ถาม
ปู่ เวลาคนตายทำ� ไมต้องนมิ นตพ์ ระมาสวด กสุ ลา มาตกิ า บงั สกุ ลุ ให้ เมอื งไทย
เรามที ว่ั ประเทศ ไมส่ วดไม่ได้หรอื หลานสงสยั ต้องขอประทานโทษถ้าเปน็ ความ
เข้าใจผดิ แต่หลานมไิ ด้ปักใจวา่ ทที่ ำ� นน้ั ไมถ่ กู เปน็ แต่เพยี งสงสยั จงึ กราบเรยี น
ถามปู่พอให้เขา้ ใจในเรือ่ งราวและหายสงสยั เท่านัน้ เอง
ตอบ
ไม่สวดก็ได้ ใครจะทำ� โทษ คนท่เี ขาไม่นับถือศาสนาพทุ ธเราเขายังไม่เห็นสวด
กสุ ลา มาติกา เวลาคนตาย
ถาม
สวดเพือ่ อะไรปู่
ตอบ
สวดให้บุญคนตายยังไงเล่า เวลาคนน้ันมีชีวิตอยู่ เขาขี้เกียจท�ำบุญ เวลาเขา
ตายแล้ว ญาติๆ กลวั เขาตกนรก ก็ช่วยนิมนต์พระมาสวดส่งบญุ ให้เขา บางที
อาจพน้ นรกได้
ถาม
แน่ใจไหมละ่ ปู่ว่าเขาจะไดบ้ ญุ จากญาติๆ ท�ำส่งให้ไมต่ กนรก
ตอบ
แนห่ รือไม่แน่ก็เพราะความรักสงสารกัน จ�ำต้องท�ำเผื่อไว้ดีกวา่ ปลอ่ ยตามบุญ
ตามกรรม
294
ถาม
ในครง้ั พระพทุ ธเจา้ เวลาคนตายแลว้ นมิ นต์พระไปสวด กสุ ลา มาตกิ า ดงั นไี้ หมปู่
ตอบ
มี แตท่ า่ นไปปลงกรรมฐาน พิจารณาซากศพท่ีตายแล้วเป็นอสุภะอสุภัง
อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า เกิดมาแลว้ ตอ้ งตาย ไมจ่ รี งั ยง่ั ยนื กลายเปน็ ซากเป็นศพ
เป่อื ยเนา่ ผุพังหาสาระแก่นสารไม่ได้ แล้วนึกน้อมเขา้ มาสูต่ ัววา่ จะตอ้ ง
เป็นเชน่ เดียวกันเพือ่ ได้สติปัญญาจากซากศพน้ัน ไมป่ ระมาท บางรายได้
ส�ำเร็จมรรคผลเพราะการพิจารณาซากศพน้ันก็มี ท่านจึงสอนให้พระไป
เทีย่ วกรรมฐานตามปา่ ชา้ ซงึ่ ถอื เปน็ ธุดงควตั รเรือ่ ยมาจนปจั จุบนั นี้ นม่ี ีใน
ธดุ งค์ ๑๓ ขอ้ คน้ ดูกย็ งั ได้
ถาม
ทุกวันนี้ไมเ่ ห็นพระไปเยี่ยมปา่ ช้าดังคร้ังพุทธกาลท่านท�ำกัน เห็นเฉพาะเวลา
คนตายแล้วเขานิมนตท์ ่านมาสวด กุสลา มาติกา เท่าน้ัน
ตอบ
ถงึ ไมป่ รากฏเหน็ กย็ งั มี พระธดุ งคกรรมฐานทา่ นทำ� เปน็ ประจำ� มไิ ด้ขาด แตท่ า่ น
มิได้เทีย่ วประกาศใหใ้ ครๆ ทราบ เนือ่ งจากเปน็ งานของทา่ นโดยเฉพาะ มใิ ช่
งานสวดกินขา้ วต้มขนมตามทเี่ ขานมิ นต์เวลาคนตายนนี่ า
295
ถาม
สมยั น้ยี ังมีพระไปกรรมฐานปา่ ช้าอยู่หรือปู่ นึกวา่ หมดสมยั ไปแลว้
ตอบ
สมัยบ้าอะไร เอาอะไรมาพดู ธรรมมีสมัยเมือ่ ไร นอกจากพวกบา้ สมยั ต่ืนสมยั
เท่าน้ัน จึงจะอุตริพูดว่าเท่ียวป่าช้าหมดสมัยไปแล้ว พระธุดงคกรรมฐานทา่ น
มใิ ช่บา้ ตนื่ สมยั อย่ามาพูดในท่ีนี่ เดย๋ี วพระธุดงค์จะแตกวัดกนั เสยี หมด จะวา่
ไม่บอก โนน่ ไปพูดกับพวกบา้ ตนื่ สมยั ด้วยกันโนน่
ถาม
โอโ้ ฮ ตายจริง หลานพูดผดิ ไป ตอ้ งขอประทานโทษมากๆ ดว้ ยปู่ มันหลดุ ปาก
ออกมายงั ไง อนั สมัยๆ บา้ ๆ นี่ มนั ชินปากชินใจจงึ หลดุ ออกมาอย่างงา่ ยดาย
ราวกับไม่ไดค้ ิด คลอ่ งปากจรงิ สง่ิ ที่ไมใ่ หค้ ลอ่ งอย่างน้ี บทพานง่ั ภาวนา พทุ โธ
ไม่เหน็ ได้เรอ่ื ง คอยแต่จะคดิ ไปรอ้ ยแปด น่าโมโหจรงิ ๆ ขอประทานโทษ ยอ้ นถาม
เรอื่ งสวด กสุ ลา มาตกิ า อีกเลก็ น้อย นน่ั มีความหมายวา่ อย่างไรปู่
ตอบ
มคี วามหมายไดห้ ลายอย่าง การสวด กสุ ลา มาตกิ า ถอื เป็นคตติ วั อย่างมาจาก
พระพทุ ธองค์เสดจ็ โปรดพระมารดาชนั้ ดาวดงึ ส์สวรรค์ ฉะนน้ั เวลาคนตาย
จงึ นำ� ธรรมทพ่ี ระองคเ์ คยสวดโปรดพระมารดามาสวดใหแ้ ก่ผ้ตู ายในสมยั น้ี
จนเป็นธรรมเนียมเร่ือยมา
296
ถาม
เวลาตายไม่สวดธรรมน้ีจะขดั ขอ้ งประเพณขี องชาวพทุ ธเราไหม
ตอบ
น่าจะไม่ขดั ขอ้ ง ถา้ เจ้าของศพไม่ขดั ข้องตวั เองวา่ ไมไ่ ด้ทำ� ดงั ชาวบา้ นเขาทำ� กนั
สว่ นผตู้ ายไม่มาเกย่ี วข้องทงั้ จะสวดหรอื ไม่สวดเพราะหมดหนทางจะมาแสดงตน
ถาม
เวลาพระท่านสวด กสุ ลา มาตกิ า ให้ ผู้ตายจะไดร้ บั ไหมปู่
ตอบ
ป่ยู ังไม่เคยตายและยังไมเ่ คยมีใครมาสวด กสุ ลา มาติกา ใหป้ ู่ จะไปร้อู ยา่ งไร
วา่ ได้รบั หรอื ไม่ได้รบั ถา้ ถามเก่งๆ อย่างน้ี กไ็ ปถามผ้ทู เ่ี ขาตายแล้วดซู วิ า่ เขาได้
รับไหม แลว้ คอ่ ยมาบอกปู่
ถาม
อกี แลว้ ปนู่ ่ี รวดเรว็ จรงิ หลานกเ็ ซ่อจรงิ หาถามไม่เขา้ เรอ่ื ง ความจรงิ คดิ จะถามวา่
ในธรรมทา่ นบอกว่าผตู้ ายไดร้ ับไหมตา่ งหาก
ตอบ
ในธรรมท่านมิได้บอกไว้ว่าเวลาคนตายแลว้ ให้ไปสวด กุสลา มาติกา ให้
บอกแต่การทำ� บุญอุทิศส่วนกศุ ลถึงผู้ตาย ผู้ตายที่ควรได้รับกุศลทานของญาติ
ทีอ่ ทุ ศิ ใหก้ ม็ ี ไมอ่ ยใู่ นฐานะจะรับได้กม็ ี
297
ถาม
ทร่ี ับผลบุญของญาติไมไ่ ด้เพราะเหตไุ รปู่
ตอบ
เพราะฐานะทจี่ ะได้รบั ไม่อำ� นวย เช่น ผชู้ ายไปเกิดเปน็ มนษุ ย์ เป็นสตั วเ์ ดรจั ฉาน
เป็นเปรต ๑๑ จำ� พวก และไปสวรรค์ นิพพาน เสยี กไ็ มใ่ ชฐ่ านะจะมารบั
ถาม
จ�ำพวกไหนทม่ี ารับได้ปู่
ตอบ
จำ� พวก ปรทตั ตปู ชวี เี ปรต จำ� พวกเดยี วทอ่ี ยใู่ นฐานะมารบั ได้ นอกนนั้ ไมป่ รากฏ
ถาม
ถ้าญาติถวายทานอุทิศให้ผู้ตาย แตผ่ ูต้ ายมารับไมไ่ ด้ บุญที่ญาติอุทิศจะตก
แกใ่ ครละ่ ปู่
ตอบ
บญุ จะไปตกแก่นกั โทษในเรอื นจำ� ไดอ้ ยา่ งไร กต็ อ้ งตกเป็นของผทู้ ำ� อย่โู ดยดลี ะซิ
เพราะบญุ เปน็ ธรรมชาตลิ ะเอยี ดอ่อนมากเกินกวา่ ความคดิ คาดคะเนดน้ เดา
จะตามรูต้ ามเห็นได้ ดังน้ันทา่ นจึงสอนใหท้ �ำบุญเสียแตเ่ ม่ือยังมีชีวิตอยู่
บญุ จะไดต้ ิดตัวไปดว้ ย ไม่ต้องหวงั พง่ึ ใครอนั เป็นของไมแ่ น่นอน
298
ถาม
ท่นี มิ นตม์ าสวด กุสลา มาตกิ า นนั้ มผี ลอยา่ งไรแกผ่ ูต้ ายบา้ งปู่
ตอบ
อย่าว่าแตผ่ ูต้ ายจะไดร้ ับผลจากการสวด กุสลา มาติกา เลย แมค้ นเปน็ ท่ีน่ัง
หอ้ มล้อมอยู่ด้วยขวดเหล้าในบริเวณน้ัน ไม่สนใจกับการสวด กุสลา มาติกา
ของพระ ก็ไมเ่ กิดประโยชนอ์ ะไรข้ึนมา การสวดต่างๆ ก็สักแตส่ วดแต่ท�ำไป
อยา่ งนนั้ เอง ไม่ผดิ อะไรกบั นกขนุ ทองพดู ว่า “แกว้ เจ้าขา” สว่ นแก้วเปน็ อยา่ งไร
กไ็ มส่ นใจทราบ ต่อไปจึงนา่ กลวั ศาสนาจะกลายเปน็ เครอื่ งมอื ของโลกไปหมด
ไมม่ ีธรรมคือความจริงแฝงอยู่เลยในพิธีตา่ งๆ จะมีแต่ประเพณีตามใจชอบ
เกลอื่ นไปหมดนน่ั แล
เอาละถามมาก ตอบไปมาก เขาจะว่าป่เู ป็นบา้ กันทง้ั เมือง เร่ืองกจ็ ะไปกันใหญ่
ถาม
ปู่ครับ พวกหลานมากราบเย่ียมปู่ เพราะไดย้ ินกิตติศัพท์เกียรติคุณปู่มานาน
แต่จะไมข่ อรบกวนอะไรมาก มีขอ้ งใจอยอู่ ย่างหน่ึงท่คี นเขาว่า “ตายแล้วสูญ”
ไมไ่ ดเ้ กดิ เปน็ อะไรต่อไปอกี เลยตลอดไป ความจรงิ ทศี่ าสนาสอนใหเ้ ปน็ อยา่ งไรปู่
ตอบ
คัมภีรก์ ิเลสสอนไวว้ า่ บาปไมม่ ี บุญไม่มี นรกไมม่ ี สวรรค์ไมม่ ี นิพพานไม่มี
สตั ว์ทว่ั โลกธาตตุ ายแล้วสญู สน้ิ โดยประการทงั้ ปวง ไมม่ ชี นิ้ สว่ นเหลอื เป็นสาระ
พอให้เกิดต่อไปอีกได้ เหล่าน้ีเคยมผี ู้ถามมามากต่อมากแล้ว และก็ไดต้ อบไป
มากต่อมากเช่นเดียวกัน
ในธรรมของพระพุทธเจา้ ทุกๆ พระองค์ ตรัสสอนไวเ้ ปน็ แบบเดียวกันอยา่ ง
ตายตวั ว่า บาปมี บญุ มี นรกมี สวรรค์มี และนพิ พานมี สตั วท์ ่วั แดนโลกธาตทุ ี่
299
ยังมีกิเลสอวิชชาครองใจ เวลาตายแลว้ ต้องเกิดอีกวันยังค�่ำ เว้นพระพุทธเจา้
และพระอรหนั ต์ผสู้ ิน้ กิเลสโดยสิน้ เชงิ แลว้ เท่าน้นั นอกนนั้ เป็นจำ� พวกตกอยใู่ น
แหลง่ แหง่ ความเกิดแลว้ ตายเล่าตลอดไป จนกว่าจะท�ำใจซ่ึงเปน็ ที่ฝังจมของ
เช้ือแห่งภพชาติให้สิ้นจากเช้ือน้ีโดยส้ินเชิงแลว้ จึงจะส้ินสุดยุติการเกิด-ตาย
อยา่ งหมดเยอ่ื ใย
ใหห้ ลานเลอื กเฟน้ เอาเอง จะเอาคมั ภรี ก์ ิเลสทช่ี ่ือวา่ “คมั ภีรแ์ สนปล้ินปล้อน
หลอกลวงสัตว์” ก็ได้ จะเอาคัมภรี ธ์ รรมท่ีชอื่ ว่า “คัมภีรเ์ ด็ดเพชรน�ำ้ หนึ่งใน
การสงั หารกิเลส” กไ็ ด้ หรอื จะเอาเป็นคาถาว่า กิเลสทกุ ประเภท สรณํ คจฉฺ ามิ
ข้นึ ช่อื ว่ากิเลสแลว้ เราคว้าหมดกไ็ ด้ พทุ ธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ขนึ้ ช่ือว่า
พระรตั นตรัยแลว้ เรานอ้ มรบั หมดก็ได้
ถาม
โอโ้ ฮ คมั ภรี ์ของปนู่ พี้ สิ ดารจรงิ เพงิ่ ได้ยนิ นเ่ี อง ไปเขยี นมาจากไหนปู่ หลานไมเ่ คย
ได้ยินใครพดู มาก่อนเลย
ตอบ
เรยี นมาจากป่าจากเขา จากถำ้� เงอ้ื มผา ปา่ ช้า ป่าชฏั ซอกหว้ ย รมิ ธาร และ
จากความอดอยากขาดแคลน จากความเดนตายในการเรียนการปฏิบัติ
ตามคาถาเหลา่ นี้ ไม่ใชไ่ ดม้ าอย่างสะดวกสบายดังผูม้ าเย่ียมท้ังหลายท่ี
ถามเอาๆ ถ้าอยากร้ปู ระจกั ษก์ บั ตวั เอง ไม่ตอ้ งแบกความสงสยั อนั หนกั หน่วง
ตอ่ ไปว่าตายแล้วเกิดอกี หรอื ตายแล้วสญู กต็ ้องปฏบิ ตั ดิ ว้ ยจติ ภาวนาตาม
ธรรมทที่ า่ นสอนไว้ เมอื่ การปฏบิ ตั แิ ละผลสมบรู ณแ์ ลว้ ค�ำวา่ ตายแล้วเกิด
หรอื ตายแลว้ สญู จะไมน่ อกเหนอื ไปจากการพสิ จู นด์ ว้ ยขอ้ ปฏบิ ตั ไิ ปไดเ้ ลย
ตอ้ งรตู้ ้องเหน็ เพราะเป็นหนทางใหร้ ู้ใหเ้ หน็ ความจริงโดยตรง
300
พระพุทธเจ้าแลพระอรหันต์ทั้งหลายเปน็ จ�ำนวนล้านๆ ล้วนพิสูจนจ์ ากธรรม
ปฏบิ ตั จิ ติ ภาวนาทง้ั สน้ิ ท่านจงึ รไู้ ดเ้ หน็ ไดโ้ ดยไม่ต้องถามกนั และถามใคร แลว้ นำ�
ธรรมเหล่านนั้ มาสอนโลก โดยผลดั เปลยี่ นกนั มาจนถงึ พระพทุ ธเจ้าองคป์ ัจจบุ นั
คอื พระสมณโคดมของพวกเราชาวพทุ ธ ให้ได้กราบไหวบ้ ชู าและปฏบิ ตั ติ ามอยู่
เวลานี้ จะสงสยั ไปไหน กิเลสเคยหลอกโลกใหส้ งสัยและล่มจมมามากต่อมาก
และนานแสนนานแล้ว ท�ำไมจึงไมพ่ ากันเบ่ือหนา่ ยอิ่มพอในโทษของมันบ้าง
พอไดล้ มื ตาอ้าปากเข้าสู่ธรรมดวงประเสรฐิ เลศิ ในไตรภพ
ถาม
ที่วา่ ตายแล้วสูญนั้นเปน็ กลหลอกลวงของกิเลสหรือปู่
ตอบ
ใช่ ร้อยท้ังร้อยล้วนเป็นกลลวงของกิเลสทั้งนั้น ธรรมท่านมิได้หลอกลวงใคร
นอกจากปลุกสัตว์โลกใหต้ ่ืนจากหลับจากหลงไปตามกิเลสเทา่ น้ัน ธรรมท่าน
ไม่หลอกสตั ว์ ธรรมทา่ นเมตตาสตั ว์ ธรรมท่านจรงิ จงั ตอ่ สตั ว์ผ้ทู กุ ข์ยาก อยากให้
พ้นทุกขพ์ ้นภัยถ่ายเดยี ว
ถาม
การเกิด เกิดไดท้ ว่ั ๆ ไปหรอื เกิดได้ในคนในสตั วช์ นดิ เดยี วปู่ เช่น เคยเกิดเป็นคน
แลว้ ตอ้ งมาเกิดเปน็ คนซ้�ำๆ อีกอยูท่ �ำนองนั้น หรืออาจไปเกิดเปน็ สัตว์อ่ืนๆ
กำ� เนิดอน่ื ๆ เป็นเทวดา อินทร์ พรหม ก็ได้ โปรดเมตตาดว้ ยปู่
ตอบ
ตามแต่วิบากดี-ชั่ว ของสัตวแ์ ต่ละรายท�ำไวผ้ ลักดันและหนุนค้�ำใหไ้ ปเกิดใน
กำ� เนดิ ต่างๆ ทงั้ ตำ�่ แลสงู อวชิ ชาคอื กเิ ลสตวั ฝังลกึ อยใู่ นใจเปน็ เชอื้ พาให้สตั วเ์ กดิ
301
วิบากดี-ชั่วพาให้เกิดในก�ำเนิดต่�ำสูง ทุกข์สุขมากน้อยตามก�ำลังวิบากนั้นๆ
สัตว์จะไปเกิดเอาตามความต้องการของตนยอ่ มไม่ได้ ต้องไปตามวิบากดี-ช่ัว
เรื่อยมาและเร่ือยไปอยูท่ �ำนองน้ี ถ้ามีบุญก็ไปสูงและเป็นสุข ถา้ มีบาปก็ไปต�่ำ
และเปน็ ทกุ ข์ ถา้ มบี ญุ มากก็ไปสงู มากและสขุ มากตามวบิ ากบญุ ถา้ มบี าปมาก
กไ็ ปต่�ำมากและทุกขม์ ากตามวิบากบาปผลักไสไป
จงทราบให้ถงึ ใจ ป่พู ดู อยา่ งถงึ ใจวา่ อวชิ ชาในจติ นน่ั แล เปน็ ตวั ยนื โรงทพี่ าให้
สตั ว์เกิด-ตาย เกิด-ตาย วกเวยี นไปมาไมม่ เี วลาจบสนิ้ ลงได้ ถา้ อยากจบสน้ิ
การเกิด-ตาย จงทำ� ลายอวชิ ชาภายในใจออกใหห้ มด เมอื่ อวิชชาสิ้นซาก
การเกดิ -ตาย กส็ น้ิ ซากไปตามๆ กนั อย่างไมม่ ปี ัญหา แตก่ ารตายแลว้ สญู นนั้
มนั เพลงอศั จรรยข์ องอวชิ ชากลอ่ มสตั ว์โลกให้ตาบอดต่างหาก ไมม่ คี วามจรงิ
แม้ ๑เปอรเ์ ซน็ ต์แฝงอย่เู ลยมนั โกหก๑๐๐เปอรเ์ ซน็ ต์แท้ๆจงจำ� จงเขด็ หลาบ
ในเพลงของมัน อยา่ หาญไปลองถา้ ไมอ่ ยากตาบอดตลอดกัปกัลป์ จะว่า
ป่ไู มบ่ อก ปสู่ งสารรบี บอกอยโู่ ต้งๆ นแ่ี หละ ฟังนะ คำ� วา่ ตายสญู ไม่มี อย่าเชอ่ื
อวิชชาอุตริร่ายมนตโ์ กหกสัตวโ์ ลก แตค่ �ำว่า ตายแล้วเกิด นั่นมีทั่วแดน
โลกธาตุ พระธรรมทา่ นประกาศยืนยันเรื่อยมา จงเป็นท่ีลงใจและม่ันใจ
อย่ารวนเร เดยี๋ วอวิชชาคว้าไปตม้ ยำ� ขย�ำกบั น้�ำพรกิ จะว่าปู่ไม่ฉดุ ไมค่ ว้า
เอาไว้ ปล่อยใหจ้ มไปกับมนั เอาละพอกินพอใชข้ นาดนี้แล้ว ไป ปูเ่ หนอื่ ย
ถาม
กราบเรียนถามปูบ่ า้ งเล็กนอ้ ย ขอประทานโทษดว้ ยท่ีมารบกวนเวลาและ
ธาตขุ นั ธป์ ู่ เรอ่ื งทใ่ี หส้ งสยั มอี ย่วู า่ เมอื งไทยเราเป็นเมอื งพทุ ธศาสนา คนนบั ถอื
ศาสนาพุทธอย่างนอ้ ย ๘๐% แตผ่ ลที่แสดงออกทุกสถานทกี่ าลเวลามีแตผ่ ลลบ
ทข่ี ดั แยง้ กบั คนไทยทนี่ บั ถอื พระพทุ ธศาสนา แตล่ ะวนั เวลาแสดงออกแตส่ งิ่ ไม่ดี
เช่น การปลน้ จี้ ลว้ งกระเป๋า ตระบดั ยกั ยอก ตีชิงวิง่ ราว คดโกง รดี ไถ รอ้ ยแปด
ล้วนเปน็ ของไม่ดีและขัดตอ่ ศีลธรรมของชาวพุทธ จึงท�ำให้สงสัยวา่ การนับถือ
302
ศาสนานนั้ นบั ถอื อยา่ งไรกนั เรอ่ื งถงึ ไดเ้ ป็นอย่อู ยา่ งนี้ จะแกไ้ ขอย่างไรจงึ จะตรง
กับเป้าหมายของพุทธศาสนาที่มุ่งหมายให้ผูน้ ับถือเปน็ คนดีมีความสงบสุข
ท่วั หนา้ กัน กรณุ าปู่ช่วยเมตตาชีแ้ จงด้วย
ตอบ
ค�ำวา่ นับถือศาสนากับการปฏิบัติตามหลักศาสนธรรมนั้นมันต่างกันหลาน
การนับถือน้ันคือความยอมรับว่าดี ไม่ขัดไม่แยง้ ไม่แข่งดีแขง่ เด่น ไมด่ ูหม่ิน
เหยียดหยาม ความเทิดทูนไวบ้ นหัวหรือบนเศียรเกลา้ แมจ้ ะปฏิบัติตามไมไ่ ด้
แต่ก็ไม่น�ำกิริยาที่แข็งกระดา้ งอวดอ้างว่าตัวดีตัวเกง่ เข้าไปกล้�ำกรายศาสนา
ยกศาสนาไวบ้ ูชาบนหัวใจอยู่เสมอ น่ีเรยี กว่าความนับถือศาสนา
สว่ นการปฏบิ ตั นิ น้ั คอื ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ศลี หลกั ธรรม ดว้ ยกาย วาจา ใจ ไมล่ ว่ งเกนิ
ฝา่ ฝืนหลักของศีลธรรมท่ีห้ามไว้ ปฏิบัติตามสิ่งที่ศาสนาอนุญาตเทา่ นั้น เช่น
อบุ าสก อบุ าสกิ า และ พระ เณร ผ้ตู งั้ ใจปฏบิ ตั ริ กั ษาศลี ธรรมกนั จรงิ จงั ท่านปฏบิ ตั ิ
ตามจริงๆ ไมล่ ่วงเกินฝา่ ฝืนสิกขาบทนอ้ ยใหญใ่ ดๆ ท้ังสิ้น ทา่ นเคารพแทน
องคศ์ าสดาผปู้ ระสาทศาสนธรรมไว้ น่ีเรยี กวา่ การปฏิบตั ิ
การนับถือแตม่ ิไดป้ ฏิบัติตามหลักศีลธรรม คนเรายอ่ มหลวมตัวท�ำในส่ิงนอก
เหนอื ศลี ธรรมไดด้ งั ทรี่ ู้ๆ เหน็ ๆ กนั อยู่ นน่ั คอื เขามไิ ด้ปฏบิ ตั ศิ ีลธรรม เป็นเพยี ง
นับถือเฉยๆ เชน่ เวลาเดินผา่ นหนา้ วัด หรือมองเห็นพระ ก็ยกมือไหวเ้ สียที
แลว้ เดินผา่ นไป มิไดต้ ้ังหมัดต้ังมวยวางลวดลายเสือโคร่งเสือดาวใสท่ ่าน
อนั เปน็ การดถู กู เหยยี ดหยาม กิรยิ าทเี่ ขายกมอื ไหว้เป็นตน้ เรยี กว่าแสดงความ
นับถือ คนท่ีนับถือศาสนา แมพ้ กอาวุธเต็มตัวเดินผา่ นวัด เขายังน่ังลงยกมือ
ไหวพ้ ระก่อนผา่ นไป แต่กิริยาแหง่ การนับถือเหล่าน้ันมิไดล้ บลา้ งความไมด่ ีที่
เขาจะทำ� และกำ� ลงั ท�ำอยไู่ ดเ้ ลย เพราะมใิ ช่กิริยาที่แสดงออกเพือ่ ความลบลา้ ง
เขาเพยี งยอมรับนบั ถือเท่านั้น ไม่ได้ปฏิบตั ิตามศาสนา
ฉะนน้ั เรอื่ งความเลวรา้ ยทงั้ หลาย มกี ารปล้นจี้ เปน็ ต้น จงึ มอี ย่ตู ามปกติ และอาจ
เพมิ่ มากขน้ึ ตามคนประเภทนม้ี มี ากและความคลอ่ งตวั แหง่ การกระทำ� สว่ นการ
303
ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศีลธรรมน้ัน จะไมม่ เี รอ่ื งเลวร้ายนี้เกิดข้ึนไดเ้ ลยแมเ้ รื่องยอ่ ยๆ
นอกจากความผิดพลาดท่ีไมม่ ีเจตนาเท่านั้นซ่ึงอาจมีไดเ้ พราะเปน็ เหตุสุดวิสัย
เชน่ ยางรถระเบิดกลางทางขณะท่รี ถว่งิ สวนกนั มา หรือรถท่ีตามหลังมาตดิ ๆ
หา้ มลอ้ ไมอ่ ยู่ หรอื ระเบดิ ในทช่ี มุ นมุ ชนและรถรามาก ย่อมมีทางผิดพลาดและ
เกดิ เหตกุ ารณ์ได้ไมเ่ ลอื กกาลสถานที่ นอกจากเหตสุ ดุ วสิ ยั แลว้ ผปู้ ฏบิ ตั ติ ามหลกั
ศาสนธรรมจะไม่ท�ำ อันการปลน้ จี้ซึ่งเปน็ สิ่งเลวรา้ ยหยาบโลนมากน้ัน นับว่า
หา่ งไกลกับผู้มศี ีลธรรมมาก ไม่ตอ้ งพูดถึง อย่างไรท่านเหลา่ นจ้ี ะไมล่ งใจทำ� ได้
ลงคอเลย บา้ นเมืองและทรัพย์สมบัติสงบเย็นทุกหยอ่ มหญ้านั่นแล สมบัติ
เงนิ ทองของมคี ่าจะทงิ้ ไว้ทไ่ี หนกท็ งิ้ ไว้ไดร้ าวกบั บ้านเรอื นของตนนน่ั แล ต่างคน
ต่างมีความรูส้ ึกและปฏิบัติอยา่ งเดียวกัน แบบเดียวกัน ตามหลักศีลธรรม
อันเดียวกัน โลกย่อมสงบรม่ เย็น มองเห็นหนา้ กันทักทายกันด้วยความสนิท
จิตใจเมตตาอารี ไม่ถือดีถือเด่นอันเปน็ เรื่องของกิเลสพองตัวยั่วธรรมและ
ความดี คนดที งั้ หลายมคี วามเยอ่ื ใยไมตรสี นทิ สนมราวกบั อวยั วะอนั เดยี วกนั ดว้ ย
สมานัตตตาธรรม ความไมถ่ ือตัวเป็นเคร่ืองสมัครสมาน จะไปไหนไปได้
อยูไ่ หนอยู่ได้ ไม่มีภัย เพราะตา่ งคนตา่ งมีจิตใจกลมกลืนไปดว้ ยอภัยธรรม
เมตตาธรรม กรุณาธรรม มุทิตาธรรม ความพลอยยินดี ไมอ่ ิจฉาริษยา
เมอ่ื คนอน่ื ไดด้ ี อเุ บกขาธรรม ให้ความสมำ�่ เสมอ ไม่มองกนั ในแงร่ ้ายหมายโทษ
โกรธเคือง มคี วามเคารพรักกนั ท้งั ผู้ใหญผ่ ู้นอ้ ยตามลำ� ดับลำ� ดา
ฉะนนั้ ผปู้ ฏบิ ตั ธิ รรมจงึ เป็นผทู้ �ำประโยชนแ์ กส่ ่วนรวมและแก่โลกได้เป็นอย่างดี
อยา่ งเด่นในปวงชน น่แี ล การนบั ถือศาสนาเฉยๆ กับการปฏิบตั ิศาสนา มผี ล
ผดิ กนั ดงั ทก่ี ล่าวมา ถา้ อยากให้บ้านเมอื งสงบรม่ เยน็ ตา่ งคนกจ็ �ำตอ้ งปฏบิ ตั ติ วั
ตามหลักศีลธรรม ไมล่ ว่ งเกินฝา่ ฝืน ซง่ึ เป็นการท�ำลายตนและศีลธรรมไปด้วย
ในตวั ของผนู้ นั้ ถ้ามแี ตอ่ ยากใหบ้ า้ นเมอื งมคี วามสงบรม่ เยน็ ปราศจากโจรผ้รู า้ ย
แต่ตัวเองกลับเป็นโจรผูร้ า้ ย เปน็ ผูก้ อ่ กวนท�ำลายบา้ นเมืองและทรัพย์สมบัติ
ของประชาชนเสยี เองแล้ว จะหาความสงบร่มเยน็ มาจากไหน แม้แผ่นดนิ สลาย
แตค่ วามชวั่ จากคนชว่ั กไ็ มส่ ลายไปตาม สตั ว์ บคุ คล มอี ยบู่ นอากาศ พวกเลวร้ายนี้
304
ก็จะตามไปกอ่ กวนท�ำลายใหส้ มบัติเงินทองและจิตใจคนและสัตว์ใหพ้ ินาศ
ขาดสูญอยูน่ ่ันแล เน่ืองจากความช่ัวมิได้ขึ้นอยู่กับดินฟา้ อากาศ แต่ข้ึนอยู่กับ
คนโดยเฉพาะ คนท�ำดีคนจึงร่มเย็น โลกท�ำดีโลกจึงรม่ เย็น เร่ืองความจริง
มดี ังที่กลา่ วมา
ดงั นนั้ ถา้ อยากเหน็ ความวเิ ศษศกั ดสิ์ ทิ ธข์ิ องศาสนธรรม ผนู้ บั ถอื ศาสนาจงึ
ควรปฏบิ ตั ติ ามหลกั ของศาสนา อยา่ เพยี งนบั ถอื เฉยๆ ราวกบั เดก็ เลน่ ต๊กุ ตา
กลางสนามหญา้ เพราะศาสนามใิ ช่ต๊กุ ตาพอจะถกู บบี ถกู คน้ โยนไปเหวยี่ งมา
อยู่เฉยๆ แต่ศาสนาเปน็ ธรรมศักด์สิ ทิ ธิว์ ิเศษสมนามจริงๆ ถ้าอยากทราบ
ความศักด์ิสิทธ์ิของศาสนาและของตัวเองก็จงปฏิบัติ จงพิสูจน์กันตรงน้ี
อย่าถือศาสนาเพื่อเป็นข้อแก้ตวั และประดบั เกยี รติ จะไมผ่ ดิ กับลิงไดแ้ ก้ว
เด็กได้ตุ๊กตา
เฉพาะพุทธศาสนากระเทือนโลกมาได้ ๒๕๖๐ กว่าปนี ้ีแล้ว (นับเวลายังทรง
พระชนมเ์ ขา้ ดว้ ย) ได้กระเทือนจิตใจของเราชาวพทุ ธบ้างหรอื ยัง จงต้งั ปัญหา
ถามตัวเอง อย่าไปถามใคร เพราะไมม่ ีใครรู้ยิ่งกวา่ เรารูเ้ ราวา่ บกพร่องหรือ
สมบูรณ์ในด้านศีลธรรม ถา้ ทุกคนสนใจต้ังปัญหาถามตนดังท่ีกล่าวมา ความ
ดดั แปลงแกไ้ ขตวั เองและสงั คมตลอดสว่ นรวมจะตามมาเพอ่ื จดุ สมบรู ณ์พนู ผล
ผคู้ นต่างจะคอ่ ยสงบสขุ เยน็ ใจขนึ้ โดยลำ� ดบั ไมอ่ าจสงสยั เพราะศาสนธรรมเปน็
เครื่องยนื ยันรับรองความสงบสุขของโลกมามากตอ่ มากแล้ว นอกจากผ้นู บั ถือ
เก็บศาสนาเขา้ ตูด้ องไวร้ าวกับผักและผลไม้เสียเทา่ นั้น ศาสนาจึงออกแสดง
ความจริงอันศกั ดิ์สิทธ์วิ ิเศษเตม็ ตามคณุ ภาพที่มอี ยู่ของตนไม่ได้
ธรรมเครอ่ื งทำ� ลายสง่ิ ชว่ั รา้ ยทง้ั หลายมหี ลายประเภท กิเลสชนดิ หยาบโลน คอื
ราคะตัณหา ความคึกคะนองน้�ำล้นฝงั่ ก็น�ำศลี ขอ้ กาเมสุ มิจฉาจาร เขา้ ปราบ
ซึ่งปราบได้ทุกประเภทของราคะตัณหา ไมม่ ีตัณหาตัวไหนจะเก่งกล้าเลยศีล
ข้อเด็ดๆ น้ไี ปไดถ้ า้ น�ำมาปราบ นอกจากปล่อยตวั ให้ราคะตัณหามนั ปราบราบ
โดยไม่คดิ ต่อสู้ เพอื่ กชู้ าตมิ นษุ ยอ์ นั สงู ศกั ดไ์ิ ว้เท่านนั้ กไ็ ม่มใี ครช่วยได้ ปลอ่ ยให้
เป็นเศษมนุษย์ไปตอ่ หนา้ ต่อตาที่น่าเสียดายและทุเรศ ขอ้ โลภมากปากกว้าง
305
พุงโตกวา่ ภูเขา ก็น�ำธรรมข้อธรรมสันโดษหรือความมักน้อยมาปราบก็อยู่เอง
ไม่กลา้ หอื ได้ หรอื จะนำ� มรณสั สติ ขอ้ ระลกึ ถงึ ความตายมาปราบ ว่าจะมวั แตโ่ ลภ
อยูน่ น้ั ไม่มองดคู วามตายทีอ่ า้ ปากจะกลืนหมดทง้ั ตวั อยทู่ ุกลมหายใจบา้ งหรือ
ตายแลว้ เคยเห็นใครร้ือขนครอบครัวสมบัติเงินทองกองมหึมาไปดว้ ยไดเ้ ล่า
รู้หรือยังวา่ ความโลภมันหลอกให้ลืมตายลืมป่าชา้ นั่นนะ่ กิเลสตัวโลภมากๆ
มันเคยพาผูใ้ ดใหม้ ีความสุขสบายมีไหม เห็นแต่โลกมากเท่าไร ย่ิงทุกข์มาก
เทา่ นั้น ไดเ้ ทา่ น้ีแล้วมันตอ้ งหลอกวา่ ให้ไดเ้ ทา่ น้ันๆ จนตาย ก็ตายไปเปล่า
ไมม่ ีค�ำว่าอ่ิมพอจากกิเลสตัวโลภมาก กระตุกเจา้ ของเพียงท่ีกล่าวมานี้ กิเลส
ตัวโลภมหาภัยกส็ ยบลง ไมก่ ล้าลกุ ลามปามไปมากเลย นแ่ี ลธรรมปราบกิเลส
ตวั โลภมาก
ถ้าอยากมีความสุข จงพากันน�ำไปปราบกิเลสตัวไฟลามทุง่ ใหด้ ับมอดลง
ใจจะเป็นสุขอย่างไม่คาดไม่ฝัน ที่จะใหม้ ีความสุขเพราะความโลภมากจนให้
เพียงพอน้ัน จนวนั ตายก็ตายไปเปลา่ ท้งั ท่หี ิวโหยด้วยความอยากความโลภอยู่
นน่ั แล จะไมม่ วี นั พอตลอดกปั กลั ป์หรอื เลยนนั้ ไปเป็นแสนกปั ลา้ นกลั ป์ เพราะสตั ว์
ในแดนโลกธาตุน้ี ไมเ่ คยมีสัตว์โลกรายใดมีความสุขเพราะความโลภมากและ
เพราะมันพอตัว อิ่มตัว นอกจากลดความโลภลงดว้ ยธรรมโดยล�ำดับจนไมม่ ี
เหลอื ภายในใจเท่านั้น จงึ จะถงึ หนองอ้อแหง่ ความสุขอนั แทจ้ รงิ วา่ ออ้ ใจไม่มี
ความโลภ สขุ อยา่ งอศั จรรย์อย่างนลี้ ะหรอื ใจไม่มคี วามอจิ ฉารษิ ยาผ้อู นื่ มคี วาม
สขุ อศั จรรยอ์ ยา่ งนหี้ รอื ใจไมม่ รี าคะตณั หานำ้� ลน้ ฝ่งั ท่วมหวั ใจ บบี บงั คบั ขยขี้ ยำ�
หัวใจ เป็นความสุขอัศจรรยอ์ ยา่ งน้ีหรือ หนองออ้ อุทานความสุขจะผุดขึ้นท่ี
ใจดวงนนั้ เองในทนั ทที นั ใดทกี่ เิ ลสตวั มหาภยั ทงั้ หลายเหล่านหี้ ลดุ ลอยไปจากใจ
ฉะน้ัน การนำ� ธรรมมาปฏบิ ัติ ธรรมกศ็ กั ดิส์ ิทธ์ใิ นตวั เรา แม้เราเองก็ศักดิส์ ทิ ธ์ิ
ต่อตัวเอง และยังจะเปน็ ท่ีเคารพนับถือและเป็นที่ยึดเหนี่ยวของผู้อื่นอีก
มากมายจนถงึ ขน้ั หาประมาณไมไ่ ดโ้ นน่ แล นค่ี อื ผลแห่งการปฏบิ ตั ธิ รรมเหน็ ผล
อยัมภทนั ตา ผดิ กับการนบั ถือเฉยๆ ลอยๆ อยู่มาก จงจดจ�ำเอาไปปฏบิ ตั ิเพอื่
ความศกั ดิส์ ิทธแ์ิ กต่ ัวเองก็พอตวั แลว้
306
ถาม
แหม ความโลภมาก อยากไมม่ คี วามพอดเี ปน็ เบรกห้ามลอ้ น้ี มนั ทำ� คนให้เสยี คน
ไดจ้ ริงๆ นะทา่ นปู่ ธรรมวันนถี้ ึงใจ นับแตเ่ กิดมากม็ ีวนั น้ีทีป่ นู่ ำ� ความโลภออก
ประกาศโทษใหก้ ระผมร้แู ละเข้าใจอยา่ งลกึ ซึ้งจริงๆ
ตอบ
ราคะ ตัณหา ความโลภ ความโกรธ เม่อื เทยี บทางโลกแล้วกค็ อื ตัวมหาภยั
มหาอำ� นาจบบี หวั ใจสตั วน์ น่ั แล จะเป็นบญุ เปน็ คณุ อะไรเพราะมนั ทง้ั สามนี้
ทม่ี นั สนกุ เรอื งอำ� นาจกเ็ พราะสตั ว์โลกเคารพบชู ามนั นน่ั เอง เวลานท้ี วั่ โลกกำ� ลงั
เทดิ ทนู และบชู ามนั อยา่ งเปิดเผยและออกหน้าออกตา ไม่สะดดุ ใจกระดากอาย
ธรรมเครื่องปราบมันบา้ งเลย อะไรๆ กเ็ ป็นศิลปะไปหมด ปูก่ ไ็ ม่ทราบวา่ ศิลปะ
มนั คืออะไร มันคอื การเห่าหอนอกึ ทกึ ทวั่ บา้ นท่วั เมืองในฤดูเดือน ๑๒ นน่ั หรอื
มันคือตวั โลภมากๆ จนหมดยางอาย พลกิ กินควำ�่ กินหงายกิน กินทัง้ สนั ทั้งคม
กินท้ังข้ึนทั้งลอ่ ง กินไมอ่ ัดไมอ่ ้ัน ขอแตม่ ีช่องกินน่ันหรือ หรือมันคือตัวแดงๆ
ตาแดงๆ เหมือนพริกสุก เวลามันแสดงฤทธ์ิเต็มท่ีกับสิ่งที่ไมพ่ อใจนั่นหรือ
นีห่ รือศลิ ปะๆ ที่โลกนิยมกันนะ่
หลาน
มใิ ช่ ท่านปู่ ค�ำวา่ ศลิ ปะ คอื ความฉลาดรอบรใู้ นสิ่งต่างๆ รอบตวั หรือเรียกว่า
ศลิ ปวทิ ยา ความรูใ้ นแงต่ ่างๆ เชน่ ชา่ งจกั สาน ช่างบ้านชา่ งเรอื น ช่างวิชาชีพ
แขนงต่างๆ เหลา่ น้ีรวมแล้วเขาเรยี กวา่ ศลิ ปะ
หลวงปถู่ าม
อย่างนนั้ หรอื ป่เู กดิ มาแก่แดดแก่ลมเปลา่ ๆ ไมร่ ้ศู ลิ ปะกบั เขา ทางโลกกเ็ คยครอง
อยูห่ ลายปีก่อนออกบวช แตส่ มัยน้ันไม่เคยสนใจกันในค�ำวา่ ศิลปะละแปะ
เหมือนคนสมัยปจั จุบันซ่ึงรู้ไปเสียทุกแง่ทุกมุม แต่สังเกตดูคนสมัยปู่โนน้ เขามี
307
ความสขุ กนั อย่างธรรมชาติ สขุ เรยี บๆ สขุ ไมแ่ พรวพราวผาดโผนเหมอื นคนสมยั น้ี
ดแู ล้วผิดกันอยู่มาก ถ้าเปน็ อาหารก็อาหารธรรมชาติ ไมม่ หี ลายรสหลายชาติ
เหมอื นอาหารในสมยั ปจั จุบนั ซง่ึ หลากรสหลากสีทส่ี ุด คนโง่ๆ อย่างปูเ่ ลยไม่
รจู้ กั กินกบั เขา ทงั้ ไมร่ ้เู ปน็ คาวเปน็ หวานดว้ ยทสี่ ามารถปรงุ อาหารหวานคาวได้
หลายรสหลายชาติเชน่ นีก้ ็เรียกวา่ ศิลปะ ใชห่ รอื เปลา่
หลาน
ใช่ จดั เปน็ แขนงหนึง่ ของศลิ ปะแหละทา่ นปู่
หลวงปู่
ส�ำหรับปูเ่ องซ่ึงแก่จวนจะเข้าอูอ่ ยู่แลว้ มันเฉยๆ ไม่กระตือรือรน้ กับสิ่งเหลา่ น้ี
มอี ะไร กิน อะไรทีไ่ มก่ ังวลสิ้นเปลอื งก่อความทกุ ข์ความฉิบหายมากเกินความ
พอดีแลว้ พอกินพอใช้ท้ังนั้น แล้วก็เป็นสุขดี ไมห่ มุนตัวเป็นเกลียวไปกับมัน
คนเราเมื่อหาความสบาย อะไรมันสบายก็ควรใฝ่ใจและหมุนตัวไปทางนั้น
ถา้ เหน็ โทษของกิเลสตัวฟงุ้ เฟ้อเหอ่ เหมิ ตามทางของชาวพุทธ นอกจากจะเห็น
คุณค่าของมันท่ีพาโลกให้เป็นกังหันหนา้ ซีดเซียว มองกันไมท่ ่ัวหนา้ ฆา่ กัน
ราวกบั ใบไม้ร่วง ก็เปน็ กรรมของสตั วเ์ อง แมธ้ รรมเครอ่ื งแกก้ ิเลสแลกองทกุ ข์
มีอยูก่ ็ชว่ ยอะไรไมไ่ ดถ้ ้าเจ้าของไม่น�ำออกมาช่วยตัวเอง เชน่ เดียวกับปืนมีอยู่
แตไ่ ม่นำ� ออกมาตอ่ สู้เสือที่ก�ำลงั ค�ำราม ปล่อยใหเ้ สอื กัดตายเปล่าๆ ฉะน้ัน
ถาม
ขอกราบถามป่เู รอ่ื งพระธดุ งคกรรมฐาน ไดท้ ราบเขาเล่าลอื วา่ พระธดุ งคกรรมฐาน
สายทา่ นพระอาจารยม์ น่ั ภรู ทิ ตั ตเถระ ทางภาคอสี านมมี ากกวา่ ภาคอน่ื ๆ ใชไ่ หมปู่
308
ตอบ
ดจู ะมมี ากดงั คำ� เขาเลา่ ลอื เพราะป่าทางภาคอสี านยงั มอี ย่มู ากพอหลบซอ่ นตวั
บ�ำเพ็ญภาวนาได้สะดวก ประการส�ำคัญผูใ้ ห้ก�ำเนิดกรรมฐานในสมัยปัจจุบัน
คือ ทา่ นหลวงปู่เสาร์ หลวงป่มู น่ั ทา่ นกเ็ ป็นคนภาคอีสาน เวลาบวชแล้วทา่ น
มักบ�ำเพ็ญอยู่ทางภาคอีสานมากกวา่ ภาคอ่ืนๆ ย่ิงวาระสุดท้ายแห่งอายุทา่ น
กอ็ ยู่ภาคอีสานและมรณภาพท่ภี าคนีท้ ้งั สององค์ เวลาทา่ นยงั มีชวี ติ อยูก่ ไ็ ด้ให้
การอบรมพระเณรเป็นจำ� นวนมาก ฉะน้นั พระธดุ งคกรรมฐานจงึ มักมีอยทู่ าง
ภาคอีสานมากกวา่ ภาคอ่ืนๆ
ถาม
เวลานีย้ งั มีมากอยู่หรือเปล่า
ตอบ
ยงั มมี ากอยู่ แต่ครอู าจารย์ทปี่ ระชาชนพระเณรเคารพนบั ถอื รสู้ กึ รว่ งโรยไปมาก
องค์น้ันร่วงไป องคน์ ร้ี ว่ งไป ซง่ึ มีแต่องค์สำ� คัญๆ ทางจิตภาวนาแทบทั้งสน้ิ
ถาม
เวลานย้ี งั มีองค์ใดบา้ งท่ีส�ำคญั ทางจติ ภาวนา ปู่จะพอเมตตาบอกลูกหลาน
ตอบ
เรอ่ื งเมตตานนั้ เมตตา แตไ่ ม่อาจบอกได้ เพราะท่านไมใ่ ช่ปลาเนา่ พอจะประกาศ
ขายทอดตลาดนี่
309
ถาม
กเ็ หน็ ทา่ นพดู กนั อย่วู า่ องค์นนั้ เป็นอย่างนนั้ องค์นนั้ ดที างนน้ั องค์นนั้ ดที างโน่น
ส�ำหรบั ป่ทู ำ� ไมบอกไม่ได้
ตอบ
ปู่ไมม่ ภี ูมใิ นทางท�ำนายทายทักทา่ นผูใ้ ดได้ แมป้ เู่ องยงั ไมเ่ หน็ ทำ� นายตวั เองได้
วา่ จะตายเมอ่ื ไร ร่างกายแก่มากขนาดนแ้ี ลว้ ซงึ่ น่าจะพอทำ� นายตวั เองได้ จะไป
อวดเกง่ เท่ยี วท�ำนายท่านผ้อู ื่นอยา่ งไรกัน เพราะธรรมไมเ่ หมอื นโลกไม่เหมือน
ภาพยนตร์พอจะประกาศโฆษณาใหค้ นมาชมแบบภาพยนตร์นี่
ถาม
เมอ่ื ไมป่ ระกาศบา้ ง พระธดุ งคกรรมฐานท่านจะร้ไู ด้อยา่ งไรว่าครอู าจารย์องค์ใด
ดีทางใด องคใ์ ดมีความรู้ความสามารถทางสมถวิปสั สนา วิชาวิมุตติ องค์ใด
ได้ขนั้ ใดภมู ใิ ด พระธดุ งค์ทง้ั หลายจงึ จะมาศกึ ษาอบรมกบั อาจารยอ์ งค์นนั้ ๆ ได้
ถกู ตอ้ งไมผ่ ิดพลาด
ตอบ
พระธุดงคกรรมฐานผู้แสวงหาความรคู้ วามฉลาด แต่ถา้ จะโง่ขนาดนัน้ กไ็ ม่ควร
อยู่ใหห้ นักศาสนา เพราะพระพุทธเจา้ มิไดส้ อนคนสอนพระให้โง่ แตส่ อน
เพื่อความฉลาดทุกแงท่ ุกมุมแหง่ ธรรมท่ีตรัสไว้ชอบแลว้ อยา่ งหลวงปูเ่ สาร์
หลวงปูม่ ่ัน ไมเ่ ห็นทา่ นประกาศตัวเองว่ารู้และฉลาดในธรรมแงใ่ ด ท่านชอบ
บ�ำเพ็ญตนอยู่แตใ่ นปา่ ในเขาเป็นประจ�ำจนเปน็ นิสัยราวกับทา่ นไมเ่ คยเกิดกับ
บ้านอยู่กับเมืองเลย แตค่ รูอาจารย์ใดล่ะจะมีลูกศิษย์ลูกหาท้ังพระเณรและ
ประชาชนฆราวาสมากกวา่ ทา่ นท้ังสองน้ี ทา่ นเหล่านี้รู้ได้อย่างไรจึงพากัน
หลั่งไหลไปศึกษาอบรมกับทา่ นจนกระท่ังทา่ นละขันธ์ ลูกศิษย์ทา่ นมีมาก
ท่วั ประเทศไทยกระท่ังประเทศลาวโนน่ ท่านเหล่านนั้ รู้ได้อยา่ งไร
310
ให้ตนไปร้ไู ปเหน็ เอง ฟังเอง สงั เกตเอง ทกุ แง่ทกุ มมุ บรรดาอาการทแี่ สดงออก
จากทา่ นนั่นแล มันถนัดชัดเจนดี ดีกว่าตื่นข่าวกันแบบลมๆ แล้งๆ สุดท้าย
กห็ าตวั หาตนไมไ่ ด้เปน็ ไหนๆ พระธดุ งคกรรมฐานสายหลวงป่มู น่ั มาดง้ั เดมิ นน่ั
ทา่ นเป็นธรรมไม่มโี ลกเข้าแฝงเลย ไม่พดู พลา่ มเรอื่ งอะไรๆ เกยี่ วกบั อรรถ
กบั ธรรมอยา่ งงา่ ยดาย ท่านพดู เฉพาะพวกเดยี วกนั ทม่ี คี วามรทู้ างจติ ภาวนา
คล้ายคลงึ กนั และไว้ใจกนั ท่านจะพดู เรอ่ื งธรรมปฏบิ ตั ลิ ้วนๆ ต่อกนั ใครร้เู หน็
อยา่ งไรจากการปฏบิ ตั จิ ติ ภาวนา ทา่ นคยุ ธรรมปฏบิ ตั กิ นั อยา่ งเอาจรงิ เอาจงั
ฟงั แลว้ เพลนิ ไม่อยากใหจ้ บลงอยา่ งง่ายๆ เรอ่ื งทที่ ่านจะพดู ธรรมภายในใจ
เชน่ สมถะ - วิปสั สนา สมาธิ สมาบตั ิ มรรคผลนิพพาน ทต่ี นรู้ตนเหน็ ให้
ใครๆ ฟังแบบพล่ามๆ น้ัน อยา่ ฝนั ลมฝันแลง้ ว่าจะได้ยินจากท่านง่ายๆ
ก็ทา่ นไม่พูดนี่ ทา่ นท�ำตัวราวกับพระเซ่อบัดซบน่ันแล ถ้ายังไมส่ นิทกัน
สมมุติมีใครไปตีสนิทในขณะที่ไปพบเห็นทา่ นครั้งแรก ปากบอนอวดรู้
ต้พู ระไตรปฎิ กเตม็ พงุ พดู คยุ อวดทา่ นเรอื่ งสมาธิ สมาบตั ิ มรรคผลนพิ พาน
ทิพยโสต ทิพยจักษุ ตลอดอภิญญาพิสดารตา่ งๆ ท่านจะปดิ ปากอยา่ ง
สนิทเลย แตจ่ ะคอยฟงั แงห่ นักเบาแห่งธรรมจากผูม้ าคุยดว้ ยทุกๆ ระยะ
ไมค่ ลาดเคล่ือนเลื่อนลอยจนจบ หากเปน็ ธรรมเกิดจากภาคปฏิบัติจริงๆ
และเจตนาเป็นธรรมของผู้มาคุยด้วย ทา่ นจะชว่ ยแนะให้ตามล�ำดับแห่ง
จุดที่ผู้น้ันยังบกพร่องโดยท่ีตนไม่รูไ้ มเ่ ข้าใจ แต่จะถามทา่ นสุม่ สี่สุ่มหา้ นั้น
ทา่ นไม่เลน่ ดว้ ย และหาทางออกตัวโดยอบุ ายต่างๆ เช่น ผมหรอื อาตมา
ไมร่ ้ไู ม่เขา้ ใจ เปน็ ตน้ และปิดปากเงยี บ
นี่คือนิสัยของพระธุดงคกรรมฐานที่ทา่ นเป็นธรรมและรักสงวนธรรม
โดยมากทา่ นปฏิบัติกันอยา่ งน้ี แมจ้ ะรู้เห็นธรรมมากนอ้ ยลึกตื้น
หยาบละเอียดเพียงไร ท่านจะพูดคุยในวงและคณะของท่านโดยเฉพาะ
ทา่ นไม่ประกาศโฆษณาตนและธรรมแบบโลกๆ เพราะท่านทราบว่า
โลกกับธรรมนัน้ ต่างกันแมจ้ ะอยดู่ ว้ ยกนั ท่านจึงรกั สงวนธรรม
311
ส่วนพวกเราประเภทขายกอ่ นซ้ือ เนา่ กอ่ นสกุ สุกกอ่ นหา่ ม พลา่ มกอ่ นรู้ พอมา
เจอกนั เปน็ ยงั ไงจติ ถงึ ไหนแล้ว ถงึ พรหมโลกหรอื ยงั ไดไ้ ปเทยี่ วสวรรคไ์ หมคนื น้ี
ไดไ้ ปดูสัตวน์ รกบา้ งไหมคืนน้ี ไดต้ รวจดูจิตผมไหมคืนนี้ ได้ตรวจดูจิตคน.....
นนั้ ไหม ทเ่ี ขามาขอให้ตรวจดใู หน้ ่ะ ผมเองยงั เลยเพราะย่งุ กบั ตรวจดกู รรมของ
.....เขา เขามาใหต้ รวจดใู ห้ คนื นย้ี งั จะต้องตรวจดกู รรมเวรของ.....เขา คนนก้ี รรม
หนามาก ระโยงระยางด้วยสายกรรมสายเวรจนแทบมองไม่เหน็ ตัวจรงิ คุ้ยเข่ยี
ตัดฟันกันยกใหญก่ วา่ จะไดค้ วามจริงออกมาบอกเขา คนน้ีตอ้ งให้เขาท�ำบุญ
อุทศิ ให้เจ้ากรรมนายเวร โรคเขาจงึ จะบรรเทา แต่หายนัน้ ไม่หายแน่เพราะเขา
ยงั มกี รรมหนกั มาก ปกตผิ มหรอื อาตมาไมว่ ่าง ต้องช่วยเพอื่ นมนษุ ยต์ ลอดทงั้ วนั
ทั้งคืน ตอ้ งแนะต้องบอกใหเ้ ขาสะเดาะเคราะหเ์ พราะระยะน้ีดวงเขาไมด่ ีเลย
ดาวอะไรตอ่ ดาวอะไรทบั กนั ยงุ่ หมด และตอ้ งแนะตอ้ งบอกหลายดา้ นหลายทาง
เพราะคนหนง่ึ ๆ ลว้ นหาบเคราะห์หาบกรรมมาใหเ้ ราดู เราช่วยแทบเปน็ แทบตาย
ท่านไมไ่ ดเ้ หมือนพวกเราชาวฉลาดก่อนโง่ดงั ทีก่ ลา่ วมา
พระธดุ งคกรรมฐานองคใ์ ดรายใดกต็ ามแสดงออก จะเปน็ สมัยหลวงปู่ม่นั
ยังอยหู่ รอื ปจั จบุ ันนีก้ ็ตาม องคน์ นั้ รายนน้ั จะอยูก่ ับหมู่คณะไม่ได้ พระทา่ น
รงั เกียจ อย่างน้อยท่านกซ็ ุบซิบกัน มากกว่าน้นั ก็ทำ� เรอ่ื งขึน้ หาครูอาจารย์
เพื่อเรียกมาช�ำระอธิกรณ์ นรก - สวรรค์ ให้ส้ินไปจากวัดจากหมูค่ ณะ
เพราะแบบน้ีมันแบบหากิน มใิ ช่แบบหาอรรถหาธรรมดังพระพุทธองค์แล
สาวกพาหา เข้าใจไหม อยา่ ว่าปูด่ ุนะ เราพูดตามความจริงของวงกรรมฐาน
สายหลวงปเู่ สารห์ ลวงปู่มนั่ ท่าน
312
ถาม
แหมซึ้งมากปู่ วันน้ีฟังการปฏิบัติธรรมของวงพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่
เสาร์ หลวงปมู่ นั่ อย่างถงึ ใจและเป็นคตไิ ปนาน แต่ก่อนป่ไู มเ่ หน็ เล่าวงพระธดุ งค์
เหล่าน้ีใหห้ ลานๆ ฟังบา้ ง
ตอบ
ใครมากพ็ ดู ใครมากพ็ ล่าม ใครมาหากฟ็ งุ้ บา้ นำ้� ลายทะลฟุ ้า เรอื่ งพระธดุ งคกรรมฐาน
สายหลวงปเู่ สาร์ ปู่มน่ั ไม่ทราบเขามาหาเพ่ือเร่ืองราวอะไร ตะก้นี ีก้ ็พดู กนั อยู่
แล้วสดๆ ร้อนๆ ยังจะเปน็ ผู้รับเหมาเรื่องเหลา่ น้ันเสียเองอะไรกัน การพูด
ควรพดู เรอ่ื งอะไรทเี่ หมาะกบั กาลสถานทบ่ี คุ คลค่อยพดู ไมใ่ ช่ใครมาหากจ็ ะพดู
แตเ่ รอ่ื งเดยี ว เขากเ็ ออื มกนั ทวั่ โลกละซิ นหี่ ลานๆ ถาม กพ็ ดู กนั ไปตามเรอื่ งราว
ทีอ่ ยากทราบอย่างน้นั เอง
ถาม
ครง้ั พทุ ธกาลเทย่ี วธดุ งคกรรมฐานกบั สมยั นท้ี ค่ี ณะธดุ งคข์ องปเู่ สาร์ ปมู่ นั่ และปู่
เที่ยวต่างกนั หรือเหมอื นกันปู่
ตอบ
ถ้าดูตามพุทธประวัติ สาวกประวัติ ตลอดท่านจารึกไวใ้ นคัมภีร์ ก็คิดว่า
เปน็ ปฏิปทาท่ีลูกศิษย์เดินตามครู แตจ่ ะพูดว่าเหมือนคร้ังพุทธกาลน้ัน
ป่ไู ม่อาจเออ้ื ม เพราะระหวา่ งพญาราชสหี ก์ บั หนนู น้ั ผดิ กนั มาก จงึ ไมค่ วรน�ำมา
เทียบกัน การกราบไหว้ ท่านปฏิบัติตามธรรมท่ีท่านทรงเมตตาสั่งสอนนั้น
เหน็ วา่ เปน็ สามจี กิ รรมเหมาะสมแล้ว จงึ ตะเกยี กตะกายปฏบิ ตั กิ นั ไปดงั ทเี่ หน็ ๆ
กนั อย่นู ้ีแหละ
313
ถาม
ทปี่ ่วู า่ ธรรมไดม้ าจากความอดอยากขาดแคลนและเดนตายนน้ั อดอยากอย่างไร
ปไู่ มม่ ใี ครใส่บาตรใหฉ้ นั อย่างนั้นหรอื
ตอบ
เร่อื งคนใสบ่ าตรนั้นมี พระกรรมฐานไปอยู่ที่ไหน ตามธรรมดาแลว้ ไม่อดอยาก
ด้วยปัจจัยสี่ เพราะเขาเคารพเล่ือมใสเป็นพื้นเพของใจอยู่แล้ว ท่ีว่าอดอยาก
ขาดแคลนนนั้ เป็นเพราะท่านฝกึ ทา่ นทรมานท่านเองเพอื่ อรรถเพอ่ื ธรรมทท่ี า่ น
มุง่ ม่ันอยากรู้อยากเห็น ทา่ นจึงฝึกทรมานดว้ ยการปฏิบัติโดยวิธีต่างๆ เชน่
เอาอาหารแต่นอ้ ยแมม้ มี าก ฉนั นอ้ ยๆ แม้อาหารมมี าก ไม่ฉนั ทง้ั ไม่ไปบณิ ฑบาต
เปน็ วันๆ ไปเป็นคร้งั คราวเพื่อเรง่ ภาวนาให้หนกั ข้นึ
ถาม
ไม่อดอาหาร ไม่ผ่อนอาหาร ไม่อดอยากขาดแคลน ภาวนาไมไ่ ด้หรือปู่
ตอบ
ภาวนาได้ แตจ่ ะได้ผลเพียงไรหรือไม่น้ันเป็นอีกกรณีหน่ึง ดังชาวบา้ นเขา
ภาวนากนั เขากไ็ มอ่ ดไมผ่ ่อนอาหารไม่ทรมานมาก เขากภ็ าวนาได้ แต่ผลของเขา
เป็นอย่างไร ปูไ่ มไ่ ด้ถามเขา
314
ถาม
การฝกึ ทรมานดว้ ยวิธีต่างๆ ดงั ทีก่ ลา่ วมาน้นั ได้ผลอยา่ งไรบ้างปู่
ตอบ
การฉันน้อยและการไมฉ่ ันเปน็ วันๆ ไปน้ัน ท�ำใหไ้ ม่โงกง่วง ต้ังสติไดด้ ี
ใจสงบไดง้ ่ายกว่าฉันตามปกติ ปัญญาคลอ่ งตัวดีกว่าปกติ นีห่ มายถึงผถู้ ูก
กับจริตนิสัย ร่างกายลดก�ำลังลงกวา่ ปกติย่อมไมท่ ับจิตมาก การฝกึ จิต
ท้ังด้านสมถะและด้านวิปัสสนาก็ง่ายกวา่ กัน ท่านจึงมันทรมานอยูเ่ สมอ
เพือ่ การดำ� เนนิ จิตไดส้ ะดวกและรวดเรว็ กว่าที่ไม่ฝกึ ทรมานดงั ท่กี ลา่ วมา
ถาม
พระธุดงคกรรมฐานทา่ นชอบฝกึ ทรมานตน อยูแ่ บบอดๆ อยากๆ อยา่ งนี้
เหมอื นกันหมดหรือ
ตอบ
ไม่หมด แตส่ ว่ นมากทา่ นมกั ทรมานกนั ดว้ ยความพอใจ สมคั รใจ ไม่มใี ครบงั คบั
การฝึกการทรมานดังที่กลา่ วมา จิตใจสงบ ร่างกายก็เบา ไม่กดถว่ งใจให้คิด
ฟงุ้ ซา่ นไปในทางทผ่ี ดิ ทเ่ี ป็นข้าศกึ ต่อธรรม เมอื่ ใจสงบ คนเรายอ่ มสะดวกสบาย
ไมด่ น้ิ รน สตปิ ญั ญาพอมที างคดิ อ่านไตรต่ รองอรรถธรรม ไมเ่ ปน็ ความคดิ ความ
ปรุงท่ีกิเลสควบคุมรุมกัดรุมทึ้งไปเสียหมด ยังพอปรากฏเป็นอรรถเปน็ ธรรม
ขนึ้ มาให้ได้ชมบ้างสมกับมาแสวงธรรม
315
ถาม
ถ้าใจไมส่ งบ ท่านคดิ อรรถคดิ ธรรมไม่ได้หรอื จงึ ต้องฝึกให้ใจสงบกอ่ นแล้วคอ่ ย
คิดอรรถคิดธรรมตอนจิตสงบแลว้
ตอบ
เรอ่ื งคดิ นนั้ คดิ ได้ แต่พอคดิ ธรรมตดิ มอื ขน้ึ มา กเิ ลสทร่ี มุ ล้อมอยรู่ อบหวั ใจควา้ เอา
ไปกินหมด เจ้าของมองไม่ทัน เพราะกิเลสตัวสัญญาอารมณ์มันรวดเร็วมาก
เกินกวา่ สตปิ ัญญาธรรมดาโลกๆ จะตามทนั ฉะนนั้ ทา่ นจงึ สอนใหฝ้ ึกอบรมจิต
ใหส้ งบด้วยสมถะก่อน พอมที างยบั ย้งั ตัง้ ตวั ไดบ้ า้ งแลว้ ก็สอนให้พิจารณาทาง
ปญั ญา การทจ่ี ติ สงบนน้ั ผลเปน็ ความเยน็ ไม่ดน้ิ รนกวดั แกว่ง จติ เชอ่ื ง ถา้ เป็นนำ้�
กส็ งบน่ิง เม่อื น่ิงนานเข้ากใ็ สสะอาด
จิตที่สงบจากอารมณก์ วนใจก็ท�ำนองเดียวกัน เมื่อน�ำออกพิจารณาทางดา้ น
ปญั ญา ยอ่ มไม่ดิ้นรนกวัดแกวง่ ต้ังหนา้ ท�ำหน้าท่ตี ามสตทิ คี่ วบคมุ และสง่ั งาน
ในการพิจารณา การพิจารณาสว่ นมากถือกายเปน็ เปา้ หมายแห่งการพจิ ารณา
โดยความเปน็ อสภุ ะ อสภุ งั ปฏกิ ลู โสโครก ไม่สวยงามบ้าง ในขน้ั เรมิ่ ตน้ พจิ ารณา
กลับไปกลับมาจนเปน็ ที่เขา้ ใจวา่ เปน็ อสุภะ ไมง่ าม เป็นปฏิกูลจริงๆ ตาม
ความพจิ ารณา หลายครง้ั หลายหนใจยอ่ มยอมจ�ำนนตอ่ ปัญญาและเชอ่ื วา่ เปน็
อย่างน้ันจริงๆ จิตก็ยิ่งมีความสงา่ งามแพรวพราวและอาจหาญไปโดยล�ำดับ
ของการพจิ ารณา เมอื่ พจิ ารณาไปมาก จติ มคี วามอ่อนเพลยี กน็ ำ� จติ เขา้ พกั สงบ
อารมณใ์ นสมาธิ ท�ำสลบั กนั ไปตามวาระของการท�ำงานและหยุดงาน
ถาม
มีบางอาจารย์สอนวา่ ใหพ้ ิจารณาปญั ญาไปเลย ไม่จ�ำเปน็ ในการท�ำสมถะคือ
ความสงบใจกอ่ น น่นั จะไม่ขัดกนั หรอื ปู่
316
ตอบ
ถ้าเราไม่ไปขดั เขาและเขาก็ไม่มาขัดการปฏบิ ัตขิ องเราก็ไม่มอี ะไรขดั เขาชอบ
ท�ำอย่างนั้นก็เป็นเรื่องของเขา เราท�ำเชน่ น้ีก็เป็นการปฏิบัติของเรา และเพื่อ
เราเอง มิได้เพ่ือใคร เพราะธรรมของพระพุทธเจา้ เป็นสมบัติกลาง ใครจะ
แสวงหาดว้ ยวธิ ใี ดกไ็ ด้ ไมม่ ใี ครไปหา้ มและกดี ขวาง ส่วนถกู หรอื ผดิ นน้ั ต่างเป็น
ผ้รู บั ผดิ ชอบของตวั เอง ผ้อู นื่ มใิ ช่ฐานะจะเข้าไปเกย่ี วขอ้ ง ถา้ เขาไมข่ อใหเ้ กย่ี วขอ้ ง
เรื่องก็มีเทา่ น้ัน หลานสงสัยอะไรและเปน็ กังวลกับใคร เวลาน้ีปู่พูดกับหลาน
ปู่สอนหลานต่างหาก มิได้สอนใครพอจะน�ำเรื่องของผูอ้ ่ืนเข้ามาเป็นกังวลใจ
ใหย้ ุง่ ไปเปล่าๆ
หลานตอบ
เห็นเขาสอนกันอยา่ งน้ัน หลานสงสัยท่ีไม่เขา้ กันกับที่ปู่สอนอยู่เวลาน้ี จึงได้
เรยี นถาม ถา้ ผดิ กข็ อประทานโทษดว้ ย หลานไมเ่ ขา้ ใจจรงิ ๆ ในเรอื่ งการภาวนา
นป้ี ู่
ถาม
การทำ� ทุกรกิริยาของพระพุทธเจา้ โดยทรงอดพระกระยาหารไมเ่ สวย ๔๙ วนั
กับท่ีพระธุดงคกรรมฐานทา่ นอดอาหาร ไม่ฉันเปน็ วนั ๆ และหยุดฉนั เปน็ พกั ๆ
ไปนน้ั ผิดกันกับทพ่ี ระองค์ทรงท�ำหรือไม่
ตอบ
พูดการอดไม่ฉันของพระธุดงค์กับพระองคน์ ้ัน ไมผ่ ิดกัน คือไม่ฉันเหมือนกัน
แตท่ ผี่ ดิ กนั นนั้ ผดิ ตรงทพี่ ระองคห์ วงั ความตรสั ร้ธู รรมด้วยการอดพระกระยาหาร
อยา่ งเดียว ไม่มีจิตภาวนาเข้าช่วย ส่วนพระธุดงคท์ ่านอดเพ่ือภาวนาสะดวก
และหวังรูธ้ รรมจากการภาวนา มิได้หวังรูธ้ รรมจากการอดอาหารอย่างเดียว
ต่างกนั ตรงน้ี
317
ถาม
เวลาอดอาหารไมฉ่ ันนน้ั ทา่ นอดกวี่ ันปู่ ทา่ นจงึ ฉัน
ตอบ
เอาแนไ่ ม่ได้ ตามแต่ละองค์ท่ีทา่ นจะอดจะฉัน เพราะเปน็ อัธยาศัยของแตล่ ะ
รายๆ ไป แมอ้ งคเ์ ดียวกันนั้น อดบางคร้ังก็นอ้ ยวัน เช่น ๓ - ๔ - ๕ วัน
หรืออาทติ ยห์ น่งึ บางครั้งทา่ นอดเป็นอาทติ ย์ๆ จงึ ฉนั ก็มี องคอ์ ่นื ๆ ก็เช่นกนั
เอาแนไ่ มไ่ ด้ ตามแต่ผลแห่งการภาวนาของทา่ นจะอำ� นวย
ถาม
เวลาอดอาหารเช่นน้ันหิวมากไหมปู่
ตอบ
ถ้าอยากทราบกล็ องอดดซู จิ ะรเู้ อง ไมจ่ ำ� ตอ้ งถามผอู้ นื่ แมถ้ ามกไ็ ม่เกดิ ประโยชน์
จงึ ไม่ตอบ
ถาม
โอโ้ ฮ นา่ สงสารท่านจบั ใจ ของเคยกนิ ไม่กนิ ต้องเปน็ ทกุ ขแ์ น่ๆ ยง่ิ อดหลายๆ วนั
ด้วยแล้วน่าจะสลบไปในบางครั้งนะปู่
ตอบ
อาจเป็นไปได้ในบางรายและบางคร้ังถา้ ธาตุขันธไ์ มส่ มบูรณ์ แต่ความสนใจ
พระท่านไม่ไดอ้ ยูก่ ับความเม่ือยหิวอ่อนเพลียมากไปกว่าความมุ่งมั่นต่อ
การรู้ธรรมเห็นธรรมที่ก�ำลังบ�ำเพ็ญอยูอ่ ยา่ งขะมักเขม้นในเวลาเช่นนั้น
ซึ่งเหมอื นเข้าส่สู งครามระหวา่ งกิเลสกบั ธรรมภายในใจ
318
ถาม
เวลาอดอาหาร ได้ฉันอะไรแทนบ้างไหมปู่
หลวงปู่ถาม
ฉันอะไร
หลาน
กฉ็ นั นำ�้ อ้อย นำ้� ตาล ฉนั โกโก้ กาแฟ หรอื ฉนั ผลไม้สกุ ชนดิ ตา่ งๆ ทพ่ี อมพี อหาได้
นั่นแหละ
ตอบ
ถ้ายงั จะกลวั ตายเทยี่ วฉนั ผลไมช้ นดิ ตา่ งๆ อยู่ กอ็ ยา่ อดใหข้ ายหนา้ ตวั เอง
และพระศาสนาละ่ ซิ พูดอะไรอยา่ งนั้น ผลไมก้ ็คืออาหารเราดีๆ น่ีเอง
จะฉันไดอ้ ยา่ งไรในเวลาวกิ าล แมท้ ีฉ่ นั ได้ในเวลาวิกาล เชน่ โกโก้ กาแฟ
นำ�้ อ้อย นำ�้ ตาล น้�ำส้ม น้�ำหวาน เพยี งจะหาถ่ายรปู ไว้ดูตา่ งหนา้ เวลาหิว
ก็ยังไมม่ ีจะวา่ ยังไง ยังจะบึนไปหามันท่ีไหนให้ยุ่งเขา้ ไปอีก พูดกับคนไม่
เคยอดเคยหิวน่ีมันลำ� บาก เลยออกนอกลู่นอกทางไปกนั ใหญแ่ ลว้ นี่
319
ถาม
ขอประทานโทษป่มู ากๆ หลานไม่ร้จู รงิ ๆ จงึ ถามซอกแซกออกนอกล่นู อกทางไป
แลว้ ทา่ นจะฉันอะไรพอเยียวยาธาตุขันธใ์ นเวลาเมื่อยหิวออ่ นเพลียมากเพราะ
ไม่ไดฉ้ นั หลายๆ วัน
ตอบ
จะฉันอะไรนอกจากน้�ำในกาน�้ำเท่านั้น ก็ท่านไม่วุ่นวายเหมือนผู้ถามน่ีนา
ทา่ นอดเพ่ือภาวนา ทา่ นจึงมีแต่ต้ังหนา้ ภาวนาอยา่ งเดียว ไม่ยุ่งกับอะไร
ทั้งส้ินในเวลาเช่นน้ัน เพราะทา่ นอดเพื่อทนเพื่อต่อสู้ ทา่ นไมไ่ ด้อดเพ่ือ
ความออ่ นแอ ท้อแท้ ล้มเหลว จิตทา่ นเขม้ แข็งแม้รา่ งกายธาตุขันธ์จะ
อ่อนก�ำลงั ลงบา้ ง ถา้ จิตท่านเหมอื นทถี่ ามยุง่ อยูเ่ วลาน้ี ท่านไม่อดให้เสยี เวลา
ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทงั้ สิน้
ถาม
เวลาอดหลายๆ วนั การภาวนาของทา่ นนา่ จะดี ทา่ นจงึ ทนได้ ถ้าเป็นอยา่ งหลาน
ต้องคว้าใบไมส้ ดใบไม้แหง้ เขา้ ใจว่าเป็นผกั แน่ๆ
ตอบ
ก็ท่านไม่ใชพ่ ระใบไม้สดใบไมแ้ หง้ ละซิ ท่านถึงอดถึงทนไดเ้ พ่ือประโยชน์
อนั ไพศาล ซง่ึ ดกี วา่ อาหารหวานคาวทก่ี ินอย่ทู กุ วนั เวลาเป็นไหนๆ พวกทเี่ หน็ ข้ี
ดกี ว่าไสก้ ็ท�ำไม่ได้ ผู้ที่เห็นไส้ดีวา่ ขก้ี ท็ �ำไม่หวนั่ ไหว ตายเป็นตาย ขอให้ได้
ครองอรรถครองธรรมอย่างสมใจก็เป็นที่พอใจแล้ว พระธุดงค์แต่ละองค์
กว่าจะได้ธรรมครองใจก็แทบไปแทบอยูน่ ่ันแล จะว่าเป็นของง่ายดายหรือ
เวลาชีวิตทา่ นเหลือเดนตายออกมา ใครๆ จึงชมแต่ผลทา่ นว่าทา่ นดีอย่างน้ัน
ดอี ย่างน้ี บทเวลาทา่ นจะตายอย่ใู นป่าในเขา ในทางจงกรม ในทนี่ งั่ สมาธภิ าวนา
ในความเพียรทา่ ต่างๆ ไม่เห็นคิดกันบ้าง เราเปน็ ชาวพุทธต้องมองเหตุบ้างซิ
320
มองแต่ผลอย่างเดยี วจะเกิดประโยชนอ์ ะไร เกิดมาทงั้ ชาตกิ ม็ แี ต่กินกบั นอนและ
เทีย่ วเตรด็ เตร่เร่ร่อนหาหวั นอนปลายเท้าไม่ได้ เปน็ อยอู่ ย่างจำ� เจ จะหาความ
อบอนุ่ แก่จติ ใจได้ทไ่ี หน กม็ แี ต่ความรนุ่ ร้อนเผาใจล่ะซิ วนั คนื หนง่ึ ๆ ผ่านไปตอ้ งคดิ
หาสารคุณ อยา่ มีแต่ความสนุกเฮฮา ต่นื ลมตื่นแลง้ กันไป ไม่มสี าระอะไรติดตวั
ตดิ ใจ จะหวังพ่ึงอะไร
มนุษยเ์ ราซึ่งมใิ ช่ทอ่ นไมท้ อ่ นฟืน มนั มหี วั ใจดวงรๆู้ ครองร่างอยู่กับทกุ คน
ทำ� ไมไม่เหลียวแล จะหวังพ่งึ อะไรถ้าพึง่ ใจตวั เองไมไ่ ดแ้ ล้ว พง่ึ ลมหายใจ
ลมก็หมดไป พง่ึ รา่ งกาย กายกแ็ ตก พึ่งน�้ำในกาย นำ้� ก็สลาย พึง่ ไฟในกาย
ไฟก็กระจาย กายทั้งรา่ งมีแตเ่ รื่องแตกกระจาย แลว้ จะพึ่งอะไร พ่ึงบา้ น
บา้ นก็จะพัง พ่ึงสมบัติเงินทองก็ลว้ นแต่สิ่งจะพังทลาย ยังเพลินเมามัว
มว่ั สมุ อยหู่ รอื มนษุ ย์เราตวั ฉลาดแท้ๆ ไม่สมควรกบั ความเปน็ ดงั ทก่ี ล่าวมา
ความดมี อี ยแู่ สวงหาซิ มนษุ ย์ทง้ั หลายท่านหาความดไี ด้ ทำ� ไมเราหาไมไ่ ด้
เวลาไปหาความเลวทรามต�่ำช้าท�ำไมหาได้ สิ่งเหลา่ นั้นมันวิเศษวิโสอะไร
ถ้ามันพาคนใหว้ ิเศษ มนุษยพ์ ากันวิเศษเลิศโลกไปนานแล้ว ไม่จมปลัก
ดังที่เห็นกันอยู่น้ีเลย จึงไม่ควรเพลิดเพลิน ไมค่ วรมัวเมาไมเ่ ขา้ เรื่องอยู่
เปลา่ ๆ อะไรดีมีสาระรีบแสวงหา เวลาตายจะมีท่ียึดท่ีเกาะ ไม่เปน็ ไฟ
ทั้งกองไปเสียถ่ายเดียว คนหมดท่ีพ่ึงหมดท่ีอาศัยเปน็ คนดีวิเศษละ่ หรือ
ในโลกก็เห็นๆ กนั อยู่ ยงั จะสงสัยอะไรอยู่อกี ถา้ ไมอ่ ยากจมน่ะ
เหน็ ไหม ปเู่ วลาเผด็ รอ้ นแผดเผาป่เู อาจรงิ เพราะสงสารมนษุ ยท์ ม่ี วั เพลดิ เพลนิ กบั
เงาไมเ่ ขา้ เรอื่ งราวกบั เดก็ อมมอื ตายแลว้ กล็ ม่ จมกนั ทนี่ า่ เสยี ดายและสงสารมาก
แตช่ ว่ ยอะไรไมไ่ ด้ พากันท�ำตัวเหมือนสัตวท์ ี่เขาขังไว้ตม้ แกงเป็นอาหาร
ยงั มัวเพลนิ กนั อยู่ ดซู ิ สตั ว์ที่เขาก�ำลงั จงู ไปฆ่า มนั ร้ตู วั เมอ่ื ไร ยงั เพลินกัดหญ้า
ไปตามทาง ถา้ มนั รจู้ ะไมเ่ พลนิ กดั หญ้าเปน็ อนั ขาด นอกจากมนั จะไล่ขวดิ ไล่ชน
คนทจ่ี งู มนั พุงทะลไุ ปในเวลานัน้ เทา่ นนั้
คนที่เช่ือธรรมท่ีให้ความปลอดภัยไร้ทุกขแ์ กส่ ัตว์โลก ก็เปน็ คนประเภทสัตว์
ทร่ี ตู้ ัววา่ เขาก�ำลงั จงู ไปฆา่ นั่นเอง จะไม่ประมาทนอนใจ รดี ไถกอบโกยกนั แบบ
321
สัตวก์ ัดกินหญา้ ตามทางในเวลาที่เขาจูงไปฆา่ จะงดส่ิงเลวร้ายมหาภัยแกต่ น
และผอู้ น่ื ทนั ทไี มช่ กั ช้า ก้มหนา้ ทำ� แต่ความดงี ามสจุ รติ ยตุ ธิ รรมตอ่ กนั ถา่ ยเดยี ว
โลกกส็ งบรม่ เย็นเพราะต่างเหน็ ใจกัน
นพี่ ูดเรอ่ื งพระธุดงค์ เลยธดุ งค์เข้าบ้านเขา้ เมืองไปหมด แทนท่จี ะธดุ งคเ์ ขา้ ป่า
เขา้ เขาอยา่ งเดยี วดงั พระธดุ งคกรรมฐานท่านเทยี่ วไป เอาละ เหนอื่ ยมาก เพราะ
เรง่ เคร่ืองมาก ลืมความแกไ่ ป
หลาน
อัศจรรยธ์ รรมปู่จนขนลุก ปูไ่ ปเอามาจากไหน เวลาพูดเป็นน�้ำไหลไฟสวา่ งไป
ทเี ดยี ว ไมม่ ตี ดิ มขี ้องเลย และอศั จรรย์พระธดุ งค์ทา่ นทอี่ ดทนมากผดิ กบั ชาวบา้ น
ราวฟ้ากับดินทเี ดียว
ถาม
วันน้ีพวกลูกหลานมาจากกรุงเทพฯ มาขอพรปใี หม่เพื่อเปน็ สิริมงคลแก่
ครอบครวั และหน้าท่กี ารงาน ขอหลวงป่ไู ดโ้ ปรดพรปใี หมแ่ กล่ กู หลานด้วยเถิด
ตอบ
ค�ำวา่ พร ธรรมท่านแปลวา่ ประเสรฐิ สงิ่ ใดดี สง่ิ ใดประเสริฐ ขอให้ลูกหลาน
พากนั แสวงหาและขวนขวายใหเ้ กิดใหม้ ีข้ึนในตนและครอบครัวของตน ตลอด
ส่วนรวมไมม่ ปี ระมาณ เพราะคำ� วา่ ของดี ของประเสรฐิ นนั้ มอี ย่ทู ไ่ี หน มอี ยกู่ บั
ผใู้ ด มอี ยกู่ บั ครอบครวั ใด สงั คมใด ทนี่ น้ั ผ้นู นั้ ครอบครวั นนั้ สงั คมนน้ั ย่อมชมุ่ เยน็
เปน็ สริ ิมงคล
322
ถาม
ค�ำวา่ ของดี ของประเสรฐิ ทป่ี ู่กลา่ วถึงนนั้ ได้แก่อะไรบา้ งปู่ พวกลกู หลานยงั
ไมเ่ ขา้ ใจ ได้ยนิ แต่พอ่ แม่ คนเฒ่าคนแก่โบราณ พดู ตดิ ปากกนั มาว่า ขอพรปีใหม่
หรือไปขอศีลขอพรกับคนเฒ่าคนแก่และพระตลอดครูอาจารยท์ ่ีเคารพนับถือ
ตามวัดต่างๆ ดังที่พวกลูกหลานมาขอศีลของพรกับหลวงปู่วันน้ีแหละ สว่ นที่
ลกึ ซ้งึ ยิง่ กวา่ นีย้ งั ไมเ่ ขา้ ใจกันเลยปู่
ตอบ
หลักใหญ่ท่ีโลกยอมรับกันก็คือ ธรรม เชน่ เขาขอความเป็นธรรม เป็นต้น
เพราะธรรมเป็นทลี่ งใจของโลก พอไดย้ นิ ว่าธรรมเท่านน้ั ใจของแต่ละคนกช็ ่มุ เยน็
ทั้งท่ียังไมร่ ู้ไมเ่ ข้าใจเลยว่าธรรมคืออะไร ฉะนั้นลูกหลานมาวันนี้ ปูจ่ ึงจะ
มอบธรรมเปน็ พรใหแ้ ทนพรท้งั หลาย เพราะคำ� ว่า พรอนั ประเสริฐ นัน้ ก็ไดแ้ ก่
ธรรมทโ่ี ลกยอมรบั นบั ถอื และกราบไหว้บชู านแ่ี ล ป่จู ะให้พรอย่างละย่อๆ พอดี
กบั เวลา ขอให้ลูกหลานรับไปปฏิบตั ิกนั เถิด จะเกิดความสงบร่มเยน็ แกต่ ัวเรา
และครอบครัวอย่างประจักษ์
ธรรมยอ่ ท่ีจะใหด้ ังนีค้ อื
การท่ีเราฆา่ เขา เขาฆ่าเรา และการฆา่ สัตวท์ ุกชนิดท่ีครองตัวอยูด่ ว้ ยชีวิต
เปน็ อัปมงคลความลม่ จมแกต่ นผู้ฆา่ และแกเ่ ขาท่ีถูกฆา่ เหลา่ นั้นอยา่ งยิ่ง
ชนิดไมม่ ีอะไรเปรียบได้เลย เพราะทุกๆ ชีวิตมีคุณมากส�ำหรับตัวทุกๆ ราย
ไมค่ วรไปแตะต้องท�ำลาย จงหยุดจงงดกรรมอันโหดร้ายทารุณต่อกันน้ีเสีย
นีเ่ ป็นพรข้อที่ ๑
สมบัติเงนิ ทองของคใู่ จ ใครกร็ กั สงวน การท�ำลายสมบตั ิของคใู่ จใหพ้ ลดั พราก
จากตัวเขา เปน็ ความโหดรา้ ยทารุณของผู้ท�ำแก่สมบัติและจิตใจเขาอยา่ งย่ิง
ไมม่ ีอะไรเปรียบเทียบได้ แม้เคยท�ำมาก็จงหยุดจงงดอยา่ งเด็ดขาด อยา่ ท�ำ
ต่อไป น่ีเปน็ พรขอ้ ที่ ๒
323
ลูกหลานเขา เมียเขา ผัวเขา คือสมบัติในหัวอกท่ีรักสงวนอย่างย่ิงกว่าสิ่งใด
ไม่ควรล่วงเกนิ เป็นอนั ขาด จงรกั ษาอธปิ ไตยของกนั และกนั ด้วยการเทยี บหวั ใจ
เขาหัวใจเราใส่กัน มนุษย์หัวขาดจากคอ ตับพุงทะลุแตกกระจายจากกันใน
ช่ัววินาทีก็เพราะโทษของการล่วงล�้ำขม่ ขืนเปน็ ต้นเหตุอันส�ำคัญ จงเห็นโทษ
มหาวินาศนี้อย่างถึงใจและไมส่ นใจใยดีกับกรรมอันลามกน้ี หัวกับคอจะได้
อยู่กันอยา่ งสนิทไมพ่ รากกัน นเี่ ปน็ พรขอ้ ท่ี ๓
มสุ า คือ การโกหก ตบหตู บตาหลอกลวงผู้อนื่ ใหผ้ ิดจากปกติคือความมคี วาม
เป็นจรงิ ทำ� ให้อกี ฝา่ ยหนง่ึ เสยี หายแต่นอ้ ยจนถงึ ขน้ั ล่มจมฉบิ หาย เป็นคำ� ไมค่ วร
พูดไม่ควรโกหกอย่างยิ่งในวงมนุษยด์ ้วยกนั ปากโกหกเปน็ ปากทขี่ าดบาทสลึง
คนโกหกเปน็ คนขาดบาทขาดเต็ง มนุษยเ์ ต็มบาทเต็มเต็งไมค่ วรพูดโกหกมุสา
จงพดู แต่ความสตั ยค์ วามจรงิ เพอ่ื ประโยชน์อนั สมบรู ณ์ตอ่ กนั นเ่ี ป็นพรข้อท่ี ๔
สรุ าของมนึ เมา เคยทำ� มนษุ ย์ให้ขาดบาทขาดสลงึ เสยี ผเู้ สยี คน เสยี การเสยี งาน
เสียสมบัติเงินทองมามากต่อมากแลว้ จนประเมินโทษของมันไม่ได้ เราเปน็
มนษุ ยเ์ ตม็ บาทเตม็ เตง็ มใิ ช่มนษุ ยข์ าดเฟื้องขาดสลงึ จงึ ไมค่ วรนำ� สรุ ามาทำ� ลาย
อวัยวะ สติปญั ญาอันเป็นสมบัติมีคา่ ในตัวเราให้ดอ้ ยลงและเสียไปอยา่ งย่ิง
สรุ าเปน็ สง่ิ บน่ั ทอนและทำ� ลายมนษุ ย์ สมบตั ขิ องมนษุ ย์ และการงานของมนษุ ย์
โดยถา่ ยเดยี ว คือ เสียทรพั ย์ ก่อความทะเลาะววิ าท เกิดโรค ถูกต�ำหนิติเตยี น
กริ ยิ ามารยาทราวกบั หมาขเ้ี รอื้ นทใ่ี ครๆ รงั เกยี จ ไมส่ มควรแกป่ กตชิ นหญงิ - ชาย
ไม่รู้จักอาย หนา้ หนาหนา้ ชาหมดยางอาย ลดคุณคา่ มนษุ ย์ หมดคุณคา่ ในตวั
มนษุ ย์ผูก้ ินสุรา เมาสุรา ความเป็นบา้ หาไดง้ า่ ยในสุราและคนเมาสุรา หลานๆ
จงร้วู า่ นคี่ อื ยาพษิ ไม่ควรสนใจใฝฝ่ ันกบั สรุ าและนำ� มาดมื่ มากิน เดยี๋ วเป็นบ้ากนั
ทัง้ โลก น่ีเปน็ พรข้อที่ ๕
ท่ีปู่มอบให้แกห่ ลานๆ วันนี้ซึ่งตรงกับวันขึ้นปใี หม่ และจงพากันเป็นคนใหม่
ต่อไปจากคนๆ เกา่ ด้วยการฝกึ หัดเปลี่ยนแปลงตนใหม่จากท่ีเคยไม่ดีใหเ้ ป็น
คนดีตอ่ ไป เอาละพอ
324
หลาน
การตะเกียกตะกายมาหาหลวงพอ่ วันนี้ เพราะข่าวเลา่ ลือมานานวา่ หลวงพ่อ
เปน็ พระองค์สำ� คญั ทางภาคอสี านองคห์ นง่ึ และเปน็ ลกู ศษิ ย์ของหลวงปมู่ นั่ ดว้ ย
อยากพบเห็น อยากกราบไหว้บชู า อยากฟงั คำ� สนทนา อยากฟังธรรมเทศนา
โปรดตามแตห่ ลวงพอ่ จะสะดวกโปรดได้ กระผมยินดีทั้งน้ัน ที่ส�ำคัญและ
อยากพบเหน็ อยากกราบไหวอ้ ยา่ งยง่ิ กค็ อื องค์ท่านหลวงป่ขู าวนแี่ ล เพราะรำ่� ลอื
มานาน วนั น้ีสมใจปลมื้ ปตี ิอยา่ งบอกไม่ถกู เลยทเี ดียวแหละปู่
หลวงปู่
มาเหน็ แลว้ เปน็ ยงั ไง สมค�ำเล่าลอื ไหมล่ะ
หลาน
สมอย่างบอกใครไมไ่ ด้ แต่ต้ืนตันหัวอกเลยขณะน้ี ทั้งน้ีเพราะเคยทราบแตใ่ น
ตำ� ราวา่ พระพทุ ธเจา้ และพระอรหนั ตท์ ง้ั หลาย ท่านบำ� เพญ็ และบรรลมุ รรคผล
นพิ พานอยใู่ นทีต่ ่างๆ กัน เช่น ในปา่ ในถำ�้ ในเขา ในครั้งโนน้ อ่านแลว้ ใหเ้ กิด
ความคิดต่างๆ เกีย่ วกับมรรคผลนิพพานในครงั้ โน้น และหิวกระหายอยากฟัง
การบำ� เพญ็ และการบรรลมุ รรคผลนพิ พานของพระในครง้ั นี้ ว่ามที า่ นผบู้ �ำเพญ็
และบรรลธุ รรมได้เหมือนครง้ั โน้นหรอื เปลา่ นา
บุญยังพอมีก็มาไดย้ ินเรื่องของหลวงปู่มั่น ปู่เสาร์ และได้ยินเร่ืองครูอาจารย์
ทงั้ หลายสายของทา่ นปู่เสาร์ ปู่ม่ันน้ี จนถึงเรอ่ื งของหลวงปอู่ งค์ทกี่ ราบเฝ้าอยู่
เวลาน้ี ทำ� ให้เกดิ ความปลม้ื ปีตจิ นพดู ไมอ่ อกบอกไม่ถกู มนั เตม็ ตน้ื อยภู่ ายในนะ่ ปู่
เพียงไดโ้ อกาสจะมาเยี่ยมหลวงปูเ่ ทา่ นั้น ทุกสิ่งทุกอยา่ งตลอดผูเ้ ก่ียวขอ้ ง
ส่ิงเกี่ยวขอ้ งมันตกออกในทันทีทันใด ภายในกายในใจเบาไปหมดราวกับตัว
จะเหาะลอย ทเี่ ปน็ ทง้ั นเ้ี พราะซาบซงึ้ ในพระธรรมคำ� สง่ั สอนของพระพทุ ธเจ้าที่
ประทานไว้แก่สตั ว์โลก เป็นคำ� สง่ั สอนเสมอตน้ เสมอปลาย คงเส้นคงวา ทงั้ ฝ่าย
มรรคและฝา่ ยผล ไมผ่ ดิ หวงั แก่ผ้ปู ฏบิ ตั ธิ รรมว่าจะไมม่ ผี ลตอบแทนทค่ี วรแก่เหตุ
ท่ยี ังมขี ้อสงสัยอยบู่ า้ งก็ตรงทคี่ นสมยั โน้นกบั คนสมยั นี้ ดูวา่ มกี ิเลสหนา - บาง
325
ต่างกันอยู่มาก เฉพาะอยา่ งยิ่งผู้สนใจปฏิบัติธรรมอยา่ งแท้จริงยังรูเ้ ห็นธรรม
ได้ยากกว่าครั้งพุทธกาลอยูม่ าก ตอ้ งล�ำบากล�ำบนมากกว่าจะรู้จะเห็นธรรม
ดังในประวัติของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ท่ีทา่ นพระอาจารยม์ หาบัว
ญาณสัมปันโน เรียบเรียงไว้ กระผมได้อา่ นจนจบหลายเท่ียว ไมเ่ คยเบื่อเลย
หลวงปู่มั่นท่านล�ำบากมากกวา่ จะรูเ้ ห็นธรรม ทั้งน้ีก็กราบเรียนตามความรู้สึก
เทา่ นนั้ สว่ นความจรงิ จะเป็นอยา่ งไรนน้ั กข็ อความเมตตาชแี้ จงจากหลวงปดู่ ้วย
จะเปน็ พระคุณอย่างสงู แก่กระผมด้วย
ตอบ
ฟงั คุณพูดเก่ียวกับศาสนธรรมท่ีประทานไว้กับคนมีกิเลสหนาบางในสมัยโนน้
กบั สมัยนี้ตา่ งกนั กน็ ่าฟัง เรายงั ไมต่ อ้ งพดู ถึงท่านผสู้ นใจปฏิบัติธรรม แตข่ อพูด
เรื่องผไู้ ม่สนใจแสวงธรรม แตส่ นใจแสวงหากิเลสมากกว่าธรรมกอ่ น
คนสมัยโนน้ แม้ผู้ไมส่ นใจแสวงธรรม แตก่ ารแสวงสิ่งที่เปน็ กิเลสมาพอกพูน
หัวใจก็ไม่มากนัก ไมแ่ สวงหาหลายแง่หลายทาง หลายเลห่ ห์ ลายเหลี่ยม
หลายสนั พนั คม เหมอื นคนสมยั นี้ ในสายตาดวู า่ แสดงกนั อย่างออกหน้าออกตา
เด่นดังจริงๆ ทั้งอยากมั่งมี ทัง้ อยากเดน่ อยากดงั ทั้งอยากให้คนเคารพนบั ถือ
ท้ังอยากใหเ้ ขาร�่ำลือวา่ ตัวเก่งกลา้ สามารถหมดทุกดา้ นทุกทาง จนไมเ่ ป็นอัน
กินอยูห่ ลับนอนได้สนิท ท้ังส่ิงยั่วยวนกวนใจเพื่อเบิกทางกว้างของกิเลสโลภะ
ราคะตัณหา ตาเปน็ ไฟ ก็นับวันขยายตัวมากขึ้นตามๆ กัน เมื่อเปน็ เชน่ น้ี
แม้ผู้มีนิสัยสนใจต่อธรรมทั้งหลายพยายามเที่ยวเสาะและบ�ำเพ็ญก็ย่อม
แหวกว่ายสงิ่ เกย่ี วขอ้ งซง่ึ รมุ ลอ้ มอยรู่ อบตวั ออก และบำ� เพญ็ ด้วยความลำ� บาก
อยูเ่ ปน็ ธรรมดา
ฉะนนั้ ที่ว่าคนครง้ั โนน้ กับคร้ังนม้ี กี ิเลสหนา-บางตา่ งกนั กไ็ ม่นา่ จะผิด เพราะ
ส่ิงส่งเสรมิ ใหฝ้ า่ ยตำ่� มีกำ� ลงั มมี ากกวา่ สงิ่ ส่งเสรมิ ทางฝา่ ยธรรมให้เจรญิ คนจงึ
มีทกุ ขม์ ากลำ� บากทั่วดินแดน แม้ที่อยใู่ นปา่ ในเขากไ็ ม่เวน้ เพราะส่งิ พาให้เป็น
ฟนื เป็นไฟมนั วงิ่ ประสานทวั่ ถงึ กนั ส่วนธรรมนน้ั ก้าวไมค่ อ่ ยออกหรอื กา้ วไม่ออก
326
เพราะไมม่ ใี ครพาก้าว สดุ ทา้ ยกใ็ ห้กิเลสตม้ ยำ� เอาสดๆ ร้อนๆ ตอ่ หนา้ ต่อตาว่า
มรรคผลนพิ พานไม่มี มแี ตช่ อ่ื ในตำ� ราทสี่ อนไว้และเขยี นไว้เทา่ นนั้ นนั่ ฟงั ซคิ ณุ
กิเลสมันออกลวดลายเห็นไหม ความจริงผู้เชน่ นั้นมันมิได้มองดูธรรมพอ
ช่ัวกะพริบตายิ่งกวา่ การเถ่อมองกิเลสว่ิงตามกิเลสจนตาแห้งขาปูดบวมเลย
แลว้ ก็ท�ำตัวเป็นเคร่ืองมืออยา่ งเอกของกิเลสให้ออกท�ำลายธรรมและท�ำลาย
หวั ใจประชาชนชาวพุทธโดยหารตู้ ัวไม่ นา่ ทเุ รศไม่นอ้ ยเลยถ้าจะทเุ รศนะ่
ถาม
คนชนิดนี้ท่ีเป็นเคร่ืองมือของกิเลสเพื่อท�ำลายธรรมและหัวใจประชาชนมีอยู่
หรอื ปู่
ตอบ
จะไมม่ ีอยา่ งไร นอกจากไม่พูดกันวา่ มีเต็มแผน่ ดินเทา่ นั้น ก็อยู่ไปสังเวชไปใน
วงผดู้ มี ธี รรมและทรงธรรมคอื มรรคผลนพิ พานทง้ั หลาย ทงั้ นเ้ี พราะคนมธี รรม
ยอ่ มมีหิริโอตตัปปะในใจ ไม่พูดสุม่ สี่สุ่มห้า ไมพ่ ูดแบบสุม่ เดาเกาหมัดเพราะ
ไมม่ ขี เ้ี รือ้ นบอ่ นท�ำลาย ไมเ่ หมือนคลงั กิเลสท่ไี ม่สนใจในธรรม มันพดู ไดท้ ัง้ นน้ั
ในเรื่องเสียๆ หายๆ เพราะไมม่ ีหิริโอตตัปปะในหัวใจ จะเอาอะไรมา
กระดากอาย มแี ต่ตวั หนา้ ด้านสนั ดานทำ� ลาย ถอื เป็นความสนกุ ใหเ้ ขามองหนา้
แย็บหนง่ึ กว็ ่าตวั เด่น ใครจะไดร้ ับความเสียหายเพราะตัวเองไม่คำ� นึง
แม้ธรรมก็เป็นธรรม มรรคผลนิพพานก็เป็นมรรคผลนิพพานอยูน่ ั่นแล มิได้
เอนเอียงหรือถลอกปอกเปกิ ไปเพราะปากสกปรกก็จริง แต่ผู้ก�ำลังสนใจธรรม
ปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลนิพพานซ่ึงยังไม่เคยรูเ้ คยเห็นธรรมนั่นซิ มีสว่ นเสีย
ด้วยลมปากสกปรกอันน้ีได้ ทา่ นผูร้ ู้ผู้ทรงมรรคผลนิพพานอยูเ่ ต็มหัวใจแลว้
ท่านจะหวน่ั ไหวอะไรกบั ปากกเิ ลสตวั ทำ� ลายนเี้ ลา่ คนเราพอใจแสวงหาอะไรกไ็ ด้
กม็ สี ง่ิ นน้ั แสวงหากิเลสกไ็ ด้กม็ กี ิเลส แสวงมากกม็ มี าก ขนึ้ อย่กู บั การเสาะแสวง
327
แสวงธรรมกไ็ ด้กม็ ธี รรม แสวงมากกม็ มี ากจนสมบรู ณ์ในหวั ใจ ดงั พระพทุ ธเจ้า
และสาวกท่านแสวงกันและไดม้ าเปน็ สรณะของชาวพุทธเรา คือท่านผู้แสวง
ธรรมรู้เห็นธรรมและทรงธรรมแท้โดยหลักธรรมชาติ มิใช่ธรรมจดจำ� แต่เป็น
ธรรมแท้จริงในหวั ใจ
ค�ำวา่ ธรรมมีอยู่ตลอดอนันตกาลนั้น พงึ ทราบวา่ ธรรมมใิ ช่ ดิน น�้ำ ลม ไฟ
แรธ่ าตุตา่ งๆ มิใช่ อากาศ อวกาศ มิใชส่ ่งิ ทั้งมวลในแดนสมมุติ ธรรม คอื
ธรรม มใิ ช่ส่งิ ดงั กล่าว เครอ่ื งพสิ จู น์ธรรมกม็ ิใช่ ตา หู จมูก ลิน้ กาย ซง่ึ เป็น
วสิ ยั เพยี งดรู ปู ฟังเสยี ง ดมกลน่ิ ลม้ิ รส สมั ผสั เยน็ ร้อนออ่ นแขง็ ซง่ึ อยใู่ นฐานะ
ของตนทจ่ี ะรบั ร้สู มั ผสั ได้เท่านนั้ มไิ ด้ลกึ ซง้ึ กวา้ งขวางพอจะสามารถหยงั่ รู้
เหน็ ธรรมดงั กล่าวนน้ั ได้ สง่ิ ทสี่ ามารถสมั ผสั รบั ร้ธู รรมทกุ ขน้ั ทกุ ภมู ไิ ด้ มใี จ
ดวงเดียวน้ีเท่าน้ัน ใจจึงเปน็ ของคูค่ วรแกธ่ รรมท้ังหลาย ทั้งหยาบ กลาง
ละเอียด จนถึงวิมุตติธรรม นอกนั้นไมม่ ีอะไรสามารถสัมผัสรับรู้ธรรมได้
พระพทุ ธเจ้าทกุ ๆ พระองค์ พระสาวกของพระพทุ ธเจ้าทกุ ๆ องค์ ทรงรธู้ รรม
เห็นธรรมดว้ ยใจ มิใชด่ ว้ ยตา หู จมูก ล้ิน กาย เลย ใจจึงเปน็ ภาชนะ
อันเหมาะสมกับธรรมทุกข้ันทุกภูมิอยา่ งยิ่ง เมื่อได้รับการปรับปรุงแก้ไข
และการบำ� รุงรกั ษาโดยถูกทาง เช่น การปฏบิ ัตจิ ิตภาวนา เปน็ ตน้
ถาม
ค�ำวา่ ธรรมมอี ยู่นัน้ มอี ยู่ที่ไหนปู่
ตอบ
มอี ยทู่ ธ่ี รรม ถา้ ใจปฏบิ ตั ธิ รรม มสี มถะ - วปิ สั สนาธรรม เป็นตน้ ธรรมกส็ มั ผสั
ท่ีใจ รูก้ ันท่ีใจ เกิดท่ีใจ และธรรมก็อยู่ที่ใจ เชน่ สมาธิ ผู้ปฏิบัติจิตภาวนา
ตอ้ งท�ำที่ใจและรูส้ มาธิข้ึนท่ีใจ จากนั้นใจน้ันก็มีสมาธิ สมาธิก็อยูท่ ี่ใจดวงนั้น
แม้วปิ ัสสนาตลอดวมิ ตุ ตหิ ลดุ พ้นกเ็ ป็นไปกบั ใจในท�ำนองเดยี วกนั กบั สมาธเิ กิด
328
ทใี่ จน้ี ด้วยเหตนุ ธี้ รรมจงึ ไมอ่ ยทู่ ไี่ หน นอกจากอยกู่ บั ธรรมและอย่กู บั ใจของ
ผู้ทำ� ให้เกิดให้มเี ทา่ น้ัน
ฉะนั้น ธรรมแทจ้ ึงมิได้อยู่ในวงสมมุติ นอกจากสัญญาธรรม คือธรรมใน
ความจำ� และธรรมในขอบข่ายของสมมตุ จิ งึ อย่ใู นสมมตุ ิ เพราะสมมตุ พิ าอยู่
พาไป พาให้เสื่อม พาให้เจรญิ พาให้ทนั สมัย พาใหล้ า้ สมยั ธรรมแทม้ ิได้
อยู่ในขอบข่ายแหง่ สมมตุ ิ จึงไมม่ ีคำ� ว่า ล้า หรือ ทันสมยั
ถาม
แหม ละเอยี ดและน่าอัศจรรย์มากนะปู่ ธรรมท่ฟี ังวันนกี้ ระผมยงั ไม่เคยฟังจาก
ที่ใดผู้ใดมาก่อนเลย เพ่ิงไดฟ้ งั วันน้ีอยา่ งจุใจที่หิวกระหายมานาน ธรรมแทท้ ่ี
กล่าวถงึ น้ี ถา้ ผู้ไม่ร้กู ็พูดไมไ่ ด้ พดู ไมถ่ ูก พดู ไม่เปน็ เพราะไม่ใช่ธรรมคาดคะเน
ธรรมดน้ เดา แตเ่ ปน็ ธรรมของจริงจากใจโดยแท้ ดังธรรมในพระทัยของ
พระพทุ ธเจ้าและธรรมในใจของสาวกทา่ น อศั จรรยจ์ รงิ สมใจทม่ี าวนั น้ี ธรรมน้ี
คนกิเลสหนาๆ ดงั พวกกระผมจะมีทางรไู้ ด้ไหมปู่
ตอบ
ขณะยงั มกี ิเลสหนาๆ ไมว่ า่ ใครๆ ร้ไู ม่ได้ทงั้ สนิ้ แม้พระพทุ ธเจา้ กย็ งั รไู้ ม่ได้
ขณะจะรู้และขณะรู้กิเลสตอ้ งเบาบางและกิเลสต้องหมดสิ้นไปจากใจ
เพราะธรรมปฏบิ ตั ิสังหารทำ� ลาย ฉะน้นั ทา่ นจึงสอนใหอ้ บรมฝกึ ฝนจิตใจ
ชำ� ระจติ ใจซงึ่ เปน็ การชะลา้ งกิเลสในขณะเดยี วกนั จนกิเลสสน้ิ จากใจแล้ว
ยอ่ มร้ไู ด้ทกุ คน เพราะธรรมไม่มคี ำ� วา่ ล�ำเอยี ง
329
ธรรมะทหี่ ลวงป่ขู าว อนาลโย
โปรดใหแ้ กศ่ ษิ ย์ทงั้ หลายของทา่ นแตล่ ะคนแตล่ ะกลุม่
จะหลากหลายกันไป โดยถกู กับจริตของเขาเหล่านัน้
นบั ได้ว่าหลวงปเู่ ปน็ พระเถราจารยผ์ มู้ คี วามละเอยี ดออ่ น
ในญาณที่หยั่งรู้ถึงวาระจิตของมนุษยแ์ ละอมนุษย์
อยา่ งดเี ลศิ จงึ สมควรนำ� มาสรรเสรญิ เทดิ ทนู บารมธี รรม
ของทา่ นให้แกอ่ นชุ นรุ่นหลังสบื ไป
330
สบื ตอ่ ปฏปิ ทา
หลวงปู่ขาว อนาลโย
จากรุ่นสูร่ ุ่น
331
ค�ำสงั่ ทา่ นพระอาจารย์ใหญ่มั่น
พระอาจารยจ์ วน กุลเชฏโฐ ข้าพเจ้า (พระอาจารยจ์ วน) ไดช้ ่วยงานศพทา่ น
พระอาจารยใ์ หญ่ (หลวงป่มู ั่น ภรู ทิ ตฺโต) อยู่เปน็ เวลา
วดั เจตยิ าคริ ีวหิ าร (ภทู อก) เดอื นเศษจงึ เสรจ็ งาน หลงั จากการถวายพระเพลงิ แลว้
อ�ำเภอศรวี ิไล จงั หวดั บงึ กาฬ ไดป้ รกึ ษากับท่านอาจารย์วนั อุตตฺ โม หรือทา่ นเจ้าคณุ
อดุ มสังวรวสิ ทุ ธเิ ถร แหง่ วดั ถำ�้ อภัยดำ� รงธรรมในสมยั
(ข้อมลู จากหนงั สืออตั ตโนประวตั ิ ปจั จุบัน ปรึกษากันว่าเราหมดพอ่ แม่ครูบาอาจารย์
และพระธรรมเทศนา อันเป็นหลักชัยแล้ว ตอ่ ไปเราควรจะไปเท่ียววิเวก
ท่ีไหนดี ในที่สุดก็ตกลงกันวา่ จะไปเที่ยวภาคใตห้ รือ
พระอาจารยจ์ วน กลุ เชฏโฐ) ปกั ษ์ใต้ดว้ ยกนั เพราะขณะนัน้ ทา่ นพระอาจารยเ์ ทสก์
เทสฺรํสี หรือท่านเจา้ คุณนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์
พระอาจารยจ์ วน กุลเชฏโฐ แห่งวัดหนิ หมากเปง้ ในเวลาต่อมา ท่านจะไปประกาศ
ประสบอุบัติเหตุเคร่ืองบินตก ศาสนาทแี่ ถวจงั หวดั ภเู กต็ พงั งา จงึ คดิ ว่าจะตามทา่ นไป
ถึงแกม่ รณภาพ ณ อ.ล�ำลูกกา และขอรับการอบรมจากท่าน ดว้ ยท่านเป็นพระผใู้ หญ่
จ.ปทมุ ธานี ในวนั ท่ี ๒๗ เมษายน ที่ไดร้ ับการยกย่องจากทา่ นพระอาจารยใ์ หญม่ ั่นมาก
พ.ศ. ๒๕๒๓ ระหวา่ งข้าพเจา้ เป็นพระนอ้ ย พรรษา ๓ พรรษา ๔
ได้ยินทา่ นพระอาจารย์ใหญก่ ล่าวถึงท่านพระอาจารย์
เทสกด์ ว้ ยความนยิ มยกยอ่ ง และบางโอกาสกป็ ระกาศ
พยากรณ์ภมู ิจิตของท่านไวอ้ ย่างสงู มากดว้ ย
ข้าพเจ้าแตง่ ของเสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ เตรียมจะไป
กับท่านอาจารย์วันอยูแ่ ลว้ ก็มีเหตุการณท์ ่ีมาหักเห
ท�ำให้ข้าพเจ้าตอ้ งเปลี่ยนความตั้งใจ กลา่ วคือ
ท่านพระอาจารย์ขาว หรอื หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่ง
วดั ถำ�้ กลองเพล ในปัจจบุ ัน ซึง่ มาในงานฌาปนกิจศพ
ของท่านพระอาจารยใ์ หญ่มนั่ ทราบจากเพอ่ื นภกิ ษอุ นื่ ๆ
วา่ พระครบู าจวนหรอื ขา้ พเจ้ากม็ าในงานนเี้ ช่นเดยี วกนั
332
ท่านก็เลยให้คนไปเรียกข้าพเจา้ ใหไ้ ปหา ความจริงกอ่ นหนา้ น้ันข้าพเจา้ ยังไมเ่ คย
ไดพ้ บไดเ้ ห็นไดก้ ราบนมัสการทา่ นเลย และทา่ นหลวงปูก่ ็ไม่เคยเห็นหรือรู้จักตัว
ขา้ พเจา้ มาก่อนเหมอื นกนั แต่ทา่ นก็ไดใ้ หค้ วามเมตตาขา้ พเจา้ เปน็ อย่างยิ่ง
333
หลังจากที่สนทนาปราศรัยกันพอสมควรแล้ว
ทา่ นกไ็ ต่ถามขา้ พเจา้ ว่า “เมอ่ื เสรจ็ งานศพแล้วจะไปไหน
ตอ่ ไป”
ขา้ พเจ้าเรียนทา่ นวา่ “กระผมจะไปเท่ียวปกั ษใ์ ต้
จงั หวัดภเู ก็ต ตามทา่ นอาจารย์เทสกไ์ ปขอรบั ”
ท่านหา้ มวา่ “อย่าไปเลย ใหไ้ ปอยู่กับผมที่
ถำ�้ เป็ดเถอะ”
ขา้ พเจา้ คา้ นทา่ นว่า “ผมจะไปปักษ์ใต้ครบั ผมนัด
กับทา่ นวันไว้แล้ว”
ทา่ นก็ยืนยันไม่ให้ไป ไม่ว่าข้าพเจา้ จะกราบเรียน
บา่ ยเบ่ียงเช่นไร ทา่ นก็ไม่ใหไ้ ปทา่ เดียว ผลท่ีสุดทา่ น
คงเห็นว่าข้าพเจา้ หัวดื้อ ตอ้ งการจะไปปักษ์ใต้กับ
ทา่ นอาจารย์วนั ตามไปอยูด่ ว้ ยทา่ นพระอาจารยเ์ ทสก์
จรงิ ๆ พดู เท่าไรคงไม่ฟัง ท่านจงึ ต้องยอมขยายความนยั
ท่านกรณุ าเล่าให้ฟังว่า
“เวลาผมมาจากจังหวัดเชียงใหม่แลว้ เขา้ ไป
นมัสการท่านพระอาจารยม์ ่ัน ท่านพระอาจารย์ม่ัน
ถามผมว่า “ท่านขาวรจู้ กั ท่านจวนไหม” ผมกเ็ รยี นทา่ น
วา่ “ไมร่ ้จู กั ”ท่านกว็ า่ “ทา่ นจวนคนอำ� เภออำ� นาจเจรญิ
จงั หวดั อบุ ลฯ อำ� เภอเดยี วกบั ทา่ นขาวนะ่ ทา่ นจวน
มาอยู่กับผมนี้ ตอ่ ไปขอฝากทา่ นจวนด้วย ขอให้
ทา่ นชว่ ยก�ำกับดูแลรักษาทา่ นจวนดว้ ย รักษาทา่ น
จวนเนอ้ อยา่ ปล่อยไป ให้รักษากนั ...”
334
หลวงปขู่ าวบอก “ทา่ นอาจารยม์ นั่ มาจ�ำพรรษาที่เชิงเขาภูเหล็กบริเวณ
ส่ังก�ำชับผมไว้แลว้ ไมใ่ หท้ ่านไปไหน ที่เรียกวา่ หวายสะนอย ส่วนขา้ พเจา้
ให้ทา่ นอยูก่ ับผม เม่ือผมมาพบท่าน หลวงปู่ท่านใหไ้ ปจ�ำพรรษาท่ีถ้�ำพวง
แลว้ จงึ ไม่อยากใหท้ า่ นไปทอี่ น่ื ให้ท่าน หรือวัดบนหรือวัดถ้�ำอภัยด�ำรงธรรมที่
อยูก่ ับผมเพราะท่านอาจารยม์ ่ันสั่ง ทา่ นพระอาจารย์วันสร้างอยู่เด๋ียวน้ี
อย่างนั้น”
ถ�้ำพวงนี้แต่กอ่ นเปน็ ถ�้ำท่ีศักดิ์สิทธิ์
ระหวา่ งทขี่ า้ พเจ้านง่ิ งง ด้วยไม่ทราบ และส�ำคัญมาก ทา่ นแต่งให้ข้าพเจา้
ว่าทา่ นผู้ใหญ่ฝากฝังกันไวเ้ สร็จแลว้ ไปอยูอ่ งคเ์ ดียวในฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน
หลวงปู่ขาวก็อธิบายตอ่ ไป “ผมรับค�ำ มกราคม เดือนอา้ ย จนถึงเดือนเจ็ด
ท่านอาจารยม์ ั่นแล้ว ถา้ ปลอ่ ยให้ อยคู่ นเดยี วตลอด ตอนเชา้ ไปบณิ ฑบาต
ท่านไปไหน กเ็ หมอื นผมไม่เคารพทา่ น ท่ีบา้ นหนองบัว ซ่ึงอยู่หา่ งจากถ้�ำลงไป
อาจารย์มน่ั และทา่ นจวนเองกเ็ หมอื น ทท่ี งุ่ ขา้ งล่างถงึ ๑๓๐ เสน้ (ประมาณ ๕
ไมเ่ คารพท่านอาจารยใ์ หญอ่ ีก” กโิ ลเมตรเศษ) การบณิ ฑบาตตอ้ งเดนิ ลง
จากเขา แหวกทงุ่ หญา้ เพก็ ซง่ึ สงู ท่วมหวั
เ ม่ื อ ท า่ น บ อ ก ก ล ่า ว ถึ ง อ ย า่ ง นี้ ไปโดยตลอด การจะไปการจะมา
ขา้ พเจา้ ก็ใจออ่ นยวบลง เลยรับค�ำทา่ น กินเวลามาก ดังนั้นบางวันจึงฉันขา้ ว
ว่าจะไม่ไปไหน แตจ่ ะอยู่กบั หลวงปขู่ าว ทตี่ ีนเขาแล้วถึงกลบั ข้นึ ไปอยถู่ ำ�้ พวง
ด้วยความเคารพในโอวาทของทา่ น
พระอาจารยม์ ั่นทส่ี งั่ การไว้ อุบายอยèางนช้ี อบกลนัก
ดีมาก
ห ล ว ง ปู ่ข า ว ก็ เ ล ย รั บ ร อ ง ทุ ก สิ่ ง
ทุกอย่าง คา่ รถ คา่ เรือ ทา่ นออกให้ ขณะทข่ี ้าพเจ้าอย่ทู ถี่ ำ้� พวงนป้ี รากฏ
ข้าพเจ้าหมด แล้วข้าพเจ้าก็ตามท่าน วา่ ทสี่ งบสงัดดี การภาวนาดีนัก จติ สงบ
ไปอยูท่ ่ีถ�้ำเป็ด อ�ำเภอสอ่ งดาว จังหวัด เวลาภาวนาจิตรวมดี บางคืนจติ รวมถึง
สกลนคร คืนละ ๓ ครั้งก็มี ข้าพเจ้าอยู่คนเดียว
ที่ถ้�ำพวงจนกระท่ังจวนจะเข้าพรรษา
พอถึงเวลาจะปวารณาเขา้ พรรษา
หลวงปูข่ าว อนาลโย ก็ยา้ ยจากถ�้ำเปด็
335
ก็มีสามเณรชลิต ซ่ึงเด๋ียวนี้เปน็ มหาชลิตอยู่ทางวัด
ฝ่ังธนบุรีไปอยู่ด้วย และตอ่ มาหลวงปู่ขาวไดแ้ ตง่ ท่าน
พระอาจารยเ์ พ็ง เตชพโล ซึ่งตอ่ มาทา่ นไปอยู่ภูลังกา
และมรณภาพท่ีนั่นเมื่อปี ๒๕๒๑ ให้ไปอยู่ดว้ ยอีก
องคห์ นึ่งเป็นเพอื่ นกันและรักษากัน
อยู่ต่อมาไดม้ ีพวกญาติโยม พอ่ ออก แม่ออก
สีกาสาว ขน้ึ ไปเที่ยวชมถ้ำ� พวงมากขน้ึ บางคนกไ็ ปสง่
เสบียงอาหาร ญาตขิ องสามเณรคนหน่งึ เป็นหญงิ สาว
ไปสง่ อาหารถวายพระทุกวัน เขาไมไ่ ด้สง่ แต่อาหาร
หากแตส่ ง่ สายตามาใหด้ ว้ ย ท�ำตาหวานหยาดเย้ิม
สายตาของเขาลิดๆ แรกๆ ก็ไมร่ ูส้ ึกอะไร แตม่ อง
ตาหวานทุกวันๆ ก็เกิดความรักความยินดีในหญิงน้ัน
เห็นนัยน์ตาของเขาว่างามว่าสวย ความจริงเขาอาจ
จะมีกิริยาออ่ นหวานท�ำตาหวานเช่นนั้นเองตาม
ประสาหญงิ สาว แต่ตวั เราไปหมายนยั นต์ าของเขาเอง
หลายวันเขา้ จติ กเ็ กิดยินดใี นสายตาของเขา
เวลาภาวนาเคยพจิ ารณากระดกู อกของข้าพเจ้าเอง
มองเห็นแจ่มชัด ก�ำหนดลงไปทีไรก็เห็นกระดูกของ
เราชัดแจง้ อยู่ดังน้ัน แตค่ ราวนี้ภาวนาไปพิจารณา
กรรมฐานไปกลบั มองไมเ่ หน็ กระดกู อกของเรา เหน็ แต่
สายตาของสีกามาซึมซาบอยูใ่ นจิต เห็นแตค่ วามงาม
ของรูปร่างหน้าตาของเขาลอยวนเวียนแทนหมด
จิตไม่สงบ พยายามแก้ไขอยา่ งไรก็ไม่เปน็ ผล ภาวนา
ทีไรเห็นแต่ตาหวานของเขาทุกที จิตไปจดจ่ออยูแ่ ต่
สายตาลดิ ๆ ของเขา
336
เผอิญมีโยมผูช้ ายสองคนขึ้นมา ข้าพเจ้าเทศนใ์ หม้ นั ฟัง มนั อยากจติ
สนทนาด้วย คือ พ่อออกเล็กและพอ่ ไมส่ งบ มวั แตไ่ ปหมายสายตาของเขาอยู่
ออกนิล มาเลา่ ว่ามีคนมาฆา่ ชา้ งตาย อย่างนน้ั และก็เกิดอุบายว่า “ธรรมดา
อยูไ่ ม่ไกลนัก และเวลาน้ีเขาก�ำลังเผา ถา้ ควายตัวไหนมันดื้อมันด้านไปบุก
ซากช้างนนั้ ข้าพเจา้ จงึ ถามวา่ "มกี ระดกู รวั้ เขา เขา้ ไปกินพชื ผกั ในสวนของเขา
ชา้ งเหลือบ้างไหม" เขาตอบว่า "มี" ไม่เชอื่ ฟงั เจา้ ของ เขากจ็ ะต้องแขวนไม้ไว้
จึงบอกเขาวา่ จะขอกระดูกขาชา้ ง ทรมานมนั อย่างนแี้ หละ เธอกเ็ หมอื นกนั
สักทอ่ นหน่ึง จะเอามาท�ำยาแก้โง่ จติ มนั ดอื้ มนั ด้านไปหมายสายตาของเขา
เขาก็รับค�ำและลาไปเอากระดูกช้าง วา่ ดวี ่าสวยอยา่ งนนั้ อยา่ งน้ี เราจงึ ตอ้ ง
มาให้ ท่ีซ่ึงชา้ งตายนั้นอยูไ่ ม่ไกลจาก เอากระดูกช้างมาแขวนคอแกจ้ ิตด้ือ
ถ้�ำท่ีขา้ พเจ้าอยู่ ดังนั้นประเด๋ียวเดียว ดา้ นของตวั เองบา้ ง เดนิ จงกรมกแ็ ขวน
โยมก็แบกกระดูกขาช้างกลับมาท่อน นงั่ ภาวนากแ็ ขวน แขวนมนั อยอู่ ยา่ งนนั้
หนึ่งยาวสักศอกหน่ึงได้ ข้าพเจ้าจึงเอา เวน้ เสยี แตน่ อน ถา้ เธอไมแ่ กไ้ ขตวั เอง
ฝ้ายมาฟนั่ ท�ำเปน็ เชือกร้อยกระดูกขา ถา้ จิตเธอไมส่ งบ ไม่ถอนจากสายตา
ชา้ งทอ่ นนั้น แล้วก็เอาขึ้นมาแขวนคอ ของเขา เราเป็นไมแ่ ก้ให”้
ตนเองไว้ แขวนไวต้ ลอดเวลา เดนิ จงกรม
กแ็ ขวนไว้ทค่ี อ นงั่ ภาวนากแ็ ขวนไว้ทคี่ อ ข้าพเจา้ ใหโ้ อวาททรมานมัน บางที
แขวนมันอยูเ่ ช่นนั้น ไมย่ อมถอดออก เวลาฉันหมาก บ้วนน�้ำหมากไปถูก
แลว้ ก็สอนตวั เองวา่ กระดูกช้าง กระดูกก็แดงเหมือนเลือด
ขา้ พเจา้ แขวนกระดูกช้างไว้เชน่ นั้น
“เนื้อไมไ่ ด้กิน หนังไมไ่ ด้นั่ง เอา จนกระท่ังจิตสงบ ไมม่ คี วามรูส้ ึกในสีกา
ก ร ะ ดู ก ม า แ ข ว น ค อ อ ย ่า ง น้ี แ ห ล ะ คนนั้นอีกแล้ว จึงยอมถอดกระดูกนั้น
ถา้ เธอภาวนาไม่เหน็ รา่ งกระดกู ไมเ่ หน็ ออกจากคอ
กระดกู ในตนของตนแล้ว เราจะไมป่ ลด
ไมเ่ ปลื้องไมแ่ ก้ออก ใหแ้ ขวนมันอยู่ ร ะ ห ว ่า ง ท่ี ยั ง ค ง เ อ า ก ร ะ ดู ก ช ้า ง
อย่างน้ี รู้จักไหมกองกระดูก กระดูก แขวนคอเดินจงกรมน่ังภาวนา วันหน่ึง
ภายนอก กระดกู ภายใน มนั กเ็ หมอื นกนั ท่านอาจารยเ์ พ็งมาเห็นขา้ พเจา้ เอา
เราก็เปน็ สัตว์ตัวหนึง่ ” กระดูกชา้ งแขวนคอเดินจงกรมภาวนา
337
ท่านกห็ วั เราะก๊ากใหญเ่ ลย คงคดิ ว่าข้าพเจา้ มสี ตวิ ปิ ลาส
ไปแลว้ พอรุ่งเชา้ ลงไปบิณฑบาต ทา่ นอาจารย์เพ็ง
จึงไปกราบเรียนหลวงปู่ขาวที่จ�ำพรรษาอยูต่ ีนเขา
ภูเหล็กคือที่หวายสะนอย น่ันเองวา่ “ครูบาจวน
เ อ า ก ร ะ ดู ก ช ้า ง ม า แ ข ว น ค อ เ ดิ น จ ง ก ร ม แ ล ะ
น่ังภาวนา และก็เค้ียวหมากบ้วนน�้ำหมากลงรด
กระดูกชา้ งเป็นสีแดงจ้า ครูบาจวนท�ำอย่างนั้น
เหน็ จะเปน็ บ้าไปแล้ว วปิ ริตไปเสียแล้ว”
หลวงปูข่ าวได้ฟังดังนั้นจึงได้น่ิงพิจารณา และ
ตอบวา่ “ฮ้าย ไม่ใช่เป็นคนบา้ ไม่ใช่คนวปิ รติ หรอก
อันนี้เป็นอุบายของท่านตา่ งหาก ทา่ นคงมีเหตุ
จ�ำเปน็ จึงตอ้ งใช้อุบายนี้ คนบ้าคงจะไมท่ �ำอยา่ งนี้
น่ีเปน็ อุบายสำ� หรับทรมานของทา่ นต่างหาก คงจะ
เพราะเหตใุ ดเหตหุ นง่ึ เราควรคอยรอฟังกนั ไปกอ่ น
อยา่ เพ่งิ เข้าใจว่าทา่ นเปน็ บา้ เลย”
ครนั้ ข้าพเจา้ จติ สงบเป็นปกติ จติ จดื จางจากสายตา
หวานของหญงิ สาวผ้นู น้ั การภาวนาก็ดี จึงเอากระดกู
ช้างออกจากคอ แล้ววันหน่ึงก็ไปกราบนมัสการทา่ น
หลวงปขู่ าว อนาลโย ทา่ นก็ทกั และถามวา่ “ท่านจวน
ท�ำไมจึงเอากระดูกชา้ งไปแขวนคอเดินจงกรมและ
นั่งภาวนา”
ขา้ พเจ้ากเ็ ลยเรยี นถวายท่านว่า “ขณะนน้ั สกี าสาว
ท่บี ้านโพนสวางเขามาสง่ อาหารแทบทกุ วัน เขามา
ส่งสายตาให้ ทำ� ตาหวานใส่ หลายวนั เข้ากไ็ ปหมาย
สายตาของเขาทำ� ให้จติ ใจไม่สงบ ฉะนน้ั กระผมจึง
338
หาอุบายเอากระดูกช้างมาแขวนคอ ข้าพเจา้ จงึ เรยี นทา่ นว่า “ไดผ้ ลครบั
เดนิ จงกรมและภาวนาเพอ่ื ทรมานมนั ไดผ้ ลดี หายเลย จิตสงบดีแลว้ ผมจึง
ตอนกอ่ นนั้นกระผมพิจารณากระดูก ปลดออกแก้ออกจากคอตนเอง”
อกตวั เองได้ชดั เจน พอมาคดิ ถงึ สายตา
ของสีกาสาวเข้า ท�ำให้ไม่สามารถ ท่านหัวเราะใหญ่และชมวา่ “แหม
พจิ ารณากระดกู อกของตวั เองได้ จงึ เอา อุ บ า ย อ ย ่า ง น้ีช อ บ ก ล นั ก ดีม า ก
กระดกู ชา้ งซง่ึ เปน็ กระดกู สตั วเ์ หมอื นกนั ผมยงั คดิ ไม่ได้เลย เมอื่ ท่านเพง็ มาบอก
มาเป็นสกั ขีพยาน แขวนคอภายนอก ผมว่าทา่ นจวนเปน็ บา้ จิตวิปริต
เพื่อน้อมเอากระดูกท่ีแขวนคอน้ัน เอากระดูกช้างแขวนคอเดินจงกรม
เขา้ ไปสกู่ ระดกู อกทแ่ี ขวนคอภายในของ และนั่งภาวนา ผมก็ยังไม่เช่ือ อุบาย
ตนวา่ กระดกู ทแี่ ขวนคออย่ภู ายนอกและ อยา่ งนี้แปลกประหลาดจริงๆ ดีนัก
กระดกู ทแ่ี ขวนคออยภู่ ายในกเ็ ป็นกระดกู ไดผ้ ลด”ี
สัตวเ์ หมือนกัน ท�ำไมท่านจึงไมเ่ ห็น
ถา้ ทา่ นไมเ่ หน็ เรากไ็ มแ่ ก้ออกให้ ทา่ นไป สมณวิสัยพระธดุ งค์
หมายเอาสายตาของเขา โบราณทา่ น
วา่ ...เนอื้ ไมไ่ ดก้ ิน หนงั ไมไ่ ดน้ ง่ั กระดกู เมอ่ื ออกพรรษาแลว้ เสรจ็ กจิ การงาน
แขวนคอต่องแต่ง - ต่องแตง่ ...อย่างนี้ ทางส�ำนัก ก็ไดพ้ ากันไปนมัสการร�่ำลา
และกระผมก็ได้อุบายสอนตนอีกว่า หลวงปู่ขาว อนาลโย ออกวิเวกไปตาม
ธรรมดาควายตวั ไหนมนั หา้ ว มนั คะนอง สถานทต่ี ่างๆ พรรษาท่ี ๙ ได้มาจำ� พรรษา
มนั ดอ้ื มนั ด้าน มนั ไปบกุ รกุ ทำ� ลายเรอื ก ทีภ่ สู ะโกฏ บ้านหนองเมก็ นามน
สวนของคนอนื่ เขา เขาต้องทรมานมัน
เอาไม้ยาวๆ มาแขวนคอมนั เพอ่ื ใหม้ นั คร้ันออกพรรษาแลว้ ก็พากันแยก
ละพยศอนั ร้าย เมอื่ มนั ละพยศอนั ร้าย ยา้ ยออกเท่ียววิเวกตามสมณวิสัยของ
แล้ว เขาจงึ เอาไมอ้ อกจากคอมนั ” พระธดุ งคกรรมฐาน มุ่งหน้าไปส่จู งั หวดั
สกลนคร เมือ่ ไปถึงอ�ำเภอสว่างแดนดิน
หลวงปูข่ าวทา่ นก็เลยยอ้ นถามว่า ได้ขา่ ววา่ หลวงปู่ขาวมาอยู่จ�ำพรรษาท่ี
“เมื่อทา่ นท�ำเชน่ นี้แล้วเป็นอยา่ งไร ถำ�้ คอ้ ดงหลบุ หวายหลบุ เทยี น(เขตอำ� เภอ
ได้ผลไหม สงบไหม” วงั สามหมอ จงั หวดั อดุ รธาน)ี เลยพากนั
339
เดินข้ึนไปกราบนมัสการท่าน ทา่ นจ�ำพรรษาอยูท่ ่ีนั้น
๑ พรรษาแล้ว
ถ�้ำค้ออยไู่ กลหมบู่ ้านมาก ประมาณถึง ๓๐๐ เส้น
หรอื ๑๒กโิ ลเมตรการขบฉนั ทา่ นได้อาศยั แมช่ ที ำ� อาหาร
ถวายโดยให้ชาวบ้านช่วยกันทยอยสง่ เสบียงอาหาร
ขึ้นไปถวายไว้ให้ท่าน ข้าพเจ้าไปพ�ำนักอยูท่ ี่ถ้�ำคอ้
กับท่านเปน็ เวลาถึง ๒ เดือน เพราะเป็นที่วิเวกดี
มถี ำ�้ ชะเง้ือมเขามาก
หลวงปูข่ าวเลา่ ให้ฟงั ว่าเมื่อมาอยูค่ รั้งแรกที่
ถ�้ำค้อนี้ เป็นถ้�ำงูใหญ่ เห็นเป็นรูลึกลงไปในพ้ืนเขา
มดื จนมองไม่เหน็ วา่ ลกึ สกั ปานใด ทา่ นไปนง่ั ภาวนาอยู่
ปากถ้�ำ วันหน่ึงมีงูเล้ือยออกมาจากปากถ้�ำ เลื้อยมา
ใกลช้ ิดกับขาของทา่ นทีเดียว ท่านลืมตาดูเห็นงูใหญ่
ขนาดเท่ากบั ขาคน ตวั ดำ� เป็นมนั ละเลอ่ื ม ท่านวา่ ทแี รก
ทา่ นกลัวจนตัวแข็ง งูนั้นเมื่อเล้ือยมาถึงทา่ นแล้วก็
นง่ิ เฉยเหยยี ดตวั อยอู่ ย่างนน้ั ไม่ไปไม่มา คลา้ ยกบั จะมา
เพ่งพนิ จิ ดอู าคนั ตกุ ะใหม่แปลกปลอมเข้ามาในถน่ิ ของ
เขาใหเ้ ต็มตา เมื่อท่านไดส้ ติก็พิจารณาก�ำหนดความ
ตายและแผเ่ มตตาให้ ไม่นานงูน้ันก็เลื้อยจากไปตาม
ประสาของสัตว์
ในบริเวณลอ้ มรอบถ้�ำค้อน้ันเปน็ ป่าใหญด่ งทึบ
มีสตั วป์ า่ เชน่ เสือ ช้าง หมี กวาง เกง้ ท่องเทีย่ วกนั
เป็นแดน สมัยปัจจุบันนี้เขา้ ใจว่าปา่ อาจจะเตียนกัน
ไปหมด และสัตว์ป่าก็คงจะลดนอ้ ยถอยลงจนแทบ
ไม่เหลือหลอ ข้าพเจ้าอยูก่ ับหลวงปูข่ าวเป็นเวลา
340
ประมาณ ๒ เดือน จึงได้กราบนมัสการ จงึ ชวนใหอ้ ยเู่ ป็นเพอื่ นเพอ่ื ชว่ ยปรนนบิ ตั ิ
ลาทา่ นออกวิเวกเพราะเห็นวา่ ที่น้ัน ห ล ว ง ปู ่แ ล ะ ช ่ว ย ท� ำ เ ส น า ส น ะ ถ ว า ย
ถ้าอยูก่ ันหลายองคล์ �ำบากเรื่องอาหาร ใหห้ ลวงปูแ่ ละหมูพ่ วกท่ีจะติดตาม
ขบฉันเพราะอยูห่ า่ งไกลหมู่บ้านมาก ท่านมา
ไมม่ ที ่บี ณิ ฑบาต ขา้ พเจา้ ไดล้ าจากทา่ น
ไปหาท่ีวเิ วกตอ่ ไป ข้าพเจ้าและทา่ นพระอาจารยส์ อน
จดั เสนาสนะพรอ้ มแลว้ กไ็ ปรบั หลวงป่ขู าว
ตั้งแต่พรรษาท่ี ๑๑ จนถึงพรรษา ออกมาวเิ วก ท่านพอใจความสงัดเงียบ
ที่ ๑๓ ขา้ พเจ้าจำ� พรรษาอย่ทู ด่ี งหม้อทอง เงอื้ มถำ�้ และพลาญหนิ ทดี่ งหมอ้ ทองมาก
โดยตลอด เพราะเป็นที่สงบสงัดดี จึงอยู่ตอ่ ไปกระท่ังถึงเวลาเขา้ พรรษา
สภาพของปา่ ดงดบิ หนาทบึ ทเ่ี ตม็ ไปดว้ ย หลวงปูข่ าวและพระติดตามอีก ๗-๘
ไม้ใหญ่ มถี ำ�้ มีเงอื้ มผา และพลาญหิน องค์ ผา้ ขาว ๒ คน และแมช่ อี กี ๔-๕ คน
พรอ้ มทั้งสัตวป์ า่ อันดุร้ายที่จะช่วย จงึ ตกลงอธษิ ฐานพรรษาอยทู่ ดี่ งหม้อทอง
กำ� ราบกิเลสใหอ้ อ่ นราบลง เหล่านลี้ ้วน ด้วยกนั ทง้ั หมด อาหารขบฉนั กไ็ ดช้ าวบา้ น
เปน็ เคร่ืองชว่ ยในการภาวนาทั้งนั้น น�ำมาส่งเปน็ เสบียงและอาศัยแม่ชีชว่ ย
การภาวนาดี จิตสงบ รวมเรว็ ทำ� ถวายเปน็ หลกั มากกว่าการบณิ ฑบาต
เพราะระยะนั้นจ�ำนวนญาติโยมมีน้อย
ช ว่ ง ท่ี ข า้ พ เ จ า้ อ ยู ่ด ง ห ม ้อ ท อ ง กว่าพระมากนัก
หลวงป่ขู าวซงึ่ จำ� พรรษาอยทู่ ว่ี ดั อรณุ รงั ษี
จงั หวดั หนองคาย แตง่ คนให้มาหาข้าพเจา้ สถานทีก่ �ำราบกเิ ลส
ให้ไปรบั ท่านออกมาวเิ วก ให้หาสถานที่
ที่เหมาะสมก่อนแล้วค่อยไปรับทา่ น พรรษาท่ี ๑๒ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่ง
ระหว่างน้ันข้าพเจ้ามีเพ่ือนพระภิกษุ หลวงปขู่ าวมาจำ� พรรษาดว้ ยน้ี ต่างพากนั
อีกองค์หน่ึงแต่ทา่ นเปน็ ไข้ ระยะแรก ปรารภความพากความเพียรอย่างเต็ม
ดงหมอ้ ทองกันดารมาก จะมีพระอยู่ ความสามารถของตน ฉนั เสรจ็ ต่างองค์
มากกไ็ มไ่ ด้เพรามบี า้ นบณิ ฑบาตเพยี ง ๓ ต่างกแ็ ยกกนั ไปทำ� ความเพยี ร ประมาณ
หลงั คาเรอื นเท่านนั้ พอดที า่ นพระอาจารย์ บา่ ย ๓ โมง กวาดตาด แลว้ ก็รวมกัน
สอน อตุ ตรปัญโญ ธดุ งคม์ าถึง ข้าพเจา้ สรงนำ้� หลวงปู่ เสรจ็ แลว้ ตา่ งสรงนำ�้ และ
341
ฉนั นำ�้ ร้อน แลว้ กลบั ไปเดนิ จงกรม ตา่ งองค์ตา่ งสวดมนต์
ตอนเยน็ ไปรวมกันทศ่ี าลา ถา้ ใครมีปัญหาก็เรียนถาม
หลวงปู่ บางวนั ทา่ นกเ็ ทศน์ บางวันก็ไมเ่ ทศน์ เพียงแต่
สนทนาธรรม แตส่ �ำหรับวันพระนั้น พระ เณร ชี
มารวมกันฟังธรรมหลวงป่หู มดทุกองค์
บรเิ วณดงหมอ้ ทอง จังหวดั สกลนคร ระหว่างอยดู่ งหม้อทองกับหลวงป่ขู าวนี้ กลางคืน
วันหน่ึงไดล้ งอุโบสถ ปรากฏมีพวกเสือเขามากัดกัน
ข้างก้อนหนิ ขา้ งกฏุ ทิ ี่พระกำ� ลังลงอโุ บสถ ฟังจากเสียง
ที่กดั หยอกล้อกันนน้ั คงจะมีเสอื หลายตัวอยู่ มันกัดกนั
เล่นกันตั้งแต่พระเร่ิมสวดปาฏิโมกข์ จนกระท่ังสวด
ปาฏโิ มกข์จบมนั ก็ยงั ไม่เลิกกดั กัน รอ้ งหยอกลอ้ ตอ่ กัน
ตอ่ เม่ือภายหลังหลวงปูท่ า่ นคงจะร�ำคาญจึงตวาด
เอด็ ตะโรออกไป มนั จงึ คอ่ ยสงบลง แตก่ ค็ รางออู้ ตี้ อ่ ไป
อีกพกั ใหญ่
อีกวันหน่ึงตอนบา่ ยเวลาประมาณบา่ ยโมง
ขา้ พเจา้ กำ� ลงั นงั่ พกั ผ่อนอยบู่ นกฏุ ิ เหน็ ชา้ งป่าโขลงใหญ่
พากันยกขบวนเขา้ มาหากินในเขตวัด บ้างก็หักกิ่งไม้
ดังสนั่น บา้ งก็ลงกินนำ้� ในหว้ ย ซึ่งอยูเ่ บ้อื งล่างกุฏิของ
ข้าพเจ้า เนอื่ งจากขา้ พเจา้ และทา่ นพระอาจารยสอนได้
เลือกชัยภูมิสร้างกุฏิกันเปน็ อยา่ งดี โดยต่างสร้างกุฏิ
บนหลังพลาญหินกอ้ นสูงใหญซ่ ่ึงต่างมีขนาดสูงใหญ่
ไลเ่ ลยี่ กนั คอื แตล่ ะก้อนตา่ งกว้างประมาณกว่าห้าเมตร
ยาวเกอื บยสี่ บิ เมตร และสงู ถงึ กวา่ สบิ ห้าเมตร พลาญหนิ
ท้ังสองกอ้ นที่ข้าพเจ้าและทา่ นพระอาจารย์สอนตั้งกุฏิ
อยูจ่ ึงเปน็ เหมือนก�ำแพงแทน่ ศิลาทึบยาวเหยียดต้ัง
ขนานกัน โดยตรงระหว่างกลางมีหว้ ยหนองน้�ำคั่นอยู่
342
ซึ่งมีสัตว์ปา่ นานาชนิดชอบลัดเลาะ ซึ่งวิ่งถลันเข้าไปจับจองก่อน ธาตุขันธ์
เข้ามาหาอาหารและกนิ นำ้� เปน็ ประจำ� เวลา ไมย่ อมรอเวลา ท่านจงึ ตอ้ งเลยี่ งเข้าป่าไป
นง่ั บนกฏุ หิ รอื เดนิ จงกรมอยบู่ นพลาญหนิ ปรากฏมีเสือกระโดดข้ามศีรษะท่าน
จงึ สามารถเหน็ เกง้ กวาง ช้าง เสอื หมปู ่า พระอาจารย์สอนไปเลย ท่านว่าทา่ นรสู้ กึ
หรือหมี เขา้ มาเดินท่องไพรอยูข่ ้างลา่ ง เย็นวาบไปท้ังตวั เสือมนั กระโจนเข้าไป
ไดอ้ ย่างถนัดตา ส�ำหรับบ่ายวันนั้นชา้ ง ทางส้วมท่ีเณรก�ำลังอยู่ พอรู้วา่ เสือ
ฝงู นนั้ คงจะสำ� ราญใจเตม็ ที่ มนั จงึ เข้ามา เณรก็กระโจนแผล็ววิ่งออกมาปา่ ราบ
เดนิ เทย่ี วกนั อย่างเสรี เท่าทเี่ ห็นด้วยตา เคราะหด์ ที เ่ี จ้าเสอื ตวั นน้ั มนั คงผา่ นเข้าป่า
มันมาอยูท่ ี่เชิงริมห้วยก็สิบกวา่ ตัวแลว้ ไปแล้ว เณรจงึ ไมต่ ้องประจญั หน้ากบั มนั
แต่ท่ียังอยู่ในป่าใกลๆ้ ก็คงจะมีอีกเปน็
จ�ำนวนไมน่ อ้ ยเพราะฟงั จากเสียงท่ีมัน กุฏิของหลวงปูข่ าวอยู่หา่ งจากกุฏิ
หักกิ่งไผก่ ิ่งยางท้ึงถอนตน้ ไม้เล็กก็ดัง ของข้าพเจ้าและของทา่ นพระอาจารย์
สนน่ั ไปทงั้ ปา่ สอนเขา้ ไปในแนวปา่ อกี ด้านหนึ่ง ตง้ั อยู่
บนพลาญหินเชน่ เดียวกัน แตม่ ิได้เป็น
อยา่ งไรกด็ ี เสนาสนะในดงหม้อทองนี้ หนิ กอ้ นโดดๆ เหมอื นเปน็ ภเู ขาลกู ย่อมๆ
ใช่ว่ากฏุ ทิ กุ หลงั จะปลอดภยั จากสตั ว์ป่า เชน่ ของเรา ดา้ นหนึง่ ของพลาญหนิ ของ
เสมอไปก็หาไม่ บางหลังอาจจะอยู่ใน หลวงปอู่ ย่ตู ดิ กบั ราวป่า ผ้าขาวทต่ี ดิ ตาม
ชัยภูมิท่ีปลอดภัยจากช้าง แต่ก็อาจจะ ท่านมาปลูกกระตอ๊ บอยูล่ ึกเข้าไปในป่า
มเี สือเขา้ มาเยยี่ มกรายได้ อยา่ งเช่นกุฏิ ทางดา้ นน้ัน ฉะน้ัน วันหน่ึงช้างจึงเดิน
ของพระบญุ ทนั ทา่ นกำ� ลงั จะออกจากกฏุ ิ เลน่ เลยข้ึนมาบนพลาญหินและตอ่ ไป
มองออกไปเห็นเสือใหญ่ตัวหนึ่งเขา้ มา ถึงกระตอ๊ บของผา้ ขาวผู้น้ัน มันเอางวง
นั่งจงโครง่ อยูต่ รงบันไดทางขึ้นกุฏิของ หยบิ รองเท้าออกมาเลน่ และโยนเข้าป่าไป
ทา่ น ทา่ นต้องรออยูพ่ ักใหญ่จนเสือ ถอนบันไดกุฏิออกมาและโยนเขา้ ป่า
จากไปแลว้ จงึ สามารถออกจากกฏุ ิได้ ไปดว้ ย มันเอางวงควานหาของเลน่ อยู่
พกั ใหญ่ เหน็ หมดเครอ่ื งกดี หนา้ ขวางตา
วันหน่ึง พระเณรฉันอาหารแลว้ แลว้ ก็เตรียมลาจากไป แต่ก็ยังอดนึก
ธาตุขันธ์ไมถ่ ูกกันก็จะต้องรีบเขา้ ส้วม สนุกไมไ่ ด้ มันจงึ เอางวงมาดนุ ฝาจนกุฏิ
ทา่ นพระอาจารยส์ อนไปไม่ทันเณร
343