โมหะก็ดี อย่างโลกทั่วๆไป พวกเราก็จะต้องหมุนเวียน เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่อย่างนี้ ออกจากชาตินี้ไปแล้วก็กลับมา อีก แล้วแต่สุดแท้แต่กรรมที่จะพานำ พวกเราไปสู่ในภพภูมิ ต่างๆมีมากมาย เพราะพระพุทธเจ้าท่านรู้แล้วว่าตายไม่ สูญ ตายแล้วเกิดอีก สิ่งที่ทำ ให้เกิดนั้นคืออะไร? ทำกรรมอัน ไหนเอาไว้ ไปสู่จุดนั้นพระพุทธองค์รู้แนวทางทั้งหมด วิธี กรรมคือการกระทำ ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้น พวกเราได้มาพบ ได้มาเจอ ได้มาศึกษาพระพุทธศาสนา แล้วในภพนี้ชาตินี้ ก็ขอให้พวกเราตั้งอกตั้งใจประพฤติ ปฏิบัติธรรม อย่าตั้งอยู่ในความประมาท อย่างที่หลวงพ่อ ได้กล่าวเบื้องต้น ให้อยู่ในอัปปมาทธรรม ตั้งอยู่ในความไม่ ประมาท เรื่องการปฏิบัติตั้งแต่เบื้องต้นที่เขาถามหลวงพ่อ ว่า กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ปฏิบัติอย่างไร การภาวนาจึง จะไม่สับสน ถ้าเรารู้แล้วว่า กายก็ดี เวทนาก็ดี จิตก็ดี ธรรม ก็ดี สติปัฎฐาน ๔ นั้น นั่นแหละเป็นเบื้องต้นที่พวกเราจะ นำ มาปรับปรุงกายใจของเรา ให้กำ หนดอันไหนก็ได้ เมื่อ กำ หนดแล้ว ก็นั่นแหละ ทีนี้เมื่อจิตเข้าสู่ความสงบแล้ว เรา ก็พิจารณาถึงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาถึงไตรลักษณ์ ร่างกาย สังขาร จนเกิดความเบื่อหน่ายคลาย ไม่ยึดมั่นถือ มั่น จิตใจก็หลุดพ้นจากอาสวะกิเลส ไม่มาเวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสารเป็นอนัตตกาล 351 คติธรรมคำ�สอนและพระธรรมเทศนา
“...ให้พวกเราสั่งสมคุณงาม ความดีเข้าสู่จิตใจไว้ หลักของพระพุทธศาสนานั้น ตายแล้วไม่สูญ ตายแล้วเกิดอีก แน่นอนสิ่งไหนที่มันไม่ดี อย่าคิด อย่าพูด อย่าทำ� อันไหนดี เรารู้หรือไม่...ดี อย่างไหนชั่ว เรารู้หรือไม่...ชั่ว ถ้าคิดชั่วแล้วมันจะทำ�ดีได้อย่างไร มันก็ต้องพาไปทำ�ในสิ่งชั่วๆ ไปพูดในสิ่งชั่วๆ พวกเราอย่าเป็นคนจำ�พวกที่ คิดอย่างหนึ่ง ทำ�อีกอย่างหนึ่ง พูดก็อีกอย่างหนึ่ง ให้พวกเรา คิดดี ทำ�ดี พูดดี ในเมื่อเราคิดดีแล้ว การกระทำ� การพูด ก็จะดีตาม การที่จะทำ�ความดี ควรเริ่มต้นนับหนึ่งที่ตัวเรา...” 352
353
“ธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านให้พิจารณา ทุกสิ่งอย่าง หลงก็อย่าหลงเกินไป รักก็อย่ารักมากเกินไป เกลียดก็อย่าไปเกลียดมากเกินไป โลกมันเป็นของมันอย่างนี้ มันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา” 354
355 คติธรรมคำ�สอนและพระธรรมเทศนา
356