำคญั ใหท้ า่ นเกดิ พระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จ
อาพาธอยา่ งฉบั พลนั เมอื่ วนั ท่ี ๑๕ กนั ยายน พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
๒๕๑๙ จึงไดเ้ ข้ารบั การรักษาที่โรงพยาบาล พระบรมราชินีนาถ

จากความตรากตรำและความเหน็ดเหน่ือยเป็นมูลเหตุ
ใหท้ า่ นเกดิ ลม้ ปว่ ยลงกะทนั หนั หลงั จากไดร้ บั การรกั ษา
ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อยู่ช่ัวระยะหน่ึงท่านจึงได้
ขอกลบั ไปรักษาตวั ทว่ี ดั ปา่ อดุ มสมพร

304

เมอ่ื เวลา ๑๙.๕๐ น. ของวนั ท่ี ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ พระอาจารย์ฝั้นไดม้ รณภาพดว้ ยอาการสงบ


รักษาตัวอยู่ได้ระยะหนึ่ง พระอาจารย์ฝั้นก็ ในขณะนนั้ ดว้ ยนำ้ ตา เพราะไมท่ ราบจะบรรยายถงึ

ขอกลับวัด กลับมาคราวน้ี คณะศิษย์ได้ร่วมกัน ความเศร้าเสยี ใจให้สมบูรณ์ดีไปกว่าน้นั ไดอ้ ยา่ งไร


สร้างกุฏิหลังใหม่ให้ท่านพักอาศัย โดยยกพื้นขึ้น ณ บดั น้ี พระภกิ ษผุ เู้ ปน็ สาวกของพระ
มาบนสระหนองแวง ข้างโบสถ์น้ำและทำรั้วกั้น ผู้มพี ระภาคเจ้ารูปหนง่ึ ..... พระอาจารย์ฝน้ั
เพอ่ื มิใหผ้ ้คู นเข้าไปรบกวนท่านด้วย
อาจาโร ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบ รู้แจ้งเห็นจริงในพระสัทธรรม

แต่อาการของทา่ นก็ยังไมด่ ขี นึ้ มแี ต่ทรงกบั ได้กระทำที่สดุ แหง่ ทกุ ข์ ละสงั ขารขนั ธพ์ น้ โลก
ทรดุ อยตู่ ลอดเวลา จนกระทั่งถึงวนั ที่ ๔ มกราคม ดบั สญู ไปแล้ว

๒๕๒๐ ไดเ้ กดิ อาการโรคแทรกซอ้ นขนึ้ อยา่ งรนุ แรง
และกะทันหัน ท่านจึงต้องท้ิงขันธ์ธาตุของท่าน

ไปด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา ๑๙.๕๐ น. ของ
จะเหลืออยู่ กแ็ ต่ร่องรอยแห่งเมตตา
วนั เดยี วกัน

ข่าวมรณภาพแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว บารมีธรรมอันสูงส่งของท่าน ซึ่งจะจารึก
อยู่ในความทรงจำของบรรดาสานุศิษย์
สานุศิษย์และญาติโยมทั้งหลายต่างหล่ังไหลไป และพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปอย่างไม่มีวัน


คารวะศพของท่าน แต่ละคนพบกันด้วยสีหน้าอัน
หม่นหมอง หลายต่อหลายคนบรรยายความรู้สึก ลมื เลือน



วดั ปา่ อุดมสมพรทพี่ ักจำพรรษา

ในวาระสดุ ทา้ ยของ


พระอาจารยฝ์ ั้น อาจาโร

307

(ซ้าย) ซ้ายสดุ คือกฏุ ิที่
ญาติโยมศรทั ธา
สร้างถวาย เม่อื คราว
อาพาธ ทา่ นมรณภาพ
ที่กฏุ นิ ้ี ขวาสดุ คือ
โบสถ์น้ำ


(ลา่ ง) ซุ้มประตทู างเขา้


วัดป่าอดุ มสมพร


ซึง่ กองทัพภาค ๒
สร้างถวาย

(บน) กฏุ พิ ระอาจารยฝ์ นั้ อาจาโร ทวี่ ดั ปา่ อดุ มสมพร บรรดาศษิ ยม์ จี ติ ศรทั ธาสรา้ งถวายในระยะหลงั

(ล่าง) ศาลาโรงธรรมซ่งึ ใชเ้ ป็นท่ปี ระกอบกิจของสงฆ์ และใชเ้ ป็นทบี่ ำเพญ็ กุศลศพ พระอาจารย์ฝั้น

กุฏิใจด

หรอื เจดยี ์หา้ ยอด

310

โรงครวั ชัน้ บนเปน็ ท่ีพกั แรมญาตโิ ยมทไ่ี ปแสวงธรรม

โรงย้อมจวี รในบรเิ วณวดั

312

(บน) การปดั กวาดลานวดั กจิ วตั รของสงฆ์

(ลา่ ง) สถานทีล่ า้ งบาตรหลังการฉันจงั หันทุกเชา้



314

จากวดั ปา่ อดุ มสมพร รถโดยสารขนาดใหญ่
พาเราผ่านช่องทางปกคลุมด้วยแมกไม้มืดได้
กล่ินฝุ่น รู้สึกรสชาติดินเข้ามาเยี่ยมกรายอยู่
ในลำคอ มองไม่เห็นบ้านเรือนหรือแสงไฟ
อย่างใดท้ังสิ้น พบแต่คนหนุ่มคนสาวจูงเด็ก
ขนาดพอจะเดนิ ไดเ้ กง่ สวนทางกบั เราเปน็ กลมุ่ ๆ
ทกุ คนหนา้ ย้ิม แลเห็นฟนั ขาวอยูใ่ ตฝ้ ่ามือและ
ลำแขนที่ยกขึ้นบังแสงไฟฉายหน้ารถ คนท
่ี
ไม่ได้ยกมอื ป้องหน้าหลับตาป๋กี ย็ งั อวดฟัน


รถตะกายเชิงเขาฝุ่นดินเล่ือนไถล กระฟัดกระเฟียดต่อมาอีกพักหน่ึงก็จอดหน้า
ดวงโคมสวา่ งสองสามดวง


“รถขึน้ มาได้เพยี งแค่น้ีเท่าน้ัน เราจะตอ้ งเดนิ อีกชว่ งหน่ึงจึงจะถึงท่ีทา่ นอาจารย์
ฝ้ันทา่ นอย่”ู


ท่นี น่ั เขาถ้ำขาม สถานท่ีหลวงพ่อฝ้นั อาจาโร ขนึ้ ไปบำเพ็ญภาวนาในระหวา่ ง
เวลานอกพรรษา


ตรงสุดทางรถที่จะข้ึนต่อไปได้ มีสำนักแม่ชีหลบอยู่ในหลืบเขา แวดล้อมด้วย
ธรรมชาติสวยงาม และสงบ


ทางเดินข้ึนเขาเลาะเลียบไปตามช่องหิน บางตอนลาด บางตอนเป็นมุมโค้ง
แคบ พอถึงยอดเขาจงึ จะเปน็ ลานกว้าง หินเรยี บ ใช้เปน็ ท่ีเฮลิคอปเตอร์เหาะลงจอดได


เลยลานโดยรอบมดี งลัน่ ทมออกดอกหอมกรุน่

ยอดเขาขนาดยอ่ มลกู นอ้ี ยใู่ นเทอื กเดยี วกบั ภพู าน ตอ้ งไตบ่ นั ไดในซอกลดตำ่ ลงไป
จึงจะถึงหินผาเป็นปกี คลา้ ยเพงิ ท่เี รียกว่า “ถำ้ ขาม” ปีกผาน้ีมตี น้ มะขามใหญ่ยนื ตน้ ตระหง่าน
เมื่อหลวงพ่อจัดต่อหลังคาจากชะง่อนหินใหญ่ออกมา ต้นมะขามก็ยังคงถูกสงวนไว้ตรงกลาง
ศาลาน่ันเอง


โอกาสแรกทไี่ ดไ้ ปกราบนมสั การหลวงพอ่ ฝนั้ คราวนนั้ เปน็ เวลาสามทมุ่ เศษ
แลว้ หลวงพอ่ ยงั นง่ั อยบู่ นศาลา พรง่ั พรอ้ มดว้ ยกลมุ่ พระภกิ ษหุ ม่ จวี รสยี อ้ มฝาดนง่ั ขดั สมาธิ
เรยี งอยเู่ กอื บเปน็ วงกลม อกตง้ั หลงั แอน่ นงิ่ ประดจุ รปู ปน้ั ลอ้ มดวงแหง่ ความสวา่ งโพลง


หลวงพอ่ ทกั ทายผเู้ ดนิ ทางไกลมาเปน็ เวลากวา่ สบิ สองชวั่ โมงวา่ “มากนั แตไ่ หน?
มากนั ยังไง? เอา้ เข้ามา ...”

ศาลาตักบาตรบนทางขึ้นถ้ำขาม


“มาจากกรงุ เทพฯ เจา้ คะ่ ” ศษิ ยท์ เ่ี คยไปมาหาสปู่ ระนมมอื หลงั กราบงามสามหน

เรียนใหท้ ราบ


“มากนั ต้งั แต่เมอื่ ไหร?่ ”

“ออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าเจา้ ค่ะ”

“เออ ... เหนอ่ื ยกนั แย่ซ”ี

“แต่พอมาถึงแล้วก็ปลื้มใจหายเหนื่อยเลยเจ้าค่ะ” เสียงหลังนี้เป็นผู้พึ่งเคยพบ
หลวงพอ่ ฝัน้ อาจาโร เป็นวาระแรกในชวี ติ ค่ำวนั นนั้ เอง

สภุ าพสตรที า่ นแรกขอร้องให้หลวงพอ่ สอน “พทุ โธ” แกค่ ณะผูไ้ ปเยี่ยมเยียน

“พทุ โธ คอื พระพุทธเจ้า พุทธะ คือความรู้....”

หลวงพอ่ แนะนำการนง่ั ใหส้ บาย หลบั ตา ทำใจใหส้ งบ ทำใจใหเ้ บกิ บานหนา้ ยม้ิ ๆ
และทำใจใหส้ วา่ ง ภาวนา “พทุ โธ” พรอ้ มกบั หายใจลกึ เขา้ ไปสกู่ น้ บงึ้ ของหว้ งหทยั แลว้ ระบายออก

ศาลาถ้ำขามเงียบกรบิ ราวกบั ไมม่ สี ิง่ ทมี่ ชี ีวิตอยู่เลย

มองออกไปภายนอก ต้นไม้ชูยอดเหยียดกง่ิ กา้ นอยู่ต่ำกว่าเรา ดาวกระพรบิ ขยิบระยับอยู่



318

ตามช่องว่างของกิ่งไม้ ผู้คนซึ่งนั่งตามสบายหลับนัยน์ตาน่ิงไม่ไหวติง เหมือนกับว่าหลุดออกไปลอยอยู่
ในกลุ่มเมฆเมอื งแมนแดนฟา้


นี่คือสภาพปกติของกิจวัตรหลวงพ่อฝ้ันประจำวัน ต้อนรับผู้ไปหาด้วยเมตตา
ให้ความกรุณาแนะนำโดยไม่เลือกเวลา ตั้งแต่อรุณถึงดึกด่ืนทุกคืน การหลับนอนพักผ่อนน้ัน

ใช้เวลาเพียงน้อยนิด


ความเมตตากรุณาของหลวงพ่อยิ่งใหญ่ที่สุด มากมายและ
เหลอื เฟอื เสมอ


ผู้ท่ีไปกราบนมัสการหลวงพ่อจะรู้สึกถึงพลังรังสีแห่งความเมตตา แผ่สร้านออก
มาถงึ ตวั เขา ทำใหร้ สู้ กึ เปน็ สขุ ลมื ความเดอื ดรอ้ นวนุ่ วายไมเ่ ปน็ สขุ อยา่ งปลดิ ทง้ิ และเมอ่ื ไดล้ อง
ปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำของหลวงพอ่ กจ็ ะเกดิ ความรสู้ กึ อยา่ งใหม่ชนิดท่ีไม่เคยประสบมากอ่ น


ท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร แห่งวัดบวรนิเวศวิหารซาบซึ้ง

ถึงพลังแห่งเมตตาคุณของหลวงพ่อฝ้ันดีย่ิงกว่าท่านผู้ใดท้ังหมด จะเห็นได้ว่า หากมี
ชาวตา่ งประเทศผใู้ ดอยากเรยี นรพู้ ระพทุ ธศาสนาใหไ้ ดร้ สชาตคิ วามสขุ สงบอยา่ งฉบั พลนั

กุฏิแม่ชีในหลบื เขา บนถำ้ ขาม

319

320

สมเด็จพระญาณสังวร ฉนั จงั หัน

ร่วมกับพระอาจารย์ฝ้ัน ทีถ่ ำ้ ขาม


แลว้ ท่านเจา้ พระคุณสมเด็จญาณสังวรก็จะแนะนำให้ไปกราบนมสั การหลวงพอ่ ฝ้ัน ชาว
ตา่ งประเทศนบั ถอื ศาสนาอนื่ หลายทา่ น พบมนต์ “พทุ โธ” ของหลวงพอ่ ฝน้ั แลว้ ถงึ กบั
เปล่ียนศาสนา ผชู้ ายขออุปสมบทเปน็ พระภิกษสุ ามเณร ผหู้ ญงิ ก็ขอบวชเปน็ แมช่


ชาวตา่ งประเทศซงึ่ มศี รทั ธาละเพศฆราวาส แหง่ แรกทที่ า่ นเจา้ พระคณุ สมเดจ็ จะ
สง่ ไปรบั การอบรมใหพ้ บสนั ตสิ ขุ กค็ อื สำนกั ของหลวงพอ่ ฝน้ั ทวี่ ดั ปา่ อดุ มสมพรและถำ้ ขามเสมอ


คณุ วเิ ศษของหลวงพอ่ ฝนั้ อยา่ งแทจ้ รงิ นน้ั กค็ อื อำนาจประหลาดอนั เกดิ จากกระแส

321

ชาวตา่ งประเทศทีไ่ ด้อุปสมบทเปน็ พระภกิ ษุ

ได้รับการอบรมจากพระอาจารย์ฝน้ั

เมตตาคุณ กรุณาคุณ และความสามารถสอนธรรมด้วยภาษาง่ายๆ ผู้ฟังรับเอาเป็นประโยชน์
แกช่ ีวติ ไดอ้ ย่างทนั ทีทนั ใด


อาทิ การถามวา่ “รจู้ ักไหมพระกรรมฐานหา้ ”

กรรมฐานหา้ ตน้ เหตแุ ห่งการก่อกรรมทงั้ หลายทงั้ ปวง กค็ ือ แขนสองขา้ ง ขา
สองข้าง ศีรษะหนงึ่

หมายถึงว่าคนเราจะทำอะไรก็ตาม ก็ต้องใช้หัวคิดและแขนขามือเท้า นี่แหละ
เปน็ องคป์ ระกอบใหญ่

บญุ คอื ความสบาย เยน็ อกเยน็ ใจ ไมย่ งุ่ ไมย่ าก ไมล่ ำบากรำคาญ ไมอ่ ด ไมจ่ น

บาป คอื ความวนุ่ วาย ความยุ่งความยาก ด้นิ รน ลำบากเดือดรอ้ น

ศาสนาคอื อะไร? อะไรเป็นศาสนา? ศาสนาแปลว่าอย่างไร?

ศาสนาก็คือคำสั่งสอน ท่านสอนอะไร? - ท่านสอนคน สอนเพื่อเหตุใด
สอนกายกบั ใจ ของคนเพอ่ื ใหล้ ะความชว่ั ละความชว่ั เพอ่ื เหตใุ ด? เพอื่ ไมใ่ หเ้ ราไดท้ กุ ข์ ไดย้ าก
ไดล้ ำบากรำคาญ ไมใ่ หอ้ ดไมใ่ หจ้ น ใหพ้ น้ จากตกทกุ ขไ์ ดย้ าก ความทกุ ขย์ ากลำบากนนั้ กค็ อื
นรก! ความทกุ ขม์ ไิ ดอ้ ยบู่ นทอ้ งฟา้ อากาศ ทกุ ขอ์ ยตู่ รงไหนบาปอยตู่ รงนนั้ นรกกอ็ ยตู่ รงนนั้

(ซ้าย) พระอาจารย์ฝ้ันแสดงธรรม
แลว้ ให้ผู้ฟังนงั่ ภาวนา

ทีว่ ัดบวรนิเวศวหิ าร


(ขวา) พระอาจารย์ฝนั้ ท่ามกลาง
หมศู่ ษิ ย์ทวี่ ัดป่าอดุ มสมพร


“พระพทุ ธศาสนาสอนเร่อื งกายกับใจของคน ท่านไมไ่ ดส้ อนเรื่องตน้ ไม้ภูเขาเหล่ากอ”

หลวงพ่อฝัน้ ไมค่ ่อยพูดถงึ คำวา่ สมาธิ แต่ชอบเรียกวา่ การวดั ใจ หรอื “เข้าวัด”
วธิ ีการของหลวงพอ่ สอนไม่มีอะไรยงุ่ ยากเลย

“นั่งให้สบาย.....หลับตา หุบปาก ลิ้นก็อย่ากระดุกกระดิก หน้าย้ิมๆ ทำใจให้
เบกิ บาน ภาวนาว่า พทุ โธ ธัมโม สงั โฆ แล้วรวมเปน็ พุทโธคำเดียว มองเข้าไปภายใน ดใู จ
ของเรา เหน็ อะไรไหม? มันมืดคอื ใจคน วัดกันตรงนี้ วัดเพือ่ ให้รู้ว่าใจเราน่ีนะ่ ดหี รอื ไม่ดี”


“ใจดีเปน็ อยา่ งไร? - ใจเราดีก็มคี วามสุข ความสบาย เยน็ อกเยน็ ใจไม่
เดอื ดร้อน”


“พทุ โธ-กายเราเบกิ บาน พทุ โธ-ใจเราสวา่ งไสว พทุ โธ-ใจเราผอ่ งใส เหมอื น
นำ้ ใส กระจกใสหรอื แกว้ ใส เหน็ ตน เหน็ บคุ คลอนื่ มองเหน็ เรา มองเหน็ เขา มองเหน็ งาน
มองเห็นการ มองเห็นความสุข ความทกุ ขข์ องเรา เรามีชีวติ เรารักชวี ิต ใครๆ ก็มชี วี ิต
เหมือนกันทกุ คน เม่อื เปน็ เช่นนี้ เราก็ไม่ควรเบียดเบยี นซึ่งกันและกัน...ซ”ี



325

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอท้ังสองพระองค์

โดยเสด็จพระราชทานผ้าพระกฐินคร้ังนี้ด้วย


หลวงพอ่ ฝนั้ เนน้ เรอ่ื งศลี หา้ เสมอ แตท่ า่ นไมช่ อบพธิ กี ารขอศลี หากผใู้ ดไมท่ ราบ
ไปอาราธนาขอศลี จากทา่ น หลวงพอ่ จะบอกวา่ “อยา่ ไปโกหกกบั พระหลาย พอศลี ปบุ๊ พอ
ยงุ กดั ก็ตบปบั๊ ”


หลวงพ่อท่านถือว่า ศีลเป็นของประจำตัวต้องมีอยู่ทุกคนแล้ว ศีลห้าเป็นอีก
กรณีหนึ่งท่ีหลวงพ่อเปรียบเสมือนแขนสองข้าง ขาสองข้าง และศีรษะหน่ึง เป็นเรื่องที่เราจะ
ต้องรักษา อย่าเอาแขนขาและหัว ซ่ึงหมายถึงความนึกคิดและปากนัยน์ตาไปกระทำสิ่งที่เป็น
โทษห้าอย่างคือผิดศีลห้าขอ้


คุณลักษณะพิเศษของธรรมที่หลวงพ่อแสดง ได้แก่ ผู้ฟังจะเกิดความรู้สึก
เหมอื นกับว่า หลวงพ่อกลา่ วข้อความออกมาเพือ่ ตัวเขาอยา่ งเจาะจง ไม่ใชก่ ลา่ วคลุมๆ สำหรับ
บุคคลทั่วไป แม้จะมผี ้รู ว่ มประชุมอยนู่ บั ด้วยจำนวนร้อยๆ ก็ตาม


คราวหนึ่งบนศาลาหลังใหญ่วัดป่าอุดมสมพร แน่นท้ังผู้คนทั้งฆราวาส แม่ชี
พระภิกษุ สามเณร คู้ขาไขว้เป็นบัลลังก์กลีบอุบล มือประสานอยู่บนตัก เงียบเหมือนกับทุก
ชวี ิตไดก้ ลายเป็นรูปปั้นไปทง้ั หมด

326

327

หม่ปู ระชาชนเฝ้ารับเสดจ็ ในวนั นัน้


มีเสียงหวีดร้องติดตามด้วยสะอื้นไห้โฮของเด็กสาวคนหน่ึง เหตุเกิดเพราะกระทำสมาธิ
แลว้ เห็นภาพนิมติ นา่ กลัว


หลวงพ่อฝั้นในตอนที่จะเปล่ียนจากตำแหน่งอาสนะเดิม ข้ึนไปสู่ยังธรรมาสน์
ท่านเดินเข้าไปใกล้เด็กสาว


แทนทที่ า่ นจะสอบถามวา่ เกดิ อะไรขนึ้ หลวงพอ่ กลบั พดู ถงึ นมิ ติ ทเี่ ดก็ หลบั ตาเหน็

พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวเสด็จเย่ียมพระอาจารย์ฝ้ัน อาจาโรเปน็ สว่ นพระองค์ ณ วัดป่าอุดมสมพร เมือ่ วันที่ ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๑๘


คืนวันนั้นหลวงพ่อเทศนาเก่ียวกับเร่ืองการเปล่ียนศาสนา ซ่ึงนับเป็นครั้งแรกใน
ชวี ิตของหลวงพ่อท่ีพดู ถึงการเปลีย่ นความศรัทธาจากศาสนาหนง่ึ เพอ่ื รับศาสนาใหม


เด็กสาวผู้เห็นนิมิตน่ากลัวผู้น้ันกำลังดำริจะเปล่ียนศาสนา และก็ไม่มีผู้หน่ึงผู้ใด
กราบเรียนเหตุผลการเปลย่ี นศาสนา อันเป็นต้นเหตทุ ี่ญาตผิ ใู้ หญ่นำเดก็ สาวผนู้ ้ันไปท่วี ดั ปา่ อดุ ม
สมพรแกห่ ลวงพอ่ มาก่อนเลย


โดยปจั จยั ตา่ งๆ ดงั ทกี่ ลา่ วแลว้ หลวงพอ่ ฝน้ั จงึ เปน็ ทเ่ี คารพรกั ของบคุ คลทกุ ชาตชิ น้ั
มผี ู้เดนิ ทางขา้ มนำ้ ข้ามฟ้า ขา้ มประเทศ ไปกราบนมสั การหลวงพ่อถึง วัดป่าอดุ มสมพร ซง่ึ
อุดมสมพรสมชื่อ ต้นไมอ้ อกดอก ออกผลใบเขยี วชอมุ่ เหมอื นกับเป็นอยอู่ ย่างนัน้ ตลอดกาล


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถและทูล
กระหม่อมเจา้ ฟ้า กไ็ ดเ้ สด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการหลวงพอ่ ฝ้นั ถึงวัดด้วย


ในคราวเสด็จพระราชทานผ้าพระกฐินส่วนพระองค์คร้ังแรก พ.ศ. ๒๕๑๕
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนมัสการถามหลวงพ่อฝั้นความสำคัญ “ทำอย่างไร ประเทศชาติ
ประชาชนจะอย่ดู ีกนิ ดี มคี วามสามัคคีปรองดองกัน”

ขณะทรงสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ฝ้นั


“ใหเ้ ขา้ หาพระศาสนา เพราะศาสนาสอนใหล้ ะชวั่ กระทำความดี ทำใจใหผ้ อ่ งใส”
หลวงพอ่ ถวายวิสชั นา


“คนส่วนมากทำดี คนส่วนน้อยทำชั่ว จะทำให้คนส่วนมากเดือดร้อนไหม

ทำอยา่ งไรจึงจะแก้ไขได”้


“ขอถวายพระพร ทกุ วนั น้ีคนไมร่ ูศ้ าสนา จึงเบียดเบยี นกัน ถ้าคนเรานึกถงึ คน
แลว้ กไ็ ม่เบียดเบียนกนั เพราะต้องการความสุขความเจรญิ คนอนื่ กเ็ ช่นกัน คนทุกวันนเ้ี ข้าใจว่า
ศาสนาอยู่กับวัด อยู่ในตู้ ในหีบ ในใบลาน อยู่กับพระพุทธเจ้าประเทศอินเดียโน่นจึงไม่สนใจ
บ้านเมอื งจึงเดือดรอ้ นวุ่นวาย มองหนา้ กันไม่ได้ ถา้ คนเราถอื กนั เป็นบดิ ามารดา เป็นพเี่ ป็นนอ้ ง
กันแล้วกส็ บาย ไปมาหาสกู่ ันได้ เพราะใจเราไม่มีเวร เวรกไ็ ม่มี ใจเราไม่มีกรรม กรรมกไ็ ม่มี
ฉะนัน้ ใหม้ พี รหมวหิ ารธรรมอยา่ งมหาบพิตรเสด็จมานี้ ทกุ อย่างเรียบร้อยหมด”


ในคราวเดยี วกันน้ัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ีนาถ และทลู กระหมอ่ ม
สมเด็จเจา้ ฟา้ หญงิ ทง้ั สองพระองค์ เสดจ็ เข้านมสั การหลวงพ่อฝั้นโดยประทบั บนพื้นพรม


“ทา่ นอาจารย์ไปพกั วัดบวรฯ บอ่ ยไหม” ทรงรบั สง่ั ถาม

330

“สมยั สมเด็จพระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ ไปพักบ่อย ทกุ วันนไี้ ม่
ได้ไป ท่านเจา้ คณุ สาสนโสภณนมิ นตเ์ หมือนกนั ”


ท่านเจ้าคุณพระสาสนโสภณ ปัจจุบันเลอ่ื นข้ึนไปเปน็ ท่ี สมเด็จญาณสังวร

“ถ้าทา่ นอาจารยไ์ ปพกั ทวี่ ัดบวรฯ ดฉิ ันจะไปนมัสการ ดฉิ นั สนใจภาวนามานาน
แล้วแต่เมอ่ื น่ังจติ ไม่คอ่ ยสงบ ได้ไปเรยี นท่านเจา้ คณุ สาสนโสภณ ทา่ นบอกวา่ เปน็ เรอื่ งย่งุ ยาก”
สมเดจ็ พระบรมราชินีนาถรับสั่ง

หลวงพอ่ ถวายวิสัชนาวา่ “ไม่ว่าจะนั่ง จะนอน จะยนื จะเดนิ ทำได”้

“ทำอะไรใหร้ ูอ้ ยหู่ รือ”

“ขอถวายพระพร”


หลังจากน้ันหนึ่งสัปดาห์ หลวงพ่อฝ้ันเดินทางเข้ามาเมืองหลวง
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ พรอ้ มดว้ ยทลู กระหมอ่ ม
สมเดจ็ เจ้าฟ้าหญงิ ไดเ้ สด็จพระราชดำเนินไปทีว่ ดั บวรนเิ วศวิหาร



332

ทุกปีทคี่ รบรอบวันเกดิ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ศาลาวดั ปา่ อดุ มสมพร จะเนอื งแน่นไปด้วยศษิ ยานศุ ิษย์


ในหลวงทรงพระราชปฏสิ ันถารว่า “ทา่ นอาจารย์มากรงุ เทพฯ รูส้ ึกเหน่ือยไหม”

“ขอถวายพระพร อาตมาถอื เปน็ เรอ่ื งธรรมดา เนอ่ื งไดเ้ คยฝกึ มาสมยั ออกปฏบิ ตั ิ
ครง้ั แรกไม่มีรถยนต์มีแต่เดินดว้ ยเทา้ ขอถวายพระพร”

สมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถทรงปรารภวา่ “คนทกุ วนั นเี้ ขา้ ใจวา่ ตายแลว้ ไมไ่ ดเ้ กดิ
ถา้ คนตายแลว้ เกดิ ทำไมมนษุ ยจ์ งึ เกดิ มาก หากสตั วเ์ ดยี รจั ฉานเขาพฒั นาตนเองจะถงึ ขนั้ เกดิ เปน็
มนุษยไ์ ด้ไหม”

“ได”้ หลวงพอ่ ถวายวสิ ชั นา “เกย่ี วกบั จติ ใจ ใจคนมหี ลายนยั ตวั เปน็ มนษุ ยแ์ ตใ่ จ
เปน็ สัตว์ ตวั เปน็ มนุษย์แต่ใจเป็นเปรต ตวั เป็นมนุษยแ์ ตใ่ จเป็นนรก ตวั เป็นมนษุ ย์ใจเปน็ มนษุ ย์
หรือเทวดา เป็นพรหม เป็นพระอรหันต์ เป็นพระพุทธเจ้าก็มาจากคน! จะรู้ได้อย่างไรให้น่ัง
พจิ ารณาดู ทใี่ จไมอ่ ยคู่ ดิ โนน้ คดิ นี้ นน่ั แหละเรยี กวา่ มนั ไปตอ่ ภพตอ่ ชาต-ิ ทว่ี า่ เกดิ ถา้ ตายกไ็ ปเกดิ
ตามบุญตามบาปทีท่ ำไว้ เป็นเปรตคือใจท่มี ีโมโหโทโสรษิ ยาพยาบาท ใจนรกคอื ใจทกุ ขก์ ลมุ้ อก
กลมุ้ ใจ ใจเปน็ มนษุ ยค์ อื ใจทมี่ ศี ลี หา้ มที าน มภี าวนา ใจเปน็ เศรษฐที า้ วพระยามหากษตั รยิ ค์ อื ใจดี
ใจเปน็ เทวดาคอื มีเทวธรรม มหี ิริความละอายบาป โอตตัปปะความเกรงกลัวบาป นอ้ ยหนง่ึ ไม่
อยากกระทำ ใจเปน็ พรหมมพี รหมวหิ ารธรรม คอื ใจวา่ งเหมอื นอากาศ ใจพระอรหนั ตค์ อื ทา่ นพจิ ารณา
ความวา่ งนั้นจนรู้เท่า....แลว้ ปลอ่ ยเหลอื แตร่ ู้ ใจพระพุทธเจ้ารูแ้ จง้ แทงตลอดหมดทกุ อย่าง

หลวงพ่อฝ้ันได้รับความศรัทธาจากองค์พระประมุข และราชตระกูลเป็น
อยา่ งสงู เหน็ ไดจ้ ากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ พระบรมราชนิ นี าถ
ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดป่าอุดมสมพรหลายคร้ัง เมื่อหลวงพ่อฝั้นเข้ามาในกรุง

333

ก็ทรงโปรดให้อาราธนาเข้าไปแสดงธรรมในพระราชฐาน บางคราวรับส่ังสนทนากับ
หลวงพ่ออยู่จนดึกมาก เวลาหลวงพ่อจะลุกข้ึนเพราะหลวงพ่อนั่งอยู่อิริยาบถเดียว

นานเกินควรจึงลุกขึ้นไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดฯ เสด็จเข้าทรงช่วย
พยงุ หลวงพอ่ ด้วยพระองค์เอง


ในการตอบข้อสงสัยของผู้ไปกราบนมัสการถาม หลวงพ่อมักเล่าถึง
ประสบการณ์ของหลวงพ่อประกอบดว้ ยเสมอ


เรื่องหนึ่งที่น่าศึกษาสำหรับการศึกษาเก่ียวกับอภิจิตและปรจิต หลวงพ่อตอบ
ปญั หาสตรผี ้ขู ณะทำสมาธิ เกิดเสียวตรงดง้ั จมูกใกล้หว่างคว้ิ ขนลุกซู่ เกิดความหวาดกลวั ต้อง
เลิกนั่ง และอีกคราวแลเห็นหน้าหญิงชราผมเป็นกระเซงิ ลอยมาใกลๆ้ ก็เลยตกใจกลัวอกี


นักวิเคราะห์จิตสมัยใหม่ระบุว่า เป็นเพราะในจิตสำนึกของผู้เห็นนิมิตมีความ
กลัวการแกต่ ัวตามวยั ประสาผู้หญงิ ท้งั หลาย


หลวงพ่อเล่าถึงพระภิกษุรูปหนึ่งนั่งสมาธิ แลเห็นผู้หญิงรูปร่างสวยงามมาชวน
ท่าน พระออกปากไล่เท่าใดก็ยังคงเซ้าซี้เช่นนั้นอยู่เรื่อย พระจึงเอานิ้วจิ้มปูนประกาศบอก

นางย่วั ยวนนั้น “ถ้าขนื เข้ามาใกล้ตัวอีก จะเอาปูนจม้ิ หน้า” ผ้หู ญงิ ทีเ่ ห็นกย็ ังเข้ามาหา พระได้
เอาปูนจิม้ หนา้ รอ้ งกร๊ดี จงึ ได้หายไป


เม่ือพระรูปน้ันส่องกระจก ก็ได้พบว่ารอยปูนท่ีจ้ิมหน้าผู้หญิงท่ีเห็น มันปรากฏอยู่ตรง
แสกหนา้ ตัวเอง

334

พระอาจารย์ฝัน้ อาจาโร ไปแสดงธรรมท่

ห้องประชุมแพทย์ในโรงพยาบาลศิรริ าช

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่ามกลางการตอ้ นรับ

อยา่ งคับคงั่ ของบรรดาแพทย์และพยาบาล

335

ภาพทแี่ ลเหน็ เป็นเงาของตวั เอง ใครตดิ ตามคว้าก็เหมือนควา้ เงาไม่มวี ันจบั ได้

หลวงพ่อไดเ้ ล่านิทานให้เจา้ ของปัญหาฟังอกี เร่อื งหน่ึง ความว่า

ชายคนหนงึ่ จะวา่ ยขา้ มนำ้ เอาผา้ ขาวมา้ ออกจากพงุ มาคาดไวท้ ห่ี วั วา่ ยไปถงึ ฝง่ั แลว้
หาผ้าขาวม้าไม่เห็น นึกว่าลืมเอาไว้อีกฝั่งหน่ึง ว่ายกลับไปใหม่ก็ไม่เห็นอีก ชะโงกดูในน้ำเห็น

อีตาคนหน่ึงเอาผา้ ขาวมา้ ของตวั ไปโพกหัว ทวงคนื เท่าไหรก่ ไ็ ม่ยอมให้ ต้องกระโจนตูมลงน้ำไป
ปล้ำแยง่ ผ้าขาวม้าท่ีพันศรี ษะไว้จึงลอยนำ้ ข้ึนมา

เจา้ ของผา้ ควา้ คนื มาได้ แตก่ ย็ งั ไมร่ อู้ กี แหละวา่ ทง้ั หมดนนั้ ตนหลงตามยอื้ แยง่ จาก
เงา “ตอ้ งเล่นกับมนั ยังง้ี เถิงจัก๊ ได้” เขาอวด

นิทานปริศนาธรรมเรื่องนี้ หลวงพ่อฝั้นเล่าให้สตรีผู้ชอบทึกทักสร้างโจทย์ผิดๆ
แล้วคิดว้าวุ่นไปต่างๆ อยู่เร่ือยๆ เกรงในส่ิงท่ีคิดเอาเองว่าจะผิด วิตกทั้งท่ีไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สกั หนอ่ ย กลัวในส่งิ ท่ีไม่มตี วั จติ ใจหวาดระแวงนึกไปเองท้งั สนิ้

336

เจา้ ของปญั หารอ้ งไหแ้ ง สารภาพวา่ “หลงโงง่ มมาชวั่ ชวี ติ พงึ่ มาพบพระทสี่ ามารถ
ควักหัวใจมืดดำมาทำความสะอาดใหก้ ลับสดใสขน้ึ ใหมไ่ ด”้


อีกครั้งหนึ่ง ชาวกรุงไปกราบนมัสการหลวงพ่อในฤดูหนาว อากาศสกลนคร
หนาวจดั ท้งั ที่สวมเสอื้ กนั หนาวกันเตม็ คราบก็ยงั หอ่ ตวั คางสน่ั


หลวงพ่อเล่าถึงสมัยรุกขมูล กางกลดเผชิญอากาศเย็นจัดขนาดผ้าคลุมกลด
เปียกชุม่ โชกไปท้ังผืน หลวงพอ่ นง่ั ตดั ใจถงึ จะตายกใ็ หต้ าย “จนกระท่งั รงุ่ เช้ากไ็ ม่เหน็ ตาย”


ชาวกรุงไดฟ้ งั แลว้ ความหนาวหดหายไปตั้งแยะ

337

คณุ ลกั ษณะอนั เปน็ ทป่ี ระทบั ใจของหลวงพอ่ ฝน้ั อกี ประการหนง่ึ ไดแ้ กค่ วามมกั นอ้ ย
สนั โดษ หลายหนทีเดียวท่ีมีผู้ไปกราบนมสั การขอสรา้ งโน่นสรา้ งนถี่ วาย หลวงพอ่ กล่าววา่

“สร้างทำไม มอี ยูแ่ ล้ว”


ทั้งนี้ มิได้หมายความว่า หลวงพ่อไม่สนับสนุนการสร้างสรรส่ิงที่เป็นวัตถุ

เป็นแต่เพียงหลวงพ่อกระทำไปอย่างพอดี ไม่ให้มากเกินไป เกรงจะเป็นภาระแก่ผู้อ่ืน และ
ประการท่ีสุด ท่านไม่ต้องการให้ศิษย์ท่ีเป็นสมณะปฏิบัติธรรมอยู่กับท่านต้องเสียเวลาไปกับ

งานก่อสรา้ ง และรักษาดูแลสถานท่ีจนไม่มเี วลาบำเพ็ญเพยี ร


ตามประวตั ขิ องหลวงพอ่ ไมว่ า่ ไปอาศยั อยู่ ณ สถานทใ่ี ด จะเปน็ ภเู ขา ถำ้
หรือป่าช้าพงไพร แม้จะเป็นการเพียงชั่วระยะเวลาส้ันๆ หลวงพ่อจะพัฒนาความเจริญ
ให้แก่สถานท่ีเหล่าน้ัน แนะนำผู้คนให้ทำความสะอาดตามบริเวณและถนนหนทางให้
เรียบร้อยงามตาเสมอ


ในด้านการพัฒนา และสังคมสงเคราะห์ หลวงพ่อฝ้ัน ก็ได้สร้างสรรค์ไว้
มากมาย เชน่


- สร้างโบสถน์ ้ำ วัดป่าอุดมสมพร ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗

- สร้างกฏุ ใิ จดี (เจดีย์ ๕ ยอด) วัดป่าอดุ มสมพร

338

พระอาจารย์ฝน้ั อาจาโร

โปรดญาตโิ ยมทวี่ ดั ใหมเ่ สนานคิ ม
บางเขน เปน็ ประจำทกุ ๆ ปี และ


แต่ละครั้งมีญาติโยมเข้ารับการ
อบรมอย่างลน้ หลาม

339

- สรา้ งถงั นำ้ ฝนคอนกรตี วดั ปา่ อดุ มสมพร - วดั ปา่ ถำ้ ขาม - วดั ปา่ ภธู รพทิ กั ษ์

- ศาลาทพ่ี ักของอบุ าสกอบุ าสกิ าท่มี าบำเพญ็ ธรรมท่ีวดั ปา่ อดุ มสมพร

- สร้างกุฏิสงฆ์อีกหลายหลัง ท้ังวัดป่าอุดมสมพรและวัดป่าถ้ำขามให้เพียงพอ

แก่พระภิกษสุ ามเณรที่เข้ามาศึกษาปฏิบัตธิ รรม

- สร้างศาลาภูริทัตตเถรานุสรณ์ ที่วัดป่าภูไทสามัคคี บ้านม่วงไข่ อำเภอ

พรรณานิคมอีกหน่ึงหลัง เพ่ือเป็นอนุสรณ์ท่ีท่านได้พบและได้ฟังพระ

ธรรมเทศนาของพระอาจารย์มน่ั เปน็ ครงั้ แรก ณ สถานทนี่ ั้น

- สรา้ งสขุ า ชาย – หญงิ ทงั้ ทวี่ ดั ปา่ อดุ มสมพร – วดั ปา่ ถำ้ ขาม – วดั ปา่ ภธู รพทิ กั ษ์
ให้เพียงพอกับญาติโยมท่ีเข้ามาปฏิบัติ ฯลฯ และสร้างอ่ืนๆ อีกมากมาย

ตามศรัทธาของผถู้ วายท้ังสน้ิ

นอกจากการปฏสิ งั ขรณ์ และสรา้ งตอ่ เตมิ - บรู ณะวดั ตา่ งๆ แลว้ ทา่ นพระอาจารย์
กย็ งั สรา้ งประโยชน์ใหแ้ ก่สาธารณชนเปน็ ส่วนรวมตามปจั จัยของผู้ศรทั ธานัน้ ๆ อาทิ เชน่

- พฒั นาถนนเขา้ หมบู่ ้านอีกหลายสาย

- ซ่อมแซม บูรณะ ศาลาทำบุญท่ีวัดป่าถ้ำขาม (จากศาลาไม้เป็นคอนกรีต

เสรมิ เหลก็ ทั้งหลัง)



341

พระอาจารย์ฝั้นบิณฑบาตและร่วมฉันกับพระภิกษุวัดถ้ำหว้า เมื่อคราวไปโปรดญาติโยมที่จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๐๘


กลมุ่ บคุ คลทไี่ ดร้ บั การศกึ ษาทางโลกสงู ๆ ไดใ้ หค้ วามเลอ่ื มใส เคารพและยกยอ่ งวตั รปฏบิ ตั ิ
ของหลวงพ่ออย่างยิ่ง หลวงพ่อได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์โปรดตามสถานศึกษาสำคัญหลายแห่ง ข้อความ
ทีห่ ลวงพอ่ เทศนม์ กี ารบนั ทึกเสียงจัดการถา่ ยทอดตพี มิ พเ์ ผยแพร่ในโอกาสต่างๆ มากตอ่ มากเรอื่ ง


โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ คำกลา่ วถงึ ความสบาย เยน็ อกเยน็ ใจ นน้ั ไมม่ ใี ครพดู แลว้
ผฟู้ งั เกดิ ความสขุ ความสบายใจขนึ้ ทนั ที เหมอื นอยา่ งหลวงพอ่ กลา่ ว ไมม่ คี ำอธบิ ายในเรอ่ื งเสยี ง
กล่าวถงึ บุญ ความสขุ ความสบาย เยน็ อกเย็นใจของหลวงพอ่ ในทางอืน่ ได้ นอกจากหลวงพ่อ
เปน็ ผทู้ ม่ี คี วามสุขสงบ ได้รับรสแห่งความเยน็ อก เย็นใจอยา่ งแทจ้ รงิ นั่นเอง


ความเมตตาปรารถนาดีต่อทุกคน และความกรุณาอันไพศาลของหลวงพ่อฝ้ัน
ประจักษ์พยานที่แลเห็นได้เป็นถาวรวัตถุอำนวยประโยชน์ ได้แก่การสร้างตึกสงฆ์อาพาธให้แก่
โรงพยาบาลสกลนคร วางศิลาฤกษ์เม่ือวันท่ี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๑๘ สร้างเสร็จทำพิธีเปิดเมื่อ

วนั ที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๑๙ และสร้างโรงพยาบาลขนาดสามสบิ เตยี งใหแ้ ก่อำเภอพรรณานคิ ม

วางศลิ าฤกษเ์ มอื่ วนั ที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๑๙ โดยหลวงพอ่ รบั ภาระหาทนุ สมทบกบั ทางราชการครง่ึ
หนง่ึ ของงบประมาณกว่าสามล้านบาท ได้เปดิ รับรักษาคนไขต้ ้งั แต่วันท่ี ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๒๐


รายจา่ ยในกจิ การอนั มใิ ชเ่ ปน็ สว่ นตวั ของหลวงพอ่ เชน่ การสรา้ งสถานพยาบาล
และอน่ื ๆ แสดงถงึ ความไมต่ ดิ ใจอดเิ รกลาภของทา่ น เชน่ ระหวา่ งหลวงพอ่ เขา้ มากรงุ เทพมหานคร
พักท่ีวัดใหม่เสนานิคม เจ้านายอันเป็นท่ีเคารพรักเทิดทูนอย่างสูงพระองค์หน่ึงถวายเงินจำนวน
ห้าหมน่ื บาท หลวงพ่อได้ถวายต่อใหว้ ัดท่ที ่านไปพำนักช่วั คราวนน้ั ท้งั หมด

342

แม่ชีสำนักวัดสนามพราหมณ์ จังหวัดเพชรบุรีเดินทางจากวัดไปใส่บาตรพระอาจารย์ฝั้นที่ถ้ำหว้า เนื่องจากมีผู้ใส่บาตรกัน


อย่างล้นหลาม พระอาจารย์ฝั้นจึงขอร้องให้ใส่บาตรแต่เพียงรายละหนึ่งช้อนกาแฟ แม้กระนั้นยังไม่ทันสุดแถวคนใส่บาตรข้าว

ก็ลน้ บาตรอย่ทู ุกเชา้


กรณุ าคณุ ของหลวงพ่อ ทำใหเ้ กิดการสร้างเหรียญรปู ของหลวงพอ่ เปน็ จำนวน
มากมายนบั รอ้ ยรนุ่ แตเ่ หรยี ญเหลา่ นน้ั สำหรบั ทห่ี ลวงพอ่ เองแลว้ เปน็ ของแจกใหเ้ ปลา่ ไมม่ กี ารคดิ
คา่ งวดแต่อย่างใดเลยทัง้ ส้ิน


ผูท้ ี่มองการสร้างเหรียญวตั ถุมงคลไปในแง่ของอดเิ รกลาภ เคยตัง้ ขอ้ สังเกตถาม
หลวงพ่อทำนองเป็นการอวดคณุ วเิ ศษ


หลวงพอ่ ให้คำตอบอยา่ งตรงไปตรงมา ถึงความตอ้ งการของบคุ คลบางกลุ่ม

หลวงพอ่ สนองตอบความปรารถนาของเขาเหลา่ นน้ั สว่ นหนง่ึ มใิ หผ้ ดิ หวงั เสยี ใจ แต่
หลวงพอ่ กม็ ไิ ดใ้ หเ้ หรยี ญเพยี งอยา่ งเดยี ว หลวงพอ่ ไดใ้ หธ้ รรมแกผ่ ทู้ มี่ ารบั เหรยี ญจากหลวงพอ่ ดว้ ย
การสร้างเหรยี ญรปู หลวงพ่อโดยวธิ ีลกั ลอบ มเี รื่องราวทม่ี ีผู้บนั ทกึ ไว้แล้ว
ก่อนหน้าหลวงพ่อจะอาพาธอาการหนัก สุขภาพของหลวงพ่อไม่ค่อยดีนัก

ฉันอาหารน้อย พกั ผอ่ นนอ้ ย ใช้เวลาสว่ นใหญ่กับการเจริญภาวนาและใหค้ วามเมตตาแกบ่ รรดา
ผู้รักเคารพในคุณธรรมของท่าน ซึ่งมีนับจำนวนพันจำนวนหม่ืน แห่กันไปกราบนมัสการท
ี่
วดั ป่าอดุ มสมพรและแม้บนเขาถ้ำขาม


Click to View FlipBook Version