รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ “กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” จัดท าโดย คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กลุ่มงานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส านักกรรมาธิการ ๑ ส านักงานเลขาธิการวุฒิสภา
รายนามกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ พลเอก โปฎก บุนนาค พลเอก มารุต ปัชโชตะสิงห์ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญส่ง ไข่เกษ รองประธาน คนที่หนึ่ง รองประธาน คนที่สอง รองประธาน คนที่สาม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ พลเอก พิศณุ พุทธวงศ์ นายสาธิต เหล่าสุวรรณ รองประธาน คนที่สี่ เลขานุการคณะกรรมาธิการ โฆษกคณะกรรมาธิการ พลเอก สนั่น มะเริงสิทธิ์ พลเอก ธวัชชัย สมุทรสาคร นายอ าพล จินดาวัฒนะ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ
ข นายกรรณภว์ ธนภรรคภวิน พลเอก ชยุติ สุวรรณมาศ พลเรือเอก ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร กรรมาธิการ กรรมาธิการ กรรมาธิการ พลเรือเอก นพดล โชคระดา พลเอก ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุทธิ์ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ กรรมาธิการ กรรมาธิการ กรรมาธิการ นายวิชัย ทิตตภักดี นายบุญมี สุระโคตร นางประยูร เหล่าสายเชื้อ กรรมาธิการ กรรมาธิการ กรรมาธิการ
ค รายนามอนุกรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญส่ง ไข่เกษ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ นายสาธิต เหล่าสุวรรณ ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัย พรรณสวัสดิ์ศาสตราจารย์กิตติคุณธเรศ ศรีสถิตย์ รองประธาน คนที่หนึ่ง อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ ว่าที่ร้อยตรี ธัชชัย ศิริสัมพันธ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นันทิกา สุนทรไชยกุล นายสมชาย ทรงประกอบ อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ
ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์เพ็ญศรี วัจฉละญาณ นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการและเลขานุการ รายนามที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อม นายวิจารย์ สิมาฉายา นางศุภรัตน์ โชติสกุลรัตน์ นายรังสรรค์ ปิ่นทอง นางอรพินท์ วงศ์ชุมพิศ รศ.สุเทพ ศิลปานันทกุล รศ.พล สาเกทอง นายไชยยศ บุญญากิจ นายประโชติ กราบกราน นายกฤษฎา ให้วัฒนานุกูล รายนามนักวิชาการประจ าคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นางสาวขวัญชนก ศักดิ์โฆษิต
ฌ บทสรุปผู้บริหาร ศาลปกครองจังหวัดระยอง มีค าพิพากษาเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศให้ท้องที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดทั้งหมด รวมทั้งต าบลเนินพระ ต าบลมาบข่า และต าบลทับมา อ าเมืองระยองทั้งต าบล ตลอดจนท้องที่ต าบลบ้านฉาง อ าเภอบ้านฉาง ทั้งต าบล เป็นเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อด าเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษตามที่กฎหมายก าหนด เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีพื้นที่รวม ๔๑๗.๐๕๗ ตารางกิโลเมตร (รวมทั้งพื้นที่ทะเล ภายในแนวเขต) ประกอบด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทเทศบาลนคร (บางส่วน) เทศบาลเมือง และเทศบาลต าบล จ านวน ๘ แห่ง ได้แก่ เทศบาลนครระยอง (บางส่วน) เทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลเมืองบ้านฉาง เทศบาลต าบลเนินพระ เทศบาลต าบลบ้านฉาง เทศบาลต าบลทับมา เทศบาลต าบล มาบข่าพัฒนา และเทศบาลต าบาลมาบข่า และชุมชนต่าง ๆ กว่า ๖๗ ชุมชน มีจ านวนประชากรประมาณ ๑๗๘,๐๐๐ คน ประชากรแฝงคือผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่เพื่อท างานในภาคแรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งครอบครัวและผู้ที่เข้ามาประกอบอาชีพค้าขายประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ คน มีโรงงานอุตสาหกรรม ประมาณ ๔๘๐ โรงงาน ประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรม ๕ แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย นิคมอุตสาหกรรมผาแดงและนิคมอุตสาหกรรม อาร์ไอแอล เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองประสบปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่ส าคัญคือ ปัญหามลพิษ ทางอากาศ มลพิษทางน้ าทั้งในแหล่งน้ าผิวดิน น้ าบาดาลและน้ าทะเล และปัญหาอุบัติภัยจากโรงงาน อุตสาหกรรม ปัญหามลพิษทางอากาศที่ส าคัญคือปัญหาสาร VOCs ได้แก่ ปัญหาสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ในบรรยากาศเกินค่ามาตรฐานในบางเวลา ปัญหามลพิษทางน้ า ได้แก่ แหล่งน้ าผิวดิน และน้ าทะเลมีคุณภาพเสื่อมโทรมเนื่องจากปนเปื้อนด้วยน้ าเสียชุมชน ปัญหาน้ าบาดาลปนเปื้อนด้วยสาร VOCs และปัญหาตะกอนในทะเลปนเปื้อนด้วยโลหะหนักบางชนิด โรคและการเจ็บป่วยของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เกิดจากพฤติกรรมและการด ารงชีวิต โรคระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อ โรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุของ การเสียชีวิต ๔ อันดับ ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก โดยโรคมะเร็ง เกิดจากสาเหตุและปัจจัยร่วมหลายปัจจัย รวมทั้งสาเหตุจากสาร VOCs ซึ่งยังไม่สามารถบ่งชี้ว่าเกิดจาก สาเหตุใดเป็นการเฉพาะ เนื่องจากขาดข้อมูลและหลักฐานทางระบาดวิทยาอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ หลังจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้ประกาศให้เป็นเขตควบคุมมลพิษตามค าสั่งของศาลปกครอง จังหวัดระยอง โดยได้มีการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษตามกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันมีแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ๔ แผนด้วยกันแต่ยังไม่สามารถแก้ไข ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองได้
ญ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ บัญญัติให้มีการปฏิรูปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ แผนดังกล่าวได้ก าหนดเป้าหมาย และตัวชี้วัด ๒ ประการ คือ การปฏิรูประบบบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ และการยกเลิกเขตควบคุม มลพิษซึ่งเป็นผลจากการแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมไม่น้อยกว่า ๓ พื้นที่ ในระยะเวลา ๕ ปี ต่อมา คณะกรรมการปฏิรูปประเทศได้ท าการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้ด าเนินการเสนอแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) หรือแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชน อย่างมีนัยส าคัญ (Big Rock) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ และคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ซึ่งแผนการ ปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ในกิจกรรมปฏิรูปที่ ๔ คือ การปฏิรูป ระบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุดหรือเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) โดยมีเป้าหมายคือการควบคุม ลด และขจัดมลพิษที่เกินค่ามาตรฐาน แล้วประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ด าเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ครบ ๒ ปี ซึ่งสิ้นสุดเมื่อ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ผลปรากฏว่าการปฏิรูปดังกล่าวไม่เกิด ผลสัมฤทธิ์ ยังไม่สามารถควบคุม ลด และขจัดมลพิษที่เกินค่ามาตรฐานส่งผลให้ไม่สามารถยกเลิก เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามเป้าหมายที่ก าหนดไว้ คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้ท าการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปตามหน้าที่และอ านาจ และได้ท าการ พิจารณาศึกษาถึงปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูปพร้อมทั้งจัดท าข้อเสนอแนะส าหรับการควบคุม ลด และขจัดมลพิษที่เกินค่ามาตรฐานในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ดังต่อไปนี้
ฎ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๑. ปัญหาด้านนโยบายและแผน ๑.๑ การที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองให้ส าเร็จลุล่วงไปได้นั้นเนื่องมาจาก ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาระดับชาติและเป็นปัญหาที่ เกิดจากการด าเนินการตามนโยบายการพัฒนา เศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศแล้วส่งผลกระทบต่อ สุขภาพและสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาดังกล่าว จ าเป็นต้องใช้งบประมาณจ านวนมาก แต่จังหวัดและ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถ จัดหางบประมาณได้มากพอส าหรับการแก้ไขปัญหา มลพิษในพื้นที่ ทั้งนี้หากการแก้ไขปัญหานี้ไม่ประสบ ความส าเร็จก็จะมีผลกระทบต่อการลงทุนในการพัฒนา ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อื่น ๆ ได้ ๑) รัฐบาลต้องให้ความส าคัญกับปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นล าดับ ต้น ๆ และก าหนดเป็นนโยบายระดับชาติ เพื่อให้แก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ๒)คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องเสนอ และผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดท า งบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB ) ให้เหมาะสมและเพียงพอต่อการ น าไปใช้แก้ไขปัญหามลพิษตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๓) ส านักงบประมาณต้องพิจารณาสนับสนุน งบประมาณส าหรับการนี้ด้วย ๑.๒ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ของเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นจัดท าขึ้น มีคุณภาพไม่เพียงพอ และแผนดังกล่าวไม่ได้บรรจุ หรือผนวกอยู่ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด จังหวัดระยองตามกฎหมายให้ ครบถ้วน ส่งผลให้แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองถูกลดความส าคัญ ลงไป ท าให้ขาดงบประมาณในการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการ ๑) รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณเป็นพิเศษ แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่งในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองและกรมควบคุมมลพิษ โดยต้องครอบคลุมตั้งแต่การส ารวจและรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งก าเนิดและจัดท าบัญชี รายละเอียดแสดงจ านวน ประเภท และขนาดของ แหล่งก าเนิดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษให้ครบถ้วน ไปจนถึงการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษได้อย่างมีคุณภาพ และกรณีที่แผนปฏิบัติ การฯ ถึงเวลาต้องทบทวนปรับปรุงก็ต้องมีการ ด าเนินการทบทวนปรับปรุง ๒) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษของ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องบรรจุหรือ ผนวกอยู่ในแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยองตามกฎหมายเพื่อการจัด งบประมาณส าหรับด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว
ฏ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๑.๓ ปัญหาการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษและการด าเนินการตามแผนฯในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีปัญหาอุปสรรค เนื่องจาก ๑.๓.๑ อนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับแผนปฏิบัติการฯ มีจ านวนมาก (มากกว่า ๑๐ คณะ) ขาดการบูรณาการ ระหว่างแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และไม่สามารถติดตามประเมินผลการด าเนินงานตาม แผนปฏิบัติการฯ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ๑.๓.๒ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยองมีจ านวน ๘ แห่ง ส่วนหนึ่งเป็น เทศบาลต าบล ซึ่งขาดศักยภาพในการจัดท าแผน ปฏิบัติการฯ และการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ รวมทั้งขาดงบประมาณ ทั้งนี้ ปัญหามลพิษครอบคลุม พื้นที่มากกว่าหนึ่งเขตการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ในทางปฏิบัติอาจจะด้วยขีดจ ากัดทางนิตินัยท าให้ เกิดสภาวะต่างคนต่างด าเนินการ มีความเหลื่อมล้ า ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ และการด าเนินการตามแผนฯ ในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ควรด าเนินการดังนี้ ๑.๓.๑ อนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับแผนปฏิบัติการฯ ๑) จ านวนอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับ แผนปฏิบัติการฯ ควรมีเท่าที่จ าเป็นจริงๆและต้อง มีบทบาทจริงในการจัดท าแผนและการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการฯ ๒) “คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการ มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ”และ“คณะอนุกรรมการ ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” ต้องติดตาม ก ากับดูแลการแก้ไขปัญหามลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างเข้มงวด ๓) รัฐบาลควรศึกษาและจัดวางโครงสร้าง การจัดการเพื่อขจัดปัญหามลพิษในเขตควบคุม มลพิษขึ้นมาใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ๑.๓.๒ การแก้ไขศักยภาพขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ๑) จังหวัดระยองควรจัดสรรงบประมาณ แล ะผู้เชี่ยวช าญด้ านก า รจัดก า รมลพิษ สนับสนุนแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี รายได้น้ อยส าหรับด าเนินการตามแผน ปฏิบัติการฯ ที่วางไว้และต้องก าหนดเป็น ตัวชี้วัดของจังหวัดด้วย ๒) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต้องให้ความส าคัญกับการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยมีหน้าที่ ผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุน ทั้งก าลังคน งบประมาณ วิชาการ เพื่อเกิดการด าเนินการ ที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง
ฐ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๑.๓.๓ ในทางปฏิบัติ การจัดท าแผนปฏิบัติการฯ เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นในองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ส่วนหน่วยงานพี่เลี้ยงหลักคือกรมควบคุม มลพิษ ส านักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง และส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุม มลพิษที่ ๑๓ ๑.๓.๔ ภาคผู้แทนของกลุ่มธุรกิจและประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ได้เสียจากปัญหามลพิษในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือมีส่วน ร่วมน้อยในการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ๓) กระทรวงมหาดไทยต้องออกกฎระเบียบ ในเรื่องของการแก้ไขปัญหามลพิษที่ครอบคลุม พื้นที่หลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถด าเนินการ หรือกิจการที่เอื้อต่อกัน และต้องแก้ไขกฎระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณเพื่อให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นสามารถใช้งบประมาณที่เอื้อกันได้ ๑.๓.๓ การจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ๑) รัฐบาลต้องสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อท าหน้าที่เป็นพี่ เลี้ยง ด้านวิชาการให้กับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง ในการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตาม แผนปฏิ บั ติ การฯ ในเขตควบคุ มมลพิษ จังหวัดระยอง และต้องมีนโยบายพร้อมกลไก ที่จะช่วยส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง มีความเข้มแข็ง สามารถจัดท าแผน และการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ได้ด้วยตนเอง ๒) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ต้องให้ การสนับสนุนองค์ความรู้และค าแนะน าแก่ เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง เพื่อให้ก า รจัดท าแผนและก า ร ด าเนินการตามปฏิบัติการฯ เป็นแผนที่ สามารถควบคุม ลด และขจัดมลพิษ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเป็นจริง ๑.๓.๔ รัฐบาล ภาคผู้แทนของกลุ่มธุรกิจ และประชาชน ต้องมีส่วนร่วมในการจัดท า แผนปฏิบัติการฯ ที่มีประสิทธิภาพ และน า แผนปฏิบัติการฯ ไปด าเนินการ อย่างจริงจัง
ฑ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๑.๓.๕ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองที่ผ่านมา มีระยะเวลา ด าเนินการ ๔-๕ ปี แต่ขาดการทบทวนผลการด าเนินการ และการปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ (Rolling plan) อย่างจริงจังในปีถัดไปตามสภาพมลพิษที่เปลี่ยนไปของ พื้นที่และขาดการท ารายงานผลการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯ รายปี ๑.๓.๖ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มักขาดเป้าหมาย และตัวชี้วัด รวมทั้ง ไม่มีการก าหนดกรอบเวลาของการ แก้ไขปัญหาที่เหมาะสมและชัดเจน ๑.๓.๗ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ได้จัดท าขึ้นส่วนใหญ่ ไม่มีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ปัญหามลพิษ เพื่อจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ๑.๓.๕ เจ้าพนักงานท้องถิ่นและผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ต้องทบทวน แผนปฏิบัติก า รเพื่อลดแล ะข จัดมลพิษ และปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ (Rolling plan) ในปีถัดไปตามสภาพมลพิษที่เปลี่ยนไปของ พื้นที่และท ารายงานผลการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯ รายปี ๑.๓.๖ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ผู้ที่มีหน้าที่ รับผิดชอบแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่ได้จัดท าขึ้นต้องมีเป้าหมายและตัวชี้วัด รวมทั้งต้องก าหนดกรอบเวลาของการแก้ไข ปัญหามลพิษที่เหมาะสมและชัดเจน ๑.๓.๗ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองในเชิงรุก คือ การวิเคราะห์และการประเมินสถานการณ์ ปัญหามลพิษที่จะเกิดขึ้นเพื่อเตรียมแผนปฏิบัติการฯ การรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ๑.๔ แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) “การปฏิรูประบบการ บริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุม มลพิษมาบตาพุด” หรือเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่มีการด าเนินการตามแผนปฏิบัติ การเพื่อลดและขจัดมลพิษ ฉบับที่ ๓) ได้ก าหนดตัวชี้วัด ระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ ให้ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นผลจากการแก้ไข ปัญหามลพิษในพื้นที่ได้ส าเร็จภายใน ๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕) เป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไปท าให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถด าเนินการให้ส าเร็จตามแผนปฏิรูปฯ ได้ส่งผลให้ปัจจุบันในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง - คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต้องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและก าหนดระยะเวลา ที่เหมาะสมส าหรับการแก้ไขปัญหามลพิษให้ หมดไปในแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ของเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง โดยหาก ต้องการปฏิบัติให้เป็นไปตามเป้าหมายของ แผนปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจ าเป็นต้องใช้เวลาด าเนินการแก้ไข ปัญหามลพิษในพื้นที่ ประมาณ ๔ - ๕ ปี เป็นอย่างน้อยแต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบคุณภาพ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่
ฒ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ยังมีสารมลพิษบางชนิดเกินค่ามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ รวมถึงปัญหาการจัดการกากอุตสาหกรรม โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับแผนการ ปฏิรูปดังกล่าวที่ก าหนดให้ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เพราะการด าเนินงาน ต่าง ๆ ที่กระท าอยู่ยังไม่สามารถลดและขจัดมลพิษ ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๑.๕ มลพิษทางอากาศในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง นอกจากสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน แล้ว ยังมีสาร ๑,๒ - ไดคลอโรอีเทน, ก๊าซ O3 และ PM2.5 ที่มีแนวโน้มสูงเกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ - การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐ ต้องมีแผนและการด าเนินการส าหรับ ป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศทุกชนิด ที่สูงเกินหรือมีแนวโน้มสูงเกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศในบรรยากาศ ๑.๖ ประเทศไทยมีโครงการพัฒนาระบบการจัดท า ท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถด าเนินการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นโครงการภาคสมัครใจจาก ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐยังไม่มีประกาศเป็นกฎหมาย บังคับให้ภาคอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งก าเนิดมลพิษต้อง บันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบท าเนียบการปลดปล่อยและ เคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ท าให้ไม่สามารถรู้ข้อมูล ปริมาณการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษที่แท้จริง จากแหล่งก าเนิดที่เป็นภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัญหา อุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง - รัฐบาลต้องผลักดันโครงการจัดท าท าเนียบการ ปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพโดยกรมโรงงาน อุตสาหกรรมต้องก าหนดเป็นกฎหมายบังคับให้ ภาคอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งก าเนิดมลพิษ ขนาดใหญ่หรือมีผลกระทบสูงต้องบันทึกข้อมูล เข้าสู่ท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้าย มลพิษ (PRTR)ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและ ข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นข้อมูลเปิด (Open Data) เพื่อการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบของทุกภาคี ที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชนด้วยกันเอง ภาคประชาชน ภาคราชการ และภาควิชาการ
ณ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๑.๗ ที่ผ่านมานอกจากมีแผนปฏิบัติการเพื่อลดและ ขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองแล้ว ยังมีแผนการแก้ไขปัญหามลพิษจากหน่วยงานอื่น เช่น แผนแก้ไขปัญหามลพิษในเขตมาบตาพุด ของส านักงาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนปฏิบัติ การเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด และแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ท าให้เกิดปัญหาความ ลักลั่นและเหลื่อมกันของการด าเนินการตามแผนปฏิบัติ การฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการจัดหา งบประมาณส าหรับการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ - แผนงานต่าง ๆ ทุกแผนงานที่เกี่ยวข้องกับ การแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการเพื่อ ลดและขจัดมลพิษของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกัน มีการบูรณาการกันและ มีกรอบเวลาที่สอดคล้องกัน เพื่อไม่ให้เกิด ปัญหาอุปสรรคในการจัดสรรงบประมาณ ส าหรับการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เพื่ อลดและขจัดมลพิษในแผนปฏิบั ติ การ ฉบับต่อไป ทั้งนี้การจัดท าแ ผน ดัง ก ล่ า ว คณ ะ ก ร ร ม ก า รสิ่งแวดล้อมแห่งชาติหรือ คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขต ควบคุมมลพิษต้องก าหนดกรอบระยะเวลา ที่เหมาะสมส าหรับการแก้ไขปัญหามลพิษให้ หมดไปในแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษของเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๖๗ – ๒๕๗๐ ด้วย ๑.๘ ปัจจุบันภาครัฐยังไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษและยังไม่สามารถยกเลิกเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ตามแผนการปฏิรูป ประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) - ภาครัฐต้องแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยองต่อไปภายใต้แผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษ โดยต้องมีเป้าหมายคือ การปรับปรุงแก้ไขปัญหามลพิษ ลด และขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้ได้ ตามมาตรฐานภายใน ๔ - ๕ ปีแล้วจึงประกาศ ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองต่อไป
ด ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๒. ปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๒.๑ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีโรงงาน อุตสาหกรรมบางส่วนยังปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย เกี่ยวกับการควบคุมมลพิษ เห็นได้จากการที่ประชาชน ร้องเรียนเรื่องเหตุร าคาญและปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม ๑)กรมโรงงานอุตสาหกรรม ส านักงานอุตสาหกรรม จังหวัดและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต้องก ากับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองให้ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕พระราชบัญญัติ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒ และกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษอย่าง เข้มงวด รวมทั้งน าเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ใน การก ากับควบคุม ๒) ควรใช้ระบบผู้ตรวจสอบภาคเอกชน (Third Party) มาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคคลากร ในการควบคุมก ากับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้การก ากับและควบคุมมลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองมีประสิทธิภาพ ๒.๒ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามมาตรา ๕๙ ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ไม่ได้ ก าหนดให้มีการจัดท ามาตรการต่าง ๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดและขจัดมลพิษ มีเพียงการก าหนดให้มีการ จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในมาตรา ๖๐ ซึ่งต่างจากมาตรา ๔๓ ที่สามารถก าหนดมาตรการใด ๆ เป็นกฎกระทรวงได้ - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรปรับแก้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้การประกาศเขตควบคุมมลพิษ สามารถ ก าหนดมาตรการต่างๆ เช่นเดียวกับการก าหนด เขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๔๓ ที่สามารถก าหนดมาตรการใด ๆ เป็นกฎกระทรวงได้
ต ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๒.๓ ขาดกฎหมายว่าด้วยการรายงานการปลดปล่อย แ ล ะ เ ค ลื่ อ น ย้ า ย ส า ร ม ล พิ ษ (PRTR) ส า ห รั บ ภาคอุตสาหกรรม ตามโครงการพัฒนาระบบการจัดท า “ท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR)” ซึ่งเป็นเป้าหมายของกรมโรงงานและกรม ควบคุมมลพิษที่จะให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการ ปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษต้องบันทึกข้อมูล ในแบบรายงานการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสาร มลพิษ (PRTR) ซึ่งปัจจุบันยังเป็นภาคสมัครใจ จึงท าให้ โครงการดังกล่าวยังไม่สามารถด าเนินการต าม เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งท าให้ไม่สามารถรู้ ข้อมูลปริมาณการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ที่แท้จริงในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ซึ่งจ าเป็นใช้เป็นข้อมูลในวางแผนและก าหนดมาตรการ ในการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง - รัฐบาลควรเร่งรัดให้กรมโรงงานออกกฎหมาย “การรายงานการปลดปล่อยและเคลื่อนย้าย สารมลพิษ (PRTR)” ภายใต้พระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อก าหนดให้การใช้ ท าเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register : PRTR) เป็นภาคบังคับให้โรงงานอุตสาหกรรม ต้องรายงานข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล กรมโรงงานกระทรวงอุตสาหกรรม และสามารถ ออกค าสั่งตามอ านาจของพระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้โรงงานอุตสาหกรรม ด าเนินการรายงานการปลดปล่อยและเคลื่อนย้าย สารมลพิษ (PRTR) ได้ อย่างน้อยในระยะแรก ให้ครอบคลุมโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒.๔ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังขาดกฎหมาย ล าดับรองหรือกฎหมายลูกที่ส าคัญและจ าเป็นส าหรับการ ควบคุมสารมลพิษทางอากาศ ได้แก่ ๑) กฎหมายก าหนดค่าขีดความสามารถในการ รองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) เพื่อการ ก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับสารเบนซีน และสาร ๑,๓-บิวทาไดอีน เป็นค่าเป้าหมายในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เหมราชตะวันออก ผาแดง เอเชีย และอาร์ไอแอล ๒)กฎหมาย Fence Line: เพื่อก าหนดค่ามาตรฐาน ควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงงานกลั่นน้ ามัน ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๒) ๑) กรมควบคุ มมลพิ ษ ต้ องก าหนดค่ า ขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs , O3 และ PM2.5 ข องพื้ นที่ (Carrying Capacity) ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยต้อง ท าการศึกษาเพื่อให้ได้ค่าขีดความสามารถในการ รองรับสาร VOCs, O3 และ PM2.5 ของพื้นที่ (Carrying Capacity)ดังกล่ า วเพื่อน าไปใช้ ก าหนดค่าที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพ ความเป็นจริงของพื้นที่ ในขณะเดียวกันต้อง ท าการศึกษา Emission Inventory ของสาร VOCs , O3 และ PM2.5 ควบคู่ด้วย เพื่อทราบ แหล่งก าเนิดและน าข้อมูลที่ได้ไปก าหนด มาตรการควบคุมและกฎหมายล าดับรองหรือ กฎหมายลูกที่เหมาะสมต่อไป
ถ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๓) กฎหมายควบคุมสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน : เพื่อก าหนดค่ามาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งสาร เบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน จากโรงงาน อุตสาหกรรมเคมี(ฉบับที่ ๒) โดยมีมาตรฐานควบคุม การปล่อยทิ้งสาร ๑,๓ -บิวทาไดอีน ไม่เกิน ๑๖๐ กิโลกรัม /ปี/โรงงาน เป็นข้อจ ากัดในการด าเนินการ ผลิตที่ก าลังสูงสุดของโรงงานของบริษัทฯ ซึ่งทางบริษัทฯ เห็นว่าจะส่งผลผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก ในเรื่องการร่วมลงทุนจากต่างประเทศ ๔)กฎหมายก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับ สาร ๑,๒ ไดคลอโรอีเทน, O3และ PM2.5ของพื้นที่ (Carrying Capacity) เพื่อการก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับ สาร 1,2 ไดคลอโรอีเทน, O3และ PM2.5ของพื้นที่ ๒) ระหว่างท าการศึกษาขีดความสามารถ ในการรองรับสาร VOCs , O3 และ PM2.5 ของพื้นที่ (Carrying Capacity) ให้กรมควบคุม มลพิษจัดท าแผนงานการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะใช้ในการควบคุมสาร VOCs , O3และ PM2.5 เช่น มาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสีย จากโรงงานกลั่นน้ ามันปิโตรเลียม และมาตรฐาน ควบคุมการปล่อยทิ้งสารเบนซีนและสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน จากโรงงานอุตสาหกรรมเคมี ประเภท ๔๒ และ ๔๔ โดยต้องแจ้งแผนงาน ให้โรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อจะได้เตรียมการวางแผนปรับปรุง พัฒนา กระบวนการผลิตของตนต่อไป รวมทั้งแจ้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รับทราบด้วย ๒.๕ ภาคอุตสาหกรรมไม่เห็นด้วยกับค่ามาตรฐานหรือการ บังคับใช้กฎหมายตามค่ามาตรฐานสารเบนซีน ในบรรยากาศ เฉลี่ย ๑ ปี ไม่เกิน ๑.๗ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เพราะว่าเป็นค่าที่เข้มงวดเกินไปส าหรับพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีความเข้มงวดมากกว่าอีกหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักรและสหภาพ ยุโรป (EU) เป็นต้น นอกจากนั้นมีข้อสังเกตว่าค่าความ เข้มข้นของสารเบนซีนในบรรยากาศในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองมีค่าต่ ากว่าในเขตพื้นที่ชุมชนอื่น ๆ เช่น เขตกรุงเทพมหานคร ภาคอุตสาหกรรมจึงขอชะลอการออกกฎหมาย ล าดับรองหรือกฎหมายลูกก าหนดขีดความสามารถ ในการรองรับสารเบนซีนของพื้นที่ (Carrying Capacity) ที่ใช้ค่าความเข้มข้นของสารเบนซีนในบรรยากาศเฉลี่ย ๑ ปีไม่เกิน ๑.๗ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ซึ่งเป็นค่า มาตรฐานที่คนไทยมีอัตราเสี่ยงจากโรงมะเร็งอันมีสาเหตุ จากสารเบนซีน ๑ : ๑๐๐,๐๐๐ คน) ๑) ก รมค วบคุมมลพิษค ว รศึกษ าค ว าม เหมาะสมและความเป็นไปได้ในการก าหนดค่า ขีดความสามารถในการรองรับสารเบนซีนของ พื้นที่ (Carrying Capacity) ของเขตพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ทั้งนี้ต้อง ค านึงถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน เป็นหลักและต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้มี ส่วนได้เสียทุกภาคส่วนในพื้นที่เขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ๒)กรมควบคุมมลพิษควรศึกษาค่าความเข้มข้น ของสารเบนซีนในบรรยากาศในเขตชุมชน อื่น ๆ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและ องค์ก รปกครองส่วนท้องถิ่น ว่ามีเท่าใด มาจากแหล่งก าเนิดใดเพื่อน ามาเป็นข้อมูล ประกอบการพิจารณาก าหนดค่ามาตรฐาน เบนซีนในบรรยากาศต่อไป ๓) กระทรวงสาธารณสุขควรศึกษาผลกระทบ ของสารเบนซีนต่อสุขภาพเพื่อน าข้อสรุปมาใช้ ประกอบการพิจารณาในข้อ ๒ ต่อไป
ท ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๒.๖ สภาพบังคับของกฎหมายของการประกาศเขต ควบคุมมลพิษ มาตรา ๖๐ ก าหนดให้เจ้าพนักงาน ท้องถิ่นมีหน้าที่จัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เสนอต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ท าการรวมแผนฯ ไว้ใน แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม จังหวัดระยอง ภายใต้การสั่งการของผู้ว่าราชการ จังหวัดระยอง แต่ในทางปฏิบัติจริงที่ผ่านมา เจ้าพนักงานท้องถิ่น ส่วนใหญ่ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังขาดความพร้อมในการลดและขจัดมลพิษตาม แผนปฏิบัติการฯ ที่ก าหนดไว้ โดยที่ส านักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ ๑๓ (ชลบุรี) และกรมควบคุมมลพิษ ต้องท าหน้าที่ในการจัดการ มลพิษในพื้นที่ในภาพรวม แทนเจ้าพนักงานท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งหน่วยงานดังกล่าว มักขาดความคล่องตัวในการด าเนินการตามแผน ปฏิบัติการฯ ๑)จังหวัดระยองต้องสนับสนุนเจ้าพนักงานท้องถิ่น ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ร่วมกับ เจ้ าพนักงานควบคุมมลพิษ ในการจัดท า แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษแบบ บูรณาการทั้งเชิงพื้นที่และเชิงประเด็น โดยต้อง ส ารวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งก าเนิด และจัดท าบัญชีรายละเอียดแสดงจ านวน ประเภท และขนาดของแหล่งก าเนิดมลพิษให้ครบถ้วน และแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษต้อง มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขปรับปรุงทุก ๑ ปี ๒) ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองจะต้องจัดสรร งบประมาณและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ มลพิษ ส าหรับด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต้องก าหนดเป็นตัวชี้วัดของจังหวัดด้วย ๓) เจ้าพนักงานท้องถิ่นขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่งต้องมีกา รจัดท า แผนปฏิบัติก า รเพื่อลดแล ะข จัดมลพิษ ที่มีประสิทธิภาพ และน าแผนไปด าเนินการ ตามที่ก าหนดไว้ รวมถึงคณะอนุกรรมการ ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องมีการ ติดตามและประเมินผลการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯอย่างเข้มงวด ๔) รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนงบประมาณ เป็นพิเศษ เพื่อให้องค์กรปกครองท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองสามารถ ด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ได้
ธ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๒.๗ ปัญหามลพิษทางอากาศจากภาคอุตสาหกรรม มักเกิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่บังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัดและไม่สามารถท าได้อย่างสม่ าเสมอ ตลอดเวลา - หน่วยงานผู้มีอ านาจอนุญาตการประกอบ กิจการอุตสาหกรรม ต้องติดตามการด าเนินงานของ ภาคอุตสาหกรรมแล ะบังคับใช้ กฎหม าย อย่างเคร่งครัดและสม่ าเสมอ ๒.๘ ประมวลหลักการปฏิบัติ (C๐P) ตามประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การควบคุมการใช้หอเผาทิ้ง พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นประมวลหลักปฏิบัติของกระทรวง อุตสาหกรรม มุ่งเน้นการปฏิบัติตามหลักวิศวกรรมที่ดี และให้มีการรายงานกรมโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อมีเหตุ ผิดปกติที่เกิดขึ้นและไม่อยู่ในแผนการด าเนินงาน ตามปกติ แต่ประมวลหลักการปฏิบัติ(C๐P) ดังกล่าว ไม่ได้ระบุค่ามาตรฐานในการควบคุมการระบายสาร เบนซีนและสาร ๑,๓-บิวทาไดอีนจากแหล่งก าเนิด จึงท าให้ไม่สามารถด าเนินการติดตามตรวจสอบ และควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๑) กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องจัดท าคู่มือ ประมวลหลักการปฏิบัติ (C๐P) ตามประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การควบคุมการใช้ หอเผาทิ้ง พ.ศ.๒๕๖๕ ๒)กระทรวงอุตสาหกรรมต้องบังคับใช้ประมวล หลักการปฏิบัติ (C๐P) ให้ครอบคลุมทุกกิจการ ที่มีการปล่อยสาร VOCs ในขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษต้องติดตามตรวจสอบ คุณภาพอากาศเพื่อวัดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของมาตรการในประมวลหลักการ ปฏิบัติ (C๐P) ดังกล่าว ๓) หากสาร VOCs ในบรรยากาศยังเกินค่า มาตรฐาน ให้กระทรวงอุตสาหกรรมทบทวน และปรับปรุงประมวลหลักการปฏิบัติ (C๐P) และกรมควบคุมมลพิษ ต้องพิจารณาก าหนด มาตรฐานควบคุมการระบายสาร VOCs ที่ส่งผลกระทบให้ครบถ้วน ๒.๙ ปัญหาความยากล าบากในการบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมการปล่อยมลพิษจากกิจกรรมต่าง ๆ ของโ รงง านอุ ตสาหกรรมในเขตควบคุ มมลพิษ จังหวัดระยองที่ผ่านมาทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าพนักงานท้องถิ่น เนื่องจากการเข้าไปตรวจ ติดตามตรวจสอบในแหล่งก าเนิดมลพิษคือโรงงาน อุตสาหกรรม ต้องใช้ทั้งก าลังคนและงบประมาณ ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอกับจ านวนของแหล่งก าเนิดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยบางพื้นที่ สามารถติดตามได้ในส่วนน้อย นอกจากนั้นปัญหาของ การเมืองส่วนท้องถิ่นที่ใช้วิธีการประนีประนอม ในการจัดการท าให้ยากแก่การบังคับใช้กฎหมาย - ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุม การปล่อยมลพิษจากกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงงาน อุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความพร้อมทั้งด้าน ก าลังคนและงบประมาณ และการบังคับใช้ กฎหมายต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มี ผลประโยชน์ทับซ้อน และไม่ละเว้น เพื่อให้การ แก้ไขปั ญหามลพิษในเขตควบคุ มมลพิ ษ จังหวัดระยองส าเร็จลุล่วงไปได้และสามารถ รักษาสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามนโยบายของ รัฐบาล
น ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๒.๑๐ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีอ านาจ ประกาศเขตควบคุมมลพิษ เพื่อด าเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามมาตรา ๕๙ ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติไม่ได้ก าหนดระยะเวลาสิ้นสุดของ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษ จังหวัดระยอง และการด าเนินการถัดจากนั้น ในล าดับต่อไป ส่งผลให้ไม่เกิดการเร่งรัดการด าเนินงาน ตามแผนปฏิบัติการ ๑) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติหรือ คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขต ควบคุมมลพิษต้องก าหนดระยะเวลาสิ้นสุดการ ด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษ และเป้าหมายของการประกาศยกเลิก เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๒) เมื่อมีการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ เสร็จสิ้นสมบู รณ์ต ามเวลาที่ก าหนดและ คุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นไปตามที่ต้องการแล้ว “คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขต ควบคุมมลพิษ” จึงควรจะมาพิจารณากลั่นกรอง ความเหมาะสมที่สมควรยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองตามอ านาจหน้ าที่หรือไม่ (ตามค าสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐) ๒.๑๑ หน่วยงานใดหรือใครจะเป็นผู้ประกาศยกเลิก เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยที่พระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๓๕ ไม่มีบทบัญญัติให้อ านาจคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติหรือผู้ใดประกาศยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ - คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติควรเป็น ผู้ ป ร ะ ก า ศ ย ก เ ลิ ก เ ข ต ค ว บ คุ ม ม ล พิ ษ เมื่อคณะอนุกรรมการ พิจารณาการจัดการ ในเขตควบคุมมลพิษ ได้พิจารณากลั่นกรอง ความเหมาะสมของพื้นที่ที่สมควรยกเลิกเขต ควบคุมมลพิษแล้ว ๓. ปัญหาด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๓.๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ประสบปัญหาขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจทางเทคนิควิชาการด้านการควบคุมมลพิษ ประเภทต่าง ๆ ท าให้การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษล่าช้า ไม่ประสบความส าเร็จ และไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการประกาศเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑)กระทรวงมหาดไทยต้องก ากับให้จังหวัดระยอง และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ให้ความส าคัญกับการ พัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางด้านเทคนิค วิชาการเกี่ยวกับการจัดการสารมลพิษและให้ องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณ ให้เพียงพอต่อการด าเนินการพัฒนาศักยภาพ ของบุคลากร
บ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๒) สถาบันพัฒนาบุคลากร กระทรวงมหาดไทย ต้องพัฒนาหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพของ บุคลากรในด้านเทคนิควิชาการในการจัดการ มลพิษและสิ่งแวดล้อมเป็นหลักสูตรภาคบังคับ ส าหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ในเขต ควบคุมมลพิษจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง ๓.๒ ปัญหาการก ากับการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติ การเพื่อลดและขจัดมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากมีหลายหน่วยงานด าเนินการ แก้ไขปัญหาเดียวกันในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง แต่ไม่บูรณาการกันในการด าเนินการต่างคนต่างท า ตัวอย่างเช่น การจัดการน้ าเสียชุมชนและน้ าเสีย โรงงานอุตสาหกรรม มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย ๔ หน่วยงาน ได้แก่ ๑) การก ากับดูแลการจัดการน้ าเสียจากโรงงาน ในนิคมอุตสาหกรรม โดยการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ๒) การก ากับดูแลการจัดการน้ าเสียจากโรงงาน นอกนิคมอุตสาหกรรม โดยส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ๓) การก ากับดูแลการจัดการน้ าเสียจาก อาคารขนาดใหญ่ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส านักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ ๑๓ ๔) การก ากับดูแลการลักลอบปล่อยของเสีย จากเรือลงสู่แหล่งน้ า โดยกรมเจ้าท่า ๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการฯ ควรด าเนินงานแบบ บูรณาการโดยจังหวัดระยองเป็นเจ้าภาพหลัก และให้มีการรายงานผลการด าเนินงานภายใต้ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษต่อ คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผลการ ด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เป็นระยะ ๆ ๒) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ต้องท าหน้าที่โดยใช้ กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการก ากับ ดูแลการระบายมลพิษของแหล่งก าเนิดมลพิษ ในพื้นที่ของตนเอง ๓)ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองควรต้องก าหนดให้ มีแหล่ง (และหรือแอปพลิเคชัน) ที่รวบรวม ข้อมูลจากทุกหน่วยงานตามข้อ ๓.๒ ไว้ด้วยกัน รวมทั้งต้องน าข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ ร่วมกัน เช่น Big Data เพื่อเผยแพร่แบบ Open Data ต่อไป (ตามข้อ ๕.๑)
ป ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๓.๓ ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้ด าเนินการแก้ไขมา ๑๓ ปีแล้วโดยมีหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น แต่การแก้ไขไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) เนื่องจากขาดการบูรณาการ ที่ดีระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น และขาดเจ้าภาพหลัก ที่สามารถจัดหางบประมาณ ท าการก ากับ ติดตาม ตรวจสอบผลการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาทั้งหมดอันเนื่องมาจากการประกาศ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องเป็น ผู้รับผิดชอบกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจาก การประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ในการก ากับ ควบคุมการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯ ๒) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต้องให้ ความส าคัญกับการก ากับดูแลและติดตามผล การด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัด ระยอง โดยผ่านกลไกอนุกรรมการฯ ที่ตั้งไว้ ซึ่งต้องรายงานผลการด าเนินงานให้มีความถี่ มากขึ้นตลอดจนต้องก ากับดูแลให้การแก้ไข ปัญหามลพิษส าเร็จตามแผนปฏิบัติการฯ ๓) คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการ ในเขตควบคุมมลพิษ และคณะอนุกรรมการ ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องให้ ความส าคัญกับการก ากับดูแลและติดตามการ แก้ไขปัญหามลพิษในเขตุควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษอย่างเคร่งครัด ๔. ปัญหาด้านการแก้ไขปัญหามลพิษและปัญหาอุบัติภัย ๔.๑ การขับเคลื่อนการจัดการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ของคณะอนุกรรมการ ชุดต่างๆ ประสบปัญหางบประมาณส าหรับการด าเนินการ ในงานที่เกี่ยวข้องของคณะอนุกรรมการฯ ได้แก่ งบประมาณเพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ การศึกษา ความพร้อมหรือสร้างมาตรการทางวิชาการและการ ติดตามผลตามแผนปฏิบัติการฯ - คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติควรช่วย ผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุนปัจจัยด้านการ บริการจัดการในการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตุควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นไป ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ
ผ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๔.๒ ปัจจุบันยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุน การด าเนินโครงการ/กิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการ เพื่อเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองเพื่อลดและขจัด มลพิษ เป็นเพียงการสนับสนุนโดยผ่านช่องทาง งบประมาณตามขั้นตอนปกติ ท าให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มี งบประมาณ ในการแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นให้ เพียงพอแก่การด าเนินการและสอดคล้องกับสภาพ ปัญหาของพื้นที่ โดยหน่วยงานที่ด าเนินการขับเคลื่อน การจัดการต้องจัดหางบประมาณมาด าเนินการเอง ซึ่งไม่เพียงพอกับการด าเนินงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังขาดงบประมาณในการ ด าเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีพื้นที่คาบเกี่ยว หลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ๑) รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม เป็นพิเศษ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่งในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อป้องกัน แก้ไขและควบคุมมลพิษที่เกิดขึ้น ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ๒)ส านักงบประมาณต้องพิจารณาโครงการ/กิจกรรม ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงาน เสนอเป็นพิเศษ ๓)ส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ต้องพิจารณาโครงการ/กิจกรรม ที่องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอขอรับการสนับสนุน เงินกองทุนสิ่งแวดล้อมในล าดับต้น ๆ ๔) ให้จังหวัดหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เข้าไปด าเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมกรณี ในพื้นที่คาบเกี่ยวหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๔.๓ ในการขับเคลื่อนการจัดการของคณะอนุกรรมการ ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองประสบปัญหางบประมาณ ด าเนินการในงานที่เกี่ยวข้องของคณะอนุกรรมการฯ ได้แก่ งบประมาณเพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ การศึกษาความพร้อมหรือสร้างมาตรการทางวิชาการ และการติดตามผลแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี การจัดสรรงบประมาณเหล่านี้ให้เพียงพอกับสภาพปัญหา ของพื้นที่ โดยหน่วยงานด าเนินการต้องจัดหางบประมาณ มาด าเนินการเองและไม่เพียงพอกับผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการ -จังหวัดระยองควรจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ เพื่อการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ การศึกษาความพร้อม หรือสร้างมาตรการทางวิชาการ และการติดตาม ผลการด าเนินการแผนปฏิบัติการฯ
ฝ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๔.๔ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและ ขจัดมลพิษ ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยคณะอนุกรรมการมีจ านวนมาก (ไม่น้อยกว่า ๑๐ คณะอนุกรรมการ) และอนุกรรมการที่เป็นตัวแทน หน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมในแต่ละครั้งนั้น บางครั้งไม่ได้ เป็นบุคคลเดิม และในกรณีที่ไม่เป็นผู้น าหน่วยงานอาจไม่ สามารถตัดสินใจได้ จึงไม่สามารถอยู่ในระดับตัวแทน เพื่อการวิเคราะห์ หรือถกเถียงในประเด็นสถานการณ์ ของพื้นที่ ท าให้การประชุมเพื่อด าเนินการในเชิง บูรณาการแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยอนุกรรมการต่าง ๆ เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีผู้แทนในคณะกรรมการ และอนุ กรรมการชุ ดต่ าง ๆ โดยเฉพาะ “คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผล การด าเนิ นงานพื้ นที่ เขตควบคุ มมลพิษ จังหวัดระยอง” (ตามค าสั่งคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐) ต้องให้ความส าคัญกับ การแก้ไขปัญหาเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมต้องเป็นผู้ที่ เข้าใจประเด็นปัญหาและสามารถตัดสินใจได้ รวมทั้งต้องสามารถเข้าประชุมต่อเนื่อง กรณีจ าเป็นต้องเปลี่ยนผู้แทน ผู้แทนคนใหม่ ต้องขวนขวายหาข้อมูลและศึกษาข้อมูลก่อน เข้าประชุมเพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความ ต่อเนื่องและเกิดผลสัมฤทธิ์ ๔.๕ การเกิดอุบัติภัยด้านสารเคมีและเหตุเพลิงไหม้ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง กรมควบคุมมลพิษ ส านักงานสิ่งแวดล้อมและ ควบคุมมลพิษที่ ๑๓ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องบูรณาการแผนและการปรับปรุงแผนป้องกัน อุบัติภัยสารเคมีและเพลิงไหม้และด าเนินการ เต รี ยมคว ามพร้ อมก ารฝึ กซ้ อมทบทวน ตามแผนการภายใต้เหตุอุบัติภัยจากสารเคมี และเพลิงไหม้ก่อนสาเหตุขณะเกิดเหตุและหลัง เกิดเหตุ
พ ๕. ปัญหาด้านการก ากับติดตามและการประเมินผล ๕.๑ การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองเกิดปัญหาการบูรณาการ ข้อมูลในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระหว่างหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วย ๓ หน่วยงาน (๕ กิจกรรมย่อย) ได้แก่ ๑) การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศ โดยทั่วไปด้วยสถานีตรวจวัดอัตโนมัติโดยกรมควบคุมมลพิษ ๒) การตรวจวัดและเฝ้าระวังสารVOCs ในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยกรมควบคุมมลพิษ ๓) การเฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) ตามโครงการจ้างเหมาบริหารจัดการศูนย์การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย ๔) การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยทั่วไป และสาร VOCs ในบรรยากาศในพื้นที่เทศบาลเมือง มาบตาพุด โดยเทศบาลเมืองมาบตาพุด ๕) การวางระบบและเชื่อมโยงข้อมูลผลการตรวจวัด คุณภาพอากาศและสาร VOCs ระหว่างหน่วยงาน และการ เผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ โดยกรมควบคุมมลพิษ - กรมควบคุมมลพิษ การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย และเทศบาลเมืองมาบตาพุด ต้องบูรณาการข้อมูลในการด าเนินการกิจกรรม ๕ กิจกรรมร่วมกันโดยกรมควบคุมมลพิษ เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการข้อมูล ๕.๒ ขาดกลไกการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการ ด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ประจ าปีในทุกแผนย่อย และผู้ที่มีหน้าที่ก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินงาน ลด และขจัดมลพิษ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ขาดการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการลดและ ขจัดมลพิษจากแหล่งก าเนิดมลพิษโดยส่ วนกลาง และท้องถิ่น ท าให้ไม่สามารถติดตามตรวจสอบได้ครบถ้วน ตามจ านวนของแหล่งมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองเป็นประจ าทุกปี รวมทั้งที่ผ่านมายังไม่มีความ ชัดเจนในการประเมินผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ ประจ าปีอย่างเป็นรูปธรรมก่อนที่จะน าผลไปปรับปรุง แผนปฏิบัติการฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในปีถัดไป เนื่องจากขีดจ ากัดของจ านวนเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑)“คณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการในเขต ควบคุมมลพิษ” และ “คณะอนุกรรมการก ากับ ดูแลและติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง”ต้องติดตามการ ด าเนินงานและรายงานผลการด าเนินงานภายใต้ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และให้มีการทบทวนแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษตามความจ าเป็น ไม่ต้องรอ เวลาสิ้นสุดของแผนปฏิบัติการฯ ๒)“คณะอนุกรรมการก ากับดูแลและติดตามผล การด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัด ระยอง” ต้องด าเนินการตามบทบาทหน้าที่ของ อนุกรรมการฯ ที่ส าคัญ คือก าหนดมาตรการลด และขจัดมลพิษ หรือแผนงานหรือโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ พิจารณาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อ แผนปฏิบัติการฯ และต้องก ากับดูแลในการ ด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ทุกแผนย่อย โดยการบูรณาการแผนปฏิบัติการฯ กับแผนงาน
ฟ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ อื่นที่เกี่ยวข้อง และต้องติดตามประเมินผลการ ด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ เป็นประจ าทุกปี ๕.๓ ขาดการติดตามตรวจสอบและก ากับแหล่งก าเนิด มลพิษปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากภาครัฐและ ท้องถิ่นไม่สามารถติดตามตรวจสอบได้ครบถ้วนตาม จ านวนของแหล่งมลพิษของพื้นที่สาเหตุจากมีขีดจ ากัด ของจ านวนเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง - หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบ และก ากับแหล่งก าเนิดมลพิษตามกฎหมาย ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส านักงาน อุตสาหกรรมจังหวัด ควรพิจารณาใช้ระบบ ผู้ตรวจสอบเอกชน (Third Party) มาช่วยในการ ควบคุมก ากับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย ๕.๔ ขาดการติดตามตรวจสอบการประเมินผลการ ด าเนินการของแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ประจ าปี อย่างเป็นรูปธรรม โดยภาคประชาชน - จังหวัดระยองควรส่งเสริมให้ภาคประชาชน ในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการติดต าม ตรวจสอบและติดตามการด าเนินภายใต้ แผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษ โดยอาจใช้กลไกการตั้งคณะท างานภายใต้ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ร ะ ดั บ จั ง ห วั ด ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตั้งขึ้น ๕.๕ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามมาตรา ๕๙ ได้เน้นประเด็นปัญหามลพิษที่มีแนวโน้ม ที่ร้ายแรงถึงขนาดเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย ของประชาชน ทว่าจากการทบทวนข้อมูลด้านสุขภาพ ที่เชื่อมโยงกับปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษนั้น ยังไม่ปรากฏผลที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและยังไม่ได้รับ การยอมรับ จึงไม่สามารถบ่งชี้ถึงผลกระทบของมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต่อสุขภาพอนามัย ของประชาชนได้ -กระทรวงสาธารณสุขต้องศึกษาวิจัยและน ามา ซึ่งข้อสรุปของ ๑) ผลกระทบต่อของสาร VOCs ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสารเบนซีน และ ๑,๓ - บิวทาไดอีน ๒) สาเหตุและอัตราการเกิดโรคมะเร็งของ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเฉพาะใน เขตควบคุมมลพิษ ๓) อันตราย และความเสี่ยงของประชาชน อันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษที่อาจเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง และเสียชีวิตอันเนื่องมาจากสาร VOCs ๕.๖ ระบบการจัดการที่แยกเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่มีการสอดประสานการท างานร่วมกันอย่างจริงจัง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การค้นหาสาเหตุ การก ากับ ติดตามและการแก้ไขปรับปรุง - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งกระทรวง สาธารณสุข ต้องด าเนินการร่วมกันอย่างจริงจัง เป็นทีมเดียวกันเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลและ ร่วมออกแบบพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ที่ยังไม่ครบถ้วนให้ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น
ภ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๖. ปัญหาด้านเทคนิคและวิชาการ ๖.๑ จ านวนและต าแหน่งที่ตั้งของสถานีตรวจวัดคุณภาพ อากาศในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่ครอบคลุมพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ โดยต าแหน่งที่ตั้งของบางสถานีเป็น ต าแหน่งที่ได้ตั้งและใช้งานอยู่นานแล้ว จึงไม่สอดคล้อง กับสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งสถานีตรวจวัด บางสถานียังไม่สามารถรายงานการตรวจวัดสาร VOCs แบบต่อเนื่องได้ ๑) กรมควบคุมมลพิษต้องเป็นหน่วยงานหลัก ร่ วมกันกับส านักง านนโยบ ายและแผน ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่ง แ ว ด ล้ อ ม กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรม แห่งป ระเทศไทย และองค์ ก รปกครอง ส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง ในการพิจารณาทบทวน จ านวนและต าแหน่งของการตั้งสถานีตรวจวัด คุณภาพอากาศในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองให้เป็นไปตามหลักวิชาการ และครอบคลุมพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ รวมถึง ติดตั้งเครื่องตรวจวัดที่สามารถรายงานผลการ ตรวจวัดสารVOCs แบบต่อเนื่องได้ ๒)กรมควบคุมมลพิษควรพิจารณาทบทวนวิธีการ ตรวจวัดสาร VOCs ที่ก าหนดไว้ในมาตรฐาน เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ในปัจจุบัน โดยอาจมีเทคนิคพิจารณ์ด้วยก็ได้ เพื่อให้การติดตั้งสถานีตรวจวัดหรือจุดตรวจวัด มีความเหมาะสม ไม่ซ้ าซ้อน และสามารถบูรณาการ ข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๓) ควรมีการด าเนินงานแบบบูรณาการร่วมกัน โดยกรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลัก และมีประเด็นที่ต้องพิจารณาด าเนินการร่วมกัน คือ (๑) จุดที่ตั้งสถานีตรวจวัดของแต่และหน่วยงาน (๒) อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการ ตรวจวัดและการสอบเทียบ (๓) ความถี่ของการรายงานข้อมูล (๔) จ านวนและปริมาณข้อมูลที่น ามาใช้รายงาน (๕) การวิเคราะห์ข้อมูลในภาพรวม (๖) การรายงานข้อมูลสู่สาธารณะ
ม ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๖.๒ ขาดการตรวจวัดเชิงลึกส าหรับสาร VOCs ที่ปล่อย ออกจากแหล่งก าเนิดแต่ละประเภท ได้แก่แหล่งก าเนิดจาก การรั่วซึม การเผาไหม้ การเผาทิ้ง ถังกักเก็บ การขนถ่าย ระบบบ าบัดน้ าเสีย และการคมนาคม เป็นต้น ท าให้ยังไม่ ทราบแหล่งที่มาหลักของสาร VOCs โดยเฉพาะสารเบนซีน ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างชัดเจนว่ามา จากแหล่งใด ปริมาณเท่าใด และควรจัดการด้วยวิธีการใด -กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรร่วมกันด าเนินการ ตรวจสอบที่มาของการปล่อยสาร VOCs เชิงลึก เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปสุดท้ายที่ทุกฝ่ายยอมรับ และสามารถน าไปใช้ควบคุมและแก้ไขปัญหา สาร VOCs ได้ชัดเจนขึ้น ๖.๓ การตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยสาร VOCs เป็นล าดับต้น ต่อเนื่องทุกปียังเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อจ ากัดด้านงบประมาณและด้านเทคโนโลยี ของภาคอุตสาหกรรม - หน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะกรมควบคุมมลพิษ ต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง ภาคอุตสาหกรรม ในการทบทวนและท าแผนการ ลดการปลดปล่อยสาร VOCs ที่มีประสิทธิภาพ โดยต้องมีเป้าหมายและระยะเวลาที่ชัดเจน และต้องมีงบประมาณและเทคโนโลยีเพื่อใช้เป็น ตัวก าหนดระยะเวลาในการยกเลิกเขตควบคุม มลพิษ ๖.๔ การประเมินขีดความสามารถการรองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) โด ยกลุ่มโ รงง าน อุตสาหกรรมและสถานที่กักเก็บสาร VOCs โดยใช้ ข้อมูลจ ากก า รป ร ะเมินผลก ร ะทบสิ่งแ วดล้อม (EIA/EHIA) ซึ่งเป็นการด าเนินการโดยใช้แบบจ าลอง ทางคณิตศาสตร์ที่ไม่ใช่ค่าจริงของสาร VOCs Load -กรมควบคุมมลพิษควรประเมินขีดความสามารถ การรองรับสาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อ ย่ าง ล ะเ อี ยด ร ว ม ถึง ศึ กษ า Emission Inventory ของสาร VOCs ควบคู่ด้วย เพื่อทราบ แหล่งก าเนิดและน าข้อมูลที่ได้ไปก าหนด มาตรการควบคุมที่เหมาะสมต่อไป โดยต้องใช้ ค่าจริงของสาร VOCs Load ในการใช้แบบจ าลอง ท างคณิตศาสตร์ ส าหรับการประเมินขีด ความสามารถดังกล่าว ๖.๕ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังไม่มีการ ประเมินขีดความสามารถในการรองรับสารมลพิษของ พื้นที่ (Carrying Capacity) ทั้งในสภาพปัจจุบันและ ในอนาคต ซึ่งมีส่วนส าคัญในการจัดท าแผนปฏิบัติการฯ ในเชิงรุก -กรมควบคุมมลพิษต้องประเมินขีดความสามารถ ในการรองรับสารมลพิษของพื้นที่ (Carrying Capacity)ของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และการระบุถึงขีดความสามารถในการรองรับ สารมลพิษข องพื้ นที่ ( Carrying Capacity) เพื่อการวางแผนในอนาคตด้วย
ย ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๖.๖ การใช้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการจัดการสาร VOCs คือสารเบนซีนและสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีข้อกังวลจากผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ในประเด็นการ เตรียมความเพียงพอและความน่าเชื่อถือของข้อมูล น าเข้าส าหรับแบบจ าลองทางคณิตศาสตร์ ความเพียงพอ และความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลปัจจัย แวดล้อมอันมีผลต่อการแพร่กระจายของสารมลพิษ ทางอากาศ ได้แก่ แหล่งก าเนิด ลักษณะและที่ตั้ง ของแหล่งก าเนิด สภาพภูมิประเทศ คุณสมบัติเฉพาะ ทางเคมีและฟิสิกส์ของสารมลพิษ สภาพทางอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งการน าค่าขีดความสามารถในการรองรับสาร VOCs ของพื้นที่(Carrying Capacity) มาก าหนดแบ่งเป็น โควตาให้กับโรงงานอุตสาหกรรม แต่ละแห่ง ซึ่งอาจจะ แตกต่างจากที่ได้รับอนุญาตในรายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (EIA/EHIA) - กรมควบคุมมลพิษต้องหารือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะส านักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการก าหนด วิธีการใช้แบบจ าลองทางคณิตศาสตร์เพื่อเป็น เครื่องมือในการจัดการสาร VOCs คือสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ในพื้นที่เขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะข้อมูลน าเข้าส าหรับแบบจ าลอง ทางคณิตศาสตร์ความเพียงพอและความ น่าเชื่อถือของข้อมูล และก าหนดในวิธีการศึกษา เพื่อจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (EIA/EHIA) ส าหรับโครงการต่อไป ในอนาคต ๖.๗ ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพื่อด าเนินการลดและขจัดสาร VOCs จากภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง ทั้งจากเทคโนโลยี ที่ใช้ควบคุมหรือบ าบัดมลพิษ อุปกรณ์ตรวจวัด ค่าจ้าง เจ้าหน้าที่เฉพาะทางในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษ ท าให้เป็นปัญหาอุปสรรคของ ผู้ประกอบการ -กระทรวงอุตสาหกรรมต้องก าหนดแผนการควบคุม และลดการระบายสาร VOCs จากภาคอุตสาหกรรม ที่มีต้นทุนที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพเพียงพอ โดยก าหนดระยะเวลาและเป้าหมายให้ชัดเจน ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๖.๘ ขาดการศึกษาทางระบาดวิทยาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ของการเจ็บป่วยของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองกับภาวะมลพิษในพื้นที่ -กระทรวงสาธารณสุขต้องเร่งท าการศึกษาทาง ระบาดวิทยาในประเด็นความสัมพันธ์ทั้งทางตรง และทางอ้อมระหว่างภาวะมลพิษกับการเจ็บป่วย ของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อเป็นข้อมูลส าหรับการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษ และการด าเนินงานตาม แผนปฏิบัติการฯ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัด ระยอง
ร ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๖.๙ การเก็บตัวอย่างและการวิเคราะห์ข้อมูลและการ แปลผลจากผลการตรวจวัดข้อมูลรายเดือนและค่าเฉลี่ย รายปีของกรมควบคุมมลพิษในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีปัญหาดังนี้ ๑) ปัญหาการสืบหาสาเหตุและแหล่งก าเนิดมลพิษ เป็นไปได้ยากเพราะเก็บตัวอย่างเพียง ๑ ครั้ง/เดือน จ านวน ๑๒ ครั้ง/ปี แล้วค านวณเป็นค่าเฉลี่ยรายปี ท าให้มีปัญหาด้านความแม่นย าและความน่าเชื่อถือ ของผลสรุปภาวะมลพิษ ๒) รายงานค่าเฉลี่ยรายปี รวมของทั้ง ๗ สถานี ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าค่าเกินมาตรฐานเกิดขึ้นที่สถานใด ต้องแก้ไขที่ใด และแก้อย่างไร ๓) ข้อมูลหนึ่งตัวอย่างที่เก็บอากาศผสม ๒๔ ชั่วโมง ไม่สามารถบอกได้ว่าพบค่าสูงในช่วงเวลาใด (เช้า กลางวัน เย็น)ต้องแก้ไขที่กิจกรรมใด ๔) การแก้ปัญหาคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ขาดการพิจารณาแหล่งก าเนิดที่ครบถ้วนครอบคลุม ทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ขาดการก าหนดค่าขีดความสามารถในการรองรับ สาร VOCs ของพื้นที่ (Carrying Capacity) ขาดการ พิจารณาสภาพสิ่งแวดล้อมและสภาวะสุขภ าพ เพื่อน าไปสู่การก าหนดมาตรฐานที่เหมาะสมต่อไป ๕) ปัญห าก า รก่อมลพิษของแหล่งก าเนิด ภาคอุตสาหกรรม สามารถแบ่งได้เป็น ๓ ช่วงสภาวะ ได้แก่ สภาวะการผลิตปกติ สภาวะที่ไม่ใช่การผลิตที่ ปกติและสภาวะฉุกเฉิน ซึ่งทั้ง ๓ ช่วงสภาวะมีลักษณะ การก่อก าเนิดมลพิษที่แตกต่างกัน แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มี มาตรการส าหรับสภาวะที่ต่างกันนี้ ๑) กรมควบคุมมลพิษต้องพิจารณาเรื่องการ เก็บตัวอย่างที่เป็นตัวแทนจริง ๆ จ านวน ตัวอย่าง ช่วงเวลาของการเก็บตัวอย่าง การวิเคราะห์และการแปลผล รวมทั้งการ จัดเก็บข้อมูลให้มากพอเพื่อน าข้อมูลมาใช้ ในการค านวณ ควรเพิ่มความถี่ของการจัดเก็บ ข้อมูลส าหรับใช้ในกา รเจ าะจงชี้ปัญห า โดยเฉพาะให้ชัดเจน นอกเหนือจากการ ติดตามสถานการณ์รายปีที่ได้ท ามา ๒) คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติควร มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษด าเนินการ ศึกษาเรื่องสาร VOCs ในพื้นที่เขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยองอย่างละเอียดและ ประสานงานขอให้ส านักงบประมาณสนับสนุน งบป ร ะ ม าณให้เพี ยงพอเพื่ อใ ช้ ด าเนิ น การศึกษา
ล ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๖.๑๐ ปัจจุบันในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง มีสถานีตรวจวัดสาร VOCs เพียง ๑๑ สถานี และสถานี ตรวจวัดคุณภาพอากาศเพียง ๕ สถานี ซึ่งไม่เพียงพอ กับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ มีสาเหตุเนื่องจากกรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงาน อุตสาหกรรมมีงบประมาณและบุคลากรไม่สอดคล้อง กับภาระงานที่เพิ่มขึ้นตามจ านวนโรงงานอุตสาหกรรม และการกระจายตัวของแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่มีแต่ จะเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรมต้องสนับสนุนบุคลากร และงบประมาณแบบ Agenda Base แก่กรมควบคุม มลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการจัดตั้ง และการด าเนินการสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ที่เหมาะสม และเพียงพอ ๗. ปัญหาข้อมูลด้านมลพิษและผลกระทบ ๗.๑ การยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จ าเป็นต้องใช้ข้อมูลด้านแหล่งก าเนิดและปริมาณมลพิษ รวมทั้งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ของประชาชนในพื้นที่ที่จ าเป็นและถูกต้องจ านวนมาก แต่ปรากฏว่าข้อมูลดังกล่าวที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ ไม่ครอบคลุมและไม่สมบูรณ์ตลอดจนไม่ต่อเนื่อง และไม่น่าเชื่อถือ ท าให้ไม่สามารถน าข้อมูลที่จ าเป็น เหล่านั้นไปใช้ในการวิเคราะห์และประเมินประกอบการ ยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามแผนการปฏิรูป ประเทศด้ านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ได้ - หน่ วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนการปฏิรูป ประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง)ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต้องจัดเตรียมข้อมูลที่จ าเป็นและถูกต้องอันได้แก่ ข้อมูลแหล่งก าเนิดและปริมาณมลพิษ รวมทั้ง ผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ของประชาชนในพื้นที่ที่จ าเป็นและถูกต้อง เพื่อการวิเคราะห์และประเมินประกอบการยกเลิก เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตามแผน การปฏิรูปฯ ที่ได้ก าหนดไว้แต่เดิม ๗.๒ ปัญหาการขาดฐานข้อมูลที่จ าเป็นและเป็นจริง ส าหรับการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่ ๑) ฐานข้อมูลแหล่งมลพิษอากาศที่ส าคัญท าให้มี ข้อมูลด้านมลพิษไม่เพียงพอต่อการบ่งชี้และวินิจฉัยปัญหา ๒) ฐานข้อมูลผลกระทบจากสารมลพิษหรือสารพิษ หลากหลายชนิดในแต่ละช่วงเวลา โดยเฉพาะผลกระทบ จากการเกิดอุบัติภัยและสารพิษ ๓) ฐานข้อมูลด้านสุขภาพอนามัย (Health Profile) ๔) ฐานข้อมูลผลกระทบจากสารมลพิษ/สารพิษ ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน - กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและ กรมควบคุมโรคต้องศึกษารวบรวมข้อมูลที่จ าเป็น และบูรณาการข้อมูลรวมทั้งจัดท าฐานข้อมูล ดังกล่าวให้ครบถ้วน สมบูรณ์ ถูกต้อง และพร้อม ที่จะน าไปใช้ในการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อสังเคราะห์ วิธีการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง (ฐานข้อมูลแหล่งมลพิษทางอากาศ (Emission inventory) ได้แก่ จ านวนโรงงานอุตสาหกรรม/ สถานประกอบการ, ต าแหน่งที่ตั้ง, ลักษณะ กิจการ, ประเภท, ขนาดโรงงาน/ปล่องควัน, ชนิด และปริมาณของสารเคมีที่ใช้/สารมลพิษ
ว ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ทางอากาศ, ช่วงเวลาและความถี่ในการปล่อย สารมลพิษอากาศ เป็นต้น) ๗.๓ ขาดฐานข้อมูลกลางที่มากพอ เป็นปัจจุบันและ เชื่อถือได้ ส าหรับการจัดการปัญหามลพิษทั้งหมด ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อใช้ก าหนด กลไกในการป้องกันแก้ไขและติดตามปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ - ขาดการรวมข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไว้ที่เดียวกัน และยังไม่มีการจัดเก็บข้อมูลที่จ าเป็นและ บูรณาการการใช้ข้อมูลในการบริหารจัดการมลพิษที่ สอดประสานการท างานร่วมกัน - ขาดการรวบรวมข้อมูลด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม และข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้ง ขาดการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการค้นหาสาเหตุ การบ่งชี้ และวินิจฉัยปัญหา การก ากับติดตามรวมทั้งการแก้ไข ปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องและทันสมัย ท าให้ยากต่อการ ค้นหาสาเหตุมลพิษและแหล่งก าเนิดมลพิษและการลด และขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมถึงการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ให้เป็นไปตามแผนปฏิรูปฯ โดยเฉพาะขาดข้อมูล การเกิดโรคมะเร็งของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ท าให้ไม่สามารถน ามาวิเคราะห์และ ประเมินผลร่วมกับข้อมูลด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ - กรมควบคุมมลพิษควรต้องสร้ าง “ศูนย์ ฐานข้อมูล”ส าหรับเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เพื่อจัดระบบฐานข้อมูลกลางจ านวนมากพอ (Central Database System) ให้ ค รบถ้ วน และทันสมัยและจัดท าเป็น Big Data ตลอดจน วิเคราะห์ข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ ที่เดียวกัน และสามารถใช้ข้อมูลนั้นให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างเครือข่าย ข้อมูล รวบรวมข้อมูล การตรวจวัด และการ สอบเทียบเครื่องมือที่มีความน่ าเชื่อถือ และจัดท าเป็นฐานข้อมูลเพื่อความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการด าเนินการ แก้ไขป้องกันแก้ปัญหามลพิษ รวมทั้งการ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหา มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ทั้งนี้ ควรมีการด าเนินการร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมออกแบบ พัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้ วน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและควรมีการบูรณาการ ข้อมูล โดย ๑) กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมและกรม ควบคุมโรค ในการสร้างระบบแพลตฟอร์ม สารสนเทศ (Information Platform) ในการ จัดการข้อมูลด้านมลพิษและด้านสุขภาพของ ประชาชนภายใต้หนึ่งระบบฐานข้อมูลหลัก (One Database) และมีกลไกการติดตามข้อมูล ให้เป็นปัจจุบัน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลสู่ สาธารณะให้รับทราบและสามารถตรวจสอบได้ ๒ ) ก ร ม ค วบคุมมลพิษ ก ร มโ รงง าน อุตสาหกรรม กรมควบคุมโรค และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องต้องมีการจัดเก็บข้อมูลตามอ านาจ หน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนระบบ
ศ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ฐานข้อมูลหลัก (One Database) ส าหรับการ บริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๗.๔ มาตรา ๖๐ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งช าติ พ .ศ . ๒๕๓๕ ก าหนดให้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นผู้จัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิด มลพิษให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ แต่เจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่สามารถจัดท าฐานข้อมูลแหล่งก าเนิดมลพิษ ให้ครบถ้วนได้เพราะบทบาทอ านาจและหน้าที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จ ากัดและการก ากับ แหล่งก าเนิดมลพิษท าได้เพียงบางแหล่งก าเนิด (ที่อยู่ ภายใต้การบริหารจัดการของเจ้าพนักงานท้องถิ่น) เท่านั้น -กรมควบคุมมลพิษต้องสนับสนุนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จัดท าฐานข้อมูลให้สมบูรณ์ และถูกต้องโดยเฉพาะแหล่งก าเนิดมลพิษ ที่อยู่ในอ านาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการก ากับ บางแหล่งก าเนิดมลพิษที่อยู่ภายใต้การบริหาร จัดการของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ๗.๕ ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะปัญหามลพิษ จากกลุ่มสาร VOCs ประสบปัญหา - ข าดข้ อมู ลชนิ ดและปริ มาณการระบ าย การปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register : PRTR) ที่เป็นจริงและ เป็นปัจจุบันจากภาคอุตสาหกรรม - การรายงานฐานข้อมูลการระบายสาร VOCs โดยภาคอุตสาหกรรม ยังเป็นแบบสมัครใจ ท าให้ได้ ข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่น่าเชื่อถือ ไม่แม่นย า ก่อให้เกิด ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป ที่ส าคัญคือได้ข้อมูล ไม่เพียงพอที่จะใช้ในการประเมินเพื่อควบคุมการ ระบายสาร VOCs ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง - กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต้องจัดท าข้อมูลชนิดและปริมาณการระบาย การปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Register : PRTR) ที่เป็นจริง ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน จากภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๗.๖ ขาดการจัดเก็บข้อมูลและการบูรณาการการใช้ ข้อมูลด้านผลกระทบของปัญหามลพิษต่อสุขภาพของ ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ที่อาจเกิดขึ้น จากการประกอบกิจการอุตสาหกรรม การคมนาคม และกิจกรรมอื่น ๆ - กระทรวงสาธารณสุข ต้องสนับสนุนให้ สาธารณสุขจังหวัดระยอง โรงพยาบาลจังหวัด ระยอง และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ศึกษา และจัดเก็บข้อมูลด้านผลกระทบต่อสุขภาพ ที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการอุตสาหกรรม การคมนาคมและกิจกรรมอื่น ๆ ในเขตควบคุม มลพิษจังหวัดระยอง โดยเฉพาะข้อมูลการเกิด โรคมะเร็งเพื่อใช้ในการเฝ้าระวังและก ากับ ควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ที่เหมาะสม
ษ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๗.๗ ขาดข้อมูลในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลด และขจัดมลพิษเพื่อการแก้ไขผลกระทบของสาร VOCs ต่อสุขภาพของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัด ระยอง โดยเฉพาะข้อมูลการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง ที่มีข้อสงสัยว่าเกิดจากสาร VOCs ในขณะที่กระทรวง สาธารณสุขยังไม่สามารถอธิบายถึงความสัมพันธ์ของสาร VOCsกับการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง - กระทรวงสาธารณสุขต้องศึกษาระบาดวิทยา ของโรคจากสิ่งแวดล้อม ศึกษาความสัมพันธ์ ของสาร VOCs กับการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง เพื่อทราบระดับผลกระทบที่เกิดจากสาร VOCs ในบรรยากาศ โดยเฉพาะสารเบนซีน และสาร ๑,๓ - บิวทาไดอีน ต่อการเกิดมะเร็ง ในกลุ่มประชากรที่อยู่ในเขตควบคุมมลพิษ จังห วั ด ร ะ ยอง แ ล ะน า ผ ล ก า ร ศึ กษ าฯ ไปวิเคราะห์ร่วมกันกับกรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย เพื่อจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษอุตสาหกรรมในการแก้ไข ผลกระทบของสาร VOCs ต่อสุขภาพของประชาชน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ต่อไป ๗.๘ การศึกษาแหล่งก าเนิดของสาร VOCs ในพื้นที่ ไม่ครอบคลุมแหล่งก าเนิดอื่น ๆ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ได้แก่จากยานพาหนะ จากสถานที่จ าหน่าย น้ ามัน จากครัวเรือน และจากแหล่งก าเนิดหรือกิจกรรม อื่น ๆ -กรมควบคุมมลพิษต้องท าการศึกษา Emission Inventory ของสาร VOCs เพื่อทราบแหล่งก าเนิด หลักและรองในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัด ระยอง เพื่อน าข้อมูลที่ได้ไปก าหนดมาตรการ ควบคุมในแผนปฏิบัติการฯ ที่เหมาะสมต่อไป ๗.๙ ขาดข้อมูลจ านวนและอัตราป่วยด้วยโรคจากการ ประกอบอาชีพและจ าแนกกลุ่มอายุ (๑๕ - ๕๙ ปี และ ๖๐ ปีขึ้นไป) ได้แก่ ๑) พิษสารก าจัดศัตรูพืช ๒) พิษโลหะหนัก ; พิษสารตะกั่ว พิษปรอทและ สารประกอบ ๓) การบาดเจ็บจากการท างาน ๔) โรคปอดฝุ่นหิน ๕) โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากแอสเบสตอส ๖) โรคการได้ยินเสื่อมจากเสียง ๗) พิษสารตัวท าละลายอินทรีย์ ๘) โรคกระดูกและกล้ามเนื้อจากการท างาน และขาดข้อมูลการป่วยและตายด้วยโรคจากการ ประกอบอาชีพ ๕ อันดับแรก ของจังหวัด - กระทรวงสาธารณสุขควรจัดท าข้อมูลจ านวน และอัตราป่วยด้วยโรคจากการประกอบอาชีพ ๘ โรค จ าแนกตามกลุ่มอายุ เพื่อใช้ประกอบการ ป้องกันแก้ไขปัญหาสุขภาพของผู้ที่อยู่ในภาวะ เสี่ยงจากการเจ็บป่วยเนื่องจากการประกอบ อาชีพในภาคอุตสาหกรรม
ส ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๗.๑๐ ขาดข้อมูลทางสุขภาพ (Health profile) ไว้รองรับ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ข้อมูลสุขภาพ ได้แก่ ๑) ข้อมูลการเข้าถึงบริการสาธารณสุข ๒) การด าเนินงานการเฝ้าระวังสุขภาพ ๓) อัตราการป่วย/ อัตราการตายเนื่องจากมลพิษ ทางอากาศ ๔) ข้อมูลผลตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง ๕) ระบบบริหารจัดข้อมูลด้านสุขภาพที่แยกตาม หน่วยงาน ยังไม่มีการสอดประสานกัน -การจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง กรมควบคุม มลพิษ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง และกระทรวงสาธารณสุข จ าเป็นต้อง ๑) ด าเนินการส ารวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ แหล่งก าเนิด และจัดท าบัญชีรายละเอียดแสดง จ านวน ประเภท ขนาดและแหล่งก าเนิดมลพิษให้ ครบถ้วน รวมทั้งปริมาณและชนิดของสารมลพิษ จากแหล่งก าเนิดมลพิษแต่ละแหล่งก าเนิด ๒) การจัดท าฐานข้อมูลด้านสุขภาพอนามัย (Health Profile) ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๓) การจัดท าฐานข้อมูลการเกิดอุบัติภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัย ๘. ปัญหาการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ๘.๑ ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ยังขาดการมีส่วนร่วมในการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตาม แผนปฏิบัติการฯ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการออก กฎระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมาย ในพื้นที่การด าเนินการ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการด าเนินการของหน่วยงาน ราชการ - จังหวัดระยองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๘ แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดการ ให้ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อย่างจริงจังในการจัดท าแผนปฏิบัติการเพื่อลด และขจัดมลพิษและการด าเนินการตามแผน ปฏิบัติการฯรวมถึงการออกกฎระเบียบข้อบังคับ หรือกฎหมายใด ๆ ในพื้นที่ ซึ่งต้องรับฟังความ คิดเห็นจากผู้มีส่ วนได้เสียก่อน แล ะน า ข้อคิดเห็นมาประกอบการด าเนินการอย่าง ครบถ้วน โดยกระตุ้นให้ประชาชนได้เข้ามา มีส่วนร่วมในการจัดท าแผนฯและการด าเนินการ ตามแผนฯ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ไปพร้อมกัน โดยอาจด าเนินการในรูปของ คณะท างานภายใต้คณะอนุกรรมการระดับ จังหวัด
ห ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๘.๒ ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองมักไม่มีช่องทางในการแสดงความคิดเห็น อย่างทั่วถึง ครบถ้วนสมบูรณ์และโปร่งใสในตัวกฎหมาย การควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศเท่าที่ควร แม้จะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้วก็ตาม และผู้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นบางส่วนมิใช่กลุ่ม ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ท าให้ข้อมูลที่ได้จากการ รับฟังความคิดเห็นไม่ตรงตามความเป็นจริง - ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจัดการรับฟังความคิดเห็น ต่อการแก้ไขปัญหามลพิษ ผลการด าเนินการ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และการ ออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเปิดช่องทางให้ ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีส่วนได้เสียได้มีโอกาส แสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึงครบถ้วน สมบูรณ์ต่อแผนการและการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ด้วยการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น จากผู้มีส่วนได้เสียต ามข้อแนะน าของ ส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ต ามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๘ ๘.๓ กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ส่วนใหญ่ มีความเห็นในทิศทางเดียวกัน คือ ยังไม่เห็นด้วย ต่อการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจาก คุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยังมีปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมหลายด้าน เช่น ปัญหามลพิษ ทางอากาศ ทางน้ า ปัญหากากอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกระทบ ต่อสุขภาพและ คุณภาพชีวิต ของประชาชนในเขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง ประการส าคัญการด าเนินงาน ลดและขจัดมลพิษให้ได้ตามมาตรฐานยังไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ ครอบคลุ มทุ กด้ านตามแผนการปฏิ รู ปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) -องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และหน่วยงาน ภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรรายงานผลการด าเนินการ ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษให้ ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองได้ทราบ พร้อมทั้งรายงานปัญหา อุปสรรคของการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษและการด าเนินการตาม แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ด้วยการจัดการ ประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ๘.๔ ประชาชนเกิดความไม่ไว้ใจและขาดความเชื่อมั่น ในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและ ภาคอุตสาหกรรมตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัด มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ซึ่งส่งผล กระทบต่อภาพลักษณ์ของการลงทุนจากต่างประเทศ - หน่วยงานภาครัฐองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง ๘ แห่ง และผู้ก่อมลพิษ ต้องสร้างความ เชื่อมั่นในก า รแก้ไขปัญห ามลพิษต าม แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ด้วยการสร้าง บรรยากาศของการมีส่วนร่วมของประชาชน
ฬ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๘.๕ ภาครัฐยังไม่มีการด าเนินการดูแลความเป็นอยู่ของ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง อย่างมีประสิทธิภาพ ท าให้ประชาชน ขาดความเชื่อมั่นในการด าเนินการของภาครัฐ ๑) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลความเป็นอยู่ ของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองให้มีประสิทธิภาพ ๒)จังหวัดระยองต้องให้ความส าคัญในการแก้ไข ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และรับฟังประเด็นข้อร้องเรียนเพื่อให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด าเนินการแก้ไขและให้ความ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หากไม่มี อ านาจด าเนินการหรือไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับ พื้นที่ต้องรายงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ ผ่านคณะอนุกรรมการก ากับดูแล และติดตามผลการด าเนินงานพื้นที่เขตควบคุม มลพิษ จังหวัดระยอง และคณะอนุกรรมการ พิจารณาการจัดการในเขตควบคุมมลพิษ เพื่อให้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสั่งการ หรือมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด าเนินการต่อไป ๙. ปัญหาการประชาสัมพันธ์ ๙.๑ ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมและ ภาคประชาชนบางส่วนมีข้อเรียกร้องในการขอรับรู้การ ตัดสินใจด าเนินการใด ๆ ของภาครัฐ ในการแก้ไข ปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง เนื่องจากปัจจุบันไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้รับการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูล ที่ส าคัญและจ าเป็น รวมทั้งขาดรูปแบบและช่องทาง ประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม หลากหลายและง่ายต่อการ เข้าถึงข้อมูลปัญหามลพิษส าหรับประชาชนทุกกลุ่ม และทุกภาคส่วนเป็นระยะ ๆ ก่อให้เกิดการไม่เข้าใจ และการต่อต้านต่อการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ และขาดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษ - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชาสัมพันธ์ ให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน รับรู้และเข้าใจสถานการณ์ ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและแผนปฏิบัติการ เพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง รวมทั้งการด าเนินงานโครงการ และผลการด าเนินงานที่เป็นรูปธรรมแก่ ประชาชนในพื้นที่ เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจปัญหามลพิษร่วมกัน และการด าเนินการของภาครัฐ ในการป้องกัน แก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ ต่าง ๆ มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ด้วยรูปแบบและ ช่ องท างที่ เหมาะสม และหลากหลาย ต่อการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนทุกกลุ่ม และทุกภาคส่วน
อ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๙.๒ ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ยังขาดความเข้าใจบทบาทหน้าที่ ของตน และไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา มลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองเนื่องจาก ขาดข้อมูลที่ส าคัญ ขาดรูปแบบและช่องทางที่เหมาะสม และหลากหลายต่อการเข้าถึงข้อมูลของทุกภาคส่วน - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง ๘ แห่ง ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องต้องเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในบทบาทหน้าที่และความร่วมมือของภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมและภาค ประชาชน ในการแก้ไขปัญหามลพิษในเขต ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ด้วยการ ประชาสัมพันธ์และเปิดช่องทางที่เหมาะสม และหลากหลายต่อการเข้าถึงข้อมูลแก่ทุกภาคส่วน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๘ ๙.๓ ขาดการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของ ภาวะมลพิษต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผลกระทบของสาร VOCs ต่อสุขภาพซึ่งเป็นปัญหาและความวิตกกังวลของ ประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง -กระทรวงสาธารณสุข โดยสาธารณสุขจังหวัด ระยอง และโรงพยาบาลจังหวัดระยอง ต้องให้ ความรู้และข้อมูลกับประชาชนเกี่ยวกับ ผลกระทบของสาร VOCs และมลพิษที่ส าคัญ ต่อสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถดูแลป้องกันตนเองในเบื้องต้นได้
ฮ ค ำน ำ รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ “กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” ฉบับนี้ จัดท าขึ้นโดย คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา สืบเนื่องจากแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ หรือแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิด การเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ (Big Rock) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ก าหนดให้มีการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โดยมีเป้าหมาย คือ การยกเลิกเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองนั้น ซึ่งระยะเวลาของการปฏิรูปดังกล่าว ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ในการนี้ คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้ท าการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศดังกล่าวตามหน้าที่และอ านาจของวุฒิสภา ตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงได้จัดท ารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ “กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” เพื่อเสนอต่อวุฒิสภา และรัฐบาลต่อไป คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา
กก สารบัญ หน้า รายนามคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ก รายนามคณะอนุกรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อม ค รายงานการพิจารณาศึกษา จ บทสรุปผู้บริหาร ฌ ค าน า ฮ สารบัญ กก สารบัญตาราง จจ สารบัญภาพ ชช บทที่ ๑ บทน า ๑.๑ ที่มาของการพิจารณาศึกษา ๑ ๑.๒ วัตถุประสงค์ของการพิจารณาศึกษา ๑ ๑.๓ ขอบเขตของการพิจารณาศึกษา ๒ ๑.๔ นิยามศัพท์เฉพาะ ๓ ๑.๕ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๓ บทที่ ๒ หลักการเหตุผล ๕ บทที่ ๓ วิธีการพิจารณาศึกษา ๓.๑ การศึกษารวบรวมข้อมูลจากเอกสารและรายงาน ๑๑ ๓.๒ การเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ข้อมูล ข้อคิดเห็น และตอบข้อซักถาม ๑๑ ๓.๓ การประชุมอนุกรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อม ๑๑ ๓.๔ การประชุมคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑๒ ๓.๕ การศึกษาดูงาน ๑๒ ๓.๖ การประชุมสัมมนา ๑๕ บทที่ ๔ ผลการพิจารณาศึกษา ๔.๑ ความเป็นมาของเขตควบคุมมลพิษ ๑๙ ๔.๒ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒๓ ๔.๒.๑ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒๓ ๔.๒.๒ ที่ตั้ง ขอบเขต เขตการปกครองของ “เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง” ๒๔ ๔.๒.๓ ข้อมูลพื้นฐานของจังหวัดระยอง ๒๖ ๔.๒.๔ ข้อมูลพื้นฐานของเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๓๐ ๔.๒.๕ โรงงานอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๓๑
ขข สารบัญ (ต่อ) หน้า ๔.๒.๖ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ๓๓ ๔.๓ สารมลพิษและแหล่งก าเนิดสารมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔๑ ๔.๓.๑ สารมลพิษทางอากาศ ๔๑ ๔.๓.๒ น้ าเสีย ๔๙ ๔.๓.๓ ขยะมูลฝอยชุมชน ๕๒ ๔.๓.๔ กากอุตสาหกรรม ๕๒ ๔.๔ สถานการณ์และคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๕๒ ๔.๔.๑ สถานการณ์และคุณภาพอากาศ ๕๒ ๔.๔.๒ สถานการณ์คุณภาพน้ า ๖๐ ๔.๔.๓ สถานการณ์ขยะมูลฝอยชุมชน มูลฝอยติดเชื้อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน ๖๕ และกากอุตสาหกรรม ๔.๔.๔ สถานการณ์อุบัติภัยจากสารเคมีและการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ๖๗ ๔.๕ สถานะด้านสุขภาพของประชาชนในจังหวัดระยองและในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๖๘ ๔.๕.๑ ข้อมูลด้านสุขภาพทั้งจังหวัดของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ๖๘ ๔.๕.๒ สถานการณ์สุขภาพในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองที่เฝ้าระวัง ๗๑ ๔.๖ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ และแผนการปฏิรูปประเทศ ๗๓ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๖.๑ แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๗๔ ๔.๖.๒ แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ ๘๑ ๔.๗ แผนป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษที่เกี่ยวข้องในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๙๑ ๔.๗.๑ แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ๙๑ ๔.๗.๒ แผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ๙๑ ๔.๗.๓ แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร ๙๒ ๔.๘ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๙๗ ๔.๘.๑ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช พ.ศ. ๒๕๖๐ ๙๗ ๔.๘.๒ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ๙๙ ๔.๘.๓ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ๑๐๒ ๔.๘.๔ พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ๑๐๒ ๔.๘.๕ พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๐๓ ๔.๘.๖ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ๑๐๓ ๔.๘.๗ พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ๑๐๔ พ.ศ. ๒๕๓๕
คค สารบัญ (ต่อ) หน้า ๔.๘.๘ พระราชบัญญัติก าหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอ านาจ ๑๐๕ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ๔.๘.๙ ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ๑๐๕ ๔.๙ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑๐๖ ๔.๑๐ ผลการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ ๑๐๘ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๕๙ ๔.๑๑ ความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหามลพิษ ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๑๒๖ ๔.๑๒ ผลสัมฤทธิ์ของการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ กรณีเขตควบคุมมลพิษ ๑๓๖ จังหวัดระยอง ๔.๑๓ ข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๑๔๔ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๑ ภาวะมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยองบทที่ ๕ สรุปและข้อเสนอแนะ ๑๔๔ ๔.๑๓.๒ ภาวะมลพิษทางน้ า ๑๕๗ ๔.๑๓.๓ สถานะและปัญหาสุขภาพของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑๖๕ ๔.๑๓.๔ อุบัติภัยในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑๗๕ ๔.๑๓.๕ นโยบาย และแผนปฏิบัติการฯ และแผนการปฏิรูปบริหารจัดการ ๑๘๐ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๖ กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๑๘๗ ๔.๑๓.๗ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๑๙๗ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๘ การบริหารจัดการการปฏิรูปเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒๐๑ ๔.๑๓.๙ การก ากับ/ติดตามการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๒๐๔ และแผนการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๑๐ ฐานข้อมูลในการลดและขจัดมลพิษและการปฏิรูประบบการบริหารจัดการ ๒๐๘ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๑๑ เทคนิคและวิชาการในการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๒๑๓ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๑๒ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๒๑๖ และแผนปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๔.๑๓.๑๓ การประชาสัมพันธ์ในการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๒๑๙ จังหวัดระยอง
งง สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ ๕ สรุปและข้อเสนอแนะ ๕.๑ เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒๒๑ ๕.๒ การด าเนินการของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ๒๒๑ ๕.๓ การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในควบคุมมลพิษ ๒๒๒ จังหวัดระยอง พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ และผลสัมฤทธิ์ ๕.๔ การด าเนินการตามแผนปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๒๒๓ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ แผนปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ และผลสัมฤทธิ์ ๕.๕ ปัญหาอุปสรรคของการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๒๒๔ ๕.๖ สรุปข้อเสนอแนะส าหรับการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๒๓๕ จังหวัดระยอง บรรณานุกรม ๒๔๙ ภาคผนวก ๒๕๖
จจ สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ ๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง และจ านวนประชากร ๓๑ ตารางที่ ๒ จ านวนโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ และนอกนิคมอุตสาหกรรม ๓๒ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ตารางที่ ๓ ขนาดพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๓๒ ตารางที่ ๔ จ านวนโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ๓๓ ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารงานระดับสากลและระดับประเทศ ตารางที่ ๕ สัดส่วนการใช้พื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ๓๕ ตารางที่ ๖ ปริมาณความสกปรกในรูปของบีโอดีของแหล่งก าเนิดมลพิษทางน้ าประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ๕๐ ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตารางที่ ๗ ปริมาณความสกปรกในรูปของบีโอดีของแหล่งก าเนิดมลพิษทางน้ าประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ๕๐ ที่อยู่นอกนิคมอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตารางที่ ๘ ปริมาณน้ าเสียและปริมาณความสกปรกในรูปบีโอดีที่เกิดขึ้นจากชุมชน ๕๑ ในแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง ตารางที่ ๙ สรุปค่าเฉลี่ยรายปีสาร VOCs ที่เป็นปัญหาในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ๕๘ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ ตารางที่ ๑๐ ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ าคลองสาธารณะในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ๖๑ เทียบมาตรฐานแหล่งน้ าผิวดิน ประเภทที่ ๓ ตารางที่ ๑๑ สรุปผลการตรวจวัดคุณภาพน้ าบ่อตื้นพื้นที่เขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง ๖๔ ปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓ ตารางที่ ๑๒ ปริมาณขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ในเขตควบคุมมลพิษ ๖๕ จังหวัดระยอง ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๔ ตารางที่ ๑๓ แผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชน ๘๔ อย่างมีนัยส าคัญ (Big Rock) ตารางที่ ๑๔ เป้าหมายย่อยของขั้นตอนและวิธีการตามกิจกรรม Big Rock และระยะเวลา ๘๕ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ ตารางที่ ๑๕ ก าหนดโครงการ/การด าเนินงานในการขับเคลื่อนกิจกรรม Big Rock ๘๖ ตารางที่ ๑๖ ค่าเฉลี่ยทุกสถานียังเกินค่ามาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่าย ๑๒๔ ในบรรยากาศโดยทั่วไป ในเวลา ๑ ปี ตารางที่ ๑๗ ผลสัมฤทธิ์ของการปฏิรูประบบการบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษ ๑๓๙ กรณีเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง